ก า ร ตี ว า ม จากเพลง อีสาน จั ด ทํา โ ด ย เ ม ธ า สิ ท ธิ ภู ด่ า น งั ว ร หั ส 6 2 0 4 0 1 0 2 2 2 1
การตคี วาม หมายถงึ การอานเพ่อื ใหเ ขาใจความหมาย ความคิดสําคัญของ เร่อื ง ความรสู ึก และอารมณสะเทอื นใจจากบทประพันธ ซ่ึงอาจเขาใจไดมากน อยลึกซ้งึ เพียงใด ตรงกันกับผปู ระพันธห รอื ไม หรือผูอานคนอ่ืน ๆ หรอื ไม ข้ึนอยกู บั ความสามารถและประสบการณเดิมและความรสู ึกของผอู านแตล ะคน การตคี วามของทกุ คนอาจไมต รงกนั เสมอไป โดยในกระบวนการอานเพ่อื ตีความนัน้ ผูอ านจะตอ งใชค วามรู ความสามารถในการแปลความ จับใจความสาํ คญั การสรุปความ รวมทงั้ การเปรยี บ เทยี บ ความสมั พันธข องขอความ
ขนั ตอนของการอ่านตีความ การอ่านตีความนนั มกั นาํ ไปใชใ้ นงานเขยี นทีมคี วามหมายซอ่ นไวร้ ะหวา่ งบรรทัด ผอู้ ่านต้อง ใสใ่ จกับถ้อยคําทีผเู้ ขยี นเลือกสรรมาใช้ 1. สาํ รวจงานเขยี นนนั ดว้ ยการอ่านอยา่ งครา่ ว ๆ วา่ งานเขยี นนนั เกียวกับเรอื งใด เปนรอ้ ยแก้ว หรอื รอ้ ยกรอง หรอื งาน เขยี นประเภทใด เชน่ เปนคําประพนั ธ์ นวนยิ าย เรอื งสนั บทความ กวนี พิ นธ์ หรอื เปนงานเขยี นสนั ๆ แสดงคติสอนใจ 2.อ่านอีกครงั อยา่ งละเอียดเพอื พจิ ารณาเนอื หาวา่ มใี จความสาํ คัญ กล่าวถึงเรอื งใด มขี อ้ ความ สว่ นใดกล่าวถึงขอ้ เท็จจรงิ สว่ นใดเปนการแสดงทรรศนะ ของผเู้ ขยี น สว่ นใดเปนการแสดงอารมณค์ วามรสู้ กึ
3. วเิ คราะหถ์ ้อยคํา อาจมบี างคําทีมคี วามหมายเฉพาะ เชน่ เปนสญั ลักษณ์ หรอื มถี ้อยคําทีเปน การกล่าวเชงิ เปรยี บเทียบ ดว้ ยการใชภ้ าพพจน์ หรอื เปนสาํ นวนโวหาร เปนคําทีมคี วามหมายหลาย นยั ฯลฯ ทังนเี พอื ใหผ้ อู้ ่านใชค้ วามหมายจากถ้อยคําในบรบิ ทนนั มาพจิ ารณา ประกอบเพอื ใหเ้ ขา้ ใจความหมาย ไดม้ ากชดั เจนยงิ ขนึ 4. พจิ ารณารสของคําเพอื ประมวลหานาํ เสยี งของผเู้ ขยี น อาจเปนนาํ เสยี งเชงิ สงั สอน นาํ เสยี งแสดงการประชดประชนั นาํ เสยี ง แสดงความภมู ใิ จ ยนิ ดี หรอื เศรา้ สลด เปนต้น นาํ เสยี งเหล่านจี ะสมั พนั ธก์ ับ จุดมุง่ หมายของผเู้ ขยี นทีต้องการสอื สารมาใหผ้ อู้ ่านพจิ ารณาใครค่ รวญหรอื คิดคล้อยตาม 5. สรปุ สารทีไดจ้ ากการตีความขอ้ เขยี นนนั ๆ การอ่านตีความ ผอู้ ่านจะ ต้องเขา้ ใจจุดประสงค์ สาร และนาํ เสยี งทีอยูใ่ นงานประพนั ธน์ นั เพอื ที จะไดเ้ ขา้ ใจความคิดเหน็ ประสบการณ์ จนิ ตนาการ ฯลฯ ของ ผเู้ ขยี นทีสง่ ผา่ นงานประพนั ธน์ นั การอ่านตีความควรตีความทัง 2 ดา้ น ควบค่กู ันไป คือ ตีความดา้ นเนอื หา และ ตีความดา้ นนาํ เสยี ง จงึ จะทําใหเ้ ขา้ ใจสารนนั ไดอ้ ยา่ งถ่องแท้ เชน่ “ ตํานาํ พรกิ ละลายแมน่ าํ ”
ภาษาไทยถินอีสาน หรอื ภาษาลาวอีสาน เปนการพฒั นาใน ท้องถินของภาษาลาวในประเทศไทย ผพู้ ูดในท้องทียงั คง ถือวา่ เปนภาษาลาว[4] รฐั บาลไทยยอมรบั ภาษานเี ปน สาํ เนยี งภาษาไทย ทังชาวไทยและลาวมคี วามเขา้ ใจรว่ มกัน ยาก เพราะแมว้ า่ จะมคี ํารว่ มเชอื สายในพจนานกุ รมกวา่ รอ้ ย ละ 80 ทังลาวและอีสานมรี ะดบั เสยี งวรรณยุกต์ทีต่างกัน มากและมกั ใชค้ ําจากภาษาไทย
ลักษณะเดน่ ของภาษาอีสานคือ จะมเี สยี งทีหว้ น พูดเรว็ มคี วามหลากหลายค่อนขา้ งมาก ในบางจงั หวดั จะมสี าํ เนยี งคล้ายภาษาลาว เพราะ อยูใ่ กล้กับประเทศลาว ในขณะทีบางจงั หวดั จะมกี ารผสมภาษาเขมร เนอื งจากใกล้ประเทศกัมพูชา บางครงั ในหมูบ่ า้ นติดกันก็อาจจะใชค้ นละ สาํ เนยี ง
ตัวอยา่ งการตีความจากเพลง ทดไดบ้ ท่ ดเวลาอีกแนไดบ้ ถ่ ือวา่ อ้ายขอ เสยี ววนิ าทีสดุ ท้ายทดเวลาบาดเจบ็ ใหอ้ ้าย ยนื ในสนามใจอยา่ ฟาวจบเกมไวหลายหรอื อยากเหน็ อ้ายตายแมนบ่ ตีความไดว้ า่ เน้อื เพลงท่อนขา้ งบนเปนการเปรยี บเปรย ความรกั เหมอื นกับการแขง่ ขนั ฟุตบอล ที แปลวา่ อยา่ พงึ จบกันเรว็ เกินไปไป หรอื อยา่ พงึ ทิงกันไป เพราะยงั ทําใจไมไ่ ด้
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: