003265 รายงานผลการปฏิบัตงิ าน เพือ่ รบั รางวัลทรงคณุ คา่ สพฐ. (OBEC AWARDS) ครงั้ ที่ 9 ประจำปีการศกึ ษา 2562 ประเภท ครผู ู้สอนยอดเยี่ยม Active Teacher ระดับมธั ยมศกึ ษา กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยเี พ่ือการเรยี นการสอน ของ นางสาววิจติ ตา อำไพจิตต์ ตำแหน่ง ครู โรงเรยี นธรรมศาสตรค์ ลองหลวงวิทยาคม สพม.เขต 4 จังหวัดปทุมธานี สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน
แบบรายงานสรุปผลการปฏบิ ตั งิ านของตนเอง (Self-report) เพื่อรบั รางวลั ทรงคุณค่า สพฐ. (OBEC AWARDS) ครง้ั ท่ี 9 ประจำปกี ารศึกษา 2562 ประเภท ครผู สู้ อนยอดเยย่ี ม Active Teacher ระดับมธั ยมศึกษา กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ดา้ นนวัตกรรมและเทคโนโลยเี พอ่ื การเรยี นการสอน ของ นางสาววจิ ติ ตา อำไพจิตต์ ตำแหน่ง ครู โรงเรียนธรรมศาสตรค์ ลองหลวงวทิ ยาคม สพม.เขต 4 จังหวดั ปทมุ ธานี สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน
คำรับรองเอกสาร ข้าพเจ้า นางสาววิจิตตา อำไพจิตต์ ตำแหน่ง ครู ขอรับรองว่า สำเนาเอกสารทุกฉบับตาม เอกสารประกอบการประเมิน ตามแบบรายงานสรุปผลการปฏิบัติงานของตนเอง (Self Report) ตาม องค์ประกอบและตัวช้ีวัด ครูผู้สอนยอดเยี่ยม Active Teacher ระดับมัธยมศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพ่ือการเรียนการสอน รหัส 003265 ประจำปีการศึกษา 2562 เสนอเพื่อขอรับรางวัลทรงคุณค่า สพฐ. (OBEC AWARDS) ครั้งที่ 9 เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของ คณะกรรมการ ผรู้ ายงานไดส้ ำเนาเอกสารจากตน้ ฉบับจริงทุกประการ จึงลงลายมอื ชอื่ ไวเ้ ป็นหลกั ฐาน วิจติ ตา อำไพจิตต์ (นางสาววิจติ ตา อำไพจติ ต์) ตำแหนง่ ครู วนั ที่ 24 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563
ก คำนำ แบบรายงานสรุปผลการปฏิบัติงานของตนเอง (Self-report) การประกวดรางวัลหน่วยงานและผู้มี ผลงานดีเด่นประสบผลสำเร็จเป็นท่ีประจักษ์เพ่ือรับรางวัลทรงคุณค่า สพฐ. (OBEC AWARDS) เล่มนี้เป็นการ ประเมินครูผู้สอนยอมเยี่ยมท่ีปฏิบัติงานในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึ กษาและสำนักงานเขตพื้นท่ี การศึกษามัธยมศึกษาตามหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและหน่วยงานรับ รางวัลทรงคุณค่า สพฐ. โดยมีเน้ือหา จำนวน 4 ตอน ซ่ึงประกอบด้วย ตอนที่ 1 ช่ือรางวัลท่ีเสนอขอครูผู้สอน ยอดเยีย่ ม ตอนท่ี 2 คณุ สมบัติเบื้องตน้ ตอนที่ 3 การประเมินตัวชวี้ ดั เฉพาะ มีองคป์ ระกอบในการพิจารณา 1 องค์ประกอบ คือ องค์ประกอบที่ 1 ผลทเี่ กิดกับผูเ้ รียน ดา้ นนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพอ่ื การเรียนการสอน มี องค์ประกอบในการพิจารณา 3 องค์ประกอบ คือ องค์ประกอบท่ี 1 คุณภาพ องค์ประกอบที่ 2 คุณประโยชน์ และองค์ประกอบท่ี 3 ความคิดสร้างสรรค์ และตอนท่ี 4 การประเมินตัวชี้วัดร่วม มี องค์ประกอบในการพิจารณา 3 องค์ประกอบ คือ องค์ประกอบที่ 1 ผลที่เกิดกับผู้เรียน องค์ประกอบท่ี 2 ผล การพัฒนาตนเอง องค์ประกอบท่ี 3 การดำเนินงาน / ผลงานที่เป็นเลิศ เพื่อประเมินผลงานเข้าร่วมการ ประกวดรางวัลหน่วยงานและผู้มีผลงานดีเด่นประสบผลสำเร็จเป็นท่ีประจักษ์เพ่ือรับรางวัลทรงคุณค่า สพฐ. (OBEC AWARDS) ระดบั ภาคกลาง/ภาคตะวันออก ครง้ั ท่ี 9 ประจำปีการศึกษา 2562
ข สารบญั เรอ่ื ง หนา้ - คำนำ ก - สารบญั ข ตอนที่ 1 ช่อื รางวัลที่เสนอขอ 1 ตอนที่ 2 คุณสมบัตเิ บอ้ื งตน้ 3 ตอนท่ี 3 คุณสมบตั เิ ฉพาะดา้ น 17 องค์ประกอบท่ี 1 ผลที่เกดิ กบั ผู้เรียน 17 ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพ่อื การเรยี นการสอน องคป์ ระกอบที่ 1 คุณภาพ 19 องค์ประกอบที่ 2 คุณประโยชน์ 38 องคป์ ระกอบที่ 3 ความคิดสรา้ งสรรค์ 42 ตอนที่ 4 การประเมินตวั ชวี้ ัดร่วม 45 องคป์ ระกอบที่ 1 ผลท่เี กิดกบั ผ้เู รยี น 45 องค์ประกอบที่ 2 ผลการพัฒนาตนเอง 57 องคป์ ระกอบที่ 3 การดำเนนิ งาน / ผลงานที่เป็นเลศิ 63 ภาคผนวก 74 สำเนา กพ.7 75 รายงานการประเมนิ คณุ ภาพภายนอกรอบสาม (พ.ศ.2554-2558) ระดับการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน 76 รายงานผลการทดสอบระดบั ชาติ (O NET)ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 ปีการศกึ ษา2560-2561 77 หลักฐานแสดงการเขา้ รับการฝึกอบรมเพอื่ การพฒั นาตนเอง 83
1 รายงานผลการปฏบิ ัตงิ าน (Self report) ครูผ้สู อนยอดเย่ยี ม Active Teacher ระดบั มธั ยมศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ด้านนวตั กรรมและเทคโนโลยีเพื่อการเรยี นการสอน ประจำปกี ารศึกษา 2562 ตอนที่ 1 ช่ือรางวัลท่เี สนอขอ Active Teacher ชอื่ นางสาว วจิ ติ ตา นามสกุล อำไพจิตต์ ตำแหนง่ ครู ประเภท บุคคลยอดเย่ียม Active Teacher สังกัด สำนักงานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษา สำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษา ดา้ น ดา้ นวิชาการยอดเย่ยี ม ด้านบริหารจัดการยอดเยย่ี ม ดา้ นนวตั กรรมและเทคโนโลยีเพือ่ การเรยี นการสอนยอดเยี่ยม ระดบั กอ่ นประถมศกึ ษา ระดับ ประถมศึกษา มธั ยมศึกษา กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ สังคมศกึ ษา ศิลปะ สุขศึกษาและพลศึกษา ภาษาตา่ งประเทศ การงานอาชพี และเทคโนโลยี บูรณาการ กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน กิจกรรมแนะแนว กจิ กรมนักเรียน (ระบุ ลูกเสอื เนตรนารี ยวุ กาชาด ผู้บำเพ็ญประโยชน์ นกั ศึกษาวิชาทหาร กิจกรรมชุมนุม ชมรม) กจิ กรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์
2 ประวตั คิ รูผู้สอนยอดเยย่ี มท่ีเสนอเพอื่ รบั การคัดเลือก 1. ชื่อ-สกุล นางสาววิจติ ตา อำไพจิตต์ 2. วนั เดอื น ปี เกดิ วนั ที่ 26 เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2521 อายุ 41 ปี 3. สถานศกึ ษา โรงเรยี นธรรมศาสตรค์ ลองหลวงวทิ ยาคม สังกดั สำนกั งานเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต 4 ตำบลคลองหนงึ่ อำเภอคลองหลวง จงั หวดั ปทุมธานี 12120 โทรศพั ท์ 02-529-0662 โทรสาร 02-529-2311 4. ที่อย่ปู จั จุบนั 5/12 หม่ทู ่ี 3 ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหน่ึง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12120 5. ตำแหนง่ ปัจจุบัน ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ 6. โทรศัพท์เคลื่อนท่ี 086-066-9454 e – mail : [email protected] 7. ประวัตกิ ารศกึ ษา ตารางท่ี 1 แสดงประวัตกิ ารศกึ ษา วฒุ กิ ารศกึ ษา วิชาเอก ปที ่สี ำเรจ็ การศกึ ษา สถาบันการศกึ ษา ปรญิ ญาตรี (วท.บ) ฟิสิกส์ พ.ศ.2544 มหาวทิ ยาลยั ศรีนครนิ ทรวิโรฒ ประกาศนียบัตรบณั ฑิต วชิ าชพี ครู พ.ศ.2549 มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร 8. ประวตั กิ ารทำงาน ตารางท่ี 2 แสดงประวัตกิ ารรบั ราชการ วัน-เดือน-ปี ตำแหนง่ สอนชน้ั /ระดับ สถานทีท่ ำงาน โรงเรยี นวรราชาทินดั ดามาตุวทิ ยา 17 ตุลาคม 2548 ครผู ู้ชว่ ย ม.3 , ม.6 โรงเรยี นวรราชาทินดั ดามาตุวิทยา โรงเรยี นวรราชาทนิ ัดดามาตุวิทยา 17 ตุลาคม 2551 ครู ค.ศ.1 ม.4 - 6 โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวทิ ยาคม 30 ตุลาคม 2558 ครู ค.ศ.2 ม.6 โรงเรยี นธรรมศาสตร์คลองหลวงวทิ ยาคม 4 เมษายน 2560 ครู ค.ศ.2 ภาค1 : ม.5 ภาค2 : ม.6 ปจั จุบัน ครู ค.ศ.2 ม.4 9. ความร้คู วามสามารถพเิ ศษ ข้าพเจ้าได้รับมอบหมายให้ดำเนินการจัดการเรียนรู้ในรายวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ 3 และรายวิชาฟิสิกส์ ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ตั้งแต่เริ่มบรรจุเข้ารับราชการ ได้รับการฝึกอบรมทักษะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียน จึงมี ความสามารถในการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ ไดเ้ กิดผลตอ่ ผู้เรยี นเป็นอย่างดี และมีความสามารถพิเศษ ในด้านการใช้สื่อและเทคโนโลยีในการจัดการเรยี นรู้
3 ตอนท่ี 2 คุณสมบตั เิ บ้ืองต้น ตัวช้วี ัด 1 คุณสมบัตเิ บอื้ งต้น (เชิงประจกั ษ์) 1) ปจั จุบนั ดำรงตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์โรงเรียน ธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม สังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พื้นฐาน 2) ปฏบิ ัตหิ นา้ ทใ่ี นการจัดการเรยี นการสอน โดยเรม่ิ ปฏบิ ตั ริ าชการ เมอ่ื วันท่ี 17 ตุลาคม 2548 เปน็ ระยะเวลา 14 ปี 4 เดอื น 3) เปน็ ผู้ไมเ่ คยถูกลงโทษทางวนิ ัย นบั ต้งั แต่เข้ารับราชการ หลักฐานอ้างอิง สำเนา กพ.7 ตัวชวี้ ัด 2 การครองตน (มคี ุณธรรม จริยธรรมท่ีพงึ ประสงค)์ สถานศึกษาท่ดี ำรงตำแหนง่ ทีข่ อรบั การประเมินมีผลการประเมนิ คณุ ภาพการศึกษาภายนอกรอบสาม ในตวั บง่ ช้ีที่ 6 ประสทิ ธิภาพของการจัดการเรียนการสอนท่เี นน้ นักเรยี นเปน็ สำคัญ อยใู่ นระดับ ดีมาก และมีผลการ ประเมนิ คุณภาพภายนอกรอบสาม อยู่ในระดับ ดี หลกั ฐานอ้างองิ รายงานการประเมินคณุ ภาพภายนอกรอบสาม (พ.ศ.2554-2558) ระดับการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน ตวั ชี้วัด 3 การครองคน (ทำงานร่วมกบั ผอู้ น่ื ไดด้ ี เป็นที่ยอมรบั รกั ใคร่ ของศิษย์ ผู้รว่ มงาน) (ตอ้ งปฏบิ ตั ิครบทงั้ 3 กิจกรรมรวมแล้วไมน่ ้อยกว่า 10 รายการ/ปกี ารศึกษา) 1. ร่วมกจิ กรรมกบั ผู้ร่วมงานในโรงเรยี น ในกจิ กรรมทีส่ ำคัญ ดังนี้ 1) กจิ กรรมวันไหวค้ รู 2) กจิ กรรมสัปดาห์วิทยาศาสตรแ์ หง่ ชาติ 3) กิจกรรมรณรงคแ์ ละตอ่ ต้านยาเสพตดิ 4) กิจกรรมการแข่งขันกีฬาสใี นโรงเรียน 5) กิจกรรมวนั สำคญั เชน่ วนั สำคัญทางศาสนา วนั เฉลมิ พระชนมพ์ รรษาฯ 6) กจิ กรรมทศั นศกึ ษาของนักเรยี น 7) กิจกรรมเขา้ ค่ายลูกเสอื -เนตรนารี 8) กจิ กรรมเลือกตั้งประธานสภานกั เรยี นและประธานคณะสี รูปภาพที่ 1 รว่ มกิจกรรมกับผ้รู ่วมงานในโรงเรียน
4 2. จัด/ร่วมกจิ กรรมตามระบบดูแลช่วยเหลือนกั เรยี น ด้านครทู ่ปี รกึ ษา ปฏิบัติดังนี้ 9) กจิ กรรมวเิ คราะหน์ ักเรียนเป็นรายบคุ คล 10) กิจกรรมคัดกรองนกั เรยี น 11) กิจกรรมส่งเสริมและพฒั นานักเรยี น 12) กจิ กรรมป้องกันและแกไ้ ขปัญหา และกจิ กรรมสง่ ต่อ รูปภาพที่ 2 จดั /ร่วมกจิ กรรมตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรยี น 3. รว่ มกิจกรรมกบั ชุมชน (1) กจิ กรรมแหเ่ ทยี นพรรษา เน่อื งในวันเข้าพรรษา (3) กจิ กรรมรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ เนอ่ื งในวนั สงกรานต์ รปู ภาพที่ 3 ร่วมกจิ กรรมกับชมุ ชน หลกั ฐานอ้างอิง - ภาพถ่าย และภาพ เอกสารประกอบ ตวั ชีว้ ัด 4 การครองงาน ( รบั ผิดชอบ มงุ่ ม่ันต้งั ใจ ทำงานตามภารกิจที่ไดร้ ับมอบหมายจนเกิดความสำเรจ็ ) 1. ไมเ่ คยขาดงาน 2. มีการลา มดี ังนี้ - ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2560 ลาป่วย 1 คร้ัง 1 วนั - ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2560 ไม่มกี ารลา - ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2561 ลาป่วย 2 ครั้ง 7 วนั - ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2561 ไมม่ กี ารลา - ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2562 ไมม่ กี ารลา
5 3. มีช่วั โมงสอนตามเกณฑ์ท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ตารางท่ี 3 แสดงรายวชิ าท่ีสอน ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2560 ท่ี รายวิชา รหสั วิชา ระดับชัน้ จำนวนนักเรียน จำนวนช่วั โมงตอ่ สัปดาห์ 36 4 1 ฟิสิกส์ เพิ่มเติม 2 ว32201 ม.5/5 36 4 33 4 2 ฟิสิกส์ เพมิ่ เติม 2 ว32201 ม.5/12 49 3 35 3 3 ฟิสกิ ส์ เพิ่มเติม 2 ว32201 ม.5/13 1 1 4 วิทยาศาสตรพ์ น้ื ฐาน ว30103 ม.5/10 20 5 วิทยาศาสตรพ์ น้ื ฐาน ว30103 ม.5/11 กิจกรรมชมุ นุม กิจกรรมลกู เลอื -เนตรนารี รวม ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2560 ท่ี รายวชิ า รหัสวิชา ระดบั ชนั้ จำนวนนักเรียน จำนวนชั่วโมงต่อสัปดาห์ ม.6/4 45 4 1 ฟิสกิ ส์ เพม่ิ เติม 5 ว32202 ม.6/13 36 4 ม.6/14 27 4 2 ฟิสิกส์ เพิ่มเตมิ 5 ว32202 ม.3 49 2 ม.3 35 2 3 ฟิสกิ ส์ เพ่ิมเตมิ 5 ว32202 1 1 4 วิชาเลอื กเสรี วทิ ยาศาสตร์ 18 5 วชิ าเลือกเสรี วทิ ยาศาสตร์ กิจกรรมชมุ นมุ กิจกรรมลกู เลอื -เนตรนารี รวม ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2561 ท่ี รายวิชา รหสั วิชา ระดบั ช้นั จำนวนนกั เรยี น จำนวนชวั่ โมงตอ่ สปั ดาห์ ม.6/1 49 4 1 ฟสิ กิ ส์ เพมิ่ เติม 4 ว33201 ม.6/3 47 4 ม.6/5 36 4 2 ฟิสิกส์ เพมิ่ เตมิ 4 ว33201 ม.6/13 33 4 1 3 ฟสิ กิ ส์ เพ่ิมเติม 4 ว33201 1 18 4 ฟสิ ิกส์ เพิ่มเตมิ 4 ว33201 กจิ กรรมชมุ นมุ กิจกรรมลกู เลือ-เนตรนารี รวม
6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2561 ท่ี รายวิชา รหสั วชิ า ระดับชนั้ จำนวนนักเรยี น จำนวนชั่วโมงตอ่ สัปดาห์ ม.6/1 49 4 1 ฟสิ ิกส์ เพม่ิ เตมิ 5 ว33202 ม.6/3 47 4 ม.6/5 36 4 2 ฟิสกิ ส์ เพม่ิ เตมิ 5 ว33202 ม.6/13 33 4 1 3 ฟสิ ิกส์ เพิ่มเตมิ 5 ว33202 1 18 4 ฟสิ ิกส์ เพิ่มเติม 5 ว33202 กิจกรรมชมุ นมุ กิจกรรมลกู เลือ-เนตรนารี รวม ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2562 ท่ี รายวชิ า รหสั วชิ า ระดับชน้ั จำนวนนักเรียน จำนวนช่ัวโมงต่อสัปดาห์ ม.4/3 45 4 1 ฟิสกิ ส์ เพิ่มเติม 1 ว31205 ม.4/4 45 4 ม.4/5 45 4 2 ฟิสิกส์ เพม่ิ เตมิ 1 ว31205 ม.4/17 36 4 1 3 ฟสิ ิกส์ เพิม่ เตมิ 1 ว31205 1 18 4 ฟสิ กิ ส์ เพิ่มเตมิ 1 ว31205 กจิ กรรมชมุ นุม กิจกรรมลกู เลือ-เนตรนารี รวม ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2562 ท่ี รายวิชา รหสั วชิ า ระดบั ชน้ั จำนวนนักเรียน จำนวนช่วั โมงตอ่ สปั ดาห์ ม.4/3 45 4 1 ฟสิ กิ ส์ เพิ่มเตมิ 2 ว31206 ม.4/4 45 4 ม.4/5 45 4 2 ฟิสิกส์ เพิ่มเติม 2 ว31206 ม.4/17 36 4 1 3 ฟิสกิ ส์ เพม่ิ เตมิ 2 ว31206 1 18 4 ฟิสิกส์ เพ่ิมเตมิ 2 ว31206 กจิ กรรมชมุ นุม กิจกรรมลูกเลอื -เนตรนารี รวม
7 4. มผี ลงาน ดังนี้ 1) มแี ผนการจัดการเรียนรู้ท่ีเนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคญั เปน็ ปัจจบุ นั และครบชว่ั โมงสอนตลอดปี การศึกษา ข้าพเจ้าได้จัดการเรยี นรู้โดยเนน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำคัญ โดยการวเิ คราะห์หลกั สตู รสถานศกึ ษา วิเคราะห์ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ สำหรบั รายวิชาพน้ื ฐาน และผลการเรียนรู้ สำหรบั รายวิชาเพ่มิ เติม วเิ คราะห์ บริบทของชุมชน บริบทของโรงเรยี น และวเิ คราะหผ์ ้เู รียนเป็นรายบุคคล โดยการจดั ทำหนว่ ยการเรยี นรู้ใหส้ อดคลอ้ ง กบั ธรรมชาติการเรยี นรขู้ องนกั เรียน กำหนดจำนวนหนว่ ยการเรยี นรู้ ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ จำนวนช่วั โมง จดั ทำ แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สำคญั ใหผ้ เู้ รยี นมสี ่วนรว่ มในการทำกิจกรรมผา่ นกระบวนการกลมุ่ มกี าร แสวงหาความรู้หลากหลาย เนน้ ทกั ษะการปฏิบัติท้ังในเวลาเรียนและนอกเวลาเรยี น มุ่งเน้นพฒั นาคณุ ธรรม และ จริยธรรม เรยี นร้แู บบบรู ณาการมุง่ พฒั นาให้ผ้เู รยี นเกดิ ปัญญา มีความสุข ในการเรียน ด้านการวัดและประเมินผล ข้าพเจ้าได้ดำเนินการวัดและประเมินพัฒนาการตามสภาพจริง โดยได้ สร้างเคร่ืองมือวดั ได้แก่ แบบทดสอบ แบบสังเกตพฤติกรรม แบบประเมินคุณลักษณะ แบบประเมนิ ผลงาน ผลกา เรยี นรู้รู้ ได้วิเคราะหเ์ ด็กรายบคุ คล รว่ มกับการใชบ้ นั ทกึ สมั ภาษณ์ ทำใหท้ ราบผลการเรยี น สะท้อนถงึ การเรยี นของ นักเรียน และผลการจดั ประสบการณ์ ของครสู ามารถนำผลดังกล่าวท่ไี ด้ ไปปรบั ปรุงกจิ กรรมการเรยี นการสอนได้ การรายงานผลการเรียน ต่อนักเรยี น ผู้ปกครองและผู้บริหารสถานศกึ ษา โดยได้ดำเนินการวเิ คราะห์ สรุปผลการวดั และประเมินผล ทุกภาคเรียน เพื่อแจ้งให้นักเรียนทราบ จะได้นำไปเป็นข้อมูลในการพัฒนาตนเองและ ปรบั ปรุงวิธีการเรยี นรู้ใหด้ ขี ึ้น แลว้ มอบขอ้ มลู สารสนเทศของผลการเรยี นรู้แกผ่ ู้ปกครอง ไดท้ ราบผลการเรียนของบุตร หลาน ซึ่งเป็นวิธีการที่ดี ที่ทำให้ผู้ปกครองได้ร่วมมือกับโรงเรียนในการดูแลเอาใจใส่และร่วมพัฒนาการเรียนรู้ให้กับ นักเรียน นอกจากน้ียังได้รายงานผลการจดั กิจกรรมการเรียนรูใ้ ห้ผู้บริหารสถานศึกษารับทราบ เพื่อนำไปเป็นขอ้ มูล กำหนดนโยบายและหาแนวทางพัฒนาครู เพื่อวางแผนการจัดการศึกษาของโรงเรยี นให้มีคณุ ภาพตอ่ ไป ตัวอยา่ งโครงสรา้ งการจดั เวลาเรียนรายวชิ าฟิสกิ ส์ ตารางที่ 4 แสดงตัวอย่าง โครงสร้างการจดั เวลาเรียนรายวิชาฟสิ ิกส์ ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 หน่วยการเรียนที่ 1 เร่อื ง ฟิสิกสอ์ ะตอม 22 ชัว่ โมง แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 อะตอมและการคน้ พบอเิ ลก็ ตรอน 4 แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 2 แบบจำลองอะตอม 4 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 สเปกตรัมของอะตอม 4 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 4 ทฤษฎอี ะตอมของโบร์ 2 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 5 รงั สีเอกซ์ และความไม่สมบรู ณข์ องทฤษฎีอะตอมของโบร์ 4 แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 6 ทวิภาวะของคลืน่ และอนภุ าค 2 แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 7 กลศาสตรค์ วอนตมั 2 หนว่ ยการเรียนท่ี 2 เรื่อง ฟิสกิ สน์ วิ เคลยี ร์ 18 ชว่ั โมง แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 8 การค้นพบกมั มนั ตภาพรงั สี 4 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 9 การสลายตัวของนวิ เคลยี สกมั มนั ตรังสี 2 แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 10 สถานการณ์จำลองการสลายตวั ของนิวเคลียสธาตุกัมมนั ตรังสี 2 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 11 ไอโซโทป และเสถียรภาพนวิ เคลยี ส 2
8 แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 12 ปฏิกริ ยิ านิวเคลียร์ 4 แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 13 ประโยชน์ของกมั มันตภาพรังสีและพลงั งานนวิ เคลยี ร์ 4 หนว่ ยการเรยี นที่ 3 เรือ่ ง ของไหล 20 ชว่ั โมง แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 14 ความหนาแนน่ 2 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 15 ความดนั ในของเหลว 2 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 16 แรงดันในของไหลท่ีกระทำต่อผนังภาชนะ 2 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 17 กฎของพาสคัล 2 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 18 แรงพยุงและหลักอารค์ มิ ดิ ีส 2 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 19 ความตึงผิว 2 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 20 ความหนดื 2 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 21 พลศาสตร์ของไหล และของไหลในอุดมคติ 2 แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 22 สมการความต่อเน่อื ง สมการแบร์นลู ีย์ 2 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 23 การประยุกตใ์ ชห้ ลักแบรน์ ูลีย์ 2 หน่วยการเรยี นที่ 4 เรอ่ื ง ความร้อนและทฤษฎจี ลน์ของแกส๊ 20 ชัว่ โมง แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 24 อณุ หภูมแิ ละความรอ้ น 2 แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 25 การถา่ ยโอนความรอ้ น 2 แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 26 แก๊สอุดมคติ 4 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 27 ทฤษฎจี ลนข์ องแกส๊ 4 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 28 พลงั งานภายในระบบ 4 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 29 การประยุกต์ด้านความร้อนในชวี ิตประจำวนั 4 รวม 80 ชวั่ โมง 2) มีความสำเรจ็ ในการพฒั นาตามแผนพฒั นาตนเอง (ID Plan) ขา้ พเจา้ ได้พฒั นาตนเองตามสมรรถนะหลกั และประจำสายงานโดยสรุป ดงั นี้ สมรรถนะหลัก 1. การมงุ่ ผลสมั ฤทธ์ิ ประกอบดว้ ย 1)ความสามารถในการวางแผนการ ปฏิบัติงาน 2) ความสามารถในการปฏิบัติงาน และ3) ผลการปฏิบัติงาน ข้าพเจ้าได้วางแผนการปฏิบัติงานที่เน้น ผู้เรียนเป็นสำคัญ นักเรียนได้เรียนรู้ และฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์จากการทดลอง และสถานการณ์ ปัญหาทางฟิสิกส์ในชวี ติ ประจำวัน มีผลทำให้ผู้เรยี นสนใจ ตัง้ ใจ มคี วามกระตือรอื ร้นที่จะเรียนรู้ มผี ลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนที่ดีขนึ้ มที กั ษะในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามศักยภาพของแต่ละบุคคล 2. การบริการที่ดี ประกอบด้วย1) ความสามารถในการสรา้ งระบบการใหบ้ รกิ าร และ2) ความสามารถในการให้บริการ ขา้ พเจา้ ได้ให้บริการผลงานทางวชิ าการ ให้คำปรกึ ษา ชว่ ยเหลอื เพื่อนครู ผูป้ กครอง และชมุ ชน เปน็ การเผยแพรน่ วัตกรรมไปด้วย มีผลทำใหข้ ้าราชการครูแนวทางในการจดั การความรู้ใหแ้ กต่ นเองและ ผูเ้ รียน ชมุ ชนได้รับการพัฒนาในสิง่ ท่ีถูกต้อง 3. การพัฒนาตนเอง ประกอบด้วย1) ความสามารถในการวางแผนเพ่ือการปฏบิ ัติ2) ความสามารถในการใชภ้ าษาอังกฤษเพ่อื การส่ือสาร 3) ความสามารถในการติดตามความเคลอื่ นไหวทางวิชาการและ
9 วิชาชพี และ 4) ความสามารถในการประมวลความรแู้ ละการนำความร้มู าใช้ ขา้ พเจ้าได้เขา้ รับการอบรม สัมมนา ศึกษาดงู าน ศกึ ษาจากเอกสาร สบื คน้ ข้อมูลจาก web site ต่าง ๆ ตลอดทงั้ การแลกเปลี่ยนความรูก้ บั บุคคลอนื่ ทำ ใหข้ ้าพเจ้า มคี วามรมู้ าพฒั นางานในหนา้ ท่ี เกิดประโยชน์ต่อการจัดการศึกษา 4. การทำงานเป็นทมี ประกอบดว้ ย1) ความสามารถในการวางแผนการปฏิบัติงาน และ 2) ความสามารถในการปฏิบัติงานร่วมกัน ข้าพเจ้าระลึกอยู่เสมอวา่ ทำงานหลายคนดกี ว่าทำงานคนเดียว ยอมรับฟัง ความคิดเห็นของผู้อน่ื ทำใหเ้ กิดความสามัคคีในหมู่คณะ มีความสุขในการทำงานและสามารถทำงานได้สำเร็จบรรลุ เปา้ หมาย สมรรถนะประจำสายงาน 5. การจัดการเรียนรู้ ประกอบดว้ ย1) ความสามารถในการสรา้ งและการพฒั นาหลักสูตร 1) ความสามารถในเนื้อหาสาระที่สอน 2) ความสามารถในการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 3) ความสามารถในการใช้และพัฒนานวตั กรรมเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือจัดการเรียนรู้ และ 4) ความสามารถในการ วัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ขา้ พเจา้ ไดว้ างแผนการจัดการเรียนร้ทู ่ีเนน้ ผูเ้ รียนเปน็ สำคญั โดยยึดแนวคิด ทฤษฎีการ เรียนรู้มาประยุกต์ใช้ในการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ ปรบั ปรงุ ขอ้ บกพรอ่ งแล้วนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดผลดีต่อการ จัดการเรยี นรู้ 6. การพัฒนาผู้เรียน ประกอบด้วย1) การปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม แก่ผู้เรียน 2) ส่งเสรมิ ทักษะการคิด วิเคราะห์ให้แกผ่ ้เู รยี น และ3) สง่ เสริมทักษะและกระบวนการเรยี นรู้ ข้าพเจ้าได้สอดแทรก คุณธรรม จรยิ ธรรมในแผนการจัดการเรียนรทู้ กุ แผน สง่ ผลใหผ้ เู้ รียนมคี ุณลักษณะอันพงึ ประสงค์หลายประการ 7. การบริหารจัดการชั้นเรียน ประกอบด้วย1) ความสามารถในการจัดบรรยากาศใน การเรียนรู้ 2) ความสามารถในการจัดทำข้อมูลสารสนเทศ และ3) ความสามารถในการกำกับดูแลช้ันเรียน ข้าพเจ้า ได้จัดบรรยากาศในช้ันเรียนให้เอื้ออำนวยการต่อเรยี นรู้ จัดปา้ ยนเิ ทศ ทำเอกสารนกั เรียนรายบุคคล จัดระบบดูแล ช่วยเหลอื นักเรียนเพอ่ื นำขอ้ มลู ไปพฒั นาผู้เรียน ทำใหผ้ ้เู รียนมีความสขุ ในการเรยี น โดยมคี รเู ป็นแบบอย่างท่ีดี ในการ รวบรวมขอ้ มูลอย่างเปน็ ระบบ 8. การวเิ คราะห์ สังเคราะหแ์ ละการวิจยั ในช้ันเรียน ประกอบด้วย 1) ความสามารถใน การวิเคราะห์ 2) ความสามารถในการสังเคราะห์ 3) ความสามารถในการเขียนผลงานทางวิชาการ และ 4) ความสามารถในการวจิ ัย ข้าพเจา้ มคี วามสามารถในการทำวจิ ัยและเขียนผลงานทางวชิ าการ ทำให้แก้ปัญหาในช้ัน เรียน อยา่ งถกู ต้องถกู วิธี ตอ่ เน่อื ง และเป็นระบบสง่ ผลให้ขา้ พเจา้ ได้มผี ลงานทางวิชาการเพ่ือขอให้มีหรือเล่ือนวิทย ฐานะท่สี ูงข้ึนตอ่ ไป 9. การสร้างความร่วมมือกับชุมชน ประกอบด้วย1) ความสามารถในการวางแผนนำชุม ชุนมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมของสถานศึกษาและ 1) ความสามารถในการเข้าร่วมกจิ กรรมของชุมชน โดยได้ประสานความ ร่วมมือกับชุมชน เพื่อร่วมกันพัฒนาผู้เรียน ทำให้ผู้ปกครองเข้าใจการจัดการเรียนรู้ของหลักสูตรสถานศึกษา ภาคภมู ใิ จท่ีครเู อาใจใส่ตอ่ บุตรหลานของตนเอง เห็นความสำคัญการจัดการศึกษา เขา้ ร่วมพัฒนาโรงเรียน สนับสนุน อทุ ิศแรงกาย และทุนทรพั ยช์ ่วยเหลอื กจิ การของโรงเรียน 10. วนิ ัย คณุ ธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ ประกอบดว้ ย 1) การมวี นิ ัย 2) การประพฤติปฏิบัตติ นเปน็ แบบอย่างที่ดี 3) การดำรงชวี ิตอย่างเหมาะสม 4) ความรักและศรัทธาในวิชาชีพ และ 5) ความรับผิดชอบในวิชาชีพ ข้าพเจ้ามีวินัยในตนเอง ปฏิบัติตนตามกฏหมาย ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่
10 นักเรียนและชุมชน ดำรงชีวิตอย่างเหมาะสม โดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ข้าพเจ้ารักและศรัทธาใน วชิ าชพี ครู เพราะครูเปน็ ปชู นียบุคคล หนา้ ที่ของครูน้นั ยิ่งใหญ่ เป็นผสู้ รา้ งคนให้เป็นคน เม่ือประเทศชาติมีแต่คนดี ชาตินั้นก็เจริญรุ่งเรือง จากการปฏิบัติหน้าที่ครู มีส่วนร่วมด้านวิชาชีพของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา เป็น สมาชิกที่ดีขององค์กรวิชาชีพครู ข้าพเจ้ามีความเชื่อมั่น ชื่นชม ภูมิใจในความเป็นครูและองค์กรวิชาชีพครูว่ามี ความสำคญั จำเป็นต่อสังคม ตวั ช้วี ัด 5 มีผลงานท่ีเกิดจากการพฒั นาคุณภาพการศกึ ษา 1) ผลการประเมนิ กล่มุ ตวั บง่ ช้ีพื้นฐาน ตัวบ่งช้ีท่ี 6 ประสทิ ธผิ ลของการจดั การเรียน การสอนทีเ่ นน้ ผ้เู รียนเป็นสำคัญ จากการประเมนิ คุณภาพภายนอกรอบสาม (พ.ศ. 2554 – 2558) ผลการประเมินกลุ่มตัวบ่งชี้พื้นฐาน ตัวบ่งชี้ท่ี 6 ประสิทธิผลของการจัดการเรียน การสอนที่เน้น ผเู้ รยี นเป็นสำคญั จากการประเมินคณุ ภาพภายนอกรอบสาม อยใู่ นระดบั ดมี าก รูปภาพท่ี 4 ผลการประเมินคณุ ภาพภายนอกรอบสาม (พ.ศ. 2554 – 2558)
11 2) มีงานวจิ ัยในชนั้ เรียนทสี่ ำเร็จเผยแพร่แล้ว ปีทวี่ จิ ัย ตารางท่ี 5 แสดงรายชอื่ งานวจิ ยั ในชน้ั เรียนท่ีสำเร็จและเผยแพรแ่ ล้ว 2558 ท่ี ชอื่ เรื่องวจิ ัย 2559 1 การจดั การเรียนรู้โดยใช้สอ่ื สังคมตามแนวคิดโซเชียลคอนสตรัคติวิสต์ วิชาฟิสกิ ส์ เร่ือง พลังงาน 2560 ภายในระบบ สำหรบั นกั เรยี นในระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 2561 2 พฒั นาแบบฝกึ ทักษะการแกโ้ จทยป์ ัญหาทางฟิสิกส์ เรอ่ื ง การต่อตัวต้านทานและแบตเตอรี่ ใน ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 6 3 พัฒนาแบบฝึกทกั ษะการแกโ้ จทยป์ ัญหาทางฟิสกิ ส์ เรอ่ื ง การตอ่ ตวั ต้านทานและแบตเตอรี่ ใน ระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 5 4 การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นวชิ าฟสิ ิกสแ์ ละเจตคตติ ่อการจัดการเรยี นรู้ดว้ ยกระบวนการสบื เสาะหาความรู้ 5 ขนั้ รว่ มกับกจิ กรรมการเรยี นรู้แบบเชงิ รุก สำหรบั นกั เรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 รปู ภาพท่ี 5 การเผยแพรง่ านวิจยั ผ่านระบบสารสนเทศงานวจิ ยั และนวัตกรรม ตัวช้วี ัด 6 ได้รบั รางวลั ยกยอ่ งเชิดชเู กยี รติจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน เปน็ ทย่ี อมรับในวิชาชพี และสงั คม 1) ได้รับรางวัลยกยอ่ งเชิดชเู กยี รตจิ ากหน่วยงานภาครัฐ/เอกชน เปน็ ท่ยี อมรับในวงวิชาชีพ (ภายใน 2 ปี นบั ถึงวนั ท่ียนื่ ขอรับการประเมนิ ) ตารางท่ี 6 แสดงรางวลั ยกยอ่ งเชิดชูเกยี รตจิ ากหนว่ ยงานภาครฐั /เอกชน พ.ศ. รางวัล หนว่ ยงาน 2560 ครูผูน้ ำนวตั กรรมด้านการเรียนการสอน ระดับประเทศ สพฐ. และ Microsoft Thailand Innovative Teachers Leadership Award 2017 2560 Microsoft Innovative Educator Expert 2016-2017 Education.Microsoft.com 2561 ครูผู้นำนวตั กรรมด้านการเรยี นการสอน ระดบั ประเทศ สพฐ. และ Microsoft Thailand Innovative Teachers Leadership Award 2018
12 รูปภาพท่ี 6 รางวลั ยกยอ่ งเชดิ ชเู กียรตจิ ากหนว่ ยงานภาครฐั /เอกชน เปน็ ทยี่ อมรบั ในวงวิชาชพี
13 2) ไดร้ บั เชิญให้เปน็ วทิ ยากรบรรยายหัวข้อทต่ี รงกับภารกจิ /งานที่ได้รับมอบหมายอย่างน้อย 2 ครง้ั /ปี การศกึ ษาระดับสถานศกึ ษา/เขต ตารางท่ี 7 แสดงขอ้ มลู การเปน็ วิทยากร พ.ศ. ท่ี หวั ข้อบรรยาย หน่วยงานท่เี ชิญ 2560 1 กจิ กรรมสอนเสรมิ วิชาวทิ ยาศาสตร์ เพอื่ ยกระดบั ผลสัมฤทธิท์ างการ โรงเรียนธรรมศาสตร์ เรียนในรายวชิ าวิทยาศาสตรพ์ ืน้ ฐาน และพฒั นาผลการทดสอบ คลองหลวงวทิ ยาคม ระดับชาติ(O-NET) ในระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 ปีการศกึ ษา 2560 2 กจิ กรรม One Day STEM CAMP ตามโครงการสรา้ งเครอื ขา่ ยร่วม โรงเรียนธรรมศาสตร์ พัฒนาสสู่ ากล โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวทิ ยาคม คลองหลวงวิทยาคม 3 กจิ กรรมการแปรรูปผลติ ภณั ฑ์เชิงวิทยฯ์ ด้วยเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตาม โรงเรียนธรรมศาสตร์ โครงการส่งเสริมชวี ิตตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง คลองหลวงวิทยาคม 2561 1 กิจกรรมอย่คู า่ ยพักแรมลกู เสือ-เนตรนารี ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 1-3 โรงเรียนธรรมศาสตร์ ปกี ารศกึ ษา 2561 คลองหลวงวิทยาคม 2 กจิ กรรมสอนเสริมวิชาวิทยาศาสตร์ เพื่อยกระดบั ผลสมั ฤทธทิ์ างการ โรงเรียนธรรมศาสตร์ เรียนในรายวิชาวิทยาศาสตรพ์ น้ื ฐาน และพัฒนาผลการทดสอบ คลองหลวงวทิ ยาคม ระดับชาติ (O-NET) ในระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ปีการศกึ ษา 2561 โรงเรยี นธรรมศาสตรค์ ลองหลวงวิทยาคม รปู ภาพที่ 7 ไดร้ ับเชญิ ให้เป็นวิทยากรบรรยายหวั ขอ้ ทีต่ รงกบั ภารกิจ
14 3) ไดร้ บั เชิญ/คัดเลือกให้แสดงผลงานตนเองในระดบั ภาค /ชาติ/นานาชาติ ตารางที่ 8 แสดงขอ้ มูลการแสดงผลงานในระดบั ชาติ ที่ ชอื่ ผลงาน หน่วยงานทเ่ี ชญิ 1 การบูรณาเทคโนโลยีกับการจัดการเรียนรู้ การพัฒนากลุ่มไลน์ ห้องเรียน Sci Project สพฐ. และ Microsoft “ชมุ ชนบนไลน์ มุมท้ายหอ้ งเรียน” ครูผู้นำนวัตกรรมดา้ นการเรียนการสอน ระดบั ประเทศ โครงการ Thailand Innovative Teachers Leadership Award 2017 2 ครูผู้นำนวตั กรรมด้านการเรียนการสอน ระดบั ประเทศ “ชมุ ชนบนไลน์ มุมท้ายห้องเรยี น” สพฐ. และ Microsoft โครงการ Thailand Innovative Teachers Leadership Award 2018 รูปภาพท่ี 8 นำเสนอผลงานวชิ าการระดบั ระเทศ Partners in Learning Thailand forum 4) มีงานเขียนแสดงผลงาน/ความคดิ เชงิ สรา้ งสรรคท์ ่เี กี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน/การพัฒนา ผ้เู รยี นตามหลกั สูตรฯ/ระบบประกนั คุณภาพภายในเผยแพร่ผ่านส่อื สาธารณะไมน่ ้อยกวา่ 1 คร้ังต่อภาคเรยี น ตารางที่ 9 แสดงข้อมลู ผลงานเขียนเชิงสรา้ งสรรค์ ท่ี ชอ่ื ผลงาน หมายเหตุ 1 แนวทางการพฒั นาแผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 เผยแพร่ผ่าน Slideshare.net 2 เครืองเคาะสญั ญาณเวลา เผยแพรผ่ า่ น Slideshare.net 3 เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง งานและพลงั งาน เผยแพรผ่ า่ น Slideshare.net 4 เอกสารประกอบบทเรยี น เร่ือง โมเมนตมั และการชน เผยแพรผ่ ่าน Slideshare.net 5 แนวขอ้ สอบโมเมนตัมและการชน เผยแพร่ผ่าน Slideshare.net 6 เอกสารประกอบบทเรียน เร่อื ง การเคลอ่ื นท่แี บบหมนุ เผยแพร่ผ่าน Slideshare.net 7 เอกสารประกอบบทเรยี น เรอ่ื ง สภาพสมดุลและสภาพยืดหยุ่น เผยแพร่ผา่ น Slideshare.net 8 ฟิสกิ ส์ 5 ไฟฟ้าสถิต ตอนที่ 1 เผยแพรผ่ ่าน Slideshare.net 9 ฟิสกิ ส์ 5 ไฟฟ้าสถิต ตอนที่ 2 เผยแพร่ผ่าน Slideshare.net 10 ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิต ตอนท่ี 3 เผยแพร่ผา่ น Slideshare.net 11 ฟสิ ิกส์ 5 ไฟฟา้ สถิต ตอนที่ 4 เผยแพร่ผ่าน Slideshare.net 12 ฟสิ กิ ส์ 5 ไฟฟ้าสถิต ตอนที่ 5 เผยแพรผ่ ่าน Slideshare.net 13 ความหนาแน่นและความดันในของไหล เผยแพร่ผา่ น Slideshare.net 14 กฏของพาสคลั และหลักอารค์ มิ ิดิส เผยแพร่ผา่ น Slideshare.net
ท่ี ชอ่ื ผลงาน 15 15 ความตึงผิวและความหนืด 16 สมการแบรน์ ลู ลี หมายเหตุ 17 ความร้อนและการเปลีย่ นแปลงทางกายภาพ เผยแพรผ่ า่ น Slideshare.net 18 สมบัตขิ องแก๊ส เผยแพรผ่ ่าน Slideshare.net 19 ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส เผยแพร่ผ่าน Slideshare.net 20 พลังงานภายในระบบ เผยแพรผ่ ่าน Slideshare.net 21 ฟสิ กิ ส์นิวเคลยี ร์ เผยแพร่ผ่าน Slideshare.net 22 ฟิสกิ ส์อะตอม เผยแพรผ่ ่าน Slideshare.net 23 เอกสารประกอบการสอน เร่ือง เสยี ง เผยแพรผ่ า่ น Slideshare.net 24 แผนการสอนฟสิ กิ ส์ 2 เผยแพรผ่ ่าน Slideshare.net 25 การบรู ณาเทคโนโลยีกบั การจัดการเรยี นรู้ การพัฒนากลมุ่ ไลน์ เผยแพร่ผ่าน Slideshare.net เผยแพร่ผา่ น Slideshare.net ห้องเรียน Sci Project “ชมุ ชนบนไลน์ มมุ ท้ายห้องเรยี น” 26 ชุมชนบนไลนม์ ุมทา้ ยหอ้ งเรียน(ฟสิ กิ ส)์ เผยแพรผ่ ่าน เว็บไซต์ https://sway.office.com/LtYH4tJHTFbw0eDk 27 เลา่ เร่ืองห้องเรยี นฟิสิกส์ครูตูน เผยแพร่ผา่ น เวบ็ ไซต์ https://sites.google.com/site/scikrutoon/ เผยแพรผ่ า่ น เว็บไซต์ https://sway.office.com/SEJ65DmfiqIE6naA รูปภาพที่ 9 ตวั อยา่ งงานเขียนเชงิ สร้างสรรค์ ท่ีเผยแพร่ผ่านสอ่ื Slideshare.net
16 สรปุ การดำเนินการตามตวั ชวี้ ัดเกณฑ์คณุ สมบตั เิ บอ้ื งต้น (OBEC AWARDS) นางสาววจิ ติ ตา อำไพจิตต์ ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชำนาญการ - รับราชการมาแล้ว 14 ปี 4 เดอื น และ - ไม่เคยถูกลงโทษทางวนิ ยั ดา้ นการครองตน ดา้ นการครองคน ดา้ นการครองงาน - ผลการประเมนิ ภายนอกรอบ3 ของ - เขา้ รว่ มงานในโรงเรียนกบั ผู้ร่วม - ไมเ่ คยขาดงาน สมศ. ตัวชี้วัดท่ี 6 อย่ใู นระดบั ดมี าก - เขา้ รว่ มกิจกรรมตามระบบดแู ล - มชี ว่ั โมงสอนตามเกณฑท์ ่กี .ค.ศ. กำหนด - ผลการประเมินคณุ ภาพภายนอก ชว่ ยเหลือนกั เรียน - มแี ผนการสอนท่เี นน้ ผเู้ รียนเป็นสำคัญ รอบสาม อยู่ในระดบั ดี - เขา้ รว่ มกิจกรรมกบั ชุมชน ผลงานที่เกิดจากพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา - ผลการประเมนิ ภายนอกรอบ3 ของ สมศ. - มีงานวิจยั ในช้นั เรยี นทส่ี ำเรจ็ ทีเ่ ผยแพร่ ตัวชี้วัดที่ 6 อย่ใู นระดบั ดีมาก ได้รบั รางวัลยกย่องเชิดชเู กยี รติ รางวัลยกยอ่ งเชดิ ชูเกียรติ เปน็ วิทยากร งานเขยี น - ครผู ู้นำนวัตกรรมด้านการเรยี นการสอน - สอนเสริมวิชาวิทยาศาสตร์ เพอ่ื ยกระดบั - งานเขียนเกี่ยวกับการสนบั สนนุ การเรียน ระดับประเทศ ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นในรายวิชาวิทยาศาสตร์ การสอน เผยแพรบ่ น Slideshare.net พืน้ ฐาน และพฒั นาผลการทดสอบระดบั ชาติ - การบรู ณาเทคโนโลยีกับการจัดการเรียนรู้ - Microsoft Innovative Educator (O-NET) การพัฒนากลุ่มไลน์ หอ้ งเรยี น Expert 2016-2017 Sci Project “ชมุ ชนบนไลน์ มุมทา้ ย - กจิ กรรม One Day STEM CAMP ห้องเรียน” - - กิจกรรมการแปรรูปผลิตภัณฑ์เชิงวิทย์ฯด้วย ฯลฯ เศรษฐกจิ พอเพยี ง - กจิ กรรมอยูค่ า่ ยพกั แรมลูกเสือ-เนตรนารี
17 ตอนที่ 3 คุณสมบตั ิเฉพาะด้าน Active Teacher องค์ประกอบที่ 1 ผลทเี่ กิดกับผู้เรยี น (ปีการศึกษาล่าสดุ ) ตวั ชี้วัดท่ี 1 ผลทเ่ี กิดกับผู้เรยี น ป.6, ม.3, ม.6 (O–NET) ป.3 ( NT ) 1) ผู้เรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 มีผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาติ 1.1) คา่ เฉลี่ยปลี ่าสุดสงู กวา่ ค่าเฉล่ยี ระดบั ชาตหิ รือ สงู กว่าคา่ เฉลยี่ ของปกี ่อนหน้าน้ัน3 กลุม่ สาระขึ้นไป ตารางท่ี 10 แสดงข้อมลู คา่ เฉลี่ยปี 2561 สงู กว่าค่าเฉลย่ี ระดบั ชาติ รายวิชา ระดบั ชาติ ระดับโรงเรยี น ผล ภาษาไทย 47.31 54.80 สงู กวา่ คา่ เฉลี่ย ระดับชาติ คณิตศาสตร์ 30.72 36.55 สงู กวา่ ค่าเฉล่ีย ระดบั ชาติ วิทยาศาสตร์ 30.51 33.35 สูงกว่าคา่ เฉลย่ี ระดบั ชาติ สังคมศกึ ษา 35.16 37.72 สงู กว่าค่าเฉลย่ี ระดบั ชาติ ภาษาอังกฤษ 31.41 33.22 สูงกว่าคา่ เฉลี่ย ระดบั ชาติ 1.2) คา่ เฉลี่ยปลี ่าสดุ สงู กวา่ ค่าเฉลีย่ ระดบั สพฐ. หรอื สูงกวา่ คา่ เฉลี่ยของปีกอ่ นหน้านั้น 2 กลุ่มสาระขึน้ ไป ตารางที่ 11 แสดงขอ้ มลู ค่าเฉล่ยี ปีลา่ สดุ สูงกวา่ คา่ เฉลยี่ ระดบั สพฐ. รายวิชา ระดบั สพฐ. ระดบั โรงเรยี น ผล ภาษาไทย 48.16 54.80 สูงกวา่ ค่าเฉลย่ี สพฐ. คณิตศาสตร์ 31.04 36.55 สูงกว่าค่าเฉลีย่ สพฐ. วทิ ยาศาสตร์ 30.75 33.35 สงู กว่าค่าเฉลย่ี สพฐ. สงั คมศกึ ษา 35.48 37.72 สงู กว่าคา่ เฉลย่ี สพฐ. ภาษาอังกฤษ 31.15 33.22 สูงกว่าคา่ เฉลี่ย สพฐ. 1.3) คา่ เฉลยี่ ปีลา่ สดุ สูงกว่าค่าเฉลย่ี ระดับเขตพืน้ ท่ี หรือคะแนนเฉลี่ยปกี ารศกึ ษาปจั จุบนั หรือปี การศึกษาทีผ่ า่ นมาสงู กว่าค่าเฉลีย่ ของปีกอ่ นหนา้ นั้น 1 กลุ่มสาระข้ึนไป ตารางที่ 12 แสดงข้อมลู คา่ เฉลี่ยปีลา่ สุด สงู กวา่ ค่าเฉลี่ยระดบั เขตพน้ื ท่ี รายวิชา ระดับ สพม. ระดับโรงเรียน ผล ภาษาไทย 48.31 54.80 สูงกวา่ ค่าเฉลี่ย เขตพ้ืนท่ี คณิตศาสตร์ 33.58 36.55 สงู กวา่ ค่าเฉลี่ย เขตพนื้ ท่ี วทิ ยาศาสตร์ 31.17 33.35 สูงกว่าค่าเฉลย่ี เขตพ้ืนท่ี สงั คมศกึ ษา 35.50 37.72 สงู กว่าค่าเฉลี่ย เขตพน้ื ที่ ภาษาอังกฤษ 34.02 33.22 สงู กวา่ คา่ เฉล่ีย เขตพนื้ ที่
18 1.4) คา่ เฉล่ยี ร้อยละปที ่ีผ่านมา สงู กว่าร้อยละ 50 ของคะแนน ตารางท่ี 13 แสดงขอ้ มลู ค่าเฉลีย่ รอ้ ยละปีท่ีผา่ นมา คา่ เฉล่ยี ผลการทดสอบ ปกี ารศึกษา 2560 ปกี ารศกึ ษา 2561 ผล ทางการศึกษาระดบั ชาติ น้อยกว่าร้อยละ 50 ระดับสถานศกึ ษา 37.32 39.13 1.5) คา่ เฉลยี่ ระดบั สถานศึกษาปลี า่ สุดสูงกว่าค่าเฉลี่ย ของปกี อ่ นหน้า 1 ปี ตารางท่ี 14 แสดงข้อมลู คา่ เฉลี่ยระดับสถานศึกษาปลี า่ สุด ค่าเฉลี่ยผลการทดสอบ ปกี ารศกึ ษา 2560 ปกี ารศกึ ษา 2561 ผล ทางการศึกษาระดับชาติ +1.81 ระดับสถานศึกษา 37.32 39.13 1.6) นกั เรยี นมผี ลการประเมินระดบั สถานศึกษาตัง้ แต่ ระดบั 3 ขึน้ ไป ไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ 80 ตารางท่ี 15 แสดงขอ้ มลู ผลการประเมินระดบั สถานศึกษา ของนักเรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 รายวิชา ฟสิ กิ ส์เพิมเติม 5 รหัสวชิ า ว33202 ปกี ารศึกษา 2561 ชน้ั 4 จำนวนนักเรยี น/รอ้ ยละจำนวนนักเรยี น 0 ร/ รวม รวม ค่า SD มส. ผู้เข้า ท้งั หมด เฉล่ยี 3.5 3 2.5 2 1.5 1 สอบ ม.6/1 38 4 5 1 0 0 0 0 0 49 49 3.86 0.27 % 79.17 8.33 10.42 2.08 0.00 0.00 0.00 0.00 0.00 100 100 - - ม.6/3 11 19 11 3 3 0 0 0 0 47 47 3.06 0.57 % 23.40 40.43 23.40 6.38 6.38 0.00 0.00 0.00 0.00 100 100 - - ม.6/5 7 17 2 8 1 0 1 0 0 36 36 2.76 0.66 % 19.44 47.22 5.56 22.22 2.78 0.00 2.78 0.00 0.00 100 100 - - ม.6/13 23 8 2 0 0 0 0 0 0 33 33 3.61 0.44 % 69.70 24.24 6.06 0.00 0.00 0.00 0.00 0.00 0.00 100 100 - - รวม 79 48 20 12 4 0 1 0 0 165 165 3.34 0.66 % 48.17 29.27 12.20 7.32 2.44 0.00 0.61 0.00 0.00 100 100 - - รวม 3-4 147 % 89.63 จากตารางท่ี 15 พบวา่ นกั เรียนมีผลการประเมินระดบั สถานศึกษาตั้งแต่ ระดับ 3 ขึ้นไป ในปี การศกึ ษา 2561 จำนวน 147 คน คิดเป็นร้อยละ 89.63 1.7) ไม่มีนกั เรยี นท่มี ผี ลการเรียนระดบั 0 จากตารางที่ 15 พบว่า ไมม่ ีนกั เรียนที่มีผลการเรียนระดบั 0
19 ดา้ นนวัตกรรมและเทคโนโลยเี พอ่ื การเรียนการสอนยอดเยย่ี ม องคป์ ระกอบที่ 1 คุณภาพ ตวั ชวี้ ัด 1 คุณลักษณะของแผนการจัดการเรยี นรู้ 1.1 มีแผนการจดั การเรียนรู้ทีม่ อี งค์ประกอบครบถว้ นอยา่ งนอ้ ยหนึ่งหน่วยการเรียนรู้ ตวั อยา่ ง การกำหนดหน่วยการเรยี นรู้ เรือง งานและพลงั งาน รายวิชาฟิสกิ ส์ 2
20
21
22
23
24
25
26
27
28 1.2 มีกำหนดการสอนท่ีแสดงถึงวิธกี ารจัดการเรยี นรู้ Active Learning ท่หี ลากหลาย ตัวอย่าง กำหนดการสอน รายวชิ าฟิสิกส์ เพ่ิมเตมิ ชว่ั โมง ชอื่ เรอ่ื ง วิธสี อน/กจิ กรรม เวลา ท่ี (ชัว่ โมง) 1-2 แรงและงาน การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) 2 3-4 งานของแรงทท่ี ำมมุ กับแนว การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 2 การเคล่อื นท่ี แบบฝึกหัดเสริมประสบการณ์ 5-6 การหางานจากพ้นื ที่ใตก้ ราฟ การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 2 7-8 พลงั งานจลน์ การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) ศึกษาหา 2 ความสัมพันธ์ระหวา่ งงานกบั พลังงานจลน์ 9-10 พลังงานศกั ย์ การทดลองความสัมพันธ์ระหว่างงานกับพลังงานศักย์ 2 โน้มถว่ ง 11-12 พลงั งานศกั ย์ การทดลองความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของแรงที่ใช้ดึง 2 สปริงกับระยะทีส่ ปรงิ ยืดออก 13-14 พลังงานศักย์ ความสมั พันธ์ระหว่างงานกบั พลังงานศกั ยย์ ดื หยนุ่ 2 15-16 กฎการอนุรักษ์พลังงาน กจิ กรรมลกู โป่งนำ้ บนั จ้ีจมั ป์ HAND ON 2 17-18 กฎการอนุรกั ษ์พลงั งาน กจิ กรรมลกู โป่งนำ้ บนั จีจ้ มั ป์ HAND ON 2 19-20 กำลัง การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 2 21-22 เคร่อื งกล แบบฝกึ หดั เสรมิ ประสบการณ์ 2 รวม 24 1.3 รปู แบบการจดั พมิ พ์ จัดรูปเล่มแผนการจดั การเรยี นรู้ การนำเสนอนา่ สนใจ มกี ารจัด เรียงลำดับอยา่ งเป็นข้ันตอน และบันทึกหลงั แผนการสอนท่ีสง่ ผลถงึ ผ้เู รยี น รปู ภาพที่ 10 ตัวอย่างการจัดพิมพร์ ูปเล่มแผนการจดั การเรียนร้รู ายวิชาฟิสกิ ส์
29 ตัวอยา่ ง แผนการจัดการเรียนรู้ ประกอบหนว่ ยการเรยี นรู้ งานและพลงั งาน
30
31
32
33
34
35 ตวั ชวี้ ัด 2 คณุ ภาพขององคป์ ระกอบในแผนการจดั การเรียนรแู้ สดงถึงการเปดิ โอกาสให้ผเู้ รยี นมสี ว่ นรว่ มใน การจัดการเรยี นรู้ 2.1 กระบวนการจัดการเรียนรู้ สอดคล้องกับรูปแบบการจัดการเรยี นรู้แบบ Active Learning รูปภาพท่ี 11 กระบวนการจัดการเรยี นรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ 5 ขั้น ข้นั (5Es Instructional Model) การจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es Instructional Model) บนพ้ืนฐานการจัดการเรียนรูแ้ บบ Active Learning ซึ่งเปน็ การจดั การเรยี นการสอนแบบเน้นพัฒนา กระบวนการเรยี นรู้ ส่งเสริมให้ ผูเ้ รียนประยกุ ต์ใช้ทักษะและเช่ือมโยงองค์ความร้นู ำไปปฏิบัติเพ่ือแก้ไขปัญหา หรือประกอบอาชีพในอนาคต ข้าพเจ้าได้ศึกษาแนวทางถึงวิธีการสอน เทคนิคการสอนที่หลากหลาย หรือ กจิ กรรมต่างๆ มาใชอ้ อกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ และพฒั นาแผนการจดั การเรียนรู้ และกิจกรรมกระตุ้นให้ผูเ้ รยี น มีส่วนร่วมในชั้นเรียน ส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้เรียน และผู้เรียนกับผู้สอน โดยฐานะผู้สอนมี บทบาทเปน็ ผอู้ ำนวยความสะดวกและจัดสภาพแวดลอ้ มทีเ่ อื้อให้ผเู้ รียนสร้างความรู้ดว้ ยตนเอง จนเกิดเป็นการ เรียนรู้อย่างมีความหมาย (Meaningful Learning) ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะในการค้นคว้า แสวงหาความรู้ และมคี วามรู้พื้นฐานท่ีจำเป็น สามารถคดิ วิเคราะห์ สังเคราะห์ สร้างสรรค์ สามารถสอ่ื สารอย่างมีประสิทธิผล มีทกั ษะชวี ติ ร่วมมอื ในการทำงานกับผูอ้ นื่ ได้เป็นอย่างดี ซ่งึ จะต้องมกี ระบวนการจดั การเรยี นร้อู ยา่ งตอ่ เนื่อง มี ลำดับขั้นตอนที่เหมาะสม และสอดคล้องกับพัฒนาการของผู้เรียนในแตล่ ะระดับ โดยมีกระบวนการสำคัญใน การจดั การเรียนรู้ ดงั น้ี 1) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 2) ขั้นสำรวจและคน้ หา (Exploration) 3) ขนั้ อธิบายและลงขอ้ สรุป (Explanation) 4) ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration) 5) ข้นั ประเมิน (Evaluation)
36 2.2 มรี ปู แบบการออกแบบกจิ กรรมเชงิ ปฏิบตั ิการใหผ้ ้เู รียนลงมือปฏิบตั ิ และเรียนรู้ดว้ ยวิธี หลากหลาย จากกระบวนการจัดการเรยี นรูข้ องผเู้ รยี นโดยใช้กระบวนการเรยี นรู้ ขา้ พเจา้ จึงไดพ้ ฒั นารูปแบบ กิจกรรมเชงิ ปฏบิ ตั ิการใหผ้ ู้เรยี นลงมอื ปฏิบตั ิ และเรียนรู้ด้วยวิธหี ลากหลายรูปแบบ การออกแบบกิจกรรมดว้ ย การกำหนดสถานการณ์และปัญหาเพือ่ ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากการลงมอื ปฏบิ ัติ รูปภาพท่ี 12 แสดงกิจกรรมเชิงปฏบิ ตั กิ ารใหผ้ เู้ รียนลงมอื ปฏิบัติ และเรียนรดู้ ้วยวธิ หี ลากหลาย 2.3 มกี ิจกรรมทเี่ ปิดโอกาสให้ผเู้ รยี นมสี ว่ นรว่ ม ในการจดั การเรียนรู้ จากการจัดกิจกรรมการเรียนรใู้ นกระบวนการเรียนรู้ กระบวนการเรียนรแู้ บบสบื เสาะหา ความรู้ 5 ข้ัน (5Es Instructional Model) อยู่บนพืน้ ฐานการจดั การเรียนรู้แบบ Active Learning ทำให้ เกดิ เปน็ กระบวนการทตี่ อ่ เนอื่ งกันไปเรอ่ื ย ๆ จงึ ช่วยให้นกั เรียนเกิดการเรยี นร้ทู ั้งเนื้อหาหลกั และหลักการ ทฤษฎี ตลอดจนลงมอื ปฏิบัติ เพอื่ ใหไ้ ด้ความรซู้ งึ่ จะเปน็ พื้นฐานในการเรยี นต่อไป ท้งั น้ขี ้าพเจ้าไดส้ ง่ เสรมิ ให้ นักเรยี นไดน้ ำเสนอผลงาน และถา่ ยทอดองคค์ วามรู้ทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาค้นควา้ ทดลองและปฏิบัติการ แล้ว สะท้อนผลการจัดการเรียนรเู้ พอื่ นำไปออกแบบและพฒั นาการจัดกจิ กรรมในหัวข้อถดั ไปใหม้ ีความคลอ่ งตัว และเกิดประสิทธิผลต่อไป และรว่ มกำหนดรปู แบบวิธีการในการศึกษาและภาระงานในโอกาสถัดไป รปู ภาพที่ 13 แสดงการเปดิ โอกาสให้ผู้เรียนมสี ่วนรว่ ม ในการจัดการเรียนรู้
37 ตวั ชว้ี ัด 3. การออกแบบกจิ กรรมที่ผ้เู รยี นสามารถสรา้ งความรู้ไดด้ ้วยตนเอง 3.1 มกี ิจกรรมการเรยี นร้ทู ่หี ลากหลาย ทา้ ทาย รายการกิจกรรมการเรียนรทู้ ่สี ง่ เสริมความสามารถในการเรียนรู้ของผู้เรียนให้สามารถสรา้ ง ความร้ไู ด้ดว้ ยตนเอง บรู ณาการเชอ่ื มโยงกับสาระการเรยี นร้ตู ่างๆ ดังนี้ ตารางท่ี 16 แสดงข้อมูลกจิ กรรมการเรียนรู้หลากหลาย ทา้ ทาย ท่ี หัวขอ้ กจิ กรรม เชือ่ มโยง/กำหนดสถานการณ์ บูรณาการ 1 ลกู โป่งน้ำบนั จี้จมั ป์ ออกแบบการทดลองเพ่ือหาความเร็วปลายของลูกโป่งน้ำ คณติ ศาสตร์ เทคโนโลยี 2 รม่ พยุงไข่ สถานการณ์ คอื นกั เรียนไดร้ ับมอบหมายใหน้ ำส่งส่งิ ของ ทุกสาระ ทางอากาศไปส่พู นื้ ท่ปี ระสบภยั ซง่ึ ถกู ตดั ขาดจากโลก ภายนอกอันเนื่องมาจากนำ้ ทว่ ม ทำให้ความชว่ ยเหลือทาง ภาคพนื้ ดินเข้าถงึ ได้ลำบาก โดยนักเรยี นต้อง นำส่งอาหาร และยารกั ษาโรค ที่จำเปน็ ตอ้ งมีความรวดเร็ว แม่นยำ และปราศจากความเสยี หาย ให้ ทนั เวลา 3 รถไฟเหาะตีลังกา สถานการณ์ คอื นักเรียนไดร้ บั มอบหมาย ใหอ้ อกแบบราง ทุกสาระ รถไฟเหาะยาว 2 เมตร ท่ปี ล่อยวตั ถแุ ลว้ ใหห้ ยดุ ท่ีปลาย รางพอดี โดยการสรา้ งรางรถไฟต้องใช้งบประมาณอย่าง คุม้ ค่า และผโู้ ดยสารตอ้ งมคี วามปลอดภยั ในการเดนิ ทาง 4 ลกู ขา่ งหมนุ นาน ออกแบบลูกขา่ งจากวัสดุรอบตัวที่หมนุ ได้นานทส่ี ุด ทกุ สาระ 5 สปรงิ หาค่าคงที่ของสปริง จากสถานการณก์ ารสัน่ ของสปรงิ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี 6 หมุนหนีศนู ย์กลาง หาคา่ สัมประสทิ ธคิ์ วามเสยี ดทานสถิตยร์ ะหว่างผิวของ คณิตศาสตร์ วัสดุ จากสถานการณ์วตั ถบุ นจานหมุน เทคโนโลยี 7 Bioplastic เรยี นรู้เก่ียวกบั โพลเิ มอร์ การแยกเคซนี จากนม ปัญหา ทกุ สาระ ขยะพลาสติกในทะเล 8 เซลลก์ ลั วานิกจากวัชพชื สร้างความตระหนักของการลดการใช้พลงั งานเช้ือเพลิงที่ ทุกสาระ สง่ ผลเสยี ตอ่ สภาพแวดลอ้ มดว้ ยการใชพ้ ลงั งานสะอาด พลังงานทดแทน จากธรรมชาตใิ ห้เกิดประโยชน์สงู สุด 9 มวลนำ้ มาแล้ว ให้นกั เรยี นออกแบบสรา้ งพนังกนั้ น้ำท่ีสามารถรบั แรงน้ำท่ี ทกุ สาระ บา้ นฉนั ต้องรอด ไหลจากท่ีสงู 50 เซนติเมตร ปริมาตร 10 ลติ ร โดยจำกดั นำ้ หนกั ของพนงั ไมเ่ กนิ 1 กิโลกรมั และไมม่ ีการยึดพนัง กัน้ นำ้ ไว้กบั พนื้
38 ท่ี หวั ข้อกิจกรรม เชื่อมโยง/กำหนดสถานการณ์ บูรณาการ 10 หอคอยจากหนงั สอื พิมพ์ เชื่อมโยงกับสภาพแวดล้อมของท้องถิ่นจังหวัดปทุมธานี ทกุ สาระ 11 ฟิสิกส์ในสวนสนุก กำหนดสถานการณ์ให้นักเรียนสร้างหอคอยจาก หนังสือพิมพ์ที่มีความสูง แข็งแรง และคงทนต่อการไหว สะเทอื น เชื่อมโยงแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่นจังหวัดปทุมธานี กับการ ทกุ สาระ เรียนรู้กลศาสตรใ์ นวิชาฟิสิกส์ การเคลอื่ นทแ่ี บบฮาร์มอนิ กอย่างง่าย โดยการสังเกต และร่วมกิจกรรมเครืองเล่น ไวกิ้ง โดยนักเรียนต้องออกแบบการหาคำตอบ ว่า คาบ การแกว่งของไวกิ้งในแต่ละรอบเล่น มีค่าเท่ากันทุกรอบ การเล่นหรือไม่ 3.2 กจิ กรรมการเรยี นร้เู ปิดโอกาสใหผ้ เู้ รยี นมีการสื่อสารและแลกเปล่ยี นอยา่ งหลากหลาย ขา้ พเจ้าได้ดำเนนิ การเปิดโอกาสใหผ้ ู้เรียนมกี ารส่อื สารและแลกเปลี่ยนเรยี นรรู้ ่วมกัน ท้ัง ทางตรงและทางอ้อม มกี ารสอ่ื สารในชน้ั เรยี น และนอกชนั้ เรียน การสรา้ งเว็บไซต์ของตนเอง การใช้สอ่ื Social media ในการตดิ ตอ่ สารและให้คำปรึกษา การสร้างกลมุ่ ไลนห์ ้องเรยี นฟิสกิ ส์ เพ่ือการสือ่ สารในคำแนะนำ รปู ภาพที่ 14 แสดงการเปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรียนมีการส่ือสารและแลกเปล่ียนอย่างหลากหลาย
39 3.3. มกี จิ กรรมท่ผี ูเ้ รยี นแสดงออกหรอื ถ่ายทอดความคิดผา่ นส่ือตา่ งๆ อยา่ งหลากหลาย ข้าพเจ้าดำเนนิ การสง่ เสริมให้เรียนรู้ไดใ้ ชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศในการทำงานและติดต่อสาร สารแลกเปล่ียนเรียนรู้ และแสดงผลงานของตนเอง เชน่ Line , Facebook, YouTube, Pedlet เป็นต้น รูปภาพท่ี 15 การติดต่อสารสารแลกเปลย่ี นเรียนรู้ และแสดงผลงานของบน Line , Facebook, YouTube องค์ประกอบท่ี 2 คณุ ประโยชน์ ตวั ชว้ี ัดที่ 1 ความสามารถในการสรา้ งความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำไปประยุกตใ์ ช้ 1) ผู้เรยี นสามารถสรา้ งความรู้ ความเข้าใจหลงั ปฏบิ ตั ิกิจกรรม รอ้ ยละ 70 โดยดำเนินการศึกษาข้อมลู จากก่อนเรียนด้วยการชี้แจงการปฏบิ ัติกิจกรรมและทำการสอบถามถึงขอ้ สงสยั ของนกั เรยี นถึงวิธกี ารและแนวทางในการทำกจิ กรรม ตลอดจนสุม่ ถามเพือ่ เน้นย้ำซำ้ ทวนถงึ ความเข้าใจก่อนทำการ ปฏบิ ัตเิ พ่อื ใหเ้ กิดความเขา้ ใจทีต่ รงกนั และสามารถปฏบิ ตั ิกจิ กรรมได้อยา่ งถกู ตอ้ งและทันตามกำหนดเวลา ตารางท่ี 17 แสดงข้อมูลความรู้ความเขา้ หลังปฏบิ ัตกิ ิจกรรมของผเู้ รยี นระดับช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 6 รายวิชาฟสิ กิ สเ์ พม่ิ เติม 5 จำนวนนกั เรียน ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ ทง้ั หมด (คน) กอ่ นปฏิบัติกจิ กรรม หลงั ปฏิบัติกจิ กรรม จำนวน (คน) รอ้ ยละ จำนวน (คน) ร้อยละ 164 98 59.76 149 90.8 2) ผู้เรยี นสามารถนำความร้ไู ปประยกุ ต์ใชไ้ ด้ ร้อยละ 85 ขนึ้ ไป โดยทำการสำรวจความรู้ความเข้าใจทั้งก่อนและหลังปฏิบัติกิจกรรม โดยใช้การสอบถาม การทำ แบบทดสอบ และสร้างชิน้ งาน ตลอดจนการเสนอแนวคิดในการพฒั นางานของตนเองได้ และทำการประเมินผลงาน ตรวจสอบแนวคิดและการทำงานของชิ้นงานตา่ งๆท่ีสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของงาน สามารถสรา้ งคำอธิบายด้วย การเช่อื โยงองคค์ วามรูท้ ี่ได้จากการเรยี นรู้ได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
40 ตารางที่ 18 แสดงข้อมลู ผเู้ รียนสามารถนำความรูไ้ ปประยกุ ต์ใช้ได้ (ผ้เู รียนระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 รายวชิ าฟสิ กิ สเ์ พม่ิ เติม 5 ) จำนวนนักเรียน ดา้ นการนำความรู้ไปประยกุ ต์ใช้ ทงั้ หมด (คน) ก่อนปฏบิ ัติกจิ กรรม หลังปฏบิ ตั กิ จิ กรรม จำนวน (คน) ร้อยละ จำนวน (คน) รอ้ ยละ 164 84 51.21 147 89.63 ตวั ชว้ี ัดท่ี 2 ความสามารถในการวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ และประเมนิ คา่ 1) กจิ กรรมการเรยี นรสู้ ง่ ผลใหผ้ เู้ รยี นสามารถวเิ คราะหส์ ังเคราะห์ประเมินคา่ ร้อยละ85 ขน้ึ ไป ขา้ พเจ้าได้ดำเนนิ การประเมนิ ผลผู้เรียนด้านสามารถวิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมนิ ค่า โดยมกี รอบแนวทาง ประเมิน ดังนี้ ดา้ นการวเิ คราะห์ ประเมินจากความสามารถในการการวิเคราะหส์ ่วนประกอบ ความสมั พนั ธข์ อง สว่ นประกอบ และการเช่ือมโยง คุณลักษณะตา่ งๆให้เกดิ ความสมั พันธ์กนั ได้ ดา้ นการสังเคราะห์ ประเมนิ จาก ความสามารถในการรวมส่วนประกอบย่อยเข้าเปน็ แผนการดำเนนิ งานเพ่อื ใหบ้ รรลผุ ลตามเปา้ หมาย และสามารถ ผสมผสานความรตู้ ่างๆ เป็นแนวคดิ อย่างเป็นระบบจนเกดิ เป็นผลงานของตนเองได้ และด้านการประเมินคา่ ประเมิน จากคุณคา่ และคุณภาพของชน้ิ งานหรือภาระงานตามเกณฑ์ทกี่ ำหนดดว้ ยหลักการและเหตผุ ล โดยการประเมนิ ดว้ ย ตวั ของนกั เรียนเองและร่วมประเมนิ ผลงานของเพื่อนๆในช้ันเรียน ตารางที่ 19 แสดงข้อมลู ความสามารถวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ และประเมินคา่ ของผู้เรียนระดบั ช้ัน มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 รายวชิ าฟสิ กิ สเ์ พิ่มเติม 5 จำนวนนักเรียน ความสามารถของผเู้ รยี น ทงั้ หมด (คน) วเิ คราะห์ สังเคราะห์ ประเมินคา่ จำนวน คน) ร้อยละ จำนวน (คน) ร้อยละ จำนวน (คน) ร้อยละ 164 164 100 164 100 164 100 ตัวช้ีวัดที่ 3 ความสามารถในการคดิ สร้างสรรค์ 1) ผเู้ รยี นสามารถสรา้ งสรรค์ชนิ้ งาน ผ่านเกณฑ์ในระดบั ดมี าก ร้อยละ 85 โดยการประเมนิ จากการผลปฏิบัติกจิ กรรม สามารถทำงานเป็นระเบยี บเรียบร้อย มีสวยงาม มผี ลลัพธ์ ของงานบรรจุเปา้ หมาย ทำงานเสร็จทนั เวลาที่กำหนด และความสามารถในการสร้างสรรค์ช้ินงานได้อย่างถูกต้อง สวยงาม มีความแข็งแรงทนทาน และการนำเสนอผลงาน สามารถคิดวิเคราะห์ และตอบคำถามได้ ถูกต้องชัดเจน สมบรู ณท์ ุกคำถาม โดยนักเรียนทกุ กล่มุ ผา่ นเกณฑ์ และผลการประเมนิ ผลงานอยใู่ นระดบั ดมี าก คิดเป็นร้อยละ 100
41 ตารางที่ 20 แสดงข้อมลู ผลการประเมนิ กลุ่มผ้เู รียนทสี่ ามารถสร้างสรรคช์ นิ้ งานผา่ นเกณฑ์ ในรายวิชาฟสิ กิ ส์ (กจิ กรรมลูกข่างหมุนนาน) กลุม่ ที่ การปฏิบัตกิ ิจกรรม ความสำเร็จของ การสร้างสรรค์ การนำเสนอผลงาน สรปุ ผล ชิ้นงาน ชิน้ งาน กลุ่มที่ 1 ดี ดมี าก ดมี าก ดมี าก ดีมาก กลมุ่ ที่ 2 ดีมาก ดีมาก ดีมาก ดมี าก ดมี าก กลุ่มที่ 3 ดีมาก ดมี าก ดีมาก ดมี าก ดีมาก กลมุ่ ที่ 4 ดมี าก ดมี าก ดี ดีมาก ดมี าก กลุ่มท่ี 5 ดี ดมี าก ดมี าก ดมี าก ดีมาก กลมุ่ ท่ี 6 ดมี าก ดีมาก ดีมาก ดมี าก ดมี าก กลมุ่ ที่ 7 ดมี าก ดมี าก ดีมาก ดีมาก ดมี าก กลุม่ ท่ี 8 ดมี าก ดี ดีมาก ดีมาก ดมี าก กลมุ่ ที่ 9 ดมี าก ดีมาก ดมี าก ดี ดีมาก ตวั ชี้วัดท่ี 4 กิจกรรมการเรยี นรู้เชื่อมโยงกบั สภาพแวดลอ้ มใกลต้ วั 1) มกี จิ กรรมการเรยี นรูเ้ ชอื่ มโยงกับสภาพแวดลอ้ มใกล้ตวั 3 กิจกรรม ขึ้นไป กิจกรรมการเรยี นรูส้ ามารถเชือ่ มโยงกับสภาพแวดล้อมของทอ้ งถ่นิ ดังน้ี 1.1) กิจกรรม ร่มพยุงไข่ เชื่อมโยงกับสภาพแวดล้อมของท้องถิ่นของจังหวัดปทุมธานี แม้ เป็นที่ราบลุ่ม แตเ่ คยเกดิ นำ้ ท่วมใหญ่กินพื้นท่ีกว้างขวาง จงึ เกดิ แนวคดิ ทจ่ี ะนำกิจกรรมท่ีทา้ ทายความสามารถ ของนักเรียนมาเชื่อมโยงกับสถานการณ์ที่นักเรียนเคยผ่านประสบการณ์เป็นผู้ประสบภัยพิบัติมาจริง โดย นักเรียนจะได้ สบื ค้น และออกแบบชนิ้ งานเพือ่ การบรรลเุ ปา้ หมายของภาระกิจ 1.2) กิจกรรม หอคอยจากหนังสือพิมพ์ เชื่อมโยงกับสภาพแวดล้อมของท้องถิ่นจังหวัด ปทมุ ธานี เน่อื งจากเปน็ พ้ืนทีร่ าบลุ่ม น้ำขงั และปจั จบุ นั เกดิ การทรุดตัวตามกาลเวลา เกดิ แนวคิดและได้สร้าง สถานที่สำคัญใหเ้ ปน็ ทีร่ ู้จักของคนท่ัวไปที่มาแวะเยี่ยมเยือน ซึ่งหอคอยดังกล่าวมีความสวยงามและมีความสงู และมีความสมดลุ ทนต่อแรงส่ันสะเทือนของแผ่นดินไหวและภัยธรรมชาติ 1.3) กิจกรรม เมอื่ มวลน้ำมา บา้ นฉนั ต้องรอด โดยให้ออกแบบสร้างพนังก้ันน้ำที่สามารถ รบั แรงน้ำทไี่ หลจากทีส่ งู 50 เซนติเมตร ปรมิ าตร 10 ลิตร โดยจำกัดนำ้ หนกั ของพนังไม่เกนิ 1 กิโลกรมั และไม่ มีการยึดพนงั กั้นน้ำไว้กับพืน้ (ต้องยกพนังพ้นพื้นได้) (รายวิชาฟิสิกส์เพ่ิมเตมิ 5 ) เชื่อมโยงกบั สภาพแวดล้อม ของท้องถิน่ อำเภอคลองหลวง จงั หวัดปทุมธานี เนือ่ งจาก เคยประสบปัญหาน้ำท่วมใหญท่ ง้ั จังหวดั จึงต้องหา แนวทางในการรบั มือในการสร้างท่ีอยู่อาศยั ขณะเกดิ น้ำท่วมให้สามารถอาศัยอย่ไู ด้ โดยอาศัยความรู้เก่ียวเร่ือง สมบัติของวัสดุ แรงพยุง ความหนาแน่น ความดันของของไหล การวัดและคำนวณทางคณิตศาสตร์ รูปทรง เรขาคณิต เปน็ ตน้
42 รูปภาพท่ี 16 แสดงกิจกรรมการเรียนรเู้ ชือ่ มโยงกบั สภาพแวดลอ้ มใกล้ตัว ตัวชี้วัดที่ 5 กิจกรรมการเรียนรู้สามารถแกป้ ญั หาให้ชมุ ชน สังคม หรอื ประเทศชาติ 1) มกี ิจกรรมการเรยี นรูท้ ี่สง่ ผลถึงการแก้ปญั หาให้ชมุ ชน สังคม หรือประเทศชาติ 3 กจิ กรรม 1.1) กิจกรรม Bioplastic (รายวิชาเลอื กเสรี วิทยาศาสตร์ ) การแกป้ ัญหาของชุมชน เกย่ี วกบั การลดปรมิ าณขยะพลาสติก โดยการเรยี นรผู้ ่านการทำกจิ กรรมแยกเคซีนจากนม เพอ่ื ส่งเสรมิ ให้ ผูเ้ รียนตระหนกั ถึงความจำเป็นในการลดการใช้พลาสตกิ และสรา้ งแนวทางในการจดั การปญั หาขยะพลาสตกิ 1.2) เซลลก์ ัลวานกิ จากวัชพชื (รายวิชาเลือกเสรี วิทยาศาสตร์) การแกป้ ัญหาของ ชมุ ชน สังคม และประเทศชาติ ในการสรา้ งความตระหนักของการลดการใชพ้ ลังงานเช้อื เพลิงที่สง่ ผลเสยี ต่อ สภาพแวดลอ้ มด้วยการใชพ้ ลงั งานสะอาด พลังงานทางเลอื กจากธรรมชาติใหเ้ กิดประโยชนส์ งู สุด 1.3) รถไฟเหาะตลี ังกา เปน็ กจิ กรรมบรู ณาการ STEM ท่ีนักเรียนต้องใชค้ วามรู้ เกีย่ วกบั แรงและพลังงาน กฏการอนุรักษพ์ ลังงาน กฏการเคลื่อนทขี่ องนวิ ตัน การเคล่อื นที่แนวโคง้ ความสมดุล คณุ สมบัตเิ ฉพาะของวัสดุ มาเปน็ แนวทางในการสรา้ งแรงบนั ดาลใจในการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ เพอื่ พัฒนา ความรคู้ วามเข้าใจ ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์และการนำความรู้ไปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ในชวี ิตประจำวัน โดย การบรู ณาการร่วมกับความรู้ทางคณิตศาสตร์ สถาปตั ยกรรม วศิ วกรรม เทคโนโลยี หลักเศรษฐศาสตร์ มาใช้ ในการแก้ปญั หา นอกจากนยี้ ังเช่อื มโยงถงึ เหตกุ ารณท์ เ่ี กิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งเปน็ ปญั หาความสำคญั ของระบบ การคมนาคม การขนส่ง ค่านยิ ม คณุ ธรรมและจริยธรรมในการประกอบอาชพี ด้านการขนสง่ ทางบก รปู ภาพท่ี 17 แสดงกิจกรรมการเรียนรู้สามารถแก้ปญั หาให้ชมุ ชน สังคม หรือประเทศชาติ
43 องคป์ ระกอบที่ 3 ความคดิ รเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ ตัวชว้ี ัดที่ 1 การนำความรไู้ ปใชแ้ ก้ปญั หาใหมห่ รือ สถานการณ์ใหม่ กจิ กรรมการเรยี นรู้มีแนวคิดในการแกป้ ญั หาใหม่ หรอื สถานการณ์ใหม่ 3 กจิ กรรมขน้ึ ไป การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ตามรายละเอยี ดทไี่ ดก้ ลา่ วในขา้ งตน้ มีความหลากหลายโดยนำ เทคนิค วธิ ีการตา่ งๆมาบูรณาการในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เช่น การนำความร้เู กยี่ วกับ แรงและพลงั งาน กลศาสตรข์ องไหล ประกอบกับสถานการณป์ ญั หาที่ท้าทาย เพ่ือมาเป็นแนวทางในการสรา้ งแรงบนั ดาลใจใน การเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ส่งเสรมิ การพัฒนาความรคู้ วามเข้าใจ ธรรมชาติของวทิ ยาศาสตรแ์ ละการนำความร้ไู ป ใช้ให้เกิดประโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวนั เชน่ การสร้างพนงั ก้ันน้ำ จากสถานการณน์ ้ำทว่ ม เซลล์กัลวานกิ จาก วชั พืช จากสถานการณ์ ตามหาพลังงานทดแทนและพลงั งานหมนุ เวียน กิจกรรม Bioplastic ที่ศึกษาสมบัต ของโพลิเมอร์จากการแยกเคซีนในน้ำนม และศึกษาเกยี่ วกับพลาสติกชนิดต่าง แล้วเชื่อมโยงสู่ปัญหา สง่ิ แวดลอ้ ม สรา้ งความตระหนกั ทีม่ ีตอ่ สงิ่ แวดลอ้ มในฐานะของพลโลก วางแผนการลดปริมาณการใช้พลาสติก เปน็ ต้น โดยนำมาใช้ในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ นอกจากน้ียังนำสถานการณจ์ ากโจทย์ปัญหาทางฟิสิกสท์ ี่ นกั เรยี นมโี อกาสพบเจอในหนงั สือตำรา แตข่ าดประสบการณ์ตรงจากการพบเห็นสถานการณ์จริง เช่น การหา คา่ คงทีข่ องสปริงจากคาบการสน่ั โดยการกำหนดสถานการณจ์ ริง หรือการหาค่าสมั ประสิทธิค์ วามเสียดทาน สถิตของผวิ วัสดทุ ่ีกำลังหมนุ และแรงหนีศนู ยก์ ลาง จากแปน้ หมนุ ปั้นดนิ ซง่ึ เป็นเร่อื งท่ียากตอ่ การทำความ เข้าใจ นอกจากน้ี กิจกรรมฟิสกิ สใ์ นสวนสนกุ เชอ่ื มโยงแหล่งเรยี นรใู้ นทอ้ งถ่ินจังหวัดปทุมธานี กับการเรียนรู้ กลศาสตร์ในวิชาฟิสิกส์ การเคลื่อนท่ีแบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย โดยการสังเกต และร่วมกจิ กรรมเครอื งเลน่ ไวกง้ิ โดยนักเรียนต้องออกแบบการหาคำตอบ ว่า คาบการแกวง่ ของไวกง้ิ ในแตล่ ะรอบเล่น มคี า่ เทา่ กันทุกรอบการ เลน่ หรอื ไม่ และรวมไปถงึ การเรียนรูห้ ลักการของเครอ่ื งเลน่ เพอ่ื จะเช่อื มโยง กับความรู้ทางฟสิ ิกส์ จึงถือ แนวคดิ แปลกใหม่ เพราะเป็นการนำความรแู้ ละมวลประสบการณท์ ่ีหลากหลายมาผนวกวิธีการจัดการเรยี นรู้ เพ่ือเตรียมความพร้อมของนกั เรยี นส่ศู ตวรรษที่ 21 มีความทันสมัยใช้เปน็ กลไกในการขับเคล่ือนการศึกษาไทย ใหก้ า้ วไปส่เู วทีโลกได้อย่างมีประสิทธภิ าพและย่งั ยืน ในการใช้กจิ กรรมการเรยี นรู้จากสถานการณจ์ ริง รปู ภาพที่ 18 การเรยี นรูจ้ ากสถานการณ์จริงในโจทย์ปัญหาจากตำราเรยี น โดยนักเรยี นจะนำความรูค้ วาม เข้าใจพื้นฐานมาใชใ้ นการแก้ปญั หาทางฟิสกิ ส์ จากสถานการณจ์ ริง
44 รูปภาพท่ี 19 แสดงการไปศึกษาสถานทจี่ ริง เคร่ืองเล่นในสวนสนุก 2. กิจกรรมแสดงถึงผเู้ รยี นไดใ้ ช้ความคิดของตนอย่างมีเหตุผล จากการจัดกจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามรายละเอยี ดที่ได้กลา่ วในขา้ งตน้ ของแต่ละกิจกรรม เช่น ลูกโป่งน้ำบันจี้จัมป์ ร่มพยุงไข่ รถไฟเหาะตีลังกา ลูกข่างหมุนนาน กิจกรรม Bioplastic เป็นต้น ขา้ พเจ้าได้ส่งเสริมให้นักเรียนไดร้ ่วมกันสะทอ้ นความคิดเหน็ ของตนเอง โดยการเขียนหลกั การและเหตุผลของ การสร้างชน้ิ งานตามเงอื้ นไขทีก่ ำหนด พรอ้ มสรปุ ส่ิงที่ได้เรยี นรูใ้ นชวั่ โมงเรียนแต่ละครั้ง และเสนอแนะเกี่ยวกบั การปรับปรงุ ชนิ้ งาน รปู ภาพที่ 20 แสดงผลของใชค้ วามคิดของตนอย่างมีเหตผุ ลของผเู้ รียน จากนั้นหลังจากเสร็จสิ้นในแต่ละกิจกรรมการเรียนรู้ ข้าพเจ้าดำเนินการทดสอบความรู้ ความเข้าใจถึงการนำความรู้ไปประยกุ ต์ใช้ในสถานการณ์อ่ืนๆ ด้วยการใช้เรื่องจริงหรือปัญหาท่ีเกิดข้ึนจริงใน ชมุ ชน บา้ น โรงเรยี น หรอื ทเี่ กิดขึน้ กบั บุคคลใด บคุ คลหน่งึ เพ่อื ใหน้ ักเรยี นคิดวเิ คราะห์และหาทางแก้ปัญหาท่ี เกิดขนึ้ โดยการบรู ณาการความรู้ที่ได้เรยี นกับประสบการณ์ตรงหรือสืบเสาะหาความรเู้ พม่ิ เติม อกี ด้วย
Search