Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบฝึกหัดหน่วยที่ 8

แบบฝึกหัดหน่วยที่ 8

Published by 6032040006, 2018-08-28 03:09:56

Description: แบบฝึกหัดหน่วยที่ 8

Search

Read the Text Version

แบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 8

1. ความหมายของอินเตอร์เน็ตตอบ อินเตอร์เน็ต (Internet) น้ันย่อมาจากคาว่า “International network” หรือ “Inter Connection network”ซึ่งหมายถึง เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ท่ัวโลกเข้าไว้ด้วยกัน เพ่ือให้เกิดการส่ือสารและการแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกัน โดยอาศัยตัวเชื่อมเครือข่ายภายใต้มาตรฐานการเชื่อมโยงเดียวกัน นั่นก็คือ TCP/IPProtocol ซ่ึงเป็นข้อกาหนดวิธีการติดต่อสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่าย ซึ่งโปรโตคอลน้ีจะช่วยให้คอมพวิ เตอร์ที่มฮี าร์ดแวร์ทแ่ี ตกตา่ งกนั สามารถตดิ ตอ่ ถึงกันได้ การท่ีมรี ะบบอินเตอร์เน็ต ทาให้สามารถเคล่ือนย้ายข่าวสารข้อมูลจากท่ีหนึ่งไปยังอีกท่ีหนึ่งได้ โดยไม่จากัดระยะทาง ส่งข้อมูลได้หลายรูปแบบ ทั้งข้อความตัวหนังสือ ภาพ และ เสียง โดยอาศัยเครือข่ายโทรคมนาคมเป็นตัวเช่ือมต่อเครือข่ายอินเตอร์เน็ตนับเป็นอภิระบบเครือข่ายที่ย่ิงใหญ่มาก มีเครื่องคอมพิวเตอร์หลายล้านเครื่องทั่วโลกเช่ือมต่อกับระบบ ทาให้คนในโลกทุกชาติทุกภาษาสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ โดยไม่ต้องเดินทางไป โลกทั้งโลกเปรียบเสมือนเป็นบ้านหน่ึงที่ทุกคนในบ้านสามารถพูดคุยกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง ประหยัดเวลา ค่าใช้จ่าย แต่เกิดประโยชน์ต่อสังคมโลกปจั จุบันมาก

2. ประโยชน์ของอนิ เตอร์เน็ตตอบ อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องเทคโนโลยีส่ือสารที่เอื้ออานวยความสะดวกให้แกผู้ใช้บริการ ในลักษณะของการสื่อสารที่ผ่านทางคอมพิวเตอร์ และช่องทางการส่ือสารชนิดต่างๆ ไม่ได้เป็นการส่ือสารจากบุคคลหน่ึงไปยังบุคคลหน่ึงโดยตรงจึงทาให้เกดิ ทง้ั ประโยชนแ์ ละโทษในการสื่อสารบนอนิ เทอร์เน็ตประโยชนข์ องอนิ เทอร์เนต็ 1.สามารถตดิ ตอ่ สื่อสารกบั บุคคลอ่นื ทว่ั โลก 2.สามารถค้นหาข้อมูลต่างๆได้เสมือนกับเราไปนั่งอยู่ที่ห้องสมุดขนาดใหญ่ได้ข้อมูลมากมายจากทั่วทุกมุมโลก 3.เปรียบเสมือนเวลาท่ีให้เข้าไปแสดงความคิดเห็นได้ภายในห้องสนทนา(chat room) และกระดานข่าว(Web room) เป็นการเปิดโลกกว้างและวสิ ัยทัศนใ์ นเร่อื งทีน่ ่าสนใจ 4.สามารถตดิ ตามเคลือ่ นไหวจากขา่ วสารทัว่ โลกอย่างรวดเรว็ 5.สามารถเปดิ การคา้ ได้ด้วยตวั เอง โดยไมต่ อ้ งหาทจ่ี ัดต้งั ร้านหรือพนักงานบริการ แต่สามารถทาการค้าได้ด้วยตวั เองคนเดยี ว 6.สามารถซื้อสินค้า โดยไม่ต้องเดินทางไปยังร้านค้า ซ้ือผ่านทางเว็บไซต์ที่ให้บริการ การชาระเงินก็สะดวก เช่น ชาระผา่ นบตั รเครดิต การหักเงินผ่านบัญชธี นาคาร 7.สามารถรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์(E-mail) เป็นการส่งจดหมายท่ีไม่ต้องเสียค่าบริการและรับส่งจดหมายไดภ้ ายในและภายนอกประเทศ นอกจากจดหมายที่เปน็ ขอ้ ความแลว้ ยงั ส่งบัตรอวยพรในเทศการตา่ งๆไดอ้ ีก

8.สามารถอ่านนิตยสาร หนงั สือพิมพ์ บทความ และเรอื่ งราวต่างๆไดฟ้ รีเหมอื นกับเราซ้อื หนังสอื ฉบบั นน้ัมาอ่านเอง 9.สามารถตดิ ประกาศขอ้ ความตา่ งๆท่ีตอ้ งการประกาศใหผ้ ู้อืน่ ทราบได้ เชน่ ประกาศขายบ้าน ประกาศสมัครงาน ประกาศขอความช่วยเหลือ 10.มีของฟรอี ีกมากมายทีส่ ามารถใช้บริการไดจ้ ากอินเทอรเ์ นต็ เช่น ภาพ เพลง โปรแกรมคอมพิวเตอร์ดูหนัง เกม

3. วธิ กี ารเชอื่ มต่ออนิ เตอรเ์ น็ตตอบ การเช่ือมต่อระบบอินเตอร์เน็ตน้ัน ข้ึนอยู่กับความต้องการในการใช้งานเป็นสาคัญ เช่นใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อค้นหาข้อมลู ทบ่ี ้าน ใชใ้ นเชงิ ธรุ กิจ ใช้เพื่อความบันเทิง หรอื ใช้ภายในองคก์ รขนาดใหญ่ ดงั นน้ั การเช่ือมต่อระบบอินเตอร์เน็ตจึงมีความแตกต่างกันซึ่งข้ึนอยู่กับปัจจัยด้านความต้องการ รวมท้ังเงินทุนท่ีจะใช้ในการติดตั้งระบบด้วย ปัจจุบันการเช่ือมต่ออนิ เตอรเ์ น็ตทน่ี ยิ มใช้มี 5 ลกั ษณะ คอื 1. การเช่ือมตอ่ แบบ Dial Up เปน็ การเชือ่ มต่ออินเตอร์เน็ตท่ีเคยได้รับความนิยมในยุคแรก ๆ โดยใช้เคร่ืองคอมพิวเตอร์บุคคล กับสายโทรศัพท์บ้านที่เป็นสายตรงต่อเช่ือมเข้ากับโมเด็ม (Modem) ก็สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้แล้ว ผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตต้องทาการติดต่อกับผู้ให้บริการเช่ือมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านหมายเลขโทรศัพท์บ้าน โดยผู้ให้บริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจะกาหนดช่ือผู้ใช้ (Username) และรหัสผ่าน (Password) มาให้เพื่อเข้าใช้บริการอินเตอรเ์ น็ตข้อดี ของการเชือ่ มต่อแบบ Dial Up คอื อปุ กรณม์ ีราคาถูก การตดิ ตงั้ งา่ ย การเคลื่อนย้ายอปุ กรณ์ทาได้ง่ายขอ้ เสยี คืออตั ราการรบั สง่ ขอ้ มูลค่อนขา้ งต่าเพยี งไมเ่ กิน 56 Kbit (กิโลบติ ) ตอ่ วินาที 2. การเชื่อมต่อแบบ ISDN (Internet Services Digital Network) เป็นการเช่ือมต่อที่คล้ายกับแบบ DialUp เพราะต้องใช้โทรศัพท์และโมเด็มในการเช่ือมต่อ ต่างกันตรงท่ีระบบโทรศัพท์เป็นระบบความเร็วสูงท่ีใช้เทคโนโลยีระบบดิจติ อล (Digital) และตอ้ งใช้โมเดม็ แบบ ISDN Modem ในการเชื่อมต่อ ดังนั้นการเช่ือมต่ออินเตอร์เน็ตแบบ ISDNจะต้องคานงึ ถึงสิง่ เหลา่ นี้ คือ

1.ต้องติดต่อผู้ให้บริการอินเตอร์เนต็ (ISP) ทีใ่ ห้บริการการเชอ่ื มต่อแบบ ISDN2.การเช่อื มตอ่ ต้องใช้ ISDN Modem ในการเชอื่ มตอ่3ตอ้ งตรวจสอบว่าสถานท่ีท่จี ะใชบ้ ริการน้ี อยใู่ นอาณาเขตทใ่ี ชบ้ ริการ ISDN ไดห้ รอื ไม่ข้อดี คือไม่มีสัญญาณรบกวน มีความเร็วสูง และยังคงสามารถใช้โทรศัพท์เพ่ือพูดคุยไปได้พร้อม ๆ กับการเล่นอินเตอรเ์ นต็ข้อเสยี คอื มีค่าใชจ้ า่ ยสงู กวา่ ระบบ Dial-Up 3. การเช่ือมต่อแบบ DSL (Digital Subscriber Line) เป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงโดยใช้สายโทรศัพท์ธรรมดา ที่สามารถใช้อินเตอร์เน็ตและพูดผ่านสายโทรศัพท์ปกติได้ในเวลาเดยี วกัน สงิ่ ท่ตี ้องคานึงถงึ ในการติดต้งั ระบบอินเตอรเ์ นต็ แบบ DSL กค็ ือ1.ต้องตรวจสอบว่าสถานทีท่ ตี่ ดิ ตัง้ อยใู่ นเขตพน้ื ที่ให้บรกิ ารระบบโทรศัพทแ์ บบ DSL หรอื ไม่2.บญั ชผี ้ใู ช้อนิ เตอร์เนต็ จากผู้ใหบ้ รกิ ารอินเตอร์เนต็ ในแบบ DSL3.การเช่อื มต่อตอ้ งใช้ DSL Modem ในการเชื่อมตอ่ 4.ต้องติดตั้ง Ethernet Adapter Card หรือ Lan Card ไว้ท่ีเคร่ืองคอมพิวเตอร์ท่ีใช้ในการเช่อื มต่ออินเตอร์เนต็ ดว้ ยขอ้ ดี คอื มคี วามเร็วสูงกว่าแบบ Dial-Up และ ISDNข้อเสยี คือไม่สามารถระบคุ วามเรว็ ทแี่ น่นอนได้

4. การเช่ือมต่อแบบ Cable เป็นการเช่ือมต่ออินเทอร์เน็ตโดยผ่านสายส่ือสารเดียวกับ Cable TV จึงทาให้เราสามารถเช่อื มต่ออนิ เทอร์เนต็ ไปพรอ้ ม ๆ กับการดทู วี ไี ด้ โดยต้องจดั หาอุปกรณเ์ พ่ิมเตมิ คือ1.ใช้ Cable Modem เพ่ือเชอื่ มตอ่2.ต้องติดตั้ง Ethernet Adapter Card หรอื Lan Card ไว้ที่เครอื่ งคอมพิวเตอรท์ ใ่ี ชใ้ นการเช่ือมต่ออนิ เตอรเ์ น็ตดว้ ยข้อดี คอื ถ้ามสี ายเคเบิลทีวีอยู่แล้ว สามารถเชื่อมตอ่ อินเทอร์เน็ตไดโ้ ดยเพิ่มอปุ กรณ์ Cable Modem ก็สามารถเชอ่ื มตอ่ ได้ขอ้ เสีย คอื ถ้ามีผ้ใู ชเ้ คเบลิ ในบริเวณใกลเ้ คียงมาก อาจทาให้การรบั ส่งข้อมูลชา้ ลง 5. การเชอ่ื มตอ่ แบบดาวเทียม (Satellites) เปน็ การเช่อื มตอ่ อนิ เทอร์เน็ตทีม่ คี า่ ใชจ้ า่ ยค่อนขา้ งสงู ระบบท่ีใช้กันอยู่ในปัจจบุ นั เรยี กวา่ Direct Broadcast Satellites หรือ DBS โดยผ้ใู ช้ตอ้ งจดั หาอุปกรณเ์ พม่ิ เติม คอื1.จานดาวเทียมขนาด 18-21 นิ้ว เพื่อทาหนา้ ทีเ่ ปน็ ตวั รบั สัญญาณจากดาวเทยี ม2.ใช้ Modem เพ่ือเช่อื มตอ่ ระบบอินเตอรเ์ นต็ข้อเสยี ของการเชอื่ มต่อแบบดาวเทยี ม (Satellites) ไดแ้ ก่1. ต้องส่งผ่านสายโทรศัพทเ์ หมือนแบบอืน่ ๆ2.ความเรว็ ในการรบั ส่งขอ้ มลู ต่ามากเมอื่ เทียบกบั แบบอน่ื ๆ3.คา่ ใชจ้ า่ ยสูง

4. สงิ่ ท่ตี ้องทราบในการเช่ือมตอ่ อนิ เตอร์เนต็ตอบ สาหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพ่ือใช้งานภายในบ้าน จาเป็นต้องมีส่วนประกอบสาคัญที่จะสามารถเช่ือมต่อระหว่างผใู้ ช้กบั ผูใ้ หบ้ ริการอนิ เทอร์เนต็ เพราะการใช้งานอนิ เทอร์เน็ตนั้น จะตอ้ งเกิดจากการเชอ่ื มตอ่ ของท้งั สองฝ่ังก่อนจงึจะสามารถใช้งานได้ ซงึ่ จะประกอบดว้ ยส่วนประกอบที่สาคญั ดังตอ่ ไปน้ี 1. อุปกรณค์ อมพิวเตอร์ 2. โมเดม็ (Modem) 3. โปรแกรมสาหรับการใชง้ านอนิ เทอรเ์ น็ต 4. วธิ กี ารเชอื่ มตอ่ อนิ เทอรเ์ นต็ 5. การเลอื กผู้ให้บริการอนิ เทอรเ์ นต็5. โปรโตคอล อน่ื ๆที่นา่ สนใจตอบ Protocol คืออะไร โปรโตคอล คอื ขอ้ กาหนดซ่งึ เป็นมาตรฐาน ใช้สาหรับการสอ่ื สารระหว่างคอมพิวเตอร์ Android. Webserver. Internet. Network. HTTP. TCP/IP. Protocol. SMTP.

6. อปุ กรณ์ท่ีใช้ติดตงั้ อนิ เตอรเ์ นต็ตอบ 1. เคร่ืองคอมพิวเตอร์ ควรจะเป็นคอมพิวเตอร์ท่ีสามารถใช้งาน Windows ได้ และควรเป็นPentium ความเร็ว 133 เมกะไบต์ (MB) ฮาร์ดดิสก์ 1 กิกะไบต์ (GB) ถา้ ใชเ้ คร่อื งคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงได้มากเท่าไร ก็ยิง่ เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพต่อการใชง้ านมากข้ึนเท่านน้ั 2. สายโทรศพั ท์ จะตอ้ งมคี ่สู ายโทรศพั ท์ ถา้ เป็นหมายเลขส่วนตัวได้กย็ งิ่ ดี 3. โมเดม็ ควรเลือกโมเดม็ ความเร็วอย่างน้อย 56 Kbps 4. สมาชิกอินเตอร์เน็ต จะต้องสมัครสมาชิกกับศูนย์บริการอินเตอร์เน็ต ISP (Internet ServiceProvinces) ก่อน โดยซ้ือชุดอินเตอร์เน็ตแบบสาเร็จรูป หรือจะสมัครเป็นสมาชิกแบบรายเดือนก็ได้ เมื่อสมัครแล้วจะไดช้ อื่ ลอ็ กอนิ และรหสั ผ่าน อเี มล์แอดเดรส สาหรับใช้รับส่งจดหมายอิเลก็ ทรอนกิ ส์บนอนิ เตอรเ์ นต็ การใช้อนิ เทอรเ์ น็ตในยุคปจั จบุ นั ได้กา้ วไกลมาถึงในบ้าน และขยายเข้าถึงทุกหนทุกแห่งท่ีโทรศัพท์ไปถงึ โทรศพั ทจ์ ึงเปน็ เครอื ข่ายทช่ี ่วยทาให้ผู้ใช้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่าย โทรศัพท์จึงมีประโยชน์นอกเหนือจากการเป็นสื่อสาหรับพูดคุย ส่งโทรสารแล้วยังเป็นสื่อหลักที่สาคัญของอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจึงควรทาความเข้าใจและรู้จักกบั ระบบโทรศัพทใ์ หม้ าก

ระบบโทรศัพท์ที่เราใชม้ ีลกั ษณะการสวติ ช์เช่ือมโยงระหว่างผู้เรียกกับผู้ถูกเรียกในลักษณะการสร้างวงจรท่ีเรียกว่า เซอร์กิตสวิตช์ แต่ระบบอินเทอร์เน็ตเชื่อมโยงวงจรในรูปแบบท่ีเรียกว่า แพ็กเก็ตสวิตช์ ระบบโทรศัพท์ท่ีใช้รับสัญญาณเสียงพูดแบบอะนาล็อก ขณะท่ีอินเทอร์เน็ตเน้นการรับส่งข้อมูลแบบดิจิตอล กล่าวคือเม่ือผู้พูดผ่านไมโครโฟนของเครื่องโทรศัพท์ สัญญาณเสียงจะได้รับการแปลงให้เป็นสัญญาณไฟฟ้าในรูปแบบอะนาล็อก โดยมีระดับแรงดัน 48โวลต์เป็นตัวนา สัญญาณไฟฟ้าแบบอนาล็อกจะเดินทางจากบ้านไปยังชุมสาย การติดต่อทางเสียงระหว่างต้นทางกับปลายทางจะเกิดข้ึนได้ต่อเมื่อมีวงจรเช่ือมโยงถึงกัน ดังนั้นอุปกรณ์สวิตชิ่งท่ีชุมสายจะทาหน้าที่เชื่อมโยงวงจร โดยผ่านหลายชุมสายจนถึงปลายทางเนือ่ งจากเส้นทางของสญั ญาณต้องผา่ นลาดตวั นาทองแดง โดยเฉพาะระยะทางที่ไกล (ปกติระยะทางเป็นกิโลเมตร) กว่าจะถึงชุมสาย แถบกว้างของสัญญาณโทรศัพท์จึงต่า และมีสัญญาณรบกวนได้ง่ายสัญญาณเสยี งทผี่ า่ นชอ่ งสายโทรศัพท์มขี อบเขตเพยี งไม่เกนิ 4 กิโลเฮิร์ทซ์ ซ่ึงเป็นแถบเสยี งท่ฟี ังกันรเู้ รื่อง แต่คุณภาพของเสียงจะไมด่ นี ัก หากสายสัญญาณเชื่อมโยงยิ่งไกล คุณภาพของสัญญาณก็จะย่ิงแย่ลง ท้ังน้ีเพราะคุณภาพของสัญญาณจะแปรตามขนาดของลวดทองแดง และความยาวรวมถึงคุณภาพของสายสัญญาณอีกด้วยเม่ือต้องการต่อเช่ือมอินเทอร์เน็ตโดยผ่านวงจรโทรศัพท์ จึงจาเป็นต้องแปลงข้อมูลแบบดิจิตอลให้เป็นอะนาล็อก และแปลงกลับจากอะนาล็อกให้เป็นดิจติ อลใหม่ โมเด็ม เป็นอุปกรณ์หลักท่ีทาหน้าท่ีแปลงสัญญาณระหว่างอะนาล็อกกับดิจิตอล เพ่ือเช่ือมโยงระบบมาตรฐานของโมเด็มได้รับการพัฒนาให้ส่งสัญญาณดิจิตอล เข้าช่องสื่อสารโทรศัพท์ท่ีมีแถบกว้างเพียง 4 กิโลเฮิร์ทซ์ปัจจุบันความเร็วในการส่งสัญญาณดิจิตอลข้ึนกับคุณภาพของสายโทรศัพท์และมาตรฐาน โดยปกติโมเด็มจะตรวจสอบคุณภาพสายสัญญาณหรือช่องสื่อสารก่อน และจะหาความเร็วท่ีเหมาะสม ดังนั้นการใช้งานแต่ละคร้ังจะได้ความเร็วไม่เท่ากนั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook