Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในประเทศ

หนังสือการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในประเทศ

Published by reuthairat_7430, 2019-12-18 22:45:17

Description: หนังสือการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในประเทศ

Search

Read the Text Version

การบริหารจัดการ ในประเทศไทย

“ชว่ ยกันทำ� ” “... ต่างคนตา่ งมหี น้าท่ี แต่ก็ไมไ่ ดห้ มายความวา่ ทำ� เฉพาะหนา้ ท่ีน้นั เพราะวา่ ถ้าคนใดทำ� หน้าที่เฉพาะตนเอง โดยไม่มองไม่แลคนอืน่ งานกด็ �ำเนนิ ไปไมไ่ ด้ เพราะเหตุวา่ ทกุ งาน จะต้องพาดพงิ เกย่ี วโยงกัน ฉะนั้นแต่ละคน จะต้องมคี วามร้ถู ึงงานของคนอ่นื แล้วช่วยกันทำ� ...” พระราชดำ� รัส พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธเิ บศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วนั ท่ี 5 ธนั วาคม พ.ศ. 2533

สารบัญ บรบิ ทของประเทศไทย หนา้ บทที่ 1 กบั การบริหารจดั การ 3 ทรัพยากรน�้ำ 10 17 บทท่ี 2 เสาหลักที่ 1 แผนแมบ่ ทการบริหาร 25 จดั การทรพั ยากรนำ�้ 20 ป ี 31 36 บทท่ี 3 เสาหลกั ที่ 2 องค์กรบริหารจดั การ ทรพั ยากรน้ำ� บทท่ี 4 เสาหลกั ที่ 3 พ.ร.บ.ทรพั ยากรนำ้� พ.ศ. 2561 บทที่ 5 เสาหลกั ที่ 4 นวตั กรรมและเทคโนโลยี เพื่อใชใ้ นการบริหารจัดการทรัพยากรน้�ำ บทที่ 6 ก้าวต่อไปในบริบทของการบริหาร จดั การน้�ำของประเทศไทย

1บทท่ี บรบิ ทของประเทศไทย กับการบรหิ ารจดั การ ทรัพยากรนำ้� ประเทศไทย นบั วา่ มคี วามอดุ มสมบรู ณไ์ ปดว้ ยทรพั ยากรแหลง่ นำ�้ จำ� นวนมาก ทำ� ให้ วถิ ชี วี ติ ของคนไทยมคี วามผกู พนั กบั สายนำ้� มาอยา่ งยาวนาน ตง้ั แตบ่ รรพบรุ ษุ ทใี่ ชแ้ หลง่ นำ้� เปน็ เสน้ ทางเดนิ ทาง แหลง่ หาอาหาร เรอื่ ยมาจนถงึ ปจั จบุ นั ทรพั ยากรนำ�้ กลบั ยง่ิ มคี วามสำ� คญั ตอ่ วิถีชีวิตของคนไทยมากขึ้น เพราะไม่ใช่แค่ใช้เพ่ืออุปโภคบริโภคอย่างเดียว ยังถูกใช้ในภาค การเกษตร อตุ สาหกรรม ตลอดจนสง่ ผลต่อความมัน่ คงทางเศรษฐกจิ และสังคม ตามมาด้วย

ข้อมูลทางภูมิศาสตร์ของประเทศไทย พื้นท่ีส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้นใกล้เส้นศูนย์สูตร ท�ำให้พ้ืนท่ี จำ� นวนมากของประเทศไดร้ บั อทิ ธพิ ลของลมมรสมุ ทงั้ ลมมรสมุ ตะวนั ตกเฉยี งใต้ และลมมรสมุ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื มีฝนตกชุกตลอดเวลา และมีปริมาณน้�ำไว้ใช้เพื่ออุปโภคบริโภคและประกอบอาชีพได้อย่างเพียงพอ โดยทว่ั ประเทศไทยมแี หลง่ นำ้� กระจายอยจู่ ำ� นวนมาก ทง้ั ขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเลก็ ซง่ึ สามารถแบง่ ออก ไดเ้ ป็น 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทของแหลง่ น�้ำ แหล่งน�ำ้ จากน�ำ้ ฝน แหลง่ น้�ำทา่ ตามธรรมชาติ แหล่งน�้ำบาดาล ไ ท ย มี พื้ น ที่ เ ป ็ น แ ห ล ่ ง น้� ำ ฝ น (Natural Flow) ไทยมีแอ่งน้�ำบาดาลท่ัวประเทศ ทั่วประเทศ 22 ลุ่มน�้ำหลัก พ้ืนท่ี ทง้ั หมด 27 แอง่ มปี รมิ าณการกกั เกบ็ ประมาณ 514,008 ตารางกโิ ลเมตร ซึ่งเป็นปริมาณน�้ำบนผิวดินท่ีเกิด ในชัน้ น้ำ� บาดาลรวม 1.13 ลา้ นล้าน หรือ 321.2 ล้านไร่ และมีปริมาณ จากฝน โดยหักลบการซึมลงใต้ดิน ลูกบาศก์เมตร และมีน้�ำบาดาลที่มี ฝนตกรายปเี ฉล่ียทว่ั ประเทศ 1,455 และการระเหยออก มีปริมาณรวม ศักยภาพพัฒนาขึ้นมาใช้ได้รวมปีละ มิลลิเมตร มีความผันแปรตามพื้นที่ ทว่ั ประเทศ285,227ลา้ นลกู บาศกเ์ มตร 45,385 ล้านลูกบาศก์เมตร ระหวา่ ง 900 - 4,000 มลิ ลเิ มตรตอ่ ปี เปน็ ปรมิ าณนำ้� ทา่ ไหลออกนอกลมุ่ นำ้� ซง่ึ ถือว่ามปี รมิ าณน�้ำฝนในเกณฑส์ ูง ที่เหลือจากการเก็บกักและการใช้ ประโยชน์แล้ว (Runoff) จ�ำนวน 224,024 ลา้ นลกู บาศกเ์ มตร คดิ เปน็ ร้อยละ 79 ของน้�ำท่าธรรมชาติ โ ด ย ลุ ่ ม น้� ำ ท่ี มี ป ริ ม า ณ น้� ำ ท ่ า สู ง ได้แก่ ลุ่มน�้ำโขง ขณะที่ลุ่มน�้ำท่ีมี ปริมาณน�้ำท่าน้อยท่ีสุด ได้แก่ ลุ่ม แมน่ �้ำสะแกกรงั วัง และโตนเลสาบ ขณะที่สถานการณ์ความต้องการใช้น�้ำของประเทศไทย ยังคงพบว่ามีปริมาณสูงข้ึนอย่างต่อเน่ือง ตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจและจ�ำนวนประชากรของประเทศ โดยข้อมูลล่าสุดเม่ือปี 2558 พบว่าประเทศ มีความต้องการใช้น้�ำทั้งประเทศรวมกว่า 147,749 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยสามารถแบ่งความต้องการใช้น�้ำ ไดเ้ ป็น 4 ประเภท ไดแ้ ก่ 4 การบรหิ ารจัดการทรพั ยากรนา้ํ ในประเทศไทย

ความต้องการใชน้ ำ�้ ในประเทศไทย 1 การใชน้ �้ำเพื่อการเกษตร ถอื วา่ เปน็ กลุ่มทม่ี ีความตอ้ งการใช้นำ้� สูงสุดสดั ส่วนร้อยละ 75 ของปรมิ าณการใช้นำ�้ ท้ังหมด แบ่งเป็นการใช้น้�ำในเขตพ้ืนท่ีชลประทาน 32.75 ล้านไร่ มีการจัดสรรน้�ำ ให้พื้นที่เฉล่ียปีละ 65,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนการใช้น�้ำในพื้นที่ นอกเขตชลประทาน มีท้ังสิ้น 117 ล้านไร่ ซึ่งเป็นการใช้น้�ำฝน โดยตรงผสมกับน้�ำบาดาลและน้�ำท่า มีความต้องการใช้น้�ำเฉล่ียปีละ 48,961 ลา้ นลกู บาศก์เมตร 2 การใช้น�้ำเพือ่ อุปโภคบริโภคและการท่องเท่ยี ว มคี วามต้องการใชน้ �ำ้ ปีละ 4,783 ล้านลกู บาศก์เมตร และคาดวา่ ในอนาคตปี 2580 ความตอ้ งการนำ้� จะเพม่ิ เปน็ ปลี ะ 5,991 ลา้ น ลกู บาศกเ์ มตร ตามการขยายตวั ภาคบรกิ ารและการทอ่ งเทยี่ วของประเทศ โดยเฉพาะตามเมอื งหลกั ในภมู ภิ าค ในจงั หวดั เชยี งใหม่ จังหวัดอุดรธานี จังหวัดสงขลา และแหล่งท่องเท่ียวส�ำคัญท่ีมี ชอื่ เสียงติดระดบั โลก เช่น กรงุ เทพมหานคร ชายฝง่ั ทะเลอนั ดามัน และเกาะสมุย รวมถึงการเติบโตตามแหล่งท่องเท่ียวในเมืองรอง บรเิ วณชายฝง่ั ทะเลตะวนั ตก จงั หวดั เพชรบรุ ี จงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ และจังหวัดชุมพร ภาคเหนือ จังหวัดเชียงราย จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในจังหวัดอุดรธานี จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดมุกดาหาร ภาคกลาง ในจังหวัด นครสวรรค์ จงั หวัดชลบรุ ี จงั หวดั ระยอง และ ภาคใต้ ในจงั หวดั สุราษฎรธ์ านี จังหวดั สงขลา และจังหวดั ภูเก็ต 3 การใช้น้ำ� เพอ่ื อุตสาหกรรม 4 การใช้น�้ำเพ่อื รักษาระบบนิเวศ มีความต้องการใช้ปีละ 1,913 ล้านลูกบาศก์เมตร มปี รมิ าณความตอ้ งการนำ�้ เพอื่ การรกั ษาระบบนเิ วศในฤดแู ลง้ โดยคาดการณ์ความต้องการใช้น�้ำในอนาคตปี 2580 รวมทง้ั ประเทศปลี ะมากกว่า 27,090 ลา้ นลกู บาศกเ์ มตร จะเพิ่มเป็นปีละ 3,488 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยเฉพาะ ในพื้นที่หลักท่ีมีโรงงานและนิคมอุตสาหกรรมจ�ำนวนมาก เช่น ในกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงพ้ืนท่ี ในภาคตะวนั ออกซง่ึ เปน็ พน้ื ทอี่ ตุ สาหกรรมหลกั ของประเทศ บริบทของประเทศไทยกบั การบรหิ ารจดั การทรัพยากรนาํ้ 5

เห็นได้ว่าด้วยการขยายตัวทางเศรษฐกิจ จากการศึกษาสถิติย้อนหลังในรอบ 40 ปี สังคมที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และปรับเปลี่ยนจาก (พ.ศ. 2510 - 2550) พบวา่ ไทยเคยประสบปญั หาภยั แลง้ สังคมเกษตรกรรมไปสู่สังคมอุตสาหกรรม ท�ำให้ หรือการขาดแคลนนำ�้ มากถงึ 12 ครั้ง ซึ่งแต่ละคร้ัง ประเทศไทยมคี วามตอ้ งการใชน้ ำ�้ เพม่ิ ขน้ึ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง ก่อให้เกิดผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกรและ ประกอบกับการที่ประเทศไทยและประเทศอ่ืน ความเสียหายทางเศรษฐกิจของประเทศมหาศาล ท่ัวโลกได้รับผลกระทบจากภาวะการเปลี่ยนแปลง ท้ังทางด้านเกษตรกรรม และอุตสาหกรรม ทางสภาพภูมิอากาศ และปัญหาโลกร้อน ก็ท�ำให้ ทส่ี ำ� คญั ยงั พบวา่ มพี น้ื ทป่ี ระสบปญั หาแหง้ แลง้ ซำ�้ ซาก ปริมาณน�้ำฝนทีต่ กเกิดความไมแ่ น่นอน บางปเี ยอะ จนน�้ำท่วม บางปีน้อยจนเกิดภัยแล้ง กลายเป็น ความเสี่ยงในการใช้ทรัพยากรน้�ำของประเทศ เช่น ภาคการเกษตรสามารถเข้าถึงแหล่งน�้ำชลประทาน ไดเ้ พยี ง 102,140 ลา้ นลกู บาศกเ์ มตร และมเี กษตรกร ที่อยู่นอกเขตชลประทาน และต้องการใช้น�้ำอีก ประมาณ 48,961 ลา้ นลูกบาศกเ์ มตร นอกจากน้ียังพบปัจจัยเสี่ยงอีกมากมายที่ เพม่ิ ขนึ้ โดยเฉพาะพน้ื ทเี่ สยี่ งภยั ในระดบั รนุ แรง และ กระทบต่อการบริหารจัดการน�้ำ ไม่ว่าจะเป็นปัญหา ระดบั ปานกลาง ซง่ึ มพี น้ื ทรี่ วมกนั มากถงึ 26.8 ลา้ นไร่ จากภยั ธรรมชาติ หรอื จากการกระทำ� ของมนษุ ย์ เชน่ อกี ทงั้ ยงั พบการขาดแคลนนำ�้ เพอ่ื การอปุ โภคบรโิ ภค การบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน�้ำและแหล่งน�้ำสาธารณะ ถึง 7,490 หมู่บ้าน มีหมู่บ้านที่ไม่มีระบบประปา การเพม่ิ ขนึ้ ของประชากรและขยายตวั ของชมุ ชนเมอื ง 256 หมู่บ้าน และระบบประปาช�ำรุดและขาด การพฒั นาพน้ื ทเ่ี ศรษฐกจิ การขยายตวั ดา้ นอตุ สาหกรรม ประสทิ ธภิ าพอีก 14,534 หมูบ่ ้าน การท่องเที่ยวพิเศษ การปลูกพืชท่ีไม่เหมาะสมกับ สภาพดนิ และนำ�้ การสรา้ งสงิ่ กดี ขวางทางนำ�้ การปลอ่ ย มลพิษลงสู่แม่น�้ำล�ำคลอง การขาดแหล่งเก็บกัก นำ้� ตน้ ทนุ ทเ่ี พยี งพอซงึ่ กอ่ ใหเ้ กดิ ผลเสยี ตอ่ ทรพั ยากรนำ้� ท้ังเชิงคุณภาพและปรมิ าณ 6 การบรหิ ารจดั การทรพั ยากรน้าํ ในประเทศไทย

ไม่ใช่แค่ปัญหาภัยแล้งเท่านั้น ประเทศไทย โดยมีน�้ำเสยี ชมุ ชนเกิดข้ึนมากทีส่ ุด กรงุ เทพมหานคร กเ็ คยประสบปญั หานำ้� ทว่ มใหญใ่ นหลายครงั้ เชน่ กนั มีน้�ำเสยี 2 ลา้ นลูกบาศกเ์ มตรตอ่ วัน โดยข้อมูล 30 ปีย้อนหลังไปพบว่า ไทยเคยเกิด ไม่เพียงแค่นั้น แหล่งน้�ำจืดของไทยยัง นำ�้ ท่วมใหญถ่ งึ 13 คร้งั สร้างความเสยี หายต่อชวี ิต ประสบปัญหาการรุกล�้ำของน้�ำเค็ม ทั้งในตอนล่าง ทรัพย์สิน และเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก ของแมน่ ้ำ� เจ้าพระยา ทา่ จนี บางปะกง และแมก่ ลอง เช่น การเกดิ มหาอุทกภยั คร้งั ใหญ่ปี 2554 ได้สร้าง ตลอดจนปัญหาคุณภาพน้�ำบาดาล ซ่ึงมีปริมาณ ความเสียหายทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่าถึง 1.44 ล้านล้านบาท รวมถึงยังพบพื้นที่ที่ถูกน�้ำท่วมขัง ซ้�ำซากในระดับปานกลางและระดับสูง รวมทั้งส้ิน 10 ล้านไร่ รวมถึงมีพ้ืนที่เส่ียงต่อดินโคลนถล่ม อกี กวา่ 6,042 หมบู่ า้ น นอกจากนี้ไทยยังพบปัญหาเชิงคุณภาพใน สารละลายในน้�ำบาดาลสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานน้�ำดื่ม น้�ำผิวดิน โดยพบว่าคุณภาพน�้ำอยู่ในเกณฑ์ดีเพียง ในหลายพ้ืนที่ของจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดล�ำพูน ร้อยละ 29 พอใช้รอ้ ยละ 49 และเสอื่ มโทรมรอ้ ยละ จังหวัดแพร่ จังหวัดล�ำปาง และจังหวัดกาญจนบุรี 22 ของแหลง่ น�้ำหลักทวั่ ประเทศ อกี ทง้ั ยงั นา่ เปน็ ห่วง รวมถงึ พบแรเ่ หลก็ และฟลอู อไรดส์ งู กวา่ เกณฑม์ าตรฐาน เพราะในชว่ ง 10 ปที ผ่ี า่ นมา ไทยมแี นวโนม้ ประสบปญั หา จนไม่เหมาะส�ำหรับการอุปโภคบริโภค และใช้ท�ำ แหลง่ นำ้� ขาดคณุ ภาพมากขน้ึ ตอ่ เนอื่ ง โดยมแี หลง่ นำ้� ดี เกษตรกรรม นอ้ ยลง สวนทางกบั แหลง่ นำ�้ เสอื่ มโทรมทเ่ี พมิ่ ขนึ้ ซง่ึ มี ปัญหาด้านทรัพยากรน้�ำที่เกิดขึ้นมาอย่าง สาเหตจุ ากการระบายนำ้� เสยี ของชมุ ชนทม่ี ปี รมิ าณสงู ยาวนานทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ได้กลายเป็น ถึง 10.3 ลา้ นลกู บาศก์เมตรตอ่ วัน แต่มีระบบบำ� บัด ปัญหาส�ำคัญระดับชาติท่ีส่งผลกระทบต่อสภาพ น้�ำเสียรองรับได้เพียงร้อยละ 31 ของน้�ำเสียท้ังหมด ความเป็นอยู่ของประชาชน รวมถึงความม่ันคงทาง เศรษฐกิจ สังคม และประเทศตามมา ซึ่งท่ีผ่านมา แมร้ ฐั บาลหลายยคุ หลายสมยั มคี วามตงั้ ใจในการแกไ้ ข ปัญหาด้านน้�ำอย่างจริงจัง แต่ด้วยการท่ีประเทศไทย มีหน่วยงานเก่ียวข้องกับบริหารจัดการทรัพยากรน�้ำ กระจดั กระจายมากถงึ 48 หนว่ ยงาน กอ่ ใหเ้ กดิ ปญั หา ความทบั ซ้อนในเชิงโครงสรา้ ง บทบาทหน้าท่ี การใช้ งบประมาณ และขาดความเป็นเอกภาพ เพราะไม่มี หนว่ ยงานหลกั เข้ามาดแู ลบรหิ ารจดั การในภาพรวม บรบิ ทของประเทศไทยกับการบริหารจัดการทรพั ยากรน้าํ 7

จนกระทั่งรัฐบาลภายใต้การบริหาร พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายในการปฏิรูปการแก้ปัญหาด้านน้�ำอย่างจริงจัง โดยก�ำหนดเป้าหมายในการบริหารจัดการน�้ำออกเป็น 4 เสาหลัก เพื่อใช้ก�ำหนดทิศทางในการด�ำเนินงานปรับปรุงโครงสร้างบริหารน้�ำ ให้เกดิ ประโยชน์ และเปน็ รปู ธรรมอยา่ งเรง่ ดว่ น ประกอบดว้ ย เสาหลกั ที่ 1 เสาหลักที่ 2 แผนแม่บท การจดั ตงั้ องคก์ รกลาง การบรหิ ารจัดการทรพั ยากรน้ำ� 20 ปี เพอ่ื บรหิ ารจดั การทรพั ยากรนำ้� (พ.ศ. 2561 - 2580) คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบ เพื่อท�ำหน้าที่บูรณาการความร่วมมือ ไปเม่ือวันที่ 18 มิถุนายน 2562 โดยมี ของหนว่ ยงานดา้ นนำ�้ ทมี่ อี ยกู่ วา่ 48 หนว่ ยงาน รายละเอียดยุทธศาสตร์ เป้าหมาย และ ใน 7 กระทรวงเข้าด้วยกัน พร้อมทั้งมีหน้าท่ี แผนด�ำเนินงาน 6 ด้าน และหน่วยงานหลัก ในการก�ำหนดนโยบาย แผนปฏิบัติงาน รอง สนบั สนุนที่รบั ผดิ ชอบ ประกอบดว้ ย งบประมาณ โครงการต่างๆ ตั้งแต่ระดับชาติ 1.  การจัดการนำ�้ อปุ โภคบรโิ ภค จนถงึ ระดบั ลมุ่ นำ้� ประกอบดว้ ย คณะกรรมการ 2. การสรา้ งความมนั่ คงของนำ้� ทรัพยากรน�้ำแห่งชาติ (กนช.) ซ่ึงมีนายก รฐั มนตรเี ปน็ ประธานทม่ี สี ำ� นกั งานทรพั ยากรนำ้� ภาคการผลติ นำ้� เพ่ือการเกษตร แห่งชาติ (สทนช.) เป็นเลขานุการ รวมถึง และอุตสาหกรรม คณะกรรมการลมุ่ นำ�้ อกี 22คณะทมี่ ีสทนช.ภาค 3.  การจัดการน้�ำท่วมและอุทกภัย เปน็ เลขานกุ าร 4. การจดั การคณุ ภาพน�ำ้ และ อนุรกั ษ์ทรัพยากรน้ำ� 5. การอนุรักษ์ฟื้นฟูสภาพป่าต้นน้�ำ ท่ีเสื่อมโทรมและการปอ้ งกนั การพังทลายของดิน 6.  การบรหิ ารจดั การ 8 การบริหารจัดการทรัพยากรนํา้ ในประเทศไทย

เสาหลกั ที่ 3 เสาหลักท่ี 4 ดา้ นกฎหมาย นวตั กรรม สง่ เสรมิ การพฒั นาองคค์ วามรู้ พระราชบญั ญตั ทิ รพั ยากรนำ้� พ.ศ.2561 นวตั กรรม เทคโนโลยี ผลงานวชิ าการ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2562 มาใชข้ บั เคลอื่ นแผนแมบ่ ททรพั ยากรนำ้� ถือเป็นกฎหมายหลักที่เป็นศูนย์กลางของ การก�ำหนดหน้าที่และอ�ำนาจขอบเขตใน การพัฒนาระบบบริหารจัดการ การบรหิ ารจดั การนำ�้ และกำ� หนดใหม้ กี ารจดั ทำ� ทรพั ยากรนำ�้ ใหท้ นั สมยั ดว้ ยการทำ� ใหก้ ารเขา้ ถงึ กฎหมายรองอนื่ ๆ ตามมา โดยในระยะแรก ข้อมูลน�ำมาใช้งานในการวิเคราะห์ วางแผน กำ� หนดใหอ้ อกกฎหมายรองใหเ้ สรจ็ สนิ้ ภายใน ได้สะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และท�ำให้ 90 วนั นบั จากกฎหมายแมม่ ผี ลบงั คบั ใช้ ไดแ้ ก่ การตัดสินใจแก้ปัญหารับมือสถานการณ์น้�ำ การตราพระราชกฤษฎีกาก�ำหนดลุม่ นำ้� และ ต่างๆ ได้แม่นย�ำขน้ึ ออกกฎกระทรวง ระเบยี บและประกาศตา่ งๆ รวม 19 มาตรา จำ� นวน 22 ฉบบั สว่ นระยะ ทสี่ อง กำ� หนดใหอ้ อกกฎหมายรองใหเ้ สรจ็ สนิ้ ภายใน 2 ปี อกี จ�ำนวน 9 มาตรา รวม 9 ฉบับ รวมถึงหมวด 4 การจัดสรรน้�ำและการใช้น�้ำ แ ล ะ ก ฎ ห ม า ย ว ่ า ด ้ ว ย ก า ร ยื่ น ค� ำ ข อ รั บ ใบอนุญาตการใชน้ ้�ำ (มาตรา 104) 4 เสาหลกั ในการบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนำ้� ถอื เปน็ กญุ แจสำ� คญั ในการขบั เคลอ่ื นการบรหิ าร จัดการทรัพยากรน�้ำของประเทศให้มีประสิทธิภาพ และช่วยสร้างความเป็นเอกภาพในการบริหาร จัดการ นำ� พาความมนั่ คงทางทรัพยากรนำ�้ ใหก้ ับประเทศตอ่ ไป บรบิ ทของประเทศไทยกบั การบริหารจดั การทรัพยากรน้ํา 9

2บทท่ี เสาหลักที่ 1 แผนแม่บท การบรหิ ารจัดการ ทรพั ยากรน้�ำ 20 ปี แผนแมบ่ ทการบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนำ้� 20ปี(พ.ศ.2561-2580)นบั วา่ มคี วามสำ� คญั อยา่ งยงิ่ และเปรยี บไดเ้ ปน็ เสาหลกั ของการปฏริ ปู การบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนำ้� ครง้ั ใหญข่ องประเทศ โดยใชเ้ ปน็ เครอื่ งมอื ทชี่ ว่ ยกำ� หนดกรอบการทำ� งาน ขอบเขต และแนวทาง ในการขบั เคลอ่ื นบรหิ ารจดั ทรพั ยากรนำ�้ ใหเ้ ดนิ หนา้ ไปไดอ้ ยา่ งมแี บบแผน มปี ระสทิ ธภิ าพ และ เกดิ ความต่อเน่ืองในระยะยาวตามแผนยุทธศาสตรช์ าติ

ท่ีผ่านมาแม้ประเทศไทยได้มีการจัดท�ำ ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน�ำ้ ระยะ 12 ปี (พ.ศ. 2558 - 2569) ไว้แล้ว แตเ่ นื่องจาก แผนยุทธศาสตร์เดิมที่ใช้เมื่อปี 2558 ยังมีการ กำ� หนดเปา้ หมายและตวั ชวี้ ดั ในยทุ ธศาสตรบ์ างสว่ น ท่ีไม่สามารถตอบสนองกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580)และแผนปฏริ ปู ประเทศ11ดา้ น ไดค้ รบถว้ นสมบรู ณ์ ดว้ ยเหตนุ ้ี รฐั บาลจงึ ไดท้ บทวน จัดท�ำแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้�ำ ขึ้นใหม่ ใหเ้ ปน็ แผนระยะยาว 20 ปี เพือ่ ใช้เป็นกรอบและแนวทาง ในการพฒั นาแก้ไขปัญหาทรัพยากรนำ้� ของประเทศ และดูแลผลกระทบ ต่อประชาชน ตามแนวทางการพัฒนาประเทศในยุทธศาสตร์ชาติ ในด้านเศรษฐกิจ และสังคม รวมถึงให้มี การพฒั นาการบรหิ ารจดั การนำ้� เชงิ ลมุ่ นำ้� ทง้ั ระบบ เพอ่ื เพมิ่ ความมน่ั คงดา้ นนำ�้ ของประเทศ อกี ทงั้ ใหส้ ามารถจดั ให้ มนี ำ�้ สะอาดใชท้ กุ ครวั เรอื นของชมุ ชนชนบท ตลอดจนการเพมิ่ ผลติ ภาพของนำ�้ โดยการจดั หานำ้� และใชน้ ำ�้ อยา่ ง ประหยดั รูค้ ณุ ค่า ตลอดจนให้สามารถจัดระบบการจัดการภัยพบิ ัติจากน้�ำ ลดความสูญเสีย ลดความเสย่ี ง และ เพิ่มประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารจัดการ การจัดท�ำแผนแม่บทการบริหารจัดการ ทรัพยากรน้ำ� ฉบบั ใหม่ คณะกรรมการทรพั ยากรน้ำ� แห่งชาติ (กนช.) ได้มีการแตง่ ตง้ั คณะอนกุ รรมการ ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้�ำข้ึนมา ปรบั ปรงุ แผนแมบ่ ทการบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนำ้� โดยเฉพาะ พรอ้ มกบั วางกรอบแนวคดิ การดำ� เนนิ งาน ใหย้ ดึ แนวทางตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และยทุ ธศาสตรช์ าตริ ะยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) ในยทุ ธศาสตรท์ ี่ 5 ดา้ นการสรา้ งการเตบิ โตบนคณุ ภาพ ชวี ติ ทเี่ ปน็ มติ รตอ่ สงิ่ แวดลอ้ ม รวมถงึ ยดึ หลกั การสรา้ ง ความสมดลุ ระหวา่ งการอนรุ กั ษ์ ฟื้นฟูและการพฒั นา แหล่งน�ำ้ รวมถงึ การใช้ประโยชนท์ รพั ยากรนำ้� เสาหลกั ที่ 1 แผนแม่บทการบรหิ ารจัดการทรัพยากรนํ้า 20 ปี 11

นอกจากนไ้ี ดม้ กี ารนำ� ประเดน็ ยทุ ธศาสตรท์ งั้ 6 ดา้ นทม่ี อี ยใู่ นยทุ ธศาสตรก์ ารบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนำ�้ ระยะ 12 ปีมาปรับปรุงใหม่ โดยเพิ่มเติมกลยุทธ์ที่น�ำไปสู่การจัดท�ำแผนปฏิบัติการที่ครอบคลุมมากขึ้นทำ� ให้ สามารถตอบสนองตอ่ ยทุ ธศาสตรช์ าติ 20 ปใี หด้ ยี งิ่ ขน้ึ เชน่ การพฒั นานำ้� ดมื่ ใหไ้ ดม้ าตรฐานและราคาทเ่ี หมาะสม การเพ่ิมผลิตภาพการใช้น�้ำ (Productivity) การเพ่ิมประสิทธิภาพการระบายน�้ำ การบรรเทาอุทกภัยระดับ ลมุ่ น�้ำ การฟ้นื ฟูแม่น้ำ� ลำ� คลอง การปอ้ งกนั และลดการชะลา้ งพังทลายของดนิ ในพืน้ ที่ป่าตน้ น้ำ� และการทำ� ผงั การใชป้ ระโยชนล์ มุ่ นำ้� เป็นตน้ และได้น�ำเสนอคณะรฐั มนตรพี จิ ารณาใหค้ วามเหน็ ชอบเมอื่ วนั ท่ี 18 มถิ นุ ายน 2562 โดยได้เผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษาเม่ือวันท่ี 18 กันยายน 2562 มีสาระส�ำคัญภายในแผนแม่บทการบริหาร จัดการทรพั ยากรน�้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) ประกอบไปด้วย 6 ดา้ น ดังนี้ 1ด้านที่ การจดั การน�้ำอปุ โภค บริโภค วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อจัดหาน�้ำสะอาดเพ่ือการอุปโภคบริโภคให้แก่ชุมชน ครบทุก หมู่บ้านหรือทุกครัวเรือน ชุมชนเมือง แหล่งท่องเที่ยวส�ำคัญ และพ้ืนที่ เศรษฐกิจพิเศษ รวมทั้งการจัดหาแหล่งน�้ำส�ำรองในพ้ืนท่ีซึ่งขาดแคลน แหล่งน้�ำต้นทุน พัฒนาน�้ำดื่มให้ได้มาตรฐาน ในราคาท่ีเหมาะสม และ การประหยดั นำ�้ โดยลดการใชน้ ้�ำภาคครัวเรือน ภาคบริการ และภาคราชการ เปา้ หมาย แนวทางขับเคลอื่ น วางเป้าหมายในการพัฒนา ขยายเขต และ ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานประสาน เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพระบบประปาหมบู่ า้ น 14,534 หมบู่ า้ น และขับเคลื่อน และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถ่ิน โดยแบง่ เปน็ ภาคเหนอื 3,817 หมบู่ า้ น ภาคกลาง 2,233 และกรมทรัพยากรน้�ำเป็นหน่วยงานปฏิบัติหลัก หมู่บ้าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4,687 หมู่บ้าน ในการก�ำหนดมาตรฐาน จัดท�ำรูปแบบมาตรฐาน ภาคตะวันออก 1,061 หมูบ่ ้าน ภาคใต้ 2,736 หมู่บา้ น สนับสนุนท้องถิ่นในการส�ำรวจ ออกแบบ และจัดท�ำ พฒั นาระบบประปาเมอื ง/พนื้ ทเ่ี ศรษฐกจิ 388 เมือง / โครงการน�ำร่อง พร้อมท้ังการถ่ายทอดเทคโนโลยีและ จัดหาแหล่งน�้ำส�ำรอง 346 ล้าน ลบ.ม. พัฒนาน้�ำดื่ม เพิ่มขีดความสามารถให้ท้องถ่ินด�ำเนินการได้เองต่อไป ให้ได้มาตรฐานและราคาท่ีเหมาะสม ให้ทุกหมู่บ้าน โดย สทนช. จะท�ำหน้าที่ในการจัดสรรทรัพยากรน้�ำ มนี ำ�้ ดม่ื สะอาดไดม้ าตรฐานภายในปี 2573 ลดการใชน้ ำ้� ในแตล่ ะภาคสว่ นอย่างสมดุลและเปน็ ธรรม ในภาคครวั เรอื น ภาคบริการ และภาคราชการ ไมเ่ กิน 215 ลติ ร/คน/วนั 12 การบรหิ ารจดั การทรัพยากรน้าํ ในประเทศไทย

2ดา้ นที่ การสร้างความมั่นคงของน�ำ้ ภาคการผลติ วตั ถปุ ระสงค์ เพอ่ื พฒั นาและปรบั ปรงุ แหลง่ เกบ็ กกั นำ�้ และระบบสง่ นำ�้ ใหมใ่ หเ้ ตม็ ศกั ยภาพ พร้อมท้ังการจัดหาน้�ำในพื้นที่เกษตรน�้ำฝน เพื่อขยายโอกาสจากศักยภาพโครงการ ขนาดเล็กและลดความเสี่ยงในพื้นท่ีไม่มีศักยภาพ ลดความเส่ียงความเสียหายลง รอ้ ยละ 50 รวมถงึ การเพม่ิ ผลติ ภาพและปรบั โครงสรา้ งการใชน้ ำ้� โดยด�ำเนินการร่วมกับยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความ สามารถในการแขง่ ขนั และดา้ นการสรา้ งโอกาสและความเสมอภาค ทางสังคมเพอ่ื ยกระดับผลติ ภาพดา้ นนำ้� ท้ังระบบ เป้าหมาย แนวทางขบั เคลือ่ น วางเปา้ หมายในการชว่ ยประหยดั นำ้� ภาคเกษตรและอตุ สาหกรรม ไดใ้ หส้ ำ� นกั งานทรพั ยากรนำ้� 182 ลา้ น ลบ.ม. เพิม่ ประสิทธิภาพโครงการแหลง่ น้�ำและระบบสง่ น�้ำเดิม แห่งชาติ (สทนช.) เป็นหน่วย 6,356 ล้าน ลบ.ม. จัดหาน�้ำในพื้นที่เกษตรน้�ำฝนกระจายท่ัวประเทศ ประสานและขับเคลื่อนร่วมกับ ปรมิ าณนำ�้ 13,860 ลา้ น ลบ.ม. พนื้ ทรี่ บั ประโยชน์ 18 ลา้ นไร่ พฒั นาแหลง่ หน่วยงานปฏิบัติในการพัฒนา เกบ็ กกั นำ้� /ระบบสง่ นำ�้ ใหม่ ปรมิ าณนำ้� 13,439 ลา้ น ลบ.ม. พน้ื ทร่ี บั ประโยชน์ แหลง่ น�ำ้ ในทกุ ขนาด ทกุ ประเภท 18 ลา้ นไร่ พฒั นาระบบผนั นำ�้ และระบบเชอื่ มโยงแหลง่ นำ�้ 2,596 ลา้ น ลบ.ม. โดยเฉพาะในพ้ืนท่ีเสี่ยงภัยแล้ง การเพม่ิ ผลติ ภาพมลู คา่ ภาคการผลติ โดยการสง่ เสรมิ ดา้ นการเกษตร พนั ธพ์ุ ชื กา ร จัด กา ร ใ นพื้นท่ีพิเ ศษท่ี และการปลูกพืชให้มีผลิตภาพสูงมากข้ึน 6,210 ไร่ และเพิ่มน้�ำต้นทุน ต้องวางแผนเชิงบูรณาการท้ัง โดยการปฏบิ ตั กิ ารฝนหลวง โดยมแี ผนแนวทางบรู ณาการขบั เคลอื่ นการจดั หา อุทกภัยและภัยแล้ง การใช้ น�้ำในพื้นที่เกษตรน้�ำฝน ก�ำหนดเป้าหมายแก้ไขได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 เทคโนโลยีเพ่ือช่วยประหยัดน�้ำ ของหมบู่ า้ นทเี่ สย่ี งภยั แลง้ อกี ทง้ั การจดั การแกไ้ ขปญั หานำ้� ใน66พนื้ ทเ่ี ปา้ หมาย ในภาคอุตสาหกรรม การเพ่ิม ท่ีต้องวางแผนเชิงบรู ณาการทง้ั อุทกภัยและภัยแล้งอย่างเปน็ ระบบ ผลิตภาพการใช้น�้ำและการปรับ โครงสร้างการใช้น้�ำภาคเกษตร และอุตสาหกรรม การจัดหาน้�ำ ใ น ทุ ก มิ ติ เ พื่ อ ส นั บ ส นุ น พื้ น ท่ี ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เสาหลกั ที่ 1 แผนแมบ่ ทการบริหารจดั การทรพั ยากรนํ้า 20 ปี 13

3ด้านท่ี การจัดการน้�ำท่วมและอุทกภัย วตั ถปุ ระสงค์ เพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน�้ำ การจัดระบบป้องกันน�้ำท่วมชุมชนเมือง การจัดการ พน้ื ทนี่ ำ�้ ทว่ มและพนื้ ทช่ี ะลอนำ�้ การลดปญั หาสง่ิ กดี ขวางทางนำ้� รวมทง้ั การบรรเทาอทุ กภยั ในเชงิ พน้ื ท่ี อย่างเป็นระบบ ในระดับลุ่มน้�ำและพ้ืนท่ีวิกฤต ลุ่มน�้ำขนาดใหญ่ ลุ่มน�้ำสาขา/ลดความเส่ียงและ ความรนุ แรง เป้าหมาย แนวทางขับเคลอื่ น ปรับปรุงล�ำน�้ำธรรมชาติ 6,271 กม. และ การปรับปรุงส่ิงกีดขวางทางน�้ำ 562 แห่ง รวมถึง มีการป้องกันน�้ำท่วมชุมชนเมือง 764 เมือง พ้ืนท่ี ไดร้ บั การปอ้ งกนั 1.7 ลา้ นไร่ ควบคกู่ บั จดั ทำ� ผงั ลมุ่ นำ้� ทกุ ลำ� นำ้� สายหลกั การจดั การพน้ื ทนี่ ำ้� ทว่ ม/พน้ื ทชี่ ะลอนำ�้ ลดปริมาณน�้ำหลากได้สูงสุด 4,612 ล้าน ลบ.ม. ลดพื้นที่อุทกภัย 13 ล้านไร่ การบรรเทาอุทกภัย เชิงพ้ืนที่อย่างเป็นระบบ ระดับลุ่มน้�ำและพื้นที่วิกฤต ไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ 60 และการสนับสนนุ ปรบั ตัวและ เผชญิ เหตุ ไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 75 ของพ้นื ทป่ี ระสบภยั สทนช. จะขับเคลื่อนบูรณาการแผนงาน การแก้ไขปัญหาน�้ำท่วมในพื้นที่วิกฤตอย่างเป็นระบบ โดยมอบหมายใหก้ ระทรวงมหาดไทย กรมโยธาธกิ ารและ ผงั เมอื ง เปน็ หนว่ ยงานหลกั ในการวางแผนท้ังน�้ำท่วม จากน้�ำหลากและการระบายน�้ำฝน โดยเฉพาะ ในกรุงเทพฯ และหวั เมืองใหญ่ ตลอดจนการปรบั ปรงุ เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการระบายนำ�้ รวมทง้ั เรง่ รดั การจดั ทำ� ผงั ลมุ่ นำ�้ ตาม พ.ร.บ.ทรัพยากรนำ้� มาตรา 23 (5) 14 การบริหารจัดการทรัพยากรนาํ้ ในประเทศไทย

4ดา้ นท่ี การจดั การคณุ ภาพนำ�้ และอนรุ กั ษท์ รพั ยากรนำ้� วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อพัฒนาและเพ่ิมประสิทธิภาพระบบรวบรวมและระบบบ�ำบัดน�้ำเสีย รวมของชุมชน การน�ำน้�ำเสียกลับมาใช้ใหม่ ป้องกันและลดการเกิดน้�ำเสียต้นทาง การควบคมุ ปรมิ าณการไหลของนำ�้ เพอ่ื รกั ษาระบบนเิ วศพรอ้ มทง้ั พนื้ ฟแู มน่ ำ�้ ลำ� คลองและ แหลง่ นำ้� ธรรมชาตทิ ม่ี คี วามสำ� คญั ในทกุ มติ ิ เพอื่ การอนรุ กั ษ์ ฟน้ื ฟแู ละใชป้ ระโยชน์ ทว่ั ประเทศ เปา้ หมาย แนวทางขบั เคลือ่ น เพื่อป้องกันและลดการเกิดน้�ำเสียที่ต้นทาง กระทรวงมหาดไทย และ กระทรวงทรพั ยากร ในชุมชนเมืองท่ีเกิดใหม่ สามารถพัฒนาและเพิ่ม ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ขับเคลื่อน แผนงาน ประสทิ ธภิ าพระบบบำ� บดั นำ�้ เสยี 741แหง่ และนำ� นาํ้ เสยี การเพ่ิมประสิทธิภาพ และควบคมุ การระบายน้�ำเสยี กลับมาใช้ใหม่ 132 ล้าน ลบ.ม./ปี การรักษาสมดุล ออกสสู่ ง่ิ แวดลอ้ ม สทนช. จะทำ� หนา้ ทใ่ี นการบรู ณาการ ของระบบนิเวศ โดยการจัดท�ำแผนการจัดสรรน�้ำ การอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งต้นน้�ำล�ำธารและพ้ืนท่ีชุ่มน้�ำ ในลุ่มน�้ำหลัก 13 ลุ่มน้�ำ และการอนุรักษ์และฟื้นฟู ท่ีสมควรสงวนไว้ เพ่ือการอนุรักษ์ทรัพยากรน�้ำ แม่น�้ำล�ำคลองและแหล่งน้�ำธรรมชาติท่ัวประเทศ สาธารณะ ตลอดจนการอนุรักษ์ฟื้นฟูแม่น�้ำ คูคลอง ทุกลุ่มน�้ำ/ล�ำน�้ำ/แหล่งน้�ำธรรมชาติที่พื้นท่ีมากกว่า แหลง่ นำ�้ ธรรมชาตขิ นาดใหญ่ โดยระยะแรกจะมงุ่ เนน้ 1,000 ไร่ แมน่ ำ้� ทไี่ หลผา่ นชมุ ชนเมอื ง เชน่ คลองเปรมประชากร คลองลาดพรา้ ว คลองแสนแสบ เป็นต้น 5ดา้ นที่ การอนรุ ักษ์ฟนื้ ฟูสภาพปา่ ตน้ น�ำ้ ท่เี ส่อื มโทรม และปอ้ งกนั การพงั ทลายของดิน วตั ถปุ ระสงค์ เพ่ือการอนรุ ักษ์ ฟื้นฟู พื้นทีป่ ่าตน้ น�ำ้ ทเ่ี ส่อื มโทรม การป้องกัน และลดการชะล้างพงั ทลายของดนิ ในพื้นทีต่ ้นนำ้� และพื้นที่ลาดชัน เปา้ หมาย แนวทางขบั เคลอ่ื น อนรุ กั ษฟ์ น้ื ฟพู นื้ ทป่ี า่ ตน้ นำ้� มีแนวทางการขับเคลื่อน การฟื้นฟูป่าต้นน้�ำโดยมอบให้กระทรวง ท่ีเสื่อมโทรม 3.52 ล้านไร่ ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมเป็นหน่วยงานประสานและขับเคล่ือน โ ด ย เ ฉ พ า ะ พ้ื น ที่ ภ า ค เ ห นื อ โดยด�ำเนินการควบคู่กันไป เริ่มจากก�ำหนดขอบเขตการใช้ประโยชน์ ตะวันออกเฉียงเหนือ และใต้ เปน็ เขตอนรุ กั ษ์ เขตปา่ ไมก้ นั ชน และการใชป้ ระโยชนท์ ดี่ นิ ทเี่ หมาะสมในพน้ื ที่ แ ล ะ ก า ร ป ้ อ ง กั น แ ล ะ ล ด ก า ร ลมุ่ นำ�้ ชนั้ 1และ2ทไ่ี ดร้ บั การผอ่ นผนั ตามมตคิ ณะรฐั มนตร ี โดยจะดำ� เนนิ การ ชะล้างพังทลายของดินในพ้ืนที่ ก�ำหนดพ้นื ทเี่ ปา้ หมายทีม่ ีผลกระทบดา้ นทรัพยากรน�ำ้ รนุ แรง ไดแ้ ก่ ลุ่มน้�ำ ตน้ นำ�้ 21.45 ลา้ นไร่ ภาคเหนือและภาคใต้ ในระยะแรกก่อน รวมถึงมีการผลักดันให้พิจารณา ด�ำเนินการทั้งทางกลยุทธ์และการปรับระบบการปลูกพืชควบคู่กันไปเพื่อ ลดการชะลา้ งพงั ทลายของดิน เสาหลกั ที่ 1 แผนแมบ่ ทการบริหารจดั การทรัพยากรนา้ํ  20 ปี 15

6ด้านที่ การบรหิ ารจัดการ วตั ถปุ ระสงค์ เป้าหมาย ก�ำหนดให้จัดต้ังองค์กรดา้ นการบรหิ ารจดั การ สำ� นกั งานทรพั ยากรนำ�้ แหง่ ชาตจิ ะขบั เคลอื่ น ทรพั ยากรนำ้� ไดแ้ ก่ คณะกรรมการทรพั ยากรนำ�้ แหง่ ชาติ การด�ำเนินการให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติ (กนช.) คณะกรรมการลมุ่ นำ้� พรอ้ มกบั ปรบั ปรงุ กฎหมาย ทรพั ยากรน�ำ้ พ.ศ. 2561 และแผนแมบ่ ทการบรหิ าร ใหท้ นั สมยั เพอ่ื พฒั นาระบบฐานขอ้ มลู คลงั ขอ้ มลู นำ�้ ชาติ จัดการทรัพยากรน้�ำ 20 ปี อันประกอบด้วย จัดท�ำ ตลอดจนสนับสนุนองค์กรลุ่มน�้ำ การแลกเปล่ียน ปรับปรุง ทบทวน กฎหมาย ระเบียบข้อบังคับด้าน ข้อมูลระหว่างภาครัฐและเอกชน การบริหารจัดการ ทรัพยากรน้�ำ การส่งเสริมพัฒนาองค์กร การบริหาร ระบบชลประทาน พร้อมท้งั พฒั นางานวิจยั นวัตกรรม จัดการทรัพยากรน้�ำในระดับชาติ / ระดับลุ่มน้�ำ และเทคโนโลยีเพ่ือสนับสนุนการสร้างมูลค่าเพิ่ม ให้เป็นกลไกพัฒนา ความร่วมมือระหว่างประเทศ ในภาคการบรกิ ารและการผลติ รวมถึงพัฒนารปู แบบ ดา้ นทรพั ยากรนำ�้ การจดั ทำ� แผนแมบ่ ท / แผนปฏบิ ตั กิ าร เพ่ือยกระดับการจัดการน้�ำในพ้ืนท่ีและลุ่มน้�ำ ระดับลุ่มน�้ำ รวมท้ังการจัดท�ำ แผนบริหารน้�ำ ท้ังดา้ นการตลาด พลังงาน การผลติ และของเสีย ในสภาวะวิกฤตทุกลุ่มน้�ำ ตลอดจนติดตามและ ประเมินผล ทั้งแผนงานภายใต้แผนแม่บท และ การด�ำเนินงานของหนว่ ยงาน การด�ำเนินงานแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน�้ำ 20 ปี ทั้ง 6 ด้านน้ี ได้มีการก�ำหนดแผน ระยะสั้น ในเวลา 5 ปีแรก (ปี 2561 - 2565) จะตอ้ งแกไ้ ขปัญหาทีส่ ำ� คญั ไดอ้ ยา่ งเปน็ รูปธรรม รวมถงึ สามารถ พฒั นาการจัดการน�้ำเชงิ ลมุ่ น้ำ� ท้ังระบบ เพือ่ เพิม่ ความมน่ั คงดา้ นน้ำ� ของประเทศ ให้มนี ้�ำสะอาดใช้ทกุ ครัวเรือน ทง้ั ในชนบททหี่ า่ งไกล ตลอดจนตอ้ งเพมิ่ ผลติ ภาพของนำ้� ทง้ั ระบบ โดยการจดั หานำ�้ และใชน้ ำ�้ อยา่ งประหยดั และ มกี ารจดั ทำ� ระบบการจดั การภยั พบิ ตั จิ ากนำ�้ ใหส้ ามารถลดความสญู เสยี ลดความเสยี่ งจากภยั พบิ ตั ทิ เ่ี กดิ จากนำ�้ ตาม หลกั วชิ าการ อกี ทงั้ ยงั ตอ้ งทำ� ใหก้ ารจดั หาและใชน้ ำ�้ เกดิ ความสมดลุ ทนั สมยั ทนั เหตกุ ารณ์ สรา้ งความเปน็ ธรรม ตลอดจนสามารถใช้มาตรการทั้งทางโครงสร้าง กฎระเบยี บ องคก์ รการจดั การ การจดั การข้อมลู การเตือนภยั การวจิ ัยและพฒั นานวัตกรรม ให้สามารถขับเคลอ่ื นงานภายใตแ้ ผนแมบ่ ทดา้ นนำ้� และงานตามพระราชบัญญตั ิ ทรัพยากรนำ้� ไดอ้ ยา่ งยงั่ ยนื 16 การบรหิ ารจดั การทรัพยากรนํ้าในประเทศไทย

3บทที่ เสาหลกั ที่ 2 องคก์ รการบรหิ ารจดั การ ทรพั ยากรน�้ำ องค์กรบริหารจัดการทรัพยากรน้�ำ ถือเป็นหนึ่งในหัวใจส�ำคัญท่ีช่วยให้ การปฏริ ปู ระบบการบรหิ ารจดั การนำ�้ ของประเทศ สามารถเหน็ ผลในเชงิ ปฏบิ ตั ไิ ดอ้ ยา่ งรวดเรว็ เนื่องจากในอดีตการบริหารจัดการทรัพยากรน�้ำของไทย ได้มีการกระจายอ�ำนาจหน้าที่ ในการดแู ลมากกวา่ 48 หนว่ ยงาน ทำ� ใหไ้ มม่ คี วามเปน็ เอกภาพ ขาดการเชอื่ มโยงการบรหิ ารงาน ร่วมกัน จนเกิดความซ้�ำซ้อน ส้ินเปลืองงบประมาณ และท�ำให้แก้ไขปัญหาเก่ียวกับ ดา้ นนำ�้ ของประเทศเป็นไปอยา่ งแยกสว่ น ต่างคนตา่ งทำ�

ส�ำนักงานทรัพยากรน้�ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ถูกตั้งขึ้นตามค�ำส่ังหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ท่ี 46/2560 เรอื่ ง การจดั ตง้ั สำ� นกั งานบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนำ้� แหง่ ชาติ ลงวนั ท่ี 25 ตลุ าคม 2560 เพอื่ ทำ� หนา้ ที่ หน่วยงานกลางในการบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน�้ำของท้ังประเทศและเป็นฝ่ายบูรณาการข้อมูล สารสนเทศ ฝา่ ยแผนงาน โครงการ ฝ่ายงบประมาณบรหิ ารจดั การ และฝ่ายติดตามและประเมนิ ผลการบริหาร จดั การทรัพยากรน�้ำ เพอ่ื ประโยชนใ์ นการก�ำหนดนโยบายการบรหิ ารจัดการทรพั ยากรน�้ำทั้งระบบ และตอ่ มา ไดม้ คี ำ� สงั่ หวั หนา้ คณะรกั ษาความสงบแหง่ ชาติ ท่ี 2/2561 เรอื่ ง การจดั สรรภารกจิ และบคุ คลากรของสำ� นกั งาน ทรัพยากรน�้ำแห่งชาติ ลงวันที่ 22 มกราคม 2561 ให้เปลี่ยนช่ือจากส�ำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้�ำ แห่งชาติ เป็น “ส�ำนกั งานทรพั ยากรน้ำ� แหง่ ชาต”ิ “สทนช. มหี น้าท่ีเสมอื นเสนาธกิ ารน้ำ� ในการศึกษาวเิ คราะห์สถานการณน์ ้�ำ เพ่ือเสนอแนะไปสูก่ ารจัดท�ำนโยบาย รวมถงึ จดั ท�ำข้อเสนอเก่ยี วกบั การบริหารทรพั ยากรน้ำ� และกรอบงบประมาณของประเทศ แบบบูรณาการ เพอ่ื เสนอให้คณะกรรมการทรัพยากรนำ้� แห่งชาติ (กนช.) เหน็ ชอบ ตลอดจนติดตามประเมินผลการบรหิ ารจัดการทรัพยากรน้�ำ ตามนโยบาย แผนยทุ ธศาสตร์ แผนแม่บท และการบรู ณาการข้อมลู สารสนเทศ ทรพั ยากรน�้ำทั้งในประเทศและระหวา่ งประเทศ เพอื่ ประเมนิ ความต้องการในการใช้น้�ำสนองตอบต่อความตอ้ งการ ไดอ้ ยา่ งเพียงพอ” 18 การบริหารจัดการทรัพยากรนํ้าในประเทศไทย

บทบาทหนา้ ทขี่ อง สทนช. สทนช. ในขวบปที ี่ 2 ในฐานะหน่วยงานกลาง ในการบรหิ ารจัดการทรัพยากรน้�ำทงั้ ระบบ ทำ� หนา้ ท่ี Policy advisor เปน็ ฝา่ ยเลขานกุ ารคณะกรรมการทรพั ยากรนำ�้ แหง่ ชาติ (กนช.) และมี สทนช.ภาค ท�ำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการ เสนอแนะนโยบายการบริหารจัดการทรัพยากรน้�ำ คณะกรรมการลมุ่ นำ้� ตามทกี่ ำ� หนดไวใ้ นพระราชบญั ญตั ิ แผนแม่บทนำ�้ และแผนปฏิบตั กิ ารต่างๆ ทรพั ยากรนำ�้ พ.ศ. 2561 ซงึ่ คณะกรรมการทงั้ ระดบั ชาติ และระดับลุ่มน้ำ� ยังคงเป็นชุดเดมิ (ตามบทเฉพาะกาล Regulator มาตรา 100 และมาตรา 101 แห่งพระราชบัญญัติ ทรัพยากรน�้ำ พ.ศ. 2561) เนื่องจากในระหว่างที่ ก�ำกบั ดูแล ออกกฏระเบียบ มาตรการตา่ งๆ และ ยังไม่ได้มีการตราพระราชกฤษฎีกาก�ำหนดลุ่มน้�ำ ตดิ ตามประเมินผล ตามมาตรา 25 ให้คณะกรรมการลุ่มน้�ำตามระเบียบ ส�ำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารทรัพยากรน้�ำ Facililator แห่งชาติ พ.ศ. 2550 และท่ีแก้ไขเพิ่มเติมซ่ึงด�ำรง ต�ำแหน่งอยู่ก่อนวันท่ีพระราชกฤษฎีกาก�ำหนด อำ� นวยการขบั เคลอ่ื นโครงการสำ� คญั ลุ่มน�้ำตามมาตรา 25 ใช้บังคับยังคงปฏิบัติหน้าท่ี คณะกรรมการลมุ่ น้�ำเดิมท่รี ับผดิ ชอบไปพลางก่อน Operator ปฏบิ ตั กิ ารในภาวะกอ่ นและขณะเกดิ วกิ ฤต การบรหิ าร จัดการข้อมูล การประชุม อบรมแผนบริหาร การจัดการน้ำ� โดยเฉพาะภาวะเสีย่ งภยั และในระหว่างทยี่ ังไมไ่ ด้มีการคดั เลือกผู้แทนคณะกรรมการลมุ่ น้�ำตามมาตรา 9 (4) และยงั มิได้ แต่งต้ังกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา 9 (5) ให้คณะกรรมการทรัพยากรน้�ำแห่งชาติตามค�ำสั่ง สำ� นักนายกรัฐมนตรี ที่ 24/2561 เรอื่ ง แต่งตั้งคณะกรรมการทรพั ยากรน�้ำแห่งชาติ ลงวนั ที่ 29 มกราคม 2561 ปฏิบัติหน้าท่ีคณะกรรมการทรัพยากรน�้ำแห่งชาติตามพระราชบัญญัติน้ีไปพลางก่อนจนกว่าจะมี การคัดเลือกกรรมการผู้แทนคณะกรรมการลุ่มน้�ำและแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซ่ึงปัจจุบัน สทนช. อยู่ในระหว่างการจัดท�ำกฎหมายล�ำดับรองในส่วนท่ีเก่ียวข้องเพ่ือให้ได้มา ซ่ึงคณะกรรมการลุ่มน�้ำและ กนช. ตามกฎหมาย เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ของกฎหมายในการประกันสิทธิข้ันพ้ืนฐานของประชาชนในการเข้าถึง ทรัพยากรน้�ำสาธารณะ และจัดให้มีองค์การบริหารจัดการทรัพยากรน�้ำ ท้งั ในระดบั ชาติ ระดบั ล่มุ นำ�้ และระดบั องคก์ รผู้ใช้นำ้� ดงั น้ี เสาหลกั ท่ี 2 องค์กรการบริหารจัดการทรพั ยากรนาํ้ 19

1 องค์กรบรหิ ารจดั การทรัพยากรนำ้� ในระดบั ชาติ ตาม พ.ร.บ.ทรพั ยากรนำ้� มาตรา 9 กำ� หนดใหม้ คี ณะกรรมการทรพั ยากรนำ้� แหง่ ชาติ (กนช.) ประกอบดว้ ย (1)นายกรฐั มนตรีเปน็ ประธานกรรมการ(2)รองนายกรฐั มนตรีทนี่ ายกรฐั มนตรมี อบหมายเปน็ รองประธานคณะกรรมการ (3) กรรมการโดยตำ� แหนง่ ไดแ้ ก่ รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงคมนาคม รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงพลงั งาน รฐั มนตรวี า่ การ กระทรวงมหาดไทย รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงอตุ สาหกรรม เลขาธกิ ารคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกจิ และสงั คม แหง่ ชาติ เลขาธกิ ารคณะกรรมการพเิ ศษเพอ่ื ประสานงานโครงการอนั เนอื่ งมาจากพระราชดำ� ริ และผอู้ ำ� นวยการ สำ� นกั งบประมาณ (4) กรรมการผแู้ ทนคณะกรรมการลมุ่ นำ�้ จำ� นวน 6 คน (5) กรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิ จำ� นวน 4 คน คณะกรรมการทรพั ยากรนำ้� แหง่ ชาติ (กนช.) มบี ทบาทหนา้ ทแี่ ละอำ�นาจตามกฎหมาย ประกอบดว้ ย 1 จ ัดท�ำนโยบายและแผนแม่บท 2 พิจารณาและให้ความเห็นชอบแผนปฏิบัติการของ เกย่ี วกบั การบรหิ ารทรพั ยากรนำ้� หนว่ ยงานของรฐั และองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ทเ่ี กยี่ วกบั ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ทรพั ยากรนำ้� และแผนงบประมาณการบรหิ ารทรพั ยากรนำ�้ เ พ่ื อ เ ส น อ ค ณ ะ รั ฐ ม น ต รี ใ ห ้ แบบบรู ณาการใหส้ อดคลอ้ งกบั นโยบายและแผนแมบ่ ทตาม (1) ความรับผดิ ชอบ และเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาในการจัดท�ำ งบประมาณประจ�ำปี 3 พิจารณาและให้ความเห็นชอบ 4 กำ� กบั ดแู ล เรง่ รดั ตรวจสอบ ตดิ ตาม 5 พ ิจารณาและให้ความเห็นชอบ แผนแม่บทการใช้ การพัฒนา และให้ค�ำแนะน�ำแก่หน่วยงานของ ผงั นำ�้ ทสี่ ำ� นกั งานเสนอ และประกาศ การบรหิ ารจดั การ การบำ� รงุ รกั ษา รัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำ� หนดผงั นำ�้ ในราชกจิ จานเุ บกษา การฟื้นฟู และการอนุรักษ์ ในการดำ� เนนิ การตามนโยบาย และ ทรัพยากรน้�ำในเขตลุ่มน�้ำต่างๆ แผนแม่บทตาม (1) รวมท้ังแผน ตามทค่ี ณะกรรมการลมุ่ น�ำ้ เสนอ ปฏิบัติการและงบประมาณตาม (2) ตามมาตรา 35 (1) และรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบ ทุกสน้ิ ปีงบประมาณ 6 เสนอแนะหรือมอบหมายแนวทางแก่หน่วยงานของรัฐ 7 เสนอคณะรฐั มนตรพี จิ ารณาแกไ้ ขปญั หาจากการปฏบิ ตั งิ าน และองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ในการบงั คบั ใชก้ ฎหมาย ของหนว่ ยงานของรฐั และองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ตา่ งๆ ที่เกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรน้�ำให้มีคุณภาพ และ ซง่ึ ปฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย กฎ หรอื ระเบยี บของแตล่ ะหนว่ ยงาน การจัดการมลพิษทางน้�ำท่ีอยู่ในหน้าที่และอ�ำนาจของ ในส่วนท่ีเกี่ยวข้องกับการใช้ การพัฒนา การบริหาร หนว่ ยงานของรัฐหรอื องคก์ รปกครองส่วนท้องถนิ่ น้นั จดั การการบำ� รงุ รกั ษา การฟน้ื ฟูและการอนรุ กั ษท์ รพั ยากรนำ้� เพอ่ื ใหเ้ กดิ การบรู ณาการและการมสี ว่ นรว่ มของประชาชน 20 การบรหิ ารจดั การทรัพยากรนํา้ ในประเทศไทย

8 ก �ำหนดหน่วยงานของรัฐและ 9 ก�ำหนดกรอบ หลักเกณฑ์ และแนวทางการปฏิบัติ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ ของคณะกรรมการลุ่มน�้ำ และล�ำดับความส�ำคัญ มีหน้าที่ต้องให้ความร่วมมือต่อ ของการใช้น�้ำส�ำหรับกิจกรรมประเภทต่างๆ เพื่อให้ ส�ำนักงานในการรวบรวมข้อมูล คณะกรรมการลมุ่ นำ้� นำ� ไปพจิ ารณาในการจดั สรรนำ�้ เชอื่ มตอ่ ขอ้ มลู และบรู ณาการดา้ น และควบคุมการใช้น�้ำในแต่ละลุม่ น�้ำ ทรพั ยากรน�ำ้ 10 พ ิจารณาและให้ความเห็นชอบแผนการป้องกันและแก้ไขภาวะน�้ำแล้ง และ แผนป้องกันและแก้ไขภาวะน�้ำท่วมของคณะกรรมการลุ่มน้�ำต่างๆ เพ่ือ บูรณาการการป้องกนั และแก้ไขภาวะน้�ำท่วมระหวา่ งลมุ่ น�ำ้ 11 พ ิจารณาและให้ความเห็นชอบ 12 พ ิจารณาและให้ความเห็นชอบ 13 ไกล่เกล่ียและช้ีขาดข้อพิพาท การอนญุ าตการใชน้ ำ�้ ประเภททส่ี าม การผนั นำ้� ระหวา่ งลมุ่ นำ�้ และการผนั นำ้� ระหวา่ งคณะกรรมการลุ่มนำ้� ตามมาตรา 44 และการเพิกถอน จากแหล่งน้�ำระหว่างประเทศ หรือ ใบอนุญาตการใช้น้�ำประเภทที่สาม แหล่งน้�ำต่างประเทศ ตามมาตรา 45 14 เสนอแนะเกยี่ วกบั การตรา 15 เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี หน่วยงานของรัฐ และองค์กร การออกหรือการแก้ไข ปกครองส่วนท้องถ่ินท่ีเกี่ยวข้องให้มีมาตรากฎหมายหรือแก้ไข เพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกา เพมิ่ เตมิ กฎหมาย กฎ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั หรอื ขอ้ บญั ญตั ทิ อ้ งถน่ิ ห รื อ ก ฎ ก ร ะ ท ร ว ง ต า ม ท่เี กย่ี วขอ้ งกบั การบริหารทรัพยากรน�้ำ พระราชบัญญัตนิ ้ี 16 อ อกระเบยี บกำ� หนดมาตรการในการสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ 17 ป ฏิบัติการอ่ืนใดตามที่ก�ำหนด ใหภ้ าคเอกชน ประชาชน และชุมชนท่ีเกีย่ วขอ้ งมีส่วนรว่ ม ใ น พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ น้ี ห รื อ ท่ี ในดา้ นการใช้ การพฒั นา การบรหิ ารจดั การ การบำ� รงุ รกั ษา กฎหมายอ่ืนก�ำหนดให้เป็น การฟื้นฟู การอนุรักษ์ และการด�ำเนินการอื่นใดเกี่ยวกับ หนา้ ทแี่ ละอำ� นาจของกนช.หรอื ทรพั ยากรน้�ำ ตามทคี่ ณะรัฐมนตรมี อบหมาย ตามมาตรา 20 กฎหมายกำ� หนดการแตง่ ตงั้ คณะอนกุ รรมการภายใตค้ ณะกรรมการทรพั ยากรนำ�้ แหง่ ชาติ อย่างน้อยต้องมีคณะอนุกรรมการด้านพัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรน้�ำ ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้�ำ และดา้ นเทคนิควิชาการ และในกรณจี ำ� เปน็ ให้ กนช. มีอ�ำนาจแตง่ ตั้งคณะอนกุ รรมการทรพั ยากรนำ้� จังหวัดเพื่อ ประโยชน์ในการบรู ณาการการบรหิ ารทรัพยากรน้ำ� ในระดับจงั หวดั เสาหลักที่ 2 องค์กรการบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนํ้า 21

2 องคก์ รบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนำ้� ในระดบั ลมุ่ นำ้� มาตรา 27 แหง่ พ.ร.บ.ทรพั ยากรน�ำ้ กำ� หนดใหม้ ีคณะกรรมการลมุ่ น้ำ� ประจำ� ล่มุ นำ�้ โดยมอี งคป์ ระกอบ มาจากทัง้ ผแู้ ทนหนว่ ยงานภาครฐั ทเี่ กย่ี วขอ้ งในพน้ื ที่ และผ้แู ทนภาคประชาชนในลมุ่ น�้ำนั้น ประกอบดว้ ย 1 กรรมการลุ่มน�ำ้ โดยตำ�แหน่ง กฎหมายก�ำหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในเขตลุ่มน�้ำน้ันทุกจังหวัดเป็นกรรมการและให้เลือกกันเองเพื่อเป็นประธาน กรรมการลุ่มน�้ำ และมีผู้แทนหน่วยงานราชการท่ีมีบทบาทส�ำคัญในการบริหารจัดการทรัพยากรน้�ำ ได้แก่ ผู้แทน กรมควบคมุ มลพษิ ผแู้ ทนกรมเจา้ ทา่ ผแู้ ทนกรมชลประทาน ผแู้ ทนกรมทรพั ยากรนำ�้ ผแู้ ทนกรมทรพั ยากรนำ้� บาดาล ผแู้ ทน กรมที่ดิน ผู้แทนกรมประมง ผู้แทนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้แทนกรมป่าไม้ ผแู้ ทนกรมพฒั นาทดี่ นิ ผแู้ ทนกรมโยธาธกิ ารและผงั เมอื ง ผแู้ ทนกรมสง่ เสรมิ การปกครองทอ้ งถน่ิ ผ้แู ทนกรมอุทยานแหง่ ชาติ สัตวป์ า่ และพนั ธ์ุพชื และหากลุ่มนำ�้ ใดมพี น้ื ที่ติดต่อกบั ชายแดน กฎหมายก�ำหนดให้มีผู้แทนกระทรวงกลาโหมเข้าร่วมเป็นกรรมการลุ่มน�้ำ หรือลุ่มน้�ำใด มพี ื้นทต่ี ิดตอ่ กบั ชายฝ่ังทะเล กฎหมายกำ� หนดให้มผี ้แู ทนกรมทรพั ยากรทางทะเลและชายฝงั่ รว่ มเปน็ กรรมการ และหากลมุ่ นำ�้ ใดอยใู่ นพน้ื ทจ่ี งั หวดั นราธวิ าส จงั หวดั ปตั ตานี และจงั หวดั ยะลา ให้มีผ้แู ทนศูนย์อำ� นวยการบรหิ ารจัดการจงั วดั ชายแดนภาคใต้ร่วมเปน็ กรรมการ 2 กรรมการลมุ่ นำ้� ผแู้ ทนองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ เป็นผ้บู รหิ ารองค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ ในเขตลมุ่ น้ำ� นน้ั จงั หวัดละ 1 คน และหาก ลมุ่ นำ�้ ใดอยใู่ นพนื้ ทขี่ ององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ รปู แบบพเิ ศษ ใหผ้ บู้ รหิ ารองคก์ ร ปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ รปู แบบพเิ ศษนนั้ เปน็ กรรมการลมุ่ นำ้� ดว้ ย ซงึ่ หมายความวา่ ลมุ่ นำ�้ ชายฝง่ั ทะเลตะวนั ออก จะมนี ายกเมอื งพทั ยารว่ มเปน็ กรรมการ และลมุ่ นำ้� เจา้ พระยา จะมผี ้วู ่าราชการกรุงเทพมหานครรว่ มเปน็ กรรมการล่มุ น�ำ้ 3 กรรมการลุม่ นำ้� ผแู้ ทน 4 กรรมการลมุ่ นำ�้ ผทู้ รงคณุ วฒุ ิ จำ�นวน 4 คน องคก์ รผใู้ ช้นำ้� ในเขตลมุ่ น้�ำ ทม่ี าจากภาคเกษตรกรรม ภาคอตุ สาหกรรม องคป์ ระกอบดงั กลา่ วขา้ งตน้ สะทอ้ นการมสี ว่ นรว่ มของประชาชนตง้ั แตร่ ะดบั และภาคพาณิชยกรรมภาคละ 3 คน ผู้ใช้น้�ำ ท่ีสามารถรวมตัวกันจดทะเบียนเป็นองค์กรผู้ใช้น�้ำเพื่อส่งตัวแทน เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการลุ่มน้�ำจากภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม และภาคพาณิชยกรรม เพ่ือบริหารทรัพยากรน�้ำในลุ่มน�้ำและอาจได้รับ การคดั เลอื กเปน็ ผแู้ ทนกรรมการลมุ่ นำ�้ ในคณะกรรมการทรพั ยากรนำ้� แหง่ ชาติ ไดต้ ามทีก่ ฎหมายบญั ญตั ติ อ่ ไป 22 การบริหารจัดการทรพั ยากรน้ําในประเทศไทย

คณะกรรมการลมุ่ นำ�้  มบี ทบาทหนา้ ทแี่ ละอำ�นาจตามกฎหมาย ประกอบดว้ ย 1 การจัดท�ำแผนแม่บทการใช้ 2 การจัดท�ำแผนป้องกันและแก้ไข การพัฒนา การบริหารจัดการ ภาวะน�้ำแล้ง และแผนป้องกันและ การบ�ำรุงรักษา การฟื้นฟูและ แกไ้ ขภาวะนำ�้ ท่วม การอนุรักษ์ทรัพยากรน�้ำในเขต ล่มุ น้ำ� นน้ั 3 พิจารณาปริมาณการใช้น้�ำ การจัดสรรน�้ำ และ 4 ก �ำหนดหลักเกณฑ์และระเบียบการใช้ จดั ลำ� ดบั ความสำ� คญั ในการใชน้ ำ�้ ในเขตลมุ่ นำ�้ และ การพฒั นา การบรหิ ารจดั การ การบำ� รงุ รกั ษา ควบคุมการใชน้ �้ำ การฟนื้ ฟู และการอนรุ ักษ์ทรพั ยากรน้�ำ 5 ให้ความเห็นชอบการอนุญาต 7 เสนอความเห็นตอ่ กนช. เกี่ยวกบั การใช้น้�ำประเภทท่ีสองและ แผนงานและโครงการใน การเพิกถอนใบอนญุ าต การด�ำเนินการใดๆ เกี่ยวกับ ทรัพยากรน้�ำ 6 การพิจารณาและเสนอความเห็น ต่อการผนั น�้ำข้ามลมุ่ น�้ำตอ่ กนช. 8 รับเรื่องร้องทุกข์ ไกล่เกล่ีย และ 10 ส่งเสริมและรณรงค์การสร้าง ชี้ขาดขอ้ พิพาทระหว่างผู้ใชน้ ้ำ� จิตส�ำนึกแก่ประชาชนในการใช้ การพัฒนา การบริหารจัดการ การบ�ำรุงรักษา การฟื้นฟู และ การอนรุ ักษ์ 9 ประสานงานกับหน่วยงานของรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ที่เก่ียวข้องในการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้ การพัฒนา การบรหิ ารจดั การ การบำ� รงุ รกั ษา การฟน้ื ฟู และการอนรุ กั ษท์ รพั ยากรนำ�้ และกฎหมายเกย่ี วกับมลพิษทางน้ำ� ในเขตล่มุ นำ้� เสาหลกั ท่ี 2 องค์กรการบรหิ ารจัดการทรพั ยากรนา้ํ 23

3 ทิศทางการขบั เคลื่อนการบริหารจดั การทรัพยากรน้ำ� จากระดบั นโยบายลงสู่พื้นทีล่ ุ่มน�้ำ ตามพระราชบัญญัตทิ รพั ยากรน้ำ� พ.ศ. 2561 และแผนแม่บทการบรหิ ารจัดการทรพั ยากรนำ้� 20 ปี จากหน้าท่ีและอ�ำนาจที่ได้ก�ำหนดไว้ตาม คณะกรรมการลุ่มน้�ำในยุคใหม่จะมีหน้าที่ พระราชบญั ญตั ทิ รพั ยากรนำ�้ พ.ศ. 2561นบั เปน็ มติ ใิ หม่ และอ�ำนาจในการจัดล�ำดับความส�ำคัญการใช้น�้ำ ในการดำ� เนนิ งานขององคก์ ารบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนำ�้ และการจัดสรรน้�ำโดยให้ความเห็นชอบการอนุญาต ท่ี จ ะ มี บ ท บ า ท ห ลั ก ใ น เ ร่ื อ ง ข อ ง ก า ร จั ด ท� ำ แ ผ น การใช้น้�ำประเภทที่สอง โดยการอนุญาตการใช้น้�ำ ทง้ั ในระดบั ชาติและระดบั ลมุ่ นำ�้ อันประกอบดว้ ย จะเปน็ เครอ่ื งมอื สำ� คญั ในการบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนำ�้ แผนระดับชาติ ไดแ้ ก่ และสรา้ งจติ สำ� นกึ ในการประหยดั นำ�้ ของผใู้ ชน้ ำ้� ภาคตา่ งๆ • แผนแมบ่ ทการบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนำ้� 20 ปี กฎหมายน�้ำยังได้ก�ำหนดให้คณะกรรมการลุ่มน�้ำ แผนระดบั ลุม่ นำ�้ ไดแ้ ก่ มีหน้าท่ีในการจัดการความขัดแย้งระหว่างผู้ใช้น้�ำ • แผนแมบ่ ทการบรหิ ารจดั การนำ�้ ในเขตลมุ่ นำ�้ การประสานหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องในการบังคับใช้ กฎหมายและการสรา้ งจติ สำ� นกึ แกป่ ระชาชนในเขตลมุ่ นำ�้ ท่ีจะต้องสอดคล้องกับแผนระดับชาติและ พ.ร.บ.ทรพั ยากรนำ�้ เปน็ กฎหมายประวัติศาสตร์ ชเี้ ปา้ ปญั หาและความตอ้ งการจากลมุ่ นำ�้ เพอื่ ในการปฏิรูปการบริหารทรัพยากรน�้ำของประเทศ แก้ไขปัญหาที่ตรงกับความต้องการที่แท้จริง ได้เน้นย้�ำให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหาร ของประชาชนในพนื้ ที่ จดั การทรพั ยากรนำ�้ ในลมุ่ นำ�้ โดยมคี ณะกรรมการลมุ่ นำ�้ • แผนป้องกันภาวะน�้ำท่วม-น้�ำแล้ง เพื่อเป็น เป็นหน่วยประสาน อ�ำนวยการกลางและบูรณาการ กลไกในการบูรณาการเตรียมการรองรับ กับทุกภาคส่วน เพ่ือให้การบริหารจัดการน้�ำ สถานการณน์ �้ำ ในระดับลุ่มนำ�้ มปี ระสทิ ธิภาพและประสทิ ธิผล 24 การบรหิ ารจัดการทรัพยากรน้าํ ในประเทศไทย

4บทที่ เสาหลกั ท่ี 3 พ.ร.บ.ทรัพยากรน�ำ้ พ.ศ. 2561 “กฎหมายน�้ำ” ตราข้ึนเปน็ คร้งั แรกของประวตั ิศาสตร์ชาติไทย ไทยเรายังคง เผชญิ กับปัญหาด้านเรื่องน้ำ� ทง้ั น�ำ้ ทว่ ม น�ำ้ แล้ง นำ�้ เน่าเสีย ซำ้� ซากอยู่ตลอด และยังเปน็ โจทย์ ท้าทายมาทุกรัฐบาล กับความพยายามของหน่วยงานภาครัฐท่ีรับผิดชอบด้านน้�ำ แต่ทว่า การแกไ้ ขปญั หายงั ไมส่ ามารถทำ� ไดอ้ ยา่ งเบด็ เสรจ็ มปี ระสทิ ธภิ าพเพยี งพอ เนอ่ื งจากการแกป้ ญั หา มีการปฏิบัติโดยผา่ นหลายหนว่ ยงาน ท่มี ีหนา้ ท่แี ละอ�ำนาจตามกฎหมายต่างฉบบั ก่อให้เกดิ ความซ้�ำซ้อน ขาดเอกภาพ และการเข้ามามีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาคประชาชนยังมีอยนู่ ้อย

ประเทศไทยแต่ด้ังเดิมมา มีกฎหมายเกี่ยวกับการจัดการน้�ำที่เป็นเรื่องของการจัดการ ลักษณะคูคลอง ล�ำน้�ำ เพื่อความสะดวกในการสัญจรและการรักษาความสะอาด โดยมีประกาศ พระบรมราชโองการในรชั กาลท่ี 5 ในการขุดคูคลองตา่ งๆ ในเขตกรงุ เทพและปรมิ ณฑล ปี พ.ศ. 2443 มกี ารกอ่ ตงั้ กรมคลอง (ตอ่ มาคอื กรมชลประทาน) และมพี ระราชบญั ญตั ริ กั ษาคลอง ร.ศ. 121 (พ.ศ. 2445) เพ่ือการจัดการบ�ำรุงรักษาคลอง มีพระราชบัญญัติการชลประทานราษฎร์ พ.ศ. 2482 และ พระราชบญั ญตั กิ ารชลประทานหลวง พ.ศ. 2485 เพอื่ การจัดการชลประทาน คือการจดั ใหไ้ ดม้ าซ่ึงนำ�้ โดยใหอ้ ำ� นาจกรมชลประทานในการจดั การน้ำ� ในทางน�้ำชลประทานและเขตชลประทานเปน็ หลัก เม่ือความเจริญเติบโตของบ้านเมืองมีมากข้ึน จึงมีกฎหมายเพื่อให้อ�ำนาจแก่หน่วยงานของรัฐ ในการจดั การน้ำ� เพมิ่ ขึน้ เช่น พระราชบญั ญตั นิ ำ้� บาดาล พ.ศ. 2520 ใหอ้ �ำนาจกรมทรัพยากรน�ำ้ บาดาล บรหิ ารจดั การนำ�้ ใตด้ นิ นอกจากนยี้ งั มกี ฎหมายระดบั พระราชบญั ญตั มิ ากกวา่ 36 ฉบบั พระราชกำ� หนด 2 ฉบบั และอนบุ ญั ญตั มิ ากกวา่ 2,418 ฉบบั ใหอ้ ำ� นาจแกห่ นว่ ยงาน จำ� นวน 42 หนว่ ยงาน ในการบรหิ าร จัดการนำ้� ตามหน้าที่และภารกจิ ของหน่วยงาน นำ้� ในบรรยากาศ แตก่ ระนนั้ การบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนำ้� ยงั คงมปี ญั หา เนอ่ื งจาก น�้ำผิวดนิ ระบบของน�้ำท่ีมีอยู่ใน 3 ระบบ คือ น�้ำในบรรยากาศ น�้ำผิวดิน และ น�้ำใต้ดิน ซ่งึ น�้ำผวิ ดนิ ในทางน้ำ� ชลประทาน กรมชลประทานมหี น้าที่และ น้�ำใตด้ ิน อ�ำนาจเป็นผู้บริหารจัดการน้�ำ โดยมีอ�ำนาจอนุญาตการใช้น�้ำในทางนำ้� ชลประทาน นำ้� ใตด้ ิน กรมทรพั ยากรนำ�้ บาดาล มหี นา้ ทแี่ ละอำ� นาจบรหิ าร จดั การนำ�้ โดยการอนญุ าตขดุ เจาะบอ่ บาดาลและอนญุ าตการใชน้ ำ�้ บาดาล ส่วนน้�ำผิวดินท่ัวไป ซึ่งอยู่นอกเขตชลประทาน ยังไม่มีกฎหมายใด ให้อ�ำนาจแก่หน่วยงานใดโดยเฉพาะเป็นผู้มีหน้าที่และอ�ำนาจในการ บริหารจัดการและอนุญาตการใช้นำ้� ผิวดินนอกเขตชลประทานนนั้ ดังนั้น จึงยงั ไม่สามารถบรหิ ารจัดการน้�ำไดท้ ั้งระบบ 26 การบริหารจัดการทรพั ยากรนา้ํ ในประเทศไทย

โดยสภาพทางกายภาพของน้�ำ เม่ือตกลงมา ในปี พ.ศ. 2560 รฐั บาลภายใตก้ ารบรหิ าร แล้วจะไหลจากท่ีสูงลงสู่พื้นท่ีต�่ำ บางส่วนซึมลงดิน ของพลเอกประยทุ ธ์ จนั ทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปน็ นำ้� ใตด้ นิ เมอื่ พนื้ ดนิ ชมุ่ นำ้� กอ่ รวมตวั ในพนื้ ทลี่ มุ่ ตำ่� จงึ เสนอรา่ งพระราชบญั ญตั ทิ รพั ยากรนำ�้ พ.ศ. .... เกิดเปน็ หนองนำ้� สระ บึง คลอง ลำ� ธาร ลำ� ห้วย แม่น้�ำ ตอ่ สภานติ บิ ญั ญตั แิ หง่ ชาตเิ พอื่ พจิ ารณาตราเปน็ และสุดท้ายไหลลงส่ทู ะเล ซึง่ ในแตล่ ะปเี ม่อื เกดิ ภาวะ กฎหมายใช้บังคับ โดยสภานิติบัญญัติพิจารณา น�้ำทว่ มหรือภาวะน�ำ้ แลง้ ขนึ้ การบริหารทรพั ยากรน้ำ� เห็นสมควรประกาศใช้เป็นกฎหมายเมื่อวันท่ี จงึ มคี วามยงุ่ ยากและเขา้ ไปเกยี่ วขอ้ งกบั วถิ ชี วี ติ ของมนษุ ย์ 4 ตุลาคม 2561 ไดป้ ระกาศราชกิจจานเุ บกษา ทุกบริบท ดังน้ัน การที่ประเทศไทยมีเพียงกฎหมาย เมื่อวันท่ี 28 ธันวาคม 2561 มีผลบังคับใช้ เฉพาะในการบริหารจัดการน้�ำในบางระบบ จึงท�ำให้ ในวันท่ี 27 มกราคม 2562 โดยพระราชบญั ญตั ิ การบริหารจัดการน�้ำไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่ ทรัพยากรน�้ำ พ.ศ. 2561 มีเจตนารมณ์ให้เป็น มีอยู่แล้ว และที่ก�ำลังเกิดมีขึ้นตามความเจริญเติบโต กฎหมายในการบูรณาการเกี่ยวกับการจัดสรร ของบ้านเมอื ง จงึ จำ� เปน็ ท่ีจะต้องให้มีกฎหมายแม่บท การใช้การพัฒนา การบริหารจัดการ การบ�ำรุง ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้�ำท้ังระบบ คือ รักษา การฟื้นฟู การอนุรักษ์ทรพั ยากรนำ้� และ น�้ำผิวดินในแหล่งน�้ำสาธารณะนอกเขตชลประทาน สิทธิในน้�ำ เพ่ือการบริหารทรัพยากรน้�ำอย่าง นำ�้ ผวิ ดนิ ในเขตชลประทานและนำ�้ บาดาล และรวมไป มีความเป็นเอกภาพ ประสานสอดคล้องกัน ถึงน้�ำทะเลอันเป็นเขตแดนระหว่างประเทศด้วย ในทุกมติ ิอยา่ งสมดุลและย่งั ยืน ดงั นน้ั จงึ จำ� เปน็ จะตอ้ งมกี ฎหมายทเี่ ปน็ กฎหมายกลาง ในบริหารจัดการทรัพยากรน้�ำโดยเช่ือมโยงกับ เสาหลกั ที่ 3 พ.ร.บ.ทรพั ยากรนาํ้ พ.ศ. 2561 27 กฎหมายต่างๆ ที่มีอยู่เดิม เพ่ือการบริหารจัดการ ทรัพยากรนำ้� ได้อย่างครอบคลมุ ทุกระบบ

พระราชบญั ญตั ทิ รพั ยากรนำ�้ พ.ศ. 2561 จงึ เปน็ กฎหมายวา่ ดว้ ยทรพั ยากรนำ�้ ฉบบั แรกของประเทศไทย มีสาระสำ� คญั ดงั น้ี สาระสำ�คญั ของ พ.ร.บ. ทรพั ยากรนำ�้ 1 2 3 วางหลกั เกณฑ์ ขอบเขตการบังคับใช้ ในการประกนั สทิ ธขิ นั้ พนื้ ฐาน กำ�หนดให้การบรหิ ารจดั การ ครอบคลมุ 8 ดา้ น ของประชาชนในการเขา้ ถงึ ทรัพยากรน้ำ� อยา่ งเป็นระบบ ทรพั ยากรน้ำ� สาธารณะ คือ การจัดสรร การใช้ การพัฒนา ครอบคลมุ การบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนำ้� การบริหารจัดการ การบ�ำรุงรักษา โดยก�ำหนดสิทธิในน้�ำ ให้บุคคล ทงั้ นำ้� ในเขตชลประทาน นำ�้ นอกเขต การฟื้นฟู การอนุรักษ์ทรัพยากรน้�ำ มีสิทธิใช้/กักเก็บน�้ำได้เท่าท่ีจ�ำเป็น ชลประทาน และนำ้� ใตด้ นิ และสทิ ธใิ นนำ้� แกป่ ระโยชนใ์ นกจิ กรรมหรอื ในทด่ี นิ ของตน โดยผอู้ น่ื ไมเ่ กดิ ความเดอื ดรอ้ น หรอื เสยี หาย 4 กำ�หนดการบริหารทรัพยากรน้ำ� แบบบรู ณาการ โดยการจดั ทำ� นโยบายและแผนแมบ่ ทเกย่ี วกบั การบรหิ ารทรพั ยากรนำ้� ทส่ี อดคลอ้ งกบั ยทุ ธศาสตรช์ าติ โดยการปรบั ปรงุ กลไกดา้ นต่างๆ ใหเ้ หมาะสม เช่น •  การบริหารจัดการทรพั ยากรน้ำ� • จัดท�ำแผนแม่บทการใช้ การพัฒนา การบริหาร จดั การ การบำ� รุงรักษา การฟ้นื ฟู และการอนุรกั ษ์ ทรัพยากรน้�ำในเขตลุ่มน้�ำต่างๆ เพ่ือเช่ือมโยงกับ จัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ดิน และระบบนิเวศ ให้เกิดประสิทธิภาพในการจัดการน้�ำ การจัดการ • จดั ทำ� แผนงบประมาณการบรหิ ารทรพั ยากรนำ้� แบบบรู ณาการ สงิ่ แวดลอ้ ม การใชป้ ระโยชนท์ ดี่ นิ และการจดั การพนื้ ที่ ท่ีสอดคล้องกับนโยบายและแผนแม่บท เพื่อไม่ให้เกิด • จัดท�ำแผนปฏิบัติการเกี่ยวกับทรัพยากรน้�ำ โดย ความซ�้ำซ้อนการใช้งบประมาณในหน่วยงานของรัฐหรือ หนว่ ยงานของรฐั หรอื องค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ 28 การบริหารจัดการทรัพยากรนํา้ ในประเทศไทย

5 6 ให้มอี งค์กรบริหาร กำ�หนดหลกั เกณฑ์การจดั สรรน้�ำที่เปน็ ธรรมและเหมาะสม จดั การทรพั ยากรนำ�้ โดยแบง่ การใช้น�ำ้ ออกเปน็ 3 ประเภท ทั้งในระดับชาติ ระดับลุ่มน�้ำ และ ระดับองค์กรผู้ใช้น�้ำ โดยสะท้อนให้ 12 3 ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหาร จดั การทรัพยากรนำ�้ • การใช้น�้ำประเภทท่ีหนึ่ง ได้แก่ การใช้ทรัพยากรน้�ำสาธารณะ เพื่อการ ด�ำรงชีพ การอุปโภคบริโภคในครัวเรือน การเกษตรหรือการเล้ียงสัตว์ เพอ่ื ยงั ชพี การอตุ สาหกรรมในครวั เรอื น การรกั ษาระบบนเิ วศ จารตี ประเพณี การบรรเทาสาธารณภยั การคมนาคม และการใชน้ ้ำ� ในปรมิ าณเลก็ นอ้ ย • การใชป้ ระเภททส่ี อง ไดแ้ ก่ การใชท้ รพั ยากรนำ�้ สาธารณะเพอ่ื การอตุ สาหกรรม อตุ สาหกรรมการทอ่ งเทยี่ ว การผลติ พลงั งานไฟฟา้ การประปาและกจิ การอนื่ • การใชน้ ำ้� ประเภททส่ี าม ได้แก่ การใช้ทรัพยากรน้�ำสาธารณะเพื่อกิจการ ขนาดใหญท่ ใ่ี ชน้ ำ้� ปรมิ าณมาก หรอื อาจกอ่ ใหเ้ กดิ ผลกระทบขา้ มลมุ่ นำ�้ หรอื ครอบคลุมพืน้ ทอ่ี ยา่ งกวา้ งขวาง 7 การกำ�หนดใหม้ ีระบบการอนญุ าตการใช้ทรพั ยากรน้ำ� สาธารณะ สำ� หรบั การใชน้ ำ้� ทเ่ี กนิ กวา่ สทิ ธขิ นั้ พน้ื ฐานการใชน้ ำ้� 8 กำ�หนดมาตรการในการปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หาภาวะน้ำ� แล้งและภาวะน�ำ้ ท่วม • มีแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้�ำแล้งโดยบูรณาการร่วมกันกับ แผนปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ • มีแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน�้ำท่วม โดยบูรณาการร่วมกันกับ แผนปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั แห่งชาติ • เมื่อมีปัญหาวิกฤตน�้ำให้มีศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจเพื่อการป้องกัน แก้ไข ควบคุม ระงับหรือบรรเทาผลร้ายอย่างทันท่วงที เสาหลกั ที่ 3 พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ํา พ.ศ. 2561 29

9 10 กำ�หนดมาตรการในการส่งเสรมิ กำ�หนดการอนุรักษ์ และสนบั สนุนให้ภาคเอกชน ประชาชน และการพฒั นาทรพั ยากรน้�ำสาธารณะ และชุมชนท่ีเกีย่ วขอ้ งมสี ว่ นรว่ ม • พื้นท่ีท่ีมีลักษณะเป็นแหล่งต้นน้�ำล�ำธารหรือพ้ืนท่ี ในการบริหารจัดการนำ�้ ชมุ่ นำ้� จะดำ� เนนิ การใหพ้ นื้ ทนี่ นั้ เปน็ เขตพนื้ ทคี่ มุ้ ครอง สิ่งแวดล้อม • ก�ำหนดหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ที่ดินที่อาจ ส่งผลกระทบกับทรัพยากรน้�ำสาธารณะ เพ่ือมิให้ เกิดอันตรายหรือความเสียหายต่อทรัพยากรน�้ำ สาธารณะ 11 12 กำ�หนดความรับผดิ ทางแพง่ กำ�หนดบทลงโทษ ท้งั โทษจำ� คุก ปรบั หรือทง้ั จ�ำท้ังปรับ ในกรณีท่ีท�ำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรน้�ำ สาธารณะ และก�ำหนดให้หน่วยงานของรัฐหรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นตัวแทนของรัฐ ในการฟ้องคดีเพื่อเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ความเสยี หาย ผลจากการมีพระราชบัญญัติทรัพยากรน�้ำ พ.ศ. 2561 จึงถือเป็นความก้าวหน้าครั้งส�ำคัญ ในการบรหิ ารทรพั ยากรนำ้� ของประเทศในเชงิ บรู ณาการ ใหม้ ที ศิ ทางสอดคลอ้ งกบั ความเปลย่ี นแปลงไปของ บรบิ ทสงั คมไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ลดความซำ้� ซอ้ นดา้ นงบประมาณ แผนการดำ� เนนิ งานทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั นำ้� และยงั ชว่ ย ประสานขอ้ มลู หนว่ ยงานรฐั คลอ่ งตวั ขนึ้ ทง้ั ภาวะปกตแิ ละวกิ ฤติ กอ่ ใหเ้ กดิ ระบบขอ้ มลู ทางนำ้� ทมี่ คี วามชดั เจน สามารถน�ำไปใชร้ บั มอื ภาวะน�้ำแล้งและน�ำ้ ท่วมได้อย่างเป็นระบบและเกิดประสทิ ธภิ าพสงู สุด 30 การบรหิ ารจัดการทรัพยากรน้าํ ในประเทศไทย

5บทที่ เสาหลักท่ี 4 นวตั กรรมและเทคโนโลย ี เพือ่ ใชใ้ นการบรหิ ารจดั การ ทรัพยากรน้ำ� เมอื่ การดำ� เนนิ การบรหิ ารจดั การนำ�้ ของประเทศไดด้ ำ� เนนิ ครบทง้ั 3 เสาหลกั ไดแ้ ก่ เสาหลักท่ี 1 แผนแมบ่ ทการบรหิ ารจัดการทรพั ยากรน้�ำ 20 ปี เสาหลกั ที่ 2 การจดั ต้ัง องคก์ รบรหิ ารจัดการนำ�้ ได้แก่ คณะกรรมการทรัพยากรน�ำ้ แห่งชาติ ส�ำนักงานทรพั ยากรนำ้� แห่งชาติ และคณะกรรมการลุ่มน�้ำ เสาหลักที่ 3 ด้านกฎหมาย ซ่ึงจัดท�ำพระราชบัญญัติ ทรพั ยากรน�ำ้ พ.ศ. 2561 แลว้ เสร็จ

เพื่อให้การบริหารจัดการน�้ำเกิดความยั่งยืน รัฐบาลจึงได้มีการก�ำหนดเสาหลักที่ 4 ด้านนวัตกรรมขึ้น เพอ่ื ชว่ ยเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนำ�้ ใหม้ คี วามทนั สมยั และยงั่ ยนื ดว้ ยการสนบั สนนุ การนำ� ผลงานการวจิ ยั ขอ้ มลู สง่ิ ประดษิ ฐ์ นวตั กรรม และความรว่ มมอื ทางวชิ าการตา่ งๆ มาพฒั นายกระดบั การพฒั นา การบริหารจัดการน้�ำของประเทศให้ทันสมัย สอดคล้องกับการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศและวิถีชีวิตของ ชมุ ชน รวมทงั้ ทำ� ใหโ้ ครงสรา้ งการบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนำ้� ยดื หยนุ่ เปน็ มติ รกบั สง่ิ แวดลอ้ ม ตามหลกั มาตรฐาน สากล ท้งั การขบั เคลื่อนงานดา้ นเสาหลกั ที่ 4 มุ่งเน้นการพัฒนาใน 3 ดา้ น ไดแ้ ก่ พัฒนา เผยแพร่ สรา้ งเครือข่าย สง่ เสรมิ ให้ นวัตกรรม เทคโนโลยี ความรว่ มมอื ในระดบั ชาติ เกดิ กระบวนการมสี ่วนรว่ ม ของหนว่ ยงานที่เกี่ยวข้อง และงานศึกษาวจิ ยั และระดบั นานาชาติ ในการบริหารจัดการทรัพยากรน�้ำ เพื่อคิดค้นต่อยอดและขยายผล เพ่ือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านวิชาการ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม วิ ธี ก า ร ใ น ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร เ กิ ด ก า ร ถ ่ า ย ท อ ด เ ท ค โ น โ ล ยี ที่ ส อ ด ค ล ้ อ ง กั บ พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ ทรัพยากรน�้ำให้มีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับสภาพภูมิสังคมของ ทรัพยากรน�ำ้ พ.ศ. 2561 มากขึ้น โดยบูรณาการศาสตร์ แตล่ ะภมู ภิ าค พระราชา ภูมิปัญญาท้องถ่ิน และ ความสำ� เร็จจากตา่ งประเทศ มีผลด�ำเนินงานให้เห็นเป็นรูปธรรมในหลายมิติ ได้แก่ การร่วมมือกับ สำ� นกั งานพฒั นาเทคโนโลยอี วกาศและภมู สิ ารสนเทศ (GISTDA) ในการใชเ้ ทคโนโลยี ภาพถา่ ยดาวเทยี มรว่ มกนั สำ� รวจขอ้ มลู จดั ทำ� “บญั ชแี หลง่ นำ้� ” และพฒั นาแอพพลเิ คชน่ั ในการจดั เกบ็ ขอ้ มลู แหลง่ นำ้� สำ� หรบั ใชเ้ กบ็ ขอ้ มลู ประกอบการบรหิ ารรบั มอื นำ�้ ทว่ ม และน้�ำแล้ง โดยมีการแยกประเภทแหล่งน�้ำตามขนาดความจุ 3 ประเภท ได้แก่ แหล่งน้�ำขนาดใหญ่ ความจุ 100 ล้านลูกบาศก์เมตรขึ้นไป แหล่งน�้ำขนาดกลาง ความจุ 2 ล้านลูกบาศก์เมตร - 100 ล้านลูกบาศก์เมตร และแหล่งน�้ำขนาดเล็ก ความจนุ ้อยกว่า 2 ลา้ นลูกบาศกเ์ มตร 32 การบริหารจดั การทรัพยากรน้าํ ในประเทศไทย

นอกจากน้ียังมีการต่อยอดการน�ำนวัตกรรมการบริหารจัดการน�้ำในรูปแบบ Nearly Real time Analytics เขา้ ชว่ ยใหก้ ารเขา้ ถงึ ขอ้ มลู และการใชง้ านเปน็ ไปไดส้ ะดวก รวดเรว็ และทนั ทว่ งที นำ� ไปสกู่ ารตดั สนิ ใจ ในการบรหิ ารจัดการทรพั ยากรนำ�้ ไดแ้ ม่นยำ� มากข้ึน ผา่ นเทคโนโลยี “One Map” ซ่ึงทำ� ใหเ้ กดิ “คลังข้อมูลนำ�้ และภมู อิ ากาศแห่งชาต”ิ ทเี่ ป็นการรวบรวมระบบฐานข้อมลู ในลกั ษณะ Real time จากหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง ไดแ้ ก่ ขอ้ มูลฝน การคาดการณฝ์ นและพายุ คลื่น น�้ำหลาก ระดับนำ้� ในแหล่งนำ้� ตา่ งๆ ทง้ั อ่างเกบ็ นำ�้ แหลง่ นำ้� ธรรมชาตขิ นาดใหญ่ และแม่น้�ำสายหลกั รวมถงึ คุณภาพนำ้� และพ้นื ท่เี กิดสาธารณภัยภายใต้ชอ่ งทางเดยี วกนั สทนช. ยงั ไดเ้ ชอ่ื มโยงขอ้ มลู และนำ� เทคโนโลยี สทนช. ยงั ไดเ้ นน้ การสง่ เสรมิ การนำ� ผลงานวจิ ยั ของหนว่ ยงานตา่ งๆ มาใชบ้ รู ณาการรบั มอื สถานการณ์ และผลงานทางวชิ าการมาประยกุ ตใ์ ชเ้ พมิ่ ประสทิ ธภิ าพ ฤดูฝน โดยวิเคราะห์พ้ืนท่ีที่มีความเสี่ยงต่อน�้ำท่วม การบริหารจัดการน้�ำ โดยเมื่อวันท่ี 21 มีนาคม เพ่ือก�ำหนดแนวทางรับมือ การแจ้งเตือน และแผน 2561 ได้จัดท�ำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ ปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการรับมือสถานการณ์น้�ำ ส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย เพื่อก�ำหนด ในฤดูฝนตามระดับความรุนแรงซ่ึงแบ่งเป็น 3 ระดับ กรอบระยะเวลา 3 ปี ในการพัฒนาและสนับสนุน พร้อมกับประสานให้ทุกหน่วยงานต้องรายงานข้อมูล การลงทนุ ในทรพั ยากรเชงิ รกุ พรอ้ มเรง่ สรา้ งเครอื ขา่ ย ตอ่ สทนช. ทุก 3 ช่วั โมง ส่วนในพ้นื ท่เี กดิ วกิ ฤตตอ้ ง กั บ ม ห า วิ ท ย า ลั ย ทั่ ว ป ร ะ เ ท ศ ใ น ก า ร ขั บ เ ค ล่ื อ น รายงานความเคลื่อนไหวทกุ ช่วั โมง ซึง่ ขอ้ มูลดงั กล่าว งานวิจัยด้านบริหารทรัพยากรน้�ำ โดยช่วงแรก จะส่งต่อไปยังกองอ�ำนวยการป้องกันและบรรเทา เน้นการสร้างงานวิจัยในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษ สาธารณภยั กลางของกรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ภาคตะวนั ออก (EEC) กอ่ นขยายผลงานวจิ ยั เพอ่ื รองรบั เพื่อแจง้ เตือนและใหค้ วามชว่ ยเหลอื ประชาชนตอ่ ไป แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้�ำ 20 ปี ของประเทศตอ่ ไป เสาหลักท่ี 4 นวตั กรรมและเทคโนโลย ี เพอื่ ใช้ในการบรหิ ารจัดการทรพั ยากรน้ํา 33

นอกจากนเ้ี มอ่ื วนั ที่ 25 ตลุ าคม 2561 ยงั ใน 5 ลุ่มน้�ำน�ำร่อง ได้แก่ ลุ่มน�้ำสะแกกรัง ลุ่มน�้ำ ไดจ้ ดั ทำ� บนั ทกึ ขอ้ ตกลงความรว่ มมอื ทางวชิ าการ ปราจีนบุรี-บางปะกง ลุ่มน้�ำชี ลุ่มน้�ำมูล และลุ่มน�้ำ กับสถาบันการศึกษาช้ันน�ำ 12 แห่ง เพื่อสร้าง ภาคใต้ฝั่งตะวันออก และจะด�ำเนินการเพ่ิมเติม ความร่วมมือทางวิชาการระหว่างหน่วยงาน ในปี2563อกี 2ลมุ่ นำ�้ คอื ลมุ่ นำ้� เพชรบรุ -ี ประจวบครี ขี นั ธ์ ทง้ั หมด โดยมงุ่ เผยแพรค่ วามรู้ ความเขา้ ใจ และ และล่มุ น้ำ� ภาคใต้ฝั่งตะวนั ตก นโยบายทเ่ี กยี่ วกบั การบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนำ้� ขณะเดียวกัน สทนช. ยังได้น�ำงานวิชาการ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ท้ังในด้านวิศวกรรม เข้ามาใช้ปรับปรุงการบริหารจัดการน้�ำในอ่างเก็บน้�ำ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้ 3 เส้นกราฟคุมความเสี่ยง เพ่ิมเติมจาก ด้านเศรษฐศาสตร์ ด้านสังคม และด้านการ เดิมท่ีการบริหารน้�ำในเขื่อนจะใช้เคร่ืองมือเส้นกราฟ เปลย่ี นแปลงสภาพภูมอิ ากาศแก่ทั้ง 12 สถาบัน เพยี ง 2 เสน้ คอื Upper Rule Curve กราฟเสน้ บน การศกึ ษาประกอบดว้ ย จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ส�ำหรับคมุ ระดับน�้ำสงู สุด และ Lower Rule Curve มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ กราฟเส้นล่างส�ำหรับคุมระดับน�้ำต�่ำสุด แต่เน่ืองจาก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี สภาพอากาศ และสถานการณ์ฝนท่ีเปล่ียนแปลงไป พระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ การยึดโยงใช้เพียงแค่เส้นกราฟ 2 เส้นไม่เพียงพอ มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยมหิดล จงึ กำ� หนดกราฟเสน้ ที่ 3 หรอื เสน้ กราฟทเี่ ปน็ Dynamic มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ข้ึนมา เพ่ือใช้บริหารจัดการน�้ำให้มีความยืดหยุ่น มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ และมหาวิทยาลยั สอดคล้องกับสถานการณ์ในแตล่ ะปี อุบลราชธานี ช่วยให้การบริหารจัดการน้�ำมีความแม่นย�ำ สทนช. ยงั ไดม้ กี ารศกึ ษาการประเมนิ สงิ่ แวดลอ้ ม ยิ่งขึ้น เพราะมีการค�ำนึงถึงสภาพการณ์อากาศ ระดับยุทธศาสตร์ (Strategic Environmental สภาพฝนในแต่ละปีเข้ามาประกอบด้วย ซึ่งขณะนี้ Assessment : SEA) ในพน้ื ทลี่ มุ่ นำ้� โดยมกี ารวเิ คราะห์ ส ท น ช . ร ่ ว ม กั บ ห น ่ ว ย ง า น ที่ รั บ ผิ ด ช อ บ ดู แ ล ประเมินศักยภาพและขีดจ�ำกัดการรองรับได้ของ อ่างเก็บน้�ำ ปรับปรุงเคร่ืองมือบริหารจัดการน�้ำ สงิ่ แวดลอ้ ม เพื่อกำ� หนดทศิ ทางการพัฒนาพื้นทอี่ ยา่ ง ใ น อ ่ า ง เ ก็ บ น�้ ำ เ พ่ื อ ใ ห ้ ทั น ส มั ย ส อ ด ค ล ้ อ ง กั บ ย่ังยืน สรา้ งความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สงั คม และ สภาพท่ีเป็นจริงมากท่ีสุด โดยใช้ข้อมูลย้อนหลัง สง่ิ แวดลอ้ ม นำ� ไปสกู่ ารวางแผนแมบ่ ทการบรหิ ารจดั การ 20 ปกี อ่ น และขอ้ มลู ในปปี จั จบุ นั มารว่ มพจิ ารณาดว้ ย ทรัพยากรน�้ำแต่ละลุ่มน้�ำให้สอดคล้องกับทิศทาง ท�ำให้อ่างเก็บน้�ำขนาดใหญ่ มีการปรับปรุงเส้นกราฟ การพัฒนาท่ีเหมาะสมและความต้องการของพื้นที่ อยใู่ นเกณฑด์ ี อย่างแท้จริง ภายใต้การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ไดด้ �ำเนินการศกึ ษา 34 การบริหารจดั การทรพั ยากรนาํ้ ในประเทศไทย

ไม่ใช่แค่ความร่วมมือด้านนวัตกรรม และ ความรว่ มมอื ดา้ นการบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนำ�้ ระหวา่ ง ผลงานทางวิชาการกับหน่วยงานภายในประเทศ สำ� นกั งานทรพั ยากรนำ�้ แหง่ ชาตแิ หง่ ราชอาณาจกั รไทย เท่าน้ัน สทนช. ยังได้จัดท�ำความร่วมมือกับ และกระทรวงมหาดไทยฮงั การีและมแี ผนทจ่ี ะดำ� เนนิ การ หน่วยงานน้�ำในต่างประเทศ เพ่ือน�ำผลงานทาง ความร่วมมือกับต่างประเทศด้านน�้ำในอนาคตกับจีน วชิ าการ นวตั กรรม และเทคโนโลยี มาใชพ้ ฒั นาระบบ ในโครงการวิจัย Joint Assessment of Thailand บรหิ ารจดั การนำ้� ของประเทศไทยดว้ ย เชน่ ออสเตรเลยี and Myanmar on Flood and Drought สหรฐั อเมรกิ า ฝรง่ั เศส และสหภาพยโุ รป for Transboundary Water Resources ตัวอย่างเช่น ความร่วมมือระหว่างส�ำนักงาน Management ภายใต้กองทุนพิเศษกรอบความ ทรพั ยากรนำ้� แหง่ ชาติ กบั องคก์ รความรว่ มมอื ระหวา่ ง ร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง, การจัดทำ� บันทึกความเข้าใจ ประเทศของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี หรือ GIZ วา่ ดว้ ยความรว่ มมอื ดา้ นการบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนำ้� เพ่ือสร้างมาตรการการปรับตัวโดยอาศัยระบบนิเวศ แบบบูรณาการและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง (Ecosystem-based Adaptation : EbA) ในระดบั สภาพภูมิอากาศกับราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ นโยบายและภาคส่วนต่างๆ ตลอดจนสร้างโอกาส และการจัดท�ำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ การใช้ EbA เพ่ือวางแผนช่วยให้สามารถรับมือกับ ด้านการจัดการทรัพยากรน้�ำแบบบูรณาการกับ ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ UNITED STATES ARMY CORPS OF ENGINEERS โดยในปี 2562 ได้มีการน�ำร่องด�ำเนินการแล้วใน สหรัฐอเมริกา รวมท้ังการเข้าร่วมเป็นสมาชิกสภาน�้ำ ลุ่มน้�ำยม และลุ่มน�้ำสะแกกรังก่อนขยายไปพื้นที่อื่น แหง่ เอเชยี ซง่ึ จะทำ� ใหส้ ำ� นกั งานทรพั ยากรนำ้� แหง่ ชาติ ต่อไป มีเครือข่ายด้านน้�ำในเวทีภูมิภาคเอเชียและน�ำไปสู่ รวมถึงมีการเชิญผู้เช่ียวชาญทางวิชาการจาก เวทีโลก ต่างประเทศ มาช่วยถ่ายทอดองค์ความรู้ในโครงการ เห็นได้ว่าการด�ำเนินงานในเสาหลักท่ี 4 จดั ทำ� แผนหลกั การจดั ทำ� ผงั นำ้� เชน่ ประเทศเกาหลใี ต้ ด้านนวัตกรรม ได้ช่วยให้ประเทศไทยสามารถน�ำ มีการถ่ายทอดความรู้เรื่องแบ่งผังน�้ำที่ชัดเจน เช่น นวัตกรรม เทคโนโลยี และผลงานทางวิชาการ แม่น้�ำนานาชาติ แม่น�้ำในพ้ืนที่ ประเทศเยอรมนี เข้ามาประยุกต์ใช้การบริหารจัดการทรัพยากรน้�ำ มีการออกแบบผงั น�ำ้ ท่ีสอดรับกับเส้นทางการเดนิ เรือ ไดอ้ ยา่ งเปน็ รปู ธรรม สอดรบั กบั แผนแมบ่ ทการบรหิ าร รวมถึงการออกแบบให้สอดคล้องกับภูมิสถาปัตย์ จัดการทรัพยากรน�้ำระยะ 20 ปี ด้านที่ 6 และรักษาสภาพส่ิงแวดล้อมด้วย ขณะที่ประเทศ ดา้ นการบรหิ ารจดั การ ตลอดจนชว่ ยใหเ้ กดิ การถา่ ยทอด เนเธอรแ์ ลนด์ ช่วยถ่ายทอดความรู้การบริหารพ้ืนท่ี เทคโนโลยีท่ีเหมาะสมกับสภาพสังคมในแต่ละ ท่มี อี ยูต่ �่ำกวา่ ระดับน�ำ้ ทะเล ภูมิภาค เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของหน่วย การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ งานท่ีเกี่ยวข้อง ในการบริหารจดั การทรพั ยากรนำ้� ดา้ นนำ้� ผา่ นบนั ทกึ ความเขา้ ใจโดยไดม้ กี ารดำ� เนนิ การ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ช่วยเพิ่ม ลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือแล้ว คือ ประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารจดั การนำ้� ของประเทศไทย บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการ มีความทันสมัยสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน บริหารจัดการทรัพยากรน�้ำ ระหว่างส�ำนักงาน ได้ตลอดเวลา ทรัพยากรน้�ำแห่งชาติแห่งราชอาณาจักรไทย และ กระทรวงสงิ่ แวดลอ้ มแหง่ สาธารณรฐั เกาหลี เมอื่ วนั ท่ี 2 กันยายน 2562 และบันทึกความเข้าใจว่าด้วย เสาหลักที่ 4 นวัตกรรมและเทคโนโลย ี เพอื่ ใชใ้ นการบริหารจดั การทรพั ยากรน้ํา 35

6บทที่ ก้าวตอ่ ไป ในบริบทของ การบริหารจัดการน้�ำ ของประเทศไทย ส�ำนกั งานทรพั ยากรนำ้� แห่งชาติ มงุ่ มนั่ ทจี่ ะสรา้ งความม่นั คงใหท้ ง้ั 4 เสาหลัก และเพมิ่ บทบาทการมสี ว่ นรว่ มของประชาชนในการบรหิ ารจดั การนำ้� ผา่ นกลไกคณะกรรมการ ลมุ่ นำ�้ และองค์กรผู้ใช้ประเภทตา่ งๆ ดงั นี้

1 ผลกั ดนั กฎหมายลำ�ดบั รอง ภายใต้พระราชบัญญตั ทิ รพั ยากรนำ้� พ.ศ. 2561 จัดท�ำกฎหมายล�ำดับรอง ได้แก่ พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศตาม พระราชบญั ญตั ทิ รพั ยากรนำ�้ พ.ศ. 2561 ใหแ้ ลว้ เสรจ็ โดยเฉพาะในมาตราสำ� คญั ไดแ้ ก ่ มาตรา 25 ใหม้ กี ารกำ� หนด ลมุ่ นำ�้ โดยตราเปน็ พระราชกฤษฎกี า ทงั้ น้ี ใหค้ ำ� นงึ ถงึ สภาพอทุ กวทิ ยา สภาพภมู ศิ าสตร์ ระบบนเิ วศ การตงั้ ถนิ่ ฐาน การผังเมือง ผังน้�ำ และเขตการปกครอง ด้วยเหตุนี้ในปี 2561 ส�ำนักงานทรัพยากรน�้ำแห่งชาติ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดท�ำโครงการศึกษาทบทวน การแบ่งพื้นท่ีลุ่มน้�ำท่ีเหมาะสมส�ำหรับการบริหาร จัดการทรัพยากรน้�ำและผลกระทบจากการแบ่งพ้ืนที่ลุ่มน้�ำข้ึน เพ่ือให้การจัดแบ่งลุ่มน�้ำมีประสิทธิภาพยิ่งข้ึน โดยใชข้ อ้ มลู ทล่ี ะเอยี ดจากแผนทเี่ สน้ ชนั้ ความสงู มาตราสว่ น 1 : 4,000 WGS84 ของกรมพฒั นาทดี่ นิ ประกอบกบั แผนทภี่ าพถา่ ยทางอากาศแบบ 3 มติ ิ ของ Google Earth เพอื่ ใหส้ ามารถวเิ คราะหเ์ สน้ ทางการไหลของนำ้� ไดอ้ ยา่ ง ชดั เจนมากขนึ้ จงึ ทำ� ใหก้ ารทบทวนการแบง่ ขอบเขตล่มุ น้ำ� ใหมจ่ าก 25 ลุ่มน้ำ� หลกั แบง่ เปน็ 22 ลุม่ นำ้� หลกั การแบง่ ขอบเขตลุ่มนาํ้ ใหม่ 01 สาละวนิ 01 สาละวนิ 22 ลุ่มน้ำ�หลกั 02 โขง 02 โขงเหนือ 353 ล่มุ น้ำ�สาขา 03 กก 03 โขงตะวันออกเฉียงเหนือ 04 ชี 04 ชี 25 ลมุ่ น้ำ�หลัก 05 มลู 05 มลู 254 ลุ่มนำ้ �สาขา 06 ปง 06 ปง 02 07 วัง 08 ยม 07 วัง 09 นาน 08 ยม 03 02 10 เจา พระยา 09 นาน 01 06 07 09 03 11 สะแกกรัง 10 เจาพระยา 08 04 12 ปา สกั 11 สะแกกรัง 12 01 07 13 ทา จีน 12 ปา สกั 06 08 09 02 14 แมก ลอง 11 10 04 15 ปราจีนบุรี 13 ทาจีน 14 13 12 16 บางปะกง 14 แมกลอง 05 17 โตนเลสาบ 15 บางปะกง 11 10 05 18 ชายฝง ทะเลตะวันออก 16 โตนเลสาบ 15 16 14 13 19 เพชรบุรี 16 15 17 20 ชายฝงทะเลประจวบครี ขี ันธ 17 ชายฝงทะเลตะวนั ออก 18 17 21 ภาคใตฝง ตะวนั ออก 18 เพชรบุรี - ประจวบครี ีขนั ธ 19 18 22 ตาป 19 ภาคใตฝง ตะวันออกตอนบน 20 23 ทะเลสาบสงขลา 20 ทะเลสาบสงขลา 24 ปต ตานี 25 ภาคใตฝ ง ตะวันตก 21 ภาคใตฝง ตะวันออกตอนลาง 22 ภาคใตฝ งตะวนั ตก ลุม่ น�้ำเดมิ 22 21 19 23 25 22 20 24 ลุ่มน้ำ� ใหม่ 21 ก้าวต่อไป ในบรบิ ทของการบรหิ ารจัดการนา้ํ ของประเทศไทย 37

มาตรา 27 เมอ่ื มพี ระราชกฤษฎกี ากำ� หนดลุ่มน�้ำตามมาตรา 25 แล้ว ใหม้ ีคณะกรรมการลุ่มน้ำ� ประจำ� ลมุ่ น้ำ� นัน้ ด้วย ตอ่ เน่ืองถึงมาตรา 35 ไดก้ �ำหนดหน้าทแี่ ละอำ� นาจของคณะกรรมการลมุ่ น�ำ้ ทเี่ กยี่ วกบั การบริหาร ทรัพยากรนำ้� ในเขตลุ่มน้ำ� เชน่ จดั ทำ� แผนแมบ่ ทการใช้ การพฒั นา บรหิ ารจัดการ การบ�ำรงุ รักษา การฟน้ื ฟูและ การอนรุ กั ษท์ รพั ยากรนำ้� ในเขตลมุ่ นำ�้ รวมทง้ั จดั ทำ� แผนปอ้ งกนั และแกไ้ ขภาวะนำ้� ทว่ มและนำ้� แลง้ ใหค้ ณะกรรมการ ทรัพยากรน้�ำแห่งชาติเห็นชอบ โดยมีส�ำนักงานทรัพยากรน�้ำแห่งชาติภาคท�ำหน้าท่ีเป็นส�ำนักงานเลขานุการ คณะกรรมการล่มุ นำ�้ นอกจากน้ี ในการบริหารทรัพยากรน้�ำเพ่ือให้บรรลุวัตถุประสงค์ เกิดความเป็นเอกภาพ และเกิด ผลสมั ฤทธ์ิท่ีตงั้ ไว้ มาตรา 20 ใหอ้ �ำนาจคณะกรรมการทรัพยากรน้�ำแหง่ ชาติ (กนช.) แต่งตงั้ คณะอนกุ รรมการ เพ่ือการพิจารณา เสนอแนะ หรือปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใด เพ่ือการพัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรน�้ำ การบริหารจัดการทรัพยากรน�้ำ และสนับสนุนด้านเทคนิควิชาการได้ และในกรณีจ�ำเป็น อาจแต่งต้ัง คณะอนกุ รรมการทรพั ยากรนำ้� จงั หวดั เพอื่ ประโยชนใ์ นการบรู ณาการการบรหิ ารทรพั ยากรนำ�้ ในระดบั จงั หวดั ดว้ ย อนั เป็นการบรหิ ารจดั การในเชงิ พืน้ ทป่ี กครองนอกเหนือจากการบรหิ ารจดั การในเชงิ ล่มุ น�้ำ 2 ถ่ายทอดแผนแมบ่ ทการบรหิ ารจดั การทรพั ยากรน�้ำ 20 ปี ไปสูแ่ ผนระดบั ลุ่มนำ�้ และขบั เคลื่อนไปส่กู ารปฏบิ ัติ คณะรฐั มนตรี เหน็ ชอบตอ่ ร่างแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรนำ�้ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) เมือ่ วนั ที่ 18 มิถนุ ายน 2562 และไดเ้ ผยแพรใ่ นราชกจิ จานเุ บกษา เม่ือวันท่ี 18 กนั ยายน 2562 ซ่งึ สอดคลอ้ ง กับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนแมบ่ ทภายใตย้ ุทธศาสตรช์ าติ และเปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ง่ั ยืนขององคก์ าร สหประชาชาติ (SDGs) โดยมีหนว่ ยงานดา้ นนำ�้ ที่เกี่ยวข้องจำ� นวน 48 หนว่ ยงาน ความท้าทายของก้าวต่อไป คอื การน�ำแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรนำ้� 20 ปี ไปสแู่ ผนแม่บท การบริหารจัดการทรัพยากรน�้ำระดับลุ่มน้�ำ และแผนปฏิบัติการภายใต้แผนแม่บทฯ ระดับลุ่มน�้ำ เพื่อก�ำหนด ตวั ชว้ี ดั เปา้ หมายในระดบั ลมุ่ นำ้� นำ� ไปสกู่ ารวางแผนงานโครงการใหส้ อดคลอ้ งกบั สภาพปญั หาและความตอ้ งการ ของประชาชนในลมุ่ น้�ำ ส�ำหรับพื้นท่ีเป้าหมายที่ต้องวางแผนแก้ไข ปญั หาเชงิ พน้ื ท่ีอยา่ งเป็นระบบ (Area Based) 66 พืน้ ท่ี ซ่ึง สทนช. ได้ศึกษาและและเสนอให้คณะกรรมการ ทรัพยากรน�้ำเห็นชอบ พร้อมบรรจุให้เป็นส่วนหนึ่งของ แผนแม่บทการบรหิ ารจัดการทรัพยากรนำ�้ 20 ปี โดยให้ หน่วยงานที่เก่ียวข้องวางแผนงานโครงการให้สอดคล้อง กบั พื้นท่ีดงั กลา่ ว 38 การบริหารจดั การทรัพยากรนา้ํ ในประเทศไทย

3 การยกระดบั องคก์ รกลางดา้ นนำ้� จากภารกิจท่ีเพ่ิมเติมจากพระราชบัญญัติ ทรพั ยากรนำ�้ พ.ศ. 2561 และมตคิ ณะรฐั มนตรที เ่ี กยี่ วขอ้ ง ท�ำให้ สทนช. ต้องก�ำหนดให้มีโครงสร้างใหม่เพิ่มเติม เพ่ือรองรับภารกิจดังกล่าว เช่น กองการต่างประเทศ ส�ำนักงานทรัพยากรน้�ำแห่งชาติภาค เพ่ือกระจาย ตามภูมิภาคต่างๆ พร้อมท�ำหน้าท่ีฝ่ายเลขานุการ คณะกรรมการลุ่มให้สอดคล้องกับคณะกรรมการ ทรพั ยากรน้ำ� แห่งชาติ อีกภารกิจส�ำคัญ คือ การพัฒนาศูนย์อ�ำนวยการนํ้าเฉพาะกิจ เป็นกองอ�ำนวยการน้�ำแห่งชาติ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อท�ำหน้าท่ีวิเคราะห์ข้อมูล ช้ีเป้าและเสนอแนะมาตรการก่อนเข้าสู่ ภาวะวิกฤต ลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ก่อนที่จะยกระดับเป็นศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจ ซ่ึงจะตั้งขึ้น ในกรณีท่ีเกิดปัญหาวิกฤตน�้ำจนอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อการด�ำรงชีวิตของประชาชน สัตว์ หรือพืช หรืออาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชนหรือของรัฐอย่างรุนแรง โดยให้นายกรัฐมนตรี เปน็ ผบู้ ัญชาการ อำ� นวยการแก้ไขปญั หา จนกวา่ ปัญหาวิกฤตน้ำ� จะผ่านพ้นไป 4 เสรมิ สรา้ งเสาหลกั ที่ 4 เสาแหง่ นวัตกรรม และเทคโนโลยที รัพยากรน�้ำใหม้ นั่ คง สทนช. พฒั นาความรว่ มมอื ดา้ นนำ้� ในระดบั นโยบายกบั นานาชาติ พร้อมสนับสนุนการแลกเปล่ียนองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญ และ ประสบการณ์จากต่างประเทศมาประยุกต์ใช้กับการบริหารจัดการ ทรพั ยากรนำ้� ของประเทศไทย รวมทงั้ จดั ทำ� ทำ� เนยี บองคค์ วามรภู้ มู ปิ ญั ญา ท้องถิ่น เพื่อเผยแพร่ต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือน�ำร่องในพ้ืนที่ อื่นๆ ตามความเหมาะสม การบริหารจัดการทรัพยากรน้�ำในประเทศไทย ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รว่ มกนั ดำ� เนนิ การในสว่ นทเี่ กยี่ วขอ้ ง ไมว่ า่ จะเปน็ ภาคประชาชน ภาคเอกชน หนว่ ยงานราชการทกุ ฝา่ ย ร่วมกนั ขับเคล่อื นเสาหลักของการบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนำ้� ท้งั 4 เสา ให้สามารถด�ำเนินการได้ตาม เปา้ หมายทว่ี างไวเ้ พอื่ ใหก้ ารบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนำ�้ เกดิ ความสมดลุ เปน็ ธรรม และยงั่ ยนื สอดคลอ้ ง กับสภาพภูมิอากาศท่ีเปลี่ยนแปลง และเป็นไปตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติทรัพยากรนํ้า พ.ศ. 2561 อีกด้วย ก้าวต่อไป ในบริบทของการบริหารจดั การน้าํ ของประเทศไทย 39

มาร่วมกันบริหารจดั การ “ น้ำ�บนฟา้ ส่มู หานท ี ” ให้สมดุล เป็นธรรม และยง่ั ยนื ไปพรอ้ มกบั เรา... “สทนช.”


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook