คำนำ แผนยุทธศาสตร์คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี ประจาปี พ.ศ. 2561-2564 ฉบับนี้จัดทาข้ึนเพ่ือกาหนดทิศทางการดาเนินงานให้มีความสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ การพัฒนามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี 20 ปี พ.ศ.2560-2579 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2564) แผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ.2560-2579) และเป็น กรอบแนวทางในการดาเนินกิจกรรม/โครงการ เพ่ือการพัฒนาภายในคณะศิลปกรรมศาสตร์ อีกทั้งยัง เป็นการพฒั นาศักยภาพใหส้ ามารถดาเนนิ งานเชงิ รุกได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้กาหนดแนวทางเพ่ือ นาไปสู่การปฏิบัติอย่างชัดเจน สามารถใช้เป็นกรอบแนวทางที่แสดงถึงยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ต่างๆ เพอื่ พัฒนาคณะฯ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเน่ืองของสงั คมโลกและสังคมไทย จากการศึกษา แนวโน้มและความท้าทายในอนาคต ซึ่งการจัดทาแผนยุทธศาสตร์คณะศิลปกรรมศาสตร์ในคร้ังน้ี คณะฯ ได้วเิ คราะห์ปัจจัยสภาพแวดล้อมและศักยภาพ (SWOT Analysis) ของคณะฯ ในปัจจบุ ัน และมี รูปแบบการใช้กระบวนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียโดยการประชาคม การระดมความคิดเห็นจาก คณะกรรมการจัดทาแผนยุทธศาสตร์ฯ คณะกรรมการบริหารคณะฯ คณาจารย์และเจ้าหน้าที่ ผ่านการ ประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการในระดับต่างๆ โดยให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน อีกท้ัง เป็นยุทธศาสตร์ของคณะฯ เพ่ือเป็นเครื่องมือสาหรับการบูรณาการและการแปลงแผนสู่แผนการปฏิบัติ ราชการประจาปี และผลักดันให้การดาเนินการในภารกิจต่างๆ ของทุกภาคส่วนเกิดผลสัมฤทธ์ิบรรลุ ตามนโยบายและขับเคลื่อน ปรัชญา วิสัยทัศน์ พันธกิจ ปณิธาน ค่านิยมองค์กร เอกลักษณ์ อัตลักษณ์ ของคณะฯ สามารถตอบสนองเปา้ หมายและแสดงผลสัมฤทธติ์ ามยทุ ธศาสตรไ์ ด้อย่างเปน็ รูปธรรม
สารบญั หนา้ คานา ก บทสรปุ ผู้บรหิ าร 1 บทท่ี 1 กระบวนการจัดทาแผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 และข้อมูลพน้ื ฐาน 2 4 1.1 กระบวนการจัดทาแผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 1.2 ขอ้ มูลพ้นื ฐานของหนว่ ยงาน 4 5 1.2.1 การแบง่ สว่ นราชการของคณะศลิ ปกรรมศาสตร์ 6 แผนภาพท่ี 1.1 โครงสรา้ งคณะศลิ ปกรรมศาสตร์ 7 11 1.2.2 ขอ้ มลู อาคาร 14 1.2.3 ขอ้ มลู บุคลากร 15 1.2.4 หลักสูตร 16 1.2.5 ผลการประเมนิ ระบบการประกันคณุ ภาพการศกึ ษา 1.2.6 ความรว่ มมอื ทางวชิ าการกับตา่ งประเทศ 17 1.2.7 ความรว่ มมอื ทางวชิ าการกบั หน่วยงาน องคก์ ร ระดบั ประเทศ 17 17 บทท่ี 2 บริบททีเ่ กี่ยวข้อง และการวิเคราะหส์ ถานการณ์ 18 2.1 บรบิ ททเ่ี ก่ยี วข้อง 24 - แผนยทุ ธศาสตรช์ าติ 20 ปี (พ.ศ.2560–2579) 26 - THAILAND 4.0 27 - แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ ฉบบั ที่ 12 (พ.ศ.2560-2564) 31 - แผนการศึกษาแหง่ ชาติ (พ.ศ.2560-2579) - อดุ มศึกษา 4.0 2.2 การวิเคราะหส์ ถานการณ์ (SWOT Analysis)
สารบญั (ต่อ) 34 34 บทท่ี 3 ยุทธศาสตร์การพฒั นาคณะศลิ ปกรรมศาสตร์ 34 3.1 ปรัชญา (Philosophy) 34 3.2 ปณิธาน (Determination) 34 3.3 คา่ นิยมองค์กร (Core values) 34 3.4 วฒั นธรรมองคก์ ร (Corporate Culture) 34 3.5 อตั ลกั ษณ์ (Identity) 34 3.6 เอกลักษณ์ (Uniqueness) 35 3.7 คุณลกั ษณะบัณฑิตที่พึงประสงคค์ ณะศลิ ปกรรมศาสตร์ 36 3.8 วสิ ยั ทัศน์ (Vision) 36 3.9 พันธกิจ (Mission) 37 3.10 ประเด็นยุทธศาสตร์ (Strategic Issue) 44 3.11 ตารางความเช่ือมโยงระหว่าง เป้าหมายหลัก ประเด็นยุทธศาสตร์ เปา้ ประสงค์ กลยุทธ์ 3.12 สรุปภาพความเชอื่ มโยงแผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 45 45 บทที่ 4 การแปลงแผนยุทธศาสตร์ไปสูก่ ารปฏบิ ตั ิ 46 4.1 การแปลงแผนยุทธศาสตร์ไปสกู่ ารปฏิบัติ 4.2 ภาพรวมประเด็นยทุ ธศาสตร์ เปา้ ประสงค์ กลยุทธ์ ตวั ช้วี ัด โครงการ/กจิ กรรม 47 ประมาณการงบประมาณ ตามแผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 4.3 ความเชอ่ื มโยงพันธกจิ ประเด็นยุทธศาสตร์ เป้าประสงค์ ตัวชวี้ ดั เป้าประสงค์ 54 กลยุทธ์ ตวั ชี้วดั กลยทุ ธ์ และแผนงาน/โครงการ/กจิ กรรม 4.4 โครงการท่สี นับสนนุ การดาเนนิ งานในแต่ละประเด็นยุทธศาสตร์ของแผนปฏิบัติ 63 ราชการ 4 ปี ท่จี ะดาเนินการในชว่ ง พ.ศ.2561-2564 64 64 บทท่ี 5 การกากบั ตดิ ตามประเมนิ ผลแผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 64 5.1 กรอบการติดตามประเมนิ ผล 65 5.2 ระยะเวลาการตดิ ตามประเมินผล 65 5.3 กรอบความเชื่อมโยงผลสาเร็จ 5.4 เครอื่ งมือในการประเมนิ ผลกระทบ 66 5.5 แนวทางบริหารความเสี่ยงและการวเิ คราะห์การเปลย่ี นแปลงเพ่ือการทบทวนกลยทุ ธ์ ภาคผนวก คาส่ังแต่งตง้ั คณะกรรมการจัดทาแผนยุทธศาสตร์ พ.ศ. 2561-2564
แผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี ก บทสรปุ ผบู้ รหิ าร การจัดทาแผนยุทธศาสตร์ พ.ศ. 2561-2564 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลธัญบุรี ได้มีการพัฒนาการอย่างต่อเน่ืองนับจากอดีตเป็นต้นมา โดยให้ความสาคัญกับ แผนปฏิบัติราชการของมหาวิทยาลัย นโยบายและวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัย วิสัยทัศน์ของคณะ กระบวนการมีส่วนร่วมของประชากรในหน่วยงาน ผ่านกลไกการระดมความคิดเห็น มีการวิเคราะห์ สภาพแวดล้อมภายใน และภายนอก ทคี่ าดว่าจะสง่ ผลต่อทิศทางการพัฒนาคณะและมหาวทิ ยาลัย อัน จะนาไปสู่การขับเคล่ือนประเด็นยุทธศาสตร์ไปสู่การปฏิบัติ รวมท้ังระบบการติดตามประเมินผล โดย สามารถสรปุ ไดด้ งั นี้ 1. การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลพน้ื ฐานจากการดาเนนิ งานทผ่ี า่ นมา 2. การรวบรวมสภาพปัญหาและประเด็นในการพฒั นาคณะศลิ ปกรรมศาสตร์ ในอนาคต 4 ปี รับฟงั ปญั หา อปุ สรรค และการพฒั นา 3. การวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลนโยบายในระดับประเทศที่เก่ียวข้องกับการศึกษาแนวปฏิบัติ ท่ดี ี และส่ิงทต่ี อ้ งดาเนนิ การอยา่ งตอ่ เนอ่ื งท่ีบรรจไุ วใ้ นแผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ. 2561-2564 การศึกษาความเชื่อมโยงกับแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติ อาทิ แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) THAILAND 4.0 แผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ. 2560-2564) แผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ (พ.ศ.2560-2579) อดุ มศึกษา 4.0 การศกึ ษาความเชอ่ื มโยงกับแผนยทุ ธศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี 4. การสรุปประเด็นเพอ่ื นาไปส่กู ารกาหนดกรอบแนวคดิ ในการจดั ทาแผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ. 2561-2564 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มทร.ธัญบรุ ี การระดมความคิดเห็นจากคณะกรรมการยกร่าง ผูบ้ รหิ าร การคาดการณ์อนาคตและความสามารถของคณะด้านการจัดการศึกษา 5. การกาหนดกรอบแนวคิดและทิศทางประเด็นยุทธศาสตร์ เป้าประสงค์ กลยุทธ์ ตัวชี้วัดของ แผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 ของคณะฯ ให้ครอบคลุมในทุกระดับ และทุกมิติ ตามข้อกาหนด แผนยุทธศาสตร์และแผนการพฒั นาของมหาวิทยาลัยฯ 20 ปี พ.ศ.2560-2579 ทีไ่ ดผ้ ่านการอนมุ ตั จิ าก การประชุมผูบ้ ริหารระดับสูงมหาวิทยาลัย การประชุมคณะกรรมการบริหารมหาวทิ ยาลยั 6. การรบั ฟังข้อคดิ เหน็ จากผู้มสี ่วนเก่ียวขอ้ ง การระดมความคิดเห็นต่อร่างแผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศิลปกรรม ศาสตร์ ในการประชมุ คณะฯ เมือ่ วนั ท่ี 1 – 3 พฤศจกิ ายน 2560 แผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มทร.ธัญบุรี จัดทาข้ึนโดยมี วัตถุประสงค์หลักเพื่อการพัฒนาคณะ อย่างต่อเนื่อง สู่การมีคุณภาพที่ย่ังยืน ภายใต้การบริหารจัดการ ตามหลักธรรมาภิบาล และการได้รับโอกาสจากการกระจายการมีส่วนร่วมอย่างเป็นธรรมสู่คณะของ
แผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี ข มหาวิทยาลัย เพ่ือมุ่งสู่วิสัยทัศน์ “คณะศิลปกรรมศาสตร์ เป็นผู้นาในการผลิตบัณฑิตนักปฏิบัติ มืออาชีพ และพัฒนาแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต ด้านศิลปวัฒนธรรมบนพื้นฐานของเทค โนโลยี นวัตกรรมระดับชาติและนานาชาติ\"เพื่อเป็นฟันเฟืองหนึ่งของการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ให้บรรลุวิสัยทัศน์ที่ว่า “มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เป็นมหาวิทยาลัยนักปฏิบัติมืออาชีพชั้นนาด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม ใน ระดับประเทศและระดับสากล” ในการแปลงแผนปฏิบัติราชการสู่การปฏิบัติงานระดับฝ่าย /ภาควิชา คือ การนาประเด็น ยุทธศาสตร์ไปสู่การปฏิบัติ ซ่ึงเป็นกระบวนการหน่ึงในการบริหารเชิงกลยุทธ์ของมหาวิทยาลัย มีการ ดาเนินการที่สาคัญคือ การจัดทาแผนปฏิบัติราชการของท่ีสอดรับกับแผนปฏิบัติราชการของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ซ่ึงคณะจะต้องกาหนด โครงการ กิจกรรม ผลผลิต ผลลัพธ์ ระยะเวลา งบประมาณ ให้สอดคล้องกบั ประเด็นยทุ ธศาสตร์ ของมหาวิทยาลัย สาหรับการกากับติดตามประเมินผลแผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561 - 2564 ยึดหลักการ กระจายอานาจ ด้วยการสนับสนุนให้ใช้กลไกการบริหารงานของคณะ และภาควิชา ให้มีบทบาทหน้าท่ี ในการมสี ว่ นร่วมในการตดิ ตามประเมินผลและรับผดิ ชอบตดิ ตามการดาเนนิ งานตามประเด็นยทุ ธศาสตร์ กลยุทธ์ ตัวชี้วัดกลยุทธ์ ท่ีตนรับผิดชอบ โดยมีรองคณบดีฝ่ายบริหารและวางแผน เป็นผู้วิเคราะห์ สังเคราะห์ และสรุปในภาพรวมของแผนเพื่อรายงาน คณบดี คณะกรรมการประจาคณะ ผู้บริหาร ระดบั สูงของมหาวทิ ยาลยั และสภามหาวิทยาลัย เพอ่ื ก่อใหเ้ กิดการปรบั ปรงุ อย่างต่อเน่ือง
แผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธญั บุรี 1 บทท่ี 1 กระบวนการจัดทาแผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 และขอ้ มลู พนื้ ฐาน มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลเปน็ สถาบันการศึกษาในระดับอุดมศึกษาท่ีใหบ้ ริการการศึกษา และผลิตทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าให้กับสังคมไทยเปน็ ระยะเวลายาวนาน นับย้อนจากการสถาปนาในนาม “วทิ ยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศกึ ษา” วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2518 เป็นวันท่ีพระราชบัญญัติ “วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา” ได้ถูกประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้เพื่อผลิตครูอาชีวศึกษาระดับปริญญาตรี ให้การศึกษา ทางด้านอาชีพทั้งระดับต่ากว่าปริญญาตรี ระดับปรญิ ญาตรี และประกาศนียบตั รช้ันสูง ท่าการวิจัยส่งเสริม การศึกษาทางด้านวชิ าชีพและให้บริการทางวิชาการแก่สงั คม วิทยาลัยเทคโนโลยแี ละอาชีวศึกษาได้พัฒนา ระบบการเรียนการสอนใหไ้ ด้มาตรฐานการศึกษาที่มีคุณภาพ และศักยภาพมีความพร้อมในหลายๆด้าน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานช่ือใหม่ว่า “สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล” ในวันท่ี 15 กันยายน 2531 และเปน็ ผลสืบเนื่องจากแนวทางการปฏิรูป การศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 ท่ีมุ่งเน้นการกระจายอ่านาจ การบริหารจัดการ สู่สถานศึกษาระดับอุดมศึกษา เพื่อให้สถานศึกษาของรัฐด่าเนินการโดยอิสระ และมีความคล่องตัวใน การบริหารจัดการภายใต้การก่ากับดูแลของสภาสถานศึกษา สถาบันเทคโนโลยรี าชมงคลจึงได้ปรับปรุงแก้ไข พระราชบัญญัติฉบับเดิมและยกร่างเป็นพระราชบญั ญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล โดยมีการรวมกลุ่ม วิทยาเขตจัดต้ังเป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล จ่านวน 9 แห่ง อยู่ภายใต้การก่ากับดูแส่านักงาน คณะกรรมการการอุดมศึกษากระทรวงศึกษาธิการ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชบัญญัติมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ.2548 และประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาใช้บังคับเป็นกฎหมายต้ังแต่วันที่ 19 มกราคม พ.ศ.2548 มีวัตถุประสงค์เพ่ือเป็น มหาวิทยาลัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีท่ีสามารถจัดการศึกษาวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง ที่เน้น การปฏิบัติ ท้ังในระดับปริญญาตรี โท และเอก เพื่อรองรับการศึกษาต่อของผู้ส่าเร็จการศึกษาจาก สถาบันอาชีวศึกษา เป็นหลัก รวมถึงให้โอกาสแก่ผู้จบการศึกษาจากจากวิทยาลัยชุมชนและการศึกษา ข้ันพืน้ ฐานในการศกึ ษาต่อวชิ าชพี ระดับปริญญา คณะศิลปกรรมศาสตรเ์ ป็นคณะทเ่ี ปดิ สอนหลักสูตรวิชาชีพศิลปกรรมทุกแขนง ด้านวิจิตรศิลป์ ศิลปประยุกต์ นาฏศิลปแ์ ละดุริยางค์ จัดการเรียนการสอน ในเชิงอนุรักษ์ พัฒนา งานศิลปะประจา่ ชาติ และสร้างสรรค์งานศิลปะร่วมสมัย มีประวัติสืบเนื่องยาวนานตั้งแต่เริ่มต้ังเป็นวิทยาลัยเทคโนโลยีและ อาชีวศึกษา ในปี พ.ศ.2518 โดยจัดต้ัง คณะศิลปกรรม รับผิดชอบในการผลิตบัณฑิตวิชาชีพครูด้าน วจิ ิตรศิลป์ ศิลปะประยุกต์ และคณะนาฏศิลป์และดุรยิ างค์ รับผดิ ชอบในการผลิตบัณฑิตวิชาชีพครูด้าน นาฏศิลป์และดุริยางค์ และมีการเปล่ียนแปลงตามล่าดับ จนเมื่อวันท่ี 28 พฤศจิกายน 2549 คณะ ศิลปกรรมและคณะนาฏศิลปแ์ ละดรุ ิยางค์ ได้ผนวกโครงสร้างรวมกันเพื่อบรหิ ารจัดการและผลิตบัณฑิต
แผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี 2 ด้านศิลปกรรมทุกศาสตร์สาขา ในนามคณะศิลปกรรมศาสตร์ มีความมุ่งมั่นท่ีจะผลิตบัณฑิตท่ีมีความรู้ ความสามารถ มีคณุ ธรรมจริยธรรม ในการท่จี ะทา่ นบุ ่ารุง สืบสาน สรา้ งสรรค์ และพัฒนางานศิลปกรรม เพอื่ ประโยชนต์ ่อประเทศชาติ ภายใต้วสิ ัยทศั น์และนโยบายของมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี 1.1 กระบวนการจดั ทาแผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธัญบรุ ี ได้จัดท่าแผนยุทธศาสตร์ พ.ศ. 2561-2564 ข้ึนภายใต้นโยบายการพัฒนามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ท่ีมุ่งเน้นการพัฒนา ก่าลังคนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้มีทักษะความช่านาญด้านวิชาชีพ เสริมสร้าง ทุนมนุษย์ท่ีมี มูลค่าเพ่ิมให้ประเทศ ตามมติสภามหาวิทยาลัยฯ ในการประชุมครั้งที่ 7/2560 เม่ือวันท่ี 26 กรกฎาคม 2560 และวิสัยทัศน์ นโยบายยุทธศาสตร์และแผนการพัฒนามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช มงคลธัญบุรี 20 ปี พ.ศ.2560-2579 ซึ่งอธิการบดีน่าเสนอในการประชุมสภามหาวิทยาลัยฯ ครั้ง ท่ี 7/2560 เม่ือวันที่ 26 กรกฎาคม 2560 และยุทธศาสตร์และแผนการพัฒนามหาวิยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลธัญบุรี 20 ปี พ.ศ.2560-2579 ในขณะเดียวกันได้มีการน่าผลการประเมินคุณภาพของ มหาวิทยาลัย จาก ส่านักงาน ก.พ.ร. สกอ. ผลการประเมินอธิการบดี การลงพื้นท่ีเพื่อรับฟังปัญหา อุปสรรค และแนวทางการพัฒนาคณะ/วิทยาลัย และได้มีการจัดโครงการน่านโยบายเพ่ือการพัฒนา แผนกลยุทธ์ไปสู่เป้าหมายของ มทร.ธัญบุรี ซ่ึงเป็นการประชุมระดมสมอง เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจและเห็น ภาพการพฒั นามหาวิทยาลยั โดยรวมร่วมกันโดยสามารถสรปุ เปน็ ขั้นตอนไดด้ งั น้ี
แผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี 3 แผนงานและขัน้ ตอนกระบวนการจัดทาแผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ แตง่ ตัง้ คณะกรรมการจัดทา่ แผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 ประชมุ คณะกรรมการจัดทา่ แผนยุทธศาสตรฯ์ วิเคราะห์ (SWOT) และจดั ท่า (รา่ ง) แผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 วนั ท่ี 1 – 3 พฤศจิกายน 2560 แจ้งใหบ้ ุคลากรทั้งคณะฯ รบั ทราบเพื่อรับฟังความคดิ เหน็ ในการประชมุ บคุ ลากรทง้ั คณะฯ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2560 เสนอ (รา่ ง) แผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 ต่อที่ประชุม คณะกรรมการประจ่าคณะฯ วนั ท่ี 29 พฤศจิกายน 2560 แกไ้ ขปรบั ปรงุ ตาม ข้อเสนอแนะของ คณะกรรมการประจ่าคณะฯ ถา่ ยทอดแผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 สกู่ ารปฏิบตั ิ
แผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี 4 แผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561 - 2564 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ธัญบุรี ฉบับนี้เป็นเครื่องมือท่ีชว่ ยให้คณะและมหาวิทยาลัยไดเ้ หน็ ความเชอื่ มโยงของการด่าเนินงานตา่ งๆ ท่ีส่งผลในเชิงสนับสนุน เพ่ือให้คณะ ภาควิชา และภาคส่วนในคณะท่ีเกี่ยวข้อง ได้น่ามาใช้ในการ ตัดสินใจ เพ่ือก่าหนดแนวทางการด่าเนินงาน การจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์ สูงสดุ และใช้เป็นกรอบในการติดตามและประเมินผลการด่าเนินงานในชว่ งระยะเวลา 4 ปขี ้างหน้า 1.2 ข้อมูลพื้นฐานของหน่วยงาน คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เป็นคณะท่ีมีพันธกิจในด้าน การจัดการศึกษาสายวิชาชีพศิลปกรรม การวิจัย การบริการทางวิชาการ ท่านุบ่ารุง อนุรักษ์ สืบสาน สรา้ งสรรค์ ศิลปวฒั นธรรม ภายใต้การบริหารจดั การตามหลักธรรมาภบิ าล ปัจจุบันมีการจัดการเรยี นการ สอนในหลักสูตรศิลปบัณฑิต ใช้เวลาการศึกษา 4 ปี จ่านวน 12 หลักสูตร และหลักสูตรศึกษาศาสตร บัณฑิต ใช้เวลาการศึกษา 5 ปี จ่านวน 3 หลักสูตร และหลักสูตรศิลปมหาบัณฑิต ใช้เวลาการศึกษา 2 ปี จ่านวน 1 หลักสูตร ในปีการศึกษา 2560 มีจ่านวนนักศึกษาทุกช้ันปีรวมกันทั้งสิ้นจ่านวน 1,400 คน มีอาจารย์จ่านวนท้ังสิ้น 84 คน แบ่งออกเป็น วุฒิปริญญาตรี 11 คน ปริญญาโท 59 คน และ ปริญญาเอก 14 คน มีต่าแหน่งทางวิชาการระดับรองศาสตราจารย์ 3 คน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ 28 คน และอาจารย์ 53 คน มีบุคลากรสายสนับสนนุ จ่านวน 26 คน 1.2.1 การแบง่ ส่วนราชการของคณะศลิ ปกรรมศาสตร์ 1. ส่านักงานคณบดี ท่าหน้าท่ีเป็นหน่วยงานประสาน ส่งเสริม และสนับสนุนการ ปฏิบัติงานให้แก่ภาควิชา ประกอบด้วย 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายบริหารงานท่ัวไป ฝ่ายวิชาการและวิจัย ฝา่ ยพัฒนานกั ศกึ ษา 2. ภาควิชาทัศนศิลป์ รับผิดชอบการบริหารจัดการหลักสูตรการเรียนการสอน โดยมุ่งเน้น ให้นักศึกษามีความรู้ท้ังทฤษฎีและทักษะปฏิบัติงานศิลปกรรมทางด้านวิจิตรศิลป์อย่างเชี่ยวชาญ สามารถใช้กระบวนการทางวิจัยและเทคโนโลยี เข้ามาผสมผสานกับการสร้างสรรค์ผลงาน เพื่อให้เกิด คุณค่าทางสุนทรียะ ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีเอกลักษณ์เฉพาะตนท่ีกลมกลืนกับสังคม พร้อมด่ารงตนเป็น พลเมอื งทีด่ ีมีคุณภาพ 3. ภาควิชาศิลปะการออกแบบและเทคโนโลยี รับผิดชอบการบริหารจัดการหลักสูตรการ เรียนการสอน โดยมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีความรู้มีความสามารถทั้งทฤษฎีและปฏิบัติงานทางด้านการ ออกแบบ เข้าใจและปฏิบัติงานตามกระบวนการผลิตของแต่ละสาขาได้อย่างเช่ียวชาญ สามารถ สร้างสรรค์ผลงานที่เป็นต้นแบบและน่าไปใช้งานจริงได้อย่างมีคุณภาพ ส่งเสริมให้ผู้เรียนมี ความสามารถในการนา่ เสนอ การติดต่อสื่อสารกับบุคคลภายนอก มีบคุ ลิกภาพทดี่ ี และมีจรรยาในงาน อาชีพ
แผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธญั บุรี 5 4. ภาควิชานาฏดุริยางคศิลป์ รบั ผิดชอบการบริหารจัดการหลักสูตรนาฏศิลปและดุรยิ างค์ โดยเน้นเทคนิคการปฏิบัติวิชาชีพในแต่ละสาขาวิชาเพื่อให้เกิดทักษะวิชาชีพ เน้นด้านการสอนท้ังวิชา ศึกษาทั่วไป และทางวิชาชีพ ให้ความส่าคัญทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เพ่ือสั่งสมความเช่ียวชาญ วิชาชีพ แผนภาพที่ 1.1 โครงสรา้ งคณะศิลปกรรมศาสตร์
แผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ ี 6 1.2.2 ขอ้ มูลอาคาร อาคารของคณะศิลปกรรมศาสตร์มี จา่ นวน 6 หลัง ใช้ในการปฏบัติงานสนับสนุนการเรียนการ สอน 1 หลงั และใช้ในการเรียนการสอน จา่ นวน 5 หลงั ประกอบดว้ ย 1. อาคารส่านักงานเลขานุการคณะศลิ ปกรรมศาสตร์ เป็นที่ต้ังของสา่ นักงานภาควชิ าทศั นศิลป์ ภาควิชาศิลปะการออกแบบและเทคโนโลยี ส่านักงานคณะศิลปกรรมศาสตร์ ห้องประชุม คณะกรรมการบริหาร หอ้ งประชุมคณะความจุ 110 ท่ีนงั่ ห้องคณบดแี ละรองคณบดี 2. อาคาร 2 เป็นอาคารทีใ่ ชใ้ นการเรียนวิชาทฤษฏีด้านการศึกษาท่ัวไป และทางดา้ นศิลปกรรม ศาสตร์ นอกจากนี้ยังเปิดให้บริการกับคณะศิลปศาสตร์ในการใช้สอนวิชาการศึกษาท่ัวไปกับคณะอ่ืนๆ ช้ัน 3 ของอาคารใช้เป็นห้องเรียนนักศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโท อีกทั้งยังมีห้องพักส่าหรับ อาจารย์ประจา่ หลักสูตรศิลปมหาบณั ฑิตอกี ด้วย ชัน้ 2 ของอาคารเปน็ ท่ีตั้งของห้องสมดุ เฉพาะทางของ คณะ ห้องวารสารศิลปกรรมวิชาการฯ และห้อง Smart Classroom ช้ัน 1 เป็นหอศิลป์แสดงงาน ศลิ ปะหมนุ เวียน ห้องศนู ยค์ วามเปน็ เลศิ ดา้ นศิลปะการออกแบบและการแสดง และห้อง Fab Lab 3. อาคาร 3 เป็นอาคารเรยี นปฏิบัตขิ องหลักสตู รสาขาวิชานวตั กรรมการออกแบบผลิตภณั ฑ์ ร่วมสมัย ซึ่งประกอบด้วย สาขาเคร่ืองป้ันดินเผา สาขาเคร่ืองหนัง สาขาหัตถกรรม และสาขาการ ออกแบบแฟช่ันและศิลปะส่ิงทอ 4. อาคาร 4 เปน็ อาคารเรยี นปฏิบตั ิของหลกั สูตรสาขาวชิ าประตมิ ากรรม สาขาวิชาออกแบบ นิเทศศิลป์ สาขาวิชาออกแบบผลิตภัณฑ์ สาขาวิชาศิลปะภาพพิมพ์ สาขาวิชาจิตรกรรม นอกจากน้ีท่ี บริเวณ ชั้น1 มหี ้องประชมุ ศิลปกรรมนิเทศ ความจุ 400 ที่นั่ง หอ้ งศิลปกรรมนิทรรศ เป็นทส่ี ะสมผลงาน ของศิลปินท่ีมีชื่อเสียง ช้ัน2 เป็นห้องคอมพิวเตอร์จ่านวน 5 ห้อง ห้องกายวิภาค และศูนย์ ศลิ ปวฒั นธรรม 5. อาคาร 5 เปน็ อาคารเรียนปฏิบัติของสาขาวิชาศิลปะไทย สาขาวิชาออกแบบภายใน ห้อง แสดงนิทรรศการดา้ นศิลปะ 6. อาคารนาฏดรุ ิยางคศิลป์ เป็นอาคารเรียนทฤษฏแี ละปฏิบัติของสาขาวิชานาฏศิลป์ไทย สาขาวิชาดนตรีคีตศิลป์สากลศึกษา สาขาวิชาคีตศิลป์ไทยศึกษา สาขาวิชาดนตรีสากล นอกจากนี้เป็น ทีต่ ้ังของส่านักงานภาควชิ า หอ้ งประชมุ เอนกประสงค์ 1 หอ้ ง ห้องประชมุ เพื่อใช้ในการจัดการแสดง 1 ห้อง นอกจากน้ีรอบๆคณะ ยังมีพ้ืนที่เพ่ือให้นักศึกษาและบุคลากรได้ใช้ประโยชน์ในการนั่งพักผ่อน มี พน้ื ทสี่ ่าหรบั การจดั แสดงและกจิ กรรม อาทิ ลานประตมิ ากรรม
แผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี 7 ตารางที่ 1 จานวนอาคารเรยี นจาแนกตามลกั ษณะการใช้งาน ชอ่ื อาคาร ปีท่สี รา้ งเสรจ็ (เปดิ จา่ นวนชัน้ พื้นท่ีใช้ ห้องเรียนบรรยาย ห้องปฏบิ ตั กิ าร ใช)้ สอย จา่ นวนห้อง ความจุ จา่ นวนห้อง ความจุ อาคาร 2 4 อาคาร 3 2532 3 1,764 12 360 -- อาคาร 4 2533 6 4,131 3 90 16 480 อาคาร 5 2541 4 12,000 7 210 23 690 อาคารนาฏศลิ ปแ์ ละ 2544 4,000 -- 14 420 ดุริยางค์ 8 2551 12,000 9 270 26 780 1.2.3 ข้อมลู บุคลากร บุคลากรของคณะศิลปกรรมศาสตร์ จ่านวน 110 คน ประกอบด้วย บุคลากรสายวิชาการ 84 คน และบุคลากรสายสนบั สนุน 26 คน คุณวุฒกิ ารศึกษา และตา่ แหน่งทางวิชาการของบุคลากร สายวชิ าการสรปุ ได้ ดังนี้ อาจารยว์ ุฒิปริญญาตรี ปรญิ ญาโท และปริญญาเอก คดิ เป็นร้อยละ 11.90, 70.24 และ 17.86 ตามล่าดับ ตา่ แหนง่ อาจารย์ ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ และรองศาสตราจารย์ คดิ เปน็ ร้อยละ 61.90., 34.52, และ 61.90 ตามล่าดับ
แผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี 8 ตารางท่ี 2 ข้อมลู บุคลากรคณะศิลปกรรมศาสตร์ ประเภทบุคลากร สายวิชาการ สายสนับสนนุ รวม ขา้ ราชการ 55 5 60 21 12 33 พนักงานมหาวิทยาลัย 2 2 4 พนกั งานราชการ 6 7 13 ลูกจา้ งช่ัวคราว 84 26 110 รวม ตารางที่ 3 จานวนขา้ ราชการ และพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการ จาแนกตามตาแหน่งวิชาการ ตาแหน่ง ศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ อาจารย์ ข้าราชการ - 3 28 24 พนกั งานมหาวทิ ยาลัย - - 1 20 3 29 44 รวม ตารางท่ี 4 จา่ นวนบุคลากรสายวชิ าการ จา่ แนกตามประเภท ระดับการศึกษา ป.ตรี ป.โท ป.เอก รวม ขา้ ราชการ 4 39 12 55 พนักงานมหาวิทยาลยั - 19 2 21 พนักงานราชการ 11 - 2 ลกู จา้ งชัว่ คราว 5- 1 6 10 59 15 84 รวม
แผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี 9 ตารางท่ี 5 จา่ นวนขา้ ราชการสายวชิ าการ จ่าแนกตามระดบั การศึกษา/หน่วยงาน สงั กดั ป.ตรี ป.โท ป.เอก รวม ภาควิชาทัศนศิลป์ 3 12 3 18 ภาควชิ านาฏดรุ ยิ างคศ์ ลิ ป์ -8 3 11 ภาควชิ าศิลปะการออกแบบฯ 1 15 7 23 4 35 13 52 รวม ตารางที่ 6 จา่ นวนพนกั งานมหาวทิ ยาลัยสายวิชาการ จา่ แนกตามระดบั การศึกษา/หน่วยงาน สังกัด ป.ตรี ป.โท ป.เอก รวม ภาควิชาทศั นศลิ ป์ - 4 - 4 ภาควิชานาฏดรุ ิยางคศ์ ลิ ป์ - 8 1 9 ภาควิชาศิลปะการออกแบบฯ - 7 1 8 19 2 21 รวม ตารางท่ี 7 จ่านวนลกู จา้ งชั่วคราว สายสนับสนนุ และสายวชิ าการ จ่าแนกตามระดบั การศึกษา สังกดั ตา่ กวา่ ตรี ป.ตรี ป.โท ป.เอก รวม สายสนบั สนุน 5 2 -- 7 สายวิชาการ 5 -1 6 รวม 5 7 1 13
แผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี 10 ตารางที่ 8 จา่ นวนบคุ ลากร คณะศลิ ปกรรมศาสตรท์ งั้ หมด จ่าแนกตามคณุ วุฒิ และชว่ งอายุ อายุ ระดับ การศึกษา ไม่เกนิ 40 ปี 41-45 ปี 46 – 50 ปี 51-55 ปี 56 ปี รวม ร้อยละ ข้นึ ไป เอก 1 4 5 3 2 15 13.64 โท 21 5 19 3 11 59 53.64 ตรี 12 4 3 5 3 36 32.72 รวม 34 13 27 11 16 110 รอ้ ยละ 30.91 11.81 24.54 10.00 14.54 ตารางท่ี 9 แนวโน้มการเกษยี ณอายรุ าชการ ของบคุ ลากรในระยะเวลาปงี บประมาณ 2560 – 2564 พ.ศ. / ประเภท ข้าราชการ ลกู จ้างประจา รวม สายวชิ าการ สายสนับสนนุ 2560 - 4 2561 4- - 4 2562 31 - 3 2563 21 - 3 2564 3- - 5 รวม 51 - 17 3
แผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี 11 1.2.4 หลกั สตู ร คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้พัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้อง กับความต้องการของสังคมและประเทศ ปัจจุบันมีหลักสูตรเปิดสอน จ่านวนทั้งสิ้น 12 หลักสูตร แยก ออกตามภาควชิ าดังน้ี ตารางท่ี 10 ภาควชิ าทัศนศลิ ป์ มี 4 สาขาวชิ า ปกี ารศึกษา 2557 ปกี ารศึกษา 2558 ปีการศึกษา 2559 ปีการศกึ ษา 2560 หลกั สตู รศลิ ปบณั ฑติ นักศกึ ษา นักศึกษาที่ นักศกึ ษา นกั ศึกษาท่ี นกั ศกึ ษา นกั ศกึ ษาท่ี นักศกึ ษา นักศึกษา รบั เข้าใหม่ สา่ เรจ็ รับเข้าใหม่ สา่ เรจ็ รับเข้าใหม่ สา่ เรจ็ รับเข้าใหม่ ทสี่ ่าเรจ็ จิตรกรรม 23 19 26 17 26 20 34 13 ประตมิ ากรรม 23 13 25 13 19 10 20 14 ศิลปะภาพพมิ พ์ 23 14 21 5 26 14 22 14 ศลิ ปะไทย 27 17 17 15 24 8 17 18 รวม 96 63 89 50 95 52 93 59 ตารางท่ี 11 ภาควิชาศลิ ปะการออกแบบและเทคโนโลยี มี 4 สาขาวิชา ปกี ารศึกษา 2557 ปีการศึกษา 2558 ปกี ารศกึ ษา 2559 ปกี ารศกึ ษา 2560 หลักสตู รศลิ ปบณั ฑติ นกั ศึกษา นกั ศึกษาที่ นกั ศกึ ษา นกั ศึกษาที่ นักศึกษา นักศึกษา นักศึกษา นักศึกษาท่ี รับเขา้ ใหม่ ส่าเรจ็ รับเขา้ ใหม่ ส่าเรจ็ รับเข้าใหม่ ทส่ี า่ เรจ็ รับเขา้ ใหม่ ส่าเรจ็ ออกแบบนิเทศศิลป์ 33 22 50 43 27 13 29 32 ออกแบบผลิตภณั ฑ์ 24 26 19 25 22 21 19 22 ออกแบบภายใน 24 26 27 30 22 20 28 10 นวตั กรรมการออกแบบ - - 77 - 70 - 75 - ผลิตภัณฑ์ร่วมสมัย หลักสตู รเกา่ เครือ่ งปั้นดนิ เผา 22 13 - 16 - 7 - 7 เครอื่ งหนงั 19 12 - 17 - 13 - 10 หตั ถกรรม 18 11 - 12 - 11 - 15 ออกแบบแฟชน่ั ฯ 25 24 - 23 - 17 - 20 รวม 165 134 173 166 141 102 151 116
แผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธญั บุรี 12 ตารางที่ 12 ภาควิชานาฏดุริยางคศิลป์ มี 4 สาขาวชิ า ปีการศึกษา 2557 ปีการศึกษา 2558 ปีการศึกษา 2559 ปีการศึกษา 2560 หลักสูตรศิลปบณั ฑิต นักศกึ ษา นกั ศึกษา นกั ศึกษา นกั ศกึ ษา นักศกึ ษา นกั ศกึ ษา นักศึกษา นกั ศกึ ษา รบั เข้าใหม่ สา่ เรจ็ รับเข้าใหม่ ส่าเรจ็ รบั เขา้ ใหม่ สา่ เร็จ รบั เขา้ ใหม่ สา่ เร็จ ดนตรีสากล 28 12 29 12 23 13 19 7 หลักสูตรศึกษาศาสตรบณั ฑติ นาฏศิลปไ์ ทยศึกษา 71 - 72 - 66 - 73 - ดนตรีคีตศลิ ป์ไทยศกึ ษา 23 - 26 - 27 - 27 - ดนตรีคีตศิลปส์ ากลศกึ ษา 34 - 35 - 31 - 23 - รวม 156 12 162 12 147 13 142 7 หลักสูตรเก่า คตี ศลิ ปไ์ ทย - - - 2 -1- 2 คีตศิลปส์ ากล - 1 - - --- - ดรุ ิยางคไ์ ทย - 8 - 14 - 10 - 13 ดรุ ยิ างคส์ ากล - 15 - 18 - 13 - 9 นาฏศิลปไ์ ทย - 70 - 75 - 67 - 58 นาฏศิลปส์ ากล - 2 - - -1- 4 รวม - 108 - 121 - 105 - 93
แผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธญั บุรี 13 ตารางที่ 13 ขอ้ มลู นักศกึ ษาจาแนกตาม ช้นั ปี หลักสตู รสาขาวิชา/วิชาเอก และ ภาควิชา สาขาวชิ า/วชิ าเอก หลักสูตรศลิ ปบัณฑิต (4 ปี) หลกั สูตรศึกษาศาสตรบณั ฑิต (5 ปี) จติ รกรรม ปี 1 ปี 2 ปี 3 ปี 4 รวม ปี 1 ปี 2 ปี 3 ปี 4 ปี 5 รวม ศิลปะภาพพิมพ์ ประตมิ ากรรม ภาควิชาทศั นศิลป์ ศิลปะไทย 34 22 21 15 92 รวม 22 19 14 13 68 หตั ถกรรม เครอื่ งปน้ั ดนิ เผา 20 18 21 17 76 เครอ่ื งหนัง การออกแบบแฟชั่นฯ 17 18 14 18 67 ออกแบบนเิ ทศศลิ ป์ ออกแบบผลติ ภัณฑ์ 935 77 70 63 303 ออกแบบภายใน ภาควิชาศิลปะการออกแบบและเทคโนโลยี รวม - - - 14 14 ดนตรีสากล นาฏศิลป์ไทยศึกษา - - - 15 15 ดนตรคี ีตศิลปไ์ ทยศึกษา - - - 14 14 ดนตรคี ีตศลิ ป์สากลศึกษา - - - 20 20 รวม 29 24 46 25 124 20 22 17 19 78 28 22 25 19 94 152 129 153 126 560 ภาควิชานาฎดุริยางคศิลป์ 19 17 14 10 60 - - - - - - - - - - - 73 62 66 64 - 265 - - - - - 27 26 23 22 - 98 - - - - - 24 31 31 28 - 114 19 17 14 10 60 124 119 120 114 - 477 รวมนกั ศึกษาทง้ั สิ้น 1,400 คน ข้อมลู ณ วันท่ี 1 พฤศจิกายน 2560
แผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี 14 ตารางที่ 14 สรปุ การมีงานทาของบัณฑิตคณะศิลปกรรมศาสตร์ ในชว่ งปี 2556-2558 การมีงานทาของบัณฑิต 2556 2557 2558 จานวน รอ้ ยละ จานวน ร้อยละ จานวน รอ้ ยละ ทีไ่ ดท้ ่างาน 193 63.91 220 70.06 154 61.85 กา่ ลงั ศกึ ษาต่อ 10 3.31 5 1.59 7 2.81 ท่ยี ังมิได้งานท่าและไม่ไดศ้ กึ ษาตอ่ 88 29.14 81 25.80 81 32.53 อ่ืนๆ(เกณฑ์ทหาร/อุปสมบท) 1 0.33 5 1.59 3 1.20 ผลรวม 184 204 217 ผมู้ งี านทาและศึกษาตอ่ 9 2.98 223 71.02 7 2.81 ตารางท่ี 15 ความพึงพอใจของนายจา้ ง ผ้ปู ระกอบการ ผบู้ งั คบั บัญชา ที่มตี ่อคุณภาพบณั ฑิต (ค่าระดับเต็ม 5 ) ปีการศึกษา ระดับความพึงพอใจ 2556 4.14 2557 4.38 2558 4.37 1.2.5 ผลการประเมินระบบการประกันคุณภาพการศกึ ษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้มีการประเมินผลระบบ คุณภาพการศึกษาท้ังภายใน และภายนอก เพ่ือใช้เป็นกลไกในการพัฒนาศักยภาพการปฏิบัติราชการ ในคณะ จากการประเมินผลตามกรอบแนวทางต่าง ๆ ระหว่างปี 2557 – 2559 คณะ ได้รับผลคะแนน การประเมิน ต่าง ๆ ดงั น้ี ตารางท่ี 16 ผลการประเมนิ ระบบประกันคุณภาพการศึกษาภายใน (สกอ.) ผลการประเมนิ ปีการศกึ ษา (คะแนนประเมิน) พ.ศ. 2557 พ.ศ. 2558 พ.ศ. 2559 ผลการประเมนิ ระบบการประกันคุณภาพ การศึกษาภายใน (SAR) (คะแนนเตม็ 5) (คะแนนเตม็ 5) (คะแนนเต็ม 5) 3.51 3.44 3.78
แผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี 15 1.2.6 ความร่วมมอื ทางวชิ าการกับตา่ งประเทศ ชื่อหน่วยงานที่มีความ ประเทศ วนั /เดอื น/ปี กจิ กรรมทไ่ี ดด้ าเนินการ แผนการดาเนนิ งาน ร่วมมือ ร่วมกนั ทผ่ี า่ นมา ทลี่ งนาม ในระยะ 4 ปี (2561- 1. The College of Arts ความร่วมมือ 2564) Hue University, Vietnam Vietnam 2010 จัด นิ ท รรศ การผ ล งาน โครงการต่อเนื่องทุกปี 2. Vietnam University of Fine Arts, Vietnam สร้างสรรค์ศิลปกรรมร่วม ผ ลั ด เป ล่ี ย น กัน เป็ น 3. Hcmc University of Vietnam 2010 สมัยกับคณาจารย์ผู้สอน เจ้ า ภ า พ ร ะ ห ว่ า ง Fine Arts, Vietnam ศิ ล ป ก ร ร ม ศ า ส ต ร์ ใน ม ห า วิ ท ย า ลั ย ใ น ประเทศไทย ป ร ะ เท ศ ไท ย แ ล ะ Vietnam 2010 ม ห า วิ ท ย า ลั ย ใ น ประเทศเวียดนาม 4. Harbin Engineer China 2013 รว่ มการแขง่ ขันแกะสลกั International University USA 2013 หิมะ /การสมั มนาทาง Collegeate Snow วชิ าการ Sculpture Contest 5. สภาศลิ ปกรรมไทย May 1-7, ในลอสแองเจลสิ 2017 แสดงผลงานศลิ ปกรรม ปลี ะ 1-2 คร้ัง โดย ร่วมกันระหว่างกับศลิ ปนิ หมนุ เวียนการจัดแสดง ไทยในสภาศลิ ปกรรมไทย ในสหรัฐอเมริกาและ กับคณาจารย์ของคณะ ปฏิบตั กิ ารสรา้ งสรรค์ ในประเทศไทย 6. TOURISMUSVERBAND Austria แลกเปลยี่ นบคุ ลากร การเตรยี มความพร้อม ZIRBENLAND STEIERMARK แลกเปลย่ี นนักศึกษาและ ในการสง่ นกั ศึกษาไป แลกเปลยี่ นศลิ ปวฒั นธรรม ฝึกงาน ทางดา้ นการแสดง
แผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี 16 1.2.7 ความร่วมมือทางวิชาการกบั หน่วยงาน องคก์ ร ระดบั ประเทศ ช่อื หน่วยงานท่ีมคี วามรว่ มมือ วัน/เดือน/ปี กจิ กรรมที่ได้ดาเนนิ การ แผนการดาเนินงาน ทีล่ งนาม รว่ มกนั ท่ีผา่ นมา ในระยะ 4 ปี 1.คณะศลิ ปกรรมและสถาปตั ยกรรมศาสตร์ ความ (2561-2564) มทร.ล้านนา , คณะศลิ ปกรรมและออกแบบ รว่ มมอื อุตสาหกรรม มทร.อสี าน, คณะศลิ ปกรรม 2559 ความรว่ มมือทางดา้ น โครงการปฏบิ ัติการ ศาสตร์ มทร.ธญั บุรี สรา้ งสรรคฯ์ ปลี ะ 1 ครั้ง 2. ทณั ฑสถานวัยหนมุ่ กลาง กรมราชทณั ฑ์ ศิลปกรรมศาสตร์ (มหาวิทยาลัยผลดั เปล่ียน กระทรวงยตุ ธิ รรม 2558 ความร่วมมอื ทางด้าน กนั เปน็ เจา้ ภาพ) ศิลปกรรมศาสตร์ โครงการตอ่ เนอ่ื งทุกปี 3. มหาวิทยาลยั ในเครือขา่ ยทางการออกแบบ 17 พ.ย. ความรว่ มมอื ทางด้านการ โครงการ Fashion V แฟชัน่ ในระดับอุดมศกึ ษา หรอื Fashion V 2559 ออกแบบแฟช่นั together ตอ่ เนือ่ งทกุ ปี together (มหาวทิ ยาลยั ผลดั เปล่ียน กนั เป็นเจ้าภาพ)
แผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี 17 บทท่ี 2 บริบททเ่ี ก่ียวขอ้ ง และการวิเคราะห์สถานการณ์ 2.1 บริบทที่เกีย่ วขอ้ ง 1. แผนยุทธศาสตรช์ าติ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) ยุทธศาสตร์ชาติ (ของไทย) หมายถึง การสร้างศักยภาพหรือขีดความสามารถของประเทศให้เกิด ความพร้อมในทุก ๆ ด้าน โดยการใช้จุดแข็งภายในประเทศ หรือใช้โอกาสที่เกิดจากภายนอกประเทศ มาช่วง ชิงฉกฉวยให้เกิดผลประโยชน์ท่ีเป็นของประเทศ หรือให้ประเทศสามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้อย่าง เต็มที่ และลดหรือขจัดจุดอ่อนของภายในประเทศ หรือหลีกเล่ียงหรือสร้างเกราะป้องกันจากภัยคุกคามท่ีมา จากนอกประเทศ โดยสร้างระบบความมั่นคงของประเทศประกอบด้วยความม่ันคงด้านการเมือง ความ มั่นคงด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคงด้านสังคมจิตวิทยา ความม่ันคงด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ นวัตกรรม รวมทั้งความมั่นคงด้านการป้องกันประเทศ ยทุ ธศาสตรช์ าติ (ของไทย) แบ่งตามมมุ มองเชงิ วสิ ยั ทัศน์ ได้ 2 แบบ คือ 1. ยุทธศาสตร์ชาติแบบ outdoor คือการหันหน้ามองออกไปข้างนอกหรืออกไปนอกประเทศ โดย มองไปที่โอกาสและภัยคุกคามท่ีเกิดขึ้น และส่งผลกระทบเข้ามาในประเทศ ยุทธศาสตร์แบบ indoor คือ การหันหน้ากลับมามองท่ีภายในหรือหันกลับมามองภายในประเทศ โดยการมองไปที่จุดแข็งและจุดอ่อน (ความเขม้ แข็งและความอ่อนแอ) ท่เี รามอี ยู่หรอื ที่เรากาลังเผชิญอยู่ 2. ยุทธศาสตร์ชาติ (ไทย) จะต้องใช้ “คน” ในรูปของแผนคน ใช้ “เงิน” ในรูปของแผนเงิน (งบประมาณ) ทา “งาน” ในรูปแผนงาน (โครงการ) เป็นเคร่ืองมือ (tools) เพื่อเป็นตัวผลักดันหรือตัว ขับเคล่ือน (drivers) กาลังอานาจของชาติ (ไทย) ซ่ึงมีองค์ประกอบต่างๆ ดังน้ีคือ กาลังอานาจ ด้าน การเมือง กาลังอานาจด้านเศรษฐกิจ กาลังอานาจด้านสังคมจิตวิทยา กาลังอานาจด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรม และกาลงั อานาจด้านป้องกันประเทศ เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ “ประเทศมีความมม่ันคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้วด้วยการ พัฒนา ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” นาไปสู่การพัฒนาให้คนไทยมีความสุข และตอบสนองตอบต่อ การบรรลุ ซ่ึงผลประโยชน์แห่งชาติ ในการที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างรายได้ระดับสูงเป็นประเทศ พัฒนาแล้ว และสร้างความสุขของคนไทย สังคมมีความมั่นคง เสมอภาคและ เป็นธรรมประเทศสามารถ แข่งขนั ไดใ้ นระบบเศรษฐกิจ
แผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธัญบรุ ี 18 2. THAILAND 4.0 เปา้ หมาย : ประเทศไทยมีความมนั่ คง มั่งคั่ง ยัง่ ยืน ใน 20 ปี ข้างหนา้ ยกระดับคุณภาพชวี ิต ของประชาชน ตัวชว้ี ดั : สร้างรายไดเ้ ฉลยี่ ของประชากรมากกว่า 12,000 เหรียญ/คน/ปี เพ่ือใหป้ ระเทศไทย หลุดพน้ จากประเทศทม่ี ีรายได้ปานกลางสู่ประเทศที่มีรายไดส้ ูง (ประเทศโลกที่ 1) กลยุทธ์ : ใช้ Value-Based Economy 2.1 กับดักประเทศ ที่มีรายได้ ระดบั ปานกลาง รายได้ทเ่ี หลือ่ มล้า ประเทศต้องเผชิญ กับกับดักประเทศท่ีมีรายได้ระดับปานกลางและกับดักความเหล่ือมล้า ส่วน ประเด็นท้าทายในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของประเทศ คือ การเปล่ียนสถานะจากประเทศรายได้ปาน กลาง (ความมง่ั ค่งั กระจุก) ไปเปน็ ประเทศรายได้สงู (ความม่ังค่ังกระจาย) 2.2 ความสามารถในการแข่งขันของประเทศที่ลดลง อันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศโดยรวม อยู่ในอันดับท่ี 30 จาก 60 ประเทศช้ันนา ในขณะที่มาเลเซีย อยู่อันดับที่ 14 และสิงคโปร์ อันดับท่ี 3 โดยสมรรถนะทางเศรษฐกิจ และ ประสิทธิภาพภาคเอกชนอยู่ในอันดับที่ดี ในขณะที่การพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐาน โดยเฉพาะด้าน วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการศึกษาอยู่ในอันดับท่ีไม่ดี 2.3 รายได้ท่ีเหลื่อมล้า ความยากจนยังมีแนวโน้มลดลง แต่ความเหลื่อมล้ายังเป็นปญั หาทสี่ าคัญ ท่ีนาไปสู่ความขัดยังในสังคม โดยที่บริบทการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างประชากร และโครงสร้างเศรษฐกิจ อาจส่งผลให้ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้าทวีความรุนแรงข้ึน ขณะท่ีแนวโน้มของความเหล่ือมล้า ระหว่างแรงงานท่มี ีทักษะสงู และทักษะตา่ จะยิ่งขยายตัวเพมิ่ ขึน้ จากความแตกต่างกันทางด้านรายได้ 2.4 ปัญหาเชงิ คุณภาพด้านสุขภาพ การเรยี นรู้ และคณุ ธรรมจรยิ ธรรม คนไทยมีโอกาสได้รับการศึกษาเพิ่มขึ้น แต่ยังมีปัญหาคุณภาพการศึกษา ขณะท่ีความก้าวหน้า ของเทคโนโลยสี ารสนเทศและการขับเคลื่อนประเทศสูเ่ ศรษฐกิจและสังคมดิจทิ ัล คนไทยมีสุขภาวะที่ดีขึ้น แต่การเจ็บป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่เกิดจากพฤติกรรมเสี่ยงทาง สุขภาพและปัจจับสภาพแวดลอ้ มทีแ่ นวโน้มสูงขนึ้ อย่างต่อเนื่อง 2.5 กลไกการขับเคล่ือน THAILAND 4.0 3 กับดักสาคัญท่ีประเทศกาลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน อันประกอบด้วย กับดักประเทศรายได้ ปาน กลาง (Middle Income Trap) กับดักความเหลื่อมล้า (Inequality Trap) และกับดักความไม่สมดุลของ การ พัฒนา (Imbalance Trap) ถือเป็นอุปสรรคสาคัญในการพัฒนาประเทศ ดังนั้น จึงต้องมีการสร้างโมเดล ใหม่ในการพัฒนาประเทศขึ้นมา คือ โมเดลประเทศไทย 4.0 ซ่ึงจะสามารถพัฒนาประเทศไทยให้หลุดพ้นทั้ง
แผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ ี 19 3 กับดัก พร้อมกับการนาประเทศมุ่งสู่ความมั่งคง ม่ังค่ัง และยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมได้ โดยโมเดล ประเทศไทย 4.0 จะประกอบด้วยกลไกในการขับเคล่ือนการเติบโต (Engines of Growth) เพ่ือสามารถ พัฒนาประเทศไปสู่ ความมงั่ คงั่ ได้ ดังตอ่ ไปน้ี กลไกการขับเคลื่อนความม่ังค่ัง 1. กลไกการขับเคล่ือนด้วยนวัตกรรม กลไกขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมเพื่อการยกระดับผลิตภาพ (Productive Growth Engine) มี เป้าหมายสาคัญเพ่ือปรับเปล่ียนประเทศไทยจากประเทศที่มีรายได้ปาน กลาง (Middle Income Country) ไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง (High Income Country) ท่ีขับเคล่ือนด้วย นวัตกรรม ปัญญา เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์กลไกนี้ประกอบไปด้วย การสร้างเครือข่ายความ รว่ มมือในรูปแบบประชารัฐ การบริหารจัดการสมัยใหม่ การสร้างคลัสเตอร์ทางด้านเทคโนโลยี การพัฒนา ขีดความสามารถด้านการวิจัยและพัฒนา การพัฒนาโมเดลธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม กิจการร่วมทุน รฐั และเอกชนในโครงการขนาดใหญ่ รวมถึง การบ่มเพาะธุรกิจด้านเทคโนโลยี เป็นต้น กลไกขับเคลื่อนด้วย นวัตกรรม จึงเป็นการตอบโจทย์ความพยายามใน การก้าวข้าม “กับดักประเทศรายได้ปานกลาง” ท่ี ประเทศไทยกาลังเผชิญอยู่ 2. กลไกลการขับเคล่ือนด้วยการสร้างการมสี ่วนรวม กลไกขับเคล่ือนท่ีคนส่วนใหญ่มีส่วนร่วมอย่าง เท่าเทียมและท่ัวถึง (Inclusive Growth Engine) มีเป้าหมายเพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ การสร้าง โอกาสและความม่ังค่ังอย่างเท่าเทียมเพื่อตอบโจทย์ ประเด็นปัญหาและความท้าทายทางสังคมในมิติต่างๆ โดยกลไกนปี้ ระกอบด้วย การสรา้ งคลัสเตอร์เศรษฐกจิ ระดับกลุ่มจังหวัด การพัฒนาเศรษฐกิจระดับฐานรากในชุมชน การส่งเสริมวิสาหกิจเพ่ือสังคม การสร้าง สภาพแวดล้อมที่เอ้ืออานวยต่อการทาธุรกิจ การส่งเสรมิ และสนับสนนุ ให้วสิ าหกิจขนาดกลางและ ขนาดย่อม เข้มแข็งและสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก การสร้างแรงงานท่ีมีทักษะและความรู้ด้านเทคโนโลยี เพ่ือรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต การยกระดับขีดความสามารถ การเสริมสร้างทักษะและการเติมเต็ม
แผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี 20 ศักยภาพของ ประชาชนให้ทันกับพลวัตการเปลี่ยนแปลงจากภายนอกและการจ่ายภาษีให้แก่ผู้ที่มีรายได้ต่า กว่าเกณฑ์ท่ี กาหนดแบบมีเง่ือนไข (Negative Income Tax) เป็นต้น กลไกการขับเคล่ือนด้วยการสร้าง การมีส่วนร่วม จึงเป็นการตอบโจทย์ความพยายามในการก้าวข้าม “กับดักความเหล่ือมล้า” ท่ีเกิดข้ึนใน ปจั จบุ นั 3. กลไกการขับเคล่ือนที่เป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม กลไกการขับเคลื่อนท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อย่างยั่งยืน (Green Growth Engine) เน่ืองจาก การสร้างความมั่งค่ังของประเทศไทยในอนาคต จะต้อง คานึงถึงการพัฒนาและใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งกลไกน้ีประกอบไปด้วยการมุ่งเน้นการใช้ พลังงานทดแทน การปรับแนวคิดจากเดิมท่ีคานึงถึงความได้เปรียบเร่ืองต้นทุน (Cost Advantage) เป็น หลัก มาสู่การคานึงถึงประโยชน์ที่ได้จากการลดความสูญเสียท่ีเกิดข้ึนทั้งระบบ (Lost Advantage) โดยมี หัวใจสาคัญอยู่ทก่ี ารพัฒนากระบวนการผลิตให้ส่งผล กระทบต่อส่ิงแวดล้อมน้อยท่ีสุด อันจะเกิดประโยชน์ กับประเทศและประชาคมโลกด้วยในเวลาเดียวกัน กลไก การขับเคลื่อนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นการ ตอบโจทย์การหลุดออกจาก “กับดักความไม่สมดุลของการพัฒนา” ระหว่างคนกับสภาพแวดล้อมท่ีกาลัง เผชิญอยู่ในปัจจุบัน ทั้ง 3 กลไกขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 จะปรบั เปลี่ยนประเทศไทย ให้ก้าวไปสู่ประเทศ ท่ีมีรายได้สูง มีการกระจายความม่ังค่ังอย่างท่ัวถึง ตลอดจนเป็นระบบเศรษฐกิจสีเขียวที่เป็นมิตรกับ สิง่ แวดล้อม อันเปน็ คณุ ลกั ษณส์ าคัญของการเปน็ “ประเทศโลกที่หนึ่ง” ในศตวรรษท่ี 21 นี้ ความได้เปรียบในการแข่งขนั ของประเทศ
แผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี 21 โมเดลประเทศไทย 4.0 เป็นการแสวงหากลไกในการขับเคลื่อนความเติบโต (Engines of Growth) ชุดใหม่ โดยการแปลงความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบของประเทศที่มีอยู่ 2 ด้าน คือ ความหลากหลายเชิง ชีวภาพ และความหลากหลายเชิงวัฒนธรรม ให้เป็นความได้เปรียบในเชิงแข่งขัน โดยการเติมความคิด สร้างสรรค์ นวัตกรรม การวิจัยและพัฒนา เทคโนโลยี รวมถึงการบริหารจัดการ เพ่ือต่อยอดความได้ เปรีบบเชิงเปรียบเทียบ ซ่ึงหากกล่าวในบริบทของภาคอุตสาหกรรม ก็คือการปรับโครงสร้างจากกลุ่ม อุตสาหกรรมด้ังเดิมสู่ กลุ่มอุตสาหกรรมท่ีมีมูลค่าและความซับซ้อนสูง ซึ่งขับเคลื่อนด้วย 5 กลุ่มเทคโนโลยี และนวัตกรรม ได้แก่ กลุ่มอาหาร เกษตร และเทคโนโลยีชีวภาพ กลุ่มสาธารณสุข สุขภาพ และ เทคโนโลยีทางการแพทย์กลุ่มเคร่ืองมือ อุปกรณ์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ และระบบเคร่ืองกลที่ใช้ระบบ อิเล็กทรอนิกส์ควบคุม กลุ่มดิจิทัล เทคโนโลยี อินเตอร์เน็ตเช่ือมต่ออุปกรณ์ ปัญญาประดิษฐ์และ เทคโนโลยีสมองกลฝังตวั และกลุม่ อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ทนุ วฒั นธรรมและบริการที่มีมลู ค่าสูง 2.6 อตุ สาหกรรมเป้าหมาย : กลไกขบั เคลื่อนเศรษฐกจิ เพ่ืออนาคต คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบข้อเสนอ “10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อเป็นกลไกหลักในการ ขับเคล่ือนเศรษฐกิจเพ่ืออนาคต” เพ่ือเป็นมาตรการระยะยาวที่จะกาหนดทิศทาง “การปรับโครงสร้าง ด้านการผลิต ทั้งเกษตร-อุตสาหกรรม-บริการ” ของประเทศให้มีประสิทธิภาพ มีความสามารในการ แข่งขัน มกี ารสร้างงานคณุ ภาพ และมกี ารสนับสนนุ เศรษฐกิจภูมิภาพอย่างเป็นระบบ ต่อเน่อื ง และย่ังยืน อุตสาหกรรมกลุ่ม First S-Curve และ New S-Curve
แผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี 22 1. การตอ่ ยอดอุตสาหกรรมเดิมท่ีมีศกั ยภาพ (First S-curve) ซึง่ เป็นการลงทนุ ในกลุ่ม อุตสาหกรรม เดิมที่มีอยู่แลว้ เพื่อเพิ่มประสทิ ธภิ าพการใชป้ จั จยั ผลติ โดยการลงทนุ ชดุ นี้จะส่งผลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตทาง เศรษฐกิจในระยะสน้ั และระยะกลางในลกั ษณะการต่อยอด ประกอบดว้ ย 1) อตุ สาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ (Next-Generation Automotive) 2) อตุ สาหกรรมอเิ ลก็ ทรอนิกส์อจั ฉรยิ ะ (Smart Electronics) 3) อตุ สาหกรรมการท่องเทย่ี วกลมุ่ รายได้ดี และการท่องเที่ยวเชงิ สุขภาพ (Affluent, Medical and Wellness Tourism) 4) การเกษตรและเทคโนโลยชี ีวภาพ (Agriculture and Biotechnology) 5) อตุ สาหกรรมการแปรรปู อาหาร (Food for the Furture) 2. อตุ สาหกรรมอนาคต (New S-curve) เนื่องจากท้ัง 5 อุตสาหกรรมเดิมมีขีดจากดั ไม่เพียง พอท่จี ะทาใหเ้ ศรษฐกจิ ของประเทศไทยเติบโตได้อยา่ งก้าวกระโดด จงึ จาเปน็ ตอ้ งมีการพัฒนา New S- curve ควบคูไ่ ป ด้วย เพ่ือเปลย่ี นรปู แบบสนิ คา้ และเทคโนโลยี ประกอบดว้ ย 1) อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ (Robotics) 2) อตุ สาหกรรมการบินและโลจสิ ติกส์ (Aviation and Logistics) 3) อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชวี ภาพและเคมีภาพ (Biofuels and Biochemicals) 4) อุตสาหกรรมดจิ ิทลั (Digital) 5) อุตสาหกรรมการแพทยค์ รบวงจร (Medical Hub) นอกจากอุตสาหกรรมเปา้ หมาย 2 กลุม่ ข้างต้นแล้ว อุตสาหกรรมกลุ่มท่ี 3 หรือ กล่มุ ที่ต้อง ปฏริ ปู ควรตอ้ งมกี ารพัฒนาหรือปฏิรปู อย่างต่อเน่ือง โดยมีรายละเอยี ด ดงั น้ี อตุ สาหกรรมกลุ่ม Second Wave S-Curve
แผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี 23 3. อุตสาหกรรมที่ต้องปฏิรูป เนื่องจากอุตสาหกรรมในกลุ่มน้ีมีหลายอุตสาหกรรมท่ียังใช้ เทคโนโลยี เดิมในการผลติ มีความสามารถและแนวโน้มในการเจริญเติบโตท่ีจากัด และสร้างมูลค่าทาง เศรษฐกิจในระดับปานกลาง ดังนั้นจึงต้องมีการปฏิรูปอุตสาหกรรมกลุ่มน้ีใหม่ เช่น การรวมอุตสาหกรรมสิ่ง ทอและเครื่องนุ่มห่ม อุตสาหกรรมเคร่ืองหนัง และอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ เป็นกลุ่ม อุตสาหกรรมแฟช่ัน โดยเพ่ิมการออกแบบที่สร้างสรรค์ การออกแบบท่ีสะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่น หรือ พัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น เส้ือผ้า Nanotech สาหรับเล่นกีฬา เคร่ืองนุ่งห่มสาหรับวงการ แพทย์ เคร่ืองนุ่งห่มท่ีช่วยด้านสุขภาพ เป็นต้น กลุ่มถัดมาได้แก่ การรวมกลุ่มของอุตสาหกรรมวัสดุ (Material) ที่รวบรวมอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น โลหะ อโลหะ ไม้ ปูน เซรามิก แก้วและกระจบ โดย อุตสาหกรรมวัสดุต้องมีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมพัฒนาวัสดุ ต่างๆ เช่น พัฒนาวัสดุผสม (Composite Material) หรือการพัฒนาวัสดุให้ทนทาน ย่ังยืน และเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม (Sustainable Material) นอกจากนี้ยังมีกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและพลาสติก ท่ีสามารถพัฒนา ต่อ ยอดเทคโนโลยีในการผลิตให้เป็นเทคโนโลยีสะอาดและเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม เพื่อเสริมสร้างให้ อตุ สาหกรรมสามารถเติบโตอย่างย่ังยืนได้ การท่ีจะพัฒนาอุตสาหกรรมต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น จาเป็นต้อง ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการพัฒนา โดยต้องมีการกาหนดกรอบเทคโนโลยี หลักเพ่ือเป็นเครื่องมือใน การพัฒนา โดยการแปลงความได้เปรียบ เชิงเปรียบเทียบของประเทศท่ีมีอยู่ 2 ด้าน คือ ความหลากหลาย เชิงชีวภาพ และความหลากหลายเชิงวัฒนธรรม ให้เป็นความได้เปรียบในเชิงแข่งขัน โดยการเติมความคิด สร้างสรรค์ นวัตกรรม และการวิจัยและพัฒนา เทคโนโลยี เพ่ือปรับโครงสร้างจากกลุ่มอุตสาหกรรม ด้ังเดิมสู่กลุ่มอุตสาหกรรมท่ีมีมูลค่าและความซับซ้อนสูง ซ่ึงขับเคล่ือนด้วย 5 กลุ่มเทคโนโลยีและนวัตกรรม ไดแ้ ก่ กลุ่มเทคโนโลยที ี่ช่วยขับเคลื่อนอตุ สาหกรรม
แผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี 24 1. กล่มุ อาหารเกษตร และเทคโนโลยีชวี ภาพ (Food, Agriculture & Bio-Tech) 2. กลมุ่ สาธารณสุข สุขภาพ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Health, Wellness & Bio-Med) 3. กลุ่มเครื่องมืออุปกรณ์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ และระบบเคร่ืองกลท่ีใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ควบคุม (Smart Devices, Robotics & Mechatronic) 4. กลุ่มดิจิทัลเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตท่ีเช่ือมต่อและบังคับอุปกรณ์ต่างๆ ปัญญาประดิษฐ์และ เทคโนโลยีสมองกลฝังตวั (Digital, IoT, Artificial Intelligence & Embedded Technology) 5. กลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ วัฒนธรรม และบริการที่มีมูลค่าสูง (Creative, Culture & High Value Services) 3. แผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ.2560-2564) ต้งั แต่วนั ที่ 1 ตุลาคม 2559 ประเทศไทยเร่ิมใช้แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาตฉิ บับท่ี 12 ซึ่งเป็นแผนในช่วง 5 ปี ระหว่างปี พ.ศ.2560-2564 ทั้งนี้สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. สรุปสาระสาคัญของแผนฉบับน้ีว่าได้จัดทาบนพื้นฐานของ ยทุ ธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) ซงึ่ เป็นแผนแม่บทหลักของการพัฒนาประเทศและเป้าหมาย การพัฒนาทีย่ ่ังยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) รวมทง้ั การปรับโครงสร้างประเทศ ไทยไปสปู่ ระเทศไทย 4.0 ตลอดจนประเดน็ การปฏริ ูปประเทศ การพัฒนาประเทสในระยะของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 จึงเป็นจุด เปล่ียนสาคัญในการเช่ือมต่อกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในลักษณะการแปลงมาสู่การปฺฏิบัติให้เห็นผล เปน็ รูปธรรมในช่วง 5 ปีแรกของการขับเคลื่อนทาให้ในแตล่ ะยุทธศาสตร์ของแผนพฒั นาฯ ฉบับท่ี 12 นี้ กาหนดทั้งประเด็นการพัฒนา แผนงาน โครงการสาคัญทีต่ ้องดาเนินการ กลไกการขับเคล่ือน ตลิดจน ติดตามผลประเมินท่ีชัดเจนประกอบกับการเตรียมความพร้อมคน สังคม และระบบเศรษฐกิจของ ประเทศให้สามารถปรบั ตัว รองรบั ผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงไดอ้ ย่างเหมาะสม ทั้งนี้ให้หลักการของแผนพัฒนาฯ ฉบับท่ี 12 ระบุว่าการพัฒนาประเทศในระยะของแผนให้ บรรลเุ ปา้ หมายในระยะ 5 ปี มีหลกั ยดึ สาคญั 6 ประการ คอื 1. การยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงต่อเน่ืองมาตั้งแต่แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 9 เพ่ือให้ ประเทศมีระบบภมู ิคมุ้ กัน สงั คมไทยเป็นสังคมคณุ ภาพ 2. การยึดคนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา โดยมุ่งให้คนไทยมีวินัย ใฝ่รู้ มีความรู้ มีทักษะ มี ความคิดสรา้ งสรรค์ มีทัศนคติท่ีดี มีคุณธรรมจริยธรรม รบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม อีกท้งั พฒั นาคนทุกช่วงวัย และเตรียมความพรอ้ มเข้าสู่สงั คมผ้สู ูงอายุ
แผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี 25 3. การยึดวิสัยทัศน์ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มาเป็นกรอบของวิสัยทัศน์ประเทศไทยใน แผนพฒั นาฯ ฉบับที่ 12 4. การยึดเป้าหมายอนาคตประเทศไทยปี 2579 ที่เป็นเป้าหมายในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มา เป็นกรอบในการกาหนดเปา้ หมายท่ีจะบรรลุใน 5 ปีแรก 5. การยึดหลักการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ลดความเหลื่อมล้า และขับเคลื่อนการ เจริญเตบิ โต จาการเพ่ิมผลติ ภาพการผลิตบนฐานของการใช้ภูมิปัญญาและนวตั กรรม 6. ยดึ หลักการนาไปสกู่ ารปฏบิ ัตใิ หเ้ กดิ ผลสัมฤทธ์อิ ยา่ งจริงจังใน 5 ปี ที่ตอ่ ยอดไปสู่ผลสมั ฤทธิ์ที่ เป็นเป้าหมายระยะยาว เปา้ หมายรวมของการพัฒนาของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 – 2564) ประกอบด้วย 1. คนไทยมคี ณุ ลกั ษณะเป็นคนไทยทีส่ มบูรณ์ มีวินัย มีทัศนคตแิ ละพฤติกรรมตามบรรทัดฐาน ทดี่ ขี องสังคม 2. ความเหล่ือมล้าทางด้านรายได้และความยากจนลดลง การเข้าถึงบริการทางสังคมท่ีมี คุณภาพอย่างทั่วถึง 3. ระบบเศรษฐกิจมีความเข้มแข็งและแข่งขันได้ โครงสร้างเศรษฐกิจปรับสู่เศรษฐกิจฐาน บรกิ ารและดจิ ิทัล 4. ทุนทางธรรมชาติและคุณภาพส่ิงแวดล้อมสามารถสนับสนุนการเติบโตที่เป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อม มีความมั่นคงทางอาหาร พลังงาน และน้า โดยเพ่ิมพ้ืนที่ป่าไม้ให้ได้ร้อยละ 40 ของพื้นท่ี ประเทศ 5. มีความม่ันคงในเอกราชและอธิปไตย สงั คมปลอดภัย สามัคคี สร้างภาพลักษณ์ดี และเพ่ิม ความเชอื่ มน่ั ของนานาชาตติ อ่ ประเทศไทย 6. มีระบบบริหารจัดการภาครัฐท่ีมีประสิทธิภาพ ทันสมัย โปร่งใส ตรวจสอบได้ กระจาย อานาจและมีสว่ นรว่ มจากประชาชน จากแนวคิดในการเชื่อมโยงกรอบแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อขับเคล่ือนและตอบสนอง เป้าหมายการพัฒนาในระยะยาว แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ ฉบับท่ี 12 มี (พ.ศ.2560 – 2564) มีท้ังหมด 10 ยุทธศาสตร์ โดยมี 6 ยุทธศาสตร์ตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และอีก 4 ยุทธศาสตร์ทีเ่ ปน็ ปจั จัยสนบั สนนุ ดงั น้ี ยทุ ธศาสตร์ท่ี 1 การเสริมสร้างและพฒั นาศักยภาพทุนมนุษย์ ยทุ ธศาสตร์ท่ี 2 การสรา้ งความเป็นธรรมและลดความเหลือ่ มล้าในสังคม ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 3 การสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกจิ และแข่งขนั ได้อย่างยงั่ ยืน
แผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี 26 ยทุ ธศาสตร์ที่ 4 การเติบโตทเ่ี ป็นมิตรกบั ส่ิงแวดล้อมเพ่อื การพัฒนาที่ย่ังยืน ยุทธศาสตร์ที่ 5 การเสริมสรา้ งความม่ันคงแหง่ ชาติเพ่อื การพฒั นาประเทศสู่ความมัง่ คง่ั และ ย่งั ยนื ยทุ ธศาสตร์ที่ 6 การบริหารจดั การในภาครัฐ การป้องกนั การทุจริตประพฤตมิ ิชอบและ ธรรมาภิบาลในสังคมไทย ยุทธศาสตร์ท่ี 7 การพฒั นาโครงสรา้ งพ้ืนฐานและระบบโลจสิ ตกิ ส์ ยทุ ธศาสตรท์ ี่ 8 การพัฒนาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี วจิ ัย และนวตั กรรม ยุทธศาสตรท์ ี่ 9 การพัฒนาภาค เมอื ง และพ้นื ท่ีเศรษฐกจิ ยุทธศาสตรท์ ี่ 10 ความร่วมมือระหว่างประเทศเพอ่ื การพฒั นา 4. แผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ (พ.ศ.2560-2579) ดาเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ : คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ ดารงชีวิตอย่างเป็นสุข สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการเปลี่ยนแปลงของโลก ศตวรรษท่ี 21 วัตถปุ ระสงค์ 1) เพอ่ื พัฒนาระบบและกระบวนการจัดการศึกษาท่มี ีคุณภาพและมีประสิทธภิ าพ 2) เพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นพลเมืองดี มีคุณลักษณะ ทักษะ และสมรรถนะท่ีสอดคล้องกับ รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ และยทุ ธศาสตร์ชาติ 3) เพ่ือพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และมีคุณธรรม จริยธรรม รู้รักสามัคคี และ รว่ มมอื ผนกึ กาลังมุ่งสู่การพฒั นาประเทศอยา่ งย่ังยืน ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
แผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี 27 4) เพ่ือนาประเทศก้าวข้ามกับดักประเทศท่ีมีรายได้ปานกลาง และความเหล่ือมล้าภายในประเทศ ลดลง เปา้ หมาย - เป้าหมายด้านผู้เรียน โดยมุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคนให้มีคุณลักษณะและทักษะการเรียนรู้ใน ศตวรรษที่ 21 ประกอบด้วย 3Rs คือ การอ่านออก (Reading), การเขียนได้ (Writing) , การคิดเลขเป็น (Arithenmatics) และ 8Cs คือ ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญานและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving), ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and Innovation), ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding), ทักษะด้าน ความร่วมมือ การทางานเป็นทีม และภาวะผู้นา (Collaboration, Teamwork and Leadership), ทักษะด้านการส่ือสาร สารสนเทศ และการรู้เท่าทันสื่อ (Communications, Information and Media Literacy), ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT Literacy), ทักษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning Skills), ความมีเมตตา กรุณา มีวินัย คณุ ธรรม จริยธรรม (Compassion) - เป้าหมายของการจัดการศึกษา 5 ด้าน ได้แก่ ประชากรทุกคนเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ และมาตรฐานอย่างท่ัวถึง, ผู้เรียนทุกกลุ่มได้รับบริการทางการศึกษาอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม, ระบบ การศึกษาท่ีมีคุณภาพ สามารถพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุขีดความสามารถและเต็มตามศักยภาพ, ระบบการ บริหารจัดการศึกษาท่ีมีประสิทธิภาพ เพ่ือการพัฒนาผู้เรียนอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ และการลงทุนทาง การศึกษาท่ีคุ้มค่าและบรรลุเป้าหมาย, ระบบการศึกษาท่ีสนองตอบและก้าวทันการเปล่ียนแปลงของโลกท่ี เปน็ พลวัตและบริบทที่เปล่ียนแปลง 5. อดุ มศึกษา 4.0 Function (ภารกิจ) - จดั การศกึ ษาโดยผลิตและพัฒนากาลังคนไปรองรับกับยุทธศาสตรช์ าติ และประเทศไทย 4.0 - บริการงานวิจัย บริการงานวิชาการ เพ่ือเป็นที่พ่ึงของสังคม และชุมชนให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ ม่นั คง และยง่ั ยนื รองรับกบั จังหวดั 4.0 หรอื เศรษฐกิจเมืองใหม่ เปา้ หมาย : เปน็ มหาวทิ ยาลยั ระดบั นานาชาติ หรือระดบั โลก กลยทุ ธ์ : พฒั นาหรอื ผลติ บัณฑิต เปน็ บณั ฑติ 4.0 หรือ ยกระดบั แรงงานให้เปน็ แรงงาน 4.0 ตัวช้ีวดั : 1. บณั ฑติ รองรบั อตุ สาหกรรมเป้าหมาย 2. บณั ฑติ ทางานในต่างประเทศได้ 3. บณั ฑิตมีคุณภาพตรงกับความต้องการของผใู้ ชแ้ รงงานหรือสถานประกอบการ 4. บัณฑติ สามารถประกอบอาชพี อิสระได้
แผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบรุ ี 28 จากการท่ีรัฐบาลมีนโยบายในการขับเคล่ือนประเทศไทยให้ก้าวไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 นั้น สิ่งท่ี กระทรวงศึกษาธิการต้องเน้น คือ มุ่งพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนานวัตกรรม การเรียนรู้ผ่าน อินเตอร์เน็ต การสร้าง Smart Farmer & Smart Startup และแรงงานเฉพาะทาง รวมทั้งใช้ การศึกษาโดยยึดจังหวัดเป็นฐาน เพ่ือให้สังคมไทยก้าวสู่ Value-based Economy หรือ “เศรษฐกจิ ท่ี ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม” เพื่อให้ประเทศสามารถพึ่งพาตนเองได้ ลดการนาเข้าและเป็นสังคมที่ แบ่งปัน มหาวิทยาลัยต้อง “รุก รับ ปรับตัว” สู่ Thailand 4.0 เพ่ือสร้างทุนมนุษย์ โดยต้องถือว่า “การสรา้ งคนเป็นนวัตกรรม” เมื่อพิจารณาจากภารกิจหลักของมหาวทิ ยาลัยสู่ความเป็นเลิศ ภารกิจ หลักท่ีถอื เป็น Core Functions คอื สร้างคน ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยมีคุณภาพและตรงกับความต้องการของสังคมใน ศตวรรษท่ี 21 ซ่ึงเป็นภาระหลักท่ีสถาบนั อุดมศกึ ษาทกุ แห่งต้องทา สรา้ งความรู้ เพ่ือใช้ความรู้ในการสร้างคนให้เป็นทุนมนุษย์ท้ังดี ท้ังเก่ง เพราะความรู้จะเกิด ประโยชน์สงู สดุ เมอ่ื มีการนาไปใช้ (ไมใ่ ช่มไี วเ้ กบ็ ) ให้เกิดประโยชนส์ งู สดุ กับบคุ คลและสงั คม สร้างนวตั กรรม โดยตอ่ ยอดจากงานวิจัย หรือจากจินตนาการ โดยเกาะเกี่ยวองคค์ วามรู้ อาทิ กรณีสหกิจศึกษา หรือ Cooperative Education (Coop) เป็นนวัตกรรมท่ีนามาใช้เสริมการผลิต บัณฑติ ในสาขาวชิ าต่างๆ เพือ่ ให้พรอ้ มทางาน (Employability) ทนั ทีทีส่ าเร็จการศึกษาหรอื ให้ประกอบ อาชีพอสิ ระ ถือเปน็ การสร้างนวตั กรรมทางการศึกษา ซึ่งเป็นส่งิ สาคญั ในการสร้างคน
แผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี 29 รูปแบบของการด้าเนนิ งานมหาวิทยาลัย 4.0
แผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี 30 อุดมศึกษาเป็นเลศิ แนวคิดการสร้างนวัตกรรมที่เป็นประเด็นของประเทศ 6 เรื่องหลัก ซ่ึงต้องอาศัยความร่วมมือ วิจัยข้ามศาสตร์ ขา้ มมหาวิทยาลัย และข้ามประเทศ เพ่อื ใหป้ ระโยชน์สูงสุด วาระของชาติตามแนวทางสหวทิ ยาการ
แผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี 31 2.2 การวิเคราะห์สถานการณ์ (SWOT Analysis) ล้าดับ ปจั จัยภายใน จดุ แขง็ (Strengths) S1 คณาจารย์ มคี วามรูค้ วามสามารถ ทางวิชาชพี สามารถสร้างสรรคผ์ ลงานเชิงวิชาการรองรับ ยุทธศาสตรช์ าติ S2 มีผลงานวิจัย/งานนวัตกรรม/งานสร้างสรรค/์ งานศิลปวฒั นธรรม ท่ีสร้างองค์ความรู้ตอบสนอง ศักยภาพของชุมชนไดเ้ ป็นอย่างดี S3 ผลงานด้านนวัตกรรม ผลงานสรา้ งสรรค์และผลงานดา้ นศลิ ปวัฒนธรรม ไดร้ ับรางวัลใน ระดบั ประเทศและหรือต่างประเทศอย่างต่อเน่ือง S4 ผลงานสร้างสรรค์/ผลงานศิลปวัฒนธรรม สามารถนาไปใช้ประโยชน์เชิงประจักษ์ S5 คณะศิลปกรรมศาสตร์มีการสร้างกิจกรรมอย่างต่อเน่ืองจากความร่วมมือกับหน่วยงานต่างประเทศ สามารถทางานร่วมกนั ไปสู่การปฏบิ ตั ิในระดับสากล S6 คณาจารย์และนักศกึ ษาได้รับการสนับสนุนใหเ้ ข้ารว่ มแสดงงานในระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง S7 โครงการบริการวชิ าการทห่ี ลากหลายสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ของชมุ ชนให้เข้าสู่ความเป็นมาตรฐาน เป็นท่ียอมรบั บคุ ลากรมศี ักยภาพได้รบั เชิญเปน็ วทิ ยากรและสามารถปฏิบตั ิท่ตี อบสนองความต้องการของ S8 หนว่ ยงานหรือชุมชนไดร้ ับการพฒั นาอย่างย่ังยืน เปน็ หลกั สูตรทใี่ หผ้ ู้เรยี นสามารถบูรณาการงานวชิ าการและงานสร้างสรรคจ์ นเกดิ ผลสัมฤทธ์ิอยา่ ง S9 เป็นรูปธรรม S10 มีเครือข่ายความรว่ มมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในเขตพ้นื ที่เป้าหมายและพนื้ ที่ใกล้เคียง คณะศิลปกรรมศาสตร์มีองค์ความรู้ทางดา้ นศิลปวัฒนธรรม ท่ีสามารถนาไปใชใ้ ห้กับบริการ S11 วชิ าการแก่สังคมได้ S12 บคุ ลากรมีองค์ความรู้และทักษะด้านศลิ ปวัฒนธรรมสูง S13 หลกั สูตรของคณะศิลปกรรมศาสตร์ ได้มีการเพิ่มองค์ความรู้ดา้ นเทคโนโลยีคู่กบั ศิลปวฒั นธรรมเพ่ือ รองรับการเป็นมหาวทิ ยาลัย 4.0 ลา้ ดบั ปัจจยั ภายใน จุดอ่อน (Weaknesses) W1 บุคลากรผา่ นการฝึกประสบการณว์ ิชาชีพและการฝังตวั ในสถานประกอบการยังไม่เป็นไปตาม เกณฑ์ของมหาวิทยาลัย W2 บางหลักสูตรไมส่ ามารถคดั เลือกนักศึกษาเข้าเรียนได้ตามแผนรบั W3 งานวจิ ัย/งานนวตั กรรม/งานสรา้ งสรรคเ์ ชงิ บูรณาการระหว่างสาขาวิชาและการทางานวิจัยเปน็ ทีมยังมปี ริมาณน้อย W4 งานด้านนวตั กรรม และวิจัยนามาบรู ณาการกบั การเรยี นการสอน ยงั มปี รมิ าณน้อย
แผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี 32 ลา้ ดบั ปจั จัยภายใน จุดอ่อน (Weaknesses) W5 งานด้านนวัตกรรม และผลงานวิจัยท่ีได้รับการตีพิมพ์ในระดับฐาน TCI กลุ่ม 1 และในระดับนานาชาติมี จานวนนอ้ ย W6 ปญั หาเร่อื งภาษาตา่ งประเทศซงึ่ ส่งผลใหน้ กั ศึกษาและอาจารยไ์ มส่ ามารถไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กบั มหาวิทยาลยั นานาชาติได้ W7 บคุ ลากรขาดโอกาสท่ีเข้าไปมีส่วนรว่ มในการเผยแพรด่ ้านบรกิ ารวชิ าการในเขตเศรษฐกิจ W8 ขาดการวเิ คราะหก์ ารใชป้ ระโยชนข์ องผลผลติ ดา้ นศลิ ปวฒั นธรรมรว่ มกัน W9 ระบบข้อมลู สารสนเทศเพ่ือการบริหารและตดั สนิ ใจ ไม่เชื่อมโยงต่อเน่ืองกนั ไมส่ ามารถใชใ้ น การบรหิ ารจัดการ ได้อยา่ งใหม้ ีประสทิ ธิภาพ ลำดับ ปัจจยั ภำยนอก โอกำส (Opportunities) O1 องค์กรภายนอกใหก้ ารยอมรับคณาจารย์คณะศิลปกรรมศาสตร์ O2 ภาคเอกชนให้ความสาคัญกบั คณะฯ เข้ามามสี ว่ นร่วมกบั สถานศึกษาในกระบวนการเรียนการสอน และใหค้ าปรึกษา O3 สามารถนางานวจิ ยั ไปต่อยอดเชิงพาณิชยห์ รอื สามารถสรา้ งมลู ค่าเพ่ิมใหก้ ับชมุ ชนแลตอบโจทย์ ยุทธศาสตร์ชาติ O4 มีหน่วยงานระดับชาตแิ ละนานาชาตจิ านวนมากที่ให้ความสาคญั กับศลิ ปะและมเี วทเี สนอผลงานใน รปู แบบตา่ งๆ O5 ชุมชนตา่ งๆ ใหค้ วามสาคัญกับการบริการวิชาการเพ่อื พัฒนาคณุ ภาพชวี ติ ทยี่ ั่งยนื และมีความ ต่อเน่อื งทางเศรษฐกิจ รวมทั้งนาการบูรณาการเร่อื งของภมู ิปัญญาท้องถ่นิ และศลิ ปกรรมมาเปน็ องค์ความรรู้ ่วมกนั ในการพฒั นาเพ่อื สรา้ งรายได้ สรา้ งอาชีพ O6 มหาวทิ ยาลยั ได้ให้ขอ้ มลู เก่ยี วกบั การเตรียมความพรอ้ มในการเป็นมหาวทิ ยาลัย 4.0 ผา่ นสื่อ สารสนเทศหลายชอ่ งทาง O7 ประเทศมีวฒั นธรรมไทยท่หี ลากหลายและมวี ฒั นธรรมเปน็ ของตนเอง จงึ เปน็ แรงจูงใจให้หน่วยงาน หลายๆ หน่วยงานให้ความสาคญั กบั ศิลปวัฒนธรรมเป็นฐานในการปฏบิ ัติงาน
แผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ ี 33 ลำดบั ปจั จัยภำยนอก อุปสรรค (Threats) T1 มีสถานศึกษาจานวนมากท่ีเปิดหลกั สูตรใหม่ทางดา้ นศลิ ปกรรมทาให้เกิดการแขง่ ขนั ดา้ น การศกึ ษามากข้นึ T2 สภาพแวดลอ้ มในบรเิ วณใกล้เคียงมหาวิทยาลัยมีแหลง่ สถานบนั เทงิ มากสง่ ผลกระทบต่อความ ตัง้ ใจเรยี นของนกั ศึกษา T3 งบประมาณด้านนวัตกรรมและวิจัยจากหน่วยงานภายนอกยังมีน้อย T4 ผู้ทรงคณุ วุฒแิ ละผู้เชี่ยวชาญด้านงานวจิ ัย/งานนวัตกรรม ท่ีมหาวิทยาลยั เชิญมาให้ความร้เู พ่อื สร้างนกั วิจยั หนา้ ใหม่ ไมส่ อดคลอ้ งกับสายวิชาชีพดา้ นศิลปกรรมศาสตร์ T5 กฎ ระเบียบการเบิกจ่ายของมหาวทิ ยาลัยเกย่ี วกับงานวจิ ยั /งานสร้างสรรค/์ งานนวัตกรรม/งาน บรกิ ารวชิ าการ/งานศิลปวฒั นธรรม ไมเ่ อื้ออานวยให้เกดิ ความคลอ่ งตัวกับการดาเนนิ งาน T6 การขอรับทุนสนับสนนุ การวจิ ยั จากแหลง่ ทุนภายนอกมกี ารแข่งขันสงู T7 งบประมาณสนับสนุนบุคลากรให้ไปนาเสนอหรือไปเผยแพร่ในระดับนานาชาติไม่เพียงพอ T8 ขาดความเชื่อมโยงเครือข่ายกับชมุ ชน ด้านองคค์ วามร้แู ละใช้ประโยชนใ์ นภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่ิน T9 หนว่ ยงานภายนอกขาดความเข้าใจในวชิ าชพี ด้านศิลปกรรมศาสตร์ T10 งานบริการวชิ าการท่ีคณะฯ ทาร่วมกับหน่วยงานอ่ืน บางคร้ังหน่วยงานไมเ่ ขา้ ใจในลักษณะงานของ ศิลปกรรม จึงทาให้การทางานรว่ มกันเปน็ ไปค่อนข้างยาก T11 การสร้างเครือขา่ ยความรว่ มมือทางวิชาการกับหนว่ ยงานภายนอกยังอยู่ในแวดวงท่จี ากัด T12 อตั ราการเกิดของประชากรลดลงส่งผลใหจ้ านวนนักศึกษาท่รี ับเข้าในอนาคตมแี นวโน้มลดลง T13 ในการจัดสรรงบประมาณไม่เพียงพอเพ่ือขับเคล่ือนยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมสรา้ งสรรค์ตามนโยบาย ประเทศไทย 4.0
แผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี 34 บทท่ี 3 ยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาคณะศลิ ปกรรมศาสตร์ 3.1 ปรชั ญา (Philosophy) ศิลปกรรมศาสตร์นาความรสู้ ู่การพัฒนา สร้างรากฐานความเปน็ ไทย 3.2 ปณิธาน (Determination) มุง่ มน่ั จดั การศึกษาวชิ าชีพด้านศลิ ปกรรมศาสตร์ ท่ีมคี ุณภาพด้ายการพฒั นาอยา่ งต่อเนอ่ื ง 3.3 ค่านิยมองคก์ ร (Core values) คดิ อยา่ งสรา้ งสรรค์ ซอ่ื สัตย์และรบั ผดิ ชอบ มงุ่ เน้นคณุ ภาพ เพอ่ื พัฒนาองคก์ ร 3.4 วัฒนธรรมองค์กร (Corporate Culture) วัฒนธรรมม่งุ ผลงาน (Result Based Culture) วัฒนธรรมความรว่ มมอื (Collaborative Culture) วัฒนธรรมสมรรถนะ (Competency Culture) วัฒนธรรมมุ่งเรยี นรู้และปรับตวั (Learning & Adaptive Culture) 3.5 อัตลกั ษณ์ (Identity) “บัณฑิตนักปฏิบัติมืออาชีพ” 3.6 เอกลักษณ์ (Uniqueness) “คณะนักปฏิบัติมืออาชีพบนพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม” 3.7 คุณลกั ษณะบัณฑติ ที่พึงประสงค์คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ ผลิตบัณฑิตนักปฏิบัติมืออาชีพ (Hands-on) ท่ีมีความรู้ ทักษะวิชาชีพ ทักษะสังคม (Soft skills) และประสบการณ์ในการทางานจริง โดยการร่วมมือกับสถานศึกษา สถานประกอบการ ผู้ทรงคุณวุฒิท่ีเป็นที่ยอมรับในวงการวิชาชีพ สมาคมวิชาชีพ บนพื้นฐานของการพัฒนาอาจารย์ หลกั สูตร การบริหารหลักสูตรและห้องปฏบิ ตั กิ าร บณั ฑิตนักปฏิบัติ หมายถงึ บณั ฑิตท่มี สี มรรถนะตามสาขาวชิ าชีพ “คดิ เปน็ ท้าเปน็ สรา้ งเปน็ แกป้ ญั หาเปน็ ส่อื สารเปน็ และใชเ้ ทคโนโลยีไดเ้ หมาะสมกับวชิ าชีพ”
แผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี 35 ความรู้ หมายถึง ศาสตร์ด้านศิลปะ ท่ีสอนอยู่ในสาขาวิชาน้ันๆ โดยสอนหลักการที่สาคัญ (Principle) และการประยุกต์ใช้งานในข้ันสูง ซ่ึงอยู่ในความรับผิดชอบของอาจารย์ผู้สอนที่ผ่านการ อบรมแนวทางการผลติ บณั ฑติ นกั ปฏิบัตใิ นลักษณะบูรณาการองค์ความรูม้ าแลว้ ทักษะวิชาชีพ หมายถึง การฝึกปฏิบัติทักษะทางวิชาชีพพ้ืนฐานและข้ันสูงให้สอดคล้องกับ สมรรถนะสาขาวชิ าชพี ทักษะทางสังคม (Soft skills) หมายถึง ทักษะท่ีเติมเต็มบัณฑิตนักปฏิบัติ นอกเหนือจาก ศาสตร์เฉพาะสาขาท่ีศึกษาในช้ันเรียน โดยสามารถพัฒนาทักษะเหล่าน้ีนอกชั้นเรียนด้วยความร่วมมือ ของหน่วยงานต่างๆ ใน มทร. ธญั บรุ โี ดยเนน้ ทักษะทางสงั คมทีส่ าคัญจานวน 8 ด้าน ดังนี้ 1. ภาษาต่างประเทศ 2. การส่อื สารและสารสนเทศ (Communication and IT) 3. การทางานเป็นทีม (Teamwork) 4. ใฝ่เรยี น ใฝร่ ู้ (Learn how to learn) 5. คิดวเิ คราะห์ หรือกระบวนการคดิ และการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ 6. นสิ ัยคณุ ภาพ (PDCA) 7. ความมีระเบียบวินยั และรักองค์กร 8. จิตสาธารณะ ประสบการณ์ในการท้างานจริง หมายถึง การฝึกสหกิจศึกษา การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ การฝึกงาน การปฏิบัติงานจริง การบูรณาการด้านบริการวิชาการแก่สังคม ด้านทานุบารุง ศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ท่ีมุ่งเน้นให้นักศึกษามีประสบการณ์จริงในการแก้ปัญหาโดยใช้ ความรู้ในสาขาวิชาชีพตัวเองและทักษะสังคมเข้าช่วย และการเรียนรู้วัฒนธรรมองค์กรของสถานท่ีที่ นักศกึ ษาออกฝึกประสบการณ์ 3.8 วสิ ยั ทศั น์ (Vision) “คณะศิลปกรรมศาสตร์เป็นผู้นาในการผลิตบัณฑิตนักปฏิบัติมืออาชีพ และพัฒนาแหล่ง เรียนรู้ตลอดชีวิต ด้านศิลปวัฒนธรรมบนพื้นฐานของเทคโนโลยี นวัตกรรมระดับชาติและนานาชาติ\"
แผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี 36 3.9 พนั ธกิจ (Mission) 1. จัดการศกึ ษาวิชาชพี ระดับอดุ มศกึ ษาบนพื้นฐานวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยแี ละนวตั กรรมอย่าง มีคุณภาพรองรับประเทศไทย 4.0 2. สรา้ งงานวจิ ัย สง่ิ ประดิษฐ์ นวัตกรรมและงานสร้างสรรค์ สู่การผลิตเชิงพาณิชย์บนพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ที่สามารถถ่ายทอดองคค์ วามรู้ สรา้ งคุณคา่ หรือมลู คา่ เพ่ิมของ ผลติ ผล เพ่อื เพม่ิ ขีดความสามารถในการแขง่ ขันของประเทศ 3. ให้บริการวชิ าการทม่ี ีแนวคดิ เชงิ สรา้ งสรรค์แกช่ มุ ชนและพนื้ ท่ีเป้าหมาย เพอื่ การมอี าชีพ อสิ ระและพฒั นาอาชพี สูก่ ารเพมิ่ ศกั ยภาพและยกระดับคุณภาพชีวิตอยา่ งยั่งยืน 4. อนุรกั ษ์ สืบสาน และสร้างสรรค์ เพื่อทานบุ ารงุ ศาสนา ศิลปะและวฒั นธรรม และ สิ่งแวดลอ้ ม 5. พฒั นาการบรกิ ารทรพั ยากรมนษุ ย์เขา้ ส่สู ังคมแหง่ การเปลี่ยนแปลงใหส้ นองต่อยุทธศาสตร์ ชาตแิ ละสิทธปิ ระโยชน์บนพ้นื ฐานความสุขและความก้าวหนา้ ในวิชาชพี 6. จัดระบบบรหิ ารจดั การเพ่ือเพ่ิมประสทิ ธภิ าพและแนวทางการจัดหารายได้เอื้อต่อนโยบาย หลักและพง่ึ พาตนเองรวมทงั้ พฒั นางานเพ่ือเขา้ สรู่ ะดบั ชาตแิ ละนานาชาติ 3.10 ประเด็นยุทธศาสตร์ (Strategic Issue) 1.การผลติ และพฒั นากาลังคนดา้ นวชิ าชีพและเทคโนโลยชี นั้ สูงรองรบั ยทุ ธศาสตร์ชาติ 2. การพฒั นางานวจิ ัย และนวตั กรรม เพื่อรองรับอุตสาหกรรมเปา้ หมายของประเทศ 3. การพฒั นาความเป็นนานาชาติ 4. การพัฒนางานบริการวิชาการเพอื่ ตอบสนองคุณภาพชีวิตท่ีย่ังยนื ของชมุ ชน และเศรษฐกจิ เมอื งใหม่ 5. การอนรุ กั ษ์ สบื สาน ศลิ ปวัฒนธรรม ภมู ิปัญญาท้องถ่ิน และส่งิ แวดล้อม 6. พฒั นาบุคลากรใหม้ ีศักยภาพและพฒั นาศักยภาพองค์กรรองรับการเปน็ มหาวิทยาลัย 4.0 และมหาวิทยาลัยในกากับพร้อมกา้ วสคู่ วามเป็นระดับชาตแิ ละนานาชาติ
แผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี 37 3.11 ตารางความเชื่อมโยงระหวา่ ง เป้าหมายหลกั ประเดน็ ยุทธศาสตร์ เป้าประสงค์ กลยทุ ธ์ ใน แผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 เพ่อื ใหบ้ รรลุวสิ ัยทัศน์ทก่ี ้าหนดไว้ ประกอบด้วย เปา้ หมายหลกั ท่ี 1 : ผลติ และพัฒนากาลงั คนรองรบั ยุทธศาสตร์ชาตแิ ละเพิ่มความสามารถในการแขง่ ขันของ ประเทศ ประเดน็ ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 1 การผลติ และพฒั นากาลังคนดา้ นวิชาชีพและเทคโนโลยีชัน้ สงู รองรับยทุ ธศาสตร์ชาติ เป้าประสงค์ 1. บัณฑิตมคี วามรู้ มที ักษะ มีสมรรถนะตามมาตรฐานวชิ าชพี สอดคล้องกับความต้องการของผ้ใู ช้บัณฑติ และความ ต้องการกาลงั คนตามยทุ ธศาสตร์ชาติ 2. กาลงั คนมที ักษะความรู้ความสามารถและสมรรถนะตามมาตรฐานวชิ าชพี และพฒั นาคุณภาพชีวติ ไดต้ าม ศักยภาพ 3. ผลิตบัณฑติ ให้เปน็ ผปู้ ระกอบการรองรบั ยทุ ธศาสตรช์ าติ กลยุทธ์ 1. พัฒนาหลกั สูตร 1.1 จดั กลุ่มหลักสตู รเพอ่ื การพัฒนาใน 4 กลุ่ม ไดแ้ ก่ 1. หลักสูตรทม่ี ีความเส่ียงสูง 2. หลักสูตรที่มีการแข่งขนั สงู 3. หลักสตู รทเี่ ปน็ อตั ลักษณ์ 4. หลกั สูตรทต่ี อบสนองยุทธศาสตรช์ าติ 1.2 ปรบั ปรงุ /พัฒนาหลักสูตรให้ทนั สมัยตอบสนองความตอ้ งการของสถานประกอบการอุตสาหกรรมเป้าหมาย และยทุ ธศาสตร์ชาติ 2. พฒั นากระบวนการเรยี นการสอน 2.1 พฒั นาระบบการเรียนการสอนม่งุ เน้น Active Learning เพ่อื ให้นักศึกษามีทักษะในการคิด การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ การคิดนอกกรอบ การคดิ เชงิ นวัตกรรมและทกั ษะการปฏบิ ัติอย่างมืออาชีพ 2.2 พัฒนา/ปรบั ปรุงรายวิชาใหส้ นบั สนนุ Competency Skills ประกอบดว้ ย Innovative Skill, Creativity Skill, Critical Thinking Skill และ Entrepreneur Skill 2.3 พฒั นาทักษะความเป็นผู้ประกอบการ Entrepreneur Skill ให้กบั นกั ศึกษา 2.4 สง่ เสรมิ ประสบการณ์ในการเรยี นรูน้ อกหอ้ งเรยี น ทางานจริง พัฒนาประสบการณ์ตรงโดยอาศัยความ เขม้ แข็งของเครือข่ายภาคประกอบการ เพ่ือถ่ายทอดประสบการณ์ไปสนู่ ักศึกษา 2.5 พฒั นาระบบและกลไกการทดสอบ การวัดและประเมนิ ความรู้ ทักษะ และสมรรถนะของผเู้ รียนและทุก กลุ่มเปา้ หมายใหม้ ปี ระสิทธิภาพ
แผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบรุ ี 38 กลยทุ ธ์ 3. พฒั นาอาจารย์ 3.1 จัดตัง้ Smart Teacher Training Academy เพ่ือพัฒนาอาจารย์ใหม้ ีความร้แู ละทักษะในกระบวนการ จดั การเรียนการสอนดว้ ยเทคนิค Finland Model, CDIO, STEM, Innovative Teaching Model และ Meister Model 3.2 พฒั นาอาจารยด์ ้านทักษะวชิ าชีพและเทคโนโลยชี ัน้ สูง รองรบั การผลิตกาลังคนตามความต้องการของกล่มุ อตุ สาหกรรม/เทคโนโลยีเป้าหมายของประเทศ 3.3 สง่ เสรมิ ใหอ้ าจารย์มีประสบการณ์การทางานในภาคอตุ สาหกรรมหรือสถานประกอบการ 3.4 สง่ เสรมิ อาจารย์ใหพ้ ฒั นานวัตกรรมการเรียนการสอน ที่มุ่งเน้นการผลติ บัณฑติ นักปฏบิ ัติฐานสมรรถนะ 3.5 ส่งเสรมิ ให้มีความก้าวหน้าทางวิชาการจากนวตั กรรมการเรยี นการสอน 4. พัฒนานกั ศกึ ษา 4.1 ส่งเสริมวฒั นธรรมการทางานทีส่ อดคล้องกับความตอ้ งการของภาคอุตสาหกรรมและสถานประกอบการ 4.2 พัฒนาการเปน็ ผปู้ ระกอบการใหมใ่ ห้แก่นักศกึ ษา 4.3 พัฒนาความสามารถ ด้าน ICT ของนักศกึ ษาทุกคน และจดั ทดสอบทักษะ ดา้ น ICT ตามเกณฑ์มาตรฐานท่ี มหาวิทยาลัยกาหนด 4.4 พัฒนาความสามารถในการใชภ้ าษาอังกฤษของนักศกึ ษาทุกคน และจดั ทดสอบความสามารถการใช้ ภาษาอังกฤษตามเกณฑ์มาตรฐานท่ีมหาวิทยาลัยกาหนด 4.5 เพ่มิ ทกั ษะทางสังคมของบัณฑิตให้เป็นบณั ฑติ ที่พงึ ประสงค์ในศตวรรษที่ 21 (Competency Skills, Creativity Skill, Critical Thinking Skill, Communication Skill, Collaboration Skill, Commucation Technology Skills) 4.6 สนับสนุนกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่ส่งเสรมิ ใหน้ ักศกึ ษานาศักยภาพของตนเองมาประยุกตใ์ ช้ใหเ้ กิดประโยชนต์ อ่ สังคม 5. พัฒนาสภาพแวดล้อมต่อการเรียน 5.1 พัฒนาห้องปฏิบัติการเฉพาะทาง และห้องปฏบิ ัตกิ ารชนั้ สงู รองรับการผลติ และพัฒนากาลังคมในกลุ่ม อตุ สาหกรรมเป้าหมายและตามนโยบายของประเทศ 5.2 จดั ใหม้ หี อ้ งปฏิบตั กิ ิจกรรมหรอื หอ้ งปฏิบตั นิ วัตกรรมส่ิงประดษิ ฐ์นอกห้องเรยี น (Working Space, Learning Space และ Fab. Lab.) 5.3 พฒั นาศนู ย์ COE เพ่ือเปน็ แหลง่ ปฏบิ ัตงิ านจริงของอาจารยแ์ ละนักศกึ ษา 5.4 ส่งเสริมและพัฒนาแหล่งเรยี นร้ใู ห้มคี วามหลากหลายเพอื่ เอื้อต่อการศึกษาและการเรียนรูต้ ลอด ชีวติ อย่างมคี ุณภาพและสามารถใหบ้ ริการได้อย่างท่วั ถงึ นาไปสูก่ ารเปน็ Smart University 5.5 สร้างสภาพแวดลอ้ มในมหาวิทยาลัยใหเ้ อ้ือต่อการเรียนรู้และกระตุ้นการเป็นผู้ประกอบการ
แผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี 39 กลยุทธ์ 6. เครือข่ายความร่วมมอื ในการผลิตและพฒั นากา้ ลังคน 6.1 เสริมสร้างความเขม้ แข็งของกระบวนการผลิตและพัฒนากาลังคน โดยสร้างเครือขา่ ยความรว่ มมือตาม รปู แบบประชารฐั ระหวา่ งองค์กรภายในและตา่ งประเทศ (จับคคู่ วามร่วมมือแต่ละกลุ่มหลักสตู ร) 6.2 สรา้ งเครอื ข่ายความร่วมมือท่ีเขม้ แขง็ กบั ศิษยเ์ กา่ ของมหาวทิ ยาลัยเพื่อสนับสนนุ การดาเนินงานของ มหาวิทยาลยั 6.3 พฒั นากาลังคนใหส้ ถานประกอบการดว้ ยระบบ Corporate University 6.4 ส่งเสรมิ และสนับสนุนการพฒั นาการศึกษาขนั้ พนื้ ฐานให้มีคณุ ภาพด้านวิทยาศาสตรเ์ ทคโนโลยแี ละนวัตกรรม ตอบสนองคนไทยในศตวรรษท่ี 21 7. Life Long Learning 7.1 พฒั นาระบบการเทียบโอนผลการศกึ ษาในระบบ นอกระบบ และประสบการณจ์ ากการทางาน 7.2 พัฒนากาลงั คนให้สถานประกอบการดว้ ยระบบ Work Based Learning และการ Re-skill Labor ใน ภาคอตุ สาหกรรมเพ่ือรองรบั Industry 4.0 ในภาคอุตสาหกรรมการผลติ และบริการ 7.3 พัฒนากาลงั คนเพ่อื รองรบั Digital Transformation 7.4 พัฒนาสื่อการเรียนรู้และบทเรียนออนไลน์ทสี่ นับสนนุ ใหเ้ กดิ การเรยี นรตู้ ลอดชวี ิต (Life Long Learning) และสามารถพฒั นาเปน็ รายวิชาออนไลน์ (Massive Open Online Courses, MOOCs) 7.5 ส่งเสรมิ สนับสนุนการผลิตและพัฒนาส่ือ เสรมิ การเรียนรูท้ างการศึกษาด้วยระบบเทคโนโลยีดจิ ทิ ัลเพ่อื การศกึ ษาและการเรยี นรู้ตลอดชีวิตทม่ี ีคุณภาพและมาตรฐานสามารถเชือ่ มโยงผา่ นระบบเทคโนโลยดี ิจทิ ลั ทท่ี ันสมยั หลากหลาย และเข้าถึงไดโ้ ดยไมจ่ ากัดเวลาและสถานท่ี ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ที่ 2 การพฒั นางานวจิ ัย และนวัตกรรม เพือ่ รองรบั อตุ สาหกรรมเป้าหมายของประเทศ เปา้ ประสงค์ 1. คุณภาพผลงานวิจัย นวัตกรรม และงานสรา้ งสรรค์เปน็ ท่ียอมรบั ทั้งในระดับชาตแิ ละนานาชาติ 2. มผี ลงานวจิ ัยและนวตั กรรมในอุตสาหกรรมเป้าหมายตามยทุ ธศาสตร์ประเทศและนโยบายของรฐั บาล 3. มงี านวิจยั และนวัตกรรมที่เหมาะสม สามารถนาไปใชใ้ นการพฒั นาคณุ ภาพชวี ิต สรา้ งมลู ค่า / คณุ ค่าเพิ่ม 4. มศี ูนย์วิจัยเฉพาะทางเพ่ือรองรับยุทธศาสตรด์ ้านการวิจัยของประเทศ 4.1 ศนู ย์วจิ ัยเฉพาะทางด้าน Digital Economy 4.2 ศูนยว์ ิจัยเฉพาะทางดา้ น Creative Economy 4.3 ศนู ย์วิจัยเฉพาะทางด้าน Bio Economy 4.4 ศูนย์วจิ ยั เฉพาะทางด้าน Automation-Robot Technology
แผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบรุ ี 40 กลยทุ ธ์ 1. พฒั นาระบบการบรหิ ารงานวิจยั ในมหาวทิ ยาลัย 1.1 พฒั นาระบบและกลไกกระต้นุ ให้อาจารยผ์ ลิตผลงานวิจัยและนวัตกรรมเพิ่มขน้ึ 1.2 พฒั นาระบบติดตามและชว่ ยเหลอื อาจารยใ์ ห้ทางานวิจยั สาเร็จตามเวลา 1.3 พฒั นาระบบและปัจจยั เอือ้ ที่สนบั สนนุ การวิจัยและนวตั กรรม 1.4 พัฒนาระบบกลไกเพื่อคุม้ ครองปกป้องสิทธิของผลงานวจิ ัยหรอื งานสร้างสรรคท์ ่นี าไปใชป้ ระโยชน์ในทุกดา้ น 1.5 ปรับปรุงระเบยี บการดาเนินงานดา้ นการวิจยั ของมหาวิทยาลัยให้มคี วามทนั สมัยและคลอ่ งตัว 2. พฒั นาคณุ ภาพงานวจิ ยั นวตั กรรม ใหส้ ามารถไปใชป้ ระโยชน์เพื่อสร้างคุณค่าเพ่ิม (Value Creation) 2.1 พัฒนาผลงานวจิ ยั และสร้างนวตั กรรมใหม่เพ่ือประโยชนใ์ นเชงิ อตุ สาหกรรมและต่อยอดเชงิ พาณชิ ย์ 2.2 พัฒนาและส่งเสรมิ การนาผลงานวิจัยและนวตั กรรมไปสรา้ งมลู คา่ เพ่ิมและการแก้ปัญหาทางสังคม 2.3 นาโจทย์จากภาคประกอบการ SME OTOP มาเปน็ ปัญหาในการวิจัยพฒั นาโครงงานนักศกึ ษาและต่อยอด 2.4 ส่งเสรมิ การนาเสนอผลงานวจิ ยั ให้ได้รบั การตพี ิมพ์และอา้ งองิ ทั้งในระดบั ชาติและนานาชาติ 2.5 สง่ เสริมการนาผลงานไปเผยแพรใ่ นระดับประเทศและตา่ งประเทศ 2.6 สง่ เสริมความรว่ มมอื ในการวจิ ัยขา้ มสาขา และกาหนดแนวทางการรวมกล่มุ เช่น คลสั เตอร์ 3. แสวงหาแหลง่ ทนุ เพ่อื สนับสนนุ การท้าวิจยั นวตั กรรม และงานสร้างสรรค์ 3.1 สรา้ งและพัฒนาเครือข่ายวจิ ยั ทง้ั ภายในและภายนอก 3.2 พฒั นาองค์ความรดู้ า้ นการวิจัยและรปู แบบการขอทุนวิจยั ทส่ี อดคลอ้ งกับยทุ ธศาสตรช์ าตแิ ละแหล่งทนุ 3.3 ม่งุ เน้นงานวิจัยเชงิ พาณิชยร์ ว่ มกับรฐั -เอกชน 3.4 พฒั นางานวิจยั ร่วมกบั มหาวิทยาลัย/องคก์ ร ในตา่ งประเทศ เพ่อื รับบริการงานวิจัยกับบริษัทข้ามชาติมา ลงทุนในประเทศไทย 4. พัฒนารายไดจ้ ากงานวิจัยและนวตั กรรม 4.1 แสวงหารายไดจ้ ากลิขสทิ ธิ์หรือสิทธบิ ัตรของมหาวิทยาลัย ทสี่ ามารถนาไปต่อยอดเพือ่ ผลประโยชนท์ างธรุ กจิ 4.2 นาผลงานวิจยั ของมหาวทิ ยาลยั ให้เกดิ รายได้เชงิ พาณิชย์ 5. การพัฒนาศกั ยภาพนักวิจัย 5.1 พฒั นาศักยภาพนักวิจัยใหส้ ามารถผลติ ผลงานทสี่ อดคลอ้ งกบั เป้าหมายตามยุทธศาสตรก์ ารวิจยั ของประเทศ ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ 3 : การพัฒนาความเปน็ นานาชาติ เป้าประสงค์ 1. มหาวทิ ยาลัยเป็นทีย่ อมรับในระดบั นานาชาติ กลยุทธ์ 1. ยกระดับงานวิชาการและวจิ ัยสู่นานาชาติ 1.1 สง่ เสรมิ และสนับสนนุ ใหแ้ ตล่ ะหลกั สตู รเพิ่มจานวนที่สอนดว้ ยภาษาองั กฤษ หรือใช้สื่อที่เปน็ ภาษาองั กฤษให้ มากขน้ึ
แผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบรุ ี 41 1.2 บริการอบรมหลักสตู ร Smart Teacher Model แกก่ ลุ่มประเทศอาเซยี น 1.3 พฒั นาหลักสตู รระยะส้ัน (Certificate/ Diploma) สาหรับชาวต่างชาติ เชน่ หลักสตู รด้าน Eco-Tourism และ Hospitality สาหรับชาวตา่ งชาติ หลกั สตู รอาหารไทย สาหรับชาวตา่ งชาติ หลกั สตู รวฒั นธรรมและศลิ ปะ ไทยสาหรบั ชาวต่างชาติ 1.4 จัดกิจกรรมการเรยี นการสอนนอกหลกั สูตรทีส่ ง่ เสริมความเปน็ นานาชาติ และจดั พ้ืนท่ีส่งเสริมการใช้ ภาษาต่างประเทศใหน้ ักศึกษาและบคุ ลากร 1.5 เพ่ิมสัดส่วนอาจารย์ นกั วิจัยชาวต่างประเทศทม่ี ีความรู้ความสามารถ และความชานาญสบุ ง มาสอน บรรยาย และถ่ายทอดความรู้ และ/หรอื มาทาวิจัย เพือ่ ยกระดับคุณภาพมาตรฐานดา้ นวิชาการและด้านวจิ ยั ของ มหาวทิ ยาลยั 2. พฒั นาคณุ ภาพและสมรรถนะสากลของอาจารย์และบุคลากร 2.1 พัฒนาศักยภาพอาจารย์ดา้ นภาษาองั กฤษและเทคนิคการเรียนการสอนที่ใช้ภาษาองั กฤษเป็นส่ือ 2.2 ยกระดบั คณุ ภาพและสมรรถนะการใช้ภาษาอังกฤษของบคุ ลากร 3. สร้างการยอมรบั ในระดับนานาชาติ 3.1 จัดกจิ กรรมประชมุ สัมมนาเชิงวิชาการในระดบั นานาชาติ เพอ่ื เสรมิ สรา้ งความร่วมมือทางด้านวชิ าการ วจิ ัย แลกเปล่ียนประสบการณ์ องคค์ วามรู้ และเผยแพรง่ านวจิ ัย 3.2 สนบั สนุนบคุ ลากรและนกั ศึกษาส่งผลงานประกวดระดบั นานาชาติ 4. พัฒนาส่ิงอ้านวยความสะดวก สง่ิ แวดลอ้ ม และให้บริการทส่ี ่งเสริมความเปน็ นานาชาติ 4.1 จดั สภาพแวดล้อมและโครงสร้างพืน้ ฐานภายในมหาวิทยาลยั ใหเ้ ป็นสากล 4.2 พัฒนาส่ือประชาสมั พันธเ์ พื่อรองรบั ความเปน็ นานาชาติ 4.3 พัฒนาหนว่ ยงานท่เี กีย่ วขอ้ งกับการบรกิ ารนกั ศึกษาหรอื การจดั กิจกรรมนักศึกษาให้มคี วามเป็นนานาชาติ 4.4 พฒั นาการให้บรกิ ารที่ทนั สมยั สาหรับนกั ศึกษา/บุคลากรต่างชาติ เชน่ ท่ีพัก การใหบ้ ริการข้อมูลข่าวสาร และการจดั ต้ังหนว่ ย one stop service สาหรับใหบ้ ริการชาวตา่ งชาติ ตลอดจนการให้บรกิ ารทางวิชาการต่างๆ 5. พัฒนาความร่วมมือกับต่างประเทศ 5.1 พฒั นากิจกรรมกบั มหาวิทยาลัยหรือองคก์ รตา่ งประเทศทม่ี ี MOU ร่วมกนั ใหม้ ากข้ึน เป้าหมายหลักที่ 2 : เป็นที่พึ่งของสงั คม ชุมชน เศรษฐกิจเมืองใหม่ ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ 4 : การพฒั นางานบริการวชิ าการเพื่อตอบสนองคุณภาพชีวติ ทยี่ ัง่ ยืนของชมุ ชน และ เศรษฐกจิ เมืองใหม่ เปา้ ประสงค์ 1. งานบรกิ ารวิชาการสามารถขบั เคลื่อนและตอบสนองต่อการพฒั นาคุณภาพชีวติ ตามความต้องการของสงั คม อย่างมีส่วนร่วม 2. มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ ี เป็นตน้ แบบของการพัฒนาชมุ ชนและสังคมอย่างย่ังยืน 3. ยกระดบั ฝมี ือแรงงานเพ่ือเพิม่ ผลิตภาพให้กบั ประเทศ
แผนยทุ ธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี 42 กลยทุ ธ์ 1. พฒั นาพืน้ ท่ี (Area based) ปทุมธานี นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ให้ยั่งยืนดว้ ย Social Engagement และ Smart City 2. กาหนดชุมชนเพอื่ ให้บริการวชิ าการแก่สังคม โดยจดั ทาเป็นข้อตกลงมคี วามร่วมมือทางวิชาการ/บริการวชิ าการ 3. สนับสนุนการนอ้ มนาศาสตรพ์ ระราชาสกู่ ารพฒั นาและเพ่ิมศกั ยภาพคนทุกช่วงวัย 4. สนองงานโครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดาริฯ หรือใช้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 5. เพิ่มขดี ความสามารถและทักษะการทางานของประชากรวยั แรงงานร่วมกบั ผู้ประกอบการวิสาหกจิ ขนาดกลาง และขนาดย่อม (SMEs) ในพ้ืนท่ี Area based ของมหาวทิ ยาลยั 6. พัฒนาศนู ย์ COE ให้มี Innovative technology Differentiate and Unqueness เพ่ือเพม่ิ ผลิตภาพด้าน เศรษฐกิจ สงั คม ชุมชนและอุตสาหกรรม 7. สนับสนุนการบริการทางวิชาการท่เี ชื่อมโยงกบั งานวิจยั และสาขาท่ีมีความเชยี่ วชาญเพอื่ พฒั นางานวจิ ัยและเกิด การบูรณาการกบั การเรียนการสอน 8. ส่งเสรมิ ใหช้ มุ ชนเปา้ หมายไดร้ บั การพัฒนาบนพื้นฐานองคค์ วามร้ขู องมหาวิทยาลยั 9. ใหค้ าปรกึ ษาด้านธุรกจิ เทคโนโลยี และนวัตกรรมตามความเชี่ยวชาญ 10. สรา้ งเครือข่ายการใหบ้ ริการวิชาการกับองค์กรภาครัฐและเอกชน เพอ่ื พฒั นาแกป้ ญั หาและพัฒนาชุมชนให้ เขม้ แข็งอย่างยัง่ ยนื 11. ส่งเสริมการแลกเปลย่ี นเรียนรอู้ งค์ความร้ตู า่ งๆ ระหว่างบุคลากรทที่ างานบริการวิชาการแกช่ มุ ชน กับชาวบา้ น/ ชมุ ชน/ปราชญ์ชาวบ้าน ประเด็นยทุ ธศาสตร์ 5 : การอนรุ กั ษ์ สบื สาน ศิลปวฒั นธรรม ภูมิปญั ญาท้องถิ่น และสิง่ แวดลอ้ ม เปา้ ประสงค์ 1. มหาวิทยาลัยมีบทบาทในการเพ่ิมคุณคา่ เปน็ การอนรุ ักษ์ ทานบุ ารุง สืบสาน ศลิ ปวัฒนธรรม ภูมิปญั ญาท้องถิน่ และส่ิงแวดล้อม 2. บคุ ลากรและนักศึกษา ตระหนักถึงความสาคญั และ เกิดความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมไทย 3. สรา้ งชุมชนตน้ แบบให้เป็นแหลง่ เรยี นรู้ด้านศลิ ปวัฒนธรรมและภมู ิปัญญาท้องถ่นิ กลยุทธ์ 1. พฒั นาแผนแม่บทด้านงานทานบุ ารงุ ศาสนา ศลิ ปวัฒนธรรม และส่งิ แวดล้อม 2. สรา้ งเครือข่ายความร่วมมือกบั ชมุ ชนและท้องถนิ่ 3. สนบั สนุนการบูรณาการกับการจดั การเรยี นการสอน งานวิจัย การบรกิ ารวชิ าการ และกจิ กรรมนักศึกษา 4. จัดทาฐานข้อมูลบุคลากรของมทร.ธัญบุรี ท่ีมีผลงานด้านศลิ ปวัฒนธรรม และสิง่ แวดล้อม 5. ส่งเสริมภูมปิ ัญหาท้องถนิ่ แหลง่ ท่องเทยี่ ว งานประเพณี ศิลปะ และวฒั นธรรม เพ่ือพัฒนาต่อยอดให้เกิดคุณค่า เพ่ิม
แผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561-2564 คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี 43 6. สง่ เสรมิ การทานุบารงุ ศิลปะและวฒั นธรรมทมี่ ีความโดดเด่นตามอตั ลักษณ์ของแต่ละคณะ/วทิ ยาลยั 7. ปลกู ฝังค่านยิ มใหเ้ กดิ ความภูมิใจในวฒั นธรรมไทย วฒั นธรรมท้องถิน่ สรา้ งเสรมิ เอกลักษณ์ความเป็นไทย เป้าหมายหลกั ที่ 3 : บริหารจดั การองค์กรเพื่อการพัฒนา ประเด็นยุทธศาสตร์ 6 : การพฒั นาศักยภาพองค์กรรองรับการเปน็ มหาวิทยาลัย 4.0 และมหาวิทยาลยั ในกากับ เป้าประสงค์ 1. เปน็ องค์ที่มีสมรรถนะสงู และใชน้ วตั กรรมในการบริหารจัดการ 2. มเี สถยี รภาพดา้ นการเงนิ การคลงั ทีเ่ พยี งพอต่อการดาเนินงานและการพัฒนาในอนาคต 3. มคี วามพร้อมด้านทรพั ยากรบคุ คลท่ีเหมาะสมต่อการดาเนินงานทงั้ ในเชงิ ปรมิ าณและคุณภาพ กลยทุ ธ์ 1. การบริหารจดั การทรพั ยากรมนุษย์ (Human Capital Management) 1.1 พัฒนาแผนแม่บทการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพือ่ เป็นทุนมนุษย์ (Human Capital) 1.2 พฒั นาศักยภาพและสง่ เสริมความกา้ วหน้าของบุคลากรสายวชิ าการ 1.3 พัฒนาศักยภาพและสง่ เสรมิ ความกา้ วหน้าของบุคลากรสายสนับสนนุ 1.4 ส่งเสริมให้บุคลากรไดร้ ับการเตรียมเป็นผู้บรหิ ารรนุ่ ใหมท่ ี่จะรบั ผิดชอบมหาวทิ ยาลยั ในอนาคต 1.5 พฒั นาศักยภาพผบู้ ริหารใหม้ ีบทบาทการบรหิ ารจดั การเพื่อรองรับกับการเปล่ียนแปลงในมติ ิตา่ งๆ 1.6 พัฒนาระบบการประเมนิ ผลปฏบิ ัติงานดว้ ย Performance Based Assessment 1.7 สร้างระบบการหมุนเวียนงาน (Job Rotation) การทางานแบบข้ามสายงาน (Cross Function) และการ รวมกลมุ่ การทางาน (Cluster) เพือ่ ใหบ้ ุคลากรมีทักษะการทางานทหี่ ลากหลาย (Multi-Tasking) 1.8 พฒั นาแผนอตั รากาลังและจดั ระบบบริหารงานบคุ คลใหส้ อดคล้องกบั โครงสรา้ งและภาระหน้าที่ของ หนว่ ยงานอย่างต่อเน่อื ง (ให้เกดิ ความกระชับ คล่องตวั เกลี่ยอตั รากาลังให้เหมาะสม ลดตาแหน่งท่ีไมจ่ าเป็น เพม่ิ อัตราบรรจุแกล่ ูกจา้ งช่วั คราว) 1.9 สง่ เสริมและสนบั สนุนให้เกดิ วัฒนธรรมองค์กรท่สี ่งผลต่อความสาเรจ็ และเปา้ หมายขององค์กร 2. การพัฒนาเข้าสู่ Green University 2.1 จดั ทาแผนแม่บท Green University และดาเนนิ งานเขา้ สู่เป้าหมายตามแผนแม่บท 2.2 บริหารจดั การดา้ นพลงั งาน
3.12 สรุปภาพความเช่ือมโยงแผนยุทธศาสตร์ พ.ศ.2561 - 25 วิสัยทศั น์ “คณะศลิ ปกรรมศาสตรเ์ ปน็ ผู้นาในการผลิตบัณฑิตนกั ปฏบิ ัตมิ อื อาชีพ และพัฒนาแหล 1. จดั การศึกษาวชิ าชพี ระดบั อุดมศกึ ษาบนพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวตั กรรมอย่างมีคุณภาพรองรบั ประเทศไทย 4.0 2. สรา้ งงานวิจัย สิ่งประดษิ ฐ์ นวตั กรรมและงานสรา้ งสรรค์ สู่การผลติ เชิงพาณิชย์บนพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ท่ีสามารถถ่ายทอดองคค์ วามรู้ สรา้ งคุณคา่ ืรอื มลู ค่าเพม่ิ งองผลติ ผล เพื่อเพิม่ งดี ความสามารถกนการแงง่ งนั งองประเทศ พันธกิจ 3. กืบ้ รกิ ารวชิ าการทม่ี แี นวคดิ เชงิ สรา้ งสรรค์แกช่ มุ ชนและพนื้ ท่เี ปา้ ืมาย เพือ่ การมอี าชพี อิสระและพฒั นาอาชีพสกู่ ารเพ่มิ ศกั ยภาพและยกระดบั คุณภาพชวี ิตอย่างยัง่ ยืน เป้าหมายหลัก 1.พัฒนากาลังคนรองรับยุทธศาสตร์ชาติ และเพ่ิมความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ประเดน็ 1. การผลติ และพัฒนากาลงั คนดา้ นวิชาชีพและเทคโนโลยีชั้นสงู รองรับยุทธศาสตร์ชาติ 2. การพัฒนางานวิจัย และนวัตกรรม เพือ่ รองรบั อตุ สาหก ยุทธศาสตร์ เป้าหมายของประเทศ 1. บัณฑิตมีความรู้ มีทักษะ มีสมรรถนะตามมาตรฐานวิชาชีพ สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้บัณฑิตและความต้องการกาลงั คนตามยุทธศาสตร์ชาติ 1. คุณภาพผลงานวิจยั นวัตกรรม และงานสร้างสรรค์เป็นที่ยอมรับท้ังใน 2. กาลงั คนมีทักษะความรคู้ วามสามารถและสมรรถนะตามมาตรฐานวิชาชีพและพฒั นาคุณภาพชีวิตได้ตามศักยภาพ ระดับชาติและนานาชาติ 3. ผลิตบัณฑิตให้เป็นผ้ปู ระกอบการรองรับยุทธศาสตร์ชาติ 2. มีผลงานวิจัยและนวัตกรรมในอตุ สาหกรรมเปา้ หมายตามยุทธศาสตร์ประ และนโยบายของรฐั บาล เป้าประสงค์ 3. มีงานวิจัยและนวัตกรรมท่ีเหมาะสม สามารถนาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพ ชีวิต สรา้ งมูลค่า / คุณค่าเพ่มิ 4. มีศูนย์วิจยั เฉพาะทางเพ่ือรองรบั ยุทธศาสตรด์ ้านการวิจยั ของประเทศ 4.1 ศูนย์วิจัยเฉพาะทางด้าน Digital Economy 4.2 ศูนย์วิจยั เฉพาะทางด้าน Creative Economy 4.3 ศูนย์วิจัยเฉพาะทางด้าน Bio Economy 4.4 ศูนย์วิจยั เฉพาะทางด้าน Automation-Robot Technology กลยุทธ์ 1. พัฒนาหลักสูตร 1. พัฒนาระบบการบริหารงานวิจัยในมหาวิทยาลัย 1.1 จัดกลุ่มหลักสตู รเพ่อื การพัฒนาใน 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.1 พฒั นาระบบและกลไกกระตุ้นใหอ้ าจารย์ผลิตผลงานวิจยั และนวัตกรร 1. หลักสตู รที่มีความเสยี่ งสูง 2. หลักสตู รท่ีมีการแข่งขันสูง เพม่ิ ข้ึน 3. หลักสูตรที่เปน็ อตั ลักษณ์ 1.2 พฒั นาระบบติดตามและช่วยเหลืออาจารย์ใหท้ างานวิจัยสาเรจ็ ตามเว 4. หลักสตู รท่ีตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ 1.3 พฒั นาระบบและปัจจัยเออื้ ท่ีสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม 1.2 ปรับปรงุ /พัฒนาหลักสตู รให้ทันสมัยตอบสนองความต้องการของสถานประกอบการอตุ สาหกรรมเป้าหมายและยุทธศาสตรช์ าติ 1.4 พัฒนาระบบกลไกเพื่อคุ้มครองปกปอ้ งสิทธิของผลงานวิจัยหรืองาน 2. พฒั นากระบวนการเรียนการสอน สรา้ งสรรค์ท่ีนาไปใช้ประโยชน์ในทุกด้าน 2.1 พัฒนาระบบการเรียนการสอนมุ่งเน้น Active Learning เพอ่ื ให้นักศึกษามีทักษะในการคิด การวิเคราะห์ การสงั เคราะห์ การคิดนอกกรอบ การคิดเชิงนวัตกรรมและทักษะการปฏิบตั ิอย่างมืออาชีพ 1.5 ปรับปรุงระเบยี บการดาเนินงานด้านการวิจยั ของมหาวิทยาลยั ใหม้ ีคว 2.2 พัฒนา/ปรับปรงุ รายวิชาใหส้ นับสนุน Competency Skills ประกอบด้วย Innovative Skill, Creativity Skill, Critical Thinking Skill และ Entrepreneur Skill 2.3 พฒั นาทักษะความเปน็ ผปู้ ระกอบการ Entrepreneur Skill ใหก้ บั นักศึกษา ทันสมัยและคล่องตัว 2.4 ส่งเสริมประสบการณ์ในการเรียนรู้นอกหอ้ งเรยี น ทางานจริง พฒั นาประสบการณต์ รงโดยอาศัยความเข้มแข็งของเครอื ข่ายภาคประกอบการ เพ่ือถ่ายทอดประสบการณไ์ ปส่นู ักศึกษา 2. พัฒนาคุณภาพงานวิจัย นวัตกรรม ให้สามารถไปใช้ประโยชน์เพอ่ื สร้า 2.5 พฒั นาระบบและกลไกการทดสอบ การวัดและประเมินความรู้ ทักษะ และสมรรถนะของผ้เู รียนและทุกกลุม่ เปา้ หมายให้มีประสิทธิภาพ คุณค่าเพม่ิ (Value Creation) 3. พัฒนาอาจารย์ 2.1 พฒั นาผลงานวิจัยและสรา้ งนวัตกรรมใหม่เพื่อประโยชน์ในเชิง 3.1 จดั ตั้ง Smart Teacher Training Academy เพอ่ื พัฒนาอาจารย์ให้มีความรแู้ ละทักษะในกระบวนการจัดการเรยี นการสอนด้วยเทคนิค Finland Model, CDIO, STEM, Innovative Teaching Model และ Meister อตุ สาหกรรมและต่อยอดเชิงพาณิชย์ Model 2.2 พัฒนาและส่งเสริมการนาผลงานวิจยั และนวัตกรรมไปสร้างมูลค่าเพ่ิม 3.2 พฒั นาอาจารย์ด้านทักษะวิชาชีพและเทคโนโลยีช้ันสงู รองรบั การผลติ กาลังคนตามความต้องการของกลมุ่ อตุ สาหกรรม/เทคโนโลยีเปา้ หมายของประเทศ การแกป้ ัญหาทางสงั คม 3.3 ส่งเสรมิ ใหอ้ าจารย์มีประสบการณ์การทางานในภาคอุตสาหกรรมหรอื สถานประกอบการ 3.4 ส่งเสรมิ อาจารย์ให้พัฒนานวัตกรรมการเรยี นการสอน ท่ีมุ่งเน้นการผลิตบัณฑิตนักปฏบิ ตั ิฐานสมรรถนะ 2.3 นาโจทย์จากภาคประกอบการ SME OTOP มาเป็นปัญหาในการวิจัย 3.5 ส่งเสริมให้มีความกา้ วหน้าทางวิชาการจากนวัตกรรมการเรยี นการสอน พฒั นาโครงงานนักศึกษาและต่อยอด 4. พัฒนานักศึกษา 2.4 ส่งเสรมิ การนาเสนอผลงานวิจยั ใหไ้ ด้รับการตีพิมพแ์ ละอ้างอิงทั้งใน 4.1 ส่งเสริมวัฒนธรรมการทางานท่ีสอดคลอ้ งกับความต้องการของภาคอตุ สาหกรรมและสถานประกอบการ ระดับชาติและนานาชาติ 4.2 พัฒนาการเป็นผ้ปู ระกอบการใหม่ใหแ้ ก่นักศึกษา 4.3 พัฒนาความสามารถ ด้าน ICT ของนักศึกษาทุกคน และจดั ทดสอบทักษะ ด้าน ICT ตามเกณฑม์ าตรฐานที่มหาวิทยาลยั กาหนด 2.5 สง่ เสรมิ การนาผลงานไปเผยแพร่ในระดับประเทศและต่างประเทศ 4.4 พัฒนาความสามารถในการใช้ภาษาองั กฤษของนักศึกษาทุกคน และจัดทดสอบความสามารถการใช้ภาษาองั กฤษตามเกณฑ์มาตรฐานท่ีมหาวิทยาลยั กาหนด 2.6 สง่ เสริมความรว่ มมือในการวิจยั ข้ามสาขา และกาหนดแนวทางการ 4.5 เพมิ่ ทักษะทางสงั คมของบัณฑติ ใหเ้ ปน็ บณั ฑติ ที่พงึ ประสงค์ในศตวรรษที่ 21 (Competency Skills, Creativity Skill, Critical Thinking Skill, Communication Skill, Collaboration Skill, Commucation รวมกลมุ่ เช่น คลัสเตอร์ Technology Skills) 3. แสวงหาแหล่งทุนเพือ่ สนับสนุนการทาวิจัย นวัตกรรม และงานสร้างส 4.6 สนับสนุนกิจกรรมเสรมิ หลักสตู รที่ส่งเสรมิ ใหน้ ักศึกษานาศักยภาพของตนเองมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสงั คม 3.1 สร้างและพัฒนาเครือข่ายวิจยั ทั้งภายในและภายนอก 5. พัฒนาสภาพแวดล้อมต่อการเรียน 3.2 พัฒนาองค์ความรดู้ ้านการวิจยั และรูปแบบการขอทุนวิจัยท่ีสอดคลอ้ ง 5.1 พฒั นาหอ้ งปฏิบตั ิการเฉพาะทาง และหอ้ งปฏิบตั ิการช้ันสูง รองรับการผลิตและพัฒนากาลงั คมในกล่มุ อุตสาหกรรมเปา้ หมายและตามนโยบายของประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและแหลง่ ทุน 5.2 จัดให้มีหอ้ งปฏบิ ัติกิจกรรมหรอื ห้องปฏิบัตินวัตกรรมสิ่งประดิษฐน์ อกหอ้ งเรยี น (Working Space, Learning Space และ Fab. Lab.) 3.3 มุ่งเน้นงานวิจยั เชิงพาณชิ ย์รว่ มกบั รฐั -เอกชน 5.3 พฒั นาศูนย์ COE เพื่อเปน็ แหล่งปฏบิ ตั ิงานจรงิ ของอาจารย์และนักศึกษา 3.4 พัฒนางานวิจัยร่วมกบั มหาวิทยาลัย/องค์กร ในต่างประเทศ เพอื่ รบั บ 5.4 ส่งเสริมและพฒั นาแหลง่ เรยี นรใู้ หม้ ีความหลากหลายเพอื่ เอ้อื ต่อการศึกษาและการเรยี นรตู้ ลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพและสามารถใหบ้ ริการได้อย่างท่ัวถึงนาไปส่กู ารเปน็ Smart University งานวิจัยกบั บริษัทข้ามชาติมาลงทุนในประเทศไทย 5.5 สร้างสภาพแวดลอ้ มในมหาวิทยาลัยใหเ้ อ้อื ต่อการเรียนรูแ้ ละกระตุ้นการเป็นผ้ปู ระกอบการ 4. พัฒนารายได้จากงานวิจัยและนวัตกรรม 6. เครือข่ายความร่วมมือในการผลิตและพฒั นากาลังคน 4.1 แสวงหารายได้จากลขิ สทิ ธ์ิหรือสิทธิบัตรของมหาวิทยาลัย ที่สามารถน 6.1 เสริมสรา้ งความเข้มแข็งของกระบวนการผลติ และพฒั นากาลังคน โดยสร้างเครือข่ายความรว่ มมือตามรูปแบบประชารฐั ระหว่างองค์กรภายในและต่างประเทศ (จับคู่ความรว่ มมือแต่ละกลมุ่ หลักสตู ร) ต่อยอดเพือ่ ผลประโยชน์ทางธุรกิจ 6.2 สร้างเครอื ข่ายความร่วมมือท่ีเข้มแข็งกับศิษย์เก่าของมหาวิทยาลยั เพอ่ื สนับสนุนการดาเนินงานของมหาวิทยาลยั 4.2 นาผลงานวิจัยของมหาวิทยาลยั ใหเ้ กดิ รายได้เชิงพาณชิ ย์ 6.3 พฒั นากาลังคนให้สถานประกอบการด้วยระบบ Corporate University 5. การพฒั นาศักยภาพนักวิจัย 6.4 ส่งเสรมิ และสนับสนุนการพฒั นาการศึกษาข้ันพืน้ ฐานใหม้ ีคุณภาพด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมตอบสนองคนไทยในศตวรรษท่ี 21 5.1 พัฒนาศักยภาพนักวิจัยให้สามารถผลติ ผลงานที่สอดคล้องกับเป้าหมา 7. Life Long Learning ตามยุทธศาสตร์การวิจยั ของประเทศ 7.1 พัฒนาระบบการเทียบโอนผลการศึกษาในระบบ นอกระบบ และประสบการณจ์ ากการทางาน 7.2 พัฒนากาลังคนให้สถานประกอบการด้วยระบบ Work Based Learning และการ Re-skill Labor ในภาคอตุ สาหกรรมเพือ่ รองรบั Industry 4.0 ในภาคอตุ สาหกรรมการผลิตและบรกิ าร 7.3 พฒั นากาลงั คนเพือ่ รองรับ Digital Transformation 7.4 พัฒนาสอื่ การเรยี นรแู้ ละบทเรียนออนไลน์ที่สนับสนุนให้เกดิ การเรยี นรตู้ ลอดชีวิต (Life Long Learning) และสามารถพัฒนาเปน็ รายวิชาออนไลน์ (Massive Open Online Courses, MOOCs) 7.5 สง่ เสริม สนับสนุนการผลิตและพัฒนาส่ือ เสรมิ การเรยี นรูท้ างการศึกษาด้วยระบบเทคโนโลยีดิจิทัลเพ่อื การศึกษาและการเรยี นร้ตู ลอดชีวิตที่มีคุณภาพและมาตรฐานสามารถเชื่อมโยงผา่ นระบบเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย หลากหลาย และเข้าถึงได้โดยไม่จากัดเวลาและสถานที่
Search