Code of Conduct May 2022

McDonald Code Of Conduct



ข้อกาํ หนดเก่ียวกับคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณพงึ ปฏิบัตใิ นการปฏิบัตงิ าน (CODE OF CONDUCT) บริษัท แมคไทย จาํ กัด หมวดท่ี 1 จรรยาบรรณผู้บรหิ าร หมวดท่ี 2 ข้อพงึ ปฏบิ ัตสิ ่วนบุคคลและสภาพแวดล้อมในสถานทที่ าํ งาน (Personal Conduct and Our Work Environment) 1) การละเมิดสทิ ธิสว่ นบคุ คล (Harassment) 2) การลว่ งเกินทางเพศ (Sexual Harassment) 3) การไมเ่ ลอื กปฏิบตั ิและการใหโ้ อกาสเทา่ เทียมกนั 4) ผลประโยชนส์ ว่ นตวั (Personal Interests) 5) ความเป็นสว่ นตวั ของพนกั งาน (Employee Privacy) 6) ความปลอดภยั ในสถานท่ีทางาน (Workplace Safety) 7) การรกั ษาสภาวะแวดลอ้ ม (Environmental Protection) หมวดที่ 3 การปกป้องทรัพยส์ ินของบรษิ ัท (Protecting Our Company Assets) 1) ทรพั ยส์ นิ (Property) 2) เงินทนุ (Funds) 3) บนั ทกึ (Records) 4) เวลา (Time) 5) ทรพั ยส์ นิ ทางปัญญา (Intellectual Property) 6) ขอ้ มลู จาเพาะ (Proprietary Information) 7) ระบบการส่อื สารและระบบคอมพิวเตอร์ (Communications and Computer Systems) 8) การทาธุรกิจระหวา่ งบรษิ ัทในเครอื (Affiliate Transaction) 9) การจารกรรมและวินาศกรรมขอ้ มลู (Espionage and Sabotage) 10) ช่ือเสยี ง (Reputation) หมวดที่ 4 ความสัมพันธก์ ับลูกค้า (Customer Relations) 1) ดา้ นความรู้ ความสามารถ (Knowledge/ Skill) 2) ดา้ นคณุ ภาพและประสทิ ธิผล (Quality and Productivity) 3) ดา้ นทศั นคติและพฤตกิ รรม (Attitude and Manner) 4) ดา้ นการส่อื สาร (Communication) 2

หมวดที่ 5 ข้อตกลงทเี่ ป็ นธรรมกับบุคคลอืน่ (Fair Dealings with Others) 1) ความเป็นสว่ นตวั ของลกู คา้ /ความเป็นสว่ นตวั ในการติดตอ่ ส่ือสาร 2) ผจู้ ดั หาสินคา้ /บรกิ ารและตวั แทนอ่นื ๆ (Suppliers and other Representatives) 3) เจา้ หนี้ (Creditors) 4) การแข่งขนั อยา่ งเป็นธรรม (Fair Competition) 5) ขอ้ มลู การแข่งขนั ทางการคา้ (Competitive Information) หมวดท่ี 6 การทาํ งานร่วมกับหน่วยงานของรัฐ (Working with the Government) หมวดที่ 7 การต่อต้านคอรร์ ัปช่ัน (Anti-Corruption) 1) การสนบั สนนุ ทางการเมือง 2) การบรจิ าคเพ่ือการกศุ ลและเงินสนบั สนนุ (Charitable Donation and Sponsorships) 3) การเลยี้ งรบั รองและบรกิ ารตอ้ นรบั การใหห้ รอื รบั ของขวญั หรอื สนิ นา้ ใจ หรือทรพั ยส์ นิ หรอื ประโยชนอ์ ่นื ใด (Entertainment, Hospitality, Gifts, Gratuities and Others) 4) การจ่ายเงินเพ่ืออานวยความสะดวก (Facilitation Payment) 5) มาตรการคมุ้ ครองผทู้ ่ีปฏิเสธการคอรร์ ปั ช่นั หมวดท่ี 8 การป้องกันการฟอกเงนิ (Anti-Money Laundering) หมวดที่ 9 การลงโทษ หมวดที่ 10 การใหค้ าํ ปรึกษาและรับข้อร้องเรียน 3

หมวดที่ 1. จรรยาบรรณผู้บรหิ าร บริษัทมีนโยบายในการดาเนินธุรกิจโดยคานึงถงึ การเติบโตของบริษัทอย่างม่นั คงและย่งั ยืน บนพืน้ ฐานของความ ซ่ือสตั ยส์ จุ ริต มีคณุ ธรรม จริยธรรม เพ่ือใหก้ ารดาเนินธุรกิจของบรษิ ัทเป็นไปอย่างถูกตอ้ งตามกฎหมาย บรษิ ัทจึงไดก้ าหนด จรรยาบรรณของผบู้ ริหาร โดยมีแนวปฏิบตั ิดงั นี้ จรรยาบรรณตอ่ พนกั งาน (1) พงึ ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีดว้ ยความมงุ่ ม่นั ซ่อื ตรง โปรง่ ใส (2) ปฏิบัติต่อพนักงานอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม ในการว่าจ้าง แต่งตั้ง พิจารณา โยกย้ายใดๆ จะกระทา ดว้ ยความสจุ ริต โดยพิจารณาจากความรู้ ความสามารถ และความเหมาะสมเป็นสาคญั (3) เคารพสทิ ธิของพนกั งานอ่นื (4) ปฏิบตั ิตามกฎหมาย และขอ้ บงั คบั ตา่ งๆ ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั พนกั งานอย่างเครง่ ครดั (5) ปฏิบตั ิตอ่ พนกั งานดว้ ยความสภุ าพ และไม่เปิดเผยขอ้ มูลส่วนบุคคลของพนกั งาน โดยไม่ไดร้ บั อนุญาต ตอ่ บคุ คลภายนอก (6) ใหค้ า่ ตอบแทนแก่พนกั งานในอตั ราท่ีเป็นธรรม รวมทงั้ ใหส้ วสั ดิการ และสิทธิประโยชนแ์ ก่พนกั งาน อาทิ เช่น กองทนุ สารองเลยี้ งชีพ คา่ รกั ษาพยาบาล คา่ ทนั ตกรรม เป็นตน้ (7) ใหค้ วามสาคญั ต่อการพฒั นาศกั ยภาพท่ีเก่ียวขอ้ งกบั สายงานของพนักงาน โดยเปิดโอกาสใหพ้ นักงาน อยา่ งท่วั ถงึ สม่าเสมอ และเทา่ เทียมกนั (8) ใหค้ วามสาคญั ต่อการดแู ลสภาพแวดลอ้ มในการทางาน ใหม้ ีความปลอดภัยต่อชีวิตและทรพั ยส์ ินของ พนกั งานอยเู่ สมอ (9) จดั ใหม้ ีชอ่ งทางเพ่ือใหพ้ นกั งานมชี ่องทางในการแสดงความคดิ เหน็ เสนอแนะ รอ้ งเรยี นเม่อื ไมไ่ ดร้ บั ความ เป็นธรรม หรือสามารถแจง้ เร่ืองท่ีส่อไปในทางท่ีอาจขัดต่อกฎหมาย ระเบียบ ขอ้ บังคบั ของบริษัท หรือ รายงานถงึ ขอ้ กงั วลใจเก่ียวกบั พฤตกิ รรมใดๆ ท่ีอาจก่อใหเ้ กิดการกระทาท่ีไมเ่ หมาะสมผิดจริยธรรม หรือ อาจก่อใหเ้ กิดการฝ่ าฝืนกฎหมาย ความประพฤติท่ีไม่เหมาะสมทางการเงินหรือฉ้อโกง หรือสามารถ รายงานเม่ือพบเห็นการกระทาผิดกฎหมายหรือการกระทาผิดต่อนโยบายบริษัท โดยทุกขอ้ รอ้ งเรียน สามารถย่ืนตอ่ บคุ คล/หนว่ ยงานท่ีบริษัทกาหนดไว้ และจะถูกเกบ็ รกั ษาเป็นความลบั จรรยาบรรณตอ่ ลกู คา้ (1) ปฏิบตั ติ อ่ ลกู คา้ ทกุ รายอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม (2) พึงส่งมอบสินคา้ และการบริการ ท่ีมีคุณภาพตรงตามความตอ้ งการ หรือสงู กว่าความคาดหมายของ ลกู คา้ ภายใตเ้ ง่ือนไขท่ีเป็นธรรม (3) ให้ข้อมูลข่าวสารท่ีเก่ียวข้องกับสินค้าและบริการท่ีถูกต้องเพียงพอและทันเหตุการณ์ต่อลูกค้า โดยไม่ บิดเบือนขอ้ เท็จจริง อนั เป็นเหตใุ หล้ ูกคา้ เกิดความเขา้ ใจผิดเก่ียวกบั คุณภาพ ปริมาณ หรือเง่ือนไขใดๆ ของสินคา้ หรอื บริการ (4) จดั ใหม้ ีมาตรการรกั ษาความลบั ของลกู คา้ โดยไม่นาขอ้ มูล หรือความลบั ของลกู คา้ ไปใช้เพ่ือประโยชน์ ของตนเอง หรือผทู้ ่ีเก่ียวขอ้ งโดยมิชอบ เวน้ แตเ่ ป็นการเปิดเผยตามกฎหมายกาหนด 4

(5) ตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยความรวดเร็ว และจัดให้มีช่องทางให้ลูกคา้ รอ้ งเรียน และ เสนอแนะเก่ียวกบั สนิ คา้ และบรกิ ารไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ จรรยาบรรณตอ่ คคู่ า้ (1) ปฏิบตั ิตอ่ ค่คู า้ ทกุ รายอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม และตงั้ อย่บู นพืน้ ฐานของการไดร้ บั ผลตอบแทนท่ีเป็น ธรรมตอ่ ทงั้ สองฝ่าย (2) ไมเ่ รยี กรอ้ ง หรือรบั หรือจา่ ยผลประโยชนใ์ ดๆ ในทางไมส่ จุ รติ ทางการคา้ กบั คคู่ า้ (3) ปฏิบัติตามสัญญา และเง่ือนไขต่างๆ ท่ีตกลงร่วมกันอย่างเคร่งครดั และเป็นธรรม กรณีมีเหตุให้ไม่ สามารถปฏิบตั ติ ามได้ ตอ้ งรบี แจง้ ใหค้ คู่ า้ ทราบโดยเรว็ เพ่ือรว่ มกนั พิจารณาหาแนวทางแกไ้ ข จรรยาบรรณตอ่ คแู่ ขง่ ทางการคา้ (1) ประพฤติปฏิบตั ิภายใตก้ รอบกตกิ าการแขง่ ขนั อย่างเป็นธรรม โปรง่ ใส ไมเ่ อารดั เอาเปรียบ (2) ไมล่ ะเมิดความลบั หรือแสวงหาขอ้ มลู ท่ีเป็นความลบั ของคแู่ ข่งทางการคา้ โดยวธิ ีท่ีไมส่ จุ รติ หรอื ขดั ตอ่ กฎหมาย (3) ไมพ่ งึ กระทาการโดยทาลายช่ือเสียงของคแู่ ขง่ ทางการคา้ ดว้ ยการกลา่ วหาในทางรา้ ย การสรา้ งขา่ วท่ีเป็น เท็จ หรอื การโจมตีคแู่ ขง่ (4) ในการตดิ ตอ่ กบั คแู่ ข่งทางการคา้ บคุ ลากรของบรษิ ัทตอ้ งไมเ่ ปิดเผยหรอื ละเลยใหค้ วามลบั ของบรษิ ัทตก อยใู่ นมือของคแู่ ข่ง จรรยาบรรณตอ่ สงั คมและส่ิงแวดลอ้ ม (1) รบั ผิดชอบและยดึ ม่นั ในการดแู ลรกั ษาส่ิงแวดลอ้ ม ตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณีทอ้ งถ่นิ ท่ีองคก์ ร ตงั้ อยู่ (2) สนบั สนนุ และสง่ เสรมิ การใชท้ รพั ยากรอยา่ งคมุ้ คา่ เพ่ือลดผลกระทบตอ่ ความเสยี หายแก่สงั คมและ ส่ิงแวดลอ้ ม (3) ปลกู ฝังจิตสานกึ และสรา้ งความตระหนกั ในเร่ืองความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คมและส่ิงแวดลอ้ มแกพ่ นกั งาน ของบริษัท (4) ตอบสนองอยา่ งรวดเรว็ และอย่างมปี ระสิทธิภาพตอ่ เหตกุ ารณท์ ่ีมีผลกระทบตอ่ ส่งิ แวดลอ้ มและชมุ ชน อนั เน่ืองมาจากการดาเนินงานของบริษัท โดยใหค้ วามรว่ มมืออยา่ งเตม็ ท่ีกบั เจา้ หนา้ ท่ีภาครฐั และ หน่วยงานท่ีเก่ียวขอ้ ง 5

หมวดท่ี 2. ข้อพึงปฏิบัตสิ ่วนบุคคลและสภาพแวดล้อมในสถานท่ีทาํ งาน (Personal Conduct and Our Work Environment) ภารกจิ ขนั้ พนื้ ฐาน พนกั งานพึงตระหนกั วา่ สภาพแวดลอ้ มในการทางานท่ียดึ ถือจรรยาบรรณ มีความปลอดภยั และมคี วามเคารพซง่ึ กนั และกนั นนั้ เร่ิมจากพนกั งานทุกคน พนกั งานจึงตอ้ งรบั ผิดชอบต่อการกระทาของตนและตอ่ การดาเนินธุรกิจดว้ ยความ ซ่ือสตั ยแ์ ละมีคณุ ธรรม โดยพนกั งานตอ้ งปฏิบตั ิตามนโยบาย คมู่ อื “คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณพึงปฏบิ ัตใิ น การปฏบิ ตั งิ าน” ของบริษัทอย่างเครง่ ครดั การไมป่ ฏิบตั ิตาม อาจมผี ลทางวินยั ได้ ข้อพงึ ปฏบิ ัติ 1. พนกั งานตอ้ งใหเ้ กียรติ ใหค้ วามรว่ มมือและใหค้ วามช่วยเหลือแกล่ กู คา้ ผรู้ บั เหมาหรือคคู่ า้ คสู่ ญั ญา พนกั งานอ่นื และสาธารณชนท่วั ไป 2. พนกั งานตอ้ งไม่ดหู ม่ินเหยียดหยาม ใสร่ า้ ยบริษัทและพนกั งานอ่ืน รวมทงั้ ไม่แอบอา้ งเป็นตวั แทนของบริษัทและ พนกั งานอ่นื เพ่ือประโยชนส์ ว่ นตน 3. พนักงานตอ้ งไม่ดูถูก เหยียดหยาม ข่มขู่ แบ่งแยก ล่วงเกินทางเพศ หรือ ทาอนาจารต่อพนักงานอ่ืนหรือผูอ้ ่ืนท่ี ตดิ ตอ่ ธุรกิจดว้ ย 4. พนกั งานตอ้ งไมล่ กั ลอบ คน้ หา ใช้ หรือเปิดเผยบนั ทกึ ขอ้ มลู เงินทุน ทรพั ยส์ ิน หรอื ขอ้ มลู ขา่ วสารของบริษัทไมว่ า่ จะเป็นขอ้ มลู จาเพาะหรือไมก่ ็ตาม เวน้ แตไ่ ดร้ บั อนญุ าตจากผบู้ งั คบั บญั ชา 5. พนกั งานตอ้ งไมใ่ ชท้ รพั ยส์ นิ หรอื เงินทนุ ของผรู้ ว่ มงานและลกู คา้ คน้ หา ใช้ หรอื เปิดเผยขอ้ มลู หรือรายละเอยี ด เก่ียวกบั พนกั งานอ่นื หรือบคุ คลภายนอก เช่น คคู่ า้ และลกู คา้ ท่ีตดิ ตอ่ กบั บรษิ ัทดว้ ยความไวว้ างใจ 6. พนักงานตอ้ งไม่แทรกแซง ดกั ฟัง สอดส่อง หรือบันทึกการสนทนา การส่งผ่านขอ้ มลู หรือการติดต่อแบบไรเ้ สียง หรือเปิดเผยขอ้ มลู หรอื ถอ้ ยคา การใชโ้ ทรศพั ทห์ รืออปุ กรณส์ ่ือสารของลกู คา้ หรือบริษัท เวน้ แตล่ กู คา้ หรือบริษัทจะ ใหค้ วามยินยอมหรอื มีบทบญั ญตั ขิ องกฎหมายใหท้ าเชน่ นนั้ 7. พนกั งานตอ้ งไมป่ ระพฤติมชิ อบหรอื ทจุ รติ หรือฉอ้ ฉลตอ่ หนา้ ท่ี 8. พนกั งานตอ้ งไมด่ ่มื สรุ าหรือเสพส่งิ เสพติดใดๆ ท่ีผิดกฎหมายหรอื อย่ใู นสภาพมนึ เมาในเวลาปฏิบตั ิงาน 9. พนกั งานตอ้ งไมข่ าย ใช้ ครอบครอง แจกจ่าย หรือผลิตส่งิ เสพติด หรือสารควบคมุ ใดๆ ท่ีผิดกฎหมาย 10. พนกั งานตอ้ งไมแ่ จง้ เท็จหรือใหข้ อ้ มลู เท็จ เก่ียวกบั สขุ ภาพเพ่ือเหตผุ ลในการขาดงาน 11. พนกั งานตอ้ งไมค่ รอบครอง พกพา ใชอ้ าวธุ ปืน หรืออาวธุ ใดๆ เม่ืออย่ใู นบริเวณของบริษัทหรือขณะปฏิบตั ิภารกิจ ใหแ้ กบ่ ริษัท 12. พนกั งานตอ้ งไมเ่ ลน่ การพนนั ในบรเิ วณของบริษัท หรอื ขณะปฏิบตั ิภารกิจใหแ้ กบ่ ริษัท 13. พนกั งานตอ้ งไมใ่ ชท้ รพั ยากรของบริษัทและเวลาท่ีใชใ้ นการปฏิบตั ภิ ารกิจใหบ้ ริษัทไปกระทาธรุ กิจอย่างอ่นื 14. พนกั งานตอ้ งไมร่ บั หรอื ทาใหล้ กู คา้ ค่คู า้ หรือคสู่ ญั ญา เขา้ ใจวา่ ตอ้ งเสนอสนิ นา้ ใจใหแ้ ก่พนกั งาน หากลกู คา้ หรือคู่ คา้ เป็นผเู้ สนอสินนา้ ใจให้ พนกั งานตอ้ งปฏิเสธอย่างสภุ าพวา่ เป็นการขดั ตอ่ นโยบายของบรษิ ัท 6

15. พนกั งานตอ้ งแสดงนามบตั รท่ีบริษัทจดั หาให้ หรือป้ายช่ือพนกั งานใหเ้ ห็นชดั เจนตลอดเวลาท่ีอย่ใู นบริเวณบรษิ ัท และตอ้ งแสดงบตั รนีแ้ กล่ กู คา้ เม่อื เป็นตวั แทนบรษิ ัทไปปฏิบตั ิหนา้ ท่ี ณ สถานท่ีของลกู คา้ 16. พนกั งานตอ้ งใหค้ วามเคารพ เช่ือฟัง และใหเ้ กียรติผบู้ งั คบั บญั ชา 17. พนกั งานตอ้ งไมท่ าตนเป็นพรรคเป็นพวกฝ่ ายหน่ึงฝ่ ายใด และตอ้ งสรา้ งความสมั พนั ธฉ์ ันทม์ ิตรระหว่างพนักงาน ดว้ ยกนั 18. พนกั งานตอ้ งปฏิบตั ิงานดว้ ยความสจุ รติ ใจ และสานกึ วา่ หนา้ ท่ีตอ้ งอย่เู หนือส่งิ อ่นื ใดทงั้ หมด 19. พนกั งานตอ้ งพฒั นาตนเองใหม้ ีความรูใ้ นเร่ืองท่ีเก่ียวกบั งานในหนา้ ท่ีของตนอย่เู สมอ ขอ้ 1. การละเมดิ สิทธสิ ่วนบุคคล (Harassment) พนกั งานมีหนา้ ท่ีในการรกั ษาสภาพแวดลอ้ มในท่ีทางานใหป้ ราศจากการละเมิดสิทธิสว่ นบุคคล การละเมิดสิทธิ สว่ นบคุ คลเป็นการทาลายและบ่นั ทอนศกั ยภาพในการทางาน ลกั ษณะท่ีแสดงวา่ เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบคุ คล เช่น การ ลว่ งเกินทางเพศ ซง่ึ เป็นการกระทาท่ีผิดกฎหมาย ดงั นนั้ พนกั งานตอ้ งรบั ผิดชอบตอ่ พฤติกรรมของตนและไมย่ ินยอมใหเ้ กิด การละเมดิ สิทธิสว่ นบคุ คลของผอู้ ่นื ดว้ ย ขอ้ พงึ ปฏบิ ตั ิ 1. พนกั งานตอ้ งใหเ้ กียรติผอู้ ่ืน และไมก่ ระทาการใดๆ ในลกั ษณะท่ีเป็นการเยาะเยย้ ดถู กู เหยียดหยาม ข่มขู่ กรรโชก หรอื แสดงอาการยกตนขม่ ท่าน 2. พนกั งานตอ้ งไมย่ ยุ ง ใสร่ า้ ยป้ายสี หรือลอ้ เลยี น อนั เป็นการก่อใหเ้ กิดการแตกความสามคั คี ข้อ 2. การล่วงเกนิ ทางเพศ (Sexual Harassment) คาํ จาํ กัดความ การล่วงเกนิ ทางเพศ หมายถงึ การกระทาหรือพฤติกรรมใดๆ ท่ีแสดงใหเ้ หน็ หรือทาใหเ้ ขา้ ใจวา่ เป็นการหยิบย่ืน ขอ้ เสนอการมีความสมั พนั ธท์ างเพศ ซง่ึ การกระทาหรอื พฤติกรรมนนั้ จะมีผลตอ่ การตดั สนิ ใจดา้ นการบรหิ ารงานบคุ คล ไดแ้ ก่ การจา้ งงาน การประเมนิ ผลงาน การขนึ้ เงินเดอื นความกา้ วหนา้ การมอบหมายงาน การจดั เวลาทางาน สภาพการ จา้ งงาน หรอื การพฒั นาความกา้ วหนา้ ในอาชีพ การกดข่ีกีดกนั หรือตอ่ ตา้ นทางเพศ การละเมดิ และการขม่ ขทู่ างเพศตอ่ บคุ คลใดๆ ในสถานท่ีทางาน ตวั อย่างของการลว่ งเกินทางเพศ ไดแ้ ก่ การเกีย้ วพาราสีโดยท่ีอีกฝ่ ายไม่ยินดี การใชถ้ อ้ ยคาหรือการแสดงกริยา หรือท่าทางท่ีสอ่ ไปในทางพฤตกิ รรมทางเพศ หรือการแสดงส่งิ ของ ภาพ เสียง หรือส่งิ อ่นื ใดท่ีเชิญชวนใหม้ ีความสมั พนั ธท์ าง เพศ เป็นตน้ ขอ้ พงึ ปฏบิ ตั ิ พนักงานตอ้ งไม่กระทาการใดๆ อนั เป็นการล่วงเกินทางเพศ หากไดพ้ บหรือทราบว่ามีการล่วงเกินทางเพศตอ้ ง รายงานตอ่ ผบู้ งั คบั บญั ชาทนั ที 7

ข้อ 3. การไม่เลอื กปฏบิ ตั แิ ละการใหโ้ อกาสเทา่ เทยี มกัน (Non-Discrimination and Equal Opportunity) พนกั งานพงึ ตระหนกั อย่เู สมอว่าธรุ กิจจะประสบความสาเรจ็ ไดต้ อ้ งยอมรบั ในคณุ คา่ และสง่ เสรมิ ความสามารถซ่งึ กนั และกันโดยเท่าเทียมกัน พนักงานตอ้ งสรรคส์ รา้ งและดารงไวซ้ ่งึ ความสมานฉันทใ์ นท่ีทางาน พนักงานตอ้ งปฏิบัติใน แนวทางเดยี วกนั นีต้ อ่ คคู่ า้ ทกุ ราย ตามนโยบายของบริษัท และกฎหมายท่ีเก่ียวขอ้ ง คาํ จาํ กัดความ “การเลือกปฏิบัติ” หมายถงึ การปฏิบัติต่อผอู้ ่ืนอย่างไมเ่ ป็นธรรมโดยใชว้ ิจารณญาณหรือความสมั พนั ธส์ ่วนตวั ตดั สนิ โดยไมค่ านงึ ถงึ ความรูค้ วามสามารถในการปฏิบตั งิ าน “การให้โอกาสเท่าเทยี มกัน” หมายถึง การใหโ้ อกาสโดยไมแ่ บ่งแยกในดา้ นอายุ สีผิว สญั ชาติ เชือ้ ชาติ ความ พิการ ทพุ พลภาพ เพศ ศาสนา ชาติกาเนิด สถานภาพการสมรส ทศั นคตทิ างเพศ หรือสถานภาพทางสงั คม “ขอ้ กาํ หนดในการจ้างงาน” หมายรวมถงึ การสรรหาบคุ ลากร การอนญุ าตใหล้ างาน สทิ ธิประโยชน์ การจา้ งงาน ผลตอบแทน โอกาสในการเล่อื นขนั้ การโอนยา้ ย การประเมนิ ผลการปฏิบตั งิ าน การฝึกอบรม การปลดพนกั งานและการรบั กลบั เขา้ ทางานใหม่ การเขา้ รว่ มหรอื มีส่วนรว่ มในสงั คมและกิจกรรมนนั ทนาการ การปฏิบตั ิตามกฎระเบียบ และการสิน้ สดุ สภาพการจา้ งงาน เป็นตน้ ข้อพงึ ปฏบิ ัติ 1. พนักงานท่ีทาหนา้ ท่ีคดั เลือกผูส้ มคั รงานตอ้ งพิจารณาผสู้ มัครงานตามความรูค้ วามสามารถและความเหมาะสม โดยไมเ่ ลือกปฏิบัติในการจา้ งงาน รวมทงั้ ไม่กระทาใดๆ ท่ีมีผลกระทบ ตอ่ สถานภาพการจา้ งงานของเพ่ือนร่วมงาน หรือผทู้ ่ีจะรบั เขา้ เป็นพนกั งาน 2. ในการติดต่อทางธุรกิจพนกั งานตอ้ งไมเ่ ลอื กปฏิบตั ิตอ่ ลกู คา้ ผจู้ ดั หาสินคา้ และบริการ คแู่ ข่งเจา้ หนา้ ท่ีของรฐั หรือ บคุ คลใดๆ อนั เป็นการขดั หรือมชิ อบดว้ ยกฎหมาย 3. พนกั งานตอ้ งสนับสนุนใหผ้ ูพ้ ิการ ผูท้ ุพพลภาพ สตรี ผูท้ ่ียังไม่บรรลนุ ิติภาวะ ทหารผ่านศึกหรือบุคคลอ่ืนๆ ใหม้ ี โอกาสเทา่ เทียมกนั ในการสมคั รงานหรอื ตดิ ตอ่ ธรุ กิจกบั บรษิ ัท ข้อ 4. ผลประโยชนส์ ่วนตวั (Personal Interests) บริษัทส่งเสริมให้พนักงานเข้าร่วมกิจกรรมและกระทาในส่ิงท่ีก่อให้เกิดผลประโยชน์ส่วนตัวของพนักงาน นอกเหนือจากงานท่ีรบั ผิดชอบ แต่ขณะเดียวกนั พนกั งานพงึ ตระหนกั อยู่เสมอวา่ การกระทาเช่นนนั้ ตอ้ งไม่กระทบตอ่ การ ปฏิบตั ิงานตามหนา้ ท่ีรบั ผิดชอบของตนหรอื การตดั สินใจท่ีเท่ียงตรงปราศจากอคติ และเป็นไปตามวตั ถุประสงคท์ างธุรกิจ ของบรษิ ัท ความขดั แยง้ ทางผลประโยชนเ์ ชน่ นีอ้ าจทาใหง้ านของบริษัท และตวั พนกั งานเองประสบปัญหาได้ อนั จะนาไปสู่ การบริการท่ีดอ้ ยคณุ ภาพ ส่ิงท่ีจะแสดงความโดดเดน่ ในดา้ นธุรกิจของบรษิ ัทและพนกั งาน คือ การใหผ้ ลประโยชนส์ งู สดุ แก่ ลกู คา้ และบริษัท ตลอดจนหลกี เล่ยี งการใชอ้ านาจหนา้ ท่ีท่ีไมถ่ กู ตอ้ งเหมาะสม ข้อ 4.1 ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ หมายถึง การดาเนินกิจกรรมใดๆ ท่ีทาใหผ้ ลประโยชนส์ ่วนตัวของ พนักงานขัดแย้งกับผลประโยชน์ของบริษัท ซ่ึงอาจบ่ันทอนประสิทธิภาพและทาให้เกิดอคติในการปฏิบัติงาน ทั้งนี้ 8

ผลประโยชนส์ ว่ นตวั อาจรวมถงึ การดาเนินกิจกรรมหรือธุรกิจภายนอกบริษัท ผลประโยชนท์ างการเงิน หรือความสมั พนั ธ์ สว่ นตวั  กิจกรรมสว่ นตวั พนกั งาน  กิจกรรมของครอบครวั หรือสมาชิกในครอบครวั ท่ีอาจกระทบถึงการตดั สินใจเพ่ือผลประโยชน์ ทางธุรกิจ ของบรษิ ัท  กิจกรรมของบุคคลใกลช้ ิด หรือบุคคลท่ีมีความสัมพันธส์ ่วนตวั ซ่ึงอาจจะกระทบถึงการตดั สินใจเพ่ือ ผลประโยชนท์ างธุรกิจของบรษิ ัท ขอ้ พงึ ปฏบิ ัติ พนกั งานตอ้ งไมด่ าเนินธุรกิจใด ๆ ท่ีอาจก่อใหเ้ กิดความขดั แยง้ ทางผลประโยชนก์ บั บริษัทไม่ว่าโดย ทางตรงหรือ ทางออ้ ม โดยจะไม่ใชโ้ อกาสในฐานะ ตาแหน่งหนา้ ท่ีการงานเพ่ือแสวงหาประโยชนเ์ พ่ือตนเองและพวกพอ้ ง และตอ้ ง พยายามหลีกเล่ียงไม่ให้เกิดการทาธุรกิจรายการใด ๆ ท่ีเกิดความขัดแยง้ ทางผลประโยชนท์ ่ีอาจส่งผลกระทบในการ ตดั สนิ ใจ รวมถงึ การทาธรุ กิจใด ๆ ทงั้ ในนามสว่ นตวั หรือในนามนิตบิ คุ คลท่ีตนมสี ว่ นไดส้ ว่ นเสีย ขอ้ 4.2 การดาํ เนินกจิ กรรมหรือธุรกจิ ภายนอกบรษิ ัท (Outside Activities) ขอ้ พงึ ปฏบิ ัติ 1. เพ่ือเป็นการหลีกเล่ียงความขัดแยง้ ท่ีอาจเกิดขึน้ ระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตนกบั บริษัท พนักงานตอ้ งไม่ รบั จา้ ง ใหค้ าปรกึ ษา หรือใหค้ วามช่วยเหลือบริษัทหรือองคก์ รท่ีดาเนินธุรกิจคลา้ ยกบั บริษัทหรือค่แู ข่งกับ บรษิ ัท 2. พนกั งานตอ้ งไม่ใชท้ รพั ยากรของบริษัท (เช่น ทรพั ยส์ ิน เวลา เงินทุน ขอ้ มลู บันทึก ทรพั ยส์ ินทางปัญญา หรอื ขอ้ มลู จาเพาะ คอมพิวเตอรซ์ อฟตแ์ วร์ และช่ือบรษิ ัท) เพ่ือการดาเนินกิจกรรมหรือธุรกิจภายนอกบริษัท โดยไมไ่ ดร้ บั อนมุ ตั ิจากผมู้ ีอานาจหนา้ ท่ี 3. พนกั งานตอ้ งไดร้ บั การอนมุ ตั จิ ากผูบ้ งั คบั บญั ชา ก่อนการใชอ้ านาจหนา้ ท่ีในฐานะพนกั งานของบรษิ ัทฯ ใน การดาเนินกิจกรรมหรือธรุ กิจภายนอกบรษิ ัท ขอ้ 4.3 ผลประโยชนท์ างการเงนิ (Financial Interests) ขอ้ พงึ ปฏบิ ตั ิ 1. พนกั งานตอ้ งไมเ่ สนอหรือยอมรบั ขอ้ เสนอการใหเ้ งินกสู้ ว่ นบคุ คล การคา้ ประกนั ส่วนลดหรอื สิทธิประโยชน์ ใดๆ จากผจู้ ดั หาสินคา้ และบรกิ าร รวมทงั้ คแู่ ข่งของบริษัท 2. พนกั งานตอ้ งไม่บงั คบั หรือ กดดนั พนกั งานอ่นื ๆ ใหส้ นบั สนนุ ทางการเงินแก่องคก์ รทางการเมือง และไมใ่ ช้ ทรพั ยากรของบรษิ ัท เพ่ือกิจกรรมดงั กลา่ ว 9

ขอ้ 4.4 ความสัมพันธส์ ่วนตวั (Personal Relationships) ข้อพงึ ปฏบิ ัติ 1. พนกั งานตอ้ งหลีกเล่ยี งการบงั คบั บญั ชาตามสายงาน กบั สมาชิกในครอบครวั เดยี วกนั หรือบคุ คลใกลช้ ิด ไม่ วา่ โดยทางตรงหรือทางออ้ ม 2. การรบั พนกั งานใหม่หรือการโอนยา้ ยพนักงาน ท่ีมีความสมั พนั ธภ์ ายในครอบครวั เดียวกัน หรือเป็นเครือ ญาติอย่างใกลช้ ิด หรือบุคคลใกลช้ ิดกับพนกั งาน เช่น ค่สู มรส บุตร พ่ีนอ้ ง เป็นตน้ เขา้ มาทางาน ภายใต้ การบงั คบั บญั ชา ตามสายงานของตนเอง ควรเป็นไปอย่างโปรง่ ใสและเป็นไปตามนโยบายของบรษิ ัท 3. พนักงานตอ้ งแยกแยะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในครอบครัวหรือบุคคลใกลช้ ิด กับภารกิจท่ีไดร้ ับ มอบหมาย ในการประเมินผลการทางาน การปรบั เล่ือนตาแหน่ง การตัดสินใจเร่ืองค่าตอบแทน และ แนวทางการจา้ งงาน 4. พนกั งานตอ้ งไม่ร่วมกบั สมาชิกในครอบครวั หรือบุคคลใกลช้ ิด ทากิจการท่ีอาจก่อใหเ้ กิดความขดั แยง้ ทาง ผลประโยชนก์ บั บริษัท เพ่ือหลีกเล่ียงความไม่เหมาะสมท่ีอาจเกิดขนึ้ พนกั งานตอ้ งเปิดเผยความสมั พันธ์ ของสมาชิกครอบครวั หรือบุคคลใดๆ ท่ีอาจก่อใหเ้ กิดความขดั แยง้ ทางผลประโยชนก์ บั บริษัท โดยรายงาน ผบู้ งั คบั บญั ชาใหท้ ราบ ข้อ 5. ความเป็ นส่วนตัวของพนักงาน (Employee Privacy) พนักงานพึงเคารพความเป็นส่วนตวั ซ่ึงกันและกัน ทั้งไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของเพ่ือนพนักงาน เพราะการ กระทาดงั กล่าวก่อใหเ้ กิดการแตกความสามคั คีและมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทางาน พนักงานตอ้ งเขา้ ใจว่า โดย ปกติแลว้ บรษิ ัทจะไม่ตรวจสอบการติดตอ่ ส่ือสารส่วนบุคคล การใชค้ อมพิวเตอร์ และจะไม่ตรวจคน้ สถานท่ีปฏิบตั งิ านของ พนกั งาน แตบ่ ริษัทอาจดาเนินการดงั กลา่ วเม่อื ใดกไ็ ดเ้ พ่ือปกป้องผลประโยชนข์ องบริษัท ขอ้ พงึ ปฏบิ ัติ 1. พนกั งานจะคน้ หาหรือใชข้ อ้ มูลส่วนบุคคลของพนกั งานอ่ืนเพ่ือใชใ้ นกิจการของบริษัท ไดก้ ็ต่อเม่ือไดร้ บั อนญุ าต เท่านนั้ 2. พนกั งานจะเปิดเผยขอ้ มูลส่วนบุคคลของพนกั งานอ่ืนเพียงเท่าท่ีไดร้ บั อนุญาต และจะเปิดเผยต่อบุคคลท่ีไดร้ บั มอบหมายเพ่ือประโยชนท์ างธรุ กิจตามนโยบายของบรษิ ัทหรอื ตามกฎหมาย 3. พนกั งานจะเก็บรวบรวมขอ้ มูลส่วนบุคคลของพนกั งานอ่ืนเท่าท่ีจาเป็นต่อการดาเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ เท่านนั้ 10

หมายเหตุ ในบางครงั้ บริษัทมีความจาเป็นท่ีจะตอ้ งตรวจคน้ สถานท่ีปฏิบตั ิงานของพนกั งาน เพ่ือความปลอดภยั ในชีวิตและ ทรพั ยส์ ินของพนกั งานอ่นื และบรษิ ัท บรษิ ัทสงวนสิทธิในการตรวจคน้ ทรพั ยส์ ินของบริษัทไดท้ กุ เม่อื เช่น สถานท่ีทางาน โต๊ะ ตเู้ ก็บของ ยานพาหนะ อีเมล์ แฟ้มขอ้ มลู ในคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สาหรบั เก็บขอ้ มูล และบันทึกการใชโ้ ทรศพั ทข์ องบริษัท รวมทงั้ ทรพั ยส์ นิ เพ่ือการติดตอ่ ส่อื สารของบริษัทท่ีอยภู่ ายนอกสถานท่ีทางาน เป็นตน้ โดยปกติแลว้ บริษัทจะไม่คานึงถึงการปฏิบัติตัวนอกเวลาปฏิบัติงานของพนักงาน เวน้ แต่จะเป็นผลเสียต่อการ ปฏิบตั งิ าน และกระทบตอ่ ช่ือเสยี งหรอื ผลประโยชนข์ องบรษิ ัท ขอ้ 6. ความปลอดภัยในสถานทที่ าํ งาน (Workplace Safety) สขุ ภาพและความปลอดภยั ของพนักงาน ลกู คา้ ค่คู า้ ค่สู ญั ญา ผรู้ บั เหมา และผูเ้ ขา้ มาติดต่อย่อมมีความสาคญั เหนือส่ิงอ่ืนใด พนกั งานควรคานึงถงึ ผลกระทบของการปฏิบตั ิงานประจาวนั ตอ่ การดาเนินงานของบริษัท และไมน่ าตวั เอง และผูอ้ ่ืนเขา้ ไปเก่ียวขอ้ งในสถานการณ์ท่ีมีความเส่ียงภัยโดยไม่สมควร นอกจากนี้ พนกั งานควรไดร้ บั ความรูส้ กึ ว่าตนมี ความปลอดภยั ในขณะอย่ใู นท่ีทางานหรือขณะปฏิบตั ิงาน ดงั นนั้ พนกั งานทกุ คนควรใหค้ วามสาคญั ตอ่ ความปลอดภยั ใน สถานท่ีทางานดว้ ย ขอ้ พงึ ปฏบิ ัติ 1. พนกั งานตอ้ งปฏิบตั ิตามขอ้ กาหนดดา้ นความปลอดภยั ของบรษิ ัท ในการใชเ้ คร่ืองมือ อปุ กรณ์ และสภาพแวดลอ้ ม ในการทางาน นอกจากนนั้ แลว้ พนกั งานตอ้ งไมใ่ ชห้ รือไมม่ อบหมายใหผ้ อู้ ่ืนใชอ้ ปุ กรณโ์ ดยท่ีตนเอง และผอู้ ่ืนไมไ่ ด้ รบั การฝึกอบรมวิธีใชม้ ากอ่ น 2. พนกั งานตอ้ งใชอ้ ปุ กรณป์ ้องกนั ภยั สว่ นบคุ คลตามระเบียบของบรษิ ัท 3. ในกรณีท่ีมีวตั ถุหรือสารอนั ตรายไวใ้ นครอบครอง พนกั งานตอ้ งจัดการ เก็บรกั ษา และใชว้ ตั ถุหรือสารอนั ตราย ตามท่ีระบไุ วใ้ นระเบียบของบริษัทและกฎหมายท่ีเก่ียวขอ้ ง รวมทงั้ ตอ้ งมีความเขา้ ใจในอนั ตรายของวตั ถหุ รือสารท่ี ใช้ 4. พนกั งานตอ้ งรายงานตอ่ ผบู้ งั คบั บญั ชาและหนว่ ยงานท่ีดแู ลดา้ นส่ิงแวดลอ้ มและความปลอดภยั ในบรษิ ัท เก่ียวกบั สภาวะความไมป่ ลอดภยั หรือเป็นอนั ตรายท่ีเกิดขนึ้ หรืออาจจะเกิดขนึ้ รวมถงึ กรณีท่ีไดร้ ายงานแลว้ แตย่ งั ไม่ไดร้ บั การแกไ้ ข นอกจากนี้ พนกั งานจะตอ้ งรายงานอบุ ัติเหตทุ ่ีเกิดขึน้ ทันทีตามท่ีกฎหมายกาหนด โดยเฉพาะอย่างย่ิง อบุ ตั ิเหตทุ ่ีเก่ียวกบั การบาดเจบ็ ทางรา่ งกาย 5. เม่ือเจา้ หนา้ ท่ีดา้ นสขุ ภาพและความปลอดภยั ของทางราชการติดตอ่ ขอตรวจสอบเคร่ืองมือเคร่ืองใช้ สถานท่ี และ กระบวนการปฏิบตั ิงาน พนกั งานตอ้ งแจง้ หนว่ ยงานท่ีไดร้ บั มอบหมายของบริษัทฯ ดาเนินการประสานงานและนดั หมาย เม่อื มีการตรวจสอบ ตอ้ งใหค้ วามรว่ มมือกบั เจา้ หนา้ ท่ีของทางราชการ 11

ขอ้ 6.1 การดมื่ เครอ่ื งดมื่ แอลกอฮอลแ์ ละการใช้ส่งิ เสพตดิ (Alcohol and Drug Use) การปฏิบตั ิงานของพนักงานจะสมั ฤทธิ์ผลไดย้ ่อมมาจากสมองท่ีแจ่มใสและปฏิกิริยาท่ีฉับไว การตกอยู่ภายใต้ อิทธิพลของเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอลห์ รอื ส่ิงเสพติด หรือการใชย้ าท่ีไมเ่ หมาะสม อาจบ่นั ทอนความสามารถในการปฏิบตั ิงาน ได้ พฤตกิ รรมเช่นนี้ นอกจากจะก่อใหเ้ กิดความเสียหายตอ่ ช่ือเสียงของบริษัทแลว้ ยงั อาจมีความผิดทางอาญาดว้ ย ขอ้ พงึ ปฏบิ ตั ิ 1. พนักงานตอ้ งไม่ปฏิบัติงานขณะอยู่ใตอ้ ิทธิพลของเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ ส่ิงเสพติดท่ีผิดกฎหมาย หรือสาร ควบคมุ ใดๆ 2. พนักงานตอ้ งไม่ด่ืมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอลใ์ นเวลางานเพราะอาจเป็นอนั ตรายต่อตนเองหรือผูอ้ ่ืน หรืออาจ ก่อใหเ้ กิดผลกระทบตอ่ ช่ือเสยี งของบริษัทหรอื พนกั งานของบรษิ ัท 3. พนกั งานตอ้ งไมค่ รอบครอง ขาย ใช้ ผลติ หรอื แจกจา่ ยส่ิงเสพติดผิดกฎหมายหรอื สารควบคมุ ใดๆ 4. ในขณะปฏิบตั ิงาน พนกั งานตอ้ งไมข่ บั ข่ีหรือเดนิ ทางดว้ ยยานพาหนะของบรษิ ัทหรือของพนกั งานเอง เม่ือตก อย่ใู ตอ้ ิทธิพลของเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ ส่ิงเสพติดท่ีผิดกฎหมายหรือสารควบคมุ นอกจากนนั้ พนกั งานตอ้ ง ไมเ่ กบ็ เคร่อื งด่มื แอลกอฮอล์ สารเสพตดิ ผิดกฎหมาย หรือสารควบคมุ ไวใ้ นยานพาหนะของบริษัท 5. ในขณะปฏิบัติงาน พนักงานตอ้ งแจง้ ผูบ้ ังคบั บัญชาทราบ หากตนใชย้ าหรือสารท่ีถูกตอ้ งตามกฎหมายอนั อาจก่อใหเ้ กิดความไมป่ ลอดภยั ตอ่ ตนเองหรอื ผอู้ ่นื ข้อ 6.2 การใช้ความรุนแรงในสถานทที่ าํ งาน (Workplace Violence) ขอ้ พงึ ปฏบิ ตั ิ 1. พนกั งานตอ้ งไมท่ ารา้ ย ปองรา้ ย หรือ ข่มข่พู นกั งานอ่นื หรือผอู้ ่นื 2. พนักงานตอ้ งรายงานผูบ้ ังคับบัญชา หน่วยงานรกั ษาความปลอดภัย และฝ่ ายทรพั ยากรบุคคล เม่ือพบ พฤติกรรมรุนแรงหรือพฤติกรรมท่ีอาจเป็นอนั ตรายต่อสขุ ภาพหรือชีวิตของผูอ้ ่ืน เพ่ือป้องกนั ไม่ใหเ้ กิดความ รุนแรงในสถานท่ีทางาน ขอ้ 6.3 อาวุธ (Weapons) ข้อพงึ ปฏบิ ัติ พนกั งานตอ้ งไมพ่ กพาอาวธุ เขา้ ไปในสถานท่ีทางาน ในยานพาหนะของบรษิ ัท หรือขณะปฏิบตั ิหนา้ ท่ีใหบ้ รษิ ัท เวน้ แตไ่ ดร้ บั อนญุ าตจากบรษิ ัทและผมู้ อี านาจตามกฎหมาย 12

ข้อ 7. การรักษาสภาวะแวดล้อม (Environmental Protection) ขอ้ พงึ ปฏบิ ัติ 1. พนกั งานตอ้ งปฏิบตั ิงานโดยคานงึ ถงึ การรกั ษาสภาวะแวดลอ้ ม 2. พนกั งานตอ้ งปฏิบตั ิตามขอ้ กาหนดเก่ียวกบั การรกั ษาสภาวะแวดลอ้ ม เม่อื ใชอ้ ปุ กรณห์ รอื เม่อื ปฏิบตั งิ าน 3. พนกั งานตอ้ งปฏิบตั ิตามกฎหมายหรอื นโยบายบรษิ ัทในการจดั การวตั ถหุ รือของเสียมีพิษ 4. พนกั งานตอ้ งปฏิบตั ติ ามระบบการควบคมุ มลภาวะ 5. พนกั งานตอ้ งเขา้ มีสว่ นรว่ มในโครงการของบริษัทเก่ียวกบั การปอ้ งกนั และอนรุ กั ษส์ ภาวะแวดลอ้ ม เชน่ โครงการนา ส่ิงของกลบั มาใชใ้ หม่ 6. พนกั งานตอ้ งคานึงถงึ ผลกระทบทางดา้ นสภาวะแวดลอ้ มในการจดั ซือ้ ของบริษัท เช่น สารท่ีอาจเป็นพิษ คา่ ใชจ้ ่าย และวิธีการจดั การ การจดั เกบ็ และการทาลาย รวมทงั้ โอกาสในการนากลบั มาใชใ้ หม่ 7. พนักงานตอ้ งรายงานต่อหน่วยงานดา้ นสภาวะแวดลอ้ ม สขุ ภาพ และความปลอดภัยของบริษัท หากเกิดสภาพ ความไมป่ ลอดภยั หรอื เป็นอนั ตรายตอ่ สภาพแวดลอ้ ม สขุ ภาพ หรอื สวสั ดภิ าพของพนกั งานและผอู้ ่นื เช่น การหก เปื้อน การร่วั ไหล และสภาวะฉกุ เฉินอ่นื ๆ 8. เม่อื เจา้ หนา้ ท่ีของรฐั หรือเจา้ หนา้ ท่ีท่ีเก่ียวขอ้ งติดตอ่ ขอขอ้ มลู หรือขอตรวจสอบดา้ นสภาวะแวดลอ้ มพนกั งานตอ้ ง แจ้งหน่วยงานท่ีได้รับมอบหมายด้านส่ิงแวดล้อม สุขภาพและความปลอดภัยของบริษัทเพ่ือดาเนินการ ประสานงานและนดั หมาย พรอ้ มทงั้ ใหค้ วามรว่ มมือตามท่ีไดร้ บั มอบหมาย 13

หมวดท่ี 3. การปกป้องทรัพยส์ ินของบริษัท (Protecting Our Company Assets) ขอ้ 1. ทรัพยส์ นิ (Property) พนกั งานตอ้ งจัดการเก่ียวกบั ทรพั ยส์ ินของบริษัทฯ ดว้ ยวิธีท่ีเหมาะสม เช่น การจัดหา การครอบครอง และการ จาหน่ายจ่ายโอน และใชป้ ระโยชนจ์ ากทรพั ยส์ ินของบริษัทอย่างคมุ้ ค่าและมีประสิทธิภาพ ทงั้ ตอ้ งบารุงรกั ษาอย่างถูกวิธี ดว้ ย ตวั อย่างของทรพั ยส์ ิน ไดแ้ ก่ อสงั หาริมทรพั ย์ วสั ดอุ ปุ กรณ์ เคร่ืองมือเคร่ืองใช้ สนิ คา้ คงคลงั อะไหล่ เงินทนุ ระบบ และอปุ กรณค์ อมพิวเตอร์ ซอฟตแ์ วรค์ อมพิวเตอร์ ยานพาหนะ บันทึกหรือรายงาน ทรพั ยส์ ินและขอ้ มลู จาเพาะ ทรพั ยส์ ิน ทางปัญญา ขอ้ มลู ลบั เฉพาะ ขอ้ มลู ทางการคา้ ระบบอีเมล์ เป็นตน้ ข้อพงึ ปฏบิ ัติ 1. เม่ือพบเห็นหรือทราบว่าทรพั ยส์ ินของบริษัทไดร้ บั ความเสียหาย พนักงานตอ้ งรายงานใหผ้ ูท้ ่ีเก่ียวขอ้ งทราบเพ่ือ ดาเนินการแกไ้ ข 2. พนกั งานตอ้ งไมน่ าเอาไป ใช้ ขาย ให้ ขอยืม ใหย้ ืม หรือ จาหน่ายจา่ ยโอนทรพั ยส์ ินของบริษัท โดยไมไ่ ดร้ บั อนญุ าต ไมว่ า่ ทรพั ยส์ ินนนั้ จะมมี ลู คา่ หรืออย่ใู นสภาพใด 3. พนกั งานตอ้ งไมเ่ จตนาทาใหเ้ สยี หาย ก่อวินาศกรรม หรอื ทาลายทรพั ยส์ ินของบริษัท 4. พนกั งานตอ้ งปกป้องทรพั ยส์ ินของบริษัทจากการโจรกรรม การใชอ้ ย่างผิดวิธีและผิดประเภท การถกู ทาลายหรือ ก่อวนิ าศกรรม นอกจากนีจ้ ะตอ้ งปฏิบตั ิตามขอ้ กาหนดท่ีเก่ียวขอ้ งดว้ ย 5. พนกั งานตอ้ งไมใ่ ชท้ รพั ยส์ นิ ของบรษิ ัทเพ่ือประโยชนส์ ว่ นตนหรือกิจการภายนอกซ่งึ ไมเ่ ก่ียวกบั ธรุ กิจบริษัท เวน้ แต่ จะไดร้ บั อนญุ าตจากผบู้ งั คบั บญั ชาเทา่ นนั้ ขอ้ 2. เงนิ ทุน (Funds) การบริหารจดั การเงินทนุ ของบริษัท ตอ้ งบริหารเงินทนุ อย่างมีประสิทธิภาพใหฐ้ านะทางการเงินเพียงพอท่ีจะทาให้ งานบรรลเุ ป้าหมายและยงั เป็นการป้องกนั การใชเ้ งินทนุ ในทางท่ีผิดประเภทและการทุจริตดว้ ย ดงั นนั้ พนกั งานควรจดั การ ดูแลเงินทุนของบริษัทดว้ ยความรอบคอบ ระมัดระวังเสมือนเป็นของตนเอง และปฏิบัติตามจรรยาบรรณเพ่ือให้เกิด ประสิทธิภาพและประโยชนส์ งู สดุ คาํ จาํ กดั ความ เงินทุนของบริษัท หมายถึง เงินสด เช็ค ตราสารทางการเงินต่างๆ เอกสารหรือบนั ทกึ ใดๆ ท่ีมีมลู คา่ ทางการเงิน รวมทงั้ ส่ิงท่ีมคี า่ เทียบเท่าเอกสารหรอื บนั ทกึ ใดๆ ท่ีมีมลู คา่ ทางการเงิน 14

ตัวอย่างของเงินทุน ไดแ้ ก่ เงินสด เช็ค บตั รเครดิต บญั ชีลกู หนี้ บญั ชีเจา้ หนี้ ใบส่งั จ่าย ใบเสรจ็ รบั เงิน ธนาณัติ ไปรษณียากร อากรแสตมป์ แบบฟอรม์ การรบั ผลประโยชน์ สิทธิการใชเ้ งินคืน บญั ชีรายการสินคา้ ท่ีส่งคืนค่าใชจ้ ่าย ตรา สารทางการเงิน เป็นตน้ ข้อพงึ ปฏบิ ัติ 1. พนกั งานตอ้ งปกป้องเงินทนุ และปฏิบตั ิตามนโยบายเก่ียวกบั ความม่นั คงปลอดภยั ของเงินทนุ 2. พนกั งานตอ้ งรว่ มมอื กนั ใชเ้ งินทนุ ของบริษัท หรือการทดรองจ่ายของบริษัทฯ ใหไ้ ดร้ บั ผลตอบแทนสงู สดุ 3. พนกั งานตอ้ งจดั ทาบนั ทกึ รายการเงินทนุ และรายการท่ีเก่ียวขอ้ งอยา่ งถกู ตอ้ งและสจุ รติ พนกั งานผมู้ ีอานาจอนมุ ตั ิ ตอ้ งตรวจสอบวา่ บนั ทึกดงั กล่าวท่ีจดั เตรียมนนั้ ถูกตอ้ งสจุ ริต และถูกตอ้ งตรงตามเวลา ทัง้ การใชเ้ งินทุนนนั้ ตอ้ ง เป็นไปอย่างเหมาะสมและถกู ตอ้ งตามระเบียบ 4. พนกั งานตอ้ งไมใ่ ชเ้ งินทนุ ในธุรกิจของบริษัทโดยท่ีตนไมไ่ ดร้ ับอนมุ ตั ใิ หด้ าเนินการ 5. พนกั งานตอ้ งไมใ่ ชเ้ งินทนุ ของบริษัทเพ่ือประโยชนส์ ว่ นตวั ข้อ 3. บนั ทกึ (Records) ขอ้ มลู ท่ีพนกั งานบนั ทกึ ทาใหท้ ราบถงึ ผลการปฏิบตั ิงานของพนกั งาน และทาใหเ้ กิดความไดเ้ ปรียบในการประกอบ ธรุ กิจ ขอ้ มลู ท่ีสมบรู ณ์ ถกู ตอ้ งและเท่ียงตรงช่วยใหก้ ารปฏิบตั ิงานมีความคลอ่ งตวั ประหยดั คา่ ใชจ้ ่าย และสามารถกาหนด กลยุทธใ์ นการดาเนินธุรกิจ นอกจากนี้ กฎหมายหลายฉบบั ยงั ไดก้ าหนดบทลงโทษอย่างรุนแรงสาหรบั การท่ีพนักงานใช้ ขอ้ มลู ผิดวตั ถปุ ระสงค์ การบนั ทกึ ขอ้ มลู ไม่ถูกตอ้ ง และการไมบ่ นั ทึกขอ้ มลู ท่ีจาเป็นบางอย่างลงในบนั ทึกของบริษัท ดงั นนั้ การบนั ทกึ ขอ้ มลู ท่ีไมถ่ กู ตอ้ ง พนกั งานจะไดร้ บั บทลงโทษตามระเบียบวนิ ยั ของบรษิ ัท คาํ จาํ กัดความ บันทกึ ของบริษัท หมายถงึ ขอ้ มลู หรือความรูท้ ่ีบริษัทไดม้ าจากการซือ้ การผลิต การหามา รายงาน หรือวธิ ีการ อ่นื ๆ รวมถงึ ขอ้ มลู หรอื ความรูท้ ่ีพนกั งานพฒั นาขนึ้ มาในช่วงเวลาทางานหรือในระหวา่ งการปฏิบตั งิ านใหบ้ รษิ ัท ตัวอย่างของบันทึก ไดแ้ ก่ รายงาน บันทึกเวลาทางาน ใบเบิกจ่ายเงิน แบบฟอรม์ สิทธิประโยชน์ ใบแจง้ หนี้ ใบเสรจ็ รบั เงิน บนั ทึกการจ่ายเงินคา่ จา้ ง ประวตั ิการทางาน ประวตั ิลกู คา้ ขอ้ มลู จาเพาะหรือขอ้ มลู ลบั ขอ้ มลู ลบั ดา้ นความ ปลอดภยั แห่งชาติ บนั ทกึ การวดั ผลและผลการปฏิบตั ิงาน และขอ้ มลู สาคญั อ่นื ๆ ไม่วา่ จะบนั ทกึ อย่ใู นคอมพิวเตอรห์ รือเป็น เอกสาร เป็นตน้ 15

ขอ้ พงึ ปฏบิ ัติ 1. พนกั งานตอ้ งจดั เตรียมบนั ทกึ ของบรษิ ัทดว้ ยความถกู ตอ้ งและเท่ียงตรง 2. พนกั งานตอ้ งไมจ่ งใจทารายงานหรอื บนั ทกึ ท่ีเป็นเท็จหรอื ผิดพลาด รวมทงั้ ตอ้ งไมจ่ งใจปิดบงั หรือเสนอขอ้ มลู ท่ีเป็น เท็จหรือผิดพลาดต่อบริษัทเม่ือพบรายงานท่ีมีขอ้ มลู ไมถ่ ูกตอ้ งหรือผิดพลาด พนกั งานตอ้ งรายงานใหฝ้ ่ ายบริหาร ทราบ 3. พนกั งานตอ้ งไมเ่ ปล่ยี นแปลงบนั ทกึ ของบริษัทหากไมไ่ ดร้ ับอนมุ ตั อิ ยา่ งเป็นทางการ 4. พนักงานตอ้ งจัดทาหรือจัดเตรียมบันทึกของบริษัทใหส้ อดคลอ้ งกับกฎหมายท่ีเก่ียวข้องทั้งในประเทศและ ตา่ งประเทศ 5. พนกั งานตอ้ งเก็บรกั ษาบนั ทกึ ของบริษัทใหเ้ ป็นไปตามกฎหมาย ตามนโยบายของบรษิ ัท และตามความจาเป็นทาง ธุรกิจ 6. พนักงานตอ้ งคมุ้ ครองและป้องกันขอ้ มูลส่วนบุคคลและขอ้ มูลจาเพาะท่ีเก่ียวขอ้ งกบั พนกั งาน ลูกคา้ ค่คู า้ และ คสู่ ญั ญาไวเ้ ป็นความลบั เม่ือมีการใชข้ อ้ มลู เหลา่ นนั้ เวน้ แต่จะเปิดเผยใหแ้ ก่บุคคลท่ีไดร้ บั อนุญาตใหใ้ ชข้ อ้ มูลได้ และเพ่ือวตั ถปุ ระสงคท์ ่ีเก่ียวขอ้ งเทา่ นนั้ 7. เม่ือพนักงานพบขอ้ ผิดพลาดทางดา้ นเอกสารและดา้ นบัญชี ตอ้ งรายงานผูบ้ ังคบั บญั ชาใหท้ ราบโดยทันที แลว้ ดาเนินการแกไ้ ขตามท่ีผบู้ งั คบั บญั ชาส่งั การ โดยการใหเ้ ครดิต การชดใชเ้ งินคืน หรือวธิ ีการอ่นื ซง่ึ เหน็ พอ้ งตอ้ งกนั ขอ้ 4. เวลา (Time) การบันทึกเวลาทางานอย่างถูกตอ้ งและการใชเ้ วลาทางานอย่างมีประสิทธิภาพเป็นส่ิงสาคญั ต่อลูกคา้ การทา เช่นนนั้ จะทาใหเ้ หน็ ความแตกตา่ งระหวา่ งการทางานระดบั ปานกลางกบั การทางานอย่างดเี ย่ียม ซง่ึ จะทาใหเ้ ราไดเ้ ปรยี บใน การแขง่ ขนั ทางธุรกิจ หากพนกั งานใชเ้ วลาอย่างคมุ้ คา่ ท่ีสดุ และไมย่ อมใหผ้ ลประโยชนภ์ ายนอกมาแทรกแซงเวลาทางาน ก็ ย่อมจะทาใหบ้ ริษัทมีความไดเ้ ปรยี บคแู่ ขง่ ในสภาพการแข่งขนั ท่ีรุนแรงย่ิงขนึ้ คาํ จาํ กัดความ เวลาทาํ งาน หมายถึง ช่วงเวลาท่ีใชใ้ นการทางาน การเดินทางเพ่ือธุรกิจ การดาเนินกิจกรรมทางธุรกิจ หรือการ เป็นผแู้ ทนบริษัท ขอ้ พงึ ปฏบิ ัติ 1. พนกั งานตอ้ งใชเ้ วลาทางานอย่างมีประสิทธิภาพ และใหม้ ปี ระสทิ ธิผลตามท่ีกาหนดไว้ 2. พนกั งานตอ้ งบนั ทกึ เวลาทางานอยา่ งถกู ตอ้ งและเท่ียงตรง 3. พนกั งานตอ้ งปฏิบตั ิตามนโยบายของหนว่ ยงานเก่ียวกบั กาหนดเวลาการทางาน 4. พนกั งานตอ้ งไมก่ ระทาการหรอื ชกั จงู เพ่ือนพนกั งาน ใหใ้ ชเ้ วลางานไปทากิจกรรมอ่นื ท่ีไมเ่ ก่ียวกบั ธรุ กิจของบรษิ ัท 16

ขอ้ 5. ทรัพยส์ นิ ทางปัญญา (Intellectual Property) ความคิด แนวคิด และขอ้ มูลอ่ืนๆ ท่ีพนกั งานคิดคน้ ขนึ้ ได้ ถือเป็นทรพั ยส์ ินท่ีมีคา่ ตอ่ บริษัท ส่ิงเหลา่ นีเ้ ป็นหวั ใจใน การพัฒนาผลิตภัณฑใ์ หม่ และกระตนุ้ ใหเ้ กิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ หากพนักงานไม่ปกป้องทรพั ยส์ ินทางปัญญาเหล่านี้ บริษัทอาจสญู เสียเอกสทิ ธิ์และความไดเ้ ปรยี บทางธรุ กิจ ตัวอย่างทรัพยส์ ินทางปัญญา ไดแ้ ก่ เทคโนโลยีทั้งท่ีจดหรือไม่ไดจ้ ดสิทธิบัตร เคร่ืองหมายการคา้ ความลบั ทางการคา้ ขอ้ มลู ท่ีมีลิขสทิ ธิ์ เป็นตน้ ข้อพงึ ปฏบิ ตั ิ 1. พนกั งานตอ้ งปกปอ้ งทรพั ยส์ นิ ทางปัญญาของบริษัท โดยจะไมเ่ ปิดเผยก่อนไดร้ บั อนญุ าต 2. พนกั งานตอ้ งปกป้องทรพั ยส์ ินทางปัญญาโดยไมใ่ ชผ้ ิดวิธีหรือผิดกฎหมาย และเม่ือใช้ ตอ้ งแน่ใจวา่ ไดป้ ระทบั ตรา หรือแสดงเคร่ืองหมายการคา้ หรอื เคร่อื งหมายบรกิ าร หรอื สญั ลกั ษณล์ ขิ สิทธิ์ 3. พนักงานต้องแจ้งให้บริษัททราบถึงการค้นพบ การประดิษฐ์ (เช่น โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ส่ิงประดิษฐ์ทาง เทคโนโลยี) รวมไปถงึ ขอ้ มลู จาเพาะ ท่ีไดพ้ ฒั นาขนึ้ ในช่วงเวลาปฏิบตั งิ านในบรษิ ัท หรือใชท้ รพั ยากรของบริษัท 4. พนักงานตอ้ งช่วยบริษัทเพ่ือใหไ้ ดม้ าซ่ึงสิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ หรือ ปกป้องเคร่ืองหมายการคา้ ท่ีเป็นทรพั ยส์ ินทาง ปัญญาของบริษัท ขอ้ 6. ข้อมูลจาํ เพาะ (Proprietary Information) ขอ้ มลู จาเพาะมีบทบาทสาคญั ต่อกลยุทธท์ างการคา้ เช่นเดียวกบั สิทธิในทรพั ยส์ ินทางปัญญา ดงั นนั้ พนกั งานพึง ตระหนักว่าขอ้ มลู ส่วนมากท่ีไดร้ บั การพัฒนาโดยบริษัทหรืออยู่ในความครอบครองของบริษัท ลว้ นเป็นความลับท่ีหา้ ม เปิดเผยโดยไม่ไดร้ ับอนุญาต การใช้ประโยชนแ์ ละการเก็บรกั ษาขอ้ มูลเหล่านีอ้ ย่างระมัดระวงั เป็นส่ิงสาคญั ต่อความ ไดเ้ ปรยี บคแู่ ข่งและทาใหม้ ่นั ใจไดว้ า่ บรษิ ัทจะเป็นผนู้ าในตลาดการแข่งขนั คาํ จาํ กัดความ ข้อมูลจาํ เพาะ หมายถงึ ขอ้ มลู ท่ีบริษัท เป็นเจา้ ของหรือควบคมุ ซง่ึ ประกอบดว้ ย  มีคณุ คา่ ทางเศรษฐกิจตอ่ บรษิ ัทฯ ทงั้ ในปัจจบุ นั และในอนาคต  หากเปิดเผย อาจเป็นประโยชนต์ อ่ คแู่ ข่ง  เป็นท่ีรูก้ นั ในวงจากดั และตอ้ งไมเ่ ปิดเผยสสู่ าธารณชน 17

ตัวอย่างของข้อมูลจําเพาะ ไดแ้ ก่ ส่ิงประดิษฐ์ โปรแกรม วิธีการ เทคนิค การคน้ พบ การพัฒนาและการ สรา้ งสรรค์ การวิจัย ข้อมูลของลูกคา้ และพนักงาน แผนการก่อสรา้ ง กลยุทธ์ ขอ้ มูลผลิตภัณฑ์และบริการใหม่และ เทคโนโลยีชนิดอ่นื แผนธรุ กิจและการตลาด ขอ้ มลู การขายและการตลาด ขอ้ พงึ ปฏบิ ตั ิ 1. พนกั งานตอ้ งจดั การ จดั เก็บ และแยกรายละเอียดขอ้ มลู จาเพาะตามขอ้ กาหนดของบริษัท 2. เม่ือพนกั งานจะจาหน่าย จ่ายแจกขอ้ มูลจาเพาะใหแ้ ก่บุคคลอ่ืน ตอ้ งไดร้ บั ความเห็นชอบเป็นลายลกั ษณ์อกั ษรจาก ผบู้ งั คบั บญั ชาสงู สดุ ของบริษัท รวมทงั้ ตอ้ งปฏิบตั ิตามสญั ญาท่ีจะไมเ่ ปิดเผยขอ้ มลู ดว้ ย 3. ในการเจรจาตกลงเก่ียวกบั ขอ้ มลู จาเพาะ พนกั งานตอ้ งระมดั ระวงั ไมใ่ หผ้ อู้ ่นื ไดย้ ิน ลอบฟัง ดกั ฟัง หรือบนั ทกึ เสยี ง โดยเฉพาะอย่างย่ิงไมค่ วรสนทนาในท่ีสาธารณะ ผ่านเคร่ืองมือส่ือสารทกุ ประเภท หรือกบั สมาชิกในครอบครวั ซ่งึ อาจนาไปสกู่ ารเปิดเผยตอ่ ผอู้ ่นื 4. เม่อื พน้ สภาพการเป็นพนกั งานของบริษัทพนกั งานตอ้ งไมเ่ ปิดเผยและนาขอ้ มลู จาเพาะไปดว้ ย 5. พนกั งานจะรบั ขอ้ มลู จาเพาะและ/หรือขอ้ มลู ลบั ซง่ึ เป็นของบคุ คลอ่นื จากบคุ คลท่ีไดร้ บั อนญุ าตใหเ้ ปิดเผยขอ้ มลู ได้ ตอ่ เม่ือพนกั งานไดร้ บั อนุญาตจากผบู้ ังคบั บญั ชาและผบู้ งั คบั บญั ชาสงู สดุ ของบริษัทเท่านนั้ และหากไดร้ บั ขอ้ มลู เหลา่ นีจ้ ากคแู่ ข่งพนกั งานตอ้ งแจง้ ผบู้ งั คบั บญั ชาและผบู้ งั คบั บญั ชาสงู สดุ ของบรษิ ัท 6. พนกั งานจะรบั และ/หรือใชข้ อ้ มลู จาเพาะของคแู่ ข่งเฉพาะขอ้ มลู ท่ีเปิดเผยท่วั ไป ขอ้ มลู ท่ีถกู กฎหมาย หรือขอ้ มลู ท่ี ไดร้ บั ความยินยอมเป็นลายลกั ษณอ์ กั ษรจากบริษัทคแู่ ข่งเทา่ นนั้ 7. พนักงานตอ้ งไดร้ บั อนุญาตจากกรรมการบริษัท ผูม้ ีอานาจก่อนทาสญั ญาท่ีจะไม่เปิดเผยขอ้ มูล หรือสญั ญา เปิดเผยขอ้ มลู ตอ่ บคุ คลใดๆ ขอ้ 7. ระบบการส่ือสารและระบบคอมพวิ เตอร์ (Communications and Computer Systems) เทคโนโลยีเป็นหวั ใจสาคญั ของธรุ กิจบริษัท ลกู คา้ ของบริษัทไม่เพียงแต่จะมสี ิทธิคาดหวงั วา่ จะไดร้ บั เฉพาะบรกิ าร ท่ีมีคุณภาพเท่านัน้ แต่ยังคาดหวงั ว่าจะไดร้ บั การปกป้องขอ้ มูลของลกู คา้ อีกดว้ ย นอกจากระบบการส่ือสารและระบบ คอมพิวเตอรม์ ีความสาคญั ต่อการดาเนินธุรกิจของบริษัทอย่างมีประสิทธิภาพแลว้ ยงั มีบทบาทสาคญั ต่อการส่ือสารของ โลกและความม่นั คงของชาติ ดงั นนั้ ความสาเร็จของบริษัทฯ จึงขึน้ อยู่กบั ประสิทธิภาพในการคมุ้ กันและการใชง้ านของ ระบบการส่อื สารและระบบคอมพิวเตอรอ์ ย่างเหมาะสมดว้ ย ตวั อย่างของระบบการส่ือสารและระบบคอมพิวเตอร์ ไดแ้ ก่ อปุ กรณด์ า้ นการส่ือสาร เช่น โทรศพั ท์ เคร่ืองรบั ฝาก ขอ้ ความ โทรสาร ระบบคอมพิวเตอรแ์ ละโครงขา่ ยคอมพิวเตอร์ อปุ กรณช์ มุ สาย ขอ้ มลู ท่ีเขา้ สรู่ ะบบ เช่น รหสั ประจาตวั และ รหสั ผา่ น อปุ กรณต์ รวจสอบสิทธิการใชร้ ะบบ บตั รผ่านเขา้ อาคาร และรหสั ผา่ นเขา้ อาคาร 18

ข้อพงึ ปฏบิ ัติ 1. พนกั งานตอ้ งรกั ษาความลบั และความสมบรู ณข์ องระบบการส่ือสารและระบบคอมพิวเตอร์ รหสั ส่วนตวั รหสั ผ่าน รหสั เขา้ สรู่ ะบบ เทคโนโลยีและขอ้ มลู ของบริษัท ทงั้ ตอ้ งไมน่ าเทคโนโลยีเหลา่ นีไ้ ปใชโ้ ดยไมไ่ ดร้ บั อนญุ าต 2. พนกั งานตอ้ งใชร้ ะบบการส่ือสารและระบบคอมพิวเตอรด์ ว้ ยความรบั ผิดชอบ และตอ้ งไมก่ ่อใหเ้ กิดความแตกแยก การทาใหผ้ อู้ ่นื เสยี หาย การทาลายขวญั หรอื สง่ เสริมใหเ้ กิดความไมเ่ ป็นมิตรในสถานท่ีทางาน 3. พนกั งานตอ้ งไมใ่ ชร้ ะบบการส่อื สารและระบบคอมพิวเตอรใ์ นกิจกรรมท่ีผิดกฎหมายหรอื ขดั ตอ่ นโยบายบริษัทฯ ไม่ ใชอ้ ินเตอรเ์ น็ตหรอื บรกิ ารท่ีคลา้ ยคลงึ กนั ในทางท่ีจะทาใหบ้ รษิ ัทเกิดความเสยี หาย อบั อาย ขาดความเช่ือถือ หรือ เสียช่ือเสยี ง 4. พนักงานควรใชร้ ะบบการส่ือสารและระบบคอมพิวเตอรข์ องบริษัท เพ่ือวตั ถุประสงคท์ างธุรกิจเพียงอย่างเดียว เท่านนั้ อย่างไรก็ตาม การใชเ้ ป็นการส่วนตวั ในบางคราว (เช่น การใชโ้ ทรศพั ท์ การรบั ขอ้ ความทางเคร่ืองฝาก ข้อความ อีเมล์ เคร่ืองโทรสาร การใช้อินเตอร์เน็ตในกิจส่วนตัว) ก็สามารถทาได้ หากได้รับอนุญาตจาก ผบู้ งั คบั บญั ชา และนอกจากนนั้ • ตอ้ งไมก่ ระทบตอ่ งานท่ีรบั ผิดชอบ และธุรกิจของบรษิ ัท • ตอ้ งไมเ่ ก่ียวกบั ธรุ กิจกิจกรรมพเิ ศษหรือเก่ียวขอ้ งกบั องคก์ รอ่นื ๆ (รวมไปถงึ การเชิญชวนหรอื สง่ เสริมการ ซือ้ ขายสนิ คา้ และเร่อื งการเมืองหรอื ศาสนา) • ตอ้ งไมก่ อ่ ใหเ้ กิดคา่ ใชจ้ า่ ยตอ่ บริษัทฯ โดยไมส่ มควร • ตอ้ งไมข่ ดั ตอ่ มาตรฐานการปฏิบตั ติ ามจรรยาบรรณนี้ หรือนโยบายระเบียบของบริษัท 5. พนกั งานตอ้ งบนั ทกึ เฉพาะขอ้ มลู ท่ีถกู ตอ้ งและเป็นจรงิ ลงในระบบการส่อื สารและระบบคอมพิวเตอรข์ องบรษิ ัท 6. พนกั งานตอ้ งคน้ หา ใช้ เปล่ยี น ทาสาเนา ลบ หรือทาลาย ขอ้ มลู จาเพาะ เม่อื ไดร้ บั อนญุ าตเท่านนั้ 7. พนกั งานตอ้ งรกั ษาความลบั ของขอ้ มลู ท่ีเก็บบนั ทกึ หรือท่ีใชส้ ่ือสารผ่านระบบการส่ือสาร และระบบคอมพิวเตอร์ และจะใชข้ อ้ มลู เหล่านี้ (เช่น ขอ้ มลู โทรศพั ทจ์ ากลกู คา้ ประวตั ิพนกั งาน) ตอ่ เม่ือไดร้ บั อนุญาตจากผบู้ งั คบั บญั ชา เป็นการเฉพาะและตามความจาเป็นทางธุรกิจภายในขอบเขตของกฎหมายเท่านนั้ 8. พนกั งานตอ้ งปกป้องความลบั ขอ้ มลู ของบริษัทฯ (โดยเทคโนโลยีการเขา้ รหสั ) ท่ีส่งผ่านเครือข่ายสาธารณะ (เช่น อนิ เตอรเ์ น็ต) เพ่ือหลกี เล่ียงการร่วั ไหลของขอ้ มลู ลบั ของบรษิ ัท 9. พนกั งานตอ้ งตรวจสอบซอฟตแ์ วร์ อปุ กรณเ์ กบ็ ขอ้ มลู และแฟ้มขอ้ มลู ใหมท่ ่ีไดร้ บั ผา่ นทางโครงข่ายสาธารณะ (เช่น อินเตอรเ์ น็ต) โดยการใชโ้ ปรแกรมป้องกนั ไวรสั ตรวจสอบกอ่ นการติดตงั้ หรือการใชง้ าน 10. พนักงานตอ้ งใช้โปรแกรมซอฟต์แวรท์ ่ีไดร้ ับการอนุญาตแล้ว และพนักงานสามารถใช้โปรแกรมซอฟต์แวร์ สาธารณะหรือโปรแกรมทดลองใช้งานโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (Shareware) เม่ือได้รับอนุมัติจากหน่วยงาน เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เทา่ นนั้ 11. เม่ือหยดุ ใชค้ อมพิวเตอรช์ ่วั คราว หรอื ไมอ่ ย่ใู นระหวา่ งปฏิบตั ิงาน เพ่ือความปลอดภยั พนกั งานตอ้ งออกจากระบบ หรอื ใชร้ หสั ป้องกนั ผอู้ ่นื ใชง้ าน 12. พนกั งานจะตดิ ตามและปฏิบตั ิตามนโยบาย รวมทงั้ ขอ้ กาหนดของบริษัทฯ ท่ีเก่ียวกบั ความปลอดภยั ของเครือข่าย ระบบส่ือสารและระบบคอมพิวเตอรอ์ ยา่ งสม่าเสมอ 19

13. พนกั งานตอ้ งไมเ่ อือ้ อานวยหรือละเลยแก่บคุ คลใด ๆ ท่ีจะเขา้ มาแสวงหาประโยชน์ หรือเขา้ ถงึ หรือรบกวนระบบ คอมพิวเตอร์ ขอ้ มูลคอมพิวเตอร์ ขอ้ มลู จราจรคอมพิวเตอรข์ องบริษัทโดย มิชอบ หรือโดยไม่ไดร้ บั อนุญาตจาก บริษัท หรือจงใจ สนับสนุน ยินยอมให้เกิดขึน้ หรือมีอยู่ หรือเป็นการกระทาผิดตามกฎหมายท่ีเก่ียวข้องกับ คอมพิวเตอร์ กฎหมายลิขสิทธิ์ หรือกฎหมายอ่นื ๆ ท่ีเก่ียวขอ้ ง 14. พนกั งานตอ้ งไม่ใชร้ ะบบการส่ือสารและระบบคอมพิวเตอร์ ในทางส่วนตวั โดยใชโ้ ปรแกรมส่ือประเภท โซเชียล มีเดีย (การส่ือสารผ่านเครือข่ายทางสงั คม) เช่น เฟซบ๊กุ ไลน์ ฯลฯ หรือการส่งอีเมล โพสตข์ อ้ ความท่ีไม่เหมาะสม และเขา้ ข่ายความผิดอาญา ข้อสังเกต บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการกากบั ดแู ลการใชเ้ ทคโนโลยี เช่น เครอื ข่ายระบบคอมพิวเตอร์ อีเมล์ เพ่ือตรวจสอบใหม้ ี การใชง้ านอยา่ งถกู ตอ้ ง การเขา้ หรือการใชร้ ะบบโดยไดร้ บั อนญุ าต และเพ่ือวตั ถปุ ระสงคท์ างธรุ กิจของบรษิ ัทอย่างแทจ้ รงิ ข้อ 8. การทาํ ธุรกจิ ระหว่างบริษัทในเครือ (Affiliate Transaction) ในขณะท่ีบริษัทฯ และพนกั งานไดร้ บั ประโยชนจ์ ากการรวมตวั กนั ของบริษัทในเครือ บริษัทฯ มีมาตรฐานท่ีทาให้ ลกู คา้ คคู่ า้ คแู่ ข่ง และบริษัทม่นั ใจไดว้ า่ มีโอกาสท่ีเท่าเทียมกนั ในตลาดการคา้ ดงั นนั้ การจดั สรรค่าใชจ้ ่ายเก่ียวกบั ธรุ กรรม ระหวา่ งบรษิ ัทในเครือตอ้ งเป็นไปอยา่ งถกู ตอ้ งและโปรง่ ใส ขอ้ พงึ ปฏบิ ัติ 1. พนักงานตอ้ งสรา้ งความม่ันใจว่าการทาธุรกิจอย่างถูกตอ้ งตามกฎหมายระหว่างบริษัทในเครือจะก่อให้เกิด ผลประโยชนร์ ว่ มกนั และสอดคลอ้ งกบั กลยทุ ธท์ างธรุ กิจ หรือผลตอบแทนดา้ นการเงิน 2. การทาธุรกิจอยา่ งถกู ตอ้ งตามกฎหมายระหวา่ งบริษัทในเครอื จะตอ้ งมกี ารกาหนดราคาท่ีเป็นหลกั ฐานชดั เจน 3. การดาเนินการทางธุรกิจระหวา่ งบริษัทในเครือ พนกั งานตอ้ งบนั ทกึ หลกั ฐานการเรยี กเก็บค่าเวลาปฏิบตั ิงานและ คา่ ใชจ้ า่ ยท่ีเก่ียวขอ้ ง อย่างถกู ตอ้ งและตามความเป็นจริง ซง่ึ เป็นไปตามกฎหมาย ขอ้ 9. การจารกรรมและวนิ าศกรรมขอ้ มูล (Espionage and Sabotage) ทรพั ยส์ ินของบริษัทอาจถกู นาไปใชอ้ ย่างไม่เหมาะสม และอาจถูกหรือทาลายโดยคแู่ ข่งหรือบุคคลอ่ืนท่ีพยายาม ทาลายธุรกิจและช่ือเสียงของบริษัทฯ การดาเนินธรุ กิจของบริษัท จะตอ้ งมีการปอ้ งกนั การจารกรรมและการก่อวินาศกรรม เป็นอย่างดี เพ่ือใหล้ ูกคา้ ม่นั ใจว่าไดร้ บั บริการท่ีต่อเน่ืองและปลอดจากการแทรกแซง รวมทั้งการเพ่ิมประสิทธิภาพการ บรกิ ารในอนาคต 20

ตวั อย่างขอ้ มลู ท่ีอาจถกู จารกรรมและวินาศกรรม ไดแ้ ก่ รหสั ผ่านคอมพิวเตอร์ มาตรการดา้ นความม่นั คงปลอดภยั ตาแหน่งท่ีติดตงั้ ระบบและอปุ กรณ์ รายละเอียดแผนผงั วงจร กระบวนการกรู้ ะบบบริการ และการปรบั เปล่ียนเสน้ ทางการ สง่ ขอ้ มลู ในกรณีฉกุ เฉิน ขอ้ มลู ลบั และขอ้ มลู ความม่นั คงแห่งชาติ ขอ้ มูลทางเทคนิคและการวิจยั ตลาด ขอ้ มลู การพัฒนา ผลติ ภณั ฑ์ แผนธุรกิจ แผนและกลยทุ ธท์ างการตลาด เป็นตน้ ข้อพงึ ปฏบิ ตั ิ 1. พนกั งานจะใชแ้ ละใหผ้ อู้ ่ืนใชข้ อ้ มลู และทรพั ยส์ ินของบริษัทฯ ไดต้ ่อเม่ือไดร้ บั อนุญาตและเพ่ือประโยชนท์ างธุรกิจ ของบรษิ ัทเท่านนั้ 2. พนักงานตอ้ งเขม้ งวดกวดขนั มิใหผ้ ูท้ ่ีไม่มีหนา้ ท่ีเก่ียวกบั ขอ้ มูลลบั เขา้ ไปในบริเวณท่ีเก็บขอ้ มลู พนกั งานตอ้ งเก็บ ขอ้ มลู เหลา่ นนั้ ไวใ้ นท่ีท่ีปลอดภยั และท่ีท่ีมกี ารป้องกนั อย่างแน่นหนา ภายหลงั เสรจ็ สิน้ การใชง้ านแลว้ 3. พนกั งานตอ้ งรายงานให้กบั ผูบ้ งั คบั บญั ชารบั ทราบทนั ที เม่ือมีบุคคลท่ีไม่ไดร้ บั อนญุ าตพยายามเขา้ ถึงขอ้ มลู ลบั หรือเขา้ ไปในเขตหวงหา้ มของบริษัท ข้อ 10. ชอื่ เสยี ง (Reputation) ความมีช่ือเสียงของบริษัท ในดา้ นการใหบ้ รกิ ารลกู คา้ คณุ ภาพของบริการ และการปฏิบตั ิตอ่ ลกู คา้ อย่างเป็นธรรม ทาใหบ้ ริษัทมีพนักงานท่ีมีความสามารถในดา้ นต่างๆ เขา้ มาร่วมงาน มีลูกคา้ ท่ีภักดีต่อบริษัทฯ และเป็นท่ียอมรบั ของ หน่วยงานของรฐั ท่ีกากบั ดแู ล รวมทงั้ เจา้ หนี้ ซ่งึ ทงั้ หมดนีม้ ีสว่ นช่วยใหบ้ ริษัทประสบความสาเร็จในการทาธุรกิจ อย่างไรก็ดี ช่ือเสียงท่ีพยายามสรา้ งขนึ้ มาดว้ ยความยากลาบากอาจสญู สิน้ ไปอย่างง่ายดาย เพียงเพราะการกระทาท่ีไม่เหมาะสมบาง ประการ การทาธุรกิจกับบุคคลอ่ืนทุกครงั้ เป็นโอกาสอันดีท่ีจะสรา้ งช่ือเสียงอันดีงามให้บริษัท นอกจากนีก้ ารใช้ตรา สญั ลกั ษณข์ องบริษัทอย่างต่อเน่ือง ยงั เป็นส่ิงสาคญั ท่ีช่วยเชิดชูตราสญั ลกั ษณแ์ ละช่ือเสียงบริษัทในตลาดการคา้ ท่ีมีการ แข่งขนั ส่ิงเหลา่ นี้ หากดาเนินการอย่างไม่ตอ่ เน่ืองและครบถว้ น อาจทาใหช้ ่ือย่ีหอ้ และตราสญั ลกั ษณข์ องบริษัทเส่อื มความ นิยมและไม่อย่ใู นความทรงจาของสาธารณชน ดงั นนั้ ความสาเร็จในอนาคตของบริษัท จึงขนึ้ อยู่กบั การท่ีพนักงานทุกคน ชว่ ยกนั รกั ษาช่ือเสยี งของบรษิ ัทอย่างเตม็ กาลงั ความสามารถ ข้อพงึ ปฏบิ ัติ 1. พนกั งานตอ้ งใชช้ ่ือย่ีหอ้ และตราสญั ลกั ษณข์ องบริษัทใหถ้ ูกตอ้ งตามขอ้ กาหนด และตอ้ งป้องกนั มิใหน้ าทรพั ยส์ ิน อนั มีค่านีไ้ ปใชอ้ ย่างไม่เหมาะสมและ/หรือโดยมิไดร้ บั อนุญาต และตอ้ งรายงานต่อหน่วยงานท่ีรบั ผิดชอบของ บริษัททนั ที เม่อื พบวา่ มีการใชอ้ ย่างผิดวิธีและผิดวตั ถปุ ระสงค์ 2. การเผยแพรข่ อ้ มลู ขา่ วสารสภู่ ายนอก พนกั งานตอ้ งปฏิบตั ิตามนโยบายสถานะและกิจกรรมภายในของบรษิ ัท 3. การออกเอกสารรับรอง หรือทากิจกรรมส่งเสริมการขายอ่ืนๆ โดยใชช้ ่ือหรือในนามบริษัท พนักงานตอ้ งไดร้ ับ อนญุ าตจากหนว่ ยงานท่ีดแู ลรบั ผิดชอบเร่ืองภาพลกั ษณข์ องบริษัทเทา่ นนั้ 4. พนกั งานตอ้ งแสดงใหเ้ ห็นอย่างชดั เจนวา่ ส่ิงท่ีตนพูดหรือเขียนในเร่ืองท่ีไม่เก่ียวกบั ธุรกิจของบริษัทฯ ไม่ถือวา่ เป็น ความเห็นหรือทาในนามของบริษัท 21

5. พนกั งานตอ้ งแตง่ กายหรือแตง่ เคร่ืองแบบตามท่ีบริษัทกาหนดและไมแ่ ตง่ เคร่ืองแบบหรือเคร่ืองแตง่ กายท่ีแสดงให้ เห็นว่าเป็นพนกั งานบริษัท เขา้ ไปในสถานเริงรมยต์ ่างๆ หรือสถานอบายมขุ ยกเวน้ การเขา้ ไปเพ่ือปฏิบตั ิงานตาม หนา้ ท่ี 6. พนักงานตอ้ งไม่กระทาการใดๆใหบ้ ริษัท ไดร้ บั ความเสียหายหรือมีลกั ษณะท่ีอาจเป็นอนั ตรายต่อเพ่ือนร่วมงาน หรือตนเอง ทงั้ นีไ้ มว่ า่ จะโดยจงใจหรอื ประมาทเลนิ เลอ่ ก็ตาม 22

หมวดที่ 4. ความสัมพันธก์ ับลูกคา้ (Customer Relations) ลูกค้า คือ ผทู้ ่ีใชบ้ ริการตา่ งๆ ของบรษิ ัทและใหผ้ ลตอบแทนในรูปของคา่ บริการเหล่านนั้ การสรา้ งความสมั พนั ธท์ ่ี ดีกับลูกคา้ ย่อมหมายถึงการผูกพันใหล้ ูกคา้ มีความพึงพอใจต่อสินคา้ และบริการของบริษัทอย่างต่อเน่ือง พนกั งานพึง ปฏิบตั ิตอ่ ลกู คา้ ทุกรายเย่ียง “ผมู้ พี ระคณุ ” การกระทาใดๆ ของพนกั งานอาจจะสง่ ผลกระทบตอ่ ความไมพ่ อใจของลกู คา้ ทา ใหล้ กู คา้ เหลา่ นนั้ เลิก หรือ ลด การใชส้ ินคา้ และบรกิ ารของบริษัทและอาจเปล่ียนไปสนบั สนนุ ธุรกิจของค่แู ข่ง หรอื เผยแพร่ ความไมพ่ อใจเหลา่ นนั้ ส่สู าธารณชนอนั เป็นเหตใุ ห้ “ภาพลกั ษณ”์ ของบรษิ ัทเสียหายได้ พนกั งานทุกคนจงึ จาเป็นตอ้ งสรา้ ง และรกั ษาสมั พนั ธภาพอนั ดีกบั ลกู คา้ ทกุ ราย ดว้ ยการปฏิบตั ิตามคณุ ธรรมและขอ้ พงึ ปฏิบตั ใิ นการทางานของบรษิ ัทฯ 1. ด้านความรู้ ความสามารถ (Knowledge/ Skill) ขอ้ พงึ ปฏบิ ัติ 1. พนกั งานตอ้ งรูแ้ ละเขา้ ใจสินคา้ และบรกิ ารของบริษัทเป็นอยา่ งดี 2. พนกั งานตอ้ งศกึ ษาและทาความเขา้ ใจความตอ้ งการของลกู คา้ อย่างละเอียด ก่อนจะเสนอสินคา้ หรือบริการต่อ ลกู คา้ เพ่ือสนองความตอ้ งการของลกู คา้ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 3. พนกั งานตอ้ งใหข้ อ้ มลู ท่ีถกู ตอ้ งและครบถว้ นแกล่ กู คา้ 4. พนกั งานตอ้ งมีความรบั ผิดชอบ สนใจใฝ่หาขอ้ มลู ความรูอ้ ย่เู สมอ และสะสมประสบการณใ์ นการทางานใหด้ ีมาก ขนึ้ เร่อื ยๆ เพ่ือเพ่ิมความพอใจใหล้ กู คา้ หรอื ผรู้ บั บริการ 2. ดา้ นคุณภาพและประสิทธิผล (Quality and Productivity) ข้อพงึ ปฏบิ ตั ิ 1. พนกั งานตอ้ งนาเสนอสินคา้ หรอื บริการของบริษัทฯ ท่ีมคี ณุ ภาพและมาตรฐานตามท่ีบรษิ ัทกาหนด 2. พนกั งานตอ้ งปฏิบตั ิต่อลกู คา้ ดว้ ยความสภุ าพ ใหเ้ กียรติลกู คา้ และตอ้ งใชว้ าจาท่ีสภุ าพกบั ลกู คา้ ตามขอ้ กาหนด ของบริษัท 3. พนกั งานตอ้ งใหบ้ รกิ ารลกู คา้ อย่างซ่ือตรงและเป็นธรรม ตอ้ งไมเ่ อารดั เอาเปรียบหรอื ฉอ้ โกงลกู คา้ 4. พนกั งานตอ้ งตรงตอ่ เวลา รกั ษาเวลาท่ีนดั กบั ลกู คา้ เสมอ 5. พนกั งานตอ้ งพยายามใหบ้ ริการท่ีเหนือความคาดหวงั ของลกู คา้ 6. พนกั งานตอ้ งใหบ้ ริการท่ีน่าเช่ือถือ และเช่ือใจได้ ตอ้ งยดึ ม่นั และปฏิบัติตามคาสญั ญาท่ีใหไ้ วแ้ ก่ลกู คา้ เสมอ หากไม่ สามารถดาเนินการได้ พนกั งานจะตอ้ งรายงานใหผ้ บู้ งั คบั บญั ชาทราบเพ่ือหาแนวทางแกไ้ ขตอ่ ไป 7. พนกั งานตอ้ งมบี คุ ลิกภาพท่ีดี แตง่ กายตามท่ีบริษัทกาหนดหรอื เหมาะสมกบั หนา้ ท่ี กาลเทศะ สะอาด และสภุ าพ เรยี บรอ้ ย รวมถงึ ตอ้ งจดั สถานท่ีท่ีปฏิบตั ิงานใหส้ ะอาด เรียบรอ้ ยอย่เู สมอ 23

3. ดา้ นทศั นคตแิ ละพฤตกิ รรม (Attitude and Manner) ขอ้ พงึ ปฏบิ ตั ิ 1. พนกั งานตอ้ งมีทศั นคติท่ีดีตอ่ งานบริการลกู คา้ ใหค้ วามสาคญั ต่องานบริการและปฏิบตั ิอย่างเตม็ ท่ี ซง่ึ จะเป็นผล ใหง้ านบริการมีคณุ คา่ และมีประสทิ ธิภาพอนั จะนาไปสคู่ วามเป็นเลศิ 2. เม่ือลกู คา้ มีปัญหาหรือขอ้ รอ้ งเรียน พนกั งานตอ้ งแสดงความสนใจ พรอ้ มรบั ฟังปัญหาลกู คา้ ดว้ ยความรูส้ กึ เอาใจ เขามาใสใ่ จเราและเตม็ ใจท่ีจะใหค้ วามชว่ ยเหลือดว้ ยความกระตอื รือรน้ เพ่ือทาใหล้ กู คา้ เกิดความประทบั ใจ 3. พนกั งานตอ้ งไมแ่ สดงกรยิ าอนั ไมเ่ หมาะสมตอ่ ลกู คา้ ไมท่ ะเลาะ หรือโตเ้ ถียงลกู คา้ หรือแสดงอารมณ์ เช่น อาการ เบ่ือหน่าย หรอื ดดุ นั แสดงความราคาญ ไมส่ นใจใหบ้ รกิ าร หรือแสดงความกา้ วรา้ ว เป็นตน้ 4. พนกั งานตอ้ งเคารพการตดั สนิ ใจ และขอ้ คดิ เหน็ ของลกู คา้ 5. พนกั งานตอ้ งไมเ่ สนอหรอื เรียกรอ้ งส่ิงตอบแทนจากลกู คา้ นอกเหนือจากท่ีไดก้ าหนดไวใ้ นระเบียบของบรษิ ัทฯ 6. พนกั งานตอ้ งไมล่ ะเมิดสิทธิสว่ นบคุ คลของลกู คา้ 7. พนกั งานตอ้ งไมล่ ะเมดิ ทรพั ยส์ นิ ของลกู คา้ เช่น ลกั ขโมย ทาใหช้ ารุด หรอื เสยี หาย 8. พนกั งานตอ้ งไมต่ ดิ ตอ่ กบั ลกู คา้ นอกเหนือจากภารกิจท่ีไดร้ บั มอบหมายจากบริษัท 4. ดา้ นการสือ่ สาร (Communication) ขอ้ พงึ ปฏบิ ตั ิ 1. พนักงานตอ้ งแสดงตนว่าเป็นพนักงานของบริษัททุกครงั้ ท่ีพบปะหรือสนทนากับลูกคา้ เช่น ป้ายช่ือพนักงาน นามบตั ร เคร่ืองแบบ หรอื แจง้ ดว้ ยวาจา 2. พนกั งานตอ้ งนาขอ้ มลู หรือขอ้ เสนอแนะจากลกู คา้ เสนอต่อผบู้ งั คบั บญั ชา รวมทงั้ สามารถเสนอขอ้ คิดเห็นในการ ปรบั ปรุงการทางาน เพ่ือประโยชนข์ องบริษัท 24

หมวดที่ 5. ขอ้ ตกลงทเี่ ป็ นธรรมกบั บุคคลอื่น (Fair Dealings with Others) 1. ความเป็ นส่วนตวั ของลูกคา้ /ความเป็ นส่วนตัวในการตดิ ต่อสอื่ สาร (Customer Privacy/Privacy of Communications) เน่ืองจากบริษัทฯ ใหบ้ ริการท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ชีวิตสว่ นตวั ไปจนถงึ ชีวิตการทางานของลกู คา้ การท่ีลกู คา้ ไดม้ อบความ ไวว้ างใจดว้ ยการใหข้ อ้ มลู ลกู คา้ บนั ทกึ ตลอดจนขอ้ มลู การติดตอ่ ส่ือสารใหแ้ ก่บรษิ ัท บรษิ ัทจึงตอ้ งถือเป็นความรบั ผิดชอบ ท่ีตอ้ งรกั ษาความเป็นสว่ นตวั ของลกู คา้ ตามท่ีลกู คา้ คาดหวงั อยา่ งเครง่ ครดั การหาลกู คา้ รายใหมแ่ ละการรกั ษาลกู คา้ เดมิ ให้ คงอยู่ จึงขึน้ อยู่กับประสิทธิภาพในการรกั ษาขอ้ มูลและการติดต่อส่ือสารของลูกคา้ อย่างเหมาะสม ดงั นั้นบริษัทจึงตอ้ ง พฒั นามาตรฐานจาเพาะในการดแู ล ปกปอ้ งขอ้ มลู และการตดิ ตอ่ ส่ือสารของลกู คา้ ใหส้ มกบั ท่ีลกู คา้ ไวว้ างใจ ข้อพงึ ปฏบิ ัติ 1. พนกั งานตอ้ งรกั ษาความเป็นส่วนตวั และขอ้ มูลของลกู คา้ โดยไม่เขา้ ไปย่งุ เก่ียวหรือละเมิดการติดตอ่ ส่ือสารหรือ การสง่ ผา่ นขอ้ มลู ใดๆ เวน้ แตจ่ ะเป็นไปตามคาส่งั ท่ีชอบดว้ ยกฎหมาย 2. พนกั งานตอ้ งใชข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ลกู คา้ ของบรษิ ัทท่ีไดร้ บั มา เพ่ือวตั ถปุ ระสงคท์ างธุรกิจของบริษัทเท่านนั้ เม่ือลกู คา้ ของบริษัทฯ เป็นผูใ้ หข้ อ้ มูลท่ีเป็นส่วนตวั พนกั งานตอ้ งไม่ใชข้ อ้ มลู ของลูกคา้ คาส่งั ซือ้ กระบวนการทางาน หรือ บรกิ ารของลกู คา้ เพ่ือประโยชนด์ า้ นการตลาดหรือดา้ นการขายของบริษัท 3. พนักงานจะเขา้ ไปดูขอ้ มลู ของลูกคา้ และขอ้ มลู ของบุคคลในครอบครวั เพ่ือน หรือพนักงานอ่ืนของบริษัท ไดเ้ ม่ือ ไดร้ บั อนญุ าตจากผบู้ งั คบั บญั ชาตามท่ีบริษัทกาหนดเท่านนั้ 2. ผู้จดั หาสินค้า/บรกิ ารและตัวแทนอนื่ ๆ (Suppliers and other Representatives) ผูจ้ ดั หาสินคา้ /บริการ ท่ีปรกึ ษา ผูแ้ ทนจาหน่าย และตัวแทนอ่ืนๆ ลว้ นมีส่วนสาคญั ต่อความสาเรจ็ โดยรวมของ บรษิ ัท ดว้ ยเหตนุ ีจ้ งึ ถือวา่ เป็นคคู่ า้ ท่ีมีคณุ คา่ เพ่ือใหบ้ รษิ ัทซือ้ สินคา้ ไดใ้ นราคาท่ีเป็นธรรมและเหมาะสม รวมทงั้ ไดร้ บั บริการ ท่ีมีคณุ ภาพ บริษัทจะตอ้ งทาใหค้ ่คู า้ อยากทาธุรกิจกบั บริษัท โดยการสรา้ งสมั พนั ธภาพท่ีดี มีความซ่ือตรง และเช่ือถือได้ การท่ีจะรกั ษาผจู้ ดั หาสินคา้ /บริการท่ีดีเอาไว้ พนกั งานจงึ ควรปฏิบตั ิตอ่ ผจู้ ดั หาสินคา้ /บริการในทานองเดียวกนั กบั ท่ีบริษัท ตอ้ งการให้ ผจู้ ดั หาสินคา้ /บรกิ ารปฏิบตั ิตอ่ บริษัท ข้อพงึ ปฏบิ ัติ 1. พนักงานตอ้ งทบทวนและปฏิบัติตามนโยบายการจัดหาสินค้าและบริการของบริษัทตลอดทั้งหาแนวทางท่ี เหมาะสม กอ่ นการเลือกผจู้ ดั หาสนิ คา้ /บรกิ าร ท่ีปรกึ ษา ผแู้ ทนจาหน่าย และตวั แทนอ่นื ๆ 25

2. พนกั งานตอ้ งจดั ใหม้ ีสญั ญาหรอื ขอ้ ตกลงเป็นลายลกั ษณอ์ กั ษร โดยมขี อ้ กาหนดรายละเอยี ด เก่ียวกบั ลกั ษณะงาน และหนา้ ท่ีความรบั ผิดชอบของค่สู ญั ญาและจดั ส่งใหห้ น่วยงานท่ีเก่ียวข้องหรือท่ีปรกึ ษาทางกฏหมายตรวจสอบ ก่อนลงนาม 3. ก่อนดาเนินธุรกิจร่วมกัน พนักงานตอ้ งแจง้ ใหผ้ ูจ้ ดั หาสินคา้ /บริการ ท่ีปรึกษา ผูแ้ ทนจาหน่าย และตัวแทนอ่ืนๆ ทราบเก่ียวกบั หนา้ ท่ีท่ีจะตอ้ งดาเนินการใหส้ อดคลอ้ งกบั วฒั นธรรม และ จรรยาบรรณทางธุรกิจของบริษัท รวมทงั้ กฎหมาย ขอ้ บงั คบั และนโยบายท่ีเก่ียวขอ้ ง นอกจากนีพ้ นกั งานควรสอบถามขอ้ มลู สินคา้ และบริการเพ่ิมเติมจาก หนว่ ยงานจดั หาของบริษัทดว้ ย 3. เจา้ หนี้ (Creditors) การสนบั สนนุ และไวว้ างใจจากเจา้ หนีเ้ ป็นส่ิงสาคญั อย่างย่ิงท่ีทาใหบ้ รษิ ัทสามารถสรา้ งพืน้ ฐานทางการเงินท่ีม่นั คง บริษัทมีนโยบายและพนั ธกิจในการท่ีจะตอ้ งปฏิบตั ิต่อเจา้ หนีอ้ ย่างเสมอภาคและเป็นธรรม ใหข้ อ้ มลู ท่ีถกู ตอ้ งเป็นจริงและ ทนั ตอ่ เหตกุ ารณ์ ตลอดจนปฏิบตั ิตามพนั ธะสญั ญาอยา่ งเครง่ ครดั ข้อพงึ ปฏบิ ัติ 1. พนักงานตอ้ งยึดม่นั ในความซ่ือสตั ยต์ ่อการปฏิบัติตามเง่ือนไขท่ีบริษัทใหไ้ วต้ ่อเจา้ หนีท้ ุกประเภทโดยอยู่ภายใต้ เง่ือนไข รวมทงั้ หลกั เกณฑแ์ ละกฎหมายท่ีกาหนด 2. พนกั งานตอ้ งดาเนินการใหบ้ รษิ ัทเปิดเผยขอ้ มลู ทางการเงินท่ีถกู ตอ้ งครบถว้ น รวมทงั้ จ่ายชาระหนีต้ รงตามเวลา 3. หากมอี ปุ สรรคใดท่ีทาใหไ้ มส่ ามารถปฏิบตั ติ ามเง่ือนไขได้ พนกั งานตอ้ งรีบแจง้ ใหเ้ จา้ หนีท้ ราบโดยทนั ทีเพ่ือรว่ มกนั หาแนวทางแกไ้ ข 4. พนกั งานตอ้ งดแู ลคณุ ภาพของหลกั ทรพั ยค์ า้ ประกนั 4. การแขง่ ขันอยา่ งเป็ นธรรม (Fair Competition) บริษัทมีพันธกิจในการแข่งขันทางการคา้ โดยดาเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครดั ดว้ ยการเสนอสินคา้ และ บริการท่ีมีคณุ ภาพ พยายามรกั ษาความไวว้ างใจของลูกคา้ ผจู้ ัดหาสินคา้ และบริการ รวมทงั้ คแู่ ข่งทางการคา้ โดยดาเนิน ธรุ กิจดว้ ยความชอบธรรมและยดึ จรรยาบรรณ การทาธุรกิจทุกอย่างของบริษัทจะตอ้ งเป็นไปตามกฎหมายและขอ้ บงั คบั ท่ี เก่ียวขอ้ ง เป็นหนา้ ท่ีของพนักงานท่ีจะตอ้ งรู้ มาตรฐานของบริษัท กฎหมายท่ีเก่ียวขอ้ ง รวมทงั้ กฎหมายท่ีจะประกาศใช้ ตอ่ ไปในอนาคตซง่ึ มี ผลกระทบตอ่ การทางานของตน 26

ข้อพงึ ปฏบิ ัติ 1. พนกั งานตอ้ งสง่ เสริมการขายสนิ คา้ และบริการของบรษิ ัทดว้ ยการเปรียบเทียบกบั สินคา้ และบริการของค่แู ขง่ อย่าง เป็นธรรมและตามความเป็นจริง โดยตอ้ งไม่บิดเบือนขอ้ เท็จจริง ทงั้ ตอ้ งไมใ่ ส่รา้ ยคแู่ ข่งตลอดจนสินคา้ และบรกิ าร ของคแู่ ขง่ 2. พนักงานตอ้ งไม่ร่วมทาการจารกรรม ก่อวินาศกรรม หรือติดสินบน ค่แู ข่งทางการคา้ ทงั้ ค่แู ข่งในปัจจุบนั และผูท้ ่ี อาจจะเป็นคแู่ ข่งในอนาคต 3. พนกั งานตอ้ งไมร่ ว่ มในการทาสญั ญาหรอื ขอ้ ตกลง ซง่ึ สญั ญาหรือขอ้ ตกลงนนั้ อาจเป็นการลดหรอื ขจดั การแขง่ ขัน ทางการคา้ อย่างไมส่ มเหตสุ มผล 4. พนกั งานตอ้ งใหข้ อ้ มูลท่ีถูกตอ้ งและเป็นจริง เก่ียวกบั คณุ ภาพ สมรรถนะ คุณลกั ษณะ และความพรอ้ มท่ีจะขาย สินคา้ และใหบ้ ริการ ในการแถลงขา่ ว การโฆษณา และการเผยแพรต่ อ่ สาธารณะ 5. ข้อมูลการแขง่ ขนั ทางการค้า (Competitive Information) การเก็บรวบรวมขอ้ มลู เก่ียวกบั ตลาดการคา้ รวมทงั้ ขอ้ มูลเก่ียวกบั สินคา้ และบริการของค่แู ข่งเป็นส่ิงจาเป็นและ เหมาะสม บริษัทประสงคท์ ่ีจะแข่งขนั อยา่ งเป็นธรรมและหลกี เล่ยี งการทาขอ้ ตกลงและบนั ทกึ ความเขา้ ใจท่ีสอ่ ไปในทางท่ีไม่ เหมาะสม ดงั นนั้ ในการรวบรวมขอ้ มูลการแข่งขันทางการคา้ บริษัทจึงตอ้ งปฏิบัติตามกฎหมายท่ีบังคบั ใช้ จรรยาบรรณ และธรรมเนียมปฏิบตั ซิ ง่ึ เป็นท่ียอมรบั ในกลมุ่ ธรุ กิจ ขอ้ พงึ ปฏบิ ตั ิ 1. พนกั งานตอ้ งรวบรวมขอ้ มลู การแขง่ ขนั ทางการคา้ จากแหลง่ ตอ่ ไปนี้ คือ • แหลง่ ข่าวท่ีเปิดเผย (เชน่ บทความท่ีไดร้ บั การตีพิมพแ์ ลว้ โฆษณา ขอ้ มลู สาธารณะ หนงั สือพิมพ์ วารสาร และส่ือสาธารณะอ่นื ๆ) • การจัดกิจกรรมทางการคา้ และอุตสาหกรรม (เช่น งานแสดงสินคา้ การประชุม และการจัดกิจกรรม ทางการคา้ อ่นื ๆ • งานวิจยั ของค่แู ข่ง (ในกรณีท่ีมีการรวบรวมขอ้ มลู จากผลการวิจยั ของคแู่ ข่ง ซ่งึ เปิดเผยใหแ้ ก่ลูกคา้ เม่ือ พนกั งานตอ้ งนาผลการวิจยั ดงั กลา่ วไปใชป้ ระโยชน์ จะตอ้ งไมแ่ อบอา้ งวา่ เป็นผลงานของตนเอง) • ผลการสารวจขอ้ มลู ทางการคา้ โดยคณะท่ีปรกึ ษา ซง่ึ เป็นท่ียอมรบั • ขอ้ มลู ท่ีจดั ทาขนึ้ สาหรบั ลกู คา้ และสาธารณชนท่วั ไป • ขอ้ ตกลงท่ีทากบั ลกู คา้ เป็นการเฉพาะ 2. พนกั งานตอ้ งไมแ่ สวงหาความลบั ทางการคา้ ของคแู่ ขง่ หรอื ขอ้ มลู จาเพาะของคแู่ ขง่ โดยวธิ ีการอนั มชิ อบดว้ ย กฎหมาย เช่น การขโมย การจารกรรม หรอื การละเมดิ ขอ้ ตกลงท่ีจะไมเ่ ปิดเผยขอ้ มลู ของคแู่ ข่งไมว่ า่ จะไดจ้ าก ลกู คา้ หรอื บคุ คลอ่ืน 27

หมวดท่ี 6. การทาํ งานร่วมกับหน่วยงานของรัฐ (Working with the Government) ความสัมพนั ธก์ ับหน่วยงานของรัฐ (Government Relations) การติดตอ่ งานกบั เจา้ หนา้ ท่ีของรฐั ไมว่ า่ หน่วยงานรฐั จะอย่ใู นฐานะลกู คา้ หรือผรู้ บั ผิดชอบตามกฎหมาย ลว้ นมีผล สาคญั ต่อความสาเรจ็ อย่างตอ่ เน่ืองของธุรกิจบริษัท พนกั งานจึงควรหลีกเล่ียงการกระทาท่ีไม่เหมาะสม หรือ กระทาการ ใดๆ ท่ีเป็นการใชอ้ ิทธิพล เพ่ือมงุ่ หวงั ประโยชนท์ ่ีมคิ วรไดจ้ ากหน่วยงานของรฐั เจา้ หนา้ ท่ี และพนกั งานของรฐั การละเลยขอ้ พงึ ปฏิบตั ขิ า้ งตน้ อาจทาใหเ้ จา้ หนา้ ท่ีของรฐั บริษัทและพนกั งานถูกลงโทษตามบทบญั ญตั แิ ห่งกฎหมาย ดงั นนั้ พนกั งานจึง ควรศกึ ษาขอ้ กฎหมาย ขอ้ บงั คบั และมาตรฐานการปฏิบตั ขิ องหนว่ ยงานของรฐั และควรสรา้ งสมั พนั ธภาพท่ีดโี ดยตงั้ อยบู่ น พืน้ ฐานของความซ่อื ตรง ความเคารพซง่ึ กนั และกนั ความไวว้ างใจกนั และมาตรฐานทางจรรยาบรรณของบรษิ ัท ข้อพงึ ปฏิบัติ 1. พนกั งานตอ้ งศกึ ษาและทาความเขา้ ใจในกฎระเบียบท่ีใชเ้ ป็นหลกั ในการปฏิบตั งิ านของทางราชการ ทงั้ ท่ีเป็นลาย ลกั ษณอ์ กั ษรและไมเ่ ป็นลายลกั ษณอ์ กั ษร 2. พนกั งานตอ้ งปฏิบตั ิตามนโยบายและมาตรการของบริษัทเก่ียวกบั การตอ่ ตา้ นการคอรร์ ปั ช่นั ซ่งึ กาหนดไวใ้ นหมวด ท่ี 7 28

หมวดที่ 7. การต่อต้านคอรร์ ัปช่ัน (Anti-Corruption) การดาเนินธุรกิจของบริษัทฯ กบั ผเู้ ก่ียวขอ้ งทางธุรกิจ ตอ้ งดาเนินการอย่างถกู ตอ้ ง ตรงไปตรงมา โปร่งใส ซ่ือสตั ย์ ตรวจสอบไดแ้ ละไม่คอรร์ ปั ชัน โดยปฏิบัติตามกฎหมายท่ีเก่ียวขอ้ งและนโยบายต่อตา้ นคอรร์ ปั ช่ันอย่างเคร่งครดั การ คอรร์ ปั ช่นั ทกุ รูปแบบถือเป็นส่ิงต้องห้ามกระทาและยอมรับไม่ได้ ดงั นนั้ กรรมการ ผบู้ รหิ าร และพนกั งานทกุ คน ตอ้ งไม่ ยอมรบั การคอรร์ ปั ช่นั ทกุ รูปแบบ ทงั้ ทางตรงหรือทางออ้ มไมว่ ่าเพ่ือประโยชนข์ องตนเอง ครอบครวั เพ่ือน หรือคนรูจ้ กั โดย หา้ มใหห้ รือรบั สินบนในการดาเนินธรุ กิจทกุ ชนิด คาํ จาํ กัดความ การคอรร์ ัปช่ัน หมายถึง การใชอ้ านาจท่ีไดม้ าโดยหนา้ ท่ี เพ่ือแสวงหาประโยชน์ การติดสินบนไม่ว่าจะอยู่ใน รูปแบบใดๆ โดยการเสนอให้ สญั ญาวา่ จะให้ มอบให้ ใหค้ าม่นั วา่ จะให้ รวมถงึ การเรียกรอ้ ง หรือรบั ซง่ึ เงิน ทรพั ยส์ ิน หรือ ประโยชนอ์ ่ืนใดซ่ึงไม่เหมาะสมกับเจา้ หนา้ ท่ีของรฐั หน่วยงานของรฐั หน่วยงานของเอกชนหรือผูม้ ีหนา้ ท่ีไม่ว่าจะโดย ทางตรงหรือทางออ้ ม เพ่ือจูงใจใหบ้ ุคคลดังกล่าวปฏิบัติหรือละเวน้ การปฏิบตั ิหนา้ ท่ี อนั เป็นการใหไ้ ดม้ าหรือรกั ษาไวซ้ ่ึง ธรุ กิจ หรือแนะนาธรุ กิจใหก้ บั บริษัทโดยเฉพาะ หรือเพ่ือใหไ้ ดม้ าหรือรกั ษาไวซ้ ่งึ ผลประโยชนอ์ ่ืนใดท่ีไมเ่ หมาะสมทางธุรกิจ หรือก่อใหเ้ กิดผลประโยชนใ์ ดๆ โดยมิชอบแก่ตนเองหรือผูอ้ ่ืน เวน้ แต่เป็นกรณีท่ีกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ ขอ้ บังคับ ขนบธรรมเนียมประเพณีทอ้ งถ่ิน หรือจารีตทางการคา้ ใหก้ ระทาได้ ข้อพงึ ปฏบิ ตั ิ 1. ไมค่ อรร์ ปั ชนั และตอ้ งระมดั ระวงั ในกระบวนการปฏิบตั ิงานท่ีมคี วามเส่ียงสงู เช่น การขายและการตลาด การจดั ซือ้ งานโครงการลงทุนการทาสญั ญา การใหแ้ ละรบั ของกานัล การเลีย้ งรบั รอง การใหเ้ งินบริจาคหรือเงินสนบั สนุน เป็นตน้ 2. ไม่ละเลยหรือเพิกเฉย เม่ือพบเห็นการกระทาท่ีเข้าข่ายคอรร์ ัปชันท่ีเก่ียวข้องกับบริษัท ต้องรายงานให้ ผบู้ งั คบั บญั ชา หรือบคุ คลท่ีรบั ผิดชอบทราบ และใหค้ วามรว่ มมอื ในการตรวจสอบขอ้ เทจ็ จรงิ ตา่ ง ๆ 3. ดาเนินการเร่ืองการให้ หรือรบั เงินบริจาค เงินสนบั สนุน อยา่ งโปรง่ ใส ถูกตอ้ งตามระเบียบบริษัท และถูกตอ้ งตาม กฎหมาย โดยตอ้ งม่นั ใจวา่ เงินบริจาค หรอื เงินสนบั สนนุ ไมไ่ ดถ้ กู นาไปใชเ้ พ่ือการติดสินบน 4. พงึ ระมดั ระวงั ในการทาธุรกรรมกบั นิติบคุ คล หรือองคก์ รใด ๆ ท่ีมขี อ้ สงสยั เก่ียวกบั การคอรร์ ปั ช่นั 1. การสนับสนุนทางการเมือง (Political Support) บริษัทวางตวั เป็นกลางทางการเมือง โดยไมก่ ระทาการอนั เป็นการฝักใฝ่หรือสนบั สนุนดา้ นการเงินหรือรูปแบบอ่ืน แก่พรรคการเมือง กล่มุ แนวรว่ มทางการเมือง ผมู้ ีอานาจทางการเมือง หรือผลู้ งสมคั รรบั เลือกตงั้ ทางการเมืองไม่วา่ จะเป็น ทางตรงหรือทางออ้ ม ทงั้ ในระดบั ทอ้ งถ่ิน ระดบั ภูมิภาค หรือระดบั ประเทศ อย่างไรก็ตาม บรษิ ัทใหค้ วามเคารพในสิทธิทาง การเมืองของพนกั งานในฐานะพลเมืองท่ีดีตามรฐั ธรรมนูญไม่วา่ จะเป็นการลงคะแนนเสียง เลือกตงั้ หรือการเป็นสมาชิก พรรคการเมอื ง 29

คาํ จาํ กดั ความ การสนบั สนนุ ทางการเมอื ง หมายถงึ การใหก้ ารสนบั สนนุ นกั การเมืองหรอื พรรคการเมือง ทงั้ ท่ีเป็นตวั เงิน หรือมใิ ช่ ตวั เงิน การสนับสนุนท่ีมิใช่ตวั เงิน รวมถึงการใหย้ ืมหรือบริจาคอปุ กรณ์ การใหบ้ ริการดา้ นเทคโนโลยีโดยไม่คิดค่าบริการ หรอื การส่งเสริมใหพ้ นกั งานเขา้ ร่วมกิจกรรมทางการเมืองในนามของบริษัทฯ ทงั้ นี้ เพ่ือใหไ้ ดม้ าซ่งึ ความไดเ้ ปรียบทางธุรกิจ การคา้ ขอ้ พงึ ปฏบิ ตั ิ 1. ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในฐานะสว่ นตวั ในการเขา้ รว่ มกิจกรรมทางการเมืองภายใตบ้ ทบญั ญัติแห่งรฐั ธรรมนญู แต่ จะตอ้ งไม่อา้ งช่ือบริษัทและตอ้ งไมใ่ ชต้ าแหน่งหนา้ ท่ี เงินทุน เวลา วสั ดุ อปุ กรณ์ หรือส่ิงอานวยความสะดวกของ บริษัทไปใช้ เพ่ือประโยชนใ์ นการดาเนินการใดๆ ทางการเมอื ง หรือในการเออื้ ประโยชนแ์ ละสนบั สนนุ ผสู้ มคั รหรือ องคก์ รทางการเมืองเป็นการสว่ นตวั 2. ไมค่ วรแสดงออกดว้ ยวิธีใดๆ เก่ียวกบั ประเดน็ สาธารณะ ท่ีทาใหผ้ อู้ ่นื เขา้ ใจวา่ บริษัทเก่ียวขอ้ ง ฝักใฝ่หรือสนนั สนนุ การดาเนินการทางการเมือง พรรคการเมือง กล่มุ แนวร่วมทางการเมือง ผมู้ ีอานาจทางการเมือง หรือผสู้ มคั รรบั เลอื กตงั้ ทางการเมือง เวน้ แตจ่ ะไดร้ บั มอบหมายตามระเบียบของบรษิ ัท 3. ไม่แต่งกายดว้ ยเคร่ืองแบบพนักงานหรือใชส้ ญั ลักษณ์ใดท่ีทาใหผ้ ูอ้ ่ืนเขา้ ใจไดว้ ่าเป็นพนักงานเขา้ ร่วมประชุม ทางการเมอื ง หรือรว่ มชมุ นมุ ในท่ีสาธารณสถานใด ๆ อนั มลี กั ษณะทางการเมือง 4. พึงหลีกเล่ียงการแสดงออก หรือแสดงความคิดเห็นทางการเมืองในสถานท่ีทางานหรือในเวลางานอนั อาจทาให้ เกิดความขดั แยง้ ในการทางาน 5. ทุกคนตอ้ งไม่บังคับเพ่ือนพนักงานให้สนับสนุนในการรณรงคท์ างการเมืองของสมาชิกพรรคการเมือง หรือ คณะกรรมการพรรคการเมอื ง 2. การบริจาคเพื่อการกุศลและเงนิ สนับสนุน (Charitable Donation and Sponsorships) การบริจาคเพ่ือการกศุ ล ในรูปแบบของการใหค้ วามช่วยเหลือทางการเงิน หรือในรูปแบบอ่ืนๆ เช่น การใหค้ วามรู้ หรือการสละเวลาและการใหเ้ งินสนบั สนุน เพ่ือการประชาสมั พนั ธท์ างธุรกิจ และเสริมสรา้ งภาพลกั ษณท์ ่ีดีใหก้ บั บริษัทฯ จะตอ้ งไมส่ ่งผลท่ีไมส่ มควรตอ่ การตดั สินใจทางธุรกิจของบริษัท การใหเ้ งินสนบั สนนุ เป็นวิธีการประชาสมั พนั ธท์ างธรุ กิจซ่งึ แตกตา่ งจากการบริจาคเพ่ือการกศุ ล โดยอาจกระทาไดเ้ พ่ือวตั ถปุ ระสงคใ์ นการประชาสมั พนั ธธ์ รุ กิจ ตราสินคา้ หรือช่ือเสียง ของบรษิ ัท 30

ข้อพงึ ปฏบิ ตั ิ 1. การใหห้ รือรบั บริจาคตอ้ งมีการดาเนินการอย่างโปร่งใส เพ่ือก่อใหเ้ กิดประโยชนต์ ่อสังคม หรือเพ่ือเป็นไปตาม วตั ถุประสงคข์ องการดาเนินงานดว้ ยความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม (Corporate Social Responsibility: CSR) โดยมี ขนั้ ตอนและการควบคมุ การเบิกจ่ายท่ีรดั กมุ ชดั เจน มีการสอบทานว่าเป็นกิจกรรมเพ่ือการกุศลและมีขนั้ ตอนการ อนมุ ตั ิท่ีเหมาะสม โดยม่นั ใจวา่ ไมไ่ ดถ้ กู นาไปใชเ้ พ่ือเป็นขอ้ อา้ งในการคอรร์ ปั ช่นั 2. การบริจาคนั้นตอ้ งเป็นไปเพ่ือการกุศล ไม่มีส่วนเก่ียวขอ้ งกับผลประโยชนต์ ่างตอบแทนให้แก่บุคคลใด หรือ หน่วยงานใด ยกเวน้ การประกาศเกียรติคณุ ตามธรรมเนียมปฏิบตั ิท่วั ไป เช่น การติดตราสญั ลกั ษณ์ (Logo) การ ประกาศรายช่ือ ณ สถานท่ีจดั งาน หรอื ในส่ือเพ่ือการประชาสมั พนั ธ์ เป็นตน้ 3. หากทกุ คนประสงคจ์ ะบริจาคเพ่ือการกศุ ลหรอื ใหเ้ งินสนบั สนนุ ในนามบริษัทฯ ตอ้ งจดั ทาบนั ทกึ ระบุช่ือหน่วยงาน หรอื บคุ คลผรู้ บั การบริจาคหรือสนบั สนนุ วตั ถุประสงคใ์ นการบริจาคหรอื การใหส้ นบั สนนุ พรอ้ มเอกสาร เพ่ือเสนอ ขออนมุ ตั ิจากผบู้ งั คบั บญั ชาตามสายงาน 4. การบริจาคหรือใหเ้ งินสนับสนุนตอ้ งส่งมอบใหแ้ ก่องคก์ รท่ีถูกตอ้ งตามกฎหมาย ไม่ใช่ใหแ้ ก่บุคคลธรรมดา และ จะตอ้ งไมส่ ง่ ผลท่ีไมส่ มควรตอ่ การตดั สินใจทางธุรกิจ 5. การบรจิ าคหรอื สนบั สนุน ตอ้ งไดร้ บั อนุมตั ิจากหวั หนา้ คณะผบู้ ริหารดา้ นการเงินเป็นลายลกั ษณอ์ กั ษร และเป็นไป ตามอานาจอนมุ ตั ิท่ีบรษิ ัทฯ ไดก้ าหนดไวก้ อ่ นเสมอ 3. การเลยี้ งรับรองและบริการตอ้ นรับ การใหห้ รอื รับของขวัญ หรอื สนิ นาํ้ ใจ หรือทรัพยส์ ิน หรอื ประโยชนอ์ ่ืนใด (Entertainment, Hospitality, Gifts, Gratuities and Others) การแลกเปล่ยี นไมตรที างการคา้ ในบางโอกาส เชน่ การใหข้ องขวญั หรือทรพั ยส์ ิน หรอื ประโยชนอ์ ่นื ใด การเลยี้ ง อาหาร หรอื การเลยี้ งรบั รอง ถือเป็นเร่อื งปกตทิ ่ีแสดงออกถงึ ไมตรีจิตและสรา้ งความไวว้ างใจในการทาธุรกจิ รว่ มกนั อย่างไร กต็ าม พนกั งานจะตอ้ งไมย่ อมใหก้ ารกระทาเหลา่ นี้ มีผลกระทบตอ่ เจตนารมณแ์ ละการตดั สนิ ใจ ในกรณีท่ีพนกั งานไดใ้ ช้ วจิ ารณญาณท่ีดแี ละปฏิบตั ิดว้ ยความเป็นกลางแลว้ การเลยี้ งรบั รองและใหข้ องขวญั ควรเป็นไปอย่างเหมาะสม ไมฟ่ ่ มุ เฟื อย และมีมลู คา่ สงู แตท่ งั้ นีห้ า้ มมใิ หพ้ นกั งานเรยี กรอ้ งหรือรบั สนิ นา้ ใจ อย่างไรก็ตาม บริษัทไมส่ นบั สนนุ การรบั การใหข้ องขวญั ทรพั ยส์ นิ หรอื ประโยชนอ์ ่นื ใดท่ีไมเ่ หมาะสม ท่ีอาจมผี ลตอ่ การตดั สินใจในการปฏิบตั ิหนา้ ท่แี ละสรา้ งแรงจงู ใจในการ ตดั สนิ ใจท่ไี มช่ อบธรม หรืออาจทาใหบ้ ริษัทเสยี ผลประโยชนร์ วมทงั้ มีความเส่ียงตอ่ การทจุ ริตคอรร์ ปั ช่นั 1.) การเลีย้ งรับรองและบรกิ ารตอ้ นรับ ตวั อย่างของการเลยี้ งรบั รองท่ีอนโุ ลมใหร้ บั ได้ แตต่ อ้ งมีความพอดีและเป็นครงั้ คราว เชน่  การเลยี้ งอาหาร  งานการกศุ ล  งานกีฬา  การสงั สรรคว์ นั หยดุ หรอื งานเลยี้ งฉลอง  งานบนั เทิงในรูปแบบตา่ งๆ เชน่ การชมละคร ภาพยนตร์ คอนเสิรต์ หรอื เทศกาลตา่ งๆ เป็นตน้ 31

ขอ้ พงึ ปฏบิ ัติ 1. พนกั งานตอ้ งไดร้ บั ความเห็นชอบจากผบู้ งั คบั บญั ชาก่อนท่ีจะเชิญ หรือยอมรบั เชิญไปรว่ มงานตอ้ นรบั 2. พนกั งานสามารถรบั คารบั รองและคาบริการตอ้ นรบั หรือผลประโยชนอ์ ่นื ไดใ้ นโอกาสตามปกตปิ ระเพณีนิยม โดย จะตอ้ งกระทาดว้ ยความโปรง่ ใส เหมาะสม โดยตอ้ งไมเ่ ป็นการกระทาท่ีอาจกอ่ ใหเ้ กิดความไดเ้ ปรียบ หรือ ผลประโยชนใ์ ดๆ ในการทาธรุ กิจ ทงั้ นี้ ตอ้ งเป็นไปตามเง่ือนไขท่ีระบไุ วใ้ นแนวปฏิบตั ิและขนั้ ตอนดาเนินการท่ี บริษัทกาหนด 3. พนกั งาน สามารถใหค้ า่ รบั รอง/การเลยี้ งรบั รองและคา่ บรกิ ารตอ้ นรบั หรือผลประโยชนอ์ ่นื ท่เี ก่ียวขอ้ งโดยตรงกบั การปฏิบตั ทิ างธรุ กิจ หรือเป็นจารตี การคา้ ซง่ึ เป็นไปตามปกติประเพณีนิยมได้ แตต่ อ้ งเป็นการใชจ้ ่ายอยา่ ง สมเหตสุ มผล และไมส่ ง่ ผลตอ่ การตดั สินใจและการปฏิบตั ิงานท่ีไมเ่ หมาะสมของพนกั งาน คคู่ า้ หรอื เจา้ หนา้ ท่ีรฐั ท่ี อาจเขา้ ขา่ ยนาไปสกู่ ารทจุ รติ คอรร์ ปั ช่นั โดยดาเนินการตามเง่ือนไขท่ีระบไุ วใ้ นแนวปฏิบตั แิ ละขนั้ ตอนดาเนินการท่ี บรษิ ัทกาหนด 4. พนกั งานตอ้ งไดร้ บั ความเหน็ ชอบจากผบู้ งั คบั บญั ชากอ่ นจดั เลีย้ งรบั รอง หรอื เขา้ รว่ มเลีย้ งรบั รอง ตามแนวปฏิบตั ิ และขนั้ ตอนดาเนินการท่บี รษิ ัทกาหนด 5. หลกี เล่ยี งการเลยี้ งรบั รองท่ีบง่ บอกอย่างเป็นนยั วา่ การเลยี้ งรบั รองดงั กลา่ วมีขนึ้ เพ่ือแลกเปล่ยี นวตั ถปุ ระสงคท์ าง ธรุ กิจใดๆ 2.) ของขวญั หรือทรพั ยส์ นิ หรอื ประโยชนอ์ นื่ ใด ตวั อยา่ งของขวญั ท่ียอมรบั ได้ เชน่  ส่ิงท่ีไมเ่ ป็นตวั เงิน  ส่ิงท่ีจดั ทาขนึ้ เพ่ือสง่ เสริมการขาย ซง่ึ ประทบั ตราบรษิ ัท (เช่น ปากกา หมวก เสือ้ ยืด)  ส่ิงท่ีทาขนึ้ เพ่ือแจกท่วั ไป (เชน่ แจกพนกั งาน หรือแจกลกู คา้ อ่นื ของคคู่ า้ ) เป็นตน้ ข้อพงึ ปฏบิ ัติ 1. พนกั งานตอ้ งไมเ่ รยี กรอ้ งหรอื รบั ของขวญั จากคคู่ า้ หรอื ลกู คา้ หรือผมู้ ีสว่ นเก่ียวขอ้ งกบั ธุรกจิ ของบรษิ ัทไมว่ า่ ใน กรณีใด อนั อาจมผี ลตอ่ การตดั สนิ ใจในการปฏิบตั หิ นา้ ท่ีดว้ ยความไมเ่ ป็นธรรม หรือเกิดความขดั แยง้ ทาง ผลประโยชน์ 2. ในกรณีท่ผี บู้ งั คบั บญั ชาพิจารณาวา่ ไมส่ มควรรบั ของขวญั หรือทรพั ยส์ นิ หรือประโยชนอ์ น่ื ใด ใหส้ ง่ คนื แกผ่ ใู้ หโ้ ดย ทนั ที ถา้ ไมส่ ามารถสง่ คืนไดใ้ หส้ ง่ มอบแก่ผบู้ งั คบั บญั ชา เพ่ือสง่ ตอ่ ใหฝ้ ่ายทรพั ยากรบคุ คลพจิ ารณานาไปจดั สรร ใหเ้ กิดประโยชนต์ อ่ บริษัทฯ โดยสว่ นรวม 3. พนกั งาน สามารถรบั ของขวญั ท่ีไมใ่ ชเ่ งินสด หรอื เทียบเทา่ เงินสดไดใ้ นโอกาสตามปกติประเพณีนิยม แตต่ อ้ งมี ราคาหรอื มลู คา่ ไมเ่ กินสามพนั บาท โดยจะตอ้ งกระทาดว้ ยความโปรง่ ใส เหมะสม โดยตอ้ งไมเ่ ป็นการกระทาท่ีอาจ กอ่ ใหเ้ กิดความไดเ้ ปรียบ หรือผลประโยชนใ์ ดๆ ในการทาธุรกิจ ทงั้ นีต้ อ้ งเป็นไปตามเง่ือนไขท่ีระบไุ วใ้ นแนวปฏิบตั ิ และขนั้ ตอนดาเนินการท่บี ริษัทกาหนด 32

4. พนกั งานสามารถใหข้ องขวญั ซง่ึ เป็นไปตามปกติประเพณีนิยมได้ ตามเง่ือนไขท่ีระบไุ วใ้ นแนวปฏิบตั ิและขนั้ ตอน ดาเนินการท่ีบริษัทกาหนด 5. พนกั งานควรทราบนโยบายเก่ยี วกบั การแลกเปล่ยี นไมตรที างการคข้ องลกู คา้ หรือคคู่ า้ และตอ้ งไมย่ ่ืนชอ้ เสนอท่ี ขดั ตอ่ นโยบายของคคู่ า้ หรอื ลกู คา้ รวมทงั้ ปฏิบตั ติ ามชอ้ กาหนดของบริษัท 6. พนกั งานตอ้ งแจง้ นโยบายการแลกเปล่ยี นไมตรที งการคา้ ของบรษิ ัทและมาตรฐานการปฏิบตั ิ ใหค้ คู่ า้ หรอื ลกู คา้ ทราบ 7. เม่อื พนกั งานตดิ ตอ่ ธุรกิจกบั เจา้ หนา้ ท่ีของรฐั พนกั งานตอ้ งรบั ทราบและปฏบิ ตั ติ ามมาตรฐานเก่ียวกบั การ แลกเปล่ียนไมตรีทางการคา้ ของทงั้ สองฝ่าย ตอ้ งไมใ่ หข้ องรางวลั /สนิ บน หรอื ผลประโยชนต์ อบแทนใดท่ีมีลกั ษณะ คลา้ ยคลงึ กนั แกบ่ คุ ลากรของบรษิ ัทและบคุ คลภายนอก โดยยดึ ถือปฏิบตั ติ ามขอ้ กาหนดของบริษัท 8. พนกั งานตอ้ งทาบนั ทกึ และแจง้ ผบู้ งั คบั บญั ชาตามความเป็นจริง ในกรณีท่ีพนกั งาน สมาชิกในครอบครวั หรือผู้ อาศยั ไดร้ บั ของขวญั จากคคู่ า้ ลกู คา้ คแู่ ขง่ ของบริษัท 9. กรณีเป็นการรบั ของขวญั ของท่ีระลกึ ในนามองคก์ รตอ่ องคก์ ร เช่น การลงนามสญั ญาทางธรุ กิจสามารถทาได้ ทงั้ นีข้ องขวญั ของท่ีระลกึ จะตอ้ งเป็นทรพั ยส์ นิ ของบริษัท 3.) สนิ นา้ํ ใจ (Gratuities) ตวั อยา่ งของสนิ นา้ ใจท่ีหา้ มรบั เชน่  เงินสดหรือส่งิ ของท่ีแลกเป็นเงินสดได้  การใหก้ ยู้ ืมเงิน  การใหส้ ิทธิพิเศษ  การใหค้ วามช่วยเหลือเฉพาะตวั  การใหผ้ ลประโยชน์  การใหบ้ ริการ  การจา่ ยเงินหรอื ใหค้ วามชว่ ยเหลือท่ีถือวา่ เป็นการติดสินบน หรอื ใหผ้ ลประโยชน์ เป็นตน้ ขอ้ พงึ ปฏบิ ัติ พนกั งานตอ้ งไมเ่ รยี กรอ้ ง รบั หรือเสนอใหส้ ินนา้ ใจหรอื การจา่ ยเงินท่ีไมถ่ กู ตอ้ งตามระเบียบ พนกั งานตอ้ ง ระลกึ เสมอวา่ การรบั สินนา้ ใจดงั กลา่ วไมว่ า่ จะเป็นการรบั เงินหรอื รบั ความช่วยเหลือพิเศษอาจถือเป็นการรบั สินบน ซง่ึ ขดั ตอ่ นโยบายของบริษัท กฎหมายไทย และกฎหมายของประเทศอ่นื 33

4. การจ่ายเงนิ เพอื่ อาํ นวยความสะดวก (Facilitation Payment) การจ่ายเงินเพือ่ อาํ นวยความสะดวก (Facilitation Payment) หมายถงึ การจ่ายเงินจานวนเลก็ นอ้ ยเพ่ือชกั จงู ใหห้ นว่ ยธุรกิจท่ีติดตอ่ ดว้ ยเรง่ รดั ใหม้ ีการดาเนินการ หรือเพ่ือใหเ้ ป็นท่ีม่นั ใจวา่ จะมกี ารดาเนินการใด ๆ ตามหนา้ ท่ี ซง่ึ บคุ คล ดงั กลา่ วมหี นา้ ท่ีตอ้ งกระทาอย่แู ลว้ โดยเป็นการจา่ ยเงินซง่ึ เกินกวา่ ท่ีอตั รากฎหมายกาหนด (ถา้ มี) ข้อพงึ ปฏบิ ตั ิ หา้ มมิใหม้ กี ารจา่ ยเงินเพ่ืออานวยความสะดวก 5. มาตรการคุม้ ครองผู้ทป่ี ฏิเสธการคอรร์ ัปช่ัน บรษิ ัทใหค้ วามเป็นธรรมและคมุ้ ครองผทู้ ่ีปฏิเสธการคอรร์ ปั ช่นั โดยกาหนดมาตรการคมุ้ ครองผทู้ ่ีปฏิเสธการ คอรร์ ปั ช่นั ดงั นี้ 1. ปกปิดเร่ืองดงั กลา่ วเป็นความลบั ไมเ่ ปิดเผยแกบ่ คุ คลท่ีไมเ่ ก่ียวขอ้ ง 2. หา้ มไมใ่ หผ้ บู้ งั คบั บญั ชา บงั คบั หรือขเู่ ขญ็ ทงั้ ทางตรงและทางออ้ ม 3. ไม่นาเหตุดังกล่าวไปประกอบการพิจารณาลงโทษใด ๆ ไม่ลดตาแหน่ง หรือให้ผลทางลบต่อผูท้ ่ีปฏิเสธการ คอรร์ ปั ช่นั ในทกุ กรณี แมว้ า่ การปฏิเสธการคอรร์ ปั ช่นั นนั้ จะทาใหบ้ รษิ ัทตอ้ งสญู เสียโอกาสทางธุรกิจ 4. หากผู้บังคับบัญชาของผูท้ ่ีปฏิเสธการคอรร์ ัปช่ันดังกล่าว ใช้เหตุจากการท่ีผู้นั้นปฏิเสธการคอรร์ ัปช่ัน ไปใน ทางเลือกปฏิบตั ิ บริษัทถือว่าผูบ้ ังคบั บัญชาดงั กล่าว ฝ่ าฝืนนโยบายต่อตา้ นการคอรร์ ปั ช่นั ของบริษัท ซ่งึ จะตอ้ ง ไดร้ บั การพิจารณาโทษตามความเหมาะสม 34

หมวดที่ 8. การป้องกันการฟอกเงนิ (Anti-Money Laundering) การป้องกันการฟอกเงนิ (Anti-Money Laundering) หลกั เกณฑแ์ ละกฎหมายท่ีเก่ียวขอ้ งกับการป้องกนั การฟอกเงิน โดยบริษัทจะไม่รบั โอนหรือเปล่ียนสภาพ ทรพั ยส์ ิน หรือสนบั สนุนใหม้ ีการรบั โอนหรือเปล่ียนสภาพทรพั ยส์ ินตา่ ง ๆ ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การกระทาผิดเพ่ือปอ้ งกัน ไม่ใหบ้ ุคคลใดใชช้ ่องทางธุรกิจของบริษัท เพ่ือการถ่ายเท ปกปิด หรืออาพรางแหล่งท่ีมาของทรพั ยส์ ิน หรืออาศยั ธรุ กรรมการเงินของบรษิ ทั เพ่ือการฟอกเงิน คาํ จาํ กดั ความ การฟอกเงิน หมายถึง การกระทาดว้ ยประการใดๆ เพ่ือปกปิดหรืออาพรางลกั ษณะท่ีแทจ้ ริงการไดม้ า แหล่งท่ีตงั้ การจาหน่าย การโอน การไดส้ ิทธิใดๆ ซ่ึงทรพั ยส์ ินท่ีเก่ียวกบั การกระทาความผิดใหด้ เู สมือนว่าเป็นเงิน หรอื ทรพั ยส์ นิ ท่ีไดม้ าโดยชอบดว้ ยกฎหมาย หรือพิสจู นไ์ มไ่ ดว้ า่ ไดม้ าโดยไมช่ อบ ตัวอย่างทม่ี ลี ักษณะเข้าข่ายการฟอกเงนิ - การโอนเงินท่ีมลี กั ษณะผิดปกติไปยงั ตา่ งประเทศ หรือจากประเทศท่ีไมเ่ ก่ียวขอ้ งกบั ธรุ กรรมนนั้ - โครงสรา้ งการตกลงธุรกิจท่ีซบั ซอ้ นผิดปกติ - รูปแบบการชาระเงินตามสญั ญาท่ีไมแ่ สดงใหเ้ หน็ ถงึ วตั ถปุ ระสงคท์ ่ีแทจ้ รงิ หรือมเี ง่ือนไขการจา่ ยเงินท่ีผิดปกติ - คาขอใหโ้ อนเงินไปยงั บญั ชีท่ีไมเ่ ป็นท่ีรูจ้ กั - การชาระราคาโดยใชต้ ราสารทางการเงินท่ีไม่สามารถระบุความเช่ือมโยงกับผูช้ าระราคา เวน้ แต่เป็นเง่ือนไข ตามปกตทิ ่ีสถาบนั การเงินไดก้ าหนดไว้ - คคู่ า้ หรอื คสู่ ญั ญาท่ีไมเ่ ตม็ ใจจะใหข้ อ้ มลู ท่ีครบถว้ น หรือใหข้ อ้ มลู ไมค่ รบถว้ น หรือไมถ่ กู ตอ้ ง ขอ้ พงึ ปฏบิ ตั ิ 1. กอ่ นทาธุรกรรมกบั คสู่ ญั ญาในนามของบริษัท พนกั งานควรทราบถึงแหลง่ ท่ีมาของเงินนนั้ และตรวจสอบใหแ้ น่ใจ วา่ แหลง่ ท่ีมาของเงินไดม้ าโดยชอบดว้ ยกฎหมาย 2. พนกั งานควรทราบวา่ คสู่ ญั ญาประกอบธุรกิจท่ีชอบดว้ ยกฎหมาย 3. กรณีมกี ารชาระราคาเป็นเงินสด หรอื ส่ิงเทียบเทา่ เงินสด พนกั งานตอ้ งมีเอกสารในลกั ษณะท่ียืนยนั การรบั – จา่ ยท่ี ชดั เจน 4. ไม่โอนเงินไปยงั บัญชีท่ีไม่เป็นท่ีรูจ้ ัก หรือรบั โอนเงินท่ีมีลักษณะการจ่ายท่ีผิดปกติ โดยเฉพาะจากประเทศท่ีไม่ เก่ียวขอ้ งกบั ธรุ กรรมนนั้ 35

5. การชาระราคา พนักงานตอ้ งชาระใหแ้ ก่บุคคลท่ีเป็นค่สู ญั ญาหรือบุคคลท่ีระบุไวใ้ หเ้ ป็นผูร้ บั เงินตามสญั ญา ไม่ ชาระเงินผ่านบคุ คลหรอื ชอ่ งทางท่ีไมท่ ราบท่ีมาชดั เจน เวน้ แตเ่ ป็นการปฏิบตั ิตามกฎหมายท่ีเก่ียวขอ้ ง 6. กรณีพบเห็นธุรกรรมท่ีไม่ปกติท่ีอาจเข้าลักษณะเป็นการฟอกเงิน ใหพ้ นักงานรายงานใหผ้ ูบ้ ังคับบัญชาหรือ ผบู้ งั คบั บญั ชาสงู สดุ ของบริษัททราบทนั ที 36

หมวดท่ี 9. การลงโทษ ทกุ คนตอ้ งรบั ทราบและทาความเขา้ ใจ และปฏิบตั ิตามประมวลคณุ ธรรมและขอ้ พึงปฏิบตั ใิ นการทางานของบรษิ ัท อย่างเครง่ ครดั หากทกุ คนกระทาผิด ฝ่ าฝืน หรือกระทาการใด ๆ ท่ีขดั ต่อประมวลคุณธรรมและขอ้ พงึ ปฏิบตั ิในการทางาน ของบริษัท ทุกคนตอ้ งไดร้ บั การพิจารณาโทษและถูกลงโทษทางวินยั ซ่งึ หากเป็นความผิดอย่างรา้ ยแรงพนกั งานอาจถูก พิจารณาเลิกจา้ ง ตามขอ้ บังคับเก่ียวกับการทางานของบริษัท หรือตามระเบียบประกาศ คาส่ังท่ีบริษัทไดก้ าหนดไว้ นอกจากนนั้ ทกุ คนอาจตอ้ งไดร้ บั โทษตามกฎหมาย หากกฎหมายไดก้ าหนดไว้ หมวดที่ 10. การใหค้ าํ ปรึกษาและรับข้อร้องเรียน บริษัทมคี ณะกรรมการตรวจสอบและหน่วยงานทาหนา้ ท่ีใหค้ าปรกึ ษา และรบั ขอ้ รอ้ งเรียนดา้ นคณุ ธรรมและ จรยิ ธรรม โดยดาเนินการรบั เร่อื งรอ้ งเรยี น รวบรวม สืบคน้ และพิจารณาตดั สินเร่ืองนนั้ ๆ ซง่ึ จะดาเนินการเกบ็ รกั ษาเป็น ความลบั ทงั้ ขอ้ มลู ของผรู้ อ้ งเรยี น ผถู้ กู รอ้ งเรียน เร่ืองรอ้ งเรยี น พยานตา่ งๆ เป็นตน้ ซง่ึ พนกั งานตลอดจนผมู้ ีสว่ นไดเ้ สียทกุ กลมุ่ สามารถสง่ ขอ้ รอ้ งเรียนโดยตรงมายงั ชอ่ งทางท่ีอย่ตู อ่ ไปนี้ 1) แอพพลเิ คช่นั ออนไลน์ (Official Line) 2) จดหมายสง่ ทางไปรษณีย์ ฝ่ายทรพั ยากรบคุ คล บริษัท แมคไทย จากดั (สานกั งานใหญ่) 97/11 อาคารบิ๊กซีราชดารหิ ์ หอ้ งออฟฟิ ศ 1 ชนั้ 5 ถนนราชดารหิ ์ แขวงลมุ พินี เขตปทมุ วนั กรุงเทพ 10330 3) จดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ (E-Mail) E-Mail: [email protected] 37

จรรยาบรรณทางธุรกจิ บริษัท แมคไทย จากัด