Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ กริยาช่วย ( วิชาการ 1กย 64)

แผนการจัดการเรียนรู้ กริยาช่วย ( วิชาการ 1กย 64)

Published by จารุวรรณ บุญช่วย, 2021-08-31 07:41:31

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ กริยาช่วย ( วิชาการ 1กย 64)

Search

Read the Text Version

บนั ทกึ ข้อความ ส่วนราชการ โรงเรียนโนนเพก็ วทิ ยาคม อาเภอพยหุ ์ จังหวัดศรีสะเกษ ท.ี่ ......................./2564 วนั ที่ 31 เดือน สงิ หาคม พ.ศ. 2564 เรื่อง ส่งแผนการจัดการเรียนรู้ กอ่ นการใช้ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ Dreams can come true เรื่อง Modal Verb ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เรยี น ผูอ้ านวยโรงเรยี นโนนเพ็กวิทยาคม ข้าพเจ้า นางสาวจารุวรรณ บุญชว่ ย ตาแหน่ง ครูกลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ ในภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 ไดร้ บั ผิดชอบสอนวชิ าภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 5 รหสั วชิ า อ32101 จานวน 2 คาบ/สัปดาห์ ในคร้งั นีข้ ออนญุ าตใชห้ นว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ Dreams can come true เรื่อง Modal Verb เวลาเรยี น 2 ช่ัวโมง จานวน 1 แผน จงึ เรยี นมาเพ่ือโปรดทราบและพิจารณา (ลงช่ือ)........................................................ครผู ู้สอน ( นางสาวจารุวรรณ บุญชว่ ย) บันทึกการตรวจหวั หน้ากล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาตา่ งประเทศ ....................................................................................................................................................................................................... ลงชอื่ ........................................หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ ( นางสาวจารวุ รรณ บญุ ชว่ ย) บนั ทกึ การตรวจฝ่ายวิชาการ 1. มกี ารกาหนดเป้าหมาย  มีและชัดเจน  มแี ตไ่ ม่ชัดเจน  ไมม่ ี 2. มีการกาหนดกรอบการประเมนิ ผล  มแี ละชดั เจน  มแี ตไ่ ม่ชดั เจน  ไม่มี 3. มกี ารกาหนดกจิ กรรมการเรยี นรู้  มแี ละชัดเจน  มแี ต่ไมช่ ัดเจน  ไมม่ ี 4. มีการตรวจสอบการออกแบบ ฯ  มีและชดั เจน  มีแต่ไมช่ ดั เจน  ไม่มี 5. มแี ผนการเรยี นรู้ครบถ้วน  มแี ละชดั เจน  มแี ต่ไมช่ ดั เจน  ไมม่ ี 6. การเขียนแผนการเรยี นรู้ 6.1 การกาหนดเปา้ หมาย สาระ  มีและชดั เจน  มแี ตไ่ ม่ชดั เจน  ไม่มี 6.2 กิจกรรมการเรยี นรเู้ น้น K P A  มีและชัดเจน  มแี ตไ่ ม่ชดั เจน  ไม่มี 6.3 กิจกรรมการเรยี นรเู้ น้นการคิดวเิ คราะห์  มีและชดั เจน  มแี ตไ่ มช่ ดั เจน  ไมม่ ี 6.4 ทักษะทีจ่ าเป็นสาหรบั ศตวรรษท่ี 21  มแี ละชัดเจน  มีแต่ไมช่ ัดเจน  ไมม่ ี 6.5 ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์  มแี ละชัดเจน  มีแตไ่ ม่ชดั เจน  ไมม่ ี 6.6 กจิ กรรมการเรยี นรเู้ นน้ ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง  มีและชดั เจน  มแี ตไ่ มช่ ัดเจน  ไมม่ ี 7. มีการใชส้ ื่อการเรยี นทหี่ ลากหลาย  มีและชดั เจน  มีแต่ไมช่ ัดเจน  ไม่มี ( ลงช่ือ)..........................................ผู้ช่วยผู้อานวยการกลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ (นางสภุ าพ สุทธิสน) ความเห็นผอู้ านวยการ  อนุญาตสอนได้  ให้ปรบั ปรงุ /แกไ้ ข........................................................................................................ ( ลงช่อื )...............................................................ผอู้ านวยการโรงเรยี น (นายฐาปนพงศ์ รมิ หนองอ่าง) ----------/--------------/-----------

แผนการจัดการเรยี นรู้ วิชาภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน รหสั วิชา อ 32101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรยี นโนนเพ็กวทิ ยาคม ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่3 Dreams can come true เร่ือง Modal Verbs เวลา 2 ชว่ั โมง วันท่ี .…1….เดอื น..กนั ยายน….พ.ศ. 2561 ผ้สู อน นางสาวจารุวรรณ บญุ ช่วย ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตวั ชว้ี ัด สาระที่ 2 : ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต 2.2 ม.5/2 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. เข้าใจความหมายโครงสรา้ งประโยคในบทอ่านต่างๆ 2. ใช้โครงสร้างประโยคท่ซี บั ซอ้ นในการสอื่ สารได้ สาระสาคญั การศึกษาภาษาองั กฤษ นักเรียนตอ้ งเข้าใจโครงสร้างไวยากรณ์ภาษาอังกฤษในเรื่องต่างๆ เพื่อจะไดน้ า ความรนู้ นั้ ไปฝกึ ใช้ในลักษณะตา่ งๆอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ทักษะ /กระบวนการ ( P-Process) การฟงั การฟังหลักการใช้กริยาชว่ ย การพูด การพดู ถามตอบเก่ียวกับกริยาชว่ ย การอ่าน การอ่านความรู้เร่ืองกรยิ าช่วย การเขยี น การเขยี นประโยคโดยใช้Modal Verbs สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ( Competencies of learners ) ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ การส่อื สารพูดเขยี น นาเสนอผลงาน การคดิ การแกป้ ัญหา และการใชเ้ ทคโนโลยี ความสามารถในทักษะการคิด ทักษะการนาความรมู้ าใช้ นาสานวนภาษาทีเ่ รียนมาใช้เหตผุ ลการวิเคราะห์

ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 2. ซ่ือสตั ยส์ ุจริต รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ มีวินยั 4. ใฝเ่ รียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง 6. มุ่งม่ันในการทางาน รักความเป็นไทย 8. มีจิตสาธารณะ ทักษะทจี่ าเป็นสาหรับศตวรรษท่ี 21 1. ทกั ษะในสาระวิชาหลกั (3Rs) 1.1  Reading (อ่าน) 1.2  (W) Writing (เขียน) 1.3  (A) Rithemetics (คณิตฯ) 2. ทกั ษะการเรยี นรแู้ ละนวตั กรรม (8Cs) 2.1  Critical Thinking and Problem Solving (การคดิ วจิ ารณญาณ และแกป้ ัญหา) 2.2  Creativity and Innovation (การสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม) 2.3 Cross-cultural Understanding (ความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม) 2.4  Collaboration, Teamwork and Leadership (การทางานเป็นทมี ภาวะผ้นู า) 2.5  Communications, Information, and Media Literacy (การสือ่ สารสารสนเทศ) 2.6  Computing and ICT Literacy (ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยี) 2.7  Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชพี และการเรยี นรู้) 2.8  Compassion (คุณธรรม เมตตา กรุณา ระเบยี บวินัย) การบูรณาการกับปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ความพอประมาณ มีเหตผุ ล มภี มู ิคุม้ กนั ทด่ี ี 4. ความรู้ คณุ ธรรม

สาระการเรียนรู้ การเรียนรไู้ วยากรณ์ภาษาองั กฤษ เรื่อง Modal Verbs กจิ กรรมนาข้ันนาเขา้ ส่บู ทเรียน (Introduction) ครูถามคาถาม เกี่ยวกบั title (ชื่อเรื่อง) ทีจ่ ะเรยี น ดงั น้ี What are you doing now? (We are studying English.) What are modal verbs ? ( These are verbs that indicate likelihood, ability, permission or obligation. Words like: can/could, may/might, will/would, shall/should and must. ) ครพู บปะนกั เรียนดว้ ยวธิ ีการใช้ไลนก์ ลมุ่ ห้องเรยี นเป็นสอ่ื กลางในการเรยี นรผู้ ่านชอ่ งทางหอ้ งเรยี น ออนไลน์ ตามสถานการณ์ในชว่ งแพร่ระบาดของโรคโควดิ 19 ครกู าหนดหวั ข้อเรอื่ ง Modal Verbs โดยการ ใชส้ อื่ ออนไลน์ประกอบการเรียนการสอนแล้วให้นกั เรยี นชว่ ยกนั อธิบายตามความเขา้ ใจของแตล่ ะคน กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั นาเสนอเนอ้ื หา (Presentation) 1. ครูพบปะนกั เรียนผา่ นช่องทางการเรยี นออนไลน์ ครูกาหนดหัวขอ้ เรอ่ื ง Modal Verbs 2. คลิปการสอน Modal Verb ขน้ั ฝึก (Practice) 3. ครูใชแ้ บบทดสอบก่อนเรยี น ( Google Form ) ขน้ั การใช้ภาษาเพ่ือการส่ือสาร (Production) 4.ครูยกตัวอยา่ งคลิปการสอนจากสื่อประเภทต่างๆประกอบการเรยี นรู้ ใบความรู้ 5. ครูแจกใบความรูเ้ รอ่ื ง Modal Verbs ผ่านช่องทางการเรยี นสื่อออนไลน์ ใหน้ ักเรยี นศึกษาด้วย ตนเอง ถ้าไมเ่ ข้าใจ ครูอธบิ ายเพิม่ เติม 6. นักเรียนแบบทดสอบหลังเรยี นและมอบหมายงานทาแบบฝึกหัดจากใบงานทก่ี าหนดให้

ขั้นสรปุ (Conclusion) 7. ครมู อบหมายนักเรยี นสรปุ เนือ้ หาเรือ่ ง Modal Verbs จากทเี่ รยี นมาลงสมุดจดของตนเองพอ เข้าใจ 8. ให้นักเรยี นทาแบบฝึกหดั ข้อท่ี 1-4 สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรยี นรู้ 1. ใบความรู้ เรื่อง Modal Verbs 2. แบบฝกึ หัด ใบงาน 3. แบบทดสอบก่อน-หลงั เรียน ( Google form ) 4. สื่อเทคโนโลยีต่างๆ อินเตอรเ์ นต Youtube

การวดั และประเมนิ ผล เป้าหมาย เกณฑก์ าร หลกั ฐาน เคร่ืองมอื วัด ประเมนิ สาระสาคัญ ใบความรู้ ใบงาน ร้อยละ 50 แบบทดสอบ ผ่านเกณฑ์ การศกึ ษาภาษาองั กฤษ นกั เรียนต้องเข้าใจ ใบงาน โครงสร้าง ไวยากรณภ์ าษาอังกฤษใน เรื่องตา่ งๆ แบบทดสอบ เพอื่ จะได้นา ความรู้น้ันไปฝึกใช้ในลักษณะ ต่างๆ อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ตัวชว้ี ัด ต 2.2 ม.6/2 ใบความรู้ ใบงาน แบบทดสอบ รอ้ ยละ 50 ใบงาน แบบทดสอบ ผา่ นเกณฑ์ ใบงาน รอ้ ยละ 50 แบบทดสอบ ผา่ นเกณฑ์ ความรู้ ความเขา้ ใจ (K) ใบความรู้ K1 = มคี วามรู้ความเข้าใจเกี่ยวกรยิ าช่วย ใบงาน Modal Verbs แบบทดสอบ K2 = ระบคุ าศัพท์ กริยาช่วยModal Verbs ได้ K3 = -มคี วามรู้ความเข้าใจรายละเอยี ดกรยิ า ชว่ ยModal Verbs ได้ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ แบบประเมนิ แบบประเมิน ผ่านเกณฑ์ คณุ ลกั ษณะ 1. มวี ินัย คณุ ลักษณะ อันพึงประสงค์ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ อนั พงึ ประสงค์ 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน 4. กลา้ คิด กลา้ ทา กลา้ แสดงออกอยา่ งเหมาะสม สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน แบบประเมิน แบบประเมินสมรรถนะ ผา่ นเกณฑ์ 1. ความสามารถในการ ส่ือสาร (พูด เขยี น สมรรถนะ นาเสนอผลงาน) 2. ความสามารถในการคดิ (การใชเ้ หตผุ ลการ วเิ คราะห์) 4. ด้านทกั ษะผเู้ รียนในศตวรรษท่ี 21 - สังเกตพฤติกรรมการ - แบบประเมินทักษะ ผ่านเกณฑ์ ผเู้ รียนในศตวรรษท่ี 21 ผ่านเกณฑ์ (21st Century Skills) เรียนรู้ (21st Century Skills) - ประเมินผลจากชิน้ งาน - แบบประเมินการนา หลักปรัชญาของ 5. ด้านการนาหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง - สังเกตพฤติกรรมการ เศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช้ มาใช้ เรยี นรู้ - ประเมนิ ผลงานและการ ปฏิบตั ิกจิ กรรมกลุ่ม ลงชื่อ ............................................................. ผสู้ อน (นางสาวจารุวรรณ บุญชว่ ย)

แบบบันทกึ หลงั การสอน รายวิชา ภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน (อ32101) กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 5 แผนการเรยี นเรียนรูท้ ี่ เรอ่ื ง Modal Verbs เวลาเรียน 2 ช่ัวโมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- บันทึกผลการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1 ผลการจัดการเรียนรู้ 1.1) จากการจัดการเรียนรตู้ ามแผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ……เรอื ง…Modal Verbs นกั เรยี น จานวน……24….คน ผลปรากฏว่า นักเรียนสามารถ  มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ให้ความสนใจและตั้งใจเรียน  ปฏิบตั ิกจิ กรรมตามทไี่ ดร้ ับ มอบหมายผา่ น คิดเป็นร้อยละ………………. ไม่ผ่าน คิดเป็นร้อยละ..................... 1.2) นกั เรยี นผ่านการประเมินสมรรถนะทีส่ าคญั คดิ เปน็ ร้อยละ............... ไม่ผ่าน คดิ เป็นร้อยละ....................... 1.3) นักเรยี นผา่ นการประเมินทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 คิดเปน็ ร้อยละ............... ไม่ผา่ น คดิ เป็นร้อยละ....................... 1.4) นกั เรยี นผ่านการประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คิดเปน็ รอ้ ยละ.................. ไม่ผ่าน คิดเป็นร้อยละ................... 1.5) เวลาในการจดั การเรียนรู้  ตรงตามแผน ฯ  นอ้ ยกวา่ แผน ฯ  มากกว่าแผน ฯ 1.6) การใช้สือ่ / แหล่งเรยี นรู้  ตรงตามแผน ฯ  ไมต่ รงตามแผน ฯ เพราะ .................................................... 2 ปัญหาและอุปสรรค 2.1) นกั เรยี นที่ไมผ่ า่ นการทดสอบ การปฏบิ ตั ิกิจกรรม ได้ดาเนินการแกไ้ ขโดย ......................................................................................................ผลการแกไ้ ข  ผา่ น  ไม่ผ่าน 2.2) นกั เรยี นไมผ่ า่ นการประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น ได้ดาเนนิ การแกไ้ ขโดย .........................................................................................................ผลการแกไ้ ข  ผ่าน  ไม่ผ่าน 2.3) นกั เรยี นไม่ผ่านการประเมนิ ทักษะผเู้ รียนในศตวรรษที่ 21 ได้ดาเนนิ การแก้ไขโดย .........................................................................................................ผลการแกไ้ ข  ผา่ น  ไมผ่ ่าน 2.4) นกั เรียนไมผ่ า่ นการประเมินการนาหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช้ดาเนนิ การแกไ้ ข โดย …............................................................................................ผลการแก้ไข  ผ่าน  ไมผ่ ่าน 2.5) นักเรยี นไมผ่ า่ นการประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ไดด้ าเนนิ การแก้ไขโดย ........................................................................................................ผลการแกไ้ ข  ผ่าน  ไม่ผ่าน 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ลงช่อื ..........................................................ผู้สอน (..นางสาวจารุวรรณ บญุ ชว่ ย..) ตาแหน่ง ครู ............./......................../................

4. บันทึกการนิเทศการสอน - ความเหน็ ของหวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ลงช่อื (…นางสาวจารวุ รรณ บญุ ช่วย ) .............../.............../............. - ความเหน็ ของหวั หนา้ บริหารงานกล่มุ วิชาการ ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ลงช่ือ (………นางสภุ าพ สทุ ธิสน……..) .............../.............../............. - ความเห็นของผู้บรหิ ารโรงเรยี น ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ( นายฐาปนพงศ์ รมิ หนองอา่ ง) .............../.............../..............

ภาคผนวก

ใบความรู้ Modal Verb ใบความรู้เร่ือง Modal Verbs must ,mustn’t , have to / should, shouldn’t / can , can’t , could / was able to , were able to / may , might Modal Verbs ได้แกค่ าท่ีเรานาไปใช้เป็นกริยาชว่ ยในประโยค ได้แก่ must, mustn’t, have to / should, shouldn’t / can , can’t , could / was able to , were able to / may , might ซงึ่ มีวธิ ีการนาไปใช้ดงั นี ้ 1. must แปลวา่ ต้อง • เราใช้ must ในการแสดงถึงหน้าท่ีหรือความรับผิดชอบที่ไมส่ ามารถปฏิเสธได้ เชน่  You must always follow school rules. คณุ ต้องปฏิบตั ติ ามกฏของโรงเรียนเสมอ (it’s the rule/the law.)  You must have the driving license before driving. คณุ ต้องมีใบอนญุ าตขบั ข่ี กอ่ นขบั รถ (it is the low.) (หลงั must ต้องตามด้วยกริยา (verb) ชอ่ ง 1 เสมอ 2. mustn’t แปลว่า ต้องไม่ • เราใช้ mustn’t ในการแสดงถงึ การไมอ่ นญุ าต (ข้อห้าม) เชน่  You mustn’t park here. คณุ ต้องไมจ่ อดรถท่ีนี่ (it isn’t allowed.) 3. have to แปลวา่ ต้อง • เราใช้ have to ในการแสดงถึงความจาเป็ นต้องปฏิบตั ติ าม เชน่  You have to be quiet in the library. คณุ ต้องเงียบในห้องสมดุ  We have to study hard for history exam. (it’s necessary.) 4. don’t have to (ด้นท์ แฮฟ ท)ู แปลวา่ ต้องไม่ • เราใช้ don’t have to ในการแสดงถงึ ความไมจ่ าเป็นที่ต้องปฏิบตั ติ าม เชน่  You don’t have to wear a tie for the party. คณุ ไมจ่ าเป็นต้องใสไ่ ทน์ ไปงานปาร์ตี ้(it isn’t necessary. – it shows no obligation.) ข้อควรจา  เราใช้ must / mustn’t ใน present tense เทา่ นนั้  เราสามารถใช้ have to ได้กบั ทกุ ๆ tense

ข้อควรจา • เราใช้ทงั้ may และ might เม่ือเราต้องการความสภุ าพมากกวา่ ซง่ึ might ใช้เป็นทางการมากกวา่ may เสียอีก • เราใช้ may เมื่อเราคดิ วา่ บางสง่ิ บางอยา่ งนนั้ เป็นไปได้ท่ีจะเกิดขนึ ้ • เราใช้ might เมื่อเราคดิ วา่ บางสิ่งบางอยา่ งนเั้ป็นไปไมไ่ ด้ท่ีจะเกิดขนึ ้  It could be dangerous to swim alone. (มนั อาจเป็ นอนั ตรายในการวา่ ยนา้ คนเดยี ว)  It may be dangerous to swim alone.  It might be dangerous to swim alone. คาศพั ท์ที่เก่ียวกบั Modal Verbs ได้แก่ obligation = หน้าที่, prohibition = ข้อห้าม, recommendation = การแนะนา, possibility = ความเป็นไปได้ , rule = กฏ, necessary = ความ จาเป็น, advice = คาแนะนา, ability = ความสามารถ, permission = ขออนญุ าต, Request = ขอ, suggestion = การแนะนา 5. should / shouldn’t (ชลู ์ด, ชลู ์ดนึ ) แปลวา่ ควร / ไมค่ วร • เราใช้ should / shouldn’t ในการให้คาแนะนาท่ีนา่ เช่ือถือ เชน่  You should be careful on the road. คณุ ควรระมดั ระวงั บนถนน  You should relax if you feel tired. คณุ ควรพกั ผอ่ นถ้าคณุ เหนื่อย (it is a good idea.)  You shouldn’t go out on your own at night. คณุ ไมค่ วรออกไปข้างนอกคนเดยี วตอนกลางคืน 6. can / can’t (แคน, แค้นท์) แปลวา่ สามารถ, ไมส่ ามารถ • เราใช้ can ในการแสดงถงึ ความสามารถในปัจจบุ นั เช่น  He can speak four languages. (he has the ability.) • เราใช้ can ในการขออนญุ าต เชน่  Can I use your phone? (May I?) • เราให้ความอนญุ าต เชน่  Yes, you can use my car. (you are allowed.) • เราใช้ can ในการขอ เชน่  Can I have some coffee, please? • เราใช้ can ในการแนะนา เชน่  You can write her a letter and tell her how you feel. (Why don’t you….?) • เราใช้ can ในการแสดงถึงความเป็ นไปได้ (สาคญั ) เช่น

 Jellyfish can sting you very badly. (แมงกระพรุนสามารถตอ่ ยคณุ อยา่ งเจ็บปวด)  He can win the race. (it’s possible.) • เราใช้ can’t ในการปฏิเสธการขออนญุ าต เชน่  No, you can’t play outside; it is raining. (you aren’t allowed.) • เราใช้ could ในการขออนญุ าต หรือ ขอ (บางสง่ิ บางอยา่ ง) เชน่  Could I use your computer, please? (more polite than can) • ในการแสดงถงึ ความสามารถทวั่ ๆไปในอดีต เชน่  I could run very fast when I was fourteen. (I had the ability.) 7. was able to / were able to (วอส อะเบลิ ท,ู เวอร์ อะเบลิ ท)ู แปลว่า สามารถ • เราใช้ was able to / were able to ในการแสดงวา่ ใครบางคนมีความสามารถในการทาบางส่งิ บางอย่างในสถานการณ์ท่ีไม่ธรรมดาในอดีต เชน่  Although it was dark, Steve was able to find his way. (he managed to.) 8. may, might (เมย์ , ไมท์), could be (คลู ์ด บี) แปลวา่ อาจจะ • เราใช้ may / might ในการแสดงถงึ ความเป็นไปได้เพียงเล็กน้อย (คาดคะเน) เชน่  It may / might happen again. (it’s possible.) • ในการขออนญุ าต ซงึ่ may ใช้เป็นทางการมากกวา่ can เชน่  May I come in? หรือ May I go now?



ส่อื ประกอบการจดั การเรยี นการสอน ผา่ นช่องทาง Youtube

ส่อื ประกอบการจดั การเรยี นการสอน ผา่ นช่องทาง Youtube

Exercise 1 Put in could or was/were able to. Sometimes either is possible. Use a negative if necessary. 1. Suddenly all the lights went out. We ____________________see a thing. 2. The computer went wrong, but luckily Emma __________________put it right again. 3. There was a big party last night. You _________________ hear the music half a mile away. 4. I learnt to read music as a child. I _________________________ read it when I was five. 5. People heard warnings about the flood, and they __________________move out in time. 6. The train was full. I _______________________ find a seat anywhere. Name……………………………………………………Class……………………..No………… Put in could or was/were able to. Sometimes either is possible. Use a negative if necessary. 1. Suddenly all the lights went out. We ____________________see a thing.

เฉลยแบบฝึ กหัดท่ี 1 Put in could or was/were able to. Sometimes either is possible. Use a negative if necessary. 1. couldn’t 2. was able to 3. could 4. could/was able to 5. were able to 6. couldn’t/wasn’t able to

Exercise : 2 Complete the sentences with must , have to or has to. 1. She lives far from her office. She .................... leave very early every morning. 2. Notice in a picture gallery: ‘Cameras, sticks and umbrellas ...…...................be left at the desk. 3. He sees very badly; he ............................ wear glasses all the time. 4. My boss says that I ........................... stay at work until six o’clock. It’s not fair! 5. You ........................... read this books. It’s excellent. 6. If you have a dog, you .............................. take it out for a walk twice a day. 7. Farmers ................................... get up early. 8. We are lost. We ………...................…… ask somebody. 9. Railway notice: ‘Passengers ................................ cross the line by the footbridge’. 10. When a type is punctured, the driver ............................ change the wheel. Name……………………………………………………Class……………………..No…………

เฉลยแบบฝึ กหัดท่ี 2 1. has to 2. must 3. has to 4. must 5. must 6. have to 7. have to 8. have to 9. must 10. has to

Exercise : 3 Complete the sentences with mustn’t , don’t have to 1. I want this letter typed, but you .............................. do it today. Tomorrow will do. 2. You ............................... make your own bed. The maid will do it. 3. We .............................. open the lion’s cage. It’s contrary to zoo regulations. 4. Police notice: ‘Cars .................................. be parked here’. 5. You .................................... smoke in a non-smoking compartment. 6. You ..............................go to the shops today. There’s plenty of food at home. 7. Church notice: ‘Visitors .........................walk about the church during a service’. 8. Mother to child: ‘You …………………................. play with matches’. 9. You .................................... clean the windows. The window cleaner is coming tomorrow. 10.You ............................... carry that parcel home yourself; the shop will send it.

เฉลยแบบฝึกหดั ที่ 3 Complete the sentences with mustn’t , don’t have to 1. needn’t / don’t have to 2. don’t have to 3. mustn’t 4. mustn’t 5. mustn’t 6. needn’t / don’t have to 7. mustn’t 8. mustn’t 9. needn’t / don’t have to 10. needn’t / don’t have to

Exercise 4 Fill in the blanks with proper modal verbs 1) When Susan was five, she _____________ read and write. 2) I __________________ get up early today. Because it is Sunday. 3) Birds _________________ fly but lions ________________. 4) This bag is too heavy for you. __________________ I help you? 5) I ________________ wear school uniform at my school. 6) You _______________ smoke here. It is forbidden. 7) _______________ you turn on the lights, please? 8) I __________________ help my mother with the housework. She is tired. 9) If you go to bed late, you _________________ be late for the school. 10) You _________________ do your homework if you want to go out. 11) _________________ you help me with the cleaning? 12) I ________ drive to work last year but now I _______ as I moved to a new apartment. 13) ________________ we go out tonight? 14) She _______________ walk because she has broken her leg. 15) Rose _______________ obey the rules but she didn’t. 16) You ______________ pay the taxes regularly otherwise you _________ be punished. 17) You __________________ park here. You _______________ find a parkland. 18) She _________________ win the match because she was ill. 19) We _______________ buy tickets for the concert. Susan has already bought them. 20) My father is very talented. He _________________ paint very well. 21) It is hot outside. You ________________ wear you jacket. 22) It is raining heavily. You ________________ take your umbrella. 23) You _________________ use your mobile phone at the cinema. 24) My mother __________________ go to the dentist. She has a terrible toothache. 25) _______________ I borrow your camera tonight? 26) You ______________ touch it. It is too hot. 27) You ________________ be careful while driving. 28) When I was a young man, I ________________ run fast. 29) _______________ elephants jump? No, they _____________. 30) You ______ pick up these flowers. Otherwise, my mother ______ get angry with you.

เฉลยแบบฝึ กหดั ท่ี 4 Fill in the blanks with proper modal verbs 1) could 2) don’t have to 3) can /can’t 4) shall/will 5) have to 6) mustn’t 7) would/could 8) must 9) will 10) have to 11) will/would/could 12) had to /don’t have to 13) shall 14) cannot 15) had to 16) have to / will 17) mustn’t / have to 18) couldn’t 19) don’t have to 20) Can 21) don’t have to 22) must. 23) mustn’t 24) must 25) could/would 26) mustn’t 27) must 28) could 29) Can / cannot 30) mustn’t /will

แบบบันทกึ คะแนนหลงั เรียน เลขท่ี ช่อื -สกุล แบบฝึ ก แบบฝึ ก แบบฝึ ก แบบฝึ ก แบบทดสอบ สมรรถนะ ทกั ษะผ้เู รียน ขอพงปเอรศัชเรพญษยี ฐางกิจคุณพงลึ ปักรษะณสงะคอ์ ัน คะแนน หดั ท่ี 1 หดั ท่ี 2 หดั ท่ี 3 หดั ท่ี 4 หลังเรียน สาคญั ของ ในศตวรรษ เตม็ ผ้เู รียน ท่ี 21 5 5 5 15 10 10 10 10 10 80 1. นายกฤษณ์ดนัย โสรส 2. นายกรณด์ นยั ใจจง 3. นายกรวชิ ญ์ หนองม่วง 4. นายฉัตรมงคล บุญธง 5. นายณฐพล ศรีกะชา 6. นายณัฐพล ขอบเขต 7. นายปาราเมศ แสงปาก 8. นายพชรพล หงษ์มืด 9. นายภูสิทธิ ขอบเขต 10. นายรัฐวฒุ ิ รบั จนั ทร์ 11. นายวายุ บวั ศรี 12. นายศุภชยั วิเชยี ร 13. นายสมชาย ทรพั ยด์ ก 14. นายพีระยทุ ธ หนูเรอื ง 15. นายกติ ตพิ งษ์ ยาหอม 16. นายปฐพี ประภาสะโนบล 17. นางสาวกันยาพร รงุ่ แสง 18. นางสาวดารณุ ี รุง่ แสง 19. นางสาวปารวี พงษส์ ถิตย์ 20. นางสาวณัฐฎนิชา ภาษี 21. นางสาวยุวันดา อนิ ทา 22. นางสาวศศธิ ร สภุ าพนั ธ์ 23. นางสาวสุพทั ธธ์ รี า ชาญชติ ร 24. นางสาวสุภาภรณ์ สายแกว้

แบบประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น 5 ประการ (10 คะแนน) สาหรบั นักเรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี ….. ผู้รบั การประเมิน/กลุม่ .............................................................................. ระดับช้นั /ห้อง.................. ผปู้ ระเมนิ  ตอนเอง  เพ่ือน  ครู ประเมนิ ครั้งที่ ..............................วันท่ี ......................เดอื น ......................................... พ.ศ............... เร่ืองทีเ่ รยี นร.ู้ ........................................................................................................................................ คาช้แี จง : ใหผ้ ูป้ ระเมินสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี น แลว้ ทาเคร่ืองหมาย  ให้ตรงกบั ระดับคุณภาพ ระดับคุณภาพ สมรรถนะด้าน รายการประเมิน ดี ดี ปาน นอ้ ย นอ้ ย ปรับ หลักฐาน มาก กลาง ท่สี ดุ ปรุง ท่ีเดน่ ชัด (5) (4) (3) (2) (1) (0) 1. ความสามารถ 1.1 มีความสามารถในการรับ – สง่ สาร ในการสื่อสาร 1.2 มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใชภ้ าษา อย่างเหมาะสม 1.3 ใช้วธิ ีการส่อื สารท่ีเหมาะสม 1.4 วิเคราะห์แสดงความคดิ เห็นอยา่ งมี เหตผุ ล 1.5 เขยี นบันทกึ เหตุการณ์ประจาวนั แลว้ เล่าให้เพ่อื นฟังได้ 2. ความสามารถ 2.1 มคี วามสามารถในการคิดวเิ คราะห์ ในการคดิ สงั เคราะห์ 2.2 มีทกั ษะในการคิดนอกกรอบอย่าง สรา้ งสรรค์ 2.3 สามารถคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ 2.4 มีความสามารถในการคิดอยา่ งมรี ะบบ 2.5 ตัดสินใจแกป้ ญั หาเกี่ยวกับตนเองได้

ระดบั คุณภาพ สมรรถนะดา้ น รายการประเมนิ ดี ดี ปาน นอ้ ย นอ้ ย ปรบั หลกั ฐาน มาก กลาง ที่สดุ ปรงุ ที่เดน่ ชัด (5) (4) (3) (2) (1) (0) 3. ความสามารถ 3.1 สามารถแกป้ ัญหาและอุปสรรคตา่ ง ๆ ในการแก้ปญั หา ท่เี ผชิญได้ 3.2 ใช้เหตผุ ลในการแก้ปญั หา 3.3 เขา้ ใจความสมั พันธ์และการเปลี่ยนแปลง ในสงั คม 3.4 แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความร้มู าใชใ้ น การป้องกันและแก้ไขปัญหา 3.5 สามารถตัดสนิ ใจได้เหมาะสมตามวัย 4. ความสามารถ 4.1 เรยี นรู้ดว้ ยตนเองไดเ้ หมาะสมตามวยั ในการใช้ทักษะ 4.2 สามารถทางานกลุ่มร่วมกบั ผู้อื่นได้ ชวี ติ 4.3 นาความร้ทู ี่ได้ไปใชป้ ระโยชน์ใน ชวี ติ ประจาวัน 4.4 จัดการปญั หาและความขัดแยง้ ได้ เหมาะสม 4.5 หลีกเลยี่ งพฤติกรรมไมพ่ ึงประสงค์ที่ ส่งผลกระทบต่อตนเอง 5. ความสามารถ 5.1 เลอื กและใช้เทคโนโลยไี ด้เหมาะสมตาม ในการใช้ วยั เทคโนโลยี 5.2 มที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี 5.3 สามารถนาเทคโนโลยไี ปใช้พัฒนาตนเอง 5.4 ใช้เทคโนโลยใี นการแก้ปัญหาอยา่ ง สร้างสรรค์ 5.5 มคี ณุ ธรรม จริยธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยี ขอ้ สังเกต หลกั ฐาน รอ่ งรอย อ่ืน ๆ .................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................

เกณฑก์ ารให้คะแนน - พฤตกิ รรมที่ดเี ดน่ เป็นท่ยี อมรับและเป็นแบบอย่างท่ดี ี ให้ 5 คะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏิบตั ชิ ดั เจนและสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน - พฤตกิ รรมท่ปี ฏบิ ัตชิ ัดเจน ให้ 3 คะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏิบตั บิ ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏิบตั ิบางครั้ง ให้ 1 คะแนน - พฤตกิ รรมที่ไมป่ ฏิบตั ิเลย ให้ 0 คะแนน นาคะแนนทัง้ หมดรวมกนั ได้คะแนนเตม็ 125 คะแนน แล้วหาร 12.5 จะได้คะแนนเตม็ 10 คะแนน เกณฑ์การแปลความหมายของช่วงคะแนน ช่วงคะแนน ความหมาย 9 -10 ดมี าก 7-8 ดี 5–6 3–4 ปานกลาง 0–2 น้อย นอ้ ยที่สุด ผลการประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน 5 ประการ อยใู่ นระดบั  ดมี าก  ดี  ปานกลาง  น้อย  น้อยที่สุด สรุปผลการประเมินสมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น 5 ประการ  ผา่ น  ไมผ่ า่ น (ผา่ น ตอ้ งมคี ะแนนต้ังแต่ 5 คะแนนขน้ึ ไป) ลงช่ือ …………………………….………………….ผู้ประเมนิ (..................................................) ………../……………../…….….

แบบประเมนิ ทักษะผเู้ รยี นในศตวรรษท่ี 21 (21st Century Skills) (10 คะแนน) สาหรับนกั เรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ….. ผ้รู ับการประเมนิ /กล่มุ .............................................................................. ระดับช้นั /หอ้ ง.................. ผู้ประเมิน  ตอนเอง  เพือ่ น  ครู ประเมินคร้ังที่ ..............................วนั ท่ี ......................เดือน ......................................... พ.ศ............... เร่ืองทเี่ รยี นร้.ู ........................................................................................................................................ คาชีแ้ จง : ให้ผปู้ ระเมินสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี น แล้วทาเครือ่ งหมาย  ให้ตรงกบั ระดับคุณภาพ ระดับคุณภาพ ทกั ษะผเู้ รียน รายการประเมนิ ดี ดี ปาน นอ้ ย นอ้ ย ปรับ หลักฐาน ดา้ น มาก (4) กลาง ท่สี ุด ปรุง ที่เด่นชดั (5) (3) (2) (1) (0) ทักษะผ้เู รียนในศตวรรษท่ี 21 (21st Century Skills) ทกั ษะในสาระ 1. Reading (อ่านออก) วิชาหลกั (Core 2. (W)Riting (เขียนได)้ Subjects–3Rs) 3. (A)Rithemetics (คดิ เลขเปน็ ) ทกั ษะการเรียนรู้ 1. Critical Thinking and Problem และนวตั กรรม Solving (ทักษะดา้ นการคดิ อย่างมี (Learning and วิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปญั หา) Innovation 2. Creativity and Innovation (ทกั ษะ Skills – 8Cs) ด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม) 3. Cross-cultural Understanding (ทกั ษะ ด้านความเข้าใจความต่างวฒั นธรรม ต่าง กระบวนทัศน์) 4. Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความรว่ มมือ การทางานเปน็ ทีม และภาวะผนู้ า) 5. Communications, Information, and Media Literacy (ทกั ษะด้านการสอ่ื สาร สารสนเทศ และรู้เทา่ ทันสอื่ ) 6. Computing and ICT Literacy (ทักษะ ดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโน โลยี สารสนเทศและการสอื่ สาร)

ทักษะผเู้ รียน รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ หลกั ฐาน ดา้ น ทเี่ ด่นชดั ดี ดี ปาน นอ้ ย น้อย ปรับ มาก กลาง ทส่ี ุด ปรงุ (5) (4) (3) (2) (1) (0) 7. Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชพี และทกั ษะการเรยี นร)ู้ 8. Compassion (มคี ณุ ธรรม มีเมตตา กรณุ า มรี ะเบยี บวนิ ยั ) ทักษะการเรียนรแู้ ละภาวะผู้นา (2Ls) ทกั ษะการ 1. Learning (ทักษะการเรยี นรู้) เรียนรู้และ 2. Leadership (ภาวะผนู้ า) ภาวะผู้นา(2Ls) ขอ้ สังเกต หลกั ฐาน รอ่ งรอย อื่น ๆ .................................................................................................................................................................. .. .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน - พฤติกรรมทด่ี ีเด่นเปน็ ทย่ี อมรบั และเปน็ แบบอย่างทด่ี ี ให้ 5 คะแนน - พฤติกรรมท่ีปฏิบัติชดั เจนและสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบตั ชิ ดั เจน ให้ 3 คะแนน - พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ัตบิ ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบัตบิ างคร้งั ให้ 1 คะแนน - พฤตกิ รรมทไ่ี ม่ปฏิบตั เิ ลย ให้ 0 คะแนน นาคะแนนทั้งหมดรวมกันได้คะแนนเต็ม 65 คะแนน แลว้ หาร 6.5 จะไดค้ ะแนนเตม็ 10 คะแนน เกณฑก์ ารแปลความหมายของช่วงคะแนน ชว่ งคะแนน ความหมาย 9 -10 ดมี าก 7 - 8 ดี 5 – 6 ปานกลาง 3 – 4 นอ้ ย 0 – 2 น้อยท่สี ุด ผลการประเมนิ ทกั ษะผเู้ รยี นในศตวรรษที่ 21 อยู่ในระดับ  ดีมาก  ดี  ปานกลาง  นอ้ ย  น้อยที่สดุ สรปุ ผลการทกั ษะผู้เรยี นในศตวรรษท่ี 21  ผ่าน  ไม่ผา่ น (ผา่ น ตอ้ งมคี ะแนนต้ังแต่ 5 คะแนนข้ึนไป) ลงชอ่ื …………………………….………………….ผู้ประเมนิ (..................................................) ………../……………../…….….

แบบประเมนิ การนาหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้ (10 คะแนน) สาหรับนักเรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ….. ผู้รบั การประเมิน/กลุ่ม .............................................................................. ระดับช้ัน/หอ้ ง.................. ผ้ปู ระเมนิ  ตอนเอง  เพอื่ น  ครู ประเมนิ คร้ังท่ี ..............................วนั ที่ ......................เดอื น ......................................... พ.ศ............... เรอ่ื งที่เรยี นร.ู้ ........................................................................................................................................ คาช้แี จง : ใหผ้ ปู้ ระเมินสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี น แล้วทาเคร่อื งหมาย  ใหต้ รงกบั ระดบั คณุ ภาพ ระดบั พฤติกรรม ท่ี คุณลักษณะ / พฤตกิ รรมบ่งชี้ เกิด เกดิ ไม่เกิด คะแนน เสมอ บางครง้ั ทไ่ี ด้ (2) (1) (0) 1. ความพอประมาณ 2. ความมีเหตมุ ผี ล 3. มีภมู ิคมุ้ กันทด่ี ใี นตวั 4. เงอื่ นไขความรู้ (รอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง) 5. เงอ่ื นไขคุณธรรม รวมคะแนน ขอ้ สงั เกต หลักฐาน ร่องรอย อ่ืน ๆ ............................................................................................................................. ....................................... เกณฑ์การให้คะแนน คณุ ลกั ษณะเกดิ บอ่ ยครั้ง ให้ 2 คะแนน บางครง้ั ให้ 1 คะแนน ไมเ่ กดิ เลย ให้ 0 คะแนน สรปุ ผลการประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์  ผ่าน  ไม่ผ่าน (ผ่าน ตอ้ งมีคะแนนต้งั แต่ 5 คะแนนขึ้นไป) ลงช่ือ …………………………….………………….ผูป้ ระเมนิ (..................................................) ………../……………../…….….

การหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาใช้ ครผู ู้สอนใชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในขน้ั เตรียมการสอน/จดั การเรียนรู้ ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การมีภมู ิคมุ้ กันทดี่ ีในตวั อุปกรณ์ จดั เตรียมเคร่ือง อุปกรณใ์ น จัดเตรยี มเครื่องมือ จัดเตรียมเคร่ืองมืออุปกรณ์ การเรียนการสอน ให้ อปุ กรณ์ให้เหมาะสมกบั ให้งานสาเร็จตาม เหมาะสมกับกิจกรรม และ กิจกรรม เพ่ือให้กจิ กรรม วัตถปุ ระสงค์ จานวนผเู้ รยี น ดาเนินบรรลุวัตถปุ ระสงค์ เวลา วเิ คราะห์กจิ กรรมให้ ใหก้ จิ กรรมสาเรจ็ ภายใน ให้กจิ กรรมสาเรจ็ ภายใน สอดคล้องกับเวลา 2 ชว่ั โมง เวลาท่ีเกดิ เวลาทเี่ กิด สอ่ื จดั เตรยี มส่อื ใหม้ ี ให้เกดิ กระบวนการเรยี นรู้ที่ เตรียมสอื่ ใหส้ อดคลอ้ งกับ ความสมั พนั ธ์ ถกู ต้องตามรปู แบบ กิจกรรมเพ่ือให้เกิดชิ้นงาน กบั กจิ กรรมการเรยี นสอน ตรงตามวตั ถุประสงค์ เงอ่ื นไขความรู้ รอบรเู้ นอื้ หา กระบวนการถา่ ยทอด ความรูส้ ่ผู ้เู รยี น เงื่อนไขคุณธรรม มคี วามขยันหม่ันเพียร รับผดิ ชอบ และเอาใจใสน่ กั เรียน นักเรยี นได้ เรียนร้ทู ี่จะอยูอ่ ย่างพอเพยี ง อย่างไรบา้ ง จากกจิ กรรมการเรยี นรนู้ ี้ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การมภี ูมคิ ุ้มกันที่ดีในตวั  การใชว้ ัสดุ สิง่ ของเหลือใช้  เห็นคุณค่าของวสั ดเุ หลือใช้ที่มีอยู่  มคี วามรู้ในการคดั เลือกวัสดุ ภายในทอ้ งถ่นิ ในทอ้ งถิ่น ในทอ้ งถน่ิ  จดั สรรเวลาใหพ้ อประมาณ  นกั เรยี นเกดิ ทักษะกระบวนการ  วางแผนในการทากจิ กรรม กบั กิจกรรม คิดการแกป้ ญั หาขน้ั ตอนการ เป็นลาดบั ขนั้ ตอน  จัดกิจกรรมให้เหมาะสมกับ ทางานตามกระบวนการทางาน  มกี ารจดั เตรียมวสั ดุ อุปกรณ์ นักเรยี น  มกี ารใช้ทรัพยากรอย่างค้มุ คา่ เพ่อื ใช้ในการทากจิ กรรม  นกั เรียนเกิดประสบการณต์ รง  มีการจดบนั ทึก ลาดับ  นักเรยี นเกิดความภาคภมู ิใจใน ข้ันตอนการทางาน ตนเอง  มีทกั ษะกระบวนการทางาน เงอื่ นไขความรู้ นักเรยี นเรยี นรู้วธิ กี ารเลือกใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ และขน้ั ตอนใช้การทางาน เงอื่ นไขคณุ ธรรม นักเรียนมีคุณธรรม มรี ะเบยี บวินยั ในการทางาน

มิติวัตถุ มิติสงั คม มติ สิ ง่ิ แวดล้อม มติ ิวัฒนธรรม  มีความรูใ้ นการ  มที ักษะกระบวนการ  มคี วามรูใ้ นการเลือก  สรา้ งผลิตภณั ฑ์ เลอื กวัสดุ ทางานอย่างเป็น วสั ดุเหลือใชจ้ าก จากวัสดเุ หลือใช้  มคี วามรู้ในการ  ระบบ มกี ารวาง ออกแบบ แผนการทางาน ชุมชน เปน็ เอกรักษ์ของ อย่างเป็นขั้นตอน  มกี ารวางแผน ชว่ ยเหลอื เก้อื กลู  ช่วยลดขยะ ภายใน ทอ้ งถน่ิ ลาดบั ขนั้ ตอนการ แบง่ ปัน ต่อผู้อน่ื ทางาน ชุมชน ลดปัญหา  เลือกใชว้ สั ดมุ าใช้ มลพิษต่อสิง่ แวดล้อม ทากลอ่ งใสด่ นิ สอ  มที กั ษะในการ บารุงรักษา อุปกรณ์  เหน็ คณุ คา่ ของ วสั ดเุ หลอื ใชใ้ น ชมุ ชน

แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (10 คะแนน) สาหรบั นักเรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ….. ผูร้ ับการประเมิน/กลุ่ม .............................................................................. ระดับช้ัน/หอ้ ง.................. คาช้ีแจง : ใหผ้ ู้ประเมนิ สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี น แล้วทาเครื่องหมาย  ใหต้ รงกับระดับคุณภาพ คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อันพงึ ประสงค์ 3 2 10 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 มคี วามรัก และภมู ิใจในความเปน็ ชาติ กษตั รยิ ์ 1.2 ปฏิบัตติ นตามหลักของศาสนา 1.3 แสดงออกถึงความจงรักภกั ดีตอ่ สถาบันพระมหากษัตริย์ 2. ซื่อสตั ยส์ จุ รติ 2.1 ปฏิบัติตามระเบยี บการสอน และไมล่ อกการบ้าน 2.2 ประพฤติ ปฏิบตั ิ ตรงต่อความเปน็ จรงิ ต่อตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิตรงต่อความเป็นจริงตอ่ ผู้อน่ื 3. มีวินัย 3.1 เข้าเรยี นตรงเวลา 3.2 แต่งกายเรียบร้อยเหมาะสมกับกาลเทศะ 3.3 ปฏบิ ตั ิตามกฎระเบยี บของหอ้ ง 4. ใฝ่หาความรู้ 4.1 แสวงหาขอ้ มูลจากแหลง่ เรียนรู้ต่างๆ 4.2 มีการจดบันทึกความรู้อย่างเปน็ ระบบ 4.3 สรปุ ความรไู้ ด้อยา่ งมีเหตุผล 5. อยู่อย่าง 5.1 ใช้ทรัพยส์ ินและส่งิ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยัด พอเพียง 5.2 ใช้อปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งประหยัดและรู้คณุ ค่า 5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยัดและมีการเกบ็ ออมเงิน 6. ม่งุ ม่นั ในการ 6.1 มีความต้ังใจ และพยายามในการทางานท่ีได้รับมอบหมาย ทางาน 6.2มคี วามอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออปุ สรรคเพ่ือให้งานสาเร็จ 7.รกั ความเปน็ 7.1 มีจติ สานึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย ไทย 7.2 เห็นคณุ คา่ และปฏิบตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย 8.มจี ิตสาธารณะ 8.1 รูจ้ กั การให้เพอ่ื สว่ นรวม และเพ่ือผูอ้ นื่ 8.2 แสดงออกถึงการมนี า้ ใจหรือการให้ความช่วยเหลือผ้อู น่ื 8.3 เข้าร่วมกจิ กรรมบาเพ็ญตนเพื่อส่วนรวมเม่ือมีโอกาส ลงช่ือ......................................................................ผู้ประเมิน (.....................................................................) ............. /................./...............

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน - พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ตั ชิ ัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 1 คะแนน - พฤติกรรมท่ีปฏบิ ตั บิ างคร้งั ให้ 0 คะแนน - พฤติกรรมท่ีไม่ได้ปฏิบตั ิ ข้อสงั เกต หลักฐาน รอ่ งรอย อนื่ ๆ ............................................................................................................................. ....................................... เกณฑก์ ารให้คะแนน คุณลักษณะเกิดบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน บางครั้ง ให้ 1 คะแนน ไม่เกิดเลย ให้ 0 คะแนน สรปุ ผลการประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์  ผา่ น  ไม่ผา่ น (ผ่าน ต้องมีคะแนนตงั้ แต่ 5 คะแนนขน้ึ ไป) ลงช่อื …………………………….………………….ผปู้ ระเมนิ (..................................................) ตาแหน่ง ครู ………../……………../…….….