Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore shirmp1

shirmp1

Published by สุภาวิตา ทองน้อย, 2019-04-30 23:50:55

Description: shirmp1

Search

Read the Text Version

เผยแพรโ ดย กองเพาะเลี้ยงสัตวนาํ้ ชายฝง และกองสง เสรมิ การประมง โครงการพัฒนาพื้นที่ลุมนาํ้ ปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดาํ ริ สารบญั แหลง ทอ่ี ยอู าศยั การสมุ ตวั อยา งกงุ กา มกราม การเลอื กสถานทเ่ี ลย้ี งกงุ กา มกราม การถา ยนา้ํ ในบอ เลย้ี งกงุ กา มกราม แหลงนํ้าและคุณภาพนาํ้ ทใ่ี ชใ นการเลย้ี งกงุ ระยะเวลาเลย้ี งและการจบั รปู แบบบอ และการกอ สรา งบอ เลย้ี งกงุ กา มกราม การคดั ขนาดแยกประเภทกงุ การเตรยี มบอ เลย้ี งกงุ กา มกราม การจําหนา ยผลผลติ การเตรียมนาํ้ โรคกงุ กา มกรามและการปอ งกนั รกั ษา การเลอื กพนั ธกุ งุ กา มกราม การใชย าปอ งกนั และรกั ษาโรคกงุ กา มกราม การลําเลยี งพนั ธกุ ง กา มกราม หลกั การพจิ ารณาในการใชย า การปลอ ยพนั ธกุ งุ กา มกรามลงเลย้ี ง หลกั การเลอื กใชย า อตั ราการปลอ ยกงุ กา มกราม อนั ตรายของการใชย า อาหารและการใหอ าหารกงุ กา มกราม คําแนะนําการปอ งกันสัตวนํ้าจากภยั ธรรมชาติ การผลติ และเลอื กใชอ าหารกงุ กา มกราม

การเลย้ี งกงุ กา มกราม 2 คํานํา กุงกามกราม (giant freshwater prawn) มีช่ือเรียกภาษาทองถนิ่ ของไทยหลายอยา ง เชน กงุ นาง กงุ หลวง กุงใหญ กงุ กา มกรามเลย้ี ง และมีชื่อวทิ ยาศาสตรว า Macrobrachium rosenbergii de Man เปน กงุ นา้ํ จดื ขนาดใหญ เนอ้ื มรี สชาตดิ ี ราคาแพง จดั เปน สตั วน า้ํ ทม่ี คี วามสาํ คัญทาง เศรษฐกจิ ชนดิ หนง่ึ นาํ มาประกอบอาหารไดห ลายรปู แบบ เชน ตม ยาํ ทอด พลา ยํา เผา อบ หรือ แปรรปู ตามความนยิ มของผบู รโิ ภค กงุ กา มกรามเคยพบชกุ ชมุ บรเิ วณแมน ้ําเจาพระยา แมน า้ํ ทาจีน แม นา้ํ บางปะกง ทางภาคใตพ บในแมน ้ําปากพนงั แมน า้ํ ตาป และแมน าํ้ ปต ตานี โดยเฉพาะในทะเลสาบ สงขลา ซง่ึ อยใู นจงั หวดั สงขลา และพัทลุง มชี กุ ชมุ มาก ปจ จบุ นั ปรมิ าณกงุ กา มกรามในแหลง น้ําธรรม ชาตลิ ดลงอยา งมาก เนอ่ื งจากสาเหตหุ ลายประการ เชน การทําประมงมากเกนิ ควร การทําประมงผดิ วิธี และมลภาวะเปน พษิ เปน ตน ดงั นน้ั จงึ ไดม กี ารเพาะเลย้ี งกงุ กา มกรามเพอ่ื ทดแทนผลผลติ จากธรรมชาติ โดยไดพัฒนาวิธีการ และเทคนิคการเพาะเล้ียงตลอดมาทําใหการเพาะเลี้ยงกุงกามกรามกลายเปนอาชีพที่ทํารายไดดี การเรียนรูทักษะเพ่อื ใหม คี วามรู ความเขา ใจและประสบการณใ นวธิ กี ารเพาะเลย้ี งกงุ กา มกรามจะเปน แนวทางใหป ระสบผลสําเรจ็ ในการประกอบอาชพี ได แหลง ทอ่ี ยอู าศยั กงุ กา มกราม มกี ารแพรก ระจายอยา งกวา งขวาง พบทงั้ บริเวณแหลงน้ํากรอ ยและแหลง นา้ํ จืด กงุ กา มกรามวัยรุน จะเดนิ ทางไปหากนิ ในแหลง นา้ํ จดื ตามแมน ้ํา ลาํ คลองทว่ั ๆ ไป เมอ่ื ถงึ ฤดผู สมพนั ธุ พอ แมพ นั ธกุ งุ จะเดนิ ทางมายงั แหลง น้ํากรอ ย ซง่ึ เปน บรเิ วณปากแมน ้าํ หรอื ทะเลสาบ เพอ่ื ผสมพนั ธวุ าง ไขแ ละเลย้ี งตวั ออ นจนเปน กงุ วยั รนุ แลว เดนิ ทางเขา ไปบรเิ วณนา้ํ จดื เพอ่ื เลย้ี งตวั จนเปน กงุ ใหญต อ ไป การเลอื กสถานทเ่ี ลย้ี งกงุ กา มกราม สถานทท่ี จ่ี ะใชข ดุ บอ เลย้ี งกงุ กา มกราม ควรเปน ดนิ เหนยี วหรอื ดนิ รว นจะทาํ ใหเ กบ็ น้ําไดด แี ละคนั ดนิ ไมพ งั ทลายงา ย และไมควรเปนดินเปรี้ยวเพราะจะทาํ ใหสภาพนํา้ เปน กรด ไมเ หมาะสาํ หรับการ เจรญิ เตบิ โตของกงุ บอ เลย้ี งกงุ ควรอยใู กลแ หลง นา้ํ ที่มีคุณภาพดี สะอาด ไมม มี ลภาวะจากโรงงาน อตุ สาหกรรม แหลง ชุมชนและแหลงเกษตรกรรม นา้ํ ควรมปี รมิ าณมากพอทจ่ี ะใชต ลอดทง้ั ป โดย เฉพาะถา เปน พน้ื ทท่ี ม่ี นี ้ําสง เขา บอ โดยไมต อ งสบู นา้ํ เชน นา้ํ จากแมน า้ํ ลาํ คลอง คลองชลประทาน ก็จะ ยง่ิ ดี เพราะจะชวยลดคาใชจาย พน้ื ทเ่ี ลย้ี งควรอยใู กลแ หลง พนั ธกุ งุ กา มกราม เพอ่ื สะดวกในการลาํ เลียง ขนสง ลกู กงุ มใิ หบ อบช้ํา นอกจากน้ี ควรอยใู กลถ นน ไฟฟา เพอ่ื สะดวกในการขนสง อาหาร ผลผลติ ตลอดจนใกลต ลาด เพอ่ื ชว ยลดคา ใชจ า ยในการขนสง ปจ จยั การผลติ ตา ง ๆ แหลง นา้ํ และคณุ ภาพนา้ํ ทใ่ี ชใ นการเลย้ี งกงุ แหลง นา้ํ ทใ่ี ชใ นการเลย้ี งกงุ ตอ งทราบวา มปี รมิ าณนา้ํ เพยี งพอที่จะใชเลยี้ งกงุ ไดก เ่ี ดือน เพอ่ื นําไป วางแผนเลี้ยงกุงไดเหมาะสมกับสถานการณคุณภาพนํ้าก็เปนปจจัยที่สําคัญในการเล้ียงกุงกามกราม เพราะวา กงุ อาศยั อยใู นน้าํ ซึ่งคุณภาพนาํ้ จะมีผลกระทบโดยตรง กงุ ทอ่ี ยใู นน้ําที่มีคุณภาพดีก็จะเจริญ เตบิ โตไดด แี ละรวดเรว็ ผูเลี้ยงก็จะประสบผลสาํ เร็จและไดกําไรมาก ถาหากคุณภาพนํ้าไมด ี กุงจะเจริญ เตบิ โตชา หรอื เปน โรคไดง า ย ทาํ ใหก งุ ตายเปน จํานวนมาก ผเู ลย้ี งกต็ อ งขาดทนุ การรักษาคุณภาพนํ้า ในบอ เลย้ี งกงุ จงึ เปน สง่ิ สาํ คญั มาก ! กลับไปหนากอนนี้ \" หนาถัดไป # กลับหนาหลัก/สารบัญ

การเลย้ี งกงุ กา มกราม 3 การรักษาคุณภาพนาํ้ ในบอ เลย้ี งกงุ 1. คา ความเปน กรดเปน ดา ง คา ความเปน กรด-ดา งของนา้ํ จะเปลย่ี นแปลงตลอดเวลา เนอ่ื งจากกการสะสมของเสยี ทก่ี งุ ถา ย ออกมา รวมทง้ั เศษอาหารตกคา งในบอ และซากพชื นา้ํ การสงั เคราะหแ สงของพชื น้าํ กม็ ีสว นทาํ ใหคา ความเปน กรด-ดา งเปลย่ี นแปลง ในชว งบา ยเวลาประมาณ 15.00-16.00 น. การสังเคราะหแสงจะถงึ จดุ สงู สดุ ทาํ ใหค า ความเปน กรด-ดา งในน้าํ สงู มาก แตใ นชว งกลางคนื พืชนํ้าตา ง ๆ จะหยุดการ สังเคราะหแสง เนอ่ื งจากไมม แี สงแดด มีแตการหายใจเพียงอยางเดียว คา ความเปน กรด-ดา งจะลดลง มาก คา ความเปน กรด-ดา งในบอ กงุ ควรรกั ษาใหอ ยใู นระดบั 7-9 และระดับที่เหมาะสมที่สุดคือ 7.5-8.5 ซง่ึ จะเหมาะสมตอ การเจรญิ เตบิ โตของกงุ มากทส่ี ดุ กงุ จะสามารถกนิ อาหารไดด ดี ว ย ดงั นน้ั ควรรกั ษาระดบั คา ความเปน กรด-ดา งใหอ ยใู นชว ง 7.5-8.5 ถา สงู หรอื ตา่ํ ไปกวานี้ก็ควรรีบแกไข ขอเสนอแนะ 1. คา ความเปน กรด-ดา งสงู เกนิ ไป จะทาํ ใหแ พลงกต อนพชื ในน้าํ เจรญิ เตบิ โตอยา งรวดเรว็ แสดงวา นา้ํ ในบอ มปี ยุ หรอื แรธ าตมุ ากเกนิ ไป จะตอ งถา ยนา้ํ ในบอ ออกไปแลว นํานา้ํ ใหมเ ขา มาเพอ่ื ปรบั คา ความเปนกรด-ดา งใหอ ยใู นเกณฑป กติ ถา ปลอ ยใหค า ความเปน กรด-ดางสูงจะทาํ ใหพืชนํา้ เจรญิ เตบิ โตไดเ รว็ มาก เมอ่ื มนั ตายลงจะทาํ ใหน ้าํ เนา เสยี 2. คา ความเปนกรด-ดา งตา่ํ เกนิ ไป แสดงวา น้ําขาดปุยหรือแรธาตุแพลงกตอนพืชจะเจริญเติบโต ชา หรอื ไมเ จรญิ เตบิ โตเลย การคายออกซเิ จนจากการสงั เคราะหแ สงกจ็ ะนอ ยลงไปดว ย ควร ใสป นู ขาวประมาณ 1-1.5 กิโลกรัม/ไร เปน เวลา 3-4 วัน 2. ปรมิ าณออกซเิ จนทล่ี ะลายในน้ํา ปรมิ าณออกซเิ จนทล่ี ะลายในนา้ํ จะลดลง เนอ่ื งจากการใชห ายใจของกงุ และสง่ิ มชี วี ติ อน่ื ๆ ในนา้ํ ซงึ่ ทาํ ใหส ภาพแวดลอ มเปลีย่ นแปลงไป คา ออกซเิ จนทล่ี ะลายในนา้ํ จะตาํ่ ทส่ี ดุ ในชว งเวลา 02.00 น.-05.00 น. กอ นตะวนั ขน้ึ คา ตา่ํ สุดที่กุงจะทนได คอื ประมาณ 0.35-0.9 พีพีเอ็ม (สว นในลา น) สาํ หรบั การเลย้ี งแบบหนาแนน ในสภาพนา้ํ ทเ่ี ขยี วควรรกั ษาระดบั ออกซเิ จนทล่ี ะลายในนา้ํ ใหสูงกวา 3 พพี เี อ็ม ถา ออกซเิ จนละลายในนา้ํ ไมพ อกงุ จะวา ยบนผวิ น้ํา มอี าการลอยหัวและเกาะตามตลง่ิ จะไม วายลงไปใตน า้ํ แมว า จะมคี นเดนิ เขา ใกลก ต็ าม ควรรบี ถา ยเปลย่ี นนา้ํ หรอื เปด เครอ่ื งตนี า้ํ ใหเต็มที่ทันที เพอ่ื เพม่ิ คา ออกซเิ จนในนา้ํ ขอเสนอแนะ 1. การขยายเพม่ิ ปรมิ าณของแพลงกต อนพชื ในนา้ํ เพื่อทาํ สนี า้ํ ใหเ ขียวขึน้ ในเวลากลางวนั การ สังเคราะหแสง จะเปน การเพม่ิ ปรมิ าณออกซเิ จน แตใ นเวลากลางคนื แพลงกต อนพชื ไมม กี าร สงั เคราะหแสง มแี ตก ารใชอ อกซเิ จนในการหายใจ ถาหากมีแพลงกตอนพืชมากเกินไปทาํ ใหอ อกซเิ จน ในนา้ํ อาจไมเพียงพอสาํ หรับกุง ฉะนน้ั จงึ ตอ งมกี ารควบคมุ ปรมิ าณแพลงกต อนพชื ใหม คี วามโปรง ใส ของนา้ํ ประมาณ 20-30 ซม. และอาจตอ งใชเ ครอ่ื งตนี า้ํ ชว ยเพม่ิ ออกซเิ จนในเวลากลางคนื ดว ย 2. ตองทาํ ลายหรือขจัดสง่ิ ท่ีจะมาแยง ออกซเิ จน เชน ปลา ปู กงุ ฝอย เศษสกปรกที่สะสมอยู กน บอ ซง่ึ เปน สารอนิ ทรยี ท ต่ี อ งใชอ อกซเิ จนในการยอ ยสลายตวั โดยการถา ยเปลย่ี นนา้ํ ! กลับไปหนากอนนี้ \" หนาถัดไป # กลับหนาหลัก/สารบัญ

การเลย้ี งกงุ กา มกราม 4 3. ในกรณีที่ใชนาํ้ บาดาล ปรมิ าณออกซเิ จนทล่ี ะลายนา้ํ ในนา้ํ บาดาลมกั ตา่ํ แตจ ะมไี นโตรเจนสงู ดงั นน้ั จะตองพักนํ้าบาดาล ใหอ ยกู ลางแจง กอ น แสงแดดจะชว ยเพ่มิ คา ออกซเิ จนและสลายปรมิ าณ ไนโตรเจนในน้ําตลอดจนชว ยตกตะกอนเหลก็ หรอื โลหะตา ง ๆ 4. ในวนั ทฝ่ี นตก จาํ เปน ตอ งใชเ ครอ่ื งตนี า้ํ เพอ่ื เพม่ิ ออกซเิ จนในนา้ํ เนอ่ื งจากความกดอากาศต่าํ จะทาํ ใหค า ออกซเิ จนต่าํ เชน กนั 5. ในระหวา งกงุ ลอกคราบตอ งการออกซเิ จนมาก หากออกซเิ จนไมพ อจะมผี ลกระทบทไ่ี มด ตี อ กงุ เราจงึ ตอ งถา ยนา้ํ และตนี า้ํ มาก ๆ เพอื่ ใหก ุงไดรบั ออกซเิ จนอยางเพยี งพอ 3. อุณหภูมิของนาํ้ อณุ หภมู นิ ้าํ ทเ่ี หมาะสมท่สี ุดอยูใ นชว ง 25-30 องศาเซลเซยี ส ถา อณุ หภมู สิ งู หรอื ต่ําเกนิ ไป อาจ ทาํ ใหก งุ ออ นแอหรอื ตายได ขอเสนอแนะ 1. ถา อณุ หภมู นิ ้าํ สงู เกนิ ไป แสดงวา ระดบั นา้ํ ตา่ํ เกนิ ไป ควรรบี เตมิ นา้ํ เขา ไป ใหร ะดบั นา้ํ สงู ขน้ึ เปน 5-6 ฟุต และอยา ใหเ ครอ่ื งตนี ้าํ ตนี ้าํ ลกึ เกนิ ไป เพราะจะทาํ ใหน ้าํ ชน้ั ลา งรอ นดว ย 2. ถา อณุ หภมู ติ ่าํ เกนิ ไป ใหด ดู น้าํ ทอ่ี นุ กวา เขา ไปผสมหรอื อาจลดระดบั นา้ํ ใหต น้ื ในชว งเชา เพื่อ ใหแ สงแดดสอ ง และเพม่ิ ระดบั นา้ํ ใหส งู ขน้ึ ในชว งบา ย 4. สีของนํ้า นา้ํ ในบอ เลย้ี งกงุ ควรเปน สเี ขยี วอมนา้ํ ตาล ขน้ึ อยกู บั ชนดิ ของแพลงกต อน เพอ่ื ปอ งกนั แสงแดดไม ใหส อ งถงึ กน บอ มาก เปน การลดการเกดิ ขแ้ี ดดและพชื นา้ํ อน่ื ๆ ถา ขแ้ี ดดในบอ มมี ากมนั จะไปเกาะตวั กงุ ทาํ ใหก งุ ไมล อกคราบ ขอเสนอแนะ 1. นา้ํ สอี อ นหรอื ใสเกนิ ไป แสดงวา น้ําขาดธาตอุ าหารจงึ ตอ งใสป ยุ ในบอ กงุ ควรใสป ยุ สตู ร 15-15-15 อตั รา 3 กิโลกรัม/ไร 2. นา้ํ มสี ีเขียวจัดเกินไป ตอ งเตมิ นา้ํ หรอื ถา ยนา้ํ เกา ออก แลว เตมิ นา้ํ ใหมเ ขา บอ หรอื หวา น ปนู ขาว อตั รา 10 กิโลกรัม/ไร ละลายนา้ํ แลวสาดทั่วบอ 5. ขแ้ี ดด บอ ทแ่ี สงแดดสอ งลงไปไดล กึ จะทาํ ใหแ พลงกต อนพชื เจรญิ เตบิ โตอยา งรวดเรว็ ทําใหน ้าํ ขาด ออกซิเจน และพืชนาํ้ เหลา นจ้ี ะตายไปสะสมอยกู น บอ กลายเปน ขแ้ี ดด ขอเสนอแนะ ทาํ สนี ้ําในบอ ใหค งท่ี ไมใ สหรอื เขม เกนิ ไป รปู แบบบอ และการกอ สรา งบอ เลย้ี งกงุ กา มกราม รปู ทรงบอ ทไ่ี ดร บั ความนยิ ม มกั เปน รปู สเ่ี หลย่ี มผนื ผา เพราะสะดวกในการจดั การและการจับกุง ขนาดของบอ ควรกวา งประมาณ 25 เมตร ไมค วรเกนิ 50 เมตร มเี นอ้ื ทป่ี ระมาณ 1-5 ไร ตอ บอ พน้ื บอ ตอ งอดั เรยี บแนน จะทาํ ใหจับกุงไดสะดวก ความลกึ ของบอ ทเ่ี หมาะสม คอื 1 เมตร ถา บอ ลกึ เกนิ ไปจะทาํ ใหอ อกซเิ จนในนา้ํ ขาดแคลนได หากบอตื้นเกินไปก็จะทาํ ใหแ สงแดดสอ งถงึ กน บอ ก็จะเกิดขี้ แดดและทาํ ใหน ้าํ เนา เสยี ไดง า ย คนั บอ ตอ งสงู พอทจ่ี ะปอ งกนั นา้ํ ทว มในฤดนู า้ํ หลาก และมคี วามลาดชนั พอประมาณ ถา คนั บอ ลาดชนั นอ ยไปจะทาํ ใหพงั ทลายไดง า ย หากลาดชันมากไปก็จะทาํ ใหเปลอื งพื้นที่ ! กลับไปหนากอนนี้ \" หนาถัดไป # กลับหนาหลัก/สารบัญ

การเลย้ี งกงุ กา มกราม 5 ทางระบายนา้ํ ของบอ ควรแยกจากกนั และทางนํ้าเขา นา้ํ ออก ควรอยตู รงกนั ขา ม ประตรู ะบายนา้ํ ตอ ง ปลอ ยนาํ้ ไดเ รว็ และควบคมุ ระดบั นา้ํ ไดด ี ควรอยทู ศิ ใตล ม เพอ่ื ระบายของเสยี ไดด ี แนวบอ ทางดา นยาว ควรเปน แนวรบั ลม เพอ่ื ใหอ อกซเิ จนในอากาศละลายนา้ํ ไดด บี อ ควรมคี วามลาดเอยี งสปู ระตรู ะบายนา้ํ และคลองระบายนา้ํ ออกจะตอ งอยตู า่ํ กวา ประตรู ะบายนา้ํ เพอ่ื ระบายนา้ํ ออกใหห มด การเตรยี มบอ เลย้ี งกงุ กา มกราม สบู นาํ้ ออกจากบอ และกาํจัดศัตรกู ุง ไดแก ปลา กบ เขยี ด ปู นก โดยใชป นู ขาว โลต น๊ิ กาก ชา หรอื อาจใชเ ฝอ ก อวนไนลอ น ลอ มรอบคนั บอ และหมน่ั ตรวจดคู นั บอ ทกุ วนั เพื่อกาํ จดั ศตั รกู งุ โดย เฉพาะพวกปตู วั เลก็ ๆ ซง่ึ เปน ศตั รสู าํ คัญที่คอยแยงอาหารกุง หา มใชย าฆา ปเู ปน อนั ขาด เพราะจะทาํ ให กงุ ตายไปดว ย ควรกาํ จดั พนั ธไุ มน ้าํ หรือวัชพืชอื่น ๆ ทเ่ี ปน แหลง หลบซอ นของศตั รกู งุ และยังทาํ ใหเปน อปุ สรรคตอ การเลย้ี งและการจบั กงุ จากนน้ั ใหห วา นปนู ขาวขณะดนิ เปย กประมาณ 60-100 ก.ก./ไร แลวตากบอทิ้งไว 1-2 อาทิตย จนบอแหง กรณที บ่ี อ มเี ลนมากควรปากเลนกอ นหวา นปนู ขาวและตาก บอ ยกเวน กรณดี นิ เปรย้ี วไมต อ งปาดเลนทง้ิ เพราะจะทาํ ใหบ อ เปน กรด การตากบอจะชวยใหแกสพิษ บางตัวระเหยและถูกทําลายโดยแสงแดดและความรอนและยังชวยฆาเช้ือโรคบริเวณกนบอรวมทั้งชวย กาํ จดั ศตั รกู งุ ดว ย สาํ หรบั บรเิ วณทเ่ี คยเปน นาขา วเกา แลวทาํ การปรบั เปลย่ี นพน้ื ทม่ี าเปน นากงุ สวนใหญจะมี สภาพเปนกรด หรือที่เรียกวา ดนิ เปรย้ี วเนอ่ื งจากเปน พน้ื ทท่ี ม่ี กี ารใชป ยุ เคมมี าก ตดิ ตอ กนั เปน เวลานาน โดยเฉพาะปุยไนโตรเจน ในสภาพพื้นทแี่ บบนค้ี วรใสป ูนใหมากข้นึ สาํ หรบั บอ ใหมส ภาพดนิ ทเ่ี ปน กรดใหใ ชป นู ขาว 80-100 ก.ก./ไร สว นบอ เกา ทใ่ี ชเ ลย้ี งมา 2-3 ป แลว หรอื บอ ทเ่ี คยเลย้ี งกงุ กลุ าดาํ มากอ น ใหไ ถพรวนดนิ กน บอ แลว สบู นา้ํ ทิ้ง เพอ่ื ลดปรมิ าณสาร อนิ ทรยี  ซึ่งทาํ ใหก น บอ เนา เสยี แลว หวา นปนู ขาว 200-300 ก.ก./ไร ตากบอ ประมาณ 3-4 สัปดาห จนแหง สนทิ จงึ เปด น้ําเขา บอ ควรใชป นู ครง้ั แรกในการเตรยี มบอ จะทาํ ใหการทําสนี า้ํ งา ยและการเปลย่ี นแปลงคณุ ภาพนา้ํ นอ ย ในชว งตน ของการเลย้ี ง การใชป นู ในขณะทม่ี กี งุ อยใู นบอ จะตอ งใชค วามระมดั ระวงั เพราะอาจจะสงผล กระทบกบั กุงได สําหรบั บอ ทม่ี นี ้าํ สเี ขม อยแู ลว การใสป นู อาจจะตอ งหลกี เลย่ี งมาใสใ นชว งบา ยเพราะ การใสปูนในชวงเชาอาจทําใหคาความเปนกรด-ดางเพิ่มขึ้นอยางรวดเร็วและไมควรใสปูนพรอมกับปุย เพราะจะทาํ ใหปูนและปุยจับตัวกันตกตะกอนทาํ ใหไมเกิดประโยชน การใสปุยควรทําหลงั จากการใสป นู แลวประมาณ 3-5 วัน ในชว งฤดฝู นควรใชป นู โรยทค่ี นั ขอบบอ จะชว ยลดปญ หาความเปน กรดในบอ กงุ ทเี่ กิดจากนํ้าฝนได การเตรยี มนา้ํ กอ นสบู น้าํ เขา บอ ตอ งสงั เกตดวู า มกี ารใชย าฆา แมลงในนาขา ว ไร สวน บรเิ วณใกลเ คยี งหรอื ไม ถา มคี วรงดการสบู น้ําเขา บอ ในชว งนน้ั เพราะยาฆา แมลงจะทําใหก งุ ตายหมด หลงั จากสบู นา้ํ เขา บอ แลว ควรกกั นาํ้ ไว 2-3 วัน เพอ่ื เปน การปรบั สภาพน้ํา บรเิ วณปากทอ นา้ํ เขา ควรปด ดว ยอวนไนลอ น ตะแกรง ผา กรอง หรือใชเฝอกกั้น เพอ่ื ปอ งกนั ศตั รกู งุ ทป่ี นมากบั น้ําหลงั จากนน้ั กใ็ สป ยุ เคมี สตู ร 15- 15-15 อตั รา 3 กิโลกรัม/ไร และปลาปนผสมราํ ละเอยี ด สดั สว น 1 : 1 อตั รา 3 กิโลกรัม/ไร ละลายนา้ํ แลวสาดใหทั่วบอ เพอ่ื ใหเ กดิ อาหารธรรมชาตไิ ดแก พวกแพลงกตอน โดยดูจากนาํ้ ใหเ ปน สี เขยี วอมเหลอื งหรอื นา้ํ ตาล ! กลับไปหนากอนนี้ \" หนาถัดไป # กลับหนาหลัก/สารบัญ

การเลย้ี งกงุ กา มกราม 6 การเลอื กพนั ธกุ งุ กา มกราม ควรเลอื กกงุ ทม่ี ลี กั ษณะวา ยน้ําปราดเปรยี วแขง็ แรง ลาํ ตวั ใส มขี นาดใกลเ คยี งกนั และเปน ลกู กงุ ทคี่ วาํ่ แลว หรอื มอี ายไุ มต า่ํ กวา 20 วัน ควรไดร บั การปรบั สภาพใหอ ยใู นนา้ํ จดื ไมต า่ํ กวา 2-3 วัน การลาํ เลยี งพนั ธกุ งุ กา มกราม การลาํ เลยี งพนั ธกุ งุ โดยใชร ถยนต ระหวา งการลาํ เลียงควรรักษาอุณหภูมิใหอยูระหวาง 20-22 องศาเซลเซียส นยิ มทํากนั ในชว งเชา มดื หรอื กลางคนื ความหนาแนน ของพนั ธกุ งุ ทล่ี ําเลียง ประมาณ 1,000-2,000 ตวั / ถงุ ขน้ึ อยกู บั ขนาดของลกู กงุ และระยะทาง การปลอ ยพนั ธกุ งุ กา มกรามลงเลย้ี ง บอ ทเ่ี ตรยี มพรอ มสาํ หรบั การปลอ ยพนั ธกุ งุ ลงเลย้ี งควรมรี ะดบั น้าํ ไมต า่ํ กวา 60 ซม. ควรปลอ ยกงุ ไมเ กนิ 7 วัน หลงั จากสบู นา้ํ เขา บอ และทาํ สนี า้ํ เรยี บรอ ยแลว เพราะจะทาํ ใหกุงเจริญเติบโตไดเร็วกวา ศตั รกู งุ ทอ่ี าจหลดุ รอดเขา มาในชว งสบู น้าํ เขา บอ นยิ มปลอ ยพนั ธกุ งุ เวลาเชา หรอื เยน็ โดยนาํ ถงุ พนั ธกุ งุ ลอยนาํ้ ในบอ ประมาณ 20 นาที เพื่อเปนการปรับอุณหภูมิหลงั จากนน้ั ก็ทาํ การปรบั สภาพน้ํา โดยเปดถุง ออกตกั นา้ํ ในบอ มาผสมกบั นา้ํ ในถงุ อยา งชา ๆ แลว คอ ย ๆ ปลอ ยพนั ธกุ งุ ลงบอ เพื่อชวยใหลูกกุงมีการ ปรบั ตวั จะทาํ ใหล กู กงุ แขง็ แรงและมอี ตั รารอดมากขน้ึ ควรปลอ ยกงุ ในตน ฤดแู ลง จะโตเรว็ กวา ชว งหนา หนาว อาจใชก ง่ิ ไผห รอื กง่ิ ไมอ น่ื ๆ สมุ ไวใ นบอ ทาํ ทห่ี ลบซอ นใหก งุ ขณะทล่ี อกคราบ และยงั เปน การ เพิ่มที่อยูอาศัยใหกับกุงไดอีกดวย แตกิ่งไมที่ใชจะตองแหง ไมม ยี าง เพราะกง่ิ ไมส ดหรอื มยี างจะเนา เปอ ย ผงุ า ย ทําใหน ้าํ เสียได อตั ราการปลอ ยกงุ กา มกราม การปลอ ยลกู กงุ กา มกรามลงบอ ควรทาํ กระชงั ไนลอ นมงุ เขยี ว กวาง 1.5 เมตร ยาว 1.5 เมตร ลกึ 1 เมตร เอาไวใ นบอ ชาํ หรอื บอ เลย้ี งสําหรบั ไวต รวจสอบอตั รารอดตาย โดยนาํ ลกู กงุ ทจ่ี ะปลอ ยมาใส กระชัง กระชงั ละ 200 ตวั เวลาใหอ าหารกใ็ หล กู กงุ ในกระชงั ดว ย เมอ่ื ครบ 7 วัน กน็ บั อตั รารอด ถา รอดนอ ยกต็ อ งปลอ ยเสรมิ ใหม จะชว ยใหไ มต อ งปลอ ยลกู กงุ เผอ่ื ตายอกี ไรล ะ 40,000-50,000 ตวั ซงึ่ เปนสาเหตุทาํ ใหก งุ หนาแนน เกนิ ไป ขาดออกซเิ จน ตายไดง า ย ทําใหข าดทุน อตั ราความหนาแนน ในการเลย้ี งมอี ยู 3 แบบ คือ 1. ระดบั ความหนาแนน นอ ย ปลอ ยกงุ อตั รา 20,000-24,000 ตวั /ไร แลวทาํ การคดั กงุ ตวั เมยี ออก เมอ่ื อายุ 3.5 เดอื น แลวยังทยอยจับกุงขายไดอีก 5 ครง้ั กุงท่ีจบั ไดท ้ังหมดเฉลยี่ ไรล ะ 510-540 ก.ก. กุงตัวใหญจ ะขายไดราคาดี ไดกําไรเฉลย่ี 24,000-30,000 บาท/ไร/ป 2. ระดบั ความหนาแนน ปานกลาง ปลอ ยกงุ อตั รา 75,000-80,000 ตวั /ไร ทําการคดั กงุ เพศ เมยี ออกเมอ่ื อายุ 3.5 เดอื น แลวคอยทยอยจับกุงขายไดอีก 10 ครง้ั จะจับกุงไดทั้งหมด 848-910 กก./ไร กงุ ขนาดเลก็ จะไดร าคาไมด แี มว า จะไดน า้ํ หนกั มากแตก ก็ นิ อาหารมากอตั ราแลกเนอ้ื จะสงู ทาํ ให ตน ทนุ สงู มกี าํ ไรนอ ย การเลย้ี งวธิ นี ถ้ี า สภาพแวดลอ มเปลย่ี นแปลงกจ็ ะสง ผลกระทบมาก เชน รอ นอบอาว ฝนตกมาก จะทาํ ใหก ุง ปรับตัวไมทนั จึงมีปญหากุงตายมากทาํ ใหกาํ ไรนอ ย 3. ระดบั ความหนาแนน มาก ปลอ ยกงุ อตั รา 150,000-200,000 ตวั /ไร วธิ นี ้เี ปนวิธที ่ดี ที ี่สุด แตต อ งใชบ อ เลย้ี ง 2 บอ ขน้ึ ไป โดยบอ หนง่ึ จะปลอ ยเลย้ี งอยา งหนาแนน (บอชาํ ) แลว ยา ยไปเลย้ี งในบอ เลย้ี งทเ่ี ตรยี มไวอ กี ที ในบอ ชาํ ควรมเี ครอ่ื งตนี า้ํ 4 ใบ ใชเ ครอ่ื งดเี ซล 2.5 แรงมา ความหนาแนน ของกงุ ทป่ี ลอ ยตง้ั แต 150,000-200,000 ตวั /ไร การใหอ าหารแบง ใหก นิ วนั ละ 4 มอ้ื ! กลับไปหนากอนนี้ \" หนาถัดไป # กลับหนาหลัก/สารบัญ

การเลย้ี งกงุ กา มกราม 7 เมอ่ื กงุ อายุ 2 เดอื น กใ็ ชอ วนตาถ่ี ขนาดชอ งตา 1-2 ซม. จับกุงตัวโตออกจากบอชาํ ไปเลย้ี งใน บอ เลย้ี ง ถา มบี อ เลย้ี งหลายบอ กแ็ บง เลย้ี งใหเ ทา ๆ กัน โดยการนบั หรอื ชง่ั แลว ประมาณเอา จะทาํ ทุก 20 วัน เมอ่ื กงุ อายปุ ระมาณ 4 เดอื น กงุ ในบอ เลย้ี งทย่ี า ยมาจากบอ ชํากส็ ามารถจบั ขายได ซึ่งจะจับขาย ทกุ 35 วัน ขณะเดยี วกนั กน็ ํากุงจากบอชาํ มาใสใ นบอ เลย้ี งทกุ 35 วัน เชน กนั คอื พอขายกุงใหญออกไป แลว กจ็ บั กงุ ในบอ ชํามาเลย้ี งเพม่ิ ในบอ เลย้ี งใหม อตั ราทย่ี า ยไปปลอ ยในบอ เลย้ี งรวมกนั ไมเ กนิ 30,000 ตวั /ไร ทกุ คร้ังทจ่ี บั กงุ ในบอชําเพื่อยายไปยังบอเลี้ยง ถา พบกงุ ตวั เมยี มไี ข หรอื ไมม ไี ขก ต็ าม หรือกุงจิ๊ก โก ตอ งคดั ออก พอจบั กงุ ขายไปประมาณ 6 ครง้ั กงุ ทกุ บอ กจ็ ะนอ ยลง ใหทําการคดั กงุ ตวั ใหญท กุ บอ ขาย และนํากงุ ตวั เลก็ มารวมไวใ นบอ เดยี ว กงุ กน บอ นส้ี ว นมากจะเปน กงุ ตวั ผทู ง้ั หมดใหเ ลย้ี งตอ ไปจะไดก งุ ตวั ใหญแ ละราคาดี สวนบอที่จับกุงหมดแลวใหตากบอ ลอกเลน หวา นปนู ขาว เพอ่ื เตรยี มการเลย้ี งตอ ไป กวาจะ เตรยี มบอ เสรจ็ และสบู นา้ํ ใหมเ ขา มาในบอ เพอ่ื เลย้ี งกงุ ใชเ วลาประมาณ 30-40 วัน ซง่ึ กงุ กน บอ ทร่ี วบ รวมไวกจ็ ะโตพอท่จี ะขายไดเงินอีกครัง้ ถา กงุ กน บอ เหลอื กมากใหร วมกงุ กน บอ ตวั เลก็ ทจ่ี บั ไดไ ปแยกเลย้ี ง ในบอ เตรยี มใหม เปน 2 บอ ถา กงุ หนาแนน มากเกนิ ไปกใ็ หแ ยกบอ ออกไปอกี สว นบอ ชาํ กเ็ ตรยี มตาก บอ ไว กุงทจี่ ะเลี้ยงใหมอ าจจะเปลยี่ นบอชาํ เดมิ เปน บอ อน่ื กไ็ ด เมอ่ื ปลอ ยกงุ ใหมใ นบอ ชาํ ได 2 เดอื น แลว กุงกน บอ ทจี่ ับมาขยายในบอใหมก ็โตพอท่จี ะจับขายไดประมาณ 2 ครง้ั แลว ซง่ึ การยา ยกงุ ออกจาก บอ ชาํ ไปใหม วิธีนี้จะทาํ ใหจับกุงไดทุก ๆ ไมเ กนิ 2 เดอื น เงนิ ทนุ หมนุ เวยี นกจ็ ะใชจ ากการขายกงุ ชดุ เกา นาํ มาใชใ นการเลย้ี งกงุ ชดุ ใหม วิธีนี้จะทาํ ใหไดกําไรมาก เพราะกุงตัวโต และทาํ ใหม รี ายไดร วมทง้ั เงนิ ทนุ หมนุ เวยี นตลอดทง้ั ปอ กี ดว ย อาหารและการใหอ าหารกงุ กา มกราม อาหารกงุ กา มกราม เปน อาหารเมด็ ชนดิ จมนา้ํ ควรมโี ปรตนี ไมต า่ํ วา 30% หรอื อาจใชอ าหารกงุ กลุ าดาํ กไ็ ด อาหารควรคงสภาพในนา้ํ โดยไมล ะลายไดน านไมต า่ํ กวา 4 ชั่วโมง เนอ่ื งจากกงุ กนิ อาหาร โดยการกดั แทะ จะทาํ ใหส ะดวกในการกดั กนิ ถา อาหารละลายนา้ํ งายจะทาํ ใหก งุ ไดร บั อาหารไดเ ตม็ ท่ี ทาํ ใหส น้ิ เปลอื งคา อาหาร และทาํ ใหบ อ กงุ เนา เสยี อกี ดว ยสปั ดาหแ รกหลงั ปลอ ยกงุ ลงเลย้ี ง อาจไมต อ งให อาหารก็ได ถา หากสนี า้ํ ดี เพราะมอี าหารตามธรรมชาตใิ นบอ เพยี งพอสาํ หรับกุง กงุ เลก็ ควรใหอ าหาร ชนดิ เกลด็ และอาหารจะใหญข น้ึ ตามขนาดของกงุ โดยใหอาหารลูกกุง 30-40% ของนา้ํ หนักกุง ในชว ง เดอื นแรกแลว ลดเหลอื 3-5% ในเดอื นท่ี 3 การใหอาหารกุงควรหวานใหกระจายทั่วบอจะทาํ ใหกุงไดกิน อาหารไดทั่วถึง ใหอ าหารวนั ละ 2 ครง้ั กงุ จะกนิ อาหารไดด ใี นเวลากลางคนื ควรใหอ าหารมอ้ื เชา เพยี ง เลก็ นอ ยและใหม ากขน้ึ ในชว งเยน็ หลังจากกุงอายุ 3 เดอื นไปแลว ควรใหอ าหารมื้อเดยี วเฉพาะชวงเย็น ในกรณที ส่ี ภาพดนิ ฟา อากาศเปลย่ี นแปลง เชน ฝนตก ควรลดปรมิ าณอาหารลง การตรวจสอบวา ใหอ าหารพอดหี รอื ไม เปน สง่ิ สาํ คญั ทส่ี ดุ ในการเลย้ี งกงุ เพราะตน ทนุ การเลย้ี ง กงุ มากกวา ครง่ึ จะเปน คา อาหาร ถา ใหอ าหารมากเกนิ ไปกจ็ ะเปน การเพม่ิ ตน ทนุ โดยเปลา ประโยชน และ ยงั ทาํ ใหน า้ํ เนา เสยี อกี ดว ย ถาใหอาหารนอยก็จะทาํ ใหกุงเจริญเติบโตชา ทําใหไ ดผ ลผลติ ไมด ี การตรวจ สอบปริมาณอาหารจะทาํ ภายหลังใหอาหารไปแลว 3 ชั่วโมง โดยใชยอรูป 4 เหลี่ยม ขอบยอทําจากผิวไม ไผห รอื เหลก็ สเตนเลสเยบ็ ตดิ กบั อวนไนลอ นมงุ เขยี ว ขอ ควรระวงั ในการใหอ าหารกงุ คอื การแยงอาหาร กงุ จากศัตรู เชน ปลา ปู กบและเขียด เปน ตน จึงตอ งดแู ลและกาํ จดั ออก ! กลับไปหนากอนนี้ \" หนาถัดไป # กลับหนาหลัก/สารบัญ

การเลย้ี งกงุ กา มกราม 8 ตารางท่ี 1 แสดงการใหอ าหารกงุ กา มกรามดว ยอาหารสําเรจ็ รปู ความหนาแนน 80,000 ตวั / ไร อายกุ งุ นํา้ หนกั ขนาด เบอร ปรมิ าณอาหาร/วนั รวมปรมิ าณ (เดอื น) (กรมั ) (ตวั / อาหาร (กก.) อาหาร/เดอื น (กก.) กก.) 1 0.40 2,500 #045 0.5 15 1 30 2 2.00 500 #045 1.5 - 2 45 - 60 2-4 60 - 120 3 5.00 200 #045 3-5 90 - 150 5 150 4 12.00 83 #045 3-5 90 - 150 1-3 30 - 90 5 28.00 35 #045 6 50.00 20 #045,#04 7 70.00 14 7 8 75.00 13 #045,#04 7 #047 หมายเหตุ (1) กงุ น้าํ หนกั 0.01-12.0 กรัม ใหตรวจสอบการกินอาหารโดยใชยอ (2) กงุ นา้ํ หนกั 12.0 กรมั ขน้ึ ไป ใหต รวจสอบการกนิ อาหารโดยการตรวจกน บอ และ คาํ นวณปรมิ าณ อาหารจากอตั รารอดตาย (3) ในเดอื นท่ี 7 และ 8 จะใหอ าหารลดลง เพราะเรม่ิ จบั กงุ ตวั โตขายเมอ่ื อายไุ ด 6 เดอื น (4) ในกรณีที่กุงมีอัตรารอดตายสูงมากและมีความหนาแนน สูงอาจทยอยจบั กุง เมอื่ เลย้ี งไป ได 4 เดอื น การผลติ และเลอื กใชอ าหารกงุ กา มกราม การเลอื กใชอ าหารทเ่ี หมาะสมเปน สว นสําคญั ในการเลย้ี งกงุ กา มกราม เพราะอาหารจะเปนปจจัย สาํ คญั ตอ การผลติ และมผี ลตอ สภาพแวดลอ มเปน อยา งมาก หากจดั การเร่อื งอาหารไมด ีก็จะกอ ใหเ กิด ปญหาอื่น ๆ ตามมาและยากตอ การแกไ ข ดงั นน้ั ในการผลติ อาหารหรอื พจิ ารณาเลอื กอาหารกงุ มปี จ จยั สําคญั ทต่ี อ งคาํ นงึ ถงึ ดงั ตอ ไปน้ี โปรตีน กงุ เปน สตั วน า้ํ ทต่ี อ งการโปรตนี สงู อยใู นชว ง 28-38% การเลอื กใชอ าหารราคาถกู โดยไมค ํานงึ ถงึ ปรมิ าณโปรตนี ในอาหาร จะทาํ ใหผ เู ลย้ี งไมป ระสบความสาํ เรจ็ ในปจ จบุ นั ไดม กี ารผลติ อาหารสาํ เรจ็ รปู ของกงุ โดยผสมยาและสารเคมซี ง่ึ ยาและสารเคมเี ปน สง่ิ สําคญั ในการทําลายสภาพ แวดลอ มและระบบนเิ วศน ทาํ ใหม สี ารตกคา งเปน พษิ ในดนิ กน บอ และในเนอ้ื กงุ ทาํ ใหเสียสภาพพื้นบอ เลย้ี งกงุ ไดแ ค 1-2 ป กเ็ ลย้ี งตอ ไปไมไ ดอ กี แอมโมเนีย เนอ่ื งจากอาหารกงุ มโี ปรตนี สงู จงึ ถกู ยอ ยสลายกอ ใหเ กดิ แอมโมเนยี มากขน้ึ ซึ่ง แอมโมเนยี เปน ตน เหตสุ ําคัญทาํ ใหอ ตั ราแลกเนอ้ื ไมด ี เพราะแอมโมเนยี เปน พษิ ตอ กงุ ทําใหกุงเจริญ เตบิ โตชา ถา มปี รมิ าณมาก อาจทาํ ใหก งุ ตายได ! กลับไปหนากอนนี้ \" หนาถัดไป # กลับหนาหลัก/สารบัญ

การเลย้ี งกงุ กา มกราม 9 ความคงทนในนาํ้ อาหารกงุ ทด่ี คี วรละลายน้าํ ไดชา จะทาํ ใหก งุ ไดร บั สารอาหารครบถว น เปน การลดความสญู เสยี ทเ่ี กดิ จากการละลายของสารอาหารไปกบั น้ํา ทําใหก งุ มอี ตั ราแลกเนอ้ื ทด่ี ี และชวย รกั ษาสภาพนา้ํ ทาํ ใหส ภาพแวดลอ มในบอ เลย้ี งไมเ ปน พษิ และมคี วามสมดลุ ย การใชอ าหารทม่ี สี ตู รผสม สารเหนยี วมากจะมีผลเสียคือ ทําใหอาหารยอยยากและมีพิษตกคางตอกุง สารเหนยี วทด่ี แี ละมคี วามคง ทนในน้าํ ควรใชผลิตภัณฑที่ไดมาจากธรรมชาติแทนสารเหนียวจะดีกวา เชน ไขผง ขา วสกุ แปง เปยก เปน ตน การยอ ยและดดู ซมึ สารคารโ บไฮเดรต กงุ เปน สตั วท ม่ี ลี ําไสสั้นทาํ ใหประสิทธิภาพในการยอย คารโ บไฮเดรตตาํ่ มาก สาํ หรับแปงตามธรรมชาติที่ไดจากธัญพืชตาง ๆ เปน สว นผสมท่จี าํ เปน ในอาหาร กงุ แตต อ งทาํ ใหสุก เพราะวาจะทาํ ใหก งุ ยอ ยไดง า ย และจะชว ยใหการยึดเกาะอาหารเมด็ ไดง า ยขึน้ และ คงทนในน้ําไดน านอกี ดว ย ไขมัน กงุ เปน สตั วท เ่ี จรญิ เตบิ โตโดยการลอกคราบ จงึ ตอ งการสารไขมนั อยา งมาก เพราะวา สาร ไขมนั มคี วามสําคญั ในกระบวนการลอกคราบตาธรรมชาตขิ องกงุ บางครง้ั จะมกี ารใชส ารเคมพี วก คอปเปอรซลั เฟต กระตนุ ใหก งุ ลอกคราบซง่ึ จะเปน พษิ ตอ กงุ ทําใหกงุ เพลยี และออ นแอ จะพบวาถา ใชค อปเปอรซ ลั เฟตมาก กงุ จะลอกคราบมากขน้ึ และจะตายมากขน้ึ เชน กนั สว นกงุ ทร่ี อดตายกจ็ ะฟน ตวั กนิ อาหารไดชา สง ผลใหอ ตั รารอดของกงุ ตา่ํ สตู รอาหารสาํ หรบั ลกู กงุ อายไุ มเ กนิ 3 เดอื น ราํ ละเอยี ด 30 กิโลกรัม ปลายขา ว 30 กิโลกรัม กากถว่ั เหลอื ง 25 กิโลกรัม ปลาปน 20 กิโลกรัม เกลอื 2 กิโลกรัม ยาปฏชิ วี นะ 200 กรัม นมผง 300-400 กรัม สตู รอาหารสาํ หรับกุงใหญอายุ 3 เดอื นขน้ึ ไป หัวอาหารหมูและไก 30 กิโลกรัม ราํ ละเอยี ด 30 กิโลกรัม ปลายขา ว 30 กิโลกรัม กากถว่ั เหลอื ง 20 กิโลกรัม ปลาปน 20 กิโลกรัม ปลาเปด 20 กิโลกรัม เปลอื กหอยปน ละเอยี ด 15 กิโลกรัม ใบกระถิน 15 กิโลกรัม เกลอื 4 กิโลกรัม ยาปฏชิ วี นะ 300 กรัม หมายเหตุ ปลายขา วนํามาตม ใหแ ฉะเลก็ นอ ย เมอ่ื ผสมอาหารจะทําใหเ หนยี วเปน เมด็ ไดง า ย ! กลับไปหนากอนนี้ \" หนาถัดไป # กลับหนาหลัก/สารบัญ

การเลย้ี งกงุ กา มกราม 10 วธิ กี ารทาํ อาหาร เรม่ิ จากนาํ ปลาเปด มาใสเ ครอ่ื งบดใหล ะเอยี ด แลวนาํ มาคลกุ เคลา กบั สว นผสมอน่ื ใหเ ขา กนั แลว นาํ ไปบดซา้ํ อกี ครง้ั อดั เปน เสน ใสน า้ํ พอประมาณเพอ่ื ใหอ าหารจบั ตวั เปน เมด็ ถา ใสน า้ํ นอ ยเกนิ ไป อาหารจะแหง รว นเปน ผง ถา ใสน า้ํ มากเกินไปจะทาํ ใหอ าหารเหลวเละ อาหารทผ่ี า นเครอ่ื งบดอดั จะ ออกมาเปน เสน ยาว ใหน ํามาตากแดด ประมาณ 2-3 วัน จนแหงสนทิ อาหารกจ็ ะแตกหกั ออกเปน เมด็ แลว ใหน ําอาหารไปเกบ็ ในที่ทสี่ ะอาดและแหง ไวใหกุง กินตอไป การสมุ ตวั อยา งกงุ กา มกราม การสมุ ตวั อยา งเปน การตรวจสอบการเจรญิ เตบิ โตของกงุ และเปนการตรวจดูสภาพกุง รวมถงึ อาการผดิ ปกตอิ น่ื ๆ โดยจะทาํ การสมุ ตวั อยา งทกุ ๆ เดอื น อาจทาํ ไดหลายวิธี ไดแก วิธีใชไ ฟฉายสอ งดู กงุ ทเ่ี กาะอยูบ รเิ วณขอบบอ ในชว งเวลากลางคนื หรอื เชา มดื เพอ่ื สงั เกตกงุ ในบอ และคาดคะเนจํานวนกงุ หรอื โดยวธิ กี ารงมกงุ แลวนาํ มาคาดคะเนจาํ นวนกงุ ไดเ ชน กนั และวิธีการทอดแห ซง่ึ เปน วธิ ที ด่ี แี ละ นยิ มใช โดยจะทอดแหเก็บตัวอยางกุงตรวจดูจาํ นวน นา้ํ หนกั ความยาวกงุ เชน กงุ กา มกรามอายุ 45 วนั ความยาวไมค วรตา่ํ กวา 9 เซนตเิ มตร นาํ ขอ มลู เหลา นม้ี าคํานวณจาํ นวนกงุ ทง้ั บอ ซง่ึ จะนํามาใช ประกอบการคาํ นวณอาหารและปรบั อาหารใหเพียงพอกบั กุง แลวยังทาํ ใหส ามารถสงั เกตอาการผดิ ปกติ ของกงุ ไดด กี วา วธิ อี น่ื ๆ อกี ดว ย การถา ยเทนา้ํ ในบอ เลย้ี งกงุ กา มกราม การถา ยเทน้ําจะสมั พนั ธก บั อายแุ ละขนาดของกงุ ในบอ จะชวยทาํ ใหกุงเจริญเติบโต เนอ่ื งจากกงุ เปน สตั วน า้ํ ทีเ่ จรญิ เติบโตโดยการลอกคราบ การถายเทนํ้าใหมจ ะกระตนุ ใหก งุ ลอกคราบ สาํ หรับกุงอายุ 1-2 เดอื นแรกในสภาพปกติไมจาํ เปน ตอ งถา ยนา้ํ นยิ มใชว ธิ เี พม่ิ ระดบั นา้ํ ทุกสัปดาหแทนเมื่อกุงอายุ 2 เดอื นขน้ึ ไป อาจเปลย่ี นถา ยนา้ํ เดอื นละ 2-4 ครง้ั ครง้ั ละประมาณ 1/3 หรือ ฝ บอ ขน้ึ อยกู บั สภาพ นา้ํ ในบอ และฤดกู าล สาํ หรบั การขนุ กงุ ดว ยปลาสดหรอื อาหารสดอน่ื ๆ ควรถา ยนา้ํ ในวนั ถดั ไป เพราะ เศษอาหารและของเสยี จากการขบั ถา ย จะทาํ ใหน ้าํ ในบอ เขยี วจดั อยา งรวดเรว็ ภายใน 3-5 วัน หลงั จาก ใหอ าหารสด เมอ่ื กงุ อายไุ ดป ระมาณ 4-5 เดอื น ควรระบายนา้ํ กน บอ และอาจจะตอ งดดู เลนดว ย ถา กน บอ มเี ศษอาหารและของเสยี หมกั หมมอยมู าก จะทาํ 1-2 เดอื นตอ ครง้ั โดยทาํ 1/3 หรือ ของพน้ื ท่ี บอ พรอ มกบั ระบายนา้ํ ออก เปลย่ี นนา้ํ ใหม แลว หวา นปนู ขาวบรเิ วณทด่ี ดู เลนไมเ กนิ 30 กก./ไร ชว งน้ี ควรลดอาหาร 1-2 วัน เพราะกงุ ทีไ่ ดน้ําใหมจ ะลอกคราบและไมก นิ อาหาร ระยะเวลาเลย้ี งและการจบั เมอ่ื เลย้ี งกงุ กา มกรามจนอายไุ ดป ระมาณ 6 เดอื น ก็จะเริ่มทาํ การคดั ขนาด และจบั กงุ ขาย โดย ลดนา้ํ ในบอ ลงเหลอื ประมาณ 50 เซนตเิ มตร แลว ใชอ วนลาก โดยใชอ วนชอ งตา ขนาด 4 ซม. เพื่อให กงุ ทมี่ ขี นาดเลก็ หลดุ ลอดออกไดไ มบ อบชา้ํ ทีต่ ีอวนจะมีตะกว่ั ถวง สาํ หรบั เชอื กครา วบนเวลาลากอาจใช ไมไ ผค ้ําไวโดยเสียบไวกับทุนลอยที่ทาํ มาจากตน กลว ย การจับกุงนิยมทาํ ในชว งเชา เพราะอากาศไมร อ น ! กลับไปหนากอนนี้ \" หนาถัดไป # กลับหนาหลัก/สารบัญ

การเลย้ี งกงุ กา มกราม 11 การคดั ขนาดแยกประเภทกงุ การจบั กงุ ตอ งมกี ารคดั ขนาดและแยกประเภท เนอ่ื งจากกงุ ทจ่ี บั ไดจ ะมขี นาดและลกั ษณะตา งกนั จะขายไดร าคาไมเ ทา กนั โดยทั่วไปจะทาํ การคัดขนาดและแยกประเภทกุง ไดด งั ตอ ไปน้ี 1. ตวั ผูใหญ (กงุ ขนาด 1) ขนาดนา้ํ หนกั ประมาณ 100 กรัม (10 ตวั /กก.) 2. ตวั ผรู อง (กงุ ขนาด 2) ขนาดนา้ํ หนกั ประมาณ 70 กรัม (15 ตวั /กก.) 3. ตวั ผขู นาดเลก็ (กงุ ขนาด 3) ขนาดน้าํ หนกั ประมาณ 50 กรัม (20 ตวั /กก.) 4. ตวั ผขู ายาว เปน ตวั ผกู า มยาวใหญจ ะมรี าคาถกู กวา กงุ ตวั ผลู กั ษณะธรรมดา 5. ตวั เมยี ไมม ไี ข ราคาจะดกี วา ตวั เมยี มไี ข 6. ตวั เมยี มไี ข 7. กงุ นม่ิ หรอื กงุ ทเ่ี พง่ิ ลอกคราบ 8. กุงจิ๊กโก เปน กงุ แคระแกรน็ ไมล อกคราบ ! กลับไปหนากอนนี้ \" หนาถัดไป # กลับหนาหลัก/สารบัญ

การเลย้ี งกงุ กา มกราม 12 ตารางท่ี 2 การเจรญิ เตบิ โตและผลผลติ การเลย้ี งกงุ กา มกรามในบอ ดนิ ของเกษตรกร อาํ เภอปาก พนังและอําเภอเชยี รใหญ จงั หวดั นครศรธี รรมราช 2-3 80,000 1. ขนาดกงุ ทป่ี ลอ ย (ซม.) 2. อตั ราปลอ ย (ตวั /ไร) 120 3. ระยะเวลาเลย้ี ง (วัน) 6.33 4. อตั ราการเจริญเติบโตจาํ เพาะ (% กรัม/วัน) 450 5. ผลผลติ (กิโลกรัม/ไร) 28.13 6. อตั รารอดตาย (%) 50 7. ขนาดกงุ ทจ่ี บั ได (ตวั /กิโลกรัม) 1.91 8. อตั ราการแลกเนอ้ื (FCR) การจําหนา ยผลผลติ กงุ กา มกรามทข่ี ายตามทอ งตลาด สว นใหญจ ะไดม าจากการเลย้ี งราคาขายสง คละทง้ั ตวั ผตู วั เมยี 80-100 บาท/กก. หากคดั ขายเฉพาะกุงตัวผรู าคา 100-120 บาท/กก. สว นกงุ ตวั เมยี ราคา 55- 70 บาท/กก. ราคากงุ กา มกรามมแี นวโนม สงู ขน้ึ เพราะกงุ กา มกรามตามแหลง น้ําธรรมชาตมิ จี าํ นวน ลดลง รวมทง้ั ความตอ งการของผบู รโิ ภคมมี ากขน้ึ โรคกงุ กา มกรามและการปอ งกนั รกั ษา 1. โรค Shell disease หรอื โรคจดุ ดําบนเปลอื กกงุ สาเหตุ เกิดจากการติดเชือ้ แบคทเี รยี ในกลุม Chitinolytic bacteria ซึ่งไดแก Aeromonas hydrophila และบางครั้งจะถูกแทรกซอนดวยโรคเชื้อราภายหลัง เชอ้ื แบคทีเรยี ชนดิ น้ี จะเกาะกินและ ทาํ ลายเปลอื กกุง ทาํ ใหบ รเิ วณทม่ี เี ชอ้ื เปน จดุ สดี าํ ทาํ ใหกงุ ที่เลีย้ งมีคุณภาพต่ําและเสยี ราคา อาการอกี อยา งหนง่ึ ทม่ี กั พบในกงุ ทเ่ี ปน โรคจดุ ดําบนเปลอื ก คอื กงุ จะแสดงความกา วรา ว และชอบกดั ตวั อน่ื ทเ่ี ลก็ หรอื ออ นแอกวา จึงยิ่งทาํ ใหมปี ญ หามากขึน้ การปอ งกนั และรกั ษา การลดปรมิ าณความหนาแนน ของกงุ ลง จะทาํ ใหอ ตั ราการแพรก ระจายของโรคลดลงอยา งรวดเรว็ ยาทน่ี ยิ มใชร กั ษาโรคจดุ ดําบนเปลอื กนน้ั ไดแก ยาปฏิชีวนะผสมอาหารใหกุงกิน 2. โรคแบคทเี รยี ในเหงอื ก สาเหตุ เนอ่ื งจากมเี ชอ้ื แบคทเี รยี ในกลมุ Filamenus เขา ไปเกาะตดิ อยใู นเหงอื กกงุ ทาํ ใหกุงหายใจ ไมส ะดวก หากแบคทีเรียขยายตัวอยางรวดเร็วจะทําใหระบบการทาํ งานของเหงอื กเสอ่ื มสภาพ อาจจะ ทาํ ใหก งุ ตายได โดยเฉพาะเมอ่ื กงุ อยกู นั อยา งหนาเกนิ ไป การปอ งกนั รกั ษา - ลดอตั ราความหนาแนน ของกงุ ในบอ ลงใหม ากทส่ี ดุ เทา ทจ่ี ะทาํ ได - ควบคุมการใหอาหาร การทําความสะอาดเศษอาหารทเ่ี หลอื และตะกอนพน้ื บอ - ยาที่นิยมใชกันโดยทั่วไปไดแก Furanace (3-5 กรัม/กก.) * ยาตวั นห้ี า มใชใ นหลายประเทศแลว จงึ ควรหลกี เลย่ี ง 3. โรคกลา มเนอ้ื ขนุ ขาว ! กลับไปหนากอนนี้ \" หนาถัดไป # กลับหนาหลัก/สารบัญ

การเลย้ี งกงุ กา มกราม 13 สาเหตุ สวนใหญโ รคกลา มเนอ้ื ขนุ ขาวจะเกดิ ขน้ึ เมอ่ื เลย้ี งดว ยความหนาแนน เกนิ ไป จนทาํ ให ปรมิ าณออกซเิ จนไมเ พยี งพอแกค วามตอ งการบรโิ ภคของกงุ ในบอ สาเหตอุ น่ื ๆ อาจจะไดแก อณุ หภมู ิ และ pH ทเ่ี ปลย่ี นแปลงอยา งรวดเรว็ ในบางครง้ั เมอ่ื มกี ารปรบั นา้ํ ในบอ จงึ ทําใหก งุ ชอ คได โรคน้ี พบนาน ๆ ครง้ั และไมเ ปน ปญ หา จนทาํ ใหก งุ ตายมากนกั การปอ งกนั และรกั ษา - ลดปรมิ าณความหนาแนน ของกงุ ลง และดแู ลเรอ่ื งการใหอ อกซเิ จนอยา งเพยี งพอในบอ เลย้ี งกงุ - ควบคมุ และดแู ลเรอ่ื งคณุ ภาพนา้ํ ใหอ ยใู นภาวะทเ่ี หมาะสมอยา งสมา่ํ เสมอ 4. โรคเหงอื กดํา สาเหตุ เกดิ จากการมขี องเสียจาํ พวกไนไตรทแ ละไนเตรท ละลายอยใู นนา้ํ กน บอ มากเกนิ ไป การปองกันและรกั ษา - ทาํ ความสะอาดพน้ื บอ อยา งสมา่ํ เสมอเพอ่ื กาํ จดั เศษอาหารและของเสยี ออกไป - เปลย่ี นถา ยนา้ํ เพอ่ื ใหน า้ํ หมุนเวียน และมอี อกซเิ จนเพยี งพอแกค วามตอ งการของกงุ ในบอ 5. โรคลอกคราบชา สาเหตุ 1. อาหารมีคุณภาพตํา่ หรอื การใหอ าหารไมถ กู ตอ ง 2. คณุ ภาพน้ําในบอ ไมด เี ทา ทค่ี วร 3. อาจมีสารพิษปะปนอยูกบั นา้ํ ในบอ เลย้ี ง การปอ งกนั และรกั ษา แกไขสาเหตุที่เกิดขึ้นทั้ง 3 ขอ ดงั กลา ว การใชย าปอ งกนั และรกั ษาโรคกงุ กา มกราม การใชย าตอ งศกึ ษาและทาํ ความเขา ใจในการหลกั การใชย าและเคมภี ณั ฑ โดยเฉพาะการใชยา ปฏชิ วี นะผสมลงในน้ําหรอื อาหารใหกุงกนิ หลกั การพจิ ารณาในการใชย า การใชย าปฏชิ วี นะนน้ั ควรปฏบิ ตั ใิ หถ กู ตอ งตง้ั แตก อ นใชแ ละขณะทใ่ี ชโ ดยพจิ ารณาดงั น้ี 1. ตอ งแนใ จวา กงุ เปน โรคเนอ่ื งจากการตดิ เชอ้ื แบคทเี รยี จรงิ ๆ โดยดูที่อาการ เชน ตับโต สีซีด เหลอื งเหลวผดิ ปกติ หรอื มองเหน็ รอ งรอยการอกั เสบบรเิ วณกลา มเนอ้ื อยา งชดั เจน ซ่งึ จะมสี สี ม หรือ ชมพู หากเปน ทเ่ี ปลอื กจะกรอ นและมฝี า ขนุ ขาวจบั บรเิ วณทอ่ี กั เสบ ถา ใหแ นใ จและถกู ตอ งควรตรวจใน หอ งปฏบิ ตั กิ าร 2. หลงั จากตรวจพบวากุง เปนโรคตดิ เชอ้ื แบคทีเรยี กพ็ จิ ารณาเลอื กใชย าทม่ี คี ณุ สมบตั ใิ นการ รกั ษาใหต รงตามเชอ้ื หลกั การเลอื กใชย า 1. ประสิทธิภาพของยา ใชย าทมี่ ีฤทธใ์ิ นการยับย้ังการเจรญิ เติบโตของเชื้อโรคมากท่สี ุด 2. ประสทิ ธภิ าพการดดู ซึมของยา คณุ สมบตั ทิ ส่ี ําคัญทส่ี ุดของยาที่ควรคาํ นงึ ถงึ คอื การดดู ซมึ จากทางเดนิ อาหาร เพราะการรักษาโรคกุงสวนใหญจะผสมยากับอาหารใหกุงกิน เนอ่ื งจากกงุ เปน สตั ว ทมี่ ลี ําไสส้ัน ดงั นน้ั ตวั ยาจะตอ งถกู ดดู ซมึ ไดง า ย ! กลับไปหนากอนนี้ \" หนาถัดไป # กลับหนาหลัก/สารบัญ

การเลย้ี งกงุ กา มกราม 14 3. คณุ สมบตั ใิ นการละลายนา้ํ ของยา เปน สง่ิ สาํ คัญที่ควรคํานงึ ถงึ เพราะกงุ เปน สตั วน ้าํ ทม่ี ี พฤตกิ รรมในการกนิ อาหารทช่ี า กวา สตั วน ้ําชนดิ อน่ื มนั กนิ อาหารโดยการจบั เมด็ อาหารแลว คอ ย ๆ แทะ กนิ ทลี ะนอ ย ซง่ึ ใชเ วลานานกวา ทอ่ี าหารทห่ี วา นลงในนา้ํ จะถูกกุงจับแทะกินหมด ถา เปน อาหารทม่ี ี ขนาดเมด็ ใหญก ต็ อ งใชเ วลามากขน้ึ อกี จากสาเหตุนี้เองทาํ ใหก ารผสมยาในอาหารใหก งุ กนิ นน้ั ยาจะ ละลายออกไปเร่ือย ๆ ทําใหก งุ ไดร บั ปรมิ าณยาไมต รงตามทก่ี าํ หนดทาํ ใหการใชยาไมไดผลเทาที่ควร จงึ ควรเลอื กยาคงรปู อยใู นนา้ํ ไดน านจะชว ยลดการสญู เสยี ของยาได 4. คณุ สมบตั ขิ องยากบั คณุ ภาพนา้ํ คณุ สมบตั ขิ องน้าํ บางประการจะมผี ลกบั การออกฤทธข์ิ องยา เชน ความเคม็ ยาปฏชิ วี นะ หรอื สารเคมี บางชนดิ เมอ่ื ใชใ นนา้ํ ทะเลจะออกฤทธไ์ิ ดน อ ยกวา ใชใ นนา้ํ จืด 5. พษิ ของยา ขอ มลู เกย่ี วกบั พษิ ของยาตอ กงุ ยงั มนี อ ยมาก ทําใหไ มค ํานงึ ถงึ ผลเสยี ของยาใน ประเดน็ น้ี แตสวนใหญจะคาํ นงึ ถงึ ผลเสยี ของผบู รโิ ภคมากกวา ได มกี ารทดสอบพิษของยา ออกซเี ตตราซยั คลนิ ตอ ปลาบางชนดิ ซึ่งสวนใหญจะมีผลยับยั้งการเจริญเติบโต และถา รา ยแรงมาก อาจทาํ ใหป ลาตายในเวลาไมก ว่ี นั ดงั นน้ั จงึ ควรมกี ารพจิ ารณาตอ การใชย าและศกึ ษาอยา งจรงิ จงั 6. สุขภาพกุง การใชยาขึ้นอยูกับสภาพการเจ็บปวยของกุง ถา กงุ มอี าการปว ยในขน้ั รนุ แรงจนกนิ อาหารไมได การใชยาและใหอาหารก็ไมจาํ เปน อกี ตอ ไป ควรจดั การสภาพแวดลอ มของกงุ ใหด ี เพื่อให อาการดขี น้ึ กอ น จนกงุ กนิ อาหารไดบ า งแลว จงึ ใหย ารกั ษาตอ ไป 7. การใชยาหลายชนดิ รว มกัน การตดั สนิ ใจใชย าตวั ใดตวั หนง่ึ ดกี วา การใชย าหลายชนดิ รว มกนั ยกเวน กรณที ม่ี เี ชอ้ื โรคหลายกลมุ เกดิ ขน้ึ เชน มโี ปรโตซวั เกาะในเหงอื กและระยางค ทําใหกงุ ออ นแอ เชอื้ แบคทีเรีย จึงเขาแทรกซอน ควรตองแกไ ขทส่ี าเหตุแรกกอ นแลว กงุ จะแขง็ แรงขึน้ ทาํ ใหการแทรก ซอ นของเชอ้ื แบคทเี รยี ไมม ผี ลอกี ตอ ไป 8. วิธีและปริมาณยาทใี่ ช ใชยาตามขนาดและวิธีที่นักวิชาการหรือสัตวแพทย แนะนาํ ไวซึ่งการใช ยาแตล ะครง้ั จะกําหนดระยะการใช โดยทั่วไปจะใหยาปฏิชีวนะติดตอกัน 5-7 วัน ถา ใหไ มค รบ จะทาํ ใหการรักษาไมหายขาด และอาจมีอาการปวยอีกหลังจากหยุดใหยา ทาํ ใหเ ชอ้ื โรคเกดิ การดอ้ื ยาไดง า ย ดงั นน้ั การใชย าตอ งใชใ หค รบกําหนดแมว า อาการกงุ จะดขี น้ึ ถาหากใชยาแลวกุงไมหายปวย แมว า จะเลอื กใชย าตามหลกั การในขา งตน และปฏบิ ตั อิ ยา งถกู วธิ ี แลว แตก งุ ยงั มอี าการทรงและทรดุ ตอ งพจิ ารณาดงั น้ี 1. กุง ที่ปว ยอยูส ามารถกินอาหารและยาทใ่ี หอยูไ ดหรือไม 2. การวนิ ิจฉัยโรคอาจไมถูกตองควรกลบั ไปทบทวนกอ นทกี่ งุ จะตายหมดบอ 3. กงุ อาจจะตดิ โรคตวั อน่ื แทรกซอ นขน้ึ มาอกี บางครั้งยาที่ใหอาจไปทําลายแบคทีเรียที่มีอยูตาม ปกตใิ นลาํ ไสทําใหก ารยอยอาหารผิดปกตสิ ง ผลใหแ บคทเี รยี ท่ีเปนเชอ้ื โรคเจรญิ อยางรวดเรว็ อนั ตรายจากการใชย า การใชย าโดยไมท ราบขอ มลู ทําใหก ารเลอื กใชย าไมถ กู ตอ ง โดยเลือกผิดประเภท ใชไมถูกวิธี ให ยาผดิ ขนาดและระยะเวลา ทําใหเ กดิ อนั ตรายกบั กงุ และสง่ิ แวดลอ ม ขอ สาํ คัญที่สุด คอื การใชยาพรํ่า เพรอื่ โดยไมจาํ เปน จะทาํ ใหเ ปน อนั ตรายมากทส่ี ดุ อนั ตรายของการใชย าทผ่ี ดิ มหี ลายประการดงั น้ี ! กลับไปหนากอนนี้ \" หนาถัดไป # กลับหนาหลัก/สารบัญ

การเลย้ี งกงุ กา มกราม 15 1. เชื้อโรคจะเกิดการดื้อยา แบคทีเรียทั่วไปสามารถกลายพันธุทําใหต วั เองดอ้ื ยาปฏชิ วี นะได และคณุ สมบตั นิ จ้ี ะถกู ถา ยทอดจากตวั หนง่ึ ไปยงั ตวั อน่ื ๆ ทาํ ใหป รมิ าณเชอ้ื ทด่ี อ้ื ยาเพม่ิ ขน้ึ เรอ่ื ย ๆ ดงั นน้ั การใชย าอยา งไมถ กู ตอ ง จะเปน การเพม่ิ ปรมิ าณและชนดิ ของเชอ้ื แบคทเี รยี ทด่ี อ้ื ตอ ยาปฏชิ วี นะได รวดเรว็ ขน้ึ 2. การใชยาผิดประเภท จะทาํ ใหเ กิดโรคแทรกซอ นเกิดขนึ้ ไดเ พราะนอกจากยาจะไมมฤี ทธิ์ฆา เชอื้ ทเี่ ปนสาเหตุทาํ ใหเกิดโรคแลว ยังทําใหก งุ เครยี ดและออ นแอลง จนทาํ ใหม เี ชอ้ื โรคตวั อน่ื เขา แทรก ซอ น เชน เชอ้ื รา หรือเชื้อโปรโตซัว บางอยา งทอ่ี ยใู นดนิ และนา้ํ 3. การใชย าผดิ ขนาดและผดิ ระยะเวลา อาจทาํ ใหก งุ ตายอยา งรวดเรว็ ภายในเวลา 2-3 วัน บาง ครง้ั ไมถงึ กบั ทําใหกุงตายทันที แตตวั ยาจะสะสมอยใู นกงุ เปน จาํ นวนมาก ซึ่งจะสง ผลกระทบตอ ผู บริโภค จากขอ มูลการวิจัยท่มี ีอยูในปจจบุ ัน ยาออกซเี ตตราซยั คลนิ 10% ในปรมิ าณ 5 กรัม/กก./วัน หรือ ยาออกซเี ตตราซยั คลนิ 50% ในปรมิ าณ 1 กรัม/กก./วัน ตวั ยาจะตกคา งในเนอ้ื กงุ นานถงึ 25 วนั ยาออกโซลนิ คิ แอซคิ 10% ในปรมิ าณ 7 กรัม/กก./วัน ตวั ยาจะตกคา งในเนอ้ื กงุ นานถงึ 30 วนั การที่ไดศึกษาและเขาใจหลักวิธีการใชยา จะทาํ ใหเ กดิ ประโยชนใ นการเลย้ี งกงุ อยา งมาก โดยจะ ชวยแกปญหาโรคกุง ตลอดจนชว ยลดตน ทนุ ในการผลติ ซง่ึ จะสง ผลใหก ารเลย้ี งกงุ กา มกรามประสบผล สาํ เรจ็ คําแนะนาํ การปองกันสัตวนํ้าจากภยั ธรรมชาติ “ภัยธรรมชาติ” หมายถึง อนั ตรายจากสง่ิ ทเ่ี กดิ มแี ละเปน อยตู ามธรรมดา ของสง่ิ นน้ั ๆ โดยมไิ ด มกี ารปรงุ แตง อาทิ อทุ กภัย และฝนแลง เปน ตน กรมประมง จงึ ขอเสนอแนวทางปอ งกนั หรอื ลดความ สญู เสียและความเสียหายแกเกษตรกรผูเพาะเลี้ยงสัตวนาํ้ จากการประสบภาวะฝนแลง ฝนตน ฤดแู ละ อุทกภัย ดงั น้ี ภาวะฝนแลง ภ า ว ะ ฝ น แ ลงแ ละฝนทิ้งชวงทํ าใหปริมาณนํ้ ามีนอยท้ังในแหลงน้ํ าธรรมชาติและแหลงนํ้ า ชลประทานซง่ึ เปน แหลง นา้ํ สําคญั ทใ่ี ชใ นการเพาะเลย้ี งสตั วน ้ําและเกดิ ผลกระทบตอ การประมง ตลอดจน สภาพแวดลอ มไมเ หมาะสมตอ การแพรข ยายพนั ธแุ ละการเจรญิ เตบิ โตของสตั วน า้ํ โดยมวี ธิ กี ารปฏบิ ตั ดิ งั น้ี 1. ควบคมุ การใชน า้ํ และรกั ษาปรมิ าณนา้ํ ในทเ่ี ลย้ี งสตั วน า้ํ ใหม กี ารสญู เสยี นอ ย เชน การรั่วซึม การกาํ จัดวัชพืช 2. ทาํ รม เงาใหส ตั วน า้ํ เขา พกั และปอ งกนั การระเหยน้ําบางสว น ! กลับไปหนากอนนี้ \" หนาถัดไป # กลับหนาหลัก/สารบัญ

การเลย้ี งกงุ กา มกราม 16 3. ลดปรมิ าณการใหอ าหารสตั วน า้ํ ที่มากเกนิ ความจาํ เปนจะทาํ ใหน ้าํ เสยี 4. เพม่ิ ปรมิ าณออกซเิ จนโดยใชเ ครอ่ื งสบู น้าํ จากกน บอ พน ใหส มั ผสั อากาศแลว ไหลคนื ลงบอ 5. ปรบั สภาพดนิ และคณุ สมบตั ขิ องนา้ํ เชน นา้ํ ลกึ 1 เมตร ใสป นู ขาว 50 กก./ไร ถา พน้ื บอ ตะไครห รอื แกส มากเกนิ ไปควรใสเ กลอื 50 กก./ไร เพื่อปรับสภาพผิวดินใหดีขึ้น 6. จบั สตั วนา้ํ ทไ่ี ดข นาดขน้ึ จาํ หนายหรอื บรโิ ภคในเวลาเชา หรอื เย็น เพอ่ื ลดปรมิ าณสตั วน า้ํ ในบอ 7. ตรวจสอบคณุ สมบตั ขิ องนา้ํจากภายนอกที่จะสูบเขาบอเลี้ยง เชน พบวา มตี ะกอนและแรธ าตุ ตา ง ๆ เขม ขน ควรงดการสบู นา้ํ เขา บอ 8. งดเวน การรบกวนสตั วน ้าํ เพราะการตกใจจะทาํ ใหส ตั วน ้าํ สญู เสยี พลงั งานและอาจตายได 9. งดเวน การขนยา ยสตั วน า้ํ โดยเดด็ ขาด หากจําเปน ตอ งทําอยา งระมดั ระวงั 10. แจง ความเสยี หายตามแบบฟอรม กรมประมง เพอ่ื การขอรบั ความชว ยเหลอื อยา งถกู ตอ ง และรวดเรว็ ภาวะฝนตน ฤดู การเตรยี มการรบั ภาวะฝนตน ฤดู เกษตรกรผเู พาะเลย้ี งสตั วน ้ําควรปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี 1. ไมค วรสบู นา้ํ ฝนแรกเขา บอ เพราะน้าํ จะพัดพาสง่ิ สกปรกจากผวิ ดนิ ลงสแู หลงนา้ํ ธรรมชาติ ควรปลอ ยใหน า้ํ มปี รมิ าณเพม่ิ ขน้ึ จึงนาํ นา้ํ ไปใชใ นการเพาะเลย้ี งสตั วน า้ํ 2. ควรสบู นาํ้ ในบอ ใหส มั ผสั อากาศจะชว ยเพม่ิ ปรมิ าณออกซเิ จนและปอ งกนั การแบง ชน้ั ของนา้ํ 3. ปองกันการไหลของนํ้าฝนที่จะชะลางแรธาตุและสารเคมีจากผิวดินลงสูบอซึ่งอาจเปน อนั ตรายตอ สตั วน ้าํ ได 4. งดการรบกวน การจบั และขนยา ยสตั วน า้ํ ควรรอจนกวา คณุ สมบตั ขิ องนา้ํ มสี ภาพดเี ปน ปกติ 5. งดจบั สัตวนาํ้ เพอ่ื การอนรุ กั ษ เนอ่ื งจากสตั วน ้าํ จะผสมพนั ธหุ ลงั จากฝนตกใหม ๆ ภาวะอทุ กภยั การปองกันสัตวนํ้าสูญหายจากภาวะอุทกภัยควรปฏิบัติตามสภาวะการณกอนเกิดภาวะอุทกภัย คอื ใหจ บั สตั วน ้าํ ทไ่ี ดข นาดตลาดตอ งการออกจาํ หนา ย กอ นชว งมรสมุ ในฤดฝู น พรอ มทง้ั สรา งกระชงั ไนลอน กระชงั เนอ้ื อวน บอ ซเี มนต หรอื ขงึ อวนไนลอน เพอ่ื กกั ขงั สตั วน ้าํ “สัตวนํ้าจะปลอดภยั ใหป องกนั หม่นั ดูแล” ! กลับไปหนากอนนี้ \" หนาถัดไป # กลับหนาหลัก/สารบัญ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook