Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 040324fc460ce418cedd20178713dea21562730061719

040324fc460ce418cedd20178713dea21562730061719

Published by อภิเชษฐ ยากลิ่นหอม, 2022-08-30 08:39:30

Description: 040324fc460ce418cedd20178713dea21562730061719

Search

Read the Text Version

อบุ ลราชธานี จัดทำโดย อภิเชษฐ ยากล่นิ หอม ชั้นม.6/1 เลขท่ี8 ปกหนา้

ออบุ บุลลรารชาชธธานานี ี



พระธาตเุ จดียศ์ รมี หาโพธ์ิ วัดพระธาตหุ นองบวั

สารบญั ๙ ๑๑ การเดนิ ทาง สถานทที่ อ่ งเที่ยว ๑๑ ๒๒ อำ� เภอเมอื งอุบลราชธาน ี ๒๕ อ�ำเภอเข่อื งใน ๒๖ อำ� เภอเขมราฐ ๒๘ อำ� เภอนาตาล ๓๐ อ�ำเภอโพธไิ์ ทร ๓๒ อ�ำเภอศรเี มืองใหม่ ๓๘ อำ� เภอโขงเจียม ๔๕ อำ� เภอสิรินธร ๔๖ อำ� เภอพิบลู มงั สาหาร ๔๗ อำ� เภอสวา่ งวรี ะวงศ์ ๕๐ อำ� เภอวารนิ ชำ� ราบ ๕๐ อ�ำเภอบุณฑรกิ ๕๓ อ�ำเภอนาจะหลวย ๕๔ อ�ำเภอน�้ำยนื อ�ำเภอทุ่งศรอี ดุ ม ๕๕ ๕๗ เทศกาลงานประเพณี ๕๙ สินคา้ พน้ื เมอื ง ๖๑ ร้านจ�ำหนา่ ยสินคา้ ท่รี ะลกึ ๖๓ ตัวอยา่ งรายการนำ� เทย่ี ว ๖๖ ข้อแนะน�ำในการท่องเท่ยี ว ๗๐ แผนที ่ ๗๑ หมายเลขโทรศัพท์ส�ำคัญ ศูนยบ์ ริการขา่ วสารทอ่ งเท่ียว ททท.

ประเพณแี ห่เทยี นพรรษา อุบลราชธานี เมืองแห่งดอกบวั งาม แม่น�้ำสองสี มปี ลาแซบหลาย หาดทรายแกง่ หิน ถ่นิ ไทยนกั ปราชญ์ ทวยราษฎรใ์ ฝ่ธรรม งามลำ�้ เทยี นพรรษา ผาแต้มก่อนประวัตศิ าสตร์ ฉลาดภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่นิ ดนิ แดนอนสุ าวรีย์คนดศี รีอบุ ล

แมน่ �ำ้ มูล อบุ ลราชธานี เปน็ เมอื งใหญร่ มิ ฝง่ั แมน่ ำ้� มลู มตี ำ� นาน หน้าผู้น้อง ท่ีต้ังอยู่บ้านสิงห์ท่า (เมืองยโสธร) ได้ยก กล่าวไวว้ ่า เมื่อกว่า ๒๐๐ ปี มาแลว้ เจ้าพระวอ เจ้า ก�ำลังไปรบจนได้ชัยชนะ พระบาทสมเด็จพระพุทธ พระตา ซง่ึ ดำ� รงฐานะเปน็ เสนาบดกี รงุ ศรสี ตั นาคนหตุ ยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช จงึ ไดโ้ ปรดเกลา้ ฯ แตง่ ตง้ั ให้ สมยั พระไชยเชษฐาธิราชท่ี ๒ (ชยั วงคเ์ ว้) ไดอ้ พยพ ทา้ วฝา่ ยหนา้ เปน็ พระวไิ ชยราชขตั ตยิ วงศา ครองนคร เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ จ�ำปาศักด์ิ และโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ พระประทุม ไทย ต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธ สรุ ราช เปน็ พระประทุม วรราชสรุ ยิ วงศ์ ครองเมือง ยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ ๑) มีพระบรม อบุ ลราชธานี พรอ้ มกบั ยกฐานะบา้ นหว้ ยแจระแมขน้ึ ราโชบายท่ีจะจัดตั้งเมืองรวบรวมไพร่พลให้เป็นปึก เป็นเมืองอุบลราชธานีเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๓๕ ดังปรากฏ แผน่ เพอ่ื ความสงบสขุ ในปี พ.ศ. ๒๓๒๙ พระประทมุ ในพระสุพรรณบัตรตั้งเจ้าประเทศราชในรัชกาล สรุ ราช (ทา้ วคำ� ผง) ซง่ึ เปน็ บตุ รหลานของพระวอ พระ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ตา จงึ ยา้ ยครอบครวั ไพรพ่ ลมาตง้ั อยู่ ณ ตำ� บลหว้ ยแจ วา่ “….ดว้ ยพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเจา้ ผผู้ า่ น พภิ พ ระแม คอื บรเิ วณบา้ นทา่ บอ่ ทางทศิ เหนอื ของจงั หวดั กรุงเทพ มหานครศรอี ยธุ ยา มพี ระราชโองการโปรด อบุ ลราชธานใี นปัจจุบนั เกลา้ โปรดกระหมอ่ ม ตง้ั ให้ พระประทมุ เปน็ พระประ จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๓๓๔ เกิดกบฏข้ึนที่นครจ�ำปา ทุมวรราช สุริยวงศ์ ครองเมอื ง อบุ ลราชธานี ศรวี นา ศักดิ์ พระประทุมสุรราช (ท้าวค�ำผง) และท้าวฝ่าย ไลยประเทศราช ......” เมอื งอบุ ลราชธานมี เี จา้ เมือง อบุ ลราชธานี 7

ระยะทางจากจังหวัดอุบลราชธานีไปจังหวัดใกล้ เคยี ง จงั หวัดอำ� นาจเจรญิ ๗๕ กิโลเมตร จังหวดั ศรสี ะเกษ ๖๑ กโิ ลเมตร จงั หวดั ยโสธร ๙๘ กิโลเมตร ระยะทางจากอำ� เภอเมอื งอบุ ลราชธานไี ปยงั อำ� เภอ ตา่ ง ๆ อ�ำเภอเข่อื งใน ๓๘ กิโลเมตร อำ� เภอม่วงสามสิบ ๓๔ กิโลเมตร อำ� เภอเหลา่ เสือโกก้ ๒๗ กโิ ลเมตร สถานีขนสง่ ผ้โู ดยสารจังหวดั อุบลราชธานี อ�ำเภอดอนมดแดง ๓๕ กิโลเมตร อ�ำเภอตาลสมุ ๓๒ กโิ ลเมตร สืบกนั มาถึง ๔ คน ตราบจนถึงปี พ.ศ. ๒๔๒๕ จงึ ได้ อ�ำเภอตระการพชื ผล ๕๐ กิโลเมตร มีการแต่งตั้งข้าหลวงและผู้ว่าราชการจังหวัดมา อำ� เภอกดุ ข้าวปุ้น ๗๖ กิโลเมตร ปกครองดูแลจนถงึ ปจั จบุ นั อ�ำเภอเขมราฐ ๑๐๘ กิโลเมตร อุบลราชธานี มีพ้ืนที่ประมาณ ๑๕,๗๔๔ ตาราง อำ� เภอนาตาล ๙๓ กิโลเมตร กิโลเมตร ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอน อำ� เภอโพธิ์ไทร ๙๙ กโิ ลเมตร ล่าง สภาพภูมิประเทศโดยท่ัวไปเป็นท่ีราบสูงและ อ�ำเภอศรีเมอื งใหม ่ ๘๓ กโิ ลเมตร ภูเขา มีแม่น้�ำมูลไหลผ่านตอนกลางของพื้นท่ี และ อ�ำเภอโขงเจียม ๘๐ กโิ ลเมตร มีหน้าผาหินทรายบริเวณชายฝั่งแม่น้�ำโขงอันเป็น อำ� เภอสิรนิ ธร ๘๐ กิโลเมตร เสน้ กน้ั พรมแดนระหวา่ งประเทศไทยและสาธารณรฐั อำ� เภอพิบลู มังสาหาร ๔๕ กิโลเมตร ประชาธิปไตยประชาชนลาว แบ่งออกเป็น ๒๕ อำ� เภอสวา่ งวรี ะวงศ ์ ๒๓ กโิ ลเมตร อำ� เภอ ไดแ้ ก่ อำ� เภอเมอื งอบุ ลราชธานี อำ� เภอเขอื่ งใน อำ� เภอวารนิ ช�ำราบ ๒ กิโลเมตร อ�ำเภอม่วงสามสบิ อำ� เภอเหล่าเสอื โกก้ อ�ำเภอดอน อ�ำเภอนาเยยี ๓๕ กโิ ลเมตร มดแดง อ�ำเภอตาลสมุ อ�ำเภอตระการพชื ผล อ�ำเภอ อ�ำเภอเดชอุดม ๔๕ กิโลเมตร กดุ ขา้ วปนุ้ อำ� เภอเขมราฐ อำ� เภอนาตาล อำ� เภอโพธไ์ิ ทร อำ� เภอบณุ ฑรกิ ๘๗ กิโลเมตร อ�ำเภอศรีเมืองใหม่ อ�ำเภอโขงเจียม อ�ำเภอสิรินธร อำ� เภอนาจะหลวย ๑๐๐ กิโลเมตร อ�ำเภอพิบูลมังสาหาร อ�ำเภอสว่างวีระวงศ์ อ�ำเภอ อ�ำเภอนำ้� ยนื ๑๑๐ กโิ ลเมตร วารนิ ช�ำราบ อ�ำเภอนาเยยี อ�ำเภอเดชอุดม อ�ำเภอ อ�ำเภอน�ำ้ ขุ่น ๖๐ กโิ ลเมตร บุณฑริก อำ� เภอนาจะหลวย อ�ำเภอน้ำ� ยนื อ�ำเภอน�้ำ อำ� เภอทุ่งศรอี ุดม ๗๔ กิโลเมตร ขนุ่ อ�ำเภอทงุ่ ศรีอุดม และอำ� เภอสำ� โรง อำ� เภอสำ� โรง ๒๘ กิโลเมตร 8 อุบลราชธานี

การเดินทาง รถโดยสารประจำ� ทางระหว่างประเทศ รถยนต์ จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข ๑ รถไฟ มีบริการรถไฟจากกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี (ถนนพหลโยธิน) แยกเข้าทางหลวงหมายเลข ๒ ทุกวัน สอบถามข้อมูลได้ท่ี หน่วยบริการเดินทาง (ถนนมติ รภาพ) ทีจ่ ังหวัดสระบุรี ตรงไปจนถงึ อ�ำเภอ การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. ๑๖๙๐, ๐ ๒๒๒๐ สคี ว้ิ ใหเ้ ลยี้ วขวาเขา้ ทางหลวงหมายเลข ๒๔ (โชคชยั - ๔๓๓๔, ๐ ๒๒๒๐ ๔๒๖๑ หรือ www.railway. เดชอดุ ม) ตรงไปจนถงึ จงั หวดั อบุ ลราชธานี รวมระยะ co.th ทางจากกรุงเทพฯ ๖๒๙ กิโลเมตร สถานีรถไฟอุบลราชธานี ต้ังอยู่ถนนสถานี ต�ำบล รถโดยสารประจ�ำทาง จากกรุงเทพฯ มีรถออก วารินช�ำราบ อ�ำเภอวารินช�ำราบ โทร. ๐ ๔๕๓๒ จากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) ถนน ๑๐๐๔ จากน้ันใชบ้ รกิ ารรถสองแถว รถแทก็ ซี่มเิ ตอร์ ก�ำแพงเพชร ๒ ไปยังสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัด และจกั รยานยนตร์ บั จา้ ง บรเิ วณดา้ นหนา้ สถานรี ถไฟ อุบลราชธานีทุกวนั สอบถามขอ้ มลู ได้ที่ เดินทางเข้าสู่ตัวเมืองซึ่งมีระยะทางประมาณ ๔.๕ - บริษทั ขนส่ง จำ� กดั โทร. ๑๔๙๐, ๐ ๒๙๓๖ กโิ ลเมตร ๒๘๕๒-๖๖ สำ� นกั งานอุบลราชธานี โทร. ๐ ๔๕๓๑ เคร่ืองบิน มีเที่ยวบินตรง เส้นทางกรุงเทพฯ- ๔๒๙๙ หรือ www.transport.co.th อุบลราชธานี จากท่าอากาศนานาชาติกรุงเทพ - บริษทั นครชยั แอร์ จำ� กัด โทร. ๑๖๒๔ หรือ (ดอนเมอื ง) ใหบ้ ริการไปยงั ทา่ อากาศยานนานาชาติ www.nca.co.th อบุ ลราชธานี ทกุ วนั โดยมสี ายการบนิ ใหบ้ รกิ าร ไดแ้ ก่ - บริษัท สมบัติทัวร์ จ�ำกัด โทร. ๑๒๑๕, - สายการบิน นกแอร์ โทร. ๑๓๑๘ หรอื www. ๐ ๒๐๓๐ ๔๙๙๙ หรอื www.sombattour.com nokair.com - บริษัท ศิริรัตนพล จ�ำกัด โทร. ๐ ๒๙๓๖ - สายการบนิ ไทย ไลอ้อน แอร์ โทร. ๐ ๒๕๒๙ ๐๒๗๘, ๐ ๒๙๓๖ ๒๐๙๘ ๙๙๙๙ หรอื www.lionairthai.com สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดอุบลราชธานี ตั้งอยู่ ถนนวงแหวนรอบเมอื ง ดา้ นทิศตะวันตก ต�ำบลอบุ ล อำ� เภอเมืองอุบลราชธานี โทร. ๐ ๔๕๓๑ ๖๐๘๕ นอกจากนี้ บริษัท ขนส่ง จ�ำกัด ยังให้บริการ รถโดยสารประจ�ำทางระหว่างประเทศ เส้นทาง อุบลราชธานี-ปากเซ (ลาว) ต้นทางออกจากสถานี ขนส่งผู้โดยสารจังหวัดอุบลราชธานี วันละ ๒ รอบ เวลา คือ ๐๙.๓๐ น. และ ๑๕.๐๐ น. (ผู้โดยสารต้อง มหี นงั สอื เดินทางหรอื บัตรผ่านแดนช่ัวคราวมาแสดง จึงสามารถซื้อบัตรโดยสารได้) สอบถามข้อมูล โทร. ๑๔๙๐, ๐ ๔๕๓๑ ๔๒๙๙ อุบลราชธานี 9

ศาลหลักเมอื ง - สายการบิน ไทย สมายล์ โทร. ๑๑๘๑, การเดนิ ทางภายในจังหวดั อบุ ลราชธานี ๐ ๒๑๑๘ ๘๘๘๘ หรอื www.thaismileair.com มรี ถสองแถวประจำ� ทาง วงิ่ บรกิ ารภายในตวั เมอื งและ - สายการบิน ไทย แอร์เอเชีย โทร. ๐ ๒๕๑๕ บรเิ วณใกลเ้ คยี ง นกั ทอ่ งเทย่ี วสามารถเชา่ เหมารถสอง ๙๙๙๙ หรอื www.airasia.com แถว รถสามลอ้ เครอื่ ง แทก็ ซมี่ เิ ตอร์ และจกั รยานยนต์ นอกจากนย้ี ังมบี ริการเทยี่ วบิน อุบลราชธานี- รับจ้าง ท่จี อดให้บรกิ ารอยตู่ ามจดุ ตา่ ง ๆ เชน่ ตลาด เชยี งใหม-่ อุบลราชธานี สอบถามขอ้ มูลไดท้ ่ี สายการ เทศบาล สถานขี นสง่ ไปเทย่ี วไดท้ ง้ั ในตวั เมอื งและตา่ ง บนิ กานต์แอร์ โทร. ๐ ๒๕๕๑ ๖๑๑๑ อ�ำเภอ อัตราค่าบริการมีทั้งแบบตกลงกันตามระยะ ท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี ต้ังอยู่ ทางและแบบเหมาจ่าย เลขที่ ๒๙๗ ถนนเทพโยธี ตำ� บลในเมือง อำ� เภอเมือง การเดินทางจากจังหวัดอุบลราชธานีไปจังหวัด อุบลราชธานี โทร. ๐ ๔๕๒๔ ๕๖๑๒ ต่อ ๒๑๕๒ ใกล้เคียง สามารถใช้บริการรถแท็กซ่ีมิเตอร์ รถสามล้อเคร่ือง จากสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดอุบลราชธานี มี จักรยานยนต์รับจ้าง ซึ่งมีให้บริการบริเวณด้านหน้า รถโดยสารและรถตู้ให้บริการไปยังจังหวัดต่าง ๆ ท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานีเดินทางเข้าสู่ เช่น ยโสธร อ�ำนาจเจริญ ศรีสะเกษ เชียงใหม่ ตวั เมือง ซงึ่ มีระยะทางประมาณ ๓ กโิ ลเมตร ประจวบครี ขี ันธ์ (หัวหิน) ภูเก็ต ฯลฯ 10 อบุ ลราชธานี

ประติมากรรมจ�ำลองเทยี นพรรษาแกะสลัก ท่งุ ศรเี มอื ง สถานทที่ อ่ งเท่ียว ศักดิ์ประชาบาล อุบลการประชานิตย์ และอุบลกิจ ประชากร เปดิ ทุกวันเวลา ๐๕.๐๐-๒๒.๐๐ น. อ�ำเภอเมืองอบุ ลราชธานี ภายในพนื้ ทท่ี งุ่ ศรเี มอื ง นอกจากมปี ฏมิ ากรรมจำ� ลอง ทงุ่ ศรเี มอื ง ต้ังอย่ถู นนอุปราช ตำ� บลในเมอื ง บรเิ วณ เทยี นพรรษาแกะสลกั สวนสขุ ภาพ และสนามเดก็ เลน่ หน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี (หลังเก่า) ซ่ึง แลว้ ยงั มีสง่ิ ทีน่ า่ สนใจ ไดแ้ ก่ ปัจจุบันเป็นท่ีตั้งของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี เป็นสวนสาธารณะที่มีสภาพภูมิทัศน์ ศาลหลักเมอื ง ตั้งอย่ทู างทิศใตข้ องทุ่งศรีเมือง สร้าง สวยงาม เคยเป็นท่ีท�ำนาของเจ้าเมือง แต่พระบาท ข้ึนเม่ือปี พ.ศ. ๒๕๑๕ เปิดระหว่างเวลา ๐๕.๐๐- สมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) ทรง ๑๙.๐๐ น. โปรดฯ ให้ยกเลิกเพื่อใช้เป็นสถานท่ีพักผ่อนของชาว อนุสาวรยี พ์ ระปทุมวรราชสุรยิ วงศ์ (เจา้ คำ� ผง) เปน็ ผู้ เมือง และส�ำหรับจัดเทศกาลงานบุญต่าง ๆ ทุ่งศรี ก่อต้ังเมืองอุบลราชธานีและปกครองเมืองระหว่างปี เมืองมีประตูทางเข้า ๔ ทิศ ต้ังช่ือตามนามของเจ้า พ.ศ. ๒๓๒๑-๒๓๓๘ นายพื้นเมือง คือ ประตูอุบลเดชประชารักษ์ อุบล อุบลราชธานี 11

วัดศรีอบุ ลรัตนาราม ปฏมิ ากรรมสมเดจ็ พระมหาวรี วงศ์ (อว้ น ตสิ โส) พระ สินค้าแฮนด์เมด สินค้าเบ็ดเตล็ด ของเก่า ของฝาก เถระทไี่ ดร้ บั การยกยอ่ งวา่ เปน็ ผทู้ รงคณุ วฒุ ดิ า้ นคนั ถ ของทรี่ ะลกึ เสอ้ื ผ้า เคร่อื งประดบั อาหารปรุงสำ� เรจ็ ธรุ ะ (การเรียนธรรมวนิ ยั ) และวิปัสสนาธุระ และศิลปหัตถกรรม ถนนคนเดินมีทุกวันศุกร์- อนุสาวรีย์แห่งความดี เป็นอนุสาวรีย์ที่เชลยศึกชาว วนั อาทติ ย์ เวลา ๑๗.๐๐-๒๒.๐๐ น. ตา่ งชาตใิ นสมยั สงครามโลกครงั้ ท่ี ๒ สรา้ งไวเ้ พอ่ื เปน็ วัดศรอี บุ ลรัตนาราม ต้งั อยถู่ นนอุปราช ตรงขา้ มกับ ทร่ี ะลกึ ถงึ ความเมตตาปราณแี ละคณุ งามความดขี อง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี เดิมช่ือ ชาวเมืองอุบลราชธานี “วัดศรีทอง” เป็นวัดในธรรมยุติกนิกาย สร้างข้ึน เม่ือปี พ.ศ. ๒๓๙๘ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ ปฏิมากรรมร่วมใจก้าวไปข้างหน้า สร้างขึ้นตาม พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลท่ี ๔) พระอุโบสถ โครงการปฏิมากรรมกับส่ิงแวดล้อมเพื่อเยาวชน ซึ่ง สร้างตามแบบพระอุโบสถของวัดเบญจมบพิตรดุสิต แสดงถงึ ความสมานฉนั ทร์ ะหวา่ ง ๔ ประเทศ คอื ไทย วนาราม กรุงเทพฯ ภายในประดิษฐาน “พระแก้ว ลาว กัมพชู า และเวียดนาม บุษราคัม” พระพุทธปฏิมากรปางมารวิชัย สมัย ถนนคนเดนิ เทศบาลนครอบุ ลราชธานี ต้ังอยถู่ นน เชยี งแสน แกะสลกั จากแกว้ บษุ ราคมั ตามตำ� นานเลา่ ศรีณรงค์ หน้าส�ำนักงานเทศบาลนครอุบลราชธานี กนั วา่ พระวรราชภกั ดี (พระวอ) พรอ้ มดว้ ยบตุ รหลาน ด้านข้างทุ่งศรีเมือง แหล่งรวบรวมสินค้าพ้ืนบ้าน ของพระตาคือ ท้าวคำ� ผง ทา้ วทิดพรหมและทา้ วก�ำ่ 12 อุบลราชธานี

บรรพบรุ ษุ ผูก้ อ่ ตง้ั เมอื งอุบลราชธานี ไดอ้ ัญเชิญพระ พพิ ิธภณั ฑ์วัดศรอี บุ ลรัตนาราม แก้วบุษราคัมจากกรุงศรีสัตนาคนหุต (เวียงจันทน์) มาประดิษฐานที่บ้านดอนมดแดง ต่อมาได้อัญเชิญ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี ต้ังอยู่ มาประดิษฐานทว่ี ัดศรอี ุบลรตั นาราม ถนนเขื่อนธานีตัดกับถนนอุปราช เป็นอาคารปั้น ในปี พ.ศ. ๒๕๑๑ มีการสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ หยาช้ันเดียว สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๑ เคยใช้เป็น แทนหลังเก่าที่ทรุดโทรม โดยพระบาทสมเด็จพระ ศาลากลางจังหวัด ต่อมากรมศิลปากรได้จัดต้ังเป็น ปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช รชั กาลที่ ๙ และสมเดจ็ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอุบลราชธานี จัดแสดง พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วย นิทรรศการเก่ียวกับสภาพภูมิศาสตร์ ประวัติการต้ัง ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนา เมือง มีโบราณวัตถุซ่ึงเป็นหลักฐานทาง ด้านศิลปะ พรรณวดี ได้เสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธียก โบราณคดี หัตถกรรมพ้ืนบ้าน การละเล่นพื้นเมือง ช่อฟ้า และตัดหวายลูกนิมิตพระอุโบสถ ผู้เป็นเจ้า และเครอ่ื งใชข้ องเจา้ เมอื ง เปดิ ใหเ้ ขา้ ชมทกุ วนั พธุ -วนั ภาพใหญ่ในการจัดงานได้ทูลเกล้าถวายพระอุโบสถ อาทติ ย์ (ปิดวนั จนั ทร์-วันองั คาร และวนั นักขัตฤกษ)์ หลังน้ีให้อยู่ในพระอุปถัมภ์ของทูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และขอ พระราชทานพระบรมราชานุญาตเปลี่ยนนามใหม่ เป็น “วัดศรีอุบลรัตนาราม” ตามพระนามขององค์ อุปถัมภ์ ตง้ั แต่นน้ั มา นอกจากนภ้ี ายในวดั ยงั มี พพิ ธิ ภณั ฑศ์ รอี บุ ลรตั นาราม เปน็ อาคารสองชน้ั ขนาดใหญ่ เดมิ ทเี ปน็ ศาลาหอแจก หมายถงึ สถานทสี่ ำ� หรบั ทำ� บญุ ทำ� ทานของคนในสมยั กอ่ น ตอ่ มาไดม้ กี ารบรู ณะขน้ึ ใหมโ่ ดยใชว้ สั ดแุ ละการ ตกแต่งแบบเดิม และได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์มาตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๒๕๔๙ โดยชั้นบนของอาคารใช้เป็นที่เก็บ และจัดแสดงวัตถโุ บราณต่าง ๆ ท่เี กี่ยวขอ้ งกบั พุทธ ศาสนา เชน่ ต้เู ก็บพระไตรปฎิ ก ทไี่ ดร้ บั พระราชทาน จากรชั กาลท่ี ๙ ตเู้ กบ็ คมั ภรี ใ์ บลาน ถงุ ผา้ ใหมสำ� หรบั เกบ็ คมั ภรี ์ บาตรและเชงิ บาตรสมยั รตั นโกสนิ ทรต์ อน ตน้ รวมทงั้ ฮางฮด (รางนำ้� ทำ� จากไม้ แกะสลกั เปน็ รปู พญานาค) ทใ่ี ชใ้ นการสรงนำ้� พระแกว้ บษุ ราคมั ของวดั ศรอี บุ ลรตั นาราม พพิ ิธภัณฑ์ฯ เปดิ ใหเ้ ขา้ ชมวันพุธ- วนั อาทติ ย์ เวลา ๐๙.๐๐-๑๖.๐๐ น. ไม่เสียคา่ เขา้ ชม อบุ ลราชธานี 13

วดั สปุ ัฏนารามวรวิหาร เวลา ๐๙.๐๐-๑๖.๐๐ น. ค่าเข้าชม ชาวไทย ๒๐ ๓ สว่ น คอื สว่ นหลงั คาเปน็ ศลิ ปะแบบไทย สว่ นกลาง บาท ชาวตา่ งชาติ ๑๐๐ บาท สอบถามข้อมูล โทร. เปน็ ศลิ ปะแบบตะวนั ตก และสว่ นฐานเปน็ ศลิ ปะแบบ ๐ ๔๕๒๕ ๑๐๑๕, ๐ ๔๕๒๕ ๕๐๗๑ ตอ่ ๑๖ ขอม ภายในพระอโุ บสถประดษิ ฐาน “พระสพั พญั ญเู จา้ ” วัดสปุ ฏั นารามวรวหิ าร ตงั้ อยถู่ นนสปุ ัฏน์ ใกลถ้ นน พระพุทธรูปปางมารวชิ ยั เป็นพระประธาน เลียบแม่น้�ำมูล เป็นวัดธรรมยุติกนิกายวัดแรกของ วัดทุ่งศรีเมือง ตั้งอยู่ถนนหลวง ต�ำบลในเมือง จงั หวดั อบุ ลราชธานี เรม่ิ สรา้ งเมอ่ื ปี พ.ศ. ๒๓๙๓ โดย สันนิษฐานว่าสร้างข้ึนรัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระราชศรัทธาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้า พระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลท่ี ๒ ผู้สร้างวัดคือ อยู่หัว รชั กาลที่ ๔ แลว้ เสรจ็ เม่ือปี พ.ศ. ๒๓๙๖ และ เจา้ คณุ พระอรยิ วงศาจารยญ์ าณวมิ ล อบุ ลสงั ฆปาโมกข์ ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า “วัดสุปัฏนา (สุ้ย หลักค�ำ) เจ้าคณะเมืองอุบลราชธานี ท่านได้ ราม” หมายถึง วดั ท่ีมสี ถานที่ตงั้ เหมาะสม สงิ่ สำ� คญั เคยศึกษาพระธรรมวินัยท่ีวัดสระเกศราชวรวิหาร ในวดั คอื พระอโุ บสถ ซง่ึ มคี วามกวา้ ง ๒๐ เมตร ความ กรุงเทพฯ จึงได้น�ำพระพุทธบาทจ�ำลองจากวัดสระ ยาวยาว ๓๔ เมตร และความสงู ๒๒ เมตร สถาปนิก เกศฯ มาประดิษฐานที่ หอพระพุทธบาท ซ่ึงเป็น ผู้ออกแบบ คือ หลวงสถิตย์นิมานกาล (ชวน สุปิย พระอุโบสถศิลปะไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นผสม พนั ธ)์ นายชา่ งทางหลวงแผน่ ดนิ พระอโุ บสถแบง่ เปน็ ศิลปะเวียงจันทน์ 14 อุบลราชธานี

วดั ทุ่งศรเี มอื ง อาคารทส่ี ำ� คญั อกี หลงั หนง่ึ คอื หอพระไตรปฎิ กกลาง วดั แจ้ง น้�ำ สร้างด้วยไม้ ตั้งอยู่กลางสระน้�ำ เป็นศิลปะผสม ระหว่างไทย พม่า และลาว ลักษณะอาคารเปน็ เรอื น เจ้าราชบุตร (หนูค�ำ) ซึ่งเป็นหน่ึงในคณะอาญาสี่ ผู้ ฝาปะกนแบบไทย ขนาด ๔ ห้อง ภายในเกบ็ รักษา ปกครองเมืองอุบลราชธานีในสมัยนั้น โบราณสถาน พระไตรปิฎก ปรัชญาพ้ืนบ้าน รวมถึงต�ำราต่าง ๆ ท่สี ำ� คัญของวัด คือ พระอุโบสถ สรา้ งขน้ึ เม่อื ปี พ.ศ. มากมาย ส่วนของหลังคามีลักษณะศิลปะไทยผสม ๒๔๕๕ ได้รับการยกย่องว่ามีรูปทรงสวยงามและมี พม่า คือ มีช่อฟ้าใบระกา แต่หลังคาซ้อนกันหลาย ช้ันแสดงถึงอิทธิพลศิลปกรรมพม่าที่ส่งผ่านมายัง ศิลปกรรมลาว ส่วนลวดลายแกะสลักบนหน้าบันท้ัง ๒ ดา้ น เปน็ ศลิ ปะแบบลาว ตรงสว่ นฝาปะกนดา้ นลา่ ง แกะเปน็ รปู สตั วป์ ระจำ� ราศแี ละลวดลายพนั ธพ์ุ ฤกษา โดยรอบ เป็นหอไตรที่มคี วามงดงามมาก วัดแจ้ง ต้งั อยูถ่ นนสรรพสทิ ธิ์ ตำ� บลในเมือง สร้างขึน้ เม่ือปี พ.ศ. ๒๔๓๑ ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ ัว รัชกาลที่ ๕ โดยดำ� ริของ อบุ ลราชธานี 15

วัดมหาวนาราม งานจ�ำหลักไม้ที่มีฝีมือแบบพ้ืนถ่ินโดยแท้ ซึ่งหาชม วดั บูรพาราม ไดย้ ากในปจั จบุ นั พระอโุ บสถมีความกว้าง ๖ เมตร ความยาว ๑๕ เมตร และความสูง ๑๐ เมตร ฐาน ได้ระบุปีที่สร้างวัดนี้ตรงกับปี พ.ศ. ๒๓๕๐ แต่เดิม เต้ียและหลังคาชั้นเดียว มุงด้วยกระเบื้องดินเผา มี เปน็ เพยี งสำ� นกั สงฆฝ์ า่ ยวปิ สั สนากมั มฎั ฐาน ตอ่ มาใน บนั ไดอยดู่ า้ นหน้า ราวบนั ไดป้ันเป็นรูปจระเข้หมอบ สมัยเจา้ เมืองคนท่ี ๒ คอื พระพรหมวรราชสรุ ยิ ะวงศ์ ส่วนหน้าบัน หน้าอุดปีกนก และรวงผึ้งสลักไม้เป็น (ทา้ วทดิ พรหม) ไดย้ กฐานะเปน็ วดั ประจำ� เจา้ เมอื ง ให้ ลายดอกบวั สวยงาม หางหงสม์ ลี กั ษณะพเิ ศษ คอื ทำ� ชอ่ื วา่ “วดั ปา่ หลวงมณโี ชต”ิ แตช่ าวบา้ นเรยี กวา่ “วดั เป็นรูปหัวนาคตรงหงอนสะบัดปลายเป็นกนกเปลว หนองตะพงั หรอื หนองสระพงั ” ตามชอื่ หนองนำ้� ทอี่ ยู่ พระอุโบสถได้รับการบูรณะให้คงสภาพเหมือนเดิม มากทส่ี ดุ และยงั ไดร้ บั เกียรตบิ ตั รในงานนิทรรศการ “สถาปนิก ๓๐” จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี วดั มหาวนาราม ตงั้ อยถู่ นนสรรพสทิ ธ์ิ ตำ� บลในเมอื ง ชาวบ้านนิยมเรียกกนั ว่า “วัดป่าใหญ่” จากหลักฐาน ศิลาจารึกที่ตั้งอยู่ด้านหลังองค์พระพุทธรูป พระเจ้า ใหญ่อินทร์แปลง ซึ่งเป็นปูชนียวัตถุท่ีส�ำคัญของวัด 16 อบุ ลราชธานี

ศนู ย์การเรียนรูเ้ ทียนพรรษาศรปี ระดู่ ใกล้เคยี ง ตอ่ มาไดเ้ ปลีย่ นชอื่ เปน็ “วดั มหาวนาราม” ทด่ี นิ และทรพั ย์สินเพอื่ ใหไ้ ดส้ ร้างเปน็ วัด จงึ กล่าวได้ โดยมพี ระมหาราชครศู รสี ทั ธรรมวงศา เปน็ เจา้ อาวาส ว่าวัดบูรพารามเป็นต้นก�ำเนิดของวัดสายวิปัสสนา รปู แรกและเปน็ ผสู้ รา้ งพระพทุ ธรปู “พระอนิ ทรแ์ ปง” กรรมฐาน หรือ “พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง” ซึ่งเป็นพระพุทธ ตลาดพาเพลินเดินยามแลง ต้ังอยู่บริเวณด้านหน้า รูปปางมารวิชัย ก่ออิฐถือปูนพร้อมกับลงรักปิดทอง ศนู ยก์ ารค้าเซน็ ทรัลพลาซา่ อบุ ลราชธานี เป็นแหลง่ ลกั ษณะศลิ ปะแบบลาว โดยจะมกี ารทำ� บญุ ตกั บาตร รวมแฟชั่นและสินค้าหลากหลายชนิด ท้ังเส้ือผ้า เทศนม์ หาชาตชิ าดก และสรงนำ้� ปดิ ทองพระเจา้ ใหญ่ เคร่ืองประดับ อาหาร สินค้าแฮนด์เมด และสินค้า อินทร์แปลง ในวันเพญ็ เดือน ๕ ของทกุ ปี OTOP เปิดทุกวันอังคาร-พฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา วดั บรู พาราม ตง้ั อย่ถู นนบูรพาใน ต�ำบลในเมอื ง ใน ๑๘.๐๐ น. เป็นต้นไป อดีตบริเวณวัดเคยเป็นป่าโปร่งเงียบสงัด เหมาะแก่ ศูนย์การเรียนรู้เทียนพรรษาศรีประดู่ ตั้งอยู่เลข การปฏิบัติธรรม หลวงปู่สีทา ชยเสโน และ หลวง ที่ ๖ ถนนสรรพสิทธ์ิ หน้าวัดศรีประดู่ ต�ำบลใน ปเู่ สาร์ กนฺตสีโล เคยมาปฏิบตั ธิ รรม ณ ทีน่ ้ี ต่อมา เมือง ด�ำเนินงานโดย อาจารย์สมคิด สอนอาจ ครู หลวงปู่ม่ัน ภูริทัตโต ทราบจึงได้เดินทางมาฝากตัว ภูมิปัญญาไทยสาขาศิลปะเทียนพรรษา ศูนย์แห่ง เป็นศิษย์ร่วมปฏิบัติธรรมด้วย ซึ่งสมัยน้ันยังเป็น นี้เปิดให้เยาวชนและผู้ท่ีสนใจศิลปะการท�ำเทียน ส�ำนักสงฆ์อยู่ ต่อมากรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ พรรษาทัง้ ประเภทตดิ พมิ พ์และแกะสลัก ไดม้ าเรียน (ข้าหลวงต่างพระองค์) ได้เกิดศรัทธา จึงได้บริจาค อบุ ลราชธานี 17

วัดพระธาตุหนองบัว รู้เพ่ือเป็นการสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีการท�ำ ทมี่ าพกั ผอ่ นชมบรรยากาศแมน่ ำ้� มลู ฤดกู าลทเี่ หมาะ เทยี นพรรษา ผสู้ นใจสามารถนัดหมายลว่ งหน้า เพอ่ื สมในการท่องเที่ยวคือช่วงฤดูแล้ง ระหว่างเดือน เขา้ ชมการสาธติ การทำ� เทยี นและสามารถทดลองแกะ มกราคมถงึ พฤษภาคม สลกั เทยี นดว้ ยตวั เอง ศนู ยก์ ารเรยี นรแู้ หง่ นเ้ี ปดิ ทกุ วนั ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมกาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัย เวลา ๐๙.๐๐-๑๖.๐๐ น. สอบถามข้อมลู โทร. ๐๘ ราชภฏั อบุ ลราชธานี อยถู่ นนแจง้ สนทิ ตำ� บลในเมอื ง ๑๐๖๙ ๕๑๙๑ สร้างข้ึนในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทร นอกจากนว้ี ดั ศรปี ระดู่ ซง่ึ ตง้ั อยหู่ า่ งจากศนู ยก์ ารเรยี น มหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ทรงครองสิริราช รฯู้ ประมาณ ๑๐๐ เมตร ภายในวัดยงั เป็นทต่ี งั้ ของ สมบัติครบ ๕๐ ปี โดยสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ ชมรมผสู้ งู อายวุ ดั ศรปี ระดู่ ซงึ่ มผี สู้ งู อายใุ นชมุ ชนรวม สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชด�ำเนินเป็นองค์ ตวั กนั ประดษิ ฐก์ ระเปา๋ และตะกรา้ สานจากวสั ดตุ า่ ง ๆ ประธานประกอบพิธีเปิด เมื่อวันที่ ๑๑ ธันวาคม สามารถแวะชมและอดุ หนนุ สนิ ค้าของชุมชนได้ พ.ศ. ๒๕๔๔ เป็นอาคารสูง ๗ ชั้น สร้างโดยเน้น หาดวัดใต้ อยู่ต�ำบลในเมือง ลักษณะเป็นเกาะ ความงามตามแบบสถาปัตยกรรมอีสานประยุกต์ มี หาดทรายกลางแม่น้�ำมูล ในฤดูแล้งจะมีหาดทราย หอวัฒนธรรมอุบลนิทัศน์ ซึง่ เปน็ ศนู ย์การเรยี นรู้ท้อง ละเอียด น้�ำใสสะอาด บนเกาะมีต้นไม้เขียวชอุ่มให้ ถ่ินของชุมชนและแหล่งรวบรวมภูมิปัญญาท้องถ่ิน ความร่มรื่น และมีร้านอาหารบนแพให้บริการแก่ผู้ มีห้องจัดนิทรรศการถาวรและนิทรรศการหมุนเวียน 18 อุบลราชธานี

และเป็นศูนย์กลางการประชุมสัมมนาทางวิชาการ ภายในพระธาตุหนองบัว มีบริการหอ้ งจัดประชมุ หอ้ งจัดงานเลี้ยง รวมทง้ั สิ่ง อ�ำนวยความสะดวกต่าง ๆ มากมาย สอบถามขอ้ มลู ลูกปัด เครื่องปั้นดินเผา กระพรวนสัมฤทธิ์ ขวาน โทร. ๐ ๔๕๓๕ ๒๐๓๑ เหลก็ และแกลบขา้ วจำ� นวนมาก แตไ่ มพ่ บโครงกระดกู วัดพระธาตุหนองบัว ต้ังอยู่ถนนธรรมวิถี ต�ำบล มนษุ ย์ สนั นษิ ฐานวา่ ชมุ ชนโบราณแหง่ นม้ี อี ายรุ ะหวา่ ง ในเมือง เป็นวัดธรรมยุติกนิกาย ท่ีมีสถาปัตยกรรม ๒,๕๐๐-๒,๘๐๐ ปี อยูใ่ นยคุ โลหะตอนปลาย ต่อมามี งดงาม มี “พระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธ์ิ” เป็นปูชนีย การสร้างอาคารคลุมหลุมขดุ คน้ ดังกลา่ วและปรับภูมิ สถานที่ส�ำคัญของวัด โดยพระธาตุเจดีย์ได้สร้างขึ้น ทศั นร์ อบหลมุ ขดุ คน้ ให้เหมาะแก่การเยย่ี มชม และมี ครั้งแรกเพื่อเป็นสัญลักษณ์ครบรอบ ๒๕ ศตวรรษ การจัดนิทรรศการให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับหลักฐาน ของพุทธศาสนาในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ จ�ำลองแบบมา ทางโบราณคดีท่ีขุดค้นพบ นักท่องเที่ยวและผู้สนใจ จากเจดยี ์ทพ่ี ุทธคยาในประเทศอนิ เดีย โดยพระธาตุ สามารถเข้าชมได้ทกุ วัน โดยไมเ่ สียคา่ ใช้จา่ ย เจดียอ์ งค์เดมิ มีความกวา้ งดา้ นละ ๕ เมตร ความสงู การเดินทาง จากทุ่งศรีเมือง ใช้ทางหลวงหมายเลข ๑๗ เมตร และมีประตูทางเข้าท้ังส่ีด้าน ภายในเป็น ๒๔ (ถนนอุปราช) ตอ่ ดว้ ยทางหลวงหมายเลข ๒๑๒ ทป่ี ระดษิ ฐานพระบรมสารรี ิกธาตุ รอบองค์พระธาตุ (ถนนชยางกูร) เส้นทางไปจังหวัดอำ� นาจเจริญ จนถึง เจดยี เ์ ปน็ กำ� แพงแกว้ ซง่ึ ทงั้ สม่ี มุ ประดษิ ฐานพระเจดยี ์ ขนาดเลก็ อกี ๔ องค์ ในเวลาต่อมามีการบูรณะพระธาตุเจดีย์ โดยการ สร้างเจดีย์ใหม่ครอบองค์เดิม ซึ่งก็คือพระธาตุเจดีย์ ศรมี หาโพธทิ์ เี่ หน็ กนั ในปจั จบุ นั โดยมคี วามกวา้ งดา้ น ละ ๑๗ เมตร ความสงู ๕๖ เมตร บรู ณะแล้วเสร็จ สมบรู ณ์ในปี พ.ศ. ๒๕๑๒ การเดินทาง จากทุ่งศรีเมือง ใช้ทางหลวงหมายเลข ๒๔ (ถนนอุปราช) ตอ่ ด้วยทางหลวงหมายเลข ๒๑๒ (ถนนชยางกูร) เส้นทางไปจังหวัดอ�ำนาจเจริญ ผ่าน กองกำ� กับการตำ� รวจตระเวนชายแดนท่ี ๒๒ จนพบ สามแยกไฟแดง ให้เล้ียวซ้ายเข้าถนนธรรมวิถี ตรง ไปอีก ๖๐๐ เมตร จะพบวัดพระธาตุหนองบัวอยู่ ทางขวามือ รวมระยะทางจากทุ่งศรีเมืองประมาณ ๔.๕ กโิ ลเมตร แหลง่ โบราณคดบี า้ นกา้ นเหลอื ง ตงั้ อยใู่ นบรเิ วณวดั กา้ นเหลอื ง ตำ� บลขามใหญ่ กรมศลิ ปากรไดท้ ำ� การขดุ ค้นเมอ่ื ปี พ.ศ. ๒๕๓๙ พบโบราณวัตถุมากมาย เช่น อบุ ลราชธานี 19

วดั สระประสานสุข สี่แยกวนารมย์ ให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข พระพุทธรูปองคใ์ หญ่ และสงั ขารของหลวงปู่บญุ มีซึ่ง ๒๓๑ ทางไปอ�ำเภอตระการพืชผล ตรงไปประมาณ ไมเ่ น่าเปื่อยอยใู่ นโลงแกว้ นอกจากนี้ยงั มี วิหารกลาง ๑.๕ กิโลเมตร จะพบวัดก้านเหลืองอยู่ริมถนนทาง นำ�้ เรอื ธรรมนาคราช ซงึ่ วหิ ารจะตงั้ อยกู่ ลางลำ� ตวั ของ ซา้ ยมอื รวมระยะทางจากทุง่ ศรีเมอื งประมาณ ๖.๕ เรอื ทเ่ี ปน็ รปู นาคราชจำ� ลอง ตงั้ ยนื่ ออกมากลางสระนำ้� กิโลเมตร โดยดา้ นหน้าวิหารหนั ไปทศิ ทางเดียวกบั สว่ นหัวนาค วัดสระประสานสุข (วัดบา้ นนาเมอื ง) ตัง้ อย่บู ้านนา การเดินทาง จากทุ่งศรีเมือง ใช้ทางหลวงหมายเลข เมือง ทางด้านทิศเหนือของสนามบิน เป็นวัดที่มี ๒๔ (ถนนอุปราช) ตอ่ ดว้ ยทางหลวงหมายเลข ๒๑๒ พระอุโบสถบนเรือสุพรรณหงส์ ซ่ึงประดับตกแต่ง (ถนนชยางกูร) เส้นทางไปจงั หวดั อ�ำนาจเจรญิ จนถงึ ด้วยเซรามิกสีน้�ำตาลแดง โดยด้านหน้าพระอุโบสถ สี่แยกวนารมย์ ให้เล้ียวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข จะหันไปทางส่วนหัวของเรือสุพรรณหงส์จ�ำลอง ใน ๒๓๑ เลยแหล่งโบราณคดีบ้านก้านเหลือง จนพบ อดีตวดั นมี้ หี ลวงป่บู ญุ มเี ปน็ เจา้ อาวาส (ปจั จุบันท่าน สามแยกให้เลยี้ วขวา และตรงไปจนพบสแี่ ยกให้เลีย้ ว มรณภาพแล้ว) ท่านเป็นพระภิกษุที่เคารพนับถือ ขวาอกี ครง้ั ตรงไปจนถงึ โรงเรยี นบา้ นนาเมอื ง วดั สระ ของชาวอุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียง ภายใน ประสานสุขจะต้ังอยู่ในซอยข้างโรงเรียน รวมระยะ วัดจึงมี พิพิธภัณฑ์หลวงปู่บุญมี ภายในประดิษฐาน ทางจากทุ่งศรีเมืองประมาณ ๑๑ กิโลเมตร 20 อบุ ลราชธานี

สวนสัตว์อุบลราชธานี ตั้งอยู่เลขที่ ๑๑๒ หมู่ หมบู่ า้ นหตั ถกรรมทองเหลืองบ้านปะอาว ท่ี ๑๗ ต�ำบลขามใหญ่ ช่ือเดิมคือ อุทยานสัตว์ป่า อบุ ลราชธานี ภายใต้การกำ� กบั ดแู ลขององคก์ ารสวน ขวามอื จากนน้ั ใหเ้ ลยี้ วขวาตรงสามแยกเขา้ ทางหลวง สตั วใ์ นพระบรมราชปู ถมั ภ์ ตง้ั อยใู่ นพน้ื ทปี่ า่ สงวนแหง่ ชนบท อบ.๒๐๖๐ ต่อด้วยทางหลวงชนบท ชาติดงฟ้าห่วน มีการวางรูปแบบของสวนสัตว์แห่ง อบ. ๕๑๐๕ ตรงไปจนถึงสวนสตั ว์ รวมระยะทางจาก น้ีให้เป็น Jungle Park คือ การน�ำสวนสัตว์เข้ามา ทงุ่ ศรีเมืองประมาณ ๙ กิโลเมตร ผสมผสานกับความสมบูรณ์ของปา่ ไมภ้ ายในพืน้ ท่ี มี หาดคเู ดอื่ เปน็ หาดทรายรมิ ฝง่ั แมน่ ำ้� มลู บรเิ วณหาด วตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื เปน็ ศนู ยว์ จิ ยั และขยายพนั ธส์ุ ตั วป์ า่ จะมีร้านอาหารท้ังแบบท่ีตั้งอยู่บนฝั่งริมแม่น้�ำและ หายากและการฟื้นฟูระบบนิเวศ สวนสัตว์เปิดอย่าง เป็นแพริมน้�ำให้บริการอยู่หลายร้าน เป็นท่ีนิยมของ เป็นทางการเม่อื วันท่ี ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ตอ่ มา ชาวอบุ ลราชธานีและนักทอ่ งเทย่ี ว ในวนั ท่ี ๒๖ มนี าคม ๒๕๕๖ สมเดจ็ พระเทพรัตนราช การเดินทาง จากทุ่งศรีเมือง ใช้ทางหลวงหมายเลข สุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานช่ือว่า ๒๔ (ถนนอุปราช) จากน้ันเล้ียวซ้ายเข้าถนนพโลชัย “สวนสตั วอ์ บุ ลราชธานี” ตรงไปจนถงึ แยกสำ� นกั งานประกนั สงั คมอบุ ลราชธานี ประเภทของสตั วท์ ่ีน�ำมาจัดแสดง ได้แก่ สัตว์ตระกูล ให้เล้ียวขวาและตรงไปจนถึงแยกส�ำนักงานประปา กวางพันธุ์ไทย เชน่ กวางปา่ เกง้ ละอง-ละม่งั และ อุบลราชธานี ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบริมแม่น้�ำมูล สตั วต์ ระกลู กวางพนั ธต์ุ า่ งประเทศ เชน่ แบลค็ บคั เนอื้ และตรงไปจนถึงหาดคูเด่ือ รวมระยะทางจากทุ่งศรี ทราย กวางซกิ ้า บาราซงิ ค์ และได้น�ำสตั ว์ชนิดอ่นื ๆ เมอื งประมาณ ๑๒ กโิ ลเมตร เขา้ มาจดั แสดงตามสภาพผนื ปา่ ภายในสวนสตั ว์ ไดแ้ ก่ หมู่บ้านหัตถกรรมทองเหลืองบ้านปะอาว ตั้งอยู่ สตั ว์กล่มุ นักลา่ คอื เสือโคร่ง เสือขาว สงิ โตขาว สิงโต บา้ นปะอาว ตำ� บลหนองขอน เปน็ หมบู่ า้ นเกา่ แกม่ าก แอฟรกิ า กล่มุ สตั ว์ทุง่ แอฟรกิ า คอื ยีราฟ ม้าลาย นก แห่งหนึ่ง ในอดตี บรรพบุรษุ ชาวบา้ นปะอาวได้อพยพ กระจอกเทศ ไนอาล่า และอีแลนด์ กลุ่มสัตว์ขนาด เล็ก คอื จิงโจแ้ ดง เมยี ร์แคท หมขี อ จระเขไ้ คแมน สวนสตั วเ์ ปดิ ใหบ้ รกิ ารทกุ วนั เวลา ๐๘.๓๐-๑๘.๐๐ น. คา่ เข้าชม (ชาวไทย) ผูใ้ หญ่ ๑๐๐ บาท เด็ก ๒๐ บาท (ชาวต่างชาติ) ผู้ใหญ่ ๑๕๐ บาท เด็ก ๗๐ บาท ผู้สูงอายุ ๖๐ ปีข้ึนไป ผู้พิการ พระภิกษุ สามเณร ไมเ่ สยี คา่ เข้าชม นอกจากนยี้ งั มีบา้ นพกั ค่ายเยาวชน ห้องประชุมสัมมนาให้บริการ สอบถามข้อมูล โทร. ๐ ๔๕๒๕ ๒๗๖๑ หรอื www.ubon.zoothailand.org การเดินทาง จากตัวเมืองอุบลราชธานี ใช้ทางหลวง หมายเลข ๒๓ เสน้ ทางไปจังหวัดยโสธร ตรงไปจนถงึ ส�ำนักงานบังคับคดีจังหวัดอุบลราชธานีซึ่งอยู่ทาง อบุ ลราชธานี 21

วัดท่งุ ศรวี ไิ ล มาจากนครเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตย ท้ังศูนย์หัตถกรรมเคร่ืองทองเหลืองและศูนย์ ประชาชนลาวตงั้ แตส่ มยั ของพระเจา้ สริ บิ ญุ สาร มายงั หัตถกรรมทอผ้าไหม เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา หนองบวั ลำ� ภนู ครเขอื่ นขนั ธก์ าบแกว้ บวั บาน จนกระทงั่ ๐๘.๐๐-๑๗.๐๐ น. หากสนใจเยี่ยมชมเป็นหมู่คณะ ถงึ บา้ นปะอาวแหง่ นี้ หมบู่ า้ นปะอาวมอี ายกุ วา่ ๒๐๐ ปี ควรนดั หมายทางศนู ยฯ์ ลว่ งหนา้ สอบถามขอ้ มลู ไดท้ ี่ และเป็นหมู่บ้านท่ีมีอาชีพการท�ำเคร่ืองทองเหลือง คุณทัศนยี ์ โทร. ๐๘ ๑๐๗๖ ๑๒๔๙ ทเี่ ปน็ เอกลกั ษณ์ ซง่ึ ไดร้ บั การสบื ทอดมาจากบรรพบรุ ษุ มกี รรมวธิ กี ารผลติ แบบโบราณ การเดินทาง จากตัวเมืองอุบลราชธานี ใช้ทางหลวง หมายเลข ๒๓ เสน้ ทางไปจงั หวดั ยโสธร ประมาณ ๑๘ ภายในหมบู่ า้ นมศี นู ยห์ ตั ถกรรมเครอื่ งทองเหลอื ง ซงึ่ กโิ ลเมตร จะผา่ นโรงเรยี นบา้ นหนองชา้ ง (รมิ ถนนทาง ชาวบ้านจะท�ำการผลิตกันทุกวัน มีทั้งผลิตภัณฑ์ท่ี ซา้ ยมือ) จากน้ันเลยไปอกี ประมาณ ๒๐๐ เมตร จะ ท�ำข้ึนเพ่ือจ�ำหน่ายแก่ลูกค้าทั่วไปและท�ำตามแบบที่ พบทางเขา้ หมบู่ า้ นปะอาวอยอู่ กี ฟากถนนทางขวามอื ลูกค้าสั่งโดยเฉพาะ และมีศูนย์หัตถกรรมทอผ้าไหม รวมระยะทางจากทุง่ ศรเี มอื งประมาณ ๒๐ กโิ ลเมตร ตงั้ อยบู่ รเิ วณโรงเรยี นบา้ นปะอาว มกี ารทอผา้ ไหมกนั ทกุ วันและมีผลิตภณั ฑ์ผ้าไหมจำ� หน่ายดว้ ย นอกจาก อ�ำเภอเขอ่ื งใน นย้ี งั มพี พิ ธิ ภณั ฑข์ องเกา่ โบราณของชมุ ชนหมบู่ า้ นปะ วัดทุ่งศรีวิไล ตง้ั อยู่บา้ นชที วน ตำ� บลชีทวน ภายใน อาวในอดตี ต้ังอย่ทู ่วี ดั บูรพาปะอาวเหนอื ให้นกั ท่อง วัดมีวิหารประดิษฐาน หลวงพ่อพระพุทธวิเศษ เป็น เท่ียวและผสู้ นใจทัว่ ไปได้ศึกษาและเที่ยวชม พระพทุ ธรปู หนิ ศลิ าแลงแกะสลกั ปางนาคปรก ศลิ ปะ 22 อบุ ลราชธานี

ธรรมาสน์สิงห์ศลิ ปะญวนทบี่ า้ นชที วน ทวารวดี ขนาดหนา้ ตักกว้าง ๕๕ เซนตเิ มตร สูง ๙๐ ภิกษุที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยและแตกฉานใน เซนติเมตร ซึ่งเป็นท่ีเคารพสักการะของชาวบ้าน มูลกัจจายน์ (คมั ภีร์ไวยากรณบ์ าลชี ือ่ “กัจจายนะ”) ชีทวน นอกจากนี้บริเวณวัดยังมีใบเสมาหลายชั้น ล้อมรอบพระอุโบสถและวิหารหลังเก่าไปเป็นช้ัน ๆ การเดินทาง จากตัวอ�ำเภอเขื่องใน ใช้ทางหลวง ถึงก�ำแพงรอบวัดทุกสารทิศ ตลอดท้ังมีสระน้�ำใหญ่ หมายเลข ๒๓ เส้นทางเข้าตัวเมืองอุบลราชธานี พร้อมด้วยซากของหอไตรรวมธรรมาสน์ ซ่ึงก่อด้วย จนเลยบ้านท่าวารีจะพบทางแยก ให้แยกขวาเข้า อิฐสมัยก่อน สันนิษฐานว่า ท่ีตั้งของวัดจะเป็นโนน ทางหลวงหมายเลข ๒๔๑๒ ตรงไปจะพบทางแยกให้ นกเขียน (นานกเขียน) ตามประวัติอันยาวนานและ เลย้ี วขวาไปบา้ นชที วน จากนน้ั ตรงไปจนถงึ สามแยก ต�ำนานท่ีเล่าขานสืบต่อกันมาของชาวชีทวนท่ีว่า ใหเ้ ล้ยี วขวาอกี ครงั้ และตรงไปประมาณ ๕๐๐ เมตร “ทุ่งสามขา นานกเขียน เงินสามเกวียน อยู่ใต้ร่ม ถึงวัดทุ่งศรีวิไล รวมระยะทางจากตัวอ�ำเภอเขื่องใน พลบั ” และวดั นย้ี งั มโี บราณวตั ถทุ สี่ ำ� คญั คอื พระมหา ประมาณ ๒๓ กโิ ลเมตร ธาตอุ ญั ญาทา่ นดา้ น ซงึ่ เปน็ ทบ่ี รรจอุ ฐั ธิ าตขุ องอญั ญา ธรรมาสน์สิงห์ศลิ ปะญวนทีบ่ า้ นชที วน ตง้ั อยู่ศาลา ท่านด้าน อดีตเจ้าอาวาสวัดทุ่งศรีวิไล ซึ่งเป็นพระ การเปรยี ญ วดั ศรีนวลแสงสวา่ งอารมณ์ บา้ นชีทวน ต�ำบลชีทวน เป็นธรรมาสน์ท่ีแตกต่างจากธรรมาสน์ อบุ ลราชธานี 23

สะพานขา้ มทุ่งบา้ นชที วน โดยทั่วไป คือ มีลักษณะเป็นรูปสิงห์ยืนเทินบุษบก สะพานข้ามท่งุ บา้ นชีทวน (ขัวน้อย) ตัง้ อยกู่ ลางทงุ่ (ตัวธรรมาสน์) สร้างด้วยอิฐถือปูน ยอดปราสาท นาเชอ่ื มระหวา่ งบา้ นชที วนและบา้ นหนองแคน ตำ� บล เป็นเคร่อื งไมท้ ำ� เปน็ ชั้นซอ้ นลดหล่ัน ประดบั ตกแตง่ ชที วน คำ� วา่ “ขวั ” เปน็ ภาษาทอ้ งถนิ่ หมายถงึ สะพาน ลายปูนปั้นและลายเขียนสีแบบศิลปะญวนทั้งหลัง แต่เดิมสะพานแห่งนี้สร้างขึ้นจากไม้ ด้วยแรงศรัทธา ธรรมาสน์นี้สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๖๘ ของชาวบา้ น ๒ หมบู่ า้ น คอื บา้ นชที วนและบา้ นหนอง โดยชา่ งชาวญวน และถอื เปน็ ประตมิ ากรรมทม่ี คี ณุ คา่ แคน ซง่ึ อยคู่ นละฟากฝง่ั สะพาน เพอื่ ใหพ้ ระภกิ ษสุ งฆ์ ยิง่ ทางดา้ นศิลปวฒั นธรรมพ้นื เมือง และสามเณรเดินข้ามมาบิณฑบาตได้โดยสะดวก ไม่ เหยยี บตน้ ขา้ ว และชาวบา้ นเดนิ ทางไปมาหาสกู่ ันได้ การเดินทาง จากตัวอ�ำเภอเข่ืองใน ใช้ทางหลวง งา่ ย หลงั จากใชส้ ญั จรมาไดร้ ะยะหนงึ่ สะพานเกดิ ชำ� รดุ หมายเลข ๒๓ เส้นทางเข้าตัวเมืองอุบลราชธานี ผพุ ังไปตามกาลเวลา ชาวบา้ นจงึ พร้อมใจกนั รวบรวม จนเลยบ้านท่าวารีจะพบทางแยก ให้แยกขวาเข้า เงนิ และนำ� มาบรู ณะใหม่ จากของเดมิ ทเี่ ปน็ สะพานไม้ ทางหลวงหมายเลข ๒๔๑๒ ตรงไปจะพบทางแยกให้ มาเปน็ สะพานคอนกรีตที่เหน็ กันในปัจจุบัน เลยี้ วขวาไปบา้ นชที วน จากนน้ั ตรงไปจนถงึ สามแยก ใหเ้ ลยี้ วซา้ ย และตรงไปจนสดุ ทางถนนคอื ทต่ี งั้ ของวดั สะพานมีขนาดความกว้าง ๑.๔ เมตร ความยาว ศรนี วลแสงสวา่ งอารมณ์ รวมระยะทางจากตวั อำ� เภอ ๒๗๑.๕ เมตร และความสงู ๑.๕ เมตร นอกจากใช้ เข่ืองในประมาณ ๒๔ กโิ ลเมตร สัญจรเดินเท้าไปมาของชาวบา้ นในพ้ืนท่ีแล้ว ยงั เปน็ 24 อบุ ลราชธานี

ถนนคนเดินเขมราฐ จุดทิวทัศน์ท่ีสวยงามเหมาะแก่การท่องเท่ียวและ แนวแม่น้�ำโขงเป็นระยะทางยาวกว่า ๔๐ กิโลเมตร ถ่ายภาพ หากมาเที่ยวช่วงฤดูฝน (เดือนมิถุนายน- ฝง่ั ตรงขา้ มอำ� เภอเขมราฐ คอื เมอื งสองคอน แขวงสะ กันยายน) จะได้ชมท้องทุ่งนาสีเขียว แต่หากมาใน หวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ช่วงปลายฝนต้นหนาว (เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน) ถนนคนเดินเขมราฐ ต้ังอยู่ถนนวิศิษฐ์ศรี เป็นย่าน ท้องทุ่งนาจะเป็นสีเหลืองทอง เพราะข้าวก�ำลังออก เมอื งเกา่ ในตวั อำ� เภอ เกดิ จากแนวคดิ ทจ่ี ะพฒั นาบา้ น รวงพร้อมให้เกบ็ เกี่ยว แนะนำ� ใหม้ าเทยี่ วในช่วงเวลา เมอื งเกา่ ทม่ี ปี ระวตั ศิ าสตรแ์ ละเศรษฐกจิ ทเ่ี คยคกึ คกั เชา้ หรอื เยน็ เพราะจะมลี มพดั เยน็ สบายและแสงแดด ในอดตี ใหก้ ลบั มามชี วี ติ ชวี าขนึ้ อกี ครง้ั ในบรรยากาศ ก�ำลงั ดีทำ� ใหถ้ า่ ยภาพสวย แบบยอ้ นยุค โดยจดั ให้มีการออกร้านจ�ำหน่ายสนิ ค้า การเดนิ ทาง ใชเ้ สน้ ทางเดยี วกับทางไปวัดทงุ่ ศรวี ิไล พืน้ เมือง ทัง้ ของกิน ของใช้ ช้นิ งานศิลปะ และมกี าร อำ� เภอเขมราฐ แสดงศิลปวัฒนธรรม รวมถึงนิทรรศการภาพเก่าแก่ เขมราฐ แปลว่า ดินแดนแห่งความเกษมสุข เป็น ของอำ� เภอเขมราฐ ถนนคนเดินเขมราฐมีทกุ วันเสาร์ อ�ำเภอท่ีตั้งอยู่ริมแม่น้�ำโขง และมีพ้ืนที่ขนานไปกับ เวลา ๑๖.๐๐-๒๒.๐๐ น. อุบลราชธานี 25

วัดบุง่ ขเ้ี หล็ก วัดบุ่งขี้เหล็ก ตั้งอยู่บ้านบุ่งข้ีเหล็ก ต�ำบลนาแวง มี พระพทุ ธรูปปูนปนั้ สีขาว ปางมารวิชยั ประทับน่งั บน หาดทรายสูง ดอกบวั ประดษิ ฐานอยลู่ านกลางแจง้ ของวดั หลายสบิ 26 อบุ ลราชธานี องค์ เปน็ ภาพที่สวยงามและมีบรรยากาศเงียบสงบ การเดินทาง จากตัวอ�ำเภอเขมราฐ ใช้ทางหลวง หมายเลข ๒๐๕๐ เส้นทางไปตัวเมืองอุบลราชธานี ประมาณ ๒.๕ กโิ ลเมตร ถงึ สามแยกใหเ้ ล้ียวซ้ายเข้า ทางหลวงหมายเลข ๒๑๑๒ ตรงไปจะพบวดั บงุ่ ขเี้ หลก็ อยู่ริมถนนทางขวามือ รวมระยะทางจากตัวอ�ำเภอ เขมราฐประมาณ ๑๐ กิโลเมตร หาดทรายสูง ตงั้ อยู่บ้านลาดเจริญ ตำ� บลนาแวง เปน็ หาดทรายริมฝั่งแม่น�้ำโขงที่เกิดจากการพัดพาทราย ของกระแสน้�ำและลมมาทับถมกันจนมีความสูงและ มีความยาวหลายสิบเมตร เป็นจุดชมทัศนียภาพริม ฝั่งโขงที่สวยงาม และเป็นที่นิยมในการถ่ายภาพให้ ดูเหมือนอยู่ในทะเลทราย โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม หาดทรายสูงจะ ปรากฏเด่นชัด แนะน�ำให้มาเที่ยวในช่วงเวลาเช้า หรือเย็น เพราะแสงแดดก�ำลังสวยและไม่ร้อนเท่า ชว่ งกลางวนั การเดินทาง จากตัวอ�ำเภอเขมราฐ ใช้ทางหลวง หมายเลข ๒๐๕๐ เส้นทางไปตัวเมืองอุบลราชธานี ประมาณ ๒.๕ กิโลเมตร ถึงสามแยกใหเ้ ลยี้ วซา้ ยเข้า ทางหลวงหมายเลข ๒๑๑๒ ตรงไปและเลีย้ วซา้ ยเขา้ ทางหลวงชนบท อบ. ๔๐๘๒ ผา่ นโรงเรยี นบ้านโบก ม่วง ตรงไปถึงหาดทรายสูง รวมระยะทางจากตัว อ�ำเภอเขมราฐประมาณ ๒๗ กโิ ลเมตร อ�ำเภอนาตาล หาดชมดาว หรือ แก่งชมดาว ตั้งอยู่บ้านโนนตาล ต�ำบลโนนตาล มีลักษณะเป็นแนวหาดหินและแก่ง หนิ กวา้ งใหญ่ ซง่ึ ในชว่ งฤดฝู นแกง่ หนิ เหลา่ นจ้ี ะจมอยู่

หาดชมดาว ใต้แมน่ ำ้� โขง และดว้ ยกำ� ลังแรงของกระแสน�้ำ จึงกัด การเดินทาง จากตัวอ�ำเภอนาตาล ใช้ทางหลวง เซาะแกง่ หินทำ� ใหก้ ลายเป็นแอ่งเลก็ ใหญจ่ ำ� นวนมาก ชนบท อบ ๔๐๗๖ จนถึงสี่แยกจุดตัดกับทางหลวง เกิดเป็นประติมากรรมหินธรรมชาติรูปร่างแปลกตา หมายเลข ๒๑๑๒ จากน้ันเล้ียวซ้ายใช้ทางหลวง ชวนให้จนิ ตนาการ หมายเลข ๒๑๑๒ ตรงไปจนเลยหลักกิโลเมตร ที่ ๒๕ จะพบทางแยกขวามือ ให้เลี้ยวเข้าไป ๒ หาดชมดาวมีจุดที่สวยสุดลักษณะเป็นผาหินสูงใหญ่ กิโลเมตร ถึงทางลงไปหาดชมดาว หากมาจากตัว และเว้าแหว่งยาวคล้ายช่องแคบ มีสายน�้ำไหลผ่าน เมืองอุบลราชธานี ใช้ทางหลวงหมายเลข ๒๐๕๐ และมกี อ้ นหนิ เลก็ กลางนำ้� ใหล้ งไปยนื ถา่ ยรปู ชว่ งเวลา ผ่านอ�ำเภอตระการพืชผล ตรงไปจนถึงป้อมต�ำรวจ ท่ีเหมาะสมในการไปเท่ียว คือ เช้าและเย็น เพราะ หว้ ยยาง ใหเ้ ลี้ยวขวาใช้ทางหลวงหมายเลข ๒๓๓๗ แดดจะไม่ร้อนและถ่ายภาพออกมาได้แสงท่ีสวยงาม ตรงไปจนถึงจุดบรรจบระหว่างทางหลวงหมายเลข และสามารถไปเที่ยวได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน- ๒๓๓๗ กบั ทางหลวงหมายเลข ๒๑๑๒ ให้เล้ียวซ้าย พฤษภาคม ของทุกปี เพราะระดับนำ�้ ในแมน่ ้�ำโขงยัง ใช้ทางหลวงหมายเลข ๒๑๑๒ ตรงไปจนเลยหลัก ไมส่ ูงมาก จะเห็นเกาะแกง่ กลางน�ำ้ ชดั เจน อบุ ลราชธานี 27

สามพันโบก กโิ ลเมตรท่ี ๒๕ จะพบทางแยกขวามอื ใหเ้ ล้ยี วเข้าไป ว่า “แกรนด์แคนยอนน�้ำโขง” ทางเข้าแก่งสามพัน ๒ กิโลเมตร ถงึ ทางลงไปหาดชมดาว รวมระยะทาง โบกจะพบก้อนหินลักษณะคล้ายหัวสุนัข ซึ่งมีเรื่อง จากตัวเมืองอบุ ลราชธานปี ระมาณ ๑๑๕ กิโลเมตร เล่าว่า “แต่ก่อนมีเจ้าเมืองเป็นผู้เรืองอ�ำนาจประทับ อำ� เภอโพธิ์ไทร ใจความงามของสามพันโบก จึงได้ส่งเสนามาศึกษา สามพันโบก ตั้งอยู่บริเวณบ้านสองคอน เป็นแก่ง เพ่ิมเติม เม่ือมาแล้วพบขุมทรัพย์เป็นทองค�ำ จึงให้ หินที่อยู่ใต้ล�ำน้�ำโขงซึ่งเกิดจากแรงน้�ำท่ีกัดเซาะใน สุนัขเฝ้าทางเข้าจนกว่าเจ้าเมืองจะออกมา เม่ือเจ้า ช่วงฤดูน้�ำหลากกลายเป็นแอ่งจ�ำนวนมาก ลักษณะ เมืองได้เห็นสมบัติเกิดความโลภกลัวเสนาจะได้ส่วน คล้ายหาดชมดาวที่อ�ำเภอนาตาล ค�ำว่า “โบก” แบ่ง จึงได้ออกไปทางอ่ืน สุนัขผู้ภักดีก็เฝ้ารออยู่ตรง หมายถึง “แอ่ง” หรือ “บ่อน�้ำลึก” สามพันโบกจะ น้ันจนตาย” บางต�ำนานก็ว่า “ลูกพญานาคในล�ำน้�ำ ปรากฏใหเ้ หน็ ในชว่ งฤดแู ลง้ ยามทแ่ี มน่ ำ�้ โขงลดระดบั โขงเป็นผู้ขุดเพื่อให้เกิดล�ำน้�ำอีกสายหน่ึง และได้ให้ ลถ้ำ�งผาตไทั้งแต่เดือนธันวาคม-พฤษภาคม ชาวบ้านเรียก สุนัขเฝ้าทางเข้าระหว่างการขุดจนกระท่ังสุนัขได้ตาย ลง กลายเป็นหินรปู สุนัขในท่สี ดุ ” 28 อบุ ลราชธานี

หาดหงส์ หาดสลึง หาดทรายขาวละเอียดทอดยาวตลอดแนว ชอ่ แหลมคม ซึง่ เกดิ จากการปะทขุ ้ึนมาของหินทราย ลำ� น�้ำโขงกว่า ๘๖๐ เมตร ตัง้ อยู่ท่ีบา้ นปากกะกลาง ร้อนคลา้ ยหินภูเขาไฟ แตไ่ ม่ใช่แมกมาหรือลาวา เมือ่ ตำ� บลสองคอน นอกจากจะเปน็ สถานทพ่ี กั ผอ่ นหยอ่ น ปะทุข้ึนมาปะทะกับกระแสน้�ำเย็น จึงแข็งตัวกลาย ใจแลว้ หาดสลงึ ยงั เปน็ จดุ ขน้ึ เรอื เพอ่ื ไปยงั สามพนั โบก เป็นหินทมี่ ลี ักษณะเป็นช่อ และแหลง่ ทอ่ งเทยี่ วอ่นื ๆ ได้อกี ดว้ ย หาดสองคอน เปน็ จดุ ทสี่ ายนำ้� โขงสองสายมาบรรจบ ปากบ้อง เป็นจุดท่ีแม่น้�ำโขงแคบท่ีสุดตลอดระยะ กนั คอื สายหนงึ่ อยฝู่ ่ังไทย อีกสายหนึง่ อยู่ฝัง่ ลาว ซงึ่ ทางยาวกวา่ ๗๐๐ กิโลเมตร โดยมคี วามกวา้ งเพยี ง จุดนี้จะมกี ระแสนำ้� ไหลแรงและทวนกระแสน�้ำดว้ ย ๕๖ เมตร หาดหงส์ เป็นเนนิ ทรายละเอยี ดขนาดใหญท่ ี่เกดิ จาก หนิ หวั พะเนยี ง อยใู่ นพนื้ ทหี่ มบู่ า้ นสองคอน ตำ� บลสอง การพัดพาของน้�ำและตะกอนที่มาทับถมกันคล้าย คอน ถัดจากบริเวณปากบ้องขึ้นไปทางเหนือ ๕๐๐ ทะเลทราย จึงได้รบั การขนานนามวา่ “มินิซาฮาร่า” เมตร มแี กง่ ใหญ่ขวางกลางลำ� น�ำ้ ท�ำให้แมน่ �้ำโขงแยก หรือ “มินิมุยเน่” (เวียดนาม) ต้ังอยู่ทางใต้ของสาม เปน็ สองสาย เป็นทมี่ าของบา้ นสองคอน “พะเนียง” พันโบกและอยู่ก่อนถึงหาดหินสี ด้านท้ายของหาด ในภาษาถน่ิ ของชาวอบุ ลราชธานี คอื แทน่ ไมท้ ใ่ี ชส้ วม หงสจ์ ะเปน็ พนื้ โคลนและดนิ ทแี่ หง้ จนแตกรมิ แหลง่ นำ�้ ใบไถเหลก็ แตล่ กั ษณะหนิ ในบรเิ วณนบี้ างกลมุ่ จะเปน็ ขนาดใหญ่มีฉากหลังเป็นผาหิน เม่ือแสงแดดในช่วง อบุ ลราชธานี 29

บา่ ยตกกระทบกบั ผนื ทรายสที องจะเกดิ เปน็ ประกาย ไทร ประมาณ ๒๓ กิโลเมตร หากมาจากตัวเมือง ระยบิ ระยับสวยงามมาก อุบลราชธานี ใช้ทางหลวงหมายเลข ๒๐๕๐ ผ่าน หาดหินสี หรือ ลานหินสี หรือ ทุ่งหินเหล่ือม ลาน อ�ำเภอตระการพืชผล ไปยังอ�ำเภอโพธิ์ไทร และ หินกว้างสลับกับหาดทรายเป็นบางช่วง ตั้งอยู่ทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข ๒๓๓๗ ต่อด้วยทางหลวง ใต้ของสามพันโบก หินในบริเวณนี้ส่วนใหญ่จะมีผิว หมายเลข ๒๑๑๒ และทางหลวงชนบท อบ. ๔๐๙๐ เรียบ เปน็ มันวาวมีสเี หลือง เทา เขยี ว มว่ ง สม้ และ จนถงึ สามพนั โบก รวมระยะทางจากตวั เมอื งประมาณ น�ำ้ เงิน และมี “หินแจกัน” เป็นก้อนหินขนาดใหญ่ท่ี ๑๑๘ กโิ ลเมตร มลี ักษณะเหลยี่ มมุมหินเปน็ รปู แจกัน บรเิ วณทางลงไปยงั สามพนั โบก มรี ถสองแถวของชาว การเดินทาง จากตัวอ�ำเภอโพธิ์ไทร ใช้ทางหลวง บา้ นในพนื้ ทใ่ี หบ้ ริการขับพาลงไปยงั สามพันโบก คัน หมายเลข ๒๓๓๗ ตรงไปจนถึงจุดบรรจบระหว่าง ละ ๒๐๐ บาท (หากเดินลงไปเองระยะทางประมาณ ทางหลวงหมายเลข ๒๓๓๗ กบั ทางหลวงหมายเลข ๒๕๐ เมตร) และมัคคเุ ทศก์เยาวชนพาชมจุดส�ำคัญ ๒๑๑๒ ให้เล้ียวขวาใช้ทางหลวงหมายเลข ๒๑๑๒ ของสามพนั โบก ค่าใชจ้ า่ ยแล้วแตน่ กั ทอ่ งเทีย่ วจะให้ และเล้ียวซ้ายใช้ทางหลวงชนบท อบ. ๔๐๙๐ ตรง อ�ำเภอศรีเมอื งใหม่ ไปอีก ๓ กิโลเมตร ถึงริมแม่น�้ำโขงซึ่งเป็นทางลง ภหู ลน่ ตงั้ อยตู่ ำ� บลสงยาง เปน็ ภเู ขาขนาดยอ่ มมตี น้ ไม้ ไปชมสามพันโบก รวมระยะทางจากตัวอ�ำเภอโพธ์ิ ปกคลุมเป็นระยะสลับกับโขดหินน้อยใหญ่ และยัง หาดหินสี 30 อุบลราชธานี

ทุ่งดอกไม้ปา่ วนอทุ ยานน�ำ้ ตกผาหลวง เป็นทต่ี ้ังของ “วัดภหู ลน่ ” ซึ่งมีถ้�ำที่ พระอาจารย์มน่ั ปา่ เชน่ ดอกมณีเทวา ดสุ ิตา สรอ้ ยสุวรรณ รวมท้ัง ภูรทิ ตั โต เคยใช้เป็นทวี่ ิปัสสนาธรรม บรเิ วณโดยรอบ กล้วยไม้ปา่ เช่น กล้วยไมใ้ นกลมุ่ ช้างน้าว และสงิ โต ร่มรน่ื เยน็ สบาย และเงยี บสงบ ผลชิ อ่ ดอกเบง่ บานในชว่ งปลายฝนตน้ หนาวราวเดอื น การเดินทาง จากตวั อำ� เภอศรเี มืองใหม่ ใชท้ างหลวง ตลุ าคม-ธนั วาคม ของทกุ ปี นอกจากนยี้ งั มเี สาเฉลยี ง หมายเลข ๓๓๒๙ ผา่ นที่ทำ� การองค์การบรหิ ารสว่ น รูปร่างคล้ายหม้อดินโบราณ ชาวบ้านจึงตั้งช่ือให้ว่า ตำ� บลสงยาง จนถึงสามแยกวดั เวฬวุ นั ใหแ้ ยกไปทาง ผาหมอ้ ซง่ึ เป็นจุดชมทิวทศั น์ที่สวยงาม ขวาผ่านโรงเรียนบ้านหนองไผ่ ตรงไปจะพบทางข้ึน การไปชมทุ่งดอกไมป้ ่าและผาหมอ้ ต้องเดนิ เท้าจาก ภหู ลน่ อยู่ทางขวามือ รวมระยะทางจากตัวอ�ำเภอศรี ที่ท�ำการวนอทุ ยานฯ ประมาณ ๒-๓ กิโลเมตร ควร เมืองใหม่ ประมาณ ๒๐ กิโลเมตร มีเจ้าหน้าท่ีน�ำทาง และยังมีจุดกางเต็นท์ให้บริการ วนอุทยานน�้ำตกผาหลวง ตง้ั อยูบ่ ้านนาเลนิ ตำ� บล ส�ำหรับผู้ต้องการพักค้างคืน สอบถามข้อมูลได้ที่ นาเลิน ในเขตป่าสงวนแห่งชาติปา่ ดงภโู หล่น มพี ื้นที่ วนอุทยานน�้ำตกผาหลวง โทร. ๐๙ ๖๙๐๓ ๗๗๑๒, ประมาณ ๑๘ ตารางกโิ ลเมตร ภายในวนอทุ ยานฯ มี ๐๖ ๑๙๔๕ ๑๐๒๘ อบต. นาเลิน โทร. ๐ ๔๕๒๕ น�ำ้ ตกทส่ี วยงาม คอื น�้ำตกผาหลวง และ ทุ่งดอกไม้ ๒๕๗๔ อุบลราชธานี 31

ผาหม้อ วนอทุ ยานน�ำ้ ตกผาหลวง การเดนิ ทาง จากตัวอำ� เภอศรเี มืองใหม่ ใชท้ างหลวง ในวัดโขงเจียม ซึ่งบริเวณหน้าวัดโขงเจียมเป็นจุดที่ หมายเลข ๒๑๓๕ ประมาณ ๖.๕ กโิ ลเมตร จะพบสาม ชม “โขงสีปูน มูลสีคราม” ได้ชัดเจนมาก บริเวณ แยกให้ตรงต่อไปเข้าใช้ทางหลวงหมายเลข ๔๐๐๑ ใกล้เคียงยังมีบริการเรือพาล่องชมทัศนียภาพสอง ผา่ นบา้ นฟา้ หว่ น ตอ่ ดว้ ยทางหลวงชนบท อบ. ๔๐๖๖ ฝั่งและจุดชมแม่น�้ำสองสี บ้านเวินบึก แก่งตะนะ ผา่ นบา้ นปา่ กงุ ใหญ่ บา้ นนาโปง่ โพน จนถงึ บา้ นนาเลนิ และผาแต้ม โดยสามารถแวะที่ตลาดในหมู่บ้านฝั่ง จากถนนในหมู่บ้านจะพบป้ายบอกทางให้เลี้ยวขวา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเพ่ือซ้ือของ เขา้ ไปอีก ๑.๕ กโิ ลเมตร ถงึ วนอทุ ยานฯ รวมระยะ ที่ระลกึ ไดอ้ ีกด้วย ทางจากตวั อ�ำเภอศรเี มืองใหม่ ๑๘ กิโลเมตร หากนักท่องเท่ียวสนใจล่องเรือชมทัศนียภาพ “โขง อ�ำเภอโขงเจยี ม สีปูน มูลสีคราม” สามารถติดต่อเช่าเรือหางยาวได้ แม่น�้ำสองสี หรือ ดอนด่านปากแม่น้�ำมูล อยู่ใน จากทา่ เรอื ริมแม่น�้ำโขงและจากร้านอาหารต่าง ๆ ริม เขตบ้านเวินบึก เป็นบริเวณที่แม่น้�ำมูลไหลลงสู่ แม่นำ้� โขงในเขตอำ� เภอโขงเจยี ม ราคาข้ึนอย่กู ับระยะ แม่น�้ำโขง เกิดเป็นสีของแม่น�้ำที่ต่างกัน คือ “โขงสี ทางและการต่อรอง ปูน มูลสีคราม” จุดท่ีสามารถมองเห็นแม่น้�ำสองสี การเดนิ ทาง จากทท่ี ำ� การอำ� เภอโขงเจยี ม วง่ิ ตรงตาม ได้ชัดเจนท่ีสุดในช่วงเดือนเมษายน คือ บริเวณบาง ถนนโขงมูล ระยะทาง ๘๐๐ เมตร ถงึ วดั โขงเจียม ส่วนของหมู่บ้านห้วยหมากและบริเวณศาลาริมตลิ่ง 32 อุบลราชธานี

วดั ถำ�้ คหู าสวรรค์ ตงั้ อยตู่ ำ� บลบา้ นดา่ น รมิ ทางหลวง หมายเลข ๒๒๒๒ ก่อนเข้าตัวอ�ำเภอโขงเจียม ประมาณ ๓ กโิ ลเมตร ก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๑ โดยพระนักวปิ ัสสนาท่ีมชี ่ือเสยี ง “หลวงปู่ค�ำคนิง จลุ มณ”ี ซงึ่ ใชเ้ ปน็ สถานทปี่ ฏบิ ตั ธิ รรมจำ� พรรษา ปจั จบุ นั หลวงปู่ได้มรณภาพแล้ว แต่สังขารของท่านไม่เน่า เปอ่ื ย บรรดาลกู ศษิ ยไ์ ดเ้ กบ็ รา่ งของทา่ นไวใ้ นโลงแกว้ เพ่ือบชู า โดยโลงแก้วตั้งอยภู่ ายใน ถ้�ำคูหาสวรรค์ ซ่ึง อยู่บริเวณริมหน้าผาของวดั นอกจากนี้ภายในวัดยังมี พระอุโบสถสีขาว ที่มี สถาปัตยกรรมวิจิตรงดงาม และ พระธรรมเจดีย์ศรี ไตรภูมิ ซ่ึงภายในประดษิ ฐานพระพุทธรูปปางสมาธิ และบรเิ วณสวนตอไมภ้ ายในวัดยงั เป็นแหลง่ อนรุ กั ษ์ พันธุ์กล้วยไม้ไทย มีการน�ำกล้วยไม้สายพันธุ์ต่าง ๆ พระธรรมเจดียศ์ รไี ตรภูมิ วดั ถ�ำ้ คหู าสวรรค์ จดุ ชมทศั นียภาพของลำ� นำ�้ โขง อุบลราชธานี 33

แห่งชาติผาแต้ม ต้ังอยู่บริเวณบ้านหนองผือน้อย ต�ำบลหว้ ยไผ่ อำ� เภอโขงเจียม สภาพภมู ปิ ระเทศโดย ท่ัวไปของอุทยานฯ เปน็ ท่ีราบสงู และเนนิ เขา มหี นา้ ผาสงู ชนั ซึ่งเกิดจากการแยกตัวของผิวโลก สภาพปา่ เป็นป่าเต็งรัง มีหินทรายลักษณะแปลกตากระจาย อยู่ทั่วบริเวณ และมีพันธุ์ไม้ดอกท่ีสวยงามขึ้นอยู่ ตามลานหิน ภายในอุทยานฯ มีบ้านพักและจุดกางเต็นท์รองรับ นกั ทอ่ งเทย่ี วอยหู่ ลายจดุ เชน่ บรเิ วณทท่ี ำ� การอทุ ยานฯ ใกล้ผาแต้ม น�้ำตกสร้อนสวรรค์ และป่าดงนาทาม โดยศูนย์บริการนักท่องเที่ยวหลักของอุทยานฯ ต้ัง อยู่บนลานหินทรายของภูผาขาม ร้านค้าสวัสดิการ และร้านกาแฟให้บริการ สอบถามข้อมูล โทร. ๐ ๔๕๒๕ ๒๕๘๑ เสาเฉลยี ง อุทยานแห่งชาติผาแตม้ การเดินทาง จากตัวอ�ำเภอโขงเจียมใช้ทางหลวง หมายเลข ๒๑๓๔ (โขงเจียม-ศรีเมอื งใหม)่ และเลย้ี ว ขวาใชท้ างหลวงหมายเลข ๒๑๑๒ ไปอำ� เภอเขมราฐ ถึงกิโลเมตรที่ ๘ แล้วเลี้ยวขวาไปอีก ๕ กิโลเมตร ถึงท่ีท�ำการอุทยานแห่งชาติผาแต้ม รวมระยะทาง จากโขงเจยี มประมาณ ๑๘ กโิ ลเมตร สถานที่น่าสนใจในเขตอุทยานฯ ได้แก่ มาปลูกไว้ตามล�ำต้นของต้นไม้ใหญ่ด้วย และบริเวณ เสาเฉลียง จากถนนทางขึ้นอุทยานฯ จุดนี้อยู่ก่อน ริมหน้าผาของวัดมีจุดชมทัศนียภาพของล�ำน�้ำโขง ถึงผาแต้มและศูนย์บริการนักท่องเท่ียวประมาณ ๑ สามารถมองเห็นบ้านเรือนในตัวอ�ำเภอโขงเจียมและ กโิ ลเมตร เปน็ เสาหนิ ธรรมชาตทิ เ่ี กดิ จากการกดั เซาะ ฝั่งตรงข้ามคือสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชน ของนำ�้ และลม มีลกั ษณะคลา้ ยดอกเห็ดเรยี งรายกนั ลาวไดอ้ ย่างชัดเจน อยู่ หนิ ดงั กลา่ วจะปรากฏเหน็ ซากเปลอื กหอย กรวด ทราย อยใู่ นเน้อื หนิ สันนิษฐานวา่ เมือ่ ประมาณล้าน อุทยานแห่งชาติผาแต้ม มีพื้นที่ประมาณ ๓๔๐ กว่าปีมาแลว้ บริเวณนเี้ คยเปน็ ทะเลมากอ่ น ชาวบา้ น ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพ้ืนที่อ�ำเภอโขงเจียม เรยี กเสาหนิ ทคี่ ลา้ ยดอกเหด็ นวี้ า่ “เสาเฉลยี ง” แผลง อ�ำเภอศรีเมืองใหม่ และอ�ำเภอโพธิ์ไทร มีอาณาเขต มาจากคำ� วา่ “สะเลยี ง” ที่หมายถงึ “เสาหิน” ติดกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดย มีแม่น�้ำโขงเป็นเส้นแบ่งพรมแดน ท่ีท�ำการอุทยาน 34 อุบลราชธานี

ผาแตม้ จดุ ชมพระอาทิตยข์ ึน้ ทสี่ วยงามอกี แห่งของไทย ผาแต้มและผาขาม ลักษณะเป็นลานหินโล่งมีพื้นท่ี จะพบภาพเขยี นสกี ลมุ่ ท่ี ๒ (ผาแตม้ ) ซงึ่ เปน็ กลมุ่ ภาพ ต่อเนอื่ งกันและชายขอบเปน็ หน้าผาสงู เบ้ืองลา่ งคอื เขยี นสที ม่ี ขี นาดใหญ่ มคี วามยาวของภาพตอ่ เนอื่ งกนั แม่น้�ำโขงซ่ึงเป็นพรมแดนธรรมชาติกั้นระหว่างไทย ประมาณ ๑๘๐ เมตร ภาพเขียนสีทมี่ องเหน็ ได้ มี ๕ และสาธารณรฐั ประชาธปิ ไตยประชาชนลาว ผาแตม้ ประเภท ได้แก่ ๑. คน ๒. สัตว์ (ชา้ ง เต่า ปลาบึก ไดช้ อื่ วา่ เปน็ จดุ ชมพระอาทติ ยข์ นึ้ ทส่ี วยงามทส่ี ดุ แหง่ ปลากระเบนน้ำ� จืด) ๓. วตั ถุ (เคร่อื งมอื จบั ปลาที่ชาว หนึง่ ในประเทศไทย อีสานเรียกว่า ตุม้ ) ๔. สัญลักษณ์ และ ๕. ฝ่ามอื คน โดยเปน็ ภาพเขยี นสที ม่ี เี ทคนคิ วธิ กี าร คอื การลงสี เนน้ นอกจากนี้บริเวณผาแต้มและผาขามมีทางเดินลงไป การใช้สีแดง สีด�ำ และมีสขี าวบ้าง จำ� นวนกวา่ ๓๐๐ ชมภาพเขยี นสีโบราณยุคก่อนประวตั ิศาสตร์ อายไุ ม่ รูป และเทคนคิ การสลกั หินหรอื การท�ำรอยลงในเนือ้ ต่�ำกว่า ๓,๐๐๐ ปี เป็นภาพเขยี นบนผนังหินปรากฏ หนิ โดยใช้วธิ ีการฝนเซาะรอ่ งอยดู่ ้วย และหากเดนิ ตอ่ เรียงรายอยู่เป็นระยะ จากทางลงบริเวณผาขาม ไปตามเส้นทางเดิมอีกราว ๘๐๐ เมตร จะพบภาพ ต้องเดินเท้าตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง เขียนสกี ลุ่มท่ี ๓ (ผาหมอน) ประมาณ ๓๐๐ เมตร จะพบภาพเขียนสีกลุ่มท่ี ๑ (ผาขาม) และเดนิ ไปอกี ตามเส้นทางเดิม ๓๐๐ เมตร อบุ ลราชธานี 35

น�้ำตกสรอ้ ยสวรรค์ นำ�้ ตกสรอ้ ยสวรรค์ อยใู่ นพนื้ ทต่ี ำ� บลนาโพธก์ิ ลาง หา่ ง นำ้� ตกแสงจนั ทร์ (นำ�้ ตกลงร)ู อยใู่ นพน้ื ทต่ี ำ� บลนาโพธ์ิ จากที่ท�ำการอุทยานฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข กลาง ห่างจากท่ีท�ำการอุทยานฯ ไปตามทางหลวง ๒๑๑๒ ประมาณ ๒๐ กโิ ลเมตร เปน็ น้�ำตกเกดิ จาก หมายเลข ๒๑๑๒ ประมาณ ๔๐ กิโลเมตร เป็น ล�ำธาร ๒ สาย คือ ห้วยสรอ้ ยและห้วยไผท่ ีไ่ หลจาก น้�ำตกขนาดเล็กท่ีเกิดจากล�ำห้วยท่าเล้งไหลผ่าน หนา้ ผาคนละดา้ นมาบรรจบกนั มคี วามสงู ของสายนำ�้ ลานหินและหน้าผาหินท่ีมีลักษณะเป็นช่องลงสู่ด้าน ตกประมาณ ๒๐ เมตร มองดูคล้ายสร้อยคอ บริเวณ ล่าง หากเดินทางมาชมช่วงเที่ยงวัน ซ่ึงเป็นเวลาที่ โดยรอบน้�ำตกเขียวชอุ่มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้ป่า แสงอาทิตย์ลอดผ่านช่องพอดีจะมองเห็นสายน้�ำตก นานาพรรณ โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาวเดือน และละอองน้�ำท่ีกระทบแสงอาทิตย์สวยเหมือนแสง ตุลาคม-ธันวาคม จะมีดอกไม้ป่าบานเป็นทุ่งเล็ก ๆ ของพระจนั ทร์ ใกลท้ างเดินลงนำ้� ตก เชน่ ดอกดสุ ติ า สร้อยสุวรรณา น�้ำตกทุ่งนาเมือง อยู่ห่างจากน้�ำตกแสงจันทร์ ๑ ฯลฯ มรี า้ นอาหารและหอ้ งนำ้� บรกิ ารนกั ทอ่ งเทยี่ วอยู่ กิโลเมตร เป็นน�้ำตกขนาดกลางท่ีไหลลดหล่ันลงมา บรเิ วณลานจอดรถ โดยตอ้ งเดนิ เทา้ ตามทางเดนิ ระยะ จาก โขดหนิ ชน้ั บน สูงประมาณ ๒๕ เมตร บริเวณ ทางประมาณ ๕๐๐ เมตร จงึ ถงึ ทางลงไปน�้ำตกและ น้ำ� ตกมเี ถาวัลยย์ กั ษ์ให้ถา่ ยภาพ ในช่วงปลายฝนต้น ทางแยกไปชมท่งุ ดอกไม้ป่า หนาวเดือนตุลาคม-ธันวาคม จะมีดอกไม้ป่านานา ชนดิ บานสะพรง่ั ใหช้ ม 36 อบุ ลราชธานี

น้ำ� ตกลงรู อบุ ลราชธานี 37

น้ำ� ตกทุ่งนามอื ง ของวันจุดแรกในประเทศไทย นอกจากนี้ช่วงปลาย ฝนตน้ หนาวเดือนตุลาคม-ธนั วาคม ของทุกปี ในเขต ปา่ ดงนาทาม อยใู่ นพนื้ ทภ่ี นู าทาม ตำ� บลนาโพธก์ิ ลาง ปา่ ดงนาทามจะมที งุ่ ดอกไมป้ า่ บานสะพรงั่ ใหเ้ ทยี่ วชม หา่ งจากทที่ ำ� การอทุ ยานฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข ซงึ่ ดอกไมป้ า่ เหลา่ นไี้ ดร้ บั ชอ่ื พระราชทานจาก สมเดจ็ ๒๑๑๒ ประมาณ ๓๖ กิโลเมตร เป็นเส้นทางที่ พระนางเจ้าสริ กิ ติ ิ์ พระบรมราชินนี าถ ในรชั กาลท่ี ๙ นักท่องเที่ยวนิยมเดินป่าหรือใช้รถขับเคล่ือนสีล้อ เชน่ ดุสติ า (สมี ว่ ง) สร้อยสวุ รรณา (สเี หลืองสด) มณี ขึ้นไปชมธรรมชาติ จุดท่ีน่าสนใจ ได้แก่ ลานหิน เทวา (สขี าว) ทพิ เกสร (สมี ว่ งออ่ นแกมชมพ)ู สรสั จนั ทร พลานถ�้ำไฮ เสาเฉลียงคู่ สนสองใบ น้�ำตกห้วยพอก (สีมว่ งแกมขาว ปลายกลีบบนสีเหลอื ง) เปน็ ต้น ผาชะนะได ผาก�ำปั่น ผาหินแตก น้�ำตกกวางโตน การขึ้นไปเที่ยวท่ีป่าดงนาทามซึ่งอยู่บนเขาและมีจุด หินโยก ภูจ้อมก้อม เป็นต้น โดยเฉพาะบริเวณลาน ท่องเทีย่ วเด่น คือ ผาชะนะได ซงึ่ อยูห่ า่ งจาก อบต. หนิ ใกลก้ บั เสาเฉลยี งคถู่ อื เปน็ จดุ ชมพระอาทติ ยต์ กที่ นาโพธิก์ ลาง ท่ตี งั้ อย่ถู นนหลกั ด้านลา่ งประมาณ ๒๕ สวยงาม และผาชะนะไดซง่ึ อยทู่ างตะวนั ออกสดุ ของ กิโลเมตร ต้องใช้รถขับเคล่ือนสี่ล้อในการเดินทาง ป่าดงนาทามถือเป็นจุดท่ีจะได้เห็นแสงอาทิตย์แรก เนื่องจากสภาพถนนเป็นลานหินขรุขระ ไม่แนะน�ำ ใหข้ บั รถยนตส์ ว่ นตวั ขนึ้ ไปเองเพราะอาจเกดิ อนั ตราย ได้ นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อใช้บริการรถรับ-ส่ง ได้ที่ ศูนย์บริการนักท่องเท่ียวป่าดงนาทาม (อบต. นาโพธ์ิกลาง) โทร. ๐๘ ๑๐๗๐ ๘๔๓๒, ๐๘ ๙๕๐๑ ๖๒๐๕ (รถกระบะนัง่ ไดค้ นั ละไม่เกนิ ๑๐ คน) ราคา ๒,๐๐๐-๒,๕๐๐ บาท วัดภูอานนท์ อยู่ทางทิศเหนือของบ้านซะซอม ห่าง จากทางหลวงหมายเลข ๒๑๑๒ ท่ีบ้านนาโพธิ์กลาง ประมาณ ๑๐ กโิ ลเมตร รถยนตเ์ ขา้ ถึงสะดวก ภายใน บริเวณวัดมีสภาพธรรมชาติที่น่าสนใจ เช่น ลานหิน รอยเทา้ ใหญ่ ตมุ่ หนิ ธรรมชาติ และภาพเขยี นสี เปน็ ตน้ เหมาะสำ� หรบั การทอ่ งเทย่ี วชมธรรมชาตใิ นชว่ งสนั้ ๆ อ�ำเภอสิรนิ ธร จดุ ผา่ นแดนถาวรชอ่ งเมก็ ตั้งอยูบ่ า้ นช่องเม็ก ตำ� บล ชอ่ งเมก็ เปน็ จุดผา่ นแดนถาวรไทย-ลาว และเปน็ จดุ ผ่านแดนจุดเดียวในภาคอีสานของไทย ที่สามารถ เดินทางไปสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้โดยทางบก ในขณะท่ีจุดอ่ืนจะต้องข้ามล�ำน้�ำโขง 38 อุบลราชธานี

ผาชะนะได อทุ ยานแห่งชาติผาแตม้ และยงั เปน็ จดุ สนิ้ สดุ ของทางหลวงหมายเลข ๒๑๗ ที่ จดุ ผา่ นดา่ นถาวรชอ่ งเมก็ เรม่ิ มาจากตวั เมอื งอบุ ลราชธานี โดยถนนสายน้เี ชือ่ ม กับถนนในเขตลาว เชื่อมต่อสู่แขวงจ�ำปาสักซ่ึงเป็น ระเบยี บการขา้ มแดน แหล่งท่องเที่ยวท่ีส�ำคัญทางภาคใต้ของสาธารณรัฐ (ชาวไทย) ประชาธิปไตยประชาชนลาว ๑. ใช้หนังสือเดินทาง (Passport) ประทับตรา จุดผ่านแดนถาวรช่องเม็ก เปิดท�ำการทุกวัน เวลา ผา่ นเข้า-ออก ณ จดุ ผา่ นแดน อนุญาตใหพ้ ำ� นกั อยใู่ น ๐๖.๐๐-๒๐.๐๐ น. บริเวณจุดผ่านแดนนอกจาก สาธารณรฐั ประชาธิปไตยประชาชนลาวได้ ๓๐ วัน จะเป็นท่ีต้ังของหน่วยราชการแล้ว ยังมีตลาดสินค้า ชายแดนและร้านค้าปลอดภาษี ซ่ึงนักท่องเท่ียว สามารถเข้าไปเที่ยวชมและซื้อหาสินค้าได้ ส�ำหรับ แหล่งท่องเท่ียวที่น่าสนใจในแขวงจ�ำปาสัก ได้แก่ เมืองปากเซ ปราสาทวัดภู มหานทสี ีทนั ดอน หรอื สี พนั ดอน เปน็ บรเิ วณทแ่ี มน่ ำ�้ โขงครอบคลมุ พน้ื ทก่ี วา่ ๗ กิโลเมตร ทำ� ให้มีเกาะแก่งจ�ำนวนมาก จุดท่นี า่ สนใจ คือ น้ำ� ตกหล่ผี ี และน้ำ� ตกคอนพะเพ็ง อบุ ลราชธานี 39

วดั สริ ินธรวรารามภพู ร้าว ๒. ใช้บัตรผ่านแดนช่ัวคราว (Temporary กรณนี ำ� รถยนตจ์ ากฝง่ั ไทยขา้ มแดนไปยงั สาธารณรฐั Border Pass) ซง่ึ สามารถเดนิ ทางเข้าไปได้เฉพาะใน ประชาธิปไตยประชาชนลาว สามารถติดต่อท�ำ พนื้ ทแี่ ขวงจำ� ปาศกั ดเิ์ ทา่ นน้ั และอนญุ าตใหพ้ ำ� นกั อยู่ เอกสารข้ามแดนได้ ณ ส�ำนักงานขนส่งจังหวัด ได้ ๓ วนั ๒ คนื ติดตอ่ ท�ำบตั รผ่านแดนชว่ั คราวไดท้ ี่ อุบลราชธานี โทร. ๐ ๔๕๒๔ ๔๔๕๐, ๐ ๔๕๒๔ ส�ำนักงานท�ำบัตรผ่านแดนช่ัวคราวด้านหน้าจุดผ่าน ๑๒๙๔ แดนช่องเม็ก ทีว่ ่าการอ�ำเภอสริ นิ ธร และสำ� นกั งาน จังหวัดอุบลราชธานี เอกสารท่ใี ชใ้ นการท�ำบัตรผา่ น การเดินทาง ไม่ว่าจะมาจากตัวเมืองอุบลราชธานี แดนชวั่ คราว ไดแ้ ก่ บตั รประชาชน และคา่ ธรรมเนยี ม หรือจากตัวอ�ำเภอสิรินธร ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข ๓๐ บาท ๒๑๗ ว่ิงตรงมาจนสุดสาย คือที่ต้ังของจุดผ่านแดน ถาวรช่องเม็ก โดยมีระยะทางห่างจากตัวเมือง (ชาวต่างชาติ) อุบลราชธานี ๙๐ กิโลเมตร และห่างจากตัวอ�ำเภอ ใช้หนังสือเดินทาง (Passport) และวีซ่า (Visa) สริ ินธร ๑๘ กโิ ลเมตร ประทับตราผ่านเข้า-ออก ณ จุดผ่านแดน และ สามารถขอ Visa on Arrival ได้ ณ ส�ำนักงานจุด วดั สิรนิ ธรวรารามภพู รา้ ว ตั้งอยู่ต�ำบลชอ่ งเม็ก เป็น ผา่ นแดนท่ชี อ่ งเมก็ วัดท่ีต้ังอยู่บนยอดภูพร้าว มีจุดเด่นคือ พระอุโบสถ 40 อบุ ลราชธานี

เรืองแสง เป็นพระอุโบสถท่ีมีสถาปัตยกรรมงดงาม สถานท่ีปฏิบัติธรรมได้ดังเดิม หลังจากพระครูกมล และด้านหลังพระอุโบสถมีจิตรกรรมต้นกัลปพฤกษ์ ละสงั ขารไปในปี พ.ศ. ๒๕๔๙ พระครูปญั ญาไดเ้ ข้า เรืองแสง ในเวลาพลบค่�ำต้นกัลปพฤกษ์จะเรืองแสง มารับต�ำแหน่งเจ้าอาวาสวัดและสานต่องานสร้างวัด โดดเดน่ สะดดุ ตา และดว้ ยวดั นต้ี งั้ อยบู่ นภเู ขาจงึ กลาย อย่างเช่น ต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสง และการแต่งเติม เปน็ จดุ ชมทวิ ทศั นท์ ส่ี วยงาม มองเหน็ ทศั นยี ภาพอา่ ง พระอุโบสถ เกบ็ น้ำ� และจุดผา่ นแดนถาวรชอ่ งเม็ก การเดินทาง จากตัวอ�ำเภอสิรินธร ใช้ทางหลวง จากประวัติวัดน้ีสร้างโดย พระอาจารย์บุญมาก หมายเลข ๒๑๗ เสน้ ทางเดยี วกบั ไปจดุ ผา่ นแดนถาวร ซ่ึงเป็นชาวลาวจ�ำปาสักเข้ามาเผยแพร่วิปัสสนา ชอ่ งเมก็ จนถงึ หลกั กโิ ลเมตรท่ี ๘๓ จะพบถนนทางเขา้ กรรมฐานในฝั่งไทย และได้ปักกลดท่ีภูพร้าวแห่งน้ี วดั อยทู่ างซ้ายมือ เลีย้ วซา้ ยแล้วตรงไป ๒ กโิ ลเมตร ตอ่ มาราวปี พ.ศ. ๒๕๑๖ ท่านได้ขอบณิ ฑบาตพ้นื ท่ี ถึงวัด รวมระยะทางจากตัวอ�ำเภอสิรินธร ประมาณ จากทางราชการใหเ้ ปน็ วดั ทางอำ� เภอจึงให้ต้ังชือ่ วดั ๑๗ กโิ ลเมตร และหา่ งจากจดุ ผ่านแดนถาวรชอ่ งเมก็ วา่ วัดสิรินธรวราราม หลังจากนน้ั ท่านพระอาจารย์ ประมาณ ๓ กิโลเมตร บญุ มากตอ้ งกลบั ประเทศลาว ทงิ้ ใหว้ ดั รา้ งนานหลาย เข่ือนสิรินธร ต้ังอยู่ต�ำบลนิคมสร้างตนเองล�ำโดม สบิ ปี จนกระทัง่ ปี พ.ศ. ๒๕๔๒ พระครกู มล ลกู ศษิ ย์ น้อย เป็นเขื่อนหินถมแกนดินเหนียว ชาวบ้านเรียก ของทา่ นไดค้ น้ พบวดั อกี ครงั้ และบรู ณะใหก้ ลบั มาเปน็ ว่า “เขื่อนโดมน้อย” เพราะสร้างกั้นล�ำโดมน้อยซึ่ง เขอื่ นสิรนิ ธร อุบลราชธานี 41

เปน็ สาขาของแมน่ ำ�้ มลู ทบ่ี รเิ วณแกง่ แซนอ้ ย ตวั เขอ่ื น เช่ยี วกราก และมโี ขดหินใหญ่น้อยอยทู่ ว่ั ไป ตลอดจน สูง ๔๒ เมตร ยาว ๙๔๐ เมตร สันเข่อื นกว้าง ๗.๕ มถี �้ำใต้น้ำ� อยหู่ ลายแห่ง ชาวบา้ นทีส่ ญั จรทางนำ�้ หรอื เมตร อ่างเก็บนำ้� มีพน้ื ท่ี ๒๘๘ ตารางกโิ ลเมตร เพ่ือ ออกจบั ปลามกั ประสบอบุ ตั เิ หตเุ สยี ชวี ติ อยเู่ ปน็ ประจำ� ประโยชน์ในการผลิตกระแสไฟฟ้า การชลประทาน ชาวบ้านจึงเรียกแก่งนี้ว่า “แก่งมรณะ” แต่ต่อมาได้ การประมง และการท่องเทย่ี ว เรยี กวา่ “แกง่ ตะนะ” จึงตงั้ เป็นช่อื อุทยานแหง่ ชาติ บรเิ วณใกลก้ บั แนวสนั เขอื่ นมสี วนเฉลมิ พระเกยี รติ ที่ บรเิ วณทที่ ำ� การอทุ ยานฯ มบี า้ นพกั จดุ กางเตน็ ท์ รา้ น การไฟฟา้ ฝา่ ยผลติ แห่งประเทศไทยจดั สร้างขนึ้ เพื่อ ค้าสวัสดิการให้บริการนักท่องเที่ยว สอบถามข้อมูล เป็นถวายเป็นราชสักการะต่อองค์สมเด็จพระเทพ โทร. ๐ ๔๕๒๕ ๒๗๒๒-๓ รตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี เนอื่ งในวโรกาส คล้ายวันพระราชสมภพ ทรงมีพระชนมายุ ๓๖ การเดินทาง จากตัวอ�ำเภอสิรินธร ใช้ทางหลวง พรรษา เม่อื วันท่ี ๒ เมษายน ๒๕๓๔ โดยจดั เป็นสวน หมายเลข ๒๑๗ ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข ๒๑๗๓ สาธารณะร่มร่ืนสวยงาม น่าพักผ่อนหย่อนใจ เขื่อน ก่อนเข้าตัวอ�ำเภอโขงเจียมจะพบสามแยกใหญ่ ให้ สริ นิ ธรมบี รกิ ารบา้ นพกั สำ� หรบั นกั ทอ่ งเทย่ี ว สอบถาม เล้ียวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข ๒๒๒๒ ผ่านวัดถ�้ำ ขอ้ มลู ไดท้ เี่ ขอ่ื นสริ นิ ธร โทร. ๐ ๔๕๓๖ ๖๐๘๑-๓, ๐๘ คูหาสวรรค์ และเล้ียวซ้ายเข้าเข่ือนปากมูล ข้ามสัน ๙๒๘๐ ๓๑๙๗ นอกจากนี้รอบเขื่อนยังมีแพอาหาร เขื่อนปากมูลมาอีกฟากหน่ึง ตรงไปตามทางหลักจน รมิ น�ำ้ ของเอกชนใหบ้ รกิ ารอยหู่ ลายร้าน เชน่ พทั ยา พบสามแยก ให้เลย้ี วขวาและตรงไปอกี ๑ กโิ ลเมตร น้อย ซ่ึงเป็นจุดท่ีอยู่ใกล้ทางหลวงหมายเลข ๒๑๗ ถึงท่ีท�ำการอุทยานฯ รวมระยะทางจากตัวอ�ำเภอ เส้นเลยี บริมเขื่อน สริ ินธร ๓๓ กโิ ลเมตร การเดนิ ทาง จากตัวเมอื งอบุ ลราชธานี ใช้ทางหลวง หากมาจากตัวเมืองอุบลราชธานี ใช้ทางหลวง หมายเลข ๒๑๗ ผ่านอำ� เภอพบิ ูลมังสาหาร จากนน้ั หมายเลข ๒๑๗ จนถึงตัวอ�ำเภอพิบูลมังสาหาร ให้ เลีย้ วขวาทีก่ ิโลเมตร ๗๑ ประมาณ ๕๐๐ เมตร เลยี้ วซา้ ยเขา้ ทางหลวงหมายเลข ๒๒๒๒ ขา้ มสะพาน พิบูลมงั สาหาร (ขา้ มแม่นำ้� มูล) ลงจากสะพานให้ตรง อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ มีพื้นที่ประมาณ ๘๐ ไปจนพบสแี่ ยกแรก ใหเ้ ลยี้ วขวาใชท้ างหลวงหมายเลข ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นท่ีอ�ำเภอสิรินธรและ ๒๒๒๒ เส้นเดิม ตรงไปและเล้ียวขวาเข้าเขื่อนปาก อำ� เภอโขงเจยี ม ภมู ปิ ระเทศเปน็ ทร่ี าบสงู และเนนิ เขา มูล ข้ามสันเขื่อนปากมูลมาอีกฟากหน่ึง ตรงไปตาม เต้ีย มียอดเขาบรรทัดเป็นจุดสูงสุด สภาพป่าท่ัวไป ทางหลักจนพบสามแยก ให้เล้ียวขวาและตรงไปอีก มีตน้ ไม้ลกั ษณะแคระแกรน็ บางสว่ นเป็นทุ่งหญา้ มี ๑ กโิ ลเมตร ถงึ ที่ท�ำการอุทยานฯ รวมระยะทางจาก แมน่ ำ้� มลู และแมน่ ำ้� โขงไหลผา่ น โดยมที ท่ี ำ� การอทุ ยานฯ ตัวอำ� เภอเมอื งอุบลราชธานี ๘๐ กโิ ลเมตร ตัง้ อยู่ริมแมน่ �ำ้ มูลบริเวณแกง่ ตะนะ สถานท่นี า่ สนใจในเขตอุทยานฯ ไดแ้ ก่ ค�ำว่า “ตะนะ” จากการเล่าขานตามความเชื่อของ ชาวบ้านและประชาชนทั่วไป เดิมมาจากค�ำว่า ดอนตะนะ เปน็ เกาะกลางทเ่ี กดิ ขวางแมน่ ำ้� มลู มคี วาม “มรณะ” เน่อื งจากบรเิ วณแก่งตะนะน้ีมีกระแสน้ำ� ที่ กว้าง ๔๕๐ เมตร ยาว ๗๐๐ เมตร มีสะพานแขวน ทอดขา้ มทง้ั ๒ ดา้ นของเกาะ ทางตอนเหนอื ของดอน 42 อบุ ลราชธานี

แก่งตะนะ ตะนะมหี าดทรายเหมาะแก่การพักผ่อน บนดอนตะ สะพานแขวน เป็นสะพานท่ีเช่ือมจากฝั่งท่ีท�ำการ นะยังมีป่าอยู่ทั่วไปเป็นสภาพป่าดงดิบแล้งมีต้นไม้ อุทยานฯ กับดอนตะนะ โครงสร้างเป็นเหล็กยึดโยง ใหญ่ให้ความร่มร่ืน ในช่วงเช้าและช่วงเย็นมีการท�ำ ด้วยลวดสลิงขนาดใหญ่ เป็นจุดชมทิวทัศน์สองฝั่ง ประมงพื้นบา้ นรอบ ๆ เกาะ ของแม่น้�ำมูลและเดินข้ามเข้าไปชมธรรมชาติบน แกง่ ตะนะ เป็นเกาะกลางล�ำนำ้� มลู ทใี่ หญท่ ส่ี ุด กลาง ดอนตะนะได้ แกง่ ตะนะมีโขดหินทรายขนาดใหญ่ เกิดจากกระแส ถำ้� พระ อยหู่ า่ งจากศนู ยบ์ รกิ ารนกั ทอ่ งเทยี่ วประมาณ น้�ำมูลท่ีกัดเซาะลงในแนวหินสูงประมาณ ๑ เมตร ๑ กิโลเมตร เป็นชะง่อนผายื่นออกจากฝั่งแม่น้�ำมูล เกาะกลางแก่งตะนะมีสิ่งก่อสร้างรูปสี่เหลี่ยม สร้าง กว้าง ๔๕ เมตร ลกึ ๑๐ เมตร ภายในถ�ำ้ พบศลิ าจารกึ ข้ึนเพื่อใช้เป็นเครื่องช้ีร่องน�้ำในการเดินเรือในสมัย และแท่นศึวลึงค์ (ฐานโยนี) อายุราวพุทธศตวรรษ ฝร่ังเศสล่าอาณานิคม บริเวณแก่งตะนะมีสายน้�ำท่ี ท่ี ๑๒-๑๓ สมัยพระเจ้าศรีมเหนทรวรมัน (เจ้าชาย เช่ียวและลึก ใต้ท้องน้�ำเป็นหลุมหิน โขดหิน ทั้งยัง จิตรเสน) ปจั จุบันศิลาจารกึ ตวั จริงไดน้ ำ� ไปเก็บรักษา มีโพรงถ�้ำใต้น้�ำหลายแห่งจึงท�ำให้มีปลามาอาศัย ไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอุบลราชธานี และกรม บรเิ วณแก่งตะนะชกุ ชมุ ชว่ งทีเ่ หมาะในการเดินทาง ศลิ ปากรไดจ้ ำ� ลองศิลาจารึกประดษิ ฐานไว้แทน ทอ่ งเที่ยว คอื เดอื นพฤศจิกายน-มิถนุ ายน อุบลราชธานี 43

นำ้� ตกตาดโตน แซห้วยหมาก 44 อบุ ลราชธานี

เสน้ ทางศกึ ษาธรรมชาตนิ �้ำตกรากไทร ห่างจากศูนย์ แก่งสะพอื บริการนกั ท่องเทีย่ ว ประมาณ ๕๐๐ เมตร และอยู่ ในเสน้ ทางเดยี วกบั ถำ้� พระ มเี สน้ ทางเดนิ เลยี บหนา้ ผา อ�ำเภอพิบลู มงั สาหาร ระยะทางประมาณ ๑ กิโลเมตร เป็นน้�ำตกที่ไหลลง แก่งสะพือ เป็นแก่งหินน้อยใหญ่สลับซับซ้อนใน มาตามหนา้ ผาผา่ นรากไทรรมิ ฝง่ั แมน่ ำ�้ มลู มองดคู ลา้ ย แม่น้�ำมูล ค�ำว่า “สะพือ” เพี้ยนมาจากค�ำว่า “ซ�ำ มา่ นมลู่ ่ี มพี นั ธไ์ุ มจ้ ำ� พวกไลเคนส์ มอส เฟริ น์ ขน้ึ อยทู่ วั่ พืด” หรอื “ซ�ำปดึ้ ” ซง่ึ เปน็ ภาษาส่วย แปลว่า งูใหญ่ บริเวณ ท�ำให้บริเวณน้ีมีอากาศสดช่ืนเย็นสบาย หรือ งเู หลอื ม เมื่อกระแสนำ้� ไหลผา่ นกระทบหนิ เกิด เหมาะ ส�ำหรับการเดินป่าชมธรรมชาติในช่วงเวลา เป็นฟองขาวมีเสียงดังตลอดเวลา ช่วงที่เหมาะใน สน้ั ๆ เท่ยี วชมแก่งสะพือ คือ เดอื นกุมภาพนั ธ์-พฤษภาคม ลานผาผง้ึ อยหู่ า่ งจากทที่ ำ� การอทุ ยาน ๑.๕ กโิ ลเมตร เพราะระดับน้ำ� จะลดลงจนเห็นแกง่ หินชดั เจน รมิ ฝ่ัง เปน็ พลาญหนิ ทรายและหนา้ ผาชนั โดยหนา้ ผาจะหนั แม่น้�ำมีศาลาพักผ่อนและร้านขายอาหารและสินค้า หน้าสู่ด้านทิศตะวันออกเหมาะแก่การชมทิวทัศน์ ตา่ ง ๆ และในช่วงเทศกาลสงกรานตจ์ ะมกี ารจัดงาน ชว่ งพระอาทติ ยข์ น้ึ และสามารถมองเหน็ สาธารณรฐั สงกรานตบ์ ริเวณริมแกง่ นีด้ ว้ ย ประชาธปิ ไตยประชาชนลาวได้ ในช่วงเดือนตลุ าคม- ธนั วาคม จะไดช้ มดอกไมป้ า่ เชน่ ดสุ ติ า สรอ้ ยสวุ รรณา กระดุมเงิน หยาดน�ำ้ คา้ ง และแววมยุรา เป็นตน้ น้�ำตกตาดโตน อยู่ห่างจากที่ท�ำการอุทยานฯ ๕ กิโลเมตร เป็นน�้ำตกท่ีมีความสวยงามแห่งหน่ึง เกิด จากลำ� หว้ ยตาดโตนไหลผา่ นลานหนิ แลว้ ตกลงสเู่ บอื้ ง ล่าง เกิดเปน็ แอง่ น้�ำเย็นใสสะอาด สามารถลงเล่นได้ บริเวณโดยรอบเป็นป่าไม้และดอกไม้นานาพรรณ ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเท่ียวชมคือระหว่างเดือน กันยายน-ธันวาคม ของทกุ ปี แซห้วยหมาก อยู่ห่างจากท่ีท�ำการอุทยานฯ ๑๐ กิโลเมตร อยู่ในพื้นท่บี า้ นหว้ ยหมากใต้ หมู่ ๗ ต�ำบล โขงเจียม แซห้วยหมากเกิดจากน�้ำในล�ำห้วยหมาก ไหลซอกซอนผา่ นพลาญหนิ เปน็ ชนั้ ๆ กวา้ งประมาณ ๕๐ เมตร ยาวประมาณ ๑๕๐ เมตร ทอดตำ�่ ลดหลัน่ ลงไปกอ่ นไหลลงสแู่ มน่ ำ้� โขง ชว่ งเวลาทเ่ี หมาะแกก่ าร เทยี่ วชมคอื ระหวา่ งเดอื นกนั ยายน-ธนั วาคมของทกุ ปี อุบลราชธานี 45

วัดภูเขาแก้ว การเดินทาง แก่งสะพือตั้งอยู่ในตัวอ�ำเภอ มีพระพุทธรูปประธานประดิษฐานลดหล่ันลงมา ฝา พิบูลมังสาหาร ห่างจากที่ว่าการอ�ำเภอฯ ประมาณ ผนังของอุโบสถไม่ได้มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเหมือน ๒.๕ กิโลเมตรหากมาจากตัวเมืองอุบลราชธานี โบสถ์แห่งอน่ื แต่สรา้ งเปน็ งานนูนตำ่� รปู พระธาตุองค์ ใช้ทางหลวงหมายเลข ๒๑๗ จนถึงตัวอ�ำเภอ ตา่ ง ๆ ทส่ี ำ� คญั ในประเทศไทย มลี กั ษณะนนู ลอยออก พบิ ลู มังสาหาร จะพบสามแยกใหญ่ ใหเ้ ล้ยี วซ้ายเข้า มาครึ่งองค์พระธาตุ เช่น พระธาตุเชิงชุม พระธาตุ ทางหลวงหมายเลข ๒๒๒๒ ตรงไปก่อนถึงสะพาน ไชยา พระปฐมเจดีย์ พระธาตดุ อยสุเทพ พระธาตุหริ พิบูลมงั สาหาร (ขา้ มแมน่ �ำ้ มูล) ใหเ้ ลีย้ วขวาเขา้ ถนน ภุญชยั เปน็ ต้น เลยี บรมิ แมน่ ำ�้ ตรงไป ๑ กโิ ลเมตร ถงึ แกง่ สะพอื รวม อ�ำเภอสวา่ งวรี ะวงศ์ ระยะทางจากตวั เมืองอุบลราชธานี ๔๕ กิโลเมตร ตามรอยภาพยนตร์ อเลก็ ซานเดอร์มหาราช ต้งั อยู่ วดั ภเู ขาแกว้ ตงั้ อยบู่ นเนนิ เขา รมิ ทางหลวงหมายเลข ริมฝั่งแม่น�้ำมูล บริเวณบ้านบัวเทิง หมู่ที่ ๔ ต�ำบล ๒๑๗ ห่างจากที่ว่าการอ�ำเภอพิบูลมังสาหาร ๕๐๐ ท่าช้างเป็นการจ�ำลองบรรยากาศและฉากจากใน เมตร ภายในวัดมีพระอุโบสถที่มีสถาปัตยกรรม ภาพยนตร์ต่างประเทศเร่ือง Alexander ท่ีเคยเข้า งดงาม ตัวพระอุโบสถประดับด้วยกระเบื้องเคลือบ มาถ่ายท�ำ ณ บริเวณผาแต้ม เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๗ ทงั้ หลงั ศลิ ปะแบบไทย ภายในพระอโุ บสถมพี ระบรม เช่น ประตูเมือง โดยจัดเป็นอาคารนิทรรศการบอก สารีรกิ ธาตุประดษิ ฐานบนฐานสูงสดุ ของบษุ บก โดย เล่าประวัติความเป็นมาการเข้ามาถ่ายท�ำภาพยนตร์ 46 อบุ ลราชธานี

ทงุ่ ดอกไมป้ า่ หนองหญา้ ม้า ต่างประเทศในประเทศไทย อีกด้านหนึ่งของประตู เปน็ พนื้ ทที่ งุ่ โลง่ กวา้ งประมาณ ๒ ตารางกโิ ลเมตร โดย เมือง เป็นโรงภาพยนตร์ท่ีจัดฉายบันทึกเหตุการณ์ ในชว่ งปลายฝนตน้ หนาว เดอื นตลุ าคม-ธนั วาคม ของ และสถานที่ส�ำคัญของจังหวัดอุบลราชธานี รวม ทกุ ปี บริเวณนี้จะเต็มไปด้วยดอกไมป้ ่าเบง่ บานให้ได้ ท้ังภาพยนตร์ไทยที่มีความส�ำคัญในแต่ละยุคสมัย ชมความสวยงาม โดยเฉพาะ ดอกกระดุมเงนิ (ดอก บริเวณโดยรอบมีกระโจมที่จัดแสดงการแต่งกาย มณีเทวา) ท่ีจะเบ่งบานเต็มทุ่งกว้างจนดูคล้ายกับมี อาวธุ ทอ้ งพระโรงทเี่ ปน็ สว่ นหนงึ่ ของฉากการถา่ ยทำ� พรมสขี าวนวลขนาดใหญม่ าปปู ระดบั ไว้ นอกจากนย้ี งั เปิดใหเ้ ข้าชมทกุ วนั เวลา ๐๘.๓๐-๑๖.๓๐ น. ไมเ่ สยี มี ดอกสร้อยสวุ รรณา สเี หลอื งสดขน้ึ สลับกันจำ� นวน ค่าเข้าชม สอบถามข้อมูลได้ท่ี เทศบาลต�ำบลทา่ ชา้ ง มาก ขณะท่ีตามพ้ืนดินหลายจุดก็มี ดอกจอกบ่วาย โทร. ๐ ๔๕๒๐ ๒๒๑๓, ๐๘ ๗๒๕๐ ๐๑๖๙ ขนึ้ อยตู่ ามพน้ื ดินในบางชว่ ง อำ� เภอวารินชำ� ราบ การเดินทาง จากตัวอ�ำเภอวารินช�ำราบ ใช้เส้นทาง เลี่ยงเมืองแยกตลาดเจริญศรี เลี้ยวซ้ายไปตามถนน ทงุ่ ดอกไม้ป่า หนองหญ้ามา้ ตงั้ อยู่ในพื้นท่กี ารดแู ล สายอุบล-พิบูลมังสาหาร ระยะทางประมาณ ๑๒ ของมณฑลทหารบกที่ ๒๒ เป็นแหล่งท่องเท่ียวชม กโิ ลเมตร ดอกไม้ป่าที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองอุบลราชธานี ซ่ึง อุบลราชธานี 47

พิพธิ ภัณฑ์บ้านค�ำปนุ พิพิธภัณฑ์บ้านค�ำปุน ตั้งอยู่เลขท่ี ๑๓๑ หมู่ที่ ๙ วัดหนองป่าพง ตงั้ อย่หู มทู่ ่ี ๑๐ บา้ นพงสวา่ ง ต�ำบล ถนนศรสี ะเกษ ต�ำบลคำ� น้ำ� แซบ่ เลยจากโรงพยาบาล โนนผงึ้ สรา้ งโดย หลวงปชู่ า สภุ ทั โท (พระโพธญิ าณเถร) วารินช�ำราบ ๘๐๐ เมตร เป็นกลุ่มเรือนไทยอีสาน ลกู ศษิ ยข์ องหลวงปูม่ นั่ ภูริทัตโต เมอื่ ปี พ.ศ. ๒๔๙๗ แบบประยุกต์ บ้านคำ� ปนุ เปน็ แหลง่ ทอผ้าท่มี ีชอื่ เสยี ง ภายในวัดมีสิ่งปลูกสร้างท่ีน่าสนใจ คือ พิพิธภัณฑ์ และเป็นแหล่งอนุรักษ์วัฒนธรรม สืบสานภูมิปัญญา พระโพธญิ าณเถร (ชา สภุ ทั โท) เปน็ อาคารทจี่ ดั แสดง ชาวบ้าน ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงผ้าไหมโบราณท่ี เครื่องอัฐบริขารและหุ่นขี้ผ้ึงของหลวงปู่ชา สุภัทโท หาดูได้ยากและ “ผ้าลายกาบบัว” ซ่ึงเป็นผ้าไหมท่ี เครอ่ื งทองเหลอื งและพระพทุ ธรปู เปดิ ใหเ้ ขา้ ชม เวลา เป็นเอกลักษณ์ของบ้านค�ำปุน นางค�ำปุน ศรีใส ผู้มี ๐๘.๐๐-๑๖.๓๐ น. และเจดยี ศ์ รโี พธญิ าณ เปน็ สถาน ผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม สาขาทัศนศิลป์-ถักทอ ที่พระราชทานเพลิงศพของหลวงปูช่ า พ.ศ. ๒๕๓๗ และนายมีชยั แตส้ รุ ยิ า เปน็ ผูอ้ อกแบบ คิดค้น นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงโบราณวัตถุต่างๆ การเดนิ ทาง จากตัวอำ� เภอวารินชำ� ราบ ใชท้ างหลวง อีกด้วย พิพิธภัณฑ์บ้านค�ำปุนเปิดให้เข้าชมทุกวัน หมายเลข ๒๔ (ถนนเดชอุดม) จนถึงสี่แยกลือค�ำ เวลา ๐๙.๐๐-๑๗.๐๐ น. คา่ เข้าชม ๑๐๐ บาท และ หาญ ให้เล้ียวขวาไปเข้าทางหลวงหมายเลข ๒๓๑ ยังมีร้านจ�ำหน่ายผ้าทอพ้ืนเมืองด้วย สอบถามข้อมูล (ถนนเล่ยี งเมอื งอุบลราชธานี) จนถงึ กิโลเมตรที่ ๑๓ โทร. ๐ ๔๕๒๕ ๔๘๓๐ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยตามป้ายบอกทางเข้าวัด ระยะ ทาง ๒ กิโลเมตร จะพบวัดหนองป่าพงทางขวามือ รวมระยะทางจากตวั อำ� เภอวารนิ ชำ� ราบ ๘ กโิ ลเมตร 48 อุบลราชธานี

วดั ป่านานาชาติ วดั ป่านานาชาติ ตง้ั อยูบ่ า้ นบ่งุ หวาย ตำ� บลบุง่ หวาย พระภกิ ษสุ ามเณรชดุ แรกซงึ่ มี ๖ รปู บม่ บาตรทป่ี า่ ชา้ เป็นวัดป่าสายวัดหนองป่าพง ก่อตั้งโดย หลวงปู่ชา บ้านบุ่งหวายและปักกลด พักวิเวกปฏิบัติธรรมต่อ สุภทโฺ ท (พระโพธญิ าณเถร) จากวัดหนองป่าพง เมื่อ หลงั จากนน้ั ไมน่ านชาวบา้ นบงุ่ หวายไดไ้ ปกราบหลวง ปี พ.ศ. ๒๕๑๘ ปชู่ า ขอนมิ นตใ์ หพ้ ระเณรอยจู่ ำ� พรรษาตอ่ หลวงปชู่ า จึงเมตตาให้สร้างส�ำนักสงฆ์ และมอบหมายให้พระ มูลเหตแุ ละแรงดลใจในการสรา้ งวัด คอื ราวปี พ.ศ. อาจารย์สุเมโธเป็นหัวหนา้ สำ� นกั ญาตโิ ยมไดแ้ บ่งกนั ๒๕๑๐ พระสเุ มโธ (ปจั จบุ นั คอื พระราชสเุ มธาจารย)์ เป็นเจ้าภาพในการสร้างกุฏิและเพิงมุงหญ้าคา จน ชาวอเมรกิ นั ไดม้ าอยกู่ บั หลวงปชู่ าเปน็ ครง้ั แรก ณ วดั กระทัง่ ปี พ.ศ. ๒๕๓๐ จึงไดร้ บั การประกาศตั้งเปน็ หนองป่าพง หลังจากนั้นได้มีพระต่างชาติทยอยเดิน วัดในพระพทุ ธศาสนา ทางมาอยกู่ บั หลวงปมู่ ากขนึ้ ทำ� ใหว้ ดั หนองปา่ พงมที งั้ พระสงฆช์ าวไทยและตา่ งชาตจิ ำ� พรรษาอยเู่ ปน็ จำ� นวน ในวัดป่านานาชาติจะมีพระภิกษุชาวต่างชาติมาจ�ำ มาก ฟนื บม่ บาตรกห็ ายาก หลวงปชู่ าจงึ ไดอ้ นุญาตให้ พรรษา เพอื่ ศกึ ษาเลา่ เรยี นพระธรรมวนิ ยั และปฏบิ ตั ิ พระชาวตา่ งชาตบิ างรปู ออกมาหาฟนื ทป่ี า่ ชา้ บา้ นบงุ่ ทางวปิ สั สนากรรมฐานจำ� นวนหลายรปู เกือบทกุ รปู หวาย ซ่งึ มีตน้ ไมม้ าก ฟนื ก็หาง่าย ชาวบ้านบ่งุ หวายมี สามารถพูดภาษาไทย สวดภาษาบาลีได้เป็นอย่าง จติ ศรทั ธาในพระสงฆว์ ดั หนองปา่ พง จงึ ไดน้ มิ นตค์ ณะ ดี และยังเป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยด้วย อุบลราชธานี 49

นำ้� ตกห้วยทรายใหญ่ *หมายเหตุ ทง้ั วดั หนองปา่ พงและวดั ปา่ นานาชาตเิ ปน็ วดั ทเี่ นน้ การปฏบิ ตั วิ ปิ สั สนากรรมฐาน ไมใ่ ชแ่ หลง่ ทอ่ ง ศึกษาข้อมูลของวัดเพิ่มเติมได้ที่ www.watpah เท่ียว พุทธศาสนิกชนสามารถไปท�ำบุญและปฏิบัติ nanachat.org/new-page ธรรมได้ แตค่ วรสำ� รวมกริ ิยาตลอดเวลาท่ีอยใู่ นวัด การเดนิ ทาง จากตวั อำ� เภอวารนิ ชำ� ราบ ใชท้ างหลวง อ�ำเภอบุณฑรกิ หมายเลข ๒๔ (ถนนกันทรลักษ์) ระยะทาง ๑ น้ำ� ตกห้วยทรายใหญ่ (แก่งอเี ขียว) อยใู่ นเขตรกั ษา กโิ ลเมตร เล้ยี วขวาตรงรา้ นข้าวต้มแตจ้ วิ๋ เตอื นใจเข้า พันธุ์สัตว์ป่าบุณฑริก-เขายอดมน เป็นน้�ำตกท่ีไหล สูท่ างหลวงหมายเลข ๒๑๙๓ (ถนนศรีสะเกษ) ตรง มาตามลานหินลดหลั่นลงไปด้านล่าง สามารถลง ไป ๕ กิโลเมตร จะพบสีแ่ ยกใหต้ รงไปเข้าทางหลวง เล่นน�้ำได้ (แต่ในช่วงฤดูฝนกระแสน้�ำจะแรงอาจเกิด หมายเลข ๒๒๖ และตรงไปอีก ๙ กโิ ลเมตร จนถึง อันตราย) บริเวณโดยรอบร่มร่ืนไปด้วยป่าไม้ ไม่มี ตลาดชมุ ชนบงุ่ หวาย ใหเ้ ลยี้ วขวาเขา้ ซอยฝง่ั ตรงขา้ ม สิ่งอ�ำนวยความสะดวกอะไร นักท่องเท่ียวต้องน�ำ ตรงไปประมาณ ๓ กโิ ลเมตร ถงึ วดั รวมระยะทางจาก อุปกรณ์ปิกนิกไปเอง (ต้องไม่ลืมรักษาความสะอาด ตัวอ�ำเภอวารินช�ำราบ ๑๙ กโิ ลเมตร ของพนื้ ที)่ สามารถเที่ยวชมได้ในชว่ งเดือนกนั ยายน- ธันวาคม ของทุกปี การเดินทาง จากตัวอ�ำเภอบุณฑริก ใช้ทางหลวง หมายเลข ๒๓๖๙ ทางไปบา้ นหว้ ยทราย ตรงไปจนถงึ สามแยกบา้ นหลกั ปา้ ย ใหเ้ ลยี้ วขวาตามปา้ ยบอกทาง เข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบุณฑริก-เขายอดมน ผ่าน โรงเรียนต�ำรวจตระเวนชายแดน ผ่านหน้าที่ท�ำการ เขตรกั ษาพนั ธส์ุ ตั วป์ า่ บณุ ฑรกิ -เขายอดมน และตรงไป จนสดุ ทางถนน จะพบปา้ ยทางเดนิ ลงนำ�้ ตก รวมระยะ ทางจากตัวอ�ำเภอบณุ ฑรกิ ๒๕ กโิ ลเมตร อำ� เภอนาจะหลวย อุทยานแห่งชาติภูจอง-นายอย มีพ้ืนท่ีประมาณ ๖๘๖ ตารางกโิ ลเมตร ครอบคลมุ พนื้ ทอ่ี ำ� เภอบณุ ฑรกิ อำ� เภอนาจะหลวย และอำ� เภอนำ้� ยนื ทงั้ ยงั มอี าณาเขต ตดิ ตอ่ กบั สาธารณรฐั ประชาธปิ ไตยประชาชนลาวและ ราชอาณาจักรกัมพูชา หรือท่ีเรียกว่า “สามเหลี่ยม มรกต” เป็นพื้นท่ีในเขตภูเขาพนมดงรัก สภาพป่ามี ความอุดมสมบูรณ์ ได้รับการประกาศ มีที่ท�ำการ อทุ ยานฯ ตั้งอยู่หมู่ที่ ๓ ต�ำบลนาจะหลวย 50 อบุ ลราชธานี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook