แผนการจัดการเรียนรู้ที่-4-ออนไลน์

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) คมู่ ือครู วิทยาการคำนวณ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 1 ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) แผนการจดั การเรยี นรู้ (Lesson plan) รายวชิ า วิทยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1/2565 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 เรอ่ื ง การโปรแกรมดว้ ย Scratch เวลา 2 ช่ัวโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื ง รจู้ กั Scratch และการวนซ้ำ เวลา 2 ช่ัวโมง 1. มาตรฐาน/ตวั ชีว้ ัด เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตเข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคํานวณ ในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอยา่ งเปน็ ขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ในการเรยี นรู้ การทํางาน และการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ รูเ้ ท่าทัน และมีจรยิ ธรรม 2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด (Main point) ในชีวิตประจำวันอาจพบกับการทำงานหรือปัญหาที่ต้องมีการทำงานด้วยขั้นตอนเดิมซ้ำกัน หลายครั้ง เช่นเดียวกับการเขียนโปรแกรมใน Scratch ก็มีคำสั่ง repeat ที่ช่วยกำหนดการทำงานซ้ำ เพือ่ ชว่ ยให้เขยี นโปรแกรมกระชับและมปี ระสทิ ธภิ าพมากขึน้ 3. สาระการเรียนรู้ (Core content) 1. การออกแบบและเขียนโปรแกรมทม่ี ีการวนซ้ำ 2. การเขยี นโปรแกรมโดยใชบ้ ลอ็ กคำส่งั repeat 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ (Objective) ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) 1. มคี วามรู้ความเข้าใจเก่ียวกับการใช้งานโปรแกรม Scratch เบือ้ งตน้ ดา้ นกระบวนการ (Process : P) 1. สามารถปฏิบัตกิ ารเขยี นโปรแกรมโดยใชบ้ ลอ็ กคำสงั่ repeat ด้านเจตคติและคณุ ลักษณะอันพงึ ปะสงค์ (Attitude : A) 1. เห็นคณุ ประโยชนข์ องการเรียนวชิ าเทคโนโลยี (วทิ ยาการคาํ นวณ) ตระหนักในคุณค่า ของความรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยที ใี่ ช้ในชีวติ ประจําวัน 2. มวี นิ ยั ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 3. ใฝ่เรยี นรู้ 4. มุ่งม่นั ในการทำงาน 5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (Desired characteristics) 1. มวี นิ ัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน 6. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน (Key competencies) 1. ทกั ษะในการคิดวิเคราะห์ 2. ทกั ษะในการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ 3. ทกั ษะในการแก้ปัญหา 7. สมรรถนะทาง ICT (ICT performance) ICA4 การแก้ไขปญั หาในบริบทโลกดิจิทลั และการคดิ เชงิ คำนวณ 8. รปู แบบการสอน  1. Onsite (ออนไซต)์ 2. Online (ออนไลน์)  3. On-hand (ออนแฮนด)์ 9. รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ Active Learning - การเรยี นรู้แบบวเิ คราะห์วีดโี อ (Analysis or Reactions to Videos) - การเรยี นรแู้ บบทบทวนโดยผู้เรยี น (Student-led Review Sessions) 10. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (Learning activities) ข้ันท่ี 1. กิจกรรมสรา้ งสถานการณส์ มมติ (E : Establishing a scenario) 1.ผู้สอนกล่าวทักทายผู้เรียน และสอบถามผู้เรียนเกี่ยวกับความรู้เบื้องต้นการใช้งานโปรแกรม Scratch ซ่งึ จะเรยี นผ่านทาง Google Meet 2. ผสู้ อนเปิดวดิ โี อจาก Youtube เร่ือง รจู้ ัก Scratch และการวนซ้ำ ให้ผเู้ รยี นดู พร้อมทั้งอธิบาย รว่ มด้วย เพ่ือเสรมิ ความเข้าใจใหผ้ เู้ รยี น ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ข้นั ท่ี 2. กำหนดเป้าหมายร่วมกนั (P : Participation) 2. ผู้สอนสง่ ไฟล์ใบความรู้ เร่อื ง รจู้ ัก Scratch และการวนซำ้ ใหผ้ ู้เรียนทาง Google classroom เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นสามารถดาวน์โหลดไฟล์มาอ่านประกอบการเรยี นได้ ข้ันท่ี 3. ปลูกถ่ายความรู้ดว้ ยกระบวนการ (I : Implantation) 3. ผ้สู อนให้ผู้เรยี นทำใบกิจกรรมที่ 4.1 เรื่อง ร้จู กั Scratch เพ่อื เปน็ การทบทวนให้มีความรู้ความ เข้าใจในเนือ้ หามากยิ่งขนึ้ 4. ผู้สอนติดตามผ่านไลน์กลุ่มของชั้นเรียนและให้คำแนะนำอย่างสม่ำเสมอ เปิดโอกาสให้ผู้เรียน ซกั ถามในประเดน็ ท่สี งสยั และกำหนดการส่งงานผ่านทาง Google classroom ขน้ั ท่ี 4. สะท้อนคดิ (C : Community) 5. ผสู้ อนมอบหมายให้ผู้เรยี นทำใบงานท่ี 4.1 เรอ่ื ง วนซ้ำ (repeat) สง่ เป็นการบ้านซง่ึ กำหนดการ สง่ งานผ่านทาง Google classroom 11. การวัดและประเมนิ ผล (Assessment) แทรกอยใู่ นทกุ ข้นั ตอนและกจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. วัดและประเมินความรู้ความเขา้ ใจของผู้เรยี นด้วยการตรวจใบกิจกรรมและใบงานโดยผสู้ อน 2. ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์และสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนโดยใช้แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคแ์ ละสมรรถนะ 12. ชน้ิ งาน/หลักฐานการเรยี นรู้ของผเู้ รียน (Work piece) 1. ใบกิจกรรมท่ี 4.1 เรือ่ ง ร้จู ัก Scratch 2. ใบงานท่ี 4.1 เร่ือง วนซ้ำ (repeat) 13. สอ่ื และแหล่งเรยี นรู้ (Learning materials) 1. ใบกจิ กรรมท่ี 4.1 เรื่อง รู้จัก Scratch 2. ใบงานท่ี 4.1 เรื่อง วนซำ้ (repeat) 3. ใบความรู้ เร่อื ง รู้จกั Scratch และการวนซ้ำ 4. วดิ โี อจาก Youtube เรอ่ื ง รู้จัก Scratch และการวนซำ้ 5. Google Meet 6. Google classroom ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) แบบประเมนิ ใบกิจกรรมที่ 4.1 เรือ่ ง รู้จกั Scratch คำชีแ้ จง : ใหผ้ ้สู อนประเมนิ ผลงาน/ชนิ้ งานของนักเรยี นตามรายการท่ีกำหนด แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งทต่ี รง กบั ระดบั คะแนน ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ 4 3 21 1 ความสอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์ 2 ความถกู ต้องของเนื้อหา 3 ความคดิ สร้างสรรค์ 4 ความตรงตอ่ เวลา รวม ลงชื่อ ................................................... ผปู้ ระเมนิ ............../................./................ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) เกณฑป์ ระเมินใบงานที่ 4.1 เรอื่ ง วนซ้ำ (repeat) ประเดน็ ทีป่ ระเมิน ระดบั คะแนน 1. ผลงานตรงกับ 4321 จุดประสงค์ท่ี กำหนด ผลงานสอดคล้องกับ ผลงานสอดคล้องกับ ผลงานสอดคล้องกับ ผลงานไม่สอดคล้อง 2. ผลงานมคี วาม จุดประสงคท์ ุกประเดน็ จุดประสงค์เป็นส่วน จ ุ ด ป ร ะ ส ง ค ์ บ า ง กบั จุดประสงค์ ถูกต้องสมบรู ณ์ ใหญ่ ประเดน็ 3. ผลงานมีความคิด สร้างสรรค์ เนอ้ื หาสาระของผลงาน เน้อื หาสาระของผลงาน เนื้อหาสาระของผลงาน เน้ือหาสาระของผลงาน 4. ผลงานมีความเปน็ ถกู ตอ้ งครบถ้วน ถกู ต้องเปน็ สว่ นใหญ่ ถ ู ก ต ้ อ ง เ ป ็ น บ า ง ไม่ถกู ตอ้ งเป็นสว่ นใหญ่ ระเบียบ ประเด็น ผลงานแสดงออกถึง ผลงานมีแนวคิดแปลก ผลงานมีความน่าสนใจ ผลงานไม่แสดงแนวคิด ความคิดสร้างสรรค์ ใหม่แต่ยังไม่เป็นระบบ แตย่ งั ไม่มแี นวคดิ แปลก ใหม่ แ ป ล ก ใ ห ม ่ แ ล ะ เ ป็ น ใหม่ ระบบ ผ ล งา นม ี ค วา ม เ ป็ น ผลงานส่วนใหญ่มีความ ผ ล งา นม ี ค วา ม เ ป็ น ผลงานส่วนใหญ่ไม่เป็น ระเบียบแสดงออกถึง เป็นระเบียบแต่ยังมี ร ะ เ บ ี ย บ แ ต ่ มี ร ะ เ บ ี ย บ แ ล ะ ม ี ข้ อ ความประณีต ขอ้ บกพรอ่ งเลก็ น้อย ขอ้ บกพรอ่ งบางสว่ น บกพร่องมาก เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 14–16 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรงุ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล คำชี้แจง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในช่อง ที่ตรงกบั ระดับคะแนน ลำดับท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 32 1 การแสดงความคดิ เห็น 1 2 การยอมรบั ฟังความคิดเหน็ ของผู้อ่ืน  3 การทำงานตามหน้าท่ีทไี่ ดร้ ับมอบหมาย   4 ความมีน้ำใจ   5 การตรงต่อเวลา     รวม  ลงช่อื ................................................... ผปู้ ระเมนิ ............/.................../................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกวา่ 8 ปรับปรุง ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คำช้แี จง : ให้ผ้สู อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในชอ่ ง ท่ตี รงกบั ระดับคะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อันพึงประสงคด์ ้าน 321 1. มวี นิ ยั รับผดิ ชอบ 1.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ ในชีวติ ประจำวัน 2. ใฝ่เรยี นรู้ 2.1 รจู้ ักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัตไิ ด้ 2.2 รูจ้ ักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม 2.3 เช่อื ฟงั คำส่ังสอนของบิดา-มารดา โดยไม่โตแ้ ยง้ 2.4 ตง้ั ใจเรียน 3. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 3.1 มีความตงั้ ใจและพยายามในการทำงานท่ีได้รับมอบหมาย 3.2 มคี วามอดทนและไมท่ ้อแทต้ ่ออุปสรรคเพือ่ ให้งานสำเร็จ เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชือ่ .................................................. ผปู้ ระเมิน พฤติกรรมที่ปฏบิ ัติชดั เจนและสม่ำเสมอ ............/.................../................ พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชัดเจนและบ่อยครั้ง พฤติกรรมที่ปฏบิ ัติบางคร้ัง ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 20-21 ดีมาก 15-19 ดี 11-14 พอใช้ ปรับปรุง ต่ำกวา่ 10 ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ใบความรู้ เรอ่ื งรจู้ กั Scratch และการวนซำ้ ➢ 01 รจู้ ักโปรแกรม Scratch โปรแกรม Scratch เป็นโปรแกรมโอเพนซอร์ส (Open-source software) พัฒนาโดยนักวิจัยที่ ห้องปฏิบัติการสื่อ (MIT Media Lab) สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ประเทศสหรัฐอเมริกา Scratch ออกแบบมาให้ใช้กับเด็กอายุ 8-16 ปีและเป็นทางเลือกที่ดีในการเขียนโปรแกรมสำหรับผู้เริ่มต้นปัจจุบัน Scratch พัฒนาถึงเวอร์ชัน 3.0 ผู้ใช้สามารถเขียนโปรแกรมออนไลน์หรือดาวน์โปลดโปรแกรมมาใช้ท่ี เคร่ืองคอมพวิ เตอร์แบบออฟไลน์ เนื่องจากโปรแกรม Scratch เป็นโปรแกรมภาษาเชิงกราฟิกจึงทำให้ใช้งานง่ายสามารถสร้าง สคริปต์หรือโปรแกรมที่ประกอบด้วยบล็อกคำสั่งต่าง ๆ มาวางต่อกันเป็นลำาดับโดยไม่ต้องกังวลกับการ พิมพค์ ำส่งั ผิดพลาดหน้าต่างโปรแกรม Scratch ดังรูปที่ 1.1 รูป 1.1 หนา้ ตา่ งโปรแกรม Scratch ชววนนคคิดิด ชวนคิดนักเรียนจะเขียนโปรแกรมโดยใช้ Scratch เพื่อสร้างผลงานอะไรได้บ้างโดยศึกษา รายละเอียดและทดสอบการใช้งานจากตวั อย่างโปรแกรมได้ท่ี http://scratch.mit.edu/ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) เรม่ิ ตน้ กบั โปรแกรม Scratch ในบทน้จี ะแนะนำการใช้งานโปรแกรม Scratch แบบออฟไลน์ท่ีต้องตดิ ตง้ั ไว้ที่เคร่ืองคอมพิวเตอร์ หากนักเรียนยังไม่มีโปรแกรมสามารถทำได้โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ http://scratch.mit.edu/ แล้วเลือก Offline Editor ซ่งึ จะอยูใ่ นสว่ น Support ดา้ นล่างของเว็บเพจดงั รูป 1.2 รปู 1.2 Offine Editor สำหรับ Scratch 2.0 หลังจากน้นั จะปรากฏหนา้ ตา่ งให้ดาวนโ์ หลดดังรูปท่ี 1.3 รูป 1.3 หนา้ ต่างดาวน์โหลด Scratch 2.0 ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ขั้นตอนการติดตั้งโปรแกรม ขั้นตอนที่ 1 ติดตั้งโปรแกรม Adobe AIR โดยคลิกดาวน์โหลดเลือกให้เหมาะสมกับ ระบบปฏิบัติการที่ใช้ซึ่งจได้ไฟล์ AdobeAIRInstaller.exe หลังจากนั้นให้ดับเบิลคลิกโฟล์เพื่อติดตั้ง โปรแกรม ขั้นตอนที่ 2 ติดตั้งโปรแกรม Scratch โดยคลิกดาวน์โหลดเลือกใหเ้ หมาะสมกับระบบปฏิบัติการ ที่ใช้ซึ่งจะได้ไฟล์ Scratch-456.0.4.exe หลังจากนั้นให้คับเบิลคลิกไฟล์เพื่อติดตั้งโปรแกรม (ชื่อไฟล์ โปรแกรม Scratch อาจแตกต่างกนั เน่อื งจาก Scratch จะถูกปรับปรงุ ใหท้ ันสมัยอยูเ่ สมอ) สำหรับสว่ นที่ 3 Support Materials เป็นส่วนของเอกสารให้ความรู้และตัวอยา่ งโปรแกรม สว่ นประกอบหลกั ของหน้าต่างโปรแกรม Scratch หนา้ ต่างโปรแกรม Scratch ท่ปี รากฏจะมีลกั ษณะคล้ายโปรแกรมอืน่ ที่มีเมนใู ห้ใช้งานและพ้ืนท่ีใน การทำงานซ่งึ มสี ว่ นประกอบหลักในการทำงาน 3 สว่ นคอื เวทีตวั ละครและสครปิ ต์ดงั รปู 1.4 รูป 1.4 ส่วนประกอบหนา้ ต่างโปรแกรม Scratch ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 1. เวที (stage) เป็นพื้นที่สำหรับแสดงผลลัพธ์การทำงานเม่ือตอ้ งการรันโปรแกรมให้คลิกปุ่มธงเขียวและ ถา้ ตอ้ งการยกเลิกใหค้ ลิกปมุ่ หยดุ นอกจากนน้ี ักเรยี นยงั สามารถกำหนดส่วนประกอบต่าง ๆของพน้ื หลงั เวทไี ดเ้ ช่นเลือกภาพพ้ืนหลัง เลอื กเพลงประกอบซงึ่ กำหนดได้โดยคลกิ เลือกเครอ่ื งมือ มมุ ลา่ งซ้ายของหนา้ ตา่ งโปรแกรม 2. ตัวละคร (sprite) ในโปรแกรม Scratch สามารถกำหนดให้มีตัวละครได้หลายตัวละครแต่ละตัวจะมี ข้อมลู สว่ นตวั ที่แตกตา่ งกนั เช่น ชอื่ ชดุ ตวั ละคร ทศิ ทางการเคลอ่ื นท่ี พกิ ดั ของตำแหน่ง โดยชุดตัวละครจะ หมายถึง เครือ่ งแตง่ กายและท่าทาง 3. สครปิ ต์ (script) เปน็ พนื้ ท่ที ่ีใชส้ ำหรบั เขยี นโปรแกรมดงั รปู 1.5 ซง่ึ ประกอบดว้ ย 3.1 บล็อกคำสั่งแต่ละบล็อกถูกจัดอยู่ภายในกลุ่มท่ีทำหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกันโดยมที ั้งหมด 10 กลุ่ม และถา้ คลิกท่กี ลุ่มบล็อกใดก็จะปรากฏบล็อกคำสงั่ ภายในกล่มุ นน้ั 3.2 พื้นที่เขียนโปรแกรมผู้ใช้สามารถลากบล็อกคำสั่งที่ต้องการมาวางเรียงต่อกันในพื้นที่เขียน โปรแกรม รูป 1.5 ส่วนสครปิ ต์ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ตวั อยา่ งท่ี 1 เริม่ ตน้ กับ Scratch ดว้ ยการเขยี นโปรแกรมให้ตวั ละครแมวเดนิ สรา้ งโปรแกรม Scratch ให้ ตวั ละครแมวเดนิ มีขัน้ ตอนดังน้ี 1) เปดิ โปรแกรม Scratch จะปรากฏตวั ละคร Sprite1 ที่เป็นรปู แมว 2) คลกิ แทบ็ Costumes จะปรากฏชุดตวั ละคร 2 ชดุ คอื costume1 และ costume2 ให้ สังเกตว่าชุดตวั ละครมีลักษณะท่าทางการก้าวเดินของแมวที่แตกตา่ งกันดังรูป 1.6 รูป 1.6 ชดุ ตวั ละคร 3) คลิกแท็บ Script แลว้ เขียนโปรแกรมโดยลากบลอ็ กคำส่ังวางในพน้ื ทีเ่ ขยี นโปรแกรมดังนี้ 4) รันโปรแกรมโดยคลิกปุ่ม สังเกตผลลัพธ์ที่ได้จะเห็นว่าแมวมีลักษณะคล้ายการเดิน 1 ก้าว ซึ่งเป็นผลมาจากคำสั่ง move 10 steps หมายถึง สั่งให้ตัวละครเคลื่อนที่ไป 10 หน่วย (การเคลื่อนที่ 1 หน่วยจะเท่ากบั การขยบั ไป 1 จุดบนหนา้ จอ) และคำสง่ั next costume หมายถึง เปลย่ี นเป็นชุดตัวละคร ในลำดับถดั ไป ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 5) ปรับสคริปต์ในข้อ 3) โดยเพิ่มบล็อกคำสั่ง forever วางให้ครอบคำสั่ง move 10 steps และ next costume 1 2 >>>>>>> 3 4 6) คลกิ ปุม่ ธงเขยี ว แลว้ สงั เกตผลลัพธ์ทไ่ี ดจ้ ะเห็นวา่ แมวเดินชนขอบเวทีอย่างไม่สิ้นสดุ ➢ 02 การทำงานแบบวนซำ้ ในการเขียนโปรแกรมมีหลายกรณีที่ต้องมีการทํางานซ้ำ ๆกันซึ่งทำให้ต้องเขียนคำสั่งชุดเดียวกนั ซ้ำกันหลายครั้งเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ Scratch มีคำสั่งที่ใช้ในการทํางานแบบวนซ้ำซึ่งอยู่ใน กลุ่มบลอ็ ก Control ดงั น้ี 2.1 บลอ็ กคำส่งั forever เป็นคำส่งั ท่ีกำหนดการทำงานแบบวนซำ้ ไม่รูจ้ บ ตวั อยา่ งเชน่ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 2.2 บล็อกคำส่ัง repeat เป็นคำสั่งทีก่ ำหนดการทำงานแบบวนซ้ำตามจำนวนรอบที่ กำหนด ตัวอย่างเชน่ ตัวอย่างที่ 2 วาดรูปสีเ่ หล่ยี ม แนวคดิ ในการวาดรปู สเ่ี หลย่ี มคอื ต้องวาดเส้นตรงแล้วต้องเปลีย่ นทศิ ทางการวาดเป็นมุม 90 องศา ซ่งึ ถ้าสังเกตจะเห็นวา่ ส่วนนมี้ ีการทำซำ้ 4 รอบ แต่กอ่ นการสงั่ วาดรูปจะต้องมกี ารล้างหน้าจอภาพให้ว่าง ก่อนแล้วจงึ วางปากกา และกําหนดจดุ เรม่ิ ต้นของการวาด จากแนวคิดเขียนรหสั ลำลองได้ดงั นี้ 1. ล้างจอภาพ 2. วางปากกา 3. กำหนดตำแหน่งเริม่ วาดที่พกิ ัด (0,0) 4. ทำงานตอ่ ไปนี้ 4 รอบ 4.1 ลากเสน้ ตรง 100 หน่วย 4.2 หมุนตามเข็มนาฬิกา 90 องศา โปรแกรมมีดงั นี้ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ผลลพั ธท์ ี่ได้ คือ จากตวั อยา่ งท่ี 2 อธบิ ายได้วา่ 1. บรรทดั ที่ 1 กำหนดจุดเรมิ่ ตน้ เมื่อผใู้ ชค้ ลิกธงเขียว 2. บรรทดั ที่ 2 ล้างหน้าจอภาพ 3. บรรทดั ที่ 3 วางปากกา 4. บรรทัดที่ 4 กำหนดตำแหนง่ เร่ิมต้นให้ตัวละครอยู่ที่กลางจอภาพซึ่งคือตำแหน่ง 0,0 5. กำหนดใหท้ ำคำส่ังภายในบล็อกคำสง่ั repeat จำนวน 4 รอบคือคำสั่งบรรทัดที่ 6 เคล่ือนที่ไป ตามทิศทางของตวั ละครเป็นจำนวน 100 หนว่ ยและบรรทดั ที่ 7 หมนุ ตามเขม็ นาฬกิ า 90 องศาซึ่งจะทำให้ ไดร้ ปู สเ่ี หลี่ยม 1 รูป ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ใบงานท่ี 4.1 เรอื่ ง วนซำ้ (repeat) คำช้แี จง : ใหผ้ เู้ รียนเขียนโปรแกรมเพื่อวาดรูปดังตอ่ ไปน้ี และตอบคำถาม 1) ใช้รปู ใดเป็นพ้ืนฐานในการวาดรปู .............................................................................................................. 2) ใชร้ ปู ในข้อ 1) วาดท้ังหมดกคี่ รัง้ จึงจะไดร้ ูปขา้ งตน้ .................................................................................. 3) ในการวาดรปู ในข้อ 1) แต้ละคร้งั หมนุ มุมกี่องศา..................................................................................... ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) เฉลยใบงานท่ี 4.1 เรือ่ ง วนซ้ำ (repeat) คำช้ีแจง : ใหผ้ ู้เรียนเขียนโปรแกรมเพอื่ วาดรปู ดังต่อไปนี้ และตอบคำถาม 1) ใชร้ ูปใดเป็นพ้ืนฐานในการวาดรูป....ว...ง.ก...ล..ม................................................................................................. 2) ใช้รูปในข้อ 1) วาดท้งั หมดกคี่ ร้งั จงึ จะไดร้ ปู ข้างตน้ ..6....ค..ร..ัง้........................................................................ 3) ในการวาดรปู ในข้อ 1) แต้ละครง้ั หมุนมุมกี่องศา...6...0...อ...ง..ศ..า..................................................................... ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ใบกจิ กรรมท่ี 4.1 เร่ือง รูจ้ กั Scratch คำชี้แจง : ใหศ้ ึกษาและปฏบิ ัติตามตวั อย่างท่ี 4.1 ในหนังสือเรยี น (หน้าท่ี 98) แล้วตอบคำถามต่อไปน้ี 1. ผลลัพธก์ ารรันโปรแกรมตัวอย่างท่ี 4.1 คือ ............................................................................................................................. ......................................... 2. เหตใุ ดจึงมกี ารเร่ิมตน้ การเขยี นโปรแกรมดว้ ยบลอ็ ก .................................................... ถ้าไม่มีบล็อกคำสงั่ น้ี โปรแกรมจะทำงาน  ได้  ไมไ่ ด้ 3. บลอ็ กคำส่งั forever ทำหน้าทอี่ ะไร ทำหนา้ ท่ี............................................................................................................ ............................................................................................................... ............ 4. ถา้ ตัวละครเริม่ ตน้ ดว้ ย costume1 เมอื่ พบบล็อกคำสัง่ ชุดตัวละครจะเปลีย่ นเป็นชุดใด..................................................................................................................... 5. ถ้าตอ้ งการให้ตวั ละครอย่ใู นตำแหนง่ กลางเวทีทุกคร้ังเม่ือมีการคลิก จะใช้คำสง่ั ใดในกลุ่มบล็อก Motion ………………………………………………………………………………………..……………… และวางที่ตำแหนง่ ใด  ถัดจากบรรทัดท่ี 1 1  ถัดจากบรรทัดท่ี 2 2  ถัดจากบรรทดั ที่ 3 3  ถัดจากบรรทัดที่ 4 4 ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 6. หากนำบล็อกคำสั่ง วางไว้หลงั บลอ็ กคำสั่ง next costume ในบรรทัดท่ี 4 แล้ว คลิกธงเขยี ว สงั เกตผลลพั ธท์ ่ีไดจ้ ะเปน็ อย่างไร ................................................................................................................ ....................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ............................................................................................................................................................... ........ 7. ให้นำบล็อกคำส่ัง วางไว้ต่อท้ายคำส่งั ในข้อ 6. แล้วทดลองเลือกคำสัง่ don’t rotate,left-right และ all around แลว้ คลิกธงเขยี ว ผลลัพธ์ทไี่ ด้  แตกต่างกนั  ไมแ่ ตกตา่ ง อยา่ งไร................................................................................  left-right ทำหนา้ ที.่ .............................................................................................................  don’t rotate ทำหนา้ ท.ี่ .............................................................................................................  all around ทำหนา้ ที่.............................................................................................................. 8. จากรปู นักเรียนคดิ วา่ เมื่อคลิก เพื่อรันโปรแกรม ตวั ละครจะเคล่ือนท่ีไปทิศทางใด.................................................................................................................... เหตุใดจงึ เปน็ เช่นน้ัน....................................................................................................................................... ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) เฉลยใบกิจกรรมที่ 4.1 เรอ่ื ง ร้จู กั Scratch คำชีแ้ จง : ใหศ้ ึกษาและปฏิบัตติ ามตวั อยา่ งท่ี 4.1 ในหนังสือเรยี น (หนา้ ท่ี 98) แล้วตอบคำถามต่อไปน้ี 1. ผลลัพธ์การรนั โปรแกรมตัวอยา่ งท่ี 4.1 คือ ......ต..วั..ล...ะ..ค..ร..เ.ค...ล..่ือ...น..ท...ไ่ี.ป....1...0...ห...น...ว่ ..ย...แ...ล..ะ..ม...ีก..า..ร..เ.ป...ล..ีย่...น..ช...ดุ ..ต..ัว...ล..ะ..ค...ร................................................................... 2. เหตใุ ดจึงมกี ารเร่ิมต้นการเขยี นโปรแกรมด้วยบล็อก .เ.พ...่อื ..เ.ร..่ิม...ก..า..ร..ท...ำ..ง..า.น...ข..อ...ง..โ.ป...ร..แ..ก...ร..ม.. ถา้ ไม่มีบล็อกคำสัง่ น้ี โปรแกรมจะทำงาน  ได้  ไมไ่ ด้ 3. บล็อกคำส่งั forever ทำหน้าทอ่ี ะไร ทำหน้าท่.ี ....ว..น..ซ...ำ้ ..แ..บ...บ..ไ..ม..่ส...นิ้ ..ส...ุด........................................................................... ............................................................................................................... ............ 4. ถา้ ตัวละครเร่มิ ต้นดว้ ย costume1 เมอ่ื พบบล็อกคำสัง่ ชุดตวั ละครจะเปลยี่ นเปน็ ชุดใด....c.o...s.t.u...m...e..2...แ..ล..ะ..เ.ม..อื่..พ...บ..ค..ำ..ส..ัง่...n..e..x..t..c..o..s..t.u..m...e....จ..ะ.เ..ป..ล..ยี่..น..ก..ล..บั...ม..า..เ.ป..น็ ...c..o..s.t..u..m...e..1... 5. ถา้ ตอ้ งการให้ตวั ละครอยใู่ นตำแหนง่ กลางเวทีทกุ คร้ังเม่ือมกี ารคลกิ จะใช้คำสั่งใดในกลมุ่ บล็อก Motion ……g…o…to……x …: 0……y…:…0…………………………………………………………..……………… และวางท่ตี ำแหน่งใด  ถดั จากบรรทัดท่ี 1 1 ถดั จากบรรทดั ที่ 2 2  ถดั จากบรรทัดที่ 3 3  ถดั จากบรรทดั ที่ 4 4 ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 6. หากนำบลอ็ กคำส่ัง วางไว้หลงั บลอ็ กคำสงั่ next costume ในบรรทดั ท่ี 4 แลว้ คลกิ ธงเขยี ว สงั เกตผลลพั ธ์ที่ไดจ้ ะเปน็ อย่างไร .ต..วั..ล..ะ...ค..ร..จ..ะ...เ.ด..นิ...ช..น...ข..อ...บ..เ.ว...ท..ี..แ..ล..ว้..เ..ด..ิน...ย..้อ..น...ก..ล...บั ..ใ..น..ล...กั ..ษ...ณ...ะ..ก...ล..ับ...ห...วั ................................................................... ......................................................................................... .............................................................................. ............................................................................................................................. .......................................... 7. ใหน้ ำบล็อกคำส่ัง วางไวต้ อ่ ท้ายคำสั่งในข้อ 6. แล้วทดลองเลือกคำส่ัง don’t rotate,left-right และ all around แลว้ คลกิ ธงเขียว ผลลพั ธท์ ่ีได้  แตกตา่ งกัน  ไมแ่ ตกต่าง อยา่ งไร................................................................................  left-right ทำหนา้ ท.่ี ..เ.ม..อื่...ต..ัว..ล..ะ..ค..ร.เ.ด...ิน..ช..น..ข..อ..บ...เ.ว.ท...ีจ..ะ..เ.ด..นิ..ย..อ้..น...โ.ด..ย..ไ.ม...ก่ ..ล..บั ..ห..วั...แ..ต...ห่ ..ัน..ห..น...้า.ไ..ป..อ..กี..ด..า้..น.....  don’t rotate  all around เมอ่ื ตัวละครเดนิ ชนขอบเวทีจะเดนิ ย้อนกลบั แต่ยังหนั หน้าไปทางทศิ เดมิ ทำหนา้ ท.่ี .ท..ำ..ใ.ห..เ้.ห...ม..อื..น..ก..ับ...ก..า..ร.เ.ด...ิน..ถ..อ..ย..ห..ล..ัง................................................................. ทำหน้าท่ี..เ.ม..่อื..ต..วั..ล..ะ..ค..ร..เ.ด..ิน...ช..น..ข..อ..บ..เ..ว.ท...จี ..ะ..ก..ล..บั ..ห..วั......................................................... 8. จากรปู นักเรยี นคดิ ว่า เม่ือคลกิ เพื่อรนั โปรแกรม ตวั ละครจะเคล่อื นที่ไปทิศทางใด.....เ.ค..ล..อ่ื..น..ท...ไ่ี .ป..ต..า..ม..ท...ศิ ..ท..า..ง...d.i.r.e.c..t.io..n...ท..กี่..ำ..ห..น...ด....................................................... เหตุใดจึงเปน็ เชน่ นั้น....เ.พ...ร.า..ะ...d..i.re..c.t.i.o..n..เ.ป...็น..ต..วั..ก..ำ..ห..น..ด...อ..ง.ศ..า..ข..อ..ง..ต..ัว.ล...ะ.ค...ร................................................................. ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1