ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรถยนต์

ระบบเบรกมี ABS และไมม่ ี ABS Electronic Hydraulic Control Unit (EHCU) ECM ไมม่ ี ABS Speed sensor มี ABS 102

ระบบเบรก (Braking system) ABS พรอ้ ม EBD (Electronic Brake force Distribution) (ระบบกระจายแรงเบรกดว้ ยอเิ ล็กทรอนกิ ส)์ ABS พรอ้ ม EBD จะทาหนา้ ทกี่ ระจายแรงเบรกใหเ้ หมาะสม ทัง้ ลอ้ หนา้ , หลงั ลอ้ ซา้ ย และขวา ซง่ึ ขนึ้ อยกู่ บั สภาวะการขบั ข่ี ระบบนจ้ี ะควบคมุ แรงเบรกทล่ี อ้ หนา้ , หลงั ขน้ึ อยกู่ บั น้าหนักทบ่ี รรทกุ และภาระทเ่ี ปลยี่ นแปลงจากการเรง่ และเบรก อยา่ งไรกต็ าม ระบบจะควบคมุ แรงเบรกทลี่ อ้ ซา้ ย, ขวา ในสภาวะทรี่ ถกาลงั เลยี้ วหรอื เขา้ โคง้ ดว้ ย A. สภาวะปกติ B. สภาวะมนี ้าหนัก บรรทกุ C. ขณะทเี่ บรกเขา้ โคง้ 103

ลอ้ และยาง ยางรถยนต์ (Pneumatic Tire) คอื อปุ กรณ์ทป่ี ระกอบดว้ ยยาง สารเคมี ผา้ ใบ และเหล็กกลา้ หรอื วสั ดอุ นื่ ๆ เมอ่ื ตดิ ตงั้ เขา้ กบั วง ลอ้ รถยนต์ และสบู ลมแลว้ สามารถรับน้าหนักและทาใหร้ ถ เคลอ่ื นทไ่ี ดเ้ มอื่ มแี รงฉุด หนา้ ยาง แกม้ ยาง ชนั้ เข็มขดั รัดหนา้ ยาง กระทะลอ้ 104

ลอ้ และยาง หนา้ ทหี่ ลักของยางรถยนต์ คอื 1. รับน้าหนักของตัวรถ รวมถงึ น้าหนักบรรทกุ 2. ลดแรงกระแทกและแรงสนั่ สะเทอื นจากพนื้ ถนน 3. เป็ นตัวกลางถา่ ยทอดกาลงั ขบั เคลอ่ื น 4. ทาใหร้ ถเปลยี่ นทศิ ทางไดต้ ามความตอ้ งการ 105

ลอ้ และยาง 1. ยางผา้ ใบ (Bias tire) 2. ยางเรเดยี ล (Radial tire) คณุ ลกั ษณะ: นมุ่ นวล ทรงตวั ดี คณุ ลกั ษณะ:-ใหค้ วามนมุ่ นวล ทรงตวั ดี ทนทานตอ่ การสกึ หรอ แตน่ อ้ ยกวา่ ทนทานตอ่ การสกึ หยดุ รถไดม้ น่ั ใจ ยางเรเดยี ล ประหยดั นา้ มนั เชอื้ เพลงิ 5 - 10 % ยางเรเดยี ลแบบมยี างใน (Tube tire) ยางเรเดยี ลแบบไมม่ ยี างใน (Tube less) 106

106/104 ~ 900 -950 กก. S ความเร็วสงู สดุ 180 กม./ชม การอา่ นรหสั ยาง ดชั นกี ารรับน้าหนัก/ขดี จากัด H = ความสงู ยาง ความเร็วสงู สดุ W = ความกวา้ งยาง D1=ขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางของกระทะลอ้ D2=ขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางภายนอก 107

108

อตั ราสว่ นของยาง อตั ราสว่ นความสงู ของแกม้ กบั หนา้ กวา้ งของยางจะบอกเป็ น % อตั ราสว่ น = H / W x 100(%) ยางทอ่ี ตั ราสว่ นสงู ประสทิ ธภิ าพในการเขา้ โคง้ ลดลง ใหก้ ารขบั ขท่ี น่ี ุ่มนวล เหมาะสาหรับ รถครอบครัว ยางทมี่ อี ตั ราสว่ นตา่ ความนุ่มนวลในการขบั ขน่ี อ้ ยลง เหมาะสาหรับรถสปอรต์ เพราะเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพในการเขา้ โคง้ มากขน้ึ 109

การอา่ นรหสั - กระทะลอ้ รถเล็ก D รถใหญ่ 7.00 - JJ - 16 8.25V X 22.5 W 7.00 = ความกวา้ งกระทะลอ้ ( นว้ิ )…ใชก้ บั รถเกง๋ และรถปิ กอพั 8.25 = ความกวา้ งกระทะลอ้ ( นวิ้ )…ใชก้ บั รถบรรทกุ JJ ( V ) = รปู แบบของขอบกระทะลอ้ 16 ( 22.5 ) = เสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางกระทะลอ้ ( นวิ้ ) 110

ระบบไฟฟ้ า (Electrical system) ในสภาพปกตทิ ร่ี ถยนตย์ งั ไมม่ กี ารใชง้ าน เครอ่ื งยนตจ์ ะยงั ไม่ สามารถหมนุ ตดิ ไดด้ ว้ ยตวั เอง ในรถยนตจ์ งึ จาเป็ นตอ้ งมรี ะบบสตารท์ โดยทม่ี อเตอรส์ ตารท์ เป็ นตวั หมนุ ใหเ้ ครอื่ งยนตต์ ดิ กอ่ นในตอนแรกซงึ่ เฟืองของมอเตอรส์ ตารท์ จะเลอ่ื นไปขบกบั เฟืองของลอ้ ชว่ ยแรงแลว้ พา ใหเ้ ครอื่ งยนตห์ มนุ ตาม จนเครอ่ื งยนตต์ ดิ แลว้ จงึ หมดหนา้ ท่ี เมนฟิ วส ์ สวติ ชจ์ ดุ ระเบดิ แบตเตอรี่ ไฟแสดงระบบชารท์ สตารท์ เตอร์ สายพานอลั เทอรเ์ นเตอร์ อลั เทอรเ์ นเตอร์ 111

ระบบไฟฟ้ า (Electrical system) อลั เทอรเ์ นเตอร์ อลั เทอรเ์ นเตอร์ 112 มอเตอรส์ ตารท์ เฟืองตอ่ กบั ฟลายวลี ใน จังหวะสตารท์

ระบบไฟชารท์ มหี นา้ ทผี่ ลติ กระแสไฟฟ้าเพอ่ื จา่ ยใหก้ บั อปุ กรณ์ ไฟฟ้ าตามจานวนกระแสไฟฟ้ าที่ ตอ้ งการและประจไุ ฟใหก้ บั แบตเตอรี่ ขณะเครอ่ื งยนตท์ างานโดยใชส้ ายพาน เพอื่ ขบั อลั เตอรเ์ นเตอร์ โดยอาศัยหลกั การเปลยี่ นรปู พลงั งาน กล กลบั มาเป็ นพลังงานไฟฟ้า อลั เทอรเ์ นเตอร์ 113

แบตเตอร่ี (Battery) แบตเตอรี่ เป็ นแหลง่ พลงั งานไฟฟ้าทสี่ าคญั ทสี่ ดุ ในรถยนต์ ทาหนา้ ทเี่ ป็ นตวั จา่ ยกระแสไฟฟ้า ไปยงั ระบบสตารท์ , ระบบจดุ ระเบดิ , ระบบแสงสวา่ ง และเป็ นตวั รับประจไุ ฟฟ้าจากระบบไฟชารจ์ เพอ่ื เก็บสารองไว ้ ใชง้ านตอ่ ไป ในกรณีทเ่ี ครอื่ งยนตไ์ มส่ ามารถทางานได ้ หรอื ระบบไฟชารจ์ เสยี อปุ กรณ์ไฟฟ้าตา่ งๆ จะไดร้ ับไฟจากแบตเตอรเี่ ทา่ นัน้ 114

แบตเตอร่ี (Battery) สว่ นประกอบของแบตเตอรี่ 115

ระบบไฟแสงสวา่ ง (Lighting system) ไฟเบรกดวงทส่ี าม HMSL ไฟแสงสวา่ งในเกง๋ ไฟเลยี้ ว ไฟตดั หมอก ไฟสอ่ งป้ายทะเบยี น 116

ระบบไฟแสงสวา่ ง (Lighting system) ไฟเลย้ี วดา้ นหนา้ ไฟทา้ ย/ไฟเบรก ไฟเลย้ี ว ไฟตา่ ไฟสงู /ไฟหรี่ ไฟถอยหลงั 117

118

ระบบไฟแสงสวา่ ง (Lighting system) เลนส์ Projector โคมสะทอ้ นแสง โคมสะทอ้ นแสง Ellipsoid Reflector Multi-Reflector 119 ไฟหนา้ แบบมัลตริ เี ฟล็กเตอร์ (ธรรมดา)

ระบบไฟแสงสวา่ ง (Lighting system) ภาพเปรยี บเทยี บการกระจายแสง ไฟธรรมดา • สอ่ งสวา่ งไกลกวา่ 14% จากไฟธรรมดา • ความสวา่ งของจดุ รวมแสงเพม่ิ ขน้ึ 50% จากรนุ่ เดมิ • แสงมลี กั ษณะเป็ นลา ไมร่ บกวนสายตารถสวน 120

ระบบปรบั อากาศ พดั ลม วาลว์ ขยายตวั วาลว์ บรกิ าร คอยลเ์ ย็น แอรด์ ราย ทอ่ ระบายนา้ เออร ์ สายพาน พดั ลมแอร์ คอมเพรสเซอร ์ แผงรงั ผง้ึ แอร์ 121 คอมเพรสเซอร์

ตวั ถงั รถยนต์ เป็ นส่วนท่ปี ระกอบเข้ากับแชสซีส์ เพ่อื ใช้รองรับผู้โดยสารหรือบรรทุกสนิ ค้า ตวั ถงั ท่ใี ช้งานแบ่งออกเป็ นได้ 2 ลักษณะ ดังนี้ แบบเฟรม( Frame type body ) :- โครงสร้างชนิดนีป้ ระกอบด้วยส่วนของตวั ถัง และส่วนของโครงสร้าง(ซ่งึ ใช้ตดิ ตงั้ เคร่ืองยนต์ ระบบส่งกาลังและระบบบังคบั เลีย้ ว) 122

มมุ ตา่ งๆ มมุ ไตส่ งู สดุ ( Gradeability หรอื มมุ Tan Ө ) เป็ นคา่ ท่ี แสดงสมรรถนะของรถซง่ึ มนี ้าหนักบรรทกุ และสามารถวงิ่ ขนึ้ ทาง ชนั ไดม้ ากทส่ี ดุ โดยคา่ มมุ ทแี่ สดงมใี ชก้ นั อยู่ 3 รปู แบบ คอื 1. แบบองศา เชน่ 55 องศา 2. แบบทศนยิ ม เชน่ 0 . 889 3. แบบเป็ น % เชน่ 88 . 95 % 55o 123

มมุ ตา่ งๆ มมุ ระนาบเอยี ง ( Slop Stability ) เป็ นคา่ มมุ ในการปีนไต่ ทางเอยี งดา้ นซา้ ย หรอื ขวา ซง่ึ มคี า่ มากทสี่ ดุ มมุ ถงึ ( ที่ ) ลาด ( Approach Angle ) เป็ นคา่ มมุ ความสงู ของตวั รถทางดา้ นหนา้ กบั พนื้ ดนิ มมุ จาก ( ที่ ) ลาด ( Departure Angle ) เป็ นคา่ มมุ ความสงู ของตวั รถทางดา้ นหลงั กบั พนื้ ดนิ 48o 48o 29o 36o ( Slop Stability ) ( Departure Angle ) ( Approach Angle ) 124

คายอ่ เกย่ี วกบั เรอื่ งมติ ริ ถ OAL (Overall Length) ความยาวทัง้ หมดของรถ WB (Wheelbase) ระยะฐานลอ้ FOH (Front Overhang) ระยะยนื่ หนา้ ROH (Rear Overhang) ระยะยนื่ หลงั IH (Inside Height) ความสงู ภายในกระบะ FOH WB IH OAL 125 ROH

คายอ่ เกยี่ วกบั เรอ่ื งมติ ริ ถ OW (Overall Width) ความกวา้ งทงั้ หมดของรถ IW (Inside Width) ความกวา้ งภายในกระบะ IL (Inside Length) ความยาวภายในกระบะ 126

คายอ่ เกยี่ วกบั เรอื่ งมติ ริ ถ OH (Overall Height) ความสงู ทงั้ หมดของรถ AW (Front Tread) ความกวา้ งชว่ งลอ้ หนา้ RH (Rear Height) ความสงู ทา้ ยกระบะ (ถงึ ขอบกระบะบน) HH (Height to Hypoid) ความสงู ใตท้ อ้ งรถ BW (Wheel Width) ความกวา้ งชว่ งของลอ้ ทัง้ หมด CW (Rear Tread) ความกวา้ งชว่ งลอ้ หลงั 127

128