Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Bannathorn e-book vol 3

Bannathorn e-book vol 3

Published by plair4u, 2022-01-12 14:19:43

Description: นิตยสารอิเล็กทรอนิกส์ บรรณาธร เล่ม 3 ฉบับเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2565

Keywords: Bannathorn,บรรณาธร

Search

Read the Text Version

ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 | แจกฟรี ºÃóҸÃBannathorn ISSN 2774-0021 นิตยสารอเิ ลก็ ทรอนิกส์ รายสองเดอื น ผลการประกวดเร่ืองส้ัน และ บทกวี บรรณาธร รอบที่ 3 พร้อมคอลัมน์น่าอ่าน... • กาแฟ หนังสือ ปากกา : แฟรงเกนสไตน์ • แวดวงวรรณกรรมต่างแดน : เปิดกรุหนังสือของไอน์สไตน์ • HoroReader จดั ทำโดย สมาคมนกั เขียนแห่งประเทศไทย

ºÃóҸà | 2 ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 สารบัญ 4 ประกาศผลการคัดเลอื กเร่ืองสัน้ -บทกว“ี บรรณาธร” รอบที่ 3 เร่อื งสน้ั 7 ครงั้ หน่ึงฉันเคยเข้าค่ายการวจิ ารณ์วรรณกรรม ภาณุพงศ์ เชยช่นื 14 ซ่นิ สาละวนั ศิริ มะลิแย้ม 20 ปีกท่ีบินขา้ มทศวรรษ ประชาคม ลนุ าชยั 28 ผีแมน่ ำ้ นรเศรษฐ์ ทบั ทิมทอง 35 ระหว่างทาง ชาคริต คำพลิ านนท์ 41 วาฬร่าเริง ศรวี ารี 49 เหยือ่ ยศวุฒิ เอยี ดสงั ข์ 57 อย่าให้คืนวนั อนั แสนเลวรา้ ยนำพาความเจ็บปวดทกุ ข์เศรา้ เกนิ ไปกวา่ นี้ คาเลอัลติ เบยร์ ัมปาชา บทกวี 67 กำเนดิ ใหม่ในเมืองมหัศจรรย์ จรูญพร ปรปกั ษ์ประลัย 69 ความกังวลสดุ ท้าย ธรี ะสนั ต์ พนั ธศิลป์ 71 ฉันแอบเคี้ยวเอือ้ งความขมขื่น ถนอม ขนุ เพช็ ร 73 บ้านในเงาเมอื ง กติ ติ อัมพรมหา 75 บ้านรอ้ งเพลงใหก้ ับฉนั ฟัง สายลมโบราณ 77 ประเทศท่ผี ู้คนไมอ่ อกจากบ้าน สริ วิ ตี 79 ผาแดงแล็บ (การทดลองบั้งไฟทใี่ ชค้ วามรกั เปน็ เชื้อเพลิง) องอาจ สิงหส์ ุวรรณ 82 เหนอื รอยยำ่ ท่านแมท่ ัพ : ทีน่ ่ไี ม่มีคิงอาเธอรแ์ ละเหล่าอัศวนิ โต๊ะกลม แตออ 84 ขอ้ สังเกตจากคณะกรรมการ 85 หลักเกณฑ์การประกวดเร่ืองส้ันและบทกวี “บรรณาธร”

ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 3 | ºÃóҸà สารบัญ (ต่อ) คอลัมน์ประจำ 88 กาแฟ หนงั สือ ปากกา อดิศร ไพรวฒั นานุพันธ์ 90 แวดวงวรรณกรรมตา่ งแดน เกศณี ไทยสนธิ 95 HoroReader จุฑามาศ ณ สงขลา 101 จากใจคนทำหนังสอื กองบรรณาธกิ าร

ºÃóҸà | 4 ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 ประกาศสมาคมนักเขยี นแหง่ ประเทศไทย เรอื่ ง ผลการคดั เลือกเร่อื งสั้นและบทกวี “บรรณาธร” รอบท่ี 3 ตามท่ีสมาคมนักเขยี นแหง่ ประเทศไทย จดั ทำโครงการประกวดเร่ืองสนั้ และบทกวี “บรรณาธร” โดย เปดิ รบั ผลงาน รอบท่ี 3 ระหว่างวนั ที่ 1-15 พฤศจิกายน 2564 มผี ู้ส่งผลงานเขา้ ประกวด รวมท้งั สน้ิ 253 เรื่อง ประกอบด้วย เรื่องสัน้ จำนวน 115 เรือ่ ง และ บทกวี จำนวน 138 เรื่อง คณะกรรมการคดั เลือกพจิ ารณาและมีมติใหผ้ ลงาน เรื่องสัน้ จำนวน 8 เรื่อง และ บทกวี จำนวน 8 เรอ่ื ง ตามรายช่ือตอ่ ไปนี้ ไดเ้ ผยแพรใ่ นนิตยสารอเิ ล็กทรอนกิ ส์ “บรรณาธร” ไดร้ ับค่าตอบแทนเรอ่ื งละ 1,500 บาท และมีสิทธิ์เขา้ รบั การพจิ ารณาในรอบตดั สินตอ่ ไป เรอ่ื งส้ัน (เรียงตามลำดับตัวอกั ษรของชือ่ เรอื่ ง) ผเู้ ขยี น ชอ่ื เร่อื ง ภาณพุ งศ์ เชยชน่ื ศริ ิ มะลแิ ย้ม 1. คร้งั หนง่ึ ฉันเคยเขา้ คา่ ยการวิจารณว์ รรณกรรม ประชาคม ลุนาชัย 2. ซิ่นสาละวัน นรเศรษฐ์ ทับทมิ ทอง 3. ปีกที่บนิ ขา้ มทศวรรษ ชาครติ คำพิลานนท์ 4. ผแี มน่ ้ำ ศรีวารี 5. ระหวา่ งทาง ยศวุฒิ เอยี ดสังข์ 6. วาฬรา่ เรงิ คาเลอลั ติ เบยร์ ัมปาชา 7. เหย่ือ 8. อยา่ ให้คนื วนั อันแสนเลวรา้ ยนำพา ความเจ็บปวดทุกข์เศรา้ เกนิ ไปกวา่ นี้ บทกวี (เรยี งตามลำดบั ตวั อกั ษรของช่ือเรื่อง) ผเู้ ขียน ชื่อเรือ่ ง จรญู พร ปรปักษป์ ระลยั ธรี ะสันต์ พนั ธศิลป์ 1. กำเนิดใหม่ในเมอื งมหศั จรรย์ ถนอม ขุนเพช็ ร 2. ความกังวลสุดท้าย กิตติ อัมพรมหา 3. ฉันแอบเค้ยี วเออื้ งความขมข่ืน 4. บา้ นในเงาเมือง

ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 5 | ºÃóҸà 5. บ้านรอ้ งเพลงใหก้ บั ฉันฟัง สายลมโบราณ 6. ประเทศทผี่ ูค้ นไมอ่ อกจากบา้ น สิริวตี 7. ผาแดงแล็บ (การทดลองบ้ังไฟทใ่ี ชค้ วามรกั องอาจ สิงหส์ ุวรรณ เป็นเชื้อเพลงิ ) แตออ 8. เหนือรอยยำ่ ท่านแมท่ ัพ : ทน่ี ไ่ี มม่ ีคงิ อาเธอร์ และเหล่าอศั วินโต๊ะกลม ประกาศ ณ วันท่ี 14 มกราคม 2565 (นายสกลุ บณุ ยทตั ) นายกสมาคมนกั เขยี นแห่งประเทศไทย

ºÃóҸà | 6 ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 เร่อื งส้ัน

ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 7 | ºÃóҸà คร้ังหนึ่งฉันเคยเข้าค่ายการวจิ ารณ์วรรณกรรม ภาณุพงศ์ เชยชืน่ ไมม่ ใี ครบอกได้ว่าทำไมวรรณกรรมไทยจึงน่าเบ่อื พวกงานวรรณกรรมรว่ มสมัยท่เี รยี กวา่ วรรณกรรมสร้างสรรค์ นัน่ ไงละ่ โดยมากลว้ นแล้วแต่อา่ นยากและไมส่ นกุ ที่จริงผมไมช่ อบชอื่ เรียกวา่ แนวสรา้ งสรรค์นเี้ ลย ผมชอบช่ือ เรียกว่าแนววรรณกรรมบริสทุ ธแ์ิ บบทญี่ ป่ี ุน่ ใช้มากกว่า อาจจะมีคนบอกว่าไมจ่ ริงหรอกนา ‘ฉันสนุกกับงานแนวนจ้ี ะตาย’ ซ่งึ ผมก็คงไมม่ ีอะไรจะไปทมุ่ เถียง ด้วย ผมเพยี งแตร่ สู้ ึกวา่ งานส่วนมากมนั นา่ เบ่อื เพราะวา่ พวกนกั ประเมินวรรณกรรมบา้ นเรา ประเมินมันด้วยวธิ ี ท่นี า่ เบือ่ น่นั ทำใหน้ ักเขยี นเจรญิ รอยตามความนา่ เบอื่ น้ีซำ้ ๆ ตามกันไปอกี แต่สุดท้ายผมก็ไม่ใช่คนทส่ี นใจในการวิจารณ์วรรณกรรมแบบจริงจัง ผมเป็นพวกที่ใช้อารมณค์ วามรู้สึก นำทาง ผมไมเ่ คยผ่านรว้ั มหาวิทยาลัย ไม่เคยไดร้ บั การฝึกฝนแบบสายอคาเดมิก นักวิจารณก์ ับนกั รีววิ หนังสอื ต่างกันตรงน้ีแหละ ความเขม้ ข้นผดิ กนั อยา่ งผมเป็นไดแ้ ค่นกั รวี วิ หนังสือเทา่ นั้นเอง เพราะผมอา่ นทฤษฎีไม่ไหว ให้อ่านเทก็ ซเ์ ปน็ ตั้งๆ ผมไม่รอด ผมเคยสนใจการเขียนอยบู่ ้าง เคยเขียนเรื่องสน้ั จำนวนหนึ่ง แต่ไม่เคยผา่ นเขา้ รอบทไ่ี หนเลย ทกุ เวที การประกวด ผมตกรอบแรกตลอด บางทคี ณะกรรมการชาวไทยอาจจะไมพ่ รอ้ มสำหรบั งานเขยี นของผม ทั้งที่ ความกังวลใจเรม่ิ กอ่ ตัวตามอายุทีเ่ พิ่มขนึ้ ทุกปี แตผ่ มจำเปน็ ตอ้ งหลอ่ เล้ียงความหย่งิ ทะนงเอาไว้ ผมเลยต้องคิด เข้าขา้ งตัวเองแบบนี้ คุณก็น่าจะรวู้ ่าทำไม ตอนน้ันผมอายสุ ามสบิ ต้นๆ คิดว่าตวั เองเจ๋งเสียเต็มประดา ผมเหน็ ขา่ วค่ายการวจิ ารณท์ ่ไี ดร้ ับทุนมาจาก หนว่ ยงานแห่งหน่งึ เปดิ รับสมคั รสำหรบั บุคคลทวั่ ไป ผมจึงใหค้ วามสนใจ บางทอี าจจะมบี างสง่ิ บางอย่างท่ีไขข้อ ขอ้ งใจเก่ยี วกบั งานวรรณกรรมไทยให้ผมกระจา่ งขึ้นบ้างก็เปน็ ได้ หลังจากไปอบรมครัง้ น้ัน แคเ่ พียงเวลาสองวัน หน่ึงคนื แต่กลับทำให้ผมต้องหงุดหงิดไปอกี หลายปี นา่ จะราวๆ สถ่ี งึ หา้ ปที ผ่ี มรู้สึกหงุดหงิดฉุนเฉียวภายในหัว อย่คู นเดียว กตกิ าในการเขา้ ร่วมงา่ ยมาก เพียงส่งผลงานการวิจารณ์ให้วิทยากรพจิ ารณา ถา้ เขาคิดว่าน่าสนใจ คุณก็จะไดร้ ับเลือก ผมส่งงานเขียนเกีย่ วกับเรอ่ื งส้ันของครูมนัส จรรยงคใ์ ห้เขาอ่าน ผมชื่นชอบเร่อื งสน้ั ของทา่ น นเ่ี ป็นนกั เขียนในดวงใจของผมคนหนึง่ ครูมนสั เป็นคนทีเ่ ขยี นถงึ ผู้คนได้แบบเต็มไปด้วยเลอื ดเนอ้ื เอามากๆ ตัวละครของเขาชา่ งนา่ นบั ถือ ศักด์ิศรีความเปน็ มนุษยม์ ใิ ชส่ ่งิ ท่ีจะมาหยามกนั งา่ ยๆ ดูเรอื่ งส้ันอยา่ ง “จับตาย” น่ันสิ ตวั เอกเปน็ เพยี งนักโทษ

ºÃóҸà | 8 ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 เป็นบุคคลช้ันลา่ งในฉากหลงั ของเนอ้ื เรอ่ื ง แตถ่ งึ จะต่างชั้นต่างศกั ดกิ์ อ็ ย่ามาหลเู่ กยี รติกนั ต่อหน้าคนรัก มนุษย์ ดว้ ยกันต้องมีความเคารพกัน บางเรื่องนั้นจะละเมดิ กันมไิ ด้ เขาจงึ ฆ่าผู้คุมซึ่งเปน็ คนชนั้ เจา้ นายตาย แลว้ กห็ นไี ป เสยี ดื้อๆ หนไี ปทัง้ ท่ีรวู้ ่าจะไม่มีชีวติ รอด ผมอ่านเรอื่ งนตี้ อนอายสุ ิบหก แทบไม่ไดก้ ลนื นำ้ ลายลงคอเลยขณะอา่ น ดังนั้นผมจึงเขยี นวิจารณ์เร่ืองสั้น จับตาย สง่ ให้พจิ ารณางน้ั หรอื เปลา่ เลย ผมเลอื กเรอ่ื งส้ันอย่าง “สดี า” มาเขยี นเล่าความประทบั ใจตา่ งหาก ทำไมผมถึงชอบเรื่องส้นั เร่ืองนอี้ ยา่ งนน้ั หรอื ผมชอบเพราะมนั เป็นเร่อื งส้ัน ทม่ี พี ลอ็ ตเหมอื นกับเรือ่ ง “ทอ่ นแขนนางรำ” เด๊ะๆ เลยนะ่ สิ เร่อื งของชายรปู ช่ัวที่แอบหลงรักหญงิ สาวสะสวย แลว้ ลวงไปฆ่าเพือ่ บชู าความปรารถนาของตนเอง ใน ท่อนแขนนางรำ ตัวเอกลวงไปฆ่าแล้วตดั แขน นำมาประจุกบั หนังกลอง ส่วน สีดา ตวั เอกลวงไปฆา่ แลว้ ตัดนม นำมาประจกุ บั ตัวหนังใหญ่ ซ่งึ ก็คือตวั นางสีดาน่นั เอง ส่วนเรือ่ งราวหรือโครงเรื่องของทงั้ คู่ เหมือนกันแทบจะทง้ั หมด การดำเนินเร่ือง จังหวะของเรอ่ื ง ตวั ละคร พฤตกิ รรม เป็นไปในโครงสรา้ งเดียวกนั ซ่ึงผมชอบมาก ผมชอบงานแนวโครงสรา้ งทีส่ ามารถผลิตซำ้ ออกมาได้เรอื่ ยๆ แค่เพียงหาโครงสร้างท่ีเดด็ ๆ ได้ คณุ เพยี งโยนรายละเอียดลงไป มันก็กลายเปน็ เร่อื งที่ดไี ดข้ ้นึ มา อีกคร้งั ผมชอบการกระทำซำ้ นี้ ผมพยายามเขยี นอธบิ ายความชอบนี้ลงไปในบทความ กรรมการหรือวทิ ยากรทพ่ี ิจารณา ท่านหนึง่ แกเป็นนกั เขียนรางวัลซีไรต์ แกใหผ้ ่าน โดยบอกวา่ อ่านแล้ว งงๆ ดี ในค่ายจะมวี ิทยากรสองทา่ น น่นั คือคณุ นกั เขยี นซไี รตก์ ับอาจารยท์ สี่ อนปริญญาโท สาขาวรรณกรรม ตา่ งประเทศ เป็นอาจารยผ์ ู้หญิง อายุอานามนา่ จะไลเ่ ลย่ี กันกบั ผม แต่เม่อื ไปเข้าค่ายจรงิ ๆ จะมีวทิ ยากรอกี ท่าน มาเปน็ ผชู้ ว่ ยทเี่ พิม่ เขา้ มาอย่างไม่เปน็ ทางการ เธอทำหนา้ ท่ีประสานงานและถ่ายภาพ แล้วกม็ าชว่ ยวจิ ารณ์ บทวจิ ารณ์ของผทู้ ี่เข้าอบรม ซ่งึ ผมบอกเลยว่า ไมม่ คี วามคิดเห็นทตี่ รงกบั ผมเลยสักอย่าง คา่ ยการวจิ ารณถ์ ูกจดั ข้นึ ทรี่ สี อร์ตแห่งหนง่ึ ในจังหวัดทไี่ ม่ไกลจากกรงุ เทพมากนัก เขามีรถทัวร์คนั ใหญ่ ใช้ในการเดนิ ทาง นอกจากจะมีการวิจารณ์ทางสายวรรณกรรม ก็ยงั มีการอบรมในศลิ ปะสาขาอืน่ ๆ รว่ มดว้ ย เชน่ วา่ ภาพยนตร์, ทศั นศิลป์, ดนตรี, การละคร อะไรแบบน้ี ผมคดิ ว่าผมไมน่ ่าจะรู้จกั ใครเลย เพราะผมเป็นคนนอกโดยแทจ้ ริง ไม่ใช่นักศึกษา ไมใ่ ช่คนทำงานใน วงการหนงั สอื ไมใ่ ช่นกั วิจยั และผมกต็ ัดสนิ ใจสมคั รด้วยตัวเอง ไม่ได้นดั แนะกับใครไว้ แตผ่ มกเ็ จอคนรจู้ กั อยูด่ ี มไี อ้หน่มุ คนหน่งึ เปน็ นกั ศึกษาปริญญาโท สาขาทเ่ี รยี นกถ็ ือวา่ เป็นหนึง่ ในสาขาท่ีเขาวา่ กันว่าเรยี นยากจบยาก นำ้ ตาแตกกนั ไปหลายคน เผอญิ ไอ้หนุม่ คนน้เี ป็นนกั อา่ นตัวยง หมอนีอ่ ่านภาษาอังกฤษได้คลอ่ งมากตัง้ แตส่ มยั มัธยมแล้ว หมอนี่ชอื่ ว่ามาโนช รู้จักกันเพราะวา่ มีรุน่ พท่ี ี่ไปเรียนต่อปอโทแนะนำให้เจอกนั เนอ่ื งจากเราชอบ อา่ นและสนใจเรือ่ งวรรณกรรมเชน่ เดยี วกนั เมือ่ ไดพ้ ูดคยุ ก็พบว่ามีทศั นะหลายอย่างตรงกันเกีย่ วกับงานเขียน ของไทย

ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 9 | ºÃóҸà มาโนชเป็นคนที่แนะนำใหผ้ มอ่านนยิ ายญ่ปี นุ่ ร่วมสมยั ที่แปลเปน็ ไทยออกมา เชน่ ปาปรกิ า้ ไอพเี อ็นเอ็น แนน่ อนหมอนชี่ อบงานเขียนของมรุ าคามิ แตก่ เ็ ป็นคนท่ชี อบเล่นมุข “รวิ มรุ าคามิ คอื มุราคามติ ัวจริง” เฉกเชน่ เดยี วกันกบั ตัวผม เรามคี วามเห็นตรงกันว่างานเขยี นชั้นหลังของมุราคามิ ที่หนาเตอะกวา่ เดิม เตม็ ไปด้วยความ บา้ พลัง เอาแตโ่ ชวอ์ อฟน้ัน นา่ เบื่อกว่างานในยคุ แรกทมี่ ชี ีวิตชวี ามากกวา่ หมอนีเ่ ปน็ คนคะยั้นคะยอใหผ้ มอา่ น นิยายของโรแบรโ์ ต้ โบลาโญ่ “พต่ี อ้ งอ่านนะโว้ย แมง่ โคตรมัน” เร่ืองทแ่ี นะนำกค็ อื เรื่องเอกของเขาอย่าง “ซาเวจ ดเี ทคทีฟ” แต่ภาษาองั กฤษผมอ่อน ผมเลยแบง่ รบั แบ่งสู้ แตม่ นั ก็ย้ำกบั ผมบ่อยๆ ว่าอา่ นเหอะ อ่านเสียที แลว้ ก็บอกวา่ “เด๋ียวผมแปลให้พ่ีอา่ นเอง” แลว้ มนั ก็แปลจริงๆ เสียด้วย แต่แปลไว้เพยี งแค่บทแรกเท่านั้น ผมได้ อา่ นแล้วกค็ ิดว่าลลี าการเลา่ เร่อื งของนกั เขยี นคนนีส้ นกุ จริง ทกุ วนั น้ผี มยงั อา่ นค้างไวอ้ ยเู่ ลย ผมอ่านไปได้ครง่ึ เลม่ มนั สนกุ แหละ แตม่ นั หนาเหลือเกนิ ผมเลยอา่ น ไมจ่ บเสียที ทวี่ ่าสนกุ นัน้ ผมรูส้ ึกสนกุ เสยี จนอย่ไู ม่ไหว คุณเคยเป็นไหม เวลาที่อา่ นหนังสอื สกั เลม่ แลว้ มนั ทน ไม่ไหว มันตอ้ งเลา่ ใหใ้ ครสักคนฟงั ตอนน้ันผมนั่งอา่ นไปได้ราวๆ สองรอ้ ยหน้า รูส้ ึกอยู่ไม่สขุ ผมจึงทกั แชทไปหาไอ้หนมุ่ อีกคนหนึง่ ซ่ึงเปน็ นักอ่านตวั กล่ันเช่นกัน หมอนชี่ อ่ื วทิ ยา เคยลงเรียนสาขาวรรณคดเี ปรียบเทยี บ หลังจากเรยี นจบกไ็ มเ่ คยกลบั มา ทำงานเกยี่ วกับหนังสืออกี เลย ไอห้ นมุ่ คนน้ไี ดอ้ ่านงานเขียนเลม่ หลกั ๆ ของโบลาโญไ่ ปจนครบแลว้ นยิ ายเอก เลม่ หนาสองเร่ือง รวมเร่ืองสั้นหนงึ่ เล่ม รวมบทกวอี ีกหน่ึงเลม่ ผมคิดวา่ เทา่ นี้ก็เพียงพอแลว้ ครบแล้วในการทำ ความรู้จักนักเขียนสักคน ผมแชทไปคุยว่า ทำไมมนั ถงึ ไดส้ นกุ แบบนัน้ วะ กะอีแคเ่ ลา่ เร่อื งไปเรื่อยๆ วา่ ตวั เอกไปทำอะไรบา้ ง ใชช้ ีวติ ในมหาวิทยาลัยยงั ไง ไปมเี ซ็กสก์ ับใคร นึกคดิ อะไร แลว้ พอจบภาคตน้ เขา้ สภู่ าคสอง มนั พลกิ มุมมองใหม่ เลย ดว้ ยการให้ตวั ละครอน่ื ๆ ทีเ่ ปน็ ตัวประกอบในเรือ่ ง มาผลดั กันเลา่ ถงึ ตวั เอก ทำไมมนั ถงึ สนุกได้วะ น่ีคือ ความตน่ื เต้นของผมในตอนนน้ั ภายหลังมาโนชก็หายไปด้อื ๆ หมอนน่ั เรียนไม่จบ แล้วกข็ าดการตดิ ต่อกนั ไป ปดิ เฟซบกุ๊ ยกเลกิ แอคเคาท์ ผมคิดวา่ เขาอาจจะไปซมุ่ เขยี นนยิ ายแฟนตาซีสักเรื่องอยู่ทีไ่ หนสกั แห่งเปน็ แน่ หมอน่ีมีความฝนั วา่ จะเขยี นนิยาย แฟนตาซี ถงึ จะเปน็ นักอา่ นตัวฉกาจ แต่เขาก็ไม่อยากเขยี นอะไรเคร่งๆ แตอ่ ยากจะเขยี นอะไรท่หี ลดุ กรอบ ไปอกี ทาง สว่ นไอห้ น่มุ วทิ ยากเ็ บนสายไปทำอาชพี นายหนา้ อสังหารมิ ทรัพย์ ผมคดิ วา่ เขายงั คงอ่านงาน วรรณกรรมตา่ งประเทศอยู่เสมอๆ เช่นเดิม นยิ ายของฆาเบียร์ มาเรยี ส, ซีซาร์ ไอรา, อเลฆานโดร แซมบรา หรือมหากาพยน์ ิยายสว่ นตัวของคารล์ โอเว คนาสกอรด์ นา่ จะถูกเขาทยอยอ่านไปหมดแล้ว ซึ่งกเ็ ปน็ อกี คนทผี่ ม ขาดการติดตอ่ เช่นกนั เปน็ อนั ว่าผมไม่เหลอื สหายทางวรรณกรรมไวพ้ ูดคยุ อกี เลย ย้อนไปทเ่ี จ้าหนุ่มคนแรก อย่ๆู ผมกเ็ จอหมอนีบ่ นรถทัวร์ทีจ่ ะไปค่ายการวจิ ารณ์ นา่ แปลกใจท่เี ขาสมัคร เขา้ รว่ ม เพราะผมไม่คดิ วา่ หมอนจ่ี ะเสียเวลามาทำอะไรแบบนี้ แตเ่ ผอญิ รุ่นพที่ ีร่ จู้ กั กนั มาชกั ชวนให้เข้ารว่ ม เพราะวา่ มคี นมาน้อย กเ็ ป็นอนั วา่ ผมไดเ้ พื่อนร่วมคา่ ยไปโดยปริยาย แล้วตลอดงานน้ัน ผมกค็ ุยกับหมอนีเ่ พียง คนเดียว

ºÃóҸà | 10 ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 เราไปถงึ สถานท่ีจัดงานในตอนสาย เมื่อแบง่ กลุ่มกนั แลว้ กใ็ ห้แนะนำตวั ทำความร้จู กั กนั ช่วงบ่าย จะเปน็ การบรรยายของวทิ ยากรประจำกล่มุ แลว้ กแ็ ลกเปลีย่ นทัศนะกันถึงเร่ืองวรรณกรรม อ้อ ผมลืมบอกไปวา่ เขามกี ารบ้านให้เราทำด้วย โดยก่อนจะออกค่าย ทางผจู้ ดั ได้มอบหมายใหเ้ ราอา่ นนยิ ายเรอ่ื งหนง่ึ แล้วเขียนบท วิจารณ์มาสง่ จากนนั้ จะทำการวิจารณ์บทวิจารณ์ของเราพรอ้ มกับให้คำแนะนำ นิยายเรอ่ื งท่วี า่ ก็คอื “คำยืนยัน ของเปเรยร์ า” เขยี นโดยอันตอนีโอ ตาบุคคี ภายหลังเล่มนจี้ ะเปล่ยี นช่ือภาษาไทยเปน็ “เปเรย์รายืนยัน” ตวั ผู้ร่วมอบรมเองจะไดร้ บั บทวิจารณข์ องคนอนื่ มาไว้อา่ นดว้ ยในวนั แรกน้ี แตส่ ว่ นมากทุกคนตา่ งก็ โฟกสั ในชนิ้ งานของตัวเอง ไม่มีใครอา่ นกันครบหรอก ผมเองก็ไลด่ เู พียงครา่ วๆ เทา่ น้นั ว่าคนอ่นื เขาเขยี นกนั ออกมาในแนวไหน ซง่ึ เมอื่ ผมเหน็ ว่าแตล่ ะคนมองต่างมุมกนั ไป ทำใหง้ านเขยี นออกมาต่างกัน น่นั ทำให้ผมร้สู ึกดี วทิ ยากรท่ีเปน็ นกั เขยี นซไี รต์ออกมาพูดถงึ แนวคิดเกยี่ วกบั การวจิ ารณ์ในมมุ มองของเขา แกบอกว่า ตัวแกมีความต้องการจะยกระดับงานวจิ ารณใ์ ห้เปน็ เหมอื นงานวรรณกรรมสักช้ินหนงึ่ มศี ักด์ิมสี ิทธิเ์ ทยี บเคยี ง เรอื่ งแต่งโดยเท่าๆ กนั ผมพอเข้าใจแนวคิดน้ี แตผ่ มเห็นตา่ งในการกระทำ ผมเขา้ ใจวา่ หากเราเขียนจนไดล้ กั ษณะเฉพาะตวั ทั้ง ตวั ความคิดและการบอกเลา่ เน้อื ความ บทความวิจารณ์ชิ้นนนั้ กจ็ ะครบถว้ นในองคป์ ระกอบของศิลปะการเขียน นักอ่านกจ็ ะยอมรบั วา่ มันดเี ท่าๆ กับการไดอ้ ่านเรอื่ งสน้ั ชนั้ ดีสักเร่อื ง แต่ท่ีว่าเหน็ ตา่ งกค็ ือ ความพยายามจะทำให้ มันโดดเดน่ ด้วยใส่การลีลาการเล่าเร่อื งเขา้ ไป ทำใหม้ ันคลา้ ยคลงึ กับความเปน็ เรือ่ งแตง่ มจี ังหวะการเลา่ มกี าร ซุกซอ่ นเนือ้ ความ มีการหลอกลอ่ เอากบั ผู้อ่าน ผมไมไ่ ดห้ า้ มปรามใครหรอกในการกระทำแบบน้ี แตส่ ำหรบั ผม มันไมใ่ ช่เลย ไม่ใชว่ ิธีการทีผ่ มเห็นด้วย นัก ผมชอบแนวทางของการขดั เกลาให้ได้ที่ จนแม้แตก่ ารเขียนงานวจิ ารณม์ ันกล็ งตัวท้ังภาษาการเล่า ทง้ั ตวั ความคดิ และมมุ มองมากกวา่ ลลี าการนำเสนอแบบหวือหวาเป็นสว่ นรองๆ เปน็ เพยี งออปช่ันเสรมิ เพิ่มความ สนุกสนานชว่ั ครั้งคราวเท่านนั้ เอง แตผ่ มไมไ่ ด้ปริปากบอกความคิดเห็นของตวั เองออกไปหรอก ก็เหมือนกบั คน อน่ื ๆ ทกุ คนนง่ั ฟังกันตาแปว๋ ส่วนวิทยากรอกี ทา่ น กพ็ ูดคยุ ตามแนวทางทไ่ี ด้ศกึ ษาร่ำเรยี นมา อนั ทจี่ รงิ ผมไมไ่ ดต้ ิดใจอะไรกบั สาย อคาเดมิก ค่อนขา้ งจะใหก้ ารยอมรับเรอ่ื งความแม่นยำของการหยิบยกทฤษฎีตา่ งๆ มาใช้งาน เพียงแต่ว่าบางคน นน้ั เถรตรงเกินไป ท่ือเกนิ ไป ความท่อื ไมใ่ ช่ไม่ดี ถ้าใชท้ ฤษฎีตรงๆ แลว้ จับประเดน็ ไดแ้ ม่น น่นั เปน็ สงิ่ ที่โอเค แต่ ถ้าท่อื เกนิ ไป มนั กลายเป็นไม่ไดอ้ ะไรเลย วทิ ยากรท่านน้เี ปน็ แบบนน้ั เถรตรงเกินไป เขาเรยี กว่าอะไรนะ ‘ความเฉยี บคม’ ใช่ๆ ใช้แบบตรงๆ แตเ่ ฉียบคม น่ันแหละ เปน็ สิ่งทป่ี ฏิเสธไม่ได้ แต่ถา้ ทือ่ ก็คอื ทือ่ พวกเราแนะนำตวั กนั พอประมาณ จากน้นั ช่วงคำ่ กเ็ ขา้ สูก่ จิ กรรมรวมทกุ หมเู่ หล่า เจา้ หนา้ ที่ร่นุ ใหญ่ คมุ การอบรมเปน็ คนขน้ึ มาให้ความรู้ พดู ถงึ ภาพรวมของการวิจารณ์ในปัจจุบนั โดยมีการหยอดสารสง่ ทา้ ยไวว้ ่า “ยคุ นี้นักวิจารณ์เมอื งนอกเขาวจิ ารณก์ นั ไปจนถึงขั้นวิจารณผ์ ู้รบั ส่อื กนั แลว้ นะ” มันอาจจะสะกดิ ใจบางคนในนน้ั แตผ่ มออกจะเฉยๆ

ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 11 | ºÃóҸà ผมนึกถงึ ภาพยนตรเ์ ร่ืองหนง่ึ ก็คอื “ประชาธปิ ไทย” ตอนที่หนงั ออกฉายมีเสียงฮอื ฮาพอสมควร เพราะ มันเปน็ เรือ่ งเก่ียวกับการเมืองซึ่งเขา้ กับบรรยากาศสงั คมพอดี ตวั หนงั ก็นำเสนอแบบตรงๆ ทำให้หลายคนทม่ี ี ภูมริ ้ทู างประวตั ศิ าสตรก์ ารเมอื งตา่ งบอกวา่ นา่ จะตงั้ ชื่อเร่ืองวา่ ประชาธปิ ไตยหน่ึงศนู ยห์ นึง่ เพราะเนื้อหาช่าง เบบเ๋ี หลือเกนิ แตผ่ มไมไ่ ดส้ นใจอะไรความคิดเห็นตรงนน้ั เพราะในเวลาถัดมา ผมได้ไปนั่งดหู นงั เรอ่ื งนี้แบบฉาย ให้คนท่วั ไปดู แม้ว่าในงานท่จี ดั ขน้ึ จะมีนกั วชิ าการมานงั่ พดู คุยกัน แต่จุดทีผ่ มสนใจคอื คนดูทีไ่ ม่ได้อ่านหนังสือ แนววเิ คราะห์ประวตั ศิ าสตรไ์ ทย แล้วเขาก็จะคอยยกมอื ถามดว้ ยความสงสยั ขณะทผี่ ู้ชมกล่มุ หนึ่งก็จะงงว่า ทำไมเรอื่ งพื้นๆ พวกน้เี ขาถงึ ไมร่ ู้กันล่ะ ผมวา่ ตัวหนังไมไ่ ด้น่าสนใจเทา่ ปฏกิ ิริยาของผูช้ มกล่มุ นี้ กลุ่มที่เพ่งิ เปดิ รับ ขอ้ มลู ใหมๆ่ มนั น่าสนใจทีเดียว พอเสร็จส้ินกิจกรรมรอบคำ่ กเ็ ป็นช่วงเวลาว่าง สำหรบั คนท่ชี อบสังสรรคก์ เ็ ปน็ เวลาตงั้ วงชนแกว้ พรอ้ ม กบั พดู คยุ กนั คนท่เี ข้าอบรมเป็นนกั ศึกษาปอโทเสียเปน็ สว่ นใหญ่ พวกนีม้ าแนวสายวชิ าการ แน่นทฤษฎี ทกุ คน จึงกระตอื รือรน้ แลกเปล่ียนความคิดเห็น ผมไดแ้ ต่น่ังฟงั สว่ นมาโนชอดไมไ่ ด้ท่ีจะไปร่วมแจม เราน่งั ดมื่ กนั เพลนิ จนล่วงไปค่อนคนื เช้าวนั ถัดมาผมตืน่ ด้วยความมึนหวั กิจกรรมทง้ั เช้าและบ่ายคือการวิจารณก์ ารบา้ นทแ่ี ต่ละคนส่งมา อาจารย์ปอโทเปน็ วิทยากรหลัก มคี ณุ ช่างภาพมาคอยออกความคิดเห็นเสริม จากเสรมิ น้อยๆ ก็กลายเปน็ เสริม หลักๆ ส่วนมสิ เตอร์ซไี รตน์ งั่ หนา้ ฉำ่ จากเบียร์เมอ่ื คืน เขาออกความเห็นในบางจดุ เรียกว่าเอาตวั รอดไปไดอ้ ย่าง สบายๆ การวจิ ารณ์การบา้ นรายบุคคล กจ็ ะไลไ่ ปทีละคน คนอน่ื กจ็ ะนง่ั ฟัง ใครมอี ะไรอยากจะเสริมก็ยกมือ ออกความเหน็ ได้ การวเิ คราะหย์ นื พนื้ ทต่ี ัวบทเปน็ หลกั พุ่งไปท่หี นังสือท่ใี หอ้ า่ น กลา่ วถึงเนอ้ื เรอื่ งและประเดน็ ใน แตล่ ะส่วน กเ็ ปน็ สิ่งทเ่ี ข้าใจได้ จะยังไงก็ต้องเนน้ ตัวบทและกต็ วั บท เพราะทุกคนจะได้โฟกสั ไปที่จดุ เดยี ว มเี ดก็ นกั ศึกษาสาวปีสอง ที่เป็นนกั เขียนนกั อา่ น เธอขยันสง่ งานไปตามเวทีตา่ งๆ ทั้งเรือ่ งสนั้ และ บทความ ดเู ปน็ คนตงั้ อกตง้ั ใจมาก คอยซกั ถามเรอ่ื ยๆ ตอนพดู คยุ แนะนำตวั เธอกพ็ กหนงั สือที่ชอบมาดว้ ย แลว้ ก็ ถามคนอืน่ ว่าเคยอา่ นเลม่ นๆ้ี หรอื เปล่า ในภายหลังเธอจะมผี ลงานรวมเรอ่ื งสน้ั ท่ีผ่านเขา้ รอบลองลิสตร์ างวลั ซไี รต์ ผมจำชอื่ เธอได้ ผมไม่ไดอ้ ่านหรอก แตผ่ มคดิ วา่ ก็คงเป็นเร่อื งสั้นตามสตู รที่นา่ เบื่อเล่มหนึ่ง เหมอื นการบา้ น ที่เธอเขยี นมาส่ง มันพอดิบพอดีเหลอื เกิน งานแบบแบ่งสามส่วน ข้ึนตน้ เท้าความถึงเนอ้ื เร่ืองและตวั ผูเ้ ขยี น จากนนั้ กไ็ ล่ไปสปู่ ระเดน็ หลัก แล้วก็สรุปปิดทา้ ยวา่ เรือ่ งราวใหค้ ณุ คา่ อะไรกบั เราบา้ ง ผมไม่โทษเธอหรอก ผลผลิตแห่งวงการวรรณกรรมไทยทเี่ คาะออกมาจากแมแ่ บบเปะ๊ ๆ ระมดั ระวังและ หมดจด จะไมม่ ีการแวะเถลไถลที่ไหนในการเขียน ไม่ผิด ไมม่ อี ะไรผิดเลย เพียงแต่คุณต้องเฉียบคมพอ เธอคง ขัดเกลาตอ่ ไปไดใ้ นวนั ข้างหนา้ ผดิ กบั ผมทเ่ี ลกิ เขียนไปแลว้ แล้ววันหนึ่งเธอก็คงจะเปน็ นักเขียนรุ่นใหญ่ของ วงการ ซ่ึงผมภาวนาวา่ เธอจะไมไ่ ปเปน็ วิทยากรทีไ่ หน งานเขียนจากหญงิ สาวอกี คน เปน็ งานขนาดสน้ั บอกเล่าความประทบั ใจต่อหนงั สือท่ีเธออา่ น ไม่มีการ วเิ คาะห์แบบนุงนัง แทบไม่มีความคดิ เห็นเชงิ วิชาการเลย มนั เป็นความรู้สึกลว้ นๆ ปฏิกิริยาท่เี ธอได้รับและรู้สกึ

ºÃóҸà | 12 ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 กับมนั นคี่ อื งานเขียนในแบบรีวิวหนงั สือตามหน้าเว็บไซต์สาธารณะท่ัวไป ซึ่งผมชอบนะ ผมอยากใหค้ นท่ีรีวิว แบบนเ้ี ขา้ มาอบรมเยอะๆ เพราะน่ีคือคนอ่านหนังสือขนานแท้ท่ีนักเขยี นต้องการ การบ้านของนกั ศึกษาชาย เอกประวัตศิ าสตร์ ใชภ้ าษาได้แบบคนเขยี นหนงั สือทมี่ ุ่งมน่ั ในทางการเขียน เตม็ ไปด้วยพิธรี ตี อง เน้นข้อมลู เปน็ หลกั เขาขยนั ท่จี ะไปสืบคน้ ชอื่ นกั เขียน ช่อื หนังสือ ช่ือเรอ่ื งสัน้ เหตุการณ์ ทางประวัตศิ าสตรท์ ่ีถกู เอย่ ถึงในเล่ม งานแนวขอ้ มลู นนั้ วดั กันท่ีความขยัน ความอดึ ความเพยี ร ซ่ึงผมไมช่ อบเลย งานชิน้ นไ้ี ดร้ ับคำชมเป็นอย่างมาก สาวช่างภาพชมเปาะ ว่านเี่ ปน็ ตัวอย่างที่ดีมากในการเขียนงานวจิ ารณว์ รรณกรรม ไดม้ าตรฐานดี ซ่งึ นน่ั ทำใหค้ วามเบอื่ ของผมจกุ มาถงึ คอหอย นอกจากจะไมม่ แี นวคิดทแี่ ตกแถวออกมาเลย มันยงั แหง้ แล้งมาก ไมม่ คี วามรสู้ ึกของผอู้ า่ นติดมาในขอ้ เขียนแม้แตน่ ิดเดยี ว ไอ้หมอนล่ี บความรูส้ ึกตัวเองไดย้ งั ไง งานเขยี นแนวทะเลทรายลว้ นๆ แบบนแี้ หละ ทม่ี ักจะถูกยกย่องไวก้ อ่ นเสมอ เปน็ เลิศด้วยข้อมลู ด้วยความรู้ ด้วยกเู กลิ แล้วก็วนมาทีเ่ จา้ หน่มุ มาโนช ซง่ึ ผมจำเน้อื หาไม่คอ่ ยได้นกั แตเ่ ขาจะเขียนในแบบทไี่ ม่กล่าวถึงประเดน็ หลักโดยตรง เขาเลือกท่จี ะหามุมมองอื่นของนิยายเล่มนี้มานำเสนอแทน ดูเหมอื นจะเขยี นถึงการเล่าเรอ่ื งแบบ ปิดซ่อน เพื่อเปน็ การนำเสนอประเดน็ ให้มผี ลกระทบในภายหลงั เจ้าหน่มุ สนใจตรงจังหวะการนำเสนอ แน่นอน วา่ โดนสบั เละ อาจารยป์ อโทช้จี ุดบอดว่า ไม่ไดเ้ อ่ยถงึ ประเด็นหลกั ของเรอื่ ง สว่ นสาวช่างภาพใชป้ ระโยควา่ ‘เหมือนคนอา่ นหนังสือไม่แตก’ ผมแอบอง้ึ ในใจที่ไดย้ ินแบบนั้น ถ้าพี่สาวช่างภาพได้ร้จู ักเจ้าหนมุ่ น่ี เธอจะไม่มี วนั พดู อะไรแบบนัน้ ออกมา สว่ นผมเองก็ไมร่ อด โดนตตี กไปเหมอื นกัน เพราะผมไปโฟกัสทก่ี ารชมนกชมไม้อยา่ งเพลิดเพลินของตวั ผ้เู ขียน งานเขียนของตาบคุ คีทผ่ี มไดอ้ ่านจากแปลไทย ทำให้รูส้ กึ ว่าตาลุงคนนี้หลงใหลในงานวรรณกรรมเป็น อยา่ งมาก เขามคี วามสขุ ท่ไี ด้หยอดเร่ืองทางวรรณกรรมไว้ในเล่ม ชมคนนนั้ นดิ ตำหนิคนน้ีหนอ่ ย ผมสนุกกับ สว่ นนมี้ าก แลว้ ผมก็ชอบวิธกี ารเขยี นเร่ืองโดยข้ึนต้นวา่ “เปเรย์ร่ายนื ยนั วา่ เขา” จากนัน้ ตวั เอกกจ็ ะบรรยายว่า ได้ไปทำอะไรมาบ้างแบบละเอยี ดลออ การใช้คำวา่ ยืนยัน เป็นการเน้นยำ้ วา่ มนั เกดิ ขนึ้ จริงๆ นะ เป็นลกู เลน่ ทกี่ อ่ ให้เกิดชีวติ ชีวา และทำให้ผมไพล่ไปนกึ ถงึ คำใหก้ ารกับตำรวจ หากเราจะต้องเลา่ เหตกุ ารณ์ย้อนหลังเม่อื ถกู สอบปากคำ พอเอ่ยถึงความนึกคดิ ตรงน้ี อาจารย์ปอโทกบั พีส่ าวช่างภาพก็สวดผมยับวา่ ตรงจดุ นไ้ี มม่ ีในเรอ่ื ง ใน เนือ้ เร่อื งไม่ได้บอกไวเ้ ลยวา่ เขาถกู จับตัว ผมไดแ้ ตน่ ัง่ หนา้ แห้ง ยิ้มเจ่อื นๆ กบั ความเถรตรงแบบนี้ พอบา่ ยสามคา่ ยปิดกจิ กรรม เราก็ขึ้นรถทวั ร์กลับเขา้ กรงุ ซึ่งผมตอ้ งลงกลางทางเพอ่ื ไปต่อรถกลบั บ้าน จากนน้ั เป็นเวลาหลายปที ผ่ี มเอาแตน่ ึกถึงกจิ กรรมทไี่ ปเขา้ รว่ มนีด้ ้วยความรูส้ กึ เซ็งๆ นึกแล้วก็โมโห หวั รอ้ นกรุน่ ผมไม่ได้โกรธวทิ ยากรสองทา่ นนน้ั ผมโกรธอะไรบางอยา่ ง ความขัดเคืองทีใ่ หค้ วามรสู้ กึ ไมพ่ อใจ จากน้ันผมเร่มิ อ่านหนงั สอื ได้นอ้ ยลง แลว้ กเ็ ลิกเขยี นเรือ่ งแต่งไปเลย อนั ท่จี รงิ กิจกรรมไมไ่ ด้มีแคท่ ่ีคา่ ยนนั้ แต่ยงั มกี จิ กรรมตอ่ เนือ่ งอีกรอบ ซึง่ กค็ ือเราต้องวจิ ารณ์หนังสือ อกี เลม่ แล้วเดือนถัดมาเขาก็จะนัดมาพดู คุยวิจารณ์การบา้ น มนั เป็นหนังสือของนกั เขียนซไี รต์ท่านหนึ่ง เลม่ เขอื่ ง พอสมควร เปน็ งานแนวหวือหวาทีเ่ ลา่ เรื่องสลบั เหตุการณไ์ ปมาสามเร่ืองราว พร้อมแทรกการวเิ คราะห์ของ ตวั ละครทม่ี ีตอ่ เหตกุ ารณ์ที่เกดิ ผมวา่ มันอืดไปหน่อย โดยเฉพาะบทบรรยายพฤตกิ รรมตวั ละคร ถา้ ผมเปน็ บอกอ

ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 13 | ºÃóҸà หนงั สอื เล่มน้ี มันคงบางลงเหลือแค่หนงึ่ ในสามของเลม่ มนั เปน็ งานในแบบที่ผมไมช่ อบ งานทเ่ี หมอื นกำลงั ขยบิ ตาให้กบั นักวิจารณ์ ทีแรกหลังอา่ นจบ ผมกท็ ำท่าจะเขยี นการบา้ นส่ง แต่เมือ่ พูดคยุ กบั มาโนชแลว้ มนั บอก วา่ “นพ่ี ี่ยังจะไปอีกหรอื ” พอไดย้ นิ แบบน้ัน ผมกค็ ลอ้ ยตาม บอกลาเส้นทางการวิจารณ์นนั้ ไป พอนกึ ถึงความ คดิ เห็นทส่ี องคนน้นั จะวิเคราะห์ ผมก็ตดั ใจได้ทนั ที ผมเคยมคี วามปรารถนาเรน้ ลบั อยา่ งหนึ่ง นนั่ ก็คอื ผมอยากให้กรรมการซีไรตร์ นุ่ ใหญ่ทา่ นหนึง่ ไดอ้ า่ น นิยายเรือ่ ง “คุณหมาเขยขวญั ” ของโยโกะ ทาวาดะ เนอ่ื งจากวา่ มันเป็นงานเขยี นท่แี ปลกประหลาดหลดุ กรอบ สามัญสำนกึ ของมนุษย์อยา่ งเราๆ แตม่ นั กลับได้รบั รางวัลอะคุตะงาวะ น่นั เป็นเพราะเกณฑ์การใหร้ างวลั ของ บา้ นเขาเป็นแบบนัน้ มันไม่ใช่เกณฑร์ างวลั แบบซไี รต์ แลว้ ทำไมตอ้ งเป็นกรรมการรุน่ ใหญ่ทา่ นน้นั ด้วยหรือ ก็เพราะผมไปติดใจแกน่ะสิ เมือ่ ครน้ั แกยงั หนมุ่ ยุค ที่ซไี รต์รุ่งเรอื ง มนั เป็นรางวัลทย่ี กสถานะนกั เขียนใหก้ ลายเปน็ เทวดาของวงการไดใ้ นบดั ดล นักเขียนนักวิจารณ์ จงึ ตีกนั บอ่ ย เปน็ เรอ่ื งทีม่ สี สี นั มากในยคุ ก่อน ทา่ นกรรมการใหญ่คนน้ี สมยั นนั้ แกเองก็เคยตอ่ วา่ กรรมการ ผู้พิจารณาไปวา่ “พวกนไี้ มม่ ที ัศนะธาตุทางศลิ ปะเพยี งพอทีจ่ ะมาตดั สิน” แกชอบใชค้ ำยเ่ี กๆ อะไรแบบนี้แหละ ผมเลยติดใจว่าวนั หน่งึ เมือ่ ได้มาเป็นกรรมการใหญ่แล้ว แกจะใชห้ ลักอะไรในการพจิ ารณา แลว้ ถ้าอา่ นเรื่องอย่าง คณุ หมาเขยขวญั แกจะกลา้ ให้รางวลั หรือเปล่า หลายปีผา่ นมาหลังจากทแ่ี อบคิดเล่นๆ แบบนัน้ ดเู หมือนความ ฝันเร้นลับท่ไี มม่ ีใครรู้นั่น ก็กลายเป็นจริงข้ึนมา เมื่อเห็นแกรวี วิ หนงั สอื ของโยโกะ ทาวาดะ ผมเอาแตน่ งั่ ยม้ิ อยู่ หน้าจอคนเดียว เม่ือได้ผ่านไปเห็น น่าจะห้าปเี ต็มหลังจากไปค่ายการวจิ ารณค์ รง้ั น้ัน ห้าปที ผ่ี มร้สู กึ ขนุ่ มัวยามนึกถงึ ความคดิ เห็นต่อตวั งานเขยี น การวิจารณ์ ผมโกรธทีพ่ วกเขาไม่พูดถึงการเขียนของแต่ละคนเลย ว่าทำไมพวกเขาถงึ มมี มุ มองแบบน้นั ทำไมเขา หยบิ บางเรอื่ งขน้ึ มา แล้วชิน้ งานของแต่ละคนแตกต่างกันอย่างไร มีรปู แบบอย่างไหนบ้าง แตพ่ วกเขากลบั ต้ัง มาตรฐานเพียงหนงึ่ เดยี วว่าถา้ จะต้องเขยี น มันต้องพ่งุ ไปที่ตวั บทกับประเดน็ ของเร่ือง ตอ้ งมรี ูปแบบแบบเดยี ว เทา่ น้นั ทจ่ี ะใชเ้ ป็นมาตรฐานให้ทุกคนจดจำไปใช้ ทำให้ผมโกรธและหงดุ หงดิ เม่ือนกึ ถงึ แต่หลงั จากห้าปี อารมณผ์ มก็คลายตวั ลงไปเอง ผมไม่ไดค้ รำ่ เคร่งอา่ นนิยายอย่างเป็นบ้าเปน็ หลงั อีก แลว้ ผมเขยี นรีววิ ถึงหนังสือท่ีตวั เองอ่านบ้างนานๆ ครั้ง เขียนในแนวความรสู้ กึ ส่วนตวั ท่ไี ดป้ ะทะกบั เรื่องราวของ หนังสอื ผมไดเ้ ข้าใจแล้วว่า เปน็ ผมเองท่ีไปอยู่ผิดทีผ่ ิดทางในคราวนั้น แลว้ ผมกไ็ มไ่ ด้กลา้ แขง็ พอท่ีจะเดนิ ไปตาม หนทางเพอื่ ยนื ยันความเชอื่ ของตัวเอง ความคิดของผมไมไ่ ด้รนุ แรงพอที่จะไปเขยา่ คนทง้ั โลกใหห้ ันมามอง เปน็ เพียงความคดิ เห็นหน่งึ ทม่ี ีอยู่ ทุกวนั นผ้ี มรสู้ กึ ผ่อนคลายกว่าเดมิ มาก ผมอา่ นบทวจิ ารณบ์ า้ งในบางครัง้ อ่านโดย ไมร่ ู้สกึ รนุ แรงอะไรอกี แล้ว มันมที ง้ั ท่ผี มชอบและไม่ชอบ ซ่งึ กเ็ ปน็ เพยี งความนกึ คดิ ในตอนน้ันๆ นน่ั เอง

ºÃóҸà | 14 ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 ซ่ินสาละวัน ศิริ มะลแิ ย้ม คนื น้เี ป็นคืนสุดทา้ ยท่เี จา้ ของเถียงนาอนุญาตใหธ้ งใหมพ่ ักพงิ เขานอนตะแคงกอดตัวเอง นำ้ ตาหยาดเป็น สายสู่ซ่นิ ผืนเกา่ ท่ีพับวางบนหมอน กลนิ่ อับจาง ๆ ผสมกับกลิ่นปอสาเนา่ โชยอ่อนผ่านชอ่ งหนา้ ต่าง ครั้นสะอนื้ ฮกั เขาฉวยชายซน่ิ เช็ดนำ้ ตา สดู หายใจลกึ ถวิลหาผู้เป็นเจา้ ของสดุ หัวใจ ครัน้ พลกิ ตัวนอนหงาย มองผา้ ขาวมา้ ที่ผกู ไว้กับขือ่ ยังทง้ิ ชายไหว ๆ ใครไมเ่ ป็นธงใหม่ไมม่ ที างรู้ ไม่มีทางเขา้ ใจ เขาครุ่นคดิ สะระตะ หวนนึกถึงวนั ก่อนเกา่ เขาจำได้ดี วนั นนั้ ทีร่ ิมน้ำเขือ่ น ขณะกำลงั ชว่ ยแมน่ ำปอสาลงแชน่ ำ้ ดวงเดือนยืนอยู่ทร่ี มิ ตลง่ิ สายลมหวนพากลิน่ ปอสาเนา่ โชยมา เขากล้นั หายใจ จงั หวะนัน้ แมโ่ พลง่ ขนึ้ “ถา้ ขอ้ ยตาย เจา้ ฮบั ธงใหม่ไปเลีย้ งไดบ้ ่” ผา่ นไปราวสองเดอื น ในวดั ประจำหมบู่ ้าน หลงั กระดกู แมถ่ กู เก็บลงโถแลว้ อาจมใี ครบางคนเห็นหญิงวยั 40 ปีเดินจูงมือเขาออกจากวัด หลงั จากนั้นข่าวลือวา่ ดวงเดือนมีผวั เด็กกแ็ พร่สะพัดไปทงั้ หมบู่ า้ น แต่ธงใหม่รูด้ ีกวา่ ใคร ว่าดกึ ด่นื คืนนนั้ เขาเพยี งไดร้ ับนำ้ ใจแสนงามจากดวงเดือน ผมู้ อบทน่ี อนอันแสนอนุ่ ให้หลับใหลขา้ มคืนอันแสนเหนบ็ หนาวจากโลกข้างใน ทปี่ ่ันปว่ นว่นุ วายอย่กู ับการคร่นุ คดิ หาทางออกใหก้ ารดำร งชีวิตอย่ไู ดโ้ ดยไม่มแี ม่อยู่เคยี งขา้ ง ธงใหมน่ อนคา้ งทีบ่ า้ นดวงเดอื น พอรุ่งเช้ามาเยอื นเขาจงึ ย้อนกลบั ไปหาพ่ชี าย แมร้ ้ดู วี า่ ไมอ่ าจหวงั แต่ เขากต็ ดั ใจพาตวั เองไปยนื อย่หู นา้ บา้ นหลังใหญใ่ นทีด่ นิ ราว 5 ไร่ ประตรู ว้ั ยงั ปดิ มิดชิด เขาตะโกนเรยี กพ่ชี ายนาน เป็นครู่ แล้วอยู่ ๆ ประตรู ีโมทก็เล่อื นเปดิ ไมม่ ีใครโผล่หนา้ ออกมาตอ้ นรับ เขาก้าวผา่ นแนวประตรู ัว้ เขา้ ไปพลาง นกึ ถึงคำของแม่ “บา้ นหลงั น้เี ป็นของทกุ คน” ครนั้ เข้าไปถึง พีช่ ายนัง่ รออยู่ท่โี ซฟา พี่สะใภน้ ง่ั อยเู่ คียงกนั ดวงหน้าท้ังสองไมพ่ รอ้ มต้อนรับเขาแม้แต่ นอ้ ย แลว้ พี่ชายก็เอย่ เรยี บ ๆ “เจ้าไปเช่าบา้ นอย่ไู ด้บ”่ บรรยากาศเร่มิ ตงึ เครียด ธงใหมจ่ อ้ งตาพีช่ ายหวังใหเ้ หน็ ใจ แตค่ วามใจดำของคนเป็นพใ่ี ชว่ า่ เขาจะไม่รู้ ความดำขา้ งในนนั้ ไม่ตา่ งผลมะเกลอื ทีพ่ อ่ ใช้ยอ้ มแห มันดำเสยี จนแลดสู กปรก แมแ้ มเ่ คยบอกวา่ บ้านเปน็ ของ ทุกคนในครอบครวั แตเ่ ขาร้ดู ี เงินท่ีใช้ปลกู บ้านนนั้ เป็นนำ้ พกั น้ำแรงของพชี่ าย “เจา้ ไปเช่าบา้ นอย่ไู ดบ้ ่ ม้อื ใดขอ้ ยไปเฮด็ งาน เจ้าสิอยเู่ ฮือนกับเออื้ ยสองต่อสองไดจ้ ังใด”๋

ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 15 | ºÃóҸà ธงใหม่น่งิ อึ้ง ยิ่งพีช่ ายเสนอวา่ จะออกคา่ ใช้จา่ ยทง้ั หมดให้ โลกข้างในกย็ ่ิงเจ็บปวดรวดร้าว ใครกร็ ้วู ่า หมู่บา้ นเล็ก ๆ ริมเขือ่ นไม่มบี ้านเช่า และเขาจะยา้ ยไปอยู่ทอี่ น่ื ได้อยา่ งไร พีช่ ายก็รู้วา่ เขาอยตู่ ดิ หม่บู ้านนีม้ านาน ดว้ ยเพราะเปน็ บคุ คลผ้ไู รส้ ถานะทางทะเบยี นราษฎร์ ราว 40 ปีกอ่ น หญงิ ชาวลาวจำนวนมากหนอี อกจากศนู ย์อพยพบ้านนาโพธิ์ หนง่ึ ในน้นั พาลกู ชายมายัง หมู่บ้านรมิ เข่อื น ส่วนสามเี ธอเลือกกลับบ้านเกดิ หลังจากสถานการณใ์ นประเทศคลค่ี ลายไปสกู่ ารปกครองอีกระบอบ ทีไ่ มค่ ้นุ เคย ตอนน้นั ดวงเดอื นสงั เกตเหน็ เธอกับลกู ชายอาศยั อยู่ในสถานีตำรวจร้าง สถานท่ซี ง่ึ ทางการเคยใช้ ป้องปรามแนวร่วมคอมมิวนิสต์ ดวงเดือนผูท้ ีม่ พี ่อเปน็ ผู้ใหญ่บา้ นจึงชวนเธอไปอยูด่ ้วย เถียงนาเล็ก ๆ ทา้ ยบา้ น กลายเป็นทอ่ี าศัยถาวรของเธอ อาชพี ประจำครอบครวั ของดวงเดอื นน้นั นอกจากจะปลกู ขา้ วแล้ว ยังยึดอาชีพ ปลกู ปอสาดว้ ย เธอจงึ ไดง้ านลอกปอสาเปน็ งานประจำ งานเธอเร่ิมต้ังแต่ตัดปอสาเอาไปแช่นำ้ เข่อื น ทง้ิ ไว้สอง สัปดาหจ์ งึ นำมาลอกเปลอื กออก นำไปแชน่ ้ำอีกสามวันกน็ ำขึน้ ตากแดด หลังนอนดมกลิน่ เน่าของปอสาอยแู่ รมปี เธอก็ไดส้ ามีใหม่ สามใี หม่ของเธอก็เป็นชาวลาว ผอู้ พยพหนีภัยการเมือง และเคยเปน็ หนึ่งในสมาชิกกองกำลงั ทหารหน่มุ ตอ่ ตา้ นขบวนการคอมมิวนสิ ตอ์ ย่างลับๆ ผู้ถูกทง้ิ ขวา้ งจากแนวรบทางความคิด ส่ปู ุถุชนผู้ไรส้ ถานะทางทะเบียน ราษฎร์ เขาเคล่ือนยา้ ยตัวเองออกจากฐานทต่ี ง้ั หลงั ศูนยอ์ พยพถกู ทำให้กลายเปน็ สถานท่ที เี่ หมอื นไมเ่ คยมอี ยู่ เขาพาตัวเองม่งุ สหู่ นทางอยรู่ อด กลืนกลายเป็นสมาชกิ ของหมู่บา้ นรมิ เขือ่ นเช่นเดยี วกัน เริ่มแรกเขายดึ อาชพี เป็นพรานปลา ดว้ ยเพราะมีวิชาถกั แหทตี่ กทอดมาตงั้ แต่รนุ่ ปู่ แต่ไม่นานเขากผ็ ันตวั เองเป็นนกั ตัดปอสามอื หน่ึง ของหมู่บา้ น ต่อมาเขาและเธอพบรกั กัน แล้วทั้งค่กู ใ็ หก้ ำเนดิ เด็กชายตวั เล็กๆ ช่ือธงใหม่ วันทีเ่ ธอปวดท้องก่อนกำหนดคลอด สามเี ธอและพ่อของดวงเดอื นพากันขนปอสาไปแชน่ ้ำทีร่ มิ เข่อื น สว่ นแม่ของดวงเดอื นยงั ไม่กลับจากวัด ดวงเดอื นจงึ กลายเปน็ หมอตำแยจำเปน็ โดยเธอเบ่งไปดว้ ยและคอยบอก วธิ ีทำคลอดใหด้ วงเดอื นทำตาม เธอเบง่ อย่นู าน จนกระท่ังดวงเดอื นดึงหัวเดก็ ชายตัวเล็กออกมา หลังจากนัน้ เมือ่ ทางการตรากฎกำหนดสญั ชาติใหช้ าวลาวอพยพ เขตแดนสญั ชาตถิ กู ขีดคั่นดว้ ยวนั ถอื กำเนิด ธงใหมก่ ลายเป็น ผู้ขาดคุณสมบัติ ส่วนพี่ชายท่เี กดิ ก่อนเขา 10 ปีไดร้ ับสญั ชาตไิ ทย ตอนนั้นดวงเดอื นพยายามหาทางช่วยเหลอื ธงใหมเ่ ตม็ ท่ี แตก่ จ็ นหนทาง หลงั เรียนจบมธั ยมหก พช่ี ายเดนิ ทางเข้าไปทำงานก่อสร้างในกรุงเทพฯ ตรากตรำกรำแดดอยูห่ ลาย ขวบปี ถอดใจหันเหไปขบั มอเตอร์ไซคร์ บั จา้ งหนหน่งึ เปน็ พ่อค้าขายกับขา้ วกเ็ คย แตแ่ ลว้ กห็ วนกลับส่งู าน ก่อสร้างอกี ครงั้ กระทัง่ จบั พลัดจับผลกู ลายเปน็ ผ้รู บั เหมาไดร้ บั งานใหญย่ ่านสมุทรปราการ เพยี ง 5 ปี เขาเกบ็ เงิน ซอ้ื ที่ดนิ และปลกู บา้ นหลังใหญ่ เขาพาครอบครวั ยา้ ยออกจากเถียงนาของดวงเดอื นนับแตน่ น้ั ส่วนธงใหมผ่ ู้ไรส้ ถานะต้องตดิ อย่กู ับหมูบ่ ้าน เตบิ โตในหม่บู า้ นริมเข่อื น เขาไมช่ อบกล่นิ ปอสาเนา่ กล่ิน น้ันฉนุ จมูกชวนอาเจยี น แต่ก็อดทนชว่ ยแมล่ อกเปลือกทถี่ ูกแช่นำ้ จนหลดุ ล่อนโดยไม่ปรปิ าก กระทงั่ ต่อมาเมอ่ื พอ่ ทง้ิ ทุกคนไปมคี รอบครัวใหม่ เขาจึงกลายเปน็ กำลงั หลัก

ºÃóҸà | 16 ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 นกึ ถึงชว่ งเวลาทีผ่ า่ นมาก็ยิ่งคิดถึง ธงใหมน่ อนกา่ ยหน้าผาก ไกโ่ ตง้ ตนื่ แต่เชา้ มดื มนั สง่ เสียงขันดงั ลัน่ แตฟ่ ้า ยังไมส่ ว่าง ในเถยี งนายังมืดสนิท เขานึกถงึ วนั ท่ีนำเงินอนั น่าภาคภมู กิ ลบั ไปสง่ ใหแ้ ม่ “เอามาไว้นำกนั ” ธงใหมม่ องแม่กำเงินยัดใสก่ ระเป๋ารวมกบั เงนิ ทพี่ ช่ี ายเพิง่ ส่งให้ “ครอบครวั เฮาลำบากหลาย หาไดก้ เ็ อามารวมกัน เกบ็ เงนิ ได้ก้อนใหญม่ ้ือใด๋ สแิ บง่ ดินขา้ งๆ ปลูกบ้าน ใหเ้ จา้ สักหลงั ” “ดนิ น่นั ของอา้ ยนะอแี ม”่ ธงใหมห่ ันสบตาพชี่ าย จอ้ งลกึ ในแวววาวน้นั อยา่ งเขา้ ใจความรสู้ ึก “พ่นี ้องกัน มอี ีหยังกแ็ บ่งปนั กนั มีบ่เท่ากนั บ่มที างเป็นสขุ ดอก” “แต่อา้ ยหามาไดเ้ ยอะกว่า” “เถอะน่า เชอ่ื ข้อย” แม่หนั ไปทางพชี่ าย “เจ้าก็ต้องเช่ือข้อย ขอ้ ยรู้ เจ้าคงบ่อยากเห็นน้องลำบาก” วันน้นั พช่ี ายได้แต่พยกั หนา้ แตไ่ ม่พดู อะไร เขารู้ว่าพีช่ ายไมส่ บายใจ ใครหาไดม้ าก คนนน้ั ก็ควรได้มาก การแบง่ ปนั เปน็ เรื่องของน้ำใจ มากน้อยแลว้ แตค่ วามเต็มใจ สว่ นพสี่ ะใภ้นัง่ นง่ิ ทำเป็นไมร่ ู้ไมช่ ้ี เปน็ แบบนม้ี าต้งั แต่ธงใหม่ยงั เลก็ ไม่ว่าแม่จะหาอะไรมาได้ แม่เป็นคนแบ่งให้ลูกทง้ั สองเท่าๆ กัน มีเงาะ นบั เงาะแบง่ มสี ้ม นบั สม้ แบ่ง มลี ะมดุ นอ้ ยหนา่ หรอื แมก้ ระทง่ั ลำไยแมก่ น็ บั แบ่งให้เทา่ ๆ กัน คร้งั หนึง่ แมแ่ บง่ ปลาทูเป็นสองสว่ น สว่ นหวั กบั สว่ นหาง ต้งั ใจจะแบ่งให้ลูกชายทง้ั สอง แตแ่ ลว้ แม่กเ็ ปล่ียนใจ เลาะกา้ งออก ฉกี เน้ือขยำจนละเอียดแล้วคลุกขา้ ว ธงใหมจ่ ำไดด้ ี ข้าวคลกุ ปลาทวู นั นั้นกล่นิ หอมทีส่ ุด กินกบั ผกั สดจ้ิมแจว่ ยง่ิ อรอ่ ย ไมน่ านนัก แม่ก็ทำอย่างปากว่า รวดเร็วกว่าทที่ กุ คนในบา้ นคาดคดิ โดยเฉพาะธงใหม่กป็ ระหลาดใจ ไมน่ อ้ ย แมท่ ยอยแบง่ เงนิ เก็บไปสรา้ งบ้านใหเ้ ขา แตเ่ งินเกบ็ เพยี งนอ้ ยนดิ น้ันกท็ ำไดเ้ พียงตอม่อและเสาบา้ น ซ่ึงเขาเข้าใจในภายหลังในวนั ท่ีรวู้ า่ แมป่ ่วยเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร นน่ั เป็นเหตใุ ห้แมร่ ีบร้อนลงมือ สว่ นพก่ี ็ เฝ้าดสู ิง่ ที่แมท่ ำอยเู่ งียบ ๆ ไม่พดู ไมข่ ัดใจ กระท่ังแม่เสยี ชวี ติ จงึ เผยความในใจ “เจ้าไปเชา่ บา้ นอยู่ได้บ่ มื้อใดข้อยไปเฮ็ดงาน เจ้าสิอยเู่ ฮือนกับพเ่ี ออ้ื ยสองตอ่ สองได้จังใด”๋ “บ่เป็นหยัง ข้อยสิหาที่อย่ทู กี่ ินเอง” ธงใหมต่ ดั สนิ ใจยา้ ยกลับมาอยูใ่ นเถียงนาของดวงเดือน ไมน่ านเสาบา้ นตงั้ โด่ที่แม่ต้งั ใจจะปลูกบ้านให้ เขา คนเป็นพกี่ ็เปลี่ยนมนั เปน็ โรงรถ ต่อมาพ่สี ะใภ้กร็ ับพ่อและแมม่ าอยู่ดว้ ย วันนัน้ เขาชำ้ ใจเป็นทส่ี ดุ เขารู้ทนั ที ว่าเหตุผลท่พี พี่ ูดบอกน้นั เปน็ เพยี งข้ออ้าง ชว่ งเวลาน้ันเขาเหลือเพยี งดวงเดือนเปน็ ท่ีพง่ึ เพยี งไม่ก่ีวัน ขา่ วคาวฟุง้ ไปทั่วหมู่บา้ น ว่ากันว่ามีคนเหน็ ธงใหม่กบั ดวงเดือนนอนด้วยกันทเ่ี ถียงนา บาง กลุ่มเมอ่ื ชุมนมุ กนั เรอ่ื งนี้กไ็ ดแ้ ต่หวั เราะ พูดตดิ ตลกวา่ เด็กรนุ่ วยั สบิ สองปีจะขนึ้ ไปตะเกียกตะกายอยู่บนอก อดี วงเดือนไดอ้ ย่างไร แตบ่ า้ งก็วา่ แม้ดวงเดือนจะอายุรุ่นแมแ่ ลว้ แตท่ รวดทรงองเอวนั้นไมต่ ่างสาวรนุ่ เปน็ ร่นุ ใหญท่ ม่ี พี ่อเปน็ ผใู้ หญบ่ ้าน หนมุ่ บ้านไหนกไ็ มก่ ล้ายุ่ง หนำซ้ำยังเกบ็ ตัวอยูก่ ับบ้านกบั เรอื น กระทง่ั บดั นยี้ ังไม่ เอาผวั สกั คน

ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 17 | ºÃóҸà วนั คนื เคลือ่ นผ่าน ภาพเกา่ แปลงเปล่ียน ธงใหมท่ ี่เคยห้วิ ตระกร้าหวายไปส่งแม่ทีว่ ัด กลบั กลายเปน็ ไป น่งั คฟู่ งั เทศน์กบั แม่เล้ยี งดวงเดอื น แมช้ าวหมู่บา้ นจะจบั กลมุ่ นินทา เปน็ ขปี้ ากชาวบา้ น ลบั หลงั เปน็ เชน่ นน้ั แต่ ต่อหนา้ ต่างไป ตั้งแตบ่ รรดาวยั รุ่นยันเฒ่าหงอ่ มกลบั ชื่นชมยนิ ดี แต่เขาไม่ใส่ใจ การเปน็ คนไรส้ ถานะนั้นชวน หนักใจย่ิงกวา่ เปน็ อปุ สรรคตอ่ การดำรงชีวิต ใชว่ ่าเขาต้องการเรียนหนงั สอื ระดบั ปริญญา หรือตอ้ งการเดนิ ทาง ไปทำงานต่างถ่ินเหมอื นกบั พี่ แต่เขาขอเพียงได้เปลี่ยนสถานะเปน็ พลเมืองของแผ่นดินถ่นิ เกดิ แม้บัดน้ีเขาไมม่ ี ทรพั ยใ์ ดสมบตั ใิ ด แตใ่ นช่วงวัยท่ีเขาเตบิ โตมีอาชพี การงาน ขอเพียงมีสิทธิเ์ ป็นเจา้ ของในดินกบั ทรัพยส์ ินท่เี ขาพงึ หาได้ ตัง้ แตอ่ ายุ 12 ปี ธงใหม่ยึดอาชพี ทำปอสา แปลกทด่ี วงเดือนก็ไม่เคยหา่ งจากเขา ยามเขาไปตัดปอสา ในไร่ ดวงเดือนตามไปดว้ ย เขาเป็นคนตดั ดวงเดอื นเปน็ คนเกบ็ ใส่รถ กอ่ นพากันเขน็ มงุ่ สู่ริมนำ้ เข่อื น ช่วยกนั ย้ายตน้ ปอสาลงแชน่ ้ำ ปอสาลอยเป็นแพแยกเปน็ กลมุ่ ๆ แพไหนครบสองสัปดาห์เมื่อเนา่ ไดท้ ่ี ก็ชว่ ยกนั ขนข้ึน ใส่รถ เขน็ กลับไปบา้ น ชว่ ยกันลอกเปลือกออก แยกต้นไว้ขาย นำเปลอื กไปแช่นำ้ อีกสามส่ีวนั แลว้ นำกลบั มาผึ่ง แดด เป็นเชน่ นี้ทุกว่วี นั ไม่ใส่ใจสายตาใคร บางวนั นกึ สนุก เขาเอ้อื นเอย่ เพลงลำสาละวนั ที่แมเ่ คยรอ้ ง แต่ ดวงเดอื นรำอยา่ งแม่ไม่เป็น เพยี งขยบั โยกกายเบาๆ ปรบมือให้จงั หวะ ซา้ ยที ขวาที เขาร้องไปมองหน้าดวงเดือน ไปพลาง เขาจำได้ จงั หวะนั้นเขาลดสายตาตำ่ ลงมองซิ่นท่ีดวงเดือนนงุ่ ระยะหลงั ดวงเดือนนงุ่ ซิน่ ผืนนบี้ อ่ ยครง้ั กอ่ นนเ้ี คยนงุ่ แตเ่ พียงเทศกาลงานบญุ ใหญป่ ลี ะหนสองหน “โอละนอ้ เกี้ยวกนั สาละวันเกย้ี วกนั เกยี้ วกัน สาละวนั เกย้ี วกัน เก้ียว...กันกอ่ นสาละวันเอย้ โอ้ โอ่ โอ ต๊บมือ สาละวันต๊บมอื ต๊บมือ สาละวันตบ๊ มือ ตบ๊ มือ สาละวนั ตบมอื เอ้า...ก้าวไป สาละวันกา้ วไป” ธงใหมจ่ อ้ งหน้าดวงเดอื น แล้วว่าถา้ เป็นแม่กค็ งลกุ ขึ้นฟอ้ นรำเปน็ ทสี่ นกุ สนาน ดวงเดือนกว็ า่ รำได้ แต่ไม่ เหมือนแม่ จากนน้ั ดวงเดือนสบตาเขาน่งิ นาน ครู่หนึ่งกโ็ พล่งขน้ึ วา่ อยากให้เขาสนุกสนานเหมือนแม่ ไมอ่ ยากเหน็ แววตาหม่นนั้นตลอดเวลา ย้มิ บ้างกไ็ ด้ หัวเราะนั่นกอ็ ยากเหน็ เธอวา่ เขาเอาแตท่ ำงานเกบ็ เงิน ตายไปก็เอาไป ด้วยไมไ่ ด้ เขาควรจะซือ้ อะไรใหเ้ ป็นรางวลั ตวั เองบ้าง “อยากได้อีหยงั เปน็ ของเจา้ ของบา้ งบ”่ “บ่อยากไดอ้ ีหยงั ดอก อมื ...ถา้ คิดถึงความจำเป็น ก็คงอยากได้มอเตอร์ไซค์ ข้อยอยากไดม้ อเตอร์ไซค์ เอาไว้ขพ่ี าเจา้ ไปทำบญุ ที่วัด ขอ้ ยสิซื้อ แล้วจดทะเบยี นเปน็ ช่อื แม่ดวงเดือนไดบ้ ่” ธงใหมย่ กหลงั มอื ข้ึนปาดเหง่อื กลิน่ ปอสาเน่าไม่ชวนหอม มันรา้ ยกาจ มนั แทรกซมึ อยใู่ นทุกอณผู ิวกาย ตดิ อยกู่ ับคราบไคล ในกลน่ิ เหงือ่ ของแม่กเ็ ชน่ เดียวกัน ธงใหม่เคยไดด้ อมดมอยา่ งใกล้ชดิ ยามเข้าสวมกอดแม่ จงั หวะนน้ั เขาหยบิ ปอสาใบหน่งึ ขน้ึ พินิจ ลักษณะแปลกกว่าใบอื่น ใบใหญ่ แตกออกเป็นสามแฉก “ฮูบ้ ่ ขอ้ ยชื่อธงใหม่เพราะอหี ยงั ” “แม่เจา้ เว้าหลายเทือแล้ว วา่ ใบปอสาท่มี สี ามแฉกนัน้ เหมอื นชา้ งสามเศยี ร ชา้ งเอราวณั บนผนื ธงแบบ เกา่ ของชนชาตลิ าว” “แมน่ แมก่ ็เคยเวา้ ให้ข้อยฟงั ”

ºÃóҸà | 18 ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 “เคยถามนะ แตแ่ ม่เจ้าบต่ อบ มนั น่าสงสยั แม่เจ้าบ่อยากกลบั ประเทศ เพราะบ่ค้นุ กับระบอบปกครอง แบบใหม่ เวา้ งา่ ย ๆ ก็คือบ่ชอบนั่นแหละ แตก่ ย็ ังต้งั ชื่อเจ้าว่าธงใหม่” “ข้อยก็สงสยั ถามแมเ่ รอื่ งนีห้ ลายเทือต้ังแตข่ ้อยจำความได้ แมเ่ พง่ิ บอกตอนขอ้ ยไดส้ ิบปี แม่บอกว่า ธงใหม่ บไ่ ดห้ มายถึงธงแบบใหม่ของชาตลิ าว” ธงใหมส่ ัมผสั ผวิ ใบปอสาเบามอื “แลว้ หมายถงึ ธงใหมข่ องชาติไสละ่ ชาตไิ ทยแมน่ บ”่ “บฮ่ ู้ แมบ่ ่ไดบ้ อก แมบ่ อกแตว่ ่าคนส่วนใหญย่ า่ นคอมทัง้ นน้ั ” ภาพธงใหม่พาดวงเดอื นซ้อนทา้ ยมอเตอรไ์ ซคไ์ ม่ขัดตาชาวหมูบ่ ้านนกั แต่พอ่ ของดวงเดือนเริ่มไม่พอใจเรอื่ ง นี้ ชาวบา้ นต่างลือว่าดวงเดือนซอ้ื มอเตอร์ไซค์ใหล้ กู เลีย้ ง แมค้ นเป็นพ่อรูว้ า่ ไมใ่ ชค่ วามจรงิ แต่กลับกลายเป็น โมหะทช่ี นะทกุ สิ่ง ท่ปี ระจกั ษแ์ จ้งก็กลายเป็นเท็จไปเสยี หมด กลายเป็นไฟสุมรมุ อยูภ่ ายใน กระท่งั ในเวลาต่อมา ดวงเดือนรอื้ เถียงนา แลว้ สรา้ งใหมใ่ หญข่ น้ึ และแขง็ แรงกว่าเดิม เป็นเถยี งนามรี ะดับ มหี อ้ งนอน มรี ะเบียงกวา้ ง เปล่ยี นหลังคามงุ หญ้าท่ฝี ูงวัวหนมุ่ เคยดึงท้งึ ไปเคี้ยวเอ้อื งเปน็ มุงสังกะสี เปลี่ยนพืน้ ไม้ไผส่ ับเปน็ พนื้ ไม้แผน่ หนา เปลี่ยนฝาไมไ้ ผส่ านเปน็ กระเบื้องยปิ ซมั ตอนนัน้ เองที่พอ่ เรมิ่ มปี ากเสยี งกบั ดวงเดือน “ข้อยว่า น่ันมากเกนิ ไปสำหรับธงใหม่” “บๆ่ บ่มากมายอหี ยงั สำหรับเดก็ ท่ขี ้อยลากหวั ออกมา” “สิเถยี งพ่อเฮด็ หยงั ” คนเป็นแมแ่ สดงท่าทีชัดว่ายืนอยู่ฝ่ายเดียวกบั พ่อ เมื่อแม่เขา้ มาสมทบ ดวงเดอื นหันหนา้ หนี คำ่ คนื น้นั เองทีด่ วงเดอื นนอนคา้ งทเ่ี ถียงนากบั ธงใหม่ และไม่ กลบั ไปนอนบา้ นหลังใหญอ่ ีกเลย แมธ้ งใหม่และแม่เลย้ี งดวงเดอื นจะเป็นข้ีปากชาวบา้ นมาโดยตลอด กระน้นั เขากอ็ ย่ใู นหมบู่ ้านอย่างมี ความสุขสมใจมานบั สบิ ปี กระท่งั ดวงเดอื นลม้ ป่วย เจบ็ หนักจนตอ้ งนอนโรงพยาบาล เขาและดวงเดอื นก็กลาย เปน็ ท่ีพดู ถงึ ในทช่ี ุมนมุ ของชาวหมูบ่ ้านอกี หน ว่ากันว่าภาพทล่ี กู เลย้ี งคอยเฝา้ ไข้แม่เล้ยี ง คอยเชด็ ขี้เช็ดเย่ียวให้ นัน้ ไมต่ า่ งจากคู่ผัวเมีย วันหน่งึ หลงั ธงใหมเ่ ช็ดตัวใหด้ วงเดือนเรยี บรอ้ ย เมื่อรดู มา่ นเก็บกพ็ บพอ่ กับแม่ของดวงเดือนยืนรออยู่ ปลายเตยี ง เขาสะดงุ้ เล็กน้อย ดวงเดอื นทีผ่ อมจนกระดกู แกม้ ปูดโปนก็ประหลาดใจเชน่ กัน เพราะโดยปรกติแล้ว พ่อและแม่จะผลดั กนั มาเยย่ี มดวงเดอื น “ชาวบา้ นเขาเวา้ เรอื่ งเจา้ กับธงใหม่กันสนุกปากแลว้ ฮู้บ่” “ชา่ งหวั ชาวบ้านปะไร ขอ้ ยบ่สนใจ บ่ได้ขอขา้ วไผกนิ ” “พอ่ วา่ ใหอ้ ีแม่มาดแู ลเจ้าแทนธงใหม่เถอะ”

ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 19 | ºÃóҸà ธงใหมห่ ันมองหนา้ ดวงเดือน พ่อเคยพดู เรอื่ งนห้ี ลายคร้ัง แตด่ วงเดือนไม่ยอม เธอต้องการใหธ้ งใหม่ เท่าน้ันมาคอยดแู ล “บ่เปน็ หยัง ขอ้ ยบ่ตอ้ งการ มีเรอื่ งเดียวที่ข้อยอยากจะขอจากอีพอ่ อีแมก่ ็เร่อื งเดียวน่ันแหละ ถา้ ข้อย ตาย ยงั ไงก็ใหธ้ งใหม่อาศยั อยทู่ ่ีเถียงนาคือเกา่ ได้บ”่ พอ่ และแมย่ นื นง่ิ หันสบตากนั “ไดบ้ ่ ขอ้ ยถามวา่ ได้บ”่ “ได้สิ เปน็ อหี ยังสบิ ่ได”้ แม่พูดสวนทันที ขณะพอ่ เพยี งพยักหนา้ ธงใหม่พยายามดแู ลดวงเดือนอย่างดี แม้ดวงเดอื นจะพูดเป็นลางเชน่ นนั้ เขาก็ยงั มหี วังวา่ ดวงเดือนจะ แขง็ แรงขึน้ มีชวี ิตอยูใ่ หเ้ ขาพึง่ พิงท้ังกายใจได้อีกนาน แตห่ ลงั จากนั้นไมน่ าน เขาก็ไมม่ ีโอกาสร้องเพลงลำสาละวนั ขณะนง่ั ลอกเปลอื กปอสาให้เธอฟังอกี หลงั เผาศพดวงเดือน ธงใหม่ยอ้ นกลับมายงั เถยี งนา ขณะพ่อดวงเดือนรีบเดินเขา้ มาดกั หนา้ “ข้อยบส่ ะดวกเด้อ ท่ีเจา้ สอิ ยทู่ ่นี ่ีต่อ” “ขอขอ้ ยอาศัยอกี คนื เดียว ไดบ้ ่” ดว้ ยแววตาออ้ นวอนน้นั จับจ้องดวงหนา้ อกี ฝ่ายอยู่ชว่ั ขณะ ผู้เป็นเจ้าของบา้ นไม่ได้ตอบคำถามใด แต่ หลบใหเ้ ขาเดินตอ่ ไปยงั เถยี งนา ธงใหมเ่ ก็บเสอ้ื ผา้ ไดห้ น่ึงกระเป๋า รู้แตว่ า่ ตอ้ งไป ยงั ไม่มจี ุดหมายปลายทางว่าจะไปท่ีใด หวั ค่ำวนั นนั้ เขารีบเข้านอน พยายามขม่ ตาหลับ กระน้ันก็ยังหลบั ๆ ตื่นๆ กระทัง่ กลางดกึ เขาลุกไปรอ้ื เอาซ่นิ ผืนเกา่ ท่ยี ดั ใส่ กระเป๋าไว้ เดินย้อนกลับมายนื ใต้ขอ่ื ปลดผ้าขาวม้าออกจากคอแล้วตวดั ปลายด้านหนง่ึ ขึ้นไปคลอ้ งแลว้ ผกู ไว้ ครุ่นคดิ อยชู่ ่ัวครกู่ ่อนเดนิ ย้อนกลบั มายงั ท่ีนอน พับผา้ ซิ่นวางบนหมอน แลว้ ท้งิ ตวั นอนท้ังน้ำตา ซิน่ ผืนเกา่ น้ผี ูเ้ ปน็ แมม่ อบใหเ้ ปน็ สินนำ้ ใจแกด่ วงเดอื นในวนั ทำคลอดธงใหม่ เป็นซิ่นจากสาละวัน บา้ นเกิด ของแม่ ธงใหมล่ กุ ข้นึ นง่ั เสียงขันของไก่โต้งฉุดดวงตะวันข้นึ มาแตะทีท่ ้องนำ้ เข่อื นแล้ว เมื่อแสงของวันใหม่มา เยอื น เขารดู้ ีวา่ ตอ้ งออกจากเถยี งนา เพราะเจา้ ของไมอ่ นญุ าตให้อยู่ ธงใหม่หนั มองกระเปา๋ ผ้าใบเขื่อง เป็นจงั หวะทีก่ ล่นิ เน่าคนุ้ เคยโชยมาอ่อนๆ เขาจำได้ กลิ่นเหงือ่ ของแม่ เหมือนกลิน่ ปอสาเนา่ และกลิน่ เหง่อื ของดวงเดอื นกไ็ มต่ ่างกนั เขาหนั มองซิ่น เอ้ือมควา้ ขนึ้ ดอมดม สูดหายใจลึก คิดถึงผเู้ ปน็ เจ้าของสดุ หัวใจ กอ่ นตดั ใจออกจากเถียงนา เขาเหลือบตาขึน้ มอง ก่อนลดตาลงตำ่ เขายงั ไมแ่ น่ใจนัก ว่าจะเลือกอย่างไหนระหว่างเดนิ ไปยืนใตข้ ื่อ หรอื เดนิ เลยไปยงั ประตทู างออก.

ºÃóҸà | 20 ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 ปีกทบี่ ินขา้ มทศวรรษ ประชาคม ลุนาชัย ผมจำเขาได้ แน่หรือ... ใช่ส.ิ ..ใชแ่ น่ ผมบนหัวของเขาหงอกขาวไปทุกเสน้ แลว้ ไมใ่ ชห่ น่มุ ฉกรรจ์ผแู้ ขง็ แกร่ง และหา้ วหาญ แตด่ แู ววตาเขาสิ แทบไม่เปลีย่ นไปจากเมอื่ สามสิบกวา่ ปกี ่อน เฉยนิ่ง ครนุ่ คิด แตด่ ูคล้ายซ่อน ความเศร้าอันเจบ็ รา้ วไว้ลึกๆ ขณะเดียวกนั กลับเหมือนดาวทีเ่ ปล่งแสงเจดิ จา้ ดว้ ยพลังศรทั ธาตอ่ ปณิธานทเี่ ขา ยึดมน่ั ใชเ่ ขาแน่หรือ....ใช่แน่นอน...ไม่ผดิ หรอก รอยบากเลก็ ๆ ตรงโหนกแกม้ ซา้ ยปรากฏชัด ในช่ัวเส้ยี วนาทีกบั ภาพคลปิ วิดโี อทผ่ี า่ นสายตา ผมนงิ่ คดิ ต่อเนื่อง ชว่ั วูบทเี่ ลยผา่ นความร้สู ึก ผมดใี จ ที่ไดเ้ หน็ หนา้ ค่าตาเพือ่ นเก่าโดยไม่คาดฝนั อยา่ งน้อยเขากย็ ังมชี วี ติ อยู่ ยืนนานขา้ มกวา่ สามทศวรรษภายหลงั ทผ่ี มกบั เขาแยกจากกัน และแลว้ ทันทีที่ครุน่ คิดสืบเน่อื ง พายคุ วามเศรา้ กลบั กระหน่ำความรสู้ ึกข้างใน ผมรสู้ ึกเจบ็ ปวดแทนเขา ไอห้ มอ... ไอ้หมอหม่อง เขามาพร้อมนกพริ าบบาดเจ็บในออ้ มแขน หนนุ กระเป๋าใบใหญใ่ นห้องเกบ็ เน้ืออวน ในเทีย่ วเรอื ทแ่ี ลน่ จากฝ่งั ท่าฉลอมลงใต้ เปน็ ชายแปลกหนา้ ทไ่ี มไ่ ด้รบั เชญิ ไม่มรี ายชื่อในบญั ชลี ูกเรอื เผ่นพล้ิวสเู่ รอื ประมงประหนง่ึ มนุษย์ไร้เงา กอ่ นจะมผี ้พู บเหน็ แลว้ จบั โยนเขากลับขึน้ ฝง่ั เรือก็ลอยลำอยู่กลางทะเลใต้ หวั หนา้ คนอวนและไตก้ ๋งส่งั ให้ลากตัวเขาออกไปสอบสวนกลางดาดฟา้ ผมเปน็ คนเปดิ กระเปา๋ ใบใหญ่ ออกตรวจคน้ ครา่ วๆ พบเพียงเสอ้ื ผ้าและของใช้จำเปน็ จากปากคำท่ีพดู ไทยไดไ้ ม่ชดั และบางคำถามที่เขาแปล ความหมายผิด ผนวกกบั หนา้ ตาผิวพรรณซงึ่ บง่ บอกเชอ้ื ชาติ ไต้กง๋ หัวเราะเสียงดัง “ไอห้ มอ่ งน่ี อย่าไปทำอะไรมนั เรอื เขา้ ฝง่ั ค่อยไลม่ นั ไป ถา้ มนั ชว่ ยงานได้บา้ งก็พอคุ้มคา่ ข้าว” ทกุ คนเรยี กเขาไอ้หมอ่ ง แม้อายุเขาจะลว่ งเข้ายสี่ บิ ปลายๆ มากกวา่ ผมและคนงานธรรมดาเกอื บทัง้ หมด ผมพาเขาหอบกระเปา๋ เขา้ ไปนอนในเก๋งชัน้ สอง ไม่มที ที า่ ตืน่ กลวั ทะเล ไม่มอี าการเมาคล่ืน สีหน้าดูเครง่ ขรึม แตท่ ่วงทา่ ของเขาปราดเปรยี ว ปีนเขา้ ออกเกง๋ อยา่ งคนท่ีคนุ้ เคยกบั ชีวติ ในเรอื เขานำนกพิราบบาดเจบ็ ขน้ึ ไป ลา่ มเชือกไว้บนหลงั คา หลงั ช่วยงานหน้าเรอื อมิ่ อาหารแตล่ ะมอื้ เขาจะนำข้าวและนำ้ ขึน้ ไปส่ง หัวหน้างานไมไ่ ดเ้ คี่ยวกรำอะไรเขา เป็นแรงงานแถมพกได้มาฟรี เรอื ถงึ ฝัง่ ไต้ก๋งกจ็ ะไล่เขาไป เรือลำน้ี ไม่เคยมคี นงานพม่า แปลกปลอมมาคราวน้กี ็ถอื เป็นอบุ ัตเิ หตุ

ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 21 | ºÃóҸà นอนขา้ งกนั ผมไมไ่ ดป้ ริปากสอบถามอะไรเขา ไมว่ ่าทม่ี าทไ่ี ปหรอื ถนิ่ ฐานบ้านเดิม นอกจากเหตุผล ของการส่อื สารแล้ว หมอ่ งคอ่ นข้างเงียบ แววตาเหมือนผวิ นำ้ นิง่ สหี นา้ กเ็ รยี บเฉยราวกบั ไมร่ ูส้ ึกรู้สาต่อทุก สถานการณ์ ความสนใจของเขาพุ่งไปยงั นกพิราบบาดเจบ็ เขาอุ้มมนั มาจากไหน ชว่ ยเหลอื นกด้วยเหตผุ ลและ ความผกู พนั ใด ผมเองไม่สนใจเอ่ยถาม แม้กระท่งั บาดแผลของนกตัวนั้นผมก็ไมไ่ ดส้ ังเกต คิดเพยี งแคผ่ ่านๆ นกทีม่ ีปีก ถ้าร่างกายและปีกสองข้างของมันแขง็ แรงดีแลว้ ขอบฟ้าและทอ้ งทะเลกวา้ งก็หาได้เปน็ กำแพงขวางก้ัน วนั คืนอันยาวนานผา่ นไปกับเกลยี วคลน่ื และหยาดเหงอ่ื เรือลากอวนได้ปลาเต็มลำ ล่ิวตามลมล่องสูฝ่ ่ัง ที่จากมา คบื ใกลส้ ู่แผน่ ดนิ คุ้นเคย หม่องยัดเส้ือผา้ ทีย่ งั ไม่ซกั ใสก่ ระเปา๋ เขาเตรียมพรอ้ มจะจากไป นง่ิ รอจน กระท่งั ปา่ โกงกางชายฝั่งใกล้เขา้ มา เขาปีนข้ึนหลังคาไปปลดเชอื กท่ีล่ามขานกพริ าบ อุม้ มนั ลงมายนื นง่ิ ข้าง กราบเรอื สหี นา้ เคร่งขรึมทไ่ี ม่เคยยิ้มตลอดย่ีสิบวันดแู ช่มชืน่ ทนั ทีทีพ่ ิราบซงึ่ แขง็ แรงดีแล้วกระพอื ปกี บนิ จากไป เขาแหงนหนา้ มองตาม ขณะนกบินค้างลมก่อนลับสายตา ผมเห็นรอยยิ้มแรกของเขา ผมเฝ้ามองเงยี บๆ ขณะเพ่อื นลกู เรอื หลายคนหัวเราะ พวกเขากระเซ้ากนั “ไอห้ ม่อง... ไอห้ ม่องคนเล้ยี ง นก...” นอกจากไต้กง๋ ไม่ไลเ่ ขาพ้นจากเรือแลว้ ยังใจดจี า่ ยคา่ แรงใหเ้ ขาได้ซอ้ื เสบยี งส่วนตวั สำหรบั เรือเท่ยี วใหม่ ตลอด สีค่ นื ที่เรอื เทยี บฝง่ั สว่ นใหญ่หมอ่ งขลุกอยู่ในเก๋ง ขนึ้ ไปซอื้ ของกนิ ของใชก้ บั ร้านคา้ ใกลๆ้ กอ่ นเรือนดั รวมพล หนงึ่ วนั ผมเหน็ เขาเดนิ ออกจากร้านขายยา เขาขยับก้าวคอ่ นขา้ งเร็ว ด้วยท่าทีระมดั ระวัง สำหรับผมและลกู เรอื อืน่ ๆ คนพม่ามีใหเ้ หน็ ผ่านตามาก มาย ไมว่ ่าในเรอื ที่จอดเทียบข้างกัน หรอื เดินสวนทางลงเรอื ขา้ มฟาก บางคนข้ามแดนและเดินทางต่อจาก ทองผาภมู ิ สงั ขละ และท่อี น่ื ๆ แตไ่ มว่ า่ ท่ไี หนกต็ าม พวกเขาลว้ นเปน็ ไอห้ ม่องผนู้ า่ สงสาร บางคนปักหลักทำงาน กับเรือประมงลำเดียวไม่เคยยา้ ยไปทีอ่ นื่ ขณะอกี หลายคนทนงานหนกั ไมไ่ หวหลบหนไี ปสมู่ หาชะตากรรมอันไม่ อาจคาดหมายล่วงหนา้ งานหนา้ เรือไมต่ อ้ งใช้พรสวรรค์หรอื ศิลปะซับซ้อน ทนเหน่อื ยและเจบ็ ได้ ไม่รงั เกยี จกล่นิ คาวปลาและ คราบสกปรก ทนคล่นื สาดและสายฝนยามดึกไดด้ ว้ ยตน้ ทนุ ทางรา่ งกาย ในฐานะสว่ นเกินและของแถม ไอ้หม่อง จึงทำไดด้ ีเกินคาดในสายตาของทกุ คน เขาสอ่ื สารดขี ึ้น อยา่ งนอ้ ยก็พูดจาร้เู ร่ือง ไมม่ ีทางท่เี ขาจะพดู ภาษาไทยไดช้ ดั เหมอื นลกู เรืออ่นื ๆ ผมเริ่ม พดู คุยกนั เขา ในอีกเท่ยี วเรอื ทเี่ ข้าฝั่งมหาชัย กอ่ นออกส่นู า่ นนำ้ ตา่ งแดนและเข้าฝ่งั หัวเมืองทางใต้ ทุกคนใน เก๋งหลับ เรือแล่นฝ่าลมหนาวข้นึ เหนอื ในแสงยามบ่ายที่แทงลอดหนา้ ตา่ งเขา้ มา ผมลืมตาขนึ้ มอง หมอ่ งนอน ไขวห่ ้างเปดิ หนงั สอื เล่มหนาออกอา่ น เขาจ่อมจมไปกบั หนังสอื ไม่ระแวงวา่ ใครจะแอบมอง ตวั อกั ษรบนหน้าปกไมใ่ ชภ่ าษาพม่า เป็นเล่มท่ผี ม เคยเหน็ รปู ปกผ่านตาจากนิตยสาร จากความสามารถอา่ นภาษาองั กฤษไดใ้ นระดบั พน้ื ฐาน เพยี งแวบเดียวผมก็

ºÃóҸà | 22 ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 รวู้ ่าหมอ่ งกำลังอา่ นนยิ าย วนั ค้นกระเป๋านอกจากเส้อื ผ้าและของใช้แลว้ เจอปึกกระดาษแข็งๆ ที่ไมใ่ ช่อาวุธ ทำร้ายคนผมจงึ ปล่อยผ่านไป เปน็ ครง้ั แรกทผ่ี มเห็นลกู เรือพม่าอ่านหนังสือ แนใ่ จวา่ ในกระเปา๋ มีอีกหลายเลม่ ท่ีเขาจะทยอยนำออก มาอา่ น ผมเองก็มีหนงั สือนยิ ายสามส่เี ลม่ หมอ่ งเคยแอบจ้องขณะผมนอนอ่าน หนังสอื เป็นสงิ่ ท่ีเราไมอ่ าจแบง่ ปนั แมผ้ มอา่ นภาษาองั กฤษได้บา้ ง แตไ่ มเ่ จนจดั มากพอจะแปลความหมาย หนงั สือของผมภาษาไทยล้วนๆ หมอ่ งอ่านมันไม่ออกเช่นเดียวกัน เทีย่ วเรอื นนั้ พ่อครัวถูกมดี บาดมอื ปงั ตอทเี่ คยใช้งานหงายคมบาดผู้เปน็ เจา้ ของ แผลจากท้องแขนยาว ไปเกือบถึงองุ้ หัวแม่มือ นายทา้ ยรบั บทหมอจำเป็นหยบิ ขวดทงิ เจอร์จากตยู้ า เปดิ ฝาแลว้ เตรียมราดไปท่แี ผล หม่องซ่ึงยนื จอ้ งอยู่ไม่ไกลขน้ึ เสียงหา้ ม “อย่า...” เขาพดู ไมช่ ัดแต่ส่ือความหมายได้ “อย่าทำแบบนั้น” นายท้ายชะงักกับเสยี งบอกหา้ ม หม่องขยับเขา้ ไปดูแผลบนท้องแขนของพ่อครัว จากน้นั เขากลบั ไปยงั เก๋งท่นี อน เปดิ กระเปา๋ นำเข็ม ไหมเย็บแผล สำลี ผา้ ก๊อซ และยาแกอ้ กั เสบอีกชดุ เขาใชน้ ำ้ อนุ่ เชด็ รอบๆ ปากแผล แลว้ จดั การลงมือเยบ็ สด พ่อครวั ร้องเสยี งหลงและทำหน้าเหยเกไป พักเดยี วก็สงบ เขาเย็บแผลอยา่ งคลอ่ งแคลว่ ไม่กี่วันแผลบนมือของพ่อครัวกแ็ หง้ หลังหมอ่ งจดั การตัดไหมให้ แล้ว พ่อครัวเปลยี่ นสรรพนามเรยี กขาน จาก ไอ้หมอ่ ง เปน็ หมอหม่อง ภายหลงั ทเี่ ขาเหลาไม้ไผเ่ จาะคอใหเ้ พ่ือนลูกเรือซง่ึ เกอื บจะขาดใจตาย นำสายยางเลก็ ๆ จากห้องเครอื่ ง มาฆ่าเช้อื และทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นเปน็ ท่อหายใจ ช่วยดดู เสมหะและดแู ลบาดแผลอย่างใส่ใจ และภายหลงั ที่เขาเยบ็ แผลสดให้กับอกี หลายคน สายตาท่ีมองเขาเปล่ยี นไป เชน่ เดยี วกบั สรรพนามเรยี กขาน ...หมอหมอ่ ง กลางทะเลทโี่ หดร้ายด้วยกระแสคลน่ื และวันคนื ทไี่ ม่รชู้ ะตากรรม ลกู เรือนักเทยี่ วรายหนงึ่ ติดเช้อื หนองในชนดิ รนุ แรง ทนทรมานกบั ความปวดแสบยามปสั สาวะโดยไม่ปรปิ ากบน่ จนกระท่งั อาวุธประจำกาย เกิดบวมแดง ยืนปัสสาวะแต่ละครั้งต้องกอดเสาขา้ งเรือไวแ้ น่น แล้วสารหลง่ั จากรา่ งกายทพี่ งุ่ ออกมากลายเปน็ เลือด หม่องไม่มียาอ่ืนนอกจากแกป้ วดแกอ้ ักเสบ รอจนเรอื ถึงฝง่ั เขาแนะนำนักเทีย่ วซุกซนไมค่ วรไปซือ้ ยา กินเอง หม่องพาเขาไปรา้ นขายยา ซื้อท้งั ยาฉดี และไซรนิ จ์แลว้ จัดการฉดี ให้เพ่อื นลูกเรือ “มือเขาเบามาก” ลกู เรือนกั เทยี่ วกลา่ วชม “ปักเข็มแทงเรง่ ยาฉีดแลว้ ถอนออกไป ไมร่ สู้ กึ เจบ็ เลยสกั นดิ เดียว” “หมอหม่อง...” ใครต่อใครเรียกเขาอย่างให้เกียรติ และหลายคนก็ได้พ่งึ พาความร้ทู างการแพทยข์ อง เขา จากลกู เรอื ของแถม ยกระดับเปน็ บคุ ลากรสำคัญของเรอื เช้าวันที่ไตก้ ๋งยกแขนไม่ขน้ึ เอ้ยี วคอไม่ถนัด แกให้คนมาตามหมอหมอ่ ง ผมไม่เหน็ ดว้ ยตาว่าเขาจดั การ กบั ความผิดปกตทิ างกายของไตก้ ๋งอยา่ งไร ทกุ เช้าหมอหมอ่ งจะเขา้ ไปดแู ลไต้ก๋งจนคอและไหล่ของแกหายเปน็ ปกติ

ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 23 | ºÃóҸà “ไอ้หมอหม่องนี่ ไมธ่ รรมดา” ไตก้ ง๋ เอ่ยปากชม ผมไมม่ อี ะไรตอ้ งพงึ่ พาหมอหมอ่ ง แต่ความมสี มาธใิ นการอา่ นหนังสือของเขา สรา้ งแรงบันดาลใจแก่ผมเป็นย่งิ ไม่วา่ ในยามคลื่นโยก ทะเลเรียบ หรือแสงแดดส่องสาดเขา้ มาในเกง๋ เขาสงบอยกู่ บั หนงั สอื ในมือ แม้เปน็ เลม่ เก่า ที่เขาอ่านจบไปหลายรอบแลว้ ก็ตาม เขา้ ฝ่ังสงขลา ปัตตานี หรือหวั เมืองอืน่ ผมกระต้นุ ให้เขากล้าพอจะขึ้นฝ่งั เราตามลา่ หาหนังสอื อา่ นตาม รา้ นชน้ั นำ และแหล่งค้าหนังสือเกา่ สำหรับผมไมใ่ ช่เรอ่ื งยากท่จี ะไดห้ นงั สอื กลับเรือไปเต็มกระเป๋า หม่องแทบ ไมม่ ที างเลอื ก นานๆ จะเจอนยิ ายภาษาอังกฤษในแหล่งหนงั สือเก่าบนเกาะท่ีเรือเขา้ ไปจอดหลบลม เขาโผ เขา้ ไปคว้าไว้เหมอื นฟางเสน้ เดียวในสายนำ้ นานเกอื บครง่ึ ปกี ว่าเรอื จะกลบั ทา่ ฉลอม ขึ้นปลาแลว้ เสร็จผมจะเดนิ ทางเข้ากรงุ เทพฯ หมอหม่องจด รายชื่อหนงั สือทเี่ ขาอยากอ่านพร้อมฝากเงนิ ซื้อ “ถา้ เจอหนังสอื พิมพ์ภาษาอังกฤษกซ็ ้อื มาดว้ ย” เขายัดเงินค่าแรงทเ่ี พิ่งได้รับใส่มือผม ผมเคยใช้ชีวติ ในกรงุ เทพฯหลายปี คุ้นเคยแหล่งหนังสอื แรกผมด้นั ด้นไปวังบรู พา ต่อดว้ ยรา้ นดวงกมล สยามสแควร์ ได้พ็อกเก็ตบกุ๊ และหนงั สอื พิมพ์รายวันกลบั มาฝากหมอหม่องหลายสิบเล่ม เขายิม้ กวา้ งเกอื บสุด มมุ ปาก จับมือผมเขย่า ผมจอ้ งตาเขาตรงๆ “หมอไมต่ ้องกลวั จะไม่มีหนงั สืออา่ น” ผมพูด “เท่ียวนเ้ี รอื ไปไกล ถา้ เข้าฝั่งสงิ คโปรก์ ห็ าซอื้ หนังสือ ภาษาองั กฤษได้ไมย่ าก” เขายม้ิ อกี ครงั้ ด้วยแววตาเป่ียมประกาย “เราจะขน้ึ ฝ่งั ไปดว้ ยกนั ” ผมยิ้มให้เขา “คอ่ ยสอบถามเพ่อื นลูกเรือทีเ่ คยข้ึนฝ่ังสิงคโปร์ก่อนวา่ มรี า้ นหนงั สือใกล้ๆ ทา่ เรอื ตรงไหน บ้าง” ระหวา่ งเรอื ออกเดินทาง เรานอนอา่ นหนงั สอื กนั อย่างเพลนิ ใจ ในกระเปา๋ หมอหม่องนอกจากหนังสือ เขายงั ซ้ือยาตนุ ไว้ ทงั้ ยาสมานแผล ยาแก้ปวดแก้ไข้ ยาฉีดรักษาโรคหนองใน แผลริมอ่อน และยาฆา่ โลน เพอ่ื นลกู เรือนักเทยี่ วเคยปรกึ ษาเขา หลังเกดิ อาการคันใตร้ ่มผ้า สอ่ งดแู ล้วพบสัตวป์ ระหลาดตัวเลก็ จว๋ิ แซมดงขนเพชร หมอหมอ่ งบอกเป็นภาษาพมา่ กอ่ นจะออกเสียงภาษาไทยตามทผี่ มสอน “โลน...ตัวโลน” ผมบอก เท่ียวน้นั เขาพาลกู เรอื ติดโลนไปรา้ นขายยา จ่ายไปเพยี งสองบาทกไ็ ด้ยามาหลอดใหญ่ ยาแกห้ ิดเหาของ องคก์ ารเภสชั ทาบรเิ วณจดุ ยทุ ธศาสตร์สำคญั เพียงไมก่ ่ีครง้ั ลกู เรอื นักเที่ยวก็ยม้ิ รา่ “หมอหม่องนเ่ี กง่ จรงิ ๆ” หมอหมอ่ งนอนอา่ นหนังสือ นานๆ จะหยดุ พกั หันยิม้ มาทางผมพร้อมแววตาชื่นชม เขาคงนึกไมถ่ งึ ว่า ลูกเรอื ธรรมดาอย่างผมจะร้จู กั วรรณกรรมตา่ งประเทศ หนังสือภาษาอังกฤษทั้ง ดร.ชิวาโก และนยิ ายคลาสสิก

ºÃóҸà | 24 ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 ของ ลีโอ ตอลสตอย ฟโี อดอร์ ดอสโตเยฟสกี้ เฮมิงเวย์ ไมไ่ ด้อยูใ่ นรายการทเี่ ขาจดให้ เป็นผมเลือกซอื้ ใหเ้ ขา เองจากทุนท่ีเหลอื เรือแล่นลงใต้ ทิง้ ชายฝ่ังและหัวเมอื งตา่ งๆ ของไทยไวข้ ้างหลัง ผา่ นนา่ นน้ำมาเลเซีย เลียบเกาะน้อย ใหญ่ซ่งึ ผมไมร่ ู้ชอ่ื เราทำงานหนา้ เรอื กลางสายฝนและคล่นื ลมแรง แลว้ กลางดกึ คนื หน่ึงหมอหม่องตอ้ งรกั ษา แผลใหก้ บั ตวั เอง แรงคลื่นเหว่ยี งเขาเสยี หลกั ลม้ ลง ซกี หน้าด้านซา้ ยกระแทกเขา้ กบั ขอบกระดานฝาหอ้ งดองปลา โหนกแกม้ แตกเปน็ แผลลกึ และยาวเกือบส่ีนว้ิ เขาไม่อาจเย็บแผลให้กับตวั เอง ผมช่วยไดเ้ พียงใชผ้ ้าสะอาดซบั น้ำอุ่นเช็ดรอบๆ เขากินยาแกอ้ กั เสบ แล้วรอให้แผลบนซีกหน้าแห้งหายไปดว้ ยตัวของมันเอง เรอื ลากอวนใกลเ้ กาะ ผมกับเขาตะลงึ มองเหยย่ี วทะเลตวั โตโฉบปีกร่อนลงจิกปลาหา่ งเรือออกไปเพยี ง ไม่ถงึ ยีส่ บิ เมตร พลงั อันมหาศาลของปกี สองข้าง นอกจากพารา่ งของมนั บินตำ่ ลงสผู่ ิวนำ้ แลว้ ทนั ทีทป่ี ากคาบ เหยอ่ื ได้มนั่ คง มันโผบินสงู ขึ้นไป ดวงตาสองคู่ของเรามองตามเหยยี่ วทะเล มันบนิ สวนทางกระแสลมเกร้ยี ว แล้วตดั ทอ้ งฟ้าสู่จดุ หมาย ท่เี ราสองคนไม่มีทางรู้ หมอหมอ่ งคอ่ ยๆ หนั มาสบตาผม ผงกหวั ย้ิมๆ ดว้ ยแววตาครนุ่ คิด ท้ังเขาและผมต่างรับรถู้ ึงความ องอาจสง่างาม และสองปกี แขง็ แกรง่ ของเหยยี่ วทะเล มวลหม่นู กไร้นามชอบบนิ หลงมาพกั บนหลังคาเรอื หายเหนื่อยแล้วกพ็ ากันขยบั ปกี บินจากไป ทิง้ ไว้ เพียงนกบาดเจบ็ ตวั เลก็ ๆ ทีไ่ ม่อาจฝ่ากระแสลมไปสคู่ าคบบนเกาะ หมอหม่องเป็นคนพบมันบนหลงั คา เขาใช้ เชอื กลา่ มขามนั ไว้ ตรวจดูพบบาดแผลใตโ้ คนปกี ทงั้ สองขา้ ง นกสเี หลือง ตาเศรา้ ของมนั แฝงท้งั ความกลวั และหวาดหวน่ั แรกท่เี หน็ ผมเกือบมน่ั ใจวา่ เปน็ เจ้าหงส์หยก พศิ ดลู ะเอียดแล้ว ผมโคลงหวั ชา้ ๆ ไมใ่ ช่หรอก มนั เปน็ นกไร้นาม ไมว่ ่าผม หมอหมอ่ ง หรอื มนุษย์คนไหนกไ็ มค่ วร ไปตงั้ ชือ่ ให้มัน เราผ่านวนั คนื ในทะเลตา่ งแดน บาดแผลใต้โคนปีกของเจ้านกนอ้ ยไร้นามหายเกือบสนทิ หมอหมอ่ ง ยังล่ามมนั ไว้ เขาทายาสมานแผลและให้อาหารมัน รุ่งเช้าทเี่ รือแลน่ สู่ฝงั่ สงิ คโปร์ เขากุมมนั ไวด้ ว้ ยสองมือ ผมจอ้ ง ดนู ยั นต์ าเล็กๆ ซึง่ ดูสงบ คลา้ ยมนั คุ้นเคยกับกล่นิ กาย วงแขน และจติ ทเ่ี มตตาของหมอหม่อง เรอื เข้าใกลฝ้ ั่ง หมอหมอ่ งกระตุน้ นกนอ้ ยให้ขยบั ปีก จบั ขาสองขา้ งของมนั ถ่างออก ประเมินเรย่ี วแรง และความทะเยอทะยานของมัน พร้อมความแขง็ แรงของสองปลายปีก ทนั ทที ี่เขาปลอ่ ยมือ นกตวั นอ้ ยเกอื บพงุ่ ลงสูผ่ วิ น้ำ ตง้ั หลกั ได้มันขยับปีกแล้วพาตวั เองโผบนิ ขึน้ สงู ในกระแสลมออ่ น และใต้ท้องฟ้าเกล่อื นเมฆ เจ้านก ตวั เลก็ ๆ โผพงุ่ สูฝ่ ัง่ เมอื งแลว้ ลบั หายไป หมอหมองยม้ิ กวา้ ง คอ่ ยๆ หันมาสบตากับผมด้วยประกายของความสุข ทา่ เรือจูลง่ และฝ่งั แปลกหนา้ แฝงความประหวน่ั เปน็ เหมอื นหนังสือทีผ่ มไมเ่ คยเหน็ ไม่แน่ใจในเนือ้ หา และเปน็ ประหนง่ึ โลกลึกลับซงึ่ ไมอ่ าจคาดเดาอะไรได้ เรือข้นึ ปลาเสร็จรับเงนิ ตกเบกิ จากไต้ก๋งแล้ว จดุ หมายท่ี

ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 25 | ºÃóҸà เคยจดไว้ในใจเปล่ียนไป ผมขอข้ึนไปเดนิ สำรวจตามลำพงั ก่อน อย่างนอ้ ยผมก็มีสมดุ ประจำตวั คนเรอื หากตำรวจ สิงคโปร์จะขอตรวจคน้ หมอหมอ่ งยิ้มขรึมพลางหยิบหนงั สอื ตดิ มอื พรอ้ มเปิดอา่ น กอ่ นผมจากไป หมอหมอ่ งนอนใตแ้ สงไฟในเกง๋ เปดิ หนงั สืออา่ น ผมตะโกนบอกเขาก่อนหย่อนตวั ลง จากเก๋ง “ไปไมน่ านหรอก ถา้ เจอรา้ นหนงั สอื ใกลๆ้ ทา่ เรอื เราคอ่ ยข้ึนฝ่งั ไปพร้อมกนั ” ผมไมเ่ จอรา้ นหนงั สือ แวะแหล่งน้ำเมาและร้านอาหาร เกอื บสามชว่ั โมงคอ่ ยกลับลงเรือพร้อมกล่นิ แอลกอฮอลจ์ างๆ ในเกง๋ จุดท่ีหมอหม่องนอนอ่านหนังสอื ว่างเปล่า กระเป๋าใบใหญ่ของเขาหายไป ตรงหัวนอนขา้ งกระเป๋า ของผมมหี นังสอื ภาษาองั กฤษวางไว้ The Count Of Monte Cristo By Alexandre Dumas ผมหยิบมาเปิดดูหนา้ แรก ลายมือหมอหมอ่ ง เขยี นท้งิ ไว้ For my best friend ผมและคนอืน่ ๆ ในเรอื ไม่มีโอกาสมองเขาเดินจากไป แนน่ อน ยอ่ มแตกตา่ งไปจากนกบาดเจบ็ ทกี่ ลบั คนื สคู่ วาม แขง็ แรงแล้วเหินบินด้วยปีกแกรง่ มนษุ ยส์ ามญั ไมอ่ าจบนิ ไดเ้ ยยี่ งนก นอกจากจิตวิญญาณแหง่ อสิ รภาพของ ชายผู้หนงึ่ ซ่งึ อาจพาตัวเองไปไดไ้ กลแสนไกล หมอหม่องอาจเป็นย่ิงกวา่ นกเหยีย่ วฉกาจกลา้ ปกี แกร่งแห่งความหา้ วหาญฝา่ ไดท้ ุกกระแสลม ไมว่ ่า มรสมุ แห่งท้องทะเล เมฆฝนกลางท้องฟา้ และโลกกว้างซงึ่ ซ่อนความหมายอนั ซับซอ้ นรอให้เขาคน้ หา ลูกเรอื นักเท่ียวบ่นถงึ เขาในหว้ งยามติดเช้อื มาจากแหลง่ ค้ากาม ไต้ก๋งก็เช่นเดยี วกนั ทกุ ครัง้ ที่อาการเกา่ กำเรบิ ยกแขนและเอยี้ วคอไมส่ ะดวก ปีถดั มาผมถกู สมอทบั ขา เลือดไหลทะลกั ตามแผลยาวซงึ่ ฉีกขาดจากหนา้ ขา ไปจนถงึ หลังเทา้ ระหวา่ งนอนเจบ็ หยบิ จับหนงั สือทีไ่ มอ่ าจเปิดอ่าน ผมคดิ ถงึ หมอหม่องจบั ใจ หากเขาอย่ดู ว้ ย บาดแผลฉกรรจ์ของผมคงได้รับการดูแลอย่างดี แม้มอื ของเขาจะสากกรา้ นจาก งานหนกั แต่ยามทต่ี ้องเย็บแผลให้คนอ่นื ทุกเข็มทรี่ อ้ ยไหมเขาทำไดช้ ำนาญ แผว่ เบา ประณตี และท่สี ำคญั ย่ิง เขาปฏิบตั ติ อ่ เพื่อนลกู เรือผ้บู าดเจบ็ อยา่ งใสใ่ จ ไมม่ งุ่ หวงั ท้งั ผลตอบแทนและคำขอบคุณ เสมอื นหน่งึ เป็นหนา้ ที่ ของหมอทตี่ อ้ งชว่ ยเหลือคนอ่ืน หมอหม่องจากเราไปแลว้ ลับหายไปกับฝัง่ สงิ คโปรไ์ มต่ า่ งกับนกสเี หลืองตวั เลก็ ๆ ท่เี ขาปลดปลอ่ ย ไม่มใี ครในเรอื ร้ขู า่ วคราวของเขาอีกเลย และวนั คนื ก็กลืนชีวิตของเราไปกับคลนื่ ลม บาดแผล งานหนกั และ กรงขงั ของทอ้ งทะเล

ºÃóҸà | 26 ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 ผมหันหลงั ใหก้ ับทะเลและเรอื ประมงพร้อมแผลเปน็ โปนใหญ่บนหลงั เท้า หวนกลับกรงุ เทพฯ ไดง้ าน รักษาความปลอดภัย เป็นทางเลือกไมม่ ากของคนในวยั เกนิ สามสบิ และมันคือรายไดท้ ่พี อจะเล้ียงชวี ิตโดดเด่ียว ของผมใหอ้ ยูร่ อด เสมอื นหน่ึงนกทะเลหวนคนื ฝ่ัง ซุกปกี นอ้ ยๆ กบั คาคบแปลกหนา้ กลางปา่ คอนกรตี หนงั สอื หลาย ร้อยเลม่ ท่ีผ่านการซมึ ซับค่อยๆ เปดิ ฟา้ กวา้ งแหง่ ฝนั และตดิ ปีกคู่ใหมซ่ ึ่งงอกจากข้างใน ผมคอ่ ยๆ เรียนร้เู พ่ิมเติม การอา่ นคบื หนา้ ไมว่ ่าวรรณกรรม ประวตั ศิ าสตร์ การเมือง และสารคดี หลากรส น่ันทำใหผ้ มหวนย้อนไปทำความเข้าใจกับการเมืองในประเทศพม่า และการเดินทางของนายแพทย์ คนหนึง่ ทีพ่ าปีกฝันบาดเจบ็ บินหลงทางมาตกทะเล ผมคิดและวเิ คราะห์ไดเ้ องว่าไอ้หม่องเพื่อนเก่าไม่ใช่นกั ศกึ ษาแพทย์ จากขวบวยั และความสุขุมเยือกเยน็ ของเขา หากไมใ่ ช่หมอธรรมดาตามโรงพยาบาล เขากอ็ าจเป็นถึงอาจารยแ์ พทยใ์ นมหาวิทยาลยั เปน็ หนึง่ ในคนพมา่ รนุ่ ใหม่ทีต่ กอยู่ใตก้ ารปกครองของการยึดอำนาจกอ่ นพวกเขาจะเกิดลืมตาดูโลก เตบิ โตมากับรัฐบาลเผดจ็ การซง่ึ คิดแทนและบรหิ ารทกุ สิ่งใตข้ ้อบงั คับทเ่ี ข้มข้น ทหารใหญ่และชนชั้นนำยึดกุม ผลประโยชน์ชาตเิ อาไว้ท้ังหมด ไมว่ ่าเหมอื งหยก สนิ แร่ อญั มณี ปา่ ไม้ และทรัพยากรอืน่ ๆ ประชาชน คนสว่ นใหญก่ ลายเปน็ เพยี งผูอ้ าศยั ตอ้ งปฏิบตั ติ ามคำส่ัง ไม่มสี ิทธ์ออกความเห็น โต้แยง้ วพิ ากษว์ ิจารณ์ และ เลือกผูป้ กครอง คา่ เงินตกตำ่ เศรษฐกจิ ย่ำแย่ ผู้คนยากจนตกงาน สถานะของประเทศยอ่ ยยบั ในสายตานานาชาติ ยากจนตดิ อันดับโลก กลายเปน็ ประเทศท่ไี รอ้ นาคต เมอ่ื ถงึ ทีส่ ดุ ของการจำยอม นกั ศกึ ษาและประชาชนพร้อม กันลุกฮือข้ึนเรียกร้องประชาธิปไตย แลว้ ในกลางปี 2531 พวกเขากถ็ ูกรฐั บาลปราบครั้งใหญ่ นอกจากบาดเจบ็ และล้มตายเปน็ จำนวนมากแลว้ ผทู้ ่ีรอดชวี ติ หลบหนีออกนอกประเทศ ผมย้อนไปอา่ นเหตุการณ์ปฏิวตั ิ 8888 (วนั ที่ 8 เดือน 8 ปี 1988 หรือ Four Eights Uprising) ในพม่า และการสงั หารหมู่ 21 กันยายน 2531 หมอหม่องมาแอบซุกตวั ในห้องเกบ็ อวนช่วงกลางเดือนตุลาคมปีเดียวกนั ภายหลังหมอหมอ่ งหายลับไปกบั ฝงั่ สิงคโปร์ อีกเกอื บเจ็ดปตี ่อมาผมถึงไดอ้ า่ น เคาท์ มองเต ครสิ โต ฉบับแปลไทย ผมคิดถงึ เขา คำนวณเสน้ ทางนายแพทย์หน่มุ ซง่ึ หนกี ารปราบปรามจากแผน่ ดินเกดิ สู่ทะเลกว้าง พร้อมนกพริ าบบาดเจบ็ กระโจนหายขน้ึ ฝ่ังเกาะหลังปลดปล่อยนกน้อยสเี หลืองสอู่ สิ รภาพ แรกผมเป็นหว่ งและกงั วลเพือ่ นเกา่ ทเี่ คยนอนอา่ นหนังสอื เคยี งขา้ ง ครนั้ นึกถึงความรคู้ วามสามารถ ทเี่ ขามีเหนอื ลูกเรือธรรมดาอย่างผมหลายเทา่ แล้ว หมอหม่องคงเอาตวั รอดได้ หากไม่ทำเรอ่ื งขอล้ีภยั ที่สิงคโปร์ เขาอาจเดนิ ทางตอ่ ไปยงั ฝร่งั เศสหรืออเมรกิ า ปลายปกี แห่งกาลเวลาโผบินเรอ่ื ยไป ข้ามทศวรรษแล้วทศวรรษเล่า การเมืองทั้งในไทยและพม่า เกิดการพลกิ ผนั หลายตลบ ขณะไทยตกอย่ใู ตร้ ัฐประหารและการสบื ทอดอำนาจ พมา่ กลับมกี ารเลอื กตั้งทว่ั ไป ประชาชนสว่ นใหญข่ องพวกเขาเททง้ิ พรรคการเมอื งทหารอยา่ งไมไ่ ยดี

ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 27 | ºÃóҸà คร้นั แลว้ ความหวงั และสิทธิเสรีของประชาชนพม่าดับวบู ลงอีกครั้ง มนิ ออ่ ง หลา่ ย สวมวิญญาณ นายพลเนวนิ และซอหม่อง ยดึ อำนาจการปกครองอกี คำรบ ผมจำเขาได้ แม้เวลาจะผ่านไปนานกว่าสามสบิ ปี หมอหมอ่ งในวยั ชราน่งุ โสร่งลาย เสื้อคอเปิดสีขาว ผมสนั้ เกรียนหงอกขาวโพลนไปทุกเสน้ กล้องวดิ โี อทีถ่ า่ ยรูปซูมใกล้จนแลเห็นแผลเป็นทโี่ หนกแกม้ ซา้ ย เขายนื จงั กา้ เผชญิ กบั แถวทหารทีเ่ คล่อื นเข้าหาพร้อมอาวธุ ครบมอื ในสถานการณท์ ีไ่ ม่อาจย้มิ ได้ แต่หมอหมอ่ งแสยะปากยม้ิ เหมือนเย้ยหยนั โลกทั้งโลก ต่างไปจากรอยยม้ิ ตอนที่เขาปลอ่ ยนกบาดเจ็บบินสู่อสิ รภาพ ในวินาทีเชน่ นี้เขาเป็นยง่ิ กวา่ เหยี่ยวทะเลที่กางสองปีกออกกวา้ งสดุ เหยียด ดา้ นหลงั ของเขาเปน็ กลมุ่ ประชาชนท่อี อกมาตอ่ ต้านเผดจ็ การมนิ อ่อง หลา่ ย ท้ังคนหนมุ่ สาว ชายหญิงวยั ชรา สตรีและเดก็ ๆ หมอหมอ่ ง เอาตัวยนื ขวางไวเ้ ปน็ กำแพง คลิปวิดโี อส้นั ๆ ในภาพข่าวก็หายไปจากจอโทรทศั น์ ผมจำตดิ ตา และภาพท่ีหายไปสะเทอื นถงึ ราก ความรู้สึก ...หมอหม่องเซถลาตามแรงฟาดของพานทา้ ยปืน แล้วหงายตงึ ลม้ ลงดว้ ยแรงกระหน่ำซ้ำของกระบองยกั ษ์ ในมอื ทหารหนุ่ม ผมจำเขาได้... ใช.่ .. ใชเ่ ขาอยา่ งแนน่ อน...

ºÃóҸà | 28 ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 ผีแมน่ ้ํา นรเศรษฐ์ ทบั ทมิ ทอง 1 ทา่ มแสงจนั ทรก์ ระจา่ งกลางฤดรู อ้ นอันอบอา้ ว ลมแมน่ ้ำนิง่ สงัด เสียงจว้ งนำ้ จากตมุ่ กระเซ็น กระทบพน้ื ดงั อยูซ่ ซู่ า่ สลับกับเสียงลบู ไล้ฟองสบ่ลู ื่นๆ บนผิวกาย เขยี ดฮำเพลงเบาๆ ในลำคออย่างเอ้อระเหย สองมือชอนไชลูบไล้ไปใต้ผ้าถุง ชำระลา้ งคราบเหงือ่ ไคล บางจงั หวะ แก้ปมผา้ ทเี่ หนืออกออก สะบดั ซา้ ยที ขวาที มือล้วงลึกลงขดั ถสู องเต้ากำดดั ผ้าถงุ เปยี กแนบเน้ือ ช่วยขบั เนน้ หลังไหล่อนั เปลือยเปล่า และเนนิ อกขนาด กระทดั รัดสีนำ้ ผงึ้ ใหย้ ิง่ เปล่งประกายสะท้อนแสงจนั ทร์ นกกลางคืนร้องละเมอ ขานรับกนั ไปมาบนยอดไม้ รอบๆ บริเวณ ฟังไหวหวามจบั ใจ ขณะกำลังเพลิดเพลนิ เสียงขา้ วของทกี่ องระเกะระกะอยใู่ ต้ถนุ บา้ นล้มลง ขวดเปล่าขวดหนงึ่ กลิง้ หลนุ ๆ ออกมาจากพวก เขียดเพยี งแต่ปรายตามอง สังเกตในมมุ มืดน้ัน คล้ายมีเงารา่ งของใครคนหนง่ึ ซมุ่ ซ่อนอยู่ เด็กสาวอมยิ้มอยใู่ นแววตา 2 ข่าวลอื เรื่องผพี รายสาวออกอาละวาดในหมู่บา้ นหนาหูขึ้น บา้ งกว็ า่ เป็นนางเงอื กผี จากคำบอกเลา่ ของศกั ดิ์ ชายหาปลาประจำถ่นิ ท่ีชาวบา้ นต่างใหค้ วามนบั ถอื ในฝไี มล้ ายมอื คนหนุ่ม หลายรายแลว้ ท่เี สียชีวิตลงอยา่ งเป็นปริศนา รอยเขยี้ วเลก็ ๆ บนลำคอขนาดเทา่ หวั ไมข้ ีดปรากฏหลักฐาน ชัดเจน สง่ิ ทช่ี วนฉงนฉงายอีกอยา่ งหนงึ่ กค็ อื ใบหนา้ ของแต่ละศพ คล้ายประดับไปดว้ ยรอยพงึ ใจ “รา่ งมนั คลา้ ยงู มีเมือกเหลวตลอดท้ังตวั ทอ่ นบนขน้ึ มาคล้ายรา่ งผูห้ ญงิ มเี กลด็ เขยี วๆ มว่ งๆ เป็น ประกายวบิ วับตามผวิ หนงั ผมยาวลากพื้นทราย ใบหน้าซดี ขาว เล็กพอๆ กบั คบตาลนแ่ี หละ คนื นนั้ ฉันไป วางเบ็ดเหมือนอย่างเคย จๆู่ คล้ายกลิน่ หอมแปลกๆ โชยมาตามลม กเ็ อะใจอยู่ ไม่เคยไดก้ ล่ินแบบนี้ สา่ ยตา หาท่มี า ขนลุกเกลยี ว ตรงเนินดนิ ตนี ท่า รา่ งหนึง่ กำลงั นงั่ แปรงผมอย่างสบายอารมณ์ ฉันเห็นแค่น้นั ก็ไม่รออะไร แลว้ รีบเผ่นออกมาเลย ” ศักด์ยิ ืนยันในส่ิงที่ตนพบเจอให้กบั ชาวบา้ นทล่ี อ้ มวงฟงั พรอ้ มกระหวัดใจนึกไปถึงเรอื่ งเลา่ เกา่ แก่ ของชนชาวแม่น้ำท่เี คยได้ยินมา

ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 29 | ºÃóҸà 3. บ้านไมย้ กใตถ้ นุ สูง สภาพกลางเกา่ กลางใหม่หลงั หนึง่ อย่หู ่างจากตนี ท่าออกมาเล็กนอ้ ย ดา้ นหนา้ ตดิ กบั ถนนสายเลก็ ๆ ซงึ่ อยหู่ า่ งจากตวั บ้านออกไปอกี ชว่ งตัว ถูกสรา้ งเปน็ เพงิ สงั กะสีไว้ขายก๋วยเต๋ยี ว นุชนั้นขยันทำมาหากนิ ไมร่ ีรอใหค้ วามว่างเปลา่ มาครอบงำวนั คนื ซงึ่ เอาแต่จะลว่ งเลย เช้าขายก๋วยเต๋ยี ว บา่ ยคล้อยพอของหมด ลกู คา้ ซา ก็ลงแปลงผัก แปลงขา้ วโพด ทป่ี ลกู ไวเ้ หนือตลง่ิ หลังบา้ น หาบนำ้ ใส่กระแปง๋ ขึ้นรด คอยดแู มลง ถากถอนวัชพืช เก็บดอกแค ดอกโสน ที่ขึ้นตามตลิง่ แบ่งขายบ้าง แจกบ้าง กว่าจะเข้าบา้ น กแ็ ดดร่มลมตก จากนัน้ จะเหน็ กลุม่ ควันลอยออกมาจากหลงั คาครวั พร้อมกลิน่ ฟนื ไฟ กลน่ิ กับขา้ วกับปลาหอม ตลบอบอวล หลังสามตี าย นชุ ครองโสดมาได้สห่ี รือหา้ ปี เธออยกู่ ันสองคน กับเขียด ลกู สาวซ่งึ กำลังกา้ วเขา้ สวู่ ัยรุ่น ทำงานหาเลี้ยงครอบครัวด้วยหยาดเหง่ือแรงกายของเธอเองแตเ่ พียงผ้เู ดียว จนกระทงั่ ได้มาเจอกับศกั ดนิ์ ั่นแหละ ความเหน็ดเหนื่อยจึงดูเหมือนผ่อนเพลาลง ดว้ ยศกั ดนิ์ ั้นเปน็ ทร่ี บั รู้ กันดขี องชาวบา้ น วา่ เขาเป็นคนหนมุ่ ท่ีเอาการเอางาน อาชีพหลักคือหาปลา เวลาทเี่ หลือกเ็ ทีย่ วรบั จา้ งทว่ั ไป พอมฝี มี ือทางช่างอย่บู า้ ง ใครจะซ่อมแซมตอ่ เติมบา้ น หรือ โตะ๊ เก้าอ้ี เครอ่ื งใช้ไม้สอยชำรดุ เสียหาย กไ็ ดศ้ ักดิ์น่ีเอง เข้าไปจัดการ ชายวยั กลางคน เสยี พ่อแม่ไปตงั้ แต่เขา้ วยั หน่มุ ไมม่ ลี กู ไม่มีเมีย อาศัยหาปลาเลย้ี งชพี ผ่านตีนทา่ บ้าน นุชอยู่บ่อยๆ ไมร่ อู้ ที า่ ไหน ตกลอ่ งปลอ่ งช้ิน ได้แมห่ ม้ายลูกตดิ เปน็ เมีย แมศ้ กั ด์ิจะมอี ายอุ ่อนกวา่ แตน่ ุชนนั้ ก็ นบั วา่ ยงั สาวสะพรง่ั เจอหน้าทกั ทายกันหลายครา ฝ่ายชายขยนั ขันแข็ง ฝ่ายหญงิ หงอยเหงาเหว่วา้ เปน็ ทุนเดมิ หัวใจสองดวงจึงสบพ้องต้องกนั ชาวบ้านหรอื จะวา่ อะไรได้ มแี ต่รว่ มยนิ ดดี ว้ ย ก็ท้ังสองคนเปน็ ลกู หลานบ้านนี้ มาแตเ่ ดมิ เหน็ กนั มาต้ังแต่ตนี เทา่ ฝาหอย ทั้งนสิ ยั ใจคอยงั พอพูดได้วา่ ไม่ได้เปน็ คนเลวร้าย อะไร 4. คนเฒา่ คนแก่เลา่ ไวว้ า่ สายนำ้ ทุกสายใช่จะมแี ต่ส่งิ ศักดส์ิ ทิ ธิ์เฝา้ ปกปกั รักษา กลับกันอีกด้าน ย่อมมี ภูตผปี ศิ าจ วนเวียนอยูใ่ นวบิ ากกรรมของตน เปน็ ภูตท่ียังไมพ่ ้นในบ่วงอบายของกเิ ลสตณั หา เฝา้ คอยหลอกหลอน กลืนกินรา่ งกาย กลืนกนิ จติ วญิ ญาณ เพ่อื สนองอารมณค์ วามใครใ่ นตัว หากใครลุม่ หลงมัวเมา โดยขาดสติยับยง้ั ช่ังใจ เปน็ ต้องสงั เวยชีวิตให้กับมัน แม้รูท้ ้ังรู้ บางคนยงั ยินยอมพรอ้ มตกเป็นทาส ทงั้ หมด เป็นเพยี งเรอ่ื งท่ีศกั ดิ์ และชาวบา้ นคนอ่นื ๆ เคยไดฟ้ ังมา จะหาหลกั ฐานมายืนยันตอ่ สงิ่ ล้ลี บั นน้ั กค็ งเป็นไปไมไ่ ด้ ผูท้ เี่ คยพบเหน็ หรอื สนั นิษฐานว่าเคยพบเห็น ก็มีแตค่ นทีต่ ายไปแล้วท้ังสนิ้ แล้วสิง่ ท่ีศกั ดพ์ิ บเจอเม่ือค่ำคืนนน้ั เลา่ เปน็ สง่ิ ใด เขาต้องการพสิ ูจนค์ วามเชอื่ ของตน

ºÃóҸà | 30 ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 5. “ เขยี ด มึงไม่มาชว่ ยแม่ทำการทำงานบา้ ง วันๆ เห็นแต่นง่ั ย้มิ นอ้ ยยมิ้ ใหญ่กับมอื ถอื อย่นู ่นั แหละ แลว้ ดูแต่งเน้ือแต่งตวั เข้า เป็นสาวแลว้ นะมงึ น่ะ ” นุชเอ็ดข้ึนในบา่ ยวนั หนงึ่ เขียดทำหน้าง้ำ กอ่ นสะบัดผมบอ๊ บเดนิ เขา้ หอ้ ง จังหวะนัน้ เอง หางตาเหลอื บ ไปเหน็ พอ่ เล้ยี งเดนิ ตวั เปยี ก แผงอกเปลอื ยเปล่าเป็นเงา ไมส่ ะทกสะทา้ นต่อแสงแดด ขน้ึ มาจากตีนท่าเพียงช่วั แวบเดียว ทสี่ องสายตาประสานกนั เขยี ดชอ้ นตาลงกม้ เลน่ มอื ถอื ต่อ ในใจกระหยม่ิ ยม้ิ ย่อง คลับคลา้ ยวา่ ใบหนา้ จะร้อนผ่าวขนึ้ ดว้ ย เลือดฝาดของวยั สาว ไม่รู้ความรู้สกึ ลักษณะน้ีมนั เกิดขนึ้ มานานเท่าไร เขยี ดเองก็ไม่ทนั ได้สงั เกตตัวเอง รแู้ ตเ่ พยี งว่า ยามใดทีต่ อ้ งเผชญิ หน้ากับน้าศักด์ิ หัวใจมนั เตน้ หวิวโหวงชอบกล แถมยังชอบลอบมองใบหนา้ อนั คมสันกบั หุ่น ทอ่ี ดั แน่นไปดว้ ยกลา้ มมดั ของแก … คืนทผี่ ่านมา หลงั ศกั ด์ิกลับจากไปปรึกษาหารือกับพรรคพวก เพ่อื หาวธิ ีจัดการเงอื กผที อี่ อกอาละวาด ขณะกำลงั ก้าวขาจะข้นึ บันได พลันหูไดย้ ินเสยี งน้ำสาดกระทบพ้นื อยซู่ ่ซู า่ จมูกสัมผสั กลนิ่ หอมอ่อนๆ รบั รไู้ ด้ว่า เป็นกล่ินสบู่ท่ีคุ้นเคย ทา่ มกลางแสงจันทร์ เหน็ เขียดกำลงั อาบน้ำอยูข่ ้างตมุ่ ตรงลานกลางแจง้ ไมร่ สู้ ิง่ ใดดลใจ อาศัยความมืดแอบซ่อนหลงั เสาใต้ถนุ บา้ น อากาศภายนอกแมร้ อ้ นอบอา้ ว แต่อากาศภายในร่มุ รอ้ นย่งิ กวา่ รา่ งหนั่นแน่น สัดสว่ นกะทดั รดั ยนื บดิ สา่ ยไปมาสอดรับผสานกบั สองมือทลี่ ูบไล้ ล้วงคลงึ อยู่ทวั่ ท้งั เรือนกาย เมือกสบูฉ่ าบเคลือบผวิ เตง่ ตึงจนเห็นเป็นเงาสะท้อน ความมดื ช่วยขับเน้นจินตนาการให้เตลดิ ไกล ความ เหน่อื ยลา้ แปรเปลี่ยนเป็นเสยี งเตน้ โครมครามในหวั อก ไหลลามเรือ่ ยลงมาอัดแนน่ อยทู่ เ่ี ปา้ กางเกง ด้วยความ ประหม่าหรอื อยา่ งไรไม่รแู้ น่ มันพาลให้แขง้ ขาอ่อนระทวย หนำซ้ำดันไปเตะเขา้ กับข้าวของท่ีกองระเกะระกะอยู่ บริเวณใกลเ้ คยี ง ความเงียบแตกกระเจงิ ศกั ดส์ิ ะดุ้งสดุ ตัว รบี ว่งิ ผลบุ หายขน้ึ บันไดไปอยา่ ง รวดเร็ว เสยี งสาดน้ำเงียบไปแลว้ ได้ยนิ เสียงเดินขึ้นบันได เสียงประตูหอ้ งของเขียดงบั ปดิ ลง ค่ำคนื นหี้ ัวจิตหวั ใจ ของศักด์มิ ันเต้นแรงกวา่ เคย และค่ำคนื นอ้ี กี เชน่ กนั ทมี่ ีเสยี งเคล้มิ สุขของนชุ กบั ศักด์ิ แว่วออกมาจากห้องนอน แขง่ กับเสียงละเมอของนกกลางคืน 6. ผ่านมาได้ราวสปั ดาห์ ภาพของเขยี ดในคำ่ คืนวนั นั้น ยงั ตามก่อกวนเขา้ มาในหว้ งอารมณ์ ยงิ่ เวลานี้ เป็นชว่ งทีท่ างโรงเรยี นของเขยี ดปิดเทอม เขาจงึ เลี่ยงไมไ่ ด้ท่ีต้องเผชิญหนา้ กนั ตามลำพงั ตอนกลางวนั ในขณะทนี่ ชุ ออกไปขายก๋วยเตี๋ยว และในขณะทเ่ี ขาเองซอ่ มแซมเครอื่ งไมเ้ ครื่องมืออยู่ ใต้ถุนบา้ น เขยี ดมกั เดินวนเวียนเฉยี ดกรายมาทางเขาอยูบ่ ่อยๆ จะว่าเปน็ ความบงั เอิญ หรือวิตกกงั วลจนพาล

ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 31 | ºÃóҸà ใหค้ ดิ ไปเองก็ไม่เชิงนัก น่นั เพราะเขยี ดไมเ่ พียงเดินผา่ นมาเฉยๆ แต่คลา้ ยว่าเขาเห็นบางส่ิงบางอย่างในสายตา เชญิ ชวนค่นู น้ั ศักด์ริ ู้สกึ มาได้สกั พักหนงึ่ แลว้ วา่ ระหว่างเขากบั เขยี ดมมี า่ นหมอกบางชนิดลอ่ งลอยวนเวียนอยรู่ อบตัว คลา้ ยความคลุมเครอื แหง่ ห้วงอารมณ์ ทั้งจกุ หน่วง และมวนท้องนอ้ ย ท้ังรมุ่ รอ้ น และเยยี บหนาว ซ่งึ มนั รอคอย จังหวะให้บางส่งิ บางอยา่ งเปดิ เผยตวั ตนออกมา แตเ่ ขาเองยงั ไมม่ ่นั ใจนักวา่ มันคือสงิ่ ใด จังหวะหน่ึงขณะกำลังก้มหน้ากม้ ตาใช้กบไสไมต้ บแต่งแผน่ กระดานอยูน่ ัน้ จู่ๆ เขยี ดยน่ื ขนั ใส่น้ำมาให้ สิ่งทีต่ กตะลงึ มใิ ชข่ นั ที่ยน่ื มาจนเกือบจะชนเข้ากบั ใบหน้า แตเ่ ปน็ เสอ้ื ยดื รดั รูปสขี าวตวั บางที่เขยี ดใส่ ซึง่ มนั ไม่ สามารถปกปดิ เมด็ เล็กๆ สนี ำ้ ตาลทัง้ สองจดุ บนถนั เนิน ท่ดี นั นนู ออกมาจากเน้อื ผ้าได้ เขารูส้ ึกพพิ กั พิพว่ นใจอยา่ ง บอกไม่ถกู จนแสดงสหี นา้ ทา่ ทางออกมาเป็นที่จบั สังเกต ตรงกันข้ามกบั เขยี ด ที่ได้แตท่ ำตาเจา้ เล่ห์ และเอาแต่ คอยซักไซ้ถามนนู่ นอ่ี ยไู่ มข่ าดปาก “นา้ ศักดิ์เขินหนูเหรอ หนา้ แดงเชียว คืนนั้นหนเู ห็นนะ ว่านา้ แอบดูหนอู าบนำ้ ไมบ่ อกแม่หรอก” เขียดโพล่งมาอย่างไมม่ ีปมี่ ขี ลุย่ ศกั ด์ิสะดุ้งโหยง ปรับสหี นา้ แทบไมท่ นั ไดแ้ ตพ่ ดู อะไรตอ่ อะไรออ้ มแอม้ ไป เพอ่ื เปน็ การแก้เก้อ “เอ็งอย่ามาเกะกะแถวน้ี จะไปทำอะไรก็ไป ข้ายง่ิ รีบๆ อยู่ เยน็ น้ีตอ้ งเตรียมตัว เขาจะไปลา่ นางเงือกผี ที่ออกอาละวาดกัน ” เขียดประสานมอื ข้ึนทำทา่ บดิ ข้ีเกียจ เสอื้ ทรี่ ัดอยแู่ ล้ว เหมอื นยงิ่ รัดเน้นสัดสว่ นเข้าไปอกี “ อากาศร้อนเนอะ นา้ ไมร่ ้อนเหรอ เดยี๋ วหนขู ้นึ ไปอาบนำ้ กอ่ นนะ ” เขียดหนั มาพูดทงิ้ ท้าย ก่อนจะเดินส่งยิม้ หวานขึ้นบ้านไป ศักดิ์มองตามร่างแนน่ หน่ัน หายขน้ึ ไปจากบันไดขน้ั บนสดุ ก่อนเผลอกลืนนำ้ ลายเหนียวหนืดทคี่ า้ งอยใู่ น ลำคอ ความสับสนแบง่ เปน็ สองฝง่ั ทมุ่ เถยี งกนั อยูภ่ ายใน เหมือนสงครามกำลงั โรมรัน วา่ เขาควรก้าวตามข้นึ บา้ น หรอื สงบรำงับอยู่ตรงน้ี 7. คำ่ คนื นเ้ี องท่ีพวกเขานดั แนะกันจะไปพสิ จู นใ์ หเ้ ห็นกบั ตา ข้างข้นึ พระจนั ทรเ์ ตม็ ดวงเหมาะนกั ว่ากนั ว่า ในคืนดงั กลา่ ว นางเงอื กผีจะขึ้นจากใตแ้ ม่นำ้ เพือ่ มาอาบแสงจันทร์ และบางทีอาจเพอื่ ตอ้ งการเอาชวี ิตชายหนุ่ม สักคน เตมิ เตม็ ตัณหาในหว้ งน้ำกามารมณ์ เตมิ เต็มความปรารถนาในตัวมัน ฐานะท่ีศกั ดเ์ิ ปน็ ผจู้ ัดเจนกบั แมน่ ำ้ สายนี้ ทกุ คุง้ โคง้ วงั น้ำวน เปรียบเสมือนบ้านหลังท่ีสอง แม้หลบั ตา เดินยังนึกออกว่าได้นำคณะมาถงึ ตำแหนง่ ไหนแล้ว ชายสามคนท่ีขนั อาสา กบั พอ่ หมอใหญ่อกี หนง่ึ เดนิ ตามเขา อยู่ห่างๆ เท้าทกุ ค่เู ลยี บเลาะไปบนความมดื มวั ซัว ความชื้นแฉะของผืนทราย ลมแม่น้ำโชยมาเป็นระยะ เสียงสายน้ำ ไหลล่อง บางจงั หวะยนิ เสยี งปลาฮุบอากาศอยูไ่ มไ่ กล พระจันทรส์ วา่ งจา้ อยเู่ หนอื แมน่ ำ้ ฉาบทาสรรพสิ่งโดยรอบ

ºÃóҸà | 32 ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 ชวนให้นกึ สร้างจนิ ตนาการไปตา่ งๆ นานา ใกล้ถึงจุดทศี่ ักดพิ์ บเห็นรา่ งนางเงอื กผเี ม่อื วันโน้นเข้าไปทกุ ที ระยะ ไม่เกนิ ยส่ี บิ เมตร กอ่ นสง่ สัญญาณมือให้ทกุ คนน่ังลงหลงั พ่มุ กอไมเ้ ตีย้ ๆ เพอ่ื ซุ่มสงั เกตการณ์ เหมอื นยาวนานกว่าชว่ งเวลาท่รี อคอย ลมสายหนึง่ หอบเอากล่นิ หอมประหลาดเข้ามาในโสตสมั ผัส ขนลุกชชู นั ประสาททกุ ส่วนต่นื ตัว สายตาทุกคูพ่ งุ่ ไปยังเนินทรายตรงหน้า นานเทา่ ไรไม่รแู้ น่ แต่บดั น้ีทุกคนมอง เหน็ ในสิง่ เดยี วกนั เริม่ จากสว่ นปลายหางทเี่ รยี วยาว ขดโคง้ เป็นวงไลข่ ึน้ ไปตามเสน้ ผมสากๆ ทรี่ ะเรีย่ ลงมาจรด ผืนทราย ลำตัวบางส่วนถกู มนุ่ ผมทีด่ กหนาบดบงั ไว้ แต่ยงั พอเหน็ เป็นลกั ษณะคลา้ ยเกล็ดสะท้อนแสงสปี ระหลาด ซึ่งมนั ค่อยๆ กลนื ไปกบั ผวิ เน้อื สีขาวซีดอกี ช้นั หน่ึง จากมุมนี้ พอจะบอกไดว้ า่ ส่วนลำตวั ท่อนบนคือมนษุ ย์ ผดิ แต่วา่ มนั มขี นาดใหญ่พอ ๆ กับแมวตวั หนง่ึ เทา่ น้ันเอง ทกุ คนมองหนา้ กันเลกิ ลัก ไมเ่ ว้นแม้พอ่ หมอก็ออกอาการลนลาน เห็นจะมีแตศ่ กั ดิ์ทีย่ ังครองสติไวไ้ ด้ เขา ต้องการรเู้ หน็ สงิ่ ที่อยูต่ รงหนา้ ใหก้ ระจา่ งชดั เต็มสองตา ค่อยๆ ก้าวออกจากพ่มุ ไม้ ทลี ะคบื ทลี ะคืบ ก้าวออกไป แตเ่ พยี งผ้เู ดียว พวกทมี่ าด้วยกันจะตะโกนเรียกกไ็ มก่ ลา้ กลัวเสยี งจะทำให้นางเงอื กผรี ตู้ วั พอ่ หมอรบี ละล่ำละลัก สวดคาถาอยถู่ ีย่ ิบ “ สมทุ ทะ โอเฆ อมั พุคะเต จะระณัง สมั พทุ โธ ทะเวหตั เถ ราวา สะพุทธัง วารตี ิ ” “ สมทุ ทะ โอเฆ อัมพุคะเต จะระณงั สมั พทุ โธ ทะเวหตั เถ ราวา สะพทุ ธงั วารีติ ” “ สมทุ ทะ โอเฆ อมั พุคะเต จะระณัง สมั พุทโธ ทะเวหตั เถ ราวา สะพุทธงั วารตี ิ ” สวดซ้ำแลว้ ซำ้ เล่า สามรอบ สร่ี อบ หา้ รอบ... ...ซ้ำแล้วซำ้ เลา่ แตเ่ หมอื นว่ารา่ งท่ีอยู่ตรงหน้ามิสะทกสะท้านตอ่ สง่ิ ใดท้งั สิน้ บัดน้ี จากสายลมที่อ่อยเออื่ ย แปรเปลยี่ น เป็นพายุกระโชก มันหอบเอาฝ่นุ ทรายบริเวณตีนทา่ ขึ้นบดบงั ร่างของศักดจ์ิ นมดิ หาย เหมอื นความวปิ ริต แปรปรวนก่อตวั ขึ้นเพอ่ื เจตจำนงบางอยา่ ง และกอ่ นทีพ่ วกเขาจะตัดสนิ ใจวิง่ ฝา่ ออกไปชว่ ยศักดิน์ ัน้ จู่ๆ แสง ประกายขาวโพลนจากทุกทิศทกุ ทาง ก็สว่างจา้ ข้ึนตอ่ หนา้ ความจ้าทจ่ี า้ จัด จา้ กว่าทีใ่ ครเคยพบเหน็ มนั ทำให้ สายตาของพวกเขาดบั วูบลง ... ขณะศกั ดกิ์ ำลังเดนิ เขา้ ใกลร้ ่างนั้น เหตกุ ารณ์แวดลอ้ มเขาเป็นไปอยา่ งปกติ มิรบั รถู้ ึงความปรวนแปร ทีเ่ กดิ ขน้ึ กบั ฝัง่ คณะท่มี าดว้ ย กล่ินหอมรนุ แรงขึน้ วบู แรกมันหอมแบบคาวๆ ตอ่ มาเป็นความหอมเอียนๆ คลา้ ย ยามทีไ่ ด้กล่นิ ลกู จนั ครน้ั ใกลเ้ ข้าไปอีก มันกลบั เป็นความหอมแบบฉดุ ร้ังความกระสัน หอมล้ำลึกลงไปกระต้นุ ดำฤษณาภายในจิตใจ เขาเคลิบเคลม้ิ ไปกบั กลิน่ อันยากจะถอนตวั เมอื่ เดินไปหยดุ อยเู่ บื้องหนา้ รา่ งน้นั เขาจึงมองเห็นอยา่ งชดั เจน เธอคือหญิงสาวที่งดงามทสี่ ดุ เทา่ ทีเ่ คยเหน็ ใบหน้าขาวเนียน เล็ก แต่อวบอ่มิ ริมฝีปาก ยิ้มเชญิ ชวน เผยอขนึ้ ดัง่ ว่ารอการประทับรอยจบู อกท่ีเปลือยเปลา่ ไมเ่ ลก็ ไมใ่ หญจ่ นเกินไป มันชชู นั ขนึ้ อยา่ ง ทา้ ทาย ท่วั ทัง้ เรือนรา่ งของเธอกระจา่ งนวลอย่ทู า่ มกลางแสงจันทร์

ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 33 | ºÃóҸà อยา่ งชายหนุ่มท่วั ไป ยากนกั ท่ีจะถอนตัวจากตณั หากามารมณ์ซง่ึ แผ่เผยอยตู่ รงหน้า ปล่อยให้กิเลส ของตนพุ่งทะยานลงสู่หุบเหวหฤหรรษ์ พงุ่ ทะยานลงส่สู ายน้ำทอี่ าจไม่มวี ันได้หวนคนื รู้ทง้ั รู้ แต่เขามองเห็นเพยี ง ความซา่ นสุขซึ่งรอคอยอยู่ ชวั่ วินาทีท่ีตดั สินใจถาโถมตวั เองลงไปบนรา่ งนั้น พลนั สัมผสั ไดถ้ งึ กล่นิ กายของ เด็กสาวแรกแย้ม และชว่ั พริบตาเดยี ว ขาคล้ายมองเหน็ ใบหนา้ ทยี่ ว่ั เยา้ ของเขียด ล่องลอยอย่ใู กล้แค่เออื้ ม ใช่! อยู่ใกลแ้ ค่เอ้ือม ซ่งึ มันซ้อนทับลงไปบนใบหน้าของนางเงอื กผอี ีกช้นั หน่งึ บดั นส้ี รรพสิ่งโดยรอบเลอื นหายไปโดยปลาสนาการ รบั รไู้ ดแ้ ตเ่ พียงเสยี งสายน้ำทีล่ ้นกระฉอก 8. ศักดคิ์ ่อยๆ ยอ่ งตามข้นึ มาบนบา้ น เสยี งสาดนำ้ กระทบพืน้ เขาไม่กล้าจนิ ตนาการไปไกล เพยี งแค่ ตอ้ งการหย่งั เชงิ เล็กๆ โดยไม่จริงจังอะไรนัก เห็นประตูหอ้ งน้ำงบั อยู่ ลองใช้มอื แตะเบาๆ มนั เปิดแงม้ ออกโดย ไม่ได้ลงกลอนไว้อย่างท่คี วรเปน็ เขาลนลานรบี ปดิ คืน แตไ่ ม่ไวไปกวา่ เขียดทันมองเห็น แทนทเี่ ด็กสาวจะตกใจ เธอกลบั รบี แย่งพดู ออกมาอย่างเป็นการเชิญชวน “ เขา้ มาสิน้า อาบน้ำกัน แม่ยังไม่กลับง่ายหรอก วนั นี้ ” เหมือนโลกแห่งศีลธรรมความดี หรอื อยา่ งน้อย กเ็ ปน็ ความอดทนอดกลนั้ รผู้ ดิ ชอบชั่วดี ทตี่ นถือครอง จะแตกสลายลงต่อหนา้ บดั นค้ี วามคลมุ เครือแห่งหว้ งอารมณ์ที่ศักดิค์ ลางแคลงนัน้ มลายหายไปหมดสน้ิ หายไป พรอ้ มๆ กับเส้ือผา้ ท่เี ขาสวมใส่ หายไปกับการกอดรดั โรมรนั เขาลบู ไล้เน้อื ตวั เขียดอย่างหื่นกระหาย ปากประกบ ปาก สองมอื เคน้ คลงึ สองเต้าเต่งตมู รา่ งอวบอัดนั้นบดิ เร่าๆ แอน่ ขน้ึ รบั แกน่ แกนอนั เขมง็ เกรยี ว และการถง่ั ท้น จากเขา บางช่วงบางจงั หวะ ภาพวนั คนื เกา่ กอ่ นเมอื่ คร้งั เขยี ดยงั เป็นเดก็ หญิง รวมถึงใบหนา้ และแววตาของนชุ ไดผ้ ุดพรายขนึ้ เหมือนจะสลัดแรงปรารถนาของเขาใหแ้ ห้งฉาดลง แต่มนั ก็เปน็ ไปเพียงช่ัวแวบเดียว ก่อนที่ไม่นาน หว้ งนำ้ ภายในของเขาจะทะลกั ทลาย เบื้องนอก พายหุ อบหนึง่ พัดเอากอไผ่ขา้ งบา้ นใหส้ ่ายไหวเสียดสกี ันอยู่ออดแอด สงบน่งิ ไปไดเ้ พยี งครู่ ลมสายใหม่ก็กอ่ ตวั ขึ้นอกี คำรบ และอกี คำรบ 9. ชาวบา้ นพบศพของศกั ด์ิ เมือ่ ตอนโพล้เพล้ในอกี หนง่ึ วนั ใหห้ ลัง ลอยขน้ึ มาตรงทีห่ ายไปนัน่ เอง สภาพ ไมต่ า่ งจากศพชายหนุ่มหลายคนทีต่ ายไปกอ่ นหน้านี้ รอยเขยี้ วเลก็ ๆ ทล่ี ำคอ และสีหนา้ อ่ิมเอมเปรมสุข “กอ็ ยา่ งทีเ่ ลา่ ไป พอพายุทรายก่อตวั แสงฟา้ แปรบปราบ หนา้ นมี้ ืดไปหมด จากนนั้ พวกข้าก็ไม่รูส้ ึกตัว อกี เลย จนใกลส้ ว่างนั่นแหละ ฟืน้ มามองหาไอ้ศกั ดิ์ไม่เจอ ก็ชว่ ยกนั ออกตาม ไล่หาไปท่ัว จนถึงวดั ใต้โนน่ แน่ะ ในใจนึกว่ามันคงไมร่ อดแน่ คดิ ถึงเรอื่ งเมื่อคนื ขา้ ยงั ขนลุกไม่หาย วา่ แลว้ กส็ งสารมัน คนดีแท้ๆ”

ºÃóҸà | 34 ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 หนงึ่ ในพรรคพวกทไ่ี ปกับศกั ดิ์เลา่ ให้ชาวบ้านฟงั ... นชุ นน้ั ร้องไหจ้ นรา่ งกายแทบสลายเลอื น หวั ใจรว่ งหล่นลงกองกับผนื ทราย วญิ ญาณคล้ายหลุดปลวิ กับสายน้ำตามศักดไิ์ ปอีกคน เมอื่ มองเหน็ รา่ งของชายคนรักนอนซีดเขียว ไรล้ มหายใจอยู่เบอื้ งหนา้ ความวาดหวงั ทเ่ี ธอคิดจะก่อร่างสรา้ งชวี ติ อีกคร้ังกบั เขา บัดนีม้ ันเปน็ เพียงความอาดรู สญู ส้ิน เธอรำพึงอย่ใู นใจ น่เี ราทำเวร ทำกรรมอะไรมา จงึ ต้องเจอแต่ความพลัดพราก หรอื เป็นศักด์ิเองทอ่ี าภัพอับโชค จนชกั นำให้ชีวิตมาพบกับ ชะตากรรมเชน่ น้ี แต่กระนั้นกด็ ูเอาเถอะ แม้ขณะตวั ตาย ใบหน้ายังย้ิมพงึ ใจอะไรออกปานนั้น ย้ิมเหมอื นกบั ว่า จะเยาะเยย้ คนขา้ งหลงั ใหป้ วดร้าวทรมานเลน่ ถึงจดุ หน่ึง ความโศกเศรา้ ท่ีครอบงำ แปรเปล่ียนมาเปน็ ความเคียดแคน้ ชงิ ชงั เธอกน่ ดา่ สาปแช่งทกุ สิง่ ทกุ อย่าง สาปแช่งสายนำ้ ทีก่ ลืนกินคนรกั สาปแช่งโชคชะตา สาปแช่งไอ้ อี ภูตผนี างพราย ตน้ เหตขุ องราคะ ตณั หา สาปแชง่ แมก้ ระทงั่ สามีของเธอ ทชี่ ่วั ช้าจกเปรต หมกมุน่ ในกามารมณ์จนขาดการยบั ยงั้ ชงั่ ใจ (นั่นหากว่า มันจะเปน็ ไปอยา่ งทค่ี นเฒ่าคนแก่เลา่ ไว้จรงิ ) เธอสาปแชง่ จนนำ้ ตาเหือดแห้ง สาปแชง่ จนฝูงนกเริ่มบนิ กลับรวงรัง สาปแชง่ จนกระท่งั ท้องฟา้ สหี มากสกุ ถูกความมดื ดำกลนื หายไปในราตรีกาล ... ทา่ มกลางเสียงสาปแชง่ ของนชุ ทส่ี ะท้อนสะทา้ นทงั้ สองฝัง่ แม่น้ำน้ัน เขียดยนื ห่างออกไปไม่ไกลนัก ใน ความรสู้ ึกของเด็กสาวขณะนี้ คล้ายมีบางสง่ิ บางอยา่ ง แฝงฝงั อย่ใู นตวั ตนของเธอ เป็นเงอ้ื มเงาอันซอ่ นเร้น ที่คอย คบื คลานออกมาจากห้วงลึกแหง่ ความปรารถนา น่าแปลกทีเ่ ธอไมร่ ้สู กึ โศกเศรา้ เสียใจต่อความตายของศักดิ์ อยา่ งท่คี วรเป็น กลบั กนั เธอพบวา่ มคี วามรสู้ กึ ชนดิ ใหมก่ ่อตวั ข้ึน โลง่ เบา สาแกใ่ จ กรมุ้ กรมิ่ ปรีดาปราโมช และ แจ่มชดั ทีส่ ุด เหน็ จะเป็นความรู้สึกซ่านเสยี วทางเพศสมั ผัส ทรี่ กุ เร้ารนุ แรงข้นึ อย่างท้นทวี เสียงสาปแชง่ ของนชุ หยดุ ลงแลว้ เสยี งลมโชยมาแผว่ เบา เสยี งสายน้ำไหลไปตามทว่ งทำนองเดมิ ของมัน ตรงเนินทรายบรเิ วณทศี่ ักดิ์หายไป คลา้ ยวา่ เขยี ดมองเห็นรา่ งเปลอื ยเปล่าของนางเงือกสาว ขนาด ตวั เทา่ ๆ กับแมว กำลังส่งสายตายิ้มหวานมาทางเธอ.

ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 35 | ºÃóҸà ระหวา่ งทาง ชาครติ คำพลิ านนท์ 1 เราขับรถกนั มาไกลพอสมควร จนเรมิ่ หมดเรอื่ งผวิ เผินท่จี ะคยุ กนั อากาศภายนอกรถร้อนอบอ้าว ผมร้สู กึ ได้ จากแสงแดดทตี่ ัวเองมองเหน็ ผา่ นกระจก สองขา้ งทางมีแตท่ งุ่ หญ้ารกร้าง แทบไมม่ อี ะไรให้จำเปน็ ชิ้นเป็นอนั คมิ แตะโหมดเล่นเพลงในรถเปน็ สตรีมม่ิง ผมกำลังรำคาญขา่ วในวิทยุอยพู่ อดี เขาเลอื กเพลง Go Let It Out ของ Oasis ฟังไปไดร้ าวคร่งึ เพลง เขากเ็ ปล่ยี นเปน็ เพลง 1979 ของ Smashing Pumpkins ผมจำได้ว่า เราเคยซอ้ มเพลงเหลา่ นดี้ ว้ ยกัน...นานมากแล้ว 2 ผมแวะไปรับเขามาจากท่ีบ้าน บา้ นทผี่ มไมไ่ ดก้ ลับไปเสียนาน ต้ังแตแ่ ม่จากไปเพราะอุบตั ิเหตทุ างรถยนตเ์ มอื่ ส่ปี กี ่อน ก่อนหน้าน้ันเราสองคนยงั ได้คยุ กันอยู่ บางครง้ั ผมพมิ พข์ ้อความถามเร่ืองท่วั ๆ ไป ไม่มีอะไรสำคัญมากนัก ตอนนเี้ ขาเปลย่ี นช้นั ลา่ งของบ้านให้กลายเปน็ สตูดิโอสำหรับทำงานสักโดยเฉพาะ เขาดมู ีชื่อเสยี งสะสมพอ สมควรในแวดวงของเขา ผมไมไ่ ด้เดนิ ขึน้ ไปชั้นบน ไม่ไดเ้ หน็ ว่าห้องนอนท่ีเคยนอนเป็นอยา่ งไร ตอนนง่ั รอคมิ ผมน่งั รอเขาอยู่ที่ โซฟาหนงั ชั้นล่าง มองอุปกรณแ์ ละเครอ่ื งไมเ้ คร่ืองมอื ของเขา ร้สู กึ เหมือนตัวเองเป็นเพยี งแขกผมู้ าเยอื น ใกล้เคยี ง หนอ่ ยคอื ลูกคา้ ท่นี ัดสกั เอาไว้ เหมอื นบ้านกลายเปน็ บ้านของคนอน่ื รู้สกึ ทัง้ เกรงใจและอึดอัดแมแ้ ตจ่ ะเดินไป หยิบจับขา้ วของบางอยา่ งขึ้นดู คมิ เดนิ ลงมาหลังจากแต่งตัวเสรจ็ สะพายเป้เดินทางใบเลก็ เขาไว้หนวดเครายาวเฟ้ือยแบบ Wayne Static ตัดผมแบบที่เขาเรยี กมนั ว่า Slicked Back ผมไดแ้ ต่ย้มิ และไม่พูดอะไร ตอ้ งสร้าง Character กนั บา้ ง ครั้งหน่ึงเขาเคยพูดพลางยกั ไหล่ ผมไม่ไดแ้ ปลกใจเลย ผมคิดว่ามันออกจะได้ผล แต่ผมกอ็ ดยมิ้ ไมไ่ ดจ้ รงิ ๆ เรอื่ ง การไวเ้ คราของเขา ปนี ีเ้ ขาอายสุ ามสิบสอง ผมจำได้เพราะเราสองคนอายหุ า่ งกนั หา้ ปี แม่ชอบพูดเสมอวา่ เราสองคน ดูไม่เหมอื นพ่ีชายกับนอ้ งชาย ผมไมเ่ คยเข้าใจ ทำไมล่ะ ทำไมเราสองคนจะตอ้ งดเู หมอื นกนั ด้วย

ºÃóҸà | 36 ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 3 คิมเร่ิมตน้ เป็นช่างสักตัง้ แตเ่ รียนจบมหาวทิ ยาลัย เขาทำมนั ตั้งแตต่ อนนนั้ จนวันน้ี งานของเขาเหมือนเรื่องประหลาด เรือ่ งหนง่ึ สำหรบั ผม บางคร้งั ผมจนิ ตนาการไม่ออกจริงๆ เขาเริ่มต้นการเป็นชา่ งสักไดย้ ังไง ตอนเขาเอากระเปา๋ ใส่ทา้ ยรถ ผมเหลือบเห็นรอยสักรอยใหม่ทน่ี อ่ งขวา รปู ประภาคารสฟี ้า ดสู วยดี แม้ว่าผมไมเ่ คยคดิ เร่อื งการสัก เพราะนกึ ไม่ออกจรงิ ๆ ว่าจะมีรูปหรอื ถ้อยคำอะไรฝังใจจนต้องเอามาสกั แตผ่ ม ชอบดวู ิดีโอการสักของเขา รปู ผลงานการออกแบบของเขา ผมไม่คดิ ว่าง่ายเลย การทีเ่ ราจะวาดรูปดว้ ยเขม็ ลงบนเน้ือตัวของคนอื่น เพอื่ ใหพ้ วกเขารสู้ ึกวา่ ความเจบ็ ปวดน้ันมคี วามหมายบางอย่าง ลกึ ๆ ผมภูมิใจในตวั เขา ถงึ จะไมเ่ คยบอกกลา่ วกนั เพราะรู้ดวี า่ เราท้งั คู่ไม่ได้มตี น้ ทุนในชีวติ อะไรนัก แล้วโลกนีก้ ย็ งั เต็มไปดว้ ยงานหว่ ยๆ งานแบบท่ตี ้องจำใจทำไปวนั ๆ ผมจึงดใี จที่เขาได้ทำสง่ิ ทอี่ ยากทำ มรี ายได้ มากพอ สำคญั คืองานที่เขาทำมนั เรม่ิ มาจากมือของเขาเองจรงิ ๆ 4 เมื่อขบั มาถงึ สะพานข้ามแม่นำ้ สายหลักของเมอื ง คมิ ร้สู กึ ตวั เขาปรบั เบาะนั่งขึ้นมาเป็นเหมอื นเดิม เขาไดง้ ีบ หลบั สนั้ ๆ ระหว่างทาง เขาบอกวา่ เมอ่ื คืนมลี ูกค้าท่นี ดั กนั ไว้ แต่มาเลทจากเวลา ทำใหต้ อ้ งสกั กันดึกดนื่ กว่างาน จะเสรจ็ ตลอดเวลาทเี่ ขาหลบั อยนู่ ้นั ผมนึกถงึ ตอนเรายงั เดก็ ตอนเด็กๆ เราเคยสนิทกันมาก เพราะแม่มกั จะปลอ่ ยใหเ้ ราอย่บู ้านกันสองคน บางคร้ังเราก็เลน่ กันดี แตบ่ างทีก็เลยเถิดจนทะเลาะกนั ผมระลึกได้ว่าเราตกี ันมากกว่าดีกนั อาจเพราะเราทงั้ คูถ่ กู ดแู ลต่างกันอยู่บ้าง สว่ นหนึง่ ของผมโตมาจากมือของปแู่ ละยา่ ส่วนเขาเป็นเดก็ ทีอ่ ยู่ในการดูแลของพ่อและแมต่ งั้ แตแ่ รกเกิด แต่ สุดทา้ ยแมก่ ็แคค่ ดิ ว่าที่เราทะเลาะกนั เพราะเราเกิดปที เ่ี ปน็ อริกนั เหมอื นเสือสองตวั ในถำ้ เดียว ผมไมแ่ นใ่ จเร่อื งนน้ั แตเ่ ราทะเลาะกนั เพราะเรารู้สึกไมพ่ อใจบางอย่าง ไม่ใช่ในตัวเราหรือคนอกี คน แต่ก็ อาจจะใช่ดว้ ย คล้ายวา่ มันปนเปอ้ื นอยใู่ นเรา ผมเคยรู้สกึ ไม่พอใจท่ีเขาตวั เลก็ เกินไป วุ่นวายเกินไป เขาอาจไม่ พอใจทผี่ มนิ่งเฉยเกนิ ไป หรอื เช่อื งช้าเกนิ ไป ย่งิ ไมพ่ อใจมากข้นึ อกี เมือ่ คนอ่นื ๆ พยายามตดั สินตรงข้ามกบั ส่ิงที่ เรารูส้ กึ คมิ เปน็ เดก็ ทีไ่ มย่ อมถูกรังแก เขาพร้อมจะเอาคืนทกุ คน พร้อมจะสู้ไปนำ้ ตานองหนา้ ไป เขาเคยตอ่ ย ผมควิ้ แตก แตผ่ มไมไ่ ด้ทำตัวปกป้องเขามากนกั ผมรู้สึกเสมอวา่ ตวั เองบกพรอ่ งเรอ่ื งน้ี ตอนเด็กๆ ผมเปน็ พวก เลน่ คนเดียว ชอบอย่คู นเดียว สงิ่ ท่ีผมสนใจไม่ใชก่ จิ กรรม แต่เป็นเร่อื งของการคิดหรอื น่ังจินตนาการว่ามนั เปน็ แบบนั้นหรอื เปน็ แบบนี้กันแน่ แล้วผมก็อย่ใู นโลกใบนัน้ ผมเคยไมช่ อบท่เี ขามาเดนิ ตามผม เกาะผม ชวนผมดว้ ย ความเซ้าซี้ จนผมต้องแอบต้องซอ่ นตัวเพอ่ื ให้เขาหาไม่เจอ อย่างท่นี ึกภาพออก เขาเป็นเดก็ ปกติ ผมเองแหละทเี่ ป็นเดก็ ประหลาด

ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 37 | ºÃóҸà ระหวา่ งเราสองคน มันเลยมบี างอย่างท่ียากจะอธิบายออกมา เราไมร่ วู้ ่าปญั หาคอื อะไรเหมือนกนั แต่ ความสมั พันธร์ ะหวา่ งเรามีปัญหาซ่อนอยู่ เป็นไปได้ว่าคือความหา่ งเหนิ ที่ถูกขยายตวั ออกไปอยา่ งเงียบๆ จนกลายเปน็ อะไรทีซ่ ับซ้อน หรอื บางทผี มก็แค่คิดมากไป หรือถงึ ร-ู้ เรากอ็ าจแก้ไขอะไรไมไ่ ดอ้ ีกแล้ว บางทีผมคง กลายเปน็ พี่ชายที่แปลกประหลาด ไร้ความรู้สกึ และเตม็ ไปดว้ ยความเฉยชาจนวันตาย เป็นภาพจำทไี่ ม่มีวันถูก เปลย่ี น อาจง่ายกวา่ หากให้เราอธิบายว่าเราเคยมปี ญั หากับแมห่ รือพ่อของเรายังไงบ้าง แตไ่ ม่ใชร่ ะหวา่ งเรา 5 หลงั แวะเติมนำ้ มันเสรจ็ ผมพยายามคุยกับเขาต่อ คุยใหฟ้ งั วา่ ทำไมถงึ ชวนเขาขับรถไปดว้ ยกัน เขาร้แู ค่ผม วางแผนจะไปเยี่ยมพ่อ เขาเห็นดีดว้ ย เพราะเราต่างก็ไมไ่ ด้กลับไปบา้ นของปู่นานแลว้ คร้งั สดุ ท้ายที่เราเจอพอ่ คือ วนั ไว้ทกุ ขใ์ หแ้ ม่ แต่ผมไม่รจู้ ะคยุ ยงั ไงให้บรรยากาศมนั ดีพอทีจ่ ะทำใหร้ ู้สกึ ว่าผมพยายามจะรือ้ ฟ้ืนความสัมพนั ธ์ ระหว่างเราขึน้ มาใหม่อีกครง้ั และเพื่อให้การกลับไปพบพอ่ กลายเป็นความทรงจำดีๆระหวา่ งกันครัง้ สุดทา้ ย ก่อนท่วี ยั ของเราจะยากเกินทำได้อกี แตเ่ หมอื นนึกเร่อื งให้คุยไมอ่ อก รู้สกึ เหมอื นพยายามมากเกินไป เพราะหาก จงใจเกินไปก็คงไมด่ ี จรงิ ๆ มเี ร่อื งให้คยุ มากมาย แตต่ ดิ ตรงไม่รจู้ ะเรม่ิ มนั ยังไง บ่อยคร้งั และกินเวลายาวนานทีเ่ ราไม่ตดิ ตอ่ กนั ไมพ่ ูดหรอื คยุ กัน แต่ทำเหมือนยังเป็นปกติ ผมไมร่ ู้ หรอื แสร้งไม่รู้ แต่มีบางอย่างหรือหลายอยา่ งทผ่ี มทำผดิ พลาดตลอดทาง อาจไม่ใชเ่ ร่อื งของการให้อภยั หรือ ขอให้เขา้ ใจกนั ใหม่อกี แล้ว แตเ่ พราะมนั เปน็ ความผดิ พลาดทพ่ี รางตวั อย่กู ับความไมร่ ้สู ึก ความผิดหวังท่เี ขาเคยมี ต่อตัวผม ความผิดหวงั ทตี่ ่อมากลายเป็นความเปล่าประโยชน์ทจ่ี ะบอกผม การไม่รู้สึกอะไรเลยย่ิงทำให้เหน็ ปัญหาพร่าเลอื นไปเรือ่ ยๆ แต่มันมักจะเจบ็ อยู่ลกึ ๆ เมือ่ ต้องเปดิ เผยหรือถูกกระตุน้ เตือนด้วยความทรงจำ ผมร้สู กึ ถึงวัยกลางคนทข่ี ยับเข้ามามากข้ึนทกุ ที การต้องคอยระวังเรอ่ื งงาน เรื่องการใชจ้ า่ ยเงนิ ของ ตวั เอง ครอบครัว การศึกษาของลกู เรอื่ งราวจิปาถะในชีวิตประจำวนั เรอ่ื งพวกน้ปี ลีกย่อยขึ้นมาเรือ่ ยๆ จน บอ่ ยครง้ั ผมเองยังสงสยั บวกดว้ ยความตายของแมท่ ีเ่ หมือนหมุดปักปมบางอย่างทิ้งเอาไว้ ผมเดาว่าเราต่างรู้สกึ เหมือนกัน เราทำตวั ไดไ้ มด่ พี อกับเหตกุ ารณต์ ่างๆ ความสัมพนั ธเ์ ก่ยี วกับแม่ของเราอาจยำ่ แยพ่ อกัน เราไม่คอ่ ยมี ความทรงจำท่ดี นี ัก นอกจากเรอ่ื งน่าเศรา้ ที่รอให้ลืมเท่านั้น ผมเองยังเคยคิดว่าชีวติ ตวั เองจะดีขึ้นแน่ๆ แค่ทำส่ิงทีต่ รงขา้ มกับสงิ่ ทแี่ ม่ทำมาท้งั ชีวิต ผมคดิ วา่ เขาเอง ก็คิดแบบน้นั เราเช่ือว่าแม่เข้าใจชวี ติ ของตวั เองผดิ พลาด แตแ่ มแ่ ค่ไมย่ อมรับมนั เทา่ นน้ั เอง 6 ระหว่างจอดพกั รถ เราเดนิ หาอะไรกินงา่ ยๆ ผมกบั เขาเหมอื นกันอยู่อยา่ งหนึง่ เสมอคอื ไมค่ ่อยคดิ เร่ืองการกิน ให้ยงุ่ ยากมากนกั

ºÃóҸà | 38 ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 อย่างตอนเดก็ ๆ แมช่ อบทำอาหารเย็นๆ ชดื ๆ ท้ิงไวใ้ หเ้ ราก่อนออกไปจากบา้ น เราจึงโตมากบั การกนิ อาหารแบบนน้ั ผมนึกถงึ เร่อื งน้แี ต่ไมไ่ ด้พูดออกไป เหมือนเรื่องอ่ืนๆ ที่เราเคยผา่ นมาดว้ ยกนั แคไ่ มอ่ ยากจะพดู ถงึ แตเ่ รามักจะเลอื กพดู ถึงคนอ่นื แทน ถามไถถ่ งึ คนอื่นแทน เหมอื นไม่อยากใหห้ ัวข้อใดๆ เข้าใกล้อดีตของเราทั้งคู่ มากนกั บางคร้ังเราคุยกนั สนุกสนานเกีย่ วกับเพื่อนของผมบางคน หรอื เพ่อื นของเขาบางคนทีผ่ มเองได้รจู้ ัก พูดถงึ ญาติสักคน ลกู พ่ลี กู น้อง ใครกไ็ ด้ เร่อื งราวที่ผมและเขาเคยทำรว่ มกนั กับพวกเขาเหลา่ นั้น แตไ่ ม่ใชก่ าร พูดถงึ ผมหรอื เขาโดยตรงในการสนทนารว่ มกนั หลังกนิ เสร็จ คมิ เดนิ ออกไปสบู บหุ รี่ ผมมองเขาอยู่พกั หนง่ึ คิดถึงอะไรท่ไี ม่ชดั มากนกั ก่อนจะเรยี ก พนกั งานเพอ่ื จ่ายเงนิ และขอบคณุ 7 ระหว่างทาง บนถนนพลกุ พล่านไปด้วยรถ เขาถามว่าอยทู่ ่ีนัน่ เปน็ ยงั ไงบ้าง ผมคดิ ว่าเคยเอ่ยปากชวนใหเ้ ขา มาหาหลายคร้ัง ผมตอบว่าก็ดี แต่ติดตรงฝนตกบ่อยไปหน่อย ผมอยากจะพูดวา่ ให้แวะมาหากนั บ้าง ใช่ ผมไมไ่ ด้ พูด ผมรูส้ กึ วา่ เขาคงไมม่ า เขาเปลีย่ นเร่อื งถามว่าเราจะไปถึงโดยไม่หลงทางได้ใช่ไหม ผมพูดตดิ ตลกวา่ ไม่แน่ใจ เท่าไหร่ แตค่ ิดวา่ ใช้ GPS นำทาง คงไมท่ ำใหห้ ลงไปไหนไดไ้ กลนกั หรอก ในขณะท่นี อ้ งชายเป็นช่างสัก อาชีพของผมคือนกั ตรวจสอบบัญชีให้ภาครฐั คอยเดนิ ทางไปตาม สำนกั งานตา่ งๆ ตามคำสงั่ ราชการ ตรวจสอบรายได้ ลกู หน้ี การส่งั จา่ ย เงนิ สะสม งบประมาณต่างๆ เร่ือง เกี่ยวกบั ตวั เลขและข้อระเบียบทีน่ า่ เบอ่ื บางครัง้ ผมสะสมความเครียดถงึ ขนาดต้องขอเข้าห้องน้ำไปอาเจียน เพอื่ ใหร้ ูส้ กึ ดขี นึ้ หรือพรอ้ มทีจ่ ะทำงานต่อได้ ผมจงึ ดใี จทุกครั้งเม่อื เหน็ เขามีความสุข ดใี จท่เี ขายงั รกั อิสระ ไม่ต้องเครง่ เครียดเรื่องชวี ิตมากนกั ผมเคย เปน็ พวกเจ้ากเ้ี จ้าการคนอน่ื สอดสอ่ งชีวิตคนอืน่ ให้เป็นแบบนน้ั แบบน้ี แน่นอน ผมเคยคาดหวงั เขามากและเคย รสู้ ึกผิดหวงั ห้วงเวลาสนั้ ๆ เหตกุ ารณ์ที่คงทำให้เราไม่เข้าใจกนั สดุ ทา้ ยผมพบว่าเปน็ ตัวเองต่างหากท่ไี มแ่ น่ใจกบั ชวี ติ ของตวั เอง ผมไมไ่ ดข้ อโทษเขาสักคำ ไมไ่ ดท้ ำอะไรเลย ผมถามว่าเขาไดจ้ บั เบสมาเล่นบ้างไหม ใช่ ผมยังได้เลน่ อยู่ เลน่ ใหล้ ูกฟงั ผมคิดว่าการเลน่ ดนตรดี ้วยกัน สมัยนั้นเปน็ เร่อื งราวทีท่ ำให้นกึ ถึงความสขุ ในวนั เกิดของเพอ่ื นเราคนหนงึ่ ผมเคยทำบ้านใหก้ ลายเป็นทีส่ ำหรับ เล่นดนตรี ชวนเพ่ือน ชวนคนรจู้ กั มาฟัง เมากันเละเทะ เต็มไปดว้ ยวีรกรรมมากมาย เต็มไปด้วยเรือ่ งทเ่ี ราไมม่ วี นั ยอ้ นกลบั ไปทำมนั ได้อกี 8 แสงไฟขา้ งถนนเรมิ่ ส่องสวา่ ง รถสญั จรไปมานอ้ ยลง เขาเปน็ คนขบั เราตกลงกนั ไว้ว่าจะขบั รถไปเรอ่ื ยๆ สลับ หน้าทก่ี ัน อาจจะคนละหนึ่งร้อยกโิ ลเมตร ถา้ ไมไ่ หวกจ็ อดนอนในป้มั นำ้ มนั สกั แหง่ คงดูพลิ กึ เกินไปสำหรับเรา ทีจ่ ะนอนคา้ งในโรงแรม

ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 39 | ºÃóҸà หลายปีกอ่ น ผมทะเลาะกับแม่หนักจนไมม่ องหน้ากนั อีก ผมบอกเขาวา่ จะหายไปสกั พัก ไม่ได้พูดให้ฟัง ด้วยซำ้ วา่ ผมคิดเหน็ ยงั ไงเร่ืองแม่ อะไรคือส่งิ ท่ีทำใหเ้ ราไม่ลงรอยกนั จรงิ ๆ แล้วก็ดเู หมือนไมใชเ่ รอ่ื งใหญโ่ ตอะไร แมแ่ ค่พดู วา่ อยา่ เสือก ใช่ คำน้นั ออกจะหว้ น แตไ่ ม่ถงึ กบั หยาบคาย แต่ก็ทำให้ผมรสู้ กึ อบั อายและรู้สึกไดว้ ่าตัวเอง ก้าวลว่ งเขา้ ไปในเรือ่ งท่ผี มไม่ควรใส่ใจตงั้ แต่แรก หลงั ได้ยนิ คำน้นั ผมจงึ ถอยหา่ งออกมาในทันที และตัดสินใจ ไดอ้ ย่างเด็ดขาดในเรื่องท่เี คยลงั เล ผมรู้แลว้ ว่าต้องเลอื กดา้ นไหน ผมเลือกจากมา อยู่ใหห้ ่างจากแมค่ ือสงิ่ ทีด่ ที ่สี ุด ผมรูว้ ่าเขาจะไมถ่ ามอะไรผม ไม่ร่วมรบั รู้อะไรด้วยกับผม นอกจากแค่เป็นคนรับรไู้ วว้ ่าผมจะหายไปสักพกั แมว้ ่าสกั พักของผมคร้ังนน้ั จะยาวนานจนไม่อาจได้อยใู่ นหว้ งเวลาสดุ ท้ายของแม่ บางคร้ัง เรากร็ ับรกู้ ันดเี หลือเกินว่าต้องการให้อีกคนเขา้ ใจไดม้ ากนอ้ ยแคไ่ หน ตอนพอ่ กับแม่หย่าร้างกัน ผมเคยรู้สึกผดิ หวังตวั เอง ร้สู กึ เหมือนถูกหลอกใช้ ผมกลายเปน็ เดก็ ไม่มน่ั ใจ ในตวั เอง คดิ ถงึ แต่ตัวเอง บางครัง้ ผมลืมไปเลยว่าต้องทำอะไร เหมอื นเดก็ เลอ่ื นลอยตลอดเวลา ผมไมร่ ้วู า่ ตัวเอง เปน็ อะไรเหมอื นกนั แต่ผมรสู้ กึ ไมอ่ ยากผกู พันกับใครมากเกนิ ไปอีกแลว้ พ่อกบั แม่กลายเปน็ ความน่าผิดหวัง ผมไมร่ วู้ ่าเขารู้สึกแบบไหน ร้สู ึกเหมือนผมไหม เขายงั เดก็ มากในตอนน้ัน บางทผี มเชอ่ื วา่ เขาไม่ทนั รู้สึก อะไรมากนัก ผมคงโกรธความไรเ้ ดยี งสาแบบน้นั เพราะผมผิดหวงั เพียงลำพงั ผดิ หวงั แบบเด็กๆ 9 เกือบตีสอง ผมยังคงขับรถไปตามถนนสายหลกั สองขา้ งทางมดื มดิ ถนนฝั่งขากลับอยอู่ กี ฟากหนง่ึ มเี พียงแอง่ ดิน ตรงกลางกบั แถวต้นไม้ขวางกั้นเปน็ ระยะ คมิ นอนหลบั สนทิ อยู่ตรงเบาะนง่ั ด้านหลัง เราเพ่งิ เปลยี่ นหน้าท่ีกนั อีกคร้งั เมื่อครง่ึ ชั่วโมงกอ่ น ผมไม่อยากเปิดเพลงคลอ ผมชอบการขับรถเงียบๆ ใช้ความคิดเป็นเพื่อน กาแฟที่เพงิ่ ดืม่ ไปยงั ให้ ความรู้สึกอนุ่ ตวั อยลู่ กึ ๆ ไฟหนา้ รถสอ่ งสว่างดี นานๆ คร้งั จงึ เบี่ยงออกขวาเพอื่ แซงรถบรรทกุ สักคัน ผมรู้สึกอุน่ ใจ ทกุ คร้ังทม่ี องผ่านกระจกหลงั แลว้ เห็นเขานอนหลับอยตู่ รงนนั้ เหมอื นตอนเดก็ ๆ ทเ่ี ราเคย นอนขา้ งกัน หรือพูดคุยกันในขณะท่มี องดดู าวพลาสตกิ เรืองแสงบนเพดาน ผมเคยไดฟ้ ังเร่อื งทเ่ี ขาเก็บเอามาเล่า ถงึ แม้จะไมไ่ ด้ใสใ่ จมากนกั แตเ่ ขาก็เป็นนอ้ งชายคนเดียวของผมเสมอ ผมไมไ่ ดร้ ้สู ึกแบบนน้ี านแล้ว ทั้งอบอนุ่ และโลง่ ใจ อยา่ งนอ้ ยในความหา่ งเหินระหวา่ งกัน ผมยังม่ันใจวา่ เราพรอ้ มจะดแู ลกันและกันในชว่ งเวลาท่ียาก ลำบาก เราไมไ่ ด้มีความรษิ ยา ไม่ไดแ้ ข่งขนั กนั ไม่มีผลประโยชนใ์ ดๆ ท่พี ่อหรอื แมเ่ หลือเอาไว้ หรอื ตอ้ งแสร้ง ปกปดิ เหมอื นพีน่ อ้ งคอู่ น่ื ๆ แน่นอน ผมไม่เชือ่ เรื่องการบอกวา่ รักกนั ไม่เหน็ จำเป็นตอ้ งทำอะไรแบบนั้น ระหว่างนกึ ถงึ พีน่ อ้ งคู่อนื่ ๆ ผมมองเห็นแสงไฟสอ่ งสวา่ งไกลออกไป เม่ือขับรถเขา้ ใกล้มากขนึ้ แสงสว่าง นัน้ อยตู่ รงไหล่ทางด้านขวามอื เปน็ เปลวเพลิงทีก่ ำลงั ลกุ ไหม้บางสง่ิ อยู่ ส่ิงท่ไี ฟกำลงั ลุกไหมอ้ ย่นู ้นั คอื รถคันหน่ึง รถเกง๋ สป่ี ระตู ผมมองสีทแ่ี ทจ้ ริงของรถไม่ออก อาจจะสีแดง หรือสขี าว เพราะไฟแผดเผาตัวรถไปเยอะแลว้ ผมเห็นเศษกระจกแตก กระโปรงหน้ายบุ เขา้ มา ไดก้ ล่ินยาง และกลิ่นของน้ำมันเครื่องลอยอบอวล

ºÃóҸà | 40 ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 ระหวา่ งท่ีชะลอรถดู ผมมองกระจกหลงั เปน็ ระยะ ผมไม่แน่ใจนกั ว่าควรจอดแลว้ ลงไปดู ความรสู้ กึ กังวล ในยามดกึ ชวนให้อดึ อดั อยู่พอสมควร แต่พอนึกถึงแม่ข้นึ มา ผมกเ็ ข้าใจวา่ ตอ้ งลงไปดู ผมไม่ได้ปลุกเขา คิมหลบั สนทิ เขาสวมทปี่ ิดตาสที บึ เมื่อมองออกไปนอกกระจก รถคันนน้ั ถกู ไฟลกุ ไหม้ มากข้ึนเร่อื ยๆ จนไดย้ นิ เสยี งแตกปะทุ ตวั รถติดอยรู่ ะหวา่ งต้นไม้ใหญ่สองตน้ ผมมองไมเ่ ห็นใครสักคนตรงนนั้ พอลงมาจากรถ ผมโทรหาตำรวจในทอ้ งท่ี แจง้ พวกเขาใหเ้ ขา้ มาดทู ีเ่ กิดเหตุ เปิดไฟฉกุ เฉนิ ท่ีรถตัวเองเปน็ สัญญาณ ระหวา่ งนนั้ ผมตะโกนเรยี กไปท่วั บรเิ วณ เผื่อมใี ครสักคนได้ยนิ เสยี งของผม แตไ่ มม่ ีรถคันอน่ื จอดเลย แมแ้ ตค่ ันเดียว เมือ่ ตำรวจวางสาย คิมกร็ ้สู ึกตัว เขาตื่นและเปดิ ประตลู งมาดว้ ยความแปลกใจ เกิดอะไรขนึ้ เขาถาม ผมคิดวา่ เปน็ อุบัติเหตุ เขาถามวา่ ผมเปน็ อะไรรเึ ปล่า ผมบอกวา่ ไม่ เราไมไ่ ดเ้ ปน็ อะไร เขาเดินลงไปดูรถท่ี เสียหลกั อย่ขู า้ งทาง เม่อื เขาเดนิ กลับมา เขาพูดว่ามองไม่เห็นใครในรถเลย เราจะทำยังไงกันตอ่ ดี รอสกั พักหนง่ึ ผมบอกเขา ว่าเพ่งิ โทรแจง้ ตำรวจ เราควรรอให้ตำรวจมาถงึ ท่นี ่ีกอ่ น เผื่อมอี ะไรเกิดข้นึ ระหวา่ งนี้แลว้ เราอาจช่วยเหลืออะไร ได้ ในระหว่างท่รี อ เรายนื อยู่บนไหล่ทาง มองดูไฟลามเลียรถคันนั้นต่อไป คิดว่าคนในรถตายไหม คมิ ถาม แตเ่ หมอื นเขาพดู ออกมาเพราะเผลอคดิ เปลวไฟจากรถคนั น้ันสอ่ งสวา่ ง ใบหนา้ ของเขา เหน็ แววตาที่ซ่อนไว้ซง่ึ ความเจบ็ ปวด ผมนง่ิ เงียบ ตง้ั คำถามที่ไมอ่ าจตอบ คนในรถคันน้นั กำลัง เดนิ ทางไปไหน มาจากไหน และใครท่รี อพวกเขาอยู่ปลายทาง ขอโทษเรือ่ งแม.่ .. ขอโทษจริงๆ ผมพดู ออกมาในที่สุด เหมอื นคำสารภาพผดิ เหมอื นคำที่ควรตอ้ งพูด ออกมาตัง้ นานแลว้ และเมื่อไดพ้ ดู ออกไป เสยี งท่ีพดู กส็ นั่ เครอื ผมตอ้ งเบอื นหน้าไปอีกทาง ไม่อยากให้เขาเหน็ วา่ กำลังรอ้ งไห้ เราไม่ไดพ้ ูดอะไรกันต่ออีก ระหว่างนน้ั ผมไดย้ นิ แคเ่ สยี งไฟท่ีปะทอุ ยูภ่ ายในรถคนั นัน้ 10 ตอนเราขบั รถจากมา ตำรวจกำลงั วทิ ยตุ ่อไปยังหน่วยงานทเ่ี กย่ี วข้อง แตภ่ าพของรถคนั นั้นเหมือนภาพในความฝัน แรกตืน่ เพลิงไฟลกุ ทว่ มลามเลียทุกอย่างเปน็ สีแดงเจอื สม้ ตรงปลายล้ินของมนั เป็นริ้วสเี ทาดำเหมือนลิ้นงูทต่ี วัด แลว้ วบั หายเขา้ ไปในความมืด ก่อนจะโรยตัวลงมาช้าๆ เหมอื นผงถ่าน เหมอื นภาพท่นี า่ กลวั และคงตดิ ตาไป อีกนาน ผมภาวนาในใจขอใหพ้ วกเขาไม่เป็นอะไร คมิ ยงั คงน่ังอย่ทู ่เี บาะหลงั ผมไมร่ วู้ ่าเขาคดิ อะไรอยู่ นอนเถอะ ผมไดแ้ ตบ่ อกเขา เม่อื คมิ แทรกตวั เอง เขา้ มาตรงเบาะนัง่ หน้าเหมือนเดก็ ๆ ผมก็ยงั ไม่รู้จะพดู อะไรกบั เขาดี แต่รู้สกึ อุน่ ใจที่เขาเลือกขยับตวั เขา้ มานั่ง อยูข่ ้างๆ กัน บางทผี มอาจไม่ตอ้ งพูดหรอื พยายามจะทำอะไรอีกแลว้ กไ็ ด้ ผมคดิ ว่าเขารับรอู้ ยแู่ ลว้ ไมว่ ่าเรื่องอะไร กต็ าม เปิดเพลงดไี หม เขาถามและหันมายม้ิ เศรา้ ๆ

ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 41 | ºÃóҸà วาฬร่าเรงิ ศรวี ารี สิบปีหลงั จากนน้ั วัดนก้ี ร็ กร้างจนไม่เหลอื เคา้ แหง่ ความรุ่งโรจน์ โบสถ์หลังใหญ่ทีถ่ กู สร้างข้นึ ด้วยเม็ดเงิน มหาศาลทรดุ ลงแล้ว เพราะขาดคนดแู ลมาเนน่ิ นาน หญ้าไมเ้ ถาวลั ยช์ อนไชลกุ ลาม ตามกาลเวลาแหง่ การท้งิ รา้ ง ทวา่ หากถามอดีตเจา้ อาวาส อยา่ งพระมหาปัญญา ผเู้ ชอ่ื ในอำนาจบารมแี หง่ พุทธะ ท่านก็คงบอกวา่ โบสถท์ ีไ่ มม่ ี พระประธานปกปักรกั ษา กไ็ ม่ต่างไปจากเศษหินดินอฐิ มากองรวมกันไรร้ ศั มศี ักด์ิสทิ ธปิ์ กป้องความหมองหมาง รา้ งโทรมกก็ ัดกิน หลงั จากทีว่ ดั ร้างลง พระประธาน และพระพทุ ธรปู อ่ืน ๆ ถูกยา้ ยไปประดิษฐานยงั วัดอ่นื หลังจากเดินตรวจดูทวั่ บรเิ วณ ผมละจากมา สง่ิ ทอ่ี ยใู่ นร้วั กำแพงวัดไม่ใชจ่ ุดม่งุ หมายของผม ประตูหลงั วดั เปิดออกสทู่ ะเล มีทางคอนกรีตเลก็ ๆ เลือ้ ยผา่ นหญ้าสงู ระดบั หนา้ แข้ง ถงึ สว่ นทเ่ี ปน็ พืน้ ทรายโล่ง ด้านหนึง่ ของลานทรายมเี นินเขาหินตระหงา่ นลำ้ ลงไปในทะเล พระพุทธรูปขนาดใหญอ่ งคน์ ้นั ยังอย่ใู นทว่ งท่าเดมิ หันหน้า ออกสทู่ ะเล ชแู ขนท้งั สองข้างข้ึน ฝ่ามือแบออก ยิ้มกว้าง ดวงตาเบกิ โพลง สีเหลอื งทองลอกหลุดไปจนดำด่าง แตก่ ย็ งั โดดเด่นในทีส่ งู ภาพท่เี ห็นทำให้ผมนกึ ถงึ รปู ปนั้ พระเยซูเหนือยอดเขาในบราซลิ ไม่แปลกหรอกหากใคร จะคดิ วา่ อดตี เจา้ อาวาสสรา้ งพระพุทธรูปองค์นีโ้ ดยลอกเลยี นหรอื ลอ้ เลียน แต่จากบันทกึ ของทา่ นทบี่ งั เอญิ ตกทอดมา ผมจงึ เชอ่ื ว่าท่านสร้างขนึ้ ดว้ ยแรงความคดิ ความเชือ่ ของทา่ นเอง บนั ทึกพระมหาปัญญา (วันท่ี 17 กุมภาพนั ธ์ 35) ย่อหน้าท่ี 2 ...เราเตรยี มใจไวแ้ ลว้ การสรา้ งพระพทุ ธรูปปางร่าเรงิ นั้นเป็นของแปลก เป็นเรอ่ื งใหม่ ผู้ไม่เขา้ ใจอาจมองวา่ เราน้ีเปน็ พระพลิ ึก หรอื อาจถึงขนั้ วา่ เรานอกรตี อยา่ ให้เป็นเช่นน้ันเลย ขอใหพ้ วกเขาเข้าใจ เจตนาของเรา ธรรมะทแี่ ท้ไม่ใช่การกดขม่ รา่ งกายจิตใจ แต่เปน็ การปล่อยวาง หาใช่การปิดก้ัน แตเ่ ป็นการเปดิ ออก เมื่อจิตใจสงบเยน็ ทกุ ทว่ งท่ากค็ ือความงาม ไม่เวน้ แมแ้ ตย่ ามปลดทุกข์ การรับรู้ถึงการเคล่ือนไหวภายใน และการเปน็ ไปภายนอก ตระหนกั รู้ถึงกฎการหมนุ เวียนของจักรวาล ท่วงทา่ อากัปกริ ิยาใดล้วนเปน็ ความงาม ทกุ อย่างขน้ึ อยกู่ ับการตคี า่ จากภายนอก ถา้ มองดว้ ยปญั ญาก็เขา้ ใจ ไม่มองด้วยปญั ญาก็ไม่เขา้ ใจ... ยอ่ หนา้ ที่ 4 ...ความงามของพระพทุ ธรูปคอื การหลอมรวมกบั ธรรมชาตอิ ยา่ งสมบูรณ์ มนั ไม่มีความ ตา่ งระหว่างความปตี ิด้วยดวงหนา้ สงบ กับปตี ิเรงิ ร่าออกทา่ ทาง หากภายในแล้วความรูส้ ึกทง้ั สองไมต่ า่ งกัน มใิ ชจ่ ิตใจของมนษุ ย์หรอกหรอื ที่เปน็ ผู้กำหนดว่า กิริยาท่วงท่าไหนเป็นคุณลกั ษณะอันนา่ เคารพเล่ือมใส เปรียบ ไปก็เช่นมนุษย์ผมู้ ีใจกศุ ล บรจิ าคทานดว้ ยสีหนา้ เคร่งขรมึ สงบงาม กบั บรจิ าคด้วยรอยยิ้มสดใส ใช้สติปัญญา หน่อยก็จะรู้ว่าท้ังสองไม่ตา่ งกนั ผ้โู ง่เขลาตา่ งหากเล่า ทต่ี ีค่าผวิ เผนิ ภายนอกว่าอย่างไหนดกี วา่ กัน...

ºÃóҸà | 42 ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 เปน็ บนั ทึกระหว่างวางแผนสร้างพระพทุ ธรปู ปางรา่ เริง แตส่ ่ิงท่พี ระมหาปญั ญาคาดไวก้ ลบั ผิดไปอยา่ ง มหนั ต์ หลงั จากพระพทุ ธรปู ปางร่าเรงิ เสรจ็ ลง ชาวบ้านกลบั แห่กนั มาบชู ากราบไหว้ เหมารถจากจังหวัดใกลเ้ คียง มากนั ไม่ขาด บางวันต้องมาเข้าแถวยาวเพือ่ รอนมัสการ ไม่นา่ แปลกใจ ผลยอ่ มเกิดจากเหตุ ผลท่ีแปลกประหลาด ยอ่ มเกิดจากเหตุที่ไม่ธรรมดา เรอ่ื งราวตอ่ ไปนจี้ ึงเลา่ ขนึ้ มาโดยการรวบรวมขอ้ มูลจากตัวพระมหาปญั ญาเอง ประกอบกบั บันทกึ ประจำวนั ของทา่ นท่ไี ด้รับตกทอดมา ... พระมหาปัญญาเปรยี บประหน่ึงดวงประทีปของหมบู่ า้ น สอ่ งสวา่ งออกไปไกลถงึ จังหวัดใกล้เคยี ง ทง้ั ที่ ไม่เคยให้หวย ไม่ปลกุ เสกของขลงั ไม่จบการศึกษาขนั้ สงู หลายสิบพรรษา พระมหาปญั ญาใหค้ วามสำคัญกบั วิปสั สนามากกว่าการท่องจำพระไตรปิฎก ย้อนกลบั ไปต้งั แตย่ ังเปน็ เณรน้อย หลงั จากบิณฑบาต กวาดถู ทอ่ งจำ คำสวดมนต์ท่จี ำเปน็ รบั ใช้พระผใู้ หญต่ ามทส่ี ั่ง สามเณรน้อยจะใช้เวลากบั การน่ังสมาธใิ ตต้ น้ โพธิ์ใหญห่ ลงั วัด นานนับชว่ั โมง นอกจากนนั้ ยังหาเวลาเดินจงกรมรอบโบสถ์ ชาวบา้ นมองเณรนอ้ ยองคน์ ีด้ ว้ ยความชื่นชมเอ็นดู บวกดว้ ยความเลอ่ื มใสศรทั ธาไม่ต่างไปจากพระผู้ใหญ่ แมแ้ ตห่ ลวงพอ่ ชมุ่ เจา้ อาวาสในเวลาน้ันมองไปไกล กว่านนั้ ทา่ นเชือ่ ว่าถา้ หากเณรนอ้ ยปญั ญาก้าวพน้ วัยหนมุ่ โดยไมถ่ อนใจจากเส้นทางธรรมเสียก่อน จะต้องกลาย เป็นหลกั ยดึ ของพุทธศาสนาในอนาคตเลยทเี ดียว และหลังจากอายคุ รบบวชไม่ก่ีปี พระหนุ่มกถ็ ูกตัง้ ให้เป็น รองเจ้าอาวาส ดว้ ยความพร้อมใจของพระอาวุโสรูปอ่นื เป็นเอกฉันท์ กิจของพระมหาปญั ญาแปรเปลีย่ นไปบ้าง หลงั จากเจา้ อาวาสมีอาการอาพาธรุมเรา้ พระมหาปญั ญา ตอ้ งออกเทศนเ์ องบอ่ ยๆ และแทนที่จะใช้เรือ่ งราวในพระไตรปิฎกหรอื เรือ่ งเล่าปรมั ปราอา้ งองิ ท่านกลับใช้ เร่ืองราวสมยั ใหม่ และเหตุการณ์ปจั จุบนั เป็นอุทาหรณ์ นนั่ ทำใหท้ ่านตอ้ งศกึ ษาความรเู้ พ่ิมข้ึน กฏุ ขิ องทา่ นจงึ อัดแน่นไปดว้ ยหนังสอื หลากหลาย กระทง่ั หนงั สอื เรียน คมู่ อื วทิ ยาศาสตร์ ไม่เวน้ แม้แต่นิตยสารวยั รุ่น จะนอ้ ย หนอ่ ยกจ็ ำพวกวรรณกรรม ทีแ่ มท้ า่ นจะเห็นว่าเปน็ เรอ่ื งราวน่าสนใจเหมาะแก่การหยิบยกมาเป็นประเดน็ เทศนา แตท่ า่ นบอกว่าหนงั สอื พวกนี้ออกไปทางจนิ ตนาการเพอ้ ฝัน จงึ ยบั ยง้ั ไวเ้ ฉพาะเร่อื งทผ่ี า่ นการกล่ันกรอง อย่างดีแลว้ พระมหาปัญญาเลอื กที่จะเอาธรรมะไปผสานรวมเขา้ กบั เร่ืองราวเหตุการณ์ทชี่ าวบ้านสนใจ ท่าน บอกวา่ “ธรรมะอยู่ในทกุ วนิ าทีของชวี ิต” บางคร้ังก็เปน็ ขอ้ มูลทชี่ าวบ้านไม่เคยรู้ ท่านก็จะบอกวา่ “ธรรมะ กว้างไกลดั่งจักรวาล” บางคราวท่านถงึ กับแต่งเรื่องราวอุทาหรณง์ ่ายๆ ประกอบการเทศนข์ ึ้นเอง อธิบายวา่ “บางทีธรรมะก็เปน็ การมองในมุมที่แตกตา่ งออกไป เช่นบางทเี ราก็อาจมองเห็นตวั เราไม่เปน็ เราอกี ตอ่ ไป” กระนน้ั กิจทางวิปสั สนากรรมฐานของท่านไมเ่ ปล่ียนแปลง กลับยง่ิ เคร่งครัดข้ึนตามเวลาทีล่ ดน้อยลง ชว่ งว่างเว้นจากกิจอ่นื ท่านเคยนง่ั สมาธใิ ตต้ น้ โพธิ์หลังวดั ตลอดสามวนั สามคืน ไมล่ ุกไปไหน จะเป็นปาฏิหารยิ ์ หรือเหตุบังเอิญก็ตาม สามวนั น้นั ฝนไม่ตก ทัง้ ที่เปน็ หน้ามรสุม โดยละแวกใกลเ้ คยี งฝนกระหนำ่ ไม่เวน้ วนั และ ในวันที่ท่านลืมตาออกจากสมาธิ คนื น้นั ฝนตกอยา่ งไม่ลืมหลู มื ตา ทว่านัน่ ก็เพียงคำเลา่ ลือตามสันนษิ ฐาน สง่ิ ท่ี ประจักษ์แจง้ รบั รู้โดยทวั่ ไปคือ รศั มีแหง่ ธรรมที่ปรากฏบนใบหนา้ ของทา่ น ทั้งทอี่ ดอาหารตลอดสามวัน เพยี ง ออกจากสมาธมิ าด่ืมน้ำเล็กนอ้ ยเทา่ นั้น เหตุการณ์น้เี กิดขึ้นในปี 2529 พระมหาปญั ญามีอายุ 35 ปี

ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 43 | ºÃóҸà เร่ืองราวของท่านถูกเล่าลอื ออกไป ชาวบ้านหล่งั ไหลเข้าวัดด้วยความศรทั ธาเล่อื มใส สิ่งทไ่ี ด้กลบั ไปกค็ อื ความสงบรม่ เยน็ ของจิตใจ แม้เพียงเห็นใบหน้าท่ีอ่มิ เอิบด้วยรัศมีความสุข หรอื ได้ฟงั น้ำเสียงทุ้มลกึ เปน็ จังหวะ จากรมิ ฝปี ากแยม้ ย้มิ ของทา่ น น่ยี งั ไม่นับเรือ่ งปาฏหิ าริย์ที่ทา่ นบงั เอญิ แสดงให้เหน็ พระมหาปญั ญากก็ ลายเป็นประทปี ท่สี อ่ งสวา่ งโชตชิ ว่ งในจติ ใจของผู้คนท้งั หมบู่ ้าน บันทึกพระมหาปัญญา (วนั ที่ 17 กนั ยายน 30) ยอ่ หน้าที่ 2 ...วันนโ้ี ยมสมศรีมากราบทำบุญ บอกวา่ หลังเราขอบณิ ฑบาตให้โยมเหน่งเลิกเหลา้ เพราะ ผิดศลี โยมเหนง่ กไ็ มเ่ คยแตะตอ้ งยาดองของเมามารว่ มสามเดือนแลว้ เราจงึ บอกไปว่า แค่พูดไปตามที่ควรจะพดู จะทำบญุ ก็ไปทำกบั หีบบรจิ าคของวดั อยา่ มาทำกบั เรา ก่อนกลับลมื ตวั ไป จึงบอกโยมสมศรีให้ตอ้ งลดอารมณ์ โกรธลงบ้าง อยา่ ไปลงกบั ลูกมากนกั โยมสมศรตี กใจใหญ่ กม้ ลงกราบ รบั ปากเปน็ มั่นเหมาะ ถามวา่ เรารู้ไดอ้ ยา่ งไร เราบอกเพยี งว่าเรารูก้ ็แลว้ กัน น่ลี ะหนา สตไิ พลอ่ อกไปนดิ เดียว เราไม่อยากให้พวกเขาเช่อื ในปาฏิหารยิ ์ มากกว่า เช่อื ในสติ เชอื่ ในปัญญา บนั ทึกพระมหาปัญญา (วันที่ 20 ตุลาคม 30) ย่อหนา้ ท่ี 1 ...โยมผูใ้ หญ่มา บอกว่าชนะเลอื กต้งั เพราะเรา เรากบ็ อกไปวา่ เราไม่ได้ช่วยอะไร แคบ่ อก วา่ การเปน็ ผู้หลักผใู้ หญ่ทค่ี นอื่นนับถอื ตัวเราตอ้ งใชธ้ รรมะเปน็ หลักของตวั เองให้ไดก้ อ่ น โยมผใู้ หญบ่ อกว่า กเ็ พราะทำใจสงบ รักษาศีลตามทีเ่ ราบอกน่ันแหละ ถึงไดช้ ยั ชนะมา เรายบั ยั้งแลว้ วา่ พระเณรวดั เราไม่ก่รี ูป กุฏิ ท่มี กี ็เพียงพอแล้ว แต่โยมผู้ใหญก่ ็ยังยนื ยนั จะสร้างเพมิ่ เราเลยตอ้ งยอม แตม่ ีขอ้ แมท้ ีเลน่ ทจี ริงวา่ ถ้าเช่นน้นั ผใู้ หญ่ต้องรกั ษาธรรมะเชน่ น้ันไปตลอดจนกวา่ กฏุ ิทสี่ ร้างจะพังทลายลง โยมผใู้ หญ่รับปากทนั ทวี า่ ไม่มีทางกลบั ไปร้อนรนอยา่ งเก่าแน่ จงึ ขอสรา้ งเป็นกฏุ ปิ นู เพือ่ ยนื ยนั ว่า ตนเองจะรกั ษาธรรมะในใจอยา่ งมน่ั คงเชน่ อฐิ ปูน เรามาทบทวนยอ้ นหลัง ไม่แนใ่ จว่าทพี่ ูดไปนน้ั ควรหรือไม่ควร คำเทศนค์ ำสอนของทา่ น แม้ไม่ใชก่ ฎคำส่งั บังคับปฏบิ ัติ ทว่ากลบั เป็นเหมอื นกฎเกณฑ์ทางใจของผคู้ น ในหมู่บ้าน หลายคนเปล่ยี นพฤตกิ รรม หรืออยา่ งน้อยก็ร้สู ึกผดิ ทกุ ครง้ั ท่ีก้าวเขา้ สูห่ นทางท่ไี มเ่ หมาะสม อยา่ งเชน่ โยมสม จอมเสเพลของหมูบ่ ้าน อายุปาเขา้ ส่ีสบิ ไร้แก่นสารใดในชีวติ ม่วั ทงั้ พนนั เหล้ายา จนกระทัง่ พระมหา ปัญญาตอ้ งเอย่ ปากเตอื นเป็นการเฉพาะ หลงั จากนน้ั โยมสมมาหาพระมหาปญั ญาหลายคร้งั รอ้ งห่มรอ้ งไห้ที่ พา่ ยแพต้ ่อจิตใจฝา่ ยต่ำ ถลำลงสู่อบายมขุ เดมิ ๆ ซ้ำเล่า หายไปสองเดือน โยมสมกลบั มาอกี ครั้ง กม้ ลงกราบท่ีเทา้ น้ำตาไหลลงสองข้างแก้มเหมอื นเดก็ บอกว่าคร้งั สุดทา้ ย ตง้ั ใจกับตวั เองวา่ จะไมก่ ลบั มาหาหลวงพ่อพรอ้ มกับ ความพา่ ยแพ้อีกแลว้ จะกลบั มากต็ อ่ เมอื่ มชี ยั ชนะ ละเลกิ ทกุ อยา่ งไดแ้ ล้ว หลังจากชีวติ เปลีย่ นไป โยมสมก็กลาย เปน็ อุบาสกทเ่ี ครง่ ครัด คอยชว่ ยเหลือการงานต่างๆ ทางวัดไมเ่ คยขาด เพื่อตอบแทนหลวงพอ่ แต่หลวงพอ่ บอก วา่ ชีวติ ทเี่ ปลยี่ นไปเป็นเพราะโยมสมเอง

ºÃóҸà | 44 ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 ผมดนั ร่างตวั เองขึน้ เนินเขาหนิ เล็กๆ มหี น้าตดั ด้านบนราบเรยี บ ฐานพระพทุ ธรปู กว้างยาวสักสิบเมตร จากด้านบน มองข้ามกำแพงเข้าไป อาณาบรเิ วณวดั ที่ถกู ปกคลุมไปด้วยหญ้า ขณะทอี่ ีกด้าน เห็นความเวงิ้ วา้ ง ของทะเลสุดลกู ตา ไมม่ ีกระถางธปู เทียน คงไมม่ ใี ครขนึ้ มาท่นี ี่อีกเลย นบั แตท่ ี่ไมม่ พี ระมหาปญั ญาแลว้ เหตกุ ารณ์ทีเ่ กิดข้ึนน้ี ทำใหผ้ มตัง้ ขอ้ สงสัยเกี่ยวกบั ความศรทั ธาของมนษุ ย์ และคำถามตอ่ มากค็ ือ อะไร คือ “พระมหาปัญญา” ที่ชาวบ้านเคารพนับถือ ซงึ่ ตวั พระมหาปัญญาเองเชอื่ ว่า ความเคารพนับถือทไ่ี ด้รบั น้นั ไมใ่ ชเ่ พราะตวั ทา่ น แตเ่ พราะธรรมมะ คำพูดของคนไฉนเลยจะมนี ำ้ หนกั ใหค้ นอน่ื เชื่อตามได้เชน่ นัน้ แต่ธรรมมอี ำนาจมหาศาลแมจ้ ากเพยี งรอยยมิ้ ในนมิ ติ ระหวา่ งสมาธมิ ีหลากหลาย ทัง้ การเห็นลูกแก้ว การระลกึ ชาติ ท้ังภพภูมติ า่ งๆ การเห็นนิมิต ของเทวดา หรือกระท่งั การไมม่ ีนิมติ เอง ทว่านิมิตท่ีทรงคุณค่าท่ีสุด และทำใหเ้ ชื่อว่าอำนาจแหง่ ธรรมตา่ งหาก ท่ีดำเนินไป ไมใ่ ชต่ ัวทา่ น คอื นมิ ิตการพบกับพระพุทธองค์ แม้ว่าบางทนี ่นั อาจไมใ่ ช่นิมิต บันทึกพระมหาปัญญา (ทา่ นไมร่ ะบวุ ันท่ไี ว้ แตอ่ ยู่ในช่วงบนั ทกึ ปี 2529) เราไมอ่ าจเช่อื ว่าเปน็ นิมติ เหมอื นกบั ที่พยามยามเชื่อว่าเปน็ ความจรงิ กไ็ มไ่ ด้ แต่กน็ น่ั แหละ อะไรล่ะ คอื ความตา่ งระหวา่ งนิมิตกบั ความจริง ในวนั ท่สี ามของสมาธิ ท้ังท่ตี ัง้ ใจว่าจะน่งั จนครบเจ็ดวนั ตอนนน้ั ผา่ นมา นานแค่ไหน ไม่อาจรไู้ ด้ จติ ใจหลดุ พ้นไปจากความกงั วลเช่นนัน้ แล้ว เราพบว่าตวั เองลมื ตาต่นื ข้ึน พยายาม นึกวา่ กำลงั นง่ั สมาธอิ ยู่หรอื ไม่ เหมอื นเสยี งสะท้อนในหวั กระซบิ กลัว้ หวั เราะ ใครกันลมื ตา ใครกันปิดตา ใครกัน นง่ั สมาธิ เหมือนจะยม้ิ ตอบไป หรือเหมอื นใครคนหนึง่ อาจจะหัวเราะ แลว้ ทกุ อยา่ งกส็ งบลง แสงสว่างจากที่ ไกลโพน้ จนเห็นเป็นเพยี งจดุ ปลายเขม็ ค่อยขยายเจดิ จา้ ยากเหลอื เกนิ ท่ีจะบอกว่าแสงนั้นใกลเ้ ข้ามา หรอื เพียง แต่ขยายใหญ่ ท้ายสดุ ก็กลืนทุกอยา่ งจนไม่เหลอื อะไรเลยนอกจากแสง ร่างหนึ่งสวา่ งจ้าอย่ใู นความสวา่ งจ้าอีกที ไม่อาจบอกได้วา่ รูปหน้าเปน็ อย่างไร แตส่ ง่ิ ท่รี ูส้ กึ กค็ อื ยมิ้ เป็นยิ้มท่อี บอุ่นสงบเยน็ ทำได้เพียงรอ้ งไห้ รอ้ งหนัก ขนึ้ และดเู หมอื นวา่ มันเปน็ การร้องไหจ้ ากความสขุ ท่ีไม่สงิ่ ใดเทยี บไดอ้ กี แล้ว ลืมตาตน่ื ขึ้น ไมว่ า่ เราจะน่ังมานานแค่ไหน เจด็ วนั หนึง่ ปี หรือสามนาที ไม่มีความหมาย โลกตา่ ง ออกไปแลว้ อย่างสิ้นเชงิ รอยยิม้ ของพระพทุ ธองค์ ทำให้ทุกอยา่ งกบั ตวั เราหลอมรวมกบั จังหวะของธรรมชาติ ปาฏิหาริยย์ ง่ิ ใหญเ่ กดิ ขึ้นแล้ว ไม่ใช่ภพภูมเิ ทวดา ไม่ใช่การหย่ังรู้ ไม่ใชว่ าจาสทิ ธ์ิ ไมใ่ ช่การเหาะเหนิ เดินอากาศ แตเ่ ปน็ การไดย้ นิ เสยี งใบไม้ ไดย้ ินเสียงทะเล ได้ร้สู ึกสมั ผสั ผวิ ดิน ได้รู้สึกถึงการหายใจ รสู้ ึกถึงการกระพริบตา และไดร้ สู้ กึ ถงึ ระลอกคลืน่ ความคดิ ที่ซัดเข้าฝั่ง เราประจักษแ์ ล้ววา่ การรอ้ งไหเ้ พราะอม่ิ เอมใจในสมาธิกบั รอยย้มิ อม่ิ สขุ เมอ่ื เราลืมตา ซึ่งอยู่ภายใตส้ ีหน้าปกตนิ น้ั แทจ้ ริงแลว้ คอื สง่ิ เดยี วกัน เราพบพระพทุ ธองค์ได้ตลอดเวลาที่ อยากพบ แม้แตใ่ นผคู้ น เพราะไม่มีอะไรต่างกนั ระหว่างพุทธองคก์ ับธรรมะ ทไี่ หนมธี รรมะทน่ี ่ันก็มพี ระพุทธองค์ พระมหาปญั ญาว่างเวน้ จากการนงั่ สมาธแิ ละเดนิ จงกรมไป หลงั จากพบวา่ สมาธมิ ไี ดท้ กุ เวลา ท่านมงุ่ ไปท่ีการส่งั สอนชาวบา้ น และหาวธิ ีใหธ้ รรมะเข้าถึงผูค้ นมากที่สดุ ท่านใหช้ ่างหมู่บ้านมาตดิ ต้งั เคร่อื งขยายเสียง หนั ออกทัง้ สี่ทศิ เสยี งสวดมนตข์ องทา่ นกระจายผ่านอากาศ แทรกซมึ เข้าในจติ ใจของชาวบ้านทงั้ เช้าเยน็ ตาม

ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 45 | ºÃóҸà ด้วยการเทศนส์ ั้นๆ ทนั สมยั ใช้ในชีวติ ที่ท่านสรรหาข้อมูลมาผกู เป็นเรื่องราว ตบท้ายด้วยขอ้ คดิ สอนใจเป็นแนว ปฏิบัติ เวลาวา่ งเวน้ แทนการนงั่ สมาธทิ ่านกเ็ ดินขึ้นบนเนนิ เขาหนิ นั่งขัดสมาธิ สองมอื วางบนพื้นหนิ มองออก ไปในทะเล ทว่าส่ิงทท่ี า่ นเห็นกลบั เป็นสงิ่ ท่อี ยู่ลึกลงไป ดำดิ่งลงไปภายในภาพ กระท่งั ท่านไดก้ ลายเปน็ ทะเล กลายเป็นเนนิ เขา กลายเปน็ พื้นดิน กลายเป็นก้อนเมฆ และกลายเป็นโลก เดก็ น้อยคนหน่ึงกระโดดโลดเต้นลงไปในทะเล แอ่นตวั โตก้ บั ยอดคลืน่ หวั เราะรา่ เริงเมอ่ื คล่นื ลกู ใหญม่ า กระแทก ดำผุดดำวา่ ยอย่างมคี วามสขุ พระมหาปัญญารวู้ า่ เด็กคนนนั้ คือใคร และทันใดท่เี ด็กคนน้ันหันมาสบตา กับท่าน แสงสวา่ งแหง่ ความสุขนั้นจะขยายใหญ่ขึน้ และกลนื ตัวทา่ นหายไปในความสวา่ งน้ัน ท่านรอ้ งไหอ้ ีกแล้ว ไมต่ า่ งจากวนั ทน่ี ั่งสมาธิ ทา่ นลกุ ขึน้ ยนื สูดหายใจเข้าลึก หายใจออกดว้ ยรอยยม้ิ ที่ฝังลกึ อยู่ในใบหนา้ ท่เี รียบเฉย แลว้ ท่านกว็ างแผนสรา้ งพระพุทธรูปปางรา่ เริงขน้ึ ผมมองดกู ารจดั วางบนรูปหนา้ ของพระพทุ ธรปู ปางร่าเริง พบว่าเป็นสีหนา้ ท่อี ่มิ เอิบ รอยย้ิมกวา้ งบน ริมฝีปากบางเรยี ว ขณะทด่ี วงตาภายใตเ้ รียวควิ้ โค้งงามน้ันยิ่งเบิกกวา้ ง โดยขนาดแล้วเท่าพระประธานในโบสถ์ ท่ัวไป จากตรงน้ี ทำให้ผมยอ้ นนึกไปถงึ ครงั้ ทว่ี ดั นีย้ งั ร่งุ เรอื ง เม่ือมองเข้าไปในรว้ั วัดกจ็ ะเหน็ โบสถ์สีเหลอื งทองอรา่ ม พระประธานองคใ์ หญ่ประดิษฐานดว้ ยทว่ งท่า สง่างาม สงบเย็นอยู่ภายใน ขณะที่นอกกำแพงวัด พระพทุ ธรูปขนาดเดียวกนั อยู่ในท่วงท่าแปลกตา เหมือน เด็กดีใจที่ไดเ้ ห็นทะเล ยืนเด่นสงา่ อยบู่ นเนนิ เขา มนั ช่างเป็นภาพท่ีขดั แยง้ กนั จนจนิ ตนาการไม่ออกว่า ผ้คู นจะ พากันศรัทธาพระพทุ ธรูปสององคน์ พี้ รอ้ มๆ กันได้อยา่ งไร และนคี่ อื สงิ่ ทีย่ ืนยนั ไดว้ ่าพระมหาปญั ญา มีบางอย่าง ท่ีต่างไปจากพระท่วั ไป แรงศรทั ธาส่วนหนงึ่ อาจมาจากปาฏหิ ารยิ ์ ซง่ึ เร่ืองนส้ี ำหรับพระมหาปญั ญาถือเป็นเรือ่ งธรรมดา ทท่ี า่ น เองพยายามปกปิด เหน็ วา่ เปน็ ส่ิงกดี ขวางความศรทั ธาจากธรรมะทแี่ ท้จริง บางคราวเท่านั้นที่ท่านใชต้ าทพิ ย์ หยัง่ รูค้ วามเป็นไปของชาวบา้ น เพ่ือเยยี วยาจิตใจให้เขา้ สทู่ างสวา่ ง และอกี ครัง้ หนงึ่ เปน็ ปาฏิหาริยโ์ ดยไมต่ ัง้ ใจ แตท่ ำใหผ้ ้คู นร่ำลอื ไปไกล ตอนนัน้ พระมหาปญั ญานัง่ อยู่บนเนินเขากบั ความคดิ จะสร้างพระพทุ ธรปู ปางร่าเริง จนพลบค่ำ ทา่ นก็ เดินลงไปทช่ี ายหาดมองขึน้ มาบนเนินเขา วาดภาพพระพุทธรูปข้ึนในความคิด แล้วท่านก็เดนิ ลงไปในทะเล เพ่อื ดมู มุ มองต่างๆ ของพระพุทธรูปทีจ่ ะสร้างขึน้ ถอยหา่ งออกจากฝง่ั ไปอีก เพื่อดจู ากมมุ ที่ไกลออกไป กระทง่ั ห่างจากฝัง่ หลายร้อยเมตร กอ่ นจะเดนิ กลบั เข้าฝง่ั เหตุการณ์นีอ้ ย่ใู นสายตาของเรอื ประมงชายฝ่ังสองลำ คนสค่ี น ยืนยันในปาฏหิ ารยิ ์ด้วยขนลกุ ซู่ พระมหาปญั ญาเดนิ บนน้ำได้ ทา่ นเดนิ ลงไปในทะเลร่วมสองกิโลเมตร ซึ่งท่าน เองเลอื กท่จี ะตอบเพียงว่า เราจะมปี าฏหิ าริยห์ รือไม่ ไม่ใชเ่ ร่อื งสลักสำคญั อะไร ในใจของพระมหาปัญญารู้สึกว่าเปน็ ความผิดพลาดครง้ั สำคัญ

ºÃóҸà | 46 ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 บนั ทกึ พระมหาปัญญา วันนน้ั หากเราเพยี งดำรงสตไิ วส้ กั นิดไมล่ ืมตัว เราคงร้วู า่ มีคนอยู่ น่ีจติ เราไพลเ่ สียเอง ถ้าเพยี งแต่ ไตร่ตรองก่อน ถอดจิตไปดกู ็ได้ แต่นี่ละหนาเพยี งแค่เผลอไผลไป กิเลสกช็ ักพาเราไปเสียแลว้ เรากไ็ ดเ้ พยี ง หวังว่า เม่อื พระพุทธรูปปางร่าเริงเสร็จ คงเปน็ ปรศิ นาธรรมให้ชาวบา้ นเข้าใจวา่ ปาฏิหารยิ ์ใดเหนือกวา่ ความ เบิกบานรา่ เรงิ ในธรรมะไม่มอี กี แล้ว พระมหาปัญญาไมอ่ าจควบคุมสงิ่ ที่อยู่เหนืออำนาจของท่านได้ ในวนั ทำพิธีประดษิ ฐานพระพทุ ธรูป ปางร่าเรงิ วาฬสนี ้ำเงนิ ขนาดใหญ่ เกยตนื้ ตายอยบู่ นชายหาดใกลเ้ นินเขา ซ่งึ วาฬสนี ้ำเงินมถี ่นิ ที่อย่ใู นทะเลลึก ไมป่ รากฏในทะเลอ่าวไทย สรา้ งความแปลกใจให้เจ้าหน้าทมี่ าก ประตบู ้านทกุ หลังปดิ ผู้คนหลามกนั มาเตม็ ชายหาด พูดกันว่า กระทงั่ วาฬสีน้ำเงินจากทะเลไกลโพ้นยังอตุ ส่าห์วา่ ยน้ำมานมสั การพระพุทธรูปองคน์ ้ี ชาวบา้ น กลับไปด้วยความตื้นตัน ไมน่ านข่าวลือก็แพรส่ ะพัด ชื่อเสียงของพระมหาปญั ญาเปน็ ท่ีรู้จักไปทวั่ เปา้ หมายการประกาศศาสนาโดยอำนาจธรรมะของท่าน รดุ หน้ากว่าทคี่ ดิ ทว่ามีสองสงิ่ ทร่ี บกวน พระมหาปัญญาเสมอ อย่างแรกคอื ความไพลห่ ลงไปในศรทั ธาทผ่ี คู้ นมีตอ่ ท่าน แตเ่ รอ่ื งน้ที ่านเอาชนะได้โดยง่าย กำหนดจิตกบั ปจั จุบัน ตัวตนเก่าตายลงไปทกุ วินาที ไมม่ ีส่ิงใดใหย้ ดึ ถอื ครอบครอง พระมหาปญั ญาผู้มีช่อื เสียง ตายลงไปแล้ว ไมใ่ ช่พระมหาปัญญาคนปจั จุบัน ท่ีเพง่ิ ตื่นลืมตา ยังมไิ ดใ้ หค้ ณุ ให้โทษกับผ้ใู ด สง่ิ นีท้ า่ นชนะ ไดง้ า่ ยดาย เพยี งแตต่ ้องเผชิญกบั มนั บอ่ ยก็เท่าน้นั ทา่ นกำหนดการตายลงของตวั เองวนั ละหลายรอบ แตอ่ าวุธอยา่ งเดยี วกนั กลบั ใชไ้ มไ่ ด้ กับสิง่ รบเร้าประการท่ีสอง หญงิ สาวผู้น้ันเปน็ ลูกสาวของคนงาน ก่อสรา้ งท่มี ากอ่ สร้างพระพทุ ธรปู ใช่ว่าทา่ นจะไมเ่ คยถูกมารทดลอง หญงิ สาวรูปงามหลายคน ทต่ี คี วามยมิ้ แหง่ เมตตาธรรมเป็นยม้ิ เสน่หา แตไ่ ม่มีสกั คร้งั ท่ีจติ ใจของท่านละล่วงลกึ กลอุบายแห่งโนมเนอ้ื ตา่ งจากเดก็ หญิงอายุ สิบเจ็ด เน้อื ตัวผอมกร้านแดด คอยส่งถงั ปูนใหพ้ ่อบนนงั่ ร้าน เธอมองท่านอยา่ งชื่นชม จ้องลกึ เข้าใจดวงตา โดยไมพ่ า่ ยแพก้ บั ตบะแก่กลา้ ประหนง่ึ ว่าเด็กหญิงผ่านล่วงลกึ ลงไปในตวั ท่าน และหลอ่ นกพ็ บ ขณะทตี่ วั ทา่ น กพ็ บ ทั้งสองพบกนั ในสง่ิ ทอี่ ยลู่ กึ ลงไปในทง้ั สองฝา่ ย คนื จนั ทร์เต็มดวง พระมหาปัญญาเดนิ ผ่านเพงิ พกั คนงาน ออกไปยืนรมิ หาดทราย แสงจันทรป์ รากฏ เด่นอยูบ่ นเหนือโครงน่งั รา้ นพระพทุ ธรปู เด็กหญิงเดนิ ออกมายืนขา้ งทา่ นเงียบ ๆ บนั ทกึ พระมหาปญั ญา เธอชา่ งกลา้ นกั บอกเราด้วยทีทา่ เรยี บง่ายว่ารักเรา แมจ้ ะเป็นสง่ิ ทีร่ ูอ้ ยแู่ ล้ว แตก่ น็ ่ิงอึ้งไปไม่ร้จู ะตอบโต้ อย่างไร เธอบอกใหเ้ ราพูดบ้าง เพยี งแต่เราบอกว่ารักเธอ เธอกร็ อเราตลอดไป แมเ้ ราจะลาสกิ ขาตอนอายุ แปดสิบ เราไมม่ ีความกลวั เลยทีจ่ ะบอกรัก เพราะมนั คือความจริงทห่ี นักแนน่ อยู่ในเรา เพียงแตเ่ ราอยใู่ นผา้ เหลือง จะพูดอย่างนนั้ ได้อย่างไร จงึ ตอบไปว่า เธอยอ่ มรู้ดอี ยู่แลว้ จะใหเ้ ราพดู ทำไม เธอพยกั หน้า บอกว่าเขา้ ใจ และจะรอ เวลาน้นั แหละทเี่ รากลวั เหลอื เกินว่า คำพดู ท่ีพูดไปเป็นการลว่ งเกินเพศสมณะของเราหรอื ไม่ เรากลวั

ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 47 | ºÃóҸà เหลือเกนิ วา่ จะไมพ่ บพระพทุ ธองค์ท่ีชายหาดอกี หรือบางทอี าจไมพ่ บพระพทุ ธองค์ในท่ไี หนๆ อีกเลย เราไม่มี จติ ใจทเี่ ขียนบันทกึ อกี เลย กลวั ว่าจะเป็นบนั ทึกของคนทราม โดยเฉพาะเมอื่ เราเขา้ สู่สมาธใิ นโบสถ์วันถดั มา บุรุษในแสงเจดิ จ้ามองเราด้วยแววตานิ่งเฉย เหมือนวา่ เราไมม่ ตี วั ตนอยู่ คร้ังนเี้ ป็นครัง้ แรกท่ีเราเห็นพระพกั ตร์ ของพระพทุ ธองค์ชัดเจน ท้ังทแ่ี สงสว่างกย็ ังคงเจิดจ้าไม่เปล่ยี นแปลง และเป็นหนแรกทเี่ ราไม่ไดร้ ้องไห้ปีตใิ น นิมติ เราออกจากสมาธดิ ้วยใจทุกข์ ไม่แนใ่ จวา่ เราไดส้ น้ิ สดุ ชีวติ แหง่ พทุ ธะไปแลว้ หรือไร กระท่ังรุ่งเช้า กอ่ น บณิ ฑบาต เรารอ้ นใจออกไปทเี่ นนิ เขาหนิ อีกคร้งั และในความมดื นน้ั พระพุทธองค์เลน่ นำ้ อยู่ เมอ่ื หนั มามองเรา แสงสว่างจากดวงตาคนู่ ้ันก็คอ่ ยๆ เจดิ จา้ ปกคลมุ ความมดื กระทงั่ ปกคลุมโลกทั้งโลก แล้ว จักรวาลทงั้ จกั รวาล ก็กลายเป็นแสงสว่าง เราร้องไห้ และรอ้ งไห้ เหมือนคราวกอ่ น ๆ เราถงึ รวู้ า่ เราไม่ได้หลดุ หายจากพทุ ธะเลย เราจึงมีพลังพอทจ่ี ะเขียนบนั ทึกหน้าน้ี พระมหาปัญญาพอใจท่ีความรักของท่านทมี่ ตี อ่ เดก็ สาว ไมม่ ีความกำหนัดเข้ามาเก่ยี วข้อง จึงทำให้ ทา่ นไมต่ อ้ งกดข่มเนอื้ หนังของตนให้เป็นมลทนิ แปดเป้ือนผ้าเหลือง พระมหาปัญญาพบว่า ทกุ คร้งั ทีท่ า่ นทำสมาธิในโบสถ์ ท่านก็เหน็ พระพกั ตร์ของพทุ ธองค์เฉยชา แต่ หากท่านเขา้ สูส่ มาธิท่เี นินเขา รอยย้มิ ของพุทธองค์ก็ทำใหท้ ่านปตี ทิ ุกคร้งั และสิง่ นเ้ี อง ไดก้ ำหนดวถิ ีทางของ ท่านในเวลาต่อมา หลงั จากพิธีอัญเชิญประดิษฐาน พระพุทธรูปไม่ถงึ เดือน ท่านกเ็ รียกชาวบา้ นมาประชมุ กัน แจง้ วา่ เปน็ วนั ทีท่ า่ นจะประกาศมรณภาพ ชาวบา้ นแน่นศาลาการเปรียญแปลกใจท่ีเหน็ เจ้าคณะอำเภออยทู่ นี่ ัน้ ดว้ ย พระมหาปัญญากล่าวด้วย สีหน้าแยม้ ยิ้มอ่มิ สขุ เชน่ เคยวา่ หนทางศรัทธาของท่านคอื การตายและเกดิ ใหม่ทุกวินาที ทำใหท้ ่านร้สู ึกสดใหม่ กับทุกอย่างเหมือนเดก็ แรกเกดิ และมคี วามสุขกบั ทุกสว่ นเส้ียวของธรรมะได้ และบดั นก้ี ็ถงึ อายุขยั ของท่านแล้ว ท่ีจะเป็นตายลงอยา่ งแท้จรงิ ของพระมหาปญั ญา เพอื่ ความสดใหม่ของส่วนเส้ยี วอื่นๆ โดยการก้าวเข้าสู่ภพภูมิ ใหม่ของการมีครอบครวั เสยี งเงียบปรากฏยาวนาน หลังจากนั้นกก็ ลับอื้อองึ ด้วยเสยี งพดู คุย หลักจากลาสกิ ขาแลว้ นายปัญญาก็พดู กับทกุ คนครั้งสุดท้ายว่า เขากบั หญิงก่อสร้างรกั กนั พกั หนึง่ แล้ว และกล่าวยนื ยนั ว่าพระมหาปัญญาไม่เคยประพฤตเิ สือ่ มเสียแม้เพยี งคำพดู ตอ่ หญงิ สาว นายปัญญากล่าวตอ่ วา่ สิ่งใด ทด่ี ีงามของตวั กข็ อให้รักษาไว้ เพราะแม้พระมหาปญั ญาไมอ่ ยู่ แตธ่ รรมะก็ยังอยู่ เฉกท่ีพระพทุ ธองคป์ รนิ ิพพาน ไปแลว้ แต่ธรรมะจะยงั คงอยชู่ ัว่ นิรนั ดร นายปญั ญาจากไปพร้อมกบั กลุ่มคนงานก่อสรา้ ง พระพุทธรูปปางร่าเรงิ กลายเป็นความเสื่อมเสยี กระถางธูปเทียนบูชาถูกยกออก ชาวบ้านกลมุ่ หนึ่งเสนอ ใหท้ บุ ทิง้ แต่กลมุ่ ทไ่ี ม่อาจสลัดทงิ้ ความเปน็ พระพุทธรูปออกไปได้ กย็ บั ยง้ั ไว้ บอกวา่ ถงึ อยา่ งไร กอ็ ยูน่ อกวัด

ºÃóҸà | 48 ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 โดยนำปา้ ยไปปดิ ไว้ว่า น่คี อื อฐิ หลอ่ ธรรมดา หาใชพ่ ระพุทธรูป กเ็ พยี งพอแล้ว เกบ็ ไวเ้ หมือนกบั งานศิลปะ ธรรมดา ทำให้หมู่บ้านมสี ิ่งน่าสนใจบ้าง บางทอี าจมีนักท่องเที่ยวอยากดู หรอื วันดคี นื ดีอาจมใี ครอยากถา่ ยทอดเรือ่ งราวประจานความอตุ ริของภิกษุจอมปลอมชอ่ื พระมหา ปัญญา องคน์ ้นั ใหช้ าวโลกรู้ เสยี งเล่าลือเรื่องวาฬสนี ้ำเงนิ เปลยี่ นไป พระพุทธรูปปางรา่ เรงิ กลายเป็นความวบิ ตั ิ ทแ่ี มธ้ รรมชาติ กช็ ้ี ลางใหเ้ ห็นในวนั ทีม่ นั ถือกำเนิดข้นึ ผู้คนไม่อาจยอมรบั ในสิ่งท่เี กิดข้นึ การมาวดั คอื การตอกย้ำความโง่งมของตนท่ีถกู พระมหาปญั ญาหลอกลวง กระทั่งพระลกู วัดบางองค์ถึงกับหมดความหวังในพุทธศาสนาลาสกิ ขาไปกม็ ี นอกน้ันกย็ า้ ยไปจำท่วี ดั อนื่ ผู้ใหญ่หนั มาปลอ่ ยดอกเบย้ี ขดู เลอื ดเนื้อชาวบา้ น และกลับไปคบกับเมยี นอ้ ยคนเดิม สามขี องสมศรีกลบั มาด่มื เหลา้ เช้าจรดคำ่ สมศรีประชดด้วยการตลี ูกจนตอ้ งเขา้ โรงพยาบาล สมฉดี ยาเข้าเสน้ เปน็ คร้งั สุดท้ายของชีวติ เพอื่ ประชดความโงเ่ ขลาของตนเอง ไมน่ านวดั นก้ี ็ร้างลง หญา้ วัชพชื ขน้ึ ปกคลมุ เหมือนกับวิถขี องหม่บู า้ น ทอ่ี บายตา่ งๆ เขา้ เกาะกนิ ... เริ่มมืดแลว้ คนื น้ีสิบหา้ ค่ำพระจนั ทร์เตม็ ดวง ยามพระจนั ทรข์ ึน้ สูง พระพทุ ธรปู ปางร่าเรงิ จะยังสง่างาม เช่นในอดตี หรือไม่ จากระยะไกล ผมเหน็ แสงจันทร์ฉาบไลผ้ ิวของพระพุทธรูปทีโ่ ดดเดน่ อยู่บนลูกเขาหนิ งดงาม เหมอื น รูปปั้นนัน้ กำลังจะโบยบนิ ขน้ึ ไปในอากาศ ซ่ึงไมใ่ ชเ่ ร่ืองแปลกอะไรหากจะเป็นเชน่ นัน้ ผมรับรู้ถงึ การเคลอ่ื นไหวข้างลา่ งใกลๆ้ ฝ่าเทา้ เป็นแรงกระแทกจากผวิ นำ้ พบวา่ เปน็ ปลาวาฬสีน้ำเงิน ขนาดเลก็ ตัวหนง่ึ ดูเหมอื นมันจะมุง่ หนา้ ไปที่พระพุทธรปู ปางรา่ เรงิ ผมรบี เดินไปใหท้ ันก่อนที่มันจะขึ้นเกยฝง่ั ลูบหวั มันเบาๆ และบอกใหม้ ันหนั หลังกลับไป ผิวบอบบาง ของมนั ยงั ออ่ นเยาว์เกนิ กว่าจะทานทนพน้ื ทราย ทีข่ องมันคอื ทะเลลกึ ทีซ่ ึ่งมันจะดื่มด่ำกับสีฟ้าครามของท้องฟ้า และทะเล เราหนั หลังให้กัน มนั ม่งุ หนา้ ออกทะเลกว้าง หวงั วา่ มันคงหาทางกลับสทู่ ะเลลกึ สำเร็จ ขณะท่ผี มกา้ วเดนิ ชา้ ๆ ไปบนผิวนำ้ กลับเขา้ ฝ่ัง ...

ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 49 | ºÃóҸà เหย่ือ ยศวุฒิ เอียดสังข์ -1- แดดกลา้ ยามบา่ ยร้อนระอุ เหนอื บ่อน้ำขนาดใหญ่ที่คดเคี้ยวกินอาณาบริเวณกวา้ ง แสงจ้าสาดสอ่ งเร่ง ใหต้ ะไคร่น้ำเตบิ โตจนผืนธารกลายเป็นสีเขยี วเข้ม สัตว์ยักษล์ อยตวั นิ่งราวกบั ขอนไม้ กระจายอยู่ทว่ั บรเิ วณ บางตัว นอนอาบแดดอย่บู นฝ่ัง เปดิ ขากรรไกรกว้างอวดแผงเข้ียวแหลมคม มองดคู ลา้ ยกำลงั ส่งย้มิ ใหน้ กั ท่องเท่ยี ว อย่างเกยี จครา้ น “จระเข!้ จระเข้!” พายทำตาโตชนี้ ้ิวไปยังสตั ว์เล้อื ยคลานตัวเขอื่ งบนฝงั่ เดก็ สาววัยสิบแปดร้องตะโกนด้วยความตน่ื เตน้ เธอเดินเกาะไปตามรวั้ เหล็กชา้ ๆ สายตาจับจ้องลงไปยังผืนน้ำทสี่ ะท้อนแดดพราวระยิบ โดยมีผมเดินตามไปติดๆ เสือ้ ยดื สีขาวของพายยบั ยน่ มีลายรูปผีเสื้อปกี แดงขนาดครึ่งฝา่ มอื ปกั อยกู่ ลางหลงั ทุกคร้งั ทเ่ี ธอเคลอ่ื นไหว คลา้ ยมันกำลงั ขยับปีกโบยบนิ ผมมักชวนพายมาเที่ยวที่นี่บ่อยครั้ง บ้านเราอยตู่ ิดกนั ในเคหะชุมชนดา่ นสำโรง ตง้ั แตจ่ ำความไดเ้ รา สองคนคลกุ คลดี ้วยกันมาตลอด กินดว้ ยกนั เล่นด้วยกัน เท่ียวด้วยกนั ทกุ วันหยุดสดุ สปั ดาห์เรามกั ชวน กันไปท่ารถ ขอข้นึ รถตรู้ ับส่งของคนรจู้ ักน่ังเตร็ดเตร่ไปเรื่อยเปือ่ ย ตามแต่จุดหมายของผ้โู ดยสารในวนั น้ัน และ ฟาร์มจระเขแ้ หง่ นี้คือหน่งึ ในปลายทางทเี่ ราโปรดปรานเปน็ ท่สี ดุ “ดโู น่น เขากำลงั ใหอ้ าหารจระเข”้ ผมชนี้ ้ิวบอกพาย เราว่งิ รีไ่ ปยงั กลุ่มนกั ทอ่ งเทย่ี วทีก่ ำลงั ยนื ออกนั อยตู่ รงมมุ หนึ่งของสะพาน ชายหนมุ่ ผอมสูงอายรุ าวยีส่ บิ ต้นๆ ผิวกรา้ นแดด ในมือหว้ิ ถังพลาสตกิ ใบใหญ่บรรจุโครงไกส่ ง่ กล่ิน คาวคลุง้ ยนื นง่ิ จอ้ งมองผืนน้ำอยู่หลังราวสะพาน จระเขย้ ังคงแหวกวา่ ยอย่างเกยี จคร้าน บางตวั นอนอาบแดด อยไู่ กลลบิ เซอ่ื งซมึ เงยี บเหงา ไร้ว่แี ววหวิ กระหาย กระท่งั เสียงตะโกนลากยาวของชายหนมุ่ เร่มิ ดงั กอ้ ง ววู้ วว ววู วว วู้ววว วูววว... สมุ้ เสียงลกึ ลำ้ มหี นกั เบาสงู ตำ่ เปน็ ท่วงทำนองแปลกประหลาด เรยี กใหจ้ ระเขเ้ กียจคร้านเร่ิมขยบั ตัว เสียงนน้ั คล้ายปลุกความหิวโหยใหฟ้ ื้นตืน่ จากหลบั ใหล พวกมนั พุง่ กระโจนลงนำ้ จนแตกกระเซ็นซา่ นเสียงดัง สนั่นหวน่ั ไหว แหวกว่ายตรงมายังตำแหนง่ ทีช่ ายหนุ่มยืนรออยู่ พรบิ ตาฝูงจระเข้ลอยตวั โผล่หวั สลอนเต็มผืนน้ำ

ºÃóҸà | 50 ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 | มกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 แผน่ หลงั ขรุขระเตม็ ไปดว้ ยปุ่มปมตัดกับผิวน้ำราบเรยี บ หางเรยี วแหลมกวัดแกวง่ เชอื่ งช้า พร้อมขากรรไกรท่ีคอ่ ย ๆ เปดิ อา้ อวดฟันแหลมคม ผมอดคดิ ไมไ่ ด้ว่าร่างกายจะแหลกสลายหายไปเร็วเท่าใดหากตกลงไปในดงเขยี้ ว เหลา่ นน้ั ความเงยี บกลบั มาอีกครั้ง จระเข้หยดุ เคลอื่ นไหว พายบีบแขนผมไว้แนน่ ไม่มีใครพดู อะไรในวนิ าทีนั้น กระทั่งชายหนมุ่ ลว้ งมอื ลงในถงั พลาสตกิ หยบิ โครงไกช่ นิ้ หน่งึ โยนลงไปทา่ มกลางฝูงจระเข้ เสยี งขากรรไกรงบั ฉบั ดังนา่ ขนลุก พร้อมความชลุ มนุ ในสายน้ำทแ่ี ตกสานซ่านกระเซน็ สตั วร์ า้ ยหวิ โซแยง่ ทึ้งโครงไกช่ นิ้ แล้วช้ินเลา่ อย่างเอาเป็นเอาตาย บางตวั กระโจนขึ้นงับอาหารกอ่ นหล่น ตูมลงนำ้ โครงไกบ่ างชิ้นถกู เหว่ียงตกลงบนพืน้ คอนกรีต จระเขต้ ัวเขื่องโผขนึ้ จากน้ำเอยี งคองับช้ินเน้ือหายวบั ใน พริบตา การใหอ้ าหารผา่ นไปอยา่ งรวดเร็ว กระทัง่ ถังพลาสตกิ เหลอื เพียงความวา่ งเปล่า นกั ท่องเท่ยี วปรบมอื ชอบใจ พายเกาะแขนผมไวแ้ น่น ทว่าสายตายังคงตน่ื เต้นกับภาพตรงหนา้ ผมกด ปดิ ปมุ่ บนั ทึกบนโทรศัพทม์ อื ถือ ยงั หายใจไม่ท่ัวท้องกบั การแสดงท่เี พง่ิ ผา่ นพน้ สายน้ำกลับมาสงบนิง่ ฝงู สตั ว์ เลือ้ ยคลานแยกยา้ ย พายเกาะรั้วเดินตามจระเขต้ วั หนงึ่ ที่กำลงั วา่ ยผละออกไป แดดทอแสงทาบผ่านตวั เด็กสาว ขับสขี องผีเสอื้ ปีกแดงบนหลงั ให้เด่นชัด มันขยับไหวคล้ายกับมชี วี ิต มองจากขา้ งหลงั คลา้ ยพายกำลังขยบั ปกี โบยบนิ ไปตามทางคดเคย้ี วของลำน้ำ -2- พายอย่กู ับแม่เพยี งลำพงั แม่ทไ่ี ม่เคยกลับบ้านก่อนเธอเลยสักครง้ั แม่ท่มี กั หายไปต้ังแต่เชา้ และกลบั มา พร้อมกลิ่นเหล้าในเวลาฟา้ สางของอกี วนั ชว่ งเวลาท่อี ยดู่ ้วยกันเธอจึงสมั ผสั ไดเ้ พียงเสยี งกรนในยามหลับ และ เสยี งพรำ่ บ่นกน่ ดา่ จากแมใ่ นยามต่นื การถูกยดั เยยี ดให้เป็นต้นเหตขุ องความย่อยยับในชีวิตจากแม่นับวา่ เลวร้าย แลว้ แต่สงิ่ ทแ่ี ยท่ ี่สุดคอื ทกุ ครงั้ ท่พี ายถูกทำรา้ ย ทุกคร้ังท่ีมบี าดแผล แม่จะสมานมนั ด้วยความเมนิ เฉย เย็นชา และลงเอยด้วยการซ้ำเตมิ ทกุ คร้ังท่ีแมก่ ลบั มาบ้านพรอ้ มลมหายใจท่ีกรนุ่ ไปดว้ ยกล่นิ ของสุรา มันคือความผดิ ของแก...แววตาของแมค่ ลา้ ยบอกอยา่ งนนั้ บาดแผลบนรา่ งกายจึงเป็นเรือ่ งปกติของพายเสมอมา นอกจากการถูกทำรา้ ย เธอยงั กลายเป็นผูส้ ร้าง รอยแผลใหต้ วั เองอกี ด้วย ทกุ คนื ทแ่ี ม่ดมื่ เหล้า เชา้ อีกวนั พายจะตื่นมาพร้อมรอยกรีดเลก็ ๆ บนขอ้ มอื ถา่ ยรปู อัปโหลดขึน้ โซเชียลมีเดีย ให้ทกุ คนไดร้ ่วมรบั รถู้ งึ ความเจบ็ ปวด “หนง่ึ แผล ตอ่ หนึง่ วันที่แม่เมา” “เราหายกนั ” คำบรรยายใต้ภาพบอกอยา่ งนั้น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook