สำ�นกั งานพฒั นารฐั บาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) 99 การใช้ AI ในงานบริหารจัดการภาครัฐ (AI for Government Management) งานบรหิ ารจดั การภาครฐั หมายถงึ กระบวนการภายในทหี่ นว่ ยงานภาครฐั ตอ้ งท�ำซำ�้ เปน็ ประจำ� และ มขี ้นั ตอนทช่ี ัดเจน เชน่ การรับ-จ่ายเงิน การเบิกพัสดุ การจองหอ้ งประชุม งานสารบรรณ เปน็ ต้น โดย AI สามารถท�ำงานแทนบุคลากรภาครัฐในงานบริหารจัดการภาครัฐได้เป็นอย่างดี เน่ืองจาก งานเหล่านี้มีกระบวนการและขั้นตอนท่ีชัดเจน และไม่ต้องอาศัยรูปแบบของ AI ท่ีมีเทคนิคการ วเิ คราะห์ในขน้ั สงู มาก 1. การวิเคราะห์รูปแบบ AI ทนี่ �ำมาใช้ในแตล่ ะงาน สพร. ไดน้ ำ� รปู แบบ AI ทน่ี �ำเสนอไวใ้ นบทที่ 1 มาวเิ คราะหร์ ว่ มกบั ตวั อยา่ งงานบรหิ ารจดั การภายใน ของหน่วยงานภาครัฐ เพ่ือน�ำเสนอรูปแบบการน�ำมาใช้งานตามความสามารถของ AI ในแต่ละ รูปแบบ โดยมีรายละเอยี ดดังนี้
100 เทคโนโลยปี ัญญาประดิษฐ์ ตารางที่ 3 รปู แบบของ AI ท่ีสามารถนำ� มาประยกุ ต์ในการบริหารจัดการภาครฐั รูปแบบของ AI ทีส่ ามารถนำมาประยุกตได จดักการาบรภร�หาคารรัฐ Speech Vision Robotics LMeaacrnhiinnge NLP Planning SEyxspteermt งบประมาณ พ�สจู นตวั ตน สแกนใบเสร็จ ระบบ ระบบ ระบบ ดวยเสียง และลงบัญชี ตรวจจบั ทจุ ร�ต จัดกลุม งบ แนะนำการใช อัตโนมัติ งบประมาณ อัตโนมัติ ใหเ หมาะสม บรห� ารบคุ คล ระบบตรวจจับ ระบบสังเกต หนุ ยนตที่ ระบบทำนาย Chatbot ท่สี ุดกบั อารมณ อารมณ ปรก� ษาบร�การ การลาออก ใหบ รก� ารงาน งานนน้ั ๆ พนกั งาน พนักงาน ฝายบคุ คล ของพนกั งาน สว นบคุ คล ระบบดูแล (รวมถึงโรค ในการประชมุ อัตโนมัติ สวสั ดกิ าร ซมึ เศรา) พนักงาน อตั โนมัติ จัดซ้อื -จัดจาง ว�เคราะห ระบบจัดกลมุ Drone ฝก ใหระบบ ระบบวเ� คราะห การตรวจรบั บร�ษัทอตั โนมัติ สง พัสดุ องคความรู ขอมูลตาม ระบบ หาความผด� ภายในองคก ร กลยุทธท่ี การแนะนำ ปกติ ใหดขี ้�น กำหนดไว การจดั ซื้อ จดั จาง พสั ดุ ระบบเบกิ ระบบ ระบบ ระบบชวย Enterprise ระบบ ตรวจสอบ อปุ กรณ ตรวจสอบ จายพัสดุ เช็คพสั ดุ Resource ประมาณการณ ดวยเสยี ง พสั ดอุ ัตโนมตั ิ อตั โนมตั ิ คงคลัง Planning: บญั ชี ระบบ คลงั พัสดุ ตรวจหาทจุ รต� การเงน� ระบบ ระบบ ระบบ ERP ดว ย AI Audit A.I. ตรวจจบั จ�ด ตรวจสอบ ตรวจสอบ ระบบจัดการ ผด� สังเกตจาก เอกสารปลอม ความพอใจ ทรพั ยากร บทสนทนา อัตโนมัติ ระบบ ระบบจัดเก็บ ระบบ ระบบจัดกลุม ผชู ว ย รบั คำส่งั เอกสาร ตรวจจบั เอกสาร ผตู รวจสอบ ดว ยสยี ง ความผ�ดปกติ อตั โนมตั ิ บัญชอี ัจฉร�ยะ ทางดา นบัญชี โดยการใช อตั โนมัติ ระบบ Deep Learning แบบ Unsuper- vised Deep Learning กับการทจุ รต� ทางบญั ชี ระบบ ระบบคดั แยก ระบบ ระบบจัดกลุม ระบบ บนั ทกึ การเงน� เอกสารทาง ตรวจจับ เอกสาร ใหค ำแนะนำ การทุจร�ต อตั โนมตั ิ ดา นการเง�น ดวยเสยี ง การเง�น ทางการเง�น เฉพาะบุคคล อตั โนมตั ิ
ส�ำ นักงานพัฒนารฐั บาลดจิ ิทัล (องคก์ ารมหาชน) 101 รปู แบบของ AI ทสี่ ามารถนำมาประยกุ ตได จดักการาบรภรห�าคารรัฐ Speech Vision Robotics LMeaacrnhiinnge NLP Planning SEyxspteermt สารบรรณ ระบบ ระบบ หนุ ยนต ระบบ ระบบจัดการ ระบบ ระบบ รับคำสง่ั แยกเอกสาร เดนิ เอกสาร ออกเลข เอกสาร พจ� ารณา รา งหนังสือ ดวยเสียง อตั โนมัติ สารบรรณ อตั โนมตั ิ เอกสาร อัตโนมัติ ตามกลุม อตั โนมัติ อัตโนมัติ การบรห� าร ระบบ ระบบ หุน ยนต ระบบ ระบบรวบรวม เพ�่มประสิทธิ สมารท สำนกั งาน รบั คำส่ัง ตรวจสอบ บรก� าร การศกึ ษา และจดั กลุม ภาพจากการ ออฟฟส� ดวยเสยี ง ความเร�ยบรอย งานทวั่ ไป การใชบร�การ คำแนะนำ ของสำนกั งาน สำนกั งาน สำนักงาน วเ� คราะห อัตโนมตั ิ งานประจำ แจงบำรงุ ระบบ ระบบ หนุ ยนต ระบบ ระบบระบุ ระบบรับเร่อ� ง ระบบวางแผน รักษา ตรวจจบั ตรวจจบั ลาดตระเวน คาดการณ จ�ดซอมบำรุง ประเมนิ ซอมบำรุง ความผด� ปกติ สิ�งผด� ปกติ ตรวจสอบ การซอมบำรุง ตามป ดว ยเสียง ดวยกลอ ง ความเสยี หาย ลวงหนา ดว ยคำ ความเสยี หาย งบประมาณ อตั โนมตั ิ แวดลอม และแจงซอม อตั โนมตั ิ ขอใช ระบบ ระบบ ระบบ จบั คกู ารใช ระบบ ระบบแนะนำ ทรัพยากร รับคำสงั่ จอง ตรวจสอบ จัดสรร งานทรัพยากร งานเอกสาร การใชบรก� าร ของสำนกั งาน ดวยเสยี ง การใช ทรัพยากร กับโครงการ อตั โนมตั ิ สำนกั งาน เชน จองหอง ทรพั ยากร ลวงหนา (ถาจองตาม ประชุม สำนักงาน ตอ งการไมไ ด จองรถยนต ควรดำเนินการ อยางไรตอ) การนัดหมาย ระบบบันทึก จัดทำบันทึก ระบบจัดการ ระบบ จดั การประชุม ผชู วยเสมอื น การนัดหมาย นัดหมายจาก นัดหมาย จดบันทึก ในสถานท่แี ละ อัจฉร�ยะ ภาพตัวอกั ษร ตามลำดบั การนัดหมาย จากการ โลโกโ รงแรม/ ความสำคัญ ชว งเวลา สนทนา สายการบนิ จากขอมูล ท่ีเหมาะสม หรอ� ลายมือ ในอดตี การลา ระบบ ตรวจสอบ ระบบแนะนำ แจง ลา แนะนำชว งที่ ผชู วยจัดการ อนุมตั กิ ารลา ตวั ตนในการ ประเภทการลา แบบสุภาพ เหมาะสมที่จะ การลาจาก ดวยเสียง แจงการลาดว ย ลาไดโดยไม ขอมูลในอดตี วด� โี อคอล กระทบกบั งาน มอบหมาย ระบบ ระบบ ระบบว�เคราะห ระบบ ระบบจดั การ ระบบแนะนำ สัง่ การ ส่งั การ เก็บหนงั สอื หนงั สือคำสงั่ สนับสนนุ เอกสาร บคุ คลที่ ดวยเสียง คำสง่ั อตั โนมตั ิ เหมาะสมกบั อตั โนมัติ ระบบวเ� คราะห อัตโนมตั ิ งานน้ันๆ
102 เทคโนโลยปี ัญญาประดิษฐ์ 2. ตัวอย่างการน�ำรปู แบบ AI มาใช้ในงานบริหารจัดการภาครฐั เน่ืองจากหน่วยงานภาครัฐเป็นผู้ให้บริการสาธารณะขนาดใหญ่ ระบบบริหารจัดการภายในของ ภาครฐั จงึ มขี นาดใหญแ่ ละตอ้ งใชค้ นจำ� นวนมาก หนว่ ยงานภาครฐั ในหลายประเทศจงึ นำ� เทคโนโลยี AI มาใช้ในงานบริหารจัดการภาครัฐ เพ่ือสนับสนุนให้การด�ำเนินงานของภาครัฐมีประสิทธิภาพ เพิม่ ขนึ้ โดยตวั อย่างการน�ำเทคโนโลยี AI ท่ีน่าสนใจมาใชใ้ นงานบริหารจัดการของภาครฐั ดังน้ี ตัวอย่างท่ี 1 รัฐแอลเบอร์ตา แตนาดา นำ� ระบบ AI มาเพิ่มประสทิ ธภิ าพระบบ ERP ภาครัฐ 10 หนว ยงานเจา ของโครงการ: รัฐแอลเบอรตา ประเทศแคนาดา วตั ถุประสงค: เพื่อการจัดการกระบวนการทางธุรกิจที่ชวยใหองคกรสามารถใชระบบรวมสำหรับ บรหิ ารจดั การกระบวนการทางธรุ กจิ และการทำงานทเ่ี กย่ี วขอ งโดยอตั โนมตั ิ ใหบ รกิ าร ภาครฐั มีคุณภาพเดียวกนั หรือสูงกวา จากบรกิ ารดจิ ทิ ัลของภาคเอกชน เทคโนโลยีท่ีใชงาน: การประยกุ ตใ ช ระบบ RPA ผสานปญ ญาประดษิ ฐ มาเพม่ิ ความสามารถใหก บั ระบบ ERP ผลท่ีไดร บั : พฒั นาซอฟตแ วรเ พอ่ื บรหิ ารจดั การงานภาครฐั ใหเ ปน ระบบและรวดเรว็ เทา กบั ภาคธรุ กจิ ชวยใหหนวยงานภาครัฐสามารถใชระบบเพื่อจัดการทรัพยากรตางๆ ของหนวยงาน ใหม ีประสทิ ธิภาพ เชน การเงิน จดั ซ้อื จัดจา ง ทรพั ยากรมนษุ ย เปน ตน + EXAMPLE ภาพประกอบจาก: https://www.aaofficeonline. cmoamn/adgoecmuemnetnt- 10 ทีม่ า: Sales Design Studio, 2018
ส�ำ นักงานพฒั นารัฐบาลดิจิทัล (องคก์ ารมหาชน) 103 ตวั อยา่ งท่ี 2 จีนใช้ระบบ “Zero Trust System” ในการตรวจจับการคอร์รัปชนั 11 หนว ยงานเจา ของโครงการ: Chinese Academy of Sciences และ Chinese Communist Party วตั ถปุ ระสงค: เพื่อเฝาระวังการทำทุจริตในภาครัฐ คนหาแนวโนมของเจาหนาที่ที่อาจมีพฤติกรรม ทจุ ริต และยับยัง้ เทคโนโลยีท่ีใชง าน: การประมวลผลขอมูลหลากหลาย ใน Big Data ทั้งสวนการทำงาน และ ไลฟสไตล รวมไปถึงครอบครวั และเพอ่ื นของเจา หนาที่ของรัฐ ผลท่ีไดร ับ: ระบบ Zero Trust ไดถ กู นำมาใชใ นเมอื งและเขตเพยี งแค 30 แหง ซง่ึ นบั เปน เพยี งแค 1% ของทั้งประเทศเทานั้น แตระบบนี้ก็กลับสามารถจับเจาหนาที่รัฐที่ทำทุจริตได มากถึง 8,721 รายตั้งแตป 2012 ทรี่ ะบบเริ่มตน ใชงานมา แตห ลายพื้นทเ่ี รยี กรอ งให ปดระบบ เพราะ ทำใหการทำงานซับซอนขึ้น สรางความกดดันใหเจาหนาที่ รวมถึง ครอบครัวและเพ่ือนของเจา หนาที่ดว ย + EXAMPLE ภาพประกอบจาก: https://www.chinadailyhk.com/articles/248/88/206/1542258555188.html 11 ท่ีมา: Christian, 2019 และ Chen, 2019
104 เทคโนโลยีปัญญาประดษิ ฐ์ ตัวอยา่ งท่ี 3 กลาโหมสหรฐั อเมริกาใช้ AI คาดการณย์ านพาหนะทตี่ อ้ งได้รับการบำ� รงุ รักษา 12 หนวยงานเจา ของโครงการ: กลาโหมสหรฐั วัตถุประสงค: เพื่อสรางระบบการบำรุงรักษาเชิงพยากรณสำหรับยานพาหนะทางทหาร ที่ชวยลด ความผดิ พลาดระหวา งการปฏิบัตงิ านภาคสนาม เทคโนโลยที ่ีใชงาน: ใช Machine Learning ในสว นของการวเิ คราะหเ ชงิ พยากรณ ผลที่ไดรับ: BAE Systems ซึ่งเปนระบบ AI ที่ใชในการคำนวนพยากรณ ความเสียหาย ที่ตอง ซอมบำรุงของยานรบและยานพาหนะขนสงที่หุมเกราะหนัก ทำใหสามารถเขาบำรุง ไดในระยะทีเ่ หมาะสม + EXAMPLE ภาพประกอบจาก: https://www.army.mil/article/20678/mechanics_repair_military_tactical_vehicles 12 ท่มี า: Sayler, 2019
ส�ำ นักงานพฒั นารฐั บาลดจิ ทิ ลั (องคก์ ารมหาชน) 105 ตวั อย่างที่ 4 สรรพากรออสเตรเลียใช้เสียงในการยืนยันตัวตน 13 หนวยงานเจา ของโครงการ: สำนกั การภาษี ออสเตรเลยี (Australian Taxation Office) วตั ถุประสงค: เพื่อชวยอำนวยความสะดวกใหกับเจาหนาที่ในการพิสูจนตัวตนเพื่อใชเขาถึงขอมูล ตามระดับสิทธิท์ ่ีเขา ถึงได เทคโนโลยีท่ีใชงาน: เปน การใชระบบรูจำเสยี ง เพอ่ื การพสิ จู นตัวตนแทนท่รี ะบบ PIN ผลท่ีไดรบั : นอกเหนือไปจากการเขาถึงขอมูลไดในระยะเวลาที่รวดเร็วขึ้นแลว การพิสูจนตัวตน ดวยเสียง ไดรับการพิสูจนแลววาใหความปลอดภัยในระดับที่สูงกวาวิธีการรับรอง ความถูกตองแบบดั้งเดิมไมวาจะเปน PIN รหัสผาน คำถามเพื่อความปลอดภัยหรือ สง่ิ ยนื ยนั ทางกายภาพ + EXAMPLE ภาพประกอบจาก: https://announced.media/australian-tax-office-cuts-down-call-time/ 13 ทม่ี า: Nuance Communications, Inc., 2016
106 เทคโนโลยปี ัญญาประดษิ ฐ์ ตัวอยา่ งท่ี 5 ฮังการีนำ� AI มาใชจ้ ัดการข้อมลู ภาพในคลงั ภาพและเสียงแหง่ ชาติ 14 หนว ยงานเจาของโครงการ: The National Audiovisual Archive of Hungary (NEVA) วตั ถปุ ระสงค: เพื่อจัดเก็บขอมูลเกาดวยวิธีที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกเหนือจากนั้น NAVA ยังมี โปรแกรมอื่นๆ ที่จะทำใหการเก็บขอมูลเกาๆนั้นเกิดประโยชนสูงสุด และเพื่อเพิ่ม ประสิทธภิ าพใหก ับขอ มลู ทม่ี อี ยู เทคโนโลยีท่ีใชงาน: Cognitive Solution (เชน “Machine Vision”) ผลที่ไดรับ: ไดมีการบันทึกโปรแกรมสื่อการบริการสาธารณะ ตั้งแตป 2006 เพื่อทำใหสามารถ เขาถึงไดออนไลน รวมถึงการทำ Digitize ภาพขาวในประวัติศาสตร นับลานภาพ ขอ มลู ทม่ี คี ณุ คา นบั Petabyte จะตอ งถกู ประมวลผล มกี ารตง้ั เปา หมายท่ี 2.5 ลา นภาพ ตอ ป แตด ว ยความสามารถของมนษุ ย ทำใหส ามารถทำงานไดเ พยี ง 40% ของเปา หมาย จงึ มกี ารนำเทคโนโลยปี ญ ญาประดษิ ฐเ ขา มาแกป ญ หา มฉิ ะนน้ั จะไมส ามารถทำงาน ทั้งหมดไดในเวลาสั้นๆ ปญญาประดิษฐสามารถเขามาชวยเหลือการทำงานไดใน การจดจำผูคนอยางรวดเร็ว และสามารถระบุวัตถุ นอกเหนือจากความเร็วแลว ยังมี ความแมน ยำทส่ี งู กวา มนษุ ยอ กี ดว ย ใชเ วลานอ ยมากในการระบใุ บหนา คนทง้ั จากใน ภาพถา ย และในวดี โี อ ไมม ผี เู ชย่ี วชาญมนษุ ยค นไหนสามารถรจู กั ผคู นทม่ี ชี อ่ื เสยี งใน ประวตั ศิ าสตรค รบทกุ คน ซง่ึ ปญ ญาประดษิ ฐส ามารถทำได ปญ ญาประดษิ ฐส ามารถ จดจำ 90% ของภาพผคู นไดอ ยา งทนั ทที นั ใด จากทแ่ี ตล ะภาพตอ งใชม นษุ ย กบั เวลา 10 นาทเี พ่อื อธบิ ายภาพ แตปญญาประดิษฐใชเวลาประมาณ 2 นาที + EXAMPLE ภาพประกอบจาก: https://customers.microsoft. cciovmili/aenn--guosv/setronrmy/ennatv-a- azure-services-hungary 14 ที่มา: Microsoft, 2019
สำ�นักงานพฒั นารัฐบาลดจิ ิทัล (องค์การมหาชน) 107 3. การใช้ AI ในงานเฉพาะของหนว่ ยงาน (AI for Government Specific Task) นอกเหนือจากการให้บริการสาธารณะท่ีเปรียบเสมือนงาน Front office และงานบริหารจัดการ ของภาครฐั ที่เปน็ งาน Back office แล้ว หน่วยงานภาครฐั ยังมงี านตามภารกจิ ทเ่ี ปน็ งานเฉพาะของ แต่ละหน่วยงาน เช่น การดูแลสาธารณูปโภค การบริหารจัดการทรัพยากรน�้ำ การควบคุมมลพิษ เป็นต้น ท่ีต้องมีการใช้ทรพั ยากรในการท�ำงานเปน็ จ�ำนวนมาก ปจั จบุ ันงานดงั กลา่ วได้มกี ารนำ� AI มาประยกุ ต์เพื่อพฒั นางานให้มีประสิทธภิ าพและมมี าตรฐาน โดยมีตัวอยา่ งรูปแบบการนำ� AI มา ใช้ในงานเฉพาะของหน่วยงาน ดังนี้ ตวั อยา่ งท่ี 1 โรงพยาบาลราชวิถีใช้ AI ในการวินิจฉยั โรคเบาหวาน 15 หนว ยงานเจา ของโครงการ: โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย กระทรวงสาธารณสุข ประเทศไทย วัตถุประสงค: เพื่อแกไขปญหาขาดแคลนผูเชี่ยวชาญในการตรวจพบอาการผิดปกติของจอเรตินา ท่เี ปน อาการบงชีเ้ บือ่ งตน ของอาการเบาหวานข้นึ ตาได เทคโนโลยที ่ีใชงาน: ระบบ Visualization และ Deep Learning ผลที่ไดร ับ: โมเดลปญญาประดิษฐสามารถตรวจจับมีความแมนยำสูงถึง 97% เมื่อเทียบกับ ผเู ชย่ี วชาญคดั กรอง ทม่ี คี วามแมน ยำอยทู ่ี 74% (เปน ผลการทดลอง เปรยี บเทยี บจาก ขอมูลที่เก็บไวในคลังขอมูล ซึ่งเมื่อนำไปใชงานจริงอาจมีความคลาดเคลื่อนที่ตอง ปรบั เทยี บอกี ครง้ั ) ชว ยเพม่ิ การเขา ถงึ ของผปู ว ยในการตรวจคดั กรอง ผปู ว ยจะสามารถ ทราบระยะของโรคทันที รวมถงึ ชว ยแบงเบาภาระงานใหก ับบุคลากรทางการแพทย + EXAMPLE ภาพประกอบจาก: http://www.digitalagemag. com/google-ai-diabetic 15 ท่ีมา: กรุงเทพธุรกิจ, 2562
108 เทคโนโลยปี ญั ญาประดษิ ฐ์ ตัวอยา่ งที่ 2 เกาหลใี ชเ้ ทคนคิ Face Detection ตรวจจับผูพ้ ำ� นกั เกินเวลา 16 หนวยงานเจาของโครงการ: ตำรวจตรวจคนเขาเมืองเกาหลี วัตถุประสงค: เพอ่ื แกป ญ หาผพู ำนกั เกนิ เวลาอนญุ าต แบง เบาภาระงานใหก บั ตำรวจตรวจคนเขา เมอื ง ลดงบประมาณในการลงทุนเพื่อการตามจบั ผลู ักลอบเขา เมืองเกินเวลา เทคโนโลยที ่ีใชงาน: Biometric และ Face Recognition ผลที่ไดรบั : การจดจำใบหนา เปน แอปพลเิ คชนั ทส่ี ามารถระบหุ รอื ตรวจสอบบคุ คลโดยการเปรยี บเทยี บ และวเิ คราะหร ปู แบบตามรปู ทรงใบหนา ของบคุ คลนน้ั จงึ ทำใหก ารตรวจจบั ผพู กั อาศยั โดยไมมใี บอนญุ าตไดอยางรวดเรว็ + EXAMPLE ภาพประกอบจาก: http://korea-id.co.kr/eng/technology.php 16 ท่มี า: Treacy, 2017
ส�ำ นกั งานพัฒนารฐั บาลดิจิทลั (องคก์ ารมหาชน) 109 ตวั อย่างท่ี 3 รัฐเทกซัสให้ AI คาดการณป์ ริมาณนำ�้ ล่วงหนา้ 17 หนวยงานเจา ของโครงการ: หนวยงานทองถิน่ ของรัฐเทกซสั (Texas) สหรัฐอเมรกิ า วตั ถุประสงค: เพื่อสรางโมเดลคาดการณน้ำทวมที่มีความแมนยำสูง สามารถปรับแตงโมเดลให เหมาะสมกับสภาวะอากาศไดงาย สามารถพยากรณน้ำหลากได แมวาตัวเซนเซอร วดั ปริมาณนำ้ จะถกู ทำลายไปแลว เทคโนโลยีท่ีใชง าน: Machine Learning โดยใชจำลองหลายๆ สถานการณ เพื่อสามารถใหโมเดลยังคง สามารถทำการพยากรณล วงหนา ได ผลที่ไดร ับ: หนว ยงานสามารถตดิ ตามสถาณการณ นำ้ ทว มไดแ มอ ยใู นชว งวกิ ฤตทเ่ี สาสง สญั ญาณ บางสว นไดถ กู ทำลายลงไปแลว รวมทง้ั สามารถประเมนิ ความรนุ แรงของเหตอุ ทุ กภยั ไดอ ยา งใกลเ คยี งกบั สถานการณจ รงิ รวมถงึ สามารถสง ขอ มลู ออก เพอ่ื ขอคำปรกึ ษา จากผูเ ชยี่ วชาญในทอ งท่อี ื่นไดท นั ที + EXAMPLE ภาพประกอบจาก: https://www.microsoft.com/en-us/research/blog/preventing-flood-disasters-with- cortana-intelligence-suite-2/ 17 ทีม่ า: Brengel, 2016
110 เทคโนโลยปี ญั ญาประดิษฐ์ ตัวอยา่ งท่ี 4 เมอื งพิตตส์ เบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนยี ใช้ AI จัดการปญั หาจราจรตดิ ขดั 18 หนว ยงานเจา ของโครงการ: เมอื งพิตตสเบิรก (Pittsburgh) วัตถปุ ระสงค: เพือ่ จัดการกับปญหาการจราจรตดิ ขัดผานการควบคุมการจราจร เทคโนโลยีที่ใชง าน: Computer Vision ประกอบกบั เทคนิค Optimization ในระบบสัญญาณไฟจราจร ผลที่ไดรบั : ระบบ SURTRAC ชวยใหการเดินทางในเมือง ลดลง 25%, ลดการชะงักงันของการ จราจร 30%, ลดการรอเวลา 40%, และลดการปลอ ยมลพษิ โดยรวม 21% ในระหวา ง การดำเนนิ การโครงการนำรอ ง + EXAMPLE ภาพประกอบจาก: https://www.aaai.org/ocs/index.php/ICAPS/ICAPS13/paper/viewFile/6054/6213 18 ทม่ี า: Smith, Barlow, Xie, & Rubinstein, 2013
สำ�นักงานพฒั นารัฐบาลดจิ ิทลั (องค์การมหาชน) 111 ตัวอยา่ งที่ 5 สตช. ร่วมกับ สจล. พฒั นาระบบเฝา้ ระวงั โจรปล้นร้านทอง 19 หนวยงานเจา ของโครงการ: หนวยงานตำรวจไทย วตั ถปุ ระสงค: เพือ่ ชวยใหจ ับกมุ คนรา ยและทำงานไดงายขึน้ ลดความเสยี หายของทรัพยส นิ ทำให ประชาชนมีความปลอดภยั ในชีวิตและทรัพยสิน ปอมปรามอาชญากร เทคโนโลยที ี่ใชงาน: ระบบอาศัยการทำงานรวมกันระหวาง กลองวงจรปด ปญญาประดิษฐ Machine Learning และ Deep Learning นำเขา ขอ มลู จาก Image recognition ทช่ี ว ยรจู ำและ แยกแยะบุคคลที่มแี นวโนมจะกอเหตุอาชญากรรม ผลที่ไดรบั : ปญ ญาประดษิ ฐ สามารถลดภาระงานตำรวจในการเฝา ระวงั คนรา ยเขา มาในรา นทอง รวมถงึ ชว ยในการตดิ ตอ ประสานงานกบั ทางสถานเี พอ่ื ระดมพลและจดั กำลงั พลเพอ่ื จบั กมุ คนรา ยภายในกรอบเวลา 8 นาที + EXAMPLE ภาพประกอบจาก: ผศ.ดร.มหศกั ด์ิ เกตุฉำ่� 19 ที่มา: อารีเพม่ิ พร, 2561
112 เทคโนโลยปี ญั ญาประดิษฐ์ 4. สรุป บทบาท อนาคต และแนวโนม้ ของปัญญาประดิษฐ์ในภาครัฐ จากการท่ีเทคโนโลยีเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ท�ำให้ปัญญาประดิษฐ์เร่ิมเข้ามามี บทบาทในหนว่ ยงานของภาครัฐในหลายประเทศท่ัวโลก แนวโนม้ ทนี่ ่าจบั ตามองของ AI ภาครฐั ใน ต่างประเทศมีค่อนข้างหลากหลาย ด้วยทิศทางการพัฒนาเครือข่ายอินเทอร์เน็ตให้ครอบคลุมทุก พน้ื ทขี่ องหลายประเทศทจ่ี ะสง่ ผลใหพ้ ฤตกิ รรมการดำ� เนนิ ชวี ติ ของคนเปลย่ี นไป ซงึ่ การเปลยี่ นแปลง ดังกล่าวส่วนใหญ่มักเกิดข้ึนจากองค์กรเอกชน ที่ยุคแรกเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Infra- structure) ทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ บรษิ ทั ทางเทคโนโลยขี นาดใหญม่ ากมาย เชน่ Microsoft, Apple, IBM, Cisco เป็นต้น และตามมาด้วยยุคท่ีพัฒนาเทคโนโลยีจากโครงสร้างที่ยุคแรกได้สร้างไว้ เช่น Google, Facebook, Amazon, eBay เป็นต้น ปัจจุบันแต่ละประเทศมีแนวโน้มการแข่งขันในการพัฒนา เทคโนโลยีของภาครัฐ เพ่ือส่งเสริมและอ�ำนวยความสะดวกให้แก่ภาคธุรกิจและประชาชน ซึ่ง AI จะเข้ามามีบทบาทในการท�ำงานและแก้ไขปัญหาแทนมนุษย์ไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพมากขนึ้
บทท่ี 4 ขอ้ เสนอแนะ เพือ่ น�ำ AI มาใช้ เพ่มิ ประสทิ ธภิ าพ ภาครัฐ
114 เทคโนโลยีปญั ญาประดิษฐ์ บทสรปุ : บทท่ี 4 ขอ้ เสนอแนะสำ� หรับหน่วยงานภาครฐั 01STEP ประเมินความเหมาะสม 02STEP ในการนำ AI มาใช 03STEP กำหนดกรอบ 04STEP การดำเนินโครงการ 05STEP เตรย� มความพรอ ม ดา นขอมลู แสดงหาความรวมมอื กบั ภาคสว นตา งๆ การสรา ง จรย� ธรรม
ส�ำ นกั งานพฒั นารัฐบาลดจิ ิทัล (องค์การมหาชน) 115 ประเมนิ ความเหมาะสมในการนำ� AI มาใช้ แสดงหาความร่วมมือกับภาคสว่ นต่างๆ หน่วยงานควรวิเคราะห์จากกระบวนงานปัจจุบันของ หน่วยงานภาครัฐมักจ�ำเป็นต้องอาศัยความเช่ียวชาญ หน่วยงานผ่านแนวทางการวิเคราะห์ 3 ขั้นตอน คือ ด้านเทคโนโลยีจากภาคส่วนอื่นในการด�ำเนินโครงการ การประเมินสภาพปัญหาปัจจุบันของหน่วยงาน การ AI แต่ความร่วมมืออาจน�ำมาซึ่งปัญหาในการด�ำเนิน ประเมินความเป็นไปได้ และการประเมินคุณค่าของ โครงการ ดังนั้น หน่วยงานต้องวางกลยุทธ์ให้เกิดการ การน�ำ AI มาใช้ แบง่ ปันทรัพยากรและความโปรง่ ใส ก�ำหนดกรอบการดำ� เนินโครงการ การสรา้ งจรยิ ธรรม เพื่อให้ริเร่ิมการน�ำเทคโนโลยี AI มาใช้อย่างเหมาะสม หน่วยงานควรค�ำนึงถึงผลกระทบจากการน�ำเทคโนโลยี หน่วยงานควรออกแบบโครงการน�ำร่องโดยเร่ิมจากจุด AI มาใช้ในบริการและการบริหารงานภาครัฐ ซ่ึงได้แก่ เล็กๆ ก่อนในระยะเริ่มแรก และก�ำหนดตัวชี้วัดท่ีเป็น การป้องกันอคติในอัลกอริทึม การออกแบบให้ระบบ รปู ธรรม เพ่อื เรียนรู้ถึงศักยภาพและขอ้ จำ� กดั ของ AI สามารถอธบิ ายการตดั สนิ ใจได้ และอยภู่ ายใตก้ ารกำ� กบั ดูแลของมนุษย์ แผนรองรับผลกระทบกับแรงงาน และ เตรียมความพรอ้ มดา้ นขอ้ มลู สรา้ งความปลอดภัยและความเป็นส่วนตวั เพ่ือให้ปัจจัยในการเรียนรู้ของระบบ AI มีคุณภาพ และสะท้อนสภาพความเป็นจริงท่ีสุดหน่วยงานควรขอ ความเห็นด้านเทคนิคจากนกั วิทยาศาสตร์ขอ้ มูล (Data Scientist) หรอื ผเู้ ชย่ี วชาญทเี่ กยี่ วขอ้ งในการเลอื กขอ้ มลู และตรวจสอบคณุ ภาพของขอ้ มลู
116 เทคโนโลยีปัญญาประดษิ ฐ์ ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย Governance กำหนดกรอบการกำกบั ดแู ล n AI Printciples n กฎหมาย/มาตรฐาน Partnerships ขอเสนอแนะ Data สงเสร�มภาคสว น เชิงนโยบาย สง เสร�มพ้�นฐาน ขอ มลู ภาครัฐ พนั ธมิตร n ขอ มูลภาครฐั n Deep Tech Startup n โครงสรา งพน้ื ฐานขอ มลู n R&D AI Capability สรางบคุ ลากร AI ภาครฐั n AI Talent n หลกั สตู รฝกอบรม
ส�ำ นักงานพฒั นารฐั บาลดจิ ทิ ลั (องค์การมหาชน) 117 ก�ำหนดกรอบการก�ำกับดแู ล (Governance) สรา้ งเสริมบุคลากร AI ภาครัฐ หลักการน�ำ AI มาใช้ (AI Principles/ ส่งเสริมหลกั สตู รฝึกอบรม (Training) Codes of Ethics) ภาครัฐควรจัดท�ำหลักสูตรฝึกอบรมส�ำหรับเจ้าหน้าที่ ภาครฐั ไทยควรดำ� เนนิ การจดั ท�ำ “หลักการน�ำ AI มาใช้ ภาครัฐในทุกระดับ เพื่อให้ผู้บริหารในหน่วยงานภาครัฐ ของประเทศไทย” (Thailand’s AI Principles) เพ่อื เป็น มีความเข้าใจแนวทางการน�ำเทคโนโลยี AI มาใช้ และ คมู่ อื (Guideline) ทเ่ี ปน็ จดุ เรม่ิ ตน้ สำ� หรบั ทง้ั ภาครฐั และ การบริหารโครงการ AI อย่างเหมาะสม ในขณะทใี่ หเ้ จ้า ภาคเอกชนในการพฒั นา AI ของประเทศ ใหก้ ารพัฒนา หน้าที่ในระดับปฏิบัติการมีความเข้าใจและสามารถ AI ท่ีมจี ริยธรรม (Ethical AI) ท�ำงานร่วมกับระบบ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพและ ปลอดภัย กฎหมาย กฎระเบียบ มาตรฐาน (Laws, Regulations, and Standards) สร้างบุคลากรด้าน AI ภาครัฐ (Government AI Talent) แนวทางปฏบิ ตั ทิ สี่ ง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ การนำ� เทคโนโลยีAIมาใช้ พร้อมมีมาตรการควบคุมลดผลกระทบอย่างชัดเจน สำ� นกั งาน ก.พ. และกระทรวงศกึ ษาธกิ ารควรรว่ มมอื กบั ในระยะยาว กลไกทางกฎหมายเป็นส่ิงจ�ำเป็นต่อการ สถาบันการศึกษาในการส่งเสริมหลักสูตรผลิตบุคลากร เจริญเติบโตของ AI ทั้งในภาคเอกชน และภาครฐั ในสาขาด้าน AI และเพิ่มจ�ำนวนทุนด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยใี นระดับมหาวิทยาลยั ส่งเสรมิ พ้ืนฐานข้อมลู ภาครฐั ข้อมูลภาครฐั (Government Data) สง่ เสริมภาคส่วนที่เก่ียวขอ้ ง ผปู้ ระกอบการวสิ าหกจิ เรมิ่ ตน้ ที่ใชเ้ ทคโนโลยรี ะดบั สงู ควรมีการผลักดันให้หน่วยงานภาครัฐจัดเก็บข้อมูลใน (Deep Tech Startups) รูปแบบดิจิทัลท่ีมีคุณภาพ และเชื่อมโยงข้อมูลระหว่าง หน่วยงานภาครัฐ รวมถึงปรับปรุงกฎหมายท่ีเก่ียวข้อง ภาครัฐควรส่งเสริมใหเ้ กิด Deep Tech Startup ทน่ี ำ� AI ให้ก�ำหนดบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐในการ มาใช้มากขึ้น และท�ำให้สตาร์ทอัพในกลุ่มดังกล่าวมี สร้างชุดข้อมูลมูลค่าสูงภาครัฐ (High Value Dataset) ขีดความสามารถมากข้ึน เช่น มาตรการเข้าถึงแหล่ง และเปดิ เผยข้อมูลแกส่ าธารณะ เงินทุน และมาตรการเข้าถงึ ขอ้ มลู ภาครฐั จดั ทำ� โครงสรา้ งพนื้ ฐานสารสนเทศส�ำหรบั รองรบั AI ภาควิจยั และพฒั นา (Research and (IT Infrastructure for AI) Development Sector) ภาครัฐควรด�ำเนินนโยบายส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐาน ภาครัฐจึงควรเพ่ิมงบลงทุนวิจัยและพัฒนาด้าน AI สารสนเทศท่ีจ�ำเป็นต่อการเติบโตของระบบ AI ภาครัฐ แก่สถาบันการศึกษา สถาบันวิจัยของภาครัฐและ ที่ส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้ข้อมูลของ AI เช่น IoT ภาคเอกชน ทง้ั ในดา้ นการประยกุ ตใ์ ช้ ดา้ นจรยิ ธรรมและ และ Cloud ผลกระทบจากการใช้เทคโนโลยี AI
118 เทคโนโลยปี ญั ญาประดิษฐ์ บทที่ 4 : ขอ้ เสนอแนะเพ่อื นำ� AI มาใช้เพมิ่ ประสิทธิภาพภาครฐั การน�ำ AI มาใช้ในภาครัฐน้ันไม่สามารถน�ำมาใช้ได้โดยทันที แต่จ�ำเป็นต้องส�ำรวจตนเองก่อนว่า มคี วามพรอ้ มตอ่ การนำ� AI มาใชป้ ระโยชนแ์ ละเพมิ่ ประสทิ ธิภาพให้กบั ภาครัฐหรือยงั ซงึ่ เนอ้ื หาใน บทน้ีจะน�ำเสนอแนวทางการเตรียมความพร้อมให้แก่หน่วยงานภาครัฐหากต้องการน�ำ AI มาใช้ ประโยชน์ และนโยบายพัฒนาระบบนิเวศท่ีส่งเสริมให้ภาครัฐไทยสามารถน�ำ AI มาใช้ได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพและปลอดภยั ข้อเสนอแนะส�ำหรบั หนว่ ยงานภาครฐั เน้ือหาในบทที่ 3 กล่าวถึงตัวอย่างการน�ำเทคนิค AI มาประยุกต์ใช้กับงานของภาครัฐในรูปแบบ ตา่ งๆ ซง่ึ แสดงใหเ้ หน็ ถงึ แสดงศกั ยภาพของ AI ในการแกไ้ ขปญั หาหรอื เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการทำ� งาน ของภาครัฐหลากหลายรูปแบบ การเรมิ่ ด�ำเนินโครงการ AI มอี งค์ประกอบและเงอ่ื นไขทเ่ี ก่ยี วข้อง ต่อความส�ำเร็จของโครงการหลายประการ จึงจ�ำเป็นต้องพิจารณาองค์ประกอบท่ีเกี่ยวข้องก่อน เช่น ข้อมลู ระเบยี บข้อบังคบั โครงสรา้ งพ้ืนฐานดิจิทลั เป็นตน้ รวมทง้ั ตอ้ งเตรยี มองค์ประกอบตา่ งๆ ใหม้ คี วามพรอ้ มเพ่อื รองรบั การดำ� เนนิ โครงการอีกดว้ ย ซ่งึ การดำ� เนนิ โครงการ AI ถอื เปน็ เร่ืองใหม่ ส�ำหรับหน่วยงานภาครัฐของประเทศไทย หน่วยงานเจ้าของโครงการต้องเตรียมความพร้อมและ วางแผนการดำ� เนนิ งานอยา่ งรอบคอบ เพอ่ื ให้สามารถนำ� เทคโนโลยี AI มาใช้ได้เพ่มิ ประสทิ ธภิ าพ การท�ำงานและกอ่ ให้เกิดประโยชนส์ งู สุด ดังนัน้ ภาครฐั ควรมกี ารวางเป้าหมายในการนำ� AI ไปใชใ้ หช้ ดั เจนก่อนการรเิ ร่ิมโครงการการน�ำ AI มาใช้เพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพการท�ำงานหรือการให้บริการสาธารณะของหน่วยงาน รวมท้ังควรวาง แนวทางในการประเมนิ ความจำ� เป็นและความพรอ้ มของหน่วยงานกอ่ นด�ำเนนิ โครงการ
ส�ำ นักงานพฒั นารฐั บาลดิจิทลั (องคก์ ารมหาชน) 119 1. ประเมนิ ความเหมาะสมในการนำ� AI มาใช้ “หนว่ ยงานควรนำ� เทคโนโลยี AI มาใชเ้ พอ่ื เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการทำ� งานหรอื ไม?่ ” คอื คำ� ถาม ทห่ี นว่ ยงานควรพจิ ารณาก่อนในลำ� ดับแรก เน่ืองจาก AI ไม่ใช่คำ� ตอบของทกุ ปญั หา เชน่ เดียวกบั เทคโนโลยีอ่ืนๆ การพยายามใช้เทคโนโลยีเป็นตัวต้ังโดยไม่ค�ำนึงถึงสภาพปัจจุบันของหน่วยงาน ส่วนใหญ่มักไม่ใช่แนวทางที่ดีในการแก้ไขปัญหา (Pain point) ของหน่วยงานที่ประสบอยู่ ซ่ึงจะ สง่ ผลใหก้ ารลงทนุ ในโครงการไมค่ มุ้ คา่ และไมไ่ ดร้ บั ผลลพั ธท์ ค่ี าดหวงั ดงั นน้ั หนว่ ยงานควรวเิ คราะห์ สถานการณ์กระบวนการปจั จบุ นั ของตนเอง เพ่อื ระบุ “คุณค่า” ที่เทคโนโลยี AI สามารถสร้างให้แก่ หน่วยงานได้ Deloitte ได้พัฒนากรอบแนวคิด Three-Vs Framework เพื่อให้องค์กรใช้เป็นเคร่ืองมือใน การประเมินกระบวนงานของตนเองท่ีสามารถน�ำเทคโนโลยี AI หรือการติดต้ังระบบ Automation มาใชเ้ พือ่ เพมิ่ ประสิทธภิ าพ เช่น การบนั ทึกข้อมลู การสื่อสารกับประชาชน การตรวจสอบกิจกรรม ทางการเงนิ เปน็ ตน้ โดยหนว่ ยงานภาครฐั สามารถใชก้ รอบแนวคดิ นใี้ นการแสวงหาโอกาสจากการนำ� AI มาใช้ในการพัฒนากระบวนงาน บริการ หรือโครงการสาธารณะได้ (Schatsky, Muraskin, & Gurumurthy, 2015)
120 เทคโนโลยปี ัญญาประดษิ ฐ์ ตารางที่ 4 3 Vs Framework สำ� หรับประเมินความเหมาะสมในการนำ� AI มาใช้ คณุ คา สถานการณก ระบวนงานปจ จบ� นั ตวั อยา งการนำมาใช เคร่อ� งมือในการพ�จารณา Viable Valuable อาศยั ทักษะ ตำ่ หร�อปานกลาง Forms Processing แผนภาพกระบวนการทางธุรกจิ ในการทำงานใหเสรจ็ สิน� การใหบ รก� ารลกู คาขน้ั ตน (Business Process Map) Vital ท้ังกระบวนงาน การบรห� ารจดั การคลังสนิ คา การใหขอ เสนอแนะการลงทุน คลงั ชุดขอ มลู ตอ งจดั การกับชดุ ขอ มลู ขนาดใหญ (Data Set Inventory) การว�นจิ ฉยั โรค แผนภาพกระบวนการทางธรุ กจิ มกี ฎเกณฑแ นวทางปฏิบตั ทิ ่ีชดั เจน การตรวจจับเหตทุ ุจร�ต (Business Process Map) ลดภาระงานแกพ นกั งานท่ีมีทกั ษะ การบรห� ารจัดการการบำรงุ รกั ษา การจดั การบุคลากร ใหสามารถไปทำงานที่ใชทักษะได การจัดการระบบขนสงสาธารณะ จัดทำรายงานรายได (Staffing Model) มตี น ทนุ ดา นแรงงานสูง การเปด เผยพยานหลกั ฐาน ทางอเิ ลก็ ทรอนิกส (e-Discovery) การจดั การบคุ ลากร ความเช่ียวชาญในสายงานหายาก การขับขย่� านพาหนะ (Staffing Model) และประโยชนที่ไดจากการ การบรห� ารจัดการประกันสขุ ภาพ เพ�่มประสทิ ธภิ าพสงู การตอบคำถามผูใชบร�การ การจดั การบคุ ลากร การตรวจสอบคุณสมบตั ิ (Staffing Model) มาตรฐานการปฏบิ ตั ิงานกำหนด การตรวจสอบความปลอดภยั และแผนภาพกระบวนการทางธุรกิจ ใหใช Cognitive Technology (Business Process Map) ปรม� าณกำลงั คนไมเพ�ยงพอ การว�นจิ ฉัยโรค การว�เคราะหตลาด การตรวจตราทางอากาศ (Market Analysis) ตอ ปร�มาณงาน การพยากรณเหตุอาชญากรรม การจัดการบคุ ลากร (Staffing Model) อาศยั AI ในการจัดการขอ มลู การปองกนั ทางไซเบอร Backlogs จำนวนมาก การสบื สวนเหตุอาชญากรรม พยากรณส ภาพอากาศ การตรวจจบั เหตทุ ุจร�ต การคุมครองทรัพยสนิ ทางปญญา การตอบสนองตอ ภยั พบ� ตั ิ Text Mining การวเ� คราะหเ อกสารหลกั ฐาน เชิงประวตั ศิ าสตร
สำ�นกั งานพัฒนารัฐบาลดิจิทลั (องค์การมหาชน) 121 ใช้การได้ (Viable) หนว่ ยงานตอ้ งเขา้ ใจถงึ ขดี ความสามารถของ AI เพอ่ื ประเมนิ โอกาสจากการใชเ้ ทคโนโลยี เนอื่ งจาก เทคโนโลยใี นปจั จบุ นั AI ยงั คงมขี อ้ จำ� กดั ทมี่ กั ไมไ่ ดร้ บั การกลา่ วถงึ อยู่ คำ� วา่ “อจั ฉรยิ ะ” “ชาญฉลาด” “ทรงปญั ญา” มไิ ดเ้ ปน็ เครอ่ื งการนั ตเี สมอวา่ ระบบดงั กลา่ วจะสามารถ เหน็ ฟงั หรอื รบั รู้ ไดท้ ดั เทยี ม กับมนษุ ย์ทว่ั ไป โดยเฉพาะเม่ือต้องเผชิญหนา้ กับงานทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั การใชอ้ ารมณ์ และความรู้สกึ นึกคิด อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยี AI ก็สามารถแก้ปัญหาในงานของภาครัฐได้อย่างดีเยี่ยม เช่น งานท่ี อาศัยการตอบสนองต่อภาพหรือเสยี ง เช่น การตดิ ต่อผรู้ ับบรกิ ารผ่านทางโทรศพั ท์ กล้องตรวจจบั (Surveillance) การตรวจสอบเอกสารทีเ่ ขียนดว้ ยมอื เปน็ ต้น ปจั จบุ นั เราสามารถน�ำ AI มาชว่ ยให้ กระบวนงานสามารถเป็นระบบอัตโนมัติหรือกึ่งอัตโนมัติ ด้วยเทคโนโลยี การจ�ำเสียงพูดหรือ ภาพ (Speech or Vision Recognition) และ การประมวลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing) นอกจากนี้ AI ยังสามารถน�ำมาใช้เพ่ือจัดการกับข้อมูลที่มีขนาดใหญ่และไม่มี โครงสร้างชัดเจน (Unstructured Data) ซ่ึงยากส�ำหรับมนุษย์ในการประมวลผล แต่เคร่ืองจักร สามารถหาความเช่ือมโยงได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ตั้งแต่การตรวจจับความผิดปกติ ในขอ้ มูลทางการเงิน หรอื ความสมั พันธข์ องปจั จยั เบอ้ื งหลงั ปญั หาสาธารณสุข หรือเมือ่ น�ำมาใช้ใน งานทถี่ กู กำ� หนดดว้ ยแนวปฏบิ ตั ทิ ชี่ ดั เจน AI สามารถนำ� มาพฒั นาเปน็ ระบบอตั โนมตั ิ (Automation) ทชี่ ว่ ยในเรอื่ งของการบรหิ ารจดั การไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ เชน่ ระบบคาดการณก์ ารบำ� รงุ รกั ษาและ คุณภาพ (Predictive Maintenance and Quality) เป็นต้น สร้างมลู คา่ (Valuable) การติดต้ังเทคโนโลยี AI ลงในกระบวนงานมีต้นทุนท่ีค่อนข้างสูง กระบวนงานท่ีแรงงานราคาถูก สามารถปฏบิ ตั งิ านไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพอยแู่ ลว้ อาจไมเ่ ปน็ ตวั เลอื กทเี่ หมาะสมนกั การปรบั เปลยี่ น กระบวนงานดงั กลา่ วดว้ ยเทคโนโลยจี งึ อาจไดม้ าซงึ่ ประสทิ ธภิ าพทเ่ี พมิ่ ขนึ้ เลก็ นอ้ ยในขณะทแ่ี ลกมา ดว้ ยงบลงทนุ มหาศาล “ความค้มุ ค่า (Valuability)” จงึ เป็นอกี ปจั จยั หนึ่งท่ีหน่วยงานควรพจิ ารณา บุคลากรบางต�ำแหน่งจ�ำเป็นต้องลงแรงไปกับภาระงานท่ีใช้เวลามากและมีลักษณะซ�้ำซาก (Repetitive) และเสียโอกาสในการใช้ทักษะอื่นอย่างเต็มท่ี หรือบางภาระงานท่ีอาศัยทักษะ ความเชี่ยวชาญ (Expertise) ท�ำให้มีต้นทุนด้านก�ำลังคนสูง ล้วนน�ำมาซ่ึงการใช้ทรัพยากรบุคคล อยา่ งไมม่ ปี ระสทิ ธภิ าพ หนว่ ยงานสามารถนำ� AI มาใชแ้ บง่ เบาภาระงานของเจา้ หนา้ ทไี่ ดอ้ ยา่ งมาก เช่น นกั บญั ชหี รอื นกั กฎหมายทต่ี ้องตรวจสอบเอกสารสัญญาหลายฉบับ ซ่งึ เป็นงานทีอ่ าศยั ทกั ษะ ด้านการอ่านมากกว่าทักษะวิชาชีพ Cognitive Technology อย่าง NLP ในปัจจุบันสามารถ
122 เทคโนโลยีปญั ญาประดิษฐ์ คัดกรองใจความส�ำคัญ หรือแม้แต่ตรวจจับความผิดปกติของเอกสารหลายร้อยหน้าในระยะ เวลาน้อยนิด ท�ำให้การตัดสินใจน�ำเทคโนโลยีมาใช้สามารถประหยัดเวลาท�ำงานและก�ำลังคนใน กระบวนงานได้อย่างมาก จำ� เป็น (Vital) ปรมิ าณงานที่เพ่มิ มากขึ้น หรอื การเปล่ียนแปลงจากปจั จัยแวดล้อมอน่ื ๆ อาจเป็นโจทยใ์ ห้ภาครฐั มี ความจำ� เปน็ ต้องนำ� Cognitive Technology มาใช้ เป็นเร่ืองยากท่ีกระบวนงานที่ต้องอาศัยการดูแลตรวจสอบอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาและในขณะ เดียวกันก็มีขนาดใหญ่ (Scale) จะสามารถท�ำงานได้โดยไม่ต้องพึ่งพา Cognitive Technology เช่น หน่วยงาน Transparency and Campaign Finance Commission ของรัฐจอรเ์ จียมีหนา้ ท่ี ในการตรวจสอบทางการเงินที่เก่ียวข้องกับการหาเสียง ต้องตรวจสอบเอกสารทางการเงินกว่า 40,000 รายการต่อเดือน ซ่ึงส่วนมากมักไม่อยู่ในรูปแบบดิจิทัล จึงจ�ำเป็นต้องน�ำเทคโนโลยีมา ช่วยในการท�ำงาน หรือการใช้ความสามารถในการตรวจจับสิ่งผิดปกติของระบบ AI มาช่วยใน การป้องกนั ภยั คกุ คามทางไซเบอร์ หรอื การตอ่ ตา้ นการกอ่ การรา้ ย ซงึ่ เป็นการจดั การความเสย่ี งทีม่ ี ความสำ� คญั อย่างยิง่ ต่อความมน่ั คงของภาครัฐ และอยู่นอกเหนือขดี ความสามารถของมนษุ ยโ์ ดย ไมพ่ ง่ึ พาเทคโนโลยี เนอื่ งจากขอบเขตการทำ� งานทม่ี ขี นาดใหญ่ และตอ้ งอาศยั การเรยี นรู้ ตอบสนอง ตอ่ รปู แบบของภยั คุกคามอยา่ งตอ่ เนือ่ ง
ส�ำ นักงานพัฒนารฐั บาลดิจทิ ัล (องค์การมหาชน) 123 จากแนวคดิ ข้างตน้ เราสามารถสรุปข้นั ตอนการพจิ ารณาได้ ดงั นี้ ขนั้ ตอนที่ 1 ประเมนิ สภาพปัญหาปจั จบุ ันของหน่วยงาน หนว่ ยงานควรเร่มิ จากการวเิ คราะหป์ จั จัยที่ส่งผลตอ่ การท�ำงานของหนว่ ยงาน ท้ังปจั จัยภายใน ซ่ึง ไดแ้ ก่ กระบวนงาน ข้อมูล และกำ� ลังคน และปจั จยั ภายนอก เพ่อื ใหส้ ามารถระบุประเด็นปญั หาตัง้ ตน้ หรือโอกาสในการน�ำ AI มาใช้ โดยมตี ัวอย่างเคร่อื งมือในการวเิ คราะห์ ดงั น้ี ปจจยั ภายใน ปจ จัยภายนอก กระบวนงาน โอกาสและอุปสรรค แผนภาพกระบวนการทางธุรกิจ SWOT Analysis (Business Process Mapping) PESTEL Analysis ขอ มลู คลังชุดขอ มลู (Dataset Inventory) คน แผนกำลังคนและการจดั บคุ ลากร (Staffing Model)
124 เทคโนโลยีปญั ญาประดิษฐ์ ขัน้ ตอนท่ี 2 ประเมนิ ความเปน็ ไปได้ในการน�ำ AI มาใช้ เมื่อทราบถึงประเด็นปัญหาตั้งต้นที่ต้องการน�ำ AI มาช่วยแล้ว ในล�ำดับถัดมา หน่วยงานควร วิเคราะห์กระบวนงานท่ีเก่ียวข้องว่าสามารถสอดรับกับศักยภาพของเทคโนโลยี AI หรือไม่ ทั้งน้ี ขอบเขตการนำ� AI มาใชม้ คี วามหลากหลาย ขน้ึ อยกู่ บั สภาพปญั หา ลกั ษณะขอ้ มลู หรอื วตั ถปุ ระสงค์ การใชง้ าน อกี ทงั้ เทคโนโลยี AI ในปจั จบุ นั ยงั อยใู่ นชว่ งเรมิ่ ตน้ และมกี ารพฒั นาอยา่ งตอ่ เนอื่ ง ท�ำให้ การชี้ชัดลักษณะของกระบวนงานที่เหมาะสมเป็นไปได้ยาก อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้น หน่วยงาน สามารถพจิ ารณาวา่ กระบวนงานทเ่ี ป็นเป้าหมาย n อาศยั ทกั ษะต่ำ� หรือปานกลางในการท�ำงานหรอื ไม่ n ต้องจัดการกับชดุ ข้อมลู ขนาดใหญห่ รอื ไม่ และ n มกี ฎเกณฑแ์ นวทางปฏิบัติท่ชี ดั เจนหรอื ไม่ ประกอบกับการวิเคราะห์ขอบเขตความสามารถของเทคโนโลยี AI ในหัวข้อที่ 1.3 เพื่อใช้ใน การพจิ ารณาความเป็นไปได้ในการน�ำ AI มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการพัฒนากระบวนงานดังกลา่ ว ขั้นตอนที่ 3 ประเมินคณุ คา่ (Value) จากการน�ำ AI มาใช้ ในลำ� ดบั สดุ ทา้ ย หนว่ ยงานควรพจิ ารณาถงึ คณุ คา่ ของการนำ� AI มาใช้ โดยแบง่ ออกเปน็ 2 ประเดน็ ส�ำคัญ ดงั น้ี n การน�ำ AI มาใช้ช่วยสร้างมลู คา่ หรือไม่ (Valuable) เช่น ระบบ AI สามารถช่วยแบง่ เบาภาระ งานของเจา้ หน้าท่ี ลดต้นทุนด้านก�ำลงั คน เพม่ิ ประสิทธภิ าพการท�ำงานได้ เปน็ ต้น n การน�ำ AI มาใช้ชว่ ยมีความจ�ำเป็นตอ่ การท�ำงานหรอื ไม่ (Vital) เชน่ หน่วยงานมีความจำ� เป็น ต้องใช้เครื่องมือในการเพิ่มประสิทธิภาพการท�ำงานเพื่อรองรับจ�ำนวนผู้ใช้บริการที่มีจ�ำนวน มากขึน้ หรอื ถูกก�ำหนดจากมาตรฐานระหวา่ งประเทศ เป็นตน้
สำ�นกั งานพฒั นารัฐบาลดิจทิ ัล (องค์การมหาชน) 125 2. กำ� หนดกรอบการด�ำเนนิ โครงการ เรอ่ื งราวความสำ� เรจ็ ของ Cognitive Technology ไมว่ า่ จากทงั้ ภาครฐั หรอื เอกชน จดุ ประกายใหเ้ กดิ ความสนใจอนั นำ� มาซง่ึ วสิ ยั ทศั นอ์ งคก์ รแหง่ อนาคต จากผลการสำ� รวจ 2018 CIO Agenda Survey ของ Gartner พบว่า ร้อยละ 46 ของ CIO 3,160 คน จาก 98 ประเทศทัว่ โลก มกี ารวางแผนจะนำ� AI มาใชใ้ นองค์กรของตน เช่นเดยี วกัน หนว่ ยงานภาครฐั ไทยเองอาจวางเปา้ หมายว่าจะนำ� เทคโนโลยี AI มาปฏวิ ตั กิ ารทำ� งานพรอ้ มประสทิ ธภิ าพทเ่ี พมิ่ ขนึ้ อยา่ งกา้ วกระโดด อยา่ งไรกต็ าม เปน็ เรอื่ งเสย่ี ง อย่างย่ิงหากหน่วยงานเร่งรัดให้เกิดการน�ำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการท�ำงานท้ังระบบ เน่ืองจาก เทคโนโลยดี งั กลา่ วมคี วามซบั ซอ้ นเกยี่ วขอ้ งกบั หลายมติ ิ เชน่ โครงสรา้ งพน้ื ฐาน ขอ้ มลู และประเดน็ ทางจริยธรรม (Ethics) เป็นต้น อีกท้ังยังเป็นเรื่องใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งส�ำหรับภาครัฐ ท�ำให้ หน่วยงานอาจไม่สามารถรับมือกับปัญหาอุปสรรคในการด�ำเนินโครงการได้ หรือไม่สามารถ ดึงศกั ยภาพของเทคโนโลยอี อกมาได้อย่างเต็มประสทิ ธภิ าพ เพือ่ ให้รเิ ร่มิ การน�ำเทคโนโลยี AI มาใช้อยา่ งเหมาะสม หน่วยงานควรออกแบบโครงการนำ� ร่องโดย ค�ำนึงถงึ ปจั จยั ดังน้ี จ�ำกัดขอบเขตโครงการ แทนทจี่ ะพงุ่ เปา้ ไปยงั การแกป้ ญั หาขนาดใหญ่ หนว่ ยงานควรเรม่ิ จากจดุ เลก็ ๆ กอ่ นในระยะเรมิ่ แรก เพอ่ื จำ� กดั ตวั แปรทม่ี ผี ลตอ่ การดำ� เนนิ โครงการ ลดผลกระทบกรณเี กดิ เหตผุ ดิ พลาด และเสรมิ สรา้ ง ประสบการณ์ในการด�ำเนนิ โครงการ AI เมื่อวเิ คราะห์ “แผนภาพกระบวนการทางธรุ กจิ (Business Process Map)” หนว่ ยงานสามารถจำ� แนกองคป์ ระกอบของกระบวนงาน และเลอื กสว่ นทเ่ี หมาะสม สำ� หรับดำ� เนินโครงการนำ� ร่องการใชเ้ ทคโนโลยี AI เพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพ + EXAMPLE บรษิ ทั ประกนั Zurich Insurance ไดน้ ำ� รอ่ งการใชเ้ ทคโนโลยี AI ในการเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพระบบการเคลม ประกนั โดยนำ� Cognitive Technology มาใชใ้ นกระบวนงานตรวจสอบประวตั ทิ างการแพทยข์ องลกู คา้ จากรายการละ 58 นาที เหลอื เพียงรายการละ 5 วนิ าทีซงึ่ ช่วยลดระยะเวลาและตน้ ทุนในกระบวนการ เคลมประกันอยา่ งมาก (Brown, 2017)
126 เทคโนโลยปี ัญญาประดษิ ฐ์ หรือในอีกมุมหนึ่ง หากเป็นกระบวนงานที่มีความเกี่ยวข้องกันสูง ไม่สามารถเลือกท�ำเพียงส่วนใด ส่วนหน่ึงได้ หน่วยงานสามารถก�ำหนดพื้นท่ีเฉพาะส�ำหรับโครงการน�ำร่อง เพ่ือดูผลกระทบและ เรยี นรู้กอ่ นนำ� ไปใช้ในพ้นื ท่อี ่ืนใหค้ รอบคลุมตอ่ ไป + EXAMPLE ในปี 2009 มหาวทิ ยาลยั คารเ์ นกเี มลลอน (Carnegie-Mellon University) รว่ มกบั เมอื งพติ ตส์ เบริ ก์ (Pitts- burgh) และ East Liberty Development Inc. ในการตดิ ตงั้ ระบบจราจรอัจฉริยะ “Traffic21” เพอ่ื แกไ้ ข ปญั หาการจราจรและมลภาวะ โดยเรมิ่ จากการพฒั นาระบบสญั ญาณไฟจราจรทสี่ ามารถสอื่ สารระหวา่ ง กันได้จากเทคโนโลยี AI ผสานกับทฤษฎีการจราจร (Traffic Theory) แล้วจึงนำ� มาผ่านการเรียนรู้ด้วย แบบจำ� ลองการจราจรของเมอื งพติ ตส์ เบริ ก์ กอ่ นนำ� มานำ� รอ่ งในสว่ น East Liberty ของเมอื ง ความสำ� เรจ็ ของโครงการนำ� รอ่ งซง่ึ สะทอ้ นจากการลดเวลาการเดนิ ทางและลดการปลอ่ ยมลพษิ จากรถยนตท์ ำ� ใหเ้ กดิ ก้าวตอ่ ไปในการนำ� ระบบ Traffic21 ไปใชใ้ นสว่ นอ่ืนของเมอื ง (Carnegie Mellon University, 2012) ระบบ AI และแนวทางการแกป้ ญั หาอยา่ งงา่ ยๆ ก็อาจสรา้ งผลลพั ธไ์ ดอ้ ยา่ งมากหากน�ำมาใช้อย่าง ถูกต้อง การริเริ่มการน�ำ AI มาใช้ไม่เพียงแต่เป็นก้าวแรกของหน่วยงานในการเตรียมความพร้อม รองรับต่อสภาวการณ์ของโลกท่ีเปลี่ยนแปลงไป หากแต่ยังเป็นการสร้างโอกาสให้หน่วยงานได้ เรียนรู้ถึงศักยภาพและข้อจ�ำกัดของ AI แนวทางการปรับตัวขององค์กร และการสร้างทักษะของ บคุ ลากรภายใน ดังน้นั โครงการน�ำรอ่ งน้จี ะเป็น Proof of Concept (POC) ทีห่ นว่ ยงานสามารถ น�ำไปตอ่ ยอดไดใ้ นภายหลงั ก�ำหนดตัวชี้วัดท่เี ปน็ รปู ธรรม ณ จดุ น้ี หนว่ ยงานอาจจะพอมแี นวคดิ เบ้ืองต้นถงึ ปัญหา โอกาส และ สถานะทีค่ าดหวัง (Desired State) จากการพิจารณาสภาวการณ์ปัจจุบันของหน่วยงาน เทคโนโลยีไม่ควรเป็นเป้าหมายหลัก ในการสะทอ้ นถงึ ความสำ� เร็จของโครงการ หากเปน็ เพยี งเครือ่ งมอื ทีเ่ ราสามารถนำ� มาใช้เพื่อบรรลุ เป้าหมายอื่นท่ีแสดงถึงการพัฒนาประสิทธิภาพการท�ำงานของหน่วยงานอย่างแท้จริง ด้วยเหตุน้ี การตง้ั เปา้ หมายทเ่ี หมาะสมจงึ เปน็ สว่ นสำ� คญั อยา่ งยง่ิ ตอ่ การนำ� เดนิ โครงการนำ� รอ่ งใหเ้ กดิ ผลลพั ธ์ สูงสดุ
ส�ำ นกั งานพัฒนารฐั บาลดิจทิ ัล (องค์การมหาชน) 127 หน่วยงานควรมุ่งเน้นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม (Concrete Result) ไม่ใช่เป็นเพียงการกล่าวถึง เป้าประสงค์สุดท้าย (Ultimate Goal) อย่าง “ยกระดับการท�ำงาน” “สร้างบริการคุณภาพ” หรือ วัตถุประสงค์เชิงนโยบายอื่นๆ อีกทั้งยังควรเป็นผลลัพธ์ที่ผู้ท่ีมีส่วนเก่ียวข้อง (Stakeholder) ใน กระบวนงานดงั กลา่ วสามารถเขา้ ใจและเหน็ ถงึ ประโยชนไ์ ดอ้ ยา่ งชดั เจน ซง่ึ ทำ� ใหง้ า่ ยตอ่ การทำ� ความ เข้าใจร่วมกัน และสร้างความร่วมมือระหว่างผู้วางนโยบาย ผู้ปฏิบัติงาน และผู้รับบริการ ดังนั้น การกำ� หนดเปา้ หมายของโครงการจงึ ควรพจิ ารณาลงไปในระดบั ยอ่ ย(GranularLevel)ของกระบวนงาน เช่น ระยะเวลาเฉล่ียต่อหนึ่งชิ้นงาน (Time) ต้นทุนต่อหน่วย (Cost) และอัตราส่วนความแม่นย�ำ (Accuracy) เปน็ ตน้ + EXAMPLE หนว่ ยงานสาธารณสขุ ของลาสเวกสั (Las Vegas Health Department) รว่ มมอื กบั มหาวทิ ยาลยั โรเชสเตอร์ (Rochester University) ในโครงการน�ำร่องระบบ AI ประมวลผลข้อความในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อ ระบุร้านอาหารที่มีความเสี่ยงในการเป็นต้นตอของโรคอาหารเป็นพิษแทนการสุ่มตรวจร้านอาหารแบบ เดิม ซ่ึงในระยะเวลา 3 เดือน นอกจากอัตราการตรวจพบร้านอาหารท่ีละเมิดมาตรฐานสาธารณสุข ดว้ ยระบบ AI มากกว่าแบบสุ่มตรวจ รอ้ ยละ 15 ตอ่ รอ้ ยละ 9 และมีการประเมินว่า ชว่ ยลดเหตอุ าหาร เป็นพิษไดถ้ งึ ประมาณ 9,000 คร้ัง และลดการเข้ารกั ษาพยาบาลได้กว่า 557 ราย (National Science Foundation, 2016) 3. เตรียมความพร้อมด้านขอ้ มลู ข้อมูลเปรียบเสมือนเชื้อเพลิงส�ำคัญของระบบ AI เนื่องจาก คุณลักษณะเด่นท่ีสุดของ Cognitive Technology คอื การ “เรยี นร”ู้ ท่ีปรับเปลย่ี นอัลกอริทมึ (Algorithm) ได้ด้วยตนเอง โดยอาศยั ขอ้ มลู สำ� หรบั สร้างการตัดสินใจและหาแนวทางการตอบสนองทถ่ี ูกต้องทีส่ ุด หรืออาจกล่าวได้ว่า ยงิ่ ปอ้ น ขอ้ มลู ใหแ้ ก่ระบบมากเทา่ ไหร่ ระบบจะย่ิงแกไ้ ขปญั หาไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพมากขึ้นเท่านัน้ เพ่ือใหป้ จั จัยในการเรยี นรขู้ องระบบ AI มคี ณุ ภาพและสะท้อนสภาพความเปน็ จรงิ ทส่ี ดุ การเตรยี ม ความพร้อมด้านข้อมูล (Data Preprocessing) จึงเป็นข้ันตอนที่ส�ำคัญส�ำหรับการริเร่ิมโครงการ AI ทง้ั น้ี หนว่ ยงานควรขอความเห็นด้านเทคนคิ จากนกั วิทยาศาสตร์ขอ้ มูล (Data Scientist) หรอื ผูเ้ ช่ยี วชาญทเี่ กี่ยวขอ้ งประกอบดว้ ย
128 เทคโนโลยปี ญั ญาประดษิ ฐ์ เลอื กขอ้ มูล (Data Selection) เปน็ ขนั้ ตอนการเลอื กขอ้ มลู ทจ่ี ะนำ� มาใช้ โดยพจิ ารณาจากกรอบโครงการทห่ี นว่ ยงานวเิ คราะหพ์ รอ้ ม กำ� หนดไว้ในขนั้ ตอนท่ีแลว้ ประกอบกับตรวจสอบคลังชดุ ขอ้ มลู (Dataset Inventory) ที่หน่วยงาน ถอื ครองอยู่โดยอาจเปน็ ขอ้ มลู จากการบนั ทกึ สถติ ิภาพและเสยี งเปน็ ตน้ แลว้ จงึ ดงึ ชดุ ขอ้ มลู ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั หรือคาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อกระบวนงานมาเป็นตัวต้ังต้นในการสร้างอัลกอริทึม (Algorithm) ทง้ั นี้ หากขอ้ มลู ทเ่ี ลอื กนำ� มาใชไ้ มค่ รอบคลมุ ทกุ ตวั แปร จะทำ� ใหเ้ กดิ อคติ (Bias) ภายในการตดั สนิ ใจ ของระบบ AI หรือการน�ำเขา้ ข้อมลู ท่ไี มเ่ กี่ยวข้อง อาจทำ� ใหเ้ กิดเหตผุ ลวบิ ัติ (Fallacy) ได้ การคดั เลอื กขอ้ มลู ทจี่ ะนำ� มาใชใ้ นระยะแรกของการดำ� เนนิ โครงการนน้ั หนว่ ยงานควรเลอื กใชข้ อ้ มลู แบบคงที่ (Static Data) เชน่ จำ� นวนผู้เสยี ชีวติ จากอุบตั ิเหตรุ ถยนต์ประจ�ำปี จำ� นวนผูใ้ ช้บริการราย วัน เป็นตน้ และหลกี เลยี่ งการพง่ึ พาข้อมูลแบบทม่ี พี ลวตั ร (Dynamic Data) ซ่ึงมีการน�ำเข้าขอ้ มลู อยา่ งต่อเน่ือง (Stream) และเปลยี่ นแปลงตลอดเวลา เช่น จำ� นวนผปู้ ่วยนอกในปัจจบุ ัน อณุ หภมู ิ ในขณะน้นั เปน็ ตน้ เนอ่ื งจากข้อมลู อยา่ งหลังมีความซบั ซอ้ น ยากแกก่ ารนำ� ไปใช้ ตรวจสอบคุณภาพข้อมูล (Data Quality) แต่ถึงแม้ข้อมูลจะมีจ�ำนวนมหาศาล หากเป็นข้อมูลท่ีไม่มีคุณภาพ เช่น ข้อมูลคลาดเคล่ือนจาก ความเป็นจรงิ (Inaccurate) ไมส่ มบูรณ์ (Incomplete) หรอื ไม่สม�่ำเสมอ (Inconsistent) เปน็ ตน้ ย่อมท�ำให้ระบบเรียนรู้ในสิ่งท่ีผิดเพ้ียนจากความเป็นจริงและน�ำมาซึ่งการตัดสินใจท่ีผิดพลาด ดังน้ันเม่ือหน่วยงานก�ำหนดข้อมูลท่ีจะน�ำมาใช้ได้แล้ว ยังต้องมาประเมินคุณภาพของข้อมูล ดังกลา่ วประกอบการพจิ ารณาด้วย คู่มือ “การก�ำกับดูแลข้อมูล” (Data Governance Framework) ได้ก�ำหนดแนวทางการประเมิน คณุ ภาพของขอ้ มลู ไว้ ซ่งึ ประกอบด้วยมิตติ ่างๆ ดงั น้ี (สพร., 2561) n ขอ้ มลู มคี วามถกู ตอ้ ง (Accuracy) ขอ้ มลู จะมคี วามถกู ตอ้ งและเชอื่ ถอื ไดข้ น้ึ อยกู่ บั วธิ กี ารทใี่ ช้ ในการควบคมุ ขอ้ มูลน�ำเขา้ และการควบคมุ การประมวลผล ข้อมลู นำ� เข้าจะต้องเป็นขอ้ มูลท่ี ผา่ นการตรวจสอบว่าถกู ต้องแลว้ n ขอ้ มลู มคี วามครบถว้ น (Completeness) ขอ้ มลู บางประเภทหากไมค่ รบถว้ น จดั เปน็ ขอ้ มลู ที่ ดอ้ ยคณุ ภาพไดเ้ ชน่ กนั เชน่ ขอ้ มลู ประวตั คิ นไข้ หากไมม่ หี มเู่ ลอื ดของคนไข้ จะไมส่ ามารถใชไ้ ด้ ในกรณที ผี่ รู้ อ้ งขอขอ้ มลู ตอ้ งการขอ้ มลู หมเู่ ลอื ดของคนไข้ หรอื ขอ้ มลู ทอี่ ยขู่ องลกู คา้ ทก่ี รอกผา่ น แบบฟอร์ม ถ้ามีชื่อและนามสกุลโดยไม่มีข้อมูลที่อยู่ ข้อมูลเหล่านั้นก็ไม่สามารถน�ำมาใช้ได้ เช่นกนั
ส�ำ นกั งานพฒั นารฐั บาลดจิ ิทัล (องค์การมหาชน) 129 n ข้อมูลมีความต้องกัน (Consistency) ค่าข้อมูลในชุดข้อมูลเดียวกันสอดคล้องกับค่าใน ชดุ ขอ้ มลู อนื่ มมี าตรฐานการจดั ท�ำขอ้ มลู ทก่ี ำ� หนดใหน้ ยิ ามและแนวทางการจดั เกบ็ ขอ้ มลู ของ ขอ้ มลู จากชดุ ขอ้ มลู ตา่ งกนั ตอ้ งไมข่ ดั แยง้ กนั เชน่ ขอ้ มลู เดยี วกนั จากสองชดุ ขอ้ มลู ตอ้ งเหมอื นกนั และมีมาตรฐานในการเก็บขอ้ มลู เหมอื นกนั เป็นต้น n ขอ้ มลู มคี วามเปน็ ปจั จบุ นั (Timeliness) ขอ้ มลู ทด่ี นี น้ั นอกจากจะเปน็ ขอ้ มลู ทม่ี คี วามถกู ตอ้ ง เชื่อถือได้แล้ว จะต้องเป็นข้อมูลท่ีเป็นปัจจุบัน เนื่องจากข้อมูลในอดีตอาจไม่สะท้อนบริบท ของปัจจุบนั ไดท้ ้ังหมด n ขอ้ มลู ตรงตามความตอ้ งการของผใู้ ช้ (Relevancy) ระดบั ของขอ้ มลู ทบี่ รหิ ารจดั การตอ้ งการ น�ำเสนอโดยตรงและมีประสิทธิภาพ โดยสามารถใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์ ตัวอย่างเช่น ขอ้ มลู ทางสถติ ทิ จี่ ะเปน็ การำ� นเสนอในรปู แบบทง่ี า่ ยตอ่ การเขา้ ใจ สามารถนำ� มาใชง้ านไดต้ าม ความต้องการ n ข้อมูลมีความพร้อมใช้ (Availability) ข้อมูลควรเข้าถึงได้ง่าย สามารถใช้งานได้จริง และ สามารถใชง้ านไดต้ ลอดเวลา ขอ้ มลู ควรถกู แปลงใหอ้ ยใู่ นรปู แบบทเี่ ครอ่ื งคอมพวิ เตอรส์ ามารถ อา่ นได้ (Machine-readable format) เช่น CSV JSON RDF เป็นต้น 4. แสวงหาความรว่ มมือกับภาคส่วนตา่ งๆ เมอ่ื หนว่ ยงานมคี วามพรอ้ มดา้ นขอ้ มลู แลว้ ความทา้ ทายถดั มาคอื การนำ� ชดุ ขอ้ มลู ดงั กลา่ วมาพฒั นา ระบบ AI ความสำ� เร็จของโครงการ AI ขึน้ อยูก่ บั ปจั จัยตา่ งๆ เชน่ บุคลากร เทคโนโลยี การบริหาร จัดการขอ้ มลู ซง่ึ มักเป็นจดุ อ่อนของหนว่ ยงานภาครัฐ เพ่ือใหส้ ามารถดึงศกั ยภาพของระบบ AI มา ใช้ในการด�ำเนินงานได้อย่างเต็มท่ี หน่วยงานภาครัฐควรพิจารณาแสวงหาความร่วมมือจาก ภาคส่วนอื่น ด้วยปัจจัยเชิงโครงสร้าง ภาคเอกชนมักเป็นผู้บุกเบิกในการน�ำเทคโนโลยีใหม่ มาประยกุ ตใ์ ช้ จึงมักเป็นภาคสว่ นท่ีมีประสบการณแ์ ละความคนุ้ เคยกับการใช้ AI มากกว่าภาครฐั ท�ำให้ภาครัฐในหลายประเทศดึงภาคเอกชนมาเป็นส่วนหน่ึงในการพัฒนาระบบ AI ของภาครัฐ เพ่ือจัดการความเสี่ยงของโครงการที่อาจเกิดขึ้นจากการขาดประสบการณ์ด้านเทคโนโลยี โดยให้ ภาคเอกชนรบั บทบาทเปน็ “ผ้พู ฒั นา” (AI Developer) แทน
130 เทคโนโลยีปญั ญาประดิษฐ์ ภาพที่ 27 ตวั อย่างหนว่ ยงานภาครัฐทร่ี ว่ มมอื กับหนว่ ยงานภาคเอกชนในการดำ� เนินโครงการ AI องั กฤษ จนี หนวยงานภาครฐั หนว ยงานภาครฐั Department for Business, กระทรวงสาธารณสขุ , โรงพยาบาลรฐั Energy and Industrial Strategy หนวยงานภาคเอกชน หนว ยงานภาคเอกชน IBM, Alibaba Intelligence Voice Ltd, Strenuus Ltd. โครงการ และ University of East London ใช AI ในการชว ยเหลอื แพทย โครงการ ออกแบบแนวทางการรกั ษา ใช AI ในการตรวจจบั การโกงประกัน (Insurance Fraud) โดยประเมิน ความนา เช่อื ถอื จากเสยี ง อินเดยี ญป่ี ุน หนว ยงานภาครฐั หนวยงานภาครัฐ Electronics City Township Authority Consortium for Renovating หนว ยงานภาคเอกชน Education of the Future Siemens Corporate Technology หนว ยงานภาคเอกชน โครงการ IBM ใช AI ในการบรห� ารจัดการ โครงการ ใช AI ในการชวยเหลือคร สัญญาณไฟจราจร ใู นการออกแบบการเร�ยนการสอน เพ่�อลดปญ หาการจราจรตดิ ขดั ติดตามนักเรย� น และให Feedback อย่างไรก็ตาม ความรว่ มมอื ในลักษณะรฐั และเอกชน (Public-Private Partnership) มกั มปี ญั หา เฉพาะเชน่ เดยี วกบั การท�ำงานทีป่ ระกอบด้วยผูท้ มี่ สี ว่ นเกย่ี วขอ้ งหลายราย (Stakeholder) แบบอนื่ โดยในการดำ� เนนิ โครงการ AI ภาครฐั อาจประสบปญั หา ดงั นี้ เป้าหมายตา่ งกนั และความเช่อื ใจ (Different Pursuits and Trust) ปญั หาแรกเกดิ ขน้ึ จากวตั ถปุ ระสงคข์ ององคก์ รทแ่ี ตกตา่ งกนั หนว่ ยงานภาครฐั มภี ารกจิ ในการตอบ สนองต่อความต้องการของประชาชน ในขณะที่บริษัทถกู ขบั เคลอ่ื นดว้ ยเปา้ หมายของการแสวงหา กำ� ไรสงู สดุ ทำ� ให้ มมุ มองการกำ� หนดเปา้ หมายของโครงการอาจเกดิ ความขดั แยง้ กนั และอาจสง่ ผล ตอ่ ความเชอ่ื ใจระหวา่ งภาครฐั และภาคเอกชน เชน่ ในกรณที หี่ นว่ ยงานภาครฐั ตอ้ งแบง่ ปนั ขอ้ มลู ให้ แก่ภาคเอกชนในการน�ำมาพัฒนาระบบ AI หน่วยงานภาครัฐอาจต้ังค�ำถามถึงความประสงค์ของ บริษัทเอกชนว่า ข้อมูลท่ีได้รับจะถูกน�ำไปใช้เพื่อประโยชน์ของประชาชนผู้รับบริการ หรือมีการน�ำ ไปใชเ้ พอ่ื การพาณชิ ยใ์ นสว่ นทนี่ อกเหนอื จากเนอ้ื หาโครงการ หรอื ในกรณที แี่ บบจ�ำลองทางการเงนิ
สำ�นักงานพฒั นารฐั บาลดจิ ทิ ัล (องคก์ ารมหาชน) 131 (Financial Model) ทภ่ี าคเอกชนเสนอในการด�ำเนนิ โครงการอาจทำ� ให้ตน้ ทุนบรกิ ารสาธารณะสูง ขึ้นและผรู้ บั บรกิ ารบางสว่ นถกู กีดกันดว้ ยสาเหตทุ างด้านรายได้ ความรบั ผิด (Liability) รูปแบบการท�ำงานของภาครัฐถูกครอบด้วยกระบวนการตรวจสอบอันเกิดจากหน้าที่ความรับผิด ชอบต่อสังคมและประชาชน เนื่องจากการใช้ระบบ AI ในบริการสาธารณะท�ำให้ผลการตัดสินใจ ของเครอื่ งจกั รมผี ลกระทบตอ่ ความเปน็ อยขู่ องประชาชนในทางใดทางหนง่ึ ดว้ ยลกั ษณะการทำ� งาน ของระบบ AI การหาผู้รับผิดชอบเป็นเร่ืองซับซ้อนเม่ือเกิดความผิดพลาดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เม่ือบริษทั เอกชนมีสว่ นเกยี่ วขอ้ ง “จะเป็นผู้ควบคมุ ขอ้ มูล ผพู้ ัฒนาระบบ AI ผู้รบั รองระบบดังกลา่ ว หรือบริษัทท่ีเป็นผู้ด�ำเนินการ” (House of Lords, 2018) ความไม่ชัดเจนดังกล่าวอาจท�ำให้ ภาครัฐมีความระมัดระวังในการตัดสินใจในเร่ืองต่างๆ ระเบียบข้อบังคับของภาครัฐอาจส่งผลต่อ การท�ำงาน ท�ำให้หน่วยงานเอกชนไม่สามารถใช้จุดแข็งอย่างเรื่องความคล่องตัวและความคิด สรา้ งสรรคเ์ พ่อื นำ� เสนอแนวทางการใช้ AI ในโครงการได้อยา่ งเตม็ ท่ี ความแตกต่างดา้ นทกั ษะ (Skill gap) ปัญหาสุดท้าย คือ “คน” บุคลากรภาครัฐมีความเชี่ยวชาญในสายงานของตน แต่เม่ือเป็นเรื่อง เทคโนโลยี หน่วยงานภาครัฐมักประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากรที่มีความเข้าใจด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะเทคโนโลยี AI แมว้ า่ ในความรว่ มมอื ระหวา่ งภาครฐั และภาคเอกชน ภาระงานดา้ นเทคนคิ ส่วนมากจะตกเป็นของบุคลากรเอกชน แต่หน่วยงานภาครัฐยังคงมีหน้าที่ในการวางกรอบและ ควบคุมการด�ำเนินโครงการให้เทคโนโลยีสร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชนมากท่ีสุด ปัญหาดังกล่าว ก่อให้เกิดช่องว่างในการสื่อสารระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ท�ำให้ภาครัฐวางกรอบ ในการท�ำงานผดิ พลาด หรือไมส่ ามารถทำ� ความเขา้ ใจกับภาคเอกชนไดด้ พี อ + EXAMPLE Sun & Medaglia (2018) ไดท้ ำ� การสำ� รวจความคดิ เหน็ ผทู้ เ่ี กยี่ วขอ้ งในโครงการนำ� ระบบ AI ชอ่ื Watson ของ IBM มาใช้ในระบบสาธารณสุขของประเทศจีน เพ่ือระบุถึงความท้าทายท่ีเกิดขึ้นในการด�ำเนิน โครงการ โดยจากการส�ำรวจ พบว่า การขาดแนวทางจริยธรรม (Ethical Guideline) ท่ีชัดเจน ท�ำให้ โรงพยาบาลไม่ให้ความร่วมมือในการแบ่งปันข้อมูล เช่น ให้บริษัทเอกชนเข้าถึงเฉพาะข้อมูลผู้ป่วย นอกเท่าน้ัน ซึ่งนับเป็นปัญหาต่อระบบ Watson ท่ีต้องอาศัยข้อมูลจ�ำนวนมากในการสร้างอัลกอริทึม ทสี่ อดคล้องกบั บรบิ ทของข้อมูลสุขภาพในประเทศจนี (Sun & Medaglia, 2018)
132 เทคโนโลยปี ัญญาประดิษฐ์ ดว้ ยปจั จยั เชงิ โครงสรา้ งองคก์ รและความแตกตา่ งทางดา้ นทรพั ยากรท�ำใหห้ นว่ ยงานภาครฐั ไมอ่ าจ ดึงศักยภาพของความร่วมมือออกมาได้อย่างเต็มท่ี และอาจมีผลต่อผลสัมฤทธิ์ของโครงการใน ภาพรวม ดงั นนั้ เพอ่ื ใหค้ วามรว่ มมอื ระหวา่ งภาครฐั และภาคเอกชนในการดำ� เนินโครงการ AI เป็น ไปไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและสามารถบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคต์ ามทต่ี งั้ ไว้ หนว่ ยงานภาครฐั ควรมกี ลยทุ ธ์ ในการท�ำงานร่วมกับบรษิ ทั เอกชน ดงั นี้ Sharing Partnership หน่ึงในวัตถุประสงค์หลักของความร่วมมือ คือ การให้ทุกภาคส่วนแบ่งปันทรัพยากรซ่ึงกันและ กัน ซึ่งการมีวัตถุประสงค์ร่วมกัน (Shared Objective) เป็นส่วนส�ำคัญอย่างย่ิงต่อความร่วมมือ เน่ืองจากวัตถุประสงค์น้ันจะเป็นตัวช้ีน�ำในการตัดสินใจต่างๆ และเป็นบรรทัดฐานในการวัดความ ส�ำเร็จของโครงการ หน่วยงานภาครัฐควรวางกลยุทธ์ในการสื่อสาร (Communication Strategy) กับบริษัทเอกชน เพื่อให้เกิดการวางกรอบและเป้าหมายโครงการท่ีชัดเจนและสร้างความเข้าใจ ร่วมกันถึงข้อกังวลของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซ่ึงจ�ำเป็นต่อการหาแนวทางการแก้ไขปัญหาท่ีขัดขวาง การด�ำเนนิ โครงการรว่ มกนั รวมถงึ สรา้ งวฒั นธรรมความร่วมมือทเ่ี นน้ การแบง่ ปันขอ้ มูลระหว่างกนั (Data-sharing Culture) โดยมวี ตั ถุประสงคเ์ พ่อื สรา้ งความรว่ มมือให้ 12 3 4 5 6 7 ทุกสว นใช ทกุ สว นใช ทกุ สวนมี มีกระบวนการ ทกุ สว นมี ทกุ สว นมีภาพ ทุกสวนมี จ�ดแข็งและ ภาษา สว นรวมใน รบั ฟง� ประเดน็ สว นรวมใน ภารกิจ คุณคา ความเช่อื ใจกนั ทรัพยากร (Language) ขัน้ ตอนการ ขอคิดเห็นท่ี การไดร ับ รว มกนั เพอ่� ทีช่ ดั เจนและ ตดั สินใจ สำคัญตอ ประโยชน เปา หมาย และเคารพ บรรลุเปาหมาย มีความเขาใจ และการแก จากโครงการ ผลลัพธ และ ซงึ่ กันและกัน และรกั ษาผล รว มกนั ปญหาความ การบรรลุ แนวทางการ ประโยชนของ ขัดแยง เปา หมาย ดำเนนิ โครงการ ทุกฝา ย (Conflict โครงการ resolution) สำหรบั รว มกัน ทกุ สว น ประยุกต์จาก Jarquin, 2012
ส�ำ นักงานพัฒนารัฐบาลดจิ ิทลั (องค์การมหาชน) 133 Accountable Partnership หน่วยงานภาครัฐควรร่วมกับผู้มีส่วนเก่ียวข้องก�ำหนดขั้นตอนการท�ำงานที่โปร่งใส (Transparent) และตรวจสอบได้ (Accountable) ตั้งแต่กระบวนการแลกเปลยี่ นขอ้ มูล ตลอดจนการน�ำ AI มาใช้ ในกระบวนงานจริง รวมถึงก�ำหนดแนวทางป้องกันและมาตรการรองรับท่ีชัดเจนเม่ือการตัดสินใจ ของระบบ AI กอ่ ให้เกิดผลกระทบ เพ่ือสรา้ งกระบวนการการตรวจสอบและรับผดิ ชอบ (Liability) ในโครงการได้ โดยครอบคลมุ ถงึ ประเดน็ อย่างนอ้ ยดังตอ่ ไปนี้ 20 n หน่วยงานเจ้าของโครงการต้องด�ำเนินการจัดหาข้อมลู ทเี่ กย่ี วข้อง โดยปรบั ปรงุ แกไ้ ข และเขา้ รหสั ข้อมลู (Data Encryption) ใหช้ ุดขอ้ มลู มคี ณุ ภาพและพร้อมแกก่ ารน�ำไปใช้ รวมถึงรบั รอง ความรบั ผิดหากเกดิ ผลกระทบอันเกิดจากความผดิ พลาดของข้อมูล n เอกชนตอ้ งเกบ็ บนั ทกึ ขอ้ มลู เอกสาร และหลกั ฐานประกอบทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั การออกแบบ การใช้ Methodology และการวเิ คราะหท์ เี่ กดิ ขน้ึ จากขน้ั ตอนการออกแบบ พฒั นา และแกไ้ ขระบบ AI n ขอ้ มลู ทห่ี นว่ ยงานเจา้ ของโครงการจดั หามาให้ ตอ้ งเปน็ ความลบั ไมถ่ กู คดั ลอก เลยี นแบบ หรอื แจกจ่ายโดยไม่ได้รบั การอนุญาตจากหนว่ ยงานเจา้ ของโครงการ n หน่วยงานเจ้าของโครงการต้องด�ำเนินการสื่อสารกับผู้ที่เก่ียวข้องในภาคส่วนอ่ืน ผู้ท่ีได้รับ ผลกระทบจากการดำ� เนนิ โครงการ และสาธารณะ ในการสรา้ งความเขา้ ใจ รบั ฟงั ความคดิ เหน็ / ขอ้ เสนอแนะ และค�ำรอ้ งท่เี ก่ยี วข้องกับโครงการ n เอกชนต้องตกลงไมด่ �ำเนินการฟอ้ งร้อง หากหนว่ ยงานเจ้าของโครงการ หน่วยงานภาครฐั อ่นื หรือบุคคลภายนอก ด�ำเนินการศึกษา ทดสอบ ตรวจสอบ หรือท�ำความเข้าใจผลกระทบต่อ บุคคลหรอื กลุม่ บคุ คล อันอาจเกดิ จากการใช้ระบบ AI n เม่ือเกิดการร้องเรียนหรือฟ้องร้องต่อนโยบายหรือการตัดสินใจของหน่วยงานจากการด�ำเนิน โครงการที่ไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นทางเทคนิค เอกชนต้องสนับสนุนและให้ความร่วมมือแก่ หนว่ ยงานเจา้ ของโครงการ ในขณะท่ีหน่วยงานตอ้ งรับผิดชอบต่อค่าใช้จา่ ยตา่ งๆ ท่เี กิดข้ึน n เอกชนต้องช่วยสนับสนุนหน่วยงานเจ้าของโครงการในการจัดท�ำข้อมูลน�ำเสนอและรายงาน ในการพัฒนาระบบ AI รวมถึงการประเมนิ ผลกระทบจากเทคโนโลยี ส�ำหรบั สรา้ งความเข้าใจ แกผ่ ูม้ ีส่วนเกี่ยวข้อง n เอกชนตอ้ งเปดิ เผยหลกั ฐาน บทวเิ คราะห์ และรายงานทเ่ี กีย่ วข้องกบั ขอ้ บกพร่องเมือ่ ตรวจพบ ในระบบ AI แบบจ�ำลอง หรือชดุ ข้อมลู 20 ประยุกตจ์ าก (AI NOW, 2018)
134 เทคโนโลยปี ญั ญาประดิษฐ์ Multi-joint Partnership หนว่ ยงานเจา้ ของโครงการควรปรกึ ษาหารอื หนว่ ยงานภาครฐั อนื่ ทม่ี อี งคค์ วามรดู้ า้ นเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั ในการด�ำเนินโครงการ AI ร่วมกับหน่วยงานเอกชน เพ่ือขอความช่วยเหลือให้การด�ำเนินโครงการ เป็นไปตามวัตถปุ ระสงค์ และประสานความรว่ มมอื ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนให้เป็นไปอยา่ ง มปี ระสทิ ธภิ าพ ในปจั จบุ นั หนว่ ยงานภาครฐั ทมี่ บี ทบาทหนา้ ทใี่ นการสง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ การใชเ้ ทคโนโลยใี นภาครฐั และ หนว่ ยงานเจา้ ของโครงการสามารถสรา้ งความรว่ มมอื ได้ มหี ลักๆ สองหน่วยงาน ไดแ้ ก่ 1. สำ� นกั งานพฒั นารฐั บาลดจิ ทิ ลั (สพร.) เปน็ หนว่ ยงานหลกั ในการขบั เคลอ่ื นการพฒั นารฐั บาล ดิจิทัลของประเทศไทย โดยในพระราชกฤษฎีกาจัดต้ังส�ำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การ มหาชน) พ.ศ. 2561 มาตรา 8 ก�ำหนดให้ สำ� นกั งานฯ ท�ำหน้าทใ่ี หบ้ รกิ ารส่งเสรมิ และสนับสนุนให้ หน่วยงานของรัฐให้บริการดิจิทัล และให้ค�ำปรึกษาและสนับสนุนหน่วยงานของรัฐในการบริหาร จัดการโครงการด้านเทคโนโลยีดิจิทัล สพร. ได้ด�ำเนินบทบาทการเป็นที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยี สารสนเทศใหก้ บั หนว่ ยงานภาครฐั มาเปน็ เวลานานกวา่ 10 ปี และไดร้ ว่ มงานกบั หลายหนว่ ยงานใน การพฒั นาบริการดจิ ิทลั เช่น ร่วมมอื กบั กรมทางหลวงในการวิเคราะหข์ ้อมูลจากจุดส�ำรวจปริมาณ จราจรชนดิ ตดิ ตงั้ ถาวร สำ� หรบั ประกอบการวางแผนบรหิ ารจดั การจราจรเพอ่ื อำ� นวยความสะดวกแก่ ประชาชนผใู้ ช้ทางในช่วงสงกรานต์ในปี 2015-2016 2. ศนู ยเ์ ทคโนโลยอี เิ ลก็ ทรอนกิ สแ์ ละคอมพวิ เตอรแ์ หง่ ชาติ (NECTEC) เปน็ หนว่ ยงานภาย ใต้ส�ำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยมหี นา้ ท่ีหลกั ในการดำ� เนนิ การวจิ ยั ให้ทุนสนบั สนนุ การวิจยั ในภาครัฐ รวมถงึ ร่วมกับพนั ธมติ ร ในการผลักดันให้เกิดระบบนิเวศน์ของการใช้เทคโนโลยีที่วิจัยและพัฒนาข้ึน โดยในด้าน AI NECTEC ได้จดั ต้ัง “หน่วยวจิ ัยปญั ญาประดษิ ฐ”์ (Artificial Intelligence Research Unit: AINRU) เพอ่ื วจิ ยั และพฒั นาเทคโนโลยี AI โดยเนน้ การประมวลภาษา เสยี งพดู และรปู ภาพ พรอ้ มทง้ั ถา่ ยทอด เทคโนโลยเี พอ่ื ใหผ้ ใู้ ชเ้ ขา้ ถงึ ไดง้ า่ ยและสามารถประยกุ ตใ์ ชง้ านไดอ้ ยา่ งเขา้ ใจและเหมาะสม AINRU มีประสบการณ์ในการท�ำวิจัยท่ีน�ำไปสู่การประยุกต์ใช้ AI ในหลายภาคส่วน เช่น การเกษตร การแพทย์และสาธารณสขุ การศึกษา อตุ สาหกรรมการผลติ และอุตสาหกรรมการบรกิ าร เป็นต้น
ส�ำ นกั งานพัฒนารัฐบาลดิจทิ ัล (องคก์ ารมหาชน) 135 + EXAMPLE ตัวอยา่ งผลงานวิจัยของ AINRU ระบบฝึกฝนสัญญาณสมองแบบป้องกลบั เกิดจากการพฒั นารว่ มกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นเกมส์ที่ควบคุมโดยการอ่านสัญญาณสมองผ่านสัญญาณ EEG ใช้เพ่ือ ฝกึ สมาธกิ ารจดจอ่ รวมถึงช่วยฝกึ ฝนความจำ� ชว่ งปฏิบัตงิ าน (Working Memory) โดยผู้เล่นจะทราบถึง ระดบั สมาธกิ ารจดจอ่ ของตนผา่ นโปรแกรมเกมส์ และพยายามรกั ษาสภาวะจดจอ่ ตลอดการเลน่ เกมส์ เมอื่ ฝกึ ฝนเปน็ อยา่ งดี จะสามารถควบคมุ จดั การสมาธไิ ดด้ ขี นึ้ รวมถงึ สามารถพฒั นาทกั ษะสมอง (Executive Functions) ได้ตอ่ ไป (NECTEC, 2562) 5. การสรา้ งจรยิ ธรรม “เมื่อคุณประดิษฐ์รถยนต์ คุณได้ประดิษฐ์อุบัติเหตุรถยนต์ขึ้นมาด้วย” (When you invent cars, you also invent car accidents) เทคโนโลยี AI นำ� มาซ่ึงปัญหารูปแบบใหม่ หน่วยงานควร คำ� นึงถงึ ผลกระทบจากการน�ำเทคโนโลยี AI มาใชใ้ นบริการและการบรหิ ารงานภาครฐั ดงั นี้ อคติ (Bias) คุณภาพของอัลกอริทึมซ่ึงเป็นหัวใจของระบบ AI ข้ึนอยู่กับข้อมูลที่มนุษย์เป็นผู้ป้อนให้ ท�ำให้ใน บางครั้งระบบ AI เรียนรู้ “อคติ” ของมนุษย์ที่แฝงอยู่ในข้อมลู ได้โดยไม่ไดต้ ง้ั ใจ ทำ� ใหก้ ารตดั สนิ ใจ โดยเครื่องจักรสร้างประเด็นทางจริยธรรมข้ึน เช่น แคนาดาน�ำร่องระบบ AI ในกระบวนการตรวจ คนเข้าเมืองและคัดกรองผู้อพยพ โดยเรียนรู้จากบันทึกข้อมูลที่ผ่านมาและมาตรการในกฎหมาย Immigration and Refugee Protection Act (IRPA) แต่จากการศกึ ษาของมหาวทิ ยาลยั โทรอนโต และ Citizen Lab พบวา่ ระบบเลอื กปฏบิ ตั คิ นบางกลมุ่ (Discriminate) อยา่ งชดั เจนดว้ ยปจั จยั ทาง ดา้ นเชอื้ ชาติ ศาสนา และการเปน็ สมาชกิ องคก์ ร/สมาคม โดยไมค่ �ำนงึ ถงึ ปจั จยั ความจำ� เปน็ อนื่ เชน่ การล้ภี ัยดว้ ยสาเหตทุ างสงั คมของกลุ่ม ผหู้ ญงิ และ LGBT เปน็ ตน้ หรอื กรณีระบบคัดกรองผูส้ มคั ร งานของ Amazon กดคะแนนผสู้ มคั รหญงิ เนอ่ื งจากเรยี นรขู้ ้อมูลใบสมคั รที่บรษิ ัทไดร้ บั ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาซง่ึ ส่วนมากมแี ตผ่ สู้ มคั รเพศชาย (Dastin, 2018) ตวั อย่างข้างตน้ แสดงใหเ้ ห็นวา่ แมข้ อ้ มลู ที่ใช้ฝึกฝนระบบ AI จะถูกต้อง มีคณุ ภาพ แตก่ ารเลือกใช้ ข้อมูลท่ีไม่เหมาะสมและไม่มีการควบคุม ทำ� ให้เกิดอคติขึ้นในอัลกอริทึมที่สร้างความไม่เป็นธรรม ต่อคนบางกลุ่ม
136 เทคโนโลยปี ญั ญาประดษิ ฐ์ ดงั นนั้ เพอ่ื ปอ้ งกนั ปญั หาอคตใิ นระบบ AI หนว่ ยงานเจา้ ของโครงการควรคดั เลอื ก และทดสอบขอ้ มลู ทน่ี ำ� มาใชใ้ นการฝกึ ฝนระบบ AI อยา่ งรอบคอบ รวมถงึ ระบขุ อ้ มลู คณุ ลกั ษณะทอี่ าจมผี ลตอ่ การเกดิ อคติ เชน่ อายุ เพศ เชอ้ื ชาติ หรือปจั จัยอ่นื ๆ ในชุดข้อมลู ที่มีนยั ยะทางสังคม รวมถึงมีการตรวจสอบ เฝา้ ระวงั การตดั สนิ ใจของระบบ AI อยา่ งสมำ่� เสมอ นอกจากน้ี หนว่ ยงานควรจดั ทำ� มาตรการสง่ เสรมิ ความโปร่งใส (Policy for Disclosure) ให้ผทู้ ่ีมีสว่ นเกย่ี วข้องทราบถึงแนวทางการนำ� ระบบ AI มา ใช้ พรอ้ มจดั ท�ำช่องทางรับฟังความคดิ เหน็ /ขอ้ รอ้ งเรียน (Feedback Channel) โดยเฉพาะส�ำหรับ ผไู้ ดร้ ับผลกระทบจากการใชร้ ะบบ AI ซ่ึงเปน็ อีกหน่งึ แหล่งข้อมลู ท่ชี ว่ ยให้หน่วยงานสามารถรับร้ถู งึ ปัญหาอนั อาจเกิดจากอคตใิ นระบบ AI ได้ ความสามารถในการอธบิ ายได้ (Explainability) “ความผดิ พลาด” เปน็ สงิ่ ทหี่ ลกี เลยี่ งไมไ่ ด้ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในชว่ งเรยี นรขู้ องระบบ AI หรอื แมจ้ ะ ไมถ่ อื เปน็ ความผดิ พลาด แตผ่ ทู้ ไ่ี ดร้ บั ผลกระทบจากการตดั สนิ ใจของเครอื่ งจกั ร ยอ่ มมสี ทิ ธโิ ดยชอบ ธรรมในการทราบถึงสาเหตกุ ารตดั สินในนั้น “ความสามารถในการอธบิ ายได้” (Explainability) จงึ เป็นอีกประเด็นสำ� คัญต่อการสร้างระบบ AI ให้มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ และอาจมีผลต่อ การตดั สินใจของหนว่ ยงานในการน�ำ AI มาใชจ้ ริง ประธานเจ้าหนา้ ทบี่ รหิ ารของ IBM กลา่ ววา่ “เรา ตอ้ งสามารถอธบิ ายไดว้ า่ อลั กอรทิ มึ นำ� มาซงึ่ ผลลพั ธแ์ ตล่ ะอยา่ งไดอ้ ยา่ งไร ถา้ ผใู้ ชไ้ มส่ ามารถทำ� ได้ ระบบ AI ไมค่ วรถกู นำ� มาใช”้ (Nott, 2018) เชน่ เดยี วกนั The House of Lords’ Select Committee on Artificial Intelligence ของสหราชอาณาจกั รมอบขอ้ เสนอแนะวา่ “ถา้ อลั กอรทิ มึ ทใี่ ชใ้ นการตดั สนิ ใจ เก่ียวกับประชาชนชาวอังกฤษไม่สามารถถูกอธิบายได้ ควรถูกห้ามน�ำมาใช้” (Shanck15, 2018) ดังนั้น หน่วยงานภาครฐั ควรท�ำให้แน่ใจวา่ ระบบท่พี ัฒนามาน้ัน สามารถอธิบายท่มี าทไ่ี ปของการ ตัดสนิ ใจไดอ้ ย่างเหมาะสม (Explainable) ตวั อย่างเชน่ ศุนทัร ปจิ ไช (Sundar Pichai) ประธาน บริหารกูเกิ้ลอธิบายสาเหตุต่อรัฐสภาสหรัฐ (US Congress) ผลลัพธ์การค้นหาของ “Idiot” ถึงแสดงผลเป็นรูปประธานาธบิ ดสี หรัฐ ดอนัลด์ ทรัมป์ ว่าเกิดจากระบบ AI ท่ีประมวลจากปัจจยั ตา่ งๆ มากมายกวา่ 200 ตวั เชน่ ความเชื่อมโยง ความใหม่ (Freshness) ความนยิ ม และการเอา ไปใช้ของผูใ้ ชบ้ ริการ เพอื่ น�ำมาจัดอันดบั ในการแสดงผล (Robertson, 2018)
สำ�นักงานพฒั นารัฐบาลดจิ ทิ ัล (องคก์ ารมหาชน) 137 อัตตาณัตขิ องมนษุ ย์ (Human Autonomy) แมว้ า่ ศกั ยภาพของระบบ AI สามารถทำ� งานบางอยา่ งแทนมนษุ ยไ์ ดอ้ ยา่ งสมบรู ณ์ หรอื แมแ้ ตท่ ำ� ได้ เกินขดี ความสามารถทวั่ ไปของมนุษย์ การปล่อยให้เคร่อื งจักรก�ำหนดทางเลอื กของมนุษย์โดยไมม่ ี การควบคมุ อาจนำ� มาซงึ่ ปญั หาหลกั ๆ2ประการประการแรกการทำ� งานของCognitiveTechnology ยงั คงมขี อ้ บกพรอ่ งเชน่ ในกรณรี ถยนตไ์ รค้ นขบั (Driverless Car)ของTeslaพงุ่ ชนกบั รถพว่ งอยา่ งแรง เม่ือเดือนพฤษภาคม 2016 เป็นเหตุให้ผู้ขับเสียชีวิต Tesla ได้เผยถึงสาเหตุของอุบัติเหตุในเวลา ตอ่ มาว่า ระบบไมส่ ามารถแยกระหวา่ งสีขาวของรถพว่ งกบั ท้องฟ้าในขณะนนั้ ได้ ทำ� ใหร้ ะบบเบรก อตั โนมัตไิ มท่ �ำงาน (The Tesla Team, 2016) ประเด็นปัญหาทางจริยธรรมที่เกิดขึ้นต่อมาคือ มนุษย์ยังมีสิทธ์ิในการก�ำหนดผลลัพธ์และ ความรับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดข้ึนอยู่หรือไม่ อ�ำนาจการตัดสินใจของมนุษย์ที่ถูกลดทอนด้วย ระบบอัตโนมัติของเครื่องจักรอาจหมายถึงการลดคุณค่าของสิทธ์ิในการเลือกทางเลือกของปัจเจก Lamanna และ Byrne (2018) ได้น�ำเสนอแนวทางการน�ำ AI มาใชใ้ นก�ำหนดแนวทางการรักษา ส�ำหรับผู้ป่วยที่ไร้ความสามารถ (Incapacitated Patient) โดยดูจากข้อมูลท่ัวไป เวชระเบียน (Medical Record) ตลอดจนข้อมูลการแสดงความคิดเห็นในส่ือสังคมออนไลน์ของผู้ป่วยเพื่อ คาดคะเนแนวทางการรักษาที่ผปู้ ว่ ยต้องการ (Treatment Model) แมว้ ่าในกรณที ่ผี ปู้ ่วยเปน็ -ตาย เทา่ กัน (Life-death Decision Making) เทคโนโลยนี ้อี าจเป็นเครือ่ งมือทช่ี ่วยลดภาระทางอารมณ์ ส�ำหรับญาติของผู้ป่วยในการตัดสินใจ แต่ถ้าข้อสรุปของญาติกับ AI ไม่สอดคล้องกัน เราควรท�ำ ตามเจตจ�ำนงค์ของญาติผู้ป่วยหรือไม่ หรือถ้าผลการวิเคราะห์ออกมาได้ทางเลือกท่ีไม่ได้ให้ผล การรักษาที่ดีท่ีสุด แพทย์ผู้รักษาควรเคารพเจตจ�ำนงค์ของผู้ป่วย หรือผลประโยชน์สูงสุดที่ผู้ป่วย ควรไดร้ ับ ส�ำหรับงานศึกษานี้จะไม่ลงลึกหาค�ำตอบในปัญหาสุดท้าย เนื่องจากยึดโยงกับประเด็นทางด้าน จริยธรรมและสังคมที่มีความซับซ้อน แต่เป็นท่ีแน่ชัดว่า หน่วยงานภาครัฐควรท�ำให้แน่ใจว่า การทำ� งานของระบบAIและการตดั สนิ ใจควรอยภู่ ายใตก้ ารกำ� กบั ดแู ลของมนษุ ย์เพอื่ ชว่ ยปดิ ชอ่ งโหว่ หากเกดิ ความผดิ พลาดอนั เกดิ จากขอ้ จำ� กดั ทางเทคโนโลยี และเพอ่ื ปอ้ งกนั การละเมดิ สทิ ธิ์ หนว่ ยงาน ควรออกมาตรการการใชง้ านทคี่ ำ� นงึ ถงึ “ความยนิ ยอม” (Consent) ของผทู้ ไี่ ดร้ บั ผลกระทบจากการ ตัดสินใจของระบบ AI เป็นส�ำคัญ ซึ่งนอกจากช่วยสร้างความเชื่อม่ันให้แก่ผู้ใช้งานแล้ว ยังสร้าง ความโปรง่ ใสในกระบวนการตรวจสอบเมอ่ื เกดิ อบุ ตั เิ หตุ ตวั อยา่ งเชน่ กรณรี ถยนตไ์ รค้ นขบั ของ Uber พุ่งชนหญงิ วัย 49 ปี ทกี่ �ำลงั จูงจักรยานขา้ มถนนจนเสยี ชีวิตเม่ือวันที่ 18 มนี าคม 2018 ท่ผี า่ นมา จากการตรวจสอบพบวา่ ตวั รถมกี ารตรวจจบั รา่ งของผเู้ คราะหร์ า้ ยไดก้ อ่ นการปะทะถงึ 6 วนิ าที แต่ ผู้ควบคุมรถ (Operator) กระท�ำกิจกรรมอื่นอยู่ในขณะน้ัน จนเป็นเหตุให้ตอบสนองต่อเหตุการณ์
138 เทคโนโลยปี ัญญาประดิษฐ์ ได้ไมท่ ันทว่ งที สุดทา้ ยอัยการของรฐั อรโิ ซนาไมด่ ำ� เนนิ การสั่งฟอ้ งบรษิ ัท Uber ในขณะที่ผู้ควบคมุ รถยงั อาจสามารถถกู ด�ำเนนิ คดไี ด้อยู่ (BBC, 2019) การแทนทแี่ รงงาน (Job replacement) อีกหน่ึงข้อกังวลที่มักถูกหยิบยกขึ้นมาเม่ือกล่าวถึงการประยุกต์ใช้ AI คือ การทดแทนแรงงาน มนุษย์ด้วยเคร่ืองจักร Reform ซ่ึงเป็นหน่วยงาน Thinktank ของประเทศอังกฤษการคาดการณ์ ว่า ภายในปี 2030 Chatbot จะเข้ามาท�ำงานแทนทพ่ี นักงานกว่าร้อยละ 90 ของเจ้าหนา้ ท่ีรฐั บาล สหราชอาณาจักร และพนักงานในภาคสาธารณสุขกว่าหมื่นคนจะได้รับผลกระทบ ถึงแม้ว่า การเปลยี่ นแปลงดงั กลา่ วคาดวา่ จะสามารถประหยดั งบประมาณคา่ บคุ ลากรไปไดก้ วา่ 4พนั ลา้ นปอนด์ ต่อปี แตย่ ่อมสรา้ งขอ้ กงั วลว่าจะเกดิ อะไรข้นึ กับพนักงานเหลา่ นนั้ (Gayle, 2017) หน่วยงานควรท�ำความเขา้ ใจกับเจา้ หน้าท่ขี ององค์กร โดยเฉพาะเจา้ หนา้ ท่ีในกระบวนงานทม่ี ีส่วน เกี่ยวข้องกับโครงการการน�ำ AI มาใช้ ว่าเทคโนโลยีนี้ไม่ใช่การทดแทนแต่เป็นเครื่องมือที่จะช่วย การทำ� งานของตนใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพมากขนึ้ รวดเรว็ ขน้ึ สะดวกสบายขน้ึ สามารถลดภาระงานซำ�้ ซาก (Repetitive task) และใหเ้ จา้ หนา้ ทไ่ี ปทำ� งานอน่ื ทมี่ คี ณุ คา่ มากกวา่ เดมิ แทนได้ นอกจากนี้ หนว่ ยงาน ควรเสริมสร้างความรู้ด้านเทคโนโลยีและ AI ผ่านการอบรมท่ีอาศัยความร่วมมือกับหน่วยงาน ภายนอก เช่น สพร. NECTEC และสมาคมปญั ญาประดษิ ฐแ์ หง่ ประเทศไทย เปน็ ตน้ เพ่ือรองรับ การเปลย่ี นแปลง ใหพ้ นกั งานสามารถเขา้ ใจและใชป้ ระโยชนจ์ ากระบบ AI ไดอ้ ยา่ งเตม็ ประสทิ ธภิ าพ ความปลอดภยั และความเป็นสว่ นตวั (Security and Privacy) การพัฒนา AI จ�ำเป็นต้องอาศัยข้อมูลขนาดใหญ่ที่มักเป็นข้อมูลที่เก่ียวข้องกับความเป็นส่วนตัว ของประชาชน (Privacy) ท่ีอาจน�ำมาซ่ึงการขาดความเชอ่ื ม่นั (Distrust) จากภาคประชาชน หรอื แม้กระท่ังสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงได้หากขาดมาตรการความปลอดภัยท่ีรัดกุม (Security) เพอ่ื ปอ้ งกนั ประเดน็ ทางกฎหมายและสรา้ งความเชอ่ื มน่ั หนว่ ยงานควรจดั ทำ� มาตรการความมน่ั คง ปลอดภยั ทางไซเบอร์ (Cyber Security) ในดา้ นตา่ งๆ ดงั นี้
ส�ำ นกั งานพฒั นารฐั บาลดจิ ิทลั (องค์การมหาชน) 139 n บคุ คลากร (People) พนกั งานของหนว่ ยงานควรไดร้ บั การอบรมแนวปฏบิ ตั ดิ า้ นความปลอดภยั ทางไซเบอรเ์ พอ่ื ลดพฤตกิ รรมเสย่ี ง และสามารถตอบสนองไดอ้ ยา่ งทนั ทว่ งทเี มอ่ื เกดิ เหตรุ ว่ั ไหล n กระบวนงาน (Process) การน�ำข้อมูลของประชาชนมาใช้ต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของ ประชาชนและไม่ถกู น�ำมาใชน้ อกเหนอื วัตถปุ ระสงคข์ องโครงการ เช่นตวั อยา่ งในหัวขอ้ 4.1.4 (2) รวมถงึ ตอ้ งสอดคลอ้ งกบั พ.ร.บ. คมุ้ ครองขอ้ มลู สว่ นบคุ คล พ.ศ. 2562 ซง่ึ จากการพจิ ารณา พบว่า กฎหมายดังกล่าวยดื หยุน่ ให้หน่วยงานภาครฐั สามารถเกบ็ และน�ำขอ้ มลู ส่วนบุคคลมา ใชไ้ ดโ้ ดยไมต่ อ้ งไดร้ บั การยนิ ยอมจากเจา้ ของขอ้ มลู หากเปน็ ไปเพอื่ วตั ถปุ ระสงคส์ าธารณะตาม ภารกจิ ของหนว่ ยงานตามมาตราที่ 24 และ 27 ทงั้ นี้ กฎหมายยงั กำ� หนดให้ “ขอ้ มลู สว่ นบคุ คล” หมายถงึ “ขอ้ มลู เกย่ี วกบั บคุ คลซงึ่ ทำ� ใหส้ ามารถระบตุ วั บคุ คลนน้ั ไดไ้ มว่ า่ ทางตรงหรอื ทางออ้ ม ...” ดังนนั้ หากมคี วามจำ� เปน็ ทีท่ ำ� ให้ไม่สามารถทำ� ข้อมูลให้เป็นนิรนาม (Anonymization) ได้ หน่วยงานต้องท�ำให้แน่ใจว่ามีการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลในกรณีท่ีมีการเก็บ รวบรวมข้อมลู ส่วนบคุ คลทีเ่ ก่ยี วกบั “เชอื้ ชาติ เผา่ พันธุ์ ความคดิ เหน็ ทางการเมือง” และข้อมูล อ่ืนๆ ตามมาตรา 26 + EXAMPLE ในปี 2016 National Health Service (NHS) ของสหราชอาณาจักร กับ Deepmind ของ Google ถูกส่ือโจมตีว่ามีการน�ำข้อมูลส่วนตัวผู้ป่วยกว่า 1.6 ล้านข้อมูลมาใช้เพ่ือพัฒนาระบบ AI โดยไม่ได้ รับความยินยอม (Consent) จากเจ้าของข้อมูล NHS จึงได้น�ำโปรแกรม de-Identification (DE-ID) มาใช้ในการจดั การปญั หาดังกลา่ ว (Bayern, 2018) n เทคโนโลยี (Technology) นอกเหนือจากมาตรการความปลอดภยั ของขอ้ มูลแล้ว หน่วยงาน ควรตรวจสอบระบบ อปุ กรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์ และอปุ กรณเ์ ครอื ข่ายทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกับกระบวนการ น�ำเข้าและแลกเปล่ียนข้อมูล ให้ได้มาตรฐานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ พร้อมท้ังมี มาตรการตรวจสอบการท�ำงานอย่างสม่�ำเสมอ ข้อเสนอแนะแนวทางการด�ำเนินโครงการ AI ระดบั หนว่ ยงานภาครฐั สามารถสรปุ ได้ดงั ตาราง ที่ 5 ดังนี้
140 เทคโนโลยีปญั ญาประดษิ ฐ์ ตารางท่ี 5 สรปุ ข้ันตอนการด�ำเนนิ โครงการ AI ลำดับ ขนั้ ตอน คำถาม แนวทาง ผลลัพธ Key Factors 1 ประเมนิ เหมาะสมใน AI เหมาะกับ 3 VS Framework กรอบการดำเนิน องคความรูใน การนำ AI มาใช หนว ยงานหรอ� ไม โครงการเบ้อื งตน เทคโนโลยี AI 2 กำหนดกรอบการ เร่�มกาวแรกอยางไร • จำกดั กรอบ กรอบการดำเนิน องคค วามรูใน ดำเนนิ โครงการ AI โครงการนำรอ ง โครงการ เทคโนโลยี AI • กำหนดตัวชีว้ ดั 3 ประเมนิ ความพรอม มขี อ มลู พรอ มหรอ� ไม • Data Selection ขอ มูลสำหรบั Train ความพรอ มดาน ดา นขอ มลู • Data Quality ระบบ AI ทม่ี คี ณุ ภาพ ขอ มูล Assessment (DGF) 4 สรา งความรวมมือ ควรดำเนนิ โครงการ Sharing, ความรว มมอื ในการ ศักยภาพของ ในการพฒั นา รว มกบั ภาคสว นอื่น Accountable และ พัฒนาระบบ AI ภาคสว นพันธมิตร ระบบ AI อยา งไร Multi-Joint ท่ีโปรงใสและ Partnerships ตอบโจทยโครงการ 5 สรา งจร�ยธรรม ประเดน็ ดานจรย� ธรรม Bias, แนวทางการรองรบั การกำกบั ดแู ล ในระบบ AI ของโครงการ AI Explainability, ประเด็นปญหาดาน ที่ตอ งคำนึงถึง Human Autonomy, จรย� ธรรมจากการ มอี ะไรบางและ Job Risk, ดำเนนิ โครงการ AI รบั มืออยา งไร Privacy & Security
สำ�นักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) 141 ขอ้ เสนอแนะเชงิ นโยบาย หัวข้อที่ 4.1 แสดงถึงขั้นตอนในการดำ� เนินโครงการ AI เครือ่ งมือทน่ี ำ� มาใช้ ผลลพั ธท์ ค่ี าดหวงั และ ปัจจยั สู่ความส�ำเร็จในแตล่ ะขั้น ซง่ึ ไดแ้ ก่ n การกำ� กบั ดแู ล n ความพร้อมดา้ นข้อมูล n องคค์ วามรู้ในเทคโนโลยี AI n ศกั ยภาพของภาคสว่ นพันธมิตร ดังน้ัน รัฐบาลไทยควรด�ำเนินนโยบายส่งเสริมเพ่ือสร้างปัจจัยสู่ความส�ำเร็จที่ช่วยให้หน่วยงาน ภาครัฐไทยมคี วามพรอ้ มในการนำ� เทคโนโลยี AI มาใช้ในแต่ละด้าน ดงั ตอ่ ไปน้ี ภาพที่ 28 ขอ้ เสนอแนะเชิงนโยบายสนับสนนุ ปจั จยั ที่สง่ เสรมิ ในการพฒั นาโครงการ AI ภาครฐั 1 2 Governance Data กำหนดกรอบการกำกับดแู ล สงเสร�มพ�น้ ฐานขอ มลู ภาครฐั n AI Printciples n ขอ มูลภาครฐั n กฎหมาย/มาตรฐาน n โครงสรางพ้นื ฐานขอมูล AI Capability Partnerships สรา งบคุ ลากร AI ภาครฐั สง เสร�มภาคสวนพันธมิตร n AI Talent n Deep Tech Startup n หลักสตู รฝกอบรม n R&D 3 4
142 เทคโนโลยีปญั ญาประดิษฐ์ 1. ก�ำหนดกรอบการก�ำกบั ดูแล (Governance) นอกเหนอื จากโอกาสแลว้ เทคโนโลยี AI ยงั นำ� มาซง่ึ ความเสยี่ งทอ่ี าจสง่ ผลตอ่ ชวี ติ ของผทู้ เ่ี กยี่ วขอ้ ง ทั้งทางตรงและทางอ้อม จึงจ�ำเป็นต้องมีการก�ำกับดูแลการน�ำเทคโนโลยี AI มาใช้ เพื่อให้เกิด การพัฒนา AI ที่ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ และจ�ำกัดผลกระทบทางลบท่ีไม่พึงประสงค์ โดยมแี นวทางดงั น้ี หลกั การน�ำ AI มาใช้ (AI Principles/ Codes of Ethics) ความก้าวหนา้ ของเทคโนโลยี AI รวมถงึ การคาดการณผ์ ลกระทบที่อาจจะเกิดขน้ึ สร้างการตนื่ ตัว เป็นวงกว้างทว่ั โลก เพอื่ ใหเ้ ทคโนโลยี AI ถกู นำ� ไปใช้เพื่อประโยชนส์ งู สุดแก่มนุษย์ มคี วามโปร่งใส และค�ำนงึ ถึงจรยิ ธรรม หน่วยงานภาคเอกชน ตลอดจนรฐั บาลหลายแห่งได้ประกาศ “หลกั การนำ� AI มาใช้” (AI Principles) อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่มีการบัญญัติหลักการน�ำเทคโนโลยี AI มาใช้ส�ำหรับประเทศไทย อย่างเป็นทางการ ดังนน้ั ภาครัฐไทยควรด�ำเนนิ การจดั ท�ำ “หลักการนำ� AI มาใชข้ องประเทศไทย” (Thailand’s AI Principles) โดยผา่ นกระบวนการให้ทุกภาคส่วน ซึง่ ไดแ้ ก่ ภาคประชาชน ภาครฐั ภาคเอกชน และภาควชิ ากร มสี ว่ นรว่ มในการออกแบบแนวทางดงั กลา่ ว เพอ่ื เปน็ คมู่ อื (Guideline) ทเี่ ปน็ จดุ เรม่ิ ตน้ สำ� หรบั ทงั้ ภาครฐั และภาคเอกชนในการพฒั นา AI ของประเทศ ใหก้ ารพฒั นา AI ท่ี มจี รยิ ธรรม (Ethical AI) ของประเทศไทย ซง่ึ ควรครอบคลมุ ประเดน็ อย่างนอ้ ยดังตอ่ ไปนี้ n เปน็ ประโยชนอ์ ยา่ งทว่ั ถงึ (Beneficial to All) การพฒั นาและวจิ ยั ระบบ AI ตอ้ งมวี ตั ถปุ ระสงค์ เพ่ือสร้างคุณประโยชน์ให้แก่คนทุกกลุ่มอย่างไม่ปิดกั้น ไม่แบ่งแยก และไม่ก่อให้เกิด ความสูญเสยี ท้งั ชีวติ และทรพั ย์สินของใครคนในคนหน่งึ n เคารพมนุษย์ (Respectful to Human) ระบบ AI ตอ้ งไม่ลดทอนสทิ ธ์กิ ารตัดสนิ ใจของมนษุ ย์ (Human Right to Choose) ไม่ขดั ต่อการให้คุณคา่ (Value) และเคารพความหลากหลายทาง วฒั นธรรม (Cultural Diversity) n ปลอดภัย (Safe and Secure) ระบบ AI ต้องค�ำนงึ ถึงความเป็นสว่ นตวั ของผทู้ เ่ี กย่ี วขอ้ งเปน็ สำ� คญั กระบวนการและเครอ่ื งมอื ตอ้ งไดร้ บั การออกแบบใหเ้ กดิ ความปลอดภยั ดา้ นขอ้ มลู และ มีมาตรการรองรบั อยา่ งรอบคอบ รดั กุม n โปรง่ ใส ตรวจสอบได้ (Transparent and Accountable) ระบบ AI ตอ้ งมีกระบวนการการ ท�ำงานทีโ่ ปรง่ ใส รวมถึงตอ้ งสามารถอธิบายกระบวนการตดั สนิ ใจอันน�ำมาซึง่ ผลลัพธท์ ่ีสง่ ผล กระทบต่อมนุษย์ได้ (Explainability) ซ่ึงจ�ำเป็นต่อการสร้างความเข้าใจกับสาธารณะ และ กระบวนการยุตธิ รรมหากเกิดเหตฟุ ้องรอ้ งขึ้น
ส�ำ นักงานพฒั นารฐั บาลดจิ ิทัล (องค์การมหาชน) 143 n สง่ เสรมิ ความรว่ มมอื (Cooperative) การพฒั นาระบบ AI ควรค�ำนงึ ถงึ ความรว่ มมอื ระหวา่ ง ทกุ ภาคสว่ น ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควชิ าการ และภาคประชาชน เพ่ือให้เกดิ การแลกเปลี่ยน ขอ้ มูล เทคโนโลยี และทรัพยากรบุคคลระหวา่ งกนั กฎหมาย กฎระเบียบ มาตรฐาน (Laws, Regulations, and Standards) แมว้ า่ การเพมิ่ แกไ้ ขกฎหมาย และยกเลกิ จะเตม็ ไปดว้ ยกระบวนการทซ่ี บั ซอ้ น ใชเ้ วลานาน แตเ่ พอ่ื ใหเ้ กิดแนวทางปฏิบัติทส่ี ่งเสรมิ ให้เกิดการน�ำเทคโนโลยี AI มาใช้ พร้อมมมี าตรการควบคุมลดผล กระทบอย่างชดั เจนในระยะยาว กลไกทางกฎหมายเป็นสงิ่ จ�ำเปน็ ต่อการเจรญิ เตบิ โตของ AI ทัง้ ใน ภาคเอกชน และภาครฐั ส�ำหรับประเทศไทย ภาครัฐควรทบทวนกฎหมาย/ กฎระเบียบในปัจจุบัน เพ่ือหาแนวทางรองรับ การพัฒนา AI ในประเด็นทเ่ี กี่ยวข้อง พร้อมแก้ไขใหส้ อดรบั กับบริบทท่เี ปลยี่ นไป เชน่ n กฎหมายความรับผิด (Liability) นอกเหนือจากการจัดท�ำกฎหมายที่ก�ำหนดให้การพัฒนา ระบบ AI มีความโปรง่ ใส่ ตรวจสอบได้ และสามารถอธิบายได้ นัน้ ต้องมกี ารพจิ ารณาแก้ไข กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภคให้มีความชัดเจนหากเกิดกรณีที่มีความเสียหาย จากการตดั สนิ ใจของ AI โดยมวี ตั ถปุ ระสงคใ์ นการสรา้ งความเปน็ ธรรมใหแ้ กท่ กุ สว่ นทเี่ กย่ี วขอ้ ง และได้รับผลกระทบ เชน่ ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ มาตรา 437 ระบใุ ห้ “บคุ คลใด ครอบครองหรอื ควบคมุ ดแู ลพาหนะอยา่ งใดๆ … บคุ คลนน้ั จะตอ้ งรบั ผดิ ชอบเพอื่ การ เสียหายอันเกิดแต่ยานพาหนะนั้น” ซ่ึงในกรณีรถยนต์ไร้คนขับ ผู้ควบคุมรถยนต์จะต้อง แบกรบั ภาระในการพสิ จู นค์ วามบรสิ ทุ ธิ์ทงั้ ทเ่ี หตอุ าจเกดิ จากความผดิ พลาดของเครอื่ งจกั รซงึ่ ทำ� ให้ ผคู้ วบคมุ ถอื เป็นหนึ่งในผู้เสียหายได้เช่นกัน n การก�ำกับดูแลข้อมูล (Data Governance) สพร. ได้จัดท�ำและเผยแพร่ “กรอบการก�ำกับ ดแู ลขอ้ มลู ” (Data Governance Framework: DGF) เพอื่ ใหห้ นว่ ยงานภาครฐั สามารถใชเ้ ปน็ แนวทางในการก�ำกับดูแลข้อมูล รวมถึงติดตามการบริหารจัดการข้อมูลให้มีความโปร่งใส มั่นคงปลอดภัย และบรู ณาการได้อยา่ งครบถว้ น ถกู ตอ้ ง และเป็นปัจจบุ ัน ดังน้ัน ควรผลกั ดนั การบงั คบั ใช้ DGF ใหเ้ ปน็ มาตรฐานกลางทภี่ าครฐั ตอ้ งปฏบิ ตั ติ าม เพอื่ สรา้ งแนวทางการบรหิ าร จดั การข้อมลู รว่ มกันของภาครฐั
144 เทคโนโลยปี ัญญาประดษิ ฐ์ 2. ส่งเสริมพน้ื ฐานขอ้ มลู ภาครฐั ส่วนนี้กล่าวถึง ข้อเสนอแนะนโยบายส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐมีความพร้อมด้านข้อมูล ต้ังแต่ กลไกขบั เคลอื่ นใหเ้ กดิ แหลง่ ขอ้ มลู ภาครฐั ทม่ี คี ณุ ภาพ เขา้ ถงึ ไดง้ า่ ย ตลอดจนขอ้ เสนอแนะในการจดั ทำ� โครงสรา้ งพนื้ ฐานสารสนเทศทเี่ พมิ่ ศกั ยภาพตอ่ การน�ำขอ้ มลู ภาครฐั มาใชใ้ นการพฒั นาระบบ AI ขอ้ มลู ภาครฐั (Government Data) ควรมกี ารผลกั ดนั ใหห้ นว่ ยงานภาครฐั จดั เกบ็ ขอ้ มลู ในรปู แบบดจิ ทิ ลั ทมี่ คี ณุ ภาพตามคมู่ อื “การกำ� กบั ดูแลขอ้ มูล” (Data Governance Framework) ทไ่ี ด้กลา่ วไว้ในหัวข้อ 4.1.3 และมีมาตรฐาน ดงั น้นั หน่วยงานท่ีรับผิดชอบควรเร่งก�ำหนดมาตรฐานด้านข้อมูลที่จ�ำเป็นในการสนับสนุนการเช่ือมโยง ขอ้ มลู ระหวา่ งหนว่ ยงานภาครฐั และก�ำหนดแนวทางรอ้ งขอขอ้ มลู ระหวา่ งหนว่ ยงานใหส้ อดคลอ้ งกบั พ.ร.บ. คมุ้ ครองขอ้ มลู สว่ นบคุ คล พ.ศ. 2562 เพอ่ื ใหก้ ารแลกเปลยี่ นขอ้ มลู ทเ่ี ขา้ ขา่ ยขอ้ มลู สว่ นบคุ คล ระหวา่ งหน่วยงานภาครัฐเป็นไปอย่างปลอดภัยและไมล่ ะเมิดสิทธิส่วนบคุ คลของเจา้ ของข้อมลู อกี แนวทางหนง่ึ ในการเสรมิ สรา้ งความพรอ้ มของภาครฐั ดา้ นขอ้ มลู ทพี่ รอ้ มถกู นำ� ไปใชพ้ ฒั นาระบบ AI คอื “การสง่ เสริมการเปิดเผยขอ้ มูลภาครฐั (Open Government Data)” ส�ำหรับประเทศไทยนน้ั แนวคิดการเปดิ เผยข้อมูลภาครัฐปรากฎอยใู่ นกฎหมายหลกั 3 ฉบบั ได้แก่ รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 และ พ.ร.บ. การบริหารงานและการให้บริการ ภาครฐั ผา่ นระบบดจิ ทิ ลั พ.ศ. 2562 อยา่ งไรกต็ าม กลไกเชงิ กฎหมายทส่ี นบั สนนุ แนวทางขอ้ มลู เปดิ ภาครัฐของประเทศไทยมุ่งเน้นเฉพาะการสร้างความโปร่งใสในการท�ำงานของหน่วยงาน แต่ไม่ ผลักดันให้เกิดการน�ำขอ้ มลู ภาครฐั ไปตอ่ ยอดทางนวัตกรรม ดงั นั้น เพ่ือส่งเสริมขอ้ มลู เปิดภาครัฐที่ หลากหลายและมีประโยชน์ต่อทุกภาคส่วนในการน�ำไปใช้ ควรมีการปรับปรุงกฎหมายท่ีเก่ียวข้อง ให้ก�ำหนดบทบาทหน้าท่ีของหน่วยงานภาครัฐในการสร้างชุดข้อมูลมูลค่าสูงภาครัฐ (High Value Dataset) และเปิดเผยข้อมูลแก่สาธารณะ โดยมีหลักการพิจารณาในการเปิดเผยข้อมูล (สรอ., 2561) ดงั ตอ่ ไปน้ี
ส�ำ นักงานพฒั นารัฐบาลดจิ ทิ ลั (องค์การมหาชน) 145 ตารางท่ี 6 หลกั การพิจารณาในการเปิดเผยข้อมูล หลกั การ คำอธบิ าย เปด โดยปร�ยาย (Open by Default) ขอมลู นั้นควรจะเปด โดยปร�ยาย ซ่งึ หนว ยงานอาจจะเรม่� จากการกำหนดระดับของการเปด เผย และจัดทำขอ มลู ใหอยูในรูปแบบท่กี ำหนดตง้ั แตต น หากชดุ ขอ มลู นนั้ ยังไมส มบูรณ การปอ งกันในกรณที ีจ่ ำเปน (Protected when Required) ควรมกี ารกำหนดบรบ� ทของขอมูลและ Metadata ทเ่ี พ�ยงพอ รวมถงึ มกี ารแจง ขอ จำกดั ตางๆ ใหแกผ ูใชขอ มลู จดั ลำดบั ความสำคัญ (Prioritized) ขอมลู ใดบา งที่ไมค วรถูกเผยแพร หร�อไมค วรเผยแพรอยา งเตม็ รปู แบบ เชน ความเปนสวนตวั การรักษาความปลอดภัย ความลับ และสิทธพิ �เศษทางกฎหมาย เปนตน จดั ลำดบั ความสำคัญ (Prioritized) ชุดขอมูลท่มี คี ณุ คา สูง (High-value Dataset) ควรจะถูกจดั ใหอ ยใู นลำดับตนๆ ในการคัดเลอื ก งายตอ การคนพบ มาเผยแพร ซ่งึ สอดคลองกับความตองการของประชาชน รวมถงึ หนวยงานตางๆ (Discoverable) สามารถใชง านได ชดุ ขอ มลู ทมี่ ีคุณคา สูง (High-value Dataset) ควรจะถกู จดั ใหอ ยใู นลำดับตน ๆ ในการคดั เลือก (Usable) มาเผยแพร ซึ่งสอดคลองกบั ความตองการของประชาชน รวมถงึ หนว ยงานตางๆ ขอมูลปฐมภูมิ ขอมูลจะตองถูกคนพบหรอ� สามารถคนหาไดง า ย ซงึ่ จะชวยใหผูใชง านสามารถเขาถึงขอมลู ไดงาย (Primary) และเปด กวา งสำหรับทุกภาคสวน ทันเวลา (Timely) ขอมลู ควรจะอยใู นรูปแบบทงี่ ายตอการนำไปใช ไมว า จะเปนการแปลงขอ มูลและการนำมาใชใหม รวมถงึ อยูในรูปแบบที่เครอ่� งสามารถอานได (Machine-readable) ไมมีผูใดถอื ครองกรรมสิทธ์ิ การจัดการทดี่ ี เชื่อถอื ไดและ มีอำนาจจัดการ (Non-Proprietary) มคี วามสมบรู ณ และมี Metadata ที่มคี ณุ ภาพและชัดเจน ขอ มลู ควรจะถูกเผยแพรจ ากแหลงทเี่ กบ็ ขอมูลโดยตรง ดวยระดับความละเอยี ดสูง (Well Managed, Trusted and Authoritative) ไมมีการปรับแตง หร�อทำใหอยูใ นรูปแบบขอ มลู สรุป ใชงานฟร� ขอ มูลควรจะเปนปจจบ� นั และหากเปน ไปไดอาจจะเปน ลกั ษณะ Real-time Feed ซงึ่ อาจจะ พ�จารณาตามความเหมาะสม ชุดขอมูลควรจะมีการบนั ทึกเวลา หร�อขอ มลู อ่ืนๆ ทช่ี ว ยใหผูใชง าน (Free when Appropriate) รบั ฟง� จากสาธารณะ สามารถระบุไดวาขอ มูลน้นั เปน ปจ จ�บัน ขอ มลู จะตองไดร ับการจัดการท่ีดเี พอ่� ใหขอมูลมีความสมบูรณอยา งตอ เน่อื งและมปี ระสิทธิภาพ (Subject to Public Input) สำหรับผูใชง าน เชน ปองกันการเปลี่ยนแปลงแกไขขอมลู โดยไมไดรบั อนญุ าต เปน ตน ขอ มลู ควรจะจัดใหส ามารถใชง านโดยไมเสียคาใชจาย เพ�อ่ เปนการสง เสรม� การใชง านอยาง แพรห ลาย ทำใหเ กิดเปนนวัตกรรมและบรรลุเปา หมายทีห่ นวยงานต้งั ไว การเปดเผยขอ มลู ควรจะมีการรบั ฟง� ความคดิ เหน็ จากประชาชน และผมู ีสว นไดส ว นเสีย รวมถึงการทำงานรว มกันของภาครัฐจะชว ยเพม่� ศกั ยภาพในการนำชุดขอ มูลไปใชงาน
146 เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ จดั ท�ำโครงสร้างพนื้ ฐานสารสนเทศส�ำหรบั รองรบั AI (IT Infrastructure for AI) โครงสร้างพ้ืนฐานสารสนเทศเป็นองค์ประกอบส�ำคัญต่อการพัฒนาระบบ AI เนื่องจากช่วยให้ การบรหิ ารจดั การขอ้ มลู เปน็ ไปอยา่ งมคี ณุ ภาพ รวดเรว็ และมคี วามปลอดภยั ตลอดทงั้ กระบวนการ ภาครฐั ควรดำ� เนนิ นโยบายสง่ เสรมิ โครงสรา้ งพน้ื ฐานสารสนเทศทจ่ี ำ� เปน็ ตอ่ การเตบิ โตของระบบ AI ภาครัฐ ประกอบกับการใช้เทคโนโลยอี ุบัตใิ หม่ (Emerging Technology) ทสี่ ง่ เสริมประสิทธภิ าพ การใชข้ อ้ มูลของ AI ดังน้ี n การเชอื่ มโยงและรับส่งข้อมลู (Network and Data Transmission) เนื่องจากการฝึกฝน ระบบ AI จ�ำเป็นตอ้ งอาศยั ข้อมูลจ�ำนวนมหาศาล และในบางกรณจี ำ� เปน็ จะตอ้ งอาศัยการรบั ส่งขอ้ มลู แบบ Real-time อุปกรณอ์ นิ เทอร์เน็ตทกุ สรรพสิง่ (IoT) เช่น กล้องวงจรปดิ นาฬิกา อัจฉรยิ ะ มือถืออัจฉริยะ เป็นตน้ จึงเป็นเทคโนโลยีท่จี ำ� เปน็ ตอ่ การพัฒนาระบบ AI การผนวก รวมระหว่างระบบเซนเซอร์และระบบเชื่อมต่อกับเครือข่ายท�ำให้เกิดการรับส่งข้อมูลท่ีเช่ือถือ ไดอ้ ย่างต่อเน่อื งพร้อมลดความผดิ พลาดของมนุษย์ (Human Error) ภาครัฐจงึ ควรพจิ ารณา ตดิ ตง้ั อปุ กรณ์IoTทม่ี คี วามปลอดภยั หรอื การดงึ ขอ้ มลู จากอปุ กรณ์IoTจากแหลง่ อนื่ ทเี่ ชอื่ ถอื ได้ มาใช้ รวมถงึ เรง่ รดั ใหเ้ กดิ การใชเ้ ทคโนโลยี 5G ภายในประเทศซง่ึ จะชว่ ยใหก้ ารเชอื่ มโยงขอ้ มลู มีประสทิ ธิภาพย่งิ ขึ้น + EXAMPLE แคนซัสซิตี (Kansas City) ติดต้ังโปรแกรม TrafficVision ซึ่งเป็นระบบประมวลผลด้วยภาพ (Image- processing) ให้กับกล้องวงจรปิดจราจรกว่า 300 ตัวท่ัวทั้งเมือง ที่สามารถส่งข้อมูลภาพมายังศูนย์ บัญชาการแบบ Real-time เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจจับคนขับรถผิดช่องทาง อุบัติเหตุ และ| ส่ิงกีดขวางการจราจรบนถนน ท�ำให้เจ้าหน้าท่ีสามารถตอบสนองได้เร็วกว่าเดิมถึง 14 นาทีโดยเฉลี่ย (Lowe, n.d.) n การเกบ็ ขอ้ มลู (Data Storage) การเกบ็ ขอ้ มูลขนาดใหญเ่ ปน็ อีกหนงึ่ ความทา้ ทายของหน่วย งานภาครฐั ในการจดั หาอปุ กรณ์ โครงสรา้ งพนื้ ฐานสารสนเทศทจี่ ำ� เปน็ ซง่ึ หากแตล่ ะหนว่ ยงาน แยกด�ำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง จะท�ำให้เกิดภาระงบประมาณในภาพรวมอย่างมาก ดังน้ัน ภาครฐั จงึ ควรจดั ใหม้ กี ารบรหิ ารจดั การขอ้ มลู แบบรวมศนู ยท์ ส่ี ง่ ผลใหเ้ กดิ การประหยดั จากขนาด (Economies of Scale) และใหแ้ ตล่ ะหนว่ ยงานภาครฐั สามารถใชป้ ระโยชนจ์ ากขอ้ มลู ไดร้ ว่ มกนั
ส�ำ นกั งานพัฒนารัฐบาลดิจิทลั (องคก์ ารมหาชน) 147 ปจั จบุ นั กระทรวงดจิ ทิ ลั เพอ่ื เศรษฐกจิ และสงั คมไดใ้ หบ้ รกิ าร Private Cloud สำ� หรบั ภาครฐั หรอื G-Cloud ซ่ึงเป็นโครงสร้างพ้ืนฐานบนอินเทอร์เน็ตแบบใช้ทรัพยากรร่วมกันท่ีให้บริการแก่ หนว่ ยงานภาครฐั ด้วยเทคโนโลยีคลาวด์ โดยเก็บทรัพยากรไวบ้ นอนิ เทอรเ์ นต็ สามารถเรยี กใช้ งานผ่านเครือข่ายได้ตลอดเวลาจากระยะไกล ลดภาระการบริหารจัดการ และมีความม่ันคง ปลอดภัยสูง หน่วยงานภาครัฐสามารถแบ่งปันข้อมูลผ่านระบบคลาวด์ได้ ในบางคร้ัง ข้อมูล ทีห่ น่วยงานถอื ครองอยอู่ าจมไี มเ่ พยี งพอต่อการพฒั นาระบบ AI หรือจำ� เปน็ ตอ้ งใชข้ อ้ มลู รอบ ดา้ นเพอ่ื ใหร้ ะบบ AI เรยี นรไู้ ดอ้ ยา่ งรอบดา้ น การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เปดิ ภาครฐั บนระบบคลาวด์ เป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้หน่วยงานที่ต้องการริเริ่มโครงการ AI สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ หลากหลายขนึ้ มมี ติ คิ รอบคลมุ มากขนึ้ ซง่ึ จะทำ� ใหก้ ารพฒั นาอลั กอรทิ มึ ของระบบAIมปี ระสทิ ธภิ าพ มากข้ึน ท้ังน้ี การจัดท�ำข้อมูลภาครัฐจะต้องมีมาตรฐานกลาง (Data standard) เพ่ือให้เกิด การบูรณาการข้อมูลระหวา่ งกนั ไดอ้ ย่างสมบรู ณ์ n การประมวลผลขอ้ มลู (Data Processing) ในกรณที หี่ นว่ ยงานเจา้ ของโครงการมคี วามพรอ้ ม ประสบการณ์ และตอ้ งการพฒั นาอลั กอรทิ มึ AI ดว้ ยตนเอง นำ� มาซง่ึ ความตอ้ งการในเครอ่ื งมอื ประมวลผลศักยภาพสูงเพื่อให้สามารถใช้เทคโนโลยี Machine Learning ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม เราสามารถใช้เทคโนโลยีคลาวด์ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ เชน่ กนั ในปัจจบุ นั ภาคเอกชนไดม้ กี ารใหบ้ ริการส�ำหรับนักพฒั นาระบบ AI ผ่านแพลตฟอร์ม คลาวด์ โดยผู้ใช้บริการสามารถเช่าพื้นที่บนคลาวด์เพื่อสร้าง ฝึกฝน และปรับใช้อัลกอริทึม ของระบบ AI ตามความตอ้ งการได้ ดงั นนั้ ภาครฐั ไทยควรตง้ั เปา้ หมายในการยกระดบั G-Cloud ใหเ้ ปน็ AI Service Platform ทสี่ ามารถใหบ้ รกิ ารเชา่ พน้ื ทพี่ ฒั นาระบบ AI ได้ พรอ้ มทงั้ เปน็ แหลง่ รวบรวมโมเดล AI พื้นฐานส�ำหรับภาครฐั ซง่ึ พฒั นาโดยหนว่ ยงานดิจิทลั กลางอยา่ ง NECTEC และ สพร. เช่น Chatbot NLP Image Recognition เป็นตน้ ทีห่ นว่ ยงานภาครัฐสามารถดึงไป ฝึกฝนด้วยข้อมูลของตนเองได้ เมื่อเปรียบเทียบกับการขอความช่วยเหลือจากภาคเอกชน แนวทางนจ้ี ะชว่ ยใหภ้ าครฐั สามารถลดภาระงบประมาณในการจดั ซอื้ จดั จา้ ง และมคี วามยดื หยนุ่ ในการด�ำเนินงานกว่าในกรณีที่มีความจ�ำเป็นต้องใช้ผลอย่างเร่งด่วนหรือข้อมูลมี ความอ่อนไหวมาก
148 เทคโนโลยปี ัญญาประดิษฐ์ + EXAMPLE C-SPAN (Cable-Satellite Public Affairs Network) ซ่ึงเป็นหน่วยงานเครือข่ายเคเบิลทีวีที่เผยแพร่ กิจกรรมและโปรแกรมของรัฐบาลกลาง (Federal Government) ของประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้ระบบ Amazon Rekognition ซง่ึ เป็นระบบ Image Recognition เพอ่ื ระบุตวั ตนบคุ คลท่ีอยใู่ นบันทกึ วดิ ีโอได้ โดยอัตโนมัติ ซ่ึงช่วยในการจัดเรียงดัชนีคอนเทนต์ต่างๆ ได้รวดเร็วขึ้นกว่า 2 เท่า และมีความแม่นย�ำ เทียบเท่ามนุษย์ (Amazon, n.d.) ซึ่งระบบ Amazon Rekognition เป็นส่วนหนึ่งของ Amazon Sagemaker บน Amazon Web Services (AWS) ท่ี Amazon พัฒนาข้ึน 3. สร้างเสรมิ บคุ ลากร AI ภาครัฐ บคุ ลากรเปน็ อกี หนง่ึ ปจั จยั พนื้ ฐานสำ� คญั ในการพฒั นา AI ของภาครฐั เนอื่ งจาก ความรู้ ความเขา้ ใจ ถึงศักยภาพของเทคโนโลยี AI เป็นส่ิงจ�ำเป็นต่อการมองเห็นโอกาสจากการใช้เทคโนโลยีดังกล่าว ในการพัฒนาบรกิ ารและการบรหิ ารงานของหน่วยงานภาครฐั ตลอดจนการดำ� เนินโครงการใหเ้ กดิ ประโยชนส์ ูงสดุ และการออกนโยบายมาตรการรบั มอื ผลกระทบจากการใช้ AI ดงั นนั้ เพอ่ื เสรมิ สรา้ งศกั ยภาพบคุ ลากรภาครฐั ใหร้ องรบั ตอ่ การใช้ AI ภาครฐั ควรดำ� เนนิ การดงั ตอ่ ไปน้ี สง่ เสรมิ หลักสตู รฝกึ อบรม (Training) ภาครฐั ควรจดั ทำ� หลกั สตู รฝกึ อบรมระยะสนั้ และระยะกลางสำ� หรบั เจา้ หนา้ ทภ่ี าครฐั ตามความเหมาะสม ในทุกระดบั สถาบนั พัฒนาบุคลากรดจิ ิทัลภาครฐั (TDGA) ซง่ึ มหี นา้ ท่สี ง่ เสรมิ สนับสนุน ใหบ้ ริการ งานดา้ นวชิ าการดา้ นทักษะดจิ ิทัล มาตรฐานองค์ความรู้ การจดั อบรม และการสรา้ งความร่วมมอื กบั หนว่ ยงานทงั้ ภาครฐั และภาคเอกชนเพอ่ื รว่ มพฒั นาศกั ยภาพใหก้ บั ขา้ ราชการและบคุ ลากรภาค รฐั ใหม้ คี วามพรอ้ มในทกั ษะทางดา้ นดจิ ทิ ลั ในการขบั เคลอ่ื นหนว่ ยงานภาครฐั สกู่ ารเปน็ รฐั บาลดจิ ทิ ลั ควรแสวงหาความรว่ มมอื กบั NECTEC และสมาคมปัญญาประดษิ ฐ์แห่งประเทศไทย (AIAT) ซงึ่ มี องค์ความรู้ ประสบการณ์ และผู้เช่ียวชาญด้านเทคโนโลยี AI มาชว่ ยในการจดั ท�ำหลกั สตู รส�ำหรบั บคุ ลากรภาครฐั รว่ มกนั โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ใหผ้ บู้ รหิ ารในหนว่ ยงานภาครฐั มคี วามเขา้ ใจแนวทาง การน�ำเทคโนโลยี AI มาใช้ และการบริหารโครงการ AI อยา่ งเหมาะสม พรอ้ มกลยุทธเ์ ชิงนโยบาย ในการสง่ เสรมิ การพฒั นา AI ภายในองคก์ ร ในขณะทใ่ี หเ้ จา้ หนา้ ทใี่ นระดบั ปฏบิ ตั กิ ารมคี วามเขา้ ใจ และสามารถทำ� งานร่วมกบั ระบบ AI ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและปลอดภยั
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168