บทนำ กำรทดสอบแรงดึง มีวตั ถปุ ระสงค์ เพือ่ วดั คณุ สมบตั ิ ควำมต้ำนทำนของวสั ดตุ ่อแรงดึง เป็นประโยชน์ในกำรออกแบบ และกำรเลือกใช้วสั ดใุ ห้ เหมำะสมกบั ลกั ษณะกำรใช้งำน ในกำรทดสอบจะเป็นกำรใช้แรงดึงที่เพิ่มขึน้ อย่ำง สมำ่ เสมอดึงชิ้นงำนให้ยดื ออกและขำดในท่ีสดุ โดยปกติแล้วมกั จะทดสอบกบั วสั ดทุ ี่เหนียวมำกกว่ำ เปรำะ 1
วิธีกำรทดสอบ 1. กลึงแต่งชิ้นทดสอบ (specimen) จำกชิ้นงำนตวั อย่ำง (sample) ให้ได้ขนำด ตำมมำตรฐำนที่ใช้อ้ำงอิง เช่น มอก., JIS เป็นต้น 2. ทำควำมสะอำดชิ้นทดสอบ (specimen) ใช้กระดำษทรำยลูบชิ้ น ทดสอบ ถ้ำผิวมีสนิ ม เพื่อป้ องกนั กำรเล่ือน ของชิ้นงำนจำกหวั จบั ขณะทำ กำรดึง 3. ตรวจสอบควำมเรยี บ ตรง ของชิ้นทดสอบ โดยจะต้องไมโ่ กงงอ 4. ทำกำรวดั และบนั ทึกค่ำขนำดและมิติของชิ้นทดสอบ 5. ทำกำรดึงด้วยเคร่อื งดึง (Tensile machine) ซึ่งเมื่อดึงเสรจ็ สิ้น (ชิ้นงำนขำด จำกกนั เป็นสองส่วน) 6. วำดกรำฟและคำนวณค่ำต่ำงๆ ท่ีเรำต้องกำร 2
กำรวิเครำะหข์ ้อมูล True stress Engineering stress 3
ช่วงกำรเปล่ียนรปู แบบยืดหย่นุ (Elastic deformation) ระยะยืดตวั AB จะ แปรผนั ตรง กบั แรงท่ีมำดึง เป็ นเส้นตรง เรียกวำ่ Proportional limit ควำมชนั ของเส้นตรงนี้จะเรียกว่ำ Young’s Modulus of Elasticity เม่ือวสั ดยุ ืดตวั อีกเลก็ น้อยจะถึงจดุ C ซึ่งเป็ นจุดท่ีเริ่มที่จะมี กำรแปรรปู แบบถำวร หรือ จดุ ครำกบน (Upper Yield Point) โดยวสั ดุที่ได้รบั แรงดึงในช่วง AC เมื่อทำกำรหยดุ ดึง ควำม ยำวของชิ้นงำนจะหดกลบั ไปยงั ควำมยำวเร่ิมแรกของวสั ดุ นัน้ 4
ช่วงกำรเปล่ียนรปู แบบถำวร (Plastic deformation) สำหรบั เหลก็ กล้ำคำรบ์ อนเมื่อทำกำรแปรรูปต่อจำก จดุ C ชิ้นงำนจะสำมำรถยืดตวั ออกไปได้ (เรียกกำรเกิด Plastic flow) ด้วยควำมเค้นที่ลดลงและคงท่ีในช่วงสนั้ ๆท่ี จดุ D ซึ่งเป็น จดุ ครำกล่ำง (Lower Yield point) ค่ำควำมเค้นที่จดุ D นี้เรียกว่ำ ควำมต้ำนทำนแรงดึงท่ี จุดครำก (Yield strength) หรือ ควำมเค้นครำก (Yield Stress) 5
กำรเกิดของจุดครำกบนและล่ำงนี้จะเป็ นคุณสมบตั ิเฉพำะ ของเหลก็ กล้ำคำรบ์ อนตำ่ เม่ือเหลก็ กล้ำคำรบ์ อนตำ่ ได้รบั แรงถึง จุดครำกบน จะเกิด กำรเสียรูปที่ไม่สม่ำเสมอตลอดควำมยำวพิกัด แต่ จะ กระจำยสมำ่ เสมอตลอดควำมยำวพิกดั เมอ่ื ถึง จดุ ครำกล่ำง จนกระทงั่ มีควำมเครียดถำวรสม่ำเสมอตลอดควำมยำว พิกดั ซ่ึงเรียกว่ำเกิด the Lüders strain หลงั จำกนัน้ ชิ้น ทดสอบจะมีพฤติกรรมภำยใต้แรงกระทำ คือ แขง็ แรงขึ้น เมื่อควำมเครียดเพิ่มขึ้น (strain-hardening) เหมือนกบั วสั ดุ อ่ืนท่ีไม่มีจดุ ครำก 6
สำหรับโลหะท่ีไม่ปรำกฏจุดครำกท่ีชัดเจนให้เห็น เช่น เหลก็ กล้ำคำรบ์ อนหลงั จำกผำ่ นกำรรีดปรบั ผิว (Skin pass rolling) และท่ีผ่ำนกำรอบอ่อน และโลหะที่ไม่ใช่เหลก็ เป็ นต้น ดงั นัน้ กำรคำนวณค่ำควำมต้ำนทำนแรงดึงท่ีจดุ ครำก จะ ใช้วิ ธีกำรลำกเส้นขนำนกับช่วงที่กรำฟเป็ นเส้นตรง (Proportional limit) เรียกว่ำ Offset method เช่น วดั ที่ระยะห่ำง 0.2% ของ Gauge length ไปตดั กบั เส้นกรำฟท่ีได้จำกกำรดึง 7
ค่าความเค้นทจ่ี ุด Y เรียกว่า ความเค้นพสิ ูจน์ (Proof stress) ที่ 0.2% 8
ชิ้นทดสอบ ลักษณะภำคตัดขวำงมีได้หลำยลักษณะ เช่น วงกลม, สี่เหลี่ยมจตั รุ สั หรือ สี่เหล่ียมผืนผำ้ ชิ้นทดสอบจะได้จำกกำรส่มุ ชิ้นงำนอำจจะตัดมำจำกผลิตภณั ฑ์โดยตรง หรือ ต้องผ่ำนกำรกลึงแต่งเพื่อให้ได้ขนำด ซ่ึงให้เป็ นไป ตำมมำตรฐำน มอก 244 เล่ม 4-2525 9
r So p Gauge length Lo Lc Lt Su Lu 10
กำรเตรียมชิ้นงำนท่ีผิดพลำด 11
12
กำรยดึ ชิ้นทดสอบ ต้องให้แรงดึงทดสอบอย่ใู นแนวแกนของชิ้นทดสอบ ต้องไม่ทำให้เกิดกำรแกว่ง หรอื เกิดกำรดดั โค้งระหว่ำงที่ทำ กำรทดสอบ รบู ร่ำงของบริเวณจะจบั ยึดสำมำรถทำได้หลำยแบบ เช่น แบบเรียบ, เป็นบำ่ , เกลียว, รสู ำหรบั สลกั เป็นต้น 13
อุปกรณ์จบั ยึดต้องมีควำมแขง็ แรงเพียงพอต่อแรงกระทำ ส่วนมำกมีลกั ษณะเป็ นลิ่ม (Wedge grips) แต่จะไม่เหมำะ สำหรบั ชิ้นงำนที่เป็นโลหะเปรำะเพรำะจะทำให้แตกได้ 14
ตวั อย่ำงกำรจบั ยดึ ชิ้นงำน Spherical bearing มีไว้เพอ่ื ป้ องกนั ______________ 15
16
17
ข้อสงั เกตุ และ ควรระวงั 1. Elongation วดั ได้จำกกำรนำชิ้นงำนหลงั จำกชิ้นงำนขำดจำกกนั แล้ว มำต่อให้สนิทที่สดุ ในแนวเส้นตรง แล้วทำกำรวดั ซ่ึงอำจจะมีข้อผิดพลำดของสญั ลกั ษณ์ไม่ชัดเจน และ human error ซึ่งอำจจะแก้ไขได้โดยกำรใช้เคร่ืองวดั กำร ยืด (Extensometer) จะมีลกั ษณะเป็นไมโครมิเตอร์ หรือ นำฬิ กำวดั 18
ถ้ำตำแหน่งท่ีขำดไมอ่ ย่ใู นช่วง gauge length ต้องทำใหม่ เปอรเ์ ซนตก์ ำรยืด จะไม่เท่ำกนั ตลอดควำมยำว เมอ่ื เกิด คอคอด % Elongation ของชิ้นงำน = 31.25% แต่ถำ้ พิจำรณำตลอดควำม ยำวGauge length จะพบว่ำ มีค่ำตงั้ แต่ 20-78% และ บริเวณคอคอด(5) มี% สงู สดุ 12345 678 19
2. ขนำดของชิ้นงำน ทวั่ ไปจะกำหนด ควำมยำวพิกดั Lo=5.65So0.5 หรือ Lo=5d เป็น ชิ้นทดสอบได้สดั ส่วน ถ้ำค่ำสดั ส่วน L/d ตำ่ กว่ำนี้ จะมีผลต่อค่ำ %ควำมยืด และ กำรลดลงของพืน้ ท่ีหน้ำตดั ถ้ำค่ำ L/d =0 จะทำให้มีลกั ษณะเหมือนรอยบำก และทำให้ เป็น บริเวณรวมของควำมเค้น (stress concentration) จะ ทำให้ค่ำควำมแขง็ แรงเพ่ิมขึน้ แต่ควำมเหนียวลดลงมำก 20
Length:Diameter ratio (b) Effect on stress-strain (a) Effect of Ductility L=3d L=2d L=d L=0.5d L=0d 21
3. ลกั ษณะกำรแตกของชิ้นงำน (a) (b) (c) (d) (e) (f) (a) Flat and Granular; Cast iron (b) Cup Cone, Silky; Mild Steel, Al (c) Partial cup-cone; Mild steel (d) Star fracture; Cold-worked or Heat-treated materials (e) Irregular; Wrought alloy (f) Cup Cone, Silky; Flat specimen 22
4. กำรเยอื้ งศนู ยข์ องชิ้นทดสอบ อำจเกิดจำกกำรจบั ชิ้นงำนไม่ดี หรือวำง grip ไม่ดี จะทำให้ stress กระจำยไม่ทวั่ หน้ำตดั หรือกระจำยไม่สมำ่ เสมอ เกิด แรงดึงไมเ่ ท่ำกนั ตลอดช่วงควำมยำวพิกดั (gauge length) ส่งผลให้พิกดั ของกรำฟ โดยเฉพำะช่วง Proportional limit น้อยกวำ่ ควำมเป็นจริง จะมีผลกระทบกบั ค่ำ strength ของชิ้นงำนท่ีเปรำะ และใน กำรทดลองที่ต้องกำรหำค่ำ Elasticity ของวสั ดุ 23
5. ควำมเรว็ ทดสอบ ถ้ำอัตรำกำรดึงเร็วเกิ นไป จะทำให้เพิ่ มควำม แขง็ แรงดึง แต่ค่ำกำรยดื ลดลง จะมีผลกระทบมำกกบั ค่ำ strength ของโลหะที่มีจุด หลอมเหลวตำ่ เช่น ตะกวั่ สงั กะสี พลำสติก เป็นต้น ควำมสมั พนั ธ์ ระหว่ำงกำรเปล่ียนแปลงของแรงดึง หรอื กำรยดื จะเป็นแบบ logarithm กบั ควำมเรว็ 24
เช่น ในกำรทดสอบชิ้นงำนมำตรฐำนของเหลก็ กล้ำ ถ้ำเรำเพ่ิมควำมเรว็ กำรดึง เป็น 8 เท่ำคือ จำก 1.25 เป็ น 10 mm/min จะทำให้ควำมเค้นจุดครำก เพิ่มขึ้น 4%, ควำมเค้นดึง เพ่ิมขึ้น 2% และ Elongation ลดลง 5% ชิ้นงำนหล่อ ไมม่ ีรบั ผลกระทบจำกกำรเปล่ียนแปลง ควำมเรว็ มำกนัก 25
6. อณุ หภมู ิกำรทดสอบ 6.1 อณุ หภมู ิตำ่ • วสั ดทุ ี่ใช้งำนที่อณุ ภมู ิตำ่ เช่น ชิ้นส่วนต้เู ยน็ , ชิ้นส่วน บรรจสุ ำรเคมี หรอื ชิ้นส่วนเครอ่ื งจกั รท่ีใช้ในสภำพ ภมู ิอำกำศอณุ หภมู ิตำ่ • เรำทรำบดีแล้ววำ่ ductility ลดลง เมอ่ื T ตำ่ ลง • ส่วนใหญ่มกั จะได้ค่ำ tensile strength สงู ขึน้ ถำ้ T ตำ่ ลง • แต่ ค่ำ Yield strength มกั จะเปล่ียนแปลงไมเ่ ป็นไปตำม สดั ส่วนเดียวกนั กบั ค่ำ tensile strength 26
6.2 อณุ หภมู ิสงู ชิ้นส่วนท่ีต้องใช้งำนท่ีอณุ หภมู ิสงู เช่น ชิ้นส่วนเคร่ืองจกั ร เครื่องบิน ดงั นัน้ กำรทดสอบที่ อณุ หภมู ิสงู ต้องคำนึงถึง 1. กำรลดลงของ strength เม่ือ T สงู ขึน้ 2. อตั รำกำรเกิด Creep 3. ผลกระทบของ strain rate (พิจำรณำจำก ควำมเรว็ ดึง) 4. ผลกระทบของกำรเปล่ียนแปลงของโครงสร้ำงจลุ ภำค และ โลหะวิทยำ 27
กำรทดสอบ Tensile test ศึกษำ วิธีกำรทดสอบ มอก. 244 เล่ม 4-2525 ออกแบบใบบนั ทึกผลกำรทดลอง เตรียมชิ้นงำน 1. อลมู ิเนียม 12.5 mm, กล่มุ ละ 1 ชิ้น 2. เหลก็ เพลำขำว 12.5 mm , กล่มุ ละ 1 ชิ้น 3. ทองเหลือง 12.5 mm, กล่มุ ละ 1 ชิ้น 28
Search
Read the Text Version
- 1 - 28
Pages: