โปรเจคเบส-อภิชัย ซาซุม

๔๙ ๒.๒.๗ กรณีท่ีผู้ดำรงตำแหน่งครูย่นคำขอมีวิทยฐำนะหรอเล่อนวิทยฐำนะ ซึ่งจะต้องมีกำร สรุป ผลกำรประเมิน ๕ ปีกำรศึกษำย้อนหลังติดต่อกัน หำกผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำนั้นมีวิทยฐำนะต่ำกว่ำ วิทยฐำนะที่ขอ ให้ผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำดำเนินกำร เสนอสำนักงำนเขตพ้นที่กำรศึกษำ เพ่อเสนอ กศจ. พิจำรณำแต่งตั้งข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำในจังหวัดน้ัน ที่มีวิทยฐำนะไม่ต่ำกว่ำวิทยฐำนะท่ีขอ เปน็ ผรู้ ว่ มประเมนิ และสรปุ ผลกำรตรวจสอบและประเมนิ (๕ ปีกำรศกึ ษำ) ตำมแบบ วฐ.๓ ๒.๒.๘ กำรประเมินผลงำนทำงวิชำกำร สำหรับวิทยฐำนะครูเช่ียวชำญและวิทยฐำนะ ครเู ชี่ยวชำญพเิ ศษ ก.ค.ศ. เป็นผูต้ งั้ คณะกรรมกำรประเมนิ ๓. เกณฑก์ ารตดั สนิ ผลกำรประเมนิ ผลงำนทเี่ กดิ จำกกำรปฏบิ ัติหน้ำทีแ่ ละผลงำนทำงวิชำกำรกำหนดไว้ ดังน้ี เกณฑ์การตัดสนิ ตวั ช้วี ดั ครชู านาญการ ครชู านาญการ ครเู ชยี่ วชาญ ครเู ชย่ี วชาญพิเศษ พิเศษ ๑. ดานการจัดการ ทุกตวั ชี้วัดตอ้ งได้ ทุกตัวชีว้ ดั ต้องได้ ทกุ ตวั ชว้ี ัดตอ้ งได้ ทุกตวั ชี้วดั ตอ้ งได้ เรียนการสอน (๘ ไม่ต่ำกวำ่ ระดับ ๒ ไม่ต่ำกว่ำ ระดับ ๓ ไมต่ ำ่ กว่ำ ระดบั ๔ ไม่ต่ำกวำ่ ระดับ ๕ ตวั ช้ีวดั ) ๒. ดานการบริหาร ดำ้ น ๒ และ ๓ ดำ้ น ๒ และ ดำ้ น ๒ และ ดำ้ น ๒ และ จัดการชน้ั เรยี น แตล่ ะดำ้ น ๓ ๓ ๓ (๓ ตัวชี้วดั ) ไมต่ ่ำกว่ำ ท้งั ๒ ดำ้ น ทั้ง ๒ ดำ้ น ทัง้ ๒ ดำ้ น ระดับ ๒ ไมต่ ำ่ กวำ่ ไมต่ ำ่ กว่ำ ไมต่ ำ่ กว่ำ ๓. ดานการพัฒนา ไม่น้อยกวำ่ ระดบั ๒ ระดบั ๓ ระดบั ๔ ตนเอง และพัฒนา ๑ ตัวชว้ี ดั และรวมกัน และรวมกัน และรวมกัน วิชาชพี (๒ ตัวชี้วัด) ไมน่ ้อยกวำ่ ไม่นอ้ ยกวำ่ ไม่นอ้ ยกว่ำ ๓ ตวั ชวี้ ดั ๓ ตวั ชว้ี ัด ๓ ตัวชว้ี ดั ๔. ผลงานทางวิชาการ ตอ้ งไดค้ ะแนนจำก ต้องได้คะแนนจำก กรรมกำรแตล่ ะคน กรรมกำรแต่ละคน ไม่ตำ่ กวำ่ รอ้ ยละ ไม่ตำ่ กว่ำรอ้ ยละ ๗๕ ๘๐ ๔. การพจิ ารณาผลการประเมิน ๔.๑ วิทยฐำนะครูชำนำญกำรและวทิ ยฐำนะครชู ำนำญกำรพเิ ศษ ๔.๑.๑ กรณผี ลกำรประเมนิ ผลงำนท่เี กดิ จำกกำรปฏิบตั ิหนำ้ ที่ ผ่ำนเกณฑท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ใหส้ ำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวดั เสนอ อกศจ. และ กศจ. พจิ ำรณำต่อไป ๔.๑.๒ กรณีผลกำรประเมินผลงำนทเ่ี กิดจำกกำรปฏิบตั หิ นำ้ ที่ ไม่ผำ่ นเกณฑท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ใหส้ ำนกั งำนศกึ ษำธิกำรจังหวดั นำผลกำรประเมินพร้อมท้ังข้อสังเกต เสนอ อกศจ. และ กศจ. พจิ ำรณำ ตอ่ ไป

๕๐ ๔.๑.๓ กรณี กศจ.อนมุ ัติ ใหม้ ผี ลไม่ก่อนวนั ทส่ี ำนักงำนศกึ ษำธิกำรจงั หวดั ไดร้ ับคำขอมี วทิ ยฐำนะหรอเลอ่ นวทิ ยฐำนะ และผลกำรประเมินผลงำนที่เกิดจำกกำรปฏบิ ตั หิ น้ำที่ พรอ้ มท้ังเอกสำรหลกั ฐำน ท่ีเกย่ี วข้องครบถ้วนสมบรู ณ กรณี กศจ. ไม่อนุมตั ิ ให้สำนักงำนศกึ ษำธิกำรจงั หวดั แจง้ ผลกำรพิจำรณำและข้อสงั เกต กำรประเมินไปยงั สำนักงำนเขตพน้ ที่กำรศึกษำ เพอ่ แจ้งผ้ขู อทรำบ ๔.๒ วทิ ยฐำนะครูเช่ียวชำญและวทิ ยฐำนะครเู ชี่ยวชำญพเิ ศษ ๔.๒.๑ กรณีผลกำรประเมนิ ผลงำนท่ีเกดิ จำกกำรปฏบิ ตั ิหนำ้ ท่ี ผ่ำนเกณฑท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ใหส้ ำนกั งำนศึกษำธิกำรจังหวดั เสนอ อกศจ. และ กศจ. พิจำรณำ และส่งผลกำรประเมิน ผลงำนทำงวิชำกำร และเอกสำรหลกั ฐำนตำมท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ใหส้ ำนกั งำน ก.ค.ศ. เพ่อเสนอ ก.ค.ศ. พิจำรณำต่อไป ๔.๒.๒ กรณีผลกำรประเมินผลงำนทีเ่ กดิ จำกกำรปฏิบัตหิ นำ้ ท่ี ไม่ผ่ำนเกณฑที่ ก.ค.ศ. กำหนด ให้สำนกั งำนศกึ ษำธกิ ำรจงั หวดั นำผลกำรประเมินพรอ้ มท้ังข้อสังเกต เสนอ อกศจ. และ กศจ. พิจำรณำ และแจง้ ผลกำรพิจำรณำพร้อมข้อสงั เกตกำรประเมินไปยงั สำนกั งำนเขตพ้นท่ีกำรศึกษำ เพอ่ แจง้ ผ้ขู อทรำบ ๔.๒.๓ กรณี ก.ค.ศ. อนมุ ตั ิ ใหม้ ผี ลไมก่ ่อนวนั ท่สี ำนกั งำน ก.ค.ศ. ไดร้ ับคำขอมวี ิทยฐำนะ หรอเลอ่ นวทิ ยฐำนะ ผลกำรประเมนิ ผลงำนท่ีเกดิ จำกกำรปฏิบัติหนำ้ ที่ และผลงำนทำงวิชำกำร ซงึ่ มีเอกสำร หลักฐำนทเี่ กยี่ วข้องครบถว้ นสมบูรณ กรณีท่ีมกี ำรปรับปรงุ ผลงำนทำงวชิ ำกำร หำก ก.ค.ศ. อนุมตั ิ ให้มผี ลไมก่ ่อน วันที่สำนักงำน ก.ค.ศ. ไดร้ ับผลงำนทำงวิชำกำรทปี่ รบั ปรุงครบถว้ นสมบูรณครั้งหลังสุด และแจ้งผลกำรพจิ ำรณำ ไปยังสำนักงำนศึกษำธกิ ำรจังหวัด เพ่อแจง้ สำนักงำนเขตพ้นท่กี ำรศึกษำ ให้แจง้ ผู้ขอทรำบ กรณี ก.ค.ศ. ไม่อนุมัติ ใหส้ ำนักงำน ก.ค.ศ. แจ้งผลกำรพิจำรณำและข้อสงั เกต กำรประเมินไปยงั สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวดั เพ่อแจ้งสำนักงำนเขตพน้ ที่กำรศึกษำ ให้แจง้ ผขู้ อทรำบ ๕. การแต่งต้งั ๕.๑ วิทยฐำนะครูชำนำญกำร กรณีที่ กศจ. มีมติอนมุ ตั ิและผขู้ อมีวิทยฐำนะผ่ำนกำรพฒั นำตำมท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ใหผ้ มู้ ี อำนำจตำมมำตรำ ๕๓ ส่ังแต่งตั้งให้มีวิทยฐำนะครูชำนำญกำร และให้ไดร้ บั เงินเดอนอันดับ คศ. ๒ ในข้ันหรออัตรำ เงินเดอนเท่ำเดิม ถ้ำไม่มีข้นั หรออัตรำเงนิ เดอนเท่ำเดิม ให้ได้รบั ในขั้นหรออัตรำเงินเดอนใกล้เคยี งทสี่ งู กวำ่ ๕.๒ วทิ ยฐำนะครูชำนำญกำรพิเศษ กรณที ่ี กศจ. มมี ติอนมุ ัตแิ ละผขู้ อเลอ่ นวิทยฐำนะผ่ำนกำรพฒั นำตำมท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ให้ผมู้ ี อำนำจตำมมำตรำ ๕๓ ส่งั แต่งตง้ั ให้เลอ่ นเปน็ วทิ ยฐำนะครูชำนำญกำรพเิ ศษ และใหไ้ ดร้ บั เงินเดอนอันดับ คศ. ๓ ในขนั้ หรออัตรำเงนิ เดอนเท่ำเดิม ถ้ำไม่มขี นั้ หรออัตรำเงินเดอนเทำ่ เดิม ใหไ้ ด้รบั ในขั้นหรออตั รำเงนิ เดอนใกลเ้ คียง ทีส่ งู กวำ่ ๕.๓ วทิ ยฐำนะครูเช่ียวชำญ กรณีท่ี ก.ค.ศ. มีมติอนมุ ัติและผขู้ อเลอ่ นวทิ ยฐำนะผ่ำนกำรพัฒนำตำมท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ให้ ผู้มีอำนำจตำมมำตรำ ๕๓ สง่ั แต่งตัง้ ใหเ้ ล่อนเป็นวทิ ยฐำนะครูเชย่ี วชำญ และใหไ้ ดร้ ับเงินเดอนอันดับ คศ. ๔ ในข้ัน หรออัตรำเงินเดอนเท่ำเดิม ถ้ำไมม่ ีข้ันหรออตั รำเงินเดอนเท่ำเดิม ให้ไดร้ ับในขั้นหรออัตรำเงินเดอนใกลเ้ คียงที่สูงกว่ำ

๕๑ ๕.๔ วิทยฐำนะครูเช่ยี วชำญพิเศษ กรณที ่ี ก.ค.ศ. มมี ตอิ นุมัติและผู้ขอเลอ่ นวิทยฐำนะผ่ำนกำรพฒั นำตำมที่ ก.ค.ศ. กำหนด ให้ ผู้บังคับบญั ชำสงู สดุ ของส่วนรำชกำรทผี่ ู้นนั้ สังกดั อยู่เป็นผู้ส่ังบรรจแุ ละให้รฐั มนตรีเจำ้ สงั กัดนำเสนอนำยกรฐั มนตรี เพอ่ นำควำมกรำบบังคมทลู เพ่อทรงพระกรณุ ำโปรดเกล้ำฯ แตง่ ต้งั ใหเ้ ล่อนเป็นวิทยฐำนะครูเชี่ยวชำญพิเศษ และ ใหไ้ ด้รบั เงินเดอนอนั ดับ คศ. ๕ ในขั้นหรออัตรำเงนิ เดอนเท่ำเดมิ ถ้ำไมม่ ีขน้ั หรออัตรำเงนิ เดอนเทำ่ เดมิ ใหไ้ ด้รับ ใน ขน้ั หรออัตรำเงินเดอนใกล้เคยี งท่สี งู กว่ำ การประเมินผลงานทีเ่ กดิ จากการปฏบิ ัตหิ นาที่และผลงานทางวิชาการ ๑. การประเมินผลงานทเี่ กดิ จากการปฏิบตั หิ นาท่ี กำรประเมินผลงำนทเี่ กดิ จำกกำรปฏบิ ตั ิหน้ำท่ี มีตัวชว้ี ัด เกณฑกำรตดั สิน วิธีกำรประเมนิ และ คำอธิบำยตวั ช้วี ดั กำรประเมนิ ดังนี้ ๑.๑ ตัวชี้วัดการประเมนิ ผลงานทเี่ กดิ จากการปฏบิ ัตหิ นาท่ี (๓ ดำ้ น ๑๓ ตัวช้วี ัด) มีดังตอ่ ไปน้ี ดานท่ี ๑ ด้ำนกำรจดั กำรเรยี นกำรสอน ตวั ช้วี ดั ท่ี ๑.๑ กำรสร้ำงและหรอพฒั นำหลกั สตู ร ตวั ชว้ี ัดที่ ๑.๒ กำรจดั กำรเรยี นรู้ ตวั ชีว้ ัดท่ี ๑.๒.๑ กำรออกแบบหนว่ ยกำรเรยี นรู้ ตัวช้วี ัดที่ ๑.๒.๒ กำรจัดทำแผนกำรจดั กำรเรยี นรู้/แผนกำรจัดกำรศกึ ษำเฉพำะบุคคล (IEP)/แผนกำรสอนรำยบุคคล (IIP)/แผนกำรจัดประสบกำรณ ตวั ช้ีวดั ที่ ๑.๒.๓ กลยุทธในกำรจัดกำรเรียนรู้ ตวั ชี้วดั ที่ ๑.๒.๔ คณุ ภำพผ้เู รยี น ตวั ช้ีวัดท่ี ๑.๓ กำรสร้ำงและกำรพัฒนำ ส่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีทำงกำรศกึ ษำ และ แหล่งเรยี นรู้ ตวั ชี้วดั ที่ ๑.๔ กำรวดั และประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๑.๕ กำรวจิ ยั เพ่อพฒั นำกำรเรียนรู้ ดานที่ ๒ ด้ำนกำรบรหิ ำรจัดกำรชนั้ เรียน ตวั ชว้ี ดั ที่ ๒.๑ กำรบรหิ ำรจัดกำรชน้ั เรยี น ตวั ชีว้ ดั ที่ ๒.๒ กำรจดั ระบบดูแลช่วยเหลอผเู้ รยี น ตัวชว้ี ดั ที่ ๒.๓ กำรจัดทำข้อมูลสำรสนเทศ และเอกสำรประจำชนั้ เรยี นหรอประจำวชิ ำ ดานท่ี ๓ ด้ำนกำรพฒั นำตนเองและพัฒนำวชิ ำชพี ตัวชวี้ ดั ที่ ๓.๑ กำรพัฒนำตนเอง ตัวชว้ี ดั ท่ี ๓.๒ กำรพัฒนำวิชำชีพ

๕๒ ๑.๒ เกณฑ์การตัดสนิ การประเมนิ ผลงานทเ่ี กิดจากการปฏบิ ตั ิหนาที่ (๓ ดำ้ น ๑๓ ตัวชวี้ ดั ) กำรประเมนิ ผลงำนที่เกิดจำกกำรปฏิบัตหิ น้ำท่ี กำหนดเป็นระดบั คุณภำพ ๕ ระดับ ตั้งแต่ระดับ ๑ ระดับ ๒ ระดบั ๓ ระดับ ๔ และระดับ ๕ โดยเกณฑกำรตัดสินกำรประเมินไดก้ ำหนดไว้ในแตล่ ะวทิ ยฐำนะ ดังน้ี เกณฑก์ ารตัดสิน ตัวช้ีวัด ครชู านาญการ ครูชานาญการ ครูเชย่ี วชาญ ครูเชย่ี วชาญพเิ ศษ พเิ ศษ ๑. ดานการจดั การ ทุกตวั ชว้ี ดั ตอ้ งได้ ทกุ ตัวชีว้ ดั ต้องได้ ทกุ ตัวช้ีวดั ต้องได้ ทุกตวั ชวี้ ัดต้องได้ เรยี นการสอน (๘ ไมต่ ำ่ กว่ำ ระดับ ๒ ไม่ต่ำกว่ำ ระดบั ๓ ไมต่ ำ่ กว่ำ ระดับ ๔ ไม่ต่ำกวำ่ ระดบั ๕ ตัวชวี้ ดั ) ๒. ดานการบรหิ าร ดำ้ น ๒ และ ๓ ดำ้ น ๒ และ ๓ ด้ำน ๒ และ ๓ ดำ้ น ๒ และ ๓ จดั การชั้นเรยี น แต่ละดำ้ น ต้องได้ ทงั้ ๒ ดำ้ น ท้งั ๒ ดำ้ น ท้ัง ๒ ดำ้ น (๓ ตวั ชี้วัด) ไมต่ ่ำกวำ่ ระดบั ๒ ต้องไดไ้ ม่ตำ่ กว่ำ ตอ้ งได้ไม่ต่ำกวำ่ ต้องได้ไม่ต่ำกว่ำ ไมน่ ้อยกวำ่ ระดับ ๒ และ ระดบั ๓ และ ระดับ ๔ และ ๓. ดานการพัฒนา ๑ ตัวชี้วดั รวมกันแล้ว รวมกนั แล้ว รวมกนั แล้ว ตนเอง และพัฒนา ไมน่ อ้ ยกวำ่ ไม่น้อยกว่ำ ไม่นอ้ ยกว่ำ วิชาชีพ (๒ ตัวช้ีวัด) ๓ ตัวช้วี ดั ๓ ตวั ชวี้ ดั ๓ ตวั ชว้ี ดั ๑.๓ วธิ ีการประเมนิ ผลงานท่ีเกดิ จากการปฏิบตั หิ นาท่ี ให้ดำเนนิ กำร ดังนี้ ๑.๓.๑ กำรประเมินผลงำนท่ีเกดิ จำกกำรปฏิบตั ิหนำ้ ที่ รำยปีกำรศึกษำ ๑.๓.๑.๑ ให้ผ้อู ำนวยกำรสถำนศึกษำในฐำนะผู้บังคบั บัญชำเป็นผปู้ ระเมนิ ผลงำนที่ เกดิ จำกกำรปฏิบตั ิหนำ้ ที่ (๓ ดำ้ น ๑๓ ตัวชวี้ ัด) ๑.๓.๑.๒ ให้ผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำตั้งคณะกรรมกำรจำกข้ำรำชกำรครูและ บุคลำกรทำงกำรศึกษำในสถำนศึกษำหรอนอกสถำนศึกษำ เพ่อตรวจสอบและกลนั่ กรองข้อมลู กำรประเมนิ ตนเอง ของผู้ดำรงตำแหนง่ ครู และเอกสำรหลกั ฐำน แหลง่ ข้อมลู ท่แี สดงรอ่ งรอยวำ่ ผ้ดู ำรงตำแหน่งครเู ป็นผู้มผี ลงำนท่ีเกิด จำกกำรปฏบิ ตั ิหนำ้ ทจ่ี ริง ในแบบบนั ทึกกำรประเมินผลงำนที่เกิดจำกกำรปฏบิ ัติหนำ้ ท่ี ตำแหนง่ ครู และแบบ วฐ.๒ พร้อมท้ังเสนอควำมเหนประกอบกำรพิจำรณำของผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำ ในกำรประเมินผลงำนที่เกิดจำก กำรปฏิบตั หิ น้ำที่ในแต่ละปกี ำรศกึ ษำ ๑.๓.๑.๓ เม่อส้ินปีกำรศึกษำให้พิจำรณำผลกำรประเมินตนเองของผู้ดำรงตำแหน่ง ครู ท้ัง ๓ ด้ำน ๑๓ ตัวชี้วัด ตำมแบบบันทึกกำรประเมินผลงำนที่เกิดจำกกำรปฏิบัติหน้ำที่ ตำแหน่งครู และตำม แบบ วฐ.๒ อยำ่ งต่อเน่องทกุ ปีกำรศึกษำ ๑.๓.๑.๔ กำรประเมินผลงำนท่ีเกิดจำกกำรปฏิบัติหน้ำท่ี ให้ใช้แบบบันทึกกำร ประเมินผลงำน ที่เกิดจำกกำรปฏิบัติหน้ำที่ ตำแหน่งครู ตำมหนังสอสำนักงำน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ ๐๒๐๖.๓/๐๖๓๕ ลงวันท่ี ๑๐ ตุลำคม ๒๕๖๐ กำรประเมินให้พิจำรณำจำกผลกำรปฏิบัติงำนจริง โดยพิจำรณำจำกเอกสำรหลกั ฐำน แหลง่ ข้อมูล ทแ่ี สดงรอ่ งรอยว่ำผ้ดู ำรงตำแหนง่ ครู เป็นผมู้ ีผลงำนทีเ่ กิดจำกกำรปฏบิ ตั หิ น้ำทใี่ นดำ้ นกำรจัดกำรเรียน

๕๓ กำรสอน ด้ำนกำรบริหำรจัดกำรชั้นเรียน และด้ำนกำรพัฒนำตนเองและพัฒนำวิชำชีพ ท้ังน้ี กำรประเมินอำจใช้ วธิ ีกำรประเมิน ในรปู แบบอน่ ทเ่ี หมำะสม เช่น กำรสงั เกต กำรสัมภำษณ หรอสอบถำมขอ้ มูลจำกผดู้ ำรงตำแหน่งครู เพ่อนร่วมงำน ผู้รับบริกำร และผู้ที่เก่ียวข้องก่อนตัดสินใจประเมินตำมระดับคุณภำพท่ีเป็นจริง เม่อประเมินได้ ระดับคุณภำพใดแล้ว ให้นำไปกรอกลงในตำรำงสรุปผลกำรประเมิน และให้นำผลกำรประเมินไปบันทึกลงในแบบ รำยงำนผลงำนทเี่ กิดจำกกำรปฏบิ ัติหน้ำที่ ตำแหน่งครู รำยปกี ำรศึกษำ (วฐ.๒) ๑.๓.๑.๕ ให้สรุปผลกำรประเมินให้ผู้ดำรงตำแหน่งครูทรำบปีกำรศึกษำละ ๑ ครั้ง หำกผู้ดำรงตำแหนง่ ครู ไมเ่ หนดว้ ย ใหเ้ ปดิ โอกำสไดป้ รกึ ษำและชีแ้ จง หำกผู้ประเมนิ พจิ ำรณำแลว้ เหนวำ่ ถูกต้อง ตรงตำมควำมเปน็ จรงิ แลว้ แต่ผดู้ ำรงตำแหน่งครู มีควำมเหนไม่สอดคลอ้ งกับผ้ปู ระเมิน ใหผ้ ู้อำนวยกำรสถำนศึกษำ แจง้ ไปยังสำนักงำนเขตพ้นที่กำรศึกษำ เพ่อแต่งต้ังคณะกรรมกำรตรวจสอบผลกำรประเมิน และเมอ่ ได้ขอ้ ยุตเิ ป็น ประกำรใดให้ถอเป็นอันสิน้ สดุ ๑.๓.๑.๖ กรณีกำรประเมินในปีกำรศึกษำใด หำกผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำไม่อำจ ประเมิน ผลงำนท่ีเกิดจำกกำรปฏิบัติหน้ำท่ีของผู้ดำรงตำแหน่งครูด้วยเหตุใด ๆ ให้เสนอ กศจ. แต่งตั้งข้ำรำชกำร ครู และบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำในจังหวัดน้ัน ท่มี ีควำมรู้ ควำมสำมำรถเหมำะสมเป็นผูป้ ระเมนิ แทน ๑.๓.๒ กำรประเมินผลงำนที่เกิดจำกกำรปฏบิ ัตหิ นำ้ ท่ี ๕ ปีกำรศึกษำ ๑.๓.๒.๑ เม่อผู้ดำรงตำแหน่งครูย่นคำขอมีวิทยฐำนะหรอเล่อนเป็นวิทยฐำนะใด ให้ เสนอคำขอตำมแบบ วฐ.๑ และผ้อู ำนวยกำรสถำนศึกษำนำผลกำรประเมินรำยปีกำรศึกษำ (วฐ.๒) มำบันทึกลงใน แบบสรปุ ผลกำรตรวจสอบและประเมิน (วฐ.๓) ๑.๓.๒.๒ กรณที ่ีผู้ดำรงตำแหน่งครูย่นคำขอมวี ิทยฐำนะหรอเล่อนวิทยฐำนะ ซ่ึงจะต้อง มีกำรสรุปผลกำรประเมิน ๕ ปีกำรศึกษำย้อนหลังติดต่อกัน หำกผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำมีวิทยฐำนะต่ำกว่ำ วิทยฐำนะท่ีขอ ให้ผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำแจ้งสำนักงำนเขตพ้นท่ีกำรศึกษำ เพ่อเสนอ กศจ. พิจำรณำแต่งต้ัง ข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำในจังหวัดน้ัน ท่ีมีวิทยฐำนะไม่ต่ำกว่ำวิทยฐำนะที่ขอเป็นผู้ร่วมประเมิน และสรุปผลกำรตรวจสอบและประเมนิ (วฐ.๓) ๑.๔ คาอธบิ ายตัวชี้วัดการประเมนิ ผลงานท่ีเกดิ จากการปฏบิ ตั หิ นาท่ี กำรประเมินผลงำนที่เกิดจำกกำรปฏิบัติหน้ำท่ี ตำมหลักเกณฑและวิธีกำรให้ข้ำรำชกำรครู และบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ตำแหน่งครู มีวิทยฐำนะและเล่อนวิทยฐำนะ ตำมหนังสอสำนักงำน ก.ค.ศ.ท่ี ศธ ๐๒๐๖.๓/ว ๒๑ ลงวันที่ ๕ กรกฎำคม ๒๕๖๐ กำหนดให้ผู้ขอมีวิทยฐำนะครูชำนำญกำรและเล่อนเป็นวิทยฐำนะ ครูชำนำญกำรพิเศษ วิทยฐำนะครูเช่ียวชำญและวทิ ยฐำนะครเู ชีย่ วชำญพิเศษ ต้องได้รับกำรประเมินผลงำนที่เกิด จำกกำรปฏิบัติหน้ำท่ี (๓ ด้ำน ๑๓ ตัวช้ีวัด) ตำมหนังสอสำนักงำน ก.ค.ศ. ที่ ศธ ๐๒๐๖.๓/๐๖๓๕ ลงวันที่ ๑๐ ตุลำคม ๒๕๖๐ โดยมรี ำยละเอียดคำอธบิ ำยตวั ช้ีวัดกำรประเมนิ แตล่ ะดำ้ น ดงั น้ี ดานที่ ๑ ดานการจัดการเรียนการสอน หมำยถึง กำรจัดทำหลักสูตรและหรอพัฒนำ หลักสูตรเพ่อพัฒนำผู้เรียนให้เป็นคนดี คนเก่ง มีปัญญำ มีศักยภำพ ในกำรศึกษำต่อและประกอบอำชีพตำม มำตรฐำน ตัวช้ีวัด สมรรถนะสำคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงคตำมหลักสูตรสถำนศึกษำ โดยจัดกำรเรียนรู้ ด้วยวิธีกำร รูปแบบท่ีหลำกหลำย และเหมำะสมเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้ผู้เรียนเกิดกำรเรียนรู้ด้วยวิธีกำรปฏิบัติ มจี ำนวน ๘ ตวั ช้ีวัด มีรำยละเอียด ดังนี้

๕๔ ตัวชี้วัดที่ ๑.๑ การสรางและหรือพัฒนาหลักสูตร หมำยถึง กำรจัดทำและหรอพัฒนำ หลักสูตรรำยวิชำหรอสำระกำรเรียนรู้ท่ีรับผิดชอบ โดยมีกำรวิเครำะหมำตรฐำนกำรเรียนรู้และตัวช้ีวัดเพ่อจัดทำ คำอธิบำยรำยวิชำ หน่วยกำรเรยี นรู้ รวมทัง้ มีกำรประเมินควำมสอดคล้องกบั มำตรฐำนกำรเรียนรู้และตวั ชีว้ ัด หรอ ผลกำรเรยี นรู้ ตัวช้ีวัดท่ี ๑.๒ การจัดการเรียนรู หมำยถึง กำรจัดกิจกรรมเพ่อพัฒนำผู้เรียนให้มีควำมรู้ ทักษะ คุณลักษณะตำมมำตรฐำนกำรเรียนรู้ ตัวชี้วัด สมรรถนะสำคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค โดยจัด กำรเรียนรทู้ ่เี น้นผูเ้ รยี นเปน็ สำคัญให้เรียนรดู้ ้วยวธิ กี ำรปฏิบตั ิ สง่ เสรมิ ใหผ้ ้เู รียนสำมำรถพัฒนำตนเอง ตำมธรรมชำติ และเตมตำมศักยภำพ โดยคำนึงถึงควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคล ประกอบด้วย ๔ ตัวชี้วดั ยอ่ ย ดงั น้ี ตัวชี้วัดท่ี ๑.๒.๑ การออกแบบหน่วยการเรียนรู หมำยถึง กำรจัดทำและหรอ พัฒนำหน่วยกำรเรียนรู้ ท่ีสอดคล้องกับคำอธิบำยรำยวิชำ ธรรมชำติของสำระกำรเรียนรู้ เหมำะสมกับผู้เรียน บริบท ของสถำนศกึ ษำและท้องถ่นิ มกี ิจกรรมกำรเรียนรู้ด้วยวธิ กี ำรปฏิบตั ิ โดยเลอกรูปแบบกำรจดั กำรเรียนรู้ ส่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี แหล่งเรียนรู้ และกำรวัดและประเมินผล เพ่อให้ผู้เรียนได้รับกำรพัฒนำเตมตำมศักยภำพ บรรลตุ ำมมำตรฐำนกำรเรียนรู้ และประเมินผลหนว่ ยกำรเรียนรู้ ตัวช้ีวัดท่ี ๑.๒.๒ กำรจัดทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้/แผนกำรจัดกำรศึกษำ เฉพำะบคุ คล (IEP)/แผนกำรสอนรำยบุคคล (IIP)/แผนกำรจัดประสบกำรณ มีควำมหมำย ดังน้ี จัดทาแผนการจัดการเรียนรู หมำยถึง กำรกำหนดแนวทำงกำรจัดกำรเรียนรู้ ตำมหน่วยกำรเรียนรู้ เป็นกำรเตรียมกำรสอนหรอกำรกำหนดกิจกรรมกำรเรียนรู้ล่วงหน้ำอย่ำงเป็นระบบ และ เปน็ ลำยลกั ษณอักษร จัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) หมำยถึง กำรวิเครำะห ควำมต้องกำรจำเป็นพิเศษทำงกำรศึกษำหรอกำรบำบัดฟื้นฟูของแต่ละบุคคล โดยอำศัยควำมร่วมมอจำก ผู้ปกครอง ครู ผู้บริหำร และสหวิชำชีพ เพ่อกำหนดแนวทำงกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับควำมตอ้ งกำรจำเป็น พเิ ศษของแต่ละบุคคล ตลอดจนกำหนดส่อ สงิ่ อำนวยควำมสะดวก บรกิ ำรและควำมช่วยเหลออน่ ใดทำงกำรศึกษำ ให้เฉพำะบคุ คล อยำ่ งเป็นระบบ และเปน็ ลำยลักษณอักษร จัดทาแผนการสอนรายบุคคล (IIP) หมำยถึง กำรกำหนดแนวทำงกำรจัด กำรเรียนรู้ หรอกำรบำบัดฟ้ืนฟู เป็นกำรเตรียมกำรสอนหรอกำรกำหนดกิจกรรมกำรเรียนรู้หรอกำรบำบัดฟ้ืนฟูไว้ ลว่ งหนำ้ อย่ำงเปน็ ระบบ และเปน็ ลำยลกั ษณอกั ษร ตำมแผนกำรจัดกำรศึกษำเฉพำะบุคคล (IEP) จัดทาแผนการจัดประสบการณ์ หมำยถึง กำรกำหนดแนวทำงกำรจัด ประสบกำรณ เพ่อส่งเสริมพัฒนำกำรที่สมดุลทั้ง ๔ ด้ำน ได้แก่ ด้ำนร่ำงกำย อำรมณ จิตใจ สังคม และสติปัญญำ ผ่ำนกิจกรรมกำรเล่นที่เหมำะสมกับวยั และควำมแตกตำ่ งระหว่ำงบุคคล ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๑.๒.๓ กลยทุ ธ์ในการจัดการเรยี นรู หมำยถึง วิธกี ำรจดั กำรเรยี นรู้ ที่แยบยล โดยใช้เคร่องมอ รูปแบบ เทคนิค และวิธีกำรอย่ำงหลำกหลำยท่ีมีประสิทธิภำพ บรรลุตำมมำตรฐำน กำรเรยี นรู้ ตัวช้ีวัดท่ี ๑.๒.๔ คุณภาพผูเรียน หมำยถึง ผลกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่ ทำให้ผู้เรียน มีควำมรู้ ทักษะ คุณลักษณะ ตำมมำตรฐำนกำรเรียนรู้ และตัวชี้วัดของสำระกำรเรียนรู้ มีสมรรถนะ สำคญั และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคตำมหลักสูตร

๕๕ ตัวช้ีวัดที่ ๑.๓ การสรางและการพัฒนา สื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศึกษา และ แหล่งเรียนรู หมำยถึง กำรเลอก คัดสรร ใช้ สร้ำงและพัฒนำส่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีทำงกำรศึกษำ และ แหลง่ เรียนรู้ เพอ่ นำมำใชใ้ นกำรจัดกำรเรยี นรู้ทเี่ หมำะสมกบั ผเู้ รยี นสอดคล้องกับเน้อหำสำระ มำตรฐำน กำรเรยี นรู้ ตัวชี้วัด และจดุ ประสงคกำรเรยี นรู้ ตัวชี้วัดที่ ๑.๔ การวัดและประเมินผลการเรียนรู หมำยถึง กระบวนกำรที่ได้มำซึ่งข้อมูล สำรสนเทศทเ่ี ปน็ ผลจำกกำรจดั กำรเรียนรู้ เพ่อปรบั ปรงุ พฒั นำ ตัดสนิ ผลกำรเรียนรู้ ควำมกำ้ วหนำ้ และพัฒนำกำร ของผู้เรียนท่ีสะท้อนระดับคุณภำพของผู้เรียน โดยใช้วิธีกำร เคร่องมอวัดและประเมินผล ท่ีหลำกหลำย เหมำะสม และสอดคล้องกบั มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ ตวั ช้วี ดั และจุดประสงคกำรเรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ที่ ๑.๕ การวจิ ยั เพือ่ พฒั นาการเรียนรู หมำยถึง กระบวนกำรแกป้ ัญหำหรอพัฒนำ กำรจดั กำรเรยี นรอู้ ย่ำงเป็นระบบทสี่ ่งผลต่อคณุ ภำพผเู้ รยี นไดเ้ ตมตำมศักยภำพ ดานท่ี ๒ ดานการบริหารจัดการชัน้ เรียน หมำยถึง กำรจัดกจิ กรรมสิ่งอำนวยควำมสะดวก จดั บรรยำกำศ สภำพแวดล้อม ทส่ี ง่ เสริม สนบั สนนุ และช่วยเหลอผเู้ รยี นใหเ้ กดิ กำรเรียนรู้อย่ำงมคี วำมสุข และเป็น ผู้เสริมแรง ชี้แนะแนวทำงให้ผู้เรียนศึกษำแสวงหำควำมรู้ คิดวิเครำะห ปฏิบัติ และค้นพบคำตอบด้วยตนเอง มี จำนวน ๓ ตวั ช้ีวัด ดงั นี้ ตัวชี้วัดที่ ๒.๑ การบริหารจัดการช้ันเรียน หมำยถึง กำรจัดสภำพแวดล้อม บรรยำกำศ ในช้ันเรียน ท่ีส่งเสริมและเอ้อต่อกำรเรียนรู้ กระตุ้นควำมสนใจใฝ่รู้ ใฝ่ศึกษำ ตลอดจนส่งเสริมให้ผู้เรียน เกิด กระบวนกำรคิด ทักษะชีวิต ทักษะกำรทำงำน และคุณธรรม จริยธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค ค่ำนิยมท่ีดีงำม ปลูกฝัง ควำมเป็นประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริยทรงเป็นประมุข สร้ำงแรงบันดำลใจ และเสริมแรงให้ผู้เรียน มคี วำมม่นั ใจในกำรพฒั นำตนเองเตมตำมศักยภำพ มคี วำมสุขและมีควำมปลอดภยั ตัวช้ีวัดที่ ๒.๒ การจดั ระบบดแู ลชว่ ยเหลอื ผเู รียน หมำยถงึ กำรดำเนินกำรดูแลชว่ ยเหลอ ผู้เรียนอย่ำงเป็นระบบ โดยกำรรวบรวมข้อมูล วิเครำะห สังเครำะห จัดทำและใช้สำรสนเทศของผู้เรียน จัดทำ โครงกำรและกิจกรรมเชิงสร้ำงสรรคด้วยวิธีกำรที่หลำกหลำย เพ่อส่งเสริม ป้องกัน และแก้ปัญหำของผู้เรียน รำยบุคคล ตัวชี้วัดท่ี ๒.๓ การจัดทาขอมูลสารสนเทศ และเอกสารประจาชั้นเรียนหรือประจาวิชา หมำยถึง กำรดำเนินกำรรวบรวมข้อมูลของผู้เรียนในทุกด้ำนที่ผ่ำนกำรวิเครำะห สังเครำะห อย่ำงเป็นระบบ มีควำมถูกต้องและเป็นปัจจุบัน เพ่อเป็นสำรสนเทศในกำรเสริมสร้ำงและพัฒนำผู้เรียนประจำชั้นหรอประจำวิชำ ทร่ี ับผดิ ชอบ ดานท่ี ๓ ดานการพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ หมำยถึง กระบวนกำรพัฒนำ สมรรถนะและวิชำชีพครู โดยมีแผนกำรพัฒนำตนเอง และดำเนินกำรพัฒนำตนเองตำมแผนอย่ำงเป็นระบบ สอดคล้องกับสภำพกำรปฏิบัติงำนควำมต้องกำรจำเป็น องคควำมรู้ใหม่ นโยบำย แผนกลยุทธของหน่วยงำน กำรศึกษำ หรอส่วนรำชกำรตน้ สังกัด มกี ำรแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ร่วมกนั ในระดับสถำนศึกษำ หรอระดับเครอขำ่ ย หรอระดับชำติ และแสดงบทบำทในชุมชนกำรเรียนรู้ทำงวิชำชีพ (Professional Learning Community : PLC) ด้วยควำมสัมพันธแบบกัลยำณมิตรที่มีวิสัยทัศน คุณค่ำ เป้ำหมำยและภำรกิจร่วมกัน ซ่ึงส่งผลต่อคุณภำพผู้เรียน เพ่อให้เกิดเป็นวัฒนธรรมองคกร และสร้ำงนวตั กรรมจำกกำรเข้ำรว่ มในชมุ ชนแห่งกำรเรียนรู้ทำงวชิ ำชีพ มีจำนวน ๒ ตวั ชีว้ ดั ดังน้ี

๕๖ ตัวชีว้ ดั ท่ี ๓.๑ การพัฒนาตนเอง หมำยถึง กระบวนกำรพัฒนำสมรรถนะของครูรำยบุคคล โดยมีแผนกำรพฒั นำตนเองและดำเนินกำรตำมแผนอย่ำงเป็นระบบและต่อเน่องสอดคล้องกับสภำพกำรปฏบิ ัติงำน ควำมตอ้ งกำรจำเป็น องคควำมรใู้ หม่ หรอตำมนโยบำย หรอแผนกลยุทธของหนว่ ยงำนกำรศึกษำหรอสว่ นรำชกำร ต้นสังกัด โดยนำควำมรู้ ควำมสำมำรถ ทักษะ ท่ีได้จำกกำรพัฒนำตนเองมำพัฒนำนวัตกรรมกำรจัดกำรเรียนรู้ ท่ีส่งผลต่อคุณภำพผู้เรียน ตัวช้ีวัดที่ ๓.๒ การพัฒนาวิชาชีพ หมำยถึง กระบวนกำรพัฒนำวิชำชีพครู โดยกำรมี ส่วนร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันในระดับสถำนศึกษำ หรอระดับเครอข่ำย หรอระดับชำติ และแสดงบทบำทใน ชมุ ชนแหง่ กำรเรยี นร้ทู ำงวชิ ำชีพ (Professional Learning Community : PLC) ด้วยควำมสัมพนั ธแบบกัลยำณมิตร มวี ิสยั ทัศน คุณคำ่ เป้ำหมำยและภำรกิจร่วมกนั เพ่อใหเ้ กิดเปน็ วัฒนธรรมองคกร และสร้ำงนวตั กรรมจำกกำรเข้ำร่วม ในชมุ ชนกำรเรียนรู้ทำงวชิ ำชีพ โดยนำควำมรู้ ควำมสำมำรถ ทกั ษะ ทไ่ี ดจ้ ำกกำรพฒั นำวิชำชพี มำพฒั นำนวตั กรรมกำร จดั กำรเรยี นรูท้ สี่ ่งผลตอ่ คุณภำพผูเ้ รียน ๑.๕ นิยามศัพทท์ ่สี าคญั ครูพี่เล้ียง หมำยถึง ข้ำรำชกำรครูที่ได้รับมอบหมำยให้เป็นผู้ดูแล ให้คำปรึกษำ แนะนำ ช่วยเหลอ ครูที่มีประสบกำรณน้อยกว่ำได้หลำกหลำยรูปแบบ เพ่อให้มีควำมรู้ ทักษะ และควำมเป็นครู ที่มี คณุ ภำพสงู เหมำะสมกบั วิทยฐำนะท่ขี อรบั กำรประเมิน ครทู ป่ี รกึ ษา หมำยถงึ ข้ำรำชกำรครทู ี่มคี วำมรู้ และทักษะควำมเป็นครู เป็นที่ยอมรบั ใน วงวิชำชีพ สำมำรถให้คำปรึกษำ แนะนำ ช่วยเหลอ ครูที่มีประสบกำรณน้อยกว่ำได้หลำกหลำยรูปแบบ เพ่อให้ ผู้ทม่ี ำปรกึ ษำไดม้ คี วำมรแู้ ละทักษะควำมเป็นครูท่ีมีคณุ ภำพสงู เหมำะสมกบั วิทยฐำนะท่ีขอรบั กำรประเมิน ผูนาดานการพัฒนาหรือสรางหลักสูตร หมำยถึง ครูที่มีควำมคิดริเร่ิมสร้ำงสรรคในกำร พัฒนำหลักสูตรที่มีอยู่เดิมให้เหมำะสมกับผู้เรียนและบริบทของสถำนศึกษำ นำไปจัดกำรเรียนรู้ได้ผลดีหรอสร้ำง หลกั สตู ร ๒. การประเมนิ ผลงานทางวิชาการ ก.ค.ศ. กำหนดให้กำรประเมินวิทยฐำนะครูเชย่ี วชำญและวิทยฐำนะครเู ชี่ยวชำญพิเศษ ต้องเสนอ ผลงำนทำงวิชำกำร ดังน้ี วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ ต้องมีผลงำนทำงวิชำกำร ซ่ึงเป็นงำนวิจัยในช้ันเรียน หรอรำยงำนผล กำรพัฒนำกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ีเกิดจำกชุมชนกำรเรียนรู้ทำงวิชำชีพ หรอผลงำนทำงวิชำกำรในลักษณะอ่น ท่ีมี จดุ มุ่งหมำยในกำรแกป้ ัญหำด้ำนกำรเรยี นรู้ของผเู้ รยี นและสอดคล้องกบั แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ มีกำรศึกษำแนวคิด ทฤษฎี และองคควำมรู้ต่ำง ๆ เพ่อแก้ปัญหำและนำไปสู่กำรสรุปองคควำมรู้เพ่อพัฒนำคุณภำพของผู้เรียน จำนวน ไม่นอ้ ยกว่ำ ๒ รำยกำร โดยตอ้ งเป็นงำนวจิ ัยในช้นั เรียน อยำ่ งนอ้ ย ๑ รำยกำร วิทยฐานะครเู ช่ยี วชาญพเิ ศษ ตอ้ งมีผลงำนทำงวชิ ำกำร ซ่งึ เปน็ งำนวิจยั เกีย่ วกับกำรจัดกำรเรียน กำรสอน หรอรำยงำนผลกำรพัฒนำกำรจัดกำรเรียนรู้ที่เกิดจำกชุมชนกำรเรียนรู้ทำงวิชำชีพ หรอผลงำนทำง วิชำกำรในลักษณะอ่น ที่มีจุดมุ่งหมำยในกำรแก้ปัญหำด้ำนกำรเรียนรู้ของผู้เรียน และสอดคล้องกับ แผนกำร จัดกำรเรยี นรู้ มกี ำรศึกษำแนวคิด ทฤษฎีและองคควำมรูต้ ่ำง ๆ เพ่อแกป้ ญั หำ และนำไปสกู่ ำรสรุป องคควำมรู้เพ่อ พัฒนำคุณภำพของผู้เรียน จำนวนไม่น้อยกว่ำ ๒ รำยกำร โดยต้องเป็นงำนวิจัยเก่ียวกับกำรจัด กำรเรียนกำรสอน อยำ่ งน้อย ๑ รำยกำร

๕๗ ทั้งนี้ ผลงำนทำงวชิ ำกำรทีผ่ ู้ขอเสนอ ตอ้ งเปน็ ผลงำนในช่วงระยะเวลำย้อนหลงั ๕ ปี นับถงึ วันท่ี ย่นคำขอ และต้องไม่เป็นผลงำนทำงวิชำกำรที่ใช้เป็นส่วนหน่ึงของกำรศึกษำเพ่อรับปริญญำ หรอประกำศนียบัตร ใด ๆ หรอเป็นผลงำนทำงวชิ ำกำรทเี่ คยใช้เพ่อเล่อนตำแหนง่ หรอเพอ่ ให้มีวทิ ยฐำนะ หรอเล่อนวทิ ยฐำนะมำแลว้ ความหมายของผลงานทางวิชาการ ผลงานทางวิชาการของสายงานการสอน หมำยถึง รำยงำนกำรศกึ ษำ คน้ ควำ้ หรอผลกำรวจิ ัย ในชั้นเรียน หรอผลกำรวิจัยเกี่ยวกับกำรจัดกำรเรียนกำรสอน หรอรำยงำนผลกำรพัฒนำ กำรจัดกำรเรียนรู้ท่ีเกิด จำกชุมชนกำรเรียนรทู้ ำงวชิ ำชีพ หรอผลงำนทำงวิชำกำรในลักษณะอน่ ท่มี จี ดุ มงุ่ หมำยในกำรแกป้ ัญหำด้ำน กำร เรียนของผู้เรียนและสอดคล้องกับแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ มีกำรศึกษำแนวคิด ทฤษฎี และองคควำมรู้ต่ำงๆ เพ่อ แก้ไขปญั หำและนำไปสกู่ ำรสรปุ องคควำมรู้ เพอ่ พัฒนำคุณภำพของผูเ้ รยี น โดยมีลกั ษณะดงั นี้ ๑. ตรงกบั สำขำวิชำท่ีขอเล่อนวทิ ยฐำนะ ๒. เป็นผลงำนทีเ่ กีย่ วกับกำรพัฒนำกำรเรียนกำรสอนในกลุ่มสำระกำรเรยี นรูห้ รอสำขำวิชำต่ำง ๆ และใชป้ ระโยชนในกำรเรยี นกำรสอน ๓. เกิดจำกกำรปฏบิ ัตงิ ำนตำมหน้ำท่ีควำมรบั ผิดชอบทำงด้ำนกำรสอน ๔. เป็นผลงำนในช่วงระยะเวลำ ๕ ปี นบั ถงึ วันที่ย่นคำขอ ๕. ต้องไม่เป็นผลงำนทำงวิชำกำรท่ีใช้เป็นส่วนหน่ึงของกำรศึกษำเพ่อรับปริญญำ หรอ ประกำศนียบัตรใด ๆ หรอเป็นผลงำนทำงวิชำกำรท่ีใช้เพ่อเล่อนตำแหน่งหรอเพ่อให้มีวิทยฐำนะหรอเล่อน วทิ ยฐำนะมำแลว้ ๖.กรณีผลงำนทำงวิชำกำรท่ีร่วมจัดทำกับผู้อ่นในรูปคณะทำงำนหรอกลุ่ม ให้ชี้แจง ให้ชัดเจนว่ำ ผู้ขอรับกำรประเมิน มีส่วนร่วมในกำรจัดทำในส่วนใด ตอนใด หน้ำใดบ้ำง คิดเป็นร้อยละเท่ำไรของผลงำนทำง วิชำกำรแตล่ ะเลม่ และใหผ้ ูร้ ว่ มจดั ทำทุกคนรบั รองพรอ้ มทงั้ ระบุว่ำผรู้ ่วมจัดทำแตล่ ะรำย ไดท้ ำส่วนใดบ้ำง ประเภทผลงานทางวิชาการ ผลงานวิจัยในชั้นเรียน หมำยถึง รำยงำนกำรแก้ปัญหำหรอกำรพัฒนำที่มีกระบวนกำร วิเครำะหปัญหำหรอควำมต้องกำร ในกำรจัดกำรเรียนรู้ มีกำรศึกษำออกแบบเพ่อแก้ปัญหำ หรอพัฒนำวิธีกำร แนวทำงกำรจดั กำรเรียนรู้ สอ่ นวตั กรรม และเทคโนโลยที ำงกำรศึกษำ โดยนำไปใช้ปฏบิ ัติจดั กำรเรยี นรู้จรงิ และมี กำรประเมนิ ผล ซงึ่ ปรำกฏวำ่ แกป้ ญั หำหรอสนองควำมต้องกำรทจ่ี ะพฒั นำกำรเรยี นร้ขู องผเู้ รียนได้ รายงานผลการพัฒนาการจัดการเรียนรูที่เกิดจากชุมชนการเรียนรูทางวิชาชีพ หมำยถึง รำยงำนเพ่อแก้ปัญหำกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ีใช้วธิ ีกำรจดั กำรเรยี นรู้ ส่อ นวัตกรรม และเทคโนโลยีทำงกำรศึกษำ ท่ีได้ จำกชุมชนกำรเรียนรทู้ ำงวชิ ำชพี ซ่ึงดำเนินกำรอย่ำงเป็นระบบ และได้ปฏิบัติกำรจัดกำรเรียนรจู้ รงิ มีผลสำเรจ ใน กำรแกป้ ัญหำนนั้ การวิจัยเก่ยี วกบั การจัดการเรยี นการสอน หมำยถงึ รำยงำนกำรวิจัยเพ่อแก้ปัญหำ กำรจดั กำร เรียนรู้ กำรสร้ำงส่อ นวัตกรรม และเทคโนโลยีทำงกำรศึกษำ เทคนิควิธีกำรจัดกำรเรียนรู้ วิธีกำรและเคร่องมอท่ี ใชว้ ัดและประเมนิ ผล โดยมกี ำรศกึ ษำค้นควำ้ และดำเนนิ กำรวจิ ัย อย่ำงเป็นระบบ กำรวเิ ครำะหข้อมลู ถูกตอ้ ง มกี ำร สรุปผลและเสนอแนะท่ีเป็นประโยชนตอ่ กำรจดั กำรศกึ ษำ ผลงานทางวิชาการในลักษณะอื่น ท่ีมีจุดมุ่งหมำยในกำรแก้ปัญหำด้ำนกำรเรียนรู้ของผู้เรียน และสอดคลอ้ งกับแผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ เชน่

๕๘ ๑. กำรประเมนิ งำน หรอกำรประเมนิ โครงกำรท่ีเก่ยี วกบั กำรจัดกำรเรียนกำรสอน ๒. สอ่ นวัตกรรมและเทคโนโลยีทำงกำรศึกษำ เช่น ผลงำนดำ้ นกำรจัดทำส่อกำรเรียนกำรสอน ผลงำนดำ้ นกำรคดิ พัฒนำรปู แบบนวตั กรรมทีน่ ำมำใชใ้ นกำรปฏบิ ตั งิ ำน ทำให้เกดิ ประสทิ ธิภำพสูงขึ้น ซงึ่ อำจจัดทำ เป็นเอกสำร หรอส่ออิเลกทรอนิกส หรอสิ่งประดิษฐต่ำง ๆ รวมทั้งเทคนิค วิธีกำรจัดกำรเรียนรู้ อันเป็นประโยชน ต่อกำรพัฒนำกำรจัดกำรเรียนกำรสอนและกำรพฒั นำคุณภำพกำรศึกษำ องค์ประกอบการประเมนิ ผลงานทางวิชาการ มดี งั น้ี ๑. ดานคุณภาพของผลงานทางวชิ าการ ๑.๑ ความถูกตองตามหลกั วชิ าการ ผลงำนทำงวิชำกำรต้องมีควำมถูกต้องตำมหลกั วิชำกำรและรูปแบบของผลงำนประเภทน้นั ๆ เช่น งำนวิจัยในช้ันเรียนหรองำนวิจัยเก่ียวกับกำรจัดกำรเรียนกำรสอน จัดทำถูกต้องตำมวิธีกำร รูปแบบและระเบียบ วิธีวิจัย รำยงำนผลกำรพัฒนำกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ีเกิดจำกชุมชนกำรเรียนรู้ทำงวิชำชีพ จัดทำถูกต้องตำมวิธีกำรและ รูปแบบของกำรจัดกำรเรียนรู้ที่เกิดจำกชุมชนกำรเรียนรู้ทำงวิชำชีพ รำยงำน กำรประเมินโครงกำรจัดทำถูกต้องตำม วิธีกำรและรูปแบบของกำรประเมินโครงกำร หรอ รำยงำนกำรพัฒนำนวัตกรรมจัดทำถูกต้องตำมวิธีกำรและรูปแบบ ของกำรพฒั นำนวตั กรรม เป็นตน้ ๑.๒ ความสมบูรณ์ของเนอ้ื หาสาระ ผลงำนทำงวชิ ำกำรต้องมีเน้อหำสำระสมบูรณ ครบถว้ นถกู ต้องตำมหลักวิชำกำร ทนั สมัย มกี ำรค้นคว้ำอำ้ งองิ ถูกตอ้ งเช่อถอได้ กำรเรยี บเรียงถูกต้องตำมหลักภำษำ และจัดหวั ข้อเป็นระบบเดยี วกนั ฯลฯ ๑.๓ ความคดิ รเิ ร่ิมสรางสรรค์ ผลงำนทำงวิชำกำรต้องแสดงให้เหนถึงกำรคิดวิเครำะห สังเครำะห พัฒนำและ ประยกุ ตใช้ หรอสร้ำงองคควำมรูใ้ หม่ โดยไม่คัดลอกหรอลอกเลยี นผลงำนทำงวิชำกำรของผู้อ่นโดยมิชอบ ๑.๔ การจดั ทา การพมิ พ์และรูปเล่ม ผลงำนทำงวิชำกำรต้องมีกำรจัดทำอย่ำงประณีต กำรพิมพถูกต้องตำมหลักวิชำกำร และสวยงำม เช่น กำรพิมพหัวข้อ กำรย่อหน้ำ กำรพิมพตำรำง กำรพิมพเชิงอรรถ บรรณำนุกรม กำรจัดทำรูปเลม่ ถกู ตอ้ ง มีปกหนำ้ ปกใน คำนำ สำรบญั เนอ้ หำ บรรณำนุกรม ภำคผนวก ปกหลงั เป็นตน้ ๒. ดานประโยชน์ของผลงานทางวชิ าการ ๒.๑ ประโยชน์ตอ่ ผเู รยี น ครู บคุ ลากรทางการศึกษา การจัดการเรยี นการสอน หนว่ ยงาน การศกึ ษา และชุมชน พจิ ำรณำจำกผลทปี่ รำกฏต่อผู้เรยี น ครู บุคลำกรทำงกำรศกึ ษำ กำรจดั กำรเรยี น กำรสอน หน่วยงำนกำรศึกษำ และชุมชน อยำ่ งมีประสทิ ธิภำพและประสิทธิผล ๒.๒ ประโยชนต์ ่อความกาวหนาทางวิชาการและการเผยแพร่ในวงวิชาการ พิจำรณำจำกประโยชนตอ่ ควำมก้ำวหน้ำทำงวิชำกำรหรอวิชำชีพ สำมำรถเป็นแบบอยำ่ ง ใช้เป็นแหล่งอ้ำงอิง หรอเป็นแบบในกำรปฏิบัติได้เป็นอย่ำงดี มีกำรนำผลงำนไปเผยแพร่ด้วยวิธีกำรต่ำง ๆ เช่น จัดพิมพในรำยงำนประจำปี เอกสำร วำรสำร กำรนำเสนอต่อที่ประชุม สัมมนำ กำรจัดนิทรรศกำร กำรเผยแพร่ ทำงวิทยุ โทรทศั น เทคโนโลยีสำรสนเทศ เปน็ ต้น

๕๙ เกณฑ์การตัดสินผลงานทางวิชาการ (๑๐๐ คะแนน) รายการประเมิน คะแนนเต็ม เกณฑก์ ารตัดสิน ผลงานทางวิชาการ วิทยฐานะ ครูเชีย่ วชาญ ผลงำนทำง ๑. คุณภาพของผลงานทางวิชาการ ๕๐ วชิ ำกำรตอ้ งได้คะแนนจำกกรรมกำรแต่ละ ๑.๑ ควำมถูกต้องตำมหลักวิชำกำร (๒๐) คน ๑.๒ ควำมสมบรู ณของเนอ้ หำสำระ (๑๕) ไม่ต่ำกว่ำรอ้ ยละ ๗๕ ๑.๓ ควำมริเริ่มสรำ้ งสรรค (๑๐) วิทยฐานะ ครูเชีย่ วชาญพิเศษ ผลงำนทำง ๑.๔ กำรจดั ทำ กำรพิมพและรูปเลม่ (๕) วชิ ำกำรต้องไดค้ ะแนนจำกกรรมกำรแตล่ ะ ๒. ประโยชนข์ องผลงานทางวชิ าการ ๕๐ คน ๒.๑ ประโยชนตอ่ ผู้เรยี น ครู บุคลำกร (๓๐) ไม่ต่ำกว่ำร้อยละ ๘๐ ทำงกำรศึกษำ กำรจดั กำรเรียนกำรสอน หนว่ ยงำนกำรศึกษำและชุมชน ๒.๒ ประโยชนต่อควำมก้ำวหน้ำทำง (๒๐) วชิ ำกำรและเผยแพร่ในวงวชิ ำกำร รวมคะแนนผลงานทางวิชาการ ๑๐๐

๖๐ ข้ันตอนการดาเนินการขอมีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ สาหรับผดู ารงตาแหน่งครู แจงผูขอรบั การประเมิน

๖๑ ๑. ผดู ารงตาแหนง่ ครู ในแต่ละปกี ำรศึกษำ ผดู้ ำรงตำแหน่งครู มบี ทบำทหน้ำท่ี ดังนี้ ๑.๑ ปฏบิ ตั ิงำนตำมหน้ำที่ควำมรับผิดชอบตำมมำตรฐำนตำแหนง่ และมำตรฐำนวทิ ยฐำนะ ท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ๑.๒ มชี วั่ โมงกำรปฏิบตั ิงำน ๑.๒.๑ ผูด้ ำรงตำแหนง่ ครู ทจี่ ะขอมวี ทิ ยฐำนะครูชำนำญกำรหรอขอเลอ่ นเปน็ วิทยฐำนะ ครูชำนำญกำรพเิ ศษ ตอ้ งมีชัว่ โมงกำรปฏิบัติงำนในแต่ละปีไม่น้อยกว่ำ ๘๐๐ ชั่วโมง โดยช่ัวโมงกำรปฏิบัตงิ ำน ตอ้ ง มีช่ัวโมงกำรมีส่วนร่วมในชมุ ชนกำรเรียนรู้ทำงวิชำชพี (Professional Learning Community : PLC) ไม่น้อยกว่ำ ๕๐ ช่วั โมง และตอ้ งมีช่ัวโมงสอนขน้ั ตำ่ ตำมท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ๑.๒.๒ ผู้ดำรงตำแหน่งครู ที่จะขอเล่อนเป็นวิทยฐำนะครูเช่ียวชำญ หรอวิทยฐำนะ ครูเช่ยี วชำญพิเศษ ตอ้ งมีชัว่ โมงกำรปฏบิ ัตงิ ำนในแต่ละปไี มน่ อ้ ยกวำ่ ๙๐๐ ชั่วโมง โดยชวั่ โมงกำรปฏบิ ัติงำน ต้องมี ช่ัวโมงกำรมีส่วนร่วมในชุมชนกำรเรียนรู้ทำงวิชำชีพ (Professional Learning Community : PLC) ไม่น้อยกว่ำ ๕๐ ช่วั โมง และต้องมชี วั่ โมงสอนขน้ั ตำ่ ตำมที่ ก.ค.ศ. กำหนด ๑.๓ ประพฤตติ นอยใู่ นวินยั คุณธรรม จรยิ ธรรม และจรรยำบรรณวชิ ำชพี ๑.๔ มีกำรพัฒนำตนเองตำมหลักเกณฑและวิธีกำรท่ี ก.ค.ศ. กำหนด โดยพัฒนำอย่ำง ต่อเนอ่ งทุกปีแต่ละปีไมน่ ้อยกว่ำ ๑๒ ชว่ั โมง แต่ไม่เกิน ๒๐ ช่ัวโมง ๑.๕ ประเมินผลงำนของตนเอง ท่ีเกิดจำกกำรปฏิบัติหน้ำท่ี สำยงำนกำรสอน ๓ ด้ำน คอ ด้ำนกำรจัดกำรเรียนกำรสอน ด้ำนกำรบริหำรจัดกำรชั้นเรียน และด้ำนกำรพัฒนำตนเองและพัฒนำวิชำชพี โดยมี ตัวชี้วัด รวม ๑๓ ตัวชี้วัด และบันทึกผลกำรประเมินลงในแบบรำยงำนผลงำนที่เกิดจำกกำรปฏบิ ัติหน้ำที่ ตำแหน่ง ครู รำยปีกำรศึกษำ (วฐ.๒) และเสนอผ้อู ำนวยกำรสถำนศึกษำพจิ ำรณำ ๑.๖ บันทึกข้อมูลลงในประวัติกำรปฏิบัติงำน (Logbook) โดยมีรำยละเอียดตำมคู่มอบันทึก ประวตั กิ ำรปฏิบัตงิ ำน ๑.๗ ผู้ดำรงตำแหน่งครู ท่ีจะขอเล่อนเป็นวิทยฐำนะครูเชยี่ วชำญหรอวิทยฐำนะครูเชยี่ วชำญ พิเศษ ต้องจัดทำผลงำนทำงวิชำกำรไม่น้อยกว่ำ ๒ รำยกำร โดยวิทยฐำนะครูเชี่ยวชำญ ต้องเป็นงำนวิจัยใน ชน้ั เรยี น อยำ่ งนอ้ ย ๑ รำยกำร และวิทยฐำนะครูเชยี่ วชำญพเิ ศษ ต้องเป็นงำนวิจยั เกี่ยวกบั กำรจดั กำรเรยี น กำร สอน อย่ำงน้อย ๑ รำยกำร ๒. ผูอานวยการสถานศกึ ษาหรอื ผูประเมนิ ในแต่ละปกี ำรศึกษำ ผ้อู ำนวยกำรสถำนศกึ ษำหรอผปู้ ระเมิน มบี ทบำทหน้ำที่ ดงั น้ี ๒.๑ ประเมินผลงำนท่ีเกิดจำกกำรปฏิบัติหน้ำที่ ๓ ด้ำน ๑๓ ตัวช้ีวัด ของผู้ดำรงตำแหน่งครู ภำคเรยี นละ ๑ ครง้ั โดยในกำรประเมินภำคเรยี นท่ี ๑ เป็นกำรประเมนิ เพ่อใหค้ ำแนะนำและพฒั นำ ๒.๒ ประเมินผลงำนที่เกิดจำกกำรปฏิบัติหน้ำที่ ๓ ด้ำน ๑๓ ตัวช้ีวัด ในภำพรวมท้ังปี เม่อส้ิน ภำคเรียนท่ี ๒ โดยตั้งคณะกรรมกำรจำกข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำในสถำนศึกษำนั้น หรอนอก สถำนศึกษำ ตำมควำมเหมำะสม เพ่อตรวจสอบและกล่ันกรองข้อมูลผู้ดำรงตำแหน่งครู รำยงำนและเสนอ ควำมเหน เพอ่ ประกอบกำรพิจำรณำประเมินผลงำนท่ีเกิดจำกกำรปฏบิ ตั ิหน้ำทีใ่ นแต่ละปีกำรศึกษำ

๖๒ กรณกี ำรประเมนิ ในปกี ำรศกึ ษำใด หำกผอู้ ำนวยกำรสถำนศึกษำไม่อำจประเมินผลงำน ท่เี กิดจำกกำรปฏบิ ตั ิหน้ำท่ี ของผ้ดู ำรงตำแหน่งครูดว้ ยเหตุใด ๆ ใหเ้ สนอ กศจ. แตง่ ต้ังขำ้ รำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำในจังหวัดนั้นที่ มีควำมรู้ ควำมสำมำรถเหมำะสมเปน็ ผู้ประเมนิ ผลงำนทเี่ กดิ จำกกำรปฏบิ ตั ิหน้ำท่ีแทนผอู้ ำนวยกำรสถำนศึกษำ ๒.๓ บันทึกผลกำรประเมินในแบบรำยงำนผลงำนที่เกิดจำกกำรปฏิบัติหน้ำที่ ตำแหน่งครู (รำยปีกำรศกึ ษำ) ตำมแบบ วฐ.๒ และสรปุ ผลกำรประเมินระดบั คณุ ภำพรำยตัวช้ีวดั ทัง้ น้ี หำกมีผลกำรประเมนิ ไม่ เป็นไปตำมเกณฑท่ีกำหนดให้ระบุเหตุผลประกอบกำรประเมินตำมตัวชี้วัด พร้อมให้คำแนะนำ ในกำรพัฒนำงำน น้ันด้วย โดยผู้ดำรงตำแหน่งครู และผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำหรอผู้ประเมิน ต้องเกบหลักฐำน ผลกำรประเมิน ผลงำนทเ่ี กิดจำกกำรปฏิบัตหิ นำ้ ท่ี ตำมแบบ วฐ.๒ ไว้ คนละ ๑ ชุด ๒.๔ สรุปผลกำรประเมินให้ผู้ดำรงตำแหน่งครู ทรำบ ปีกำรศึกษำละ ๑ ครั้ง กรณีท่ีผู้ดำรง ตำแหนง่ ครู ไม่เหนดว้ ยกับผลกำรประเมินนั้น ใหเ้ ปิดโอกำสให้ได้ปรกึ ษำและชี้แจง หำกผู้อำนวยกำรสถำนศกึ ษำหรอ ผู้ประเมินพจิ ำรณำแล้วเหนวำ่ ผลกำรประเมินถกู ต้องตรงตำมควำมเป็นจรงิ แล้ว แตผ่ ้ดู ำรงตำแหนง่ ครู ยังมีควำมเหนไม่ สอดคล้องกับผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำหรอผู้ประเมินอีก ให้สถำนศึกษำแจ้งไปยังสำนักงำนเขตพ้นท่ีกำรศึกษำ เพ่อ แต่งตั้งคณะกรรมกำรตรวจสอบผลกำรประเมินของปีกำรศึกษำน้ัน และเม่อได้ข้อยุติ เป็นประกำรใดให้ถอเป็นอัน สนิ้ สดุ ๓. คณะกรรมการตรวจสอบและกล่ันกรองขอมูล ก ำ ร ด ำ เ นิ น ก ำ ร ข อ ง ค ณ ะ ก ร ร ม ก ำ ร ต ร ว จ ส อ บ แ ล ะ ก ลั่ น ก ร อ ง ข้ อ มู ล ใ น แ ต่ ล ะ ปี ก ำ ร ศึ ก ษ ำ ให้ดำเนินกำร ตรวจสอบและกล่ันกรองข้อมูล ชั่วโมงกำรปฏิบัติงำน กำรพัฒนำ ผลกำรประเมินผลงำนที่เกิดจำกกำร ปฏิบัติหน้ำท่ี ๓ ด้ำน ได้แก่ ด้ำนกำรจัดกำรเรียนกำรสอน ด้ำนกำรบริหำรจัดกำรชั้นเรียน และด้ำนกำรพัฒนำตนเอง และพัฒนำวิชำชีพ รวม ๑๓ ตัวชี้วัด พร้อมเสนอควำมเหนต่อผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำหรอผู้ประเมิน เพ่อประกอบ กำรพจิ ำรณำต่อไป ๔. การเสนอคาขอมีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ และการประเมนิ ๔.๑ ผู้ดำรงตำแหนง่ ครูทป่ี ระสงคจะขอมวี ทิ ยฐำนะหรอเล่อนวิทยฐำนะ ให้ดำเนนิ กำร ดงั นี้ ๔.๑.๑ ตรวจสอบคณุ สมบัติของตนเองใหเ้ ป็นไปตำมหลักเกณฑที่ ก.ค.ศ.กำหนด ๔.๑.๑.๑ มีระยะเวลำกำรดำรงตำแหน่งหรอวิทยฐำนะปจั จบุ ัน ไม่นอ้ ยกวำ่ ๕ ปี นบั ถึงวนั ทย่ี ่นคำขอ ๔.๑.๑.๒ มีชั่วโมงกำรปฏบิ ัติงำนสำหรับวิทยฐำนะทจี่ ะขอมวี ิทยฐำนะหรอเลอ่ น วิทยฐำนะ ดงั นี้ วทิ ยฐำนะครูชำนำญกำรและวิทยฐำนะครูชำนำญกำรพิเศษ ไมน่ ้อยกว่ำ ๘๐๐ ชว่ั โมง ต่อปี วิทยฐำนะครเู ชยี่ วชำญและวิทยฐำนะครูเชย่ี วชำญพิเศษ ไม่น้อยกว่ำ ๙๐๐ ชวั่ โมงต่อปี โดยจำนวนช่ัวโมงกำรปฏิบัติงำนดังกล่ำว ต้องมีช่ัวโมงกำรมีส่วนร่วมในชุมชนกำรเรียนรู้ ทำงวิชำชีพ (Professional Learning Community : PLC) ในแต่ละปี ไม่น้อยกว่ำ ๕๐ ชั่วโมง และต้องมีชั่วโมง สอนข้นั ต่ำตำมที่ ก.ค.ศ. กำหนด สำหรบั ผขู้ อเล่อนเปน็ วิทยฐำนะครเู ช่ียวชำญและวิทยฐำนะครเู ช่ยี วชำญพเิ ศษ กำรเสนอ ผลงำนทำงวิชำกำรในวชิ ำ/สำขำ/กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ใด ในชว่ งระยะเวลำย้อนหลงั ๕ ปี ผขู้ อจะต้องมชี ั่วโมงสอน ในวชิ ำ/สำขำ/กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ ทเ่ี สนอผลงำนทำงวชิ ำกำรน้นั ด้วย

๖๓ ๔.๑.๑.๓ ไมเ่ คยถกู ลงโทษทำงวนิ ัย คุณธรรม จรยิ ธรรม และจรรยำบรรณ วชิ ำชพี ภำยในระยะเวลำ ๕ ปี นบั ถึงวนั ทย่ี น่ คำขอ ๔.๑.๑.๔ ผ่ำนกำรพัฒนำตำมหลกั เกณฑและวธิ กี ำรท่ี ก.ค.ศ. กำหนดแล้ว โดย เข้ำรบั กำรพัฒนำจำนวนไมน่ ้อยกว่ำ ๑๒ ชัว่ โมง แต่ไม่เกนิ ๒๐ ช่วั โมงตอ่ ปี รวมภำยในระยะเวลำ ๕ ปี จำนวน ๑๐๐ ชั่วโมง กรณมี ีชว่ั โมงกำรพัฒนำไม่ครบ ๑๐๐ ชว่ั โมง ให้นำชัว่ โมงกำรมสี ่วนรว่ มในชมุ ชนกำรเรยี นรูท้ ำง วชิ ำชีพ (Professional Learning Community : PLC) ส่วนท่ีเกินจำก ๕๐ ชว่ั โมงในแต่ละปีมำนบั รวมได้ ๔.๑.๑.๕ มผี ลกำรประเมนิ ผลงำนที่เกิดจำกกำรปฏบิ ัตหิ นำ้ ที่ผำ่ นเกณฑ ไมน่ อ้ ย กวำ่ ๓ ปกี ำรศึกษำ ในช่วงระยะเวลำยอ้ นหลงั ๕ ปีกำรศึกษำตดิ ต่อกนั นบั ถึงวนั สนิ้ ปีกำรศกึ ษำกอ่ นวนั ทย่ี น่ คำขอ โดยให้ผูข้ อและผู้อำนวยกำรสถำนศกึ ษำรบั รองข้อมลู เอกสำร และหลักฐำนเก่ยี วกับคุณสมบัติด้วย ๔.๑.๒ ยน่ คำขอมวี ทิ ยฐำนะหรอเล่อนวทิ ยฐำนะต่อสถำนศึกษำได้ตลอดปี รอบปลี ะ ๑ ครง้ั พร้อมเอกสำรหลกั ฐำนเพอ่ ประกอบกำรพจิ ำรณำ ดังนี้ ๔.๑.๒.๑ วทิ ยฐำนะครชู ำนำญกำรและวทิ ยฐำนะครชู ำนำญกำรพิเศษ ให้ยน่ เอกสำรจำนวน ๒ ชดุ ดงั น้ี ๑) คำขอมวี ิทยฐำนะหรอเล่อนวทิ ยฐำนะ ตำแหนง่ ครู ตำมแบบคำขอ มีวทิ ยฐำนะหรอเล่อนวิทยฐำนะ ตำแหน่งครู (วฐ.๑) ๒) ผลงำนทเ่ี กดิ จำกกำรปฏิบัตหิ นำ้ ท่ี รำยปกี ำรศึกษำ จำนวน ๕ ปี กำรศกึ ษำ ตำมแบบ วฐ.๒ ๓) บันทึกประวัตกิ ำรปฏบิ ตั ิงำน (Logbook) โดยมชี ั่วโมงกำรปฏบิ ตั งิ ำน ช่วั โมงกำรอบรมและพัฒนำ และผ่ำนกำรรบั รองจำกผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำ พรอ้ มแนบไฟล ๔) เอกสำรหลักฐำนอน่ ทเ่ี กีย่ วขอ้ ง เช่น ตำรำงสอน คำส่ังมอบหมำยงำน วุฒบิ ัตรผำ่ นกำรพฒั นำ เปน็ ต้น ๔.๑.๒.๒ วิทยฐำนะครเู ชย่ี วชำญและวทิ ยฐำนะครเู ชี่ยวชำญพเิ ศษ ให้ย่น เอกสำร จำนวน ๔ ชุด ดงั นี้ ๑) คำขอมวี ิทยฐำนะหรอเล่อนวทิ ยฐำนะ ตำแหน่งครู ตำมแบบคำขอมี วิทยฐำนะหรอเลอ่ นวิทยฐำนะ ตำแหน่งครู (วฐ.๑) ๒) ผลงำนที่เกดิ จำกกำรปฏิบัตหิ นำ้ ที่ รำยปีกำรศึกษำ จำนวน ๕ ปี กำรศกึ ษำ ตำมแบบ วฐ.๒ ๓) บันทกึ ประวตั กิ ำรปฏิบัติงำน (Logbook) โดยมชี วั่ โมงกำรปฏิบตั งิ ำน ช่วั โมงกำรอบรมและพฒั นำ และผ่ำนกำรรบั รองจำกผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำ พร้อมแนบไฟล ๔) ผลงำนทำงวิชำกำร ๕) เอกสำรหลักฐำนอ่นที่เก่ียวข้อง เช่น ตำรำงสอน คำส่ังมอบหมำยงำน วุฒิบตั รผ่ำนกำรพฒั นำ เป็นต้น ท้ังนี้ ทุกวิทยฐำนะ เอกสำรหลักฐำน ตำมข้อ ๒) และ ๓) ต้องมีกำรบันทึกข้อมูล เปน็ ระยะๆ ให้ ครบถ้วนและเปน็ ปจั จบุ ัน

๖๔ กรณีผู้ที่จะเกษียณอำยุรำชกำรและจะขอมีวิทยฐำนะครูชำนำญกำรและขอเล่อนเป็นวิท ยฐำนะ ครูชำนำญกำรพิเศษ ให้ย่นคำขอพร้อมเอกสำรหลักฐำนต่อสถำนศึกษำเพ่อตรวจสอบและรับรอง แล้วเสนอ ผู้บังคับบัญชำตำมลำดับ ถึงสำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด ก่อนวันท่ีจะเกษียณอำยุรำชกำรไม่น้อยกว่ำ ๖ เดอน สำหรับผู้ที่จะเกษียณอำยุรำชกำรและจะขอเลอ่ นเป็นวิทยฐำนะครูเช่ียวชำญและ วิทยฐำนะครูเชย่ี วชำญพิเศษ ให้ ย่นคำขอพร้อมเอกสำรหลักฐำน ต่อสถำนศึกษำเพ่อตรวจสอบและรับรอง แล้วเสนอผู้บังคับบัญชำตำมลำดับและ สำนักงำนศึกษำธกิ ำรจงั หวัด ถึงสำนกั งำน ก.ค.ศ. ก่อนวนั ทีจ่ ะเกษียณอำยุรำชกำรไมน่ ้อยกวำ่ ๖ เดอน ๔.๒ ให้ผอู้ ำนวยกำรสถำนศึกษำในฐำนะผ้บู ังคบั บญั ชำเปน็ ผู้ประเมินผลงำนทเี่ กิดจำกกำร ปฏบิ ตั หิ นำ้ ท่ีทกุ วทิ ยฐำนะ ดังนี้ ๔.๒.๑ ตรวจสอบคุณสมบตั ขิ องผู้ขอมีวทิ ยฐำนะหรอเล่อนวทิ ยฐำนะให้เปน็ ไปตำม หลกั เกณฑ ที่ ก.ค.ศ. กำหนด ๔.๒.๒ สรุปผลกำรประเมนิ ผลงำนทเ่ี กิดจำกกำรปฏบิ ัตหิ นำ้ ท่ีของผ้ขู อในแตล่ ะปี กำรศึกษำ รวม ๕ ปกี ำรศึกษำ และบนั ทึกลงในแบบสรปุ ผลกำรตรวจสอบและประเมนิ ตำแหน่งครู รวม ๕ ปี กำรศึกษำ ตำมแบบ วฐ.๓ ๔.๒.๓ ผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำส่งคำขอพร้อมเอกสำรหลักฐำนตอ่ สำนกั งำนเขตพน้ ที่ กำรศึกษำ ดงั ต่อไปนี้ ๑) คำขอมีวิทยฐำนะหรอเลอ่ นวทิ ยฐำนะ ตำแหน่งครู ตำมแบบคำขอมีวทิ ยฐำนะ หรอเล่อนวทิ ยฐำนะ ตำแหน่งครู (วฐ.๑) ๒) สรุปผลกำรตรวจสอบและประเมิน ตำแหนง่ ครู (๕ ปีกำรศึกษำ) ตำมแบบ วฐ.๓ ๓) บันทกึ ประวัตกิ ำรปฏบิ ัตงิ ำน (Logbook) โดยมชี วั่ โมงกำรปฏิบตั งิ ำน ชว่ั โมงกำร อบรมและพัฒนำ และผำ่ นกำรรับรองจำกผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำ พรอ้ มแนบไฟล ๔) ผลงำนทำงวชิ ำกำร (สำหรับวิทยฐำนะครเู ชย่ี วชำญและครเู ช่ยี วชำญพิเศษ) ๕) เอกสำรหลกั ฐำนอ่นทเ่ี ก่ียวข้อง เช่น ตำรำงสอน คำส่ังมอบหมำยงำน วฒุ บิ ัตร ผ่ำนกำรพัฒนำ เป็นตน้ กรณีท่ีผู้ดำรงตำแหน่งครูได้ย่นคำขอมีวิทยฐำนะหรอเล่อนวิทยฐำนะ หำกผู้อำนวยกำร สถำนศึกษำมีวิทยฐำนะต่ำกว่ำวิทยฐำนะท่ีผู้ดำรงตำแหน่งครูขอรับกำรประเมิน ให้ผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำ รำยงำนสำนกั งำนเขตพน้ ทก่ี ำรศกึ ษำ เพ่อเสนอ กศจ. พิจำรณำแต่งตง้ั ขำ้ รำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำ ใน จังหวัดน้ันท่ีมีวิทยฐำนะไม่ต่ำกว่ำวิทยฐำนะท่ีขอ เป็นผู้ร่วมประเมินสรุปผลกำรตรวจสอบและประเมิน ตำแหน่ง ครู ๕ ปีกำรศกึ ษำ ตำมแบบ วฐ.๓ ขัน้ ตอนที่ 2 การดาเนินการในระดบั สานักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษา การดาเนนิ การของสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ใหด้ ำเนนิ กำร ดังนี้ ๑. ตรวจสอบคณุ สมบัติของผู้ขอมีวทิ ยฐำนะหรอเล่อนวิทยฐำนะใหเ้ ป็นไปตำมหลักเกณฑท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ๒. ตรวจสอบผลกำรประเมินผลงำนท่เี กดิ จำกกำรปฏบิ ตั ิหน้ำท่ีและเอกสำรหลกั ฐำน ดังนี้

๖๕ ๒.๑ วทิ ยฐำนะครชู ำนำญกำรและวทิ ยฐำนะครูชำนำญกำรพเิ ศษ ๒.๑.๑ คำขอมีวิทยฐำนะหรอเลอ่ นวทิ ยฐำนะ ตำแหนง่ ครู ตำมแบบคำขอมีวทิ ยฐำนะ หรอเลอ่ นวิทยฐำนะ ตำแหน่งครู (วฐ.๑) ๒.๑.๒ สรุปผลกำรตรวจสอบและประเมนิ ตำแหนง่ ครู (๕ ปีกำรศกึ ษำ) ตำมแบบ วฐ.๓ ๒.๑.๓ บันทึกประวัติกำรปฏบิ ัตงิ ำน (Logbook) โดยมชี วั่ โมงกำรปฏิบัตงิ ำน ชัว่ โมงกำร อบรมและพฒั นำ และผ่ำนกำรรบั รองจำกผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำ พร้อมแนบไฟล ๒.๑.๔ เอกสำรหลักฐำนอ่นทีเ่ ก่ียวขอ้ ง เช่น ตำรำงสอน คำสัง่ มอบหมำยงำน วฒุ บิ ัตร ผำ่ นกำรพฒั นำ เปน็ ต้น ๒.๒ วทิ ยฐำนะครเู ชย่ี วชำญและวทิ ยฐำนะครูเชี่ยวชำญพิเศษ ๒.๒.๑ คำขอมวี ทิ ยฐำนะหรอเล่อนวทิ ยฐำนะ ตำแหน่งครู ตำมแบบคำขอมีวทิ ยฐำนะ หรอเลอ่ นวิทยฐำนะ ตำแหน่งครู (วฐ.๑) ๒.๒.๒ สรุปผลกำรตรวจสอบและประเมิน ตำแหน่งครู (๕ ปีกำรศกึ ษำ) ตำมแบบ วฐ.๓ ๒.๒.๓ บันทกึ ประวตั ิกำรปฏบิ ตั ิงำน (Logbook) โดยมีชัว่ โมงกำรปฏิบัตงิ ำน ชั่วโมงกำร อบรมและพฒั นำ และผำ่ นกำรรับรองจำกผู้อำนวยกำรสถำนศกึ ษำ พร้อมแนบไฟล ๒.๒.๔ ผลงำนทำงวชิ ำกำร ๒.๓ กรณที ่ตี รวจสอบแลว้ ปรำกฏว่ำเอกสำรหลกั ฐำนไม่ถกู ต้องครบถว้ นสมบรู ณ ให้ สำนักงำนเขตพน้ ที่กำรศึกษำแจ้งสถำนศึกษำทรำบและดำเนินกำรจัดสง่ ข้อมลู เพิ่มเตมิ ได้ ๓. ใหส้ ำนักงำนเขตพน้ ที่กำรศกึ ษำใหค้ วำมเหนในแบบคำขอมีวิทยฐำนะหรอเล่อนวิทยฐำนะ ตำแหนง่ ครู ตำมแบบ วฐ.๑ แล้วจัดส่งเอกสำรหลกั ฐำนดงั กลำ่ วใหส้ ำนักงำนศกึ ษำธกิ ำรจังหวัด ๔. กรณีสถำนศึกษำแจ้งว่ำผู้ดำรงตำแหน่งครู ไม่เหนด้วยกับผลกำรประเมินผลงำนท่ีเกิดจำก กำรปฏิบตั ิหน้ำท่ีของผู้ประเมนิ ให้สำนักงำนเขตพน้ ท่ีกำรศึกษำต้ังคณะกรรมกำรตรวจสอบผลกำรประเมนิ ของปี กำรศึกษำน้ัน เม่อได้ขอ้ ยตุ ิเปน็ ประกำรใดใหถ้ อเปน็ อันสนิ้ สุด ข้นั ตอนท่ี 3 การดาเนนิ การในระดับสานักงานศึกษาธิการจังหวดั และคณะกรรมการ ศึกษาธกิ ารจังหวดั ๑. การดาเนนิ การของสานกั งานศกึ ษาธิการจังหวดั ให้ดำเนินกำร ดังน้ี ๑.๑ ตรวจสอบคุณสมบตั ิของผู้ขอมีวิทยฐำนะหรอเล่อนวทิ ยฐำนะให้เป็นไปตำมหลกั เกณฑ ท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ๑.๒ ตรวจสอบผลกำรประเมนิ ผลงำนทเี่ กดิ จำกกำรปฏบิ ัติหน้ำที่และเอกสำรหลกั ฐำน ดงั น้ี ๑.๒.๑ วิทยฐำนะครชู ำนำญกำรและวทิ ยฐำนะครูชำนำญกำรพิเศษ ๑.๒.๑.๑ คำขอมวี ทิ ยฐำนะหรอเล่อนวิทยฐำนะ ตำแหนง่ ครู ตำมแบบคำขอมี วิทยฐำนะหรอเลอ่ นวิทยฐำนะ ตำแหนง่ ครู (วฐ.๑) ๑.๒.๑.๒ สรปุ ผลกำรตรวจสอบและประเมิน ตำแหนง่ ครู (๕ ปีกำรศึกษำ) ตำมแบบ วฐ.๓ ๑.๒.๑.๓ บนั ทึกประวตั กิ ำรปฏิบตั งิ ำน (Logbook) โดยมีชว่ั โมงกำร ปฏิบัตงิ ำน ชั่วโมง กำรอบรมและพฒั นำ และผำ่ นกำรรับรองจำกผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำ พรอ้ มแนบไฟล

๖๖ ๑.๒.๑.๔ เอกสำรหลกั ฐำนอน่ ท่เี กย่ี วข้อง เช่น ตำรำงสอน คำส่ังมอบหมำย งำน วุฒบิ ตั รผ่ำนกำรพัฒนำ เป็นต้น ๑.๒.๒ วิทยฐำนะครเู ชี่ยวชำญและวิทยฐำนะครเู ช่ยี วชำญพิเศษ ๑.๒.๒.๑ คำขอมีวทิ ยฐำนะหรอเล่อนวทิ ยฐำนะ ตำแหน่งครู ตำมแบบคำขอมี วทิ ยฐำนะหรอเลอ่ นวิทยฐำนะ ตำแหน่งครู (วฐ.๑) ๑.๒.๒.๒ สรปุ ผลกำรตรวจสอบและประเมิน ตำแหนง่ ครู (๕ ปกี ำรศึกษำ) ตำม แบบ วฐ.๓ ๑.๒.๒.๓ บันทกึ ประวัติกำรปฏบิ ตั ิงำน (Logbook) โดยมีชวั่ โมงกำรปฏิบัตงิ ำน ชว่ั โมงกำรอบรมและพัฒนำ และผำ่ นกำรรบั รองจำกผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำ พร้อมแนบไฟล ๑.๒.๒.๔ ผลงำนทำงวิชำกำร ๑.๓ ใหส้ ำนักงำนศึกษำธกิ ำรจงั หวดั เสนอ อกศจ. และ กศจ. พจิ ำรณำตำมลำดบั ๒. คณะกรรมการศกึ ษาธิการจงั หวัด (กศจ.) คณะกรรมกำรศึกษำธิกำรจังหวัด พิจำรณำคุณสมบัติของผู้ขอมีวิทยฐำนะหรอเล่อน วิทยฐำนะ ประกอบด้วย ระยะเวลำกำรดำรงตำแหน่งและหรอวิทยฐำนะปัจจุบัน ชั่วโมงกำรปฏิบัติงำน วินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยำบรรณวชิ ำชพี กำรพัฒนำตำมหลักเกณฑท่ี ก.ค.ศ. กำหนด และผลกำรประเมนิ ผล งำน ทีเ่ กดิ จำกกำรปฏบิ ัติหนำ้ ท่ี พรอ้ มทัง้ เอกสำรหลักฐำน เมอ่ พจิ ำรณำแลว้ มีผลเป็นประกำรใดใหด้ ำเนนิ กำร ดังนี้ ๒.๑ วทิ ยฐำนะครูชำนำญกำรและวิทยฐำนะครชู ำนำญกำรพเิ ศษ ๒.๑.๑ กรณที ่ี กศจ. มีมติอนมุ ัติ ใหผ้ มู้ ีอำนำจตำมมำตรำ ๕๓ สง่ั แตง่ ต้ังให้มวี ิทยฐำนะ หรอเล่อนวทิ ยฐำนะ และใหส้ ำนักงำนศึกษำธิกำรจงั หวัดแจ้งสำนกั งำนเขตพ้นทก่ี ำรศึกษำ เพ่อแจ้งผู้ขอทรำบ ๒.๑.๒ กรณที ี่ กศจ. มีมติไม่อนุมัติ ใหส้ ำนักงำนศึกษำธกิ ำรจังหวัดแจง้ ผลกำรพจิ ำรณำ พรอ้ มท้งั ข้อสงั เกตกำรประเมินไปยงั สำนักงำนเขตพ้นที่กำรศึกษำ เพอ่ แจง้ ผขู้ อทรำบ ๒.๒ วทิ ยฐำนะครูเชี่ยวชำญและวิทยฐำนะครูเช่ียวชำญพเิ ศษ ๒.๒.๑ กรณที ี่ กศจ. มมี ติวำ่ เป็นผมู้ คี ณุ สมบตั ติ ำมท่ี ก.ค.ศ. กำนด ใหส้ ำนักงำน ศกึ ษำธิกำรจงั หวดั สง่ เอกสำรหลักฐำน จำนวน ๔ ชุด ไปยังสำนักงำน ก.ค.ศ. ภำยใน ๓๐ วนั นบั แตว่ นั ท่ี กศจ. มมี ตเิ พ่อเสนอ ก.ค.ศ. พจิ ำรณำ ดงั นี้ ๒.๒.๑.๑ คำขอมีวทิ ยฐำนะหรอเล่อนวิทยฐำนะ ตำแหน่งครู ตำมแบบคำขอ มวี ทิ ยฐำนะหรอเล่อนวิทยฐำนะ ตำแหนง่ ครู (วฐ.๑) ๒.๒.๑.๒ สรปุ ผลกำรตรวจสอบและประเมนิ ตำแหน่งครู (๕ ปกี ำรศึกษำ) ตำมแบบ วฐ.๓ ๒.๒.๑.๓ มติ กศจ. ครง้ั ท่ีเกยี่ วข้องและมีกำรรบั รองสำเนำถกู ต้อง ๒.๒.๑.๔ ผลงำนทำงวิชำกำร ๒.๒.๒ กรณที ่ี กศจ. มมี ตวิ ่ำเป็นผู้ไม่มคี ุณสมบัตหิ รอไมผ่ ่ำนเกณฑตำมที่ ก.ค.ศ. กำหนด ใหส้ ำนกั งำนศึกษำธิกำรจงั หวดั แจง้ ผลกำรพจิ ำรณำพร้อมทั้งข้อสงั เกตกำรประเมิน และเอกสำรหลักฐำน ท่ี เก่ียวข้องไปยังสำนักงำนเขตพ้นที่กำรศึกษำ เพ่อแจง้ ผขู้ อทรำบ

๖๗ ๒.๓ ให้แต่งต้ังข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำในจังหวัดน้ันที่มีวิทยฐำนะไม่ต่ำกว่ำ วิทยฐำนะท่ีผู้ดำรงตำแหน่งครูขอรับกำรประเมิน เป็นผู้ร่วมประเมินสรปุ ผลกำรตรวจสอบและประเมิน ตำแหนง่ ครู (๕ ปีกำรศึกษำ) กรณีท่ีผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำมีวิทยฐำนะต่ำกว่ำวิทยฐำนะท่ีผู้ดำรงตำแหน่งครูขอรับกำร ประเมิน ขัน้ ตอนที่ ๔ การดาเนินการในระดับสานักงาน ก.ค.ศ. และ ก.ค.ศ. ๑. เม่อสำนกั งำน ก.ค.ศ. ได้รับคำขอเลอ่ นเป็นวทิ ยฐำนะครเู ชย่ี วชำญหรอวทิ ยฐำนะครูเช่ยี วชำญ พิเศษ พร้อมทง้ั เอกสำรหลักฐำน จำนวน ๔ ชุด ดงั น้ี ๑.๑ คำขอมีวิทยฐำนะหรอเล่อนวิทยฐำนะ ตำแหนง่ ครู ตำมแบบคำขอมีวิทยฐำนะหรอเลอ่ น วทิ ยฐำนะ ตำแหน่งครู (วฐ.๑) ๑.๒ สรปุ ผลกำรตรวจสอบและประเมิน ตำแหนง่ ครู (๕ ปีกำรศกึ ษำ) ตำมแบบ วฐ.๓ ๑.๓ มติ กศจ. คร้ังทีเ่ กี่ยวข้องและมีกำรรบั รองสำเนำถูกต้อง ๑.๔ ผลงำนทำงวชิ ำกำร ๒. สำนักงำน ก.ค.ศ. ตรวจสอบคุณสมบตั ิ ผลกำรประเมิน และเอกสำรหลกั ฐำนตำมท่สี ำนกั งำน ศึกษำธิกำรจังหวัดส่งมำให้ถูกตอ้ ง ครบถ้วนตำมหลกั เกณฑและวธิ ีกำรนี้เพ่อเสนอ ก.ค.ศ. พิจำรณำต่อไป ๓. ก.ค.ศ. พิจำรณำ ดังน้ี ๓.๑ ต้งั คณะกรรมกำรประเมินผลงำนทำงวชิ ำกำร จำกผทู้ รงคุณวุฒิทม่ี คี วำมรู้ ควำมสำมำรถ และเช่ยี วชำญในสำขำวิชำที่จะตรวจและประเมิน โดยผ้ขู อ ๑ รำย ใหม้ คี ณะกรรมกำรประเมนิ จำนวน ๓ คน ๓.๒ กรณีคณะกรรมกำรประเมินผลงำนทำงวิชำกำร พิจำรณำแล้วเหนควรให้ปรบั ปรุงผลงำน ทำงวิชำกำร ต้องมีผลกำรประเมินผ่ำนเกณฑตำมที่ ก.ค.ศ. กำหนด ไม่น้อยกว่ำ ๒ ใน ๓ คน ท้ังนี้ ผลงำนทำง วชิ ำกำรต้องอยู่ในวสิ ยั ท่ีสำมำรถปรบั ปรุงได้ และ ก.ค.ศ. มีมติใหป้ รบั ปรุง กให้ปรับปรงุ ตำมข้อสังเกตของกรรมกำร ได้ ไม่เกิน ๒ คร้ัง ครั้งแรก ภำยใน ๖ เดอน และคร้ังที่ ๒ ภำยใน ๓ เดอน นับแต่วันที่สำนักงำน ก.ค.ศ. แจ้งมติ ก.ค.ศ. ให้สำนักงำนศกึ ษำธกิ ำรจังหวัดทรำบ เมอ่ ผูข้ อปรบั ปรงุ ผลงำนทำงวิชำกำรแล้ว ให้สำนักงำน ก.ค.ศ. เสนอคณะกรรมกำร ประเมินผลงำนทำงวิชำกำรชุดเดิม ตรวจและประเมนิ ต่อไป ๓.๓ กรณผี ขู้ อไม่สง่ ผลงำนทำงวชิ ำกำรทปี่ รบั ปรุงตำมขอ้ สังเกตภำยในระยะเวลำที่กำหนด หรอส่งพ้นระยะเวลำที่กำหนด ให้ถอว่ำสละสิทธ์ิ ๓.๔ กรณีคณะกรรมกำรประเมินผลงำนทำงวชิ ำกำร พิจำรณำแล้วเหนวำ่ ผลงำนทำงวชิ ำกำร มีคุณภำพและเป็นประโยชนในกำรจัดกำรเรียนกำรสอนต่อผู้เรียน อำจให้ผู้ขอมำนำเสนอกระบวนกำรและวิธีกำร ดำเนินกำรในเร่องดงั กลำ่ ว และคณะกรรมกำรอำจไปประเมนิ ณ สถำนท่ีปฏบิ ัติงำนจริงดว้ ยกได้ ๓.๕ กรณที ่ี ก.ค.ศ. มีมตอิ นุมตั ิ ให้สำนักงำน ก.ค.ศ. แจง้ มติไปยงั สำนักงำนศกึ ษำธิกำรจังหวัด เพ่อดำเนินกำรต่อไป สำหรับวิทยฐำนะครูเช่ียวชำญพิเศษ ให้ผู้บังคับบัญชำสูงสุดของส่วนรำชกำรท่ีผู้นั้นสังกัดอยู่ เป็นผู้ส่ังบรรจุและให้รัฐมนตรีเจ้ำสังกัดนำเสนอนำยกรัฐมนตรี เพ่อนำควำมกรำบบังคมทูลเพ่อทรงพระกรุณำ โปรดเกลำ้ ฯ แต่งต้งั ให้เลอ่ นเป็นวิทยฐำนะครเู ช่ียวชำญพิเศษ ตอ่ ไป ๓.๖ กรณีท่ี ก.ค.ศ. มีมติไม่อนุมัติ ให้สำนักงำน ก.ค.ศ. แจ้งมติพร้อมท้ังข้อสังเกตให้สำนักงำน ศกึ ษำธกิ ำรจงั หวดั เพอ่ ใหส้ ำนักงำนเขตพน้ ท่กี ำรศึกษำ แจง้ ผู้ขอทรำบต่อไป

๖๘ แนวปฏิบัตกิ ารขอมวี ิทยฐานะและเล่อื นวิทยฐานะในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผา่ น ในช่วงระยะเวลำเปล่ียนผ่ำนจำกหลักเกณฑและวิธีกำรให้ข้ำรำชกำรครูบุคลำกรทำงกำรศึกษำ มี วิทยฐำนะและเล่อนวิทยฐำนะ ตำมหนังสอสำนักงำน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ที่ ศธ ๐๒๐๖.๔/ว ๑๗ ลงวันที่ ๓๐ กนั ยำยน ๒๕๕๒ มำใชห้ ลักเกณฑและวิธีกำรให้ข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ตำแหน่งครู มีวิทยฐำนะ และเล่อนวิทยฐำนะ ตำมหนังสอสำนักงำน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ ๐๒๐๖.๓/ว ๒๑ ลงวันที่ ๕ กรกฎำคม ๒๕๖๐ ให้ผู้ดำรง ตำแหน่งครูอยู่ก่อนวันที่ ๕ กรกฎำคม ๒๕๖๐ ท่ีมีคุณสมบตั ิตำมที่ ก.ค.ศ. กำหนด สำมำรถย่นคำขอ มีวิทยฐำนะ หรอเลอ่ นวิทยฐำนะ ตำมหนงั สอสำนักงำน ก.ค.ศ. ด่วนทสี่ ุด ท่ี ศธ ๐๒๐๖.๔/ว ๑๗ ลงวันท่ี ๓๐ กนั ยำยน ๒๕๕๒ หรอตำมหลักเกณฑและวิธีกำรฯ ตำมหนังสอสำนักงำน ก.ค.ศ. ที่ ศธ ๐๒๐๖.๓/ว ๒๑ ลงวันที่ ๕ กรกฎำคม ๒๕๖๐ ได้ โดยมแี นวปฏบิ ตั ิ ดังนี้ การขอมีวิทยฐานะและเล่ือนวิทยฐานะ ตามหนงั สือสานักงาน ก.ค.ศ. ดว่ นทส่ี ดุ ที่ ศธ ๐๒๐๖.๔/ว ๑๗ ลงวนั ท่ี ๓๐ กันยายน ๒๕๕๒ ก.ค.ศ. กำหนดแนวปฏิบัติในกำรขอมีวิทยฐำนะหรอเล่อนวิทยฐำนะ สำหรับผู้ดำรงตำแหน่งครู ในช่วงระยะเวลำเปลี่ยนผ่ำน ท่ีมีคุณสมบัติครบตำมหลักเกณฑและวิธีกำรฯ ตำมหนังสอสำนักงำน ก.ค.ศ. ด่วนทสี่ ุด ที่ ศธ ๐๒๐๖.๔/ว ๑๗ ลงวนั ที่ ๓๐ กันยำยน ๒๕๕๒ ไวด้ งั น้ี กรณผี ดู้ ำรงตำแหน่งครู ไดย้ น่ คำขอมวี ิทยฐำนะหรอเล่อนวิทยฐำนะตำมหลักเกณฑและวธิ ีกำรฯ ท่ี ก.ค.ศ. กำหนดไว้เดิม ก่อนวันที่หลักเกณฑและวิธีกำรนี้ใช้บังคับ แต่ยังดำเนินกำรไม่แล้วเสรจ ให้ดำเนินกำร ตำมหลักเกณฑและวธิ ีกำรเดมิ นน้ั ต่อไปจนกว่ำจะแลว้ เสรจ สำหรับกำรขอมีวิทยฐำนะหรอเล่อนวิทยฐำนะตำมหลักเกณฑและวิธีกำรฯ ตำมหนังสอ สำนกั งำน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ที่ ศธ ๐๒๐๖.๔/ว ๑๗ ลงวนั ที่ ๓๐ กนั ยำยน ๒๕๕๒ หรอตำมหลักเกณฑและวธิ ีกำรนี้ ในครง้ั ตอ่ ไป ใหด้ ำเนนิ กำรดงั นี้ ๑. ผู้ประสงคจะขอมีวิทยฐำนะหรอเล่อนวิทยฐำนะตำมหลักเกณฑและวิธีกำรฯ ตำมหนังสอ สำนักงำน ก.ค.ศ. ด่วนท่ีสุด ที่ ศธ ๐๒๐๖.๔/ว ๑๗ ลงวันท่ี ๓๐ กันยำยน ๒๕๕๒ ให้สำมำรถย่นคำขอได้ ๑ ครั้ง เพยี งวิทยฐำนะเดยี ว ดงั น้ี ๑.๑ กรณีคำขอรับกำรประเมินที่ย่นไว้เดิม ได้รับกำรอนุมัติ และในวันที่มีหนังสอแจ้งมติ มีคุณสมบัติครบที่จะขอเล่อนวิทยฐำนะถัดไปได้อยู่แล้ว ให้ย่นคำขอ ภำยใน ๑ ปี นับแต่วันที่มีหนังสอแจ้งมติน้ัน แต่หำกวันท่ีมีหนังสอแจ้งมติดังกล่ำว ยังมีคุณสมบัติไม่ครบท่ีจะขอเล่อนวิทยฐำนะถัดไป ให้ย่นคำขอ ภำยใน ๑ ปี นับแต่วันท่มี คี ณุ สมบัตคิ รบ ๑.๒ กรณีคำขอรับกำรประเมินที่ย่นไว้เดิม ไม่ได้รับกำรอนุมัติ ให้ย่นคำขอได้ ภำยใน ๑ ปี นับแต่วันทม่ี ีหนังสอแจ้งมติ ๒. กรณีผู้ดำรงตำแหน่งครูอยู่ก่อนวันที่หลักเกณฑและวิธีกำรน้ีใช้บังคับ หำกมีคุณสมบัติครบ ตำมหลักเกณฑและวิธีกำรฯ ท่ี ก.ค.ศ. กำหนดไว้เดิม และตำมหลักเกณฑและวิธีกำรนี้ด้วย ให้ย่นคำขอได้ตำม หลักเกณฑใดหลกั เกณฑหนึ่งเพยี งหลกั เกณฑเดยี ว กรณีที่ได้ย่นคำขอมีวิทยฐำนะหรอเล่อนวิทยฐำนะตำมหลักเกณฑและวิธีกำรฯ ที่ ก.ค.ศ. กำหนด ไวเ้ ดมิ กอ่ นวันท่หี ลักเกณฑและวิธกี ำรน้ใี ชบ้ งั คับ แต่กำรดำเนินกำรพิจำรณำยงั ไม่แล้วเสรจ หำกผ้นู ้นั ประสงคจะย่น

๖๙ คำขอรับกำรประเมินตำมหลักเกณฑและวิธีกำรน้ี ให้มีหนังสอแจ้งยกเลิกคำขอตำมหลักเกณฑและวิธีกำรฯ เดิม โดยย่นตอ่ สำนกั งำนเขตพ้นท่ีกำรศึกษำ ส่วนรำชกำร หรอสำนักงำน ก.ค.ศ. แล้วแตก่ รณี ๓. กรณีผู้ดำรงตำแหน่งครูมีคุณสมบัติเฉพำะสำหรับวิทยฐำนะที่จะขอรับกำรประเมิน ตำม หลักเกณฑและวิธีกำรฯ ตำมหนังสอสำนักงำน ก.ค.ศ. ด่วนท่ีสุด ที่ ศธ ๐๒๐๖.๔/ว ๑๗ ลงวันที่ ๓๐ กันยำยน ๒๕๕๒ อยู่ก่อนวันท่ีหลักเกณฑและวิธีกำรนี้ใช้บังคับ หำกประสงคจะขอมีวิทยฐำนะหรอเล่อนวิทยฐำนะตำม หลักเกณฑและวิธีกำรฯ ตำมหนังสอสำนักงำน ก.ค.ศ. ด่วนท่ีสุด ท่ี ศธ ๐๒๐๖.๔/ว ๑๗ ลงวันที่ ๓๐ กันยำยน ๒๕๕๒ ใหส้ ำมำรถยน่ คำขอได้ภำยใน ๑ ปี นบั แตว่ นั ท่หี ลกั เกณฑและวิธีกำรน้ใี ช้บงั คับ ๔. กรณีผู้ดำรงตำแหน่งครูมีคุณสมบัติเฉพำะสำหรับวิทยฐำนะท่ีจะขอรับกำรประเมินตำม หลักเกณฑและวิธีกำรฯ ตำมหนังสอสำนักงำน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ที่ ศธ ๐๒๐๖.๔/ว ๑๗ ลงวันที่ ๓๐ กันยำยน ๒๕๕๒ ต้ังแต่วันที่หลักเกณฑและวิธีกำรน้ีใช้บังคับเป็นต้นไป หำกประสงคจะขอมีวิทยฐำนะหรอเล่อนวิทยฐำนะ ตำมหลักเกณฑ และวิธกี ำรฯ ตำมหนงั สอสำนักงำน ก.ค.ศ. ด่วนทส่ี ดุ ที่ ศธ ๐๒๐๖.๔/ว ๑๗ ลงวันท่ี ๓๐ กนั ยำยน ๒๕๕๒ ใหส้ ำมำรถยน่ คำขอได้ภำยใน ๑ ปี นบั แตว่ นั ทมี่ ีคุณสมบตั ิครบ ๕. ผู้ดำรงตำแหน่งครู ตั้งแต่วันท่ีหลักเกณฑและวิธีกำรน้ีใช้บังคับเป็นต้นไป กำรดำเนินกำรขอมี วิทยฐำนะและเล่อนวิทยฐำนะ ให้ดำเนินกำรตำมหลักเกณฑและวิธีกำรนี้ เว้นแต่ผู้ท่ีมีกรณีเป็นไปตำมเง่อนไข ท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ตำมหนังสอสำนักงำน ก.ค.ศ. ที่ ศธ ๐๒๐๖.๓/ว ๒๖ ลงวันท่ี ๓๐ ธันวำคม ๒๕๕๙ หำกประสงค จะขอมีวิทยฐำนะครูชำนำญกำร ตำมหลักเกณฑและวิธีกำรฯ ตำมหนังสอสำนักงำน ก.ค.ศ. ด่วนท่ีสุด ที่ ศธ ๐๒๐๖.๔/ว ๑๗ ลงวันท่ี ๓๐ กันยำยน ๒๕๕๒ ใหส้ ำมำรถย่นคำขอได้ ๑ ครั้ง ภำยใน ๑ ปี นบั แตว่ นั ทมี่ ีคณุ สมบัติ ครบ ๖. ผู้ท่ีได้ย่นคำขอรับกำรประเมินตำมหลักเกณฑและวิธีกำรฯ ตำมหนังสอสำนักงำน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ท่ี ศธ ๐๒๐๖.๔/ว ๑๗ ลงวันที่ ๓๐ กันยำยน ๒๕๕๒ ในช่วงระยะเวลำเปล่ียนผ่ำนไปแล้ว หรอมิได้ย่น คำขอรับกำรประเมิน ภำยในระยะเวลำที่กำหนดตำมข้อ ๑ ข้อ ๓ ข้อ ๔ และข้อ ๕ ของแนวปฏิบัติกำรดำเนินกำร ในช่วงระยะเวลำเปล่ียนผ่ำนแล้วแต่กรณี กำรดำเนินกำรขอมีวิทยฐำนะและเล่อนวิทยฐำนะต่อไป ให้ดำเนินกำร ตำมหลักเกณฑและวิธีกำรนี้

๗๐ การขอมีวทิ ยฐานะและเล่ือนวทิ ยฐานะ ตามหนังสือสานกั งาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ ๐๒๐๖.๓/ว ๒๑ ลงวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ก.ค.ศ. กำหนดแนวปฏิบัติในกำรขอมีวิทยฐำนะหรอเล่อนวิทยฐำนะ สำหรับผู้ดำรงตำแหน่งครู ในช่วงระยะเวลำเปลี่ยนผ่ำน ที่มีคุณสมบัติครบตำมหลักเกณฑและวิธีกำรฯ ตำมหนังสอสำนักงำน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ ๐๒๐๖.๓/ว ๒๑ ลงวันที่ ๕ กรกฎำคม ๒๕๖๐ ใหต้ รวจสอบและดำเนินกำร ดงั นี้ ๑. คณุ สมบตั ิ ใหผ้ ู้ขอมีวิทยฐำนะหรอเล่อนวทิ ยฐำนะ ตรวจสอบคุณสมบัติใหเ้ ป็นไปตำมท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ดงั น้ี ๑.๑ ระยะเวลำกำรดำรงตำแหน่งครู วทิ ยฐำนะครูชำนำญกำร ตอ้ งดำรงตำแหน่งครู มำแลว้ ไม่น้อยกว่ำ ๕ ปี นบั ถงึ วนั ทย่ี ่นคำขอ หรอดำรงตำแหน่งอ่นท่ี ก.ค.ศ. เทียบเทำ่ วทิ ยฐำนะครูชำนำญกำรพิเศษ ต้องดำรงตำแหนง่ ครูทีม่ ีวิทยฐำนะครูชำนำญกำรมำแล้ว ไมน่ อ้ ยกว่ำ ๕ ปี นบั ถึงวนั ที่ย่นคำขอ หรอดำรงตำแหน่งอน่ ที่ ก.ค.ศ. เทียบเทำ่ วทิ ยฐำนะครูเชี่ยวชำญ ต้องดำรงตำแหนง่ ครทู ่ีมวี ิทยฐำนะครูชำนำญกำรพิเศษ มำแลว้ ไมน่ อ้ ยกว่ำ ๕ ปี นบั ถึงวันท่ีย่นคำขอ หรอดำรงตำแหนง่ อน่ ท่ี ก.ค.ศ. เทยี บเทำ่ วทิ ยฐำนะครูเชี่ยวชำญพเิ ศษ ตอ้ งดำรงตำแหน่งครูท่มี วี ทิ ยฐำนะครเู ชยี่ วชำญ มำแล้ว ไม่น้อยกว่ำ ๕ ปี นบั ถงึ วันท่ีย่นคำขอ หรอดำรงตำแหน่งอ่นท่ี ก.ค.ศ. เทียบเทำ่ ๑.๒ มีจำนวนชั่วโมงกำรปฏิบตั งิ ำนสะสมในตำแหน่งหรอวทิ ยฐำนะท่ีดำรงอยใู่ นปจั จบุ ัน ย้อนหลงั เป็นเวลำ ๕ ปี นับถงึ วนั ที่ยน่ คำขอ ดงั น้ี ๑.๒.๑ กำรขอมวี ิทยฐำนะครูชำนำญกำรหรอเล่อนเป็นวทิ ยฐำนะครูชำนำญกำรพิเศษ ตอ้ งมภี ำระงำนสอน ตำมหนงั สอสำนักงำน ก.ค.ศ. ด่วนท่สี ุด ท่ี ศธ ๐๒๐๖.๓/๓๗๒๔-๓๗๒๕ ลงวนั ท่ี ๒๑ กันยำยน ๒๕๕๓ สะสมยอ้ นหลังเปน็ เวลำ ๕ ปี รวมกนั ไม่นอ้ ยกวำ่ ๔,๐๐๐ ช่วั โมง ๑.๒.๒ กำรขอเล่อนเป็นวิทยฐำนะครเู ชี่ยวชำญหรอวทิ ยฐำนะครูเช่ยี วชำญพิเศษ ตอ้ งมี ภำระงำนสอน ตำมหนังสอสำนกั งำน ก.ค.ศ. ด่วนทสี่ ุด ที่ ศธ ๐๒๐๖.๓/๓๗๒๔-๓๗๒๕ ลงวันที่ ๒๑ กนั ยำยน ๒๕๕๓ สะสมย้อนหลัง เป็นเวลำ ๕ ปี รวมกนั ไมน่ อ้ ยกวำ่ ๔,๕๐๐ ชว่ั โมง ๑.๓ มวี นิ ยั คณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยำบรรณวชิ ำชีพ โดยไม่เคยถูกลงโทษทำงวนิ ัย หรอ จรรยำบรรณวิชำชีพ ในชว่ งระยะเวลำยอ้ นหลัง ๕ ปี นบั ถงึ วันท่ยี ่นคำขอ ในกรณีที่ผ้ดู ำรงตำแหนง่ ครู อยูร่ ะหว่ำงถูกดำเนินกำรทำงวนิ ยั หรอจรรยำบรรณวิชำชพี โดยยงั ไมม่ ีคำส่ังลงโทษ ให้ถอวำ่ ผูน้ ้ันมคี ณุ สมบตั ิในข้อน้ี ๑.๔ ผ่ำนกำรพฒั นำตำมหลกั เกณฑและวธิ กี ำรที่ ก.ค.ศ. กำหนด ซ่ึงหลกั เกณฑและวิธกี ำร พฒั นำขำ้ รำชกำรครูและบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ ตำมหนงั สอสำนักงำน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ ๐๒๐๖.๗/ว ๒๒ ลงวันท่ี ๕ กรกฎำคม ๒๕๖๐ กำหนดกำรดำเนนิ กำรในช่วงระยะเวลำเปลีย่ นผำ่ น ไวด้ งั นี้ ๑.๔.๑ ผลกำรพัฒนำตำมหลกั เกณฑและวิธกี ำรพัฒนำขำ้ รำชกำรครูและบุคลำกรทำง กำรศกึ ษำ ก่อนแตง่ ตง้ั ใหม้ ีและเลอ่ นเปน็ วทิ ยฐำนะชำนำญกำรพิเศษ และวิทยฐำนะเชี่ยวชำญ ตำมหนงั สอ

๗๑ สำนักงำน ก.ค.ศ. ที่ ศธ ๐๒๐๖.๗/ว ๓ ลงวันที่ ๗ เมษำยน ๒๕๕๔ ที่ยังอยู่ภำยในเวลำ ๓ ปี นับแต่วันที่สำเรจ หลักสตู รกำรพัฒนำ ให้สำมำรถนำมำใช้เปน็ คุณสมบัติในกำรขอมีวิทยฐำนะและเล่อนวิทยฐำนะ และกำรแต่งต้ังให้ มีวทิ ยฐำนะ และเลอ่ นวิทยฐำนะ ตำมหลักเกณฑและวิธีกำรฯ น้ี ได้อกี ๑ ครงั้ ๑.๔.๒ ผู้ดำรงตำแหน่งครูหรอดำรงวิทยฐำนะมำแล้ว ไม่น้อยกว่ำ ๕ ปี ท่ีมีผลกำรพัฒนำ ขำ้ รำชกำรครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำก่อนแต่งตง้ั ให้มีและเล่อนเป็นวิทยฐำนะชำนำญกำรพิเศษ และวิทยฐำนะ เช่ียวชำญ ตำมหนังสอสำนักงำน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ ๐๒๐๖.๗/ว ๓ ลงวันท่ี ๗ เมษำยน ๒๕๕๔ หำกพ้นกำหนดเวลำ ๓ ปี นับแต่วันท่ีสำเรจหลกั สูตรกำรพัฒนำแล้ว หรอไม่เคยเข้ำรบั กำรพัฒนำตำมหลกั เกณฑและวธิ กี ำรดังกล่ำว ให้ เข้ำรับกำรพัฒนำตำมหลักสูตรท่ีสถำบันคุรุพัฒนำรับรอง จำนวน ๒๐ ช่ัวโมง เพ่อใช้เป็นคุณสมบัติในกำรขอมี วิทยฐำนะและเล่อนวิทยฐำนะ และกำรแต่งตั้งให้มีวิทยฐำนะและเล่อนวิทยฐำนะ ตำมหลักเกณฑและวิธีกำรฯ น้ี ได้อีก ๑ ครัง้ ๑.๕ มีผลงำนที่เกิดจำกกำรปฏิบัติหน้ำท่ี สำยงำนกำรสอน ในช่วงระยะเวลำย้อนหลัง ๕ ปี กำรศึกษำติดต่อกัน นับถึงวันสิ้นปีกำรศึกษำก่อนวันที่ย่นคำขอ ทั้งน้ี ให้ผู้ขอรับกำรประเมิน รำยงำนผลงำนที่เกิด จำกกำรปฏิบัติหน้ำที่เป็นรำยปีกำรศึกษำ ย้อนหลัง ๕ ปีกำรศึกษำ และรับรองข้อมูลดังกล่ำว ตำมแบบรำยงำน ผลงำนทเ่ี กดิ จำกกำรปฏบิ ัตหิ นำ้ ที่ ตำแหนง่ ครู รำยปกี ำรศึกษำ (วฐ.๒) ๒. การยนื่ คาขอรับการประเมิน ผดู้ ำรงตำแหนง่ ครูทม่ี ีคุณสมบัติตำมข้อ ๑ และประสงคจะขอมีวิทยฐำนะหรอเล่อนวิทยฐำนะ ให้ย่นคำขอรับกำรประเมินต่อสถำนศึกษำได้ตลอดปี รอบปีละ ๑ ครั้ง พร้อมเอกสำรหลักฐำนที่เก่ียวข้อง เพ่อ ประกอบ กำรพิจำรณำ ดงั น้ี ๒.๑ วิทยฐานะครชู านาญการและวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ ให้ย่นคำขอ พร้อม เอกสำรหลกั ฐำนท่ีเกี่ยวข้อง จำนวน ๒ ชดุ ดงั น้ี ๒.๑.๑ คำขอมีวทิ ยฐำนะหรอเล่อนวิทยฐำนะ ตำแหน่งครู ตำมแบบคำขอมวี ิทยฐำนะ หรอเล่อนวทิ ยฐำนะ ตำแหน่งครู (วฐ.๑) ๒.๑.๒ รำยงำนผลงำนท่ีเกดิ จำกกำรปฏิบัติหน้ำที่ ตำแหนง่ ครู รำยปีกำรศึกษำ (วฐ.๒) จำนวน ๕ ปีกำรศึกษำ โดยแยกรำยงำนเปน็ รำยปีกำรศึกษำ ๒.๑.๓ บันทึกประวตั ิกำรปฏบิ ตั ิงำน (Logbook) เฉพำะกรณีทไ่ี ด้มีกำรบันทึกประวัติ กำรปฏิบัติงำน ต้งั แตว่ ันที่ ๕ กรกฎำคม ๒๕๖๐ เปน็ ต้นไป ๒.๑.๔ เอกสำรหลกั ฐำนอน่ ทีเ่ กี่ยวขอ้ ง เช่น สำเนำทะเบียนประวตั ขิ ำ้ รำชกำร (ก.พ. ๗) หรอ ก.ค.ศ. ๑๖ ตำรำงสอน คำสัง่ มอบหมำยงำน วฒุ ิบตั รผ่ำนกำรพฒั นำ เปน็ ตน้ ๒.๒ วิทยฐานะครูเชย่ี วชาญและวิทยฐานะครูเชย่ี วชาญพิเศษ ให้ยน่ คำขอ พร้อมเอกสำร หลกั ฐำน ทีเ่ กี่ยวขอ้ ง จำนวน ๔ ชุด ดังนี้ ๒.๒.๑ คำขอมวี ทิ ยฐำนะหรอเล่อนวิทยฐำนะ ตำแหนง่ ครู ตำมแบบคำขอมวี ิทยฐำนะ หรอเลอ่ นวทิ ยฐำนะ ตำแหนง่ ครู (วฐ.๑) ๒.๒.๒ รำยงำนผลงำนท่เี กดิ จำกกำรปฏิบตั หิ นำ้ ที่ ตำแหนง่ ครู รำยปีกำรศกึ ษำ (วฐ.๒) จำนวน ๕ ปกี ำรศกึ ษำ โดยแยกรำยงำนเป็นรำยปีกำรศึกษำ

๗๒ ๒.๒.๓ ผลงำนทำงวิชำกำร จำนวนไมน่ อ้ ยกวำ่ ๒ รำยกำร ตำมหลกั เกณฑท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ๒.๒.๔ บนั ทึกประวตั กิ ำรปฏิบตั ิงำน (Logbook) เฉพำะกรณีท่ไี ด้มีกำรบันทึกประวตั ิ กำรปฏิบัตงิ ำน ตัง้ แต่วันท่ี ๕ กรกฎำคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป ๒.๒.๕ เอกสำรหลกั ฐำนอน่ ท่เี ก่ียวขอ้ ง เช่น สำเนำทะเบยี นประวัติขำ้ รำชกำร (ก.พ. ๗) หรอ ก.ค.ศ. ๑๖ ตำรำงสอน คำสัง่ มอบหมำยงำน วฒุ บิ ตั รผำ่ นกำรพัฒนำ เปน็ ต้น ๒.๓ การขอมีวทิ ยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ สาหรบั ผูที่จะเกษียณอายุราชการในปที ข่ี อ ๒.๓.๑ ผู้ขอมวี ิทยฐำนะครชู ำนำญกำรและเลอ่ นเปน็ วิทยฐำนะครชู ำนำญกำรพิเศษ ให้ ย่นคำขอพร้อมเอกสำรหลกั ฐำน ตำมขอ้ ๒.๑ ต่อสถำนศกึ ษำ เพ่อตรวจสอบและรับรองแลว้ เสนอผบู้ ังคับบัญชำ ตำมลำดบั ถึงสำนักงำนศึกษำธิกำรจงั หวัด ก่อนทจี่ ะเกษียณอำยุรำชกำรไมน่ ้อยกวำ่ ๖ เดอน ๒.๓.๒ ผูข้ อเล่อนเปน็ วิทยฐำนะครเู ชีย่ วชำญและวิทยฐำนะครูเชี่ยวชำญพเิ ศษ ใหย้ น่ คำขอ พร้อมเอกสำรหลักฐำน ตำมขอ้ ๒.๒ ตอ่ สถำนศึกษำ เพ่อตรวจสอบและรบั รองแลว้ เสนอผู้บังคับบญั ชำ ตำมลำดบั ถงึ สำนักงำน ก.ค.ศ. กอ่ นท่ีจะเกษยี ณอำยุรำชกำรไม่น้อยกว่ำ ๖ เดอน ๓. คณะกรรมการตรวจสอบและกลน่ั กรองขอมูล ให้ผ้อู ำนวยกำรสถำนศกึ ษำตัง้ คณะกรรมกำรจำกขำ้ รำชกำรครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศกึ ษำ ใน สถำนศึกษำนั้นหรอนอกสถำนศกึ ษำ เพ่อตรวจสอบและกลนั่ กรองข้อมูลที่ผูด้ ำรงตำแหน่งครู รำยงำนในแต่ละ ปี กำรศึกษำ ได้แก่ ระยะเวลำกำรดำรงตำแหน่ง กำรดำรงวิทยฐำนะ ชั่วโมงกำรปฏิบัติงำน กำรมีวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยำบรรณวิชำชีพ กำรพัฒนำ ผลกำรประเมินผลงำนท่ีเกิดจำกกำรปฏิบัติหน้ำท่ี ๓ ด้ำน รวม ๑๓ ตัวชี้วัด ได้แก่ ด้ำนกำรจัดกำรเรียนกำรสอน ด้ำนกำรบริหำรจัดกำรช้ันเรียน และด้ำนกำรพัฒนำตนเองและพัฒนำ วิชำชพี พร้อมทง้ั เสนอควำมเหนต่อผอู้ ำนวยกำรสถำนศึกษำหรอผปู้ ระเมิน เพ่อประกอบกำรพิจำรณำต่อไป ๔. การประเมิน กำรประเมิน ใหผ้ อู้ ำนวยกำรสถำนศึกษำหรอผูป้ ระเมินดำเนนิ กำร ดงั น้ี ๔.๑ ตรวจสอบคณุ สมบตั ิของผู้ขอรบั กำรประเมินใหเ้ ปน็ ไปตำมคุณสมบตั ิขอ้ ๑ ๔.๒ ประเมินผลงำนที่เกิดจำกกำรปฏิบัติหน้ำท่ีของผู้ขอรับกำรประเมิน ๕ ปีกำรศึกษำ โดย แยกประเมินเป็นรำยปีกำรศึกษำ (ตำมแบบ วฐ.๒) และนำผลกำรประเมินดังกล่ำวบันทึกลงในแบบสรุปผลกำร ตรวจสอบและประเมิน (วฐ.๓) ๔.๓ แจง้ ผลกำรประเมินใหผ้ ู้ขอรับกำรประเมนิ ทรำบ กรณีทีผ่ ขู้ อรบั กำรประเมินไม่เหนด้วย กับผลกำรประเมินน้ัน ให้เปิดโอกำสให้ช้ีแจง หำกผู้ประเมินพิจำรณำแล้วเหนว่ำ ผลกำรประเมินถูกต้องตรงตำม ควำมเป็นจริงแล้ว แต่ผู้นั้นมีควำมเหนไม่สอดคล้องกับผู้ประเมิน ให้แจ้งไปยังสำนักงำนเขตพ้นท่ีกำรศึกษำเพ่อ แตง่ ตั้งคณะกรรมกำรตรวจสอบผลกำรประเมนิ เมอ่ ไดข้ ้อยุติเป็นประกำรใดให้ถอเปน็ อันส้นิ สุด ๔.๔ ส่งเอกสำรหลกั ฐำนท่ีเก่ยี วข้องให้สำนักงำนเขตพน้ ท่ีกำรศึกษำ ดงั น้ี ๔.๔.๑ วทิ ยฐานะครูชานาญการและวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ (จำนวน ๒ ชดุ ) ๔.๔.๑.๑ คำขอมวี ทิ ยฐำนะหรอเล่อนวทิ ยฐำนะ ตำแหนง่ ครู ตำมแบบคำขอมี วทิ ยฐำนะหรอเลอ่ นวทิ ยฐำนะ ตำแหนง่ ครู (วฐ.๑)

๗๓ ๔.๔.๑.๒ สรปุ ผลกำรตรวจสอบและประเมิน ตำแหน่งครู (๕ ปกี ำรศึกษำ) ตำม แบบ วฐ.๓ ๔.๔.๑.๓ บันทึกประวตั ิกำรปฏิบัติงำน (Logbook) เฉพำะกรณีทไี่ ด้มกี ำร บนั ทึกประวตั ิกำรปฏบิ ัตงิ ำน ต้งั แตว่ นั ท่ี ๕ กรกฎำคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป ๔.๔.๑.๔ เอกสำรหลกั ฐำนอน่ ที่เกย่ี วข้อง เช่น สำเนำทะเบียนประวัติ ข้ำรำชกำร (ก.พ. ๗) หรอ ก.ค.ศ. ๑๖ ตำรำงสอน คำสัง่ มอบหมำยงำน วุฒิบัตรผ่ำนกำรพัฒนำ เปน็ ตน้ ๔.๔.๒ วิทยฐานะครเู ช่ียวชาญและวิทยฐานะครูเช่ียวชาญพิเศษ (จำนวน ๔ ชุด) ๔.๔.๒.๑ คำขอมวี ทิ ยฐำนะหรอเล่อนวทิ ยฐำนะ ตำแหน่งครู ตำมแบบคำขอมี วทิ ยฐำนะหรอเล่อนวทิ ยฐำนะ ตำแหนง่ ครู (วฐ.๑) ๔.๔.๒.๒ สรุปผลกำรตรวจสอบและประเมนิ ตำแหนง่ ครู (๕ ปกี ำรศึกษำ) ตำม แบบ วฐ.๓ ๔.๔.๒.๓ บนั ทกึ ประวัติกำรปฏบิ ตั งิ ำน (Logbook) เฉพำะกรณีท่ีไดม้ ีกำรบนั ทึก ประวัติกำรปฏบิ ตั ิงำน ตั้งแต่วนั ที่ ๕ กรกฎำคม ๒๕๖๐ เปน็ ต้นไป ๔.๔.๒.๔ ผลงำนทำงวิชำกำร จำนวนไมน่ ้อยกวำ่ ๒ รำยกำร ตำมหลักเกณฑท่ี ก.ค.ศ.กำหนด ๔.๔.๒.๕ เอกสำรหลกั ฐำนอ่นที่เกย่ี วข้อง เช่น สำเนำทะเบียนประวตั ิข้ำรำชกำร (ก.พ. ๗) หรอ ก.ค.ศ. ๑๖ ตำรำงสอน คำสัง่ มอบหมำยงำน วุฒบิ ตั รผำ่ นกำรพัฒนำ เป็นต้น ๔.๕ กรณที ่ีผดู้ ำรงตำแหนง่ ครูได้ยน่ คำขอมีวิทยฐำนะหรอเล่อนวิทยฐำนะ หำกผู้อำนวยกำร สถำนศึกษำมีวิทยฐำนะต่ำกว่ำวิทยฐำนะท่ีขอ ให้สถำนศึกษำแจ้งสำนักงำนเขตพ้นท่ีกำรศึกษำเพ่อเสนอ กศจ. แต่งตั้งข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำในจังหวัดน้ัน ที่มีวิทยฐำนะไม่ต่ำกว่ำวิทยฐำนะท่ีขอ เป็นผู้ร่วม ประเมินสรุปผลกำรตรวจสอบและประเมิน ตำแหน่งครู ๕ ปีกำรศึกษำ ๕. การดาเนินการของสานักงานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษา เมอ่ สำนักงำนเขตพน้ ท่ีกำรศึกษำได้รับคำขอพร้อมทั้งเอกสำรหลักฐำนแลว้ ใหด้ ำเนนิ กำร ดังนี้ ๕.๑ ตรวจสอบเอกสำรหลักฐำนที่เก่ียวข้องตำมข้อ ๔.๔ ให้ถูกต้องและครบถ้วน กรณีที่ ตรวจสอบแล้วปรำกฏว่ำเอกสำรหลักฐำนไม่ถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ ให้สำนักงำนเขตพ้นที่กำรศึกษำแจ้ง สถำนศกึ ษำจดั ส่งขอ้ มลู หรอเอกสำรหลักฐำนเพิ่มเติมได้ ๕.๒ ตรวจสอบคุณสมบตั ิของผูข้ อมวี ทิ ยฐำนะหรอเล่อนวิทยฐำนะให้เปน็ ไปตำมคุณสมบัตขิ ้อ ๑ และให้ผู้อำนวยกำรสำนักงำนเขตพ้นท่ีกำรศึกษำ ให้ควำมเหนว่ำเป็นผู้มีคุณสมบัติครบตำมหลักเกณฑหรอขำด คุณสมบัติ และบันทึกควำมเหนลงในแบบคำขอมีวิทยฐำนะหรอเล่อนวิทยฐำนะ ตำแหน่งครู (วฐ.๑) แล้วจัดส่ง เอกสำรหลกั ฐำนดงั กล่ำวให้สำนักงำนศกึ ษำธิกำรจังหวดั ดำเนินกำรต่อไป ๕.๓ กรณีท่ีสถำนศึกษำแจ้งว่ำผู้ดำรงตำแหน่งครู ไม่เหนด้วยกับผลกำรประเมินผลงำนท่ีเกิด จำกกำรปฏิบัติหน้ำที่ของผู้ประเมิน ให้สำนักงำนเขตพ้นที่กำรศึกษำต้ังคณะกรรมกำรตรวจสอบผลกำรประเมิน ของปกี ำรศกึ ษำน้ัน เม่อไดข้ อ้ ยุติเปน็ ประกำรใดใหถ้ อเป็นอนั สิน้ สุด

๗๔ ๕.๔ กรณีทส่ี ถำนศกึ ษำ แจ้งว่ำผ้ดู ำรงตำแหน่งครู ไดย้ ่นคำขอมีวทิ ยฐำนะหรอเล่อนวิทยฐำนะ แต่ผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำมีวิทยฐำนะต่ำกว่ำวิทยฐำนะท่ีขอ ให้สำนักงำนเขตพ้นที่กำรศึกษำแจ้งสำนักงำน ศึกษำธิกำรจังหวัด เพ่อนำเสนอ กศจ. แต่งต้ังข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำในจังหวัดนั้นท่ีมีวิทยฐำนะ ไม่ต่ำกวำ่ วทิ ยฐำนะที่ขอ เปน็ ผูร้ ่วมประเมนิ สรปุ ผลกำรตรวจสอบและประเมนิ ตำแหน่งครู ๕ ปกี ำรศกึ ษำ ๖. การดาเนนิ การของสานกั งานศึกษาธิการจงั หวัดและคณะกรรมการศึกษาธกิ ารจังหวดั ๖.๑ การดาเนินการของสานกั งานศึกษาธกิ ารจังหวัด เม่อสำนักงำนศึกษำธกิ ำรจังหวดั ไดร้ บั คำขอพร้อมทั้งเอกสำรหลกั ฐำนแล้ว ให้ดำเนินกำร ดังน้ี ๖.๑.๑ ตรวจสอบเอกสำรหลักฐำนที่เก่ียวข้องตำมข้อ ๔.๔ ให้ถูกต้องและครบถ้วน กรณีท่ี ตรวจสอบแล้วปรำกฏว่ำเอกสำรหลักฐำนไม่ถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ ให้สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด แจ้ง สำนกั งำนเขตพ้นที่กำรศกึ ษำจัดส่งขอ้ มลู หรอเอกสำรหลักฐำนเพ่ิมเติมได้ ๖.๑.๒ ตรวจสอบคณุ สมบตั ิของผขู้ อมีวิทยฐำนะหรอเล่อนวทิ ยฐำนะใหเ้ ป็นไปตำมคุณสมบัติ ขอ้ ๑ และหำกสำนักงำนศกึ ษำธิกำรจงั หวัด เหนวำ่ ผู้ขอรับกำรประเมนิ เปน็ ผู้มคี ุณสมบัตคิ รบตำมหลักเกณฑหรอ ขำดคุณสมบัติ ใหน้ ำเสนอ อกศจ. พจิ ำรณำใหค้ วำมเหนก่อนนำเสนอ กศจ. พิจำรณำต่อไป ๖.๑.๓ สำหรบั วิทยฐำนะครูเชีย่ วชำญและวทิ ยฐำนะครูเชีย่ วชำญพเิ ศษ เม่อ กศจ. มีมติวำ่ เปน็ ผู้มคี ณุ สมบัติตำมที่ ก.ค.ศ. กำหนด ใหส้ ำนักงำนศึกษำธิกำรจงั หวดั สง่ เอกสำรหลกั ฐำน จำนวน ๔ ชุด ไปยัง สำนกั งำน ก.ค.ศ. ภำยใน ๓๐ วัน นบั แต่วันท่ี กศจ. มมี ตเิ พอ่ เสนอ ก.ค.ศ. พจิ ำรณำ ดงั น้ี ๑) คำขอมีวทิ ยฐำนะหรอเลอ่ นวิทยฐำนะ ตำแหนง่ ครู ตำมแบบคำขอ มวี ทิ ยฐำนะหรอ เล่อนวิทยฐำนะ ตำแหน่งครู (วฐ.๑) ๒) สรปุ ผลกำรตรวจสอบและประเมนิ ตำแหน่งครู (๕ ปีกำรศึกษำ) ตำมแบบ วฐ.๓ ๓) มติ กศจ. ครง้ั ทเ่ี ก่ยี วข้องและมีกำรรับรองสำเนำถูกต้อง ๔) ผลงำนทำงวชิ ำกำร กรณีที่ กศจ. มีมติว่ำเป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติหรอไม่ผ่ำนเกณฑตำมท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ให้สำนักงำน ศึกษำธิกำรจังหวัดแจ้งผลกำรพิจำรณำพร้อมทั้งข้อสังเกตกำรประเมิน และเอกสำรหลักฐำนท่ีเก่ียวข้องไปยัง สำนกั งำนเขตพน้ ทก่ี ำรศกึ ษำ เพอ่ แจง้ ผ้ขู อทรำบ ๖.๑.๔ กำรแต่งตงั้ ๖.๑.๔.๑ วิทยฐำนะครชู ำนำญกำร กรณีท่ี กศจ. มีมติอนุมัติและผู้ขอมีวิทยฐำนะผ่ำนกำรพัฒนำตำมท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ใหผ้ ู้มีอำนำจตำมมำตรำ ๕๓ สงั่ แต่งต้ังให้มีวทิ ยฐำนะครชู ำนำญกำร และใหไ้ ด้รบั เงนิ เดอนอันดบั คศ. ๒ ในขน้ั หรอ อัตรำเงินเดอนเท่ำเดิม ถำ้ ไมม่ ขี ัน้ หรออัตรำเงินเดอนเท่ำเดิม ใหไ้ ด้รบั ในขนั้ หรออัตรำเงนิ เดอนใกล้เคียงท่สี ูงกว่ำ ๖.๑.๔.๒ วิทยฐำนะครูชำนำญกำรพเิ ศษ กรณที ี่ กศจ. มมี ตอิ นุมัตแิ ละผู้ขอเล่อนวิทยฐำนะผำ่ นกำรพฒั นำตำมท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ให้ผู้มีอำนำจตำมมำตรำ ๕๓ สั่งแต่งตั้งให้เล่อนเป็นวิทยฐำนะครูชำนำญกำรพิเศษ และให้ได้รับเงินเดอนอันดับ คศ. ๓ ในข้ันหรออัตรำเงินเดอนเท่ำเดิม ถ้ำไม่มีข้ันหรออัตรำเงินเดอนเท่ำเดิม ให้ได้รับในข้ันหรออัตรำเงินเดอน ใกล้เคยี งทส่ี ูงกวำ่ ๖.๑.๔.๓ วทิ ยฐำนะครเู ชย่ี วชำญ

๗๕ กรณีที่ ก.ค.ศ. มีมติอนมุ ตั แิ ละผู้ขอเล่อนวิทยฐำนะผ่ำนกำรพฒั นำตำมท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ให้ผมู้ อี ำนำจตำมมำตรำ ๕๓ สัง่ แตง่ ต้งั ใหเ้ ล่อนเปน็ วิทยฐำนะครูเช่ียวชำญ และใหไ้ ดร้ บั เงินเดอนอันดับ คศ. ๔ ใน ขัน้ หรออัตรำเงินเดอนเท่ำเดิม ถำ้ ไมม่ ขี ั้นหรออัตรำเงนิ เดอนเท่ำเดิม ให้ไดร้ บั ในขัน้ หรออัตรำเงนิ เดอนใกล้เคียงทีส่ ูงกว่ำ ๖.๑.๕ เมอ่ กศจ. พจิ ำรณำ มีมตอิ นุมตั หิ รอไม่อนุมัติ สำหรับวทิ ยฐำนะครชู ำนำญกำร และ วิทยฐำนะครูชำนำญกำรพิเศษ ให้สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัดแจ้งมติของ กศจ. ไปยังสำนักงำนเขตพ้นที่ กำรศึกษำ เพอ่ แจง้ ผู้ขอมีวทิ ยฐำนะหรอเล่อนวทิ ยฐำนะทรำบ ๖.๑.๖ เม่อ ก.ค.ศ. พิจำรณำ มีมติอนุมัติหรอไม่อนุมัติ สำหรับวิทยฐำนะครูเช่ยี วชำญ และ วทิ ยฐำนะครเู ช่ียวชำญพิเศษ ใหส้ ำนักงำนศึกษำธกิ ำรจังหวดั แจ้งมติของ ก.ค.ศ. ไปยังสำนกั งำนเขตพน้ ทกี่ ำรศึกษำ เพ่อแจ้งผูข้ อมวี ิทยฐำนะหรอเล่อนวิทยฐำนะทรำบ ๖.๒ การดาเนินการของคณะกรรมการศกึ ษาธกิ ารจงั หวัด (กศจ.) ๖.๒.๑ กรณีท่ีสำนักงำนเขตพ้นที่กำรศึกษำ แจ้งว่ำผู้ดำรงตำแหน่งครูได้ย่นคำขอมี วิทยฐำนะหรอเล่อนวิทยฐำนะ แต่ผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำมีวิทยฐำนะต่ำกว่ำวิทยฐำนะที่ขอ ให้สำนักงำน ศึกษำธิกำรจงั หวัดเสนอ กศจ. แต่งตงั้ ขำ้ รำชกำรครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำในจงั หวัดน้นั ท่ีมวี ิทยฐำนะไม่ต่ำกว่ำ วทิ ยฐำนะที่ขอ เป็นผู้ร่วมประเมนิ สรปุ ผลกำรตรวจสอบและประเมิน ตำแหน่งครู ๕ ปกี ำรศึกษำ ๖.๒.๒ เม่อ อกศจ. ได้พิจำรณำกล่ันกรองแล้ว ให้ กศจ. พิจำรณำให้เป็นไปตำมหลักเกณฑ ท่ี ก.ค.ศ. กำหนด เม่อมีมติเปน็ ประกำรใดแล้ว ให้สำนักงำนศกึ ษำธกิ ำรจังหวัดดำเนินกำรในสว่ นทเี่ ก่ยี วขอ้ งต่อไป ๗. การดาเนินการของสานกั งาน ก.ค.ศ. และ ก.ค.ศ. ๗.๑ การดาเนนิ การของสานกั งาน ก.ค.ศ. เมอ่ สำนกั งำน ก.ค.ศ. ไดร้ ับคำขอพรอ้ มทงั้ เอกสำรหลักฐำนจำกสำนกั งำนศึกษำธกิ ำร จังหวัดแล้ว ใหด้ ำเนนิ กำร ดงั นี้ ๗.๑.๑ ตรวจสอบเอกสำรหลกั ฐำนทเี่ กยี่ วข้องใหถ้ ูกต้องและครบถว้ น (จำนวน ๔ ชุด) ๑) คำขอมวี ิทยฐำนะหรอเลอ่ นวิทยฐำนะ ตำแหน่งครู ตำมแบบคำขอมวี ิทยฐำนะ หรอเล่อนวิทยฐำนะ ตำแหนง่ ครู (วฐ.๑) ๒) สรปุ ผลกำรตรวจสอบและประเมิน ตำแหนง่ ครู (๕ ปกี ำรศกึ ษำ) ตำมแบบ วฐ.๓ ๓) มติ กศจ. ครงั้ ที่เก่ยี วข้องและมกี ำรรับรองสำเนำถกู ต้อง ๔) ผลงำนทำงวิชำกำร ๕) สำเนำทะเบียนประวตั ิขำ้ รำชกำร ( ก.พ. ๗) หรอ ก.ค.ศ. ๑๖ กรณีท่ีตรวจสอบแล้วปรำกฏว่ำเอกสำรหลกั ฐำนไม่ถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ ให้สำนักงำน ก.ค.ศ. แจ้งสำนักงำนศึกษำธิกำรจงั หวัด จัดส่งข้อมูลหรอเอกสำรหลักฐำนเพ่ิมเติม ท้ังนี้ ก.ค.ศ. อำจเรียกให้จัดส่งเอกสำร หลักฐำนอ่นเพม่ิ เติมกได้ ๗.๑.๒ ตรวจสอบคุณสมบัติ ผลกำรประเมิน และเอกสำรหลักฐำนตำมที่สำนักงำน ศึกษำธิกำรจังหวัด ส่งมำ ใหถ้ กู ต้องครบถ้วนตำมหลักเกณฑและวิธีกำรนกี้ ่อนนำเสนอ ก.ค.ศ. พจิ ำรณำต่อไป ๗.๑.๓ เม่อ ก.ค.ศ. พิจำรณำ มีมติอนุมัติหรอไม่อนุมัติ สำหรับวิทยฐำนะครูเชี่ยวชำญ และวิทยฐำนะครูเช่ียวชำญพิเศษ ให้สำนักงำน ก.ค.ศ. แจ้งมติ ก.ค.ศ. ไปยังสำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด เพ่อให้ สำนักงำนเขตพน้ ท่ีกำรศึกษำ แจ้งผขู้ อมวี ทิ ยฐำนะหรอเล่อนวทิ ยฐำนะทรำบ

๗๖ ๗.๒ การดาเนินการของ ก.ค.ศ. ๗.๒.๑ ต้ังคณะกรรมกำรประเมินผลงำนทำงวิชำกำร จำกผู้ทรงคุณวุฒิท่ีมีควำมรู้ ควำมสำมำรถ และเชี่ยวชำญในสำขำวิชำท่ีจะตรวจและประเมิน โดยผู้ขอ ๑ รำย ให้มีคณะกรรมกำรประเมิน จำนวน ๓ คน ๗.๒.๒ กรณีคณะกรรมกำรประเมินผลงำนทำงวิชำกำร พิจำรณำแล้วเหนควรให้ปรับปรุง ผลงำน ทำงวิชำกำร ต้องมีผลกำรประเมินผ่ำนเกณฑตำมท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ไม่น้อยกว่ำ ๒ ใน ๓ คน ทั้งนี้ ผลงำน ทำงวิชำกำรต้องอยู่ในวิสัยท่ีสำมำรถปรับปรุงได้ และ ก.ค.ศ. มีมติให้ปรับปรุง กให้ปรับปรุงตำมข้อสังเกต ของ กรรมกำรได้ ไม่เกิน ๒ ครั้ง ครั้งแรก ภำยใน ๖ เดอน และคร้ังที่ ๒ ภำยใน ๓ เดอน นับแต่วันที่สำนักงำน ก.ค.ศ. แจ้งมติ ก.ค.ศ. ให้สำนกั งำนศกึ ษำธกิ ำรจังหวัดทรำบ ๗.๒.๓ กรณีผู้ขอไม่ส่งผลงำนทำงวิชำกำรที่ปรับปรุงตำมข้อสังเกตภำยในระยะเวลำท่ี กำหนด หรอส่งพ้นระยะเวลำทก่ี ำหนด ให้ถอว่ำสละสิทธ์ิ เม่อ ก.ค.ศ. พิจำรณำมมี ติอนุมตั ิหรอไม่อนุมตั ิ ให้สำนักงำน ก.ค.ศ. ดำเนนิ กำรในสว่ นที่เก่ียวข้องต่อไป

๓. การประชุมโดยใช True VROOM ประเภทผใู ชงาน ๑) ผใู ช VROOM แบบลงทะเบยี นเขาใชงาน ผูใ้ ช้ท่ีสำมำรถใช้งำนฟเี จอรพ้นฐำนของ VROOM และ Sign in เขำ้ สู่ระบบเพ่อสทิ ธก์ิ ำรเข้ำใชง้ ำนฟเี จอรอ่น ๆ ในกำรจัดกำรประชุมออนไลนให้เกดิ ประสิทธิภำพ มำกย่ิงขึ้น เชน่ แบบสอบถำม (Poll) กำรใช้งำนลำ่ มแปลภำษำ หรอระบบกำรจองห้องประชมุ เปน็ ตน้ ๒) ผใู ช VROOM แบบไมล่ งทะเบียนเขาใชงาน ผใู้ ชท้ ส่ี ำมำรถใช้งำนฟีเจอรพน้ ฐำนของ VROOM ในกำรจัดกำรประชมุ ออนไลน การลงทะเบียนเขาใชงาน ๑) เข้ำเวบ https://vroom.truevirtualworld.com หรอเปิดแอปพลเิ คชนั VROOM แลว้ คลิก “เขาสู่ระบบ/สมคั รใชงาน” ๒) คลกิ “ลงทะเบียนเลย” เพ่อสร้ำงบัญชีใช้งำน ๓). กรอกข้อมลู ใหค้ รบถ้วนและคลิก “ลงทะเบียนเขาใชงาน”

๗๘ ๔). คลกิ ลิงกยนยันตวั ตนผ่ำน อเี มล ทลี่ งทะเบยี นไว้ ๕) เข้ำสูร่ ะบบ โดยกำรกรอก “อีเมล” และ “รหัสผ่าน” ท่ีต้งั ไวเ้ พ่อเร่ิมต้นกำรใช้งำน การใชงาน VROOM ตามสิทธผิ์ ใู ช สทิ ธิ์การใชงานฟเี จอรต์ า่ ง ๆ ใน VROOM ฟเี จอร์ VROOM ผูใชแบบไม่ลงทะเบียน ผใู ชแบบลงทะเบียน Moderator User Moderator User  Meeting Reservation -- -  Management Add Password - - - Invite     Live Stream* : เปิดใชง้ ำน - -  - Record* --  - Display Camara  -  Share Your Screen  Background -- Watermark - Sound Mic  Mute Everyone - Disable Everyone Mic - - Interpretation : เปน็ ลำ่ ม  

ฟีเจอร์ VROOM ผใู ชแบบไมล่ งทะเบียน ๗๙ Moderator User Write Interpretation : ฟังล่ำม ผูใชแบบลงทะเบียน Interpretation : เปิดใช้งำน  Moderator User Participate Chat -- /Relationship Meeting Note   Poll : สรำ้ ง Poll  - Poll : ทำกำร Vote --  Raise/Lower You Hand --  Kick Out  - -   - เร่มิ ตนใชงาน VROOM การสรางหองสนทนา การลงทะเบียนเขาใชงาน

๘๐ การเชญิ ผูอื่นเขาหองสนทนา (Browser) กด “Copy” และสง่ ลงิ กให้คนท่ตี อ้ งกำรเชิญและแจ้งรหัสผ่ำนใหส้ ำมำรถกรอกเพ่อเขำ้ มำในห้องสนทนำได้

๘๑ การเชิญผูอ่ืนเขาหองสนทนา (Application)

๘๒ การจองหองประชุม (เฉพำะผู้ที่ใช้ Sign in เขำ้ สู่ระบบ) การจองหองประชุม : ดู/แกไข/ยกเลกิ การจอง (เฉพำะผทู้ ่ใี ช้ Sign in เข้ำสู่ระบบ) การเขาหองสนทนา วธิ ีที่ ๑ : เขำ้ เวบ https://vroom.truevirtualworld.com หรอ เปดิ แอปพลเิ คชัน VROOM > ใส่ช่อหอ้ งสนทนำ > กด “ตกลง” หรอ “เขารว่ ม”

๘๓ วิธีที่ ๒ : กดลงิ กคำเชิญทีไ่ ด้รบั เพ่อเข้ำสูห่ ้องสนทนำผ่ำน เวบบรำวเซอร หรอ แอปพลิเคชัน VROOM การใชงาน VROOM บนเว็บบราวเซอร์ สาหรับผูเขาประชุม (User) (เพ่อกำรใช้งำนท่เี ตมประสทิ ธิภำพ แนะนำให้ใช้ VROOM บน Google Chrome และ Microsoft Edge) การเปดิ /ปิด ไมโครโฟน การเปิด/ปิด กลอง

๘๔ การออกจากหองสนทนา การแชรห์ นาจอ การแชร์หนาจอ : แชร์ท้ังจอ

๘๕ การแชรห์ นาจอ : แชร์แอพพลิเคชัน การแชรห์ นาจอ : แชร์เวบ็ ไซตจ์ ากบราวเซอร์ การแสดงชื่อผเู ขาร่วมประชุม

๘๖ การเปลยี่ นพนื้ หลงั เสมอื นจริง (เฉพำะผู้ท่ใี ช้ Sign in เข้ำสูร่ ะบบ) การจดบนั ทกึ การประชุม การแชท

๘๗ การยกมือแสดงความคิดเหน็ การดูสถติ กิ ารพูดของผเู ขาร่วมประชุม

๘๘ การแสดงหนาจอหองสนทนา การตั้ง/เปล่ียนช่ือผใู ชงาน การตัง้ คา่ ภาพและเสียง

๘๙ การขยายหนาจอ การดคู ียล์ ัด การรบั ชมถา่ ยทอดสด

๙๐ การใชงานล่ามแปลภาษา : การฟงั ลา่ ม การใชงานลา่ มแปลภาษา : การยกเลกิ การฟงั ล่าม การใชงานลา่ มแปลภาษา : การเป็นล่าม

๙๑ การใชงานล่ามแปลภาษา : การยกเลกิ การเปน็ ลา่ ม การสารวจความคดิ เหน็ (เฉพำะผใู้ ช้ท่ี Sign in เขำ้ สู่ระบบ) การตง้ั ค่าอ่ืน ๆ

๙๒ การใชงาน VROOM บนเว็บบราวเซอร์ สาหรับผูดาเนินการประชมุ (Moderator) ผดู าเนนิ การประชมุ (Moderator) การถา่ ยทอดสด (เฉพำะผูใ้ ช้ที่ Sign in เข้ำสู่ระบบ)

๙๓ การบนั ทกึ การประชุม (เฉพำะผใู้ ช้ท่ี Sign in เข้ำสู่ระบบ)

๙๔ การสารวจความคดิ เห็น (เฉพำะผใู้ ชท้ ่ี Sign in เข้ำสู่ระบบ)

๙๕ การใชงานล่ามแปลภาษา : เปิดการใชงานลา่ ม (เฉพำะผู้ใช้ท่ี Sign in เขำ้ สู่ระบบ) การใชงานล่ามแปลภาษา : ปดิ การใชงานล่าม การใชงานล่ามแปลภาษา : ยกเลิกสถานะลา่ มของผูอื่น

๙๖ การปดิ ไมโครโฟนของผเู ขารว่ มประชุม (เฉพำะผู้ใชท้ ่ี Sign in เข้ำสู่ระบบ)

๙๗ การเปิดไมโครโฟนของผเู ขารว่ มประชุม (เฉพำะผูใ้ ชท้ ี่ Sign in เข้ำสู่ระบบ) การเชญิ ผเู ขาร่วมประชุมออกจากหอง

๙๘ การใชงานบนแอปพลเิ คชัน การตดิ ตั้งแอปพลิเคชัน VROOM การตง้ั คา่ กอ่ นเริ่มใชงาน สามารถเปิด/ปดิ ไมค์และกลอง