แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาสังคมศึกษา 1

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาสังคมศึกษา 1 (รหัสวิชา ส22101) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ปีการศึกษา 2564 นายสายชล ชังอินทร์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ โรงเรียนปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานนทบุรี

1 แผนการจัดการเรยี นรู้ ฉบับ ในช่วงการแพร่ COVID-19 ระบาดระลอกใหม่ เดอื น พฤษภาคม 2564 ช่ือ ครผู สู้ อน นายสายชล ชงั อินทร์ รหสั วชิ า ส 22101 ช่ือวิชาสังคมศกึ ษา 1 ******************************************* 1.หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เร่ือง การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศเพ่ือนบ้าน เวลา…… 1 ……ชว่ั โมง………….. แผนการจดั การเรยี นรู้เรื่อง 1 การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาเข้าสูป่ ระเทศเพื่อนบา้ นและการนับถือพระพทุ ธศาสนาของ ประเทศเพ่ือน บ้านในปัจจบุ ัน(1) วันที่ 23– 24 ธันวาคม 25643 2. สาระสำคญั คือ พระพุทธศาสนาเปน็ ส่วนหน่งึ ของวิถีชวี ิตของผู้คนในภมู ิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปน็ รากฐานของ วัฒนธรรม สง่ เสริมคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ทำให้สังคมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ให้เกิดความสงบสุข 3. มาตรฐานและตัวชี้วดั มาตรฐานการเรียนรู้ ส 1.1 รู้และเข้าใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือและศาสนาอืน่ มี ศรัทธาท่ถี ูกตอ้ ง ยึดมน่ั และปฏบิ ัติตามหลกั ธรรมเพ่ืออยรู่ ่วมกันอย่างสนั ติสขุ ตัวชวี้ ดั ส 1.1 ม.2/1 อธบิ ายการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือสูป่ ระเทศเพอ่ื นบ้าน 4. จดุ ประ สงคก์ ารเรียนรู้ ดา้ นความรู้ 1. นำเสนอแนวทางในการส่งเสรมิ พระพทุ ธศาสนาในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ (K) 2. ศกึ ษาทำความเข้าใจการเข้ามาเผยแผ่พระพุทธศาสนาในภูมภิ าคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (P) 3. เห็นความสำคัญของพระพุทธศาสนาท่สี ่งผลตอ่ วถิ ชี วี ิต วัฒนธรรม และความเชื่อของผู้คนในภมู ิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉยี งใต้ (A) 5. สาระการเรียนรู้ คอื เนอ้ื เรอ่ื ง หรือองคค์ วามรู้ ทกั ษะ กระบวนการของผู้เรยี นที่จะต้องเรียนรใู้ นรายวชิ านั้น ๆ การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสภู่ มู ภิ าคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 6. การบวนการการเรียนรู้ คือ การระบกุ ิจกรรมการเรียนรทู้ ่ีจัดขึน้ เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นเกิดการเรียนรู้ โดยแบง่ เปน็ ขัน้ 6.1 นำเข้าสู่บทเรยี น ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเก่ยี วกับความสำคญั ของพระพุทธศาสนาต่อประเทศเพ่ือนบา้ น โดยครใู ชค้ ำถามกระต้นุ ความคดิ ดังน้ี - นกั เรียนมีความเข้าใจเกี่ยวกับพระพทุ ธศาสนาอยา่ งไรบ้าง (ตัวอยา่ งคำตอบ พระพุทธศาสนา เป็นสิ่งทยี่ ดึ เหน่ยี วจิตใจ ของพุทธศาสนิกชน) -- - พระพุทธศาสนามีความสำคัญอยา่ งไรตอ่ ตวั นักเรียน (ตัวอยา่ งคำตอบ เป็นส่งิ ท่ีช่วยขดั เกลา จิตใจใหเ้ ปน็ คนดี จากหลกั คำสอนทางพระพุทธศาสนา)

6.2 ขัน้ สอน (การเรียน) 1. ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาเข้าสู่ประเทศเพ่ือนบา้ นและการนับถือ พระพทุ ธศาสนาของประเทศเพื่อน บ้านในปจั จุบัน 2. - ครใู ห้นกั เรียนแสดงความคดิ เห็นตามพ้นื ฐานความรูป้ ระสบการณ์ของตนเอง - นกั เรียนคิดว่าสาเหตุใดที่ทำให้พระพทุ ธศาสนาเผยแผ่เขา้ สภู่ ูมภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ (ตวั อยา่ งคำตอบ หลังจากความเลอื่ มใสศรทั ธาในพระพุทธศาสนาของชาวอนิ เดยี ลดลง พระเจา้ อโศกมหาราช ผูซ้ ่งึ เลอื่ มใส ศรัทธาในพระพุทธศาสนาเปน็ อย่างมาก ไดส้ ่งคณะพระธรรมทูตออกไปเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาในภมู ิภาคต่าง ๆ แต่ท่มี ี ความเจริญรุ่งเรอื งอย่างมาก คอื ภูมิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้) 3 จากน้ันครสู อนเรื่องการเผผแผพ่ ระพุทธศาสนา ด้วย powerpoint 6.3 ขนั้ สรุป นกั เรียนและครูรว่ มกันสรุปความรู้ ดงั น้ี พระพุทธศาสนาเปน็ สว่ นหนง่ึ ของวิถชี ีวิตของผคู้ นในภูมภิ าคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ เปน็ รากฐานของวัฒนธรรม ส่งเสรมิ คุณธรรม จริยธรรม ทำให้สังคมในภมู ภิ าคเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ เกดิ ความสงบสขุ ให้นักเรียนแสดงความคิดเหน็ โดยครใู ช้คำถามทา้ ทาย ดงั นี้ นักเรยี นคิดว่าสถานภาพของ พระพทุ ธศาสนาในประเทศเพื่อนบ้านของไทยมีความม่ันคงมากน้อยเพยี งใด 6.4 การประเมินผล แบบรูบริค 6.5 การมอบหมายการเรยี นรูเ้ พ่ิมเติมในรูปแบบส่ือ ON line 6.5.1 ส่ือการเรยี นรู้รปู แบบ เช่น คลปิ วดิ ีโอ/เอกสารเน้ือหา/เวบ็ ไซต์ คลปิ วดี โี อ / powerpoint / pakkredlearningcyber / Google sites เรอ่ื ง การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาเขา้ ส่ปู ระเทศเพ่ือนบา้ นและการนับถอื พระพุทธศาสนาของประเทศเพอ่ื น บ้านในปัจจุบัน 6.5.2 ใบงาน/การทดสอบรูปแบบ แบบทดสอบ pakkredlearningcyber เรือ่ ง การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาเขา้ สู่ ประเทศเพื่อนบ้านและการนับถือพระพุทธศาสนาของประเทศเพื่อน บ้านในปัจจบุ ัน 7. สื่อ/อุปกรณ/์ แหลง่ การเรียนรู้ คอื เคร่ืองมือในการสง่ เสรมิ การเรียนรทู้ ี่ใช้ตามท่ีกำหนดในกจิ กรรมการเรียนรู้ - pakkredlearningcyber 8. การวัดและประเมนิ ผล คือ การประเมินผลผู้เรยี นตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ซง่ึ ควรระบุเครื่องมือวัดและเกณฑ์ การใหค้ ะแนน ซึง่ สามารถศึกษาไดจ้ ากคมู่ ือหลักสตู รแกนกลางศึกษาและรบู รคิ ทท่ี ำไว้ 9. บนั ทึกผลหลังการจัดการเรยี นรู้ คือการบันทกึ ของครผู ู้สอนจากสงิ่ ที่พบในการนำแผนจดั การเรียนรู้มาใช้ โดย แบง่ เปน็ ผลการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ปญั หาและอุปสรรค และ ข้อเสนอแนะ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ........................................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................................

ปัญหาและอุปสรรค ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ขอ้ เสนอแนะ .......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... --

2 แผนการจดั การเรยี นรู้ ฉบับ ในชว่ งการแพร่ COVID-19 ระบาดระลอกใหม่ เดอื น พฤษภาคม 2564 ชื่อ ครูผูส้ อน นายสายชล ชงั อนิ ทร์ รหสั วชิ า ส 22101 ช่ือวิชาสังคมศกึ ษา 3 ******************************************* 1.หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เร่ือง การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาเขา้ สปู่ ระเทศเพ่ือนบ้าน เวลา…… 1 ……ชวั่ โมง………….. แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง การเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาเขา้ สู่ประเทศเพ่ือนบ้านและการนบั ถอื พระพทุ ธศาสนาของ ประเทศเพ่ือน บ้านในปัจจบุ นั (2) วันท่ี 23– 24 ธนั วาคม 2564 2. สาระสำคัญ คือ พระพทุ ธศาสนาเป็นส่วนหน่งึ ของวิถชี ีวิตของผู้คนในภูมภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ เปน็ รากฐานของ วฒั นธรรม สง่ เสรมิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ทำให้สงั คมในภมู ภิ าคเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ให้เกิดความสงบสขุ 3. มาตรฐานและตัวช้ีวัด มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 1.1 รูแ้ ละเขา้ ใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาท่ตี นนับถือและศาสนาอ่นื มี ศรัทธาท่ีถูกต้อง ยึดมัน่ และปฏบิ ตั ติ ามหลกั ธรรมเพ่ืออยู่รว่ มกนั อย่างสันตสิ ขุ ตวั ชีว้ ัด ส 1.1 ม.2/1 อธบิ ายการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนบั ถือส่ปู ระเทศเพือ่ นบ้าน 4. จดุ ประ สงค์การเรยี นรู้ ด้านความรู้ 1. นำเสนอแนวทางในการสง่ เสริมพระพทุ ธศาสนาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (K) 2. ศึกษาทำความเขา้ ใจการเข้ามาเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาในภมู ิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ (P) 3. เห็นความสำคญั ของพระพุทธศาสนาทสี่ ง่ ผลต่อวิถีชวี ติ วฒั นธรรม และความเช่อื ของผู้คนในภูมิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ (A) 5. สาระการเรียนรู้ คอื เนอ้ื เร่ือง หรือองค์ความรู้ ทักษะ กระบวนการของผูเ้ รียนท่จี ะต้องเรียนรใู้ นรายวิชานัน้ ๆ การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาเข้าสภู่ ูมิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ 6. การบวนการการเรยี นรู้ คอื การระบุกิจกรรมการเรยี นรทู้ ี่จัดข้ึน เพือ่ ใหผ้ ูเ้ รียนเกิดการเรียนรู้ โดยแบง่ เปน็ ขั้น 6.1 นำเขา้ สบู่ ทเรยี น ให้นักเรยี นสงั เกตแผนทแ่ี สดงประเทศในภมู ภิ าคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทม่ี ผี ้นู บั ถอื พระพุทธศาสนา จากนั้นครใู ช้คำถาม ใหน้ กั เรียนร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ ดังนี้ ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มปี ระเทศใดบ้างที่นับถือพระพุทธศาสนา (ตวั อยา่ งคำตอบ ลาว กมั พชู า เวียดนาม มาเลเซยี สงิ คโปร์ และอินโดนเี ซีย) 6.2 ขั้นสอน (การเรียน) ครสู อนเรื่องการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ดว้ ย powerpoint การนับถือพระพุทธศาสนาในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในปจั จบุ ัน

การนบั ถือพระพุทธศาสนาในประเทศมาเลเชยี ในปจั จุบนั การนับถือพระพุทธศาสนาในประเทศกัมพชู าในปัจจบุ นั การนับถือพระพุทธศาสนาในประเทศอินโดนเี ชยี ในปจั จบุ ัน การนบั ถือพระพุทธศาสนาในประเทศสิงค์โปร์ในปจั จุบัน 6.3 ขน้ั สรุป ครูและนกั เรียนสรุปร่วมกัน การนับถอื พระพทุ ธศาสนาในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในปัจจบุ นั มี สถานภาพอย่างไร (ตวั อย่างคำตอบ ประชาชนลาวมคี วามเคารพศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างมนั่ คงยงั รักษาวฒั นธรรม ประเพณีแบบด้ังเดมิ ในพระพุทธศาสนาและผูค้ นสว่ นใหญ่ในประเทศนับถือพระพุทธศาสนาเชน่ เดยี วกบั ประเทศไทย)------ - สถานการณพ์ ระพุทธศาสนาในประเทศกัมพูชามีความเป็นไปอย่างไรในปจั จบุ ัน (ตัวอยา่ งคำตอบ ประเทศกมั พชู าอยูใ่ นภาวะการฟ้ืนฟปู ระเทศ พระพุทธศาสนายังไมม่ นั่ คงเท่าท่ีควรแตม่ ีแนวโนม้ ทด่ี ขี ้ึน ตามการฟื้นฟปู ระเทศ) - ปจั จุบนั ในเวียดนามมีคนนับถือพระพุทธศาสนามากน้อยเพียงใด (ตัวอย่างคำตอบ จำนวนผ้คู นนบั ถอื มีจำนวนลดลง เพราะประเทศเวยี ดนามเคยเป็นอาณานิคมของฝรงั่ เศสมากอ่ นทำใหม้ ีผู้คนหนั ไปนับถือศาสนาคริสต์เพ่ิมขึ้- - พระพทุ ธศาสนาในประเทศมาเลเซียมีสถานภาพเป็นอยา่ งไร (ตัวอย่างคำตอบ ประชาชนส่วนใหญน่ บั ถอื ศาสนา อสิ ลาม แตม่ ีพลเมืองที่เปน็ เช้ือสายจนี และไทยยังนบั ถือพระพุทธศาสนาอย่างเหนยี วแน่น) - การนับถือพระพุทธศาสนาในประเทศสิงคโปรม์ ีสถานภาพอย่างไรบ้าง (ตัวอยา่ งคำตอบ ชาวสิงคโปรส์ ่วนใหญเ่ ป็น เช้ือสายจนี นับถือพระพุทธศาสนานิกายมหายาน มสี มาคมองคก์ รทางพระพุทธศาสนาเป็นจำนวนมากเพื่อจัด กิจกรรมสงั คมสงเคราะห)์ - สถานท่ใี ดท่ีเป็นสถานท่ีแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาในประเทศอนิ โดนเี ซียมาก่อนตง้ั แตค่ รั้งโบราณ (พุทธสถานวิหารบุโรพุทโธ ซึ่งกอ่ สรา้ งขน้ึ สมัยอาณาจักรศรีวิชยั ) - ปัจจุบนั การนบั ถอื พระพทุ ธศาสนาในประเทศอนิ โดนีเซยี มลี ักษณะอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ มีประชากรรอ้ ยละ 1 เท่านั้นที่นบั ถือพระพุทธศาสนา และมชี าวจนี บนเกาะชวาประกาศตนเป็นพุทธศาสนกิ ชนทกุ ๆ ปี โดยใช้วันวิสาขบู ชาประกอบพธิ ีทวี่ หิ ารบโุ รพุทโธ) 6.4 การประเมินผล แบบรูบริค 6.5การมอบหมายการเรียนรูเ้ พิ่มเตมิ ในรูปแบบสื่อ ON line 6.5.1 ส่ือการเรยี นร้รู ูปแบบ เชน่ คลิปวดิ โี อ/เอกสารเน้ือหา/เวบ็ ไซต์ คลิปวีดโี อ / powerpoint / pakkredlearningcyber เรือ่ ง การเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาเขา้ สปู่ ระเทศเพอื่ นบ้านและการนับถอื พระพทุ ธศาสนา ของประเทศเพ่ือน บ้านในปจั จบุ นั

6.5.2 ใบงาน/การทดสอบรูปแบบ แบบทดสอบ pakkredlearningcyber เรื่อง การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาเข้าสู่ ประเทศเพื่อนบ้านและการนับถอื พระพุทธศาสนาของประเทศเพื่อน บ้านในปจั จุบัน 7. ส่อื /อปุ กรณ/์ แหลง่ การเรียนรู้ คอื เครอ่ื งมือในการส่งเสริมการเรยี นร้ทู ่ใี ชต้ ามท่ีกำหนดในกจิ กรรมการเรยี นรู้ - pakkredlearningcyber 8. การวดั และประเมนิ ผล คือ การประเมนิ ผลผเู้ รียนตามจุดประสงค์การเรยี นรู้ ซงึ่ ควรระบุเครือ่ งมือวดั และเกณฑ์ การใหค้ ะแนน ซ่ึงสามารถศกึ ษาได้จากคู่มือหลักสูตรแกนกลางศึกษาและรบู รคิ ทที่ ำไว้ 9. บันทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้ คอื การบนั ทึกของครผู ู้สอนจากส่ิงท่ีพบในการนำแผนจดั การเรยี นร้มู าใช้ โดย แบง่ เปน็ ผลการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ปัญหาและอุปสรรค และ ข้อเสนอแนะ ผลการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ........................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ปญั หาและอุปสรรค ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ขอ้ เสนอแนะ .......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... -

แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre - Test) ช่ือ _______________________________ นามสกลุ __________________เลขท่ี__________ช้นั _____ ให้ระบายคาตอบทถ่ี กู ต้องลงในวงกลมตัวเลือกให้เต็มวง (ห้ามระบายนอกวง) 1. ขอ้ ใดกล่าวถึงสถานการณ์การนบั ถือพระพุทธศาสนาในประเทศเวยี ดนามไดถ้ ูกตอ้ ง 1 ประชากรร้อยละ 80 นบั ถือพระพุทธศาสนา 2 ชาวเวยี ดนามนบั ถือพระพทุ ธศาสนาแบบนิกายมหายาน 3 พระพทุ ธศาสนานิกายมหายานไดร้ ับอิทธิพลจากทิเบต 4 ปัจจุบนั พระพทุ ธศาสนาในเวียดนามไดล้ ม่ สลายลงหลงั จากเวยี ดนามปกครองประเทศ แบบคอมมิวนิสต์ 2. รูปแบบของพระพุทธศาสนาในประเทศกมั พูชาในปัจจุบนั ไดร้ ับแนวการปฏิบตั ิตามแบบพระสงฆจ์ ากประเทศใด 1 ประเทศไทย 2 ประเทศอินเดีย 3 ประเทศศรีลงั กา 4 ประเทศลาว 3. พระพุทธศาสนาไดเ้ ผยแผเ่ ขา้ สู่ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในยคุ สมยั ใด 1 ยคุ ทวารวดี 2 ยคุ อาณาจกั รศรีวิชยั 3 ยคุ อาณาจกั รลา้ นชา้ ง 4 ยคุ อาณาจกั รลา้ นนา 4. ขอ้ ใดกล่าวถึงเหตุการณ์พระพุทธศาสนาในเมียนมาไม่ถูกตอ้ ง 1 พระพุทธศาสนาแบบนิกายเถรวาทเผยแผเ่ ขา้ ไปในเมียนมาเป็นคร้ังแรกท่ีเมืองสะเทิมหรือ สุธรรมวดี 2 ปัจจุบนั ชาวเมียนมานบั ถือพระพุทธศาสนานิกายมหายานเป็นส่วนใหญ่ 3 พระเจา้ มินดงไดฟ้ ้ื นฟพู ระพุทธศาสนาในเมียนมาโดยทรงเป็นองคอ์ ุปถมั ภก์ าร ทาสังคายนาคร้ังท่ี 5 4 พระมหาเจดียช์ เวดากองเป็นท่ีบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจา้

5. พระพทุ ธศาสนาเผยแผเ่ ขา้ สู่ดินแดนภมู ิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ หรือดินแดนสุวรรณภมู ิ ในช่วงเหตุการณ์ใด 1 หลงั จากการตรัสรู้ของพระพุทธเจา้ 2 หลงั การแสดงโอวาทปาติโมกขข์ องพระพุทธเจา้ 3 หลงั เสร็จสิ้นการทาสังคายนาพระธรรมวินยั คร้ังที่ 3 4 ก่อนจะมีการทาการสังคายนาพระธรรมวินยั คร้ังท่ี 3 6. มีหลกั ฐานใดแสดงใหเ้ ห็นวา่ พระพุทธศาสนานิกายมหายานเคยเจริญรุ่งเรืองในประเทศ อินโดนีเซียในสมยั อาณาจกั รศรีวิชยั มาก่อน 1 รูปธรรมจกั ร 2 พระพทุ ธรูปสลกั หินบนเนินเขา 3 สถปู เจดียท์ ่ีพบโดยทว่ั ไป 4 พระวหิ ารบุโรพทุ โธ 7. ขอ้ ใดกลา่ วถึงสถานการณ์การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาในประเทศมาเลเซียไม่ถูกตอ้ ง 1 พระพทุ ธศาสนาแบบเถรวาทเผยแผเ่ ขา้ ประเทศมาเลเซียคร้ังแรกในพุทธศตวรรษท่ี 3 2 พระพทุ ธศาสนาแบบมหายานเผยแผเ่ ขา้ ประเทศมาเลเซียในสมยั อาณาจกั รศรีวชิ ยั 3 คนที่นบั ถือพระพุทธศาสนาในประเทศมาเลเซียส่วนใหญ่เป็นชนเช้ือสายอินเดีย 4 ผนู้ บั ถือพระพุทธศาสนาในประเทศมาเลเซียส่วนใหญ่เป็นคนเช้ือสายจีน 8. ชาวสิงคโปร์ส่วนใหญน่ บั ถือพระพุทธศาสนาแบบนิกายใด 1 ขงจื๊อ 2 เต๋า 3 เถรวาท 4 มหายาน 9. ประเทศใดเมื่อเทียบกบั จานวนประชากรแลว้ มีผนู้ บั ถือพระพุทธศาสนานอ้ ยท่ีสุด 1 เมียนมา 2 ลาว 3 กมั พชู า 4 อินโดนีเซีย

10. ประเทศใดในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตน้ บั ถือพระพุทธศาสนาต่างนิกายจากประเทศอ่ืน 1 ไทย 2 เมียนมา 3 สิงคโปร์ 4 ลาว

แบบทดสอบหลงั เรียน (Post - Test) ช่ือ ______________________ นามสกุล______________________เลขท่ี_______ ช้นั _____ ให้ระบายคาตอบทถี่ กู ต้องลงในวงกลมตัวเลือกให้เต็มวง (ห้ามระบายนอกวง) 1. พระพุทธศาสนาเผยแผเ่ ขา้ สู่ดินแดนภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ หรือดินแดนสุวรรณภูมิในช่วงเหตุการณ์ใด 1 หลงั จากการตรัสรู้ของพระพุทธเจา้ 2 หลงั การแสดงโอวาทปาติโมกขข์ องพระพุทธเจา้ 3 หลงั เสร็จสิ้นการทาสังคายนาพระธรรมวินยั คร้ังท่ี 3 4 ก่อนจะมีการทาการสังคายนาพระธรรมวินยั คร้ังที่ 3 2. ขอ้ ใดกลา่ วถึงเหตุการณ์พระพุทธศาสนาในเมียนมาไม่ถูกตอ้ ง 1 พระพทุ ธศาสนาแบบนิกายเถรวาทเผยแผเ่ ขา้ ไปในเมียนมาเป็นคร้ังแรกที่เมืองสะเทิมหรือ สุธรรมวดี 2 ปัจจุบนั ชาวเมียนมานบั ถือพระพทุ ธศาสนานิกายมหายานเป็นส่วนใหญ่ 3 พระเจา้ มินดงไดฟ้ ้ื นฟพู ระพุทธศาสนาในเมียนมาโดยการทรงเป็นองคอ์ ปุ ถมั ภก์ าร ทาสงั คายนาคร้ังที่ 5 4 พระมหาเจดียช์ เวดากองเป็นท่ีบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจา้ 3. พระพทุ ธศาสนาไดเ้ ผยแผเ่ ขา้ สู่ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในยคุ สมยั ใด 1 ยคุ ทวารวดี 2 ยคุ อาณาจกั รศรีวิชยั 3 ยคุ อาณาจกั รลา้ นชา้ ง 4 ยคุ อาณาจกั รลา้ นนา 4. รูปแบบของพระพทุ ธศาสนาในประเทศกมั พชู าในปัจจุบนั ไดร้ ับแนวการปฏิบตั ิตามแบบ พระสงฆจ์ ากประเทศใด 1 ประเทศไทย 2 ประเทศอินเดีย 3 ประเทศศรีลงั กา 4 ประเทศลาว

5. ขอ้ ใดกลา่ วถึงสถานการณ์การนบั ถือพระพุทธศาสนาในประเทศเวยี ดนามไดถ้ กู ตอ้ ง 1 ประชากรร้อยละ 80 นบั ถือพระพทุ ธศาสนา 2 ชาวเวยี ดนามนบั ถือพระพทุ ธศาสนาแบบนิกายมหายาน 3 พระพทุ ธศาสนานิกายมหายานไดร้ ับอิทธิพลจากทิเบต 4 ปัจจุบนั พระพทุ ธศาสนาในเวียดนามไดล้ ่มสลายลงหลงั จากเวยี ดนามปกครองประเทศแบบ คอมมิวนิสต์ 6. ขอ้ ใดกล่าวถึงสถานการณ์การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาในประเทศมาเลเซียไม่ถกู ตอ้ ง 1 พระพทุ ธศาสนาแบบเถรวาทเผยแผเ่ ขา้ ประเทศมาเลเซียคร้ังแรกในพุทธศตวรรษที่ 3 2 พระพทุ ธศาสนาแบบมหายานเผยแผเ่ ขา้ ประเทศมาเลเซียในสมยั อาณาจกั รศรีวิชยั 3 คนที่นบั ถือพระพทุ ธศาสนาในประเทศมาเลเซียส่วนใหญ่เป็นชนเช้ือสายอินเดีย 4 ผนู้ บั ถือพระพุทธศาสนาในประเทศมาเลเซียส่วนใหญ่เป็นคนเช้ือสายจีน 7. ชาวสิงคโปร์ส่วนใหญ่นบั ถือพระพทุ ธศาสนาแบบนิกายใด 1 ขงจื๊อ 2 เต๋า 3 เถรวาท 4 มหายาน 8. มีหลกั ฐานใดแสดงใหเ้ ห็นวา่ พระพทุ ธศาสนานิกายมหายานเคยเจริญรุ่งเรืองในประเทศ อินโดนีเซียในสมยั อาณาจกั รศรีวชิ ยั มาก่อน 1 รูปธรรมจกั ร 2 พระพุทธรูปสลกั หินบนเนินเขา 3 สถปู เจดียท์ ่ีพบโดยทว่ั ไป 4 พระวิหารบุโรพุทโธ 9. ประเทศใดในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตน้ บั ถือพระพุทธศาสนาตา่ งนิกายจากประเทศอื่น 1 เมียนมา 2 ลาว 3 กมั พชู า 4 อินโดนีเซีย

10. ประเทศใดเม่ือเทียบกบั จานวนประชากรแลว้ มีผนู้ บั ถือพระพุทธศาสนานอ้ ยท่ีสุด 1 ไทย 2 เมียนมา 3 สิงคโปร์ 4 ลาว เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-Test) 1. 2 2. 1 3. 3 4. 2 5. 4 6. 4 7. 3 8. 4 9. 4 10. 3 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน (Post-Test) 1. 4 2. 2 3. 3 4. 1 5. 2 6. 3 7. 4 8. 4 9. 3 10. 3

ใบงานพระพุทธศาสนา เรอ่ื ง พระพุทธศาสนาในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชและในประเทศเมียนมา ชือ่ ....................................................................................................เลขท่.ี .............ห้อง ม.2/.......... คาชีแ้ จง ให้นักเรยี นทากิจกรรมตอ่ ไปนี้ ตอบคาถามสั้นๆ 1. พระพทุ ธศาสนาในอินเดียเจรญิ สงู สดุ ในสมยั กษัตรยิ พ์ ระองคใ์ ด..................................................... 2. พระเจา้ อโศกมหาราชทรงสง่ เสรมิ การเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาโดยวิธีการใด ..................................... .................................................................................................................................................. 3.การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาไปยงั ประเทศต่างๆ อย่างกวา้ งขวางในสมยั พระเจา้ อโศกมหาราชนนั้ มี วิธีการอย่างไร ...................................................................................................................................... 4. ดินแดนสวุ รรณภมู เิ ป็นดนิ แดนท่ีประกอบดว้ ยประเทศใดบา้ ง .............................................................. 5. พระเถระท่ีเดนิ ทางมาเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาในดินแดนสวุ รรณภมู คิ อื ใคร ........................................... 6. ประเทศพมา่ ในสมยโบราณมีอาณาจกั ท่่ียงิ่ ใหญ่เป็นของชนชาติพมา่ คืออาณาจักรใด กษัตริยพ์ ระองคแ์ รกท่ี ปกครองอาณาจกั รมพี ระนามว่าอะไร ......................................................................................... 7.การท่พี ระพทุ ธศาสนาเจริญรุง่ เรืองในประเทศต่าง ๆ จนเป็นท่ยี อมรบั นับถือของประชาชนผทู้ ่มี บี ทบาทสาคญั คือ ใคร....................................................................................................................................... 8. กษตั รยิ พ์ ม่าพระองคใ์ ดท่ีมีบทบาทสาคญั ในการฟื้นฟูพระพทุ ธศาสนา.................................................. 9.รฐั บาลพมา่ แกไ้ ขปัญหาความแตกแยกของคณะสงฆใ์ นประเทศโดยวิธีการใด ....................................... 10. บทบาทของพระสงฆใ์ นประเทศพม่าท่ที าใหร้ ฐั บาลพมา่ เกิดปัญหาในการปกครองดแู ลคืออะไร .......................................................................................................................................................... เจดยี .์ ....................... ความสาคญั ....................................................................... ...........................................................................................

ใบพระพุทธศาสนา เรอ่ื ง พระพทุ ธศาสนาในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชและในประเทศเมียนมา ชอ่ื ....................................................................................................เลขท่ี..............ห้อง ม.2/.......... คาชีแ้ จง ให้นักเรียนทากิจกรรมต่อไปนี้ นาาตัวอักษรหน้าขอ้ ความในหมวด( ข ) ไปใส่ในชอ่ งวาง หน้าขอ้ ความในหมวด (ก )ให้พันธก์ ัน หมวด ก หมวด ข ก. ไปประกาศพระพทุ ธศาสนาในดินแดนสวุ รรณภมู ิ …… 1.พระเจา้ อโศกมหาราช . ข. โปรดใหส้ ง่ พระสงฆไ์ ปประกาศพระพทุ ธศาสนาในประเทศ ....... 2. พระโมคคลั ลีบตุ รติสสเถระ ตา่ งๆ ค. ประเทศท่ีประชากรสว่ นใหญ่นบั ถือพระพทุ ธศาสนา ..........3. พระโสณเถระกบั พระอตุ ตรเถระ เช่นเดยี วกบั ประเทศไทย … ง เป็นประธานในการเลือกสรรพระสงฆท์ ่เี ช่ียวชาญในการเทศนา ……4. เมียนมา ลาว กมั พชู า และเวยี ดนาม เพ่อื สง่ ไปประกาศพระพทุ ธศาสนา จ. ทรงเล่ือมใสศรทั ธาในพระพทุ ธศาสนาทรงใหป้ ระชาชนปฎิ ………5. พระเจา้ อนรุ ุทธะหรืออโนรธามงั ชอ่ ญาณตนเป็นพทุ ธมามกะ ……….6. พระเจา้ บเุ รงนอง ฉ.ทรงมีพระราชสาสน์ ไปขอพระไตรปิฎกจากกษัตรยิ เ์ มืองสะเทิม จงึ เป็นสเ้ หตใุ หเ้ กิดสงครามกนั ……….7. พระเจา้ มนิ ดง ช. ประกาศหามพระสงฆเ์ ขา้ ไปย่งุ เก่ียวกบั การเมอื ง ซ เป็นพระขนิษฐภคินีของพระมหนิ ทเถระไปอปุ สมบทให้ ……….8. พระมหินทเถระ สตรีชาวลงั กา ฌ เป็นโอรสของพระเจาอโศกมหาราชไปประกาศศาสนา …………9. พระสงฆม์ ิตตาเถรี ในลงั กาทวีป ญ ทรงอปุ ถมั ภั การทาสงั คายนาพระไตรปิฎก ครงั้ ท่ี 5 ระหวา่ ง …………10. นายพลเนวิน พ.ศ. 2411- 2414

ใบงานพระพุทธศาสนา เรอื่ ง การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศลาวและประเทศกัมพูชา ชือ่ ....................................................................................................เลขท.่ี .............ห้อง ม.2/.......... คาชแี้ จง ให้นักเรียนทากจิ กรรมตอ่ ไปนี้ ตอบคาถามสั้นๆ 1. พระพุทธศาสนาในประเทศลาวมีความมน่ั คงและไดร้ ับการยอมรับในสมยั ของกษตั ริยพ์ ระองคใ์ ด …………………………………………………………………………………………………….. 2. พระพุทธรูปองคใ์ ดท่ีไทยอญั เชิญมาจากนครเวียงจนั ทร์และปัจจุบนั ประดิษฐานอยทู่ ี่วดั ใด …………………………………………………………………………………………………….. 3. ผกู้ ่อต้งั และทรงเป็นกษตั ริยพ์ ระองค์ แรกแห่งอาณาจกั รลา้ นชา้ งคอื ใคร………………………….. 4. รูปแบบการปกครองคณะสงฆข์ องประเทศลาวได้ รบั แบบอย่างมาจากประเทศใด................... 5. ประเทศลาวตกเป็นประเทศราชของประเทศไทยในสมัยกษตั ริยไ์ ทยพระองคใ์ ด…………………. 6. อาณาจกั รกมั พชู าไดร้ บั อิทธิพลทางอารยธรรมจากประเทศใด ..................... 7. ศาสนาท่มี บี ทบาทและมอี ิทธิพลในอาณาจกั รกมั พชู าโบราณคือศาสนาใด ............................... 8. กษตั รยิ ไ์ ทยพระองค์ ใดท่ีมีบทบาทสาคญั ทาใหก้ มั พชู าหนั มานบั ถือนกิ ายเถรวาทแทนท่ฝี ่ายมหายาน ................................................................................................................................................. 9. พระพทุ ธศาสนาในกมั พชู าปัจจบุ นั มีกี่นิกาย นกิ ายอะไรบา้ ง........................................................ 10. กษตั ริย์ กมั พชู าพระองค์ ใดท่ที รงอปุ ถมั ภพ์ ระพทุ ธศาสนา ทรงโปรดเกลา้ ฯใหส้ รา้ งปราสาทนครธม และ ปราสาทบายนเป็นศนู ยก์ ลางราชธานี……………………………………………………. พระธาต.ุ .................................. ปราสาท..........................................

ใบพระพุทธศาสนา เรื่องการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศลาวและประเทศกัมพูชา ช่ือ....................................................................................................เลขท.่ี .............ห้อง ม.2/.......... คาชแี้ จง เขยี นเคร่ืองหมาย  หน้าข้อทถ่ี ูก และเขยี นเครื่องหมาย  หน้าข้อทผ่ี ิด 1.ลาวมีประชากรส่วนใหญ่นบั ถือพระพุทธศาสนาและไดป้ ระกาศใหพ้ ระพทุ ธศาสนาเป็นศาสนาประจาชาติ2. พระ เจา้ ฟ้างุม้ เคยเขา้ ไปรับราชการอยใู่ นราชสานกั ของพระเจา้ กรุงงอินทปัตถข์ องกมั พชู า 3.พระเจา้ ฟ้างุม้ เป็นกษตั ริยอ์ งคแ์ รกแห่งอาณาจกั รน่านเจา้ ท่ีสามารถรวมหวั เมืองตา่ งๆใหเ้ ป็นอนั หน่ึงเดียวกนั 4.พระนางแกว้ ยอดฟ้าเป็นมเหสีของพระเจาฟ้างมุ้ ท่ีทรงนบั ถือพระพุทธศาสนานนิกายมหายาน 5 การปกครองดว้ ยระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสตของลาวได้ ส่งผลกระทบต่อพระพทธศาสนามาก มีการบงั คบั ใหพ้ ระสงฆ์ ทาไร่ทานาเยยี่ งบุคคลทวั่ ไป 6. พระเจา้ โพธิ สารราชทรงไดร้ ับการยกยอ่ งให้ เป็นมหาราชองคท์ ี่2 ของลาว 7.ในรัชสมยั ของพระเจา้ ไชยเชษฐาธิราชพระพทุ ธศาสนาในลาวได้ รับการอปุ ถมั ภ์ บารุงเป็นอยา่ งดีแต่หลงั จากการ สิ้นสุดสมยั น้ีไปแลว้ พระพุทธศาสนกค็ ่อย ๆ เสื่อมลง 8.พระพุทธศาสนาได้ เผยแผ่ เขา้ สู่ ประเทศกมั พูชาคร้ังแรกราวพุทธศตวรรษที่ 8 โดยการนาของ พระมหินทเถระ 9. พระพุทธศาสนาที่เขา้ มาในอาณาจกั รฟนู นั ของกมั พชู าในสมยั แรก ๆ คอื นิกายเถรวาท โดยมี พระสงฆช์ าว อินเดียนา มาเผยแผ่ 10. ในปลายพุทธศตวรรษท่ี 11 อาณาจกั รฟูนนั ู เสื่อมลงอาณาจกรเจนละเขา้ มามีอิทธิพลแทนที่ กษตั ริยท์ ุกพระองค์ ของอาณาจกั รเจนละนบั ถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดูทาให้ พระพุทธศาสนา แทบจะสูญสิ้น 11.พระพทุ ธศาสนาในกมั พชู าไดร้ ับกาฟ้ื นืฟมาอีกครั้งหลงั จากท่ีพระสงฆช์ าวกมั พูชาได้ ไป ศึกษาพระพทุ ธศาสนาท่ี กรุงเทพมหานคร 12.คณะสงฆใ์ นกมั พชู าแบง่ ออกเป็น 2 นิกายคอื มหานิกายและธรรมยุตนิ กิ ายเชน่ เดียวกบั ประเทศไทย 13. ในช่วงท่ีเฮง สัมริน เป็นรัฐบาลของกมั พูชาพระพุทธศาสนาได้ รับการฟ้ื นฟูไปพร้อมๆ กบั การบรู ณะประเทศ 14 .ความเจรญิ รุง่ เรืองและความเสือ่ มถอยของพระพทุ ธศาสนาในกมั พชู าขึน้ อยู่กบั ระบอบการเมืองและผนู้ า ประเทศ 15. . สถานการณข์ องพระพทุ ธศาสนาในกมั พชู าในปัจจบุ นั มแี นวโนมดีขึน้ และไดร้ บั การฟื้นในระดบั หนงึ่ แลว้

ใบงานพระพทุ ธศาสนา เร่ือง การเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาในประเทศเวยี ดนามและอินโดนีเชยี ชือ่ ....................................................................................................เลขท.่ี .............ห้อง ม.2/.......... คาชีแ้ จง ให้นักเรียนทากจิ กรรมต่อไปนี้ ตอบคาถามสัน้ ๆ 1. เวยี ดนามรับพระพุทธศาสนามาจากชนชาติใดเพราะเหตุใด ..................................................................... 2. พระพทุ ธศาสนาในเวยี ดนามที่มีคนนิยมนบั ถือมากคือนิกายใด ............................................................... 3. ปัจจุบนั ความเสื่อมของพระพุทธศาสนาในประเทศเวียดนามเกิดจากสาเหตใุ ด ………………………… 4. พระพุทธศาสนาแบบมหายานได้ รับความนิยมในประเทศเวียดนามมากเนื่องมาจากสาเหตุ ใด………………………………………………………………………………………………………… 5. พระพุทธศาสนาในเวยี ดนามเจริญรุ่งเรืองควบค่กู บการปกครองของกษตั ริยร์ าชวงศ์ ใด ...................................................................................................................................................................... 6. ปัจจุบนั ชาวเวียดนามนบั ถือศาสนาใดมากที่สุดและรองลงมาคอื ศาสนา ......................................................................................................................................................................... 7. ศาสนสถานในอินโดนีเซียที่แสดงถึงความเจริญของพระพุทธศาสนานิกายมหายานคอื อะไรต้งั อยทู่ ่ีใด ……………………………………………………………………………………………………………….. 8. ปัจจุบนั ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศอินโดนีเซียนบั ถือศาสนาใด ………………………………… 9. บคุ คลใดที่มีบทบาทสาคญั ในการฟ้ื นฟู พระพุทธศาสนาของอินโดนีเซียในพุทธศตวรรษที่25…………… 10. กษตั ิยพ์ ระองคใ์ ดท่ีนบั ถือศาสนาอิสลาม ประกาศใหศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจาชาติ ของ อินโดนีเซียและ หา้ มไม่ใหเ้ ผยแผพ่ ระพุทธศาสนาในอาณาจกั รของพระองค์ ……………………………. 11. ในราวกลางพุทธศตวรรษที่ 13–15 พระพุทธศาสนาในอินโดนีเซียเจริญรุ่งเรืองควบค่กู บการปกครอง ของ กษตั ริยร์ าชวงศ ใด ……………………………………….. 12. ปัจจุบนั พระพุทธศาสนานิกายใดไดป้ ระดิษฐานอยา่ งแพร่หลายในอินโดนีเซีย ......................................... ภาพ.................................................................. ความสาคญั ................................................................................................................. ......................................................................................................................................................................

ใบงานพระพุทธศาสนา เรอ่ื ง การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศมาเลเชีย สงิ คโปร์ ช่ือ....................................................................................................เลขท.ี่ .............ห้อง ม.2/.......... คาชแี้ จง ให้นักเรยี นทากิจกรรมตอ่ ไปนี้ นาาตัวอักษรหน้าขอ้ ความในหมวด( ข ) ไปใสใ่ นช่องวาง หน้าขอ้ ความในหมวด (ก )ให้พันธก์ ัน หมวด ก หมวด ข …… 1.พระพทุ ธศาสนา ก. แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คอื มาเลเซียตะวนั ตกและ . มาเลเซยี ตะวนั ออก ....... 2. . ดนิ แดนของประเทศมาเลเซยี ข. เขา้ มาสมู่ าเลเซียพรอ้ ม ๆ กบั อินโดนีเซยี ..........3. . สลุ ตา่ นมลโมซาห์ ……4. วดั เชตวนั ค. ค ตงั้ อย่ทู ่กี รุงกวั ลาลมั เปอรส์ รา้ งขึน้ เม่ือ พ.ศ. 2503 ………5. วดั ไชยมงั คลาราม ……….6. นิกายมหายาน ง กษัตรยิ ท์ ่ีครง่ ครดั ศาสนาอิสลามและบงั คบั ให้ ประชาชนมานบั ถือ ……….7. วดั ไทยและวดั ลั งกา ศาสนาอิสลาม ……….8. การสงั คมสงเคราะห์ จ. วดั ท่มี ีปชู นยี สถานสาคญั ั คอื พระพทธไสยาสนแ์ ละวิหารพทุ ธเจดยี ์ …………9. นกิ ายเถรวาท ฉ.นกิ ายพระพทุ ธศาสนาทประชาชนสว่ นใหญ่ท่เี ป็นชาวจีนในประเศ …………10. โรงเรียนพทุ ธศาสนาวนอาทิย์ สงิ คโปรน์ บั ถือกนั มากท่สี ดุ ช. พระพทุ ธศาสนานิกายหนึ่งท่มี าจากลงั กาพม่าและไทย ซ่งึ ไดเ้ ผยแผ่ เขา้ ส่ปู ระเทศสิงคโปรใ์ นเวลาต่อมา ซ เป็นวดั ของชาวพทุ ธท่ีนบั ถือพระพทุ ธศาสนาฝ่าย เถรวาทในประเทศ สิงคโปร์ ฌ เป็นวธิ ีการหนึงของการเผยแผ่พระพระพทุ ธศาสนานิกาย มหายานในประเทศสงิ คโปรต์ ามรูปแบบการเรียน การสอน ญ การใหค้ วามช่วยเหลือในดา้ นต่าง ๆ ท่ดี าเนนิ การโดยพทุ ธสมาคมแห่ง สิงคโปร์



3 แผนการจัดการเรียนรู้ ฉบับ ในช่วงการแพร่ COVID-19 ระบาดระลอกใหม่ เดอื น พฤษภาคม 2564 ชื่อ ครูผู้สอน นายสายชล ชงั อนิ ทร์ รหัสวิชา ส 22101 ชื่อวิชาสังคมศกึ ษา 3 ******************************************* 1.หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 เร่ือง ความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนาท่ชี ว่ ยเสริมสรา้ งความเข้าใจอนั ดีกบั ประเทศเพอื่ นบ้าน เวลา…… 1 ……ช่ัวโมง………….. แผนการจดั การเรยี นรู้ 3 ความสำคญั ของพระพุทธศาสนาที่ชว่ ยเสรมิ สรา้ งความเขา้ ใจอันดีกบั ประเทศเพ่ือนบ้าน วันที่ 2564 2. สาระสำคญั หลักธรรมทางพระพทุ ธศาสนาทชี่ ่วยเสรมิ สร้างความเขา้ ใจอันดีกับประเทศเพื่อนบา้ น ไดแ้ ก่ หลักสาราณยี ธรรม 6 และหลกั สงั คหวัตถุ 4 3. มาตรฐานและตัวชี้วดั มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 1.1 รู้และเข้าใจประวตั ิ ความสำคญั ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนา ทต่ี นนับถือและศาสนาอืน่ มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดม่นั และปฏิบัติตามหลักธรรมเพ่อื อยูร่ ว่ มกันอย่างสนั ติสุข ตวั ชีว้ ดั ส 1.1 ม.2/2 วิเคราะห์ความสำคัญของพระพุทธศาสนาหรือศาสนา ทตี่ นนบั ถอื ท่ีช่วยเสรมิ สรา้ งความเขา้ ใจอัน ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน 4. จดุ ประ สงคก์ ารเรยี นรู้ ด้านความรู้ 1. อธิบายการวิเคราะห์หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนา ทีช่ ่วยเสริมสรา้ งความเข้าใจอันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน (K) 2. ศกึ ษาและจำแนกหลักธรรมทช่ี ว่ ยเสรมิ สรา้ งความเขา้ ใจอนั ดีกบั ประเทศเพ่ือนบ้าน (P) 3. เหน็ คณุ คา่ ในการนำหลกั ธรรมเพอ่ื นำไปใช้ในการปฏบิ ตั ิตนและต่อบุคคลอ่ืนในการ ดำเนนิ ชีวิตประจำวนั (A) 5. สาระการเรียนรู้ คือเน้อื เรอื่ ง หรือองค์ความรู้ ทักษะ กระบวนการของผูเ้ รยี นท่จี ะต้องเรียนรู้ในรายวิชานน้ั ๆ 1. สาราณยี ธรรม 6 2. สังคหวัตถุ 6. การบวนการการเรียนรู้ คือ การระบกุ จิ กรรมการเรยี นร้ทู ่จี ัดขึน้ เพอื่ ให้ผูเ้ รียนเกดิ การเรียนรู้ โดยแบ่งเปน็ ขัน้ 6.1 นำเข้าสู่บทเรยี น

ครู นำเสนอข่าวท่ีประเทศต่างๆท่ีร่วมมือกันชว่ ยเหลอื ดา้ นต่างๆเม่ือมีปญั หาเกดิ ขึน้ ทกุ ประเทศเพื่อนจะช่วยเหลือซ่ึงกัน และกัน เช่น การช่วยเหลอื ทีมหมปู า่ ทีต่ ดิ ถำ้ ภัยพบิ ตั ิตา่ งๆ น้ำท่วม ไฟป่าและอ่นื ๆ 6.2 ข้นั สอน (การเรียน) 1. ครใู ห้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น 2. ครูให้นกั เรียนศึกษาหลักธรรมของพระพุทธศาสนาทชี่ ว่ ยเสริมสรา้ งความเข้าใจอันดีกบั ประเทศเพื่อนบ้าน โดยครู นำเสนอ powerpoint หลักธรรมสาราณยี ธรรม 6 ใหน้ กั เรยี นนำเสนอแนวทางการปฏิบัติร่วมกนั 3. ครูให้นกั เรยี นศึกษาหลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาทช่ี ่วยเสริมสร้างความเขา้ ใจอนั ดีกบั ประเทศเพื่อนบา้ น โดยครู นำเสนอ powerpoint หลักธรรมสังคหวตั ถุ 4 ให้นกั เรยี นนำเสนอแนวทางการปฏบิ ัติร่วมกนั 6.3 ข้นั สรุป นักเรียนและครูรว่ มกันสรุปความรู้ ดังนี้ 1. หลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนาท่ีช่วยเสรมิ สรา้ งความเข้าใจอนั ดกี ับประเทศเพือ่ นบ้าน ไดแ้ ก่ หลกั สาราณียธรรม 6 และ หลักสังคหวัตถุ 4 2. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครใู ชค้ ำถามท้าทาย ดงั นี้ การท่ปี ระเทศไทยกับประเทศเพ่อื นบา้ นบางประเทศยังมีความขัดแย้งกนั นักเรยี นคดิ ว่าเป็นเพราะสาเหตุใด ให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียน (Post-Test) เพอื่ ประเมินผลการเรยี น 6.4 การประเมินผล แบบรบู ริค 6.5 การมอบหมายการเรยี นรเู้ พมิ่ เติมในรปู แบบส่ือ ON line 6.5.1 สื่อการเรียนรูร้ ูปแบบ เช่น คลปิ วดิ ีโอ/เอกสารเนื้อหา/เว็บไซต์ คลิปวีดีโอ / powerpoint / pakkredlearningcyber / Google sites เร่อื ง ความสำคัญของพระพุทธศาสนาที่ชว่ ยเสริมสรา้ งความเข้าใจอนั ดีกับ ประเทศเพื่อนบ้าน 6.5.2 ใบงาน/การทดสอบรูปแบบ แบบทดสอบ pakkredlearningcyber เรื่อง ความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนาท่ีชว่ ย เสรมิ สร้างความเขา้ ใจอันดีกับประเทศเพ่ือนบ้าน 7. ส่ือ/อุปกรณ/์ แหลง่ การเรียนรู้ คอื เครอ่ื งมือในการสง่ เสริมการเรยี นรทู้ ่ีใช้ตามท่กี ำหนดในกิจกรรมการเรียนรู้ - pakkredlearningcyber 8. การวดั และประเมนิ ผล คือ การประเมนิ ผลผ้เู รียนตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ซ่งึ ควรระบุเครอ่ื งมือวดั และเกณฑ์ การให้คะแนน ซ่งึ สามารถศกึ ษาได้จากคู่มือหลักสูตรแกนกลางศึกษาและรูบริคท่ที ำไว้ 9. บันทึกผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ คอื การบันทึกของครผู ู้สอนจากส่งิ ท่ีพบในการนำแผนจัดการเรยี นรูม้ าใช้ โดย แบ่งเปน็ ผลการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ปัญหาและอุปสรรค และ ขอ้ เสนอแนะ

ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ........................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ปัญหาและอุปสรรค ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ข้อเสนอแนะ .......................................................................................................................................................................... .........................................................................................................................................................................

แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre - Test) ชื่อ _____________________________ นามสกลุ ____________________ เลขท่ี________ช้นั _ ให้ระบายคาตอบทถ่ี ูกต้องลงในวงกลมตวั เลือกให้เตม็ วง (ห้ามระบายนอกวง) 1. ขอ้ ใดไม่ใช่ความหมายของหลกั ธรรม สาราณียธรรม 1 ธรรมเป็นที่ต้งั แห่งความปรารถนาดีต่อกนั 2 ธรรมเป็นท่ีต้งั แห่งความสามคั คี 3 ธรรมเป็นที่ต้งั หลกั การอยรู่ ่วมกนั 4 ธรรมเป็นท่ีต้งั แห่งการประกอบความเพยี ร 2. ขอ้ ใดเป็นความหมายสาธารณโภคติ า ตามความหมายของสาราณียธรรม 6 ท่ีปฏิบตั ิต่อประเทศ เพอ่ื นบา้ น 1 พดู จาสร้างสรรคเ์ ป็นมิตรไมตรีกบั ประเทศเพื่อนบา้ น 2 แบ่งปันผลประโยชน์ที่เกิดข้ึนระหวา่ งประเทศอยา่ งเป็นธรรม 3 มีหลกั ความประพฤติเสมอกบั มิตรประเทศ 4 มีความคดิ เห็นเป็นไปในแนวเดียวกนั ระหวา่ งประเทศ 3. การบริจาคทรัพยเ์ พื่อช่วยเหลือผปู้ ระสบภยั จากพายนุ าร์กีสในประเทศเมียนมา เป็นการปฏิบตั ิตาม หลกั สาราณียธรรม 6 ในขอ้ ใด 1 เมตตากายกรรม 2 เมตตาวจีกรรม 3 เมตตามโนกรรม 4 สีลสามญั ญตา 4. ขอ้ ใดเป็นการปฏิบตั ิตนตามเมตตามโนกรรมต่อประเทศเพื่อนบา้ นตามหลกั สาราณียธรรม 6 1 ไม่ใหร้ ้ายต่อมิตรประเทศ 2 มีจิตปรารถนาดีตอ่ มิตรประเทศ 3 ปฏิบตั ิตนเคารพกฎหมายประเทศเพอ่ื นบา้ น 4 แกไ้ ขปัญหาระหวา่ งประเทศดว้ ยวิธีการทูต 5. การเคารพกฎหมาย กฎระเบียบระหวา่ งประเทศ มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกนั เป็นความหมาย ของสาราณียธรรม 6 ในขอ้ ใด

1 เมตตามโนกรรม 2 สาธารณโภคี 3 ทิฏฐิสามญั ญตา 4 สีลสามญั ญตา 6. หลกั ธรรมอนั เป็นเครื่องยดึ เหนี่ยวน้าใจของผอู้ ่ืน เป็นการผกู ไมตรีเอ้ือเฟ้ื อเก้ือกูลกนั เป็นความหมายของหลกั ธรรมในขอ้ ใด 1 อปริหานิยธรรม 7 2 ปาปณิกธรรม 3 3 ทิฏฐธมั มิกตั ถสงั วตั ตนิกรรม 4 4 สงั คหวตั ถุ 4 7. การอยรู่ ่วมสงั คมหมู่มาก หลกั ธรรมสังคหวตั ถุ 4 ในขอ้ ใดที่ควรปฏิบตั ิมากท่ีสุดเพ่ือรักษาน้าใจ ของผอู้ ่ืน 1 ทาน 2 ปิ ยวาจา 3 อตั ถจริยา 4 สมานตั ตตา 8. หลกั ธรรมสงั คหวตั ถุ 4 กบั สาราณียธรรม 6 ในขอ้ ใดไม่สอดคลอ้ งกนั 1 ทาน: เมตตากายกรรม 2 ปิ ยวาจา : เมตตาวจีกรรม 3 อตั ถจริยา : สาธารณโภคี 4 สมานตั ตตา : เมตตามโนกรรม 9. การประพฤติตนใหเ้ ป็นประโยชนต์ อ่ ส่วนรวมมีความหมายสอดคลอ้ งกบั หลกั ธรรม สังคหวตั ถุ 4 ในขอ้ ใด 1 ทาน 2 ปิ ยวาจา 3 อตั ถจริยา 4 สมานตั ตตา 10. สมานตั ตตา หมายถึง การประพฤติปฏิบตั ิตนในลกั ษณะใด

1 การรู้จกั ใหค้ วามช่วยเหลือแบ่งปันแก่ผอู้ ื่น 2 การวางตนใหเ้ หมาะกบั ภาวะของตนเอง 3 การประพฤติตนใหเ้ กิดประโยชนต์ ่อบุคคลอื่น 4 การรู้จกั พูดจารักษาน้าใจต่อบคุ คลอื่น แบบทดสอบหลังเรียน (Post - Test) ช่ือ ______________________ นามสกุล_______________เลขที่_______ ช้นั _____ ให้ระบายคาตอบที่ถกู ต้องลงในวงกลมตวั เลือกให้เต็มวง (ห้ามระบายนอกวง) 1. ขอ้ ใดไม่ใช่ความหมายของหลกั ธรรม สาราณียธรรม 1 ธรรมเป็นท่ีต้งั แห่งความปรารถนาดีต่อกนั 2 ธรรมเป็นท่ีต้งั แห่งความสามคั คี 3 ธรรมเป็นท่ีต้งั หลกั การอยรู่ ่วมกนั 4 ธรรมเป็นท่ีต้งั แห่งการประกอบความเพียร 2. การบริจาคทรัพยเ์ พอ่ื ช่วยเหลือผปู้ ระสบภยั จากพายนุ าร์กีสในประเทศเมียนมา เป็นการปฏิบตั ิ ตามหลกั สาราณียธรรม 6 ในขอ้ ใด 1 เมตตากายกรรม 2 เมตตาวจีกรรม 3 เมตตามโนกรรม 4 สีลสามญั ญตา 3. ขอ้ ใดเป็นความหมายสาธารณโภคติ า ตามความหมายของสาราณียธรรม 6 ท่ีปฏิบตั ิต่อประเทศ เพือ่ นบา้ น 1 พดู จาสร้างสรรคเ์ ป็นมิตรไมตรีกบั ประเทศเพ่ือนบา้ น 2 แบง่ ปันผลประโยชนท์ ี่เกิดข้ึนระหวา่ งประเทศอยา่ งเป็นธรรม 3 มีหลกั ความประพฤติเสมอกบั มิตรประเทศ

4 มีความคดิ เห็นเป็นไปในแนวเดียวกนั ระหวา่ งประเทศ 4. การเคารพกฎหมาย กฎระเบียบระหวา่ งประเทศ มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกนั เป็นความหมาย ของสาราณียธรรม 6 ในขอ้ ใด 1 เมตตามโนกรรม 2 สาธารณโภคิตา 3 ทิฏฐิสามญั ญตา 4 สีลสามญั ญตา 5. ขอ้ ใดเป็นการปฏิบตั ิตนตามเมตตามโนกรรมตอ่ ประเทศเพ่อื นบา้ นตามหลกั สาราณียธรรม 6 1 ไม่ใหร้ ้ายตอ่ มิตรประเทศ 2 มีจิตปรารถนาดีตอ่ มิตรประเทศ 3 ปฏิบตั ิตนเคารพกฎหมายประเทศเพอื่ นบา้ น 4 แกไ้ ขปัญหาระหวา่ งประเทศดว้ ยวธิ ีการทูต 6. หลกั ธรรมอนั เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวน้าใจของผอู้ ่ืน เป็นการผกู ไมตรีเอ้ือเฟ้ื อเก้ือกูลกนั เป็นความหมายของหลกั ธรรมในขอ้ ใด 1 อปริหานิยธรรม 7 2 ปาปณิกธรรม 3 3 ทิฏฐธมั มิกตั ถสงั วตั ตนิกรรม 4 4 สงั คหวตั ถุ 4 7. หลกั ธรรมสงั คหวตั ถุ 4 กบั สาราณียธรรม 6 ในขอ้ ใดไม่สอดคลอ้ งกนั 1 ทาน : เมตตากายกรรม 2 ปิ ยวาจา : เมตตาวจีกรรม 3 อตั ถจริยา : สาธารณโภคติ า 4 สมานตั ตตา : เมตตามโนกรรม 8. การประพฤติตนใหเ้ ป็นประโยชนต์ อ่ ส่วนรวมมีความหมายสอดคลอ้ งกบั หลกั ธรรม สังคหวตั ถุ 4 ในขอ้ ใด 1 ทาน 2 ปิ ยวาจา 3 อตั ถจริยา 4 สมานตั ตตา

9. สมานตั ตตา หมายถึง การประพฤติปฏิบตั ิตนในลกั ษณะใด 1 การรู้จกั ใหค้ วามช่วยเหลือแบง่ ปันแก่ผอู้ ่ืน 2 การวางตนให้เหมาะกบั ภาวะของตนเอง 3 การประพฤติตนใหเ้ กิดประโยชน์ตอ่ บคุ คลอ่ืน 4 การรู้จกั พดู จารักษาน้าใจตอ่ บุคคลอื่น 10. การอยรู่ ่วมสังคมหม่มู าก หลกั ธรรมสังคหวตั ถุ 4 ในขอ้ ใดที่ควรใชป้ ฏิบตั ิมากท่ีสุดเพอื่ รักษา น้าใจของผูอ้ ื่น 1 ทาน 2 ปิ ยวาจา 3 อตั ถจริยา 4 สมานตั ตตา เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-Test) 1. 4 2. 2 3. 1 4. 2 5. 3 6. 4 7. 2 8. 4 9. 3 10. 2 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน (Post-Test) 1. 4 2. 1 3. 2 4. 3 5. 2 6. 4 7. 4 8. 3 9. 2 10. 2

ใบงานพระพุทธศาสนา ใบงาน ความสาคญั ทางพระพุทธศาสนาทชี่ ่วยเสริมสร้างความเขา้ ใจอนั ดี กับประเทศเพอ่ื นบา้ น (สารณยี ธรรม ) ช่ือ................................................................................................เลขท.ี่ .............ห้อง ม.2/.......... คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นรวบรวมขอ้ มลู มาจาแนกแยะ จดั หมวดหม่เู กี่ยวกบั ความรูค้ วามสาคญั ทางพระพทุ ธศาสนาท่ี ชว่ ยเสรมิ สรา้ งความเขา้ ใจอนั ดีกบั ประเทศเพ่อื นบา้ น สาราณียธธรรม

4. แผนการจดั การเรียนรู้ ฉบับ ในชว่ งการแพร่ COVID-19 ระบาดระลอกใหม่ เดือน พฤษภาคม 2564 ช่ือ ครูผู้สอน นายสายชล ชงั อนิ ทร์ รหสั วิชา ส 22101 ช่ือวิชาสังคมศึกษา 3 ******************************************* 1.หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เร่ือง ความสำคญั ของพระพุทธศาสนาตอ่ สงั คมไทยในฐานะเป็นรากฐานของวัฒนธรรม เอกลักษณแ์ ละมรดกของชาติ เวลา…… 1 ……ชวั่ โมง………….. แผนการจัดการเรียนรู้ 4ความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนาต่อสังคมไทยในฐานะเปน็ รากฐานของวฒั นธรรม เอกลกั ษณ์และ มรดกของชาติ วนั ที่ 2564 2. สาระสำคญั รากฐานทางวัฒนธรรม เอกลกั ษณแ์ ละมรดกของชาติล้วนมีทมี่ าจากพระพุทธศนา 3. มาตรฐานและตัวชี้วดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ส 1.1 รู้และเขา้ ใจประวัติ ความสำคญั ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาทตี่ น นับถือและศาสนาอ่ืน มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยดึ ม่นั และปฏบิ ตั ิตามหลกั ธรรมเพื่ออยู่ร่วมกนั อยา่ งสนั ตสิ ขุ ตวั ชว้ี ดั ส 1.1 ม.2/3 วเิ คราะห์ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาทีต่ นนบั ถือในฐานะทีเ่ ปน็ รากฐานของ วัฒนธรรม เอกลักษณ์ของชาติและมรดกของชาติ 4. จดุ ประ สงค์การเรยี นรู้ ด้านความรู้ 1. อธิบายการวิเคราะห์หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนา ทช่ี ่วยเสริมสร้างความเข้าใจอันดีกับประเทศเพ่ือนบา้ น (K) 2. ศกึ ษาและจำแนกหลักธรรมท่ชี ว่ ยเสริมสร้างความเขา้ ใจอันดีกบั ประเทศเพ่ือนบ้าน (P) 3. เห็นคณุ คา่ ในการนำหลักธรรมเพื่อนำไปใชใ้ นการปฏบิ ตั ิตนและต่อบุคคลอนื่ ในการ ดำเนนิ ชีวติ ประจำวนั (A) 5. สาระการเรียนรู้ คอื เนือ้ เร่ือง หรือองคค์ วามรู้ ทักษะ กระบวนการของผู้เรยี นทีจ่ ะต้องเรยี นรใู้ นรายวชิ านั้น ๆ ความสำคญั ของพระพุทธศาสนาต่อสังคมไทยในฐานะเปน็ รากฐานของวัฒนธรรม เอกลกั ษณแ์ ละมรดกของชาติ 6. การบวนการการเรียนรู้ คอื การระบุกจิ กรรมการเรียนรูท้ ี่จดั ขนึ้ เพือ่ ใหผ้ ู้เรยี นเกดิ การเรยี นรู้ โดยแบ่งเปน็ ข้ัน 6.1 นำเขา้ สู่บทเรยี น ครใู ห้นักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ ในประเดน็ ทว่ี า่ โดยครูใช้คำถาม ดังน้ี - นักเรยี นเห็นด้วยกับคำกล่าวทวี่ ่า “พระพทุ ธศาสนาเป็นรากฐานทางวัฒนธรรมไทย” หรอื ไม่เพราะอะไร (ตัวอยา่ งคำตอบ เห็นด้วย เพราะวฒั นธรรมไทยโดยมากเกย่ี วข้องกบั พระพุทธศาสนา และ เกดิ จากการขัดเกลาโดยพระพุทธศาสนา เชน่ มารยาทการแสดงความเคารพ พิธีกรรมต่าง ๆ หรอื ตามประสบการณ์การเรียนรขู้ องผู้เรียน) 6.2 ขน้ั สอน (การเรยี น) 1. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น

2. ครูตั้งคำถาม ถ้าทุกคนปฏิบัติตนเป็นพทุ ธศาสนกิ ชนที่ดีตามหลักพระพุทธศาสนา สังคมจะเป็นอย่างไร (สังคมเกิดความสงบสุข ทกุ คนทำแตค่ วามดี ช่วยเหลอื เกือ้ กลู กัน ประกอบอาชีพสจุ ริต ไม่เบยี ดเบยี นรังแกกนั และอยู่ รว่ มกนั อย่างมีความสขุ ) นกั เรยี นจะส่งเสรมิ พระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองในสังคมไทยสืบต่อไปได้อย่างไร (ปฏิบตั ิตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาอยา่ งเคร่งครัด แนะนำสัง่ สอนให้ผอู้ น่ื ปฏิบตั ติ าม เขา้ รว่ มกิจกรรมทาง พระพทุ ธศาสนาอย่างต่อเน่ือง และเหน็ ความสำคัญและช่วยกนั ดูแลปกป้องพระพุทธศาสนาจากผู้ไม่หวงั ดี ฯลฯ หรือตาม ประสบการณ์การเรียนรู้ของผู้เรียน) 3. ครนู ำเสนอ/ powerpointเร่ือง ความสำคัญของพระพุทธศาสนาต่อสงั คมไทยในฐานะเปน็ รากฐานของวัฒนธรรม เอกลกั ษณแ์ ละมรดกของชาติ 6.3 ขนั้ สรุป นักเรยี นและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี รากฐานทางวฒั นธรรม เอกลกั ษณ์ และมรดกของชาติล้วนมีท่มี าจากพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนาใหอ้ ะไรกบั สังคมไทยมากมายทั้งวฒั นธรรมและเอกลักษณ์จนพัฒนามาเป็นมรดกของชาติไทย แตป่ ัจจุบัน มรดกทางวฒั นธรรมทเี่ ปน็ เอกลักษณข์ องชาติกำลงั ถูกกระแสสังคมสมยั ใหม่ทำลาย นกั เรียนจะมีแนวทางรักษามรดกของ ชาติใหด้ ำรงอยู่ไดอ้ ย่างไร ใหน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น (Post-Test) เพอ่ื ประเมินผลการเรียน 6.4 การประเมนิ ผล แบบรูบริค 6.5 การมอบหมายการเรยี นรเู้ พ่ิมเติมในรปู แบบส่ือ ON line 6.5.1 สอื่ การเรียนร้รู ูปแบบ เช่น คลิปวดิ โี อ/เอกสารเน้ือหา/เวบ็ ไซต์ คลปิ วดี โี อ / powerpoint / pakkredlearningcyber / Google sites เรอื่ งความสำคัญของพระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาทต่ี นนับถือในฐานะท่ีเป็น รากฐานของวฒั นธรรม เอกลักษณ์ของชาติและมรดกของชาติ 6.5.2 ใบงาน/การทดสอบรูปแบบ แบบทดสอบ pakkredlearningcyber เร่อื ง ความสำคญั ของพระพุทธศาสนาหรือ ศาสนาทตี่ นนบั ถือในฐานะทเี่ ปน็ รากฐานของวฒั นธรรม เอกลกั ษณข์ องชาตแิ ละมรดกของชาติ 7. ส่อื /อุปกรณ/์ แหล่งการเรียนรู้ คอื เครือ่ งมือในการสง่ เสริมการเรยี นรทู้ ี่ใชต้ ามท่กี ำหนดในกิจกรรมการเรียนรู้ - pakkredlearningcyber 8. การวัดและประเมินผล คือ การประเมินผลผู้เรยี นตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ซึ่งควรระบุเครือ่ งมือวัดและเกณฑ์ การให้คะแนน ซง่ึ สามารถศึกษาไดจ้ ากคู่มอื หลักสตู รแกนกลางศึกษาและรูบรคิ ที่ทำไว้ 9. บนั ทึกผลหลังการจดั การเรียนรู้ คือการบันทึกของครูผู้สอนจากส่ิงที่พบในการนำแผนจัดการเรยี นรมู้ าใช้ โดย แบง่ เป็น ผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ปญั หาและอุปสรรค และ ขอ้ เสนอแนะ ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ...........................................................................................................................................................................

.......................................................................................................................................................................... ปญั หาและอุปสรรค ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ข้อเสนอแนะ .......................................................................................................................................................................... .........................................................................................................................................................................

5. แผนการจดั การเรยี นรู้ ฉบับ ในชว่ งการแพร่ COVID-19 ระบาดระลอกใหม่ เดือน พฤษภาคม 2564 ช่ือ ครผู ู้สอน นายสายชล ชังอินทร์ รหสั วชิ า ส 22101 ช่ือวิชาสังคมศกึ ษา 3 ******************************************* 1.หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 4 เร่ือง ความสำคัญของพระพุทธศาสนากับการพัฒนาชุมชนและการจัด ระเบียบสังคม เวลา…… 1 ……ช่ัวโมง………….. แผนการจัดการเรียนรู้ 5 ความสาคญั ของพระพุทธศาสนากบั การพฒั นาชุมชนและการจดั ระเบียบสังคม วันที่ 2564 2. สาระสำคัญ นาถกรณธรรม 10 และอปริหานิยธรรม 7 เปน็ หลักธรรมท่มี ีความสำคญั ในการใชเ้ พ่ือพฒั นาชุมชนให้มี ความเจรญิ และสงบสุขอยา่ งย่ังยืน 3. มาตรฐานและตัวช้ีวัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ส 1.1 รแู้ ละเขา้ ใจประวตั ิ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ และศาสนาอน่ื มศี รัทธาที่ถูกต้อง ยึดมั่น และปฏบิ ตั ิตามหลกั ธรรม เพอ่ื อยรู่ ว่ มกันอยา่ งสนั ติสขุ ตัวชวี้ ดั ส 1.1 ม.2/4 อภปิ รายความสำคัญของพระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาท่ีตนนบั ถือกับการพัฒนาชุมชนและการจัด ระเบียบสงั คม 4. จุดประ สงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายความสำคัญของพระพุทธศาสนากับการพฒั นาชุมชน (K) 2. ศกึ ษา จำแนกหลักธรรมทใ่ี ชเ้ ปน็ แนวทางในการพัฒนาชุมชน (P) 3. เห็นคณุ ค่าในการนำหลกั ธรรมมาใชเ้ พื่อพัฒนาชมุ ชนของตนเองให้เกดิ ความเจริญและสงบสุข (A) 5. สาระการเรยี นรู้ คือเนอื้ เรอื่ ง หรือองคค์ วามรู้ ทกั ษะ กระบวนการของผูเ้ รยี นท่ีจะต้องเรยี นรใู้ นรายวิชานัน้ ๆ หลักธรรมสำคญั ในการพฒั นาชุมชน 1. นาถกรณธรรม 10 2. อปรหิ านิยธรรม 7 6. การบวนการการเรยี นรู้ คือ การระบุกจิ กรรมการเรียนรทู้ ่จี ัดขึ้น เพ่อื ใหผ้ ้เู รียนเกิดการเรยี นรู้ โดยแบ่งเปน็ ขั้น 6.1 นำเขา้ ส่บู ทเรียน นกั เรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกบั ความสมั พันธร์ ะหวา่ งวดั กบั ชมุ ชนโดยครใู ช้คำถาม ในชุมชนหรือหมู่บ้านของนักเรียนมกี ่วี ัด (ตวั อยา่ งคำตอบ 5 วัด, 2 วัด ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งวดั กบั ชุมชนเปน็ อยา่ งไร (ตัวอยา่ งคำตอบ วดั เป็นศนู ย์รวมทางดา้ นจติ ใจและศาสนพิธีตา่ ง ๆ ของ ชมุ ชน) วดั มีบทบาทสำคัญตอ่ ชมุ ชนของนกั เรยี นมากน้อยเพียงใด (ตวั อยา่ งคำตอบ มีความสำคัญมากเพราะพิธกี รรมส่วนใหญจ่ ดั ท่ี วดั )

6.2 ขนั้ สอน (การเรยี น) 1. ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี น 2. ครูให้นักเรยี นรว่ มกันศึกษาหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนาทน่ี ำมาใชใ้ นการพัฒนาชุมชน 3. ครนู ำเสนอ/ powerpointเร่อื ง หลกั ธรรมสำคัญในการพัฒนาชุมชน 1. นาถกรณธรรม 10 2. อปริหานิยธรรม 7 6.3 ข้ันสรปุ นักเรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั นี้ นาถริกรณ10 และอปหานิยธรรม ธรรม 7 เป็นหลักธรรมท่ีมคี วามสำคัญในการใช้เพอ่ื พัฒนาชมุ ชนให้มีความเจริญและสงบ สขุ อยา่ งยั่งยืน ให้นักเรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เห็น โดยครใู ชค้ ำถามท้าทาย ดังน้ี ปจั จบุ ันการพัฒนาชุมชนไมบ่ รรลุผลเท่าที่ควรนกั เรียนคิดว่าเป็นเพราะสาเหตปุ ัจจัยใด ให้นักเรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรียน (Post-Test) เพือ่ ประเมินผลการเรียน 6.4 การประเมินผล แบบรบู ริค 6.5 การมอบหมายการเรยี นรู้เพิม่ เติมในรปู แบบสื่อ ON line 6.5.1 สือ่ การเรียนร้รู ูปแบบ เช่น คลปิ วดิ โี อ/เอกสารเนื้อหา/เวบ็ ไซต์ คลิปวดี ีโอ / powerpoint / pakkredlearningcyber / Google sites เรอ่ื ง นาถรกิ รณ10 และอปหานยิ ธรรม ธรรม 7 6.5.2 ใบงาน/การทดสอบรปู แบบ แบบทดสอบ pakkredlearningcyber เร่ือง นาถริกรณ10 และอปหานยิ ธรรม ธรรม 7 7. สอ่ื /อุปกรณ/์ แหล่งการเรียนรู้ คอื เครือ่ งมอื ในการสง่ เสรมิ การเรยี นรู้ทใี่ ช้ตามที่กำหนดในกจิ กรรมการเรยี นรู้ - pakkredlearningcyber 8. การวัดและประเมินผล คือ การประเมินผลผเู้ รยี นตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ ซง่ึ ควรระบุเครื่องมือวัดและเกณฑ์ การให้คะแนน ซง่ึ สามารถศกึ ษาไดจ้ ากคูม่ ือหลักสตู รแกนกลางศึกษาและรบู รคิ ทท่ี ำไว้ 9. บันทึกผลหลงั การจัดการเรียนรู้ คือการบนั ทกึ ของครูผู้สอนจากสิ่งท่ีพบในการนำแผนจัดการเรียนร้มู าใช้ โดย แบ่งเปน็ ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ปัญหาและอุปสรรค และ ข้อเสนอแนะ ผลการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ........................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ปญั หาและอปุ สรรค ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ข้อเสนอแนะ ..........................................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................................... แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre - Test) ช่ือ ______________________ นามสกลุ _____________ เลขที่______ช้นั _____ ให้ระบายคาตอบทถ่ี กู ต้องลงในวงกลมตวั เลือกให้เต็มวง (ห้ามระบายนอกวง) 1. ขอ้ ใดกลา่ วถึงวฒั นธรรมทางดา้ นภาษาไทยไดถ้ ูกตอ้ ง 1 ภาษาไทยเป็นภาษาด้งั เดิมไม่ไดเ้ ปล่ียนแปลงใด ๆ 2 ภาษาไทยพฒั นามาจากภาษาของขอมเป็นหลกั 3 ภาษาไทยมีภาษาบาลีสนั สกฤตที่สืบทอดจากพระพทุ ธศาสนา 4 ภาษาไทยพฒั นามาจากทกุ ๆ ภาษาในเอเชีย 2. ขอ้ ใดกล่าวไม่ถูกตอ้ งเก่ียวกบั วฒั นธรรมไทย 1 วฒั นธรรมไทยส่วนใหญส่ ืบทอดมาจากศาสนาพราหมณ์ 2 วฒั นธรรมไทยมีรากฐานมาจากพระพทุ ธศาสนา 3 วฒั นธรรมไทยเป็นเอกลกั ษณ์เฉพาะสงั คมไทย 4 วฒั นธรรมไทยเป็นมรดกของชาติไทย 3. สมศรี ต้งั ชื่อลกู สาวท่ีเกิดใหม่วา่ ปวนั รัตน์ แสดงถึงวฒั นธรรมดา้ นใดท่ีสืบทอดมาจาก พระพทุ ธศาสนา 1 ประเพณี 2 ภาษา

3 จิตใจ 4 ศิลปะ 4. ประเพณีในขอ้ ใดท่ีไม่ได้สืบเน่ืองมาจากพระพทุ ธศาสนา 1 การทาบญุ วนั สาคญั ทางพระพุทธศาสนา 2 ประเพณีแข่งเรือประจาปี ของจงั หวดั 3 ประเพณีทาบุญข้ึนบา้ นใหม่ 4 ประเพณีสงกรานต์ 5. ขอ้ ใดเป็นงานพุทธศิลป์ ดา้ นประติมากรรม 1 พระพุทธชินราช 2 ภาพวาดฝาผนงั พระอุโบสถวดั พระแกว้ 3 พระบรมราชานุสาวรียส์ มเด็จพระเจา้ ตากสินมหาราช 4 รูปป้ันยกั ษว์ ดั พระเชตุพนวมิ ลมงั คลารามฯ 6. ศิลปสถาปัตยกรรมในขอ้ ใดที่สืบทอดมาจากพระพทุ ธศาสนา 1 พระที่นง่ั อนนั ตสมาคม 2 อาคารรัฐสภา 3 ทาเนียบรัฐบาล 4 พระบรมมหาราชวงั 7. วรรณคดีไทยประเภทใดท่ีไม่ได้สืบทอดจากพระพุทธศาสนา 1 ไตรภมู ิพระร่วง 2 ปฐมสมโพธิกถา 3 มหาชาติคาหลวง 4 นิทานอีสป 8. ทาอยา่ งไรวฒั นธรรมท่ีเป็นมรดกเอกลกั ษณ์ของชาติไทยจึงจะดารงอยคู่ ูก่ บั ชาติไทยตลอดไป 1 นาวฒั นธรรมไทยมาประยกุ ตใ์ หท้ นั สมยั ข้นึ 2 นาวฒั นธรรมไทยไปปฏิบตั ิร่วมกบั วฒั นธรรมอื่น 3 ไม่ตอ้ งทาอะไรท้งั สิ้นเพราะวฒั นธรรมไทยดีอยแู่ ลว้ 4 ศึกษาใหร้ ู้เห็นคุณคา่ แลว้ ร่วมกนั อนุรักษแ์ ละสืบสานต่อไป 9. ความโอบออ้ มอารี อ่อนนอ้ มถอ่ มตน กตญั ญูกตเวที เป็นลกั ษณะวฒั นธรรมทางดา้ นใดของคนไทย

ที่ไดร้ ับการสืบทอดมาจากพระพทุ ธศาสนา 1 ประเพณี 2 วรรณกรรม 3 จิตใจ 4 ศิลปะ 10. เหตุใดจึงกล่าววา่ พระพุทธศาสนามีความสาคญั ในฐานะเป็นรากฐานของวฒั นธรรม เอกลกั ษณ์ และมรดกของชาติไทย 1 เพราะพระพทุ ธศาสนาสอนใหท้ าดี 2 เพราะพระพทุ ธศาสนาเกิดมาพร้อมกบั ประวตั ิศาสตร์ไทย 3 เพราะพระพุทธศาสนาทาใหป้ ระเทศไทยเป็นเอกราช 4 เพราะพระพทุ ธศาสนาเป็นบ่อเกิดท้งั ดา้ นภาษา ศิลปะ ประเพณี และจิตใจ รวมเป็น วิถีชีวิตของคนไทย แบบทดสอบหลงั เรียน (Post - Test) ช่ือ ______________________ นามสกลุ _____________เลขท่ี_______ ช้นั _____ ให้ระบายคาตอบทีถ่ ูกต้องลงในวงกลมตัวเลือกให้เตม็ วง (ห้ามระบายนอกวง) 1. ขอ้ ใดกล่าวไม่ถกู ตอ้ งเก่ียวกบั วฒั นธรรมไทย 1 วฒั นธรรมไทยส่วนใหญ่สืบทอดมาจากศาสนาพราหมณ์ 2 วฒั นธรรมไทยมีรากฐานมาจากพระพุทธศาสนา 3 วฒั นธรรมไทยเป็นเอกลกั ษณ์เฉพาะสงั คมไทย 4 วฒั นธรรมไทยเป็นมรดกของชาติไทย 2. สมศรี ต้งั ชื่อลูกสาวที่เกิดใหม่วา่ ปวนั รัตน์ แสดงถึงวฒั นธรรมดา้ นใดที่สืบทอดมาจาก พระพทุ ธศาสนา

1 ประเพณี 2 ภาษา 3 จิตใจ 4 ศิลปะ 3. ขอ้ ใดกล่าวถึงวฒั นธรรมทางดา้ นภาษาไทยไดถ้ ูกตอ้ ง 1 ภาษาไทยเป็นภาษาด้งั เดิมไม่ไดเ้ ปล่ียนแปลงใด ๆ 2 ภาษาไทยพฒั นามาจากภาษาของขอมเป็นหลกั 3 ภาษาไทยมีภาษาบาลีสันสกฤตท่ีสืบทอดจากพระพุทธศาสนา 4 ภาษาไทยพฒั นามาจากทุก ๆ ภาษาในเอเชีย 4. วรรณคดีไทยประเภทใดท่ีไม่ได้สืบทอดจากพระพุทธศาสนา 1 ไตรภมู ิพระร่วง 2 ปฐมสมโพธิกถา 3 มหาชาติคาหลวง 4 นิทานอีสป 5. ศิลปสถาปัตยกรรมในขอ้ ใดที่สืบทอดมาจากพระพุทธศาสนา 1 พระที่นง่ั อนนั ตสมาคม 2 อาคารรัฐสภา 3 ทาเนียบรัฐบาล 4 พระบรมมหาราชวงั 6. ขอ้ ใดเป็นงานพุทธศิลป์ ดา้ นประติมากรรม 1 พระพุทธชินราช 2 ภาพวาดฝาผนงั พระอุโบสถวดั พระแกว้ 3 พระบรมราชานุสาวรียส์ มเด็จพระเจา้ ตากสินมหาราช 4 รูปป้ันยกั ษว์ ดั พระเชตุพนวิมลมงั คลารามฯ 7. ประเพณีในขอ้ ใดที่ไม่ได้สืบเนื่องมาจากพระพทุ ธศาสนา 1 การทาบุญวนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา 2 ประเพณีแข่งเรือประจาปี ของจงั หวดั 3 ประเพณีทาบุญข้ึนบา้ นใหม่

4 ประเพณีสงกรานต์ 8. ความโอบออ้ มอารี อ่อนนอ้ มถ่อมตน กตญั ญกู ตเวที เป็นลกั ษณะวฒั นธรรมทางดา้ นใดของคนไทย ที่ไดร้ ับการสืบทอดมาจากพระพุทธศาสนา 1 ประเพณี 2 วรรณกรรม 3 จิตใจ 4 ศิลปะ 9. เหตุใดจึงกล่าววา่ พระพทุ ธศาสนามีความสาคญั ในฐานะเป็นรากฐานของวฒั นธรรม เอกลกั ษณ์ และมรดกของชาติไทย 1 เพราะพระพทุ ธศาสนาสอนใหท้ าดี 2 เพราะพระพทุ ธศาสนาเกิดมาพร้อมกบั ประวตั ิศาสตร์ไทย 3 เพราะพระพทุ ธศาสนาทาใหป้ ระเทศไทยเป็นเอกราช 4 เพราะพระพุทธศาสนาเป็นบ่อเกิดท้งั ดา้ นภาษา ศิลปะ ประเพณี และจิตใจ รวมเป็น วิถีชีวติ ของคนไทย 10. ทาอยา่ งไรวฒั นธรรมท่ีเป็นมรดกเอกลกั ษณ์ของชาติไทยถึงจะดารงอยคู่ ู่กบั ชาติไทยตลอดไป 1 นาวฒั นธรรมไทยมาประยกุ ตใ์ หท้ นั สมยั ข้นึ 2 นาวฒั นธรรมไทยไปปฏิบตั ิร่วมกบั วฒั นธรรมอ่ืน 3 ไม่ตอ้ งทาอะไรท้งั สิ้นเพราะวฒั นธรรมไทยดีอยแู่ ลว้ 4 ศึกษาใหร้ ู้เห็นคุณค่าแลว้ ร่วมกนั อนุรักษแ์ ละสืบสานตอ่ ไป เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-Test) 1. 3 2. 1 3. 2 4. 2 5. 1 6. 4 7. 4 8. 4 9. 3 10. 4

เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน (Post-Test) 1. 1 2. 2 3. 3 4. 4 5. 4 6. 1 7. 2 8. 3 9. 4 10. 4

6. แผนการจดั การเรียนรู้ ฉบับ ในช่วงการแพร่ COVID-19 ระบาดระลอกใหม่ เดือน พฤษภาคม 2564 ชื่อ ครูผู้สอน นายสายชล ชังอินทร์ รหสั วิชา ส 22101 ชื่อวิชาสังคมศกึ ษา 3 ******************************************* 1.หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 3 ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนากับการพัฒนาชมุ ชนและการจดั ระเบียบสังคม (2) เวลา…… 1 ……ชัว่ โมง………….. แผนการจัดการเรยี นรู้ 6 ความสำคญั ของพระพุทธศาสนากบั การพัฒนาชมุ ชนและการจัด ระเบียบสงั คม (2) วันที่ 2564 2. สาระสำคญั หลักธรรม เบญจศีล เบญจธรรมในทางพระพุทธศาสนาสามารถทำให้สังคมมคี วามเปน็ ระเบยี บ มีความ สงบ 3. มาตรฐานและตัวช้ีวัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ส 1.1 ร้แู ละเขา้ ใจประวตั ิ ความสำคัญ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนับ ถอื และศาสนาอื่น มีศรัทธาที่ถกู ต้อง ยึดม่ัน และปฏิบตั ิตามหลักธรรม เพอ่ื อย่รู ่วมกนั อย่างสันติสุข ตวั ช้ีวดั ส 1.1 ม.2/4 อภปิ รายความสำคัญของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือกับการพัฒนา ชุมชนและการจดั ระเบยี บสงั คม 4. จุดประ สงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ 1. อธบิ ายนำเสนอการจดั ระเบียบสังคมตามหลักธรรมพระพทุ ธศาสนา (K) 2. ศึกษา จำแนกการปฏิบตั ติ นตามหลกั ธรรมเพ่ือจัดระเบยี บสงั คม (P) 3. เหน็ คณุ คา่ และความสำคญั ของหลักธรรมทางพระพทุ ธศาสนาทส่ี ามารถนำมาใช้ในการจดั ระเบยี บสงั คมใหส้ งบสขุ (A) 5. สาระการเรยี นรู้ คอื เนอื้ เรือ่ ง หรือองค์ความรู้ ทกั ษะ กระบวนการของผเู้ รียนทจี่ ะต้องเรียนรู้ในรายวิชาน้ัน ๆ การจดั ระเบยี บสงั คมโดยใชห้ ลกั ธรรม เบญจศลี เบญจธรรม 6. การบวนการการเรียนรู้ คือ การระบุกิจกรรมการเรยี นรู้ท่จี ดั ขนึ้ เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนเกดิ การเรียนรู้ โดยแบ่งเปน็ ข้ัน 6.1 นำเข้าส่บู ทเรียน ครูให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นในประเดน็ ทว่ี ่า โดยครใู ช้คำถาม ดังนี้ การจดั ระเบยี บสงั คมหมายถึงอะไร (ตวั อยา่ งคำตอบ เป็นการสรา้ งกฎระเบยี บเพ่ือใชค้ วบคุมสมาชกิ เพ่อื ให้เกิด ความเปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ยในสังคม) สาเหตุทตี่ ้องมีการจดั ระเบียบสังคม เพราะอะไร (ตวั อย่างคำตอบ เพ่ือให้การติดต่อสอ่ื สารเป็นไปอย่างเรยี บรอ้ ย ลดความ ขัดแยง้ และช่วยใหส้ ังคมดำรงอยู่ได้อย่างสงบสุขและม่ันคง)

6.2 ขน้ั สอน (การเรยี น) 1. ครใู ห้นกั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี น 2. ครูใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั ศกึ ษาความสาคญั ของพระพทุ ธศาสนากบั การจดั ระเบยี บสงั คม โดยครูนาเสนอ powerpoint ใหน้ กั เรียนนาเสนอแนวทางการใชห้ ลกั ธรรมเพ่อื จดั ระเบยี บชมุ ชน ดงั นี้ เบญจศลี  เบญจธรรม ① งดเวน้ จากการฆา่ สตั ว์ ความเมตตา ②③กรุณงงาดดเเววนน้้ จจาากกกกาารรลปกัระขพโมฤยติผิดในกาม ประกอบอาชพี สจุ รติ ก④⑤ามงงดดเเววนน้้ จจาากกกดาืม่ รสพรุ ดูาแเทล็จะเสพสารเสพตดิ มีความสารวมใน มีสจั จะ มีสติสมั ปชญั ญะ 6.3 ขนั้ สรปุ นักเรยี นและครูรว่ มกนั สรปุ ความรู้ ดังนี้ หลกั ธรรม เบญจศลี เบญจธรรมในทางพระพทุ ธศาสนาสามารถทำให้สงั คมมคี วามเป็นระเบียบ มีความสงบสขุ ให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน (Post-Test) เพอื่ ประเมนิ ผลการเรียน 6.4 การประเมินผล แบบรูบริค 6.5 การมอบหมายการเรยี นร้เู พ่มิ เติมในรูปแบบส่ือ ON line 6.5.1 สื่อการเรียนร้รู ปู แบบ เช่น คลิปวดิ ีโอ/เอกสารเนื้อหา/เวบ็ ไซต์ คลิปวดี โี อ / powerpoint / pakkredlearningcyber / Google sites เรอื่ ง หลกั ธรรม เบญจศลี เบญจธรรม 6.5.2 ใบงาน/การทดสอบรปู แบบ แบบทดสอบ pakkredlearningcyber เรอื่ ง 7. สอื่ /อปุ กรณ์/แหล่งการเรียนรู้ คอื เครื่องมอื ในการส่งเสรมิ การเรยี นรู้ท่ใี ช้ตามท่ีกำหนดในกจิ กรรมการเรยี นรู้ - pakkredlearningcyber 8. การวัดและประเมินผล คือ การประเมินผลผเู้ รียนตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ซึ่งควรระบุเครื่องมือวดั และเกณฑ์ การให้คะแนน ซง่ึ สามารถศกึ ษาได้จากคูม่ ือหลักสูตรแกนกลางศึกษาและรูบริคท่ที ำไว้ 9. บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ คอื การบันทกึ ของครผู ู้สอนจากสิง่ ที่พบในการนำแผนจดั การเรยี นร้มู าใช้ โดย แบง่ เป็น ผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ปญั หาและอุปสรรค และ ข้อเสนอแนะ ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ........................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ปัญหาและอุปสรรค

......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ขอ้ เสนอแนะ .......................................................................................................................................................................... .........................................................................................................................................................................

แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre - Test) ช่ือ ______________________ นามสกลุ _____________เลขท่ี______ช้นั _____ ให้ระบายคาตอบท่ีถูกต้องลงในวงกลมตวั เลือกให้เตม็ วง (ห้ามระบายนอกวง) 1. หลกั ธรรมในขอ้ ใดมีความหมายไม่สอดคลอ้ งกนั ตามนยั แห่งการพฒั นาชุมชน 1 ศีล : รักษากฎระเบียบของชุมชน 2 กลั ยาณมิตตตา : เลือกผนู้ าชุมชนที่ดีในการเป็นท่ีปรึกษาและผนู้ าของชุมชน 3 พาหุสจั จะ : เชื่อฟังและปฏิบตั ิตามผนู้ าชุมชนโดยไม่มีขอ้ แม้ 4 วิริยะ : มีความขยนั หมนั่ เพียรแกไ้ ขปัญหาและอุปสรรคของชุมชน 2. ขอ้ ใดเป็นความหมายของ นาถกรณธรรม 10 ที่สอดคลอ้ งกบั การพฒั นาชุมชน 1 การรู้จกั พ่งึ พาตนเองของชุมชนในการพฒั นาชุมชนในดา้ นตา่ ง ๆ 2 การนาหลกั ธรรมมาใหค้ นในชุมชนไดศ้ ึกษาเรียนรู้ทาความเขา้ ใจ 3 การสร้างชุมชนใหเ้ ขม้ แขง็ ทนั สมยั เทียบเทา่ กบั ชุมชนอื่น ๆ 4 การพฒั นาชุมชนตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของโลก 3. หลกั ธรรมเกี่ยวกบั เบญจศีล-เบญจธรรมในขอ้ ใดไม่สัมพนั ธก์ นั 1 ปาณาติปาตา เวรมณี : เมตตา 2 อทินนาทานา เวรมณี : การมีความเพียรชอบ 3 กาเมสุมิจฉาจารา เวรมณี : การสารวมในกาม 4 มุสาวาทา เวรมณี : มีสัจจะ 4. หลกั ธรรมใดที่สามารถสร้างความเป็นระเบียบใหก้ บั สังคมและทาใหส้ ังคมสงบสุขปราศจากการ เบียดเบียนกนั 1 อธิปไตย 3 2 โภคยาทิยะ 5 3 ปาปณิกธรรม 3

4 เบญจศีล-เบญจธรรม 5. ขอ้ ใดเป็นความหมายของหลกั ธรรม อปริหานิยธรรม 7 ที่สอดคลอ้ งกบั การพฒั นาชุมชน 1 รู้จกั รับผดิ ชอบการกระทาของตนเองอยา่ งมีเหตุมีผล 2 มีวิจารณญาณไม่ใชอ้ ารมณ์อยเู่ หนือเหตุผล 3 พอใจในสิ่งที่ตนมี ตนเป็น โดยไม่เบียดเบียนผูอ้ ื่น 4 หลกั ของการมีส่วนร่วมรับผิดชอบ ความสามคั คี การยอมรับนบั ถือของหมู่คณะใน การปฏิบตั ิงานร่วมกนั 6. การจดั ระเบียบสังคมจะไดผ้ ลดี คนในสงั คมควรปฏิบตั ิเช่นไร 1 เคารพกฎหมายอยา่ งเคร่งครัด 2 มีความเคารพตวั เอง ละอายต่อการทาผดิ 3 เห็นแก่ประโยชนส์ ่วนรวมมากกวา่ ส่วนตวั 4 มีความรับผิดชอบต่อการกระทาของตนเอง 7. ขอ้ ใดคือบทบาทสาคญั ในการพฒั นาดา้ นจิตใจของพระพุทธศาสนา 1 การรณรงคช์ าวบา้ นใหพ้ ฒั นาสภาพแวดลอ้ มในชุมชน 2 จดั สร้างพระพทุ ธรูปมอบใหแ้ ก่โรงเรียน 3 สร้างสถานเล้ียงเดก็ กาพร้าในวดั 4 ใหพ้ ระสงฆป์ ลกู ฝังคุณธรรมจริยธรรมใหแ้ ก่เด็กและเยาวชน 8. การกระทาใดท่ีแสดงถึงความรู้สึกรับผิดชอบต่อสังคมมากที่สุด 1 บงั อร แนะนาเพื่อน ๆ วา่ ใหช้ ่วยกนั รักษาสิ่งแวดลอ้ ม 2 สุจิรา แนะนาใหช้ าวบา้ นขายขา้ วในราคาประกนั 3 วาสนา แนะนาใหเ้ ยาวชนเขา้ วดั ฟังธรรมทกุ วนั พระ 4 เพญ็ นภา เปิ ดโรงเรียนสอนกวดวิชาในราคาถกู แก่นกั เรียนในชนบท 9. ปัญหาในขอ้ ใดที่พระพทุ ธศาสนาน่าจะมีส่วนช่วยแกไ้ ขมากท่ีสุด 1 ปัญหาการก่อการร้าย 2 ปัญหาน้ามนั ข้นึ ราคา 3 ปัญหาความยากจนในชุมชน 4 ปัญหาสุขภาพของคนไทย

10. ขอ้ ใดแสดงใหเ้ ห็นวา่ วดั มีส่วนจดั สภาพแวดลอ้ มที่ดีแก่ชุมชน 1 จดั บริเวณวดั ใหส้ ะอาดร่มรื่น 2 จดั ตลาดนดั ขายของราคาถูกในวดั 3 จดั ใหม้ ีการแสดงมหรสพในวดั เพือ่ ความบนั เทิง 4 จดั ใหม้ ีการประกวดพระเครื่อง เพ่ือใหป้ ระชาชนไดม้ ีส่วนร่วม แบบทดสอบหลังเรียน (Post - Test) ชื่อ ______________________ นามสกุล_____________ เลขที่_______ ช้นั _____ ให้ระบายคาตอบที่ถูกต้องลงในวงกลมตัวเลือกให้เตม็ วง (ห้ามระบายนอกวง) 1. ขอ้ ใดเป็นความหมายของ นาถกรณธรรม 10 ท่ีสอดคลอ้ งกบั การพฒั นาชุมชน 1 การรู้จกั พ่งึ พาตนเองของชุมชนในการพฒั นาชุมชนในดา้ นตา่ ง ๆ 2 การนาหลกั ธรรมมาใหค้ นในชุมชนไดศ้ ึกษาเรียนรู้ทาความเขา้ ใจ 3 การสร้างชุมชนใหเ้ ขม้ แขง็ ทนั สมยั เทียบเท่ากบั ชุมชนอ่ืน ๆ 4 การพฒั นาชุมชนตามสถานการณ์การเปล่ียนแปลงของโลก 2. หลกั ธรรมในขอ้ ใดมีความหมายไม่สอดคลอ้ งกนั ตามนยั แห่งการพฒั นาชุมชน 1 ศีล : รักษากฎระเบียบของชุมชน 2 กลั ยาณมิตตตา : เลือกผนู้ าชุมชนที่ดีในการเป็นท่ีปรึกษาและผนู้ าของชุมชน 3 พาหุสจั จะ : เช่ือฟังและปฏิบตั ิตามผนู้ าชุมชนโดยไม่มีขอ้ แม้ 4 วิริยะ : มีความขยนั หมน่ั เพยี รแกไ้ ขปัญหาและอปุ สรรคของชุมชน 3. ขอ้ ใดเป็นความหมายของหลกั ธรรม อปริหานิยธรรม 7 ที่สอดคลอ้ งกบั การพฒั นาชุมชน 1 รู้จกั รับผิดชอบการกระทาของตนเองอยา่ งมีเหตมุ ีผล

2 มีวิจารณญาณไม่ใชอ้ ารมณ์อยเู่ หนือเหตุผล 3 พอใจในสิ่งที่ตนมี ตนเป็น โดยไมเ่ บียดเบียนผอู้ ื่น 4 หลกั ของการมีส่วนร่วมรับผิดชอบ ความสามคั คี การยอมรับนบั ถือของหมูค่ ณะใน การปฏิบตั ิงานร่วมกนั 4. หลกั ธรรมใดท่ีสามารถสร้างความเป็นระเบียบใหก้ บั สังคมและทาใหส้ ังคมสงบสุขปราศจากการ เบียดเบียนกนั 1 อธิปไตย 3 2 โภคยาทิยะ 5 3 ปาปณิกธรรม 3 4 เบญจศีล-เบญจธรรม 5. หลกั ธรรมเก่ียวกบั เบญจศีล-เบญจธรรมในขอ้ ใดไม่สมั พนั ธ์กนั 1 ปาณาติปาตา เวรมณี : เมตตา 2 อทินนาทานา เวรมณี : การมีความเพียรชอบ 3 กาเมสุมิจฉาจารา เวรมณี : การสารวมในกาม 4 มุสาวาทา เวรมณี : มีสจั จะ 6. ขอ้ ใดแสดงใหเ้ ห็นวา่ วดั มีส่วนจดั สภาพแวดลอ้ มที่ดีแก่ชุมชน 1 จดั บริเวณวดั ใหส้ ะอาดร่มรื่น 2 จดั ตลาดนดั ขายของราคาถูกในวดั 3 จดั ใหม้ ีการแสดงมหรสพในวดั เพอื่ ความบนั เทิง 4 จดั ใหม้ ีการประกวดพระเคร่ือง เพ่ือใหป้ ระชาชนไดม้ ีส่วนร่วม 7. ปัญหาในขอ้ ใดที่พระพทุ ธศาสนาน่าจะมีส่วนช่วยแกไ้ ขมากท่ีสุด 1 ปัญหาการก่อการร้าย 2 ปัญหาน้ามนั ข้นึ ราคา 3 ปัญหาความยากจนในชุมชน 4 ปัญหาสุขภาพของคนไทย 8. การกระทาใดที่แสดงถึงความรู้สึกรับผิดชอบต่อสงั คมมากที่สุด 1 บงั อร แนะนาเพ่ือน ๆ วา่ ใหช้ ่วยกนั รักษาสิ่งแวดลอ้ ม

2 สุจิรา แนะนาใหช้ าวบา้ นขายขา้ วในราคาประกนั 3 วาสนา แนะนาใหเ้ ยาวชนเขา้ วดั ฟังธรรมทกุ วนั พระ 4 เพญ็ นภา เปิ ดโรงเรียนสอนกวดวชิ าในราคาถกู แก่นกั เรียนในชนบท 9. ขอ้ ใดคือบทบาทสาคญั ในการพฒั นาดา้ นจิตใจของพระพุทธศาสนา 1 การรณรงคช์ าวบา้ นใหพ้ ฒั นาสภาพแวดลอ้ มในชุมชน 2 จดั สร้างพระพุทธรูปมอบให้แก่โรงเรียน 3 สร้างสถานเล้ียงเด็กกาพร้าในวดั 4 ใหพ้ ระสงฆป์ ลูกฝังคณุ ธรรมจริยธรรมใหแ้ ก่เด็กและเยาวชน 10. การจดั ระเบียบสงั คมจะไดผ้ ลดี คนในสังคมควรปฏิบตั ิเช่นไร 1 เคารพกฎหมายอยา่ งเคร่งครัด 2 มีความเคารพตวั เอง ละอายต่อการทาผดิ 3 เห็นแก่ประโยชนส์ ่วนรวมมากกวา่ ส่วนตวั 4 มีความรับผดิ ชอบต่อการกระทาของตนเอง เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-Test) 1. 3 2. 1 3. 2 4. 4 5. 4 6. 1 7. 4 8. 1 9. 3 10. 1 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-Test) 1. 1 2. 3 3. 4 4. 4 5. 2 6. 1 7. 3 8. 1 9. 4 10. 1

7. แผนการจัดการเรยี นรู้ ฉบบั ในชว่ งการแพร่ COVID-19 ระบาดระลอกใหม่ เดือน พฤษภาคม 2564 ช่ือ ครูผู้สอน นายสายชล ชังอินทร์ รหัสวิชา ส 22101 ช่ือวิชาสังคมศกึ ษา 3 ******************************************* 1.หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรอื่ ง สรปุ และวเิ คราะห์พุทธประวัติ เวลา…… 1 ……ชว่ั โมง………….. แผนการจัดการเรียนรู้ 6 สรุปและวเิ คราะห์พุทธประวัติ 2. สาระสำคญั การผจญมารก่อนการตรัสร้ขู องพระพุทธเจา้ 3. มาตรฐานและตัวช้ีวดั มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ส 1.1 รู้และเข้าใจประวตั ิ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถอื และศาสนาอ่นื มี ศรัทธาทีถ่ ูกตอ้ ง ยดึ มน่ั และปฏิบัติตามหลกั ธรรม เพื่ออย่รู ่วมกนั อย่างสันติสุข ตัวชี้วัด ส 1.1 ม.2/5 วิเคราะหพ์ ทุ ธประวัติหรือประวตั ิศาสดาของศาสนาทต่ี นนับถือตามท่กี ำหนด 4. จุดประ สงค์การเรียนรู้ ดา้ นความรู้ 1. วิเคราะหพ์ ุทธประวัติ ตอน การผจญมาร (K) 2. ศึกษา จำแนกบทวเิ คราะห์คำวา่ มาร ตามนัยแห่งพุทธประวัติ (P) 3. เห็นคณุ ค่าและความสำคญั ในการศึกษาเรยี นรู้พทุ ธประวัติ เพอ่ื นำมาประยุกตใ์ ชใ้ นการดำเนนิ ชีวิต (A) 5. สาระการเรยี นรู้ คือเนอ้ื เร่ือง หรือองค์ความรู้ ทักษะ กระบวนการของผเู้ รยี นท่ีจะต้องเรยี นรใู้ นรายวชิ าน้นั ๆ มาร ตามนัยแห่งพระพุทธศาสนา เปน็ การเปรยี บเทยี บสิ่งที่คอยขัดขวางหรือคอยลา้ งผลาญคณุ ความดี ขดั ขวางบุคคลมใิ ห้ บรรลุผลสำเร็จความดงี าม ประกอบดว้ ย กเิ ลสมาร ขันธมาร อภสิ ังขารมาร เทวปุตตมาร และมจั จมุ าร 6. การบวนการการเรียนรู้ คือ การระบุกิจกรรมการเรียนรูท้ จี่ ดั ข้ึน เพือ่ ใหผ้ ้เู รียนเกดิ การเรยี นรู้ โดยแบ่งเปน็ ขัน้ 6.1 นำเข้าสู่บทเรียน ใหน้ ักเรยี นรว่ มกันทบทวนความรู้เดิมเก่ยี วกบั พทุ ธประวตั ิของพระพุทธเจา้ โดยครใู ชค้ ำถามให้ นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคิดเหน็ ดงั น้ี พระพทุ ธเจา้ มีพระนามเดมิ วา่ อยา่ งไร ชาตติ ระกูลของพระองค์มีความเปน็ มาอย่างไร (ตวั อย่างคำตอบ พระพทุ ธเจ้าทรงมีพระนามเดมิ วา่ “สทิ ธัตถะ” เปน็ พระราชโอรสของพระเจ้าสทุ โธทนะ กษัตรยิ ์ผูค้ รอง กรงุ กบิลพัสดุ์ แคว้นสักกะ และพระราชมารดามพี ระนามว่า “พระนางสริ ิมหามายา” เป็นราชวงศแ์ ห่งกรงุ เทวทหะ แคว้นโกสยิ ะ)

พุทธประวัติก่อนเสดจ็ ออกผนวชเป็นอยา่ งไร (ตัวอย่างคำตอบ พระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นคนแก่ คนเจ็บ คนตาย และ สมณะท่ีเรยี กวา่ เทวทตู ท้ัง 4 ซง่ึ ทกุ คนไมส่ ามารถหลกี เลยี่ งได้ และทรงเหน็ วา่ ความสุขทางโลกเป็นเพยี งส่งิ หลอกลวง พระองคจ์ งึ หาวธิ ีคิดพื่อทจ่ี ะหลกี พน้ ความทุกขจ์ ะต้องสละเพศผู้ครองเรือนเปน็ สมณะ จึงตดั สนิ ใจออกผนวช)ใหน้ กั เรยี น ร่วมกันแสดงความคิดเห็นตามพ้นื ฐานความรปู้ ระสบการณ์ของตนเอง 6.2 ขั้นสอน (การเรียน) 1. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ครูนำพทุ ธประวัติ ตอน การผจญมารโดยนำเสนอจาก powerpoint 6.3 ข้ันสรุป นักเรยี นและครูร่วมกันสรปุ ความรู้ ดังน้ี มาร ตามนัยแหง่ พระพุทธศาสนา เป็นการเปรยี บเทียบสงิ่ ท่ีคอยขดั ขวางหรือคอยลา้ งผลาญคุณความดี ขัดขวางบุคคลมใิ ห้ บรรลุผลสำเรจ็ ความดงี าม ประกอบดว้ ย กิเลสมาร ขันธมาร อภิสังขารมารเ ทวปุตตมาร และมจั จุมาร ให้นกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครใู ชค้ ำถามท้าทาย ดงั น้ี นกั เรียนเคยสำรวจตนเองหรือไม่ว่าแต่ละวันถูกมารผจญวนั ละกี่ครัง้ และนกั เรียนเคยเอาชนะมารได้หรือไม่ ใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี น (Post-Test) เพอ่ื ประเมนิ ผลการเรียน 6.4 การประเมนิ ผล แบบรบู ริค 6.5 การมอบหมายการเรยี นรเู้ พิ่มเติมในรปู แบบส่ือ ON line 6.5.1 สอื่ การเรยี นร้รู ปู แบบ เชน่ คลปิ วดิ โี อ/เอกสารเนื้อหา/เว็บไซต์ คลิปวดี ีโอ / powerpoint พทุ ธประวตั ิ ตอน การ ผจญมาร pakkredlearningcyber / Google sites เรือ่ ง พทุ ธประวตั ิ ตอน การผจญมาร 6.5.2 ใบงาน/การทดสอบรปู แบบ แบบทดสอบ pakkredlearningcyber เรอ่ื ง พุทธประวัติ ตอน การผจญมาร 7. สอ่ื /อุปกรณ์/แหลง่ การเรียนรู้ คือ เคร่อื งมอื ในการส่งเสริมการเรียนรู้ท่ใี ช้ตามที่กำหนดในกิจกรรมการเรียนรู้ - pakkredlearningcyber 8. การวดั และประเมนิ ผล คือ การประเมนิ ผลผู้เรียนตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ซ่ึงควรระบเุ ครอื่ งมือวัดและเกณฑ์ การให้คะแนน ซงึ่ สามารถศึกษาไดจ้ ากคู่มอื หลักสูตรแกนกลางศึกษาและรบู ริคทที่ ำไว้ 9. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ คอื การบนั ทกึ ของครผู ู้สอนจากสิ่งท่ีพบในการนำแผนจัดการเรียนรมู้ าใช้ โดย แบง่ เปน็ ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ปัญหาและอุปสรรค และ ข้อเสนอแนะ ผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ........................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ปัญหาและอุปสรรค .........................................................................................................................................................................