เขียนแสดงการหาผลหารและเศษโดยการหารยาวได้ดังนี้ จากนน้ั ครยู กตวั อย่างการหาผลหารและเศษของจำนวน 3 หลกั กบั จำนวน 1 หลกั โดยการหารยาวตามหนงั สือ เรียนหน้า 19 เชน่ 412 ÷ 4 ดังน้ี ขั้นที่ 1 หารในหลักร้อย แบง่ 4 รอ้ ย ออกเป็นกลุม่ ละร้อย 4 กลมุ่ ได้กลมุ่ ละ 1 ร้อย เขยี น 1 เป็น ผลหารในหลกั ร้อย และ 4 คูณกับ 1 ร้อย ได้ 4 ร้อย เขียน 4 ร้อยเป็นผลคูณ ดงั นี้ ขั้นที่ 2 หารในหลกั สบิ แบง่ 1 สบิ ออกเปน็ กล่มุ ละสิบ 4 กลมุ่ ไม่ไดด้ ังนั้น 1 สิบ หารด้วย 4 จึงได้ 0 สบิ แลว้ เขยี น 0 เปน็ ผลหารในหลกั สิบ และ 4 คูณกบั 0 สบิ ได0้ สิบ เขียน 0 สิบ เป็นผลคูณ ดงั นี้ ขนั้ ที่ 3 หารในหลกั หนว่ ย หลักหนว่ ยเดมิ มีอยู่ 2 หนว่ ย รวมกบั 1 สิบ จงึ เป็น 12 หน่วย แบ่ง 12 หนว่ ย เปน็ กลุ่มละหนว่ ย 4 กลุม่ ได้กลุ่มละ 3 หน่วยหมดพอดี เขยี น 3 เปน็ ผลหารในหลักหน่วยและ 4 คูณกับ 3 หน่วย ได้12 หนว่ ย เขยี น 12 หนว่ ย เป็นผลคณู เนือ่ งจากแบง่ แลว้ หมดพอดี จงึ เขียน 0 เปน็ เศษ ดงั นี้
ครใู หน้ ักเรยี นช่วยกันตรวจคำ ตอบ จะได4้ × 103 = 412 ดังนน้ั 103 เปน็ คำ ตอบท่ีถูกต้องครู อธิบายเพม่ิ เตมิ วา่ ในตวั อย่างนข้ี ้ันท่ี 2 หารในหลักสิบ ซ่งึ ผลหารไดค้ ือ 0 เมือ่ นำ 4 คณู 0 แลว้ ได้0 จึงอาจละ การเขยี น 0 ทเี่ ปน็ ผลคูณนใ้ี นการหาผลหารกไ็ ด้ดงั นน้ั ในการหาผลหาร 412 ÷ 4 โดยการหารยาวอาจเขียน แสดงวิธหี าผลหารไดด้ ังนี้ จากนน้ั ครูยกตัวอย่างเพม่ิ เติมอกี 2 – 3 ตวั อยา่ ง 2.ครยู กตวั อยา่ งการหาผลหารของจำนวน 3 หลัก กบั จำนวน 1 หลักโดยการหารยาวตามหนังสือเรยี น หนา้ 20 เชน่ 700 ÷ 5 ใหน้ ักเรียนสงั เกตว่าหลักสบิ และหลักหนว่ ยของตวั ตั้งเป็น 0 โดยครูแสดงการหารยาว ตามขนั้ ตอน ดังน้ี ขนั้ ที่ 1 หารในหลักร้อย แบง่ 7 ร้อย ออกเป็นกลุ่มละร้อย 5 กลุ่ม ไดก้ ลุม่ ละ 1 รอ้ ย เขยี น 1 เป็น ผลหารในหลักร้อย เหลอื ท่ียงั ไมไ่ ด้แบง่ 2 ร้อย และ 5 คูณ 1 รอ้ ยได้5 ร้อย เขยี น 5 ร้อย เปน็ ผลคูณ ดังน้ี ข้ันท่ี 2 หารในหลักสบิ เนือ่ งจากแบ่ง 7 ร้อย เปน็ กลุ่มละรอ้ ย 5 กล่มุ ไดก้ ลุ่มละ 1 ร้อยแล้วเหลอื ท่ยี ัง ไม่ไดแ้ บ่ง 2 รอ้ ย หรือ 20 สิบ แบ่ง 20 สบิ เป็นกลุ่มละสบิ 5 กลมุ่ ได้กลมุ่ ละ 4 สบิ เขยี น 4 เปน็ ผลหารใน หลกั สิบ และ 5 คูณ 4 สบิ ได้20 สบิ เขียน 20 สิบ เป็นผลคูณ ดังน้ี
ขน้ั ที่ 3 หารในหลักหนว่ ย จะเห็นว่าตวั ตัง้ ในหลกั หนว่ ยเปน็ 0 ดังนัน้ 0 หน่วย แบ่งเปน็ กลุ่มละหนว่ ย 5 กลุ่ม ได้กล่มุ ละ 0 หนว่ ย เขียน 0 เป็นผลหารในหลกั หน่วย และ 5 คณู 0 หนว่ ยได้ 0 หนว่ ย เขียน 0 หน่วย เปน็ ผลคณู ดงั น้ี ครใู หน้ กั เรยี นตรวจคำ ตอบ จะได้5 × 140 = 700 ดงั นัน้ 140 เป็นคำ ตอบทถี่ ูกต้องครูอธบิ าย เพ่มิ เติมวา่ การหารในหลักใดทต่ี วั ต้งั เปน็ 0 อาจละการเขียน 0 ที่เป็นผลคณู ในการหาผลหารโดยการหารยาว ไดเ้ ชน่ ในตวั อยา่ งนส้ี ามารถละการเขยี น 0 ทเ่ี ป็นผลคูณ ดงั นี้ ซงึ่ การเขยี นแสดงวิธหี าผลหารโดยการหารยาวดังตวั อย่างในหนังสือเรยี นหน้า 20 จะเห็นว่าม2ี ตัวอยา่ งถ้านักเรียนเข้าใจแลว้ นกั เรยี นสามารถลดขั้นตอนการเขยี นแสดงวิธีการหาผลหารในกรณีท่ีมีผลหาร หลกั ใดเปน็ 0อาจไมเ่ ขียนแสดงวิธีหาก็ได้ 3. ครยู กตวั อย่างการหาผลหารของจำนวน 3 หลกั กับจำนวน 1 หลกั โดยการหารยาวตามหนงั สอื เรียน หน้า 21 เชน่ 625 ÷ 5 = ครใู ช้การถาม – ตอบ ประกอบ การอธบิ ายการหาผลหารดงั นี้ − ตวั ต้ังคือจำนวนใด (625) − ตวั หารคือจำนวนใด (5) จากน้นั ครใู ห้นักเรียนออกมาเขียนการหารยาวบนกระดาน − 625 คอื 6 ร้อย กับ 2 สิบ กับ 5 หนว่ ย แบ่ง6 ร้อย เปน็ กลมุ่ ละร้อย 5 กล่มุ ได้กลมุ่ ละกี่ รอ้ ย และเหลอื กี่รอ้ ย (ได้กลุม่ ละ 1 ร้อย เหลอื ทย่ี ังไม่ไดแ้ บ่งอกี 1 ร้อย) ครูให้นกั เรยี นออกมาเขยี น 1 เป็นผลหารในหลักรอ้ ย − ผลคณู ของ 5 กบั 1 ร้อย ได้ผลคณู เท่าไร (5 ร้อย) ครใู ห้นกั เรียนออกมาเขยี น 5 ร้อย เปน็ ผลคูณ
− แบ่ง 6 รอ้ ย เป็นกล่มุ ละร้อย 5 กลุ่ม ได้กลุ่มละ1 ร้อย เหลือท่ยี งั ไมไ่ ด้แบง่ 1 ร้อย หรือ 10 สิบ ตวั ตงั้ ในการหารข้ันต่อไปคือจำนวนใด (12 สิบ) ครูให้นักเรยี นออกมาเขยี น 12 สบิ เป็นตวั ตง้ั ในการหารขัน้ ตอ่ ไป − แบง่ 12 สิบ ใสก่ ลุม่ เดิมกลมุ่ ละสิบ 5 กลุ่มไดก้ ลุ่มละก่ีสบิ และเหลอื ก่ีสบิ (ได้กลุม่ ละ 2 สิบ เหลือที่ ยังไม่ได้แบ่งอีก 2 สิบ) ครูใหน้ ักเรยี นออกมาเขียน 2 เปน็ ผลหารในหลักสิบ − ผลคณู ของ 5 กบั 2 สบิ ได้ผลคณู เทา่ ไร (10 สิบ) ครใู ห้นกั เรียนออกมาเขียน 10 สบิ เปน็ ผลคณู − แบง่ 12 สบิ เปน็ กล่มุ ละสบิ 5 กลมุ่ ได้กลุ่มละ 2 สบิ เหลือทยี่ งั ไม่ได้แบ่ง 2 สบิ หรอื 20 หน่วย ตวั ตง้ั ในการหารข้ันตอ่ ไปคือจำนวนใด (25 หน่วย) ครใู ห้นักเรียนออกมาเขยี น 25 หน่วย เป็นตวั ต้ัง ในการหารขนั้ ต่อไป − แบง่ 25 หน่วย ใส่กล่มุ เดมิ กลมุ่ ละหนว่ ย 5 กล่มุ ไดก้ ลุม่ ละกห่ี น่วย (ได้กลุ่มละ 5 หน่วย) ครูใหน้ ักเรียนออกมาเขยี น 5 เปน็ ผลหารในหลักหน่วย − ผลคณู ของ 5 กบั 5 หนว่ ย ได้ผลคณู เท่าไร (25 หน่วย) ครใู ห้นกั เรยี นออกมาเขยี น 25 หน่วย เปน็ ผลคณู − เนอื่ งจากแบ่ง 25 หน่วย เป็น 5 กลมุ่ ไดก้ ลุ่มละ 5 หนว่ ย หมดพอดีเศษเป็นเท่าไร (0) − เขยี นแสดงวิธีหาผลหาร 625 ÷ 5 = โดยการหารยาว ไดด้ งั นี้ ครถู ามนักเรยี นว่า 125 เป็นคำ ตอบท่ีถูกต้องหรอื ไม่ และสามารถตรวจคำตอบได้อย่างไรนักเรียนควร ตอบได้วา่ ตรวจคำ ตอบได้โดยการนำ 5 คณู 125 แลว้ ได้625 ดังนั้น 125 เป็นคำ ตอบที่ถูกต้อง ครูสุ่ม นกั เรยี นออกมาเขยี นแสดงการหาผลหารของ 702 ÷ 9 = โดยการหารยาว ได้ดงั น้ี ครูอธิบายเพิ่มเตมิ วา่ การหาผลหารในตวั อยา่ งนม้ี ีผลหารในหลักรอ้ ยเปน็ 0 เน่อื งจากไมส่ ามารถ แบง่ 7 รอ้ ยเป็นกลุ่มละร้อย 9 กล่มุ ได้ ดังนั้นการหารในหลักสบิ ตอ้ งนำ 7 ร้อย หรือ 70 สบิ ไปรวมกับ 0 สบิ เปน็ 70 สิบ เปน็ ตัวต้งั ในการหารในหลักสิบ แบง่ 70 สบิ เป็นกลมุ่ ละสิบ 9 กลุ่ม
ได้กลุ่มละ 7 สิบ เขียน 7 เป็นผลหารในหลักสิบ เหลอื ที่ยงั ไม่ไดแ้ บ่ง 7 สบิ หรอื 70 หนว่ ย ไปรวมกบั 2 หนว่ ย เป็น 72 หน่วย แบ่ง 72 หนว่ ยเปน็ กลมุ่ ละหนว่ ย 9 กลุม่ ได้กลุ่มละ 8 หน่วย หมดพอดี เขยี น 8 เป็นผลหารในหลกั หน่วย และเขยี น 0 เปน็ เศษ ครูถามนักเรยี นวา่ 78 เปน็ คำ ตอบท่ถี ูกต้อง หรือไม่ นักเรยี นควรตอบไดว้ ่า 78 เป็นคำ ตอบท่ถี ูกต้องเพราะ 9 × 78 = 702 ครูแบง่ นักเรียนเป็นกลุม่ ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มช่วยกนั เขยี นแสดงวิธีหาผลหารโดยการหารยาวพร้อมกบั ตรวจคำ ตอบ ซ่ึงการตรวจคำ ตอบคือการนำ ตัวหารคูณผลหารเทา่ กับตัวตั้ง ครูอาจให้แต่ละกลุ่ม จบั ฉลากทำ กลุ่มละ 1 - 3 ข้อ โดยไมซ่ ้ำ กันแตใ่ ห้ครบ 10 ขอ้ เมื่อแต่ละกลุ่มทำ เสรจ็ แล้วใหค้ รสู มุ่ ตวั แทนกลมุ่ มานำ เสนอหนา้ ชั้นเรียนและนักเรยี นทุกคนรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนัน้ ให้นักเรยี นทำ แบบฝึกหัด 8.4.1 หนา้ 17 – 19 จากน้ันให้ทำใบงานเพิ่มเติม สือ่ การเรียนรู้ 1.หนงั สอื เรยี นคณติ ศาสตร์ ป.3 2. ใบงานท่ี 6 เร่ือง การหาผลหารและเศษทีต่ ัวตัง้ สามหลกั และตวั หารหนง่ึ หลกั โดยการหารยาว การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ จดุ ประสงค์การ วธิ วี ัด เครือ่ งมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน เรยี นรู้ 1. ดา้ นความรู้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน 60% ขึ้นไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์ การประเมิน 2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนได้คะแนนระดับ กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ ดา้ นทักษะ คุณภาพดีข้นึ ไป กระบวนการ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนได้คะแนนระดบั ทพี่ ึงประสงค์ (A) คุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ ด้านคณุ ลักษณะ คณุ ภาพดีขน้ึ ไป ท่ีพงึ ประสงค์
เกณฑ์การประเมินแบบฝกึ หัด/ใบงาน ประเด็นการประเมนิ ระดบั คุณภาพ 1. 1.ความถกู ต้องของ เนอ้ื หา 4 3 21 2. รูปแบบ เนอื้ หาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ 3. ความเป็นระเบียบ ผลงานถูกต้อง ผลงานถูกต้องเป็น ผลงานถูกต้อง ผลงานไมถ่ ูกต้อง ครบถว้ น สว่ นใหญ่ บางประเด็น เป็นสว่ นใหญ่ การนำเสนอ การนำเสนอถูกต้อง การนำเสนอ การนำเสนอไม่ น่าสนใจและ เป็นส่วนใหญ่ ถกู ต้องบางส่วน เป็นไปตามเกณฑ์ เหมาะสมกบั สถานการณ์ ผลงานมคี วาม ผลงานส่วนใหญม่ ี ผลงานมี ผลงานไม่มีความ เปน็ ระเบียบ ขอ้ บกพร่อง ข้อบกพร่อง เป็นระเบียบ เล็กนอ้ ย บางส่วน เกณฑป์ ระเมนิ คณุ ภาพ 10 - 12 คะแนน หมายถงึ ดีมาก ระดับ 4 4 - 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ระดับ 2 7 - 9 คะแนน หมายถึง ดี ระดบั 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ระดับ 1 เกณฑก์ ารให้คะแนนดา้ นทกั ษะและกระบวนการทำงาน ทกั ษะและกระบวนการ: การให้เหตผุ ล คะแนน:ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ลท่ีปรากฏใหเ้ หน็ 4 : ดีมาก มีการอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจอย่างมเี หตุผล 3 : ดี มีการอ้างอิงทถ่ี ูกต้องบางส่วน และเสนอแนวคิดประกอบการตดั สินใจ 2 : พอใช้ เสนอแนวคิดไม่สมเหตสุ มผลในการประกอบการตัดสินใจ มีความพยายามเสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจ 1 : ควรปรับปรงุ แกไ้ ข
ทกั ษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา คะแนน:ระดับคุณภาพ ความสามารถในการแก้ปัญหาที่ปรากฏให้เห็น 4 : ดีมาก ใช้กระบวนการแกป้ ัญหาได้สำเร็จ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ อธิบายถงึ เหตุผล หลักการและขน้ั ตอนในการแก้ปัญหาได้เข้าใจชดั เจนนำมาซ่ึงคำตอบทถี่ ูกต้อง 3 : ดี ใช้กระบวนการแกป้ ญั หาไดส้ ำเร็จ แต่นา่ จะอธิบายถึงเหตุผล หลกั การและขน้ั ตอนในการแกป้ ัญหาได้ดกี ว่านี้ 2 : พอใช้ มีกระบวนการแกป้ ัญหา สำเรจ็ เพยี งบางส่วน อธบิ ายถึงเหตผุ ล หลกั การและขั้นตอนในการแก้ปญั หาได้บางส่วน มีร่องรอยการแกป้ ญั หาบางสว่ น เริ่มคดิ ใช้เหตุผล หลักการและข้ันตอน 1 : ควรปรับปรุงแก้ไข ในการแกป้ ัญหา แล้วหยดุ อธิบายต่อไม่ได้ แกป้ ัญหาไมส่ ำเรจ็ ทักษะ และกระบวนการ: การเชอ่ื มโยง สรุปองค์ความรู้ คะแนน:ระดับ ความสามารถในการเชือ่ มโยงที่ปรากฏใหเ้ ห็น คณุ ภาพ นำความรู้ หลกั การ และวิธีการทางคณิตศาสตร์ในการเชื่อมโยงกับสาระคณติ ศาสตร์ 4 : ดมี าก หรือกิจกรรมท่ีต้องใช้องคค์ วามรูท้ ่ีเรียนได้ถกู ต้องทุกกิจกรรมเพื่อช่วยในการแก้ปัญหา หรอื ประยุกต์ใช้ได้อยา่ งสอดคลอ้ งและเหมาะสม นำความรู้ หลกั การ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตร์ในการเชื่อมโยงกบั สาระคณิตศาสตร์ 3 : ดี หรอื กิจกรรมทต่ี ้องใชอ้ งคค์ วามรูท้ ่เี รยี นไดเ้ ป็นส่วนใหญ่ เพือ่ ชว่ ยในการแก้ปญั หาหรอื ประยุกต์ใช้ได้บางสว่ น 2 : พอใช้ นำความรู้ หลักการ และวธิ ีการทางคณิตศาสตร์ไปเช่อื มโยงกับสาระคณติ ศาสตรห์ รอื กิจกรรมท่ีต้องใชอ้ งค์ความรูท้ ี่เรยี นได้บางสว่ น 1 : ควรปรับปรงุ นำความรู้ หลักการ และวธิ ีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเช่อื มโยงยงั ไม่เหมาะสม สรุป แกไ้ ข องค์ความรู้ที่ได้
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ : นักเรยี นใฝ่เรียนรู้ คะแนน : ระดับ คณุ ลกั ษณะทปี่ รากฏใหเ้ ห็น คณุ ภาพ 3 : ดีมาก - มีความสนใจ / ความต้ังใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้ 2 : ดี - มีความสนใจ / ความตัง้ ใจเป็นบางครัง้ 1 : พอใช้ - มคี วามสนใจ / ความตง้ั ใจในระยะเวลาส้ันๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรยี น คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ : นักเรียนมคี วามม่งุ มัน่ ในการทำงาน คะแนน : ระดบั คุณลกั ษณะที่ปรากฏใหเ้ หน็ คุณภาพ 3 : ดมี าก - สง่ งานก่อนหรือตรงกำหนดเวลานัดหมาย - รับผดิ ชอบในงานท่ีได้รบั มอบหมายและปฏิบตั ติ นเองจนเป็นนิสัย 2 : ดี - สง่ งานช้ากวา่ กำหนด แตไ่ ด้มกี ารตดิ ต่อชีแ้ จงผ้สู อน มีเหตุผลทีร่ บั ฟงั ได้ - รับผิดชอบในงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายและปฏบิ ัตติ นเองจนเปน็ นิสยั 1 : พอใช้ - ส่งงานชา้ กวา่ กำหนด - ปฏิบตั งิ านโดยต้องอาศัยการชแี้ นะ แนะนำ ตักเตือนหรือใหก้ ำลังใจ
บันทึกผลหลังกระบวนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ผลการเรียนรทู้ เ่ี กิดขน้ึ กับผู้เรยี น 1.1 ผูเ้ รียนผา่ นจดุ ประสงค์การเรียนรู้ จำนวน.....35........คน คดิ เปน็ ร้อยละ...100....... 1.2 ผู้เรียนไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู้ จำนวน.......-............คน ไดแ้ ก.่ ............................................................................................................................... ........ สาเหตุ ..................................................................................................................................... 1.3 ผู้เรยี นได้รับความรู้ : ..ผ้เู รียนไดเ้ รยี นร้ตู ามแผนการจดั การเรยี นรตู้ รงตามจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.4 ผู้เรยี นเกิดทกั ษะกระบวนการ : การหาผลหารและเศษทีต่ ัวต้ังสามหลักและตวั หารหน่ึงหลักโดย การหารยาว 1.5 ผู้เรยี นมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม :..ผู้เรยี นมีความต้งั ใจในการเรียน ชว่ ยเหลือซึง่ กันและกัน 2. ปญั หา / อปุ สรรค นกั เรียนบางคนยงั สับสนและยงั ไม่เข้าใจในเรื่องการหารยาวทมี่ ตี ัวเศษ 3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข สอนและอธิบายให้ความรู้เพิม่ เติมในส่วนท่ีไม่เข้าใจให้กับนักเรียนทีไ่ มเ่ ขา้ ใจ 4. แผนการจัดการเรยี นร้นู ้ใี ช้กบั นักเรียน ห้อง ป. 3 ในวนั ท.่ี .30....เดอื น. พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2564 ลงช่อื ................................ผสู้ อน (นายวรพจน์ อย่างดี) คิดเหน็ ผบู้ รหิ าร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ.......................................................... (นางสาวสพุ รรณิกา สบุ รรณาจ) ผู้อำนวยการโรงเรียนประชาสามัคคี
ใบงานที่ 6 เรือ่ ง การหาผลหารและเศษท่ตี วั ตงั้ สามหลักและตวั หารหนงึ่ หลกั โดยการหารยาว หาผลหารโดยการหารยาว 1. 125 ÷ 9 = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. 2. 125 ÷ 5 = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. 275 ÷ 9 = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. 445 ÷ 7 = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….……………………….................................................................................................................
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 7 กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค 13101 ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 3 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 8 เรือ่ ง การหาร เรอ่ื ง การหาผลหารและเศษทต่ี วั ตัง้ สามหลกั และตัวหารหนึง่ หลักโดยการหารยาว เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง สอนวันที่_________เดือน________________พ.ศ.256_ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของจำนวน ผลทเ่ี กิดข้ึนจากการดำเนนิ การ สมบตั ขิ องการดำเนินการ และนำไปใช้ ตัวชี้วดั : ค 1.1 ป.3/7 หาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการหารที่ตัวตง้ั ไม่เกิน 4 หลัก ตัวหาร 1 หลัก จดุ ประสงค์การเรียนรู้สตู่ ัวช้ีวดั 1. บอกวิธีหาการหาผลหารและเศษทีต่ ัวตั้งสามหลักและตัวหารหน่ึงหลกั โดยการหารยาว (K) 2. การหาผลหารและเศษท่ตี ัวตงั้ สามหลักและตวั หารหน่งึ หลกั โดยการหารยาว (P) 3. นักเรยี นมคี วามมุ่งในการทำงานและสามารถนำความรู้ที่ไดไ้ ปต่อยอดในการเรียนเร่ืองตอ่ ไป (A) สาระสำคญั การหาผลหารและเศษท่ีตวั ต้ัง 3 หลักและตวั หาร 1 หลักโดยการหารยาว เริ่มจากหารจำนวนในหลัก รอ้ ย หลกั สิบ และหลักหน่วยตามลำดับ เม่ือหารจำนวนในหลกั ใดให้เขยี นเลขโดดทเี่ ปน็ ผลหารในหลักนนั้ สาระการเรยี นรู้ 1.ความรู้ การหาผลหารและเศษที่ตัวตง้ั สามหลกั และตัวหารหนงึ่ หลกั โดยการหารยาว 2.ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ 1.ความสามารถในการส่ือสารความหมายทางคณิตศาสตร์ 2.การเช่ือมโยง 3.คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งม่ันในการทำงาน ช้ินงานหรอื ภาระงาน ใบงานที่ 7 เรอื่ ง การหาผลหารและเศษท่ตี วั ต้ังสามหลกั และตัวหารหนึง่ หลกั โดยการหารยาว
กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้ 1.ครยู กตวั อย่างการหาผลหารและเศษของจำนวน 3 หลักกับจำนวน 1 หลักโดยการหารยาวตาม หนังสอื เรียน หน้า 22 เช่น 368 ÷ 3 ครูแสดงการหารยาวตามขัน้ ตอน ดังน้ี ข้ันที่ 1 หารในหลกั ร้อย แบง่ 3 รอ้ ย ออกเปน็ กลมุ่ ละร้อย 3 กลุ่ม ได้กลุ่มละ 1 รอ้ ย เขียน 1 เป็น ผลหารในหลกั รอ้ ย และ 3 คูณ 1 รอ้ ย ได้3 ร้อย เขียน 3 ร้อย เป็นผลคณู ดังนี้ ข้ันที่ 2 หารในหลักสิบ แบง่ 6 สบิ เป็นกลมุ่ ละสบิ 3 กลมุ่ ได้กลมุ่ ละ 2 สบิ เขยี น 2 เปน็ ผลหารในหลัก สบิ และ 3 คูณ 2 สิบ ได้6 สิบ เขยี น 6 สบิ เปน็ ผลคูณ ดงั น้ี ขน้ั ที่ 3 หารในหลกั หนว่ ย แบ่ง 8 หนว่ ย เปน็ กลุ่มละหนว่ ย 3 กลมุ่ ได้กลุ่มละ 2 หน่วยเขียน 2 เป็น ผลหารในหลักหนว่ ย เหลอื ท่ียังไม่ไดแ้ บ่ง 2 หนว่ ย และ 3 คูณ 2 หนว่ ย ได้ 6 หนว่ ยเขียน 6 หนว่ ย เป็นผลคูณ และเขียน 2 เปน็ เศษ ดังน้ี
ครใู หน้ ักเรยี นตรวจคำ ตอบ จะได้(3 × 122) + 2 = 368 ดังนัน้ 122 เศษ 2 เป็นคำ ตอบทถ่ี กู ต้อง 2. ครูยกตัวอยา่ งการหาผลหารและเศษของจำนวน 3 หลักกบั จำนวน 1 หลักโดยการหารยาวตาม หนงั สือเรียนหนา้ 23 เช่น 929 ÷ 9 = ครใู ชก้ ารถาม – ตอบ ประกอบการอธบิ ายการหา ผลหารดงั นี้ ข้ันที่ 1 หารในหลกั ร้อย − ตวั ต้ังคอื จำนวนใด (929) − ตัวหารคือจำนวนใด (9) จากนน้ั ครูให้นักเรยี นออกมาเขยี นการหารยาวบนกระดาน − 929 คอื 9 ร้อย กบั 2 สิบ กบั 9 หน่วย แบง่ 9 ร้อยเป็นกลมุ่ ละร้อย 9 กล่มุ ไดก้ ลุม่ ละกี่ ร้อย (ได้กลมุ่ ละ 1 ร้อย) ครูใหน้ ักเรยี นออกมาเขียน 1 เป็นผลหารในหลกั ร้อย − ผลคูณของ 9 กับ 1 ร้อย ได้ผลคณู เท่าไร (9 ร้อย) ครใู ห้นักเรียนออกมาเขียน 9 ร้อย เป็น ผลคูณ แบ่ง 2 สบิ ใสก่ ลมุ่ เดิมกลุ่มละสบิ 9 กลุ่ม ไดห้ รือไม่ เพราะเหตุใด (แบง่ 2 สิบ เปน็ กล่มุ ละสบิ 9 กลุ่ม ไม่ได้ เพราะม2ี สบิ ไม่พอในการแบ่ง) ครูอธบิ ายว่า เนอ่ื งจากไม่สามารถแบ่ง 2 สบิ ออกเปน็ กลุ่มละสบิ 9 กล่มุ ได้ ดงั นน้ั การหารในหลกั สบิ จึงสรุปวา่ แบง่ 2 สิบ เปน็ 9 กลมุ่ ไดก้ ลมุ่ ละ 0 สิบจึงเขียน 0 เป็นผลหารในหลักสิบ ครูใหน้ ักเรยี นเขยี นผลหารใหต้ รงกบั หลกั สบิ และเขยี นผลคณู ของ 9 × 0 เนื่องจากแบ่ง 2 สิบ เปน็ 9 กลมุ่ ได้ กลุ่มละ 0 สบิ เหลอื ที่ยังไม่ได้แบ่ง 2 สบิ หรือ 20 หน่วยรวมกับ 9 หนว่ ย ดังนั้น ตวั ตง้ั ในการหารข้นั ต่อไปคอื จำนวนใด (29) ครูให้นักเรยี นออกมาเขียน 29 หนว่ ย เปน็ ตวั ต้ังในการหารขนั้ ต่อไป แบ่ง 29 หนว่ ย ใสก่ ล่มุ เดิมกลมุ่ ละหน่วย 9 กลุ่ม ได้กลุ่มละก่หี นว่ ย และเหลือกหี่ น่วย (ไดก้ ลมุ่ ละ 3 หนว่ ย เหลอื ทย่ี งั ไม่ได้แบ่งอีก 2 หน่วย) 3.ครูใหน้ กั เรียนออกมาเขยี น 3 เปน็ ผลหารในหลกั หนว่ ยผลคูณของ 9 กบั 3 หนว่ ย ได้ผลคณู เท่าไร (27 หน่วย) ครใู หน้ กั เรียนออกมาเขียน 27 หนว่ ยเปน็ ผลคูณเนือ่ งจากแบง่ 29 หน่วย เป็น 9 กลุ่ม ไดก้ ลุ่มละ 3 หนว่ ย เหลอื ทย่ี งั ไม่ได้แบ่ง 2 หน่วยเศษเปน็ เท่าไร (2) เขียนแสดงวิธหี าผลหาร 929 ÷ 9 = โดยการหาร ยาว ไดด้ ังนี้
ครูถามนักเรียนวา่ 103 เศษ 2 เป็นคำ ตอบท่ถี ูกตอ้ งหรอื ไม่ และสามารถตรวจคำ ตอบได้ อยา่ งไร นักเรียนควรตอบได้ว่า ตรวจคำ ตอบไดโ้ ดยการนำ 9 คณู 103 แลว้ บวก 2 ได้929 ดงั น้ัน 103 เศษ 2 เป็นคำ ตอบที่ถกู ต้อง ครสู ุ่มนกั เรยี นออกมาเขยี นแสดงการหาผลหารของ 645 ÷ 7 = โดยการหารยาว ไดด้ งั น้ี 4.ครอู ธิบายเพ่ิมเตมิ ว่า การหาผลหารในตัวอย่างนม้ี ีผลหารในหลกั ร้อยเป็น 0 เน่ืองจากไมส่ ามารถ แบ่ง 6 รอ้ ย เป็นกลุ่มละรอ้ ย 7 กลุ่ม ได้ดังนั้นการหารในหลกั สิบ ตอ้ งนำ 6 รอ้ ย หรือ 60 สบิ ไปรวมกับ4 สิบ เป็น 64 สบิ เปน็ ตัวตัง้ ในการหารในหลกั สบิ แบง่ 64 สบิ เปน็ กลุม่ ละสิบ 7 กลุม่ ไดก้ ลุ่มละ 9 สิบเขียน 9 เป็น ผลหารในหลักสบิ เหลอื ท่ียังไมไ่ ด้แบ่ง 1 สบิ หรอื 10 หนว่ ย ไปรวมกบั 5 หน่วย เป็น 15 หนว่ ยแบง่ 15 หน่วย เปน็ กลมุ่ ละหนว่ ย 7 กล่มุ ได้กล่มุ ละ 2 หนว่ ย เหลอื ท่ียังไม่ได้แบง่ อกี 1 หนว่ ย เขียน 2เป็นผลหารในหลกั หน่วย และเขยี น 1 เป็นเศษ ครถู ามนักเรยี นวา่ 92 เศษ 1 เปน็ คำตอบทีถ่ ูกต้องหรือไม่ นักเรยี นควรตอบได้วา่ 92 เศษ 1 เปน็ คำ ตอบทีถ่ ูกต้องเพราะ (7 × 92) + 1 = 645 ครแู บง่ นักเรียนเป็นกลุ่ม ให้แตล่ ะกลุ่มช่วยกัน เขียนแสดงวธิ ีหาผลหารโดยการหารยาวพร้อมกบั ตรวจคำ ตอบ ซง่ึ การตรวจคำ ตอบคอื การนำ ตวั หารคณู ผลหารบวกเศษเทา่ กบั ตัวต้งั ครอู าจใหแ้ ต่ละกลมุ่ จับฉลากทำ กลมุ่ ละ 1 - 3 ข้อ โดยไมซ่ ้ำ กนั แตใ่ หค้ รบ 10 ขอ้ เมื่อแต่ละกลุ่มทำ เสรจ็ แลว้ ใหค้ รูสุม่ ตวั แทนกลุ่มมานำ เสนอหนา้ ช้นั เรยี น ครูและนักเรยี นทกุ คนรว่ มกัน ตรวจสอบความถูกต้อง 5.ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี นเปน็ รายบุคคล โดยให้นักเรียนเขียนแสดงวิธหี าผลหารและเศษ โดยการหารยาวตามหนังสือเรียนหนา้ 24 จากนัน้ ครูและนักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งและสรุปส่งิ ที่ ไดเ้ รียนรู้ ถา้ พบวา่ มนี ักเรียนท่ีหาผลหารและเศษไม่ถูกต้อง ครคู วรใหน้ กั เรียนฝกึ เพมิ่ เติม การหาผลหารและ เศษท่ีตัวตง้ั 3 หลกั และตัวหาร 1 หลกั โดยการหารยาว เร่มิ จากหารจำนวนในหลักรอ้ ย หลักสิบ และหลกั หนว่ ยตามลำดบั เมื่อหารจำนวนในหลกั ใดให้เขียนเลขโดดท่เี ป็นผลหารในหลกั น้นั จากนั้นใหน้ ักเรียนทำ แบบฝกึ หดั 8.4.2 หน้า 20 – 22 จากนน้ั ให้ทำใบงานเพม่ิ เติม
ส่อื การเรียนรู้ 1.หนังสอื เรียนคณติ ศาสตร์ ป.3 2. ใบงานที่ 7 เร่ือง การหาผลหารและเศษท่ีตัวต้งั สามหลักและตวั หารหน่ึงหลกั โดยการหารยาว การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ จดุ ประสงคก์ าร วธิ วี ดั เครอ่ื งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมิน เรยี นรู้ 1. ด้านความรู้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน 60% ขนึ้ ไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์ การประเมนิ 2. ดา้ นทักษะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดับ กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ ดา้ นทกั ษะ คุณภาพดีขึน้ ไป กระบวนการ 3. ดา้ นคณุ ลักษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนได้คะแนนระดบั ทพ่ี งึ ประสงค์ (A) คณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ คณุ ภาพดีขึน้ ไป ท่พี ึงประสงค์ เกณฑก์ ารประเมินแบบฝึกหัด/ใบงาน ประเด็นการประเมนิ ระดบั คุณภาพ 1. 1.ความถูกต้องของ เนือ้ หา 4 3 21 2. รูปแบบ เนอ้ื หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนือ้ หาสาระของ 3. ความเปน็ ระเบยี บ ผลงานถูกต้อง ผลงานถกู ต้องเป็น ผลงานถกู ต้อง ผลงานไม่ถูกตอ้ ง ครบถว้ น ส่วนใหญ่ บางประเด็น เป็นสว่ นใหญ่ การนำเสนอ การนำเสนอถูกต้อง การนำเสนอ การนำเสนอไม่ น่าสนใจและ เปน็ สว่ นใหญ่ ถกู ต้องบางสว่ น เปน็ ไปตามเกณฑ์ เหมาะสมกบั สถานการณ์ ผลงานมคี วาม ผลงานส่วนใหญ่มี ผลงานมี ผลงานไมม่ ีความ เปน็ ระเบยี บ ข้อบกพร่อง ข้อบกพร่อง เป็นระเบยี บ เลก็ น้อย บางส่วน เกณฑ์ประเมินคณุ ภาพ 10 - 12 คะแนน หมายถงึ ดีมาก ระดับ 4 4 - 6 คะแนน หมายถึง พอใช้ ระดับ 2 7 - 9 คะแนน หมายถึง ดี ระดบั 3 1-3 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง ระดับ 1
เกณฑก์ ารให้คะแนนด้านทักษะและกระบวนการทำงาน ทักษะและกระบวนการ: การใหเ้ หตุผล คะแนน:ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการให้เหตผุ ลที่ปรากฏใหเ้ ห็น 4 : ดมี าก มกี ารอ้างอิง เสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสนิ ใจอย่างมเี หตุผล 3 : ดี มกี ารอ้างอิงทีถ่ ูกต้องบางส่วน และเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสนิ ใจ 2 : พอใช้ เสนอแนวคดิ ไมส่ มเหตสุ มผลในการประกอบการตัดสินใจ 1 : ควรปรบั ปรุงแก้ไข มคี วามพยายามเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจ ทกั ษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา คะแนน:ระดับคณุ ภาพ ความสามารถในการแก้ปัญหาทป่ี รากฏให้เหน็ 4 : ดมี าก ใชก้ ระบวนการแก้ปญั หาไดส้ ำเร็จ อยา่ งมีประสิทธภิ าพ อธิบายถงึ เหตผุ ล หลักการและขนั้ ตอนในการแกป้ ัญหาได้เขา้ ใจชดั เจนนำมาซง่ึ คำตอบทีถ่ ูกต้อง 3 : ดี ใชก้ ระบวนการแกป้ ัญหาได้สำเร็จ แตน่ ่าจะอธิบายถงึ เหตุผล หลกั การและขัน้ ตอนในการแกป้ ญั หาได้ดีกวา่ นี้ 2 : พอใช้ มีกระบวนการแกป้ ัญหา สำเรจ็ เพยี งบางส่วน อธิบายถึงเหตุผล หลกั การและขน้ั ตอนในการแก้ปญั หาได้บางสว่ น 1 : ควรปรบั ปรุงแกไ้ ข มรี ่องรอยการแกป้ ญั หาบางสว่ น เร่ิมคดิ ใช้เหตุผล หลักการและขน้ั ตอน ในการแกป้ ญั หา แล้วหยุด อธิบายตอ่ ไม่ได้ แก้ปัญหาไมส่ ำเรจ็ ทกั ษะ และกระบวนการ: การเช่ือมโยง สรปุ องค์ความรู้ คะแนน:ระดบั ความสามารถในการเชอื่ มโยงทีป่ รากฏใหเ้ หน็ คุณภาพ นำความรู้ หลักการ และวิธีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเช่ือมโยงกบั สาระคณติ ศาสตร์ 4 : ดีมาก หรอื กจิ กรรมทต่ี ้องใชอ้ งค์ความร้ทู ่ีเรียนได้ถูกต้องทุกกจิ กรรมเพื่อช่วยในการแกป้ ัญหา หรือประยุกตใ์ ช้ได้อย่างสอดคลอ้ งและเหมาะสม นำความรู้ หลกั การ และวธิ ีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเชื่อมโยงกับสาระคณิตศาสตร์ 3 : ดี หรอื กจิ กรรมทีต่ ้องใช้องคค์ วามรู้ที่เรียนไดเ้ ปน็ ส่วนใหญ่ เพอ่ื ช่วยในการแกป้ ญั หาหรอื ประยุกตใ์ ช้ไดบ้ างส่วน
2 : พอใช้ นำความรู้ หลกั การ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตร์ไปเชื่อมโยงกับสาระคณติ ศาสตรห์ รอื กจิ กรรมท่ีต้องใชอ้ งค์ความรทู้ ี่เรียนไดบ้ างส่วน 1 : ควรปรบั ปรงุ นำความรู้ หลักการ และวิธีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเชอื่ มโยงยังไม่เหมาะสม สรปุ แก้ไข องค์ความรู้ที่ได้ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ : นักเรยี นใฝ่เรียนรู้ คะแนน : ระดับ คณุ ลักษณะที่ปรากฏใหเ้ ห็น คุณภาพ 3 : ดีมาก - มคี วามสนใจ / ความต้งั ใจตลอดระยะเวลาการเรียนรู้ 2 : ดี - มคี วามสนใจ / ความต้ังใจเป็นบางคร้งั 1 : พอใช้ - มคี วามสนใจ / ความตัง้ ใจในระยะเวลาส้ันๆ ชอบเล่นในเวลาเรียน คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ : นกั เรียนมีความม่งุ มัน่ ในการทำงาน คะแนน : ระดับ คุณลกั ษณะทีป่ รากฏให้เห็น คุณภาพ 3 : ดมี าก - ส่งงานก่อนหรือตรงกำหนดเวลานดั หมาย - รบั ผดิ ชอบในงานทไี่ ด้รับมอบหมายและปฏิบัตติ นเองจนเปน็ นิสัย 2 : ดี - สง่ งานชา้ กว่ากำหนด แตไ่ ด้มีการติดต่อชแี้ จงผู้สอน มเี หตุผลทีร่ ับฟังได้ - รับผดิ ชอบในงานท่ไี ดร้ ับมอบหมายและปฏบิ ตั ิตนเองจนเป็นนสิ ยั 1 : พอใช้ - สง่ งานชา้ กว่ากำหนด - ปฏบิ ตั ิงานโดยตอ้ งอาศยั การช้แี นะ แนะนำ ตักเตือนหรือให้กำลังใจ
บนั ทึกผลหลงั กระบวนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ผลการเรยี นรูท้ ่ีเกดิ ขึน้ กับผู้เรียน 1.1 ผ้เู รียนผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ จำนวน.....35........คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ...100....... 1.2 ผู้เรียนไม่ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ จำนวน.......-............คน ไดแ้ ก่........................................................................................................................................ สาเหตุ ............................................................................................................................. ........ 1.3 ผู้เรยี นได้รบั ความรู้ : ..ผ้เู รยี นไดเ้ รยี นรตู้ ามแผนการจัดการเรียนรูต้ รงตามจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.4 ผู้เรยี นเกดิ ทกั ษะกระบวนการ : การหาผลหารและเศษทีต่ วั ตัง้ สามหลกั และตัวหารหน่งึ หลกั โดย การหารยาว 1.5 ผ้เู รียนมคี ุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม :..ผเู้ รยี นมคี วามต้งั ใจในการเรียน ชว่ ยเหลอื ซึ่งกันและกัน 2. ปัญหา / อปุ สรรค ............................................................................................................................ 3. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................ 4. แผนการจัดการเรยี นรู้น้ใี ช้กบั นักเรยี น ห้อง ป. 3 ในวนั ที่..1....เดอื น. ธนั วาคม พ.ศ. 2564 ลงช่ือ................................ผสู้ อน (นายวรพจน์ อยา่ งดี) คิดเห็นผบู้ รหิ าร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ.......................................................... (นางสาวสุพรรณิกา สุบรรณาจ) ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นประชาสามคั คี
ใบงานที่ 7 เรือ่ ง การหาผลหารและเศษท่ตี วั ตงั้ สามหลักและตวั หารหนงึ่ หลกั โดยการหารยาว หาผลหารโดยการหารยาว 1. 978 ÷ 9 = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. 2. 455 ÷ 5 = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. 875 ÷ 9 = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. 745 ÷ 7 = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….……………………….................................................................................................................
แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 8 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 3 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 8 เรือ่ ง การหาร เร่ือง การหาผลหารและเศษทีต่ ัวตง้ั สีห่ ลกั และตวั หารหนงึ่ หลกั โดยการหารยาว (1) เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง สอนวันท่ี_________เดอื น________________พ.ศ.256_ มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้ีวดั มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของจำนวน ผลทเี่ กดิ ข้ึนจากการดำเนนิ การ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้ ตวั ชี้วดั : ค 1.1 ป.3/7 หาคา่ ของตัวไมท่ ราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการหารท่ีตวั ตงั้ ไมเ่ กิน 4 หลัก ตวั หาร 1 หลัก จดุ ประสงค์การเรยี นรสู้ ตู่ ัวชี้วัด 1. บอกวิธีหาการหาผลหารและเศษท่ีตวั ตง้ั ส่ีหลักและตัวหารหนงึ่ หลักโดยการหารยาว (K) 2. การหาผลหารและเศษที่ตัวตัง้ ส่ีหลกั และตัวหารหน่งึ หลักโดยการหารยาว (P) 3. นกั เรยี นมคี วามมุ่งในการทำงานและสามารถนำความรู้ท่ีได้ไปต่อยอดในการเรียนเรื่องตอ่ ไป (A) สาระสำคัญ การหาผลหารและเศษทต่ี ัวต้งั 4 หลกั และตวั หาร 1 หลกั โดยการหารยาว เรม่ิ จากหารจำนวนในหลกั ร้อย หลกั สิบ และหลกั หนว่ ยตามลำดับ เมื่อหารจำนวนในหลกั ใดใหเ้ ขียนเลขโดดที่เป็นผลหารในหลกั นั้น สาระการเรียนรู้ 1.ความรู้ การหาผลหารและเศษที่ตัวตั้งส่ีหลักและตัวหารหนึ่งหลักโดยการหารยาว 2.ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด 1.ความสามารถในการสอื่ สารความหมายทางคณิตศาสตร์ 2.การเช่อื มโยง 3.คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ม่งุ มั่นในการทำงาน ช้ินงานหรือภาระงาน ใบงานท่ี 8 เรอ่ื ง การหาผลหารและเศษทตี่ ัวตั้งสี่หลักและตัวหารหนง่ึ หลกั โดยการหารยาว
กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ 1. ครทู บทวนการหาผลหารและเศษของจำนวน 3 หลักกับจำนวน 1 หลกั โดยการหารยาว เช่น 714 ÷ 6 = เขียนแสดงการหาผลหารและเศษได้ดังนี้ จากน้นั ครูยกตวั อย่างการหาผลหารและเศษของจำนวน 4 หลักกับจำนวน 1 หลัก โดยการหารยาว ตามหนงั สอื เรยี นหน้า 25 เช่น 6,213 ÷ 3 ดังนี้ ขน้ั ท่ี 1 หารในหลักพัน แบ่ง 6 พนั ออกเปน็ กลุ่มละพัน 3 กล่มุ ได้กลมุ่ ละ 2 พัน เขยี น 2 เปน็ ผลหาร ในหลักพัน และ 3 คณู กบั 2 พนั ได้6 พัน เขยี น 6 พันเป็นผลคณู ดังนี้ ขั้นที่ 2 หารในหลักร้อย แบ่ง 2 รอ้ ย ออกเป็นกลุม่ ละร้อย 3 กลุม่ ไม่ได้ดงั น้ัน 2 ร้อย หารด้วย3 จงึ ได้0 ร้อย แล้วเขียน 0 เป็นผลหารในหลักร้อย และ 3 คูณกับ 0 รอ้ ย ได้0 ร้อย เขยี น 0 รอ้ ย เป็นผลคูณ ดงั นี้
ข้ันที่ 3 หารในหลักสิบ หลักสิบเดมิ มีอยู่ 1 สิบ รวมกับ 2 ร้อย หรือ 20 สบิ จึงเปน็ 21 สิบ แบ่ง 21 สิบ เปน็ กล่มุ ละสบิ 3 กลุม่ ไดก้ ลุ่มละ 7 สิบ หมดพอดี เขยี น 7 เป็นผลหารในหลกั สิบ และ 3 คณู กบั 7 สิบ ได้21 สบิ เขียน 21 สิบ เป็นผลคูณ ดังนี้ ขั้นท่ี 4 หารในหลกั หน่วย แบ่ง 3 หน่วย เปน็ กล่มุ ละหน่วย 3 กลุ่ม ได้กลุม่ ละ 1 หนว่ ย เขียน 1 เป็นผลหารใน หลกั หน่วย แบ่งแลว้ หมดพอดีและ 3 คูณ 1 หนว่ ย ได้3 หน่วย เขยี น 3 หนว่ ย เป็นผลคณู และเขยี น 0 เป็น เศษ ดังนี้ ดังนนั้ 6,213 ÷ 3 = 2,071 ครใู หน้ ักเรียนช่วยกันตรวจคำ ตอบ จะได้3 × 2,071 = 6,213 ดังน้นั 2,071 เปน็ คำ ตอบทถี่ ูกต้อง ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า ในตวั อย่างนข้ี ้นั ที่ 2 หารในหลกั ร้อย ซงึ่ ผลหารไดค้ ือ 0 เม่ือนำ 3 คูณ 0แล้วได้ 0 จึงอาจ ละการเขยี น 0 ทีเ่ ป็นผลคณู นี้ในการหาผลหารก็ไดด้ งั นน้ั ในการหาผลหาร6,213 ÷ 3 โดยการหารยาวอาจเขียน แสดงวธิ ีหาผลหาร ได้ดังน้ี จากนัน้ ครยู กตัวอยา่ งเพิ่มเติมอกี 2 – 3 ตัวอย่าง ครูเนน้ ยำ้ วา่ เม่ือได้ผลหารแลว้ ควรตรวจคำตอบทุกครงั้
2. ครยู กตวั อย่างการหาผลหารและเศษของจำนวน 4 หลกั กับจำนวน 1 หลกั โดยการหารยาวตามหนงั สือเรียน หนา้ 26 เชน่ 8,400 ÷ 7 ใหน้ กั เรยี นสังเกตว่า หลักสบิ และหลักหน่วยของตวั ตงั้ เปน็ 0 ดังน้ี ขนั้ ที่ 1 หารในหลกั พัน 8 พัน หารดว้ ย 7 ได1้ พนั เขยี น 1 เปน็ ผลหารในหลกั พนั ดงั นี้ ขนั้ ท่ี 2 หารในหลกั ร้อย การหารในหลกั พันเหลือ 1 พนั หรอื 10 ร้อย รวมกับ 4 ร้อย เปน็ 14 รอ้ ย หาร 14 ร้อย ด้วย 7 ได2้ รอ้ ย เขียน 2 เป็นผลหารในหลักร้อย ดังนี้ ขั้นท่ี 3 หารในหลกั สบิ 0 สิบ หารดว้ ย 7 ได0้ สบิ เขยี น 0 เป็นผลหารในหลักสิบ ขั้นท่ี 4 หารในหลกั หนว่ ย 0 หนว่ ย หารดว้ ย 7 ได้0 หน่วย เขยี น 0 เป็นผลหารในหลกั หน่วยเขยี นแสดงการหา ผลหารโดยการหารยาวไดด้ งั นี้ ครใู หน้ ักเรยี นตรวจคำ ตอบ จะได้7 × 1,200 = 8,400 ดังน้ัน 1,200 เป็นคำ ตอบทีถ่ ูกต้อง ครอู ธิบายเพ่ิมเติมวา่ การหารในหลักใดที่ไดผ้ ลหารเปน็ 0 อาจละการเขียน 0 ทเ่ี ปน็ ผลคูณ ใหเ้ ขยี น 0 ทเี่ ปน็ ผลหารได้เลย เช่น ในตัวอย่างนี้การหารในหลกั สบิ และหลกั หนว่ ยไดผ้ ลหารเปน็ 0 จงึ เขียน 0 ที่ผลหาร แตล่ ะ การเขยี น 0 ที่เปน็ ผลคูณ
3. ครูยกตัวอย่างการหาผลหารและเศษของจำนวน4 หลักกบั จำนวน 1 หลัก โดยการหารยาวตามหนังสือ เรยี นหนา้ 27 เช่น 5,425 ÷ 5 = โดยใชก้ ารถาม – ตอบ ดังน้ี − ตวั ตั้งคือจำนวนใด (5,425) − ตวั หารคอื จำนวนใด (5) ครใู ห้นกั เรยี นออกมาเขยี นการหารยาวบนกระดาน − ขนั้ ท่ี 1 หารในหลักใด (หลักพนั ) − 5 พนั หารด้วย 5 ไดเ้ ท่าไร (1 พัน) ครใู ห้นักเรยี น ออกมาเขียน 1 เปน็ ผลหารในหลักพัน − ขน้ั ท่ี 2 หารในหลกั ใด (หลักร้อย) − 4 ร้อย หารด้วย 5 ได้เท่าไร (0 ร้อย) ครใู ห้ นักเรยี นออกมาเขียน 0 เป็นผลหารในหลักร้อย − ข้นั ที่ 3 หารในหลกั ใด (หลักสบิ ) − ตัวต้ังท่ีหารในหลกั สิบคอื จำนวนใด (42 สบิ ) − 42 สบิ หารดว้ ย 5 ได้เทา่ ไร (8 สิบ) ครูให้ นกั เรียนออกมาเขียน 8 เปน็ ผลหารในหลักสิบ − ขั้นท่ี 4 หารในหลกั ใด (หลกั หน่วย) − ตัวตง้ั ท่หี ารในหลกั หน่วยคือจำนวนใด (25 หน่วย) − 25 หนว่ ย หารด้วย 5 ไดเ้ ทา่ ไร (5 หนว่ ย) ครใู ห้ นกั เรียนออกมาเขียน 5 เปน็ ผลหารในหลักหน่วย และเขยี น 0 เป็นเศษ เขียนแสดงวิธหี าผลหารโดยการหารยาวได้ดงั นี้ ครถู ามนักเรยี นวา่ 1,085 เป็นคำ ตอบท่ีถกู ต้องหรือไม่ นกั เรยี นควรตอบไดว้ ่า 1,085 เปน็ คำ ตอบท่ีถูกต้อง เพราะ 5 × 1,085 = 5,425 จากน้ันครูสุ่มนกั เรียนออกมา เขยี นแสดงวิธีหาผลหารของ 3,402 ÷ 9 = โดยการหารยาวไดด้ ังนี้
ครูถามนักเรียนว่า 378 เปน็ คำ ตอบท่ถี ูกต้องหรอื ไม่ นักเรียนควรตอบไดว้ ่า 378 เป็นคำตอบท่ีถูกต้อง เพราะ 9 × 378 = 3,402 จากนน้ั ครูแบ่งนกั เรยี นเปน็ กลุ่ม ใหแ้ ตล่ ะกลุม่ เขียนแสดงวิธหี าผลหารโดยการหารยาว พรอ้ มกับตรวจคำ ตอบซง่ึ การตรวจคำ ตอบคือการนำ ตวั หารคูณผลหารเทา่ กับตวั ตั้งครูอาจให้แตล่ ะกลุ่มจับฉลากเลอื กวา่ จะทำ ขอ้ ใดบ้างแตต่ ้องให้ครบท้ัง 10 ข้อ ตามโจทย์ในหนงั สือเรยี นหน้า 27 เมอ่ื แตล่ ะกลมุ่ ทำ ตรวจสอบความถูกตอ้ ง และสรปุ ส่งิ ที่ได้เรียนรู้ ถ้าพบวา่ มนี ักเรยี นทีห่ าผลหารและเศษไมถ่ ูกตอ้ ง ครคู วรให้นักเรียนฝึกเพ่ิมเติม การหา ผลหารและเศษท่ีตัวต้ัง 4 หลกั และตวั หาร 1 หลักโดยการหารยาว เริ่มจากหารจำนวนในหลกั ร้อย หลกั สิบ และหลักหนว่ ยตามลำดับ เม่ือหารจำนวนในหลกั ใดใหเ้ ขียนเลขโดดที่เป็นผลหารในหลกั นั้น จากน้นั ให้ นกั เรียนทำแบบฝึกหดั จากนั้นให้นกั เรียนทำ แบบฝึกหัด 8.5.1 หน้า 23 – 25 สือ่ การเรียนรู้ 1.หนังสอื เรยี นคณติ ศาสตร์ ป.3 2. ใบงานที่ 8 เรอื่ ง การหาผลหารและเศษท่ีตวั ต้ังสามหลักและตวั หารหนึ่งหลักโดยการหารยาว การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงคก์ าร วิธวี ดั เครอื่ งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ เรียนรู้ 1. ด้านความรู้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน 60% ข้ึนไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์ การประเมิน 2. ด้านทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรียนได้คะแนนระดับ กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ ด้านทกั ษะ คณุ ภาพดีขึ้นไป กระบวนการ 3. ด้านคุณลกั ษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดับ ท่พี งึ ประสงค์ (A) คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ ด้านคุณลกั ษณะ คณุ ภาพดีขึ้นไป ท่ีพงึ ประสงค์
เกณฑ์การประเมินแบบฝกึ หัด/ใบงาน ประเด็นการประเมิน ระดบั คุณภาพ 1. 1.ความถกู ต้องของ เนือ้ หา 4 3 21 2. รูปแบบ เนอ้ื หาสาระของ เน้ือหาสาระของ เน้อื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ 3. ความเป็นระเบยี บ ผลงานถูกต้อง ผลงานถกู ต้องเป็น ผลงานถกู ต้อง ผลงานไม่ถูกต้อง ครบถว้ น ส่วนใหญ่ บางประเดน็ เป็นสว่ นใหญ่ การนำเสนอ การนำเสนอถูกต้อง การนำเสนอ การนำเสนอไม่ น่าสนใจและ เป็นสว่ นใหญ่ ถูกต้องบางส่วน เปน็ ไปตามเกณฑ์ เหมาะสมกับ สถานการณ์ ผลงานมคี วาม ผลงานสว่ นใหญม่ ี ผลงานมี ผลงานไม่มีความ เปน็ ระเบียบ ข้อบกพร่อง ขอ้ บกพร่อง เปน็ ระเบยี บ เล็กนอ้ ย บางส่วน เกณฑ์ประเมนิ คณุ ภาพ 10 - 12 คะแนน หมายถงึ ดีมาก ระดบั 4 4 - 6 คะแนน หมายถึง พอใช้ ระดบั 2 7 - 9 คะแนน หมายถึง ดี ระดับ 3 1-3 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง ระดบั 1 เกณฑก์ ารให้คะแนนด้านทกั ษะและกระบวนการทำงาน ทกั ษะและกระบวนการ: การใหเ้ หตุผล คะแนน:ระดับคุณภาพ ความสามารถในการให้เหตุผลท่ีปรากฏให้เหน็ 4 : ดีมาก มกี ารอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจอย่างมีเหตุผล 3 : ดี มีการอ้างอิงทถี่ ูกต้องบางส่วน และเสนอแนวคิดประกอบการตดั สินใจ 2 : พอใช้ เสนอแนวคดิ ไมส่ มเหตสุ มผลในการประกอบการตดั สินใจ 1 : ควรปรบั ปรงุ แก้ไข มคี วามพยายามเสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจ ทกั ษะและกระบวนการ : การแกป้ ญั หา คะแนน:ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการแกป้ ญั หาทป่ี รากฏใหเ้ ห็น 4 : ดมี าก ใชก้ ระบวนการแก้ปญั หาได้สำเรจ็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ อธบิ ายถึงเหตุผล หลักการและขน้ั ตอนในการแก้ปัญหาได้เขา้ ใจชัดเจนนำมาซง่ึ คำตอบท่ีถูกต้อง
3 : ดี ใชก้ ระบวนการแก้ปัญหาไดส้ ำเร็จ แต่นา่ จะอธิบายถึงเหตุผล 2 : พอใช้ หลักการและขน้ั ตอนในการแกป้ ญั หาได้ดีกวา่ น้ี 1 : ควรปรบั ปรุงแก้ไข มีกระบวนการแกป้ ัญหา สำเร็จเพยี งบางส่วน อธบิ ายถงึ เหตุผล หลักการและข้นั ตอนในการแกป้ ัญหาได้บางส่วน มีร่องรอยการแก้ปัญหาบางสว่ น เรม่ิ คดิ ใช้เหตผุ ล หลกั การและข้นั ตอน ในการแก้ปัญหา แล้วหยดุ อธิบายต่อไม่ได้ แกป้ ัญหาไมส่ ำเร็จ ทักษะ และกระบวนการ: การเชื่อมโยง สรุปองค์ความรู้ คะแนน:ระดบั ความสามารถในการเช่ือมโยงที่ปรากฏใหเ้ หน็ คุณภาพ นำความรู้ หลกั การ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตร์ในการเชื่อมโยงกบั สาระคณติ ศาสตร์ 4 : ดมี าก หรอื กิจกรรมท่ตี ้องใช้องค์ความรู้ทเ่ี รยี นได้ถูกต้องทุกกิจกรรมเพ่ือชว่ ยในการแกป้ ัญหา หรือประยุกตใ์ ชไ้ ด้อย่างสอดคลอ้ งและเหมาะสม นำความรู้ หลกั การ และวธิ ีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเช่ือมโยงกบั สาระคณิตศาสตร์ 3 : ดี หรือกจิ กรรมท่ตี ้องใช้องค์ความรูท้ เี่ รียนได้เป็นส่วนใหญ่ เพือ่ ชว่ ยในการแก้ปญั หาหรอื ประยุกต์ใช้ไดบ้ างสว่ น 2 : พอใช้ นำความรู้ หลักการ และวิธกี ารทางคณิตศาสตร์ไปเช่อื มโยงกบั สาระคณิตศาสตรห์ รือ กจิ กรรมท่ีตอ้ งใชอ้ งค์ความรู้ท่ีเรยี นได้บางสว่ น 1 : ควรปรับปรงุ นำความรู้ หลักการ และวิธีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเชอ่ื มโยงยังไมเ่ หมาะสม สรุป แก้ไข องค์ความรู้ท่ีได้
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ : นักเรยี นใฝเ่ รยี นรู้ คะแนน : ระดับ คณุ ลกั ษณะทปี่ รากฏใหเ้ ห็น คณุ ภาพ 3 : ดีมาก - มีความสนใจ / ความต้ังใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้ 2 : ดี - มีความสนใจ / ความตงั้ ใจเป็นบางครัง้ 1 : พอใช้ - มคี วามสนใจ / ความต้ังใจในระยะเวลาส้ันๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรยี น คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ : นักเรียนมีความมุง่ มัน่ ในการทำงาน คะแนน : ระดบั คณุ ลกั ษณะที่ปรากฏใหเ้ หน็ คุณภาพ 3 : ดมี าก - สง่ งานก่อนหรือตรงกำหนดเวลานัดหมาย - รับผดิ ชอบในงานที่ได้รับมอบหมายและปฏิบตั ติ นเองจนเป็นนิสัย 2 : ดี - สง่ งานช้ากวา่ กำหนด แตไ่ ด้มกี ารตดิ ต่อชีแ้ จงผ้สู อน มีเหตุผลทีร่ บั ฟงั ได้ - รับผิดชอบในงานทีไ่ ด้รบั มอบหมายและปฏบิ ัตติ นเองจนเปน็ นิสยั 1 : พอใช้ - ส่งงานชา้ กวา่ กำหนด - ปฏิบตั งิ านโดยตอ้ งอาศัยการชแี้ นะ แนะนำ ตักเตือนหรือใหก้ ำลังใจ
บันทกึ ผลหลงั กระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ผลการเรียนรทู้ ่ีเกดิ ขึน้ กับผ้เู รียน 1.1 ผูเ้ รยี นผ่านจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จำนวน.....35........คน คดิ เปน็ ร้อยละ...100....... 1.2 ผเู้ รยี นไม่ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ จำนวน.......-............คน ไดแ้ ก.่ ............................................................................................................................... ........ สาเหตุ ..................................................................................................................................... 1.3 ผูเ้ รยี นได้รบั ความรู้ : ..ผู้เรียนได้เรียนรูต้ ามแผนการจดั การเรยี นรตู้ รงตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.4 ผเู้ รียนเกดิ ทักษะกระบวนการ : การหาผลหารและเศษที่ตัวต้งั ส่ีหลักและตัวหารหนง่ึ หลกั โดยการ หารยาว 1.5 ผูเ้ รยี นมคี ณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม :..ผู้เรยี นมคี วามตัง้ ใจในการเรยี น ชว่ ยเหลอื ซง่ึ กันและกนั 2. ปญั หา / อุปสรรค นกั เรียนบางคนยงั สบั สนและยงั ไมเ่ ข้าใจในเรื่องการหารยาวท่ีมีตวั เศษตัวตั้งส่ีหลกั และตวั หารหนง่ึ หลัก บางครั้งลมื ใสเ่ ศษและไม่นำผลคูณมามาลบกบั ตัวต้ังหารทำใหไ้ ด้คำตอบทีไ่ ม่ถูกต้อง 3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข สอนและอธบิ ายใหค้ วามรู้เพม่ิ เติมในสว่ นทีไ่ ม่เขา้ ใจใหก้ ับนักเรยี นทไ่ี มเ่ ข้าใจ 4. แผนการจดั การเรยี นรนู้ ใี้ ช้กบั นกั เรยี น หอ้ ง ป. 3 ในวนั ท่ี..2....เดือน. ธันวาคม พ.ศ. 2564 ลงชือ่ ................................ผู้สอน (นายวรพจน์ อย่างดี) คดิ เหน็ ผู้บริหาร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ .......................................................... (นางสาวสพุ รรณิกา สุบรรณาจ) ผอู้ ำนวยการโรงเรียนประชาสามัคคี
ใบงานท่ี 8 เร่ือง การหาผลหารและเศษท่ีตัวต้ังส่หี ลักและตวั หารหนงึ่ หลักโดยการหารยาว หาผลหารโดยการหารยาว 1. 1978 ÷ 9 = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. 2. 2455 ÷ 5 = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. 2875 ÷ 9 = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. 5745 ÷ 7 = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….……………………….................................................................................................................
แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 9 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 8 เรือ่ ง การหาร เร่ือง การหาผลหารและเศษทีต่ ัวตง้ั สีห่ ลกั และตวั หารหนงึ่ หลกั โดยการหารยาว (2) เวลาเรยี น 1 ชัว่ โมง สอนวันท่ี_________เดอื น________________พ.ศ.256_ มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้ีวดั มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของจำนวน ผลทเี่ กดิ ข้ึนจากการดำเนนิ การ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้ ตวั ชี้วดั : ค 1.1 ป.3/7 หาคา่ ของตัวไมท่ ราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการหารที่ตัวต้ังไม่เกนิ 4 หลกั ตวั หาร 1 หลัก จดุ ประสงค์การเรยี นรสู้ ตู่ ัวชี้วัด 1. บอกวิธีหาการหาผลหารและเศษท่ีตวั ตง้ั ส่ีหลักและตัวหารหนงึ่ หลักโดยการหารยาว (K) 2. การหาผลหารและเศษที่ตัวตัง้ ส่ีหลกั และตัวหารหน่งึ หลักโดยการหารยาว (P) 3. นกั เรยี นมคี วามมุ่งในการทำงานและสามารถนำความรู้ท่ีได้ไปต่อยอดในการเรียนเรื่องต่อไป (A) สาระสำคัญ การหาผลหารและเศษทต่ี ัวต้งั 4 หลกั และตวั หาร 1 หลกั โดยการหารยาว เรม่ิ จากหารจำนวนในหลกั ร้อย หลกั สิบ และหลกั หนว่ ยตามลำดับ เมื่อหารจำนวนในหลกั ใดใหเ้ ขียนเลขโดดทเ่ี ปน็ ผลหารในหลักนน้ั สาระการเรียนรู้ 1.ความรู้ การหาผลหารและเศษที่ตัวตั้งส่ีหลักและตัวหารหนึ่งหลักโดยการหารยาว 2.ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด 1.ความสามารถในการสอื่ สารความหมายทางคณิตศาสตร์ 2.การเช่อื มโยง 3.คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ม่งุ มั่นในการทำงาน ช้ินงานหรือภาระงาน ใบงานท่ี 9 เรอ่ื ง การหาผลหารและเศษทตี่ ัวตั้งสี่หลักและตัวหารหนง่ึ หลักโดยการหารยาว
กจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้ 1.ครยู กตวั อยา่ งการหาผลหารและเศษของจำนวน 4 หลกั กับจำนวน 1 หลัก โดยการหารยาวตาม หนงั สือเรียน หน้า 28 เช่น 7,249 ÷ 6 = โดยใช้การถาม – ตอบ ดังน้ี − ตวั ต้งั คือจำนวนใด (7,249) − ตัวหารคอื จำนวนใด (6) ครใู ห้นกั เรียนออกมาเขียนการหารยาวบนกระดาน − ขน้ั ท่ี 1 หารในหลกั ใด (หลักพัน) − 7 พัน หารด้วย 6 ไดเ้ ทา่ ไร (1 พัน) ครใู ห้นกั เรยี น ออกมาเขยี น 1 เปน็ ผลหารในหลกั พัน − ขัน้ ท่ี 2 หารในหลักใด (หลักร้อย) − ตวั ตั้งทหี่ ารในหลักร้อยคือจำนวนใด (12 ร้อย) − 12 รอ้ ย หารด้วย 6 ไดเ้ ทา่ ไร (2 ร้อย) ครูให้ นกั เรียนออกมาเขยี น 2 เปน็ ผลหารในหลกั ร้อย − ขน้ั ที่ 3 หารในหลักใด (หลักสบิ ) − 4 สบิ หารด้วย 6 ได้เทา่ ไร (0 สิบ) ครใู หน้ กั เรยี นออกมาเขยี น 0 เปน็ ผลหารในหลกั สบิ − ข้นั ท่ี 4 หารในหลักใด (หลักหน่วย) − ตัวตงั้ ทห่ี ารในหลักหน่วยคือจำนวนใด (49 หนว่ ย) − 49 หน่วย หารดว้ ย 6 ได้เทา่ ไร และเหลอื เทา่ ไร (ได้8 หนว่ ย เหลือ 1 หนว่ ย) ครใู ห้นักเรียนออกมาเขยี น 8 เป็นผลหารในหลกั หน่วย และเขยี น 1 เปน็ เศษ เขยี นแสดงวิธหี าผลหารและเศษโดยการหารยาวได้ดังนี้ ครถู ามนักเรยี นว่า 1,208 เศษ 1 เปน็ คำ ตอบท่ีถูกตอ้ งหรือไม่ นักเรียนควรตอบได้ว่า 1,208 เศษ 1 เป็นคำ ตอบท่ีถกู ต้อง เพราะ (6 × 1,208) + 1 = 7,249 จากนนั้ ครใู หน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มเขยี นแสดงวิธีหาผลหารโดยการหารยาว พรอ้ มตรวจคำ ตอบ
ครูอาจให้แตล่ ะกลุ่มจับฉลากเลอื กวา่ จะทำ ข้อใดแต่ต้องให้ครบทั้ง 10 ข้อ ตามโจทย์ใน หนังสือเรยี นหน้า 28 เมื่อแต่ละกลุม่ ทำ เสรจ็ แลว้ ให้ตวั แทนกลุ่มออกมานำ เสนอหนา้ ช้ันเรียนครแู ละ นักเรยี นทุกคนรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง 2. ครูให้นักเรียนแตล่ ะกล่มุ พิจารณาตวั อยา่ งการหาผลหารและเศษโดยการหารยาว 2 ตัวอยา่ งตาม หนังสือเรยี นหน้า 29 จากนน้ั ครูกำหนดให้ทำ กลุม่ ละ 2 ข้อ โดยให้แต่ละกลมุ่ ช่วยกันเขียนแสดงวิธหี า ผลหารและเศษโดยการหารยาวพรอ้ มตรวจคำตอบ ซ่ึงการตรวจคำตอบ คือ การนำตัวหารคณู ผลหาร บวกเศษเท่ากับตวั ตง้ั เมือ่ แต่ละกลุ่มทำเสรจ็ แล้วครูสุ่มตวั แทนกลุ่มออกมานำ เสนอหนา้ ชัน้ เรียนครู และนกั เรยี นทุกคนร่วมกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 3.ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียนเปน็ รายบุคคลโดยใหน้ กั เรียนเขยี นแสดงวธิ ีหาผลหารและเศษโดย การหารยาวตามหนงั สือเรียนหน้า 30 จากนั้นครูและนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ งและสรปุ สิง่ ทไ่ี ด้ เรยี นรูถ้ า้ พบว่ามีนักเรียนท่ีหาผลหารและเศษไม่ถูกต้อง ครูควรใหน้ ักเรยี นฝกึ เพม่ิ เติม 4.การหาผลหารและเศษท่ีตวั ตง้ั 4 หลกั และตวั หาร1 หลกั โดยการหารยาว เริ่มจากหารจำนวนในหลัก พนั หลักรอ้ ย หลักสบิ และหลกั หนว่ ย ตามลำ ดับ เมอ่ื หารจำนวนในหลักใดใหเ้ ขียนเลขโดดที่เปน็ ผลหารใน หลกั น้นั จากน้นั ให้นกั เรยี นทำ แบบฝกึ หดั 8.5.2 หน้า 26 – 28 จากนนั้ ให้ทำใบงานเพ่มิ เตมิ สอ่ื การเรียนรู้ 1.หนงั สือเรียนคณิตศาสตร์ ป.3 2. ใบงานที่ 9 เร่ือง การหาผลหารและเศษที่ตวั ตั้งสามหลักและตวั หารหนง่ึ หลักโดยการหารยาว การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ จุดประสงค์การ วธิ วี ัด เครอ่ื งมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ เรียนรู้ 1. ดา้ นความรู้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน 60% ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์ การประเมิน 2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรียนได้คะแนนระดบั กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ ด้านทักษะ คุณภาพดีขนึ้ ไป กระบวนการ 3. ดา้ นคุณลักษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรยี นได้คะแนนระดบั ท่พี ึงประสงค์ (A) คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ ด้านคณุ ลกั ษณะ คณุ ภาพดีข้นึ ไป ท่ีพงึ ประสงค์
เกณฑ์การประเมินแบบฝกึ หัด/ใบงาน ประเด็นการประเมนิ ระดบั คุณภาพ 1. 1.ความถกู ต้องของ เนอ้ื หา 4 3 21 2. รูปแบบ เนอื้ หาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ 3. ความเป็นระเบียบ ผลงานถูกต้อง ผลงานถูกต้องเป็น ผลงานถูกต้อง ผลงานไมถ่ ูกต้อง ครบถว้ น สว่ นใหญ่ บางประเด็น เป็นสว่ นใหญ่ การนำเสนอ การนำเสนอถูกต้อง การนำเสนอ การนำเสนอไม่ น่าสนใจและ เป็นส่วนใหญ่ ถกู ต้องบางส่วน เป็นไปตามเกณฑ์ เหมาะสมกบั สถานการณ์ ผลงานมคี วาม ผลงานส่วนใหญม่ ี ผลงานมี ผลงานไม่มีความ เปน็ ระเบียบ ขอ้ บกพร่อง ข้อบกพร่อง เป็นระเบียบ เล็กนอ้ ย บางส่วน เกณฑป์ ระเมนิ คณุ ภาพ 10 - 12 คะแนน หมายถงึ ดีมาก ระดับ 4 4 - 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ระดับ 2 7 - 9 คะแนน หมายถึง ดี ระดบั 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ระดับ 1 เกณฑก์ ารให้คะแนนดา้ นทกั ษะและกระบวนการทำงาน ทกั ษะและกระบวนการ: การให้เหตผุ ล คะแนน:ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ลท่ีปรากฏใหเ้ หน็ 4 : ดีมาก มีการอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจอย่างมเี หตุผล 3 : ดี มีการอ้างอิงทถ่ี ูกต้องบางส่วน และเสนอแนวคิดประกอบการตดั สินใจ 2 : พอใช้ เสนอแนวคิดไม่สมเหตสุ มผลในการประกอบการตัดสินใจ มีความพยายามเสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจ 1 : ควรปรับปรงุ แกไ้ ข
ทกั ษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา คะแนน:ระดับคุณภาพ ความสามารถในการแก้ปัญหาที่ปรากฏให้เห็น 4 : ดีมาก ใช้กระบวนการแกป้ ัญหาได้สำเร็จ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ อธิบายถงึ เหตุผล หลักการและขน้ั ตอนในการแก้ปัญหาได้เข้าใจชดั เจนนำมาซ่ึงคำตอบทถี่ ูกต้อง 3 : ดี ใช้กระบวนการแกป้ ญั หาไดส้ ำเร็จ แต่นา่ จะอธิบายถึงเหตุผล หลกั การและขน้ั ตอนในการแกป้ ัญหาได้ดกี ว่านี้ 2 : พอใช้ มีกระบวนการแกป้ ัญหา สำเรจ็ เพยี งบางส่วน อธบิ ายถึงเหตผุ ล หลกั การและขั้นตอนในการแก้ปญั หาได้บางส่วน มีร่องรอยการแกป้ ญั หาบางสว่ น เริ่มคดิ ใช้เหตุผล หลักการและข้ันตอน 1 : ควรปรับปรุงแก้ไข ในการแกป้ ัญหา แล้วหยดุ อธิบายต่อไม่ได้ แกป้ ัญหาไมส่ ำเรจ็ ทักษะ และกระบวนการ: การเชอ่ื มโยง สรุปองค์ความรู้ คะแนน:ระดับ ความสามารถในการเชือ่ มโยงที่ปรากฏใหเ้ ห็น คณุ ภาพ นำความรู้ หลกั การ และวิธีการทางคณิตศาสตร์ในการเชื่อมโยงกับสาระคณติ ศาสตร์ 4 : ดมี าก หรือกิจกรรมท่ีต้องใช้องคค์ วามรูท้ ่ีเรียนได้ถกู ต้องทุกกิจกรรมเพื่อช่วยในการแก้ปัญหา หรอื ประยุกต์ใช้ได้อยา่ งสอดคลอ้ งและเหมาะสม นำความรู้ หลกั การ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตร์ในการเชื่อมโยงกบั สาระคณิตศาสตร์ 3 : ดี หรอื กิจกรรมทต่ี ้องใชอ้ งคค์ วามรูท้ ่เี รยี นไดเ้ ป็นส่วนใหญ่ เพือ่ ชว่ ยในการแก้ปญั หาหรอื ประยุกต์ใช้ได้บางสว่ น 2 : พอใช้ นำความรู้ หลักการ และวธิ ีการทางคณิตศาสตร์ไปเช่อื มโยงกับสาระคณติ ศาสตรห์ รอื กิจกรรมท่ีต้องใชอ้ งค์ความรูท้ ี่เรยี นได้บางสว่ น 1 : ควรปรับปรงุ นำความรู้ หลักการ และวธิ ีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเช่อื มโยงยงั ไม่เหมาะสม สรุป แกไ้ ข องค์ความรู้ที่ได้
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ : นักเรยี นใฝ่เรียนรู้ คะแนน : ระดับ คณุ ลกั ษณะทปี่ รากฏใหเ้ ห็น คณุ ภาพ 3 : ดีมาก - มีความสนใจ / ความต้ังใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้ 2 : ดี - มีความสนใจ / ความตัง้ ใจเป็นบางครัง้ 1 : พอใช้ - มคี วามสนใจ / ความตง้ั ใจในระยะเวลาส้ันๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรยี น คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ : นักเรียนมคี วามม่งุ มัน่ ในการทำงาน คะแนน : ระดบั คุณลกั ษณะที่ปรากฏใหเ้ หน็ คุณภาพ 3 : ดมี าก - สง่ งานก่อนหรือตรงกำหนดเวลานัดหมาย - รับผดิ ชอบในงานท่ีได้รบั มอบหมายและปฏิบตั ติ นเองจนเป็นนิสัย 2 : ดี - สง่ งานช้ากวา่ กำหนด แตไ่ ด้มกี ารตดิ ต่อชีแ้ จงผ้สู อน มีเหตุผลทีร่ บั ฟงั ได้ - รับผิดชอบในงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายและปฏบิ ัตติ นเองจนเปน็ นิสยั 1 : พอใช้ - ส่งงานชา้ กวา่ กำหนด - ปฏิบตั งิ านโดยต้องอาศัยการชแี้ นะ แนะนำ ตักเตือนหรือใหก้ ำลังใจ
บนั ทกึ ผลหลงั กระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ผลการเรยี นรทู้ เี่ กดิ ขึ้นกับผู้เรียน 1.1 ผูเ้ รยี นผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ จำนวน.....35........คน คิดเปน็ ร้อยละ...100....... 1.2 ผเู้ รียนไม่ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ จำนวน.......-............คน ได้แก่....................................................................................................................... ................. สาเหตุ ..................................................................................................................................... 1.3 ผู้เรยี นได้รบั ความรู้ : ..ผู้เรยี นไดเ้ รียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ตรงตามจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.4 ผเู้ รยี นเกดิ ทักษะกระบวนการ : การหาผลหารและเศษที่ตัวตัง้ สห่ี ลักและตัวหารหนง่ึ หลกั โดยการ หารยาว 1.5 ผู้เรียนมคี ุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม :..ผเู้ รยี นมีความตงั้ ใจในการเรียน ช่วยเหลอื ซ่งึ กันและกัน 2. ปญั หา / อปุ สรรค ............................................................................................................................. ........... 3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................. ........... 4. แผนการจดั การเรยี นรนู้ ี้ใช้กับนักเรียน หอ้ ง ป. 3 ในวนั ท่.ี .3....เดอื น. ธันวาคม พ.ศ. 2564 ลงชือ่ ................................ผ้สู อน (นายวรพจน์ อย่างดี) คดิ เหน็ ผู้บริหาร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ .......................................................... (นางสาวสพุ รรณิกา สบุ รรณาจ) ผู้อำนวยการโรงเรียนประชาสามคั คี
ใบงานท่ี 9 เร่ือง การหาผลหารและเศษทต่ี วั ต้ังส่หี ลักและตัวหารหนึ่งหลกั โดยการหารยาว หาผลหารโดยการหารยาว 1. 2978 ÷ 9 = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. 2. 2000 ÷ 5 = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. 2925 ÷ 9 = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. 5856 ÷ 7 = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….……………………….................................................................................................................
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 10 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 8 เรื่อง การหาร เรอื่ ง การหาผลหารและเศษท่ีตวั ตั้งไมเ่ กินสีห่ ลกั และตัวหารหนง่ึ หลกั โดยการหารสน้ั (1) เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง สอนวันท่ี_________เดือน________________พ.ศ.256_ มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชี้วดั มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของจำนวน ผลทีเ่ กิดขน้ึ จากการดำเนินการ สมบตั ขิ องการดำเนนิ การ และนำไปใช้ ตวั ชว้ี ดั : ค 1.1 ป.3/7 หาคา่ ของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการหารที่ตวั ตงั้ ไมเ่ กนิ 4 หลกั ตวั หาร 1 หลกั จุดประสงคก์ ารเรียนรูส้ ู่ตวั ชี้วดั 1. บอกวิธีหาผลหารและเศษทีต่ วั ต้งั ไมเ่ กนิ 4 หลกั และตัวหาร 1 หลกั โดยการหารสน้ั ได้ (K) 2. หาผลหารและเศษท่ีตัวตงั้ ไมเ่ กนิ 4 หลักและตวั หาร 1 หลกั โดยการหารส้นั ได้ (P) 3. นักเรียนมีความมุ่งในการทำงานและสามารถนำความรูท้ ี่ไดไ้ ปต่อยอดในการเรียนเรื่องตอ่ ไป (A) สาระสำคัญ การหาผลหารและเศษทตี่ ัวตั้งไมเ่ กนิ 4 หลักและ ตวั หาร 1 หลักโดยการหารสนั้ ใช้หลักการเดียวกับ การหารยาว โดยเรมิ่ จากหารจำนวนในหลักพัน หลักรอ้ ยหลักสิบ และหลกั หน่วย ตามลำ ดับ เม่อื หารจำนวน ในหลักใดใหเ้ ขยี นเลขโดดท่ีเป็นผลหารในหลกั นั้น สาระการเรียนรู้ 1.ความรู้ การหาผลหารและเศษที่ตวั ต้ังไมเ่ กินสีห่ ลักและตวั หารหน่งึ หลักโดยการหารส้นั 2.ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด 1.ความสามารถในการสอื่ สารความหมายทางคณิตศาสตร์ 2.การเชอื่ มโยง 3.คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน ชิน้ งานหรอื ภาระงาน ใบงานที่ 10 เรื่อง การหาผลหารและเศษท่ตี ัวตง้ั ไม่เกินสี่หลักและตัวหารหน่งึ หลกั โดยการหารส้ัน
กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ 1.ครยู กตัวอย่างสถานการณเ์ กยี่ วกบั การหารตามหนังสือเรียนหน้า 31 เช่น คุกก้ี476 ชิน้ จดั ใสก่ ล่อง กล่องละ 4 ชน้ิ ไดค้ ุกก้กี ี่กล่อง ครถู ามนักเรียนว่าเขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์การหารได้อย่างไร นักเรยี น ควรตอบได้ว่า ประโยคสัญลกั ษณ์การหาร คือ 476 ÷ 4 = ครใู ห้นักเรียนออกมาเขียนแสดงวิธหี าผลหาร โดยการหารยาวบนกระดานไดด้ งั นี้ จะได้ 476 ÷ 4 = 119 ดงั น้ัน ไดค้ ุกก1ี้ 19 กล่อง ครูอธบิ ายว่าการเขียนแสดงการหาผลหารนน้ั ทำได้หลายวธิ ีนอกจากการเขยี นแสดงการหาผลหารโดยการหาร ยาวแล้ว สามารถเขียนแสดงการหาผลหารโดยการหารสั้น จากนัน้ ครูแนะนำเคร่ืองหมายหารสั้นและเขียน แสดงการหาผลหารของ 476 ÷ 4 โดยการหารสั้น ดงั นี้ 2. ครยู กตัวอยา่ งการหาผลหารและเศษของจำนวนไม่เกิน 4 หลกั กบั จำนวน 1 หลกั โดยการหารส้ันตาม หนังสอื เรยี นหนา้ 32 เชน่ 384 ÷ 3 โดยครอู ธบิ ายการหารทีละขนั้ ดังนี้ ขัน้ ท่ี 1 หารในหลักร้อย 3 รอ้ ย หารด้วย 3 ได1้ ร้อย เขียน 1 เปน็ ผลหารในหลกั ร้อย ดงั น้ี ขน้ั ที่ 2 หารในหลกั สิบ 4 สบิ หารดว้ ย 3 ได1้ สิบเหลือ 1 สิบ หรือ 10 หนว่ ย เขยี น 1 เป็นผลหารใน หลักสิบและเขยี น 1 สบิ หรอื 10 หนว่ ย ท่ีเหลือไว้หน้าตัวเลข 8 ใน หลักหน่วย ดงั นี้
ข้นั ที่ 3 หารในหลกั หน่วย 1 สิบหรอื 10 หนว่ ย ทีเ่ หลือไว้หน้าตวั เลข 8 หน่วย รวมเป็น 18 หน่วย 18 หนว่ ย หารดว้ ย 3 ได้ 6 หนว่ ย เขยี น 6 เปน็ ผลหาร ในหลักหนว่ ย ดังนี้ นั่นคอื 348 ÷ 3 = 116 3.ครใู ห้นกั เรยี นตรวจคำ ตอบ จะได้ 3 × 116 = 348 ดงั น้ัน 116 เปน็ คำ ตอบท่ีถูกต้อง ครูยกตัวอยา่ ง เพม่ิ เติมอีก 2 – 3 ตวั อย่าง จากน้นั ครใู หน้ ักเรียนจบั คแู่ ลว้ ชว่ ยกนั เขยี นแสดงการหาผลหารโดยการหารสน้ั พรอ้ มตรวจคำตอบ คู่ละ 1 ข้อ หากทุกค่ทู ำ เสร็จแล้ว ให้ออกมานำเสนอหน้าชนั้ เรยี น ครูและนกั เรยี นทุกคน ร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้อง ส่อื การเรยี นรู้ 1.หนังสอื เรียนคณิตศาสตร์ ป.3 2. ใบงานที่ 10 เรือ่ ง การหาผลหารและเศษทตี่ ัวตัง้ ไม่เกินสห่ี ลกั และตวั หารหนงึ่ หลกั โดยการหารสน้ั การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การ วิธวี ัด เครอ่ื งมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน เรยี นรู้ 1. ดา้ นความรู้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน 60% ข้ึนไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์ การประเมิน 2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรียนได้คะแนนระดับ กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ ดา้ นทักษะ คุณภาพดีขึน้ ไป กระบวนการ 3. ดา้ นคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนได้คะแนนระดบั ท่พี งึ ประสงค์ (A) คณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ ดา้ นคณุ ลักษณะ คณุ ภาพดีขึ้นไป ท่ีพึงประสงค์
เกณฑ์การประเมินแบบฝกึ หัด/ใบงาน ประเด็นการประเมนิ ระดบั คุณภาพ 1. 1.ความถกู ต้องของ เนอ้ื หา 4 3 21 2. รูปแบบ เนอื้ หาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ 3. ความเป็นระเบียบ ผลงานถูกต้อง ผลงานถูกต้องเป็น ผลงานถูกต้อง ผลงานไมถ่ ูกต้อง ครบถว้ น สว่ นใหญ่ บางประเด็น เป็นสว่ นใหญ่ การนำเสนอ การนำเสนอถูกต้อง การนำเสนอ การนำเสนอไม่ น่าสนใจและ เป็นส่วนใหญ่ ถกู ต้องบางส่วน เป็นไปตามเกณฑ์ เหมาะสมกบั สถานการณ์ ผลงานมคี วาม ผลงานส่วนใหญม่ ี ผลงานมี ผลงานไม่มีความ เปน็ ระเบียบ ขอ้ บกพร่อง ข้อบกพร่อง เป็นระเบียบ เล็กนอ้ ย บางส่วน เกณฑป์ ระเมนิ คณุ ภาพ 10 - 12 คะแนน หมายถงึ ดีมาก ระดับ 4 4 - 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ระดับ 2 7 - 9 คะแนน หมายถึง ดี ระดบั 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ระดับ 1 เกณฑก์ ารให้คะแนนดา้ นทกั ษะและกระบวนการทำงาน ทกั ษะและกระบวนการ: การให้เหตผุ ล คะแนน:ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ลท่ีปรากฏใหเ้ หน็ 4 : ดีมาก มีการอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจอย่างมเี หตุผล 3 : ดี มีการอ้างอิงทถ่ี ูกต้องบางส่วน และเสนอแนวคิดประกอบการตดั สินใจ 2 : พอใช้ เสนอแนวคิดไม่สมเหตสุ มผลในการประกอบการตัดสินใจ มีความพยายามเสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจ 1 : ควรปรับปรงุ แกไ้ ข
ทกั ษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา คะแนน:ระดับคุณภาพ ความสามารถในการแก้ปัญหาที่ปรากฏให้เห็น 4 : ดีมาก ใช้กระบวนการแกป้ ัญหาได้สำเร็จ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ อธิบายถงึ เหตุผล หลักการและขน้ั ตอนในการแก้ปัญหาได้เข้าใจชดั เจนนำมาซ่ึงคำตอบทถี่ ูกต้อง 3 : ดี ใช้กระบวนการแกป้ ญั หาไดส้ ำเร็จ แต่นา่ จะอธิบายถึงเหตุผล หลกั การและขน้ั ตอนในการแกป้ ัญหาได้ดกี ว่านี้ 2 : พอใช้ มีกระบวนการแกป้ ัญหา สำเรจ็ เพยี งบางส่วน อธบิ ายถึงเหตผุ ล หลกั การและขั้นตอนในการแก้ปญั หาได้บางส่วน มีร่องรอยการแกป้ ญั หาบางสว่ น เริ่มคดิ ใช้เหตุผล หลักการและข้ันตอน 1 : ควรปรับปรุงแก้ไข ในการแกป้ ัญหา แล้วหยดุ อธิบายต่อไม่ได้ แกป้ ัญหาไมส่ ำเรจ็ ทักษะ และกระบวนการ: การเชอ่ื มโยง สรุปองค์ความรู้ คะแนน:ระดับ ความสามารถในการเชือ่ มโยงที่ปรากฏใหเ้ ห็น คณุ ภาพ นำความรู้ หลกั การ และวิธีการทางคณิตศาสตร์ในการเชื่อมโยงกับสาระคณติ ศาสตร์ 4 : ดมี าก หรือกิจกรรมท่ีต้องใช้องคค์ วามรูท้ ่ีเรียนได้ถกู ต้องทุกกิจกรรมเพื่อช่วยในการแก้ปัญหา หรอื ประยุกต์ใช้ได้อยา่ งสอดคลอ้ งและเหมาะสม นำความรู้ หลกั การ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตร์ในการเชื่อมโยงกบั สาระคณิตศาสตร์ 3 : ดี หรอื กิจกรรมทต่ี ้องใชอ้ งคค์ วามรูท้ ่เี รยี นไดเ้ ป็นส่วนใหญ่ เพือ่ ชว่ ยในการแก้ปญั หาหรอื ประยุกต์ใช้ได้บางสว่ น 2 : พอใช้ นำความรู้ หลักการ และวธิ ีการทางคณิตศาสตร์ไปเช่อื มโยงกับสาระคณติ ศาสตรห์ รอื กิจกรรมท่ีต้องใชอ้ งค์ความรูท้ ี่เรยี นได้บางสว่ น 1 : ควรปรับปรงุ นำความรู้ หลักการ และวธิ ีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเช่อื มโยงยงั ไม่เหมาะสม สรุป แกไ้ ข องค์ความรู้ที่ได้
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ : นักเรยี นใฝ่เรียนรู้ คะแนน : ระดับ คณุ ลกั ษณะทปี่ รากฏใหเ้ ห็น คณุ ภาพ 3 : ดีมาก - มีความสนใจ / ความต้ังใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้ 2 : ดี - มีความสนใจ / ความตัง้ ใจเป็นบางครัง้ 1 : พอใช้ - มคี วามสนใจ / ความตง้ั ใจในระยะเวลาส้ันๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรยี น คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ : นักเรียนมคี วามม่งุ มัน่ ในการทำงาน คะแนน : ระดบั คุณลกั ษณะที่ปรากฏใหเ้ หน็ คุณภาพ 3 : ดมี าก - สง่ งานก่อนหรือตรงกำหนดเวลานัดหมาย - รับผดิ ชอบในงานท่ีได้รบั มอบหมายและปฏิบตั ติ นเองจนเป็นนิสัย 2 : ดี - สง่ งานช้ากวา่ กำหนด แตไ่ ด้มกี ารตดิ ต่อชีแ้ จงผ้สู อน มีเหตุผลทีร่ บั ฟงั ได้ - รับผิดชอบในงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายและปฏบิ ัตติ นเองจนเปน็ นิสยั 1 : พอใช้ - ส่งงานชา้ กวา่ กำหนด - ปฏิบตั งิ านโดยต้องอาศัยการชแี้ นะ แนะนำ ตักเตือนหรือใหก้ ำลังใจ
บนั ทกึ ผลหลงั กระบวนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ผลการเรยี นรู้ทีเ่ กิดขึ้นกับผเู้ รยี น 1.1 ผู้เรยี นผ่านจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ จำนวน.....35........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ...100....... 1.2 ผู้เรยี นไม่ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ จำนวน.......-............คน ไดแ้ ก่................................................................................................................................ ........ สาเหตุ ..................................................................................................................................... 1.3 ผูเ้ รยี นไดร้ บั ความรู้ : ..ผเู้ รียนไดเ้ รยี นรตู้ ามแผนการจัดการเรียนรู้ตรงตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.4 ผู้เรยี นเกิดทกั ษะกระบวนการ : การหาผลหารและเศษทต่ี ัวต้ังไมเ่ กนิ สีห่ ลักและตวั หารหนงึ่ หลัก โดยการหารส้นั 1.5 ผู้เรียนมคี ุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม :..ผ้เู รยี นมคี วามต้ังใจในการเรียน ช่วยเหลือซงึ่ กนั และกัน 2. ปัญหา / อุปสรรค นักเรียนบางคนยงั สบั สนและยงั ไม่เขา้ ใจในเรื่องการหารส้นั 3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข สอนและอธบิ ายใหค้ วามรู้เพ่ิมเติมในสว่ นท่ไี ม่เข้าใจให้กับนักเรยี นที่ไม่เขา้ ใจ 4. แผนการจดั การเรียนรู้นีใ้ ช้กบั นักเรยี น ห้อง ป. 3 ในวันท.่ี .8....เดอื น. ธนั วาคม พ.ศ. 2564 ลงชอื่ ................................ผสู้ อน (นายวรพจน์ อยา่ งดี) คดิ เหน็ ผบู้ ริหาร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ .......................................................... (นางสาวสพุ รรณิกา สบุ รรณาจ) ผอู้ ำนวยการโรงเรียนประชาสามัคคี
ใบงานท่ี 10 เร่อื ง การหาผลหารและเศษทีต่ ัวตั้งไม่เกนิ สี่หลักและตวั หารหนึง่ หลกั โดยการหารส้นั หาผลหารและเศษโดยการหารส้ันพรอ้ มตรวจคำตอบ 1. 178 ÷ 3 = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. 2. 1000 ÷ 4 = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. 2924 ÷ 9 = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. 5846 ÷ 6 = ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….……………………….................................................................................................................
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 11 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 8 เรื่อง การหาร เร่อื ง การหาผลหารและเศษท่ีตัวตั้งไมเ่ กินสีห่ ลกั และตัวหารหนง่ึ หลกั โดยการหารสน้ั (2) เวลาเรียน 1 ชั่วโมง สอนวันท่ี_________เดือน________________พ.ศ.256_ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วดั มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของจำนวน ผลที่เกิดข้นึ จากการดำเนินการ สมบตั ขิ องการดำเนนิ การ และนำไปใช้ ตัวช้ีวดั : ค 1.1 ป.3/7 หาค่าของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการหารที่ตวั ตงั้ ไมเ่ กนิ 4 หลกั ตวั หาร 1 หลกั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้สู่ตวั ชี้วดั 1. บอกวิธีหาผลหารและเศษทีต่ วั ต้งั ไมเ่ กนิ 4 หลกั และตัวหาร 1 หลกั โดยการหารสน้ั ได้ (K) 2. หาผลหารและเศษท่ีตัวตงั้ ไมเ่ กนิ 4 หลักและตวั หาร 1 หลกั โดยการหารส้นั ได้ (P) 3. นักเรียนมีความมุ่งในการทำงานและสามารถนำความรูท้ ี่ไดไ้ ปต่อยอดในการเรียนเรื่องตอ่ ไป (A) สาระสำคัญ การหาผลหารและเศษท่ตี วั ตั้งไมเ่ กนิ 4 หลักและ ตวั หาร 1 หลักโดยการหารสนั้ ใช้หลักการเดียวกับ การหารยาว โดยเรมิ่ จากหารจำนวนในหลักพัน หลักรอ้ ยหลักสิบ และหลกั หน่วย ตามลำ ดับ เม่อื หารจำนวน ในหลักใดใหเ้ ขยี นเลขโดดท่ีเป็นผลหารในหลกั นั้น สาระการเรียนรู้ 1.ความรู้ การหาผลหารและเศษที่ตวั ต้ังไมเ่ กินสีห่ ลักและตวั หารหน่งึ หลักโดยการหารส้นั 2.ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด 1.ความสามารถในการสอื่ สารความหมายทางคณิตศาสตร์ 2.การเชอื่ มโยง 3.คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน ชิ้นงานหรือภาระงาน ใบงานท่ี 11 เรื่อง การหาผลหารและเศษท่ตี ัวตง้ั ไม่เกินสี่หลักและตัวหารหน่งึ หลกั โดยการหารส้ัน
กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้ 1.ครยู กตวั อยา่ งการหาผลหารและเศษของจำนวนไม่เกนิ 4 หลักกบั จำนวน 1 หลัก โดยการหารสัน้ ตามหนงั สอื เรยี นหน้า 33 เชน่ 320 ÷ 8 โดยครอู ธิบายการหารทลี ะขน้ั ดงั น้ี ขั้นที่ 1 หารในหลกั รอ้ ย 3 ร้อย หารดว้ ย 8 ได้ 0 ร้อยเหลอื 3 รอ้ ย หรือ 30 สบิ เขยี น 0 เป็นผลหารใน หลักร้อยและเขียน 3 รอ้ ย หรือ 30 สบิ หนา้ ตวั เลข 2 ใน หลกั สิบ ขั้นที่ 2 หารในหลกั สบิ 3 รอ้ ยหรือ 30 สบิ รวมกบั 2 สิบ เป็น 32 สบิ 32 สบิ หารดว้ ย 8 ได4้ สิบ เขียน 4 เป็นผลหารในหลกั สิบ ขนั้ ท่ี 3 หารในหลกั หนว่ ย 0 หน่วย หารด้วย 8 ได้ 0 หน่วย เขยี น 0 เปน็ ผลหารในหลกั หน่วย เขียนแสดงวิธีหาผลหารโดยการหารสน้ั ดังนี้ ครูให้นกั เรยี นตรวจคำตอบ จะได้ 8 × 40 = 320 ดงั น้ัน 40 เปน็ คำตอบทีถ่ ูกต้อง ครยู กตวั อย่างเพ่ิมเตมิ เช่น 7,404 ÷ 6 ครอู ธบิ าย ข้ันตอนการหาผลหารโดยการหารสนั้ ดังน้ี ขัน้ ท่ี 1 หารในหลกั พัน 7 พัน หารดว้ ย 6 ได้1 พัน เหลือ 1 พนั เขยี น 1 เปน็ ผลหารในหลกั พนั และ เขยี น 1 พนั หรอื 10 รอ้ ย หน้าตวั เลข 4 ในหลกั รอ้ ย ขน้ั ท่ี 2 หารในหลักรอ้ ย 1 พนั หรอื 10 รอ้ ย รวมกับ 4 ร้อย เปน็ 14 ร้อย 14 ร้อย หารด้วย 6 ได2้ ร้อย เหลอื 2 ร้อย เขยี น 2 เปน็ ผลหารในหลกั ร้อย และเขียน 2 รอ้ ย หรอื 20 สิบ หนา้ ตวั เลข 0 ในหลักสิบ ขั้นท่ี 3 หารในหลักสิบ 2 ร้อย หรือ 20 สิบ รวมกับ 0 สิบ เปน็ 20 สบิ 20 สิบ หารดว้ ย 6 ได3้ สบิ เหลือ 2 สิบ หรือ 20 หนว่ ย เขยี น 3 เปน็ ผลหารในหลักสบิ ขน้ั ที่ 4 หารในหลักหน่วย 2 สิบ หรือ 20 หนว่ ย รวมกับ 4 หนว่ ย เปน็ 24 หนว่ ย 24 หนว่ ย หารดว้ ย 6 ได้ 4 หน่วย เขียน 4 เป็นผลหารในหลกั หนว่ ย เขยี นแสดงวธิ ีหาผลหารโดยการหารสั้น ดงั น้ี
2.ครใู หน้ กั เรียนตรวจคำ ตอบ จะได้ 6 × 1,234 = 7,404 ดังนนั้ 1,234 เป็นคำ ตอบท่ถี กู ต้อง จากน้ันครูให้ นกั เรยี นจับค่แู ล้วชว่ ยกันเขยี นแสดงวธิ หี าผลหารโดยการหารสั้นของโจทยใ์ นหนังสือเรยี นหนา้ 33 พรอ้ มตรวจ คำ ตอบ ครูอาจใหแ้ ต่ละคู่มาจบั ฉลากทำ คลู่ ะ 2 ข้อ ใหค้ รบ 10 ขอ้ แล้วใหแ้ ต่ละคู่ออกมานำ เสนอหน้าช้นั เรยี น ครแู ละนักเรยี นทกุ คนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากนนั้ ใหน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หดั 8.6.1 หนา้ 29 - 30 3. ครยู กตัวอยา่ งการหาผลหารและเศษของจำนวนไม่เกิน 4 หลกั กบั จำนวน 1 หลักโดยการหารสนั้ ตาม หนังสือเรียนหนา้ 34 เช่น 708 ÷ 5 โดยครูอธิบายการหารทลี ะขน้ั ดงั นี้ ขนั้ ท่ี 1 หารในหลกั รอ้ ย 7 รอ้ ย หารด้วย 5 ได1้ ร้อย เหลอื 2 ร้อย หรอื 20 สบิ เขยี น 1 เป็น ผลหารในหลกั รอ้ ย และเขียน 2 ไวห้ น้าตัวเลข 0 ในหลกั สิบ ขัน้ ท่ี 2 หารในหลักสิบ 2 รอ้ ย หรือ 20 สิบ รวมกบั 0 สิบ เปน็ 20 สบิ 20 สบิ หารด้วย 5 ได้4 สิบ เขียน 4 เป็นผลหารในหลกั สบิ ขน้ั ท่ี 3 หารในหลกั หน่วย 8 หนว่ ย หารด้วย 5 ได้1 หน่วย เหลือ 3 หน่วย เขยี น 1 เป็น ผลหารใน หลักหนว่ ย และเขียน 3 เปน็ เศษ เขียนแสดงการหาผลหารโดยการหารส้นั ดงั น้ี ดังนัน้ 708 ÷ 5 ได1้ 41 เศษ 3 ครใู หน้ กั เรียน ตรวจคำตอบ จะได้(5 × 141) + 3 = 708 ดงั น้ัน 141 เศษ 3 เป็นคำ ตอบทีถ่ ูกต้อง 4.จากนนั้ ครูใหน้ กั เรียนจบั ค่แู ล้วชว่ ยกันเขียนแสดงวิธีหาผลหารและเศษโดยการหารสั้นของโจทยใ์ นหนังสอื เรียนหนา้ 34 พรอ้ มตรวจคำ ตอบ ครูอาจใหแ้ ต่ละคู่ออกมาจับฉลากทำ ค่ลู ะ 2 ข้อ ใหค้ รบ 8 ข้อ แล้วให้แตล่ ะ คอู่ อกมานำเสนอหนา้ ช้นั เรียนครูและนักเรยี นทกุ คนรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง 5. ครใู ห้นักเรยี นแตล่ ะคู่พิจารณาตัวอย่างการหาผลหารและเศษโดยการหารสั้น 2 ตวั อย่าง ตามหนังสือ
เรยี นหนา้ 35 ให้แต่ละคู่ช่วยกันเขียนแสดงการหาผลหารและเศษโดยการหารส้นั พรอ้ มกบั ตรวจคำ ตอบ ซ่ึง การตรวจคำตอบคือ ตัวหารคูณผลหารบวกเศษเทา่ กบั ตัวต้ังครูจับฉลากให้แตล่ ะคู่ทำ คู่ละ 2 ขอ้ หากทุกคู่ทำ เสรจ็ แล้วใหอ้ อกมานำ เสนอหนา้ ชั้นเรยี นครูและนกั เรียนทุกคนรว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง ครเู นน้ ยำ้ วา่ เมื่อไดผ้ ลหารแลว้ ควรตรวจคำ ตอบทุกคร้ัง โดยนำ ตวั หารคูณผลหารบวกเศษเท่ากับตวั ตั้ง 6.ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเปน็ รายบคุ คลโดยการให้นักเรียนเขยี นแสดงวธิ ีหาผลหารและเศษ โดยการหารสัน้ พร้อมตรวจคำ ตอบตามหนงั สือเรียนหน้า 36 จากน้ันครูและนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความ ถกู ต้องและ สรปุ ส่งิ ที่ไดเ้ รียนรถู้ า้ พบวา่ มีนักเรียนทหี่ าผลหารและเศษไม่ถกู ต้อง ครูให้นักเรยี นฝึกเพิม่ เติม การหาผลหารและเศษทต่ี ัวต้ังไม่เกนิ 4 หลักและตัวหาร 1 หลกั โดยการหารส้นั ใชห้ ลักการเดียวกบั การหารยาว โดยเรม่ิ จากหารจำนวนในหลกั พัน หลกั รอ้ ยหลักสิบ และหลกั หน่วย ตามลำ ดบั เมอื่ หาร จำนวนในหลักใดใหเ้ ขียนเลขโดดทีเ่ ปน็ ผลหารในหลกั น้ันจากนั้นใหน้ ักเรยี นทำ แบบฝกึ หดั 8.6.2 หนา้ 31 – 32 จากนั้นให้ทำใบงานเพ่มิ เติม ส่อื การเรียนรู้ 1.หนงั สือเรยี นคณิตศาสตร์ ป.3 2. ใบงานที่ 11 เร่อื ง การหาผลหารและเศษที่ตวั ต้ังไมเ่ กินส่หี ลกั และตัวหารหน่ึงหลกั โดยการหารสน้ั การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ จุดประสงค์การ วิธวี ัด เครือ่ งมือวัด เกณฑ์การประเมนิ เรยี นรู้ 1. ดา้ นความรู้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน 60% ขึ้นไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ การประเมิน 2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรยี นได้คะแนนระดับ กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ ด้านทักษะ คุณภาพดีขนึ้ ไป กระบวนการ 3. ด้านคณุ ลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรียนได้คะแนนระดับ ที่พึงประสงค์ (A) คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ ดา้ นคุณลกั ษณะ คณุ ภาพดีขึน้ ไป ท่พี ึงประสงค์
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148