Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประมวลกฎหมาย.วิธีพิจารณาความอาญา

ประมวลกฎหมาย.วิธีพิจารณาความอาญา

Published by Weerawut Chainu, 2020-12-20 07:40:13

Description: ประมวลกฎหมาย.วิธีพิจารณาความอาญา

Search

Read the Text Version

-ประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณาความอาญา- 201 ต่อศาล เว้นแตเ่ ป็นการแก้ไขขอ้ ผดิ พลาดหรอื ผดิ หลงเล็กนอ้ ย มาตรา ๒๓๑ เมื่อคู่ความหรือผู้ใดจะต้องให้การ หรือส่งพยานหลกั ฐานอยา่ งหนึ่งอย่างใด ดงั ต่อไปน้ี (๑) เอกสารหรือข้อความที่ยังเป็นความลับใน ราชการอยู่ (๒) เอกสารหรือข้อความลับ ซึ่งได้มาหรือทราบ เนอ่ื งในอาชีพหรอื หน้าทขี่ องเขา (๓) วธิ กี าร แบบแผนหรืองานอย่างอนื่ ซ่งึ กฎหมาย คมุ้ ครองไม่ยอมให้เปิดเผย คู่ความหรือบุคคลนั้นมีอํานาจไม่ยอมให้ การหรือส่งพยานหลักฐาน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าท่ีหรือ บุคคลที่เกี่ยวข้องกับความลบั นั้น ถ้าคู่ความหรือบุคคลใดไม่ยอมให้การ หรือไม่ส่ง พยานหลักฐานดังกล่าวแล้ว ศาลมีอํานาจหมายเรียกเจ้าหน้าท่ี หรือบุคคลผู้เก่ียวข้องกับความลับน้ันมาแถลงต่อศาล เพื่อวินิจฉัย ว่าการไม่ยอมนั้นมีเหตุผลคํ้าจุนหรือไม่ ถ้าเห็นว่าไร้เหตุผล ให้ศาล บังคบั ให้ ๆ การหรอื สง่ พยานหลักฐานนน้ั -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลือด-

-ประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญา- 202 หมวด ๒ พยานบคุ คล มาตรา ๒๓๒ หา้ มมิให้โจทกอ์ า้ งจาํ เลยเป็นพยาน มาตรา ๒๓๓*[๑๕๓] จําเลยอาจอ้างตนเองเป็น พยานได้ ในกรณีท่ีจําเลยอ้างตนเองเป็นพยาน ศาลจะให้เข้าสืบ กอ่ นพยานอนื่ ฝ่ายจําเลยกไ็ ด้ ถ้าคําเบิกความของจําเลยน้ันปรักปรํา หรอื เสียหายแก่จาํ เลยอื่น จาํ เลยอน่ื นัน้ ซกั ค้านได้ ในกรณีท่ีจําเลยเบิกความเป็นพยาน คําเบิกความ ของจําเลยย่อมใช้ยันจําเลยนั้นได้ และศาลอาจรับฟังคําเบิกความ นน้ั ประกอบพยานหลกั ฐานอื่นของโจทกไ์ ด้ *[๑๕๓] มาตรา ๒๓๓ แก้ไขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั แิ ก้ไขเพ่ิมเตมิ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับท่ี ๒๘) พ.ศ. ๒๕๕๑ -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลอื ด-

-ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา- 203 มาตรา ๒๓๔ พยานไมต่ ้องตอบคาํ ถามซงึ่ โดยตรง หรือออ้ ม อาจจะทําให้เขาถูกฟ้องคดีอาญา เมื่อมีคําถามเช่นน้ัน ให้ ศาลเตือนพยาน มาตรา ๒๓๕ ใ นระหว่ างพิจาร ณา เมื่ อ เห็นสมควร ศาลมีอาํ นาจถามโจทกจ์ ําเลยหรอื พยานคนใดได้ ห้ามมิให้ถามจําเลยเพื่อประโยชน์แต่เฉพาะจะ เพม่ิ เติมคดีโจทก์ซึง่ บกพรอ่ ง เว้นแต่จาํ เลยจะอ้างตนเองเปน็ พยาน มาตรา ๒๓๖ ในระหว่างพิจารณาศาลมีอํานาจ สั่งให้ผู้ที่จะเป็นพยานซ่ึงมิใช่จําเลย ออกไปอยู่นอกห้องพิจารณา จนกว่าจะเข้ามาเบิกความ อนึ่งเมื่อพยานเบิกความแล้วจะให้รออยู่ ในหอ้ งพจิ ารณากอ่ นกไ็ ด้ มาตรา ๒๓๗*[๑๕๔] บันทึกคําเบิกความพยาน พยานชั้นไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณานั้น ให้ศาลอ่านให้พยาน *[๑๕๔] มาตรา ๒๓๗ แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั ิแกไ้ ขเพิ่มเตมิ ประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒๘) พ.ศ. ๒๕๕๑ -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลอื ด-

-ประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความอาญา- 204 ฟังต่อหน้าจาํ เลย เว้นแตใ่ นกรณีดงั บญั ญัติไว้ในมาตรา ๑๖๕ วรรค สาม ในกรณีที่คู่ความตกลงกัน ศาลอาจอนุญาตให้ ถือเอาบันทึกคําเบิกความพยานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องเป็นคําเบิก ความพยานในช้ันพิจารณา โดยพยานไม่ต้องเบิกความใหม่หรือให้ พยานเบิกความตอบคําถามค้านของจําเลยไปทันทีได้ เว้นแต่ใน ข้อหาความผดิ ท่ีกฎหมายกาํ หนดอตั ราโทษอย่างต่ําจําคุกตั้งแต่ห้าปี ขึน้ ไปหรอื โทษสถานท่ีหนักกวา่ นั้น มาตรา ๒๓๗ ทวิ*[๑๕๕] ก่อนฟอ้ งคดีต่อศาล เม่ือ เม่ือมีเหตุอันควรเช่ือได้ว่าพยานบุคคลจะเดินทางออกไปนอก ราชอาณาจักร ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง หรือเป็นบุคคลมีถิ่นที่อยู่ ห่างไกลจากศาลท่ีพิจารณาคดี หรือมีเหตุอันควรเช่ือว่าจะมีการยุ่ง เหยิงกับพยานนั้นไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม หรือมีเหตุจําเป็น อ่ืนอันเป็นการยากแก่การนําพยานน้ันมาสืบในภายหน้า พนักงาน อัยการโดยตนเองหรือโดยได้รับคําร้องขอจากผู้เสียหายหรือจาก พนักงานสอบสวน จะย่ืนคําร้องโดยระบุการกระทําท้ังหลายที่อ้าง วา่ ผูต้ อ้ งหาได้กระทําผิดต่อศาลเพื่อให้ศาลมีคําส่ังให้สืบพยานน้ันไว้ *[๑๕๕] มาตรา ๒๓๗ ทวิ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไข เพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒๐) พ.ศ. ๒๕๔๒ -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลอื ด-

-ประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา- 205 ทันทกี ไ็ ด้ ถา้ รตู้ ัวผู้กระทาํ ความผดิ และผู้นนั้ ถูกควบคุมอยู่ในอํานาจ พนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการ ให้พนักงานอัยการนําตัวผู้ น้ันมาศาล หากถูกควบคุมอยู่ในอํานาจของศาล ให้ศาลเบิกตัวผู้น้ัน มาพิจารณาต่อไป เ มื่อ ศ า ล ไ ด้รับ คํา ร้อ ง เ ช ่น ว่า นั้น ใ ห้ศ า ล สืบพยา นนั้นทันที ใน การนี้ ผู้ต้อง หาจะ ซักค้าน หรือตั้ง ทนายความซักคา้ นพยานน้ันด้วยกไ็ ด้ ในกรณีตามวรรคสอง ถ้าเป็นกรณีท่ีผู้ต้องหาน้ัน ถกู กลา่ วหาว่ากระทําความผิดอาญา ซึ่งหากมีการฟ้องคดีจะเป็นคดี ซึ่งศาลจะต้องต้ังทนายความให้ หรือจําเลยมีสิทธิขอให้ศาลต้ัง ทนายความให้ตามมาตรา ๑๗๓ ก่อนเร่ิมสืบพยานดังกล่าว ให้ศาล ถามผู้ต้องหาว่ามีทนายความหรือไม่ ในกรณีที่ศาลต้องต้ัง ทนายความให้ ถ้าศาลเห็นว่าต้ังทนายความให้ทันก็ให้ต้ัง ทนายความให้และดาํ เนินการสบื พยานนน้ั ทันที แต่ถ้าศาลเห็นว่าไม่ สามารถต้ังทนายความได้ทันหรือผู้ต้องหาไม่อาจต้ังทนายความได้ ทนั กใ็ หศ้ าลซกั ถามพยานนั้นให้แทน คําเบิกความของพยานดังกล่าวให้ศาลอ่านให้ พยานฟัง หากมีตัวผู้ต้องหาอยู่ในศาลด้วยแล้ว ก็ให้ศาลอ่านคําเบิก ความดงั กล่าวตอ่ หนา้ ผ้ตู ้องหา ถ้าต่อมาผู้ต้องหานั้นถูกฟ้องเป็นจําเลยในการ กระทําความผิดอาญานั้น ก็ให้รับฟังคําพยานดังกล่าวในการ -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลอื ด-

-ประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความอาญา- 206 พิจารณาคดีนั้นได้ ในกรณีที่ผู้ต้องหาเห็นว่า หากตนถูกฟ้องเป็น จําเลยแล้ว บุคคลซึ่งจําเป็นจะต้องนํามาสืบเป็นพยานของตนจะ เดินทางออกไปนอกราชอาณาจักร ไม่มีท่ีอยู่เป็นหลักแหล่ง หรือ เป็นบุคคลมีถิ่นที่อยู่ห่างไกลจากศาลที่พิจารณาคดี หรือมีเหตุอัน ควรเชื่อว่าจะมีการยุ่งเหยิงกับพยานนั้นไม่ว่าโดยทางตรงหรือ ทางอ้อม หรือมีเหตุจําเป็นอื่นอันเป็นการยากแก่การนําพยานนั้น มาสืบในภายหน้า ผู้ต้องหานั้นจะยืน่ คาํ ร้องตอ่ ศาลโดยแสดงเหตุผล ความจําเป็น เพ่ือให้ศาลมีคําสั่งอนุญาตให้สืบพยานบุคคลนั้นไว้ ทนั ทกี ไ็ ด้ เมื่อศาลเห็นสมควร ให้ศาลมีคําสั่งอนุญาตให้ สืบพยานนั้นและแจ้งให้พนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการที่ เกี่ยวข้องทราบ ในการสืบพยานดังกล่าว พนักงานอัยการมีสิทธิท่ี จะซักค้านพยานนั้นได้ และให้นําความในวรรคสาม วรรคสี่ และ วรรคห้า มาใช้บังคบั โดยอนโุ ลม ให้นําบทบัญญัติในมาตรา ๑๗๒ ตรี มาใช้บังคับ โดยอนโุ ลมแกก่ ารสบื พยานทเ่ี ปน็ เด็กอายไุ มเ่ กนิ สบิ แปดปี -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลือด-

-ประมวลกฎหมายวธิ พี ิจารณาความอาญา- 207 มาตรา ๒๓๗ ตรี*[๑๕๖] ให้นําความในมาตรา ๒๓๗ ทวิ มาใช้บังคับโดยอนุโลมแก่กรณี การสืบพยานผู้เชี่ยวชาญ และพยานหลักฐานอื่น และแก่กรณีท่ีได้มีการฟ้องคดีไว้แล้วแต่มี เหตุจําเป็นท่ีต้องสืบพยานหลักฐานไว้ก่อนถึงกําหนดเวลาสืบพยาน ตามปกติตามมาตรา ๑๗๓/๒ วรรคสองดว้ ย ในกรณีที่พยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์จะ สามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงข้อเท็จจริงอันสําคัญในคดีได้ หรือมีเหตุอัน ควรเชื่อว่า หากมีการเนิ่นช้ากว่าจะนําพยานหลักฐานทาง วิทยาศาสตร์อันสําคัญมาสืบในภายหน้าพยานหลักฐานน้ันจะ สูญเสียไปหรือเป็นการยากแก่การตรวจพิสูจน์ ผู้ต้องหาหรือ พนักงานอัยการโดยตนเองหรือเม่ือได้รับคําร้องจากพนักงาน สอบสวนหรือผู้เสียหาย จะยื่นคําร้องขอ ให้ศาลสั่งให้ทําการตรวจ พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ตามความในมาตรา ๒๔๔/๑ ไว้ก่อนฟ้องก็ ได้ ทั้งนี้ ให้นําบทบัญญัติในมาตรา ๒๓๗ ทวิ มาใช้บังคับโดย อนุโลม หมวด ๓ พยานเอกสาร *[๑๕๖] มาตรา ๒๓๗ ตรี เพ่ิมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับท่ี ๒๘) พ.ศ. ๒๕๕๑ -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลอื ด-

-ประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญา- 208 มาตรา ๒๓๘ ต้นฉบับเอกสารเท่านั้นท่ีอ้างเป็น พยานได้ ถ้าหาต้นฉบับไม่ได้ สําเนาท่ีรับรองว่าถูกต้องหรือพยาน บคุ คลที่รู้ข้อความกอ็ า้ งเปน็ พยานได้ ถ้าอ้างหนังสือราชการเป็นพยาน แม้ต้นฉบับยังมี อยู่จะส่งสําเนาที่เจ้าหน้าท่ีรับรองว่าถูกต้องก็ได้ เว้นแต่ใน หมายเรียกจะบง่ ไว้เปน็ อย่างอื่น มาตรา ๒๓๙ เอกสารใดซง่ึ คคู่ วามอ้าง แต่มิได้อยู่ ในความยึดถือของเขา ถ้าคู่ความนั้นแจ้งถึงลักษณะและท่ีอยู่ของ เอกสารต่อศาล ให้ศาลหมายเรียกบุคคลผู้ยึดถือนําเอกสารน้ันมาส่ง ศาล มาตรา ๒๔๐*[๑๕๗] ในกรณีท่ีศาลมิได้กําหนดให้ มีวันตรวจพยานหลักฐานตามมาตรา ๑๗๓/๑ เม่ือคู่ความประสงค์ *[๑๕๗] มาตรา ๒๔๐ แก้ไขเพมิ่ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั ิแกไ้ ขเพม่ิ เตมิ ประมวลกฎหมายวธิ พี ิจารณาความอาญา (ฉบับท่ี ๒๘) พ.ศ. ๒๕๕๑ -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลือด-

-ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา- 209 จะอ้างเอกสารท่ีอยู่ในความครอบครองของตนเป็นพยานหลักฐาน ให้ยื่นพยานเอกสารน้ันต่อศาลก่อนวันไต่สวนมูลฟ้องหรือวัน สืบพยานไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน เพื่อให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งมีโอกาส ตรวจและขอคัดสําเนาเอกสารดังกล่าวได้ก่อนท่ีจะนําสืบพยาน เอกสารนน้ั เว้นแต่เอกสารทีค่ คู่ วามประสงคจ์ ะอ้างอิงน้ันเป็นบันทึก คําให้การของพยาน หรือเป็นเอกสารที่ปรากฏชื่อหรือท่ีอยู่ของ พยาน หรือศาลเห็นสมควรส่ังเป็นอย่างอ่ืนอันเนื่องจากสภาพและ ความจาํ เปน็ แห่งเอกสารน้ัน ในกรณีที่ไม่อยู่ในบังคับต้องส่งเอกสารตามวรรค หนึ่ง เม่ือมีเอกสารใช้เป็นพยานหลักฐานในช้ันศาล ให้อ่านหรือส่ง ให้คู่ความตรวจดู ถ้าคู่ความฝ่ายใดต้องการสําเนา ศาลมีอํานาจส่ัง ให้ฝา่ ยที่อา้ งเอกสารนัน้ ส่งสาํ เนาใหอ้ กี ฝา่ ยหนึง่ ตามที่เห็นสมควร ถ้าคู่ความฝ่ายใดไม่ส่งเอกสารตามวรรคหน่ึงหรือ สาํ เนาเอกสารตามวรรคสอง หรอื ไมส่ ่งพยานเอกสารหรือพยานวัตถุ ตามมาตรา ๑๗๓/๒ วรรคหน่ึง ให้ศาลมีอํานาจไม่รับฟัง พยานหลักฐานนั้น เว้นแต่ศาลเห็นว่าเป็นกรณีเพ่ือประโยชน์แห่ง ความยุติธรรม หรอื การไม่ปฏบิ ตั ิดังกล่าวมิได้เป็นไปโดยจงใจและไม่ เสียโอกาสในการดําเนนิ คดขี องคูค่ วามอกี ฝ่ายหนึ่ง หมวด ๔ พยานวตั ถุ -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลือด-

-ประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา- 210 มาตรา ๒๔๑ สิ่งใดใช้เป็นพยานวัตถุต้องนํามา ศาล ในกรณที ่นี ํามาไมไ่ ด้ ให้ศาลไปตรวจจดรายงานยัง ที่ที่พยานวัตถนุ น้ั อยู่ตามเวลาและวธิ ซี ึ่งศาลเห็นสมควรตามลักษณะ แหง่ พยานวตั ถุ มาตรา ๒๔๒ ในระหวา่ งสอบสวน ไตส่ วนมูลฟ้อง หรือพิจารณา ส่ิงของซ่ึงเป็นพยานวัตถุต้องให้คู่ความหรือพยาน ตรวจดู ถ้ามีการแก้ห่อหรือทําลายตรา การห่อหรือตีตรา ใหมใ่ หท้ ําตอ่ หน้าคู่ความหรอื พยานทเี่ กยี่ วขอ้ งนัน้ -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลอื ด-

-ประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา- 211 หมวด ๕*[๑๕๘] ผู้เช่ียวชาญ มาตรา ๒๔๓†[๑๕๙] ผู้ใดโดยอาชีพหรือมิใช่ก็ ตาม มีความเชี่ยวชาญในการใด ๆ เช่น ในทางวิทยาศาสตร์ ศิลปะ ฝีมือ พาณิชยการ การแพทย์ หรือกฎหมายต่างประเทศ และซ่ึง ความเห็นของผู้นั้นอาจมีประโยชน์ในการวินิจฉัยคดี ในการ สอบสวน ไตส่ วนมูลฟอ้ งหรือพิจารณา อาจเป็นพยานในเร่ืองต่าง ๆ เปน็ ตน้ ว่า ตรวจรา่ งกายหรือจิตของผู้เสียหาย ผู้ต้องหา หรือจําเลย ตรวจลายมือ ทาํ การทดลองหรือกิจการอย่างอนื่ ๆ ผู้เชี่ยวชาญอาจทําความเห็นเป็นหนังสือก็ได้แต่ ต้องส่งสําเนาหนังสือดังกล่าวให้ศาลและคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งทราบ และต้องมาเบิกความประกอบหนังสือนั้น เว้นแต่มีเหตุจําเป็น หรือ *[๑๕๘] หมวด ๕ ผเู้ ช่ียวชาญ มาตรา ๒๔๓ ถงึ มาตรา ๒๔๔/๑ แกไ้ ข เพิม่ เตมิ โดยพระราชบัญญตั แิ ก้ไขเพม่ิ เตมิ ประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความ อาญา (ฉบับท่ี ๒๘) พ.ศ. ๒๕๕๑ †[๑๕๙] มาตรา ๒๔๓ แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั แิ กไ้ ขเพิ่มเตมิ ประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา (ฉบับท่ี ๒๘) พ.ศ. ๒๕๕๑ -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลือด-

-ประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา- 212 คู่ความไม่ติดใจซักถามผู้เชี่ยวชาญนั้น ศาลจะให้รับฟังความเห็น เป็นหนังสือดังกล่าวโดยผู้เชี่ยวชาญไม่ต้องมาเบิกความประกอบก็ ได้ ในกรณีทผ่ี ู้เชี่ยวชาญตอ้ งมาเบิกความประกอบ ให้ ส่งสําเนาหนังสือดังกล่าวต่อศาลในจํานวนที่เพียงพอล่วงหน้าไม่ นอ้ ยกวา่ เจด็ วนั กอ่ นวันเบิกความเพื่อใหค้ ู่ความอกี ฝ่ายหนึ่งมารบั ไป ในการเบิกความประกอบ ผู้เช่ียวชาญจะอ่าน ข้อความที่เขียนมาก็ได้ มาตรา ๒๔๔*[๑๖๐] ถ้าศาลหรือพนักงานฝ่าย ปกครองหรอื ตํารวจชั้นผ้ใู หญ่เห็นจําเป็นเน่ืองในการไต่สวนมูลฟ้อง พิจารณา หรือสอบสวน ที่จะต้องตรวจศพ แม้ว่าจะได้บรรจุหรือ ฝังแล้วก็ตาม ให้มอี ํานาจส่ังให้เอาศพน้ันให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจได้ แต่ การกระทําตามคําสั่งดังกลา่ วจะต้องคาํ นึงถึงหลักทางศาสนาและไม่ กอ่ ใหเ้ กิดอนั ตรายรา้ ยแรงอยา่ งอนื่ *[๑๖๐] มาตรา ๒๔๔ แก้ไขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั แิ กไ้ ขเพิ่มเตมิ ประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒๘) พ.ศ. ๒๕๕๑ -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลอื ด-

-ประมวลกฎหมายวธิ พี ิจารณาความอาญา- 213 มาตรา ๒๔๔/๑*[๑๖๑] ในกรณีความผิดอาญาที่ มีอัตราโทษจําคุก หากมีความจําเป็นต้องใช้พยานหลักฐานทาง วิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดที่เป็นประเด็นสําคัญแห่งคดี ให้ศาลมีอาํ นาจสง่ั ใหท้ าํ การตรวจพสิ ูจน์บคุ คล วัตถุ หรือเอกสารใด โดยวิธีการทางวทิ ยาศาสตรไ์ ด้ ใน ก ร ณี ที่ ก า ร ต ร ว จ พิ สู จ น์ ต า ม ว ร ร ค ห น่ึ ง จาํ เป็นต้องตรวจเก็บตัวอย่างเลือด เน้ือเย่ือ ผิวหนัง เส้นผมหรือขน นํ้าลาย ปัสสาวะ อุจจาระ สารคัดหลั่ง สารพันธุกรรมหรือ สว่ นประกอบของร่างกายจากคู่ความหรือบุคคลใด ให้ศาลมีอํานาจ สั่งให้แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญดําเนินการตรวจดังกล่าวได้ แต่ต้อง กระทําเพียงเท่าที่จําเป็นและสมควรโดยใช้วิธีการท่ีก่อให้เกิดความ เจ็บปวดน้อยท่ีสุดเท่าท่ีจะกระทําได้ท้ังจะต้องไม่เป็นอันตรายต่อ ร่างกายหรืออนามัยของบุคคลน้ัน และคู่ความหรือบุคคลท่ี เกี่ยวข้องต้องให้ความยินยอม หากคู่ความฝ่ายใดไม่ยินยอมหรือ กระทําการป้องปัดขัดขวางมิให้บุคคลที่เก่ียวข้องให้ความยินยอม โดยไม่มเี หตุอันสมควร ให้สันนิษฐานไวเ้ บอ้ื งตน้ วา่ ข้อเท็จจริงเป็นไป ตามทค่ี ู่ความฝา่ ยตรงขา้ มกลา่ วอา้ ง ในกรณีทพ่ี ยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สามารถ พสิ จู นใ์ ห้เหน็ ถึงข้อเทจ็ จริงทอ่ี าจทําใหศ้ าลวนิ ิจฉยั ช้ีขาดคดีได้โดยไม่ ต้องสืบพยานหลักฐานอน่ื อกี หรอื มีเหตุอนั ควรเชื่อว่าหากมีการเน่ิน *[๑๖๑] มาตรา ๒๔๔/๑ เพ่ิมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับท่ี ๒๘) พ.ศ. ๒๕๕๑ -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลอื ด-

-ประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา- 214 ช้ากว่าจะนําพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อันสําคัญมาสืบในภาย หน้าพยานหลักฐานน้ันจะสูญเสียไปหรือยากแก่การตรวจพิสูจน์ เม่ือคคู่ วามฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งร้องขอหรือเม่ือศาลเห็นสมควร ศาลอาจ ส่ังให้ทําการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ตามความในวรรคหน่ึงและ วรรคสองได้ทันทีโดยไม่จําต้องรอให้ถึงกําหนดวันสืบพยานตามปกติ ท้ังนี้ ให้นําบทบญั ญตั ิในมาตรา ๒๓๗ ทวิ มาใช้บงั คบั โดยอนโุ ลม ค่าใช้จ่ายในการตรวจพิสูจน์ตามมาตราน้ีให้ส่ัง จ่ายจากงบประมาณตามระเบียบที่คณะกรรมการบริหารศาล ยุตธิ รรมกาํ หนดโดยความเห็นชอบจากกระทรวงการคลงั ภาค ๖ การบังคบั ตามคาํ พิพากษาและคา่ ธรรมเนียม หมวด ๑ การบังคบั ตามคําพิพากษา -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลอื ด-

-ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา- 215 มาตรา ๒๔๕*[๑๖๒] ภายใต้บังคับแห่งมาตรา ๒๔๖, ๒๔๗ และ ๒๔๘ เมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว ให้บังคับคดีโดยไม่ ชกั ชา้ ศาลช้ันต้นมีหน้าที่ต้องส่งสํานวนคดีท่ีพิพากษาให้ ลงโทษประหารชีวิต หรือจําคกุ ตลอดชีวิต ไปยังศาลอุทธรณ์ในเมื่อ ไม่มีการอุทธรณ์คาํ พิพากษานั้น และคําพิพากษาเช่นว่านี้จะยังไม่ ถึงท่ีสุด เวน้ แต่ศาลอุทธรณจ์ ะไดพ้ ิพากษายนื มาตรา ๒๔๖†[๑๖๓] เมื่อจําเลย สามี ภริยา ญาติของจําเลย พนักงานอัยการ ผู้บัญชาการเรือนจํา หรือ เจ้าพนักงานผู้มีหน้าท่ีจัดการตามหมายจําคุกร้องขอ หรือเม่ือศาล เห็นสมควร ศาลมีอํานาจสั่งให้ทุเลาการบังคับให้จําคุกไว้ก่อน จนกว่าเหตุอันควรทุเลาจะหมดไป ในกรณีต่อไปนี้ (๑) เมอ่ื จําเลยวกิ ลจริต *[๑๖๒] มาตรา ๒๔๕ แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั แิ กไ้ ขเพมิ่ เตมิ ประมวลกฎหมายวธิ พี ิจารณาความอาญา (ฉบับท่ี ๖) พ.ศ. ๒๔๙๙ †[๑๖๓] มาตรา ๒๔๖ แก้ไขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั แิ กไ้ ขเพ่มิ เตมิ ประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณาความอาญา (ฉบบั ท่ี ๒๕) พ.ศ. ๒๕๕๐ -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลอื ด-

-ประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา- 216 (๒) เม่ือเกรงว่าจําเลยจะถึงอันตรายแก่ชีวิตถ้า ต้องจาํ คุก (๓) ถ้าจําเลยมคี รรภ์ (๔) ถ้าจําเลยคลอดบุตรแล้วยังไม่ถึงสามปี และ จําเลยตอ้ งเล้ยี งดูบตุ รนน้ั ในระหว่างทุเลาการบังคับอยู่นั้นศาลจะมีคําส่ังให้ บุคคลดังกล่าวอยู่ในความควบคุมในสถานที่อันควรนอกจาก เรือนจําหรือสถานท่ีท่ีกําหนดไว้ในหมายจําคุกก็ได้ และให้ศาล กําหนดให้เจ้าพนักงานผู้มีหน้าท่ีจัดการตามหมายน้ันเป็นผู้มีหน้าที่ และรบั ผิดชอบในการดาํ เนนิ การตามคาํ สั่ง ลักษณะของสถานท่ีอันควรตามวรรคสองให้ เป็นไปตามท่ีกําหนดในกฎกระทรวง ซึ่งต้องกําหนดวิธีการควบคุม และบําบัดรักษาท่ีเหมาะสมกับสภาพของจําเลย และมาตรการเพ่ือ ปอ้ งกันการหลบหนี หรอื ความเสียหายทอี่ าจเกิดข้ึนด้วย เมื่อศาลมีคําส่ังตามวรรคหน่ึงแล้ว หากภายหลัง จําเลยไม่ปฏิบัติตามวิธีการหรือมาตรการตามวรรคสามหรือ พฤติการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไป ให้ศาลมีอํานาจเปล่ียนแปลงคําส่ัง หรือใหด้ ําเนินการตามหมายจําคุกได้ ให้หักจํานวนวันท่ีจําเลยอยู่ในความควบคุมตาม มาตรานอี้ อกจากระยะเวลาจําคุกตามคําพพิ ากษา -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลอื ด-

-ประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา- 217 มาตรา ๒๔๗ คดที ่ีจําเลยต้องประหารชีวติ ห้ามมิ ให้บังคับตามคําพิพากษา จนกว่าจะได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติใน ประมวลกฎหมายนี้วา่ ดว้ ยอภยั โทษแล้ว หญิงใดจะต้องประหารชวี ติ ถ้ามคี รรภ์อยู่ ให้รอไว้ จนพ้นกําหนดสามปีนับแต่คลอดบุตรแล้ว ให้ลดโทษประหารชีวิต ลงเหลือจําคุกตลอดชีวิต เว้นแต่เมื่อบุตรถึงแก่ความตายก่อนพ้น กําหนดเวลาดังกล่าว ในระหว่างสามปีนับแต่คลอดบุตร ให้หญิง นั้นเลี้ยงดูบุตรตามความเหมาะสมในสถานที่ท่ีสมควรแก่การเลี้ยง ดูบุตรภายในเรือนจาํ *[๑๖๔] การประหารชีวิตให้ประหาร ณ ตําบลและเวลาท่ี เจ้าหน้าที่ในการนัน้ จะเห็นสมควร มาตรา ๒๔๘ ถ้าบุคคลซึ่งต้องคําพิพากษาให้ ประหารชีวิตเกิดวิกลจริตก่อนถูกประหารชีวิต ให้รอการประหาร ชีวิตไว้ก่อนจนกว่าผู้น้ันจะหาย ขณะทุเลาการประหารชีวิตอยู่นั้น *[๑๖๔] มาตรา ๒๔๗ วรรคสอง แก้ไขเพมิ่ เติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไข เพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒๕) พ.ศ. ๒๕๕๐ -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลือด-

-ประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณาความอาญา- 218 ศาลมีอํานาจยกมาตรา ๔๖ วรรค (๒) แห่งกฎหมายลักษณะอาญา มาบังคบั ถ้าผู้วิกลจริตนั้นหายภายหลังปีหน่ึงนับแต่วันคํา พิพากษาถงึ ทสี่ ดุ ใหล้ ดโทษประหารชีวิตลงเหลอื จาํ คุกตลอดชวี ิต มาตรา ๒๔๙*[๑๖๕] คําพิพากษาหรือคําสั่งให้คืน หรือใช้ราคาทรัพย์สิน ค่าสินไหมทดแทนหรือค่าธรรมเนียมน้ัน ให้ บังคับตามบทบัญญตั ิแหง่ ประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความแพง่ มาตรา ๒๕๐†[๑๖๖] ถ้าคําพิพากษามิได้ระบุ ไว้เป็นอย่างอ่ืน บุคคลทั้งปวงซึ่งต้องคําพิพากษาให้ลงโทษโดยได้ กระทําความผิดฐานเดียวกัน ต้องรับผิดแทนกันและต่างกันในการ คนื หรือใชร้ าคาทรัพยส์ ินหรือใชค้ ่าสนิ ไหมทดแทน *[๑๖๕] มาตรา ๒๔๙ แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั แิ กไ้ ขเพม่ิ เตมิ ประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณาความอาญา (ฉบบั ท่ี ๒๔) พ.ศ. ๒๕๔๘ †[๑๖๖] มาตรา ๒๕๐ แก้ไขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั ิแก้ไขเพิม่ เตมิ ประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความอาญา (ฉบบั ท่ี ๒๔) พ.ศ. ๒๕๔๘ -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลอื ด-

-ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา- 219 มาตรา ๒๕๑*[๑๖๗] ถ้าต้องยึดทรัพย์สินคราว เดยี วกนั สําหรับใช้ค่าธรรมเนียมศาล ค่าปรับราคาทรัพย์สิน หรือค่า สินไหมทดแทน แต่ทรัพย์สินของจําเลยไม่พอใช้ครบทุกอย่างให้นํา จํานวนเงนิ สทุ ธิของทรัพยส์ ินนน้ั ใชต้ ามลําดับดงั ต่อไปน้ี (๑) ค่าธรรมเนียม (๒) ราคาทรัพย์สินหรอื ค่าสนิ ไหมทดแทน (๓) ค่าปรับ หมวด ๒ คา่ ธรรมเนียม มาตรา ๒๕๒ ในคดีอาญาท้ังหลายห้ามมิให้ศาล ยุตธิ รรมเรียกค่าธรรมเนยี มนอกจากท่บี ัญญตั ไิ วใ้ นหมวดนี้ *[๑๖๗] มาตรา ๒๕๑ แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั ิแกไ้ ขเพ่มิ เตมิ ประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญา (ฉบบั ที่ ๒๔) พ.ศ. ๒๕๔๘ -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลือด-

-ประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความอาญา- 220 มาตรา ๒๕๓*[๑๖๘] ในคดีพนักงานอัยการเป็น โจทก์ซึ่งมีคําร้องให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์สินติดมากับฟ้องอาญา ตามมาตรา ๔๓ หรือมีคําขอของผู้เสียหายขอให้บังคับจําเลย ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนมิให้เรียกค่าธรรมเนียม เว้นแต่ในกรณีท่ี ศาลเหน็ ว่าผู้เสียหายเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนสูงเกินสมควร หรือ ดําเนินคดีโดยไม่สุจริต ให้ศาลมีอํานาจสั่งให้ผู้เสียหายชําระ คา่ ธรรมเนยี มทัง้ หมดหรอื แต่เฉพาะบางส่วนภายในระยะเวลาท่ีศาล กาํ หนดกไ็ ด้ และถ้าผู้เสียหายเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามคําส่ังศาล ให้ถือ ว่าเป็นการท้ิงฟอ้ งในคดีสว่ นแพง่ นน้ั ในกรณีท่ีมีคําพิพากษาหรือคําส่ังให้คืนหรือใช้ ราคาทรัพย์สิน หรือค่าสินไหมทดแทนตามวรรคหนึ่ง ถ้าศาลยัง ต้องจัดการอะไรอีกเพื่อการบังคับ ผู้ที่จะได้รับคืนทรัพย์สินหรือ ราคาหรือค่าสินไหมทดแทน จักต้องเสียค่าธรรมเนียมดังคดีแพ่ง สาํ หรับการต่อไปน้ัน *[๑๖๘] มาตรา ๒๕๓ แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั ิแก้ไขเพ่ิมเตมิ ประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา (ฉบับท่ี ๒๔) พ.ศ. ๒๕๔๘ -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลือด-

-ประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความอาญา- 221 มาตรา ๒๕๔*[๑๖๙] ภายใต้บังคับแห่งมาตรา ๒๕๓ วรรคหนึ่ง ในคดีที่ผู้เสียหายเรียกร้องให้คืนหรือใช้ราคา ทรัพย์สนิ หรอื ใชค้ ่าสนิ ไหมทดแทนซ่งึ ตดิ มากับฟอ้ งคดีอาญา หรือท่ี ฟอ้ งเปน็ คดีแพ่งโดยลําพงั ใหเ้ รยี กคา่ ธรรมเนียมดังคดแี พง่ คดีในส่วนแพ่งตามวรรคหน่ึง ถ้าผู้เสียหายซึ่งเป็น โจทก์ประสงค์จะขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลในศาลชั้นต้น ชั้น อุทธรณ์ หรอื ชน้ั ฎกี า ใหย้ ืน่ คาํ ขอตอ่ ศาลชั้นต้นที่ได้ย่ืนฟ้องไว้พร้อม กับคําฟ้อง คําฟ้องอุทธรณ์ หรือคําฟ้องฎีกา แล้วแต่กรณี หาก ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีอาญาที่ฟ้องมีมูลและการเรียกเอาค่าสินไหม ทดแทนนนั้ ไมเ่ กินสมควรและเปน็ ไปด้วยความสจุ ริต ให้ศาลมีคําสั่ง อนุญาตตามคําขอ แต่ถ้าศาลมีคําสั่งยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลให้แก่ โจทก์แต่เฉพาะบางส่วนหรือมีคําสั่งยกคําขอ ก็ให้ศาลกําหนดเวลา ให้โจทก์ชําระค่าธรรมเนียมดังกล่าว คําสั่งของศาลช้ันต้นท่ีให้ ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลหรือยกคําขอให้มีผลสําหรับการดําเนินคดี ต้ังแต่ชั้นศาลซึ่งคดีนั้นอยู่ในระหว่างพิจารณาไปจนกว่าคดีจะถึง ที่สุด เว้นแต่ในกรณีที่พฤติการณ์แห่งคดีเปล่ียนแปลงไป ศาลท่ี พจิ ารณาคดีจะแก้ไขเปลีย่ นแปลงคาํ สง่ั น้นั ได้ตามท่เี ห็นสมควร ห้ามมิให้อุทธรณ์หรือฎีกาคําส่ังของศาลตามวรรค สอง *[๑๖๙] มาตรา ๒๕๔ แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั ิแก้ไขเพ่มิ เตมิ ประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญา (ฉบับท่ี ๒๔) พ.ศ. ๒๕๔๘ -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลอื ด-

-ประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณาความอาญา- 222 มาตรา ๒๕๕ ในคดีดังบัญญัติในมาตรา ๒๕๓ วรรค ๒ และมาตรา ๒๕๔ ถ้ามีคําขอ ศาลมีอํานาจส่ังให้ฝ่ายท่ีแพ้ คดีใช้ค่าธรรมเนยี มแทนอกี ฝา่ ยหนง่ึ ได้ มาตรา ๒๕๖*[๑๗๐] ให้ศาลจ่ายค่าพาหนะ ค่า ป่วยการ และค่าเช่าท่ีพักท่ีจําเป็นและสมควรแก่พยานซ่ึงมาศาล ตามหมายเรียก ตามระเบียบท่ีคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม กําหนดโดยความเหน็ ชอบจากกระทรวงการคลัง พยานท่ีได้รับค่าพาหนะ ค่าป่วยการ หรือค่าเช่าที่ พักในลักษณะเดียวกันตามกฎหมายอ่ืนแล้วไม่มีสิทธิได้รับตาม มาตรานอ้ี กี มาตรา ๒๕๗†[๑๗๑] ในคดีซ่ึงราษฎรเป็นโจทก์ *[๑๗๐] มาตรา ๒๕๖ แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั ิแก้ไขเพิม่ เตมิ ประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความอาญา (ฉบบั ที่ ๒๘) พ.ศ. ๒๕๕๑ †[๑๗๑] มาตรา ๒๕๗ เพม่ิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิม่ เติมประมวล กฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญา (ฉบบั ท่ี ๓๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลอื ด-

-ประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา- 223 โจทก์จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการส่งสําเนาคําฟ้องและหมายเรียก ให้แกจ่ ําเลยโดยคา่ ใช้จ่ายดังกลา่ วจะตอ้ งมจี าํ นวนไมส่ ูงเกนิ สมควร มาตรา ๒๕๘*[๑๗๒] ให้นําบทบัญญัติแห่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยค่าฤชาธรรมเนียมมา ใช้บังคับโดยอนโุ ลม ภาค ๗ อภยั โทษ เปล่ียนโทษหนกั เป็นโทษเบา และลดโทษ มาตรา ๒๕๙†[๑๗๓] ผตู้ อ้ งคําพิพากษาให้รับโทษ *[๑๗๒] มาตรา ๒๕๘ แก้ไขเพมิ่ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั ิแก้ไขเพ่ิมเตมิ ประมวลกฎหมายวธิ พี ิจารณาความอาญา (ฉบับท่ี ๒๔) พ.ศ. ๒๕๔๘ †[๑๗๓] มาตรา ๒๕๙ แก้ไขเพมิ่ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั ิแกไ้ ขเพมิ่ เตมิ ประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา (ฉบบั ที่ ๒๓) พ.ศ. ๒๕๔๘ -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลอื ด-

-ประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความอาญา- 224 อย่างใด ๆ หรือผู้ท่ีมีประโยชน์เกี่ยวข้อง เม่ือคดีถึงท่ีสุดแล้ว ถ้าจะ ทูลเกล้าฯ ถวายเร่ืองราวต่อพระมหากษัตริย์ขอรับพระราชทาน อภัยโทษ จะย่ืนต่อรฐั มนตรวี ่าการกระทรวงยุตธิ รรมกไ็ ด้ มาตรา ๒๖๐*[๑๗๔] ผถู้ วายเรอื่ งราวซึ่งตอ้ งจําคุก จําคกุ อยู่ในเรอื นจาํ จะย่ืนเร่ืองราวต่อพัศดีหรือผู้บัญชาการเรือนจํา กไ็ ด้ เม่อื ไดร้ บั เร่อื งราวนน้ั แล้ว ให้พศั ดีหรือผบู้ ญั ชาการเรือนจําออก ใบรับให้แก่ผู้ย่ืนเรื่องราว แล้วให้รีบส่งเร่ืองราวน้ันไปยัง รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงยตุ ธิ รรม มาตรา ๒๖๑†[๑๗๕] รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ยุติธรรมมีหน้าที่ถวายเร่ืองราวต่อพระมหากษัตริย์พร้อมทั้งถวาย ความเห็นว่าควรพระราชทานอภัยโทษหรอื ไม่ ใ น ก ร ณี ที่ ไ ม่ มี ผู้ ใ ด ถ ว า ย เ รื่ อ ง ร า ว ถ้ า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเห็นเป็นการสมควร จะถวาย *[๑๗๔] มาตรา ๒๖๐ แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั ิแกไ้ ขเพมิ่ เตมิ ประมวลกฎหมายวธิ พี ิจารณาความอาญา (ฉบบั ท่ี ๒๓) พ.ศ. ๒๕๔๘ †[๑๗๕] มาตรา ๒๖๑ แก้ไขเพมิ่ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั แิ ก้ไขเพิ่มเตมิ ประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณาความอาญา (ฉบบั ที่ ๒๓) พ.ศ. ๒๕๔๘ -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลอื ด-

-ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา- 225 คําแนะนําต่อพระมหากษัตริย์ขอให้พระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้อง คาํ พิพากษาน้ันกไ็ ด้ มาตรา ๒๖๑ ทวิ*[๑๗๖] ในกรณีท่ีคณะรัฐมนตรี เห็นเป็นการสมควรจะถวายคําแนะนําต่อพระมหากษัตริย์ขอให้ พระราชทานอภยั โทษแก่ผู้ต้องโทษกไ็ ด้ การพระราชทานอภัยโทษตามวรรคหนึ่ง ให้ตรา เป็นพระราชกฤษฎกี า มาตรา ๒๖๒ ภายใต้บังคับแห่งมาตรา ๒๔๗ และ ๒๔๘ เมื่อคดีถึงที่สุด ผู้ใดต้องคําพิพากษาให้ประหารชีวิต ให้เจ้าหน้าที่นําตัวผู้น้ันไปประหารชีวิตเมื่อพ้นกําหนดหกสิบวันนับ แต่วันฟังคําพิพากษา เว้นแต่ในกรณีที่มีการถวายเรื่องราวหรือ คําแนะนําขอให้พระราชทานอภัยโทษตามมาตรา ๒๖๑ ก็ให้ทุเลา การประหารชีวิตไว้จนกว่าจะพ้นกําหนดหกสิบวันนับแต่วันที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมถวายเร่ืองราวหรือคําแนะนําข้ึน ไปนั้น แต่ถ้าทรงยกเร่ืองราวนั้นเสีย ก็ให้จัดการประหารชีวิตก่อน *[๑๗๖] มาตรา ๒๖๑ ทวิ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับท่ี ๙) พ.ศ. ๒๕๑๗ -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลอื ด-

-ประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา- 226 กําหนดนไ้ี ด้*[๑๗๗] เรื่องราวหรือคําแนะนําขอพระราชทานอภัยโทษ แก่ผ้ตู ้องคําพิพากษาใหป้ ระหารชีวิต ใหถ้ วายไดแ้ ต่ครั้งเดยี วเทา่ นั้น มาตรา ๒๖๓ เหตุท่ีมีเรื่องราวขอพระราชทาน อภัยโทษในโทษอย่างอื่นนอกจากโทษประหารชีวิต ไม่เป็นผลให้ ทเุ ลาการลงโทษนน้ั มาตรา ๒๖๔ เร่ืองราวขอพระราชทานอภัยโทษ อย่างอ่ืนซึ่งมิใช่โทษประหารชีวิต ถ้าถูกยกหนหนึ่งแล้ว จะยื่นใหม่ อีกไม่ได้จนกวา่ จะพ้นสองปนี บั แตว่ ันถูกยกคร้งั ก่อน มาตรา ๒๖๕ ในกรณีท่ีมีการอภัยโทษเด็ดขาด โดยไม่มีเงื่อนไข ห้ามมิให้บังคับโทษนั้น ถ้าบังคับโทษไปบ้างแล้วให้ หยดุ ทนั ที ถ้าเปน็ โทษปรับที่ชาํ ระแล้ว ใหค้ นื ค่าปรบั ใหไ้ ปทัง้ หมด *[๑๗๗] มาตรา ๒๖๒ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพม่ิ เติมโดยพระราชบญั ญตั ิแก้ไข เพิ่มเตมิ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบบั ที่ ๒๓) พ.ศ. ๒๕๔๘ -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลอื ด-

-ประมวลกฎหมายวธิ พี ิจารณาความอาญา- 227 ถ้าการอภัยโทษเป็นแต่เพียงเปลี่ยนโทษหนัก เป็นเบาหรือลดโทษ โทษที่เหลืออยู่ก็ให้บังคับไปได้ แต่การได้รับพระราชทานอภัยโทษ ไม่เป็นเหตุให้ ผู้รับพ้นความรับผิดในการต้องคืนหรือใช้ราคาทรัพย์สินหรือค่า ทดแทนตามคาํ พพิ ากษา มาตรา ๒๖๖ เมื่อผู้ได้รับพระราชทานอภัยโทษ เน่ืองจากการกระทาํ ความผิดอย่างหนึ่งถูกฟ้องว่ากระทําความผิด อีกอย่างหนึ่ง อภัยโทษนั้นย่อมไม่ตัดอํานาจศาลท่ีจะเพิ่มโทษ หรอื ไมร่ อการลงอาญาตามกฎหมายลักษณะอาญาว่าด้วยกระทําผิด หลายคร้ังไม่เขด็ หลาบ หรือว่าด้วยรอการลงอาญา มาตรา ๒๖๗ บทบัญญัติในหมวดน้ี ให้นํามา บังคับโดยอนุโลมแก่เร่ืองราวขอพระราชทานเปล่ียนโทษหนักเป็น เบาหรือลดโทษ -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลือด-

-ประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา- 228 บญั ชีแนบทา้ ยประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา*[๑๗๘] ความผดิ ในกฎหมายลักษณะอาญา ที่มาตรา ๗๙ อา้ งถึง ซ่งึ ราษฎรมีอํานาจจับไดโ้ ดยไม่ต้องมหี มาย ประทษุ รา้ ยต่อพระบรมราชตระกูล มาตรา ๙๗ และ ๙๙ ขบถภายในพระราชอาณาจกั ร มาตรา ๑๐๑ ถงึ ๑๐๔ ขบถภายนอกพระราชอาณาจกั ร มาตรา ๑๐๕ ถงึ ๑๑๑ ความผดิ ตอ่ ทางพระราชไมตรีกบั ตา่ งประเทศ มาตรา ๑๑๒ ทาํ อันตรายแก่ธง หรอื เครอ่ื งหมายของตา่ งประเทศ มาตรา ๑๑๕ ความผิดตอ่ เจ้าพนักงาน มาตรา ๑๑๙ ถึง ๑๒๒ และ ๑๒๗ หลบหนจี ากท่ีคุมขงั มาตรา ๑๖๓ ถงึ ๑๖๖ *[๑๗๘] บัญชีแนบทา้ ยประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา แกไ้ ข เพิ่มเตมิ โดยพระราชบญั ญตั แิ ก้ไขเพิม่ เติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความ อาญา (ฉบบั ที่ ๖) พ.ศ. ๒๔๙๙ -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลือด-

-ประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความอาญา- 229 ความผดิ ต่อศาสนา มาตรา ๑๗๒ และ ๑๗๓ ก่อการจลาจล มาตรา ๑๘๓ และ ๑๘๔ กระทําใหเ้ กิดภยันตรายแก่สาธารณชน กระทําให้สาธารณชนปราศจากความสะดวก ในการไปมาและการส่งข่าวและของถึงกนั และกระทาํ ให้สาธารณชนปราศจากความสุขสบาย มาตรา ๑๘๕ ถงึ ๑๙๔, ๑๙๖, ๑๙๗ และ ๑๙๙ ปลอมแปลงเงินตรา มาตรา ๒๐๒ ถงึ ๒๐๕ และ ๒๑๐ ข่มขนื กระทาํ ชําเรา มาตรา ๒๔๓ ถงึ ๒๔๖ ประทุษร้ายแก่ชวี ิต มาตรา ๒๔๙ ถึง ๒๕๑ ประทุษร้ายแกร่ ่างกาย มาตรา ๒๕๔ ถึง ๒๕๗ ความผิดฐานกระทําให้เสอ่ื มเสยี อสิ รภาพ มาตรา ๒๖๘, ๒๗๐ และ ๒๗๖ ลกั ทรพั ย์ มาตรา ๒๘๘ ถึง ๒๙๖ วงิ่ ราว ชิงทรัพย์ ปลน้ ทรพั ย์ และโจรสลดั มาตรา ๒๙๗ ถึง ๓๐๒ กรรโชก มาตรา ๓๐๓ -รวบรวมโดยเพจกฎหมายในสายเลือด-


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook