คูมือการปฏบิ ัตงิ าน ของเจา หนาท่ตี าํ รวจสายงาน ปอ งกันปราบปราม สํานักงานตาํ รวจแหงชาติ คาํ กลาว ผบ.ตร. คํากลาว รอง ผบ.ตร. สารบญั
คาํ กลา ว ผบ.ตร. พลตาํ รวจเอก สุวฒั น แจงยอดสุข ผบู ัญชาการตํารวจแหงชาติ คมู อื สาํ หรับผปู ฏิบัตงิ านสายงานปอ งกนั ปราบปรามเลม น้ี เปน คมู ือที่พัฒนามาจากการนาํ สภาพปญหา และอปุ สรรคทเี่ กดิ ข้ึนในระหวา งการเขา ควบคมุ สถานการณ ระงับเหตดุ วนเหตุรายตา งๆ ของเจาหนาทต่ี าํ รวจ กลบั สายตรวจทีเ่ กดิ ข้นึ จริงในชวงที่ผานมา นาํ มาวเิ คราะหโดยใชหลกั การทางวิทยาศาสตร เพื่อหาสาเหตขุ องปญ หา แลวนาํ มาเปน ขอมลู ประกอบการปรบั ปรุงยทุ ธวิธตี าํ รวจใหส อดคลองกบั สภาพปญหา สภาพความเปน จริง และ หลกั กฎหมายท่เี กย่ี วขอ ง เพอ่ื ใหส ามารถนาํ ไปปฏิบตั ิไดจรงิ และใชเ ปนมาตรฐานในการปฏิบตั ิงาน (SOP) ไดอยางถกู ตอง โดยจดั ทาํ เปนรปู แบบไฟลท ่ปี ระกอบไปดวยคําอธิบายเน้ือหาในรูปแบบรอ ยแกว Mind map ภาพและวดิ โี อ เพื่อใหเ จาหนา ทีต่ ํารวจสายตรวจสามารถใชประโยชนและเขา ถึงไดอ ยางสะดวก รวดเร็ว และยงั งายตอ ศกึ ษาทาํ ความเขาใจ ทําใหสามารถปฏิบตั ิไดอยา งถูกตอง ลดความสูญเสียตอชวี ิต รา งกาย และทรัพยส ินทอี่ าจเกดิ ขึน้ ทง้ั ตอตัวเจาหนาทตี่ าํ รวจผูปฏบิ ัติงานและประชาชนทอี่ ยูบรเิ วณโดยรอบพื้นที่ เกดิ เหตุ หวังวา เปนอยา งยงิ่ วา คมู อื สําหรับผูปฏิบัตงิ านสายงานปอ งกนั ปราบปรามนี้ จะเปนประโยชน ตอ เจาหนา ทีต่ าํ รวจผูป ฏิบตั งิ านในทุกระดับ ทําใหการปองกันปราบปรามอาชญากรรมและการรกั ษา ความสงบเรยี บรอยของสงั คมเปน ไปอยางมปี ระสิทธิภาพและเกดิ ประสทิ ธิผลสูงสดุ ประชาชนเกดิ ความมนั่ คง ปลอดภยั ในชีวิตและทรัพยสนิ นํามาซง่ึ ความสงบสขุ ของสังคม สมกับวิสัยทัศน “เปน องคก รบงั คับใชกฎหมาย ทนี่ ําสมยั ในระดับมาตรฐานสากล เพื่อใหป ระชาชนเชื่อมั่นศรทั ธา” และขอขอบคุณคณะผูจ ดั ทาํ และผูเก่ียวของทกุ ทาน ทไ่ี ดร ว มจดั ทาํ คมู อื เลม นี้ จนสาํ เรจ็ ลลุ ว งไปดว ยดี
คํากลาว รอง ผบ.ตร. พลตํารวจเอก มนู เมฆหมอก รองผบู ัญชาการตํารวจแหง ชาติ งานปองกนั ปราบปรามอาชญากรรมของสาํ นกั งานตาํ รวจแหงชาตนิ ้นั ถือเปนงานสาํ คญั ทมี่ ีผลตอความปลอดภัยในชีวิตและทรพั ยสนิ ของพี่นอง ประชาชนโดยตรง การปอ งกันมใิ หมอี าชญากรรมเกิดขนึ้ ถอื เปน วัตถุประสงคหลกั ของงานปอ งกันปราบปรามอาชญากรรม โดยเปน ทย่ี อมรับกันอยาง กลับ กวา งขวาง วา การปอ งกันกอนเกดิ เหตุ ยอ มดกี วา การติดตามจบั กุมผูก ระทําความผดิ ภายหลังจากมีเหตุเกดิ ขน้ึ แลว ดังพระบรมราโชวาท ของพระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกลา เจาอยูหัวฯ รชั กาลท่ี ๕ ทรงพระราชทานใหก บั ขาราชการตํารวจ ในเรอ่ื งของการรักษาความสงบเรียบรอยใหกับประชาชน ความ ตอนหนง่ึ วา “...การจับผรู า ยนั้นไมถ ือเปนความชอบ เปนแตน บั วาผูน ัน้ ไดก ระทาํ การครบถวนแกห นาทีเ่ ทา นัน้ แตจะถือเปน ความชอบตอเมื่อ ไดป กครองปองกันเหตรุ า ยใหช ีวิตและทรัพยส นิ ของขาแผนดนิ ในทองที่นน้ั อยูเ ยน็ เปน สุขพอสมควร...” ในสวนขององคความรทู ีเ่ ก่ยี วขอ งกับงานปองกนั ปราบปรามอาชญากรรม ประกอบดว ยองคความรูห ลายดา นที่นาํ มาประยกุ ตใ ชใ นการปฏิบัติงาน อาทเิ ชน เรื่องของระบบสายตรวจ การจดั สายตรวจหองปฏิบตั กิ ารสายตรวจ การต้ังดานตรวจ การตง้ั จดุ ตรวจ จดุ สกดั มาตรการตาง ๆ ตามแนวทฤษฎี สามเหล่ยี มอาชญากรรม การควบคุมอาชญากรรมจากสภาพแวดลอ ม การปด ลอมตรวจคน หรือแมก ระท่งั งานตาํ รวจชุมชนและมวลชนสมั พันธ ซ่งึ ลวนเปน องคความรทู ี่นาํ มาปฏบิ ัตแิ ละถายทอดสง ตอกนั จากรุน สูร นุ สาํ หรับคมู ือฝกอบรมพฒั นาประสิทธภิ าพผูปฏิบัติงานสายงานปองกันปราบปรามน้ี เปน คูมือที่ จัดทาํ ขึ้นตามนโยบายของทา น พลตาํ รวจเอก สุวัฒน แจงยอดสุข ผบู ญั ชาการตาํ รวจแหง ชาติ ที่มุงใหค วามสาํ คัญกบั กลมุ ผูปฏบิ ัติเปนลําดบั แรก โดยเนนไป ทอ่ี งคความรพู ืน้ ฐานสาํ คญั ทเ่ี จาหนา ทีต่ าํ รวจสายตรวจผปู ฏบิ ัติตองรู ไมว า จะเปนขอกฎหมายทสี่ าํ คัญ การตรวจคน การจบั กุม \"ฯลฯ และหลักยทุ ธวิธี ตาํ รวจ ทีใ่ หความสาํ คัญในเรื่องของหลักการทาํ งานของคสู ายตรวจ มาตรฐานการปฏิบตั งิ าน (Standard Operating Procedure : SOP) การเขาระงบั เหตุ ตาง ๆ และระดับการใชก ําลังของเจา หนา ที่ตํารวจสายตรวจ เพ่ือเปน แนวทางในการปฏิบัตใิ หมีความถูกตองปลอดภยั และเหมาะสมกบั สถานการณ พรอม ท้ังไดจัดทําเปนวดี ทิ ศั นประกอบคูม ือ เพอื่ ใหส ามารถศึกษาและทําความเขาใจไดง ายและมคี วามชดั เจน ขาพเจา หวังเปน อยางยง่ิ วาคูมือเลม น้ีจะเปนประโยชนตอ เจาหนา ทีต่ ํารวจสายตรวจ โดยขอใหห ม่ันศึกษา ทบทวน และฝก ฝนอยเู สมอ ทง้ั พงึ ระลึก วาการปฏิบตั ิงานของทา น สง ผลกระทบตอ สิทธเิ สรีภาพของพนี่ อ งประชาชน หากทา นปฏิบัติหนาทีไ่ ดอ ยางถกู ตอ ง เปนไปตามแบบฝกในคูมอื เลม น้แี ลว ยอ มทาํ ใหพ น่ี อ งประชาชน มคี วามเชอ่ื มั่น ศรัทธา มีความปลอดภยั ในชวี ิตและทรัพยส ินมากยงิ่ ขึน้ รวมท้ังเกิดความปลอดภัยของเจาหนา ทีต่ าํ รวจดวย สดุ ทายน้ขี อความสขุ สวัสดจี งมีแดเพ่อื นขา ราชการตาํ รวจทกุ คน
คาํ กลา ว ผูชวย ผบ.ตร. พลตํารวจโท รอย องิ คไพโรจน ผูชวยผูบญั ชาการตํารวจแหงชาติ ตามเจตนารมณข อง พลตาํ รวจเอก สวุ ฒั น แจงยอดสุข ผูบัญชาการตํารวจแหงชาติที่ ตองการใหการปฏิบตั งิ านของเจาหนา ทีต่ ํารวจมีความนาํ สมยั มมี าตรฐานสากล มกี ารนาํ เทคโนโลยี กลบั มาชว ยในการปฏิบัติหนา ท่ี มีความโปรงใส สามารถตรวจสอบได ลดการสูญเสียและการถูก ดาํ เนินคดจี ากการปฏบิ ัตหิ นา ท่ี คณะทํางานพฒั นางานปองกันปราบปรามจึงไดจ ัดทําคูม ือสําหรบั ผูปฏิบัติงานสายงานปอ งกนั ปราบปรามโดยการนาํ ปญ หาทเี่ กิดขน้ึ จากการปฏิบตั ิหนา ที่ของ เจา หนาที่ตํารวจสายงานปองกนั ปราบปรามในปจ จุบนั มาวิเคราะหเพอื่ ทาํ การปรับปรุงรูปแบบ และยุทธวธิ ีใหเ หมาะสม สอดรับกับสถานการณป จ จบุ ัน และไดจัดโครงการฝกอบรมพฒั นาผปู ฏบิ ัติ งานสายงานปองกันปราบปรามของสาํ นกั งานตํารวจแหงชาติ ประจาํ ปงบประมาณ ๒๕๖๔ ซ่ึงผเู ขารับการอบรมเปนเจา หนา ทีผ่ ูปฏบิ ัติงานจรงิ ที่ไดร ับการคัดเลอื กจากหนวยในสังกัดสาํ นกั งาน ตํารวจแหงชาติ ทง้ั ยังไดน าํ คมู ือดงั กลา วไปใหผูเขารบั การอบรมหลักสูตรการบริหารงานตํารวจชัน้ สงู และหลักสูตรผูก ํากบั การของกองบญั ชาการศกึ ษาไดว จิ ารณข อดขี อ เสยี และขอเสนอแนะ นํามา ปรับปรุงใหเ กิดความสมบูรณ และสามารถนําไปใชปฏิบตั ไิ ดโ ดยไดจดั ทําคูม อื ไฟลข อ มลู ออนไลน ท่สี ามารถเขาใจไดง า ยในรูปแบบ Mindmap ประกอบภาพ และคลิปซง่ึ สามารถเขา ไปศกึ ษาได ดวยตนเองผานระบบออนไลน ตามเจตนารมณของผบู ัญชาการตาํ รวจแหงชาติ ผมหวังวา เจาหนา ที่ตาํ รวจผูปฏิบัติงานสายงานปองกันปราบปรามจะสามารถใชประโยชนจ ากคูมือทีไ่ ดจัด ทาํ ข้ึนน้ี เพื่อประโยชนใ นการดูแลรกั ษาความปลอดภยั ในชีวติ และทรพั ยส นิ ของประชาชนและ เปนประโยชนใ นการปฏิบตั ิงานของตวั ผปู ฏบิ ตั ิเองตอ ไป
คมู ือการปฏบิ ตั งิ านของเจา หนาทต่ี าํ รวจ ภาพรวมคูมอื ฯ สายงานปอ งกนั ปราบปราม คลิปภาพรวมของการฝกฯ ๑.ระเบียบ ขอกฎหมาย คลปิ การระงบั เหตขุ องเจาหนา ท่ีตาํ รวจ ๑.๑ การตัง้ ดานตรวจ จุดตรวจ จดุ สกัด ๑.๒ การตรวจคน จับกุม ๒. ยุทธวธิ ี ๑.๓ การปอ งกนั ตัวของเจาหนาที่ ๒.๑ หลกั ปฏบิ ัติของคสู ายตรวจ(คู Buddy) ๑.๔ การปฏิบัตเิ มือ่ ถกู ฟอ งรองจากการปฏบิ ัตหิ นา ท่ี ๒.๒ มาตรฐานการปฏบิ ตั งิ าน(SOP) ๒.๓ ระดับการใชก ําลงั
คําอธบิ ายการใชค ูมือฯ สํานักงานตาํ รวจแหง ชาติ กลับ คูมือฝกอบรมพัฒนาประสิทธภิ าพผปู ฏิบตั งิ านสายงานปอ งกันปราบปรามนี้ เปนคูม ือสําหรบั เจาหนาท่ตี าํ รวจสายงาน ปองกนั ปราบปราม ในการเขาไประงบั เหตใุ นเหตทุ ่ีเกิดขึ้นเปน ประจํา ไดแ ก เหตุคนคลมุ คล่งั คนทะเลาะววิ าท คนมอี าวธุ และ หนา หลกั การตรวจสอบจากประชาชน ซึ่งจะแบงออกเปน ๒ หัวขอใหญๆ คอื ๑.ขอ กฎหมาย ๒.หลกั ยทุ ธวิธีตาํ รวจ ในหวั ขอกฎหมาย จะเปน เน้อื หาท่เี ก่ยี วขอ งกับการปฏบิ ัตหิ นา ท่ีของเจาหนา ท่สี ายตรวจโดยตรง ในเร่ืองของการตรวจคน จับกุม การใชอ าวุธ รวมท้งั กรณีทเี่ จา หนา ท่ีตํารวจถกู ฟอ งรอ งจากการปฏิบตั หิ นาท่ี ซ่ึงในหัวขอ วิชากฎหมายจะมี คําบรรยาย ตวั อยา ง และฎีกาประกอบในทุกหวั ขอ ยอ ย ในหัวขอที่ ๒ เรอื่ งยทุ ธวิธตี าํ รวจ แบงออกเปน ๓ สว นคือ (๑) หลกั การทํางานของคสู ายตรวจ (๒) มาตรฐานในการ ปฏบิ ตั ิงาน ( Standard Operating Procedure : SOP) ในการระงับเหตเุ รื่อง (๒.๑) คนคลมุ คลัง่ จากการเสพสรุ า ใชย า ใช สารเสพตดิ และการมีภาวะผิดปกติทางจติ (๒.๒) คนทะเลาะวิวาท รวมทง้ั การยกพวกตีกนั (๒.๓) คนรา ยมอี าวธุ (๒.๔) บคุ คลขอ ตรวจสอบการปฏิบตั หิ นาท่ขี องตาํ รวจ และ (๓) ระดบั การใชกําลงั ของเจาหนา ที่ ท้งั การใชมอื เปลา อาวุธไมถึงตายและอาวธุ ถงึ ตาย โดยใหความสําคัญกับการตัดสนิ ใจการใชร ะดบั กําลังท่ีเหมาะสมถูกตองตามสถานการณ ซึ่งในแตล ะหวั ขอ ยอ ย จะมีเนือ้ หา รายละเอียด และคลิปวดิ ีโอประกอบในการบรรยาย รวมทง้ั คลิปในการเขา ไประงบั เหตขุ องเจา หนาที่ตํารวจในเหตุตางๆ พล.ต.ต.ดร.ธชั ชัย ปตะนลี ะบุตร รอง ผบช.ภ.๒/คณะทาํ งานนโยบายการพฒั นางานปอ งกันปราบปราม
ข้นั ตอนและวิธีการใชค มู อื การปฏบิ ตั หิ นา ทขี่ องเจา หนาทต่ี าํ รวจ สายงานปองกนั ปราบปราม เขาเว็บไซต http://rtp.ztidev.com/ บUสชโsนด./e.ย/ภrสมลn.ภงี aคบท./mวะกกบเก.eบ/ค./ภยี ุมเPน.พจaกผ่ือวsาากs.รนาํwปแหoลฏนrะิบดdตั ิ Username - ขอมลู สว นบคุ คล เลือกเมนู Password - คมู ือการปฏิบัตงิ านของ เจาหนา ทีต่ าํ รวจสายงาน - คูมอื การปฏบิ ตั ิงานของ ปองกนั ปราบปราม เจาหนาทต่ี ํารวจสายงาน - หลักสูตรการใชเ คร่อื งวทิ ยุ ปองกันปราบปราม คมนาคมแบบสงั เคราะหความถ่ี (Synthesizer) เพ่อื ดาวนโหลดไฟล ppt.
ตัวอยา ง เน้อื หา สารบญั คูมอื ฯ 8
ตัวอยาง เนอื้ หา สารบญั คมู อื ฯ 9
ตัวอยาง เนือ้ หา สารบญั คูมือฯ 10
สํานักงานตาํ รวจแหง ชาติ คําอธบิ ายภาพรวมหัวขอ วิชากฎหมาย เปน เนือ้ หาสรปุ องคค วามรดู านกฎหมายทเ่ี ก่ียวของกบั การปฏบิ ัติหนา ท่ขี องเจา หนาที่ ตาํ รวจสายตรวจทีต่ องใชเปน ประจํา เร่มิ จากกฎหมายทเ่ี กีย่ วของกับการตง้ั ดา นของ เจา หนา ที่ตาํ รวจ การใชอ าํ นาจตรวจคนตัวบุคคลหรอื ยานพาหนะ การจับกมุ การปองกนั ตวั โดยชอบดว ยกฎหมายในกรณีทมี่ ีการประทุษรายเจา หนา ท่ตี าํ รวจหรือบคุ คลที่สาม รวมท้ัง กฎหมายอืน่ ทเี่ กยี่ วของ อาทิ ความผดิ ดูหม่นิ หม่ินประมาท ตอ สูขัดขวาง ขัดคาํ สง่ั เจา พนักงาน ตลอดจนกรณที ีเ่ จา หนาท่ีตํารวจถกู ฟอ งรองจากการปฏิบตั หิ นาที่ วามีระเบยี บ ท่เี ก่ยี วขอ งในการปฏิบตั อิ ยางไร กลับ หนา หลกั
สํานกั งานตํารวจแหงชาติ คาํ อธบิ ายภาพรวมหวั ขอยุทธวธิ ีตํารวจ กลับ หนา หลัก ในหัวขอ ยทุ ธวิธีตํารวจในการเขา ไประงบั เหตุ มีทั้งหมด ๓ หัวขอ ไดแก (๑) การทาํ งานของคูสายตรวจ (๒) มาตรฐานการปฏบิ ตั ิงาน (SOP) (๓) ระดบั การใชก ําลัง ในการทํางานของคูสายตรวจ เปน การอธบิ ายในเร่ืองของการบรหิ ารเหตกุ ารณข องคสู ายตรวจ ตาํ แหนง ในการยนื ของคสู ายตรวจกับผกู อเหตุ สาํ หรบั ในสว นของมาตรฐานการปฏบิ ัติงานในการระงบั เหตุ (SOP) เปน รายละเอยี ดข้ันตอนการปฏิบัตใิ นรูปของ Mind Map ในเหตุคนคลุม คลั่งจากการเสพสุรา ใชย า ใชส ารเสพติด หรือการมีภาวะผดิ ปกตทิ างจติ เหตคุ นทะเลาะววิ าทรวมทัง้ การยกพวกตีกัน เหตคุ นรา ยมอี าวธุ และเหตุในกรณี มบี คุ คลมาขอตรวจสอบการปฏบิ ตั งิ านของเจา หนาที่ สาํ หรับในหวั ขอสดุ ทา ย เก่ยี วขอ งกบั ระดับการใชก าํ ลงั เปนยุทธวธิ ีในเร่อื งของการใชม ือเปลา การใชอ าวธุ ไมถ งึ ตาย ไดแ ก ดิว้ ไมงาม สเปรยพริกไทย ปน บีบกี ัน ปนยงิ เชือกรัดขา ปน ยงิ ตาขาย ปนลกู ซองยาง ปน ไฟฟา ระเบดิ แสงเสยี ง แกสนาํ้ ตา และการใชอ าวุธถงึ ตาย ไดแ ก อาวุธปน โดยใหความสาํ คัญกบั การตดั สนิ ใจในระดับ การใชก ําลงั ทีเ่ หมาะสมตามสถานการณ
สาํ นกั งานตาํ รวจแหงชาติ รายละเอยี ดแนวทางปฏบิ ตั ิ รปู ภาพ การปฏบิ ตั ิ คลิปวีดโี อรูปแบบการตงั้ ดา น คลปิ วดี โี อ ยทุ ธวธิ กี ารตรวจคน คลิปวดี ีโอ ยุทธวิธกี ารตรวจคน กลบั บคุ คลและรถยนต บุคคลและรถจกั รยานยนต หนาหลกั
สํานกั งานตํารวจแหง ชาติ แบงพ้ืนที่ออกเปน ๕ สว น คอื ๑. พน้ื ทเ่ี ฝาระวงั สงั เกตรถตองสงสัย ๒. พ้นื ท่ีคดั กรอง ๓. พ้ืนที่ตรวจคน /กองอาํ นวยการ ๔. พื้นท่ีคอยสกดั รถ ๕. พนื้ ท่คี วบคมุ ผูกระทําผิด ดานตรวจและจดุ ตรวจ แบง พื้นทอี่ อกเปน ๓ สว น คอื ๑. พ้นื ทเ่ี ฝา ระวังสังเกตรถตอ งสงสัย เวน แตม ีขอจํากัดพื้นที่ปฏบิ ตั ิ และพื้นทีค่ ดั กรอง อาจปรบั เหลือ ๓ สวน คอื ๒. พน้ื ท่ีตรวจคน/กองอํานวยการ ๓. พน้ื ทค่ี อยสกัดรถและพ้ืนท่ีควบคมุ ผกู ระทําผิด จุดสกัด การแบงพน้ื ที่ ปรบั ตามสถานการณ และสภาพพ้ืนท่ี โดยใหเปน ไปตาม หลกั ยุทธวธิ ี โดยใหค าํ นึงหลกั ความปลอดภัยของเจา หนา ทผ่ี ูปฏิบตั ิงาน กลับ และประชาชน ตอไป
สาํ นักงานตาํ รวจแหงชาติ กลับ ตอไป
กลับ ตอ ไป
กลับ ตอ ไป
กลับ ตอ ไป
กลบั
ดา นตรวจ/จดุ ตรวจ กลับ ตอ ไป
จุดตรวจ กลับ ตอ ไป
สํานกั งานตาํ รวจแหง ชาติ ตวั อยางการตง้ั จุดสกดั กลับ รถผตู อ ง ตอไป สงสัย
สาํ นักงานตาํ รวจแหงชาติ ตวั อยา งการต้งั จดุ สกดั กลับ รถผูตอ งสงสัย ตอไป
ตัวอยา งการตง้ั จุดสกดั สาํ นกั งานตาํ รวจแหงชาติ ถามี กําลัง จยย.เพมิ่ ๑ คนั รถผตู อ งสงสัย ตอไป กลับ
สํานกั งานตํารวจแหง ชาติ ตวั อยางการตั้งจดุ สกดั ทุนบกดักรถยนต, แผงเหล็ก หรอื อุปกรณดักลอ กลับ รถผูต อ ง สงสัย
สํานักงานตาํ รวจแหง ชาติ การตรวจคน การจับกมุ กลบั หนาหลกั
ข้ันตอนการตรวจคน สาํ นักงานตํารวจแหงชาติ คําอธบิ ายในรายละเอยี ด ตัวอยางฎกี า ๑. แจง ใหบ คุ คลหรือรถหยุด ๒. แสดงตนวาเปน ๓.แจงเหตอุ ันควร ๔.ตรวจคน ๕.ทําบนั ทึกตรวจคน/จบั กมุ เจา หนาที่ตํารวจ สงสยั ในการตรวจ คน
สํานกั งานตาํ รวจแหงชาติ ๑. แจง ใหบุคคลหรอื รถหยดุ เพอ่ื ตรวจคน หากไมหยดุ ตํารวจจะสามารถใชอ ํานาจจบั กมุ ในขอ หาขดั คําสัง่ เจา พนักงาน ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๘ ได ๒. แสดงตนวา เปนเจา หนา ทีต่ ํารวจ หากไมแสดงตนจะเปน เหตุใหผูตองสงสัยสามารถใชส ทิ ธิปอ งกนั ขดั ขวางการทาํ งานของ ตํารวจได และไมเ ปน ความผิดฐานตอ สขู ัดขวางเจาพนกั งาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๘ ได ๓. แจงเหตุอันควรสงสยั ตอบุคคลและ/หรอื ผูข ับรถเพ่ือขอตรวจคน ซ่ึงเปน ท่มี าของการคน โดยชอบดว ยกฎหมาย ตาม ประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญา มาตรา๙๓ ๔. ตรวจคน การคนคน ยานพาหนะ หรอื สถานที่ ใหท าํ ดว ยความสุภาพ ไมใหข องกระจดั กระจายและเสยี หาย หากเปน ผูหญิงใหใชผ หู ญงิ คน โดยถา มเี หตุสงสัยสามารถควบคุมตัวบุคคลมิใหรบกวนการตรวจคน ได ตาม ประมวลกฎหมายวิธี พจิ ารณาความอาญา มาตรา ๘๕ มาตรา ๙๙ มาตรา ๑๐๐ ๕. บนั ทกึ รายละเอยี ดแหง การคน และสงิ่ ของทค่ี นไดน ั้นตองมบี ญั ชีรายละเอียดไว บนั ทกึ การคนและบญั ชีส่งิ ของนน้ั ใหอาน ใหผคู รอบครองสถานที่ บุคคลในครอบครัว ผตู อ งหา จําเลย ผแู ทนหรอื พยานฟง แลวแตก รณี แลว ใหผ นู นั้ ลงลายมอื ชอ่ื รบั รองไว ตามประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญา มาตรา ๑๐๓ หากคน แลวพบการกระทําความผดิ ใหจบั กุมตวั ผตู องหาสงพนกั งานสอบสวน ตามประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความ อาญา มาตรา ๗๘ และ มาตรา๘๓ กลับ
สาํ นกั งานตาํ รวจแหง ชาติ ประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา มาตรา ๗๘ พนักงานฝา ยปกครองหรือตํารวจจะจับผใู ดโดยไมมีหมายจับหรอื คําสั่งของศาล นนั้ ไมได เวน แต (๑) เมื่อบุคคลนน้ั ไดกระทาํ ความผิดซง่ึ หนา ดงั ไดบ ัญญตั ไิ วใ นมาตรา ๘๐ (๒) เมื่อพบบุคคลโดยมพี ฤตกิ ารณอันควรสงสัยวา ผูนัน้ นา จะกอเหตุรา ยใหเ กดิ ภยนั ตรายแก บุคคลหรือทรัพยสินของผูอนื่ โดยมีเคร่อื งมอื อาวุธ หรอื วตั ถอุ ยา งอน่ื อันสามารถอาจใชในการกระ ทําความผดิ (๓) เมื่อมเี หตุที่จะออกหมายจับบคุ คลน้นั ตามมาตรา ๖๖ (๒) แตม คี วามจําเปน เรง ดว นที่ไม อาจขอใหศาลออกหมายจบั บคุ คลนัน้ ได (๔) เปนการจบั ผูต อ งหาหรือจําเลยทีห่ นหี รือจะหลบหนีในระหวา งถูกปลอ ยช่ัวคราวตาม มาตรา ๑๑๗ กลบั
สํานกั งานตํารวจแหง ชาติ ประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา กลับ มาตรา ๘๓ ในการจบั น้นั เจาพนกั งานหรือราษฎรซึง่ ทาํ การจับตองแจง แกผ ูที่จะถูกจบั นน้ั วาเขาตองถกู จบั แลว ส่งั ใหผ ถู กู จับไปยังทท่ี าํ การของพนักงานสอบสวนแหง ทอ งทท่ี ่ีถกู จับพรอ มดวยผจู บั เวน แตส ามารถนําไป ท่ีทาํ การของพนกั งานสอบสวนผรู ับผดิ ชอบไดใ นขณะนนั้ ใหน ําไปทีท่ ําการของพนกั งานสอบสวนผูรบั ผดิ ชอบดัง กลาว แตถา จําเปนกใ็ หจบั ตัวไป ในกรณีทเี่ จาพนกั งานเปน ผจู ับ ตองแจงขอ กลาวหาใหผ ถู กู จับทราบ หากมีหมายจบั ใหแสดงตอ ผูถ กู จบั พรอมทั้งแจงดว ยวา ผถู กู จบั มีสิทธิทจ่ี ะไมใหการหรอื ใหก ารกไ็ ดและถอ ยคําของผถู ูกจบั นนั้ อาจใชเปน พยาน หลกั ฐานในการพจิ ารณาคดไี ดและผูถูกจับมีสิทธิทีจ่ ะพบและปรกึ ษาทนายความ หรอื ผูซ่งึ จะเปน ทนายความ ถา ผู ถูกจับประสงคจ ะแจงใหญ าติหรอื ผซู ่งึ ตนไวว างใจทราบถึงการจบั กุมทส่ี ามารถดาํ เนนิ การไดโดยสะดวกและไม เปนการขัดขวางการจบั หรือการควบคมุ ผูถกู จบั หรือทาํ ใหเ กิดความไมป ลอดภัยแกบ ุคคลหนึ่งบคุ คลใด กใ็ ห เจา พนักงานอนญุ าตใหผ ูถูกจับดาํ เนนิ การไดต ามสมควรแกก รณี ในการนใี้ หเ จาพนักงานผจู ับนัน้ บนั ทึกการจับดัง กลา วไวด ว ย ถาบคุ คลซ่ึงจะถกู จับขดั ขวางหรอื จะขัดขวางการจับ หรือหลบหนีหรือพยายามจะหลบหนี ผทู าํ การจับมี อํานาจใชว ธิ หี รอื การปองกนั ทง้ั หลายเทา ท่ีเหมาะสมแกพฤตกิ ารณแ หงเรือ่ งในการจับนัน้
สาํ นกั งานตาํ รวจแหง ชาติ ประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความอาญา มาตรา ๘๕ เจาพนักงานผจู ับหรือรับตวั ผูถูกจับไว มอี าํ นาจคนตัวผูตองหา และยดึ สง่ิ ของตาง ๆ ทอี่ าจใชเปน พยานหลกั ฐานได การคนน้นั จกั ตอ งทาํ โดยสภุ าพ ถา คน ผหู ญิงตองใหหญงิ อน่ื เปนผูคน ส่งิ ของใดทยี่ ึดไวเจาพนักงานมีอํานาจยึดไวจ นกวาคดีถงึ ท่ีสุด เม่ือเสร็จคดแี ลว กใ็ หคืนแก ผตู องหาหรือแกผ อู ่นื ซง่ึ มีสทิ ธิเรียกรองขอคนื สิง่ ของน้ัน เวน แตศ าลจะส่งั เปน อยางอืน่ กลบั
สาํ นกั งานตํารวจแหง ชาติ ประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา มาตรา ๙๓ หามมใิ หทาํ การคนบุคคลใดในทีส่ าธารณสถาน เวนแตพ นักงานฝายปกครอง หรอื ตาํ รวจเปนผูคนในเม่ือมเี หตอุ ันควรสงสัยวา บุคคลน้นั มสี ิ่งของในความครอบครองเพ่ือจะใชใ น การกระทาํ ความผิด หรือซึง่ ไดมาโดยการกระทาํ ความผดิ หรือซง่ึ มไี วเ ปนความผิด กลบั
สาํ นักงานตาํ รวจแหงชาติ ประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา มาตรา ๙๙ ในการคนนั้น เจาพนักงานตอ งพยายามมิใหม กี ารเสยี หายและ กระจัดกระจายเทาทจี่ ะทําได กลบั
สํานักงานตํารวจแหง ชาติ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๐๐ ถามีเหตอุ นั ควรสงสยั วาบคุ คลซงึ่ อยูในทีซ่ ึง่ คน หรอื จะถูกคน จะขดั ขวางถงึ กับทําใหก ารคนไรผล เจาพนกั งานผคู นมอี ํานาจเอาตวั ผนู ัน้ ควบคุมไวห รือใหอ ยใู นความดแู ล ของเจาพนักงานในขณะที่ทําการคนเทาที่จําเปน เพ่อื มใิ หขดั ขวางถึงกบั ทาํ ใหการคน นัน้ ไรผ ล ถามีเหตุอันควรสงสัยวา บคุ คลนนั้ ไดเอาสิ่งของทตี่ องการพบซกุ ซอ นในรา งกาย เจา พนกั งานผูค นมีอํานาจคน ตัวผูนัน้ ไดด ังบัญญัติไวต ามมาตรา ๘๕ กลับ
สํานกั งานตาํ รวจแหง ชาติ ประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๐๓ ใหเจา พนกั งานผูคน บนั ทกึ รายละเอยี ดแหงการคน และสิง่ ของท่คี น ไดน ั้น ตอ งมีบัญชีรายละเอยี ดไว บันทึกการคน และบัญชีสิ่งของนั้นใหอ า นใหผ คู รอบครองสถานท่ี บุคคลในครอบครวั ผูต องหา จําเลย ผูแทนหรือพยานฟง แลว แตกรณี แลว ใหผ ูนนั้ ลงลายมอื ชอ่ื รับรองไว กลบั
สํานักงานตาํ รวจแหง ชาติ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๘ ผูใดตอสู หรือขดั ขวางเจา พนักงานหรอื ผูซึ่งตอ งชวยเจา พนักงานตามกฎหมาย ในการปฏิบัตกิ ารตามหนาที่ ตอ งระวางโทษจําคุกไมเกนิ หน่งึ ป หรอื ปรบั ไมเกินสองหมนื่ บาท หรอื ทงั้ จําทง้ั ปรับ ถา การตอสูหรือขดั ขวางนนั้ ไดก ระทาํ โดยใชกาํ ลงั ประทษุ รายหรอื ขูเ ขญ็ วา จะใชกาํ ลัง ประทษุ รา ย ผกู ระทาํ ตองระวางโทษจําคกุ ไมเกนิ สองป หรือปรบั ไมเกินสีห่ มื่นบาท หรอื ท้ังจาํ ทั้ง ปรบั กลบั
สาํ นักงานตาํ รวจแหง ชาติ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๘ ผใู ดทราบคําส่งั ของเจา พนกั งานซงึ่ สง่ั การตามอํานาจท่มี ีกฎหมายใหไว ไม ปฏิบตั ติ ามคําสงั่ นน้ั โดยไมม เี หตุหรอื ขอ แกตัวอันสมควร ตอ งระวางโทษจาํ คุกไมเกนิ สิบวนั หรือ ปรบั ไมเกนิ หาพนั บาท หรอื ทง้ั จาํ ท้ังปรับ ถาการสง่ั เชนวา น้ัน เปนคําส่งั ใหช วยทํากิจการในหนา ทข่ี องเจา พนกั งานซึ่งกฎหมายกําหนด ใหส งั่ ใหช ว ยได ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเกินหนึง่ เดอื น หรือปรับไมเกนิ หน่งึ หม่ืนบาท หรอื ทงั้ จาํ ท้ัง ปรบั กลับ
สํานักงานตํารวจแหง ชาติ คําพพิ ากษาศาลฎีกาท่ี ๙๒๑๒/๒๕๓๙ ป.อ. มาตรา ๑๓๘ ป.ว.ิ อ. มาตรา ๗๘, ๙๓ กอนเกดิ เหตุสิบตาํ รวจเอก พ. พบเหน็ จําเลยมีพฤตกิ ารณอ นั ควรสงสัยวา จะกระทําความผดิ โดยมเี ครือ่ งมืออาวธุ หรอื วัตถุ อยา งอ่ืนอนั สามารถอาจใชใ นการกระทาํ ผดิ และพาอาวุธปน ตดิ ตัวไปในเมืองโดยไมไดร บั อนญุ าตซึง่ เปน ความผดิ ซงึ่ หนาแม สิบตํารวจเอกพ. ไมมีหมายจบั แตไดแ สดงตัววาเปน เจา พนกั งานตํารวจใหจ ําเลยทราบแลว สิบตํารวจเอก พ.จงึ มีอํานาจ ตรวจคน และจับจาํ เลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๗๘(๑)(๒),๙๓ การทจี่ ําเลยใชมือกดอาวุธปนไม ใหสิบตาํ รวจเอก พ.ดึงออกมาจากเอวจําเลยเพื่อยดึ เปน ของกลาง จึงเปนการขดั ขวางเจาพนกั งานในการปฏิบตั ิการตาม หนา ที่โดยใชก าํ ลงั ประทษุ รายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๘ วรรคสอง คาํ พิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๑๕๒/๒๕๒๑ ป.อ. มาตรา ๑๔๐ ป.วิ.อ. มาตรา ๙๓ วัยรนุ กาํ ลังเดนิ อยูในทางสาธารณะ คนหน่งึ เปนผูตอ งหาของตาํ รวจ มีผูแจง วา บุคคลเหลา นน้ั จะไปทําผดิ เปนเหตุอันควร สงสัยวา จะทาํ ความผิดและมอี าวุธทจ่ี ะนาํ ไปใชท าํ ผิด เจา หนา ทีต่ าํ รวจคนไดต าม ประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณาความอาญา มาตรา ๙๓ จาํ เลยขัดขวางโดยยงิ ตาํ รวจ เปนความผดิ ตาม มาตรา ๑๔๐,๒๘๙,๘๐ ลงโทษตาม มาตรา ๒๘๙,๘๐ ซ่งึ เปนบท หนกั กลับ ตอ ไป
สาํ นกั งานตํารวจแหงชาติ คําพิพากษาศาลฎกี าท่ี ๘๗๒๒/๒๕๕๕ พนกั งานอยั การจงั หวัดอา งทองโจทก ป.วิ.อ. มาตรา ๙๓ ป.อ. มาตรา ๑๓๖, ๑๓๘ วรรค สอง, ๓๖๗ เมื่อขอ เทจ็ จรงิ ไดความวา บรเิ วณทเี่ กิดเหตุอยูบนถนนสทุ ธาวาสไมใชห ลังซอยโรงถา นตามท่สี บิ ตํารวจโท ก. และสิบตาํ รวจตรี พ. อาง วอ าชญากรรมเกดิ ข้ึนประจําแตอ ยางใด และจําเลยไมม ีทา ทางเปน พิรุธคงเพียงแตน ่งั โทรศพั ทอ ยเู ทา น้ัน การที่สบิ ตํารวจโท ก. และสบิ ตาํ รวจตรี พ. อางวา เกดิ ความสงสัยในตวั จําเลยจึงขอตรวจคน โดยไมมเี หตุผลสนบั สนุนวา เพราะเหตุใดจึงเกดิ ความสงสยั ในตัวจําเลย จงึ เปน ขอสงสัยท่ีอยู บนพน้ื ฐานของความรูสกึ เพียงอยา งเดยี ว ถอื ไมไ ดว า มีเหตุอนั ควรสงสัยตาม ป.ว.ิ อ. มาตรา ๙๓ ท่จี ะทาํ การตรวจคน ได การตรวจคน ตวั จาํ เลยจึง ไมชอบดวยกฎหมาย จาํ เลยซึ่งถกู กระทาํ โดยไมชอบดว ยกฎหมายจงึ มสี ิทธิโตแยงและตอบโตเ พอ่ื ปองกันสิทธขิ องตน ตลอดจนเพกิ เฉยไมป ฏบิ ตั ิ ตามคําสัง่ ใด ๆ อันสบื เน่อื งจากการปฏบิ ัตทิ ่ีไมช อบดังกลา วได การกระทาํ ของจาํ เลยจงึ ไมเ ปน ความผิดตามทโี่ จทกฟอง กลับ ตอไป
สาํ นักงานตาํ รวจแหงชาติ คาํ พิพากษาศาลฎกี าท่ี ๓๗๕๑/๒๕๕๑ รานกว ยเต๋ียวของจาํ เลยขณะเปดบรกิ ารมิใชท ี่รโหฐาน แตเปน ท่ีสาธารณสถาน เม่อื เจา พนักงานตาํ รวจมเี หตุอนั ควรสงสยั วาจําเลยมเี มทแอมเฟตามีนไวใ นครอบครองอนั เปน ความผดิ ตอ กฎหมาย ยอมมีอํานาจคน จาํ เลยไดโดยไมตอ งมีหมายคน ตาม ป.วิ. อ. มาตรา ๙๓ และเมื่อตรวจคนพบเมทแอมเฟตามนี อยใู นครอบครองจําเลย การกระทําของจาํ เลยกเ็ ปนความผิดซง่ึ หนา เจา พนักงานตาํ รวจยอ มมีอํานาจจับจาํ เลยได โดยตองมหี มายจับตามมาตรา ๗๘ (๑) คําพิพากษาศาลฎีกาท่ี ๑๐๘๒/๒๕๐๗ ตํารวจคน จาํ เลยกบั พวกขณะยนื ซุบซบิ กนั ท่หี ลังสถานีรถไฟ โดยผูค นเปน เจาพนักงานตาํ รวจ ไดตดิ ตามคนรายปลน ทรัพย หนขี ามทอ งที่มา และไดรวมกบั ตํารวจในทอ งท่ที ําการติดตามและมีเหตุสงสยั อันควรท่ีจะทาํ การคน คือสงสัยวา จะมอี าวุธปน และ ของผิดกฎหมาย เชนน้ี ทําการคนจาํ เลยไดโ ดยไมจาํ ตอ งมีหมายคน กลบั ตอไป
สาํ นักงานตํารวจแหงชาติ คาํ พพิ ากษาศาลฎีกาท่ี ๑๒๐๙๑/๒๕๕๘ กอ นจับกุมโจทกทงั้ สองไดมกี ารจับกุม ช. กับพวกในขอ หาลกั ทรัพยใ นเวลากลางคืน ช. ใหก ารวา โจทกท้งั สองเปนผใู ชจา ง วาน จึงมกี ารสอบสวน ขยายผลและจับกมุ โจทกทั้งสองมาลงบันทึกประจําวันไว และตามสาํ เนารายงานประจาํ วนั เกีย่ วกบั คดรี ะบุ วา พันตาํ รวจเอก ส. ผูกํากับการสถานตี ํารวจนครบาลพระโขนง สงั่ ใหจ ําเลยทงั้ สบิ สามซงึ่ เปนเจา หนาที่ฝา ยสืบสวนปราบปรามนาํ ตวั ช. ไปสอบสวนขยายผล โดยนัดโจทกท ่ี ๒ มารบั รถยนตท่หี นา หา งสรรพสนิ คา ซ่ึงเปนเร่ืองจําเปนเรง ดว นหากตองไปขอ หมายจับจากศาลช้ันตน แลว ผรู ว มกระทําความผดิ อาจหลบหนีไปไดตาม ป.ว.ิ อ. มาตรา ๗๘ (๓) ทั้งรถที่ถูกลกั อยทู ่บี านของโจทกท ี่ ๒ และโจทกท ี่ ๒ เปนผพู าเจาพนกั งานตํารวจไปทําการตรวจคนเอง จึงไมจ ําตอ งขอหมายคน จากศาลตาม ป.ว.ิ อ. มาตรา ๙๒ (๔) และมาตรา ๙๔ การกระทาํ ของจาํ เลยท้ังสิบสามเปน การปฏบิ ตั ิหนาท่ตี ามคําส่งั ของผบู ังคับบัญชาผูมีอํานาจสั่งการโดยชอบ จงึ ไม มีความผดิ ฐานปฏิบตั ิหนาท่ีโดยมิชอบตาม ป.อ. มาตรา ๑๕๗ กลับ กลบั หนา การ คน
กฎหมายทเี่ กี่ยวขอ งกบั การจับกุม สาํ นักงานตํารวจแหงชาติ ความผิดซ่งึ หนา มาตรา๘๐ ตัวอยา งฎีกา จบั โดยไมม ีหมาย มาตรา๗๘ ตัวอยางฎีกา การแจงขอหา มาตรา ๘๓ ตัวอยา งฎกี า การปฏบิ ัติเมื่อถงึ สถานีตํารวจ มาตรา ๘๔ ตวั อยา งฎกี า
สํานักงานตาํ รวจแหง ชาติ คําอธิบายหวั ขอวาดวยการจับกุม การแจงขอหา กลบั การจับกุมเปน บทบญั ญตั ทิ ม่ี ีผลกระทบตอสทิ ธเิ สรภี าพของประชาชน รฐั ธรรมนญู บญั ญตั ิไวช ัดเจนวา บคุ คลยอมมีสทิ ธเิ สรภี าพเสมอกนั เจา พนกั งานจะจบั ใครไมไ ด เวนแตจะมีเหตุตามกฎหมาย แตแมว าจะมเี หตตุ าม กฎหมาย การจับก็ตอ งมกี ระบวนการ การจะจับกมุ ผูถ กู กลา วหากระทําความผดิ หรือผตู องหาน้ัน โดยหลกั เปน อาํ นาจของเจาพนักงานซึ่งมีอํานาจหนาทสี่ ืบสวนจับกมุ ผกู ระทาํ ความผิดตามกฎหมาย หากเปน เจาพนักงาน ตํารวจมอี าํ นาจจับกมุ ไดท ่ัวราชอาณาจกั ร โดยไมจํากัดวาตองเปน เขตพื้นทที่ ี่ตนรับราชการอยเู ทานน้ั แมไดร บั คาํ สัง่ แตงตง้ั ใหท ําหนาทีอ่ ื่นกย็ ังมีอํานาจสืบสวนจบั กุมอยู สว นพนักงานฝา ยปกครองนัน้ มีอํานาจสบื สวนจบั กมุ ใน เขตพน้ื ที่ท่ตี นรับผิดชอบเทาน้นั สําหรับราษฎรนั้น โดยหลกั แลว ไมมีอาํ นาจจับกมุ ผอู ่นื เวนแตก รณตี องดวยตาม บทบัญญัติมาตรา ๗๙ หรือ ๑๑๗ ประมวลกฎหมายวธิ พี ิจารณาความอาญา สว นการทเ่ี จาพนักงานจะไปจับกุม บุคคลใดน้ัน ถาไมเขา ขอยกเวน ตามบทบญั ญัตมิ าตรา ๗๘ ประมวลกฎหมายวธิ พี ิจารณาความอาญา แลว โดย เปน การจับกมุ ตามหมายจบั ก็ตองยน่ื คํารอ งตอศาลทม่ี เี ขตอํานาจพจิ ารณาเหตุออกหมายจบั ตามบทบัญญัติ มาตรา ๖๖ ประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความอาญา สว นในคาํ บรรยายหวั ขอตอไปนี้ จะวาดว ยเร่อื งหลกั กฎหมายท่เี กี่ยวของกบั การจบั กมุ การแจง ขอหา ตามบทบญั ญตั มิ าตรา ๗๘ ๘๐ ๘๓ และ ๘๔ ประมวลกฎหมาย วิธีพจิ ารณาความอาญา
สํานักงานตํารวจแหง ชาติ ความผิดซง่ึ หนา ตามมาตรา ๘๐ นนั้ สามารถแบง ไดเปน ๒ ประเภท คอื ๑. ความผิดซง่ึ หนา โดยแท ตามความในวรรคหนง่ึ คอื ๑.๑ เปน ความผดิ ซ่งึ เห็นกําลังกระทํา คอื เปนกรณีที่เจา พนกั งานเหน็ ขณะความผดิ อาญาน้นั กาํ ลงั กระทําลง เชน รอ ยตํารวจตรขี าว บงั เอิญเดนิ ผา นบานนายแดง และเหน็ นายแดงกาํ ลังใชม ดี จว งแทงนายเอ หลายคร้งั หรือ รอ ยตาํ รวจตรีขาวสุมอยูหนา บา นนายแดง แลวพบเห็นการแลกเปล่ียนซื้อขายยาเสพตดิ กรณเี ชน น้ีเปนความผดิ ซึ่งหนา ถาเปนกรณีไดรับแจง จากผอู ื่นวา มคี วามผดิ เกิดขึน้ จะไมเขา ตามความหมายน้ี ๑.๒ เปน กรณที ีพ่ บในอาการใดซงึ่ แทบจะไมมีความสงสยั เลยวา เขาไดก ระทําผิดมาแลว สดๆ กรณนี เ้ี ปนกรณี ท่ีเจา พนักงาน ไมไดเ ห็นขณะท่ผี ูร า ยกระทาํ ความผิด แตส ามารถคาดการณโดยไมมเี หตุผลท่ตี อ งสงสัยเลยวา ผูรา ย น้นั พึ่งลงมือกระทําความผิดน้นั น้ันอยา งแนน อน เชน รอ ยตํารวจตรขี าวเดินผา นซอยเปลีย่ วพบนายเอ นอนจมกอง เลือดอยใู นขณะทนี่ ายบีกาํ ลังข้นึ ซอนรถจกั รยานยนตพรอมในมือเปอนเลอื ดสดอยู ซ่งึ ถือวาเปนกรณีท่พี บใน อาการทแี่ ทบจะไมมีความสงสยั เลยวา นายบีไดแทงนายเอมาแลว สดๆ ขอสังเกต ความผิดซงึ่ หนาโดยแท ตามความในวรรคหนึ่งนนั้ ใชไ ดก ับความผดิ อาญาทุกประเภท กลับ ตอ ไป
สาํ นกั งานตาํ รวจแหงชาติ ๒. กรณที ถ่ี อื วา เปน ความผดิ ซ่งึ หนา ตามความในมาตรา ๘๐ วรรคสอง โดยหลกั ความผดิ ในลกั ษณะ กลับ นี้ไมใชค วามผดิ ซ่งึ หนา คือ เจา พนกั งานไมไดเหน็ ขณะลงมอื กระทําความผิด และไมไดพบหลังจากมีการกระ หนา การ ทําความผดิ นั้นมาสดๆ แตกฎหมายใหถอื วา หากมีกรณตี ามวรรคสองเกดิ ขึ้น ใหถือวาเปนความผิดซ่งึ หนา ดวย ซึง่ มีอยู ๒ กรณี คือ จับ ๒.๑ เมือ่ บุคคลหนึ่งถกู ไลจ ับดังผูกระทาํ ความผดิ โดยมเี สยี งรองเอะอะ ตองเปนลกั ษณะที่พบในขณะทกี่ ําลังมกี ารวิง่ ไลก นั มา และจะตองมเี สียงรอ งเอะอะ ท่ีมลี กั ษณะทท่ี าํ ให เขาใจไดวาผูถกู วงิ่ ไลจ ับนัน้ เปนผูกระทาํ ความผดิ มา เชน รอยตํารวจตรขี าวพบ นายเอว่ิงหนมี า พรอ มมนี างซี วิ่งตามมา และรอ งตะโกนวา ชว ยดวยๆโจรขโมยสรอ ยทอง ซ่ึงความผดิ ฐานลกั ทรพั ย เปน ความผดิ ที่ระบใุ น บญั ชีทายประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา ดงั นั้น เมอ่ื มเี สียงรอ งเอะอะท่ีทําใหเขา ใจไดว า นายเอ พงึ่ ลักทรพั ย คอื สรอ ยของนางซีมา อนั ถอื วาเปน ความผดิ ซง่ึ หนาตามความในมาตรา ๘๐ วรรคสอง ๒.๒ พบบุคคลหน่ึงแทบจะทนั ทใี ดหลังจากการกระทําผดิ ในถ่ินแถวใกลเ คียงกับทีเ่ กิดเหตุน้นั และมี ส่งิ ของทไ่ี ดมาจากการกระทําผดิ หรอื เครื่องมอื อาวธุ หรือวัตถุอยางอนื่ อนั สนั นษิ ฐานไดวาไดใชใ นการกระทํา ผิด หรือ รอ งรอยพิรุธเห็นประจกั ษท ี่เสอื้ ผา หรือเนอื้ ตัวของผนู ัน้ ขอ สงั เกต จะเขากรณีตามวรรคสอง กลา วคือ จะถอื วา เปนความผิดซ่ึงหนา (ไมใชค วามผดิ ซง่ึ หนาโดย แท) น้ัน จะใชเ ฉพาะกรณคี วามผดิ ท่ีกระทํานนั้ เปน ความผดิ อาญาดังระบใุ นบญั ชที ายประมวลกฎหมายวิธี พิจารณาความอาญาเทา นนั้
สํานักงานตาํ รวจแหง ชาติ มาตรา ๘๐ ทเ่ี รียกวา ความผิดซึง่ หนา นัน้ ไดแ กความผดิ ซง่ึ เหน็ กําลังกระทาํ หรอื พบใน อาการใดซ่งึ แทบจะไมมีความสงสยั เลยวา เขาไดกระทําผิดมาแลว สดๆ อยา งไรกด็ ี ความผิดอาญาดงั ระบุไวในบญั ชที า ยประมวลกฎหมายน้ี ใหถือวาความผดิ น้นั เปน ความผดิ ซ่ึงหนาในกรณดี งั น้ี (๑) เมื่อบคุ คลหนง่ึ ถูกไลจบั ด่ังผูกระทําโดยมเี สียงรองเอะอะ (๒) เมือ่ พบบคุ คลหน่ึงแทบจะทนั ทที นั ใดหลังจากการกระทําผิดในถนิ่ แถวใกลเคียงกบั ทีเ่ กดิ เหตุนน้ั และมีสง่ิ ของท่ไี ดมาจากการกระทําผิด หรอื มเี ครอ่ื งมือ อาวุธหรอื วตั ถุอยางอน่ื อนั สนั นิษฐานไดว า ไดใชในการกระทาํ ผิด หรอื มรี อ งรอยพริ ธุ เหน็ ประจกั ษท่ีเสื้อผาหรือเนื้อตวั ของผู น้ัน กลับ
สาํ นักงานตาํ รวจแหง ชาติ ตัวอยางฎีกา ตามมาตรา ๘๐ ความผดิ ซึง่ หนา ฎ.๒๘๔๘/๒๔๔๗ สบิ ตํารวจโท ส. แอบซุม ดอู ยูหา งจากหอ งเกดิ เหตปุ ระมาณ ๘ เมตร เหน็ จําเลยสง มอบเมทแอมเฟตามนี ๑๐ เม็ด ใหแ ก สายลบั เม่ือเขา ตรวจคนภายในหอ งเกดิ เหตุก็พบเมทแอมเฟตามนี อกี ๘ เม็ด การกระทําความผิดของจาํ เลยกบั การเขา ตรวจคนและจับกมุ ของรอ ยตาํ รวจเอก ม. กับสิบตาํ รวจโท ส. และพวกเปนการกระทาํ หนา ท่ตี อ เนื่องกนั เมอ่ื พบเห็น จําเลยทั้งสองกําลงั กระทําความผดิ ฐานจําหนายและมียาเสพตดิ ใหโทษประเภท ๑ไวในครอบครองเพอ่ื จําหนายอนั เปน ความผิดซึง่ หนาตาม ว.ิ อาญา มาตรา๘๐ จงึ มีอาํ นาจคน และจับจําเลยโดยไมต อ งมหี มายคน และหมายจับตามมาตรา ๗๘ (๑) และ มาตรา๙๒ (๒) กลบั
สาํ นกั งานตาํ รวจแหง ชาติ การจับโดยไมม หี มาย กลบั กรณีมาตรา ๗๘ (๑) เมอ่ื บคุ คลนัน้ ไดก ระทําความผดิ ซึ่งหนา ดังบัญญัตไิ วในมาตรา ๘๐ หนาการ ความผิดซงึ่ หนา ตามาตรา ๘๐ สามารถแบง ออกไดเ ปน ๒ ประเภท คอื จับ ๑. ความผิดซ่งึ หนาโดยแท คอื เปน กรณีที่เจา พนักงานเห็นขณะความผิดอาญานัน้ กําลงั กระทาํ ลง กลาวคอื ตองปรากฏดวยสายตาของพนกั งานปกครอง หรือตํารวจผนู น้ั เอง ไมใ ชการการบอกเลา จากบคุ คลอีกคนหน่ึง และรวมถึงกรณที ีบ่ คุ คลใดในอาการใดซ่ึงแทบจะไมม ีความสงสัยเลยวา เขาไดกระทําผิดมาแลวสดๆ กรณีนเ้ี ปนกรณีที่เจา พนักงาน ไมไ ดเหน็ ขณะท่ีผรู ายกาํ ลังกระทําความผดิ แตส ามารถคาดการณไมม เี หตุท่ี ตอ งสงสยั เลยวา ผูรา ยนัน้ พ่งึ ไดลงมือกระทําความผดิ น้ันนน้ั อยางแนน อนในอาการไมต อ งสงสยั = พบผกู ระทําความผิดท่ีพึง่ กระทํามาแลว สดๆ ๒. กรณใี หถ อื วา เปน ความผิดซง่ึ หนา คอื ผทู ําการจบั ไมไ ดพ บการกระทําหรอื เห็นซ่ึงหนาขณะเกดิ ความผิดเกิด แตเ ปนกรณที มี่ บี คุ คลถกู ไลจับดงั ผกู ระทําโดยมเี สียง เอะอะ หรอื เมื่อพบบคุ คลหนึง่ แทบจะทันทที ันใดหลังจากการกระทําผิดในถิ่นแถวใกลเ คียงกบั ทีเ่ กิดเหตนุ น้ั และมสี ิง่ ของทไี่ ดม าจากการก ระทาํ ผิด หรอื มเี คร่ืองมือ อาวุธ หรือวัตถุอยางอ่ืน อนั สันนิษฐานไดวาใชใ นการ กระทาํ ความผิด หรอื มรี อ งรอยพริ ุธเห็นประจักษท ี่เส้ือผา หรอื เน้ือตวั ของผูนั้น แตจ ะเขากรณีน้ีไดจ ะตองเปน ความผิดอาญาที่ระบไุ วใ นบัญชที ายประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความอาญาเทา นั้น เชน ความผดิ ฐานหลบหนจี ากทคี่ ุมขัง , ขมขนื กระทําชําเรา , รา งกายชวี ติ , ลกั ทรัพย, วง่ิ ราวทรัพย , ชงิ ทรพั ย ปลนทรพั ย , โจรสลัด , กรรโชก , ความผดิ ตอเจาพนักงาน เปน ตน ซง่ึ จะตา งกับกรคี วามผดิ ซง่ึ หนาโดยแท ทเี่ จา พนักงานมอี าํ นาจจับไมว า จะเปน ความผิดอาญา หรือ พ.ร. บ.อืน่ ท่ีมีโทษทางอาญาก็ตาม
สํานกั งานตาํ รวจแหง ชาติ ประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา มาตรา ๗๘ พนักงานฝา ยปกครองหรอื ตาํ รวจจะจับผใู ดโดยไมมหี มายจบั หรือคําส่งั ของศาล นัน้ ไมไ ด เวน แต (๑) เมื่อบุคคลน้ันไดกระทาํ ความผดิ ซ่งึ หนาดงั ไดบัญญตั ิไวในมาตรา ๘๐ (๒) เมอ่ื พบบคุ คลโดยมพี ฤตกิ ารณอ ันควรสงสยั วาผูนัน้ นาจะกอ เหตุรา ยใหเกิดภยนั ตรายแก บุคคลหรือทรพั ยสนิ ของผูอน่ื โดยมเี ครื่องมือ อาวุธ หรือวัตถุอยา งอ่ืนอนั สามารถอาจใชใ นการกระ ทําความผดิ (๓) เมื่อมีเหตุท่จี ะออกหมายจับบคุ คลนนั้ ตามมาตรา ๖๖ (๒) แตม คี วามจาํ เปนเรงดวนทีไ่ ม อาจขอใหศาลออกหมายจับบคุ คลนัน้ ได (๔) เปน การจับผตู อ งหาหรือจําเลยทหี่ นหี รือจะหลบหนใี นระหวางถกู ปลอยชว่ั คราวตาม มาตรา ๑๑๗ กลับ
สาํ นักงานตํารวจแหงชาติ ตวั อยางฎกี า ตามมาตรา ๗๘ จับโดยไมม หี มาย ฎ.๑๓๒๘/๒๕๔๔ นายดาบตาํ รวจ ว. กับพวกเห็นจาํ เลยจําหนา ยเมทแอมเฟตามีนใหแกส ายลบั เมอ่ื เขาไปตรวจคน บา นจาํ เลยก็พบเมทแอ มเฟตามีนอกี ๑ เม็ด การกระทาํ ของนายดาบตาํ รวจ ว. กบั พวกกระทําตอ เนอ่ื งกันเมอื่ พบเห็นจาํ เลยจําหนาย และมียาเสพ ตดิ ใหโ ทษไวในครอบครองเพือ่ จาํ หนายอันเปน ความผดิ ซง่ึ หนาตามประมวลกฎหมายวธิ พี ิจารณาความอาญา มาตรา ๘๐ จึงมอี ํานาจจบั จําเลยไดโ ดยไมต องมีหมายจบั ตามมาตรา ๗๘ (๑) เมอ่ื เปน การตรวจคนและจบั จําเลยโดยชอบดวยกฎหมาย พยานหลกั ฐานของโจทกจ งึ มิใชพ ยานหลักฐานทไี่ ดม าโดยมชิ อบดว ยมาตรา ๒๒๖ ฎ.๒๘๖๓/๒๕๒๒ ตาํ รวจไปกับผูท่ีนําไปซือ้ นา้ํ มนั ปมเชลล โดยขอหาวา เอาน้ํามันอน่ื มาขายได ไดเห็นการขายนํา้ มนั นน้ั ตอหนา ตาํ รวจจบั ไดโดยไมต อ งมหี มายจับ การกระทําผิดซง่ึ หนาไมจ ําตอ งเปน ความผิดทตี่ าํ รวจไปพบโดยบงั เอิญ กลบั
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180