Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นิทานพื้นบ้าน

นิทานพื้นบ้าน

Published by kai664424, 2020-02-12 22:04:53

Description: นิทานพื้นบ้าน

Search

Read the Text Version

นิทานพ้ืนบา้ น คานา การนาเอานทิ านไปเล่าเรอื่ งประกอบคาสอนให้เด็ก ๆ ได้ฟงั ย่อมจะเปน็ เครือ่ งทาให้ เพลิดเพลินและเสรมิ ความรู้ แบ่งเบาภาระทีจ่ ะตอ้ งสอนเนื้อหาอย่างเดยี ว โดยอาศัยบคุ ลาธษิ ฐาน เป็นตวั อย่างประกอบ นอกจากนีน้ ิทานแตล่ ะเร่ืองยังใหข้ ้อเทจ็ จรงิ และช่วยในด้านการอ่าน การ

เขียน การใชภ้ าษาท่ถี กู ตอ้ ง เปน็ การเพ่ิมทกั ษะในด้านการเห็น การฟัง และการทาตามเยย่ี งอย่าง อนั ดีน้ันดว้ ยการศึกษาเรื่องนิทานจึงเป็นปัจจยั ให้ เกิดความรูท้ ัง้ ทางทฤษฎแี ละแนวปฎิบัตดิ ว้ ยทงั้ สองทาง หากเกดิ ความผดิ พลาดประการใดก็ขอมา ณ โอกาสนี้ดว้ ย สารบัญ 1สงั ฆทอง 2 3 4 5 6 7 8 9 10

ท้าวยศวิมล” มีมเหสชี อ่ื ”นางจนั ท์เทวี” มีสนมเอกชื่อ “นางจนั ทาเทวี” …พระองค์ไม่มีโอรสธิดา จึงบวงสรวงและรกั ษาศีลห้าเพ่อื ขอบุตร …และประกาศแกพ่ ระมเหสแี ละนางสนมว่าถ้าใครมโี อรส ก็จะมอบเมืองให้ครองอยู่มานางจันท์เทวีทรงครรภ์ เทวบุตรจตุ มิ า เปน็ พระโอรสของนาง แต่ ประสูตมิ าเปน็ ”หอยสงั ข์” …นางจันทาเทวีเกดิ ความรษิ ยาจงึ ติดสนิ บนโหรหลวงให้ทานายว่าหอย สงั ขจ์ ะทาให้บา้ นเมอื งเกดิ ความหายนะ ทา้ วยศวมิ ลหลงเช่ือนางจนั ทาเทวี จงึ จาใจตอ้ งเนรเทศนาง จันท์เทวแี ละหอยสังข์ไปจากเมอื ง …นางจันท์เทวีพาหอยสงั ขไ์ ปอาศัยตายายช่าวไร่ ชว่ ยงานตา ยายเป็นเวลา 5 ปี พระโอรสในหอยสังขแ์ อบออกมาชว่ ยทางาน เช่น หุงหาอาหาร ไลไ่ ก่ไม่ให้จกิ ข้าว เมือ่ นางจันท์เทวที ราบก็ทบุ หอยสังข์เสยี กาลคร้ังหน่งึ นานมาแลว้ มีหญงิ สาวสวย คนหนง่ึ ช่ือวา่ “พิกลุ ” …กลา่ วกนั ว่าเธอมีความสวยท้ังหนา้ ตาและ กิรยิ ามรรยาท มารดาของเธอตายต้ังแตเ่ ธอยัง เลก็ มาก ดังน้ันเธอจงึ ไดร้ บั การเลย้ี งดูจากแม่เล้ยี งซ่ึงเธอเองกม็ ีลกู สาวคนหนึง่ ช่ือว่า “มะล”ิ …แต่ กโ็ ชคร้ายที่ว่าท้ังแมเ่ ล้ียงและลูกสาวของเธอนั้นเปน็ คนใจรา้ ย ท้งั คูจ่ ะบังคับใหพ้ ิกุลทางานหนักทุก วนั อยู่มาวันหนึง่ หลังจากตาข้าวเสรจ็ แล้ว …พกิ ลุ กอ็ อกไปตกั นา้ ท่ลี าธารซึ่งอยูไ่ มไ่ กลจากบ้านนกั ในขณะเดินทางกลบั …ทันใดนน้ั กม็ หี ญงิ ชราคนหนึ่งปรากฏอยู่เบอื้ งหนา้ ของพิกลุ และขอน้าเธอดม่ื พกิ ลุ ดีใจมากท่ไี ดช้ ่วยหญิงชราคนนั้น …เธอเอานา้ ให้หญงิ ชราและบอกให้เธอเอาน้าไปอีกเพอ่ื จะได้

ล้างหนา้ และลา้ งตวั ใหส้ ดชน่ื พิกลุ บอกหญงิ ชราว่าไม้ต้องหว่ งเพราะถา้ น้าไมพ่ อเธอจะไปตกั มาอีก …หญิงชรายิม้ และกล่าวว่า “เธอน่ีนอกจากจะสวยแล้วยงั ใจดีอีกถงึ แมว้ ่าฉนั จะดยู ากจน และ มอมแมมเธอกป็ ฏิบตั กิ ับฉันเปน็ อยา่ งดี”หลงั จากกล่าวชื่นชมพิกุลแล้ว …หญงิ ชราก็ใหพ้ รวเิ ศษกับ เธอ และด้วยอานาจของพรวิเศษน้ีจะทาใหด้ อกพกิ ลุ ทองคาร่วงออกมาจากปากของเธอ …เมอื่ ใดก็ ตามที่เธอรู้สกึ สงสารใครหรอื สงิ่ ใด …หลงั จากหญิงชราใหพ้ รวิเศษแกพ่ กิ ลุ แล้ว กห็ ายวับไปต่อหน้า ต่อตาของเธอ …พกิ ุลกร็ ู้ทันทีว่าแท้ที่จริงแลว้ หญงิ ผู้นั้นเปน็ นางฟ้าจาแลงมาให้พรวเิ ศษแก่ตน … ทันทีทีก่ ลับถึงบา้ นช้า เธอก็ถูกแม่เล้ียงดุด่าว่าไปเถลไถลเพอื่ หนงี าน ดังนั้นพกิ ลุ จงึ เลา่ เรอ่ื งทงั้ หมด ใหผ้ ูเ้ ปน็ แมเ่ ล้ียงฟงั พร้อมกับเกดิ ความรู้สกึ สงสารใน …ขณะเล่าจึงทาใหด้ อกพิกุลทองคาร่วง ออกมาจากปากของเธอดว้ ย …แมเ่ ลี้ยงจอมละโมบกเ็ ปลีย่ นอารมณ์จากโกรธเป็นละโมบในทนั ที พร้อมกบั ตะครุบดอกพกิ ุลทองท้งั หมดไว้ในขณะท่ีปากกส็ ัง่ ใหพ้ กิ ุลพดู ตอ่ ไปเรื่อย ๆ เพื่อสนอง ความละโมบของเธอนนั่ เอง อยู่มาวันหนึ่ง หลงั จากตาขา้ วเสร็จแล้ว …พิกลุ กอ็ อกไปตักน้าท่ลี าธารซงึ่ อย่ไู ม่ไกลจากบ้านนัก ในขณะเดนิ ทางกลบั …ทนั ใดนน้ั ก็มีหญงิ ชราคนหนึ่งปรากฏอยูเ่ บื้องหน้าของพิกุลและขอนา้ เธอดมื่ พิกุลดีใจมากทไ่ี ดช้ ่วยหญงิ ชราคนน้นั …เธอเอานา้ ให้หญิงชราและบอกให้เธอเอานา้ ไปอกี เพ่ือจะได้ ล้างหน้า และลา้ งตวั ใหส้ ดช่นื พิกลุ บอกหญงิ ชราว่าไม้ต้องห่วงเพราะถ้าน้าไม่พอเธอจะไปตกั มาอีก …หญิงชรายิ้มและกล่าววา่ “เธอน่ีนอกจากจะสวยแล้วยงั ใจดีอกี ถงึ แม้วา่ ฉนั จะดยู ากจน และ มอมแมมเธอกป็ ฏิบัตกิ บั ฉันเปน็ อยา่ งดี” หลังจากกล่าวช่ืนชมพกิ ุลแล้ว …หญงิ ชราก็ใหพ้ รวิเศษกบั เธอ และด้วยอานาจของพรวิเศษน้จี ะทา ให้ดอกพิกลุ ทองคาร่วงออกมาจากปากของเธอ …เมื่อใดกต็ ามท่ีเธอรู้สึกสงสารใครหรอื ส่งิ ใด … หลงั จากหญิงชราใหพ้ รวิเศษแก่พิกลุ แลว้ กห็ ายวับไปต่อหนา้ ตอ่ ตาของเธอ …พิกลุ กร็ ู้ทนั ทีว่าแท้ที่ จริงแลว้ หญิงผนู้ น้ั เปน็ นางฟา้ จาแลงมาให้พรวิเศษแก่ตน …ทันทีทกี่ ลับถงึ บ้านช้า เธอกถ็ ูกแม่เลีย้ งดุ ด่าว่าไปเถลไถลเพือ่ หนีงาน ดงั น้นั พิกลุ จงึ เลา่ เรือ่ งท้ังหมด ให้ผเู้ ปน็ แม่เลีย้ งฟังพรอ้ มกบั เกดิ

ความรูส้ กึ สงสารใน …ขณะเล่าจึงทาใหด้ อกพกิ ลุ ทองคาร่วงออกมาจากปากของเธอดว้ ย …แม่เลย้ี ง จอมละโมบก็เปลีย่ นอารมณจ์ ากโกรธเปน็ ละโมบในทนั ทพี ร้อมกับตะครุบดอกพกิ ุลทองทั้ง หมดไว้ ในขณะทปี่ ากก็สัง่ ให้พกิ ุลพดู ต่อไปเร่อื ย ๆ เพื่อสนองความละโมบของเธอนัน่ เองนบั จากวนั นัน้ เปน็ ต้นมา แม่เล้ยี งของพกิ ลุ ก็เกบ็ รวบรวมดอกพิกุลทองคาไวใ้ ห้มากท่ีสดุ เท่าท่จี ะทาได้ เพ่อื นาไปขาย และไดเ้ งินมามากมาย ชีวิตทุกคนตอนนีก้ ม็ ีความเป็นอยู่ท่ดี ีขน้ึ พกิ ลุ เองก็ไมต่ อ้ งทางานหนักเหมอื น แต่กอ่ น แต่กถ็ กู บงั คับใหพ้ ดู ท้งั วันเพือ่ ให้ดอกพิกลุ ทองคาออกมาจากปากของเธอมากๆ นนั่ เอง … พกิ ุลทองออ่ นล้าไปกับการตอบสนองความละโมบของแมเ่ ลย้ี ง ตอนนพ้ี ิกุลเองเกดิ เจบ็ คอและ กลายเป็นคน เสียงแหบเสียงแหง้ ไปเลย เธอพูดไมไ่ ดไ้ ประยะหนงึ่ …อาการเช่นนี้ทาใหแ้ มเ่ ล้ียง โมโหมากขนึ้ จนถงึ ข้ันตบตี พิกุลเพ่ือพยายามยงั คับใหเ้ ธอพูดแตพ่ กิ ุลก็พดู ไมไ่ ดแ้ ม้แตค่ าเดียว … เพื่อตอบสนองความละโมบของตน ตวั แมเ่ ลี้ยงเองจึงตัดสินใจสง่ ลกู สาวของตนนามวา่ มะลิไปทา ตามอย่างพิกลุ บ้าง … มะลถิ กู ส่งไปยังสถานท่ีเดียวกับที่พกิ ุลบอกไว้แตว่ ่าแทนท่จี ะได้พบกับหญิง ชรากก็ ลบั เป็น พบหญิงสาวสวยสวมเสอื้ ผ้างดงามยืนอย่ใู ต้รม่ ใหญ่ หญงิ สาวผู้นั้นขอน้ามะลดิ ื่มแต่ ด้วยความรษิ ยามะลิแสดงอาการโกรธและคิดว่า หญิงผู้นนั้ ไม่ใชน่ างฟา้ เธอจงึ ปฏิเสธและใชว้ าจา หยาบคายด่าทอนางฟ้าจาแลง …ดังนัน้ นางฟา้ จงึ สาปแช่งมะลวิ า่ เมือ่ ใดก็ตามที่เธอโกรธและพดู ออกมาแลว้ ไซร้ กจ็ ะมหี นอนรว่ งออกมาจากปากของเธอ เมอื่ กลบั มาถึงบ้านมะลิกเ็ ลา่ เร่อื งทง้ั หมด ใหผ้ ู้เปน็ แมฟ่ งั และด้วยความโกรธ ในขณะ เลา่ เร่ืองน้ันกท็ าให้บ้านทงั้ หลังเต็มไปด้วยตัวหนอน ผู้ เป็นแม่คดิ ว่าพิกุลอจิ ฉาลกู สาวของตน ดงั นัน้ จึงแกล้งบดิ เบอื นเรือ่ งทเ่ี ล่าจึงเป็นเหตใุ หล้ กู สาวของ ตนไมไ่ ดพ้ บกบั หญงิ ชราแมเ่ ลี้ยงจงึ ทบุ ตีพกิ ุลและไล่เธอออกจากบา้ นไป ดว้ ยความเสยี ใจอยา่ งสดุ ซึง้ พิกุลจงึ ทอ่ งเท่ยี วไปในป่า แตเ่ พียงลาพัง โชคดีท่วี ่าเธอเดินไปในทิศทางที่ เจา้ ชายหนมุ่ กาลงั เพลดิ เพลินอยู่กบั การขี่มา้ ประพาสปา่ กบั ข้าราชบริพารผ่าน มาพอดเี มอ่ื ทอดพระเนตร เห็นสาวน่งั ร้องไห้อยทู่ รงถามเรอื่ งราวความเปน็ มาท้งั หมด ทนั ทที ่ีพดู จบที่บริเวณนัน้ กเ็ ต็มไป ด้วยดอกพกิ ลุ ทองคา …เจา้ ชายดพี ระทยั ยง่ิ นกั จึงขอนางอภิเษกสมรสดว้ ยและหลงั จากการ

อภิเษกสมรสท้ังสองพระองคก์ ็ได้ ขน้ึ ครองราชย์และปกครองเมอื งของพระองค์ด้วยความ ร่มเย็นเปน็ สขุ ตลอดมานทิ านเรือ่ งน้สี อนให้รวู้ ่า นทิ านลา้ นนา เรอ่ื งขายปัญญา ในกาลกอ่ นนั้น… สติปญั ญาความรู้ ความเฉลยี วฉลาดปราดเปรื่องน้นั มกี ารนาเอามาขายดงั สนิ ค้า ต่าง ๆ เช่นปัจจบุ ันน้ี ดังน้ัน ตลอดเวลาจะมผี นู้ าเอาความรหู้ รือเอาตวั ปญั ญาน้ีมาขายเสมอ วนั หนึ่งในเวลาบ่าย แดดร้อนจัดจนเป็นเปลว มชี ายคนหนึ่งนาเอาปัญญามาขาย โดยบรรจตุ วั ปญั ญาลงในกระทอจนเต็มแลว้ หาบผ่านเปลวแดดมาจนถึงประตเู มือง ครนั้ จะเขา้ ไปทนั ทกี ็เกรงว่า อากาศรอ้ น ๆ เชน่ นี้จะทาใหอ้ ารมณข์ องตนเสียไปได้… เขาจงึ สอดสา่ ยสายตาดรู ่มไมใ้ หญ่บริเวณ รอบๆ ในท่ีสดุ ก็มองเหน็ ร่มหว้าใหญใ่ บตก มีร่มแผก่ ว้างนา่ พกั เขาจงึ แวะเข้าไปแล้ววางหาบ ตัวปญั ญทนี่ ามาขายลง แล้วเอนหลงั หลบั ไปดว้ ยความเหนื่อยออ่ น… จวบจนตะวนั บ่ายคล้อยลง ความรอ้ นจงึ คอ่ ยบรรเทา ชายนน้ั ตืน่ ข้นึ แล้วไปลา้ งหนา้ ในสระน้าใกลก้ าแพงเมือง ตงั้ ใจวา่ พอเสร็จ ธรุ ะแลว้ นาเอาตัวปัญญาเขา้ ไปเสนอขายในเมืองทันทีนิทานลา้ นนา เร่ืองขายปัญญา

ในกาลกอ่ นนน้ั … สตปิ ญั ญาความรู้ ความเฉลียวฉลาดปราดเปรอ่ื งนัน้ มกี ารนาเอามาขายดงั สินคา้ ตา่ ง ๆ เช่นปัจจบุ นั น้ี ดงั น้ัน ตลอดเวลาจะมผี ู้นาเอาความรู้หรอื เอาตวั ปัญญาน้ีมาขายเสมอวนั หน่ึง ในเวลาบา่ ย แดดรอ้ นจดั จนเปน็ เปลว มีชายคนหนง่ึ นาเอาปัญญามาขาย โดยบรรจตุ ัวปญั ญาลงใน กระทอจนเต็มแล้ว หาบผ่านเปลวแดดมาจนถึงประตเู มือง ครัน้ จะเขา้ ไปทันทีก็เกรงว่าอากาศรอ้ น ๆ เช่นน้ีจะทาใหอ้ ารมณ์ของตนเสียไปได้… เขาจึงสอดส่ายสายตาดูรม่ ไม้ใหญบ่ รเิ วณรอบๆ ในที่สุด กม็ องเหน็ รม่ หว้าใหญใ่ บตก มีร่มแผก่ วา้ งน่าพัก เขาจงึ แวะเขา้ ไปแลว้ วางหาบตวั ปัญญาทนี่ ามาขาย ลง แลว้ เอนหลงั หลบั ไปด้วยความเหน่ือยออ่ น… จวบจนตะวันบา่ ยคล้อยลง ความร้อนจงึ ค่อย บรรเทา ชายนน้ั ต่นื ขึ้นแล้วไปลา้ งหนา้ ในสระนา้ ใกล้กาแพงเมือง ตั้งใจว่าพอเสร็จธรุ ะแล้วนาเอาตัว ปญั ญาเขา้ ไปเสนอขายในเมอื งทันที ขณะที่เขาเตรยี มจัดหาบเพ่ือจะเข้าไปในเมอื งอยนู่ ั้น พอดีมหี มูค่ นประมาณ 4 – 5 คนออกจาก ประตเู มืองมา เม่ือมาถงึ ใตร้ ม่ หวา้ ชายที่นาเอาตวั ปัญญามาขายจึงร้องถามออกไปว่า ‘’พนี่ อ้ ง ทง้ั หลาย ในพวกทา่ นมีใครบ้างไหมที่ตอ้ งการซ้อื เอาปญั ญาไปไว้ใช้บา้ ง” ชาวบ้านเหล่านั้นหนั หนา้ มามองกัน คนหนง่ึ ในพรรคพวกจงึ ถามว่า ‘’ท่านเอ๋ย ปัญญานนั้ มันเปน็ เสมอแกว้ สารพัด นึก ซ่งึ จะลดบันดาลใหท้ า่ นลว่ งรแู้ ละสามารถประดิษฐค์ ิดคน้ ส่ิงตา่ ง ๆ ทแ่ี ปลก ๆ ใหมไ่ ด้อกี มากมายโดยไม่รู้จักจบส้ิน ปัญญาจะช่วยใหบ้ า้ นเมืองทลี่ ้าหลังเจรญิ กา้ วหนา้ ” คนหนึ่งในพวกนั้นอทุ านออกมาดว้ ยความพอใจ ‘’โอโฮ… ยงั งัน้ ปญั ญากเ็ ปน็ แก้วสารพดั นกึ ละ ซิท่ีจะสามารถดลบนั ดาลส่ิงท่ีตอ้ งการได้ ทุกอยา่ ง นอกจากนน้ั ปญั ญายงั ชว่ ยให้เราล่วงรูส้ งิ่ ท่ี เรายังไมร่ ดู้ ว้ ยใชไ่ หม” ชายผู้นน้ั พยกั หนา้ และรบั ปากว่า ‘’จริงทีเดยี ว พวกท่านเขา้ ใจอยา่ ง ถูกต้อง ปญั ญาเปรยี บเหมือนดวงแกว้ ทจ่ี ะส่องสวา่ งขจดั ความโงเ่ ขลาให้หายไปอย่างไรละ่ พวกทา่ นมีใครตอ้ งการบา้ งไหมเล่า เรากาลังนามาเสนอขายจนถึงบา้ นของทา่ นละ่ ‘’

… ชายคนหนง่ึ ในหมู่คนนั้นอยากจะลองดูวา่ ผู้เอาปญั ญามาขายนน้ั จะฉลาดและล่วงรู้ทุกส่ิง จรงิ ดังทเ่ี ขากลา่ วหรือไม่ เขาจึงก้มดรู อบๆ ตน้ หว้าใหญน่ น้ั อย่างพนิ ิจพเิ คราะห์แลว้ เอย๋ ปาก ถามวา่ ‘’เอาละ เม่ือทา่ นกล่าววา่ ปัญญาจะสามารถช่วยให้เราลว่ งรทู้ ุกอย่าง ข้าพเจา้ ขอเรยี น ถามทา่ นว่า ท่านรหู้ รือไมว่ ่ามอี ะไรอยใู่ ตด้ นิ ตรงท่ที า่ นยืนอย่ตู รงนี้ ถา้ หากท่านมีปญั ญาจริง หวงั ว่าท่านคงจะตอบได้ ” ชายนั้นยืนเพง่ พนิ ิจพิจารณาเป็นเวลานาน ก็ไมส่ ามารถบอกไดว้ ่า ใตห้ าบและใต้บรเิ วณที่ตนยืนอยูน่ นั้ มอี ะไรอยู่ เขาจงึ ย้อนถามไปวา่ ‘’ และท่านสามารถบอกได้ รวึ ่าอะไรอยใู่ ต้เท้าทเ่ี รายืนอยู่นี้ ” … ชายทีถ่ ามพยกั หน้าและตอบออกไปทันทวี ่า ‘’ แมเ้ ราจะไมม่ ีตวั ปญั ญามาขายแตเ่ รากล้า บอกวา่ ใตห้ าบตัวปญั ญาน้ีมีไขม่ ดแดง (ดนิ ) รงั ใหญ่ หากท่านไมเ่ ชอ่ื ก็ชว่ ยเราขดุ ซิ หากไมพ่ บ ดังเราว่ายอมใหท้ ่านปรบั เรากแ็ ล้วกนั ” ชายคนน้นั ตกลง ตอ่ จากน้ันคนทั้งหมดตา่ งชว่ ยกนั ขุด ลงไปจนลกึ เกือบท่วมศรษี ะ จึงพบไข่มดพรอ้ มท้ังแมม่ ันจานวนมากมายในโพรงนั้นจริง ๆ ซ่งึ การกระทาคร้งั นี้ ทาใหช้ ายผเู้ อาปัญญามาขายรู้สึกอบั อายยิ่งนัก ดว้ ยเหตนุ ี้เขาจึงยกเอาหาบปัญญาเดินหมุนกลบั ไปทางเดมิ ไมย่ อมเอาตวั ปญั ญามาขายให้แก่ ชาวเมอื งน้นั เพราะเจบ็ ใจท่ถี กู สบประมาทต่อหนา้ เขาออกเดนิ ทางไปเรื่อยๆ เป็นเวลานาน จนกระทง่ั ไปพบคนผิวขาวไดแ้ กพ่ วกฝรั่งน่นั เอง เขาจงึ เอาตวั ปญั ญานีน้ าออกไปขาย และด้วย เหตุนเ้ี องจงึ ทาให้ชาวยุโรปเจริญรวดเร็ว สามารถคิดและประดษิ ฐส์ ิง่ ต่างๆ ได้โดยไมร่ ูจ้ ักจบสนิ้ นอกจากนน้ั ยังมีการศึกษาเล่าเรียน ตลอดจนวธิ คี ้นคว้าซงึ่ ดีกว่าพวกเราเสียอีก

คนั คากเป็นราชา พญา คนั คาก เปน็ ราชาครองเมืองชมพู บรรดาบ้านเมอื งบริวารใหญน่ อ้ ย พร้อมใจกนั บงั คมกม้ ให้ พญาคนั คากถ้วนทวั่ ทุกหัวระแ หง จนลืมส่งสการไหวส้ าฟ้าแถนเหมอื นแต่ก่อน …ผีฟ้า “พญา แถน” เปน็ ใหญอ่ ยู่เมืองแมนแดนสวรรค์ ครั้นเม่ือฝงู คนท้ังหลายไปภักดตี ่อ พญาคันคากหมดสน้ิ ผี ฟา้ พญาแถนเลยโกรธ กไ็ ม่ส่งนา้ ฟา้ น้าฝนหล่นลงมาให้บ้านเมอื งแวน่ แควน้ ใหญ่นอ้ ย จนเกิดความ แห้งแลง้ ทุกหย่อมหญา้ สาหัส พญาคันคากเหน็ ความทกุ ขย์ ากของไพร่บา้ นพลเมือง กม็ ุดลงไปเมอื งบาดาลนาค แล้วไต่ถามความ นัยว่าเหตไุ ฉนถงึ เกดิ ภัยแล้ งแหง้ น้ามานานปี …พญานาคจอมบาดาล จึงบอกเหตุวา่ เพราะผีฟ้า พญาแถนไมใ่ ห้นาคทงั้ หลายขน้ึ ไปเลน่ นา้ บนสวรรค์เหมอื นแตก่ อ่ น น้าเลยไม่แตก ฉานซ่านกระเซน็ กระเด็นกระดอนเปน็ ฝนฝอยหล่นลงมาเล้ยี งโลกมนุษย์ เมอื งชมพูและบริวารเลยยากแคน้ แสน กันดาร ดว้ ยแถนฟ้าเคืองราคาญผคู้ นทไ่ี ม่บตั รพลีดไี หว้ มวั แต่ไปบงั คมพญาคันคากนัน้ แล …พญา คนั คากรคู้ วามตามจรงิ ก็ยิ่งโกรธพิโรธนัก สง่ั ใหพ้ ญานาคผเู้ ปน็ เมืองบริวารทาทางถนนจากเมือง ชมพูข้นึ ไปเมอื งแถนแดนสวรรค์

คางคกยกรบ พญานาคพร้อมนาคบรวิ าร พากันแผพ่ ังพานพวนขนดแล้วขดขนขนุ ภูเขาทกุ เขตแคว้นแดนมนษุ ย์ เอามาต่อเข้าดว้ ยกนั บรรดาปล วกระดมขนดนิ มาถมพอกภูเขา ให้เปน็ ทางถนนดน้ ดั้นถึงเมืองแถน ในทันที …ฝูงพญานาคครุฑยดุ พญานาคมาพรอ้ มกนั ทั้งฝงู ต่อ ฝูงแตน และมิ้ม ผ้งึ มอด มด ท้งั หมดทงั้ น้นั มาพร้อมเพรียงกนั ด้วยสรรพสตั ว์สารพัด เสอื สงิ ห์ กระทงิ แรด ในปัถพี เมือ่ สารพัด สัตว์มาชมุ นุมสามคั คีพรอ้ มกนั แลว้ พญาคันคากก็ส่ังใหเ้ คล่ือนขบวน ลว้ นไพร่พลโยธไี ปตามทาง ถนนหนเหนิ เดนิ เป็นหมวดหม่แู ถวแนว ตรงแน่วขึน้ ไปเมอื งแถนแดนสวรรค์ชั้นฟา้ พนู้ แล พญานาคกับพญาแถนรบรากนั สนน่ั หวั่นไหวคล้ายเสียงฟา้ รอ้ ง จนกระท่งั พญาแถนยกมือขนึ้ บังคมพนมไหว้ยอมแพ้ ขอเป็นเมอื งส่วยสุจรติ แตง่ นา้ ฟา้ หาฝนหลน่ ลงเมืองมนุษย์ทกุ ปี แลว้ ร้อง เชิญพญาคันคากเขา้ เมืองแถน

นทิ านพืน้ บ้านภาคเหนือ เรือ่ งสองสตั ว์ เป็นนทิ านลา้ นนา มเี น้ือเรอื่ งท่เี ล่าสู่กนั ฟังเพอ่ื ให้ เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน มีแง่คิดสอนใจทด่ี ใี ห้ทงั้ กับเดก็ และผู้ใหญ่ และสามารถเล่าเป็น นทิ านกอ่ นนอนสาหรบั คณุ หนๆู ไดเ้ ปน็ อย่างดี (เลา่ โดย นายคารณ เดชประยุทธ อาเภอเมือง จงั หวัดเชยี งใหม่)ในกาลก่อนมสี ัตว์สองตัวเป็นเพื่อนกนั …เวลาไปหากินหรือไปในทีใ่ ดๆ มักจะไป ด้วยกันเสมอสตั ว์คู่น้ีได้แก่ บว้ น (นาก) กับกระต่าย …มนั หากินอยู่ตามรมิ ฝั่งน้าปิงเป็นประจา อยู่ มาวนั หน่งึ นากออกไปหากนิ มองเหน็ ชอ่ งว่างคิดว่าเป็นทางน้าจึงวา่ ยเขา้ ไป พอเขา้ ไปแล้วปรากฏ วา่ ไปชนสายใยประตูกะตา้ (เครื่องดกั จับปลาชนดิ หนึ่งทีท่ าไวต้ ามข้างตลิง่ หนั หนา้ ล่องใต้ พอปลา ตัวโตเข้าไปเมอื่ ชนสายใย สลักจะหยุด ประตจู ะเล่ือนตกลงมาปดิ ไว้ทนั ที ทาให้ปลาออกไมไ่ ด้) … นากพยายามหาทางออก แต่ทาอยา่ งไรก็ออกไมไ่ ด้ มนั รอ้ งขอใหก้ ระต่ายช่วย …กระต่ายลงมาดู เหน็ กะต้าแนน่ หนาเกินกว่ากาลงั นอ้ ยๆ ของตนจะรื้อหรือทาลายได้

ขณะน้นั พอดีนายพรานผู้วางกะต้า จงึ ตรงเขา้ ไปดเู ห็นนากติดอยกู่ ด็ ีใจ …ส่วนกระต่ายเห็น คนเดินมาจงึ หลบซอ่ นตัวน่ิงอย่ขู ้างๆ กอหญ้า …นากพอเหน็ นายพรานเปดิ ประตกู ะต้าออก มนั แกลง้ ทาเป็นตาย กล้นั ลมหายใจ เบง่ ท้องใหพ้ องคล้ายกบั ตายมานานแล้ว …เมอื่ กระตา่ ยแลเห็น นายพรานจับเพือ่ นของตนขนึ้ มาเช่นนน้ั …กระตา่ ยจึงกระโดดออกมา และด้ินรนกระเสอื กกระสน คล้ายกับถกู ตีหรือถูกยิง แลว้ นอนนิง่ บนหาดทรายห่างจากกะต้าไม่ไกลนกั … นายพรานมองเหน็ กระต่ายมานอนดิ้นตาย ดีใจรีบขึ้นจากน้า …วางนากลงกบั พ้ืน ว่งิ ตรง เขา้ ไปเพอื่ จะจับกระตา่ ยอีกตัว …นากพอเป็นอิสระจึงกระโดดลงน้าหนไี ป …กระต่ายเห็นเพอื่ นของ ตนหนีลงนา้ ไปไดร้ ีบลกุ ข้ึนกระโดดวิง่ หายเข้าป่าไป …ตกลงนายพรานไม่ได้สตั วอ์ ะไรเลยแมแ้ ตต่ วั เดยี ว!! • “กะต้า” เปน็ เคร่อื งจับปลาโดยกน้ั เปน็ คอก มปี ระตูสาหรับปลาวา่ ยเขา้ ไป เมื่อปลาชน สายใยประตจู ะปิดลง • “นาก” เป็นสตั ว์สี่เท้าชนิดหน่ึง อาศัยอยู่ด้วยกันเป็นฝงู ๆ เทีย่ วหากนิ ปลาในน้า

นทิ านพนื้ บ้านเรอ่ื งกบกินเดือน เปน็ ตานานการเกิดจันทรุปราคาและสุริยปุ ราคา ท่ีเล่าสกู่ ันมาแต่ โบราณ นิทานเร่อื งกบกินเดอื นมีเรอ่ื งเล่าในแบบล้านนา และเร่ืองเล่าแบบอีสาน วันนีเ้ ราจะมาเล่า สู่ในแบบนิทานพืน้ บ้านภาคอีสาน เรื่องกบกินเดอื น ของชาว (ลาว) อสี าน จากหนงั สือ ไทบ้านดู ดาว ที่เขียนโดย “นิพัทธ์พร เพง็ แกว้ ” …ทีม่ ีเร่ืองราวดงั น้ี ครอบครวั หนึ่ง มีฐานะยากจนมลี ูกชาย สองคน พชี่ ายชอ่ื สรุ ิยคราส น้องชายชื่อ จนั ทรคราส วันหน่งึ พอ่ และแม่ไปหาเผือกมนั ในปา่ เพอื่ นามาเป็นอาหาร สองพนี่ ้องกท็ านอาหารจนหมดไม่ไดแ้ บ่งอาหารเผอ่ื ไว้ใหพ้ ่อกับแม่ เมือ่ พ่อแม่ กลับมาถงึ บ้านจงึ โกรธลกู ท้ังสองมากจงึ ไลอ่ อกจากบ้าน สองพ่ีน้องหนเี ข้าไปในป่า ในระหว่างทาง เทวดาท่ีเป็นเทพพระอาทติ ยแ์ ละพระจนั ทร์ เห็นวา่ ทง้ั สองเปน็ คนดีเลยช่วยเหลือโดยการปลอมตวั เป็นงูเห่าและพังพอนต่อส้กู นั คร้ันพอฝ่ายหน่ึงเสยี ชวี ิต จึงไปกัดเปลือกไม้มาพ่นใส่ร่างกายจึงฟ้ืนคนื มาได้ สองพนี่ ้องจึงเก็บเอาสมนุ ไพรใสห่ ่อยาเดนิ ทางไป ดว้ ย ในระหวา่ งทางพบกากินลูกไทรแล้วตกลงมาตายจงึ เอายาสมนุ ไพรเป่า ทาใหก้ าฟ้ืนขน้ึ มาได้ กาจึงขอเป็นทาสรบั ใช้ สองพี่นอ้ งเดินทางไปเรื่อย ๆ พบปลาดุก, ไก่, ชา้ ง, แลน (ตะกวด) และกบ ตาย กเ็ อายาสมนุ ไพรเป่าจนสัตวเ์ หลา่ น้ันฟน้ื ข้ึนมาและยอมเป็นทาสรบั ใช้ เม่อื เดินทางต่อไปถงึ เมืองหนึ่ง สุริยคราสผเู้ ป็นพีไ่ ด้แตง่ งานและมีครอบครัวกับสาวชาวบ้าน ฝ่ายจนั ทรคราสเดินทางไปถงึ เมืองเพง็ จาน ในชว่ งน้ันลกู สาวเจ้าพระยาตาย จึงประกาศว่าหากใคร รกั ษาลูกสาวฟน้ื คืนมาได้จะใหแ้ ต่งงานด้วย จันทรคราสจงึ รกั ษาลกู สาวเจ้าพระยาใหฟ้ น้ื คืนมาได้

ฝ่ายเจ้าพระยาเห็นวา่ ไม่สมศกั ด์ศิ รจี งึ บอกว่าถ้าขึน้ ปราสาทเสาเดียวไดจ้ ึงจะยกใหต้ ามสัญญา จนั ทรคราสจึงนาใบตองกลว้ ยทีก่ าลังห่อมว้ นตวั ก่อนทจ่ี ะเตบิ โต (ตองกลว้ ยลับแลน) มาห่อตวั แลน และเกาะหลังแลนปนี ขึน้ ปราสาทเสาเดียวได้ จงึ ไดค้ รองเมอื งและแต่งานกับลูกสาวเจ้าพระยาสืบ มา ต่อมาสองพีน่ ้องคิดถึงพอ่ แม่ท่จี ากมานานจึงกลับไปเยี่ยมบ้าน โดยได้สัง่ ธิดาเจ้าเมืองว่าห้ามนา ยาสมุนไพรออกมาผึ่งในคืนเดือนเพ็ญ เพราะจะทาใหพ้ ระอาทิตยแ์ ละพระจนั ทรล์ งมาเอายา สมุนไพรคนื สองพน่ี อ้ งจงึ เดนิ ทางดว้ ยเรอื สาเภา พร้อมนาเอาทองคาใสก่ ระบอกไมไ่ ผไ่ ปใหพ้ อ่ แม่ ฝา่ ยพอ่ แมเ่ มื่อไดร้ ับกระบอกไมไ่ ผจ่ ึงบอกวา่ ทน่ี มี้ ไี มไ้ ผ่เยอะ ไม่เห็นจะอดอยาก จึงโยนทง้ิ ลงข้างบ่อ พน่ี อ้ งสองคนเสยี ใจมากจงึ เดนิ ทางกลบั ฝ่ายธิดาเจ้าพระยา (ถูกเทวดาดลใจ) จึงนาเอาสมุนไพร ออกมาผง่ึ ในคืนเดือนเพญ็ ทาใหพ้ ระอาทิตยแ์ ละพระจันทร์ลงมาขโมยสมุนไพรนน้ั กลับคืน เมื่อ จันทรคราสกลบั ถึงเมอื งได้ทราบวา่ พระอาทติ ย์และพระจันทรม์ าเอายาสมนุ ไพรไป จึงปรึกษา เพื่อนพ้องสตั ว์ท่ีเคยช่วยเหลือชีวิตไว้ ได้แก่ ช้าง กา ปลาดุก และไก่ข้ึนไปเอายาสมุนไพรคืน สัตว์ ตา่ ง ๆ ท่ีข้ึนสูอ่ ากาศจะถูกลมพดั กระจัดกระจายไปเป็นดาวอยบู่ นท้องฟ้าจนหมด ส่วนกบอาสา ข้นึ ไปทีหลงั จงึ ส่งั ไว้ว่าให้ตีฆอ้ ง ตีกลอง ยิงปืนช่วยเวลาที่จะไปถงึ พระจนั ทรแ์ ละพระอาทิตย์ ทาให้ คนบนโลกตอ้ งยงิ ปนื ตีกลอง ตฆี ้องชว่ ยกบ ขณะที่กบกนิ เดอื น จนปจั จบุ นั กบก็ยังไมไ่ ด้สมุนไพร วเิ ศษคืนยงั ตามต่อสู้กบั พระจนั ทร์และพระอาทิตยอ์ ยู่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook