ช่ือหนงั สือ : รายงานประจำ�ปี 2559 จดั พิมพ์โดย : สำ�นักโรคไมต่ ดิ ต่อ กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสุข คณะบรรณาธิการ : กลมุ่ ยุทธศาสตรแ์ ละแผนงานส�ำ นักโรคไมต่ ิดต่อ พมิ พ์ครั้งท่ี 1 : ธันวาคม 2559 จ�ำ นวนพมิ พ์ : 1,000 เลม่ พมิ พท์ ี่ : พมิ พท์ ่ี สำ�นกั งานกิจการโรงพิมพ์ องค์การสงเคราะห์ทหารผา่ นศกึ ในพระบรมราชปู ถมั ภ์
สารจากผอู้ ำ� นวยการ รายงานประ ำจ� ีป 2559 กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายสำ�คัญด้านการพัฒนางานสาธารณสุขในทุกระดับและ ทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการส่งเสริม ป้องกันและควบคุมโรค เพื่อให้คนไทยทุกกลุ่มวัย ห่างไกลโรค และลดอัตราการเจ็บป่วย โดยมุ่งเน้นประโยชน์ท่ีจะเกิดกับประชาชนอย่างเป็น รปู ธรรมและมคี วามเสมอภาค รายงานประจำ�ปี 2559 ของส�ำ นักโรคไมต่ ดิ ต่อ จัดท�ำ ขนึ้ เพอื่ เผยแพรผ่ ลการด�ำ เนินงาน ดา้ นการป้องกัน ควบคุมโรคไมต่ ดิ ตอ่ และการบาดเจ็บ อีกทงั้ ยงั เปน็ ช่องทางการส่ือสารอีกรูปแบบ หนงึ่ ใหแ้ กอ่ งคก์ รภาครฐั เอกชน และภาคเี ครอื ขา่ ยทเ่ี กย่ี วขอ้ งทกุ ภาคสว่ นไดน้ �ำ ขอ้ มลู ไปใชป้ ระโยชน์ ซง่ึ ประกอบดว้ ย นโยบายและทศิ ทางการด�ำ เนนิ งาน ผลการปฏบิ ตั ริ าชการประจ�ำ ปงี บประมาณ พ.ศ. 2559 ผลงานเดน่ และกจิ กรรมตา่ ง ๆ ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง นอกจากนส้ี �ำ นกั โรคไมต่ ดิ ตอ่ ยงั เนน้ ถงึ ความส�ำ คญั ของการเสรมิ สรา้ งแรงจงู ใจ ความสมั พนั ธข์ องบคุ ลากร โดยมงุ่ ผลกั ดนั ใหเ้ ปน็ องคก์ รแหง่ ความสขุ บุคลากรสามารถแสดงศกั ยภาพไดอ้ ย่างเตม็ ท่ี มขี วญั และกาํ ลงั ใจ ในการปฏิบตั ิงานร่วมกนั อยา่ ง เปน็ นํา้ หน่ึงใจเดยี ว สง่ ผลต่อประสทิ ธภิ าพในการปฏบิ ตั ิงานท่ดี ยี ง่ิ ข้ึน ในปีงบประมาณ 2560 สำ�นักโรคไม่ติดต่อ จะมุ่งเน้นการปรับบทบาทให้ทันต่อการ เปลยี่ นแปลงของสภาวะแวดลอ้ มทางสงั คม โดยการขบั เคลอ่ื นตามแผนยทุ ธศาสตรส์ ขุ ภาพดี วิถีชีวิตไทยระยะท่ี 2 แผนยุทธศาสตร์การป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อระดับชาติ 5 ปี (พ.ศ. 2560 – 2564) นอกจากนี้ยังเนน้ การด�ำ เนินงานแบบบรู ณาการ ภายใตค้ วามรว่ มมือกับ ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อให้การดำ�เนินงานบรรลุเป้าหมายสามารถควบคุมป้องกันปัญหา ดา้ นโรคไม่ติดต่อ สดุ ทา้ ยนขี้ อขอบคณุ บคุ ลากรจากกลมุ่ ตา่ ง ๆ ของส�ำ นกั โรคไมต่ ดิ ตอ่ ที่ไดร้ วบรวม เรยี บเรยี ง วเิ คราะหข์ อ้ มลู ดา้ นโรคไมต่ ดิ ตอ่ และการบาดเจบ็ รวมถงึ ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ทเี่ กยี่ วขอ้ ง ขอขอบคณุ ผทู้ ม่ี ี สว่ นเกยี่ วขอ้ งทกุ ทา่ นและหนว่ ยงานตา่ ง ๆ ทม่ี สี ว่ นรว่ มในการจดั ท�ำ รายงานประจ�ำ ปี 2559 ในครงั้ น้ี ดเิ รก ขำ�แป้น (นายแพทยด์ ิเรก ข�ำ แปน้ ) ผอู้ ำ�นวยการส�ำ นักงานป้องกนั ควบคมุ โรคท่ี 3 จงั หวัดนครสวรรค์ รักษาราชการแทน ผอู้ �ำ นวยการส�ำ นักโรคไม่ติดต่อ ก3
รายงานประจ�ำ ปี 2559 สารบัญ หนา้ สารจากผอู้ �ำ นวยการ ก สารบัญ ข สารบญั ตาราง ง สารบัญแผนภาพ จ นโยบายดา้ นสาธารณสุข 1 นโยบายและแนวทางการด�ำ เนนิ งานของรัฐมนตรวี า่ การกระทรวงสาธารณสุข 2 ทศิ ทางและกลไกการบรหิ ารจดั การเชงิ ยทุ ธศาสตรก์ รมควบคมุ โรค 3 ประจ�ำ ปงี บประมาณ 2559 ขอ้ มลู ท่วั ไป 5 วิสยั ทศั น์ พันธกจิ ยทุ ธศาสตร์ เปา้ ประสงค์ และกลยทุ ธ ์ 7 ทำ�เนียบผู้บรหิ าร 6 โครงสรา้ งและอัตรากำ�ลงั 9 บทบาทและอ�ำ นาจหนา้ ท่ ี 10 การด�ำ เนินงานโครงการป้องกนั โรคไมต่ ดิ ตอ่ และการบาดเจบ็ 14 สรปุ การใช้จา่ ยเงินงบประมาณ ประจำ�ปีงบประมาณ 2559 14 สถานการณ์และผลการด�ำ เนนิ งานป้อกันและควบคมุ โรคไมต่ ดิ ต่อ 17 สถานการณ์การป่วยและการเสยี ชีวติ กอ่ นวัยอันควรจากโรคไมต่ ดิ ตอ่ 18 ผลการด�ำ เนินงานตามตวั ช้ีวดั กระทรวงสาธารณสุข 27 ประจ�ำ ปีงบประมาณ 2559 ผลงานเดน่ ดา้ นการปอ้ งกนั ควบคมุ โรคไมต่ ิดต่อ 28 การดำ�เนนิ งานโครงการป้องกันและควบคุมโรคไม่ตดิ ต่อ 46 ภายใต้แผนปฏบิ ตั ิราชการกรมควบคุมโรค ประจ�ำ ปงี บประมาณ 2559 ข
สถานการณแ์ ละผลการดำ�เนนิ งานป้องกันการบาดเจบ็ 51 รายงานประ ำจ� ีป 2559 จากอบุ ตั เิ หตทุ างถนน 52 สถานการณก์ ารบาดเจบ็ และการเสยี ชวี ติ จากอบุ ัตเิ หตุทางถนน ผลการด�ำ เนินงานตามตวั ชี้วดั กระทรวงสาธารณสขุ ประจ�ำ ปีงบประมาณ 2559 53 ผลงานเดน่ ด้านการป้องกันการบาดเจบ็ จากอุบัติเหตุทางถนน 54 การด�ำ เนนิ งานโครงการปอ้ งกนั การบาดเจ็บจากอบุ ัตเิ หตุทางถนน 59 ภายใตแ้ ผนปฏิบตั ริ าชการกรมควบคุมโรค ประจ�ำ ปงี บประมาณ 2559 สถานการณ์และผลการดำ�เนนิ งานป้องกันการบาดเจบ็ 61 จากสาเหตอุ น่ื ๆ 62 สถานการณก์ ารเสยี ชีวติ จากการตกนํ้า จมนา้ํ ของเดก็ อายุต่าํ กวา่ 15 ปี 67 ผลการด�ำ เนินงานตามตวั ช้ีวัดกระทรวงสาธารณสุข 68 ประจ�ำ ปงี บประมาณ 2559 70 ผลงานเดน่ ด้านการป้องกนั การจมนํา้ ในเดก็ 73 สถานการณก์ ารพลัดตกหกล้มในผูส้ งู อาย ุ การด�ำ เนนิ งานโครงการปอ้ งกนั การบาดเจบ็ จากสาเหตุอน่ื ๆ ภายใต้แผนปฏิบตั ริ าชการ กรมควบคมุ โรคประจำ�ปงี บประมาณ 2559 การด�ำ เนนิ งานดา้ นยุทธศาสตร์แผนงานและการพฒั นาองค์กร 75 การดำ�เนนิ งานด้านยุทธศาสตร์แผนงานปอ้ งกนั โรคไม่ติดต่อ 76 และการบาดเจ็บ 80 การดำ�เนนิ งานพฒั นาองค์กร ทศิ ทางการดำ�เนินงานเฝ้าระวัง ป้องกนั ควบคมุ โรคไมต่ ิดตอ่ 85 ปีงบประมาณ 2560 86 ทิศทางการด�ำ เนินงานเฝา้ ระวัง ป้องกนั ควบคมุ โรคไมต่ ิดต่อ ปี 2560 88 (ร่าง) แผนยทุ ธศาสตรส์ ขุ ภาพดีวถิ ีชีวติ ไทยระยะท่ี 2 : แผนยุทธศาสตร์ การปอ้ งกนั และควบคุมโรคไมต่ ดิ ต่อระดบั ชาติ 5 ปี (พ.ศ. 2560 – 2564) ภาคผนวก 91 เบอรโ์ ทรศพั ทภ์ ายในส�ำ นกั โรคไมต่ ิดตอ่ 91 รายนามผ้เู รียบเรยี งผลงานเดน่ 92 ค
รายงานประจ�ำ ปี 2559 สารบัญตาราง หนา้ 14 ตารางท่ี 1 โครงการตามแผนปฏบิ ตั ริ าชการเฝา้ ระวงั ปอ้ งกนั ควบคมุ โรคไมต่ ดิ ตอ่ และการบาดเจบ็ และโครงการทไ่ี ดร้ บั การสนบั สนนุ จากแหลง่ ทนุ อน่ื ๆ ประจ�ำ ปงี บประมาณ พ.ศ. 2559 19 ตารางท่ี 2 ของส�ำ นกั โรคไมต่ ดิ ตอ่ ตารางท่ี 3 อตั ราตายโรคเบาหวานตอ่ แสนประชากร (E10-15) ระหวา่ งปี 2555 - 2558 ตารางท่ี 4 จ�ำ แนกรายเขตสขุ ภาพ อตั ราตายโรคหลอดเลอื ดสมองตอ่ แสนประชากร (I60-I69) ระหวา่ งปี 2555 - 2558 19 จ�ำ แนกรายเขตสขุ ภาพ อตั ราตายโรคหวั ใจขาดเลอื ด (I20-I25) ระหวา่ งปี 2555 - 2558 จ�ำ แนกรายเขตสขุ ภาพ 20 ตารางท่ี 5 อตั ราตายจากภาวะความดนั โลหติ สงู (I10-I15) ระหวา่ งปี 2555 - 2558 21 ตารางท่ี 6 จ�ำ แนกรายเขตสขุ ภาพ 21 ตารางท่ี 7 อตั ราตายโรคทางเดนิ หายใจอดุ กน้ั เรอ้ื รงั (J40-J44) ระหวา่ งปี 2555 - 2558 จ�ำ แนกรายเขตสขุ ภาพ ตารางท่ี 8 ตารางท่ี 9 ความแตกตา่ งอตั ราตายและสดั สว่ นการตายกอ่ นวยั อนั ควร (30-69 ป)ี 22 ตารางท่ี 10 ของ 5 โรคไมต่ ดิ ตอ่ ส�ำ คญั ระหวา่ งปี 2555 - 2558 ตารางท่ี 11 ตารางท่ี 12 ความชกุ ปรบั ฐานอายขุ องปจั จยั เสย่ี งและพฤตกิ รรมเสย่ี งโรคไมต่ ดิ ตอ่ 25 ตารางท่ี 13 พ.ศ.2548, 2550, 2553, 2558 ตารางท่ี 14 ความชกุ ปรบั ฐานอายขุ องปจั จยั เสย่ี งและพฤตกิ รรมเสย่ี งโรคไมต่ ดิ ตอ่ 26 พ.ศ.2548, 2550, 2553, 2558 33 การด�ำ เนนิ งานและกจิ กรรมส�ำ คญั ในการจดั การโรคไตเรอ้ื รงั ในคลนิ กิ ชะลอไตเสอ่ื ม (CKD) และชมุ ชน จ�ำ นวนและรอ้ ยละของผมู้ พี ฤตกิ รรมเสย่ี งทผ่ี า่ นดา่ นชมุ ชน 57 จงั หวดั ทม่ี อี ตั ราการเสยี ชวี ติ ตอ่ ประชากร 100,000 คนจากการจมนา้ํ 65 ของเดก็ อายตุ า่ํ กวา่ 15 ปี สงู ทส่ี ดุ 10 อนั ดบั แรก ปี พ.ศ. 2556 - 2558 จงั หวดั ทม่ี จี �ำ นวนการเสยี ชวี ติ จากการจมนา้ํ ของเดก็ อายตุ า่ํ กวา่ 15 ปี สงู ทส่ี ดุ 10 อนั ดบั แรก 66 ปี พ.ศ. 2556 - 2558 ตวั ชว้ี ดั ภายใตแ้ ผนยทุ ธศาสตรช์ าตริ ะยะ 20 ป ี 86 ง
สารบญั แผนภาพ รายงานประ ำจ� ีป 2559 หนา้ แผนภาพท่ี 1 จ�ำ นวนและอตั ราผปู้ ว่ ยในโรคหวั ใจขาดเลอื ด 24 ทกุ กลมุ่ อายุ ปี 2550 - 2558 จ�ำ แนกรายเขตสขุ ภาพ แผนภาพท่ี 2 จ�ำ นวนและอตั ราผปู้ ว่ ยในโรคเบาหวาน ทกุ กลมุ่ อายุ ปี 2550 - 2558 24 จ�ำ แนกรายเขตสขุ ภาพ แผนภาพท่ี 3 จ�ำ นวนและอตั ราผปู้ ว่ ยในโรคความดนั โลหติ สงู ทกุ กลมุ่ อายุ ปี 2550 - 2558 24 จ�ำ แนกรายเขตสขุ ภาพ แผนภาพท่ี 4 จ�ำ นวนและอตั ราผปู้ ว่ ยในโรคหลอดเลอื ดสมอง ทกุ กลมุ่ อายุ ปี 2550 - 2558 24 จ�ำ แนกรายเขตสขุ ภาพ แผนภาพท่ี 5 การเปรยี บเทยี บอตั ราตายจากโรคหลอดเลอื ดหวั ใจ ตอ่ ประชากรแสนคน 27 30 ปี 2558 - 2559 จ�ำ แนกรายเขตสขุ ภาพ แผนภาพท่ี 6 รอ้ ยละของผปู้ ว่ ย DM/HT ทไ่ี ดร้ บั การคดั กรองความเสย่ี งตอ่ การเกดิ โรคหวั ใจ และหลอดเลอื ด (CVD Risk) จ�ำ แนกรายเขตสขุ ภาพ (รอบ 9 เดอื น) แผนภาพท่ี 7 รอ้ ยละของผปู้ ว่ ย DM/HT ทม่ี คี วามเสย่ี งตอ่ การเกดิ โรคหวั ใจ 31 และหลอดเลอื ดสงู มาก 30% ไดร้ บั การปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรมอยา่ งเขม้ ขน้ 35 แผนภาพท่ี 8 รอ้ ยละของผปู้ ว่ ยโรคไตเรอ้ื รงั สามารถชะลอความเสอ่ื มของไตได ้ แผนภาพท่ี 9 รอ้ ยละของโรงพยาบาลผา่ นการประเมนิ คลนิ กิ NCD คณุ ภาพ 39 เปรยี บเทยี บปงี บประมาณ 2557 - 2559 52 54 แผนภาพท่ี 10 จ�ำ นวนและอตั ราตายตอ่ ประชากร 100,000 คน จากอบุ ตั เิ หตทุ างถนน ปี 2543-2558 แผนภาพท่ี 11 อตั ราการเสยี ชวี ติ จากอบุ ตั เิ หตทุ างถนนตอ่ แสนประชากรเปรยี บเทยี บ คา่ เปา้ หมาย ปงี บประมาณ 2559 แผนภาพท่ี 12 จ�ำ นวนผบู้ าดเจบ็ และเสยี ชวี ติ ทด่ี ม่ื สรุ าในพน้ื ท่ี 40 อ�ำ เภอ 58 เปรยี บเทยี บสงกรานต์ 2555-2559 แผนภาพท่ี 13 รอ้ ยละของผบู้ าดเจบ็ และเสยี ชวี ติ ทด่ี ม่ื สรุ าใน 40 อ�ำ เภอ เปรยี บเทยี บสงกรานต ์ 58 2555-2559 จ
รายงานประจ�ำ ปี 2559 สารบญั แผนภาพ (ตอ่ ) แผนภาพท่ี 14 จ�ำ นวนและอตั ราการเสยี ชวี ติ ตอ่ ประชากร 100,000 คน ของเดก็ อายตุ า่ํ กวา่ 15 ปี 63 จากการตกนา้ํ จมนา้ํ ประเทศไทย ปี พ.ศ. 2542 - 2558 (ค.ศ. 1999 - 2015) แผนภาพท่ี 15 อตั ราการเสยี ชวี ติ ตอ่ ประชากร 100,000 คน ของเดก็ อายตุ า่ํ กวา่ 15 ปี 63 จากการตกนา้ํ จมนา้ํ ประเทศไทย จ�ำ แนกตามกลมุ่ อายุ ปี พ.ศ. 2546 - 2558 (ค.ศ. 2003 - 2015) แผนภาพท่ี 16 เปรยี บเทยี บการเสยี ชวี ติ จากการจมนา้ํ ของเดก็ อายตุ า่ํ กวา่ 15 ปี ในประเทศไทย 65 ปี พ.ศ. 2556 - 2558 จ�ำ แนกตามเขตพน้ื ทเ่ี สย่ี ง แผนภาพท่ี 17 อตั ราการเสยี ชวี ติ จากอบุ ตั เิ หตทุ างถนนตอ่ แสนประชากร 67 เปรยี บเทยี บคา่ เปา้ หมาย ปงี บประมาณ 2559 แผนภาพท่ี 18 อตั ราการเสยี ชวี ติ จากการพลดั ตกหกลม้ ของประชากรไทยเปรยี บเทยี บระหวา่ ง 70 รวมทกุ กลมุ่ อายแุ ละกลมุ่ อายุ 60 ปขี น้ึ ไป ตอ่ ประชากรแสนคน ปี พ.ศ. 2549 - 2558 แผนภาพท่ี 19 อตั ราการเสยี ชวี ติ จากการพลดั ตกหกลม้ ของกลมุ่ อายุ 60 ปขี น้ึ ไป 70 ตอ่ ประชากรผสู้ งู อายแุ สนคน ปี พ.ศ. 2551 - 2558 แผนภาพท่ี 20 อตั ราการเสยี ชวี ติ จากการพลดั ตกหกลม้ ของกลมุ่ อายุ 60 ปขี น้ึ ไป 71 ตอ่ ประชากรผสู้ งู อายแุ สนคน จ�ำ แนกตามเขตสขุ ภาพ ปี พ.ศ. 2558 แผนภาพท่ี 21 รอ้ ยละของสาเหตกุ ารพลดั ตกหกลม้ ของกลมุ่ อายุ 60 ปขี น้ึ ไปปี พ.ศ. 2558 71 แผนภาพท่ี 22 จ�ำ นวนผบู้ าดเจบ็ จากการพลดั ตกหกลม้ ของกลมุ่ อายุ 60 ปขี น้ึ ไป จ�ำ แนกตามเพศ 71 87 ปี พ.ศ. 2554 - 2558 แผนภาพท่ี 23 แผนการด�ำ เนนิ งานปงี บประมาณ พ.ศ. 2560 ฉ
สว นท่ี 1 นโยบาย ดานสาธารณสุข
รายงานประจ�ำ ปี 2559 1ส่วนท่ี นโยบายและแนวทางการดำ� เนินงาน ของรฐั มนตรีวา่ การกระทรวงสาธารณสขุ ศาสตราจารยค์ ลินิก เกยี รติคุณ นายแพทยป์ ยิ ะสกล สกลสตั ยาทร นโยบาย 1. ให้ความสำ�คัญสูงสุดต่อการพัฒนางาน 7. เร่งรัดปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบกฎเกณฑ์ ส า ธ า ร ณ สุ ข ต า ม แ น ว พ ร ะ ร า ช ดำ � ริ แ ล ะ โ ค ร ง ก า ร ให้เอ้ือต่อการปฏิบัติงานสาธารณสุข เพ่ือประสิทธิผล เฉลมิ พระเกยี รติ เพอ่ื เทดิ พระเกยี รตพิ ระบรมวงศานวุ งศ์ ทด่ี ตี อ่ สขุ ภาวะของประชาชน ทุกพระองค์และเกดิ ประโยชน์สูงสุดตอ่ ประชาชน 8. สนับสนุนกลไกการทำ�งานสาธารณสุขให้เป็น 2. บรู ณาการองคป์ ระกอบและบทบาทเขตสขุ ภาพ ไปเพื่อส่งเสริมการสร้างความมั่นคงและความผาสุก ระหว่างสำ�นักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และ ของสงั คมไทยและสงั คมโลก กระทรวงสาธารณสขุ เพอื่ ใหก้ ารดแู ลสขุ ภาพคนไทยเปน็ ไปอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพในทุกระดบั และทกุ มิติ คา่ นิยม 3. พัฒนาการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้ ประชาชนทุกกลุ่มวัยเพ่ือป้องกันความเสี่ยงต่อสุขภาพ ซอ่ื สัตย์ และคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค ดว้ ยความรว่ มมอื ของทกุ ภาคสว่ น สามคั คี โดยให้คนไทยมีโอกาสได้ร่วมคิด ร่วมนำ� ร่วมทำ� และ มีความรับผดิ ชอบ ร่วมรับผิดชอบด้วย เป็นการอภิบาลแบบเครือข่าย ตรวจสอบได้โปร่งใส เอื้ออำ�นวยระบบสุขภาพแห่งชาติเช่ือมประสานทุก มุ่งในผลสมั ฤทธข์ิ องงาน ภาคส่วน เข้าด้วยกนั กลา้ หาญทำ�ในส่งิ ทถี่ ูกต้อง 4. เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการของ หน่วยงานทุกระดับท้ังการบริหารการเงินการคลัง แนวทางการท�ำ งาน การบริหารกำ�ลังคน และการบริหารข้อมูลสุขภาพ เพื่อสนับสนุนการปฏิรูปสาธารณสุขและปฏิรูปประเทศ 1. กำ�หนดค่านิยมร่วมกันเพ่ือปฏิบัติมุ่งสู่เป้า เพ่อื ใหพ้ ลเมืองไทยมีสขุ ภาพแขง็ แรง หมายคอื ใหค้ นไทยมสี ขุ ภาพดตี ามแนวปรชั ญาเศรษฐกจิ 5. ให้ความสำ�คัญในการพัฒนากำ�ลังคนด้าน พอเพยี ง สาธารณสุขทั้งความรู้ทักษะ การผลิต การใช้การสร้าง 2. สนองนโยบายสาธารณสขุ ของรัฐบาล ขวัญกำ�ลังใจภายใต้การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและ 3. สานต่อนโยบายและโครงการในอดีตและ สังคมปจั จบุ ัน ปัจจบุ นั ทีด่ มี ปี ระโยชน์ 6. วิจัยและพัฒนาเพ่ือส่งเสริมภูมิปัญญาไทย 4. สร้างสามัคคีเพ่ือให้บุคลากรโดยส่วนรวมมี และสมุนไพรไทยให้มีคุณภาพครบวงจร และเกิดผลดี ความสขุ เหมอื นชอ่ื กระทรวง ต่อเศรษฐกจิ ไทย ณ วันที่ 24 สงิ หาคม 2558 ณ หอ้ งประชมุ ชัยนาทนเรนทร สำ�นักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข 2
ทศิ ทางและกลไกการบริหารจดั การเชิงยทุ ธศาสตร์ รายงานประ ำจ� ีป 2559 ่สวน ่ีท 1 กรมควบคมุ โรค ประจ�ำปงี บประมาณ 2559 นายแพทยอ์ ำ�นวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคมุ โรค นโยบายการดำ�เนินงานป้องกันควบคุมโรคในปี 5. สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพบุคลากร เพื่อ 2559 ได้ให้ความสำ�คัญต่อการเป็นพื้นฐานที่เช่ือมโยง สนับสนุนการพัฒนาความม่ันคงทางสุขภาพ (Global ไปถึงงาน ในอนาคต ท้งั ระยะสน้ั ระยะปานกลาง และ Health Security Agenda : GHSA) โดยเร่งรัดการ ระยะยาวท่ีทอดเวลาถึง 2 ทศวรรษ ตามทิศทางและ พัฒนาศูนย์ฝึกอบรมระดบั ชาติ(International Training กรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาและ การปฏิรูปประเทศ Center) และการฝึกอบรมเพ่ือ สร้างความเชี่ยวชาญ โดยได้ก�ำ หนดเป้าหมาย มาตรการ ตวั ชีว้ ดั ความสำ�เรจ็ เฉพาะดา้ น ท้ังในระดับหน่วยงานวิชาการส่วนกลางและสำ�นักงาน 6. พฒั นากฎหมายใหม่ และประสานการมสี ว่ นรว่ ม ป้องกันควบคุมโรคในระดับภูมิภาค ที่เชื่อมโยงกับการ ของเครือข่ายเพ่ือสร้างความตระหนักในการบังคับใช้ พัฒนาระบบราชการในระดับประเทศ ระดับกระทรวง กฎหมาย พ.ร.บ.โรคตดิ ต่อ พ.ศ. 2558 พ.ร.บ.ควบคมุ และระดับกรม ท้ังนี้ได้มุ่งเน้นให้หน่วยงานทุกระดับใน เครื่องด่ืมแอลกอฮอล์พ.ศ. 2551 และพ.ร.บ.ควบคุม สงั กดั ด�ำ เนนิ การประเมนิ ตนเองเทยี บกบั เปา้ หมายทตี่ ง้ั ไว้ ผลิตภัณฑย์ าสบู พ.ศ. 2535 (Benchmark) เพื่อหาส่วนขาด เพอื่ พัฒนา ใหส้ ามารถ 7. พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้สามารถ บรรลุเป้าหมายทิศทางและกลไกการบริหารจัดการ บริการข้อมูลสำ�หรับประชาชน และเช่ือมโยงข้อมูล เชิงยุทธศาสตร์กรมควบคุมโรค ประจำ�ปีงบประมาณ สำ�หรับบุคลากร ด้านสาธารณสุขเพื่อการวิเคราะห์ พ.ศ. 2559 สู่การบรรลุวิสัยทัศน์องค์การ กล่าวคือ ประเมินสถานการณ์โรค ตลอดจนข้อมูลสำ�หรับ “กรมควบคุมโรคเป็นองค์กรชั้นนำ�ระดับนานาชาติที่ สงั คมเชอื่ ถอื และ ไวว้ างใจ เพอื่ ปกปอ้ งประชาชนจาก การตัดสนิ ใจส�ำ หรับผูบ้ รหิ าร ทีท่ ันต่อสถานการณ์ โรคและภัยสุขภาพ ด้วยความเป็นเลิศทางวิชาการ” 8. พัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการ โดยยึดปรัชญาในการดำ�เนินงาน “มีแผนงาน พื้นที่ ด้านกำ�ลังคนให้เหมาะสม ตลอดจนเสริมสร้างขวัญ เปน็ ฐาน ประชาชนเปน็ ศนู ยก์ ลาง บรู ณาการในพนื้ ท”ี่ กำ�ลงั ใจให้มคี วามสขุ ในการทำ�งาน โดยมงี านตามนโยบาย 10 เรอ่ื ง ดังน้ี 9. ส่งเสริม สนับสนุนการวิจัยการประเมิน 1. ให้ความสำ�คัญสูงสุดต่อการพัฒนางาน ส า ธ า ร ณ สุ ข ต า ม แ น ว พ ร ะ ร า ช ดำ � ริ แ ล ะ โ ค ร ง ก า ร เทคโนโลยกี ารจดั การองคค์ วามรแู้ ละพฒั นาการปอ้ งกนั เฉลมิ พระเกยี รตเิ พอ่ื เทดิ พระเกยี รตพิ ระบรมวงศานวุ งศ์ ควบคมุ โรคอยา่ งครบวงจร ทุกพระองค์โดยถือว่าเป็นนโยบายสำ�คัญที่ต้องดำ�เนิน 10. สนับสนุนการสร้างความเข้มแข็งของการ การพฒั นาอยา่ งต่อเนอื่ ง จดั การแผนงาน ควบคไู่ ปกบั การพฒั นาโครงสรา้ งองคก์ ร 2. เสริมสร้างความเข้มแข็งและพัฒนาระบบ ระดับหน่วยงาน ทั้งนี้ในการขับเคล่ือนการดำ�เนินงาน การจัดการโรคติดต่อ โรคอุบัติใหม่ โรคอุบัติซํ้า และ ดังกล่าวข้างต้น ได้อาศัย 6 ยุทธศาสตร์หลักของ ภยั คกุ คาม ใหส้ ามารถ สกดั กั้นการแพรก่ ระจายได้อยา่ ง กรมควบคมุ โรคทผี่ า่ นทบทวนและปรบั ปรงุ ใหต้ อบสนอง ทันทว่ งที ต่อการเปล่ียนแปลงของปัจจัยต่างๆท่ีเป็นพลวัต สู่การ 3. เร่งรัดการพัฒนาระบบจัดการโรคไม่ติดต่อ ลดปัญหาโรคและภัยคุกคามต่อสุขภาพของประชาชน และอบุ ตั ิเหตุ อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนางาน 4. เร่งรัดการพัฒนาระบบการจัดการปัจจัยเสี่ยง ด้านสุขภาพให้มีความต่อเน่ืองและยัง่ ยนื อนั เนอ่ื งมาจากสิง่ แวดลอ้ ม 3
4 รายงานประจ�ำ ปี 2559
สวนที่ 2 ขอ มูลท่ัวไป
รายงานประจ�ำ ปี 2559 วสยั ทศั น “ เปนองคก ารชั้นนำดา นวชาการ ในการเฝา ระวัง ปอ งกนั ควบคมุ โรคไมต ิดตอ และการบาดเจบ็ ของประเทศ และระดับนานาชาตภิ ายใน ป 2563” พนั ธกิจ 1. พฒั นาองคความรู เทคโนโลยี สรา งนวตั กรรมในการเฝา ระวัง ปองกัน ควบคมุ โรคไมตดิ ตอ และการบาดเจ็บ ตลอดจนขอมลู การเฝาระวงั พฤตกิ รรมเสย่ี งโรคไมตดิ ตอ และการบาดเจบ็ ที่ไดมาตรฐานสากล 2. ถา ยทอด สงเสรม สนบั สนนุ และแลกเปล่ยี นองคความรู เทคโนโลยใี นการเฝา ระวัง ปอ งกนั ควบคุมโรคไมต ิดตอ และการบาดเจบ็ ใหก บั ภาคเี ครอขา ยและประชาชน 3. ผลกั ดนั ใหเ กดิ นโยบายสาธารณะ และมาตรการดา นโรคไมติดตอ และการบาดเจบ็ และตดิ ตามการดำเนนิ งานตามนโยบาย/มาตรการ 4. ติดตามและประเมินผลการดำเนนิ งานเฝาระวัง ปองกัน ควบคมุ โรคไมตดิ ตอและการบาดเจ็บในระดับประเทศ 5. สราง สนบั สนนุ สงเสรมศักยภาพ และประสานความรวมมือ ภาคเี ครอขา ยการดำเนินงานระวังปองกนั ควบคมุ โรคไมต ิดตอ และการบาดเจบ็ 6
คณะผูบ รหิ ารของสำนักโรคไมตดิ ตอ รายงานประ ำจ� ีป 2559 นายแพทยด เิ รก ขำแปน รกั ษาราชการแทน ผูอ ำนวยการสำนักโรคไมติดตอ นายแพทยช ูฤทธิ์ เต็งไตรสรณ นางนงนุช ตันตธิ รรม แพทยห ญงิ จรุ พี ร คงประเสรฐิ นายแพทยเ ชี่ยวชาญ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพเิ ศษ นายแพทยเ ช่ยี วชาญ รองผูอำนวยการสำนักโรคไมต ดิ ตอ รองผูอำนวยการสำนกั โรคไมต ดิ ตอ รองผูอ ำนวยการสำนกั โรคไมตดิ ตอ และรักษาการหัวหนา กลมุ ปองกนั บาดเจ็บจากจราจร แพทยห ญงิ สุมนี วัชรสนิ ธุ นางสาวสชุ าดา เกิดมงคลการ นางศรีเพ็ญ สวัสดิมงคล นายแพทยชำนาญการพเิ ศษ นกั วชิ าการสาธารณสุขชำนาญการพเิ ศษ นักวชิ าการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ หวั หนากลมุ พัฒนาระบบสาธารณสขุ หวั หนากลุม ปองกันบาดเจ็บจากสาเหตุอนๆ หัวหนา กลมุ ยุทธศาสตรแ ละแผนงาน นางณฐั ธิวรรณ พนั ธม งุ นางสมพร คลายเณร นางนติ ยา พันธุเวทย นกั วิชาการสาธารณสขุ ชำนาญการ นักวิชาการเงินและบัญชีชำนาญการ นักวิชาการสาธารณสขุ ชำนาญการ หวั หนากลุม พัฒนาองคกร หวั หนากลมุ โรคไมต ดิ ตอเรื้อรงั หัวหนากลมุ บริหารทั่วไป 7
รายงานประจ�ำ ปี 2559 3ส่วนท่ี 6. จำ�นวนปีท่ีสูญเสียจากกการตายก่อนวัย ใน 100,000 คน) มกี ารเพิม่ โอกาสความนา่ จะเปน็ การ อนั ควรและความนา่ จะเปน็ การเสยี ชวี ติ ทอ่ี ายุ 30 ปถี งึ 70 ปี เสยี ชีวิตทอี่ ายุ 30 ปี ถึง 70 ปี (40q30) ใกลเ้ คยี งกนั (40q30) จากตารางชีพของประเทศ พบจำ�นวนปีที่ ข ณ ะ ท่ี โ ร ค ท า ง เ ดิ น ห า ย ใ จ อุ ด ก้ั น เ รื อ ง รั ง พ บ ก า ร สูญเสียจากการตายก่อนวัยอันควร, อัตราตายราย เพ่ิมโอกาสความน่าจะเป็นการเสียชีวิตที่อายุ 30 ปี โรค, อัตราตายก่อนวัยอันควรระหว่างอายุ 30-69 ปี, ถงึ 70 ปี (40q30) น้อยทส่ี ดุ และมีการเพม่ิ ข้ึน 21 คน และความนา่ จะเป็นการเสยี ชวี ติ ทอ่ี ายุ 30 ปีถงึ 70 ปี ใน 100,000 คนระหวา่ งปี 2555-2558 (40q30) เพมิ่ สงู ขนึ้ สว่ นสดั สว่ นการเสยี ชวี ติ ระหวา่ งอายุ นอกจากนี้โรคหัวใจขาดเลือด,โรคหลอดเลือด 30-69 ปี แนวโนม้ ลดลงคลา้ ยคลงึ กนั ทงั้ 5 โรคไมต่ ดิ ตอ่ สมอง,ภาวะความดันโลหิตสูงและโรคทางเดินหายใจ โรคหลอดเลอื ดสมองมกี ารเสยี ชวี ติ สงู ทส่ี ดุ รองลงมาคอื อุดก้ันเร้ือรังพบเพศชายมีการจำ�นวนปีท่ีสูญเสียจาก โรคหวั ใจขาดเลอื ด, โรคเบาหวาน, ภาวะความดนั โลหติ สงู การเสยี ชวี ติ กอ่ นวยั อนั ควร,อตั ราตายรายโรค,อตั ราตาย และโรคทางเดินหายใจอุดกั้นเรืองรัง พบความน่าจะ ก่อนวยั อันควร, ความน่าจะเปน็ การเสยี ชีวติ ทอ่ี ายุ 30 ปี เป็นการเสียชวี ิตทอ่ี ายุ 30 ปีถงึ 70 ปี (40q30) ของ ถงึ 70 ปี (40q30) สงู มากกวา่ เพศหญงิ โรคทางเดนิ หายใจ โรคหลอดเลือดสมองเพ่ิมขึ้นมากที่สุดจาก 347 คน อดุ กนั้ เรอื้ รงั มอี ตั ราการตายของเพศชายสงู กวา่ เพศหญงิ ใน 100,000 คนเป็น 404 คน ใน 100,000 คน ส่วน 4-5 เท่า ส่วนโรคเบาหวานพบการตายของเพศหญิง โรคเบาหวาน (35 คนใน 100,000),โรคหัวใจขาดเลอื ด มากกว่าเพศชาย แต่พบการเพ่ิมข้ึนของอัตราตายก่อน (34 คนใน 100,000 คน) ภาวะความดนั โลหติ สงู (32 คน วัยอันควรของเพศชายมากกว่าเพศหญงิ ตามตารางท่ี 7 ตารางท่ี 7 ความแตกต่างอตั ราตายและสดั ส่วนการตายก่อนวยั อนั ควร (30-69 ปี) ของ 5 โรคไมต่ ิดตอ่ สำ�คญั ระหว่างป2ี 555 - 2558 ทีม่ า : ส�ำ นกั โรคไม่ติดต่อ ประมวลผลขอ้ มลู ทะเบยี นการตาย จากสำ�นักนโยบายและยทุ ธศาสตร์ ส�ำ นกั ปลดั กระทรวงสาธารณสขุ 22
บทสรปุ ชีวิตกอ่ นวัยอนั ควรระหวา่ งอายุ 30-69 ปีลดลงพบว่าโรค รายงานประ ำจ� ีป 2559 ส่วน ่ีท 3 เบาหวานและโรคหลอดเลือดสมองมีสัดส่วนการเสียชีวิต 1. ความแตกต่างการเสียชีวิตด้วยโรคไม่ติดต่อ ก่อนวัยอันควรลดลงทุกในพื้นท่ีเขตสุขภาพน่าเป็นผลจาก ในประเทศไทย (Inequality Mortality) โรคเบาหวาน มาตรการ การป้องกันควบคุมโรคลดการเสียชีวิตก่อนวัย พบการเสียชีวิตสูงท่ีภาคอีสานในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 7, อันควรท่คี รอบคลมุ ทุกพืน้ ทอ่ี ยา่ งเป็นระบบ 8, 9 และ 10 โรคหลอดเลอื ดสมองและโรคหัวใจขาด 3. เขตพ้ืนที่เครือข่ายบริการสุขภาพที่มีการ เลือดพบการเสียชีวิตสูงในภาคเหนือเร่ือยลงมาถึงภาค เปลี่ยนแปลงการเสียชีวิตสูง จึงควรมีการดำ�เนินการเฝ้า กลางและภาคตะวันออกแต่พบมีการเสียชีวิตต่ําในภาค ระวงั โรคไดแ้ กพ่ นื้ ทเ่ี ขตสขุ ภาพที่ 12 พบการอตั ราการเสยี อสี าน สว่ นโรคทางเดินหายใจอดุ กั้นเรืองรังพบการเสีย ชีวิตจากโรคเบาหวาน, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคหัวใจ ชวี ิตสูงเฉพาะภาคเหนอื พ้นื ท่เี ขตสุขภาพท่ี 1 และพบมี ขาดเลอื ดและภาวะความดนั โลหติ สงู เพมิ่ สงู ขนึ้ จงึ ควรเรง่ การเสยี ชีวติ ต่าํ ในพื้นท่ภี าคอีสาน จดั ท�ำ ขอ้ มลู สอบทานรายละเอยี ดในมติ ติ า่ งๆ ทง้ั ดา้ นปจั จยั 2. โรคไมต่ ดิ ตอ่ ส�ำ คญั ทั้ง 5 โรคคอื โรคเบาหวาน เสยี่ งระบบการปอ้ งกนั โรคและการดแู ลรกั ษาพยาบาลเพอื่ (E10-E15), โรคหลอดเลอื ดสมอง (I60-I69), โรคหัวใจ ทราบสาเหตกุ ารเปล่ียนแปลงและแนวโนม้ ในอนาคต ขาดเลอื ด (I20-I25), ภาวะความดนั โลหติ สูง (I10-I15) และโรคทางเดินหายใจอุดกั้นเรือรัง (J40-J44) มีการ เสยี ชวี ติ ทเี่ พม่ิ ขน้ึ จากปี 2555-2558 แตม่ สี ดั สว่ นการเสยี การจดั ทำ�ข้อมูลการตายของประเทศไทย การจัดทำ�สถิติการตายของประเทศ กระทรวงสาธารณสุข โดยสำ�นักนโยบายและยุทธศาสตร์ได้มีความพยายามพัฒนา คณุ ภาพข้อมูลการตายใหม้ คี ุณภาพ ครบถว้ นในทุก ๆ ดา้ นๆและทนั เวลาเพ่ือการวางแผนงานสาธารณสขุ ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ท่ผี า่ นมาได้ มกี ารประสานความรว่ มมอื กับส�ำ นักบริหารการทะเบยี น กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จนไดล้ งนามในข้อตกลงการใชข้ ้อมลู การจดทะเบียนการตายจากฐานทะเบียนราษฎร์ เพือ่ ลดความซ�ำ้ ซ้อนของการจดั เกบ็ ตงั้ แตป่ ี พ.ศ. 2542 เป็นตน้ มา สำ�นักนโยบายและยุทธศาสตร์นำ�ข้อมูลการตายจากใบมรณะบัตรท่ีได้รับเป็นรายเดือนจากสำ�นักบริหารการทะเบียน กรมการ ปกครอง กระทรวงมหาดไทยมาวเิ คราะหแ์ ละใหร้ หสั โรคทเี่ ปน็ สาเหตกุ ารตายตามบญั ชจี �ำ แนกโรคระหวา่ งประเทศฉบบั แก้ไขครงั้ ท่ี 10 (ICD-10) ตามหลกั เกณฑก์ ารจดั ท�ำ รายงานการตายขององคก์ ารอนามยั โลกทก่ี �ำ หนดใหจ้ �ำ แนกสาเหตตุ น้ ก�ำ เนดิ ของการตาย เพอ่ื นำ�ขอ้ มลู ไปใช้ในการป้องกนั สาเหตุต้นก�ำ เนดิ ซ่ึงน�ำ ไปสู่การตาย และน�ำ มาเผยแพร่ใน.หนังสอื สถติ สิ าธารณสขุ เปน็ รายปี และสง่ ให้จงั หวัดเปน็ รายเดือน ตัวอย่างการให้รหัสโรคที่เป็นสาเหตุการตาย เช่น • เป็นมะเรง็ เต้านมนอนโรงพยาบาลนาน ปอดบวม ตดิ เชื้อในกระแสเลอื ด ตาย สาเหตกุ ารตาย คอื มะเรง็ เต้านม ไม่ใชป่ อดบวมหรอื ตดิ เชอ้ื ในกระแสเลือด รหสั โรคที่เปน็ สาเหตกุ ารตาย คือ C509 • เป็นโรคหวั ใจขาดเลือดอยู่แล้ว ตอ่ มาคนไขห้ วั ใจหยุดเต้นเฉียบพลนั ตาย สาเหตกุ ารตาย คือ หัวใจขาดเลือด รหัสโรคที่เป็นสาเหตกุ ารตาย คือ คอื I259 • เปน็ เบาหวาน เกิดโรคแทรกซ้อนไตวายเรอื้ รงั ติดเชอ้ื ในกระแสเลอื ด ตาย สาเหตกุ ารตาย คอื เบาหวานรว่ มกบั ไตวายเรอ้ื รงั รหัสโรคทีเ่ ป็นสาเหตกุ ารตาย คือ E142 • ขับมอเตอร์ไซดช์ นท้ายรถยนต์ กะโหลกศรี ษะแตก เลือดออกในสมอง ตาย สาเหตุการตาย คือ ขบั มอเตอร์ไซดช์ นท้ายรถยนต์ รหสั โรคทเ่ี ป็นสาเหตกุ ารตาย คอื V234 • อาการตอ่ ไปน้ไี มใ่ ชส่ าเหตกุ ารตาย หวั ใจลม้ เหลว หายใจลม้ เหลว ชรา เป็นลม ขาดอากาศหายใจ ฯลฯ กลมุ่ น้ีไมส่ ามารถระบุ สาเหตุการตายได้ รหัสโรคที่เป็นสาเหตุการตาย คือ R99 อยา่ งไรกต็ าม แมว้ า่ ระบบทะเบยี นราษฎรถ์ อื วา่ เปน็ ระบบทมี่ คี วามสมบรู ณแ์ ละมปี ระสทิ ธภิ าพ เพราะมกี ฎหมายก�ำ หนดใหด้ �ำ เนนิ การในรปู แบบเดียวกนั ทัง้ ประเทศจงึ มคี วามครอบคลุมสงู มากถงึ ร้อยละ 95 ของประชากรทง้ั หมด ทำ�ใหก้ ารแจงนบั จำ�นวนการตายใน ประเทศจึงมีความครอบคลุมสูงแต่ยังคงมีข้อจำ�กัดเรื่องคุณภาพของข้อมูลสาเหตุการตายค่อนข้างตำ่� กล่าวคือ มีการตายประมาณ รอ้ ยละ 50 - 60 (2558) ของการตายท้ังหมดเกดิ นอกโรงพยาบาลและถูกระบสุ าเหตกุ ารตายโดยผู้ใหญบ่ า้ น กำ�นนั หรอื นายทะเบียน ซงึ่ ไมม่ พี นื้ ความรทู้ างการแพทย์ ท�ำ ใหย้ งั คงมสี ดั สว่ นของการตายจากการเจบ็ ปว่ ยทร่ี ะบสุ าเหตกุ ารตายไมไ่ ดห้ รอื ไมช่ ดั แจง้ คอ่ นขา้ งสงู กรณีที่มี ขอ้ สงสัย ระบบรายงานข้อมูลการตาย ท่านสามารถตดิ ตอ่ ไดท้ ี่ 0 2590 1491 23
รายงานประจ�ำ ปี 2559 3ส่วนท่ี 1.2 อตั ราผู้ป่วยในดว้ ยโรคไมต่ ิดต่อ จำ�นวนครั้งของการนอนโรงพยาบาล และอัตราผปู้ ว่ ยในดว้ ยโรคไมต่ ดิ ตอ่ ทส่ี �ำ คญั ไดแ้ ก่ โรคหวั ใจขาดเลอื ด โรคเบาหวาน โรคความดนั โลหติ สงู และโรคหลอดเลอื ดสมอง ปพี .ศ.2550 - 2558 มแี นวโนม้ เพมิ่ สงู ขนึ้ อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ดังแผนภาพ 1-4 แผนภาพที่ 1 จำ�นวนและอตั ราผู้ปว่ ยในโรคหวั ใจขาดเลอื ด ทุกกลุ่มอายุ ปี 2550 - 2558 แผนภาพที่ 2 จำ�นวนและอัตราผ้ปู ว่ ยในโรคเบาหวาน ทกุ กลุม่ อายุ ปี 2550 - 2558 แผนภาพท่ี 3 จ�ำ นวนและอตั ราผปู้ ว่ ยในโรคความดนั โลหติ สงู ทกุ กลมุ่ อายุ ปี 2550 - 2558 แผนภาพท่ี 4 จ�ำ นวนและอตั ราผู้ป่วยในโรคหลอดเลือดสมอง ทุกกลมุ่ อายุ ปี 2550 - 2558 ทม่ี า : สำ�นักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข 24
1.3 แนวโนม้ ปัจจัยเสี่ยงและพฤติกรรมเส่ยี งโรคไม่ติดต่อพ.ศ.2548-2558 จากการสำ�รวจพฤตกิ รรมเสี่ยงโรคไม่ตดิ ตอ่ และการบาดเจบ็ : BRFSS รายงานนี้จัดทำ�ขึ้นเพ่ือติดตามการเปล่ียนแปลง ถึง พ.ศ.2558 พบว่าความชุกของภาวะน้ำ�หนักเกิน, ความชุกปัจจัยเส่ียงและพฤติกรรมเส่ียงโรคไม่ติดต่อ ภาวะอ้วน,การดื่มเครื่องแอลกอฮอล์แบบheavy drink ระหว่าง พ.ศ.2548 ถึง พ.ศ. 2558 ฐานข้อมูล ภายใน30 วันที่ผ่านมา,และการรับประทานผักและผล จากการสำ�รวจพฤติกรรมเสี่ยงโรคไม่ติดต่อและการ ไมเ้ ฉลี่ยมากกว่า 5 หนว่ ยมาตรฐานต่อวนั ภายใน 7 วนั บาดเจ็บ (Behavioral Risk Factors Surveillance ท่ีผ่านมามีความชุกเพ่ิมสูงข้ึนตามลำ�ดับ ขณะที่ความชุก System :BRFSS) การสูบบุหร่ีในปัจจุบัน, การดื่มเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ใน การสำ�รวจพฤติกรรมเส่ียงโรคไม่ติดต่อและการ ปัจจุบัน, และการดื่มเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์แบบ Binge บาดเจ็บ เป็นการสำ�รวจสุขภาพประชาชนโดยการ drink ภายใน 30 วนั ท่ีผา่ นมามีความชกุ ลดลงในปี 2553 สำ�รวจตวั อยา่ งแบบ complex design survey ในกลุม่ และกลับเพ่ิมข้ึนในปี 2558 ส่วนการมีกิจกรรมทางกาย รายงานประ ำจ� ีป 2559 ส่วน ่ีท 3 ประชากรทว่ั ไปอายุ 15-79ปี โดยวธิ กี ารสมั ภาษณ(์ Face อย่างเพียงพอตามมาตรฐานแบบสำ�รวจขององค์การ to face interview) ดว้ ยแบบส�ำ รวจทม่ี ขี อ้ ค�ำ ถามพฒั นา อนามัยโลก(GPAQ)พบความชุกลดลงตามลำ�ดับระหว่าง ตามเกณฑ์ตัวช้ีวัดสุขภาพที่เป็นมาตรฐานสากลสำ�หรับ พ.ศ. 2548-2553 สำ�หรับการสำ�รวจฯครั้งล่าสุด ปี2558 การเฝ้าระวังโรคไม่ติดต่อของศูนย์ป้องกันควบคุมโรค พบวา่ ความชุกภาวะน�้ำ หนกั เกิน 30.5%, ภาวะอ้วน 7.5 %, แห่งประเทศสหรฐั อเมริกา(USA Center of Diseases การสบู บหุ รี่ในปจั จบุ นั 21.3%, การดม่ื เครอื่ งดม่ื แอลกอฮอล์ Control) และองค์การอนามัยโลก(WHO) ดำ�เนินการ ในปัจจุบัน36.2%, การด่ืมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์แบบ การส�ำ รวจฯโดยส�ำ นกั โรคไมต่ ดิ ตอ่ กรมควบคมุ โรค รว่ ม Heavy drinkภายใน 30 วนั ที่ผ่านมา 7.3%, การดื่มเครือ่ ง กบั ส�ำ นกั งานปอ้ งกนั ควบคมุ โรคเขตสขุ ภาพท1ี่ -13 และ ดื่มแอลกอฮอล์แบบ Binge drinkภายใน 30 วันที่ผ่าน ส�ำ นกั งานสาธารณสุขจังหวดั ทกุ จังหวดั มา13.6%,และการรับประทานผักและผลไม้เฉลี่ยมากกว่า แนวโน้มการเปล่ียนแปลงความชุกปัจจัยเส่ียง 5 หน่วยมาตรฐานต่อวันภายใน 7 วันท่ีผ่านมา 24.3% และพฤติกรรมเส่ียงโรคไม่ติดต่อระหว่าง พ.ศ.2548 ตามตารางที่ 8 ตารางที่ 8 ความชุกปัจจัยเสี่ยงและพฤตกิ รรมเสยี่ งโรคไมต่ ิดต่อ พ.ศ. 2548, 2550, 2553 และ 2558 ความชกุ (Overall Prevalence (%) พ.ศ. 2548 พ.ศ. 2550 พ.ศ. 2553 พ.ศ. 2558* ประชากรเปา้ หมายการส�ำ รวจฯ 15-74 ปี 15-74 ปี 15-74 ปี 15-79 ปี จ�ำ นวนตัวอยา่ ง (คน) 130,301 65,542 130,849 22,502 1. น�ำ้ หนกั เกิน (BMI>25.0 kg/m2) 2. ภาวะอ้วน (BMI >30kg/m2) 16.1 19.1 21.3 30.5 3. การสบู บุหรี่ในปจั จบุ นั 3.0 3.7 4.4 7.5 4. การด่ืมเครอ่ื งด่ืมแอลกอฮอล์ในปัจจุบนั 22.3 21.5 18.7 21.3 37.4 36.1 29.5 36.2 25
ความชกุ (Overall Prevalence (%) พ.ศ. 2548 พ.ศ. 2550 พ.ศ. 2553 พ.ศ. 2558* 5. การด่มื เคร่ืองด่มื แอลกอฮอลแ์ บบ Heavy Drink 3.6 3.6 4.3 7.3 ภายใน 30 วันที่ผ่านมา 6. การดมื่ เครื่องดืม่ แอลกอฮอลแ์ บบ Binge Drink 14.0 13.7 9.2 13.6 ภายใน 30 วนั ท่ีผ่านมา 7. การรับประทานผักและผลไมเ้ ฉลี่ยมากกวา่ 5 หน่วย 17.4 22.5 21.7 24.3 มาตรฐานต่อวัน ภายใน 7 วนั ทผ่ี า่ นมา 8. การมกี ิจกรรมทางกายอย่างเพียงพอ (GPAQ) 91.5 92.5 82.2 36.1 (CDC)* ท่ีมา : การส�ำ รวจพฤติกรรมเสี่ยงโรคไม่ตดิ ตอ่ และการบาดเจบ็ (BRFSS) * หมายเหตุ 1. ปี 2558 ไมร่ วมกรงุ เทพมหานคร 2. ปี 2548, 2550, 2553 และ 2558 บอกน�ำ้ หนกั และวดั สว่ นสงู ของตนเอง ปี 2558 ชง่ั น�ำ้ หนกั และวดั สว่ นสงู จรงิ 3. GPAQ: Global Physical Activity Questionnaire, CDC: BRFSS Physical Activity Question 2008 รายงานประจ�ำ ปี 2559 3ส่วนท่ี เมือ่ เปรียบเทยี บการเปลี่ยนแปลงความชกุ ระหว่าง ท่ีผ่านมามีการเพ่ิมความชุกสูงข้ึนร้อยละ40ส่วนความชุก พ.ศ. 2548 กับพ.ศ. 2558 ด้วยค่าความชุกปรับฐาน การด่มื เครื่องด่มื แอลกอฮอล์ในปจั จุบัน และการด่ืมเคร่อื ง อายุ พบว่าภาวะอ้วนมีความชุกเพ่ิมสูงข้ึนมากที่สุดถึง ดมื่ แอลกอฮอล์แบบ Binge drinkภายใน 30 วนั ทีผ่ า่ นมา ร้อยละ155หรอื 1.5 เทา่ ขณะทีค่ วามชุกของนำ�้ หนักเกนิ เพมิ่ ขนึ้ เลก็ นอ้ ยรอ้ ยละ 1.6 และ 2.9 ตามล�ำ ดบั นอกจากนี้ และความชุกของการดื่มเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์แบบ พบแนวโน้มความชุกการสูบบุหรี่ในปัจจุบันลดลง Heavy drink ภายใน 30 วนั ท่ีผ่านมา มีการเพมิ่ ความ เล็กน้อยร้อยละ 1.6 ส่วนการมีกิจกรรมทางกาย ชุกเกือบหนึ่งเท่าหรือร้อยละ 94.0 และ 97.4 ตาม อย่างเพียงพอ (GPAQ) พบความชุกลดลงร้อยละ10 ลำ�ดับ รองลงมาคือความชุกการรับประทานผักและผล ระหวา่ งพ.ศ. 2548-2553 ตามตารางที่ 2 ไม้เฉล่ียมากกวา่ 5 หนว่ ยมาตรฐานตอ่ วนั ภายใน 7 วัน ตารางท่ี 9 ความชกุ ปรบั ฐานอายขุ องปจั จยั เสยี่ งและพฤตกิ รรมเสยี่ งโรคไมต่ ดิ ตอ่ พ.ศ.2548, 2550, 2553 และ 2558 ความชกุ (Overall Prevalence (%) พ.ศ. 2548 พ.ศ. 2550 พ.ศ. 2553 พ.ศ. 2558 % Change 1. น้ำ�หนักเกนิ (BMI>25.0 kg/m2) 15.1 17.9 20.7 29.3 94.0 2.9 3.5 4.2 7.4 155.2 2. ภาวะอว้ น (BMI >30kg/m2) 21.8 21.2 18.5 21.5 -1.4 36.3 35.4 29.0 36.9 1.6 3. การสูบบุหรี่ในปจั จบุ ัน 3.8 3.6 4.2 7.5 97.4 4. การดืม่ เคร่ืองด่มื แอลกอฮอล์ในปจั จบุ ัน 13.6 13.4 9.0 14.0 2.9 5. การดืม่ เคร่อื งดื่มแอลกอฮอลแ์ บบ Heavy Drink ภายใน 30 วนั ทผ่ี ่านมา 17.2 22.3 21.5 24.1 40.1 6. การดืม่ เครือ่ งด่มื แอลกอฮอลแ์ บบ Binge Drink ภายใน 30 วันทผี่ ่านมา 90.9 92.3 81.9 - -9.9 7. การรับประทานผกั และผลไม้เฉลี่ยมากกวา่ 5 หน่วย มาตรฐานต่อวนั ภายใน 7 วันท่ีผ่านมา 8. การมีกจิ กรรมทางกายอย่างเพยี งพอ (GPAQ) * หมายเหตุ 1. ประชากรอ้างอิง WHO World StandardPopulation 2. % change :Relative Percentage change between 2548-2558 26
2. ผลการดำ� เนินงานตามตัวช้ีวดั กระทรวงสาธารณสุข รายงานประ ำจ� ีป 2559 ส่วน ่ีท 3 ประจ�ำปงี บประมาณ 2559 การดำ�เนินงานป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อ กระทรวงสาธารณสุขได้กำ�หนดตัวช้ีวัด เพ่ือเป็น เป้าหมายในการดำ�เนินงานท้ังหมดที่เกี่ยวข้องกับสำ�นักโรคไม่ติดต่อ คือ อัตราตายด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจ ลดลงร้อยละ 10 ในระยะเวลา 5 ปี (ปี 2558-2562) ในปี 2559 ก�ำ หนดตวั ช้วี ัด คอื อตั ราตายดว้ ยโรคหลอดเลอื ด หวั ใจไม่เกนิ 27.33 ต่อประชากรแสนคน แผนภาพที่ 5 แสดงการเปรียบเทยี บอตั ราตายจากโรคหลอดเลือดหวั ใจ ต่อประชากรแสนคน ปี 2558 - 2559 จำ�แนกรายเขตสุขภาพ ทมี่ า : สำ�นักนโยบายและยทุ ธศาสตร์ อัตราการตายจากโรคหลอดเลือดหัวใจในภาพรวมประเทศ เท่ากับ 27.82 ต่อประชากรแสนคน ซ่ึงสูงกว่า เป้าหมายเล็กนอ้ ย เขตสขุ ภาพท่ีมีอัตราตายสูงสดุ คอื เขตสขุ ภาพท่ี 13 รองลงมาคอื เขตสขุ ภาพท่ี 4 เทา่ กับ 40.78 และ 39.08 ตอ่ แสนประชากร ตามลำ�ดบั สว่ นเขตสุขภาพท่ี 8 มอี ตั ราตายตาํ่ สุด เทา่ กับ 17.14 ต่อแสนประชากร แตเ่ มื่อเทียบปี 2558 และปี 2559 อตั ราตายภาพรวมของประเทศและรายเขตสุขภาพ มีอตั ราการตายเพิ่มสูงขนึ้ 27
3. ผลงานเด่นดา้ นการปอ้ งกันควบคมุ โรคไมต่ ดิ ต่อ 3.1 การดำ�เนนิ งานลดโอกาสเกิดโรคหัวใจและหลอดเลอื ด ในปี พ.ศ. 2559 ส�ำ นกั โรคไมต่ ดิ ตอ่ ไดจ้ ดั ท�ำ โครงการพฒั นาการด�ำ เนนิ งานเพอื่ ลดโรคหวั ใจและหลอดเลอื ด (CVD) ปงี บประมาณ 2559 โดยด�ำ เนนิ งานใน 3 มาตรการหลกั และมีการดำ�เนินการทสี่ ำ�คัญ ดังนี้ คอื มาตรการที่ 1 มาตรการท่ี 2 มาตรการท่ี 3 ลดปจั จยั เสี่ยงในประชากรท่ัวไป และชุมชน จัดการปัจจัยเสี่ยงของ CVD ค้นหาเชิงรุกในประชากร Risk รายบุคคล ก ลุ่ ม เ ป้ า ห ม า ย ที่ มี ค ว า ม รายงานประจ�ำ ปี 2559 3ส่วนท่ี เ ส่ี ย ง สู ง ต่ อ ก า ร เ กิ ด โ ร ค หลอดเลอื ดหวั ใจและหลอด เลือดสมอง การด�ำ เนนิ งานท่สี �ำ คญั 1. รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนท่ัวไปรับรู้ 1. ลดการบริโภคเกลือ/ไขมัน/ 1. พฒั นาระบบคลนิ กิ NCD ความเสยี่ งตอ่ การเกดิ โรคหวั ใจและหลอดเลอื ด หวานลดการสูบบุหร่ีและ โดยใช้ Application Thai CV risk score ของ ดื่มสรุ า โรงพยาบาลรามาธิบดี ด้วยตนเอง หรือขอรับ บรกิ าร/เขา้ รบั การประเมนิ ความเสย่ี งจากสถาน บรกิ ารสาธารณสุขใกล้บ้าน 2. รณรงค์ผ่านประเด็นสารวนั หวั ใจโลก 2. พัฒนา Application Thai 2. ประเมิน โอกาสเส่ียง CV risk score เพ่ือ สู ง ต่ อ โ ร ค หั ว ใ จ แ ล ะ ประเมินโอกาสเสี่ยงต่อ หลอดเลอื ด (CVD Risk โรคหัวใจและหลอดเลือด assessment) ใน 10 ปี (CVD Risk assessment) ขา้ งหนา้ ผปู้ ว่ ยเบาหวาน ใ น 1 0 ปี ข้ า ง ห น้ า ใ น และความดันโลหิตสงู ประชาชนทัว่ ไปดว้ ยตนเอง 3. ออกบูธประเมนิ ความเส่ียง ต่อการเกดิ 3. ค ลิ นิ ก ป รั บ เ ป ลี่ ย น 3. ดูแลผู้ท่ีมีโอกาสเส่ียง โรคหัวใจและหลอดเลอื ดใหป้ ระชาชนท่ัวไป พฤตกิ รรม สู ง ต่ อ โ ร ค หั ว ใ จ แ ล ะ ตามโรงพยาบาลในวันส�ำ คญั ต่างๆ หลอดเลือด (CVD Risk assessment) ใน 10 ปี ขา้ งหน้า ให้ไดร้ ับยาและ ป รั บ พ ฤ ติ ก ร ร ม อ ย่ า ง เข้มขน้ เรง่ ดว่ น 28
การด�ำ เนินงานทีส่ �ำ คญั จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดอ่างทองและจังหวัดน่าน รายงานประ ำจ� ีป 2559 ส่วน ่ีท 3 มาน�ำ เสนอผลงาน สนบั สนนุ การดำ�เนินการในพ้นื ท่ี การจัดนิทรรศการและรณรงค์ประชาสัมพันธ์ สนับสนุนคู่มือCVD และโปสเตอร์ CVD ส�ำ หรบั เนื่องในวันหัวใจโลกปี 2559 และกิจกรรมการ เจา้ หนา้ ทสี่ าธารณสขุ ในสถานบรกิ ารสาธารณสขุ รณรงค์การประเมินโอกาสเสี่ยงต่อการเกิด ทัว่ ประเทศ โรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้บริหารระดับสูง สนบั สนนุ คมู่ อื การประเมนิ โอกาสเสยี่ งตอ่ การเกดิ กระทรวงสาธารณสขุ โรคหัวใจและหลอดเลือด สำ�หรับ อสม. ให้กับ การดำ�เนนิ งาน อาสาสมัครสาธารณสขุ ทัว่ ประเทศ มีการด�ำ เนินประเมนิ โอกาสเส่ยี งสงู ต่อโรคหัวใจ สนับสนุนโปรแกรมการประเมินโอกาสเส่ียงต่อ และหลอดเลือด (CVD Risk assessment) ใน การเกดิ โรคหวั ใจและหลอดเลอื ด (Thai CV Risk 10 ปขี า้ งหนา้ ผปู้ ว่ ยเบาหวานและความดนั โลหติ Score) เพอื่ สนบั สนุนการด�ำ เนนิ งานคัดกรองใน สงู สถานบริการท่ัวประเทศ สถานบรกิ ารทัว่ ประเทศ มีการดำ�เนินงานประเมินโอกาสเส่ียงสูงต่อโรค พัฒนาศักยภาพบุคลากรเร่ืองการใช้โปรแกรม หวั ใจและหลอดเลอื ด (CVD Risk assessment) การประเมนิ โอกาสเสีย่ งตอ่ การเกดิ โรคหวั ใจและ ใน 10 ปีข้างหน้าอย่างเข้มข้นใน 15 จังหวัด หลอดเลอื ด กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ บุคลากรจาก น�ำ รอ่ งทมี่ อี ตั ราตายดว้ ยโรคหวั ใจขาดเลอื ดสงู ใน สคร. ที่ 1-13 และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จาก ประเทศไทย ประกอบดว้ ย จงั หวดั แพร่ จังหวัด สำ�นกั งานสาธารณสุขจงั หวัดทว่ั ประเทศ ทร่ี บั ผิด น่าน จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดกำ�แพงเพชร ชอบงานโรคไมต่ ดิ ตอ่ เรอื้ รงั (NCD) จ�ำ นวนแหง่ ละ จังหวัดอทุ ยั ธานี จงั หวัดอา่ งทอง จังหวดั สิงห์บรุ ี 1 ท่าน และเจ้าหน้าท่ีสารสนเทศ (IT) จำ�นวน จงั หวดั สระบรุ ี จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา จังหวัด แหง่ ละ 1 ท่าน นครนายก จงั หวดั ลพบรุ ี จังหวัดราชบุรี จังหวดั จดั ประชุม NCD Forum 2016 เพ่ือเปน็ เวทีแลก จนั ทบุรี จังหวัดพังงา จังหวัดชุมพร เปลยี่ นเรยี นรกู้ ารด�ำ เนนิ งานตามรปู แบบแนวทาง ดำ�เนินงานเพื่อลดโรคไตเร้ือรัง (CKD) โดยมี 3 จังหวัดท่ีมีการดำ�เนินดีเด่น 3 จังหวัด ได้แก่ ประชมุ เชิงปฏิบตั ิการแลกเปลี่ยนเรยี นรู้การดำ�เนนิ งานตามรปู แบบแนวทางดำ�เนนิ งานเพือ่ ลด CVD NCD Forum 2016 “ร่วมกนั ดูแลไต เชือ่ มโยงไทยดูแลโรคเรือ้ รงั ” ห้องย่อยท่ี 4 CVD sharing Best Practice ในวนั ที่ 12 กันยายน 2559 29
รายงานประจ�ำ ปี 2559 3ส่วนท่ี ผลการดำ�เนนิ งาน แผนภาพที่ 6 รอ้ ยละของผปู้ ว่ ย DM/HT ท่ีไดร้ บั การคดั กรองความเสย่ี งตอ่ การเกดิ โรคหวั ใจและหลอดเลอื ด (CVD Risk) จ�ำ แนกรายเขตสุขภาพ ประจำ�ปงี บประมาณ 2559 (รอบ 9 เดอื น) ท่มี า : HDC สำ�นักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสขุ การจดั รณรงคป์ ระชาสัมพันธ์ เนอื่ งในวันหัวใจโลกปี 2559 ณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ในวันท่ี 29 กันยายน 2559 ประชุมเชิงปฏิบตั กิ าร “การใช้โปรแกรมการคดั กรองโอกาสเสีย่ งตอ่ การเกดิ โรคหวั ใจและหลอดเลอื ด” ในวันท่ี 12 มกราคม 2559 และการประชมุ เชงิ ปฏบิ ตั กิ ารโครงการองค์กรหัวใจดี 30
แผนภาพที่ 7 ร้อยละของผู้ป่วย DM/HT ท่ีมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสูงมาก ≥30% ได้รับการปรับเปลีย่ นพฤตกิ รรมอยา่ งเขม้ ขน้ ประจำ�ปีงบประมาณ 2559 ที่มา : รายงานผลการตรวจราชการ กระทรวงสาธารสุข รายงานประ ำจ� ีป 2559 ส่วน ่ีท 3 4. ปญั หาอปุ สรรค ข้อเสนอแนะ 1. ระบบ HDC ยงั ไม่สามารถรองรบั การตดิ ตามและ 1. ทบทวนและประสานงานกับระบบ HDC รายงานผลตามตัวชวี้ ัดไดค้ รบถ้วน เพ่ือพัฒนาโปรแกรมและข้อมูลในการติดตามผล 2. การบรู ณาการแผนงานโครงการและกลไกตา่ งๆ ที่ การ ดำ�เนินงาน มีข้อจ�ำ กดั เช่น จำ�นวนบุคลากรท่ีไมเ่ พียงพอ 2. ควรสนับสนุนองค์ความรู้ จัดเวทีแลกเปล่ียน 3. ภาระงานทมี่ าก ยงั ขาดความเชยี่ วชาญเฉพาะการ เรยี นรอู้ ยา่ งตอ่ เนอ่ื งพัฒนารูปแบบและศกั ยภาพ ดำ�เนินงานและกลไกการขับเคล่ือนงานยังไม่ดี บุคลากรเพ่ือให้มีการดำ�เนินงานท่ีมีประสิทธิผล เทา่ ท่คี วร สนับสนุนให้มีการศึกษาวิจัยการดำ�เนินงานท่ีมี ประสทิ ธผิ ลและค้มุ ค่าในบริบทตา่ งๆ 3. ตั้งทีมท่ีปรึกษา เพ่ือขับเคลื่อนงานในภาพการ บรู ณาการ การจดั นทิ รรศการและรณรงค์การประเมินโอกาสเส่ยี งต่อการเกิดโรคหวั ใจและหลอดเลือด (CVD Risk) ในผบู้ รหิ ารระดบั สูง กระทรวงสาธารณสขุ 31
3.2 คลนิ กิ ชะลอไตเสอ่ื ม (CKD Clinic) รายงานประจ�ำ ปี 2559 3ส่วนท่ี โรคไตเร้อื รงั (Chronic Kidney Disease, CKD) ทง้ั แบบกลมุ่ และรายบคุ คลในประเดน็ ทส่ี �ำ คญั ประกอบดว้ ย เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำ�คัญหน่ึงของโลก ซ่ึงสาเหตุ การใชย้ า การรบั ประทานอาหาร การปฏิบัตติ ัวหรือการ ส่วนใหญ่พบว่าเกิดจากโรคเบาหวานและโรคความดัน ดูแลตนเอง การออกกำ�ลังกาย 3) มีการจัดทำ�ระบบ โลหติ สงู โดยผปู้ ว่ ยโรคเบาหวานและโรคความดนั โลหติ ข้อมูลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังเพื่อให้การวิเคราะห์ข้อมูล สูงมีความเสียงต่อการเกิดโรคไตเร้ือรังตั้งแต่ระยะที่ 3 4)มกี ารดำ�เนนิ งานรว่ มกบั ชุมชน ข้ึนไปประมาณ 1.9 และ 1.6 ตามล�ำ ดบั การศึกษาของ การดำ�เนินงานเพ่ือลดโรคไตเรื้อรังมีเป้าหมาย เครอื ขา่ ยวจิ ยั กลมุ่ สถาบนั แพทยศาสตรแ์ หง่ ประเทศไทย หลักตามตัวช้ีวัดตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (MedResnet) ในปี 2552 พบว่าความชุกของโรคไต ปีงบประมาณ 2559 คือ อย่างน้อยร้อยละ 50 เรื้อรังในผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิสูง ของผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังสามารถชะลอความเส่ือมของไต สูงถึงร้อยละ 17.5 และปัจจุบันค่าใช้จ่ายในการบำ�บัด ได้ (ผู้ป่วยมีอัตราการลดลงของ eGFR น้อยกว่า ทดแทนไต โดยการล้างไตทางช่องท้อง หรือการ 4 ml/min/1.73m2/yr) และมีวัตถุประสงค์หลัก ฟอกเลอื ดดว้ ยเครอื่ งไตเทยี ม เฉลย่ี ประมาณ 240,000 บาท ท่ีสำ�คัญตาม 7 มาตรการสำ�คัญในการจัดการโรค ต่อคนต่อปี ซ่ึงส่งผลต่อภาระค่ารักษาพยาบาลทั้งส่วน ไตเรื้อรัง ได้แก่ ป้องกัน และชะลอความเสื่อมไต ของภาครฐั ผู้ปว่ ยและครอบครวั ในผปู้ ว่ ยระยะที่ 1-3 ชะลอการเกดิ ไตวายระยะสดุ ท้าย ดังนั้นหากผู้ป่วยได้รับการค้นหาและคัดกรอง ในผู้ป่วยระยะที่ 4-5 และเสริมสร้างส่ิงแวดล้อม ต้ังแตร่ ะยะเรมิ่ ต้น จะสามารถให้การดแู ลรักษา ควบคมุ ลดปจั จัยเสย่ี งและจดั การโรคไตเรอื้ รงั ในชุมชน ปัจจัยเสย่ี ง และชะลอการดำ�เนินโรค เพื่อป้องกนั ความ กระบวนการและขนั้ ตอนการด�ำ เนนิ งาน รุนแรง ลดภาระของระบบบริการ และการสูญเสีย ที่จะเกิดข้ึนได้ สำ�นักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระบวนการดำ�เนินงานคลินิกชะลอไตเสื่อม จึงได้พัฒนารูปแบบการจัดการโรคไตเรื้อรัง (CKD) ด�ำ เนินการตาม 7 มาตรการสำ�คญั ในการจดั การโรคไต ในผปู้ ่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสงู ภายใต้ เรอ้ื รงั ซงึ่ ไดจ้ ากการศกึ ษา วเิ คราะห์ และสงั เคราะหจ์ าก โครงการพัฒนาการดำ�เนินงานเพ่ือลดโรคไตเรื้อรัง ต้นแบบการดำ�เนินงานลดโรคไตร้ือรังของโรงพยาบาล ท้ังน้ีเพ่ือสนับสนุนการดำ�เนินงานคลินิกชะลอไตเส่ือม คลองขลุง โรงพยาบาลกมลาไสยและเปรียบเทียบ (CKD Clinic)ในสถานบริการสุขภาพสังกัดสำ�นักงาน กับมาตรการระดับโลก โดยพิจารณาร่วมกับอาจารย์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขตามนโยบายของกระทรวง ผู้เช่ียวชาญและภาคีเครือข่ายท่ีสำ�คัญ 7 มาตรการ สาธารณสุขให้มีการจัดระบบบริการรักษาพยาบาล สำ�คัญในการจัดการโรคไตเร้ือรงั ดังน้ี โรคไตเรื้อรังได้ตามระยะ เพ่ือส่งเสริมการชะลอความ มาตรการท่ี 1 เฝา้ ระวงั ตดิ ตาม และการคดั กรอง เสอื่ มของไตไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ตามองคป์ ระกอบ 4 ขอ้ โรคและพฤตกิ รรมเสยี่ งตอ่ การเกดิ โรค เพอ่ื เชอ่ื มโยงการ ตามแนวแผนพฒั นาระบบบริการสุขภาพ สาขาไต ดงั นี้ ให้บริการระดับชมุ ชนและสถานบริการ 1) บุคลากรท่ีดำ�เนินงานในคลินิกชะลอไตเสื่อม มาตรการท่ี 2 การสร้างความตระหนักในระดับ ค ว ร ป ร ะ ก อ บ ด้ ว ย บุ ค ล า ก ร จ า ก ส ห ส า ข า วิ ช า ชี พ ประชากรและกล่มุ เปา้ หมายเฉพาะ ได้แก่ แพทย์ พยาบาล นักกำ�หนดอาหาร หรือ มาตรการที่ 3 การเสรมิ สร้างสง่ิ แวดลอ้ มลดเส่ียง นักโภชนากร เภสัชกร (ระบุผู้รับผิดชอบที่แน่นอน) และการจดั การโรคไตเรื้อรังโดยชุมชน นักกายภาพบำ�บัด ทั้งน้ีข้ึนอยู่กับศักยภาพของ มาตรการที่ 4 การให้คำ�ปรึกษาและปรับเปล่ียน โรงพยาบาล 2) การใหค้ วามรู้ และสร้างความตระหนัก พฤติกรรม มาตรการท่ี 5 การพฒั นาคุณภาพการบริการ 32
มาตรการที่ 6 การเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพผดู้ �ำ เนนิ งาน จาก 7 มาตรการนำ�สู่การพัฒนารูปแบบ และ ท่เี กี่ยวขอ้ งทกุ ระดับใหม้ ีความเขม้ แขง็ จัดกิจกรรมสำ�คัญในการจัดการโรคไตเรื้อรังในผู้ป่วย มาตรการที่ 7 การก�ำ กบั ติดตาม และประเมนิ ผล เบาหวานและความดันโลหิตสูง ท้ังในสถานบริการ และมรี ะบบสารสนเทศท่มี ปี ระสทิ ธภิ าพ (คลนิ กิ ชะลอไตเสอื่ ม) และชุมชน ดงั ตอ่ ไปน้ี ตารางท่ี 10 การด�ำ เนนิ งานและกจิ กรรมส�ำ คญั ในการจดั การโรคไตเรอื้ รงั ในคลนิ กิ ชะลอไตเสอื่ ม (CKD) และชมุ ชน มาตรการ การด�ำ เนินงานและกิจกรรมส�ำ คญั รายงานประ ำจ� ีป 2559 ส่วน ่ีท 3 มาตรการที่ 1 การด�ำ เนนิ งานในระดบั ชมุ ชน มาตรการที่ 2 1. บรู ณาการกบั DHS (District Health System) 2. ตำ�บลจดั การสุขภาพ (รพ.สต. อสม. อสค. เป็นผู้นำ�การจัดการ) การด�ำ เนนิ งานในสถานบรกิ าร ผา่ นคลนิ กิ ชะลอไตเสอ่ื ม (CKD Clinic) ในโรงพยาบาล ชมุ ชน โรงพยาบาลท่ัวไป และโรงพยาบาลศูนย์ 1. การคดั กรองในประชาชนทว่ั ไปที่เป็นกลุ่มเส่ียง 2. การคดั กรองภาวะแทรกซ้อนในกลมุ่ ปว่ ย ระดับสว่ นกลาง 1. ร่วมกับเครือข่าย และกรมวิชาการกำ�หนดประเด็นสำ�คัญ เพ่ือส่ือสารไปสู่ประชากร ท้งั ในวงกวา้ งและกลุ่มเฉพาะ (กลมุ่ เส่ยี งและกล่มุ ปว่ ย) 2. สนบั สนนุ ทรพั ยากรในรูปแบบตา่ งๆให้พ้ืนที่ 2.1 บุคลากร : การจัดอบรมหลักสูตรครกู . และสนับสนุนวิทยากรลงไปในพ้นื ที่ 2.2 วสั ดแุ ละอปุ กรณ์ : พฒั นา ผลติ และรวบรวมสอ่ื และเครอ่ื งมอื ตน้ ฉบบั เพอื่ สนบั สนนุ การด�ำ เนินงานของพน้ื ทป่ี ฏบิ ตั ิการในการให้ความรู้และประชาสัมพันธ์ 2.3 งบประมาณ : การบูรณาการงบประมาณสำ�นักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กรมวชิ าการ สำ�นกั งานหลักประกนั สุขภาพแหง่ ชาติ สมาคมวิชาชีพ ระดับเขต/จงั หวดั 1. กำ�หนดเป็นนโยบายของจังหวัดในการสื่อสารเรื่องโรคไตเรอื้ รังพรอ้ มกันทวั่ จังหวัด 2. สอ่ื สารเตอื นภยั เพอื่ สรา้ งความรู้ ความตระหนกั เรอื่ งโรคไตเรอ้ื รงั เบาหวานและความ ดนั โลหติ สูง ตามประเด็นส�ำ คญั ทีก่ �ำ หนดไวผ้ ่านสื่อวิทยุ โทรทัศน์ ส่อื สิง่ พิมพ์ วารสาร และ/หรือหนังสอื พิมพท์ อ้ งถนิ่ รวมท้ังปา้ ยโฆษณาประชาสัมพันธ์ในสถานทีร่ าชการ 3. ส่งเสริมและสนบั สนนุ การด�ำ เนินงาน และการประชาสมั พนั ธ์ ระดับชุมชน 1. การประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางสื่อสารของชุมชน วิทยุชุมชน เสียงตามสาย บอร์ด เวทีประชาคมของชมุ ชน 2. สร้างและพัฒนาศักยภาพทีมหมอครอบครัวและ อสม. ในการให้ความรู้และ การประชาสมั พนั ธ์ 3. ค้นหาบุคคลต้นแบบในการดูแลตนเองจากโรคไตเรื้อรังได้ดี เพื่อเป็นสือ่ บคุ คลในชุมชน 33
รายงานประจ�ำ ปี 2559 3ส่วนท่ี มาตรการ การดำ�เนินงานและกจิ กรรมส�ำ คญั มาตรการที่ 3 ระดบั ส่วนกลาง มาตรการท่ี 4 1. ร่วมมือกับหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง ในการกำ�หนดและจัดให้มีแนวทางในการควบคุม มาตรการที่ 5 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ การกำ�หนดมาตรฐานฉลากสินค้า และการควบคุมปริมาณโซเดียม มาตรการท่ี 6 และนา้ํ ตาลในผลติ ภณั ฑ์ มาตรการท่ี 7 2. ร่วมมือกับหนว่ ยงานทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง ในการคดิ และเผยแพรเ่ มนูอาหารท่ีเหมาะสมกับผูป้ ว่ ย โรคไตเรื้อรังและโรคไม่ตดิ ต่อเรอ้ื รังอ่ืนๆ 3. รว่ มมอื กบั หนว่ ยงานทเี่ กย่ี วขอ้ ง ในการผลติ เครอ่ื งมอื ทดสอบปรมิ าณโซเดยี ม และนา้ํ ตาล ในอาหารด้วยตนเอง ระดับเขต/จงั หวัดและชุมชน 1. ก�ำ หนดใหม้ พี น้ื ทสี่ �ำ หรบั ผลติ ภณั ฑท์ ม่ี โี ซเดยี มตาํ่ รวมทง้ั เพมิ่ ทางเลอื กอาหารทมี่ ปี รมิ าณ โซเดียมตํ่า และชอ่ งทางการเขา้ ถึงท่เี หมาะสมกับผปู้ ว่ ยโรคไม่ติดต่อเร้อื รัง และโรคไต เรื้อรัง 2. จดั ใหม้ กี จิ กรรม/โครงการสนบั สนนุ การลดบรโิ ภคเหลอื และเสรมิ สรา้ งพฤตกิ รรมสขุ ภาพ ในชมุ ชน 3. จดั ให้มีกิจกรรม/โครงการสนับสนุนการดูแลผปู้ ่วยโรคไตเรื้อรงั ในชมุ ชน 1. ประเมินพฤติกรรมและระยะความพร้อมต่อการเปล่ียนแปลง (Stage Of Change) ในการปรบั เปลย่ี นพฤติกรรมเสย่ี ง 2. การสรา้ งทกั ษะในการจดั การตนเองและสนบั สนนุ ใหเ้ กดิ การจดั การตนเอง (Self-management Support) โดยเนน้ การลดบรโิ ภคเกลอื และโซเดยี ม (Sodium Reduction) และความรเู้ รอ่ื ง การใช้ยา NSAIDs อย่างถูกต้อง หลีกเล่ยี งการใชย้ าหรอื สารที่มพี ษิ ตอ่ ไต พัฒนารูปแบบการจัดการโรคไตเรื้อรัง (CKD) ในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง ในสถานบรกิ าร 1. จดั อบรมหลักสูตร System Manager โดย กรมควบคมุ โรคเปน็ ผพู้ ัฒนาหลกั สูตร 2. จัดอบรมหลักสตู ร Case Manager โดย กรมควบคมุ โรคเป็นผพู้ ฒั นาหลักสูตรสำ�หรับ 15 จังหวัดน�ำ ร่อง 3. จัดอบรมหลักสูตรเชิงปฏิบัติการระยะสั้นสำ�หรับสหวิชาชีพ โดย Service Plan และภาคเี ครือข่ายเปน็ ผูพ้ ัฒนาหลักสูตร 4. จดั อบรมหลกั สตู ร อสม. โดย สถาบนั โรคไตภมู ริ าชนครนิ ทร์ และกรมสนบั สนนุ บรกิ ารสขุ ภาพ เป็นผพู้ ฒั นาหลักสตู ร 5. จดั อบรมหลกั สตู รา้ นโภชนบ�ำ บัด โดย สมาคมนักกำ�หนดอาหารเป็นผพู้ ัฒนาหลักสตู ร พัฒนารายละเอียดตัวชี้วัดและชุดข้อมูล เพื่อกำ�กับการดำ�เนินงานเชิงคุณภาพในผู้ป่วย เบาหวานและความดันโลหิตสงู ในสถานบริการและชุมชน 34
ผลการด�ำ เนินงาน รอ้ ยละ63.75เขตสขุ ภาพท่ี2รอ้ ยละ66.19เขตสขุ ภาพท่ี3 รอ้ ยละ62.81เขตสขุ ภาพที่4รอ้ ยละ62.80เขตสขุ ภาพท่ี5 ผลการด�ำ เนนิ งานเพอื่ ลดโรคไตเรอ้ื รงั ตามตวั ชวี้ ดั ร้อยละ 62.47 เขตสุขภาพท่ี 6 ร้อยละ 62.35 ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสขุ ปีงบประมาณ 2559 เขตสขุ ภาพที่ 7 รอ้ ยละ 63.71 เขตสุขภาพที่ 8 รอ้ ยละ ข้อมูลระหว่างวันท่ี 1 ต.ค.-24 ก.ค. 2559 ในภาพ 64.17 เขตสุขภาพที่ 9 รอ้ ยละ 64.01 เขตสุขภาพท่ี 10 ประเทศพบว่าร้อยละ 63.43 ของผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง ร้อยละ 63.87 เขตสขุ ภาพที่ 11 รอ้ ยละ 64.66 และ สามารถชะลอความเสื่อมของไตได้ (ผู้ป่วยมีอัตราการ เขตสขุ ภาพท่ี 12 รอ้ ยละ 57.91 แสดงตามแผนภาพที่ 8 ลดลงของ eGFR น้อยกว่า 4 ml/min/1.73 m2/yr) และสามารถจำ�แนกเป็นรายเขตคือ เขตสุขภาพท่ี 1 แผนภาพที่ 8 ร้อยละของผู้ป่วยโรคไตเร้ือรังสามารถชะลอความเส่ือมของไตได้ (ผู้ป่วยมีอัตราการลดลง ของ eGFR น้อยกว่า 4 ml/min/1.73m2/yr) รายงานประ ำจ� ีป 2559 ส่วน ่ีท 3 ทีม่ า : HDC สำ�นกั นโยบายและยทุ ธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสขุ ข้อมูล ณ วนั ที่ 24 กรกฎาคม 2559 จากขอ้ มลู ดงั กลา่ ว แสดงใหเ้ หน็ วา่ การด�ำ เนนิ งาน เสยี งสะทอ้ นจากผปู้ ฏิบัติงานส่วนกลาง เพ่ือลดโรคไตเรอื้ รัง และการจดั ต้งั คลนิ กิ ชะลอไตเส่อื ม มีปัญหาด้านระบบข้อมูลสถานพยาบาลบางแห่ง (CKD Clinic) ในโรงพยาบาลชมุ ชนขนึ้ ไป สามารถชะลอ ใช้ โปรแกรมระบบฐานข้อมูลไม่เหมือนกัน ทำ�ให้ ความเสอ่ื มไตของผปู้ ว่ ยโรคไตเรอ้ื รงั ตามเปา้ หมายทวี่ าง ไม่สามารถเช่ือมโยงจากสถานบริการไปถึงระดับจังหวัด ไว้ได้ ระดับเขต และประเทศได้รวมถึงการรายงานผลการ ดำ�เนินงานผ่านระบบ HDC ของกระทรวงสาธารณสุข ปัญหา/อุปสรรค มีปัญหาจึงไม่สามารถทราบข้อมูลผลการปฏิบัติงาน เสียงสะทอ้ นจากผูป้ ฏบิ ัตงิ านในพน้ื ท่ี ตามตัวชี้วัดท่ีแท้จริงได้ และด้านตัวช้ีวัดการจัดบริการ ใ น ก า ร ดำ � เ นิ น ง า น ค ลิ นิ ก ช ะ ล อ ไ ต เ สื่ อ ม (ตวั ชวี้ ดั ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสขุ ปงี บประมาณ (CKDClinic) ขีดความสามารถในการดำ�เนินงานของ 2559) ในส่วนของการจัดตั้งคลินิกชะลอไตเส่ือม และ แต่ละสถานบริการไม่เท่ากัน โดยเฉพาะโรงพยาบาล คลินิก NCD คุณภาพ เชื่อมโยงคลินิกชะลอไตเสื่อม ชมุ ชนขนาดเลก็ และขนาดกลาง เน่ืองจากขาดบุคลากร ในโรงพยาบาลชุมชนข้ึนไป เป็นตัวชี้วัดท่ีไม่มีการ ทส่ี �ำ คญั ในทมี สหสาขาวชิ าชพี บคุ ลากรบางสาขาวชิ าชพี จดั เก็บขอ้ มลู ในระบบ 43 แฟม้ และไมม่ ขี ้อมูลในระบบ ไม่มศี กั ยภาพเพียงพอตอ่ การดำ�เนนิ งาน และภาระงาน HDC ซ่ึงทำ�ให้ผลการดำ�เนินงานนั้นไม่เป็นไปตาม ประจำ�ที่มีมากอยู่แล้ว ทำ�ให้ปฏิบัติงานในคลินิกชะลอ เปา้ หมาย ไตเสื่อม (CKDClinic) ไม่เตม็ ประสิทธภิ าพมากนัก 35
ปจั จยั ความส�ำ เรจ็ จากพนื้ ท่ี ข้อเสนอแนะจากพื้นที่ ความสำ�เร็จของการดำ�เนินงานคลินิกชะลอไต การดำ�เนินงานคลินิกชะลอไตเสื่อม(CKDClinic) เสื่อม (CKDClinic) เกิดจากนโยบายที่ชัดเจนของ ให้มีประสิทธิภาพน้ันต้องอาศัยนโยบายท่ีชัดเจนจาก กระทรวงสาธารณสขุ ความเขม้ แขง็ ของเขตจงั หวดั รวม กระทรวงสาธารณสุขและการสนับสนุนทรัพยากรท่ี ถึงทีมสหสาขาวิชาชีพและเครือข่าย และการได้รับการ เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นศักยภาพของบุคลากรท่ีปฏิบัติ สนับสนุนจากผู้บังคบั บัญชาเปน็ อยา่ งดี งานในคลินิก งบประมาณในการปฏิบัติงาน และส่ือ องคค์ วามรตู้ า่ งๆ เพอ่ื สนบั สนนุ การด�ำ เนนิ ใหไ้ ดป้ ระสทิ ธภิ าพ และประสทิ ธผิ ลตามเปา้ หมายท่ีวางไว้ รายงานประจ�ำ ปี 2559 3ส่วนท่ี การด�ำ เนินงานในคลินิกชะลอไตเสอ่ื ม นักกายภาพบ�ำ บดั สอนการออกกำ�ลงั กายเพิม่ มวลกลา้ มเนอื้ ดว้ ยยางยืด และนกั โภชนากรใหค้ วามรเู้ รอ่ื งอาหาร ขอบคณุ ภาพจาก : รพ.หลม่ เกา่ และรพ.หล่มสกั จ.เพชรบรู ณ์ อบรมพัฒนาศักยภาพบคุ ลากรสาธารณสขุ ในการจดั การโรคไตเรอื้ รงั ขอบคณุ ภาพจาก : สำ�นกั โรคไม่ตดิ ตอ่ กรมควบคมุ โรค การรณรงคล์ ดเคม็ ในงานบุญบง้ั ไฟ สอื่ สนบั สนนุ การด�ำ เนินงานคลนิ ิกชะลอไตเสือ่ ม (CKD Clinic) ขอบคณุ ภาพจาก : สสจ.อุดรธานี โดย สำ�นักโรคไม่ตดิ ต่อ กรมควบคมุ โรค 36 36
3.3 การจดั ทำ�นโยบายลดการบรโิ ภคเกลือและโซเดียม เพือ่ ลดโรคไม่ติดต่อ (NCDs) ด้วยหลกั ฐานสำ�คญั ท่แี สดงให้เห็นว่า การบรโิ ภค และโซเดียม เพื่อลดโรคไม่ติดต่อ (NCDs)” เกลอื และโซเดยี มในประเทศไทยไดก้ อ่ ใหเ้ กดิ ปญั หาและ เสนอต่อสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ซ่ึงถือเป็นกลไก ความรุนแรงของกลุ่มโรคไมต่ ิดตอ่ ได้แก่ โรคความดัน สำ�คัญในการขบั เคลอื่ นเชงิ นโยบาย และมีการปรบั ปรงุ โลหติ สงู โรคเบาหวาน โรคหวั ใจและหลอดเลอื ด และ ให้สมบูรณ์โดยคณะทำ�งานพัฒนาข้อเสนอเฉพาะ โรคไตเรอ้ื รงั ซงึ่ ถอื เปน็ สาเหตหุ ลกั ของการเสยี ชวี ติ กอ่ น ประเด็นว่าด้วยนโยบายการลดบริโภคเกลือ ท่ีมี วยั อนั ควรในปจั จบุ นั ทง้ั ของประชากรโลกและประชาชน นายแพทยอ์ ษั ฏางค์ รวยอาจณิ รองอธบิ ดกี รมควบคมุ โรค ไทย อีกยังมีแนวโน้มเพ่ิมขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเป็น เป็นประธานและได้มีการรับรองมติดังกล่าวแล้วในการ สาเหตุของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ถึงร้อยละ 63 ประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งท่ี 8 ปีพ.ศ. 2559 ของการเสียชีวิตทั้งหมดของประชากรโลกและร้อยละ ไปแล้วเม่ือวนั ที่ 23 ธนั วาคม 2559 รายงานประ ำจ� ีป 2559 ส่วน ่ีท 3 73 ของการเสยี ชวี ติ (กอ่ นวยั อนั ควร) ของประชากรไทย สาระส�ำ คญั ประการหนงึ่ ของนโยบายฯ คือ ขอให้ คาดการณว์ า่ การเสยี ชวี ติ จากโรคไมต่ ดิ ตอ่ ของประชากร กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมควบคุมโรค กรมอนามัย โลกจะเพม่ิ ขนึ้ จาก 36 ลา้ นคนใน พ.ศ.2551 เปน็ 44 ลา้ น สำ�นักงานคณะกรรมการอาหารและยา และสำ�นักงาน คนในปี พ.ศ.2563 นอกจากน้ียังเป็นภาระด้านสุขภาพ บรหิ ารยทุ ธศาสตรส์ ขุ ภาพดวี ถิ ชี วี ติ ไทย เปน็ เจา้ ภาพหลกั จากการเจ็บป่วยและทุพลภาพ ร่วมกับ เครือข่ายลดบริโภคเค็ม กรมสนับสนุนบริการ และขอ้ มลู ปจั จบุ นั พบวา่ การใชน้ โยบายสาธารณะ สขุ ภาพ กรมการแพทย์ ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี และภาคเี ครอื เพื่อลดการบริโภคเกลือและโซเดียมในประชากรน้ัน ขา่ ยอ่นื ๆทเ่ี กย่ี วข้อง ด�ำ เนินการ (1) จัดท�ำ ยุทธศาสตร์ มปี ระสทิ ธภิ าพและคมุ้ คา่ ตอ่ การลงทนุ การศกึ ษาในหลาย การลดการบริโภคเกลือและโซเดียมในประเทศไทย ประเทศให้ผลสอดคล้องกันโดยแสดงให้เห็นถึงผลของ ให้แล้วเสร็จภายในปี พ.ศ.2559 และ (2) เสนอกลไก การลดบรโิ ภคเกลอื ตอ่ สขุ ภาพรวมท้งั ประหยดั ค่าใช้จา่ ย การดำ�เนินงานระดับชาติ ในการประสานงานและบูรณ ของระบบบริการสขุ ภาพ ตวั อย่างเชน่ ในสหรัฐอเมริกา าการการดำ�เนินงานลดการบริโภคเกลือและโซเดียม การลดการบรโิ ภคเกลอื ในประชากรเหลือวันละ 3 กรมั ในประเทศไทย จะเพิ่มให้ประชากรมีชีวิตอยู่โดยมีคุณภาพชีวิตดี ส�ำ หรบั มตกิ ารจดั “ยทุ ธศาสตรก์ ารลดการบรโิ ภค ถงึ 194,000 - 392,000 ปีแห่งสุขภาวะ และประหยดั เกลอื และโซเดยี มในประเทศไทย” นั้น กรมควบคุมโรค ค่ารกั ษาพยาบาล 10,000 - 24,000 ล้านดอลลารส์ หรัฐ ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายท่ีเกี่ยวข้อง ทั้งในภาครัฐและ ต่อปีนั่นหมายถึงการได้รับผลตอบแทน 6-12 ดอลลาร์ ภาคเอกชน จัดท�ำ เปน็ ร่างยุทธศาสตรก์ ารลดการบริโภค ต่อทุกดอลลาร์ท่ีใช้ในมาตรการควบคุมและการลดการ เกลือและโซเดียมในประเทศไทย พ.ศ.2559-โดยมีการ บริโภคเกลือมีความคุ้มค่ามากกว่าการใช้ยาลดความดัน ก�ำ หนดประเดน็ ยทุ ธศาสตรย์ อ่ ย แนวทางในการด�ำ เนนิ งาน โลหติ ในประเทศทม่ี รี ายไดต้ าํ่ ถงึ ปานกลางการลดบรโิ ภค ผลผลิตและตัวช้ีวัด พร้อมทั้งกำ�หนดแผนปฏิบัติการ เกลือและโซเดียมในประชากรจะป้องกันการเสียชีวิต (Action Plan) เพือ่ ตอบสนองเปา้ หมายการดำ�เนินงาน และใชค้ ่าใชจ้ า่ ยน้อย และสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันโดยกำ�หนดเป็น สืบเน่ืองจากสถานการณ์ข้างต้น กรมควบคุมโรค แผนระยะ 10 ปี รายละเอยี ดดงั นี้ โดยสำ�นักโรคไม่ติดต่อ ร่วมกับภาคีเครือข่าย ในการจัดทำ�ข้อเสนอ “นโยบายลดการบริโภคเกลือ 37
รายงานประจ�ำ ปี 2559 3ส่วนท่ี ยุทธศาสตร์การลดบริโภคเกลือและโซเดียมเพื่อ ยุทธศาสตร์ลดบริโภคเกลือและโซเดียม ลดโรคไม่ติดต่อ (NCDs) มีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อลด ในประเทศไทย (พ.ศ.2558-2568) ประกอบด้วย 5 การป่วย การตายและ ผลกระทบทางเศรษฐกิจ และ ประเด็นยุทธศาสตร์ ดงั น้ี สังคม อันเนื่องมาจากการระบาดของกลุ่มโรคไม่ติดต่อ 1. ยทุ ธศาสตร์ S (Stakeholder network) การ นำ�ไปสู่ความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายที่สำ�คัญ ในการ สร้าง พัฒนาและขยายภาคเี ครอื ขา่ ยความร่วมมือ ก�ำ หนดประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ พรอ้ มทง้ั แผนปฏบิ ตั กิ ารและ 2. ยุทธศาสตร์ A (Awareness) เพิ่มความรู้ แนวทางในการดำ�เนินงาน เพ่ือตอบสนองต่อวิสัยทัศน์ ความตระหนัก และเสริมทักษะให้ประชาชน ชุมชน เป้าหมาย และสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และ ผู้ผลิต/ผู้ประกอบการ บุคลากรวิชาชีพท่ีเกี่ยวข้องและ เพื่อสนับสนุนแผนบริการของกระทรวงสาธารณสุข ผู้กำ�หนดนโยบาย (Service Plan)ในการลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังรวมถึง 3. ยทุ ธศาสตร์ L (Legislation and environmental โรคไตวายระยะสุดทา้ ย reform) การปรบั เปลยี่ นสงิ่ แวดลอ้ มเพอ่ื ใหเ้ กดิ การผลติ ปรบั ปรงุ เปลย่ี นแปลง และเกดิ ผลติ ภณั ฑท์ มี่ โี ซเดยี มตาํ่ วิสัยทศั น์ รวมทั้งเพ่ิมทางเลือกและช่องทางการเข้าถึงอาหาร ท่ปี รมิ าณโซเดียมต่าํ ประชาชนมีสุขภาพดีจากการบริโภคเกลือและ 4. ยทุ ธศาสตร์ T (Technology and innovation) โซเดียมลดลง พฒั นางานวิจยั และองค์ความรแู้ ละการนำ�ส่ปู ฏบิ ัติ 5. ยุทธศาสตร์ S (Surveillance, monitoring เปา้ ประสงค์ and evaluation) พัฒนาระบบเฝ้าระวัง ติดตามและ ประเมินผล เน้นตลอดกระบวนการ (input/process/ ประชาชนบริโภคเกลือลดลงร้อยละ 30 ภายใน outcome) ปี 2568 ซึ่งถือเป็นก้าวสำ�คัญในการกำ�หนดทิศทางการ จัดการปัจจัยเสี่ยงสำ�คัญในการเกิดโรค อย่างเป็นรูป พันธกิจ ธรรมและชดั เจน จากการมสี ว่ นรว่ ม สว่ นการเสนอกลไก การด�ำ เนนิ งานระดบั ชาติ นน้ั อยรู่ ะหวา่ งการเตรยี มเสนอ 1. สร้างและขยายภาคีเครือข่ายความร่วมมือลด กลไกการขบั เคลอ่ื นในรปู ของคณะกรรมการในระดบั ชาติ การบรโิ ภคเกลือและโซเดยี ม โดยมีรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน รัฐมนตรีว่าการ 2. ส่งเสริมให้ความรู้และสร้างวัฒนธรรม กระทรวงสาธารณสุข เป็นรองประธาน และรองอธิบดี การบรโิ ภคอาหารเกลอื และโซเดียมต่ํา กรมควบคุมโรค เป็นกรรมการและเลขานุการ ซึ่งท้ัง 3. เพมิ่ ชอ่ งทางในการเขา้ ถงึ อาหารและผลติ ภณั ฑ์ 2 ประเด็นยังคงรอเสนอเพอื่ พจิ ารณาและปรึกษาหารอื ท่มี เี กลอื และโซเดียมตํา่ เพือ่ ความสมบูรณ์ต่อไป 4. ผลักดัน ภาคอุตสาหกรรมอาหารและ รา้ นอาหารให้ผลติ อาหารลดปริมาณโซเดยี ม 5. ส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัย นวัตกรรม เพ่ือลดการบริโภคโซเดียม รวมทั้งกระบวนการติดตาม ด้วยตนเอง 38
3.4 คลนิ กิ NCD คุณภาพ ปีงบประมาณ 2559 คลนิ กิ คณุ ภาพ หมายถงึ คลนิ กิ /ศนู ย/์ เครอื ขา่ ยของ สถานการณท์ ผ่ี า่ นมาพบวา่ การใหบ้ รกิ ารสว่ นใหญ่ คลินิกสถานบริการท่ีเชื่อมโยงในการบริหารจัดการและ ของสถานบรกิ ารสขุ ภาพเปน็ ลกั ษณะการตง้ั รบั โดยรอให้ ดำ�เนินการทางคลินิกให้เกิดกระบวนการ ป้องกันควบคุม ผบู้ รกิ ารเขา้ มาหาทโ่ี รงพยาบาลแลว้ จงึ ใหก้ ารตรวจรกั ษา และดแู ลรกั ษาจดั การโรคเรอื้ รงั แกบ่ คุ คลทเ่ี ขา้ มารบั บรกิ าร ส่วนบริการให้คำ�แนะนำ�การปฏิบตั ติ นและสนับสนนุ การ วนิ ิจฉัยโรค กลมุ่ ที่เปน็ โรค/ปว่ ย รวมท้ังกลมุ่ เสี่ยง จดั การตนเองในโรงพยาบาลยงั มคี อ่ นขา้ งนอ้ ย นอกจาก นี้ในส่วนของการบริการเชิงรุก เช่น การส่งเสริมและ ผลการประเมนิ เพอื่ รับรองคลนิ ิก NCD คณุ ภาพ ป้องกันโรคในชุมชนยงั มีไม่มากนัก รวมถึงยงั ขาดระบบ ระดับเขตและประเทศ ระบบการบริหารจัดการการดูแลประชาชนตลอดทุก ช่วงวัยการพัฒนารูปแบบเพื่อเพ่ิมคุณภาพระบบบริการ ผลการประเมินโดยทมี งานจากส�ำนักงานควบคุม รายงานประ ำจ� ีป 2559 ส่วน ่ีท 3 สุขภาพ โดยผ่านกระบวนการ คลินิก NCD คุณภาพ ป้องกันโรคร่วมกับจังหวัด ซึ่งได้ออกตรวจประเมิน การด�ำเนินงานคลินิก NCD คุณภาพของสถานบริการ สาธารณสุข ระหว่างเดือนเมษายน - สิงหาคม ปี 2559 เป็นมาตรการสำ�คัญในการลดโรคไม่ติดต่อระบบบริการ จ�ำนวนสถานบริการสาธารณสุขเป้าหมาย 235 แห่ง สขุ ภาพ ซงึ่ ไดด้ ำ�เนนิ การมาตงั้ แตป่ ี 2557 พบวา่ มโี รงพยาบาลทผ่ี า่ นการประเมนิ รบั รองทง้ั สนิ้ 235 แหง่ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100 แผนภาพท่ี 9 รอ้ ยละของโรงพยาบาลผา่ นการประเมนิ คลนิ กิ NCD คณุ ภาพ เปรยี บเทยี บปงี บประมาณ 2557 - 2559 ผลการประเมินจากทีมประเมินรับรองของ ปญั หาและอปุ สรรคในการด�ำเนินโครงการ ส�ำ นกั งานปอ้ งกนั ควบคมุ โรคและจงั หวดั ซง่ึ ไดด้ �ำ เนนิ การ ประเมินรับรองคลนิ กิ NCD คุณภาพ ใน รพศ. 1. บุคลากรขาดทักษาในการวิเคราะห์ การใช้ รพท. รพช. ของเขตบริการสุขภาพท่ี 1 - 12 ครบทุก ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ และศักยภาพในการจัดการ แห่ง (รอ้ ยละ 100) พบวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมินคลนิ ิก โรครายกรณี และจดั การระบบบรกิ ารภาพรวม NCD คุณภาพ ดังน้ี 2. รูปแบบและแผนการประเมินผลการปรับ ปี 2557 คา่ เฉลี่ยทง้ั ประเทศรอ้ ยละ 86.9 เปลย่ี นพฤตกิ รรมสขุ ภาพของกลมุ่ เสยี่ งและกลมุ่ ปว่ ยยงั ปี 2558 ค่าเฉลี่ยท้ังประเทศร้อยละ 96.3 ไมช่ ดั เจน ปี 2558 คา่ เฉลยี่ ท้งั ประเทศรอ้ ยละ 100 3. ชุมชนและผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดัน โลหิตสูง ยังไม่ตระหนักถึงความสำ�คัญของปัจจัยเสี่ยง ร่วมต่อการเกิดโรคและภาวะแทรกซ้อนจึงทำ�ให้ไม่เกิด การจดั การตนเองและชุมชน 39
รายงานประจ�ำ ปี 2559 3ส่วนท่ี ปจั จยั สำ� คญั ทท่ี ำ� ใหก้ ารดำ� เนนิ งานคลนิ กิ NCD ขอ้ เสนอแนะเชิงนโยบายส�ำหรบั กระทรวง คุณภาพ ส�ำเร็จ (Key Success) สาธารณสขุ ในการดำ� เนนิ งานคลนิ ิก NCDคุณภาพ 1. ผู้บริการทุกระดับเห็นความสำ�คัญ จึงมีการ ผลักดันส่งเสริมให้มีการวางแผนแก้ไขปัญหาร่วมกัน 1. บรู ณาการงานรว่ มกนั ระหวา่ ง NCD กบั Service อย่างเปน็ รูปธรรมเช่อื มโยงจากทุกระดบั ในเขตพนื้ ที่ Plan สาขา ตา ไต หลอดเลอื ดหวั ใจ หลอดเลอื ดสมอง 2. มียุทธศาสตร์ แผนงาน กระบวนการดำ�เนิน 2. พฒั นาระบบฐานขอ้ มูลและส่วนกลาง เพอ่ื ให้ งานใหบ้ รรลผุ ลส�ำ เรจ็ ตามเปา้ หมาย (ระดบั จงั หวดั /หนว่ ย สามารถดึงและมีการใช้ข้อมูลจากตัวแปรได้ถูกต้องตรง บรกิ าร) โดยมกี ารประชมุ จดั ท�ำ แผนงานโครงการรว่ มกนั กันระหวา่ งสว่ นกลาง เขตและพื้นท่ี ในทุกระดับเป็นแนวทางในการดำ�เนินงาน และ 3. พฒั นาเครือข่ายคลนิ กิ NCD คณุ ภาพขยายสู่ ต้งั เป้าหมายการดำ�เนินงานร่วมกัน ระดบั รพ.สต. และเชอื่ มโยงในภาพอ�ำ เภอ จงั หวดั และเขต 3. ผู้รับผิดชอบงานโรคไม่ติดต่อของจังหวัด 4. ใหค้ ลินกิ NCD คุณภาพ เปน็ กลไกเชอ่ื มโยง และสถานบริการสาธารณสุข มีความรู้และทักษาด้าน กับ DHS และมุ่งแน่นให้เกิดการป้องกันและควบคุม เทคโนโลยีสารสนเทศ มีการประสานกับผู้รับผิดชอบ ท้ังในสถานบริการและชุมชน รวมท้ังพัฒนา social Data Center ของจงั หวดั มบี คุ ลากรทม่ี ที กั ษาการบรกิ าร determinant of health เฉพาะทางในหนว่ นบรกิ ารเพยี งพอ และมที มี สหวชิ าชพี 5. มี ก า ร จั ด ทำ � แ ผ น พั ฒ น า ร ะ บ บ บ ริ ก า ร ร่วมขับเคลือ่ นการดำ�เนนิ งาน โรคไม่ติดต่อที่บูรณาการกับแผนพัฒนาสุขภาพตลอด 4. มีความเข้มแข็งของเครือข่ายในการบริหาร ชว่ งชวี ติ ในระดับเขต จังหวดั อำ�เภอ มีการสนบั สนนุ จัดการท่ีเชื่อมโยง ระบบข้อมูลเฝ้าระวังป้องกัน การพัฒนาบุคลากรให้มีคุณภาพและจำ�นวนเพียงพอ การรักษา และการส่งต่อที่มีประสิทธิภาพ และมีฐาน ไดแ้ ก่ system management team, case/ care manager ข้อมลู สนับสนุนระบบสารสนเทศเชอ่ื มโยงขอ้ มูลทั้งหวดั ทีมสหวิชาชีพ มีการพัฒนาเครือข่ายคลินิก NCD คุณภาพขยายสู่ระดับ รพสต.และเช่ือมโยงในภาพ เครอื ขา่ ยบรกิ าร มกี ารแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ในและระหวา่ ง เครือข่ายบริการทั้งการพัฒนาระบบบริหารจัดการและ รายองคป์ ระกอบของคลนิ กิ NCD คุณภาพ 6. มีการประเมินการทำ�งานของคลินิก NCD คุณภาพ ร่วมกับการประเมินผลการดำ�เนินงานท่ีเป็น ตวั ช้วี ดั คุณภาพ และการใหบ้ รกิ ารผ้ปู ่วย 40
3.5 การรณรงค์สือ่ สารเพอ่ื สร้างความตระหนัก การรณรงคว์ นั หัวใจโลก ปี พ.ศ.2559 ส�ำ นักโรคไม่ติดตอ่ ไดม้ ีการจัดกจิ กรรมการรณรงค์ เป ล่ี ย น จ า กกา รรั บ ป ระท า น ขน ม ห วา น 3รายงานประจ�ำ ปี 2559 ส่วนท่ี เนอื่ งในวันหวั ใจโลก ปี 2559 ขน้ึ ในวันที่ 29 กันยายน เป็นผลไม้สด แทน 2559 ณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกลา้ กรงุ เทพมหานคร ประเดน็ สาร การรณรงคว์ นั หวั ใจโลก ปี พ.ศ.2559 มดี งั น้ี พยายามรับประทาน 5 ส่วน ในผลไม้และ สมาพันธ์หัวใจโลก (World Heart Federation) ผกั ตอ่ วัน (ประมาณ 1 กำ�มอื ) โดยสามารถ ไดก้ �ำ หนดวนั รณรงคห์ วั ใจโลก คอื วนั ท่ี 29 กนั ยายน ของ เลือกรับประทานผลไม้สด ผลไม้แช่แข็ง ทกุ ปี ส�ำ หรบั ประเดน็ สาร (Theme) ในปนี ้ี (ค.ศ.2016) คอื ผลไม้กระป๋อง หรือผลไมแ้ หง้ ก็ได้ ประเทศไทย โดยกระทรวงสาธารณสขุ และมลู นธิ ิ หวั ใจแหง่ ประเทศไทย ในพระบรมราชูปถมั ภ์ ไดก้ �ำ หนด คุมการบริโภคเคร่ืองด่ืมที่มีแอลกอฮอล์ ให้อยู่ วันรณรงคห์ วั ใจโลก ใหส้ อดคลอ้ งกบั สากลเป็นวันที่ 29 ในปรมิ าณทเ่ี หมาะสม (ผชู้ าย ไม่ควรดืม่ เกิน 2 กนั ยายน ของทกุ ปี ส�ำ หรบั ปนี ี้ (2559) ใชป้ ระเดน็ รณรงค์ หน่วยมาตรฐานต่อวนั ผู้หญิง ไมค่ วรด่ืมเกนิ 1 หัวใจโลก คือ หนว่ ยมาตรฐานต่อวนั ) ร้รู ะดับความเสี่ยงของคุณ เตรียมอาหารกลางวันท่ีมีประโยชน์สำ�หรับรับ ประทานทโี่ รงเรยี นหรอื ทที่ ำ�งาน หมน่ั ตรวจเชค็ ระดับน้ําตาลในเลอื ด ระดับน้ําตาลในเลือดสูง อาจเป็นตัวบ่งชี้โรค เบาหวาน จากข้อมูลผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอด เลอื ดนน้ั 60% ของผเู้ สยี ชวี ติ มภี าวะโรคเบาหวาน หมน่ั ตรวจวดั ความดนั โลหติ หาระดบั คอเลสเตอรอล Move your heart ออกกำ�ลังกายใหห้ ัวใจขยบั และน้ําตาลในเลือด วัดรอบรอบเอว หาค่าดัชนีมวลกาย เมื่อรู้ค่าดังกล่าว ก็จะทราบถึงความเสี่ยงและปรึกษา ทำ�ตัวใหก้ ระฉับกระเฉงเสมอ จะช่วยลดความ ผูเ้ ชีย่ วชาญเพื่อสุขภาพหวั ใจทีด่ ขี องคุณ เส่ยี งของ โรคหวั ใจและหลอดเลือด ควรออกกำ�ลังกายระดับปานกลางข้ึนไป อย่างน้อย 30 นาที 5 ครงั้ ต่อสปั ดาห์ Fuel your heart เตมิ พลังให้หัวใจ การเตน้ รำ� การเดนิ เล่น การท�ำ งานบ้าน การบริโภคอาหารและน้ํา ชว่ ยเติมพลงั ใหห้ วั ใจ ลว้ นเป็นการออกกำ�ลงั คุณแข็งแรง เดนิ ขนึ้ ลงบนั ไดแทนการใชล้ ฟิ ตแ์ ละบนั ไดเลอื่ น ลดการรับประทานอาหารแช่แข็งและแปรรูป เดินหรือการปัน่ จักรยานแทนการขบั รถยนต์ ซึ่งลว้ นมนี า้ํ ตาลและไขมนั สงู จะมคี วามสขุ และสนกุ ขน้ึ เมอื่ ออกก�ำ ลงั กายกบั ลดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีนํ้าตาลสูง รวมถึง เพือ่ นและครอบครวั น้ําผลไม้ท่ีมีความหวาน ควรเลือกบริโภคนํ้า ปรกึ ษาแพทยผ์ ้เู ชย่ี วชาญ ก่อนเร่มิ ขบวนการ เปลา่ หรอื นา้ํ ผลไมท้ ่ีไม่หวานแทน ออกกำ�ลงั จริงๆจังๆ สนบั สนนุ การใชเ้ ครอ่ื งนบั กา้ ว หรอื ใชแ้ อพพลเิ คชน่ั ในสมาร์ทโฟนเพ่ือติดตามการเคลื่อนไหว 41
Search