44 แผนปฏิบตั กิ าร เป็นแผนประจาปี ของสถานศกึ ษาท่ีแสดงให้เห็นถึงภารกิจท่ีจะดาเนินการในปี ใดปี หนึ่ง ซ่ึงมีการกาหนดเป้ าหมายในการทางานท่ีต้องบรรลุในแต่ละปี เป็ นแผนแยกย่อยออกมาจากแผน ปฎิบตั ริ าชการระยะกลาง (แผนระยะ 3 – 5 ปี ) โดยจะมีสาระสาคญั เช่นเดียวกบั แผนพฒั นาดงั กลา่ ว แต่ จดั ทาเป็นแผนประจาปี ท่ีละเอียด และชดั เจนขนึ ้ เพ่ือนาไปเป็ นแนวทางในการปฏิบตั งิ าน และเป็ นกรอบใน การจัดทาคาของบประมาณ รายจ่ายประจาปี รวมถึงการรายงานผลการปฏิบัติราชการ เมื่อสิน้ ปี งบประมาณ เป็นผลของการแปลงความคดิ ในการจะทาสิ่งตา่ งๆท่ีอยใู่ นความคดิ คนทางานให้ออกมาอยู่ ในลกั ษณะเอกสารรูปธรรมซ่ึงผ่านกระบวนการในการกลน่ั กรองแล้วว่ามีความเป็ นไปได้ และสอดคล้องกับ เป้ าหมายในการทางานท่ีกาหนดไว้ วเิ คราะห์นโยบาย งบประมาณทไี่ ด้รับจดั สรร แนวทางการปฏบิ ัติ 1) ศกึ ษา วิเคราะห์รายละเอียดนโยบายและงบประมาณ ทบทวนกลยทุ ธ์จากหนว่ ยงานทีเ่ ก่ียวข้อง ท่ีได้รับจดั สรรจากสานกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษา และ หนว่ ยงานที่ เก่ียวข้อง กาหนดเป้ าหมายสถานศกึ ษาในปี นี ้ 2) ทบทวนกลยทุ ธ์ตามแผนพฒั นาการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน เพื่อปรับ แผนงาน/งาน/โครงการให้สอดคล้องกบั จดั ทารายละเอยี ด โครงการตามแผน เป้ าหมายผลการปฏิบตั งิ านของ สพป/สพม/สพฐ./ จงั หวดั ฯลฯ วเิ คราะห์และจดั ทาคาของบประมาณ 3) กาหนดเป้ าหมายการพฒั นาของสถานศกึ ษา นาเสนอแผนปฏิบตั ิการประจาปี 4) จดั ทารายละเอียดแผนปฏิบตั กิ ารประจาปี ตอ่ คณะกรรมการสถานศกึ ษา 5) วเิ คราะห์และจดั ทาคาขอ งบประมาณ (Budget Allocation Phase) เผยแพร่ประชาสมั พนั ธ์ตอ่ สถานศกึ ษา 6) นาเสนอแผนปฏิบตั กิ ารประจาปี เพ่ือขอความเห็นชอบ และสาธารณชน คณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน 7) เผยแพร่ประชาสมั พนั ธ์ตอ่ สถานศกึ ษาและสาธารณชน สนบั สนนุ ชว่ ยเหลือให้บคุ ลากรดาเนนิ การตามแผนปฏบิ ตั ิ 8) ดาเนนิ การบริหารแผนส่กู ารปฏิบตั ิ 9) สนบั สนนุ ชว่ ยเหลือให้บคุ ลากรดาเนินการตาม ติดตาม ประเมินและรายงานผลการดาเนนิ งาน แผนปฏิบตั กิ ารประจาปี ของสถานศกึ ษา แผนผังแนวทางการปฏบิ ัตงิ าน 10) ตดิ ตาม ประเมินและรายงานผลการดาเนนิ งาน
45 ภายหลังจากการจัดทาแผนพัฒนา แผนปฏิบัติการประจาปี และการจัดทาคาขอ งบประมาณ ประเภทงบลงทนุ คา่ ครุภณั ฑ์ และท่ีดินสิ่งก่อสร้างเป็ นที่เรียบร้อยแล้ว สถานศกึ ษาจะได้รับ การจดั สรรงบประมาณ จึงสามารถนามาใช้ดาเนินการอนุมตั ิใช้จ่ายตามแผนท่ีกาหนดร่วมกนั ไว้ได้ให้ตรง ประเภทของเงินงบประมาณที่ได้รับ ทงั้ นีไ้ มค่ วร จดั ซือ้ จดั จ้ างก่อนได้รับการอนมุ ตั ิเงินประจางวด และการ ใช้จา่ ยส่ิงที่ไมต่ รงตามแผนที่กาหนดไว้ หรือการอนมุ ตั ใิ ช้เงินผดิ ประเภท การอนุมตั ิการใช้จ่ายงบประมาณ ท่ไี ด้รับจดั สรร แนวทางการปฏบิ ตั ิ 1.จดั ทาแผนการใช้งบประมาณรายไตรมาส โดยกาหนดปฏทิ ินการ ทางานรายเดือนให้เป็ นไปตามแผนปฏิบตั กิ ารประจาปีงบประมาณ จดั ทาแผนการใช้งบรายไตรมาส แล้วสรุปแยกเป็ นรายไตรมาส แยกเป็ น งบบคุ ลากร งบลงทนุ (แยกเป็ น ตามแผนปฏิบตั กิ าร โดยแยกประเภทงบให้ชดั เจน คา่ ครุภณั ฑ์ทเี่ ดินและสง่ิ กอ่ สร้าง) และงบดาเนนิ งาน 2.เสนอแผนการใช้งบประมาณวงเงินรวมเพอื่ ขออนมุ ตั เิ งินประจางวด ผา่ นเขตพนื ้ ทกี่ ารศกึ ษาไปยงั สพฐ.เพือ่ เสนอตอ่ สานกั งบประมาณ เสนอแผนไปยงั สพป./สพม.เพ่อื ขออนมุ ตั ิเงิน 3.ดาเนินการเบิกจา่ ยงบประมาณประเภทตา่ งๆ ให้เป็ นไปตาม ประจางวด แผนปฏบิ ตั ิการประจาปี และการใช้งบประมาณของสถานศกึ ษา ตาม ประเภทและรายการตามที่ได้รับงบประมาณ ดาเนนิ การเบกิ จา่ ยงบประมาณตามประเภท โดย ขัน้ ตอนการขออนุมตั เิ บกิ เงนิ ในสถานศกึ ษา เป็ นไปตามแผนปฏบิ ตั ิการทกี่ าหนด -จดั ทาบนั ทกึ ขออนมุ ตั จิ ดั กิจกรรม/โครงการตามแผนเสนอ ผออนมุ ตั ิ การอนุมัตเิ บกิ เงนิ ในสถานศกึ ษา - ผอ.อนมุ ตั ิโครงการกิจกรรม บนั ทกึ ขออนมุ ตั ิจดั กิจกรรม/โครงการ -ประสานงานพสั ดุ จดั ทารายงานการขอซอื ้ /ขอจ้างตามแบบฟอร์มที่ ผอ.อนมุ ตั ิดาเนินโครงการ/กิจกรรม กาหนด โดยวธิ ีการเป็ นไปตามระเบยี บกระทรวงการคลงั วา่ ด้วยการ ประสานงานพสั ดุ จดั ทารายงานขอซอื ้ ขอจ้างตามระเบยี บ จดั ซอื ้ จดั จ้างและการบริหารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ.2560 และระเบยี บสานกั เจ้าหน้าทีรับหลกั ฐานขอเบิกทต่ี รวจรับแล้วมีลายมือชอื่ นายกรัฐมนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ พ.ศ.2535 และทแ่ี ก้ไขเพ่ิมเตมิ ระเบยี บ ครบถ้วนและบนั ทกึ ในทะเบยี นคมุ หลกั ฐานขอเบิก อนื่ ๆทเี่ กี่ยวข้อง เจ้าหน้าทตี รวจสอบหลกั ฐานขอเบิก/ตรวจสอบงบประมาณทไี ด้รับ -เจ้าหน้าทรี ับหลกั ฐานขอเบกิ ท่ีตรวจรับแล้วมีลายมอื ชื่อครบถ้วนและ บนั ทกึ ในทะเบยี นคมุ หลกั ฐานขอเบกิ ผอ.ร.ร.อนมุ ตั ใิ ห้เจ้าหน้าที่นาเอกสารมาวางเบิกตอ่ ไป -เจ้าหน้าทตี รวจสอบหลกั ฐานขอเบิก/ตรวจสอบงบประมาณทีได้รบั - เจ้าหน้าทจี ดั ทางบหน้ารายการขอเบกิ และบนั ทกึ ขออนมุ ตั เิ บกิ เงนิ แผนผังแนวทางการปฏิบัตงิ าน - ผอ.ร.ร.อนมุ ตั ิ - เจ้าหน้าทีบนั ทกึ รายการวางเบกิ ในทะเบยี นคมุ เอกสารการวางเบกิ - เจ้าหน้าท่เี บกิ เงินนาสกู่ ระบวนการจา่ ยเงินตอ่ ไป
46 การรายงานผลการเบกิ จ่าย คือ การกาหนดระบรุ ายละเอียดต่าง ๆ เก่ียวกบั การดาเนินงานของ บคุ คลในหนว่ ยงานผา่ นการตรวจสอบท่ีดาเนินการเป็ นประจา หรือเป็ นระยะ โดยการตรวจสอบดงั กล่าว ได้ แก้ การวดั ปัจจยั นาเข้า กระบวนการ และผลผลิต ท่ีเกิดขนึ ้ ในชว่ งระยะเวลาดาเนินงานตามแผน โดยทว่ั ไป มกั ตดิ ตามใน ด านการจดั หา การจดั การและการนา ทรัพยากรของโครงการมาใช้วา่ เป็ นไปตามท่ีกาหนด ไว้ในแผนและกาหนดการหรือไม่ วัตถุประสงค์ของการ ติดตามเพื่อรายงานการใช้จ่ายงบประมาณ คือ ต้องการชีใ้ ห้เห็นถึงสถานการณ์ของโครงการ ในเร่ืองเกี่ยวกบั การใช้ ทรัพยากร การปฏิบตั ิกิจกรรมต่าง ๆ หรือผลิตผลของโครงการเพ่ือจะได้จัดการแก้ไขปรับปรุงสถานการณ์ต่างๆ ของโครงการให้ดาเนินการ เบกิ จา่ ยงบประมาณตามที่กาหนด ซง่ึ รายงานแตล่ ะประเภทนนั้ จะมีวธิ ีการนาเสนอท่ีแตกตา่ งกนั ออกไปใน เชงิ รูปแบบไมต่ ายตวั ขอเพียงให้ตอบโจทย์วา่ เราได้จดั การเบกิ จา่ ยงบประมาณตามท่ีวางแผนไว้ แนวทางการปฏิบัติ การรายงานผลการเบกิ จ่ายงบประมาณ 1.จดั ทาแผนการตรวจสอบ ติดตามการใช้เงินทงั้ เงินงบประมาณ จดั ทาแผนการตรวจสอบ ตดิ ตามการใชเ้ งินเป็นรายไตรมาส และเงินนอกงบประมาณของสถานศกึ ษาให้เป็ นไปตามแผนปฏบิ ตั ิ การประจาปี งบประมาณและแผนการใช้งบประมาณรายไตรมาส ประสานแผนและการดาเนินตรวจสอบ ติดตาม และนิเทศ ให้เป็นไปตามแผนการตรวจสอบตดิ ตามของสถานศกึ ษา 2.ประสานแผนและดาเนนิ การตรวจสอบ ตดิ ตาม และนิเทศให้ เป็ นไปตามแผนการตรวจสอบติดตามของสถานศกึ ษา โดยเฉพาะ โดยเฉพาะโครงการทม่ี ีความเสย่ี งสูง โครงการทมี่ คี วามเสย่ี งสงู จัดทาผลสรปุ การตรวจสอบเพ่ือแกไ้ ขปัญหาและจดั ทา 3.จดั ทาข้อสรุปผลการตรวจสอบ ติดตาม และนเิ ทศ พร้อมทงั้ เสนอ รายงานตามไตรมาส ข้อปัญหาทีอ่ าจทาให้การดาเนินการไมป่ ระสบผลสาเร็จ เพื่อให้ สถานศกึ ษาเร่งแก้ไขปัญหาได้ทนั สถานการณ์ รายงานผลการดาเนินการเบกิ จ่ายตามระเบียบต่อ คณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐานเป็นรายไตรมาส 4.รายงานผลการดาเนนิ การเบกิ จา่ ยตามระเบียบตอ่ คณะกรรมการ สถานศกึ ษาขนั้ พนื ้ ฐานเป็ นรายไตรมาส สรปุ และรายงานขอ้ มูลสารสนเทศด้านการเบกิ จ่ายเป็น ไตรมาสตอ่ สานกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษา 5.สรุปและรายงานข้อมลู สารสนเทศด้านการเบกิ จา่ ยเป็ นไตรมาส (เช่ือมโยงกบั รายงานการเงิน) ตอ่ สานกั งานเขตพนื ้ ทีก่ ารศกึ ษา(เชื่อมโยงกบั รายงานการเงิน) แผนผังแนวทางการปฏิบัตงิ าน
47 การระดมทรัพยากรและการลงทุนเพื่อการศึกษา มีความสาคัญในการจัดหาทรัพยากรให้ เพียงพอตอ่ ความต้องการของสถานศกึ ษา เพื่อนาไปใช้พฒั นาการศกึ ษา ดงั นนั้ โรงเรียนจึงจาเป็ นอยา่ งย่ิง ที่จะต้องมียุทธศาสตร์ในการพฒั นาการศกึ ษาโดยมีภาคีเครือข่าย ผ้อู ุปถมั ภ์ ให้มีส่วนร่วมในการระดม ทรัพยากรและการลงทนุ ด้านงบประมาณ การเงินและทรัพย์สิน ทงั้ ภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ิน ชุมชน ครอบครัว สถาบนั ศาสนา สถานประกอบการ สถาบนั ทางสังคมต่างๆ ในและ ตา่ งประเทศ 1. การจดั ทรัพยากร แนวทางการปฏบิ ัติ 1. การจดั การทรัพยากรมีแนวทางปฏิบตั ดิ งั นี ้ ประชาสมั พนั ธ์ การวางระบบ 1) ประชาสมั พนั ธ์ให้หนว่ ยงานตา่ งๆในสถานศกึ ษา และสถานศกึ ษาในเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาทราบรายการ ทรัพยากรของสถานศกึ ษาเพื่อใช้ทรัพยากรร่วมกนั สนบั สนนุ ให้บคุ ลากรและ การใช้ทรัพยากร 2) วางระบบการใช้ทรัพยากรอยา่ งมีประสิทธิภาพ สถานศกึ ษามีสว่ นร่วม ร่วมกบั บคุ คลและหนว่ ยงานทงั้ ภาครัฐและเอกชน 2. การระดมทรัพยากร 3) สนบั สนนุ ให้บคุ ลากรและสถานศกึ ษาร่วมมือกนั สารวจข้อมลู ศกึ ษาวเิ คราะห์แผน ใช้ทรัพยากรในชมุ ชนให้เกิดประโยชน์ตอ่ กระบวนการ จดั การเรียนการสอนของสถานศกึ ษา 2. การระดมทรัพยากรศกึ ษาวิเคราะห์กิจกรรมงาน/ โครงการตามกรอบประมาณการระยะปานกลาง เสนอแผน จดั ทาร่างแผน (MTEF) และแผนปฏิรูป มีแนวทางดงั นี ้ 1) สารวจข้อมลู นกั เรียนที่มีความต้องการ 3. การจดั หารายได้และผลประโยชน์ 2) ศกึ ษา วเิ คราะห์แหลง่ ทรัพยากร 3) จดั ทาแผนการระดมทรัพยากรทางการศกึ ษา วเิ คราะห์ศกึ ษาของสถานศกึ ษา จดั ทาแผนงบประมาณ และทนุ การศกึ ษา 4) เสนอแผนการระดมทรัพยากรทางการศกึ ษา 3. การจดั หารายได้และผลประโยชน์ แผนผังแนวทางการปฏบิ ัติงาน 1) วิเคราะห์ศกั ยภาพของสถานศกึ ษา 2) จดั ทาแผนปฏิบตั กิ าร เอกสารท่เี ก่ียวข้อง 1. คมู่ ืองานระดมทรัพยากร กล่มุ บริหารงบประมาณ
48 งานพัสดุมีความสาคัญต่อการดาเนินงานของสถานศึกษา ดังนัน้ การวางแผนพัสดุจึงมี ความสาคญั อย่างย่ิงท่ีสถานศกึ ษาจะต้องมีการวางแผนพสั ดเุ พ่ือให้สถานศกึ ษามีพสั ดเุ พียงพอตอ่ ความ ต้องการของสถานศกึ ษา แนวทางการปฏบิ ัติ 1. การวางแผน ตามความต้องการใช้พสั ด/ุ งาน ของโครงการ แผนงาน งาน/โครงการ เน้นแผนระยะสนั้ คือแผน 1 ปี เทา่ นนั้ 2. การกาหนดความต้องการ กาหนดตามความต้องการการใช้พสั ด/ุ งาน ของโครงการ แผนงาน งาน/โครงการ 3. การจดั หาพสั ดุ วิธีการให้ได้มาซง่ึ พสั ดุ และบริการเพ่ือใช้ในราชการ ปฏิบตั ิตามระเบียบกระทรวงการคลงั วา่ ด้วยการจดั ซือ้ จดั จ้างพสั ดแุ ละการบริหารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ. 2560 โดยมีวธิ ีการดงั นี ้ วธิ ีการซือ้ หรือจ้าง กระทาได้ 3 วธิ ี ดงั นี ้ 1) วิธีการประกาศเชิญชวนทวั่ ไป 1.วางแผน/กาหนดความต้องการ 1.1 วธิ ีตลาดอเิ ลคทรอนิกส์ (E-Market) 1.2 วธิ ีประกวดราคาอิเลคทรอนิกส์ (E-Bidding) 1.3 วิธีสอบราคา 6.การจาหนา่ ยพสั ดุ 2.จดั หาพสั ดุ 2) วิธีคดั เลอื ก 3) วิธีเฉพาะเจาะจง 4. การควบคมุ -แจกจ่าย หมายรวมถงึ 5.การใช้งาน/บารุงรกั ษา 3.การแจกจา่ ยพสั ดุ 4.1 การควบคมุ พสั ดุ 4.2 การเก็บรักษาพสั ดุ สถานท่ีเกบ็ เหมาะสม 5. การใช้งาน การบารุงรักษา พสั ดหุ รือการซอ่ มบารุง 4.การควบคมุ พสั ดุ 5.1 การใช้งานอย่าง ถกู ต้อง (แนะนา) ค้มุ คา่ (เตม็ ประสทิ ธิภาพ) เหมาะสม (ถกู ต้อง) แผนผังแนวทางการปฏิบัตงิ าน 5.2 การบารุงรักษา มคี วามหมายเพ่ือรักษาสภาพ ของพสั ดใุ ห้สามารถใช้ราชการ (งาน) ได้นานที่สดุ 6. การจาหนา่ ยพสั ดุ หมายถงึ กรรมวธิ ีเพื่อลดความรับผิดชอบที่มตี อ่ พสั ดนุ นั้ 6.1 สาเหตขุ องการจาหนา่ ย 6.2 วิธีการจาหนา่ ย 6.3 การจาหน่ายเป็นสญู
49 งานจัดหาพัสดุ เป็ นการปฏิบัติงานตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุและที่ เกี่ยวข้อง เพ่ือให้การจดั หาพสั ดุทนั ตามกาหนดเวลาที่ต้องใช้และดาเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบ ประกอบด้วย การจดั ทาเอง การจดั ซือ้ จัดจ้าง การเช่า การยืมและการแปรสภาพจากการจาหน่ายพัสดุ ประจาปี ซ่ึงการจดั หาพสั ดเุ ป็ นภาระหน้าท่ีที่ผ้อู านวยการโรงเรียนจะต้องบริหารจดั การให้มีประสิทธิภาพ เพ่ือให้เกิดประโยชน์ตอ่ ทางราชการตอ่ ไป การจัดซือ้ จัดจ้าง แนวทางการปฏิบัติ สารวจความต้องการ 1. สารวจความต้องการใช้พสั ดุ 2. วางแผน กาหนดเวลา ตรวจสอบงบประมาณท่ีจะใช้ วางแผน/กาหนดเวลา/ตรวจสอบงบประมาณ ดาเนินการ 3. ตรวจสอบเกณฑ์คณุ ลกั ษณะ รูปแบบรายการพสั ดทุ ่ี ตรวจสอบเกณฑ์คณุ ลกั ษณะ/รูปแบบรายงาน ต้องการจดั ซือ้ จดั จ้าง 4. จดั ทารายงานขอซือ้ /จ้าง เสนอขอความเห็นชอบ จดั ทารายงานขอซือ้ /จ้าง/ขอความเหน็ ชอบ 5. ดาเนนิ การจดั ซือ้ จดั จ้างที่เห็นชอบ/ลงระบบ e-GP 6. ทาสญั ญาหรือตกลงจดั ซือ้ จดั จ้าง/จดั ทาใบ PO ดาเนินการจดั ซอื ้ /จดั จ้างตามมตทิ ีเ่ ห็นชอบ/ลง e-GP 7. บริหารสญั ญา 8. ตรวจรับพสั ดภุ ายในกาหนด/ตามระเบียบฯ จดั ทาสญั ญา/ข้อตกลง/สร้างข้อมลู หลกั ผ้ขู อ/ทาPO 9. จดั ทารายงานเสนอ ผอ.รร. เพื่อตรวจผลภายในเขตฯ 10. มอบเรื่องการตรวจรับให้เจ้าหน้าที่การเงินเบกิ เงิน บริหารสญั ญา ตรวจรับในกาหนด เพื่อจา่ ยให้ผ้ขู าย/ผ้รู ับจ้าง เบกิ จา่ ยเงินให้ จนท.พสั ดรุ ายงานเพอ่ื ชอบ ผขู้ าย แผนผังการปฏิบัตงิ าน
50 ตามระเบียบการเบกิ จ่ายเงินจากคลงั การเก็บรักษาเงินและการนาเงินส่งคลงั พ.ศ.2551 เพ่ือให้ การจ่ายเงินของโรงเรียนเป็ นไปด้วยความเรียบร้อย ถกู ต้องเป็ นระบบตามขนั้ ตอนที่ระเบียบกาหนด การ จา่ ยเงินจะต้องดาเนินการภายหลงั การเบกิ เงินตามระเบียบการเบกิ จา่ ยเงินจากคลงั การเก็บรักษาเงินและ การนาเงินสง่ คลงั พ.ศ.2551 มี 3 ลกั ษณะ ได้แก่ การจ่ายเป็ นเช็ค การจ่ายเป็ นเงินสด และการจ่ายโดยวิธี โอนเงินเข้าบญั ชีผ่านธนาคารซึ่งจะต้องกาหนดมาตรการการเบิกจ่ายเงินให้ถูกต้องตามระเบียบอย่าง เคร่งครัด แนวทางการปฏบิ ัติ การจ่ายเงนิ 1. เจ้าหน้าที่การเงินตรวจสอบการโอนเงินเข้าธนาคาร จนท.ตรวจสอบการโอนเงนิ เข้าบญั ชีโรงเรียน 2. เจ้าหน้าที่จดั ทารายละเอียดการจา่ ยและเขียน เชค็ สง่ั จา่ ยและบนั ทกึ ทะเบียนคมุ เชค็ 3. เสนอ ผอ.โรงเรียนอนมุ ตั แิ ละลงนามสงั่ จา่ ยเช็ค ไมถ่ กู ต้อง จนท.ทารายละเอียดเขยี น/ จ่ายเช็ค บนั ทกึ คมุ จา่ ยเช็ค 4. เจ้าหน้าที่การเงินจา่ ยเช็คหรือโอนเงินให้เจ้าหนี ้ /ผ้มู ีสิทธ์ิรับเงิน เสนอ 5. แจ้งการโอน/จา่ ยเงินให้เจ้าหนี/้ผ้มู ีสิทธิ์รับเงินทราบ 6. เจ้าหน้าท่ีการเงินจดั สง่ หลกั ฐานการจ่ายให้ ผอ.รร.อนมุ ตั แิ ละสง่ั จ่าย เจ้าหน้าท่ีบญั ชี เช็คถกู ต้อง จ่ายเช็ค/โอนเงิน แจ้งการโอน/จา่ ยเงิน จนท.บญั ชีลงทะเบยี นคมุ แผนผังแนวทางการปฏบิ ัตงิ าน
51 การรับเงิน การเก็บรักษาเงินจากคลงั และการเก็บรักษาเงินตามระเบียบการเบกิ จ่ายเงินจากคลงั การเก็บรักษาเงินและการนาเงินส่งคลัง พ.ศ.2551 เพ่ือให้การรับเงินของโรงเรียนเป็ นไปด้วยความ เรียบร้อย ถูกต้อง เป็ นระบบตามขนั้ ตอนท่ีระเบียบกาหนด ซึ่งโรงเรียนจะต้องดาเนินการทนั ทีเมื่อทราบ หรือรับแจ้งการโอนเงินเข้าบญั ชีธนาคารหรือได้รับเงินสดเพื่อให้การจดั ทารายงานเงินคงเหลือประจาวนั ถกู ต้อง ครบถ้วนและเป็นปัจจบุ นั แนวทางการปฏิบัติ การรับเงนิ สรุปยอด การรับเงิน 1. เจ้าหน้าท่ีการเงินออกใบเสร็จรับเงิน 2. เจ้าหน้าท่ีสรุปการรับเงินโดยสลกั หลงั ใบเสร็จฉบบั จนท.ออกใบเสร็จรับเงิน สดุ ท้ายในวนั นนั้ สลกั หลงั ใบเสร็จรับเงิน 3. เจ้าหน้าท่ีจดั ทารายงานคงเหลือประจาวนั และมอบ เงินสดให้คณะกรรมการเก็บรักษาเงิน จนท.จดั ทารายงานคงเหลอื ประจาวนั 4. เจ้าหน้าท่ีบนั ทกึ เสนอผอ.โรงเรียนรับทราบ 5. เจ้าหน้าท่ีการเงินมอบหมายใบเสร็จรับเงินให้ เสนอ เจ้าหน้าท่ีบญั ชีและลงทะเบียนที่เก่ียวข้อง 6. บนั ทกึ รับเงินในระบบโปรแกรมสาเร็จรูป ผอ.ร.ร. สง่ มอบใบเสร็จรบั เงิน ลงทะเบียนบญั ชี บนั ทกึ ระบบบญั ชี แผนผังแนวทางการปฏบิ ัตงิ าน เอกสารท่เี ก่ียวข้อง 1. คมู่ ือระเบียบการเบิกจา่ ยเงินจากคลงั การเก็บรักษาเงินและการนาเงินสง่ คลงั พ.ศ.2551 หมวด 6 การรับเงินของสว่ นราชการ สว่ นที่ 1-2
52 การนาเงินสง่ คลงั และฝากคลงั ตามระเบียบการเบิกจา่ ยเงินจากคลงั การเก็บรักษาเงิน และการ นาเงินสง่ คลงั พ.ศ. 2551 เพ่ือให้โรงเรียนนาไปปฏิบตั ิถกู ต้องตามระเบียบท่ีเก่ียวข้อง โดยโรงเรียนที่มีเงิน สดเป็ นจานวนเกินอานาจการเก็บรักษาจะต้องนาฝากบญั ชีธนาคารของโรงเรียน แตม่ ีประเภทของเงินท่ีมี ข้อกาหนดเป็นการเฉพาะเชน่ เงินอาหารกลางวนั เงินคา้ ประกนั สญั ญา ฯลฯ ท่ีจะต้องสง่ ฝากคลงั ให้ถกู ต้อง ตามระเบียบและเกิดประโยชน์ตอ่ ทางราชการ แนวทางการปฏบิ ัติ เจ้าหน้าทกี่ ารเงินรับหลกั ฐานเงินสด 1. เจ้าหน้าที่การเงินรับหลกั ฐานและจานวนเงินจาก จากคณะกรรมการเก็บรักษาเงิน คณะกรรมการเก็บรักษาเงิน 2. เจ้าหน้าท่ีการเงินตรวจสอบความถกู ต้องของ เจ้าหน้าทก่ี ารเงินตรวจสอบความถกู ต้องของ ประเภทและจานวนเงินท่ีนาสง่ ประเภทและจานวนเงินทีน่ าสง่ 3. เจ้าหน้าที่การเงินบกั ทกึ เสนออนมุ ตั ิ ผอ.ร.ร. เพื่อนาเงินสง่ คลงั ไมถ่ กู ต้อง 4. ผอ.ร.ร. หรือผ้ไู ด้รับมอบหมายนาเงินสง่ คลงั โดยนา ฝากบญั ชี ตามท่ีกระทรวงการคลงั กาหนดให้ เจ้าหน้าท่บี นั ทกึ เสนออนมุ ตั ิ ธนาคารกรุงไทยหรือธนาคารอื่นในกรณีไมม่ ี ผอ.รร. นาเงินสง่ คลงั ธนาคารกรุงไทยในเขตเพื่อสะดวกในการเบิกจา่ ยตอ่ ทางราชการ ถกู ต้อง 5. เจ้าหน้าที่ การเงินมอบหลกั ฐานการนาสง่ ให้ เจ้าหน้าท่ีบญั ชี บกั ทกึ ในทะเบยี น และเอกสารท่ี นาเงินสง่ คลงั โดยนาเงินฝากบญั ชี เกี่ยวข้อง กระทรวงการคลงั ที่ ธนาคารกรุงไทย มอบเอกสารให้เจ้าหน้าท่บี ญั ชีบนั ทกึ รายการทางบญั ชี แผนผังแนวทางการปฏบิ ัตงิ าน เอกสารท่เี ก่ียวข้อง 1. คมู่ ือการปฏิบตั งิ านสานกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาของ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ 2. คมู่ ือการปฏิบตั งิ านสถานศกึ ษาในสงั กดั สพฐ. กระทรวงศกึ ษาธิการ
53 การจดั ทาบญั ชีทางการเงินถือเป็ นหน้าท่ีของโรงเรียนที่จะต้องปฏิบตั ิให้เป็ นไปด้วยความถูกต้อง ตามระเบียบ กฎ ข้อบงั คบั และเป็ นปัจจบุ นั โดยยึดหลกั การนโยบาย บญั ชีสาหรับหนว่ ยงานภาครัฐ ฉบบั ที่ 2 และค่มู ือแนวปฏิบตั ิทางบญั ชีตามเกณฑ์คงค้างสาหรับหน่วยงานภาครัฐ พ.ศ.2546 ท่ีกาหนดเป็ น มาตรการป้ องกันการทจุ ริตและประพฤติมิชอบของผ้รู ับผิดชอบวานการเงินและบญั ชีของโรงเรียนตามท่ี ผ้อู านวยการโรงเรียนมอบหมาย อนั จะดาเนินการตรวจสอบได้ตลอดเวลา แนวทางการปฏบิ ัติ ตงั้ เปิดยอดบญั ชีระหวา่ งปีงบประมาณ 1. ตงั้ เปิ ดยอดบญั ชีระหวา่ งปี งบประมาณ 2. ดาเนนิ การปรับปรุงบญั ชีเงินงบประมาณ ดาเนนิ การปรับปรุงบญั ชีเงินงบประมาณ 3. บนั ทกึ เปิดบญั ชีคงค้าง (หากมี) 4. บนั ทกึ บญั ชีประจาวนั ให้เป็นปัจจบุ นั ถกู ต้อง บนั ทกึ เปิ ดบญั ชีคงค้าง หากมี 5. สรุปรายการบนั ทกึ บญั ชีทกุ วนั สรุปรายการรับ หรือจา่ ยเงิน ผา่ นไปบญั ชีแยก ประเภทเงินสด เงิน ไมม่ ี ฝากธนาคาร และเงินฝากคลงั และบนั ทกึ ทะเบียนคมุ 6. ปรับปรุงบญั ชี เม่ือสนิ ้ ปี งบประมาณ บนั ทกึ บญั ชีประจาวนั 7.ปิ ดบญั ชีรายได้และคา่ ใช้จ่าย 8. ตรวจสอบความถกู ต้องของเงินสดและเงินฝาก สรุปรายการบนั ทกึ บญั ชีทกุ วนั ทาการ หากมี ธนาคารตามรายงานคงเหลือประจาวนั ไมม่ ี ปรับปรุงบญั ชีเมือ่ สนิ ้ ปีงบประมาณ 9. แก้ไขข้อผิดพลาดจากการบนั ทกึ รายการผดิ บญั ชี โดยการขีดฆา่ ข้อความหรือตวั เลขผดิ ลงลายมือชื่อย่อ ปิ ดบญั ชีรายได้และคา่ ใช้จ่าย กากบั พร้อม วนั เดอื น ปี แล้วเขียนข้อความหรือตวั เลขท่ีถกู ต้อง ตรวจสอบความถกู ต้อง หากมี ไมม่ ี แก้ไขข้อผิดพลาดให้ถกู ต้อง เปิ ดบญั ชีปีงบประมาณตอ่ ไป แผนผังแนวทางการปฏบิ ัตงิ าน
54 การจดั ทารายงานการเงินและงบการเงินในโรงเรียนให้ถกู ต้องตามระบบบญั ชีท่ีกระทรวงการคลงั กาหนด เพ่ือให้โรงเรียนสามารถจดั ทารายงานทางการเงินและแสดงงบการเงินให้ถกู ต้องและจดั ส่งรายงาน ตอ่ เขตพืน้ ที่การศึกษาและ สตง. ตามที่ระเบียบราชการกาหนด ทงั้ นีก้ ารจดั ทารายงานทางการเงินและงบ การเงินถือเป็นมาตรการการตรวจสอบและป้ องกนั การทจุ ริตและประพฤตมิ ิชอบ และป้ องกนั ความเสี่ยงใน หนว่ ยงานภาครัฐ แนวทางการปฏิบัติ จนท.สรุปยอดรวม 1. สรุปยอดรวมของแตล่ ะบญั ชีให้ถกู ต้องและเป็น ของแตล่ ะบญั ชี ปัจจบุ นั 2. ดาเนินการจดั ทางบทดลอง ไมถ่ กู ต้อง 3. จดั ทารายงานประจาเดือนสง่ หนว่ ยงานต้นสงั กดั จดั ทางบทดลอง (เขตพืน้ ท่ีฯ) สาหรับโรงเรียนสงั กดั สพม.ต้องจดั สง่ สานกั งานตรวจเงินแผน่ ดนิ เขตฯ ภายในวนั ท่ี 15 ถกู ต้อง ของเดอื นถดั ไป จดั ทารายงานประจาเดือน 4. จดั ทารายงานประจาปี โดยจดั ทางบแสดงฐานะ การเงินและจดั สง่ รายงานประจาปี ให้เขตพืน้ ที่ (ภายในวนั ที่ 15 ของเดือนถดั ไป) การศกึ ษาและจดั สง่ สานกั งานตรวจเงินแผน่ ดนิ ตาม กาหนดระยะเวลาในระเบียบกาหนด จดั ทารายงานประจาปี เปิ ดบญั ชใี นปี งบประมาณตอ่ ไป แผนผังแนวทางการปฏบิ ัติงาน เอกสารท่เี ก่ียวข้อง 1. คมู่ ือหลกั การนโยบายบญั ชี สาหรับหนว่ ยงานภาครัฐ ฉบบั ท่ี 2 2. คมู่ ือแนวปฏิบตั ทิ างบญั ชีตามเกณฑ์คงค้างสาหรับหน่วยงานภาครัฐ พ.ศ.2546 3. คมู่ ือการปฏิบตั งิ าน สานกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษา กล่มุ บริหารงานการเงินและสินทรัพย์
54
55
56 ในแตล่ ะหน่ึงวนั ของการทาหน้าท่ีผ้อู านวยการโรงเรียนภารกิจของการบริหารงานบคุ คลต้องพบ เจอและแก้ไขปัญหา มีหลายกรณีด้วยกัน เช่น ครูบางท่านอาจลากิจ ลาป่ วย หรือลากรณีต่างๆ จึง จาเป็ นต้องมีภารกิจให้ต้องพิจารณาตดั สินใจ ได้แก่ การพิจารณาอนุญาตการลา การหาครูทาการสอน แทน หรือทาภารกิจอ่ืนๆแทนผ้ทู ่ีลา เป็นต้น กรณีตวั อย่างสถานการณ์ เหตุการณ์ท่ีผุ้บริหารโรงเรียนต้องมีทักษะการแก้ไขปัญหาท่ีอาจเกิดขึน้ ใน โรงเรียน อาทิ เชน่ ครูทาโทษเกินกวา่ เหตุ ผ้ปู กครองร้องเรียน อยา่ ได้เกรง ให้คดิ วา่ ปัญหามีไว้ ใช้สติ ใช้ - บางปัญหาควรเปิ ดโอกาส กลวั ท้อแท้ แก้ไข ปัญญา ความ ให้คณะกรรมการ จริงใจแก้ไข สถานศกึ ษาร่วมแก้ไข ปัญหา -------------------------- - ยตุ ิธรรมไมล่ าเอียง มีความสาคัญไม่ย่งิ หย่อนกว่างานอ่นื ๆ
57 การบริหารงานบุคคล เป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกบั การวางแผนอตั รากาลงั การสรรหา และ การคดั เลือกบคุ คลที่เหมาะสมเข้าทางาน มอบหมายภาระงานให้เหมาะสมกบั ความรู้ความสามารถของ บคุ คลรวมทงั้ ธารงรักษาบคุ ลากร การพฒั นาบคุ ลากร การเสริมแรงและสร้างแรงจงู ใจในการทางาน การ ประเมินผลการปฏิบตั งิ าน จนกระทงั่ การให้บคุ ลากรพ้นจากการปฏิบตั งิ าน สาหรับบคุ คลากรในสถานศกึ ษา ประกอบด้วย ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา พนกั งาน ราชการ ครูจ้างสอน ลกู จ้างประจา และลกู จ้างชวั่ คราว ซง่ึ การบริหารบคุ คลของสถานศกึ ษา เป็ นภารกิจท่ี สาคญั สาหรับผ้บู ริหาร ต้องส่งเสริม สนบั สนนุ ให้บคุ ลากรสามารถปฏิบตั งิ านได้อย่างคลอ่ งตวั มี ประสทิ ธิภาพ ภายใต้กฎ ข้อบงั คบั ระเบียบ กฎหมายท่ีกาหนด แนวคดิ ในการบริหารงานบุคคล 1. ศกึ ษาแนวปฏิบตั ิ จากกฎ ข้อบงั คบั ระเบียบ กฎหมายตา่ งๆ ในแตล่ ะเร่ืองให้เข้าใจ อยา่ งถกู ต้องชดั เจน จนสามารถนาไปปฏิบตั ติ ามได้ 2. ดาเนนิ การด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว บนพืน้ ฐานของข้อมลู ที่เป็นจริง และสามารตรวจสอบแหลง่ ที่มาได้ 3. บริหารงานโดยยึดหลกั ธรรมาภิบาล และการมีสว่ นร่วม 4. ตดิ ตอ่ สื่อสาร ประสานงานกบั หน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง
58 ขอบข่ายการบริหารงานบุคคล การบริหารงานบคุ คล การวางแผนอตั รากาลงั การจดั สรรอตั รากาลงั ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา การสรรหาและบรรจแุ ตง่ ตงั้ การดาเนินการเกี่ยวกบั การเลอ่ื นขนั้ เงินเดอื น การเปลยี่ นตาแหนง่ ให้สงู ขนึ ้ การย้ายข้าราชการครู การประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิงาน และบคุ ลากรทางการศกึ ษา การลาทกุ ประเภท การดาเนนิ การทางวินยั และการลงโทษ การสง่ั พกั ราชการและการสง่ั ให้ออกจากราชการไว้กอ่ น การรายงานการดาเนินการทางวนิ ยั และการลงโทษ การอทุ ธรณ์และการร้องทกุ ข์ การออกจากราชการ การจดั ระบบและการจดั ทาทะเบยี นประวตั ิ การทาบญั ชีรายชื่อและให้ความเห็นเก่ียวกบั การเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ การสง่ เสริมการประเมนิ วทิ ยาฐานะ ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา การริเริ่มสง่ เสริมการขอรับใบอนญุ าต การสงเสริมมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณวชิ าชีพ การสง่ เสริมและยกยอ่ งเชิดชเู กยี รติ การพฒั นาข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา การสงเสริมวนิ ยั คณุ ธรรมและจริยธรรม สาหรับข้าราชการครูบคุ ลากรทางการศกึ ษา
59 การดาเนินการเก่ียวกับอัตรากาลัง อัตรากาลังเป็ นเรื่องที่มีความสาคัญต่อการปฏิบัติงานให้เป็ นไปตามวัตถุประสงค์ของการ ดาเนนิ งานและภาระงานที่กาหนด การได้มาซึ่งอตั รากาลงั ที่เหมาะสมจาเป็ นต้องเริ่มจากการวิเคราะห์งาน วางแผนอตั รากาลงั ที่จะต้องพิจารณาถงึ จานวนคน ความรู้ความสามารถของคนท่ีมีความเหมาะสมกบั งาน ที่จะปฏิบตั ิ วธิ ีการได้มาซงึ่ กาลงั คนท่ีเหมาะสม ในระบบข้าราชการครู มีกฎหมายวา่ ด้วยระเบียบข้าราชการ ครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา เป็ นกรอบในการดาเนินการ อีกทงั้ คณะกรรมการข้าราชการครูและบคุ ลากร ทางการศึกษา (กคศ.) ได้กาหนดหลกั เกณฑ์วิธีการให้ดาเนินการและมอบอานาจให้ส่วนราชการต่างๆ ดาเนินการอยา่ งชดั เจน โดยมาขนั้ ตอนดาเนินงานพอสรุปเป็ นขนั้ ตอนปฏิบตั ิที่ตอ่ เนื่องกนั ดงั นี ้ แนวทางการปฏิบัติ 1. การวางแผนอัตรากาลัง 1. วิเคราะห์ภารกิจและประเมนิ สภาพความต้องการกาลงั คน 2. จดั ทาแผนอตั รากาลงั ตามเกณฑ์ท่ีก.ค.ศ.กาหนด 3. นาแผนอตั รากาลงั ขอความเห็นชอบคณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน 4. นาแผนอตั รากาลงั สง่ สพท.เพื่อดาเนนิ การเสนอขอผ้มู ีอานาจอนมุ ตั ิ (กศจ.) 2. การจัดสรรอัตรากาลังข้าราชการครูบุคลากรทางการศึกษา 1. สพฐ.แจ้งจดั สรรอตั รากาลงั ให้เขตพืน้ ที่การศกึ ษา 2. สพท.ตงั้ คณะกรรมการพจิ ารณาเกล่ียอตั รากาลงั และจดั สรรให้สถานศกึ ษา นาเสนอ กศจ. 3. กศจ.พจิ ารณาอนมุ ตั แิ ละแจ้งไปยงั สถานศกึ ษา 4. สถานศกึ ษารับทราบและบนั ทกึ ข้อมลู อตั ราว่างในระบบ 3. การสรรหาและบรรจุแต่งตงั้ 1. กรณีข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา 1.1 กศจ.กาหนดพจิ ารณาวิธีดาเนนิ การสรรหาและบรรจแุ ตง่ ตงั้ โดยวิธีการรับย้าย หรือ รับโอนหรือ การคดั เลือกหรือการสอบแขง่ ขนั ตามแนวทางที่ ก.ค.ศ.กาหนด 1.2 กศจ.ดาเนินการสรรหา และสงั่ บรรจแุ ตง่ ตงั้ สง่ ตวั ให้สถานศกึ ษา 1.3 ผ้อู านวยการสถานศกึ ษารับการรายงานตวั จดั ทาทะเบียนประวตั ิ ปฐมนิเทศ มอบหมายภาระงานให้รับผดิ ชอบ
60 1.4 กรณีบรรจุใหม่ตาแหนง่ ครูผ้ชู ว่ ย ผอ.สถานศกึ ษาแตง่ ตงั้ คณะกรรมการดาเนินการประเมิน อยา่ งเข้มข้นเป็ นระยะเวลา 2 ปี (ประเมินรวม 8 ครัง้ ) เม่ือผ่านการประเมินตามเกณฑ์ รายงานสพท. เพ่ือ นาเสนอ กศจ.พจิ ารณาแตง่ ตงั้ เป็นครู คศ.1 2. กรณีลกู จ้างชว่ั คราว 2.1 สารวจอตั รากาลงั ความจาเป็น และงบประมาณในการจ้าง 2.2 นาข้อมลู จากการสารวจ เสนอขอความเห็นชอบคณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน 2.3 เสนอข้อมลู การขอจ้างพร้อมแบบรายงานการประชมุ คณะกรรมการสถานศกึ ษา ขนั้ พืน้ ฐาน ตอ่ สานกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาพิจารณาอนญุ าต 2.4 ดาเนนิ การจดั ทาสญั ญาจ้าง ให้เป็นไปตามระเบียบ แผนผังการปฏิบัตงิ าน สพฐ.แจ้งจดั สรรอตั รากาลงั ให้ สพท. สพท.ตงั้ คณะกรรมการจดั สรรอตั รากาลงั ให้สถานศกึ ษา สถานศกึ ษาสง่ ข้อมลู แผน อตั รากาลงั ให้ สพท. รับย้าย/รับโอน กศจ.พจิ ารณาอนมุ ตั จิ ดั สรร สถานศกึ ษารับทราบ ให้สถานศกึ ษา กศจ.ดาเนินการ คดั เลอื ก/สอบแขง่ ขนั และบรรจแุ ตง่ ตงั้ สถานศกึ ษา ผ้อู านวยการสถานศกึ ษารับการรายงานตวั จดั ทาข้อมลู ประวตั ิ ปฐมนเิ ทศ มอบหมายภาระงานให้รับผิดชอบ
61 เอกสารท่เี ก่ียวข้อง 1. พระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพม่ิ เตมิ 2. เกณฑ์อตั รากาลงั ข้าราชการครูตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด 3. คมู่ ือการปฏิบตั งิ านสานกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษา กลมุ่ บริหารงานบคุ คล สานกั งานคณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ 2. การเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม การเตรียมความพร้อมและพฒั นาอยา่ งเข้มเป็ นกระบวนการในการบริหารบคุ คลที่จะเข้ามาดารง ตาแหนง่ ครู ซ่ึงต้องดาเนินการตามพระราชบญั ญตั ริ ะเบียบข้อราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. 2547 มาตรา 56 บญั ญัติให้ผ้ใู ดท่ีได้รับการบรรจุแต่งตงั้ ให้เข้ารับราชการเป็ นข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศกึ ษา ผ้ใู ดได้รับการบรรจแุ ตง่ ตงั้ ในตาแหน่งครู ให้ผ้นู นั้ เตรียมความพร้อมและพฒั นาอยา่ งเข้มใน ตาแหน่งครูผู้ช่วย เป็ นเวลา 2 ปี ก่อนแต่งตัง้ ให้ ดารงตาแหน่งครู เพ่ือเพิ่มพูนความรู้ทักษะและ บคุ ลิกลกั ษณะในการปฏิบตั วิ ิชาชีพ ทงั้ ในการปฏิบตั งิ านและการปฏิบตั หิ น้าท่ีท่ีเหมาะสมกบั วิชาชีพครูตาม หลกั เกณฑ์และวธิ ีการท่ี ก.ค.ศ. กาหนด แนวทางการปฏิบัติ 1. ผ้อู านวยการสถานศึกษาแตง่ ตงั้ คณะกรรมการเตรียมความพร้อมและพฒั นาอย่างเข้ม จานวน 3 คน ประกอบด้วย ผ้อู านวยการสถานศกึ ษา เป็ นประธานกรรมการ ผ้ทู รงคณุ วุฒิในคณะกรรมการ สถานศึกษาจานวน 1 คน เป็ นกรรมการ และข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาท่ี ผ้อู านวยการสถานศกึ ษาแตง่ ตงั้ ให้ทาหน้าท่ีเป็ นผ้คู วบคมุ ดแู ลการเตรียมความพร้อมและพฒั นา อยา่ งเข้มเป็นกรรมการและเลขานกุ าร
62 2. ให้คณะกรรมการมีหน้าท่ีให้คาปรึกษาแนะนา รวมทงั้ ประเมนิ ผลการเตรียมความพร้อม และพฒั นาอยา่ งเข้ม โดยยดึ หลกั เกณฑ์การมีสว่ นร่วม 3. ให้คณะกรรมการประเมินการเตรียมความพร้อมและพฒั นาอยา่ งเข้มทกุ 3 เดือน ในระยะเวลา 2 ปี รวม 8 ครัง้ 4. ผ้อู านวยการสถานศกึ ษาได้รับรายงานผลการประเมินแตล่ ะครัง้ ให้ดาเนนิ การ ดงั นี ้ 1. ผลการประเมินต่ากว่าเกณฑ์ท่ี ก.ค.ศ. กาหนด และผู้อานวยการสถานศึกษาเห็นว่าควร ทบทวน ก็อาจให้คณะกรรมการไปพิจารณาทบทวนอีกครัง้ และหากผลการประเมินยงั ต่า กวา่ เกณฑ์ท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ให้ผ้อู านวยการสถานศกึ ษาสงั่ ให้ผ้นู นั้ ออกจากราชการภายใน 5 วนั ทาการ นบั ตงั้ แตว่ นั ท่ีได้รับรายงาน แล้วแจ้งผ้นู นั้ ทราบโดยเร็ว 2. กรณีผลการประเมินต่ากว่าเกณฑ์ท่ี ก.ค.ศ. กาหนด และผู้อานวยการสถานศึกษาเห็น เช่นเดียวกบั คณะกรรมการ ก็สง่ั ให้ผ้นู นั้ ออกจากราชการภายใน 5 วนั ทาการ นบั ตงั้ แตว่ นั ที่ ได้รับรายงาน แล้วแจ้งผ้นู นั้ ทราบโดยเร็ว 3. กรณีผลการประเมินเป็ นไปตามเกณฑ์ท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ให้มีการเตรียมความพร้ อมละ พฒั นาอยา่ งเข้มตอ่ ไป และเมื่อผา่ นการประเมินทกุ ครัง้ จนครบ 2 ปี แล้ว และเห็นควรให้ผ้นู นั้ รับราชการตอ่ ไป ให้รายงานสานกั งานพืน้ ที่การศึกษาเพ่ือเสนอ กศจ. พิจารณาอนมุ ตั ิและ แตง่ ตงั้ ผ้นู นั้ ให้ดารงตาแหนง่ ครูตอ่ ไป พร้อมทงั้ แจ้งให้ผ้ไู ด้รับการแตง่ ตงั้ ทราบ
63 แผนผังการปฏบิ ัตงิ าน สถานศกึ ษาแตง่ ตงั้ คณะกรรมการ ประเมนิ ผล เตรียมความพร้อมและพฒั นาอยา่ งเข้ม คณะกรรมการทไ่ี ด้รับการแตง่ ตงั้ ประเมนิ ผลทกุ 3 เดอื น ในระยะเวลา 2 ปี รวม 8 ครัง้ รายงานสรุปการประเมินทงั้ 8 ครงั้ กรณีไมผ่ ่าน ผลการประเมนิ ต่ากวา่ เกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กาหนด ผอ.สถานศึกษาพิจารณาสรุปผลการ ผอ.สถานศกึ ษาสง่ั ให้ผ้นู นั้ ประเมนิ ทงั้ 8 ครัง้ ตามเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. ออกจากราชการ กาหนด ให้แจ้งผ้นู นั้ ทราบ และ กรณีผา่ น รายงาน สพท. กศจ.พจิ ารณา ผ้มู ีอานาจตามมาตรา 53 สงั่ บรรจแุ ตง่ ตงั้ และสง่ คาสง่ั ไปยงั สพท. แจ้งผ้เู ก่ียวข้องทราบ และรายงานสานกั งาน ก.ค.ศ.
64 เอกสารท่เี ก่ียวข้อง 1. พระราชบญั ญตั ริ ะเบียบข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ.2547 และท่ีแก้ไขเพมิ่ เตมิ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2551 มาตรา 53, 56 2. หนงั สือสานกั งาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ. 0206.2/ ว 20 ลงวนั ที่ 10 พฤศจกิ ายน 2548 เรื่อง หลกั เกณฑ์และวธิ ีการเตรียมความพร้อมและพฒั นาอยา่ งเข้ม 3. หนงั สือสานกั งาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ. 0206.3/ ว 24 ลงวนั ท่ี 14 ธนั วาคม 2548 เร่ือง การปรับปรุงการกาหนดตาแหนง่ ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา 4. หนงั สือสานกั งาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ. 0206.2/ ว 1 ลงวนั ที่ 2 มกราคม 2551 เร่ือง การปรับอตั ราเงินเดอื นข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา 5. หนงั สือสานกั งาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ. 0206.2/ 440 ลงวนั ที่ 1 เมษายน 2551 เร่ือง การแตง่ ตงั้ ครูผ้ชู ว่ ยให้ดารงตาแหนง่ ครู 3. การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา แนวคิด การย้ ายข้ าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้ โอกาสไปดารงตาแหน่งเดิมใน สถานศกึ ษาอ่ืน ผ้มู ีหน้าท่ีต้องศกึ ษาระเบียบ หลกั เกณฑ์ให้ถกู ต้องชดั เจน และดาเนินการตามกรอบเวลาท่ี สพฐ.กาหนด โดยยดึ หลกั ความถกู ต้องยตุ ธิ รรม และเกิดผลดตี อ่ ทางราชการ แนวทางการปฏิบัติ 1. ศธจ. ประกาศ เรื่อง การยื่นคาร้องขอย้ายประจาปี (กรณีพิเศษไมต่ ้องรอประกาศฯ) 2. ครูเขียนคาร้องขอย้าย ปี ละ 1 ครัง้ ระหวา่ งวนั ที่ 1-31 มกราคม (หรือระยะเวลาตามประกาศ) 3. ผ้อู านวยการสถานศกึ ษาพจิ ารณาให้ความเห็นชอบในแบบคาร้องขอย้าย 4. เสนอขอความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน แล้วรวบรวมเอกสารสง่ สพท. 5. สพท. ดาเนนิ การตามระเบยี บการย้ายฯ 6. กศจ. ที่รับย้ายพจิ ารณา 7. ผ้มู ีอานาจออกคาสง่ั ย้าย 8. ผ้อู านวยการสถานศกึ ษาแจ้งผ้ยู ้ายทราบ ให้ดาเนินการสง่ มอบงานในหน้าท่ี 9. ทาหนงั สือสง่ ตวั ครูผ้ยู ้าย 9.1 กรณีภายในเขตเดียวกนั สง่ โรงเรียนรับย้าย 9.2 กรณีตา่ งเขต สง่ ไปสานกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาที่รับย้าย
65 แผนผังการปฏบิ ัตงิ าน การย้ายข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา กรณีปกติ กรณีพิเศษ ประกาศ ศธจ. เร่ือง การยืน่ คาร้องขอย้ายประจาปี ข้าราชการครูยื่นคาร้องขอย้าย ปีละ 1 ครัง้ (1-31 มกราคม) ผอ.สถานศกึ ษา.ดาเนินการ ดงั นี้ 1. ผอ.พจิ ารณาให้ความเหน็ ในแบบคาร้องขอย้าย 2. เสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พนื ้ ฐาน 3. รวบรวมคาร้องขอย้าย และเอกสารประกอบการย้าย สง่ สพท. สพท. ตรวจสอบคณุ สมบตั ิตามกรณีย้าย จดั ทาข้อมลู การย้าย กศจ.ทร่ี ับย้ายพจิ ารณา ไมอ่ นมุ ตั ิ อนมุ ตั ิ ผ้มู อี านาจออกคาสง่ั ย้าย ผอ.สถานศึกษาดาเนินการดงั้ นี้ 1. แจ้งครูผ้ยู ้าย 2. ให้ครูผ้ยู ้ายสง่ มอบงานในหน้าที่ 3. ทาหนงั สอื สง่ ตวั ครูผ้ยู ้าย
66 4. การดาเนินการเก่ียวกับการเล่ือนขัน้ เงินเดือน แนวคดิ การพิจารณาการเล่ือนขัน้ เงินเดือน ผู้มีหน้าที่ ต้องปฏิบัติตามแนวปฏิบตั ิโดยศึกษาระเบียบ แนว ปฏิบตั ิ ให้ชดั เจน ดาเนินการอย่างยตุ ิธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ เพ่ือเป็ นขวญั กาลงั ใจ แก่ข้าราชการครูและ บคุ ลากร แนวทางการปฏบิ ัติ 1. ให้โรงเรียนแตง่ ตงั้ คณะกรรมการประเมนิ ผลการปฏิบตั ิราชการของข้าราชการครูในสงั กดั อย่าง น้อย 3 คน โดยมีผ้อู านวยการโรงเรียนเป็ นประธาน และสรุปคะแนนผลการประเมินในแบบเสนอขอเลื่อน ขนั้ ให้ สพท.สว่ นแบบประเมนิ ให้โรงเรียนเก็บไว้เป็นหลกั ฐานในการขอตรวจสอบ 2. ให้โรงเรียนเสนอขอเล่ือนขนั้ เงินเดือนให้กับข้าราชการครูในโรงเรียน ได้ 1ขนั้ ,0.5ขนั้ หรือไม่ เลื่อนขนั้ (ถ้ามีแล้วแตก่ รณี) 3. โรงเรียนจะพิจารณาให้ข้าราชการครูฯ/ลกู จ้างประจา เลื่อน 1 ขนั้ ได้ไม่เกินโควตา 15% ของ จานวนข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาและลกู จ้างประจาที่มีตวั อยจู่ ริง 4. กรณีท่ีโรงเรียนใดพิจารณาไม่ให้ข้าราชการครู/ลกู จ้างประจาเล่ือนขนั้ ให้โรงเรียนชีแ้ จงเหตผุ ล ในรายงานการประชมุ ในแตล่ ะรายบคุ คลให้ละเอียดชดั เจนพร้อมทงั้ ระบคุ ะแนนประเมินด้วย 5. เม่ือคณะกรรมการพจิ ารณาผลการปฏิบตั งิ านแล้ว ให้โรงเรียนจดั ทาบญั ชีรายละเอียด เสนอขอ เลื่อนขนั้ เงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและลูกจ้างประจา โดยให้เรียงลาดบั ความดี ความชอบ จากคะแนนการประเมินมากสุดไปน้อยสุด และนาส่งบญั ชีรายละเอียดการเสนอขอเลื่อนขนั้ เงินเดือนสง่ สานกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษา 6. ข้าราชการครูบรรจใุ หม่ ที่มีเวลารับราชการไม่ถึง 4 เดือน แตไ่ มน่ ้อยกวา่ 3 เดือน 15 วนั มีสิทธิ ได้รับการพิจารณาให้เลื่อนขนั้ เงินเดือนได้ 0.5 ขนั้ แตต่ ้องเป็ นผ้ทู ่ีมีผลการประเมินในระดบั ดีเด่นเท่านัน้ (ระดบั คะแนนประเมินไม่ต่ากว่า 90 -100%) 7. การนบั จานวนครัง้ การลาและการมาทางานสายให้ถือปฏิบตั ติ ามหนงั สือ สพฐ. ดว่ นที่สดุ ที่ ศธ 04009/371 ลงวนั ที่ 9 มกราคม 2547 ดงั นี ้
67 7.1 การลาบอ่ ยครัง้ 7.1.1 ลาเกิน 6 ครัง้ สาหรับข้าราชการท่ีปฏิบตั ริ าชการในสถานศกึ ษา 7.1.2 ลาเกิน 8 ครัง้ สาหรับข้าราชการท่ีปฏิบตั ิราชการในสานกั งาน สาหรับข้าราชการท่ี ลาเกินจานวนครัง้ ที่กาหนด แตว่ นั ลาไมเ่ กิน 15 วนั ทาการ และมีผลการปฏิบตั งิ านดีเดน่ ผ้บู งั คบั บญั ชาผ้มู ี อานาจสง่ั เล่ือนขนั้ เงินเดอื น อาจพจิ ารณาผอ่ นผนั ให้เลื่อนขนั้ เงินเดือนได้ 7.2 การมาทางานสายเนือง ๆ 7.2.1 มาทางานสายเกิน 8 ครัง้ สาหรับข้าราชการท่ีปฏิบตั ริ าชการในสถานศกึ ษา 7.2.2 มาทางานสายเกิน 9 ครัง้ สาหรับข้าราชการท่ีปฏิบตั ริ าชการในสานกั งาน 7.2.3 กรณีป่ วยจาเป็ น ต้องรักษาตวั เป็ นเวลานาน ไม่ว่าคราวเดียวหรือหลายคราว รวมกนั ไม่ เกิน 60 วนั ทาการและมีใบรับรองแพทย์ประกอบนนั้ ไม่นามารวมกบั ลาป่ วยและลากิจ ที่แสดงในบญั ชีฯ ข้อ 10.1 7.3 กรณีลาป่ วยจาเป็ น ให้เป็ นไปตาม กฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการเล่ือนขนั้ เงินเดือนข้าราชการครู และบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. 2550 8. คะแนนประเมนิ ให้สรุปเป็นร้อยละ เพื่อประกอบการพิจารณาเล่ือนขนั้ เงินเดือน ดงั นี ้ 8.1 ผลการประเมินดีเดน่ ระดบั คะแนนประเมินไมต่ ่ากว่า 90-100% อย่ใู นขา่ ยอาจได้รับการ พจิ ารณาเล่ือนขนั้ เงินเดอื น 1 ขนั้ 8.2 ผลการประเมินเป็ นที่ยอมรับได้ ระดบั คะแนนประเมินไม่ต่ากวา่ 60-89% อยใู่ นข่ายได้รับ การพิจารณาเล่ือนขนั้ เงินเดอื น 0.5 ขนั้ 8.3 ผลการประเมินต้องปรับปรุง ระดบั คะแนนประเมนิ ตา่ กวา่ 60% ไมค่ วรเล่ือนขนั้ เงินเดือน 9. ให้ทกุ โรงเรียนจดั ทาบญั ชีรายช่ือสารอง สาหรับผ้ทู ี่จะได้รับการพิจารณาเลื่อน 1 ขนั้ โดยให้รายช่ือ ผ้ทู ี่ได้รับการพิจารณาสารองการเลื่อน 1 ขนั้ อยใู่ นลาดบั ท่ี 1 ของบญั ชีรายช่ือผ้ไู ด้รับ การพิจารณาเล่ือน 0.5 ขนั้
68 แผนผังการปฏิบัตงิ าน ผอ.สถานศึกษา.จดั ทาคาส่งั แตง่ ตงั้ คณะกรรมการพจิ ารณา - คณะกรรมการประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิงานข้าราชการครู ไมน่ ้อยกวา่ 3 คน - คณะกรรมการสรุปผลการปฏบิ ตั ิงานข้าราชการครู ไมน่ ้อยกวา่ 3 คน คณะกรรมการประเมนิ ฯ ดาเนินการ และจดั ให้มีการประชมุ คณะกรรมการสรุปผลการประเมนิ ดาเนินการโดยการประชมุ มผี ้คู ดั ค้าน ผอ.สถานศกึ ษาพิจารณาตดั สนิ ผลการประเมนิ และจดั ทาประกาศ ผลการประเมินให้ครูทราบโดยทว่ั กนั เหน็ ด้วย จดั ทาบญั ชีรายละเอียดตามแบบทกี่ าหนด พร้อม รายงานการประชมุ ของคณะกรรมการฯ นาสง่ สพท. สพท. ดาเนินการตามอานาจหน้าท่ี กศจ.พจิ ารณาและ ผอ.สถานศกึ ษา ทาคาสงั่ เลอ่ื นขนั้ เงินเดอื น อนมุ ตั ิ -แจ้งครูรับทราบ สพท. ดาเนนิ การเรื่องเบกิ จา่ ยเงนิ เดอื น -บนั ทกึ ข้อมลู ลงทะเบยี น ประวตั ิ
69 หมายเหตุ: การพิจารณาเล่ือนขนั้ เงินเดือนของสานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาที่มี ขอบเขตความรับผิดชอบหลายจงั หวัด ให้สานกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษามัธยมศึกษาดาเนินการพิจารณา เลื่อนขนั้ เงินเดอื น โดยจดั ทาบญั ชีรายละเอียดการเล่ือนขนั้ เงินเดือนของข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการ ศึกษาแยกตามจังหวดั ที่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ปฏิบตั ิหน้าท่ีอยู่ในจังหวัดนนั้ และเสนอ กศจ. จงั หวดั นนั้ ๆ 5. การลาทกุ ประเภท แนวคิด การลาทุกประเภทของข้าราชการครู และบุคลากรทางการศกึ ษา ผู้รับผิดชอบต้องดาเนินการให้ เป็ นไปตามที่กฎหมายระเบียบกาหนด ตามพระราชบญั ญัติ ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศกึ ษา พ.ศ.2547 และจดั ให้มีการสรุปรายบคุ คล ทกุ ปี งบประมาณ 1. ระเบยี บสานกั นายกรัฐมนตรีวา่ ด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. 2555 2. คู่มือการปฏิบัติงานสานักงานเขตพืน้ ที่การศึกษา กลุ่มบริหารงานบุคคล สานักงาน คณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
การลา 11 ประเภท บทบาทส่ังกา 1. ลาป่ วย เงื่อนไขของการลาเพื่อขอพจิ าร 2. ลาคลอดบตุ ร 3. ลาไปชว่ ยเหลือภรรยาไปคลอดบตุ ร 1. ลาป่ วยสง่ ใบลาก่อนหรือใบวนั ลา ลา 4. ลากิจสว่ นตวั มอี านาจครึ่งหนง่ึ ไมเ่ กิน 60 วนั ผอ.สรรห 5. ลาพกั ร้อน 2. ลาก่อนหรือลาในวนั คลอด รวมแล้วไม 6. ลาบวชหรือลาประกอบพิธีบวช 3. ลาไปช่วยเลยี ้ งลกู ลาได้ไมเ่ กนิ 15 วนั 7. ลาตรวจเลือดหรือเตรียมผล ภรรยาท่ชี อบด้วยกฎหมาย 8. ลาศกึ ษาตอ่ อบรม วจิ ยั ดงู าน 4. ลากิจต้องสง่ ใบลากอ่ นได้รับอนญุ าตแ 9. ลาไปปฏิบตั งิ านในองค์การตา่ งประเทศ เกิน 30 วนั ผอ.สรรหาไมเ่ กิน 45 วนั 10. ลาตดิ ตามคสู่ มรส 5. ลาพกั ผอ่ น ข้าราชการครูลาไมไ่ ด้ 11. ลาไปฟื น้ ฟสู มรรถภาพด้านอาชีพ 6. ลาบวชหรือประกอบพิธีบวช ต้องสง่ ใบ รายงานตวั ภายใน 5 วนั 7. ลาตรวจเลอื ดหรือเตรียมพล ไปตรวจเ ชว่ั โมง เตรียมพลรายงานภายใน 48 ชว่ั โ 8. ลาศกึ ษาตอ่ - ลาในประเทศ ผอ.รร - ลาตา่ งประเทศ เลขา กพฐ. 9. ลาไปปฏิบตั งิ านในองค์การตา่ งประเท เมื่อกลบั มารายงานตวั เข้าทางานภายใน 10. ลาตดิ ตามคสู่ มรส ลาได้ 2 ปี ตอ่ ได้อ 11. ลาไปฟืน้ ฟสู มรรถภาพด้านอาชีพ มสี เดือน ได้รับอนญุ าตจึงจะหยดุ ราชการได
70 ข้อมลู กิจกรรมการเล่ือนขนั้ เงินเดือน ารของ ผอ.รร ครึ่งปี แรก 1 ตลุ าคม ถงึ วนั ที่ 31 มีนาคม ครึ่งปี หลงั 1 เมษายน ถงึ วนั ท่ี 30 กนั ยายน รณาอนญุ าต/ไมอ่ นญุ าต ผ้ปู ระสงคล์ าย่ืนใบลา 30 วนั ขนึ ้ ไปต้องมใี บรับรองแพทย์ ผอ. หา ไมเ่ กิน 120 วนั ผอ.รร พิจารณาอนญุ าต มเ่ กิน 90 วนั น ทาการลาภายในชว่ ง 90 วนั ต้องเป็ น บนั ทกึ ข้อมลู บคุ คลสรุปแบบรายงานการ ลาป่ วย แล้วจงึ หยดุ ผอ.รร มอี านาจครัง้ หนง่ึ ไม่ - ลาเกิน 6 ครัง้ สาหรับข้าราชการครู มาทางานสายเนืองๆ บลาก่อนไมน่ ้อยกวา่ 60 วนั สกึ แล้ว - มาสายเกิน 8 ครัง้ ข้าราชการ เลอื กรายงานก่อนไมน่ ้อยกวา่ 48 ผอ.รร. แจ้งเตือนผ้ลู า โมง เป็นระยะๆไมใ่ ห้เกิน กาหนดรักกนั เตือนกนั ทศ รมต.มีอานาจอนญุ าตไมเ่ กิน 1 ปี น 15 วนั อกี 2 ปี เกิน 4 ปี ให้ลาออกจากราชการ สทิ ธิจะฟืน้ ฟสู ขุ ภาพ แตไ่ มเ่ กิน 12 ด้
71 6. การดาเนินงานวนิ ัยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา แนวคดิ การดาเนินงานวินยั ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาครอบคลมุ ตงั้ แตก่ ารสง่ เสริมวินยั และ ป้ องปรามมิให้กระทาผดิ ให้แกข่ ้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา ตลอดจนรับเร่ืองร้องเรียน สืบสวน ข้อเท็จจริง แตง่ ตงั้ คณะกรรมการสอบสวนทางวินยั ร้ายแรงและไม่ร้ายแรง การดาเนินการทางวินยั สิน้ สดุ รวมถงึ การสง่ั พกั ราชการและการสง่ั ให้ออกจากราชการไว้ก่อน แนวการปฏิบัติ การดาเนินการทางวนิ ัยไม่ร้ายแรงข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา 1. ผ้บู ริหารสถานศกึ ษาแตง่ ตงั้ คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เมื่อมีการร้องเรียนหรือปรากฏ เป็นขา่ วในส่ือมวลชน หรือได้รับการรายงานจากหนว่ ยงานอื่น หรือผ้บู งั คบั บญั ชาพบเห็นการกระทาผิด 2. ตรวจสานวนการสืบสวนข้อเทจ็ จริง ถ้าเป็นกรณีไมม่ ีมลู ก็เสนอผ้บู งั คบั บญั ชายตุ เิ ร่ือง แตถ่ ้าเป็น กรณีมีมลู เป็นความผิดวนิ ยั ไมร่ ้ายแรง แตง่ ตงั้ คณะกรรมการสอบสวนวินยั ไมร่ ้ายแรง 3. คณะกรรมการดาเนนิ การสอบสวนตากฎ ก.ค.ศ.วา่ ด้วยการสอบสวนพจิ ารณา พ.ศ.2550 และ เสนอรายงานการสอบสวน พร้อมสานวนการสอบสวน ให้ผ้สู ง่ั วินยั ตามระเบียบ ก.ค.ศ.วา่ ด้วยวธิ ีการออก คาสง่ั เกี่ยวกบั การลงโทษทางวนิ ยั ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ.2548 ประกอบกบั กฎ ก.ค.ศ. วา่ ด้วยอานาจการลงโทษภาคทณั ฑ์ ตดั เงินเดือนหรือลดขนั้ เงินเดือน พ.ศ.2549 4. รายงานการดาเนนิ การทางวนิ ยั ตามมาตรา 104(1) แห่งพระราชบญั ญตั ริ ะเบียบข้าราชการครู และบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ.2547 และท่ีแก้ไขเพ่ิมเตมิ ตอ่ ไป การดาเนินการทางวินัยอย่ างร้ ายแรงข้ าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 1. ผ้บู ริหารสถานศึกษาแต่งตงั้ คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เม่ือมีการร้องเรียน หรือปรากฎ เป็นขา่ วในสื่อมวลชนหรือได้รับรายงานจากหนว่ ยงานอ่ืน หรือผ้บู งั คบั บญั ชาพบเหน็ การกระทาความผิด
72 2. ตรวจสานวนการสืบสวนข้อเทจ็ จริง ถ้าเป็ นกรณีไมม่ ีมลู ก็เสนอผ้บู งั คบั บญั ชายตุ เิ ร่ือง แตถ่ ้าเป็ น กรณีมีมลู เป็นความผดิ วินยั ร้ายแรง ให้รายงานถึงสานกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาพิจารณาดาเนินการรายงาน ศกึ ษาธิการจงั หวดั เพ่ือให้ กศจ.พจิ ารณาแตง่ ตงั้ คณะกรรมการสอบสวนวินยั อยา่ งร้ายแรง 3. คณะกรรมการดาเนนิ การสอบสวนตามกฎ ก.ค.ศ.วา่ ด้วยการสอบสวนพิจารณา พ.ศ.2550 และ เสนอรายงานการสอบสวน พร้อมสานวนการสอบสวนให้ผ้สู ง่ั แตง่ ตงั้ คณะกรรมการสอบสวนพิจารณา ถ้า ไมผ่ ิดวนิ ยั ให้ยตุ เิ ร่ือง แตถ่ ้าผิดวินยั ก็ให้ดาเนินการตอ่ ไปตามระเบียบ การส่ังพกั ราชการ 1. เม่ือมีการแตง่ ตงั้ คณะกรรมการสอบสวนวินยั อย่างร้ายแรงข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการ ศกึ ษาหรือมีกรณีถกู ฟ้ องคดีอาญา หรือต้องหาวา่ กระทาผิดอาญา และมีเหตตุ ามกฎ ก.ค.ฉบบั ท่ี 22 (พ.ศ. 2542) วา่ ด้วยการสงั่ พกั ราชการ การสงั่ ให้ออกจากราชการไว้กอ่ น และการดาเนินการเพ่ือให้เป็ นไปตามผล การสอบสวนพจิ ารณา และกฎ ก.พ.ฉบบั ท่ี 11(พ.ศ.2539) ว่าด้วยการสง่ั พกั ราชการและการสง่ั ให้ออกจาก ราชการไว้ก่อน เชน่ ถ้าให้คงอย่ใู นหน้าท่ีราชการสอบสวนพิจารณาหรือจะก่อให้เกิดความไมส่ งบเรียบร้อย ขนึ ้ ฯลฯ แล้ว 2. ผ้มู ีอานาจตามาตรา 53 ออกคาสงั่ พกั ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาเพ่ือรอฟังผลการ สอบสวนพจิ ารณา การส่ังให้ออกจากราชการไว้ก่อน 1. เม่ือมีการแตง่ ตงั้ คณะกรรมการสอบสวนวินยั อย่างร้ายแรงข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการ ศกึ ษาหรือมีกรณีถูกฟ้ องคดีอาญา หรือต้องหาว่ากระทาผิดอาญา ซึง่ เป็ นเหตทุ ่ีอาจถูกสงั่ พกั ราชการตาม ข้อ 3 และผ้มู ีอานาจตามมาตรา 53 พิจารณาแล้วเห็นวา่ การสอบสวนพิจารณาหรือการพิจารณาคดีท่ีเป็ น เหตทุ ี่อาจถกู สง่ั พกั ราชนนั้ จะไมแ่ ล้วเสร็จโดยเร็ว 2. ผู้มีอานาจตามมาตรา 53 ออกคาส่ังให้ข้ าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาออกจาก ราชการไว้ก่อนเพ่ือรอฟังผลการสอบสวนพิจารณา
73 แผนผังการปฏบิ ัตงิ าน เร่ิมต้น การสง่ เสริมวินยั ข้าราชการครูและ มกี รณีกลา่ วหา โดยการร้องเรียน เป็ นเป็ นขา่ วทางส่ือมวลชน บคุ ลากรทางการศกึ ษา ผ้บู งั คบั บญั ชาพบเห็น หรือได้รับรายงานจากหนว่ ยงานอื่น แตง่ ตงั้ คระกรรมการสืบสวนข้อเท็จจิรง รางาน สพท. ร้ ายแรง มีมลู ไมร่ ้ายแรง ไมม่ ีมลู ศธจ. แตง่ ตงั้ คณะกรรมการสอบสวนวินยั ไมร่ ้ายแรง ยตุ ิเร่ือง กศจ.พจิ ารณา แตง่ ตงั้ คณะกรรมการสอบสวนวนิ ยั ร้ายแรง ผ้บู งั คบั บญั ชาสง่ั ลงโทษ พกั ราชการ ให้ออกจากราชการไว้กอ่ น รายงาน สพท. ศธจ. ผ้มู ีอานาจตามมาตรา 53 พิจารณาสานวน กศจ.พิจารณา สพฐ.พจิ ารณา ผิดวินยั ไมผ่ ิดวนิ ยั ยตุ ิเร่ือง เห็นพ้องในระดบั เหน็ แย้งกนั ใน เหน็ พ้องกนั ใน กรณีเหน็ แย้งกบั มติ กศจ. กรณีเห็นด้วยกบั มติ กศจ. โทษไมร่ ้ายแรง ระดบั โทษ ระดบั โทษ ก.ค.ศ.พจิ ารณา (วนิ ยั สนิ ้ สดุ ) ร้ ายแรง ผ้มู อี านาจ กศจ. วินยั สนิ ้ สดุ สงั่ ลงโทษ พิจารณา ผ้มู อี านาจสงั่ หรือปฏิบตั ติ ามมติ รายงานตามมาตรา 104(2) ก.ค.ศ.พิจารณา วินยั สนิ ้ สดุ
74 เอกสารท่เี ก่ียวข้อง 1 พระราชบญั ญตั ริ ะเบียบข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ.2547 และท่ีแก้ไขเพมิ่ เตมิ 2 กฎ ก.ค.ศ. วา่ ด้วยการสอบสวนพิจารณา พ.ศ.2550 3 กฎ ก.ค.ศ. วา่ ด้วยกรณีความผิดท่ีปรากฏชดั แจ้ง พ.ศ.2549 4. กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยอานาจการลงโทษภาคทณั ฑ์ ตดั เงินเดอื น หรือลดขนั้ เงินเดือน พ.ศ.2549 5. ระเบียบ ก.ค.ศ. วา่ ด้วยวิธีการออกคาสงั่ เกี่ยวกบั การลงโทษทางวนิ ยั ข้าราชการครู และบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ.2548 6. ระเบียบ ก.ค.ศ. วา่ ด้วยวนั ออกจากราชการของข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ.2548 7. ระเบยี บ ก.ค.ศ. วา่ ด้วยการรายงานการดาเนินการทางวนิ ยั และการออกจากราชการ ของข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. 2551 8. กฎ ก.ค.ฉบบั ท่ี 22 (พ.ศ.2542) วา่ ด้วยการสงั่ พกั ราชการ การสง่ั ให้ออกจากราชการ ไว้ก่อนและการดาเนนิ การเพ่ือให้ไปไปตามผลการสอบสวนพิจารณา 9. กฎหมาย กฎ ระเบียบ และหนงั สือเวียนอ่ืนท่ีเก่ียวข้อง
75 7. การจัดทาบัญชีรายช่ือและให้ความเหน็ เก่ียวกับการเสนอขอพระราชทาน เคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ แนวคดิ งานการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ผ้รู ับผิดชอบ ต้องศกึ ษาระเบียบ แนวปฏิบตั ิ การขอพระราชทานเคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ จัดให้มีการทาทะเบียนคุม และชีแ้ จงแก่ข้าราชการ ครูที่มี คณุ สมบตั ิ เสนอขอรับพระราชทานเคร่ืองราชอสิ ริยาภรณ์ ท่ีมีสิทธิ์ได้รับตามระเบียบ แนวทางการปฏบิ ัติ 1. ชนั้ ต.ม. เป็นข้าราชการระดบั ปฏิบตั กิ าร หรือเป็นข้าราชการครูผ้ชู ว่ ย หรือครูอนั ดบั คศ.1 และมีเวลารับราชการตดิ ตอ่ กนั ไมน่ ้อยกวา่ 5 ปี บริบรู ณ์ นบั ตงั้ แตว่ ันท่ีบรรจหุ รือเล่ือนขนั้ จนถงึ กอ่ นวนั เฉลิมพระชนมพรรษาของปี ท่ีขอพระราชทาน 60 วนั 2. ชนั้ ต.ช. เป็นข้าราชการอนั ดบั คศ.2 รับเงินเดอื นไมต่ ่ากวา่ ขนั้ ตา่ ของระดบั ชานาญการ (15,050 บาท) แตเ่ งินเดอื นไมถ่ ึงขนั้ ต่าของระดบั ชานาญการพเิ ศษ (22,140 บาท) 3. ชนั้ ท.ม. เป็นข้าราชการระดบั ชานาญการ หรือเป็นข้าราชการครูอนั ดบั คศ.2 และรับเงินเดอื นไมต่ ่ากวา่ ขนั้ ตา่ ของระดบั ชานาญการพเิ ศษ (22,140) 4. ชนั้ ท.ช. เป็นข้าราชการระดบั ชานาญการ หรือเป็นข้าราชการอนั ดบั คศ.2 และรับเงินเดอื น ไมต่ า่ กวา่ ขนั้ ตา่ ของระดบั ชานาญการพิเศษ (22,140) มาแล้ว 5 ปี บริบรู ณ์ หรือเป็นข้าราชการ ระดบั ชานาญการพิเศษ หรือข้าราชการอนั ดบั คศ.3 5. ชนั้ สายสะพาย ประถมาภรณ์มงกฎุ ไทย (ป.ม.) (ตาแหนง่ ผ้อู านวยการสถานศกึ ษาเท่านนั้ ) ข้าราชการระดบั 8 (อนั ดบั คศ.3) 5.1 ต้องได้รับเงินเดอื นเตม็ ขนั้ ของระดบั 8 (อนั ดบั คศ.3) ขนั้ 58,390 บาท 5.2 ได้รับเคร่ืองราชย์ฯ ชนั้ ท.ช. มาแล้วไมน่ ้อยกวา่ 5 ปี บริบรู ณ์ 5.3 ถ้ามีคณุ สมบตั ติ ามข้อ 1-2 ให้เสนอขอก่อนวนั ท่ี 1 ตลุ าคม ของปี ท่ีจะเกษียณ
76 แผนผังการปฏิบัตงิ าน สพท. แจ้งสถานศกึ ษาให้สารวจ และ รวบรวมคาขอเคร่ืองราชฯตามระเบียบ สถานศกึ ษา 1. ผอ.รร. แจ้งครูทราบ 2. ครูเขยี นคาขอเครื่องราชฯ 3. ผอ.ตรวจสอบคณุ สมบตั ิผ้ขู อ/ผอ.ลงนาม 4. รวบรวมเอกสารคาขอสง่ สพท. สพท. รวบรวมดาเนนิ การตรวจสอบและนาสง่ สพฐ สานกั นายกฯ พิจารณา อนมุ ัติ สพฐ.และ สพท.บนั ทกึ ลงทะเบยี นประวตั ิ สถานศกึ ษา 1. ผอ. แจ้งครูทราบ 2. ผอ. มอบหมายผ้รู ับผิดชอบ จดั ทาทะเบยี นคมุ เอกสารท่เี ก่ียวข้อง แนวปฏิบตั ใิ นการขอพระราชทานเครื่องราชอสิ ริยาภรณ์ และเหรียญจกั รพรรดมิ าลา ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา
77 8. การส่งเสริมการประเมินวิทยฐานะข้าราชการครู แนวคดิ ก.ค.ศ. กาหนดหลกั เกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา ตาแหน่งครู มี วทิ ยฐานะและเล่ือนวิทยฐานะ ตามหนงั สือสานกั งาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.3/ว21 ลงวนั ที่ 5 กรกฎาคม 2560 โดยมีเจตนารมณ์เพื่อสง่ เสริมสนบั สนนุ ให้ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา ผ้ดู ารงตาแหน่งครู ได้มี การสง่ั สมความชานาญและมีความเช่ียวชาญในการจดั การเรียนการสอน มีการพฒั นาตนเองอย่างตอ่ เน่ือง และสง่ เสริมให้ครูประพฤตปิ ฏิบตั ติ นเป็นแบบอยา่ งที่ดี มีวินยั คณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ แนวทางปฏิบัติ 1. ข้าราชการครูที่มีคณุ สมบตั คิ รบถ้วนตามหลกั เกณฑ์ย่ืนคาขอพร้อมเอกสารหลกั ฐานตอ่ ผ้อู านวยการ สถานศกึ ษา 2. ผ้อู านวยการสถานศกึ ษาตงั้ คณะกรรมการตรวจสอบคณุ สมบตั แิ ละกลนั่ กรองข้อมลู 3. ผ้อู านวยการสถานศกึ ษาตรวจสอบและรับรองข้อมลู ประเมินผลการปฏิบตั งิ าน และจดั ทาเอกสารที่เกี่ยวข้อง 4. สานกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาตรวจสอบคณุ สมบตั แิ ละเอกสารหลกั ฐาน 5. สานกั งานศกึ ษาธิการจงั หวดั ตรวจสอบคณุ สมบตั เิ อกสาร 6. คณะกรรมการศกึ ษาธิการจงั หวดั พจิ ารณาดาเนินการ
78 แผนผังการปฏบิ ัตงิ าน ขัน้ ตอนการขอมีวทิ ยฐานะและเล่ือนวิทยฐานะสายงานการสอน บันทึก ้ขอมูลลงใน Logbook ข้าราชการครู แตล่ ะปี ครูประเมิน เสนอ ผ้อู านวยการสถานศกึ ษาตงั้ เสนอความเห็น ผอ.ประเมินรายปี การศกึ ษาและประเมนิ ปฏิบตั ิงาน 5 ปี ตนเองและรายงานทงั้ 3 คณะกรรมการกลนั่ กรองผลการ ภาพรวม 5 ปี การศกึ ษา ด้าน ปี การศกึ ษาท่ี 1-5 1 ด้านการจดั การเรียน ปฏิบตั ิงาน การสอน รวบรวมข้อมลู 2 ด้านการบริหารจดั การ ผ้อู านวยการสถานศกึ ษา สานกั งานเขตพนื ้ ท่ีการศกึ ษา Logbook และ ชนั้ เรียน -ตรวจสอบและรับรองข้อมลู ตรวจสอบคณุ สมบตั ิและเอกสาร 3 ด้านการพฒั นาตนเอง - ผลการประเมนิ ภาพรวม 5 ปี การศึกษา เอกสารอื่น และวิชาชีพ วฐ2 หลกั ฐาน ครบ 5 ปี ครูจดั ทาคาขอพร้อมเอกสาร ยืน่ คาขอ เสนอ สพท. หลกั ฐานและผลงานทางวิชาการ (ชช,ชชพ) คณะกรรมการศึกษาธิการจงั หวดั พิจารณา สานกั งานศึกษาธิการจงั หวดั ตรวจสอบคณุ สมบตั ิ วิทยฐานะครูชานาญการ วทิ ยฐานะครูเชี่ยวชาญ วทิ ยฐานะครูชานาญการพิเศษ วทิ ยฐานะครูเช่ียวชาญพิเศษ อนมุ ตั ิ ไมอ่ นมุ ตั ิ เสนอ ก.ค.ศ. พจิ ารณาพร้อมผลงานทาง มคี ณุ สมบตั ิ วทิ ย วทิ ย วชิ าการและเอกสารท่ีเก่ียวข้อง สง่ ผลงานทางวิชาการที่ ปรับปรุงแล้ว แจ้งสานกั งานเขตพนื ้ ท่ีการศึกษา สานกั งาน ก.ค.ศ. ดาเนินการประเมิน กรณีไมอ่ นมุ ตั ิให้แจ้งข้อสงั เกตด้วย มติ ก.ค.ศ. ปรับปรุง แจ้งผ้ขู อรับการประเมิน วทิ ยฐานะ วิทยฐานะ มติ ก.ค.ศ. ไมอ่ นมุ ตั ิ แจ้ง ศธจ. และผ้ขู อรับการประเมิน วิทยฐานะ วทิ ยฐานะ ปรับปรุงผลงานทางวิชาการ แจ้ง ศธจ. แจ้งผ้ขู อรับการประเมนิ
77
78
79
80
81
82
83 เครือขา่ ยผ้ปู กครองกบั การเข้ามามี บทบาทในฐานะ การสร้างความร่วมมือ แนวร่วม และหรือการมี ส่วน ร่วมในการพัฒนาการศึกษาตาม พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 การมีส่วนร่วมของบุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครองท้องถิ่น องค์กรชุมชน องค์กรเอกชน องค์กร วิชาชีพ สถาบนั ศาสนา สถานประกอบการ และสถาบนั สงั คมอื่น เพ่ือท่ีจะให้เกิด กลไก ความร่วมมือใน การดแู ลช่วยเหลือนกั เรียนร่วมกนั ระหวา่ ง ผ้ปู กครองกบั สถานศกึ ษา แนวทางการปฏิบตั ิ แผนผังการปฏบิ ตั งิ าน 1. แตง่ ตงั้ คณะกรรมการทร่ี ับผดิ ชอบ 1. แตง่ ตงั้ 2. ประกาศ คดั เลอื ก 2. ประกาศ คดั เลอื ก สรรหา เลือกตงั้ คณะกรรมการ /สรรหา เลอื กตงั้ รับผิดชอบงาน คณะกรรมการ คณะกรรมการเครือขา่ ยผ้ปู กครอง เครือข่ายผ้ปู กครอง เครือขา่ ยผ้ปู กครอง 3. ออกคาสงั่ แตง่ ตงั้ คณะกรรมการ 3. ออกคาสง่ั แตง่ ตงั้ เครือขา่ ยผ้ปู กครอง คณะกรรมการ 4. จดั ประชมุ คณะกรรมการ เครือขา่ ยผ้ปู กครอง 5. จดั ทาแผนภมู เิ ครือขา่ ยผ้ปู กครอง เครือขา่ ยผ้ปู กครอง 6. กากบั ตดิ ตาม ประเมินผลการปฏิบตั งิ าน 7. สรุปผล รายงานผล 4. จดั ประชมุ คณะกรรมการ ฯ อยา่ ง น้อยปี ละ 2 ครัง้ 5. คณะกรรมการเครือข่ายผ้ปู กครอง จดั ทาแผนปฏบิ ตั งิ านประจาปี 6. สรุปผล รายงานผลเครือข่ายผ้ปู กครอง
84 การบริหารและการพฒั นาองคก์ ร เป็ นศลิ ปะในการดาเนินงาน ให้เป็ นผลสาเร็จ ผ้บู ริหารไมใ่ ช่เป็ นผู้ ลงมือปฏิบตั ิ แตจ่ ะเป็ นผ้ใู ช้ศิลปะในการทา ให้ผ้ปู ฏิบตั ิทางานสาเร็จตามจุดมงุ่ หมาย ตามที่ผ้บู ริหารตงั้ ใจ ผ้บู ริหารต้องเผชิญกบั สถานการณ์ที่ไมค่ าดคิด และวิกฤตทางด้านต่าง ๆ ท่ีเกิดขนึ ้ ลกั ษณะงานบริหาร จึง ไม่แน่นอน เสี่ยงกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลง ผู้บริหารก็ควรแสวงหาโอกาสและสร้ างความ ได้เปรียบให้เกิดกบั องค์กร โดยการม่งุ เน้นพฒั นาองค์กรในรูปแบบต่าง ๆ อยา่ งมีระบบ โดยไมค่ านงึ ถึงตวั บคุ คล แตใ่ ห้พจิ ารณาท่ผี ลงานเป็ นหลกั แนวทางการปฏิบตั ิ 1. แตง่ ตงั้ คณะทางาน 2. ศกึ ษาวิเคราะห์ จดั ทาแผนกลยทุ ธ์และแผนพฒั นาสถานศกึ ษา 3. กาหนดตวั ชีว้ ดั ความสาเร็จของการบริหารจดั การ 4. จดั ระบบบริหารและพฒั นาสถานศกึ ษาให้เป็ นองค์ทท่ี นั สมยั และมีประสิทธิภาพ 5. ประเมินผลงานและรายงานผลการพฒั นา 6. ปรับปรุงและพฒั นาระบบบริหารสถานศกึ ษาอยา่ งตอ่ เนือ่ ง การจดั ระบบบริหารและพฒั นาองค์กร แตง่ ตงั้ คณะทางาน ศกึ ษาวิเคราะห์ จดั ทาแผนกลยทุ ธ์ / แผนพฒั นาสถานศกึ ษา กาหนดตวั ชวี ้ ดั ความสาเร็จ จดั ระบบบริหารและพฒั นาสถานศกึ ษา ประเมินผลงานและรายงาน ปรับปรุงและพฒั นาระบบบริหารสถานศกึ ษาอยา่ งตอ่ เนื่อง
85 มาตรฐานการปฏิบตั งิ าน เป็นเคร่ืองมอื เสริมสร้างความพร้อม หรือตรวจสอบตนเอง ให้มกี ิจกรรม การปฏิบตั ิงานทเี่ หมาะสม เพียงพอครอบคลมุ จนมน่ั ใจวา่ สง่ ผลตอ่ การประเมินคณุ ภาพการศกึ ษา ของ สถานศกึ ษา เป็ นคมู่ อื หรือแนวทางในการปฏบิ ตั งิ านของบคุ ลากรในสถานศกึ ษา แนวทางการปฏิบตั ิ 1. แตง่ ตงั้ คณะทางาน 2. ศกึ ษาวิสยั ทศั น์ พนั ธกิจ และโครงสร้างการบริหารสถานศกึ ษา 3. ประชมุ วางแผนและจดั ทามาตรฐานการปฏิบตั งิ านให้ครอบคลมุ ฝ่ ายบริหารทว่ั ไป 4. จดั พิมพ์คมู่ อื การปฏบิ ตั งิ าน 5. ขออนมุ ตั ิ 6.ประชมุ ชีแ้ จงและประกาศใช้ 6. ตดิ ตามและประเมินผล 7. ปรับปรุง พฒั นา 8. สรุปผล ปัญหาอปุ สรรค การพฒั นามาตรฐานการปฏบิ ตั งิ าน แตง่ ตงั้ คณะทางาน ศกึ ษา วิสยั ทศั น์ พนั ธกิจ โครงสร้างการบริหารสถานศกึ ษา ประชมุ วางแผน จดั ทามาตรฐาน / แนวปฏบิ ตั ิ / พรรณางาน จดั พิมพ์ ขออนมุ ตั ิ ประชมุ ชแี ้ จงและประกาศใช้ ติดตามประเมินผล ปรับปรุง พฒั นา
86 การบริหารสถานศกึ ษาจาเป็ นต้องใช้นวตั กรรมและเทคโนโลยมี าใช้ในการบริหารและพฒั นาการศึกษา โดยจดั หาเทคโนโลยีเพ่ือพฒั นาการศึกษาในงานต่างๆสาหรับสมดลุ และพฒั นาให้บุคลากรสามารถนา หรือพฒั นานวตั กรรมและเทคโนโลยเี พอ่ื การศกึ ษามาใช้จดั การศกึ ษา แนวทางปฏบิ ตั ิ แผนผังการปฏิบตั งิ าน 1. แตง่ ตงั้ ผ้รู บั ผิดชอบ แตง่ ตงั้ ผ้รู ับผดิ ชอบ 2. สารวจข้อมลู เทคโนโลยเี พอ่ื การศกึ ษา 3. วางแผนกาหนดนโยบายหรือแนวทางการนา สารวจข้อมลู เทคโนโลยี เพื่อการศกึ ษา นวตั กรรมและเทคโนโลยีเพอ่ื การศกึ ษามาใช้ใน การบริหารและการพฒั นาการศกึ ษา วางแผน กาหนดและแนวทางการนา 4. ระดมจดั หาเทคโนโลยีเพอ่ื การศกึ ษา นวตั กรรม/เทคโนโลยี ในงานด้านตา่ งๆ 5. สนบั สนนุ ให้บคุ ลากรนานวตั กรรมและ จดั หานวตั กรรม พฒั นาบคุ ลากร เทคโนโลยีเพื่อการศกึ ษามาใช้ในการบริหาร เทคโนโลยี ให้มีความรู้ทกั ษะ และพฒั นาการศกึ ษา 6. สง่ เสริมให้มีการพฒั นา บคุ ลากรให้มคี วามรู้ ให้บริการนวตั กรรมเทคโนโลยี ความสามารถและทกั ษะในการผลิตและการใช้ ติดตามประเมินผล เทคโนโลยี 7. สง่ เสริมให้มกี ารวิจยั และพฒั นาการศกึ ษาการ พฒั นาเทคโนโลยี 8. ตดิ ตามประเมนิ ผลการใช้เทคโนโลยีเพ่ือ การศกึ ษา พฒั นาบคุ ลากร ให้มีความรู้ทกั ษะ
87 การดาเนินงาน ดูแลอาคารสถานที่ และสภาพแวดล้อมของสถานศึกษา เป็ นงานท่ีมี ความสาคญั สง่ ผลตอ่ การปฏิบตั ิงาน และการจดั การเรียนการสอน ให้เป็ นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทงั้ การวางแผนมาตรการ การดูแลรักษาความสะอาด ความปลอดภัย ด้านสาธารณูปโภคตลอดจนการ บารุงรักษา เพื่อเอือ้ อานวยความสะดวก และปลอดภยั ให้เกิดขนึ ้ ในสถานศกึ ษา แนวทางการปฏิบตั ิ 1. ศกึ ษาระเบียบมาตรการ หลกั เกณฑ์ แนวปฏิบตั กิ ารขออนญุ าตใช้อาคารสถานที่ของสว่ นราชการ 2. จดั ทาข้อบงั คบั /ระเบยี บการขอใช้สถานที่/แบบฟอร์มตา่ งๆทีเ่ ก่ียวข้อง 3. จดั ทาคาสงั่ มอบหมายผ้รู ับผิดชอบดแู ล ทาความสะอาด 4. ดาเนินการ/ปรับปรุงภมู ิทศั น์ สภาพแวดล้อมตา่ งๆให้ครอบคลมุ 5. ประเมินความพงึ พอใจของผ้รู ับบริการ 6. สรุปผลการดาเนนิ งาน นาเสนอแนวทางแก้ไขและพฒั นางานการบริการอาคารสถานท่ี ศกึ ษาระเบียบ มาตรการ หลักเกณฑ์ แนวปฏบิ ัติ คณะทางานจัดทาระเบยี บ แบบฟอรม์ การขอใช้อาคารสถานที่ และวางแผนกจิ กรรม 5 ส. แตง่ ต้ังคณะทางาน/มอบหมายผูร้ บั ผดิ ชอบ/สื่อสาร ไมเ่ หน็ ชอบ ผอ.ลงนาม อนุมัติ แผน/คาสั่ง/เมหอ็นบชหอมบายงาน ดาเนนิ การตามแเหผนน็ ชอบ ประเมินความพงึ พอใจ สรุปรายงาน/นาเสนอแนวทางแก้ไข/พฒั นางาน เอกสารท่เี ก่ยี วข้อง คมู่ อื การปฏิบตั งิ านสานกั งานเขตพนื ้ ทก่ี ารศกึ ษา กลมุ่ งานบริหารทวั่ ไป และกลมุ่ อานวยการ
88 การบริการด้านยานพาหนะ เป็ นภารกิจ ท่ีจาเป็ นแก่หนว่ ยงานในการใช้ยานพาหนะส่วนกลาง ของหน่วยงาน หรือสถานศึกษานัน้ ต้องมีหลักเกณฑ์ระเบียบ และมาตรการในการใช้ยานพาหนะ สว่ นกลาง เพื่อการบริหารสาหรับบคุ ลากรในหนว่ ยงาน หรือสถานศกึ ษาท่ีแจ้งความประสงค์ใช้ยานพาหนะ รวมทงั้ ต้องมีการควบคมุ ตรวจสอบ ซ่อม บารุงรักษา และสรุปรายงานการบริการด้านยานพาหนะ เป็ น ภารกิจที่จาเป็ นแก่หน่วยงานในการใช้ยานพาหนะสว่ นกลางของหน่วยงานหรือสถานศกึ ษานนั้ นนั้ ที่ต้องมี หลักเกณฑ์ ระเบียบและมาตรการในการใช้ ยานพาหนะส่วนกลาง เพื่อการบริ หารสาหรับบุคลากรใน หน่วยงานหรือสถานศึกษาท่ีแจ้งความประสงค์ใช้ยานพาหนะรวมทงั้ ต้องมีการควบคุมตรวจสอบซ่อม บารุงรักษาและสรุปรายงาน แนวทางการปฏิบตั ิ 1. ศกึ ษาสภาพปัจจบุ นั ปัญหาในการใช้ยานพาหนะสว่ นกลางของสถานศกึ ษา 2. จาแนกพาหนะสว่ นกลาง โดยจดั เป็ นหมวดหมเู่ พ่ือความสะดวกในการควบคมุ การบารุงรักษา การให้บริการ รวมทงั้ การจดั ทาเอกสารคมู่ ือประจารถและขออนญุ าตชาระภาษีรถยนต์ 3. กาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการในการขอใช้ ยานพาหนะส่วนกลาง รวมทัง้ การขอใช้ นา้ มัน สว่ นกลาง หรือกรณีท่ตี ้องใช้นา้ มนั จากแผนงาน/โครงการทเ่ี กี่ยวข้อง 4. กาหนดผ้รู ับผิดชอบเป็ นการเฉพาะในเรื่องของการขอใช้ การดแู ลบารุงรักษา การตรวจสภาพ การสง่ ซอ่ ม พร้อมทงั้ รายงานผ้บู งั คบั บญั ชาทราบตามลาดบั 5. กาหนดสถานที่เก็บรักษายานพาหนะส่วนกลาง ให้อยู่ในที่ปลอดภัย และสอดคล้องกับ ระเบียบ กรณีขออนญุ าตนาพาหนะส่วนกลางเก็บรักษานอกหน่วยงาน ต้องดาเนินการตาม ระเบยี บและกฎหมายท่เี ก่ียวข้อง แบบฟอร์มท่ใี ช้ - แบบขออนญุ าตใช้รถยนต์สว่ นกลาง - แบบสง่ั จา่ ยนา้ มนั เชือ้ เพลิง - บนั ทกึ การใช้รถยนต์ของพนกั งานขบั รถ เอกสารอ้างอิง 1. ระเบยี บสานกั นายกรัฐมนตรีวา่ รถราชการ พ.ศ. 2523 และทแ่ี ก้ไขเพิ่มเตมิ 2. ระเบยี บสานกั นายกรัฐมนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ พ.ศ. 2523 และทแี่ ก้ไขเพ่มิ เติม
89 ศกึ ษาสภาพปัจจบุ นั ปัญหาในการใช้ยานพาหนะ สว่ นกลาง ของสถานศกึ ษา ผ้รู ับผดิ ชอบ/เจ้าหน้าท่ี - จาแนกพาหนะสว่ นกลางโดยจดั เป็ นหมวดหมู่ - กาหนดหลกั เกณฑ์วธิ ีการในการขอใช้ยานพาหนะ สว่ นกลางรวมทงั้ การขอใช้นา้ มนั ผอ.สถานศกึ ษา ไมอ่ นมุ ตั ิ อนมุ ตั ิสงั่ จา่ ยนา้ มนั เชือ้ เพลิง อนมุ ตั ิ กาหนดสถานทีเ่ ก็บรักษาพาหนะ สว่ นกลางให้อยใู่ นทปี่ ลอดภยั และ สอดคล้อง กบั ระเบยี บ นาผลการดแู ล บารุงรักษา การตรวจ สภาพประเมนิ ผลประสทิ ธิภาพ ยานพาหนะสว่ นกลางเพอื่ นาไปสกู่ าร ปรับปรุงตอ่ ไป
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136