Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานการประเมินตนเอง (Self Assessment Report : SAR) ปีการศึกษา 2562

รายงานการประเมินตนเอง (Self Assessment Report : SAR) ปีการศึกษา 2562

Description: รายงานการประเมินตนเอง (Self Assessment Report : SAR) โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ปีการศึกษา 2562

Search

Read the Text Version

รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศึกษา ๒๕๖๒ หนา้ ๕๐ ๙. แหลง่ เรียนรู้ ภมู ิปัญญาท้องถิ่น 9.1 ห้องสมดุ ห้องสมุดมีพื้นท่ีขนาด ๗๒ ตารางเมตร หนังสือในห้องสมุดมีจำนวน ๓๕๐ เล่ม มีวารสาร/หนังสือพิมพ์ ให้บริการ มีเครื่องคอมพิวเตอร์ให้บริการสืบค้นเทคโนโลยีสารสนเทศในห้องสมุด จำนวน ๑ เคร่ือง มีจำนวนนักเรียนที่ใช้ห้องสมุด ในปีการศึกษา ๒๕๖๒ เฉล่ีย ๙๐ คน ต่อวัน คิดเป็นร้อยละ ๑๘.๗๑ ของนักเรียนท้ังหมด โรงเรียนจัดมุมหนังสือนิทานไว้บรกิ านักเรียนทกุ ห้องเรียน ขนาดพ้นื ทีส่ ำหรับจัดมุมหนังสือใน ห้องเรียนมีพื้นที่ห้องเรียนละ ๔ ตารางเมตร จำนวน ๑๖ ห้องเรียน หนังสือในมุมหนังสือทุกห้องเรียน จำนวน ๕,๑๒๐ เล่ม มีนักเรียนเข้าใช้มุมหนังสือเฉลี่ย ๔๑๘ คนต่อวัน คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ ของจำนวน นักเรียนท้ังหมด บริการให้นักเรียนและผู้ปกครองสามารถยืมหนังสือนิทานกลับบ้านอย่างน้อย คนละ ๑ เล่ม ต่อสัปดาห์ และมีตะกร้าหนังสือคืนความรู้สู่ชุมชนไว้บริการสำหรับผู้ปกครองท่ีมานั่งรอนักเรียนหลังเลิกเรียน มผี ู้ปกครองมาใชบ้ ริการเฉล่ีย ๖๐ คนตอ่ วัน 9.2 หอ้ งปฏิบตั ิการ มีทง้ั หมด ๗ ห้อง จำแนกเปน็ 1) ห้องดนตรี จำนวน ๑ หอ้ ง 2) หอ้ งนาฏศิลป์ จำนวน ๑ ห้อง 3) หอ้ งโขน จำนวน ๑ หอ้ ง 4) ห้องศนู ย์การเรียนรู้ปฐมวัย จำนวน ๑ ห้อง ๕) ห้องสมุด จำนวน ๑ หอ้ ง ๖) หอ้ งภาษาอังกฤษ จำนวน ๔ ห้อง ๗) ห้องคอมพิวเตอร์ จำนวน ๑ ห้อง 9.3 เคร่อื งคอมพิวเตอร์ มีทง้ั หมด จำนวน ๖๙ เครื่อง จำแนกเป็น 1) ใช้เพ่ือการเรยี นการสอน จำนวน ๖๐ เครอ่ื ง ๒) ใช้เพ่ือสนับสนุนการบรหิ ารสถานศกึ ษา(สำนักงาน) จำนวน ๙ เคร่อื ง 9.4 แหล่งเรียนร้ภู ายในโรงเรียน ที่ ช่อื แหล่งเรียนรู้ สถติ ิการใช้ จำนวนครง้ั /ปี ๑. หหอ้ งศูนย์การเรยี นรู้นักเรยี นระดบั ปฐมวัย ๖๔๐ ๒. มมุ หนังสอื ๒๐๐ ๓. ห้องสมดุ ๖๔๐ ๔. หอ้ งภาษาอังกฤษ ๑,๙๒๐ ๕. ห้องนาฏศลิ ป์ ๒๐๐ ๖. หอ้ งโขน ๒๐๐ ๗. ห้องดนตรี ๖๔๐ ๘. ศูนย์นำ้ – ศูนย์ทราย ๑๒๘ ๙. สนามเดก็ เล่น ๖๔๐ ๑๐. หอ้ ง Cooking ๑๒๘

รายงานการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ หน้า ๕๑ ๙.๕ แหล่งเรยี นรภู้ ายนอกโรงเรยี น ท่ี ชอื่ แหล่งเรียนรู้ สถติ ิการใช้ จำนวนคร้ัง/ปี ๑. ชมุ ชนยา่ นเมอื งเกา่ ถนนถลาง ๑ ๒. พิพิธภัณฑ์ภเู กต็ ไทยหวั ๑ ๓. พิพิธภัณฑ์เพอรานากันนิทศั น์ ๑ ๔. วัดไชยธาราราม (วดั ฉลอง) ๑ ๕. สถานแสดงพนั ธส์ุ ัตวน์ ำ้ ภูเกต็ ๑ ๖. ศนู ยก์ ารเรยี นรเู้ พือ่ การพฒั นาเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบชมุ ชนบา้ นกูก้ ู ๑ ๗. ไรว่ านชิ ๑ ๘. ห้างสรรพสินค้าบกิ๊ ซีภูเก็ต ๑ ๙. ศาลเจ้าพ้อต่อก๊งบางเหนยี ว ๑ ๑๐. ป่าชายสะพานหนิ (เลในเมอื ง) ๑ ๑๑. หาดในหาน จงั หวดั ภเู ก็ต ๑ ๑๒. หา้ งสรรพสินคา้ Central Phuket Floresta ๑ ๑๓. หาดปา่ ตอง จงั หวดั ภูเกต็ ๑ ๑๔. ร้านไจแอนท์ สินคา้ ญปี่ นุ่ มือสอง ๑ 9.5 ภมู ิปญั ญาทอ้ งถิ่น ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้ทรงคณุ วุฒิ วิทยากร ทีส่ ถานศึกษาเชญิ มาให้ความรู้แกค่ รู นักเรยี น (ในปีการศึกษาทีร่ ายงาน) ที่ ชอ่ื -สกลุ ใหค้ วามรเู้ รือ่ ง จำนวนครงั้ /ปี ๑. นายนที แสงใหญ่ อาชพี ในฝนั “วิศวกรเคร่อื งบิน” ๑ ๒. พ.จ.อ.สรุ ินทร์ สุวรรณรัตน์ อาชพี ในฝัน “ทหารเรอื ” ๑ ๓. นางสาวอาทิตยา นิลทองสกุล อาชีพในฝนั “มคั คุเทศก์” ๑ ๔. พญ.วชริ าภรณ์ ระเดน่ อาชีพในฝัน “หมอ” ๑ ๕. นางกรองทอง ธรรมประดษิ ฐ์ กจิ กรรมบูรณาการพ้อตอ่ “ขนมอง่ั กู”๊ ๑ ๖. นางจิราภรณ์ รกั ษายศ อาชีพในฝัน “ผชู้ ว่ ยหมอฝ่ายเวชกรรม” ๑ ๗. นายสาธิต วานชิ กลุ อาชีพในฝัน “ฟารม์ ปลาคารฟ์ ” ๑ ๘. ทพ.ประวทิ ย์ วรี สัตยานนท์ อาชีพในฝนั “ทนั ตแพทย์” ๑ ๙. ด.ต.สมศกั ด์ิ ถาวรนรุ ักษ์ อาชพี ในฝัน “ตำรวจนำ้ ” ๑ ๑๐. นายองอาจ จิตรเกลย้ี ง อาชีพในฝนั “ทหารเรอื ” ๑ ๑๑. นางสาวประภาพร ทองดี อาชพี ในฝัน “คร”ู ๑ ๑๒. นางอรวรรณ ศรสี มุทร อาชีพในฝนั “พยาบาล” ๑ ๑๓. นางสาววรรณรกั ษ์ ทามนต์ อาชพี ในฝัน “พยาบาล” ๑

รายงานการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ หน้า ๕๒ 7. ผลงานดีเด่นในรอบปีท่ีผา่ นมา ระดบั รางวัล/ช่อื รางวัลทไี่ ด้รบั /วันที่ได้รบั หนว่ ยงานทีใ่ ห้ 10.1 ผลงานดเี ดน่ รางวัลพอเพยี งท้องถน่ิ (Local กรมสง่ เสริม ประเภท Sufficiency School : LSS) การปกครองท้องถิน่ กระทรวงมหาดไทย สถานศึกษา เป็นผูม้ ผี ลงานดเี ด่นด้านวชิ าการ เทศบาลนครภเู ก็ต ครู เนื่องในวนั ครแู ห่งชาติ ๑. นางชฎาพร ทวิสุวรรณ ๒. นางสาวคันธารตั น์ ชว่ ยเมอื ง ประจำปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ ๓. นางจรรจุรีย์ คล้ายเถาว์ วันท่ี ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ ๔. นางพวงศรี แซ่ตัน ๕. ว่าที่ ร.ต.หญิงสุพัตรา กูแหม รางวลั รองชนะเลศิ อันดบั ๑ กรมสง่ เสริมการปกครอง ๖. นายพีระพล ศรีธรรม จากการแข่งขันโครงงานปฐมวัย ท้องถิ่น งานมหกรรมการจัดการศกึ ษาท้องถิ่น นกั เรียน ระดบั ประเทศ ครั้งท่ี ๑๑ประจำปี (เทศบาลเมอื งร้อยเอด็ ) ๑. เด็กชายณฐั วรรธน์ เอย่ี มสนิ ๒๕๖๒ “รอ้ ยเอด็ วชิ าการ” ๒. เด็กหญิงกมลสริ ิ ตื้อหล้า วนั ท่ี ๙ สิงหาคม ๒๕๖๒ ๓. เด็กหญิงณชิ าภา ภัทรกจิ เจริญ รางวลั รองชนะเลิศ อันดบั ๑ เทศบาลเมืองทุ่งสง จากการแข่งขันโครงงานปฐมวัย จงั หวดั นครศรีธรรมราช งานมหกรรมการจัดการศกึ ษาทอ้ งถิ่น ระดับภาคใต้ ครงั้ ที่ ๑๕ ประจำปี ๒๕๖๒ “ชมุ ทางทุ่งสงวชิ าการ” วันที่ ๒๐ มิถนุ ายน ๒๕๖๒ รางวลั ชนะเลิศ เทศบาลนครภเู ก็ต จากการแข่งขันโครงงานระดับปฐมวยั สงั กดั เทศบาลนครภูเก็ต ประจำปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ วนั ที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๖๒

รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๒ หน้า ๕๓ ประเภท ระดบั รางวัล/ชือ่ รางวลั ที่ได้รบั /วันทไ่ี ด้รบั หน่วยงานทใี่ ห้ นักเรยี น รางวลั รองชนะเลิศ อันดบั ๒ กรมสง่ เสรมิ การปกครอง ๑. เดก็ หญิงศศิวมิ ล แซเ่ อียบ จากการแขง่ ขนั เริงเลน่ เต้นแดนเซอร์ ๒. เดก็ หญิงพชี ญา ยคุ ณุ ธร งานมหกรรมการจดั การศึกษาท้องถิ่น ท้องถิ่น ๓. เดก็ หญงิ ณิชา เพื่อนรักษ์ ระดบั ประเทศ ครั้งที่ ๑๑ประจำปี ๔. เดก็ หญงิ นุชนพนิ ศุภรนิมิตโยธิน ๒๕๖๒ “ร้อยเอ็ดวิชาการ” (เทศบาลเมืองร้อยเอด็ ) ๕. เดก็ หญิงพรรณรมล เสง้ ต้ัน วันท่ี ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๒ ๖. เดก็ หญิงพสั จ์พสิ สรา ใจสมุทร ๗. เด็กหญิงวชริ ญาณ์ เพชรสงค์ รางวัลรองชนะเลศิ อันดับ ๑ เทศบาลเมืองทุ่งสง ๘. เดก็ หญงิ แพรววนติ พฤกษารกั ษ์ จากการแข่งขนั เริงเล่นเตน้ แดนเซอร์ จงั หวดั นครศรธี รรมราช ๑๐.เดก็ ชายปวรรจุ ยุคุณธร ระดบั ปฐมวัย ๑๑.เด็กชายพัชรากร อารีย์พงศ์ งานมหกรรมการจดั การศึกษาท้องถน่ิ ระดับภาคใต้ ครั้งท่ี ๑๕ ประจำปี นกั เรียน ๒๕๖๒ “ชุมทางทุ่งสงวิชาการ” ๑. เดก็ ชายธนวรรธน์ ทองแท่ง วันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๒ ๒. เด็กชายนนทนัธ ทองบัว ๓. เด็กชายภเู บศ สคุ นธรส รางวัลชนะเลศิ เทศบาลนครภูเก็ต ๔. เด็กหญิงเกวลี ถนอมวงศ์ จากการแขง่ ขันเริงเลน่ เตน้ แดนเซอร์ ๕. เดก็ หญงิ บุญญาวรีย์ ระเด่น ระดับปฐมวยั สังกดั เทศบาลนครภูเกต็ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๒ วนั ท่ี ๒๐ มนี าคม ๒๕๖๒ รางวลั ชนะเลศิ มหาวิทยาลัยสยาม การแข่งขนั ทักษะภาษาอังกฤษ Siam I – Edu English Storytelling Contest 2020 คร้งั ที่ ๔ จบั ไมคเ์ ลา่ เร่ือง ร้อง เล่น เต้นรำ แบบฉบบั คดิ สบ์ ราววงิ ส์ ณ มหาวทิ ยาลัยสยาม กรงุ เทพมหานคร วันท่ี ๑๘ มกราคม ๒๕๖๓

รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศึกษา ๒๕๖๒ หนา้ ๕๔ ประเภท ระดับรางวลั /ชื่อรางวัลที่ได้รบั /วันทไี่ ด้รับ หน่วยงานทใ่ี ห้ นกั เรยี น รางวัลชนะเลิศ อันดบั ๓ มหาวทิ ยาลัยสยาม ๑. เด็กชายพสิษฐ์ พมิ านพรหม การแขง่ ขันทักษะภาษาอังกฤษ ๒. เด็กชายนทีบดี เรอื งประกอบกจิ Siam I – Edu English Storytelling ๓. เดก็ หญงิ ณิชชาพัชร์ ตุ้งกู Contest 2020 คร้งั ท่ี ๔ ๔. เดก็ หญงิ ชญาภา ล่ิมสิริวฒั นา จบั ไมคเ์ ลา่ เร่ือง รอ้ ง เล่น เตน้ รำ แบบฉบับคิดส์บราววิงส์ ณ มหาวทิ ยาลัยสยาม กรงุ เทพมหานคร วนั ที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๓ นกั เรยี น รางวลั เหรยี ญทอง เทศบาลเมืองทุ่งสง ๑. เด็กชายณัฐพงษ์ เบ็ญหมาด จากการแขง่ ขันเดนิ ตวั หนอนปฐมวัย จงั หวดั นครศรธี รรมราช ๒. เดก็ ชายธนพัฒน์ สอสกลุ งานมหกรรมการจัดการศึกษาท้องถน่ิ ๓. เด็กชายปราเมศ แซต่ ัน ระดับภาคใต้ ครัง้ ท่ี ๑๕ ประจำปี เทศบาลนครภเู ก็ต ๔. เด็กชายอตวิ ชิ ญ์ แซ่ซือ่ ๒๕๖๒ “ชุมทางทงุ่ สงวิชาการ” ๕. เดก็ ชายเธียรชานนท์ เลศิ ธนันเวทย์ วนั ที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๒ ๖. เด็กชายสภุ กิจ จันโท ๗. เดก็ หญิงจุฑามาศ สงทพิ ย์ รางวัลชนะเลิศ ๘. เดก็ หญิงปฐมพร จิตคง จากการแขง่ ขนั เดินตัวหนอน ๙. เดก็ หญิงปิยภัส เนาวส์ วุ รรณ ระดับปฐมวยั สังกดั เทศบาลนครภูเกต็ ๑๐. เด็กหญงิ ลัลลาลลิ ล์ รตั นธำมรงค์ ประจำปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ ๑๑. เดก็ หญิงศวิ นาถ ใจสมคม วันที่ ๑๙ มนี าคม ๒๕๖๒ ๑๒. เดก็ หญงิ สุรียพ์ ร จำปาทอง นกั เรียน รางวลั ชมเชย เทศบาลนครภูเก็ต ๑. เด็กหญิงกัญจนญ์ นุช ดวงจนั ทร์ การประกวดหนูน้อยนพมาศ เนอ่ื งในวันลอยกระทง จงั หวดั ภเู ก็ต ประจำปี ๒๕๖๒ นักเรยี น รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ ๑ เทศบาลนครภูเก็ต ๑. เด็กชายภูเบศ สุคนั ธรส จากการแขง่ ขนั การต่อเลโก้สรา้ งสรรค์ ๒. เดก็ ชายธนวรรธ ทองแทง่ ระดบั ปฐมวัย สังกดั เทศบาลนครภเู ก็ต ๓. เดก็ หญงิ เกวลี ถนอมวงศ์ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๒ วนั ท่ี ๑๘ มนี าคม ๒๕๖๒

รายงานการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ หน้า ๕๕ ประเภท ระดับรางวลั /ชือ่ รางวัลที่ได้รับ/วันทีไ่ ด้รับ หนว่ ยงานท่ใี ห้ นกั เรียน รางวลั รองชนะเลิศ อันดบั ๑ เทศบาลนครภูเก็ต ๑. เดก็ หญงิ จฑุ ามาศ สงทพิ ย์ จากการแข่งขันวาดภาพระบายสี ๒. เดก็ หญงิ ปวีรน์ ุช สายสนธ์ ระดับปฐมวัย สงั กดั เทศบาลนครภเู กต็ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๒ นกั เรียน วันท่ี ๑๘ มนี าคม ๒๕๖๒ ๑. เดก็ หญิงอภชิ ญา เสาวนา ๒. ลภัสรดา ขวัญหยดุ รางวลั รองชนะเลิศ อนั ดบั ๒ เทศบาลนครภูเก็ต ๓. กุลพชั ร สายทอง จากการแข่งขนั การสรา้ งภาพ ดว้ ยการฉีก ตั;ด ปะ ระดับปฐมวัย สังกัดเทศบาลนครภเู กต็ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๒ วันท่ี ๑๘ มนี าคม ๒๕๖๒ ๑0.2 โครงการ/กิจกรรมพิเศษ ท่ีดำเนินการตามนโยบายชาติ นโยบายกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย กรมสง่ เสริมการปกครองท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน จุดเนน้ แนวทางการปฏิรูป การศึกษา ฯลฯ ไดแ้ ก่ 1. นโยบายดา้ นความมั่นคง แนวทางหลัก : พัฒนาหลักสูตร กระบวนการเรียนการสอน : เน้นการเรียนการสอน เพื่อเกิดความปรองดอง ความสามัคคีเพ่อื นชว่ ยเพือ่ นโดยใช้รปู แบบ Active Learning โดยใช้โครงการจัดการเรียนการสอนแบบโครงงาน (Project Approach) รูปแบบการเรียน การสอนแบ บ โครงการ (Project Approach) เป็ น รูป แบ บ ห นึ่ งท่ี น่ าสน ใจ และได้รับ ความนิ ยม อย่างแพร่หลายในโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะในการจัดการเรียนการสอน ในระดับการศึกษาปฐมวัย ได้มีการนำรูปแบบนี้มาปรับใช้อย่างกว้างขวางทั้งในโรงเรียนรัฐและเอกชน เพราะเป็นการเรียนรู้อย่างลุ่มลึก สืบค้นเร่ืองราวต่าง ๆ ตามท่ีผู้เรียนสนใจ อีกทั้งเป็นการตอบสนอง ต่อธรรมชาติความอยากรู้อยากเห็นของเด็ก ความสนใจใคร่รู้ และสนองต่อการเรียนรู้แบบลงมือกระทำ โดยเน้นเด็กเป็นศูนย์กลาง ซึ่งทั้งหมดถือเป็นหลักการทางการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้แก่เด็กปฐมวัย อย่างเหมาะสม และรูปแบบการเรียนการสอนนี้ยังเป็นพ้ืนฐานสำคัญของการเตรียมความพร้อมเด็ก ส่คู วามเปน็ เลศิ ด้านวทิ ยาศาสตรไ์ ด้อีกดว้ ย

รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ หน้า ๕๖ 2. นโยบายดา้ นด้านการผลติ พฒั นากำลงั คนและสรา้ งความสามารถในการแข่งขนั แนวทางทางหลัก : ผลิต พัฒนากำลังคนและงานวจิ ยั ท่ีสอดคล้องกับการพฒั นาประเทศ 2.1 การยกระดบั มาตรฐาน พฒั นาหลักสตู ร สอ่ื และครูด้านภาษา 2.1.1 พฒั นาวิชาภาษาองั กฤษในสถานศึกษา ปัจจุบันความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการ และระบบการสื่อสารมีการเปลี่ยนแปลง ไปอย่างรวดเร็ว การเจริญเติบโตของเทคโนโลยีสารสนเทศจากนานาประเทศเร่ิมเข้าสู่ประเทศไทย และสารสนเทศ ส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งจัดได้ว่าเป็นภาษาสากล ระบบการศึกษาไทยจึงควรพัฒนา ใหค้ นไทยมีความสามารถในการใชภ้ าองั กฤษเพ่ือให้สามารถสื่อสารได้เทา่ เทียมกับอารยประเทศ โรงเรียน อนุ บาลเท ศบ าลน ครภูเก็ต เล็งเห็น ความสำคัญ ของการใช้ภ าษ าอังกฤษ ในปัจจุบัน จึงมีการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษแบบเข้มข้นในสถานศึกษา โดยพิจารณาให้นักเรียน ท่ีมีความสามารถพิเศษด้านภาษาอังกฤษ ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเน่ือง เป็นรูปธรรม มีการจัดการเรียนรู้ ท่ี เป ลี่ ย น แ ป ล ง น ำ ไป สู่ ก า ร แ ข่ ง ขั น ใน ร ะ ดั บ ต่ า ง ๆ ภ า ษ า อั ง ก ฤ ษ ซึ่ ง เป็ น ภ า ษ า ส า ก ล จึงเป็นเร่ืองที่มีความสำคัญ และมีความจำเป็นอย่างมาก การพัฒนาให้ผู้เรียนสามารถใช้ภาษาอังกฤษ ในการส่ือสาร จึงเป็นประโยชน์อย่างย่งิ สำหรับจังหวดั ภเู กต็ ในยคุ ปจั จุบนั โรงเรีย น อ นุ บ าล เท ศ บ าล น ค รภู เก็ ต สั งกั ด ส ำนั ก ก ารศึ ก ษ า เท ศ บ าล น ค รภู เก็ ต เป็นโรงเรียนระดับปฐมวัย ขนาดใหญ่ จัดการศึกษาให้แก่นักเรียนช้ันอนุบาล ๒ และอนุบาล ๓ (อายุ ๔ – ๖ ป)ี ในเขตบรกิ าร ตำบลตลาดใหญ่ และตำบลตลาดเหนอื อำเภอเมอื งภเู ก็ต จงั หวัดภูเก็ต ในปีการศึกษา ๒ ๕6๒ โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต มีนโยบายเปิดการเรียน การสอนโครงการโรงเรียนสองภาษา (Intensive English Program) จำนวน 2 ห้อง คือ ชั้นอนุบาล ๒ จำนวน ๑ ห้อง จำนวนนักเรียน ๓๐ คน และอนุบาล ๓ จำนวน ๑ ห้อง จำนวนนักเรียน ๓๐ คน รวมจำนวนนกั เรยี นทัง้ ส้ิน ๖๐ คน

รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ หนา้ ๕๗ ๑๑. ผลการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษาในปที ่ผี ่านมา ปกี ารศึกษา 256๑ ระดบั คณุ ภาพ ยอดเยี่ยม 11.1 ระดับการศึกษาปฐมวัย ดีเลศิ สรุปผลการประเมนิ ภาพรวม ดเี ลศิ  กำลังพัฒนา  ปานกลาง  ดี  ดีเลศิ  ยอดเยยี่ ม มาตรฐาน/ตัวบ่งชี้ มาตรฐานท่ี๑ คณุ ภาพของเด็ก มาตรฐานที่๒ กระบวนการบริหารและการจดั การ มาตรฐานท่ี๓ การจัดประสบการณ์ทเ่ี น้นเดก็ เปน็ สำคัญ จุดท่ีควรพฒั นา จัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ท่ีตอบสนองต่อวธิ กี ารเรยี นรู้ของแดก็ เป็นรายบุคคลหลากหลายรูปแบบ นวัตกรรม / แบบอยา่ งท่ีดี โครงการจัดการเรยี นการสอนแบบโครงงาน Project Approach ขอ้ เสนอแนะ ออกแบบการจัดประสบการณ์การเรียนร้ทู ่ตี อบสนองต่อการเรียนรขู้ องเด็กเปน็ รายบุคคล ทศิ ทาง / แนวทางการพฒั นาสถานศึกษาในอนาคต ๑. พัฒนานักเรียนใหม้ ีทกั ษะในการสอื่ สาร ภาษาท่ี ๒ และภาษาที่ ๓ ๒. พัฒนานักเรียนโดยใชร้ ูปแบบการสอบ แบบโครงงาน Project Approach ๓. พฒั นานกั เรียน หม้ ีสุขภาวะสมวยั ๔. พัฒนานักเรียน ห้เป็นคนดี มีความซ่ือสัตย์ต่อตนเอง และ ู้อ่ืน มีระเบียบวินัย มีความรับ ิด อบ รา่ เริงแจม่ ส มั่น จ นตนเอง มจี ิตสาธารณะ และรกั ทอ้ งถิน่ ๕. พัฒนานักเรยี นให้มที ักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยใชก้ ระบวนการ Project Approach ๖. ส่งเสริมความเปน็ เลิศนกั เรียนท่ีมคี วามสามารถพเิ ศษ ๗. พัฒนาศักยภาพครูและบุคลากรให้สามารถจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยกระบวนการ Active Learning ๘. พัฒนาระบบบริหารจดั การให้ไดม้ าตรฐานโดยใช้โรงเรียนเปน็ ฐาน ๙. พัฒนาระบบประกนั คุณภาพดว้ ยกระบวนการมสี ่วนร่วม ๑๐. พัฒนาสื่อนวัตกรรม แหล่งเรียนรู้ และเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพ่ือพัฒนาคุณภาพในการ จัดการเรียนการสอน และการบรหิ ารจดั การ ๑๑. พัฒนาอาคารสถานท่ี สภาพแวดล้อมในโรงเรียนให้สะอาด ปลอดภัย ร่มร่ืน เอื้อต่อการเรียนรู้ และเอ้ือตอ่ การปฏบิ ตั ิหน้าทข่ี องครแู ละบคุ ลากร ๑๒. ส่งเสรมิ ความสัมพันธร์ ะหว่างโรงเรียน บา้ น และชุมเพ่อื รว่ มมือกันพัฒนาการศึกษา ความต้องการและการช่วยเหลือ ๑. บุคลากรเฉพาะทางในการจัดการจดั การศกึ ษา ด้านการสอนศลิ ปะ ภาษาอังกฤษ ดนตรี และ โภชนาการเพื่อสนับสนุนความสามารถพิเศษเฉพาะทาง ๒. งบประมาณในการจดั ทำหลังคาคลมุ สนามเดก็ เล่น

รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ หน้า ๕๘ ๑๒. ผลการประเมนิ คุณภาพภายนอกรอบสาม นำหนกั คะแนน ระดับ ๑2.๑ ระดบั การศึกษาปฐมวัย คะแนน ท่ไี ด้ คุณภาพ ระดบั การศึกษาปฐมวยั ๕.๐๐ ๕.๐๐ ดีมาก ๕.๐๐ ๕.๐๐ ดมี าก กลุ่มตวั บ่งชีพ้ น้ื ฐาน ๕.๐๐ ๕.๐๐ ดีมาก ๑๐.๐๐ ๑๐.๐๐ ดีมาก ตัวบง่ ช้ีท่ี ๑ เดก็ มพี ัฒนาการดา้ นรา่ งกายสมวยั ๑๐.๐๐ ๑๐.๐๐ ดีมาก ๓๕.๐๐ ๓๓.๐๐ ดมี าก ตัวบ่งชีท้ ่ี ๒ เดก็ มีพฒั นาการด้านอารมณ์และจิตใจสมวัย ๑๕.๐๐ ๑๔.๐๐ ดีมาก ๕.๐๐ ๔.๗๓ ดีมาก ตวั บง่ ชที้ ี่ ๓ เดก็ มพี ฒั นาการดา้ นสงั คมสมวัย ๒.๕๐ ๒.๕๐ ดีมาก ตวั บง่ ช้ีท่ี ๔ เดก็ มพี ฒั นาการด้านสตปิ ญั ญาสมวัย ๒.๕๐ ๒.๕๐ ดมี าก ตวั บ่งชท้ี ่ี ๕ เดก็ มคี วามพรอ้ มศึกษาต่อในข้นั ตอ่ ไป ๒.๕๐ ๒.๕๐ ดีมาก ตวั บ่งชีท้ ี่ ๖ ประสิทธผิ ลของการจดั ประสบการณ์การเรยี นร้ทู เี่ นน้ เด็กเป็นสำคญั ๒.๕๐ ๒.๕๐ ดมี าก ตัวบง่ ชท้ี ่ี ๗ ประสิทธภิ าพของการบรหิ ารจัดการและการพัฒนาสถานศึกษา ๑๐๐.๐๐ ๙๖.๗๓ ดมี าก ตัวบง่ ช้ที ่ี ๘ ประสทิ ธิผลของระบบการประกันคณุ ภาพภายใน กลมุ่ ตวั บง่ ชี้อัตลกั ษณ์ ตวั บง่ ชี้ท่ี ๙ ผลการพัฒนาให้บรรลุตามปรัชญา ปณิธาน วิสัยทัศน์ พันธกิจ และวัตถุประสงคข์ องการจดั ต้งั สถานศกึ ษา ตวั บง่ ชีท้ ี่ ๑๐ ผลการพัฒนาตามจุดเน้นและจุดเด่นท่ีส่งผลสะท้อนเป็นเอกลักษณ์ ของสถานศกึ ษา กลมุ่ ตัวบง่ ชม้ี าตรการสง่ เสริม ตวั บง่ ช้ที ่ี ๑๑ ผ ล ก า ร ด ำเนิ น งาน โค ร งก าร พิ เศ ษ เพ่ื อ ส่ งเส ริ ม บ ท บ า ท ของสถานศึกษา ตัวบ่งช้ีท่ี ๑๒ ผลการส่งเสริมพัฒนาสถาน ศึกษาเพ่ือยกระดับมาตรฐาน รักษามาตรฐาน และพัฒนาสู่ความเป็นเลิศที่สอดคล้องกับแนว ทางการปฏิรูปการศึกษา คะแนนรวม ผลรวมคะแนนประเมินสถานศึกษา ๙๖.๗๓ คะแนน มีคณุ ภาพระดับ ดมี าก ผลการรบั รองมาตรฐานคุณภาพ  รับรอง ❑ ไม่รบั รอง

รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ หนา้ ๕๙ ๑๓. การพฒั นาคณุ ภาพการจัดการศกึ ษาตามแผนปฏบิ ตั ิการประจำปีของสถานศึกษา 1๓.๑ การบรหิ ารจัดการศึกษา โรงเรียน อนุบ าลเทศบ าลนครภู เก็ต ได้จัดแบ่ งโครงสร้างการบ ริห ารงานเป็น ๔ ฝ่าย โดยแบ่งเป็น ฝ่ายบริหารวิชาการ ฝ่ายบริหารงบประมาณ ฝ่ายบริหารบุคลากร และฝ่ายบริหารท่ัวไป ผบู้ รหิ ารยดึ หลกั การบรหิ าร/เทคนคิ การบริหารโดยใชโ้ รงเรยี นเปน็ ฐาน โครงสรา้ งการบริหารงานโรงเรยี นอนุบาลเทศบาลนครภเู กต็

รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ หนา้ ๖๐ 1๓.2 วิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ จุดมุ่งหมายเพื่อการพัฒนา อัตลักษณ์ และเอกลักษณ์ ของสถานศกึ ษา วิสยั ทัศน์ \" โรงเรียน อนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต พั ฒ นาผู้เรียน ให้ มีคุณ ภ าพ ส่ือสารสองภ าษ า มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และก้าวทันเทคโนโลยี น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สคู่ วามเป็นเลิศด้านการบริหารจดั การ \" พนั ธกจิ 1. เด็กมีพัฒนาการทงั้ ๔ ด้านเหมาะสมตามวัย 2. เด็กมคี วามรู้ มที กั ษะ มวี นิ ยั ปฏิบตั ติ นตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 3. เด็กเรยี นรู้ ๒ ภาษา และมคี วามสามารถดา้ นเทคโนโลยตี ามศักยภาพ 4. ครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษามจี ำนวนเพียงพอ 5. ครูมีคุณธรรม จริยธรรม มีความสามารถในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเป็น สำคญั 6. ผู้บริหารสถานศึกษามีคุณธรรม จริยธรรม มีภาวะผู้นำและมีความสามารถในการบริหาร จัด การศกึ ษา 7. ผู้ปกครอง ชุมชน และภาคเี ครือขา่ ยมีส่วนรว่ มในการจดั การศกึ ษา 8. จัดหาปจั จัย เทคโนโลยแี ละทรพั ยากรทางการศกึ ษาให้เพียงพอ มคี ุณภาพไดม้ าตรฐาน 9. สถานศึกษามีจำนวนนักเรียน มีทรัพยากร สภาพแวดล้อมท่ีส่งเสริมสนับสนุนให้เป็นสังคมแห่ง การเรยี นรู้ 10.สถานศึกษาดำเนนิ การบริหารจดั การศึกษาโดยใชโ้ รงเรยี นเป็นฐานในการพัฒนา 11.สถานศกึ ษาจดั ทำหลกั สตู รการศกึ ษาปฐมวยั ท่เี นน้ เดก็ เปน็ สำคัญ 12.สถานศึกษาจัดระบบประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษา 13.สถานศกึ ษาบรรลตุ ามเปา้ หมาย ปรชั ญา วิสยั ทศั น์ และจดุ เน้น 14.ส ถ าน ศึ ก ษ าส่ งเส ริม แ ล ะ ส นั บ ส นุ น ก ารใช้ แ ห ล่ งเรีย น รู้แ ล ะภู มิ ปั ญ ญ าท้ อ งถ่ิ น ในการจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้

รายงานการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศึกษา ๒๕๖๒ หนา้ ๖๑ ยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ ยุทธศาสตร์ แนวทางการพัฒนา หนว่ ยงานทรี่ ับผิดชอบ 1. ยุทธศาสตร์ 1.1 กลยุทธ์ผูเ้ รยี นมีพัฒนาการสมวยั ฝ่ายบรหิ ารวชิ าการ การพฒั นาคุณภาพ 1.2 กลยทุ ธ์สืบสานความเป็นไทยใสใ่ จสิ่งแวดลอ้ ม ฝา่ ยบรหิ ารท่ัวไป ผู้เรยี น ๑.๓ กลยุทธ์เดก็ ดี มคี ณุ ธรรม น้อมนำเศรษฐกิจพอเพยี ง ฝา่ ยบรหิ ารทวั่ ไป ๑.๔ กลยทุ ธ์ส่งเสรมิ ความสามารถพเิ ศษตามศกั ยภาพของผเู้ รยี น ฝา่ ยบรหิ ารทว่ั ไป ๑.๕ กลยทุ ธ์สขุ ภาพดีชวี มี ีสุข ฝา่ ยบรหิ ารทวั่ ไป 2. ยทุ ธศาสตร์ 2.1 กลยทุ ธ์พัฒนาการจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ ฝา่ ยบรหิ ารวชิ าการ การพัฒนาครู 2.2 กลยุทธ์สรรหาครูและบุคลากรตามมาตรฐานตำแหนง่ ฝา่ ยบรหิ ารบุคลากร ให้เป็นครูมอื อาชีพ 3. ยทุ ธศาสตร์ 3.1 กลยุทธ์พฒั นาระบบประกันคณุ ภาพ ฝ่ายบรหิ ารวิชาการ พฒั นาระบบบริหาร 3.2 กลยทุ ธ์พัฒนาหลักสตู รสถานศกึ ษาและหลักสตู รทอ้ งถ่ิน ฝา่ ยบรหิ ารวิชาการ จัดการให้มี 3.3 กลยุทธ์พัฒนาระบบบริหารจดั การเพื่อมุ่งสู่คุณภาพ ฝ่ายบรหิ ารงบประมาณ ประสิทธภิ าพ 3.4 กลยุทธ์พัฒนาสอ่ื และเทคโนโลยเี พื่อการศึกษา ฝา่ ยบรหิ ารงบประมาณ 4. ยทุ ธศาสตร์ 4.1 กลยุทธ์พัฒนาพฒั นาอาคารสถานท่ี ฝ่ายบรหิ ารงบประมาณ พัฒนาอาคาร 4.2 กลยทุ ธพ์ ฒั นาสภาพแวดล้อม และภูมิทศั น์ใหเ้ ออื้ ฝ่ายบรหิ ารงบประมาณ สถานท่ี และ ต่อการเรยี นรู้ สภาพแวดล้อม ใหเ้ อ้ือต่อการเรยี นรู้ 5. ยทุ ธศาสตร์ 5.1 กลยุทธ์ส่งเสริมการมสี ่วนร่วมระหว่างโรงเรยี นกบั ชมุ ชน ฝ่ายบรหิ ารท่ัวไป พฒั นาเครือข่าย 5.2 กลยุทธ์ประชาสมั พนั ธ์ข่าวสารสชู่ มุ ชน ฝ่ายบรหิ ารท่วั ไป เขม็ แขง็ จดุ มุง่ หมายเพ่ือการพฒั นา โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต จัดการศึกษาระดับปฐมวัย สำหรับเด็กอายุ 4 - 6 ปี โดยมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นมนุษย์ท่ีสมบูรณ์ มีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์จิตใจ สังคม และสติปัญญา ท่ีเหมาะสมกับวัย มีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นคนดี มีวินัย และสำนกึ ในความเปน็ ไทยตามความสามารถและความแตกตา่ งระหว่างบคุ คล จึงกำหนดเปา้ ประสงค์ ดังน้ี ๑. ผเู้ รยี นมีคุณภาพ ๒. ครแู ละบุคลากรทางการศึกษาเพยี งพอ เหมาะสมกบั มาตรฐานตำแหนง่ วิชาชพี ๓. ผู้ปกครอง ชมุ ชน และภาคีเครอื ขา่ ยมีสว่ นร่วมในการจัดการศึกษา ๔. โรงเรียนมีปจั จัย เทคโนโลยี และทรัพยากรทางการศึกษาเพียงพอ มคี ณุ ภาพ ได้มาตรฐาน ๕. โรงเรียนบรหิ ารจดั การศกึ ษาได้มาตรฐาน อตั ลกั ษณ์ของสถานศึกษา “ สุขภาพดี ร่าเริงแจ่มใส ม่นั ใจในตนเอง ” เอกลักษณ์ของสถานศกึ ษา “ สะอาดตา นา่ ดู น่าอยู่ นา่ เรียน ”

รายงานการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ หน้า ๖๒ สว่ นที่ 2 ผลการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา 1. ผลการประเมนิ คุณภาพตามมาตรฐานการประกันคุณภาพภายในสถานศกึ ษา 1.1 ระดบั ปฐมวัย มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของเดก็ ระดบั คุณภาพ ยอดเย่ียม วธิ ดี ำเนนิ การ โ ร ง เรี ย น อ นุ บ า ล เท ศ บ า ล น ค ร ภู เก็ ต ด ำ เนิ น ก า ร พั ฒ น า คุ ณ ภ า พ เด็ ก ให้มีพัฒ นาการท้ัง ๔ ด้าน คือด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญ ญ า เหมาะสมตามวัย มีความพรอ้ มในการเรยี นต่อระดบั ช้นั ท่ีสูงขึน้ โดยมวี ิธกี ารดำเนนิ การเพอ่ื ส่งเสรมิ คุณภาพเด็กในด้านต่าง ๆ ดงั น้ี ๑.๑ มพี ัฒนาการดา้ นร่างกายแข็งแรง มสี ุขนิสัยท่ีดี และดูแลความปลอดภัยของตนเองได้ ๑.๑.๑ รา่ งกายแข็งแรง น้ำหนักและส่วนสูงตามเกณฑ์ของกรมอนามัย โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต เป็นโรงเรียนท่ีมุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพนักเรียน จึงได้ จั ด ท ำแผ น พั ฒ น าก ารศึ ก ษ า แ ล ะแ ผ น ป ฏิ บั ติ ก ารป ระจ ำปี ซึ่ งได้ มี ก ารก ำห น ด เป้ าห ม าย ในการพัฒ นานักเรียน ให้มีการเจริญ เติบโต และแข็งแรงสมวัย ให้ความสำคัญ กับการดำเนินงาน เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีน้ำหนัก และส่วนสูงตามเกณฑ์มาตรฐาน โดยกำหนดไว้ในจุดหมายของหลักสูตร สถานศึกษา ครูผู้สอนทุกคนออกแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ เพ่ือส่งเสริมให้นักเรียนมีพัฒนาการ ต า ม จุ ด ห ม า ย ข อ ง ห ลั ก สู ต ร ต า ม ม า ต ร ฐ า น คุ ณ ลั ก ษ ณ ะ ท่ี พึ ง ป ร ะ ส ง ค์ ด้ า น ร่ า ง ก า ย คือ ร่างกายเจริญเติบโตตามวัย และมีสุขนิสัยท่ีดี จึงได้จัดประสบการณ์ให้กับนักเรียนผ่าน หน่วยการเรียนรู้ เช่ น กิ น ดี อ ยู่ เป็ น เล่ น อ ย่ า ง ส ร้ า ง ส ร ร ค์ ห น่ ว ย ก า ร เรี ย น รู้ ข ยั บ ก า ย ส บ า ย ชี วี เป็ น ต้ น โดยจัดกิจกรรมเสริมป ระสบ ก ารณ์ เคลื่อนไห วและจังหวะ กิจกรรมเล่นกลางแจ้ง กิจกรรมเสรี และเกมการศึกษา กิจกรรมออกกำลังกายยามเช้าหน้าเสาธง เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนรักการออกกำลังกาย เพ่ือสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง นอกจากนี้ ยังได้จัดบริการ โครงการโภชนาการสมวัยเพื่อเด็กปฐมวัย เพื่ อดู แลและช่วยเห ลือ นั กเรียน ให้ ได้รับ ป ระท าน อาห ารดี มี ป ระโยช น์ สะอาด ถูกสุขลักษ ณ ะ และถกู หลักโภชนาการ งานอนามัย ได้จัดโครงการส่งเสริมสุขภาพในโรงเรียนด้วยการจัดกิจกรรมหนูน้อยสุขภาพดี เป็นการตรวจสุขภาพนักเรียน มีการดำเนินการตรวจสุขภาพนักเรียนทุกเช้าก่อนเข้าโรงเรียน และเข้าห้องเรียน โดยครูเวรรับนักเรียน และครูประจำชั้น กิจกรรมชั่งน้ำหนักวัดส่วนสูง เพ่ือสำรวจจำนวน และรายชื่อนักเรียน ที่มีน้ำหนัก ส่วนสูงไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานกรมอนามัย โดยดำเนินการชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูง ให้กับนักเรียนทุกคนในสัปดาห์ท่ี 1 ของเดือน และติดตามผลในเดือนต่อ ๆ ไป หากพบนักเรียนมีน้ำเกินเกณฑ์ ทางโรงเรียนได้จัด กิจกรรมแก้ไขปัญ หานักเรียนที่มีภ าวะทุพโภ ชนาการ ด้วยการออกกำลังกาย กิจกรรมโภชนาการและอาหารกลางวัน กิจกรรมอาหารเสริม (นม) โรงเรียน เป็นบริการจัดอาหารกลางวัน ท่ีเหมาะสมให้กับนักเรียนท่ีมีปัญหาน้ำหนักเกินเกณฑ์และต่ำกว่าเกณฑ์ ซ่ึงท้ัง 3 กิจกรรมเป็นกิจกรรม ที่ต่อเนื่องจากกิจกรรมชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง จัดป้ายนิเทศให้ความรู้ด้านโภชนาการ และสุขภาพอนามัย แจ้งข้อมูลเปรียบเทียบน้ำหนักส่วนสูงให้ผู้ปกครองทราบการเจริญเติบโตของนักเรียนหน้าห้องเรียนทุกเดือน กองการแพทย์เทศบาลนครภูเก็ตตรวจสุขภาพนักเรียน หากพบนักเรียนที่มีภาวะทุพโภ ชนาการ

รายงานการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ หน้า ๖๓ กใ็ หไ้ ดร้ ับการแก้ไข โดยนักเรียนทม่ี ีนำ้ หนกั ต่ำกวา่ เกณฑ์ กม็ ีการดแู ลเร่ืองการรับประทานอาหารอย่างเพียงพอและ นกั เรียนท่ีมีนำ้ หนกั เกินเกณฑ์ โรงเรียนจัดกิจกรรมออกกำลังกายและขอความร่วมมือผู้ปกครองในการดูแลควบคุม การรบั ประทานอาหาร ใหเ้ หมาะสม งานกีฬาและนันทนาการ ได้จัดโครงการกีฬาและนันทนาการ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียน ออกกำลังกาย ผ่านกิจกรรมกีฬา เช่น การแข่งขนั กฬี านักเรยี นอนุบาลเทศบาลนครภเู ก็ตสมั พันธ์ เป็นต้น งานประชาสัมพันธ์ ติดต่อส่ือสารกับผู้ปกครอง ผ่านจุลสารพวงชมพูสัมพันธ์ เพื่อให้ความรู้ แก่ผู้ปกครองในการดูแลบุตรหลาน ให้คำแนะนำแก่ผู้ปกครองให้รับทราบถึงโทษภัยของอาหารที่มีรสหวาน อาหารกรุบกรอบ อาหารทอด และโรคอ้วน ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครองให้กวดขันพฤติกรรม การบริโภคของบตุ รหลาน เคลื่อนไหวร่างกายอย่างคล่องแคล่วประสานสัมพันธ์และทรงตัวได้ดี / ใช้มือตาประสาน สัมพนั ธ์กัน โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมพัฒนาการ ของเด็กป ฐมวัยให้ มีความครอบ คลุมท้ั ง 4 ด้าน จึงได้วางแผน การ จัดป ระสบ การณ์ การเรียน รู้ โดยให้ครูและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนร่วมกันวางแผนจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาที่สอดคล้องกับความต้องการของ ผู้เรียน ผู้ปกครอง และชุมชน โดยจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อให้นักเรียนมีประสบการณ์สำคัญครอบคลุม ท้ัง 4 ด้าน โดยคำนึงถึงจุดหมายของผู้เรียนตามมาตรฐานคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนตามวยั ทสี่ อดคลอ้ ง กับหลักสูตรสถานศึกษา และหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 25๖๐ โดยการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ผ่านกิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม ตามตารางกิจกรรมประจำวันเพ่ือช่วยให้นักเรียน เกิดทักษะท่ีสำคัญสำหรับ การสรา้ งองคค์ วามรู้ โดยให้นักเรียนมีปฏิสมั พันธ์กับวัตถุ ส่งิ ของ บุคคลตา่ ง ๆ ท่อี ยรู่ อบตัว การพัฒนากล้ามเนื้อใหญ่ เพื่อให้นักเรียนเกิดประสบการณ์สำคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการ ด้านร่างกาย กล้ามเนื้อใหญ่มีความแข็งแรง มีทักษะในการทรงตัว สามารถเคลื่อนไหว และใช้งานอวัยวะต่าง ๆ ได้อยา่ งคล่องแคล่ววอ่ งไว โรงเรียนฯ จงึ ได้จัดประสบการณ์ใหก้ ับนักเรยี นผ่านกิจกรรมประจำวนั ไดแ้ ก่ เคลื่อนไหว และจงั หวะ และกิจกรรมกลางแจ้ง เชน่ การเคลื่อนไหวอยกู่ ับที่ การเคลอ่ื นไหวเคล่ือนท่ี การเคล่อื นไหวพร้อมวัสดุ อุปกรณ์ การเคลื่อนไหวร่างกายตามจังหวะดนตรีและเสียงเพลง การเล่นกลางแจ้ง การเล่นเครื่องเล่นสนาม และการละเล่นแบบไทย การพัฒนากล้ามเนื้อเล็ก เพื่อให้นักเรียนสามารถใช้กล้ามเน้ือมัดเล็กได้อย่างแข็งแรง และการทำงาน ของมือกับตาป ระสาน สัมพั น ธ์กัน โรงเรียนฯ ได้จัดป ระสบ การณ์ ให้กับ นักเรียน ผ่าน กิจกรรม ป ระจำวัน ได้ แก่ กิจกรรมศิ ลป ะสร้างสรรค์ กิจกรรมเสรี กิจกรรม เกมการศึ กษ า และกิจกรรมเสริมประสบการณ์ เช่น การเล่นเคร่ืองเล่นสัมผัส การเล่นน้ำ เล่นทราย เล่นเกมต่อภาพ การวาดภาพระบายสี การเล่นกับสี การป้ัน การประดิษฐ์ต่าง ๆ ด้วยดินเหนียว ดินน้ำมัน เศษวัสดุ การฉีก การตัด การปะ การต่อบล็อก การช่วยเหลือตนเองในการแต่งกาย และการหยิบจั บช้อนส้อม ร ว ม ถึ ง กิ จ ก ร ร ม ต่ า ง ๆ ท่ี นั ก เรี ย น ต้ อ ง ใช้ มื อ ใน ก า ร ห ยิ บ จั บ ล ง มื อ ป ฏิ บั ติ ด้ ว ย ต น เอ ง เช่น กิจกรรมการสังเกตด้วยแว่นขยาย กิจกรรมการทดลอง กิจกรรมการทำอาหาร ซึ่งการจัดกิจกรรมดังกล่าว มี ท้งั การจดั เปน็ กจิ กรรมในหอ้ งเรียน กจิ กรรมนอกห้องเรยี นและการเรยี นรูน้ อกสถานที่ เป็นตน้

รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ หน้า ๖๔ ๑.๑.๒ มีสขุ นสิ ัยท่ีดี เด็ ก ใน ช่ ว ง อ า ยุ ๐ – ๖ ปี เป็ น ช่ ว ง วั ย ท่ี พั ฒ น า ก า ร ข อ ง เด็ ก ใน ช่ ว ง อ า ยุ นี้ จ ะ ส่ ง ผ ล ต่ อ ก า ร เจ ริ ญ เติ บ โ ต เป็ น ผู้ ท่ี มี สุ ข ภ า พ อ น า มั ย ที่ ดี แ ล ะ มี คุ ณ ภ า พ ชี วิ ต ท่ี ดี นั้ น ย่อมเกิดจากการได้รับการอบรมดูแลอย่างถูกวิธี การฝึกสุขนิสัยเพื่อการรักษาสุขภาพอนามัยท่ีดี จึงมีความสำคัญยิ่งเน่ืองจากเด็กเล็กในช่วงปฐมวัยเป็นวัยท่ีเส่ียงต่อการเจ็บป่วย พิการหรือเสียชีวิตได้ง่าย การดู แลแ ละอบ รม เล้ี ยงดู ให้ เด็ ก รู้จัก ป้ องกัน ต น เอ งก ารฝึ กให้ มี สุ ขนิ สัย ท่ี เป็ น ผู้ มี ภู มิ คุ้ ม กั น โรค ไม่ เจ็ บ ป่ ว ย บ่ อ ย ล ด ภ า ร ะ ค่ า ใช้ จ่ า ย จ า ก ก า ร รั ก ษ า พ ย า บ า ล ท้ั ง จ า ก ค ร อ บ ค รั ว แ ล ะ ภ า ค รั ฐ และเดก็ มสี ุขภาพอนามัยท่ดี ี มีโอกาสในการเรียนรู้ได้ดีกว่าเดก็ ทม่ี ีภาวะความเจ็บป่วยต่าง ๆ โร ง เรี ย น อ นุ บ า ล เท ศ บ า ล น ค ร ภู เก็ ต ต ร ะ ห นั ก ถึ ง ค ว า ม ส ำ คั ญ ข อ ง ก า ร เส ริ ม ส ร้ า ง สุ ข นิ สั ย ในการรักษาสุขภาพและอนามัยสำหรับเด็กปฐมวัย ท้ังน้ี ได้จัดกิจกรรมการเรียนรู้เพ่ือให้เด็กฝึกปฏิบัติตน ได้ ถู ก สุ ข ลั ก ษ ณ ะ จ ะ เป็ น ป ร ะ โย ช น์ ส ำ ห รั บ เด็ ก ท้ั งใน ด้ า น ก า ร เจ ริ ญ เติ บ โต อ ย่ า งมี คุ ณ ภ า พ การปฏิเสธในส่ิงที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย การเสริมสร้างสุขนิสัย และการรักษาสุขภาพอนามัย ส ำ ห รั บ เด็ ก ป ฐ ม วั ย ป ระ ก อ บ ด้ ว ย ก าร ฝึ ก สุ ข นิ สั ย ใน ก ารกิ น ก ารน อ น ก าร เล่ น ก ารขั บ ถ่ า ย การรักษาความสะอาด เป็นต้น ซ่ึงทางโรงเรียนได้ร่วมกันจัดทำแผน และมีการกำหนดเป้าหมายการพัฒนา เพอ่ื เสริมสร้างสุขนิสยั ในการรักษาสุขภาพและอนามยั แกเ่ ด็ก โดยมวี ธิ กี ารดำเนินงานดงั ต่อไปนี้ ๑. โครงการส่งเสริมสขุ ภาพในโรงเรียน การมีสุขภาพดี ถือเป็นลักษณะอันพึงประสงค์ประการแรกของคนไทย เพ่ือให้นักเรียน มี สุ ข นิ สั ย สุ ข ภ า พ ก า ย แ ล ะ สุ ข ภ าพ จิ ต ที่ ดี ซึ่ งเป็ น ก า ร ว า งร า ก ฐ า น ด้ า น สุ ข ภ า พ ให้ เข้ ม แ ข็ ง ด้วยการเตรียมความพร้อมเพ่ือป้องกันปัญหาสุขภาพต้ังแต่แรกเริ่ม ทางโรงเรียนฯ จึงได้จัดกิจกรรม เพ่ือปลูกฝังนิสัย ในการดูแลรักษาสุขภาพให้แก่นักเรียน เพ่ือให้นักเรียนมีสุขนิสัย สุขภาพกาย และสุขภาพจิตที่ดี มีสุขนิสัยในการดูแลสุขภาพ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ สามารถป้องกันตนเอง จากส่ิงเสพติดให้โทษ และหลีกเล่ียงสภาวะท่ีเส่ียงต่อความรุนแรง โรคภัย และอุบัติเหตุ ประกอบด้วยกิจกรรมหนูน้อยสุขภาพดี เป็นกิจกรรมท่ีส่งเสริมให้นักเรียน ครู และผู้ปกครองเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพ โดยจัดให้มีกิจกรรม การตรวจคัดกรองสุขภาพนกั เรียนก่อนเข้าโรงเรียน โดยครูเวรประจำวัน เพ่ือคัดกรอง การเจ็บปว่ ย และโรคติดต่อ มิให้แพร่ระบาด ส่งเสริมให้ผู้ปกครอง ตระหนักถึงการดูแลสุขภาพของบุตรหลาน และตรวจสุขภาพนักเรียน โดยครูประจำชั้นก่อนเข้าห้องเรียน เป็นการคัดกรองสุขภาพนักเรียน 2 ชั้น กิจกรรมชั่งน้ำหนักวัดส่วนสูง เป็นกิจกรรมเพ่ือเฝ้าระวังดูแล เร่ืองภาวะทุพโภชนาการของนักเรียน มีการชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูงทุกสัปดาห์แรก ของเดือน เพ่ือติดตามและเฝ้าระวัง นักเรียนที่มีน้ำหนัก ส่วนสูงไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานกรมอนามัย ตลอดจนช่วยเหลือนักเรียนท่ีมีปัญหาทุพโภชนาการ และติดตามผลในเดือนต่อ ๆ ไป หากพบนักเรียน มีน้ำเกินเกณฑ์ ทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมแก้ไขปัญหานักเรียนท่ีมีภาวะทุพโภชนาการ ด้วยการออกกำลังกาย กิจกรรมโภชนาการและอาหารกลางวัน กิจกรรมอาหารเสริม (นม) โรงเรียน เป็นบริการจัดอาหารกลางวัน ท่ีเหมาะสมให้กับนักเรียนท่ีมีปัญหาน้ำหนักเกินเกณฑ์และต่ำกว่าเกณฑ์ ซึ่งทั้ง 3 กิจกรรมเป็นกิจกรรมท่ีต่อเนื่อง จากกิจกรรมช่ังน้ำหนัก วัดส่วนสูง จัดป้ายนิเทศให้ความรู้ด้านโภชนาการ และสุขภาพอนามัย แจ้งข้อมูล เปรียบเทียบน้ำหนัก ส่วนสูง ให้ผู้ปกครองทราบการเจริญเตบิ โตของนกั เรียนหน้าหอ้ งเรยี นทุกเดอื น กองการแพทย์ เทศบาลนครภูเก็ต ตรวจสุขภาพนกั เรียน หากพบนักเรยี นท่ีมีภาวะทพุ โภชนาการ ก็ให้ได้รบั การแก้ไข โดยนักเรียน ที่มีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ก็มีการดูแลเรื่องการรับประทานอาหารอย่างเพียงพอและนักเรียนท่ีมีน้ำหนักเกินเกณฑ์ โรงเรียนจัดกิจกรรมออกกำลังกาย และขอความร่วมมือผู้ปกครองในการดูแลควบคุมการรับประทานอาหาร

รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ หนา้ ๖๕ ให้เหมาะสม กิจกรรมหนูน้อยรักษ์ฟั น เพ่ือส่งเสริมให้นักเรียนแป รงฟั นหลังรั บ ประท านอาห าร และส่งเสริมให้ผู้ปกครองดูแลสุขภาพฟันของบุตรหลาน กิจกรรมห้องเรียนปลอดเหา มีการสำรวจศีรษะนักเรียน หากพบนักเรียนเปน็ เหาจะมกี จิ กรรมกำจัดเหาทกุ วนั พุธสปั ดาห์ที่ 3 ของเดอื น ๒. โครงการอนุบาลน่าอยปู่ ลอดโรค เป็ น กิจกรรม ที่ จัดข้ึน เพ่ื อให้ ครู ผู้ป กครอง และนั กเรียน ตระห นั กถึงความสำคั ญ ข อ งก าร รัก ษ าสุ ข ภ าพ อ น ามั ย ข อ งต น เอ ง แ ล ะ บุ ค ค ล ใน ค รอ บ ค รัว ให้ ห่ างไก ล จ าก โร ค ติ ด ต่ อ ประกอบด้วยกิจกรรมตรวจสุขภาพประจำวัน กิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้ด้านสุขภาพด้วยป้ายประชาสัมพันธ์ความรู้ ด้ าน สุ ข ภ าพ แ ล ะ โรค ติ ด ต่ อ แ ล ะ จุ ล ส ารพ ว งช ม พู สั ม พั น ธ์ กิ จ ก รรม ห้ อ งเรีย น วัค ซี น 1 0 0 % เพ่ือสำรวจการรับวัคซีน ภาคบังคับของนักเรียนให้ครบถ้วน กิจกรรมรณ รงค์ป้องกันไข้เลือดออก เพ่ือส่งเสริมให้นักเรียนและผู้ปกครองตระหนักถึงการดูแลตน เอง และบริเวณที่พักอาศัยให้ปลอดภัย จ า ก แ ห ล่ ง ว า ง ไข่ ข อ ง ลู ก น้ ำ ยุ ง ล า ย กิ จ ก ร ร ม Big Cleaning Day เพ่ื อ ร ณ ร ง ค์ ให้ ค รู นั ก เรี ย น ตลอดจนผู้ปกครองได้ร่วมกันทำความสะอาดบริเวณห้องเรียน โรงเรียน และท่ีพักอาศัย เพ่ื อให้ปลอดภัย จากอันตรายต่าง ๆ กิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้เพื่อป้องกันยาเสพติด เพ่ือให้ความรู้แก่นักเรียน และผู้ปกครอง ในการปอ้ งกนั ตนเองใหห้ า่ งไกลจากยาเสพติด ๓. โครงการกีฬาและนันทนาการ เพ่ือส่งเสริมให้นักเรียนออกกำลังกาย ผ่านกิจกรรมกีฬา เช่น การแข่งขันกีฬานักเรียนอนุบาล เทศบาลนครภูเก็ตสัมพันธ์ และการแข่งขันกีฬาสีภายใน เป็นต้น เพ่ือส่งเสริมให้นักเรียนมีสุขนิสัย ในการดูแลสุขภาพของตนเองด้วยการออกกำลงั กายอย่างสมำ่ เสมอ ๔. โครงการประชาสมั พันธ์ข่าวสารส่ชู ุมชน เพื่อติดต่อส่ือสารกับผู้ปกครอง ผ่านจุลสารพวงชมพูสัมพันธ์ เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ปกครอง ใน การดูแลบุ ตรหลาน ให้คำแนะนำแก่ผู้ป กครองให้ รับ ทราบถึงโท ษ ภั ยของอาหารท่ี มีรสห วาน อ าห าร ก รุ บ ก รอ บ อ าห าร ท อ ด แ ล ะ โรค อ้ ว น ให้ ค ว าม รู้ เก่ี ย ว กั บ โรค ติ ด ต่ อ แ ล ะ ก าร ป้ อ งกั น ตลอดจนให้ความรู้ด้านสุขภาพต่าง ๆ และโรคภัยไข้เจ็บที่มาตามฤดูกาล เพ่ือให้ผู้ปกครองร่วมมือ ส่งเสริมสุขภาพนักเรียนให้มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคภัยเบียดเบียน ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง ให้กวดขันพฤติกรรมการบริโภคของบุตรหลานใหร้ จู้ กั เลือกรบั ประทานอาหารทีม่ ปี ระโยชน์ ๕. กจิ กรรมกิจวัตรประจำวัน เพื่ อ สร้างสุขนิ สัย ที่ ดีให้ กับ นั กเรียน เพ่ื อส่ งเส ริม ให้ นั กเรียน รู้จักก ารดู แล ตน เอ ง และช่วยเหลือตนเอง เพื่อให้นักเรียนมีสุขนิสัยที่ดีในการรักษาสุขภาพอนามัยของตนเอง ได้แก่ การฝึกสุขนิสัย ใน การรับป ระท าน อาห าร การล้างมือก่อนรับ ป ระท าน อาห าร รับ ป ระท าน สะอาด ปรุงสุกให ม่ และอาห ารท่ี มีคุณ ค่ากับ ร่างกาย เช่น ผัก ผลไม้ ป ลา เน้ื อ น ม ไข่ การดื่มน้ ำสะอาดอย่างน้ อย วันละ 4 - 6 แก้ว การฝึกตนเอง ในการรับประทานอาหารเป็นเวลา การฝึกการแปรงฟันอย่างถูกวิธี หลังรับประทานอาหาร และการฝึกการป้องกันโรคภัยที่ติดต่อกัน เช่น การไม่ใช้ภาชนะ และเครื่องใช้ส่วนตัว ในการรับประทานอาหาร ดื่มน้ำ ร่วมกับผู้อื่น เป็นต้น การสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอนเพ่ือให้จิตใจสงบ แจ่มใส จนเคยชินเป็นนิสัย เป็นต้น การฝึกสุขนิสัยในการขับถ่าย ฝึกการขับถ่ายเป็นเวลา ฝึกทำความสะอาด อวัยวะ เม่ือมีการขับถ่ายด้วยการล้างน้ำให้สะอาด และทำความสะอาดมือทุกครั้งเม่ืออุจจาระหรือปัสสาวะ

รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ หน้า ๖๖ ฝึกทำความสะอาดเคร่ืองสุขภัณฑ์เม่ือใช้เรียบร้อยแล้ว ฝึกเลือกให้ใช้ห้องน้ำ ห้องส้วมที่สะอาด และขับถ่าย ในห้องส้วมเท่านั้น การสวมรองเท้า เมื่อออกนอกห้องเรียนหรือออกจากบ้าน การตัดเล็บให้สะอาด การดูแลตรวจเลบ็ ใหก้ บั เด็กอยา่ งน้อยสปั ดาห์ละคร้งั การปดิ ปากเม่ือไอหรือจาม เป็นตน้ ๑.๑.๓ ดแู ลความปลอดภัยของตนเองได้ การฝึกสุขนิสัยในชีวิตประจำวันและการป้องกันอุบัติเหตุ การฝึกเก่ียวกับเร่ืองขึ้นลงบันได การไม่วิ่งในอาคารเรยี น เป็นต้น การฝึกสุขนิสัยในการเล่นและการป้องกันอุบัติเหตุฝึกเล่นเป็นเวลา เมื่อถึงเวลาอ่ืนๆ ก็ควรจะเลิกเล่น เช่น เวลาเรียน เวลารับประทานอาหาร เวลานอน เป็นต้น ฝึกเล่นในท่ีสะอาด และปลอดภัย ท่ีครูแนะนำ ไม่ไปในสถานที่อันตราย เช่น บริเวณครัวที่กำลังประกอบอาหาร บริเวณอาคารก่อสร้าง บรเิ วณแหล่งนำ้ บอ่ บริเวณปลั๊กไฟฟา้ เป็นต้น ฝึกให้เลือกของเล่นท่ีไม่เป็นอันตราย ไม่เล่นของแหลมคม และไม่นำของเล่นเข้าปาก ไม่กัดแทะของคมของแข็งเพราะฟันจะบ่ิน หัก และของแหลมจะท่ิมแทงหรือติดค้างอวัยวะในช่องปาก และไม่เล่นของสกปรก เช่นมูลสัตว์ ขยะมูลฝอย ฝึกการเล่นอย่างปลอดภัย รู้จักระมัดร ะวังอันตราย ทัง้ ของตนเองและผอู้ ืน่ เชน่ การเลน่ เครอื่ งเลน่ สนาม ๑.๒ มพี ฒั นาการด้านอารมณ์ จติ ใจ ควบคุมและแสดงออกทางอารมณ์ได้ ๑.๒.๑ มสี ุขภาพจิตดแี ละมคี วามสุข แสดงอารมณต์ ามความรสู้ กึ ได้ตามสถานการณ์ เด็กปฐมวัยเป็นช่วงความสำคัญ เพราะเป็นช่วงเวลาท่ีเด็กได้เรียนรู้เร่ืองต่าง ๆ มากที่สุดในชีวิต ในขณ ะท่ีพัฒ นาการด้านร่างกายของเด็กปฐม วัยมีการเจริญ เติบโต เด็กก็มีการเรียนรู้ด้านอารมณ์ ไป พ ร้อม ๆ กัน เด็กป ฐมวัยจะแสดงออกด้าน อารมณ์ อย่างเด่น ชัด มีค วามสน ใจใน เร่ืองต่ าง ๆ ค่อนข้างส้ัน เวลาดีใจ เสียใจ โกรธ หรือกลัวก็จะแสดงอารมณ์ออกมาเต็มที่ ได้แก่ กระโดด กอด ปรบมือ โวยวาย ร้องไห้เสียงดัง ทุบตี ขว้างปาส่ิงของ ไม่พอใจเม่ือถูกห้าม ฯลฯ อารมณ์เกิดขึ้นกับเด็กวัยนี้มีท้ังอารมณ์เชิงบวก และอารมณ์เชิงลบ เพื่อให้เด็กมีพัฒนาการทางอารมณ์ท่ีเหมาะสม มีสุขภาพจิตที่ดี ได้รับการยอมรับ จากคนรอบข้าง การฝึกทักษะทางอารมณ์ การส่งเสริมให้แสดงออกทางอารมณ์ อย่างเหมาะสม โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมให้เด็กได้กล้าแสดงออกทางอารมณ์ได้สอดคล้อง กบั สถานการณแ์ ละเหมาะสมกับวัย โดยมกี าระบวนการดำเนินงานดงั น้ี การจัดหน่วยการเรียนรู้ตามหลักสูตรสถานศึกษา โดยจัดประสบการณ์การเรียนท่ีหลากหลาย ให้นักเรียนได้เรียนรู้ผ่านการเล่นปนเรียน โดยใช้กิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ร่วมกับ เพ่ือนและผู้อื่นได้อย่างมีความสุข รู้จักตนเอง และยอมรับความสามารถของผู้อ่ืน ส่งเสริมให้นักเรียนทำกิจกรรม เป็ น ก ลุ่ ม เป็ น ร า ย บุ ค ค ล เพ่ื อ ให้ นั ก เรี ย น รู้ จั ก ก า ร เป็ น ผู้ น ำ ผู้ ต า ม ต า ม ส ถ า น ก า ร ณ์ ต่ า ง ๆ กิจก รรม ที่ จัด ให้ กั บ นั ก เรียน เป็ น ก ารฝึ ก ป ระสบ ก ารณ์ ให้ กั บ นั ก เรีย น ให้ ค รอ บ ค ลุม ท้ั ง 4 ด้ าน และที่สำคัญ การทำงานเป็นกลุ่ม เป็นการฝึกให้นักเรียนรู้จักการแบ่งปัน การรอคอย การให้อภัย และยอมรบั ผูอ้ น่ื เพ่ือเป็นพ้ืนฐานสำคญั ทางสังคมในอนาคต ครูเป็นแบบอย่างในการแสดงออกทางอารมณ์ที่เหมาะสม เมื่อเด็กดื้อก็ต้องแสดงเหตุผล เพ่ือให้เด็กตัดสินใจ และยอมรับกติกาหรือเง่ือนไขการปฏิบัติต่าง ๆ ด้วยความเข้าใจไม่ใช้ การบังคับ จัดให้มีเวรประจำวันมอบหมายหน้าที่ให้นักเรียนรับผิดชอบในห้องเรียน ในโรงเรียน เช่น เวรสภานักเรียน ประจำวัน เวรสายตรวจประหยัดพลังงาน เวรเก็บขยะ เวรประจำวันในห้องเรียน เพ่ือฝึกให้นักเรียน

รายงานการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศึกษา ๒๕๖๒ หน้า ๖๗ มีความรับผิดชอบ ต่อตนเอง และส่วนร่วม ครูประจำชั้นมีการรับเด็กหน้าห้องเรียน แสดงออกถึงการยอมรับ การต้อนรับ การเอาใจใส่ ความห่วงใยท่ีเด็กได้รับจะทำให้เกิดความม่ันคงทางอารมณ์ เม่ือต้องการ หรือไมต่ อ้ งการในสิง่ ใดก็สามารถสื่อสาร เพ่ือทำใหค้ วามเขา้ ใจรว่ มกนั ได้ไมม่ ีความรสู้ ึกขัดแยง่ หรือคบั ข้องใจ โครงการวันสุนทรภู่ เป็นโครงการเสริมประสบการณ์ด้านภาษาแก่นักเรียน สามารถกระตุ้น และส่งเสริมให้เด็กแสดงออกทางอารมณ์ตามสถานการณ์ ท่ีหลากหลาย เช่น มีความสุขเมื่อได้ฟังนิทาน เรื่อง ม้านิลมังกร มีอารมณ์ คล้อยตามจากการจัดกิจกรรม เช่น ดีใจ เสียใจ สนุกสนาน นอกจากนี้ กิจกรรมวนั สุนทรภู่ ยังส่งเสรมิ ใหน้ ักเรียนมีความม่ันใจ ในตนเอง ด้วยการแสดงละคร การประกวดแต่งกายแฟนซี ตัวละครในเรือ่ งพระอภยั มณี ครูส่งเสริมการแสดงออกทางอารมณ์อย่างเหมาะสมโดยการเล่านิทาน ซ่ึงเป็นการให้ต้นแบบ ท่ีพึงประสงค์ และใช้การต้ังคำถามเพ่ือการสรุปความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติอย่างเหมาะสม จากการฟังนิทาน ท่ีมีตัวแบบที่มีพฤติกรรมทางอารมณ์ท่ีเหมาะสมทำให้เด็กมีความมั่นใจในการแสดงออก อยา่ งเหมาะสมย่งิ ขน้ึ กลา้ พูดกลา้ แสดงออก ความเชื่อม่ันในตนเอง (Self Confidence) หมายถึง การกล้าตัดสินใจในการทำสิ่งใดสิ่งหน่ึง ด้วยความม่ันใจ กล้าแสดงออกสามารถทำส่ิงต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเองพึ่งพาตนเองและสามารถป รับตัว ให้เข้ากับสถานการณ์ ใหม่ ๆ เพ่ือให้อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข เด็กท่ีมีความเชื่อม่ันในตนเอง สามารถสังเกตได้จากพฤติกรรมหรือการกระทำท่ีเกิดขึ้นในการดำรงชีวิตแต่ละวันมีความภาคภูมิใจในตนเอง แ ล ะ พ ร้อ ม ที่ จ ะ รั บ ฟั งค ว าม คิ ด เห็ น ข อ งผู้ อื่ น ก ล้ าตั ด สิ น ใจ โด ย ไม่ ลั งเล ไม่ มี ค ว าม วิ ต ก กั งว ล กล้าเผชิญต่อความจริง รู้จักปรับตัวให้เข้ากับส่ิงแวดล้อม ซ่ึงลักษณะดังกล่าวจะนำไปสู่การสร้างความสำเร็จ และมีความสุขในการเรียนรู้ในการจัดกิจกรรมเพ่ือส่งเสริมความเชื่อม่ันในตนเองและการกล้าแสดงออก มวี ธิ กี ารดำเนินงานดังนี้ โครงการส่งเสริมสุนทรียภาพด้านศิลปะ ดนตรี นาฏศิลป์ และกีฬา (กิจกรรมหลังเลิกเรียน) เช่น กิจกรรมดนตรี ขับร้องประสานเสียง โขน นาฏศิลป์ เริงเล่นเต้นแดนเซอร์ วาดภาพระบายสี ศิลปะ กีฬา เป็นต้น เป็นกิจกรรมท่ีนักเรียนเลือกเรียนได้ตามความถนัด และความสนใจ โดยเรียนวันละ 1 ชั่วโมง หลังกิจกรรมประจำวัน เวลา 16.๓0 – 17.๓0 น. นักเรียนได้ฝึกการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ กล้ามเน้ือมัดเล็ก ในการทำกิจกรรมตามที่ตนเองสนใจและถนัด ร่วมกับเพื่อนต่างห้องเรียน และต่างระดับ ส่งเสริมให้เกิด สัมพันธภ าพที่ดีระหว่างนักเรียนในโรงเรียน นักเรียนมีความมั่นใจในตนเอง และกล้าแสดงออก มีความสขุ สนกุ สนานกับการทำกจิ กรรม โครงการส่งเสริมประชาธิปไตยในโรงเรียน เป็นการฝึกให้นักเรียนมีบทบาทการเป็นผู้นำ และเป็นผู้ตามท่ีดี ประกอบด้วยกิจกรรม กิจกรรมสายตรวจประหยัดพลังงาน นักเรียนท่ีได้รับการคัดเลือก ใหเ้ ป็นสมาชกิ สภานักเรียน จะปฏิบตั หิ น้าที่ตรวจสอบการเปิดน้ำ เปิดไฟ ตามห้องเรยี นในช่วงการเข้าแถวเคารพธง ชาติ แล้วนำผลการตรวจมารายงานให้สมาชิกทั้งหมดรับทราบท่ีหน้าเสาธง นักเรียนได้รับการฝึกฝน ให้มีความกล้าแสดงออก มีความเช่ือมั่นในตนเอง กล้าพูด กล้าทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมกับวัย และโอกาส , กิจกรรมผู้นำกิจกรรมหน้าเสาธง นักเรียนที่ได้รับการคัดเลือก จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาปฏิบัติ หน้าท่ีผู้นำกิจกรรมหน้าเสาธง ได้แก่ ผู้นำในการเรียกแถวนักเรียน นำร้องเพลงชาติ นำส วดมนต์ นำออกกำลังกาย นำฝึกสมาธิ และนำเสนอภาษาอังกฤษวันละคำ กิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ จะช่วยสนับสนุน

รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ หนา้ ๖๘ ให้นักเรียนมีความกล้า มีความม่ันในในตนเอง กล้าพูด กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออกอย่างเหมาะสม และยงั เปน็ แบบอย่างท่ีดีใหก้ บั เพื่อนรว่ มหอ้ ง รนุ่ พี่ และรุน่ นอ้ งไดป้ ฏบิ ตั ติ าม โครงการรักการอ่าน เป็นกิจกรรมท่ีส่งเสริมให้นักเรียนและผู้ปกครองยืมหนังสือไปอ่าน ร่วมกับครอบครัวที่บ้าน เพ่ือให้ผู้ปกครองอ่านให้ลูกฟัง และนักเรียนอ่านจากภาพให้ ผู้ปกครองฟัง การอ่านบ่ อย ๆ จะเกิดเป็นความจำ และเม่ือนักเรียนมีความพร้อม หรือมีความม่ันใจในตนเอง ก็จะให้นักเรียนผลัดเปลี่ยน หมุนเวียนมาเล่าให้เพ่ือนร่วมชั้นฟังหลังเข้าแถว เป็นการส่งเสริม ให้นักเรียน มีความมั่นใจในตนเอง และกลา้ แสดงออก โครงการจัดนิทรรศการแสดงผลงานทางวิชาการ เป็นการนำเสนอผลงานนักเรียนด้วยผลงาน ทางวิชาการ นำเสนอโครงงาน Project Approach กีฬา นันทนาการ ดนตรี นาฏศิลป์ และเล่านิทาน นักเรียนได้ แสดงออกโดยการนำเสนอผลงานของตนเอง กล้านำเสนอ กล้าตอบคำถาม มคี วามม่นั ใจในตนเอง มคี วามพอใจในผลงานและความสามารถของตนเองและผอู้ ่ืน เด็กมีความร่าเริงแจ่มใสมีความรู้สึกท่ีดีต่อตนเองและผู้อ่ืนจากปรัชญาและจุดมุ่งหมายการศึกษา ป ฐ ม วัย ท่ี เน้ น ให้ มี ก ารจั ด ก ารเรีย น รู้เพ่ื อ ให้ ผู้ เรีย น ได้ รับ ก ารเต รีย ม ค ว าม พ ร้อ ม เต็ ม ศั ก ย ภ าพ และผ่านกระบวนการเรียนรู้อย่างมีความสุขเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ หมายถึง การพัฒนาด้านอารมณ์ จิตใจท่ีดีงามท่ีโรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ตจึงร่วมกันศึกษาหลักจิตวิ ทยาและหลักพัฒนาการ ของเด็กปฐมวยั เพื่อส่งเสริมพัฒนาการสำหรบั เดก็ ได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพดงั ต่อไปนี้ โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ให้ความสำคัญ เกี่ยวกับการส่งเสริมพัฒ นาการ ด้านอารมณ์จิตใจ โดยเน้นท่ีการส่งเสริมพัฒนาการของสมองท้ังสองซีกอย่างสมดุลผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ ที่ เห ม าะ ส ม ต าม วั ย ข อ งเด็ ก ให้ เด็ ก มี ค ว าม ร่ าเริ งแ จ่ ม ใส มี ค ว าม รู้สึ ก ที่ ดี ต่ อ ต น เอ งแ ล ะ ผู้ อ่ื น มีความสุขในกิจกรรมท่ีทำร่วมกัน โดยการกำหนดนโยบายการจัดการศึกษา การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบบูรณ าการที่เน้นการส่งเสริมทักษะการคิด การสื่อสารและทักษะด้านอารมณ์ ซ่ึงเป็นพื้นฐาน ทีจ่ ำเป็นสำหรับชีวติ เชน่ การละเลน่ พืน้ บา้ น การเล่นเกมตา่ ง ๆ ฯลฯ การจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยใช้กระบวนการกลุ่มฝึกให้เด็กเรียนรู้ ฝึกสร้างความคิด ความพึงพอใจ ความสบายใจ โดยการทำงานพร้อมกับผู้อ่ืน ฝึกให้เด็กผ่อนคลายไม่ยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง ฝึกให้คิดถึงความรู้สึกของผู้อ่ืน สามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนได้ เช่น การเรียนดนตรี กิจกรรมจิตศึกษา การเล่านทิ าน ค รู ใช้ วิ นั ย เชิ ง บ ว ก ใน ก า ร ฝึ ก แ ล ะ ส่ ง เส ริ ม พั ฒ น า ก า ร ด้ า น อ า ร ม ณ์ แ ล ะ ค ว า ม รู้ สึ ก ข อ ง เด็ ก เช่น การชื่นชมเมอ่ื เดก็ ทำงานเสรจ็ ทนั เวลา การยกยอ่ งเดก็ ทำความดี ใหร้ างวัลเม่อื เด็กกล้าแสดงออก ครูจัดบรรยากาศในห้องเรียนให้เป็นห้องเรียนท่ีมีความพร้อมในการเสริมสร้างบุคลิกลักษณะ ทางอารมณ์ท่ีดีแก่เด็ก เช่น ครูเป็นแบบอย่างในการพูด การแสดงออกทางอารมณ์ การฝึกให้มีการรอคอย การฝึกการเป็นผู้นำและผู้ตาม การให้แรงเสริมเมื่อเด็กปฏิบัติในสิ่งที่ดีแม้จะเล็กน้อย และไม่ตำหนิติเตียน ใหเ้ ด็กเสียหน้า ไมส่ บายใจ เป็นตน้ จัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการทางอารมณ์ จิตใจเพ่ือให้เด็กมีความสุข สดชื่น แจ่มใส ร่าเริง ตามวัยภายใตโ้ ครงการกิจกรรมทกี่ ำหนดขน้ึ ได้แก่ กิจกรรมหนูน้อยเล่านิทาน กิจกรรมนักข่าวน้อยโครงการ จั ด ก า ร เรี ย น ก า ร ส อ น ด น ต รี กิ จ ก ร ร ม ส่ ง เส ริ ม ค ว า ม เป็ น เ ลิ ศ ด้ า น ศิ ล ป ะ ก า ร แ ส ด ง กิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ กิจกรรมเริงเล่นเต้นแดนเซอร์ กิจกรรมนาฏศิลป์ไทย กิจกรรมวันคริสต์มาสต์ ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ กิจกรรมวันไหว้ครู กิจกรรมวันแม่แห่งชาติ ซ่ึงเป็นกิจกรรมเสริมสร้าง

รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ หนา้ ๖๙ ความคิด ความรู้สึก ความรัก ความผูกพัน และความกตัญญูอันเป็นพื้นฐานความเป็นมนุษย์ท่ีสมบูรณ์ ทำให้เด็กมีความม่ันคงทางอารมณ์ มีความสุขในการอยู่ร่วมกับผู้อ่ืน และการทำให้เด็กได้แสดงออก อย่างเหมาะสมตามวัยและเป็ นพ้ืนฐานให้ประสบความสำเร็จอันเป็นเป้าหมายสำคัญ อย่างห น่ึง ในการสรา้ งความร้สู ึกท่ีดีต่อตนเอง การร่วมมือกับผู้ปกครองในการดูแลและส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ เช่นผู้ปกครอง อาจมีความรู้ ความเข้าใจท่ีไม่ตรงตามหลักจิตวิทยาพัฒนาการเด็กมีความคาดหวังสูงเกินวัย ต้องการให้เด็ก อ่านออกเขียนได้ เด็กมีความวิตกกังวล การส่ือสารพูดคุยเพ่ือปรับทัศนคติของผู้ปกครองจึงเป็นวิธีการ ทีส่ ง่ เสริมใหเ้ ดก็ ไดร้ ับการพัฒนาด้านอารมณ์ จิตใจ อยา่ งเหมาะสม รณรงค์ให้ผู้ปกครองจัดกิจกรรมการเล่นกับลูกเพ่ือสานสัมพันธ์และฝึกการสร้างมิตรภาพ ในครอบครัว ใหค้ ำแนะนำเกย่ี วกบั การอบรมเล้ียงดู ไมต่ อี ย่างรนุ แรงโดยไมม่ ีเหตุผล ครูกำหนดให้มีการเยี่ยมบ้าน เพื่อเป็นการศึกษาเด็กเป็นรายบุคคลเน่ืองจากการเย่ียมบ้าน เปน็ การศึกษาข้อมูล รายละเอียดเก่ยี วกับตัวเดก็ ใหม้ ากขนึ้ เพ่ือเป็นการหาแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาเด็กให้ ตรงกบั ความตอ้ งการของแต่ละคนอย่างมีประสทิ ธิภาพต่อไป ๑.๒.๒ ชืน่ ชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี และการเคลอื่ นไหว สนใจมีความสุขและแสดงออกผา่ นงานศิลปะดนตรี และการเคลื่อนไหว โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต มีวิสัยทัศน์ในการพัฒ นาเด็ก ตามหลักปรัชญ า ของเศรษฐกิจพอเพียง การสร้างสุนทรียภาพต่าง ๆ จึงมีพ้ืนฐานบนความพอเพียงไม่ฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย ซ่ึ ง เอื้ อ ต่ อ ก า ร ส่ ง เส ริ ม ให้ เด็ ก เกิ ด ก า ร เรี ย น รู้ อ ย่ า ง ร อ บ ด้ า น เป็ น บุ ค ค ล ท่ี มี ค ว า ม แ ข็ ง แ ร ง มสี ขุ ภาพกายดี สขุ ภาพจิตดี และมคี วามสขุ การสง่ เสริมใหเ้ ด็กมีนสิ ัยรักในการออกกำลงั กาย รักในงานศลิ ปะ ดนตรี รักธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมเป็นการส่งเสริมอุปนิสัยที่ดีจะส่งผลต่อความรู้สึก นักคิด การตัดสินคุณค่า ความดี ความงดงามไปในทางท่ีเป็นกุศลซึ่งจะส่งผลให้เกิดการหล่อหลอมพฤติกรรมและบุคลิกภาพ ที่เหมาะสม ตามคุณลักษณะท่ีพ่ึงประสงค์ตามเป้าหมายของหลักสูตรต่อไป นักวิชาการหลายท่านอาจใช้คำว่าการ เสริมสร้างสุนทรียภาพ ได้แก่ ความรู้สึกและการรับรู้ได้ถึงความดีความงามทั้งที่เป็นอยู่ในธรรมชาติ และเกิดขึ้นจากการสร้างสรรค์ของมนุษย์ซึ่งเป็นสภาพการณ์และความสัมพันธ์ของอารมณ์ (Emotions) แ ล ะ จิ ต ใจ (Mind) ท่ี มี ต่ อ ก า ร รั บ รู้ แ ล ะ ค ว า ม ชื่ น ช ม ค ว า ม ง ด งา ม ( Beauty) ข อ ง แ ต่ ล ะ บุ ค ค ล และอาจพฒั นาตอ่ ไปถึงข้นั ซาบซง้ึ ชน่ื ชม หลงใหล การมีรสนยิ มต่าง ๆ กันไป โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการส่งเสริมพัฒนาการของสมอง ทั้งสองซีกอย่างสมดุลผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ ที่เหมาะสมตามวัยของเด็กและจัดระบบการเรียนรู้ ให้เกิดความสมดุลทางด้านอารมณ์ จิตใจ ซ่ึงการสร้างเสริมให้เด็กมีอุปนิสัยในการออกกำลังกาย ดนตรี ศิลปะ ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม การดำเนินกิจกรรมตามแผนงานโครงการและกิจกรรมตา่ ง ๆ เพือ่ เสริมสร้างนิสัยรักการ ออกกำลงั กาย ศลิ ปะ ดนตรี ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม ประกอบดว้ ยโครงการ/กิจกรรม ดังนี้ 1. โครงการกีฬาและนันทนาการ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนออกกำลังกายเพ่ือสุขภาพ และส่งเส ริม ให้ นั กเรีย น ที่ มี ค วาม ช อบ ค วาม ถ นั ด ได้ค้ น ห าต น เอง แล ะส่ งเสริม สู่ค วาม เป็ น เลิ ศ ป ร ะ ก อ บ ด้ ว ย กิ จ ก ร ร ม อ อ ก ก ำ ลั ง ก า ย ห น้ า เส า ธ ง กิ จ ก ร ร ม ก ร ร ม เค ล่ื อ น ไห ว แ ล ะ จั ง ห ว ะ กิ จ ก รรม ก ารเล่ น ก ล างแ จ้ ง กิ จ ก รรม แ ข่ งขั น กี ฬ านั ก เรีย น อ นุ บ าล สั ม พั น ธ์ ก ารจั ด กิ จ ก รรม นี้ น อ ก จ า ก จ ะ ช่ ว ย ส่ ง เส ริ ม ใ ห้ ร่ า ง ก า ย มี สุ ข ภ า พ แ ข็ ง แ ร ง แ ล้ ว ยั ง ช่ ว ย ส่ ง เส ริ ม ค ว า ม ส า มั ค คี ใ ห้ กั บ นั ก เรี ย น และบคุ ลการอกี ทางหนึง่ ดว้ ย

รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ หนา้ ๗๐ 2. โครงการจัดการเรียนการสอนดนตรี เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีสุนทรี ยด้านดนตรี โดยนักเรียนได้เรียนดนตรีสัปดาห์ละ 1 คร้ังต่อห้อง และคร้ังละ ๕๐ นาที ดนตรีเป็นเครื่องมือหนึ่งท่ีจะช่วย จูงใจให้เด็กเกิดความสบายใจ และมีความรู้สึกในทางที่ดี เป็นการช่วยสร้างส่ิงแวดล้อมให้มีความน่าสนใจ ท ำให้ เด็กเกิด ความต่ื น ตั วใน การเรียน รู้ อัน ส่งผล โดยต รงต่อ การพั ฒนาทางสติปั ญญาเป็ น อย่างดี ดนตรีช่วยทำให้เด็กเกิดสมาธิในการทำกิจกรรมและสามารถทำงานได้นานขึ้น เสียงดนตรี นับเป็นสื่ออย่างหนึ่ง ท่ีจะช่วยปรับสภาพอารมณ์และช่วยกระตุ้นให้เด็กเกิดสมาธิ สามารถสร้ างระเบียบและควบคุมตนเอง ให้เหมาะสมและไม่เกิดความเครียดจนต้องหยุดชะงักการทำงาน ในขณะที่เด็กทำกิจกรรมสร้างสรรค์ กิจกรรมการเล่นตามมุม กิจกรรมกลางแจ้ง เมื่อมีดนตรีเปิดเบาๆ เด็กจะมีความพึงพอใจในการทำกิจกรรม ท่ามกลางบรรยากาศท่ีมีเสียงเพลง และมีความต้ังใจพยายามทำกิจกรรม อีกท้ังยังพบว่าระยะเวลา ในการทำกิจกรรมแต่ละประเภทจะยาวนานข้ึน นอกจากนี้เสียงดนตรียิ่งทำให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ และมีจินตนาการในขณะทำกิจกรรมได้เป็นอย่างดี โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ได้จัดทำโครงการจัดการ เรียนการสอนดนตรีพัฒนาอัจฉริยภาพมาอย่างต่อเน่ือง ต้ังแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 จนถึงปัจจุบัน ทำให้นักเรียนมีความรัก และสนใจในด้านศิลปะ ดนตรี และกีฬา สอดคล้องกับหลักสูตรปฐมวัย มาตรฐท่ี ๔ ช่ืนชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี การเคล่ือนไหว เพ่ือเป็นการปลูกฝังให้นักเรียนสนใจ มีความสุข และแสดงออกผา่ นเสยี งเพลงอยา่ งต่อเน่ือง 3. โครงการส่งเสริมความเป็นเลิศดา้ นดนตรีและศิลปะ การส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กปฐมวัย ได้ทำในสิ่งท่ีชอบและถนัด เม่ือประสบความสำเร็จย่อมนำความภาคภูมิใจมาให้ตัวเองและเกิดกำลังใจ ท่ีจะพัฒนาตนเองให้ก้าวหน้าขึ้นไปอีก หากเด็กเหล่านี้ได้รับโอกาส จังหวะและแรงกระตุ้นท่ีเหมาะสม ค ว าม ส าม า รถ ค ว าม ถ นั ด แ ล ะ ค ว าม ส น ใจ พิ เศ ษ ข อ งเด็ ก ก็ จ ะ ป ร าก ฏ เด่ น ชั ด ข้ึ น เป็ น ล ำดั บ เด็กจะรู้สึกภาคภูมิใจ ถ้าเขาได้รับการยอมรับนับถือจากบุคคลต่าง ๆ การคำนึงถึงศักยภาพของเด็ก และเปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงความสามารถตามความสนใจจึงเป็นกระบวนการหนึ่งท่ี โรงเรียนอนุบาล เทศบาลนครภูเก็ต ให้ความสำคัญ ดังน้ัน โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต จึงกำหนดจัดโครงการส่งเสริม ความเป็นเลิศดา้ นดนตรีและศลิ ปะขึน้ 5. กิจกรรมหลังเลิกเรยี น พระราชบัญญัตกิ ารศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๑๐ วรรค ๔ กำหนดว่า การจัดการศึกษาสำหรับบุคคล ต้องจัดด้วยรูปแบบที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงความสามารถ ของบุคคลน้ัน และมาตรา ๒๒ กำหนดว่า การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้ และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญท่ีสุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถ พั ฒ น าต าม ธรรม ช าติ แล ะเต็ ม ศั ก ย ภ าพ โรงเรีย น อ นุ บ าล เท ศ บ าล น ค รภู เก็ ต เห็ น ค วาม ส ำคั ญ ขอ งก ารจัด กิ จ ก รรม ให้ กั บ นั ก เรียน ห ลั งเลิ ก เรีย น เพ่ื อ ให้ นั ก เรีย น ได้ มี กิ จ กรรม ก ารเค ลื่ อ น ไห ว เสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้มีความแข็งแรงพร้อมกับความสนุกสนาน นักเรียนมีสมรรถภาพทางกาย จิตใจทดี่ ีขน้ึ และใช้เวลาว่างผ่านกิจกรรมใหเ้ กิดประโยชน์ ๑.๒.๓ มีคุณธรรมจริยธรรมและจิตใจทด่ี งี าม โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ได้ส่งเสริมให้ครูจัดประสบการณ์ การเรียนรู้ แก่นักเรียนเพื่อให้นักเรียนมีความพร้อมทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และจิตใจ ผ่านกิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม ตามหน่วยบูรณ าการ มุ่งเน้นเสริมสร้างคุณ ธรรมจริยธรรม นักเรียนได้รับการช้ีแนะให้ตระหนัก ถึงความเป็นไทย รู้ถึงคุณค่าของวัฒนธรรมประเพณีไทยและท้องถ่ิน เกิดเจตคติท่ีดีต่อวัฒนธรรมไทย และท้องถ่ินเพ่ือการเป็นผู้ท่ีมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ จึงได้จัดระบบบริหารจัดการเพื่อขับเคลื่อนงานเป็นระบบ

รายงานการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ หน้า ๗๑ ทีม่ ีคุณภาพและประสทิ ธิภาพโดยการร่วมกำหนดเป้าหมายการดำเนินงานกบั คณะครู มอบหมายหน้าท่ีรับผิดชอบ และร่วมกันกำหนดให้มีการจัดโครงการ กิจกรรมต่าง ๆ มอบหมายคณะครูจัดทำแผนการจัดประสบกาณ์ การเรียนรู้ และจัดให้มีกิจกรรมเพ่ือเป็นการสืบสานวัฒนธรรมและปลูกฝังให้เด็กได้เรียนรู้ประเพณี และวัฒนธรรมไทย และทอ้ งถิน่ ใหก้ บั ผู้เรียนตามโอกาสต่าง ๆ ไดแ้ ก่ โครงการสืบสานวัฒนธรรมและประเพณีไทย กิจกรรมวันลอยกระทง ผู้เรียนเรียนรู้ประวัติความ เป็นมา กิจกรรมท่ีควรปฏิบัติ และเรียนรู้การประดิษฐ์กระทงด้วยวัสดุธรรมชาติ ซ่ึงเป็นการอนุรักษ์ประเพณี วัฒนธรรมทอ้ งถิ่น สง่ เสริมความเป็นไทย และเอือ้ ตอ่ การนำไปใช้ในชีวติ ประจำวนั โครงการสืบ สาน วัฒ น ธรรมแ ละป ระเพ ณี ไท ย กิจกรรมวัน ไห ว้ครู ผู้เรียน ทุ กค น เขา้ ร่วมกิจกรรม เรียนรู้ลำดบั ขนั้ ตอนการไหวค้ รดู ้วยตนเองจากประสบการณต์ รง โค รงก ารสื บ ส าน วั ฒ น ธ รร ม แ ล ะ ป ระ เพ ณี ไท ย กิ จ ก ร รม วั น เข้ าพ รรษ าเรี ย น รู้ ประวัติความเปน็ มา กจิ กรรมท่ีควรปฏิบตั ิจากประสบการณต์ รงในการไปรว่ มกิจกรรมถวายเทยี นพรรษา โค รงก ารวั น ส ำคั ญ ท างศ าส น า ให้ นั ก เรีย น ร่ว ม กิ จ ก รรม เรีย น รู้แ บ บ บู รณ าก าร เกี่ยวกับความสำคัญของวันสำคัญทางศาสนาในวันต่าง ๆได้แก่ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา ให้นักเรียนร่วมกิจกรรมตักบาตรเติมบุญ ร่วมกิจกรรมโดยการไปวัด ร่วมพิธีการทางศาสนา การสวดมนต์ ฟงั เทศนฟ์ ังธรรม เวยี นเทียน เปน็ ตน้ ซง่ึ เป็นประสบการณ์ตรงท่เี ดก็ สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง โครงการวันสำคัญของชาติ ได้แก่วันแม่ วันพ่อ ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมเทิดพระเกียรติ ทำบุญตกั บาตร การกราบพอ่ แม่ ประดษิ ฐ์และมอบของขวัญใหแ้ ก่พ่อแมด่ ้วยตนเอง โครงการงามอย่างไทย ได้แก่กิจกรรมส่งเสริมอัตลักษณ์นักเรียน ท.๖ กิจกรรมประกวดมารยาท ไทย ฝึกอบรมให้นักเรียนปฏิบัติตนในการไหว้ การกราบ การน่ังสมาธิ “พูดเพราะ ไหว้สวย กราบเป็น” ตามวฒั นธรรมไทยใหผ้ ู้เรยี นไดป้ ฏิบตั ไิ ด้เหมาะสมกับวยั กิจกรรมบูรณาการวันพ้อต่อ ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมตามแผนการสอนแบบบูรณาการ ประวัติ และความสำคญั ของประเพณี และการทำขนมทีเ่ ก่ียวข้องกบั ประเพณีพ้อต่อคือขนมอง่ั กู๊ (ขนมเตา่ ) การนำนกั เรยี น ไปไหว้พระในศาลเจ้าเพอื่ เปน็ สิริมงคล โ ค ร ง ก า ร ส่ ง เส ริ ม คุ ณ ธ ร ร ม จ ริ ย ธ ร ร ม แ ล ะ คุ ณ ลั ก ษ ณ ะ อั น พึ ง ป ร ะ ส ง ค์ กจิ กรรมคา่ ยพทุ ธบุตรน้อย จดั กจิ กรรมใหน้ ักเรียนได้เรียนรู้ฝึกปฏบิ ตั ใิ นการเปน็ พทุ ธศาสนกิ ชนทด่ี ี ๑.๓ มีพฒั นาการดา้ นสงั คม ช่วยเหลอื ตนเองและเป็นสมาชิกทด่ี ีของสังคม ๑.๓.๑ ชว่ ยเหลือตนเองในการปฏิบัติกจิ วตั รประจำวนั นักเรียนโรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ได้รับการพัฒนาด้านสังคม โดยการจัดบรรยากาศ ก า ร เรี ย น รู้ ให้ เอ้ื อ ต่ อ ก า ร จั ด ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ แ ล ะ ส นั บ ส นุ น ส่ ง เส ริ ม พั ฒ น า ก า ร เด็ ก ป ฐ ม วั ย ด้วยการจัดประสบการณ์ ในรูปแบบของกิจกรรมประจำวัน ผ่านการจัดกิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม นั ก เรี ย น ส า ม า ร ถ ช่ ว ย เห ลื อ ต น เอ งได้ ต า ม ค ว า ม เห ม า ะ ส ม ต าม วั ย ส า ม า ร ถ พึ่ งพ า ต น เอ งได้ ได้แก่ แต่งตัวได้ด้วยตนเอง สวมถุงเท้า รองเท้า แต่งตัวด้วยตนเอง รับประทาน อาหารด้วยตนเอง ใช้หอ้ งนำ้ หอ้ งส้วมได้ดว้ ยตนเอง

รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ หน้า ๗๒ คณะครูได้ร่วมกระตุ้นและฝึกให้เด็กมีทักษะด้านช่วยเหลือตนเองและปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน โด ย ฝึ กผ่ าน กิจ วัต รป ระจ ำวัน ข อ งนั ก เรีย น ใน 1 วัน แล ะกิ จก รรม บู รณ าก าร 6 กิ จก รรม ห ลั ก เพ่ือการพัฒนาทักษะหลาย ๆ ด้านให้สามารถทำงานประสานสัมพันธ์กัน ได้แก่ ทักษะด้านการเคลื่อนไหว ส่ ว น ต่ า ง ๆ ข อ งร่ า งก า ย ก า ร ป ร ะ ส า น ก า ร ท ำ งา น ร ะ ห ว่ า งต า กั บ มื อ ก า ร ฝึ ก ทั ก ษ ะ ก า ร ฟั ง ก ารป ฏิ บั ติ ต าม ค ำข อ ร้อ ง รว ม ท้ั งส่ื อ ส ารกั บ ค น อ่ื น ๆ ให้ เข้ าใจ เพื่ อ ก ารท ำกิ จ วัต รป ระ จ ำวั น ได้ อ ย่ า ง ดี ต า ม วั ย แ ล ะ ศั ก ย ภ า พ ข อ ง แ ต่ ล ะ บุ ค ค ล โด ย มี โค ร ง ก า ร / กิ จ ก ร ร ม ที่ ส นั บ ส นุ น ให้ประสบความสำเร็จ ดงั นี้ โครงการประเมินกิจวัตรประจำวัน เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนมีความรับผิดชอบ สามารถช่วยเหลอื ตนเองได้ โดยผ่านกิจกรรมการประเมินกิจวัตรประจำวัน เปน็ การฝึกให้นักเรยี นช่วยเหลือตนเอง ใน การทำกิจกรรมต่างๆ ผ่าน กิจกรรม เช่น การเล่านิ ท าน การมอบ ห มายห น้าที่ เวรป ระจำวัน การเสริมแรงของครูประจำชั้น เพ่ือให้นักเรียนมีพัฒนาการท่ีดีข้ึน สามารถช่วยเหลือตนเองในการปฏิบัติกิจวัตร ป ระจ ำวัน ได้ ด้ ว ย ต น เอ ง ก ารฝึ ก ไป เข้ าห้ อ งน้ ำต าม เว ล าที่ ก ำห น ด ฝึ ก ก ารล้ างมื อ 7 ขั้ น ต อ น ฝึกการรับประทานอาหารอย่างเป็นระเบียบ การปูท่ีนอน การฝึกเก่ียวกับการนอนโดยไม่รบกวนผู้อื่น การเก็บท่ีนอน การเล่นของเล่น การเก็บของเล่น การฝึกปฏิบัติตามข้อตกลงของห้องเรียน เป็นต้น เป็นการเรียนรู้โดยกระบวนการกลุ่มซึ่งเป็นเคร่ืองมือ ในการขับเคลื่อนการเรียนนำไปสู่การฝึกทักษะ การช่วยเหลือตนเอง ครูส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดความรู้สึกภาคภูมิใจในการช่วยเหลือตนเองหรือทำสิ่งต่าง ๆ ด้วย ต น เอ ง โด ย ใช้ แ รงจู งใจ แ ล ะ ให้ เว ล าใน ก ารฝึ ก ป ฏิ บั ติ ด้ ว ย ต น เอ งให้ ม าก ข้ึ น ให้ ก ารเส ริม แ ร ง เพื่ อให้ นั กเรียนมีความ พ ยายาม ท่ี จะท ำด้วยตน เอง จนกระทั่ งสามารถท ำได้ด้วยตน เองท้ั งห ม ด ทั้งนี้ในขณะท่ีนักเรียนปฏิบัติกิจวัตรประจำวันด้วยตนเอง ครูประจำชั้นจะสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน เพื่อจัดเกบ็ ขอ้ มูลนกั เรียนอย่างเป็นระบบ เพอื่ เป็นขอ้ มูลในการสง่ เสรมิ และช่วยเหลอื นกั เรียนอย่างต่อเน่ือง ๑.๓.๒ มวี ินัยในตนเอง โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต มุ่งเน้นเสริมสร้างวินัยในตนเองให้เด็กได้รับการเรียนรู้ ระเบี ยบ วินั ยใน สังค ม เช่น การรู้จักรอคอย การท ำงาน ร่ วมกับ ผู้อื่น ช่วยเห ลือกัน ไม่เอาเป รียบ รู้จักแบ่งปัน เสียสละ มีน้ำใจ เอ้ือเฟื้อเพ่ือแผ่ กล้าแสดงความคิดเห็น ยอมรับความคิดเห็นของผู้อ่ืน ร่วมกันรับผิดชอบงานกลุ่ม เป็นผู้นำผู้ตามที่ดี การเก็บของท่ีใช้แล้วให้เป็นระเบียบ รวมไปถึงการอดทน การเข้าแถวตามลำดับก่อนหลัง ต้ังใจทำงานที่ได้รับผิดชอบและคอยช่วยเหลือตามความเหมาะสม ซ่ึ ง ก า ร เส ริ ม ส ร้ า ง วิ นั ย ค ว า ม รั บ ผิ ด ช อ บ แ ล ะ ก า ร ฝึ ก เก่ี ย ว กั บ ก า ร ป ฏิ บั ติ ต า ม ข้ อ ต ก ล ง น อ ก จ าก ก าร จั ด ป ระ ส บ ก ารณ์ ใน ห้ อ งเรี ย น แ ล้ ว มี วิ ธี ก าร ส่ งเส ริม เพื่ อ ให้ เด็ ก เกิ ด ก ารเรีย น รู้ และนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ได้ดังน้ี โครงการลูกเสือน้อย กิจกรรมสายตรวจประหยัดพลังงาน กิจกรรมหอ้ งเรยี นระเบียบวินยั ดเี ด่น กจิ กรรมสภาจิว๋ ส่งเสรมิ ประชาธปิ ไตยในโรงเรยี น ผลการจัดประสบการณ์ให้กับเด็ก พบว่า เด็กทุกคนเรียนรู้ท่ีจะเล่นและเก็บของเล่นเข้าที่ มีวินัยในการรอคอย เข้าแถวเป็นระเบียบตามลำดับก่อนหลัง สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่ น ช่วยเหลือกัน ไม่เอาเปรียบกัน แบ่งปัน มีน้ำใจ กล้าแสดงความคิดเห็น รับฟังความคิดเห็นและความสามารถของผู้อ่ืน ร่ว ม กั น รับ ผิ ด ช อบ ผ ล งาน เป็ น ผู้ น ำแ ล ะผู้ ต าม ท่ี ดี น อ ก เห นื อจ าก ก ารท ำงาน ใน ห้ อ งเรีย น แ ล้ ว ยังมีการจัดเวรรักษาความสะอาดประจำวัน เพ่ือให้เด็กได้ทำงานร่วมกันตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย มีการประเมินพฒั นาการนกั เรียนอยา่ งสม่ำเสมอ

รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ หนา้ ๗๓ ๑.๓.๓ ประหยัดและพอเพียง โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ตระหนักถึงความสำคัญในการปลูกฝังการด ำเนินชีวิต ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ดังพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช “...การใช้จ่ายโดยประหยัดน้ัน จะเป็นหลักประกันความสมบูรณ์พูนสุขของผู้ประหยัดเองและครอบครัว ช่วยป้องกันความขาดแคลนในวันข้างหน้า การประหยัดจะมีผลดีแก่ผู้ประหยัดและจะเป็นประโยชน์ แกป่ ระเทศชาตดิ ว้ ย...” (พระราชดำรัส เมอ่ื วนั ที่ 31 ธนั วาคม พ.ศ. 2502) ห ากการป ลูกฝังใน เร่ืองความป ระห ยัดป ระสบ ผลสำเร็จ การบ ริห ารจัดการชีวิต หรือการจัดการชีวิตของเด็ก ผู้ปกครอง ครู ประชาชน ก็จะดำเนินไปได้อย่างเรียบง่าย ความเดือนร้อนต่าง ๆ ในสังคมปัญ หาสังคมก็จะลดลง ความสุข ความเจริญ จะเกิดขึ้นทั้งแก่ตัวบุคคลและประเทศชาติ นั้นเป็นเป้าหมายสำคัญของการจัดการศึกษาเช่นกันดังนั้น จึงได้มุ่งเน้นจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะ ด้านความประหยัด รู้จักใช้และรักษาทรัพยากรและส่ิงแวดล้อม เช่น โครงการหนูน้อยปฐมวัยใส่ใจส่ิงแวดล้อม กิจกรรมสายตรวจประหยัดพลังงาน กิจกรรมประกวดพ้ืนที่รักษ์สะอาด กิจกรรมสุดยอดนักออม กิจกรรมโลกสวย ดว้ ยมอื เรา กจิ กรรมชวนลกู ปลูกต้นไม้ กจิ กรรมศนู ยก์ ารเรียนรเู้ ศรษฐกิจพอเพยี ง “ผักพอเพยี ง” ๑.๓.๔ การดูแลรกั ษาธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต มุ่งเน้นให้นักเรียนตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลรักษา ธ ร ร ม ช า ติ แ ล ะ สิ่ งแ ว ด ล้ อ ม มี ส่ ว น ร่ ว ม ใน ก า ร ดู แ ล รั ก ษ า ส่ิ ง แ ว ด ล้ อ ม ใน แ ล ะ น้ อ งห้ อ งเรี ย น นอกจากการจัดประสบการณ์ในห้องเรียนแล้ว มีวิธีการส่งเสริมเพ่ือให้เด็กเกิดการเรียนรู้และนำไปใช้ใน ชีวิตประจำวัน ได้แก่ โครงการหนูน้อยปฐมวัยใส่ใจส่ิงแวดล้อม กิจกรรมสายตรวจประหยัดพลังงาน กิจกรรมโรงเรยี นสวยด้วยมอื เรา โครงการปลูกผักสวนครวั โครงการประกวดพื้นที่รักษาความสะอาด ๑.๓.๕ มมี ารยาทตามวัฒนธรรมไทยและรกั ความเปน็ ไทย โ ร ง เรี ย น อ นุ บ า ล เท ศ บ า ล น ค ร ภู เก็ ต มุ่ ง เน้ น ที่ จ ะ ให้ นั ก เรี ย น เติ บ โ ต เป็ น ผู้ มี ม า ร ย า ท ง า ม สามารถปฏิบัติตนได้อย่างเหมาะสมตามวัฒนธรรมไทย คณะครูจึงได้วางแผนจัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น โครงการ งามอย่างไทย การประกวดมารยาทไทย โครงการวันสำคัญทางศาสนา กิจกรรมส่งเสริมอัตลักษณ์นักเรียน ท.6 การประกวดห้องเรียนระเบียบวินัยดีเด่น กิจกรรมค่ายพุทธบุตรน้อย โครงการวัน สำคัญทางศาสนา นักเรียนได้เรียนรู้การไหว้ การขอโทษ และการขอบคุณรู้จักการปฏิบัติตนต่อพระสงฆ์ และผู้ใหญ่ตามแต่โอกาส นักเรียนทุกคนไดร้ ่วมทำกจิ กรรม นักเรยี นสามารถปฏบิ ัตติ นไดอ้ ยา่ งเหมาะสม นับเปน็ ความภาคภมู ิใจของนกั เรยี น ผูป้ กครองและโรงเรียนท่ีมนี ักเรียนท่มี คี ณุ ภาพเปน็ ทปี่ รากฏแกช่ มุ ชน ๑.๓.๖ อยรู่ ่วมกบั ผู้อน่ื ไดอ้ ย่างมคี วามสุขและปฏิบัติตนเปน็ สมาชกิ ท่ดี ขี องสังคม โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ได้ส่งเสริมให้ครูจัดประสบการณ์การเรียนรู้แก่นักเรียน เพื่อให้นักเรียนมีความพร้อมทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา ผ่านกิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม ตามหน่วยบูรณาการ โดยจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เปิดโอกาส ให้ นั ก เรี ย น ได้ ล งมื อ ป ฏิ บั ติ จ ริงด้ ว ย ต น เอ ง แ ล ะ เลื อ ก ป ฏิ บั ติ กิ จ ก รรม ต าม ค ว าม ถ นั ด ข อ งต น รู้จักการทำงานเป็นทีม และมีปฏิสัมพันธ์ท่ีดีกับเพื่อน กับครู และผู้ปกครอง การเล่นและทำกิจกรรมร่วมกันเป็น การส ร้างโอกาสท างการเรียน รู้ ให้ เด็กได้ ติดต่ อพู ดคุ ยกัน มี โอกาสได้แลกเป ลี่ยน ความคิ ดเห็ น แบ่งปัน ประนีประนอม ตัดสินใจร่วมกัน การมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมให้บรรลุจุดมุ่งหมายร่วมกัน และยังต้องเรียนรู้การยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น เป็นผู้นำ ผู้ตามที่ดี ท้ังยังเป็นการฝึกให้นักเรียน

รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ หนา้ ๗๔ มีความรับผิดชอบต่องานของตนเองและงานกลุ่ม ซ่ึงจะทำให้เด็กได้รู้จักการปรับตัวในการอยู่ร่วมกัน ในกลมุ่ อย่างมีความสุข นอกจากน้ี ทางโรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ยังได้ดำเนินการส่งเสริมพัฒนาการ ให้นักเรียนมีทักษะในการอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนได้ตามโครงการ เช่นโครงการส่งเสริมการศึกษาศิลปวัฒนธรรม แหล่งเรียนรู้ และภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นการจัดประสบการณ์ให้นักเรียนได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ ด้วยกระบวนการกลุ่ม โดยนำนักเรียนไปเรียนรู้จากประสบการณ์จริงตามแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต นักเรียนได้เรียนรู้ผ่านการใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า ด้วยการลงมือทำกิจกรรมด้วยตนเอง ส่งเสริมให้นักเรียนสังเกต สำรวจ สร้างสรรค์ กระตุ้นให้เกิดความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ ได้สำรวจ เล่น ทดลอง ค้นพบด้วยตนเอง ได้มีโอกาสคิดแก้ปัญ หาเลือกตัดสินใจใช้ภาษาส่ือความหมาย คิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพื่อให้นักเรียน เล่นทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อน ยอมรับฟังความคิดเห็น และเป็นผู้นำ ผู้ตามที่ดีสามารถทำกิจกรรมร่วมกับเพ่ือน และผู้อ่นื ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ ๑.๔ มพี ฒั นาการด้านสติปัญญา สื่อสารได้ มัทกั ษะการคดิ พนื้ ฐานและแสวงหาความรไู้ ด้ ๑.๔.๑ ใช้ภาษาสื่อสารไดเ้ หมาะสมกบั วัย โร ง เรี ย น อ นุ บ า ล เท ศ บ า ล น ค ร ภู เก็ ต ได้ ส่ ง เส ริ ม ใ ห้ นั ก เรี ย น ส า ม า ร ถ ใ ช้ ภ า ษ า ส่ื อ ส า ร ได้เหมาะสมกับวัยโดยสามารถบอกเล่า บอกความต้องการ ความรู้สึกของตนเองและถ่ายทอดเร่ืองราว ให้ผู้อ่ืนเรียนรู้ และเข้าใจได้เหมาะสมกับวัย ดังน้ี การร่วมศึกษาและขอบข่ายการพัฒนาทักษะการสื่อสารอย่าง เห ม าะสม เช่น กิจกรรมห น้ าเสาธง กิจกรรม ภ าษ าอังกฤษ วัน ละคำ การจัดท ำแผน ป ฏิ บั ติ การ และกำหนดกิจกรรมเสริมสร้างพัฒนาการด้านสติปัญญาในด้านการใช้ภาษาเพ่ือการสื่อสารอย่างเหมาะสม จดั กิจกรรมเสรมิ สร้างทกั ษะทางภาษาเพ่ือการสือ่ สารอยา่ งเหมาะสม เช่น การนำเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน การเล่า เรื่อ งจ าก ภ าพ ก ารเล่ า นิ ท าน โค รงก ารกิ จ ก รรม ท่ี เก่ี ย ว ข้ อ งกั บ ก ารพั ฒ น าทั ก ษ ะ ก ารสื่ อ ส าร ได้อย่างเหมาะสม ได้แก่โครงการส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมรักลูกอ่านให้ลูกฟัง กิจกรรมเล่าข่าวเช้าน้ี กิ จ ก ร ร ม ย อ ด นั ก อ่ า น กิ จ ก ร ร ม Outdoor Speaking กิ จ ก ร ร ม ภ า ษ า อั งก ฤ ษ วั น ล ะ ค ำ เป็ น ต้ น จัดกิจกรรมการเรียน รู้เพื่ อฝึกทั กษ ะการสื่อสารอย่างเห มาะสมท้ั งการพู ด การฟั ง การเล่าเร่ือง เล่าข่าวเหตุการณ์ การอภิปราย การแสดงความคิดเห็น การบอก อธิบายสิ่งเรียนรู้ท่ีค้นพบท้ังที่เป็นกิจกรรมใน ห้องเรียน และกิจกรรมเสริมหลักสูตร กิจกรรมหน้าเสาธงตอนเช้า เป็นต้น จัดกิจกรรมร่วมกับผู้ปกครอง เพื่อให้ความต่อเน่ืองในการฝึกทักษะการสื่อสาร เช่น การให้นักเรียนและผู้ปกครองยืมหนังสือนิทาน ไป อ่าน ให้ เด็กฟั ง และบั น ทึ กคำพู ดนั กเรียน เก่ียวกับ นิ ท าน ท่ี ได้ฟั ง ลงในบั น ที กสาน สัมพั น ธ์บ้ าน และโรงเรยี น ๑.๔.๒ มที กั ษะการคิดพืน้ ฐาน โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ส่งเสริมให้นักเรียนมีความสามารถในการคิดพ้ืนฐาน ท่ีส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น ทักษะ สังเกตจำแนกและเปรียบเทียบ ให้นักเรียนทำการเปรียบเทียบ บอกเวลา บอกความสัมพันธ์ของขนาด สีและรูปทรง และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ท่ีก่อให้เกิดการเรียนรู้ การพัฒนาทักษะชีวิต โดยนักเรียนจะสรุปความรู้ท่ีได้รับมาเป็นองค์ความรู้ตามวัย และศกั ยภาพของผเู้ รยี น โครงการ/กิจกรรมที่เก่ียวข้องกับการพัฒนาความสามารถในการสังเกต จำแนกและเปรียบเทียบ ได้ แ ก่ กิ จ ก รรม วัน วิ ท ย าศ าส ต ร์ กิ จ ก รรม ก ารเรีย น ก ารส อ น แ บ บ โค รงก าร Project Approach กจิ กรรมเกมการศึกษา

รายงานการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ หนา้ ๗๕ จัดกิจกรรมการเรียนรู้เพิ่งฝึกทักษะการสังเกต จำแนก และเปรียบเทียบโดยให้เด็ก ใช้ระบบประสาทสัมผัสทั้ง 5 เพ่ือทำการสังเกต สำรวจส่ิงต่าง ๆ อย่างละเอียดลออ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพ่ือฝึกทักษะจำแนกเปรียบเทียบและบอกข้อแตกต่าง ด้านคุณสมบัติของสี รูปร่าง เป็นต้น จัดสถานการณ์ การเรียนรู้ให้มีโอกาสในการสังเกต จำแนก เปรียบเทียบ เช่น จัดการเรียนรู้โดยใช้ การจัดการเรียนรู้ แบบโครงการ Project Approach กิจกรรมเกมศกึ ษา เปน็ ต้น วางแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ โดยการจัดกิจกรรมประจำวันทั้ง 6 ตามตาราง ก ารจั ด กิ จ ก รรม ป ระจำวัน ระดั บ ป ฐม วัย เพ่ื อ ให้ เด็ ก ได้ เรีย น ด้ ว ยก ารใช้ ป ระส าท สั ม ผั ส ท างต า ในการมองและการสังเกต เรียนรู้ด้วยการใช้ประสาทสัมผัสทางหูในการได้ยินหรือฟังเสียงต่างๆ เรียนรู้ด้วยประสาทสัมผัสทางร่างกายในการสัมผัส หยิบจับส่ิงต่างๆ เรียนรู้รสชาติส่ิงต่าง ๆ ด้วยการใช้ประสาท สั ม ผั ส ล้ิ น ใน ก ารชิ ม รส แ ล ะ เรีย น รู้ ก ล่ิ น ต่ าง ๆ จ าก ก ารใช้ ป ระส าท สั ม ผั ส จ มู ก ใน ก ารด ม ก ล่ิ น เพื่อให้นักเรียนใช้สายตาในการมอง และการสังเกต ใช้มือและอวัยวะทางกายสัมผัส จับต้องสิ่งต่างๆ เพ่ือให้รู้ว่านุ่มหรือแข็ง ขรุขระหรือเรียบ การรับรู้กลิ่นต่าง ๆ ว่า หอมหรือเหม็ นด้วยการใช้จมูก ในการดมกลิ่น การฟังเสียงต่าง ๆ ว่าไพเราะน่าฟัง หรือเสียงดังรบกวน ด้วยการใช้ประสาทสัมผัสทางหู และการ รับ รู้เก่ี ย ว กั บ รส ช าติ อ าห ารต่ าง ๆ ว่า ห ว าน เป รี้ย ว เค็ ม ข ม ห รือ เฝื่ อ น ด้ ว ย ก ารใช้ ลิ้ น ชิ ม รส การเรียนรู้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้าเป็นการสำรวจส่ิงต่าง ๆ เพ่ือเป็นพื้นฐานในการพัฒ นาทักษะ ท า งด้ า น ส ติ ปั ญ ญ า เช่ น ทั ก ษ ะ พื้ น ฐ า น ท า งค ณิ ต ศ า ส ต ร์ ทั ก ษ ะ พ้ื น ฐ า น ท า งวิ ท ย า ศ า ส ต ร์ ทกั ษะทางภาษา เป็นตน้ การจดั กจิ กรรมประจำวันคณะครไู ดด้ ำเนนิ การ ดังน้ี กิจกรรมการเคลื่อนไหวและจังหวะ นอกจากจะมีจุดมุ่งหมายเพ่ือให้นักเรียนได้เคลื่อนไหว ร่างกายส่วนต่าง ๆ และเพื่อผ่อนคลายแล้ว กิจกรรมต่างๆ ท่ีจัดให้กับนักเรียนยังส่งเสริมในเร่ืองการเรียนรู้ จากการใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าด้วย โดยเฉพาะการรับรู้โดยใช้ประสาทสัมผัสทางหู เช่น การเคล่ือนไหวพ้ืนฐานท่ี เน้ น ให้ นั ก เรี ย น เค ลื่ อ น ไห ว ร่ า ง ก า ย ต า ม จิ น ต น า ก า ร ต า ม จั ง ห ว ะ เค า ะ ห รื อ เสี ย ง ด น ต รี และครูสร้างข้อตกลง กับนักเรียนว่าเม่ือไหร่ท่ีครูเคาะติดต่อกัน 2 คร้ังให้นักเรียนหยุดเคล่ือนไหว ในท่าทางนั้นหรือถ้าครูหยุดเพลงนักเรียนจะต้องหยุดเคล่ือนไหวทันที แสดงให้เห็นว่านักเรียนจะต้องฟัง แ ล ะ ป ฏิ บั ติ ต า ม ข้ อ ต ก ล ง ท่ี ค รู บ อ ก จึ ง ท ำ ใ ห้ นั ก เรี ย น ส า ม า ร ถ ท ำ กิ จ ก ร ร ม นี้ ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง หรือกิจกรรมการเคล่ือนไห วตามคำสั่ง เช่น ครูสั่งให้ นักเรียน เคลื่อน ไหวเลียนแบ บท่ าท างสัตว์ ท่าทางของคน หรือการเคลื่อนไหวเลียนแบบธรรมชาติ นักเรียนจะต้องใช้ประสาทสัมผัสด้วยการฟัง แล้วจงึ ปฏิบัติได้ เป็นตน้ กิจกรรมเสริมประสบการณ์ การจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์มีรูปแบบการจัดให้นักเรียน ได้ปฏิบัติอย่างหลากหลายทั้งการสาธิต การทดลอง การประกอบอาหาร การศึกษานอกสถานท่ี การจัดกิจกรรมเสริมประ สบ การณ์ ท่ีนั กเรียนมีโอกาสได้เรียนรู้ด้วยการใช้ป ระสาทสัมผัสทั้งห้ า เช่น กิจกรรมการประกอบอาหาร การทำขนมเต่า ในข้ันนำเข้าสู่กิจกรรม นักเรียนจะได้สังเกตลักษณะ ของวัตถุดิบท่ีนำมาทำขนมเต่าด้วยการสังเกตด้วยตาว่า มีลักษณะอย่างไร มีสีหรือรูปร่างอย่างไร การสัมผัส จั บ ต้ อ งด้ ว ย มื อ ว่ามี ค ว าม แ ข็ งห รือ น่ิ ม ก ารใช้ ป ระ ส าท ด้ ว ย ก ารด ม ก ล่ิ น ว่ ามี ก ล่ิ น ห อ ม ห รือ ไม่ ส่วนในข้ันดำเนินกิจกรรมเด็กจะได้ใช้ประสาทสัมผัสด้วยการจับหยิบสัมผัส วัตถุดิบต่าง ๆ ด้วยตนเอง ได้ใช้มือในการปั้นไส้ขนมเต่า และป้ันแป้ง บดแป้งใส่พิมพ์ และเคาะแป้งออกจากแม่พิมพ์ขนมเต่า ได้สังเกตด้วยตาว่าขนมเต่ามีส่วนประกอบอะไรบ้าง สังเกตเห็นว่าแป้งขนมเต่าก่อนจะใส่หม้อนึ่งกับท่ีสุกแล้ว

รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ หนา้ ๗๖ แตกต่างกันอย่างไร เด็กจะได้สังเกตด้วยตา ได้ใช้ประสาทสัมผัสด้วยการดมกลิ่น และในข้ันสุดท้าย เด็กจะได้ใช้ประสาทล้ินในการชิมรสชาติว่ามีรสชาติหวานมันอย่างไร ครูสามารถเปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้ โดยใชป้ ระสาทสัมผสั อย่างรอบด้าน กิจกรรมสรา้ งสรรค์ เป็นกิจกรรมท่ีนักเรยี นได้แสดงความร้สู กึ และจนิ ตนาการผ่านกิจกรรมศิลปะ ท่ีหลากหลาย เช่น กิจกรรมการวาดภาพระบายสี จะได้เรียนรู้ผ่านการใช้ประสาทสัมผัสด้วยการใช้สายตา ในการวาดภาพและระบายสี ได้ใช้ประสาทสัมผัสด้วยการจับต้องใน การหยิบจับดินสอและสีเทียน ในการระบายสีภาพท่ีวาด กิจกรรมการปั้นดินน้ำมัน ได้ใช้ประสาทสัมผัสมือและตาในการปั้นดินน้ำมัน ให้ เป็ น ตั ว สั ต ว์ ค น ห รื อ สิ่ งข อ ง กิ จ ก ร รม ก าร ร้ อ ย จ ะ ได้ ใช้ ป ระ ส าท สั ม ผั ส จ าก ก าร ม อ งเห็ น และใช้ประสาทสัมผัสมือในจับควบคุมการทำงานระหว่างมือและตา เพ่ือให้สามารถร้อยดอกไม้ได้ถูกต้อง นอกจากน้ี นกั เรยี นยังใช้ประสาทสมั ผัสจมกู ในการดมกลนิ่ ดอกไมท้ นี่ ำมาร้อยไดด้ ้วย กิจกรรมเสรีหรือเล่นตามมุม เป็นกิจกรรมท่ีนักเรียนได้พัฒนาในด้านต่างๆ จากการเล่น และสำรวจวสั ดอุ ุปกรณ์ประจำมุมต่างๆผา่ นการเรยี นรู้โดยใชป้ ระสาทสัมผัสต่างๆ เช่น มุมวิทยาศาสตร์ นักเรียนจะเรียนรู้ความแตกต่างของถุงธัญพืชจากการสัมผัสจับต้องด้วยมือ วา่ มคี วามแขง็ หรอื นมุ่ แขง็ กว่าอยา่ ง ไร เมือ่ เขยา่ ถุงธัญพชื จะไดเ้ รยี นรเู้ กี่ยวกบั เสียงจากการใช้ประสาทสมั ผัสทางหู หรือการสงั เกตด้วยการฟงั มุมดนตรี นักเรียนจะเรียนรู้ระดับเสียงต่างๆ จากการเคาะหรือเล่นเครื่องดนตรี เช่น กลอง ฉ่ิง ฉาบ ลูกแซค แทมมารนี มุมเคร่ืองเล่นสัมผัส นักเรียนจะได้เรียนรู้ด้วยสายตาและใช้มือสัมผัสจากกิจกรรมการร้อย เพ่ือสง่ เสริมการประสานสมั พันธท์ ี่ดรี ะหวา่ งประสาทสัมผสั มอื และตา เป็นตน้ กิจกรรมกลางแจ้ง นักเรียนจะได้เรียนด้วยประสาทสัมผัสทางหูจากการฟังสัญญาณ หรือคำส่ังก่อนการเล่นเกม เรียนรู้ด้วยการใช้ประสาทสัมผัสด้วยมือน้ิวมือและตา จากกิจกรรมการแข่งขันคีบลูก ปิ งป อ งใส่ ล งใน ต ะ ก ร้า ซ่ึ งเป็ น ก ารท ำงาน ป ระส าน กั น ระ ห ว่างมื อ แ ล ะต า ซ่ึ งเป็ น ก ารท ำงาน ของกลา้ มเนือ้ เล็ก เป็นต้น เกมการศึกษา นักเรียนจะเรียนรู้ด้วยการใช้ประสาทสัมผัสด้วยการสังเกตด้วยตาก่อนการเล่น จะรู้ว่ามีภาพอะไรบ้าง ให้จับคู่หรือจัดกลุ่มหรือให้เรียงลำดับ จากน้ัน นักเรียนจะใช้มือหยิบจับบัตรภาพ มาวางให้เป็นคู่ เช่น การจับคู่ภาพกับเงา จับคู่ภาพที่มีความสัมพันธ์กัน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวเป็นการเรียนรู้ ทใี่ ชท้ ้งั ประสาทสัมผสั ด้วยการสัมผัสดว้ ยมอื และการควบคุมกลา้ มเน้ือตาใหม้ ีความสมั พันธ์กนั เปน็ ต้น นอกจากน้ี ยังจัดให้มีโครงการ และกิจกรรมเสริมประสบการณ์เพ่ิมเติม เป็น กิจกรรม ท่ีส่งเสริมให้นักเรียนได้ใช้ทักษะการใช้ประสาทสัมผัสท้ัง 5 ได้แก่ กิจกรรมการจัดการเรียนการสอน แ บ บ โค ร ง ง า น Project Approach โค ร ง ก า ร ส่ งเส ริ ม ก า ร ศึ ก ษ า ศิ ล ป วั ฒ น ธ ร ร ม แ ห ล่ ง เรี ย น รู้ และภูมิปัญญาท้องถิ่น โครงการส่งเสริมการอ่าน โครงการจัดการเรียนการสอนดนตรี กิจกรรมเดินทางไกลลูกเสือ นอ้ ย โครงการวันวทิ ยาศาสตร์ โครงการจัดการเรียนการสอนภาษาองั กฤษ เป็นตน้ จั ด กิ จ ก ร ร ม ก า ร เรี ย น รู้ เพ่ื อ เส ริ ม ส ร้ า ง ทั ก ษ ะ ก า ร เช่ื อ ม โ ย ง ค ว า ม คิ ด แ ล ะ ก า ร น ำ ไ ป ใ ช้ อัน เป็ น การต่อยอดอย่างลุ่ม ลึก ต่อจากการใช้ระบ บ ป ระสาท สัมผัสเพื่ อ การไป ใช้ใน การเรียน รู้ ใน ระดับ ที่ สูงข้ึน โดยกระบ วน การศึกษ า Project Approach ฯลฯ ซ่ึงกระบ วน การเรียนรู้ดังกล่าว ส่งผลให้เด็กได้ใช้ระบบประสาทสัมผัสที่มีประสิทธิภาพ มี การเชื่อมโยงให้เกิดการเรียนรู้ การคิด การตัดสินใจ การฝึกทกั ษะ การควบคมุ ตนเอง อันเปน็ การเรยี นรู้ตามแนวทางการปฏิรปู ในศตวรรษท่ี 21

รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ หน้า ๗๗ ๑.๔.๑ มีความสามารถในการแสวงหาความรู้ โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต มุ่งม่ันจะพัฒนาให้นักเรียนทุกคนเป็นผู้ที่มีความพร้อม สมบูรณ์ท้ังทางร่างกายอารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา มีพัฒนาการที่เหมาะสมกับวัย มีสุขนิสัยท่ีดี เป็ น ค น ดี มีวินั ยใน ตน เอง เป็ น คน เก่ง รู้จักใฝ่เรียน และได้ เรียน รู้อย่างมี ความ สุข มีค วามม่ั น ใจ และเชื่อมั่นในตนเอง กล้าแสดงออก รู้จักการคิดวิเคราะห์ รู้จักดูแลตนเอง สามารถช่วยเหลือตนเอง และผู้อื่นก่อให้เกิดพัฒนาการท่ีมีความสมดุลครอบคลุมท้ังทางด้าน IQ และ EQ เพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ท่ีดี อยู่ในสังคมอย่างมีความสุข โครงการ/กิจกรรมพัฒนาความสนใจใฝ่รู้ได้แก่โครงการส่งเสริมและพัฒนา ประสบการณ์การเรียนรู้ กิจกรรมนักวิทยาศาสตร์น้อย กิจกรรมจัดการเรียนการสอนแบบโครงงาน Project Approach โครงการส่งเสริมการศึกษาศิลปวัฒ นธรรมแหล่งเรียนรู้และภูมิปัญ ญ าท้องถิ่น กิจกรรมศึกษาเรียนรู้ย้อนรอยเมืองภูเก็ต กิจกรรมศึกษาเรียนวิถีชีวิตคนภูเก็ต กิจกรรมศึกษาเรียนรู้ โลกของสัตว์ใต้ทะเล ผลการดำเนินงาน จากการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้กับนักเรียนทุกคนอย่างต่อเนื่องตลอดปีการศึกษา และการจัดโครงการเสริมประสบการณ์ให้กับนักเรียน ส่งผลให้นักเรียนโรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต มีผลการประเมินพัฒนาการด้านร่างกายอารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา ท่ีสอดคล้องกับหลักสูตร การศกึ ษาปฐมวยั พุทธศกั ราช 25๖๐ อยใู่ นระดบั ๓ ดังน้ี มาตรฐานที่ ๑ คณุ ภาพเดก็ ๑.๑ มีพัฒนาการด้านร่างกายแข็งแรง มีสขุ นสิ ัยท่ดี ี และดแู ลความปลอดภัยของตนเองได้ ตวั บ่งช้ี / ประเด็นพจิ ารณา ระดบั คณุ ภาพ จำนวน (คน) ร้อยละ ๑.๑ มพี ฒั นาการดา้ นร่างกายแข็งแรง มีสขุ นสิ ัยทด่ี แี ละดูแล ๓ ๔๓๑ ๘๙.๖๐ ความปลอดภยั ของตนเองได้ ๑.๑.๑ รา่ งกายแข็งแรง ๓ ๔๑๙ ๘๗.๑๑ - นำ้ หนักและสว่ นสูงตามเกณฑ์ของกรมอนามยั ๓ ๓๓๕ ๖๙.๖๕ - เคล่ือนไหวร่างกายอยา่ งคล่องแคลว่ ประสานสมั พันธ์ ๓ ๔๓๘ ๙๑.๐๖ และทรงตัวได้ - ใช้มือตาประสานสมั พนั ธ์กัน ๓ ๔๓๓ ๙๐.๐๑ ๑.๑.๒ มีสุขนิสัยท่ีดี ๓ ๔๗๔ ๙๘.๕๔ - รบั ประทานอาหารท่ีมปี ระโยชนแ์ ละดื่มน้ำสะอาด ๓ ๔๕๗ ๙๕.๐๑ - ล้างมอื กอ่ นรบั ประทานอาหารและหลังจากใช้ห้องนำ้ ๓ ๔๗๒ ๙๘.๑๓ หอ้ งส้วม - นอนพักผ่อนเป็นเวลา ๓ ๔๖๐ ๙๕.๖๓ - ออกกำลงั กายเปน็ เวลา ๓ ๔๕๗ ๙๕.๐๑ ๑.๑.๓ ดแู ลความปลอดภัยของตนเองได้ ๓ ๔๑๙ ๘๗.๑๑ - เล่นและทำกจิ กรรมอย่างปลอดภัย ๓ ๔๕๐ ๙๓.๕๖

รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ หน้า ๗๘ ๑.๒ มพี ฒั นาการดา้ นอารมณ์ จติ ใจ ควบคมุ และแสดงออกทางอารมณไ์ ด้เหมาะสม ตัวบ่งชี้ / ประเดน็ พิจารณา ระดับคณุ ภาพ จำนวน (คน) ร้อยละ ๙๕.๖๓ ๑.๒ มพี ัฒนาการดา้ นอารมณ์ จติ ใจ ควบคุมและแสดงออก ๓ ๔๖๐ ๙๕.๔๓ ทางอารมณไ์ ด้เหมาะสม ๙๕.๔๓ ๘๓.๓๗ ๑.๒.๑ มสี ขุ ภาพจิตดแี ละมคี วามสขุ ๓ ๔๕๙ ๙๘.๓๓ - แสดงอารมณ์ตามความร้สู กึ ได้ ๓ ๔๕๙ ๙๖.๒๖ - กลา้ พดู กลา้ แสดงออก ๓ ๔๐๑ ๙๗.๐๙ - แสดงความพอใจในผลงานและความสามารถของตนเอง ๓ ๔๗๓ ๙๖.๒๖ ๙๕.๘๔ และผอู้ ื่น ๙๖.๒๖ ๙๕.๘๔ ๑.๒.๒ ชืน่ ชมและแสดงออกทางศิลปะดนตรี ๓ ๔๖๓ ๘๙.๔๐ และการเคลอ่ื นไหว - สนใจมีความสุขและแสดงออกผ่านงานศิลปะดนตรี ๓ ๔๖๗ และการเคลอื่ นไหว ๑.๒.๓ มคี ุณธรรมจริยธรรมและจติ ใจทด่ี งี าม ๓ ๔๖๓ - ซ่ือสตั ย์สุจรติ ๓ ๔๖๑ - มคี วามเมตตากรุณา มีน้ำใจช่วยเหลอื แบง่ ปัน ๓ ๔๖๓ - แสดงสหี น้าและท่าทางรับรคู้ วามรู้สึกของผู้อ่นื ๓ ๔๖๑ - ทำงานท่ีได้รบั มอบหมายจนสำเร็จ ๓ ๔๓๐ ๑.๓ มีพัฒนาการด้านสังคมช่วยเหลือตนเอง และเป็นสมาชิกท่ดี ขี องสังคม ตัวบ่งชี้ / ประเดน็ พจิ ารณา ระดบั คณุ ภาพ จำนวน (คน) รอ้ ยละ ๙๖.๔๗ ๑.๓ พัฒนาการด้านสังคมช่วยเหลือตนเอง และเป็นสมาชิก ๓ ๔๖๔ ๙๗.๗๑ ที่ดีของสงั คม ๙๕.๘๔ ๙๘.๑๓ ๑.๓.๑ ช่วยเหลือตนเองในการปฏิบัติกจิ วตั รประจำวัน ๓ ๔๗๐ ๙๘.๓๓ ๙๒.๙๓ - แต่งตัวดว้ ยตนเอง ๓ ๔๖๑ ๙๕.๘๔ ๘๙.๖๐ - รับประทานอาหารดว้ ยตนเอง ๓ ๔๗๒ ๙๕.๐๑ ๙๕.๐๑ - ใชห้ อ้ งน้ำหอ้ งส้วมดว้ ยตนเอง ๓ ๔๗๓ ๙๗.๙๒ ๙๗.๙๒ ๑.๓.๒ มวี นิ ัยในตนเอง ๓ ๔๔๗ ๙๗.๗๑ - เกบ็ ของเลน่ ของใช้เขา้ ที่ ๓ ๔๖๑ - เข้าแถวตามลำดับก่อนหลงั ๓ ๔๓๑ ๑.๓.๓ ประหยดั และพอเพยี ง ๓ ๔๕๗ - ใช้สิง่ ของเครอื่ งใช้อย่างประหยัดและพอเพยี ง ๓ ๔๕๗ ๑.๓.๔ การดูแลรักษาธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ๓ ๔๗๑ - มสี ว่ นร่วมดแู ลรกั ษาธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม ๓ ๔๗๑ - ทิง้ ขยะใหถ้ ูกท่ี ๓ ๔๗๐

รายงานการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศึกษา ๒๕๖๒ หนา้ ๗๙ ๑.๓ มพี ฒั นาการดา้ นสงั คมช่วยเหลอื ตนเอง และเป็นสมาชกิ ท่ดี ขี องสงั คม (ต่อ) ตวั บ่งช้ี / ประเด็นพจิ ารณา ระดับคณุ ภาพ จำนวน (คน) รอ้ ยละ ๙๖.๔๗ ๑.๓ พัฒนาการด้านสังคมช่วยเหลือตนเอง และเป็น ๓ ๔๖๔ ๙๗.๐๙ สมาชิกที่ดีของสงั คม (ต่อ) ๙๕.๖๓ ๑.๓.๕ มมี ารยาทตามวัฒนธรรมไทยและรัก ๓ ๔๖๗ ๙๔.๑๘ ๙๘.๑๓ ความเป็นไทย ๙๖.๖๗ - ปฏิบตั ิตนตามมารยาทไทย ๓ ๔๖๐ ๙๗.๕๑ - กลา่ วคำขอบคุณและขอโทษ ๓ ๔๕๓ ๙๔.๕๙ ๙๐.๖๔ - หยดุ ยนื ตรงเม่อื ไดย้ ินเพลงชาติและเพลงสรรเสรญิ ๓ ๔๗๒ ๙๕.๒๒ พระบารมี ๑.๓.๖ อยู่ร่วมกับผู้อนื่ ไดอ้ ยา่ งมคี วามสุขและปฏบิ ตั ิ ๓ ๔๖๕ ตนเปน็ สมาชกิ ทด่ี ีของสังคม - มีปฏิสัมพนั ธท์ ี่ดีกับผูอ้ ืน่ ๓ ๔๖๙ - มสี ่วนรว่ มสร้างขอ้ ตกลงและปฏบิ ัตขิ ้อตกลง ๓ ๔๕๕ - ปฏบิ ตั ติ นเป็นผู้นำและผู้ตาม ๓ ๔๓๖ - ประนปี ระนอมแก้ไขปญั หาโดยปราศจากการใช้ ๓ ๔๕๘ ความรนุ แรง ๑.๔ มีพฒั นาการด้านสติปัญญา สื่อสารได้ มที กั ษะการคิดพนื้ ฐาน และแสวงหาความรู้ได้ ตวั บง่ ชี้ / ประเด็นพจิ ารณา ระดับคณุ ภาพ จำนวน (คน) ร้อยละ ๑.๔ พฒั นาการด้านสตปิ ัญญา สอ่ื สารได้ มีทักษะการคดิ ๓ ๔๓๔ ๙๐.๒๓ พนื้ ฐาน และแสวงหาความรไู้ ด้ ๑.๔.๑ ใชภ้ าษาส่อื สารได้เหมาะสมกับวัย ๓ ๔๔๐ ๙๑.๔๘ - สนทนาโต้ตอบและเล่าเร่ืองให้ผอู้ ่นื เข้าใจ ๓ ๔๒๕ ๘๘.๓๖ - อา่ นภาพ สัญลกั ษณ์ คำ พร้อมทง้ั ชี้หรือกวาดตามอง ๓ ๔๓๙ ๙๑.๒๗ ตามบรรทดั - เขียนคล้ายตวั อักษร / เขยี นช่ือของตนเองตามแบบ ๓ ๔๕๙ ๙๕.๔๓

รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๒ หนา้ ๘๐ ๑.๔ มีพัฒนาการด้านสตปิ ัญญา สื่อสารได้ มีทักษะการคิดพนื้ ฐาน และแสวงหาความรูไ้ ด้ (ต่อ) ตวั บง่ ชี้ / ประเดน็ พจิ ารณา ระดบั คณุ ภาพ จำนวน (คน) รอ้ ยละ ๑.๔ พัฒนาการดา้ นสติปญั ญา สอื่ สารได้ มีทักษะการคิด ๓ ๔๓๔ ๙๐.๒๓ พน้ื ฐาน และแสวงหาความรไู้ ด้ ๑.๔.๒ มที กั ษะการคิดพื้นฐาน ๓ ๔๐๖ ๘๔.๔๑ - บอกลกั ษณะส่วนประกอบ การเปลย่ี นแปลงหรือ ๓ ๔๒๓ ๙๗.๙๗ ความสมั พันธข์ องสิ่งต่าง ๆ โดยใชล้ ักษณะทีส่ งั เกตพบ เปน็ เกณฑ์ - จบั ค่แู ละเปรยี บเทียบความแตกตา่ งความเหมือนของส่งิ ๓ ๔๕๐ ๙๓.๕๖ ต่าง ๆ โดยใชล้ กั ษณะทีส่ งั เกตพบเปน็ เกณฑ์ - จำแนกและจัดกลุ่มสิง่ ต่าง ๆ โดยใชต้ ง้ั แต่ ๑ ลักษณะข้ึน ๓ ๔๔๓ ๙๒.๑๐ ไปเป็นเกณฑ์ (ทกั ษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร)์ - เรียงลำดบั สง่ิ ของและเหตุการณ์อยา่ งน้อย ๕ ลำดบั ๓ ๓๙๑ ๘๑.๒๙ (ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร)์ - อธิบายสาเหตแุ ละผลทีเกิดขึ้นในเหตกุ ารณ์ ๓ ๔๐๐ ๘๓.๑๖ หรอื การกระทำ (ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์) - คาดคะเนสง่ิ ที่อาจจะเกิดข้ึน หรอื มสี ่วนร่วมในการลง ๓ ๓๗๒ ๗๗.๓๓ ความเหน็ จากข้อมูล (ทักษะกระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร)์ - ตัดสนิ ใจเรอื่ งงา่ ย ๆ และยอมรับผลท่เี กดิ ข้นึ ๓ ๔๑๖ ๘๖.๔๙ - ระบุปญั หาสรา้ งทางเลือกและวธิ ีแก้ปญั หา ๓ ๓๘๙ ๘๐.๘๗ ๑.๔.๓ มีความสามารถในการแสวงหาความรู้ ๓ ๔๑๒ ๘๕.๖๕ - ค้นหาคำตอบของข้อสงสัยต่าง ๆ ตามวิธีการ ๓ ๔๑๐ ๘๕.๒๔ ของตนเอง - ใช้ประโยคคำถามวา่ เม่ือไร ทำไม อย่างไร ๓ ๔๐๖ ๘๔.๔๑ ในการคน้ หาคำตอบ ข้อมูล หลักฐาน เอกสารเชิงประจกั ษ์ท่สี นับสนนุ ผลการประเมินตนเอง ๑. แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ หนว่ ยกนิ ดี อยู่เปน็ เลน่ อยา่ งสร้างสรรค์ ขยบั กาย สบายชีวี ๒. โครงการโภชนาการสมวัยเพือ่ เด็กปฐมวยั โรงเรียนอนบุ าลเทศบาลนครภูเกต็ ๓. โครงการส่งเสริมสขุ ภาพในโรงเรยี น กจิ กรรมหนนู ้อยสุขภาพดี กจิ กรรมช่ังนำ้ หนักวดั สว่ นสงู กิจกรรมแกไ้ ขปญั หานักเรียนทม่ี ีภาวะทุพโภชนาการ กิจกรรมโภชนาการและอาหารกลางวนั กิจกรรมอาหารเสริม (นม) โรงเรยี น ๔. กจิ กรรมการแข่งขันกีฬานักเรียนอนบุ าลเทศบาลนครภเู กต็ สัมพนั ธ์ ๕. แฟ้มสะสมผลงานนกั เรียน ๖. โครงการสง่ เสริมสุนทรยี ภาพดา้ นศลิ ปะ ดนตรี นาฏศิลป์ และกีฬา (กิจกรรมหลังเลกิ เรียน) ๗. โครงการสภาจวิ๋ สง่ เสรมิ ประชาธิปไตยในโรงเรยี น

รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศึกษา ๒๕๖๒ หนา้ ๘๑ ๘. โครงการรักการอา่ น ๙. โครงการจัดนิทรรศการแสดงผลงานทางวิชาการ ๑๐. โครงการจัดการเรยี นการสอนแบบโครงงาน Project Approach ๑๑. โครงการจัดการเรยี นการสอนดนตรี ๑๒. กจิ กรรมวนั เด็กแห่งชาติ ๑๓. กจิ กรรมวันคริสต์มาสต์สง่ ทา้ ยปเี กา่ ตอ้ นรบั ปีใหม่ ๑๔. กิจกรรมวนั ไหว้ครู กิจกรรมวันแมแ่ หง่ ชาติ ๑๕. กิจเย่ยี มบ้านนักเรยี น ๑๖. โครงการสบื สานวฒั นธรรมและประเพณีไทย กจิ กรรมวันลอยกระทง ๑๗. โครงการสืบสานวฒั นธรรมและประเพณีไทย กจิ กรรมวันไหวค้ รู ๑๘. โครงการสืบสานวฒั นธรรมและประเพณีไทย กจิ กรรมวนั เข้าพรรษา ๑๙. โครงการวนั สำคัญทางศาสนา วันมาฆบูชา วนั วิสาขบชู า วนั อาสาฬหบชู า ๒๐. โครงการวันสำคัญของชาติ วันแม่ วันพอ่ ๒๑. โครงการงามอยา่ งไทย กจิ กรรมสง่ เสรมิ อตั ลักษณ์นักเรยี น ท.๖ กจิ กรรมประกวดมารยาทไทย ๒๒. กจิ กรรมบูรณาการวันพ้อต่อ ๒๓. โครงการส่งเสริมคุณธรรมจรยิ ธรรม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ กิจกรรมคา่ ยพุทธบุตรนอ้ ย ๒๔. กจิ กรรมการประเมนิ กจิ วัตรประจำวัน ๒๕. โครงการลูกเสอื นอ้ ย ๒๖. กจิ กรรมสายตรวจประหยัดพลงั งาน ๒๗. กจิ กรรมหอ้ งเรยี นระเบยี บวนิ ัยดีเดน่ ๒๘. โครงการหนนู อ้ ยปฐมวยั ใสใ่ จส่งิ แวดลอ้ มกิจกรรมสายตรวจประหยัดพลงั งาน ๒๙. กจิ กรรมประกวดพน้ื ทร่ี ักษ์สะอาด ๓๐. กจิ กรรมสดุ ยอดนกั ออม ๓๑. กิจกรรมโลกสวยดว้ ยมือเรา ๓๒. กิจกรรมชวนลกู ปลกู ตน้ ไม้ / ปลูกผกั สวนครัว ๓๓. โครงการประกวดพืน้ ท่รี ักษาความสะอาด ๓๔. กจิ กรรมภาษาอังกฤษวันละคำ ๓๕. กจิ กรรมการจดั การเรียนการสอนแบบโครงงาน Project Approach ๓๖. โครงการส่งเสริมการศึกษาศิลปวฒั นธรรมแหลง่ เรยี นรแู้ ละภูมิปญั ญาท้องถิ่น ๓๗. โครงการจัดการเรยี นการสอนดนตรี ๓๘. กิจกรรมวันวิทยาศาสตร์ ๓๙. โครงการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ

รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศึกษา ๒๕๖๒ หนา้ ๘๒ จดุ เด่น ๑. นกั เรียนมีสขุ นิสัย สุขภาพกาย และสขุ ภาพจิตดี ๒. นกั เรียนมคี วามสามารถด้านศิลปะ ดนตรี กีฬา และมีความกลา้ แสดงออก ๓. เดก็ มมี ารยาทตามวัฒนธรรมไทย เชน่ การไหว้ ยม้ิ ทักทาย จดุ ที่ควรพัฒนา ๑. ควรพัฒนาให้เด็กมที ักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ๒. พฒั นาเด็กใหม้ ีความพร้อมในการเรยี นสอบเข้าเรียนตอ่ ระดับช้นั ป.๑ ๓. จดั กิจกรรมส่งเสริมให้เด็กได้รับการพฒั นาตามศักยภาพและความแตกต่างระหว่างบุคคล ๔. สง่ เสริมให้เดก็ มีความรู้และวิธปี ฏบิ ัตติ นให้ปลอดภัยเกย่ี วกับโรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ COVID - 19 นวัตกรรม / แบบอย่างที่ดี การส่งเสริมให้เด็กมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยการจัดการเรียนการสอน แบบโครงงาน Project Approach การส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การบูรณาการในช้ันเรียน และ การจัดกิจกรรมใหน้ ักเรียนปลกู ผักสวนพอเพยี ง เดก็ ไดร้ บั การพฒั นาศักยภาพตามความถนัดและสนใจ ข้อเสนอแนะ ๑. พัฒนาเด็กให้มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้กระบวนการ Project Approach อย่างตอ่ เน่อื ง และกจิ กรรมบรู ณาการวทิ ยาศาสตรต์ ามหนว่ ยการเรียนรู้ ๒. จัดกิจกรรมบูรณาการความร้แู ละวธิ ปี ฏบิ ัตติ นให้ปลอดภัยเกี่ยวกับโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา่ COVID - 9 มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ ระดับคณุ ภาพ ดเี ลศิ วธิ ีดำเนินการ โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ดำเนินการบริหารและจัดการสถานศึกษาท่ีครอบคลุม ด้านวิชาการ ด้านครูและบุคลากร ด้านข้อมูลสารสนเทศ ด้านสภาพแวดล้อม และสื่อเพ่ือการเรียนรู้ และด้านระบบประกันคุณภาพภายใน โดยเปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา มีการกำกับติดตามการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ และต่อเนื่องเพื่อสร้างความม่ันใจต่อคุณ ภาพ การจัดการศึกษาของสถานศีกษา ดังนี้ ๒.๑ มหี ลกั สูตรครอบคลุมพัฒนาการทัง้ ๔ ด้าน สอดคล้องกับบริบทของท้องถนิ่ ๒.๑.๑ มีการประเมินและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาให้สอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษา ปฐมวยั และหลักสตู รท้องถน่ิ โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ได้พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย โดยได้ดำเนินการ อย่างเป็นระบบโดยตระหนักถึงความสอดคล้องกับปรัชญา หลักการ และเป้าหมายของการจัดการศึกษาปฐมวัย ท่ีกำหนดไว้ในหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ให้เหมาะสมกับเด็ก สถานศึกษา และสภาพชุมชน หลักสูตรเปรียบเหมือนแม่บทของการศึกษาที่ถือเป็นแก่นสำคัญ ในการวางแนวทางการจัดการศึกษา เป็นตวั กำหนดทิศทางของการศึกษาในการทจ่ี ะได้ให้ความรู้ การเสริมสรา้ งเจตคติ ตลอดทง้ั การฝกึ ฝนในดา้ นต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนารอบด้าน และทักษะสำคัญสำหรับเด็กในศตวรรษท่ี ๒๑ สอดคล้องกับนโยบาย ไทยแลนด์ ๔.๐ โรงเรียนได้ดำเนินการ พัฒ นาหลักสูตร ดังนี้ 1.) สำรวจความต้องการของชุมชน

รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ หน้า ๘๓ เรื่องการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย เพ่ือใช้เป็นข้อมูลพ้ืนฐานในการวางแผนพัฒนาหลักสูตร 2.) ศึกษาปรัชญา วิสัยทัศน์ ของโรงเรียนเพ่ือทำปรัชญา วิสัยทัศน์ การจัดการศึกษาปฐมวัยให้สอดคล้องกัน ท้ังระบบ 3.) วิเคราะห์สาระการเรียนรู้ของหลักสูตรแกนกลางเพื่อกำหนดเป็นสาระการเรียนรู้ของหลักสูตร สถานศึกษาปฐมวัย 4.) แต่งต้ังคณะกรรมการพัฒ นาหลักสูตรโรงเรีย นอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต 5.) ประชุมปฏิบัติการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย 6.) เสนอหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย ต่อผู้ทรงคุณวุฒิเพ่ือตรวจพิจารณา ให้ข้อเสนอแนะ 7.) ปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย ตามข้อเสนอแนะ ของผู้ทรงคุณวุฒิ 8.) จัดพิมพ์และจัดทำรูปเล่ม เสนอต่อผู้บริหารสถานศึกษาเพ่ือลงนามประกาศใช้ เป็นหลักสูตรสถานศึกษา โดยการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายท่ีเก่ียวข้องได้แก่ ผู้บริหาร คณะครู คณะกรรมการ สถานศึกษาข้ันพ้นื ฐาน ผู้ปกครอง ในปีการศึกษา ๒๕๖๒ ดำเนินการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุ ท ธศั ก ราช ๒ ๕ ๖ ๐ ข องก ระท รวงศึ ก ษ าธิก าร โด ยค รูผู้ สอ น จัด ท ำแผ น ก ารจัด ป ระสบ การณ์ ให้สอดคล้องกับหลักสูตร เน้นการจัดประสบการณ์ให้นักเรียนมีพัฒนาการท้ังด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญาท่ีเหมาะสมกับวัย ความสามารถและความแตกต่างระหว่างบุคคลอย่างเต็มศักยภาพ ครูทุกคนได้รับการพัฒ นา และเรียนรู้การนำหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย ไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่นการอบรมพัฒนาบุคลากรแลกเปล่ียนเรียนรู้ระหว่างครูผู้สอนด้วยกันอย่างต่อเน่ือง ท้ังในโรงเรียนอนุบาล เทศบาลนครภูเก็ต และระหว่างโรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครภูเก็ต เชิญวิทยากรผู้มีความรู้ความสามารถ เฉพาะด้านการพัฒนาเด็กปฐมวัยมาให้ความรู้ครูผู้สอน โดยได้รับ อนุเคราะห์วิทยากรผู้มีความเชี่ยวชาญ ด้านปฐมวัย จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย การนำครูผู้สอนไปศึกษาดูงานโรงเรียนที่ประสบความสำเร็จ ในการจัดการศึกษาระดับปฐมวัย ภายใต้แนวคิด “พัฒ นาครูอย่างต่อเนื่องสู่การเป็นครูมืออาชีพ” โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ให้ความสำคัญในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ซึ่งเป็นโครงการต่อเน่ือง เพ ราะ ต ระ ห นั ก ว่ าห ลั ก สู ต รคื อ แ ผ น แ ม่ บ ท เป รีย บ เส มื อ น พิ ม พ์ เขี ย ว ( Blue print) ข อ งแ ป ล น ทใี่ ช้ในการสร้างบ้าน ซึ่งจะแสดงภาพรวมของส่ิงท่ีเรามุ่งหวงั เป็นกรอบทิศทางในการวางแผนการจดั ประสบการณ์ เพื่อพัฒนานักเรียน โดยหลักสูตรสถานศึกษาต้องมีความเหมาะส มตามศักยภาพบริบทของโรงเรียน และความตอ้ งการของชมุ ชน นอกจากนี้ โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ตยังได้คำนึงถึงบริบทด้านสภาพแวดล้อมท้องถ่ิน ในเขตจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะอย่างย่ิงบริเวณท่ีตั้งของโรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ซ่ึงมีแหล่งเรียนรู้ ที่สำคัญได้แก่ ห้องสมุดประชาชนเทศบาลนครภูเก็ต ศาลเจ้าพ้อต่อก๊งบางเหนียว สวนสาธารณะ (เลในเมือง) ป่าชายเลนสะพานหิน ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ชุมชนย่านเมืองเก่าถนนถลาง พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว สถานแสดงพนั ธุ์สัตวน์ ้ำภูเก็ต เป็นตน้ ซงึ่ สถานที่ดงั กลา่ วสามารถเป็นแหล่งเรยี นรูท้ ส่ี ำคัญของเดก็ คณะกรรมการดำเนินงานพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ของโรงเรียนอนุบาลเทศบาล นครภูเก็ต ดำเนินการภายใต้แนวคิดการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา โดยดำเนินการจัดการศึกษาให้สอดคล้อง กับสภาพปัญหา ในชุมชน และสังคม หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยพุทธศักราช ๒๕๖๐ เป็นเพียงแนวทาง ในการจัดการศึกษาซึ่งสถานศึกษาจะต้องมีการปรับเปล่ียนเพ่ือให้สอดคล้องกับธรรมชาติและการเรียนรู้ ของเด็กปฐมวัยในแต่ละท้องถิ่น ตลอดจนสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยีของชุมชน จึงได้จัดทำหลักสูตรสถานศึกษาท่ีมีการบูรณาท้องถิ่น เพ่ือนำมาจัดประสบการณ์ ใหก้ บั เดก็ นกั เรยี น

รายงานการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ หน้า ๘๔ โรงเรียนได้ดำเนินการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัย ของโรงเรียนอนุบาลเทศบาล นครภูเก็ต โดยคำนึงถึงความต้องการของเด็ก และศักยภาพของสถานศึกษาโดยได้กำหนดสาระการเรียนรู้ รายปี และกำหนดประสบการณ์ สำคัญที่นักเรียนควรได้รับ ดำเนินการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ให้เด็กทุกคนเรียนรู้อย่างสนุกสนาน สนใจได้ลงมือกระทำ ได้รับประสบการณ์ตรง ได้ใช้ประสาทสัมผัสท้ัง ๕ อย่างเหมาะสม ซ่ึงส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กในทุก ๆ ด้านอย่างสมดุล ท้ังด้านร่างกาย อารมณ์จิตใจ สังคม และสติปัญญา พ้ืนฐานความรู้เดิม ความต้องและและความสนใจของเด็ก ตลอดจนต้องคำนึงถึงชีวิตประจำวัน ของเดก็ แต่ละคน สาระการเรียนรู้ทกี่ ำหนดไว้ในหลกั สตู รสถานศึกษา ดังนี้ สาระท่ี ๑ เร่อื งราวเก่ียวกับตวั เด็ก สาระที่ ๒ เรือ่ งราวเก่ียวกบั บคุ คลและสถานทีแ่ วดลอ้ มเดก็ สาระที่ ๓ ธรรมชาตริ อบตัว สาระที่ ๔ ส่งิ ต่าง ๆ รอบตวั เด็ก คณะกรรมการดำเนินงานพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ของโรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต มีหน้าที่ในการนิเทศภายในควบคู่ไปด้วยตลอดทุกข้ันตอนการใช้หลักสูตรสถานศึกษา โดยการนิเทศ ก ำ กั บ ติ ด ต า ม แ ล ะ ป ร ะ เมิ น ผ ล ก า ร ใช้ ห ลั ก สู ต ร ซึ่ งเป็ น ข้ั น ต อ น ก า ร น ำ ห ลั ก สู ต ร ไป ใช้ น้ั น โรงเรียนมีการแต่งต้ังคณ ะกรรมการมอบหมายการปฏิบัติงานฝ่ายวิชาการ ให้มีการบริหารจัดการ โดยมีผู้อำนวยการสถานศึกษา และรองผู้อำนวยการสถานศึกษา หัวหน้าฝ่ายบริหารวิชาการ หัวหน้าสายช้ัน รับผิดชอบในการนิเทศกำกับติดตาม และประเมินผลการใช้หลักสูตร และมีคณะทำงานในการนิเทศภายใน ประกอบดว้ ย ๑. การนิเทศโดยการแลกเปล่ียนเรียนรู้ โดยกำหนดให้ครูทุกคนต้องได้รับการนิเทศ อย่างน้อยเดือนละ ๑ คร้ัง เพื่อนำผลการนิเทศไปปรับปรุงพัฒนาต่อไป ซ่ึงการนิเทศดังกล่าวทำให้มีการพัฒนา หลักสูตรอย่างต่อเนื่อง และเหมาะสมเพราะครูผู้สอนได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ จากผู้นิเทศ ซึ่งเป็นผู้ มีประสบการณ์ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ มีความรู้ความเขา้ ใจในหลักสูตร รู้และเข้าใจสภาพปัญหาของนักเรียน โรงเรียน ชุมชน และสังคมเปน็ อยา่ งดี ๒. การนิเทศในโรงเรียนโดยการให้ความรู้ในการประชุมวางแผนการจัดประสบการณ์ร่วมกัน เพ่ื อ ให้ ส อ ด ค ล้ อ งกั บ ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า ก า ร สั งเก ต ก า ร ณ์ จั ด ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ ก า ร เรี ย น รู้ โดยผู้บริหารสถานศึกษา เป็นผู้มีบทบาทในการในการส่งเสริม สนับสนุน ให้คำแนะนำในการพัฒนาหลักสูตร สถานศึกษาโดยผู้บริหารของโรงเรียนเป็นผู้มีความรู้ความเข้าใจ กระบวนการพัฒนาหลักสูตร ตลอดจน กระบวนการบริหารการศกึ ษาเป็นอยา่ งดี ๓. วิทยากรท้องถิ่น เป็นคณะกรรมการร่วมโดยเป็นผู้ให้ความรู้ ข้อเสนอแนะแนวทาง ในการพัฒนาหลักสูตรเป็นผู้ท่ีรู้และเข้าใจด้านสภาพ และความต้องการของท้องถ่ินหรือชุมชนนั้น ๆ เปน็ อยา่ งดี สามารถใหค้ ำแนะนำคณะกรรมการดำเนินงานได้อย่างต่อเน่ือง

รายงานการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ หน้า ๘๕ รปู แบบการนิเทศมีรูปแบบท่ีหลากหลาย และเหมาะสมกบั สภาพปัญหา และบริบทของโรงเรียน เช่น การจัดประชุมครูเพื่ อวางแผนการนำหลักสูตรไปออกแบบกา รจัดประสบ การณ์ การเรียนรู้ ก า ร นิ เท ศ โด ย ก า ร สั ง เก ต ก า ร ส อ น แ บ บ กั ล ย า ณ มิ ต ร ก า ร ต ร ว จ แ ผ น ก า ร จั ด ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ และการวิจัยในช้ันเรียน เป็นต้น นอกจากน้ีแล้วโรงเรียนได้แต่งต้ังคณะกรรมการนิเทศภายใน เพื่อออกแ บบ เคร่ืองมือการนิเทศ ดำเนินการประเมินโครงการนิเทศ มีผู้บริหารสถานศึกษาเข้ามามีส่วนร่วมประเมิน ทุกข้ันตอนการนิเทศ ได้ดำเนินการในก ารนำผลการประเมินไปใช้ปรับป รุงและพัฒ นาหลักสูตร โรงเรียนได้ดำเนินการประเมินผลการพัฒนาหลักสูตรจากการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ โดยการสังเกต การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ การนิเทศการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ การศึกษาผลการพัฒนาของนักเรียน ท้ังด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา มาประมวลรวมท้ังจัดอบรมครู และผู้ท่ีมีส่วนเก่ียวข้อง ในการพัฒนาหลักสูตร เพื่อให้ครูมีความรู้ความเข้าใจ และสามารถดำเนินการได้อย่างครบวงจรคุณภาพ (PDCA) คือการวางแผน การปฏบิ ัติ การประเมินผลและการปรบั ปรุงพัฒนา ๒.๑.๒ สถานศึกษาออกแบบการจัดประสบการณ์ท่ีเตรียมความพร้อมใช้กระบวนการ Active Learning การจัดทำแผนและการจัดประสบการณ์ หมายถึง การที่สถานศึกษามีการจัดทำแผน การจัดประสบการณ์/กิจกรรมการเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับปรัชญา หลักการ และจุดมุ่งหมายหลักสูตร สภาพแวดล้อม วัฒนธรรมท้องถ่ิน ส่งเสริมความเป็นไทย และเอื้อต่อการนำไปใช้ในชีวิตประจำวั น ลักษณะแผนการจัดประสบการณ์ต้องจัดในรูปแบบบูรณาการผ่านการเล่น จัดกระบวนการพัฒนาเด็ก บนพื้นฐานความเช่ือท่ีว่าเด็กทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ โดยคำนึงถึงพัฒนาการ ความแตกต่างระหว่างบุคคล ทั้งในด้านวิธีการเรียนรู้ เวลาที่ใช้ในการเรียนรู้ ความต้องการและสนใจ (เด็กมีโอกาสเลือกและตัดสินใจ ตามความสนใจ) มุง่ เน้นให้เดก็ ไดร้ บั ประสบการณ์ตรง โรงเรียนได้ดำเนินการให้ครูประชุมวางจัดทำแผนการจัดประสบการณ์ การเรียนรู้ ล่วงหน้าก่อนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้อย่างน้อย ๑ สัปดาห์ โดยกำหนดให้ ประชุมจัดทำแผน ในระดับสายชั้นทุกวันจันทร์ เวลา ๑๖.๓๐ น. เป็นต้นไป โดยมีผู้บริหาร และคณะครูร่วมกันวางแผนการจัด ประสบการณ์การเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษา เพ่ือให้เด็กได้รับประสบการณ์เกิดทักษะการเรียนรู้ ท่ีเน้นกระบวนการคิด กระตุ้นพัฒนาการทางสมอง นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง มีการค้นคว้าทดลอง ศึกษาเรียนรู้จากประสบการณ์จริง การบูรณาการจากแหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน การจัด กิ จกรรม เฉพ าะบุ คค ล ห รือ กลุ่ ม เล็ก เพ่ื อพั ฒ น าค วาม เป็ น เลิศ แ ละเพ่ื อ แก้ ปั ญ ห าผู้ เรีย น แ ล ะ น ำ ม า ป รั บ ป รุ งใน ก า ร จั ด ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ ค รั้ ง ต่ อ ไป เพื่ อ ให้ มี ค ว า ม ส อ ด ค ล้ อ งเห ม า ะ ส ม กั บ เห ตุ ก า ร ณ์ และสถานการณท์ ่ีเกดิ ขนึ้ จรงิ ในชุมชนและสงั คม ๒.๑.๓ จัดประสบการณ์ตอบสนองความต้องการและความแตกต่างของเด็กปกติ และกลุ่มเปา้ หมายเฉพาะ โร ง เรี ย น อ นุ บ า ล เท ศ บ า ล น ค ร ภู เก็ ต ได้ ให้ ค ว า ม ส ำ คั ญ กั บ ก า ร พั ฒ น า เด็ ก โด ย ค ำนึ งถึ งก ระ บ ว น ก ารเรีย น รู้ แ ล ะ ก ารใช้ ส ม อ งเป็ น ฐ าน ใน ก ารพั ฒ น าเด็ ก เป็ น ราย บุ ค ค ล ซ่ึงสมองของคนเราจะแบ่งเป็น ๒ ซีก คือซีกซ้ายกับซีกขวา สมองท้ังสองด้านมีความสัมพั นธ์กัน ส ม อ ง มี ห น้ า ที่ ค ว บ คุ ม ก า ร รั บ รู้ ก า ร คิ ด ก า ร เรี ย น แ ล ะ ก า ร จ ำ แ ล ะ พ ฤ ติ ก ร ร ม ข อ ง ม นุ ษ ย์ สมอ งควบ คุ ม การท ำงาน ของอวัยวะต่ าง ๆ ของร่างก ายส มอง จึงท ำห น้ าที่ ห ลายอย่างท้ั งรับ รู้ เรียนรู้และควบคุมการทำงานขออวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย ครูจำเป็นต้องมีความรู้เก่ียวกับพัฒนาการทางสมอง

รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ หนา้ ๘๖ เพื่อการจัดกิจกรรมได้สอดรับกับวิธีการเรียนรู้ของเด็กแต่ละกลุ่ม เช่น เด็กบางคนอาจจะรับรู้ และเช่ือมโยง องค์ความรู้ได้ง่าย ซึ่งหมายถึงมีบุคลิกภาพไปในทางนักทฤษฎี ส่วนบางคนชอบคิดวิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ บางคนชอบลงมือปฏิบัติ และบางคนกช็ อบกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหว เปน็ ต้น การที่ครูมีความร้จู ะชว่ ยให้รู้จักเด็ก เป็นรายบุคคลได้เป็นอยา่ งดี จัดประสบการณ์ ให้แก่นักเรียนระดับการศึกษาปฐมวัย โรงเรียนได้กำหนดเวลา และแนวการจัดกิจกรรมในแต่ละวันเพ่ือพัฒนานักเรียนระดับปฐมวัย จะกำหนดไว้ในกิจกรรมหลัก ๖ กิจกรรม คือกิจกรรม การเคล่ือนไหวและจังหวะ กิจกรรมสร้างสรรค์ กิจกรรมเสริมประสบการณ์ กิจกรรมการเล่นกลางแจ้ง กิจกรรมเล่นตามมุม และกิจกรรมเกมการศึกษา ซ่ึงได้ดำเนินการจัดกิจกรรม เพื่อกระตุ้นพัฒนาการทางสมอง ตอบสนองความสนใจ ความแตกต่างระหว่างบุคคล และความคิดสร้างสรรค์ ข อ ง เด็ ก โ ด ย ก า ร จั ด ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ แ ล ะ ก า ร เรี ย น รู้ ผ่ า น ก า ร เล่ น ก า ร มี จิ น ต น า ก า ร ผ่านการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง ๕ เพราะเด็กปฐมวัยเป็นวันท่ีสำคัญท่ีสุดสำหรับพัฒนาการของชีวิตมนุษย์ เพราะสิ่งที่เด็กได้รับการฝึกฝนในช่วง ๕ ปีแรกของชีวิต มีผลต่อการวางรากฐานท่ีสำคัญต่อบุคลิกภาพ ขอ งเด็กท่ี จะเติบ โต ข้ึน เป็ น ผู้ให ญ่ เนื่ องจาก เด็กวัยนี้ มี พั ฒ น าการการเรียน รู้ท่ี เร่ิม จากก ารรับ รู้ และเข้าใจ เฉพ าะส่ิงท่ีเห็น และจับ ต้องได้ไปสู่การรับ รู้โดยยังไม่เข้าใจสิ่งท่ี จับ ต้องมองเห็ นไม่ได้ เช่นสัญลกั ษณ์ ภาษา การคิดย้อนกลับไปมา จนถงึ ขน้ั การคดิ อย่างมีเหตุผล โรงเรียนจึงจัดประสบการณ์เพ่ือให้เด็ก เกิดการเรียนรู้ได้ดีข้ึน โดยให้เด็กได้เรียนรู้โดยการกระทำ การเรียนรู้จากการค้นพบด้วยตนเอง ซึ่งเป็นการเรียนรู้ ที่เด็กได้รับรู้โดยผ่านประสาทสัมผัสท้ัง ๕ เพื่อการพัฒนาการทำงานทางสมองของเด็กให้เด็กมีศักยภาพตามวัย และประสบการณ์ของผู้เรียนตามปรัชญาการจัดการศึกษาระดับปฐมวัยท่ีมุ่งสนองตอบความแตกต่าง ๆ ระหว่างบุคคล จัดประสบการณ์การเรียนรู้ทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และคอมพิวเตอร์ ให้เหมาะสมกับวัย ของเด็ก ซึ่งโรงเรียนได้ศึกษาและออกแบบกระบวนการเรียนรู้ จัดหาสื่อประกอบการจัดประสบการณ์ ได้แก่ การจดั ทำมุมต่าง ๆ ภายในห้องเรียน ศูนย์การเรยี นรู้ปฐมวัย จดั หาและผลิตสื่ออิเล็กทรอนิกส์ แผ่นซีดีเพลง สำหรับใช้เป็นเคร่ืองมือกระตุ้นและพัฒนาการทำงานของสมอกทั้งซีกซ้าย และซีกขวาให้สมดุลกัน สามารถพัฒนา ศักยภาพในการเรียนรู้ของเด็ก สามารถปลูกฝังและสร้างเจตคติให้ผู้เรียนเกิดความรักต่อการเรียนรู้ ตอบสนองความสนใจความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล และความคดิ สร้างสรรค์ของเดก็ ๒.๑.๔ หลักสูตรมคี วามสอดคล้องกับวถิ ีชีวติ ของครอบครวั ชมุ ชนและท้องถิ่น ดำเนินการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยพุทธศักราช ๒๕๖๐ ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยครูผู้สอนจัดทำแผนการจั ดประสบการณ์ ให้สอดคล้องกับหลักสูตร เน้นการจัดประสบการณ์ให้นักเรียนมีพัฒนาการท้ังด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา ที่ เห ม า ะ ส ม กั บ วั ย ค ว า ม ส า ม า ร ถ แ ล ะ ค ว า ม แ ต ก ต่ า ง ร ะ ห ว่ า ง บุ ค ค ล อ ย่ า ง เต็ ม ศั ก ย ภ า พ ครูทุกคนได้รับการพัฒ นา และเรียนรู้การนำหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย ไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่ น ก า ร อ บ ร ม พั ฒ น า บุ ค ล า ก ร แ ล ก เป ล่ี ย น เรี ย น รู้ ร ะ ห ว่ า ง ค รู ผู้ ส อ น ด้ ว ย กั น อ ย่ า ง ต่ อ เน่ื อ ง ทั้ ง ใน โร ง เรี ย น และระหว่างโรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครภูเก็ต ให้ความสำคัญในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ซ่ึงเป็นโครงการต่อเนื่องเพราะตระหนักว่าหลักสูตรคือแผนแม่บท เปรียบเสมือนพิมพ์เขียว (Blue print) โดยหลักสูตรสถานศึกษาต้องมีความเหมาะสมตามศักยภาพ บริบทของโรงเรียน และความต้องการของชุมชน ในปีการศึกษา ๒๕๖๒ โรงเรียนได้ดำเนินการพัฒนาและจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาตามแนวหลักสูตรการศึกษา ปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยนำมาปรับปรุงให้มีความเหมาะสมกับสภาพท้องถ่ิน และชุมชนเทศบาลนครภูเก็ต ในบริเวณ เขตพื้นที่ตำบลตลาดใหญ่ และบริเวณ ชุมชนบางเหนียว

รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ หนา้ ๘๗ ซึ่ ง มี จ ำ น ว น เด็ ก ที่ มี อ า ยุ ต า ม เก ณ ฑ์ ส มั ค ร เข้ า เรี ย น โด ย เด็ ก ส่ ว น ให ญ่ เข้ า เรี ย น ม า จ า ก ศู น ย์ พั ฒ น า เด็ ก เล็ ก เทศบาลนครภูเก็ต ดังน้ันหลักสูตร และการจัดประสบการณ์การเรียนรู้จึงกำหนดให้มีความสอดคล้อง กบั ประสบการณ์เดิมของผเู้ รยี นทมี่ คี วามแตกต่างกนั ดงั กลา่ ว ๒.๒ จดั ครใู ห้เพยี งพอกบั ช้นั เรียน โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต จัดครูให้เหมาะสมกับภารกิจกา รเรียนการสอน ตรงตามสาขาวชิ าปฐมวัย และมอี ตั ราส่วนนักเรียน : ครู จำนวน ๑ : ๒๕ ๒.๓ ส่งเสริมให้ครมู ีความเชี่ยวชาญด้านการจดั ประสบการณ์ ๒.๓.๑ พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในการวิเคราะห์และออกแบบ หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนอนุบาล เทศบาลนครภูเก็ต ส่งเสริมให้คณ ะครู ได้มีการพัฒ นาศักยภ าพ ข อ งต น เอ ง โด ย มี ก ารจั ด อ บ รม ก ารแ น ะ แ น ว ก ารนิ เท ศ แ ล ะ ก ารส่ งเส ริม ให้ เข้ ารับ ก ารอ บ รม เพ่ื อ พั ฒ น า ต น เอ ง ซ่ึ ง ส่ ง ผ ล ให้ ค รู ท่ี ได้ รั บ ก า ร นิ เท ศ ป ร ะ เมิ น ศั ก ย ภ า พ ใน ทุ ก ๆ ภ า ค เรี ย น การพั ฒ นาสมรรถนะครูป ฐมวัย โดยเฉพ าะ การบ ริห ารจัดการห ลักสูตรและการจัดการเรียน รู้ ซงึ่ สะทอ้ นภาพการเปน็ ผมู้ ีความรู้ความเขา้ ใจหลักสูตรและจิตวทิ ยาพัฒนาการเดก็ ๒.๓.๒ ครูมีทักษะในการจดั ประสบการณ์และประเมนิ พฒั นาการเด็ก ค รู โร งเรี ย น อ นุ บ า ล เท ศ บ า ล น ค ร ภู เก็ ต มี ค ว าม ส าม า ร ถ ใน ก า ร จั ด ช้ั น เรี ย น และมี ป ฏิ สัม พั น ธ์ท่ี ดี ต่ อเด็ กแ ละผู้ ที่ เกี่ยวข้อง จากการที่ ค รู มี การพั ฒ น าต น เอ งอย่างส ม่ำเส ม อ ส่งผลให้เกิดทักษะในการจัดประสบการณ์ ให้เด็กมีความสามารถในการจัดช้ันเรียน โดยจัดสภาพแวดล้อม และบรรยากาศ ท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ เหมาะสมกับพัฒนาการของเด็ก ตลอดจนการควบคุมดูแลเอาใจใส่เด็ก อย่างใกล้ชิด โดยการศึกษาเด็กเป็นรายบุคคล จัดทำระบบช่วยเหลือนักเรียนส่งผลให้เด็กได้รับการพัฒนา อยา่ งเตม็ ศักยภาพตามความแตกต่างระหวา่ งบคุ คล และมีคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โร งเรีย น อ นุ บ าล เท ศ บ าล น ค รภู เก็ ต ได้ มี ก ารป ระ เมิ น ผ ล พั ฒ น าก าร ข อ งเด็ ก เพ่ือให้ครู ผู้ปกครอง และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมีความรู้ ความเข้าใจพัฒนาการการเรียนรู้ ความสนใจ และความต้องการของเด็กแต่ละคน จึงได้กำหนดให้มีการประเมินผลพัฒนาการจากสภาพจริงอย่างต่อเนื่อง สอดคลอ้ งกบั การจดั ประสบการณ์ ตรงตามเนือ้ หา และวตั ถปุ ระสงค์การเรียนรู้ท่ีกำหนดไวใ้ นหลักสตู ร ๒.๓.๓ ครูใช้ประสบการณส์ ำคัญในการออกแบบการจดั กิจกรรม การจัดทำแผนและการจัดประสบการณ์ หมายถึง การที่สถานศึกษามีการจัดทำแผน การจัดประสบการณ์/กิจกรรมการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับปรัชญา หลักการ และจุดมุ่งหมายหลักสูตร สภาพแวดล้อม วัฒนธรรมท้องถ่ิน ส่งเสริมความเป็นไทย และเอื้อต่อการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ลักษณะแผนการจัดประสบการณ์ต้องจัดในรูปแบบบูรณาการผ่านการเล่น จัดกระบวนการพัฒนาเด็ก บนพื้นฐานความเช่ือที่ว่าเด็กทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ โดยคำนึงถึงพัฒนาการ ความแตกต่างระหว่างบุคคล ทั้งในด้านวิธีการเรียนรู้ เวลาที่ใช้ในการเรียนรู้ ความต้องการและสนใจ (เด็กมีโอกาสเลือกและตัดสินใจ ตามความสนใจ) มุ่งเน้นให้มีความสมดุล และมุ่งให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง โดยใช้ประสบการณ์สำคัญ ในการออกแบบกจิ กรรม

รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๒ หนา้ ๘๘ ๒.๓.๔ ครมู ีการสงั เกตและประเมินพัฒนาการเด็กเปน็ รายบคุ คล ค รูผู้ ส อ น ได้ ด ำเนิ น ก ารจั ด ท ำเค ร่ือ งมื อ ก ารป ระ เมิ น เด็ ก ห ล าก ห ล าย รูป แ บ บ เพื่ อ ให้ ส อ ด ค ล้ อ งกั บ ส ภ าพ จ ริง แ ล ะ ส าม ารถ ป ระ เมิ น พั ฒ น าก ารเด็ ก ได้ อ ย่ างมี ป ระสิ ท ธิภ าพ และมีความเที่ยงตรง โดยมีเครอ่ื งมือและวธิ กี ารวัดและประเมนิ ผล ดงั นี้ ๑. การสงั เกตพฤติกรรมโดยใช้แบบประเมนิ ผลพัฒนาการเดก็ ครูร่วมกันวิเคราะห์ และออกแบบเคร่ืองมือประเมินพฤติกรรมนักเรียนตามมาตรฐาน สภาพท่ีพึงประสงค์ตามหลักสูตรปฐมวัย ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในแผนการจัดประสบการณ์ โดยครูเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเด็กด้วยวิธีการเฝ้าดู และการฟัง สังเกตพฤติกรรมขณะจัดประสบการณ์ อย่างต่อเนื่อง เพื่อนำผลการสังเกตมาสรุปผลการประเมินพฤติกรรมสัปดาห์ละ ๑ ครั้ง พร้อมท่ีจะให้ข้อมูล กับผูป้ กครองทราบตอ่ ไป ๒. การสมั ภาษณ์ ก าร สั ม ภ าษ ณ์ ถื อ เป็ น วิ ธี ก าร ป ร ะ เมิ น ผ ล ที่ ค รู ใช้ เป็ น เค ร่ื อ งมื อ ใน ก า ร ป ร ะ เมิ น พั ฒ น า ก า ร ของผู้เรียน โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการเรียนการสอน การสัมภาษณ์เกิดขึ้นระหว่างครูกับเด็ก หรือระหว่างครูกับพ่อแม่ ผู้ปกครองเพ่ือหาข้อมูลเกี่ยวกับตัวเด็ก ในสิ่งที่ครูผู้ สัมภาษณ์ต้องการทราบ มีโอกาสที่ จะสังเกตท่ าท าง การเคลื่อน ไห ว น้ ำเสียงห รือระดับ น้ ำเสียงป ระกอบ ค ำพู ด ของเด็ ก ข้อความทีไ่ ดจ้ ากการสมั ภาษณส์ ะท้อนให้เหน็ ถงึ ภมู หิ ลัง ความรสู้ ึก ทศั นคติ และการรับร้ขู องเดก็ ๓. การเขียนบนั ทกึ เกีย่ วกับตวั เด็ก ครูประจำช้ันใช้วิธีการบันทึกเกี่ยวกับเด็กโดยการเขียนเร่ืองราวสั้น ๆ เก่ียวกับตัวเด็ก ซ่ึงจะช่วยให้ครูเห็นภาพ และเข้าใจเด็กแต่ละคนในชั้นของตนเองได้ดียิ่งขั้น โดยครูมีข้อมูลว่าสามารถกระตุ้น พัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กแต่ละคนในส่วนไหน โดยการบันทึกในสมุดรายงานประจำตัวนักเรียน แฟ้มสะสมผลงานเด็ก ภาคเรียนละ ๑ ครั้ง การวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล การบันทึกพฤติกรรมนักเรียน ในบันทกึ สายสมั พันธบ์ า้ นและโรงเรียนทุกวันศกุ ร์ ๕. แฟ้มผลงานเด็ก ค รูป ระจ ำช้ั น จั ด ท ำแ ฟ้ ม ผ ล งาน เด็ ก เป็ น วิธีก ารเก็ บ รวบ รวม ข้ อ มู ล พั ฒ น าก าร และการเรียนรู้ของเด็กอย่างมีจุดประสงค์ และกระทำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ซึ่งเด็กสามารถมีส่วนร่วม ในการเลอื กผลงานต่าง ๆ เข้ามาเก็บในแฟ้มของตนเอง ในขณะเดยี วกันเด็กมีโอกาสทจี่ ะทบทวน วเิ คราะห์ ผลงาน แตล่ ะชน้ิ ทตี่ นเลอื ก จากการประเมินพัฒนาการของเด็กด้วยวิธีการท่ีหลากหลายดังกล่าวข้างต้น ครูได้บันทึก ผลการประเมินพัฒนาการของเด็ก และรายงานให้ผู้ปกครองทราบปีละ ๒ ครั้ง นอกจากน้ียังมีการป ระชุม พ บ ป ะผู้ป กค รองสัญ จรภ าคเรียน ละ ๒ ค ร้ัง รายงาน พ ฤติ กรรมนั กเรียน ใน บั น ทึ ก สายสัม พั น ธ์ บา้ นและโรงเรยี นสัปดาหล์ ะ ๑ ครง้ั (ทกุ วันศุกร์) และผู้ปกครองสามารถสอบถามพัฒนาการ หรือปัญหาพัฒนาการ นักเรียนได้จากครูประจำช้ันได้ทุกวันในขณะมารับ – ส่ง นักเรียน เพ่ือรายงานผลการประเมินพัฒนาการของเด็ก อีกด้วย โดยส่วนใหญ่พ่อ แม่ ผู้ปกครองต้องการทราบผลการประเมินพัฒนาการเด็ก เพ่ือทราบว่า ลูกของตนเรียนรู้อะไร และตนสามารถช่วยกระตุ้นพัฒนาการลูกอย่างไร นอกจากนี้แล้วด้านผู้บริหารโรงเรียน ยังสามารถนำผลการประเมินพัฒนาการเด็กมาเป็นข้อมูลในการจัดกิจกรรมและงบประมาณในการสนับสนุน และส่งเสรมิ ครูในการจดั สภาพแวดล้อมในโรงเรยี นใหเ้ หมาะสมกับเด็กต่อไป

รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ หน้า ๘๙ ก า ร ป ร ะ เมิ น พั ฒ น า ก าร ข อ งผู้ เรี ย น ได้ ด ำ เนิ น ก า ร โด ย มี วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค์ เพื่ อ น ำ ม าป รั บ ป รุ ง กระบวนการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนทั้งรายกลุ่มและรายบุคคล จึงมีการประเมินตลอด กระบวนการจดั ประสบการณ์ ดงั นี้ การป ระเมิ น ระห ว่างเรียน สถาน ศึก ษ าจัดท ำเคร่ืองมือป ระเมิ น พั ฒ น าการเด็ ก ตามสภาพจริงด้วยวิธีการท่ีหลากหลายเหมาะสมกับเด็ก รวมท้ังมีการใช้แหล่งข้อมูลหลาย ๆ ด้าน ได้แก่ การสังเกต การป ระเมิน กิจวัตรป ระจำวัน การบั น ทึ ก การสังเกตพ ฤติ กรรม การสน ท น า การสัมภาษณ์ และสรปุ รวบรวมสำหรบั เขียนรายงาน การประเมินหลังเรียนสถานศึกษานำข้อมูลจากการประเมินมาสรุปและเขียนรายงานผล พัฒนาการลงสมดุ แจง้ ให้ผ้ปู กครองทราบ โดยกำหนดเกณฑก์ ารประเมนิ พัฒนาการไว้ ๓ ระดับ ดังน้ี ๓ = ดี หมายถึงแสดงพฤติกรรมไดด้ ีอย่างคล่องแคลว่ มนั่ คงด้วยตนเอง ๒ = ปานกลาง หมายถึงแสดงพฤตกิ รรมได้แต่ไม่คลอ่ งแคล่ว ๑ = ควรส่งเสรมิ หมายถงึ แสดงพฤติกรรมไมช่ ดั เจน หรือครูตอ้ งใหก้ ารชว่ ยเหลอื จัดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการผู้เรียนให้กับนักเรียนที่มีพัฒนาการล่าช้า โดยครูประจำช้ัน วิเคราะห์และประเมินพัฒ นาการผู้เรียนเป็นรายบุคคล และจัดกิจกรรมซ่อมเสริมให้กับนักเรียน กลุ่มดังกล่าวตามลักษณะพฤติกรรมที่ควรปรับปรุงเป็นรายบุคคล ในช่วงหลังพักรับประทานอาหารกลางวัน และช่วงหลังเลิกเรียนมีการบันทึกและประเมินพฤติกรรมนักเรียนนักเรีย นท่ีเข้าร่วมกิจกรรมมีผลการประเมิน พัฒนาการท่ดี ขี ้ึน ๒.๓.๕ ครมู ีปฏิสัมพันธท์ ่ดี กี บั เด็กและครอบครัว โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ได้ยึดวัฒนธรรมที่ดีของไทยเพ่ือสร้างความรัก ความสามัคคี การช่วยเหลือ เก้ือกูลกันในสถานศึกษา เช่น การทำงานร่วมกันโดยหลักกัลยานมิ ตร การไหว้ การทักทายทุกเช้า การจดั โครงสร้างการทำงานแบบทีม และจัดให้มีโครงการพัฒนาคณุ ธรรม จริยธรรมเพ่ือส่งเสรมิ การทำงานเปน็ ทีม แกบ่ ุคลากร ซ่ึงมีผลให้ครมู คี วามสมั พนั ธ์ทดี่ ตี อ่ กนั ระหว่างครกู บั เด็ก และผ้ปู กครอง คณะครูทุกคน ได้รับการปฐมนิเทศเก่ียวกับคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ซ่ึงต้องเป็นบุคคล ท่ีมีมนุษย์สัมพันธ์ท่ีดี ให้การดูและแนะนำ ช่วยเหลือ เอาใจใส่ เด็กอยู่ใกล้ชิดแล้วรู้สึกอุ่นใจ ครูโรงเรียนอนุบาล เทศบาลนครภูเก็ตได้ใช้วินัยเชิงบวก คำพูดเชิงบวก ในการฝึกทักษะการเรียนรู้แก่เด็ก เช่น เม่ือเด็กบอกทำไม่ได้ ครูจะให้กำลังใจว่าลองทำดูก่อน นั่งมองเพื่อนๆ ว่าทำอย่างไร หรือครูลองทำให้เด็กดู รวมท้ังจับมือทำในบางราย ท่ไี ม่ยอมทำจรงิ ๆ ซึ่งหากครูได้มีความใกลช้ ิด ใสใ่ จในการเรียนรขู้ องเด็ก และสร้างปฏสิ ัมพันธ์ท่ีดีระหวา่ งครูกบั เด็ก และผ้ปู กครอง ๒.๓.๖ ครไู ด้รบั การอบรม สัมมนา รวมแลว้ ไม่น้อบกว่า ๒๐ ชั่วโมงต่อปี โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ส่งเสริมให้ครูได้รับการพัฒ นาอย่างต่อเน่ือง ให้ เข้ารับ ก ารอ บ รม กั บ ห น่ วยงาน ต่ าง ๆ เพื่ อ น ำค วาม รู้ท่ี ได้ รับ ม าจัด ป ระสบ ก ารณ์ ก ารเรีย น รู้ อยา่ งน้อยคนละ ๒๐ ชม.ต่อปี

รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๒ หนา้ ๙๐ ๒.๓.๗ ครูเข้ารว่ มชมุ ชนการเรียนรูท้ างวิชาชีพ PLC โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ดำเนินโครงการนิเทศการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ โด ย ใช้ ก ระ บ ว น ก าร PLC ค รูมี ก ารรว ม ก ลุ่ ม PLC เพื่ อ ว างแ ผ น ใน ก ารจั ด ป ระส บ ก ารณ์ ร่ว ม กั น และมีการประชุมเพ่ือวางแผนการจัดประสบการณ์ ร่วมกันทุกวันจันทร์ เวลา ๑๖.๓๐ น. มีการสังเกตช้ันเรียน รว่ มกันในกลมุ่ PLC เพือ่ พฒั นาเดก็ ใหม้ ีทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ปฐมวัย ๒.๓.๘ ครูนำองค์ความรู้ท่ีได้จากการเข้าร่วมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ PLC ไปใช้ในการจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ โรงเรียน อ นุ บ าลเท ศ บ าลน ครภู เก็ ต ได้ พั ฒ น าค รูผู้ส อน ให้ มี ความ รู้ค วาม เข้าใจ ในกระบวนการ PLC ครูแกนนำ PLC เข้ารับการอบรมกระบวนการนำ PLC มาใช้ในสถานศึกษ า ทำให้ครูที่เขา้ รับการอบรมดงั กลา่ วสามารถนำความรทู้ ่ีไดร้ บั มาดำเนินการต่อในสถานศึกษาได้ ๒.๔ จดั สภาพแวดล้อมและสื่อเพอื่ การเรยี นร้อู ยา่ งปลอดภัยและเพยี งพอ เพ่ือให้นักเรียนรู้สึกอบอุ่นและเป็นส่วนหน่ึงของช้ันเรียน ครูจึงตกแต่งห้องเรียน ด้วยผลงาน ของนั กเรียน สร้างบ รรยากาศใน ห้ องเรียน ให้ เสมื อน บ้ าน มี ความอบ อุ่น เป็ น กัน เอ ง ส่งเสริมให้เกิดสัมพันธ์ภาพที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ แสดงความคิดเห็น ได้ร่วมสร้าง กฎ และระเบี ยบ การรักษ าวินั ยของห้ องเรียน ครูจะให้ ความรัก มีความเป็ น มิต ร และใหค้ วามไว้วางใจเพอื่ ใหน้ ักเรียนเกดิ ความอบอุ่น และรูส้ กึ เสมอื นอยใู่ นบ้านตนเอง คณะครูได้จัดการเรียนรู้แก่เด็กปฐมวัย โดยจัดบรรยากาศการเรียนรู้ท่ีมีความสุขมีความอบอุ่น จัดสภาพห้องเรียน ให้เหมือนเป็นบ้านหลังที่สองของเด็ก สร้างความรัก ความผูกพันให้ความรู้สึกเป็นเจ้าของ เป็นส่วนหน่ึงของกลุ่มสมาชิกในห้องเรียน จัดมุมประสบการณ์ที่หลากหลาย เช่น มุมหนังสือ มุมบล็อก มุมครัว มุมศิลปะ ซึ่งเด็กจะเข้าเล่นตามมุมเม่ือทำงานเสร็จโดยครูมีการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้เด็กเป็นรายบุคคล ในเร่อื งตา่ งๆ เช่น การแก้ปัญหา การคดิ สรา้ งสรรค์ การเล่นกับเพ่ือน เป็นตน้ ๒.๕ ให้บริการส่อื เทคโนโลยสี ารสนเทศและส่ือการเรยี นร้เู พื่อสนบั สนุนการจดั ประสบการณ์ โรงเรียนมีการให้บริการสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ และสื่อการเรียนรู้ เพ่ือสนับสนุน การจัดประสบการณ์ มีหอ้ งคอมพวิ เตอร์ให้บริการสำหรับสบื คน้ ข้อมลู การดำเนนิ การระบบข้อมูลสารสนเทศ ๒.๖ มรี ะบบบรหิ ารคณุ ภาพท่เี ปิดโอกาสให้ผมู้ สี ่วนเกย่ี วข้องทุกฝ่ายมสี ่วนร่วม โรงเรียนมีการวางแผนพัฒนาท่ียึดสภาพปัญหา ความต้องการ และให้ความสำคัญ กับการใช้ข้อมูลสารสนเทศเป็นปัจจัยหลักในการวางแผนร่วมกันระหว่างบุคลากรทั้งภายในและภายนอก ท่ีมีส่วนเกี่ยวข้อง โรงเรียนได้จัดให้มีการประชุมระดมสมอง เพื่อวิเคราะห์สภาพภายในและภายนอก เพื่อให้ได้ข้อสรุปในการพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษาท่ีตอบสนองความต้องการของบุคลากร ภายในสถานศึกษาท่ีเป็นผู้ให้บริการและสอดคล้องกับความต้องการ ของผู้มีส่วนเก่ียวข้องกับการรับบริการ ทางการศึกษา ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสถานศึกษาท้ังน้ี โรงเรียนได้แต่งต้ังคณะกรรมการจัดทำแผนพัฒนา สถานศึกษา ท่ีประกอบด้วย บุคลากรผู้มีส่วนเก่ียวข้องกับการพัฒนาสถานศึกษา ได้แก่ ผู้แทนของครูผู้สอน ผู้แทนของกรรมการสถานศึกษา ผู้แทนของผู้ปกครองนักเรียน ผู้แทนขององค์กร หน่วยงานและสถาบัน ตลอดจนสถานประกอบการต่าง ๆ ในชุมชน ให้เข้ามาร่วมคิด ร่วมจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษา ร่วมกับผู้บริหารสถานศึกษา เพ่ือช่วยกันกำหนด วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย เงื่อนไขและภาพแห่งความสำเร็จ ซ่ึงครอบคลุมภารกิจ และความรับผิดชอบในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา โดยแผนพัฒนา การจัดการศึกษาของโรงเรยี นอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ม่งุ เนน้ กระบวนการสร้างคณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา

รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ หน้า ๙๑ ท่ีโรงเรียนกำหนด ถือเป็นแผนระยะยาวที่โรงเรียนใช้เป็นแนวทางสำหรับการจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปี ในการกำหนดโครงการพัฒ นาในแต่ละด้านที่ตรงกับความต้องการยกระดับคุณ ภาพของก ารศึกษา ของโรงเรียน การจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาที่มุ่งคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของโรงเรียนอนุบาล เทศบาลนครภเู กต็ ๒.๖.๑ มกี ารประเมนิ และตรวจสอบคณุ ภาพภายในสถานศึกษา การติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผล เป็นกระบวนการสำคัญที่ชวยใหผูบริหาร ทราบ วาการดําเนิ น งาน เป นไป ตามแผนห รือไม่ มีความกาวห น า ห รือมีป ญ ห าอุป สรรค อย่างไร เพื่อจะได้สามารถแกไขปัญหาอุปสรรคเหลาน้ัน และปองกันปญหาท่ีจะเกิดข้ึนตอไป และยังสามารถ กํ า กั บ ท บ ท ว น พั ฒ น า ง า น ได้ อ ย า ง มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ แ ล ะ ป ร ะ สิ ท ธ ผ ล นํ า ผ ล ก า ร ป ร ะ เมิ น ไป ใช ใน ก า ร พั ฒ น า คุ ณ ภ า พ ก า ร ศึ ก ษ า อ ย่ า ง ต อ เน่ื อ ง โร งเรี ย น อ นุ บ า ล เท ศ บ า ล น ค ร ภู เก็ ต มีการกำหนดเป้าหมายความสำเร็จ ตามตัวชี้วัดท่ีระบุ ในแผนพัฒนาการศึกษา นำผลการดำเนินการ มาปรับเป้าหมายความสำเร็จในรอบปีถัดไป มีการจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานโครงการ กิจกรรม และรายงานประจำปีเสนอต่อคณ ะกรรมการสถานศึกษาข้ันพื้นฐานผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้ปกครอง และชุมชน โดยมีร่องรอยหลักฐานป รากฏ ชัดเจน สามารถตรวจสอบได้ และนำผลการประเมิน ไปใช้เป็นข้อมูลในการจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษา อย่างต่อเน่ือง มีการดำเนินการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และนำผลการประเมินไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเน่ือง โดยมีการดำเนินการ อย่างเป็นระบบ ๒.๖.๒ มกี ารติดตามผลการดำเนนิ งานและจัดทำรายงานผลการประเมินตนเองประจำปี โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต จัดให้มีรายงานผลการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ให้ผู้ปกครอง ชุมชน หน่วยงานต้นสังกัด และหน่วยงานที่เก่ียวข้องทราบ โดยผ่านความเห็นชอบ ของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน การรายงานประจำปี (SAR) และรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี การศกึ ษา โดยมผี ลการดำเนนิ งาน ดงั น้ี โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต จัดให้มีการรายงานผลการดำเนินงานให้ผู้ปกครอง ชุ ม ช น แ ล ะห น่ ว ย งาน ที่ เก่ี ย ว ข้ อ งท ราบ อ ย่ างแ พ ร่ห ล าย ห ล าก ห ล าย รูป แ บ บ แ ล ะ เห ม าะ ส ม กบั กลุ่มเป้าหมาย โดยมีการดำเนินงานจดั ทำรายงานผลการประเมินคุณภาพการศึกษา ตามมาตรฐานสถานศึกษา อย่างต่อเนื่อง ให้ผู้ปกครองและชุมชน โดยการจัดประชุมพบปะผู้ปกครองภาคเรียนละปีละ 4 คร้ัง , จัดประชุม คณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ปีละ ๒ คร้ัง และจัดประชุมสามัญประจำปีผู้ปกครอง ปีละ 1 ครั้ง จดั ใหม้ กี ารประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ผลงาน และรายงานผลการจัดการศึกษา โดยจดั ทำเป็นจุลสารพวงชมพสู ัมพันธ์ เดือนละ 1 ครั้ง วารสารรายงานผลการปฏิบัติงาน ปีละ 1 คร้ัง จัดให้มีการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ผลงาน และรายงานผลการจัดการศึกษา ผ่านระบบ Social Network , Face book โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต, Website www.phuketkidsschool.ac.th แ ล ะ ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ป ฏิ บั ติ ง า น ป ร ะ จ ำ ปี ก า ร ศึ ก ษ า ต่อหนว่ ยงานตน้ สงั กดั ๒.๖.๓ นำผลการประเมินไปปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโดยผู้ปกครอง และผ้เู กยี่ วขอ้ งทุกฝา่ ยมสี ่วนร่วม โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต มีการกำหนดเป้าหมายความสำเร็จ ตามตัวช้ีวัด ท่ีระบุในแผนพัฒ นาการศึกษา นำผลการดำเนินการมาปรับเป้าหมายความสำเร็จในรอบปีถัดไป มี การจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานโครงการ กิจกรรม และรายงานประจำปีเสนอต่อคณะกรรมการสถานศึกษา

รายงานการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ หน้า ๙๒ ข้ันพื้นฐาน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้ปกครอง และชุมชน โดยมีร่องรอยหลักฐานปรากฏชัดเจน สามารถตรวจสอบได้ และนำผลการประเมินไปใช้เป็นข้อมูลในการจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของโรงเรียนอนุบาลเทศบาล นครภเู กต็ อย่างต่อเน่อื ง โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ได้มีการดำเนินการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และนำผลการประเมินไปใช้ในการพั ฒ นาคุณ ภ าพ การศึกษาอย่างต่อเน่ือง โดยมีการดำเนินการ อยา่ งเปน็ ระบบ ๒.๖.๔ มีการจัดส่งรายงานผลการประเมนิ ตนเองใหห้ นว่ ยงานตน้ สังกัด โร ง เรี ย น อ นุ บ า ล เท ศ บ า ล น ค ร ภู เก็ ต มี ก า ร จั ด ท ำ ร า ย งา น ผ ล ก า ร ป ฏิ บั ติ งา น และรายงานประจำปีเสนอต่อคณ ะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐานผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้ปกครอง และชุมชน โดยมีร่องรอยหลักฐานป รากฏ ชัดเจน สามารถตรวจสอบได้ และนำผลการประเมิน ไปใช้เป็นข้อมูลในการจัดทำแผนพัฒ นาการจัดการศึกษาของโรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต อย่างต่อเนอื่ ง และสง่ ผลการประเมนิ ตนเองให้หนว่ ยงานตน้ สงั กัด ผลการดำเนนิ งาน โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ได้พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย โดยได้ดำเนินการ อย่างเป็นระบบโดยตระหนักถึงความสอดคล้องกับปรัชญา หลักการ และเป้าหมายของการจัดการศึกษาปฐมวัย ท่ีกำหนดไว้ในหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ให้เหมาะสมกับเด็ก สถานศึกษาและสภาพชุมชน บริบททอ้ งถ่นิ ด้านการจัดครูให้เพียงพอกับช้ันเรียน โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ได้มีการจัดครู ท่ีเหมาะสมกับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ครูผู้สอนจบการศึกษาปฐมวัย มีการพัฒนาครูพ่ีเลี้ยงเกี่ยวกับ การดูแลเด็กปฐมวยั อย่างตอ่ เนอ่ื ง สง่ ผลใหม้ จี ำนวนครูเพียงพอกบั ชัน้ เรียน ด้านการส่งเสริมให้ครูมีความเช่ียวชาญด้านการจัดประสบการณ์ โรงเรียนอนุบาลเทศบาล นครภูเก็ต ได้มีการพัฒนาคุณภาพครูอย่างต่อเน่ือง โดยการส่งเสริมให้ครูเข้ารับการอบรมเกี่ยวปฐมวัย อย่างตอ่ เนื่อง ส่งผลให้ครูมีความรคู้ วามสามารถในการวิเคราะห์และออกแบบหลักสูตรสถานศึกษา มีทักษะในการ จัดป ระส บ ก ารณ์ แ ละป ระเมิ น พั ฒ น าก ารเด็ ก มี การอ อก แบ บ ก ารจัด ป ระส บ การณ์ ก ารเรีย น รู้ และการนิเทศการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยกระบวนการ PLC ครูนำองค์ความรู้ที่ได้จากการเข้าร่วมชุมชน การเรียนรู้ทางวิชาชีพ PLC ไปใชใ้ นการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ จัด ส ภ าพ แ ว ด ล้ อ ม แ ล ะส่ื อ เพื่ อ ก ารเรีย น รู้ โรงเรียน อ นุ บ าล เท ศ บ าล น ค รภู เก็ ต มีการจัดสภาพแวดล้อมทั้งภายใน และภายนอกห้องเรียนท่ีคำนึงถึงความปลอดภัย มีการจัดสภาพแวดล้อม ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ มีการจัดให้มีมุมประสบการณ์หลากหลาย มีส่ือการเรียนรู้ ส่ือวัสดุธรรมชาติ สือ่ เทคโนโลยี และไดก้ ำหนดเป็นเอกลกั ษณข์ องสถานศึกษา “สะอาดตา นา่ ดู นา่ อยู่ น่าเรียน” ก า ร ให้ บ ริ ก า ร ส่ื อ เท ค โน โล ยี ส า ร ส น เท ศ แ ล ะ สื่ อ ก า ร เรี ย น รู้ เพื่ อ ส นั บ ส นุ น การจัดประสบการณ์ เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์ และพัฒ นาครู โดยกำหนดเป็นโครงก าร จัดซื้อ จัดหา อุปกรณ์สื่อ เทคโนโลยี เพื่อการบริหารจัดการและการเรียนการสอน ส่งผลให้สถานศึกษา มีการอำนวยความสะดวก และให้บริการส่ือเทคโนโลยีสารสนเทศ วัสดุ และอุปกรณ์เพื่อสนับสนุน การจดั ประสบการณแ์ ละพัฒนาครู

รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ หน้า ๙๓ มี ร ะ บ บ บ ริ ห า ร คุ ณ ภ า พ ท่ี เปิ ด โอ ก า ส ให้ ผู้ มี ส่ ว น เกี่ ย ว ข้ อ งทุ ก ฝ่ า ย มี ส่ ว น ร่ ว ม โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต มีการกำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาที่สอดคล้อง กับมาตรฐานการศึกษาปฐมวัย และอัตลักษณ์ท่ีสถานศึกษากำหนด ได้มีการจัดทำแผนพัฒนาการศึกษา ของสถานศึกษาที่สอดรับกับมาตรฐานที่สถานศึกษากำหนดและดำเนินการตามแผน มีการประเมินผล และตรวจสอบคุณภาพภายในสถานศึกษา มีการติดตามผลการดำเนินและจัดทำรายงานผลการประเมินตนเอง ประจำปี มีการนำผลการประเมินไปปรับปรุงและพฒั นาสถานศึกษาโดยผูป้ กครองและผเู้ กย่ี วขอ้ งทุกฝา่ ยมีส่วนรว่ ม พรอ้ มทั้งส่งรายงานผลการประเมินตนเองใหห้ นว่ ยงานต้นสงั กดั ข้อมูล หลักฐาน เอกสารเชิงประจักษ์ที่สนบั สนนุ ผลการประเมนิ ตนเอง ๑. หลักสตู รสถานศกึ ษา ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ ๒. รายงานการประเมินการใชห้ ลักสูตรสถานศึกษา ๓. แผนการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ ๔. บันทึกการประชมุ จัดทำแผนการจัดประสบการณ์ ๕. ขอ้ มลู สารสนเทศ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ ๖. โครงการประเมนิ พัฒนาการนักเรยี น ๗. โครงการพฒั นาหลักสตู รสถานศกึ ษา กจิ กรรมจดั ทำแผนการจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ๘. แฟม้ สะสมผลงานนักเรียน ๙. แบบบนั ทึกการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม พฒั นาการจดั การเรยี นรูผ้ ่านกระบวนการ “การสรา้ งชุมชน แหง่ การเรยี นรู้ทางวิชาชพี ครู (PLC)” ๑๐. กจิ กรรมนเิ ทศห้องเรียนนา่ อยู่ ๑๑. ระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๒ โรงเรยี นอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต จุดเด่น ๑. สถานศึกษามีการพัฒนาหลักสตู รสถานศึกษาอย่างตอ่ เน่ือง ๒. มีการจัดสภาพแวดล้อมท้ังภายในและภายนอกสะอาดตา น่าดู นา่ อยู่ นา่ เรียน ๓. มสี ื่อเทคโนโลยสี ารสนเทศเพียวพอต่อการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ ๔. เด็กมโี อกาสเลอื กทำกจิ กรรมอย่างอสิ ระตามความต้องการและสนใจ ๕. มบี คุ ลากรท่ีมคี วามสามารถเฉพาะด้าน เชน่ โขน นาฏศิลป์ คอมพวิ เตอร์ จดุ ทีค่ วรพฒั นา ๑. พฒั นาครใู นการออกแบบการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ท่ีสง่ เสริมใหน้ กั เรียนมีทักษะกระบวนการ ทางวทิ ยาศาสตร์ปฐมวยั ด้วยชุมชนการเรียนรทู้ างวิชาชพี PLC ๒. ออกแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรทู้ ่สี อดคล้องกับวถิ ชี ุมชนและท้องถ่นิ (นักเรยี นสอบเข้า ป.๑) ๓. จัดทำคมู่ ือการบรหิ ารจดั การสถานศกึ ษาในสถานการณ์ระบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรน่า COVID – 19 และดำเนินการตามคู่มืออย่างเคร่งครดั ๔. จดั ทำหนว่ ยการเรียนรเู้ พิ่มเติมโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา่ COVID – 19 และการป้องกนั การติดเชือ้ โรค ต่าง ๆ ในเดก็ ๕. จัดสภาพแวดล้อมโดยใช้มาตรการเวน้ ระยะหา่ งทางสงั คม (Social Distancing) เพ่ือป้องกัน การตดิ เช้อื ไวรัสโคโรน่า COVID – 19 ๖. จดั สภาพแวดล้อมท่สี ่งเสริมความเป็นอัตลกั ษณ์ของเมืองภเู กต็

รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ หนา้ ๙๔ นวตั กรรม / แบบอยา่ งทด่ี ี ๑. โครงการจดั ประสบการณ์การเรยี นรูแ้ บบโครงงาน Project Approach ข้อเสนอแนะ ๑. สรา้ งชมุ ชนแห่งการเรียนรู้ PLC เพอ่ื ร่วมออกแบบและจดั ประสบการณ์การเรยี นรทู้ สี่ ง่ เสริม ให้นกั เรยี นมที ักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์อย่างต่อเนื่อง ๒. การบรหิ ารจัดการสถานศึกษาในสถานการณก์ ารระบาดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรน่า COVID – 19 มาตรฐานท่ี ๓ การจัดประสบการณท์ ่เี นน้ เด็กเป็นสำคญั ระดับคุณภาพ ดีเลศิ กระบวนการพัฒนา ๓.๑ จัดประสบการณท์ ีส่ ง่ เสรมิ ใหเ้ ด็กมีพัฒนาการทกุ ดา้ นอย่างสมดลุ เต็มศักยภาพ การจัดทำแผนการจัดประสบการณส์ ำหรับเดก็ ปฐมวัยนั้น ไดจ้ ัดทำในรูปแบบของการบรู ณาการ โดยบูรณาการทั้งทักษะและสาระการเรียนรู้ โดยผสมผสานกิจกรรมหลัก ๖ กิจกรรม และสอดแทรกเน้ือหา ท่ีตรงตามความต้องการและความสนใจของเด็กเหมาะสมกับวัย และสอดคล้องกับสภาพแวดล้อม เพ่ือให้เด็ก ได้รับการพัฒนาความพร้อมท้ังด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา พัฒนาแผนการจัดประสบการณ์ แบบบูรณาการให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของเด็ก โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยบูรณาการผ่านดนตรี การเล่นนิทาน การเล่น ได้แก่ บทบาทสมมติ เกม การละเล่น รวมท้ังส่งเสริมพัฒนาการ และการเรียนรู้ของเด็ก ด้วยวิธีต่าง ๆ การจัดทำศูนย์การเรียนรู้ปฐมวัย ศูนย์น้ำ ศูนย์ทราย เคร่ืองเล่นสนาม ห้องดนตรี กิจกรรมการเคลื่อนไหว มุมบทบาทสมมตใิ นหอ้ งเรียน จัดประสบการณ์เน้นให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรงจากการสังเกต สำรวจ ค้นคว้า ทดลอง และแก้ปัญหาด้วยตนเองผ่านกิจวัตรประจำวัน จัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน Project Approach การจัดประสบการณ์โดยการให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง ได้แก่การปลูกผัก สวนเศรษฐกิจพอเพียง การปลูกถั่วงอก การประกอบอาหารง่าย ๆ การนำนักเรยี นเข้าศึกษาค้นคว้าในห้องสมุด การเข้าเรียนคอมพิวเตอร์ การเรียนดนตรี การเล่นเครื่องเล่นสนาม การละเล่นพื้นบ้าน การเล่นกิจกรรมกลางแจ้ง นอกจากนี้ยังได้มีการ จัดให้นำนักเรียนไปศึกษาจากแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียน เช่น อุทยานการเรียนรู้นครภูเก็ต (PK park) ศาลเจ้าพ้อต่อก๊งบางเหนียว ชุมชนเมืองเก่าถนนถลาง พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว สวนสาธารณะ (เลในเมือง) สะพานหิน สถานแสดงพนั ธสุ์ ัตวน์ ้ำภูเก็ต สวนสัตวภ์ ูเก็ต ห้างสรรพสนิ ค้าใกล้ ๆ โรงเรียน ตลอดจนการนำนักเรียน ไปร่วมกิจกรรมวันสำคัญทางศาสนา งานประเพณีพ้อต่อ กิจกรรมเวียนเทียนวันวิสาขบูชา กิจกรรมถวายเทียน เน่ืองในวันเข้าพรรษา เป็นต้น ซ่ึงในการนำแหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถ่ินมาบูรณาการจัดประสบก ารณ์ ให้แก่นักเรียนน้ัน ครูได้ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นท่ีหลากหลายท้ังพระสงฆ์ บุคคลในชุมชน ผู้ปกครอง มาจัดกิจกรรม ไดแ้ ก่ การประกอบศาสนพิธี การทำขนมเต่า อาหาร และอาชพี ในจงั หวัดภูเกต็ เป็นต้น

รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ หน้า ๙๕ ๓.๒ สร้างโอกาสให้เดก็ ได้รับประสบการณ์ตรง เล่นและปฏิบัติอย่างมคี วามสุข โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต กำหนดให้มีรูปแบบการจัดประสบการณ์ การเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ซึ่งผู้เรียนจะต้องได้รับการเรียนรู้ การบูรณาการกิจกรรมหลักทั้ง ๖ กิจกรรมจัดการเรียนรู้ แบบโครงงาน Project Approach รวมถึงกิจกรรมการประกอบอาหาร กิจกรรมเหล่านี้ เป็นกระบวนการ ทีเ่ ปดิ โอกาสให้เด็กไดส้ ำรวจ สืบคน้ สงั เกต บอกคณุ ลกั ษณะ ทดลอง อธบิ ายปรากฏการณ์ทเ่ี กดิ ขึ้นจากการทดลอง จัดกิจกรรมให้เด็กได้ปฏิบัติจริง โดยการสังเกต สำรวจ สืบค้น ทดลอง และแก้ปัญหา ด้วยตนเอง มีผลให้เด็กเกิดการพัฒนา ได้รับประสบการณ์ตรง ซึ่งเป็นการเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับหลักพัฒนาการ ความสนใจ ความต้องการของเด็ก เด็กมีความรู้สึกมั่นคงทางอารมณ์ กล้าคิด กล้าแสดงออก มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะการคิดแก้ปัญหาได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้เด็กเรียนรู้อย่างมีความสุข เด็กมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ ซ่ึงเป็นพื้นฐานของพฤติกรรม ใฝ่เรียนรู้ มีความมั่นคงในความรู้สึกก็จะเกิดความรักการเรียนรู้ต่อ ๆ ไป อันเป็นคณุ ลกั ษณะตามมาตาฐานการศึกษาทสี่ ำคัญย่งิ ๓.๓ จดั บรรยากาศทเ่ี ออ้ื ตอ่ การเรยี นรู้ใชส้ ่ือและเทคโนโลยีทีเ่ หมาะสมกบั วยั การจัดประสบการณ์ที่มีประสิทธิภาพเพ่ือกระตุ้น และจูงใจด้วยการใช้สื่อการเรียนรู้ ที่มีความหลากหลาย ตอบสนองความต้องการของเด็ก โดยมีการจัดซื้อจัดหา และนำวัสดุมาผลิตเป็นส่ือ การเรียนการสอน นอกจากนั้นได้มีการส่งเสริมให้ครูผลิตสื่ออิเล็กทรอนิกส์ อย่างน้อย ๑ ชิ้น ต่อปีการศึกษา ในการจัดห้องเรียน ภายในห้องเรียนแต่ละห้องจะมีส่ือและอุปกรณ์เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ จากการสัมผัส อย่างเพียงพอ พร้อมทั้งมีมุมประสบการณ์ ได้แก่มุมหนังสือ มุมบล็อก ของเล่น นิทาน มุมบทบาทสมมติ มุมครัว มุมศิลปะ มุมส่งเสริมการอ่าน เป็นต้น ภายนอกห้องเรียนจัดตกแต่งสภาพแวดล้อม ด้วยไม้ดอก ไม้ประดับเพื่อเพิ่มพ้ืนที่สีเขียวภายในโรงเรียน ทาสีอาคารเรียนให้มีสีสันสวยงาม หน้าอาคารเรียนมีการจัดป้าย แนะนำบุคลากรในโรงเรียนเพ่ือให้นักเรียนได้รู้จัก และมีการจัดป้ายนิเทศวันสำคัญ และให้สาระความรู้ ตามความเหมาะสมแก่เด็ก ได้จัดบรรยากาศที่เอ้ืออำนวยต่อการเรียนรู้ของเด็ก โรงเรียนได้จัดแหล่งเรียนรู้ สำหรบั การจัดกจิ กรรม ดงั นี้ ๑. ห้องสมุด มีหนังสือสำหรับเด็กเล็ก (๓ – ๖ ขวบ) หลายประเภทให้เลือกอ่าน บริการครูประจำช้ันนำนักเรียนไปศึกษาค้นคว้า อย่างน้อย ๑ คร้ัง ต่อสัปดาห์ ให้บริการนักเรียนและผู้ปกครอง สามารถเข้ามาอ่านหนังสือได้ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา ๑๕.๓๐ – ๑๖.๓๐ น. และบริการและยืมหนังสือนิทาน กลบั บ้านไดค้ รง้ั ละ ๑ เล่ม ไม่เกนิ ครัง้ ละ ๗ วนั ๒. ห้องศูนย์การเรียนรู้ระดับปฐมวัย มีมุมการเรียนรู้ท่ีส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย ได้แก่ มุมครัว มุมบ้าน มุมอาเซียน มุมวิทยาศาสตร์ มุมคณิตศาสตร์ มุมศิลปะ มุมคอมพิวเตอร์ และมุมบอล ครูประจำช้ันนำนักเรียนเข้าไปเรียนรู้โดยใช้ส่ือจากมุมต่าง ๆ อย่างน้อย ๑ คร้ัง ต่อสัปดาห์ ให้ผู้ปกครองสามารถ นำนักเรยี นเข้าศนู ย์การเรยี นรูไ้ ดท้ ุกวันจันทร์ – ศกุ ร์ เวลา ๑๕.๓๐ – ๑๖.๓๐ น. ๓. ห้องดนตรี จัดสภาพแวดล้อมท่ีเอ้ือต่อการเรียนรู้ดนตรี มีเครื่องดนตรีสำหรับครู จัดกจิ กรรมดนตรีใหก้ ับนักเรียน สปั ดาหล์ ะ ๑ ครง้ั คร้งั ละ ๕๐ นาที ๔. ห้องนาฏศิลป์ จดั สภาพแวดล้อมท่ีเออ้ื ตอ่ การเรียนร้ดู า้ นนาฏศิลป์ ๕. ห้องโขน จัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้โขน มีอุปกรณ์และภาพแสดงท่าทาง ต่าง ๆ ในการเรียนรขู้ องโขนระดบั ปฐมวัย

รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ หนา้ ๙๖ ๖. ห้องภาษาอังกฤษ จัดสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ มีส่ือมัลติมีเดีย กระดานอัจฉริยะ และโปรแกรมภาษาอังกฤษท่ีส่งเสริมทักษะทางด้านการพูด การร้องเพลง และคำศัพท์ ต่าง ๆ ทางด้านภาษาอังกฤษ นักเรียนอนุบาล ๒ เรียนจำนวน ๒ ครั้ง ต่อสัปดาห์ นักเรียนอนุบาล ๓ เรียน จำนวน ๔ ครงั้ ต่อสัปดาห์ และนักเรียนห้องเรียนภาษาอังกฤษ เรยี นจำนวน ๕ ชัว่ โมงต่อวนั ๗. โรงเรียนจัดสภาพแวดล้อมนอกห้องเรียนให้กับเด็กที่เอ้ือต่อการทำกิจกรรมที่หลากหลาย มีพ้ืนท่ีกว้างพอ สะอาดร่มร่ืน เช่นบ่อทราย ศูนย์น้ำ สนามเด็กเล่น สวนหย่อม อ่างเลี้ยงปลา และมีการปลูกต้นไม้ ยืนต้น ไม้ดอก ไม้ประดับ ซุ้มพระพุทธรูปประจำโรงเรียน ให้เด็ก ๆ ได้สำรวจศึกษาธรรมชาติรอบ ๆ บริเวณ เหมาะสำหรับทำกิจกรรมพัฒนากล้ามเน้ือมัดใหญ่ เด็กได้มีโอกาสสำหรับทำกิจกรรม เช่นปลูกต้นไม้ รดน้ำต้นไม้ ทำความสะอาดบริเวณโรงเรียน และเขตพ้ืนที่รับผิดชอบความสะอาด เล่นทราย เล่นน้ำ อนุรักษ์สภาพแวดล้อม ภายนอกห้องเรียน ส่งเสริมการเรียนรู้เร้าความสนใจของเด็ก ให้เด็กรู้สึกสดช่ืน เรียนรู้อย่างมีความสุข ได้สำรวจ ตรวจค้นในความจริงของโลก สร้างจินตนาการอันกว้างไกล และมองเห็นคุณค่าความสัมพันธ์ระหว่างตนเอง กับธรรมชาติ โรงเรียนมีมาตรการในการควบคมุ ดแู ลความปลอดภยั สภาพแวดล้อมภายในหอ้ งเรยี นอยา่ งใกลช้ ิด ๘. จัดและใช้แหล่งเรียนรู้และส่ือในชุมชนที่มีความหลากหลายและคุ้มค่าเอ้ือต่อการพัฒนา พฒั นาการของผูเ้ รยี น ๙. โรงเรียนมกี ารประสานงานกบั แหลง่ เรยี นรภู้ ายนอกเพ่อื จดั ประสบการณ์ให้แกเ่ ด็ก ดงั น้ี - วัดโฆษิตวิหาร และวัดวิชิตสังฆาราม และวัดไชยธาราราม เป็นแหล่งเรียนรู้ ที่มีกิจกรรมทางศาสนา ได้แก่ วันธรรมสวนะ วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา นักเรียนสามารถ ใช้วดั สำหรับปฏบิ ตั กิ ิจกรรมทางศาสนาได้อย่างสะดวก เปน็ ต้น - ศ าล เจ้าพ้ อ ต่ อ ก๊งบ างเห นี ย ว เป็ น แห ล่งเรีย น รู้เกี่ ย วกับ ป ระเพ ณี พ้ อ ต่ อ ซึง่ เป็นประเพณีสารทจนี ของจงั หวัดภูเกต็ ควรใหน้ กั เรยี นได้ศึกษาและเรยี นรปู้ ระเพณีของท้องถิน่ - ชมุ ชนเมอื งเกา่ ถนนถลาง เป็นแหลง่ เรยี นร้เู กยี่ วกับวิถีชีวิตคนภูเกต็ - ไร่วานชิ นกั เรียนได้ศึกษาเรยี นรูเ้ ก่ียวกบั วถิ ีชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง - สวนสัตว์ และสถานแสดงพันธ์ุสัตว์น้ำภูเก็ต มีการแสดงพันธุ์สัตว์ท่ีมีความน่าสนใจ และนักเรียนไดเ้ รียนร้จู ากของจรงิ - พิพิธภัณฑ์ภเู กต็ ไทยหัว นิทรรศการภาพแสดงความเป็นมาของชาวจีนที่ย้ายถ่ินฐานมา อยู่ที่ภูเก็ต บุคคลสำคัญของภูเก็ต ชุดแต่งกายประจำถ่ิน อาหารพ้ืนเมือง เทศกาลงานประเพณี อาคาร แบบชิโนโปรตุกีส และภาพถ่ายเก่าแก่ท่ีแสดงความเป็นมาด้านเศรษฐกิจของภูเก็ตต้ังแต่ยุคเหมืองแร่ การทำสวนยางพารา และการทอ่ งเที่ยว ๓.๔ ประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริงและนำผลการประเมินพัฒนาการเด็กไปปรับปรุงการจัด ประสบการณแ์ ละพัฒนาเด็ก จากการประเมินพัฒนาการของเด็กด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย ครูได้บันทึกผลการประเมิน พัฒนาการของเด็ก และรายงานให้ผู้ปกครองทราบปีละ ๒ ครั้ง นอกจากนี้ยังมีการประชุมพบปะผู้ปกครองสัญจร ภาคเรียนละ ๒ ครั้ง รายงานพฤติกรรมนักเรียนในบันทึกสายสัมพันธ์บ้าน และโรงเรียนสัปดาห์ละ ๑ ครั้ง และผู้ปกครองสามารถสอบถามพัฒนาการ หรือปัญหาพัฒนาการนักเรียนได้จากครูประจำช้ันได้ทุกวันในขณะมา รบั – ส่ง นักเรียน เพื่อรายงานผลการประเมินพัฒนาการของเด็กอีกดว้ ย โดยส่วนใหญ่ พ่อ แม่ ผู้ปกครองต้องการ ทราบผลการประเมินพัฒนาการเด็ก เพื่อทราบว่าลูกของตนเรียนรู้อะไร และตนสามารถช่วยกระตุ้นพัฒนาการ ลูกอย่างไร นอกจากน้ีแล้วด้านผู้บริหารโรงเรียนยังสามารถนำผล การประเมินพัฒนาการเด็กมาเป็นข้อมูล

รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ หนา้ ๙๗ ในการจัดกิจกรรมและงบประมาณในการสนับสนุนและส่งเสริมครู ในการจัดสภาพแวดล้อมในโรงเรี ยน ให้เหมาะสมกบั เดก็ ตอ่ ไป ผลการดำเนนิ งาน ด้านการจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ การจัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้เด็ก มีพัฒนาการทุกด้านอย่างสมดุลเต็มศักยภาพ ครูผู้สอนมีการวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล ครูจัดทำแผน การจัดประสบการณ์ จากการวิเคราะห์มาตรฐานคุณ ลักษณ ะท่ีพึงประสงค์ในหลักสูตรสถานศึกษา จัดประสบการณ์ท่ีส่งเสริมพัฒนาการเด็กครบทุกด้านอย่างสมดุล เต็มศักยภาพโดยความร่วมมือของพ่อแม่ และครอบครัว ชมุ ชนและผเู้ กยี่ วขอ้ ง การสร้างโอกาสให้ เด็ กได้รับ ป ระสบ การณ์ ตรง เล่น และป ฏิ บั ติอย่างมี ความ สุข โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ได้จัดประสบการณ์ การเรียนรู้ท่ีเช่ือมโยงกับประสบการณ์ เดิม ให้เด็กมีโอกาสเลือกทำกิจกรรมอย่างอิสระ ตามความต้องการ ความสนใจ ความสามารรถ ตอบสนอง ต่อวิธีการเรียนรู้ของเด็กเป็นรายบุคคลหลากหลายรูปแบบ จากแหล่งเรียนรู้ท่ีหลากหลาย เด็กได้เลือกเรียนรู้ ลงมือกระทำและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ในรูปแบบโครงการจัดการเรียนการสอนแบบโครงการ Project Approach นักเรียนได้เรียนรู้เรอื่ งทีส่ นใจอยา่ งลมุ่ ลกึ จัดบรรยากาศท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ ใช้สื่อ และเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับวัย โรงเรียนอนุบาล เท ศ บ าล น ค รภู เก็ ต ได้ จัด ห้ อ งเรีย น ส ะอ าด อ าก าศ ถ่ าย เท ป ล อ ด ภั ย มี พ้ื น ที่ แ ส ด งผ ล งาน เด็ ก พ้ืนท่ีสำหรับมุมเสริมประสบการณ์ และการจัดกิจกรรม เด็กมีส่วนร่วมในการจัดสภาพแวดล้อมในห้องเรียน เช่นการตกแต่งป้ายชื่อมุมการเรียนรู้ เวรประจำวันดูแลความสะอาดของห้องเรียน ครูใช้สื่อเทคโนโลยี ที่เหมาะสม เชน่ คอมพวิ เตอร์ เคร่ืองเลน่ วีดีโอ โทรทศั น์ เปน็ สือ่ ในการจดั การเรยี นรู้ การป ระเมิ น พั ฒ น าการเด็กต าม สภ าพ จริง โรงเรียน อนุ บ าลเท ศบ าลน ครภู เก็ต มีการประเมินพัฒนาการเด็กจากกิจกรรมและกิจวัตรประจำวันด้วยเคร่ืองมือที่หลากหลาย มีการประเมิน พัฒ นาการเด็กโดยผู้ปกครองมีส่วนร่วม เช่นการประเมินแฟ้มสะสมผลงานนักเรียนโดยผู้ปกครอง นำผลการประเมนิ ทีไ่ ดไ้ ปปรับปรุงการจดั ประสบการณแ์ ละพฒั นาเดก็ ข้อมูล หลักฐาน เอกสารเชิงประจกั ษ์ท่สี นับสนนุ ผลการประเมนิ ตนเอง ๑. แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ๒. โครงการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน Project Approach ๓. โครงการจัดการเรยี นการสอนคอมพวิ เตอร์ ๔. โครงการจดั การเรยี นการสอนดนตรี ๕. โครงการจดั การเรียนการสอนภาษาองั กฤษ ๖. โครงการสง่ เสริมการศึกษาศลิ ปวฒั นธรรมแหล่งเรียนรแู้ ละภมู ิปญั ญาท้องถิน่ ๗. กจิ กรรมส่งเสริมการเรยี นรู้ประเพณพี ้อต่อ ๘. ทะเบยี นแหล่งเรยี นรู้ ๙. โครงการผลิตส่ือการเรยี นการสอน เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศกึ ษา ๑๐. โครงการประเมนิ พฒั นาการผู้เรียน

รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ หน้า ๙๘ จุดเด่น ๑. จัดบรรยากาศท่ีเอ้ือต่อการเรียนร้ใู ช้สื่อเทคโนโลยีท่เี หมาะสมกบั วยั ๒. จดั กิจกรรมส่งเสรมิ พฒั นาการเดก็ ครบทุกดา้ น ไม่มุ่งเน้นพฒั นาการดา้ นใดด้านหน่ึง ๓. ครจู ัดหอ้ งเรียนสะอาด อากาศถา่ ยเท ปลอดภัย จุดทคี่ วรพฒั นา ๑. พัฒนาครูให้ออกแบบการจัดประสบการณ์การเรยี นรทู้ ี่สง่ เสริมใหน้ กั เรียนมที ักษะกระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร์ ๒. พฒั นาครใู ห้ออกแบบการจัดประสบการณ์การเรยี นรทู้ ี่ใชม้ าตรการเว้นระหา่ งทางสงั คม (Social Distancing) เพื่อป้องกันการตดิ เช้อื จากไวรัสโรโรน่า COVID – 19 นวตั กรรม / แบบอยา่ งทด่ี ี ๑. โครงการจดั การเรียนการสอนแบบโครงงาน Project Approach ๒. การจัดทำศูนย์การเรียนรู้ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง “สวนพอเพยี ง”และการบรู ณาการ การเรยี นรตู้ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ข้อเสนอแนะ ๑. ออกแบบการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ทตี่ อบสนองต่อการเรยี นรขู้ องเด็กเป็นรายบุคคล ๒. การออกแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรทู้ ่ีใชม้ าตรการเว้นระห่างทางสงั คม (Social Distancing) เพื่อป้องกนั การติดเช้ือจากไวรัสโคโรนา่ COVID – 19 ๓. จดั บรรยากาศท่ีเอ้ือต่อการใช้สอ่ื เทคโนโลยีท่ใี ชม้ าตรการเว้นระหา่ งทางสงั คม (Social Distancing) ทิศทาง / แนวทางการพัฒนาสถานศกึ ษาในอนาคต ๑. พฒั นาครูให้ออกแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทส่ี ่งเสรมิ ใหน้ กั เรียนมที ักษะกระบวนการ ทางวทิ ยาศาสตร์ ๒. พัฒนาครใู ห้ออกแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่ใชม้ าตรการเวน้ ระห่างทางสังคม (Social ความต้องการและการชว่ ยเหลือ ๑. บุคลากรเฉพาะทางในการจัดการจัดการศึกษา ด้านการสอนศิลปะ ภาษาอังกฤษ ดนตรี และโภชนาการเพื่อสนบั สนุนความสามารถพิเศษเฉพาะทาง ๒. งบประมาณในการจดั ทำหลังคาคลุมสนามเด็กเล่น

รายงานการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ หน้า ๙๙ ‘ สรุปผลการประเมนิ ในภาพรวม ผลการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ระดบั การศึกษาปฐมวยั อยูใ่ นระดับ ดเี ลศิ จากผลการดำเนินงานโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ส่งผลให้สถานศึกษาจัดการพัฒนาคุณภาพการศกึ ษา ประสบผลสำเร็จตามท่ีตั้งเป้าหมายไว้ในแต่ละมาตรฐาน จากผลการประเมินสรุปว่า อยู่ในระดับคุณภาพ ดีเลิศ ทง้ั น้ี เพราะ มาตรฐานท่ี 1 คุณภาพเดก็ อยู่ในระดับคณุ ภาพ ยอดเยย่ี ม มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบรหิ ารและจดั การ อยใู่ นระดับคณุ ภาพ ดเี ลศิ มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เนน้ เด็กเปน็ สำคญั อยูใ่ นระดับ ดีเลิศ