100 ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น 3. คำ� แนะนำ� ในการปฏิบตั ิตนในภาวะประสบภยั 3.1 หมอกควนั หมอกควนั เปน็ มลพษิ ทางอากาศทป่ี ระกอบดว้ ยฝนุ่ ละอองขนาดเลก็ กวา่ 10 ไมครอน หรอื ทเ่ี รยี กวา่ พเี อม็ เทน็ (ฝPนุ่ Mล1ะ0อ) อซงึ่งทผไี่ ลดกร้ รบั ะทแลบะตร่อะรยา่ ะงเกวาลยาจทะส่ี รมั นุ ผแสั รงทแำ� คให่ไหเ้ กนดิ ขกึ้นาอรยระู่กคับาอยาเยคุผอื ู้สงตัมาผสัตาภแูมดติงา้ ผนน่ื ทคานั นแระตค่ลาะยบเคุคอืคงลเยปอ่ื รบิมจุ ามณกู หอบหดื หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ ถงุ ลมโป่งพอง รวมไปถึงโรคหัวใจเตน้ ผดิ จงั หวะ และหัวใจลม้ เหลว ดังน้ัน เด็กนกั เรยี นในพ้นื ท่ปี ระสบปญั หาหมอกควัน ควรมีการปฏิบัตติ น ดังน้ี 3.1.1 ตดิ ตามขอ้ มูลจากหนว่ ยงานภาครฐั เพ่อื เฝา้ ระวงั สถานการณห์ มอกควัน ด้วย 3 วิธี คือ 1) ทางเว็บไซต์ http://air4thai.pcd.go.th และ Application บน Smartphone ทช่ี ื่อว่า “air4thai” จัดท�ำโดยกรมควบคุมมลพิษ โดยจะแสดงปริมาณค่าเฉล่ียความเข้มข้นของฝุ่นละอองขนาด เลก็ กว่า 10 ไมครอน ใน 24 ชั่วโมง เทียบกับค่ามาตรฐานทกี่ ำ� หนดไว้ และใช้สีเปน็ สญั ลักษณ์ ในการบ่งช้ีระดับผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งกรมอนามัยได้แนะน�ำการปฏิบัติตนของประชาชน ทวั่ ไปและประชาชนกลมุ่ เสยี่ งตามระดบั ความรนุ แรงของผลกระทบตอ่ สขุ ภาพดงั แสดงในตาราง
101 ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น
ตารางที่ 4 คำ� แนะน�ำในการปฏิบัติตนส�ำหรับประชาชนทัว่ ไปและประชาชนกล่มุ เส่ียง โดยจำ� แนกตามระดบั ของฝุ่นละอองขนาดเลก็ กว่า 10 ไมครอน (PM10) ฝ่นุ ละอองขนาดเลก็ กว่า ประชาชนทัว่ ไป เดก็ ผ้สู งู อายุ ผปู้ ว่ ยโรคทางเดนิ หายใจ/ 10 ไมครอน หญงิ ต้งั ครรภ์ ระบบหลอดเลอื ด และหัวใจ เฉล่ยี 24 ชั่วโมง 0-40 กิจกรรมปกติ กิจกรรมปกติ กิจกรรมปกติ 41-120 กิจกรรมปกติ ● หลกี เล่ยี งสถานท่มี ฝี นุ่ ละออง ● หลีกเลย่ี งสถานท่มี ฝี นุ่ ละออง ● จำ�กัดเวลากจิ กรรมนอกอาคาร ● จำ�กดั เวลากิจกรรมนอกอาคาร ● เตรียมยาและอุปกรณจ์ ำ�เป็นให้พร้อม 102 121-350 ลดกจิ กรรมทตี่ อ้ งใชร้ ะยะ จำ�กดั กจิ กรรมที่ต้องใชร้ ะยะเวลา ● หลีกเลย่ี งกิจกรรมทต่ี ้องใช้ระยะเวลา มีผลกระทบ เวลาและออกแรงมาก และออกแรงมากนอกอาคาร และออกแรงมากนอกอาคาร ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น นอกอาคาร ● หากหลกี เลีย่ งไม่ไดใ้ ห้ลดระยะเวลา และสวมหน้ากากป้องกนั ฝุน่ ละออง 351-420 ● หลีกเลยี่ งกิจกรรมทีใ่ ช้ ● ทำ�กจิ กรรมนอกอาคาร ● หลกี เล่ียงกิจกรรมนอกอาคาร มีผลกระทบมาก เวลาและออกแรงมาก ให้น้อยทีส่ ดุ ● หากหลีกเลย่ี งไมไ่ ด้ใหล้ ดระยะเวลา นอกอาคาร ● หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้ลด และสวมหน้ากากปอ้ งกันฝุน่ ละออง ● หากหลีกเลย่ี งไม่ได้ ระยะเวลาและสวมหนา้ กาก ให้ลดระยะเวลาและ ป้องกนั ฝุ่นละออง สวมหนา้ กากปอ้ งกัน ฝุน่ ละออง มากกว่า 420 ● ทำ�กิจกรรมนอกอาคาร ● อยูใ่ นอาคารหรอื หอ้ งสะอาด ● อยใู่ นอาคารหรือห้องสะอาด มีผลกระทบรุนแรง ให้น้อยที่สุด ปลอดฝุ่นละออง ปลอดฝุ่นละออง ● หากหลกี เลี่ยงไมไ่ ด้ ● สวมหน้ากากป้องกันฝนุ่ ละออง ● สวมหนา้ กากปอ้ งกนั ฝนุ่ ละออง หากจำ�เปน็ ให้ลดระยะเวลา หากจำ�เปน็ ต้องออกนอกอาคาร ต้องออกนอกอาคาร และสวมหน้ากาก ป้องกันฝ่นุ ละออง ท่ีมา: ประกาศกรมอนามยั เรอ่ื ง มาตรฐานค่าเฝ้าระวังผลกระทบตอ่ สุขภาพจากฝุ่นละอองขนาดเลก็ กวา่ 10 ไมครอน ณ วันที่ 30 เมษายน 2558
2) การวัดปริมาณความเข้มข้นของฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนอย่างง่ายด้วยตนเอง โดยวัดจากจำ� นวนเสาไฟฟ้าท่มี องเหน็ ซ่งึ เสาไฟฟา้ แต่ละต้นจะหา่ งกนั ประมาณ 40-50 เมตร ถ้ามองเห็นเสาไฟฟ้าตัง้ แต่ 4 ต้นขึ้นไป แสดงวา่ สภาพอากาศยงั อยใู่ นระดับทีป่ ลอดภัย แต่ถา้ มองเหน็ เสาไฟฟา้ ไดน้ อ้ ยกวา่ 4 ตน้ ถอื วา่ สภาพอากาศคอ่ นขา้ งวกิ ฤตและเรมิ่ ไมป่ ลอดภยั ระยะ การมองเหน็ เสาไฟฟ้าสอดคลอ้ งกับประมาณฝ่นุ ละอองขนาดเล็ก ดงั น้ี (1) เหน็ เสาไฟฟา้ ไดไ้ กลประมาณ 4 เสา = PPPPMMMM11110000(นมรรขะะอ้า้อหหกยมววกกูลาา่่ ววงงสา่า่ �ำ 1น112225กั00000ป--ไ21ลไม50มัดโ00โกคคไไรรรมมะกกโโทรคครมัรมัรรวตกกตงอ่รรอ่ สมมััลลาตตกูกู ธออ่่บบาลลาารกกููศณศบบกกสาาเ์เ์ มศศมุขตกก,ตเเ์์2รรมม5ตต5รร7) (2) เหน็ เสาไฟฟา้ ไดไ้ กลประมาณ 3 เสา = 103 (3) เหน็ เสาไฟฟา้ ไดไ้ กลประมาณ 2 เสา = (4) เหน็ เสาไฟฟา้ ไดไ้ กลประมาณ 1 เสา = 3) รับฟังข่าวสารปริมาณความเขม้ ข้น PM10 ไดต้ ามสอ่ื ต่าง ๆ ได้แก่ โทรทศั น์ วทิ ยุ หนงั สือพิมพ์ ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น เปน็ ตน้ 3.1.2 การปฏิบัตติ ัวเม่อื เกิดเหตสุ ถานการณ์หมอกควัน 1) ในกรณีท่ีต้องออกนอกอาคาร ควรปิดปากและจมูกด้วยหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองชนิดครอบ ทงั้ ปากและจมกู หากไมม่ หี นา้ กากปอ้ งกนั ฝนุ่ ละอองใหใ้ ชผ้ า้ ชบุ นำ้� หมาด ๆ ปดิ แทนไดช้ วั่ คราว 2) เดก็ นกั เรียนท่ีภมู ติ ้านทานต่ำ� ควรงดกิจกรรมนอกอาคาร และปฏิบัตติ ามคำ� แนะน�ำของแพทย์ อยา่ งเครง่ ครดั หากพบวา่ มีอาการไอ แนน่ หนา้ อก วงิ เวียนศรี ษะ คล่นื ไส้ อาเจียน ผน่ื แดง หรอื อาการผิดปกตทิ างร่างกายอนื่ ๆ ควรรบี ไปพบแพทยท์ ันที 3) หลีกเลี่ยงการออกก�ำลังกายนอกอาคาร ถ้าจ�ำเป็น ควรลดเวลาออกก�ำลังกายหรือกิจกรรม ที่ออกแรงหนกั เนอ่ื งจากจะทำ� ให้เกดิ การเพิม่ อัตราการหายใจเอาปรมิ าณฝุ่นเขา้ ไปมากขนึ้ 4) งดกิจกรรมท่ีท�ำให้เกิดการฟุ้งกระจายของฝุ่นในอาคาร เช่น การใช้ผ้าชุบน�้ำท�ำความสะอาด แทนการกวาดห้องเรยี น เป็นต้น 5) งดการรองรับน้�ำฝนไว้ใช้อุปโภคบริโภคช่ัวคราว แต่ถ้าหากจ�ำเป็นต้องรองน้�ำควรปล่อยให้ ฝนตกลงมาอย่างนอ้ ย 1 ชั่วโมง กอ่ นรองน�ำ้ ไว้ใช้
ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น 6) จดั เตรยี มหอ้ งเรยี นสะอาด (clean room) เปน็ หอ้ งทม่ี ฝี นุ่ นอ้ ยทสี่ ดุ ใชผ้ า้ ชบุ นำ้� หมาด ๆ ทำ� ความ สะอาดหอ้ งเรยี นอยเู่ สมอและไมค่ วรทำ� กจิ กรรมทจ่ี ะกอ่ ใหเ้ กดิ ฝนุ่ หรอื ควนั เพมิ่ ขน้ึ ภายในอาคารเรยี น เช่น จุดเทียน จุดธปู เป็นตน้ 7) ครูสังเกตอาการผดิ ปกตขิ องร่างกายของนักเรยี น โดยเฉพาะเดก็ ท่ีมปี ัญหาสุขภาพ ปฏบิ ัติตาม คำ� แนะนำ� ตามประกาศของหน่วยงานราชการท่เี กย่ี วขอ้ ง เช่น การลดปริมาณฝุ่นควันโดยการ ไม่เผาในท่โี ลง่ การปอ้ งกันตนเองดว้ ยวธิ กี ารต่าง ๆ เป็นต้น 8) กรณสี ถานการณห์ มอกควนั รนุ แรง ใหย้ า้ ยทพี่ กั ไปทอี่ น่ื ชวั่ คราว เชน่ บา้ นญาตหิ รอื สถานทท่ี รี่ ฐั จัดให้ และกรณีผู้ท่ีมีโรคประจ�ำตัวควรจัดเตรียมส�ำรองยาไว้ให้เพียงพอ และหากมีอาการ ผดิ ปกตคิ วรพบแพทยท์ ันที 104 รูปที่ 53 แสดงตัวอย่างหมอกควนั 3.2 ภยั ร้อน ในช่วงฤดูร้อน (เดือนมีนาคม-พฤษภาคม) อาจพบอากาศร้อนอบอ้าว หรืออุณหภูมิ อากาศสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส ซึ่งเมื่อร่างกายสัมผัสกับความร้อนเป็นเวลานาน หรืออยู่ใน สิ่งแวดล้อมที่มีความร้อนสูงจนร่างกายไม่สามารถปรับตัวได้ อาจก่อให้เกิดการเจ็บป่วยหรือ เสียชีวติ ได้ ดงั นั้น การปฏบิ ตั ิตนในภาวะประสบภยั ควรเตรยี มความพรอ้ ม ดงั นี้
3.2.1 กรณีนักเรียนทวั่ ไป 105 1) หม่ันจบิ น�้ำสะอาดบ่อย ๆ 2) สวมใส่เส้ือผา้ สีอ่อน บาง เพื่อระบายความรอ้ น ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น 3) หลีกเล่ียงการดืม่ แอลกอฮอล์ หรือเคร่อื งดม่ื ท่ีมีน้�ำตาลสูง เพราะจะท�ำให้รา่ งกายขาดน�ำ้ 4) ไม่ควรเปดิ พัดลมจ่อตรงตัวในขณะทอ่ี ากาศร้อนสูง (มากกว่า 37 องศาเซลเซยี ส เพราะพดั ลม จะดดู ความรอ้ นเขา้ มา) 5) หลกี เล่ียงการอยูก่ ลางแดดทร่ี อ้ นจดั 6) ควรมหี มายเลขโทรศพั ทข์ องสถานพยาบาลใกล้ทส่ี ุด หรือติดต่อสายดว่ นกระทรวงสาธารณสุข หมายเลข 1669 7) ติดตามข่าวสาร หรือการเตอื นภยั จากหน่วยงานราชการอยา่ งสม�ำ่ เสมอ 3.2.2 กรณนี กั เรียนอายนุ ้อยกว่า 5 ขวบ หรอื มีโรคประจำ� ตวั 1) อยา่ ปลอ่ ยใหเ้ ดก็ เลก็ อยใู่ นรถทจี่ อดตากแดดตามลำ� พงั โดยเดด็ ขาด (รถทจ่ี อดตากแดด โดยไมเ่ ปดิ เครือ่ งปรบั อากาศอาจมอี ุณหภูมิสงู ถงึ 50 องศาเซลเซยี ส ไดภ้ ายใน 20 นาที) 2) หากอากาศรอ้ นจดั ควรหลกี เลยี่ งการนำ� เดก็ ออกนอกบา้ น ถา้ จำ� เปน็ ควรสวมหมวก สวมเสอื้ แขนยาว กางเกงขายาว และกางรม่ เพอ่ื ป้องกนั แสงแดด 3) ดแู ลเดก็ เลก็ อยา่ งใกลช้ ดิ เนอื่ งจากเดก็ เจบ็ ปว่ ยงา่ ยกวา่ ผใู้ หญ่ หากมอี าการทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั ความรอ้ น ควรพบแพทยท์ นั ที รูปท่ี 54 ตวั อย่างภยั รอ้ น
ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น 3.3 ภยั แลง้ ภยั แล้งเกดิ จากการเปลย่ี นแปลงของสภาพภมู ิอากาศและส่งิ แวดลอ้ ม ทม่ี าจากการกระทำ� ของมนษุ ย์เชน่ การตดั ไมท้ ำ� ลายปา่ การใชป้ ระโยชน์ จากน้�ำท�ำให้ปริมาณน้�ำในอ่างเก็บน�้ำลดลง ระบบการเพาะปลูก ความถีข่ องการเพาะปลกู เปน็ ตน้ และสาเหตุจากธรรมชาติ เชน่ ฝนทง้ิ ชว่ ง ปรมิ าณนำ้� ฝนนอ้ ย ปรากฏการณเ์ อลนโี ญรนุ แรง พน้ื ดนิ มี ความสามารถในการเก็บกักความชื้นต�่ำ ปริมาณน้�ำใต้ดินมีน้อย เป็นต้น ซึ่งภัยแล้งนี้ส่งผลต่อสุขภาพของคน เช่น โรคอุจจาระร่วงจาก อาหารทเ่ี นา่ เสยี งา่ ย โรคไขห้ วดั หนา้ รอ้ น โรคผวิ หนงั กลาก เกลอ้ื น ผดรอ้ น โรคลมแดด เปน็ ตน้ ดงั นน้ั ในภาวะประสบภยั 106 ควรเตรียมความพรอ้ มเรื่องน้ำ� ดื่ม น�้ำใชท้ ส่ี ะอาดให้พอเพยี งในภาวะภัยแลง้ ดงั น้ี 3.3.1 ล้างท�ำความสะอาดภาชนะเก็บกักน�้ำให้สะอาด มีฝาปิด มีภาชนะอุปกรณ์ท่ีสะอาดส�ำหรับตักน้�ำ โดยเฉพาะ วางไวใ้ นทเ่ี หมาะสม และควรสำ� รองภาชนะเกบ็ กกั นำ�้ ไวใ้ หเ้ พยี งพอสำ� หรบั ชว่ งประสบภยั 3.3.2 หากเลือกน�้ำบรรจุขวดเป็นน�้ำดื่ม ต้องพิจารณาเลือกที่มีเลขสารบบอาหารหรือเคร่ืองหมายรับรอง คณุ ภาพของสำ� นกั งานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) 3.3.3 หากนำ� นำ้� จากแหลง่ นำ้� ธรรมชาติ เชน่ แมน่ ำ้� ลำ� คลอง หนอง บงึ และอน่ื ๆ เปน็ ตน้ มาใชใ้ นโรงเรยี น จะต้องท�ำการปรับปรุงคุณภาพน�้ำให้สะอาดและฆ่าเช้ือโรคก่อน โดยการใช้คลอรีนหยดทิพย์ (เป็นสารละลายคลอรีนชนิดเจือจาง 2%) ใช้จ�ำนวน 1 หยดต่อน้�ำ 1 ลิตร ส�ำหรับน�้ำด่ืมน้�ำใช้ ควรมคี ลอรีนอสิ ระคงเหลอื อยรู่ ะหว่าง 0.2 - 0.5 มลิ ลกิ รัมต่อลติ ร 3.3.4 ใช้สารส้มชนิดก้อนกวนในน้�ำ เม่ือตะกอนในน้�ำเริ่มจับตัวน�ำสารส้มออก ใช้มือเปล่ากวนน�้ำต่อ 1 - 2 นาที ต้งั ทงิ้ ไวจ้ นตกตะกอน ใช้สายยางจุ่มไปท่กี ้นภาชนะบรเิ วณที่เกิดตะกอน ดดู ตะกอนออก จนหมดเหลือแต่น้ำ� ใส เติมคลอรีนตามปริมาณทกี่ �ำหนด 3.3.5 ใชน้ ำ�้ อย่างประหยัดและค้มุ ค่า 3.3.6 รบั ประทานอาหารทส่ี ด ใหม่ และปรุงสุกทกุ ครง้ั
รูปที่ 55 ตวั อยา่ งภัยแลง้ 107 3.4 นำ้� ทว่ ม ปญั หานำ�้ ทว่ มทำ� ใหม้ โี อกาสทจี่ ะเกดิ โรคและภยั ตา่ ง ๆ ทม่ี าจาก ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น น้ำ� ท่วม เชน่ โรคอจุ จาระร่วง โรคไขฉ้ หี่ นู ไขห้ วดั ใหญ่ ปอดบวม ตาแดง แผลตดิ เชื้อ และโรคหดั เป็นต้น ซึง่ มักเกดิ การระบาดไดง้ ่ายเมือ่ มีคนอยู่ รวมกันเป็นจ�ำนวนมาก ดังนั้น ในระหว่างน้�ำท่วมต้องมีการเตรียมตัว รับมืออยา่ งปลอดภัย ดงั น้ี 3.4.1 ในการรับประทานอาหารและน�้ำทุกคร้ัง ต้องม่ันใจ ว่าอาหารและน้�ำนั้นสะอาด ควรอุ่นอาหารทุกครั้ง ก่อนรับประทาน 3.4.2 งดรับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ ต้องปรุงให้สุกก่อน เพราะในกรณีน�้ำท่วมมีโอกาสที่จะได้รับ เชอื้ โรคสงู มาก 3.4.3 ลา้ งมอื ใหบ้ ่อยเทา่ ท่ีจะท�ำได้ 3.4.4 หากเปน็ อาหารกระปอ๋ งหรอื อาหารสำ� เรจ็ รปู ตอ้ งตรวจสอบวนั หมดอายุ และกระปอ๋ งทบี่ รรจอุ าหาร ตอ้ งอยใู่ นสภาพสมบรู ณ์ ไมบ่ บุ ไมบ่ วม และไมเ่ ปน็ สนมิ ควรทำ� ใหร้ อ้ นกอ่ นทกุ ครง้ั กอ่ นรบั ประทาน
3.4.5 ถา่ ยอจุ จาระและปสั สาวะลงส้วม หา้ มถ่ายลงนำ้� โดยตรง เพอ่ื ไม่ใหเ้ ปน็ การกระจายตวั ของเชอื้ โรค กรณีท่ีไม่มีห้องน้�ำต้องถ่ายลงในถุงพลาสติก และถ้าเป็นอุจจาระต้องใส่ปูนขาวลงไปพอประมาณ เพ่ือฆา่ เช้ือโรค หลังจากน้ันผูกถงุ ให้สนิทแลว้ ทิ้งในถุงดำ� อีกที เพ่ือป้องกันเช้อื โรคแพร่กระจาย 3.4.6 หากเกิดภาวะท้องเสีย ให้ด่ืมเกลือแร่ท่ีผสมน�้ำต้มสุกหรือน�้ำสะอาด หากสามารถเดินทางไป โรงพยาบาลหรอื หนว่ ยรกั ษาพยาบาลไดใ้ หร้ บี ไปทนั ที ทสี่ ำ� คญั หา้ มผปู้ ว่ ยถา่ ยอจุ จาระลงนำ้� เดด็ ขาด 3.4.7 หลีกเล่ียงการแช่น้�ำนาน ๆ โดยเฉพาะผู้มีแผลในท่ีท่ีสัมผัสน้�ำได้ หากจ�ำเป็นควรสวมถุงพลาสติก หรือใส่รองเท้าบูท เพราะการแช่ในน�้ำนอกจากแผลมีโอกาสติดเช้ือและรับเชื้อโรคเข้าร่างกายแล้ว ยงั ท�ำให้มโี อกาสเป็นโรคน้ำ� กดั เทา้ และโรคมอื เท้าเปอื่ ย อกี ดว้ ย 3.4.8 ระมัดระวงั สัตวเ์ ลอื้ ยคลาน เชน่ งู ตะขาบ แมงปอ่ ง สตั ว์มีพษิ จระเข้ (กรณีทอ่ี ยู่ใกล้แมน่ �ำ้ คลอง) 108 เป็นต้น หากพักอาศยั อยใู่ นบรเิ วณโรงเรียน ควรจัดทพ่ี กั ใหโ้ ล่ง สวา่ ง เพอ่ื ใหง้ ่ายในการระมัดระวัง ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น รูปที่ 56 ตวั อยา่ งน�ำ้ ทว่ ม
3.5 แผ่นดินไหว 109 แผน่ ดนิ ไหวสามารถสรา้ งความเสยี หายไดอ้ ยา่ งมากหากเกดิ ขน้ึ บริเวณโรงเรียนท่ีมนี ักเรียนอยู่ แผน่ ดินไหวท่มี ีขนาดตง้ั แต่ 5.0 ริคเตอรข์ ึ้นไป ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น สามารถทำ� ใหเ้ กดิ ความเสยี หายแกอ่ าคารและสงิ่ กอ่ สรา้ งได้ แรงสนั่ สะเทอื น ท�ำให้อาคารเรียนถล่ม เส้นทางคมนาคมและระบบสาธารณูปโภคเสียหาย อาจทำ� ใหเ้ ขอ่ื นพงั เกดิ เปน็ อทุ กภยั อยา่ งฉบั พลนั ทง้ั นข้ี น้ึ อยกู่ บั ระยะหา่ งจากจดุ ก�ำเนิดแผ่นดินไหว และสภาพทางธรณีวิทยาของท่ีต้ังอาคารหรือสิ่งก่อสร้าง แผน่ ดนิ ไหวจะกอ่ ใหเ้ กดิ ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพอนามยั ของนกั เรยี น เชน่ ไดร้ บั บาดเจบ็ หรอื เสยี ชวี ติ จากสง่ิ กอ่ สรา้ งทถี่ ลม่ ไร้ที่เรียนหนังสือ อาจเกิดการระบาดของโรคต่าง ๆ จากระบบสาธารณูปโภคท่ีได้รับความเสียหาย อาจบาดเจ็บหรือ เสยี ชวี ติ จากเหตอุ คั คภี ยั หรอื ไฟฟา้ ลดั วงจร รวมไปถงึ สขุ ภาพจติ ของผปู้ ระสบภยั เสอื่ มลง เปน็ ตน้ ดงั นน้ั เมอื่ เกดิ เหตกุ ารณ์ แผ่นดนิ ไหว จ�ำเปน็ ตอ้ งมสี ติ และเอาตัวรอดจากเหตกุ ารณ์อยา่ งปลอดภยั ดงั นี้ 3.5.1 หากอยู่ในอาคารให้มุดใต้โต๊ะ เก้าอี้ พิงผนังด้านใน แล้วอยู่นิ่ง ๆ ถ้าไม่มีโต๊ะให้ใช้แขนปิดหน้า ปดิ ศรี ษะ หมอบตรงมมุ หอ้ ง อยใู่ หห้ า่ งกระจก หนา้ ตา่ ง และเลย่ี งบรเิ วณทสี่ ง่ิ ของหลน่ ใส่ หรอื ลม้ ทบั เช่น โคมไฟ ตู้ เปน็ ตน้ หลีกเลี่ยงบริเวณทส่ี งิ่ ของหลน่ ใส่ และพยายามอยใู่ นบรเิ วณที่ปลอดภัย 3.5.2 หากอยู่นอกอาคาร ให้อยู่ด้านนอกในที่โล่ง อยู่ให้ห่างจากอาคาร เสาไฟ สายไฟฟ้า ต้นไม้ ปา้ ยโฆษณา หรอื ส่งิ ของที่อาจหล่นใส่จนเกดิ อนั ตรายได้ 3.5.3 หากอยู่ในรถ ให้จอดรถเม่ือสามารถจอดได้โดยปลอดภัย และในที่ซ่ึงไม่มีของหล่นใส่ อยู่ให้ห่าง อาคาร ต้นไม้ ทางด่วน สะพานลอย เชิงเขา 3.5.4 เม่อื ติดอยู่ในซากอาคารอย่าติดไฟ ให้อยอู่ ย่างสงบ ใช้ผ้าปิดหนา้ เคาะท่อ ฝาผนัง หรือใชน้ กหวีด (ถา้ ม)ี เพอ่ื เปน็ สญั ญาณตอ่ หนว่ ยชว่ ยชวี ติ การตะโกนอาจสดู สง่ิ อนั ตรายเขา้ รา่ งกาย ควรชว่ ยเหลอื ซึง่ กนั และกัน และใหก้ ำ� ลงั ใจตอ่ กัน
ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น รปู ที่ 57 ตัวอยา่ งแผ่นดนิ ไหว 110 4. การสขุ าภบิ าลเบอ้ื งตน้ ในภาวะประสบภยั 4.1 น�้ำสะอาด 4.1.1 ตม้ นำ้� ใหเ้ ดอื ดนาน 5 นาที เพอ่ื ทำ� ลายเชอ้ื โรคในนำ�้ และชว่ ยทำ� ลายความกระดา้ งชวั่ คราวได้ นำ�้ ท่ี นำ� มาตม้ ควรเปน็ น้ำ� ทีใ่ สสะอาด ผา่ นการกรองหรอื ทำ� ให้ตกตะกอนแล้ว 4.1.2 การใชค้ ลอรนี เพอื่ ฆา่ เชอ้ื โรคในนำ้� (ควรมคี ลอรีนอสิ ระคงเหลอื 0.2-0.5 พี.พ.ี เอม็ ) 1) คลอรนี ชนดิ ผง ผสมผงปนู คลอรนี 60% ในอตั ราสว่ นคลอรนี ½ ชอ้ นชา ในนำ้� 1 แกว้ คนใหเ้ ขา้ กนั ท้ิงไว้ให้ตกตะกอน รินเฉพาะส่วนท่ีเป็นน้�ำใสผสมในน�้ำสะอาด 10 ปี๊บ ตั้งทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทกี ่อนนำ� ไปใช้ 2) คลอรีนชนดิ เม็ด ขนาด 3 กรมั ใชผ้ สมน�้ำ 1,000 ลติ ร 3) คลอรนี ชนดิ น้�ำ ใช้หยดลงในน�้ำ 1-2 หยดต่อน�้ำ 1 ลติ ร 4.1.3 ใชส้ ารสม้ ชนดิ กอ้ นกวนในนำ้� สังเกตตะกอนในน้�ำเริ่มจับตัว น�ำสารส้มออกใช้มือเปล่ากวนน�้ำต่อ อกี 1-2 นาที ตัง้ ทงิ้ ไวจ้ นตกตะกอน ใชส้ ายยางจุ่มไปท่กี น้ ภาชนะบรเิ วณทีเ่ กดิ ตะกอน ดดู ตะกอน ออกจนหมดเหลอื แต่นำ้� ใส เตมิ คลอรนี ตามปริมาณที่กำ� หนด จึงนำ� ไปใช้ 4.1.4 ปดิ ฝาภาชนะใสน่ ำ�้ ใหม้ ดิ ชดิ และจดั ให้มภี าชนะท่สี ะอาดส�ำหรับตักน้ำ� 4.1.5 ในกรณีการใช้น�้ำด่ืมบรรจุขวด จะต้องดูสัญลักษณ์ อย. ท่ีขวด (ก่อนด่ืมสังเกตภายในขวดว่าม ี สิ่งปลอมปนหรอื ไม่)
4.2 การจดั การมูลฝอยและสง่ิ ปฏิกลู 111 4.2.1 เกบ็ รวบรวมเศษมลู ฝอยและสิ่งปฏกิ ลู น�ำไปเผาหรือขดุ หลุมฝงั กลบ 4.2.2 มูลฝอยและสงิ่ ปฏกิ ลู ท่ยี ่อยสลายได้ เชน่ เศษอาหาร ซากสตั ว์ มูล เป็นตน้ ให้ขดุ หลุมลกึ ประมาณ ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น 0.5-1.0 เมตร และคัดแยกขยะ สง่ิ ปฏิกูล รวบรวมใสห่ ลุม โรยด้วยปนู ขาวและฝังกลบดว้ ยดินไมใ่ ห้ สตั ว์คุย้ เขย่ี หรือแมลงวนั วางไข่ 4.2.3 บรเิ วณใดทไี่ มเ่ หมาะกบั การฝงั กลบ ใหน้ ำ� มลู ฝอยและสง่ิ ปฏกิ ลู ใสถ่ งุ ดำ� มดั ปากใหแ้ นน่ นำ� ไปรวบรวมไว้ เพื่อรอการน�ำไปกำ� จดั ของหน่วยงานทเี่ ก่ียวขอ้ งตอ่ ไป 4.2.4 สว้ มทเี่ สยี หายชำ� รดุ ควรเรง่ ซอ่ มแซมใหใ้ ชง้ านไดด้ ี ไม่มีสิ่งปฏิกูลรั่วไหลออกมาภายนอก และรักษา ความสะอาดอย่เู สมอ 4.2.5 ในช่วงที่น�้ำท่วมขัง ส้วมไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ สามารถประยุกต์ดัดแปลงวัสดุต่าง ๆ เปน็ สว้ มชว่ั คราวได้ โดยตอ้ งมถี งุ ดำ� รองรบั อจุ จาระ ปสั สาวะจากการขบั ถา่ ย และหลงั จากใชง้ านเสรจ็ โรยดว้ ยปนู ขาวแลว้ มดั ปากถงุ ใหม้ ดิ ชดิ เกบ็ รวบรวมเพอื่ รอการนำ� ไปกำ� จดั ของหนว่ ยงานทเี่ กย่ี วขอ้ งตอ่ ไป รปู ท่ี 58 ตัวอยา่ งสว้ มเคลอื่ นที่ส�ำหรับชว่ งน้ำ� ท่วมขัง 4.3 การควบคมุ สัตวแ์ ละแมลงพาหะน�ำโรค 4.3.1 ก�ำจัดแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์และแมลงพาหะน�ำโรค โดยการเก็บมูลฝอยไม่ให้ตกค้าง ระบายน้�ำขัง ในพน้ื ที่ต่าง ๆ หรอื ขดุ รางระบายน�้ำเสียหรือฝงั กลบแหลง่ น�้ำเสยี ในระยะ 30 เมตร จากบ่อนำ�้ 4.3.2 ท�ำลายแหล่งท่ีอยู่อาศัยของสัตว์และแมลงพาหะน�ำโรค โดยการหมั่นท�ำความสะอาดห้องเรียน อยเู่ สมอ เปดิ ให้อากาศถ่ายเทไม่อบั ช้ืน
ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น บทที่ การพัฒนาอนามยั ส่ิงแวดลอ้ มจากโรงเรยี นสู่ชมุ ชน โรงเรยี นเปน็ หนว่ ยสงั คมทที่ ำ� หนา้ ทห่ี ลกั ในการใหก้ ารศกึ ษาอบรมแกเ่ ดก็ และเยาวชนในชมุ ชนเพอื่ ใหเ้ ปน็ สมาชกิ ที่ดีและมีประสิทธิภาพของสังคม ประสบการณ์ท่ีเด็กเรียนรู้นั้นมิใช่มีอยู่ในเฉพาะโรงเรียน ดังน้ัน โรงเรียนต้องเป็น อนั หนงึ่ อันเดยี วกันกบั ชุมชนด้วยการสานสมั พันธท์ ่ดี ีกับชมุ ชน ผบู้ ริหารต้องสอื่ สารสรา้ งความเข้าใจอันดกี บั ผู้ปกครอง 112 นักเรยี น และประชาชนในชมุ ชน เพ่ือใหม้ คี วามสัมพนั ธอ์ นั ดรี ะหว่างโรงเรยี นกบั ชมุ ชน การพฒั นาอนามยั สิง่ แวดล้อม กเ็ ปน็ สว่ นหนงึ่ ทโี่ รงเรยี นและชมุ ชนตอ้ งรว่ มกนั ในการจดั การอนามยั สง่ิ แวดลอ้ ม เพอ่ื ใหด้ ำ� รงชวี ติ รว่ มกนั อยา่ งมคี วามสขุ 1. การส่ือสารและเสรมิ สรา้ งความรูด้ า้ นอนามัยส่ิงแวดล้อมสู่ชุมชน การสื่อสาร หมายถึง การที่โรงเรียนมนี โยบายและวิธกี ารด้านรูปแบบการสอื่ สารระหว่างโรงเรยี นกบั ผปู้ กครอง และผปู้ กครองกับโรงเรียนอยา่ งมแี บบแผน ในดา้ นความก้าวหนา้ ของนักเรยี น ในด้านการเรยี นการสอน หลกั สตู รและ พฤตกิ รรมของนกั เรียน ให้ค�ำแนะน�ำแก่ผู้ปกครองในเรอ่ื งช่องทางการสือ่ สารกบั โรงเรียน มีการวางแผน การตดิ ตามผล และการประเมนิ ผลตามระยะเวลา 1.1 ความมุ่งหมายในการสร้างความสมั พันธก์ บั ชุมชน มดี งั นี้ 1.1.1 เพอ่ื ใชท้ รพั ยากรท่อี ยู่ทง้ั ในโรงเรยี นและชุมชนร่วมกันใหเ้ กดิ ประโยชน์ 1.1.2 เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมและสนับสนุนในการวางเป้าหมาย ก�ำหนดนโยบาย เพ่ือฝึกบคุ คลตามความต้องการ 1.1.3 เพื่อเสริมสรา้ งความเขา้ ใจอนั ดรี ะหว่างโรงเรยี นและชุมชน 1.1.4 เพอ่ื เป็นหนทางในการประเมนิ ผลการดำ� เนินงานของโรงเรยี นจากชุมชน 1.2 แนวทางการส่อื สารกบั ชมุ ชน 1.2.1 ด�ำเนินงานด้วยความบริสุทธ์ิใจและตรงไปตรงมา
1.2.2 การตดิ ตอ่ กบั ชุมชน ต้องม่งุ ให้เกดิ เจตนาดี ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น 1.2.3 ดำ� เนินการต่อเนอื่ ง ตลอดเวลาท้ังในและนอกโรงเรยี น 1.2.4 สร้างความเขา้ ใจอันดีให้เกดิ ท่ัวไป ไมเ่ จาะจงเฉพาะกลุม่ 1.2.5 รบั ฟงั ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะของประชาชน 1.2.6 ใช้วิธกี ารด�ำเนินงานงา่ ย ๆ และเปน็ กันเอง 1.2.7 ให้เกยี รติและยกย่องชุมชนทใี่ ห้ความร่วมมอื อย่างเทา่ เทียมกนั 1.2.8 ให้มนษุ ยสมั พนั ธ์ โดยการให้ประชาชนมบี ทบาทมากท่สี ุด 1.3 การจดั การอนามยั สงิ่ แวดลอ้ มจากโรงเรยี นสชู่ มุ ชน ควรมกี ารดำ� เนนิ งานตามองคป์ ระกอบตา่ ง ๆ ดงั ตอ่ ไปนี้ 1.3.1 การพึ่งตนเอง โรงเรียนต้องมีการส่งเสริมให้ประชาชนในชุมชนพ่ึงตนเอง โดยการจัดการอนามัย สง่ิ แวดล้อมของแต่ละชุมชนจะตอ้ งกระทำ� โดยความคิดริเร่มิ และดำ� เนนิ การ โดยคนในชุมชนเอง 113 1.3.2 การพง่ึ พากนั โรงเรยี นตอ้ งชใ้ี หป้ ระชาชนเหน็ วา่ การจดั การอนามยั สง่ิ แวดลอ้ มเปน็ ภารกจิ ทโี่ รงเรยี น และประชาชนต้องร่วมกันด�ำเนินการ จึงต้องพ่ึงพาอาศัยซ่ึงกันและกัน เพ่ือให้การท�ำงานมีความ เชอ่ื มโยงกันในชุมชน 1.3.3 การพฒั นาศกั ยภาพ ตอ้ งมกี ารพฒั นาศกั ยภาพและสมรรถนะของโรงเรยี นและบคุ ลากรทเ่ี กย่ี วขอ้ ง กับการจัดการอนามัยส่ิงแวดล้อม เพื่อเพ่ิมขีดความสามารถของโรงเรียนและบุคลากรให้สามารถ รองรับการดำ� เนินการจดั การอนามยั สิ่งแวดลอ้ มได้ 1.3.4 การเฝ้าระวงั สถานการณ์ ตอ้ งมกี ารรวบรวมขอ้ มูลตา่ ง ๆ ทส่ี ำ� คญั เก่ยี วกับสถานการณด์ ้านอนามยั สง่ิ แวดลอ้ มทง้ั ในอดตี และปจั จบุ นั เพอื่ การเฝา้ ระวงั และคาดการณป์ ญั หาอนามยั สงิ่ แวดลอ้ มทอ่ี าจ จะเกิดขึน้ 1.3.5 การระดมทรัพยากร ตอ้ งมีการระดมทรพั ยากรจากหลาย ๆ แหล่ง ทงั้ ทรพั ยากรบคุ คล งบประมาณ เคร่ืองมือเคร่ืองใช้ และอุปกรณ์ต่าง ๆ มาสนับสนุนการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม ท้ังนี้เน่ืองจาก ในการจดั การอนามยั สง่ิ แวดลอ้ มจะไมส่ ามารถทำ� ใหส้ ำ� เรจ็ ไดโ้ ดยฝา่ ยใดฝา่ ยหนง่ึ เพยี งฝา่ ยเดยี วจำ� เปน็ ตอ้ งระดมกำ� ลังจากหลาย ๆ ฝา่ ยรว่ มกนั
1.3.6 การส่ือสาร โรงเรียนต้องมีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการจัดการอนามัยส่ิงแวดล้อมให้แก่ ประชาชน เพอื่ สรา้ งจติ สำ� นกึ และทำ� ใหเ้ กดิ ความร่วมมือจากประชาชนในการจัดการและพัฒนา 1.3.7 การสรา้ งความเขม้ แขง็ ใหแ้ กอ่ งคก์ รชมุ ชน ตอ้ งมกี ารสรา้ งองคก์ รชมุ ชนขนึ้ มาเพอื่ รบั ผดิ ชอบในการ บริหารจัดการด้านอนามัยส่ิงแวดล้อม รวมท้ังการสร้างความเข้มแข็งให้แก่องค์กรดังกล่าวเพ่ือให้ สามารถด�ำเนินการในการควบคุมป้องกันปัญหาด้านอนามัยส่ิงแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความตอ่ เนื่องยัง่ ยนื 1.3.8 การประสานงาน ต้องมีการประสานงานระหวา่ งโรงเรียนและชมุ ชน เพ่ือใหก้ ารดำ� เนินงานมีความ ประสานสอดคล้องกันทง้ั ในข้นั ตอนของการวางแผน การปฏิบัตงิ าน และการประเมนิ ผล 1.3.9 การมแี ผนปฏิบตั กิ าร ต้องมีการกำ� หนดนโยบายและแผนงานท่ีมีเป้าหมาย วัตถปุ ระสงค์ ตลอดจน แนวทาง มาตรการ หรือกลวิธีในการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม รวมท้ังวิธีการประเมินผลการ 114 ดำ� เนนิ งานในแตล่ ะขน้ั ตอนทช่ี ดั เจน เพอื่ ทราบความกา้ วหนา้ และปญั หาอปุ สรรคทอ่ี าจเกดิ ขนึ้ จาก การด�ำเนินงาน ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น 1.3.10 การใชม้ าตรการทางกฎหมาย ตอ้ งมกี ารบงั คบั ใชก้ ฎหมายทเ่ี กยี่ วขอ้ งอยา่ งจรงิ จงั เพอ่ื ใหก้ ารดำ� เนนิ งาน ดา้ นอนามัยสงิ่ แวดลอ้ มเป็นไปอย่างมีประสทิ ธภิ าพ 1.3.11 การด�ำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ตอ้ งมกี ารดำ� เนนิ งานดา้ นอนามยั สง่ิ แวดลอ้ มตามองคป์ ระกอบตา่ ง ๆ อย่างต่อเน่อื ง เพื่อใหม้ กี ารพฒั นาอนามัยสิ่งแวดล้อมอยา่ งยงั่ ยนื ตลอดไป รปู ที่ 59 การใหค้ วามรู้กับชุมชน
2. การสร้างกระบวนการมีส่วนรว่ มในการจัดการอนามัยส่ิงแวดลอ้ มระหวา่ งชุมชนและโรงเรียน 115 การจัดการศึกษาให้เกิดผลดี มีประสิทธิภาพ ตรงตามความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะผู้ปกครอง ต้องอาศัยการน�ำกระบวนการมีส่วนร่วมมาใช้ ซ่ึงพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น (ฉบับท่ี 2) พ.ศ.2545 กล่าวถงึ การมีสว่ นร่วมไว้ในมาตรา 8 (2) ให้สังคมมีสว่ นรว่ มในการจัดการศึกษา ซงึ่ สอดคลอ้ งกบั รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ.2550 มาตรา 58 ไดบ้ ญั ญตั เิ รอื่ งการมสี ว่ นรว่ มไวว้ า่ บคุ คลยอ่ มมสี ทิ ธมิ สี ว่ นรว่ ม ในกระบวนการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในการปฏิบัติราชการทางปกครองอันมีผลหรืออาจมีผลกระทบต่อสิทธิ และเสรภี าพของตน พระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแหง่ ชาติ สถานศกึ ษาทจ่ี ดั การศกึ ษาทกุ ระดบั จงึ ตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามโดยการ เปดิ โอกาสใหป้ ระชาชน ชมุ ชนเขา้ มามสี ว่ นรว่ มในการจดั การศกึ ษา ทงั้ นเ้ี พราะเมอื่ ผปู้ กครองควรมสี ว่ นรว่ มในการจดั การ ศึกษาย่อมจะช่วยขับเคล่ือนให้การบริหารจัดการศึกษาด�ำเนินไปตามความต้องการของผู้ปกครองและชุมชน ช่วยให้ สถานศึกษาได้รับการยอมรับจากชมุ ชน ชุมชนรักและหวงแหนสถานศกึ ษา ซงึ่ ส่งผลใหผ้ ูป้ กครองและชมุ ชนสนบั สนุน ทรัพยากรการศึกษา และให้ความร่วมมอื กับสถานศึกษาในการด�ำเนินกจิ กรรมต่าง ๆ ด้วยความเต็มใจ การมสี ่วนร่วม หมายถึง การเปดิ โอกาสให้ผู้มีสว่ นไดส้ ่วนเสยี เขา้ มารว่ มด�ำเนินกจิ กรรม ตัง้ แตก่ ารศกึ ษาปัญหา การวางแผนด�ำเนินการ การตัดสินใจ การแก้ไขปัญหา และการประเมินร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนให้กิจกรรมนั้นด�ำเนิน ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ โดยยดึ หลกั การมสี ว่ นรว่ ม คอื หลกั รว่ มคดิ รว่ มทำ� รว่ มตรวจสอบ รว่ มรบั ผดิ ชอบ การมสี ว่ นรว่ ม ของประชาชนและชุมชน จึงเป็นกระบวนการท่ีเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาร่วมกับ โรงเรยี น เปน็ กระบวนการเรียนรซู้ ึง่ กนั และกนั ของทกุ ฝา่ ย นบั ตัง้ แตก่ ารแสดงความคดิ เหน็ การวางแผน การดำ� เนนิ การ และการแก้ไขปัญหา ตลอดจนการควบคุม ก�ำกับ ติดตามและประเมินผล เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาการศึกษา ใหเ้ ปน็ ไปตามวตั ถปุ ระสงคท์ ต่ี งั้ ไว้ ซงึ่ สามารถทำ� ได้ ทงั้ ทางตรง คอื รว่ มเปน็ คณะทำ� งาน และทางออ้ ม คอื รว่ มวางแนวทาง นโยบาย กระบวนการมีส่วนร่วมในการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมก็เป็นส่วนหนึ่งท่ีประชาชนและชุมชนต้องเข้ามามี สว่ นรว่ มในการจดั การ เพอ่ื เปน็ การสง่ เสรมิ สขุ ภาพ ความปลอดภยั ในชวี ติ การดำ� รงชวี ติ รว่ มกนั อยา่ งมคี วามสขุ และใหเ้ ดก็ เตบิ โตอย่างสมบูรณพ์ รอ้ มทั้งร่างกาย จติ ใจ อารมณ์ สังคม และสตปิ ัญญา
ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น โรงเรียน ผู้ปกครอง ชมุ ชน รปู ที่ 60 ความร่วมมือระหว่างโรงเรยี นกับชมุ ชน 116 2.1 บทบาทของผู้ปกครอง และชุมชนในการมสี ่วนรว่ มในการจดั การอนามยั สิง่ แวดลอ้ ม ผปู้ กครอง คอื ครคู นแรก ๆ ของเดก็ และเดก็ ๆ กไ็ ดเ้ รยี นรหู้ ลายสง่ิ หลายอยา่ งทบี่ า้ นโดยไมต่ อ้ งไดร้ บั อทิ ธพิ ล หรือได้รับการสอนอย่างเป็นทางการจากสถานศึกษาแต่อย่างใด ดังนั้น จึงเป็นสิ่งที่ส�ำคัญอย่างย่ิงเม่ือเด็กเข้าเรียนใน โรงเรียนแล้ว การเรียนรู้จะต้องเชื่อมต่อและเช่ือมโยงระหว่างโรงเรียนและครอบครัว เพื่อให้การเรียนรู้ของเด็กน้ัน ตอ่ เนอื่ งและทำ� ใหก้ ารเรยี นรมู้ คี วามหมายตอ่ เดก็ เพราะสามารถเชอ่ื มโยงสชู่ วี ติ จรงิ ทบ่ี า้ นไดด้ ว้ ย บทบาทของผปู้ กครอง และชุมชน ไดแ้ ก่ 2.1.1 การมีส่วนร่วมในการจัดและส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ ดา้ นอนามยั สง่ิ แวดลอ้ มของเดก็ นกั เรยี น ทงั้ ทบ่ี า้ นและทโี่ รงเรียน 2.1.2 การมสี ว่ นรว่ มในการพฒั นาสง่ิ แวดลอ้ มในชมุ ชน เชน่ ภาวะโลกรอ้ น เปน็ ปญั หาสงิ่ แวดลอ้ มทม่ี คี วาม สำ� คญั ในระดบั โลก ซงึ่ สง่ ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพของคนในชมุ ชน ดงั นนั้ ผปู้ กครองจงึ ควรสอนใหเ้ ดก็ มีส่วนร่วมในการดแู ลรักษาส่ิงแวดลอ้ มเพ่อื ลดปัญหาภาวะโลกรอ้ น 2.1.3 การประชาสัมพันธ์ สนับสนุนกิจกรรมด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม เช่น การคัดแยกมูลฝอย การท�ำ น้�ำหมกั จลุ นิ ทรีย์ เปน็ ตน้ 2.1.4 การเปน็ ผูส้ นับสนุนทรัพยากรในการจดั การอนามัยส่งิ แวดล้อม 2.1.5 การเสริมแรงจูงใจ และใหร้ างวัล สรา้ งความมน่ั ใจใหเ้ ด็ก เม่ือเด็ก ๆ ทำ� ความดีก็ให้ค�ำชม ซ่ึงเม่ือ ทำ� บอ่ ย ๆ พฤตกิ รรมนน้ั ก็จะกลายเป็นนิสัย เป็นบุคลิกของเดก็
2.2 กระบวนการมสี ่วนร่วมของชุมชนในการจดั การอนามยั สิ่งแวดล้อม 2.2.1 การสำ� รวจความต้องการ การสำ� รวจขอ้ มลู พื้นฐาน 2.2.2 การวางแผนพัฒนาด้านการจดั การอนามัยสิ่งแวดลอ้ ม 2.2.3 กจิ กรรมการปฏบิ ตั ิ คือ แนวทางปฏิบัตทิ จ่ี ะนำ� ไปส่คู วามสำ� เร็จ 2.2.4 การประเมนิ ผล คอื การประเมินแนวทางปฏบิ ัติ 2.2.5 การสรุปผลการมีสว่ นร่วม เพอ่ื พัฒนากระบวนการท�ำงานรว่ มกนั 117 รปู ที่ 61 การมีส่วนร่วมระหวา่ งโรงเรยี นและชมุ ชน ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น การมีส่วนร่วมของประชาชน และชุมชนในการจัดการศึกษา นับเป็นกระบวนการท่ีส�ำคัญท่ีจะช่วยพัฒนา การศกึ ษาใหต้ อบสนองความตอ้ งการของทอ้ งถนิ่ โดยเฉพาะในโรงเรยี นขนาดเลก็ หากชมุ ชนมสี ว่ นรว่ มในการสนบั สนนุ ทรัพยากรการศึกษา รวมถึงการเชิญผู้ปกครองท่ีมีความรู้และมีเวลาว่างมาเป็นครูพ่อครูแม่ให้ความรู้ด้านวิชาการ ดา้ นภมู ปิ ญั ญากบั บตุ รหลานยอ่ มเกดิ ผลดที ง้ั ตอ่ โรงเรยี นทไี่ ดบ้ คุ ลากรเพมิ่ สว่ นผปู้ กครองยอ่ มภาคภมู ใิ จทไ่ี ดส้ อนบตุ รหลาน ในโรงเรียน รวมถึงนักเรยี นทจ่ี ะมีความเคารพและนบั ถอื ในตัวผ้ปู กครองเพ่ิมมากขึ้น ซึ่งเป็นการสรา้ งความสมั พันธท์ ด่ี ี กบั ชมุ ชน
บรรณานุกรม 1. กฎกระทรวง ฉบบั ที่ 63 (พ.ศ.2551) ออกตามความในพระราชบญั ญัตคิ วบคุมอาคาร พ.ศ.2522, (2551). 2. ฐานศิ า และคณะ. สภาพการสขุ าภบิ าลอาหารในโรงเรยี นเอกชนสอนศาสนาควบคู่สามัญจังหวดั สตูล: มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสงขลา. 3. กรมอนามยั . คมู่ อื การจดั การอนามยั สง่ิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น. กรงุ เทพ: สำ� นกั กจิ การโรงพมิ พอ์ งคก์ ารสงเคราะหท์ หารผา่ นศกึ ; 2551. 4. กรมอนามัย. คู่มือ สง่ิ แวดลอ้ มปลอดภยั ในโรงเรยี น: ส�ำนกั กจิ การโรงพิมพ์องคก์ ารสงเคราะห์ทหารผา่ นศึก; 2552. 118 5. กรมอนามัย. ขอ้ ปฏบิ ตั ิตามมาตรฐานการสขุ าภบิ าลอาหาร สำ� หรบั โรงอาหาร. กรุงเทพ: ส�ำนักกจิ การโรงพมิ พ์องค์การ ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น สงเคราะหท์ หารผา่ นศกึ ; 2552. 6. กรมอนามัย. คมู่ อื แนวทางการด�ำเนินงานเฝา้ ระวงั สขุ าภิบาลอาหาร ส�ำหรับเจ้าหนา้ ท่.ี กรงุ เทพ: โรงพมิ พช์ ุมนุมสหกรณ์ การเกษตรแหง่ ประเทศไทย; 2556. 7. กรมอนามยั . คมู่ อื การจัดการน้ำ� บริโภคในโรงเรียน. กรงุ เทพ: ศนู ยส์ อ่ื และสงิ่ พมิ พ;์ 2556. 8. กรมอนามัย. คู่มือการจดั การสิง่ ปฏิกลู แบบครบวงจร. กรุงเทพ: ส�ำนักพระพทุ ธศาสนาแห่งชาต;ิ 2558. 9. กรมอนามยั . คู่มือวชิ าการ การจัดการมลู ฝอยท่วั ไป. กรุงเทพ: สามเจริญพาณิชย์ (กรุงเทพ) จ�ำกดั ; 2559. 10. คำ� แนะนำ� ของคณะกรรมการสาธารณสขุ ฉบบั ท่ี 1/2550 เรอ่ื ง การควบคมุ การประกอบกจิ การสระวา่ ยนำ้� หรอื กจิ กรรมอน่ื ๆ ในทำ� นองเดยี วกัน, (2550). 11. กรมอนามัย. คู่มอื อนามัยสิ่งแวดล้อมพน้ื ฐานสำ� หรับเจ้าหนักงานสาธารณสขุ ตามพระราชบัญญตั ิการสาธารณสุข พ.ศ. 2535. กรุงเทพ: สำ� นกั กิจการโรงพมิ พ์องค์การสงเคราะหท์ หารผ่านศึก; 2551. 12. โรงเรยี นโพธไ์ิ ทรพิทยาคาร. วธิ ีลดปรมิ าณขยะในโรงเรียน 2557 [cited 2557 12 พฤศจกิ ายน]. Available from: http://howtoreducewasteinschoolis2.blogspot.com/. 13. กรมสวัสดกิ ารและคุ้มครองแรงงาน ก. แสงสว่างในการทำ� งาน 2559 [Available from: http://www.oshthai.org/index. php?option=com_content&view=article&id=150:%E0%B9%92%E0%B9%95%E0%B9%95%E0%B9%97-% m-%E0%B9%92%E0%B9%95-%E0%B9%90%E0%B9%97-%M-%S&catid=12:environment&Itemid=203.
14. ตงั้ อุทัยเรือง ดธ. โรงเรยี นและชมุ ชน 2557 [Available from: http://www.slideshare.net/twatchait/ss-39078877. 119 15. บัลลังกป์ ทั มา ธ. บทบาทประชาชนในการมสี ว่ นรว่ มจัดการศกึ ษา 2551 [Available from: https://www.gotoknow.org/ posts/200818. ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น 16. ศูนยว์ จิ ัยสขุ ภาพกรงุ เทพ เครือโรงพยาบาลกรงุ เทพ. ความปลอดภัยระบบรถรับสง่ นักเรียน [Available from: http://www. bangkokhealth.com/index.php/health/health-year/children/2444-2013-04-10-09-57-41.html 17. การควบคมุ แมลงและสตั วน์ �ำโรค [Available from: https://accounts.mail.go.th/service/home/~/?auth=co&loc=th&i d=1682&part=4 18. แผนการเตรยี มความพร้อมเผชญิ ภยั พบิ ตั ิทางธรรมชาตใิ นโรงเรยี น [Available from: https://www.google.co.th/url?sa= t&rct=j&q=&esrc=s&source=web&cd=1&cad=rja&uact=8&ved=0ahUKEwjJq93BgLLSAhUMUrwKHbL9AzoQ FggYMAA&url=http%3A%2F%2Fwww.atg.obec.go.th%2Fplan.doc&usg=AFQjCNH22zNb4jLUW0oMPNrmvtY bw19-1Q&bvm=bv.148073327,d.dGc
คณะผจู้ ดั ท�ำ ค่มู ือ การจัดการอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น ท่ีปรกึ ษา อธิบดกี รมอนามยั รองอธบิ ดีกรมอนามัย นายแพทย์วชริ ะ เพง็ จันทร์ ผู้อ�ำนวยการสำ� นักอนามยั ส่ิงแวดลอ้ ม นายแพทยด์ นยั ธีวันดา หวั หน้ากลมุ่ พัฒนาอนามยั สิง่ แวดล้อมเมืองและชมุ ชน นางสาวสิรวิ รรณ จันทนจุลกะ หวั หน้ากลมุ่ พฒั นาอนามยั สิ่งแวดล้อมจากมลพษิ นางปรยี านุช บรู ณะภกั ด ี ส�ำนกั อนามัยสงิ่ แวดล้อม นางสาวปรยี นติ ย์ ใหมเ่ จริญศร ี ส�ำนกั อนามยั สิ่งแวดล้อม 120 สำ� นกั อนามยั สิง่ แวดล้อม ส�ำนกั อนามยั ส่งิ แวดล้อม ผู้จดั ท�ำ ส�ำนกั อนามยั ส่งิ แวดลอ้ ม ส�ำนักอนามยั สิ่งแวดล้อม นายผาไท จุลสขุ สำ� นักอนามัยส่ิงแวดลอ้ ม นางสาวณัฐวดี แมนเมธี สำ� นักอนามยั ส่ิงแวดลอ้ ม นางสาวอินทิรา สภุ าเพ็ชร์ ส�ำนกั อนามยั สิง่ แวดล้อม นางสาวปยิ าภัสร์ ชแู ก้วงาม สำ� นักสุขาภบิ าลอาหารและน้�ำ นางสาวชตุ ิมา หนแู สง สำ� นักสุขาภิบาลอาหารและน้�ำ นางสาววรรณนิภา สงิ ห์ส�ำราญ สำ� นกั สุขาภบิ าลอาหารและน้ำ� นางสาววรญั ญา ผกาผล สำ� นักสขุ าภิบาลอาหารและนำ�้ นางสาวอุไรพร ถินสถิตย ์ สำ� นกั ส่งเสรมิ สขุ ภาพ นางสาวสชุ าดา ธงชาย สำ� นักสง่ เสริมสขุ ภาพ นายวิโรจน์ วชั ระเกยี รติศักด์ ิ นางสาวชณัญณิศา เลิศสโุ ภชวณิชย์ นางสาววราภรณ์ ถาวรวงษ์ นางสาวปยิ ภรณ์ เวยี งแก้ว นางสาวคทั ลยี า โสดาปัดชา นายเนต์ิ ภปู่ ระสม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122