Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ ป.6 หน่วยที่ 1 เรื่อง จากผาแต้ม...สู่อียิปต์

แผนการจัดการเรียนรู้ ป.6 หน่วยที่ 1 เรื่อง จากผาแต้ม...สู่อียิปต์

Published by KAGIROON, 2021-02-01 04:03:39

Description: แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทยพื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (ท 16101) หน่วยที่ 1 เรื่อง จากผาแต้ม...สู่อียิปต์

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ๑ ปีการศึกษา หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๑ เรือ่ ง จากผาแต้ม...สู่อยี ิปต์ เวลา ๑ ชัว่ โมง เรื่อง การอ่านในใจบทเรยี น แผนผงั ความคิดประจาหน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑ การอา่ นในใจบทเรยี น การเขยี นแผนภาพโครงเร่ือง คาใหม่ คายากในบทเรียน จากผาแต้ม...สู่อียิปต์ ตวั เลขไทย การหาข้อคิดจากเรอ่ื งทอ่ี ่าน การอา่ นออกเสียงบทเรียน มาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี ๑ : การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคิดเพื่อนาไปใชต้ ัดสนิ ใจ แก้ปัญหาใน การดาเนินชีวิตและมีนสิ ัยรักการอ่าน เป้าหมายการเรียนรูป้ ระจาหน่วย เม่อื เรยี นจบหน่วยนี้ ผเู้ รียนจะมีความรู้ความสามารถตอ่ ไปนี้ ๑. อา่ นในใจบทเรยี นแลว้ สามารถตงั้ คาถามและตอบคาถามจากเรอ่ื งท่ีอ่านได้ ๒. อา่ นในใจบทเรยี นแล้วอภิปรายแสดงความคิดเห็นเร่ืองท่ีอ่านได้ ๓. อ่านในใจบทเรยี นแล้วลาดับเหตกุ ารณ์ของเรื่องได้ ๔. อา่ นในใจบทเรยี นแลว้ สรปุ ใจความสาคัญและข้อคิดของเรอื่ งได้ คุณภาพทพ่ี งึ ประสงค์ของผู้เรยี น ๑. มคี วามรอบคอบในการทางาน ๒. เป็นผ้นู าและผูต้ ามทด่ี ี ๓. มคี วามภาคภมู ใิ จในภาษาไทย ๔. มีความสนใจใฝเ่ รียนรู้ ๕. ประหยดั และอยู่อยา่ งพอเพยี ง ขอบข่ายสาระการเรียนร้แู กนกลางรายวชิ า ภาษาไทย ตวั ชี้วัด มาตรฐาน ท ๑.๑ (๓) อา่ นเรือ่ งสนั้ ๆ อย่างหลากหลาย โดยจบั เวลาแลว้ ถามเก่ยี วกับเรื่องท่ีอ่าน (๔) แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเรือ่ งท่อี ่าน สาระพ้ืนฐาน การอา่ นในใจ เร่อื ง จากผาแต้ม...สอู่ ยี ิปต์

ความรฟู้ ังแนน่ ติดตัวผเู้ รียน การอา่ นในใจเปน็ การอา่ นทเ่ี ข้าใจเร่ืองราวได้เพียงคนเดียว ผู้อา่ นตอ้ งใช้สมาธใิ นการอา่ น ศกึ ษาคายาก ตง้ั จดุ หมายในการอา่ น อ่านอย่างพินิจ พิจารณา จะทาให้จับใจความสาคญั ของเรื่องท่ี อา่ น สามารถตอบคาถาม ลาดับเหตุการณ์ของเรื่อง และนาไปเขียนเป็นแผนภาพโครงเรื่อง เพ่ือเลา่ เรื่องและเขียนเรื่องได้ พฤตกิ รรมความพอเพียง ๑. ความพอเพียงด้านตนเอง มีความสนใจ ใฝร่ ใู้ ฝ่เรียน ๒. มคี วามพอเพียงด้านสงั คม ดาเนินชวี ิตตามกฎเกณฑ์ของสงั คม อยรู่ ว่ มกบั ผอู้ ่ืนไดอ้ ยา่ งมี ความสขุ ๓. ความพอเพียงดา้ นทรพั ยากร ใช้ทรัพยากรท่ีอยอู่ ย่างคุม้ คา่ ตามปรชั ญาหลักเศรษฐกิจ พอเพียง ๔. ความพอเพียงดา้ นภูมปิ ัญญา สามารถนาความร้ทู ไ่ี ด้จากเรอื่ ง การอยรู่ ว่ มกนั และ ทางานร่วมกบั ผู้อื่นประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวัน กระบวนการเรยี นรู้ ๑. นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น ๒. นักเรยี นดูรูปภาพจากบทเรยี น แลว้ สนทนากับนักเรียนเรือ่ ง “จากผาแตม้ ...สู่อยี ปิ ต์” วา่ มเี นอ้ื เร่ืองกลา่ วถึงอะไรบ้าง ๓. นักเรียนอาสาสมคั ร ๒ คน ออกมาเล่าหรือบรรยายเกีย่ วกบั แหลง่ ท่องเที่ยวที่สาคัญใน ท้องถ่นิ ที่นกั เรยี นเคยไดย้ ินมาหรอื เคยพบเหน็ แล้วครูซกั ถามนักเรยี นวา่ แหลง่ ท่องเท่ียวท่ีสาคญั นน้ั มี ความสาคญั อยา่ งไรบา้ ง ๔. ทบทวนเร่ืองจดุ ม่งุ หมายในการอา่ นในใจ และชว่ ยกันเขียนจุดมุ่งหมายการอ่าน ในใจบนกระดานดา เชน่ อ่านในใจแล้วสามารถต้ังคาถาม ตอบคาถามได้,อภิปรายแสดงความ คิดเห็นเรอื่ งได้ , สามารถลาดับเหตุการณ์ของเร่ืองได้ และสรปุ ใจความสาคญั ของเร่อื งได้ ๕. นักเรยี นแบง่ กลุม่ โดยคละกนั ตามความเหมาะสม เกง่ ปานกลาง ออ่ น จากนั้น ร่วมกันอภิปรายเพอื่ แบ่งเนอ้ื หาของบทเรยี นออกเป็น ๔ ตอน โดยส่งตวั แทนจับฉลากเพอื่ เลือก เนื้อหาของบทเรยี นกลุ่มละ ๑ ตอน แล้ว ให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มอา่ นในใจตอนทรี่ ับผดิ ชอบ ร่วมกัน อภิปรายเพ่ือลาดับเหตกุ ารณ์สาคัญของเรือ่ ง สรุปใจความสาคัญของเรื่อง และผลัดกันตงั้ คาถาม ตอบคาถามจากเร่ืองท่ีอา่ น ๖. ตวั แทนแตล่ ะกล่มุ ออกมารายงานผลการอภปิ รายหนา้ ช้ันเรยี น ๗. นกั เรียนทาใบงานท่ี ๑ ๘. นกั เรียนและครูร่วมกันสรุปบทเรียน เร่อื ง แนวปฏบิ ตั ใิ นการอา่ นในใจที่ถกู ต้อง แล้วร่วมกนั สรุปลาดบั เหตกุ ารณส์ าคญั และสรุปใจความสาคญั ของเร่ือง จากน้ันนักเรยี นบนั ทกึ ลง สมุด ส่ือการเรียนการสอน ๑. ประเภทสอื่ - แบบทดสอบก่อนเรยี น - แบบเรยี นภาษาไทย ชุดภาษาเพอื่ ชวี ติ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ เลม่ ๑ ๒. วัสดุ / อปุ กรณ์ - ใบงานท่ี ๑

๓. แหล่งการเรียนรู้ - ครู ผปู้ กครอง - หอ้ งสมุด การวัดประเมินผล ๑. วิธกี ารวดั และประเมินผล ๑. สังเกตพฤติกรรมการเรยี นของนักเรียน ๒. ประเมินการอ่านในใจ ๓. ประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๒. เครอ่ื งมอื การวัดและประเมินผล ๑. แบบบนั ทกึ พฤติกรรมการเรียน ๒. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการอา่ นในใจ ๓. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๓. เกณฑก์ ารประเมนิ ๑ การประเมินพฤตกิ รรมการเรียน ๕ - ๔ หมายถึง ระดบั ดมี าก ๓ – ๒ หมายถึง ระดบั พอใช้ ๑ - ๐ หมายถงึ ระดับ ปรบั ปรงุ ๒. สังเกตพฤตกิ รรมการอ่านในใจ ๕ หมายถึง ระดับ ดมี าก ๔ หมายถึง ระดับ ดี ๓ หมายถึง ระดับ ปานกลาง ๒ หมายถงึ ระดับ พอใช้ ๑ – ๐ หมายถึง ระดบั ปรบั ปรุง ๓. การประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ๘ – ๑๐ คะแนน ระดับ ดีมาก ๕ - ๗ คะแนน ระดับ พอใช้ ๐ - ๔ คะแนน ระดับ ปรับปรุง

แบบทดสอบก่อนเรียน เรอ่ื ง จากผาแตม้ ...สอู่ ียปิ ต์ คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนทาเคร่ืองหมาย × ทับตัวอักษร ก ข ค ง ท่ถี กู ที่สุดเพียงขอ้ เดียว ๑. “วันนเ้ี ป็นวนั ดี เปน็ ศรวี นั มขี า่ วดีสาคัญจะมาบอก” อินรอ้ งเพลงน้จี ะได้ไปเทยี่ วท่ีไหน ก. จังหวดั อดุ รธานี ข. จงั หวัดอุบลราชธานี ค. ประเทศอยี ิปต์ ง. ประเทศอินเดีย ๒. นักเรยี นคดิ วา่ คุณพ่อคุณแม่ของอนิ กับเอือ้ ง จะพาเด็กท้ังสองไปทาอะไรก่อนถึงจะพาไปเท่ยี ว ก. ทอดผา้ ป่า ข. ทาบุญเก้าวดั ค. ทอดกฐิน ง. แสวงบุญ ๓. นักเรยี นคดิ ว่า เทศกาลกฐิน เรมิ่ ตน้ ขึ้นเมอ่ื ใด ก. เดือนสบิ สอง ข. หลังจากออกพรรษา ค. กอ่ นออกพรรษา ง. หลังจากเข้าพรรษา ๔. นักเรยี นคดิ ว่า ขอ้ ใดถูกต้องเกี่ยวกับภูมลิ าเนาบ้านเกิดของพ่อแม่ของอนิ กับเอ้ือง ก. พอ่ เป็นชาวเหนอื ข. แม่เปน็ ชาวอสี าน ค. พอ่ แมเ่ ป็นชาวอสี านทั้งคู่ ง. ข้อ ก และ ข ถูก ๕. นักเรียนคิดวา่ ขอ้ ใดกล่าวไม่ถูกต้องเก่ียวกับอาเภอโขงเจยี ม ก. มธี รรมชาตอิ ันสวยงามมาก ข. มแี หลง่ ทอ่ งเที่ยวสาคัญทางประวัติศาสตร์ ค. อยู่ท่ีจงั หวัดอุบลราชธานี ง. อย่ทู ีจ่ ังหวดั อุดรธานี ๖. นกั เรยี นคดิ วา่ ขอ้ ใดกล่าวไดถ้ ูกตอ้ งเกี่ยวกับผาแตม้ ก. หนา้ ผามภี าพสีเขียนไว้ ข. มอี ายรุ าว ๓,๐๐๐ ปี ค. เปน็ ภาพสีที่เกา่ แกท่ ่สี ุดในประเทศไทย ง. ถกู ทุกข้อ ๗. นกั เรยี นคดิ วา่ ขอ้ ใดกลา่ วไมถ่ ูกตอ้ งเก่ียวกบั ภาพวาดที่ผาแตม้ ก. ภาพเขยี นสแี ดงคลา้ เหมือนสนี า้ หมาก ข. มีภาพมากกว่า ๕๐๐ ภาพ ค. มภี าพสัตว์มากมาย ง. แสดงใหเ้ ห็นถงึ วฒั นธรรมและความเป็นอยู่ของผคู้ นสมยั นนั้

๘. นกั เรยี นคิดว่า ในระหว่างปิดภาคเรยี น ณภัทร ไดต้ ิดตามพ่อแม่ไปเทย่ี วท่ีไหน ก. ประเทศจีน ข. ประเทศอยี ิปต์ ค. ภาคอีสาน ง. ภาคเหนอื ๙. เมื่อเอย่ ถงึ ประเทศอยี ปิ ต์ ทุกคนจะต้องนึกถึงอะไร ก. พีระมิด ข. กฬี าโอลิมปิกส์ ค. หอคอย ง. นทิ านอสี ป ๑๐. นักเรยี นคิดวา่ อกั ษรในประเทศใดเก่าแกท่ ่ีสุดในโลก ก. อินเดีย ข. อกั ษรขอม ค. ลายสอื ไทย ง. อักษรอียิปต์ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน ๑ข ๒ค ๓ข ๔ง ๕ง ๖ง ๗ข ๘ข ๙ก ๑๐ ง

ใบงานที่ ๑ เรื่อง จากผาแต้ม...สู่อียิปต์ คาชี้แจง นักเรียนตอบคาถามตอ่ ไปนใี้ หถ้ ูกต้อง ๑. คาพูดที่ว่า “วนั น้วี ันดีเป็นศรีวัน” ตามความเข้าใจของนักเรยี นหมายถงึ อะไร _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ ๒. พ่อกบั แม่จะพาลกู ๆ ไปทาอะไร ท่ไี หน อย่างไร _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ ๓. เพราะเหตใุ ดแหล่งสาคญั ทางประวตั ศิ าสตร์นีจ้ ึงเรยี กว่า “ผาแต้ม” _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ ๔. ทาไมคนสมัยโบราณจึงวาดภาพลงบนแผ่นหนิ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ ๕. “จากผาแตม้ ...สู่อยี ิปต์” มคี วามเกย่ี วโยงกนั อยา่ งไร ตอบตามความเขา้ ใจของนกั เรยี น _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________

ใบงานท่ี ๒ พีรามิด เรอ่ื ง จากผาแต้ม...สู่อยี ปิ ต์ คาชแี้ จง นาคาท่ีกาหนดให้มาแต่งเร่ือง พร้อมกับตัง้ ชื่อเร่อื ง ปาปิรุส มหศั จรรย์ สคารับ อียปิ ต์ เรอื่ ง ............................................................ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________

สนใจร่วมกิจกรรม แบบประเมินพฤติกรรมการเรยี น ีมความสนใจในเ ่ืรอง ่ีทเ ีรยน ก ้ลาแสดงออกคาชแ้ี จง : พจิ ารณาใส่คะแนน (๕, ๔, ๓, ๒, ๑) ลงในช่องว่างใหต้ รงกบั พฤติกรรมของนกั เรยี น ตอบคาถามและแสดงเหตุผลเกณฑก์ ารให้คะแนน ๕ - ๔ = ดมี าก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรับปรุง เกณฑก์ ารผ่าน ได้คะแนนไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ ๕๐ (ไม่น้อยกว่า ๕ คะแนน) คะแนนรวม เกณฑ์การประเมินรายการสงั เกต เลขที่ ชอื่ – สกลุ ๕ ๕ ๕ ๕ ๒๐ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๑ เดก็ ชายวงศธร ชุบขุนทด ๒ เด็กชายสิทธา บุญสม ๓ เดก็ หญงิ กาญจน์เกลา้ โพชื่น ๔ เดก็ หญงิ ปรยี าภรณ์ นิลอ่อน ๕ เดก็ หญิงปยิ ะพร พานแก้ว ๖ เด็กชายบริพฒั น์ กลิน่ บปุ ผา ๗ เดก็ ชายสุวรรณชยั แสนอินทร์ ๘ เด็กชายธนภทั ร ช่ืนขา ๙ เดก็ ชายปุณณวทิ ย์ บญุ กล่นิ ๑๐ เดก็ หญิงสธุ าสินี งอกผล ๑๑ เด็กหญงิ ณัฐวรรณ ธูปเทียน ๑๒ เดก็ หญิงพิมพธ์ ันวา ยงั อยู่ ๑๓ เดก็ หญิงศิราพร ทองประเสริฐ ๑๔ เด็กชายสริ ายุ บญุ แตง่ ๑๕ เดก็ ชายณัฐวฒุ ิ พวงมาลยั ๑6 เดก็ ชายกรี ติ สวุ รรณคุ้ม ลงช่อื ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจริ าพร กลุ ให้)

เกณฑก์ ารประเมินพฤติกรรมการเรียน ( Rubric Assessment) ระดบั คะแนน เกณฑ์การประเมนิ ๕ - ๔ = ดมี าก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรบั ปรุง ๑. สนใจรว่ ม กิจกรรม กระตือรอื รน้ สนใจร่วม กระตือรือร้นสนใจร่วม ร่วมกิจกรรมเมื่อ ๒. มีความสนใจใน เรื่องทเี่ รยี น กิจกรรม พร้อมท้ังชกั ชวน กจิ กรรม ไดร้ ับคาส่ังหรือถูก ๓. กลา้ แสดงออก ใหผ้ อู้ ืน่ ปฏบิ ัตติ ามได้ บงั คบั ๔. ตอบคาถามและ มคี วามกระตือรอื ร้นปฏิบตั ิ สนใจศกึ ษาคน้ คว้าหา ปฏิบตั ติ นในเรอื่ งที่ แสดงเหตผุ ล ในเร่ืองท่เี รียน สนใจศึกษา ขอ้ มูลด้วยตนเองและ เรยี น ศกึ ษาค้นควา้ ๕. มคี วามสามคั คี คน้ คว้าหาข้อมูลนาไป นาไปปฏบิ ตั ิ เม่อื ได้รับคาส่ัง ปฏิบัติพรอ้ มท้งั ชกั ชวนให้ ผอู้ ืน่ ปฏิบัตติ าม มคี วามกระตือรอื รน้ กลา้ มีความกระตือรอื รน้ ร่วมกิจกรรมเมื่อ แสดงออกในการร่วม กลา้ แสดงออกในการร่วม ได้รบั คาสัง่ หรือถูก กิจกรรม พร้อมท้ังชกั ชวน กจิ กรรม บงั คับ ให้ผู้อน่ื ปฏบิ ตั ิตามได้ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามได้ ผลได้ตอ่ เนื่องครบถว้ น ผลได้ต่อเนื่องครบถ้วน ตอ่ เน่ืองครบถว้ น สัมพนั ธก์ ับหัวข้อทก่ี าหนด สัมพนั ธก์ ับหวั ข้อท่ี สัมพนั ธ์กับหวั ข้อท่ี และตอบคาถามได้ถกู ต้อง กาหนด กาหนดแตย่ ังไม่ สามารถแสดงเหตผุ ล ประกอบได้ กระตือรือรน้ ศึกษา ค้นควา้ ศกึ ษา คน้ คว้าทางาน ศึกษา คน้ ควา้ ทางานด้วยความชื่นชอบ ตามทผ่ี ้อู นื่ บอกหรือทา ทางานเม่ือไดร้ ับ สนกุ สนาน และสามารถ ตามคาชกั ชวนของเพอื่ น คาสงั่ หรอื ถูกบงั คบั ชกั ชวนให้ผ้อู ่ืนปฏบิ ตั ิตาม

แบบสงั เกตพฤติกรรมการอา่ นในใจ เกณฑก์ ารให้คะแนน ๕ = ดมี าก ๔ = ดี ๓ = ปานกลาง ๒ = พอใช้ ๑ – ๐ ปรบั ปรุง เกณฑ์การผา่ น ได้คะแนนไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ ๕๐ (ไม่น้อยกว่า ๓ คะแนน) ข้อ รายการประเมนิ คะแนน สรปุ หมายเหตุ ท่ไี ด้ ผ่าน ไม่ผ่าน ๑ ไมอ่ อกเสยี งพึมพราไม่ทาปากขมุบขมบิ ในขณะอา่ น ๒ กวาดสายตาได้อย่างคล่องแคลว่ ไมใ่ ชม้ ือชี้ ๓ ต้ังคาถามจากเร่ืองท่ีอ่านได้ ๔ ตอบคาถามจากเร่ืองท่ีอ่าน ๕ สรปุ สาระสาคญั ของเร่ืองท่ีอ่าน รวมคะแนน ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชอ่ื ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจริ าพร กลุ ให้)

แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ เกณฑ์การประเมนิ ไดค้ ะแนนไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ ๕๐ (ไม่น้อยกวา่ ๕ คะแนน) ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ เลข ชอ่ื – สกลุ ีมความรอบคอบในการทางาน ประหยัดและอ ู่ยอ ่ยางพอเพียง ท่ี เป็นผู้นาและผู้ตาม ่ีทดี รวมคะแนนด้านคุณลักษณะ ฯ มีความภาค ูภมิใจในภาษาไทย เกณ ์ฑการประเ ิมน ีมความสนใจใฝ่เรียนรู้ ๒๒๒ ๒ ๒ ๑๐ ผ่าน ไ ่มผ่าน ๑ เดก็ ชายวงศธร ชบุ ขนุ ทด ๒ เด็กชายสทิ ธา บุญสม ๓ เดก็ หญงิ กาญจน์เกลา้ โพช่ืน ๔ เดก็ หญิงปรียาภรณ์ นลิ อ่อน ๕ เด็กหญงิ ปิยะพร พานแก้ว ๖ เด็กชายบริพัฒน์ กลิ่นบปุ ผา ๗ เดก็ ชายสุวรรณชัย แสนอินทร์ ๘ เด็กชายธนภัทร ช่ืนขา ๙ เดก็ ชายปุณณวิทย์ บญุ กลนิ่ ๑๐ เดก็ หญงิ สุธาสนิ ี งอกผล ๑๑ เด็กหญิงณัฐวรรณ ธปู เทียน ๑๒ เด็กหญิงพมิ พธ์ นั วา ยังอยู่ ๑๓ เดก็ หญิงศริ าพร ทองประเสริฐ ๑๔ เดก็ ชายสริ ายุ บญุ แต่ง ๑๕ เดก็ ชายณัฐวุฒิ พวงมาลยั 16 เดก็ ชายกรี ติ สวุ รรณคุม้ ลงช่ือ ................................................................................ ผปู้ ระเมนิ (นางสาวจริ าพร กุลให)้

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๒ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ๑ ปกี ารศกึ ษา หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๑ เรอื่ ง จากผาแต้ม...สู่อียิปต์ เวลา ๑ ชว่ั โมง เรอื่ ง การเขียนแผนภาพโครงเร่ือง แผนผงั ความคิดประจาหน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑ การอ่านในใจบทเรยี น การเขยี นแผนภาพโครงเรื่อง คาใหม่ คายากในบทเรียน จากผาแตม้ ...สู่อียิปต์ ตัวเลขไทย การหาขอ้ คิดจากเร่ืองที่อา่ น การอา่ นออกเสียงบทเรยี น มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ ๒ : การเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขยี นสอ่ื สาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวใน รูปแบบตา่ งๆ เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอย่างมี ประสิทธิภาพ เปา้ หมายการเรยี นรู้ประจาหนว่ ย เมือ่ เรยี นจบหนว่ ยนี้ ผ้เู รยี นจะมีความรู้ความสามารถต่อไปน้ี ๑. อา่ นในใจบทเรียนแล้วสามารถเขียนแผนภาพโครงเร่ืองทอ่ี า่ นได้ ๒. เล่าเร่อื งตามแผนภาพโครงเรื่องได้ ๓. เขยี นเรื่องจากแผนภาพโครงเรื่องได้ ๔. มีมารยาทในการเขยี น คณุ ภาพทพี่ งึ ประสงคข์ องผเู้ รียน ๑. มคี วามรอบคอบในการทางาน ๒. เปน็ ผู้นาและผูต้ ามทดี่ ี ๓. มคี วามภาคภูมิใจในภาษาไทย ๔. มีความสนใจใฝ่เรยี นรู้ ๕. ประหยดั และอยู่อย่างพอเพียง ขอบขา่ ยสาระการเรียนรูแ้ กนกลางรายวิชา ภาษาไทย ตวั ชว้ี ัด มาตรฐาน ท ๒.๑ (๓) เขยี นแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคดิ เพ่ือใช้พัฒนางานเขียน สาระพ้ืนฐาน การเขยี นแผนภาพโครงเร่ือง

ความรูฟ้ ังแนน่ ตดิ ตวั ผูเ้ รียน การเขียนแผนภาพโครงเร่อื ง จะชว่ ยให้นักเรียนเขา้ ใจเร่ืองและจาเรอ่ื งท่อี ่านได้ พฤตกิ รรมความพอเพียง ๑. ความพอเพยี งด้านตนเอง มคี วามสนใจ ใฝร่ ู้ใฝ่เรียน ๒. มีความพอเพียงด้านสงั คม ดาเนินชีวติ ตามกฎเกณฑ์ของสังคม อยูร่ ่วมกบั ผู้อ่ืนได้อยา่ งมี ความสขุ ๓. ความพอเพยี งดา้ นทรัพยากร ใช้ทรพั ยากรท่ีอยูอ่ ยา่ งคุ้มคา่ ตามปรชั ญาหลักเศรษฐกิจ พอเพยี ง ๔. ความพอเพยี งด้านภูมปิ ัญญา สามารถนาความรู้ท่ไี ดจ้ ากเรื่อง การอยู่รว่ มกัน และ ทางานร่วมกับผู้อื่นประยุกต์ใช้ในชวี ติ ประจาวนั กระบวนการเรียนรู้ ๑. นกั เรยี นเล่นเกม “เกมแขง่ ขันกนั ต่อเร่ือง” ๒. สนทนาทบทวนเรือ่ ง “จากผาแต้ม...สอู่ ียปิ ต์” โดยโดยใช้ภาพจาก บทเรียนประกอบ ๓. นกั เรียนชว่ ยกนั อภิปรายวเิ คราะหโ์ ครงเร่ือง ลาดับเหตุการณข์ องเร่ือง บอกประเด็น สาคัญ แลว้ ครูเขยี นบนกระดาษดา ๔. นักเรยี นแบง่ กล่มุ ๔ กลุ่ม โดยคละกันตามความสามารถ เก่ง ปานกลาง อ่อน จากนั้นครอู ธิบายวิธกี ารเขียนแผนภาพโครงเรอื่ งให้นกั เรยี นฟงั ๕.นกั เรียนซกั ถามแสดงความคดิ เห็น อภิปรายสรุปร่วมกัน เกี่ยวกับหลักในการเขยี น แผนภาพโครงเรื่อง ๖. นักเรยี นทกุ กลุม่ อ่านในใจ จากหนงั สอื เรยี นภาษาไทย ชุดภาษาพาที ชนั้ ประถมศึกษา ปีที่ ๖ หนว่ ยที่ ๙ แลว้ รว่ มกนั เขียนแผนภาพโครงเรื่อง ๗. ตวั แทนนักเรยี นแตล่ ะกลุ่ม นาเสนอผลงานการเล่าเรือ่ งตามแผนภาพโครงเร่ือง หน้าช้ันเรยี น ๘. นกั เรยี นแต่ละกลุม่ ได้นาไปเปรียบเทยี บ ปรับปรุงแก้ไขใหถ้ กู ต้อง และนาผลงานกลุ่ม ไปตดิ แสดงไวท้ ป่ี ้ายนเิ ทศ เพ่ือใหน้ ักเรยี นทกุ คนได้ศึกษา ๙. นักเรียนทาใบงาน ๑๐. นกั เรียนและครูรว่ มกันสรุปบทเรียน เร่อื ง การเขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง และแนวทาง ปฏบิ ัติทถ่ี กู ต้องในการเลา่ เร่ือง ส่ือการเรยี นการสอน ๑. ประเภทสอ่ื - แบบเรยี นภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชีวิต ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๕ เลม่ ๑ ๒. วัสดุ / อุปกรณ์ - ใบงานท่ี ๑ ๓. แหลง่ การเรียนรู้ - ครู ผปู้ กครอง - หอ้ งสมุด

การวดั ประเมนิ ผล ๑. วิธีการวัดและประเมนิ ผล ๑. สังเกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรยี น ๒. ประเมนิ การเขียน ๓. ประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ๒. เครื่องมือการวัดและประเมนิ ผล ๑. แบบบนั ทึกพฤตกิ รรมการเรยี น ๒. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขยี น ๓. แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๓. เกณฑก์ ารประเมิน ๑ การประเมินพฤตกิ รรมการเรียน ๕ - ๔ หมายถงึ ระดับ ดีมาก ๓ – ๒ หมายถงึ ระดบั พอใช้ ๑ - ๐ หมายถงึ ระดับ ปรบั ปรุง ๒. สังเกตพฤติกรรมการเขยี น ๕ หมายถงึ ระดับ ดีมาก ๔ หมายถึง ระดบั ดี ๓ หมายถึง ระดบั ปานกลาง ๒ หมายถึง ระดับ พอใช้ ๑ – ๐ หมายถงึ ระดบั ปรับปรงุ ๓. การประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ๘ – ๑๐ หมายถึง ระดบั ดมี าก ๕ - ๗ หมายถงึ ระดบั พอใช้ ๐ - ๔ หมายถงึ ระดับ ปรับปรุง

เกม “แข่งขันกนั ต่อเรอ่ื ง อุปกรณ์ - ข้อความทคี่ รเู ตรียมมาเป็นเหตกุ ารณใ์ นเร่ือง เดยี วกัน มีเนอ้ื เร่ืองต่อเน่ืองกนั แต่ได้จัด คละกันไว้ จัดทาไว้เปน็ ๒ ชุด – นกหวดี – นาฬกิ าจับเวลา วธิ ีการเลน่ เกม มดี งั น้ี ๑. แบ่งนกั เรยี นออกเป็น ๒ กลมุ่ กลุ่มละ ประมาณ ๑๐ – ๑๕ คน ๒. ครูอธิบายกติกาการเลน่ โดย - ให้แตล่ ะกลุ่มมารบั ข้อความซึง่ เปน็ ข้อความชนิดเดียวกนั กลุม่ ละ ๑ ชดุ - ครจู ะให้เวลาเลน่ เกมประมาณ ๑๐ นาที โดยจะใหส้ ัญญาณเร่ิมเลน่ ดว้ ยการ เป่านกหวดี และใหส้ ญั ญาณหยดุ เลน่ ดว้ ยการเปา่ นกหวีดเชน่ กัน - เมือ่ ไดย้ ินสญั ญาณให้นักเรียนเริม่ เลน่ เกมทันที โดยการจัดลาดับขอ้ ความที่ได้รบั ให้เน้อื ความต่อเนือ่ งกนั จากขอ้ ความท่นี ักเรยี นคดิ ว่านา่ จะอยู่อนั ดับ แรก หรือ เริ่มตน้ ไปจนถงึ ข้อความที่คิดว่านา่ จะอยู่สดุ ท้าย - ให้นักเรยี นช่วยกนั เขียนเรอ่ื งราวเพ่ิมเตมิ จากข้อความแรกจนถงึ ข้อความสดุ ท้าย ใหเ้ ปน็ เรือ่ งราวทส่ี ัมพนั ธต์ ่อเน่อื งกนั - เม่อื ไดย้ นิ สญั ญาณหมดเวลา ให้ตัวแทนของกลุ่มมาจับสลากกนั ออกมารายงาน โดยเลา่ เรือ่ งใหเ้ พ่ือน ๆ ฟงั - ให้แตล่ ะกลุม่ ตดิ ขอ้ ความท่ีได้รบั และส่วนทไ่ี ดต้ ่อเติมแตง่ ตอ่ เร่อื งราวเสรจ็ ไว้ บนกระดานดาให้เพื่อนดู จากนน้ั ครูนาข้อความมาเฉลยใหน้ ักเรยี นดู แล้วพจิ ารณาว่า กลุ่มใดลาดบั เรื่องไดถ้ ูก และต่อ เติมไดด้ ีสมบรู ณ์เหมาะสม เป็นฝา่ ยชนะ ข้อเสนอแนะ ๑. เกมนี้อาจนามาดัดแปลง ใช้เปน็ แบบฝกึ หดั ในการเขยี นเรียบเรยี งขอ้ ความหรือ ประโยชนห์ รือฝกึ การเขยี นเรียบเรียงความได้ ๒. เมอื่ เกมจบลงหรอื หมดเวลา ครูก็พดู โยงเข้าส่บู ทเรียนต่อไป

ใบงานที่ ๑ เร่ือง การเขียนแผนภาพโครงเร่อื ง คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนเขยี นแผนภาพโครงเรอ่ื ง “เรื่อง จากผาแตม้ ...สู่อยี ปิ ต์ ตวั ละครสาคัญ……………………………………………………………………………………… ตวั ละครประกอบ……………………………………………………………………………………. เรื่องเกดิ ข้นึ ที่ไหน…………………………………………………………………………………… ปัญหาทเ่ี กดิ ข้ึนในเร่ือง……………………………………………………………………………… เหตกุ ารณท์ …่ี …………………………………………………………………………………..…… สถานท…ี่ …………………………………………………………………………………………... ตวั ละคร………………………………………………………………………………………….…. การกระทา............................................................................................................................. .............. .................................................................................................................................................. .......... ............................................................................................... ............................................................. ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................... ................................................................................................................................. ........................... ผลของการกระทา............................................................................................................................. .. ................................................................................................................... ......................................... ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................. ............................... .................................................................................................. .......................................................... เหตุการณ์ท…ี่ …………………………………………………………………………………..…… สถานท…่ี …………………………………………………………………………………………... ตวั ละคร………………………………………………………………………………………….…. การกระทา............................................................................................................ ............................... ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................... ...................................................................................................................................... ...................... ............................................................................................................ ................................................ ............................................................................................................................. ............................... ผลของการกระทา............................................................................................................................. .. ................................................................................................................... ......................................... ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................................................

............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................. ............................... .................................................................................................. .......................................................... ข้อคิดที่ได้……………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ...............................

สนใจร่วมกิจกรรม แบบประเมินพฤติกรรมการเรยี น ีมความสนใจในเ ่ืรอง ่ีทเ ีรยน ก ้ลาแสดงออกคาชี้แจง : พจิ ารณาใส่คะแนน (๕, ๔, ๓, ๒, ๑) ลงในชอ่ งว่างให้ตรงกับพฤติกรรมของนกั เรยี น ตอบคาถามและแสดงเหตุผลเกณฑ์การให้คะแนน ๕ - ๔ = ดมี าก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรับปรุง เกณฑก์ ารผา่ น ได้คะแนนไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ ๕๐ (ไม่น้อยกวา่ ๕ คะแนน) คะแนนรวม เกณฑ์การประเมินรายการสงั เกต เลขที่ ชอ่ื – สกุล ๕ ๕ ๕ ๕ ๒๐ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๑ เดก็ ชายวงศธร ชบุ ขนุ ทด ๒ เด็กชายสทิ ธา บุญสม ๓ เด็กหญงิ กาญจนเ์ กลา้ โพชื่น ๔ เดก็ หญิงปรยี าภรณ์ นลิ อ่อน ๕ เด็กหญงิ ปิยะพร พานแก้ว ๖ เด็กชายบริพฒั น์ กลิ่นบุปผา ๗ เดก็ ชายสุวรรณชัย แสนอินทร์ ๘ เด็กชายธนภัทร ช่ืนขา ๙ เด็กชายปุณณวิทย์ บุญกลนิ่ ๑๐ เด็กหญิงสุธาสนิ ี งอกผล ๑๑ เดก็ หญิงณัฐวรรณ ธูปเทยี น ๑๒ เดก็ หญิงพมิ พธ์ ันวา ยงั อยู่ ๑๓ เด็กหญงิ ศิราพร ทองประเสริฐ ๑๔ เดก็ ชายสริ ายุ บุญแต่ง ๑๕ เดก็ ชายณัฐวฒุ ิ พวงมาลัย ๑6 เดก็ ชายกีรติ สุวรรณคมุ้ ลงชือ่ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจิราพร กลุ ให)้

เกณฑ์การประเมนิ สาหรับประเมินผลงานของผเู้ รียน ( Rubric Assessment) ระดบั คะแนน เกณฑ์การประเมนิ ๕ - ๔ = ดีมาก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรับปรงุ ๑. สนใจร่วม กิจกรรม กระตือรอื รน้ สนใจร่วม กระตือรือรน้ สนใจร่วม รว่ มกจิ กรรมเม่ือ ๒. มคี วามสนใจใน เรื่องที่เรียน กิจกรรม พร้อมท้ังชักชวน กจิ กรรม ไดร้ บั คาสั่งหรือถูก ๓. กลา้ แสดงออก ให้ผ้อู ่นื ปฏิบัติตามได้ บังคับ ๔. ตอบคาถามและ มีความกระตือรือรน้ ปฏบิ ัติ สนใจศึกษาค้นควา้ หา ปฏิบัตติ นในเรือ่ งท่ี แสดงเหตผุ ล ในเรื่องที่เรียน สนใจศึกษา ข้อมูลดว้ ยตนเองและ เรียน ศกึ ษาค้นควา้ ๕. มคี วามสามคั คี ค้นควา้ หาข้อมลู นาไป นาไปปฏิบตั ิ เมอ่ื ได้รบั คาสงั่ ปฏิบัตพิ รอ้ มท้งั ชกั ชวนให้ ผู้อื่นปฏิบตั ิตาม มีความกระตือรือร้น กล้า มคี วามกระตือรอื รน้ รว่ มกจิ กรรมเมื่อ แสดงออกในการรว่ ม กล้าแสดงออกในการรว่ ม ไดร้ บั คาสงั่ หรือถูก กจิ กรรม พร้อมทั้งชักชวน กิจกรรม บังคบั ให้ผู้อน่ื ปฏิบัติตามได้ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามได้ ผลได้ต่อเนื่องครบถว้ น ผลได้ต่อเน่ืองครบถ้วน ต่อเนื่องครบถ้วน สัมพนั ธก์ ับหัวข้อที่กาหนด สัมพันธ์กบั หัวข้อที่ สมั พนั ธก์ ับหัวข้อที่ และตอบคาถามไดถ้ ูกตอ้ ง กาหนด กาหนดแต่ยงั ไม่ สามารถแสดงเหตผุ ล ประกอบได้ กระตือรอื ร้นศึกษา ค้นควา้ ศึกษา คน้ คว้าทางาน ศึกษา คน้ ควา้ ทางานดว้ ยความชื่นชอบ ตามที่ผอู้ ่ืนบอกหรือทา ทางานเม่ือไดร้ บั สนกุ สนาน และสามารถ ตามคาชกั ชวนของเพอื่ น คาสั่งหรือถูกบงั คับ ชกั ชวนใหผ้ ู้อื่นปฏิบัตติ าม

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขียน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๕ = ดมี าก ๔ = ดี ๓ = ปานกลาง ๒ = พอใช้ ๑ – ๐ ปรับปรุง เกณฑก์ ารผ่าน ได้คะแนนไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ ๕๐ (ไมน่ ้อยกวา่ ๓ คะแนน) ข้อ รายการประเมนิ คะแนน สรปุ หมายเหตุ ๑ มคี วามตั้งใจในการเขยี น ทีไ่ ด้ ผา่ น ไมผ่ ่าน ๒ เขียนได้ถกู ต้อง ๓ เขียนไดส้ วยงาม สะอาด ๔ เว้นวรรคตอนถูกต้อง ๕ สะกดคาถูกต้อง รวมคะแนน ขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเตมิ ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจริ าพร กลุ ให)้

แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ เกณฑ์การประเมนิ ไดค้ ะแนนไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ ๕๐ (ไม่น้อยกวา่ ๕ คะแนน) ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ เลข ชอ่ื – สกลุ ีมความรอบคอบในการทางาน ประหยัดและอ ู่ยอ ่ยางพอเพียง ท่ี เป็นผู้นาและผู้ตาม ่ีทดี รวมคะแนนด้านคุณลักษณะ ฯ มีความภาค ูภมิใจในภาษาไทย เกณ ์ฑการประเ ิมน ีมความสนใจใฝ่เรียนรู้ ๒๒๒ ๒ ๒ ๑๐ ผ่าน ไ ่มผ่าน ๑ เด็กชายวงศธร ชบุ ขนุ ทด ๒ เด็กชายสทิ ธา บุญสม ๓ เด็กหญิงกาญจน์เกลา้ โพช่ืน ๔ เดก็ หญิงปรียาภรณ์ นลิ อ่อน ๕ เด็กหญิงปิยะพร พานแกว้ ๖ เด็กชายบริพัฒน์ กลิ่นบปุ ผา ๗ เดก็ ชายสุวรรณชัย แสนอนิ ทร์ ๘ เดก็ ชายธนภัทร ช่ืนขา ๙ เด็กชายปุณณวิทย์ บญุ กลนิ่ ๑๐ เดก็ หญิงสธุ าสนิ ี งอกผล ๑๑ เด็กหญงิ ณัฐวรรณ ธปู เทียน ๑๒ เด็กหญิงพมิ พธ์ นั วา ยังอยู่ ๑๓ เดก็ หญิงศริ าพร ทองประเสริฐ ๑๔ เดก็ ชายสริ ายุ บญุ แต่ง ๑๕ เดก็ ชายณัฐวุฒิ พวงมาลยั 16 เด็กชายกรี ติ สวุ รรณคุม้ ลงช่ือ ................................................................................ ผปู้ ระเมนิ (นางสาวจริ าพร กุลให)้

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๓ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ๑ ปีการศกึ ษา หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ เรอ่ื ง จากผาแต้ม...สู่อียิปต์ เวลา ๑ ชว่ั โมง เรอื่ ง คาใหม่ คายากในบทเรียน แผนผงั ความคดิ ประจาหน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๑ การอา่ นในใจบทเรยี น การเขยี นแผนภาพโครงเรอ่ื ง คาใหม่ คายากในบทเรยี น จากผาแตม้ ...สู่อียิปต์ ตัวเลขไทย การอา่ นออกเสียงบทเรียน การหาข้อคดิ จากเร่อื งที่อา่ น มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ ๑ : การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความร้แู ละความคดิ เพือ่ นาไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ัญหา ในการดาเนนิ ชีวิตและมนี ิสยั รักการอา่ น สาระที่ ๒ : การเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรยี งความ ยอ่ ความ และเขียนเร่ืองราว ในรูปแบบต่างๆ เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้า อย่างมีประสิทธิภาพ เป้าหมายการเรียนร้ปู ระจาหนว่ ย เมอื่ เรยี นจบหน่วยน้ี ผู้เรียนจะมคี วามรู้ความสามารถตอ่ ไปน้ี ๑. สามารถอ่าน และเขยี นคา คายาก ข้อความ และสานวนภาษาไทยในบทเรยี นได้ถูกตอ้ ง ๒. สามารถนาคา คายาก ขอ้ ความ และสานวนภาษาในบทเรยี นไปใช้ได้ถกู ต้อง คณุ ภาพที่พงึ ประสงค์ของผู้เรยี น ๑. มคี วามรอบคอบในการทางาน ๒. เปน็ ผนู้ าและผู้ตามท่ีดี ๓. มคี วามภาคภมู ิใจในภาษาไทย ๔. มีความสนใจใฝ่เรยี นรู้ ๕. ประหยดั และอยู่อยา่ งพอเพยี ง ขอบข่ายสาระการเรียนรู้แกนกลางรายวิชา ภาษาไทย ตวั ชวี้ ัด มาตรฐาน ท ๑.๑ (๑) อา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถกู ต้อง (๒) อธบิ ายความหมายของคา ประโยคและข้อความท่เี ป็นโวหาร

มาตรฐาน ท ๒.๑ (๑) คดั ลายมือตวั บรรจงเตม็ บรรทัด และคร่งึ บรรทัด สาระพน้ื ฐาน ๑. อ่าน และเขยี นคา คายาก ข้อความ และสานวนในบทเรียน ๒. การนาคา คายาก ข้อความและสานวนภาษาในบทเรียนไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ความรู้ฟงั แน่นตดิ ตวั ผู้เรียน การเรียนรู้คา คายาก ข้อความและสานวนภาษาไทยในบทเรยี นและนาไปใชใ้ ห้ถูกต้อง ถือ เป็นการพฒั นาทักษะทางภาษาทผ่ี ู้เรียนควรได้รับการฝึกฝน เพอ่ื พัฒนาทกั ษะให้ถกู ต้อง จึงจะทาให้ การเรียนรภู้ าษาเปน็ ไปดว้ ยดีและเกิดการพฒั นาตามมา พฤตกิ รรมความพอเพียง ๑. ความพอเพยี งดา้ นตนเอง มีความสนใจ ใฝ่รูใ้ ฝ่เรยี น ๒. มคี วามพอเพยี งด้านสงั คม ดาเนนิ ชวี ิตตามกฎเกณฑข์ องสงั คม อยู่รว่ มกบั ผอู้ ่ืนได้อย่างมี ความสุข ๓. ความพอเพียงด้านทรัพยากร ใช้ทรพั ยากรท่ีอย่อู ยา่ งคุ้มคา่ ตามปรชั ญาหลกั เศรษฐกจิ พอเพียง ๔. ความพอเพยี งดา้ นภูมิปัญญา สามารถนาความร้ทู ไ่ี ดจ้ ากเร่อื ง การอยู่ร่วมกนั และ ทางานรว่ มกบั ผู้อ่ืนประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจาวนั กระบวนการเรียนรู้ ๑. นกั เรียนเล่มเกม “การเลือกใชค้ าแตง่ ประโยค” ๒. นกั เรียนแบ่งกลมุ่ ๔ กลุ่ม โดยคละกันตามความสามารถ เก่ง ปานกลาง อ่อน ๓. นาบตั รคาใหม่และคายากในบทเรยี น ติดท่ีกระดานหน้าชน้ั เรียนและใหน้ กั เรยี นทุกคน ฝึกอ่าน ร่วมกนั อภิปรายความหมายบันทึกลงสมุด ๔. แจกบัตรคาใหม่คายากในบทเรียนใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มไดศ้ ึกษาและฝึกอา่ น ๕. นักเรียนทุกกลุม่ หาคาใหม่ศพั ท์จากหน่วยท่ี ๙ แลว้ ช่วยกันแต่งประโยคใหม่ โดยไม่ใหซ้ ้ากัน กลมุ่ ละ ๕ คา แลว้ บันทึกลงสมดุ ๖. มอบหมายใหน้ กั เรยี นทากิจกรรมนอกเวลา โดยการรวบรวมคาใหมใ่ นบทเรยี นแล้ว หาความหมายจากพจนานุกรม แลว้ แต่งประโยคแลว้ นาผลงานส่งให้ครตู รวจ ๗. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มแขง่ ขันกันเขียน คายาก บนกระดานดา หนา้ ชัน้ เรียน กลุ่มใด เขยี นได้ถกู มากทสี่ ดุ เปน็ กลุม่ ชนะ ๘. นักเรยี นทาใบงานที่ ๑ ๙. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันตรวจผลงานของแตล่ ะกลมุ่ พร้อมทง้ั อภิปรายสรุป การเลือกใช้คาให้ถูกต้องตามความหมาย ปรบมือและกลา่ วใหค้ าชมเชยกลุม่ ที่แต่งประโยค ไดถ้ ูกต้อง สอื่ การเรยี นการสอน ๑. ประเภทส่อื - แบบเรียนภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชวี ิต - หนังสือเรียนภาษาไทย ชุดภาษาพาที ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๖ - แบบฝึกหัดภาษาไทย ชุดทักษะภาษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖

๒. วัสดุ / อุปกรณ์ - บตั รคา - ใบความรู้ - ใบงานที่ ๑ - เกม “การเลอื กใชค้ าแต่งประโยค” ๓. แหลง่ การเรยี นรู้ - ครู ผู้ปกครอง - หอ้ งสมุด การวัดประเมินผล ๑. วิธกี ารวัดและประเมินผล ๑. สังเกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรียน ๒. ประเมินการอ่าน ๓. ประเมินการเขียน ๔. ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๒. เครือ่ งมือการวัดและประเมินผล ๑. แบบบันทึกพฤตกิ รรมการเรยี น ๒. แบบสังเกตพฤติกรรมการอา่ น ๓. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขียน ๔. แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๓. เกณฑก์ ารประเมิน ๑ การประเมินพฤตกิ รรมการเรียน ๕ - ๔ หมายถึง ระดับ ดมี าก ๓ – ๒ หมายถงึ ระดบั พอใช้ ๑ - ๐ หมายถงึ ระดับ ปรับปรงุ ๒. สงั เกตพฤติกรรมการอา่ น ๕ หมายถึง ระดบั ดีมาก ๔ หมายถึง ระดับ ดี ๓ หมายถงึ ระดบั ปานกลาง ๒ หมายถึง ระดบั พอใช้ ๑ – ๐ หมายถึง ระดับ ปรับปรุง ๓. สังเกตพฤตกิ รรมการเขียน ๕ หมายถึง ระดับ ดมี าก ๔ หมายถึง ระดับ ดี ๓ หมายถึง ระดบั ปานกลาง ๒ หมายถึง ระดบั พอใช้ ๑ – ๐ หมายถงึ ระดับ ปรบั ปรงุ ๔. การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๘ – ๑๐ หมายถงึ ระดับ ดมี าก ๕ - ๗ หมายถงึ ระดับ พอใช้ ๐ - ๔ หมายถงึ ระดบั ปรบั ปรุง

เกม การเลือกใชค้ าแตง่ ประโยค จดุ ประสงค์ เลอื กใชค้ าแตง่ ประโยคได้ถูกต้องตามความหมาย อปุ กรณ์ กระดานดา ชอล์ค วธิ เี ลน่ 1. แบง่ นกั เรียนออกเป็นกลมุ่ แต่ละกล่มุ ไมค่ วรต่ากว่า ๔ คน 2. แบ่งพน้ื ที่กระดานดาออกเปน็ ส่วน ๆ มอบพ้นื ท่ีให้แตล่ ะกลุ่มรับผดิ ชอบ 3. ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มที่พรอ้ มท่จี ะเล่นอยหู่ ่างจากกระดานดาในระยะทีเ่ ทา่ กันและมอบชอล์ก ใหก้ ับทุกกลมุ่ 4. ครูใหส้ ญั ญาณเริ่มการเลน่ เกม ตวั แทนนักเรยี นแตล่ ะกล่มุ รีบออกมาหนา้ กระดานดา เขยี นคาลงบนกระดานดา ๑ คา แล้วรบี กลบั เข้ากลมุ่ ส่งชอลก์ ใหเ้ พื่อนคนต่อไปออกไปเขยี นคา จนถงึ คนสดุ ท้าย ใหเ้ รียงคาหรือเชื่อมคา ท่ีเพอ่ื นเขียนไว้ใหเ้ ปน็ ประโยค เช่น คนที่ ๑ คนที่ ๒ คนท่ี ๓ คนที่ ๔ คนท่ี ๕ ยาย ใบตอง ใช้ อาหาร ห่อ 5. กล่มุ ทเ่ี ขียนไดร้ วดเร็ว ส่อื ความถกู ต้อง เรียงประโยคได้สละสลวย เป็นผู้ชนะ การวดั ประเมนิ ผล พิจารณาจากความสามัคคี การเขียนคาถูกต้อง สอื่ ความได้ เรยี งประโยคถกู ตอ้ ง สละสลวย

บัตรคา กฐนิ กระดาษสา โกฎิ ปโกฎิ พรี ะมดิ แมลงกุดจ่ี แมลงสคารบั ศลิ าจารึก สีน้าหมาก สังขยา

ใบงานท่ี ๑ คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุ่ม นาคาศัพท์ ไปแต่งประโยคใหถ้ ูกต้อง ๑. กฐนิ แต่งประโยค...................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ๒. โกฎิ แต่งประโยค...................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ๓. กระดาษสา แต่งประโยค...................................................................................................................................... ......................................................................................................... ................................................. ๔. พรี ะมดิ แต่งประโยค...................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ๕. ศิลาจาลึก แต่งประโยค...................................................................................................................................... ......................................................................................................... ................................................. ๖. แมลงกุดจ่ี แตง่ ประโยค...................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. ๗. แมลงสคารบั แต่งประโยค...................................................................................................................................... ......................................................................................................... ................................................... ๘. สังขยา แต่งประโยค...................................................................................................................................... .................................................................................................. ........................................................... ๙. ทวิ ทัศน์ แตง่ ประโยค...................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................ ๑๐. สนี ้าหมึก แตง่ ประโยค...................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................

สนใจร่วมกิจกรรม แบบประเมินพฤติกรรมการเรยี น ีมความสนใจในเ ่ืรอง ่ีทเ ีรยน ก ้ลาแสดงออกคาชี้แจง : พจิ ารณาใส่คะแนน (๕, ๔, ๓, ๒, ๑) ลงในช่องวา่ งให้ตรงกบั พฤติกรรมของนักเรียน ตอบคาถามและแสดงเหตุผลเกณฑ์การให้คะแนน ๕ - ๔ = ดมี าก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารผา่ น ได้คะแนนไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ ๕๐ (ไม่น้อยกว่า ๕ คะแนน) คะแนนรวม เกณฑ์การประเมินรายการสังเกต เลขที่ ชอ่ื – สกุล ๕ ๕ ๕ ๕ ๒๐ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๑ เดก็ ชายวงศธร ชบุ ขนุ ทด ๒ เด็กชายสทิ ธา บุญสม ๓ เด็กหญงิ กาญจนเ์ กลา้ โพช่ืน ๔ เดก็ หญิงปรยี าภรณ์ นลิ อ่อน ๕ เด็กหญงิ ปิยะพร พานแก้ว ๖ เด็กชายบริพฒั น์ กลิ่นบุปผา ๗ เดก็ ชายสุวรรณชัย แสนอินทร์ ๘ เด็กชายธนภัทร ช่ืนขา ๙ เด็กชายปุณณวิทย์ บุญกลนิ่ ๑๐ เด็กหญิงสุธาสนิ ี งอกผล ๑๑ เดก็ หญิงณัฐวรรณ ธูปเทยี น ๑๒ เดก็ หญิงพมิ พธ์ ันวา ยงั อยู่ ๑๓ เด็กหญงิ ศิราพร ทองประเสริฐ ๑๔ เดก็ ชายสริ ายุ บุญแต่ง ๑๕ เดก็ ชายณัฐวฒุ ิ พวงมาลัย ๑6 เดก็ ชายกีรติ สุวรรณคมุ้ ลงชือ่ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจิราพร กลุ ให้)

เกณฑก์ ารประเมนิ สาหรบั ประเมินผลงานของผเู้ รียน ( Rubric Assessment) ระดบั คะแนน เกณฑ์การประเมนิ ๕ - ๔ = ดมี าก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรับปรงุ ๑. สนใจรว่ ม กิจกรรม กระตือรอื รน้ สนใจรว่ ม กระตือรือรน้ สนใจร่วม รว่ มกจิ กรรมเม่ือ ๒. มคี วามสนใจใน เรื่องที่เรียน กิจกรรม พร้อมท้ังชักชวน กจิ กรรม ไดร้ บั คาสั่งหรือถูก ๓. กล้าแสดงออก ให้ผ้อู นื่ ปฏิบัติตามได้ บังคับ ๔. ตอบคาถามและ มีความกระตือรือรน้ ปฏบิ ัติ สนใจศึกษาค้นควา้ หา ปฏิบัตติ นในเรือ่ งท่ี แสดงเหตุผล ในเรอ่ื งที่เรียน สนใจศึกษา ขอ้ มูลดว้ ยตนเองและ เรียน ศกึ ษาค้นควา้ ๕. มคี วามสามคั คี ค้นควา้ หาข้อมูลนาไป นาไปปฏิบตั ิ เมอ่ื ได้รบั คาสงั่ ปฏิบัตพิ รอ้ มท้งั ชกั ชวนให้ ผู้อื่นปฏิบตั ิตาม มีความกระตือรอื รน้ กลา้ มคี วามกระตือรอื รน้ รว่ มกจิ กรรมเมื่อ แสดงออกในการรว่ ม กล้าแสดงออกในการรว่ ม ไดร้ บั คาสงั่ หรือถูก กจิ กรรม พร้อมท้ังชกั ชวน กิจกรรม บงั คบั ให้ผู้อน่ื ปฏิบัติตามได้ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามได้ ผลได้ต่อเนื่องครบถว้ น ผลได้ต่อเน่ืองครบถ้วน ต่อเนื่องครบถ้วน สัมพันธก์ ับหัวข้อทีก่ าหนด สัมพันธก์ บั หัวข้อที่ สมั พนั ธก์ ับหัวข้อที่ และตอบคาถามไดถ้ ูกตอ้ ง กาหนด กาหนดแต่ยงั ไม่ สามารถแสดงเหตผุ ล ประกอบได้ กระตือรอื ร้นศึกษา ค้นคว้า ศึกษา คน้ คว้าทางาน ศกึ ษา คน้ ควา้ ทางานดว้ ยความชืน่ ชอบ ตามที่ผอู้ ่ืนบอกหรือทา ทางานเม่ือไดร้ บั สนกุ สนาน และสามารถ ตามคาชกั ชวนของเพอื่ น คาสั่งหรือถูกบงั คับ ชกั ชวนใหผ้ ู้อื่นปฏิบตั ติ าม

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการอา่ น เกณฑ์การให้คะแนน ๕ = ดมี าก ๔ = ดี ๓ = ปานกลาง ๒ = พอใช้ ๑ – ๐ ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารผา่ น ได้คะแนนไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ ๕๐ (ไม่น้อยกว่า ๓ คะแนน) ข้อ รายการประเมิน คะแนน สรุป หมายเหตุ ทไี่ ด้ ผา่ น ไม่ผา่ น ๑ อา่ นไดช้ ดั เจนถูกต้องตามอักขรวิธี ๒ คลอ่ งแคลว่ ไมต่ ะกุกตะกัก ๓ แบง่ วรรคตอนถกู ต้อง ๔ ใช้นา้ เสียงเหมาะสม มจี งั หวะ มีการเนน้ เสียงหนกั เบา ไม่อา่ นยานคาง ๕ ใช้นา้ เสียงในการอ่านเหมือนเสยี งพดู ของตวั ละคร รวมคะแนน ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เตมิ ……………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจิราพร กุลให้)

แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขียน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๕ = ดีมาก ๔ = ดี ๓ = ปานกลาง ๒ = พอใช้ ๑ – ๐ ปรับปรุง เกณฑก์ ารผา่ น ไดค้ ะแนนไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ ๕๐ (ไม่น้อยกวา่ ๓ คะแนน) ขอ้ รายการประเมิน คะแนน สรุป หมายเหตุ ๑ มคี วามตัง้ ใจในการเขียน ทไ่ี ด้ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๒ เขยี นได้ถกู ต้อง ๓ เขยี นไดส้ วยงาม สะอาด ๔ เว้นวรรคตอนถูกต้อง ๕ สะกดคาถูกตอ้ ง รวมคะแนน ขอ้ เสนอแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงช่อื ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจิราพร กุลให้)

แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ เกณฑ์การประเมิน ไดค้ ะแนนไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ ๕๐ (ไม่น้อยกวา่ ๕ คะแนน) ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ เลข ชอ่ื – สกลุ ีมความรอบคอบในการทางาน ประหยัดและอ ู่ยอ ่ยางพอเพียง ที่ เป็นผู้นาและผู้ตาม ่ีทดี รวมคะแนนด้านคุณลักษณะ ฯ มีความภาค ูภมิใจในภาษาไทย เกณ ์ฑการประเ ิมน ีมความสนใจใฝ่เรียนรู้ ๒๒๒ ๒ ๒ ๑๐ ผ่าน ไม่ผ่าน ๑ เดก็ ชายวงศธร ชุบขุนทด ๒ เด็กชายสทิ ธา บญุ สม ๓ เดก็ หญงิ กาญจน์เกล้า โพชื่น ๔ เดก็ หญงิ ปรยี าภรณ์ นิลอ่อน ๕ เด็กหญิงปยิ ะพร พานแกว้ ๖ เด็กชายบริพฒั น์ กลิน่ บปุ ผา ๗ เดก็ ชายสวุ รรณชัย แสนอินทร์ ๘ เด็กชายธนภัทร ชน่ื ขา ๙ เด็กชายปุณณวิทย์ บุญกลิ่น ๑๐ เด็กหญงิ สธุ าสนิ ี งอกผล ๑๑ เดก็ หญิงณัฐวรรณ ธปู เทียน ๑๒ เด็กหญิงพมิ พ์ธนั วา ยงั อยู่ ๑๓ เดก็ หญิงศิราพร ทองประเสริฐ ๑๔ เดก็ ชายสริ ายุ บุญแต่ง ๑๕ เดก็ ชายณฐั วฒุ ิ พวงมาลยั 16 เดก็ ชายกีรติ สวุ รรณคุม้ ลงช่ือ ................................................................................ ผปู้ ระเมนิ (นางสาวจิราพร กลุ ให้)

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๔ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ๑ ปีการศึกษา หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ ๑ เร่อื ง จากผาแตม้ ...สู่อียิปต์ เวลา ๑ ชว่ั โมง เรอื่ ง ตัวเลขไทย แผนผังความคิดประจาหน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑ การอา่ นในใจบทเรียน การเขียนแผนภาพโครงเรือ่ ง คาใหม่ คายากในบทเรยี น จากผาแต้ม...สู่อยี ิปต์ ตัวเลขไทย การหาขอ้ คดิ จากเรื่องทีอ่ ่าน การอ่านออกเสียงบทเรียน มาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี ๑ : การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรูส้ ึกและความคดิ เพื่อนาไปใช้ตัดสนิ ใจ แกป้ ัญหา ในการดาเนนิ ชีวิตและมนี ิสัยรักการอา่ น เป้าหมายการเรยี นรู้ประจาหน่วย เมื่อเรยี นจบหน่วยน้ี ผเู้ รยี นจะมคี วามรู้ความสามารถตอ่ ไปน้ี ๑. เขยี นสอื่ สารโดยใช้คาไดถ้ กู ตอ้ ง ชดั เจน และเหมาะสม ๒. คัดลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทดั และคร่ึงบรรทดั ๓. มีมารยาทในการเขยี น คณุ ภาพที่พงึ ประสงค์ของผู้เรยี น ๑. มีความรอบคอบในการทางาน ๒. เป็นผู้นาและผู้ตามท่ดี ี ๓. มีความภาคภมู ิใจในภาษาไทย ๔. มีความสนใจใฝ่เรียนรู้ ๕. ประหยัดและอยู่อยา่ งพอเพยี ง ขอบขา่ ยสาระการเรียนรู้แกนกลางรายวชิ า ภาษาไทย ตัวชว้ี ดั มาตรฐาน ท ๑.๑ (๑) อ่านออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรองได้ถกู ต้อง (๒) อธบิ ายความหมายของคา ประโยคและขอ้ ความทเี่ ป็นโวหาร สาระพน้ื ฐาน ๑. ความหมายของการใชเ้ ลขไทย ๒. การอา่ นและเขียนเลขไทย ๓. การใชเ้ ลขไทย

ความร้ฟู ังแน่นติดตัวผู้เรยี น การรู้หลกั เกณฑ์ทางภาษา เรื่องการใช้เลขไทยให้ถูกต้องตามความหมายและถูกต้องตาม หน้าที่ของประโยค ชว่ ยให้ใช้ภาษาในการสื่อสารได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ พฤติกรรมความพอเพียง ๑. ความพอเพยี งด้านตนเอง มคี วามสนใจ ใฝ่รใู้ ฝ่เรยี น ๒. มคี วามพอเพยี งด้านสังคม ดาเนินชีวิตตามกฎเกณฑข์ องสังคม อยู่รว่ มกับผู้อน่ื ไดอ้ ยา่ งมี ความสุข ๓. ความพอเพียงด้านทรพั ยากร ใชท้ รัพยากรที่อยูอ่ ย่างคุ้มค่า ตามปรัชญาหลักเศรษฐกจิ พอเพียง ๔. ความพอเพียงดา้ นภมู ปิ ญั ญา สามารถนาความรทู้ ไ่ี ด้จากเร่อื ง การอย่รู ่วมกัน และ ทางานร่วมกับผู้อ่นื ประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจาวนั กระบวนการเรียนรู้ ๑. สนทนาทบทวนบทเรยี น เรื่อง การใชเ้ ลขไทย โดยนกั เรียนบอกเลขไทย แล้วครูเขยี น ใหน้ กั เรยี นดบู นกระดานดา เพอื่ นาไปสกู่ ารเรียนรู้ให้ถกู ต้อง ๒. นกั เรยี นฝกึ อา่ นเลขไทย จากกระดานดาท่ีครเู ขยี น ๓. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม ๔ กลุ่ม โดยคละกันตามความสามรถ เกง่ ปานกลาง ออ่ น โดยนักเรียนศกึ ษาความรทู้ างภาษา เร่อื ง การใชเ้ ลขไทย จากใบความรู้ ใหเ้ ข้าใจ ๔. นักเรยี นทกุ กลุม่ ส่งตวั แทนออกมารายงานหน้าชน้ั เรียน เพื่อแลกเปลย่ี นเรยี นรรู้ ว่ มกัน ๕. ครแู ละเพ่อื นนักเรียนชว่ ยกันสรุป อภิปราย แสดงความคดิ เห็นจากสมาชิกของกลุ่มที่ ออกมานาเสนอรายงานหน้าช้ันเรียน และเติมเต็มในส่วนที่ไมส่ มบรู ณ์ ๖. ครแู จกตวั อยา่ งแถบข้อความ ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ร่วมกนั วพิ ากษว์ จิ ารณ์ ว่าการใช้ เลขไทยใดบ้างที่ใชไ้ ม่ถูกต้อง เพราะเหตุใด ให้ชว่ ยกนั ปรบั ปรุง แกไ้ ข ให้ถูกต้อง ๗. นกั เรียนแขง่ ขันกนั เขยี นเลขไทยและคาอ่านเปน็ ตวั หนงั สอื บนกระดานดา กล่มุ ใด เขยี นได้มากและเขยี นถกู ต้อง เปน็ ฝ่ายชนะ ๘. นักเรยี นและครชู ่วยกันสรปุ บทเรยี น เรอ่ื ง การใช้เลขไทย โดยครสู รุปเพม่ิ เติมให้ นักเรียนฟังวา่ แตล่ ะประเทศ แตล่ ะชาตภิ าษาจะมตี วั เลขใช้เป็นของตัวเองเปน็ สว่ นใหญ่ เลขไทยมี ใชม้ าตัง้ แต่กาเนิดตวั อักษรไทยสมัยพอ่ ขนุ รามคาแหงมหาราช ใช้แทนจานวน ใช้แทนวันแต่ละวันใน สปั ดาห์ แทนเดือนในแต่ละเดอื นในรอบปี ๙. นกั เรียนทาใบงาน ๑๐. นักเรียนและครชู ว่ ยกนั สรปุ บทเรยี น เร่อื ง ตวั เลขไทย โดยครสู รปุ เพิม่ เติม สื่อการเรียนการสอน ๑. ประเภทสือ่ - แบบเรียนภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชีวติ - แบบฝึกหดั ทกั ษะภาษา ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖ ๒. วสั ดุ / อปุ กรณ์ - ใบงาน - ใบความรู้ - แผนภมู ิเลขไทย

๓. แหลง่ การเรียนรู้ - ครู ผ้ปู กครอง - หอ้ งสมุด การวัดประเมนิ ผล ๑. วิธกี ารวัดและประเมินผล ๑. สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นของนักเรียน ๒. ประเมินการเขยี น ๓. ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๒. เครอื่ งมอื การวดั และประเมนิ ผล ๑. แบบบนั ทกึ พฤตกิ รรมการเรียน ๒. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขยี น ๓. แบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ๓. เกณฑ์การประเมนิ ๑ การประเมินพฤติกรรมการเรียน ๕ - ๔ หมายถึง ระดบั ดมี าก ๓ – ๒ หมายถงึ ระดบั พอใช้ ๑ - ๐ หมายถึง ระดบั ปรบั ปรุง ๒. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขียน ๕ หมายถงึ ระดบั ดีมาก ๔ หมายถึง ระดับ ดี ๓ หมายถึง ระดับ ปานกลาง ๒ หมายถงึ ระดับ พอใช้ ๑ – ๐ หมายถึง ระดบั ปรับปรงุ ๓. การประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ๘ – ๑๐ หมายถงึ ระดับ ดีมาก ๕ - ๗ หมายถึง ระดบั พอใช้ ๐ - ๔ หมายถึง ระดับ ปรับปรุง

ใบความรู้ เรื่อง การใชเ้ ลขไทย การใช้เลขไทย เลขไทยมีใช้มาต้ังแต่กาเนิดตัวอกั ษรไทยสมยั พ่อขนุ รามคาแหงมหาราชใช้แทนจานวน ใช้ แทนวนั แตล่ ะวนั ในสปั ดาห์ แทนเดอื นแตล่ ะเดือนในรอบปี ปจั จุบันมีการใช้เลขอารบิกแพร่หลาย เมื่อมโี อกาสใช้เลขไทยได้ในเวลาใด คนไทยทกุ คนควรใช้เพื่อความภูมิใจในความเปน็ ไทย เลขไทยมี ๑๗ ตัว ดงั น้ี ๑๒๓๔๕๖๗๘๙๐ หนึง่ สอง สาม สี่ หา้ หก เจด็ แปด เก้า ศนู ย์ วนั เดือน ๑ อาทติ ย์ ๒ จันทร์ ๑ มกราคม ๓ องั คาร ๒ กมุ ภาพันธ์ ๔ พุธ ๓ มีนาคม ๕ พฤหสั บดี ๔ เมษายน ๖ ศุกร์ ๕ พฤษภาคม ๗ เสาร์ ๖ มถิ ุนายน ๗ กรกฎาคม ๘ สงิ หาคม ๙ กันยายน ๑๐ ตุลาคม ๑๑ พฤศจิกายน ๑๒ ธันวาคม การอา่ นตวั เลขไทย ๑ – ๙ ในอดีต ๒ โท ๓ ตรี ๑ เอก ๕ เบญจ (เบน็ - จะ) ๔ จตั วา (จดั – ตะ - วา) ๗ สปั ต , สตั , สัตตะ , (สบั – ตะ , สัด , สดั - ตะ) ๖ ฉ (ฉอ , ฉอ้ , ฉะ) ๙ นพ (นบ) ๘ อฐั (อดั )

ใบงานที่ ๑ คาชแ้ี จง นาตัวเลขไทยเตมิ ลงในช่องว่าง และเขยี นคาใหต้ รงกับคาอา่ น ๑๒๓๔๕๖๗๘๙ ตัวอยา่ ง สบั – ตะ อัด ____๗_______ ____ส__ปั _ด__________ อ่านว่า จัด – ตะ – วา ___________ _________________ อ่านว่า เบ็น – จะ ___________ _________________ อา่ นวา่ นบ ___________ _________________ อา่ นว่า ฉอ , ฉ้อ , ฉะ ___________ _________________ อา่ นว่า ___________ _________________ อา่ นวา่

สนใจร่วมกิจกรรม แบบประเมินพฤติกรรมการเรยี น ีมความสนใจในเ ่ืรอง ่ีทเ ีรยน ก ้ลาแสดงออกคาชแี้ จง : พจิ ารณาใส่คะแนน (๕, ๔, ๓, ๒, ๑) ลงในช่องวา่ งให้ตรงกบั พฤติกรรมของนักเรียน ตอบคาถามและแสดงเหตุผลเกณฑ์การใหค้ ะแนน ๕ - ๔ = ดมี าก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรบั ปรุง เกณฑ์การผา่ น ได้คะแนนไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ ๕๐ (ไม่น้อยกว่า ๕ คะแนน) คะแนนรวม เกณฑ์การประเมินรายการสังเกต เลขท่ี ชอ่ื – สกุล ๕ ๕ ๕ ๕ ๒๐ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๑ เดก็ ชายวงศธร ชบุ ขนุ ทด ๒ เด็กชายสิทธา บุญสม ๓ เดก็ หญงิ กาญจนเ์ กลา้ โพช่ืน ๔ เดก็ หญงิ ปรียาภรณ์ นลิ อ่อน ๕ เด็กหญิงปยิ ะพร พานแก้ว ๖ เด็กชายบรพิ ฒั น์ กลิ่นบุปผา ๗ เดก็ ชายสุวรรณชัย แสนอินทร์ ๘ เด็กชายธนภทั ร ช่ืนขา ๙ เดก็ ชายปุณณวิทย์ บุญกลนิ่ ๑๐ เด็กหญงิ สธุ าสนิ ี งอกผล ๑๑ เดก็ หญงิ ณฐั วรรณ ธูปเทยี น ๑๒ เดก็ หญิงพิมพธ์ ันวา ยงั อยู่ ๑๓ เด็กหญงิ ศิราพร ทองประเสริฐ ๑๔ เดก็ ชายสิรายุ บุญแต่ง ๑๕ เดก็ ชายณัฐวฒุ ิ พวงมาลัย ๑6 เด็กชายกีรติ สุวรรณคมุ้ ลงชือ่ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจิราพร กลุ ให้)

เกณฑ์การประเมนิ สาหรับประเมินผลงานของผเู้ รียน ( Rubric Assessment) ระดบั คะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ ๕ - ๔ = ดีมาก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรับปรงุ ๑. สนใจร่วม กจิ กรรม กระตือรอื รน้ สนใจร่วม กระตือรือรน้ สนใจร่วม รว่ มกจิ กรรมเม่ือ ๒. มคี วามสนใจใน เร่อื งทเ่ี รยี น กิจกรรม พร้อมท้ังชักชวน กจิ กรรม ไดร้ บั คาสั่งหรือถูก ๓. กลา้ แสดงออก ให้ผ้อู ืน่ ปฏบิ ัติตามได้ บังคับ ๔. ตอบคาถามและ มีความกระตือรือรน้ ปฏบิ ัติ สนใจศึกษาค้นควา้ หา ปฏิบัตติ นในเรือ่ งท่ี แสดงเหตผุ ล ในเรื่องทเ่ี รียน สนใจศึกษา ข้อมูลดว้ ยตนเองและ เรียน ศกึ ษาค้นควา้ ๕. มคี วามสามคั คี ค้นควา้ หาข้อมูลนาไป นาไปปฏิบตั ิ เมอ่ื ได้รบั คาสงั่ ปฏบิ ัตพิ รอ้ มท้งั ชกั ชวนให้ ผู้อื่นปฏิบัติตาม มีความกระตือรอื รน้ กล้า มคี วามกระตือรอื รน้ รว่ มกจิ กรรมเมื่อ แสดงออกในการรว่ ม กล้าแสดงออกในการรว่ ม ไดร้ บั คาสงั่ หรือถูก กจิ กรรม พร้อมทั้งชกั ชวน กิจกรรม บังคบั ให้ผู้อ่นื ปฏิบัติตามได้ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามได้ ผลไดต้ ่อเน่ืองครบถว้ น ผลได้ต่อเน่ืองครบถ้วน ต่อเนื่องครบถ้วน สัมพันธก์ ับหัวข้อที่กาหนด สัมพันธก์ บั หัวข้อที่ สมั พนั ธก์ ับหัวข้อที่ และตอบคาถามได้ถูกตอ้ ง กาหนด กาหนดแต่ยงั ไม่ สามารถแสดงเหตผุ ล ประกอบได้ กระตือรอื รน้ ศึกษา ค้นควา้ ศึกษา คน้ คว้าทางาน ศึกษา คน้ ควา้ ทางานดว้ ยความช่ืนชอบ ตามที่ผอู้ ่ืนบอกหรือทา ทางานเม่ือไดร้ บั สนุก สนาน และสามารถ ตามคาชกั ชวนของเพื่อน คาสั่งหรือถูกบงั คับ ชกั ชวนใหผ้ ู้อื่นปฏิบัตติ าม

แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขียน เกณฑก์ ารให้คะแนน ๕ = ดีมาก ๔ = ดี ๓ = ปานกลาง ๒ = พอใช้ ๑ – ๐ ปรับปรงุ เกณฑก์ ารผ่าน ไดค้ ะแนนไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ ๕๐ (ไม่น้อยกวา่ ๓ คะแนน) ข้อ รายการประเมิน คะแนน สรุป หมายเหตุ ๑ มีความต้ังใจในการเขียน ทไ่ี ด้ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๒ เขียนได้ถูกต้อง ๓ เขยี นไดส้ วยงาม สะอาด ๔ เวน้ วรรคตอนถูกต้อง ๕ สะกดคาถูกตอ้ ง รวมคะแนน ขอ้ เสนอแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงช่อื ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจิราพร กุลให)้

แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เกณฑก์ ารประเมิน ได้คะแนนไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ ๕๐ (ไมน่ ้อยกวา่ ๕ คะแนน) ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ เลขที่ ช่ือ – สกลุ ีมความรอบคอบในการทางาน ประหยัดและอ ู่ยอ ่ยางพอเพียง เป็นผู้นาและผู้ตาม ่ีทดี รวมคะแนนด้านคุณลักษณะ ฯ มีความภาค ูภมิใจในภาษาไทย เกณ ์ฑการประเ ิมน ีมความสนใจใฝ่เรียนรู้ ๒๒๒ ๒ ๒ ๑๐ ผ่าน ไม่ผ่าน ๑ เด็กชายวงศธร ชบุ ขุนทด ๒ เดก็ ชายสิทธา บุญสม ๓ เดก็ หญิงกาญจนเ์ กล้า โพชืน่ ๔ เด็กหญงิ ปรยี าภรณ์ นลิ อ่อน ๕ เด็กหญิงปยิ ะพร พานแก้ว ๖ เดก็ ชายบริพัฒน์ กลิ่นบปุ ผา ๗ เด็กชายสุวรรณชัย แสนอนิ ทร์ ๘ เดก็ ชายธนภทั ร ชนื่ ขา ๙ เด็กชายปณุ ณวทิ ย์ บญุ กล่ิน ๑๐ เดก็ หญิงสุธาสนิ ี งอกผล ๑๑ เดก็ หญิงณัฐวรรณ ธปู เทยี น ๑๒ เด็กหญงิ พิมพธ์ ันวา ยังอยู่ ๑๓ เดก็ หญงิ ศิราพร ทองประเสริฐ ๑๔ เดก็ ชายสิรายุ บญุ แตง่ ๑๕ เดก็ ชายณฐั วฒุ ิ พวงมาลัย 16 เด็กชายกรี ติ สวุ รรณคมุ้ ลงชอ่ื ................................................................................ ผปู้ ระเมนิ (นางสาวจริ าพร กุลให้)

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ๑ ปกี ารศกึ ษา หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๑ เร่ือง จากผาแตม้ ...สู่อียิปต์ เวลา ๑ ชวั่ โมง เร่อื ง การอา่ นออกเสียงบทเรียน แผนผังความคดิ ประจาหน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ การอ่านในใจบทเรยี น การเขยี นแผนภาพโครงเรอ่ื ง คาใหม่ คายากในบทเรยี น จากผาแต้ม...สู่อียิปต์ ตวั เลขไทย การหาข้อคิดจากเรอ่ื งทีอ่ ่าน การอ่านออกเสยี งบทเรยี น มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ ๑ : การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคดิ เพอื่ นาไปใชต้ ัดสนิ ใจ แกป้ ญั หา ในการดาเนินชวี ติ และมีนสิ ัยรกั การอา่ น เปา้ หมายการเรยี นรปู้ ระจาหน่วย เม่อื เรยี นจบหน่วยนี้ ผู้เรียนจะมีความรู้ความสามารถตอ่ ไปนี้ ๑. อา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรองไดถ้ กู ตอ้ ง ๒. อ่านเรือ่ งสนั้ ๆ อย่างหลากหลาย โดยจบั เวลาแล้วถามเกย่ี วกับเรือ่ งท่ีอ่าน ๓. แยกขอ้ เท็จจรงิ และข้อคดิ เห็นจากเร่ืองท่ีอ่าน ๔. อธิบายการนาความร้แู ละความคิด จากเร่ืองท่อี ่านไปตัดสินใจแก้ปัญหาในการดาเนินชวี ิต ๕. อ่านงานเขียนเชิงอธิบาย คาส่งั ข้อแนะนา และปฏบิ ตั ิตาม ๖. อ่านหนังสือตามความสนใจ และอธบิ ายคุณคา่ ท่ไี ดร้ บั ๗. มมี ารยาทในการอา่ น คุณภาพทพี่ ึงประสงคข์ องผู้เรยี น ๑. มีความรอบคอบในการทางาน ๒. เป็นผ้นู าและผู้ตามทีด่ ี ๓. มคี วามภาคภูมิใจในภาษาไทย ๔. มคี วามสนใจใฝ่เรยี นรู้ ๕. ประหยัดและอยู่อย่างพอเพียง ขอบขา่ ยสาระการเรียนรแู้ กนกลางรายวชิ า ภาษาไทย ตัวช้ีวัด มาตรฐาน ท ๑.๑ (๑) อา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรองได้ถูกต้อง (๒) อธิบายความหมายของคา ประโยคและขอ้ ความทเี่ ปน็ โวหาร

สาระพนื้ ฐาน ๑. การอ่านออกเสยี งบทเรยี นหนว่ ยที่ ๑ เร่ือง จากผาแต้ม...สูอ่ ยี ปิ ต์ ความร้ฟู งั แนน่ ติดตวั ผเู้ รยี น ๑. การอา่ นออกเสียงเร่ืองตา่ ง ๆ ไดถ้ ูกต้อง ชัดเจนรวดเร็ว ถูกวรรคตอนและใชน้ ้าเสยี ง ได้เหมาะสม ทาให้สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ ๒. การคัด เขยี นคาหรือขอ้ ความไดถ้ ูกต้องรวดเร็ว สวยงาม เปน็ ระเบียบเป็นการสร้าง นิสัยท่ดี ใี นการเขียนและใชส้ อื่ สารได้ตรงตามความต้องการ พฤตกิ รรมความพอเพียง ๑. ความพอเพียงดา้ นตนเอง มีความสนใจ ใฝร่ ูใ้ ฝ่เรยี น ๒. มีความพอเพยี งด้านสังคม ดาเนินชีวติ ตามกฎเกณฑข์ องสังคม อยรู่ ว่ มกบั ผอู้ ืน่ ได้อย่างมี ความสขุ ๓. ความพอเพยี งด้านทรพั ยากร ใชท้ รพั ยากรท่ีอย่อู ย่างคุม้ คา่ ตามปรชั ญาหลกั เศรษฐกิจ พอเพยี ง ๔. ความพอเพยี งด้านภมู ปิ ญั ญา สามารถนาความรทู้ ีไ่ ดจ้ ากเรอื่ ง การอยู่รว่ มกัน และทางาน ร่วมกบั ผ้อู ื่นประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจาวนั กระบวนการเรยี นรู้ ๑. นักเรียนเลน่ เกมประกวดการอ่าน ๒. ครูสาธิตการอา่ นออกเสยี งหนว่ ยท่ี ๑ ใหน้ กั เรยี นฟงั ๓. นกั เรียนและครูร่วมกนั อภิปรายสรปุ วธิ ีการปฏบิ ัตติ นในการอ่านออกเสียงท่ีถกู ต้อง เช่น ทา่ ทางการอ่านทเี่ หมาะสม อา่ นได้ถูกต้องตามอกั ขรวิธี อา่ นคล่องแคล่ว ตอ่ เน่ืองไมต่ ดิ ขดั เว้น จังหวะวรรคตอนถูกต้อง และการใช้น้าเสยี งไดต้ ามเน้อื เรื่องท่อี ่าน ๔. นักเรียนแบ่งกล่มุ โดยคละกนั ตามความสามารถ เก่ง ปานกลาง อ่อน โดยใหน้ กั เรียน ทุกกลมุ่ ฝึกอ่านออกเสียงหน่วยท่ี ๑ เร่อื ง จากผาแต้ม...สู่อียปิ ต์ จากหนังสือเรยี นภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชีวติ ภาษาพาที ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๖ นักเรยี นเลอื กเนื้อหารจู้ ากบทเรียนในตอนท่ี กลุ่มนกั เรียนชอบ ๕. นักเรียนเลือกเนือ้ หารู้จากบทเรยี นในตอนที่กลุ่มนักเรยี นชอบ ๖. นักเรยี นฝกึ อา่ นออกเสียงเนอ้ื หาในตอนที่กลมุ่ นักเรยี นเลอื ก และใหเ้ พ่ือนแนะนา ขอ้ บกพร่อง แล้วปรบั ปรงุ แก้ไข ๗. ผลดั เปลย่ี นกันอา่ นออกเสียงทีละคน และเพื่อนทีเ่ หลือ ในกล่มุ ประเมินการอ่าน ออกเสียง ๘. นกั เรียนส่งตัวแทนกลุ่ม ออกมาอ่านออกเสียงหนา้ ชน้ั เรียนให้เพือ่ น ๆ ฟัง แลว้ ช่วยกนั วพิ ากษ์วจิ ารณ์การปฏบิ ัติตนในการอ่าน จุดเดน่ จดุ ดอ้ ย ขอ้ บกพร่องที่ควรแก้ไขปรับปรุง ๙. นักเรียนทาใบงาน ๑๐. นักเรียนและครชู ว่ ยกนั สรปุ บทเรยี น เรื่อง แนวปฏิบตั ิการอา่ นออกเสียง และแนวปฏบิ ตั ใิ นการคัดลายมือใหส้ วยงามเปน็ ระเบียบ

สื่อการเรยี นการสอน ๑. ประเภทส่ือ - แบบเรียนภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชีวติ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ - พจนานกุ รม ๒. วสั ดุ / อปุ กรณ์ - เกมประกวดการอ่าน - บัตรคา - ใบงาน - ใบความรู้เรือ่ ง การอา่ นออกเสียง ๓. แหลง่ การเรยี นรู้ - ครู ผ้ปู กครอง - หอ้ งสมดุ การวดั ประเมนิ ผล ๑. วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล ๑. สังเกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรยี น ๒. ประเมินการอ่าน ๓. ประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๒. เครือ่ งมอื การวดั และประเมินผล ๑. แบบบันทกึ พฤติกรรมการเรียน ๒. แบบสงั เกตพฤติกรรมการอ่าน ๓. แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๓. เกณฑก์ ารประเมิน ๑ การประเมนิ พฤติกรรมการเรยี น ๕ - ๔ หมายถึง ระดับ ดมี าก ๓ – ๒ หมายถึง ระดับ พอใช้ ๑ - ๐ หมายถงึ ระดับ ปรบั ปรงุ ๒. สงั เกตพฤตกิ รรมการอา่ น ๕ หมายถึง ระดับ ดมี าก ๔ หมายถึง ระดบั ดี ๓ หมายถงึ ระดบั ปานกลาง ๒ หมายถงึ ระดบั พอใช้ ๑ – ๐ หมายถึง ระดับ ปรับปรุง ๓. การประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๘ – ๑๐ หมายถึง ระดบั ดีมาก ๕ - ๗ หมายถึง ระดับ พอใช้ ๐ - ๔ หมายถึง ระดับ ปรบั ปรุง

ใบความรู้ เรอื่ ง การอ่านออกเสียง การอา่ นออกเสียง เปน็ การอ่านใหเ้ กดิ เสียงดงั คือ เปล่งเสยี งตามตัวอักษร ถอ้ ยคา และเครื่องหมายตา่ งๆ ที่เขยี นออกมาให้ถกู ต้องชดั ถ้อยชัดคา และเป็นท่เี ขา้ ใจแกผ่ ฟู้ ัง การอา่ นออกเสียงผูอ้ ่านตอ้ งอาศยั การทางานท่ีสัมพันธ์กันระหว่างสายตา สมองและ อวัยวะในการออกเสยี ง กล่าวคือ ผู้อ่านต้องใช้สายตากวาดไปบนตวั อักษรคร้ังละหน่ึงวรรค และต้องแบง่ ใจความไว้แปลงความคดิ เปน็ เสียง แลว้ จึงเปล่งเสียงออกมาให้ตรงตามความหมาย ของถอ้ ยคา เพ่ือใหผ้ ฟู้ ังเข้าใจข้อความท่ีไดย้ ินผู้อ่านเปล่งเสียงออกมา หลกั ท่ัวไปในการอา่ นออกเสียง การอ่านออกเสยี งนน้ั มุ่งใหผ้ อู้ ่านอ่านให้ชัดเจน ถูกตอ้ ง และมผี ลทาให้ผู้ฟังเข้าใจเรอ่ื งได้ ตรงตามทีผ่ ูเ้ ขียนตอ้ งการ การอา่ นออกเสยี งแบ่งออกได้ออกไปเปน็ ๒ อยา่ ง ตามลักษณะของ ข้อความทอ่ี ่าน คอื อ่านเรือ่ งทเ่ี ปน็ ร้อยแก้ว กับเร่ืองทเี่ ป็นบทร้อยกรองสิ่งที่ผู้อ่านควรคานงึ ถงึ ในการอ่านออกเสียงมีดงั นี้ ๑. ความชดั เจน ความชัดเจน หมายถึง การอ่านออกเสียงไดช้ ดั ถอ้ ยชดั คา ทั้งเสยี งสระ เสียงพยญั ชนะ เสียงวรรณยกุ ต์ และพยญั ชนะควบกล้า รวมทัง้ ออกเสียงตัว ร ล ให้ชดั เจน ไม่สับเสียงจากเสียง ร เปน็ ล นา้ เสียงที่เปลง่ ออกมาต้องดัง ฟังชัด ไมด่ ังมากหรือ คอ่ ยเกินไปเพอื่ ใหผ้ ู้ไดย้ ินท่ัวถึงกนั ๒. ความถกู ต้อง คือ ผ้อู า่ นสามารถอา่ นออกเสียงได้ถูกต้องตามอกั ขรวิธีของไทยหรือ ตามอักขรวธิ ีของภาษาอืน่ ที่ไทยนามาใช้ รวมทง้ั การอ่านถูกต้องตามความนิยมดว้ ย ซ่งึ ผอู้ า่ น จะต้องศึกษาหลักการอา่ นที่ถูกต้องจากหนงั สือตาราหลกั ภาษาไทย และหมัน่ สงั เกตศึกษารวบรวม คา และคาอา่ นที่ถูกต้องอย่างสม่าเสมอ เมื่อสงสัยคาอ่านใดให้ยดึ พจนานุกรมฉบับ ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๒๕ เป็นหลัก เช่น การอ่าน คาพ้องรูป อักษรนา อักษรควบ คาสมาส การอา่ นคาท่ีมตี วั ฤ ฑ การอา่ นตามความนิยม การอ่านไม้ยมก และการอา่ น เคร่อื งหมาย วรรคตอน อน่ื ๆ

๓. ความคล่องแคล่ว หมายถงึ ความคล่องตัวในการอา่ นออกเสียงได้ต่อเนื่องกัน ไม่ ตดิ ขดั หรือเสยี จังหวะในการอ่านออกเสยี ง ความคล่องแคล่วนจี้ ะเกิดไดจ้ ากการฝึกฝนทักษะการ อ่านออกเสยี ง รวมท้ังการฝกึ ทักษะการใช้สายตากวาดไปบนตวั อกั ษรให้ได้จังหวะและความเรว็ ส่งิ เหล่าน้ผี อู้ ่านจะต้องฝึกปฏิบัติโดยสม่าเสมอและฝกึ บ่อย ๆ ก็จะเกดิ ทกั ษะในการอา่ น แล้วก็ จะเกิดความคล่องแคล่วในการอา่ นได้ และสามารถแบง่ วรรคตอนได้อย่างเหมาะสม ๔. การใชน้ ้าเสยี งไดต้ ามเน้อื เรื่อง หรอื อา่ นถูกต้องตามลักษณะของคาประพันธ์ (อ่านร้อยกรอง) เช่น คาครลุ หุในคาฉนั ท์ อา่ นออกเสยี งโท เสียงเอก ตามคาโคลงสี่สภุ าพมี การเอื้อนเสียงระหวา่ งวรรค การอา่ นท้ังร้อยแก้ว และร้อยกรองมกี ารอ่านจังหวะทอดเสยี งโดย เวน้ จงั หวะ มนี า้ เสยี งหนักเบาเพือ่ ให้เกิดความไพเราะ ๕. การเวน้ จังหวะวรรคตอน การเวน้ จงั หวะวรรคตอน เป็นสิ่งสาคัญมากในการ อา่ น ออกเสยี ง เพราะถา้ ผู้อา่ นเว้นจงั หวะวรรคตอนทีผ่ ดิ ท่ี เช่น เว้นวรรคตรงกลางประโยคหรอื กลางข้อความ หรอื รวบคาจากวรรคแรกมาควบกับคาต้นของวรรคถดั ไป ก็อาจจะทาให้ ความหมายผิดไปจากสารเดิม ทาใหผ้ ฟู้ งั เข้าใจความหมายคลาดเคลื่อนผดิ ไปจากความหมายที่ แทจ้ ริง หรือไมเ่ ข้าใจความหมายทถ่ี ูกต้อง ผูอ้ า่ นจงึ ควรได้ทดลองอา่ นทาความเข้าใจข้อความ ใหด้ กี ่อนวา่ ควรจะเวน้ วรรคตอนท่ีได อยา่ งไร จึงจะไม่ทาให้ความหมายผิดไปจากสารเดิม ตัวอยา่ ง เชน่ ตวั อยา่ งที่ ๑ “การชา เราจะต้องหาทีเ่ หมาะ ๆ ใต้ตน้ ไมย้ ่งิ ดี” ตัวอย่างท่ี ๒ “ยา นกี้ ินแลว้ แขง็ แรง ไม่มีโรคภัยเบยี ดเบยี น” ถ้าผูอ้ ่านอา่ นเว้นวรรคผิดทกี่ ็อ่านว่า ตัวอย่างที่ ๑ “การชาเรา จะตอ้ งหาท่เี หมาะ ๆ ใตต้ ้นไม้ย่ิงดี” และอ่านตัวอยา่ งท่ี ๒ ว่า ตัวอยา่ งที่ ๒ “ยาน้ีกิน แล้วแข็ง แรงไม่มี โรคภยั เบียดเบียน” เช่นนีก้ ็จะทาให้ความหมายของสารเดมิ เปลยี่ นไป

เกม “ประกวดการอ่าน” ให้นกั เรยี นเล่นเกม “ประกวดการอ่าน” เพอื่ ปลกู ฝังและสรา้ งเสริมลักษณะนิสัยการอ่าน (ร้อยแก้ว, รอ้ ยกรอง) ให้กบั นักเรียน อปุ กรณ์ มีดงั นี้ - นาฬิกาจับเวลา - นกหวีด - ตารางใหค้ ะแนน วธิ ีเลน่ เกม มดี ังน้ี แบ่งนักเรียนออกเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละประมาณ ๔-๕ คน ครูและนกั เรยี นร่วมกันกาหนดเกณฑ์ การอา่ นที่ดีเชน่ - อ่านร้อยแก้ว - อา่ นถกู วรรคตอน - ไม่ตะกุกตะกัก - ออกเสยี ง ร ล คาควบกล้าชัดเจนและถกู ตอ้ งตามอักขรวธิ ี - อา่ นเหมือนเสยี งพดู แสดงอารมณ์โดยใช้นา้ เสยี งเหมาะสมกับเรื่องท่ีอ่าน ต้ังกรรมการตดั สินการประกวดโดยใหแ้ ตล่ ะกลุ่มเลือกตัวแทนมากลุ่มละ ๑ คน จากนั้นให้ แต่ละกลุ่มอา่ นออกเสียง (จะสง่ ให้ตัวแทนอา่ นออกเสียงหรืออา่ นออกเสยี งพร้อมกนั ทั้งกลุ่มก็ได้) แลว้ ให้กรรมการให้คะแนน กลมุ่ ใดไดค้ ะแนนมากเปน็ ผ้ชู นะ หมายเหตุ กรรมการบอกเริ่มอา่ นโดยการเป่านกหวดี และตงั้ เวลาตามความเหมาะสม ขอ้ เสนอแนะ - เกมนี้สามารถนาไปใชก้ ่อนการสอนอ่านหรือก่อนการใหน้ ักเรียนอ่านบทเรียน ได้ทกุ บท ไม่ว่าจะเปน็ การอ่านในใจหรอื อา่ นออกเสยี งร้อยแก้วหรือร้อยกรอง - นกั เรยี นเป็นกรรมการอาจถกู กลา่ วหาว่าลาเอียงเข้าข้างฝา่ ยตนครูอาจเปน็ กรรมการ เองก็ได้

ใบงานที่ ๑ คาชี้แจง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามต่อไปนใ้ี ห้ถูกต้อง ๑. ชว่ งเวลาใดที่มกี ารทอดกฐนิ ............................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................... ........ .................................................................................................................... ......................................... ๒. เหตใุ ดพ่อแม่ อินและเอื้องจึงไปทอดกฐนิ ทจี่ ังหวัดอุบลราชธานี ...................................................................................................................................................... ....... ............................................................................................................................. ................................ .......................................................................................... ................................................................... ๓. หลกั จากทอดกฐนิ แลว้ พ่อแม่พาอินและเอ้ืองไปเที่ยวท่ีใด สถานที่เทยี่ วน้ันมีความสาคัญอย่างไร .............................................................................................. ............................................................... ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………… ๔. ลกั ษณะเดน่ ของภาพเขยี นท่ีผาแต้มมลี ักษณะอย่างไร ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ...................................................................................................................................................... ....... ๕. การวาดภาพแทนตวั อกั ษร มใี นสมัยใด ภาพที่วาดเป็นเรือ่ งราวเกีย่ วกบั เร่ืองอะไร ............................................................................................................................................................. .................................................................................................................... ......................................... ............................................................................................................... ..............................................

สนใจร่วมกิจกรรม แบบประเมนิ พฤติกรรมการเรยี น ีมความสนใจในเ ่ืรอง ่ีทเ ีรยน ก ้ลาแสดงออกคาชแ้ี จง : พจิ ารณาใส่คะแนน (๕, ๔, ๓, ๒, ๑) ลงในชอ่ งว่างให้ตรงกับพฤติกรรมของนักเรียน ตอบคาถามและแสดงเหตุผลเกณฑก์ ารให้คะแนน ๕ - ๔ = ดมี าก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรบั ปรุง เกณฑ์การผ่าน ได้คะแนนไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ ๕๐ (ไมน่ อ้ ยกวา่ ๕ คะแนน) คะแนนรวม เกณฑ์การประเมินรายการสงั เกต เลขที่ ชอื่ – สกลุ ๕ ๕ ๕ ๕ ๒๐ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๑ เดก็ ชายวงศธร ชุบขุนทด ๒ เด็กชายสิทธา บุญสม ๓ เดก็ หญงิ กาญจน์เกลา้ โพชืน่ ๔ เดก็ หญงิ ปรียาภรณ์ นลิ อ่อน ๕ เดก็ หญิงปยิ ะพร พานแก้ว ๖ เด็กชายบรพิ ฒั น์ กลิน่ บปุ ผา ๗ เดก็ ชายสุวรรณชยั แสนอินทร์ ๘ เด็กชายธนภทั ร ช่ืนขา ๙ เดก็ ชายปุณณวทิ ย์ บญุ กลิน่ ๑๐ เด็กหญิงสธุ าสินี งอกผล ๑๑ เด็กหญิงณฐั วรรณ ธูปเทียน ๑๒ เด็กหญิงพิมพธ์ ันวา ยงั อยู่ ๑๓ เดก็ หญิงศริ าพร ทองประเสริฐ ๑๔ เดก็ ชายสริ ายุ บญุ แต่ง ๑๕ เดก็ ชายณัฐวฒุ ิ พวงมาลยั ๑6 เดก็ ชายกีรติ สวุ รรณคุ้ม ลงช่อื ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจริ าพร กุลให)้