Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E.Book สมุนไพรพื้นบ้าน (1).doc

E.Book สมุนไพรพื้นบ้าน (1).doc

Published by I KS, 2021-01-28 08:51:23

Description: E.Book สมุนไพรพื้นบ้าน (1).doc

Search

Read the Text Version

~ ​1​ ~ สมนุ ไพรพนื บา้ น    ประวัติความเปนมา  สมนุ ไพรคืออะไร                                            คําว่า  สมนุ ไพร  ตามพระราชบญั ญตั ิหมายความถึง  ยาทีได้ จากพชื   สตั ว์  และแร ่ ซงึ ยงั มไิ ด้มกี ารผสมปรุงหรอื แปรสภาพ  ( ยกเว้นการทําใหแ้ หง้ )  เชน่   พชื ก็ยงั คงเปนสว่ นของราก ลําต้น ใบ  ดอก  ผล  ฯลฯ  ยงั ไมไ่ ด้ผา่ นขนั ตอนการแปรรูปใดๆ  เชน่   การหนั   การบด การกลัน การสกัดแยก รวมทังการผสมกับสารอืนๆ แต่ใน ทางการค้า  สมนุ ไพรมกั จะถกู ดัดแปลงในรูปแบบ  ต่างๆ  เชน่   ถกู หนั เปนชนิ เล็กลง  บดใหเ้ ปนผง  อัดใหเ้ ปนแท่ง  หรอื ปอกเปลือก ออก  เปนต้น  เมอื พดู ถึงสมนุ ไพร  คนทัวๆ  ไปมกั จะนกึ ถึงเฉพาะ พชื ทีนาํ มาใชป้ ระโยชนใ์ นทางยา  ทังนเี พราะ  สตั ว์  และแรม่ กี าร ใชน้ อ้ ย จะใชเ้ ฉพาะในโรคบางชนดิ เท่านนั   ประวัติของการใชส้ มนุ ไพร  สมนุ ไพร  คือ  ของขวัญทีธรรมชาติมอบใหก้ ับมวล มนษุ ยชาติ  มนษุ ยเ์ รารูจ้ ักใชส้ มนุ ไพรในด้านการบาํ บดั รกั ษาโรค  นบั แต่ยุคนแี อนเดอรท์ ัลในประเทศอิรกั ปจจุบนั ทีหลมุ ฝงศพพบ ว่ามกี ารใชส้ มนุ ไพรหลายพนั ปมาแล้วทีชาวอินเดียแดงใน เมก็ ซโิ ก  ใชต้ ้นตะบองเพชร(Peyate) เปนยาฆา่ เชอื และรกั ษา บาดแผล  ปจจุบนั พบว่า  ตะบองเพชรมฤี ทธกิ ล่อมประสาท ประมาณ 4,000 ปมาแล้ว  ทีชาวสเุ มเรยี นได้เขา้ มาตั  งรกราก  ณ  บรเิ วณแมน่ าไทกรสิ และยูเฟรติสปจจุบนั   คือ  ประเทศอิรกั   ใช้ สมนุ ไพร  เชน่   ฝน  ชะเอม ไทม ์ และมสั ตารด์  และต่อมาชาวบาบิ โลเนยี น  ใชส้ มนุ ไพรเพมิ เติมจากชาวสเุ มเรยี น  ได้แก่ใบมะขาม แขก หญา้ ฝรนั ลกู ผกั ชี อบเชย และกระเทียม 

~ ​2​ ~ ในยุคต่อมาอียปิ ต์โบราณม ี อิมโฮเทป  แพทยผ์ มู้ ชี อื เสยี งซงึ ต่อมาได้รบั การยกยอ่ งใหเ้ ปนเทพเจ้าแหง่ การรกั ษาโรค  ของ อียปิ ต์ มตี ําราสมนุ ไพรทีเก่าแก่ คือ Papytus Ebers ซงึ เขยี นเมอื 1,600 ป  ก่อนครสิ ตศกั ราช  ซงึ ค้นพบโดยนกั อียปิ ต์วิทยาชาว เยอรมนั น ี ชอื Georg  Ebers ในตํารานไี ด้กล่าวถึงตําราสมนุ ไพร มากกว่า 800 ตํารบั   และสมนุ ไพรมากกว่า 700 ชนดิ   เชน่   ว่าน หางจระเข ้ เวอรม์ วูด(warmwood) เปปเปอรม์ นิ ต์  เฮนเบน( henbane) มดยอบ,  hemp  dagbane ละหงุ่ mandrake เปนต้น  รูปแบบในการเตรยี มยาในสมยั นนั   ได้แก่  การต้ม  การชง  ทําเปน ผง กลันเปนเมด็ ทําเปนยาพอก เปนขผี งึ   นอกจากนยี งั พบว่าชาติต่างๆ  ในแถบยุโรปและแอฟรกิ า  มี หลักฐานการใชส้ มนุ ไพร  ตามลําดับก่อนหลังของการเรมิ ใช้ สมนุ ไพร  คือ  หลังจากสมนุ ไพรได้เจรญิ รุง่ เรอื งในอียปิ ต์แล้ว  ก็ได้ มกี ารสบื ทอดกันมา  เชน่   กรกี   โรมนั   อาหรบั   อิรกั   เยอรมนั   โปรตเุ กส  สวีเดน  และโปแลนด์สว่ นในแถบเอเซยี   ตามบนั ทึก ประวัติศาสตรพ์ บว่ามกี ารใชส้ มนุ ไพรทีอินเดียก่อน  แล้วสบื ทอด มาทีจีน มะละกา และประเทศไทย  ประโยชน์ของพชื สมนุ ไพร  1. สามารถรกั ษาโรคบางชนดิ ได้ โดยไมต่ ้องใชย้ าแผนปจจุบนั   ซงึ บางชนดิ อาจมรี าคาแพง และต้องเสยี ค่าใชจ้ ่ายมาก อีก ทังอาจหาซอื ได้ยากในท้องถินนนั   2. ใหผ้ ลการรกั ษาได้ดีใกล้เคียงกับยาแผนปจจุบนั และให้ ความปลอดภัยแก่ผใู้ ชม้ ากกว่าแผนปจจุบนั   3. สามารถหาได้ง่ายในท้องถินเพราะสว่ นใหญไ่ ด้จากพชื ซงึ มี อยูท่ ัวไปทังในเมอื งและ ชนบท  มรี าคาถกู สามารถประหยดั ค่าใชจ้ ่ายในการซอื ยาแผน ปจจุบนั ทีต้องสงั ซอื จากต่าง ประเทศเปนการลดการขาด ดลุ ทางการค้า 

~ 3​ ​ ~ 4. ใชเ้ ปนยาบาํ รุงรกั ษาใหร้ า่ งกายมสี ขุ ภาพแขง็ แรง  5. ใชเ้ ปนอาหารและปลกู เปนพชื ผกั สวนครวั ได้ เชน่ กะเพรา  โหระพา ขงิ ขา่ ตําลึง  6. ใชใ้ นการถนอมอาหารเชน่ ลกู จันทร์ ดอกจันทรแ์ ละกานพล ู 7. ใชป้ รุงแต่ง กลิน สี รส ของอาหาร เชน่ ลกู จันทร์ ใชป้ รุงแต่ง กลินอาหารพวก ขนมปง เนย ไสก้ รอก แฮม เบคอน  8. สามารถปลกู เปนไมป้ ระดับอาคารสถานทีต่าง ๆ ใหส้ วยงาม  เชน่ คนู ชุมเหด็ เทศ  9. ใชป้ รุงเปนเครอื งสาํ อางเพอื เสรมิ ความงาม เชน่ ว่านหาง จระเข้ ประคําดีควาย  10. ใชเ้ ปนยาฆา่ แมลงในสวนผกั , ผลไม้ เชน่ สะเดา ตะไคร ้ หอม ยาสบู   11. เปนพชื ทีสามารถสง่ ออกทํารายได้ใหก้ ับประเทศ เชน่   กระวาน ขมนิ ชนั เรว่   12. เปนการอนรุ กั ษ์มรดกไทยใหป้ ระชาชนในแต่ละท้องถิน  รูจ้ ักชว่ ยตนเองในการ นาํ พชื สมนุ ไพรในท้องถินของตนมา ใชใ้ หเ้ กิดประโยชนต์ ามแบบแผนโบราณ  13. ทําใหค้ นเหน็ คณุ ค่าและกลับมาดําเนนิ ชวี ิตใกล้ชดิ ธรรมชาติยงิ ขนึ   14. ทําใหเ้ กิดความภมู ใิ จในวัฒนธรรม และคณุ ค่าของความเปน ไทย              

~ 4​ ​ ~           สรรพคณุ สมนุ ไพรพนื บา้ น          ตะไคร ้ ชอื วิทยาศาสตร์ Cymbopogon citratus Stapf.  วงศ์ GRAMINEAE  ชอื อืนๆ  ภาคเหนอื : จะไค (Cha-khai) จะไค้ (Cha-khai)  ภาคใต้ : ไคร (Khrai)  ชวา : ซเี ร (Sere)  ถินกําเนดิ อินโดนเี ซยี ศรลี ังกา พมา่ อินเดีย อเมรกิ าใต้ ไทย  รูปลักษณะ : ไมล้ ้มลกุ ทีมอี ายุได้หลายป ชอบดินรว่ นซุย ปลกู ได้  ตลอดป ใบสเี ขยี วยาวแหลม ดอกฟสู ขี าว หวั โตขนึ จากดินเปน กอๆ กลินหอมฉนุ ค่อนขา้ งรอ้ น  การปลกู : ไถพรวนดินและตากดินไว้ประมาณ 7 - 10 วัน ยอ่ ยดิน ใหล้ ะเอียด ใสป่ ุยคอกหรอื ปุยหมกั คลกุ เคล้าใหเ้ ขา้ กับดินขุดหลมุ

~ 5​ ​ ~ ปลกุ ระยะ 30 x 30 เซนติเมตร ก่อนนาํ ตะไครไ้ ปปลกู นาํ พนั ธุ์ที เตรยี มไว้ตัดใบออก ใหเ้ หลือต้นยาว ประมาณ 30 - 40 เซนติเมตร มาแชน่ าประมาณ 5 - 7 วัน เพอื ใหร้ ากงอก รากทีแก่ เต็มทีจะมสี เี หลืองเขม้ นาํ ไปปลกุ ในแปลงวางต้นพนั ธุ์ ใหเ้ อียง 45 องศา ไปด้านใดด้านหนงึ แล้วกลบดิน จากนนั รดนาใหช้ ุม่ หลัง ปลกู ได้ประมาณ 30 วัน ก็ควรใสป่ ุยสตู ร 15 - 15 - 15 หรอื 46 -  0 - 0 อัตรา 50 กิโลกรมั /ไร ่ สรรพคณุ และสว่ นทีนาํ มาใชเ้ ปนยา  นามนั จากใบและต้น – แต่งกลินอาหาร เครอื งดืม สบู ่ ลําต้นแก่หรอื เหง้า – แก้อาการท้องอืดท้องเฟอ ขบั ปสสาวะ แก้ นวิ ขบั ประจําเดือน    ขงิ    ชอื วิทยาศาสตร์ : Zingiber officinale Roscoe.  ชอื วงศ์ : ZINGIBERACEAE  ชอื พนื เมอื ง: ขงิ แกลง, ขงิ แดง (จันทรบุร)ี ขงิ เผอื ก (เชยี งใหม)่   สะเอ (แมฮ่ ่องสอน) ขงิ บา้ น ขงิ แครง ขงิ ปา ขงิ เขา ขงิ ดอกเดียว ( ภาคกลาง) เกีย (จีนแต้จิว)  ลักษณะทัวไป : ไมล้ ้มลกุ สงู 0.3-1 เมตร มเี หง้าใต้ดิน เปลือก

~ ​6​ ~ นอกสนี าตาลแกมเหลือง เนอื ในสนี วลแกมเขยี ว มกี ลินเฉพาะ  แตกสาขา คล้ายนวิ มอื ใบเดียว เรยี งสลับ รูปขอบขนาน แกมใบ หอก กว้าง 1.5-2 ซม. ยาว 15-20 ซม. ดอกชอ่ แทงออกจากเหง้า  กลีบดอกสเี หลืองแกมเขยี ว ใบประดับสเี ขยี วอ่อน ผลแหง้ มี 3 พู สรรพคณุ เหง้าแก่ทังสดและแหง้ ใชเ้ ปนยาขบั ลม ชว่ ยใหเ้ จรญิ อาหาร แก้อาเจียน แก้ไอ ขบั เสมหะและขบั เหงือ ผงขงิ แหง้ มี ฤทธขิ บั นาดี ชว่ ยยอ่ ยไขมนั ลดการบบี ตัวของลําไส้ บรรเทา อาการปวดท้องเกรง     

~ 7​ ​ ~ บวั บก ชอื วิทยาศาสตร์ : Centella asiatica Urban  วงศ์ : Umbelliferae  ชอื สามญั : Asiatic Pennywort/Tiger Herbalชอื อืน : ผักแว่น  ผกั หนอก  รูปลักษณะ : ไมล้ ้มลกุ อายุหลายป เลือยแผไ่ ปตามพนื ดิน ชอบที ชนื แฉะ แตกรากฝอยตามขอ้ ไหลทีแผไ่ ปจะงอกใบจากขอ้ ชูขนึ 3-5 ใบ ใบเดียว เรยี งสลับ รูปไต เสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง 2-5 ซม. ขอบ ใบหยกั ก้านใบยาว ดอกชอ่ ออกทีซอกใบ ขนาดเล็ก 2-3 ดอก  กลีบดอกสมี ว่ ง ผลแหง้ แตกได้สรรพคณุ และสว่ นทีนาํ มาใชเ้ ปน ยาใบสด - ใชเ้ ปนยาภายนอกรกั ษาแผลเปอย แผลไฟไหมน้ ารอ้ น ลวก โดยใชใ้ บสด 1 กํามอื ล้างใหส้ ะอาด ตําละเอียด คันเอานา ทาบรเิ วณแผลบอ่ ย ๆ ใชก้ ากพอกด้วยก็ได้ แผลจะสนทิ และเกิด แผลเปนชนดิ นนู (keloid) นอ้ ยลง สารทีออกฤทธคิ ือ กรด madecassic, กรด asiatic และ asiaticoside ซงึ ชว่ ยสมานแผล และเรง่ การสรา้ งเนอื เยอื ระงับการเจรญิ เติบโตของเชอื แบคทีเรยี ทีทําใหเ้ กิดหนองและลดการอักเสบ มรี ายงานการค้น พบฤทธฆิ า่ เชอื รา อันเปนสาเหตขุ องโรคกลาก ปจจุบนั มกี าร พฒั นายาเตรยี มชนดิ ครมี ใหท้ ารกั ษาแผลอักเสบจากการผา่ ตัด  นาต้มใบสด - ดืมลดไข้ รกั ษาโรคปากเปอย ปากเหมน็ เจ็บคอ  รอ้ นใน กระหายนา ขบั ปสสาวะ แก้ท้องเสยี  

~ ​8​ ~       ขา่   ชอื วิทยาศาสตร์ : Languas galaga (Linn). Stuntz  ชอื วงศ:์ ZINGIBERACEAE  ชอื พนื เมอื ง: ขา่ ขา่ ใหญ่ ขา่ หลวง ขา่ หยวก (ภาคเหนอื ) กฎุ กกโร หนิ ี เสะเออเคย (แมฮ่ ่องสอน) สะเชย (กะเหรยี ง-แมฮ่ ่องสอน)  ลักษณะทัวไป : ไมล้ ้มลกุ สงู 1.5-2 เมตร เหง้ามขี อ้ และปล้อง ชดั เจน ใบเดีย ใบสเี ขยี วอ่อนสลับกัน รูปรา่ งรยี าว ปลายแหลม  ดอกออกเปนชอ่ ทีนอ ดอกยอ่ ยขนาดเล็ก กลีบดอกสขี าว โคนติด กันเปนหลอดสนั ๆ ปลายแยกเปน 3 กลีบ กลีบใหญท่ ีสดุ มรี วิ สี แดง ใบประดับรูปไข่ ผลแหง้ แตกได้ รูปกลมสรรพคณุ เหง้าสดตํา ผสมกับเหล้าโรง ใชท้ ารกั ษาโรคผวิ หนงั ทีเกิดจากเชอื รา เชน่   กลาก เกลือน เหง้าอ่อนต้มเอานาดืม บรรเทาอาการท้องอืด ท้อง เฟอ และขบั ลม ขา่ ไมม่ ฤี ทธกิ ่อกลายพนั ธุแ์ ละไมเ่ ปนพษิ  

~ ​9​ ~ กระชาย  ชอื วิทยาศาสตร์ : Boesenbergia rotunda (Linn.) Mansf.  ชอื วงศ์ : ZINGIBERACEAE  ชอื พนื เมอื ง:  ขงิ   กระชาย  กะชาย  ว่านพระอาทิตย ์ (กรุงเทพฯ)  กระแอม  ระแอน  (ภาคเหนอื )  ขงิ ทราย  (มหาสารคาม)  จีปู  ซฟี  ู ( ฉาน-แมฮ่ ่องสอน) เปาะสี เปาซอเรา้ ะ (กะเหรยี ง-แมฮ่ ่องสอน)  ลักษณะทัวไป  :  ไมล้ ้มลกุ   ไมม่ ลี ําต้นบนดิน  มเี หง้าใต้ดิน  ซงึ แตก รากออกไป  เปนกระจุกจํานวนมาก  อวบนา  ตรงกลางพองกว้าง กว่าสว่ นหวั และท้าย  ใบเดียว  เรยี งสลับในระนาบเดียวกัน  รูป ขอบขนานแกมรูปไข ่ ตรงกลางด้านในของก้านใบมรี องลึก  ดอก ชอ่   ออกแทรกอยูร่ ะหว่างกาบใบทีโคนต้น  กลีบดอกสขี าวหรอื ชมพอู ่อน ใบประดับรูปใบหอก สมี ว่ งแดง ดอกยอ่ ยบานครงั ละ 1 ดอก  ผลของกระชายเปนผลแหง้ สรรพคณุ เหง้าใชแ้ ก้โรคในปาก  ขบั ปสสาวะ รกั ษาโรคบดิ แก้ปวดมวนท้อง ขบั ระดขู าว

~ ​10​ ~ มะกรูด  ชอื วิทยาศาสตร์ Citrus hystrix DC.  ชอื วงศ์ Rutaceac  ชอื สามญั Leech Lime, Mauritius Papeda, Kaffir Lime,  Porcupine Orange  ชอื ท้องถิน  ภาคเหนอื เรยี ก มะขูด, มะขุน  ภาคใต้ เรยี ก สม้ กรูด, สม้ มวั ผ ี เขมร เรยี ก โกรย้ เขยี ด  กะเหรยี ง-แมฮ่ ่องสอน เรยี ก มะขู  ลักษณะทัวไป : มะกรูดเปนไมย้ นื ต้นขนาดเล็ก แตกกิงก้าน ลําต้น และกิงมหี นามแขง็ ใบ เปนใบประกอบทีมใี บยอ่ ยใบเดียว สเี ขยี ว หนา มลี ักษณะคอดกิวทีกลางใบเปนตอนๆ มกี ้านแผอ่ อกใหญ่

~ ​11​ ~ เท่ากับแผน่ ใบ ทําใหเ้ หน็ ใบเปน 2 ตอน ใบสเี ขยี วแก่ค่อนขา้ ง หนา มกี ลินหอมมากเพราะมตี ่อมนามนั อยู่ ดอก ออกเปนกระจุก 3–5 ดอก กลีบดอกสขี าว รว่ งง่าย ผล มหี ลายแบบแล้วแต่พนั ธุ์ ผลเล็กเท่ามะนาว ผวิ ขรุขระนอ้ ยกว่าและไมม่ จี ุกทีหวั   การปลกู มะกรูดปลกู ได้ดีในดินทกุ ชนดิ ขยายพนั ธุโ์ ดยการเพาะ เมล็ด  สรรพคณุ ทางยา :ผวิ ผลสดและผลแหง้ รสปรา่ หอมรอ้ น  สรรพคณุ แก้ลมหนา้ มดื แก้วิงเวียน บาํ รุงหวั ใจ ขบั ลมลําไส้ ขบั ระดผู ล รสเปรยี ว มสี รรพคณุ เปนยาขบั เสมหะ แก้ไอ แก้นาลาย เหนยี ว ฟอกโลหติ ใชส้ ระผมทําใหผ้ มดกดํา ขจัดรงั แค  ราก รสเยน็ จืด แก้พษิ ฝภายใน แก้เสมหะ แก้ลมจุกเสยี ด  นามะกรูด รสเปรยี ว กัดเสมหะ ใชด้ องยามสี รรพคณุ เปนยาฟอก โลหติ สาํ หรบั สตร ี ใบ รสปรา่ หอม แก้ไอ แก้อาเจียนเปนโลหติ แก้ชาใน และดับกลิน คาว                           

~ 1​ 2​ ~ ว่านหา่ งจระเข้    ชอื วิทยาศาสตร์ : Aloe barbadensis Mill.  ชอื วงศ:์ ALOACEAE  ชอื พนื เมอื ง: ว่านไฟไหม้ (ภาคเหนอื ) หางตะเข้ (ภาคกลาง)  ลักษณะทัวไป : ไมล้ ้มลกุ อายุหลายป สงู 0.5-1 เมตร ขอ้ และ ปล้องสนั ใบเดียว เรยี งรอบต้น กว้าง 5-12 ซม. ยาว 0.3-0.8 เมตร อวบนามาก สเี ขยี วอ่อนหรอื สเี ขยี วเขม้ ภายในมวี ุ้นใส ใต้ ผวิ สเี ขยี วมนี ายางสเี หลือง ใบอ่อนมปี ระสขี าว ดอกชอ่ ออกจาก กลางต้น ดอกยอ่ ย เปนหลอดหอ้ ยลง สสี ม้ บานจากล่างขนึ บน  ผลแหง้ แตกได้สรรพคณุ วุ้นสดภายในใบทีฝานออกใชป้ ดพอก รกั ษาแผลสด แผลเรอื รงั แผลไฟไหมน้ ารอ้ นลวก แผลไหมเ้ กรยี ม  กินรกั ษาแผลในกระเพาะอาหาร และใชเ้ ปนสว่ นผสมในเครอื ง สาํ อาง นายางสเี หลืองจากใบเคียวใหแ้ หง้ เรยี กว่า ยาดํา เปนยา ระบายชนดิ เพมิ การบบี ตัวของลําไสใ้ หญ ่            

~ 1​ 3​ ~           กานพล ู ชอื วิทยาศาสตร์ : Eugenia caryophyllum Bullock & Harrison  วงศ์ : Myrtaceae  ชอื สามญั : Clove  ลักษณะ : ไมย้ นื ต้น สงู 5-10 เมตร ใบเดียว เรยี งตรงขา้ ม รูปวงรี หรอื รูปใบหอก กว้าง 2.5-4 ซม. ยาว 6-10 ซม. ขอบเปนคลืน ใบ อ่อนสแี ดงหรอื นาตาลแดง เนอื ใบบางค่อนขา้ งเหนยี ว ผวิ มนั   ดอกชอ่ ออกทีซอกใบ กลีบดอกสขี าวและรว่ งง่าย กลีบเลียงและ ฐานดอกสแี ดงหนาแขง็ ผลเปนผลสด รูปไข ่ ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : ตํารายาไทย ใชด้ อกตมู แหง้ แก้ปวดฟน  โดยใชด้ อกแชเ่ หล้าเอาสาํ ลีชุบอุดรูฟน และใชข้ นาด 5-8 ดอก ชง นาเดือด ดืมเฉพาะสว่ นนาหรอื ใชเ้ คียวแก้ท้องเสยี ขบั ลม แก้ท้อง อืดเฟอ นอกจากนใี ชผ้ สมในยาอมบว้ นปากดับกลินปาก พบว่าใน นามนั หอมรเหยทีกลันจากดอกมสี าร eugenol ซงึ มฤี ทธเิ ปนยา ชาเฉพาะที จึงใชแ้ ก้ปวดฟน และมฤี ทธลิ ดการบบี ตัวของลําไส ้ ทําใหเ้ กิดอาการปวดท้องลดลง ชว่ ยขบั นาดี ลดอาการจุกเสยี ดที เกิดจากการยอ่ ยไมส่ มบูรณ์ และสามารถฆา่ เชอื แบคทีเรยี หลาย ชนดิ เชน่ เชอื โรคไทฟอยด์ บดิ ชนดิ ไมม่ ตี ัว เชอื หนองเปนต้น  นอกจากนยี งั กระต้นุ ใหม้ กี ารหลังเมอื ก และลดการเปนกรดใน กระเพาะอาหารด้วย

~ 1​ 4​ ~                         กล้วยนาว้า  ชอื วิทยาศาสตร์ : Musa sapientum L.  ]วงศ์ : Musaceae  ชอื สามญั ; Banana  ลักษณะ : ไมล้ ้มลกุ สงู 2-4.5 เมตร มลี ําต้นใต้ดิน ลําต้นเหนอื ดิน เกิดจากกาบใบหมุ้ ซอ้ นกัน ใบ เดียว เรยี งสลับซอ้ นกันรอบต้นที ปลายยอด รูปขอบขนาน กว้าง 25-40 ซม. ยาว 1-2 เมตร ผวิ ใบ เรยี บมนั ท้องใบสอี ่อนกว่า มนี วล ดอก ชอ่ เรยี กว่า หวั ปลีออกที ปลายยอด ใบประดับหมุ้ ชอ่ ดอกสแี ดงหรอื มว่ ง กลีบดอกสขี าว  บาง ผล เปนผลสด  ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : ตํารายาไทยใชผ้ ลดิบซงึ มสี ารแทนนิ นมาก รกั ษาอาการท้องเสยี และบดิ โดยกินครงั ละครงึ หรอื หนงึ ผล มรี ายงานว่า มฤี ทธปิ องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ของหนขู าวทีถกู กระต้นุ ด้วยยาแอสไพรนิ เชอื ว่าฤทธดิ ังกล่าวเกิด

~ 1​ 5​ ~ จากการถกู กระต้นุ ผนงั กระเพาะอาหารใหห้ ลังสารเมอื กออกมา มากขนึ จึงนาํ มาทดลองรกั ษาโรคกระเพาะอาหารของคน โดยใช้ กล้วยดิบ หนั เปนแว่น ตากแหง้ บดเปนผง กินวันละ 4 ครงั ๆ ละ 1 -2 ชอ้ นแกง ก่อนอาหารและก่อนนอน อาจทําใหเ้ กิดอาการท้อง อืด ซงึ ปองกันได้โดยกินรว่ มกับยาขบั ลม เชน่ ขงิ                           กระเทยี ม  ชอื วิทยาศาสตร์ : Allium sativum​ L.  วงศ์ : Alliaceae  ชอื สามญั : Common Garlic , Allium ,Garlic , 

~ ​16​ ~ ชอื อืน : กระเทียม (ภาคกลาง) หอมเทียม (ภาคเหนอื ) หอมขาว ( ภาคอีสาน) เทียม, หอมเทียม (ภาคใต้)  ลักษณะ : ไมพ่ มุ่ สงู 2-4 เมตร กิงอ่อนมหี นาม ใบประกอบชนดิ มี ใบยอ่ ยใบเดียว เรยี งสลับ รูปไข่ รูปวงรหี รอื รูปไขแ่ กมขอบขนาน กว้าง 3-5 ซม. ยาว 4-8 ซม. เนอื ใบมจี ุดนามนั กระจาย ก้านใบมี ครบี เล็ก ๆ ดอกเดียวหรอื ชอ่ ออกทีปลายกิงและทีซอกใบ กลีบ ดอกสขี าว กลินหอม รว่ งง่าย ผลเปนผลสด กลมเกลียง ฉานา  ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : ตํารายาไทยใชน้ ามะนาวและผลดอง แหง้ เปนยาขบั เสมหะแก้ไอ แก้โรคเลือดออกตามไรฟน เพราะมี วิตามนิ ซี นามะนาวเปนกระสายยาสาํ หรบั สมนุ ไพรทีใชข้ บั เสมหะเชน่ ดีปลีกินรว่ มกับยาขบั ลม เชน่ ขงิ                      

~ ​17​ ~     ขเี หล็ก  ชอื วิทยาศาสตร์ : Cassia siamea Britt.  วงศ์ : Leguminosae  ชอื สามญั : Cassod Tree / Thai Copper Pod ชอื อืน ขเี หล็ก แก่น ขเี หล็กบาน ขเี หล็กหลวง ขเี หล็กใหญล่ ักษณะ : ไมย้ นื ต้น  สงู 10-15 เมตร ใบประกอบแบบขนนก เรยี งสลับใบยอ่ ยรูปขอบ ขนาน กว้างประมาณ 1.5 ซม. ยาว 4 ซม. ใบอ่อนมขี นสนี าตาล แกมเขยี ว ดอกชอ่ ออกทีปลายกิง กลีบดอกสเี หลือง ผลเปนฝก แบนยาวและหนา  ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : ตํารายาไทยใชด้ อกเปนยานอนหลับ ลด ความดันโลหติ ดอกตมู และใบอ่อนเปนยาระบาย ใบแก้ระดขู าว  แก้นวิ ขบั ปสสาวะ แก่นแก้ไข้ ทําใหน้ อนหลับ รกั ษากามโรค ใบ อ่อนและแก่นมสี ารกล่มุ แอนทราควิโนนหลายชนดิ จึงมฤี ทธเิ ปน ยาระบายใชใ้ บอ่อนครงั ละ 2-3 กํามอื ต้มกับนา 1-1.5 ถ้วย เติม เกลือเล็กนอ้ ย ดืมก่อนอาหารเชา้ ครงั เดียว นอกจากนใี นใบอ่อน และดอกตมู ยงั พบสารซงึ มฤี ทธกิ ดประสาทสว่ นกลางทําใหน้ อน หลับโดยใชว้ ิธดี องเหล้าดืมก่อนนอน     

~ ​18​ ~                     คณู   ชอื วิทยาศาสตร์ : Cassia fistula L.  วงศ์ : Leguminosae  ชอื สามญั : Golden Shower Tree/ Purging Cassia  ชอื อืน : ราชพฤกษ์ ลมแล้ง  ลักษณะ : ไมย้ นื ต้น สงู 5-15 เมตร ใบประกอบแบบขนนกเรยี ง สลับ ใบยอ่ ยรูปไขห่ รอื รูปวงรี กว้าง 4-8 ซม. ยาว 7-12 ซม. ดอก ชอ่ ออกทีปลายกิง หอ้ ยเปนโคมระยา้ กลีบดอกสเี หลือง ผลเปน ฝกกลม สนี าตาลเขม้ หรอื ดํา เปลือกแขง็ ผวิ เรยี บ ภายในมผี นงั กันเปนหอ้ ง แต่ละหอ้ งมเี มล็ด 1 เมล็ด หมุ้ ด้วยเนอื สดี ําเหนยี ว  ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : ตํารายาไทยใชเ้ นอื หมุ้ เมล็ดแก้ท้องผกู   ขบั เสมหะ ดอกแก้ไข้ เปนยาระบาย แก่นขบั พยาธไิ สเ้ ดือน พบว่า เนอื หมุ้ เมล็ดมสี ารกล่มุ แอนทราควิโนน จึงมสี รรพคณุ เปนยา ระบาย โดยนาํ เนอื หมุ้ เมล็ดซงึ มสี ดี ําเหนยี ว ขนาดก้อนเท่าหวั แม่ มอื (ประมาณ 4 กรมั ) ต้มกับนา ใสเ่ กลือเล็กนอ้ ย ดืมก่อนนา ดืม ก่อนนอน มขี อ้ ควรระวังเชน่ เดียวกับชุมเหด็ เทศ 

~ ​19​ ~                         ชุมเหด็ เทศ  ชอื วิทยาศาสตร์ : Senna alata L.  วงศ์ : Leguminosae  ชอื สามญั Ringworm Bush  ชอื อืน : ขคี าก ลับมนี หลวง หมากกะลิงเทศ ชุมเหด็ ใหญ ่ ลักษณะ : ไมพ้ มุ่ สงู 1 - 3 เมตร แตกกิงออกด้สนขา้ ง ในแนว ขนานกับพนื ใบประกอบ แบบขนนก เรยี งสลับ ใบยอ่ ยรูปขอบ ขนาน รูปวงรแี กมขอบขนาน หรอื รูปไขก่ ลับ กว้าง 3-7 ซม. ยาว 6-15 ซม. หใู บเปนรูปสามเหลียม ดอกชอ่ ออกทีซอกใบตอน ปลายกิง กลีบดอกสเี หลืองทอง ใบประดับ สนี าตาลแกมเหลือง หมุ้ ดอกยอ่ ยเหน็ ชดั เจน ผลเปนฝก มคี รบี 4 ครบี เมล็ดแบน รูป สามเหลียม 

~ 2​ 0​ ~ ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : รสเบอื เอียน ใบตําทาแก้กลากเกลือน  โรคผวิ หนงั ดอกและใบต้มรบั ประทานแก้อาการท้องผกู มสี าร  แอนทราควิโนน กลัยโคซายด์ หลายชนดิ ได้แก่ emodin, aloe -  emodin และ rhein ใชเ้ ปนยาระบายกระต้นุ ลําไสใ้ หญใ่ หบ้ บี ตัว  การทดลองในสตั ว์ และคน พบว่า ใบแก่มฤี ทธิ นอ้ ยกว่าใบอ่อน  นอกจากนนี าจากใบ ยงั มฤี ทธฆิ า่ เชอื แบคทีเรยี ด้วย                    มะขาม  ชอื วิทยาศาสตร์ : Tamarindus indica L.  วงศ์ : Leguminosae  ชอื สามญั : Tamarind  ชอื อืน : Tamarind  ลักษณะ : มะขามเปนไมย้ นื ต้นขนาดกลางจนถึงขนาดใหญแ่ ตก กิงก้านสาขามาก เปลือกต้นขรุขระและหนา สนี าตาลอ่อน ใบ  เปนใบประกอบ ใบเล็กออกตามกิงก้านใบเปนคู่ ใบยอ่ ยเปนรูป ขอบขนาน ปลายไบและโคนใบมน ดอก ออกเปนชอ่ เล็กๆ ตาม

~ ​21​ ~ ปลายกิง หนงึ ชอ่ มี 10-15 ดอก ดอกยอ่ ยขนาดเล็ก กลีบดอกสี เหลืองและมจี ุดประสแี ดงอยูก่ ลางดอก ผล เปนฝกยาว รูปรา่ ง ยาวหรอื โค้ง ยาว 3-20 ซม. ฝกอ่อนมเี ปลือกสเี ขยี วอมเทา สี นาตาลเกรยี ม เนอื ในติดกับเปลือก เมอื แก่ฝกเปลียนเปนเปลือก แขง็ กรอบหกั ง่าย สนี าตาล เนอื ในกลายเปนสนี าตาลหมุ้ เมล็ด  เนอื มรี สเปรยี ว และหวาน  ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : สรรพคณุ ทางยา  · ยาระบาย แก้อาการท้องผกู ใชม้ ะขามเปยกรสเปรยี ว 10–20 ฝก (หนกั 70–150 กรมั ) จิมเกลือรบั ประทาน แล้วดืมนาตา มมากๆ หรอื ต้มนาใสเ่ กลือเล็กนอ้ ยดืมเปนนามะขาม  · ขบั พยาธไิ สเ้ ดือน นาํ เอาเมล็ดแก่มาคัว แล้วกะเทาะเปลือกออก  เอาเนอื ในเมล็ดไปแชน่ าเกลือจนนมุ่ รบั ประทานครงั ละ 20-30 เมด็   · ขบั เสมหะ ใชเ้ นอื ในฝกแก่หรอื มะขามเปยกจิมเกลือรบั ประทาน พอสมควร  คณุ ค่าทางโภชนาการ ยอดอ่อนและฝกอ่อนมวี ิตามนิ เอ มาก  มะขามเปยกรสเปรยี ว ทําใหช้ ุม่ คอ ลดความรอ้ นของรา่ งกายได้ดี  เนอื ในฝกมะขามทีแก่จัด เรยี กว่า \"มะขามเปยก\" ประกอบด้วย กรดอินทรยี ห์ ลายตัว เชน่ กรดทารท์ ทารร์ คิ กรดซติ รคิ เปนต้น  ทําใหอ้ อกฤทธิ ระบายและลดความรอ้ นของรา่ งกายลงได้ แพทย์ ไทยเชอื ว่า รสเปรยี วนจี ะกัดเสมหะใหล้ ะลายได้ด้วย       

~ ​22​ ~                   แมงลัก  ชอื วิทยาศาสตร์ : Ocimum basilicum L.f. var. citratum Back.  วงศ์ : Labiatae  ชอื สามญั : Hairy Basil  ชอื อืน : ก้อมก้อขาว มงั ลัก  ลักษณะ : แมงลักมลี ักษณะทรงต้น ใบ ดอก และผลคล้าย โหระพา ต่างกันทีกลิน ใบสเี ขยี วอ่อนกว่า กลีบดอกสขี าวและใบ ประดับสเี ขยี ว  ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : ตํารายาไทยมกั เรยี กผลแมงลักว่าเมด็ แมงลัก ใชเ้ ปนยาระบายชนดิ เพมิ กาก เพราะเปลือกผลมสี าร เมอื กซงึ สามารถพองตัวในนาได้ 45 เท่า เหมาะสาํ หรบั ผทู้ ีไม่ ชอบกินอาหารทีมกี ากเชน่ ผกั ผลไม้ ใชผ้ ลแมงลัก 1-2 ชอ้ นชา  แชน่ า 1 แก้ว จนพองตัวเต็มที กินก่อนนอน ถ้าผลแมงลักพองตัว ไมเ่ ต็มทีจะทําใหท้ ้องอืดและอุจจาระแขง็ จากการทดลองพบว่า แมงลักทําใหจ้ ํานวนครงั ในการถ่ายและปรมิ าณอุจจาระเพมิ ขนึ   รวมทังทําใหอ้ ุจจาระอ่อนตัวกว่าปกติ นอกจากนใี บและต้นสดมี ฤทธขิ บั ลม เนอื งจากมนี ามนั หอมระเหย 

~ 2​ 3​ ~                       ไพล  ชอื วิทยาศาสตร์ : Zingiber purpureum Roscoe  วงศ์ : Zingiberaceae  ชอื อืน : ปูลอย ปูเลย ว่านไฟ  ลักษณะ : ไมล้ ้มลกุ สงู 0.7-1.5 เมตร มเี หง้าใต้ดิน เปลือกนอกสี นาตาลแกมเหลือง เนอื ในสเี หลืองแกมเขยี ว มกี ลินเฉพาะ แทง หนอ่ หรอื ลําต้นเทียมขนึ เปนกอประกอบด้วยกาบหรอื โคน ใบหมุ้ ซอ้ นกัน ใบ เดียว เรยี งสลับ รูปขอบขนานแกมใบหอก กว้าง 3.5- 5.5 ซม. ยาว 18-35 ซม. ดอก ชอ่ แทงจากเหง้าใต้ดิน กลีบดอกสี นวล ใบประดับสมี ว่ ง ผล เปนผลแหง้ รูปกลม  ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : ตํารายาไทยใชเ้ หง้าเปนยาขบั ลม ขบั ประจําเดือน มฤี ทธริ ะบายอ่อน ๆ แก้บดิ สมานลําไส้ ยาภายนอก

~ ​24​ ~ ใชเ้ หง้าสดฝนทาแก้เคล็ดยอก ฟกบวม เสน้ ตึง เมอื ยขบ เหนบ็ ชา  สมานแผล จากการวิจัยพบว่าในเหง้ามนี ามนั หอมระเหยซงึ มี คณุ สมบตั ิลดอาการอักเสบและบวม จึงมกี ารผลิตยาขผี งึ ผสม นามนั ไพล เพอื ใชเ้ ปนยาทาแก้อาการเคล็ดขดั ยอก นามนั ไพล ผสมแอลกอฮอล์สามารถทากันยุงได้ นอกจากนพี บว่าในเหง้ามี สาร 4-(4-hydroxy-1-butenyl) veratrole ซงึ มฤี ทธขิ ยาย หลอดลม ได้ทดลองใชผ้ งไพล กับผปู้ วยเด็กทีเปนหดื สรุปว่าให้ ผลดีทังในรายทีมอี าการหอบหดื เฉยี บพลันและเรอื รงั                             เทยี นบา้ น 

~ 2​ 5​ ~ ชอื วิทยาศาสตร์ : Impatiens balsamina L.  วงศ์ : Balsaminaceae  ชอื สามญั : Garden Balsam  ชอื อืน : เทียนดอก เทียนสวน  ลักษณะ : พรรณไมพ้ วกคลมุ ดิน ลําต้นจะอุ้มนา ลําต้นจะไมต่ ัง ตรงขนึ ไป จะเอียงเล็กนอ้ ย เปราะง่าย ใบมลี ักษณะมนรี ปลาย แหลม ดอกนนั จะมหี ลายสี เขน่ สชี มพู สแี ดง สม้ และขาว เปน ดอกเดียว จะออกติดกันชอ่ หนงึ อาจะจะมี 2-3 ดอก กลีบดอกจะ ซอ้ น ๆ กันเปนวงกลม มกี ลีบเลียง 3 กลีบ กลีบดอก 5 กลีบ กลีบ ด้านล่างงอเปราะ มจี ะงอยยนื ออกมาเปนหลอดเล็ก-ยาว ปลาย โค้งขนึ ขนาดดอก 3-6 ซม.  ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : ใชร้ กั ษาฝ แผลพพุ อง ใชใ้ บสดและดอก สดประมาณ 1 กํามอื ตําละเอียดพอกฝ หรอื คันนาทาบรเิ วณที เปนฝและแผลพพุ องวันละ 3 ครงั (สจี ากนาคันจะติดอยูน่ าน จึง ควรระวังการเปรอะเปอนเสอื ผา้ และรา่ งกายสว่ นอืน ๆ )               

~ 2​ 6​ ~           กะเพรา  ชอื วิทยาศาสตร์ : Ocimum sanctum L.  วงศ์ : Labiatae  ชอื อืน : กอมก้อ กอมก้อดง กะเพราขาว กะเพราแดง  ลักษณะ : กะเพรามี 3 พนั ธุ์ คือ กะเพราแดง กะเพราขาวและ กะเพราลกู ผสมระหว่างกะเพราแดงและกะเพราขาว มลี ักษณะ ทัวไปคล้ายโหระพา ต่างกันทีกลินและกิงก้านซงึ มขี นปกคลมุ มากกว่าใบกะเพราขาวสเี ขยี วอ่อน สว่ นใบกะเพราแดงสเี ขยี ว แกมมว่ งแดง ดอกยอ่ ยสชี มพแู กมมว่ ง ดอกกะเพราแดงสเี ขม้ กว่า กะเพราขาว  ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : ตํารายาไทยใชใ้ บหรอื ทังต้นเปนยาขบั ลมแก้ปวดท้อง ท้องเสยี และคลืนไสอ้ าเจียน นยิ มใชก้ ะเพราแดง มากกว่ากะเพราขาว โดยใชย้ อดสด 1 กํามอื ต้มพอเดือด ดืม เฉพาะสว่ นนา พบว่าฤทธขิ บั ลมเกิดจากนามนั หอมระเหย การ ทดลองในสตั ว์ แสดงว่านาสกัดทังต้นมฤี ทธลิ ดการบบี ตัวของ ลําไส้ สารสกัดแอลกอฮอล์สามารถรกั ษาแผลในกระเพาะอาหาร  สาร eugenol ในใบมฤี ทธขิ บั นาดี ชว่ ยยอ่ ยไขมนั และลดอาการ จุกเสยี ด 

~ ​27​ ~                         ยอ  ชอื วิทยาศาสตร์ : Morinda citrifolia L.  วงศ์ : Rubiaceae  ชอื สามญั : Indian Mulberry  ชอื อืน : มะตาเสอื ยอบา้ น  ลักษณะ : ไมย้ นื ต้น สงู 2-6 เมตร ใบเดียว เรยี งตรงขา้ ม รูปวงร ี กว้าง 8-15 ซม. ยาว 10-20 ซม. หใู บอยูร่ ะหว่างโคนก้านใบ ดอก ชอ่ ออกทีซอกใบ ฐานดอกอัดกันแนน่ เปนรูปทรงกลม กลีบดอกสี ขาว ผลเปนผลสด เชอื มติดกันเปนผลรวม ผวิ เปนต่มุ พอง  ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : ตํารายาไทยใชผ้ ลสดดิบหรอื หา่ ม ฝาน เปนชนิ บาง ยา่ งหรอื คัวไฟอ่อน ๆ ใหเ้ หลือง ต้มหรอื ชงกับนา ดืม แก้คลืนไสอ้ าเจียน  

~ ​28​ ~                   ฟกทอง  ชอื วิทยาศาสตร์ : Cucurbita moschata Decne.  วงศ์ : Cucurbitaceae  ชอื สามญั : Pumpkin  ชอื อืน : หมากอึ (ภาคอีสาน) มะฟกแก้ว ฟกแก้ว (ภาคเหนอื ) มะ นาแก้ว หมกั อือ (เลย) หมากฟกเหลือง (แมฮ่ ่องสอน) นาเต้า ภาค ใต้  ลักษณะ : เปนพชื ล้มลกุ มเี ถายาวเลือยปกคลมุ ดิน ลําต้นมี ลักษณะกลมหรอื เปนเหลียมมน ผวิ เปนรอ่ งตามความยาว มขี น อ่อน ๆ มหี นวดสาํ หรบั ยดึ เกาะยดึ บรเิ วณขอ้ ใบเปนใบเดียว มี ขนาดใหญ่ ออกเรยี งสลับกัน โคนใบเว้าคล้ายรูปหวั ใจ ขอบใบ หยกั เปนเหลียม 5 เหลียม มขี นทัง 2 ด้านของตัวใบดอกเปนดอก

~ 2​ 9​ ~ เดียวสเี หลืองมขี นาดใหญ่ ลักษณะคล้ายระฆงั หรอื กระดิงออก บรเิ วณง่ามใบผลมขี นาดใหญ่ มลี ักษณะเปนพเู ล็ก ๆ โดยรอบ เปลือกนอกขรุขระและแขง็ มสี เี ขยี วและจะเปลียนเปนสเี ขยี ว อ่อนและ สเี หลืองเขม้ และสเี หลืองตามลําดับ เนอื ภายในมสี ี เหลืองอมเขยี ว สเี หลือง และสสี ม้ เมล็ดมจี ํานวนมากซงึ อยูต่ รง กลางผลระหว่างเนอื ฟู ๆ มรี ูปรา่ งคล้ายไข่ แบน มขี อบนนู อยูโ่ ดย รอบ  ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : เนอื ฟกทองประกอบด้วยแปง โปรตีน  ไขมนั ฟอสฟอรสั แคลเซยี ม เหล็ก และ สารเบต้า - แคโรทีน ซงึ เปนสารทีรา่ งกายนาํ ไปสรา้ งวิตามนิ เอ เมล็ดมฟี อสฟอรสั ใน ปรมิ าณสงู รวมทังแปง โปรตีน และนาประมาณรอ้ ยละ 40 สว่ น เมล็ดแหง้ มสี ารคิวเคอรบ์ ทิ ีน (Cucurbitine) เปนสารสาํ คัญ ซงึ มี ฤทธฆิ า่ พยาธไิ ด้ผลดี นอกจากนนั ฟกทองสามารถกระตุ้นการ หลังอินซูลิน ซงึ ชว่ ยปองกันโรคเบาหวาน ความดันโลหติ ควบคมุ ระดับนาตาลในเลือด บาํ รุงนยั นต์ า ตับและไต เมล็ดใชเ้ ปนยาขบั พยาธติ ัวตืด ปองกันการเกิดนวิ ในกระเพาะปสสาวะ และชว่ ยดับ พษิ ปอดบวม รากชว่ ยแก้พษิ แมลงสตั ว์กัดต่อย ยางชว่ ยแก้พษิ ผนื คัน เรมิ และงสู วัด ออกฤทธคิ ือ asperuloside              มะเกลือ  ชอื วิทยาศาสตร์ : Diospyros mollis Griff. 

~ ​30​ ~ วงศ์ : Ebenaceae  ชอื สามญั : Ebony tree  ชอื อืน : ผเี ผา (ฉาน-ภาคเหนอื ) มกั เกลือ (เขมร-ตราด)  ลักษณะ : ไมต้ ้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สงู 10-30 เมตร เรือน ยอดเปนพมุ่ กลม ผวิ เปลือกเปนรอยแตกสะเก็ดเล็กๆ สดี ํา  เปลือกในสเี หลือง กระพสี ขี าว กิงอ่อนมขี นนมุ่ ขนึ ประปราย ใบ  เปนใบเดียวขนาดเล็กรูปไขห่ รอื รเี รยี งตัวแบบสลับ ดอก ออกเปน ชอ่ ตามซอกใบ ดอกแยกเพศต่างต้น ดอกตัวผมู้ ขี นาดเล็ก สี เหลืองอ่อน หนงึ ชอ่ มี 3 ดอก ผวิ เกลียง ผลอ่อนสเี ขยี ว ผลแก่สดี ํา  ผลแก่จัดจะแหง้ มกี ลีบเลียงติดบนผล 4 กลีบ ผลแก่ราวเดือน มถิ นุ ายน-สงิ หาคม เมล็ด แบน สเี หลือง 4-5 เมล็ด ขนาดกว้าง 0.5-0.7 ซม. ยาว 1-2 ซม. ขยายพนั ธุโ์ ดยการเพาะเมล็ด  ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : ผลดิบสด-ใชเ้ ปนยาถ่ายพยาธไิ ด้หลาย ชนดิ ถ่ายพยาธปิ ากขอได้ดีทีสดุ เด็กอายุ 10 ปใช้ 10 ผล ผทู้ ีอายุ มากกว่า 10 ป ใหเ้ พมิ จํานวนขนึ 1 ผลต่อ 1 ป แต่สงู สดุ ไมเ่ กิน 25 ผล คือผทู้ ีอายุ 25 ปขนึ ไปกิน 25 ผลเท่านนั ล้างใหส้ ะอาด ตํา พอแหลก กรองเอาเฉพาะนาผสมหวั กะทิ 2 ชอ้ นชาต่อมะเกลือ 1 ผล กินครงั เดียวใหห้ มดตอนเชา้ มดื ก่อนอาหาร 3 ชวั โมง หลัง จากนี 3 ชวั โมง ถ้าไมถ่ ่ายใหก้ ินยาระบายดีเกลือ โดยใชผ้ งดีเกลือ 2 ชอ้ นโต๊ะ ละลายนา ประมาณครงึ แก้ว เพอื ถ่ายพยาธิ และตัว ยาทีเหลือออกมา สารทีมฤี ทธคิ ือ diospyrol diglucosideขอ้ ควร ระวัง 1: ผทู้ ีหา้ มใชม้ ะเกลือได้แก่ เด็กอายุตากว่า 10 ป หญงิ มี ครรภ์ หรอื หลังคลอดไมเ่ กิน 6 สปั ดาห์ ผทู้ ีเปนโรคกระเพาะ อาหาร หรอื มอี าการปวดท้อง ถ่ายอุจจาระผดิ ปกติบอ่ ยๆ และผู้ ทีกําลังเปนไข้ ในการเตรยี มยาต้องใชผ้ ลดิบสด เตรยี มแล้วกิน ทันที ไมค่ วรเตรยี มยาครงั ละมากๆ ใชเ้ ครอื งบดไฟฟา จะทําให้

~ ​31​ ~ ละเอียดมาก มตี ัวยาออกมามากเกินไปขอ้ ควรระวัง 2 : เคยมี รายงานว่าถ้ากินยามะเกลือขนาดสงู กว่าทีระบุไว้ หรอื เตรยี มไว้ นาน สารสาํ คัญจะเปลียนเปนสารพษิ ชอื diospyrol ทําใหจ้ อรบั ภาพ และประสาทตาอักเสบ อาจตาบอดได้ ประโยชนด์ ้านอืนๆ  เนอื ไมใ้ ชท้ ําเฟอรน์ เิ จอรป์ ระดับมกุ ผล ใหส้ ดี ํา ใชย้ อ้ มผา้ และ แพรได้                          เล็บมอื นาง  ชอื วิทยาศาสตร์ : Quisqualis indica L.  วงศ์ : Combretaceae  ชอื สามญั : Rangoon Creeper  ชอื อืน : จะมงั จ๊ามงั มะจีมงั   ลักษณะ : ไมเ้ ถาเนอื แขง็ ต้นแก่มกั มกี ลินทีเปลียนเปนหนาม ใบ เดียว เรยี งตรงขา้ ม รูปวงรี หรอื รูปไขแ่ กมขอบขนาน กว้าง 5-8 ซม. ยาว 10-16 ซม. ดอกชอ่ ออกทีปลายกิงและซอกใบบรเิ วณ

~ 3​ 2​ ~ ปลายกิง กลีบดอกสแี ดงโคนกลีบเลียงเปนหลอดเรยี วยาว สเี ขยี ว  ผลเปนผลแหง้ รูปกระสวย มเี ปลือกแขง็ สนี าตาลเขม้ มสี นั ตาม ยาว 5 สนั   ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : ตํารายาไทยใชเ้ นอื ในเมล็ดแหง้ เปนยา ขบั พยาธไิ สเ้ ดือน สาํ หรบั เด็กกินครงั ละ 2-3 เมล็ด และผใู้ หญค่ รงั ละ 4-5 เมล็ด โดยนาํ มาปนเปนผง ผสมกับนาผงึ ปนเปนยาลกู กลอน หรอื ต้มเอานาดืม หรอื ทอดกับไขก่ ินก็ได้ สารทีมฤี ทธขิ บั พยาธไิ ด้แก่กรด quisqualic ซงึ เปนกรดอะมโิ นชนดิ หนงึ                           ฟาทะลายโจร 

~ 3​ 3​ ~ ชอื วิทยาศาสตร์ : Andrographis paniculata (Burm.) Wall. ex  Nees  วงศ์ : Acanthaceae  ชอื อืน : คีปงฮี (จีน) ฟาทะลายโจร หญา้ กันงู นาลายพงั พอน  ลักษณะ : ไมล้ ้มลกุ สงู 30-60 ซม.ทังต้นมรี สขม ลําต้นเปน สเี หลียม แตกกิงออกเปนพมุ่ เล็ก ใบเดียว เรยี งตรงขา้ ม รูปไข่ หรอื รูปใบหอก กว้าง 2-3 ซม. ยาว4-8 ซม. สเี ขยี วเขม้ เปนมนั   ดอกชอ่ ออกทีปลายกิงและซอกใบ ดอกยอ่ ยขนาดเล็กกลีบดอกสี ขาว โคนกลีบดอกติดกัน ปลายแยกออกเปน 2 ปาก ปากบนมี 3 กลีบ มเี สน้ สแี ดงเขม้ พาดตามยาว ปากล่างมี 2 กลีบ ผลเปนฝกสี เขยี วอมนาตาล ปลายแหลม เมอื ผลแก่จะแตกเปนสองซกี ดีด เมล็ดออกมา  ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : ชาวจีนใชฟ้ าทะลายเปนยามาแต่ โบราณ และมาเปนทีนยิ มใชใ้ นปะเทศไทยเมอื ไมน่ านมานี โดย ใชเ้ ฉพาะใบหรอื ทังต้นบนดินซงึ เก็บก่อนทีจะมดี อกเปนยาแก้เจ็บ คอ แก้ท้องเสยี แก้ไข้ เปนยาขมเจรญิ อาหาร การศกึ ษาฤทธลิ ด ไขใ้ นสตั ว์ทดลองพบว่าสารสกัดแอลกอฮอล์มแี นวโนม้ ลดไขไ้ ด้  รายงานการใชร้ กั ษาโรคอุจจาระรว่ งและบดิ ไมม่ ตี ัว แสดงว่าฟา ทะลายมปี ระสทิ ธภิ าพในการรกั ษาเท่ากับเตตราซยั คลินแต่ใน การรกั ษาอาการเจ็บคอนนั มรี ายงานทังทีได้ผลและไมไ่ ด้ผล ขนาดทีใชค้ ือพชื สด 1-3 กํามอื ต้มนาดืมก่อนอาหารวันละ 3 ครัง  หรอื ใชพ้ ชื แหง้ บดเปนผงละเอียดปนเปนยาลกู กลอนขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางประมาณ 0.8 ซม. กินครงั ละ 3-6 เมด็ วันละ 3-4 ครงั ก่อนอาหารและก่อนนอน สาํ หรบั ผงฟาทะลายทีบรรจุ แคปซูล ๆ ละ 500 มลิ ลิกรมั ใหก้ ินครงั ละ 2 เมด็ วันละ 2 ครัง  ก่อนอาหารเชา้ และเยน็ อาการขา้ งเคียงทีอาจพบคือ คลืนไส้

~ ​34​ ~                         กระเจยี บแดง  ชอื วิทยาศาสตร์ : Hibiscus sabdariffa ​ L.  วงศ์ : Malvaceae  ชอื สามญั : Roselle  ชอื อืน : กระเจียบ กระเจียบเปรยี ผกั เก็งเค็ง สม้ เก็งเค็ง สม้ ตะเลง เครง  ลักษณะ : ไมพ้ มุ่ สงู 50-180 ซม. มหี ลายพนั ธุ์ ลําต้นสมี ว่ งแดง  ใบเดียว รูปฝามอื 3 หรอื 5 แฉก กว้างและยาวใกล้เคียงกัน 8-15 ซม. ดอกเดียว ออกทีซอกใบ กลีบดอกสชี มพหู รอื เหลืองบรเิ วณ กลางดอกสมี ว่ งแดง เกสรตัวผเู้ ชอื มกันเปนหลอด ผลเปนผลแหง้   แตกได้ มกี ลีบเลียงสแี ดงฉานาหมุ้ ไว้  ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : ตํารายาไทยใชใ้ บและยอดอ่อนซงึ มรี ส เปรยี วแก้ไอ เมล็ดบาํ รุงธาตุ ขบั ปสสาวะ มรี ายงานการทดลองใน ผปู้ วยโรคนวิ ในท่อไต ซงึ ดืมยาชงกลีบเลียงแหง้ ของผล 3 กรมั ใน นา 300ซซี ี วันละ 3 ครงั ทําใหถ้ ่ายปสสาวะสะดวกขนึ บางราย นวิ หลดุ ได้เอง นอกจากนที ําใหผ้ ปู้ วยกระเพาะปสสาวะอักเสบมี

~ 3​ 5​ ~ อาการปวดแสบเวลาปสสาวะนอ้ ยลง                          หญา้ หนวดแมว  ชอื วิทยาศาสตร์ : Orthosiphon grandiflorus Bolding  วงศ์ : Labiatae  ชอื สามญั : Cat's Whisker  ชอื อืน : พยบั เมฆ  ลักษณะ : ไมพ้ มุ่ สงู 0.5-1 เมตร กิงและก้านสเี หลียมสมี ว่ งแดง  ใบ เดียว เรยี งตรงขา้ ม รูปไขแ่ กมสเี หลียมขา้ วหลามตัด กว้าง 2-4 ซม. ยาว 4-7 ซม. ขอบใบหยกั ฟนเลือย ดอก ชอ่ ออกทีปลายกิง  มี 2 พนั ธุค์ ือพนั ธุด์ อกสขี าวและพนั ธุด์ อกสมี ว่ งนาเงิน เกสรตัวผู้

~ 3​ 6​ ~ ยนื พน้ กลีบดอกออกมายาวมาก ผล เปนผลแหง้ ไมแ่ ตก รูปรี ขนาดเล็ก  ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : ตํารายาไทยใชท้ ังต้นเปนยาขบั ปสสาวะ  แก้โรคปวดตามสนั หลังและบนั เอว ใบเปนยารกั ษาโรคเบาหวาน และลดความดันโลหติ มกี ารทดลองใชใ้ บแหง้ เปนยาขบั ปสสาวะ  ขบั กรดยูรคิ ซงึ เปนสาเหตขุ องโรคเกาด์และรกั ษาโรคนวิ ในไตกับ ผปู้ วยโรงพยาบาลรามาธบิ ดี โดยใชใ้ บแหง้ ประมาณ 4 กรัม ชง กับนาเดือด 750 ซซี ี ดืมต่างนาตลอดวัน ได้ผลเปนทีนา่ พอใจ ของแพทย์ พบว่าในใบมเี กลือโปแตสเซยี มสงู ผปู้ วยโรคหวั ใจไม่ ควรใช้                      

~ ​37​ ~   หญา้ คา  ชอื วิทยาศาสตร์ : Imperata cylindrica Beauv.  วงศ์ : Gramineae  ชอื สามญั :  ลักษณะ : ไมล้ ้มลกุ สงู 0.3-0.9 เมตร มเี หง้าใต้ดิน รูปรา่ งยาว และแขง็ ใบ เดียว แทงออกจากเหง้า กว้าง 1-2 ซม. ยาวได้ถึง 1 เมตรขอบใบคม ดอก ชอ่ แทงออกจากเหง้า ดอกยอ่ ยอยูร่ วมกัน แนน่ สเี งินอมเทาจาง ผล เปนผลแหง้ ไมแ่ ตก  ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : ตํารายาไทยใชร้ ากและเหง้าเปนยาขบั ปสสาวะ แก้อาการกระเพาะปสสาวะอักเสบ ปสสาวะแดง บาํ รุง ไต ขบั ระดขู าว มกี ารศกึ ษาฤทธขิ บั ปสสาวะในสตั ว์ทดลอง พบว่า ได้ผลเฉพาะนาต้มสว่ นราก

~ ​38​ ~     อ้อยแดง  ชอื วิทยาศาสตร์ : Saccharum officinarum L.  วงศ์ : Gramineae  ชอื สามญั : Sugar-cane  ชอื อืน : อ้อย อ้อยขม อ้อยดํา  ลักษณะ :  ไมล้ ้มลกุ สงู 2-5 เมตร ลําต้นสมี ว่ งแดง มไี ขสขี าวปกคลมุ ไมแ่ ตก กิงก้าน ใบเดียว เรยี งสลับ กว้าง 2.5-5 ซม. ยาว 0.5-1 เมตร ดอก ชอ่ ออกทีปลายยอด สขี าว ผลเปนผลแหง้ ขนาดเล็ก อ้อยมี หลายพนั ธุ์ แตกต่างกันทีความสงู ความยาวของขอ้ และสขี อง ลําต้น  ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : ตํารายาไทยใชล้ ําต้นเปนยาขบั ปสสาวะ  โดยใชล้ ําต้นสด 70-90 กรมั หรอื แหง้ 30-40 กรมั หนั เปนชนิ ต้ม นาแบง่ ดืม วันละ 2 ครงั ก่อนอาหาร แก้ไตพกิ าร หนองในและขบั นวิ แพทยพ์ นื บา้ นใชข้ บั เสมหะ มรี ายงานว่าอ้อยแดงมฤี ทธิขบั ปสสาวะในสตั ว์ทดลอง 

~ 3​ 9​ ~                         ขล่ ู ชอื วิทยาศาสตร์ : Pluchea indica Less  วงศ์ : Compositae  ชอื สามญั : Indian Marsh Fleabane  ชอื อืน : ขลู่ หนวดงัว หนงดงิว หนวดงัว หนวดวัว  ลักษณะ : ไมพ้ มุ่ สงู 1-2.5 เมตร ชอบขนึ ในทีชนื แฉะ ใบเดียว  เรยี งสลับ รูปไขก่ ลับ กว้าง 1-5 ซม. ยาว 2.5-10 ซม. ขอบใบหยกั ซฟี นหา่ ง ๆ ดอกชอ่ ออกทียอดและซอกฟน กลีบดอกสมี ว่ ง ผล เปนผลแหง้ ไมแ่ ตก 

~ 4​ 0​ ~ ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : ตํารายาไทยใชท้ ังต้นต้มกินเปนยาขบั ปสสาวะ แก้เบาหวาน ต้มนาอาบแก้ผนื คัน นาคันใบสดรกั ษา รดิ สดี วงทวาร การทดลองในสตั ว์และคนปกติ พบว่ายาชงทังต้น มฤี ทธขิ บั ปสสาวะมากว่ายาขบั ปสสาวะแผนปจจุบนั ( hydrochlorothiazide) และมขี อ้ ดีคือสญู เสยี เกลือแรน่ อ้ ยกว่า                          สบั ปะรด  ชอื วิทยาศาสตร์ : Ananas comosus Merr.  วงศ์ : Bromeliaceae  ชอื สามญั : Pineapple 

~ 4​ 1​ ~ ชอื อืน : ขนนุ ทอง ยานดั ยา่ นนดั บอ่ นดั มะขะนดั มะนดั ลิงทอง  หมากเก็ง  ลักษณะ : ไมล้ ้มลกุ อายุหลายป สงู 90-100 ซม. มลี ําต้นอยูใ่ ต้ดิน  ใบ เดียว เรยี งสลับซอ้ นกันถีมากรอบต้น กว้าง 6.5 ซม. ยาวได้ถึง 1 เมตร ไมม่ กี ้านใบ ดอก ชอ่ ออกจากกลางต้น มดี อกยอ่ ยจํานวน มาก ผล เปนผลรวม รูปทรงกระบอก มใี บเปนกระจุกทีปลายผล  ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : ตํารายาไทยใชเ้ นอื ผลเปนยาแก้ไอขบั เสมหะ เหง้าเปนยาขบั ปสสาวะ แก้นวิ พบว่าลําต้น และผลมี เอนไซมย์ อ่ ยโปรตีน ชอื bromelain ใชเ้ ปนยาลดการอักเสบและ บวมจากการถกู กระแทกบาดแผล หรอื การผา่ ตัด โดยผลิตเปนยา เมด็ ชอื Ananase Forte Tablet                 

~ ​42​ ~         สะแก  ชอื วิทยาศาสตร์ : Combretum quadrangulare Kurz  วงศ์ : Combretaceae  ชอื สามญั :  ชอื อืน : แก ขอนแข้ จองแข้ แพง่ สะแก  ลักษณะ : ไมย้ นื ต้น สงู 5-10 เมตร กิงอ่อนเปนรูปเหลียม ใบเดียว  เรยี งตรงขา้ ม รูปวงรี หรอื รูปไขก่ ลับ กว้าง 3-8 ซม. ยาว 6-15 ซม . ดอกชอ่ ออกทีซอกใบ และปลาดยอด ดอกยอ่ ยมขี นาดเล็ก กลีบ ดอกสขี าว ผลแหง้ มี 4 ครบี เมล็ดสนี าตาลแดง รูปกระสวย มี 4 สนั ตามยาว  ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : เมล็ดแก่-ใชข้ บั พยาธไิ สเ้ ดือน และ พยาธเิ สน้ ด้ายในเด็ก โดยใชข้ นาด 1 ชอ้ นคาว หรอื 3 กรมั ตํา ผสมกับไขท่ อดกินครงั เดียว ขณะท้องว่าง    

~ 4​ 3​ ~                     พล ู ชอื วิทยาศาสตร์ : Piper betle L.  วงศ์ : Piperaceae  ชอื สามญั : Betel Vine  ลักษณะ :  ไมเ้ ถาเนอื แขง็ รากฝอยออกบรเิ วณขอ้ ใชย้ ดึ เกาะ ขอ้ โปงนนู ใบ  เดียว เรยี งสลับ รูปหวั ใจ กว้าง 8-12 ซม. ยาว 12-16 ซม. มกี ลิน เฉพาะและมรี สเผด็ ดอก ชอ่ ออกทีซอกใบ ดอกยอ่ ยขนาดเล็ก อัดแนน่ เปนรูปทรงกระบอก แยกเพศ สขี าว ผล เปนผลสด กลม เล็กเบยี ดอยูบ่ นแกน พลมู หี ลายพนั ธุ์ เชน่ พลเู หลือง พลู ทองหลาง  ประโยชนท์ างสมนุ ไพร :  ตํารายาไทยใชน้ าคันใบสดกินเปนยาขบั ลมและทาแก้ลมพษิ โดย ใช้ 3-4 ใบ ขยหี รอื ตําใหล้ ะเอียด ผสมเหล้าโรงเล็กนอ้ ย ทา บรเิ วณทีเปน ใบมนี ามนั หอมระเหย ประกอบด้วยสาร chavicol และ eugenol ซงึ มฤี ทธทิ ําใหช้ าเฉพาะที สามารถบรรเทาอาการ คันและฆา่ เชอื โรคบางชนดิ ด้วย จึงมกี ารพฒั นาตํารบั ยาขผี ึงผสม

~ 4​ 4​ ~ สารสกัดใบพลขู นึ เพอื ใชเ้ ปนยาทารกั ษาโรคผวิ หนงั บางชนดิ                           ทองพนั ชงั   ชอื วิทยาศาสตร์ : Rhinacanthus nasutus Kurz  วงศ์ : Acanthaceae  ชอื อืน : ทองคันชงั หญา้ มนั ไก่  ลักษณะ : ไมพ้ มุ่ สงู 1-2 เมตร กิงอ่อนมกั เปนสนั สเี หลียม ใบเดียว เรยี งตรงขา้ มรูปไขห่ รอื รูปวงรี กว้าง 2-4 ซม. ยาว 4-8 ซม. ดอก ชอ่ ออกทีซอกใบกลีบดอกสขี าว โดคนกลีบติดกันเปนหลอด ปลายแยกเปน 2 ปาก ปากล่างมจี ุดประสมี ว่ งแดง ผลเปนผลแหง้   แตกได้  ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : ตํารายาไทยใชใ้ บสดและรากโขลก ละเอียด แชเ่ หล้าโรง 1 สปั ดาหเ์ อานาทาแก้กลากเกลือน สาร

~ 4​ 5​ ~ สาํ คัญคือ rhinacanthin และ oxymethylanthraquinone                          มะหาด  ชอื วิทยาศาสตร์ : Artocarpus lakoocha Roxb.  วงศ์ : Moraceae  ชอื อืน : หาด ขุนปา มะหาดใบใหญ ่

~ ​46​ ~ ลักษณะ : ไมย้ นื ต้น สงู ประมาณ 30 เมตร ทรงพมุ่ แผก่ ว้าง ใบ  ดียว เรยี งสลับ รูปขอบขนานหรอื รูปวงรี กว้าง 8-10 ซม. ยาว 10 -20 ซม. หลังใบเปนมนั สเี ขยี วเขม้ ท้องใบสาก ดอก ชอ่ ออกที ซอกใบ ค่อนขา้ งกลม ก้านสนั แยกเพศ อยูบ่ นต้นเดียวกัน ผล  เปนผลรวม สเี หลือง ผวิ ขรุขระ มขี นนมุ่   ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : ตํารายาไทยใชป้ วกหาดเปนยาถ่าย พยาธเิ สน้ ด้าย พยาธไิ สเ้ ดือนและพยาธติ ัวตืดสาํ หรบั เด็ก สารที ออกฤทธคิ ือ 2, 4, 3, 5- tetrahydroxystillbene จากการศกึ ษา ไมพ่ บความเปนพษิ ขนาดทีใชค้ ือ ผงปวกหาด 3 กรมั ละลายนา เยน็ ดืมตอนเชา้ มดื หลังจากนนั ประมาณ 2 ชวั โมงใหก้ ินยาถ่าย (ดี เกลือ) นอกจากนยี งั ใชล้ ะลายนาทาแก้คัน “ปวกหาด” เตรียม โดยการเคียวเนอื ไมก้ ับนา กรองเนอื ไมอ้ อก บบี นาออกใหแ้ หง้ จะ ได้ผงสนี วลจับกันเปนก้อน ยา่ งไฟจนเหลือง เรยี กก้อนนไี ด้ว่า ป วกหาด                 

~ 4​ 7​ ~         พญาปล้องทอง  ชอื วิทยาศาสตร์ : Clinacantus nutans (Burm.) Lindau  วงศ์ : Acanthaceae  ชอื อืน : ผกั มนั ไก่ ผกั ลินเขยี ด พญาปล้องคํา พญาปล้องดํา พญา ยอ เสลดพงั พอน เสลดพงั พอนตัวเมยี   ลักษณะ : ไมพ้ มุ่ รอเลือย สงู 1-3 เมตร ใบเดียว เรยี งตรงขา้ ม รูป ใบหอก กว้าง 1-3 ซม. ยาว 4-12 ซม. สเี ขยี วเขม้ ดอกชอ่ ออก เปนกะจุกทีปลายกิง กลีบดอกสแี ดงสม้ โคนกลีบ สเี ขยี ว ติดกัน เปนหลอดยาว ปลายแยกเปน 2 ปาก ไมค่ ่อยออกดอก ผลเปนผล แหง้ แตกได้  ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : ตํารายาไทยใชใ้ บสดรกั ษาแผลไฟไหม้ นารอ้ นลวก แมลงกัดต่อย ผนื คัน โดยนาํ ใบสด 5-10 ใบ ตําหรอื ขยที า การทดลองในสตั ว์พบว่าสารสกัดใบสดด้วย n-butanol สามารถลดการอักเสบได้ มกี ารเตรยี มเปนทิงเจอรเ์ พอื ใชท้ า รกั ษาอาการอักเสบจากเรมิ ในปาก โดยใชใ้ บสด 1 กก. ปน ละเอียด เติมแอลกอฮอล์ 70% 1 ลิตร หมกั 7 วัน กรอง ระเหย บนเครอื งอังไอนาใหป้ รมิ าตรลดลงครงึ หนงึ เติมกลีเซอรนี เท่าตัว 

~ 4​ 8​ ~                         มะนาว  ชอื วิทยาศาสตร์ : Citrus aurantifolia Swing.  วงศ์ : Rutaceae  ชอื สามญั : Common Lime  ชอื อืน : สม้ มะนาว มะลิว (ภาคเหนอื )  ลักษณะ : ไมพ่ มุ่ สงู 2-4 เมตร กิงอ่อนมหี นาม ใบประกอบชนดิ มี ใบยอ่ ยใบเดียว เรยี งสลับ รูปไข่ รูปวงรหี รอื รูปไขแ่ กมขอบขนาน กว้าง 3-5 ซม. ยาว 4-8 ซม. เนอื ใบมจี ุดนามนั กระจาย ก้านใบมี ครบี เล็ก ๆ ดอกเดียวหรอื ชอ่ ออกทีปลายกิงและทีซอกใบ กลีบ ดอกสขี าว กลินหอม รว่ งง่าย ผลเปนผลสด กลมเกลียง ฉานา  ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : รายาไทยใชน้ ามะนาวและผลดองแหง้ เปนยาขบั เสมหะแก้ไอ แก้โรคเลือดออกตามไรฟน เพราะมี วิตามนิ ซี นามะนาวเปนกระสายยาสาํ หรบั สมนุ ไพรทีใชข้ บั เสมหะเชน่ ดีปลี 

~ ​49​ ~                         มะแว้งเครอื   ชอื วิทยาศาสตร์ : Solanum trilobatum L.  วงศ์ : Solanaceae  ชอื อืน : แขว้งเคีย  ลักษณะ : ไมเ้ ลือย มหี นามตามกิงก้าน ใบเดียว เรยี งสลับ รูปไข่ กว้าง 4-5 ซม. ยาว 5-8 ซม. ขอบใบเว้า มหี นามตามเสน้ ใบ ดอก ชอ่ ออกทีปลายกิงและซอกใบ กลีบดอกสมี ว่ ง ผลเปนผลสด รูป กลม ผลดิบสเี ขยี วมลี ายตามยาว เมอื สกุ สแี ดง  ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : ตํารายาไทยใชผ้ ลสดแก้ไอขบั เสมหะ  โดยใชข้ นาด 4-10 ผล โขลกพอแหลกคันเอานาใสเ่ กลือเล็กนอ้ ย  จิบบอ่ ยๆ หรอื เคียวกลืนเฉพาะนาจนหมดรสขมเฝอน มะแว้ง

~ 5​ 0​ ~ เครอื เปนสว่ นผสมหลักในยาประสะมะแว้งเชน่ กัน นอกจากนใี ช้ ขบั ปสสาวะแก้ไขแ้ ละเปนยาขมเจรญิ อาหารด้วย                              มะแว้งต้น  ชอื วิทยาศาสตร์ : Solanum indicum L.  วงศ์ : Solanaceae  ชอื อืน : 


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook