Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้รวม ม.ต้น

แผนการจัดการเรียนรู้รวม ม.ต้น

Published by realray2553, 2020-07-06 19:57:12

Description: แผนการจัดการเรียนรู้รวม ม.ต้น

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระความรพู้ น้ื ฐาน รายวชิ า ภาษาไทย พท21001 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอื่ งท่ี 1 การฟงั การดู เวลา 3 ชวั่ โมง สปั ดาหท์ ี่ ...2... สอนวนั ท่ี …1.. เดอื น …กรกฎาคม.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นท่ี …1... ปกี ารศกึ ษา ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั การฟงั การดู 1. สามารถสรปุ ความ จับประเด็นสำคัญของเรอื งทฟี ังและดู 2. วิเคราะห์ แยกแยะขอ้ เท็จจรงิ ข้อคิดเห็นและจุดประสงคข์ องเรืองทฟี งั และดู . 3. สามารถแสดงทรรศนะ และความคิดเห็นต่อผพู้ ดู อย่างมเี หตุผล 4. มีมารยาทในการฟงั และดู ตวั ชวี้ ดั 1. สรุปความ จับประเด็นสำคัญของเร่อื งทฟ่ี งั และดู 2. วเิ คราะหค์ วามน่าเชอื่ ถือจาการฟงั และดูสอ่ื โฆษณาและข่าวสาร เนอ้ื หา 1. สรุปความ จับประเดน็ สำคัญของเรอ่ื งทฟี่ งั และดู 2. หลักการจบั ใจความสำคญั ของเรื่องทฟ่ี ังและดู การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ขน้ั ที่ 1 การกำหนดสภาพปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ 1. ครูกลา่ วทักทายผเู้ รยี น และซกั ถามผู้เรยี นเป็นรายบุคคลเกี่ยวกับการสภาพปญั หาหรือเร่ืองเกดิ ข้นึ ในชุมชน หรอื ในสังคมปัจจบุ นั ที่ได้รับรจู้ ากส่ือต่างๆ ทีค่ ดิ วา่ มีความสำคญั 2. ผเู้ รยี นเล่าเรอื่ งราวตา่ ง ๆที่น่าสนใจท่ีได้พบเหน็ และแสดงความคิดเห็นในเร่อื งราวท่ีไดเ้ ลา่ ออกมาให้ครแู ละ เพ่ือนไดร้ บั ฟัง (ฝึกทักษะการคดิ ) ขนั้ ที่ 2 การแสวงหาขอ้ มลู และการเรยี นรู้ 1. ครใู หผ้ เู้ รียนไดแ้ สดงความคดิ เหน็ ถึงการที่ได้รบั ฟงั จากเพ่อื นร่วมกลมุ่ ทีละคน ตามความคิดเหน็ ของผู้เรียน และมีหลกั การหรือวธิ ีการอย่างไรในการท่ีจะรับฟงั หรือดเู ร่ืองราวต่างๆ แลว้ และสรุปไดว้ า่ เร่อื งราวนัน้ เปน็ เรอ่ื งจรงิ เทจ็ ดี หรอื ไมด่ อี ยา่ งไร 2. ครูให้ผู้เรียนไดจ้ ับกล่มุ ๆ ละ 5-7 คน จากนั้นแจกใบงาน เรอื่ งการฟัง ดู 3. ผูเ้ รยี นได้แบ่งกลุ่มตามเง่อื นไขของครู จากนั้นรบั ใบงานเร่อื งการฟงั ดู มาศึกษาและปฏิบัติตามใบงาน 4. ผู้เรียนแต่ละกล่มุ ได้นำเสนอผลงานตามใบงานเรือ่ งฟัง ดู

ขน้ั ที่ 3 การปฏบิ ัตแิ ละการนำไปประยกุ ตใ์ ช้ 1. ครูและผูเ้ รียนรว่ มกันสรปุ ประเดน็ เนื้อหาสาระรว่ มกนั โดยการร่วมกนั วเิ คราะหเ์ ร่อื งราวของขา่ วทน่ี กั ศึกษา ต่างสถาบนั ตกี นั ขนั้ ที่ 4 การประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤติกรรมการเรียนรรู้ ายบคุ คล(ตามสภาพจริง) 2. แบบประเมินใบงานการฟัง ดู สอ่ื การเรยี นการสอน - ส่ือออนไลน์ - ใบงานเรื่อง การฟัง ดู - หนังสอื พมิ พ์ - แบบฝึกหดั - หนงั สอื แบบเรยี น การวดั ผลประเมนิ ผล - การสงั เกตการทำกิจกรรมกลมุ่ - การทำแบบฝกึ หดั - การเรียนรู้รายบคุ คล ลงชอ่ื (นายวัชระ วเิ ทห่ )์ ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ลงชอ่ื ( นายสุรชยั จันทรแ์ ดง ) ผ้อู ำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวิชัย

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระความรพู้ น้ื ฐาน รายวชิ า ภาษาไทย พท21001 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอื่ งท่ี 2 การrพดู เวลา 3 ชว่ั โมง สปั ดาหท์ ี่ ...2... สอนวนั ท่ี …1.. เดอื น …กรกฎาคม.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นที่ …1... ปกี ารศกึ ษา ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั การพูด 1. สามารถพดู นําเสนอความรู้ แสดงความคิดเห็น สร้างความเข้าใจ โน้มน้าวใจ ปฏิเสธเจรจา ต่อรองด้วยภาษากริ ยิ าทา่ ทาง ทสี ภุ าพในโอกาสตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 2. มีมารยาทในการพดู ตวั ชว้ี ดั 1. พดู นำเสนอความรู้ ความคิดเห็น สร้างความเข้าใจ โนม้ น้าวใจ ปฏิเสธ เจรจาต่อรองดว้ ยภาษา กริ ิยา ท่าทางที่สภุ าพ เนอื้ หา 1. สรปุ ความ จับประเด็นสำคญั ของเรื่องที่พดู ได้ 2. การพดู นำเสนอความรคู้ วามคิดเห็น และการพูดในโอกาสตา่ ง ๆ เชน่ 2.1 พดู แนะนำตนเอง 2.2 พดู กล่าวต้อนรบั 2.3 พดู โน้มนา้ ว 2.4 พดู ปฏเิ สธ 2.5 พดู ปฏเิ สธ 2.6 พูดเจรจาต่อรอง 2.7 พดู แสดงความคดิ เห็น การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ขนั้ ท่ี 1 การกำหนดสภาพปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ 1. ครซู กั ถามผ้เู รียนถงึ การวัฒนธรรมการพดู คยุ กนั ของวยั รนุ่ และบคุ คลทวั่ ไปในยคุ IT และให้ผู้เรยี นได้แสดง ความคดิ เหน็ ถงึ ประเดน็ ปัญหาที่ไดพ้ ูดคุยกันว่ามผี ลกระทบสงั คมไทยและขนบธรรมเนียมความเปน็ ไทย อย่างไร 2. ครพู ดู เชื่อมโยงจากประเดน็ ปญั หาท่ไี ด้พดู คุยกนั ถึงความสำคญั ท่ีจำเปน็ จะตอ้ งมีการเรียนร้เู กีย่ วกับการพดู ประเภทตา่ ง ๆ ที่ทุกคนต้องใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ไมว่ า่ จะเป็นภาษาไทยเองและภาษาต่างประเทศท่ีควรศกึ ษา เรยี นรู้

ขน้ั ท่ี 2 การแสวงหาขอ้ มลู และการเรยี นรู้ 1. ครูใหผ้ ู้เรยี นศึกษาเรือ่ งการพดู ของประเภทตา่ ง ๆ และมารยาทในการพดู จากตำราเรยี นและสอ่ื 2. ผเู้ รยี นศึกษารูปแบบการพูดจาส่อื Internet 3. ผู้เรียนจับสลากเพอ่ื แสดงบทบาทสมมติเก่ยี วกับการพูดในโอกาสตา่ ง ๆ 4. ครูสมุ่ เลือกผู้เรียนเพอื่ แสดงบทบาทสมมตุ หิ น้าช้ันเรียน 5. ผ้เู รยี นออกมาแสดงบทบาทสมมุตติ ามหวั ขอ้ ทจี่ ับฉลากได้หน้าชนั้ เรยี น ขน้ั ที่ 3 การปฏบิ ตั แิ ละการนำไปประยกุ ตใ์ ช้ 1. ครแู ละผูเ้ รยี นร่วมกันสรุปเนื้อหาสาระรว่ มกันและครเู พิ่มเตมิ ส่วนทข่ี าดหายไปในประเด็นดังกลา่ วทีไ่ ด้เรยี นรู้ มา 2. ครูอธิบายถงึ แนวทางในการศกึ ษาเรยี นรดู้ ้วยตนเองในครงั้ ต่อไปและใบงาน เรือ่ งมารยาททด่ี ีในการพูด ขน้ั ท่ี 4 การประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรรู้ ายบคุ คล(ตามสภาพจริง) 2. แบบประเมินบทบาทสมมุติ สอ่ื การเรยี นการสอน - ส่อื ออนไลน์ - ใบงานเร่ือง มารยาททด่ี ใี นการพดู - หนงั สือแบบเรียน การวดั ผลประเมนิ ผล - การเรยี นรู้รายบุคคล - การทำกิจกรรม ลงชอ่ื (นายวัชระ วิเท่ห)์ ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ลงช่อื ( นายสรุ ชยั จนั ทรแ์ ดง ) ผูอ้ ำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวิชยั

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระความรพู้ นื้ ฐาน รายวชิ า ภาษาไทย พท21001 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอื่ งที่ 3 การเขยี น เวลา 3 ชวั่ โมง สปั ดาหท์ ี่ ...3... สอนวนั ที่ …8.. เดอื น …กรกฎาคม.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นท่ี …1... ปกี ารศกึ ษา ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั การเขยี น 1. สามารถเลอื กใช้ภาษาในการนําเสนอตามรูปแบบของงานเขยี นประเภทต่างๆ ไดอ้ ย่าง สรา้ งสรรค์ 2. สามารถใช้แผนภาพความคิด จัดลำดับความคดิ เพื่อพฒั นางานเขยี น 3. สามารถแต่งบทรอ้ ยกรองตามความสนใจได้ถูกต้องตามหลกั ไวยากรณแ์ ละลกั ษณะคาํ ประพันธ์ 4. สามารถเขียนส่ือสารเรอื งราวตา่ งๆ ได้ 5. มีมารยาทในการเขยี นและนสิ ัยรกั การเขยี น ตวั ชว้ี ดั 1. เลอื กใชภ้ าษาในการนำเสนอตามรปู แบบของงานเขยี นประเภทรอ้ ยแกว้ และรอ้ ยกรองไดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์ 2. ใชแ้ ผนภาพความคิด จัดลำดบั ความคดิ ก่อนการเขียน เนอ้ื หา 1. หลักการเขยี น การใชภ้ าษาในการเขียน 2. หลกั การเขยี นแผนภาพความคิด การจดั การกระบวนการเรยี นรู้ ขนั้ ท่ี 1 การกำหนดสภาพปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ 1. ครูพูดว่ามคี นบอกครวู ่าสมองของคนเราน้นั กเ็ หมือนตน้ ไม้ ถา้ เราไม่ขยันที่จะรดิ ใบเหมือนต้นเราก็จะไม่มี การงอกงามขน้ึ เม่ือไมม่ กี ารงอกขน้ึ มาใหม่ สมองเรากไ็ ม่เกิดการพฒั นา ดังน้นั ถา้ เราใชใ้ นเวลาการเรียนรู้ อา่ นหนังสือ กท็ ำให้เราริดกงิ่ กา้ นสมองเราตลอดเวลา เราก็สามารถฉลาดได้ คณุ วริ ษา เกรซ บอกว่าสมอง คนเราน้นั จำทกุ อย่างเป็นสี ดังน้นั ถา้ เราอยากจำได้ เราต้องฟงั คิดและจดในรูปของแผนความคดิ 2. ครถู ามผเู้ รียนวา่ ร้จู ักแผนภาพความคิดหรือไม่แล้วแลกเปลี่ยนเรยี นรรู้ ะหวา่ งเพอ่ื นในกลุ่ม ขนั้ ที่ 2 การแสวงหาขอ้ มลู และการเรยี นรู้ 1. ครอู ธบิ ายความหมาย หลกั การเขยี นภาษาไทย การเขยี นและหลกั การเขยี นภาพความคดิ 2. ครใู หผ้ เู้ รยี นเขียนแผนภาพความคิดเก่ยี วกับการเขียนยอ่ ความ การเขียนเรยี งความ ฯลฯ

ขนั้ ที่ 3 การปฏบิ ตั แิ ละการนำไปประยกุ ตใ์ ช้ 1. ครูสุ่มตัวอยา่ งเลือกผ้เู รยี นนำเสนอผลงานนำเสนอผลงานแผนภาพความคดิ และสรปุ ผลการนำเสนอให้ ขอ้ เสนอแนะ ขน้ั ท่ี 4 การประเมนิ ผล 1. ประเมนิ จากผลงานและพฤติกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การเรยี นการสอน - ส่อื ออนไลน์ - ใบงานเรือ่ ง มารยาทที่ดใี นการพดู - หนงั สือแบบเรียน การวดั ผลประเมนิ ผล - การเรียนรู้รายบคุ คล - การทำกิจกรรม ลงช่อื (นายวชั ระ วิเทห่ )์ ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ลงช่ือ ( นายสรุ ชัย จันทร์แดง ) ผูอ้ ำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวิชยั

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระความรพู้ น้ื ฐาน รายวชิ า ภาษาไทย พท21001 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอื่ งท่ี 4 การเขยี น เวลา 3 ชวั่ โมง สปั ดาหท์ ี่ ...3... สอนวนั ที่ …8.. เดอื น …กรกฎาคม.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นที่ …1... ปกี ารศกึ ษา ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั การเขยี น 1. สามารถเลือกใช้ภาษาในการนาํ เสนอตามรปู แบบของงานเขียนประเภทต่างๆ ไดอ้ ย่าง สร้างสรรค์ 2. สามารถใชแ้ ผนภาพความคิด จดั ลำดับความคิดเพ่ือพัฒนางานเขยี น 3. สามารถแต่งบทร้อยกรองตามความสนใจได้ถูกตอ้ งตามหลักไวยากรณ์และลักษณะคาํ ประพันธ์ 4. สามารถเขยี นส่ือสารเรืองราวตา่ งๆ ได้ 5. มมี ารยาทในการเขยี นและนสิ ัยรักการเขียน ตวั ชวี้ ดั 1. แต่งบทรอ้ ยกรองประเภทกลอนส่ี กลอนสี่สุภาพ 2. เขียนบทร้อยแกว้ ประเภทประวัตติ นเอง อธิบายความ ยอ่ ความ ข่าว 3. เขยี นรายงานการคน้ ควา้ สามารถอา้ งองิ แหลง่ เรียนรู้ ไดถ้ กู ต้อง 4. กรอกแบบรายการตา่ ง ๆ เนอื้ หา 1. หลกั การเขยี นเพอ่ื สือ่ สารประเภทต่าง ๆ เชน่ การเขียนเรียงความย่อความ เขียนช้ีแจง เขยี นแสดงความ คดเหน็ คำขวญั คำคม คำโฆษณา เขยี นรายงานการค้นคว้าการกรอกแบบพมิ พ์และใบสมัครงาน การจดั การกระบวนการเรยี นรู้ ขนั้ ท่ี 1 การกำหนดสภาพปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ 1. ครูถามผเู้ รยี นวา่ เคยเข้าใช้บริการรา้ นอาหาร เช่น MK , KFC และเคยเขยี นแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการ ใชบ้ ริการร้านดงั กล่าวบา้ งหรอื ไมโ่ ดยแลกเปล่ยี นเรียนรูร้ ว่ มกนั ขนั้ ที่ 2 การแสวงหาขอ้ มลู และการเรยี นรู้ 1. ครูอธิบายเกยี่ วกบั หลกั การเขยี นเพ่อื การสื่อสารประเภทต่าง ๆ เชน่ การเขยี นเรียงความ ยอ่ ความ แสดง ความคิดเหน็ คำขวญั คำโฆษณา การออกแบบพมิ พ์และการแตง่ บทร้อยกรองประเภท กลอนส่ี กลอนสี่สภุ าพ 2. ครูใหผ้ ู้เรยี นจัดทำแผน่ พบั ประชาสัมพันธ์การรับสมคั รนักศกึ ษา กศน.โดยประกอบด้วย คำขวัญ คำโฆษณา กลอนสห่ี รอื กลอนสี่สุภาพในการเชิญชวนรบั สมัครเม่อื ทำเสร็จใหน้ ำผลงานของแตล่ ะคนติดไว้ท่บี อรด์

ขน้ั ท่ี 3 การปฏบิ ตั แิ ละการนำไปประยกุ ตใ์ ช้ 1. เพอื่ นๆในชนั้ เรียนร่วมกนั ประเมนิ ผลงานโดยการนำการะดาษรูปหวั ใจไปตดิ ไว้บนผลงานท่ตี นเองชน่ื ชอบ 2. ครูเลือกผลงานช้ินที่ดีที่สดุ จำนวน 3 ชนิ้ พรอ้ มใหน้ ำเสนอผลงาน 3. ครมู อบรางวัลใหแ้ ก่ผเู้ รยี นที่ออกแบบได้โดนใจทส่ี ุด 3 รางวลั ขนั้ ที่ 4 การประเมนิ ผล 1. ประเมินจากผลงานและพฤตกิ รรมการเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นการสอน - ส่ือออนไลน์ - บัตรคำ - หนงั สือแบบเรียน การวดั ผลประเมนิ ผล - การเรยี นรู้รายบุคคล - การทำกิจกรรม ลงช่อื (นายวัชระ วเิ ทห่ ์) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ลงช่อื ( นายสุรชัย จนั ทรแ์ ดง ) ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวิชยั

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระความรพู้ น้ื ฐาน รายวชิ า ภาษาไทย พท21001 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอื่ งที่ 5 หลกั การใชภ้ าษา เวลา 3 ชว่ั โมง สปั ดาหท์ ่ี ...4... สอนวนั ที่ …15.. เดอื น …กรกฎาคม.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นท่ี …1... ปกี ารศกึ ษา ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั หลกั การใชภ้ าษา 1. รู้และเขา้ ใจชนดิ และหน้าท่ขี องคำ พยางค์ วลี ประโยค และสามารถอ่าน เขยี นได้ ถกู ตอ้ งตามหลกั เกณฑ์ ของภาษา 2. สามารถใช้เครือ่ งหมายวรรคตอน อักษรย่อ คำราชาศพั ท์ 3. สามารถวเิ คราะหค์ วามแตกตา่ งระหว่างภาษาพูดและภาษาเขียน 4. ร้แู ละเข้าใจสำนวน สุภาษิต คำพงั เพยในการพดู และเขียน ตวั ชว้ี ดั 1. อธบิ ายความแตกตา่ งของคำพยางค์ วลี ประโยค การสะกดคำได้ถูกตอ้ ง 2. อธิบายความแตกตา่ งระหว่างภาษาพูดและภาษาเขียน เนอื้ หา 1. ความหมายของคำ พยางค์ วลี ประโยค และการสะกดคำ 2. หลักในการสะกดคำ 3. การใชค้ ำและการสรา้ งคำในภาษาไทย 3.1 การสรา้ งคำ 3.2 คำประสม 3.3 คำซอ้ น 3.4 คำสมาส คำสนธิ 3.5 ลักการสงั เกตคำภาษาอ่ืน ๆ ที่ใช้ในภาษาไทย การจดั การกระบวนการเรยี นรู้ ขนั้ ที่ 1 การกำหนดสภาพปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ ครสู ุ่มตวั อย่างผู้เรียนใหเ้ ขียนชื่อบนกระดาน จำนวน 10 คน และให้ผู้เรียนในกลุ่มชว่ ยกันบอกคำรายชอ่ื ท้งั 10 คนมกี พ่ี ยางค์ จากน้นั ครจู งึ สอบถามผูเ้ รยี นถึงวิธกี ารนบั พยางคว์ า่ มีวิธกี ารอยา่ งไรเพื่อท่ีจะวัดความรเู้ บือ้ งตน้ ของ ผเู้ รยี น

ขนั้ ท่ี 2 การแสวงหาขอ้ มลู และการเรยี นรู้ 1. ครูอธิบายความหมายของคำ พยางค์ วลี ประโยค การสะกดคำ หลกั การสะกดคำและการใชค้ ำการสรา้ งคำ ในภาษาไทย คำประสม คำซ้ำ คำซอ้ น คำสมาส คำสนธิ 2. ให้ผเู้ รยี นเลอื กบทความทเี่ กย่ี วกับคุณธรรมพร้อมบอกว่าในบทความดงั กลา่ วใช้มาตราตวั สะกดในและให้ ขอ้ คิดอะไรกับเราบา้ ง 3. ใหผ้ ู้เรยี นแบง่ กลุ่ม ๆ ละ 5 – 7 คน จำนวน 4 กลุม่ ดังน้ี 3.1 กล่มุ คำประสม 3.2 กล่มุ คำซอ้ น 3.3 กลมุ่ คำสมาส คำสนธิ โดยให้แต่ละกลุ่มสรา้ งบตั รคำให้ตรงตามชนดิ ของคำท่ตี นเองได้รับตามช่อื กลุ่มจำนวน 10 คำ 4. ครูผ้สู อนนำบัตรคำมารวมกนั และให้ผู้เรยี นทำกจิ กรรมการเรียนรชู้ นดิ ของคำโดยวิธีการดงั น้ี 4.1 ผู้เรียนแตล่ ะกลุ่มแขง่ ขนั นำบตั รคำไปติดไว้ทีบ่ อร์ดให้ประเภทเช่น แม่ยาย เปน็ คำประสม นำไปตดิ ให้ถูกต้อง 4.2 กลุ่มไหนทำเวลาได้ดแี ละไดจ้ ำนวนบัตรท่ีติดถกู ต้องท่ีสดุ คือทมี ผู้ชนะ 4.3 ครูมอบของรางวลั แก่กลุ่มผชู้ นะ ขนั้ ท่ี 3 การปฏบิ ัตแิ ละการนำไปประยกุ ตใ์ ช้ 1. ครูสรุปผลกจิ กรรมการเรยี นรู้ และข้อคิด/ความรนู้ ีไ้ ด้จากกจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั ท่ี 4 การประเมนิ ผล 1. แบบประเมนิ ผลงาน 2. สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ สอื่ การเรยี นการสอน - ส่อื ออนไลน์ - บัตรคำ - หนังสือแบบเรียน การวดั ผลประเมนิ ผล - การเรียนรรู้ ายบคุ คล - การทำกิจกรรม ลงชื่อ ลงชอ่ื (นายวัชระ วิเทห่ )์ ( นายสรุ ชยั จนั ทร์แดง ) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวิชัย

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระความรพู้ นื้ ฐาน รายวชิ า ภาษาไทย พท21001 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอ่ื งที่ 6 หลกั การใชภ้ าษา เวลา 3 ชว่ั โมง สปั ดาหท์ ่ี ...4... สอนวนั ท่ี …15.. เดอื น …กรกฎาคม.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นที่ …1... ปกี ารศกึ ษา ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั หลกั การใชภ้ าษา 1. รแู้ ละเข้าใจชนดิ และหนา้ ทข่ี องคำ พยางค์ วลี ประโยค และสามารถอ่าน เขยี นได้ ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ ของภาษา 2. สามารถใชเ้ ครือ่ งหมายวรรคตอน อกั ษรย่อ คำราชาศพั ท์ 3. สามารถวิเคราะหค์ วามแตกต่างระหว่างภาษาพูดและภาษาเขยี น 4. รแู้ ละเข้าใจสำนวน สภุ าษิต คำพงั เพยในการพดู และเขยี น ตวั ชว้ี ดั 1.อธิบายความแตกต่างประโยคชนดิ ต่าง ๆ ได้ เนอื้ หา 1. ความหมายและสว่ นประกอบของประโยค 2. ชนิดของประโยค 2.1 ประโยคความเดียว 2.2 ประโยคความรวม 2.3 ประโยคความซ้อน 3. หน้าท่ขี องประโยค การจดั การกระบวนการเรยี นรู้ ขนั้ ท่ี 1 การกำหนดสภาพปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ 1. ครูใชบ้ ัตรคำทม่ี ีทั้ง คำ วลี และประโยคใหผ้ ู้เรียนแยกประเภท เมอ่ื แยกประเภทแลว้ ให้ครูนำบัตรคำที่เปน็ ประโยคถามผเู้ รยี นวา่ บัตรคำนั้นเป็นประโยคประเภทใด และครูเชือ่ มโยงใหเ้ ห็นถงึ ความสำคัญท่ีตอ้ งเรียนรเู้ รื่องชนดิ ของประโยค ขนั้ ที่ 2 การแสวงหาขอ้ มลู และการเรยี นรู้ 1. ครมู อบหมายให้ผู้เรียนศึกษาใบความรู้เร่อื งชนิดของประโยค 2. ผู้เรียนถามปญั หาและข้อสงสยั 3. ครตู อบข้อสงสัยและอธบิ ายเพมิ่ เติม

ขน้ั ท่ี 3 การปฏบิ ัตแิ ละการนำไปประยกุ ตใ์ ช้ 1. ครใู หผ้ ู้เรียนปฏิบัติตามใบงาน โดยเขียนเรยี งความเรือ่ งเศรษฐกจิ พอเพยี งโดยในเรียงความดังกล่าวจะต้อง ประกอบไปดว้ ยประโยคความเดียว ประโยคความรวมและประโยคความซ้อน พรอ้ มแยกใหเ้ ห็นชัดเจนและอธบิ ายว่า ประโยคทีเ่ ขยี นเป็นประโยคชนดิ ใด ขนั้ ท่ี 4 การประเมนิ ผล 1. แบบประเมนิ ผลงาน สอื่ การเรยี นการสอน - ส่อื ออนไลน์ - บัตรคำ - ใบความรเู้ รอ่ื งชนิดของประโยค - หนังสอื แบบเรียน การวดั ผลประเมนิ ผล - การเรียนร้รู ายบคุ คล - การทำกิจกรรม ลงชอื่ (นายวชั ระ วเิ ทห่ )์ ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ลงชอื่ ( นายสรุ ชัย จนั ทร์แดง ) ผูอ้ ำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวชิ ยั

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระความรพู้ น้ื ฐาน รายวชิ า ภาษาไทย พท21001 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอื่ งท่ี 7 หลกั การใชภ้ าษา เวลา 6 ชวั่ โมง สปั ดาหท์ ่ี ...5... สอนวนั ท่ี …22.. เดอื น …กรกฎาคม.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นท่ี …1... ปกี ารศกึ ษา ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั หลกั การใชภ้ าษา 1. ร้แู ละเขา้ ใจชนิดและหนา้ ท่ีของคำ พยางค์ วลี ประโยค และสามารถอ่าน เขียนได้ ถกู ต้องตามหลกั เกณฑ์ ของภาษา 2. สามารถใชเ้ ครอ่ื งหมายวรรคตอน อักษรย่อ คำราชาศพั ท์ 3. สามารถวิเคราะห์ความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาพดู และภาษาเขียน 4. รแู้ ละเขา้ ใจสำนวน สภุ าษิต คำพงั เพยในการพูดและเขียน ตวั ชว้ี ดั 1. อธิบายหลกั การและสามารแต่งคำประพนั ธ์ประเภทต่าง ๆ เนอื้ หา 1. หลักการแต่งคำประพนั ธ์ประเภทต่าง เชน่ 1.1 กาพยย์ านี 11 1.2 กาพย์ฉบงั 16 1.3 กลอนแปดสภุ าพ การจดั การกระบวนการเรยี นรู้ ขน้ั ท่ี 1 การกำหนดสภาพปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ 1. ครูคดิ แผ่นกระดาษตวั อย่างคำประพันธ์ประเภทต่าง ๆ และอา่ นเปน็ ทำนองเสนาะให้ผ้เู รียนฟงั 2. ให้ผู้เรยี นแสดงความคิดเห็นเรอื่ งคำประพันธ์ดงั กลา่ ว 3. ครูชใี้ หเ้ ห็นถงึ ความสำคญั ทจ่ี ะตอ้ งศกึ ษาคำประพันธท์ ี่มคี ณุ ค่าและความจำเป็นทจ่ี ะตอ้ งแตง่ คำประพนั ธ์ ประเภทต่าง ๆ ได้ ขนั้ ที่ 2 การแสวงหาขอ้ มลู และการเรยี นรู้ 1. ครูทำแผนผงั คำประพันธป์ ระเภทต่าง ๆ อธบิ ายลกั ษณะบังคับและฉันทลกั ษณ์ พร้อมยกตัวอยา่ งประกอบ 2. ผู้เรยี นซักถามข้อสงสัยและครอู ธิบายเพมิ่ เตมิ

ขนั้ ท่ี 3 การปฏบิ ตั แิ ละการนำไปประยกุ ตใ์ ช้ 1. แบ่งกลมุ่ ผ้เู รียนเปน็ กลมุ่ ย่อย 4 กลุ่ม ปฏบิ ตั ิตามใบงาน โดยให้ผู้เรยี น 2 กลมุ่ แต่งกาพย์ยานี 11 ผเู้ รยี น อีก 2 กลุ่ม แตง่ กลอนแปดสภุ าพ ทกุ กล่มุ แตง่ คำประพันธ์ 4 บทตามหวั ขอ้ ทก่ี ำหนดในใบงาน 2. ให้ผู้เรยี นจัดทำใบงานเรอ่ื งหลกั การแต่งคำประพันธ์ลงในใบงานทีส่ ง่ ครู ขนั้ ท่ี 4 การประเมนิ ผล 1. แบบประเมินผลงาน สอ่ื การเรยี นการสอน - สือ่ ออนไลน์ - ใบงานเรอื่ งหลกั การแตง่ คำประพนั ธ์ - หนังสอื แบบเรยี น การวดั ผลประเมนิ ผล - การเรียนรู้รายบคุ คล - การทำกิจกรรม ลงชื่อ (นายวชั ระ วเิ ท่ห์) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ลงชือ่ ( นายสุรชัย จันทรแ์ ดง ) ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวิชัย

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระความรพู้ น้ื ฐาน รายวชิ า ภาษาไทย พท21001 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอ่ื งที่ 8 ภาษาไทยกบั การประกอบอาชพี เวลา 6 ชว่ั โมง สปั ดาหท์ ี่ ...6... สอนวนั ที่ …29.. เดอื น …กรกฎาคม.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นที่ …1... ปกี ารศกึ ษา ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั ภาษาไทยกบั การประกอบอาชพี มีความรู้ ความเขา้ ใจสามารถวเิ คราะห์ศักยภาพตนเองถึงความถนัดในการใช้ภาษาไทยด้านต่างๆ ได้ ตวั ชว้ี ดั 1. ใช้ความรู้การพดู ภาษาไทยเป็นช่องทางในการประกอบอาชีพ 2. ใช้ความรกู้ ารเขยี นภาษาไทยเป็นช่องทางการะประกอบอาชีพ เนอื้ หา 1. ภาษาไทยด้านการพูดกบั ชอ่ งทางการประกอบอาชพี 2. ภาษาไทยดา้ นการเขยี นกบั ชอ่ งทางการประกอบอาชีพ การจดั การกระบวนการเรยี นรู้ ขนั้ ท่ี 1 การกำหนดสภาพปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ 1. ครูฉายภาพการเขยี นชอื่ รายการอาหารท่ผี ิดทีต่ ิดไว้ในรา้ นอาหาร และภาพการพดู ภาษาไทยท่ีผิด ในการประกอบอาชีพตา่ ง ๆ โดยใช้สื่อวีดีทัศน์ Internet หรอื สอื่ อืน่ ๆ ตามความเหมาะสม 2. ให้ผู้เรียนแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั เรอื่ งทีด่ ู จากน้นั ครพู ดู ใหผ้ ู้เรยี นฟงั ถึงความสำคัญท่ีจะตอ้ งเรียนใน เรื่องการใชภ้ าษาไทยให้ถกู ตอ้ งในการประกอบอาชพี ขน้ั ท่ี 2 การแสวงหาขอ้ มลู และการเรยี นรู้ 1. ผเู้ รียนค้นคว้าหาขอ้ มูลเรื่องการใชภ้ าษาไทยใหถ้ ูกตอ้ งในการประกอบอาชพี โดยค้นควา้ ศึกษาจากสอ่ื Internet หรือสื่อสิง่ พมิ พ์ 2. ผู้เรยี นศึกษากรณีตวั อย่างผู้ท่ีใชภ้ าษาไทยที่ถกู ตอ้ งในการประกอบอาชีพ ขนั้ ท่ี 3 การปฏบิ ัตแิ ละการนำไปประยกุ ตใ์ ช้ 1. แบง่ ผเู้ รยี นเป็นกลมุ่ ยอ่ ย กล่มุ ละ 5 – 7 คน โดยใชเ้ กมส์หรือเพลงและแสดงบทบาทสมมตเิ รอื่ งการใช้ ภาษาไทยในการประกอบอาชีพโดยบทบาทสมมติดังกล่าวจะมอี าชพี ทีห่ ลากหลาย 2. ครสู รปุ ผลการประเมนิ กจิ กรรมโดยผู้เรยี น และสรุปเน้อื หาท่สี ำคัญเพิ่มเตมิ ใหพ้ อสงั เขป ขนั้ ท่ี 4 การประเมนิ ผล 1. แบบประเมนิ ผลงาน จากผู้เรียน

สอื่ การเรยี นการสอน - ส่ือออนไลน์ - ใบความรู้เรอ่ื งการใช้ภาษาไทยใหถ้ กู ต้องในการประกอบอาชีพ - ใบงาน เรื่องภาษาไทยกับการประกอบอาชีพ - หนังสือแบบเรียน การวดั ผลประเมนิ ผล - การเรียนรรู้ ายบุคคล - การทำกิจกรรม ลงชือ่ (นายวชั ระ วิเท่ห์) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ลงช่ือ ( นายสุรชยั จนั ทรแ์ ดง ) ผูอ้ ำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวชิ ยั

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระความรพู้ นื้ ฐาน รายวชิ า ภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจำวนั พต21001 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอ่ื งที่ 1 การพดู แสดงความคดิ รปู แบบตา่ งๆ (Expression of opinion, ideas/wishes/offering helps, etc.) เวลา 6 ชว่ั โมง สปั ดาหท์ ี่ ...7... สอนวนั ท่ี …5.. เดอื น …สงิ หาคม.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นที่ …1... ปกี ารศกึ ษา ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติเกี่ยวกบั ภาษาท่าทาง การฟัง พดู อ่าน เขยี น ภาษาตา่ งประเทศ ดว้ ยประโยคทซ่ี บั ซ้อนในชีวิตประจำวัน และงานอาชพี ของตนไดถ้ ูกตอ้ งตามหลกั ภาษาวฒั นธรรม และกาลเทศะของ เจา้ ของภาษา ตวั ชว้ี ดั พดู แสดงความคิดเห็นและแสดงความต้องการในสถานการณต์ า่ ง ๆ เนอ้ื หา ภาษาเพือ่ แสดงความคดิ เหน็ ความต้องการ การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ขนั้ ที่ 1 การกำหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ ครูทักทายผู้เรียน พูดคุยสนทนาเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตในสงั คมปัจจบุ ันนี้ ซึ่งเป็นสิ่งท่ีสำคัญของการดำเนนิ ชวี ติ ประจำวนั จะต้องอาศัยหลักปัจจัยพื้นฐาน ทา่ นมคี วามคิดเหน็ อย่างไรบ้างเกยี่ วกับการพดู แสดงความคิดเห็นและ ความต้องการในสถานการณ์ต่างๆ มีความสำคัญสำหรับบุคคลแต่ละบคุ คล เป็นอย่างมากจะตอ้ งมีการพูดแสดงความ คิดเห็นและความต้องการเพือ่ เป็นการแลกเปล่ียนเรียนรู้ ดังนั้น ถ้าหากท่านได้รบั มอบหมายให้พูดแสดงความคิดเหน็ และแสดงความตอ้ งการ กบั บุคคลต่างชาตใิ นสถานการณ์ตา่ งๆ ท่านคิดว่าจะต้องใชภ้ าษาในการพูดแสดงความคิดเห็น เหน็ ด้วย /ไมเ่ ห็นดว้ ย /ยอมรับ/ และการแสดงความตอ้ งการ และตอบรบั อยา่ งไรบ้าง โดยตอบคำถามดังตอ่ ไปน้ี 1. การแสดงความคิดเห็น 1.1 เห็นดว้ ย ท่านจะพดู อยา่ งไร 1.2 ไมเ่ ห็นด้วย ทา่ นจะพูดอยา่ งไร 2. การแสดงความตอ้ งการ และตอบรบั ท่านจะพูดแสดงความตอ้ งการ และตอบรบั อยา่ งไร 3. แสดงความช่วยเหลอื และบริการผู้อืน่ รวมทง้ั การตอบรบั ท่านจะพดู อย่างไร ขนั้ ที่ 2 การแสวงหาขอ้ มลู และการจดั การเรยี นรู้ 1. ผเู้ รยี นศกึ ษาค้นคว้าจากใบความรู้ และสบื คน้ ข้อมลู เพ่มิ เตมิ จากอนิ เตอร์เน็ต / แหล่งเรียนรู้เกย่ี วกับการแสดง ความคิดเหน็ ความตอ้ งการและตอบรบั ดงั น้ี

1.1 การแสดงความเหน็ ด้วย /การแสดงความไมเ่ หน็ ด้วย 1.2 การแสดงความต้องการ และตอบรับ 1.3 การแสดงความชว่ ยเหลอื และบรกิ ารผ้อู ืน่ รวมทงั้ การตอบรบั 2. ผูเ้ รยี นค้นควา้ ตัวอยา่ งการพูดสนทนาเก่ียวกับการแสดงความคิดเหน็ ความตอ้ งการและตอบรบั การแสดงความชว่ ยเหลือและบรกิ ารผู้อ่ืน รวมทั้งการตอบรบั ขน้ั ท่ี 3 การปฏบิ ตั แิ ละนำไปประยกุ ตใ์ ช้ 1. ผ้เู รียนอ่านการพูดสนทนาเกีย่ วกับการแสดงความคิดเห็น ความตอ้ งการและตอบรับ การแสดงความช่วยเหลอื และบรกิ ารผอู้ ื่น รวมท้งั การตอบรบั 2. ผู้เรยี นและครูรว่ มกนั พดู สนทนาโต้ตอบ การแสดงความคดิ เห็น ความตอ้ งการและตอบรบั การแสดงความชว่ ยเหลือและบรกิ ารผอู้ น่ื รวมทั้งการตอบรับ 3. ผู้เรียนจบั คู่แสดงบทบาทสมมติในการพูดแสดงความคิดเห็น ความต้องการและตอบรบั การแสดงความชว่ ยเหลอื และบริการผูอ้ ื่น รวมทั้งการตอบรับ 4. ผูเ้ รียนทำใบงานเรื่องการพูดแสดงความคดิ เห็นและแสดงความตอ้ งการและตอบรบั การแสดงความช่วยเหลอื และบริการผูอ้ ่ืน รวมทั้งการตอบรับ 5. ผเู้ รยี นและครรู ่วมกันสรุปเนอื้ หาเรอ่ื ง การพูดแสดงความคิดเหน็ และแสดงความตอ้ งการ และตอบรบั การแสดงความชว่ ยเหลอื และบรกิ ารผู้อื่น รวมทงั้ การตอบรบั 6. ครูเฉลยใบงานการพูดแสดงความคดิ เหน็ และแสดงความต้องการและตอบรับ การแสดงความช่วยเหลอื และบรกิ ารผ้อู ่นื รวมทัง้ การตอบรับ ขนั้ ที่ 4 การประเมนิ ผล 1. แบบสงั เกตพฤติกรรม 2. ใบงาน สอ่ื 1. หนงั สือเรียน/สือ่ สง่ิ พมิ พ์ 2. อินเตอร์เนต็ 3. ใบความรู้ เร่อื งการพูดแสดงความคิดเห็นและแสดงความต้องการในสถานการณ์ตา่ งๆ ลงช่อื ลงชอ่ื ( นายวชั ระ วิเท่ห์ ) ( นายสรุ ชัย จันทรแ์ ดง ) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวิชยั

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระความรพู้ นื้ ฐาน รายวชิ า ภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจำวนั พต21001 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอื่ งท่ี 2 ประโยคต่างๆ ในภาษาองั กฤษ ( Different Types of English Sentences) เวลา 6 ชวั่ โมง สปั ดาหท์ ี่ ...8... สอนวนั ที่ …11.. เดอื น …สงิ หาคม.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นที่ …1... ปกี ารศกึ ษา ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตเิ กี่ยวกับ ภาษาทา่ ทาง การฟัง พดู อ่าน เขียน ภาษาตา่ งประเทศ ด้วยประโยคทซี่ ับซ้อนในชวี ิตประจำวัน และงานอาชพี ของตนได้ถูกตอ้ งตามหลักภาษาวัฒนธรรม และกาลเทศะของ เจ้าของภาษา ตวั ชว้ี ดั รจู้ ักลักษณะของประโยคในภาษาองั กฤษ (ประโยคบอกเล่า/ประโยคคำถาม/ประโยคปฏิเสธ/ ประโยคคำส่งั / ประโยคอุทาน) และสามารถนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั เนอื้ หา ประโยคคำถามการใช้ Who, When, Where, Why, What, Whom, How การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ขนั้ ท่ี 1 การกำหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ ครูทักทายผเู้ รยี น พูดคยุ สนทนาเกีย่ วกับการสอบถามขอ้ มูลส่วนตวั ของผูเ้ รียน ท่านมคี วามคดิ เห็นอย่างไรบ้าง เกี่ยวกับประโยคคำถามในสถานการณ์ต่างๆ มีความสำคัญสำหรับบุคคลแต่ละบุคคลเป็นอย่างมาก เพื่อเป็นสร้าง ความรจู้ ักกบั เพ่ือนชาวต่างชาติ ดงั นนั้ ถ้าหากท่านได้รับมอบหมายให้พูดสนทนา กบั บคุ คลต่างชาติ ท่านคิดว่าจะต้อง ใชป้ ระโยคคำถาม การพูดสนทนาโตต้ อบอยา่ งไรบา้ ง โดยใช้ประโยคคำถามดงั ต่อไปน้ี 1. ประโยคการใช้ Who ท่านจะใชป้ ระโยคในการตง้ั คำถามอย่างไร 2. ประโยคการใช้ When ท่านจะใชป้ ระโยคในการตงั้ คำถามอยา่ งไร 3. ประโยคการใช้ Where ท่านจะใช้ประโยคในการต้ังคำถามอยา่ งไร 4. ประโยคการใช้ Why ท่านจะใชป้ ระโยคในการต้ังคำถามอยา่ งไร 5. ประโยคการใช้ What ท่านจะใชป้ ระโยคในการต้ังคำถามอยา่ งไร 6. ประโยคการใช้ Whom ท่านจะใช้ประโยคในการตง้ั คำถามอย่างไร 7. ประโยคการใช้ How ทา่ นจะใชป้ ระโยคในการตั้งคำถามอยา่ งไร ขนั้ ที่ 2 การแสวงหาขอ้ มลู และการจดั การเรยี นรู้ 1. ผ้เู รียนศกึ ษาคน้ ควา้ จากใบความรู้ และสืบคน้ ขอ้ มูลเพ่มิ เติมจากอินเตอรเ์ น็ต / แหลง่ เรยี นรู้

เกี่ยวกบั ประโยคคำถาม คำทใ่ี ช้ในการต้ังคำถาม ได้แก่ Who, When, Where, Why, What, Whom, How 2. ผู้เรียนคน้ ควา้ ตวั อยา่ งประโยคคำถามการใช้ Who, When, Where, Why, What, Whom, How ขนั้ ท่ี 3 การปฏบิ ตั แิ ละนำไปประยกุ ตใ์ ช้ 1. ผเู้ รียนอ่านประโยคคำถามการใช้ Who, When, Where, Why, What, Whom, How 2. ผู้เรียนและครรู ่วมกันพูดสนทนาโตต้ อบประโยคคำถามการใช้ Who, When, Where, Why, What, Whom, How 3. ผู้เรียนจับคแู่ สดงบทบาทสมมตใิ นการพดู สนทนาประโยคคำถามการใช้ Who, When, Where, Why, What, Whom, How 4. ผู้เรียนทำใบงานเร่ืองการพดู สนทนาประโยคคำถามการใช้ Who, When, Where, Why, What, Whom, How 5. ผู้เรียนและครรู ่วมกันสรุปเนื้อหาเร่อื ง การพูดสนทนาประโยคคำถามการใช้ Who, When, Where, Why, What, Whom, How 6. ครูเฉลยใบงานการพูดสนทนาประโยคคำถามการใช้ Who, When, Where, Why, What, Whom, How ขน้ั ท่ี 4 การประเมนิ ผล 1. แบบสังเกตพฤตกิ รรม 2. ใบงาน สอื่ 1. หนังสอื เรียน/สือ่ สิ่งพิมพ์ 2. อินเตอรเ์ นต็ 3. ใบความรู้ เรอื่ งประโยคคำถามการใช้ Who, When, Where, Why, What, Whom, How ลงชือ่ ( นายวัชระ วเิ ท่ห์ ) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ลงชอ่ื ( นายสรุ ชยั จันทรแ์ ดง ) ผูอ้ ำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวชิ ัย

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระความรพู้ นื้ ฐาน รายวชิ า ภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจำวนั พต21001 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอ่ื งท่ี 3 ประโยคต่างๆ ในภาษาองั กฤษ ( Different Types of English Sentences) เวลา 6 ชว่ั โมง สปั ดาหท์ ่ี ...9... สอนวนั ที่ …19.. เดอื น …สงิ หาคม.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นที่ …1... ปกี ารศกึ ษา ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติเก่ียวกบั ภาษาทา่ ทาง การฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาต่างประเทศ ด้วยประโยคท่ีซบั ซ้อนในชวี ิตประจำวัน และงานอาชีพของตนไดถ้ ูกต้องตามหลกั ภาษาวฒั นธรรม และกาลเทศะของ เจ้าของภาษา ตวั ชว้ี ดั รจู้ ักลกั ษณะของประโยคในภาษาอังกฤษ (ประโยคบอกเล่า/ประโยคคำถาม/ประโยคปฏเิ สธ/ ประโยคคำส่งั / ประโยคอทุ าน) และสามารถนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั เนอ้ื หา ประโยคปฏิเสธและคำกริยา ประโยคคำสงั่ และประโยคอทุ าน การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ขน้ั ท่ี 1 การกำหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ ครทู ักทายผูเ้ รยี น พดู คุยสนทนาเก่ยี วกับการโตต้ อบและการปฏิเสธ คำสง่ั และคำอุทาน ทา่ นมีความคดิ เหน็ อยา่ งไรบ้าง เก่ียวกับประโยคปฏิเสธและคำกรยิ า ประโยคคำส่ัง และประโยคอทุ าน ท่ใี ช้ในสถานการณ์ต่างๆ มี ความสำคญั สำหรับบุคคลแต่ละบุคคลเป็นอย่างมาก เพอื่ เปน็ สรา้ งความร้จู ักกบั เพ่อื นชาวต่างชาติ ดังนัน้ ถ้าหากท่าน ไดร้ ับมอบหมายให้พดู สนทนา กับบุคคลต่างชาติ ท่านคดิ วา่ จะต้องใชป้ ระโยคปฏิเสธและคำกรยิ า ประโยคคำส่ัง และ ประโยคอุทานอยา่ งไรบ้าง โดยใช้ประโยคปฏเิ สธและคำกรยิ า ประโยคคำส่งั และประโยคอทุ านดงั ตอ่ ไปนี้ 1. ประโยคปฏิเสธและคำกรยิ า ท่านจะใช้ประโยคในการปฏเิ สธและคำกรยิ า ประโยคคำส่งั และประโยคอุทาน อยา่ งไร ขนั้ ที่ 2 การแสวงหาขอ้ มลู และการจดั การเรยี นรู้ 1. ผู้เรียนศกึ ษาคน้ ควา้ จากใบความรู้ และสบื คน้ ข้อมลู เพิ่มเตมิ จากอนิ เตอรเ์ นต็ / แหล่งเรียนรู้ เกีย่ วกบั ประโยคปฏิเสธและคำกรยิ า ประโยคคำส่ัง และประโยคอทุ าน 2. ผู้เรยี นคน้ ควา้ ตวั อย่างประโยคปฏเิ สธและคำกริยา ประโยคคำสัง่ และประโยคอุทาน ขน้ั ที่ 3 การปฏบิ ตั ิและนำไปประยกุ ตใ์ ช้ 1. ผูเ้ รยี นอา่ นประโยคปฏเิ สธและคำกรยิ า ประโยคคำสง่ั และประโยคอทุ าน

2. ผู้เรยี นและครรู ว่ มกนั พูดสนทนาโต้ตอบประโยคปฏเิ สธและคำกรยิ า ประโยคคำสง่ั และประโยคอุทาน 3. ผเู้ รียนจับคู่แสดงบทบาทสมมตใิ นการพูดสนทนาประโยคปฏเิ สธและคำกริยา ประโยคคำสง่ั และประโยค อุทาน 4. ผ้เู รยี นทำใบงานเร่อื งการพูดสนทนาประโยคปฏเิ สธและคำกริยา ประโยคคำส่ัง และประโยค อทุ าน 5. ผูเ้ รียนและครูร่วมกนั สรุปเนือ้ หาเรอื่ ง การพดู สนทนาประโยคปฏเิ สธและคำกรยิ า ประโยคคำส่ัง และประโยคอทุ าน 6. ครูเฉลยใบงานการพดู สนทนาประโยคปฏเิ สธและคำกริยา ประโยคคำสงั่ และประโยคอุทาน ขน้ั ท่ี 4 การประเมนิ ผล 1. แบบสงั เกตพฤติกรรม 2. ใบงาน สอื่ 1. หนงั สือเรียน/ส่ือส่งิ พมิ พ์ 2. อนิ เตอร์เนต็ 3. ใบความรู้ เรื่องประโยคปฏเิ สธและคำกริยา ประโยคคำส่งั และประโยคอุทาน ลงชื่อ ( นายวัชระ วิเท่ห์ ) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ลงชอ่ื ( นายสุรชัย จันทรแ์ ดง ) ผ้อู ำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวิชยั

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระความรพู้ นื้ ฐาน รายวชิ า ภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจำวนั พต21001 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอื่ งท่ี 4 ภาษาทา่ ทางในการสอ่ื สารในชวี ติ ประจำวนั เวลา 3 ชว่ั โมง สปั ดาหท์ ่ี ...10... สอนวนั ท่ี …26.. เดอื น …สงิ หาคม.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นท่ี …1... ปกี ารศกึ ษา ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติเกยี่ วกบั ภาษาท่าทาง การฟงั พดู อ่าน เขียน ภาษาตา่ งประเทศ ดว้ ยประโยคทีซ่ บั ซ้อนในชีวติ ประจำวัน และงานอาชีพของตนได้ถูกต้องตามหลักภาษาวฒั นธรรม และกาลเทศะของ เจา้ ของภาษา ตวั ชว้ี ดั เขา้ ใจและใชภ้ าษาในการสอื่ สารในชวี ติ ประจำวัน เนอื้ หา ภาษาตามมารยาทสงั คมเพ่อื สร้างความสมั พนั ธ์ระหว่างบคุ คลเก่ียวกับ การแนะนำตนเองและผอู้ ่ืน การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ขน้ั ที่ 1 การกำหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ เม่ือคนพบกนั คร้งั แรก การแนะนำตนเองให้บคุ คลอนื่ รูจ้ กั เปน็ สง่ิ สำคญั และจำเปน็ กอ่ นจะสนทนาพดู คุยกันใน เร่อื งอ่นื ๆ ซงึ่ การแนะนำตนเองและผอู้ ่ืนในภาษาองั กฤษ มสี ำนวนทีใ่ ช้กัน ดังน้ี 1. การแนะนำตนเอง ในการแนะนำตนเองให้ผ้อู ่ืนรู้จัก จะเร่มิ ตน้ ด้วยการกล่าวทกั ทายและแนะนำตนเองดว้ ย สำนวนอยา่ งไร 2. การแนะนำผู้อ่นื ในสภาพความเป็นจรงิ ของสงั คม การพบปะสงั สรรค์ระหวา่ งกลุ่มเพอ่ื นหรอื บคุ คลท่ี ทำงานในที่เดยี วกนั ต้องเกิดขึ้นอยูต่ ลอดเวลา การแนะนำ บคุ คลอ่นื ใหร้ ้จู กั ต้องใชส้ ำนวนอย่างไร จึงจะทำให้สือ่ สารได้ ถูกตอ้ ง ขน้ั ที่ 2 การแสวงหาขอ้ มลู และการจดั การเรยี นรู้ 1. ให้ผูเ้ รยี นศกึ ษาคน้ คว้าข้อมูลจากอินเตอรเ์ นต็ / แหลง่ เรยี นรู้ เกี่ยวกบั การแนะนำตนเองและการ แนะนำผูอ้ ่นื เพอ่ื สรา้ งความสมั พนั ธ์ระหวา่ งบุคคลและสามารถส่ือสารไดถ้ ูกต้อง 2. ค้นคว้าตัวอยา่ งการการแนะนำตนเองและการแนะนำผูอ้ นื่ ในสถานการณต์ ่างๆ 3. ให้ผ้เู รยี นนำขอ้ มูลท่ไี ดจ้ ากการศึกษาค้นควา้ จัดทำเป็นรปู เลม่ รายงาน ขน้ั ท่ี 3 การปฏบิ ตั ิและนำไปประยกุ ตใ์ ช้ 1. ฝกึ อ่าน พูด ให้ครบู คุ คลทร่ี ู้ ผู้รู้ฟัง จากแบบฟอร์มให้นกั ศกึ ษา ขนั้ ท่ี 4 การประเมนิ ผล

1. ประเมนิ ผลงาน 2. ความคิดเหน็ ของผรู้ ู้ 3. รูปเลม่ รายงาน สอ่ื 1. หนงั สือเรยี น/สอื่ สิ่งพิมพ์ 2. อนิ เตอรเ์ นต็ 3. ใบความรู้ เรอื่ งการแนะนำตนเองและแนะนำผอู้ นื่ ลงช่อื ( นายวัชระ วเิ ทห่ ์ ) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ลงช่อื ( นายสุรชัย จนั ทรแ์ ดง ) ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวชิ ยั

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระความรพู้ น้ื ฐาน รายวชิ า ภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจำวนั พต21001 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอื่ งที่ 5 ภาษาทา่ ทางในการสอื่ สารในชวี ติ ประจำวนั เวลา 3 ชวั่ โมง สปั ดาหท์ ่ี ...10... สอนวนั ที่ …26.. เดอื น …สงิ หาคม.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นที่ …1... ปกี ารศกึ ษา ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเข้าใจ ทกั ษะ และเจตคตเิ ก่ียวกบั ภาษาทา่ ทาง การฟงั พูด อา่ น เขยี น ภาษาตา่ งประเทศ ด้วยประโยคทซ่ี ับซ้อนในชีวติ ประจำวนั และงานอาชีพของตนไดถ้ ูกต้องตามหลักภาษาวฒั นธรรม และกาลเทศะของ เจ้าของภาษา ตวั ชว้ี ดั ใชภ้ าษาองั กฤษในการแสดงความรสู้ ึก เนอื้ หา การแสดงความรู้สกึ ต่างๆเก่ยี วกบั ใชภ้ าษาอังกฤษในการแสดงความร้สู ึก(พอใจ/ไม่พอใจ/สนใจ/ไมส่ นใจ) การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ขน้ั ท่ี 1 การกำหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ การติดตอ่ สนทนาสอ่ื สารระหว่างบคุ คลในสถานการณ์ต่าง ๆ จะมคี วามหลากหลายในอารมณ์ เช่น ดใี จ เสียใจ เข้าใจ พอใจ ไม่พอใจ การให้กำลังใจ ความสนใจ และไม่สนใจ เปน็ ต้น เมือ่ ท่านเผชิญสถานการณ์เหล่านจ้ี ะทำ ให้ท่านสามารถใช้คำศพั ท์ สำนวน และประโยคภาษาองั กฤษได้ถูกตอ้ งเหมาะสม อย่างไรบ้าง โดยตอบคำถามตอ่ ไปน้ี 1. จากสถานการณ์ทก่ี ำหนดใหน้ ี้ ทา่ นคิดวา่ ท่านจะสนทนาโดยใช้คำศพั ท์ สำนวนและประโยคภาษาอังกฤษได้ ถกู ตอ้ งเหมาะสมอย่างไรบา้ ง 1.1 กรณีทแ่ี สดงความพอใจ 1.2 กรณีทแ่ี สดงความไม่พอใจ 1.3 กรณีที่แสดงความสนใจ 1.4 กรณีที่แสดงความไมส่ นใจ ขน้ั ท่ี 2 การแสวงหาขอ้ มลู และการจดั การเรยี นรู้ 1. ให้ผ้เู รยี นศกึ ษาค้นคว้าข้อมูลจากอนิ เตอร์เนต็ / แหล่งเรียนรู้ เกีย่ วกับการแสดงความร้สู ึกตา่ งๆซง่ึ ใช้ ภาษาองั กฤษในการแสดงความรสู้ ึก 1.1 กรณีทแ่ี สดงความพอใจ 1.2 กรณที ี่แสดงความไมพ่ อใจ 1.3 กรณที ี่แสดงความสนใจ

1.4 กรณที ีแ่ สดงความไมส่ นใจ 2. คน้ คว้าตวั อยา่ งการแสดงความรู้สกึ ต่างๆ ซึง่ ใชภ้ าษาองั กฤษในการแสดงความรู้สกึ 3. ใหผ้ ู้เรยี นนำขอ้ มูลทไี่ ดจ้ ากการศกึ ษาคน้ ควา้ จัดทำเป็นรูปเล่มรายงาน ขน้ั ที่ 3 การปฏบิ ตั ิและนำไปประยกุ ตใ์ ช้ 1. ฝกึ อ่าน พดู ให้ครบู ุคคลท่รี ู้ ผรู้ ู้ฟงั จากแบบฟอร์มใหน้ ักศึกษา ตาราง แบบฝกึ การพดู อา่ น เขยี น ความคิดเหน็ เกยี่ วกบั ท่ี ช่อื – สกลุ ที่อยู่ การฟงั พูด เกย่ี วกบั การ ครู ผเู้ ชย่ี วชาญ ผรู้ ู้ ความ ความ ความ ความไม่ พอใจ ไม่พอใจ สนใจ สนใจ ..... ....................................................... ............................... ผรู้ ู้ ............................................ () .............../..................../............... ขน้ั ที่ 4 การประเมนิ ผล 1. ประเมินผลงาน 2. ความคิดเห็นของผู้รู้ 3. รูปเล่มรายงาน สอื่ 1. หนังสอื เรียน/ส่อื ส่งิ พิมพ์ 2. อินเตอร์เน็ต 3. ใบความรู้ เร่ืองการ สำหรับครูการโต้ตอบโทรศัพท์เกี่ยวกบั คำศัพท์ สำนวน ประโยคต่าง ๆ ที่ใช้ ในการสอ่ื สารในการรับโทรศัพท์อย่างง่ายรวมกนั การรับฝากข้อความทางโทรศัพท์ ลงชื่อ ลงช่อื ( นายวัชระ วเิ ท่ห์ ) ( นายสุรชยั จนั ทร์แดง ) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวชิ ัย

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระความรพู้ นื้ ฐาน รายวชิ า ภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจำวนั พต21001 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอื่ งที่ 6 ภาษาองั กฤษสำหรบั อาชพี พนกั งานขบั รถรบั จา้ ง เวลา 6 ชวั่ โมง สปั ดาหท์ ่ี ...11... สอนวนั ท่ี …2.. เดอื น …กนั ยายน.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นท่ี …1... ปกี ารศกึ ษา ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มคี วามรู้ ความเข้าใจ ทกั ษะ และเจตคตเิ กยี่ วกบั ภาษาทา่ ทาง การฟัง พดู อา่ น เขยี น ภาษาตา่ งประเทศ ดว้ ยประโยคทซ่ี ับซอ้ นในชวี ิตประจำวัน และงานอาชพี ของตนไดถ้ ูกต้องตามหลกั ภาษาวัฒนธรรม และกาลเทศะของ เจา้ ของภาษา ตวั ชวี้ ดั ใช้ภาษาอังกฤษตามมารยาทสังคมและเหมาะสมกบั สถานการณพ์ ดู แสดงความรสู้ ึกแสดงความคิดเห็น แสดงความชว่ ยเหลือ ขออนญุ าตพดู แทรกอยา่ งสุภาพ ในอาชพี พนักงานขับรถรบั จา้ ง เนอ้ื หา การพดู ภาษาองั กฤษอังกฤษตามมารยาทสงั คมและเหมาะสมกบั สถานการณ์ กระบวนการเรยี นรู้ ขนั้ ท่ี 1 การกำหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ ในชีวติ ประจำวนั การดำเนินงานทเี่ กย่ี วกบั งานทางดา้ นอาชีพบรกิ าร การพดู สอบถามความตอ้ งการ ความ คิดเหน็ ข้อเสนอแนะเกีย่ วกบั งานบริการในรปู แบบต่าง ๆ ตลอดจนการเสนอขอความช่วยเหลอื และบริการผู้อ่นื เปน็ สงิ่ จำเป็นและไมส่ ามารถหลีกเล่ยี งได้ ดงั นน้ั จึงมีความจำเป็นท่ีผพู้ ูดจะตอ้ งศกึ ษาคำศัพท์ สำนวนและมารยาททาง สงั คมในการสนทนากบั ผู้อื่น เพ่อื ให้คู่สนทนารับรูแ้ ละเขา้ ใจไดต้ รงกันและเกดิ มติ รภาพทีด่ ตี ่อกนั เม่ือทา่ นเผชิญ สถานการณ์เหลา่ นี้จะทำใหท้ ่านสามารถใช้คำศัพท์ สำนวน และประโยคภาษาอังกฤษไดถ้ กู ต้องเหมาะสม อย่างไรบา้ ง โดยตอบคำถามต่อไปนี้ 1. การพดู แสดงความรู้สกึ และแสดงความคิดเหน็ 2. การพูดแสดงความช่วยเหลอื 3. การขออนญุ าต 4. การพดู แทรกอย่างสภุ าพ ขน้ั ที่ 2 การแสวงหาขอ้ มลู และการจดั การเรยี นรู้ 1.ให้ผ้เู รียนศึกษาคน้ ควา้ ข้อมูลจากอนิ เตอรเ์ นต็ / แหล่งเรียนรู้ เกย่ี วกบั การพดู แสดงความรู้สึกและแสดง ความคิดเห็น การพดู แสดงความชว่ ยเหลือ การขออนุญาต และการพดู แทรกอย่างสภุ าพ

2. ค้นควา้ ตัวอย่างการพดู แสดงความรู้สกึ และแสดงความคิดเหน็ การพูดแสดงความชว่ ยเหลือ การขอ อนญุ าตและการพูดแทรกอยา่ งสุภาพ 3.ใหผ้ ้เู รยี นนำขอ้ มลู ที่ได้จากการศึกษาคน้ ควา้ จัดทำเป็นรูปเล่มรายงาน ขน้ั ท่ี 3 การปฏบิ ตั แิ ละนำไปประยกุ ตใ์ ช้ 1. ฝกึ อา่ น พดู ให้ครูบคุ คลท่ีรู้ ผูร้ ู้ฟัง จากแบบฟอร์มให้นกั ศกึ ษา ตาราง แบบฝกึ การพดู อ่าน เขียน ความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ทอ่ี ยู่ การฟงั พูด การพดู แสดงความรสู้ กึ และ ท่ี ชือ่ – สกลุ ครู ผเู้ ชย่ี วชาญ ผรู้ ู้ แสดงความคดิ เหน็ การพดู แสดงความ ชว่ ยเหลอื การขออนญุ าต และการพดู แทรกอยา่ งสภุ าพ ......... ........................................................ ................................... ……………………. ……………………………..… ……. ...................................................... ……………………… ……………………. ………………………………. ……. ………………………………………..….…. ……………..….…… ……………………. ………………………………. ……. ………………………………………………. ……………………... ……………………. ………………………………. ผรู้ ู้ ............................................ () .............../..................../............... ขน้ั ที่ 4 การประเมนิ ผล 1. ประเมินผลงาน 2. ความคดิ เหน็ ของผู้รู้ 3. รปู เล่มรายงาน สอ่ื 1. หนงั สอื เรียน/สื่อส่งิ พิมพ์ 2. อินเตอร์เน็ต

3. ใบความรู้ สำหรับครู เรือ่ งการพดู แสดงความรู้สกึ และแสดงความคดิ เหน็ การพูดแสดงความช่วยเหลอื การขออนญุ าต และการพดู แทรกอย่างสุภาพ ลงชื่อ ลงชือ่ ( นายวัชระ วเิ ทห่ ์ ) ( นายสุรชยั จนั ทรแ์ ดง ) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวิชัย

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระทกั ษะการดำเนนิ ชวี ติ รายวชิ า สขุ ศกึ ษา พลศกึ ษา ทช21002 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอื่ งท่ี 1 การดแู ลรกั ษาสขุ ภาพ เวลา 3 ชว่ั โมง สปั ดาหท์ ี่ ...12... สอนวนั ท่ี …8.. เดอื น …กนั ยายน.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นท่ี …1... ปกี ารศกึ ษา ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั รู้ เข้าใจ มีคุณธรรม จรยิ ธรรมและเจตคติทด่ี ี มีทักษะในการดูแล และสรา้ งเสริมการมพี ฤติกรรมสุขภาพท่ีดี ปฏิบตั ิจนเปน็ กจิ นสิ ยั หลีกเล่ียงพฤตกิ รรมเสยี่ งต่อสขุ ภาพ ตลอดจนส่งเสรมิ สขุ ภาพพลานามัยและสภาพ แวดลอ้ มท่ีดี ในชุมชน ตวั ชวี้ ดั 1. อธิบายประโยชนข์ องการออกกำลังกายและโทษของการขาดการออกกำลังกาย 2. อธบิ ายรปู แบบและวิธกี ารออกกำลังกายเพ่ือสุขภาพ เนอ้ื หา 1. หลกั การดูแลสุขภาพเบื้องต้นการดแู ลสุขภาพตามหลัก 5 อ ไดแ้ ก่ อาหาร อากาศ อารมณ์ อุจจาระ อนามัย 2. การออกกำลังกาย รปู แบบ และวธิ กี ารออกกำลงั เพ่อื สขุ ภาพ 2.1 ประโยชนแ์ ละโทษของการออกกำลังกาย 2.2 รปู แบบและวธิ ีการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ 2.2.1 การเดนิ เรว็ 2.2.2 การวงิ่ เหยาะ 2.2.3 การขีจ่ ักรยาน 2.2.4 การเลน่ โยคะ 2.2.5 เต้นแอโรบคิ 2.2.6 ว่ายน้ำ การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ขนั้ ท่ี 1 การกำหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ ครทู กั ทายและสอบถามผเู้ รยี นเกี่ยวกับการรบั ประทานอาหารและการออกกำลงั กาย โดยครยู กตัวอย่างเพ่ือน ในหอ้ งเรียนทมี่ ลี กั ษณะรปู ร่างอว้ น และรูปร่างผอม โดยออกมาหนา้ ช้นั เรียน และให้บอกการรบั ประทานอาหารและ การออกกำลงั กายของแตล่ ะคนใหค้ รูและผู้เรียนฟงั ครูตง้ั ประเดน็ ในเรือ่ ง การดแู ลรกั ษาสุขภาพตามหลกั 5 อ ไดแ้ ก่ อาหาร อากาศ อารมณ์ อจุ จาระ อนามัย และวธิ ีการออกกำลังกายใหเ้ หมาะสมและถกู วธิ กี ับเพศและวยั โดย แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ร่วมกนั

ขน้ั ที่ 2 การแสวงหาขอ้ มลู และจดั การเรยี นรู้ 1. ครูแบ่งกลุ่มผู้เรยี นเป็นกลมุ่ ๆ ละ 6 - 8 คน 2. ศกึ ษาหาขอ้ มูลจากใบความรู้ กลุม่ ท่ี 1 ความหมาย ความสำคัญของอาหาร กลุ่มท่ี 2 ความหมาย ความสำคญั ของอากาศ กลุ่มที่ 3 ความหมาย ความสำคญั ของอารมณ์ กลมุ่ ท่ี 4 ความหมาย ความสำคัญของอจุ จาระ กลุ่มที่ 5 ความหมาย ความสำคัญของอนามยั กลมุ่ ท่ี 6 วธิ กี ารออกกำลังกายให้เหมาะสมกับเพศและวัย ขนั้ ท่ี 3 การปฏบิ ตั แิ ละนำไปประยกุ ตใ์ ช้ 1. ใหผ้ ู้เรียนแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ภายในกลุ่มตามใบงานทไี่ ดร้ บั พร้อมสรปุ 3 – 2 ส่งตวั แทนนำเสนอหนา้ ชน้ั เรียน 2. ครแู ละผู้เรียนร่วมสรุปองค์ความรูร้ ่วมกัน ขน้ั ที่ 4 การประเมนิ ผล 1. หวั ข้อประเด็นในการใช้เวทแี ลกเปลี่ยน 2. การสังเกตการณเ์ ขา้ ร่วมกิจกรรม 3. ชิ้นงาน/ผล สอ่ื 1. ใบงาน 2. ใบความรู้ ลงช่อื ลงช่ือ ( นายวชั ระ วิเทห่ ์ ) ( นายสุรชัย จันทร์แดง ) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวชิ ยั



แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระทกั ษะการดำเนนิ ชวี ติ รายวชิ า สขุ ศกึ ษา พลศกึ ษา ทช21002 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอ่ื งที่ 2 การปอ้ งกนั สารเสพตดิ เวลา 3 ชว่ั โมง สปั ดาหท์ ี่ ...12... สอนวนั ท่ี …8.. เดอื น …กนั ยายน.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นท่ี …1... ปกี ารศกึ ษา ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั รู้ เขา้ ใจ มคี ุณธรรม จริยธรรมและเจตคติทด่ี ี มีทักษะในการดูแล และสรา้ งเสริมการมีพฤตกิ รรมสุขภาพที่ดี ปฏบิ ัติ จนเป็นกิจนสิ ัย หลกี เลย่ี งพฤตกิ รรมเสี่ยงตอ่ สุขภาพ ตลอดจนส่งเสรมิ สขุ ภาพพลานามัยและสภาพ แวดล้อมท่ดี ีในชมุ ชน ตวั ชวี้ ดั 1. อธิบายปญั หา สาเหตุ ประเภทและชนดิ ของสารเสพติด และการปอ้ งกนั แกไ้ ข 2. บอกลกั ษณะอาการของผู้ติดสารเสพตดิ 3. อธบิ ายอันตราย วธิ กี ารป้องกนั และหลกี เลยี่ งพฤติกรรมเสยี่ งตอ่ สารเสพติด เนอื้ หา 1. ปญั หา สาเหตุ ประเภทและชนดิ ของสารเสพติด และการป้องกนั แก้ไข 2. ลกั ษณะอาการของผตู้ ิดสารเสพติด 3. อันตราย การปอ้ งกนั และการหลกี เล่ียงพฤตกิ รรมเสย่ี งต่อสารเสพติด การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ขน้ั ที่ 1 การกำหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ ครูนำภาพข่าวการจับยาเสพตดิ มาให้ผู้เรียนวเิ คราะห์ถงึ ปญั หา สาเหตุของภาพขา่ วดงั กล่าว ครูยกตวั อยา่ ง ครอบครวั ที่ผนู้ ำครอบครัวติดยาบ้าและทำร้ายคนในครอบครวั จนได้รับอนั ตรายถึงชวี ิตดงั ภาพขา่ วที่ครนู ำมาให้ผู้เรยี นได้ดู ตอนแรก ครแู ละผู้เรียนได้แลกเปลยี่ นเรียนรู้ร่วมกนั ถงึ ชนิด ประเภทและพิษภยั ของสารเสพตดิ ขน้ั ที่ 2 การแสวงหาขอ้ มลู และจดั การเรยี นรู้ 1. ครูแบ่งกล่มุ ผู้เรยี นออกเป็น กลมุ่ ๆ ละ 6 – 8 คน 2. ครูให้ผู้เรียนศกึ ษาประเภทของการออกฤทธิ์ของสารเสพติด ลักษณะของผูต้ ดิ สารเสพตดิ และวิธกี ารปอ้ งกนั - กลุ่มที่ 1 ประเภทกดระบบประสาท

- กลุ่มที่ 2 ประเภทกระตุ้นประสาท - กลุ่มท่ี 3 ประเภทหลอนประสาท - กลุม่ ท่ี 4 ประเภทออกฤทธิห์ ลายอย่าง 3. ใหผ้ ู้เรียนส่งตวั แทนกลุม่ ออกนำมาเสนอหน้าช้ันเรียน ขนั้ ท่ี 3 การปฏบิ ตั แิ ละนำไปประยกุ ตใ์ ช้ ใบงาน 1. ให้ผู้เรียนแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ในกล่มุ เพอ่ื หาข้อสรุปแลว้ สง่ ตวั แทนนำเสนอหนา้ ชั้นเรียน กลุม่ ที่ 1 สารเสพติดประเภทกดระบบประสาท ได้แก่............................................................................. ..................................................................................................................................................................................... ลกั ษณะอาการของผูเ้ สพ.................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................... วิธีป้องกัน.................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................................................... กลุ่มท่ี 2 สารเสพติดประเภทกระตุ้นประสาท ได้แก่........................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ลักษณะอาการของผ้เู สพ................................................................................................................ .................................................................................................................................................................................... วธิ ปี ้องกัน......................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... กลุม่ ที่ 3 สารเสพติดประเภทหลอนประสาท ได้แก่.............................................................................. ..................................................................................................................................................................................... ลกั ษณะอาการของผู้เสพ.................................................................................................................. ..................................................................................................................................................................................... วิธปี อ้ งกนั ......................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... กลมุ่ ท่ี 4 สารเสพตดิ ประเภทออกฤทธหิ์ ลายอยา่ ง ไดแ้ ก่......................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ลกั ษณะอาการของผูเ้ สพ................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... วิธีปอ้ งกัน......................................................................................................................................... 3. ครแู ละผู้เรยี นรว่ มกันสรปุ สารเสพติดแต่ละประเภท และคิดคำขวัญต่อต้านยาเสพ

ติด ติดบอร์ดในห้องเรยี น ขนั้ ท่ี 4 การประเมนิ ผล 1. ประเมินผลงาน 2. รปู เลม่ รายงาน สอ่ื 1. อินเตอรเ์ นต็ 2. แหลง่ เรียนรู้ ลงชอ่ื ( นายวัชระ วิเท่ห์ ) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ลงชอ่ื ( นายสรุ ชยั จนั ทรแ์ ดง ) ผูอ้ ำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวชิ ยั

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระทกั ษะการดำเนนิ ชวี ติ รายวชิ า สขุ ศกึ ษา พลศกึ ษา ทช21002 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอ่ื งท่ี 3 อบุ ตั ิเหตุ อบุ ตั ภิ ยั เวลา 3 ชว่ั โมง สปั ดาหท์ ี่ ...13... สอนวนั ที่ …9.. เดอื น …กนั ยายน.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นท่ี …1... ปกี ารศกึ ษา ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั รู้ เข้าใจ มคี ุณธรรม จริยธรรมและเจตคติท่ดี ี มีทักษะในการดูแล และสรา้ งเสริมการมีพฤตกิ รรมสุขภาพท่ีดี ปฏิบัติจนเป็นกิจนิสัย หลกี เล่ียงพฤตกิ รรมเส่ียงต่อสขุ ภาพ ตลอดจนส่งเสรมิ สขุ ภาพพลานามัยและสภาพ แวดล้อมท่ีดี ในชมุ ชน ตวั ชว้ี ดั 1. อธบิ ายปัญหา สาเหตุของการเกิดอบุ ัตเิ หตุ อุบัตภิ ัย และภัยธรรมชาติ 2. วเิ คราะหพ์ ฤติกรรมเส่ียงที่จะนำไปสคู่ วามไม่ปลอดภยั ในชวี ิตและทรพั ย์สนิ 3. อธบิ ายอนั ตราย วิธกี ารป้องกนั และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสย่ี งตอ่ สารเสพติด เนอื้ หา 1. ปญั หา สาเหตุของการเกดิ อบุ ัติเหตุ อุบัติภยั และภัยธรรมชาติ 2. การป้องกนั อนั ตรายและหลีกเลยี่ งพฤติกรรมเสี่ยงทจ่ี ะนำไปส่คู วามไม่ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ อุบตั ภิ ัย และ ภัยธรรมชาติ การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ขน้ั ที่ 1 การกำหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ 1. ครูนำภาพขา่ วอบุ ตั เิ หตเุ กยี่ วกบั การขบั รถตกทางด่วน และ ภาพเหตกุ ารณน์ ้ำทว่ ม จังหวัดภเู กต็

2. ครแู ละผู้เรียนร่วมกนั สนทนาถงึ สาเหตขุ องการเกิดอบุ ตั เิ หตุในเรือ่ งการขับรถตกทางด่วนอบุ ัติเหตุและ ภัยธรรมชาติเรื่องน้ำทว่ ม จงั หวัดภเู กต็ เปน็ การแลกเปล่ยี นเรยี นร้ถู ึงปญั หา สาเหตุ วิธกี ารแก้ไข มาแลกเปล่ียนเรียนรู้ รว่ มกัน ขน้ั ท่ี 2 การแสวงหาขอ้ มลู และจดั การเรยี นรู้ 1. ครแู บ่งกลุ่มผู้เรยี นออกเป็น กลุม่ ๆ ละ 6 – 8 คน 2. ให้ผู้เรยี นแลกเปล่ยี นเรยี นรเู้ ก่ียวกับปัญหา/สาเหต/ุ วธิ ีปอ้ งกนั ของการเกดิ อบุ ัตเิ หตุ อุบัตภิ ัย และ ภัยธรรมชาติ 3. ใหผ้ เู้ รียนส่งตวั แทนกลมุ่ ออกนำมาเสนอหน้าช้นั เรียน ขน้ั ที่ 3 การปฏบิ ตั ิและนำไปประยกุ ตใ์ ช้ ใบงาน 1. ให้ผ้เู รยี นบอกปญั หา สาเหตุ และวิธีการปอ้ งกันของการเกิดอบุ ตั เิ หตุต่าง ๆ ตามทก่ี ำหนด 1.1 อบุ ัติเหตกุ ารจราจร ปัญหา.......................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................. สาเหต.ุ ....................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................. วิธีการปอ้ งกัน............................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................. 1.2 อุบตั ิเหตุในสถานประกอบการ ปัญหา........................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................. สาเหต.ุ ........................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................. วธิ กี ารปอ้ งกัน............................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................. 1.3 อบุ ตั เิ หตุในบา้ น ปัญหา............................................................................................................................................ .................................................................................................................................................................................. สาเหต.ุ .......................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................

วธิ ีการปอ้ งกนั ............................................................................................................................ .............................................................................................................................................................................. 1.4 อุบัติเหตุในโรงเรยี น ปัญหา....................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................. สาเหต.ุ ...................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................. วิธีการปอ้ งกัน........................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................. 2. ใหผ้ ูเ้ รียนบอกสาเหตแุ ละวิธีปอ้ งกนั ของการเกดิ อุบัตภิ ยั และภยั ธรรมชาติ 2.1 ภัยแล้ง ปญั หา...................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... สาเหต.ุ ..................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... วธิ กี ารปอ้ งกัน.......................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. 2.2 ดนิ ถลม่ ปัญหา.................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................. สาเหตุ.................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................. วธิ กี ารปอ้ งกัน......................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................. 2.3 ไฟป่า ปัญหา..................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ สาเหตุ..................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ วธิ ีการปอ้ งกัน.......................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................................

2.4 ภัยธรรมชาติท่เี กดิ จากแผน่ ดนิ ไหว ปัญหา................................................................................................................................. .......................................................................................................................................................................... สาเหตุ................................................................................................................................ ......................................................................................................................................................................... วิธีการปอ้ งกนั ...................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ขน้ั ท่ี 4 การประเมนิ ผล 1. ประเมนิ ผลงาน สอ่ื 1. อินเตอรเ์ นต็ 2. แหลง่ เรียนรู้ 3. ใบงาน ลงชอ่ื ( นายวชั ระ วเิ ท่ห์ ) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ลงชอ่ื ( นายสุรชัย จนั ทร์แดง ) ผ้อู ำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวชิ ัย

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระทกั ษะการดำเนนิ ชวี ติ รายวชิ า สขุ ศกึ ษา พลศกึ ษา ทช21002 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอื่ งท่ี 4 อบุ ตั ิเหตุ อบุ ตั ภิ ยั เวลา 3 ชว่ั โมง สปั ดาหท์ ่ี ...13... สอนวนั ท่ี …9.. เดอื น …กนั ยายน.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นท่ี …1... ปกี ารศกึ ษา ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั รู้ เขา้ ใจ มีคุณธรรม จริยธรรมและเจตคติทดี่ ี มีทักษะในการดแู ล และสรา้ งเสริมการมีพฤติกรรมสขุ ภาพทดี่ ี ปฏิบตั จิ นเปน็ กิจนสิ ยั หลกี เล่ยี งพฤตกิ รรมเส่ียงตอ่ สขุ ภาพ ตลอดจนสง่ เสริมสุขภาพพลานามัยและสภาพ แวดล้อมท่ีดี ในชุมชน ตวั ชว้ี ดั 1. บอกเทคนิค วิธีการขอความช่วยเหลอื และการเอาชีวติ รอดเมอ่ื เผชญิ อันตรายและสถานการณ์คับขนั ได้ อย่างเหมาะสม 2. อธบิ ายวิธีการปฐมพยาบาลเม่อื ไดร้ บั อันตรายจากอุบัติเหตุ อบุ ัติภยั ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง เนอื้ หา 1. เทคนิค วิธกี ารขอความชว่ ยเหลือและการเอาชวี ิตรอดเมื่อเผชิญอันตรายและสถานการณ์คับขัน 2. การปฐมพยาบาลเมื่อไดร้ ับอนั ตรายจากอบุ ัติเหตุ อบุ ตั ภิ ยั และภยั ธรรมชาติ การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ขน้ั ที่ 1 การกำหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ 1. ครแู สดงบทบาทสมมตุ โิ ดยนำภาพผ้าผูกคอสามเหลยี่ มเพือ่ พยงุ แขนท่ีเกดิ สาเหตุจาก ไหลห่ ลดุ และใหผ้ ู้เรียนร่วมกันวเิ คราะหถ์ งึ สิง่ ท่เี หน็ วา่ เกิดสาเหตุ และวิธกี ารปฐมพยาบาลด้วยตนเองไดห้ รอื ไม่ โดยใช้ กระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และครเู ปน็ ผ้สู รปุ วา่ สิ่งท่เี กิดขน้ึ มาจากอบุ ัตเิ หตุ ลม้ และเกิดปวดหวั ไหล่ จงึ นำผา้ สามเหลยี่ มทอ่ี ยมู่ าผกู และชว่ ยผยุงไหลแ่ ละแขนเป็นการปฐมพยาบาลเบอื้ งตน้ กอ่ นไปพบแพทย์ ซึง่ เป็นการช่วยเหลือ ตวั เองเบอื้ งตน้ ได้

ขน้ั ท่ี 2 การแสวงหาขอ้ มลู และจดั การเรยี นรู้ 1. ครแู บง่ กลมุ่ ผู้เรยี นออกเปน็ กลมุ่ ๆ ละ 6 – 8 คน 2. ใหผ้ เู้ รยี นสาธิตวิธกี ารปฐมพยาบาลเบื้องต้นของผูป้ ว่ ย - กล่มุ ที่ 1 การปฐมพยาบาลเม่อื ถูกไฟฟา้ ชอ็ ต - กลุ่มที่ 2 การปฐมพยาบาลผู้ปว่ ยทม่ี ีอาการช็อกเน่อื งจากเลอื ดไปเลีย้ งเซลล์ต่าง ๆ ไมเ่ พยี งพอ - กล่มุ ที่ 3 การปฐมพยาบาลทม่ี ีอาการหายใจลำบากหรอื หยดุ หายใจ - กลมุ่ ท่ี 4 การปฐมพยาบาลผปู้ ว่ ยเปน็ ลมแดด - กล่มุ ท่ี 5 การปฐมพยาบาลผ้ปู ่วยเป็นลมจากความรอ้ น ขน้ั ที่ 3 การปฏบิ ตั ิและนำไปประยกุ ตใ์ ช้ ใบงาน 1. ใหผ้ เู้ รียนแลกเปลีย่ นเรยี นรู้ในกลมุ่ เพอ่ื สรุปนำเสนอหนา้ ช้นั เรยี น 2. ใหผ้ เู้ รยี นสาธติ วิธีการปฐมพยาบาลเบอ้ื งตน้ ของผู้ป่วยตามท่กี ำหนด กลมุ่ ที่ 1 การปฐมพยาบาลเมอ่ื ถูกไฟฟ้าชอ็ ต สาเหต.ุ ...................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. อาการ....................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ การปฐมพยาบาล..................................................................................................... ............................................................................................................................................................. กล่มุ ที่ 2 การปฐมพยาบาลผูป้ ว่ ยทม่ี อี าการชอ็ กเนื่องจากเลือดไปเลยี้ งเซลลต์ ่าง ๆ ไม่เพยี งพอ สาเหตุ...................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. อาการ....................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. การปฐมพยาบาล..................................................................................................... ............................................................................................................................................................. กลุม่ ที่ 3 การปฐมพยาบาลท่ีมีอาการหายใจลำบากหรือหยุดหายใจ สาเหตุ....................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. อาการ....................................................................................................................... .............................................................................................................................................................

การปฐมพยาบาล...................................................................................................... ............................................................................................................................................................. กล่มุ ที่ 4 การปฐมพยาบาลผปู้ ว่ ยเป็นลมแดด สาเหต.ุ ...................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. อาการ....................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. การปฐมพยาบาล...................................................................................................... ............................................................................................................................................................. กลุ่มที่ 5 การปฐมพยาบาลผ้ปู ว่ ยเป็นลมจากความรอ้ น สาเหตุ....................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. อาการ....................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. การปฐมพยาบาล...................................................................................................... ............................................................................................................................................................ ขนั้ ที่ 4 การประเมนิ ผล 4.1 ประเมนิ ผลงาน สอื่ 1. อินเตอรเ์ นต็ 2. แหลง่ เรียนรู้ 3. ใบงาน ลงชอ่ื ( นายวัชระ วเิ ทห่ ์ ) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ลงชอ่ื ( นายสุรชยั จนั ทรแ์ ดง ) ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวิชัย

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการพฒั นาสงั คม รายวิชา สงั คมศกึ ษา สค21001 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอ่ื งท่ี 1 ภมู ศิ าสตรท์ างกายภาพทวปี เอเชยี เวลา 3 ชวั่ โมง สปั ดาหท์ ่ี ...14... สอนวนั ท่ี …16.. เดอื น …กนั ยายน.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นท่ี …1... ปกี ารศกึ ษา ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเข้าใจตระหนักเก่ียวกับภมู ิศาสตร์ ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์การเมือง การปกครอง ในทวีปเอเชยี และนำมาปรับใชใ้ นการดำเนินชีวติ เพ่อื ความม่ันคงของชาติ ตวั ชว้ี ดั 1. มีความรู้ ความเขา้ ใจลกั ษณะภมู ศิ าสตร์กายภาพของประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชยี เนอ้ื หา 1. ลักษณะทางภูมศิ าสตรก์ ายภาพของประเทศตา่ งๆ ในทวีปเอเชยี - ที่ตั้งอาณาเขตของประเทศตา่ งๆ ในทวปี เอเชยี - ภูมิประเทศของประเทศต่างๆ ในทวปี เอเชยี - ภมู ิอากาศของประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชีย การจดั กระบวนการเรียนรู้ ขน้ั ที่ 1 กำหนดสภาพปญั หาการเรยี นรู้ 1. ครกู ล่าวทักทายผู้เรียนพร้อมท้ังนำภาพของคนที่เปน็ ประชากรในทวปี เอเชียให้ผเู้ รยี นดู เพ่ือ เปรียบเทียบถงึ ความเหมือนและความแตกต่างท่ีสามารถมองเห็นได้อยา่ งชัดเจนร่วมกันวิเคราะหว์ า่ เหตุใดคนในแต่ละ ภาพถึงมคี วามแตกต่างกัน 2. ครตู งั้ คำถาม ถามผู้เรยี นว่า ผเู้ รียนชอบคนประเทศใดมากทสี่ ุด เพราะเหตุใด แลว้ ทำการสุ่มเรียกให้ ผเู้ รยี นท่มี คี วามชอบท่ตี ่างกันนำเสนอความชอบของตนเองพรอ้ มยกเหตผุ ลมาอธบิ ายประกอบ 3. ครูเปิดโอกาสใหผ้ ู้เรยี นซักถามข้อสงสัยก่อนเข้าส่บู ทเรียนในขนั้ ตอ่ ไป ขนั้ ที่ 2 แสวงหาขอ้ มลู และจดั การเรยี นรู้ 1. ครูแจกใบความรู้ เร่อื ง ท่ีต้งั อาณาเขต ภมู ปิ ระเทศและภูมอิ ากาศของแต่ละประเทศในทวปี เอเชีย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิศาสตร์กายภาพส่งผลกระทบตอ่ วิถชี วี ติ ความเปน็ อยู่ของประชากรไทย และประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชยี 2. ครูให้ผเู้ รยี นทำใบงาน เรอ่ื ง สาเหตุหรือปัจจัยหลักท่ีก่อให้เกดิ ลกั ษณะความเหมือนและความต่างกันของ ประชากรแต่ละประเทศในทวปี เอเชียแลว้ ส่งตัวแทนนำเสนอผลงาน

ขนั้ ท่ี 3 การปฏบิ ตั แิ ละการนำไปใช้ 1. ผเู้ รียนนำเสนอความร้ทู ่ไี ด้รบั จากใบความรู้ หนังสือเรยี น อินเตอรเ์ นต็ เรอ่ื ง ทตี่ ้ัง อาณาเขต ภูมปิ ระเทศ และภมู อิ ากาศของแต่ละประเทศในทวีปเอเชยี และจดั ทำใบงาน เรอื่ ง สาเหตหุ รอื ปัจจัยหลักทกี่ อ่ ใหเ้ กิดลกั ษณะ ความเหมือนและความต่างกนั ของประชากรแตล่ ะประเทศในทวปี เอเชีย โดยผูเ้ รียนสง่ ตัวแทนนำเสนอหน้าชนั้ เรยี น 2. ครแู ละผู้เรียนรว่ มกันสรุปว่าลกั ษณะความแตกต่างของบคุ คลน้ันมผี ลมาจากเช้อื ชาติ สภาพภูมิประเทศ และภมู อิ ากาศเปน็ ปัจจยั หลัก แล้วให้ผู้เรยี นบันทึกลงในสมุดของตนเอง ขน้ั ท่ี 4 การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. สงั เกตจากการมีส่วนรว่ มของผเู้ รียน 2. ผลงาน/ การนำเสนอ 3. ใบงาน 4. สมุดสง่ งาน สอื่ การเรยี นรู้ 1. ใบความรู้ เร่อื ง ที่ตัง้ อาณาเขต ภมู ิประเทศและภูมิอากาศของแต่ละประเทศในทวปี เอเชีย การ เปลีย่ นแปลงสภาพภมู ศิ าสตร์กายภาพส่งผลกระทบต่อวถิ ีชีวติ ความเปน็ อยขู่ องประชากรไทย และประเทศตา่ งๆใน ทวปี เอเชีย 2. หนงั สอื เรียน 3. อนิ เตอรเ์ นต็ 4. ห้องสมุดประชาชน การวดั และประเมนิ ผล 1. การมีส่วนร่วมในการทำกจิ กรรมกลุ่ม 2. ผลงาน/ การนำเสนอ 3. ใบงาน 4. สมุดสง่ งาน ลงชื่อ ลงชอื่ ( นายวชั ระ วิเท่ห์ ) ( นายสุรชยั จนั ทร์แดง ) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ผูอ้ ำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวชิ ัย

แผนการจดั การเรยี นรู้ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ กลมุ่ สาระการพฒั นาสงั คม รายวิชา สงั คมศกึ ษา สค21001 แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอื่ งท่ี 2 ภมู ศิ าสตรท์ างกายภาพทวปี เอเชีย เวลา 3 ชวั่ โมง สปั ดาหท์ ี่ ...14... สอนวนั ที่ …16.. เดอื น …กนั ยายน.. พ.ศ. ..2563... ภาคเรยี นท่ี …1... ปกี ารศกึ ษา ..2563.. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มคี วามรู้ ความเข้าใจตระหนกั เกย่ี วกับภูมิศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์ เศรษฐศาสตร์การเมือง การปกครอง ในทวีปเอเชยี และนำมาปรับใชใ้ นการดำเนินชวี ิต เพือ่ ความม่นั คงของชาติ ตวั ชว้ี ดั 1. มีทักษะในการใชเ้ ครื่องมือทางภมู ศิ าสตร์ เชน่ แผนท่ี ลูกโลก Website ดาวเทียม GIS GPRS ฯลฯ เนอ้ื หา วธิ ใี ช้เครอ่ื งมือทางภมู ศิ าสตร์ แผนท่ี ลูกโลก Website ดาวเทียม GIS GPRS ฯลฯ การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ขนั้ ท่ี 1 กำหนดสภาพปญั หาการเรยี นรู้ 1. ครูทกั ทายผเู้ รยี น พดู คุย ในเรอื่ งภมู ศิ าสตร์ของประเทศเพือ่ นบา้ น และสอบถามผเู้ รียนว่าใครรู้จักประเทศ เพ่ือนบ้านทีม่ คี วามนา่ สนใจประเทศใดบา้ ง และมีประเทศใดบา้ งท่ีเปน็ สมาชกิ อยใู่ นกลุ่มประชาคมอาเซยี น ร่วมกนั แสดงความคิดเห็นถึงแนวทางการดำเนินงานของกลุ่มประเทศอาเซียนรวมไปถงึ การสอบถามถงึ ความพรอ้ มของตวั ผูเ้ รยี น เชน่ ภาษา อาชพี ประเพณแี ละวฒั นธรรม 2. ครแู ละผู้เรียนรว่ มกนั อภิปรายถึงเคร่อื งมือทใี่ ช้ทางภมู ิศาสตร์ โดยสอบถามจากผู้เรียนวา่ มีอะไรบ้าง และ มีการนำมาใชอ้ ย่างไร ขนั้ ที่ 2 แสวงหาขอ้ มลู และจดั การเรยี นรู้ 1. ครูนำสอื่ การเรยี นประกอบด้วย แผนที่ ลูกโลก Website ข้อมลู GIS GPRS ให้ผเู้ รียนไดท้ ดลองใช้ เครื่องมอื ทางภมู ิศาสตร์ แลว้ แบ่งกลุ่มตามประเภทของเครอื่ งมอื กลุม่ ละ 5 – 7 คน เพือ่ นำเสนอวิธกี ารใช้และการ อ่านสัญลกั ษณ์ของเครอื่ งมอื แต่ละประเภท 2. ให้ผ้เู รยี นศกึ ษาค้นคว้าเพ่มิ เตมิ จาก ใบความรู้ หนงั สือแบบเรียน และเครอื่ งมอื จรงิ ตามทไี่ ดร้ บั 3. ครมู อบหมายให้ผู้เรียนทำใบงาน เรอื่ ง วธิ ีใช้เคร่อื งมือทางภูมศิ าสตร์ ขนั้ ท่ี 3 การปฏบิ ตั แิ ละการนำไปใช้ 1. ผ้เู รียนส่งตัวแทนของแต่ละกลุ่มมาเล่าวธิ กี ารใช้และการอ่านสญั ลักษณ์ ที่ใช้แทนสถานทแี่ ละสภาพภูมิ ประเทศของแตล่ ะประเทศ 2. ครแู ละผเู้ รยี นรว่ มกนั สรุปใจความสำคัญแล้วบันทกึ ขอ้ มลู ลงในสมดุ ของผเู้ รยี นแต่ละคน

ขน้ั ที่ 4 การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. ครูให้ผเู้ รยี นมสี ว่ นร่วมในการประเมินผลงานจากการนำเสนอของแตล่ ะกลุม่ โดยแบง่ เป็นคะแนนดา้ นการ นำเสนอเนอ้ื หา และด้านความคิดสรา้ งสรรค์ 2. ครูสงั เกตจากการมีส่วนร่วมกระบวนการกลุม่ สอ่ื การเรยี นรู้ 1. หนงั สอื แบบเรยี น 2. แผนท่ี 3. ลกู โลก 4. ใบความรู้ เรือ่ ง วิธกี ารใช้เครือ่ งมือทางภูมิศาสตร์ การวดั และประเมนิ ผล 1. การทำใบงาน 2. การทำแบบทดสอบ ลงชอื่ ( นายวชั ระ วิเท่ห์ ) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ลงชือ่ ( นายสุรชยั จันทรแ์ ดง ) ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวชิ ยั

แผนการจดั การเรยี นรู้ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ กลมุ่ สาระการพฒั นาสงั คม รายวชิ า สงั คมศกึ ษา สค21001 เวลา 3 ชว่ั โมง แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอ่ื งที่ 3 ประวตั ศิ าสตรท์ วปี เอเชยี ภาคเรยี นที่ …1... ปกี ารศกึ ษา ..2563.. สปั ดาหท์ ี่ ...15... สอนวนั ที่ …23.. เดอื น …กนั ยายน.. พ.ศ. ..2563... มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเข้าใจตระหนกั เกย่ี วกบั ภูมศิ าสตร์ ประวตั ิศาสตร์ เศรษฐศาสตรก์ ารเมือง การปกครอง ในทวปี เอเชยี และนำมาปรบั ใชใ้ นการดำเนินชวี ิต เพื่อความม่ันคงของชาติ ตวั ชว้ี ดั 1. สามารถนำเหตกุ ารณ์ในประวตั ศิ าสตรม์ าวเิ คราะห์ให้เห็นความเปล่ียนแปลงทเี่ กิดขึ้นกบั ประเทศไทย และ ประเทศในทวปี เอเชีย เนอื้ หา 1. เหตุการณ์สำคญั ทางประวัตศิ าสตรท์ ี่เกิดขนึ้ ในประเทศไทยและประเทศในทวปี เอเชยี - ยุคล่าอาณานิคม - ยคุ สงครามเยน็ - ฯลฯ การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ขน้ั ท่ี 1 กำหนดสภาพปญั หาการเรยี นรู้ 1. ครทู ักทายกลา่ วนำและสรา้ งความคนุ้ เคยกับผู้เรียนพรอ้ มกับเปดิ ประเด็นพดู คุยกับผูเ้ รียนเรือ่ งความรู้ เบ้ืองต้นเกีย่ วกบั ประวัติศาสตรข์ องผ้เู รยี นแตล่ ะคน และร่วมกนั อภิปรายความรเู้ บอื้ งต้นเก่ยี วกับประวัติศาสตร์เพือ่ นำเขา้ ส่บู ทเรยี น 2. ครูเปดิ ภาพยนตร์เร่ืองพระนเรศวรให้ผเู้ รียนดู และสร้างความเข้าใจร่วมกนั และวิเคราะหก์ ารเปล่ียนแปลง ทางประวตั ศิ าสตร์ตงั้ แต่ยุคอดีตถงึ ยคุ ปัจจุบนั 3. ครแู ละผู้เรียนร่วมกันอภิปรายและสรา้ งความเขา้ ใจเก่ยี วกับเหตุการณ์ทางประวตั ิศาสตร์โดยเรียงลำดับ เหตุการณก์ ่อน-หลัง 4. ครูเปดิ โอกาสให้ผ้เู รียนซกั ถามข้อสงสัยกอ่ นเข้าสบู่ ทเรียนในขัน้ ต่อไป ขนั้ ท่ี 2 แสวงหาขอ้ มลู และจดั การเรยี นรู้ 1. ครแู ละผู้เรียนวางแผนวิธกี ารเรยี นรู้เนอื้ หาท่กี ำหนด 2. ครแู จกใบความรู้ เร่อื ง การแบง่ ยุคสมัยทางประวตั ิศาสตร์

3. ครูแบ่งกลุ่มผู้เรียน 9 กลุ่ม แล้วให้แต่ละกลุ่มคัดเลือกหัวหน้ากลุ่ม รองหัวหน้ากลุ่ม และเลขานุการ และ สมาชิก จากนั้นให้หัวหน้ากลุ่มออกมาจับฉลากเพื่อเลือกหัวข้อของการแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์สากลและ ประวัติศาสตร์ไทย ทั้งหมด 9 เรื่อง และให้ผู้เรียนนำเอาความรู้เกีย่ วกับยุคประวัติศาสตร์สากลและประวัติศาสตร์ไทยท่ี ศึกษาแลว้ นำมาปรบั ใช้ในการดำเนินชีวติ ในสังคมปัจจุบนั ในดา้ นใดบ้าง และนำเสนอเพือ่ แลกเปลย่ี นเรียนรหู้ น้าช้นั เรยี น ประวตั ศิ าสตรส์ ากล 1. สมยั โบราณ 2. สมัยกลาง 3. สมัยใหม่ 4. สมยั ปัจจุบนั ประวัตศิ าสตรไ์ ทย 1. สมัยโบราณ / สมัยกอ่ นสุโขทยั 2. สมัยสโุ ขทัย 3. สมยั อยธุ ยา 4. สมัยธนบุรี 5. สมัยรัตนโกสินทร์ ขน้ั ที่ 3 การปฏบิ ัตแิ ละการนำไปใช้ 1. ผู้เรียนส่งตวั แทนนำเสนอความรูเ้ กยี่ วกบั ยุคประวัตศิ าสตร์สากลและประวตั ิศาสตร์ไทยท่ีจบั ฉลากไดแ้ ลว้ นำความรนู้ น้ั มาปรบั ใชใ้ นการดำเนินชีวิตในสังคมปัจจบุ นั 2. ผู้เรียนสรุปสาระสำคัญท่ไี ด้รับจากการนำเสนอของแตล่ ะกลุ่มลงในสมุดแล้วสง่ ครู ขน้ั ที่ 4 การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. สังเกตจากการมีสว่ นร่วมของผเู้ รียน 2. ผลงาน/ การนำเสนอ 3. สมุดสง่ งาน สอื่ การเรยี นรู้ 1. ใบความรู้ เรอ่ื ง การแบ่งยคุ สมัยทางประวตั ิศาสตร์ 2. หนงั สอื เรียน 3. อินเตอรเ์ น็ต 4. หอ้ งสมดุ ประชาชน 5. แบบทดสอบ

การวดั และประเมนิ ผล 1. การมีสว่ นร่วมในการทำกจิ กรรมกลุม่ 2. ผลงาน/ การนำเสนอ 3. สมุดส่งงาน ลงชอ่ื ( นายวชั ระ วิเท่ห์ ) ครู ศรช.บ้านดอนหวาย ลงชื่อ ( นายสรุ ชยั จนั ทร์แดง ) ผูอ้ ำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวชิ ยั

แผนการจดั การเรยี นรู้ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ กลมุ่ สาระการพฒั นาสงั คม รายวิชา สงั คมศกึ ษา สค21001 เวลา 3 ชว่ั โมง แผนการจดั การเรยี นรเู้ รอ่ื งท่ี 4 เศรษฐศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี …1... ปกี ารศกึ ษา ..2563.. สปั ดาหท์ ่ี ...15... สอนวนั ท่ี …23.. เดอื น …กนั ยายน.. พ.ศ. ..2563... มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเข้าใจตระหนักเกย่ี วกบั ภูมศิ าสตร์ ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์การเมือง การปกครอง ในทวีปเอเชีย และนำมาปรบั ใชใ้ นการดำเนินชีวติ เพอื่ ความมัน่ คงของชาติ ตวั ชว้ี ดั 1. เลือกวธิ กี ารท่มี ีประสทิ ธิภาพมาใชใ้ นการผลติ สินคา้ และบริการได้ 2. รแู้ ละเขา้ ใจการใชก้ ฎหมายคมุ้ ครองผู้บริโภค เนอื้ หา 1. คณุ ธรรมในการผลิตและการบรโิ ภค 2. กฎหมาย และขอ้ มูลการค้มุ ครองผู้บริโภค การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ขน้ั ท่ี 1 กำหนดสภาพปญั หาการเรยี นรู้ 1. ครทู กั ทายผเู้ รยี นในเรือ่ งชวี ติ ประจำวนั และช้แี จงตัวชว้ี ดั อธิบายวิธีการเลือกซอื้ และเลือกใชส้ นิ ค้า ทีดีและมคี ุณภาพ แนวทางการดแู ลสิทธิเบื้องตน้ ของตนเองจากการกระทำดังกลา่ ว 2. ครูใหผ้ เู้ รียนสำรวจตัวเองว่า ในแต่และวันไดเ้ ลอื กซื้อสินค้าอุปโภคและบรโิ ภคประเภทใดบา้ ง เพ่อื ใช้ ประโยชน์อยา่ งไร มคี วามเหมาะสมหรือไม่ ขนั้ ที่ 2 แสวงหาขอ้ มลู และจดั การเรยี นรู้ 1. ให้ผ้เู รยี นแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 5-7 คน โดยวธิ ีจบั ฉลาก และใหแ้ ต่ละกลมุ่ ช่วยกนั ศึกษาความหมายของ เศรษฐศาสตร์จากแบบเรียน วชิ า สังคมศกึ ษา (สค21001 หน้า 80-115 ) 2. ให้ผ้เู รียนสืบค้นขอ้ มูล จากแหล่งเรยี นรู้ อินเตอร์เนต็ โดยเข้าไปท่ี เวบ็ ไซด์ www.google.com ค้นเร่ืองกฎหมายและขอ้ มูลการคุ้มครองผบู้ ริโภค คณุ ธรรมในการผลิตและการบรโิ ภคเพอื่ สรุป เป็นใบงาน 3. ให้ผู้เรยี นส่งตวั แทน เพ่ือนำเสนอความหมาย ของเศรษฐศาสตร์ พร้อมให้ผเู้ รียนทุกกลมุ่ ช่วยกนั สรปุ ความหมายของเศรษฐศาสตร์ 4. ครูช่วยอธบิ ายเพิ่มเตมิ ความหมายของเศรษฐศาสตรใ์ หม้ ีความสมบูรณ์มากย่งิ ข้นึ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook