ประชากรของเราเกิดน้อย เด็กของเราจ�ำเป็นต้องมีคุณภาพ ข้อท่ี 3 ผลักดันกระบวนการ เสริมสร้างความเข้มแข็งทางคุณธรรมและจริยธรรมของชุมชนชนบทเพ่ือให้เป็นรากฐานของ การพง่ึ พาอาศยั กนั เราเสรมิ สรา้ งความเขม้ แขง็ ทางอาชพี ความเขม้ แขง็ ทางรายได้ จรงิ ๆ มนั เปน็ จุดปลายน�้ำ จุดต้นนำ้� คอื ครัวเรอื นต้องมีจรยิ ธรรมและคุณธรรมที่ดี ผมไปในหลายๆ ชุมชน ยก ตวั อยา่ งเชน่ ชมุ ชนเขม้ แขง็ ในจงั หวดั สระแกว้ มกี ารจดั การธรรมนญู ชมุ ชน นำ� เรอ่ื งของศลี ชมุ ชน มาใช้ ชาวบ้านอาศัยอยู่กันอย่างเคารพ มีเด็กรุ่นใหม่เป็นก�ำลังแรงงาน แล้วก็ผลักดันไปสู่เรื่อง อาชพี ได้ มีคำ� พดู ออกมาจากทา่ นคือ “โตเดี่ยวตาย หลากหลายรอด” อันนร้ี วมทง้ั คนและเร่อื ง อาชพี หากคดิ จะอยคู่ นเดยี วโดยไมพ่ ง่ึ พาอาศยั กนั โตเดยี่ วอาจจะตาย หลากหลายคอื มเี พอ่ื นบา้ น เออื้ เฟอ้ื เผอ่ื แผก่ นั ชว่ ยเหลอื กนั รอด ทำ� อาชพี กเ็ ชน่ เดยี วกนั ปลกู พชื เชงิ เดย่ี ว เพอื่ การคา้ ในชนบท วันหนึ่งเราจะตาย เพราะมันเข้ากับเรื่องการค้าไปตามกระแสหลัก แต่หากเราปลูกแบบ หลากหลายอย่างไรเราก็รอด ขอ้ ท่ี 3.1 ต่อเนื่องจากข้อ 3 คือกระตนุ้ ให้เกดิ กิจกรรมใหม่ นายก (นายกรัฐมนตร)ี พดู บ่อยเรื่อง start up business แตก่ ิจกรรมใหม่ท่ผี มวา่ ในทนี่ เ้ี ป็นกจิ กรรม เกดิ ใหมท่ เี่ นน้ การพง่ึ พาตนเองอยา่ งยงั่ ยนื ผมไมร่ วู้ า่ จะใชค้ ำ� วา่ อะไร แตจ่ ะตอ้ งเนน้ การพง่ึ พาตวั เองอยา่ งยง่ั ยนื และผลกั ดนั การวเิ คราะหต์ นเอง โดยบง่ ชจี้ ดุ วา่ ควรใหส้ ทิ ธพิ เิ ศษนม้ี ากกวา่ คนอนื่ เขาบ้างในกลุ่มผู้ย้ายถิ่นกลับ ให้ไปสร้างงานสร้างอาชีพในพ้ืนที่ เพื่อให้เกิดอาชีพเสริมหรืองาน อาชีพต่างๆ ท่ีมีความโดดเด่นเหมาะกับประโยชน์ของตนเองด้วย ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ข้อท่ี 4 คือสนับสนุนให้เกิดความฉลาดทางเทคโนโลยีในเม่ือเข้าไปอยู่ในชีวิตของผู้สูงอายุแล้ว องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ นา่ จะมกี ารจดั การใหผ้ สู้ งู อายใุ นชนบทไดเ้ ขา้ ถงึ เทคโนโลยไี ดม้ ากขนึ้ เพ่ือใหว้ ถิ ชี วี ิตดีขึน้ การติดตอ่ สอื่ สารบอกข้อมลู กบั ลกู หลานได้ง่ายขนึ้ กจ็ ะช่วยใหค้ ณุ ภาพชวี ติ และการดูแลกนั ระหวา่ งสมาชิกทย่ี า้ ยถิ่นกลับและท่ีอย่เู ป็นกลมุ่ ดงั้ เดิมดีย่งิ ขึน้ และขอ้ สดุ ทา้ ย ระหวา่ งทเ่ี ราทำ� งาน เรารสู้ กึ วา่ มนั มพี น้ื ทอี่ ยพู่ นื้ ทห่ี นงึ่ ทนี่ า่ เปน็ หว่ งมากกวา่ ครัวเรือนชนบท คือพ้ืนท่ีที่เป็น “ครัวเรือนกึ่งเมืองก่ึงชนบท” เพราะพื้นที่นี้ผสมกันระหว่าง ความทันสมัยกับวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม เราเอาร้ัวบ้านไปใส่ให้คนที่มีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม เราก�ำลัง สกดั กน้ั จดุ เออ้ื เฟอ้ื กนั ของเพอ่ื นบา้ น คนในกลมุ่ นย้ี งั มวี ถิ ชี วี ติ แบบคนชนบท แตโ่ ครงสรา้ งพน้ื ฐาน เปลี่ยนไป เรายังมีข้อมูลในกลุ่มเฉพาะที่วิถีชีวิตท่ีเป็นคนกลุ่มก่ึงเมืองก่ึงชนบทไม่มาก ในตา่ งประเทศกช็ ชี้ ดั วา่ ครวั เรอื นกงึ่ เมอื งกง่ึ ชนบทจะตอ้ งใหค้ วามเอาใจใสเ่ ปน็ พเิ ศษ เปน็ ครวั เรอื น ทป่ี รับตวั และเปน็ ขอ้ มูลทัง้ หมดจากทมี วจิ ยั เรอ่ื งของความเปน็ อยคู่ รวั เรอื นชนบทไทย ครับ อ.ภเู บศร์ ตอ้ งขออภยั ทวี่ นั นเี้ หมอื นมาฟงั lecture ยาวมาก ผมมหี นา้ ทจ่ี ะขมวดภาพ 3 ภาพใหเ้ ปน็ ภาพเดียว แต่ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้น ก็ขอให้ดูงานช้ินสุดท้ายที่ลงไปดูข้อมูลในส่วนของข้อมูล 86 ความอยดู่ มี สี ขุ ของครอบครัวไทย �����������6.indd 86 147//2560 BE 17:09
ทส่ี ำ� นกั งานสถติ ิ จะไดเ้ หน็ ภาพสงั คมเปน็ ภาพรวมในชนบทไดด้ ี จะไดช้ ไ้ี ดว้ า่ ตรงไหนทเี่ ปราะบาง และก็สามารถแยกค�ำว่าอยู่ดี กับมีสุขได้อย่างชัดเจน แต่สุดท้ายจะต้องปรับรวมและไปด้วยกัน ซ่ึงคำ� ว่าอยดู่ มี สี ุขจะไปเชื่อมกบั คำ� วา่ Work-Life Balance มองดูแล้วว่าไปกเ็ หมือน ภาพหยนิ หยางทที่ กุ สงิ่ ทกุ อยา่ งอยรู่ วมกนั อยา่ งสมดลุ มาในถงึ สว่ นนโยบายผมเชอื่ วา่ ในชว่ งทำ� งานดว้ ยกนั ทง้ั 3 ช้นิ อย่างหนงึ่ ทย่ี ากมาก คือตอนทจ่ี ะสกดั ออกมาเป็นนโยบายแลว้ กร็ ู้สกึ วา่ นโยบายอันน้ี ก็ท�ำแลว้ อนั นั้นก็ทำ� แลว้ อะไรท่ีมนั ใหมแ่ ละยงั ไม่ไดท้ �ำ สว่ นตวั เองก็พยายามที่จะศึกษาในกรอบ นโยบายดวู า่ มอี ะไรบา้ ง เปน็ ปญั หาทยี่ าก ไมง่ า่ ยเลย พอมาสว่ นทอ่ี าจารยป์ ยิ วฒั นพ์ ดู คำ� วา่ start up จะเช่ือมกับหลายจดุ มาก และเกี่ยวขอ้ งกับการกระจายรายได้โดยตรง แทนท่จี ะใหธ้ ุรกจิ อยู่ ในมอื บรษิ ทั ขนาดใหญจ่ ำ� นวนไมก่ แ่ี หง่ เปน็ ของครอบครวั ไมก่ ค่ี รอบครวั จะทำ� ใหร้ ายไดแ้ ละกำ� ไร กลับคืนสู่ท้องถ่ินมากขึ้น มันช่วยให้คนรู้สึกอยากย้ายถิ่นกลับ ตอบโจทย์ท้ังเรื่อง Work-Life Balance ของอาจารย์มนสิการ และการดูแลลูกของอาจารย์จงจิตต์ อาจยาวไปจนถึงการลด ความเหล่ือมล�้ำในสังคมด้วยซ้�ำไป เพราะว่าเงินมันกระจาย ไม่กระจุก ท�ำงานชุดโครงการวิจัย ช้นิ นี้ ท�ำไปผมรูส้ ึกวา่ ตวั เองเปน็ สังคมนิยมไปนิดๆ ผมคิดว่า สังคมเราอาจต้องมกี าร Balance กนั ใหด้ ี ระหวา่ งทนุ นิยม และสังคมนยิ ม ก่อนท่ีจะไปถึงการเสนอภาพรวม ผมขอขอบคณุ อาจารยท์ ้ัง 3 ทา่ น ตอนผมไปรับโจทย์ มาจาก สกว. แลว้ ทกุ ขอ์ นั ใหญค่ อื จะหาใครมารว่ มมอื กนั ทำ� กวา่ ทเ่ี ราจะรวมทมี กนั และ 3 ทา่ นนี้ ยอมที่จะมาร่วมงาน เป็นความโชคดีของผมไม่น้อยเลยทีเดียว ผมจึงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก แลว้ กอ็ ยากจะให้ credit มากๆ สำ� หรบั ทา่ นโฆษติ ปน้ั เปย่ี มรษั ฎ์ ทกี่ รณุ าจดุ ประกายใหเ้ ราทำ� งาน เกี่ยวกับเรื่องครอบครัว ประชากร และชนบท ซ่ึงท่านให้ความสนใจและความส�ำคัญอย่าง ต่อเน่ือง ท�ำให้นักวิชาการรุ่นหลังอย่างเรารู้สึกว่าสิ่งท่ีเราท�ำมีความหมาย และมีความส�ำคัญ ในวนั นกี้ ร็ สู้ กึ เปน็ เกยี รตทิ ี่ ศาสตราจารย์ ดร.พชั ราวลยั วงศบ์ ญุ สนิ จากวทิ ยาลยั ประชากรศาสตร์ แหง่ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ซงึ่ เปน็ สถาบนั พน่ี อ้ งในการทำ� งานดา้ นประชากรรว่ มกนั ใหเ้ กยี รติ มาฟัง รวมท้ังรองศาสตราจารย์ ดร.สุธรรม นันทมงคลชัย จากคณะสาธารณสุข มหิดล และ นักวิจัยรุ่นพ่ี รุ่นอาวุโส ของสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ท่ีกรุณา มาใหก้ ำ� ลังใจในวันน้ี ขออนุญาตเรียนว่าเน้ือหาจากการประชุมในวันน้ีจะถูกแบ่งเป็นส่วนย่อยๆ แสดงเป็น info-graphic ให้ทกุ ท่านสามารถ download ได้จากเว็บไซต์ และเรื่องส�ำคัญอกี เรอ่ื งหนงึ่ กค็ ือ ขอบคุณ สกว. ที่อนุญาตให้เราผลิตหนังสือ 4 เล่ม ท่ีจะตามมาหลังจากการน�ำเสนองานวิจัย ในคร้ังนี้ เพื่อให้การศึกษาเก่ียวกับเร่ืองน้ีเผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวาง และลึกซึ้งยิ่งข้ึน งานชนิ้ นหี้ ลงั จากทโ่ี ครงการตา่ งๆ ไปลงพนื้ ทเ่ี กบ็ ขอ้ มลู ศกึ ษา เรามกี ารจดั พบปะกนั ทกุ เดอื นเพอื่ น�ำเสนอความคืบหน้า และช่วยเหลือหารือกันระหว่างทีม ในการท�ำงานช่วงท้ายๆ แต่ละทีม ภูเบศร์ สมทุ รจกั ร I ธีรนุช ก้อนแกว้ I รฎิ วัน อุเด็น 87 �����������6.indd 87 147//2560 BE 17:09
น�ำเสนอในการเสวนา “ใต้ชายคา” ซึ่งเป็นเวทีวิชาการประจ�ำวันทุกวันพุธของสถาบันฯ เปิดโอกาสให้คณาจารย์ นักวิจัย นักศึกษาปริญญาโท ปริญญาเอก ได้เข้ามาฟังความคืบหน้า และมกี ารให้ comment เพราะฉะนัน้ การเสวนาใต้ชายคาทุกวนั พุธทีส่ ถาบันฯ เราก็มีซีรยี่ เ์ รอื่ ง ครอบครัวอยู่ดีมีสุข ท�ำให้ได้ข้อแนะน�ำต่างๆ จนงานชิ้นนี้ออกมาสมบูรณ์แบบได้มากย่ิงขึ้น จึงขอขอบคณุ ณ โอกาสนด้ี ว้ ย ในเรอ่ื งการดคู วามเชอื่ มโยงผมคดิ ว่า สิ่งทเ่ี รากำ� ลังจะวิตกเก่ยี วกบั จิก๊ ซอวท์ ่ยี ังมีอีกหลาย ตัวมาก ยังมีปัจจัยอื่นอีกมากมาย แต่วันนี้เราหยิบมาแค่ 3 เร่ือง ผมคิดอยู่เป็นเวลานาน ตลอดเวลาการตดิ ตามผลของงานทงั้ 3 ชน้ิ ทค่ี อ่ ยๆ เผยออกมา จดุ เชอื่ มของ 3 เรอื่ งนเี้ ปน็ อยา่ งไร ผมมาตกตะกอนอยตู่ รงนวี้ า่ สดุ ทา้ ยมนั อาจจะเปน็ ผลมาจากกลไกในการผลกั ดนั และพฒั นาชาติ บ้านเมอื งของเราในยุคสมัยต่างๆ ทพี่ ยายามผลักดันใหส้ งั คมเรามีมาตรฐานการด�ำรงชวี ติ ทด่ี ขี น้ึ มรี ายไดด้ ีขึ้น ซึง่ ไม่ไดผ้ ิดอะไร เพราะรายได้ต่อหัวตอ่ ปเี ปน็ สง่ิ หน่งึ ท่ีคอยช้ีวา่ ประเทศไทยพัฒนา ไปถงึ ไหน แลว้ เรากท็ ำ� สำ� เรจ็ ในปี 2554 ทเ่ี ราขยบั ขน้ึ ไปอยใู่ นฐานนั ดร Upper-middle income country เป็นประเทศท่ีมีรายได้ปานกลางค่อนไปทางสูง ดีใจได้ไม่เท่าไหร่ เราก็มาน่ังวิตกกัน อีกวา่ กลัวจะตดิ กบั ดกั วนอยตู่ รงน้ไี มไ่ ป upper income สักที อย่างไรก็ตาม น่ีคอื สิ่งที่เกดิ ขึ้น และสิ่งที่เราพบก็เป็นลักษณะของการพัฒนาสังคมที่กระทบกับครอบครัวอย่างที่หลีกเล่ียงไม่ได้ ในงานช้ินน้ผี มได้เขา้ ไปดวู รรณกรรมเก่ยี วกบั พัฒนาการครอบครวั ในประเทศต่างๆ ทำ� ให้พบว่า ส่ิงท่ีเราประสบอยู่ขณะนี้ล้วนเป็นส่ิงที่ประเทศพัฒนาแล้วเขาประสบมาแล้วทั้งส้ิน เราเป็น คลื่นลูกใหม่ในบริบทของเราเอง ในเรื่องของการพัฒนาไม่ได้เป็นความผิดปกติ เพียงแต่ว่าเรา จะสามารถรองรับ หรือตั้งรับกับผลกระทบที่เราก�ำลังเผชิญอยู่นี้ได้อย่างไร การขยายตัวของ คนช้ันกลาง ในการขยายตัวของเศรษฐกิจในสภาวะท่สี ังคมอาจจะมีลักษณะการกระจายโอกาส ทางเศรษฐกจิ และการศกึ ษาทมี่ นั ยงั ไมส่ มำ่� เสมอ ไมท่ วั่ ถงึ อาจจะทำ� ใหใ้ นอนาคตเกดิ ความเลอ่ื มลำ้� ที่มันชัดเจนมากย่ิงขึ้น โดยเฉพาะคนท่ีเดือนร้อนมากคือชนช้ันกลาง ปัจจุบันพยายามดิ้นรน และใชค้ วามพยายามมากกวา่ ชนชนั้ อน่ื ในการทจ่ี ะเลอ่ื นชน้ั ขน้ึ ไป เกมนเี้ ปน็ เกมทท่ี กุ คนตอ้ งเลน่ แลว้ กตกิ ากไ็ มค่ อ่ ยแฟรเ์ ทา่ ไหร่ เพราะวา่ ครอบครวั ทมี่ ตี น้ ทนุ สงู กวา่ มโี อกาสทจ่ี ะผลกั ดนั ยกระดบั ทางสังคมให้สูงขึน้ ด้วยอัตราทเี่ รว็ ขึน้ คนทม่ี รี ายได้น้อยก็ขึ้นได้ แตข่ ้นึ ไดช้ ้ากวา่ กตกิ ามนั ไมแ่ ฟร์ แตก่ ็ต้องเล่น ผลกระทบหนง่ึ ท่ีเราไดพ้ บเหน็ คอื การทค่ี รอบครวั มลี กั ษณะเปลยี่ นไป เราทราบวา่ ครอบครัวปัจจุบันเปลี่ยนจากครอบครัวขยายเป็นครอบครัวเด่ียว อาจารย์ปิยวัฒน์ต้ังช่ือว่า ครอบครัวโดดเดี่ยว ส่วนผมใชค้ ำ� วา่ “ครอบครวั ไมโคร” ซึง่ มนั เลก็ ไปกว่าครอบครวั เดย่ี ว สิ่งท่ี หายไปคอื การเกอ้ื กลู ระหวา่ งสมาชกิ ในครอบครวั ครอบครวั แบบขยายมลี กั ษณะของ economy of scale คือช่วยแบ่งเบาภาระด้านต้นทุนการด�ำรงชีวิต เม่ือกลายเป็นครอบครัวเด่ียว ต้องมี การกระจายท่อี ยอู่ าศัย ตอ้ งอยู่แยกกนั ทำ� ใหต้ น้ ทุนการดำ� เนนิ ชีวิตสงู ขึน้ การเก้อื กลู กันระหวา่ ง generation กห็ ายไปด้วย ผมคิดวา่ เปน็ ประเดน็ สำ� คญั 88 ความอยู่ดมี ีสุขของครอบครัวไทย �����������6.indd 88 147//2560 BE 17:09
อีกสง่ิ หน่งึ ท่หี ลายคนอาจจะมองขา้ มไป คอื การที่ลกั ษณะครอบครัวเดี่ยว และครอบครวั ไมโคร เหล่าน้ี ตอบโจทย์การพัฒนาสังคมในยุคอุตสาหกรรมอย่างมาก เพราะเป็นครอบครัว ที่เคลอื่ นทีง่ า่ ยกวา่ ครอบครัวขยาย สามารถเคล่ือนไปทีจ่ ดุ ลงทุนต่างๆ และเมือ่ เคล่ือนทไ่ี ดม้ าก เท่าไหร่ โอกาสท่ีจะเป็นครอบครัวขยายมีการเชือ่ มโยงกนั มกี ารเกือ้ กลู กันจะน้อยกนั ไปเทา่ นนั้ น่คี ือสง่ิ ทห่ี ายไป อีกสง่ิ หนึ่งท่ีร้สู กึ ว่าเห็นชัด คือการแยกกันระหว่างบ้านกับท่ที �ำงาน ซึง่ เมอ่ื กอ่ น ในยุคสังคมเกษตรกรรม บ้านและที่ท�ำงานไม่ได้แยกกัน บ้านอยู่กับท่ีท�ำงานไม่รู้ว่าอันไหนคือ Work หรือ Life เพราะเชา้ มา พอ่ พาลกู ชายไปท�ำงานในไรใ่ นสวน แม่พาลกู สาวเก็บกวาดบ้าน ดูแลความเรยี บร้อยของบา้ นช่อง Work กับ Life มนั อยู่ดว้ ยกนั แมถ้ ัดจากยคุ สังคมเกษตรกรรม เข้าสู่สังคมอุตสาหกรรมในช่วงต้นๆ คนยังไม่ย้ายถ่ินไปท�ำงานไกลๆ บ้านและท่ีท�ำงานยังอยู่ใน ละแวกใกล้ๆ กัน แต่พอเข้ามาในยุคสังคมอุตสาหกรรมเต็มตัว เมืองพัฒนาข้ึนอย่างชัดเจน ทที่ ำ� งานหา่ งไกลจากบา้ นออกไปมากขนึ้ เพราะคนตอ้ งไปรวมตวั ทำ� งานกนั ใน Office หรอื โรงงาน เกิดระยะหา่ งระหว่างบ้านและท่ที ำ� งานมากข้ึน Work เลยหา่ งจาก Life อย่างชดั เจน ตอนต้น ศตวรรษที่ 20 เปน็ ครั้งแรกท่ีคนเร่มิ บอกว่า ตอ้ งการ Work-Life Balance ท่ีบริษทั ผลิตรถยนต์ ฟอร์ด สะท้อนให้เห็นว่าขณะบ้านกับท่ีท�ำงานแยกจากกันถึงจุดท่ีคนไม่มีเวลาให้กับครอบครัว และเป็นคร้ังแรกที่คนเริ่มบอกว่า เขาต้องการ Weekend ท�ำให้เกิดการหยุดท�ำงานวันเสาร์ อาทิตย์ข้ึนเป็นคร้ังแรก เรียกร้องว่าสัปดาห์หนึ่งท�ำงานไม่ควรเกิน 40 ช่ัวโมง พัฒนาการด้าน การศกึ ษาเปน็ อกี ปจั จยั หนงึ่ ทที่ ำ� ใหค้ นมลี กู นอ้ ยลง เพราะเวลาทคี่ นใชใ้ นโรงเรยี น และมหาวทิ ยาลยั เร่มิ ยาวนานข้นึ กวา่ จะจบปริญญาตรอี ายุกเ็ ลยเขา้ ไปถงึ 20 ตน้ ๆ ภายหลงั ปริญญาตรเี ริม่ ไม่พอ และเกดิ มคี า่ นยิ มปรญิ ญาโทขน้ั ตำ�่ ซงึ่ เปน็ ทงั้ ความจำ� เปน็ ในการจะทำ� ใหไ้ ดง้ านทด่ี ขี น้ึ มเี งนิ เดอื น มากข้ึน และปนกับความรู้สึกด้านฐานันดรทางสังคม กว่าหญิงชายพร้อมจะมีลูก วัยก็เลย เขา้ ใกล้ 30 ท�ำให้เวลาเจรญิ พนั ธุ์หายไปเกือบครึง่ อีกประเด็นหนึ่งที่เก่ียวกับการศึกษา ท่ียังไม่ค่อยได้พูดกันมากคือ การศึกษาท�ำให้ คนมีความเป็นปัจเจกมากข้ึน Individualistic มากข้ึน เรื่องน้ีไม่ใช่เร่ืองไม่ดี เป็นพัฒนาการ ในทางเจริญ ค�ำว่าปัจเจกหมายความว่า แต่ละคนมีความเป็นตัวของตัวเองที่จะต้องเติมเต็ม ทงั้ หญงิ และชาย ความสำ� คญั ของตวั เองเพมิ่ มากขนึ้ ความตอ้ งการทเ่ี ปน็ ความเฉพาะของแตล่ ะคน เพ่ิมขึ้น เสียงเรียกร้องจากความต้องการส่วนตัวดังชัดเจนมากข้ึน กิจกรรมในชีวิตมันมีอะไร มากกวา่ การแตง่ งาน สร้างครอบครัว มลี กู มหี ลาน เปน็ ตาเป็นยายแล้วเสียชวี ติ ชวี ติ หลังจาก ศกึ ษา มันมอี ะไรต้องท�ำเยอะข้นึ ตา่ งประเทศกต็ อ้ งไป รถกต็ อ้ งมี บ้านกต็ อ้ งซ้ือ อยากมคี อนโด เสื้อผ้าสวยหรู ไลฟสไตล์ท่ีใฝ่ฝัน และต้องเติมเต็ม ส�ำหรับผู้หญิงชีวิตมีความหมายมากไปกว่า การเปน็ แม่ศรเี รอื น กับการอยูก่ บั บ้านรอลูกและสามีกลับมาบา้ นและปรนนบิ ตั ิพดั วี �����������6.indd 89 ภเู บศร์ สมุทรจกั ร I ธีรนชุ ก้อนแก้ว I รฎิ วัน อเุ ด็น 89 147//2560 BE 17:09
.....ตั้งขอ้ สงสัยวา่ ในเมอื งกรุงมที รัพยากรเยอะมากแตก่ ลับมากไม่พอ ทจี่ ะเล้ียงลูกได้ ตอ้ งส่งกลับให้ปยู่ ่า ตายายเลีย้ ง เกดิ เป็นครวั เรือนข้ามร่นุ เปน็ เร่อื งท่ตี ้องพิจารณาทบทวน... เรื่องน้ีเป็นเร่ืองหนึ่งท่ีส่งผลต่อการบริหารครอบครัว เมื่อตัดสินใจแต่งงาน มีครอบครัว มลี กู งานกต็ อ้ งทำ� ทง้ั หญงิ และชาย ความใฝฝ่ นั สว่ นตวั กต็ อ้ งเตมิ เตม็ การแบง่ หนา้ ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบ ในครวั เรอื นเป็นเร่อื งท่ตี ้องมกี ารปฏวิ ัติ ผูห้ ญิงเริ่ม outsource งานในบ้านไมว่ า่ จะเปน็ การดแู ล ความสะอาดเรียบรอ้ ย ปดั กวาดเช็ดถู ซกั เสือ้ ผ้า ดูแลลูกและผสู้ ูงอายุในบ้าน เรม่ิ ตงั้ แตม่ ีแมบ่ ้าน มคี นรบั ใช้ เพอ่ื ทตี่ วั เองจะไดม้ เี วลาออกไปทำ� งานนอกบา้ น ผมไมส่ ามารถบอกไดว้ า่ การทท่ี ำ� เชน่ นี้ เพราะเห็นวา่ การดแู ลความเรียบร้อยในบ้านมคี วามส�ำคญั น้อยกว่างานนอกบา้ น แตอ่ ยา่ งน้อย สรุปได้ว่า opportunity cost ของการไปท�ำงานนอกบ้านมันสูงกว่า ไม่ว่าจะมองจากมิติทาง เศรษฐศาสตร์ หรอื ฐานนั ดรและการยอมรบั ในสงั คม ในประเดน็ เรอ่ื งครอบครวั ไทยในชนบทนนั้ ผมเหน็ ววิ ฒั นาการจากวนั ทส่ี ง่ ลกู ไปท�ำงานในเมอื งกรงุ จนถงึ วนั ทร่ี บั หลานมาเลย้ี งเปน็ ภาพสรปุ ดา้ นครอบครวั ชนบทไทยตลอด 40 ปขี องพฒั นาการทางเศรษฐกจิ ไทย หลายคนกส็ งสยั วา่ ทำ� ไม ใช้เวลาตั้ง 40 ปีกว่าจะส่งหลานกลับมาให้เล้ียง ต้องอธิบายว่านี่คือ 2 เจเนอเรชัน ลูกชนบท ท่ีเข้าไปท�ำงานในกรุงเจเนอเรชันแรก เมื่อลงหลักปักฐานกลายเป็นชาวกรุงไปแล้ว มีลูกและ สามารถเลยี้ งลกู ในกรงุ ได้ จนลกู กเ็ ปน็ ชาวกรงุ ไป อนั นค้ี อื เมอ่ื 30-40 ปที แ่ี ลว้ แตม่ าถงึ เจเนอเรชนั ปัจจุบันเวลาส่งลูกไปท�ำงานในกรุง ลูกใช้ชีวิตอยู่ได้ ท�ำงานได้ มีแฟน แต่งงานได้ แต่พอมีลูก กลบั ไมส่ ามารถเลย้ี งลูกในกรุงได้ ผมยังต้งั ขอ้ สงสัยวา่ ในเมอื งกรงุ มีทรพั ยากรเยอะมาก แต่กลบั มากไม่พอที่จะเล้ียงลูกได้ ต้องส่งกลับให้ปู่ย่า ตายายเล้ียง เกิดเป็นครัวเรือนข้ามรุ่น เป็นเรื่อง ท่เี ราตอ้ งพิจารณาทบทวน 90 ความอยดู่ มี สี ขุ ของครอบครวั ไทย �����������6.indd 90 147//2560 BE 17:09
...ชนบทไม่ว่าจะเกิดอะไรขึน้ ก็ยังเป็นพ้นื ที่ อบอ่นุ ยงั เป็นที่สามารถรองรบั ความพลาด หวังความ ผดิ หวังต่างๆ จากในเมอื งได้.... Modernization เป็นอีกปัจจัยหน่ึงท่ีก�ำลังเปล่ียนพื้นที่ชนบท ค�ำว่า Modernization ซงึ่ ในงานของศาสตราจารย์ ดร.ฉตั รทพิ ย์ นาถสภุ า ทา่ นแปลว่า “การเป็นสมัยใหม่” ทา่ นเขียน หนังสือท้ังเล่มจาระไนเรื่องนี้โดยเฉพาะ ปัจจุบันการเป็นสมัยใหม่สามารถเจาะเข้าถึงชนบทได้ แม้ในที่ๆ ถนนหนทางอาจไปถึงล�ำบาก การเป็นสมัยใหม่ในปัจจุบันเข้าไปในชนบทผ่าน Wifi ผมเขา้ ไปเย่ยี มการลงพืน้ ท่ีของอาจารยป์ ยิ วัฒน์ ท่บี ้านแมแ่ จม๋ อยู่เขตรอยตอ่ ระหว่างเชียงใหม่ กบั ลำ� ปาง พนื้ ทอี่ ยบู่ นภเู ขาสงู มาก ถนนทขี่ น้ึ เลก็ คดเคยี้ ว จดั วา่ เปน็ เสน้ ทางทรุ กนั ดาร ตอ้ งหยดุ รถไหลท่ างใหน้ กั ศกึ ษาปรญิ ญาเอกทต่ี ามขน้ึ ไปพกั เพราะเมารถแตพ่ อขน้ึ ไปถงึ ปรากฏวา่ บา้ นแมแ่ จม๋ เป็นพ้ืนท่ีรีสอร์ท กับ Homestay เป็นท่ีรู้จักของนักท่องเท่ียวต่างชาติ เขาเช่ารถมอเตอร์ไซค์ เลก็ ๆ ข่ีขนึ้ มาเปน็ คาราวาน 3-4 คน มีนักท่องเทย่ี วญ่ปี ุ่น และเยอรมนั วัยเกษียณท้งั 2 กลุ่ม ข้างบนมี Wifi โพสต์ได้ อัพรูปได้ มีร้านกาแฟกลางหมู่บ้าน นอกเหนือจากบริเวณรีสอร์ทกับ Homestay แลว้ นอกนน้ั เปน็ หมบู่ า้ นชนบททง้ั ไทย ทงั้ ชาวเขาอยรู่ ว่ มกนั ทน่ี า่ สนใจคอื ในหมบู่ า้ น มรี า้ นอาหารตามสง่ั แบบบา้ นๆ ผมกส็ งสยั มากวา่ ในเขตชนบทแบบนท้ี �ำไมแตล่ ะบา้ นไมท่ ำ� กบั ขา้ ว ทานกนั เอง พดู คยุ กบั เจา้ ของรา้ นซง่ึ เปน็ แมค่ รวั ดว้ ย ยงิ่ แปลกใจไปใหญ่ เพราะของสดทใ่ี ชใ้ นรา้ น ทง้ั หมู เน้อื ผัก ไข่ มาจากแมคโครในตวั เมืองเชยี งใหม่ เขาลงไปซือ้ สปั ดาหล์ ะ 2 ครงั้ หน้าตา ของชนบทเปลย่ี นไป เรมิ่ พึ่งพาตัวเองไมไ่ ด้ แมแ้ ตอ่ าหารประจ�ำวนั นอกจากน้ี ยังขอขยายความพน้ื ท่ีกึ่งเมอื งกึ่งชนบทท่ีอาจารยป์ ิยวฒั น์ พูดถึง แมว้ า่ ตอนน้ี ยงั ไมม่ ขี อ้ มลู ยนื ยนั แตเ่ ราเรม่ิ เหน็ วา่ มเี พม่ิ มากขนึ้ คนบรเิ วณนม้ี คี วามสบั สนในการใชช้ วี ติ ไมน่ อ้ ย อาจารย์ปิยวัฒน์เล่าว่า เขตบางบัวทองจัดอยู่ในพื้นท่ีชนบท แต่มีรถไฟฟ้าสายสีม่วงไปเกือบถึง และก่อนท่ีรถไฟฟ้าจะเสร็จ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่สร้างรอไว้แล้ว ถัดจากถนนใหญ่ไปไม่กี่ กโิ ลเมตร เปน็ เรอื กสวนไรน่ าทงั้ นน้ั ชาวบา้ นกำ� ลงั ตอ้ งหาความลงตวั ระหวา่ งรายไดแ้ บบเกษตรกร บ้านแบบชาวชนบท กับวิถีชีวิตแบบชาวเมือง ประเด็นสุดท้ายท่ีงานของอาจารย์ปิยวัฒน์ ภเู บศร์ สมุทรจักร I ธรี นุช ก้อนแกว้ I รฎิ วัน อเุ ดน็ 91 �����������6.indd 91 147//2560 BE 17:09
ทงิ้ ไวค้ อื ชนบทไมว่ า่ จะเกดิ อะไรขน้ึ กย็ งั เปน็ พน้ื ทอี่ บอนุ่ ยงั เปน็ ทส่ี ามารถรองรบั ความพลาดหวงั ความผิดหวังต่างๆ จากในเมืองได้ และจากข้อมูลของส�ำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า ตอนเกิด วิกฤตเศรษฐกจิ ปี 2540 แรงงานจากภาคอตุ สาหกรรมกลับไปส่ภู าคการเกษตร เปน็ เวลาปีครึง่ ถงึ 2 ปี จนกระทง่ั เศรษฐกจิ ดขี น้ึ แลว้ แรงงานกก็ ลบั ออกมาในภาคอตุ สาหกรรมอกี แปลวา่ ชนบท และภาคการเกษตรยังเป็น Soft cushion ยังเป็นเบาะรองรับความวิกฤตที่เกิดขึ้นจากสังคม อตุ สาหกรรม สิง่ ท่ผี มอยากสรปุ สุดทา้ ย ผมขออนุญาตไปประเด็นทีห่ ลดุ ไปจากกรอบงานท่ีทัง้ 3 ทา่ น พดู ถงึ ปกตแิ ลว้ สง่ิ มชี วี ติ แพรพ่ นั ธ์ุ ขยายพนั ธใ์ุ นทท่ี มี่ คี วามอดุ มสมบรู ณ์ วนั นห้ี ากเราบอกวา่ Birth rate ลดลง ฝงู มนษุ ยเ์ รมิ่ ไมข่ ยายพนั ธแ์ุ สดงวา่ เกดิ ความไมอ่ ดุ มสมบรู ณ์ และความไมอ่ ดุ มสมบรู ณ์ เหล่านี้ส่วนหนึ่งเกิดจากการใช้ทรัพยากรในการพัฒนาด้านต่างๆ อย่างมาก และหลายอย่าง อาจใช้อยา่ งไมป่ ระหยดั และหากสิ่งท่ี Mark Zuckerberg ผ้ใู ห้ก�ำเนดิ Facebook บอกไว้วา่ พัฒนาการทางเทคโนโลยี 10 ปีจากน้ี จะมีอัตราความก้าวหน้าท่ีรวดเร็วกว่าพัฒนาการตลอด กวา่ 1,000 ปที ผี่ า่ นมา กแ็ สดงวา่ อตั ราการผลาญทรพั ยากรของเราจะเรว็ มากขน้ึ พฒั นาการทาง เทคโนโลยเี หลา่ นแี้ สดงออกมาในรปู ของมาตรฐานการดำ� รงชวี ติ ทด่ี ขี นึ้ กจ็ รงิ แตท่ รพั ยากรในโลก กถ็ กู ใช้ไปอย่างมากดว้ ยในขณะเดียวกัน และการทท่ี รพั ยากรเหลอื นอ้ ยลง สะท้อนออกมาในรูป ของราคา และต้นทุนการด�ำเนนิ ชวี ิตทส่ี ูงข้ึน การเลี้ยงลูกสกั คนแพงขึ้นอย่างมาก ในเจเนอเรชนั กอ่ นสามารถเลยี้ งลกู 8-9 คน ไดไ้ มม่ ปี ญั หา วนั นเ้ี ลยี้ งลกู 2 คน รสู้ กึ มนั แพงเหลอื เกนิ ทรพั ยากร ท่ีว่าเหลือน้อยนี้ ไม่ได้หมายถึงเงินทุน หรือส่ิงท่ีจับต้องได้เท่าน้ัน แม้แต่เวลาซึ่งเป็นทรัพยากร อย่างหน่ึง ก็ดูช่างมีจ�ำกัดเหลือเกิน วันน้ีเวลาเป็นสิ่งท่ีแพงมาก แพงเพราะว่าทุกอย่างมันต้อง แขง่ ขนั และใช้เวลาในการทำ� อะไร ผมเริ่มรู้สึกว่าอัตราการเกิดที่ลดลงน้ีเป็น Auto-correction อย่างหนึ่งของธรรมชาติ ธรรมชาติปรับตัวเองให้พอดีกับทรัพยากรท่ีมีอยู่ เทียบกับประวัติศาสตร์ท่ีผ่านมาปริมาณของ ทรพั ยากรตอนนเี้ หลอื นอ้ ยกวา่ มาก และหากหอยทากท�ำใหห้ นา้ ใสเดง้ ไดจ้ รงิ รบั รองวา่ หอยทาก จะสูญพนั ธ์ใุ นอีกไม่นานนี้ จะเกดิ เปน็ หอยทากฟารม์ ข้นึ มาที่สามารถโตไดใ้ นระยะเวลา 2-3 วนั เรามกั พบในนยิ าย Sci-fi ว่า มนษุ ย์ตา่ งดาวมาบุกโลกมนุษย์ เพราะเขาใช้ทรัพยากรของโลกของ เขาหมดแลว้ จงึ ตอ้ งมาเอาจากโลกมนษุ ย์ แลว้ เรากว็ าดภาพภาพมนษุ ยต์ า่ งดาวนา่ เกลยี ดนา่ กลวั อันตรายและโหดร้าย จริงๆ แล้วในอนาคตเราอาจเป็นมนุษย์ต่างดาวเหล่าน้ันที่ต้องไปหา ดาวดวงอื่น เพื่อสูบทรัพยากรของเขามาใช้ หลังจากท่ีทรัพยากรของโลกเราหมด ในโอกาสนี้ ยงั มเี วลาอยู่ 45-50 นาที ทจี่ ะขอรบั ฟงั ความคดิ เหน็ จากทา่ นผทู้ รงคณุ วฒุ ิ และทกุ ทา่ นทเ่ี ขา้ รว่ ม เสวนาในวนั น้ี ขอบคุณครับ 92 ความอย่ดู ีมีสขุ ของครอบครัวไทย �����������6.indd 92 147//2560 BE 17:09
คุณจริ พนั ธ7์ ขอบคณุ อาจารยท์ ง้ั 4 ทา่ น ทผี่ มวา่ วนั นท้ี กุ คนทอ่ี ยทู่ น่ี ่ี คงเห็นภาพครอบครัวไทยค่อนข้างชัดเจนขึ้น และขอบคุณ อาจารย์ท้ัง 4 ท่านท่ีไปหาข้อมูลมาเล่าให้พวกเราฟัง และ ก็ตรงตามที่พวกเราอยากได้ยินอยากได้ฟัง ซ่ึงท่านอาจารย์ โฆษิตอยากได้ฟังแบบน้ี เพราะว่าตอนท่ีผมท�ำยุทธศาสตร์ ประชากร 20 ปกี บั ทา่ นโฆษติ ทา่ นกบ็ อกวา่ เรายงั ไมม่ คี วามรู้ เราก็อยากไปหา intervention อะไรท่ีเรายังไม่รู้จริงอะไร ท�ำนองน้ี ก็วันนอี้ าจารย์ท้ัง 4 ทา่ นได้ใหภ้ าพทสี่ �ำคัญชดั เจน ภาพที่ 10 ผู้ทรงคณุ วฒุ ใิ ห้ข้อแนะนำ� ซง่ึ ตวั ผมเองรสู้ กึ ไดร้ บั ความรใู้ หมๆ่ มาก ประเดน็ แรกทอี่ ยาก ภาพโดย: กฤตยิ า สำ� อางกจิ จะพดู กค็ อื ขอ้ คน้ พบจากอาจารยท์ ง้ั 3 ทา่ น ทำ� ใหผ้ มไดค้ ดิ วา่ บทบาทของปยู่ า่ ตายายสำ� คญั มาก เดมิ ผมคดิ วา่ บทบาทของ พวกสถานบรกิ ารตา่ งๆ สำ� คญั เราคดิ วา่ ตอ้ งมี intervention กบั พวก อปท. องคก์ รปกครองสว่ น ท้องถิน่ เก่ยี วกับศูนย์เด็กเลีย้ งพวกนี้ แต่ขอ้ เสนอของอาจารยท์ ำ� ให้รูว้ า่ บทบาทของบดิ ามารดา ปูย่ ่า ตายายสำ� คัญท้งั ในเมืองและชนบท และยงั confirm จากอาจารยท์ ีไ่ ปพบ เขาพดู ถึงศูนย์ เลี้ยงเด็กน้อยมาก อาจารย์มนสิการพูดกับผมตอนน�ำเสนอที่ สกว. เลยท�ำให้ intervention ...บทบาทของบดิ ามารดา ปู่ยา่ ตายาย ส�ำ คัญท้งั ในเมืองและชนบท... ที่เราจะท�ำให้ครอบครัวไทยอยู่ดีมีสุขอาจจะต้อง concern เกี่ยวกับผู้สูงอายุบิดามารดา ปู่ย่า ตายายมากขึ้น ไม่ใช่ไปลดในส่วนอ่ืนๆ ของภาครัฐ7 แต่ความสนใจของเราอาจจะต้องให้ ความส�ำคัญกับผู้สูงอายุในแง่บทบาทของการสร้างการอยู่ดีมีสุขของครอบครัวให้มากขึ้นกว่า 7 คณุ จริ พนั ธ์ กลั ลประวทิ ย์ อดตี ผอู้ ำ� นวยการสำ� นกั ยทุ ธศาสตรแ์ ละการวางแผนพฒั นาสงั คม สำ� นกั งานคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ภูเบศร์ สมทุ รจักร I ธีรนชุ กอ้ นแก้ว I ริฎวัน อุเด็น 93 �����������6.indd 93 147//2560 BE 17:09
...บคุ ลากรตอนวัยรุ่นคือก�ำ ลงั ของชาติ จะทำ�อย่างไรกับบทบาทของคนท่ดี แู ลวัยรุ่น .... ที่เราคิด ในอดีตเราคิดว่าจะต้องไปท�ำสิ่งต่างๆ เพ่ือช่วยครอบครัว แต่แท้จริงแล้วต้องไปท�ำ กับสมาชิกของครอบครัว ซ่ึงเป็นพวกปู่ย่า ตายายของครอบครัว เดิมเราก็ฝากอาจารย์ว่า intervention ทจี่ ะไปชว่ ยเรอื่ งนใ้ี หส้ ามารถ function ควรจะทำ� อะไรบา้ ง ภาครฐั ควรจะเขา้ ไป ช่วยอะไรพวกนี้บ้าง เพื่อให้เขาสามารถ maintain ความอยู่ดีมีสุขของครอบครัวเขาเองได้ ผมก็คิดไม่ออกเหมือนกันตอนน้ี ข้อค้นพบของท่านวันน้ีส�ำคัญท�ำให้ผมเห็นว่า intervention ท่ีจะไปเกยี่ วกบั ปูย่ า่ ตายายมนั สำ� คัญกอ่ นทีจ่ ะสร้างความอย่ดู มี ีสุขใหค้ รอบครัวไทย เร่ืองท่ี 2 ซ่ึงผมคิดว่าส�ำคัญเป็นเร่ืองเก่ียวกับข้อค้นพบที่อาจารย์ว่า ศูนย์รับเลี้ยงเด็ก ในกรุงเทพฯ มีอยู่เยอะไปหมด ที่อาจารย์จงจิตต์แสดงให้ดูมันเยอะ แต่ประเด็นเร่ืองคุณภาพ ผมยังไม่ค่อยเห็นอาจารย์ให้ข้อเสนอแนะอะไรท่ีชัดๆ มากๆ กว่านี้ คล้ายว่าที่ต้ังไม่เป็นปัญหา แต่คุณภาพอาจารย์ก็มีพูดมาบ้างเก่ียวกับพ่ีเล้ียงเด็ก บุคลากร อะไรพวกน้ีที่จะต้องไปสร้าง อาจารยล์ องปรบั ปรงุ ขอ้ เสนอแนะใหเ้ พม่ิ ตรงนม้ี ากขนึ้ บา้ ง ทจ่ี ะทำ� ใหศ้ นู ยเ์ ลย้ี งเดก็ ใหม้ คี ณุ ภาพได้ เพราะว่าประเด็นท�ำเลที่ต้ังไม่เป็นปัญหาเลย ประเด็นคุณภาพดูจะเป็นประเด็น ก็อยากจะ ฝากอาจารย์ช่วยไปเสนอแนะ ท�ำอย่างไรให้ศูนย์เล้ียงเด็กมีคุณภาพอย่างที่อาจารย์ต้องการได้ ภาครฐั ตอ้ งทำ� อะไร สรา้ งบคุ ลากรหรอื อาจจะตอ้ งมอี ะไรทจ่ี ะไปฝกึ อบรม ทใ่ี หผ้ เู้ ลยี้ ง หรอื ผทู้ ำ� งาน อยู่ในศูนย์เลี้ยงเด็กต่างๆ สามารถท่ีจะ develop เด็กได้ อย่างที่คนอย่างพวกเราต้องการ อาจจะต้องมีผลิตบุคลากรพวกนี้ ไม่ใช่ท�ำหน้าที่แค่คนรับเล้ียงแทน แต่จริงแล้วอาจจะต้องการ คนที่มีความรู้ที่จะพัฒนาสมองของเด็ก ความรู้ของเดก็ บุคลากรเหล่านี้อาจจะยังไม่มีศักยภาพ ที่จะทำ� ใหศ้ ูนย์เลีย้ งเด็กมีคุณภาพได้ สุดท้ายก็เป็นอาจารย์ปิยวัฒน์ ผมแปลกใจเพราะภาพท่ีอาจารย์ได้บอกมามันไม่น่า เป็นห่วงเลย ท�ำให้ผมรู้สึกเหมือนกันว่าเทคโนโลยีช่วยได้ เดิมผมคิดว่า การดูแลซึ่งกันและกัน ของคนในชนบทมีปัญหา เพราะผมเห็นตามทีวี ปู่ย่าตายายอยู่กับเด็กแล้วปล่อยเด็กทิ้งขว้าง ภาพนน้ั ทำ� ใหผ้ มคดิ วา่ ชนบทมปี ญั หา แตอ่ าจารยป์ ยิ วฒั นพ์ บวา่ พวกเขากด็ แู ลกนั ไดด้ ใี นระดบั หนง่ึ ผมก็เห็นว่าปู่ย่าตายายท�ำอย่างไรให้เขาช่วยเร่ืองน้ีได้ เดิมผมคิดว่าจะไปเล็งที่องค์กรปกครอง 94 ความอยู่ดมี สี ขุ ของครอบครัวไทย �����������6.indd 94 147//2560 BE 17:09
สว่ นทอ้ งถน่ิ ใหม้ าดแู ลเดก็ เลก็ ไดอ้ ยา่ งไร แตจ่ รงิ ๆ ปยู่ า่ ตายายตา่ งหาก ซง่ึ เราจะตอ้ งมี intervention ทจี่ ะท�ำใหพ้ วกเขาท�ำหนา้ ทนี่ ไ้ี ดด้ กี วา่ ในปจั จบุ นั ขณะเดยี วกนั กอ็ าจจะ strengthen อปท. หรอื เปลยี่ นมาเปน็ supplementary ไม่ใชเ่ ป็น main ซึง่ main คือปู่ยา่ ตายายจะท�ำอยา่ งไรให้เขา จุนเจือกันได้ และอาจารย์ก็ mention มาอันหนึ่งว่าตอนวัยรุ่นเล้ียงยาก ตอนเด็กๆ เลี้ยงง่าย ผมว่าตรงนี้ส�ำคัญ เพราะว่าบุคลากรตอนวัยรุ่นคือก�ำลังของชาติจะทำ� อย่างไรกับบทบาทของ คนทีด่ แู ลวัยรุน่ พวกน้อี าจจะตอ้ งเปน็ โรงเรยี นหรอื เปลา่ ผมไม่รู้ แตว่ ่าปยู่ ่า ตายายอาจจะดไู ด้ถึง ช่วงอายุหน่ึง พอเลยรุ่นนี้แล้ว ต้องมีบทบาทอะไรเข้ามา โดยภาพรวมแล้วเราต้องการดูแล ใหค้ นท่ีเกดิ น้อยอยูแ่ ล้วมีคณุ ภาพดว้ ย ไม่ใชเ่ กิดน้อยอยแู่ ล้วแตไ่ ม่มคี ุณภาพ ฝากอาจารยช์ ว่ ยไป หาข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการที่จะดูแล ผมรู้สึกว่าจะให้คนใดคนหนึ่งไม่ได้ ต้องท�ำควบคู่กันไป วนั นท้ี ที่ ำ� ไดค้ อื จะทำ� อยา่ งไรใหส้ มาชกิ ครอบครวั ทส่ี ำ� คญั คอื ปยู่ า่ ตายายชว่ ยได้ เบอื้ งตน้ ขอแคน่ ้ี และขอชน่ื ชมที่ได้ฟงั สงิ่ ทอี่ ยากรตู้ อนไปท�ำยทุ ธศาสตรจ์ ะได้มี dimension ทช่ี ดั เจนมากขนึ้ คณุ พเิ ชษฐ์ (จาก World Vision) จริงๆ ตัวเองก็ท�ำงานในพ้ืนที่ชนบทและกลุ่มพ่ีน้องที่ ด้อยโอกาสหลายส่วน ผมไม่แนใ่ จวา่ เปน็ คำ� ถามมยั้ แต่อยากเป็น ขอ้ เสนอทเี่ หน็ พอ้ งตอ้ งกนั กบั นโยบายทอ่ี าจารยท์ กุ ทา่ นน�ำเสนอมา จริงๆ ต้องขอบคุณเพราะว่าการวิจัยของอาจารย์ชุดน้ีท�ำให้เป็น ปรากฏการณ์ เราเหน็ อยแู่ ลว้ วา่ เปน็ ปญั หาทง้ั ชมุ ชนชนบท กงึ่ เมอื ง และเขตเมือง มันเปน็ ปรากฏการณท์ ่เี ราเห็นแลว้ พูดตอ่ ๆ กัน แลว้ งานวจิ ยั ชน้ิ นมี้ กี ารศกึ ษาเปน็ รปู ธรรมชดั เจนขน้ึ ไมไ่ ดเ้ ปน็ เพยี งแค่ ภาพท่ี 11 ผู้เข้ารว่ มประชมุ ปรากฏการณ์ เพราะทำ� ใหเ้ ปน็ เรอ่ื งทงี่ านวจิ ยั มารองรบั กบั สงิ่ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ให้ข้อแนะน�ำ ผมอยากเสนอ 2 ส่วน คือผมเห็นด้วยกับข้อเสนอกับอาจารย์ท่ี พูดถึงเร่อื งของการสง่ เสริมการมีบุตร และ Work-Life Balance ภาพโดย: กฤตยิ า ส�ำอางกจิ ซึง่ ตอนนี้ที่ผมทราบหากเข้าใจผดิ ขออภยั ดว้ ย คือนโยบายภาครฐั มีนโยบายให้แมล่ างานได้ 90 วันใช่ไหม แล้วอาจารยเ์ สนอวา่ เปน็ 14 สปั ดาห์ จริงๆ แลว้ ในสว่ น คนทำ� งาน ดว้ ยกระแสสงั คมทเ่ี รากำ� ลงั เปน็ อยกู่ เ็ ปน็ 180 วนั หรอื วา่ 6 เดอื นดว้ ย ไมแ่ นใ่ จวา่ งาน วิจัยของอาจารย์จะสะทอ้ นเห็นว่า 180 วันหรือว่า 6 เดอื นไดห้ รอื ไม่ เพราะเช่อื ว่าหลายๆ ส่วน คงมีเหตุผลรองรับ และก็ในแง่ของนโยบายของการดูแลแม่และลูกในเร่ืองของค่าตอบแทนจาก นายจ้าง และรวมถึงผู้ประกันตนจะสามารถควบคุมได้อย่างไร ก็อยากจะฝากประเด็นเสริม เอาไว้ว่า 14 สัปดาห์ หรือ 3 เดือนคร่งึ ไม่แน่ว่าจะพอไหม เพราะว่าหากดูเร่ืองของการส่งเสรมิ การเลย้ี งลกู ดว้ ยนมแมก่ อ็ าจจะมี 4-6 เดอื น อาจจะไปในทศิ ทางเดยี วกนั ทส่ี อดคลอ้ งกบั นโยบาย ตรงนีอ้ ยู่แล้ว ภเู บศร์ สมทุ รจกั ร I ธีรนุช กอ้ นแกว้ I รฎิ วนั อุเด็น 95 �����������6.indd 95 147//2560 BE 17:09
.....นโยบายของการดแู ลแม่ และลูกในเร่อื งของคา่ ตอบแทน จากนายจ้างและรวมถึงผปู้ ระกนั ตนจะสามารถควบคมุ ไดอ้ ย่างไร ?... ...นโยบายของรฐั ให้พ่อลาได้ 15 วัน แตย่ งั มีชอ่ งว่างอยู่ ให้เฉพาะกบั ราชการเทา่ นนั้ แตก่ ับเอกชนยงั ไม่ไดข้ ้อเสนอตรงน.้ี ... สว่ นท่ี 2 เปน็ เรอื่ งของงานวจิ ยั ของอาจารยบ์ อกวา่ ในสงั คมปจั จบุ นั พอ่ กบั แม่ คสู่ ามภี รรยา มสี ว่ นสำ� คญั ในการดลู กู มาก ไมใ่ ชเ่ ฉพาะแคแ่ มอ่ ยา่ งเดยี ว ตวั พอ่ ดว้ ย อนั นผี้ มทราบมาวา่ นโยบาย ของรัฐใหพ้ อ่ ลาได้ 15 วนั แตย่ งั มีช่องว่างอยู่ ให้เฉพาะกับราชการเท่าน้นั แต่กับเอกชนยงั ไมไ่ ด้ ข้อเสนอตรงน้ีอาจจะช่วยผลักดันให้ รวมถึงขยายอย่างน้อย 1 เดือนในช่วงที่คุณแม่หลังคลอด ไดร้ ับการฟน้ื ฟแู ล้วก็ได้รบั การดแู ลเตม็ ท่ี กอ็ าจจะเป็นเร่ืองเสนอแนะของการส่งเสรมิ ให้เด็กเกดิ น้อย เน่ืองจากไม่ได้รับการดูแลเป็นนโยบายเรื่องของการเกิดอย่างมีคุณภาพได้มากยิ่งข้ึน ซึง่ มันกส็ อดคลอ้ งกบั หลายสว่ นงานท่กี ำ� ลงั เสนอในเชิงนโยบายกน็ า่ จะเปน็ ประโยชน์ ตอ่ มาเปน็ เรอ่ื งของ สพด. อยา่ งทผี่ มเรยี นใหท้ ราบวา่ ชนบทไทยมคี วามเลอื่ มลำ�้ พอสมควร ขณะทส่ี งั คมชนบทปจั จบุ นั กเ็ รมิ่ กลายเปน็ สงั คมกงึ่ เมอื งมากขนึ้ กเ็ รม่ิ มคี วามแตกตา่ งอยู่ สดุ ทา้ ย เปน็ สงั คมเมอื งจรงิ ๆ เลย ทมี่ คี วามแตกตา่ งในแงข่ องวถิ ชี วี ติ ของพอ่ แม่ นกั วจิ ยั ชดุ นค้ี อ่ นขา้ งเหน็ ชดั วา่ สงั คมเมอื งกบั สงั คมกง่ึ เมอื ง พอ่ แมต่ อ้ งการ support เรอื่ งอะไร และเดก็ ตอ้ งการการดแู ล เร่ืองอะไร ในเชิงนโยบายอาจจะฝากว่าหลังจากนี้ งานวิจัยที่ทางอาจารย์ช่วยพวกเราตอบแล้ว ก็คลีป่ มปัญหาได้มากขึน้ คือกลุ่มเด็กดอ้ ยโอกาส และเด็กชาติพนั ธุท์ อ่ี ย่ใู นเขตเมืองซึ่งทำ� ใหเ้ รา เห็น intervention ได้มากขึ้น ผมไม่แน่ใจว่าการท�ำงานเกณฑ์มาตรฐาน สพด. ในเขตเมือง หรือกึ่งเมืองก็เป็นโจทย์ส�ำคัญอีกเร่ืองหนึ่ง แต่ว่าหากเห็นในพ้ืนที่ชนบทในพื้นที่ห่างไกล สพด. ค่อนข้างห่างจากครอบครัว ก็อาจจะเป็นประเด็นหน่ึงจะท�ำอย่างไรให้ท้องถ่ินเข้ามามีบทบาท ในการจดั การดว้ ย เพราะวา่ สว่ นใหญเ่ ดก็ มนี อ้ ย ทำ� อยา่ งไรใหโ้ รงเรยี นกระจายทว่ั ถงึ แลว้ กป็ ระเดน็ ผู้ปกครองท่ียากจนมีความสามารถท่ีจะสมทบสนับสนุนได้เท่าไหร่ ที่อาจารย์เสนอเม่ือครู่น้ี 96 ความอยดู่ ีมีสุขของครอบครวั ไทย �����������6.indd 96 147//2560 BE 17:09
300 บาท แล้วก็อาจจะเป็นบริบทของเมืองต่างๆ ซึ่งคิดว่าจะช่วยให้ข้อมูลประชากรมากขึ้น กอ็ าจจะเป็นโอกาสต่อไป ฝากอาจารย์และอยากจะเหน็ ในการไปชว่ ยกนั ตอ่ สุดท้ายผมอยากจะเสนอว่า ประเด็นที่อาจารย์เสนอทั้งหมดค่อนข้างเป็นประเด็น ส�ำคัญมาก แล้วก็ค่อนข้างเป็นเชิงบูรณาการ ผมพยายามนับดูเหมือนมีผู้เล่นในเชิงภาครัฐ ซง่ึ ไมน่ บั ภาคประชาสงั คมและชมุ ชน กจ็ ะมี 7-8 กระทรวงอยใู่ นนท้ี ต่ี อ้ งชว่ ยกนั และทงั้ กระทรวง สาธารณสุข กระทรวงแรงงานก็ตามท่ีต้องแก้ไขปัญหาเรื่องของแรงงาน เรื่องนโยบายสถาน ประกอบการ เรือ่ งของกระทรวงความมน่ั คงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทยทดี่ แู ล อบต. เลก็ ๆ ในปัจจุบันนี้ กระทรวงศึกษาธิการ แล้วก็เร่ืองของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวง อุตสาหกรรมด้วยค่อนข้างหลากหลาย ผมไม่แน่ใจว่าข้อเสนอแนะของอาจารย์จะมีส่วนให้ใคร เป็นเจ้าภาพ จะมีบทบาทในการบูรณาการนโยบายในแต่ละภาคส่วน ซึ่งผมเช่ือว่าทุกภาคส่วน มีนโยบายดีอยู่แล้ว แต่อาจจะยังไม่ได้เช่ือมร้อยเป็นรูปแบบในการตอบโจทย์ตรงนี้ท้ังหมด กข็ อ้ เสนอของอาจารยจ์ ะชว่ ยใหภ้ าครฐั มบี ทบาทในการเชอื่ มรอ้ ยนโยบายกจ็ ะทำ� ใหเ้ ราเหน็ ภาพ การท�ำงานที่ไมแ่ ยกชิน้ แล้วก็ตอบสนองการทำ� งานมากยงิ่ ขน้ึ ขอเสนอแนะแคน่ ้ี อ.ภเู บศร์ ขอบคณุ คณุ พิเชษฐ์ มากครับ ก็เป็นเรื่องห่วงหลายกระทรวงอยู่เหมือนกัน เพราะเรารูว้ ่า เวลาเจ้าภาพไม่ชัดคือจะไม่มีใครทำ� เลย เรยี นเชญิ อาจารยป์ ราโมทย์ อ.ปราโมทย8์ ภาพที่ 10 ผทู้ รงคณุ วฒุ ใิ หข้ ้อชแ้ี นะ ขอบคณุ ครบั จริงๆ ผมควรจะใช้โอกาสท่ีอยู่ร่วมสถาบนั ฯ ภาพโดย: กฤติยา สำ� อางกิจ เดียวกัน ทางทีมผู้วิจัยนอกจากท�ำวิจัยแล้ว ก็มีการน�ำเสนอเป็น ระยะๆ ในการเสวนาใต้ชายคาประชากรท่ีเรามีกันทุกวันพุธ ผมคิดว่าค�ำว่าครอบครัวไม่ทราบว่าในรายงานท่ีจะท�ำต่อไปทาง ทีมผูว้ จิ ยั มีการ identify หรอื ยงั แตเ่ ทา่ ทฟี่ ังมนั เหมอื นกับว่าเรา ยังให้ค�ำจ�ำกดั ความวา่ ครอบครวั คือคนที่แตง่ งานกนั แล้ว เฉพาะ คนทแ่ี ตง่ งาน ซงึ่ ตรงนี้ผมว่าส�ำคัญ เพราะวา่ นโยบายทีอ่ อกมาจะ ออกมาในเชงิ ทวี่ า่ จะทำ� อยา่ งไรใหค้ นแตง่ งานแลว้ มลี กู ให้ Work- Life Balance เปน็ อย่างไร การลาของแม่ ของพอ่ หรอื การจะ ทำ� อยา่ งไรใหค้ นทแี่ ตง่ งานแลว้ อยากมลี กู ดว้ ยการทมี่ สี ถานเลยี้ งเดก็ 8 ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.ปราโมทย์ ประสาทกุล สถาบันวิจัยประชากรและสงั คม มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล ภูเบศร์ สมุทรจักร I ธรี นชุ ก้อนแก้ว I รฎิ วัน อุเด็น 97 �����������6.indd 97 147//2560 BE 17:09
...คนท่อี ยู่เป็นโสดไม่ได้แตง่ งาน คนที่อยกู่ นิ โดยท่ีไม่ได้แตง่ งานกนั อันนจี้ ะเรยี กวา่ เปน็ ครอบครวั มั้ย... ...พลังในการสืบทอดพันธ์ขุ องคนมันไม่เกยี่ วกับ ทรัพยากร คนมที รัพยากรมาก หรอื ร�ำ่ รวย แต่กลบั มาพลังสบื ทอดพนั ธ์ลุ ดลง..... ผมคิดว่าส่ิงส�ำคัญในการที่จะให้นโยบายส่งเสริมครอบครัวที่แต่งงานแล้วมีการสร้างครอบครัว การก่อรูปของครอบครัว เราจะ identify ว่าคนที่อยู่คนเดียวเป็นครอบครัวมั้ย ซ่ึงมีเยอะข้ึน คนทอ่ี ยเู่ ปน็ โสด ไมไ่ ดแ้ ตง่ งาน คนทอี่ ยกู่ นิ โดยทไ่ี มไ่ ดแ้ ตง่ งานกนั อนั นจ้ี ะเรยี กวา่ เปน็ ครอบครวั มย้ั คนทแ่ี ตง่ งานแลว้ อยเู่ ปน็ เพศเดยี วกนั อนั นจี้ ะเปน็ ครอบครวั มยั้ ตรงนส้ี ำ� คญั คอื ทงั้ 3 รปู แบบของ ครอบครวั ซึง่ ผมคิดว่าอาจจะไม่ใช่ การศึกษาคร้งั น้ีไม่ได้ identify ไว้ มสี ่วนสำ� คญั ในการท่จี ะ ทำ� ให้คนมลี ูกไม่มลี ูก อยู่เป็นโสดไมแ่ ต่งงาน หรืออยดู่ ้วยกนั ไม่แตง่ งานกัน กม็ ีแนวโนม้ ทจ่ี ะไมม่ ี ลกู เชน่ คนเพศเดยี วกนั กไ็ มม่ ลี กู เปน็ อมุ้ บญุ ไป เราจะเหน็ วา่ นโยบายของหลายประเทศทพี่ ยายาม สง่ เสรมิ ใหค้ นมลี กู เพม่ิ มากขน้ึ เขากเ็ รมิ่ ตงั้ แตต่ น้ นำ�้ เลย การจบั คแู่ ตง่ งาน ทำ� อยา่ งไร อยา่ งสงิ คโปร์ มีนโยบายที่ให้คนมาเจอกัน ท่ีจริงแล้วเมืองไทยก็มีการจับคู่แต่งงาน ท่ีผมยกประเด็นมาพูดว่า หากจะใหง้ านวิจัยที่ดคี งจะจำ� กัดวา่ ถงึ แคค่ นมีครอบครัวแต่งงานไมไ่ ด้ กเ็ ขยี นไว้บา้ งเบ้อื งต้นวา่ เราก�ำลังพูดถึงอะไร ก็จะท�ำใหง้ านวิจยั เหน็ ขอบเขต แลว้ กม็ ขี อ้ ดที อ่ี าจารยภ์ เู บศรพ์ ดู ถงึ เรอื่ งการมลี กู กบั ทรพั ยากร ผมคดิ แยง้ ขน้ึ มาวา่ อาจารย์ บอกว่าคนมลี ูกนอ้ ยลง การปรบั ตัวระหว่างทรัพยากรซงึ่ ผมวา่ ไมจ่ ริง ผมเรยี กค�ำว่าพลังสบื ทอด พันธุ์ พลังในการสืบทอดพันธุ์ของคนมันไม่เกี่ยวกับทรัพยากร คนมีทรัพยากรมาก หรือร�่ำรวย แตก่ ลบั มาพลงั สบื ทอดพนั ธล์ุ ดลง เราจะเหน็ อยา่ งชดั เจนวา่ ไมเ่ กยี่ วกบั ทรพั ยากรวา่ ลดลงไมเ่ พยี งพอ แต่หมายถึงว่าบางครั้งประเทศท่ีเจริญมากข้ึน หรือคนไทยท่ีพัฒนามากข้ึน และเศรษฐกิจดีข้ึน เจรญิ มากข้ึน การเกดิ ก็ลดลง สงิ่ ส�ำคัญก็คือ ให้คำ� จำ� กัดความของคำ� ว่าครอบครวั และจะท�ำให้ งานนส้ี มบรู ณ์ขน้ึ 98 ความอยดู่ ีมสี ขุ ของครอบครวั ไทย �����������6.indd 98 147//2560 BE 17:09
อ.ภูเบศร์ ขอบพระคณุ อาจารยป์ ราโมทยเ์ ปน็ อยา่ งยง่ิ ครบั ในเรอื่ งของคำ� นยิ าม ชดุ วจิ ยั นไี้ ดใ้ ชเ้ วลา พอสมควรในการที่จะสกัดนิยามว่า ครอบครัวเป็นอย่างไร แล้วก็พาดพิงถึงราชบัณฑิตด้วยว่า นยิ ามครอบครัวตามราชบัณฑติ น่าจะไมใ่ ชแ่ ลว้ เพราะวา่ มคี รอบครัวท่แี ปลกใหม่ จริงๆ ซับซ้อน มาก อยา่ งทเี่ คยพบและเคยเลา่ ในหลายท่ี พนี่ อ้ ง 2 คน พค่ี นโตเปน็ เลสเบย้ี น นอ้ งชายคนสดุ ทอ้ ง เปน็ เกย์ พสี่ าวคนกลางรกั คนตา่ งเพศตามปกติ นอ้ งชายคนเลก็ เดทกบั ผชู้ ายอกี คนหนง่ึ แลว้ กใ็ ช้ สเปิร์มของน้องเขยท่ีเป็นเกย์ใส่เข้าไปในรังไข่ของพ่ีสาวคนโตครั้งหนึ่ง แล้วก็ใส่ไปในแฟนของ พ่ีสาวท่ีเป็นเลสเบี้ยนอีกคนหน่ึง ได้ลูกสาวนา่ รักมาสองคน ทุกคนช่วยกันเลี้ยงดู เป็นครอบครัว ...นยิ ามครอบครวั ตามราชบณั ฑติ น่าจะไม่ใชแ่ ล้ว เพราะว่ามคี รอบครวั ทแ่ี ปลกใหม่..... ท่ีน่ารักมาก ภาพยนตร์ล่าสุดเรื่อง Mother’s day ท�ำให้ผมเข้าใจว่ามีความหลากหลายด้าน ครอบครัวอีกเยอะมาก แต่ว่าอีกส่วนหน่ึงเร่ืองทรัพยากรกับการมีลูก ผมขออนุญาตเห็นต่าง ตอ้ งเรยี นทกุ ทา่ นทราบวา่ ทา่ นอาจารยผ์ ใู้ หญข่ องเราทสี่ ถาบนั ฯ ใจกวา้ งใหเ้ ราเหน็ ตา่ งได้ (หวั เราะ) ผมยังคิดว่าเป็น Auto-correction อยู่นั่นเอง เวลาเราบอกว่า ประเทศมีทรัพยากรเยอะ เราตีความทรัพยากรคงไม่ใช่เพียงแค่เงิน หรือทรัพยากรที่จับต้องได้ เวลาก็เป็นทรัพยากรทาง economics มนั เหลอื น้อยลงไปจรงิ ๆ อ.มนสกิ าร จะขอพดู เกี่ยวกบั นยิ ามค่ะ ในงานวิจยั สมดุลระหวา่ งชีวิตและการท�ำงาน เราไม่ได้นยิ าม ว่าครอบครัวจะต้องนิยามว่าอย่างไร แต่เสริมว่าตอนที่คัดคนเข้ามาสนทนากลุ่ม เราไม่ได้มีการ จ�ำกัดท่ีบอกว่าต้องเป็นคนแต่งงานแล้ว จริงๆ ไม่ได้จ�ำเป็นว่าจะต้องแต่งงานอย่างเป็นทางการ แตว่ า่ อย่รู ว่ มกนั เราก็นับ ในกลุ่มท่เี ข้าสมั ภาษณม์ ีหลากหลายมาก ตง้ั แตอ่ ยูค่ นเดยี ว อยูก่ ับแฟน หย่าแล้วก็อยู่กับคู่ซึ่งมีลูกติดมา มีแม่เล้ียงเด่ียว ที่อยู่เป็นครอบครัวขยาย ส่ิงหนึ่งท่ีได้เห็นจาก ภเู บศร์ สมุทรจักร I ธรี นุช กอ้ นแก้ว I รฎิ วัน อเุ ด็น 99 �����������6.indd 99 147//2560 BE 17:09
....ทุกคนไม่ไดย้ ึดติดกบั รปู แบบของครอบครวั ไมจ่ ำ�เป็น ครอบครัวจะตอ้ งเป็นพ่อแมล่ กู และเป็นครอบครวั ทั่วไปทอ่ี ยใู่ น รายงาน..... การสนทนากลุ่ม คือทุกคนไม่ได้ยึดติดกับรูปแบบของครอบครัว ไม่จ�ำเป็นครอบครัวจะต้อง เปน็ พอ่ แมล่ กู อนั นเ้ี ปน็ ครอบครวั ทวั่ ไปทอี่ ยใู่ นรายงานดว้ ย แตว่ า่ จะเนน้ เรอื่ งคณุ ภาพวา่ การเปน็ ครอบครวั กนั ได้จะเปน็ รูปแบบท่จี ับตอ้ งไม่ได้ จะเป็นรูปแบบความสัมพนั ธ์กนั มากกว่าคะ่ อ.สธุ รรม9 อาจารยส์ ุธรรม จากคณะสาธารณสุขศาสตร์ครับ ประเดน็ ทจ่ี ะพดู คยุ และขอ้ ทจี่ ะเพมิ่ เตมิ ในการวจิ ยั ผมกก็ ำ� ลงั ทำ� วจิ ยั ในเรอ่ื ง ของสถานการณ์ครอบครัวและการเลี้ยงดูเด็กของครอบครัวไทย ซง่ึ จะนำ� เสนอ 1 กรกฎาคมนี้ ประเดน็ แรกทจ่ี ะสนบั สนนุ แลว้ กอ็ ยาก จะถามอาจารย์ ไมถ่ ามทลี ะคน ประเดน็ แรกกค็ อื สนบั สนนุ อาจารย์ ในเรื่องที่บอกว่า ตอนนี้ในเร่ืองของปัญหาครอบครัวไทยลดลง จากงานวิจัยท่ีผมท�ำก็เป็นการส�ำรวจครอบครัวที่มีลูกอายุต้ังแต่ ภาพที่ 12: ผเู้ ข้ารว่ มประชมุ 1-5 ปี พบว่าขนาดครอบครัวที่พบคือ 3.5 คนก็จะใกล้เคียงกัน ใหข้ อ้ แนะน�ำ ประเดน็ ทพี่ บอกี อนั หนง่ึ เราถามถงึ วา่ แลว้ คณุ แมท่ มี่ ลี กู แรกเกดิ จนถงึ ภาพโดย: กฤตยิ า ส�ำอางกจิ 5 ปี ตอ้ งการมลี กู กี่คน ร้อยละ 60 ต้องการมลี ูก 2 คน แตจ่ ริงๆ ก็ไม่ถึง แล้วก็มีประมาณ ร้อยละ 25 ของผู้หญิงที่ต้องการมีลูก แค่คนเดียวน้ีข้อมูลปีน้ี มาในเร่ืองของข้อที่อาจารย์เสนอแนะตรงนี้ก็น่าสนใจ แต่ตรงน้ีต้อง แยกกันระหว่างท่ีเป็นข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ เอกชน เพราะว่าราชการไทยลาได้ 3 เดือน 9 รองศาสตราจารย์ ดร.สธุ รรม นันทมงคลชยั คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล 100 ความอยู่ดมี สี ุขของครอบครวั ไทย �����������6.indd 100 147//2560 BE 17:09
... ป่ยู า่ ตายายในเขตเมอื งอาจจะเป็นปูย่ า่ ตายาย ท่ีมคี ณุ ภาพเพราะวา่ จบ ปรญิ ญาตรี และจบปริญญาโทคอ่ นขา้ งมาก อาจจะไม่ค่อยหว่ งในเรอื่ งการสง่ เสรมิ พัฒนาการ... หากจะลาต่ออกี 3 เดือนกไ็ ด้ โดยไมร่ ับเงินเดือน แตข่ องเอกชนก็คอ่ นข้างจะมีปัญหาพอสมควร จากงานวจิ ยั ทพ่ี บ ประเดน็ ทคี่ งจะตอ้ งพดู คยุ กบั อาจารย์ ถามวา่ อาจารยเ์ สนอวา่ ใหม้ กี ารสง่ เสรมิ ศูนย์เด็กเล็กท่ีมีการส่งเสริมพัฒนาการอันนี้จะโยงกับงานวิจัยท่ีอาจารย์ท่านที่ 2 เสนอว่าจริงๆ แล้วศูนย์เด็กเล็กเขารับเด็กต้ังแต่ 3 ปีข้ึนไป ซึ่งเป็นสิ่งท่ีข้อกำ� หนดกฎเกณฑ์อยู่ว่าศูนย์เด็กเล็ก ท่ัวไปจะรับเดก็ 3 ปขี นึ้ ไปจนถึง 5 ปี เพอ่ื จะเตรียมเข้าโรงเรียน ในศูนย์เด็กเลก็ กจ็ ะมีครทู จี่ บ ปฐมวัย 1 คน หากอาจารย์จะใหข้ ้อเสนอแนะในเชงิ นโยบายจะตอ้ งแยกระหวา่ งว่าทก่ี รุงเทพฯ และปรมิ ณฑลมเี ดก็ ทอี่ ายไุ มถ่ งึ 3 ปเี ขา้ โรงเรยี น แตว่ า่ ตอ้ งบอกมจี ำ� นวนเทา่ ไหร่ จากงานของผม พบว่า เดก็ สว่ นใหญ่ รอ้ ยละ 80 จะเขา้ ศนู ย์เด็กเลก็ 3 ปขี ึน้ ไป หากเราบอกว่าต่�ำกวา่ 3 ขวบ ส่วนใหญ่จะอยู่กับที่บ้าน แล้วก็จากงานวิจัยที่ท�ำกับทางสถาบันฯ พบว่าเด็กจะอยู่กับแม่ใน 3 เดือนแรกเยอะ จากน้ันก็จะลด 6 เดือนถึง 1 ปี ก็จะยิ่งลดลง ตรงน้ีเป็นข้อมูลที่จะต้องให้ ข้อเสนอแนะแยกว่าต�่ำกว่า 3 ปี หากเป็นศูนย์เด็กเล็กจะท�ำอย่างไร จริงๆ แล้วการส่งเสริม พัฒนาการเด็กก็คอื การเล่น การเรียน การเล่นอยา่ งไรจะส่งเสริมการเรียน ตรงนี้จะต้องมวี ิธีการ ให้ข้อเสนอแนะ แล้วจากสถิติของบ้านเรา พบว่าเด็กปฐมวัยประมาณ ร้อยละ 20 บวกลบ มีพัฒนาการล่าช้ากว่าวัย อย่างท่ีอาจารย์พูดถึงงานวิจัยท้ังหมด ท่ีผมได้ค้นพบมา 2-3 ปี จะ confirm วา่ เดก็ ทอี่ ยกู่ บั ปยู่ า่ ตายายจะมพี ฒั นาการทลี่ า่ ชา้ กวา่ เดก็ ทพ่ี อ่ แมเ่ ลย้ี งประมาณ 2.2 เทา่ กย็ งั confirm งานวจิ ยั ท่ีผมทำ� 2 เร่อื ง แลว้ กง็ านท่ี 3 กเ็ หน็ ด้วยกับอาจารยว์ ่า intervention ทจี่ ะใสใ่ ห้กับเด็กทีอ่ ายตุ �ำ่ กว่า 3 ปีที่เขาอยทู่ ีบ่ ้าน หากอย่ใู นชนบทปยู่ ่า ตายายเขาเปน็ คนเลย้ี ง จะท�ำอยา่ งไร ใส่ intervention อย่างไรให้กบั ปู่ย่า ตายาย ในความแตกตา่ งจากงานทพ่ี บก็คือ ปยู่ า่ ตายายในเขตเมอื งอาจจะเปน็ ปยู่ า่ ตายายทมี่ คี ณุ ภาพเพราะวา่ จบปรญิ ญาตรี และจบปรญิ ญา โทคอ่ นข้างมากอาจจะไมค่ อ่ ยหว่ งในเร่อื งการส่งเสรมิ พฒั นาการ แต่ท่หี ่วงกค็ อื เขตชนบท อนั นี้ ชดั เจนมาก งานวจิ ยั หลายชนิ้ confirm หากจะใหข้ อ้ เสนอแนะเพมิ่ เตมิ ในกลมุ่ นจ้ี ะนา่ สนใจมาก แลว้ ก็จะส่งเสรมิ พัฒนาการเดก็ ได้เปน็ อย่างดี เพราะวา่ พัฒนาการเด็กบา้ นเรา ตอนนก้ี ระทรวง ภเู บศร์ สมทุ รจกั ร I ธีรนชุ กอ้ นแกว้ I รฎิ วัน อุเด็น 101 �����������6.indd 101 147//2560 BE 17:09
สาธารณสุขบ้านเรามีเคร่ืองมือ screening สมัยก่อนอนามัย 55 ตอนน้ีใช้ในของการเฝ้าระวัง พฒั นาการซง่ึ พบวา่ หากสงสยั วา่ จะลา่ ชา้ ก็ screen อนั นผ้ี มคดิ วา่ ประเดน็ เหลา่ นก้ี จ็ ะมกี ารทำ� อยู่ แตจ่ ะทำ� ลกั ษณะของการตงั้ รบั หากนโยบายจะสง่ เสรมิ ครอบครวั ทป่ี ยู่ า่ ตายายเลย้ี งลกู กน็ า่ สนใจ จะท�ำอย่างไร อีกประเด็นซึ่งประเด็นในเรื่องของสุดท้ายท่ีอยากจะเรียนถามคือว่าในเรื่องของ ครอบครัวที่มีการใช้เทคโนโลยีเยอะๆ ในปัจจุบันเราจะส่งเสริมอย่างไรท่ีไม่ใช่เฉพาะผู้สูงอายุ ในชนบท ในครอบครัวที่มีเด็ก ปู่ย่า ตายายพ่อแม่เขาโยนไฮแทป หรือโยนอะไรให้กับเด็กๆ เราจะท�ำอย่างไรให้ใช้เทคโนโลยีตรงนี้เหมาะสมทั้งในเมือง หรือชนบท หรือกึ่งเมืองก็ฝากไว้ ขอบคุณครบั อ.จงจิตต์ ขอบพระคุณอาจารย์สุธรรมมากค่ะ ในตอนท�ำงานวิจัยได้อ่านงานของอาจารย์สุธรรม อยพู่ อสมควรจะขอ confirm กบั อาจารยว์ า่ เรอ่ื งเดก็ ทอ่ี ายตุ ำ่� กวา่ 3 ปี สว่ นมากจะอยกู่ บั พอ่ แม่ จรงิ ๆ กอ่ นทเี่ ราสนใจศกึ ษากลมุ่ เดก็ ทอ่ี ายตุ ำ�่ กวา่ 3 ปี เรากล็ งั เลเหมอื นกนั วา่ จะมพี อ่ แมก่ คี่ นพา ลูกไปสถานเล้ียงเดก็ จรงิ ๆ แลว้ ท�ำไมถงึ สนใจเด็กท่ตี �่ำกวา่ 3 ปี อนั นเี้ ป็นโจทย์จากทาง สกว. ว่ามคี วามสนใจท่ีจะสร้างสถานเลย้ี งเดก็ เพอ่ื ลดภาระของผ้ดู แู ลบุตร ในกลมุ่ ของเดก็ เล็กมีสถาน เลี้ยงเด็กอยู่เป็นจ�ำนวนน้อย แล้วก็มีพ่อแม่ผู้ปกครองไปใช้บริการน้อยพ่อแม่จะรู้สึกม่ันใจ ฝาก ลูกกับสถานเล้ยี งเด็กเม่ือลกู สามารถทีจ่ ะดแู ลตัวเองได้ ซง่ึ มักเป็นอายุ 3 ปขี ึน้ ไป อันนเี้ หน็ ดว้ ย อย่างมาก ขอบพระคุณอาจารย์ที่ให้ความคิดเห็นเรื่องการใส่ intervention ได้อ่านงานวิจัย ของอาจารย์ว่า ปยู่ า่ ตายายมรี ปู แบบการเลีย้ งดู พัฒนาการของเด็กมคี วามเสีย่ งทีจ่ ะลา่ ชา้ เป็น ความท้าทายของทีมวิจัยที่จะไปคิดโจทย์ต่อว่า จะท�ำอย่างไรท่ีจะใส่ intervention ไปยังปู่ย่า ตายายซึ่งเป็นกลุ่มคน กลุ่มประชากรท่ีมีความอ่อนแอในเชิงภาวะสุขภาพด้วยและการเรียนรู้ เทคโนโลยดี ้วย มีความคดิ อยู่อย่างหน่ึงว่าจะต้องมกี ารท�ำงานร่วมกนั ระหวา่ งสถานเลย้ี งเดก็ กบั ปู่ย่า ตายาย ว่าได้มีการเรียนรู้ระหว่างกันและกัน ปู่ย่า ตายายได้มาเรียนรู้ในสถานเลี้ยงเด็ก ศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เพอื่ ใหก้ ลบั ไปทบี่ า้ นแลว้ สามารถดแู ลเดก็ สง่ เสรมิ พฒั นาเดก็ การไดอ้ ยา่ งตอ่ เนอื่ ง สมวยั เรอื่ งการสง่ เสรมิ การใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสมกเ็ ปน็ โจทยท์ ยี่ ากจรงิ ๆ ตวั เองกพ็ ยายาม ควบคมุ ไมใ่ ชเ้ ทคโนโลยกี บั ลกู ไมใ่ หด้ ทู วี ี ไมใ่ หใ้ ชแ้ ทบ็ เลต็ ไมใ่ หใ้ ชโ้ ทรศพั ทม์ อื ถอื แตก่ ม็ บี างอยา่ ง ท่ีช่วยได้มาก เช่น ท�ำให้ลูกกินยาได้ คือเขาอยากจะดูเด็กคนอ่ืนกินยา เขาก็จะกินยาตามน้อง ในแท็บเล็ต อันนี้เป็นวิธีการหนึ่งท่ีใช้ แต่ว่าก็ยังเห็นในสังคมท่ัวไปเวลาออกไปกินข้าวนอกบ้าน วิธีการให้เด็กนิ่งได้อยู่กับที่ คือส่งแท็บเล็ตให้เด็กเล่น แล้วเขาก็จะนั่งอยู่ท่ีโต๊ะได้นิ่งมาก อันนี้ เป็นวิธีการใช้เทคโนโลยีได้ผลจริงๆ แต่ก็น่าห่วงอย่างมาก ก็อาจจะเป็นอีกข้อเสนอแนะอีกอัน หน่งึ ทจี่ ะพฒั นาว่าใช้อย่างไร ควบคุมอยา่ งไร กข็ อบพระคณุ อาจารย์มากคะ่ 102 ความอยดู่ มี สี ุขของครอบครัวไทย �����������6.indd 102 147//2560 BE 17:09
อ.มนสิการ อย่างจะเสรมิ เรอื่ งของบทบาทป่ยู ่า ตายาย ยังยนื ยันจากที่สมั ภาษณ์ และสนทนากลมุ่ มา บทบาทของปู่ย่า ตายายมีความส�ำคัญมาก ลักษณะของประเทศไทยการดูแลเป็นลักษณะ informal มากกว่า institutional คิดว่าอยา่ งไรก็ตามการส่งเสริมบทบาทปู่ยา่ ตายาย คอื โจทย์ ที่เราจะต้องคิดว่าจะสามารถพัฒนาต่อไปได้อย่างไร แต่เร่ืองของสถานเล้ียงดูเด็กอันนี้ก็มีความ ส�ำคญั เช่นกนั คอื ผู้ปกครองทมี่ ลี ูกแลว้ จากที่มีการสมั ภาษณม์ า คอื เขามองวา่ เปน็ ตัวเสรมิ ไม่ใช่ ตวั สำ� คญั การเลย้ี งลกู แตว่ า่ จะเปน็ ตวั เสรมิ กบั ปยู่ า่ ตายาย อยา่ งทเ่ี รยี นไปวา่ ใหป้ ยู่ า่ ตายายเลยี้ ง เขาก็จะมีสไตล์ของเขาก็คือให้ลูกดูทีวีอะไรไป เรื่องการพัฒนาก็จะขาดไป ส่วนท่ีจะมาเสริมได้ คอื ศนู ยร์ ับเลย้ี งเดก็ ทีจ่ ะมาชว่ ยเสรมิ กับปู่ย่า ตายายคะ่ อ.ปยิ วฒั น์ ขออนญุ าตแลกเปลย่ี น ทอ่ี าจารยก์ รณุ าใหป้ ระเดน็ เกย่ี วกบั พน้ื ทช่ี นบท เราเจอสงิ่ ทนี่ า่ จะ เปน็ ความแตกตา่ งชัดๆ ทที่ �ำใหพ้ ัฒนาของเด็กไม่สมวัย อนั แรกก็คอื วิถชี ีวติ เพราะว่าผูส้ ูงอายุใน ชนบทจะมีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ในขณะท่ีเด็กเล็กจะมีวิถีชีวิตแบบธรรมชาติของเขา ในชนบท ผู้สูงอายุนึกอะไรไม่ออก ก็จับเด็กลงเปล แล้วก็แกว่งเปลให้เด็กนอน การมีสถานรับเลี้ยงท่ีมี คุณภาพ นา่ จะเป็นประเด็นทจี่ ะมาชว่ ยลดภาระ อีกอนั หนงึ่ ท่ีเจอแล้วมผี ลมากๆ คอื เรื่องอาหาร เพราะผู้สูงอายุในชนบทท่านก็กินน้�ำพริก ผัก ปลา แต่ว่าเด็กๆ ต้องการอาหารท่ีมีคุณค่า สารอาหารมากกว่า ซึ่งเมื่อขาดไป ไม่พอ หรือไม่เหมาะสม พัฒนาการอ่ืนก็อาจจะเป็นปัญหา น่ีก็เป็นจุดท่ีเจอแล้วคิดว่าศูนย์พัฒนาและศูนย์รับเลี้ยงเด็กต้องช่วยจัดการทุกอย่างให้กับปู่ย่า ตายายทัง้ ในแงก่ ารใหค้ วามรู้และเชอื่ มโยงกนั ท้ังหมดครับ อ.ภเู บศร์ มีท่านใดอีกไหมครับ อ.พชั ราวลัย เวลาเหลอื น้อยขอส้นั ๆ คะ่ ทั้ง 3 ทา่ นมงี านวจิ ยั ท่คี มชัดเปน็ ทนี่ ่าประทับใจ แตอ่ ยากจะ ใหค้ วามคดิ เหน็ ในสว่ นทที่ า่ นอน่ื ๆ ไดพ้ ดู ถงึ บทบาทของปยู่ า่ ตายายและสถานเลย้ี งเดก็ เปน็ สง่ิ ที่ คงคดิ วา่ มีความเห็นตรงกัน สง่ิ ทอี่ ยากจะเสริมทา่ นทั้งหลายก็คอื ว่า อาจจะตรงกับท่านอาจารย์ ภเู บศรท์ อ่ี าจารยจ์ ะตอ้ งไปสงั เคราะหต์ อ่ ไปคอื ในเรอ่ื งของ Work-Life Balance ทคี่ นไทยยงั ขาด สงิ่ ทชี่ ดุ วจิ ยั นมี้ องในแงข่ องการทำ� งานกบั การสรา้ งครอบครวั เปน็ หลกั แตว่ า่ ในการทเ่ี ปน็ Work- Life Balance ที่หลายๆ คนเขามองจริงๆ จะเป็นอีกมุมมองหน่ึง ซ่ึงเราก็มีตัวกรอบกฎหมาย ภูเบศร์ สมทุ รจกั ร I ธีรนชุ กอ้ นแก้ว I ริฎวัน อุเด็น 103 �����������6.indd 103 147//2560 BE 17:09
ซึ่งมีการลาของทั้งบิดาและมารดา ต่อไปหากมีการต่อยอดตรงนี้ได้ น่าจะพัฒนาต่อไปให้ดี อาจจะเป็นนัยยะสำ� หรบั สกว. ด้วย วา่ โครงการ Work-Life Balance น่าจะเป็นชุดโครงการ ใหญ่ต่อไปจะเป็นโครงการพัฒนาไป เพราะว่าในประเทศท่ีเป็นสังคมผู้สูงอายุก่อนเราแล้ว เขามองอยา่ งเราในตอนเริ่มต้น แต่ตอนนเ้ี ขามองในแง่ทีเ่ รยี กว่า Quality-Work Life คณุ ภาพ ชวี ติ ของการทำ� งาน ซง่ึ ตนเองตคี วามวา่ เปน็ คณุ ภาพชวี ติ ของคนทำ� งาน คณุ ภาพชวี ติ ของครอบครวั ชวี ติ จะทำ� ใหเ้ กดิ สมดลุ อยา่ งไรบา้ ง แลว้ สง่ิ ทอ่ี าจารยม์ นสกิ ารมองในแงข่ องการลาคลอด แตจ่ รงิ ๆ หากจะเป็นไปได้ต้องมองในแง่ของการลาก่อนคลอด หลังคลอด ลาป่วย แล้วก็การลาพักร้อน ซึ่งหากไปดูกลมุ่ ประเทศนอรด์ กิ แถวสวีเดน เขาใหค้ วามสำ� คัญกบั การลาพกั รอ้ นมาก เป็นสทิ ธิ ของทุกคน abuse ไม่ได้ ถือว่าเป็นความน่าอับอายมากๆ แต่เรา abuse ตัวเองคือไม่สนใจ การลาพกั รอ้ นเลย เพราะวา่ จรงิ ๆ ปญั หาตรงนห้ี ากไมท่ ำ� มนั เปน็ opportunity cost ตอ่ ทงั้ ระดบั ปัจเจก ระดับสังคม ชุมชน แล้วก็ระดับ macro ด้วย เป็น opportunity cost อย่างมาก ท่ีเราจะเสียบุคลากรจากตลาดแรงงานก่อนกาลอันควร มีความเครียดกับความสุข ซ่ึงจริงๆ ผลการวจิ ยั ของอาจารยก์ พ็ บวา่ คนเลอื กทจี่ ะเลอื กความเครยี ดมากกวา่ เพราะวา่ เงนิ คอื ความสขุ แต่การทไ่ี ด้มาคอื ความเครียดอนั นค้ี ือสงิ่ ทส่ี ำ� คญั มาก พอมาถึงอาจารย์จงจิตต์ หากไปดูที่สวีเดนศูนย์เลี้ยงดูเด็กเหมือนเป็นเซเว่นอีเลเว่นเลย มีอยู่เยอะมาก เผอิญไม่ได้อ่านมา เป็นไปได้ที่อาจารย์อาจจะไปดูตัวท่ีเขาศึกษามาตรฐานชาติ อยู่แล้ว เอามาเป็นตัวต้ังตอนแรกว่า ตอนนี้ศูนย์ต่างๆ ที่มีการพัฒนาตามเกณฑ์มาตรฐานชาติ มี minimum standard อย่างไร สิ่งที่เป็นความคาดหวังท่ีอาจารย์ไปสัมภาษณ์มามีความ แตกตา่ งกันอย่างไร หากตรงน้มี าต่อยอดได้ หรือว่าเติมเตม็ ได้ภาพจะคมมากข้ึน ส่วนของอาจารย์ปิยวัฒน์ อันนี้ชอบมากโดยเฉพาะการย้ายถิ่นกลับ ซ่ึงตรงนี้ส่ิงที่ คุณจริ พนั ธไ์ ด้ใหค้ วามส�ำคัญ และคณุ โฆษติ กไ็ ดใ้ ห้ความส�ำคัญไวก้ ็คอื ทำ� อย่างไร มีความเป็นไป ได้ไหมท่ีจะปรับในเร่ืองของกฎระเบียบต่างๆ กฎระเบียบของการท่ีไม่ต้องย้ายถ่ิน เอางานมา ในพ้นื ทเี่ ลย พอเป็นไปได้ ไหมเพื่อใหช้ วี ิตอยูไ่ ปได้เลย ดูแลตง้ั แตแ่ รกเกิดไปตลอดเลย 0-1 ถงึ 2 หรือถึง 3 ปีไปเร่อื ยๆ ตรงน้อี าจจะการเป็นคดิ ว่าท�ำใหบ้ ทบาทของพอ่ แม่ ปูย่ ่า ตายายชัดเจน มากขน้ึ แตจ่ รงิ ๆ แลว้ คณุ ภาพของผดู้ แู ลเปน็ เรอื่ งสำ� คญั ทำ� อยา่ งไรให้ การดแู ลเดก็ มปี ระสทิ ธภิ าพ อันนี้เรายังขาด ตอนน้เี รามี efficiency ในการที่จะออมเงนิ แต่เรายงั ไม่มี efficiency ในการที่ จะดูแลเด็กเลย อันนี้ concern มาก เพราะตัวเองก�ำลังจะเปน็ คุณยา่ ในอีกไมก่ ี่เดอื น ลืมไปแล้ว ว่าอุ้มลูกอย่างไร อุ้มหลานไม่รู้จะอุ้มอย่างไร ก็เลยให้ความส�ำคัญกับคุณปู่ย่า ตายายมาก ขอบคณุ มากค่ะ 104 ความอย่ดู มี สี ขุ ของครอบครวั ไทย 147//2560 BE 17:09 �����������6.indd 104
อ.ปทั มาวดี ก่อนอื่นต้องขอบคุณทีมวิจัยมากๆ และก็ชื่นชมกับผลงานที่น�ำเสนอวันน้ีและท่ีเขียน ในรายงาน มีข้อท่ีอยากจะเสนอแนะเพิ่มเติมเล็กน้อย จะได้ปรับปรุงให้งานให้สมบูรณ์ข้ึน งานชนิ้ แรกของอาจารยม์ นสกิ ารเวลาอาจารยพ์ ดู ถงึ สมดลุ อาจารยเ์ กบ็ ขอ้ มลู มาจากการสนทนา กลุ่ม ซ่ึงดีแล้วอาจารย์ก็แยกระหว่างครอบครัวกับโสด แต่เวลาอาจารย์น�ำเสนอ อาจารย์ เอา 2 กลมุ่ นม้ี ารวมกนั อาจารยน์ า่ จะแยกวเิ คราะห์ ตอนสรปุ เหน็ ภาพ แตต่ อนนำ� เสนอ เนอ่ื งจาก อาจารย์ไม่ได้แยกความเห็นกลุ่มท่ีเป็นครอบครัวกับโสด ก็เลยปนกัน แล้วก็จะได้ภาพท่ีเป็น gender issue มากกว่าจะได้ภาพเปรียบเทยี บระหวา่ งกลมุ่ ที่โสดกับกลมุ่ ทม่ี คี รอบครวั อยากให้ อาจารย์ focus แยกสองกล่มุ นอี้ อกมากอ่ น และค่อยไปดูว่าหญงิ ชาย และในส่วนของ unit of analysis อยากให้เป็นระดับครอบครัว มีอีกประเด็น คือเร่ืองตัวเลขที่มาของข้อเสนอแนะ เช่น การขยายเวลาการลาคลอด อยากใหอ้ ธบิ ายทมี่ าของตวั เลขทนี่ ำ� เสนอ ในส่วนของอาจารย์ ภเู บศร์ กข็ อใหน้ ำ� ขอ้ คน้ พบ และขอ้ สรปุ จากงานทง้ั 3 ชน้ิ รวมทง้ั ขอ้ เสนอแนะในวนั นสี้ งั เคราะห์ เนอ้ื หาต่อไป อ.อภชิ าต1ิ 0 ก่อนอ่ืน ผมขอแสดงความช่ืนชมกับผลงานวิจัย และ การน�ำเสนอทั้งหมดนค้ี รบั เปน็ การ manage งานวิจัยทง้ั สามชิ้น ส�ำเร็จออกมาได้เป็นอย่างดี และน�ำไปใช้ประโยชน์แก้ไขปัญหา การเปล่ยี นแปลงโครงสร้างประชากรไดเ้ ป็นอย่างดี แตท่ ผี่ มอยากจะพูดคือ กับทา่ นทปี่ รกึ ษาจิรพันธ์ และ สกว. มากกวา่ ครบั เพราะจะตอ้ งทำ� เรอื่ งนโยบายประชากรของประเทศ ควบคไู่ ปกับยทุ ธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซ่ึงจะต้องมกี ารแกไ้ ขปรบั ปรุง ภาพที่ 13 ผู้ทรงคณุ วุฒิ นโยบายประชากรอยเู่ ปน็ ระยะๆ ตอ่ ไป ทผ่ี มจะพดู คอื นโยบายทาง ให้ขอ้ แนะนำ� ประชากร Pro-natal ของเราชดั หรอื ยงั ทเ่ี ปน็ มามคี วามคลมุ เครอื อยนู่ ะครบั พดู ถงึ นโยบายการสนบั สนนุ การเกดิ แตก่ พ็ ดู ถงึ การเกดิ ภาพโดย: กฤติยา สำ� อางกจิ คุณภาพไปด้วย นโยบายการเกิดเชิงปริมาณมีความคลุมเครือ เจา้ ภาพอยทู่ ก่ี ระทรวงสาธารณสขุ ซง่ึ ทจ่ี รงิ สามารถรองรบั การเกดิ ไดป้ ลี ะกวา่ ลา้ นคนมานานแลว้ การเกิดปีละ 6-7 แสนคนไม่ใช่ปัญหา จริงแล้วเจ้าภาพ Pro-natal Policy ควรอย่กู บั กระทรวง ตา่ งๆ อกี หลายกระทรวง และจำ� เป็นตอ้ งทำ� จริงๆ อย่างแขง็ ขัน เราตอ้ งโต้กระแสการเกิดนอ้ ย 10 ศาสตราจารยเ์ กยี รติคณุ ดร.อภชิ าติ จำ� รัสฤทธริ งค์ สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลยั มหิดล ภูเบศร์ สมทุ รจักร I ธีรนุช ก้อนแก้ว I รฎิ วนั อเุ ดน็ 105 �����������6.indd 105 147//2560 BE 17:09
นโยบายตอ้ งโตก้ ระแส ถา้ ทำ� ตามกระแสกไ็ มใ่ ชน่ โยบาย ไมต่ อ้ งมนี โยบาย แตท่ จี่ ะมกี เ็ พอ่ื โตก้ ระแส การเกิดน้อยท่ีเราได้เห็นภาพสะท้อนจากการวิจัยท้ัง 3 เร่ืองน้ีเอง ถ้าจะมีนโยบายก็ต้องโต้ กบั กระแสน้ี และตอ้ งลงทนุ และมีเจ้าภาพหลายๆ ฝา่ ย จากงานวจิ ยั ท่สี ะท้อนให้เหน็ นค้ี รับ 106 ความอยู่ดีมีสขุ ของครอบครัวไทย 147//2560 BE 17:09 �����������6.indd 106
บรรณานกุ รม กฤตยา อาชวนิชกลุ, อนุชาติ พวงสำ� ลี, สรุ ีย์พร พนั พง่ึ , กาญจนา ต้งั ชลทพิ ย์ และยพุ นิ วรสริ ิอมร. (2536). “คณุ ภาพชวี ติ คนเมอื งหลวงและปญั หาสงิ่ แวดลอ้ มในกรงุ เทพฯ” ใน กรงุ เทพฯ กรณศี กึ ษา 211: ทศิ ทาง และเครือข่ายงานวิจัย. อนุชาติ พวงส�ำลี, ยุพิน วรสริอิมร, กาญจนา ต้ังชลทิพย์ และกฤตยา อาชวนิชกลุ. (บรรณธิการ). เอกสารวิชาการหมายเลข 170. สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวทิ ยาลัยมหิดล. กาญจนา เทยี นลาย และวรรณี หุตะแพทย์. (2558). สถานการณก์ ารเลีย้ งดูลูกหลานในครวั เรอื นข้ามรนุ่ ของ ประเทศไทย. เอกสารน�ำเสนอในที่ประชุมวิชาการ ความหลากหลายทางประชากรและสังคม ในประเทศไทย ณ ปี 2558. นครปฐม: สถาบันวจิ ยั ประชากรและสังคม มหาวทิ ยาลยั มหิดล. คณะผลติ กรรมการเกษตร มหาวทิ ยาลยั แมโ่ จ.้ (2557). สรปุ แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาตฉิ บบั ตา่ งๆ (ออนไลน)์ . แหลง่ ทมี่ า: www.ap.mju.ac.th/ap101/lessons/09/C92.docx. สบื คน้ เมอ่ื 5 พฤศจกิ ายน 2558. ฉัตรทิพย์ นาถสภุ า. (2557). การเป็นสมยั ใหมก่ ับแนวคดิ ชมุ ชน. กรุงเทพฯ: สร้างสรรค์ ชาย โพธิสิตา. (2552). เกิดอะไรขึ้นกับครอบครัว? ในชาย โพธิสิตา และสุชาดา ทวีสิทธ์ิ (บรรณาธิการ). ประชากรและสงั คม 2552: ครอบครวั ไทยในสถานการณเ์ ปลย่ี นผา่ นทางสงั คมและประชากร. นครปฐม: สถาบนั วจิ ยั ประชากรและสังคม มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล. นติ ยา คชภกั ด,ี ศริ กิ ลุ อศิ รานรุ กั ษ,์ รจุ า ภไู่ พบลู ย,์ จติ ตนิ นั ท์ เดชะคปุ ต,์ อธวิ ฒั น์ เปลง่ สอาด, ผจงจติ ต์ พทิ กั ษ์ ภากร, และคณะ.(2545). โครงการศึกษาเพ่ือพัฒนาตัวช้ีวัด “ครอบครัวอยู่ดีมีสุข”. นครปฐม: สถาบนั วจิ ัยแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเดก็ และครอบครัว มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล. นติ ยา คชภกั ด,ี สายฤดี วรกจิ โภคาทร, ประภาพรรณ จเู จรญิ . (2546). การพฒั นาดชั นคี วามอยดู่ มี สี ขุ ดา้ นชวี ติ ครอบครวั ส�ำหรบั ประเทศไทย. นครปฐม: สถาบนั วิจยั แห่งชาตเิ พอื่ การพัฒนาเด็กและครอบครวั . นติ ยา คชภักดี และคณะ. (2549). รายงานการวิจัยโครงการพัฒนาระบบจัดเก็บกล่มุ ตัวช้วี ัดครอบครวั อยดู่ ี มสี ขุ สำ� หรบั ประเทศไทย. นครปฐม: สถาบนั วจิ ยั แหง่ ชาตเิ พอื่ การพฒั นาเดก็ และครอบครวั มหาวทิ ยาลยั มหิดล. ปราโมทย์ ประสาทกุล. (2552). ประเทศไทยมพี ลเมอื งเท่าไหรจ่ งึ จะด.ี กรุงเทพมหานคร: แปลนพรน้ิ ท์ตงิ้ . ภเู บศร์ สมุทรจกั ร I ธรี นชุ กอ้ นแกว้ I รฎิ วัน อุเด็น 107 �����������6.indd 107 147//2560 BE 17:09
ปราโมทย์ ประสาทกุล. (2557). เกดิ อย่างไร ประเทศไทยจงึ มั่นคง. การประชุมวิชาการประชากรและสงั คม ครงั้ ที่ 10, โรงแรมเอเซยี ราชเทว,ี กรงุ เทพฯ วนั ท่ี 1 กรกฎาคม 2557. สบื คนื เมอ่ื วนั ท่ี 9 ตลุ าคม 2559 จาก http://www.ipsr.mahidol.ac.th/ ipsr/AnnualConference/ConferenceX/Download/ PPT/00-Pramote-Introduction_1July2014.pdf พิมลพรรณ อศิ รภักด.ี (2557). ทัศนคตขิ องคนรนุ่ ใหม่เกยี่ วกบั การแตง่ งานและการมีบตุ ร. ในยพุ ิน วรสริ อิ มร จงจติ ต์ ฤทธริ งค,์ ศทุ ธดิ า ชวนวนั , และพจนา หนั จางสทิ ธ.์ิ (บรรณาธกิ าร). ประชากรและสงั คม 2557: การเกดิ กบั ความมนั่ คงในประชากรและสงั คม. นครปฐม: สถาบนั วจิ ยั ประชากรและสงั คม มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล. ภูเบศร์ สมุทรจักร และนิพนธ์ ดาราวุฒิมาประกรณ์. (2557). ไลฟสไตล์แผนการด�ำเนินชีวิตกับแนวคิด การมีบุตรของคนเจเนอเรชันวาย. ในยพุ ิน วรสริ อิ มร, จงจติ ต์ ฤทธิรงค,์ ศุทธดิ า ชวนวนั , และ พจนา หนั จางสทิ ธ.์ิ (บรรณาธกิ าร). ประชากรและสงั คม 2557: การเกดิ กบั ความมนั่ คงในประชากรและสงั คม. นครปฐม: สถาบนั วจิ ยั ประชากรและสงั คม มหาวทิ ยาลยั มหิดล. ภูเบศร์ สมุทรจักร และมนสิการ กาญจนะจิตรา. (2557). พฤติกรรมบริโภคนิยมในวัยรุ่นไทยและปัจจัย ทเ่ี ปน็ สาเหต.ุ วารสารธรรมศาสตร์, 33(2), 46-69. มาโนชญ์ มูลทรัพย์. (2557). การเปล่ียนแปลงด้านการศึกษาของสตรีไทยในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (พ.ศ. 2411–2453). วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชา ประวตั ศิ าสตร์ คณะสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ศรนี ครินทรวโิ รฒ, กรงุ เทพฯ. วนิ ดั ดา ปยิ ะศลิ ป.์ (2546). ครอบครวั กบั วยั รนุ่ . กรงุ เทพมหานคร: สำ� นกั งานกจิ การสตรแี ละสถาบนั ครอบครวั . วพิ รรณ ประจวบเหมาะ. (2557). โครงการตดิ ตามและประเมนิ ผลการดำ� เนนิ งานตามแผนผูส้ ูงอายุแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี 2 (พ.ศ. 2545–2564) ระยะทสี่ อง (พ.ศ. 2550–2554). เอกสารน�ำเสนอในทป่ี ระชุมวชิ าการ ประจ�ำปี 2557 ส�ำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ. กรงุ เทพมหานคร. สำ� นกั งานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาต.ิ (2546). การพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมของ ประเทศ: 2 ปแี หง่ การเปลี่ยนแปลง. กรงุ เทพมหาคร: สำ� นักนายกรัฐมนตรี. _________. (2558). สรุปสาระสำ� คัญ รายงานผลการพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมของประเทศ 3 ปี ของแผน พฒั นา ฉบับที่ 11. กรุงเทพมหานคร: สำ� นักนายกรฐั มนตรี. _________. (2555). (2555). แผนประชากรในชว่ งแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี 11 (พ.ศ. 2555–2559). กรุงเทพมหานคร: สำ� นกั นายกรฐั มนตรี. _________. (2558). (2558). เอกสารประกอบการประชุมประจ�ำปี 2558 ของ คสช. ทิศทางแผนพฒั นา เศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ. 2560–2564). กรงุ เทพมหานคร: สำ� นักนายกรฐั มนตรี. ________. (2540). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 พ.ศ. 2540–2544 (ออนไลน์). แหลง่ ทม่ี า: http://www.nesdb.go.th/Default.aspx?tabid=90. สบื คน้ เมอื่ 11 พฤศจกิ ายน 2558. ________. (2545). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบบั ที่ 9 พ.ศ. 2545–2549 (ออนไลน)์ . แหลง่ ทีม่ า: http://www.nesdb.go.th/Default.aspx?tabid=91. สบื ค้นเมอื่ 11 พฤศจกิ ายน 2558. 108 ความอยดู่ มี สี ขุ ของครอบครัวไทย �����������6.indd 108 147//2560 BE 17:09
__________. (2550). แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ที่ 10 พ.ศ. 2550–2554 (ออนไลน์). แหล่งท่ีมา: http://www.nesdb.go.th/Default.aspx?tabid=139. สืบค้นเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2558. __________. (2555). แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบบั ที่ 11 พ.ศ. 2555–2559 (ออนไลน)์ . แหล่งท่ีมา: http://www.nesdb.go.th/Default.aspx?tabid=395. สืบค้นเม่ือ 11 พฤศจิกายน 2558. ส�ำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.). ผลวิจัยชี้พ่อแม่ยอมเป็นหนี้ดันลูกเรียน ต่อมหา’ลยั (ออนไลน์). แหล่งท่ีมา: http://www.dailynews.co.th/education/394452. สืบค้น เมื่อ 28 เมษายน 2559. ส�ำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2555). การส�ำรวจภาวะการท�ำงานของประชากร พ.ศ.2533-2554 (ออนไลน์). แหล่งที่มา: http://service.nso.go.th/nso/web/survey/surpop2-2-1.html. สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม 2559. __________. (2556). การสำ� รวจภาวะการท�ำงานของประชากร พ.ศ.2530-2556 (ออนไลน์). แหลง่ ที่มา: http://service.nso.go.th/nso/web/survey/surpop2-2-1.html. สืบค้นเมอื่ 15 มกราคม 2559. __________. (2557). การสำ� รวจการย้ายถน่ิ ของประชากร พ.ศ. 2556. กรุงเทพมหานคร: บริษทั เท็กซ์ เจอรน์ ลั พบั ลิเคชน่ั จำ� กดั . __________. (2558). มองครอบครวั ไทย...ในมุมมองขอ้ มูล (ออนไลน)์ . แหลง่ ทีม่ า: service.nso.go.th/ nso/web/article/article_83.pdf. สืบคน้ เมือ่ 16 กมุ ภาพันธ์ 2559. อานันท์ชนก สกนธวัฒน์. (2555). พลวัตของความยากจน: กรณีศึกษาครัวเรือนชาวนาในพ้ืนที่เขตชนบท ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื และภาคกลางของไทย. กรุงเทพมหานคร: ซีโน พบั ลิชชิ่ง จ�ำกัด. อารี จ�ำปากลาย และอารีย์ พรหมโม้. (2550). “จากหมู่บ้านถึงเมืองกรุง”. ในประชากรและสังคม 2550. วรชยั ทองไทย และสรุีย์พร พนั พึง่ (บรรณาธกิ าร), ประชากรและสังคม 2550. นครปฐม: สถาบันวิจยั ประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหดิ ล Acock, A. and Demo, D. (1994). Family Diversity and Well-Being. Sage Library of social research: v.195. Adhikari, Ramesh, Aree Jampaklay and Aphichat Chamratrithirong. (2011). Impact of children on health and health and health care-seeking behavior of elderly left behind. BMC Health, 11(143.) Austin, J., Vancouver, J. (1996). Goal constructs in psychology: Structure, process and content. Psychological Bulletin, 120, 338-375. Baker, L., Cesa, I., Gatz, M., and Mellins, C. (1992). Genetic and environmental influences on positive and negative affect: Support for the two-factor theory. Psychology and Aging, 7, 158-163. ภเู บศร์ สมทุ รจักร I ธีรนชุ กอ้ นแกว้ I ริฎวนั อุเดน็ 109 �����������6.indd 109 147//2560 BE 17:09
Banerjee, A. & Duflo, E. (2008). What is Middle Class about the Middle Classes around the World?. Journal of Economic Perspectives, 22(2):3-28. Berger-Schmitt, R., and Jankowitsch, B. (1999). System of social indicators and social reporting: The state of the art. EuReporting Working Paper No. 1, Subproject European System of Social Indicators. Mannheim: Centre for Survey Research and Methodology (ZUMA), Social Indicators Department. Retrieved June 2016, from http://www.gesis. org/fileadmin/upload/dienstleistung/daten/soz_indikatoren/eusi/paper1.pdf. Burgess, E. W. and Locke, H.J. (1945). The family: From institution to companionship. New York: American Book Company. Chambers, D. (2012). A Sociology of Family Life. Cambridge: Polity Press. Diener, E., Suh, E., Lucas, R., and Smith, H. (1999). “Subjective Well-Being: Three Decades of Progess”, Psychological Bulletin, 125(2): 276-302. Duvall, E. M., & Miller, B. C. (1985). Marriage and family development (6th ed.). New York: Harper and Row. Emmons, R., Diener, E., and Larsen, R. (1986). Choice and avoidance of everyday sitations and affect congruence: Two models of reciprocal interactionism. Journal of Personality and Social Psychology, 51, 815-826. Engels, F. (1972 [1884]). The Origin of the Family, Private Property and the State. London: Lawrence and Wishart. Friedman, M.M. (1986). Family nursing: Theory and assessment (2nd ed.). Norwalk, CT: Appletton-Century-Crofts. Giddens, A. (1992). The Transformation of Intimacy: Sexuality, Love and Eroticism in Modern Societies. Cambridge: Polity Press. Harari, Y. N. (2011). Sapiens: A Brief History of Humankind. London: Vintage. Harrington, B. (2007). The work-life evolution study. Boston College Center for Work & Family. Headey, B., Wearing, A. (1989). Personality, life events, and subjective well-being: Toward a dynamic equilibrium model. Journal of Personality and Social Psychology, 57, 731-739. Jamieson, L. (1998). Intimacy: Personal Relationships in Modern Societies. Cambridge and Malden, MA: Polity Press. Kharas, Homi. (2010). The Emerging Middle Class in Developing Countries, Working Paper No.285. Paris: OECD Development Centre Paris. 110 ความอยู่ดมี สี ุขของครอบครัวไทย �����������6.indd 110 147//2560 BE 17:09
Levin, I. (2004). Living apart but together: A new family form. Current Sociology, Vol. 52 No. 2, p.223-240. Noor, N., Gandhi, A., Ishak, I., and Wok, S. (2014). Development of indicators for family well- being in Malaysia. Social Indicators Research, 3 (1), 279-318. Michalos, A. (1985). Multiple discrepancies theory (MDT). Social Indicators Research, 16, 347-413. Milligan, S., Fabian, A., Coope, P., and Errington, C. (2006). Family Wellbeing Indicators from the 1981-2001 New Zealand Censues. Statistics New Zealand. OECD. (2011). Doing Better for Family. OECD Publishing. OECD. (2011). The Future of Families to 2030. OECD Publishing. Parsons, T. and Bales, R. (1955). Family, Socialization and Interaction Process. Glencoe, Illinois, Free Press. Phelps, J., Davis, J. and Schartz, K. (1997). Nature, nurture, and twin research strategies. Current Directions in Psychological Science, 6, 117-121. United Nations of Population Fund. (2011). Impact of Demographic Change in Thailand. Bangkok. Page 103 Willson, W. (1967). Correlates of avowed happiness. Psychological Bulletin, 67, 294-306. Wollny, I., Apps, J., and Henricson, C. (2010). Can government measure family wellbeing? A literature review. Family & Parenting Institute. Wood, J. (1986). What is social comparison and how should we study it? Personality and Social Psychology Bulletin, 22, 520-537. World Bank. (2015). Urbanization in Thailand is dominated by the Bangkok urban area (Online). From: http://www.worldbank.org/en/news/feature/2015/01/26/ urbanization-in-thailand-is-dominated-by-the-bangkok-urban-area.print. Updated May 7, 2016. �����������6.indd 111 ภเู บศร์ สมทุ รจกั ร I ธรี นชุ กอ้ นแกว้ I ริฎวนั อเุ ด็น 111 147//2560 BE 17:09
““ พ่อแม่ชนช้ันกลางยคุ ปจั จุบัน ไมม่ ีทางเลอื กอน่ื มากนกั นอกจาก ทมุ่ สุดตัว และเลกิ รอการปฏริ ูปการศึกษา ที่ไม่รวู้ า่ จะมาถงึ เมอื่ ไหร่ �����������6.indd 112 147//2560 BE 17:09
ภาคผนวก อนิ โฟกราฟฟิกสำ�หรับแจกในงานประชมุ �����������6.indd 113 147//2560 BE 17:09
114 ความอยดู่ ีมสี ขุ ของครอบครวั ไทย 147//2560 BE 17:09 �����������6.indd 114
�����������6.indd 115 ภาพโดย: สกุ ัญญา พรหมทรัพย์ ภูเบศร์ สมุทรจกั ร I ธรี นชุ ก้อนแกว้ I ริฎวัน อุเดน็ 115 147//2560 BE 17:09
116 ความอยดู่ ีมสี ขุ ของครอบครวั ไทย 147//2560 BE 17:09 �����������6.indd 116
�����������6.indd 117 ภาพโดย: สกุ ัญญา พรหมทรัพย์ ภูเบศร์ สมุทรจกั ร I ธีรนชุ ก้อนแกว้ I ริฎวัน อเุ ดน็ 117 147//2560 BE 17:09
118 ความอยดู่ ีมสี ขุ ของครอบครวั ไทย 147//2560 BE 17:09 �����������6.indd 118
�����������6.indd 119 ภาพโดย: สกุ ัญญา พรหมทรัพย์ ภูเบศร์ สมุทรจกั ร I ธรี นชุ ก้อนแกว้ I ริฎวัน อุเดน็ 119 147//2560 BE 17:09
120 ความอยดู่ ีมสี ขุ ของครอบครวั ไทย 147//2560 BE 17:09 �����������6.indd 120
�����������6.indd 121 ภาพโดย: สกุ ัญญา พรหมทรัพย์ ภูเบศร์ สมุทรจกั ร I ธรี นชุ ก้อนแกว้ I ริฎวัน อุเดน็ 121 147//2560 BE 17:09
““ รายไดค้ รวั เรอื นไทย ระหวา่ ง พ.ศ. 2543-2544 เพมิ่ ขึ้นเฉล่ยี ร้อยละ 9 ตอ่ ปี ในขณะท่ีการบริโภคและหนีค้ รัวเรือน เพม่ิ ขึ้นรอ้ ยละ 16 ตอ่ ปี �����������6.indd 122 147//2560 BE 17:09
การเกดิ ดัชนคี น้ ค�ำ การตาย การทำ� งาน ก ก10, 76, 9, 14, 17, 20, 29, 33, 37, 60, 76, 77, 92, 96, 98, 105, การเปลยี่ นแปลง 79 15ข05, ,355,, 861,,051490,, 6106,,6117,,6220,,6261,,6272,,6288,,6399,,7414,,9466, ,9477, ,9593, ,15042,, การศกึ ษา 52ก77, ,,ข25, 982,,,35339,,,536,601,,036,731,,137,801,, 247,17,1, 4472,8,1,4573,9,,248172,,,241290,,52531,,2542,, 2554,, 2565,, 5ข92819, ,,453, 145,,, 531250,,, 531561,,, 531962,,, 631703,,, 631986,,, 461917,,, 741218,,, 147942,,, 274156,,, 284376,,, 248487,,, 248598,,, 249859,,, การสรา้ งครอบครวั ข69, ,79, 81,41, 0339, 46, 48, 53, 55, 58, 59, 60, 62, 63, 65, 66, กงึ่ เมอื งกง่ึ ชนบท 21, 26, 27, 86, 91 เขย ข 28, 79, 81, 84 คนชนั้ กลาง ครอบครวั ขยาย ค ครอบครวั เดยี่ ว ข, 22, 25, 26, 39, 88 ก, ข, 5, 6, 7, 25, 41, 89, 99 ก, 5, 6, 7, 25, 41, 71, 89 ภูเบศร์ สมุทรจักร I ธีรนุช กอ้ นแกว้ I ริฎวัน อเุ ดน็ 123 �����������6.indd 123 147//2560 BE 17:09
ครอบครวั ไทย 5ก6, ,ข5, 81,, 539, ,57, 16,, 990,,1913,,1924,,2150,032, 39, 48, 51, 53, 54, 55, 5ข9, ,27, 51,, 67,78, ,798,, 1709,, 1870,, 2811,, 2862,,2893,,3854,,3885,,4846,,4950, 53, 55, ครวั เรอื น 2, 3, 4, 5, 8, 15, 29, 35, 47, 76, 2, 3, 5, 6, 7, 8, 15, 37, 38, 44, 47, 48, 81, 82, 83, 100 ความรกั 8ข485, ,,158096, ,,169704, ,,169915, ,,369226,,,361330,,036,451,,036157,,,1360693,,,371720,,437,831,,037594,, 4716,, 4748,, 8447,, ความสมั พนั ธ์ คณุ ภาพ จ 13, 14, 15, 16, 28, 39, 51, 61, 90, 92 เจเนอเรชนั 14 เจเนอเรชนั เบบบ้ี มู 13, 15, 16, 39 เจเนอเรชนั วาย 15 เจเนอเรชนั เอก็ ซ์ ช ชนชนั้ กลาง ชนบทไทย ข, 18, 21, 23, 24, 88 ข, ค, 21, 27, 28, 54, 77, 86, 90, 96 ฐานะ ฐ ฐานะดี 27,18, ,8140, 16, 17, 18, 19, 21, 24, 25, 29, 37, 47, 56, 65, 67, ฐานะปานกลาง 19 ฐานะยากจน 16, 17, 66 10, 16, 19 เดก็ ด 3712056, 3,2, ,3,77716,,0, 133708,8,,1,13074949,,,148781,,,158834,, ,158985,, ,25098,,626, 239,,326, 679,,427,809,,527,919,,637,329,, 737,431,, 037154,,, 124 ความอยูด่ ีมีสุขของครอบครัวไทย 147//2560 BE 17:09 �����������6.indd 124
ต ตวั ชวี้ ดั 23, 41, 43, 44, 45, 46, 48, 82 แตง่ งาน 36,4,46, 67,, 697, ,1801, ,1839, ,1940, ,1957,,1968,,2989, 34, 42, 59, 61, 62, 63, ท ทฤษฎี 4, 5, 8, 12, 14, 62, 78 ทฤษฎเี ชงิ โครงสรา้ ง 5 ทฤษฎพี ฒั นาการครอบครวั 14 ทฤษฎกี ารมบี ตุ ร 62 ทฤษฎเี ชงิ โครงสรา้ งการหนา้ ท่ี 5, 12 น นโยบาย 7ก0, ,ข7, 16,, 776, ,3825, ,3836,,3955,,4916,,4937,,4958,,5160,15,81,0529,,16005, 61, 69, นอ้ งเขย 99 แนวคดิ 3, 9, 11, 13, 14, 16, 17, 41, 42, 45, 48, 78, 83 ขแนองวคคนดิ เกจาเรนมอบีเรตุ ชรนั วาย 13 แนวคดิ ของ Ruben Hill 14 แนวคดิ ครอบครวั อยดู่ มี สี ขุ 48, 49 แนวคดิ ดง้ั เดมิ 3 คแนลาวสคสดิ กิทางเศรษฐศาสตรส์ ำ� นกั 16 แนวคดิ วฏั จกั รชวี ติ ครอบครวั 14 แนวคดิ สตรนี ยิ ม 11 แนวคดิ สงั คมทผ่ี ชู้ ายเปน็ ใหญ่ 11 �����������6.indd 125 ภูเบศร์ สมทุ รจกั ร I ธรี นุช ก้อนแก้ว I รฎิ วนั อเุ ด็น 125 147//2560 BE 17:09
บา้ น บ 729ก102, ,,,ค271,2303,,1,27,4341,,,05272,556,,,72877,,, 927,88,,127099, ,,183171, ,,183228,,,184336,,,185446,,,168655,,,186766,,, 168889,,, 287091,,, บา้ นเมอื ง 6, 88 บา้ นเรอื น 6 บตุ ร 51827, ,,259, 856,,,51790,,286,01,06,11, 36,23, 16,3,3634, ,3649, ,3780,,3791,,4742,,5734,, 5745,, 5851,, 81 บตุ รชาย 81 บตุ รสาว 81, 82 บตุ รหลาน ป ประชากร 6ก305, ,,ข36, 616,,,37770,,,937,811,,037,971,,547,382,, 247,592,, 358,142,, 458,27,,259743, ,259857,,,351160,,235,271,,035538,, 3549,, 84 ประชากรรนุ่ ใหม่ 57 ประชากรวยั ทำ� งาน 9, 39 ประชากรวยั แรงงาน 152ก097, ,,4ค35,186,,,36720,,,836,411,,036,581,,136,691, ,237,70,1,3687, ,823,197, ,924,218,,624,33,8,924,44,9,824,55,9, 924,76,1, 205831,,, ประเทศ 56,1,1508, ,1610, ,1628, ,1669, ,2729, ,2838, ,2140,325, 29, 34, 35, 36, 39, 46, 43, 45, 46 ประเทศไทย ประเทศนวิ ซแี ลนด์ ผ 1, 2, 3, 4, 8, 9, 11, 13, 17, 18, 29, 48, 80, 82, 85 ผกู พนั 1, 3, 19, 37, 44, 72, 73, 74, 76, 96, 102, 103 ผปู้ กครอง 126 ความอยดู่ ีมีสขุ ของครอบครวั ไทย �����������6.indd 126 147//2560 BE 17:09
ผสู้ งู อายุ 8ค2, ,88, 41,28,52,88,62,99,03,29,33,41,0325, ,13073,, 13084, 39, 70, 78, 79, 81, 79, 81 ผสู้ งู อายวุ ยั กลาง 79, 81 ผสู้ งู อายวุ ยั ตน้ 740, ,1701, ,1718, ,1821, ,1839, ,1950, ,2110, 060, 62, 63, 64, 65, 66, 67, 69, ผหู้ ญงิ ก, ข, 23, 24, 31, 32, 46 แแผละนสพงั ฒั คนมแาเหศง่ รชษาฐตกิ จิ 31, 32, 33, 34, 35, 36, 37, 38, 39 แผนพฒั นาฯ 32, 33, 36 แผนพฒั นาฯ ฉบบั ท่ี 8 34, 35, 36 แผนพฒั นาฯ ฉบบั ท่ี 9 36, 38 แผนพฒั นาฯ ฉบบั ท่ี 10 37, 38, 39 แผนพฒั นาฯ ฉบบั ที่ 11 31, 38, 39 แผนพฒั นาฯ ฉบบั ที่ 12 พ พอ่ 1ข27105, 1,,ค72,, 2611,,0,722237,, ,,14720,4854,,,72659,,,773,628,,,731930,,,831154,,,831275,,,831396,,,841447,,,851938, ,,916696, ,,926707, 1,, 270200,,, 5, 8, 35 พอ่ เลยี้ งเดยี่ ว ภ ภรรยา 916, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 11, 12, 15, 17, 20, 21, 22, 69, 77, เมอื ง ม 729ก476, ,,,ข729, 578ค,,,,7216860,,,1772,,7918,,0,282981,,,183042,,,138163,,,138485,,,183579,,,139680,,, 193719,,, 194825,,, 259132,,, 296250,,, 297316,,, �����������6.indd 127 ภูเบศร์ สมทุ รจกั ร I ธีรนชุ ก้อนแกว้ I ริฎวนั อเุ ด็น 127 147//2560 BE 17:09
แม่ 6ข28022, ,,,ค268, 2431,,,, 2682554,,,,4268,6695,,,,2696775,,,,7269,8878,,,6219990,,,0173,0021,,,01731213,,,,117304242,,,,17315350,,,4173647,,, 173759,,, 174864,,, 517399,,, 91 แมค่ รวั 59, 91 แมแ่ จม๋ 13, 22, 79, 90 แมบ่ า้ น 10 แมบ่ า้ นเตม็ เวลา 5, 8, 10, 35, 99 แมเ่ ลย้ี งเดย่ี ว 9, 10 แมว่ ยั รนุ่ 11, 12, 22, 91 แมศ่ รเี รอื น ย ยทุ ธศาสตรป์ ระชากร 93 โรงเรยี น ร 9116,, 1120,113, 14, 16, 19, 22, 63, 64, 65, 66, 74, 75, 89, 95, ลกู ล ลกู เขย 11ก582801, 2,,,ข815,, 2971ค,,,0,82531409,,,,,128620,60144,,,,8625712,,,,6862,8267,,,,8629847,,,,91620085,,,,91262196,,,,91365272,,,,91636339,,,,91737405,,,,91378557,,,,91379696, ,1,, 17507910,,,, ลกู คา้ 84 ลกู ชาย 16, 68 ลกู ดก 2, 20, 89 ลกู ตดิ 7 ลกู แฝด 99 ลกู เลก็ 42 59 128 ความอยู่ดมี สี ขุ ของครอบครวั ไทย �����������6.indd 128 147//2560 BE 17:09
ลกู สาว 2, 20, 71, 84, 89, 99 เลยี้ งลกู 6ข4, ,1625, ,1656, ,1669, ,1970, ,1982, ,1995, ,2110,22,21,0238, 32, 33, 39, 51, 52, วางแผนครอบครวั ว 7, 31, 32, 33, 34 ศนู ยก์ ารศกึ ษากอ่ นวยั เรยี น เศรษฐกจิ ศ 54, 55, 59, 72 สถานรบั เลยี้ งเดก็ 8ก333, ,,ข38, 486,,,39750,,,839,621,,339,781, 43,81, 53,9,2413, ,2424, ,2436,,2447,,2478,,2588,, 3613,, 3721,, สมดลุ สมรส ส สะใภ้ 17, 22, 33, 53, 58, 76 สงั คม 6ข1, ,2602, ,2613, ,3636, ,3647, ,3659, ,3897, ,4949,,5120,45,31,0554, 55, 58, 59, 60, 821, 3, 4, 6, 7, 8, 9, 10, 15, 23, 32, 33, 34, 42, 43, 64, 71, สงั คมกม้ หนา้ 28, 79, 81 สงั คมเกษตรกรรม 8461ก9962, ,,,,ข4269, 73101,,,,,642939432,,,,,42749,14556,,,,,427986266,,,,, 94731,1730,,,123740, 628,1,,,1043714973, ,,,17532148,,,,13753295,,,,13854762,,,,18355784,,,,13686185,,,, 18637497,,,, 16848185,,,, สงั คมจนี ยคุ โบราณ 37 สงั คมชนบท 20, 27, 89 สงั คมชนบทไทย 3 สงั คมดจิ ติ ลั ข, ค, 8, 81, 82, 83, 96 สงั คมตะวนั ตก ข, ค สงั คมทนุ นยิ ม 37, 38 5, 21 7 ภเู บศร์ สมุทรจกั ร I ธีรนชุ กอ้ นแกว้ I ริฎวัน อเุ ด็น 129 �����������6.indd 129 147//2560 BE 17:09
สงั คมไทย ก37, ,ข3, 8ค,, 517, ,56, 79,, 1708,, 1822, 18, 22, 23, 24, 27, 28, 33, 34, 35, 38 สงั คมปจั เจก 38 สงั คมพหวุ ฒั นธรรม ค, 8, 10, 17, 26, 28, 35, 37, 39, 71, 96, 97 สงั คมเมอื ง 29 สงั คมยคุ โซเซยี ลเนต็ เวริ ก์ 2, 3, 4 สงั คมวทิ ยา 42, 51 สงั คมศาสตร์ 8, 37, 38, 39, 57, 61, 78 สงั คมสงู วยั 35 สงั คมสงู อายุ 18 สงั คมอเมรกิ นั 20, 27, 89, 92 สงั คมอตุ สาหกรรม 617, ,26, 93,, 746, ,68, 97,, 996, 10, 11, 12, 13, 15, 17, 20, 21, 22, 65, สามี ห หญงิ 1, 3, 5, 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13, 33, 37, 48, 61, 89, 90, 105 หญงิ ไทย 10, 57 หญงิ สาว 1 หลาน ค, 8, 27, 28, 29, 37, 51, 78, 81, 82, 84, 86, 89, 90, 104 อยดู่ มี สี ขุ อ ข5913, ,,ค59,242,85,33,55,43,65,53, 95,64, 15,7,4528, ,4737, ,4749,,4853,,4864,,4875,, 4887,, 8489,, อาชพี ค, 12, 13, 18, 19, 22, 24, 28, 33, 47, 61, 80, 85, 86 อาชพี แมบ่ า้ น 22 อาชพี เสรมิ 80, 86 อาชพี อสิ ระ 22 130 ความอย่ดู มี สี ขุ ของครอบครวั ไทย �����������6.indd 130 147//2560 BE 17:09
ผูท้ รงคณุ วุฒิ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.ปราโมทย์ ประสาทกุล สถาบนั วิจัยประชากรและสงั คม มหาวิทยาลัยมหดิ ล ศาสตราจารย์ ดร.ปทั มา วา่ พัฒนวงศ์ สถาบนั วิจัยประชากรและสงั คม มหาวทิ ยาลัยมหิดล ศาลายา นครปฐม �����������6.indd 131 ภเู บศร์ สมทุ รจักร I ธรี นุช ก้อนแกว้ I รฎิ วนั อุเดน็ 131 147//2560 BE 17:09
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147