Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Employee Relation (ER)

Employee Relation (ER)

Published by puntawit, 2018-04-24 00:28:48

Description: แรงงานสัมพันธ์คืออะไร
แรงงานสัมพันธ์เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร
สภาพแรงงานไทยในปัจจุบันเป็นอย่างไร
ข้อคิดเกี่ยวกับการแรงงานสัมพันธ์มีอะไรบ้าง
ทำไมจึงต้องสร้างแรงงานสัมพันธ์ในสถานประกอบการ
จุดอ่อนที่ทำให้เกิดปัญหาแรงงานสัมพันธ์(สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาแรงงานสัมพันธ์)
การเสริมสร้างจุดแข็งและกำจัดจุดอ่อน(การปฏิบัติตัวของนายจ้างลูกจ้าง)
การแรงงานสัมพันธ์ที่ดีมีประโยชน์อย่างไร
กลไกหรือตัวแบบในการขับเคลื่อนแรงงานสัมพันธ์

Search

Read the Text Version

แรงงานสมั พนั ธ์นายพันธวิทย์ อนศุ รี หนง.พฒั นาทรพั ยากรบุคคลและแรงงานสัมพนั ธ์ บมจ.GHP

 แรงงานสมั พันธ์คืออะไร แรงงานสัมพนั ธ์เปน็ เร่ืองเกย่ี วกับอะไร สภาพแรงงานไทยในปจั จุบันเป็นอยา่ งไร ข้อคิดเก่ียวกบั การแรงงานสมั พันธม์ ี อะไรบ้าง ทาไมจึงตอ้ งสร้างแรงงานสมั พนั ธใ์ นสถาน ประกอบการ

 จดุ อ่อนท่ที าให้เกดิ ปญั หาแรงงานสัมพนั ธ์ (สาเหตุทที่ าให้เกดิ ปญั หาแรงงานสัมพันธ์) การเสรมิ สรา้ งจุดแขง็ และกาจดั จุดออ่ น (การปฏบิ ตั ติ ัวของนายจ้างลกู จา้ ง) การแรงงานสัมพนั ธ์ทีด่ มี ีประโยชนอ์ ย่างไร กลไกหรือตวั แบบในการขบั เคล่อื นแรงงาน สัมพันธ์

๑. แรงงานสมั พนั ธ์ คืออะไร?

แรงงานสมั พนั ธ์หมายถงึ แนววิธีการบริหารท่ีให้ความสนใจต่อความตอ้ งการของพนกั งานในการกาหนดนโยบายแผนงาน ตลอดจนแนวทางในการปฏบิ ตั งิ าน ความสัมพันธ์ระหวา่ งองคก์ ารนายจ้างกบั ลกู จ้างความสมั พันธร์ ะหว่างพนักงานด้วยกนั

แรงงานสัมพนั ธห์ มายถงึ (ตอ่ )  ความสมั พนั ธร์ ะหว่างฝ่ายจดั การกบั พนักงานรายบคุ คล  บรกิ ารและผลประโยชน์ ซ่งึ ฝา่ ย จดั การจัดให้พนกั งาน เช่น สวัสดกิ ารตา่ ง ๆ เบย้ี เลี้ยง วนั หยุดประเพณี วันลาปว่ ย การ ประกันชีวติ เปน็ ตน้

สรุป การแรงงานสมั พนั ธ์ หมายถึง  ความสมั พันธร์ ะหวา่ งบคุ คลในองคก์ ร หรอื ความสัมพนั ธร์ ะหว่างนายจ้างกบั ลูกจา้ งในการจ้างงานจนออกจากงาน  ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งบุคคลและองคก์ ร ท่เี ก่ียวข้องกับการทางานและ การจ้างงาน

๒.แรงงานสัมพนั ธ์เป็นเรือ่ งเกย่ี วกับอะไร?

แรงงานสัมพนั ธเ์ ป็นเรือ่ งทีเ่ กยี่ วข้องกบัความสมั พนั ธ์ระหว่างบคุ คลและองค์กรทเี่ กยี่ วข้องกับการจ้างงานอันไดแ้ ก่ฝ่ายนายจ้าง ฝา่ ยลูกจ้างและฝา่ ยรัฐกฎเกณฑ์และกระบวนการควบคมุ การทางานการแบง่ ปนั ผลประโยชนท์ เี่ กดิ จากการทางานความขัดแย้งทส่ี ืบเนอื่ งจากการควบคุมการทางานและการแบ่งปนั ผลประโยชน์จากการทางานบทบาทของรัฐบาลในการสง่ เสรมิ ความร่วมมือและระงบั ข้อขัดแย้งระหวา่ งนายจา้ งกบั ลูกจา้ ง

๓. สภาพแรงงานไทย ในปจั จบุ ันเป็นอย่างไร?

สภาพของแรงงานไทยในปัจจุบนั กฎหม่อู ย่เู หนือกฎหมาย อาศัยช่องวา่ งของกฎหมายในการทากิจกรรม การเมืองแทรกแซงและใชเ้ ปน็ เครือ่ งมอื มีการชว่ งชิงอานาจระหวา่ งผ้นู าแรงงาน มีความไมเ่ ข้าใจกันระหวา่ งลกู จา้ งและนายจา้ ง องค์กรเอกชนทงั้ ในและนอกประเทศให้การ สนบั สนนุ

สภาพของแรงงานไทยในปัจจุบัน (ต่อ) นายจ้างไมป่ ฏบิ ัติตามข้อตกลงเกยี่ วกบั สภาพการจา้ ง ลกู จ้างไมป่ ฏบิ ตั ิตามขัน้ ตอนของกฎหมาย ทั้งลูกจา้ งและนายจา้ งขาดหลกั การแรงงานสมั พันธ์ ขาดเหตผุ ลและหลกั การทีถ่ กู ตอ้ ง นายจา้ งไมป่ ฏบิ ตั ิตามกฎหมาย เจ้าหนา้ ท่ีของรัฐดแู ลไม่ทัว่ ถงึ

๔.ข้อคิดเกย่ี วกบั แรงงานสัมพนั ธ์ มอี ะไรบ้าง ?

ข้อคดิ เร่อื งแรงงานสัมพันธ์ ดูอย่างผิวเผินเปน็ เรือ่ งง่าย แตท่ าใหเ้ กดิ ได้ยาก เป็นเรอ่ื งทมี่ โี อกาสสรา้ งความสุข และความทุกข์ ไมม่ ีกฎเกณฑ์ และมาตรฐานการช้วี ัด ประเมนิ ค่าใช้จ่ายไดย้ ากมาก อาจสูงมากหรือต่ามาก ผู้เกี่ยวขอ้ งต้องมคี วามต้ังใจจริงในการทางาน เร่ืองของการแรงงานสมั พันธต์ อ้ งอดทน อดกลั้นและเสยี สละ เปน็ หน้าท่ีของทกุ ๆ คน แรงงานสมั พนั ธจ์ ากระบบทวิภาคีดีกว่าไตรภาคี

ขอ้ คดิ เรอ่ื งแรงงานสัมพนั ธ์ (ตอ่ ) การบงั คบั ตามกฎหมายไม่ใช่การแรงงานสมั พนั ธ์ที่ดี แรงงานสมั พันธ์ชว่ ยเพ่มิ ประสิทธภิ าพและประสิทธิผล การแรงงานสมั พันธ์มใิ ช่การแขง่ ขัน ไมม่ ีผู้แพ้ ผชู้ นะ ประเมินผลความสาเรจ็ และการตอบแทนเปน็ ตัวเงนิ มไิ ด้ ค่าใช้จ่ายเพอ่ื การแรงงานสมั พนั ธเ์ ป็นการลงทนุ การแรงงานสมั พนั ธท์ ่ีดเี ปน็ รางวลั และค่าตอบแทนในการ ทางานชนิดหนง่ึ

๕. ทาไมจงึ ต้องสรา้ ง แรงงานสมั พันธ์ ในสถานประกอบการ?

กาไร ความจาเปน็ ทต่ี อ้ งอยูร่ ว่ มกัน เงินเล้ยี งชีพ เพือ่ ใหเ้ กิดผลผลติ / บริการ฿ ลูกจา้ งนายจา้ งให้ทางานมาก ความเปน็ ปฏิปักษใ์ นทางเศรษฐกิจ ทางานน้อยจา่ ยค่าแรงน้อย ไดค้ ่าจ้างมากมีเงนิ ความรู้ ฯลฯ ความยตุ ิธรรม ใน มเี งิน ความรู้ ฯลฯ มากกวา่ สังคม น้อยกวา่ มโี อกาสเลอื ก มีโอกาสเลอื ก น้อยกว่า มากกวา่ กฎหมายแรงงานกฎหมายค้มุ ครอง สัมพนั ธ์ แรงงาน

ความปรารถนาของนายจ้าง การดาเนนิ ธรุ กิจเป็นไปอยา่ งราบร่นื เจรญิ กา้ วหนา้ มคี ่าใชจ้ า่ ยที่ต่า กาไรมาก ๆ มภี าพพจนท์ ี่ดี เป็นที่รู้จกั สินคา้ และผลิตภณั ฑไ์ ด้คุณภาพมาตรฐาน จาหนา่ ยไดม้ าก มีความสงบสขุ มรี ะเบยี บวนิ ยั รับผดิ ชอบต่องาน มอี านาจในการจดั การ

ความปรารถนาของลูกจา้ ง ค่าตอบแทนในการทางาน  การยอมรบั นับถอื และเอาใจใส่ สวสั ดิการและสทิ ธิประโยชน์  การมีส่วนร่วมในกิจกรรม ความมัน่ คงในการทางาน  ความเป็นธรรม ความกา้ วหน้าในตาแหน่งหน้าที่  การรกั ษาสญั ญาของนายจ้าง ความปลอดภยั ในการทางาน  ความสงบราบร่ืน มบี รรยากาศในการ ความทันสมยั ของอปุ กรณ์ ทางานทดี่ ี เคร่ืองมือในการทางาน  มคี วามเปน็ ประชาธิปไตย การพฒั นาชวี ิตการทางาน  มีสว่ นร่วมในการเป็นเจ้าของกิจการ

๖.จุดอ่อนทีท่ าใหเ้ กดิ ปญั หา แรงงานสมั พนั ธ์(สาเหตุท่ที าใหเ้ กิดปัญหาแรงงานสัมพันธ)์

ปญั หาแรงงานสัมพนั ธ์ มสี าเหตเุ กดิ จากอะไร?ปัญหาทีเ่ กิดจากลกู จา้ ง ไม่มคี วามรู้พืน้ ฐานด้านแรงงาน รจู้ กั สทิ ธิ แต่ไม่รู้จกั หน้าท่ี ไมเ่ คารพสทิ ธิของฝา่ ยจัดการ ไมเ่ คยชินกบั การทางานในระบบอุตสาหกรรม ขาดระเบียบวินยั ขาดความตง้ั ใจในการทางาน ขาดงาน มาสาย ลาปว่ ยบอ่ ย

ปญั หาท่เี กิดจากลูกจ้าง (ต่อ) เช่อื ฟังคายุยงจากบุคคลภายนอก ไมม่ คี วามกลา้ ท่ีจะร้องเรียน แต่จะระเบิดเปน็ เรื่องรุนแรง ไม่ไว้ใจฝา่ ยจดั การ และมคี วามรู้สึกวา่ นายจา้ งเอาเปรียบ ไมไ่ ด้รับ ความเป็นธรรม ใชถ้ ้อยคากา้ วรา้ ว ใช้วิธชี มุ นมุ หรือประทว้ งเมือ่ ไม่พอใจ ไม่ปฏิบัติ ตามข้นั ตอนของกฎหมาย

ปัญหาแรงงานสมั พันธ์ มีสาเหตเุ กดิ จากอะไร?ปญั หาทเ่ี กดิ จากนายจ้างระเบยี บข้อบังคบั - เข้มงวดมีรายละเอียดปลกี ยอ่ ยมากเกนิ ไป ไมช่ ีแ้ จงเหตุผลหัวหนา้ งาน - ใชแ้ ตพ่ ระเดช ไมร่ ้จู กั ใช้พระคุณ - คนไมย่ ่งุ มงุ่ แต่งาน ขาดมนษุ ยส์ มั พนั ธ์ทด่ี ี - เอาแต่สัง่ ไมฟ่ งั เสยี งใคร - เลอื กที่รกั มกั ทีช่ งั - สอนงานไมเ่ ปน็ ได้แต่เค่ียวเข็ญดดุ า่

ปัญหาทเี่ กดิ จากนายจ้าง (ตอ่ )แนวความคดิ ของนายจา้ ง - ยดึ กฎหมายมากกว่าการทาความเข้าใจ - ไมเ่ คารพสทิ ธิและเสรีภาพของลกู จ้างการไมป่ ฏบิ ัตติ ามกฎหมายแรงงาน - เชน่ การปฏบิ ตั ติ ามกฎหมายคมุ้ ครองแรงงานและแรงงานสมั พนั ธ์ - ไมย่ อมรบั ขอ้ เสนอ หรอื ข้อเรียกรอ้ ง - นาช่องวา่ งของกฎหมายมาใช้ - เปล่ยี นสภาพการจ้างโดยไม่ทาตามกฎหมาย

ปญั หาที่เกิดจากนายจ้าง (ต่อ)นโยบายดา้ นแรงงานของนายจ้าง - ขาดการวางแผนกาลังคนใหเ้ หมาะสมกบั ปรมิ าณงาน - ขาดการพฒั นาพนักงานให้มีความรคู้ วามสามารถกบั งาน - ขาดการดแู ลเอาใจใสพ่ นักงาน - ไม่เปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนรว่ มแสดงความคดิ เห็น เก่ยี วกบั การบรหิ ารท่มี ีผลโดยตรงกับพนกั งาน

ปญั หาที่เกดิ จากนายจ้าง (ต่อ)นโยบายคา่ จ้าง - ไมม่ ีนโยบายจูงใจพนักงานด้วยคา่ จ้างและผลประโยชน์ ตอบแทนตา่ งๆท่เี หมาะสมกบั ประสิทธภิ าพการทางาน และคา่ ครองชพีการสอื่ ขอ้ ความ - ส่ือข้อความโดยไม่มกี ารตรวจสอบความเข้าใจและปฏกิ ริ ิยา - ขาดการชแ้ี จงข้อเท็จจรงิ เก่ียวกบั นโยบายการบรหิ าร - การส่อื ข้อความท่ีไมเ่ หมาะสม เช่นคลุมเครอื ไม่ทั่วถึง

ปัญหาทีเ่ กดิ จากนายจ้าง (ตอ่ )ระบบการร้องทุกข์ - ขาดระบบการรอ้ งทุกข์ เพ่อื เปิดโอกาสใหพ้ นักงานได้รบั การ พจิ ารณาในเร่อื งความคบั ข้องใจต่างๆสภาพการจา้ งและการทางาน - หากไมด่ หี รือไม่เหมาะสมหรือตา่ กว่ามาตรฐานที่กฎหมายกาหนด ยอ่ มทาให้พนักงานขาดขวัญกาลังใจ - ขาดการปรับปรงุ เม่ือสภาพทางเศรษฐกจิ ของนายจ้างดีข้ึน

ปญั หาแรงงานสัมพันธ์ มสี าเหตุเกดิ จากอะไร?สาเหตุจากภายนอกอืน่ ๆภาวะคา่ ครองชพี ทสี่ งู ขึน้ หรอื เศรษฐกจิ ท่ตี กตา่ - ท้ังสองฝา่ ยไม่ชว่ ยกนั หรอื ร่วมกันแก้ปัญหา - ลูกจา้ งมกั ใช้วิธีเรยี กร้องเพิ่มค่าจา้ ง รายได้ - นายจ้างใช้วธิ ีลดคา่ ใช้จ่ายโดยการลดคน ลดสวัสดิการ ฯลฯ ทาให้ลกู จา้ งขาดขวัญและกาลงั ใจ ทจี่ ะทางานต่อไป

สาเหตจุ ากภายนอกอื่นๆ (ตอ่ ) การปฏิบัตติ ามอย่างกัน - ยืน่ ข้อเรยี กร้องเหมอื นท่ีอื่นๆ - ใช้พลังบังคับ - ดาเนินการด้วยวธิ ีรนุ แรง การแทรกแซงของบุคคลภายนอก

๗.การเสรมิ จดุ แขง็ และกาจัดจุดออ่ น (การป้องกนั - การแกไ้ ขปัญหา และการปฏิบัติตัวของนายจ้าง และลกู จ้าง)

การป้องกันและแกไ้ ขปญั หาแรงงานสัมพนั ธ์  นายจา้ งและลูกจ้างจะตอ้ งพยายามปรับปรุงและ แกไ้ ขตวั เอง  การรับฟงั ขอ้ เสนอแนะ  ควรเปิดใจรับฟังความคดิ เห็นของลูกจ้างทีเ่ สนอแนะ ด้วยวาจา  ควรมกี ล่องรบั ฟงั ความคิดเห็นเพือ่ นาไปแก้ไขหรือ ทาความเข้าใจ

การป้องกันและแก้ไขปัญหาแรงงานสัมพนั ธ์(ตอ่ ) - การทากิจกรรมรว่ มกัน เช่นกิจกรรมกฬี า กรรมการรา้ นคา้ ฯ - คณะกรรมการลกู จ้าง - คณะกรรมการร่วมปรกึ ษาหารอื - ความร่วมมอื ระหว่างสหภาพกับฝ่ายจัดการ - ระบบการร้องทุกข์

นายจา้ งควรปฏบิ ัตติ ัวอย่างไร เพ่ือให้เกิดแรงงานสัมพนั ธ์ทดี่ ี มรี ะบบการบรหิ ารงานบุคคลทที่ ันสมยั และมปี ระสทิ ธภิ าพ มีความรู้กฎหมายแรงงาน และปฏบิ ัตใิ ห้ถกู ตอ้ ง ผ้จู ดั การ หวั หนา้ งานทุกระดบั จะตอ้ งมีความรู้ด้านแรงงาน มกี ารส่ือขอ้ ความทีด่ ี ทวั่ ถึงและชดั แจ้งเพ่ือป้องกนั ข้อขัดแย้ง จดั ใหม้ ีการฝกึ อบรมตามความเหมาะสม มีมนษุ ยส์ ัมพนั ธ์ทดี่ ีและมีความจริงใจต่อลกู จ้าง มรี ะบบร้องทกุ ข์ท่ีมปี ระสิทธิภาพ จัดทาข้อบังคับให้เหมาะสม และควบคมุ ใหม้ กี ารปฏิบตั ิอย่างเปน็ ธรรม ดาเนินการใหล้ ูกจ้างเกิดความรสู้ ึกม่ันคงกา้ วหน้าและมีความปลอดภยั ในการทางาน

ลกู จ้างควรปฏบิ ตั ิตวั อย่างไร เพอ่ื ให้เกดิ แรงงานสมั พันธท์ ีด่ ี เคารพสิทธขิ องนายจ้าง เชน่ การสง่ั งาน การควบคมุ งาน การ เปลย่ี นแปลงหนา้ ทท่ี ีเ่ ปน็ ธรรม ปฏบิ ัตติ ามคาสัง่ ระเบียบ ขอ้ บงั คบั โดยถูกต้องเคร่งครดั ตงั้ ใจปฏบิ ตั ิหน้าท่ตี ามทไี่ ด้รับมอบหมาย มีความรู้ด้านแรงงานพอสมควร เพ่ือร้สู ทิ ธแิ ละหน้าที่ มคี วามกลา้ ท่เี หมาะสมในการท่ีจะเสนอความคิดเหน็ หรือการร้อง ทกุ ข์ ปฏิบตั ิตามขัน้ ตอนของกฎหมาย

ลักษณะของแรงงานสัมพนั ธท์ ี่ดี กระทาการต่างๆภายในขอบเขตของสทิ ธิทม่ี ี และเคารพสทิ ธิของกนั และกนั ปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างมคี วามรบั ผดิ ชอบ ไม่ขดั ขวางการปฏิบัติ หน้าทีข่ องอีกฝ่ายหนงึ่ ร่วมมือกนั ปฏบิ ัตงิ านเพื่อใหบ้ รรลผุ ลอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ประสานผลประโยชนอ์ ย่างเหมาะสมและเปน็ ธรรม มกี ารสือ่ ข้อความที่ดีต่อกนั มวี ธิ ีแกไ้ ขข้อขัดแยง้ ทีม่ ีประสิทธิภาพ มมี นษุ ยส์ มั พนั ธ์ทีด่ ีตอ่ กัน

๘.การแรงงานสัมพันธท์ ีด่ ี มีประโยชน์อยา่ งไร?

ประโยชนข์ องแรงงานสมั พันธท์ ด่ี ี ประโยชน์ต่อนายจ้าง - สามารถดาเนนิ กิจการไดอ้ ย่างตอ่ เนื่องและมปี ระสทิ ธภิ าพ ชว่ ยใหก้ ิจการมีผลกาไรและเจริญก้าวหนา้ - ไมต่ ้องเสยี เวลา เสียเงนิ เสยี ความร้สู ึก เสยี หนา้ เน่อื งจาก เกิดขอ้ ขดั แย้ง ข้อรอ้ งทกุ ข์ หรือคดีแรงงาน - สามารถรักษาระเบยี บวินยั ความสงบเรยี บรอ้ ยใน สถานประกอบการ

ประโยชน์ของแรงงานสัมพนั ธ์ท่ดี ีประโยชน์ตอ่ ลกู จ้าง  มขี วัญกาลังใจ และความพงึ พอใจในงาน  ได้รบั การปรบั ปรงุ คา่ จา้ ง สวัสดกิ าร สภาพการทางาน ช่วยใหค้ ุณภาพชีวติ การทางานดีขน้ึ  มโี อกาสแสดงความคดิ ริเรม่ิ และความสามารถในการ ทางานเพอื่ พัฒนาตนเองใหก้ ้าวหนา้ ในอาชีพการงานย่งิ ขึ้น  มีความมัน่ คงในการทางาน

ประโยชนข์ องแรงงานสัมพนั ธ์ที่ดีประโยชน์ตอ่ ประชาชนทั่วไป มีผลให้การดาเนินการของสถานประกอบการ ดาเนนิ ไปอย่างมีประสิทธิภาพทาให้ประชาชน ทั่วไปในฐานะผบู้ ริโภคไดร้ ับสนิ ค้าและบริการท่ีดี

ประโยชน์ของแรงงานสัมพันธท์ ี่ดีประโยชนต์ ่อประเทศชาติ  ชว่ ยใหเ้ กิดความสงบสขุ ในวงการอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นปจั จัยสาคญั ในการสง่ เสริมบรรยากาศการ ลงทนุ และการขยายตัวของธุรกจิ อุตสาหกรรม ซึ่งเป็น ผลดีต่อการเตบิ โตของเศรษฐกิจของประเทศ  ช่วยไม่ให้เกดิ ข้อขดั แยง้ ขอ้ พพิ าทแรงงาน การ นดั หยุดงานหรือการปดิ งาน ยดื เย้อื ซึง่ อาจนาไปสู่ เหตุการณ์ทก่ี อ่ ให้เกดิ ความไมส่ งบสุขในสงั คม

๙. กลไกหรอื ตัวแบบ ในการขบั เคลอ่ื น แรงงานสัมพันธ์

รปู แบบการส่งเสรมิ แรงงานสัมพันธ์ระบบทวิภาคี ระบบไตรภาคี

ระบบทวภิ าคี เป็นระบบท่ีนายจา้ งเปดิ โอกาสให้ลกู จา้ งเข้ามามสี ่วนร่วมใน การให้ข้อเสนอแนะ แสดงความคิดเห็น รว่ มปรกึ ษาหารอื และ ร่วมตัดสนิ ใจเกย่ี วกับการจัดการในระดับต่างๆตามความ เหมาะสม เช่น กล่องแสดงความคิดเห็น ระบบใหข้ ้อเสนอแนะ การร่วมปรกึ ษาหารือกนั ระหวา่ งสหภาพแรงงานกบั ฝา่ ยจดั การ

ระบบทวิภาคี (ตอ่ ) คณะกรรมการร่วมปรึกษาหารอื คณะกรรมการท่ีปรกึ ษา คณะกรรมการคิว.ซี.ซี คณะกรรมการลูกจา้ ง คณะกรรมการเฉพาะกจิ ระบบการยุติข้อรอ้ งทุกข์

แนวทางการส่งเสริมแรงงานสัมพนั ธ์ระบบทวิภาคี ฝ่ายจดั การกาหนดเปน็ นโยบายทส่ี าคญั ทจ่ี ะใชร้ ะบบนน้ั ในการส่งเสริมแรงงานสมั พนั ธ์ เผยแพร่ความรเู้ กย่ี วกับระบบทวิภาคีที่จะมขี นึ้ ในสถาน ประกอบการให้ทุกฝ่ายทราบ ให้การศกึ ษาทุกฝา่ ย ทราบถงึ กจิ กรรมและบทบาทของ แตล่ ะฝ่าย

แนวทางการส่งเสริมแรงงานสัมพนั ธ์ระบบทวิภาคี (ตอ่ ) จัดตัง้ คณะทางานเพอ่ื ศึกษาและยกร่างระเบยี บขอ้ ปฏิบัติของระบบนัน้ เมื่อจดั ตัง้ แล้ว ให้การศึกษาแกผ่ ้ทู จี่ ะทาหนา้ ท่เี พือ่ ใหเ้ ขา้ ใจบทบาทหนา้ ท่คี วามรบั ผิดชอบและขอบเขตการดาเนนิ การอยา่ งถอ่ งแท้

ประโยชน์ของการปรึกษาหารอื ลดปญั หาในการยนื่ ข้อเรียกร้องและข้อพิพาท เสรมิ สรา้ งความสมั พนั ธอ์ ันดีต่อกนั ลดความขดั แยง้ ความคับขอ้ งใจทอ่ี าจเกดิ ข้ึน เป็นสอ่ื กลางในการพัฒนาหรือเพม่ิ ประสทิ ธิภาพ ในการทางาน

ประโยชน์ของการปรึกษาหารือ(ต่อ)  เปน็ ดัชนที ่จี ะชใี้ หฝ้ ่ายจัดการได้ทราบทา่ ที และทศั นคตขิ อง ลูกจา้ ง  เปิดโอกาสให้ลกู จา้ งได้เรียนร้วู ิธีการทางานเป็นกล่มุ รจู้ กั ขัน้ ตอนและวิธีการแก้ปัญหา  เป็นไปตามหลกั บรหิ าร หรอื การจัดการสมยั ใหมท่ ี่เนน้ ให้ ทุกฝา่ ยมสี ่วนร่วมในการทางาน

ขอบเขตการปรกึ ษาหารอื  การผลติ เช่นต้นทุน ปรับปรงุ วิธกี ารผลติ การใชเ้ ครื่องจกั รการ ลดความสญู เสยี  การให้การศึกษา เชน่ หลักสตู รอบรม การปฐมนิเทศน์  งานด้านบุคคล เช่นหลกั เกณฑ์การเลื่อน ข้นั เล่ือนตาแหน่ง วนิ ยั การลงโทษทางวนิ ัย

ขอบเขตการปรึกษาหารอื (ตอ่ ) ความปลอดภยั ในการทางาน เช่นการป้องกันอบุ ตั เิ หตุ การใชเ้ ครอ่ื งปอ้ งกันการสร้างจิตสานึกในการรกั ษา ความปลอดภยั สวัสดิการ เชน่ วิธีการจดั สวสั ดกิ าร การส่ือข้อความ เช่นการสือ่ สารเรื่องราวในงาน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook