ชอ่ื ผลงาน อ่านออกเขียนไดง้ ่ายละเบอ้ โดย นางสาวทศั ศนิ า ทิพย์สุริย์ ครู โรงเรยี นอนบุ าลวานรนิวาส (ราษฎร์บารุง) อ่านออกเขยี นได้ง่ายละเบอ้ 1.เหตผุ ลและควำมจำเปน็ ภาษานับว่าเปน็ สิ่งสาคญั ในการส่อื สาร องคป์ ระกอบของภาษาคอื การฟงั การพดู การอ่าน และการเขียน เพ่อื เปน็ เครอื่ งชว่ ยให้คนในสังคมมีความเขา้ ใจท่ดี ีต่อกนั และอยรู่ ่วมกนั อยา่ งมีความสขุ การเรยี น การสอนภาษาไทยในระดับประถมศึกษามุง่ ใหผ้ ู้เรียนมพี ฒั นาการทางภาษาทัง้ ทางดา้ นการฟงั การพูด การอา่ น และการเขยี น สามารถใช้ภาษาในการตดิ ต่อสือ่ สารถงึ การรบั รู้ และถา่ ยทอดความรูส้ กึ นึกคิดไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ นอกจากนี้นกั การศึกษายังเหน็ ความสาคญั ของวิชาภาษาไทยเปน็ อย่างมาก เพราะเปน็ พนื้ ฐานของการเรียนวชิ าอนื่ ๆ อกี ดว้ ย การอา่ นเป็นทกั ษะสาคญั ที่ช่วยปรับและขยายประสบการณข์ องมนุษย์ ท้ังยังช่วยใหส้ ามารถใช้ เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และสร้างความเพลิดเพลินจากหนังสือ เอกสาร สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ได้มากและเป็นที่ยอมรับ โดยทัว่ ไปว่าความสาเรจ็ ในการเรียนของเด็กสว่ นใหญ่ขึ้นอยูก่ ับความสามารถในการอ่าน คอื อา่ นชา้ ขาดความเขา้ ใจ ในการอ่าน และไมส่ ามารถจดจาเรื่องทีอ่ า่ นได้ ยอ่ มทาใหก้ ารเรียนวิชาตา่ ง ๆ ไมไ่ ด้ผลไปด้วย ทาให้นักเรียนเกดิ ความเบื่อหน่ายวิตกกังวลหรือเกิดความท้อแท้ไม่อยากเรียนต่อไป การอ่าน จึงเป็นเครื่องมือที่นาไปสู่ความรู้ ความเข้าใจในวิชาการต่างๆ ยิ่งไปกว่านั้น การอ่านจะช่วยทาให้นักเรียนค้นหาความรู้เพิ่มเติมในสิ่งท่ีตนอยากรู้ ขยายความรใู้ ห้กว้างขวางยิ่งขึ้น ฉะนั้น การอ่านจงึ เปน็ บันไดไปสคู่ วามสาเรจ็ อีกหลายดา้ น การเขยี นนบั เป็นการสอ่ื สารท่ีมีวธิ ีการท่ซี บั ซอ้ นกว่าทกั ษะอื่น เพราะผู้ท่ีสามารถฟัง พดู อ่าน ได้ดี จงึ จะช่วยให้สามารถถ่ายทอดความเข้าใจ ความรู้สึกนึกคิดและจินตนาการออกมาทางการเขียนเพื่อสื่อความหมาย ให้ผู้อื่นเข้าใจ ทักษะการเขียนจึงเป็นเคร่ืองมือในการส่ือความหมายท่ีคงทนถาวรเป็นหลักฐานท่ีดีกว่าทักษะอื่น ฉะน้ันผู้เขียนจึงต้องพยายามเขียนคาให้ถูกต้อง ใช้ภาษาที่ถูกต้องเพ่ือสื่อความหมายให้ผู้อ่ืนเข้าใจ จึงจะเรียกได้ว่า เป็นการเขียนที่มีประสิทธิภาพ ในการเขียนนอกจากต้องคานึงถึงเนื้อความตามวัตถุประสงค์ สานวนที่สละสลวย ถูกต้องตามหลักภาษาแล้ว ยังต้องคานึงถึงการสะกดคาด้วย เพราะการเขียนสะกดคาที่ถูกต้องนอกจากจะทาให้ ผอู้ ่านเข้าใจไดง้ า่ ย และรวดเรว็ แล้วยงั ชว่ ยใหผ้ เู้ ขียนเกิดความมัน่ ใจในตนเองทกุ คร้ังท่เี ขียน ปจั จุบันพบว่ามีนักเรยี นบางส่วนมปี ัญหาดา้ นทักษะการอา่ นและการเขยี น คืออา่ นไมอ่ อก เขียนไม่ได้ ดังน้ันเพ่ือเป็นการแก้ปัญหานักเรียนอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑ โรงเรยี นอนบุ าลวานรนวิ าส (ราษฎรบ์ ารงุ ) จึงพฒั นานวัตกรรมอ่านออกเขยี นได้งา่ ยละเบ้อ ข้นึ เพอ่ื สง่ เสรมิ ให้นกั เรียนเกิดการพฒั นาในการอา่ น และการเขยี น และเปน็ พ้นื ฐานในการเรียนรู้ต่อไป 46
ชือ่ ผลงาน อ่านออกเขียนได้งา่ ยละเบอ้ โดย นางสาวทศั ศนิ า ทิพย์สรุ ิย์ ครู โรงเรียนอนบุ าลวานรนิวาส (ราษฎรบ์ ารุง) อ่านออกเขยี นไดง้ า่ ยละเบอ้ 2.วัตถุประสงค์ 1. เพ่อื พฒั นาทักษะการอ่าน การเขยี นของนักเรยี นชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1 2. เพื่อยกระดับผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นวชิ าภาษาไทยของนักเรยี นชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1 3. เพื่อปลูกฝงั ใหน้ กั เรียนมนี สิ ยั รักการอา่ นและการเขียน 3. กลมุ่ เป้ำหมำย นักเรียนชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 โรงเรียนอนุบาลวานรนวิ าส (ราษฎรบ์ ารุง) ๔. วิธกี ำรจัดกจิ กรรม/กระบวนกำรจดั กำรเรยี นกำรสอน 47
ชอ่ื ผลงาน อา่ นออกเขยี นได้ง่ายละเบ้อ โดย นางสาวทศั ศนิ า ทพิ ย์สรุ ิย์ ครู โรงเรียนอนบุ าลวานรนวิ าส (ราษฎร์บารุง) อา่ นออกเขียนได้งา่ ยละเบ้อ 5. ส่ือกำรเรียนกำรสอน 1. บัตรคา ๒. บัตรภาพ ๓. เพลง ๔. เกม ๕. ปริศนาคาทาย ๖. บทร้อยกรอง ๗. แบบฝกึ เสริมทกั ษะการอ่านการเขยี น จานวน ๙ เล่ม 6. กำรวดั ผลและประเมนิ ผล ๑. การทาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลงั เรียน จานวน ๓๐ ขอ้ ๓๐ คะแนน ๒. การทาแบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียนของแต่ละชุดฝกึ ชดุ ฝึกละ ๑๐ ข้อ ๑๐ คะแนน ๓. การทาแบบฝึกทักษะการอ่านการเขียน 4. การสงั เกตพฤติกรรม 7. ผลสำเรจ็ 7.1 ดำ้ นผเู้ รยี น - นักเรียนชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ อ่านออกเขยี นได้ดขี นึ้ - นักเรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ มีผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นวิชาภาษาไทย คดิ เปน็ ร้อยละ ๘๕.๔๑ ซ่งึ สูงกวา่ เปา้ หมายของโรงเรียนที่ตั้งไว้ - จากการทดสอบ RT ของนักเรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ ได้คะแนนรวม 2 ด้าน (การอา่ นออกกเสียงและอ่านร้เู รื่อง) มคี ะแนนเฉลย่ี สูงกว่าระดบั ประเทศ 48
ชอื่ ผลงาน อ่านออกเขยี นได้งา่ ยละเบ้อ โดย นางสาวทศั ศนิ า ทพิ ย์สรุ ิย์ ครู โรงเรียนอนบุ าลวานรนวิ าส (ราษฎร์บารงุ ) อ่านออกเขียนไดง้ ่ายละเบ้อ 7.2 ด้านครผู สู้ อน ๑. รางวลั เชดิ ชเู กยี รติ “ครุ ุสดดุ ี” พ.ศ.๒๕๖๓ ๒. รางวลั ครูสอนดี พ.ศ.๒๕๕๔ จงั หวัดสกลนคร “สอนเป็น เห็นผล คนยกยอ่ ง” ๓. รางวลั ครสู อนดี รนุ่ ที่ ๑ ประจาปี ๒๕๕๔ ๔. รางวัล หนึ่งแสนครูดี ปี ๒๕๕๖ ๕. รางวัล “ครดู ีไมม่ อี บายมุข” ปีการศกึ ษา ๒๕๖๑ - ๒๕๖๓ ๖. รางวลั “ครดู ขี องแผ่นดิน” ปี ๒๕๖๒ - ๒๕๖๓ ๗. รางวลั ครูผสู้ อนนกั เรียนได้รบั เหรยี ญทองการแข่งขันนักอ่านรุ่นเยาว์ประเภทนกั เรียนทมี่ ีความบกพร่อง ทางสติปญั ญา ชั้น ป.๑ - ป.๖ ระดบั เขตพ้นื ท่ี ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ ๘. รางวัล ครุ ุชนคนคุณธรรม ระดบั เขตพืน้ ที่ และได้เขา้ รับการพจิ ารณาคดั เลอื กในระดับเขตตรวจราชการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔ 7.3 โรงเรยี น/ชุมชน 1. ครผู ู้สอนในโรงเรยี นใหก้ ารยอมรับ และนานวตั กรรม เทคนิควธิ กี ารและแนวทางการสอนไปใช้กบั นักเรียนในห้องของตนเอง 2. ผูบ้ ริหารโรงเรียนให้คาปรกึ ษาและสนบั สนุนงบประมาณในการจัดทาส่ือนวัตกรรม 3. ชมุ ชนมคี วามภาคภมู ิใจในส่อื นวัตกรรม เพื่อจะได้นามาจดั การเรยี นการสอนและเช่ือมนั่ ในการจัดการ เรียนการสอนของครูจงึ สง่ ลูกหลานมาเรยี นมากข้นึ และส่วนมากเป็นนักเรยี นนอกเขตบริการ 8. ปัจจยั สู่ควำมสำเรจ็ 8.1 ภายใน 8.1.1 ครูผู้สอนไดพ้ ฒั นานวตั กรรมอยา่ งต่อเน่ือง ปรบั ปรงุ แก้ไข และนาไปใช้ เพื่อใหไ้ ด้ นวตั กรรมที่สมบูรณเ์ กดิ ประโยชน์กบั นักเรียน 8.1.2 ผู้บรหิ ารและคณะครใู ห้ความชว่ ยเหลือ ติชม และเสนอแนะในการจดั ทานวตั กรรม ๘.๑.๓ ผู้บริหารและคณะครูใหค้ าปรึกษาและแนะนาในการจัดการเรียนการสอน 8.2 ภายนอก 8.2.1 ผเู้ ช่ียวชาญที่มคี วามรู้ความสามารถด้านภาษาไทย ได้ให้คาปรกึ ษาและคาแนะนา ในการจดั ทาสอ่ื นวัตกรรม 49
ชอ่ื ผลงาน อ่านออกเขียนได้งา่ ยละเบ้อ โดย นางสาวทัศศนิ า ทพิ ย์สุรยิ ์ ครู โรงเรยี นอนบุ าลวานรนวิ าส (ราษฎรบ์ ารงุ ) อา่ นออกเขยี นไดง้ า่ ยละเบ้อ 8.2.๒ คณะครูโรงเรยี นอ่นื ได้รบั การเผยแพรผ่ ลงานนวตั กรรม ให้คาติชมและข้อแนะนา 8.2.๓ ศกึ ษานเิ ทศก์ สานกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาสกลนคร เขต 3 มกี ารออกนเิ ทศตดิ ตาม และให้คาแนะนา ชแ้ี นะ ใหค้ าปรกึ ษาในการจดั การเรียนการสอน การจดั ทาส่อื และ นวัตกรรม 8.๒.๔ ผบู้ ริหารไดม้ ีการนิเทศการจดั การเรยี นการสอนเปน็ ระยะ เพอ่ื ใหก้ ารจดั การเรียนการสอนใหม้ คี ุณภาพ 8.๒.๕ ผูบ้ ริหารโรงเรยี นใหก้ ารสนบั สนนุ งบประมาณในการจัดทาสื่อและนวัตกรรม 9. ขอ้ เสนอแนะ ๑. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ควรใช้เทคนิคที่หลากหลายให้ นักเรยี นฝกึ อ่านบอ่ ย ๆ ฝึกซา้ ย้าทวนและต่อเน่อื ง ๒. ครคู วรสอนโดยใชห้ ลกั การสอนภาษา เพอ่ื ให้แนวทางการอ่าน การเขียนท่ถี ูกต้องแก่นักเรียน ๓. หาเทคนคิ เทคโนโลยใี หม่ๆ และทันสมยั มาช่วยสอนเพอื่ ให้นกั เรียนสนใจและตั้งใจเรยี นมากย่ิงขึน้ ๔. ควรใชส้ ่ือประกอบการสอนเพือ่ ใหน้ กั เรียนเข้าใจงา่ ยและสนุกสนานกบั การเรียน ๕. สง่ เสรมิ ใหน้ ักเรียนรกั การอา่ นและการเขยี นใหม้ ากและทาอย่างต่อเนื่อง ๖. ควรเผยแพรว่ ิธกี ารสอน รูปแบบและส่อื /นวตั กรรมทางวิชาการ 50
ชือ่ ผลงาน รู้รกั อา่ นเขียนเรียนภาษาไทย โดย นางสาวธิดารตั น์ หาญมนตรี ครู โรงเรียนอนุบาลวานรนวิ าส (ราษฎร์บารุง) รรู้ กั อา่ นเขยี นเรียนภาษาไทย 1.เหตุผลและควำมจำเปน็ เนอ่ื งจากนกั เรียนระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรยี นอนุบาลวานรนิวาส (ราษฎร์บารงุ ) อาเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ยังมีนักเรียนบางส่วนมีปัญหาด้านทักษะในการอ่าน อ่านไม่ได้ เขยี นไมถ่ ูกอยมู่ าก ทาใหม้ ปี ญั หาในการจดั การเรยี นการสอน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในวิชา ภาษาไทยและกลุ่มสาระอ่ืน ๆ ต่ากว่าเป้าหมาย จึงได้หาแนวทางแก้ไขปัญหาท่ีเกิดขึ้นโดยเฉพาะวิชา ภาษาไทยซ่ึงเป็นพ้ืนฐาน ในการเรียนในวิชาอ่ืน ๆ นักเรียนจาเป็นต้องอ่านออกเขียนได้ทุกคน และเพ่ือให้สอดคล้องและเป็นไปตามนโยบายของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน และสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3 ในเร่ือง การอ่านออก เขียนได้ และการยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน จึงได้ดาเนินกิจกรรมน้ีเพ่ือเป็นการแก้ไขและพัฒนาการอ่าน และการเขียนให้กับนักเรยี นระดบั ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1 ทุกคน 2.วัตถปุ ระสงค์ 1. เพือ่ พัฒนาทกั ษะความสามารถดา้ นการอ่าน-การเขยี นและคดิ วเิ คราะหว์ ิชาภาษาไทย ของนักเรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 ให้มีคุณภาพสูงขน้ึ 2. เพอ่ื ยกระดับผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นของนักเรยี นช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 3.กลุม่ เป้ำหมำย 1. นักเรียนช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 1 ทกุ คนได้รับการพฒั นาทกั ษะด้านการอา่ น-การเขยี น และคดิ วเิ คราะห์ 2. ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นของนักเรียนช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 สูงข้ึนไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 3 51
ชอื่ ผลงาน รรู้ ักอ่านเขยี นเรยี นภาษาไทย โดย นางสาวธดิ ารตั น์ หาญมนตรี ครู โรงเรียนอนุบาลวานรนิวาส (ราษฎรบ์ ารงุ ) รรู้ กั อา่ นเขียนเรียนภาษาไทย 4. วธิ กี ำรจดั กจิ กรรม/กระบวนกำรจดั กำรเรยี นกำรสอน 5. สอ่ื กำรเรยี นกำรสอน 1. บตั รคา 2. แบบฝกึ อ่านผสมสระ 3. แบบฝกึ อา่ นพยญั ชนะ 4. เพลง 5. ทีวี 6. กำรวัดผลและประเมินผล 1. แบบทดสอบก่อนเรยี นหลงั เรียน 2. การอ่านคาผสมสระ 3. การเขยี นคาตามคาบอก 4. การสังเกตพฤติกรรม ความสนใจใฝ่รู้ใฝเ่ รียนของนกั เรียน 52
ชอื่ ผลงาน รู้รกั อา่ นเขยี นเรยี นภาษาไทย โดย นางสาวธิดารตั น์ หาญมนตรี ครู โรงเรยี นอนุบาลวานรนวิ าส (ราษฎร์บารงุ ) ร้รู ักอา่ นเขยี นเรียนภาษาไทย 7. ผลสำเร็จ 7.1 ดำ้ นผู้เรยี น - นกั เรียนมีผลสัมฤทธ์ดิ า้ นการอา่ นการเขยี นดีมาก จากการทดสอบ RT มคี ะแนน ทดสอบทงั้ 2 ดา้ น รอ้ ยละ ๗๖.๙๘ ของสานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3 7.2 ด้ำนครูผู้สอน ๑.ศึกษาวิเคราะหผ์ ู้เรียนเป็นรายบคุ คล และนาข้อมลู มาใช้ ในการวางแผนการจดั การเรียนรู้ ๒.กาหนดเปา้ หมายทต่ี อ้ งการใหเ้ กดิ ขนึ้ กบั ผูเ้ รยี นด้านความรู้ และทักษะ รวมทง้ั คณุ ลกั ษณะ อนั พึงประสงค์ ๓.จัดบรรยากาศทเี่ ออ้ื ต่อการเรยี นรู้ และดูแลช่วยเหลือผู้เรยี น ให้เกดิ การเรียนรู้ 7.3 โรงเรียน/ชมุ ชน 1. ครผู ้สู อนในโรงเรียนให้การยอมรับ และนานวตั กรรม เทคนคิ แนวทางการสอนไป ใชก้ ับนกั เรียนในห้องของตนเอง 2. ผบู้ รหิ ารโรงเรยี นให้คาปรกึ ษาและสนับสนนุ การจดั การเรียนการสอน 3. ชุมชนใหค้ วามร่วมมอื ในการจัดการเรยี นการสอนสง่ ลูกหลานมาเรยี นเพ่มิ ขึ้นซงึ่ ส่วนมากเป็นนักเรยี นนอกเขตพน้ื ท่ีรบั ผดิ ชอบ 8. ปัจจัยสูค่ วำมสำเรจ็ 8.1 ภำยใน 8.1.1 ครูผู้สอนไดพ้ ฒั นานวตั กรรมอยา่ งตอ่ เน่ือง และนาไปใช้ปรับปรุงแกไ้ ขเพ่อื เกดิ ประโยชน์ กบั นักเรยี น 8.1.2 ผบู้ รหิ าร คณะครู ภายในโรงเรยี นได้ให้คาปรึกษาและคาแนะนาในการจดั การเรียน การสอน 8.1.3 ผบู้ ริหารได้มกี ารนเิ ทศการจัดการเรียนการสอนเป็นระยะ เพอ่ื ใหก้ ารจดั การเรียน การสอนใหม้ ีคณุ ภาพ 8.2 ภำยนอก 8.2.1 ผ้มู ีความรคู้ วามสามารถดา้ นภาษาไทย ได้ใหค้ าแนะนาและคาปรกึ ษา 53
ชอ่ื ผลงาน ร้รู ักอ่านเขยี นเรยี นภาษาไทย โดย นางสาวธิดารัตน์ หาญมนตรี ครู โรงเรยี นอนบุ าลวานรนิวาส (ราษฎรบ์ ารุง) รู้รกั อ่านเขียนเรียนภาษาไทย ขอ้ เสนอแนะ 1. การจดั กิจกรรมการเรียนการสอนในระดับช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 1 ควรรเู้ ทคนคิ ในการสอน เอาใสใ่ จอยา่ งตอ่ เนือ่ ง สอนการอา่ น การเขียน อยา่ งจริงจงั และทุม่ เทให้มาก 2. หมน่ั หาเทคนิคใหม่ตลอดเวลาเพือ่ ไม้ใหก้ ารเรียนเครง่ เครยี ดจนเกินไป 3. ควรทาส่อื ประกอบการสอนเพือ่ ใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจงา่ ยและสนกุ กบั การเรยี น 4. ส่งเสริมใหน้ ักเรยี นรกั การอา่ นให้มากและทาตลอดอย่างต่อเนอ่ื ง 54
ชอื่ ผลงาน ฝกึ ผัน ขยันทวน อ่านและเขยี นคาท่ีมีอกั ษรกลางเป็นพยัญชนะตน้ โดย นางอรณุ ี แก้วประเสรฐิ ครู โรงเรียนอนบุ าลวานรนิวาส (ราษฎร์บารุง) ฝกึ ผนั ขยนั ทวน อ่านและเขยี นคาท่มี ีอกั ษรกลางเปน็ พยัญชนะตน้ 1. เหตผุ ลและควำมจำเปน็ เนอ่ื งจากนกั เรียนระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 โรงเรยี นอนุบาลวานรนวิ าส ตาบลวานรนิวาส อาเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ยังมีนักเรียนบางส่วนที่มีปัญหา ด้านการอ่านและเขียนคาที่มีอักษรกลางเป็นพยัญชนะต้นอยู่มาก ทาให้มีปัญหาในการจัดการ เรียนการสอน และผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนในรายวิชาภาษาไทยและกลุ่มสาระอื่นๆ ตา่ กวา่ เป้าหมาย จึงได้หาแนวทางแก้ไขปัญหาท่ีเกิดข้ึนโดยเฉพาะวิชาภาษาไทยซึ่งเป็นพื้นฐานใน การเรยี นวชิ าอน่ื ๆ นักเรียนจาเป็นต้องอ่านออกเสียงและเขียนคาที่มีอักษรกลางเป็นพยัญชนะต้น ให้ถูกต้องได้ทุกคน เพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตามนโยบายของสานักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน และสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3 ในเรื่อง การอ่านออก เขียนได้ และการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จึงได้ดาเนินกิจกรรมนี้ เพ่ือเป็นการแก้ไขและพัฒนา การอ่านและการเขียนให้กับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ทกุ คน 2.วัตถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือพฒั นาทกั ษะความสามารถดา้ นการอ่านผนั วรรณยกุ ตค์ าท่มี ีอกั ษรกลางเปน็ พยัญชนะต้น วชิ าภาษาไทยของนกั เรยี นชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 1 ใหม้ คี ุณภาพสูงข้นึ 2. เพ่อื ยกระดบั ผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นของนกั เรยี นชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 1 3. กลมุ่ เปำ้ หมำย 1. นักเรยี นชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 ทกุ คนได้รบั การพัฒนาทักษะด้านการอ่าน และผนั วรรณยุกตอ์ ักษรกลางในทกุ วนั ก่อนเรียน ๒. ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นของนกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 สูงขนึ้ ไมน่ อ้ ยกว่า รอ้ ยละ 3 55
ชอ่ื ผลงาน ฝึกผนั ขยนั ทวน อา่ นและเขยี นคาท่ีมีอกั ษรกลางเป็นพยัญชนะต้น โดย นางอรณุ ี แกว้ ประเสรฐิ ครู โรงเรยี นอนุบาลวานรนวิ าส (ราษฎรบ์ ารงุ ) ฝกึ ผัน ขยนั ทวน อา่ นและเขียนคาท่มี ีอกั ษรกลางเปน็ พยัญชนะตน้ 4. วิธีกำรจัดกจิ กรรม/กระบวนกำรจดั กำรเรียนกำรสอน 5. ส่อื กำรเรียนกำรสอน ๑. แบบฝกึ อ่านผสมสระ ๒. แบบฝกึ อา่ นพยญั ชนะ ๓. แบบฝกึ อา่ นผันวรรณยกุ ต์อักษรกลาง ๔. เพลง 56
ชอ่ื ผลงาน ฝึกผนั ขยันทวน อ่านและเขียนคาท่ีมอี กั ษรกลางเป็นพยญั ชนะตน้ โดย นางอรุณี แก้วประเสริฐ ครู โรงเรียนอนบุ าลวานรนิวาส (ราษฎรบ์ ารุง) ฝกึ ผัน ขยนั ทวน อ่านและเขยี นคาท่ีมีอกั ษรกลางเปน็ พยัญชนะต้น 6. กำรวัดผลและประเมนิ ผล 1. แบบทดสอบก่อนเรยี นหลงั เรียน 2. การอา่ นคาผสมสระ 3. การอา่ นผันวรรณยุกตอ์ ักษรกลาง ๔. คลปิ การอา่ นผันวรรณยุกต์อักษรกลาง ๕. การสังเกตพฤติกรรม ความสนใจใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรยี น 7. ผลสำเร็จ 7.1 ดำ้ นผู้เรยี น - นกั เรยี นมีผลสมั ฤทธด์ิ ้านการอา่ นดีข้ึน นักเรียนสามารถอ่านผันวรรณยกุ ต์อกั ษร และออกเสยี งคาได้อยา่ งถูกต้องชัดเจน 7.2 ดำ้ นครูผู้สอน วนั /เดอื น/ปี รำงวัลทีไ่ ดร้ ับ ๑๖ สิงหาคม รว่ มกจิ กรรม PLC Online เสริมแรงเติมใจให้สดุ ยอดครสู อนอ่าน ๒๕๖๔ เพอ่ื ศษิ ย์ในสภาวะโควดิ -1๙ (เกียรติบัตรคร)ู 7.3 โรงเรยี น/ชุมชน 1. ครผู ูส้ อนในโรงเรียนให้การยอมรบั และนานวัตกรรม เทคนิคแนวทางการสอนไป ใช้กับนกั เรียนในห้องเรียนของตนเอง 2. ผู้บริหารโรงเรียนใหค้ าปรกึ ษาและสนับสนนุ การจัดการเรียนการสอน 3. ชมุ ชนให้ความรว่ มมอื ในการจัดการเรียนการสอนสง่ ลกู หลานมาเรยี นเพิ่มข้ึน ซงึ่ ส่วนมากเปน็ นกั เรียนนอกเขตพื้นท่ีรับผดิ ชอบ 57
ชอ่ื ผลงาน ฝึกผัน ขยนั ทวน อา่ นและเขียนคาที่มอี ักษรกลางเปน็ พยัญชนะตน้ โดย นางอรณุ ี แก้วประเสริฐ ครู โรงเรยี นอนบุ าลวานรนวิ าส (ราษฎร์บารงุ ) ฝกึ ผนั ขยนั ทวน อา่ นและเขยี นคาทมี่ อี ักษรกลางเป็นพยญั ชนะต้น 8. ปัจจยั สคู่ วำมสำเร็จ 8.1 ภายใน 8.1.1 ครูผูส้ อนไดพ้ ัฒนานวัตกรรมอยา่ งตอ่ เนื่อง และนาไปใช้ปรบั ปรงุ แก้ไขเพอ่ื เกิด ประโยชนก์ ับนักเรียน 8.1.2 ผู้บรหิ าร คณะครู ภายในโรงเรียนได้ให้คาปรกึ ษาและคาแนะนาในการจดั การ เรยี นการสอน 8.1.3 ผ้บู รหิ ารไดม้ กี ารนเิ ทศการจดั การเรยี นการสอนเปน็ ระยะ เพื่อให้การจดั การ เรียนการสอนใหม้ ีคุณภาพ 8.2 ภายนอก 8.2.1 ผมู้ ีความร้คู วามสามารถด้านภาษาไทย ได้ใหค้ าแนะนาและคาปรึกษา 8.2.2 ศึกษานเิ ทศก์ สานักงานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3 มกี ารออกนเิ ทศ และให้คาแนะนาในการจดั การเรียนการสอน การจัดทาสื่อ ชีแ้ นะให้คาปรกึ ษา ทกุ ภาคเรียน 9 ขอ้ เสนอแนะ 1. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ควรรเู้ ทคนิคในการสอน เอาใสใ่ จอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง สอนการอา่ น การเขียน อย่างจรงิ จงั และทมุ่ เทให้มาก 2. หมัน่ หาเทคนคิ ใหม่ตลอดเวลาเพื่อไมใ่ หก้ ารเรยี นเครง่ เครียดจนเกนิ ไป 3. ควรทาสอื่ ประกอบการสอนเพื่อใหน้ ักเรียนเขา้ ใจงา่ ยและสนุกกับการเรียน 4. ส่งเสริมใหน้ กั เรียนรักการอ่านให้มากและทาตลอดอย่างต่อเน่ือง 58
ชอ่ื ผลงาน ฝึกผัน ขยันทวน อา่ นและเขยี นคาท่มี ีอกั ษรกลางเปน็ พยญั ชนะต้น โดย นางอรณุ ี แกว้ ประเสรฐิ ครู โรงเรียนอนุบาลวานรนวิ าส (ราษฎร์บารุง) ฝึกผัน ขยันทวน อา่ นและเขียนคาทมี่ ีอกั ษรกลางเป็นพยัญชนะต้น ภำพกจิ กรรม 59
ชอื่ ผลงาน หลากสอื่ สรา้ งสรรค์ พัฒนาการอา่ น การเขียน ช้ันป.๑ โดย นางปทั มาพร แก้วอนิ ทรต์ า ครู โรงเรียนบ้านหนองฮาง หลากสอื่ สรา้ งสรรค์ พัฒนาการอ่าน การเขียน ช้นั ป.๑ ควำมเป็นมำและสภำพปัญหำ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน ได้กาหนดกลยุทธ์พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา เพ่ือเร่งรัด ส่งเสริม และพัฒนาให้หน่วยงานในสังกัดนานโยบายสู่การปฏิบัติ โดยมีกลยุทธ์และจุดเน้นที่สาคัญ หลายๆ ด้าน รวมท้ังพัฒนาการอ่านการเขียน และการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทย ส่งเสริมให้ นักเรียนช่วงช้ันท่ี 1 อ่านออกเขียนได้ ช่วงชั้นที่ 2 เป็นต้นไป อ่านคล่องเขียนคล่อง ใช้ภาษาไทยอย่างมี ประสทิ ธภิ าพ เพ่ือการเรียนร้สู าระการเรียนรู้อ่ืน เพ่ือการศึกษาต่อในระดับท่ีสูงขึ้นและเพ่ือการส่ือสาร สื่อความคิด ได้ตามเจตนารมณ์ การอ่านและการเขียนเป็นทักษะที่มีความสาคัญอย่างย่ิงในการแสวงหาความรู้ เพราะจะช่วย ปรบั และขยายประสบการณ์ของคน ช่วยพัฒนาคนท้ังทางร่างกาย สติปัญญา อารมณ์และสังคม โดยนาความรู้ท่ีได้ จากการอ่านมาพัฒนาชีวิตให้ดีข้ึน เนื่องจากการอ่านและการเขียนเป็นรากฐาน สาคัญของการศึกษาเล่าเรียนให้มี ความรอบรใู้ นสรรพวชิ า มีความเจริญงอกงามทางสตปิ ัญญา จากผลการประเมินการอ่าน การเขียน ปีการศึกษา 2563 ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 ของ โรงเรียนบ้านหนองฮาง สังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3 พบว่า อ่านไม่ออกเขียน ไม่ไดร้ ้อยละ 10 ซง่ึ มีสาเหตุมาจากครูผู้สอนขาดเทคนคิ การสอนที่เหมาะสมกบั นักเรียนแต่ละคน ครูไม่ใช้ส่ือในการ จดั การเรียนรู้ ตลอดจนผเู้ รยี นไมไ่ ด้ให้ความสาคัญต่อการเรียนวิชาภาษาไทย ขาดเรียนบ่อย ผู้ปกครองขาดการเอา ใจใสด่ ูแลตอ่ บุตรหลาน และไมเ่ ห็นความสาคญั การการศกึ ษา เป็นต้น ดังน้นั โรงเรยี นบา้ นหนองฮาง สงั กดั สานักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3 ได้เล็งเห็น ถึงปัญหาดังกล่าว จึงพัฒนาแนวทางเพื่อแก้ปัญหาโดยใช้ สื่อ นวัตกรรม ที่หลากหลาย เพ่ือเป็นการพัฒนาการ อา่ นออก เขียนได้ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 1 ขนึ้ วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อแกป้ ัญหาการอา่ นออกเขยี นได้ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 1 กลุ่มเปำ้ หมำย นกั เรียนชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 1 60
ชอื่ ผลงาน หลากสื่อสรา้ งสรรค์ พฒั นาการอ่าน การเขียน ชัน้ ป.๑ โดย นางปทั มาพร แกว้ อินทรต์ า ครู โรงเรยี นบ้านหนองฮาง หลากสอื่ สร้างสรรค์ พฒั นาการอา่ น การเขยี น ช้นั ป.๑ วธิ กี ำรจัดกิจกรรม/กระบวนกำรจดั กำรเรยี นกำรสอน วธิ กี ารจัดกิจกรรม/กระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน มขี นั้ ตอนดังน้ี 61
ชอื่ ผลงาน หลากส่อื สรา้ งสรรค์ พฒั นาการอา่ น การเขียน ช้ันป.๑ โดย นางปทั มาพร แกว้ อนิ ทร์ตา ครู โรงเรยี นบา้ นหนองฮาง หลากสื่อสรา้ งสรรค์ พัฒนาการอ่าน การเขยี น ชั้นป.๑ ขน้ั สรำ้ งควำมสนใจ ๑) นักเรียนและครูสนทนากันถึงเรื่อง ความสาคัญของ การเรยี นรภู้ าษาไทย และการใชภ้ าษาไทยใหถ้ กู ตอ้ ง ๒) นักเรียนฟงั ครชู ี้แจงจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๓) นกั เรียนวางแผนการเรียนรู้เรอื่ งมาตราภาษาไทยร่วมกัน ขัน้ อธิบำย/ดูตวั อย่ำง/ทำตำม เป็นการอธิบายความหมายของคา หรืออธิบาย สิ่งที่ผู้เรียน ได้เรียนรู้ให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนย่ิงขึ้น เช่น เรียนรู้เรื่องพยัญชนะ สระ โดยครูนาเสนอตัวอย่าง เช่น การประสมคา สระอา โดยใช้สื่อ ที่มีสีสันสวยงาม เพ่ือดึงดูดความสนใจผู้เรียนดูหรือฟังจนจบ แล้วให้ ผเู้ รียนทาตามตวั อย่างทล่ี ะขน้ั จนจบ ขัน้ เรียนรูผ้ ำ่ นเกม เพลง เปน็ ขน้ั ทีใ่ ห้ผู้เรยี น เรียนรูโ้ ดยใชเ้ กมหรอื เพลง ประกอบ เนื้อหานาข้อสงั เกตต่าง ๆ จากตวั อย่างมาสรุปได้ดว้ ยตวั ผูเ้ รียนเอง ขน้ั ฝกึ ซ้ำ ขั้นน้ีครูจะแสดงวิธีการทาให้ผู้เรียนดู เช่น ครูกาหนดคาว่า กา แล้วเขียนคาว่ากา โดยใช้ลูกเต๋าประสมคา แล้วให้ผู้เรียนอ่านตาม ให้ผู้เรียนได้ฝึกทีละคน และฝึกอ่านจาก แผนภูมิคา PowerPoint คาประสมสระอา หนังสือมานีมานะ ฝึกซ้าหลาย ๆ ครั้ง จนผู้เรียน สามารถเกิดการเรยี นรู้ ข้ันสรปุ ผู้เรียนสามารถตอบคาถาม รวมทั้งทาแบบฝึก ใบงาน และเฉลยร่วมกัน ฝึกอ่านทีละคน เพ่ือเป็นการทดสอบผู้เรียน วา่ เขา้ ใจในเน้อื หาท่สี อนหรือไม่ 62
ชอื่ ผลงาน หลากส่อื สร้างสรรค์ พฒั นาการอา่ น การเขียน ช้นั ป.๑ โดย นางปทั มาพร แกว้ อนิ ทร์ตา ครู โรงเรียนบ้านหนองฮาง หลากสือ่ สร้างสรรค์ พฒั นาการอ่าน การเขียน ช้ันป.๑ ส่อื กำรเรียนกำรสอน ๑. แผนภูมิ พยญั ชนะ สระ และคาสระอา ๒. ลกู เต๋าประสมคา ๓. การ์ดประสมคา ๔. หนังสอื อ่านเสริม มานี มานะ ๕. power point การประสมคา 6. แบบฝกึ หัด ใบงาน ๗. เกม เพลง นทิ าน กำรวดั และประเมนิ ผล ๑. แบบทดสอบ/แบบฝึกหัด ใบงาน ๒. สังเกตการฟงั พูด อา่ น เขยี น ๓. สงั เกตการตอบคาถาม ผลสำเร็จ ๑. ด้านผเู้ รยี น ๑) ผ้เู รียนสามารถอา่ นออก เขียนได้และใช้ภาษาไทยในการส่อื สารได้ ๒) ผเู้ รียนมีนิสัยรกั การอ่าน ๓) ผู้เรยี นกล้าแสดงออกด้วยความมน่ั ใจ รา่ เริงแจม่ ใส มมี นุษยสมั พนั ธ์ทด่ี ตี อ่ ผู้อ่นื ๒. ดา้ นครูผสู้ อน 1) ครูสามารถจัดกระบวนการเรยี นรไู้ ด้อยา่ งเป็นระบบ ๒) สามารถเป็นแบบอย่างได้ ๓. โรงเรียน/ชมุ ชน ๑) ผู้ปกครองมคี วามพึงพอใจและเหน็ ความสาคัญของการศึกษา ๒) ผูป้ กครองใหค้ วามสนใจและให้ความรว่ มมือกับโรงเรียนมากข้ึน 63
ชอ่ื ผลงาน หลากส่ือสรา้ งสรรค์ พฒั นาการอา่ น การเขียน ชนั้ ป.๑ โดย นางปัทมาพร แก้วอินทรต์ า ครู โรงเรยี นบา้ นหนองฮาง หลากสอื่ สร้างสรรค์ พฒั นาการอา่ น การเขยี น ชน้ั ป.๑ ปัจจัยสคู่ วำมสำเรจ็ ๑. ภายใน ๑) ผบู้ รหิ ารให้ความสาคัญต่อการแกป้ ญั หาการอ่านออกเขยี นได้ของผเู้ รียน ๒) ผู้บรหิ ารใหก้ ารสนับสนุนงบประมาณ ๓) ครผู ู้สอนมคี วามต้งั ใจและมีความรบั ผดิ ชอบสงู ๒. ภายนอก ๑) ผปู้ กครองให้ความสนใจและสนบั สนนุ ในการแกป้ ญั หาอา่ นออกเขยี นไดข้ องผูเ้ รยี น ๒) องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ให้ความสาคญั และสนบั สนุนงบประมาณในการจดั การศกึ ษา ข้อเสนอแนะ ๑. ในการจดั กระบวนการเรียนรตู้ ามรปู แบบการสอน ในแต่ละข้นั ตอนน้ันครูผ้สู อน ไมค่ วรเรง่ รีบ หากผูเ้ รยี นไม่เข้าใจเน้ือหาในขัน้ ตอนใด ครผู ู้สอนสามารถยอ้ นกลับไปสอนใหมไ่ ด้ ๒. ครคู วรใชส้ ่ือประกอบการสอนทกุ ขนั้ ตอน ๓. ครคู วรมกี ารเตรียมการสอนไวล้ ่วงหนา้ 64
วธิ ีกำรสอนและสอ่ื กำรสอนทีป่ ระสบผลสำเรจ็ สนุ นั ทำ กอ้ นแพง สงกำรณ์ อวนป้อง นวัตกรรมคุณครทู ่บี ้ำน สอนอ่ำนสอนเขียน กำรสอน กำรอ่ำน กำรเขยี น โดย “กำรอ่ำนแจกลกู สะกดคำ” สูก่ ำรเรยี นร้เู ด็กไทยอำ่ นได้ เขียนถูก เพชรำ เฒ่ำอดุ ม ณรุจน์ธภัทร ธัญพสิ ษิ ฐก์ ลุ “กำรฝกึ อ่ำนแจกลกู สะกดคำโดยใช้ทฤษฎสี ี” ร-ู้ อำ่ น-เขยี น-ซ้ำ-ย้ำทวน-วเิ ครำะห์ และกำรใช้สื่อกำรสอน (แบบเอำจริงเอำจงั ) 65
ชอ่ื ผลงาน นวัตกรรมคณุ ครทู บ่ี า้ น สอนอ่านสอนเขียน สกู่ ารเรยี นรูเ้ ด็กไทยอา่ นได้ เขียนถกู โดย นางสนุ นั ทา กอ้ นแพง ครู โรงเรยี นบ้านทุ่งโพธ์ิ นวตั กรรมคุณครทู ีบ่ า้ น สอนอ่านสอนเขียน สู่การเรียนรู้เด็กไทยอา่ นได้ เขียนถูก เหตผุ ลและควำมจำเป็น ปัจจุบันประเทศไทยกาลังประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา 2019 ซ่ึงมีการ แพร่ระบาดมาตัง้ แต่ปี 2019 ทาใหส้ ถานศกึ ษาต้องเลอื่ นเปดิ การเรียนการสอน และในปี 2021 การแพร่ระบาด ได้ขยายเป็นวงกว้าง ทาให้ต้องงดการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบของ ON SITE และหันมาจัดการศึกษาใน รูปแบบของ ON HAND และ ON LINE แทน อนึ่ง ในระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 เป็นวัยที่ผู้เรียนเพ่ิงขึ้นมาจาก ระดับอนุบาล แต่เม่ือต้องเจอกับสถานการณ์ที่โรงเรียนไม่สามารถเปิดทาการเรียนการสอนได้ จึงทาให้เกิดความ วิตกกังวลว่านักเรียนชั้นป.1 จะอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ซึ่งจะกระทบกับการจัดการเรียนการสอนในระดับท่ีสูง ขึ้นไป ในฐานะครูผู้สอนจึงไดค้ ิดค้นและหาวธิ ีการทจี่ ะทาใหเ้ ด็กสามารถอา่ นออก เขียนได้ โดยใช้นวัตกรรมคุณครู ที่บ้าน สอนอ่านสอนเขียน สู่การเรียนรู้เด็กไทยอ่านได้ เขียนถูก ซ่ึงเป็นนวัตกรรมประเภทเทคนิคและวิธีการ ผสมผสานกับแบบฝกึ ทักษะชดุ สระตา่ ง ๆ วตั ถุประสงค์ ๑.) เพือ่ ให้นกั เรยี นสามารถอา่ นหนังสือออก และเขยี นได้ถกู ตอ้ ง ๒.) เพอื่ พัฒนาความสมั พันธใ์ นครอบครัวใหอ้ บอนุ่ และรักใครป่ รองดอง โดยผ่านเทคนคิ และ กระบวนการ”คุณครทู บ่ี ้าน สอนอ่าน สอนเขียน” กลุ่มเป้ำหมำย นักเรยี นระดับชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ จานวน ๑๔ คน 66
ชอ่ื ผลงาน นวัตกรรมคุณครทู ีบ่ า้ น สอนอา่ นสอนเขยี น ส่กู ารเรยี นรู้เด็กไทยอา่ นได้ เขียนถูก โดย นางสุนันทา กอ้ นแพง ครู โรงเรยี นบ้านท่งุ โพธ์ิ นวตั กรรมคณุ ครทู ี่บา้ น สอนอ่านสอนเขยี น สู่การเรยี นรเู้ ด็กไทยอ่านได้ เขียนถกู วธิ ีกำรจดั กิจกรรม / กระบวนกำรจดั กำรเรยี นกำรสอน วิธีการจัดทานวัตกรรมเทคนคิ และวธิ ีการและการจัดทาแบบฝึกทักษะชุดสระต่าง ๆ สู่การเรียนรู้เด็กไทย อ่านได้ เขยี นถูก มีขั้นตอนดงั ต่อไปน้ี ๑. พบปะกบั ผู้ปกครองเป็นกลมุ่ ย่อยประมาณ 3 –4 คน เพ่ือพูดคุยและทาความเข้าใจพร้อมแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 วา่ จะทาเช่นไรเพ่อื ให้บตุ รหลานของทา่ น สามารถอ่านออก เขยี นได้ ๒. ขอความร่วมมือ การร่วมด้วยช่วยกันระหว่างครู ผู้ปกครองและนักเรียนในการถ่ายคลิปและรูปภาพ ของนักเรยี นในการสอนอ่านและสอนเขียน ของผู้ปกครองสง่ ให้ครูทุก ๆ วัน ๓. การจัดทาแบบฝึกทกั ษะชุดสระตา่ ง ๆในภาษาไทยเพือ่ ใหน้ ักเรียนไดฝ้ ึกอา่ นและเขียน กระบวนกำรจดั กำรเรียนกำรสอน ๑. ข้นั นำ ๑.๑ นักเรียน ครแู ละผูป้ กครองสนทนากันถึงเรอ่ื ง ความสาคัญของการเรยี นร้ภู าษาไทย และ การใชภ้ าษาไทยให้ถูกต้อง ๑.๒ นกั เรยี นและผู้ปกครองฟงั ครชู ้แี จงจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑.๓ นกั เรยี น ครแู ละผ้ปู กครองวางแผนการเรียนรูเ้ ร่ืองสระตา่ ง ๆ ในภาษาไทยร่วมกนั ๒. ขน้ั สอน ๒.๑ ครูสง่ คลปิ วดิ ีโอบทเพลงสระต่าง ๆ ที่จะเรียนในแต่ละสปั ดาห์เข้ากลุม่ ไลนช์ น้ั เรยี น ให้ นกั เรยี นก่อนล่วงหน้าทจ่ี ะมกี ารเรียนการสอน เพอื่ เป็นการกระตุ้นความสนใจให้นกั เรียนอยากเรยี นรู้ และเพอ่ื ทา ความเขา้ ใจในสระน้ัน ๆ ๒.๒ ครสู ง่ คลปิ วดิ ีโอการสอนการอา่ นแจกลูกและสะกดดคา การอ่านเป็นคาให้นักเรียนไดใ้ ช้ฝกึ อ่าน โดยผู้ปกครองนักเรยี นตอ้ งร่วมดว้ ยชว่ ยกันในการสอนอา่ นหากนกั เรียนเกิดความสงสัยหรอื ไม่เข้าใจ รวมทั้ง ขอความร่วมมือใหผปู้ กครองถา่ ยคลิปวดิ ีโอการอา่ นให้ครูทุก ๆ วันด้วย โดยครูจะทาการประเมินการอ่านของ นกั เรยี นรวมทั้งการทาแบบฝกึ หัด และสง่ ข้อคิดเหน็ ตอบกลับให้นักเรียนเป็นรายบุคคล เพื่อนักเรียนจะไดท้ ราบว่า ตนอา่ นและเขียนเปน็ เช่นไร 67
ชอ่ื ผลงาน นวตั กรรมคุณครทู ี่บ้าน สอนอ่านสอนเขยี น สกู่ ารเรียนรู้เดก็ ไทยอา่ นได้ เขยี นถูก โดย นางสนุ ันทา กอ้ นแพง ครู โรงเรียนบา้ นทุ่งโพธิ์ นวัตกรรมคณุ ครทู ี่บา้ น สอนอ่านสอนเขียน สกู่ ารเรียนรู้เดก็ ไทยอ่านได้ เขยี นถูก วธิ ีกำรจัดกจิ กรรม / กระบวนกำรจดั กำรเรยี นกำรสอน (ตอ่ ) ๒.๓ ในทกุ วนั จันทรท์ น่ี ักเรยี นและผูป้ กครองมารับใบงาน ครูจะจดั กลุ่มย่อย เพือ่ อธบิ ายเนือ้ หาที่ จะเรยี นในสัปดาห์ต่อไปใหน้ กั เรียนและผูป้ กครองได้ทราบ โดยท้ังนักเรียนและผปู้ กครองจะไดร้ ับฟังรว่ มกนั เพ่อื ที่ ผูป้ กครองจะได้กลับไปสอนบตุ รหลานท่บี ้านได้ หากนกั เรยี นเกดิ ความสงสัยหรือไม่เขา้ ใจ นอกจากนีค้ รยู ังเปิด โอกาสใหท้ ั้งนักเรยี นและผปู้ กครองสามารถสอบถามทางไลน์หรอื ทางโทรศพั ทไ์ ดต้ ลอดเวลาอีกด้วย ๒.๔ ในการสอนทกุ ครง้ั ครูจะสอดแทรกเกมและเพลงที่เกย่ี วกบั เน้ือหาท่นี ักเรยี นจะเรียน ลงไป เปน็ คลิปวดิ โี อ เพ่ือใหน้ กั เรยี นไดเ้ ลน่ สนุกและคลายเครียด เป็นการเรยี นแบบเล่นปนเรียน ซึ่งคลปิ วิดีโอการสอน ต่าง ๆ นักเรียนและผ้ปู กครองสามารถเข้าดไู ดเ้ มือ่ สะดวกและดไู ด้บ่อยเท่าทต่ี ้องการ ๓. ข้ันสรปุ นักเรยี นร่วมกนั สรุปเรือ่ งสระตา่ ง ๆ ในภาษาไทย โดยจดั การอภิปรายเปน็ กล่มุ ยอ่ ย ๆ และนา ความคิดที่ได้มาสรปุ เป็นภาพรวมอีกคร้งั หน่ึง โดยเขยี นเป็นแผนผงั ความคิด และให้นกั เรียนสรุปมาเป็นชิน้ งานของ ตนเองสง่ ครู ส่อื กำรเรียนกำรสอน ๑. สื่อการเรยี นการสอนจาก DLTV และสอื่ จาก YOU TUBE ๒. แบบฝึกหดั ชุดสระตา่ ง ๆ ในภาษาไทย ๓. บัตรภาพและบัตรคา ๔. หนงั สอื เรียนภาษาพาที และวรรณคดีลานา ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑ 68
ชือ่ ผลงาน นวตั กรรมคณุ ครทู บ่ี า้ น สอนอา่ นสอนเขยี น สู่การเรยี นร้เู ดก็ ไทยอ่านได้ เขียนถกู โดย นางสนุ ันทา กอ้ นแพง ครู โรงเรยี นบ้านทุ่งโพธิ์ นวตั กรรมคณุ ครทู ีบ่ า้ น สอนอา่ นสอนเขยี น สกู่ ารเรยี นร้เู ดก็ ไทยอา่ นได้ เขียนถกู กำรวัดผลและประเมินผล ๑. ในทุกวันจันทร์ หลังจากนักเรียนส่งการบ้านของสัปดาห์ท่ีผ่านมาแล้ว ครูจะทาการสุ่ม เพื่อประเมนิ การเรียนของนักเรียนว่าได้ฝึกอ่านและฝึกเขียนที่บ้านจริงหรือไม่ และฝึกฝนบ่อยเพียงใด ซ่ึงครูจะวัด และประเมนิ ได้จากการอา่ นของนกั เรยี น หากพบวา่ นกั เรียนคนใดยังอ่านไม่คล่องหรือยังเขียนไม่ได้ ครูจะแนะนา ให้กลบั ไปฝึกฝนมาใหม่และครูจะประเมินอีกครั้งหนึ่ง หากนักเรียนคนใดอ่านคล่องและเขียนได้ ครูก็ให้คาชมเชย และแนะนาใหฝ้ กึ ฝนต่อไป รวมทัง้ การให้ความช่นื ชมและให้กาลังแก่ผู้ปกครองทีเ่ อาใจใส่บุตรหลานของทา่ นดว้ ย ๒. หลังจากการตรวจแบบฝึกหัดใบงานแล้ว ครูจะให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับงานท่ีนักเรียนทามา วา่ ถูกตอ้ งหรือไม่ และทามาไดด้ ีเพยี งใด หากพบจุดผดิ พลาดจะรบี ช้ีแจงใหน้ กั เรยี นแก้ไขให้ถูกตอ้ ง ผลสำเร็จ ๑. ด้านผู้เรียน ๑.๑) ผเู้ รยี นสามารถอา่ นออก เขยี นได้ ๑.๒) ผูเ้ รียนสนใจเรียน แสวงหาความรู้จากแหล่งเรยี นรู้ตา่ ง ๆ ได้มากข้ึน ๑.๓) ผเู้ รียนมีนสิ ัยรักการอ่าน ๑.๔) ผเู้ รยี นกลา้ แสดงออกด้วยความม่นั ใจ ๑.๕) สรา้ งสายสมั พันธอ์ นั ดีให้เกิดขน้ึ ระหวา่ งนักเรยี นและผปู้ กครอง ผ่านการเรยี นรู้รว่ มกัน ๒ ด้านครูผูส้ อน ๒.๑) ครสู ามารถจัดกระบวนการเรยี นร้ไู ด้อยา่ งเปน็ ระบบ ๒.๒) ครสู ามารถเป็นแบบอย่างใหแ้ กผ่ ูอ้ ืน่ ได้ ๓ โรงเรียน/ชุมชน ๓.๑) ผปู้ กครองมคี วามพึงพอใจและเห็นความสาคัญของการศึกษา ๓.๒) ผ้ปู กครองให้ความสนใจและใหค้ วามร่วมมอื กบั การเรยี นและโรงเรยี นมากขนึ้ 69
ชือ่ ผลงาน นวัตกรรมคณุ ครทู ี่บ้าน สอนอา่ นสอนเขียน สู่การเรียนรู้เดก็ ไทยอา่ นได้ เขียนถูก โดย นางสุนนั ทา ก้อนแพง ครู โรงเรียนบ้านท่งุ โพธิ์ นวัตกรรมคุณครทู ีบ่ า้ น สอนอ่านสอนเขียน ส่กู ารเรยี นรู้เด็กไทยอ่านได้ เขยี นถูก ปัจจยั สคู่ วำมสำเรจ็ ๑. ปจั จยั ภายใน ๑) ผูบ้ ริหารให้ความสาคัญต่อการแกป้ ญั หาการอ่านออกเขียนได้ของผเู้ รยี น ๒) ผู้บริหารให้การสนับสนุนในเรื่องงบประมาณในการดาเนินกิจกรรม ตลอดจนการติดตาม ถามไถถ่ ึงปัญหาและอปุ สรรคต่าง ๆ ที่เกดิ ข้ึน พร้อมทั้งเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหา ๓.) ครูผู้สอนมีความต้ังใจและมีความรับผิดชอบสูงต่อในการท่ีจะทาให้นักเรียนอ่านออก เขยี นได้ ๒. ปจั จัยภายนอก ๑.) ผ้ปู กครองให้ความสนใจและสนบั สนนุ ในการแก้ปัญหาอ่านออกเขยี นไดข้ องผเู้ รยี น ๒.) สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาให้ความสาคัญ ให้คาแนะนาและสนับสนุนในการจัด การศกึ ษา ข้อเสนอแนะ ๑.) ในการจัดการเรียนการสอนในยุคสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ครูจาเป็นต้องสร้างความเข้าอันดีระหว่างผู้ปกครองและตัวผู้เรียน เพื่อให้สามารถเรียนรู้ร่วมกันได้และ กล่าวผ่านความยากลาบากน้ีไปด้วยกัน เพื่อให้นักเรียนสามารถอ่านออก และเขียนได้ ซ่ึงเป็นทักษะที่จาเป็นยิ่ง ของการเรยี นรู้ ๒.) การเรียนแบบออนไลน์หากผู้เรียนไม่เข้าใจเนื้อหาในข้ันตอนใด นักเรียนสามารถ ย้อนกลับ ไปเรยี นใหมอ่ กี คร้งั หรอื หลายครัง้ ได้ฟังซา้ ย้าทวนได้ทกุ ทที่ กุ เวลา ๓.) นกั เรยี นบางคนไม่มีอุปกรณ์สาหรับใช้ในการเรียนการสอน แต่ครูก็แก้ปัญหาด้วยการสอน เดยี่ วเปน็ รายบุคคล 70
ชอ่ื ผลงาน การสอน การอา่ น การเขยี น โดย “การอา่ นแจกลกู สะกดคา” โดย นางสาวสงการณ์ อวนป้อง ครู โรงเรยี นบา้ นกดุ เรอื คา การสอน การอ่าน การเขยี น โดย “การอา่ นแจกลูกสะกดคา” เหตผุ ลและความจาเปน็ การศกึ ษาในยุคปจั จุบนั มกี ารพัฒนาเปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเรว็ ท้ังดา้ นเทคโนโลยีการสื่อสารการ อ่านออกเขียนไดเ้ ป็นทกั ษะการจาเปน็ อย่างย่ิงสาหรับการเรียนรู้และการดาเนินชีวิต หากผู้ใดมีความบกพร่องใน การอ่านการเขียนก็จะสงผลให้เกิดความยากลาบากในการสื่อสารและเรียนรู้ ซ่ึงจะเป็นปัญหาในการดารงชีวิต ตอ่ ไป กระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดนโยบายการพัฒนาการจัดการศึกษาท่ีมุ่งเน้นคุณภาพ โดยมีมาตรการให้ผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานสามารถอ่านออก เขียนได้ ซึ่งจากผลการทดสอบการอ่าน การเขียนของนักเรียนระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านกุดเรือคา ปีการศึกษา 2563 ท่ีผ่านมายังมี นกั เรยี น จานวนหนง่ึ มีผลการประเมินการอา่ น เขียน ในระดับปรับปรุงคิดเป็นร้อยละ 15 ของนักเรยี นทั้งหมด จากปัญหาดังกลา่ ว จึงมแี นวคดิ ว่าการสอนแบบแจกลกู สะกดคา มีความจาเปน็ และเหมาะสมที่ จะนามาใช้ในการสอน อ่าน-เขียน เพ่ือให้นักเรียนอ่านออกเขียนได้ จึงได้จัดทา สื่อ นวัตกรรมและวิธีการอ่าน แจกลกู สะกดคาข้นึ วตั ถุประสงค์ เพอื่ เปน็ แนวทางในการแก้ปญั หาการอ่านออก เขยี นได้ ของนักเรียนชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มเป้าหมาย นักเรียนชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 1 โรงเรียนบ้านกุดเรอื คา วธิ ีการจดั กิจกรรม /กระบวนการจัดการเรยี นการสอน 71
ชอื่ ผลงาน การสอน การอา่ น การเขียน โดย “การอา่ นแจกลูกสะกดคา” โดย นางสาวสงการณ์ อวนปอ้ ง ครู โรงเรียนบา้ นกุดเรอื คา การสอน การอา่ น การเขียน โดย “การอา่ นแจกลูกสะกดคา” 1. ขน้ั เตรยี มควำมพร้อม 1) ครูสนทนากับนักเรียนตามเช็คชือ่ เล่าเร่ืองตา่ งๆ ให้นกั เรยี นฟัง 2) ครูชี้แจงวัตถปุ ระสงค์ให้นักเรยี นฟัง 2. ขั้นครอู ำ่ นให้นักเรียนฟงั ครอู า่ นแจกลกู -สะกดคาให้นกั เรยี นฟังโดยใชแ้ ผนภมู ภิ าพ /แผนภูมิแจกลูกสะกดคา 2 เท่ยี ว 3. ข้นั นักเรยี นอำ่ นตำม ครูใช้แผนภูมแิ ผนภาพเดมิ แตใ่ หน้ ักเรียนอา่ นและปฏบิ ัติตาม 2 เที่ยว 4. ขั้นฝกึ ทำซำ้ ครใู หน้ ักเรียนอ่านแจกลูกสะกดคาจากคาท่ีกาหนดให้หลายๆ เทีย่ ว จนสามารถอ่าน และเขยี นคานน้ั ได้ 5. ขน้ั นำไปใช้ ครนู าบัตรคาใหน้ กั เรียนอา่ นท้งั เด่ยี วและอ่านพร้อมกันทั้งชน้ั เม่อื อ่านไดแ้ ลว้ ให้นกั เรียนเขยี นคานัน้ ใหถ้ ูกต้องโดยให้ทุกคนมีส่วนร่วม 6. ขน้ั สรปุ คร-ู นกั เรยี นร่วมกันสรปุ วิธอี ่านแจกลูกสะกดคาเพ่ือใหผ้ เู้ รยี นเกิด ความเขา้ ใจดว้ ยตนเองยง่ิ ขึน้ รวมทงั้ เปน็ การสรปุ ความเข้าใจในหลักการ อา่ น-เขยี นน้ัน สามารถนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ได้ 72
ชือ่ ผลงาน การสอน การอา่ น การเขียน โดย “การอ่านแจกลูกสะกดคา” โดย นางสาวสงการณ์ อวนป้อง ครู โรงเรียนบ้านกุดเรอื คา การสอน การอา่ น การเขียน โดย “การอ่านแจกลกู สะกดคา” ส่อื การเรยี นการสอน 1) แผนภมู ภิ าพและแผนภมู กิ ารแจกลกู สะกดคา 2) หนงั สือมานีมานะ 3) แบบฝึกอา่ น แบบฝกึ หดั 4) สื่อออนไลน์ 5) ใบงาน ใบกจิ กรรม การวดั และประเมินผล 1) แบบฝกึ อา่ น 2) สังเกตการอา่ น-เขียน ผลสำเรจ็ 1. ด้านผเู้ รียน 1. ผเู้ รยี นสามารถอา่ นแจกลกู - สะกดคาได้ 2. ผ้เู รยี นสามารถนาหลักการอ่านแจกลูก - สะกดคา ไปใช้ในชีวิตประจาวันได้ 2. ด้านครผู ู้สอน 1. ครูสามารถจดั การเรยี นการสอน การอ่าน โดยการแจกลกู สะกดคาได้ 3. โรงเรยี น/ชุมชน ชุมชน ผู้ปกครอง นักเรียนมีความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การอ่าน เขียน แจกลูก สะกดคา เนื่องจากนักเรียนสามารถ อ่าน เขียน แจกลูกสะกดคาให้ผู้ปกครอง ฟังที่บ้าน และทาการบ้าน ผู้ปกครองมีโอกาสไดเ้ หน็ พัฒนาการของลกู ปัจจยั สู่ความสาเร็จ 1 ภำยใน - ผ้บู ริหารให้ความสาคญั และสนับสนุนงบประมาณ - ครูผูส้ อนมีความรบั ผดิ ชอบและตั้งใจสงู ข้นึ 2 ภำยนอก - ผู้ปกครองชมุ ชนสนบั สนุนในการแก้ปญั หาการอ่าน - เขียน โดยการแจกลูกสะกดคาของผูเ้ รยี น ข้อเสนอแนะ 1. ครคู วรใชส้ ือ่ ประกอบการสอน 2. การทจ่ี ะฝึกให้นักเรียน อา่ น เขียน การแจกลูกสะกดคานนั้ ควรใหน้ กั เรียนฝกึ เป็นรายบคุ คล และครูคอยเป็นผ้ชู ้แี นะ เม่ือนักเรียนอา่ นไมไ่ ด้ 73
ชอ่ื ผลงาน “การฝึกอ่านแจกลูกสะกดคาโดยใชท้ ฤษฎีสี” โดย นางเพชรา เฒ่าอุดม ครู โรงเรยี นบ้านแก้ง “การฝกึ อ่านแจกลกู สะกดคาโดยใชท้ ฤษฎสี ี” เหตผุ ลและควำมจำเปน็ สภาพปัญหาการเรียนการสอนภาษาไทยภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโค โรนา ๒๐๑๙ (Covid–๑๙ ) จากท่ีครูมีการจัดการเรียนการสอนในช้ันเรียน ครูและนักเรียนมีการเรียนแบบเผชิญหน้า ปฏิสัมพันธ์ซ่ึงกันและกัน มาเป็นแบบ On-Hand ซึ่งมีผลกระทบต่อการจัดการเรียนการสอนของครู อีกทั้งด้าน ครผู สู้ อนวิชาภาษาไทยส่วนใหญ่ไม่ได้จบวิชาเอกภาษาไทยโดยตรงจึงมีผลต่อคุณภาพการจัดการเรียนรู้ของผู้เรียน ซึ่งต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการอ่าน การอ่านออกเสียงเป็นกิจกรรมที่ต้องจัดในห้องเรียน การอ่านเป็นกลุ่มพร้อม ๆ กัน การอ่านเป็นรายบุคคล หรือการอ่านตาม จะช่วยพัฒนาการอ่านของผู้เรียนได้มาก ขึ้นเพราะการอ่านของผู้เรียนเริ่มจากการฟัง แต่ในสถานการณ์ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคน้ี จึงส่งผลต่อคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนในทุก ๆ ด้าน ทาให้ผู้เรียนอ่านหนังสือไม่ออก เขียนหนังสือไม่ถูกต้อง ขาดทักษะการคิด การวิเคราะห์ อันเน่ืองมาจากขาดทักษะการฝึกฟัง พูด อ่าน เขียน ทฤษฎีการฝึกอ่านแจกลูก สะกดคาโดยใช้ทฤษฎีสี (Brain-based Learning : BBL) โดยใช้สีในการแยกพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และ ตวั สะกดโดยนามาผสมกนั ให้เปน็ คาและนามาทาเปน็ บัตรคา แบบฝึกอ่านนามาให้นกั เรยี นไดฝ้ ึกอา่ น จากผลการประเมินความสามารถด้านการอ่าน (Reading Test : RT) ปีการศึกษา ๒๕๖๓ พบว่า นกั เรยี นชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๑ ของโรงเรยี นบ้านแก้ง อ่านไม่ออก คิดเป็นร้อยละ ๘.๑๑ ซ่ึงมีสาเหตุจากครูผู้สอน ไม่มีความชานาญในการใช้เทคนิคส่ือเทคโนโลยีใหม่ ๆ และผู้ปกครองขาดความเอาใจใส่ต่อบุตรหลานไม่เห็น ความสาคัญของการศึกษา ตลอดจนผ้เู รยี นไมม่ คี วามกระตือรอื รน้ ในการเรียนร้ภู าษาไทย ดังนั้นโรงเรียนบ้านแก้ง จึงเล็งเห็นปัญหาดังกล่าวและประกอบกับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ มีปัญหาด้านการอ่านออกเขียนได้ จึงได้นาทฤษฎีสีมาเป็นแนวทางพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว โดยการใช้วิธีการ สอนแบบการฝกึ อา่ นแจกลกู สะกดคาโดยใชท้ ฤษฎสี ขี ึน้ วตั ถุประสงค์ เพอ่ื แก้ปญั หาการอ่านออกเขยี นไดส้ าหรบั นกั เรยี นชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ กลุ่มเปำ้ หมำย นักเรยี นช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ 1) เป้าหมายเชิงปริมาณ นกั เรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ จานวน ๑๓ คน ๒) เป้าหมายเชิงคุณภาพ นักเรยี นชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๑ อ่านออกเขียนได้ 74
ชอ่ื ผลงาน “การฝกึ อา่ นแจกลกู สะกดคาโดยใช้ทฤษฎีสี” โดย นางเพชรา เฒา่ อดุ ม ครู โรงเรียนบ้านแกง้ “การฝึกอา่ นแจกลกู สะกดคาโดยใช้ทฤษฎสี ี” ๔. วิธีการจดั กจิ กรรม/กระบวนการจัดการเรยี นการสอน การฝกึ อ่านแจกลกู สะกดคาโดยใชท้ ฤษฎสี ี มี ๗ ขั้นตอนดังน้ี 75
ชอื่ ผลงาน “การฝกึ อา่ นแจกลกู สะกดคาโดยใช้ทฤษฎสี ี” โดย นางเพชรา เฒา่ อดุ ม ครู โรงเรยี นบ้านแกง้ “การฝกึ อ่านแจกลกู สะกดคาโดยใช้ทฤษฎีสี” ๑. ขัน้ สรำ้ งควำมสนใจ ๑) นักเรียนและครูสนทนากันเรื่องความสาคัญของ การเรียนรู้ภาษาไทย และการใช้ภาษาไทยให้ถูกตอ้ ง ๒) นกั เรียนฟงั ครชู แี้ จงวัตถุประสงคก์ ารเรียนรู้ ๓) นักเรียนวางแผนการเรยี นรู้เรอ่ื งคาและประโยค ๒. ขน้ั ดูฟงั ตวั อยำ่ งแล้วปฏบิ ตั ติ ำม ครูนาเสนอตัวอย่าง เช่น คาคล้องจอง บทร้องเล่น เพลงกล่อมเดก็ หรอื แถบประโยค ครูอ่านให้ผู้เรียนฟังพร้อมกับ ดูตามตวั หนังสือทคี่ รูอ่าน เพ่ือจะได้สร้างความสัมพันธ์ระหว่าง คาทเี่ หน็ ลกั ษณะเสียง แลว้ ให้ผ้เู รยี นทาตามตัวอย่าง ๓. ข้นั เรียนรูผ้ ำ่ นเกม เปน็ ข้นั ที่ใหผ้ ้เู รยี น เรียนรโู้ ดยใชเ้ กม, โครงงาน, เพลง, นิทานหรือคลิปวีดีโอการอ่าน ประกอบเนื้อหานาข้อสังเกต ต่าง ๆ จากตัวอย่างมาสรุปเป็นหลักการกฎเกณฑ์หรือนิยาม ดว้ ยตัวผู้เรยี นเอง ๔. ข้ันอธบิ ำยควำมสำคญั เป็นการอธิบายความหมายของคา ประโยคหรือส่ิงท่ี ผู้เรียนได้เรียนรู้ให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนยิ่งข้ึน เช่น การเรียนเร่ืองความหมายของคา ชนิด ประเภท ของคาหรือ อน่ื ๆ ๕. ข้นั ฝึกซำ้ ยำ้ ทวน เป็นขั้นท่ีผู้เรียนทาตามครู เช่น ครูอ่านคาคล้องจอง บท ร้ อง เ ล่ น ห รื อเ พ ล งก ล่ อม เ ด็ กห รื อ แถ บ ป ระ โ ย ค แล้วให้ผู้เรียนอ่านตามอีกคร้ัง อ่านซ้าหลายคร้ังจน ผเู้ รยี นเกิดการเรยี นรู้ 76
ชื่อผลงาน “การฝึกอา่ นแจกลกู สะกดคาโดยใช้ทฤษฎสี ี” โดย นางเพชรา เฒ่าอุดม ครู โรงเรียนบา้ นแก้ง “การฝกึ อ่านแจกลูกสะกดคาโดยใชท้ ฤษฎสี ี” ๖. ข้ันนาไปใช้ เป็นขั้นร่วมกันสรุปข้อคิดท่ีได้จากการอ่าน โดยการตั้ง คาถามกระตุ้นแต่ไม่ควรให้ในลักษณะช้ีนาคาตอบ เพราะวิธีน้ีมุ่งให้ ผู้เรียนได้คิด ทาความเข้าใจด้วยตนเอง ควรให้ผู้เรียนได้ร่วมกันคิด วิเคราะห์เป็นกลุ่มย่อยเพ่ือจะได้แลกเปลี่ยนความคิด ซึ่งกันและกัน โดยเน้นผูเ้ รยี นมสี ว่ นร่วมทุกคน ๗. ขัน้ สรุป เป็นการให้ผูเ้ รียนทาแบบฝกึ และครเู ฉลยคาตอบ ซ่ึ ง ขั้ น น้ี ช่ ว ย ส่ ง เ ส ริ ม ใ ห้ ผู้ เ รี ย น น า ค ว า ม รู้ ที่ ไ ด้ รั บ ไ ป ใ ช้ ใ น ชีวิตประจาวันและจะทาให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจยิ่งขึ้น รวมท้ัง เป็นการทดสอบ ความเข้าใจของผู้เรียนว่าสิ่งท่ีเรียนรู้ไปนั้น สามารถนาไปใช้แกป้ ัญหาและทาแบบฝึกหัดไดห้ รือไม่ ๕. ส่อื กำรเรียนกำรสอน ๑. แผนภมู กิ ารแจกลูกสะกดคาโดยทฤษฎสี ี ๒. แบบฝกึ การอา่ น/แบบฝกึ หัด ๓. หนงั สืออา่ นเสรมิ /หนังสือแบบเรยี น ๔. สอื่ ออนไลน์/โทรศพั ท์ ๕. คลปิ วดี ีโอการอา่ น เพลง นทิ าน เกมตา่ ง ๆ ๖. บตั รคา ๖. กำรวดั และประเมินผล ๑. แบบทดสอบ ๒. สังเกตการฟัง พดู อา่ น เขียน ๓. สงั เกตการตอบคาถาม 77
ชอ่ื ผลงาน “การฝกึ อ่านแจกลูกสะกดคาโดยใชท้ ฤษฎสี ี” โดย นางเพชรา เฒา่ อดุ ม ครู โรงเรียนบ้านแก้ง “การฝกึ อา่ นแจกลกู สะกดคาโดยใช้ทฤษฎสี ี” ๗. ผลสำเรจ็ 1. ด้านผู้เรยี น ๑) ผู้เรียนสามารถอ่านได้อย่างคล่องแคล่ว อ่านอย่างรู้ความหมายของเร่ืองท่ีอ่าน เขียนได้ และใช้ภาษาไทยในการส่ือสารได้ ๒) ผู้เรียนมีความกระตือรอื ร้นท่ีจะอา่ นหนังสือเล่มใหม่ ๆ ท่ีหลากหลาย ๓) ผเู้ รยี นสนใจเรยี น แสวงหาความรูจ้ ากแหลง่ เรียนรตู้ า่ ง ๆ ได้มากขึน้ ๔) ผ้เู รียนมีนสิ ยั ชอบการอา่ น ๕) ผูเ้ รียนมีความคิดเหน็ ความร้สู ึกของตัวเองหลงั จากอ่านหนังสือ ม่ันใจที่จะพูดแสดง ความคิดเหน็ ได้ ๖) ผู้เรียนเข้าใจความหมายท่ีซ่อนอยู่ในเนื้อหาของเรื่องท่ีอ่าน วิเคราะห์และตีความ วา่ ผเู้ ขยี นสอื่ สารอะไร ๒. ดา้ นครูผ้สู อน ๑) ครสู ามารถจดั กระบวนการเรยี นรไู้ ดอ้ ยา่ งเปน็ ระบบ ๒) สามารถเปน็ แบบอยา่ งได้ ๓. ด้านโรงเรยี น/ชมุ ชน ๑) ผปู้ กครองมีความพงึ พอใจและเหน็ ความสาคญั ของการศกึ ษา ๒) ผู้ปกครองให้ความสนใจและใหค้ วามรว่ มมือในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ มากยง่ิ ขนึ้ ๘. ปัจจยั สู่ควำมสำเร็จ ๑. ภายใน ๑.๑ ผ้บู ริหารให้ความสาคัญต่อการแกป้ ญั หาการอ่านออกเขยี นไดข้ องผเู้ รยี น ๑.๒ ผู้บรหิ ารใหก้ ารสนบั สนุนงบประมาณ ๑.๓ ครูผู้สอนมคี วามต้ังใจและมีความรบั ผดิ ชอบ ๑.๔ บุคลากรในโรงเรยี นใหค้ วามรว่ มมือด้วยดี ๒. ภายนอก ๒.๑ ผู้ปกครองใหค้ วามสนใจและสนบั สนนุ ในการแก้ปัญหาอา่ นออกเขยี นได้ของผู้เรยี น ๒.๒ องค์การปกครองส่วนท้องถ่ินให้ความสาคัญและสนับสนุนงบประมาณใน การจัดการศึกษา 78
ชือ่ ผลงาน “การฝึกอ่านแจกลูกสะกดคาโดยใช้ทฤษฎีสี” โดย นางเพชรา เฒ่าอดุ ม ครู โรงเรยี นบ้านแก้ง “การฝกึ อา่ นแจกลกู สะกดคาโดยใชท้ ฤษฎสี ี” ๙. ข้อเสนอแนะ ๑) ครคู วรใชส้ ่ือประกอบการสอนทุกขน้ั ตอน ๒) ครคู วรมกี ารเตรียมการสอนไว้ลว่ งหน้า ๓) ครคู วรผลติ ส่อื เพอ่ื ใชป้ ระกอบการเรียนการสอนให้หลากหลายย่ิงขึ้น ๔) ในการจัดกระบวนการเรียนรตู้ ามรูปแบบการสอนการฝึกอ่านแจกลูกสะกดคาโดยใช้ทฤษฎี สีในแต่ละขั้นตอนนั้นครูไม่ควรเร่งรีบ หากผู้เรียนไม่เข้าใจในเน้ือหาใด ครูผู้สอนสามารถย้อนกลับ สอนใหม่ได้ อ่านซา้ ย้า ทบทวนใชไ้ ดก้ บั ผ้เู รยี นเสมอ ๆ ๕) ครูควรปรับกระบวนการสอนหาเทคนิควิธีการการจัดการเรียนรู้และพัฒนาชุดฝึกให้ นกั เรยี นได้ฝกึ อา่ นเขียนโดยทาซา้ ๆ จนคล่อง ๖) การนากระบวนการ PLC มาใช้ในการวางแผนหรือแก้ปัญหากิจกรรมการเรียนการสอน โดยอาจตง้ั เปน็ กลุม่ ครูสอนภาษาไทยหรอื ครสู อนชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๑ เพอื่ พฒั นาการเรยี นการสอนร่วมกนั 79
ชอื่ ผลงาน รู้-อา่ น-เขยี น-ซ้า-ย้าทวน-วเิ คราะห์ และการใช้สอ่ื การสอน (แบบเอาจริงเอาจงั ) โดย นายณรจุ น์ธภทั ร ธัญพิสษิ ฐ์กลุ ครู โรงเรยี นบ้านเมน่ น้อย ร-ู้ อา่ น-เขียน-ซา้ -ย้าทวน-วเิ คราะห์ และการใช้สอื่ การสอน (แบบเอาจรงิ เอาจงั ) 1. เหตุผลและควำมจำเปน็ เนอื่ งจากนักเรยี นระดบั ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 1 โรงเรยี นบา้ นเม่นน้อย ตาบลบะหวา้ อาเภออากาศ อานวย จังหวัดสกลนคร ยังมีนักเรียนบางส่วนมีปัญหาด้านทักษะในการอ่าน อ่านไม่ได้ เขียนไม่ถูก และทักษะการคิดวิเคราะห์อยู่มาก ทาให้มีปัญหาในการจัดการเรียนการสอน ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ของนักเรียนในวิชาภาษาไทยและกลุ่มสาระอื่น ๆ ต่ากว่าเป้าหมาย จึงได้หาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดข้ึน โดยเฉพาะวิชาภาษาไทยซ่ึงเป็นพื้นฐานในการเรียนในวิชาอ่ืน ๆ นักเรียนจาเป็นต้องอ่านออกเขียนได้ทุกคน และเพ่ือให้สอดคล้องและเป็นไปตามนโยบายของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน และสานักงาน เขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3 ในเร่ือง การอ่านออก เขียนได้ และการยกระดับผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน จึงได้ดาเนินกิจกรรมนี้เพื่อเป็นการแก้ไขและพัฒนาการอ่านและการเขียนให้กับนักเรียนระดับ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 1 ทุกคน 2. วตั ถุประสงค์ 1.เพอื่ พัฒนาทักษะความสามารถดา้ นการอา่ น-การเขียนและคิดวิเคราะห์ วิชาภาษาไทย ของนกั เรียนชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 1 ให้มีคุณภาพสูงข้ึน 2. เพอื่ ยกระดับผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นของนักเรยี นชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 3. กลุ่มเป้ำหมำย 1. นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 ทกุ คนไดร้ บั การพัฒนาทกั ษะดา้ นการอา่ น-การเขียนและ คิดวิเคราะห์ 2. ผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นของนกั เรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 สูงขน้ึ ไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 3 80
ชือ่ ผลงาน ร-ู้ อา่ น-เขยี น-ซ้า-ยา้ ทวน-วิเคราะห์ และการใช้สื่อการสอน (แบบเอาจริงเอาจงั ) โดย นายณรจุ น์ธภทั ร ธญั พิสษิ ฐ์กลุ ครู โรงเรยี นบ้านเม่นนอ้ ย รู้-อา่ น-เขียน-ซา้ -ยา้ ทวน-วเิ คราะห์ และการใชส้ ือ่ การสอน (แบบเอาจริงเอาจงั ) 4. วิธกี ำรจดั กิจกรรม/กระบวนกำรจดั กำรเรียนกำรสอน 81
ช่ือผลงาน ร-ู้ อ่าน-เขยี น-ซ้า-ยา้ ทวน-วิเคราะห์ และการใชส้ อื่ การสอน (แบบเอาจริงเอาจงั ) โดย นายณรุจน์ธภัทร ธัญพสิ ิษฐ์กลุ ครู โรงเรยี นบา้ นเมน่ น้อย รู้-อา่ น-เขียน-ซ้า-ย้าทวน-วเิ คราะห์ และการใช้สอ่ื การสอน (แบบเอาจริงเอาจงั ) 5. สือ่ กำรเรียนกำรสอน 1. บตั รคา 2. แบบฝกึ อ่านผสมสระ 3. แบบฝึกอา่ นพยัญชนะ 4. เพลง 5. ทีวี 6. กำรวดั ผลและประเมนิ ผล 1. แบบทดสอบกอ่ นเรียนหลงั เรียน 2. การอา่ นคาผสมสระ 3. การเขียนคาตามคาบอก 4. การสังเกตพฤตกิ รรม ความสนใจใฝ่รู้ใฝ่เรยี นของนักเรยี น 7. ผลสำเรจ็ 7.1 ด้ำนผเู้ รียน - นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านการเขียนดีมาก จากการทดสอบ RT มีคะแนนทดสอบทั้ง 2 ด้าน ร้อยละ 99.27 เป็นลาดับที่ 5 ของสานักงานเขตพื้นที่ การศกึ ษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3 82
ชือ่ ผลงาน รู้-อ่าน-เขียน-ซา้ -ย้าทวน-วเิ คราะห์ และการใชส้ ่อื การสอน (แบบเอาจรงิ เอาจงั ) โดย นายณรจุ น์ธภทั ร ธญั พสิ ิษฐ์กุล ครู โรงเรยี นบ้านเมน่ น้อย รู้-อ่าน-เขยี น-ซา้ -ยา้ ทวน-วเิ คราะห์ และการใช้สอ่ื การสอน (แบบเอาจริงเอาจัง) 7.2 ด้ำนครูผูส้ อน วนั /เดือน/ปี รำงวลั ทไ่ี ดร้ บั 10-12 ธันวาคม ครูผู้สอนนกั เรยี น ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง กิจกรรม การแขง่ ขันอาขยาน 2555 ทานองเสนาะ ระดบั ชน้ั ป.1-3 งานศิลปหัตถกรรมนกั เรยี นภาคกลางและภาค ตะวันออก ครง้ั ที่ 62 จังหวัดระยอง 24-26 ธันวาคม ครูผสู้ อนนกั เรยี น ไดร้ บั รางวลั ระดบั เหรยี ญทอง กิจกรรม การแข่งขนั อาขยาน 2556 ทานองเสนาะ ระดับชนั้ ป.4-6 งานศิลปหตั ถกรรมนกั เรยี นภาคกลางและภาค ตะวันออก ครงั้ ท่ี 63 จงั หวดั เพชรบรุ ี 11-13 กุมภาพนั ธ์ ครผู สู้ อนนักเรยี น ได้รบั รางวลั รองชนะเลิศอันดับ 2 กจิ กรรม การแข่งขนั 2561 ปรศิ นาสร้างสรรค์วรรรณคดไี ทย ระดบั ชน้ั ม.1-3 งานศลิ ปหตั ถกรรมระดบั ชาติ ครั้งที่ 67 25-27 ธันวาคม ครูผู้สอนนกั เรียน ได้รับรางวัลเหรียญทอง ชนะเลิศ กิจกรรม การแข่งขนั 2561 อาขยานทานองเสนาะ ระดับชน้ั ม.1-3 งานศลิ ปหัตถกรรมนกั เรยี นระดับชาติ 25-27 ธนั วาคม ครูผสู้ อนนักเรยี น ได้รบั รางวลั เหรียญทอง กจิ กรรม การแข่งขันอาขยานทานอง 2561 เสนาะ ระดับช้ัน ป.1-3 งานศลิ ปหัตถกรรมนักเรยี นระดบั ชาติ จงั หวดั นครปฐม 7-9 ธันวาคม 2562 ครูผู้สอนนักเรียน ได้รับรางวลั เหรยี ญทอง กจิ กรรม การแขง่ ขนั อาขยานทานอง เสนาะ ระดับชน้ั ม.1-3 งานศิลปหตั ถกรรมนักเรียนระดับชาติ จงั หวัด สมุทรปราการ 7.3 โรงเรียน/ชุมชน 1. ครผู ู้สอนในโรงเรียนใหก้ ารยอมรับ และนานวัตกรรม เทคนคิ แนวทางการสอนไป ใช้กบั นักเรยี นในหอ้ งของตนเอง 2. ผ้บู รหิ ารโรงเรียนใหค้ าปรกึ ษาและสนบั สนุนการจัดการเรยี นการสอน 3. ชมุ ชนให้ความร่วมมือในการจัดการเรยี นการสอนสง่ ลูกหลานมาเรียนเพมิ่ ขน้ึ ซ่ึง ส่วนมากเป็นนักเรยี นนอกเขตพืน้ ท่ีรับผดิ ชอบ 83
ชอ่ื ผลงาน ร-ู้ อ่าน-เขยี น-ซ้า-ยา้ ทวน-วิเคราะห์ และการใช้สอื่ การสอน (แบบเอาจริงเอาจงั ) โดย นายณรุจน์ธภทั ร ธัญพสิ ษิ ฐ์กุล ครู โรงเรียนบ้านเม่นน้อย รู้-อา่ น-เขยี น-ซ้า-ยา้ ทวน-วเิ คราะห์ และการใชส้ อื่ การสอน (แบบเอาจริงเอาจัง) 8. ปจั จยั สูค่ วำมสำเรจ็ 8.1 ภายใน 8.1.1 ครูผู้สอนไดพ้ ัฒนานวตั กรรมอย่างตอ่ เน่ือง และนาไปใชป้ รบั ปรุงแก้ไขเพ่อื เกดิ ประโยชน์ กับนักเรียน 8.1.2 ผู้บริหาร คณะครู ภายในโรงเรียนได้ให้คาปรึกษาและคาแนะนาในการจดั การเรยี น การสอน 8.1.3 ผ้บู รหิ ารได้มกี ารนเิ ทศการจดั การเรียนการสอนเป็นระยะ เพ่อื ใหก้ ารจัดการเรยี น การสอนให้มีคณุ ภาพ 8.2 ภายนอก 8.2.1 ผูม้ ีความรคู้ วามสามารถด้านภาษาไทย ได้ให้คาแนะนาและคาปรกึ ษา 8.2.2 ศึกษานเิ ทศก์ สานกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาสกลนคร เขต 3 มีการออก นิเทศ และให้คาแนะนาในการจัดการเรียนการสอน การจดั ทาสอื่ ช้ีแนะให้คาปรกึ ษา ทุกภาคเรียน 9 ข้อเสนอแนะ 1. การจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนในระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 1 ควรรเู้ ทคนคิ ในการสอนเอาใจใส่อยา่ ง ตอ่ เน่อื ง สอนการอา่ น การเขียน อยา่ งจริงจังและทุ่มเทให้มาก 2. หมน่ั หาเทคนคิ ใหม่ตลอดเวลาเพ่อื ไม้ใหก้ ารเรยี นเคร่งเครยี ดจนเกินไป 3. ควรทาสื่อประกอบการสอนเพ่ือให้นกั เรยี นเขา้ ใจงา่ ยและสนุกกับการเรยี น 4. ส่งเสรมิ ให้นกั เรยี นรกั การอ่านใหม้ ากและทาตลอดอย่างต่อเน่ือง 84
วิธีกำรสอนและสอื่ กำรสอนที่ประสบผลสำเร็จ สดุ ำรัตน์ แสนไชย รัชนกี ร ไชยสรุ ยิ งค์ ไม้บรรทัดประสมคำสระไม่มตี ัวสะกดหรรษำ กำรสอนแบบ “๕ ส. ๑ช”ผำ่ นสื่อท่หี ลำกหลำย ศริ ญิ ำพร จันทสงิ ห์ กำรพัฒนำกำรอ่ำนกำรเขียนภำษำไทยในยุคโควิด ๑๙ โดยใชเ้ กมกำรศกึ ษำและบทเรียนออนไลน์ “สไตลค์ รู” 85
ชอื่ ผลงาน ไมบ้ รรทดั ประสมคาสระไมม่ ตี ัวสะกดหรรษา โดย นางสาวสดุ ารตั น์ แสนไชย ครู โรงเรียนชมุ ชนบา้ นโพนงาม ไม้บรรทัดประสมคาสระไมม่ ตี วั สะกดหรรษา ๑. เหตผุ ลและควำมจำเป็น ในปัจจุบันวิชาภาษาไทยจึงประสบกับปัญหานักเรียนขาดทักษะการอ่าน ซึ่งเป็นทักษะท่ีมี ความสาคัญและไม่ได้รบั การส่งเสริมต่อเน่ือง นักเรยี นไม่สามารถอ่านคาได้ถกู ต้องและแมน่ ยา และการสังเกตของของ ครูผู้สอนวิชาภาษาไทยในระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑ ซ่ึงมีผลกระทบการจัดการสอนของครู นักเรียนบางส่วน ยังอ่านประสมคาได้ไม่ถูก ยังจาสระ และพยัญชนะไม่ได้ท้ังหมด สาเหตุดังกล่าวทาให้นักเรียนเกิดความเบื่อหน่าย ตอ่ การเรยี นภาษาไทยในระดับชัน้ ของตนเองและระดับชั้นทสี่ งู ขนึ้ จึงทาใหม้ กี ารจัดทาสื่อ นวัตกรรมและวิธีการสอน ภาไทยในช้นั เรยี น ศกึ ษาเอกสารตา่ งๆเกีย่ วกบั การแกป้ ญั หาการอา่ น โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้ของธอร์นไดค์ ที่เช่ือว่า การเรียนรู้เกิดจากความเช่ือมโยงระหว่าสิ่งเร้ากับการตอบสนอง จึงสร้างนวัตกรรมที่ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยอาศัยกฎการเรียนรู้ของธอร์นไดค์ คือ กฎแห่งความพร้อม, กฎแห่งการฝึกหัด, กฎแห่งการใช้, กฎแห่งผลท่ีพึง พอใจ มาใช้ จ า ก ก า ร ส า ร ว จ ส ภ า พ ปั ญ ห า ก า ร อ่ า น ผ ล ก า ร ป ร ะ เ มิ น ก า ร อ่ า น ข อ ง นั ก เ รี ย น โ ร ง เ รี ย น ชุ ม ช น บ้านโพนงาม สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต ๓ พบว่านักเรียนมีปัญหาในการอ่าน โดยอ่านไม่ได้คิดเป็นร้อยละ (๖.0 อ่านไม่คล่อง ร้อยละ ๑๘.๔๕ สาเหตุหน่ึงมาจากผู้ปกครองนักเรียนส่วนใหญ่ มีฐานะปานกลาง จนถึงยากจน และมีอาชีพรับจ้าง ไม่มีเวลาในการฝึกทักษะด้านต่างๆแก่ผู้เรียน ทาให้ผู้เรียน ขาดการฝึกอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะทักษะด้านการอ่าน ซ่ึงเป็นทักษะที่สาคัญในการใช้ภาษาไทย และการติดตอ่ สอ่ื สารในชวี ติ ประจาวัน จากการการสร้างและพัฒนานวัตกรรมชุดกิจกรรมฝึกทักษะการอ่านคาจากส่ือประสมสาหรับ นักเรียนท่ีอ่านไม่ได้ เป็นชุดกิจกรรมประกอบการฝึก โดยใช้กระบวนการฝึกตามลาดับจากง่ายไปหายาก ต่อเน่ือง สมั พันธก์ ัน และใช้การฝกึ ซา้ ๆ หลายครั้ง ใชส้ ่อื หลายๆ ชนิดทเี่ ดก็ สนใจไมเ่ บือ่ หน่าย ๒. วัตถปุ ระสงค์ เพ่ือพฒั นาการอ่านออกเขียนได้ นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี๑ ๓. กลุ่มเปำ้ หมำย นกั เรียนชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ ่ี 1 โรงเรยี นชมุ ชนบา้ นโพนงาม 86
ชอ่ื ผลงาน ไมบ้ รรทัดประสมคาสระไมม่ ตี วั สะกดหรรษา โดย นางสาวสุดารตั น์ แสนไชย ครู โรงเรียนชมุ ชนบ้านโพนงาม ไม้บรรทัดประสมคาสระไมม่ ตี วั สะกดหรรษา ๔. วธิ กี ำรจดั กจิ กรรม/กระบวนกำรจัดกำรเรียนกำรสอน 87
ชอื่ ผลงาน ไม้บรรทดั ประสมคาสระไม่มตี วั สะกดหรรษา โดย นางสาวสดุ ารัตน์ แสนไชย ครู โรงเรยี นชุมชนบา้ นโพนงาม ไมบ้ รรทัดประสมคาสระไมม่ ตี วั สะกดหรรษา ๔.๑ กฎแหง่ ควำมพร้อมควำมตั้งใจควำมสนใจ - นักเรียนและครูพากันสนทนาทาความเข้าใจในการเรียนกฎแห่งความพร้อม, กฎแห่งการฝึกหัด, กฎแหง่ การใช้, กฎแหง่ ผลทีพ่ งึ พอใจ มาใชป้ ระสมประสมคาสระ และพยัญชนะ - ครูได้อธิบายจุดประสงค์การเรียนรู้เกิดจากการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้ากับการตอบสนอง การใช้ชุด กจิ กรรมและการใชส้ ่ือ เพอ่ื ใหน้ กั เรียนเกดิ การประสมคาและพยัญชนะ ในการอ่านและเขียนใหไ้ ด้และถกู ต้อง - ครนู ักเรียนวางแผนรว่ มกนั ๔.๒ กฎแห่งกำรฝกึ หดั ฝกึ ให้กระทำซ้ำบ่อย - ครูให้นักเรียน รู้จักสระ พยัญชนะ โดยการสื่อไม้ บรรทัดประสม ประกอบกับใช้บัตรคาสระและ พยัญชนะ แลกกันถามตอบ ก่อนเร่มิ การเรียนทุกเช้า ทาซ้า ย้าอ่านบ่อยๆ - ครูนาชุดกิจกรรม สื่อประสมสระพยญั ชนะตามลาดบั จากงา่ ยไปยาก มดี ังนี้ ๑. นาคามาแยกสระ พยญั ชนะ ออกเสียงในคาแมก่ กา ๒. ฝกึ ประสมคาสระ อะ อา อิ อี อึ อุ อู เเละพยญั ชนะ โดยใชส้ ือ่ ไม้บรรทัดประสมคา ๓. ฝึกประสมคาสระ เอะ เอ แอะ แอ เอาะ ออ เอะ เออ อัวะ อัว เเละพยัญชนะ โดยใช้สื่อ ไม้บรรทัดประสมคา ๔. ฝึกประสมคา สระ เอียะ เอยี เอือะ เอือ เเละพยญั ชนะ โดยใชส้ อื่ ไมบ้ รรทดั ประสม คา ๕. ฝึกประสมคา สระ อา ไอ ใอ เอา โดยใชส้ ื่อไม้บรรทัดประสมคา ๖. ฝึกประสมคาสระลดรูปจากแบบบัญชีคาประเมินการอ่าน ส่ือท่ี สร้างจากการแก้ปัญหาการอ่าน นามารวบรวมเป็นชกุ กจิ กรรมประกอบการฝึก ใช้กระบวนการฝึกตามลาดับจากง่ายไปหายาก ต่อเนื่องสัมพันธ์ กนั และใชก้ ารฝกึ ซา้ ๆ หลายครงั้ ๔.๓ กฎแหง่ ผลตอบสนองของกำรเรยี นใหผ้ ู้เรียนพอใจ -ครูใช้ส่ือหลายๆ ชนิดที่เด็กสนใจไม่เบ่ือหน่าย ใช้สื่อไม้บรรทัดประสม สระ พยัญชนะ บัตรอ่านคา และแบบฝกึ อา่ นประกอบเพ่อื ให้ร้จู กั และจาสระ และพยญั ชนะ โดยการเสรมิ แรง ใครตอบได้ อ่านออกแล้ว ได้รางวลั สติก๊ เกอร์ การ์ตนู หรอื รปู หัวใจ เดก็ จะกระตือรือร้น มกี ารแขง่ ขัน 88
ชอ่ื ผลงาน ไมบ้ รรทดั ประสมคาสระไมม่ ตี ัวสะกดหรรษา โดย นางสาวสุดารตั น์ แสนไชย ครู โรงเรยี นชุมชนบ้านโพนงาม ไมบ้ รรทัดประสมคาสระไม่มตี วั สะกดหรรษา ๕. ส่ือกำรเรียนกำรสอน ๑. สอื่ การสอน ประสมคาสระ พยญั ชนะ ๒. แบบฝึกอา่ น ฝึกเขียน ทบทวนสระ ๓. ส่อื ออนไลน์ ๔. หนังสืออา่ นเสรมิ ๕. เกม เพลง นทิ าน ๖. กำรวดั ผลและประเมนิ ผล - แบบฝกึ อ่าน - สังเกตการณ์ตอบคาถาม ๗. ผลสำเร็จ ด้านผเู้ รยี น - นักเรียนอ่านประสมคาได้ถูกต้อง - นักเรยี นสามารถอ่านออก เขียนได้และรจู้ กั สระพยัญชนะได้ - นักเรียนกลา้ แสดงออก ตอบคาได้ ดา้ นครผู ู้สอน - ครูสามารถจดั กระบวนการเรยี นรูไ้ ด้อยา่ งเปน็ ระบบ - ครสู ามารถเปน็ แบบอย่างในการสอนได้ ด้านโรงเรียน / ชมุ ชน - ผปู้ กครองมคี วามพงึ พอใจในตวั นักเรยี นชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ สามารถอ่านออกเขยี นได้ - ผู้ปกครองให้ความสนและใหค้ วามรว่ มมอื กับโรงเรียนมากขึ้น 89
ชอื่ ผลงาน ไมบ้ รรทดั ประสมคาสระไม่มตี ัวสะกดหรรษา โดย นางสาวสดุ ารัตน์ แสนไชย ครู โรงเรียนชมุ ชนบ้านโพนงาม ไมบ้ รรทดั ประสมคาสระไม่มีตัวสะกดหรรษา ๘. ปัจจยั ส่คู วำมสำเรจ็ ภายใน - ผู้บรหิ ารให้ความสาคัญต่อการแกป้ ัญหาการอา่ นออกเขยี นไดข้ องผู้เรียน - ผบู้ ริหารใหก้ ารสนับสนนุ งบประมาณ - ครผู ู้สอนมีความต้ังใจและมคี วามรบั ผดิ ชอบ ภายนอก - ผปู้ กครองใหค้ วามสนใจและสนับสนนุ ในการแกป้ ญั หาอ่านออกเขียนไดข้ องผเู้ รยี น - ผูน้ าชุมชน ใหก้ รสนับสนุนในการจดั กจิ กรรมเปน็ อยา่ งดี ๙. ขอ้ เสนอแนะ ๑. การจดั กิจกรรมการเรียนการสอน ในระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑ ครูเอาใจดูแล อย่างดีเปน็ อย่างดี ๒. ครคู วรใชส้ ื่อประกอบการเรียน เพ่ือให้นกั เรียนเกิดความสนกุ สนาน ไม่เบอื่ หนา่ ย 90
ชือ่ ผลงาน การสอนแบบ “๕ ส. ๑ช”ผ่านสอ่ื ทีห่ ลากหลาย โดย นางรัชนกี ร ไชยสรุ ิยงค์ ครู โรงเรยี นบา้ นดอนคา การสอนแบบ “๕ ส. ๑ช”ผ่านสอื่ ทหี่ ลากหลาย เหตุผลและควำมจำเปน็ โดยสภาพปัญหาการเรียนการสอนภาษาไทยในโรงเรียนบ้านดอนคาซ่ึงการสอนให้นักเรียน มีความสามารถอ่านออกเขียนได้มีความจาเป็นอย่างย่ิงเพราะมีผลกระทบต่อการเรียนการสอนในทุก ๆ กลุ่ม ประสบการณ์และทุกระดับชั้นจะเห็นได้จากผลการวัดประเมินผลในแต่ละระดับช้ันแต่ละปีการศึกษา หากนักเรียนมีปัญหาในเร่ืองการอ่านและเขียน ผลการวัดประเมินในระดับต่างๆจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้อาจเกิดจากครูผู้สอนภาษาไทยไม่ได้จบเอกภาษาไทยโดยตรง นอกจากนี้อาจเน่ืองมาจากครูไม่ครบช้ัน ครูคนเดียวสอนหลายห้อง หรือครูมีภาระงานนอกเหนือจากงานสอนมากจนไม่มีเวลาสอนได้อย่างเต็มท่ี จึงมีผลต่อคุณภาพการจัดการเรียนรู้ของผู้เรียน นอกจากน้ีผู้เรียนเองยังอ่าน เขียนไม่ค่อยดีนักโดยเฉพาะการ อ่านจับใจความ อา่ นรู้เร่ือง จากผลการประเมินการอ่านการเขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ - ๖ ของปีการศึกษา ๒๕๖๒ ผลการอ่านทั้งอ่านออกเสียง และอ่านรู้เร่ือง อ่านจับใจความ มีผลการประเมิน ลดลง กว่าปีก่อนๆซึ่งอาจมี สาเหตุจากครูผู้สอนที่ขาดเทคนิคในการสอน และสอนควบชั้น รวมทั้งผู้เรียนขาดความสนใจต่อการเรียน ภาษาไทย การขาดเรียนบ่อย ๆ ขาดการดูแลเอาใจใส่จากผู้ปกครอง ผู้ปกครองเป็นผู้สูงวัยไม่มีความรู้ ความสามารถท่ีจะสอนบตุ รหลานไดร้ วมทัง้ ไมเ่ ห็นความสาคัญของการศึกษา ฯลฯ ดงั นน้ั โรงเรยี นบ้านดอนคา สงั กัดสานักงานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต ๓ ได้เล็งเห็น ปัญหาการอ่านออก เขียนได้ของนักเรียนโดยเฉพาะในช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑ ซ่ึงถือเป็นบันไดข้ันต้นที่จะก้าวสู่ ขัน้ ต่อไปในระดบั ชั้นทส่ี ูงกวา่ ครปู ระจาช้ันจึงได้คิดพัฒนาหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาและส่งเสริมพัฒนาการ ด้านการอา่ นและเขยี นโดยใช้ รปู แบบการสอน ๕ ส ๑ ช ผ่านส่อื ท่ีหลากหลาย วตั ถุประสงค์ เพ่อื แก้ปญั หาและพัฒนาการอา่ นออกเขยี นได้ สาหรบั นกั เรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑ กลุม่ เป้ำหมำย นักเรยี นชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ 91
ชอื่ ผลงาน การสอนแบบ “๕ ส. ๑ช”ผา่ นสอ่ื ท่ีหลากหลาย โดย นางรัชนกี ร ไชยสรุ ยิ งค์ ครู โรงเรยี นบา้ นดอนคา การสอนแบบ “๕ ส. ๑ช”ผา่ นส่อื ท่ีหลากหลาย วิธกี ำรจดั กจิ กรรม /กระบวนกำรเรยี นกำรสอน การสอนแบบ “๕ ส. ๑ช”ผา่ นสื่อท่หี ลากหลาย มดี งั น้ี 92
ชือ่ ผลงาน การสอนแบบ “๕ ส. ๑ช”ผา่ นสื่อที่หลากหลาย โดย นางรชั นกี ร ไชยสุริยงค์ ครู โรงเรยี นบา้ นดอนคา การสอนแบบ “๕ ส. ๑ช”ผา่ นสอื่ ที่หลากหลาย ข้ันสอน ๑. โรงเรียนบ้านดอนคาเป็นโรงเรียนท่ีจัด กิจกรรมการเรียนการสอนจากโรงเรียนวังไกล กังวล โดยผา่ น DLTV ๒.นักเรยี นเรียนรผู้ ่านจอ จากครตู ้นทาง โดยร่วม กิจกรรมตามครูต้นทางทุกขั้นตอน โดยมีครู ประจาชน้ั คอยดแู ลชว่ ยเหลอื ขน้ั สงั เกต ขณะท่ีนักเรียนร่วมกิจกรรมการเรียนการสอน จากครูต้นทางน้ัน ครูผู้สอนจะสังเกตการร่วม กิจกรรมว่าผู้เรียนคนใดทาได้ ไม่ได้ ปฏิบัติตาม หรือไม่ปฏิบัติ ปฏิบัติทันหรือไม่ทัน เพื่อเป็น ข้อมูลในการไปสู่ ขน้ั ส่งเสรมิ คุณครูหลังจากสังเกตพฤติกรรมผู้เรียนขณะเรียน ต้องแก้ไขพฤติกรรมการเรียนรู้ที่สามารถแก้ไข ขณะนั้นทันที เช่น หากไม่ตอบคาถามก็ให้ตอบ คาถาม หากไม่อ่านตามครูต้นทางก็ให้อ่านตาม ฯลฯ ครูต้องดูแล ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ร่วมกิจกรรม ดว้ ยความต้ังใจ และเมื่อส้ินสุดการเรียนการสอนใน แต่ละคร้ัง ครูต้องสังเกตว่าใครทาได้ไม่ได้แค่ไหน อย่างไร 93
ชอื่ ผลงาน การสอนแบบ “๕ ส. ๑ช”ผา่ นส่อื ทีห่ ลากหลาย โดย นางรัชนกี ร ไชยสุริยงค์ ครู โรงเรยี นบา้ นดอนคา การสอนแบบ “๕ ส. ๑ช”ผ่านสอ่ื ทีห่ ลากหลาย สอบ ครสู ามารถประเมนิ ผลจากการตรวจใบงาน เช่น หากสอนการอ่านคา ใบงานก็จะมีคาให้นักเรียนอ่าน เชน่ สอนเร่อื งการอ่าน เขียนคาประสม สระอี ใบงาน ก็จะมีคาประสมสระ อี ให้นักเรียนอ่าน หากผู้เรียน ยงั ทาได้ไมผ่ ่านก็เขา้ สู่ ขัน้ ต่อไป ใส่ใจ ซอ่ มและเสรมิ นั ก เ รี ย น ท่ี ไ ม่ ผ่ า น ค รู จ ะ เ ข้ า สู่ ก า ร ส อ น ซ่ อ ม โดยผ่านสื่อที่หลากหลาย ตามความสนใจ โดยใช้จิตอาสา พ า น้ อ ง ๆ ห รื อ เ พ่ื อ น ๆ ฝึ ก อ่ า น ค า ต า ม ที่ เ รี ย น ซ่งึ ส่ือเหลา่ น้ันจิตอาสา หรอื ผอู้ ่านเปน็ ผู้เลือกเอง ซึ่งคุณครู ผลิตสื่อท่ีหลากหลายตรงกับเน้ือหา เพ่ือให้ผู้เรียนได้เกิด การเรียนรู้จากสื่อเหล่านั้น เวลาในการฝึกอ่านนักเรียนจะ ใชท้ ้งั ในและนอกเวลาเรียน รวมทงั้ ในหอ้ งและนอกหอ้ ง ซึ่ง ส่วนใหญ่นักเรยี นมคี วามสขุ กับการเรียนรู้ จิตอาสาเองก็ได้ เพิ่มเติมเสริมความรู้ เม่ืออ่านได้แล้วก็จะฝึกเขียนตามคา บอกโดยเพ่ือนๆ พี่ๆจิตอาสาเป็นผู้อ่านคาให้ และก่อน กลับบา้ นนักเรียนก็จะมาอ่านคาเหลา่ นน้ั ให้ครูฟัง ซ่งึ จะทา เชน่ น้ีเป็นประจาจึงทาให้นกั เรยี นสามารถอา่ นและเขียนคา ควบคู่กันไปได้อย่างรวดเร็ว สืบเนื่องมาจากเด็กๆ วัย เดยี วกนั จะคุ้ยเคยกันมากกว่า จึงไม่เครียด และสนุกสนาน เม่ือนักเรียนทาได้ครูก็มอบหมายงานเป็นการบ้านตาม สมควร 94
ชือ่ ผลงาน การสอนแบบ “๕ ส. ๑ช”ผ่านสอ่ื ทหี่ ลากหลาย โดย นางรัชนีกร ไชยสรุ ยิ งค์ ครู โรงเรียนบ้านดอนคา การสอนแบบ “๕ ส. ๑ช”ผา่ นส่ือที่หลากหลาย ชมเชย/ช่นื ชม เมื่อผู้เรียนทางานได้เสร็จ ถูกต้อง สิ่งที่ไม่ควร ลืมคือการชื่นชม ด้วยคาพูด เสียงปรบมือจากเพ่ือนๆ หรือการโชว์ผลงานก็เป็นการช่ืนชมผลงานของตนเอง คาชมเป็นส่ิงท่ีดี และมีผลต่อผู้ฟัง ดังน้ันจึงเป็นการ เสริมแรงที่ดีที่สุด ท่ีผู้เรียนอยากได้ มันเป็นเหมือนเติม พลงั ในการเรยี นรอู้ ย่างดีย่ิง สอ่ื กำรเรยี นกำรสอน กำรวัดและประเมินผล บตั รคา แบบฝกึ ๑. แบบทดสอบ แถบเลื่อนประสมคา ปฏทิ ินคา ๒. การสงั เกต การอ่าน การเขียน ดอกไม้สระ ดอกไมพ้ ยญั ชนะ ๓. สังเกตการตอบคาถาม ๔. สงั เกตจากผลงาน บัตรคาสี หนงั สือเสรมิ การอา่ นตามทฤษฎสี ี แถบไม้บรรทัดคา แถบคาสไลด์ หนังสอื เรยี นมานะมานีฯลฯ ผลสำเร็จ ดา้ นผเู้ รียน ๑ ผ้เู รยี นสามารถอ่านออก เขยี นไดแ้ ละใช้ภาษาไทยในการสอ่ื สารได้ ๒ ผู้เรยี นมีความกระตอื รือร้นในการอา่ น เขียน มากยิ่งขึน้ ๓ ผเู้ รียนมีนิสัยรักการอ่าน ๔ ผู้เรยี นมคี วามสนุกสนานในการเรียนรู้ รา่ เริงแจม่ ใสไม่เครยี ด ๕ ผูเ้ รียนมปี ฏิสมั พันธ์อนั ดีตอ่ ครู พ่ี และเพื่อนๆ 95
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116