รายงานการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ หน้า ๔๘ สปั าหท์ ่ สาร ท่ วร รยนรู้ หนว่ ยการ รยนรู้ อ.๒ (๕ – ๖ ป)ี การจั ปร ส การณ์การ รยนรู้ ๑๐ สาร ท่ วร รยนรทู้ ่ ๑ หนว่ ย หนูน้อยอุ่นรัก - พยัญชนะ ด ต ฒ ร่อื งราว ก่ยวกั ๑. ความหมายและประโยชนข์ องบา้ น - นับจานวนและรู้คา่ ตวั เลข 9 ๙ ุ ลแล สถานท่ ๒. พนื้ ที่และบริเวณรอบบ้าน - นับเพิ่ม ลด 1 - 10 แว ล้อม ก ๓. ประเภทและส่วนประกอบของบา้ น - นบั จานวนและบอกค่าตัวเลข 4 STEM - คาตรงข้าม สะอาด-สกปรก ๔. ห้องตา่ ง ๆ ภายในบ้าน - ตวั อักษร Q R ๕. การรักษาความสะอาดบ้าน - คาศัพท์ NINE = เกา้ - ทกั ษะการสังเกต HOUSE = บา้ น - ทกั ษะการจาแนก - ประโยค HAPPY HOME = บ้านแสนสุข ๑๑ สาร ท่ วร รยนรูท้ ่ ๑ หน่วย หนนู ้อยอนุ่ รัก - พยญั ชนะ ข ช รอ่ื งราว กย่ วกั (บรู ณาการวันอาสาฬหบชู า - นับจานวนและรคู้ า่ ตวั เลข 10 ๑๐ ตวั ก ๑. ความสัมพันธข์ องบุคคลในครอบครวั - นับเพม่ิ ลด 1 – 10 ๒. หนา้ ทข่ี องบุคคลภายในครอบครัว - คาตรงขา้ ม เลก็ -ใหญ่, กว้าง-แคบ ๓. การปฏิบตั ิตนท่ีดีต่อบคุ คลใน - ตัวอกั ษร S T ครอบครัว - คาศพั ท์ TEN = สิบ ๔. การมสี ่วนรว่ มของบคุ คลใน FAMILY = ครอบครวั ครอบครัว FATHER = พอ่ ๕. สิง่ ทจี่ าเปน็ ตอ่ บคุ คลในครอบครวั MOTHER = แม่ - ทักษะการจาแนก - ประโยค HAPPY FAMILY = ครอบครวั ทอ่ี บอุ่น ๑๒ สาร ท่ วร รยนร้ทู ่ ๒ หน่วย า้ น รือน ยงกัน - พยัญชนะ ฃ ซ รอ่ื งราว กย่ วกั ๑. ความหมายของเพ่ือนบา้ น - นับจานวนและรู้ค่าตวั เลข 1 - 10 ุ ลแล สถานท่ ๒. ไม่สร้างความเดอื ดรอ้ นใหเ้ พอื่ นบา้ น - นบั เพม่ิ ลด 1 – 10 แว ลอ้ ม ก ๓. การชว่ ยเหลอื ซึง่ กนั และกัน - เครอื่ งหมาย = = ๔. การรว่ มกจิ กรรมกับเพื่อนบ้าน (พอเพยี ง - คาตรงขา้ ม ใน-นอก, หนา้ -หลัง ๕. การอยรู่ ่วมกนั อย่างมีความสุข - ตวั อักษร U V - ทักษะการสงั เกต - คาศพั ท์ ONE – TEN = 1-10 FRIEND = เพ่ือน SOFT = นม่ิ อ่อน - ประโยค CLEAN THE HOUSE = ทาความสะอาดบา้ น
รายงานการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ หน้า ๔๙ สัป าห์ท่ สาร ท่ วร รยนรู้ หนว่ ยการ รยนรู้ อ.๓ (๕ – ๖ ป)ี การจั ปร ส การณก์ าร รยนรู้ ๑๓ สาร ท่ วร รยนรทู้ ่ ๒ หนว่ ย ชมุ ชุนน่าอยู่ - พยญั ชนะ น ฉ ร่ืองราว ก่ยวกั (บรู ณาการวันแม่แห่งชาติ - นับจานวนและรู้ค่าตัวเลข 1 - 10 ุ ลแล สถานท่ ๑. ชมุ ชนและสถานทีส่ าคญั ในชุมชน - นับเพิ่ม ลด 1 – 10 แว ล้อม ก ๒. ความสาคัญของสถานทีต่ ่างๆ - เครื่องหมาย < > ในชมุ ชน - ตวั อกั ษร W X ๓. การร่วมกจิ กรรมในชุมชน - คาศัพท์ ONE – TEN = 1-10 ๔. การมีสว่ นรว่ มในชมุ ชน WELCOME = ยนิ ดตี ้อนรบั ๕. การดแู ลสาธารณสมบตั ิที่ใชร้ ว่ มกัน HOSPITAL = โรงพยาบาล ในชมุ ชน TEMPLE = วดั - ทักษะการสงั เกต - ประโยค YOU’RE WELCOME - ทักษะการสารวจ = ยินดตี อ้ นรบั ๑๔ สาร ท่ วร รยนรู้ท่ ๒ หน่วย ไ ่มุกอนั ามนั สวรร ์ มือง ต้ - พยัญชนะ ม ฆ รือ่ งราว กย่ วกั ๑. คาขวัญและดอกไม้ประจาจงั หวัด - นับจานวนและรู้ค่าตวั เลข 11 ๑๑ ุ ลแล สถานท่ ๒. ชอื่ ลกั ษณะภูมิประเทศของจงั หวดั - ทบทวนเครอ่ื งหมาย = = และ แว ล้อม ก ๓. ศาสนาและงานประเพณี <> ๔. อาชีพและอาหารพ้ืนเมืองภูเกต็ - คาตรงข้าม มาก-นอ้ ย ๕. สถานท่ีสาคัญของจงั หวดั ภเู ก็ต - ตวั อกั ษร Y Z - คาศพั ท์ ELEVEN = สิบเอ็ด STEM PROVINCE = จังหวดั - ทกั ษะการสงั เกต PHUKET = ภูเก็ต - ทักษะการจาแนก LARGE = ใหญ่ - ทกั ษะการสารวจ SMALL = เล็ก ๑๕ สาร ท่ วร รยนรทู้ ่ ๒ หนว่ ย อา ซยนรว่ ม จ - พยญั ชนะ ท ฑ ห รอื่ งราว กย่ วกั ๑. ชอ่ื ประเทศและธงชาติประเทศ - นับจานวนและรู้คา่ ตัวเลข 12 ๑๒ ุ ลแล สถานท่ สมาชิกอาเซียน (พอเพียง - ความหมายของการบวก แว ล้อม ก ๒. ดอกไมป้ ระจาชาติประเทศสมาชกิ - ตวั อกั ษร A - Z อาเซียน STEM - คาศพั ท์ ๓. สัญลักษณต์ ราแผน่ ดนิ TWELVE = สิบสอง ๔. สตั ว์ประจาชาตปิ ระเทศสมาชิก ASEAN = อาเซยี น อาเซียน FLOWER = ดอกไม้ ๕. เพลงชาตปิ ระเทศสมาชิกอาเซียน ANIMAL = สตั ว์ - ทักษะการจาแนก - ทกั ษะการสังเกต
รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ หน้า ๕๐ สัป าห์ท่ สาร ท่ วร รยนรู้ หน่วยการ รยนรู้ อ.๓ (๕ – ๖ ป)ี การจั ปร ส การณก์ าร รยนรู้ ๑๖ สาร ท่ วร รยนรูท้ ่ ๒ หน่วย อา ซยนร่วม จ - พยัญชนะ ล ส - นับจานวนและร้คู า่ ตวั เลข 13 ๑๓ รื่องราว กย่ วกั ๑. สถานท่ีสาคัญและแหลง่ ทอ่ งเที่ยว - ความหมายของการลบ ุ ลแล สถานท่ ๒. อาชพี และสนิ ค้าเศรษฐกิจ แว ล้อม ก ๓. ฤดูกาล - คาตรงขา้ ม ใกล้-ไกล ๔. ธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม - ตวั อักษร A-Z ๕. ภยั พบิ ัตแิ ละภยั ธรรมชาติ - คาศพั ท์ THIRTEEN = สบิ สาม - ทกั ษะการสงั เกต ASEAN = อาเซียน - ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล LANDMARK = แหลง่ ท่องเท่ยี ว CAREER = อาชพี ๑๗ สาร ท่ วร รยนรทู้ ่ ๒ หน่วย อาช นฝน - พยัญชนะ อ ฮ รอื่ งราว ก่ยวกั ๑. ช่อื อาชีพตา่ งๆ พอเพยี ง - นับจานวนและรู้คา่ ตวั เลข 14 ๑๔ ุ ลแล สถานท่ ๒. หน้าทแ่ี ละการแตง่ กายแต่ละอาชพี - คาตรงข้าม ขาว-ดา, รวย-จน แว ล้อม ก ๓. สถานท่ีใชป้ ฏิบัตงิ าน - ตัวอกั ษร A a ๔. เครอ่ื งมือทีใ่ ช้ในการประกอบอาชีพ - คาศัพท์ FOURTEEN = สิบสี่ STEM DOCTOR = หมอ ๕. ความรู้สกึ ทดี่ ีตอ่ อาชีพ TEACHER = ครู - ทกั ษะการสังเกต - ประโยค - ทกั ษะการจาแนก I AM A TEACHER = ฉันเปน็ ครู ๑๘ – ๒๐ หนอู ยากรู้ ครั้งท่ี ๑ Project Approach Project Approach ๒๑ สาร ท่ วร รยนรู้ท่ ๓ - พยญั ชนะ ฌ ณ ญ - นับจานวนและรู้คา่ ตวั เลข 15 ๑๕ รื่องราว กย่ วกั หน่วย ธรรมชาตแิ สนมหัศจรรย์ - โจทย์ปญั หาการบวก ปากเปลา่ ธรรมชาติรอ ตัว ๑. ความหมายของสิ่งมชี วี ิต - คาตรงข้าม ตาย – เป็น และส่ิงไมม่ ชี วี ิต ๒. ลกั ษณะของสง่ิ มีชวี ิตและส่ิงไม่มชี ีวิต - ตัวอักษร A - Z ๓. ประเภทของส่ิงมีชีวิตและสิ่งไมม่ ชี ีวติ - คาศพั ท์ FIFTEEN = สิบห้า STEM NATURE = ธรรมชาติ ๔. ประโยชน์และโทษของส่งิ มชี ีวิตและ ALIVE = มีชวี ิต ส่ิงไม่มชี วี ิต NON ALIVE = ไมม่ ชี ีวติ ๕. การดูแลและอนุรักษ์สิง่ มีชวี ิตและ THREE = ตน้ ไม้ สง่ิ ไม่มีชวี ติ - ทกั ษะการสงั เกต - ทกั ษะการสารวจ - ทกั ษะการจาแนก
รายงานการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ หน้า ๕๑ สัป าหท์ ่ สาร ท่ วร รยนรู้ หนว่ ยการ รยนรู้ อ.๓ (๕ – ๖ ป)ี การจั ปร ส การณก์ าร รยนรู้ ๒๒ สาร ท่ วร รยนรทู้ ่ ๓ หน่วย ธรรมชาตแิ สนมหศั จรรย์ - พยัญชนะ ฎ ฏ ฐ - นับจานวนและรู้คา่ ตัวเลข 16 ๑๖ ร่อื งราว กย่ วกั ๑. ประเภทของสตั ว์ - โจทย์ปัญหาการลบ ปากเปลา่ - คาตรงข้าม ดุ-เช่ือง ธรรมชาตริ อ ตวั ก ๒. รปู รา่ งลักษณะของสัตวป์ ระเภท - ตัวอักษร A a, B b - คาศัพท์ SIXTEEN = สิบหก ต่างๆ ANIMAL = สัตว์ BIRD = นก ๓. อาหารของสตั ว์ประเภทต่างๆ CAT = แมว DOG = สนุ ขั ๔. ที่อยู่อาศยั ของสัตว์ประเภทตา่ งๆ - รู้จักสระ -ะ ๕. ประโยชน์ โทษและการดแู ลสัตว์ - นับจานวนและร้คู ่าตวั เลข 17 ๑๗ - ทบทวนความหมาย 1 – 10 แตล่ ะประเภท - โจทย์ปญั หา - คาตรงข้าม เลก็ -ใหญ่ - ทกั ษะการสังเกต - ตวั อักษร C c, D d - คาศัพท์ SEVENTEEN = สิบเจ็ด - ทักษะการจาแนก TREE = ตน้ ไม้ ROOT = ราก - ทักษะการสารวจ LEAF = ใบไม้ - สระ -า ๒๓ สาร ท่ วร รยนรทู้ ่ ๓ หน่วย ธรรมชาติแสนมหศั จรรย์ - นบั จานวนและรคู้ า่ ตวั เลข 18 ๑๘ - โจทย์ปญั หาการบวก-ลบ ร่ืองราว ก่ยวกั ๑. รปู รา่ งลักษณะของตน้ ไม้ เกมบวก-ลบ ธรรมชาติรอ ตวั ก ๒. การเจริญเตบิ โตของต้นไม้ - ตัวอักษร E e, F f - คาศัพท์ EIGHTEEN = สิบแปด ๓. การขยายพันธุแ์ ละการดแู ลรกั ษา INSECT = แมลง BUTTERFLY = ผีเสอื้ ต้นไม้ LIFE CYCLE = วงจรชีวติ ๔. การอนรุ ักษต์ ้นไม้ (พอเพยี ง ๕. ประโยชนแ์ ละโทษของตน้ ไม้ - ทักษะการสงั เกต - ทกั ษะการสารวจ - ทกั ษะการจาแนก ๒๔ สาร ท่ วร รยนรทู้ ่ ๓ หน่วย ธรรมชาติแสนมหศั จรรย์ รอ่ื งราว ก่ยวกั ๑. ช่ือ ประเภทรปู รา่ ง และลักษณะ ธรรมชาตริ อ ตวั ก ของแมลง ๒. ท่อี ยอู่ าศยั และอาหารของแมลง ๓. วงจรชีวติ ของแมลง ๔. ประโยชน์และโทษของแมลง ๕. การปอ้ งกันตนเองจากแมลงทีม่ ีพษิ - ทกั ษะการสงั เกต - ทักษะการสารวจ - ทักษะการจาแนก - ทกั ษะการลงความเหน็ จากข้อมูล
รายงานการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศึกษา ๒๕๖๓ หนา้ ๕๒ สัป าห์ท่ สาร ท่ วร รยนรู้ หนว่ ยการ รยนรู้ อ.๓ (๕ – ๖ ป)ี การจั ปร ส การณ์การ รยนรู้ ๒๕ สาร ท่ วร รยนรทู้ ่ ๓ หน่วย ธรรมชาติแสนมหศั จรรย์ - สระ อี รื่องราว ก่ยวกั ๑. ชอ่ื รปู ร่าง ลกั ษณะและสี - นบั จานวนและรคู้ ่าตวั เลข 19 ๑๙ ธรรมชาติรอ ตัว ก ของผกั ผลไม้ - โจทย์ปญั หาการบวก – ลบ ๒. วธิ ีการรับประทานและรสชาติ - คาตรงขา้ ม เปรย้ี ว-หวาน ของผัก ผลไม้ - ตัวอกั ษร G g, H h ๓. ลกั ษณะและความแตกตา่ ง - คาศพั ท์ NINETEEN = สบิ เก้า ของผัก ผลไม้ FRUIT = ผลไม้ ๔. วิธีการรับประทานและรสชาติ APPLE = แอปเป้ิล ของ ผกั ผลไม้ BANANA = กลว้ ย ๕. ประโยชน์ของผกั และผลไม้ CARROT = แครอท - ทักษะการสงั เกต - ทักษะการใช้ประสาทสัมผสั - ทักษะการจาแนก - ทักษะการวดั ๒๖ สาร ท่ วร รยนรู้ท่ ๓ หนว่ ย ธรรมชาติแสนมหศั จรรย์ - สระ อู ร่อื งราว กย่ วกั ๑. ความหมาย ประเภทสงิ่ แวดลอ้ ม - นับจานวนและรคู้ า่ ตวั เลข 20-๒๐ ธรรมชาติรอ ตัว ก ๒. การดูแลสงิ่ แวดล้อมธรรมชาติ - โจทย์ปัญหาการบวก-ลบ ๓. การดแู ลสิง่ แวดลอ้ มทีม่ นษุ ย์สร้างขึน้ - คาตรงข้าม มาก-นอ้ ย ๔. ความแตกต่างของส่ิงแวดล้อม - ตวั อักษร I i, J j ๕. ประโยชน์ โทษของสงิ่ แวดลอ้ มตาม - คาศัพท์ TWENTY = ยส่ี ิบ ธรรมชาติและทีม่ นษุ ยส์ รา้ งขน้ึ ENVIRONMENT = ส่ิงแวดลอ้ ม - ทักษะการสงั เกต - ทักษะการจาแนก MAN MADE = มนษุ ย์สรา้ งข้ึน - ทักษะการสารวจ NATURE = ธรรมชาติ ๒๗ สาร ท่ วร รยนรูท้ ่ ๓ หนว่ ย ฤ กู าลหรรษา STEM - นับจานวนและรคู้ า่ ตัวเลข 1-20, รอ่ื งราว กย่ วกั ๑. ปรากฏการณตามธรรมชาติ ๑-๒๐ ธรรมชาติรอ ตัว ก ช่อื ฤดูกาล - โจทย์ปัญหาการบวก-ลบ ๒. ฤดรู ้อน - สญั ลักษณ์แทนโจทย์ปัญหา ๓. ฤดฝู น - ตวั อักษร K k, L l ๔. ฤดูหนาว - คาศพั ท์ ONE-TWENTY = 1-20 ๕. การปฏิบัติตนให้เหมาะสมกับฤดูกาล SEASON = ฤดกู าล - ทักษะการสังเกต SUMMER = ฤดรู ้อน - ทักษะการจาแนก RAINY SEASON = ฤดฝู น - ทักษะการลงความเห็นจากขอ้ มูล WINTER = ฤดูหนาว
รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ หน้า ๕๓ สปั าหท์ ่ สาร ท่ วร รยนรู้ หนว่ ยการ รยนรู้ อ.๓ (๕ – ๖ ป)ี การจั ปร ส การณก์ าร รยนรู้ ๒๘ สาร ท่ วร รยนรู้ท่ ๓ หนว่ ย ฤ กู าลหรรษา - สระ อิ - นับจานวนและรคู้ า่ ตวั เลข 1-20, รอ่ื งราว ก่ยวกั ๑. ความหมายของกลางวัน กลางคืน ๑-๒๐ - โจทย์ปัญหาการลบและสญั ลกั ษณ์ ธรรมชาตริ อ ตวั ( อ ยง) - คาตรงขา้ ม มืด-สว่าง - ตวั อักษร M m, N n ๒. ปรากฎการณท์ ่เี กิดข้ึนในเวลา - คาศัพท์ ONE-TWENTY = 1-20 SUN = ดวงอาทิตย์ กลางวนั MOON = ดวงจนั ทร์ RAINBOW = รุ้ง ๓. การปฏบิ ตั ิตนในเวลากลางวนั NIGHT = กลางคืน ๔. ปรากฎการณท์ ีเ่ กิดขนึ้ ในเวลา กลางคืน ๕. การปฏิบตั ิตนในเวลากลางคืน - ทักษะการสงั เกต - ทักษะการคาดคะเนเหตกุ ารณ์ - ทกั ษะการลงความเหน็ จากข้อมลู ๒๙ สาร ท่ วร รยนรู้ท่ ๔ หน่วย ไทยแลน แ์ นสมาย ์ - รจู้ ักสระ อู รื่องราว ก่ยวกั ๑. สัญลกั ษณค์ วามเป็นไทย - ทบทวนตวั เลข 1-20, ๑-๒๐ สิ่งตา่ งๆ รอ ตัว ก ๒. การแตง่ กาย ชดุ ประจาชาติ - บวก-ลบในแนวนอนผลลัพธ์ไมเ่ กนิ 5 ๓. การขบั ร้องเพลงชาติไทย, - คาตรงขา้ ม ถูก-ผดิ เพลงสรรเสรญิ พระบารมี - ตวั อกั ษร O o, P p ๔. ภาษาไทย ภาษาถน่ิ - คาศัพท์ ONE-TWENTY = 1-20 ๕. อาหารพืน้ บ้าน THAI = ชาวไทย - ทักษะการสังเกต THAILAND = ประเทศไทย - ทักษะการจาแนก SMILE = ย้ิม LOVE = รกั ๓๐ สาร ท่ วร รยนรู้ท่ ๔ หนว่ ย ถนนส าว STEM - ผสมสระ อี สระ อา รอ่ื งราว กย่ วกั ๑. ความหมายและประโยชน์ของ - บวก-ลบในแนวนอนผลลัพธ์ไมเ่ กิน5 ส่ิงตา่ งๆ รอ ตัว ก ยานพาหนะ - คาตรงขา้ ม เรว็ -ชา้ ๒. เปรียบเทยี บความแตกต่างของ - ตัวอักษร Q q, R r ยานพาหนะ - คาศัพท์ ๓. วธิ ีการปฏิบัติตนให้ปลอดภัยระหวา่ ง CAR = รถยนต์ การเดินทาง BOAT = เรือ ๔. การปฏบิ ตั ิตามกฎจราจร ( อ ยง) PLANE = เคร่ืองบิน ๕. อาชพี ท่เี ก่ยี วขอ้ งกบั การเดินทาง VAN = รถตู้ - ทักษะการจาแนก BICYCLE = รถจักรยาน - ทกั ษะการเปรียบเทยี บ
รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๓ หนา้ ๕๔ สัป าห์ท่ สาร ท่ วร รยนรู้ หน่วยการ รยนรู้ อ.๓ (๕ – ๖ ป)ี การจั ปร ส การณ์การ รยนรู้ ๓๑ สาร ท่ วร รยนรทู้ ่ ๑ หน่วย หนนู ้อยนักสัมผสั - ผสมคาที่มสี ระ อี สระ อา - ทบทวนจานวนและรูค้ ่าตวั เลข 1-20 รือ่ งราว กย่ วกั ๑. การมองเหน็ - บวกเลขในแนวนอน ผลลพั ธ์ไมเ่ กิน5 - คาตรงขา้ ม หนกั -เบา, ร้อน-เยน็ , ตัว ก ๒. การดมกลนิ่ เรยี บ-ขรขุ ระ - ตวั อักษร S s, T t ๓. การได้ยิน - คาศัพท์ SEE = มองเห็น ๔. การชมิ รส ( อ ยง) SMELL = ดมกลน่ิ HEAR = ได้ยนิ ๕. การสัมผัส TASTE = ชิมรส TOUCH = สมั ผัส - ทกั ษะการสงั เกต - ทกั ษะการจาแนก - ทักษะการใชป้ ระสาทสัมผัส ๓๒ สาร ท่ วร รยนรทู้ ่ ๔ หน่วย สาร แหง่ สสนั สรา้ งฝนนัก ิ - ผสมคาท่มี สี ระ อุ สระ อู - ทบทวนจานวนและรู้คา่ ตวั เลข 1-20 รอ่ื งราว กย่ วกั ๑. ชื่อสี - บวกเลขในแนวนอนผลลัพธ์ไมเ่ กนิ 10 สิ่งต่างๆ รอ ตัว ก ๒. ประเภทของสี - คาตรงขา้ ม อ่อน-แก,่ ดา-ขาว ๓. สีที่ได้จากธรรมชาติ - ตัวอักษร U u, V v - คาศัพท์ ๔. แมส่ ีและการผสมสี ได้ ๓ สี COLOR = สี ๕. ประโยชน์ – โทษของสี RED = สีแดง YELLOW = สีเหลือง - ทักษะการสงั เกต BLUE = สนี ้าเงนิ - ทักษะการจาแนก ๓๓ สาร ท่ วร รยนร้ทู ่ ๔ หนว่ ย สาร แห่งสสัน สร้างฝนนกั ิ - ผสมคาทม่ี สี ระ อะ สระ อา รือ่ งราว กย่ วกั ๑. เรยี นรเู้ รือ่ งจานวน - ทบทวนจานวนและรคู้ า่ ตัวเลข 1-20 ส่ิงตา่ งๆ รอ ตัว ก ๒. การวดั การเปรียบเทียบส่งิ ของ - ลบเลขในแนวนอนผลลพั ธไ์ มเ่ กนิ 5 โดยใชเ้ คร่อื งมอื วดั - คาตรงข้าม มาก-นอ้ ย, เพม่ิ -ลด, ๓. เรขาคณิต พชี คณิต ต่อแบบรปู หนา-บาง ตามความคิดของตนเอง - ตวั อักษร W w, X x ๔. การวเิ คราะห์ - คาศพั ท์ ๕. ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ NUMBER = จานวน - ทักษะการจาแนก MEASURE = การวัด - ทกั ษะการเปรียบเทียบ COMPARE = เปรยี บเทียบ - ทักษะการวัด ANALYZE = วิเคราะห์
รายงานการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ หน้า ๕๕ สัป าหท์ ่ สาร ท่ วร รยนรู้ หน่วยการ รยนรู้ อ.๓ (๕ – ๖ ปี) การจั ปร ส การณ์การ รยนรู้ ๓๔ สาร ท่ วร รยนรู้ท่ ๔ หนว่ ย สาร แห่งสสัน สรา้ งฝนนกั ิ - ผสมคาที่มสี ระ เอ สระ แอ รือ่ งราว ก่ยวกั ๑. วัตถุส่ิงของเครอื่ งใช้ของเล่นท่อี ยู่ - ทบทวนจานวนและรู้คา่ ตัวเลข 1-20 ส่ิงต่างๆ รอ ตวั ก รอบตวั การเปรยี บเทียบของสิง่ ต่างๆ - ลบเลขในแนวนอนผลลัพธไ์ ม่เกิน 5 ในชวี ิตประจาวนั - คาตรงข้าม ดึง-ผลกั , ลอย-จม ๒. การทดลอง การจม การลอย - ตวั อกั ษร Y y, Z z ของสง่ิ ต่างๆ การใช้เครือ่ งมือ - คาศัพท์ วทิ ยาศาสตร์ ในการสงั เกต (ช่งั ตวง วดั LIGHT = สว่าง ๓. สารวจตรวจสอบแรงแมเ่ หล็กและ DARK = มืด แรงโน้มถ่วงต่าง ๆ FLOAT = ลอย ๔. สารวจการใช้พลงั งานใกลต้ ัวและ SINK = จม บอกวิธีการ ใชร้ วมทงั้ ประโยชน์และโทษ อยา่ งเหมาะสมกับวัย แหลง่ กาเนิดเสยี ง ๕. การสังเกตและบอกความแตกต่าง ของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว - ทกั ษะการสงั เกต - ทักษะการสารวจ - ทักษะการลงความเหน็ จากข้อมลู ๓๕ สาร ท่ วร รยนรู้ท่ ๔ หนว่ ย การสื่อสารไร้ รหมแ น - ผสมคาที่มีสระ อะ กบั สระ อิ รื่องราว ก่ยวกั สง่ิ ๑. ความหมายของการส่ือสาร - ทบทวนจานวนและรูค้ ่าตัวเลข 1-20 ตา่ งๆ รอ ตัว ก ๒. อุปกรณ์สาหรับการสือ่ สาร STEM - ลบเลขในแนวนอนผลลพั ธไ์ มเ่ กิน10 ๓. การตดิ ต่อสารดว้ ยอุปกรณ์ต่างๆ - คา จดหมาย โทรศพั ท์ ๔. ประโยชนข์ องการสื่อสาร - ทบทวนตัวอักษร A - Z ๕. ภาษาที่ใช้ในการสอ่ื สาร - คาศพั ท์ RADIO = วทิ ยุ - ทกั ษะการสงั เกต TELEPHONE = โทรศัพท์ - ทกั ษะการจาแนก TELEVISION = โทรทัศน์ POST = ไปรษณยี ์ ๓๖ สาร ท่ วร รยนรทู้ ่ ๔ หนว่ ย หนูน้อย อ ยง - ทบทวนการผสมสระ อะ สระ อา - นับปากเปล่า 1 - 50 ร่ืองราว ก่ยวกั ๑. กังหนั นา้ ชยั พัฒนา STEM - โจทย์ปญั หาบวก-ลบผลลพั ธ์ไม่เกิน10 ส่ิงตา่ งๆ รอ ตัว ก ๒. ปลานลิ ของพ่อ - ทบทวนตวั อกั ษร a - z ๓. ฝนหลวงของพอ่ - คาศพั ท์ TURBINE = กงั หนั ARTIFICIAL RAIN= ฝนหลวง ๔. หญ้าแฝกของพ่อ VETIVER = หญ้าแฝก ๕. ของเล่นของพ่อ รถเขน็ เรอื ใบ TOY = ของเล่น - ทักษะการสังเกต - ทกั ษะการสารวจ
รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๓ หน้า ๕๖ สัป าห์ท่ สาร ท่ วร รยนรู้ หนว่ ยการ รยนรู้ อ.๓ (๕ – ๖ ปี) การจั ปร ส การณก์ าร รยนรู้ ๓๗ สาร ท่ วร รยนรู้ท่ ๔ หนว่ ย อ๊ อ๊ ตาวิ ศษ หนน - ทบทวนการผสมสระอะอา อิ อี อุ อู - นบั ปากเปลา่ 1 – 50 รอื่ งราว ก่ยวกั ๑. ประเภทของขยะ - โจทยป์ ัญหาบวก-ลบผลลพั ธ์ไม่เกิน10 - คา ขยะ สกปรก สะอาด ส่งิ ตา่ งๆ รอ ตวั ก ๒. การคัดแยกขยะ - คาตรงขา้ ม สะอาด-สกปรก - ทบทวนตวั อักษร A a – Z z ๓. การกาจัดขยะทถี่ ูกวิธี - คาศัพท์ GARBAGE = ขยะ ๔. ประโยชน์และโทษของขยะ SORT OUT = คดั แยก ๕ การป้องกนั และลดการทง้ิ ขยะ - ทกั ษะการสงั เกต - ทักษะการจาแนก - ทกั ษะการสารวจ ๓๘ – ๔๐ หนอู ยากรู้ คร้งั ท่ี ๒ Project Approach Project Approach หมาย หตุ ในแต่ละหนว่ ยการเรียนรู้ สามารถยดื หย่นุ ลาดับท่ี และเวลาในการจัดประสบการณห์ รอื หน่วย การเรยี นร้ตู า่ ง ๆ ได้ รวมเวลาในการจัดประสบการณ์ทั้งสิ้น ๓๖ สัปดาห์ โดยสัปดาหท์ ่ี ๑ เปน็ การเตรียมความพร้อมและปรบั พฤตกิ รรมเด็ก โดยให้ผ้ปู กครองนานักเรียนมาสร้าง ความคนุ้ เคยกบั โรงเรยี น ซ่ึงเปน็ สิ่งแวดลอ้ มใหมข่ องผูเ้ รยี น ส่วนสัปดาห์ที่ ๓๘ – ๔๐ เป็นสปั ดาห์นาเสนอผลงานตามรูปแบบการจดั กจิ กรรมแบบโครงการ ระยะสรุปและนาเสนอ ผลงาน และช่วงเตรียมการวัดและประเมนิ พฒั นาการเด็กเพ่อื เตรียมรายงานตอ่ ผบู้ ริหาร และผ้ปู กครอง
รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ หน้า ๕๗ สั สว่ น วลา นการจั กจิ กรรม นแต่ล วัน จานวนชว่ั โมงทจ่ ั กจิ กรรม อนุ าล ๑ อนุ าล ๒ กจิ กรรมปร จาวัน ทอม ๑ ทอม ๒ ทอม ๑ ทอม ๒ หมาย หตุ ๑. กจิ กรรมพ้นื ฐานด้านการ ห้อง ห้อง หอ้ ง หอ้ ง หอ้ ง หอ้ ง หอ้ ง ห้อง ๑. การพฒั นาพื้นฐาน เคลือ่ นไหวรา่ งกาย พฒั นากลา้ มเนื้อ ปกติ IEP ปกติ IEP ปกติ IEP ปกติ IEP ดา้ นสังคมศึกษา มดั ใหญ่ กล้ามเนอ้ื มัดเลก็ เพือ่ สร้างรอยต่อ ป.๑ ๒. กิจกรรมพฒั นาอารมณ์-จิตใจ ๐.๕ ๐.๕ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ กลุ่มสาระสงั คม และปลูกฝังคุณธรรม จรยิ ธรรม ๒. เพ่มิ วิทยาศาสตร์ และการพัฒนาสงั คมนิสยั ๑.๕ ๑ ๑ ๐.๕ ๑ ๐.๕ ๑ ๐.๕ คณติ ศาสตร์ ๓. กจิ กรรมการเรียนรแู้ บบโครงงาน เพื่อสรา้ งรอยตอ่ ป.๑ Project Approach ๑ ๑.๕ ๑.๕ ๑ ๑ ๑.๕ ๑.๕ ๒ กลมุ่ สาระ ๔. กจิ กรรมส่งเสรมิ การเรยี นรภู้ าษา วทิ ยาศาสตร์ แบบสมดุลภาษา ๑ ๑.๕ ๑ ๒ ๑ ๑.๕ ๑.๕ ๒ และคณติ ศาสตร์ ๕. กิจกรรมอนุรกั ษค์ วามเปน็ ไทย อนุบาล ๒ ๖. ภมู คิ ุ้มกนั ชีวติ และเทคโนโลยี ๑ ๐.๕ ๑ ๐.๕ ๑ ๐.๕ ๑ ๐.๕ ๓. จัดกจิ กรรม ๗. นอนพกั ผ่อนและกจิ วตั รประจาวัน ๑ ๑ ๑๑๑ ๑ ๑ ๑ เพอ่ื ส่งเสรมิ ๑ ๑ ๐.๕ ๑ ๑ ๑ - - พฒั นาการด้าน รวมช่วั โมง ภาษาไทย อังกฤษ เพ่อื สรา้ งรอยตอ่ ป.๑ ๔. เพม่ิ เตมิ สง่ เสริม สาระเทคโนโลยี เพอ่ื สร้างรอยต่อ ป.๑ กลมุ่ สาระการงาน อาชพี และเทคโนโลยี ๗ ๗ ๗๗๗ ๗ ๗ ๗ จากตารางจะเห็นว่า การจัดกิจกรรม ๔ กลุ่มสาระ จะต้องส่งเสริมให้กับเด็กทุกคนซ่ึงมีรายละเอียดของ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ที่กลา่ วมา ดงั นี้ ๑. กจิ กรรมพ้ืนฐานด้านการเคลื่อนไหวรา่ งกาย พัฒนากลา้ มเนื้อมดั ใหญ่ กล้ามเนอ้ื มดั เล็กถือเปน็ กิจกรรม ท่ีต้องจดั ให้เดก็ ในแตล่ ะวนั เชน่ กิจกรรมกลางแจ้ง กิจกรรมศิลปะสรา้ งสรรค์ ๒. กิจกรรมพัฒนาอารมณ์ – จิตใจ และปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม และการพัฒนาสังคมนิสัย เป็นการ ปลูกฝังให้เด็กมีความรู้สึกท่ีดีต่อตนเอง และผู้อ่ืน มีความเช่ือม่ัน กล้าแสดงออก มีวินัย ในตนเอง รับผิดชอบ ซื่อสตั ย์ ประหยัด เมตตากรณุ า เอ้ือเฟื้อ แบ่งปัน มีมารยาทและปฏบิ ัตติ นตามวฒั นธรรมไทยและศาสนาทีน่ ับถือ
รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ หนา้ ๕๘ ๙. แหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญำทอ้ งถน่ิ 9.1 ห้องสมุด ห้องสมดุ มีพื้นที่ขนาด ๗๒ ตารางเมตร หนังสือในห้องสมุดมีจานวน ๔๒๐ เล่ม มีวารสาร/หนังสือพิมพ์ ให้บริการ มีเคร่ืองคอมพิวเตอร์ให้บริการสืบค้นเทคโนโลยีสารสนเทศในห้องสมุ ด จานวน ๑ เคร่ือง มีจานวนนักเรียนท่ีใช้ห้องสมุด ในปีการศึกษา ๒๕๖๓ เฉล่ีย ๑๑๐ คน ต่อวัน คิดเป็นร้อยละ ๒๕.๐๐ ของนักเรยี นท้ังหมด โรงเรียนจัดมุมหนังสือนทิ านไว้บรกิ ารนกั เรียนทุกห้องเรียน ขนาดพื้นท่ีสาหรับจดั มุมหนังสือ ในห้องเรียนมีพ้ืนท่ีห้องเรียนละ ๔ ตารางเมตร จานวน ๑๖ ห้องเรียน หนังสือในมุมหนังสือทุกห้องเรียน จานวน ๒,๒๐๓ เล่ม มีนักเรียนเข้าใช้มุมหนังสือเฉล่ีย ๔๔๐ คนต่อวัน คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ ของจานวน นักเรียนทั้งหมด บริการให้นักเรียนและผู้ปกครองสามารถยืมหนังสือนิทานกลับบ้านอย่างน้อย คนละ ๑ เล่ม ต่อสัปดาห์ และมีตะกร้าหนังสือคืนความรู้สู่ชุมชนไว้บริการสาหรับผู้ปกครองที่มาน่ังรอนักเรียนหลังเลิกเรียน มีผู้ปกครองมาใช้บริการเฉลยี่ ๔๕ คนต่อวัน 9.2 ห้องปฏบิ ัติการ มที ั้งหมด ๘ หอ้ ง จาแนกเปน็ 1) ห้องดนตรี จานวน ๑ ห้อง 2) ห้องวทิ ยาศาสตร์ จานวน ๑ หเอง 3) หอ้ งโขน จานวน ๑ ห้อง 4) ห้องนาฏศลิ ป์ จานวน ๑ ห้อง 5) หอ้ งประกอบอาหาร Cooking จานวน ๑ หอ้ ง ๖) ห้องศนู ย์การเรยี นรูป้ ฐมวัย จานวน ๑ หอ้ ง ๗) หอ้ งสมุด จานวน ๑ ห้อง ๘) ห้องภาษาอังกฤษ จานวน ๒ หอ้ ง ๙) ห้องคอมพวิ เตอร์ จานวน ๑ ห้อง 9.3 เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ มีท้ังหมด จานวน ๖๙ เครอ่ื ง จาแนกเปน็ 1) ใช้เพ่อื การเรียนการสอน จานวน ๖๐ เครื่อง ๒) ใช้เพอื่ สนับสนนุ การบรหิ ารสถานศกึ ษา (สานักงาน) จานวน ๙ เครือ่ ง
รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ หนา้ ๕๙ 9.4 แหล่งเรียนรภู้ ายในโรงเรยี น สถติ กิ ำรใช้ จำนวนครง้ั /ปี ท่ี ช่อื แหล่งเรยี นรู้ ๖๔๐ ๑. ห้องดนตรี ๒. หอ้ งวิทยาศาสตร์ ๖๔๐ ๓. ห้องโขน ๒๐๐ ๔. หอ้ งนาฏศิลป์ ๒๐๐ ๕. หอ้ งประกอบอาหาร Cooking ๑๒๘ ๖. ห้องศูนย์การเรียนรู้นกั เรยี นระดบั ปฐมวัย ๖๔๐ ๗. หอ้ งสมุด ๖๔๐ ๘. ห้องภาษาองั กฤษ ๑,๙๒๐ ๙. ห้องคอมพิวเตอร์ ๖๔๐ ๑๐. มุมหนังสอื ๒๐๐ ๑๑. ศนู ย์นา้ – ศูนย์ทราย ๒๐๐ ๑๒. สนามเด็กเล่น ๒๐๐ ๙.๕ แหล่งเรยี นรู้ภายนอกโรงเรียน สถิตกิ ำรใช้ จำนวนครง้ั /ปี ที่ ชอ่ื แหลง่ เรยี นรู้ ๑ ๑. ห้างสรรพสินคา้ บ๊ิกซีภเู กต็ ๒. ห้องสรรพสนิ ค้าภเู กต็ โกรเซอรี่ ๑ ๓. ศนู ยก์ ารเรียนรู้เพื่อการพฒั นาเศรษฐกจิ พอเพยี งต้นแบบชุมชนบา้ นกูก้ ู ๑ ๔. หา้ งสรรพสินค้า Central Phuket Floresta ๒ ๕. ป่าชายเลน คลองมดุ ง ๑ ๖. สวนสาธารณะสะพานหิน ๒ ๗. Phuket Aquaria ๘. ศาลเจา้ พ้อต่อก๊งบางเหนยี ว ๑ ๙. สระว่ายน้าสะพานหิน เทศบาลนครภูเกต็ ๑ ๒๐
รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๓ หน้า ๖๐ 9.5 ภมู ิปัญญาทอ้ งถิน่ ปราชญ์ชาวบา้ น ผทู้ รงคณุ วฒุ ิ วทิ ยากร ทส่ี ถานศกึ ษาเชิญมาให้ความรู้แกค่ รู นักเรียน ที่ ชอ่ื -สกลุ ให้ควำมรูเ้ รอื่ ง จำนวนครั้ง/ปี ๑. รอ้ ยเอกอนนั ตพร สีดากลุ อาชีพในฝัน “ทหารเรอื ” ๑ ๒. จ่าเอกสธุ รรม พรหมจินดา อาชีพในฝนั “ทหารเรอื ” ๑ ๓. รอ้ ยตารวจโทปรชี าภัทร สังขน์ ้อย อาชพี ในฝนั “ตารวจ” ๑ ๔. สบิ ตารวจโทกรเฉลมิ สจิ ริตธรรม อาชพี ในฝัน “ตารวจ” ๑ ๕. รอ้ ยตารวจเอกจงรกั คะพมิ พภ์ บิ าลบตุ ร อาชีพในฝัน “ตารวจ” ๑ ๖. นางเดอื นเพ็ญ สวุ รรณลออ อาชีพในฝัน “พยาบาล” ๑ ๗. นางสาวดวงพร สุเด็น อาชพี ในฝนั “ผปู้ ระกาศขา่ ว” ๑ ๘. นายภานุมาศ พิมาน อาชีพในฝัน “ช่างถ่ายภาพ” ๑ ๙. พ.จ.อ.สุรินทร์ สุวรรณวัฒน์ อาชพี ในฝนั “ทหารเรือ” ๑ ๑๐. นางสาวพุ่มสุข หมดั สาและ อาชพี ในฝัน “คา้ ขาย” ๑ ๑๑. นางสาวนติ ยา แซต่ นั กิจกรรมบูรณาการพอ้ ตอ่ “ขนมอ่งั กู๊” ๑ ๑๒. นางสาวเพลินดาว ทองหนูนยุ้ อาชพี ในฝนั “เจา้ หน้าทส่ี าธารณสขุ ” ๑ 7. ผลงำนดเี ดน่ ในรอบปีท่ีผ่ำนมำ ระดับรำงวัล/ชอ่ื รำงวัลที่ไดร้ บั /วนั ท่ีไดร้ บั หนว่ ยงำนท่ใี ห้ 10.1 ผลงานดีเด่น โล่เกียรตคิ ุณ มลู นธิ ิศภุ นิมิต ประเภท โรงเรยี นแบบอย่างการสง่ เสริม แห่งประเทศไทย คุณธรรมจริยธรรม ให้กับนกั เรยี นทมี่ ี สถำนศึกษำ จิตสาธารณะชว่ ยเหลอื สงั คม ตาม บริษทั แปลน ฟอร์ คิดส์ โครงการ The Heart of Giving และนิทานเพอื่ นรกั สถำนศกึ ษำ ในวนั ท่ี ๒๙ กนั ยายน ๒๕๖๔ ณ ห้องประชมุ จังหวดั ภูเกต็ โล่เกยี รตคิ ุณ โครงการคัดสรรแนวปฏิบตั ทิ ่ีเปน็ เลิศ (Best Practice) นิทานเพ่ือนรกั ประจาปี ๒๕๖๓ ในวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๓
รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ หน้า ๖๑ ประเภท ระดบั รำงวลั /ชอ่ื รำงวลั ทีไ่ ดร้ ับ/วนั ทไี่ ด้รับ หนว่ ยงำนท่ใี ห้ นักเรยี น รำงวลั รองชนะเลิศ จังหวัดภูเก็ต ๑. เดก็ หญงิ ซูรี ลี การประกวดหนูน้อยฉางเอ๋อ งานประเพณไี หว้พระจนั ทร์ เทศบาลนครภูเกต็ นักเรยี น ประจาปี 2563 เทศบาลนครภเู กต็ ๑. เดก็ ชายณฐชนน พูนพนงั ซึ่งไดร้ ับโล่รางวลั พร้อมสายสะพาย และ ๒. เด็กชายธนาธิป ฤกษถ์ ลาง เงนิ รางวลั 7,000 บาท ๓. เด็กหญงิ ปภาดา ดิษยาวณิช ในวันท่ี ๑ ตลุ าคม ๒๕๖๓ นักเรียน รำงวัลชนะเลิศ ๑. เด็กชายณชานนท์ วรรณดี การแขง่ ขันต่อเลโก้สร้างสรรค์ ๒. เดก็ ชายกติ ตนิ ันท์ เรง่ เทยี น ในวนั ท่ี ๑๙ มนี าคม ๒๕๖๔ ๓. เดก็ หญงิ ภัทรธรี า จิตตเ์ ที่ยง ณ ศูนย์พัฒนาทักษะและการเรียนรู้ CIC ภเู ก็ต รำงวลั รองชนะเลิศ อันดับ ๒ การแข่งขนั ต่อเลโก้สรา้ งสรรค์ ในวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๔ ณ ศนู ยพ์ ฒั นาทกั ษะและการเรียนรู้ CIC ภูเกต็
รายงานการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ หนา้ ๖๒ ๑0.2 โครงการ/กิจกรรมพิเศษ ท่ีดาเนินการตามนโยบายชาติ นโยบายกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถนิ่ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน จุดเนน้ แนวทางการปฏิรูป การศึกษา ฯลฯ ไดแ้ ก่ 1. นโยบำยด้ำนควำมมนั่ คง แนวทางหลัก : พัฒนาหลักสูตร กระบวนการเรียนการสอน : เน้นการเรียนการสอน เพื่อเกิดความปรองดอง ความสามัคคีเพื่อนช่วยเพื่อนโดยใช้รูปแบบ Active Learning โดยใช้โครงการ จัดการเรยี นการสอนแบบโครงงาน (Project Approach) การสอนแบบโครงงาน Project Approach เป็นวิธีการจัดการเรียนรู้ให้เด็กรูปแบบหนึ่ง ท่ีให้โอกาสเด็กเลือกเรียนรู้ในส่ิงท่ีเด็กสนใจในส่ิงแวดล้อมใกล้ตัวเด็ก โดยเชื่อมโยงความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ ต้ังคาถามในสิ่งท่ียังต้องการเรียนรู้ หาคาตอบ รวมทั้งดาเนินการวางแผนสารวจ สืบค้น บันทึก คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และคิดอย่างมีวิจารณญาณ เพ่ือให้ได้มาซ่ึงข้อมูล และความรู้ต่าง ๆ เด็กเรียนรู้เพ่ิมเติมด้วย ประสบการณ์ตรงหลากหลายวิธี แล้วสุดท้ายเด็กและครูร่วมกันสรุปเรียบเรียงข้ันตอนการเรียนรู้ และสิ่งที่ เรียนรู้ออกมาเป็นช้ินงานและนิทรรศการอันเป็นการสรุปความคิดรวบยอด ต่อจากน้ันทาการเผยแพร่ให้ผู้อื่น ได้รับรู้ ซี่งเป็นการเรียบเรียง ทบทวน วิธีการ ทักษะ และข้อมูล ในการเรียนรู้อย่างเป็นข้ันตอน เป็นระบบ การเรียนรู้แบบ Project Approach จะเป็นการเรียนรู้อย่างลุ่มลึกในส่ิงท่ีเด็กสนใจใกล้ตัว ซ่ึงเปรียบได้กับ การเรียนรู้ด้วยวิธีการดาเนินการวิจัยเบ้ืองต้น และเป็นการเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับ Brain – Based Learning อย่างมาก และเหมาะสมกับการส่งเสริมให้เด็กเรียนรู้ด้วยตนเองไปตลอดชีวิต การสืบค้นเรียนรู้ที่สัมพันธ์กับ ชวี ติ ประจาวนั ของเด็กทาให้การเรียนรู้มคี วามหมายต่อเดก็ อย่างมาก การเรียนรู้ยังดาเนนิ การไปในรูปแบบของ การบูรณาการ หลักวิชา และทักษะทางวิชาการต่าง ๆ เข้าด้วยกันอย่างแยบยล และยังทาให้เด็กได้ใช้สมอง ท้ังซีกซ้าย – ซีกขวา ร่วมกัน ถือเป็นหลักการทางการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้แก่เด็กปฐมวัย อยา่ งเหมาะสม 2. นโยบำยดำ้ นด้ำนกำรผลิต พฒั นากาลงั คนและสร้างความสามารถในการแขง่ ขนั แนวทางทางหลกั : ผลติ พัฒนากาลังคนและงานวจิ ยั ทีส่ อดคล้องกับการพัฒนาประเทศ 2.1 การยกระดบั มาตรฐาน พฒั นาหลักสูตร สอื่ และครูด้านภาษา 2.1.1 พฒั นาวิชาภาษาอังกฤษในสถานศึกษา ปัจจุบันความเจริญ ก้าวหน้าทางวิทยาการ และระบบการสื่อสารมีการเปลี่ยนแปลง ไปอย่างรวดเร็ว การเจริญเติบโตของเทคโนโลยีสารสนเทศจากนานาประเทศเริ่มเข้าสู่ประเทศไทย และสารสนเทศ ส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษ ซ่ึงจัดได้ว่าเป็นภาษาสากล ระบบการศึกษาไทยจึงควรพัฒนา ให้คนไทยมคี วามสามารถในการใช้ภาอังกฤษเพื่อใหส้ ามารถสอ่ื สารไดเ้ ท่าเทยี มกับอารยประเทศ โรงเรียน อนุ บาลเทศบาลน ครภูเก็ ต เล็งเห็น ความสาคัญ ของการใช้ภาษาอั งกฤษ ในปัจจุบัน จึงมีการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษแบบเข้มข้นในสถานศึกษา โดยพิจารณาให้นักเรียน ท่ีมีความสามารถพิเศษด้านภาษาอังกฤษ ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเน่ือง เป็นรูปธรรม มีการจัดการเรียนรู้ ที่ เป ลี่ ย น แ ป ล ง น า ไ ป สู่ ก า ร แ ข่ ง ขั น ใน ร ะ ดั บ ต่ า ง ๆ ภ า ษ า อั ง ก ฤ ษ ซึ่ ง เป็ น ภ า ษ า ส า ก ล จึงเป็นเร่ืองท่ีมีความสาคัญ และมีความจาเป็นอย่างมาก การพัฒนาให้ผู้เรียนสามารถใช้ภาษาอังกฤษ ในการส่อื สาร จึงเปน็ ประโยชนอ์ ยา่ งย่งิ สาหรบั จงั หวดั ภูเก็ตในยุคปัจจุบนั
รายงานการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศึกษา ๒๕๖๓ หนา้ ๖๓ ๑๑. ผลกำรประเมินคณุ ภำพภำยในสถำนศกึ ษำในปีท่ผี ่ำนมำ ปกี ำรศกึ ษำ 256๒ 11.1 ระดับกำรศกึ ษำปฐมวยั สรปุ ผลกำรประเมินภำพรวม กาลังพัฒนา ปานกลาง ดี ดเี ลิศ ยอดเยีย่ ม มำตรฐำน/ตวั บง่ ชี้ ระดบั คณุ ภำพ มาตรฐานท่ี ๑ คณุ ภาพของเดก็ ยอดเยีย่ ม มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ ดีเลศิ มาตรฐานที่ ๓ การจัดประสบการณ์ท่ีเนน้ เดก็ เปน็ สาคัญ ดีเลิศ จุดเด่น ๑. นกั เรียนมสี ุขนสิ ยั สขุ ภาพกาย และสขุ ภาพจิตดี ๒. นักเรียนมีความสามารถด้านศิลปะ ดนตรี กฬี า และมีความกลา้ แสดงออก ๓. เดก็ มีมารยาทตามวัฒนธรรมไทย เชน่ การไหว้ ยิ้มทักทาย ๔. สถานศกึ ษามกี ารพัฒนาหลกั สูตรสถานศกึ ษาอยา่ งต่อเน่ือง ๕. มกี ารจัดสภาพแวดล้อมทัง้ ภายในและภายนอกสะอาดตา นา่ ดู นา่ อยู่ น่าเรยี น ๖. มีสอ่ื เทคโนโลยีสารสนเทศเพยี วพอต่อการจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ๗. เดก็ มีโอกาสเลือกทากจิ กรรมอยา่ งอิสระตามความต้องการและสนใจ ๘. มบี ุคลากรทมี่ ีความสามารถเฉพาะด้าน เช่น โขน นาฏศลิ ป์ คอมพวิ เตอร์ ๙. จัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรยี นร้ใู ช้สื่อเทคโนโลยีท่ีเหมาะสมกบั วยั ๑๐. จดั กิจกรรมส่งเสริมพฒั นาการเดก็ ครบทกุ ด้าน ไมม่ งุ่ เน้นพฒั นาการด้านใดดา้ นหนงึ่ ๑๑. ครจู ัดห้องเรยี นสะอาด อากาศถ่ายเท ปลอดภัย จุดที่ควรพัฒนำ ๑. ควรพฒั นาใหเ้ ด็กมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ๒. พัฒนาเด็กให้มีความพร้อมในการเรียนสอบเขา้ เรยี นตอ่ ระดับชนั้ ป.๑ ๓. จดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ ให้เด็กได้รบั การพัฒนาตามศกั ยภาพและความแตกต่างระหวา่ งบุคคล ๔. ส่งเสริมใหเ้ ดก็ มคี วามรู้และวธิ ปี ฏบิ ตั ิตนใหป้ ลอดภัยเกยี่ วกับโรคติดเช้อื ไวรสั โคโรน่า COVID – 19 ๕. พฒั นาครูในการออกแบบการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ทีส่ ่งเสริมใหน้ ักเรียนมีทกั ษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ปฐมวัยด้วยชุมชนการเรียนรทู้ างวิชาชีพ PLC ๖. ออกแบบการจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ที่สอดคล้องกับวถิ ีชุมชนและทอ้ งถน่ิ (นกั เรยี นสอบเข้า ป.๑) ๗. จดั ทาคู่มือการบรหิ ารจัดการสถานศึกษาในสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรสั โคโรน่า COVID – 19 และดาเนนิ การตามคู่มืออย่างเคร่งครัด ๘. จัดทาหน่วยการเรียนรู้เพมิ่ เติมโรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนา่ COVID – 19 และการปอ้ งกันการตดิ เชอ้ื โรค ตา่ ง ๆ ในเดก็ ๙. จดั สภาพแวดลอ้ มโดยใช้มาตรการเว้นระยะหา่ งทางสงั คม (Social Distancing) เพ่ือป้องกัน การติดเช้อื ไวรสั โคโรน่า COVID – 19 ๑๐. จัดสภาพแวดล้อมที่สง่ เสริมความเปน็ อตั ลักษณ์ของเมอื งภเู กต็
รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ หน้า ๖๔ ๑๑. พัฒนาครใู หอ้ อกแบบการจัดประสบการณก์ ารเรียนรทู้ สี่ ่งเสรมิ ให้นักเรยี นมที ักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ ๑๒. พัฒนาครูให้ออกแบบการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ที่ใชม้ าตรการเวน้ ระหา่ งทางสังคม (Social Distancing) เพอื่ ป้องกนั การตดิ เช้ือจากไวรสั โรโรนา่ COVID – 19 ทศิ ทำง / แนวทำงกำรพฒั นำสถำนศกึ ษำในอนำคต ๑. พฒั นาครใู หอ้ อกแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรทู้ ี่ส่งเสรมิ ใหน้ ักเรียนมีทักษะกระบวนการ ทางวทิ ยาศาสตร์ ๒. พัฒนาครูใหอ้ อกแบบการจัดประสบการณ์การเรยี นรทู้ ี่ใชม้ าตรการเว้นระห่างทางสังคม (Social ควำมตอ้ งกำรและกำรชว่ ยเหลือ ๑. บุคลากรเฉพาะทางในการจัดการจัดการศึกษา ด้านการสอนศิลปะ ภาษาอังกฤษ ดนตรี และโภชนาการเพอ่ื สนบั สนุนความสามารถพเิ ศษเฉพาะทาง ๒. งบประมาณในการจัดทาหลงั คาคลุมสนามเดก็ เล่น
รายงานการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ หน้า ๖๕ ๑๒. ผลกำรประเมินคณุ ภำพภำยนอกรอบสำม นำหนกั คะแนน ระดับ ๑2.๑ ระดับกำรศกึ ษำปฐมวัย คะแนน ท่ไี ด้ คุณภำพ ระดบั กำรศึกษำปฐมวัย ๕.๐๐ ๕.๐๐ ดีมาก ๕.๐๐ ๕.๐๐ ดมี าก กลุ่มตวั บง่ ชี้พน้ื ฐำน ๕.๐๐ ๕.๐๐ ดีมาก ๑๐.๐๐ ๑๐.๐๐ ดมี าก ตัวบ่งช้ีท่ี ๑ เดก็ มีพัฒนาการดา้ นรา่ งกายสมวยั ๑๐.๐๐ ๑๐.๐๐ ดีมาก ๓๕.๐๐ ๓๓.๐๐ ดมี าก ตัวบ่งชีท้ ่ี ๒ เดก็ มีพฒั นาการด้านอารมณ์และจิตใจสมวยั ๑๕.๐๐ ๑๔.๐๐ ดีมาก ๕.๐๐ ๔.๗๓ ดมี าก ตวั บง่ ช้ที ี่ ๓ เดก็ มพี ัฒนาการดา้ นสงั คมสมวัย ๒.๕๐ ๒.๕๐ ดีมาก ตวั บ่งชี้ท่ี ๔ เด็กมพี ฒั นาการด้านสตปิ ัญญาสมวยั ๒.๕๐ ๒.๕๐ ดมี าก ตวั บ่งชที้ ่ี ๕ เด็กมคี วามพรอ้ มศกึ ษาต่อในขนั้ ต่อไป ๒.๕๐ ๒.๕๐ ดีมาก ตวั บ่งชีท้ ี่ ๖ ประสิทธิผลของการจัดประสบการณ์การเรียนรูท้ เี่ น้นเด็กเปน็ สาคญั ๒.๕๐ ๒.๕๐ ดมี าก ตัวบง่ ชท้ี ี่ ๗ ประสิทธภิ าพของการบริหารจดั การและการพฒั นาสถานศึกษา ตัวบง่ ชี้ที่ ๘ ประสทิ ธิผลของระบบการประกันคณุ ภาพภายใน ๑๐๐.๐๐ ๙๖.๗๓ ดมี าก กลุ่มตัวบง่ ชอ้ี ัตลักษณ์ ตวั บง่ ช้ที ี่ ๙ ผลการพัฒนาให้บรรลุตามปรัชญา ปณิธาน วิสัยทัศน์ พันธกิจ และวัตถุประสงคข์ องการจดั ต้งั สถานศกึ ษา ตวั บง่ ชีท้ ่ี ๑๐ ผลการพัฒนาตามจุดเน้นและจุดเด่นที่ส่งผลสะท้อนเป็นเอกลักษณ์ ของสถานศึกษา กลมุ่ ตัวบง่ ชมี้ ำตรกำรส่งเสริม ตวั บง่ ช้ที ี่ ๑๑ ผ ล ก าร ด าเนิ น ง าน โค ร ง ก าร พิ เศ ษ เพ่ื อ ส่ ง เส ริม บ ท บ าท ของสถานศกึ ษา ตัวบ่งชี้ท่ี ๑๒ ผลการส่งเสริมพัฒ นาสถานศึกษาเพ่ือยกระดับมาตรฐาน รักษามาตรฐาน และพัฒนาสู่ความเป็นเลิศที่สอดคล้องกับแนว ทางการปฏริ ูปการศกึ ษา คะแนนรวม ผลรวมคะแนนประเมินสถานศึกษา ๙๖.๗๓ คะแนน มีคุณภาพระดับ ดมี าก ผลการรบั รองมาตรฐานคุณภาพ รับรอง ❑ ไม่รับรอง
รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๓ หนา้ ๖๖ ๑๓. กำรพัฒนำคณุ ภำพกำรจดั กำรศกึ ษำตำมแผนปฏิบัตกิ ำรประจำปขี องสถำนศึกษำ 1๓.๑ กำรบรหิ ำรจดั กำรศึกษำ โรงเรียน อนุบ าลเทศบ าลน ครภูเก็ต ได้จัดแบ่งโครงสร้างก ารบริหารงาน เป็น ๔ ฝ่าย โดยแบ่งเป็น ฝ่ายบริหารวิชาการ ฝ่ายบริหารงบประมาณ ฝ่ายบริหารบุคลากร และฝ่ายบริหารท่ัวไป ผูบ้ ริหารยดึ หลักการบรหิ าร/เทคนคิ การบริหารโดยใช้โรงเรียนเปน็ ฐาน โครงสร้ำงกำรบรหิ ำรงำนโรงเรยี นอนบุ ำลเทศบำลนครภเู กต็
รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๓ หนา้ ๖๗ 1๓.2 วิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศำสตร์ กลยุทธ์ จุดมุ่งหมำยเพื่อกำรพัฒนำ อัตลักษณ์ และเอกลักษณ์ ของสถำนศึกษำ วิสัยทศั น์ โรงเรีย น อ นุ บ าลเท ศ บ าล น ค รภู เก็ ต พั ฒ น าผู้ เรีย น ให้ มี คุณ ภ าพ ส่ือ ส ารส อ งภ าษ า มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และก้าวทันเทคโนโลยี น้อมนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สู่ความเปน็ เลศิ ดา้ นการบรหิ ารจัดการ พนั ธกิจ ๑. จัดประสบการณ์ สง่ เสริมและพัฒนาผ้เู รยี น ใหม้ ที ักษะชวี ิตเหมาะสมกบั วัย ๒. สรรหาและพัฒนาครู บุคลากรทางการศึกษาใหเ้ พียงพอตรงตามมาตรฐานตาแหน่งวชิ าชีพ ๓. ประสาน สร้าง และยกระดบั การมีส่วนร่วมทางการศึกษาอยา่ งต่อเนอื่ ง ยงั่ ยืน มัน่ คง ๔. จดั หาและพฒั นาปจั จัย เทคโนโลยี ทรัพยากรทางการศกึ ษา ใหเ้ พียงพอมีคุณภาพไดม้ าตรฐาน ๕. บริหารจัดการศึกษาได้มาตรฐานสอดคล้องกบั นโยบายของรฐั ๖. น้อมนาแนวทางหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาประยกุ ต์ใช้ในการเรียนการสอน ยุทธศำสตร์และกลยุทธ์ ยทุ ธศำสตร์ แนวทำงกำรพฒั นำ หนว่ ยงำนทีร่ ับผิดชอบ 1. ยุทธศาสตร์ 1.1 กลยทุ ธ์ผเู้ รยี นมพี ัฒนาการสมวัย ฝา่ ยบริหารวชิ าการ การพฒั นาคณุ ภาพ 1.2 กลยทุ ธ์สบื สานความเปน็ ไทยใส่ใจสิง่ แวดลอ้ ม ฝา่ ยบริหารทั่วไป ผู้เรยี น ๑.๓ กลยทุ ธ์เดก็ ดี มีคณุ ธรรม นอ้ มนาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ฝา่ ยบรหิ ารทัว่ ไป ๑.๔ กลยทุ ธ์ส่งเสรมิ ความสามารถพเิ ศษตามศักยภาพของผู้เรยี น ฝ่ายบรหิ ารท่วั ไป ๑.๕ กลยทุ ธ์สขุ ภาพดชี ีวมี สี ุข ฝ่ายบรหิ ารทั่วไป 2. ยทุ ธศาสตร์ 2.1 กลยุทธ์พัฒนาการจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ ฝา่ ยบรหิ ารวิชาการ การพัฒนาครู 2.2 กลยทุ ธ์สรรหาครแู ละบคุ ลากรตามมาตรฐานตาแหนง่ ฝ่ายบรหิ ารบคุ ลากร ให้เปน็ ครูมืออาชีพ 3. ยุทธศาสตร์ 3.1 กลยุทธ์พฒั นาระบบประกนั คุณภาพ ฝา่ ยบริหารวิชาการ พฒั นาระบบบรหิ าร 3.2 กลยทุ ธ์พฒั นาหลักสตู รสถานศกึ ษาและหลักสูตรท้องถน่ิ ฝา่ ยบริหารวิชาการ จดั การให้มี 3.3 กลยทุ ธ์พัฒนาระบบบริหารจดั การเพือ่ ม่งุ สคู่ ณุ ภาพ ฝา่ ยบริหารงบประมาณ ประสิทธิภาพ 3.4 กลยทุ ธ์พัฒนาส่อื และเทคโนโลยเี พอ่ื การศกึ ษา ฝา่ ยบริหารงบประมาณ 4. ยทุ ธศาสตร์ 4.1 กลยทุ ธ์พฒั นาพัฒนาอาคารสถานที่ ฝ่ายบริหารงบประมาณ พฒั นาอาคาร 4.2 กลยทุ ธ์พฒั นาสภาพแวดล้อม และภมู ทิ ศั นใ์ หเ้ อ้ือ ฝ่ายบรหิ ารงบประมาณ สถานที่ และ ต่อการเรียนรู้ สภาพแวดลอ้ ม ให้เอือ้ ตอ่ การเรยี นรู้ 5. ยุทธศาสตร์ 5.1 กลยุทธ์ส่งเสริมการมสี ว่ นร่วมระหว่างโรงเรยี นกับชมุ ชน ฝ่ายบริหารทว่ั ไป พฒั นาเครอื ข่าย 5.2 กลยุทธป์ ระชาสัมพนั ธ์ข่าวสารสชู่ มุ ชน ฝ่ายบรหิ ารทัว่ ไป เขม็ แขง็
รายงานการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ หน้า ๖๘ จุ มุ่งหมาย ือ่ การ ั นา โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ตจัดการศึกษา ระดับก่อนประถมศึกษาสาหรับเด็กอายุ ๔ – ๖ ปี โดยมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นมนุษย์ท่ีสมบูรณ์ มีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์จิตใจ สังคม และส ติปัญญา ทีเ่ หมาะสมกบั วยั ความสามารถและความแตกต่างระหว่างบคุ คล จึงกาหนดจดุ มุ่งหมายเพื่อการพัฒนา ดังนี้ ๑. นักเรยี นมีคุณภาพตามมาตรฐานปฐมวัย ๒. ครมู ีความรู้ ความสามารถในการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม มคี วามเป็นประชาธปิ ไตย และเป็นครมู อื อาชพี ๓. สถานศกึ ษามรี ะบบบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเปน็ ฐานได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ๔. สถานศึกษามรี ะบบการประกันคณุ ภาพท่ีได้มาตรฐานเพอ่ื เตรียมความพร้อมรับการประเมนิ ๕. สถานศกึ ษามวี ัสดุ อุปกรณ์ และส่ือการเรียนการสอนเพียงพอ ๖. สถานศึกษามอี าคารสถานที่ ภมู ิทัศน์ และสภาพแวดล้อมทด่ี ี ๗. ชุมชนเขา้ มามีสว่ นรว่ มในการจดั การศึกษา ปรัช า / อตั ลกั ษณ์ / อกลกั ษณ์ องโรง รยน ปรชั า : พัฒนาความพรอ้ ม เสริมสร้างคณุ ธรรม อัตลกั ษณ์ : สขุ ภาพดี รา่ เริงแจ่มใส มัน่ ใจในตนเอง อกลกั ษณ์ : สะอาดตา น่าดู น่าอยู่ น่าเรียน
รายงานการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ หนา้ ๖๙ สว่ นท่ี 2 ผลกำรประเมนิ ตนเองของสถำนศกึ ษำ 1. ผลกำรประเมนิ คุณภำพตำมมำตรฐำนกำรประกันคุณภำพภำยในสถำนศึกษำ 1.1 ระดับปฐมวัย มำตรฐำนที่ ๑ กำรบริหำรจัดกำรสถำนพฒั นำเดก็ ปฐมวัย ระดับคุณภำพ ดีมำก วิธดี ำเนนิ กำร โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ดาเนินการบริหารจัดการสถานศึกษาตามมาตรฐาน สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ โดยการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ การบริหารจัดการบุคลากรทุกประเภท ตามหน่วยงานที่สังกัด และการบริหารจัดการสภาพแวดล้อมเพื่อความปลอดภัย โดยมีวิธีการดาเนินการบริหาร จดั การสถานศกึ ษา ดังนี้ ๑.๑ กำรบรหิ ำรจัดกำรอย่ำงเปน็ ระบบ บริหารจัดการสถานศึกษาอย่างเป็นระบบ มีการจัดทาแผนพัฒนาสถานศึกษา ปฏิบัติ ตามแผนการบริหารจดั การสถานศึกษา ประเมินผลการดาเนินงานตามแผน และนาผลจากการประเมินไปพัฒนา ปรบั ปรุงการบริหารจดั การสถานศกึ ษาอย่างต่อเนอื่ ง บริหารหลักสูตรสถานศึกษา โดยมีการจัดทาหลักสูตรสถานศึกษาที่สอดคล้องกับหลักสูตร การศึกษาปฐมวัยของกระทรวงศึกษาธิการ นาหลักสูตรไปใช้จัดประสบการณ์การเรียนรู้ ประเมินผล การนาหลักสตู รไปใช้ และนาผลการประเมินไปพฒั นาและปรบั ปรุงหลักสูตรปฐมวยั บริหารจัดการข้อมูลอย่างเป็นระบบ มีการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลในการบริหารจัดการ และขอ้ มูลเกีย่ วกบั เดก็ นาข้อมูลทจ่ี ัดเกบ็ ไปใชป้ ระโยชน์ มกี ารประมวลผลการดาเนนิ งานและจัดทารายงานผลการ ดาเนนิ งานประจาปี ๑.๒ กำรบริหำรจัดกำรบคุ ลำกรทกุ ประเภทของหนว่ ยงำนทุกสงั กดั บริหารจัดการบุคลากรอย่างเป็นระบบ โดยมีการจัดทาโครงสร้าง คุณสมบัติและอัตรากาลัง มกี ารติดตาม สนับสนุนการทางานของบุคลากร โดยจัดให้มสี วสั ดิการและได้รบั สทิ ธปิ ระโยชน์ต่าง ๆ ตามระเบียบ ของหนว่ ยงานตน้ สังกดั มีการพัฒนาบุคลากรอยา่ งเป็นระบบและตอ่ เนอื่ ง ผู้บริหารสถานศึกษา มีคุณวุฒิ คุณสมบัติเหมาะสมและบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีวุฒิทางการศึกษาปริญญาตรี สาขาการศึกษาปฐมวัย มีประสบการณ์ในการทางานเก่ียวกับการพั ฒนา เด็กปฐมวัย อย่างต่อเนื่องมาอย่างน้อย ๙ ปี ผู้บริหารสถานศึกษาสนับสนุน กากับติดตาม การปฏิบัติหน้าที่ ของบุคลากรให้เปน็ ไปตามแผน จดั กิจกรรมที่สรา้ งสรรค์เพื่อการสร้างความสัมพนั ธท์ ด่ี ีระหวา่ งบุคลากร ครอบครัว ของเด็กและเครอื ข่ายภายนอก และเปน็ ตัวอย่างท่ดี ใี นการพัฒนาตนเองอย่างตอ่ เน่ือง อย่ใู นระดับดีมาก ครูมีใบประกอบวิชาชีพครู มีวุฒิทางการศึกษาไม่ต่ากว่าปริญญาตรี สาขาการศึกษาปฐมวัย และไดร้ บั การพัฒนาอยา่ งต่อเนื่องอย่างนอ้ ยปลี ะ ๒๐ ชั่วโมง บริหารบุคลากรจัดอัตราส่วนครูอย่างเหมาะสมพอเพียงต่อจานวนเด็ก มีอัตราส่วน ๑ : ๑๔ และกลมุ่ กจิ กรรมตามเกณฑท์ ี่กาหนด จัดหาครูท่มี ีคณุ สมบตั ิตามเกณฑ์มาช่วยเสริมในการจดั กิจกรรม
รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ หนา้ ๗๐ ๑.๓ กำรบริหำรจัดกำรสภำพแวดล้อมเพื่อควำมปลอดภัย บริหารจัดการสภาพแวดลอ้ มเพ่ือความปลอดภัยอย่างเป็นระบบ โดยจัดทานโยบายและแผนท่ี ครอบคลุมโครงสร้างอาคารบรเิ วณท่ีตั้ง ภายในและภายนอกอาคาร วัสดุอปุ กรณ์ทุกชนิด รวมท้ังปัจจัยที่เกย่ี วข้อง ประเมินผลการดาเนินงานตามแผน นาผลจากการประเมินไปพัฒนาและปรับปรุงการบริหารจัดการ ดา้ นสภาพแวดลอ้ มเพือ่ ความปลอดภยั อยา่ งเป็นระบบ โครงสร้างและตัวอาคารมั่นคง ตั้งอยู่ในบริเวณและสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย มีขอบเขต และทางเข้าออกท่ีชัดเจน มีความสะอาดปลอดภัยไม่อยู่ใกล้แหล่งมลพิษมีการประเมินสภาพแวดล้อมและนาผล การประเมิน ปรบั ปรงุ พฒั นา จัดการความปลอดภัยของพื้นที่เล่น สนามเด็กเล่น และสภาพแวดล้อมภายนอกอาคาร โดยสภาพแวดล้อมภายนอกอาคารมีความปลอดภัย เคร่ืองเล่นสนามมีความเหมาะสมตามพัฒนาการ ของเด็กปฐมวัย พื้นท่ีเล่น สนามเด็กเล่นเป็นท่ีปลอดภัยในการเล่นของเด็ก มีการสารวจความเส่ียงของพื้นที่เล่น สนามเด็กเล่นอย่างตอ่ เน่ือง ติดตามประเมินผลทุก ๓ เดือน ดาเนินการแก้ไขในสว่ นทม่ี ีโอกาสเกิดอนั ตรายได้มาก อย่างเรง่ ด่วน สภาพแวดล้อมภายในอาคารมีความปลอดภัย ครุภัณฑ์ อุปกรณ์เคร่ืองใช้ปลอดภัย มีทะเบียน ควบคุม ตรวจสอบสม่าเสมอให้ใช้งานได้ครบถ้วน ไม่ชารุด และเป็นปัจจุบัน ทุก ๓ เดือน และแก้ไข ในสว่ นทม่ี ีโอกาสเกดิ อันตรายได้มากอยา่ งเร่งดว่ น จดั ของเลน่ ให้มีความปลอดภัยตามมาตรฐานอตุ สาหกรรม (มอก.) และเหมาะสมตามพฒั นาการ ของเด็กตามวัย มีทะเบียนควบคุมตรวจสอบสม่าเสมอทุก ๓ เดือน ให้มีจานวนเพียงพอเหมาะสมกับวัย และพัฒนาการของเด็ก และมีความสะอาด ใช้งานได้ครบถ้วนไม่ชารุด และเป็นปัจจุบัน ดาเนินการแก้ไข ในส่วนท่ีมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดอันตราย นาผลการประเมินมาวิเคราะห์เพ่ือปรับปรุง พัฒนาการจัดหา และบารุงรกั ษาอย่างตอ่ เนือ่ ง ส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยเดินทางอย่างปลอดภัย มีการสารวจการเดินทางและวางแผน การดาเนินงานเพ่ือให้เกิดความปลอดภัยในการเดินทางของเด็ก ให้ความรู้ สร้างวินัย และฝึกทักษะเด็กในการ เดนิ ทางไป – กลบั อยา่ งปลอดภัย สร้างความตระหนักและใหค้ วามรกู้ บั ผปู้ กครองและชุมชน เพ่ือร่วมกนั สนบั สนุน ให้เดก็ เดนิ ทางอย่างปลอดภัย มีระบบป้องกันภัยจากบุคคล ตรวจสอบการเข้า – ออก การรับและส่งเด็กโดยใช้ระบบ Checker สร้างความตระหนักให้บุคลากรทุกฝ่ายในสถานศึกษาเฝ้าระวังความปลอดภัยของเด็กจากบุคคล ทั้งภายใน และภายนอก เมื่อพบสิ่งนา่ สงสยั ตอ้ งรายงานใหค้ รเู วรประจาวันทราบเพ่อื ป้องกนั และแกไ้ ข มกี ารบนั ทึก และประเมินผลการดาเนินงานตามแผน นาผลการประเมนิ ไปพฒั นาและปรบั ปรงุ จัดให้มีระบบรับเหตฉุ ุกเฉิน มีแผนฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ มีการฝึกซอ้ มแผนอพยพใหก้ ับบุคลากร และเด็กทุกคน จานวน ๑ ครงั้ มกี ารตรวจสอบประเมินผลการดาเนินการ และนาผลประเมนิ มาปรับปรงุ พฒั นา
รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศึกษา ๒๕๖๓ หนา้ ๗๑ ผลกำรดำเนนิ กำร ตัวบ่งชม้ี ำตรฐำน ผลกำรประเมิน ตัวบง่ ชี้ ๑.๑ กำรบริหำรจัดกำรอย่ำงเป็นระบบ ๐ ๑ ๒ ๓ รวม ๑.๑.๑ บริหารจดั การสถานพฒั นาเด็กปฐมวัยอย่างเปน็ ระบบ ๘ ๑.๑.๒ บริหารหลกั สูตรสถานพฒั นาเด็กปฐมวยั ๑.๑.๓ บรหิ ารจัดการขอ้ มูลอยา่ งเป็นระบบ ตวั บง่ ชี้ ๑.๒ กำรบริหำรจัดกำรบคุ คลทกุ ประเภทตำมหน่วยงำนท่ีสงั กัด ๐ ๑ ๒ ๓ รวม ๑.๒.๑ บริหารจัดการบุคลากรอยา่ งเป็นระบบ ๙ ๑.๒.๒ ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษามีคุณวุฒิ คุณสมบัติเหมาะสมและบรหิ ารงาน อย่างมีประสทิ ธิภาพ ๑.๒.๓ ครูทที่ าหนา้ ทหี่ ลักในการดแู ลเด็กและพัฒนาเด็กปฐมวยั มีวฒุ ิ การศกึ ษา คุณสมบัตเิ หมาะสม ๑.๒.๔ บริหารบุคลากร จดั อัตราส่วนของครู อย่างเหมาะสมเพยี งพอ ต่อจานวนเด็กในแตล่ ะกลุ่มอายุ ตัวบง่ ชี้ ๑.๓ กำรบรหิ ำรจดั กำรสภำพแวดลอ้ มเพื่อควำมปลอดภยั ๐ ๑ ๒ ๓ รวม ๑.๓.๑ บริหารจัดการด้านสภาพแวดลอ้ มเพื่อความปลอดภัยอย่างเป็น ๑๗ ระบบ ๑.๓.๒ โครงสรา้ งและตวั อาคารมัน่ คง ตง้ั อย่ใู นบริเวณและสภาพแวดลอ้ ม ที่ปลอดภยั ๑.๓.๓ จดั การความปลอดภยั ของพนื้ ทเ่ี ลน่ สนามเดก็ เล่น และ สภาพแวดล้อมภายนอกอาคาร ๑.๓.๔ จดั การสภาพแวดลอ้ มภายในอาคาร ครุภณั ฑ์ อุปกรณ์ เครื่องใช้ ใหป้ ลอดภัยเหมาะสมกับการใช้งานและเพียงพอ ๑.๓.๕ จดั ให้มขี องเล่นทป่ี ลอดภยั ได้มาตรฐาน มจี านวนเพยี งพอ สะอาด เหมาะสมกบั ระดบั พฒั นาการของเดก็ ๑.๓.๖ ส่งเสริมใหเ้ ดก็ ปฐมวยั เดินทางอย่างปลอดภัย ๑.๓.๗ จดั ใหม้ ีระบบป้องกันภัยจากบุคคลท้งั ภายในและภายนอกสถาน พัฒนาเด็กปฐมวยั ๑.๓.๘ จัดใหม้ ีระบบรับเหตฉุ กุ เฉิน ป้องกนั อัคคีภัย ภัยพบิ ตั ติ ามความ เสี่ยงของพน้ื ที่
รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ หนา้ ๗๒ ตัวบ่งชีม้ ำตรฐำน ๐ ผลกำรประเมิน ๐ ๑ ๒ ๓ รวม ตัวบง่ ชี้ ๑.๔ กำรจดั กำรเพือ่ สง่ เสริมสขุ ภำพและกำรเรียนรู้ ๒๐ ๑.๔.๑ มีการจัดการเพ่อื สง่ เสริมสุขภาพ เฝา้ ระวังการเจรญิ เตบิ โตของเด็ก และผู้ดแู ลการเจบ็ ปว่ ยเบื้องตน้ ๑.๔.๒ มีแผนและดาเนินการตรวจสขุ อนามัยประจาวัน ตรวจสขุ ภาพ ประจาปแี ละปอ้ งกันควบคมุ โรคตดิ ต่อ ๑.๔.๓ อาคารตอ้ งมีพ้นื ท่ใี ชส้ อยเป็นสัดสว่ นตามกิจวัตรประจาวันของเด็ก ที่เหมาะสมตามชว่ งวัย และการใชป้ ระโยชน์ ๑ ๒ ๓ รวม ๑.๔.๔ จัดใหม้ พี ้ืนท่ี / มมุ ประสบการณ์ แหลง่ เรียนรู้ในห้องเรยี นและนอก ๑๒ ห้องเรียน ๑.๔.๕ จัดบริเวณห้องน้า ห้องส้วม ท่ีแปรงฟัน / ล้างมือให้เพียงพอ สะอาด ปลอดภัย และเหมาะสมกับการใช้งานของเด็ก ๖๖ คะแนน ๑.๔.๖ จัดการระบบสุขาภบิ าลที่มีประสทิ ธิภาพ ครอบคลุมสถานท่ปี รงุ ๘๔.๖๑ ประกอบอาหาร น้าดืม่ นา้ ใช้ การจัดการขยะ สงิ่ ปฏกิ ลู และ - ขอ้ พาหะนาโรค ๑.๔.๗ จัดอุปกรณ์ ภาชนะและเครอื่ งใชส้ ่วนตัวใหเ้ พยี งพอกบั การใชง้ าน ของเด็กทุกคน และดูแลความสะอาดและปลอดภัยอยา่ งสม่าเสมอ ตวั บ่งช้ี ๑.๕ กำรจัดกำรเพอื่ สง่ เสริมสขุ ภำพและกำรเรียนรู้ ๑.๕.๑ มีการสอื่ สารเพื่อสร้างความสัมพนั ธแ์ ละความเขา้ ใจอนั ดีระหวา่ ง พ่อแม/่ ผู้ปกครอง กบั สถานพัฒนาเดก็ ปฐมวยั เกย่ี วกบั ตวั เด็ก และการดาเนนิ งานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวยั ๑.๕.๒ การจดั กิจกรรมท่พี อ่ แม่/ ผ้ปู กครอง / ครอบครัว และชมุ ชน มสี ่วนรว่ ม ๑.๕.๓ ดาเนนิ งานใหส้ ถานพัฒนาเด็กเป็นแหล่งเรยี นรแู้ กช่ ุมชนในเรอ่ื ง การพฒั นาเดก็ ปฐมวัย ๑.๕.๔ มีคณะกรรมการสถานพฒั นาเด็กปฐมวยั มำตรฐำนดำ้ นที่ ๑ มีคะแนนรวม มาตรฐานดา้ นที่ ๑ มีคะแนนรวม คดิ เป็นรอ้ ยละ = คะแนนรวม x ๑๐๐ ๗๘ มาตรฐานด้านท่ี ๑ มีจานวนตัวบง่ ชี้ ทตี่ อ้ งปรับปรุง
รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ หนา้ ๗๓ ขอ้ มลู หลกั ฐำน เอกสำรเชงิ ประจกั ษ์ท่สี นับสนนุ ผลกำรประเมินตนเอง ๑. แผนพฒั นาสถานศึกษา ๒. โครงการจดั ทาแผนพฒั นาสถานศกึ ษา ๓. บนั ทกึ การประชมุ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพ้นื ฐาน ๔. โครงการพัฒนาหลกั สตู รสถานศึกษา และหลักสตู รทอ้ งถิ่น ๕. หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ตามหลกั สตู รการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ (ฉบับปรับปรงุ ๒๕๖๓) ๖. รายงานผลการประเมนิ กอ่ นและหลงั การใชห้ ลักสูตรสถานศกึ ษา ๗. บันทกึ การประชุมการพฒั นาหลกั สูตรสถานศกึ ษา ๘. ข้อมลู สารสนเทศโรงเรียนอนบุ าลเทศบาลนครภูเกต็ ๙. โครงการพฒั นาระบบการจดั เก็บขอ้ มูลสารสนเทศเพอ่ื การประกันคณุ ภาพ ๑๐. รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา ๑๑. ค่มู ือครโู รงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเกต็ ๑๒. รายงานผลการตรวจสขุ ภาพครแู ละบุคลากร ๑๓. โครงการพัฒนาบคุ ลากร ๑๔. แฟม้ ประวตั ผิ ู้บรหิ าร ครู ๑๕. สรุปรายงานการอบรมของผู้บรหิ าร ครูและบุคลากร ๑๖. โครงการพัฒนาอาคารสถานท่ี ๑๗. โครงการซ่อมแซม บารุงรกั ษา อาคารสถานที่ ๑๘. โครงการโรงเรียนสวยด้วยมอื เรา ๑๙. แบบประเมินสภาพแวดลอ้ มภายนอก และภายในอาคารเพื่อความปลอดภัย ๒๐. แบบคดั กรองความเสีย่ งสนามเด็กเลน่ ๒๑. แบบบนั ทึกการบาดเจ็บ ๒๒. โครงการซอ้ มแผนอพยพหนไี ฟ และสึนามิ ๒๓. โครงการโภชนาการสมวัยเพ่อื เด็กปฐมวยั โรงเรียนอนบุ าลเทศบาลนครภเู กต็ ๒๔. โครงการสง่ เสริมสขุ ภาพในโรงเรยี น ๒๕. โครงการโรงเรยี นอนบุ าลนา่ อย่ปู ลอดโรค ๒๖. กจิ กรรมช่ังน้าหนักวดั สว่ นสงู ๒๗. โครงการนเิ ทศหอ้ งเรียนนา่ อยู่ ๒๘. โครงการพฒั นาความรว่ มมือของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพน้ื ฐาน ๒๙. โครงการอบรมผู้ปกครองสัญจร ๓๐. โครงการประชาสมั พนั ธข์ า่ วสารสชู่ ุมชน
รายงานการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศึกษา ๒๕๖๓ หนา้ ๗๔ จดุ เดน่ ๑. สถานศึกษาจัดทาแผนพฒั นาตามบริบทของสถานศกึ ษาดว้ ยกระบวนการมีส่วนร่วม ๒. สถานศึกษาจัดมกี ารพฒั นาหลกั สตู รสถานศึกษาอยา่ งต่อเนือ่ ง ๓. สถานศกึ ษามีบคุ ลากรทม่ี ีความสามารถเฉพาะด้าน เชน่ โขน นาฏศิลป์ คอมพิวเตอร์ ภาษาอังกฤษ ๔. จดั สภาพแวดลอ้ มทง้ั ภายในและภายนอกสะอาดตา น่าดู นา่ อยู่ น่าเรียน ๕. มีสือ่ เทคโนโลยีสารสนเทศเพียงพอตอ่ การจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ๖. มีแหลง่ เรียนรูภ้ ายในโรงเรยี นท่เี อ้ือต่อการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ เช่น ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องวิทยาศาสตรป์ ฐมวัย ห้องโขน นาฏศิลป์ ห้องศนู ยก์ ารเรียนรูป้ ฐมวัย เป็นตน้ จุดทค่ี วรพัฒนำ ๑. การจัดเก็บระบบขอ้ มูลสารสนเทศทเี่ ป็นระบบครบถ้วน ถกู ต้องและเป็นปจั จุบัน ๒. จดั สภาพแวดลอ้ มโดยใชม้ าตรการเวน้ ระยะห่างทางสงั คม (Social Distancing) เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อ ไวรัส COVID – 19 ๒. พัฒนาครูใหม้ ที กั ษะในการออกแบบการจดั ประสบการณ์การเรียนร้ดู ว้ ยชมุ ชนการเรยี นรทู้ างวิชาชพี PLC ๓. จัดทาหลกั สูตรเพิ่มเตมิ โรคติดเชือ้ ไวรสั COVID – 19 และการปอ้ งกนั โรคตดิ เชอ้ื ในเด็ก มำตรฐำนที่ ๒ ครใู หก้ ำรดแู ล และจัดประสบกำรณ์กำรเรยี นรูแ้ ละกำรเล่นเพ่ือพัฒนำเดก็ ปฐมวยั ระดบั คุณภำพ ดมี ำก วธิ ดี ำเนินกำร โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ส่งเสริมให้ครูดูแล และจัดประสบการณ์การเรียนรู้ และการเล่นเพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัย โดยการดูแลเด็กและพัฒนาเด็กอย่างรอบดา้ น สง่ เสรมิ พัฒนาการดา้ นร่างกาย และดูแลสขุ ภาพ การส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา ภาษาและการส่ือสาร การสง่ เสริมพฒั นาการด้านอารมณ์ จิตใจ – สังคม ปลูกฝังคุณธรรมและความเป็นพลเมืองดี และการส่งเสริมเด็กในระยะเปลี่ยนผ่านให้ปรับตัว สู่การเชือ่ มต่อในขน้ั ถดั ไป โดยมีวิธกี ารดาเนนิ การบรหิ ารจดั การสถานศกึ ษา ดังน้ี ๒.๑ กำรดแู ลและพฒั นำเด็กอยำ่ งรอบด้ำน มีแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่สอดคล้องกับปรัชญา หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย จัดกิจกรรมในแต่ละวันให้พัฒนาเด็กปฐมวัยอย่างรอบด้าน คือ ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สติปัญญา และภาษา การส่ือสาร ที่เหมาะสมกับพัฒนาการตามวัยของเด็ก และเปิดให้เด็กมีโอกาสทาตามความสนใจ ประเมนิ ผลหลงั การจัดกจิ กรรมการเรยี นรปู้ ระจาวนั เหมาะสมกับบรบิ ทสังคมและวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ จัดพื้นที่ มุมประสบการณ์การเรียนรู้และการเล่นที่เหมาะสมอย่างหลากหลาย โดยมีมุม ประสบการณ์อย่างน้อย ๔ มุม ได้แก่ มุมบล็อก มุมหนังสือ มุมบทบาทสมมติ มุมเกมการศึกษา ท่ีมีสื่อ วัสดุ และอุปกรณ์ท่ีหลากหลายและเพียงพอ ส่งเสริมให้เด็กทุกคนได้ทากิจกรรมในทุกพ้ืนที่อย่างหมุนเวียน มีการ ปรับเปล่ียนส่ือ วัสดุ และอุปกรณ์ในมุมน่าสนใจ สอดคล้องกับบริบททางสังคมวัฒนธรรมและหน่วยการเรียนรู้ มกี ารสงั เกต และบันทกึ พฤตกิ รรมของเดก็ ในขณะทากจิ กรรม นาผลการประเมินมาปรบั ปรงุ การจัดพ้ืนท่ี จัดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการทุกด้านอย่างบูรณาการตามธรรมชาติของเด็กท่ีเรียนรู้ด้วย ประสาทสัมผัส ลงมือทา ปฏิสัมพันธ์ โดยจัดกิจกรรมให้เด็กเคลื่อนไหว สารวจ เล่น สังเกต สืบค้น ทดลอง และคิดแก้ปัญหาด้วยตนเอง จัดกิจกรรมให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์ท่ีดีกับผู้ใหญ่และเด็กอ่ืน ในบรรยากาศที่อบอุ่น มีความสุข และร่วมมือกันในลักษณะต่าง ๆ สนับสนุนให้เด็กริเรม่ิ คิด วางแผน ตัดสินใจ ลงมือกระทาและแสดง
รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ หนา้ ๗๕ นาเสนอความคิดเห็นและความรู้สึกโดยครูเรียนรู้ร่วมกับเด็ก จัดกิจกรรมท่ีส่งเสริมลักษณะนิสัยท่ีดี การมีวินัย สอดแทรกคุณธรรมจรยิ ธรรม และสรา้ งทักษะการใช้ชวี ิตประจาวันตามแนวทางหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง อย่างต่อเนื่อง จัดกิจกรรมท้ังในลักษณะท่ีมีการวางแผนล่วงหน้าและแผนท่ีปรับไปเมื่อเกิดสภาพจริง ท่ีไม่ได้คาดการณ์ไว้จัดกิจกรรมให้พ่อแม่ ครอบครัว และชุมชนมีส่วนร่วมท้ังการวางแผน การสนุนสนับส่ือ แหล่งเรียนรู้ การเข้าร่วมกิจกรรม และการประเมินพัฒนาการ จัดกิจกรรมให้มีความสมดุลระหว่างผู้ใหญ่ริเร่ิม กับท่ีเด็กริเร่ิมในห้องกับนอกห้องเรียน เด็กทาคนเดียวกับทาเป็นกลุ่ม กิจกรรมตามข้อตกลงท่ีกาหนดไว้กับเด็ก ทากจิ กรรมตามอิสระ เลือกใช้สื่อ อปุ กรณ์ เทคโนโลยี เคร่ืองเล่นและจดั สภาพแวดล้อมภายใน – ภายนอก แหล่งเรียนรู้ ที่เพียงพอเหมาะสม ปลอดภัย โดยใช้สื่อท่ีหลากหลาย ท้ังส่ือธรรมชาติ เช่น ดิน หิน ทราย ต้นไม้ ใบหญ้า ฯลฯ และส่ือท่ีมนุษย์ผลิตขึ้น ท้ังสื่อครูทาข้ึน และส่ือที่จัดซ้ือ มีสื่อและของเล่นที่เหมาะสมกับขั้ นตอน การจัดประสบการณ์ให้เด็กได้สังเกต หยิบจั ลงมือทาเพ่ือให้เกิดการเรียนรู้ตามความสนใจทั้งในและนอกห้อง มีการใช้สื่อเพื่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้อย่างมีปฏิสัมพันธ์ เด็กมีโอกาสได้แลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกับครูและกับ เพ่ือนเด็กด้วยกัน ให้เด็กได้ใช้สื่อ อุปกรณ์ เทคโนโลยี ท่ีเป็นเครื่องมือใช้ในการทากิจกรรม และมีสภาพพร้อมใช้ งาน มีปริมาณเพียงพอและปลอดภัยสาหรับเด็ก ใช้สภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกห้องเรียนตลอดจน ผู้ปกครอง บุคคลในชุมชน และแหล่งเรียนรู้ในชุมชน เป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของเด็ก จัดให้เด็กมีโอกาส ออกแบบ ทาส่อื สรา้ งของเล่นอย่างเหมาะสมกับวยั ได้เล่นและฝกึ เกบ็ ของเขา้ ท่ภี ายใต้การดูแลของครู เฝา้ ระวังตดิ ตามพัฒนาการเด็กรายบุคคลเป็นระยะ เพ่ือใช้ผลในการจัดกจิ กรรมพัฒนาเดก็ ทุกคน ให้เต็มตามศักยภาพโดยมีการสังเกตพฤติกรรมและพัฒนาการของเด็ก และบันทึกเป็นรายบุคคลอย่างสม่าเสมอ ตอ่ เนือ่ งตลอดปี และสรปุ ผลการประเมินและรายงานผลให้ผู้ปกครองทราบ ปีละ ๒ คร้งั จัดทาสารนทิ ัศนด์ ้วยการ รวบรวมขอ้ มลู เกย่ี วกบั พัฒนาการและการเรียนร้ขู องเด็กเปน็ รายบุคคล นามาใชป้ ระโยชนใ์ นการจัดกิจกรรมพฒั นา เด็กต่อไปอย่างได้ผล ประเมินพัฒนาการเด็กครอบคลุมทุกด้าน ท้ังด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สติปัญญา และภาษาการส่ือสาร ตามสภาพจริงในกิจกรรมประจาวันด้วยเคร่ืองมือและวิธีการท่ีหลากหลาย นาผล การประเมนิ ไปใชใ้ นการพฒั นาเด็กตามระดับพัฒนาการ ความถนดั และความสนใจ ให้การช่วยเหลือ และแก้ปัญหา ในเร่ืองที่เด็กยังล่าชา้ หรือมีอปุ สรรค มีระบบการบันทึก ประเมินผล รายงานผล และส่งต่อข้อมูลอย่างเป็นระบบ มีการสื่อสารเก่ียวกับพัฒนาการให้ผู้ปกครองทราบและร่วมมือส่งเสริม พัฒนา และแก้ปัญ หาท่ีเกิดข้ึนกับเด็ก รว่ มกันทงั้ บา้ น และสถานศกึ ษา ๒.๒ กำรสง่ เสรมิ พฒั นำกำรด้ำนร่ำงกำยและดูแลสุขภำพ ดแู ลสขุ ภาพเด็กใหเ้ ด็กรับประทานอาหารทีค่ รบถว้ นในปริมาณทเี่ พยี งพอ และส่งเสริมพฤติกรรม การกินท่ีเหมาะสม โดยจัดอาหารให้กับเด็กครบ ๕ กลุ่มอาหารในปริมาณที่เพียงพอ เหมาะสมกับวัยของเด็ก ภาชนะท่ีใส่อาหาร และสถานท่ีรับประทานอาหารมีความสะอาด และปลอดภัย มีเมนูอาหารท่ีหลากหลาย มคี ุณคา่ ทางโภชนาการไม่ซ้ากันในรอบ ๑ เดือน จัดน้าด่ืมที่สะอาด ภาชนะบรรจุสะอาด มีการทาความสะอาดทุก ครั้งก่อนการเติมน้า และมีแก้วน้าสาหรบั เด็กเป็นรายบุคคล มีการสารวจและบันทึกปัญหาเก่ียวกับการกินอาหาร ของเด็ก และดูแลให้เด็กได้รับประทานอาหารอย่างเหมาะสมกับความจาเป็นของเด็ก จัดกิจกรรมส่งเสริม พฤติกรรม การรบั ประทานอาหารที่เหมาะสมและสุขนิสยั การกินท่ีดใี หก้ ับเด็ก ดแู ลและส่งเสริมการปฏิบตั ิกิจวัตร และกิจกรรมประจาวัน เพื่อให้เด็กมีเจตคติและพฤติกรรมท่ีพึงประสงค์ในการรับประทานอาหารท่ีมีประโยชน์ จัดกิจกรรมท่ีหลากหลายเพ่ือให้เด็กเรียนรู้ประโยชน์ และคุณค่าของอาหาร สุขนิสัยทึ่ดี และมีมารยาทในการ รับประทานอาหาร การทาอาหาร และหลกี เลี่ยงอาหารทเี่ ปน็ โทษต่อร่างกาย
รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ หนา้ ๗๖ จดั กิจกรรมใหเ้ ด็กได้ลงมือปฏิบัติอย่างถูกต้องเหมาะสมในการดูแลสุขภาพ โดยมีการส่งเสริมสุข นสิ ัยท่ดี ีให้กบั เดก็ ในชีวติ ประจาวันดา้ นการกิจ การล้างมือ การแปรงฟนั การเล่น การนอน การรักษาความสะอาด และการป้องกันการตดิ เชื้อ มกี ารจดั กจิ กรรมเพื่อสง่ เสรมิ สขุ นสิ ัยที่ดใี หก้ บั เดก็ ด้านการกจิ การลา้ งมอื การแปรงฟัน เคล่ือนไหวร่างกาย เล่น ออกกาลัง การนอน และการรักษาความสะอาดโดยให้เด็กลงมือปฏิบัติกรรมด้วยตนเอง มีการจัดกิจกรรมเพ่ือให้เด็กเรียนรู้การระมัดระวังตัวเองให้ปลอดภัย และไม่เกิดอันตรายแก่ผู้อ่ืน จากอุบัติเหตุ ท่ีอาจเกิดข้ึนในชีวิตประจาวันจากการเล่นและการทากิจกรรม สร้างข้อตกลงและดูแลให้เด็กปฏิบัติตามข้อตกลง เพ่ือความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ด้วยการให้เหตุผลเพ่ือให้เด็กมีความเต็มใจท่ีจะปฏิบัติและให้ความร่วมมือ จัดกิจกรรม การสร้างสถานการณ์จาลอง เพื่อให้เด็กรู้จักขอความช่วยเหลือ และปฏิบัติตนอย่างถูกต้อง เมอื่ เผชิญกบั ภยั และอนั ตราย ทงั้ ภัยจากคนแปลกหนา้ การพลัดหลง ไฟไหม้ รวมทง้ั ภัยพบิ ัตจิ ากธรรมชาติ มกี ารตรวจสุขภาพอนามัยและความสะอาดของร่างกายประจาวันของเด็กทุกคน เช่น การตรวจ ผม การตรวจเล็บ สารวจและสังเกตอาการเจ็บป่วยของเด็ก มีการบันทึกผลการตรวจสุขภาพ ความสะอาด ของร่างกาย การคัดกรองสุขภาพ และแบบบันทึกสุขภาพช่องปาก เม่ือพบเด็กที่มีปัญหาสุขภาพ หรือเจ็บป่วย มีการดูแลเด็กเบ้ืองต้น แยกเด็กท่ีเจ็บป่วย และแจ้งให้ผู้ปกครองทราบ มีการบันทึกการเจ็บป่วยของเด็ก เป็นรายบุคคล มีการใหค้ วามชว่ ยเหลือ และให้การดแู ลอย่างใกล้ชดิ สาหรับเด็กทีบ่ าดเจ็บหรือท่มี ีอาการปว่ ย เฝ้าระวังติดตามการเจริญเติบโต โดยการติดตามและบันทึกการเจริญเติบโตของเด็ก เป็นรายบคุ คลทกุ เดือน บันทึกลงในกราฟ และแปลผลภาวะโภชนาการ มกี ารใหค้ าแนะนา ความรดู้ ้านโภชนาการ ทสี่ อดคล้องกับการเจริญเติบโต ภาวะโภชนาการของเดก็ แกพ่ ่อแม่ ผปู้ กครอง หรอื ผูด้ แู ลเด็ก นาผลการเฝ้าติดตาม การเจรญิ เติบโตมาปรับการจดั อาหารใหเ้ หมาะสมกับเดก็ มีแผนการแกป้ ัญหาเด็กเต้ยี ผอม อ้วนกว่ามาตรฐาน มกี ารสง่ เสรมิ ให้เด็กได้รับการตรวจสขุ ภาพตามกาหนด มีบันทกึ ผลการตรวจสขุ ภาพตามกาหนด เป็นรายบุคคลอย่างต่อเนื่อง มีการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นกับเด็กท่ีมีปัญหาสุขภาพ และส่งต่อเจ้าหน้าท่ี สาธารณสุขเทศบาลนครภูเก็ต มีการบันทึกการให้การช่วยเหลือเบื้องต้นกับเด็กที่มีปัญหาสุขภาพ ครูมีการศึกษา ประวัติและบันทึกสุขภาพเด็กเพ่ือปฏิบัติต่อเด็กได้อย่างเหมาะสม สามารถสังเกต ค้นพบเม่ือเด็กมอี าการผิดปกติ และให้การช่วยเหลือในกรณีท่เี ด็กมโี รคประจาตัว หรอื เด็กท่มี คี วามตอ้ งการพเิ ศษ ๒.๓ กำรส่งเสริมพัฒนำกำรด้ำนสตปิ ัญญำ ภำษำและกำรส่อื สำร จัดกิจกรรมส่งเสริมให้เด็กได้สังเกต สัมผัส ลองทา คิดต้ังคาถาม สืบเสาะหาความรู้ แก้ปัญหา จินตนาการ คิดสร้างสรรค์ โดยยอมรับความคิดเห็นและผลงานท่ีแตกต่างของเด็ก โดยมีแผนการจัดประสบการณ์ การเรียนรู้ที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านการคิดและสติปัญญา จัดกิจกรรมให้เด็กได้พัฒนาทักษะ กระบวนการคิด จินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ผ่านการเล่นอย่างอิ สระ ส่งเสริมให้เด็กได้แก้ปัญ หาด้วยตนเอง ในชีวิตประจาวัน สร้างบรรยากาศให้เด็กรู้สึกอบอุ่น กล้าคิด กล้าทา ครูมีท่าทีและคาถามกระตุ้นการคิด และครู ยอมรับความคดิ และผลงานของเด็กท่ีแตกต่างแต่ละคน ไมเ่ ปรยี บเทยี บ ไมต่ ีคา่ หรือตัดสินผลงานเด็ก เปิดโอกาสให้ เด็กทุกคนพฒั นาทักษะกระบวนการคิด ผา่ นการเลน่ อยา่ งอิสระและไดน้ าเสนอผลงานและมีพ้ืนที่จัดแสดงของเด็ก มีการจัดสภาพแวดล้อม ส่ือ อุปกรณ์ ที่หลากหลาย เอ้ือต่อการส่งเสริม กระตุ้นการคิด ค้นคว้าและลงมือทาของ เดก็ และส่ือที่สนับสนุนการทากจิ กรรมและสร้างผลงานของเดก็ จดั กิจกรรมและประสบการณ์ทางภาษาที่มีความหมายต่อเด็ก เพ่ือการสื่อสารอยา่ งหลากหลาย ฝึกฟัง พูด ถาม ตอบ เล่าและสนทนาตามลาดับขั้นตอนพัฒนาการ โดยให้เด็กส่ือสารความต้องการด้วยภาษา ท่าทาง ภาษาพูด และได้รับการตอบสนองอย่างเหมาะสมตามวยั มีแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทางภาษา ท่ีหลากหลาย โดยเร่ิมจากภาษาแม่ ภาษาถ่ินภูเก็ต และใช้ภาษาไทยในการส่ือสารผ่านประสบการณ์การเรียนรู้
รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ หนา้ ๗๗ และการเล่น มีการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพ่ือพัฒนาทักษะการฟัง การพูดผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย การจัดกิจกรรมที่มีลักษณะการบูรณาการ สนุกสนานและสร้างทัศนคติท่ีดีต่อการใช้ภาษา ครูเป็นแบบอย่าง ของผู้ฟงั และผู้พดู ท่ีดี ท้ังด้านการใชภ้ าษา และมารยาทท่ีดีในการฟงั และพดู มกี ารใช้สื่อและการจดั สภาพแวดล้อม ทสี่ ่งเสริมทักษะการฟัง และการพูดให้กบั เดก็ อย่างเหมาะสม มีการสารวจความสามารถในการพดู การได้ยนิ พบว่า มีเด็กที่มีปัญหาหรือความบกพร่องในการฟังและการพูด มีการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นตามความต้องการ จาเป็นของเด็ก แนะนาผปู้ กครอง หรอื สง่ ต่อให้ผเู้ ช่ียวชาญเฉพาะทางเพ่อื วินัจฉยั และใหค้ วามชว่ ยเหลือตอ่ ไป จดั กิจกรรมปลูกฝังให้เด็กมีนิสัยรักการอ่าน ให้เด็กมีทักษะการดูภาพ ฟังเรือ่ งราว พูด เล่า อ่าน วาด เขยี น เบ้ืองต้น ตามลาดับพฒั นาการ โดยครูเป็นตัวอย่างของการพูด และการอ่านทถี่ ูกต้อง มีการดาเนินการ โดย เดก็ เลือกอ่านหนังสือในมุมหนังสือ หรือสถานที่ท่ีครูจัดไว้อย่างอิสระ มีความรู้สกึ มั่นใจที่จะอ่าน และส่ือสาร ความคิด ความต้องการและความรู้สึกผ่านการพูด วาดรูป หรือขีดเขียน อย่างเหมาะสมตามวัยและระดับ พัฒนาการ แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ การอ่าน และการเขียนเบ้ืองต้น มีลักษณะการบูรณาการ ผ่านกิจกรรมที่หลากหลายด้วยการออกแบบกิจกรรมให้ความสาคัญกับการเรียนรู้ การอ่านและเขียนอย่าง มคี วามสขุ การเตรยี มความพรอ้ มกอ่ นการอ่านและการเขยี น อยบู่ นพ้ืนฐานของพัฒนาการและธรรมชาติการเรียนรู้ ภาษาของเด็กปฐมวัย จัดกิจกรรมท่ีเน้นการสร้างเจตคติที่ดีต่อการใช้ภาษาอย่างมีความสุข และมีความหมาย ต่อเด็กการเป็นผู้ฟังและผู้พูดท่ีดี มากกว่าการเน้นความสมบูรณ์แบบของการอ่านและเขียน ส่งเสริมให้เด็กมีนิสัย รกั การอ่าน สร้างความค้นุ เคยและการเหน็ คุณค่าของการอ่านและการเขียน โดยการบรู ณาการการอ่านการเขียน สู่กิจกรรมประจาวัน มีการใช้ส่ือ และการจัดสภาพแวดล้อมท่ีส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนเบื้องต้น ให้กับเด็กอย่างเหมาะสม จัดเตรียมกระดาษเคร่ืองเขียนให้เด็กเลือกเขียนอย่างอิสระตามความต้องกา ร และครเู ป็นแบบอย่างท่ดี ีดา้ นการอ่านและการเขียนให้กบั เด็ก มีการประเมินความสามารถตามวยั ในการอ่าน การ เขียนภาพ และสัญลักษณ์ของเด็ก หากพบว่ามีเด็กท่ีมีปัญหาในการอ่านและการเขียน ต้องให้ความช่วยเหลือใน เบ้อื งตน้ และแนะนาผปู้ กครองหรอื ส่งตอ่ เจา้ หนา้ ที่สาธารณสขุ จัดให้เด็กมีประสบการณก์ ารเรยี นรู้เกย่ี วกับตัวเด็ก บุคคล สิง่ ตา่ ง ๆ สถานท่แี ละธรรมชาตริ อบตัว ด้วยวิธีการที่เหมาะสมกับวัย โดยดาเนินการจัดทาแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเด็ก บุคคล สถานท่ี สิ่งต่าง ๆ และธรรมชาติรอบตัว สามารถเชื่อมโยงสิ่งที่เรียนรู้ใหม่กบั ความรู้และประสบการณ์เดมิ ของเด็ก ยืดหยุ่นและพร้อมปรับเปล่ียนให้เหมาะกับความสนใจและความต้องการของเด็ก จัดกิจกรรมมุ่งให้เด็กมีความ กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ สนใจสิ่งที่อยู่รอบตัว และเรียนรู้กระบวนการแสวงหาความรู้ หาคาตอบในส่ิงท่ี สงสัย ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย ใช้ส่ือ อุปกรณ์ และแหล่งเรียนรู้ท่ีหลากหลาย สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ บรบิ ทสังคม วัฒนธรรมทอ้ งถิน่ และความสนใจของเดก็ จดั พ้ืนที่และโอกาสให้เดก็ ทุกคนไดน้ าเสนอสิ่งทเี่ ดก็ เรียนรู้ และผลงานที่เกิดจากการเรยี นร้ขู องเดก็ จัดกิจกรรมและประสบการณ์ด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์เบ้ืองต้นตามวัย โดยเด็กเรียนรู้ ผ่านประสาทสัมผัส และลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง โดยมีแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ท่ีส่งเสริมทักษะ คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์แบบบูรณาการ มีการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะพ้ืนฐานด้านคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ การนาความรู้และทักษะพื้นฐานด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์มาใช้ในชีวิตประจาวัน มกี ารบนั ทึกทกั ษะดา้ นคณิตศาสตรแ์ ละวิทยาศาสตร์ของเดก็ เปน็ รายบคุ คล ๒.๔ กำรสง่ เสริมพฒั นำกำรดำ้ นอำรมณ์ จติ ใจ – สงั คม ปลูกฝังคณุ ธรรมและควำมเป็นพลเมืองดี สร้างความสัมพันธ์ที่ดีและม่ันคง ระหว่างผู้ใหญ่กับเด็ก จัดกิจกรรมสร้างเสริมความสัมพันธ์ท่ีดี ระหว่างเด็กกับเด็ก และการแก้ไขข้อขัดแย้งอย่างสรา้ งสรรค์โดย ให้ความสาคัญกับเด็กทุกคน รับฟังและยอมรับ
รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ หน้า ๗๘ ความแตกต่างระหว่างบุคคล สร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมให้เด็กมีความมั่นคงทางอารมณ์ เห็นคุณค่าและมีความ ภาคภูมิใจในตนเอง ให้แรงเสริมทางบวกต่อพฤติกรรมท่ีดี ชมเชย ให้กาลังใจอย่างสม่าเสมอ ท้ังจากครู และจากกลุ่มเพื่อน จัดกิจกรรมท่ีส่งเสริมให้เด็กรับรู้เกี่ยวกับตนเอง ทั้งความคิด ความรู้สึก และการแสดงออก อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะตามวัย ฝึกทักษะในการติดตาม กากับและประเมิน ตนเอง ด้วยการชวนให้เด็ก แสดงความคดิ เห็นต่อการทากิจกรรม หรือจากผลงานของเด็ก ชวนให้เดก็ คิดตงั้ คาถามเพื่อการพฒั นาหรือปรับปรุง ตนเอง จัดกิจกรรมที่เด็กได้พัฒนาการสร้างความสัมพันธ์ ระหว่างเด็กกับครู เด็กต่อเด็ก และจัดการแก้ไข ความขัดแยง้ ทเี่ กิดขึ้นได้อยา่ งเหมาะสม จัดกิจกรรมส่งเสริมให้เด็กมีความสุข แจ่มใส ร่าเริง มีความรู้สึกดีต่อตนเอง แสดงออก ด้านอารมณ์โดยผ่านการเคล่ือนไหวร่างกาย ศิลปะ ดนตรี ตามความสนใจและความถนัด โดยจัดกิจกรรมให้เด็ก ทุกคนได้แสดงออกทางอารมณ์อย่างอิสระ โดยครูย้ิมแย้มแจ่มใส เอาใจใส่ในการเสนอ สนองกับเด็ก และสนใจ ในส่ิงท่ีเด็กทา ครูจัดให้เด็กมีประสบการณ์ทางสุนทรียภาพ ผ่านงานศิลปะ ดนตรี และการเคล่ือนไหวร่างกาย ตามความสนใจและความถนัด ครูให้โอกาสเด็กได้ชื่นชมผลงานของตนเองและ ผอู้ ่ืน เพื่อสร้างความสุขและความ ภูมิใจในตัวเอง ครูเป็นแบบอย่างท่ีดีควบคุมการแสดงออกทางอารมณ์ได้อย่างเหมาะสม ทั้งทางสีหน้า ท่าทาง ครูนาผลการประเมินหลังจากจัดกิจกรรมมาพิจารณาปรับปรุงวิธีการที่จะให้การช่วยเหลือเด็กที่ไม่มีความสุข ไม่รา่ เรงิ จัดกิจกรรมและประสบการณ์ ปลูกฝังคุณธรรมให้เด็กใฝ่ดี มีวินัย ซ่ือสัตย์ รู้จักสิทธิและหน้าที่ รบั ผิดชอบของพลเมืองดี รักครอบครัว โรงเรียน ชุมชนและประเทศชาติด้วยวิธีท่ีเหมาะสมกับวัยและพัฒนาการ โดยมีแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อปลูกฝังให้เด็กมีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ ตามวัย โดยบูรณาการกับสาระการเรียนรู้ กิจกรรมที่ส่งเสริมและปลูกฝังให้เด็กมีคุณธรรมจริยธรรม และค่านิยม ที่พึงประสงค์ โดยให้เด็กได้ลงมือทา ได้คิดเชิงเหตุผลทางจริยธรรม และนาไปปฏิบัติได้จริง นาสถานการณ์ เหตุการณ์ในชีวิตประจาวัน ในนิทานมาเรียนรู้หรือการนาประสบการณ์ท่ีได้จาก การทากิจกรรมไปปรับใช้ได้ ในชีวิตจริง มีการติดตามให้มีการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมให้เด็กปฏิบัติตามข้อตกลง กฎ กติกา มีความ รบั ผิดชอบ ด้วยการสรา้ งวินยั เชงิ บวก จัดกิจกรรมให้เดก็ เปน็ ผู้นา ผู้ตาม ร้จู ักสทิ ธิ และหน้าที่ตามวิถีประชาธปิ ไตย อนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมขุ และการมอบหมายหน้าที่ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สว่ นรวม ๒.๕ กำรส่งเสรมิ เดก็ ในระยะเปล่ยี นผ่ำนใหป้ รบั ตวั สูก่ ำรเช่ือมต่อในข้ันถัดไป จัดกิจกรรมกับผู้ปกครองให้เตรียมเด็กก่อนจากบ้านเข้าสู่สถานศึกษา และจัดกิจกรรม ช่วงปฐมนิเทศให้เด็กปรับตัวในบรรยากาศที่เป็นมิตร มีการสื่อสารและให้คาแนะนา เก่ียวกับการเตรียม ความพร้อมของผู้ปกครอง และเด็กก่อนเข้าสู่สถานศึกษา รวบรวมข้อมูลพื้นฐานของเด็กเก่ียวกับสุขภาพ การเติบโต พัฒนาการ และพฤติกรรมของเด็ก ตลอดจนความต้องการพิเศษและปัญหาท่ีอาจพบได้เพ่ือส่งต่อ ในขั้นถัดไป จัดให้พ่อแม่ ผู้ปกครองพาเด็กไปทาความรู้จักสถานศึกษาและพบครู ครูศึกษาข้อมูลเก่ียวกับเด็ก และเตรียมความพร้อมเพ่ือให้การดูแล และพัฒนาเด็กได้เหมาะสมอย่างต่อเน่ือง มีการส่ือสารของครูระหว่างช้ัน หรือไปสู่สถานศกึ ษาแห่งใหม่ ด้วยการส่งต่อข้อมูลประวตั ิ ผลพัฒนาการและการเรียนรู้ โดยใหผ้ ู้ปกครองรับทราบ และมีส่วนร่วมกันพัฒนาเดก็ อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง จัดกิจกรรมส่งเสริมการปรับตัวก่อนเข้ารับการศึกษาใน ระดับที่สูงขึ้นแต่ละข้ัน จนถึงการ เป็นนักเรียนระดับช้ัน ประถมศึกษาปีที่ ๑ โดยครูศึกษาหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย และหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน การจัดการเรียนการสอนในระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑ ครูแนะนาให้ผู้ปกครองเรียนรู้ วิถีชีวิต และศึกษาหลักสูตรปฐมวัย และหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน การจัดการเรียนการสอน ในช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑ มีการประมวลผล ข้อมูลพัฒนาการ และการเรียนรู้ของเด็กเป็นรายบุคคลเพ่ือให้ การส่งเสรมิ และช่วยเหลือในระดับขัน้ ถัดไป ครูวางแผนจัดกิจกรรมส่งเสริมให้เด็กคุ้นเคย ปรบั ตัวกับสิ่งแวดล้อม และครูคนใหม่
รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ หน้า ๗๙ ผลกำรดำเนนิ กำร ผลกำรประเมิน ๐ ๑ ๒ ๓ รวม ตัวบง่ ชี้มำตรฐำน ๑๔ ตัวบง่ ช้ี ๒.๑ กำรดแู ลและพฒั นำเด็กอยำ่ งรอบด้ำน ๒.๑.๑ มีแผนการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ที่สอดคล้องกบั หลักสตู ร การศกึ ษาปฐมวัย มกี ารดาเนนิ งานและประเมนิ ผล ๒.๑.๒ จดั พน่ื ท่ี / มมุ ประสบการณก์ ารเรยี นรู้และการเลน่ ที่เหมาะสม ๐ ๑ ๒ ๓ รวม อย่างหลากหลาย ๑๕ ๒.๑.๓ จดั กิจกรรมสง่ เสริมพัฒนาการทุกด้านบรู ณาการตามธรรมชาติ ของเด็กทีเ่ รยี นรู้ดว้ ยประสาทสัมผัสที่เพยี งพอ เหมาะสม ปลอดภัย ๒.๑.๔ เลอื กใชส้ อื่ / อปุ กรณ์ เทคโนโลยี เครือ่ งเลน่ และจัดสภาพแวดล้อม ภายใน – ภายนอก แหล่งเรียนรู้ท่ีเพยี งพอ เหมาะสมปลอดภัย ๐ ๑ ๒ ๓ รวม ๑๕ ๒.๑.๕ เฝา้ ระวงั ตดิ ตามพัฒนาการเด็กรายบุคคลเป็นระยะ เพื่อใช้ผล ในการจดั กจิ กรรมพัฒนาเด็กทกุ คนให้เต็มตามศกั ยภาพ ตัวบง่ ช้ี ๒.๒ กำรสง่ เสริมพัฒนำกำรด้ำนร่ำงกำยและดูแลสุขภำพ ๒.๒.๑ ใหเ้ ดก็ อายุ ๖ เดือนขน้ึ ไป รับประทานอาหารทคี่ รบถว้ นในปริมาณ ทีเ่ พยี งพอและส่งเสรมิ พฤตกิ รรมการกินท่เี หมาะสม ๒.๒.๒ จดั กจิ กรรมใหเ้ ด็กไดล้ งมอื ปฏิบตั ิอย่างถกู ตอ้ งเหมาะสมในการดูแล สุขภาพ ความปลอดภยั ในชีวิตประจาวนั ๒.๒.๓ ตรวจสุขภาพอนามัยของเด็กประจาวนั ความสะอาดของร่างกาย ฟนั และชอ่ งปาก เพอื่ คดั กรองโรคและการบาดเจบ็ ๒.๒.๔ เฝ้าระวงั ตดิ ตามการเจรญิ เติบโตของเด็กรายบคุ คล บันทกึ ผลภาวะ โภชนาการอย่างตอ่ เนอ่ื ง ๒.๒.๕ จัดใหม้ ีการตรวจสขุ ภาพร่างกาย ฟัน และชอ่ งปาก สายตา หู ตามกาหนด ตวั บง่ ช้ี ๒.๓ สง่ เสรมิ พฒั นำกำรดำ้ นสติปญั ญำ ภำษำและกำรสอ่ื สำร ๒.๓.๑ จดั กจิ กรรมสง่ เสริมให้เด็กไดส้ งั เกต สัมผสั ลองทา คดิ ตง้ั คาถาม สบื เสาะหาความรู้ ๒.๓.๒ จัดกิจกรรมและประสบการณท์ างภาษาที่มีความหมายตอ่ เด็ก เพอ่ื การส่อื สารอย่างหลากหลาย ฝกึ ฟงั พูด ถาม ตอบ เล่า และสนทนาตามลาดบั ขนั้ ตอนพฒั นาการ ๒.๓.๓ จดั กจิ กรรมปลกู ฝงั ใหเ้ ดก็ มีนิสัยรักการอา่ น ให้เด็กมีทกั ษะการดู ภาพฟังเรอ่ื งราว พูดเล่า อา่ น วาด/เขยี น เบื้องต้น ตามลาดบั พัฒนาการ โดยครูเป็นตัวอย่างของการพดู และการอ่านท่ีถูกตอ้ ง ๒.๓.๔ จัดให้เด็กมปี ระสบการณเ์ รียนรู้เกยี่ วกับตวั เด็ก บุคคล สิง่ ต่าง ๆ สถานที่และธรรมชาตริ อบตวั ด้วยวธิ ีการที่เหมาะสมกบั วัยและ พัฒนาการ ๒.๓.๕ จดั กิจกรรมและประสบการณ์ดา้ นคณติ ศาสตร์และวิทยาศาสตร์ เบ้ืองต้นตามวยั โดยเดก็ เรียนรผู้ ่านประสาทสมั ผสั และลงมือปฏิบตั ิ ดว้ ยตนเอง
รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศึกษา ๒๕๖๓ หน้า ๘๐ ตวั บง่ ชีม้ ำตรฐำน ๐ ผลกำรประเมนิ ๐ ๑ ๒ ๓ รวม ตัวบ่งชี้ ๒.๔ กำรส่งเสริมพัฒนำกำรด้ำนอำรมณ์ จิตใจ สังคม ปลูกฝัง คณุ ธรรม และควำมเปน็ พลเมอื งดี (ตงห่อ) ๙ ๒.๔.๑ สร้างความสมั พันธท์ ีด่ ีและมัน่ คง ระหว่างผู้ใหญ่กบั เดก็ จดั กิจกรรม สร้างเสริมความสมั พันธท์ ่ดี รี ะหวา่ งเด็กกับเดก็ และแกไ้ ขข้อขดั แยง้ อย่างสร้างสรรค์ ๒.๔.๒ จัดกิจกรรมส่งเสรมิ ให้เดก็ มีความสขุ แจม่ ใส รา่ เรงิ ไดแ้ สดงออก ๑ ๒ ๓ รวม ด้านอารมณ์ ความรสู้ กึ ท่ีดตี อ่ ตนเอง โดยผ่านการเคลื่อนไหว ๖ ร่างกาย ศลิ ปะ ดนตรี ตามความสนใจและถนัด ๒.๔.๓ จดั กจิ กรรมและประสบการณ์ ปลูกฝังคุณธรรมให้เดก็ ใฝด่ ี มวี นิ ัย ซ่ือสตั ย์ รู้จักสิทธิ และหน้าทีร่ ับผิดชอบของพลเมอื งดี รกั ครอบครวั ๕๙ คะแนน โรงเรยี น ชมุ ชน และประเทศชาติด้วยวธิ ที เี่ หมาะสมกบั วัย ๙๘.๓๓ และพฒั นาการ - ขอ้ ตวั บง่ ช้ี ๒.๕ กำรส่งเสริมเด็กในระยะที่เปล่ยี นผ่ำนให้ปรับตัวสกู่ ำร เชอื่ มต่อในขน้ั ถดั ไป ๒.๕.๑ จัดกิจกรรมกบั ผูป้ กครองให้เตรยี มเดก็ กอ่ นออกจากบา้ นเขา้ สู่สถานเด็กปฐมวยั และจดั กจิ กรรมช่วงปฐมนิเทศใหเ้ ด็ก คอ่ ยปรบั ตวั ในบรรยากาศทเี่ ป็นมิตร ๒.๕.๒ จัดกจิ กรรมส่งเสรมิ การปรบั ตัวก่อนเขา้ รบั การศกึ ษาในระดับ ที่สงู ขนึ้ แตล่ ะข้ัน จนถงึ การเปน็ นักเรยี นระดบั ชั้นประถมศกึ ษา ปีท่ี ๑ มำตรฐำนดำ้ นท่ี ๒ มีคะแนนรวม มาตรฐานดา้ นท่ี ๒ มีคะแนนรวม คดิ เปน็ รอ้ ยละ = คะแนนรวม x ๑๐๐ ๖๐ มาตรฐานดา้ นท่ี ๒ มีจานวนตัวบ่งช้ี ทต่ี ้องปรับปรุง ข้อมลู หลกั ฐำน เอกสำรเชงิ ประจกั ษท์ ่ีสนับสนนุ ผลกำรประเมนิ ตนเอง ๑. หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนุบาลเทศบาลนครภเู กต็ ตามหลกั สตู รการศกึ ษาปฐมวยั พุทธศักราช ๒๕๖๐ (ฉบับปรบั ปรุง ๒๕๖๓) ๒. แผนการจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ ๓. บนั ทึกผลการจดั ประสบการณ์ แบบประเมนิ ผลหลังจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ๔. โครงการนเิ ทศห้องเรยี นน่าอยู่ ๕. โครงการผลติ สือ่ การเรยี นการสอน ๖. โครงการประเมินพฒั นาการเดก็ ปฐมวยั ๗. โครงการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวยั ๘. แบบวิเคราะห์ผเู้ รียนเปน็ รายบคุ คล
รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ หนา้ ๘๑ ๙. สมุดรายงานประจาตวั เด็ก ๑๐. แฟม้ สะสมผลงานเด็ก ๑๑. บันทกึ สายสมั พนั ธบ์ ้านและโรงเรยี น ๑๒. สมุดบนั ทึกพฒั นาการเด็กปฐมวยั ๑๓. โครงการโภชนาการสมวัยเพอ่ื เดก็ ปฐมวยั โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภเู ก็ต ๑๔. แบบประเมนิ กิจวัตรประจาวัน ๑๕. แผนการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ หนว่ ย กินดอี ยู่เป็น เลน่ อย่างสรา้ งสรรค์ ๑๖. บนั ทึกการแปรงฟัน ๑๗. แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ หน่วย ร่างกายของฉัน ๑๘. แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ หน่วย แรกรับประทับใจ เรอื่ ง การปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง ของหอ้ งเรียน ๑๙. โครงการฝกึ ซอ้ มแผนอพยพหนีไฟ ๒๐. โครงการประชุมพบปะผ้ปู กครองสัญจร ๒๑. โครงการส่งเสริมสขุ ภาพในโรงเรียน ๒๒. โครงการโรงเรียนอนุบาลนา่ อยปู่ ลอดโรค ๒๓. บนั ทึกการตรวจสุขภาพอนามัยและความสะอาดของนกั เรยี น ๒๔. บนั ทึกการตรวจคัดกรองสขุ ภาพและช่องปากของเด็ก ๒๕. บนั ทกึ การเจ็บป่วยของเดก็ เปน็ รายบคุ คล ๒๖. แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรทู้ ส่ี ง่ เสริมพพัฒนาการดา้ นการคดิ ทกั ษะกระบวนการคดิ จนิ ตนาการและความคิดสรา้ งสรรค์ ๒๗. แผนการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรป์ ฐมวยั ๒๘. โครงการสง่ เสรมิ การอา่ น ๒๙. โครงการจัดการเรยี นการสอนภาษาอังกฤษ ๓๐. โครงการจดั การเรียนการสอนวทิ ยาศาสตรป์ ฐมวัย ๓๑. โครงการจัดการเรียนการสอนแบบโครงงาน Project Approach จุดเด่น ๑. ครจู ดั ทาแผนการจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ มีการประเมนิ ผลหลงั การจดั กจิ กรรมทุกหนว่ ยการเรียนรู้ ๒. จัดพืน้ ท่ี มุมการเรียนรู้ท่ีเหมาะสม เอ้อื ตอ่ การเรียนรู้ ๓. ครผู ลิตและใช้ส่ือการสอนที่หลากหลาย ๔. คมู่ ือการผลิตสอ่ื เทคโนโลยี และนวตั กรรมทางการศกึ ษา ๕. ครูมีการประเมินพฒั นาการเดก็ ตามสภาพจรงิ ครอบคลมุ ทกุ ดา้ นดว้ ยวธิ กี ารท่หี ลากหลายอย่างต่อเน่ือง มีการรายงานผลให้ผปู้ กครองทราบ และให้การช่วยเหลอื แก้ปญั หาเด็กท่มี ีพฒั นาการลา่ ชา้ ๖. จัดอาหารให้กับเด็ก ครบ ๕ กลมุ่ เมนอู าหารหลากหลาย ไม่ซา้ กันในรอบ ๑ เดอื น และแจง้ เมนูอาหาร ให้ผู้ปกครองทราบในแตล่ ะสับดาห์ ทางเฟสบคุ โรงเรียน ๗. มีการตรวจสขุ ภาพอนามยั คดั กรองสขุ ภาพเบื้องตน้ กอ่ นนักเรียนเข้าโรงเรียน และกอ่ นเข้าห้องเรียน อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง
รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ หน้า ๘๒ ๘. มีการจัดสภาพแวดลอ้ ม หอ้ งวิทยาศาสตรป์ ฐมวัย เพอ่ื จัดกิจกรรมส่งเสรมิ ให้เด็กมที ักษะกระบวนการคิด ทางวิทยาศาสตร์ มีเจตคติทดี่ ีตอ่ การเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ๙. มีสื่อหนังสอื นทิ านทส่ี ่งเสรมิ ใหเ้ ด็กรักการอา่ นในปริมาณทีเ่ พียงพอท้งั ในมมุ หนังสอื ในห้องเรยี นและหนงั สือ ในหอ้ งสมดุ โรงเรยี น ๑๐. จัดกจิ กรรมและประสบการณด์ ้านคณิตศาสตรแ์ ละวิทยาศาสตรเ์ บือ้ งต้น ผ่านกิจกรรมบูรณาการ วิทยาศาสตร์ และการสอนแบบโครงงาน Project Approach ๑๑. มกี ารจัดกจิ กรรมที่ส่งเสรมิ ใหเ้ ด็กมีความแจ่มใส รา่ เริง แสดงอารมณไ์ ด้อย่างเหมาะสม ๑๒. จดั ประสบการณ์ทางสนุ ทรียภาพ เชน่ ดนตรี โขน นาฏศิลป์ ได้อย่างหลากหลายโดยมีครผู เู้ ชย่ี วชาญเป็น ผ้จู ดั ประสบการณ์ ๑๓. โครงการส่งเสริมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม และคุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ ๑๔. โครงการเตรียมความพรอ้ มเข้าสู่อนบุ าล ๒ ๑๕. กจิ กรรมแนะแนวผปู้ กครองนกั เรยี นอนบุ าล ๓ เพอื่ เตรยี มความพร้อมในการเรยี นตอ่ ชัน้ ป.๑ จุดทค่ี วรพัฒนำ ๑. จัดประสบการณ์การเรยี นรูท้ คี่ านึงถึงความจาเปน็ และความต้องการพเิ ศษของเดก็ เป็นรายบุคคล ๒. ปรบั ปรุงระบบการเก็บข้อมูลด้านสุขภาพให้สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวัย ๓. จัดกิจกรรมทส่ี ง่ เสรมิ ให้เดก็ มีความกล้าพูดกลา้ แสดงออก การพูดนาเสนอผลงาน การเลา่ นทิ าน ๔. พัฒนาทกั ษะดา้ นการอา่ นและการเขียน เพิ่มเตมิ เพ่ือให้เด็กมีความพร้อมในการสอบเขา้ เรียนต่อใน ระดบั ช้ันประถมศกี ษาปีที่ ๑ ๕. พฒั นาแผนการจัดประสบการณ์การเรยี นร้ใู ห้มีรายละเอียดของการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ เกี่ยวกับตวั เดก็ บุคคล สถานที่ ส่ิงตา่ ง ๆ และธรรมชาติรอบตวั ๖. ออกแบบการจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ที่สง่ เสรมิ ให้เดก็ มีทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ โดยการ บรู ณาการตามหน่วยการเรยี นรเู้ พอื่ สง่ เสรมิ ให้เด็กมีทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ๗. ออกแบบการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ท่ีสง่ เสริมให้เด็กมีความกลา้ แสดงออกอย่างเหมาะสม กับกาลเทศะตามวยั ๘. พฒั นาครูให้มีความสามารถในการจดั ประสบการณ์เพอื่ พัฒนาทกั ษะสมอง EF มำตรฐำนที่ ๓ คณุ ภำพของเด็กปฐมวยั ระดับคุณภำพ ดมี ำก วธิ ดี ำเนนิ กำร โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ดาเนินการพัฒนาคุณภาพเด็กให้มีคุณภาพ มีการ เจริญเติบโตสมวัยและมีสุขนิสัยท่ีเหมาะสม มีพัฒนาการสมวัย พัฒนาการด้านการเคล่ือนไหว พัฒนาการ ด้านอารมณ์จิตใจ พัฒนาการด้านสติปัญญา เรียนรู้และสร้างสรรค์ พัฒนาการด้านภาษาและการส่ือสาร พัฒนาการทางสังคม คุณธรรม มีวินัยและความเป็นพลเมือง โดยมีวิธีการดาเนินการบริหารจัดการสถานศึกษา ดังนี้ ๓.๑ ข เด็กมีกำรเจริญเติบโตสมวยั และมสี ขุ นสิ ัยท่ีเหมำะสม โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต เป็นโรงเรียนท่ีมุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพนักเรียน จึงได้ จัด ท าแผ น พั ฒ น าก าร ศึก ษ า แล ะ แผน ป ฏิ บั ติก ารป ระ จาปี ซ่ึ งได้ มีก ารก าห น ด เป้ าห ม าย ในการพัฒ นานักเรียนให้มีการเจริญ เติบโต และแข็งแรงสมวัย ให้ความสาคัญ กับการดาเนิน งาน
รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ หนา้ ๘๓ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีน้าหนัก และส่วนสูงตามเกณฑ์มาตรฐาน โดยกาหนดไว้ในจุดหมายของหลักสูตร สถานศึกษา ครูผู้สอนทุกคนออกแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีพัฒนาการ ต า ม จุ ด ห ม า ย ข อ ง ห ลั ก สู ต ร ต า ม ม า ต ร ฐ า น คุ ณ ลั ก ษ ณ ะ ที่ พึ ง ป ร ะ ส ง ค์ ด้ า น ร่ า ง ก า ย คือ ร่างกายเจริญเติบโตตามวัย และมีสุขนิสัยท่ีดี จึงได้จัดประสบการณ์ให้กับนักเรียนผ่าน หน่วยการเรียนรู้ เช่ น กิ น ดี อ ยู่ เป็ น เล่ น อ ย่ า ง ส ร้ า ง ส ร ร ค์ ห น่ ว ย ก า ร เรี ย น รู้ ข ยั บ ก า ย ส บ า ย ชี วี เป็ น ต้ น โดยจัดกิ จกรรมเสริมประสบการณ์ เคลื่อ น ไหวและจังหวะ กิ จก รรมเล่น กลางแจ้ง กิจกรรมเสรี และเกมการศึกษา กิจกรรมออกกาลังกายยามเช้าหน้าเสาธง เพ่ือส่งเสริมให้นักเรียนรักก ารออกกาลังกาย เพ่ือสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง นอกจากน้ี ยังได้จัดบริการ โครงการโภชนาการสมวัยเพ่ือเด็กปฐมวัย เพ่ื อดูแลและช่วยเหลือนัก เรียน ให้ ได้รับป ระ ทาน อ าหารดีมีป ระโยชน์ สะอ าด ถูก สุขลัก ษ ณ ะ และถกู หลกั โภชนาการ งานอนามัย ได้จัดโครงการส่งเสริมสุขภาพในโรงเรียนด้วยการจัดกิจกรรมหนูน้อยสุขภาพดี เป็นการตรวจสุขภาพนักเรียน มีการดาเนินการตรวจสุขภาพนักเรียนทุกเช้าก่อนเข้าโรงเรียน และเข้าห้องเรียน โดยครูเวรรับนักเรียน และครูประจาช้ัน กิจกรรมชั่งน้าหนักวัดส่วนสูง เพื่อสารวจจานวน และรายช่ือนักเรียน ท่ีมีน้าหนัก ส่วนสูงไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานกรมอนามัย โดยดาเนินการช่ังน้าหนักและวัดส่วนสูง ให้กับนักเรียนทุกคนในสัปดาห์ท่ี 1 ของเดือน และติดตามผลในเดือนต่อ ๆ ไป หากพบนักเรียนมีน้าเกินเกณฑ์ ทางโรงเรียน ได้จัดกิจกรรมแก้ไขปัญ หานักเรียน ท่ีมีภาวะทุพ โภชนาการ ด้วยการออกกาลังกาย กิจกรรมโภชนาการและอาหารกลางวัน กิจกรรมอาหารเสริมนมโรงเรียน บริการจัดอาหารกลางวัน ที่เหมาะสมให้กับนักเรียนท่ีมีปัญหาน้าหนักเกินเกณฑ์และต่ากว่าเกณฑ์ ซ่ึงทั้ง 3 กิจกรรมเป็นกิจกรรม ที่ต่อเน่ืองจากกิจกรรมชั่งน้าหนัก วัดส่วนสูง จัดป้ายนิเทศให้ความรู้ด้านโภชนาการ และสุขภาพอนามัย แจ้งข้อมู ลเปรียบเทียบน้ าหนักส่วน สูงให้ผู้ปกครอ งท ราบก ารเจริญ เติบโตของนักเรียน หน้าห้อ งเรียน ทุกเดือ น กองการแพทย์เทศบาลนครภูเก็ตตรวจสุขภาพ นักเรียน หากพ บนักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการ ก็ให้ได้รับการแก้ไข โดยนักเรียนที่มีน้าหนักต่ากว่าเกณฑ์ ก็มีการดูแลเร่ืองการรับประทานอาหารอย่างเพียงพอ และนักเรียนท่ีมีน้าหนักเกินเกณฑ์ โรงเรียนจัดกิจกรรมออกกาลังกายและขอความร่วมมือผู้ปกครองในการดูแล ควบคุมการรบั ประทานอาหาร ให้เหมาะสม งานประชาสัมพันธ์ ติดต่อสื่อสารกับผู้ปกครอง ผ่านจุลสารพวงชมพูสัมพันธ์ เพ่ือให้ความรู้ แก่ผู้ปกครองในการดูแลบุตรหลาน ให้คาแนะนาแก่ผู้ปกครองให้รับทราบถึงโทษภัยของอาหารท่ีมีรสหวาน อาหารกรุบกรอบ อาหารทอด และโรคอ้วน ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครองให้กวดขันพฤติกรรม การบรโิ ภคของบุตรหลาน โร งเรี ย น อ นุ บ า ล เท ศ บ า ล น ค ร ภู เก็ ต ต ร ะ ห นั ก ถึ ง ค ว า ม ส า คั ญ ข อ งก า ร เส ริ ม สร้ า ง สุ ข นิ สั ย ในการรักษาสุขภาพและอนามัยสาหรับเด็กปฐมวัย ท้ังนี้ ได้จัดกิจกรรมการเรียนรู้เพ่ือให้เด็กฝึกปฏิบัติตน ได้ ถู ก สุ ข ลั ก ษ ณ ะ จ ะ เป็ น ป ร ะ โย ช น์ ส าห รั บ เด็ ก ทั้ ง ใน ด้ า น ก าร เจ ริญ เติ บ โต อ ย่ าง มี คุ ณ ภ า พ การปฏิเสธในส่ิงท่ีไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย การเสริมสร้างสุขนิสัย และการรักษาสุขภาพอนามัย ส าห รับ เด็ ก ป ฐม วั ย ป ร ะ ก อ บ ด้ ว ย ก าร ฝึ ก สุ ข นิ สั ย ใน ก าร กิ น ก าร น อ น ก าร เล่ น ก าร ขั บ ถ่ าย การรักษาความสะอาด เป็นต้น ซึ่งทางโรงเรียนได้ร่วมกันจัดทาแผน และมีการกาหนดเป้าหมายการพัฒนา เพือ่ เสริมสร้างสุขนิสยั ในการรักษาสุขภาพและอนามัยแก่เด็ก โดยมีวิธกี ารดาเนินงานดงั ต่อไปน้ี
รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ หนา้ ๘๔ ๑. โครงการส่งเสริมสุขภาพในโรงเรียน การมีสุขภาพดี ถือเป็นลักษณะอันพึงประสงค์ประการแรกของคนไทย เพื่อให้นักเรียน มี สุ ข นิ สั ย สุ ข ภ าพ ก า ย แ ล ะ สุ ข ภ าพ จิ ต ท่ี ดี ซึ่ ง เป็ น ก าร ว าง ร าก ฐ าน ด้ าน สุ ข ภ าพ ให้ เข้ ม แ ข็ ง ด้วยการเตรียมความพร้อมเพ่ือป้องกันปัญหาสุขภาพต้ังแต่แรกเริ่ม ทางโรงเรียนฯ จึงได้จัดกิจกรรม เพ่ือปลกู ฝังนิสัย ในการดูแลรักษาสุขภาพให้แก่นักเรียน เพื่อใหน้ ักเรยี นมีสุขนิสัย สุขภาพกาย และสุขภาพจิตท่ีดี มีสุขนิสัยในการดูแลสุขภาพ และออกกาลังกายสม่าเสมอ สามารถป้องกันตนเอง จากส่ิงเสพติดให้โทษ และหลีกเลี่ยงสภาวะที่เสี่ยงต่อความรุนแรง โรคภัย และอุบัติเหตุ ประกอบด้วยกิจกรรมหนูน้อยสุขภาพดี เป็นกิจกรรมท่ีส่งเสริมให้นักเรียน ครู และผู้ปกครองเห็นความสาคัญของการดูแลสุขภาพ โดยจัดให้มีกิจกรรม การตรวจคดั กรองสขุ ภาพนักเรียนกอ่ นเข้าโรงเรียน โดยครูเวรประจาวัน เพอ่ื คัดกรอง การเจ็บป่วย และโรคติดต่อ มิให้แพร่ระบาด ส่งเสริมให้ผู้ปกครอง ตระหนักถึงการดูแลสุขภาพของบุตรหลาน และตรวจสุขภาพนักเรียน โดยครูประจาช้ันก่อนเข้าห้องเรียน เป็นการคัดกรองสุขภาพนักเรียน 2 ช้ัน กิจกรรมช่ังน้าหนักวัดส่วนสูง เป็นกิจกรรมเพ่ือเฝ้าระวังดูแล เร่ืองภาวะทุพโภชนาการของนักเรียน มีการช่ังน้าหนัก วัดส่วนสูงทุกสัปดาห์แรก ของเดือน เพื่อติดตามและเฝ้าระวัง นักเรียนท่ีมีน้าหนัก ส่วนสูงไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานกรมอนามัย ตลอดจนช่วยเหลือนักเรียนที่มีปัญหาทุพโภชนาการ และติดตามผลในเดือนต่อ ๆ ไป หากพบนักเรียน มีน้าเกินเกณฑ์ ทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมแก้ไขปัญหานักเรียนท่ีมีภาวะทุพโภชนาการ ด้วยการออกกาลังกาย กิจกรรมโภชนาการและอาหารกลางวัน กิจกรรมอาหารเสริม (นม) โรงเรียน เป็นบริการจัดอาหารกลางวัน ท่ีเหมาะสมให้กับนักเรียนที่มีปัญหาน้าหนักเกินเกณฑ์และต่ากว่าเกณฑ์ ซึ่งท้ัง 3 กิจกรรมเป็นกิจกรรมที่ต่อเนื่อง จากกิจกรรมช่ังน้าหนัก วัดส่วนสูง จัดป้ายนิเทศให้ความรู้ด้านโภชนาการ และสุขภาพอนามัย แจ้งข้อมูล เปรียบเทยี บนา้ หนัก ส่วนสงู ใหผ้ ู้ปกครองทราบการเจรญิ เตบิ โตของนกั เรียนหนา้ หอ้ งเรียนทุกเดือน กองการแพทย์ เทศบาลนครภูเก็ต ตรวจสุขภาพนักเรียน หากพบนักเรยี นท่มี ีภาวะทุพโภชนาการ ก็ให้ได้รับการแก้ไข โดยนักเรยี น ที่มีน้าหนักต่ากว่าเกณฑ์ก็มีการดูแลเร่ืองการรับประทานอาหารอย่างเพียงพอและนักเรียนที่มีน้าหนักเกินเกณฑ์ โรงเรียนจัดกิจกรรมออกกาลังกาย และขอความร่วมมือผู้ปกครองในการดูแลควบคุมการรับประทานอาหาร ให้เหมาะสม กิจกรรมหนูน้อยรักษ์ฟั น เพ่ือ ส่งเสริมให้นักเรียน แปรงฟัน หลังรับ ประทาน อาหาร และส่งเสรมิ ให้ผู้ปกครองดูแลสุขภาพฟนั ของบุตรหลาน กิจกรรมห้องเรยี นปลอดเหา มีการสารวจศีรษะนักเรียน หากพบนักเรยี นเปน็ เหาจะมีกจิ กรรมกาจดั เหาทุกวนั พุธสปั ดาหท์ ี่ 3 ของเดือน ๒. โครงการอนบุ าลน่าอยู่ปลอดโรค เป็ น กิ จก รรมท่ีจัด ขึ้น เพื่ อ ให้ ครู ผู้ปก ครอ ง และนัก เรียน ตระ หนั กถึงความสาคัญ ข อ งก าร รัก ษ าสุ ข ภ าพ อ น ามั ย ข อ งต น เอ ง แ ล ะ บุ ค ค ล ใน ค ร อ บ ค รัว ให้ ห่ างไก ล จ าก โร ค ติ ด ต่ อ ประกอบด้วยกิจกรรมตรวจสุขภาพประจาวัน กจิ กรรมรณรงค์ให้ความรู้ด้านสขุ ภาพด้วยปา้ ยประชาสมั พันธค์ วามรู้ ด้าน สุข ภ าพ แ ล ะ โรค ติ ด ต่ อ แ ล ะ จุล ส าร พ ว งช ม พู สั ม พั น ธ์ กิ จ ก รร ม ห้ อ งเรีย น วัค ซี น 1 0 0 % เพ่ือสารวจการรับวัคซีนภาคบังคับของนักเรียนให้ครบถ้วน กิจกรรมรณ รงค์ป้องกันไข้เลือดออก เพ่ือส่งเสริมให้นักเรียนและผู้ปกครองตระหนักถึงการดูแลตนเอง และบริเวณท่ีพักอาศัยให้ปลอดภัย จ า ก แ ห ล่ ง ว า ง ไข่ ข อ ง ลู ก น้ า ยุ ง ล า ย กิ จ ก ร ร ม Big Cleaning Day เพื่ อ ร ณ ร ง ค์ ให้ ค รู นั ก เรี ย น ตลอดจนผู้ปกครองได้ร่วมกันทาความสะอาดบริเวณห้องเรียน โรงเรียน และท่ีพักอาศัย เพ่ือให้ปลอดภัย จากอันตรายต่าง ๆ กิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้เพ่ือป้องกันยาเสพติด เพื่อให้ความรู้แก่นักเรียน และผู้ปกครอง ในการป้องกนั ตนเองให้ห่างไกลจากยาเสพตดิ
รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ หน้า ๘๕ ๓. โครงการกฬี าและนนั ทนาการ เพ่ือส่งเสริมให้นักเรียนออกกาลังกาย ผ่านกิจกรรมกีฬา เช่น การแข่งขันกีฬานักเรียนอนุบาล เทศบาลนครภูเก็ตสัมพันธ์ และการแข่งขันกีฬาสีภายใน เป็นต้น เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีสุขนิสัย ในการดแู ลสุขภาพของตนเองดว้ ยการออกกาลงั กายอยา่ งสม่าเสมอ ๔. โครงการประชาสมั พนั ธข์ ่าวสารสู่ชุมชน เพื่อติดต่อส่ือสารกับผู้ปกครอง ผ่านจุลสารพวงชมพูสัมพันธ์ เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ปกครอง ใน ก ารดูแลบุตรหลาน ให้คาแน ะน าแก่ผู้ปกครองให้รับทราบถึงโท ษภัยของอาหารที่ มีรสหวาน อ าห าร ก รุบ ก ร อ บ อ าห าร ท อ ด แ ล ะ โร ค อ้ ว น ให้ ค ว าม รู้เกี่ ย ว กั บ โร ค ติ ด ต่ อ แ ล ะ ก าร ป้ อ ง กั น ตลอดจนให้ความรู้ด้านสุขภาพต่าง ๆ และโรคภัยไข้เจ็บท่ีมาตามฤดูกาล เพื่อให้ผู้ปกครองร่วมมือ ส่งเสริมสุขภาพนักเรียนให้มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคภัยเบียดเบียน ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง ใหก้ วดขันพฤติกรรมการบรโิ ภคของบตุ รหลานใหร้ ูจ้ กั เลอื กรับประทานอาหารทีม่ ีประโยชน์ ๕. กจิ กรรมกิจวัตรประจาวัน เพ่ื อสร้างสุขนิ สัยที่ ดีให้ กั บ นั ก เรียน เพ่ื อ ส่งเสริม ให้ นั ก เรียน รู้จัก ก ารดู แลตน เอ ง และช่วยเหลือตนเอง เพ่ือให้นักเรียนมีสุขนิสัยท่ีดีในการรักษาสุขภาพอนามัยของตนเอง ได้แก่ การฝึกสุขนิสัย ใน ก ารรับ ประทาน อาหาร ก ารล้างมือ ก่อน รับประทาน อาหาร รับ ประทาน สะอาด ปรุงสุก ให ม่ และอาห ารท่ี มีคุณ ค่ากั บร่างกาย เช่น ผัก ผลไม้ ปลา เนื้อ น ม ไข่ ก ารดื่มน้าสะอ าดอ ย่างน้ อ ย วันละ 4 - 6 แก้ว การฝึกตนเอง ในการรับประทานอาหารเป็นเวลา การฝึกการแปรงฟันอย่างถูกวิธี หลังรับประทานอาหาร และการฝึกการป้องกันโรคภัยท่ีติดต่อกัน เช่น การไม่ใช้ภาชนะ และเคร่ืองใช้ส่วนตัว ในการรับประทานอาหาร ด่ืมน้า ร่วมกับผู้อ่ืน เป็นต้น การสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอนเพ่ือให้จิตใจสงบ แจ่มใส จนเคยชินเป็นนิสัย เป็นต้น การฝึกสุขนิสัยในการขับถ่าย ฝึกการขับถ่ายเป็นเวลา ฝึกทาความสะอาด อวัยวะ เม่ือมีการขับถ่ายด้วยการล้างน้าให้สะอาด และทาความสะอาดมือทุกครั้งเม่ืออุจจาระหรือปัสสาวะ ฝึกทาความสะอาดเครื่องสุขภัณฑ์เมื่อใช้เรียบร้อยแล้ว ฝึกเลือกให้ใช้ห้องน้า ห้องส้วมท่ีสะอาด และขับถ่าย ในห้องส้วมเท่าน้ัน การสวมรองเท้า เม่ือออกนอกห้องเรียนหรือออกจากบ้าน การตัดเล็บให้สะอาด การดแู ลตรวจเลบ็ ใหก้ บั เด็กอยา่ งนอ้ ยสปั ดาหล์ ะครัง้ การปดิ ปากเม่ือไอหรอื จาม เป็นต้น เด็กมีสุขนิสัยที่ดีในการดูแลสุขภาพเป็นการการฝึกสุขนิสัยในชีวิตประจาวันและการป้องกัน อุบัติเหตุ การฝึกเกี่ยวกับเร่ืองข้ึนลงบันได การไม่วิ่งในอาคารเรียน การฝึกสุขนิสัยในการเล่นและการป้องกัน อุบัติเหตุฝึกเล่นเป็นเวลา เมื่อถึงเวลาอ่ืนๆ ก็ควรจะเลิกเล่น เช่น เวลาเรียน เวลารับประทานอาหาร เวลานอน ฝึกเล่นในที่สะอาด และปลอดภัยท่ีครูแนะนา ไม่ไปในสถานท่ีอันตราย เช่น บริเวณครัวท่ีกาลังประกอบอาหาร บริเวณอาคารก่อสร้าง บริเวณแหล่งน้า บ่อ บริเวณปล๊ักไฟฟ้า เป็นต้น ฝึกให้เลือกของเล่นที่ไม่เป็นอันตราย ไม่เล่นของแหลมคม และไม่นาของเล่นเข้าปาก ไม่กัดแทะของคมของแข็งเพราะฟันจะบ่ิน หัก และของแหลม จะท่ิมแทงหรือติดค้างอวัยวะในช่องปาก และไม่เล่นของสกปรก เช่นมูลสัตว์ ขยะมูลฝอย ฝึกการเล่น อย่างปลอดภัย รูจ้ กั ระมดั ระวงั อันตรายทงั้ ของตนเองและผอู้ ่นื เชน่ การเลน่ เคร่อื งเลน่ สนาม
รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ หนา้ ๘๖ ๓.๒ ข เด็กมพี ัฒนำกำรสมวยั โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ตระหนักถึงความสาคัญของการส่งเสริมพัฒนาการ ของเด็กปฐมวัยให้มีความครอบคลุมโดยรวม ๕ ด้าน จึงได้วางแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ โดยให้ครูและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนร่วมกันวางแผนจัดทาหลักสูตรสถานศึกษาที่สอดคล้องกับความต้องการ ของผ้เู รียน ผู้ปกครอง และชุมชน โดยจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพ่ือใหน้ ักเรยี นมีประสบการณ์สาคัญครอบคลุม โดยรวม ๕ ด้าน โดยคานึงถึงจุดหมายของผู้เรียนตามมาตรฐานคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนตามวัย ท่ีสอดคล้องกบั หลักสูตรสถานศึกษา และหลักสูตรการศกึ ษาปฐมวยั พุทธศกั ราช 25๖๐ โดยการจัดประสบการณ์ การเรียนรู้ผ่านกิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม ตามตารางกิจกรรมประจาวันเพ่ือช่วยให้นักเรียน เกิดทักษะที่สาคัญ สาหรับการสร้างองค์ความรู้ โดยใหน้ กั เรยี นมีปฏิสัมพนั ธก์ ับวตั ถุ ส่ิงของ บุคคลต่าง ๆ ท่อี ยู่รอบตัว การพัฒนากล้ามเน้ือมัดใหญ่ (GM) เพื่อให้นักเรียนเกิดประสบการณ์สาคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการ ด้านร่างกาย กล้ามเน้ือใหญ่มีความแข็งแรง มีทักษะในการทรงตัว สามารถเคล่ือนไหว และใช้งานอวัยวะต่าง ๆ ไดอ้ ย่างคลอ่ งแคลว่ ว่องไว โรงเรียนฯ จึงได้จัดประสบการณใ์ หก้ บั นักเรียนผ่านกิจกรรมประจาวัน ได้แก่ เคลือ่ นไหว และจังหวะ และกิจกรรมกลางแจง้ เช่น การเคล่ือนไหวอย่กู บั ท่ี การเคล่ือนไหวเคลื่อนที่ การเคล่ือนไหวพร้อมวัสดุ อุปกรณ์ การเคลื่อนไหวร่างกายตามจังหวะดนตรีและเสียงเพลง การเล่นกลางแจ้ง การเล่นเคร่ืองเล่นสนาม และการละเล่นแบบไทย การพัฒนากล้ามเน้ือมัดเล็กและสติปัญญา (FM) เพ่ือให้นักเรียนสามารถใช้กล้ามเน้ือมัดเล็ก ได้อย่างแข็งแรง และการทางานของมือกับตาประสานสัมพันธ์กัน โรงเรียนฯ ได้จัดประสบการณ์ให้กับนักเรียน ผ่าน กิ จก รรมป ระจาวัน ได้แก่ กิ จก รรมศิลป ะสร้างสรรค์ กิ จก รรมเสรี กิ จก ร รมเก มก ารศึก ษ า และกิจกรรมเสริมประสบการณ์ เช่น การเล่นเครื่องเล่นสัมผัส การเล่นน้า เล่นทราย เล่นเกมต่อภาพ การวาดภาพระบายสี การเล่นกับสี การปั้น การประดิษฐ์ต่าง ๆ ด้วยดินเหนียว ดินน้ามัน เศษวัสดุ การฉีก การตัด การปะ การต่อบล็อก การช่วยเหลือตนเองในการแต่งกาย และการหยิบจับช้อนส้อม ร ว ม ถึ ง กิ จ ก ร ร ม ต่ า ง ๆ ท่ี นั ก เรี ย น ต้ อ ง ใช้ มื อ ใน ก า ร ห ยิ บ จั บ ล ง มื อ ป ฏิ บั ติ ด้ ว ย ต น เอ ง เช่น กิจกรรมการสังเกตด้วยแว่นขยาย กิจกรรมการทดลอง กิจกรรมการทาอาหาร ซึ่งการจัดกิจกรรมดังกล่าว มีท้ังการจัดเป็นกิจกรรมในห้องเรียน กิจกรรมนอกห้องเรียนและการเรียนรู้นอกสถานที่ รวมทั้งการส่งเสริม ใหน้ ักเรียนมีความสามารถในการคิดพื้นฐาน มีความสามารถในการคดิ รวมยอด ความสามารถในการคิดเชิงเหตผุ ล ความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและตัดสินใจ การมีจินตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ และการมีเจตคติที่ดีต่อ การเรียนรู้ มีความสามารถในการแสวงหาความรู้ได้เหมาะสมกับวัย โดยการดาเนินโครงกากิจกรรมท่ีเกี่ยวข้อง กับการพัฒนาความสามารถในการสังเกต จาแนกและเปรียบเทียบได้แก่ กิจกรรมวันวิทยาศาสตร์ กิจกรรม การเรยี นการสอนแบบโครงการ Project Approach กิจกรรมเกมการศกึ ษา เป็นตน้ วางแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ โดยการจัดกิจกรรมประจาวันท้ัง 6 ตามตาราง ก ารจัด กิ จก รรม ป ระ จาวัน ระ ดับ ป ฐมวั ย เพื่ อ ให้ เด็ ก ได้เรียน ด้ ว ยก ารใช้ป ร ะ สาท สั มผั สท างต า ในการมองและการสังเกต เรียน รู้ด้วยการใช้ประสาทสัมผัสทางหูใน การได้ยิน หรือฟังเสียงต่างๆ เรียนรู้ด้วยประสาทสัมผัสทางร่างกายในการสัมผัส หยิบจับสิ่งต่างๆ เรียนรู้รสชาติส่ิงต่าง ๆ ด้วยการใช้ประสาท สัม ผัส ลิ้ น ใน ก าร ชิ ม รส แ ล ะ เรีย น รู้ก ล่ิ น ต่ าง ๆ จ าก ก าร ใช้ ป ร ะ ส าท สั ม ผั สจ มู ก ใน ก ารด ม ก ล่ิ น เพ่ือให้นักเรียนใช้สายตาในการมอง และการสังเกต ใช้มือและอวัยวะทางกายสัมผัส จับต้องสิ่งต่างๆ เพื่อให้รู้ว่านุ่มหรือแข็ง ขรุขระหรือเรียบ การรับรู้กลิ่น ต่าง ๆ ว่า หอมหรือเหม็น ด้วยการใช้จมูก ในการดมกล่ิน การฟังเสียงต่าง ๆ ว่าไพเราะน่าฟัง หรือเสยี งดังรบกวน ด้วยการใช้ประสาทสมั ผัสทางหู และการ
รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ หนา้ ๘๗ รับ รู้เกี่ ย ว กั บ รส ช าติ อ าห าร ต่ าง ๆ ว่ า ห ว าน เป ร้ีย ว เค็ ม ข ม ห รือ เฝ่ื อ น ด้ วย ก าร ใช้ลิ้ น ชิ ม ร ส การเรียนรู้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้าเป็นการสารวจส่ิงต่าง ๆ เพ่ือเป็นพื้นฐานในการพัฒ นาทักษะ ท า ง ด้ า น ส ติ ปั ญ ญ า เช่ น ทั ก ษ ะ พื้ น ฐ า น ท า ง ค ณิ ต ศ า ส ต ร์ ทั ก ษ ะ พ้ื น ฐ าน ท าง วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ ทกั ษะทางภาษา เปน็ ตน้ ๓.๓ ข เด็กมีพัฒนำกำรด้ำนกำรเคล่อื นไหว เด็กมีพัฒนาการด้านการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่สามารถเคล่ือนไหว และทรงตัวได้ตามวัย ผา่ นกจิ กรรม ดงั นี้ ๑. กิจกรรมการเคลื่อนไหวและจังหวะ กิจกรรมเคล่ือนไหวและจังหวะ เปนกิจกรรมท่ีจัดใหเด็ก ไดเคลื่อนไหวสวนตางๆ ของรางกาย อยางอิสระตามจังหวะ โดยใชเสียงเพลง คาคลองจอง เครื่องเคาะจังหวะ และอุปกรณอื่น ๆ มาประกอบการเคลื่อนไหว ซ่ึงจังหวะและดนตรีที่ใชประกอบ ไดแก เสียงตบมือ เสียงเพลง เสียงเคาะไม เคาะเหล็กกรุงกริ๋ง รามะนา กลอง กรับ ฯลฯ มาประกอบการเคลื่อนไหวเพื่อสงเสริมใหเด็ก เกิดจินตนาการความคิดสรางสรรค เด็กวัยนี้รางกาย กาลังอยใู นระหวางพัฒนาการใชสวนตาง ๆ ของรางกาย ยังไมประสานสัมพันธกันอยางสมบูรณ โดยมีรูปแบบต่าง ๆ คือ กิจกรรมการเคล่ือนไหวพ้ืนฐาน ประกอบด้วย การเคลื่อนไหวเคล่ือนที่และการเคล่ือนไหวเคลื่อนท่ี กิจกรรมการเคล่ือนไหวท่ีสัมพันธ์กับเนื้อหา ประกอบด้วย การเคลื่อนไหวเลียนแบบ การเคลื่อนไหวตามบทเพลง การทาทาทางกายบริหารประกอบเพลงหรือคาคลองจอง การเคล่ือนไหวเชิงสรางสรรค์ การเคลื่อนไหวหรือการแสดงทาทางตามคาบรรยายหรือเรื่องราว การเคล่ือนไหว หรือการแสดงทาทางตามคาสั่ง การเคล่ือนไหวหรือการแสดงทาทางตามขอตกลง การเคล่ือนไหวหรือการแสดง ทาทางเปนผูนา ผูตาม ๒. กิจกรรมการเล่นกลางแจ้ง เปนกิจกรรมท่จี ัดใหเด็กไดออกไปนอกหองเรียนไปสูสนามเด็กเลน ท้ังท่ีบริเวณกลางแจงและในรม เพ่ือเปดโอกาสใหเด็กเคลื่อนไหวรางกาย ออกกาลัง และแสดงออกอยางอิสระ โดยยึดความสนใจและความสามารถของเด็กแตละคนเปนหลัก เช่น การเล่นเครื่องเล่นสนาม การเล่นศูนย์น้า ศูนย์ทราย เกมการละเลน่ เด็กมีพัฒนาการด้านการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก และการประสานงานระหว่างมือกับตามตามวัย ผ่านกิจกรรม ดงั น้ี ๑. กิจกรรมศิลปะสรางสรรค เปนกิจกรรมที่มุงพัฒนากระบวนการคิดสรางสรรค การรับรู เกี่ยวกับความงาม และสงเสริมกระตุนใหเดก็ ไดแสดงออกทางอารมณตามความรูสึก ความคิดริเริ่มสรางสรรค และ จินตนาการ โดยใช ศลิ ปะ เชน การวาดภาพ ระบายสี การปน การพิมพภาพ การพับ ตดั ฉีก ปะ ฯล ๒. กิจกรรมการเล่นตามมุม กิจกรรมการเลนตามมุม เปนกิจกรรมท่ีเปดโอกาสใหเด็กไดเลนกับ สื่อและเครอ่ื งเลนอยางอสิ ระ ตามมุมเลน/มุมประสบการณ ซง่ึ พืน้ ท่หี รือมุมตางๆ เหลาน้ี เด็กมีโอกาสเลอื กเลนได อยางเสรีตามความสนใจ และความตองการของเด็ก ท้ังเปนรายบคุ คลและเปนกลุมยอย อน่ึง การเลนตามมุมอาจ ใหเด็กเลือกทากจิ กรรม ที่ครูจัดเสรมิ ขน้ึ เชน เกมการศกึ ษา เคร่ืองเลนสัมผัส กจิ กรรมศิลปะสรางสรรคประเภทต างๆ ๓. เกมการศึกษา (Didactic Games) เปนเกมการเลนท่ีชวยพฒั นาสติปญญา ชวยสงเสริมใหเด็ก เกิดการเรียนรูเปนพ้ืนฐานการศึกษา รูจักสังเกต คิดหาเหตุผล และเกิดความคิดรวบยอด เก่ียวกับสี รูปราง จานวน ประเภท และความสัมพันธเกี่ยวกับพื้นที่ ระยะ มีกฎเกณฑกติกางายๆ เด็กสามารถเลนคนเดียว หรอื เลนเปนกลุมได
รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศึกษา ๒๕๖๓ หนา้ ๘๘ ๓.๔ ข เด็กมพี ฒั นำกำรดำ้ นอำรมณ์จติ ใจ เด็กปฐมวัยเป็นช่วงความสาคัญ เพราะเป็นช่วงเวลาท่ีเด็กได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ มากที่สุดในชีวิต ในขณ ะที่พัฒ นาการด้านร่างกายของเด็กปฐม วัยมีการเจริญ เติบโต เด็กก็มีการเรียนรู้ด้านอารมณ์ ไปพ ร้อม ๆ กั น เด็ก ป ฐมวัยจะแสดงอ อ ก ด้าน อ ารมณ์ อ ย่างเด่น ชัด มีความสน ใจใน เรื่อ งต่าง ๆ ค่อนข้างส้ัน เวลาดีใจ เสียใจ โกรธ หรอื กลวั ก็จะแสดงอารมณ์ออกมาเต็มท่ี ได้แก่ กระโดด กอด ปรบมอื โวยวาย ร้องไห้เสียงดัง ทุบตี ขว้างปาสิ่งของ ไม่พอใจเม่ือถูกห้าม ฯลฯ อารมณ์เกิดขึ้นกับเด็กวัยนี้มีท้ังอารมณ์เชิงบวก และอารมณ์เชิงลบ เพ่ือให้เด็กมีพัฒนาการทางอารมณ์ท่ีเหมาะสม มีสุขภาพจิตท่ีดี ได้รับการยอมรับ จากคนรอบข้าง การฝึกทักษะทางอารมณ์ การส่งเสริมให้แสดงออกทางอารมณ์ อย่างเหมาะสม โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมให้เด็กได้กล้าแสดงออกทางอารมณ์ได้สอดคล้อง กบั สถานการณ์และเหมาะสมกับวยั โดยมีการะบวนการดาเนินงานดงั นี้ การจัดหน่วยการเรียนรู้ตามหลักสูตรสถานศึกษา โดยจัดประสบการณ์การเรียนที่หลากหลาย ให้นักเรียนได้เรียนรผู้ ่านการเล่นปนเรียน โดยใช้กิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม เพ่ือให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ร่วมกับ เพ่ือนและผู้อ่ืนได้อย่างมีความสุข รจู้ ักตนเอง และยอมรับความสามารถของผู้อื่น ส่งเสริมให้นักเรียนทากิจกรรม เป็ น ก ลุ่ ม เป็ น ร า ย บุ ค ค ล เพื่ อ ให้ นั ก เรี ย น รู้ จั ก ก า ร เป็ น ผู้ น า ผู้ ต าม ต า ม ส ถ า น ก าร ณ์ ต่ าง ๆ กิ จก รรม ท่ี จัดให้ กั บ นั ก เรียน เป็ น ก ารฝึก ป ระ สบ ก ารณ์ ให้ กั บ นั ก เรียน ให้ ครอ บ คลุม ทั้ ง 4 ด้าน และที่สาคัญ การทางานเป็นกลุ่ม เป็นการฝึกให้นักเรียน รู้จั กการแบ่งปัน การรอคอย การให้อภัย และยอมรับผูอ้ ืน่ เพอ่ื เปน็ พ้ืนฐานสาคญั ทางสังคมในอนาคต ครูเป็นแบบอย่างในการแสดงออกทางอารมณ์ที่เหมาะสม เมื่อเด็กดื้อก็ต้องแสดงเหตุผล เพื่อให้เด็กตัดสินใจ และยอมรับกติกาหรือเง่ือนไขการปฏิบัติต่าง ๆ ด้วยความเข้าใจไม่ใช้การบังคับ จัดให้มีเวรประจาวันมอบหมายหน้าท่ีให้นักเรียนรับผิดชอบในห้องเรียน ในโรงเรียน เช่น เวรสภานักเรียน ประจาวัน เวรสายตรวจประหยัดพลังงาน เวรเก็บขยะ เวรประจาวันในห้องเรียน เพ่ือฝึกให้นักเรียน มีความรับผิดชอบ ต่อตนเอง และส่วนร่วม ครูประจาช้ันมีการรับเด็กหน้าห้องเรียน แสดงออกถึงการยอมรับ การต้อนรับ การเอาใจใส่ ความห่วงใยท่ีเด็กได้รับจะทาให้เกิดความม่ันคงทางอารมณ์เม่ือต้องการ หรอื ไม่ตอ้ งการในสิง่ ใดก็สามารถส่อื สาร เพ่ือทาใหค้ วามเข้าใจร่วมกนั ไดไ้ มม่ ีความรสู้ ึกขัดแย่งหรือคับขอ้ งใจ โครงการวันสุนทรภู่ เป็นโครงการเสริมประสบการณ์ด้านภาษาแก่นักเรียน สามารถกระตุ้น และส่งเสริมให้เด็กแสดงออกทางอารมณ์ตามสถานการณ์ ที่หลากหลาย เช่น มีความสุขเมื่อได้ฟังนิทาน เรื่อง ม้านิลมังกร มีอารมณ์คล้อยตามจากการจัดกิจกรรม เช่น ดีใจ เสียใจ สนุกสนาน นอกจากนี้ กิจกรรมวันสุนทรภู่ ยังส่งเสรมิ ให้นักเรียนมคี วามมั่นใจ ในตนเอง ด้วยการแสดงละคร การประกวดแต่งกายแฟนซี ตวั ละครในเร่อื งพระอภัยมณี ครูส่งเสริมการแสดงออกทางอารมณ์อย่างเหมาะสมโดยการเล่านิทาน ซ่ึงเป็นการให้ต้นแบบ ท่ีพึงประสงค์ และใช้การต้ังคาถามเพื่อการสรุปความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติอ ย่างเหมาะสม จากการฟังนิทาน ท่ีมีตัวแบบท่ีมีพฤติกรรมทางอารมณ์ท่ีเหมาะสมทาให้เด็กมีความม่ันใจในการแสดงออก อยา่ งเหมาะสมยิง่ ขึ้น จัดโครงการส่งเสริมสุนทรียภาพด้านศิลปะ ดนตรี นาฏศิลป์ และกีฬา (กิจกรรมหลังเลิกเรียน) เช่น กิจกรรมดนตรี ขับร้องประสานเสียง โขน นาฏศิลป์ เริงเล่นเต้นแดนเซอร์ วาดภาพระบายสี ศิลปะ กีฬา เป็นต้น เป็นกิจกรรมที่นักเรียนเลือกเรียนได้ตามความถนัด และความสนใจ โดยเรียนวันละ 1 ช่ัวโมง หลังกิจกรรมประจาวัน เวลา 16.๓0 – 17.๓0 น. นักเรียนได้ฝึกการใช้กล้ามเน้ือมัดใหญ่ กล้ามเน้ือมัดเล็ก
รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศึกษา ๒๕๖๓ หนา้ ๘๙ ในการทากิจกรรมตามท่ีตนเองสนใจและถนัด ร่วมกับเพ่ือนต่างห้องเรียน และต่างระดับ ส่งเสริมให้เกิด สัมพัน ธภาพ ที่ดีระหว่างนักเรียนใน โรงเรียน นักเรียน มีความม่ัน ใจในตนเอง และกล้าแสดงออก มีความสุข สนุกสนานกับการทากิจกรรม โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต มุ่งเน้นเสริมสร้างวินัยในตนเองให้เด็กได้รับการเรียนรู้ ระเบี ยบวินั ยใน สังคม เช่น ก ารรู้จัก รอคอ ย ก ารทางาน ร่วมกั บผู้อ่ื น ช่วยเห ลือ กั น ไม่เอาเปรียบ รู้จักแบ่งปัน เสียสละ มีน้าใจ เอื้อเฟ้ือเพ่ือแผ่ กล้าแสดงความคิดเห็น ยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น ร่วมกันรับผิดชอบงานกลุ่ม เป็นผู้นาผู้ตามท่ีดี การเก็บของท่ีใช้แล้วให้เป็นระเบียบ รวมไปถึงการอดทน การเข้าแถวตามลาดับก่อนหลัง ตั้งใจทางานที่ได้รับผิดชอบและคอยช่วยเหลือตามความเหมาะสม ซึ่ ง ก า ร เส ริ ม ส ร้ า ง วิ นั ย ค ว า ม รั บ ผิ ด ช อ บ แ ล ะ ก า ร ฝึ ก เกี่ ย ว กั บ ก า ร ป ฏิ บั ติ ต า ม ข้ อ ต ก ล ง น อ ก จ าก ก าร จั ด ป ร ะ ส บ ก าร ณ์ ใน ห้ อ งเรีย น แ ล้ ว มี วิ ธี ก าร ส่ ง เส ริ ม เพื่ อ ให้ เด็ ก เกิ ด ก าร เรีย น รู้ และนาไปใช้ใน ชีวิตประจาวัน ได้ดังน้ี โครงการลูกเสือน้อย กิจกรรมสายตรวจประหยัดพลังงาน กจิ กรรมห้องเรยี นระเบยี บวินยั ดเี ด่น กิจกรรมสภาจ๋ิวสง่ เสรมิ ประชาธิปไตยในโรงเรียน ผลการจัดประสบการณ์ให้กับเด็ก พบว่า เด็กทุกคนเรียนรู้ที่จะเล่นและเก็บของเล่นเข้าที่ มีวินัยในการรอคอย เข้าแถวเป็นระเบียบตามลาดับก่อนหลัง สามารถทางานร่วมกับผู้อื่น ช่วยเหลือกัน ไม่เอาเปรียบกัน แบ่งปัน มีน้าใจ กล้าแสดงความคิดเห็น รับฟังความคิดเห็นและความสามารถของผู้อ่ืน ร่วม กั น รับ ผิดช อบ ผล งาน เป็ น ผู้น าและ ผู้ต ามท่ี ดี น อ ก เห นื อ จาก ก ารท างาน ใน ห้ อ งเรียน แล้ ว ยังมีการจัดเวรรักษาความสะอาดประจาวัน เพื่อให้เด็กได้ทางานร่วมกันตามหน้าท่ีที่ได้รับมอบหมาย มกี ารประเมนิ พัฒนาการนักเรียนอย่างสม่าเสมอ ๓.๕ ข เดก็ มีพฒั นำกำรดำ้ นสติปญั ญำ เรียนรู้และสรำ้ งสรรค์ โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ส่งเสริมให้นักเรียนมีความสามารถในการ คิดพ้ืนฐาน ท่ีส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น ทักษะ สังเกตจาแนกและเปรียบเทียบ ให้นักเรียนทาการเปรียบเทียบ บอกเวลา บอกความสัมพันธ์ของขนาด สีและรูปทรง และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ที่ก่อให้เกิดการเรียนรู้ การพัฒนาทักษะชีวิต โดยนักเรียนจะสรุปความรู้ท่ีได้รับมาเป็นองค์ความรู้ตามวัย และศกั ยภาพของผู้เรียน โครงการกิจกรรมท่ีเก่ียวข้องกับการพัฒนาความสามารถในการสังเกต จาแนกและเปรียบเทียบ ได้ แ ก่ กิ จ ก ร ร ม วั น วิ ท ย าศ าส ต ร์ กิ จ ก ร ร ม ก าร เรีย น ก าร ส อ น แ บ บ โค ร งก าร Project Approach กจิ กรรมเกมการศึกษา จัดกิจกรรมการเรียนรู้เพิ่งฝึกทักษะการสังเกต จาแนก และเปรียบเทียบโดยให้เด็ก ใช้ระบบประสาทสัมผัสท้ัง 5 เพ่ือทาการสังเกต สารวจสิ่งต่าง ๆ อย่างละเอียดลออ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อฝึกทักษะจาแนกเปรียบเทียบและบอกข้อแตกต่าง ด้านคุณสมบัติของสี รูปร่าง เป็นต้น จัดสถานการณ์ การเรียนรู้ให้มีโอกาสในการสังเกต จาแนก เปรียบเทียบ เช่น จัดการเรียนรู้โดยใช้ การจัดการเรียนรู้ แบบโครงการ Project Approach กิจกรรมเกมศกึ ษา เปน็ ตน้ วางแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ โดยการจัดกิจกรรมประจาวันท้ัง 6 ตามตาราง ก ารจัด กิ จก รรม ป ระ จาวัน ระ ดับ ป ฐมวั ย เพื่ อ ให้ เด็ ก ได้เรียน ด้ ว ยก ารใช้ป ร ะ สาท สั มผั สท างต า ในการมองและการสังเกต เรียน รู้ด้วยการใช้ประสาทสัมผัสทางหูใน การได้ยิน หรือฟังเสียงต่างๆ เรียนรู้ด้วยประสาทสัมผัสทางร่างกายในการสัมผัส หยิบจับส่ิงต่างๆ เรียนรู้รสชาติส่ิงต่าง ๆ ด้วยการใช้ประสาท สัม ผัส ล้ิ น ใน ก าร ชิ ม รส แ ล ะ เรีย น รู้ก ล่ิ น ต่ าง ๆ จ าก ก าร ใช้ ป ร ะ ส าท สั ม ผั สจ มู ก ใน ก ารด ม ก ล่ิ น
รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ หนา้ ๙๐ เพื่อให้นักเรียนใช้สายตาในการมอง และการสังเกต ใช้มือและอวัยวะทางกายสัมผัส จับต้องส่ิงต่างๆ เพื่อให้รู้ว่านุ่มหรือแข็ง ขรุขระหรือเรียบ การรับรู้กล่ิน ต่าง ๆ ว่า หอมหรือเหม็น ด้วยการใช้จมูก ในการดมกล่ิน การฟังเสียงต่าง ๆ ว่าไพเราะน่าฟัง หรอื เสยี งดังรบกวน ด้วยการใช้ประสาทสมั ผัสทางหู และการ รับ รู้เกี่ ย ว กั บ รส ช าติ อ าห าร ต่ าง ๆ ว่ า ห ว าน เป รี้ย ว เค็ ม ข ม ห รือ เฝ่ื อ น ด้ วย ก าร ใช้ล้ิ น ชิ ม ร ส การเรียนรู้ด้วยประสาทสัมผัสท้ังห้าเป็นการสารวจส่ิงต่าง ๆ เพ่ือเป็นพ้ืนฐานในการพัฒ นาทักษะ ท า ง ด้ า น ส ติ ปั ญ ญ า เช่ น ทั ก ษ ะ พื้ น ฐ า น ท า ง ค ณิ ต ศ า ส ต ร์ ทั ก ษ ะ พื้ น ฐ าน ท าง วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ ทักษะทางภาษา เป็นต้น ๓.๖ ข เด็กมีพัฒนำกำรด้ำนภำษำและกำรสื่อสำร โรงเรียน อนุบาลเทศบาลน ครภูเก็ตได้ส่งเสริมให้นักเรียน สามารถใช้ภาษาสื่อสาร ได้เหมาะสมกับวัยโดยสามารถบอกเล่า บอกความต้องการ ความรู้สึกของตนเองและถ่ายทอดเร่ืองราว ให้ผู้อ่ืนเรียนรู้ และเข้าใจได้เหมาะสมกับวัย ดังน้ี การร่วมศึกษาและขอบข่ายการพัฒนาทักษะการส่ือสารอย่าง เหมาะสม เช่น กิ จก รรมห น้าเสาธง กิ จก รรมภ าษ าอั งก ฤษ วัน ละคา ก ารจัดท าแผน ป ฏิ บัติก าร และก าหน ดกิ จก ร รม เสริม สร้างพั ฒ น าก าร ด้ าน สติ ปัญ ญ าใน ด้าน การใ ช้ภ าษ าเพื่ อ ก ารส่ื อ สารอ ย่างเหม าะ สม จัดกิจกรรมเสริมสร้างทกั ษะทางภาษาเพอ่ื การสือ่ สารอย่างเหมาะสม เชน่ การนาเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรยี น การเล่า เรื่อ งจ าก ภ าพ ก าร เล่ า นิ ท าน โค รง ก าร กิ จ ก ร รม ที่ เก่ี ย ว ข้ อ งกั บ ก าร พั ฒ น าทั ก ษ ะ ก าร สื่ อ ส าร ได้อย่างเหมาะสม ได้แก่โครงการส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมรักลูกอ่านให้ลูกฟัง กิจกรรมเล่าข่าวเช้านี้ กิ จ ก ร ร ม ย อ ด นั ก อ่ าน กิ จ ก ร ร ม Outdoor Speaking กิ จ ก ร ร ม ภ าษ าอั ง ก ฤ ษ วั น ล ะ ค า เป็ น ต้ น จัดกิ จกรรมก ารเรียน รู้เพื่ อฝึกทัก ษะก ารสื่ อ สารอย่างเหมาะสมท้ังก ารพู ด ก ารฟั ง การเล่าเรื่อ ง เล่าข่าวเหตุการณ์ การอภิปราย การแสดงความคิดเห็น การบอก อธิบายส่ิงเรียนรู้ท่ีค้นพบทั้งที่เป็นกิจกรรมใน ห้องเรียน และกิจกรรมเสริมหลักสูตร กิจกรรมหน้าเสาธงตอนเช้า เป็นต้น จัดกิจกรรมร่วมกับผู้ปกครอง เพื่อให้ความต่อเนื่องในการฝึกทักษะการส่ือสาร เช่น การให้นักเรียนและผู้ปกครองยืมหนังสือนิทาน ไป อ่าน ให้เด็ก ฟั ง และบัน ทึ กคาพูดนักเรียน เกี่ยวกั บนิทาน ท่ี ได้ฟั ง ลงใน บั น ทีกสาน สัมพั น ธ์บ้าน และโรงเรียน ๓.๗ ข เดก็ มีพัฒนำกำรด้ำนสงั คม คณุ ธรรม มวี นิ ัยและควำมเปน็ พลเมอื งดี โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ได้ส่งเสริมให้ครูจัดประสบการณ์การเรียนรู้แก่นักเรียน เพื่อให้นักเรียนมีความพร้อมทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สั งคม และสติปัญญา ผ่านกิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม ตามหน่วยบูรณาการ โดยจัดประสบการณ์การเรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ เปิดโอกาส ให้ นั ก เรีย น ได้ ล งมื อ ป ฏิ บั ติ จ ริงด้ ว ย ต น เอ ง แ ล ะ เลื อ ก ป ฏิ บั ติ กิ จ ก ร ร ม ต าม ค ว าม ถ นั ด ข อ งต น รจู้ ักการทางานเป็นทีม และมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อน กับครู และผู้ปกครอง การเล่นและทากิจกรรมร่วมกันเป็น การสร้างโอก าสท างการเรียน รู้ ให้เด็ก ได้ติดต่อ พู ดคุยกั น มีโอ ก าสได้แลก เปลี่ยน ความคิดเห็ น แบ่งปัน ประนีประนอม ตัดสินใจร่วมกัน การมีส่วนร่วมในการทากิจกรรมให้บรรลุจุดมุ่งหมายร่วมกัน และยังต้องเรียนรู้การยอมรับความคิดเห็นของผู้อ่ืน เป็นผู้นา ผู้ตามท่ีดี ทั้งยังเป็นการฝึกให้นักเรียน มีความรับผิดชอบต่องานของตนเองและงานกลุ่ม ซึ่งจะทาให้เด็กได้รู้จักการปรับตัวในการอยู่ร่วมกัน ในกลุม่ อย่างมีความสุข นอกจากน้ี ทางโรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต ยังได้ดาเนินการส่งเสริมพัฒนาการ ให้นักเรียนมีทักษะในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ตามโครงการ เช่น โครงการส่งเสริมการศึกษาศิลปวัฒนธรรม แหล่งเรียนรู้ และภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นการจัดประสบการณ์ให้นักเรียนได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ
รายงานการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ หนา้ ๙๑ ด้วยกระบวนการกลุ่ม โดยนานักเรียนไปเรียนรู้จากประสบการณ์จริงตามแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต นกั เรียนได้เรียนรู้ผ่านการใชป้ ระสาทสมั ผัสท้ังห้า ด้วยการลงมือทากิจกรรมด้วยตนเอง ส่งเสริมให้นักเรียนสังเกต สารวจ สร้างสรรค์ กระตุ้นให้เกิดความกระตือรือร้นท่ีจะเรียนรู้ ได้สารวจ เล่น ทดลอง ค้นพบด้วยตนเอง ได้มีโอกาสคิดแก้ปัญ หาเลือกตัดสินใจใช้ภาษาสื่อความหมาย คิดริเร่ิมสร้างสรรค์ เพ่ือให้นักเรียน เล่นทากิจกรรมร่วมกับเพ่ือน ยอมรับฟังความคิดเห็น และเป็นผู้นา ผู้ตามท่ีดีสามารถทากิจกรรมร่วมกับเพื่อน และผู้อืน่ ได้อยา่ งมีความสุข มุ่ ง เน้ น ท่ี จ ะ ให้ นั ก เรี ย น เติ บ โต เป็ น ผู้ มี ม า ร ย า ท ง า ม ส า ม า ร ถ ป ฏิ บั ติ ต น ไ ด้ อ ย่ า ง เห ม า ะ ส ม ตามวฒั นธรรมไทย คณะครจู ึงได้วางแผนจัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น โครงการงามอย่างไทย การประกวดมารยาทไทย โครงการวันสาคัญทางศาสนา กิจกรรมส่งเสริมอัตลักษณ์นักเรียน ท.6 การประกวดห้องเรียนระเบียบวินัยดีเด่น กจิ กรรมค่ายพุทธบตุ รน้อย โครงการวันสาคัญทางศาสนา นกั เรียนได้เรยี นรู้การไหว้ การขอโทษ และการขอบคุณ รูจ้ กั การปฏิบตั ิตนต่อพระสงฆ์ และผู้ใหญ่ตามแต่โอกาส นักเรียนทุกคนได้ร่วมทากจิ กรรม นักเรียนสามารถปฏิบัติ ตนได้อย่างเหมาะสม นับเป็นความภาคภูมิใจของนักเรียน ผู้ปกครองและโรงเรียนที่มีนักเรียนท่ีมีคุณภาพเป็นที่ ปรากฏแกช่ มุ ชน โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครภูเก็ต มุ่งเน้นเสริมสร้างวินัยในตนเองให้เด็กได้รับการเรียนรู้ ระเบี ยบวินั ยใน สังคม เช่น ก ารรู้จัก รอคอ ย ก ารทางาน ร่วมกั บผู้อื่ น ช่วยเห ลือ กั น ไม่เอาเปรียบ รู้จักแบ่งปัน เสียสละ มีน้าใจ เอื้อเฟื้อเพ่ือแผ่ กล้าแสดงความคิดเห็น ยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น ร่วมกันรับผิดชอบงานกลุ่ม เป็นผู้นาผู้ตามท่ีดี การเก็บของที่ใช้แล้วให้เป็นระเบียบ รวมไปถึงการ อดทน การเข้าแถวตามลาดับก่อนหลัง ต้ังใจทางานท่ีได้รับผิดชอบและคอยช่วยเหลือตามความเหมาะสม ซ่ึ ง ก า ร เส ริ ม ส ร้ า ง วิ นั ย ค ว า ม รั บ ผิ ด ช อ บ แ ล ะ ก า ร ฝึ ก เก่ี ย ว กั บ ก า ร ป ฏิ บั ติ ต า ม ข้ อ ต ก ล ง น อ ก จ าก ก าร จั ด ป ร ะ ส บ ก าร ณ์ ใน ห้ อ งเรีย น แ ล้ ว มี วิ ธี ก าร ส่ ง เส ริ ม เพ่ื อ ให้ เด็ ก เกิ ด ก าร เรีย น รู้ และนาไปใช้ใน ชีวิตประจาวัน ได้ดังนี้ โครงการลูกเสือน้อย กิจกรรมสายตรวจประหยัดพลังงาน กจิ กรรมห้องเรยี นระเบียบวนิ ัยดีเดน่ กิจกรรมสภาจ๋ิวส่งเสริมประชาธปิ ไตยในโรงเรียน ผลกำรดำเนนิ กำร ผลกำรประเมนิ ตวั บง่ ชม้ี ำตรฐำน ๐ ๑ ๒ ๓ รวม ตวั บ่งชี้ ๓.๑ ข เดก็ มีกำรเจริญเตบิ โตสมวยั และมีสขุ นิสัยที่เหมำะสม ๙ ๓.๑.๑ เด็กมีน้าหนกั เหมาะสมกบั วัยและสูงดสี มส่วน ซึ่งมีบนั ทึกเปน็ รายบุคคล ๓.๑.๒ เดก็ มีสุขนสิ ัยท่ดี ใี นการดแู ลสุขภาพตนเองตามวัย ๐ ๑ ๒ ๓ รวม ๓.๑.๓ เด็กมสี ุขภาพชอ่ งปากดี ไม่มีฟนั ผุ ๓ ตัวบง่ ช้ี ๓.๒ ข เด็กมพี ฒั นำกำรสมวยั ๐ ๑ ๒ ๓ รวม ๓.๒.๑ เด็กมพี ฒั นาการสมวัยโดยรวม ๕ ดา้ น ๖ ตวั บ่งช้ี ๓.๓ ข เดก็ มพี ัฒนำกำรด้ำนกำรเคล่ือนไหว ๓.๓.๑ เดก็ มีพฒั นาการด้านการใชก้ ล้ามเน้ือมดั ใหญ่ สามารถเคลือ่ นไหว และทรงตวั ได้ตามวยั ๓.๓.๒ เด็กมพี ฒั นาการดา้ นการใชก้ ล้ามเน้อื มดั เล็ก และการประสานงาน ระหว่างตากับมอื ตามวัย
รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ หน้า ๙๒ ตวั บ่งชม้ี ำตรฐำน ๐ ผลกำรประเมิน ๐ ๑ ๒ ๓ รวม ตวั บง่ ช้ี ๓.๔ ข กำรส่งเสรมิ พฒั นำกำรดำ้ นอำรมณ์ จิตใจ สงั คม ปลูกฝัง ๐ คณุ ธรรม และควำมเปน็ พลเมืองดี (ตงหอ่ ) ๙ ๓.๔.๑ เด็กแสดงออก รา่ เรงิ แจ่มใส รู้สึกม่ันคงปลอดภัย แสดงความรู้สกึ ที่ดีตอ่ ตนเองและผู้อื่นไดส้ มวยั ๓.๔.๒ เด็กมคี วามสนใจ และร่วมกจิ กรรมตา่ ง ๆ อยา่ งสมวยั ซึง่ รวม ๑ ๒ ๓ รวม การเล่นการทางาน ศลิ ปะดนตรี กฬี า ๖ ๓.๔.๓ เด็กสามารถอดทน รอคอย ควบคมุ ตนเอง ยบั ยง้ั ชั่งใจ ทาตาม ขอ้ ตกลงคานงึ ถึงความรูส้ กึ ของผอู้ ่ืน มกี าลเทศะ ปรับตวั เขา้ กับ สถานการณ์ใหมไ่ ด้สมวยั ตวั บ่งช้ี ๓.๕ ข กำรสง่ เสริมเด็กในระยะที่เปลี่ยนผ่ำนใหป้ รบั ตัวสกู่ ำร ๑ ๒ ๓ รวม เชอ่ื มต่อในข้นั ถดั ไป ๑๒ ๓.๕.๑ เด็กบอกเกย่ี วกบั ตัวเด็ก บุคคล สถานทแ่ี วดล้อมธรรมชาติ และส่ิง ตา่ ง ๆ รอบตัวเด็กได้สมวัย ๓.๕.๒ เดก็ มพี ืน้ ฐานดา้ นคณิตศาสตร์ สามารถสงั เกต จาแนก และ เปรยี บเทยี บ จานวน มิติสมั พนั ธ์ (พ้ืนท่/ี ระยะ) เวลา ไดส้ มวัย ๓.๕.๓ เดก็ สามารถคดิ อย่างมีเหตผุ ล แก้ปัญหาได้สมวัย ๓.๕.๔ เดก็ มีจนิ ตนาการ และความคิดสรา้ งสรรคท์ ่ีแสดงออกไดส้ มวยั ๓.๕.๕ เด็กมีความพยายาม มุง่ ม่ันตัง้ ใจ ทากิจกรรมให้เสรจ็ สมวัย ตวั บ่งช้ี ๓.๖ ข กำรสง่ เสริมเด็กในระยะที่เปล่ยี นผ่ำนใหป้ รับตัวสูก่ ำร เชอ่ื มตอ่ ในขัน้ ถดั ไป ๓.๖.๑ เด็กสามารถฟัง พูด จับใจความ เล่า สนทนา และสื่อสารไดส้ มวยั ๓.๖.๒ เด็กมที ักษะในการดูรูปภาพ สัญลกั ษณ์ การใชห้ นงั สอื รู้จัก ตัวอกั ษร การตดิ เขียนคา และการอ่านเบ้ืองต้นได้สมวัย และ ตามลาดับพัฒนาการ ๓.๖.๓ เด็กมีทกั ษะการวาด การขดี เขยี นตามลาดับขัน้ ตอนพฒั นาการ สมวยั นาไปสกู่ ารขดี เขียนคาที่คนุ้ เคย และสนใจ ๓.๖.๔ เด็กมที ักษะในการสือ่ สารอยา่ งเหมาะสมตามวัย โดยใช้ภาษาไทย เปน็ หลักและมีความคนุ้ เคยกบั ภาษาอื่นด้วย
รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ หนา้ ๙๓ ตวั บง่ ชีม้ ำตรฐำน ๐ ผลกำรประเมิน ๑ ๒ ๓ รวม ตวั บ่งชี้ ๓.๗ ข กำรส่งเสริมพัฒนำกำรด้ำนอำรมณ์ จิตใจ สงั คม ปลกู ฝัง คุณธรรม และควำมเปน็ พลเมอื งดี (ตงห่อ) ๑๒ ๓.๗.๑ เด็กมปี ฏิสมั พนั ธก์ บั ผู้อนื่ ได้อย่างสมวัย และแสดงออกถึงการ ยอมรบั ความแตกตา่ งระหว่างบคุ คล ๓.๗.๒ เด็กมีความเมตตา กรณุ า มวี นิ ยั ซื่อสตั ย์ รบั ผดิ ชอบต่อตนเอง ๖๖ คะแนน และสว่ นรวมและมีคา่ นิยมท่ีพงึ ประสงค์สมวยั ๑๐๐ - ขอ้ ๓.๗.๓ เด็กสามารถเล่น และทางานร่วมกับผอู้ น่ื เปน็ กลุ่ม เป็นได้ท้ังผนู้ า และผู้ตามแกไ้ ขขอ้ ขัดแย้งอยา่ งสร้างสรรค์ ๓.๗.๔ เดก็ ภาคภมู ิใจที่เป็นสมาชกิ ท่ดี ีในครอบครัว ชมุ ชน สถานพัฒนา เด็กปฐมวยั และตระหนกั ถึงความเป็นพลเมอื งดขี องประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน มำตรฐำนด้ำนที่ ๓ มคี ะแนนรวม มาตรฐานด้านที่ ๓ มีคะแนนรวม คิดเปน็ รอ้ ยละ = คะแนนรวม x ๑๐๐ ๖๖ มาตรฐานด้านที่ ๓ มีจานวนตัวบง่ ช้ี ท่ตี อ้ งปรับปรงุ ข้อมูล หลักฐำน เอกสำรเชิงประจกั ษ์ทีส่ นบั สนนุ ผลกำรประเมินตนเอง ๑. หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนบุ าลเทศบาลนครภเู กต็ ตามหลักสตู รการศกึ ษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ (ฉบับปรับปรงุ ๒๕๖๓) ๒. แผนการจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ ๓. บนั ทกึ ผลการจดั ประสบการณ์ แบบประเมินผลหลงั จดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ ๔. สมุดบนั ทกึ การเจริญเตบิ โตของเดก็ ๕. กิจกรรมชง่ั น้าหนัก วัดส่วนสูง ๖. โครงการส่งเสริมสขุ ภาพในโรงเรียน ๗. แบบประเมนิ กิจวัตรประจาวัน ๘. กจิ กรรมหนูนอ้ ยสขุ ภาพดี ๙. กิจกรรมหนนู ้อยรักษฟ์ นั ๑๐. กจิ กรรมจดั การเรียนการสอนว่ายน้า ๑๑. กจิ กรรมจัดการเรียนการสอนคอมพวิ เตอร์ ๑๒. โครงการจดั การเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ๑๓. โครงการหนนู ้อยรกั การอา่ น ๑๔. โครงการจดั การเรยี นการสอนดนตรี ๑๕. โครงการลกู เสอื น้อย ๑๖. โครงการกจิ กรรมหลังเลิกเรียน
รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ หนา้ ๙๔ ๑๗. โครงการส่งเสริมความเปน็ เลิศตามความถนัดและสนใจ ๑๘. โครงการจดั การเรยี นการสอนวิทยาศาสตร์สาหรบั เดก็ ปฐมวยั ๑๙. โครงการงามอยา่ งไทย ๒๐. โครงการสง่ เสรมิ คุณธรรมจรยิ ธรรม และคณุ ลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ ๒๑. โครงการวนั สาคญั ของชาติ ๒๒. โครงการวนั สาคญั ทางศาสนา ๒๓. โครงการโรงเรียนพอเพยี งท้องถน่ิ ๒๔. แฟม้ สะสมผลงานเด็ก ๒๕. สมดุ รายงานประจาตัวเดก็ จุดเด่น ๑. เด็กมสี ุขนิสยั สุขภาพกายและสุขภาพจิตดี ๒. เดก็ มีความสามารถดา้ นศิลปะ ดนตรี กีฬา และมคี วามกลา้ แสดงออก ๓. เด็กมีความกลา้ แสดงออก รา่ เรงิ แจ่มใส ๔. เดก็ มปี ฏิสัมพนั ธก์ ับผู้อน่ื ได้อยา่ งสมวยั จดุ ทค่ี วรพฒั นำ ๑. สง่ เสริมเด็กใหม้ ีระเบียบวินยั รจู้ กั อดทนรอคอย ๒. สง่ เสริมใหเ้ ดก็ ไหวส้ วย มีมารยาท เหมาะสมตามกาลเทศะ ๓. พัฒนาเดก็ ใหม้ ที ักษะพนื้ ฐานทางดา้ นคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ ๔. พัฒนาเดก็ ให้มที ักษะด้านการฟงั พดู เลา่ สนทนาและสอื่ สารได้สมวัย ๕. พัฒนาเด็กใหม้ ีความพร้อมในการสอบเข้าเรียนตอ่ ป.๑ ๖. ส่งเสรมิ ให้เด็กมคี วามรูแ้ ละวธิ ีปฏิบัติตนใหป้ ลอดภัยเกย่ี วกับโรคติดเช้ือ COVID - 19
รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ หน้า ๙๕ สรปุ ผลกำรประเมินในภำพรวม ผลกำรประเมนิ ตนเองของสถำนศึกษำ ระดับกำรศึกษำปฐมวยั อยใู่ นระดบั ดีมำก จากผลการดาเนนิ งานโครงการและกจิ กรรมต่าง ๆ ส่งผลใหส้ ถานศึกษาจดั การพัฒนาคุณภาพการศึกษา ประสบผลสาเร็จตามที่ต้ังเป้าหมายไว้ในแต่ละมาตรฐาน จากผลการประเมินสรุปว่า อยู่ในระดับคุณภาพ ดีมาก ท้งั น้ี เพราะ มาตรฐานท่ี 1 การบริหารจัดการ อย่ใู นระดับคณุ ภาพ ดีมาก มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการดแู ลจัดประสบการณ์เรียนรู้ และเลน่ อยู่ในระดับคุณภาพ ดีมาก มาตรฐานท่ี 3 คุณภาพเดก็ ปฐมวัย อยู่ในระดับคุณภาพ ดมี าก
รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ หน้า ๙๖ ส่วนท่ี 3 สรปุ ผล แนวทำงกำรพัฒนำ และควำมตอ้ งกำรกำรช่วยเหลอื ผลการประเมินตนเองของสถานศึกษาถือเป็นข้อมูลสารสนเทศสาคัญ ท่ีส ถานศึกษา จะตอ้ งนาไปวเิ คราะห์ สังเคราะห์ เพ่ือสรุปนาไปส่กู ารเชือ่ มโยงหรอื สะทอ้ นภาพความสาเรจ็ กบั แผนพฒั นาคณุ ภาพ การจัดการศึกษาของสถานศึกษา และนาไปใช้ในการวางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ดังน้ัน จากผลการดาเนินงานของสถานศึกษา สามารถสรุปผลการประเมินในภาพรวมของจุดเด่น จุดควรพัฒนา ของแตล่ ะมาตรฐานพร้อมทั้งแนวทางการพัฒนาในอนาคตเพ่อื ให้ได้มาตรฐานทีส่ ูงข้ึนและความต้องการช่วยเหลือ ดังนี้ ระดบั กำรศกึ ษำปฐมวัย สรุปผล จุดเด่น จุดควรพฒั นำ กำรบริหำรจดั กำร กำรบรหิ ำรจดั กำร ๑. สถานศกึ ษาจดั ทาแผนพฒั นาตามบรบิ ทของ ๑. จดั สภาพแวดลอ้ มโดยใช้มาตรการเวน้ ระยะหา่ งทางสังคม สถานศึกษาด้วยกระบวนการมสี ่วนร่วม (Social Distancing) เพื่อปอ้ งกนั โรคตดิ เชอื้ ไวรสั ๒. สถานศึกษามีการพัฒนาหลักสูตรสถานศกึ ษา COVID – 9 อย่างต่อเนอ่ื ง ๒. พัฒนาครูใหม้ ีทักษะในการออกแบบการจดั ประสบการณ์ ๓. สถานศกึ ษามบี ุคลากรทมี่ คี วามสามารถเฉพาะดา้ น การเรยี นรู้ด้วยชมุ ชนการเรียนรู้ทางวชิ าชีพ PLC เช่น โขน นาฏศิลป์ คอมพิวเตอร์ ภาษาอังกฤษ ๓. จัดหาครูท่ีมีความเชย่ี วชาญทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์ ศิลปะ ๔. สภาพแวดล้อมท้ังภายในและภายนอกสะอาดตา ๔. จดั ทาหลักสตู รเพม่ิ เติมโรคติดเช้ือไวรสั COVID – 9 นา่ ดู น่าอยู่ น่าเรียน และการปอ้ งกันโรคติดเชอื้ ในเดก็ ๕. มีสือ่ เทคโนโลยีสารสนเทศเพียงพอต่อการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ กระบวนกำรดูแลจัดประสบกำรณ์เรยี นรู้ และเล่น ๖. มแี หล่งเรยี นรภู้ ายในโรงเรียนท่ีเอื้อต่อการจัด ๑. จัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ทคี่ านงึ ถึงความจาเปน็ และ ประสบการณ์การเรียนรู้ เช่น ห้องคอมพิวเตอร์ ความต้องการพิเศษของเดก็ เปน็ รายบุคคล หอ้ งวทิ ยาศาสตร์ปฐมวยั หอ้ งโขน นาฏศลิ ป์ ๒. ปรับปรุงระบบการเกบ็ ข้อมูลดา้ นสุขภาพให้สอดคล้อง ห้องศนู ย์การเรยี นรปู้ ฐมวัย เปน็ ตน้ กับมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ๓. จดั กจิ กรรมทีส่ ง่ เสริมใหเ้ ด็กมีความกล้าพูดกลา้ กระบวนกำรดูแลจดั ประสบกำรณเ์ รยี นรู้ และเล่น แสดงออก การพดู นาเสนอผลงาน การเลา่ นิทาน ๑. ครูจัดทาแผนการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ มกี าร ๔. พัฒนาทกั ษะดา้ นการอา่ นและการเขียน เพิ่มเตมิ เพ่ือให้ ประเมนิ ผลหลงั การจัดกิจกรรมทกุ หน่วยการเรยี นรู้ เดก็ มีความพรอ้ มในการสอบเขา้ เรียนตอ่ ในระดับช้นั ๒. จดั พ้ืนท่ี มมุ การเรยี นรู้ท่ีเหมาะสมเออื้ ตอ่ การเรยี นรู้ ประถมศกี ษาปที ี่ ๑ ๓. ครูจดั ทาค่มู อื และผลิตส่อื เทคโนโลยี และนวัตกรรม ทางการศึกษาผลติ และใช้สอื่ การสอนท่ีหลากหลาย ๔. ครูมกี ารประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริง ครอบคลุมทกุ ดา้ นด้วยวธิ กี ารทห่ี ลากหลายอย่าง ต่อเนื่องมีการรายงานผลใหผ้ ้ปู กครองทราบ และให้ การชว่ ยเหลือ แกป้ ัญหาเด็กทม่ี ีพัฒนาการล่าช้า
รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ หนา้ ๙๗ จดุ เด่น จดุ ควรพัฒนำ กระบวนกำรดแู ลจดั ประสบกำรณ์เรียนรู้ และเล่น (ตอ่ ) กระบวนกำรดแู ลจัดประสบกำรณ์เรยี นรู้ และเล่น (ต่อ) ๕. จดั อาหารใหก้ บั เดก็ ครบ ๕ กล่มุ เมนอู าหาร 5. พฒั นาแผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรใู้ ห้มี หลากหลาย ไม่ซา้ กนั ในรอบ ๑ เดือน และแจง้ รายละเอยี ดของการจัดประสบการณ์การเรยี นรเู้ กย่ี วกบั เมนูอาหารให้ผปู้ กครองทราบในแตล่ ะสับดาห์ ตัวเดก็ บคุ คล สถานท่ี สิ่งต่าง ๆ และธรรมชาตริ อบตวั ทางเฟสบุคโรงเรยี น 6. ออกแบบการจัดประสบการณก์ ารเรยี นร้ทู ่สี ่งเสริมให้ ๖. มีการตรวจสขุ ภาพอนามยั คัดกรองสุขภาพเบ้ืองตน้ เดก็ มที กั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยการ กอ่ นนักเรยี นเขา้ โรงเรยี น และกอ่ นเข้าหอ้ งเรยี น 7. บรู ณาการตามหน่วยการเรยี นรเู้ พื่อส่งเสริมให้เดก็ มี อยา่ งตอ่ เน่ือง ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ๗. มกี ารจัดสภาพแวดล้อม ห้องวทิ ยาศาสตรป์ ฐมวยั 8. ออกแบบการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ทสี่ ่งเสริมให้ เพ่อื จัดกจิ กรรมส่งเสริมใหเ้ ดก็ มที ักษะกระบวนการ เดก็ มีความกลา้ แสดงออกอยา่ งเหมาะสม คดิ ทางวทิ ยาศาสตร์ มเี จตคตทิ ่ีดีต่อการเรียน 9. กบั กาลเทศะตามวยั วทิ ยาศาสตร์ 10. พัฒนาครใู ห้มคี วามสามารถในการจดั ประสบการณเ์ พ่ือ ๘. มสี ื่อหนังสอื นทิ านที่ส่งเสริมให้เด็กรกั การอา่ นใน พฒั นาทกั ษะสมอง EF ปริมาณที่เพยี งพอทงั้ ในมุมหนังสอื ในหอ้ งเรียน และหนังสอื ในห้องสมุดโรงเรยี น ๙. จดั กจิ กรรมและประสบการณด์ ้านคณติ ศาสตรแ์ ละ วทิ ยาศาสตร์เบ้อื งตน้ ผ่านกจิ กรรมบูรณาการ วทิ ยาศาสตร์ และการสอนแบบโครงงาน Project Approach ๑๐. มกี ารจัดกจิ กรรมทส่ี ง่ เสรมิ ใหเ้ ด็กมีความแจม่ ใส รา่ เรงิ แสดงอารมณ์ไดอ้ ย่างเหมาะสม ๑๑. จดั ประสบการณ์ทางสุนทรียภาพ เช่น ดนตรี โขน นาฏศลิ ป์ ภาษาอังกฤษ ไดอ้ ย่างหลากหลายโดยมี ครูผู้เช่ียวชาญเป็นผจู้ ดั ประสบการณ์ คุณภำพของเด็ก คุณภำพของเดก็ ๑. เด็กมสี ุขนสิ ัย สขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ ดี ๑. สง่ เสรมิ เดก็ ให้มีระเบยี บวนิ ัย รู้จักอดทนรอคอย ๒. เดก็ มีความสามารถด้านศิลปะ ดนตรี กฬี า และมี ๒. สง่ เสรมิ ใหเ้ ด็กไหว้สวย มมี ารยาท เหมาะสมตาม ความกลา้ แสดงออก กาลเทศะ ๓. เดก็ มคี วามกลา้ แสดงออก ร่าเรงิ แจ่มใส ๓. พฒั นาเดก็ ใหม้ ที ักษะพนื้ ฐานทางด้านคณิตศาสตร์ ๔. เดก็ มีปฏสิ ัมพนั ธ์กับผอู้ ืน่ ได้อย่างสมวยั วิทยาศาสตร์ ๔. พัฒนาเด็กให้มที ักษะด้านการฟัง พูด เล่า สนทนาและ สอ่ื สารได้สมวัย ๕. พัฒนาเด็กให้มีความพร้อมในการสอบเขา้ เรยี นต่อ ป.๑ ๖. สง่ เสรมิ ให้เดก็ มคี วามรู้และวธิ ปี ฏิบัตติ นใหป้ ลอดภยั เก่ยี วกับโรคตดิ เชอ้ื COVID - 19
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130