Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ใบความรู้ สัปดาห์ที่ 7 วิชาพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม รหัสวิชา สค31003

ใบความรู้ สัปดาห์ที่ 7 วิชาพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม รหัสวิชา สค31003

Published by kungchay17, 2021-11-30 02:35:26

Description: ใบความรู้ สัปดาห์ที่ 7
เรื่อง การพัฒนาชุมชน
วิชาการพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม รหัสวิชา สค31003
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอชานุมาน
สำนักงาน กศน.จังหวัดอำนาจเจริญ

Search

Read the Text Version

1. การศึกษาด้วยตนเอง การศึกษาข้อมูลการจดั ทำแผนยุทธศาสตร์ และแผนอนื่ ๆ ในรูปเอกสาร ออนไลน์ เชน่ หนังสือ วดี ีทัศน์ เวบ็ ไซต์หนว่ ยงานองคก์ ารต่างๆ ทง้ั ในประเทศและตา่ งประเทศ เปน็ ตน้ 2. การศกึ ษาจากผอู้ ื่น การศึกษาจากผู้รแู้ ละผ้อู ่นื ๆ ท่ีมีประสบการณ์ และเพ่ือนร่วมงาน หรือการเข้าฝึกอรม การศกึ ษาต่อ เปน็ ต้น 3. การศึกษาและปรับใชป้ ระโยชน์ การศกึ ษาเพอ่ื นำมาปรับใชป้ ระโยชน์ในงานขององค์การตนเองหรอื งานของตนเอง และการเปรียบประยุกต์ ความเปน็ เลศิ 4. การศึกษาวัฒนธรรมองค์การและความเหมาะสมสายกลาง การศกึ ษาวฒั นธรรมองค์การและความเหมาะสมสายกลางเพ่อื หาจุดสมดุลของการปฏิบตั ิงานและการวางแผน คุณภาพชวี ิตของตนเองในการทำงานและการดำรงชวี ิตแบบพง่ึ ตนเอง ________________________________________________________________________________________________ การจัดทำแผนพฒั นาคุณภาพ เค้าโครง (Outline) 1. ความหมายและความสำคญั ของกสนจดั ทำแผน 2. วธิ ีการจัดทำแผน 3. ตวั อยา่ งของแผนพัฒนา 1. ความหมายและความสำคัญของการจดั ทำแผน 1.1 ความหมายของแผน 1.2 ความสำคัญของการวางแผน 1.3 ประโยชน์ของการจดั ทำแผน 1.4 ความเชื่อมโยงระหว่างแผนกลยุทธ์กบั แผนพฒั นา

1.1 ความหมายของแผน 1. เปน็ การพิจารณาแตล่ ะกำหนดแนวทางปฏบิ ัตงิ าน ให้บรรลุเปา้ หมายทปี่ รารถนาเปรียบเทียบเปน็ สะพานเชื่อมโยงระหวา่ งปจั จุบันและอนาคต เป็นการคาดการณ์ส่งิ ทย่ี ังไมเ่ กิดข้ึน 2. ความหมายท่ีเป็นระบบ (Systematic attempt) เพือ่ ตัดสินใจเลือกแนวทางปฏิบัติท่ีดีทีส่ ดุ สำหรับอนาคต เพื่อใหอ้ งค์การบรรลทุ ่ีปรารถนา 1.2 ความสำคญั ของการวางแผน 1. เปน็ การลดความไมแ่ นน่ อน และปัญหาความย่งุ ยากซับซ้อนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 1.1 มองเหตกุ ารณ์ต่างๆ ในอนาคตที่อาจเกดิ ขนึ้ เชน่ การเปลีย่ นแปลงด้านเทคโนโลยี ปญั หา ความตอ้ งการของประชาชน ในสังคมน้นั ซึง่ สง่ิ เหล่าน้ี อาจสง่ ผลกระทบต่อการบรรลุเป้าหมายขององคก์ าร 1.2 องค์การจงึ จำเปน็ ต้องเตรียมตัว และเผชิญกบั สิ่งที่เกิดขึน้ อนั เน่ืองจากความผนั ผวนของสงิ่ แวดล้อมอันได้แก่สภาพ เศรษฐกิจ สังคม และการเมือง เปน็ ตน้ 2. ทำให้เกิดการยอมรับแนวคิดใหม่ๆ เข้ามาในองคก์ าร ท้งั น้ีเน่ืองจากปัญหา ของการวางแผนยดึ ถือและยอมรบั เรื่องการเปลยี่ นแปลง ไม่มสี งิ่ ใดอยู่อยา่ งนริ ันดร จงึ ทำใหม้ ีการ ยอมรับแนวคดิ เชงิ ระบบ (System approach) เขา้ มาใชใ้ นองค์การยคุ ปจั จบุ นั 3. ทำให้การดำเนินการเปน็ ไปดว้ ยความม่ันคงและมีความเจริญเติบโต 3.1 เป็นหลกั ประกนั การดำเนนิ การเป็นไปด้วยความมัน่ คงและมีความเจรญิ เติบโต 3.2 เปน็ การลดความสญู เปล่า ของหน่วยงานท่ีซบั ซ้อน เพราะการวางแผน ทำใหม้ องเห็นภาพรวมขององคก์ ารทช่ี ดั เจน 3.3 เปน็ การอำนวยประโยชน์ในการ จดั ระเบยี บขององค์การใหม้ ีความเหมาะสมกับลักษณะงานมากยิง่ ขนึ้ 3.4 เปน็ การจำแนกงานแต่ละแผนก ไมไ่ ด้เกิดความซำ้ ซ้อนกัน 4. ทำให้เกิดความแจ่มชัดในการดำเนนิ งาน 4.1 เนอ่ื งจาก การวางแผนเปน็ การกระทำโดยอาศัยทฤษฎี หลักการและงานวจิ ยั ต่างๆ (a rational approach) มาเปน็ ตวั กำหนดจดุ มุง่ หมายและแนวทางปฏบิ ตั ิทช่ี ัดเจนในอนาคตอยา่ งเหมาะสมกับสภาพองค์การที่ดำเนินอยู่ 4.2 กลา่ วโดยสรปุ ไมม่ อี งค์การใดที่ประสบผลสำเร็จได้ โดยปราศจากการวางแผน ดังนั้น การวางแผนจึงเปน็ ภารกจิ อันดับแรกที่มีความสำคัญของกระบวนการจัดการทดี่ ี 1.3 ประโยชนข์ องการจัดทำแผน 1. บรรลุจุดมุ่งหมาย (Attention of Adjectives) 2. ประหยัด (Economical Operation) 3. ลดความไม่แน่นอน (Reduction of Uncertainty) 4. เปน็ เกณฑ์ในการควบคุม (Basis of control)

5. สง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ นวตั กรรมและการสร้างสรรค์ ( Encourages innovation and Creativity) 6. พัฒนาแรงจูงใจ (Improves Motivation) 7. พัฒนาการแขง่ ขนั ( Improves Competitive strength) 8. ทำให้เกดิ การประสานงานที่ดี (Better Coordination) 1.4 ความเช่ือมโยงระหว่างแผนกลยทุ ธ์กับแผนพฒั นาองคก์ าร วิสัยทัศน์ แผนกลยุทธ์ แผนการพฒั นา ตัวช้วี ัด KPI 2. วธิ กี ารจัดทำแผนพัฒนา วิธีการจัดทำแผนพฒั นาและปรับปรุง 1. การกำหนดเป้าหมาย 2. การวิเคราะห์ตนเอง 3. การวเิ คราะห์ปัญหา 4. การจัดทำแผนพฒั นาและกำหนดตัววัด 5. การลงมอื ทำ 6. การประเมินติดตามผล 1. การกำหนดเปา้ หมายในการพัฒนา 1. ขอบเขตหรือประเภทของกิจกรรมทห่ี นว่ ยงานต้องการพัฒนาปรับปรุง ทจี่ ะก่อให้เกดิ การพฒั นาทย่ี ัง่ ยืนและ สอดคล้องกับวิสยั ทัศน์และพันธกิจขององค์การ 2. จุดมงุ่ หมายเพื่อการพฒั นาที่ยง่ั ยืนท่ีดมี ีลกั ษณะ ดังน้ี 1) ต้องระบุถึงขอบเขตหรอื ประเภทของกจิ กรรมทส่ี นับสนนุ และนำไปสพู่ ันธกิจ และบรรลุวสิ ัยทศั นไ์ ด้ อย่างครอบคลมุ รอบดา้ น 2) มคี วามเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ 2. การวิเคราะห์ตนเอง เปน็ การประเมินโดยวิเคราะหถ์ ึงโอกาส และภาวะคุกคามหรือข้อจำกัด อันเป็นสภาวะแวดล้อมภายนอกทม่ี ีผล ตอ่ การพัฒนาด้านต่างๆ ขององค์การ รวมทั้งการวิเคราะห์จดุ แข็ง จุดอ่อนขององค์การ อันเป็นสภาวะแวดลอ้ มภายใน เพอ่ื ใชใ้ นการวางแผนพัฒนาใหม้ ีประสิทธภิ าพสงู สดุ การวเิ คราะห์ SWOT 1) การวิเคราะห์จดุ แข็ง (Strength = S) เป็นการพจิ ารณาปจั จัยภายในหน่วยงานมีส่วนดี ความเข้มแข็ง ความสามารถ ศักยภาพ ส่วนทีส่ ง่ เสรมิ ความสำเร็จ

2) การวิเคราะห์จดุ ออ่ น (Weakness = W) เปน็ การพจิ ารณาปัจจยั ภายในหนว่ ยงานวา่ มีสว่ นเสยี ความอ่อนแอ ขอ้ จำกัด ความไมพ่ ร้อมต่างๆ 3) การวเิ คราะหโ์ อกาส (Opportunity = O) เปน็ การศกึ ษาสภาพแวดล้อมภายนอกว่ามสี ภาพเป็นเช่นไร เหตกุ ารณส์ ถานการณ์ของโลก ของประเทศ ท่ีเกดิ ข้นึ จะสง่ ผลตอ่ องคก์ ารอยา่ งไร มกี ารเปล่ยี นแปลงใดท่เี ป็นประโยชน์ หรอื เปน็ โอกาสอันดตี ่อองค์การ โดยจะต้องพจิ ารณาท้ังดา้ นเศรษฐกจิ สงั คม การเมืองการปกครอง และเทคโนโลยี 4) การวิเคราะห์ปัญหาอุปสรรคหรือข้อจำกดั (Threat = T) เปน็ การศึกษาสภาพแวดล้อมภายนอกที่ เป็นอปุ สรรคหรอื ภาวะคกุ คาม กอ่ ให้เกิดผลเสียหรือเปน็ ข้อจำกัดต่อองค์การ โดยจะต้องพจิ ารณาทั้งดา้ นเศรษฐกจิ สังคม การเมืองการปกครอง และเทคโนโลยี เชน่ เดียวกบั การวิเคราะห์โอกาส 3. การวิเคราะหป์ ัญหา สภาพปญั หาต่างๆ ทเี่ กิดขึน้ ในองคก์ รมีมากมาย แต่คงเป็นการยากท่จี ะ ดำเนนิ การแก้ไขได้ทกุ ด้านเนื่องจากข้อจำกัด ในปัจจัยทางการบรหิ าร เชน่ งบประมาณไมเ่ พยี งพอ บุคลากร มีจำกดั เปน็ ต้น ดงั นั้น การวางแผนพัฒนาจงึ จำเปน็ จะต้อง มกี ารคัดเลือกและ จัดลำดบั ความสำคญั ของปญั หา เพื่อจะทราบวา่ จะดำเนินการแก้ไขปัญหาไหนก่อนหลังในการวางแผน พฒั นาองคก์ ารต่อไป 3.1 ความสำคญั ของการคดั เลอื กและจัดลำดับความสำคัญของปัญหา 1) สงิ่ ทก่ี ำหนดว่าเป็นปญั หาในขน้ั แรกแล้ว อาจไมใ่ ช่ปัญหาท่ีแท้จรงิ หรอื อาจรวมกนั เป็นปญั หาใหม่ที่ให้ ความหมายได้ดีกว่าปัญหาเดิม ปัญหาแตล่ ะปญั หาท่ีได้มามีความสำคญั ไมเ่ ท่ากัน 2) ทรัพยากรในดา้ นต่างๆมจี ำกดั การแก้ไขปัญหาทุกปญั หาในคราวเดยี วกันเป็นไปได้ยาก จึงต้องมีการ เลือกแกป้ ญั หาตามลำดบั ความสำคญั ของปัญหา 3.2 คดั เลือกปญั หา 1) ระดมความเห็นจากข้อมลู จรงิ ต่างๆ เพ่ือพิจารณาทบทวนปัญหาว่าตามสภาพข้อเทจ็ จริงแลว้ เปน็ ปัญหา จริงหรือไม่ โดยวิเคราะหจ์ ากปจั จยั ต่างๆ จากมุมมองของผู้มีสว่ นได้ส่วน บคุ ลากรภายในองค์การ 2) กำหนดประเดน็ ปัญหาให้มีความชดั เจน โดยระบุถึงลักษณะหรือสภาพขอบเขต และสาเหตขุ องปัญหา โดยอาจรวมหลายปญั หาเดิมเขา้ ด้วยกนั เปน็ ปัญหาใหม่ การคัดเลอื กปัญหาจะช่วยใหไ้ ด้ปัญหามลี ักษณะเป็นปญั หาท่แี ท้จริง กอ่ นทจ่ี ะพิจารณา จัดลำดับความสำคัญของปัญหาต่อไป 3.3 จัดลำดับความสำคัญของปญั หา 1) ในการจัดลำดับความสำคัญของปญั หา ต้องมีการกำหนดตัวเกณฑ์เบอ้ื งตน้ เป็นพื้นฐาน แลว้ นำตัวเกณฑ์ นนั้ ๆ มาพิจารณาจัดลำดบั ความสำคัญของปัญหาต่อไป 2) การกำหนดตวั เกณฑ์ หมายถงึ การกำหนดหลักเกณฑส์ ำคญั ที่จะนำมาใช้วดั ตรวจสอบหรอื พิจารณาใน เรื่องน้ันๆ เช่น การจะซอ้ื รถยนต์มาใชส้ ว่ นตวั ประเด็นท่จี ะนำมาพจิ ารณาอาจเป็นความปลอดภัย ความแข็งแรง ราคาถกู รูปลักษณะสวยงาม เป็นต้น

4. จดั ทำแผนพัฒนา เม่ือไดด้ ำเนนิ การกำหนดเป้าหมายในการพฒั นา มีการประเมนิ ตนเองจากการวิเคราะห์ SWOT รวมทั้งได้ มกี ารวเิ คราะห์ประเด็นปญั หาขององค์การแลว้ ต่อไปคือ การกำหนดแผนการดำเนินการ หรอื กำหนด ยุทธศาสตร์ในการพัฒนาปรบั ปรุงองค์การ ซง่ึ ควรเปน็ แนวคิดหรือวธิ ีการทแี่ ยบคายทีท่ ำใหอ้ งค์การกา้ วไปสู่ เป้าหมายทต่ี ้องการในอนาคต องคป์ ระกอบของแผนพัฒนา 1. คณะทรี่ บั ผิดชอบ 2. หวั หนา้ โครงการ 3. ประเดน็ จากการวิเคราะห์องค์กรและปัญหา 4. ผลท่ีคาดวา่ จะไดร้ บั 5. ความสำคัญของแผนนี้กบั การพฒั นาองค์กร 6. คณะทำงาน 7. กระบวนการและข้ันตอน 8. ระยะเวลาการดำเนนิ การโครงการ 9. ตวั ชวี้ ัดความสำเร็จ 10. งบประมาณ และแหลง่ 11. การรายงานผล