Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผน + หน่วย 1

แผน + หน่วย 1

Published by haruthai chaiwut, 2021-10-01 18:16:07

Description: แผน + หน่วย 1

Search

Read the Text Version

โครงสรา้ งรายวชิ า โครงสร้างรายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ระดับมธั ยมศึกษา ชัน้ ม.1 เวลา 40 ชว่ั โมง จำนวน 1 หน่วยกติ ลำดับที่ ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐาน/ตัวชี้วัด/ สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ำหนกั ผลการเรียนรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน 1. เรื่องแนวคิดเชิง ว 4.2 ม.1/1 - แนวคิดเชิงนามธรรม 4 8 นามธรรม - การคัดเลือกคุณสมบัติใน การแกป้ ัญหา เรอ่ื งการแกป้ ัญหา ว 4.2 ม.1/1 - ขั้นตอนการแก้ปัญหา 4 8 2. - การเขียนอัลกอรทิ ึมด้วย ภาษาธรรมชาติ 3. เรอ่ื งการโปรแกรม ว 4.2 ม.1/2 - ภาษาคอมพิวเตอร์ 10 20 ดว้ ยภาษาไพทอน - หลกั การเขยี นโปรแกรม 8 16 และการประกาศตัวแปร 4. เรือ่ งการโปรแกรม ว 4.2 ม.1/2 - ชนดิ ขอ้ มูลพืน้ ฐานและ ดว้ ย Scratch การแปลงชนดิ ข้อมลู ภาษา ไพทอน - การทำงานแบบวนซำ้ และการทำงานแบบ ทางเลือก - ฝึกเขยี นโปรแกรมจาก อัลกอริทึม - รจู้ กั และติดต้งั โปรแกรม Scratch - เรียนรู้คำสง่ั เคลอื่ นที่ (เดินเลน่ กันเถอะ) - เรยี นรู้คำส่งั รปู ร่าง (สนทนาพาเพลิน) - เรียนรคู้ ำสั่งเสยี ง (วง ดนตรีของฉนั )

5. เรื่องข้อมลู และการ ว 4.2 ม.1/3 - ข้อมลู และการรวบรวม 8 16 ประมวลผล ข้อมลู - การประมวลผลขอ้ มลู 6 12 6 เรอ่ื งการใช้ ว 4.2 ม.1/4 และการสร้างทางเลอื กเพือ่ เทคโนโลยี ตดั สนิ ใจ 38 80 สารสนเทศอยา่ ง รวม - ซอฟต์แวรจ์ ัดการข้อมูล 1 10 ปลอดภยั สอบกลางภาค 1 10 สอบปลายภาค - การใชเ้ ทคโนโลยี 40 100 รวมตลอดปี สารสนเทศอยา่ งปลอดภัย - การใชเ้ ทคโนโลยี สารสนเทศ คำอธบิ ายรายวิชา ศกึ ษาแนวคิดเชิงนามธรรม การคัดเลือกคุณลักษณะที่จำเป็นต่อการแก้ปัญหา ข้ันตอนการแก้ปัญหา การเขยี นรหัสจำลองและผังงาน การเขียนออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่าย ท่ีมีการใช้งานตัวแปรเงื่อนไข และการวนซ้ำ เพื่อแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์ การรวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ การประมวลผล ขอ้ มูล การสร้างทางเลือกและประเมินผลเพ่ือตัดสินใจซอฟต์แวร์และบริการบนอนิ เทอร์เน็ตท่ีใช้ในการจัดการ ข้อมูลแนวทางการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศให้ปลอดภยั การจัดการอตั ลกั ษณ์ การพจิ ารณาความเหมาะสม ของเน้ือหา ข้อตกลงและข้อกำหนดการใช้สื่อและแหล่งข้อมูลนำแนวคิดเชิงนามธรรมและขั้นตอนการ แก้ปัญหาไปประยุกต์ใช้ในการเขียนโปรแกรม หรือ การแก้ปัญหาในชีวิตจริง รวบรวมข้อมูลและสร้าง ทางเลือก ในการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตระหนักถึงการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง ปลอดภัย เกดิ ประโยชนต์ ่อการเรยี นรู้ และไมส่ รา้ งความเสยี หายให้แกผ่ ู้อ่นื การเกบ็ คะแนน 80 คะแนน คะแนนระหวา่ งเรียน 10 คะแนน คะแนนกลางภาค 10 คะแนน คะแนนปลายภาค 100 คะแนน รวม

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ เร่อื งแนวคิดเชงิ นามธรรม รหสั – ช่ือรายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ เวลา 4 ชว่ั โมง ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 1 โรงเรยี นแมท่ ะวิทยา ผูส้ อน นางสาวหฤทยั ไชยวฒุ ิ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชงิ คาํ นวณในการแก้ปญั หาที่พบในชวี ิตจริงอยา่ งเป็น ขนั้ ตอนและเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรยี นรู้การทาํ งาน และการแกป้ ัญหาได้ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ รู้เท่าทัน และมจี ริยธรรม ตวั ชวี้ ัด/ผลการเรียนรู้ ว 4.2 ม.1/1 ออกแบบอัลกอรทิ ึมทีใ่ ชแ้ นวคดิ เชงิ นามธรรมเพือ่ แก้ปัญหาหรืออธิบายการทำงานท่ีพบ ในชีวติ จรงิ สาระสำคญั การออกแบบการแก้ปญั หาโดยนำแนวคิดเชงิ นามธรรมมาประยกุ ต์ใช้ จะทำให้การแก้ปัญหา มี ประสทิ ธภิ าพมากข้นึ ในบทนี้จะกล่าวถงึ กระบวนการในการพิจารณารายละเอียดของปัญหา ซึง่ จะนำไปสู่ วิธีการแกป้ ัญหา สาระการเรยี นรู้ - แนวคิดเชงิ นามธรรม - การคดั เลอื กคุณสมบตั ิในการแก้ปญั หา จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ความรู้ 1. นกั เรยี นสามารถบอกและอธบิ ายความหมายของแนวคดิ เชิงนามธรรมได้ 2. นกั เรียนสามารถยกตวั อย่างแนวคดิ เชงิ นามธรรมได้ 3. นักเรียนสามารถบอกการคดั เลอื กคุณสมบัตใิ นการแกป้ ญั หาได้ 4. นกั เรยี นสามารถตรวจสอบการคัดเลือกคุณสมบัตใิ นการแก้ปญั หาได้

ทกั ษะกระบวนการ 1. นักเรยี นสามารถทำความเข้าใจปญั หาได้ 2. นกั เรยี นสามารถวางแผนการแกป้ ัญหาได้ 3. นกั เรยี นสามารถดำเนินการแกป้ ัญหาได้ 4. นกั เรยี นสามารถสรุปแนวทางการแก้ปัญหาได้ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2. ซื่อสตั ย์สจุ ริต 3. มวี ินัย 4. ใฝ่เรยี นรู้ 5. อยู่อยา่ งพอเพียง 6. มงุ่ มั่นในการทำงาน 7. รกั ความเป็นไทย 8. มีจิตสาธารณะ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี การประเมนิ ผลรวบยอด ชิน้ งานหรอื ภาระงาน 1. ใบงานที่ 1.1 เรือ่ ง แนวคิดเชงิ นามธรรม 2. ใบงานที่ 1.2 เรอื่ ง การคดั เลอื กคณุ ลักษณะในการแกปญหา การประเมินผล ระดบั คุณภาพ น้ำหนักคะแนน ประเดน็ การประเมนิ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1) 1.ใบงานท่ี 1.1 เรื่อง 10 คะแนน แนวคดิ เชิงนามธรรม 8-9 คะแนน 5-7 คะแนน 0-4 คะแนน 3

2.ใบงานท่ี 1.2 เรอื่ ง การ 10 คะแนน 8-9 คะแนน 5-7 คะแนน 0-4 คะแนน 3 คดั เลือกคณุ ลักษณะในการ 10 แกปญหา 19-20 16-18 11-15 0-10 คะแนน 16 แบบทดสอบ เร่ือง แนวคดิ คะแนน คะแนน คะแนน เชงิ นามธรรม รวม กจิ กรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 - 2 กจิ กรรมหลักของครู 1. ครูกล่าวทกั ทายนกั เรยี นและร่วมสนทนาเกย่ี วกับเรื่องต่าง ๆเพอ่ื สร้างความสัมพนั ธ์ทด่ี ี 2. ครแู จง้ รายละเอยี ดของเรื่องที่จะสอนในคาบและกจิ กรรมท่ีจะทำในคาบ 3. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น เรื่อง แนวคดิ เชิงนามธรรม 3. ครอู ธบิ ายความหมาย เรื่อง แนวคิดเชงิ นามธรรม 4. ครใู หน้ ักเรียนศึกษาหาความรู้ผ่านบทเรียนมลั ติมเี ดีย เร่ือง แนวคดิ เชงิ นามธรรม 5. ครมู อบหมายใบงานท่ี 1.1 เร่ือง แนวคิดเชิงนามธรรม 6. ครสู มุ่ ใหน้ ักเรียนออกมานำเสนอใบงานหนา้ ชนั้ เรยี น 7. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรยี นซักถามเกยี่ วกบั ขอ้ สงสยั /เรื่องที่ไม่เข้าใจ 8. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรปุ องค์ความรู้ที่เรยี นในวนั นี้ ภาระงานของนกั เรยี น 1. นักเรียนมีส่วนรว่ มในการอธบิ าย/ตอบปัญหา เร่ือง แนวคิดเชงิ นามธรรม 2. นักเรยี นทำใบงานท่ีได้รบั มอบหมาย 3. นกั เรียนมสี ว่ นร่วมในการสรุปองค์ความรู้ท่ีเรียนในวันน้ี 4. นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี น ชว่ั โมงท่ี 3 – 4 กิจกรรมหลักของครู 1. ครกู ล่าวทกั ทายนกั เรยี นและทำการเชค็ รายชอ่ื นักเรยี นก่อนเริ่มเรียน 2. ครสู ุ่มถามคำถามนักเรียนเป็นรายบคุ คลจากเน้ือหาในคาบแรก 3. ครแู จ้งรายละเอียดของเรื่องที่จะสอนในคาบและกจิ กรรมที่จะทำในคาบ 4. ครูอธิบายเนื้อหา เรอ่ื ง การคัดเลือกคุณลักษณะในการแกปญหา 5. ครใู หน้ ักเรยี นศึกษาหาความรู้ผ่านบทเรยี นมลั ติมีเดยี เร่ือง การคัดเลือกคุณลกั ษณะในการ

แกปญหา 6. ครมู อบหมายใบงาน ใบงานที่ 1.2 เร่อื ง การคดั เลือกคุณลกั ษณะในการแกปญหา โดยให้นกั เรียน ทำเป็นรายบุคคล 7. ครูใหน้ กั เรียนศึกษาขอ้ มูลจากโจทย์ที่กำหนดแล้วตอบคำถาม 8. ครูใหน้ ักเรียนสรุปใบงานท่ไี ด้มอบหมาย 9. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามเกย่ี วกับข้อสงสยั /เร่ืองท่ีไม่เข้าใจ 10. ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรปุ องคค์ วามรู้ทเี่ รียนในวนั น้ี ภาระงานของนักเรยี น 1. นกั เรียนมสี ว่ นร่วมในการอธบิ าย/ตอบปญั หา เรื่อง การคัดเลอื กคุณลกั ษณะในการแกปญหา 2. นกั เรยี นทำใบงานที่ได้รับมอบหมาย 3. นกั เรียนมีส่วนรว่ มในการสรุปองค์ความรู้ทเ่ี รียนในวันนี้

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 หน่วยการเรยี นรู้ เรื่องการแก้ปัญหา รหัส – ช่ือรายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ เวลา 4 ชวั่ โมง ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 1 โรงเรียนแมท่ ะวิทยา ผู้สอน นางสาวหฤทยั ไชยวุฒิ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชิงคาํ นวณในการแก้ปัญหาที่พบในชวี ิตจริงอยา่ งเปน็ ขนั้ ตอนและเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารในการเรยี นร้กู ารทาํ งาน และการแกป้ ญั หาได้ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ รู้เท่าทนั และมีจริยธรรม ตวั ช้ีวดั /ผลการเรียนรู้ ว 4.2 ม.1/1 ออกแบบอัลกอริทมึ ท่ใี ชแ้ นวคิดเชิงนามธรรมเพื่อแกป้ ญั หาหรืออธิบายการทำงานท่ีพบ ในชวี ติ จริง สาระสำคญั การแกป้ ัญหาในชีวิตประจำวันจะต้องใชข้ นั้ ตอนการปฏบิ ัติของกระบวนการแกป้ ัญหา สาระการเรยี นรู้ - ขน้ั ตอนการแก้ปญั หา - การเขยี นอลั กอริทึมดว้ ยภาษาธรรมชาติ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ความรู้ 1. นักเรยี นสามารถบอกและอธบิ ายข้นั ตอนการแกป้ ญั หาได้ 2. นกั เรยี นสามารถยกตวั อยา่ งขั้นตอนการแก้ปญั หาได้ 3. นกั เรยี นสามารถบอกการเขียนอลั กอริทึมด้วยภาษาธรรมชาติได้ 4. นกั เรยี นสามารถตรวจสอบการเขยี นอัลกอริทึมด้วยภาษาธรรมชาติได้

ทักษะกระบวนการ 1. นกั เรียนสามารถทำความเข้าใจปญั หาได้ 2. นกั เรียนสามารถวางแผนการแกป้ ญั หาได้ 3. นักเรียนสามารถดำเนนิ การแก้ปญั หาได้ 4. นักเรยี นสามารถสรปุ แนวทางการแก้ปัญหาได้ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 2. ซื่อสตั ย์สุจริต 3. มวี นิ ัย 4. ใฝ่เรียนรู้ 5. อยู่อยา่ งพอเพียง 6. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 7. รกั ความเป็นไทย 8. มีจติ สาธารณะ สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 6. ความสามารถในการสื่อสาร 7. ความสามารถในการคิด 8. ความสามารถในการแก้ปัญหา 9. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต 10. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี การประเมินผลรวบยอด ชิ้นงานหรอื ภาระงาน 1. ใบงานท่ี 1.3 เรื่อง การถายทอดรายละเอยี ดของปญหาและการแกปญหา 2. ใบงานที่ 2.1 เร่อื ง ข้นั ตอนการแกปญหา 3. ใบงานท่ี 2.2 เร่ือง การเขยี นอัลกอริทึมดวยภาษาธรรมชาติ 4. ใบงานท่ี 2.3 เร่อื ง การเขยี นอัลกอรทิ มึ ดวยรหัสจาํ ลอง 5. ใบงานท่ี 2.4 เรอ่ื ง การเขยี นอัลกอรทิ ึมดวยผงั งาน

การประเมินผล ระดับคณุ ภาพ น้ำหนกั คะแนน ประเด็นการประเมนิ ดี (3) พอใช้ (2) ดมี าก (4) ปรบั ปรงุ ใบงานที่ 1.3 เรือ่ ง การถายทอด รายละเอยี ดของปญหาและการ (1) แกปญหา ใบงานที่ 2.1 เร่อื ง ขั้นตอนการ 10 คะแนน 8-9 คะแนน 5-7 คะแนน 0-4 คะแนน 3 แกปญหา ใบงานที่ 2.2 เร่อื ง การเขียน 10 คะแนน 8-9 คะแนน 5-7 คะแนน 0-4 คะแนน 3 อัลกอริทึมดวยภาษาธรรมชาติ 10 คะแนน 8-9 คะแนน 5-7 คะแนน 0-4 คะแนน 3 ใบงานท่ี 2.3 เรอื่ ง การเขยี น 10 คะแนน 8-9 คะแนน 5-7 คะแนน 0-4 คะแนน 3 อัลกอริทึมดวยรหสั จําลอง 10 คะแนน 8-9 คะแนน 5-7 คะแนน 0-4 คะแนน 3 ใบงานที่ 2.4 เรือ่ ง การเขยี น 15 อัลกอริทมึ ดวยผังงาน รวม กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่วั โมงที่ 1 - 2 กจิ กรรมหลกั ของครู 1. ครูกลา่ วทกั ทายนักเรียนและทำการเช็คชือ่ ก่อนเรมิ่ การเรียนการสอน 2. ครูแจง้ รายละเอียดของเรื่องท่ีจะสอนในคาบและกิจกรรมท่ีจะทำในคาบ 3. ครูอธบิ ายความหมาย เร่ือง แนวคิดเชิงนามธรรม 4. ครูใหน้ ักเรยี นศึกษาหาความรู้ผา่ นบทเรียนมัลตมิ เี ดยี เรื่อง ข้ันตอนการแก้ปญั หา 5. ครมู อบหมายใบงานที่ 1.3 เร่ือง การถา่ ยทอดรายละเอียดของปญหาและการแกปญหา 6. ครสู ่มุ ให้นกั เรียนออกมานำเสนอใบงานหน้าชั้นเรยี น 7. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามเกยี่ วกบั ขอ้ สงสยั /เร่ืองที่ไม่เขา้ ใจ 8. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุปองค์ความรู้ที่เรยี นในวันน้ี 9. ครูมอบหมายใบงานท่ี 2.1 เรื่อง ข้นั ตอนการแกปญหา ให้ทำเปน็ การบา้ นพร้อมส่งในคาบถดั ไป

ภาระงานของนกั เรยี น 5. นกั เรยี นมสี ว่ นร่วมในการอธบิ าย/ตอบปัญหา เรื่อง ขนั้ ตอนการแกป้ ัญหา 6. นักเรยี นทำใบงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย 7. นกั เรยี นมสี ว่ นร่วมในการสรปุ องค์ความรทู้ ่เี รยี นในวันน้ี 8. นักเรียนทำการบ้านตามได้รับมอบหมาย ช่วั โมงท่ี 3 – 4 กจิ กรรมหลกั ของครู 1. ครกู ลา่ วทักทายนกั เรยี น 2. ครทู ำการเช็ครายชอ่ื นักเรียนกอ่ นเรมิ่ เรยี น 3. ครสู มุ่ ถามคำถามนกั เรียนเป็นรายบคุ คลจากเนื้อหาในคาบแรกทเี่ คยเรียนผ่านมา 4. ครูแจ้งรายละเอยี ดของเรื่องท่ีจะสอนในคาบและกจิ กรรมท่ีจะทำในคาบ 5. ครูอธบิ ายเนอื้ หา เรือ่ ง การเขียนอัลกอริทมึ ดว้ ยภาษาธรรมชาติ 6. ครูใหน้ ักเรยี นศึกษาหาความรู้ผา่ นบทเรยี นมลั ติมีเดีย เร่ือง การเขียนอลั กอริทมึ ดว้ ย ภาษาธรรมชาติ 7. ครมู อบหมายใบงาน ใบงานท่ี 2.2 เร่ือง การเขยี นอัลกอรทิ ึมดวยภาษาธรรมชาติ โดยใหน้ กั เรยี น ทำเป็นคู่ 8. ครใู หน้ ักเรียนศึกษาข้อมูลจากโจทยท์ ี่กำหนดแลว้ ตอบคำถาม และพักเป็นเวลา 10 นาที 9. ครไู ด้มอบหมายใบงานที่ 2.3 เร่อื ง การเขียนอัลกอรทิ ึมดวยรหสั จําลอง ให้นกั เรียนทำต่อ 10. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซักถามเกี่ยวกับขอ้ สงสยั /เรื่องที่ไม่เข้าใจ 11. ครูและนักเรียนรว่ มกันสรปุ องค์ความรู้ทเ่ี รียนในวนั นี้ 12. ครูมอบหมายใบงานที่ 2.4 เรื่อง การเขียนอลั กอรทิ ึมดวยผังงาน ใหน้ ักเรียนนำไปเป็นการบ้าน แลว้ มาส่งในคาบหน้า ภาระงานของนักเรยี น 1. นักเรยี นมีส่วนร่วมในการอธิบาย/ตอบปญั หา เร่ือง การเขียนอัลกอริทึมดว้ ยภาษาธรรมชาติ 2. นักเรยี นทำใบงานท่ีได้รบั มอบหมาย 3. นกั เรียนมสี ่วนร่วมในการสรปุ องค์ความรู้ที่เรยี นในวันนี้ 4. นกั เรียนทำการบ้านตามได้รบั มอบหมาย

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ เรอื่ งการโปรแกรมดว้ ยภาษาไพทอน รหสั – ชือ่ รายวชิ า วิทยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ เวลา 10 ชว่ั โมง ช้ัน มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 ภาคเรียนที่ 1 โรงเรยี นแมท่ ะวิทยา ผสู้ อน นางสาวหฤทัย ไชยวฒุ ิ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชงิ คาํ นวณในการแก้ปัญหาทีพ่ บในชีวติ จริงอยา่ งเป็น ขนั้ ตอนและเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรยี นรู้การทำงาน และการแกป้ ญั หาได้ อย่างมีประสิทธิภาพ รเู้ ท่าทนั และมีจรยิ ธรรม ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ ว 4.2 ม.1/2 ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างงา่ ยเพ่ือแก้ปัญหาทางคณิตศาสตรห์ รือวทิ ยาศาสตร์ สาระสำคัญ โปรแกรม คือชดุ คำส่ังสำหรบั คอมพิวเตอร์ เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานกบั ข้อมูลแลว้ ไดผ้ ลลพั ธ์ ตามต้องการ การออกแบบและเขียนโปรแกรมเป็นข้ันตอนทสี่ ำคญั ในการแก้ปญั หา ดงั นั้นผเู้ ขยี นโปรแกรม จะตอ้ งใชห้ ลักเหตุผลเชิงตรรกะและความคิดสร้างสรรค์ไปพร้อมกัน สาระการเรยี นรู้ - ภาษาคอมพวิ เตอร์ - หลักการเขียนโปรแกรมและการประกาศตวั แปร - ชนิดขอ้ มูลพ้ืนฐานและการแปลงชนิดขอ้ มูลภาษาไพทอน - การทำงานแบบวนซ้ำและการทำงานแบบทางเลือก - ฝกึ เขียนโปรแกรมจากอลั กอรทิ ึม จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ความรู้ 1. นกั เรียนสามารถอธิบายความหมายภาษาคอมพวิ เตอร์ได้ 2. นักเรยี นสามารถยกตัวอย่างภาษาคอมพิวเตอร์ได้ 3. นกั เรยี นสามารถวเิ คราะห์ชนิดข้อมูลพ้นื ฐานและการแปลงชนิดข้อมูลภาษาไพทอนได้ 4. นกั เรยี นสามารถระบุชนิดข้อมูลพื้นฐานและการแปลงชนดิ ข้อมลู ภาษาไพทอนได้ 5. นักเรียนสามารถอธบิ ายการทำงานแบบวนซ้ำและการทำงานแบบทางเลอื กได้

6. นักเรยี นสามารถยกตัวอย่างการทำงานแบบวนซ้ำและการทำงานแบบทางเลือกได้ 7. นกั เรียนสามารถเก็บรวบรวมข้อมลู การฝึกเขยี นโปรแกรมจากอลั กอริทึมได้ 8. นกั เรยี นสามารถฝึกเขยี นโปรแกรมจากอัลกอรทิ ึมได้ ทกั ษะกระบวนการ 1. นกั เรยี นสามารถแยกแยะปญั หาการทำงานได้ 2. นักเรยี นสามารถบอกสาเหตุที่ส่งผลต่อการเกิดปัญหาได้ 3. นักเรียนสามารถนำเสนอตัวอย่างปญั หาความต้องการในการออกแบบอลั กอริทึมได้ 4. นกั เรยี นสามารถแกป้ ญั หาในการออกแบบอัลกอรทิ ึม เพ่ือแก้ปัญหาการทำงานได้ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 2. ซ่อื สตั ยส์ จุ ริต 3. มวี ินยั 4. ใฝ่เรยี นรู้ 5. อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. รกั ความเป็นไทย 8. มีจติ สาธารณะ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี การประเมนิ ผลรวบยอด ชน้ิ งานหรือภาระงาน - ใบงานที่ 3.1 เร่ือง ภาษาคอมพวิ เตอร์ - ใบงานที่ 3.2 เรือ่ ง หลักการเขียนโปรแกรม - ใบงานท่ี 3.3 เรอ่ื ง รจู กั และตดิ ตงั้ ไพทอน (Python) - ใบงานที่ 3.4 เรื่อง การทํางานแบบวนซํา้ - ใบงานท่ี 3.5 เรอ่ื ง ฝกเขยี นโปรแกรมจากอลั กอริทมึ

การประเมินผล ระดับคุณภาพ นำ้ หนกั ประเดน็ การประเมิน คะแนน ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ใบงานท่ี 3.1 เรอ่ื ง (1) 3 ภาษาคอมพิวเตอร์ (4) (3) (2) 3 ใบงานที่ 3.2 เร่อื ง หลักการ 0–4 3 เขยี นโปรแกรม 10 8-9 5 - 7 คะแนน 3 ใบงานท่ี 3.3 เร่อื ง รจู ักและ 0–4 3 ตดิ ตง้ั ไพทอน (Python) คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน 15 ใบงานที่ 3.4 เรอื่ ง การ 0–4 ทํางานแบบวนซา้ํ 10 8-9 5 - 7 คะแนน ใบงานที่ 3.5 เรื่อง ฝกเขียน 0–4 โปรแกรมจากอลั กอรทิ มึ คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน 0–4 10 8-9 5 - 7 คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน 10 8-9 5 - 7 คะแนน คะแนน คะแนน 10 8-9 5 - 7 คะแนน คะแนน คะแนน รวม กิจกรรมการเรียนรู้ ช่วั โมงท่ี 1 - 2 กิจกรรมหลักของครู 1. ครูผสู้ อนกล่าวทกัทายนกั เรียนและทำการเชค็ ช่ือนักเรยี น 2. ครผู สู้ อนพดู คุยสอบถามเพ่อื ทดสอบความรู้ 3. ชี้แจง กฎ กตกิ า การเกบ็ คะแนนและอธบิ ายรายวิชาใหน้ ักเรยี นทราบ 4. ครูอธิบายเนือ้ หาในหัวขอ้ เรื่องภาษาคอมพิวเตอร์ 5. ครูผูส้ อนทำการอธิบายเนื้ออหาเกี่ยวกับเเรอ่ื ง ภาษาคอมพิวเตอร์ 6. ครมู อบหมายชน้ิ งานใหน้ ักเรียนทำใบงานที่ 3.1 เรอื่ ง ภาษาคอมพวิ เตอร์ 7. ครผู ู้สอนและนักเรยี นทำการสรุปเน้อื หาเพ่ิมเติมเกี่ยวกบั เรื่อง ภาษาคอมพิวเตอร์ 8. เปิดโอกาสให้กับนกั เรียนที่มขี ้อสงสยั ทำการซักถาม 9. ครูผู้สอนให้ผู้เรยี นทำการศึกษาเพิ่มเติมดว้ ยตนเองเก่ยี วกับส่วนท่ีนักเรยี นไมเ่ ขา้ ใจ

ภาระงานของนกั เรยี น 1. นกั เรยี นตอบคำถามเกยี่ บกับเรอื่ ง ภาษาคอมพิวเตอร์ 2. นักเรียนรว่ มกันทำการสรปุ ความร้ใู นเร่ืองทเี่ รยี น 3. นักเรียนทำใบงานที่ไดร้ ับมอบหมาย 4. นักเรยี นทำการสบื ค้นข้อมูลเพิม่ เติมเกยี่ วกับเรื่องที่เรยี น ช่ัวโมงที่ 3 - 4 กจิ กรรมหลกั ของครู 1. ผู้สอนกลา่ วทักทายนักเรยี นและผ้สู อนทำการเชค็ ช่ือนักเรยี น 2. ผู้สอนทำการพูดคุยถึงกิจกรรมของแตล่ ะชว่ งวนั หยดุ 3. ผสู้ อนทำการสอนเก่ยี วกับเร่ืองหลักการเขียนโปรแกรมและการประกาศตัวแปร 4. ผสู้ อนให้ผเู้ รียนทำการศึกษาค้นควา้ ขอ้ มูลเก่ียวกบั เร่ืองหลักการเขยี นโปรแกรมและการ ประกาศตัวแปร 5. ผ้สู อนมอบหมายงานให้ผ้เู รียนทำใบงานที่ 3.2 เร่อื ง หลักการเขยี นโปรแกรม 6. เปิดโอกาสให้กบั นักเรยี นท่ีมีข้อสงสัยทำการซกั ถาม 7. ผู้สอนและผูเ้ รยี นทำการสรุปเพมิ่ เติมให้กบั ผเู้ รยี นเก่ยี วกบั เรอื่ ง หลกั การเขียนโปรแกรมและ การประกาศตัวแปร ภาระงานของนกั เรียน 1. ผู้เรยี นทำการศึกษาค้นคว้าข้อมลู เกี่ยวกบั เรอ่ื งหลักการเขยี นโปรแกรมและการประกาศตัว แปร 2. ผเู้ รียนทำงานทไ่ี ด้รับมอบหมาย 3. ผูเ้ รียนทำการสรปุ รว่ มกับผูส้ อน ชว่ั โมงท่ี 5 - 6 กิจกรรมหลกั ของครู 1. ครูผสู้ อนกลา่ วทกัทายนักเรียนและทำการเชค็ ชือ่ นักเรยี น 2. ครผู ูส้ อนพดู คยุ สร้างรอยย้ิมให้กับผูเ้ รยี นกอ่ นเริ่มการเรียนการสอน 3. ผู้สอนทดสอบความรคู้ วามเข้าใจของนกั เรยี นก่อนเรมิ่ เรยี นเรือ่ ง ชนดิ ข้อมลู พนื้ ฐานและการ แปลงชนิดข้อมูลภาษาไพทอน 4. ผู้สอนอภปิ รายใหน้ กั เรียนฟังถึงเรอ่ื งชนิดขอ้ มูลพนื้ ฐานและการแปลงชนิดข้อมูลภาษาไพทอน

5. ผสู้ อนทำการมอบหมายใหน้ ักเรยี นทำใบงานท่ี 3.3 เรื่อง รจู ักและตดิ ตั้งไพทอน (Python) 6. ผสู้ อนใหน้ ักเรียนยกตัวอย่างการติดตั้งไพทอน (Python) 7. ผสู้ อนเปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นทำการซกั ถามถงึ สง่ิ ที่ไมเ่ ขา้ ใจในเนอ้ื หา 8. ผู้สอนทำการสรปุ ร่วมกับผู้เรียนเกย่ี วกบั เรอื่ งแนวคิดทเี่ กีย่ วขอ้ งกับปญั หาใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจ 9. ครผู สู้ อนให้ผูเ้ รยี นทำการศึกษาเพิ่มเติมดว้ ยตนเองเกี่ยวกบั ชนดิ ขอ้ มลู พน้ื ฐานและการแปลง ชนดิ ข้อมูลภาษาไพทอน ภาระงานของนักเรยี น 1. ผู้เรียนทำการตอบคำถามตามความเข้าใจ 2. ผเู้ รียนทำใบงานท่ีได้รับมอบหมาย 3. ผู้เรียนทำการสรปุ รว่ มกับผสู้ อน ช่วั โมงท่ี 7 - 8 กจิ กรรมหลักของครู 1. ผู้สอนกลา่ วทกั ทายนกั เรียนและผสู้ อนทำการเชค็ ชื่อนักเรยี น 2. ครผู ู้สอนพดู คุยกับผูเ้ รียนกอ่ นเร่ิมการเรยี นการสอน 3. ครูผู้สอนทำการอธิบายเน้ือหาในหัวข้อ เรือ่ งการทำงานแบบวนซ้ำและการทำงานแบบ ทางเลอื ก 4. ครผู สู้ อนให้ให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าผ่านอนิ เทอร์เน็ต เร่อื งการทำงานแบบวนซ้ำและการ ทำงานแบบทางเลือก 5. ครูผสู้ อนใหผ้ ู้เรียนทำการจดั แบ่งกลุ่มเป็น 7 กลุ่ม กลมุ่ ละ 3 คน 6. ครผู สู้ อนทำการมอบหมายให้แตล่ ะกลมุ่ ทำใบงานท่ี 3.4 เร่ือง การทํางานแบบวนซํา้ 7. ครผู สู้ อนใหต้ วั แทนแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนองานหน้าชัน้ เรียน 8. ผู้สอนเปดิ โอกาสให้นักเรียนทำการซักถามถึงสง่ิ ท่ีไมเ่ ข้าใจในเนอ้ื หา 9. ครผู ู้สอนทำการสรปุ เพมิ่ เติมเก่ยี วกบั การรวบรวม วเิ คราะห์ ข้อมลแู ละแนวคดิ ที่เก่ียวข้องกับ แกป้ ัญหา ภาระงานของนักเรียน 1. ผู้เรยี นทำการจัดแบง่ กลุม่ 2. ผู้เรยี นทำงานตามไดร้ บั มอบหมายตามกล่มุ 3. ผ้เู รียนนำเสนองาน

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 หน่วยการเรียนรู้ เรอื่ งการโปรแกรมดว้ ย Scratch รหัส – ชอื่ รายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ เวลา 8 ชั่วโมง ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 ภาคเรียนที่ 1 โรงเรยี นแม่ทะวทิ ยา ผ้สู อน นางสาวหฤทยั ไชยวฒุ ิ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชิงคํานวณในการแก้ปัญหาท่พี บในชวี ิตจริงอย่างเป็น ขน้ั ตอนและเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรยี นรู้การทาํ งาน และการแก้ปัญหาได้ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ รเู้ ทา่ ทัน และมีจรยิ ธรรม ตวั ชวี้ ัด/ผลการเรียนรู้ ว 4.2 ม.1/2 ออกแบบและเขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ยเพ่อื แก้ปัญหาทางคณิตศาสตรห์ รอื วิทยาศาสตร์ สาระสำคญั Scratch เป็นภาษาคอมพิวเตอรส์ าหรับสร้างผลงานตา่ งๆ เช่น การทำแอนิเมชัน การจำลองทาง วิทยาศาสตร์ เกม ดนตรี ศลิ ปะ การสรา้ งส่อื แบบมีปฏสิ ัมพันธ์ โดยมวี ธิ กี ารโปรแกรมท่ีไม่ต้องมีการพิมพ์คำส่งั ทย่ี ุ่งยากซบั ซ้อน เหมาะกบั การสอนหลกั การโปรแกรมท่ีสง่ เสริมความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ การคดิ อยา่ งมรี ะบบ ชิ้นงานในโปรแกรม Scratch เรยี กวา่ โปรเจกต์ ซง่ึ ประกอบดว้ ยโครงสร้างทสี่ ำคัญอยู่ 3 ส่วน ไดแ้ ก่ เวที (Stage) ตวั ละคร (Sprite) และสคริปต์ (Script) โดยแต่ละสว่ นมีความสัมพันธก์ ันและทำงาน รว่ มกนั การสรา้ งโปรเจกตเ์ กดิ จากการเขียนสครปิ ต์ (ชดุ คำสัง่ ) ซึง่ โปรแกรม Scratch ใช้การวางบล็อก เรียงต่อกนั แทนการเขียนคำสั่งในโปรแกรมภาษาท่วั ไป เพื่อสัง่ ใหต้ วั ละครทำงาน ณ ตำแหน่งตา่ งๆ บนเวที สาระการเรียนรู้ - รู้จักและตดิ ตั้งโปรแกรม Scratch - เรยี นรคู้ ำสง่ั เคล่อื นที่ (เดินเลน่ กนั เถอะ) - เรียนรคู้ ำสัง่ รูปร่าง (สนทนาพาเพลนิ ) - เรียนรู้คำสั่งเสยี ง (วงดนตรีของฉนั )

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ความรู้ 1. นักเรียนสามารถบอกและอธบิ ายรูจ้ ักและตดิ ตัง้ โปรแกรม Scratch ได้ 2. นักเรยี นสามารถยกตัวอย่างการรู้จกั และตดิ ต้ังโปรแกรม Scratch ได้ 3. นกั เรยี นสามารถบอกการเรียนรู้คำสั่งเคลอื่ นที่ (เดนิ เลน่ กันเถอะ)ได้ 4. นกั เรยี นสามารถตรวจสอบการเรยี นรคู้ ำสง่ั เคลอ่ื นที่ (เดินเล่นกนั เถอะ) ได้ 5. นกั เรยี นสามารถเกบ็ รวบรวมข้อมูลการเรียนรู้คำส่งั รปู รา่ ง (สนทนาพาเพลนิ )ได้ 6. นักเรยี นสามารถฝึกการเรยี นรคู้ ำสง่ั รูปรา่ ง (สนทนาพาเพลนิ )ได้ 7. นกั เรียนสามารถระบุการเรียนรู้คำส่ังเสียง (วงดนตรีของฉัน)นตอนการแก้ปัญหาได้ 8. นักเรียนสามารถยกตัวอยา่ งการเรยี นรู้คำส่ังเสียง (วงดนตรีของฉัน)ได้ ทักษะกระบวนการ 1. นกั เรยี นสามารถทำความเขา้ ใจปญั หาได้ 2. นักเรยี นสามารถวางแผนการแกป้ ญั หาได้ 3. นกั เรยี นสามารถดำเนินการแก้ปัญหาได้ 4. นักเรียนสามารถสรปุ แนวทางการแก้ปัญหาได้ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 2. ซอ่ื สตั ย์สจุ ริต 3. มีวินยั 4. ใฝ่เรียนรู้ 5. อยู่อยา่ งพอเพียง 6. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน 7. รกั ความเป็นไทย 8. มจี ติ สาธารณะ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 11. ความสามารถในการสื่อสาร 12. ความสามารถในการคดิ 13. ความสามารถในการแก้ปัญหา 14. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 15. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

การประเมนิ ผลรวบยอด ชิน้ งานหรือภาระงาน - ใบงานที่ 4.1 เรอ่ื ง รูจกั และติดต้ังโปรแกรม Scratch - ใบงานที่ 4.3 เรอ่ื ง เรียนรูเกี่ยวกบั ตวั ละคร (มาเคล่ือนไหวกันเถอะ) - ใบงานที่ 4.4 เรอ่ื ง เรียนรูคำส่ังรปู ราง (สนทนาพาเพลนิ ) - ใบงานท่ี 4.5 เร่อื ง เรียนรูคำส่ังเสยี ง (วงดนตรขี องฉนั ) การประเมนิ ผล ดีมาก (4) ระดับคณุ ภาพ ปรบั ปรุง นำ้ หนกั คะแนน ประเด็นการประเมิน ดี (3) พอใช้ (2) (1) 3 ใบงานที่ 4.1 เรอ่ื ง รจู กั และติดตงั้ 10 คะแนน 8-9 คะแนน 5-7 คะแนน 0-4 คะแนน 3 โปรแกรม Scratch ใบงานที่ 4.3 เรื่อง เรียนรู 10 คะแนน 8-9 คะแนน 5-7 คะแนน 0-4 คะแนน 3 เกย่ี วกบั ตัวละคร (มาเคลื่อนไหว 3 กันเถอะ) 10 คะแนน 8-9 คะแนน 5-7 คะแนน 0-4 คะแนน 12 ใบงานที่ 4.4 เรื่อง เรียนรูคำส่ัง 10 คะแนน 8-9 คะแนน 5-7 คะแนน รูปราง (สนทนาพาเพลนิ ) 0-4 คะแนน ใบงานที่ 4.5 เรือ่ ง เรียนรูคำสั่ง รวม เสยี ง (วงดนตรขี องฉนั ) กิจกรรมการเรยี นรู้ ชว่ั โมงที่ 1 - 2 กจิ กรรมหลักของครู 1. ครูกล่าวทักทายนกั เรยี นและทำการเช็คชือ่ กอ่ นเรม่ิ การเรียนการสอน 2. ครูแจง้ รายละเอยี ดของเรื่องที่จะสอนในคาบและกิจกรรมท่ีจะทำในคาบ 3. ครูอธิบายความหมาย เรอ่ื ง รู้จักและตดิ ต้ังโปรแกรม Scratch 4. ครูให้นกั เรยี นศึกษาหาความรู้ผ่านpower point เรอ่ื ง รจู้ กั และติดตง้ั โปรแกรม Scratch 5. ครมู อบหมายใบงานที่ 4.1 เร่ือง รจู ักและติดต้ังโปรแกรม Scratch 6. ครูสุม่ ใหน้ กั เรยี นออกมานำเสนอใบงานหน้าชน้ั เรียน 7. ครเู ปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามเก่ียวกับขอ้ สงสยั /เรื่องท่ีไม่เข้าใจ 8. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรุปองคค์ วามรูท้ ี่เรยี นในวันนี้

ภาระงานของนักเรยี น 1. นักเรียนมีสว่ นร่วมในการอธิบาย/ตอบปัญหา เร่ือง รจู ักและตดิ ต้ังโปรแกรม Scratch 2. นกั เรยี นทำใบงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย 3. นักเรยี นมสี ่วนร่วมในการสรปุ องค์ความรู้ที่เรียนในวันนี้ ช่วั โมงที่ 3 – 4 กิจกรรมหลักของครู 1. ครกู ลา่ วทกั ทายนักเรียน 2. ครูทำการเช็ครายช่ือนกั เรียนกอ่ นเรมิ่ เรยี น 3. ครสู ุ่มถามคำถามนกั เรียนเป็นรายบุคคลจากเน้ือหาในคาบที่เคยเรียนผา่ นมา 4. ครูอธิบายเนอ้ื หา เร่ือง เรยี นรู้คำสง่ั เคล่อื นที่ (เดินเล่นกนั เถอะ) 5. ครูให้นกั เรียนเรยี นฝึกปฏิบตั ิตามคำส่ังเคลื่อนที่ (เดินเล่นกันเถอะ) 6. ครูมอบหมายใบงาน ใบงานที่ 4.3 เรอ่ื ง เรยี นรูเกยี่ วกับตวั ละคร (มาเคลือ่ นไหวกนั เถอะ) 7. ครใู ห้นักเรยี นศึกษาขอ้ มูลจากโจทย์ท่กี ำหนดแลว้ ตอบคำถาม และพักเปน็ เวลา 10 นาที 8. ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซักถามเกย่ี วกับขอ้ สงสัย/เร่ืองที่ไม่เขา้ ใจ 9. ครูและนกั เรียนร่วมกันสรปุ องค์ความรทู้ ีเ่ รยี นในวันนี้ 10. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนไปศึกษาเพมิ่ เติมแล้วมาตอบคำถามในคาบหนา้ ภาระงานของนักเรียน 5. นกั เรยี นมสี ่วนร่วมในการอธบิ าย/ตอบปญั หา เรื่องที่เรียนผ่านมา 6. นักเรยี นทำใบงานที่ได้รบั มอบหมาย 7. นักเรยี นมีส่วนรว่ มในการสรปุ องค์ความรทู้ เ่ี รียนในวันน้ี 8. นักเรียนศึกษาเพิม่ เตมิ ตามได้รบั มอบหมาย

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 หน่วยการเรยี นรู้ เร่อื งข้อมูลและการประมวลผล กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ รหัส – ช่อื รายวชิ า วิทยาการคำนวณ ช้ัน มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 8 ชวั่ โมง ผู้สอน นางสาวหฤทยั ไชยวฒุ ิ โรงเรียนแม่ทะวิทยา มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชงิ คาํ นวณในการแก้ปญั หาทพ่ี บในชีวิตจรงิ อยา่ งเปน็ ขน้ั ตอนและเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สารในการเรียนรู้การทำงาน และการแกป้ ัญหาได้ อย่างมีประสทิ ธิภาพ รู้เทา่ ทัน และมีจริยธรรม ตวั ชว้ี ัด/ผลการเรยี นรู้ ว 4.2 ม.1/3 การรวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ ประมวลผล ประเมินผล นำเสนอการรวบรวมข้อมูลและ สารสนเทศ ตามวตั ถปุ ระสงค์ โดยใช้ซอฟตแ์ วร์หรือบริการบนอินเทอร์เนต็ ท่ีหลากหลาย สาระสำคัญ ขอ้ มูลเปน็ สนิ ทรัพยท์ ่ีมคี ่า มีการใช้ประโยชนจ์ ากข้อมูลอย่างแพร่หลาย ทกุ คนตา่ งเปน็ ทั้งผผู้ ลิตและ ผู้ใชข้ อ้ มูลในเวลาเดยี วกัน สาระการเรียนรู้ - ขอ้ มูลและการรวบรวมข้อมูล - การประมวลผลขอ้ มลู และการสรา้ งทางเลือกเพ่ือตดั สินใจ - ซอฟต์แวรจ์ ดั การข้อมูล จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ความรู้ 1. นกั เรียนสามารถอธบิ ายข้อมลู และการรวบรวมข้อมูลได้ 2. นักเรยี นสามารถยกตัวอยา่ งข้อมลู และการรวบรวมข้อมูลได้ 3. นักเรียนสามารถวเิ คราะห์การประมวลผลขอ้ มูลและการสร้างทางเลอื กเพ่อื ตัดสนิ ใจได้ 4. นกั เรียนสามารถระบุการประมวลผลข้อมลู และการสร้างทางเลือกเพ่ือตัดสินใจได้ 5. นักเรยี นสามารถอธิบายการใช้ซอฟตแ์ วรจ์ ดั การข้อมลู ได้ 6. นกั เรยี นสามารถยกตัวอยา่ งซอฟต์แวร์จัดการข้อมูลได้

ทักษะกระบวนการ 1. นักเรียนสามารถแยกแยะข้อมูลและการรวบรวมข้อมูลได้ 2. นักเรยี นสามารถบอกการประมวลผลข้อมูลและการสร้างทางเลอื กเพ่ือตดั สินใจได้ 3. นักเรียนสามารถนำเสนอตวั อย่างซอฟตแ์ วรจ์ ดั การข้อมลู ได้ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 2. ซอื่ สตั ย์สจุ ริต 3. มวี นิ ัย 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 5. อย่อู ยา่ งพอเพยี ง 6. มุง่ มนั่ ในการทำงาน 7. รกั ความเป็นไทย 8. มจี ติ สาธารณะ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี การประเมนิ ผลรวบยอด ช้ินงานหรือภาระงาน - ใบงานท่ี 5.1 เรื่อง ขอมูล - ใบงานท่ี 5.2 เร่อื ง การรวบรวมขอมูล - ใบงานท่ี 5.3 เรอ่ื ง เครื่องมือในการรวบรวมขอมูล - ใบงานที่ 5.4 เรื่อง การประมวลผลขอมลู ใหเปนสารสนเทศ - ใบงานท่ี 5.5 เรื่อง ซอฟตแวรจดั การขอมูล

การประเมนิ ผล ประเดน็ การประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ นำ้ หนัก คะแนน ใบงานท่ี 5.1 เรอื่ ง ขอมลู ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรงุ (1) 3 ใบงานที่ 5.2 เรอ่ื ง การ (4) (3) (2) 3 รวบรวมขอมลู 0–4 3 ใบงานท่ี 5.3 เร่ือง เครือ่ งมือ 10 8-9 5 - 7 คะแนน 3 ในการรวบรวมขอมูล 0–4 ใบงานท่ี 5.4 เรือ่ ง การ คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน ประมวลผลขอมูลใหเป็น 0–4 สารสนเทศ 10 8-9 5 - 7 คะแนน ใบงานท่ี 5.5 เรอ่ื ง ซอฟต 0–4 แวรจัดการขอมลู คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน 10 8-9 5 - 7 คะแนน คะแนน คะแนน 10 8-9 5 - 7 คะแนน คะแนน คะแนน 10 8-9 5-7 0–4 3 คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน รวม 15 กิจกรรมการเรียนรู้ ชว่ั โมงที่ 1 - 2 กจิ กรรมหลักของครู 1. ครผู สู้ อนกลา่ วทกัทายนกั เรียนและทำการเชค็ ช่อื นักเรยี น 2. ครูผู้สอนพูดคุยสอบถามเพ่อื ทดสอบความรู้ 3. ช้ีแจง กฎ กติกา การเก็บคะแนนและอธิบายรายวชิ าให้นักเรยี นทราบ 4. ครอู ธบิ ายเน้ือหาในหวั ข้อ เร่ืองขอ้ มลู และการรวบรวมข้อมลู 5. ครูผูส้ อนทำการอธบิ ายเน้ืออหาเก่ยี วกับเเรือ่ ง ข้อมูลและการรวบรวมขอ้ มูล 6. ครมู อบหมายช้นิ งานให้นกั เรยี นทำใบงานท่ี 5.1 เรือ่ ง ขอมลู และ ใบงานท่ี 5.2 เร่ือง การ รวบรวมขอมูล 7. ครผู ูส้ อนทำการสรุปเนือ้ หาเพ่ิมเตมิ เก่ียวกบั เร่ือง ข้อมลู และการรวบรวมขอ้ มลู 8. เปดิ โอกาสให้กับนกั เรยี นที่มขี ้อสงสัยทำการซักถาม

ภาระงานของนักเรยี น 1. นกั เรียนทำใบงานท่ีได้รบั มอบหมาย 2. นักเรียนทำการซกั ถามสว่ นทไ่ี มเ่ ข้าใจ ชั่วโมงท่ี 3 - 4 กจิ กรรมหลักของครู 1. ผสู้ อนกลา่ วทกั ทายนกั เรียนและผสู้ อนทำการเช็คชอื่ นักเรยี น 2. ผู้สอนทำการพดู คุยถงึ กิจกรรมของแตล่ ะช่วงวนั หยดุ 3. ผู้สอนทำการสอนเกย่ี วกบั เรื่องการประมวลผลขอ้ มลู และการสรา้ งทางเลือกเพื่อตัดสินใจ 4. ผู้สอนให้ผเู้ รียนทำการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกบั เรื่องการประมวลผลข้อมูลและการสร้าง ทางเลือกเพ่ือตดั สินใจ ผา่ นเน้ือหาทาง power point 5. ผสู้ อนมอบหมายงานให้ผเู้ รียนทำใบงานที่ 5.4 เรอ่ื ง การประมวลผลขอมลู ใหเป็นสารสนเทศ 6. ผสู้ อนเปดิ โอกาสให้กับนักเรยี นท่ีมีข้อสงสัยทำการซักถาม 7. ผูส้ อนและผเู้ รยี นทำการสรุปเพมิ่ เตมิ ให้กบั ผู้เรยี นเก่ยี วกบั เร่ือง หลักการเขยี นโปรแกรมและ การประกาศตวั แปร ภาระงานของนกั เรยี น 1. ทำการศึกษาขอ้ มูลเกี่ยวกับ เรอ่ื งการประมวลผลขอ้ มลู และการสรา้ งทางเลือกเพื่อตดั สินใจ ผ่านเนื้อหาทาง power point 2. ผู้เรียนทำงานที่ได้รบั มอบหมาย ชวั่ โมงท่ี 5 - 6 กจิ กรรมหลกั ของครู 1. ผู้สอนกลา่ วทกั ทายนักเรยี นและผู้สอนทำการเช็คช่ือนักเรยี น 2. ครูผสู้ อนพูดคุยกับผู้เรยี นกอ่ นเริ่มการเรยี นการสอน 3. ครูผสู้ อนทำการอธบิ ายต่อในเนอื้ หาในหวั ข้อ เรอื่ งการประมวลผลข้อมูลและการสรา้ ง ทางเลือกเพื่อตัดสินใจ 4. ครผู ้สู อนให้ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาค้นคว้าผ่านอนิ เทอร์เนต็ เรื่องการประมวลผลขอ้ มลู และการ สร้างทางเลอื กเพื่อตดั สินใจ 5. ครูผสู้ อนสุ่มใหต้ ัวแทนในห้องออกมานำเสนอเร่อื งการประมวลผลขอ้ มลู และการสรา้ ง ทางเลือกเพ่ือตดั สนิ ใจ หนา้ ช้ันเรยี น 6. ผ้สู อนเปดิ โอกาสให้นักเรียนทำการซักถามถึงส่ิงที่ไม่เขา้ ใจในเนอื้ หา 7. ครูผู้สอนทำการสรปุ เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรือ่ งการประมวลผลขอ้ มลู และการสร้างทางเลือกเพื่อ

ตดั สนิ ใจ ภาระงานของนกั เรียน 1. ผ้เู รียนทำงานตามไดร้ บั มอบหมาย 2. ผเู้ รียนนำเสนองาน 3. ผเู้ รยี นซกั ถามในส่ิงท่ีไม่เขา้ ใจ 4. ผู้เรียนกลบั ไปศึกษาเพ่มิ เติม ชว่ั โมงที่ 7 - 8 กจิ กรรมหลกั ของครู 1. ครผู ู้สอนกล่าวทกัทายนักเรยี นและทำการเช็คชอ่ื นักเรยี น 2. ครผู สู้ อนพูดคยุ สรา้ งรอยย้ิมใหก้ ับผู้เรียนก่อนเริ่มการเรียนการสอน 3. ผสู้ อนทดสอบความรูค้ วามเข้าใจของนกั เรียนก่อนเรม่ิ เรยี นเรอ่ื ง ซอฟตแ์ วรจ์ ัดการข้อมูล 4. ผสู้ อนอภปิ รายใหน้ ักเรียนฟงั ถงึ เรอื่ ง ซอฟต์แวร์จัดการขอ้ มูล 5. ผู้สอนทำการมอบหมายใหน้ กั เรยี นทำใบงานท่ี 5.5 เรือ่ ง ซอฟตแวรจัดการขอมูล 6. ผู้สอนให้นกั เรียนยกตัวอยา่ งการใช้ ซอฟต์แวรจดั การขอมลู 7. ผสู้ อนเปดิ โอกาสให้นักเรยี นทำการซกั ถามถงึ สง่ิ ที่ไม่เข้าใจในเนื้อหา 8. ผู้สอนทำการสรุปร่วมกับผู้เรยี นเกี่ยวกับเรื่องแนวคดิ ทเ่ี กย่ี วข้องกับปัญหาให้นักเรยี นเขา้ ใจ 9. ครูผู้สอนใหผ้ ้เู รียนทำการศึกษาเพม่ิ เติมดว้ ยตนเองเกยี่ วกับ ซอฟต์แวรจดั การขอมลู ภาระงานของนักเรยี น 1. ผู้เรยี นทำการตอบคำถามตามความเขา้ ใจ 2. ผเู้ รยี นทำใบงานท่ีได้รับมอบหมาย 3. ผเู้ รียนทำการสรุปร่วมกบั ผูส้ อน 4. ผู้เรยี นศึกษาเพ่ิมเติมเรือ่ งที่เรียน

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 6 หนว่ ยการเรยี นรู้ เร่อื งการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย รหัส – ช่อื รายวิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) กล่มุ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ เวลา 4 ชวั่ โมง ช้ัน มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 1 โรงเรียนแม่ทะวทิ ยา ผสู้ อน นางสาวหฤทัย ไชยวุฒิ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชิงคํานวณในการแก้ปัญหาท่พี บในชีวติ จริงอยา่ งเป็น ขั้นตอนและเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนร้กู ารทํางาน และการแกป้ ญั หาได้ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ รเู้ ทา่ ทัน และมจี รยิ ธรรม ตวั ชวี้ ดั /ผลการเรยี นรู้ ว 4.2 ม.1/4 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย ใชส้ ือ่ และแหล่งข้อมูลตามข้อกำหนดและ ขอ้ ตกลง สาระสำคญั เทคโนโลยีสารสนเทศหรือไอที เปน็ เครือ่ งมือและมีบทบาทสำคญั ต่อการเรยี นรู้ และมกี ารใช้ ชวี ติ ประจำวนั รวมท้งั สนบั สนนุ การดำเนนิ กิจกรรมตา่ งๆ ให้บรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์และเปา้ หมายได้ในบทน้ีนักเรยี น จะไดร้ จู้ ักวิธกี ารคกคามรูปแบบตา่ งๆ และแนวทางป้องกัน เพอื่ ให้ใช้งานไอทีไดอ้ ย่างปลอดภัย สาระการเรยี นรู้ - การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั - การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ความรู้ 1. นกั เรยี นสามารถบอกและอธิบายความหมายการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยได้ 2. นกั เรียนสามารถยกตัวอย่างการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัยได้ 3. นักเรียนสามารถบอกการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้ 4. นกั เรยี นสามารถตรวจสอบการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศได้

ทักษะกระบวนการ 5. นกั เรยี นสามารถทำความเข้าใจปัญหาได้ 6. นักเรียนสามารถวางแผนการแกป้ ญั หาได้ 7. นักเรียนสามารถดำเนนิ การแก้ปญั หาได้ 8. นกั เรียนสามารถสรปุ แนวทางการแกป้ ัญหาได้ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 2. ซือ่ สัตยส์ จุ ริต 3. มวี ินัย 4. ใฝ่เรยี นรู้ 5. อยู่อย่างพอเพยี ง 6. ม่งุ มั่นในการทำงาน 7. รักความเป็นไทย 8. มจี ิตสาธารณะ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี การประเมนิ ผลรวบยอด ชิ้นงานหรอื ภาระงาน 1. ใบงานท่ี 6.1 เรื่อง ภยั คกุ คามจากการใชเทคโนโลยสี ารสนเทศและการปองกนั 2. ใบงานท่ี 6.2 เรอ่ื ง การใชเทคโนโลยีสารสนเทศ การประเมนิ ผล ระดบั คณุ ภาพ น้ำหนักคะแนน ประเดน็ การประเมิน ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) ใบงานที่ 6.1 เร่ือง ภัย 10 คะแนน คุกคามจากการใชเทคโนโลยี 8-9 คะแนน 5-7 คะแนน 0-4 คะแนน 3

สารสนเทศและการปองกนั 10 คะแนน 8-9 คะแนน 5-7 คะแนน 0-4 คะแนน 3 ใบงานที่ 6.2 เรอ่ื ง การใช รวม 16 เทคโนโลยสี ารสนเทศ กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงท่ี 1 – 2 กิจกรรมหลักของครู 1. ครูกล่าวทักทายนกั เรียนและทำการเช็ครายช่ือนักเรยี นก่อนเรมิ่ เรียน 2. ครูสุ่มถามคำถามนักเรียนเปน็ รายบคุ คลจากเนื้อหาในคาบแรก 3. ครูอธบิ ายเนอ้ื หา เร่อื ง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั 4. ครใู ห้นกั เรียนศึกษาหาความรู้ผา่ นหนังสือเรียนของทางโรงเรียน เรื่อง การใช้เทคโนโลยี สารสนเทศอยา่ งปลอดภัย 5. ครมู อบหมายใหน้ ักเรียนทำใบงานท่ี 6.1 เรอื่ ง ภัยคุกคามจากการใชเทคโนโลยสี ารสนเทศและ การปองกัน โดยให้นกั เรียนทำเปน็ รายบคุ คล 6. ครใู หน้ ักเรยี นสรปุ เพ่ิมเติมจากใบงานที่ได้มอบหมายและออกมาอา่ นใบงานหนา้ ชั้นเรียน ถึง เร่อื งทนี ักเรยี นเขียนในกระดาษของตนเอง 7. ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรียนซักถามเก่ียวกบั ขอ้ สงสยั /เรื่องท่ีไม่เขา้ ใจ 8. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ องคค์ วามรู้ที่เรยี นเรื่อง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ภาระงานของนักเรยี น 4. นกั เรยี นมีสว่ นร่วมในการอธบิ าย/ตอบปัญหา เร่ือง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย 5. นกั เรียนทำใบงานที่ไดร้ ับมอบหมาย 6. นกั เรียนออกมานำเสนองานหน้าช้ันเรยี น 7. นักเรียนมสี ่วนร่วมในการสรปุ องค์ความร้ทู ่เี รยี นในวันนี้ ชวั่ โมงท่ี 1 - 2 กิจกรรมหลักของครู 1. ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรยี นและร่วมสนทนาเก่ยี วกับเร่ืองต่าง ๆเพ่ือสร้างความสมั พนั ธท์ ่ีดี 2. ครูแจง้ รายละเอียดของเร่ืองท่ีจะสอนในคาบและกจิ กรรมที่จะทำในคาบ

3. ครสู ุ่มถามนักเรียน เรื่อง การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั วา่ ที่เรยี นผา่ นมานั้นมใี คร ยงั จำได้ไหมและมีนกั เรยี นคนไหนนำวธิ กี ารใช้ที่ถูกตอ้ งไปใช้แลว้ บ้าง 4. ครอู ธบิ ายความหมาย เรือ่ ง การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ 5. ครูใหน้ ักเรยี นศึกษาหาความรู้ผา่ นหนงั สือเรยี นของทางโรงเรียน เรอื่ ง การใชเ้ ทคโนโลยี สารสนเทศและจะสอนต่อในการใชอ้ ยา่ งปลอดภัยในคาบต่อไป 6. ครไู ดม้ อบหมายใหน้ ักเรยี นทำใบงานที่ 6.2 เรอื่ ง การใชเทคโนโลยสี ารสนเทศ ในคาบเรียนให้ เรียบรอ้ ยแลว้ นำมาสง่ ทหี่ น้าห้อง 7. ครเู ปิดโอกาสให้นักเรยี นซักถามเก่ียวกับขอ้ สงสัยเร่ืองท่ีไม่เข้าใจ 8. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ องค์ความรูท้ ่เี รียนในวนั น้ี ภาระงานของนกั เรยี น 1. นักเรยี นมสี ่วนร่วมในการอธบิ าย/ตอบปญั หา เร่ือง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย 2. นกั เรยี นทำใบงานที่ได้รบั มอบหมาย พรอ้ อมออกมาอา่ นหน้าชน้ั เรยี น 3. นักเรยี นมีสว่ นร่วมในการสรุปองค์ความร้ทู เ่ี รยี นในวันน้ี

แผนการจัดการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เร่ือง แนวคิดเชิงนามธรรม กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้น ม.1 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 หนว่ ย 1 เร่อื งแนวคดิ เชงิ นามธรรม วนั ท.ี่ ... เดือน…พ.ศ....ใชเ้ วลา 2 ชว่ั โมง/คาบ 1. มาตรฐาน/ตัวช้วี ัด/ ผลการเรียนรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคํานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธภิ าพ รู้เทา่ ทนั และมจี รยิ ธรรม มาตรฐาน ว 4.2 ม.1/1ออกแบบอัลกอรทิ ึมท่ีใช้แนวคิดเชิงนามธรรม เพื่อแก้ปัญหาหรืออธิบายการ ทำงานที่พบในชวี ติ จริง 2. สาระสำคญั แนวคิดเชิงนามธรรม (abstract thinking หรือ abstraction)เป็นองค์ประกอบหนึ่งของแนวคิด เชิง คำนวณ (computational thinking) ซึ่งใช้กระบวนการคัดแยกคุณลักษณะที่สำคัญออกจาก รายละเอียด ปลีกย่อยในปัญหา หรืองานที่กำลังพิจารณา เพื่อให้ได้ข้อมูลที่จำเป็นและเพียงพอต่อการ แก้ปัญหา ในส่วนของรายละเอียดที่ไม่สำคัญ จะต้องตัดออกไป เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ตรงและสามารถ นำมาใช้ในการแก้ปญั หาได้อยา่ งตรงจุด 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ด้านความรู้ 1. นกั เรียนสามารถบอกและอธบิ ายความหมายของแนวคิดเชงิ นามธรรมได้ 2. นักเรยี นสามารถยกตวั อยา่ งแนวคิดเชงิ นามธรรมได้ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ 1. นกั เรียนสามารถทำความเขา้ ใจปัญหาได้ 2. นักเรยี นสามารถวางแผนการแก้ปัญหาได้ 3. นักเรียนสามารถดำเนนิ การแก้ปญั หาได้ 4. นักเรียนสามารถสรุปแนวทางการแกป้ ัญหาได้

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ซือ่ สตั ย์สุจรติ 3. มีวินัย 4. ใฝ่เรยี นรู้ 5. อยู่อย่างพอเพียง 6. มุ่งมัน่ ในการทำงาน 7. รักความเปน็ ไทย 8. มีจิตสาธารณะ สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 4. สาระการเรียนรู้ - ความหมายของแนวคดิ เชงิ นามธรรม - การฝึกคิดวิเคราะห์ โดยใชแ้ นวคิดเชงิ นามธรรม 5. กจิ กรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเขา้ สูบ่ ทเรียน (10 นาที) 1. ครูกลา่ วทกั ทายนักเรียนและร่วมสนทนาเก่ียวกบั เร่ืองต่าง ๆเพอื่ สรา้ งความสัมพนั ธท์ ่ดี ี - ครูแนะนำตัวเองให้นักเรียนรู้จกั กอ่ นและทำความร้จู ักกับนักเรยี น โดยการให้นกั เรยี น แนะนำตนเองเปน็ รายบุคคลโดยบอกช่ือจรงิ ชือ่ เลน่ และมาจากโรงเรยี นเดมิ ชอ่ื อะไร เป็นคนบา้ นไหน 2. ครูแจ้งรายละเอียดของเร่ืองที่จะสอนในคาบและกจิ กรรมที่จะทำในคาบ - ทำการแจ้งนักเรียนวา่ เนอ้ื หาทเี่ ราจะไดเ้ รียนมีทั้งหมด 6 บท แตใ่ นเทอมแรกเราจะทำการ เรยี นการสอนแค่ 3 บท ก่อน และเรอ่ื งอะไรบ้าง - ในแตล่ ะบทจะมีใบงานใหน้ ักเรียนทำโดยเปน็ การเกบ็ คะแนนในการเรยี นการสอน

3. ครบู อกเลา่ เน้อื หาทจี่ ะเรยี น พร้อมทงั้ อธิบายภาระงานครา่ วๆทน่ี กั เรยี นจะต้องทำ - ครพู ูดถึงเรื่อง แนวคิดเชงิ นามธรรม วา่ มนี กั เรียนคนไหนเคยไดย้ ินหรือไม่ และพูดครา่ วๆ ให้นกั เรยี นฟงั - ครใู ช้คำถามท้าทายถามนกั เรียนเรือ่ ง “ปัญหาการนอนต่ืนสาย” นักเรยี นร่วมกนั ระดม ความคดิ ขน้ั สอน (วธิ สี อน/นวตั กรรม) (40 นาที) 1. ครใู ห้นักเรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน เรือ่ ง แนวคดิ เชงิ นามธรรม - ครใู ห้ตวั แทนห้องออกมารับแบบทดสอบออกไปแจกเพ่ือนในหอ้ ง - ครทู ำการชีแ้ จงการทำแบบทดสอบก่อนเรยี นวา่ ให้เวลาในการทำข้อสอบ 20 ข้อ 30 นาที - เมอ่ื นกั เรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนเสร็จใหน้ ำมาส่งโตะ๊ ครหู นา้ ห้องพร้อมกลับไปนั่ง กอ่ นเร่ิมการเรยี นการสอนครูได้สอบถามนักเรยี นวา่ นักเรียนรูจ้ ักเรื่อง แนวคิดเชิงนามธรรม หรือไม่ 2. ครูทำการอธิบาย เรอื่ ง แนวคิดเชิงนามธรรม ผ่านส่ือการเรียนการสอน หนังสือเรียนของโรงเรยี น - ครูอธบายความหมายของคำวา่ นามธรรม กับรปู ธรรม จากนัน้ อธบิ ายเชื่อมโยงในความหมายของ คำว่าแนวคดิ เชงิ นามธรรม - นักเรียนรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกับ แนวคดิ เชงิ นามธรรม - ครูสุ่มตวั แทนนักเรียนตอบคำถามดว้ ยการใชโ้ ปรแกรมสมุ่ ชื่อ นำนกั เรียนตอบคำถาม ความเขา้ ใจ ในความหมายของคำวา่ แนวคิดเชงิ นามธรรม 3. ครมู อบหมายใหน้ ักเรยี นทำใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง แนวคดิ เชงิ นามธรรม - ครูให้หัวหนา้ ห้องนำในงานออกไปแจกเพ่ือนๆ ใหค้ รบ พร้อมช้ีแจงใหฟ้ งั วา่ ใหท้ ำภายในหอ้ งโดย ใหเ้ วลาในการทำใบงานเปน็ เวลา 20 นาที - โดยใหน้ ักเรยี นพจิ ารณา แล้วกรอกคำตอบท่ถี กู ตอ้ งลงไปในใบงานทค่ี รูไดท้ ำการเตรียมไวใ้ ห้ - เม่ือทำเสรจ็ ครใู หห้ วั หนา้ เป็นคนเกบ็ งานเพื่อน รวบรวมมาสง่ ครทู ่หี น้าหอ้ งเรียน ขั้นสรปุ (10 นาท)ี 1. ครูและนกั เรียนร่วมสรุปเนือ้ หาและความรู้ - ครขู อตวั แทนห้องในการพดู อธบิ ายถึงเรื่อง แนวคิดเชิงนามธรรม วา่ มอี ะไรบ้างใหเ้ พ่ือนในห้อง และครูฟงั - ครไู ดส้ รุปเพ่มิ เตมิ เรื่อง แนวคิดเชงิ นามธรรม ว่ามีอะไรบา้ งนอกเหนือจากท่ีเพอื่ นได้พดู มา

2. ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนทำการซักถามถึงเร่ืองที่เรยี น - ครสู อบถามนักเรียนในห้องว่า มนี ักเรยี นคนไหนไมเ่ ข้าใจตรงไหนสอบถามครเู พิม่ เตมิ ได้ 3. ครูเกริ่นถึงเนอ้ื หาทจี่ ะเรยี นในช่ัวโมงตอ่ ไปและให้นกั เรียนศกึ ษาข้อมูลเพ่ิมเติมลว่ งหนา้ - ครพู ูดถึงว่าในคาบเรยี นตอ่ ไปเราจะมาเรียนกันในเรอ่ื งท่ี 2 เรอื่ ง การคดั เลอื กคณุ ลักษณะในการ แกปญหา - ครจู ะทำการปล่อยนักเรียนแล้วใหห้ ัวหนา้ ห้องบอกช้นั เรยี น สวีสดี และออกหอ้ งเรยี น 6. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี น เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้น มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 สสวท. 2. ใบงานที่ 1.1 เร่อื ง แนวคิดเชงิ นามธรรม 7. การวัดผลและประเมินผล วิธีการวัด เคร่ืองมือ 7.1 การวดั ผล - แบบทดสอบกอ่ นและหลงั เรียน แบบทดสอบ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ - ใบงานท่ี 1.1 เรื่อง แนวคดิ เชิงนามธรรม ใบงาน ดา้ นความรู้ 1.นกั เรยี นสามารถทำความเข้าใจปัญหาได้ แบบประเมนิ ทกั ษะ ด้านทักษะกระบวนการ 2.นกั เรยี นสามารถวางแผนการแกป้ ัญหาได้ กระบวนการ 3.นกั เรยี นสามารถดำเนนิ การแกป้ ัญหาได้ ด้านคณุ ลักษณะ 4.นกั เรียนสามารถสรุปแนวทางการแกป้ ัญหา แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ อนั พึงประสงค์ ได้ อนั พงึ ประสงค์ สงั เกตคณุ ลักษณะ 3 ขอ้ สมรรถนะท่ีสำคัญ - มวี ินัย แบบประเมินสมรรถนะท่ี ของผเู้ รยี น - ใฝ่เรียนรู้ สำคญั ของผู้เรยี น - มงุ่ มนั่ ในการทำงาน สงั เกตสมรรถนะท่ีสำคัญ 3 ข้อ - ความสามารถในการคิด - ความสามารถในการแกป้ ญั หา - ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7.2 เกณฑ์การประเมนิ ผล 1) ดา้ นความรู้ (ดา้ นความรเู้ กณฑ์ผ่าน ร้อยละ 80 ทุกประเดน็ การประเมนิ ) 1) แบบทดสอบ 10 คะแนน (เกณฑผ์ ่านรอ้ ยละ 80) คะแนน 10 คะแนน หมายถึง ดีมาก คะแนน 8 - 9 คะแนน หมายถึง ดี คะแนน 6 - 7 คะแนน หมายถงึ พอใช้ คะแนน 0 - 5 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรงุ 2) ใบงาน 10 คะแนน (เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 80) คะแนน 10 คะแนน หมายถงึ ดีมาก คะแนน 8 - 9 คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน 6 - 7 คะแนน หมายถงึ พอใช้ คะแนน 0 - 5 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรงุ 2) ด้านทกั ษะกระบวนการ (การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งเหมาะสมปลอดภัยผา่ นเกณฑ์ ร้อยละ 80) คะแนน 5 คะแนน หมายถึง ดมี าก คะแนน 4 คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน 3 คะแนน หมายถงึ ปานกลาง คะแนน 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ คะแนน 1 คะแนน หมายถึง ต้องปรบั ปรงุ หมายเหตุ : ไดค้ ะแนน 3 ข้ึนไป ทุกตวั ชีว้ ดั ถือว่าผา่ นเกณฑ์การประเมนิ 3) ดา้ นสมรรถนะผเู้ รียน ได้ระดบั คณุ ภาพ 2 ขึน้ ไปทกุ ตวั ชว้ี ดั ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ 4) ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ไดร้ ะดบั คุณภาพ 2 ขึ้นไปทุกตวั ชวี้ ัด ถอื ว่าผ่านเกณฑก์ ารประเมิน หมายเหตุ : ด้านสมรรถนะผ้เู รยี นและดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์กำหนดระดับคณุ ภาพ 4 = ดีมาก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรบั ปรุง

4. กิจกรรมเสนอแนะ (บอกรายละเอียดหรือข้อเสนอแนะอื่น ๆ ที่จะช่วยพัฒนากระบวนการ เรยี นรู้ของผู้เรียน) 1. ………………………………………………………...……………… 8. กิจกรรมเสนอแนะ (บอกรายละเอียดหรือข้อเสนอแนะอื่น ๆ ที่จะช่วยพัฒนากระบวนการเรยี นรู้ของ ผ้เู รยี น) 1. ………………………………………………………...……………… 2. ………………………………………………………..……………… 9. ข้อเสนอแนะ ������ใช้สอนได้  ควรปรบั ปรุง ………………………………………………………………………………………………………………. ลงชื่อ………..…………………….………………….… (นายอนุสรณ์ สขุ ยนื ) ครูพเี่ ล้ยี ง วนั …………ที่เดือน…………………. พ.ศ. ……….. 10. บนั ทึกหลงั การจดั การเรียนรู้ ผลท่เี กดิ ขนึ้ แก่ผ้เู รยี น ด้านความรู้ จำนวนนักเรียนท่ีผา่ นเกณฑ.์ .......42........คน คิดเป็นรอ้ ยละ....................... จำนวนนักเรยี นทไ่ี มผ่ า่ นเกณฑ์..................คน คิดเป็นรอ้ ยละ....................... ดา้ นทกั ษะกระบวนการ จำนวนนกั เรียนที่ผ่านเกณฑ์..........42........คน คดิ เปน็ ร้อยละ....................... จำนวนนักเรยี นทีไ่ ม่ผ่านเกณฑ์..................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.......................

ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ จำนวนนกั เรียนทผ่ี า่ นเกณฑ์........42..........คน คดิ เปน็ ร้อยละ....................... จำนวนนกั เรียนท่ีมาผา่ นเกณฑ.์ .................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ....................... ดา้ นสมรรถนะผเู้ รียน จำนวนนักเรียนทผ่ี า่ นเกณฑ์...........42........คน คดิ เปน็ ร้อยละ....................... จำนวนนกั เรยี นที่มาผ่านเกณฑ.์ .................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ....................... 11. ปัญหาและอุปสรรค เด็กนักเรยี นไม่ตงั้ ใจในการเรียนเน่อื งจากขาดสมาธิ ใจจดจ่ออยู่กบั โทรศัพท์กบั การเลน่ เกมและ พูดคยุ กันส่งเสยี งดัง 12. แนวทางการแก้ปญั หา ทำการชีแ้ จงกฏ กตกิ ารในการเรยี น และทำการเกบ็ โทรศัพท์นกั เรยี นก่อนเร่มิ การเรยี นการสอน แล้วเมอ่ื ทำงานเสรจ็ ถึงให้นำโทรศัพทค์ ืนได้ และใช้การทำแบบทดสอบโดยใช้ kahoot ใหเ้ ด็กทำแทนการ เล่นเกม ลงชื่อ………..…………………….………………….… (นางสาวหฤทยั ไชยวุฒ)ิ ผสู้ อน วนั …………ที่เดอื น…………………. พ.ศ. ………..

13. ความคิดเหน็ ของฝา่ ยวิชาการ ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ………..…………………….………………….… (นายนภาพล บุญมัน่ ) ฝ่ายวิชาการ วนั …………ทเ่ี ดือน…………………. พ.ศ. ……….. 14. ความคิดเห็นผอู้ ำนวยการโรงเรยี น ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ ………..…………………….………………….… (นายผจญ ภกั ดวี วิ ฒั น์) ผ้อู ำนวยการโรงเรียน วนั …………ทีเ่ ดอื น…………………. พ.ศ. ………..

เครอื่ งมอื บันทกึ หลังแผนการจัดการเรียนรู้ แบบบนั ทึกการประเมินด้านความรู้ เร่อื งแนวคิดเชงิ นามธรรม เลขที่ เลข ชอื่ -สกลุ ผลการประเมนิ ใบงาน ร้อยละ ประจำตัว ผา่ น ไม่ผ่าน 1 10118 เดก็ ชายจิรวัฒน์ วงศจ์ ู 6✓ 2 10119 เด็กชายชวกรณ์ ท้าวตอ้ื 6✓ 7✓ 3 10120 เดก็ ชายชินกฤต เทพเสาร์ 6✓ 7✓ 4 10121 เดก็ ชายทรงชยั โยอินทรช์ ยั 7✓ 7✓ 5 10122 เด็กชายบญุ ยวัฒน์ สายอ้าย 6✓ 7✓ 6 10123 เด็กชายปพน วงศ์จู 6✓ 8✓ 7 10124 เด็กชายภีรกรณ์ เก๋ยี งมลู 7✓ 7✓ 8 10125 เดก็ ชายวชรวฒั น์ ศรบี ญุ ชู 8✓ 6✓ 9 10126 เด็กชายวชั รากร เครือดวงคำ 7✓ 8✓ 10 10127 เด็กชายศกุ ลวัฒน์ ทากอง 8✓ 11 10128 เด็กหญิงกญั ญพัชร วุฒิยา 12 10129 เดก็ หญงิ ขวัญจิรา เครือวงศ์ 13 10130 เดก็ หญิงชาลิสา อนิ ต๊ะรกั ษา 14 10131 เดก็ หญงิ ณฏั ฐณิชา เครอื สาร 15 10132 เดก็ หญงิ ณิชากรณ์ รอดฉวาง 16 10133 เดก็ หญิงณชิ าพร วงศจ์ ักรตบ๊ิ 17 10134 เดก็ หญงิ ธัญชนก สารใจวงค์ 18 10135 เด็กหญงิ ธานมะณีวาร์ วงั ชยั

19 10136 เด็กหญิงพีรดา สานเมทา 7✓ 20 10137 เด็กหญิงลักษณพร วงคก์ ันทา 8✓ 21 10138 เด็กหญิงสายธาร ทาเงิน 7✓ ห้อง 1/2 ผลการประเมนิ ใบงานที่ 1 ร้อยละ เลขที่ เลข ชอื่ -สกุล ผา่ น ไมผ่ ่าน ประจำตวั 5✓ 1 10139 เดก็ ชายกมั ปนาท มีโพธิ์ 6✓ 5✓ 2 10140 เด็กชายกิตพิ งษ์ วงศจ์ ันทร์ 5✓ 6✓ 3 10141 เด็กชายณัฐวุฒิ ขันชะลี 6✓ 6✓ 4 10142 เด็กชายปัญญา มหาพรม 5✓ 6✓ 5 10143 เดก็ ชายปติ วิ ัฒน์ เถายศ 6✓ 5✓ 6 10144 เด็กชายพรอ้ มรบ โชติพันธ์ 7✓ 5✓ 7 10145 เดก็ ชายพชิ ิตชัย แปงฝนั้ 6✓ 6✓ 8 10146 เด็กชายภคั พล ยศนวล 6✓ 5✓ 9 10147 เด็กชายภทั รศกั ด์ิ เครือวงค์ 10 10148 เดก็ ชายรัฎชพงษ์ ยศตะมะ 11 10149 เดก็ ชายรฐั ศาสตร์ ฉิมออ้ ย 12 10150 เดก็ ชายรัตนะชัย เดชขนุ ทด 13 10151 เด็กชายสรุ เชษฐ์ จันทรต์ บ๊ิ 14 10152 เดก็ ชายสุรสทิ ธิ์ เทพสาย 15 10153 เด็กหญงิ ณวรีภาภรณ์ ก๋าจารี 16 10154 เด็กหญงิ ณฐั นชิ า ปงิ มะวงค์ 17 10155 เด็กหญิงปณติ า อ้ายป๋วิ

18 10156 เด็กหญิงปรยี ากร ดวงติ๊บ 5 ✓ 19 10157 เดก็ หญิงพณั ณติ า โพไทร 7 ✓ 20 10158 เดก็ หญิงพิมพ์ชนก แจป้ อ้ ม 6 ✓ 21 10159 เดก็ หญงิ มิยาวดี งามเลศิ 6 ✓ หมายเหตุ คะแนนจากแบบฝึกหดั เกณฑ์ผา่ น ร้อยละ 80 ลงช่อื ..............................................................ผ้ปู ระเมนิ (นางสาวหฤทัย ไชยวฒุ ิ) (ครูผสู้ อน)

การประเมนิ ด้านทักษะกระบวนการ เรอ่ื งแนวคดิ เชิงนามธรรม 1. นกั เรียนสามารถทำความเขา้ ใจปญั หาได้ 2. นักเรยี นสามารถวางแผนการแกป้ ัญหาได้ 3. นักเรียนสามารถดำเนินการแก้ปัญหาได้ 4. นกั เรยี นสามารถสรุปแนวทางการแก้ปัญหาได้ เกณฑ์การให้คะแนนดา้ นทกั ษะกระบวนการ ดา้ นทกั ษะ 5 4 ระดบั คะแนน 2 1 กระบวนการ 1.นกั เรยี นสามารถทำ ประเมินความ ประเมินความ 3 ประเมินความ ประเมนิ ความ ความเข้าใจปญั หาได้ ตอ้ งการของ ต้องการของ ตอ้ งการของ ต้องการของ ตนเองได้ 5 ข้อ ตนเองได้ 4 ขอ้ ประเมินความ ตนเองได้ 2 ขอ้ ตนเองได้ 1 ข้อ 2. นกั เรยี นสามารถ ต้องการของ วางแผนการแก้ปญั หา กำหนด กำหนด ตนเองได้ 3 ข้อ กำหนด กำหนด ได้ จุดม่งุ หมายการ จดุ มุ่งหมายการ กำหนด จดุ มุ่งหมายการ จดุ มุ่งหมายการ เรยี นนรดู้ ้วย เรียนนรดู้ ้วย จุดมุ่งหมายการ เรียนนรดู้ ว้ ย เรียนนรดู้ ้วย ตนเองได้ 5 ข้อ ตนเองได้ 4 ขอ้ เรียนนรดู้ ว้ ย ตนเองได้ 2 ขอ้ ตนเองได้ 1 ข้อ ตนเองได้ 3 ขอ้ 3.นกั เรียนสามารถ วางแผนการเรยี นรู้ วางแผนการเรียนรู้ วางแผนการเรยี นรู้ วางแผนการ วางแผนการ เรยี นรดู้ ้วยตนเอง เรียนรดู้ ว้ ยตนเอง ดำเนนิ การแกป้ ญั หา ดว้ ยตนเองได้ 5 ด้วยตนเองได้ 4 ดว้ ยตนเองได้ 3 ได้ 2 ข้อ ได้ 1 ข้อ ได้ ข้อ ขอ้ ขอ้ ดำเนนิ การตาม ดำเนินการตาม แผนการเรียนรู้ แผนการเรียนรู้ 4.นักเรียนสามารถ ดำเนินการตาม ดำเนนิ การตาม ดำเนินการตาม ดว้ ยตนเองได้ 2 ด้วยตนเองได้ 1 ข้อ ขอ้ สรปุ แนวทางการ แผนการเรียนรู้ แผนการเรียนรู้ แผนการเรียนรู้ แก้ปญั หาได้ ด้วยตนเองได้ 5 ดว้ ยตนเองได้ 4 ดว้ ยตนเองได้ 3 ขอ้ ขอ้ ขอ้ หมายเหตุ ได้คะแนน 3 ขน้ึ ไปทุกตวั ชี้วดั ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ คะแนน 5 คะแนน หมายถงึ ดีมาก คะแนน 4 คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน 3 คะแนน หมายถงึ ปานกลาง คะแนน 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ คะแนน 1 คะแนน หมายถงึ ต้องปรบั ปรุง

แบบประเมนิ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ เร่อื งแนวคิดเชงิ นามธรรม ************************************************************************************************ หอ้ ง 1/1 ดา้ นทักษะกระบวนการความสามารถ ผลการประเมิน เลขที่ เลข บอกและอธบิ ายความหมายของ หมายเหตุ ประจำตัว แนวคิดเชิงนามธรรม ผ่าน ไม่ผ่าน 1 10118 เด็กชายจิรวัฒน์ วงศจ์ ู ✓ 2 10119 เดก็ ชายชวกรณ์ ทา้ วตือ้ ✓ 3 10120 เด็กชายชนิ กฤต เทพเสาร์ ✓ 4 10121 เดก็ ชายทรงชัย โยอนิ ทรช์ ัย ✓ 5 10122 เด็กชายบุญยวัฒน์ สายอา้ ย ✓ 6 10123 เดก็ ชายปพน วงศ์จู ✓ 7 10124 เด็กชายภรี กรณ์ เก๋ียงมูล ✓ 8 10125 เด็กชายวชรวัฒน์ ศรีบญุ ชู ✓ 9 10126 เดก็ ชายวัชรากร เครือดวงคำ ✓ 10 10127 เด็กชายศกุ ลวัฒน์ ทากอง ✓ 11 10128 เด็กหญงิ กญั ญพัชร วุฒิยา ✓ 12 10129 เดก็ หญงิ ขวัญจิรา เครอื วงศ์ ✓ 13 10130 เดก็ หญิงชาลสิ า อินต๊ะรกั ษา ✓ 14 10131 เดก็ หญงิ ณฏั ฐณิชา เครือสาร ✓ 15 10132 เดก็ หญงิ ณิชากรณ์ รอดฉวาง ✓ 16 10133 เดก็ หญงิ ณิชาพร วงศจ์ ักรติ๊บ ✓ 17 10134 เด็กหญงิ ธญั ชนก สารใจวงค์ ✓

18 10135 เด็กหญงิ ธานมะณีวาร์ วงั ชยั ✓ 19 10136 เดก็ หญงิ พรี ดา สานเมทา ✓ 20 10137 เด็กหญิงลักษณพร วงคก์ ันทา ✓ 21 10138 เด็กหญิงสายธาร ทาเงนิ ✓ หอ้ ง 1/2 ผลการประเมนิ ผา่ น ไม่ผ่าน หมายเหตุ ด้านทักษะกระบวนการความสามารถ ✓ เลขที่ เลข บอกและอธบิ ายความหมายของ ✓ ✓ ประจำตวั แนวคดิ เชิงนามธรรม ✓ ✓ 1 10139 เดก็ ชายกมั ปนาท มโี พธ์ิ ✓ ✓ 2 10140 เด็กชายกติ ิพงษ์ วงศ์จนั ทร์ ✓ ✓ 3 10141 เดก็ ชายณัฐวุฒิ ขนั ชะลี ✓ ✓ 4 10142 เดก็ ชายปญั ญา มหาพรม ✓ ✓ 5 10143 เดก็ ชายปิตวิ ฒั น์ เถายศ ✓ ✓ 6 10144 เด็กชายพร้อมรบ โชตพิ ันธ์ ✓ 7 10145 เดก็ ชายพชิ ติ ชยั แปงฝ้ัน 8 10146 เดก็ ชายภคั พล ยศนวล 9 10147 เด็กชายภัทรศักดิ์ เครือวงค์ 10 10148 เด็กชายรฎั ชพงษ์ ยศตะมะ 11 10149 เด็กชายรัฐศาสตร์ ฉิมออ้ ย 12 10150 เด็กชายรัตนะชยั เดชขนุ ทด 13 10151 เด็กชายสรุ เชษฐ์ จันทรต์ ๊บิ 14 10152 เด็กชายสรุ สิทธิ์ เทพสาย 15 10153 เด็กหญงิ ณวรภี าภรณ์ กา๋ จารี 16 10154 เด็กหญงิ ณฐั นิชา ปิงมะวงค์

17 10155 เด็กหญงิ ปณติ า อ้ายปว๋ิ ✓ 18 10156 เด็กหญงิ ปรียากร ดวงต๊บิ ✓ 19 10157 เดก็ หญิงพัณณิตา โพไทร ✓ 20 10158 เดก็ หญิงพิมพช์ นก แจ้ปอ้ ม ✓ 21 10159 เดก็ หญิงมิยาวดี งามเลศิ ✓ หมายเหตุ ไดค้ ะแนน 2 ขึน้ ไปทุกตัวชว้ี ัด ถอื วา่ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ลงช่อื ..............................................................ผปู้ ระเมิน (นางสาวหฤทยั ไชยวุฒ)ิ (ครผู สู้ อน)

การประเมินดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ เรือ่ งแนวคิดเชงิ นามธรรม มีวนิ ัย 1. เขา้ เรียนตรงตามเวลา 2. ทำงานครบตามกำหนด 3. ให้ความรว่ มมือในการทำกิจกรรม 4. ยอมรบั ในระเบียบและขอ้ ตกลง ใฝ่เรยี นรู้ 1. มีการศกึ ษาค้นคว้าเพมิ่ เตมิ ด้วยตน้ เอง 2. ขยนั และกระตอื รอื รน้ ในการทำกจิ กรรม 3. ทบทวนความรู้อยูส่ ม่ำเสมอ 4. ตง้ั ใจเรยี น มุ่งมน่ั ในการทำงาน 1. มคี วามตั้งใจและพยายามในการทำงานที่ไดร้ ับมอบหมาย 2. มีความอดทน 3. ทำงานทไี่ ดร้ ับมอบหมายเสร็จสมบูรณ์ 4. เข้าร่วมกิจกรรมครบถว้ น เกณฑ์การประเมนิ ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คณุ ลักษณะ ระดบั คณุ ภาพ อันพงึ ประสงค์ 4 3 2 1 มีคณุ ลักษณะอนั พึง 1. รักชาติ ศาสน์ มีคุณลักษณะอันพึง มีคณุ ลกั ษณะอันพงึ มีคณุ ลกั ษณะอันพึง ประสงค์1 ขอ้ มีคณุ ลักษณะอนั พึง กษัตริย์ ประสงค์ครบทกุ ข้อ ประสงค์3 ขอ้ ประสงค์2 ขอ้ ประสงค์1 ข้อ มคี ณุ ลกั ษณะอนั พึง 2. ซ่ือสตั ย์สุจรติ คุณลักษณะอันพึง มคี ุณลกั ษณะอันพงึ มีคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์1 ขอ้ มคี ณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคค์ รบทกุ ข้อ ประสงค3์ ข้อ ประสงค2์ ข้อ ประสงค์1 ขอ้ มีคณุ ลักษณะอนั พงึ 3. มวี ินัย คณุ ลกั ษณะอันพึง มีคุณลักษณะอนั พงึ มคี ุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์1 ขอ้ ประสงค์ครบทุกข้อ ประสงค3์ ข้อ ประสงค์2 ข้อ 4. ใฝเ่ รียนรู้ คณุ ลกั ษณะอันพงึ มีคณุ ลกั ษณะอนั พงึ มีคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคค์ รบทุกข้อ ประสงค3์ ขอ้ ประสงค2์ ข้อ 5. อยูอ่ ย่าง คุณลักษณะอนั พงึ มคี ณุ ลกั ษณะอนั พึง มคี ุณลกั ษณะอนั พงึ พอเพยี ง ประสงคค์ รบทกุ ข้อ ประสงค3์ ขอ้ ประสงค์2 ขอ้

6. มุง่ มั่นในการ คุณลักษณะอันพงึ มีคุณลกั ษณะอนั พงึ มคี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ มีคณุ ลักษณะอนั พึง ประสงค์1 ขอ้ ทำงาน ประสงคค์ รบทุกข้อ ประสงค3์ ข้อ ประสงค2์ ขอ้ มีคุณลักษณะอันพึง ประสงค์1 ข้อ 7. รกั ความเป็น คุณลักษณะอนั พึง มีคณุ ลักษณะอันพงึ มีคณุ ลกั ษณะอนั พึง มีคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์1 ข้อ ไทย ประสงคค์ รบทุกข้อ ประสงค์3 ขอ้ ประสงค2์ ข้อ 8. มีจติ คุณลกั ษณะอนั พงึ มคี ณุ ลักษณะอนั พงึ มคี ณุ ลกั ษณะอันพงึ สาธารณะ ประสงค์ครบทกุ ข้อ ประสงค3์ ขอ้ ประสงค์2 ข้อ หมายเหตุ ได้ระดบั คุณภาพ 2 ขึ้นไปทุกตวั ช้ีวดั ถือว่าผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน

แบบประเมนิ ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เร่อื งแนวคดิ เชิงนามธรรม ************************************************************************************************ หอ้ ง 1/1 คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ผลการ ประเมิน เลขที่ รกั ชาติ ซอ่ื สัตย์ มวี นิ ัย ใฝ่ อยู่อย่าง มงุ่ มน่ั รกั มีจิต ผ่าน ไม่ ศาสน์ สจุ รติ เรยี นรู้ พอเพยี ง ในการ ความ สาธารณะ ผ่าน กษตั รยิ ์ ทำงาน เป็น ไทย 1 4 3 33 4 33 3 ✓ 2 3 3 33 4 33 3 ✓ 3 3 4 33 4 33 3 ✓ 4 3 3 34 4 43 4 ✓ 5 3 3 34 4 43 4 ✓ 6 4 3 43 4 33 3 ✓ 7 3 4 33 4 43 4 ✓ 8 3 4 43 4 33 3 ✓ 9 3 3 33 4 43 4 ✓ 10 3 4 3 4 4 4 3 3 ✓ 11 3 3 4 3 4 3 3 3 ✓ 12 3 4 3 3 4 3 3 3 ✓ 13 4 3 3 4 4 3 3 3 ✓ 14 3 3 4 4 4 4 3 4 ✓

15 4 4 3 4 4 4 3 4 ✓ 16 3 4 3 4 4 3 3 3 ✓ 17 4 3 4 4 4 4 3 3 ✓ 18 4 3 3 4 4 3 3 3 ✓ 19 4 3 3 4 4 4 3 4 ✓ 20 4 4 3 4 4 3 3 3 ✓ 21 4 3 4 4 4 3 3 4 ✓ หอ้ ง 1/2 คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ผลการ ประเมนิ เลขท่ี รักชาติ ซือ่ สัตย์ มวี นิ ยั ใฝ่ อยู่อยา่ ง มุ่งมน่ั รัก มจี ติ ผา่ น ไม่ ศาสน์ สจุ ริต เรียนรู้ พอเพียง ในการ ความ สาธารณะ ผ่าน กษตั ริย์ ทำงาน เป็น ไทย 1 3 4 3 3 3 34 3 ✓ 2 3 4 3 3 3 34 3 ✓ 3 4 3 4 3 4 33 3 ✓ 4 3 3 3 3 3 44 4 ✓ 5 3 4 334 3 4✓ 6 4 3 4 3 4 44 4 ✓ 7 3 3 3 3 3 44 4 ✓ 8 4 3 3 3 3 33 3 ✓ 9 3 3 3 3 4 33 3 ✓ 10 4 4 4 3 3 4 4✓

11 4 3 4 3 3 4 4 4 ✓ 12 3 4 3 4 3 3 4 3 ✓ 13 3 4 3 3 3 3 3 3 ✓ 14 4 3 4 3 4 4 4 4 ✓ 15 3 3 3 4 4 4 4 4 ✓ 16 3 3 3 4 4 4 4 4 ✓ 17 4 4 4 4 4 3 3 4 ✓ 18 3 3 3 3 4 4 3 4 ✓ 19 4 4 3 4 4 4 4 4 ✓ 20 3 3 4 3 3 3 3 3 ✓ 21 4 3 3 3 3 4 3 3 ✓ ลงช่ือ..............................................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวหฤทยั ไชยวฒุ ิ) (ครผู ู้สอน)

การประเมนิ ดา้ นสมรรถนะผู้เรียน เรอ่ื งแนวคิดเชงิ นามธรรม ความสามารถในการคิด 1. สามารถคิดวเิ คราะห์ และสงั เคราะห์ข้อมูลได้ 2. แสดงความคิดเห็นในการทำงานอยา่ งสร้างสรรค์ 3. สามารถคดิ อยา่ งเปน็ ระบบ ทำให้แก้ปญั หาไดง้ ่ายและถูกตอ้ ง 4. สรา้ งองค์ความรู้ใหมไ่ ดด้ ้วยตนเอง ความสามารถในการแกป้ ัญหา 1. ตัดสินใจแก้ปัญหาอยา่ งรวดเรว็ และมปี ระสทิ ธิภาพ 2. ใช้หลักของเหตุผลในการแกป้ ัญหา 3. คน้ คว้าและสร้างความรู้ด้วยตนเอง 4. ประยุกต์ความรูท้ ี่ไดน้ ำมาใชใ้ นการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 1. ใชเ้ ทคโนโลยใี นการสอื่ สารได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ 2. ใช้เทคโนโลยีในการแกป้ ญั หาได้อย่างเหมาะสม 3. มีคณุ ธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยี 4. มที กั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยีเพือ่ การพัฒนาตนเองในดา้ นการเรยี นรู้ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนด้านสมรรถนะผูเ้ รยี น ด้านสมรรถนะ ระดับคณุ ภาพ ผู้เรยี น 4 32 1 ความสามารถในการสอื่ สาร มีความสามารถในด้าน มีความสามารในดา้ น มความสามารถใน มีความสามารถในด้าน การส่อื สารครบทุกข้อ การสือ่ สาร 3 ขอ้ ดา้ นการส่ือสาร 2 ขอ้ การส่อื สาร 1 ข้อ ความสามารถในการคิด มีความสามารถในด้าน มีความสามารในด้าน มความสามารถใน มีความสามารถในด้าน การคิดครบทุกขอ้ การคิด 3 ขอ้ ดา้ นการคิด2 ข้อ การคดิ 1 ข้อ ความสามารถในการ มีความสามารถในการ มีความสามารถใน มีความสามารถ มคี วามสามารถ แก้ปัญหา แกป้ ัญหาครบทกุ ข้อ การแกป้ ัญหา ในการแก้ปัญหา ในการแกป้ ัญหา 3 ข้อ 2 ขอ้ 1 ข้อ ความสามารถในการใช้ มีความสามารถในการใช้ มีความสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถในการ ทกั ษะชีวติ ทกั ษะชวี ิตครบทกุ ขอ้ การใช้ การใช้ ใชเ้ ทคโนโลยี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook