Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ ป.6 หน่วยที่ 3 เรื่อง อ่านป้ายได้สาระ

แผนการจัดการเรียนรู้ ป.6 หน่วยที่ 3 เรื่อง อ่านป้ายได้สาระ

Published by KAGIROON, 2021-02-02 16:59:07

Description: แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทยพื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (ท 16101) หน่วยที่ 3 เรื่อง อ่านป้ายได้สาระ

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๓ เรื่อง อา่ นปา้ ยไดส้ าระ ๑ ปกี ารศกึ ษา เรื่อง การอ่านในใจบทเรยี น เวลา ๑ ชว่ั โมง แผนผังความคดิ ประจาหน่วยการเรยี นรู้ที่ ๓ การอ่านในใจบทเรยี น อ่านปา้ ยไดส้ าระ การเขยี นแผนภาพโครงเรอ่ื ง คาใหม่ คายากในบทเรยี น กล่มุ คา หรอื วลี การเลอื กใช้คาให้ถกู ตอ้ งตาม ความหมาย ประโยคสามญั และส่วนประกอบของประโยค คาในภาษาตา่ งประเทศ การอ่านออกเสียงบทเรยี น การอ่านเสรมิ บทเรียน มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ ๑ : การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคดิ เพอ่ื นาไปใชต้ ัดสินใจ แกป้ ญั หาใน การดาเนนิ ชวี ิตและมนี สิ ัยรักการอา่ น เป้าหมายการเรียนรปู้ ระจาหนว่ ย เมื่อเรยี นจบหน่วยน้ี ผู้เรียนจะมคี วามรู้ความสามารถต่อไปน้ี ๑. อา่ นในใจบทเรียนแล้วสามารถตงั้ คาถามและตอบคาถามจากเร่อื งที่อา่ นได้ ๒. อ่านในใจบทเรียนแลว้ อภิปรายแสดงความคิดเห็นเร่ืองที่อา่ นได้ ๓. อา่ นในใจบทเรยี นแลว้ ลาดบั เหตุการณ์ของเรือ่ งได้ ๔. อา่ นในใจบทเรียนแล้วสรปุ ใจความสาคัญและข้อคิดของเร่อื งได้ คุณภาพทพ่ี งึ ประสงคข์ องผู้เรยี น ๑. มคี วามรอบคอบในการทางาน ๒. เป็นผู้นาและผูต้ ามท่ดี ี ๓. มคี วามภาคภูมใิ จในภาษาไทย ๔. มคี วามสนใจใฝ่เรียนรู้ ๕. ประหยดั และอยู่อยา่ งพอเพียง ขอบข่ายสาระการเรียนรูแ้ กนกลางรายวิชา ภาษาไทย ตัวชว้ี ดั มาตรฐาน ท ๑.๑ (๓) อา่ นเรือ่ งสน้ั ๆ อย่างหลากหลาย โดยจบั เวลาแล้วถามเกยี่ วกบั เร่ืองที่อ่าน (๔) แยกข้อเท็จจรงิ และข้อคิดเหน็ จากเรื่องทอ่ี ่าน

สาระพื้นฐาน การอา่ นในใจหน่วยที่ ๓ อ่านปา้ ยไดส้ าระ ความรฟู้ งั แนน่ ติดตัวผเู้ รยี น การอา่ นในใจแลว้ สามารถจับใจความสาคัญของเรื่องได้ จะทาใหต้ อบคาถาม และ บอก ลาดบั เหตกุ ารณ์ของเรอื่ งได้ พฤติกรรมความพอเพียง ๑. ความพอเพียงดา้ นตนเอง มีความสนใจ ใฝร่ ู้ใฝ่เรียน ๒. มีความพอเพียงด้านสังคม ดาเนนิ ชีวิตตามกฎเกณฑข์ องสงั คม อย่รู ่วมกับผอู้ ื่นไดอ้ ย่างมี ความสขุ ๓. ความพอเพียงดา้ นทรัพยากร ใช้ทรัพยากรที่อยู่อยา่ งคมุ้ ค่า ตามปรชั ญาหลักเศรษฐกิจ พอเพียง ๔. ความพอเพียงดา้ นภมู ปิ ัญญา สามารถนาความรู้ทีไ่ ด้จากเร่ือง การอย่รู ว่ มกัน และ ทางานรว่ มกับผู้อนื่ ประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตประจาวัน กระบวนการเรยี นรู้ ๑. นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนการเรียนรู้ เพื่อวัดและทดสอบ ความรพู้ ืน้ ฐานทางการเรยี นของนักเรียน ๒. สนทนากับนกั เรียนเกยี่ วกับป้ายโฆษณาในชมุ ชนของนักเรยี นโดยทว่ั ไป หรอื หัวข้ออ่นื ๆ เชน่ • ในชุมชนของนักเรยี นมปี า้ ยอะไรบา้ ง • ใครบา้ งทเี่ คยอ่านปา้ ยโฆษณาในชุมชนของนักเรียน • จะทาอยา่ งไรนักเรียนจงึ ได้ความรู้จากป้ายต่างๆเหลา่ นั้น • การอ่านป้ายได้สาระอยา่ งไร และมปี ระโยชน์ต่อนักเรยี น ๓. แบ่งนกั เรียนออกเปน็ กลมุ่ ตามความเหมาะสม โดยนกั เรยี น ทบทวนจดุ มงุ่ หมายใน การอา่ นในใจ โดยตกลงการเรยี นรรู้ ่วมกันวา่ เมอื่ อ่านในใจแลว้ สามารถสรุปใจความสาคัญ และ ขอ้ คดิ ได้ สามารถต้ังคาถาม ตอบคาถามได้ สามารถลาดับเหตุการณ์ของเร่อื งได้ ๔. นกั เรียนทกุ กลุม่ อ่านในใจ เรื่อง อ่านป้ายได้สาระ จากหนงั สือเรยี นภาษาไทย ชุดภาษาพาที ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๖ ๕. ช่วยกันทากิจกรรมตามใบงานกลุม่ เร่ือง การสรุปใจความสาคัญและข้อคดิ และการลาดบั เหตกุ ารณ์ของเร่อื ง ๖. นกั เรียนจับคู่ระหวา่ งกลุ่มแล้วผลัดกันตงั้ คาถาม ตอบคาถามจากเร่ืองที่อา่ น โดยมี ครูคอยแนะนาเร่ืองการใชภ้ าษาในการต้ังคาถาม การตอบคาถามใหถ้ ูกตอ้ ง ๗. นกั เรียนและครชู ว่ ยกนั สรุปใจความสาคญั และการลาดับเหตกุ ารณ์ของเร่ือง โดยใช้ บตั รภาพเหตกุ ารณ์จากบทเรียนประกอบ ๘. นักเรยี นทาใบงาน

สือ่ การเรียนการสอน ๑. ประเภทสือ่ - หนงั สอื แบบเรียนภาษาไทย ชดุ ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๖ - แบบทดสอบก่อนการเรยี นรู้ - แบบฝึกภาษาไทย - แบบฝึกทักษะภาษา ๒. วสั ดุ / อุปกรณ์ - บตั รคาใหม,่ - ใบความรู้, ใบงาน ๓. แหล่งการเรียนรู้ - ครู ผู้ปกครอง - ห้องสมุด การวดั ประเมินผล ๑. วธิ กี ารวัดและประเมินผล ๑. สงั เกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรียน ๒. ประเมนิ การอ่านในใจ ๓. ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๒. เครอ่ื งมือการวัดและประเมนิ ผล ๑. แบบบนั ทึกพฤติกรรมการเรียน ๒. แบบสงั เกตพฤติกรรมการอา่ นในใจ ๓. แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๓. เกณฑก์ ารประเมนิ ๑ การประเมนิ พฤติกรรมการเรยี น ๕ - ๔ หมายถงึ ระดับ ดีมาก ๓ – ๒ หมายถงึ ระดบั พอใช้ ๑ - ๐ หมายถงึ ระดับ ปรับปรงุ ๒. สังเกตพฤติกรรมการอา่ นในใจ ๕ หมายถงึ ระดบั ดมี าก ๔ หมายถงึ ระดับ ดี ๓ หมายถงึ ระดบั ปานกลาง ๒ หมายถงึ ระดบั พอใช้ ๑ – ๐ หมายถึง ระดับ ปรบั ปรุง ๓. การประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๘ – ๑๐ คะแนน ระดับ ดีมาก ๕ - ๗ คะแนน ระดับ พอใช้ ๐ - ๔คะแนน ระดับ ปรบั ปรุง

แบบทดสอบก่อนการเรยี นรู้ หน่วยท่ี ๓ โรงเรียน..........................................................ภาคเรยี นที่ ......... ปกี ารศึกษา ……….. ชือ่ ........................................................ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖............ เลขท่ี.............. วนั ที่…… เดอื น ……………………………… พ.ศ……………… คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนทาเครื่องหมาย  หน้าคาตอบที่ถูกต้อง ๑. “ผม” ในเรอ่ื งอ่านปา้ ยไดส้ าระ นกั เรยี นคิดวา่ เปน็ ก. ดอกแก้ว ข. แหลม ค. จบุ๊ แจง ง. โอปอ ๒. ตัวละครเดน่ ในเรอื่ งนม้ี ีกี่ตัว ก. ๓ ตวั ข. ๔ ตวั ค. ๕ ตวั ง. ๖ ตวั ๓. ครอบครัวของแหลมมีรถอะไร ก. รถเก๋ง ข. รถหกล้อ ค. รถกระบะ ง. รถมอเตอร์ไซค์ ๔. คณุ พ่อใหเ้ ด็กสังเกตและบอกเลขทะเบียนรถคนั หนา้ ทาไม ก. เปรียบเทียบ ข. ดูความสวยงาม ค. หาหวย ง. บวกเลขแข่งกนั ๕. คุณครใู หแ้ หลมทาโครงงานภาษาไทย นกั เรียนคิดว่า แหลมจะทาเรื่องอะไร ก. เลขทะเบียนรถ ข. ช่ือปา้ ยประกาศ ค. ชอื่ รา้ นค้า ง. รวบรวมคาในภาษาตา่ งประเทศ ๖. การนาเสนอโครงงาน นกั เรยี นคดิ วา่ สามารถนาเสนอในรูปแบบใดได้บ้าง ก. กราฟ ข. แผนภมู ิ ค. รปู แบบอืน่ ๆ ง. ถกู ทุกข้อ ๗. นกั เรียนคดิ วา่ คาที่เปน็ ภาษาแขกหรอื ภาษาอินเดยี ท่ีใช้ในภาษาไทย ปรากฏในภาษาอะไรบ้าง ก. ภาษาบาลี ข. ภาษาสันสกฤต ค. ภาษาฮนิ ดู ง. ขอ้ ก และ ข ถูก ๘. นกั เรยี นคดิ ว่าโครงการหลวงระยะแรก เป็นอยา่ งไร ก. เปน็ โครงการสว่ นพระองค์ ข. โครงการอาสาสมัคร ค. โครงการวิจยั ง. โครงการส่งเสริม สนบั สนนุ ๙. นักเรียนคดิ วา่ โครงการหลวงระยะแรก เริม่ ต้นทีภ่ าคใดของประเทศใด ก. ภาคอสี าน ข. ภาคใต้ ค. ภาคตะวนั ออก ง. ภาคเหนือ ๑๐. คาว่า “เสียงประกาศเตือน” นกั เรียนคดิ วา่ เปน็ คาประเภทใด ก. คา ข. วลี ค. กลมุ่ คา ง. กลุ่มคาและวลี

เฉลยแบบทดสอบก่อนการเรียนรู้ ๑. ข ๒. ก ๓.ค ๔. ง ๕. ค ๖.ง ๗. ง ๘. ข ๙. ง ๑๐. ง

ใบงาน โรงเรียน........................................................................ภาคเรียนท่ี ..... ปกี ารศึกษา .... ชอื่ ..................................................................ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖............เลขที่.............. วันที่…… เดือน ……………………………… พ.ศ……………… คาชี้แจง นักเรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ีใหถ้ ูกต้อง ๑. สมบัติท่ีคณุ ปู่ยกให้คุณพ่อคอื อะไร มลี ักษณะอยา่ งไร _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ ๒. “รักเมืองไทย ร่วมใจทาดี” นักเรยี นเข้าใจข้อความนอี้ ยา่ งไร _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ ๓. พ่อของแหลมมีอาชีพอะไร และทาหนา้ ท่ีอะไรบา้ ง _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ ๔. นักเรยี นมโี ครงการที่จะพัฒนาบ้านอยา่ งไรบ้าง _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ ๕. นักเรียนได้ประโยชน์อะไรบ้างจากการอา่ นป้ายขา้ งทาง _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ ๖. ถา้ ได้รบั มอบหมายใหเ้ ขยี นปา้ ยขา้ งทาง นักเรียนจะเขยี นอะไรทีม่ ีประโยชนต์ อ่ ส่วนรวม _________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________

สนใจร่วมกิจกรรม แบบประเมินพฤติกรรมการเรยี น ีมความสนใจในเ ่ืรอง ่ีทเ ีรยน ก ้ลาแสดงออกคาชแ้ี จง : พจิ ารณาใสค่ ะแนน (๕, ๔, ๓, ๒, ๑) ลงในช่องวา่ งให้ตรงกับพฤติกรรมของนักเรยี น ตอบคาถามและแสดงเหตุผลเกณฑ์การใหค้ ะแนน ๕ - ๔ = ดมี าก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรบั ปรงุ เกณฑ์การผา่ น ได้คะแนนไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ ๕๐ (ไม่นอ้ ยกวา่ ๑๐ คะแนน) คะแนนรวม เกณฑ์การประเมินรายการสังเกต เลขที่ ช่อื – สกุล ๕ ๕ ๕ ๕ ๒๐ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๑ เดก็ ชายวงศธร ชบุ ขุนทด ๒ เดก็ ชายสิทธา บุญสม ๓ เด็กหญิงกาญจนเ์ กลา้ โพชืน่ ๔ เดก็ หญิงปรยี าภรณ์ นลิ อ่อน ๕ เดก็ หญงิ ปยิ ะพร พานแก้ว ๖ เดก็ ชายบรพิ ัฒน์ กล่ินบุปผา ๗ เดก็ ชายสุวรรณชัย แสนอนิ ทร์ ๘ เดก็ ชายธนภทั ร ช่ืนขา ๙ เด็กชายปณุ ณวทิ ย์ บุญกล่นิ ๑๐ เด็กหญิงสธุ าสินี งอกผล ๑๑ เดก็ หญิงณัฐวรรณ ธูปเทยี น ๑๒ เด็กหญิงพิมพธ์ ันวา ยังอยู่ ๑๓ เดก็ หญิงศิราพร ทองประเสริฐ ๑๔ เด็กชายสิรายุ บุญแตง่ ๑๕ เดก็ ชายณฐั วุฒิ พวงมาลยั ๑๖ เด็กชายกรี ติ สุวรรณคมุ้ ๑๗ ลงช่อื ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจิราพร กุลให)้

เกณฑก์ ารประเมินพฤติกรรมการเรยี น ( Rubric Assessment) ระดบั คะแนน เกณฑ์การประเมนิ ๕ - ๔ = ดมี าก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรบั ปรุง ๑. สนใจรว่ ม กจิ กรรม กระตือรือรน้ สนใจร่วม กระตือรือร้นสนใจร่วม ร่วมกิจกรรมเมื่อ ๒. มีความสนใจใน เรื่องทเี่ รยี น กิจกรรม พร้อมท้ังชกั ชวน กจิ กรรม ไดร้ ับคาส่ังหรือถูก ๓. กลา้ แสดงออก ใหผ้ อู้ ืน่ ปฏบิ ัตติ ามได้ บงั คบั ๔. ตอบคาถามและ มคี วามกระตือรอื ร้นปฏิบตั ิ สนใจศกึ ษาค้นควา้ หา ปฏิบตั ติ นในเรอื่ งที่ แสดงเหตผุ ล ในเร่ืองท่เี รียน สนใจศึกษา ขอ้ มูลด้วยตนเองและ เรยี น ศกึ ษาค้นควา้ ๕. มคี วามสามคั คี คน้ คว้าหาข้อมูลนาไป นาไปปฏิบัติ เม่อื ได้รับคาส่ัง ปฏิบัตพิ ร้อมท้งั ชกั ชวนให้ ผอู้ ืน่ ปฏิบัตติ าม มคี วามกระตือรอื รน้ กลา้ มีความกระตือรือรน้ ร่วมกิจกรรมเมื่อ แสดงออกในการร่วม กลา้ แสดงออกในการร่วม ได้รบั คาสัง่ หรือถูก กิจกรรม พร้อมท้ังชกั ชวน กจิ กรรม บงั คับ ให้ผู้อน่ื ปฏบิ ตั ิตามได้ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามได้ ผลได้ต่อเนื่องครบถว้ น ผลไดต้ อ่ เน่ืองครบถว้ น ตอ่ เน่ืองครบถว้ น สัมพนั ธ์กบั หัวข้อทก่ี าหนด สัมพนั ธก์ บั หัวข้อที่ สัมพนั ธ์กับหวั ข้อท่ี และตอบคาถามได้ถกู ต้อง กาหนด กาหนดแตย่ ังไม่ สามารถแสดงเหตผุ ล ประกอบได้ กระตือรือร้นศึกษา ค้นคว้า ศกึ ษา คน้ คว้าทางาน ศึกษา คน้ ควา้ ทางานด้วยความชื่นชอบ ตามทผ่ี ู้อนื่ บอกหรือทา ทางานเม่ือไดร้ ับ สนกุ สนาน และสามารถ ตามคาชกั ชวนของเพอื่ น คาสงั่ หรอื ถูกบงั คบั ชกั ชวนใหผ้ ้อู ่ืนปฏบิ ตั ิตาม

แบบสังเกตพฤติกรรมการอ่านในใจ เกณฑ์การให้คะแนน ๕ = ดีมาก ๔ = ดี ๓ = ปานกลาง ๒ = พอใช้ ๑ – ๐ ปรบั ปรุง เกณฑ์การผา่ น ได้คะแนนไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ ๕๐ (ไม่น้อยกวา่ ๓ คะแนน) ข้อ รายการประเมนิ คะแนน สรปุ หมายเหตุ ท่ไี ด้ ผ่าน ไม่ผ่าน ๑ ไมอ่ อกเสยี งพึมพราไมท่ าปากขมบุ ขมิบ ในขณะอา่ น ๒ กวาดสายตาได้อย่างคลอ่ งแคลว่ ไม่ใชม้ อื ชี้ ๓ ตง้ั คาถามจากเร่ืองท่ีอ่านได้ ๔ ตอบคาถามจากเร่ืองที่อ่าน ๕ สรปุ สาระสาคญั ของเรื่องท่ีอ่าน รวมคะแนน ขอ้ เสนอแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงช่ือ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจริ าพร กุลให้)

ีมความรอบคอบในการทางาน แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ เป็นผู้นาและผู้ตาม ่ีทดีเกณฑ์การประเมนิ ได้คะแนนไมน่ ้อยกวา่ ๕ คะแนน มีความภาค ูภมิใจในภาษาไทย ีมความสนใจใฝ่เรียนรู้ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ประหยัดและอ ู่ยอ ่ยางพอเพียง รวมคะแนนด้านคุณลักษณะ ฯเลข ชอ่ื – สกุล เกณ ์ฑการประเ ิมนที่ ผ่าน ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๑๐ ไ ่มผ่าน ๑ เดก็ ชายวงศธร ชุบขุนทด ๒ เดก็ ชายสิทธา บญุ สม ๓ เดก็ หญิงกาญจนเ์ กลา้ โพชืน่ ๔ เด็กหญงิ ปรยี าภรณ์ นิลออ่ น ๕ เด็กหญงิ ปิยะพร พานแก้ว ๖ เด็กชายบริพฒั น์ กลน่ิ บปุ ผา ๗ เด็กชายสุวรรณชยั แสนอนิ ทร์ ๘ เด็กชายธนภัทร ชนื่ ขา ๙ เด็กชายปุณณวทิ ย์ บญุ กลน่ิ ๑๐ เด็กหญิงสธุ าสินี งอกผล ๑๑ เด็กหญิงณฐั วรรณ ธปู เทยี น ๑๒ เด็กหญิงพิมพ์ธันวา ยงั อยู่ ๑๓ เดก็ หญงิ ศริ าพร ทองประเสริฐ ๑๔ เด็กชายสริ ายุ บญุ แต่ง ๑๕ เด็กชายณัฐวุฒิ พวงมาลัย 16 เด็กชายกีรติ สุวรรณคมุ้ ลงชอ่ื ................................................................................ ผปู้ ระเมนิ (นางสาวจิราพร กลุ ให)้

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๒ กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ เร่ือง อ่านปา้ ยได้สาระ ๑ ปีการศึกษา เรอื่ ง การเขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง เวลา ๑ ชว่ั โมง แผนผังความคดิ ประจาหน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๓ การอ่านในใจบทเรยี น อ่านปา้ ยได้สาระ การเขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง คาใหม่ คายากในบทเรยี น กลมุ่ คา หรือ วลี การเลือกใช้คาให้ถูกต้องตาม ความหมาย ประโยคสามญั และส่วนประกอบของประโยค คาในภาษาตา่ งประเทศ การอ่านออกเสยี งบทเรยี น การอา่ นเสริมบทเรยี น มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ ๒ : การเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขยี นส่ือสาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความ และเขยี น เร่อื งราวใน รปู แบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้าอย่างมี ประสทิ ธภิ าพ เป้าหมายการเรยี นรู้ประจาหน่วย เมือ่ เรียนจบหน่วยนี้ ผเู้ รยี นจะมีความรู้ความสามารถตอ่ ไปน้ี ๑. อ่านในใจบทเรยี นแลว้ สามารถเขียนแผนภาพโครงเร่ืองทอี่ ่านได้ ๒. เล่าเร่ืองตามแผนภาพโครงเรือ่ งได้ ๓. เขยี นเรือ่ งจากแผนภาพโครงเรื่องได้ ๔. มีมารยาทในการเขียน คณุ ภาพท่พี ึงประสงค์ของผเู้ รยี น ๑. มีความรอบคอบในการทางาน ๒. เป็นผนู้ าและผตู้ ามท่ีดี ๓. มีความภาคภมู ใิ จในภาษาไทย ๔. มีความสนใจใฝ่เรียนรู้ ๕. ประหยัดและอยู่อย่างพอเพียง

ขอบข่ายสาระการเรียนรู้แกนกลางรายวชิ า ภาษาไทย ตวั ชว้ี ดั มาตรฐาน ท ๒.๑ (๓) เขยี นแผนภาพโครงเร่ืองและแผนภาพความคดิ เพื่อใชพ้ ฒั นางานเขียน สาระพืน้ ฐาน การเขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง ความรู้ฟังแนน่ ติดตัวผู้เรียน การเขยี นแผนภาพโครงเรอื่ ง จะชว่ ยใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจเรื่องและจาเรื่องทอี่ ่านได้ พฤตกิ รรมความพอเพียง ๑. ความพอเพยี งด้านตนเอง มคี วามสนใจ ใฝ่รใู้ ฝเ่ รยี น ๒. มีความพอเพียงด้านสังคม ดาเนนิ ชวี ติ ตามกฎเกณฑ์ของสงั คม อยู่ร่วมกับผูอ้ ืน่ ไดอ้ ยา่ งมี ความสุข ๓. ความพอเพยี งดา้ นทรัพยากร ใช้ทรัพยากรที่อยอู่ ย่างคุ้มค่า ตามปรชั ญาหลกั เศรษฐกจิ พอเพียง ๔. ความพอเพยี งดา้ นภมู ิปัญญา สามารถนาความรทู้ ่ีได้จากเรื่อง การอยู่รว่ มกนั และ ทางานร่วมกบั ผู้อืน่ ประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวัน กระบวนการเรยี นรู้ ๑. สนทนาทบทวนเนือ้ หาบทเรียน เรื่อง อา่ นปา้ ยไดส้ าระ กับนกั เรยี น โดยใช้บตั รภาพ จากบทเรียนประกอบ นักเรียนชว่ ยกนั อภปิ รายวิเคราะห์โครงเรอ่ื ง ลาดบั เหตุการณ์ของเรอื่ ง ๒. แบ่งนกั เรยี นออกเปน็ กลุ่ม ตามความเหมาะสม โดยศึกษาเน้ือหาเหตกุ ารณ์ที่จบั ฉลาก ได้ แล้วช่วยกันเขยี นแผนภาพโครงเร่อื ง ลงในใบงานกลุ่ม ๓. ตวั แทนกลุ่มนาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรยี น ๔. ครแู จกตวั อยา่ งแผนภาพโครงเรอ่ื ง ให้แตล่ ะกลมุ่ ปรบั ปรงุ แกไ้ ข ผลงาน กลุ่มของตนเองให้ถูกต้อง สมบรู ณ์ ๕. ครนู าผลงานติดปา้ ยนิเทศเพือ่ ศึกษา และแลกเปล่ยี นเรียนรรู้ ะหวา่ งกลมุ่ ๖. นกั เรียนและครูร่วมกันอภปิ รายสรุป เรือ่ ง อ่านปา้ ยได้สาระ โดยใหน้ ักเรยี นทกุ คน ชว่ ยกนั เล่าเร่ืองจากแผนภาพจากโครงเร่ือง และสนทนาทบทวนการเขียนย่อความ เพ่ือเปน็ แนวทาง ในการเขยี นย่อเร่ืองจากแผนภาพโครงเรื่อง ๗. นักเรียนทาใบงาน ๘. มอบหมายใหน้ ักเรียนทาแบบฝกึ ทกั ษะภาษา เป็นการบ้าน สือ่ การเรยี นการสอน ๑. ประเภทสอื่ - หนังสอื แบบเรียนภาษาไทย ชุดภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ - ตัวอย่างแผนภาพโครงเรื่อง - แบบฝึก ๒. วสั ดุ / อปุ กรณ์

- บัตรคาใหม,่ - ใบความรู้, ใบงาน ๓. แหล่งการเรยี นรู้ - ครู ผู้ปกครอง - ห้องสมดุ การวัดประเมินผล ๑. วธิ กี ารวดั และประเมินผล ๑. สงั เกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรยี น ๒. ประเมนิ การเขยี น ๓. ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๒. เคร่ืองมอื การวดั และประเมินผล ๑. แบบบนั ทึกพฤตกิ รรมการเรยี น ๒. แบบสังเกตพฤติกรรมการเขยี น ๓. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๓. เกณฑก์ ารประเมิน ๑ การประเมนิ พฤตกิ รรมการเรียน ๕ - ๔ หมายถงึ ระดบั ดมี าก ๓ – ๒ หมายถงึ ระดับ พอใช้ ๑ - ๐ หมายถึง ระดบั ปรับปรงุ ๒. สังเกตพฤตกิ รรมการเขยี น ๕ หมายถงึ ระดับ ดีมาก ๔ หมายถึง ระดับ ดี ๓ หมายถงึ ระดบั ปานกลาง ๒ หมายถงึ ระดับ พอใช้ ๑ – ๐ หมายถงึ ระดบั ปรบั ปรุง ๓. การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๘ – ๑๐ หมายถึง ระดับ ดมี าก ๕ - ๗ หมายถงึ ระดบั พอใช้ ๐ - ๔ หมายถงึ ระดับ ปรบั ปรงุ

ใบงาน (งานกลุ่ม) กลุ่มที่….. ๑.ช่อื …………………………………………..…..….เลขท…่ี …….. ๒.ชื่อ…………………………………………..…..….เลขท…่ี …….. ๓.ชือ่ …………………………………………..…..….เลขท…ี่ …….. ๔.ชื่อ…………………………………………..…..….เลขท…่ี …….. ๕.ช่ือ…………………………………………..…..….เลขท…ี่ …….. คาชีแ้ จง ให้นักเรยี นเขยี นแผนภาพโครงเรื่อง อ่านปา้ ยไดส้ าระ ให้ถกู ต้องไดใ้ จความสมบูรณ์ แผนภาพโครงเรอื่ ง อ่านป้ายได้สาระ ตวั ละครสาคญั ……………………………………………………………………………… ตวั ละครประกอบ……………………………………………………………………………………. เร่ืองเกดิ ขนึ้ ที่ไหน…………………………………………………………………………………… ปัญหาทเ่ี กิดข้ึนในเรื่อง……………………………………………………………………………… เหตุการณท์ …ี่ ……… สถานท…่ี …………………………………………………………………………………………... ตัวละคร………………………………………………………………………………………….…. การกระทา …………………………………………………………………………………………..………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ผลของการกระทา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… เหตกุ ารณท์ …่ี …… สถานท…่ี …………………………………………………………………………………………... ตัวละคร………………………………………………………………………………………….…. การกระทา …………………………………………………………………………………………....……………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ผลของการกระทา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………

สนใจร่วมกิจกรรม แบบประเมนิ พฤติกรรมการเรยี น ีมความสนใจในเ ่ืรอง ่ีทเ ีรยน ก ้ลาแสดงออกคาช้ีแจง : พิจารณาใส่คะแนน (๕, ๔, ๓, ๒, ๑) ลงในช่องวา่ งให้ตรงกบั พฤติกรรมของนกั เรยี น ตอบคาถามและแสดงเหตุผลเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๕ - ๔ = ดีมาก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรับปรุง เกณฑ์การผา่ น ไดค้ ะแนนไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ ๕๐ (ไมน่ ้อยกว่า ๑๐ คะแนน) คะแนนรวม เกณฑ์การประเมินรายการสังเกต เลขท่ี ชื่อ – สกุล ๕ ๕ ๕ ๕ ๒๐ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๑ เดก็ ชายวงศธร ชุบขุนทด ๒ เดก็ ชายสิทธา บุญสม ๓ เด็กหญงิ กาญจนเ์ กล้า โพช่ืน ๔ เด็กหญิงปรียาภรณ์ นิลอ่อน ๕ เด็กหญิงปยิ ะพร พานแกว้ ๖ เด็กชายบริพฒั น์ กลน่ิ บปุ ผา ๗ เดก็ ชายสุวรรณชยั แสนอินทร์ ๘ เด็กชายธนภัทร ชื่นขา ๙ เด็กชายปุณณวิทย์ บุญกลน่ิ ๑๐ เด็กหญิงสุธาสินี งอกผล ๑๑ เด็กหญิงณัฐวรรณ ธปู เทียน ๑๒ เด็กหญิงพมิ พ์ธันวา ยงั อยู่ ๑๓ เดก็ หญิงศริ าพร ทองประเสริฐ ๑๔ เดก็ ชายสิรายุ บญุ แต่ง ๑๕ เดก็ ชายณัฐวุฒิ พวงมาลยั ๑๖ เด็กชายกรี ติ สวุ รรณคุม้ ลงช่ือ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจิราพร กุลให)้

เกณฑก์ ารประเมินสาหรับประเมนิ ผลงานของผู้เรียน ( Rubric Assessment) ระดับคะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ ๕ - ๔ = ดมี าก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรบั ปรุง ๑. สนใจร่วม กจิ กรรม กระตือรอื รน้ สนใจร่วม กระตือรอื ร้นสนใจรว่ ม ร่วมกจิ กรรมเม่ือ ๒. มคี วามสนใจใน เร่อื งทเ่ี รยี น กิจกรรม พร้อมทั้งชกั ชวน กิจกรรม ได้รับคาสงั่ หรือถูก ๓. กลา้ แสดงออก ใหผ้ อู้ น่ื ปฏบิ ตั ติ ามได้ บังคบั ๔. ตอบคาถามและ มคี วามกระตือรือรน้ ปฏิบตั ิ สนใจศกึ ษาคน้ ควา้ หา ปฏิบตั ิตนในเรือ่ งที่ แสดงเหตผุ ล ในเร่อื งทีเ่ รียน สนใจศึกษา ขอ้ มลู ดว้ ยตนเองและ เรียน ศกึ ษาคน้ ควา้ ๕. มคี วามสามคั คี ค้นคว้าหาข้อมลู นาไป นาไปปฏิบตั ิ เม่ือได้รับคาสง่ั ปฏบิ ัตพิ ร้อมทงั้ ชกั ชวนให้ ผอู้ นื่ ปฏิบัตติ าม มีความกระตือรือรน้ กล้า มคี วามกระตือรอื รน้ รว่ มกิจกรรมเมื่อ แสดงออกในการร่วม กลา้ แสดงออกในการรว่ ม ไดร้ บั คาสั่งหรือถูก กจิ กรรม พร้อมท้ังชักชวน กิจกรรม บังคับ ใหผ้ ู้อ่นื ปฏิบัตติ ามได้ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามได้ ผลไดต้ ่อเนื่องครบถว้ น ผลไดต้ อ่ เน่ืองครบถว้ น ต่อเนอ่ื งครบถ้วน สัมพันธก์ บั หัวข้อที่กาหนด สมั พนั ธ์กบั หวั ข้อท่ี สัมพนั ธก์ บั หวั ข้อที่ และตอบคาถามได้ถูกตอ้ ง กาหนด กาหนดแต่ยงั ไม่ สามารถแสดงเหตผุ ล ประกอบได้ กระตือรือร้นศกึ ษา คน้ ควา้ ศกึ ษา ค้นควา้ ทางาน ศึกษา คน้ คว้า ทางานดว้ ยความช่ืนชอบ ตามที่ผอู้ ่ืนบอกหรือทา ทางานเมื่อได้รบั สนกุ สนาน และสามารถ ตามคาชกั ชวนของเพอื่ น คาสั่งหรือถูกบงั คับ ชกั ชวนใหผ้ ู้อืน่ ปฏิบตั ิตาม

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขียน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๕ = ดมี าก ๔ = ดี ๓ = ปานกลาง ๒ = พอใช้ ๑ – ๐ ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารผ่าน ได้คะแนนไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ ๕๐ (ไม่น้อยกวา่ ๓ คะแนน) ข้อ รายการประเมนิ คะแนน สรุป หมายเหตุ ๑ มคี วามตั้งใจในการเขยี น ทีไ่ ด้ ผา่ น ไมผ่ า่ น ๒ เขียนได้ถกู ต้อง ๓ เขียนไดส้ วยงาม สะอาด ๔ เว้นวรรคตอนถูกต้อง ๕ สะกดคาถูกต้อง รวมคะแนน ขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเตมิ ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจริ าพร กุลให้)

ีมความรอบคอบในการทางาน แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ประหยัดและอ ู่ยอ ่ยางพอเพียง เป็นผู้นาและผู้ตาม ่ีทดีเกณฑ์การประเมิน ไดค้ ะแนนไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ ๕๐ (ไมน่ ้อยกว่า ๑๐ คะแนน) รวมคะแนนด้านคุณลักษณะ ฯ มีความภาค ูภมิใจในภาษาไทย เกณ ์ฑการประเ ิมน ีมความสนใจใฝ่เรียนรู้ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เลขท่ี ช่อื – สกลุ ผ่าน ไ ่มผ่าน ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๑๐ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ลงช่อื ................................................................................ ผปู้ ระเมนิ (นางสาวจิราพร กลุ ให)้

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ เร่ือง อา่ นป้ายไดส้ าระ ๑ ปกี ารศกึ ษา เรอ่ื ง คาใหม่ คายากในบทเรยี น เวลา ๑ ชัว่ โมง แผนผงั ความคิดประจาหน่วยการเรยี นรู้ที่ ๓ การอา่ นในใจบทเรยี น อา่ นป้ายได้สาระ การเขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง คาใหม่ คายากในบทเรยี น กลมุ่ คา หรือ วลี การเลอื กใชค้ าใหถ้ กู ต้องตาม ความหมาย ประโยคสามัญและสว่ นประกอบของประโยค คาในภาษาต่างประเทศ การอ่านออกเสยี งบทเรยี น การอ่านเสรมิ บทเรยี น มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ ๑ : การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความรู้และความคดิ เพอื่ นาไปใชต้ ัดสินใจ แกป้ ัญหา ในการดาเนินชวี ติ และมีนสิ ยั รักการอ่าน สาระที่ ๒ : การเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขยี นส่ือสาร เขยี นเรยี งความ ย่อความ และเขียนเรื่องราว ในรปู แบบตา่ งๆ เขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ คว้า อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ เป้าหมายการเรียนรู้ประจาหน่วย เมือ่ เรยี นจบหนว่ ยนี้ ผู้เรยี นจะมีความรู้ความสามารถตอ่ ไปนี้ ๑. สามารถอ่าน และเขยี นคา คายาก ข้อความ และสานวนภาษาไทยในบทเรียนไดถ้ ูกต้อง ๒. สามารถนาคา คายาก ข้อความ และสานวนภาษาในบทเรยี นไปใช้ได้ถกู ต้อง คณุ ภาพท่พี งึ ประสงคข์ องผเู้ รียน ๑. มคี วามรอบคอบในการทางาน ๒. เปน็ ผู้นาและผตู้ ามทีด่ ี ๓. มคี วามภาคภมู ใิ จในภาษาไทย ๔. มคี วามสนใจใฝ่เรียนรู้ ๕. ประหยัดและอยู่อยา่ งพอเพยี ง

ขอบข่ายสาระการเรียนร้แู กนกลางรายวิชา ภาษาไทย ตัวช้ีวัด มาตรฐาน ท ๑.๑ (๑) อา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรองได้ถูกต้อง (๒) อธิบายความหมายของคา ประโยคและขอ้ ความทีเ่ ปน็ โวหาร มาตรฐาน ท ๒.๑ (๑) คัดลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทดั และครง่ึ บรรทดั สาระพน้ื ฐาน ๑. อา่ น และเขยี นคา คายาก ขอ้ ความ และสานวนในบทเรียน ๒. การนาคา คายาก ขอ้ ความและสานวนภาษาในบทเรียนไปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ ความรู้ฟงั แน่นติดตวั ผเู้ รียน การเรียนรู้คา คายาก ข้อความและสานวนภาษาไทยในบทเรยี นและนาไปใชใ้ ห้ถูกตอ้ ง ถือ เปน็ การพฒั นาทกั ษะทางภาษาทผ่ี เู้ รียนควรได้รบั การฝกึ ฝน เพ่อื พฒั นาทักษะใหถ้ ูกตอ้ ง จึงจะทาให้ การเรียนรูภ้ าษาเป็นไปดว้ ยดีและเกดิ การพัฒนาตามมา พฤตกิ รรมความพอเพียง ๑. ความพอเพียงด้านตนเอง มคี วามสนใจ ใฝ่รู้ใฝเ่ รียน ๒. มีความพอเพียงด้านสังคม ดาเนินชีวิตตามกฎเกณฑ์ของสงั คม อยรู่ ่วมกับผ้อู ่ืนไดอ้ ยา่ งมี ความสขุ ๓. ความพอเพยี งด้านทรัพยากร ใช้ทรัพยากรท่ีอย่อู ยา่ งค้มุ ค่า ตามปรชั ญาหลักเศรษฐกจิ พอเพียง ๔. ความพอเพยี งด้านภูมิปัญญา สามารถนาความรทู้ ี่ได้จากเร่อื ง การอยูร่ ่วมกัน และ ทางานร่วมกบั ผู้อ่ืนประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน กระบวนการเรยี นรู้ ๑. นกั เรยี นเล่มเกม “การเลอื กใชค้ าแต่งประโยค” ๒. นกั เรยี นแบ่งกลุ่มออกเป็นกลมุ่ ตามความสมคั รใจ (ตามความเหมาะสม) ๓. นาบตั รคาใหม่และคายากในบทเรียน และให้นักเรียนทุกคนฝกึ อ่านร่วมกนั อภปิ ราย ความหมายบนั ทึกลงสมดุ ๔. แจกบัตรคาใหม่คายากในบทเรียนให้นักเรียนแต่ละกลุ่มได้ศึกษาและฝึกอ่าน ๕. นกั เรยี นทกุ กลมุ่ หาคาใหม่ศัพท์ แลว้ ช่วยกนั แต่งประโยคใหม่ โดยไม่ให้ซา้ กนั กลุ่มละ ๑๐ คา แลว้ บันทกึ ลงสมดุ แล้วส่งตัวแทนกลมุ่ นาเสนอผลงานหน้าชน้ั เรยี น ๖. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั ตรวจผลงานของแต่ละกลุ่ม พร้อมทง้ั อภิปรายสรปุ การเลอื กใช้คา ให้ถูกต้องตามความหมาย ปรบมือและกลา่ วใหค้ าชมเชยกลุ่ม ที่แต่งประโยค ได้ถกู ต้อง

๗. มอบหมายใหน้ ักเรียนทากิจกรรมนอกเวลา โดยการรวบรวมคาใหมใ่ นบทเรยี นแลว้ หาความหมายจากพจนานุกรม แลว้ แต่งประโยคแล้วนาผลงานส่งให้ครตู รวจ ๘. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ แข่งขนั กนั เขยี น คายาก บนกระดานดา หน้าชน้ั เรียน กลมุ่ ใด เขียนได้ถกู มากทีส่ ุดเปน็ กลุ่มชนะ ๙. นกั เรียนและครชู ่วยกันสรุปบทเรียน ๑๐. นักเรยี นทาใบงาน สอื่ การเรียนการสอน ๑. ประเภทสือ่ - หนงั สอื แบบเรียนภาษาไทย ชุดภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ - เกม “การเลือกใชค้ าแตง่ ประโยค” - แบบฝกึ ภาษาไทย ๒. วสั ดุ / อุปกรณ์ - บตั รคาใหม,่ - ใบความรู้, ใบงาน ๓. แหล่งการเรียนรู้ - ครู ผู้ปกครอง - ห้องสมุด การวดั ประเมนิ ผล ๑. วธิ ีการวัดและประเมินผล ๑. สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นของนักเรียน ๒. ประเมนิ การอ่าน ๓. ประเมินการเขียน ๔. ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๒. เครือ่ งมอื การวดั และประเมนิ ผล ๑. แบบบนั ทกึ พฤติกรรมการเรียน ๒. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการอา่ น ๓. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขียน ๔. แบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

๓. เกณฑก์ ารประเมิน ๑ การประเมินพฤติกรรมการเรียน ๕ - ๔ หมายถึง ระดบั ดมี าก ๓ – ๒ หมายถึง ระดับ พอใช้ ๑ - ๐ หมายถึง ระดับ ปรบั ปรุง ๒. สังเกตพฤติกรรมการอา่ น ๕ หมายถงึ ระดับ ดมี าก ๔ หมายถึง ระดับ ดี ๓ หมายถึง ระดับ ปานกลาง ๒ หมายถงึ ระดับ พอใช้ ๑ – ๐ หมายถึง ระดบั ปรบั ปรงุ ๓. สังเกตพฤตกิ รรมการเขยี น ๕ หมายถงึ ระดบั ดมี าก ๔ หมายถงึ ระดบั ดี ๓ หมายถงึ ระดบั ปานกลาง ๒ หมายถึง ระดบั พอใช้ ๑ – ๐ หมายถงึ ระดับ ปรับปรุง ๔. การประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๘ – ๑๐ หมายถึง ระดับ ดีมาก ๕ - ๗ หมายถึง ระดับ พอใช้ ๐ - ๔ หมายถึง ระดับ ปรับปรุง

บตั รคำใหม่ในบทเรียน กระหม่ึ เกษตรทฤษฎใี หม่ เกษียณอายุราชการ คานึง ค้างคาใจ บริษัท ประชาสัมพนั ธ์ พฤติกรรม มหกรรม ยานยนต์ ร่วมสมัย ละลานตา รหัส สติกเกอร์ สมรรถนะ หลดุ โลก โหม

ใบงาน เร่อื ง การแต่งประโยค ชื่อกลุ่ม………………………………….…………….ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี………………… วันท่ี ……….. เดือน ………………………………พ.ศ. …………………… คาช้ีแจง ให้นกั เรยี นแตง่ ประโยคจากคาและชุดคาให้ถกู ต้อง คา แต่งประโยค ตัวอย่าง สารวจ นักเรียนไปสารวจรา้ นคา้ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐

ใบงาน เร่อื ง การแต่งประโยค คาชแ้ี จง บอกความหมาย อธบิ ายและฝกึ ใช้คา ๑. เลอื กคาในวงเล็บ เขยี นเปน็ คาใหถ้ ูกตอ้ งแลว้ แตง่ ประโยค ๑) (กะ กระ) พริบ ...................................................................................................... แต่งประโยค ...................................................................................................... ๒) (สัญ สณั ) ลักษณ์ ...................................................................................................... แต่งประโยค ...................................................................................................... ๓) (กฎ กฏ) จราจร ...................................................................................................... แตง่ ประโยค ...................................................................................................... ๔) (เกษยี ร เกษยี น) อายุราชการ........................................................................................ แตง่ ประโยค ...................................................................................................... ๕) มหกรรมยาน (ยนต์ ยนตร์) ........................................................................................ แต่งประโยค ......................................................................................................

เกมการเลือกใชค้ าแต่งประโยค จุดประสงค์ เลอื กใช้คาแต่งประโยคได้ถูกต้องตามความหมาย อุปกรณ์ 1. กระดานดา 2. ชอลก์ วิธีเล่น แบง่ นกั เรียนออกเป็นกล่มุ แต่ละกล่มุ ไม่ควรตา่ กว่า ๔ คน แบง่ พน้ื ที่กระดานดาออกเป็นส่วน ๆ มอบพื้นที่ใหแ้ ต่ละกลุ่มรบั ผิดชอบ ใหแ้ ต่ละกลุ่มท่ีพร้อมที่จะเล่นอยหู่ า่ งจากกระดานดาในระยะท่เี ทา่ กนั และมอบชอล์ก ให้กับทุกกลมุ่ ครูให้สญั ญาณเร่ิมการเลน่ เกม ตวั แทนนักเรียนแต่ละกล่มุ รีบออกมาหนา้ กระดานดา เขยี นคาลงบนกระดานดา ๑ คา แล้วรีบกลับเข้ากลุ่มส่งชอล์กให้เพื่อนคนต่อไปออกไปเขียนคาจนถงึ คนสดุ ท้าย ให้เรยี งคาหรือเช่ือมคา ทีเ่ พ่ือนเขยี นไว้ใหเ้ ปน็ ประโยค เชน่ คนที่ ๑ คนที่ ๒ คนท่ี ๓ คนที่ ๔ คนที่ ๕ แม่ ปรุง อาหาร อร่อย มาก กล่มุ ท่เี ขียนไดร้ วดเร็ว สอ่ื ความถกู ต้อง เรียงประโยคได้สละสลวย เป็นผชู้ นะ การวัดประเมนิ ผล พจิ ารณาจากความสามัคคี การเขียนคาถูกต้อง ส่อื ความได้ เรียงประโยคถูกตอ้ ง สละสลวย

สนใจร่วมกิจกรรม แบบประเมนิ พฤติกรรมการเรยี น ีมความสนใจในเ ่ืรอง ่ีทเ ีรยน ก ้ลาแสดงออกคาช้แี จง : พิจารณาใส่คะแนน (๕, ๔, ๓, ๒, ๑) ลงในช่องวา่ งใหต้ รงกบั พฤติกรรมของนกั เรยี น ตอบคาถามและแสดงเหตุผลเกณฑ์การใหค้ ะแนน ๕ - ๔ = ดีมาก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรบั ปรงุ เกณฑ์การผา่ น ไดค้ ะแนนไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ ๕๐ (ไมน่ อ้ ยกว่า ๑๐ คะแนน) คะแนนรวม เกณฑ์การประเมินรายการสังเกต เลขท่ี ชื่อ – สกุล ๕ ๕ ๕ ๕ ๒๐ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๑ เดก็ ชายวงศธร ชุบขุนทด ๒ เด็กชายสทิ ธา บุญสม ๓ เด็กหญงิ กาญจนเ์ กล้า โพชน่ื ๔ เด็กหญงิ ปรียาภรณ์ นิลอ่อน ๕ เด็กหญิงปยิ ะพร พานแกว้ ๖ เด็กชายบริพฒั น์ กลน่ิ บปุ ผา ๗ เด็กชายสวุ รรณชยั แสนอินทร์ ๘ เด็กชายธนภัทร ชื่นขา ๙ เดก็ ชายปณุ ณวิทย์ บุญกลน่ิ ๑๐ เด็กหญิงสุธาสินี งอกผล ๑๑ เด็กหญิงณัฐวรรณ ธปู เทียน ๑๒ เด็กหญิงพมิ พ์ธันวา ยงั อยู่ ๑๓ เด็กหญิงศริ าพร ทองประเสริฐ ๑๔ เดก็ ชายสริ ายุ บญุ แต่ง ๑๕ เดก็ ชายณัฐวุฒิ พวงมาลยั ๑๖ เด็กชายกรี ติ สวุ รรณคุม้ ลงช่ือ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจิราพร กลุ ให)้

เกณฑก์ ารประเมนิ สาหรับประเมินผลงานของผเู้ รียน ( Rubric Assessment) ระดบั คะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ ๕ - ๔ = ดีมาก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรับปรงุ ๑. สนใจร่วม กจิ กรรม กระตือรอื รน้ สนใจร่วม กระตือรือรน้ สนใจร่วม รว่ มกจิ กรรมเม่ือ ๒. มคี วามสนใจใน เร่อื งทเ่ี รยี น กิจกรรม พร้อมท้ังชักชวน กจิ กรรม ไดร้ บั คาสัง่ หรือถูก ๓. กลา้ แสดงออก ให้ผ้อู นื่ ปฏิบัติตามได้ บังคับ ๔. ตอบคาถามและ มีความกระตือรือรน้ ปฏบิ ัติ สนใจศึกษาค้นควา้ หา ปฏิบัติตนในเรือ่ งท่ี แสดงเหตผุ ล ในเรอ่ื งที่เรียน สนใจศึกษา ข้อมูลดว้ ยตนเองและ เรียน ศึกษาค้นควา้ ๕. มคี วามสามคั คี ค้นควา้ หาข้อมูลนาไป นาไปปฏิบัติ เมอ่ื ไดร้ ับคาสง่ั ปฏิบัตพิ รอ้ มท้งั ชกั ชวนให้ ผู้อื่นปฏิบตั ิตาม มีความกระตือรอื รน้ กล้า มคี วามกระตือรอื รน้ รว่ มกจิ กรรมเม่ือ แสดงออกในการรว่ ม กล้าแสดงออกในการรว่ ม ไดร้ บั คาส่งั หรือถูก กจิ กรรม พร้อมท้ังชกั ชวน กิจกรรม บังคบั ให้ผู้อน่ื ปฏิบัติตามได้ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามได้ ผลได้ต่อเนื่องครบถ้วน ผลได้ต่อเน่ืองครบถ้วน ต่อเนื่องครบถ้วน สัมพันธก์ ับหัวข้อทีก่ าหนด สัมพันธก์ บั หัวข้อที่ สมั พนั ธก์ ับหวั ข้อที่ และตอบคาถามไดถ้ ูกตอ้ ง กาหนด กาหนดแต่ยังไม่ สามารถแสดงเหตผุ ล ประกอบได้ กระตือรอื ร้นศึกษา ค้นควา้ ศึกษา คน้ คว้าทางาน ศึกษา คน้ คว้า ทางานดว้ ยความชืน่ ชอบ ตามที่ผอู้ ่ืนบอกหรือทา ทางานเม่ือไดร้ บั สนกุ สนาน และสามารถ ตามคาชกั ชวนของเพอื่ น คาสั่งหรอื ถูกบงั คับ ชกั ชวนใหผ้ ู้อื่นปฏิบัตติ าม

แบบสังเกตพฤติกรรมการอ่าน เกณฑ์การให้คะแนน ๕ = ดีมาก ๔ = ดี ๓ = ปานกลาง ๒ = พอใช้ ๑ – ๐ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การผา่ น ได้คะแนนไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ ๕๐ (ไมน่ ้อยกว่า ๓ คะแนน) ขอ้ รายการประเมิน คะแนน สรุป หมายเหตุ ท่ไี ด้ ผ่าน ไม่ผ่าน ๑ อา่ นได้ชดั เจนถูกต้องตามอักขรวิธี ๒ คลอ่ งแคล่วไม่ตะกุกตะกกั ๓ แบ่งวรรคตอนถูกต้อง ๔ ใชน้ า้ เสยี งเหมาะสม มีจงั หวะ มีการเน้น เสยี งหนกั เบา ไม่อ่านยานคาง ๕ ใช้นา้ เสยี งในการอา่ นเหมือนเสยี งพดู ของตวั ละคร รวมคะแนน ข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจริ าพร กุลให้)

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขียน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๕ = ดมี าก ๔ = ดี ๓ = ปานกลาง ๒ = พอใช้ ๑ – ๐ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การผ่าน ได้คะแนนไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ ๕๐ (ไม่น้อยกว่า ๓ คะแนน) ข้อ รายการประเมนิ คะแนน สรุป หมายเหตุ ๑ มีความต้งั ใจในการเขยี น ท่ีได้ ผ่าน ไมผ่ ่าน ๒ เขียนได้ถกู ต้อง ๓ เขยี นไดส้ วยงาม สะอาด ๔ เว้นวรรคตอนถกู ต้อง ๕ สะกดคาถูกตอ้ ง รวมคะแนน ขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เติม ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจิราพร กลุ ให้)

แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ เกณฑ์การประเมนิ ได้คะแนนไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ ๕๐ (ไม่นอ้ ยกว่า ๑๐ คะแนน) ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ เลข ชื่อ – สกลุ ีมความรอบคอบในการทางาน ประหยัดและอ ู่ยอ ่ยางพอเพียง ที่ เป็นผู้นาและผู้ตาม ่ีทดี รวมคะแนนด้านคุณลักษณะ ฯ มีความภาค ูภมิใจในภาษาไทย เกณ ์ฑการประเ ิมน ีมความสนใจใฝ่เรียนรู้ ๒ ๒๒ ๒ ๒ ๑๐ ผ่าน ไ ่มผ่าน ๑ เดก็ ชายวงศธร ชบุ ขุนทด ๒ เดก็ ชายสทิ ธา บุญสม ๓ เด็กหญิงกาญจนเ์ กล้า โพชนื่ ๔ เดก็ หญงิ ปรยี าภรณ์ นลิ อ่อน ๕ เด็กหญิงปยิ ะพร พานแกว้ ๖ เดก็ ชายบริพัฒน์ กลิ่นบปุ ผา ๗ เด็กชายสวุ รรณชัย แสนอินทร์ ๘ เดก็ ชายธนภทั ร ชนื่ ขา ๙ เดก็ ชายปณุ ณวทิ ย์ บุญกลน่ิ ๑๐ เดก็ หญงิ สธุ าสนิ ี งอกผล ๑๑ เด็กหญิงณัฐวรรณ ธูปเทียน ๑๒ เด็กหญิงพิมพ์ธนั วา ยงั อยู่ ๑๓ เด็กหญงิ ศริ าพร ทองประเสรฐิ ๑๔ เดก็ ชายสริ ายุ บญุ แต่ง ๑๕ เด็กชายณฐั วุฒิ พวงมาลยั เด็กชายกรี ติ สวุ รรณคมุ้ ลงชอื่ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจริ าพร กลุ ให้)

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๔ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๖ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๓ เร่ือง อา่ นป้ายไดส้ าระ ๑ ปีการศึกษา เร่ือง การเลอื กใชค้ าใหถ้ ูกต้องตามความหมาย เวลา ๑ ชวั่ โมง แผนผงั ความคดิ ประจาหน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๓ การอ่านในใจบทเรยี น การเขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง คาใหม่ คายากในบทเรียน อ่ำนป้ำยได้สำระ การเลือกใชค้ าใหถ้ กู ต้องตาม กลุม่ คา หรือ วลี ความหมาย ประโยคสามัญและส่วนประกอบของประโยค คาในภาษาตา่ งประเทศ การอา่ นออกเสียงบทเรียน การอา่ นเสริมบทเรียน มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี ๔ หลักการใชภ้ าษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษา และพลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ เป้าหมายการเรียนรูป้ ระจาหนว่ ย เม่อื เรียนจบหนว่ ยนี้ ผ้เู รยี นจะมคี วามรู้ความสามารถตอ่ ไปนี้ ๑. วเิ คราะห์ชนิดและหน้าท่ีของคาในประโยค ๒. ใช้คาไดเ้ หมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล ๓. สอื่ สารโดยใชค้ าไดถ้ กู ต้อง ชัดเจน และเหมาะสม คุณภาพท่ีพึงประสงคข์ องผู้เรียน ๑. มีความรอบคอบในการทางาน ๒. เปน็ ผ้นู าและผู้ตามที่ดี ๓. มคี วามภาคภูมใิ จในภาษาไทย ๔. มีความสนใจใฝเ่ รยี นรู้ ๕. ประหยัดและอยู่อย่างพอเพียง ขอบขา่ ยสาระการเรยี นรแู้ กนกลางรายวิชา ภาษาไทย ตวั ชี้วัด มาตรฐาน ท ๔.๑ (๒) ใช้คาได้เหมาะสมกบั กาลเทศะและบุคคล

สาระพ้นื ฐาน ๑. การใช้คา กลุ่มคา สานวนภาษาให้ถูกตอ้ งตามความหมาย ๒. การอา่ นคาใหม่ คายากในบทเรียน และการหาความหมายของคา ความร้ฟู ังแน่นติดตัวผู้เรยี น ๑. การเลอื กใช้คา กลุ่มคา สานวนภาษาให้ถูกต้องตามความหมาย ทาให้การส่ือสาร มี ประสทิ ธภิ าพ ๒. ความสามารถในการอา่ นคาใหม่ คายากในบทเรียน และการหาความหมายของคา ทาให้เกิดความรู้และเป็นพ้ืนฐานในการนาไปใช้ในชีวติ ประจาวนั ได้ พฤตกิ รรมความพอเพียง ๑. ความพอเพยี งดา้ นตนเอง มคี วามสนใจ ใฝ่รูใ้ ฝ่เรียน ๒. มีความพอเพยี งด้านสังคม ดาเนนิ ชีวิตตามกฎเกณฑข์ องสงั คม อยู่ร่วมกบั ผอู้ ื่นได้อยา่ งมี ความสขุ ๓. ความพอเพียงด้านทรัพยากร ใชท้ รัพยากรที่อยู่อย่างค้มุ คา่ ตามปรชั ญาหลกั เศรษฐกิจ พอเพยี ง ๔. ความพอเพียงดา้ นภมู ิปัญญา สามารถนาความรูท้ ี่ไดจ้ ากเรอ่ื ง การอยูร่ ว่ มกนั และ ทางานร่วมกบั ผู้อืน่ ประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจาวนั กระบวนการเรยี นรู้ ๑. นักเรยี นแบ่งกลุ่มตามความสมัครใจ ๒. แจกใบความรู้ให้นกั เรยี นแตล่ ะได้กล่มุ ศึกษา จนเข้าใจ ๓. นาบตั รคาใหมแ่ ละคายากในบทเรยี น และให้นักเรียนทุกคนฝึกอา่ น รว่ มกันอภิปรายความหมายบันทกึ ลงสมุด ๔. หลังจากทน่ี ักเรียนทุกกลุม่ ศกึ ษาใบความรู้ แลว้ ให้รว่ มกันสนทนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพ่ือ ทาความเข้าใจรว่ มกัน ๕. นักเรยี นทกุ กลุ่มหาคาศัพท์จาก แล้วชว่ ยกันแตง่ ประโยคใหม่ โดยไมใ่ หซ้ ้า กับตวั อยา่ งในหนังสอื เรียน กลุ่มละ ๕ คา แลว้ บนั ทกึ ลงสมุด แลว้ ส่งตวั แทนกลมุ่ นาเสนอผลงานหนา้ ชัน้ เรียน ๖. ครูและนกั เรยี นร่วมกันตรวจผลงานของแตล่ ะกลุม่ พรอ้ มทงั้ อภิปรายสรุป การเลือกใช้คา ใหถ้ กู ต้องตามความหมาย ปรบมอื และกลา่ วให้คาชมเชยกลุ่ม ทแ่ี ตง่ ประโยค ไดถ้ ูกต้อง ๗. มอบหมายให้นกั เรียนทากิจกรรมนอกเวลา โดยการรวบรวมคาใหม่และสานวนภาษา หา ความหมายจากพจนานุกรม และแตง่ ประโยคแลว้ นาผลงานส่งใหค้ รตู รวจ ๘. นักเรยี นแข่งขันกันเขียนคา กลุม่ คา สานวนภาษา บนกระดานดา กล่มุ ใดเขยี นได้มาก เขยี นถกู ต้อง เปน็ ฝา่ ยชนะ ๙. ครูและนกั เรียนช่วยกันสรุปบทเรียน จากการแขง่ ขันกันเขียนคา และกลมุ่ คา บนกระดานดา โดยให้นักเรยี นตอบคาถาม ดังนี้ - นักเรยี นรไู้ หมวา่ คาเหลา่ นีเ้ ปน็ คาชนดิ ใด - คาเหลา่ น้ที าหน้าทใี่ นประโยคอะไรได้บ้าง - คาเหลา่ น้ีสามารถนาไปใช้แต่งประโยคได้อยา่ งไรบ้าง - นักเรียนคิดว่าจะนาคาเหล่านไ้ี ปใช้เปน็ ประโยชน์ทางภาษาได้อย่างไรหรอื ไม่

๑๐. นกั เรียนทาใบงาน ๑๑. มอบหมายให้นักเรยี นทาแบบฝกึ ภาษาไทยเป็นการบ้าน ส่ือการเรยี นการสอน ๑. ประเภทส่ือ - หนังสอื แบบเรียนภาษาไทย ชดุ ภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๖ - เกม “การเลอื กใช้คาแตง่ ประโยค” ๒. วสั ดุ / อุปกรณ์ - บัตรคาใหม,่ บัตรคายาก - ใบความร,ู้ ใบงาน ๓. แหล่งการเรยี นรู้ - ครู ผู้ปกครอง - หอ้ งสมุด การวดั ประเมนิ ผล ๑. วิธีการวัดและประเมินผล ๑. สงั เกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรยี น ๒. ประเมินการเขียน ๓. ประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ๒. เคร่อื งมอื การวัดและประเมนิ ผล ๑. แบบบนั ทกึ พฤติกรรมการเรยี น ๒. แบบสังเกตพฤติกรรมการเขยี น ๓. แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๓. เกณฑก์ ารประเมนิ ๑ การประเมินพฤติกรรมการเรียน ๕ - ๔ หมายถงึ ระดับ ดีมาก ๓ – ๒ หมายถงึ ระดบั พอใช้ ๑ - ๐ หมายถงึ ระดบั ปรับปรงุ ๒. สังเกตพฤตกิ รรมการเขียน ๕ หมายถึง ระดับ ดมี าก ๔ หมายถึง ระดบั ดี ๓ หมายถึง ระดับ ปานกลาง ๒ หมายถึง ระดบั พอใช้ ๑ – ๐ หมายถึง ระดับ ปรบั ปรุง ๓. การประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ๘ – ๑๐ หมายถงึ ระดับ ดีมาก ๕ - ๗ หมายถงึ ระดบั พอใช้ ๐ - ๔ หมายถึง ระดบั ปรบั ปรุง

ใบความรู้ เร่ือง คาใหม่ คายากและความหมาย ครรลอง แนวทาง ทายาท(ทา-ยาด) ผสู้ ืบสันดาน,ผสู้ ืบสกุล เทคโนโลยีชีวภาพ วทิ ยาการทน่ี าความรู้ทางวทิ ยาศาสตรม์ าใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ในทางปฏิบตั ิ และอสุ าหกรรมเกยี่ วกบั สิง่ ทไ่ี ม่มีชวี ติ และสิง่ ท่ีสืบเน่ืองมาจากสิ่งมีชวี ิต แบคทเี รีย สิ่งมีชวี ิตเซลลเ์ ดยี ว ไมม่ ีผนงั ท่อหุ้มนิวเคลียร์ มีรูปร่างกลม เปน็ ท่อนโค้ง หรือเปน็ เกลยี ว ปรชี าชาญ มคี วามรจู้ ดั เจนจนชานาญ ปศุสตั ว์ สตั วเ์ ลี้ยงสาหรบั ใชแ้ รงงาน รวมถึงสัตว์ท่ใี ชเ้ ปน็ อาหารดว้ ย เปรมปรีด์ิ(เปรม-ปรี) อ่มิ อกอ่มิ ใจ,ปลาบปลมื้ ใจ พันธุกรรม ลักษณะนสิ ัย ตลอดจนโรคหรือวิกลจริตบางอยา่ งท่ีลกู หลานสืบมาจาก บรรพบรุ ษุ ปยู่ า่ ตายาย หรอื พ่อแม่ พาราไซต์(พา-รา-ไซ้) สิ่งมชี ีวิตอย่างหนึง่ ท่ีดารงชวี ติ และได้อาหารจากสง่ิ มีชีวิตอีกอย่างหนึง่ มีทั้งพชื และสตั ว์ ทัง้ ทใี่ หป้ ระโยชนแ์ ละให้โทษตอ่ สิ่งมีชวี ติ ท่ีอาศัยอยู่ ยลยนิ ได้เหน็ และได้ยนิ ยีนส์ หน่วยโครงสร้างทางทฤษฎที ี่ประกอบกันเปน็ ส่วนของโครโมโซม ซง่ึ ตามคุณลกั ษณะทางพันธุกรรมของสง่ิ มีชวี ิตทถ่ี า่ ยทอดต่อไปยังลูกหลาน วจี(วะ-จ)ี และสามารถแปลงลกั ษณะผ่าเหลา่ ได้ทั้งหน่วย วชั พืช(วดั -ชะ-พืด) คาพูด,ถ้อยคา ไวรัส พชื ทไ่ี ม่ตอ้ งการ เชอื้ จลุ ินทรียท์ ่ีเล็กมาก ไมส่ ามารถมองเห็นไดด้ ว้ ยกล้องจลุ ทรรศนธ์ รรมดา สรร ไม่จดั เป็นเซลล์ มที ั้งท่ีก่อโรคและไมก่ ่อโรค เลือก,คดั

ใบงาน โรงเรยี น.........................................................................ภาคเรียนท่ี … ปกี ารศึกษา ๒๕๕๐ ช่ือ.......................................................................ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เลขท.่ี ............. วนั ท่ี………….เดือน…………………………พ.ศ. ………. คาช้แี จง นักเรียนเรยี งลาดับคาตามพจนานุกรมแล้วหาความหมายของคาใหม่ในบทเรียน ใหถ้ กู ต้อง ปา้ ย ประกาศ โฆษณา สญั จร ประสบการณ์ รถจักรยาน รถจักรยานยนต์ สามล้อ รถประจาทาง รถเก๋ง รถกระบะ สญั ญาณ บรษิ ทั ทะเบียนอนาคต ขวนขวาย อทุ าน โครงงาน ค้นคว้า …………………………...……………………………………………………………………………………………………………………...…………… ………………………………………………………………………………………………………..………………………………………………………… …………………………………………………………..……………………………………………………………………………………………………… ……………..……………………………………………………………………………………………………………………..…………………………… ………………………………………………………………………………………………...……………………………………………………………… ……………………………………………………...………………………………………………………………………………………………………… …………...……………………………………………………………………………………………………………………..……………………………… ……………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………… ………………………………………..……………………………………………………………………………………………………………………..… …………………………………………………………………………………………………………………………...…………………………………… ………………………………………………………………………………...……………………………………………………………………………… ……………………………………...……………………………………………………………………………………………………………………..…… ………………………………………………………………………………………………………………..………………………………………………… …………………………………………………………………..……………………………………………………………………………………………… ……………………..……………………………………………………………………………………………………………………………...…………… ………………………………………………………………………………………………………...……………………………………………………… ……………………………………………………………...………………………………………………………………………………………………… …………………..……………………………………………………………………………………………………………………..……………………… ……………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………

ใบงาน (งานกลุ่ม) เร่ือง เขยี นประโยคจากคา กลุ่มที่….. ๑.ชอ่ื …………………………………………..…..….เลขท…ี่ …….. ๒.ช่ือ…………………………………………..…..….เลขท…ี่ …….. ๓.ชื่อ…………………………………………..…..….เลขท…่ี …….. ๔.ชื่อ…………………………………………..…..….เลขท…่ี …….. ๕.ช่อื …………………………………………..…..….เลขท…่ี …….. คาชีแ้ จง ให้นักเรยี นแต่ละกลุ่ม หาความหมายจากคาท่ีกาหนดให้ คละเคลัา …………………………………………………………………………… กฎจราจร …………………………………………………………………………… กราฟ …………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… โจงกระเบน …………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… ทีม …………………………………………………………………………… ประสบการณ์ …………………………………………………………………………… พระราชดาริ …………………………………………………………………………… พลกุ พล่าน …………………………………………………………………………… ยีห่ ้อ …………………………………………………………………………… สถติ ิ …………………………………………………………………………… สัญญาณ …………………………………………………………………………… สารานุกรม …………………………………………………………………………… สาเนียง ……………………………………………………………………………

สนใจร่วมกิจกรรม แบบประเมนิ พฤติกรรมการเรยี น ีมความสนใจในเ ่ืรอง ่ีทเ ีรยน ก ้ลาแสดงออกคาช้แี จง : พิจารณาใส่คะแนน (๕, ๔, ๓, ๒, ๑) ลงในช่องวา่ งให้ตรงกบั พฤติกรรมของนกั เรยี น ตอบคาถามและแสดงเหตุผลเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๕ - ๔ = ดีมาก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรับปรงุ เกณฑ์การผา่ น ไดค้ ะแนนไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ ๕๐ (ไมน่ อ้ ยกว่า ๑๐ คะแนน) คะแนนรวม เกณฑ์การประเมินรายการสังเกต เลขท่ี ชื่อ – สกุล ๕ ๕ ๕ ๕ ๒๐ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๑ เดก็ ชายวงศธร ชุบขุนทด ๒ เดก็ ชายสิทธา บุญสม ๓ เด็กหญงิ กาญจนเ์ กล้า โพชน่ื ๔ เด็กหญิงปรียาภรณ์ นิลอ่อน ๕ เด็กหญิงปยิ ะพร พานแกว้ ๖ เด็กชายบริพฒั น์ กลน่ิ บปุ ผา ๗ เดก็ ชายสุวรรณชยั แสนอินทร์ ๘ เด็กชายธนภัทร ชื่นขา ๙ เด็กชายปุณณวิทย์ บุญกลิน่ ๑๐ เด็กหญิงสุธาสินี งอกผล ๑๑ เด็กหญิงณัฐวรรณ ธปู เทียน ๑๒ เด็กหญิงพมิ พ์ธันวา ยงั อยู่ ๑๓ เดก็ หญิงศริ าพร ทองประเสริฐ ๑๔ เดก็ ชายสิรายุ บญุ แต่ง ๑๕ เดก็ ชายณัฐวุฒิ พวงมาลัย ๑๖ เด็กชายกรี ติ สวุ รรณคมุ้ ลงช่ือ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจิราพร กุลให)้

เกณฑ์การประเมนิ สาหรบั ประเมินผลงานของผู้เรยี น ( Rubric Assessment) ระดบั คะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ ๕ - ๔ = ดีมาก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรับปรงุ ๑. สนใจร่วม กจิ กรรม กระตือรอื รน้ สนใจร่วม กระตือรือรน้ สนใจร่วม รว่ มกจิ กรรมเม่ือ ๒. มคี วามสนใจใน เร่อื งทเ่ี รยี น กิจกรรม พร้อมท้ังชักชวน กจิ กรรม ไดร้ บั คาสั่งหรือถูก ๓. กลา้ แสดงออก ให้ผ้อู ่นื ปฏิบัติตามได้ บังคับ ๔. ตอบคาถามและ มีความกระตือรือรน้ ปฏบิ ตั ิ สนใจศึกษาค้นควา้ หา ปฏิบัตติ นในเรือ่ งท่ี แสดงเหตผุ ล ในเรื่องที่เรียน สนใจศึกษา ขอ้ มูลดว้ ยตนเองและ เรียน ศกึ ษาค้นควา้ ๕. มคี วามสามคั คี คน้ ควา้ หาข้อมลู นาไป นาไปปฏิบตั ิ เมอ่ื ได้รบั คาสงั่ ปฏิบัตพิ รอ้ มท้งั ชกั ชวนให้ ผู้อื่นปฏิบตั ิตาม มีความกระตือรือร้น กลา้ มคี วามกระตือรอื รน้ รว่ มกจิ กรรมเมื่อ แสดงออกในการรว่ ม กล้าแสดงออกในการรว่ ม ไดร้ บั คาสัง่ หรือถูก กิจกรรม พร้อมท้ังชกั ชวน กิจกรรม บังคบั ให้ผู้อน่ื ปฏิบัติตามได้ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามได้ ผลได้ต่อเนื่องครบถว้ น ผลได้ต่อเน่ืองครบถ้วน ต่อเนื่องครบถ้วน สัมพนั ธก์ ับหัวข้อที่กาหนด สัมพันธก์ บั หัวข้อที่ สมั พนั ธก์ ับหัวข้อที่ และตอบคาถามไดถ้ ูกตอ้ ง กาหนด กาหนดแต่ยังไม่ สามารถแสดงเหตผุ ล ประกอบได้ กระตือรอื ร้นศึกษา ค้นคว้า ศึกษา คน้ คว้าทางาน ศึกษา คน้ คว้า ทางานดว้ ยความชื่นชอบ ตามที่ผอู้ ่ืนบอกหรือทา ทางานเม่ือได้รบั สนกุ สนาน และสามารถ ตามคาชกั ชวนของเพอื่ น คาสั่งหรือถูกบงั คับ ชักชวนใหผ้ ู้อื่นปฏิบัติตาม

แบบสังเกตพฤติกรรมการเขียน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๕ = ดีมาก ๔ = ดี ๓ = ปานกลาง ๒ = พอใช้ ๑ – ๐ ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารผ่าน ได้คะแนนไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ ๕๐ (ไม่น้อยกว่า ๓ คะแนน) ข้อ รายการประเมิน คะแนน สรปุ หมายเหตุ ๑ มคี วามตั้งใจในการเขยี น ทไ่ี ด้ ผ่าน ไมผ่ ่าน ๒ เขียนได้ถกู ต้อง ๓ เขียนไดส้ วยงาม สะอาด ๔ เว้นวรรคตอนถูกต้อง ๕ สะกดคาถูกต้อง รวมคะแนน ขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเตมิ ……………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจิราพร กุลให)้

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ เกณฑ์การประเมนิ ไดค้ ะแนนไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ ๕๐ (ไม่น้อยกว่า 5 คะแนน) ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เลข ช่อื – สกุล ีมความรอบคอบในการทางาน ที่ เป็นผู้นาและผู้ตาม ่ีทดี มีความภาค ูภมิใจในภาษาไทย ีมความสนใจใฝ่เรียนรู้ ประหยัดและอ ู่ยอ ่ยางพอเพียง รวมคะแนนด้านคุณลักษณะ ฯ เกณ ์ฑการประเ ิมน ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๑๐ ผ่าน ไ ่มผ่าน ๑ เดก็ ชายวงศธร ชุบขุนทด ๒ เด็กชายสทิ ธา บุญสม ๓ เด็กหญิงกาญจน์เกลา้ โพช่นื ๔ เดก็ หญงิ ปรยี าภรณ์ นลิ ออ่ น ๕ เด็กหญงิ ปิยะพร พานแกว้ ๖ เด็กชายบริพัฒน์ กลิน่ บปุ ผา ๗ เด็กชายสุวรรณชัย แสนอนิ ทร์ ๘ เดก็ ชายธนภัทร ชน่ื ขา ๙ เดก็ ชายปุณณวทิ ย์ บุญกลิ่น ๑๐ เด็กหญิงสุธาสนิ ี งอกผล ๑๑ เดก็ หญงิ ณัฐวรรณ ธปู เทยี น ๑๒ เดก็ หญิงพมิ พธ์ ันวา ยังอยู่ ๑๓ เด็กหญงิ ศริ าพร ทองประเสริฐ ๑๔ เดก็ ชายสริ ายุ บญุ แต่ง ๑๕ เดก็ ชายณัฐวฒุ ิ พวงมาลัย 16 เด็กชายกีรติ สวุ รรณคมุ้ ลลงชอ่ื ................................................................................ ผ้ปู ระเมิน (นางสาวจริ าพร กลุ ให)้

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๕ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๓ เร่ือง อ่านป้ายได้สาระ ๑ ปกี ารศึกษา เรื่อง กลุ่มคา หรอื วลี เวลา ๑ ชวั่ โมง แผนผงั ความคิดประจาหน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ การอ่านในใจบทเรียน อ่านปา้ ยได้สาระ การเขยี นแผนภาพโครงเร่ือง คาใหม่ คายากในบทเรียน กลุม่ คา หรือ วลี การเลือกใชค้ าใหถ้ ูกต้องตาม ความหมาย ประโยคสามัญและสว่ นประกอบของประโยค คาในภาษาต่างประเทศ การอา่ นออกเสียงบทเรียน การอา่ นเสริมบทเรียน มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี ๑ : การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความรูส้ กึ และความคดิ เพื่อนาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนินชวี ิตและมนี ิสยั รกั การอ่าน สาระท่ี ๒ : การเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขยี นสือ่ สาร เขยี นเรียงความ ย่อความ และเขียนเร่อื งราว ในรูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้า อยา่ งมีประสิทธภิ าพ สาระที่ ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษา และพลังของภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัตขิ องชาติ เปา้ หมายการเรยี นร้ปู ระจาหนว่ ย เม่ือเรยี นจบหนว่ ยน้ี ผู้เรยี นจะมคี วามรู้ความสามารถตอ่ ไปน้ี ๑. บอกความหมายและลักษณะของกลมุ่ คา หรอื วลี ได้ ๒. แต่งประโยคจากกลุ่มคา หรือ วลี ไดถ้ ูกต้อง คณุ ภาพท่พี งึ ประสงคข์ องผูเ้ รียน ๑. มีความรอบคอบในการทางาน ๒. เปน็ ผนู้ าและผตู้ ามที่ดี ๓. มคี วามภาคภูมิใจในภาษาไทย ๔. มคี วามสนใจใฝเ่ รียนรู้ ๕. ประหยดั และอยู่อยา่ งพอเพียง

ขอบข่ายสาระการเรยี นรู้แกนกลางรายวิชา ภาษาไทย ตัวชว้ี ดั มาตรฐาน ท ๑.๑ (๒) อธิบายความหมายของคา ประโยคและข้อความที่เปน็ โวหาร มาตรฐาน ท ๒.๑ (๑) คดั ลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด และครึ่งบรรทัด (๒) เขยี นสอ่ื สารโดยใช้คาไดถ้ ูกตอ้ งชัดเจน และเหมาะสม มาตรฐาน ท ๔.๑ (๑) วเิ คราะห์ชนิดและหน้าท่ีของคาในประโยค (๔) ระบุลกั ษณะของประโยค สาระพ้นื ฐาน ๑. ความหมายของกลุ่มคา หรือ วลี ๒. การใชก้ ลุ่มคา หรอื วลี ๓. การแต่งประโยคจากกลมุ่ คา หรอื วลี ความรูฟ้ ังแนน่ ติดตวั ผู้เรียน การร้หู ลักเกณฑ์ทางภาษา เร่ือง กลุ่มคา หรอื วลี ใหถ้ กู ต้องตามความหมายและถูกต้อง ตามหน้าทีข่ องประโยค ช่วยให้ใช้ภาษาในการส่ือสารได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ พฤติกรรมความพอเพียง ๑. ความพอเพยี งด้านตนเอง มคี วามสนใจ ใฝร่ ูใ้ ฝ่เรียน ๒. มคี วามพอเพยี งด้านสงั คม ดาเนนิ ชีวิตตามกฎเกณฑ์ของสังคม อยรู่ ่วมกับผู้อน่ื ได้อยา่ งมี ความสุข ๓. ความพอเพียงด้านทรพั ยากร ใช้ทรัพยากรท่ีอย่อู ย่างคุ้มค่า ตามปรัชญาหลักเศรษฐกิจ พอเพียง ๔. ความพอเพยี งด้านภมู ปิ ญั ญา สามารถนาความรูท้ ่ไี ด้จากเรอื่ ง การอยู่รว่ มกัน และ ทางานร่วมกบั ผู้อน่ื ประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตประจาวนั กระบวนการเรียนรู้ ๑. สนทนาทบทวนบทเรียน เรอื่ ง กลุ่มคา หรือ วลี เพอ่ื นาไปส่กู ารเรยี นรู้ ๒. นกั เรียนฝกึ อา่ นกลุ่มคา หรอื วลี จากแผนภูมิ ๓. แบ่งกลมุ่ นกั เรียนออกเปน็ กลมุ่ โดยใหน้ ักเรียนศึกษาความรู้ทางภาษา เรื่อง กลมุ่ คาหรือ วลี จากใบความรู้ ๔. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่ม สง่ ตัวแทนออกมารายงานหน้าชัน้ เรียน ๕. ครแู ละเพ่ือนนกั เรียนช่วยกันสรปุ อภปิ ราย แสดงความคดิ เห็นจากสมาชกิ ของกลมุ่ ท่ี ออกมานาเสนอรายงานหนา้ ชั้นเรียน และเตมิ เต็มในส่วนท่ไี ม่สมบูรณ์ ๖. ครูแจกตวั อย่างแถบข้อความ ให้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกันวิพากษ์วจิ ารณ์ กล่มุ คา หรือ วลี วา่ ขอ้ ความใดทีใ่ ช้ไม่ถูกต้อง เพราะเหตุใด ให้ช่วยกัน ปรับปรงุ แกไ้ ขใหถ้ ูกต้อง ๗. นักเรยี นแข่งขนั กนั เขียนกลุ่มคา หรอื วลี บนกระดานดา กลุม่ ใดเขยี นไดม้ ากและ เขยี นถกู ต้อง เป็นฝ่ายชนะ

๘. นักเรยี นและครูชว่ ยกันสรุปบทเรยี น เร่อื ง กลุ่มคา หรอื วลี และหลกั เกณฑ์ การนา กลมุ่ คา หรอื วลี ไปใช้ในการแต่งประโยค โดยครสู รุปเพมิ่ เติมเพ่ือให้ไดห้ ลักการวา่ “วลีหรอื กล่มุ คา คือการเพ่ิมเตมิ คานาม คากริยา และคาขยายใหม้ ีความชัดเจนยิ่งขนึ้ ถือวา่ เป็นสว่ นหนึ่งของหลักภาษา หลักเกณฑ์การใชภ้ าษา” ถา้ นักเรียนมีความรู้ความเขา้ ใจอย่างแจ่มแจง้ ชดั เจน กจ็ ะสามารถนาไปใช้ได้ อย่างถูกต้อง ๙. นกั เรยี นทาใบงาน ๑๐. มอบหมายให้นกั เรยี นทาแบบฝกึ ทกั ษะภาษา เป็นการบา้ น สอื่ การเรยี นการสอน ๑. ประเภทส่อื - หนงั สอื แบบเรียนภาษาไทย ชดุ ภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๖ - แบบฝึกทกั ษะภาษา ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ - ตัวอย่างแถบข้อความ - แผนภูมิ ๒. วสั ดุ / อปุ กรณ์ - บัตรคา - ใบความรู้, ใบงาน ๓. แหล่งการเรยี นรู้ - ครู ผู้ปกครอง - หอ้ งสมดุ การวัดประเมนิ ผล ๑. วิธีการวดั และประเมินผล ๑. สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นของนักเรียน ๒. ประเมินการอ่าน ๓. ประเมนิ การเขียน ๔. ประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๒. เคร่อื งมือการวัดและประเมนิ ผล ๑. แบบบนั ทึกพฤติกรรมการเรียน ๒. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการอา่ น ๓. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขียน ๔. แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ๓. เกณฑ์การประเมนิ ๑ การประเมินพฤติกรรมการเรยี น ๕ - ๔ หมายถงึ ระดับ ดมี าก ๓ – ๒ หมายถึง ระดับ พอใช้ ๑ - ๐ หมายถงึ ระดับ ปรบั ปรงุ

๒. สังเกตพฤติกรรมการอา่ น ๕ หมายถึง ระดบั ดีมาก ๔ หมายถึง ระดับ ดี ๓ หมายถึง ระดับ ปานกลาง ๒ หมายถึง ระดบั พอใช้ ๑ – ๐ หมายถงึ ระดบั ปรบั ปรงุ ๓. สังเกตพฤติกรรมการเขยี น ๕ หมายถึง ระดบั ดมี าก ๔ หมายถึง ระดับ ดี ๓ หมายถงึ ระดบั ปานกลาง ๒ หมายถงึ ระดบั พอใช้ ๑ – ๐ หมายถึง ระดบั ปรับปรงุ ๔. การประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ๘ – ๑๐ หมายถงึ ระดับ ดมี าก ๕ - ๗ หมายถึง ระดบั พอใช้ ๐ - ๔ หมายถงึ ระดับ ปรบั ปรุง

ใบงานที่ ๑ โรงเรียน.........................................................................ภาคเรยี นท่ี … ปีการศกึ ษา ....... ชือ่ .......................................................................ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๖ เลขท่ี.............. วนั ที่………….เดือน…………………………พ.ศ. ………. คาช้ีแจง นักเรยี นหากลุม่ คา วลี ในบทเรียน แลว้ นามาแตง่ ประโยคให้ถูกต้อง วลี /กลุ่มคา ประโยค ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................

ใบงานท่ี ๒ คาชแ้ี จง แต่งประโยคจากคาหรือกลุ่มคาท่ีกาหนดให้ ๑. เปิดรา้ น หลังจาก จาหนา่ ย เกษยี ณอายรุ าชการ ไม้ดอกไมป้ ระดบั คุณปู่ ............................................................................................................................................................ ๒. กวา่ ปกี ่อน มหกรรมยานยนต์ แสดง สถานท่ี อลงั การยิง่ ใหญ่ ปนี ้ี ............................................................................................................................................................ ๓. น้อมนา มาพฒั นา เกษตรกร การเกษตร สคู่ วามย่งั ยืน ทฤษฎีใหม่ ...................................................................................... ...................................................................... ๔. ทางระบายน้า โครงการ ออกสู่ทะเล จัดทา เพอื่ ผันนา้ ทางทิศตะวันออก ............................................................................................................... ............................................. ๕. เป็นส่วนหนึง่ ความปลอดภยั สญั ญาณไฟ ในการใชร้ ถใชถ้ นน ท่ที าใหเ้ กดิ ............................................................................................................................. ...............................

สนใจร่วมกิจกรรม แบบประเมนิ พฤติกรรมการเรยี น ีมความสนใจในเ ่ืรอง ่ีทเ ีรยน ก ้ลาแสดงออกคาช้แี จง : พิจารณาใส่คะแนน (๕, ๔, ๓, ๒, ๑) ลงในช่องวา่ งให้ตรงกบั พฤติกรรมของนกั เรยี น ตอบคาถามและแสดงเหตุผลเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๕ - ๔ = ดีมาก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรบั ปรงุ เกณฑ์การผา่ น ไดค้ ะแนนไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ ๕๐ (ไมน่ อ้ ยกว่า ๑๐ คะแนน) คะแนนรวม เกณฑ์การประเมินรายการสังเกต เลขท่ี ชื่อ – สกุล ๕ ๕ ๕ ๕ ๒๐ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๑ เดก็ ชายวงศธร ชุบขุนทด ๒ เดก็ ชายสิทธา บุญสม ๓ เด็กหญงิ กาญจนเ์ กล้า โพชน่ื ๔ เด็กหญิงปรียาภรณ์ นิลอ่อน ๕ เด็กหญิงปยิ ะพร พานแกว้ ๖ เด็กชายบริพฒั น์ กลน่ิ บปุ ผา ๗ เดก็ ชายสุวรรณชยั แสนอินทร์ ๘ เด็กชายธนภัทร ชื่นขา ๙ เด็กชายปุณณวิทย์ บุญกลิน่ ๑๐ เด็กหญิงสุธาสินี งอกผล ๑๑ เด็กหญิงณัฐวรรณ ธปู เทียน ๑๒ เด็กหญิงพมิ พ์ธันวา ยงั อยู่ ๑๓ เดก็ หญิงศริ าพร ทองประเสริฐ ๑๔ เดก็ ชายสิรายุ บญุ แต่ง ๑๕ เดก็ ชายณัฐวุฒิ พวงมาลยั ๑๖ เด็กชายกรี ติ สวุ รรณคุม้ ลงช่ือ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจิราพร กุลให)้