หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 พระราชบัญญัติคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคล พ ศ . . 2542 สาระสําคัญ ข้อมูลส่วนบุคคล เป็นข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้ การเก็บรวมรวมข้อมูลส่วนบุคคล จะต้อง ได้รับความยินยอมจาก เจ้าของข้อมูลเสียก่อน โดยจะต้องแจ้งอย่างชัดเจนว่าจะนําข้อมูลนั้นไปใช้ในการใด ดังนั้นการที่จะเผยแพร่ข้อมูลนั้นแก่บุคคลอื่น จะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล ทั้งนี้พระราชบัญญัติ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ ศ . . 2562 ได้กําหนด พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ ปฏิบัติกันได้อย่างถูกต้องและไม่เกิดการละเมิดสิทธิ สาระการเรียนรู้ 1. ที่มาของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ ศ . .2562 2. ความหมายคําศัพท์ที่ควรทราบ 3. การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 4. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล 5. การใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 8. 6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล 7. การลงโทษ สมรรถนะประจําหน่วย แสดงความรู้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ ศ . . 2562 ในเรื่องสิทธิของเจ้าของข้อมูล จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความรู้เกี่ยวกับที่มาของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ ศ . . 2562 ได้ 2. บอกความรู้เกี่ยวกับคําศัพท์ที่ควรทราบได้ 3. อธิบายความรู้เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ 4. อธิบายความรู้เกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลได้ 5. อธิบายความรู้เกี่ยวกับการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ 6. อธิบายความรู้เกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ 7. อธิบายความรู้เกี่ยวกับการลงโทษได้
ที่มาของพระราชบัญญัติคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคล พ ศ . . 2562 พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ ศ . . 2562 แต่ได้ยึดถือหลักกฎหมาย ตามกรอบความ คุ้มครองข้อมูลขององค์การความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ ( The Organization for Economic Cooperation and Development : (OIL CD) ในเรื่องแนวทางการกํากับดูแลในการป้องกันข้อมูล ส่วนบุคคลและการเคลื่อนย้าย ข้อมูลส่วนบุคคลข้ามอาณาเขต กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ความร่วมมือทาง เศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก ( Asia Pacific Economic Cooperation, Cross Border Privacy Rule : APEC CBPR) กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ ศ . . 2562 หลักการสําคัญคือ การจัดเก็บข้อมูล นั้น จะต้องกระทําโดยชอบด้วยกฎหมาย และมีวัตถุประสงค์ของการจัดเก็บอย่างชัดเจน ว่าจัดเก็บเพื่ออะไร ภายในกําหนดระยะเวลาเท่าใด และจะไม่เปิดเผยข้อมูลนั้น เว้นแต่ จะได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล กฎหมายดังกล่าว เป็นการป้องกันการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของบุคคลที่อาจ สร้างความเดือดร้อน เสียหายขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจุบันเป็นยุคที่มีความก้าวหน้า ทางเทคโนโลยี การทําการต่าง ๆ มีความ รวดเร็ว ซึ่งอาจทําให้การรวบรวมและการ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลสามารถกระทําได้ง่ายและรวดเร็ว จนอาจก่อให้เกิดความ เสียหายทั้งต่อบุคคลและสภาพเศรษฐกิจได้ ความหมายคําศัพท์ที่ควรทราบ 1 ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทําให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ 2 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอํานาจ หน้าที่ตัดสินใจ เกี่ยวกับ การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดําเนินการ เกี่ยวกับการรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคําสั่งหรือในนามของผู้ ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล 4. บุคคล หมายถึง บุคคลธรรมดา 5. คณะกรรมการ หมายถึง คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ประกอบด้วย 1. ประธานกรรมการสรรหาจากผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ ด้านการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคล ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ด้านเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร ด้านสังคมศาสตร์ ด้านกฎหมายด้านสุขภาพ ด้าน การเงิน และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 2. ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นรองประธาน 3. กรรมการโดยตําแหน่ง ประกอบด้วย ปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี เลขาธิการ คณะกรรมการ กฤษฎีกา เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค อธิบดีกรม คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และอัยการสูงสุด 4. ผู้ทรงคุณวุฒิ จํานวน คน ซึ่งสรรหาและแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ ความ 9 เชี่ยวชาญและ มีประสบการณ์ด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล การคุ้มครอง ผู้บริโภค ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและ การสื่อสาร ด้านสังคมศาสตร์ ด้าน กฎหมาย ด้านสุขภาพ ด้านการเงิน และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องและ เป็นประโยชน์ต่อ การคุ้มครองส่วนบุคคล 6. พนักงานเจ้าหน้าที่ หมายถึง ผู้ที่รัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ตาม พระราชบัญญัตินี้ 7. สํานักงาน หมายถึง สํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 8. รัฐมนตรี หมายถึง รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ซึ่งได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ข้อมูลส่วนบุคคล เป็นข้อเท็จจริงของบุคคล เช่น เพศ อายุ วันเดือนปีเกด เลข ิ บัตรประชาชน ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และอื่น ๆ ที่สามารถระบุหรือยืนยัน ความเป็นตัวบุคคลได้
การคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล จะทําการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลได้เมื่อได้รับ ความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลเท่านั้น เว้นแต่มีข้อยกเว้นตาม กฎหมายนี้ การขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมล จะต้องกระทําอย่างชัดแจ้ง เป็นหนังสือหรือ ู ทําผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถ ขอความยินยอมได้ ในการขอความ ( ) ยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะต้อง แจ้งวัตถุประสงค์ของการ เก็บข้อมูล การใช้ การเปิดเผยข้อมูลนั้นด้วย การขอความยินยอมจะต้องแยกส่วน ออกจาก ข้อความอื่นอย่างชัดเจน มีแบบหรือข้อความที่เข้าถึงง่ายและเข้าใจได้ใช้ภาษาที่อ่านง่าย ไม่ หลอกลวง หรือทําให้เจ้าของข้อมูลเข้าใจผิดในวัตถุประสงค์ดังกล่าว ซึ่งคณะกรรมการจะให้ผู้ ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามแบบ และข้อความที่ คณะกรรมการประกาศกําหนดก็ได้ เจ้าของข้อมูลจะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ โดยการถอนความยินยอม จะต้องสามารถ กระทําได้ง่ายเช่นเดียวกับการให้ความยินยอม เว้นแต่มี ข้อจํากัดสิทธิในการถอนความยินยอม โดยกฎหมาย หรือสัญญาที่ให้ประโยชน์ แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งการถอนความยนยอม ิ ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อ การเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความ ยินยอมไปแล้ว และผู้ควบคุมข้อมูลจะต้องแจ้งถึงผลกระทบจากการถอนความยินยอมนั้นด้วย กรณีที่เจ้าของข้อมูลเป็นผู้เยาว์ จะต้องได้รับความยินยอมจาก ผู้ปกครองเสียก่อน หรือหาก เจ้าของข้อมูลเป็นคนไร้ความสามารถ จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้อนุบาลที่มีอํานาจกระทํา การแทน คนไร้ความสามารถ และกรณีที่เจ้าของข้อมูลเป็นเสมือนคนไร้ความ สามารถ จะต้อง ได้รับความยินยอมจากผู้พิทักษ์ที่มีอํานาจกระทําการ แทนคนเสมือนไร้ความสามารถ
การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ปฏิบัติดังนี้ 1. จะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ 1.1 เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจัดทําเอกสารประวัติศาสตร์ จดหมายเหตุ หรือ ประโยชน์สาธารณะ หรือเกี่ยวกับงานวิจัยที่ได้มีการปกป้องเหมาะสมแล้ว 1.2 เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล 1.3 เป็นการจําเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญา ู หรือเพื่อใช้ ในการดําเนินการตามคําขอของเจ้าของข้อมลส่วนบุคคลก่อนเข้าทํา ู สัญญานั้น 1.4 เป็นการจําเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดําเนินภารกิจเพื่อประโยชน์แก่ สาธารณะของ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อํานาจรัฐที่ได้ มอบหมายให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล 1.5 เป็นการจําเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลหรือผู้อื่น และ ประโยชน์นั้นต้องมความสําคัญมากกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของ ี เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล 1.6 เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล มาตรา ( 24) 2. หากจําเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของข้อมลส่วนบุคคล ู โดยตรง จะต้อง แจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบก่อน แต่ต้องไม่เกิน วัน นับแต่วันที่เก็บ 30 รวบรวมข้อมูล และจะต้องได้รับ ความยินยอมจากเจ้าของข้อมล ยกเว้นข้อมูลตามข้อ ู 1.1-1.5 ไม่ต้องขอความยินยอม 3. การรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ห้ามรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความเห็น ทางการเมือง ความเชื่อเกี่ยวกับลัทธิ ศาสนา ปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูล ชีวภาพ หรือข้อมูลที่อาจกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่คณะกรรมการ ประกาศ ยกเว้นกรณีดังนี้ 3.1 เพื่อป้องกันอันตรายหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของเจ้าของ ข้อมูลที่ไม่ สามารถยินยอมได้ 3.2 เป็นการดําเนินกิจกรรมโดยชอบด้วยกฎหมายที่มการคุ้มครองที่เหมาะสม ี 3.3 เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ มีความยินยอมโดยชัดแจ้งของเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคล 3.4 เป็นการจําเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การใช้สิทธิเรียกร้อง
3.5 เป็นการจําเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับ 1 เวชศาสตร์ป้องกัน หรืออาชีวศาสตร์ 2 ประโยชน์สาธารณะด้านสาธารณสุข 3 การคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม หรือการคุ้มครองทางสังคม 4 การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ สถิติ 5 ประโยชน์สาธารณะที่สําคัญ มาตรา ( 26) การใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล การใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล มีดังนี้ 1. ห้ามผู้ควบคุมข้อมูลเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่ได้รับความยินยอมจาก เจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคลเว้นแต่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมได้โดยได้รับการ ยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอม ตามมาตรา และมาตรา บุคคลหรือนิติบุคคล 24 26 ที่รับข้อมูลส่วนบุคคลมาจากผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ของเมนําข้อมูลนั้นไปใช้ เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือที่แจ้งไว้กับผู้ควบคุมข้อมูลในการขอรับข้อมูลนั้น
2. กรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ จะต้อง ได้รับ การคุ้มครองจากองค์กรที่มีมาตรฐาน ซึ่งจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ คณะกรรมการประกาศกําหนด ยกเว้น 1 เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย 2 ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยแจ้งถึงมาตรการการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอของประเทศปลายทาง 3 เป็นการจําเป็นเพื่อปฏิบัติการตามสัญญา ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญา หรือ เพื่อ ใช้ในการดําเนินการตามคําขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทําสัญญานั้น 4 เป็นการกระทําตามสัญญาระหว่างผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อ ประโยชน์ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล 5 เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของเจ้าของข้อมูลส่วน บุคคล หรือบุคคลอื่น เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบคคลไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้น ุ ได้ 3 เป็นการจําเป็นเพื่อดําเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สําคัญ มาตรา ( 28) 3. กรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งอยู่ใน ราชอาณาจักร ได้กําหนดนโยบายในการคุ้มครองข้อมูลข้อมูลส่วนบคคลเพื่อการส่งหรือ ุ โอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ควบคุม ข้อมูลส่วนบุคคล หรือผู้ประมวลผลส่วนบุคคลซึ่งอยู่ ต่างประเทศ และอยู่ในเครือกิจการ หรือธุรกิจเดียวกัน เพื่อประกอบกิจการธุรกิจร่วมกัน หากนโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้รับการตรวจสอบ และรับรองจาก สํานักงาน การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศที่เป็นไปตามนโยบายในการ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการตรวจสอบและรับรองดังกล่าว สามารถกระทําได้โดย ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องปฏิบัติตามมาตรา 28 กรณีที่ยังไม่มีคําวินิจฉัยของคณะกรรมการตามมาตรา หรือยังไม่มีนโยบายใน 28 การคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคลตามที่กล่าวข้างต้น ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือผู้ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอาจส่ง หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศได้ โดย ได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามมาตรา หากมีการจัด มาตรการการคุ้มครองที่ 28 เหมาะสม และมีมาตรการเยียวยาทางกฎหมายที่มีประสิทธิภาพ
สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตน สรุปประเด็นสําคัญได้ดังนี้ เจ้าของข้อมูลมีสิทธิเข้าถึงข้อมูล และขอรับสําเนาข้อมูลส่วน บุคคลของตนที่อย ในความดูแลและความรับผิดชอบของผ ู่ ! ู้ ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอให้เปิดเผยถึง การได้มาซึ่งข้อมูล ส่วนบุคคลที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม ซึ่งผู้ควบคุมข้อมลส่วนบุคคล ู จะต้องปฏิบัติตาม หากปฏิเสธจะต้องเป็นไปตามกฎหมาย หรือ ตามคําสั่งศาล หรือการ เข้าถึงหรือการขอสําเนานั้นอาจก่อให้เกิด ความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลทเกี่ยวกับ ี่ ตนจากผู้ควบคุม ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูล ส่วนบุคคลนําข้อมูลไปอยู่ในรูปแบบที่ สามารถอ่านได้และใช้งาน ได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทํางานโดยอัตโนมัติ และยังมี สิทธิ ขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลโอนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยัง ผู้ควบคุมข้อมูล ส่วนบุคคลอื่น หรืออาจโอนได้ด้วยตนเอง ในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเจ้าของ ข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลลบ หรือ ทําลาย ระงับการใช้ชั่วคราว หรือทําให้ข้อมูลส่วนบุคคลนนเป็น ั้ ข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้ผู้ควบคุม ข้อมูลสวนบุคคล ่ ระงับการใช้ข้อมูลได้ หากข้อมูลนั้นอยู่ ในระหว่างการตรวจสอบ ตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ร้องขอ หรือข้อมูลนั้นเป็นข้อมูลท ี่ ต้องลบหรือทําลาย แต่เจ้าของข้อมูลขอให้ระงับการใช้แทน
การลงโทษ ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลไม่ปฏิบัติ ตามหน้าที่ จะต้องได้รับโทษ ดังน ี้ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย จะต้องใช้ค่า สินไหมทดแทน หรือค่าเสียหายแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ไม่ว่า จะเป็นการกระทําโดยจงใจ หรือประมาท เลินเล่อ นอกจากสามารถ พิสูจน์ได้ว่าเกิดจากเหตุสุดวิสัย หรือ ปฏิบัติตามคําสั่งของเจ้าหน้าที่ ตามกฎหมาย ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลที่ฝ่าฝืนกฎหมาย มีความผิดต้องรับโทษ อาญา จําคุกไม่เกิน เดือน หรือปรับไม่เกิน 6 500,000 บาท หรือทั้งจํา ทั้งปรับ ทั้งนี้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ ศ . . 2562 ได้รับ การพิจารณาผ่านความเห็นชอบ จากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และได้ ประกาศเพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายทันที หลังจากที่ประกาศใน ราช กิจจานุเบกษา ประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ พฤษภาคม ( 24 2562) ยกเว้นเนื้อหาที่ว่าด้วยการ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล การ ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล การร้องเรียน ความรับผิดทางแพ่ง และ บทกําหนดโทษ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องใช้เวลาในการ เตรียมความพร้อมเพื่อร่างระเบียบการบริหาร จัดการ โดยเนื้อหา ดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้หลังจากวันที่ประกาศใช้กฎหมายนี้แล้วอีก 1 ปี
ใบงานที่ 3.1 ขั้นตอนการปฏิบัติกิจกรรม ผู้เรียนแสดงความคิดเห็นถึงประโยชน์ของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีต่อผู้ ประกอบธุรกิจ บันทึก ที่ว่างด้านล่าง .............................................................................................................. .............................................................................................................. .............................................................................................................. .............................................................................................................. .............................................................................................................. .............................................................................................................. .............................................................................................................. .............................................................................................................. .............................................................................................................. .............................................................................................................. ............................................................................................................ .. สิ่งที่ได้รับจากการปฏิบัติกิจกรรม .............................................................................................................. .............................................................................................................. .............................................................................................................. .............................................................................................................. .............................................................................................................. .............................................................................................................. .............................................................................................................. .............................................................................................................. .............................................................................................................. .............................................................................................................. ............................................................................................................ ..
ใบงานที่ 3.2 ขั้นตอนการปฏิบัติกิจกรรม การทําธุรกรรมใดบ้าง ที่จะต้องมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ยกตัวอย่าง ข้อ 5 บันทึกลงในที่ว่าง ................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ................................................................................................................................ ... สิ่งที่ได้รับจากการปฏิบัติกิจกรรม ................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ............................................................................................................................... ....
แบบประเมินผลการ เรียนรู้หน่วยที่ 3 ตอนที่ จงเลือกคําตอบที่ถูกต้องที่สุด 1 เพียงข้อเดียว 1. ข้อมูลส่วนบุคคลมีความหมายตาม ข้อใด ก ข้อมูลประวัติส่วนตัว . ข ข้อมูลประวัติการศึกษา . ค ข้อมูลรายได้แต่ละปี . ง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทําใหสามารถก จัดเก็บในเวลากลางวันเท่านั้น . ้ ระบุตัวบุคคลนั้นได้ 2. การรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่าง ถูกต้องตามกฎหมายต้องมีลักษณะตาม ข้อใด ก ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล . ข ข้อมูลมีความสมบูรณ์ . ค เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อผู้รวบรวม ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล . ง เป็นข้อมูลบางส่วนเท่านั้น . 3. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลควร ปฏิบัติตามข้อใด ก ใช้เวลาน้อยที่สุด . ข ไม่รบกวนเวลาทํางานของเจ้าของ . ข้อมูล ค แจ้งวัตถุประสงค์ของการเก็บข้อมูล . ง จัดเก็บข้อมูลทางโทรศัพท์เท่านั้น . 4. ข้อใดสามารถปฏิบัติได้ ก ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลนําข้อมูล . ไปเผยแพร่ได้ตลอดเวลา ข ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลไม่ต้อง . บอกรายละเอียดของการจัดเก็บข้อมูล ค เจ้าของข้อมูลสามารถถอนความ . ยินยอมการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลได้ ง เจ้าของข้อมูลไม่สามารถยกเลิกความ . ยินยอมการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลได้ 5. หากต้องการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ของผู้เยาว์ต้องเป็นไปตามข้อใด . ข จัดเก็บข้อมูลได้บางส่วน . ค จะต้องได้รับความยินยอมจาก . ผู้ปกครองเสียก่อน ง จะต้องมีหนังสืออนุญาตเป็นลาย . ลักษณ์อักษร 6. ข้อใดสามารถกระทําได้โดยไม่ต้อง ก การจัดเก็บข้อมูลเพื่อป้องกันหรือ . ระงับอันตรายต่อชีวิต ข การจัดเก็บข้อมูลที่เป็นรายละเอยด . ี เกี่ยวกับรายได้ ค การจัดเก็บข้อมูลที่เป็นรายละเอยด . ี เกี่ยวกับประวัติส่วนตัว ง การจัดเก็บข้อมูลที่เป็นรายละเอียด . เกี่ยวกับประวัติการศึกษา
7. ข้อใดสามารถกระทําได้โดยไม่ ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของ บรรลุนิติภาวะ ข้อมูล ก การจัดเก็บข้อมูลเพื่อป้องกันหรือ . ระงับอันตรายต่อชีวิต ข การจัดเก็บข้อมูลที่เป็น . รายละเอียดเกี่ยวกับรายได้ ค การจัดเก็บข้อมูลที่เป็น . รายละเอียดเกี่ยวกับประวัติส่วนตัว ง การจัดเก็บข้อมูลที่เป็น . รายละเอียดเกี่ยวกับประวัติ การศึกษา 8 . ข้อมูลใดห้ามรวบรวม ก ความคิดเห็นทางการเมือง . ข ประวัติการแต่งงาน . ค ทรัพย์สินที่มี . ง รายได้แต่ละป . ี 9. หากต้องจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล จากผู้อื่นที่ไม่ใช่เจ้าของข้อมูล จะต้องปฏิบัติตามข้อใด ก ต้องนัดหมายผู้ให้ข้อมูลล่วงหน้า . ข ต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบ . ก่อน ไม่เกิน วัน 30 ค ต้องได้รับหนังสือยินยอมเสียก่อน . ง ไม่ต้องขอความยินยอม . 10. ข้อใดห้ามปฏิบัติ ก เปิดเผยข้อมูลโดยไม่ได้รับความ . ยินยอมจากเจ้าของ ข เก็บรวบรวมข้อมูลไว้เกิน วัน . 30 ค เก็บรวบรวมข้อมูลของผู้ที่ยังไม่ . ง เก็บรวบรวมข้อมูลของผู้พิการ . 11. ข้อใดปฏิบัติถูกต้อง ก ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล . สามารถนําข้อมูลไปมอบให้ผู้อื่นได้ ข จะต้องแจ้งวัตถุประสงค์ของการ . เก็บรวบรวมข้อมูลให้ผู้รวบรวม ข้อมูลทราบ ค สามารถส่งข้อมูลส่วนบุคคลไป . ต่างประเทศโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ง เมื่อรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล . มาแล้วข้อมูลนั้นเป็นสิทธิของผู้ รวบรวม 12. ข้อมูลใดสามารถเก็บรวบรวม หรือโอนได้ไม่ต้องได้รับความยินยอม จากเจ้าของ ก ข้อมูลที่เกี่ยวกับรายละเอียดส่วน . บุคคล ข ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของ . เจ้าของ ค ข้อมูลที่สามารถป้องกันหรือระงับ . อันตรายต่อเจ้าของได้ ง ข้อมูลเกี่ยวกับการประกอบอาชีพ .
12. ข้อใดกล่าวถูก ก เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิ . เข้าถึงข้อมูลของตนเองได้ ข เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่มีสิทธิ ง ไม่ต้องได้รับโทษ . เข้าถึงข้อมูลของตนเอง ค หากต้องการเข้าถึงข้อมูลของ . ตนเองต้องได้รับอนุญาตจากผู้ ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลก่อน ง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่มีสิทธิ . ในข้อมูลของตน 13. ข้อใดกล่าวถูกเกี่ยวกับผู้ควบคุม ข้อมูลส่วนบุคคล ก ไม่ต้องปฏิบัติตนตามกฎหมาย . ข ต้องปฏิบัติตนตามกฎหมาย . ค สามารถบังคับเจ้าของข้อมูลได้ . ง สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเมื่อใดก็ . ได้ 14. หากเจ้าของข้อมูลพบว่าผู้ ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลไม่ปฏิบัติ ตามกฎหมาย จะปฏิบัติตามข้อใด ก ให้ลบหรือทําลายข้อมูลนั้น . ข ขอสําเนาข้อมูล . ค ขอร้องให้ทําตามกฎหมาย . ง ไม่สามารถดําเนินการอะไรได้ . 15. หากผู้ควบคุมข้อมูลฝ่าฝืน กฎหมาย ต้องได้รับโทษตามข้อใด ก จําคุกไม่เกิน เดือน . 3 ข ปรับไม่เกิน . 500,000 บาท ค จําคุกไม่เกิน เดือน ปรับไม่เกิน . 3 500,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ . ตอนที่ จงตอบคําถามต่อไปนี้ 2 1. จงบอกหลักการสําคัญของ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วน บุคคล พ ศ . . 2562 ........................................................... ........................................................... ........................................................... ........................................................... ........................................................... ........................................................... 2. จงอธิบายความหมายของข้อมูล ส่วนบุคคล ........................................................... ........................................................... ........................................................... ........................................................... ........................................................... ...........................................................
3. จงอธิบายความหมายของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ........................................................................................................................... ........................................................................................................................... ........................................................................................................................... 4. จงอธิบายความหมายของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ........................................................................................................................... ........................................................................................................................... ........................................................................................................................... 5. การขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล จะต้องปฏิบัติอย่างไร ........................................................................................................................... ........................................................................................................................... ........................................................................................................................... 6. การเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ บุคคลเสมือนไร้ ความสามารถ ต้องได้รับ ความยินยอมจากใครบ้าง ........................................................................................................................... ........................................................................................................................... ...........................................................................................................................
7. ข้อมูลส่วนบุคคลใดที่สามารถเก็บรวบรวมได้โดยไม่ต้องรับความยินยอมจากเจ้าของ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ......................................................................................... ......................................................... 8. หากจําเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง จะต้องปฏิบัติอย่างไร .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. 9. จงอธิบายสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. 10. จงอธิบายบทลงโทษตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ ศ . . 2562 .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................
เฉลยหน่วยการเรียนรู้ที่ 3 1. ข้อมูลส่วนบุคคล มีความหมายตามข้อใด ง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทําให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ . 2. การรวบรวมข้อมูลส่วนบุคศสอย่างถูกต้องตามกฎหมายต้องมี ลักษณะตามข้อใด ก ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล . 3. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ควรปฏิบัติตามข้อใด ค แจ้งวัตถุประสงค์ของการเก็บข้อมูล . 4. ข้อใดสามารถปฏิบัติได้ ค เจ้าของข้อมูลสามารถถอนความยินยอมการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล . ได้ 5. หากต้องการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ต้องเป็นไปตามข้อใด ค จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองเสียก่อน . 6. ข้อใดสามารถกระทําได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของ ข้อมูล ก การจัดเก็บข้อมูลเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต . 7. ข้อมูลใดห้ามรวบรวม ก ความคิดเห็นทางการเมือง .
8. หากต้องจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้อื่นที่ไม่ใช่เจ้าของข้อมูล จะต้อง ปฏิบัติตามข้อใด ข ต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบก่อน ไม่เกิน วัน . 30 9. ข้อใดห้ามปฏิบัติ ก เปิดเผยข้อมูลโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของ . 10. ข้อใดปฏิบัติถูกต้อง ข จะต้องแจ้งวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลให้ผู้รวบรวมข้อมูล . ทราบ 11. ข้อมูลใดสามารถเก็บรวบรวม หรือโอนได้ไม่ต้องได้รับความยินยอม จากเจ้าของ ค ข้อมูลที่สามารถป้องกันหรือระงับอันตรายต่อเจ้าของได้ . 12. ข้อใดกล่าวถูก ก เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิเข้าถึงขอมูลของตนเองได้ . 13. เกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลข้อใดกล่าวถูกต้อง ข ต้องไปฏิบัติตนตามกฎหมาย . 14. หากเจ้าของข้อมูลพบว่าผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลไม่ปฏิบัติตาม กฎหมาย จะปฏิบัติตามข้อใด ก ให้ลบหรือทําลายข้อมูลนั้น . 15. หากผู้ควบคุมข้อมูลฝ่าฝืนกฎหมาย ต้องได้รับโทษตามข้อใด ค จําคุกไม่เกิน เดือน ปรับไม่เกิน . 3 500,000 บาท หรือทั้งจําทงปรับ ั้
ตอนที่ จงตอบคําถามต่อไปนี้ 2 1. จงบอกหลักการสําคัญของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ ศ . . 2562 ในการจัดเก็บข้อมูลนั้นจะต้องกระทําโดยชอบด้วยกฎหมาย และมี วัตถุประสงค์ของการจัดเก็บอย่างชัดเจนว่าจัด เก็บเพื่ออะไรภายในกําหนด ระยะเวลาเท่าใด และจะไม่เปิดเผยข้อมูลนั้นเว้นแต่จะได้รับความยินยอมจาก เจ้าของข้อมูล 2. จงอธิบายความหมายของข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทําให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ 3. จงอธิบายความหมายของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอํานาจ หน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล 4. จงอธิบายความหมายของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดําเนินการเกี่ยวกับการรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลตามคําสั่งหรือในนามของ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล 5. การขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล จะต้องปฏิบัติย่างไร ผู้ควบคุมข้อมูลข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องแจ้งวัตถุประสงค์ของการเก็บ ข้อมูล การใช้ การเปิดเผยข้อมูลนั้นด้วย การขอความยินยอมจะต้องแยกส่วนออก จากข้อความอื่นอย่างชัดเจน มีแบบหรือข้อความที่เข้าถึงง่ายและเข้าใจได้ ใช ้ ภาษาที่อ่านง่าย ไม่หลอกลวงหรือทําให้เจ้าของข้อมูลเข้าใจผิดในวัตถประสงค์ ุ ดังกล่าว
6. การเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้เยาว์คนไร้ความสามารถ บุคคลเสมือนไร้ ความสามารถ ต้องได้รับความยินยอมจากใครบ้าง กรณีที่เจ้าของข้อมูลเป็นผู้เยาว์ จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง เสียก่อน หรือหากเจ้าของข้อมูลเป็นคนไร้ ความสามารถ จะต้องได้รับความ ยินยอมจากผู้อนุบาลที่มีอํานาจกระทําการแทนคนไร้ความสามารถ และกรณีที่ เจ้าของ ข้อมูลเป็นเสมือนคนไร้ความสามารถ จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ พิทักษ์ที่มีอํานาจกระทําการแทนคนเสมือนไร้ ความสามารถ 7. ข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้างที่สามารถเก็บรวบรวมได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอม จากเจ้าของ 1. เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจัดทําเอกสารประวัติศาสตร์ จดหมายเหตุ หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเกี่ยวกับงานวิจัยที่ได้มีการปกป้อง เหมาะสมแล้ว 2. เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของ บุคคล 3. เป็นการจําเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็น คู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดําเนินการ ตามคําขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อน เข้าทําสัญญานั้น 4. เป็นการจําเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดําเนินภารกิจเพื่อ ประโยชน์แก่สาธารณะของผู้ควบคุมข้อมูลส่วน บุคคล หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช ้ อํานาจรัฐที่ได้มอบหมายให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล 5. เป็นการจําเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ควบคุม ข้อมูล หรือผู้อื่น และประโยชน์นั้นต้องมี ความสําคัญมากกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานใน ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล 6. เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล มาตรา ( 24) 7. หากจําเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของ ข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง จะต้องปฏิบัติอย่างไร จะต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบก่อน แต่ต้องไม่เกิน วัน นับแต่วันที่เก็บ 30 รวบรวมข้อมูล และจะต้องได้รับความ ยินยอมจากเจ้าของข้อมูล
9 . จงอธิบายสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล 1. มีสิทธิเข้าถึงข้อมูล และขอรับสําเนาข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่อยู่ใน ในความดูแลและความรับผิดชอบของผู้ ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอให ้ เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม ซึ่งหากผู้ ควบคุม ข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องปฏิบัติตาม หากจะปฏิเสธจะต้องเป็นไปตาม กฎหมาย หรือตามคําสั่งศาล หรือการเข้าถึงหรือ การขอสําเนานั้นอาจก่อให้เกิด ความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น 2. มีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนจากผู้ควบคุมข้อมูลส่วน บุคคลได้ ในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วน บุคคลนําข้อมูลไปอยู่ในรูปแบบที่สามารถ อ่านได้และใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทํางานโดยอัติโนมัติ และยัง มี สิทธิขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบคคลโอนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุม ุ ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น หรืออาจโอนได้ ด้วยตนเอง 3. ในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลไม่ปฏิบติตามกฎหมาย เจ้าของ ั ข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิให้ผู้ควบคุมข้อมูล ส่วนบุคคลลบ หรือทําลาย ระงับการใช ้ ชั่วคราว หรือทําให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบตัวบุคคลที่ ุ เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ 4. มีสิทธิขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลระงับการใช้ข้อมูลได้ หาก ข้อมูลนั้นอยู่ในระหว่างการตรวจสอบตามที่ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลร้องขอ หรือ ข้อมูลนั้นเป็นข้อมูลที่ต้องลบหรือทําลาย แต่เจ้าของข้อมูลขอให้ระงับการใช้แทน 10. จงอธิบายบทลงโทษตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ ศ . . 2562 พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ ศ . . 2562 หรือกฎหมาย PDPA (Personal Data Protection Act) เป็นกฎหมายที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ สามารถระบุถึงตัวเจ้าของข้อมูลนั้นได้ เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ บัญชีธนาคาร อีเมล ไอดีไลน์ บัญชีผู้ใช้ของเว็บไซต์
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 พระราชบัญญัติว่าด้วยอญออม ทางอิเล็กทรอนิกส์ พ ศ . . 2542 สาระสําคัญ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทํามนุษย์ได้รับความสะดวกทั้งด้าน เวลาและสถานที่สําหรับการทําธุรกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะการทําธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนิกส์ และเพื่อให้การทําธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ได้รับการ ส่งเสริมเพื่อให้เป็น ที่ยอมรับของบุคคลทั่วไป จึงมีพระราชบัญญัติว่าด้วย ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ ศ . . 2562 เป็นกรอบแนวการปฏิบัติ ได้อย่าง ถูกต้อง สาระการเรียนรู้ 1. ความสําคัญของพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรม 2 . ความหมายคําศัพท์ที่ควรทราบ 3. การทําธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ 4. ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทางอิเล็กทรอนิกส์ พศ . . 2562 5 . ธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ 6. บทกําหนดโทษ สมรรถนะประจําหน่วย แสดงความรู้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์ พ ศ . . 2562 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความรู้เกี่ยวกับความสําคัญของพระราชบัญญัติว่าด้วย ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ ศ . . 2562 ได้ 2. อธิบายความรู้เกี่ยวกับคําศัพท์ที่ควรทราบได้ 3. อธิบายความรู้เกี่ยวกับการทําธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ 4. อธิบายความรู้เกี่ยวกับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้ 5. อธิบายความรู้เกี่ยวกับธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์ได้ 6. อธิบายความรู้เกี่ยวกับบทกําหนดโทษตามพระราชบัญญัติได้
ความสําคัญของพระราชบัญญัติ ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์พ ศ . . 2562 สืบเนื่องจากความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ส่งผลให้วิถีการดําเนินชีวิต ของประชาชนเปลี่ยนแปลง ตามไปด้วย การติดต่อสื่อสารเป็นสิ่งหนึ่งที่มีการพัฒนา ปรับเปลี่ยน เพื่อให้มีความสะดวก รวดเร็วและ มีประสิทธิภาพ การทําธุรกรรมที่ เคยปฏิบัติมา พัฒนาเป็นการทําธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจําเป็นต้อง ได้รับ การรับรองสถานะให้เสมอกับการทําเป็นหนังสือ การดําเนินธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งวิธีการรับส่งข้อมูล การใช้ ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ การรับฟังพยานหลักฐานที่เป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อ เป็นการส่งเสริมการทําธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ให้น่าเชื่อถือ และให้มีผลทาง กฎหมายเช่นเดียวกับการทําธุรกรรมวิธีเดิมที่ปฏิบัติมา จึงควรกําหนดให้มี คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ทําหน้าที่วางแผนนโยบาย หลักเกณฑ ์ เพื่อส่งเสริมการทํา ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และมีหน้าที่ในการส่งเสริมการ พัฒนาการทางเทคโนโลยีเพื่อติดตาม ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่มีการ เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาให้มีมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับแก่บุคคลทั่วไป นอกจากนี้ คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ยังต้องมีหน้าที่เสนอแนวทางแก้ไขปัญหา และอุปสรรค ที่เกี่ยวข้อง เพื่อการส่งเสริมการใช้ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ด้วย การมีกฎหมายรองรับให้เป็นมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ หลังจากการประกาศใช้พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ ศ . . 2544 มีการ เปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีหลายประการ จึงต้องมีการแก้ไข เพิ่มเติมความในพระราชบัญญัติเพื่อให้ สอดคล้องกับโลกปัจจุบันมากขึ้น ดังนี้ 1) พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ ศ . . 2551 มีการแก้ไข เพิ่มเติมการทํา ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ดังนี้ 1) กรณีที่กฎหมายกําหนดให้ต้องมีการปิดอากรแสตมป์หากได้มีการชําระ เงินแทนหรือดําเนินการ อนโดด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ตามหลักเกณฑ์ หรือ วิธีการที่หน่วยงานของรัฐซึ่งเกี่ยวข้องประกาศกําหนด เหถือว่าหนังสือ หลักฐาน หนังสือ หรือเอกสาร ได้ปิดอาการแสตมป์ตามกฎหมายแล้ว
2) ความเชื่อถือได้ของบุคคลที่ลงลายมอชื่อในธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ บุคคลที่เชื่อถือ ื ไง บุคคลที่ได้รับการยอมรับ ซึ่งพิจารณาจากลักษณะ ประเภท หรือขนาดของ ธุรกรรมที่ทํา จํานวนครั้ง ความสม่ําเสมอในการทําธุรกรรม ประเพณีทางการค้าหรือ ทางปฏิบัติ ความสําคัญ มูลค่าของธุรกรรม หรือความรัดกุมของระบบการ ติดต่อสื่อสาร 3) หากนําสิ่งพิมพ์ของข้อมูลอิเล็กทรอนกส์มาเพื่อใช้ในการอ้างอิง หาก ิ สิ่งพิมพ์นั้น มีความครบถ้วน และมีการรับรองสิ่งพิมพ์ออกโดยหน่วยงานที่มีอํานาจ ตามที่คณะกรรมการประกาศกําหนด ถือว่าสิ่งพิมพ์นั้นใช้แทนต้นฉบับได้ 4) สามารถใช้ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เป็นพยาน หรือหลักฐานใน กระบวนการพิจารณาตาม กฎหมายได้ทั้งคดีแพ่ง คดีอาญา และคดีอื่น ๆ ได้ โดย ความน่าเชื่อถือของข้อมูล ให้พิจารณาจากวิธีการที่ ใช้สร้าง การเก็บรักษา ความ ครบถ้วนไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อความ วิธีการที่ใช้ในการระบุหรือแสดงตัว ผู้ส่ง ข้อมูล การสื่อสารข้อมูล รวมถึงพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องทั้งปวง เหตุผลสําคัญในการประกาศใช้พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์ พ ศ . . 2551 เนื่องจากพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์ พ ศ . . 2544 ยังไม่มีบทรองรับในเรื่องตราประทับ อิเล็กทรอนกส์ที่ ิ สามารถระบุถึงตัวผู้ทําธุรกรรมได้ รวมถึงการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ด้วย จึงทํา ให้เป็น อุปสรรคต่อการทําธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องมีการประทับตราใน หนังสือเป็นสําคัญรวมไปถึง ยังไม่มีบทบัญญัติที่กําหนดให้สามารถนําเอกสารซึ่งเป็น สิ่งพิมพ์ออกของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์มาใช้แทน ต้นฉบับหรือให้เป็นพยานหลักฐานใน ศาลได้ นอกจากนี้ตามพระราชบัญญัติฉบับนี้ยังมีการจัดตั้งสํานกงาน ั คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการ สื่อสาร ทาหน้าที่แทนศูนย์เทคโนโลยีอเล็กทรอนกส์ และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ เพื่อ ิ ิ รองรับการทําธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น 2) พระราชบัญญัติสํานักงานพัฒนาธุรกรรมทางอเล็กทรอนิกส์ พ นักงานพัฒนา ิ . ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ ศ . . 2562 กําหนดให้ สํานักงานพัฒนาธุรกรรมทาง “ อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อทําหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาธุรกรรมทาง ” อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อทําหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาธุรกรรม ทาง ” อิเล็กทรอนิกส์และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของประเทศ เพื่อขับเคลื่อนนโด ธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนิกส์ และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ให้สอดคล้องกับนโยบา เพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ให้สอดคลองกับนโยบายและแผนระดับชาติ ว่าด้วย การ ้ พัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นอกจากนี้ตามพระราชบัญญัติ ยังมีการ สําหรับการทําธุรกรรมออนไลน์ในการบริหาร และการให้บริการของหน่วยงาน ภาครัฐ เทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ ๆ รวมถึงพัฒนาข้อเสนอแนะที่สําคัญ แนวทางการใช้ งานเทคโนโลยีใน ระบบต้นแบบ และสนามทดสอบสําหรับการทดลองใช้งานอีกด้วย
พระราชบัญญัติฉบับนี้ มีการสรรหากรรมการ เพื่อดํารงตําแหน่งใหม่ทั้งหมด โดยมีรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดูแลภาพรวมใน การใช้กฎหมายทั้งหมด 3) พระราชบัญญัติธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ฉบับที่ พ ศ ( 3) . . 2562 พระราชบัญญัตินี้ออกมา เพื่อปรับปรุงกฎหมายตามพระราชบัญญัติธุรกรรม อิเล็กทรอนิกส์ พ ศ . . 2544 และพระราชบัญญัติธุรกรรม อิเล็กทรอนิกส์ พ ศ . . 2551 โดยเพิ่มอํานาจให้สํานักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ในการ ดําเนินการ ต่อธุรกิจบริการด้านอุตสาหกรรมออนไลน์หรือดิจิทัลมากขึ้น ดังนี้ 1) การยื่นเอกสารแสดงกับราชการ หากเอกสารนั้นเป็นแบบ อิเล็กทรอนิกส์ที่เข้าถึงได้ และ ไม่มีความเปลี่ยนแปลง ให้ถือว่าข้อความนั้นเป็น หนังสือที่สามารถใช้งานได้ 2) การประกอบธุรกิจบริการด้านธุรกรรมออนไลน์ ที่มีผลกระทบต่อ ความมั่นคงทางการเงิน และพาณิชย์ จะต้องแจ้งให้ทราบ ขึ้นทะเบียน หรือ ได้รับอนุญาตก่อน 3) หากธุรกิจใดที่อยู่ภายใต้ข้อกําหนดของกฎหมายนี้ ไม่มีการ กําหนดให้หน่วยงานของรัฐได้ เป็นผู้รับผิดชอบดูแล ให้มอบอํานาจแก่สํานักงาน พัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นผู้รับผิดชอบ ในการควบคุมดูแล 4) ผู้ประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์โดยไม่ขึ้นทะเบียน มี โทษจําคุกไม่เกิน ปี หรือปรับไม่เกิน 2 200,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ 5) ผู้ประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจําคุกไม่เกิน ปี หรือปรับไม่เกิน 3 300,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ 6) หากธุรกิจที่ต้องขึ้นทะเบียนนั้นไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑที่กําหนด ์ สามารถถูกสํานักงาน พัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ปรับได้สูงสุดถึง 1,000,000 บาท หากธุรกิจใดต้องขอรับใบอนุญาตนั้น ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ ์ ที่กําหนด สามารถถูกสั่งปรับได้ถึง 2,000,000 บาท นอกจากนี้ ตามพระราชบัญญัติฉบับนี้ ยังระบุถึงคณะกรรมการ ธุรกรรมทางอิเล็กทรอสิกส์ ที่ติดตามการทํางานเรื่องธุรกรรมออนไลน์ ให้เป็น ดังนี้ 1) คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งประธานกรรมการ คน และกรรมการ 1 ผู้ทรงคุณวุฒิ คน ที่เกี่ยวข้อง กับการเงิน การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 8 นิติศาสตร์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ วิทยาศาสตร์หรือวิศวกรรม สังคมศาสตร์ หรือด้านอื่นที่เป็นประโยชน์ 2) ให้ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นรองประธาน กรรมการ 3) ให้ผู้อํานวยการสํานักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็น กรรมการและเลขานุการ
4) พระราชบัญญัติธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ฉบับที่ พ ศ ( 4) . . 2562 เหตุผลสําคัญใน พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ ที่ผ่านมาผู้ประสงค์จะขอรับบริการจากผู้ประกอบการ หรือ หน่วยงานใน ทําการพิสูจน์และยืนยันตัวตนโดยการแสดงตนต่อผู้ให้บริการ พร้อมกับส่ง เอกสาร หลักฐาน ซึ่งเป็น ผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ กฎหมายฉบับนี้ได้กาหนดให ํ ้ บุคคลสามารถพิสูจน์และยืนยันตัวตนผ่านระ พิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลได้ โดยมี กลไกการควบคุมดูแลผู้ประกอบธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้อง เป็น ระบบดังกล่าวน่าเชื่อถือ และปลอดภัย พระราชบัญญัติฉบับนี้ กําหนดให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการคณะหนึ่ง เพื่อทําหน้าที่ประกาศกําหนดหลักเกณฑ์ที่ผู้ประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับระบบการ พิสูจน์ และยืนยัน ตัวตนทางดิจิทัลจะต้องปฏิบัติ หากผู้ประกอบธุรกิจรายใดฝ่าฝืน จะต้องได้รับโทษตามที่กฎหมายกําหนด ความหมายคําศัพท์ที่ควรทราบ 1. ธุรกรรม หมายถึง การกระทําการใด ๆ เกี่ยวกับกิจกรรมทางแพ่งและ พาณิชย์ 2. อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การประยุกต์ใช้วิธีการทางอิเล็กตรอน ไฟฟ้า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ วิธีอื่นใดในลักษณะคล้ายกัน และหมายถึงการประยุกต์ใช ้ วิธีการทางแสง วิธีการทางแม่เหล็ก หรืออุปกรณ์ ที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้วิธีต่าง ๆ ดังกล่าว 3. ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง ธุรกรรมที่กระทําขึ้นโดยวิธีการทาง อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด หรือบางส่วน 4. ข้อความ หมายถึง ข้อเท็จจริงที่ปรากฎทั้งในรูปของตัวอักษร ตัวเลข เสียง ภาพ หรืออื่น ๆ ที่สามารถสื่อความหมายได้โดยสิ่งนั้นเองหรือโดยผ่านวิธีการใด ๆ 5. ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง ข้อความที่ได้สร้างส่งรับเก็บรักษา หรือ ประมวลผลด้วยวิธีการ ทางอิเล็กทรอนิกส์ โทรเลข โทรพิมพ์ โทรสาร 6. ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง อักษร อักขระ ตัวเลข เสียงหรือ สัญลักษณ์อื่นใดที่สร้างขึ้น ให้อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งนํามาใช้ประกอบกับข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์เพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่าง บุคคลกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อระบุตัวบุคคลหรือผู้เป็นเจ้าของลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ที่เกี่ยวกับ ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น เพื่อแสดงการยอมรับข้อความอิเล็กทรอนิกส์นั้น 7. ระบบข้อมูล หมายถึง กระบวนการประมวลผลด้วยเครื่องมือ อิเล็กทรอนิกส์สําหรับสร้าง ส่ง รับ เก็บรักษา หรือประมวลผลข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ 8. การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การส่งหรือรับข้อความ ด้วยวิธีการทาง อิเล็กทรอนิกส์ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์โดยใช้มาตรฐานที่กําหนดไว้ ล่วงหน้า
9. ผู้ส่งข้อมูล หมายถึง บุคคลที่ส่งหรือสร้างข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ก่อนที่จะมีการเก็บรักษาข้อมูล เพื่อส่งไปตามวิธีการที่ผู้นั้นกําหนด ผู้ส่งข้อมูลนี้ อาจเป็นผู้สร้างข้อมูลและส่งข้อมูลด้วยตนเอง หรือส่งแทน คลอื่นก็ได้ ไม่ ( รวมถึงผู้ที่ทําหน้าที่เป็นสื่อกลางสําหรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น ) 10. ผู้รับข้อมูล หมายถึง บุคคลที่ผู้ส่งข้อมูลประสงค์จะส่งข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์ให้ ไม่รวมผู้ที่ทําหน้าที่ เป็นสื่อกลางสําหรับขอมูลอิเล็กทรอนิกส์ ( ้ นั้น ) 11. บุคคลที่เป็นสื่อกลาง หมายถึง บุคคลที่ทําหน้าที่รับ ส่ง หรือเก็บ รักษาข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ในนามผู้อื่น รวมถึงให้บริการอื่น ๆ เกี่ยวกับข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์ด้วย 12. ใบรับรอง หมายถึง ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์หรือบันทึกอื่นใด ที่ ยืนยันความเชื่อมโยงระหว่างเจ้าของ ลายมือชื่อกับข้อมูลสําหรับใช้สร้างลายมือ ชื่ออิเล็กทรอนิกส์ 13. คู่กรณีที่เกี่ยวข้อง หมายถึง ผู้ที่อาจกระทําการใด ๆ โดยขึ้นอยู่ กับใบรับรอง หรือลายมือชื่อ อิเล็กทรอนิกส์ 14. การพิสูจน์และการยืนยันตัวตน หมายถึง กระบวนการพิสูจน์และ ยืนยันความถูกต้องของ ตัวบุคคล 15. ระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล หมายถึง เครือข่าย ทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างบุคคลใด ๆ หรือหน่วยงานของรัฐ เพื่อประโยชน์ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนและ การทําธุรกรรมอื่น ๆ ที่ เกี่ยวเนื่องกับการพิสูจน์และยืนยันตัวตน การทําธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ การทําธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ มีรายละเอียด ดังนี้ 1. หากกฎหมายกําหนดให้ธุรกรรมที่ทําต้องทําเป็นหนังสือหรือต้องมี การแสดงเอกสาร ก็ต้องทําตามนั้น โดยทําเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถ เข้าถึงได้และนํากลับมาใช้ได้โดยความหมายไม่เปลี่ยนแปลง กรณีที่มีการลง ลายมือชื่อ ให้ถือว่าข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นได้มีการลงลายมือชื่อแล้ว 2. หากกฎหมายกําหนดให้มีการเก็บข้อมูล ก็จะต้องเก็บข้อมูลนั้นโดย ไม่มีการ เปลี่ยนแปลงใด ยกเว้นกรณีที่ต้องมีการรับรองการบันทึกเพิ่มเติม หรื อง บางข้อความที่สามารถแสดงตอนหลังได้ 3. ในกระบวนการพิจารณาตามกฎหมาย อนุญาตให้ใช้ข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์ได้ ซึ่งจะต้องมีการวิเคราะห์ถึงความน่าเชื่อถือในการรักษาข้อมูล ที่จะต้องมีวิธีการเก็บรักษาอย่างครบถ้วน ไม่มีการเปลี่ยนแปลง 4. คําเสนอและคําสนองในการทําสัญญาอาจทําเป็นข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์ได้ โดยต้องได้รับการยินยอมของทั้งสองฝ่าย และได้มีการปฏิบัต ิ ตามที่กฎหมายกําหนด
ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง อักษร อักขระ ตัวเลข เสียงหรือสัญลักษณ์อื่นใดที่สร้างขึ้น ให้อยู่ใน รูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ นํามาใช้ประกอบ กับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เพื่อแสดง ความสัมพันธ์ ระหว่างบุคคลกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อระบุ ตัวบุคคลผู้เป็น เจ้าของลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น และ เพื่อ แสดงว่าบุคคลดังกล่าวยอมรับข้อความในข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์นั้น ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อถือได้ มีลักษณะดังนี้ 1. เชื่อมโยงกับเจ้าของลายมือชื่อ 2. ขณะสร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์นั้น ข้อมูลสําหรับการสร้าง ลายมือชื่ออยู่ภายใต้การควบคุม องเจ้าของลายมือชื่อโดยไม่มีการควบคุม ของบคคลอื่น 3. หากมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ จะต้องมีหลักฐานการเปลี่ยนแปลง ชัดเจน 4. กรณีที่กฎหมายกําหนดให้มีการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อ รับรองความครบถ้วนและไม่มี เลยเปลี่ยนแปลงข้อความ การเปลี่ยนแปลงใด แก่ข้อความนั้น สามารถตรวจพบได้แต่นับเวลาที่ลงลายมือชื่อ อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอาจยังมีวิธีอื่นที่แสดงได้ว่าเป็นลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อถือได้ เมื่อมีการใช้ข้อมูลสําหรับสร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่มีผลตาม กฎหมาย เจ้าของลายมือชื่อต้อง ดําเนินการดังนี้ 1. ต้องใช้ความระมัดระวังตามสมควรเพื่อไม่ให้มีการใช้ข้อมูล สําหรับการสร้างลายมือชื่อโดยไม่ได้ รับอนุญาต 2. แจ้งความน่าชื่อถือของการสร้างลายมือชื่อแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องให้ ทราบ 3. กรณีที่มีการออกใบรับรองสนับสนุนการใช้ลายมือชื่อ อิเล็กทรอนิกส์ เจ้าของลายมือชื่อต้องใช้ ความระมัดระวังตามสมควรให้แน่ใจ ว่ามีความถูกต้องและสมบูรณ์
4. กรณีที่มีการให้บริการออกใบรับรองเพื่อสนับสนุนลายมือชื่อ อิเล็กทรอนิกส์ให้มีผลทางกฎหมาย เสมือนหนึ่งลงลายมือชื่อ โดยผู้ ให้บริการจะต้องปฏิบัติดังนี้ 1) ปฏิบัติตามนโยบาย และแนวปฏิบัติที่ตนได้แสดงไว้ 2) ใช้ความระมัดระวังตามสมควรเพื่อความถูกต้องและความ สมบูรณ์ของลายมือชื่อ อิเล็กทรอนิกส์ 3) การพิจารณาความเชื่อถือได้ของระบบ วิธีการ และบุคลากร ให้คํานึงถึงสิ่งต่อไปนี้ 3.1) สถานภาพทางการเงิน บุคลากร ทรัพย์สินที่มีอยู่ 3.2) คุณภาพของระบบฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ 3.3) วิธีการออกใบรับรอง การขอใบรับรอง และการ เก็บรักษาข้อมูลการให้บริการนั้น 3.4) การจัดให้มีข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเจ้าของลายมือ ชื่อที่ระบุในใบรับรองและผู้ที่อาจคาดหมายได้ว่าจะเป็นคู่กรณีที่เกี่ยวข้อง 3.5) ความสมํ่าเสมอและขอบเขตในการตรวจสอบ ข้อมูลโดยอิสระ 3.6) องค์การที่ให้การรับรอง หรือให้บริการออก ใบรับรองเกี่ยวกับการปฏิบัติหรือการมีอยู่ของ 3.1-3.5 5. ใบรับรองหรือลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ถือว่ามีผลทาง กฎหมาย โดยไม่ต้องคํานึงถึงสถานที่ออก ใบรับรอง สถานที่สร้างหรือใช้ ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ สถานที่ทํางานของผู้ออกใบรับรองเจ้าของ ลายมือชื่อ อิเล็กทรอนิกส์ ใบรับรองที่สร้างหรือใช้ในต่างประเทศให้มีผล ตามกฎหมายเช่นเดียวกับลายมือชื่อ อิเล็กทรอนิกส์ที่สร้างหรอใช้ใน ื ประเทศ
ธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ บุคคลมีสิทธิประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์เฉพาะแต่ในกรณีที่จําเป็น เพื่อ รักษาความมั่นคงทางการ เงินและการพาณิชย์ หรือเพื่อประโยชน์ในการเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ และยอมรับ ในระบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หรือเพื่อป้องกัน ความเสียหาย ต่อสาธารณชน โดยจะมีการตรา พระราชกฤษฎีกากําหนดให้การ ประกอบธุรกิจบริการกับบริการรูปแบบใหม่เกี่ยวกับธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์ใดเป็นกิจการที่ต้องแจ้งให้ทราบ ต้องขึ้นทะเบียนหรือต้อง ได้รับให้คุณเช็คว่าย ใบอนุญาต และจะต้องยื่นคําขอรับใบอนุญาตต่อง่าย สะดวกมากยิ่งขึ้น เจ้าหน้าที่ ตามที่กฎหมายกําหนด ตัวอย่างการทําธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ปัจจุบันธุรกรรมอิเล็กทรงมีบทบาทสําคัญในชีวิตประจําวันของ มนุษย์เป็นอย่างมาก เนื่องจากได้รับความสะดวก รวดเร็ว สามารถติดต่อ ซื้อขาย หรือดําเนินการอื่นที่ต้องการได้ง่ายขึ้น คู่สัญญาที่ บทาง อิเล็กทรอนิกส์ ประกอบด้วยหน่วยงานธุรกิจ รัฐบาล เอกชน บุคคล รวมถึงองค์กรเอกชน ของรัฐ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทําธุรกิจการค้า และ ติดต่องานราชการ ตัวอย่างการทําธุรกรรม และองค์กรของรัฐ โดยมี ทางอิเล็กทรอนิกส์ มีดังนี้ 1. การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ( E-Commerce) เป็นการทํา ธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ตและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ทําให้ลดค่าใช้จ่ายและ เพิ่ม ประสิทธิภาพในองค์กร เช่น ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับทําเลที่ตั้ง ค่าใช้จ่ายในการ จัดร้านค้า การจัดแสดง สินค้า รวมถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานขายด้วย ตัวอย่าง ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายไทย เปิดจําหน่าย : เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย โดยเปิดร้านค้า ผ่านทางอินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ www.phafaithai.Com ซึ่งทางร้านสามารถจัดตกแต่งหน้ารานบน ้ เว็บไซต์ ให้น่าสนใจ นําภาพของสินค้าพร้อมทั้งรายละเอียดมาเสนอ ลูกค้าหรือผู้สนใจทั่วโลกสามารถเข้าชม และ สั่งซื้อสินค้าได้อย่างสะดวก และง่ายดาย
2. การสมัครสมาชิกผ่านระบบออนไลน์ หน่วยงาน ทั้งของภาครัฐและเอกชน ที่ต้องการสร้างความสัมพันธ์หรือให้ บุคคล หรือหน่วยงานอื่นเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร สามารถ สมัคร โดยผ่านระบบออนไลน์ ตัวอย่าง บริษัท กิฟฟารีนให้บุคคลที่ต้องการเป็น : ตัวแทนขายโดยสมัครเป็นสมาชิกผ่านระ ออนไลน์ โดยเข้าไปที่ เว็บไซต์ของบริษัท และดําเนินการตามรายละเอียดขั้นตอนที่ระบุ 3. การโอนเงินด้วยระบบอัตโนมัติผ่านระบบเครือข่าย เพื่ออํานวยความสะดวกในการโอนเงิน จ่ายเงินของลูกค้าของ ธนาคารสามารถทําธุรกรรม โดยผ่าน แอปพลิเคชันทางสมาร์ต โฟน ซึ่งสามารถทําได้ ตลอดเวลา และทุกสถานที่ที่มีระบบ เครือข่ายอินเทอร์เน็ต 4. การตกลงทําสัญญาซื้อขายบนเครือข่าย ในการซื้อ ขายออนไลน์ หลังจากที่ลูกค้าได้เลือกสินค้า ที่ต้องการลงตะกร้า ครบจํานวนตามที่ต้องการแล้ว ผู้ขายจะกําหนดให้ลูกค้ากระทํา การขั้นตอนต่อไป ตามเงื่อนไขที่ร้านค้าต้องการ เช่น กติกาการซื้อ การรับคืนสินค้า ค่าใช้จ่ายในการจัดส่ง ฯลฯ ทั้งนี้ผู้ขาย อาจมีการ กําหนดให้ลูกค้ากดปุ่ม ยอมรับ หากลูกค้า กดปุ่มยอมรับ ถือ “ ” เป็นการให้สัญญาต่อกันระหว่าง ผู้ซื้อและผู้ขาย หรือเมื่อตกลงซื้อ สินค้า ผู้ขายกําหนด ให้ลูกค้า กดปุ่ม ตกลง ถือเป็นการทํา “ ” สัญญาต่อกัน เช่นเดียวกัน บทกําหนดโทษ ผู้ใดประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์โดยไม่แจ้งหรือขึ้นทะเบียนต่อพนักงาน เจ้าหน้าที่ ตามที่กําหนดในพระราชกฤษฎีกา หรือฝ่าฝืนคําสั่งห้ามการ ประกอบธุรกิจของคณะกรรมการหรือ ประกอบธุรกิจบริการ เกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับใบอนุญาต ต้อง ได้รับโทษตามที่กฎหมาย กําหนดโดยความผิดดังกล่าวนี้รวมถึง การกระทําโดยนิติบุคคลผู้จัดการหรือผู้แทนนิติบุคคลหรือผู้ซึ่งมี ส่วนร่วม ในการดําเนินงานของนิติบุคคลด้วย เว้นแต่จะพสูจน์ได้ ิ ว่าตนมิได้รู้เห็นหรือมีส่วนร่วมในการกระทํา ความผิดนั้น
ใบงานที่ 4.1 ขั้นตอนการปฏิบัติกิจกรรม - ชีวิตประจําวันของผู้เรียนเกี่ยวข้องกับธุรกิจบริการเกี่ยวกับธรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์ใดบ้าง อธิบายละเอียดลงในที่ว่างด้านล่าง .............................................................................................................................. .............................................................................................................................. .............................................................................................................................. .............................................................................................................................. .............................................................................................................................. .............................................................................................................................. .............................................................................................................................. .............................................................................................................................. .............................................................................................................................. .............................................................................................................................. - สิ่งที่ได้รับจากการปฏิบัติกิจกรรม .............................................................................................................................. .............................................................................................................................. .............................................................................................................................. .............................................................................................................................. .............................................................................................................................. .............................................................................................................................. .............................................................................................................................. .............................................................................................................................. .............................................................................................................................. .............................................................................................................................. ..............................................................................................................................
ใบงานที่ 4.2 ขั้นตอนการปฏิบัติกิจกรรม - ผู้เรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอเล็กทรอนิกส์ ว่ามี ิ ประโยชน์ ต่อประชาชนอย่างไร อธิบายรายละเอียดลงในที่ว่างด้านล่าง ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. - สิ่งที่ได้รับจากการปฏิบัติกิจกรรม ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................
แบบประเมินผลการเรียนรู้หน่วยที่ 4 ตอนที่ จงเลือกคําตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1 1. ข้อใดเป็นสาเหตุสําคัญที่ทําให้ต้องมีการทําธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ก ทําให้คู่สัญญาที่อยู่ห่างกันสามารถทําสัญญากันได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น . ข เพื่อให้ทัดเทียมกับต่างชาติ . ค เพื่อแสดงถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี . ง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนเพิ่มขึ้น . 2. พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ ศ . . 2544 มีความสําคัญตามข้อใด ก ลดต้นทุนในการทําสัญญา . ข ลดการทุจริตในการทําการซื้อขายกัน . ค ให้การทําธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นที่ยอมรับทั่วไป . ง บังคับให้คู่สัญญาทําธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น . 3. ข้อมูลในธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ต้องมีลักษณะตามข้อใด ก สื่อสารได้ . ข เปลี่ยนแปลงได้ . ค สั้นแต่ได้ใจความ . ง เข้าถึงได้และนํากลับมาใช้ใหม่ได้โดยความหมายไม่เปลี่ยนแปลง . 4. สัญญาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์จะเกิดขึ้นได้ตามข้อใด ก เวลาเหมาะสม . ข สถานที่เหมาะสม . ค ด้วยความยินยอมของคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย . ง มีพยานรู้เห็น . 5. ข้อใดกล่าวถูกเกี่ยวกับการทําธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ก ห้ามเพิ่มเติมข้อมูลใดหลังจากที่เก็บข้อมูลแล้ว . ข มีบางข้อความที่สามารถเพิ่มเติมตอนหลงได้ . ั ค ห้ามมีความยาวเกินหนึ่งหน้ากระดาษ . ง ข้อมูลที่เก็บอาจไม่ครบถ้วนก็ได้ . 6. ข้อความในธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มีลักษณะตามข้อใด ก ตัวเลข . ข ตัวอักษร . ค ภาพ . ง เป็นได้ทุกข้อ .
7. ข้อความที่ได้สร้างส่ง รับเก็บรักษา หรือประมวลผลด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โทรเลขโทรพิมพ์ โทรสาร มีความหมายตรงกับข้อใด ก ข้อความ . ข ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ . ค ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ . ง ระบบข้อมูล . 8. ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์มีความสําคัญตามข้อใด ก ทําให้เอกสารสมบูรณ์ขึ้น . ข ทําให้ถูกต้องตามกฎหมาย . ค เป็นการยอมรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น . ง เป็นใจความสําคัญของข้อมูล . อิเล็กทรอนิกส์ 9. ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อถือได้มีลักษณะตามข้อใด ก เชื่อมโยงกับเจ้าของลายมือชื่อ . ข มีความสวยงาม . ค สื่อความหมายได้ . ง มีความยาว ตัวอักษร . 8 10. เจ้าของลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ควรปฏิบัติตามข้อใด ก แสดงลายมือชื่อของตนให้ผู้อื่นทราบ ข ห้ามลงลายมือชื่อนี้บนกระดาษธรรมดา . . ค เก็บเป็นความลับ . ง ระมัดระวังตามสมควรเพื่อไม่ให้ผู้อื่น . นําไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต 11. ผู้ให้บริการออกใบรับรองเพื่อสนับสนุนลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ควรปฏิบัติตามข้อ ใด ก ให้บริการเฉพาะบางคนเท่านั้น . ข ให้บริการเฉพาะนิติบุคคลเท่านั้น . ค ใช้ความระมัดระวังตามสมควรเพื่อความถูกต้องและสมบูรณ์ . ง ไม่ต้องใช้ความระมัดระวังใด ๆ . 12. ผู้ให้บริการออกใบรับรองเพื่อสนับสนุนลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์จะต้องมีสิ่งใดเป็น สําคัญ ก บุคลากรที่มีคุณภาพ . ข ระบบฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพ . ค สถานที่ตั้งเหมาะสม . ง ผู้บริหารได้รับความเชื่อถือจากบุคคลทั่วไป . 13. ข้อใดกล่าวถูกเกี่ยวกับใบรับรองหรือลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ก ถือว่ามีผลทางกฎหมายโดยไม่คํานึงถึงสถานที่ออกใบรับรอง . ข ต้องตรวจสอบได้อยู่ตลอดเวลา . ค ใช้ได้เฉพาะในประเทศเท่านั้น . ง มีผลทางกฎหมายในเวลาที่จํากัด .
14. การประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ข้อใดสําคัญที่สุด ก ต้องมีบุคลากรที่มีคุณภาพ . ข ต้องมีเงินทุนพอสมควร . ค ต้องมีผู้บริหารที่เป็นที่รู้จัก . ง ต้องได้รับใบอนุญาตให้ประกอบ . กิจการได้ 15. ผู้ประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่ฝ่าฝืนคําสั่งจะได้รับผลตาม ข้อใด ก พักการประกอบธุรกิจชั่วคราว . ข ได้รับโทษที่ตามกฎหมายกําหนด . ค ยึดทรัพย์และอุปกรณ์ที่ใช้ . ง ให้เลิกกิจการ . ตอนที่ จงตอบคําถามต่อไปนี้ 2 1. จงอธิบายความหมายของอิเล็กทรอนิกส์ ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ................................. 2. จงอธิบายความหมายของธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ............................. ....
3. จงอธิบายความหมายของการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ....................................................................................................................... 4. จงอธิบายความหมายของบุคคลที่เป็นสื่อกลาง ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ....................................................................................................................... 5. จงอธิบายความหมายของใบรับรอง ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ....................................................................................................................... 6. จงอธิบายรายละเอียดของการทําธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ .......................................................................................................................
7. ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อถือได้ต้องมีลักษณะอย่างไร ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ .............................................................................................................................................. 8. จงอธิบายรายละเอียดของใบรับรองหรือลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ถือว่ามีผลทางกฎหมาย ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................. .. 9. จงอธิบายรายละเอียดของธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ .............................................................................................................................................. 10. จงอธิบายบทกําหนดโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอเล็กทรอนกส์ พ ศ ิ ิ . . 2544 ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ ..............................................................................................................................................
เฉลยหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 1. ข้อใดเป็นเหตุสําคัญที่ทําให้ต้องมีการทําธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ก ทําให้คู่สัญญาที่อยู่ห่างกันสามารถทําสัญญากันได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น . 2. พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ ศ . . 2544 มีความสําคัญ ตามข้อใด ค ให้การทําธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นที่ยอมรับทั่วไป . 3. ข้อมูลในธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ต้องมีลักษณะตามข้อใด ง เข้าถึงได้และนํากลับมาใช้ใหม่ได้โดยความหมายไม่เปลี่ยนแปลง . 4. สัญญาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์จะเกิดขึ้นได้ตามข้อใด ค ด้วยความยินยอมของคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย . 5. เกี่ยวกับการทําธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ข้อใดกล่าวถูก ข มีบางข้อความที่สามารถเพิ่มเติมตอนหลังได้ . 6. ข้อความในธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มีลักษณะตามข้อใด ง เป็นได้ทุกข้อ . 7. ข้อความที่ได้สร้าง ส่ง รับ เก็บรักษา หรือประมวลผลด้วยวิธีการทาง อิเล็กทรอนิกส์ โทรเลข โทรพิมพ์ โทรสารมีความหมายตรงกันข้อใด ข ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ .
8. ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์มีความสําคัญตามข้อใด ค เป็นการยอมรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น . 9. ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อถือได้ มีลักษณะตามข้อใด ก เชื่อมโยงกับเจ้าของลายมือชื่อ . 10. เจ้าของลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ควรปฏิบัติตามข้อใด ง ระมัดระวังตามสมควรเพื่อไม่ให้ผู้อื่นนําไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต . 11. ผู้ให้บริการออกใบรับรองเพื่อสนับสนุนลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ควรปฏิบัติ ตามข้อใด ค ใช้ความระมัดระวังตามสมควรเพื่อความถูกต้องและสมบูรณ์ . 12. ผู้ให้บริการออกใบรับรองเพื่อสนับสนุนลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์จะต้องมีสิ่งใด เป็นสําคัญ ข ระบบฮาร์ดแวร์ ซอฟแวร์ที่มีคุณภาพ . 13. เกี่ยวกับใบรับรองหรือลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ข้อใดกล่าวถูก ก ถือว่ามีผลทางกฎหมายโดยไม่คํานึงถึงสถานที่ออกใบรับรอง . 14. การประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ข้อใดสําคัญที่สุด ง ต้องได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการได้ . 15. ผู้ประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่ฝ่าฝืนคําสั่งจะได้รับ ผลตามข้อใด ข ได้รับโทษที่ตามกฎหมายกําหนด .
ตอนที่ จงตอบคําถามต่อไปนี้ 2 1. จงอธิบายความหมายของอิเล็กทรอนิกส์ การประยุกต์ใช้วิธีการทางอิเล็กตรอน ไฟฟ้า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือวิธี อื่นใดในลักษณะคล้ายกัน และหมายถึง การประยุกต์ใช้วิธีการทางแสง วิธีการทาง แม่เหล็ก หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้วิธีต่าง ๆ ดังกล่าว 2. จงอธิบายความหมายของธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ธุรกรรมที่กระทําขึ้นโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดหรือบางส่วน 3. จงอธิบายความหมายของการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ การส่งหรือรับข้อความด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างเครื่อง คอมพิวเตอร์โดยใช้มาตรฐานที่กําหนดไว้ ล่วงหน้า 4. จงอธิบายความหมายของบุคคลที่เป็นสื่อกลาง บุคคลที่ทําหน้าที่รับ ส่ง หรือเก็บรักษาข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในนามผู้อื่น รวมถึงให้บริการอื่น ๆ เกี่ยวกับข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์ด้วย 5. จงอธิบายความหมายของใบรับรอง ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์หรือบันทึกอื่นใด ที่ยืนยันความเชื่อมโยงระหว่าง เจ้าของลายมือชื่อกับข้อมูลสําหรับใช้สร้าง ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
6. จงอธิบายรายละเอียดของการทําธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ 1. หากกฎหมายได้มีการกําหนดให้ธุรกรรมที่ทํา ต้องทําเป็นหนงสือ ั หรือจะต้องมีการแสดงเอกสาร ก็จะต้องทํา ตามนั้น โดยทําเป็นข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเข้าถึงได้และนํากลับมาใช้ได้โดยความหมายไม่ เปลี่ยนแปลง กรณีที่ มีการลงลายมือชื่อ ให้ถือว่าข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นได้มีการ ลงลายมือชื่อแล้ว 2. หากกฎหมายกําหนดให้มีการเก็บข้อมูล ก็จะต้องเก็บข้อมูลนั้นโดย ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดยกเว้นกรณีที่ต้อง มีการรับรอง หรือการบันทึกเพิ่มเติม หรือมีบางข้อความที่สามารถแสดงตอนหลังได้ 3. ในกระบวนการพิจารณาตามกฎหมาย อนุญาตให้ใช้ข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์ได้ ซึ่งจะต้องมีการวิเคราะห์ถึงความ น่าเชื่อถือในการรักษาข้อมูลที่ จะต้องมีวิธีการเก็บรักษาอย่างครบถ้วน ไม่มีการเปลี่ยนแปลง 4. คําเสนอและคําสนองในการทําสัญญาอาจทําเป็นข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์ได้ได้ต้องได้รับการยินยอมของทั้งสอง ฝ่าย และได้มีการปฏิบัติ ตามที่กฎหมายกําหนด 7. ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อถือได้ต้องมีลักษณะอย่างไร 1. เชื่อมโยงกับเจ้าของลายมือชื่อ 2. ขณะสร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์นั้น ข้อมูลสําหรับการสร้าง ลายมือชื่ออยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าของ ลายมือชื่อโดยไม่มีการควบคุมของ บุคคลอื่น 3. หากมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ จะต้องมีหลักฐานการเปลี่ยนแปลง ชัดเจน 4. กรณีที่กฎหมายกําหนดให้มีการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อ รับรองความครบถ้วนและไม่มีการเปลี่ยนแปลง ข้อความ การเปลี่ยนแปลงไดแก่ ข้อความนั้น สามารถตรวจพบได้แต่นับเวลาที่ลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอาจ ยัง มีวิธีอื่นที่แสดงได้ว่าเป็นลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อถือได้
8. จงอธิบายรายละเอียดของใบรับรองหรือลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ถือว่ามีผล ทางกฎหมาย ใบรับรองหรือลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ถือว่ามีผลทางกฎหมาย โดยไม่ ต้องคํานึงถึง สถานที่ออกใบรับรอง หรือสถาน ที่สร้างหรือใช้ลายมือชื่ออิเล็ก ทรอกนิกส์ หรือสถานที่ทํางานของผู้ออกใบรับรอง หรือเจ้าของลายมือชื่อ อิเล็กทรอนิกส์ ใบรับรองที่สร้างหรือใช้ในต่างประเทศให้มีผลตามกฎหมาย เช่นเดียวกับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่สร้างหรือใช้ใน ประเทศ 9. จงอิบายรายละเอียดของธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ บุคคลมีสิทธิประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เฉพาะแต่ในกรณีที่จําเป็น เพื่อรักษา ความมั่นคงทางการเงินและการพาณิชย์ หรือเพื่อประโยชน์ในการเสริมสร้างความเชื่อถือและยอมรับในระบบข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์ หรือเพื่อป้องกันความเสียหายต่อสาธารณชนโดยจะมีการตราพระ ราชกฤษฎีกากําหนดให้การประกอบ ธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์ใดเป็นกิจการที่ต้องแจ้งให้ทราบ ต้องขึ้นทะเบียนหรือต้องได้รับใบ อนุญาต และจะต้องยื่นคําขอรับใบอนุญาตต่อเจ้าหน้าที่ ตามที่กฎหมายกําหนด 10. จงอธิบายบทกําหนดโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์ พ ศ . . 2544 ผู้ใดประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่แจ้ง หรือขึ้นทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม ที่กําหนดในพระราชกฤษฎีกา หรือฝ่า ฝืนคําสั่งห้ามการประกอบธุรกิจของคณะกรรมการหรือประกอบธุรกิจบริการเกี่ยว กับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับใบอนุญาต ต้องได้รับโทษตามที่ กฎหมายกําหนด โดยความผิดดังกล่าวนี้ รวม ถึงการกระทําโดยนิติบุคคล ผู้จัดการหรือผู้แทนนิติบุคคล หรือผู้ซึ่งมีส่วนร่วมในการดําเนินงานของนิติบุคคล ด้วย เว้น แต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนมิได้รู้เห็นหรือมีส่วนร่วมในการกระทําความผิดนั้น
หน่วยการเรียนรู้ที่ สัญญาอิเล็กทรอนิกส์ 5 สาระสําคัญ บุคคลที่อยู่ต่างที่ ต่างเวลาสามารถทําสัญญาต่อกันได้เนื่องจาก ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจําวัน มากขึ้น สัญญา อิเล็กทรอนิกส์ทําให้การสื่อสาร การทําธุรกรรมมีความสะดวกและรวดเร็วขึ้น รวมถึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ในการเดินทางด้วย สัญญาอิเล็กทรอนิกส์จึงมี แนวโน้มที่จะได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งผู้ปฏิบัติจะต้องมีความระมัดระวัง เพื่อ ลดข้อผิดพลาดและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น สาระการเรียนรู้ 1. การเกิดสัญญาตามกฎหมายไทย 2 ความรู้เกี่ยวกับสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ 3. ข้อสังเกตเกี่ยวกับการแสดงเจตนาทางออนไลน์ 4. การระงับข้อพิพาทกรณีสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ สมรรถนะประจําหน่วย 1. แสดงความรู้เกี่ยวกับสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ 2 เขียนสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ตามรูปแบบของสัญญาตามกฎหมาย ไทย จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความรู้เกี่ยวกับการเกิดสัญญาตามกฎหมายไทยได้ 2 อธิบายความรู้เกี่ยวกับความรู้เกี่ยวกับสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ได้ 3. อธิบายความรู้เกี่ยวกับข้อสังเกตเกี่ยวกับการแสดงเจตนาทาง ออนไลน์ได้ 4. อธิบายความรู้เกี่ยวกับการระงับข้อพิพาทกรณีสัญญา อิเล็กทรอนิกส์ได้
ปัจจุบันคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจาวันของมนุษย์ ํ รวมถึงด้านการดําเนินธุรกิจแนวใหม่ ที่มีการนําเทคโนโลยีสารสนเทศ และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ในการสนับสนุน ซึ่งเรียกว่า พาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์ ( Electronic Commerce: E-Commerce) ได้รับความนิยมแพร่หลาย หลายองค์กรน้า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มาใช้ เป็นกลยุทธ์หนึ่งของการดําเนินธุรกิจ จึงจําเป็นจะต้องมีการควบคุม เพื่อให้ การดําเนินการดังกล่าวใช้บังคับได้โดยการออกกฎหมายและ รับรองผลทางกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์ พ ศ . . 2562 ( รายละเอียดตามหน่วยการเรียนรู้ที่ 4) การทําธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นการทําธุรกรรมที่ ประยุกต์ใช้วิธีทางอิเล็กตรอนไฟฟ้า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือวิธีการอื่น ใดที่คล้ายกัน และยังหมายความรวมถึงการใช้วิธีการทางแสงวิธีการทาง แม่เหล็กหรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้วิธีต่าง ๆตามที่กล่าว มาโดยอาจทําทั้งหมดหรือบางส่วน ทั้งนี้การทําธุรกรรม ทาง อิเล็กทรอนิกส์ไม่รองรับผลธุรกรรมเกี่ยวกับครอบครัวและ มรดก 1 การเกิดสัญญาตามกฎหมายไทย การเกิดสัญญาตามกฎหมายไทยเป็นไปตามประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์ ความว่า สัญญาเป็น นิติกรรมที่เกิดจากการแสดง เจตนาเสนอและเจตนาสนองที่ตรงกันของบุคคล ฝ่าย ตาม 2 รายละเอียดดังนี้ 1. เป็นการกระทําของบุคคลโดยการแสดงเจตนา เป็นการ แสดงเจตนาโดยชัดแจ้งทั้งด้วยวาจา ลายลักษณ์อักษร หรือการแสดงอื่น ใดที่อนุมานได้ว่าเป็นการแสดงเจตนาในการกระทําตามคําเสนอหรือ คํา สนองนั้น 2. เป็นการกระทําโดยชอบด้วยกฎหมาย หมายถึง เป็นการ กระทําที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย ศีลธรรมอันดี และความสงบเรียบร้อยของ ประชาชน 3. มุ่งประสงค์ให้เกิดผลทางกฎหมาย หมายถึง มีความมุ่ง หมายที่จะผูกนิติสัมพันธ์ที่จะสามารถ บังคับกันได้ตามกฎหมาย 4. กระทําโดยสมัครใจ เป็นการสมัครใจของคู่สัญญาทั้งสอง ฝ่ายไม่เกิดจากการบังคับ
ความรู้เกี่ยวกับสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ การเกิดสัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ คําเสนอและคํา สนองจะต้องตรงกันในสักเร อิเล็กทรอนิกส์ก็เช่นกัน ที่จะต้องมีคําเสนอและคํา สนองที่ตรงกันจึงจะเกิดเป็นสัญญาซื้อขายได้ แต่ในปัจจุบัน การทําธุรกรรมต่าง ๆ มีการนําเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ เช่น ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจสายการบิน ธุรกิจ การศึกษา ธุรกิจบันเทิง ทําให้การดําเนินธุรกิจได้รับความสะดวก รวดเร็ว ลด ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับหน้าร้าน และการเดินทาง จึงส่งผลให้สถิติการซื้อขายสินค้า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทยมีผู้ประกอบธุรกิจ ขายให้กับผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ทําให้มีสัญญาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์เกิดขึ้น สามารถบังคับใช้ตามกฎหมาย แทน สัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้ โดยการทําสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ อยู่ภายใต้ พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ ศ . . 2562 การแสดงเจตนาทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือการแสดงเจตนาทางออนไลน์ ส่วนมากอยู่ในรูปแบบของ การติดต่อกันผ่านระบบอินเทอร์เน็ต แบ่งออกได้ ดังนี้ 1. แบบ Real Time เช่น Skype, Face Time, Chat Room มีจุดเด่น คือ คู่สนทนาพูดคุย โต้ตอบกันได้ทันที สามารถเห็นหน้าคู่สนทนาได้ หรือในกรณี ของ Chat Room ก็สามารถส่งข้อความกัน ระหว่างบุคคลที่อยู่ในกลุ่ม 2. แบบ Non-Real Time ผู้รับคําเสนอจะไม่ได้รับคําแสนอในทันทีเช่น การแสดงเจตนาผ่าน Electronic mail, Line, Facebook คําเสนอจะไม่ได้รับคํา เสนอทันที จะต้องเปิดบัญชี E-mail Facebook ของตนขึ้นมาก่อน จึงรับการแสดง เจตนา ยังเนี้การแสดงเจตนาผ่านสื่อออนไลน์แบบ Non-Real Time ก็ไม่ได้มีการ บัญญัติขึ้นในพระราชบัญญัติธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ มการแสดงเจตนาประเภท ใด การที่จะทราบว่าผู้รับคําเสนอนั้นได้รับคําเสนอดังกล่าวเมื่อใด จึงต้องพิจารณา จากหลักกฎหมายที่ ราคาในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งกําหนดว่า การ “ แสดงเจตนาได้ส่งไปถึงคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งของการแสดงเจตนานั้นก็มีผลขึ้นทันทีโดย ไม่ต้องไปพิจารณาว่าบุคคลที่ต้องแสดงเจตนาดังกล่าวหรือไม่ หมายถึงการส่งคํา ” เสนอไปยังผู้รับให้มีผลนับแต่เวลาที่ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นได้เข้าสู่ ระบบข้อมูล ของผู้รับ ไม่ใช่เวลาที่ผู้รับได้เปิดอ่านดูหรือทราบข้อมูลจริง สถานที่การแสดงเจตนาทางอิเล็กทรอนิกส์ สถานที่ที่สัญญาเกิดขึ้นนั้นจะ ทําให้ทราบถึงเขตอํานาจ ของศาล หากมีการฟ้องร้องบังคับคดีกันเกิดขึ้น สถานที่ที่ เกิดของสัญญานั้น จะเป็นสถานที่ที่มูลคดีเกิดขึ้น และผู้ฟ้องจะต้องทําคําฟ้องให้ เสนอศาลที่มูลคดีนั้น นอกจากนี้สถานที่เกิดขึ้นของสัญญาก็อาจเป็นตัวกําหนด กฎหมายที่นํามาปรับใช้กับสัญญาได้ สถานที่แสดงเจตนาทางอิเล็กทรอนิกส์ พิจารณาได้ดังนี้
1. สถานที่ส่งและรับข้อมูลทางอิเล็กทรอนกส์ คือ ให้ถือเอาสถานที่ทํางานของผ ิ ู้ รับส่ง หากที่ทํางานมีหลายแห่ง ให้เอาสถานที่ที่เกี่ยวข้องมากที่สุด หรือใหถือเอาสํานักงาน ้ ใหญ่ เป็นสถานที่รับส่งข้อมูลอิเล็กทรอนกส์นั้น หากไม่มีปรากฏอีกให้ถือเอาถิ่นที่อยู่ปกติ ิ เป็นสถานที่ที่ส่ง หรือได้รับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ 2. สถานที่ในการส่งและรับการแสดงเจตนาออนไลน์ตามอนสัญญา ุ สหประชาชาติว่าด้วยการใช้ การสื่อสารทางอิเล็กทรอนกส์ในสัญญาระหว่างประเทศ ใน ิ ปัจจุบันมีความลําบากในการกําหนด สถานที่รับส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากผู้รับส่งมี การเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา เพื่อแก้ไขปัญหา ต่าง ๆ ในการระบุสถานที่ที่ส่งหรือรับการ สื่อสารทางอิเล็กทรอนิกสให้มความชัดเจน และเหมาะสม กับสภาพเทคโนโลยีที่ม ์ ี ี ความก้าวหน้ามากขึ้น จึงไม่นําสถานที่ทางภูมิศาสตร์มากําหนดเป็นสถานที่ ทําการงาน ข้อสังเกตเกี่ยวกับ การแสดงเจตนาทางออนไลน์ การแสดงเจตนาทางออนไลน์ มีข้อสังเกต ดังน ี้ 1. การเชิญให้ทําคําเสนอทางออนไลน์ ยังไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายใดกําหนด หลักเกณฑ์ การเชิญให้ทําคําเสนอ ผู้เสนอจึงมีการโฆษณาขายสินค้าหรือบริการ เป็น จํานวนมากในกลุ่มบุคคลหมู่กว้าง และสามารถเข้าถึงได้ง่าย โดยการใช้คอมพิวเตอร์หรือ สมาร์ตโฟน เชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ต ก็สามารถ เข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้ทันที ปัจจุบันม ี การเสนอขายสินค้าหรือบริการผ่านโปรแกรมประยุกต์ที่โต้ตอบได้ทันที ( Interactive Application) ทําให้คู่สัญญาโต้ตอบกันได้ทันที ดังนั้นจึงควรจะต้องมีการกําหนดหลักเกณฑ์ ในเรื่องการทําคําเสนอโดยโปรแกรมประยุกต์ที่สามารถโต้ตอบได้อัตโนมัติ 2. การใช้ระบบอัตโนมัติในการทําสัญญา ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทําให้เกิด รูปแบบ การซื้อขายอัตโนมัติที่ง่ายและสะดวก เพียงผู้ซื้อเข้าไปกดปุ่มตามที่กําหนด สัญญา ก็เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ การทําสัญญาอัตโนมัตินี้มีทั้งกรณีที่ผู้ซื้อเป็นบุคคลธรรมดาเข้าไปซื้อ สินค้าบนเว็บไซต์ และกรณีที่ผู้ซื้อเป็นธุรกิจ เมื่อคอมพิวเตอร์ของผู้ซื้อพบว่าสินค้ากําลังจะ หมด จะทําการสั่งซื้อสินค้าไปยังคอมพิวเตอร์ของผู้ขาย เพื่อลดความผิดพลาด และความ เสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น ควรมีการกําหนดถึงข้อมูลที่ปรากฏในสัญญาว่า จะต้องอยู่ภายใต้ กฎหมายคือจะต้องไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ 3. การแก้ไขข้อผิดพลาดในการแสดงเจตนาทางออนไลน์ การป้อนข้อมูลทาง ออนไลน์เพื่อทําการ สั่งซื้อสินค้าอาจมีข้อพลาดเกิดขึ้น และโอกาสที่ ผู้ซื้อจะตรวจสอบ ข้อมูลมีน้อยมาก จึงก่อให้เกิด ความเสี่ยงสูงในการทําธุรกรรม จึงต้องมีการสร้าง หลักเกณฑ์เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น เช่น การกําหนดให้กดปุ่มยืนยันอีกครั้ง หลังจาก การกรอกข้อมูลเสร็จสิ้น หรือการส่งข้อมูลหรือรหัส ให้มีการกรอกเพื่อเป็นการ ยืนยันอีกครั้งหนึ่ง
การระงับข้อพิพาทกรณีสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากการทําสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ คู่สัญญาต่างฝ่ายไม่ได้พบ หน้ากันอาจห่างไกลกันด้วยระยะทางที่จะใหทั้งสองฝ่ายมาพบหน้ากัน ้ เมื่อเกิดกรณีพิพาทดังนั้นการระงับข้อพิพาทด้วยระบบออนไลน์จึงไม่ สะดวกที่จะให้เป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุด การระงับข้อพิพาททางออนไลน์ ( Online Dispute Resolution: ODR) เป็นวิธีการระงับข้อพิพาท ที่มีกระบวนการ ทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดใช้การดําเนินการทางออนไลน์ ตั้งแต่ขั้นตอน การรับเรื่องร้องเรียน Filing Claim) การเจรจาต่อรอง ( Negotiation) การไกล่เกลี่ย ( Mediation) และการอนุญาโตตุลาการ ( Arbitration) ทําให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ในระบบ ODR ผู้ร้องเรียนสามารถแจ้งเรื่องพร้อมแนบ เอกสารบนหน้าเว็บไซต์ หรือผ่านแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์มือถือ ซึ่งส่ง ถึงผู้ดําเนินงานจัดการ ข้อร้องเรียน หรือผู้ระงับกรณีพิพาทได้อย่างสะดวกและปลอดภัย หลักการสําคัญในการนําเทคโนโลยีมาใช้ใน การระงับข้อ พิพาทออนไลน์ คือ ความเป็นกลางของระบบและความเป็นอิสระของ ผู้ที่ทําหน้าที่ระงับ ข้อพิพาท ( Impartiality and Independence) ค่าบริการอยู่ในเกณฑ์ที่สมเหตุสมผลสําหรับผู้บริโภค ( Affordability) ผู้ให้บริการระบบมีความโปร่งใสและ มีกระบวนการดําเนินการอย่าง เป็นธรรม ( Fairness) นอกจากนี้ในส่วนของเทคโนโลยีที่นํามาใช้ตองมี ้ ประสิทธิภาพ มีการรักษาความลับและความปลอดภัย อย่างเหมาะสม ด้วย
ใบงานที่ (5.1) ขั้นตอนการปฏิบัติกิจกรรม - ผู้เรียนเล่าประสบการณ์ของตนเองเกี่ยวกับการซื้อสินค้าทาง พาณิชย์อิเล็กทรอนิก ตอนอย่างละเอียดลงในที่ว่างด้านล่าง ......................................................................................................... ......................................................................................................... ......................................................................................................... ......................................................................................................... ......................................................................................................... ......................................................................................................... ......................................................................................................... ......................................................................................................... .................................................................................... ..................... - สิ่งที่ได้รับจากการปฏิบัติกิจกรรม ......................................................................................................... ......................................................................................................... ......................................................................................................... ......................................................................................................... ......................................................................................................... ......................................................................................................... ......................................................................................................... ......................................................................................................... .........................................................................................................
ใบงานที่ (5.2) ขั้นตอนการปฏิบัติกิจกรรม - ผู้เรียนสืบค้นข้อมูลกรณีที่ผู้ขายทางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ซื่อสัตย์ พร้อมแสดงความคิดเห็น เกี่ยว กับการกระทําของผู้ขาย บันทึกลงในที่ว่างด้านล่าง ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... . - สิ่งที่ได้รับจากการปฏิบัติกิจกรรม ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176