โตวันโตคนื ทศวรรษมรดกธรรม จาก ปิ น มุทกุ ันต์ เรอื งเดยี ว อนื ๆ กย็ งั มอี กี แยะ ถา้ เราเหน็ รอยแห่งความผดิ เหล่าน%ีอยู่ทใี ด เรารู้ได้เลยว่าคนทีทําเขาทําในขณะทีใจมดื ปญั ญาดบั ไป เพยี งแต่เห็น กองขยะทีคนเทลงทีถนนหลวงให้เลอะเทอะ ก็รู้ว่าคนเทน่ะเขาเทได้ ในขณะทปี ญั ญาดบั ใจมดื หรอื จะตงั% กฎไวเ้ ลยว่า ความผดิ ทุกอยา่ งทคี นทาํ มนั ออกมาจากมุมมดื ในใจเขาทงั% นัน% อย่างน%ีกไ็ ด้ เราไปมวั วติ กแต่จุดดบั ใน ดวงอาทติ ยบ์ นทอ้ งฟ้า ความจรงิ จุดดบั ในดวงใจของเราน%ีซนิ ่าระวงั ใหม้ าก ดบั ทไี รเกดิ เรอื งทกุ ที ผา่ นเรอื งปญั ญาไปที ผมยงั แกไ้ ม่ตกว่าดูอย่างไรจงึ จะรวู้ ่าใจเรามดื หรอื ไม่มดื วธิ สี งั เกตไมย่ าก เรารแู้ ลว้ ว่าปญั ญาสอ่ งใหเ้ ราเหน็ ทางสองทาง คอื ทางไดก้ บั ทางเสยี หรอื ทางดที างชวั เพราะฉะนัน% เราดกู แ็ ลว้ กนั เวลาจะ ลงมอื ทําอะไรหรอื จะพูดอะไรใหต้ รวจทางสองทางน%ีก่อน มองเห็นทางได้ ทางเสยี อยู่ กแ็ สดงว่าขณะนนั% ใจเรามปี ญั ญาสอ่ งสว่างอยู่ แต่ถา้ มองไมเ่ หน็ ทางไดท้ างเสยี เอาแต่ความอยากได้อยากดอี ยากสนุก อยากเพลดิ เพลิน ออกหน้า ใหร้ เู้ ถอะวา่ ขณะนนั% ปญั ญาดบั เสยี แลว้ ใจกาํ ลงั มดื คลา้ ย ๆ เราอยู่ ในหอ้ งน%ี ถา้ อยากจะรวู้ า่ ไฟดบั หรอื สว่างอยู่ แทนทเี ราจะแหงนขน%ึ ดูดวงไฟ บนเพดาน กไ็ ม่ต้อง เราดูสงิ ของโต๊ะเกา้ อ%นี ีกร็ ู้ เหน็ หรอื ไม่เหน็ ถ้าเหน็ ก็ แสดงว่าดวงโคมยงั อยู่ ถา้ ไม่เหน็ กแ็ สดงว่าดวงโคมดบั คอื เอาการเหน็ ของ เราเองเป็นเครอื งวนิ ิจฉัยดวงไฟ เราอยากจะรูว้ ่าปญั ญาในดวงใจของเรา ยงั ส่องแสงอย่หู รอื ไม่ กเ็ อาทางถูกทางผดิ หรอื ทางได้ทางเสยี เป็นเครอื งวดั วา่ เรายงั มองเหน็ อยหู่ รอื ไม่ ? ขอโทษเถอะ อยา่ งเราจะเอาขยะทบี า้ นออกมา เททีถนน เหน็ แล้วว่าทางบ้านเราจะสะอาดดีได้ประโยชน์แก่เรา นีเห็น ทางได้ แล้วดูทางโน้นอกี ซิ ตรงทไี ปเทโน่น มอี ะไรเสยี ไหม ? เห็นทงั% ทางได้ทางเสีย เห็นควบกนั อย่างน%ี ถ้าเหน็ ขา้ งเดียวยงั ใช้ไม่ได้ ยงิ ถ้า ไม่เห็นอะไรเลยก็แสดงว่ามืดแน่แล้ว รู้ว่ามืดแล้วต้องหยุด อย่าทําต่อ ประเดยีJ วจะเสยี มาก คอยใหม้ นั สว่างเสยี กอ่ นแลว้ จงึ ทาํ
โตวนั โตคนื ทศวรรษมรดกธรรม จาก ปิ น มุทุกันต์ ทีพูดมาน%ีเฉพาะประเด็นเรืองรู้จกั ความมดื อย่างเดียว เมือรู้ว่า อยา่ งน%ีเป็นความมดื แลว้ จะหาวธิ แี กม้ ดื กค็ น้ หาสาเหตุมนั กอ่ นว่า เหตุใดมนั จงึ มดื เราจะไดแ้ กถ้ กู ตามปกตใิ จคนจะมดื เนืองจากเหตสุ องอยา่ งคอื 6.กเิ ลสของเราเองมนั กาํ เรบิ และ .เหตุการณ์แวดลอ้ มเหลอื กาํ ลงั ปญั ญา กเิ ลสในตวั เราเองคอื พวกความโกรธ ความเกลยี ด ความโลภโม โทสนั ในใจเราเอง มนั บังมากไป ทําให้ใจมืด ความอยากท่วมใจก็มืด ความโกรธท่วมใจก็มดื ความมวั เมาท่วมใจมนั กม็ ดื กเิ ลสพวกน%ีเกดิ ใน ใจเองแลว้ กป็ ิดบงั ปญั ญาของตวั เองเหมอื นควนั ทมี นั เกดิ จากไฟแลว้ มนั กลบั บงั แสงไฟไมใ่ หส้ วา่ งอยา่ งนนั% แหละ วิธีแก้มืดทีเกิดในใจตัวเองอย่างน%ีต้องใช้วิธีข่มกิเลสของเราลง หรอื เขา้ จดั การกบั กเิ ลสของเราเอง อยา่ บงั ควรไปทาํ ความผดิ มาแกค้ วามมดื ไมส่ าํ เรจ็ ขม่ กเิ ลสในใจเราลงเสยี บา้ ง พอใหด้ วงปญั ญาส่องแสงใหเ้ ราเหน็ ทางไดท้ างเสยี จะทาํ อยา่ งไรต่อไปค่อยทาํ การทาํ ความผดิ ใด ๆ เพอื ระงบั ความมืดเพราะกิเลสนัน% ไม่ผดิ อะไรกับเราทุบตะเกียงประชดความมืด การขา้ งหน้าดขู ดั สนนกั แต่ถา้ ความมดื นัน% เกดิ จากเหตุการณ์แวดลอ้ ม คอื เกดิ มรสมุ มาจาก ภายนอก เจา้ หน%ีกร็ บกวน ผวั กจ็ ะมเี มยี น้อย เจา้ ของบา้ นกจ็ ะเอาบา้ นคนื ลูกกเ็ จบ็ พวกน%ีเป็นมรสุมมานอกตวั เอาเรอื งเหมอื นกนั มนั มดื แปดดา้ น เพราะแรงมรสุมเกนิ กว่าแรงสตปิ ญั ญา ไม่เหน็ ทพี งึ อะไรอกี เลย นอกจาก ยานอนหลบั ทมี องไมเ่ หน็ น่ะเพราะมรสมุ บงั ปญั ญา วธิ แี กม้ อี ย่ทู างเดยี วคอื รอ รอใหม้ รสุมมนั สงบลงก่อน แล้วจึงค่อยตดั สนิ ใจว่าจะทําอะไรต่อไป คลา้ ย ๆ กะเราจะออกจากบา้ นไปธุระ ถา้ มพี ายุมฟี ้าฝนปนั ป่วนมะลุมมะตุม้ นกั เรากต็ อ้ งรอกอ่ น กลบั เขา้ บา้ นเสยี อยเู่ ฉย ๆ ยงั ดกี ว่าฝา่ ออกไป วันน%ีผมขอเสนอข้อคิดทางธรรมะเกียวกับวิธีแก้มืดเท่าน%ีก่อน ศกุ รห์ น้าพบกนั อกี ทมี มุ สวา่ งน%ี
มมุ สว่าง โดย พ.อ.ปิ น มทุ กุ นั ต์ บทความเชงิ สาระธรรม จากรายการ “มมุ สวา่ ง” ทีเผยแพร่ทางสถานีวิทยุ ททท. ระหวา่ งปี พ.ศ. \"#$%-\"#$' พมิ พ์ครัง* แรกปี \"#$# โดย สนพ.คลงั วทิ ยา มาร เรอื งของการก้าวหน้านัน ไป ๆ มา ๆ ก็เจอมารจนได้ พอคดิ จะทํา อะไรใหม้ นั เจรญิ กา้ วหน้าทนั คนอนื เขาสกั หน่อย กม็ มี ารมาคอยขดั คอยขวาง คอยปดั แขง้ ปดั ขาจะทาํ ใหเ้ ราหกล้มเสยี ใหไ้ ด้ บางคนและบางคราวกเ็ สยี หลกั หกลม้ เอาจรงิ ๆ ไมเ่ ชน่ นนั คงไดด้ ไี ปนานแลว้ มารทวี ่านีมอี ยู่ด้วยกนั ทงั หมดหา้ ฝงู แบ่งเป็นสองฝ่ายคอื มารนอกตวั ฝา่ ยหนึง มารในตวั ฝา่ ยหนึง ยงุ่ ทงั สองฝา่ ย แต่เราปรยี บเทยี บความยงุ่ กนั แลว้ มารภายในยุ่งกว่ามารภายนอก เพราะมารภายนอกอย่างมากกแ็ ค่ยุ่งยาก แต่ มารภายในไมใ่ ชเ่ พยี งแตย่ งุ่ ยากเท่านนั ถงึ ขนั ยงุ่ เหยงิ เอาเลยทเี ดยี ว คอื ยงุ่ จน
มุมสว่าง ทศวรรษมรดกธรรม จาก ปิ น มุทกุ ันต์ หาทีแก้ไม่เจอ ยุ่งจริง ๆ เพราะฉะนันชุดก้าวหน้าก้าวนีข้าพเจ้าขอ เสนอแนะเกยี วกบั มารภายในโดยเฉพาะ มารภายในทวี า่ นีคอื ตวั ของเราเอง ความจรงิ มนั กเ็ ป็นพวกเดยี วกบั เรานีแหละ แต่บางทมี นั กก็ ลบั เป็นมารมาขดั ขวางความกา้ วหน้าของเราเอง พดู งา่ ย ๆ คอื ตวั เราเองไม่สมประกอบ และทเี ป็นตวั การผูข้ ดั ขวางจรงิ ๆ ในตวั เรากค็ อื “ใจ” ใจทงั นนั ทขี นเอาฝินเอากญั ชาเขา้ ตวั ใจทงั นันทดี งึ ตวั เรา ไปเป็นขา้ ทาสของเหลา้ ของเฮโรอนี ทตี ดิ หวยตดิ เบอรจ์ นหมดเนือหมดตวั ก็เพราะใจ เรืองของใจมีเรืองทีจะต้องพูดกนั อยู่อีกมาก ถ้าเอามาพูด หลายเรอื งในคราวเดยี วกนั กจ็ ะทาํ ความฟนั เฝือแก่ท่านผอู้ ่านมากไป และที ใจมันแสดงออกมาชัดเจนว่ามนั เกเรคือทําตัวเป็นมารให้เราเห็นชดั ๆ จะตอ้ งแกก้ นั ดว้ ยวธิ หี ลายอย่าง ว่ากนั เป็นเรอื ง ๆ ไป สาํ หรบั คราวนีจะขอ พดู ถงึ ใจทยี งั ไมเ่ สยี หายรุนแรงขนาดนัน คอื จะพดู ถงึ ใจดี ๆ นีแหละ ใจทยี งั เป็นพวกเดยี วกนั กบั เรา ไมถ่ งึ กบั เป็นมารชดั ๆ เพยี งแต่ว่าเป็นใจทไี มค่ อ่ ย สมประกอบหรอื ใจทไี มไ่ ดอ้ ยา่ งใจ จะเรยี กว่าใจซุกซนหรอื ใจขอี อ้ นกแ็ ลว้ แต่ จะเรยี ก คล้าย ๆ กะเด็กทารกบางคนพอพีเลียงจะให้นอนแกเกดิ จะกนิ ครนั จะใหก้ นิ แกเกดิ จะเล่น รวมความว่ามอี นั เป็นไปจนได้ แต่ไมถ่ งึ กบั เป็น อรกิ นั ใจของทา่ นเองเคยมอี าการอยา่ งนีหรอื เปล่า :- ถงึ เวลานอนแลว้ เราเองกอ็ ยากหลบั จะไดม้ แี รงไวท้ าํ งานทาํ การ นอนแล้วหลบั ตาแล้วแต่ใจเจา้ กรรมมนั เกดิ ไม่หยุดคดิ เลยหลบั ไม่ลงนอน กลงิ ไปกลงิ มาจนกระทงั ดกึ ดนื เทยี งคนื โมโหกโ็ มโห โมโหแลว้ กไ็ มร่ ูจ้ ะทาํ อยา่ งไรกะมนั เพราะทเี ราโมโหกโ็ มโหใจเราเอง ไมร่ จู้ ะไปบ่นเอากะใคร บางครงั ใจเกดิ สรา้ งอารมณ์สบั สนขนึ ในตวั เอง นีกย็ ุ่งเหมือนกนั เอด็ ตะโรเดก็ พกั เดยี วตงั แต่ตอนเชา้ แต่ใจกลบั ข่นุ มวั อยู่ตงั ครงึ ค่อนวนั ทงิ ไม่ลง บางทถี กู อารมณ์รา้ ยผ่านมาวูบเดยี วตงั แต่อยู่ทที าํ งาน ใจเรากห็ อบ เอาอารมณ์นนั ตดิ มาถงึ บา้ น และในทาํ นองเดยี วกนั บางครงั ใจเราเกดิ หอบ
มุมสว่าง ทศวรรษมรดกธรรม จาก ปิ น มุทุกันต์ เอาอารมณ์จากบ้านไปเรยี ราดอยู่ทีทํางานก็มี ทําให้เวลาคิดอ่านทํางาน กา้ วหน้าเสยี โอกาสไปอยา่ งน่าเสยี ดาย ทา่ นทจี าํ เป็นตอ้ งเปลยี นเรอื งคดิ บ่อย ๆ เชน่ นกั เรยี นและนักศกึ ษา ต้องเปลียนหวั คดิ ไปตามวิชาเรยี นรายชวั โมงจะต้องคอยตดั ความคดิ เป็น ระยะ ๆ คือเมอื คดิ เรืองนีเสรจ็ แล้วกต็ ้องเลกิ คดิ จะต้องเรมิ คดิ เรืองใหม่ ต่อไปเรยี กว่า “ปิดใจ” เป็นเรอื ง ๆ แต่บางคนทาํ ไมไ่ ด้ ตวั กําลงั เรยี นเรอื ง คาํ นวณ แต่ใจเกดิ ไปเอาเรอื งแขง่ กฬี ากนั ตงั แต่วนั ก่อนมาคดิ พดู อกี ทคี อื ไปเอาเรอื งนอกเรอื งมาคดิ เขา้ ทํานองว่าคดิ เรอื งทไี ม่ได้ทําและทําเรอื งที ไมไ่ ดค้ ดิ นีกห็ วั ใจไมไ่ ดเ้ รอื งเหมอื นกนั ถงึ พวกนกั พดู นกั ประพนั ธ์ตลอดจน นักปฏิบัติทางสมาธิภาวนา ถ้าใครเป็นโรค “ใจปิดไม่ได้” อย่างนีก็แย่ เหมอื นกนั นาน ๆ เขา้ ใจจะเสอื มพลานุภาพ ทาํ ใหค้ าํ ทเี ขยี นหรอื คําทพี ูด เสอื มรสชาตลิ งไปโดยไมรตู้ วั เพราะตามกฎทางจติ ใจขอ้ ความหรอื ถอ้ ยคาํ ที เราเขยี นหรอื พูดออกไปนัน ย่อมเป็นทถี ่ายทอดพลานุภาพแห่งจติ ใจลงไป ด้วย นักพูดหรอื นักประพนั ธ์ฝีมือดีบางคน บางครงั ก็มีตก เรอื งทีพูดที เขยี นออกมาไม่เป็นรสเป็นชาตเิ ลย นันแสดงว่าผูพ้ ูดผูเ้ ขยี นอาจกาํ ลงั ป่วย ด้วยโรคทวี ่านีก็ได้ คือหวั ใจปิดไม่ลง เอาเรอื งเก่าเรอื งใหม่มาคดิ สบั สน ปนเปกนั ไปหมด เหมอื นเราเอาชามทใี ส่แกงแล้วไม่ได้ล้างมาใส่ลอดช่อง นํากะทิ รสของคาวกบั รสของหวานมนั เกดิ มาปนกนั เขา้ ลอดช่องนํากะทิ เลยเสยี รสไป ลกู คา้ กเ็ ลยขาดความนยิ ม ยงั มเี รืองเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่อกี หลายเรืองเกียวกบั ใจของเราเอง ไม่อาํ นวย ยกตวั อย่างเช่นบางคนโดยสารรถโดยสารเรอื จะไปธุระ เกดิ ใจ เรว็ กวา่ รถกว่าเรอื นงั เรง่ อยตู่ ลอดเวลา บางทกี ค็ ดิ บ่นว่ารถชา้ เรอื ชา้ ยงิ ใจ เรว็ มากรถรากย็ งิ ดูชกั ชา้ อดื อาดมากเขา้ อกี ไม่ทนั ใจเอาเสยี เลย ผลทสี ุด หวั ใจก็รอ้ นเป็นไฟ เสียเงนิ ค่าโดยสาร แทนทจี ะเดนิ ทางใหม้ นั สบายใจ สักหน่อยกลับต้องมาทรมานตัวเองอีก ท่านทีเดินทางโดยเครืองบิน ก็เหมือนกนั เรามองดูเครืองบินบนฟ้ าเราก็เห็นว่าเขาเร็วทนั ใจจริง ๆ แต่อะไรได้ คนทนี ังอยใู่ นเครอื งบนิ กย็ งั นังเร่งอยเู่ หมอื นกนั ทงั ๆ ทรี อู้ ยวู่ ่า
มุมสว่าง ทศวรรษมรดกธรรม จาก ปิ น มุทุกันต์ อกี ชวั โมงเดยี วจะลงสนามแลว้ ใจกย็ งั นึกอยวู่ ่ามนั ชา้ จะตอ้ งรออกี ตงั ชวั โมง จะเป็นทธี ุระรอ้ นหรอื ใจเกดิ งอแงกอ่ นถงึ สนามกไ็ มท่ ราบได้ บางคนจาํ เป็นจะตอ้ งอยใู่ นทอี นั จาํ กดั ไปไหนมาไหนไม่ได้ เช่น คน เจบ็ ไข้ จติ ใจวุ่นวาย เจบ็ น้อยกเ็ ลยกลายเป็นเจบ็ มาก เพราะจติ ใจไม่สงบคดิ โน่นคดิ นีสพั เพเหระ ขหี มรู าขหี มาแหง้ เกบ็ มาคดิ หมด อกี พวกหนึงคอื คนที ถูกคุมขงั เวลาทถี ูกคุมขงั นันตวั อยู่ในแต่ใจอยู่นอก ยงิ คนทถี ูกขงั เดียว ยงิ แย่ เหน็ ใจจรงิ ๆ คนประเภทเหล่านีวนั คนื ล่วงไปเชอื งชา้ เหลอื เกนิ อยา่ ว่าแต่จะตอ้ งนอนแซ่วอย่เู ป็นปี ๆ เลย แมแ้ ต่เรานดั กบั ใครคนหนึงไวแ้ ลว้ มี อนั ตอ้ งรอ หรอื ตอ้ งรอรถรอเรอื สกั ชวั โมงสองชวั โมงยงั อดึ อดั ไมใ่ ชน่ ้อย นีแหละท่าน ถ้าใจของเราตกอย่ใู นสภาพอย่างว่ามานี เราจะทํา อยา่ งไร ทาํ อยา่ งไรเราจงึ จะปิดหวั ใจลง ทาํ อยา่ งไรเราจงึ จะใหห้ วั ใจหยดุ คดิ ได้ ทําอย่างไรจงึ จะใหใ้ จลมื เวลาทเี ชอื งชา้ และลมื สงิ ทกี ําลงั ทรมานกาย ทรมานใจพอให้เรามคี วามสุขสดชนื ขนึ มาบ้าง เพราะถ้าเราทําได้จะเป็น ประโยชน์แก่ตัวเรามาก เฉพาะอย่างยงิ ในการใชจ้ ิตใจของเราเอง เพือ ความสขุ และความกา้ วหน้าในชวี ติ ของเรา หากไม่มวี ิธอี นื ทที ่านทําได้ผลอยู่แล้ว โปรดใช้วธิ ีง่าย ๆ ซึงเป็น ตน้ ทางของสมาธติ ามวธิ ที างพระพทุ ธศาสนาลองดู หยุดใจ ทกุ สงิ ทกุ อยา่ งมนั จะตอ้ งมกี ารหยดุ การพกั เป็นระยะ เขยี นหนงั สอื ก็ ยงั ต้องย่อหน้าเว้นระยะวรรคตอน ไม่ใช่เขยี นดะไป ถ้าใครทําอย่างนัน ขอ้ ความกเ็ ละหมด แมแ้ ต่พดู เรากต็ อ้ งมจี งั หวะ พดู บา้ งหยดุ บา้ ง ไมใ่ ชพ่ ดู เตลดิ เปิดเปิงไมม่ จี งั หวะจะโคน ไมใ่ ชอ่ ยา่ งนนั เรอื งของใจกเ็ หมอื นกนั ตอ้ งมี เวลาพกั มกี ารตดั ใจจากเรอื งหนึงสเู่ รอื งหนึง มกี ารหยดุ ใจ มกี ารลา้ งใจ ใจ
มุมสว่าง ทศวรรษมรดกธรรม จาก ปิ น มุทกุ ันต์ ของเราจึงจะอยู่ในสภาพทใี ช้การได้ดี คือมคี วามคดิ แจ่มใสและสามารถ หลงั พลานุภาพออกสงู่ านทเี ราทาํ ได้ การหยดุ ใจอาจทาํ ไดห้ ลายวธิ ี ตรงกบั ทที างศาสนาเรยี กว่าทาํ สมถะ หมายถงึ การทาํ ใจใหส้ งบ แต่มวี ธิ หี นึงทที าํ ไดง้ า่ ย ทาํ ไดแ้ ทบทกุ โอกาสและ ทุกสถานที ถึงไม่ใช่ทําได้ทุกแห่งทุกหน แต่ว่ามีโอกาสทีเราจะทําได้ มากกว่าวธิ อี นื ถา้ เป็นมดี กเ็ หน็ จะเป็นมดี พบั ถา้ เป็นยากเ็ หน็ จะเป็นยาดม คอื นําตดิ ตวั ไปไดง้ า่ ยไมว่ า่ เดก็ หรอื ผใู้ หญ่ ไม่ว่าแก่ว่าสาวและไมต่ อ้ งหว่ งว่า ใครเขาจะหาว่าเป็นคนแก่วัดหรือเป็นคนครําครึ วิธีทีว่านีคือการนับลม หายใจ ตํารบั เดิมของท่านจริง ๆ เรยี กว่า “อาณาปา” หรอื ทํา อาณาปา พระพุทธองคท์ รงเขา้ สู่สมาธจิ นได้สําเรจ็ เป็นพระพุทธเจา้ กโ็ ดยวธิ นี ี แต่ใน ทนี ีขา้ พเจา้ จะขอเสนอเพยี งวธิ ปี ฏบิ ตั เิ บอื งตน้ นิดเดยี วเท่านัน คอื เจยี ดเอา ของท่านมาใช้ เพือใหเ้ ขา้ กบั ชวี ิตประจําวนั ของคนชาวบ้านแท้ ๆ อย่าง เรา ๆ ท่าน ๆ นี เพราะฉะนัน ข้าพเจ้าจึงเรียกชือวิธีนีเพียงว่า “เล่น ลมหายใจ” และตังความมุ่งหมายไว้ว่าเพือการหยุดใจเท่านัน หากผู้ใด ตอ้ งการปฏบิ ตั ใิ หก้ า้ วหน้าในสมาธเิ บอื งสงู กโ็ ปรดถอื ว่าวธิ ที ขี า้ พเจา้ จะสอน ในชดุ กา้ วหน้านีเป็นบาทของสมาธิ หากจะเปรยี บใหฟ้ งั งา่ ย ๆ เหมอื นกะว่า ข้าพเจ้าจะพาท่านไปนังเล่นเย็น ๆ ทีร่มโพธิหA น้าโบสถ์ หากท่านผู้ใด อยากจะเลยเขา้ โบสถก์ ไ็ ด้ ผา่ นทางนีเหมอื นกนั การเล่นลมหายใจนี ถ้าท่านพยายามฝึกให้เกิดความชํานาญ พอสมควร แมจ้ ะไม่ถงึ กบั ทาํ ได้ดจี รงิ ๆ กต็ าม ท่านจะรูส้ กึ ว่าท่านได้มติ ร ทดี ไี วช้ ่วยสรา้ งความสขุ และความกา้ วหน้าอยา่ งประหลาด ท่านอาจใชว้ ธิ นี ี ทาํ ใหต้ วั ทา่ นเองหลบั งา่ ย ๆ เชน่ หลบั เพอื พกั ใจชวั B นาที C นาที หรอื นาน กว่านัน แล้วแต่ท่านจะตังใจไว้ตอนก่อนหลับ เมือตืนขึนใจจะมีกําลัง กระปรกี ระเปร่าเหมอื นไม่มเี รอื งหนักใจมาก่อน อาจทําเพอื ล้างความคดิ ต่างเรืองไม่ให้ปะปนกัน ในเมือจําเป็นต้องเปลียนเรืองทํางานในเวลา กะทนั หนั หรอื ทําเพอื ย่นระยะทาง ย่นเวลารอ ย่นเวลาถูกคุมขงั หรอื ใช้ ระงบั ทุกขเวทนา ระงบั ความโกรธและความน้อยเนือเสยี ใจก็ได้ สําหรบั
มุมสว่าง ทศวรรษมรดกธรรม จาก ปิ น มุทุกันต์ ทา่ นทบี งั เอญิ ตอ้ งอยใู่ นทที ไี มม่ เี พอื นคยุ เลย การ “คุย” กบั ลมหายใจของเรา ก็ดีเหมือนกนั ประการสําคญั ทีสุด การเล่นลมหายใจเป็นการบรรเทา ความเมาได้ดีมาก ทําวันละสักห้านาทีเท่านัน เรืองเมาตัว เมายศ เมาอาํ นาจวาสนาจะสรา่ งไปมากทเี ดยี ว วธิ ปี ฏบิ ตั งิ า่ ย ๆ มดี งั ตอ่ ไปนี ลาํ ดบั การเตรียมตวั D.ผนู้ ับลมหายใจจะต้องอย่ใู นอริ ยิ าบถทนี ิง เช่น นังหรอื นอนจะยนื กไ็ ดแ้ ต่ตอ้ งมที พี งิ ถ้าไม่จําเป็นกไ็ ม่ควรยนื เพราะเวลาจติ สงบร่างกายจะ หมดการทรงตัว หวั เข่าจะอ่อนทรุดลง ทําให้ตกใจตืน นังบนเก้าอีทีมี พนกั พงิ เป็นดที สี ดุ F.ปลอ่ ยตวั ตามสบาย อยา่ เกรง็ สว่ นใดสว่ นหนึง B.มอื ทงั สองตอ้ งวางไวบ้ นสงิ ใดสงิ หนึง เชน่ วางบนตกั หรอื บนพนกั เกา้ อแี ลว้ แต่ลกั ษณะของทนี งั ความมงุ่ หมายคอื ไมใ่ หม้ อื ตกเวลาจติ สงบ ซงึ จะทาํ ใหต้ กใจตนื C.เมอื พรอ้ มแลว้ ใหห้ ลบั ตาเสยี ลาํ ดบั ดภู าวะของจิต เมอื หลบั ตาแลว้ ใหต้ รวจดูภาวะของจติ ก่อน เพอื เลอื กวธิ นี ับลมให้ เหมาะกบั จิตในขณะนัน ลองสงั เกตดูว่าขณะนันจิตของท่านอยู่ในอาการ อยา่ งไรในสามลกั ษณะตอ่ ไปนี ก.จิตติดอารมณ์ คอื ความคดิ แจ่มใสดี เป็นลักษณะทบี อกว่าจิต เอาการเอางานดมี าก แต่เราตอ้ งการจะใหจ้ ติ หยุดคดิ เพอื พกั ผ่อนหลบั นอน เสยี ทหี รอื เพอื เปลยี นเรอื งคดิ ใหมก่ ต็ าม ข.จติ โสมนัส (โสมนสฺสสหคตํ มหคฺคตํ จติ ฺตํ) คอื จติ กาํ ลงั คดิ อะไร เพลิดเพลนิ มคี วามดใี จมาก เช่น ตนได้รบั รางวลั สอบไล่ได้ ได้ยศ คนรกั เขา้ ใจกนั จะไดร้ บั หมนั หรอื รุ่งขนึ จะเป็นวนั แต่งงาน เหล่านีเป็นต้น เพราะ ความดีใจนีเองทําใหจ้ ิตหยุดคิดไม่ลง แต่ก็เป็นเรืองคดิ เรือยเปือยจบั ต้น จบั ปลายไมไ่ ด้
มุมสว่าง ทศวรรษมรดกธรรม จาก ปิ น มุทุกันต์ ค.จติ โทมนัส (โทมนสฺสสหคตํ มหคฺคตํ จิตฺตํ) คอื จิตคดิ ในเรอื งที น้อยใจเสยี ใจแลว้ กห็ ยดุ คดิ ไมล่ ง เช่น เสยี ใจเพราะความพบิ ตั ิ กลุม้ ใจเพราะ คนรกั เป็นอนื น้อยใจทสี อบตกหรอื ถูกรงั แก หรอื เป็นถ้อยเป็นความแลว้ แต่ เรอื ง แต่สงั เกตไว้ว่าจติ กาํ ลงั อยู่ในอารมณ์ประเภททไี ม่พอใจ แล้วกอ็ ะไร เรอื ยเปือยไมม่ ตี น้ มปี ลายเหมอื นกนั รวมความว่าภาวะของจติ มสี ามอย่าง คอื พุ่งไป ฟุ้งขนึ และตกตํา โปรดตรวจดภู าวะของจติ ของทา่ นกอ่ นจะนับลม แลว้ จาํ ไวว้ ่าอยใู่ นประเภท ไหน ก. ข. หรอื ค. ลาํ ดบั ลองลม เมอื รูภ้ าวะของจติ แล้ว อย่าเพงิ ลงมอื นับลม แต่ใหล้ องดูลมก่อน เพอื เรมิ เอาจติ เขา้ สมั ผสั กบั ลมและเรมิ บงั คบั ลมดว้ ยกระแสจติ เรมิ แรกลองหายใจเขา้ -หายใจออกดู ทาํ สกั สามสคี รงั เพอื ลองดูว่า หายใจขนาดไหนจงึ จะเป็นทสี บายทสี ุด พอดที สี ุด เมอื จบั ไดแ้ ลว้ กเ็ รมิ ใชล้ ม ขนาดนนั ต่อไป (โปรดทราบดว้ ยว่าการหายใจทเี ราหายใจอยตู่ ามปกตนิ ีหามี ขนาดเทา่ กนั ไม่ แลว้ แตอ่ ารมณ์ของจติ เชน่ ขณะถูกขดั ใจ ดใี จ อยากได้ ชงั เหลา่ นีเป็นตน้ ทาํ ใหล้ มหายใจสะดุดเป็นพกั ๆ และไมส่ มาํ เสมอ) พอจบั ขนาดลมไดแ้ ลว้ ใหท้ าํ ดงั นี - หายใจเขา้ - ออกจมกู ชอ่ งขวา B ครงั - หายใจเขา้ -ออกจมกู ชอ่ งซา้ ย B ครงั - หายใจเขา้ -ออกพรอ้ มกนั สองชอ่ ง B ครงั การทจี ะใหล้ มหายใจเขา้ ออกช่องนันช่องนีตามทเี สนอไว้นีเพยี งแต่ ท่านนึกเอาเท่านัน ไม่ต้องอุดช่องจมูกหรือทําอย่างอืนใด เพราะตาม ธรรมดาความคดิ ของคนเรามสี ว่ นสมั พนั ธก์ บั ลมหายใจอยแู่ ลว้ ลาํ ดบั นับลม บดั นีถงึ ตอนทที ่านจะเรมิ ทาํ สมาธดิ ว้ ยการนบั ลมแลว้ ทา่ นจงตงั ใจ ว่าท่านจะต้องเอาใจจดจ่ออยู่ทลี มหายใจตลอดเวลาและต่อเนืองกนั ไปไม่มี หยุดพกั หรือเว้นในระหว่างเลย ทงั จะต้องรกั ษากติกาด้วยความซือสตั ย์
มุมสว่าง ทศวรรษมรดกธรรม จาก ปิ น มุทกุ ันต์ การนับใหน้ ับเป็นคู่ ๆ และนบั ในใจ เรมิ “หนึง” ลมเขา้ แลว้ ทาํ เสยี งยาวไป จนลมผา่ นออกหมด “หนึง” อกี ครงั แลว้ นบั “สอง” ต่อไปโดยวธิ เี ดยี วกนั - ถา้ จติ อยใู่ นประเภท ก. ข. ใหน้ บั แบบ “รวมจติ ” - ถา้ จติ อยใู นประเภท ค. ใหน้ บั แบบ “ขยายจติ ” วิธีนับแบบรวมจิต คือ เรมิ นับ D-D จนถึง DI-DI รอบต่อไปให้ ลดลงเหลอื D-D ถงึ J-J ลดลงทลี ะหนึงเช่นนีจนสุดทา้ ยกจ็ ะเหลอื เพยี ง D-D (ระยะทจี ติ จะเรมิ เขา้ สู่ภวงั คค์ อื รอบทนี ับ D-D ถงึ B-B) สาํ หรบั วิธีนับแบบ ขยายจิตจะทาํ ตรงขา้ มกบั แบบรวมจติ คอื เรมิ จากนบั D-D รอบต่อไปใหเ้ พมิ เป็น D-D ถงึ F-F เพมิ ขนึ ทลี ะหนึงจนถงึ D-D ถงึ DI-DI (ระยะทจี ติ จะเรมิ เขา้ สภู่ วงั คค์ อื รอบทนี บั D-D ถงึ K-K) กติกาการนับลม D.ความมุ่งหมายสําคญั ของการนับลมอยู่ทีการเอาจิตจดจ่ออยู่ที ลมหายใจตลอดเวลา การนบั ใหเ้ ป็นเพยี งวธิ กี ารเท่านัน ฉะนันท่านจะตอ้ ง บงั คบั จอ่ อยทู่ ลี มอยา่ ใหข้ าดระยะ หากทา่ นปล่อยใหจ้ ติ แวบไปเรอื งอนื แมว้ ่า การนบั จะตดิ ต่อกนั จนตลอดกไ็ มไ่ ดผ้ ล F.ขณะทกี าํ ลงั นบั อยนู่ นั จะมบี างระยะทจี ติ เผลอ ท่านจะเกดิ ความ สงสยั ว่า “นีเรานับถงึ หมวดไหนแน่?” หากเกดิ สงสยั อย่างนีแสดงว่าวถิ จี ิต ของท่านขาดตอน จะตอ้ งทาํ โทษตวั เองโดยเรมิ นับตงั ต้นใหม่ คอื เรมิ แต่ หนึง ๆ...จงอย่ารําคาญต่อการลงโทษทํานองนีเพราะการลงโทษนันเป็น สว่ นหนึงของการฝึกจติ B.อยา่ มคี วามคดิ อยากใหเ้ ป็นอยา่ งนนั อยา่ งนี เชน่ อยากใหต้ วั หลบั อยากใหจ้ ติ สงบ หรอื อยากเหน็ นมิ ติ กต็ าม จงตงั หน้านบั ลมอยา่ งเดยี ว C.ขณะทจี ติ จะเขา้ ภวงั คน์ ัน หากท่านเหน็ นิมติ บางอยา่ ง เช่น เหน็ ฝนตก เหน็ นําบ่า เหน็ ไฟแลบเขา้ มา หรอื เหน็ ภาพประหลาด ๆ และบางทกี ็ จะเกดิ วูบวาบในตวั บางคนเกดิ คนั ตามผวิ หนังเหมอื นมดกดั พร้อม ๆ กนั ทงั ตวั อาการเหล่านีเป็นเพยี งมายาของจติ อย่าสนใจ อย่าดใี จหรอื เสยี ใจ
มุมสว่าง ทศวรรษมรดกธรรม จาก ปิ น มุทุกันต์ ตงั ใจนับลมอย่างเดยี ว ประเดยีM วมนั กจ็ ะหายไปเอง นิมติ ดงั กล่าวนีเกดิ แก่ คนบางคนเทา่ นนั และไมเ่ หมอื นกนั เสมอไป N.ทา่ นทนี บั ลมเพอื พกั ผอ่ น คอื จะใหห้ ลบั ชวั งบี ควรตงั ใจไวก้ อ่ นว่า จะหลบั กนี าที เมือนับลมไปถงึ ตอนทีจิตเผลอกใ็ ห้ปล่อยเลย ใหจ้ ิตเขา้ สู่ นทิ ราอนั แสนสขุ ไดท้ เี ดยี ว แลว้ จติ จะตนื ตวั ขนึ ตามเวลาทตี งั ใจไว้ ขอ้ ควรทราบ วธิ นี บั ลมทไี ดผ้ ลควรทาํ อย่างนี คอื พอเรมิ ตน้ ใหเ้ อาจติ จ่อไวท้ ปี าก ช่องจมูก พอหวั ลมหายใจเขา้ มากระทบช่องจมูกให้เอาจติ จบั ทหี วั ลมนัน แล้วใหจ้ ติ นําลมเขา้ ไปในทอ้ งจนถงึ ทอ้ งน้อยแล้วนํากลบั ออกมาตลอดเวลา นันนึกนับในใจว่า หนึง... คอื นับยาวไปตามลมจนหวั ลมออกมาถงึ ปากช่อง จมูก จติ ของเราอยู่ตรงนัน (อย่าเลยออกไป) แต่คอยดูลมทผี ่านออกจนถงึ หางสดุ ของลม การนบั หนึงจงึ สนิ สุด แลว้ กเ็ รมิ จบั ลมค่ทู สี องต่อไป เปลยี น แต่การนบั เป็น สอง เท่านัน ความยุ่งยากนีอาจมอี ย่ใู นระยะแรก ๆ เท่านัน พอชาํ นาญหน่อยกเ็ ป็นไปเอง เท่าทีข้าพเจ้าปฏิบัติมาด้วยตนเอง ได้พบเห็นอาการของจิต อย่างหนึง คอื กอ่ นทจี ติ จะสงบนันปรากฏว่าลมหายใจหยาบมากเหมอื นกบั เอาเชอื กปอหยาบ ๆ สอดเขา้ ในท้องแล้วชกั เขา้ ชกั ออก บางทที นไม่ไหว ต้องเลิก แต่ไป ๆ หน่อยอาการนันกห็ าย ทนี ีลมหายใจกลบั ละเอยี ดมาก มลี กั ษณะใสปนเขยี วเหมอื นใยแกว้ และเย็นซาบซ่านบอกไม่ถูก ทําให้ สบายมาก ขา้ พเจ้าทดลองบงั คบั ใหส้ ายลมหายใจผ่านวกวนไปตามส่วน ต่าง ๆ ของร่างกายตามทอี าจารย์แนะนํา ปรากฏว่าทําได้บ้างนิดหน่อย เพราะจติ ยงั ไมช่ าํ นาญพอ ทวี ่านีเป็นตอนทนี ําจติ เขา้ ภวงั คใ์ นสมาธิ เลยขนั เลน่ ลมหายใจไปแลว้ แตเ่ ล่าไวเ้ ผอื ทา่ นผใู้ ดทาํ ไปถงึ ขนั นนั จะไดไ้ มส่ งสยั อย่างไรกต็ ามสาํ หรบั ท่านทขี วี ติ ก ขา้ พเจา้ ขอรบั รองว่าการเล่นลม หายใจอย่างนีจะไม่ทาํ ใหส้ ติปญั ญาวกิ ลวกิ ารไปเลย มแี ต่สรา้ งพลงั ทางใจ และเพมิ พนู กาํ ลงั ปญั ญา เหมาะสมอยา่ งยงิ สาํ หรบั ทา่ นผหู้ วงั ความกา้ วหน้า และตอ้ งการความสขุ ทางใจ
มุมสว่าง ทศวรรษมรดกธรรม จาก ปิ น มุทุกันต์ ผหี ล่อพระ ประสบการณ์ประหลาดสุดในชีวติ ของข้าพเจ้า เรอื งราวของสตั ว์ เรอื งของคนและเรอื งปา่ เขาลาํ เนาดง ถงึ จะมขี อ้ แม้ สบั สนวนเวยี นสกั เท่าไรกพ็ ูดไม่สูย้ าก พอพดู ขาดคาํ คนฟงั กร็ ูว้ ่าอะไรเป็น อะไร ใครจะชอบหรอื ไม่ชอบกต็ ดั สนิ ใจได้เด็ดขาด ถงึ เรอื งผกี พ็ ูดไม่ยาก ถา้ เป็นเรอื งผลี ว้ น ๆ เล่าจบแลว้ กจ็ บเรอื ง ใครอยากเชอื กเ็ ชญิ ใครไมอ่ ยาก เชอื กต็ ามใจ แต่มีเร$ืองที$พูดยากเขียนยากอยู่เร$ืองหน$ึง ยากกว่าเร$ืองคนและ เรื$องผี คือเร$ืองประเภทคร$ึงผีคร$ึงคน ยากทงั* คนพูดทงั* คนฟัง เพราะ คนพูดก็อยากพูดคนฟังกอ็ ยากฟัง แต่ทงั* คนพดู และคนฟังก็ตดั สินใจ ยากว่าจะเช$ือดีหรือไม่ดี เรื$องประเภทที$ว่านี* คือเรื$องของการทรงเจ้า เขา้ ผี เป็นเรือ$ งที$เช$ือยากจริง ๆ เพราะสิบครงั* ที$เราเคยพบเหน็ และร้สู ึก ว่าเป็ นเรื$องเหลวไหล แต่แล้วก็มีอยู่ครัง* หรือสองครัง* ที$น่ าพิศวง ดงั ประสบการณ์ในชีวิตจริงของขา้ พเจ้า ซ$ึงจะนํามาเล่าส่กู นั ฟังวนั นี* แต่กอ่ นทจี ะเล่า ขา้ พเจา้ ขอทาํ ความเขา้ ใจกบั ทา่ นผอู้ ่านผฟู้ งั ใหแ้ น่ ๆ เสยี ก่อนว่า ตามปกตแิ ล้วขา้ พเจ้าไม่อยากจะเกยี วขอ้ งกบั เรอื งผี ๆ สาง ๆ ต่างคนต่างอยู่ ผกี ็ไม่เคยมารบกวนให้ขา้ พเจ้าเดือดร้อน และขา้ พเจ้าก็ ไมอ่ ยากไปยุ่งเกยี วกบั พวกนันเขา แลว้ กไ็ ม่เคยมสี าเหตุโกรธเคอื งอะไรกนั ถา้ จะมบี า้ งกก็ บั คนทที าํ ตวั เป็นผหี ลอกคนดว้ ยกนั เชน่ ครงั หนึงเมอื ขา้ พเจา้ เป็นเด็กหนุ่มน้อย มคี นทําตวั เป็นผู้วิเศษมารบั จ้างจบั ผอี อกจากบ้านคน วธิ ที าํ เขาใชห้ มอ้ ดนิ ขนาดหมอ้ หุงขา้ วกนิ สองคนอมิ ใส่ขา้ วสุกปนั ไว้ในนัน ปนั หนึง แลว้ เอาผา้ ขาวเขยี นยนั ตป์ ิดปากหมอ้ ไว้ มสี ายสญิ จน์วงรอบบรเิ วณ ทตี งั หมอ้ หา้ มคนเขา้ ไปในสายสญิ จน์ ครนั แล้วตวั เขาเองกท็ ําวิธเี รยี กผี
มุมสว่าง ทศวรรษมรดกธรรม จาก ปิ น มุทุกันต์ ออกมาจากใต้พืนดินบ้าง บนหลงั คาบ้านบ้าง ตามมุมรัวมุมเรอื นบ้าง แลว้ กท็ าํ ทา่ จบั ผยี ดั ใส่ลงในหมอ้ ผบี างตวั ไม่ยอมใหต้ าแกจบั กุมโดยละมอ่ ม ถงึ กบั ปลุกปลํากนั หกล้มหกลุกกม็ ี ครนั ทาํ อยู่นานพอสมควรแลว้ แกกบ็ อก วา่ จบั ผไี ดห้ มดแลว้ บรรดาผที มี าแอบแฝงอยใู่ นบา้ นถูกควบคมุ ตวั ไวใ้ นหมอ้ หมดเรยี บรอ้ ย และเพอื สรา้ งศรทั ธาใหแ้ ก่เจา้ ของบา้ น แกจะเสกนํามนตเ์ ท ลงไปในหมอ้ ประมาณสกั ครงึ แกว้ สกั ครหู่ นึงจงึ บอกใหพ้ วกเราตะแคงหฟู งั ทกุ คนต่างตกตะลงึ รวมทงั ขา้ พเจา้ ดว้ ย เพราะเราไดย้ นิ เสยี งผเี ดนิ อยใู่ นหมอ้ สบั สนอลหมา่ น หมอผกี บ็ อกว่าผถี กู นํามนตเ์ ขา้ เลยดนิ รนใหญ่ หลงั จากนัน เขากจ็ ะทาํ พธิ เี ผาผี โดยเอาหมอ้ ผใี บนันตงั ลงในกองไฟ ชว่ ยกนั ขนฟืนมา เผาอยา่ งไมป่ รานีทเี ดยี ว ครนั ไฟมอดหมดแลว้ แกกใ็ หพ้ วกเราดูภายในหมอ้ อกี แหละ ประหลาดอะไรอยา่ งนัน ในหมอ้ นันนอกจากขเี ถา้ ขา้ วสกุ ปนั แล้ว ยงั มกี ระดูกชนิ เลก็ ๆ อยู่มากมาย แกบอกว่ากระดูกผี นายคนนีหากนิ ทาง จบั ผอี ยู่นาน ได้เงนิ ชาวบา้ นมากอยู่ แกวางตวั เป็นผูพ้ ชิ ติ ผใี หญ่โต แต่ใน โอกาสเดียวกนั นันก็มีพ่อหนุ่มน้อยคนหนึงคอยจับหมอผีอยู่ตลอดเวลา เพราะไมเ่ ชอื ว่าแกจบั ผไี ดจ้ รงิ จนกระทงั วนั หนึงขณะทหี มอผกี าํ ลงั ทาํ การจบั ผมี าใหค้ น ๆ หนึง แกบอกผตี วั นนั ดอื มากตอ้ งไล่ตะครบุ กนั นาน และออกไป ไกลจากหมอ้ ผมี าก พอ่ หนุ่มไดโ้ อกาสเหมาะจงึ แอบเปิดผา้ ยนั ตป์ ิดปากหมอ้ ออกดู เหน็ มขี า้ วปนั อยู่ F – B ปนั จึงบิออกดู เวรกรรม ! แกเอาปูนา เป็น ๆ มาใสไ่ วใ้ นขา้ วปนั ความมงุ่ หมายกเ็ พอื จะแสดงใหค้ นดู คอื ตอนราด นํามนตล์ งไปขา้ วปนั ละลายออกปูกไ็ ต่หมอ้ คนตะแคงหฟู งั ได้ยนิ เสยี งปูเดนิ คดิ ว่าผี ขนลุกขนพอง และเมอื เผาแล้วกระดูกทเี หน็ ก็คือกระดูกปูนีเอง โดยไม่รอช้า พ่อหนุ่มก็เก็บเอาปูออกจากในหม้อจนหมดแล้วปิดยนั ต์ไว้ ตามเดิม วนั นันมนั เป็นเคราะห์กรรมของหมอผี หลงั จากแกอวดอ้างว่า ไดจ้ บั ผใี สห่ มอ้ หมดแลว้ กเ็ ทนํามนตล์ งใสใ่ นหมอ้ ตามเคย หวงั จะใหผ้ เี ดนิ ให้ คนฟงั แต่แล้วเงยี บ ผไี ม่เดนิ สกั หน่อย แกกบ็ อกว่าวนั นีเสกนํามนต์แรง ไปหน่อย พอถูกผีเข้ามนั เลยเป็นง่อยหมด ปล่อยให้แกอวดอิทธิฤทธิ A จนพอใจแล้ว หมอผนี ้อยจงึ ควกั เอาปูนาทซี ่อนไว้ออกมาและบอกแก่ใคร ๆ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182