แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาสังคมศึกษา 3 (รหัสวิชา ส22103) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ปีการศึกษา 2563 นายสายชล ชังอินทร์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ โรงเรียนปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานนทบุรี
โรงเรียนปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม แผนการจัดการเรียนรู้ 1 การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาเขา้ สู่ประเทศเพ่ือนบา้ นและการนบั ถือพระพุทธศาสนาของประเทศเพือ่ น บา้ นในปัจจุบนั รหสั วชิ า ส22101 รายวิชา สังคมศึกษา 3 ( สาระศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ) ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 2 น้าหนกั วชิ า 1.5 หน่วยกิต เวลาเรียน 3 ชวั่ โมง/สัปดาห์ เวลา 50 นาที / 1 คาบ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาเขา้ สู่ประเทศเพ่ือนบา้ น (1) ครูผสู้ อน นายสายชล ชงั อินทร์ …………………………………………………………………………… มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ส 1.1 รู้และเขา้ ใจประวตั ิ ความสาคญั ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนา ที่ตนนบั ถือและศาสนาอ่ืน มีศรัทธาท่ีถูกตอ้ ง ยดึ มน่ั และปฏิบตั ิตามหลกั ธรรมเพื่ออยู่ ร่วมกนั อยา่ งสนั ติสุข ตวั ชี้วดั ส 1.1 ม.2/1 อธิบายการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนบั ถือสู่ประเทศเพอื่ นบา้ น จดุ ประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ชี้วัด 1. นาเสนอแนวทางในการส่งเสริมพระพุทธศาสนาในภมู ิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ (K) 2. ศึกษาทาความเขา้ ใจการเขา้ มาเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ (P) 3. เห็นความสาคญั ของพระพุทธศาสนาท่ีส่งผลต่อวถิ ีชีวติ วฒั นธรรม และความเช่ือของผคู้ น ในภมู ิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ (A) สาระสาคญั พระพุทธศาสนาเป็นส่วนหน่ึงของวิถีชีวิตของผคู้ นในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ เป็นรากฐาน ของวฒั นธรรม ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ทาให้สังคมในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ เกิดความสงบสุข สาระการเรียนรู้ การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาเขา้ สู่ภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝ่ เรี ยนรู้ ตวั ช้ีวดั ท่ี 4.1 ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ความสามารถในการคิด ชิน้ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความรู้ แผนภาพ การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาเขา้ สู่ดินแดนสุวรรณภูมิ การจดั กจิ กรรมการเรียน 1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั ความสาคญั ของพระพทุ ธศาสนาต่อประเทศเพื่อนบา้ น โดย ครูใชค้ าถามกระตนุ้ ความคิด ดงั น้ี นกั เรียนมีความเขา้ ใจเก่ียวกบั พระพทุ ธศาสนาอยา่ งไรบา้ ง (ตัวอย่างคาตอบ พระพทุ ธศาสนา เป็ น สิ่งทย่ี ดึ เหนยี่ วจิตใจของพุทธศาสนิกชน) พระพุทธศาสนามีความสาคญั อยา่ งไรต่อตวั นกั เรียน (ตวั อย่างคาตอบ เป็ นส่ิงท่ีช่วยขัดเกลา จิตใจ ให้เป็ นคนดี จากหลกั คาสอนทางพระพทุ ธศาสนา) ครูใหน้ กั เรียนแสดงความคิดเห็นตามพ้นื ฐานความรู้ประสบการณ์ของตนเอง 2. ใหน้ กั เรียนสงั เกตแผนท่ีแสดงประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตท้ ี่มีผูน้ บั ถือพระพุทธศาสนา จากน้นั ครูใชค้ าถามใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น ดงั น้ี ประเทศในภมู ิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ มีประเทศใดบา้ งท่ีนบั ถือพระพทุ ธศาสนา (ตวั อย่างคาตอบ ลาว กมั พชู า เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ และอนิ โดนเี ซีย) นกั เรียนคดิ วา่ สาเหตุใดที่ทาใหพ้ ระพุทธศาสนาเผยแผเ่ ขา้ สู่ภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ (ตัวอย่างคาตอบ หลงั จากความเล่ือมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาของชาวอนิ เดียลดลง พระเจ้าอโศกมหาราช ผู้ซ่ึง เล่ือมใสศรัทธาในพระพทุ ธศาสนาเป็ นอย่างมาก ได้ส่งคณะพระธรรมทูตออกไปเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาในภูมิภาค ต่าง ๆ แต่ท่มี ีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก คือ ภูมภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้) เมื่อจบการแสดงความคิดเห็นของนกั เรียน ใหค้ รูเลา่ การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาต้งั แต่ การทาสงั คายนาคร้ังท่ี 3 ใหน้ กั เรียนฟัง แลว้ สรุปเป็นแผนภาพแบบย่อ ดงั ตวั อยา่ ง
4. พระโสณะเถระและพระอุตตระเถระเป็นหวั หนา้ คณะสายท่ี 9 เขา้ มาเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา ณ ดินแดนสุวรรณภมู ิ 3. พระโมคคลั ลีบุตรจดั คณะพระธรรมทูตเป็น 9 คณะ 2. พระเจา้ อโศกมหาราชทรงเป็นองคอ์ ปุ ถมั ภ์ 1. พระโมคคลั ลีบตุ รติสสเถระ ทาสงั คายนาพระธรรมวินยั คร้ังท่ี 3 3. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศึกษาการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาในเมียนมา โดยครูนาภาพมหาเจดียช์ เวดา-กองมา ใหน้ กั เรียนไดศ้ ึกษา แลว้ ครูเล่าประวตั ิความเป็นมาใหน้ กั เรียนฟังเพ่ือให้รู้ถึงความศรัทธาท่ีเมียนมามี ตอ่ พระพทุ ธศาสนาอยา่ งมาก จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาในเมียนมามีวิวฒั นาการความเป็นมาอยา่ งไร ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้พระพุทธศาสนาในประเทศเมียนมาต้งั แตต่ น้ จนถึงรัชสมยั พระเจา้ ธรรมเจดียแ์ บง่ เป็นยคุ ๆ ได้ 5 ยคุ ลงในแผนภาพ ดงั น้ี วิวฒั นาการพระพุทธศาสนาในเมียนมาร์ ยคุ แรก คอื ในราวพุทธศตวรรษที่ 11 หรืออาจก่อนหนา้ น้นั หลายรอ้ ยปี เป็นท่ีรูจ้ กั กนั ดี ในเมียนมาใต้ จารึกต่าง ๆ ท่คี น้ พบ เขียนเป็นภาษาบาลีดว้ ยอกั ษรแบบอนิ เดียตอนใต้ ยคุ ท่ี 2 เป็นสมยั ที่พระเจา้ อโนรธามงั ช่อ (พ.ศ. 1587-1620) ไดช้ าระพระพุทธศาสนา ในเมียนมาเหนือใหบ้ ริสุทธ์ิ โดยอาศยั คมั ภีร์ต่าง ๆ ที่ไดจ้ ากเมืองมอญเป็นหลกั โดยเอา ไปเทียบกบั คมั ภีร์ที่ไดม้ าจากลงั กา ยคุ ท่ี 3 (ประมาณ พ.ศ. 1743) ทา่ นอุตตราชีวะกบั ทา่ นฉปัทผเู้ ป็นศษิ ย์ ซ่ึงการศึกษาที่ประเทศลงั กา โดยทา่ นฉปัทไดร้ ับการอุปสมบทที่นน่ั ไม่ยอมรับพระมอญวา่ เป็นพระที่สมบูรณ์ จึงก่อใหเ้ กิด เป็น 2 นิกายข้ึนในเมียนมาเหนือนนั่ ก่อน แลว้ ตอ่ มากข็ ยายตวั จนมาถึงเมียนมาใต้ ยคุ ท่ี 4 (ประมาณ พ.ศ. 1793) ลทั ธิลงั กาวงศ์ โดยการนาของพระสารีบุตรและคณะ ไดเ้ ริ่มมีอานาจมาจนถึงเมียนมาใตแ้ ละพวกรามญั นิกายกเ็ ร่ิมเสื่อมลง ยคุ ที่ 5 (ประมาณ พ.ศ. 2003) พระเจา้ ธรรมเจดียแ์ ห่งกรุงหงสาวดี ไดท้ รงประกาศวา่ พระองค์ ไดท้ รงชาระพระพทุ ธศาสนาใหบ้ ริสุทธ์ิผดุ ผอ่ งแลว้ ตามแบบของคณะมหาวิหารในลงั กา ซ่ึงเป็ นนิกายเดียวที่เก่าแก่ท่ีสุด
4. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศึกษา การนบั ถือพระพทุ ธศาสนาในเมียนมา โดยใหน้ กั เรียนร่วมกนั ศึกษา สืบคน้ ถึงอิทธิพลของพระพุทธศาสนาท่ีมีตอ่ ชาวเมียนมา ทางดา้ นสงั คม วฒั นธรรม ประเพณี ดา้ นสถาปัตยกรรม จิตรกรรม ประติมากรรม และดา้ นการเมือง สรุปความรู้ร่วมกนั ลงในแผนภาพ ดงั ตวั อยา่ ง ด้านสังคม สถาปัตยกรรม จิตรกรรม ประติมากรรม ประชาชนร้อยละ 90 นบั ถือพระพุทธศาสนา วิหาร เจดีย์ ปูชนียสถานลว้ นไดร้ ับอิทธิพล ด้านวัฒนธรรมประเพณี การนับถือ จากพระพุทธศาสนา พระพทุ ธศาสนา เมียนมานิยมบวชลูกชายเป็นสามเณร ในเมยี นมา มีวดั เป็นศนู ยก์ ลางการศึกษา งานประเพณีลว้ นเก่ียวเนื่องกบั ด้านการเมือง พระพุทธศาสนา รัฐบาลเมียนมาออกกฎหมายให้ พระพทุ ธศาสนาเป็นศาสนาประจาชาติ พระสงฆใ์ นเมียนมารวมตวั จดั ต้งั สหภาพยวุ สงฆ์ แห่งเมียนมา เพ่ือเรียกร้องประชาธิปไตยและ สิทธิมนุษยชนโดยสันติ 5. ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 6 กลมุ่ เพ่อื ศึกษาการเผยแผแ่ ละการนบั ถือพระพทุ ธศาสนาในประเทศลาว กมั พูชา เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย โดยครูแจกแบบฟอร์มใหก้ ลมุ่ ละ 1 แผน่ แลว้ จบั สลากช่ือประเทศ เพือ่ ไปศึกษาสืบคน้ ขอ้ มูลสรุปลงในแบบฟอร์มบนั ทึกที่ครูกาหนดให้ เพ่อื ออกมานาเสนอความรู้แลกเปล่ียนประสบการณ์การเรียนรู้ในชว่ั โมงถดั ไปเป็นการบา้ นแบบกิจกรรม กลมุ่
ตัวอย่างแบบฟอร์มบนั ทกึ ข้อมูล แบบบันทกึ ข้อมูลเรื่อง พระพุทธศาสนาในประเทศเพ่ือนบ้าน ชื่อประเทศ__________________________________________________________ 1. ประวตั ิความเป็ นมาของพระพุทธศาสนาในประเทศน้ี_______________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ 2. อิทธิพลของพระพุทธศาสนาที่ส่งผลต่อวิถีชีวิตของประชากร_________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ 3. สถานภาพของพระพุทธศาสนาในปัจจุบนั ________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________
6. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี พระพุทธศาสนาเป็นส่วนหน่ึงของวิถีชีวิตของผคู้ นในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ เป็น รากฐานของวฒั นธรรม ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ทาใหส้ ังคมในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ เกิดความสงบสุข 7. ให้นกั เรียนแสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี นกั เรียนคิดวา่ สถานภาพของพระพุทธศาสนาในประเทศเพอ่ื นบา้ นของไทยมีความมน่ั คง มากนอ้ ยเพียงใด สื่อการเรียนรู้ 1. ภาพปชู นียสถานทางพระพุทธศาสนา 2. แบบบนั ทึกขอ้ มูลเร่ือง พระพุทธศาสนาในประเทศเพ่อื นบา้ น การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวัดและประเมินผล 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.2 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2. เคร่ืองมือ 2.1 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมิน 3.1 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน 3.2 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกล่มุ คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก คะแนน 7-8 ระดบั ดี คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้ คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรับปรุง
บนั ทึกหลงั การสอน 1. ผลการสอน ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 2. ปัญหาและอปุ สรรคในการสอน ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 3. แนวทางแกไ้ ขปัญหา ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ลงชื่อ.........................................................ผสู้ อน (นายสายชล ชงั อินทร์ ) ขอ้ เสนอแนะของหวั หนา้ กลุม่ สาระการเรียนรู้ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ลงช่ือ..................................................... (นายนิติกร เบญมาตย)์ หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
ขอ้ เสนอแนะของรองผอู้ านวยการกลมุ่ การบริหารวิชาการ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ...................................................................................................................................................................... ลงชื่อ......................................................... (นางสายไหม ดาบทอง) รองผอู้ านวยการกลุ่มการบริหารวิชาการ ขอ้ เสนอแนะของผอู้ านวยการ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ...................................................................................................................................................................... ลงช่ือ....................................................... (นางสาววิณฐั ธพชั ร์ โพธ์ิเพชร) ผอู้ านวยการโรงเรียนปากเกร็ด
โรงเรยี นปากเกรด็ จงั หวัดนนทบุรี กลุม่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม แผนการจัดการเรยี นรู้ 2 การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านและการนบั ถือพระพทุ ธศาสนาของประเทศเพ่ือนบา้ น ในปัจจบุ ัน รหัสวชิ า ส22101 รายวิชา สงั คมศึกษา 3 ( สาระศาสนา ศลี ธรรม จรยิ ธรรม ) ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 2 นำ้ หนักวิชา 1.5 หน่วยกิต เวลาเรียน 3 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ เวลา 50 นาที / 1 คาบ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาเขา้ สูป่ ระเทศเพื่อนบ้าน ผู้สอน นายสายชล ชงั อินทร์ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วัด มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 1.1 รู้และเข้าใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนา ทตี่ นนบั ถอื และศาสนาอนื่ มีศรัทธาทถ่ี ูกต้อง ยึดมั่น และปฏิบัติตามหลักธรรมเพ่ืออยู่ รว่ มกันอย่างสันติสุข ตัวช้ีวัด ส 1.1 ม.2/1 อธบิ ายการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาทตี่ นนบั ถอื ส่ปู ระเทศเพื่อนบ้าน จุดประสงคก์ ารเรียนร้สู ่ตู วั ชี้วัด 1. นำเสนอแนวทางในการส่งเสริมพระพุทธศาสนาในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ (K) 2. ศกึ ษาทำความเขา้ ใจการเข้ามาเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาในภมู ภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ (P) 3. เห็นความสำคัญของพระพุทธศาสนาทส่ี ่งผลตอ่ วถิ ชี ีวิต วัฒนธรรม และความเชื่อของผู้คน ในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ (A) สาระสำคัญ พระพุทธศาสนาเป็นส่วนหน่ึงของวิถีชีวิตของผู้คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นรากฐานของ วัฒนธรรม ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ทำให้สังคมในภูมภิ าคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เกิดความสงบสุข
สาระการเรียนรู้ การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสูภ่ มู ิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ท่ี 4.1 ตัง้ ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเข้ารว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ความสามารถในการคิด ชิน้ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความร)ู้ 1. แบบบันทรึก่อขงอ้ รมอูลยเรแอื่ สงดพงรคะวพาุทมธรศู้)าสนาในประเทศเพื่อนบา้ น 2. ชิน้ งานที่ 1 เรอื่ ง พระพทุ ธศาสนาในประเทศเพ่ือนบ้าน คำถามทา้ ทาย โลกยง่ิ พัฒนาความเจรญิ ทางเทคโนโลยีมากเพยี งใด ผคู้ นย่งิ ห่างไกลจากศาสนา นักเรยี นมีแนวทางใหผ้ คู้ น หนั มาให้ความสำคัญกับพระพุทธศาสนาได้อยา่ งไร การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครูใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มท่ีไดร้ บั มอบหมายภาระงานในชัว่ โมงทแี่ ลว้ (แผนการสอนที่ 1) ส่งผแู้ ทนกลมุ่ ออกมานำเสนอความร้เู ก่ียวกับการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาและการนับถือพระพทุ ธศาสนา ในประเทศเพื่อนบา้ นทัง้ 6 กลมุ่ 6 ประเทศ คอื ลาว กัมพูชา เวยี ดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ และอนิ โดนเี ซีย ออกมา นำเสนอความรูห้ นา้ ช้นั เรยี นเพอ่ื แลกเปล่ียนประสบการณ์การเรียนรรู้ ะหวา่ งกลมุ่ 2. จบการนำเสนอของแต่ละกลุ่ม ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนในชั้นเรียนซกั ถามกล่มุ ท่นี ำเสนอ เพอ่ื ตอบคำถามและแกข้ ้อสงสัย 3. เม่ือจบกิจกรรมกลมุ่ ครูให้นกั เรยี นรว่ มกันวิเคราะหส์ ถานการณ์เกยี่ วกับพระพุทธศาสนา ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยครูใช้คำถาม ดงั น้ี การนบั ถือพระพทุ ธศาสนาในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในปจั จุบนั มสี ถานภาพอย่างไร (ตวั อย่างคำตอบ ประชาชนลาวมคี วามเคารพศรัทธาในพระพทุ ธศาสนาอยา่ งมน่ั คง ยังรกั ษาวัฒนธรรมประเพณแี บบด้ังเดิมในพระพุทธศาสนาและผ้คู นส่วนใหญ่ในประเทศนับถือ พระพทุ ธศาสนาเช่นเดยี วกับประเทศไทย) สถานการณ์พระพุทธศาสนาในประเทศกัมพูชามีความเปน็ ไปอยา่ งไรในปัจจุบัน (ตวั อย่างคำตอบ ประเทศกมั พูชาอยู่ในภาวะการฟื้นฟูประเทศ พระพุทธศาสนายังไม่ม่ันคงเทา่ ท่คี วร แต่มแี นวโนม้ ที่ดีขึ้นตามการฟน้ื ฟูประเทศ)
ปจั จุบันในเวียดนามมีคนนับถอื พระพุทธศาสนามากน้อยเพยี งใด (ตัวอย่างคำตอบ จำนวนผูค้ นนับ ถอื มจี ำนวนลดลง เพราะประเทศเวียดนามเคยเปน็ อาณานคิ มของฝร่ังเศสมากอ่ นทำให้มผี ูค้ น หนั ไปนบั ถอื ศาสนาคริสต์เพ่มิ ข้นึ ) พระพุทธศาสนาในประเทศมาเลเซียมีสถานภาพเป็นอย่างไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ประชาชนส่วน ใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม แตม่ พี ลเมืองทเ่ี ป็นเชอ้ื สายจีนและไทยยังนบั ถือพระพทุ ธศาสนาอยา่ งเหนียวแนน่ ) การนับถือพระพทุ ธศาสนาในประเทศสิงคโปร์มสี ถานภาพอยา่ งไรบ้าง (ตวั อยา่ งคำตอบ ชาวสงิ คโปร์ส่วนใหญ่เปน็ เช้ือสายจนี นบั ถือพระพุทธศาสนานิกายมหายาน มีสมาคมองคก์ รทาง พระพุทธศาสนาเปน็ จำนวนมากเพือ่ จดั กจิ กรรมสังคมสงเคราะห)์ สถานท่ีใดท่ีเป็นสถานทีแ่ สดงถึงความเจรญิ รงุ่ เรืองของพระพุทธศาสนาในประเทศอินโดนเี ซยี มา กอ่ นตงั้ แตค่ ร้งั โบราณ (พุทธสถานวิหารบโุ รพทุ โธ ซึ่งก่อสร้างขนึ้ สมยั อาณาจักรศรวี ิชัย) ปัจจบุ ันการนับถอื พระพทุ ธศาสนาในประเทศอินโดนเี ซียมีลกั ษณะอยา่ งไร (ตัวอยา่ งคำตอบ มปี ระชากรร้อยละ 1 เท่านน้ั ที่นับถือพระพุทธศาสนา และมชี าวจนี บนเกาะชวาประกาศตนเปน็ พทุ ธศาสนิกชนทกุ ๆ ปี โดยใช้วนั วิสาขบูชาประกอบพิธที ี่วหิ ารบโุ รพุทโธ) 4. ครใู หน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุ่ม เปรยี บเทยี บความเหมือนและความแตกตา่ งของพระพุทธศาสนาในประเทศ ไทยกับประเทศเพอื่ นบา้ น ท่ีอยูใ่ นภาระงานท่ีกลมุ่ ตนเองรบั ผิดชอบ สรปุ ความรู้ลงในแผนภาพ ติดแสดงท่ีปา้ ยนเิ ทศในชน้ั เรียนเพือ่ แลกเปล่ยี นความรู้กนั เพิ่มเตมิ 5. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันบูรณาการความรเู้ รอื่ ง การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาเขา้ สปู่ ระเทศเพื่อนบา้ น และ การนบั ถือพระพุทธศาสนาของประเทศเพ่ือนบ้านในปัจจบุ ันสรปุ เปน็ แผนภาพความคิด ดังตัวอย่าง
พระพุทธศาสนาในประเทศเพือ่ นบ้านของ ประเทศเมียนมา : พระพทุ ธศาสนาเผยแผเ่ ข้าประเทศ ไทย ประเทศลาว : พระพุทธศาสนาเผยแผ่เข้าสลู่ าวในสมัย เมยี นมาครงั้ แรกที่เมืองสุธรรมวดแี ละรุ่งเรืองในสมยั พระเจา้ อนรุ ทุ ธมหาราช สถาปนาเมืองพุกามเป็นราชธานี พระเจ้าฟา้ งมุ้ อาณาจักรล้านช้าง โดยนมิ นตพ์ ระสงฆ์ ปัจจบุ นั : ชาวเมียนมารอ้ ยละ 90 นับถอื พระพทุ ธศาสนา จากลงั กาเขา้ มาเผยแผ่ศาสนาคร้ังแรก และฟื้นฟู นกิ ายเถรวาท พระพทุ ธศาสนาหลังสน้ิ สดุ สงครามโลกโดยศกึ ษานำ แนวทางพระพุทธศาสนาจากประเทศไทยใน พ.ศ. 2530 ปัจจุบนั : ลาวมวี ัดอยู่ 2,827 วัด มพี ระสงฆแ์ ละสามเณร 15,000 กวา่ รูป ประเทศกมั พชู า : พระพุทธศาสนาในยุคแรกเปน็ นิกาย ประเทศเวยี ดนาม : พระพุทธศาสนาในเวียดนามเป็น มหายาน ในยคุ อาณาจักรฟนู ันพระพทุ ธศาสนากลับมา แบบนิกายมหายาน โดยเผยแผม่ าจากประเทศจีน ฟน้ื ฟอู กี คร้งั สมัยพระเจ้าหริรกั ษร์ ามาธบิ ดี โดย และได้เส่ือมลงในยคุ การเข้ามาลา่ อาณานคิ มของชาติ พระภิกษชุ าวกัมพชู าเขา้ มาศึกษาพระพุทธศาสนาใน ตะวนั ตก กรงุ เทพฯ นำต้นแบบนกิ ายธรรมยตุ เข้าไปเผยแผ่ ปัจจบุ นั : พระพุทธศาสนามผี คู้ นนับถือไม่มากนกั ปัจจุบนั : สถานการณพ์ ระพทุ ธศาสนามแี นวโนม้ ชาวเวียดนามรุ่นใหม่นยิ มไปเขา้ รีตเพ่ือนับถอื ศาสนาครสิ ต์ ดขี น้ึ มกี ารจดั ตั้งมหาวทิ ยาลยั สงฆข์ ึ้น คือ มหาวทิ ยาลัย แต่ก็มีสหพุทธจักรเวียดนามไดจ้ ดั ตั้งมหาวิทยาลยั วันฮัน พระพุทธศาสนาพระสหี นุราช ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งพระพุทธศาสนา ประเทศมาเลเซีย : พระพทุ ธศาสนาเข้าสมู่ าเลเซียพทุ ธ- ประเทศสงิ คโปร์ : พระพทุ ธศาสนาในสิงคโปรเ์ ป็นแบบ ศตวรรษท่ี 12 แบบนกิ ายเถรวาทและนกิ ายมหายานใน องค์กรตา่ ง ๆ ในรปู แบบของสงั คมสงเคราะห์ ส่วนใหญ่นบั อาณาจกั รศรีวชิ ยั แต่พระพุทธศาสนาเจรญิ รุ่งเรอื งได้ ถอื นิกายมหายาน มีการจัดตั้งองคก์ รคณะสงฆ์สิงคโปร์โดยมี ไมน่ านเมื่อผู้ครองนครหนั ไปนับถอื ศาสนาอิสลาม วัดโปรค์ ารก์ ซเี ป็นศนู ยก์ ลาง ปจั จุบนั : ยงั มผี ู้คนเชื้อสายจนี ในมาเลเซียนบั ถือ ปจั จบุ นั : ชาวสิงคโปร์ยังคงนับถอื พระพทุ ธศาสนา พระพทุ ธศาสนาอยา่ งเหนียวแนน่ และรัฐบาลมาเลเซีย แบบมหายานเป็นส่วนใหญ่ ประกาศให้วันวิสาขบชู าเปน็ วันหยดุ ราชการ ประเทศอินโดนีเซยี : พระพทุ ธศาสนาเผยแผเ่ ขา้ สเู่ กาะชวาในพุทธศตวรรษที่ 3 สมัยพระเจา้ อโศกมหาราชของอินเดยี และ นิกายมหายานมารุ่งเรืองในสมัยอาณาจกั รศรีวิชัย แต่พระพุทธศาสนาเสื่อมโทรมลงในพทุ ธศตวรรษที่ 19 พรอ้ มอาณาจักร ศรีวิชยั และอาณาจกั รมชั ปาหิตเรอื งอำนาจและกษัตรยิ ์นบั ถือศาสนาอสิ ลามทำให้พระพทุ ธศาสนาเสื่อมลง ปัจจุบนั : พระพุทธศาสนาในอนิ โดนเี ซยี ค่อย ๆ ฟน้ื ฟโู ดยส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีนที่ประกาศตนเป็นพทุ ธศาสนิกชนเพม่ิ ขึน้ ทุกปี โดยมีศนู ยร์ วมท่ีบโุ รพุทโธ
6. ให้นักเรยี นและครูร่วมกนั สรปุ ความรู้ ดงั นี้ พระพุทธศาสนาเป็นส่วนหน่ึงของวิถีชวี ิตของผู้คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็น รากฐานของวัฒนธรรม ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ทำให้สังคมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกิดความสงบ สุข 7. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยครูใช้คำถามท้าทาย ดังน้ี โลกยง่ิ พฒั นาความเจริญทางเทคโนโลยีมากเพียงใด ผู้คนยิง่ ห่างไกลจากศาสนา นักเรยี นมีแนวทาง ใหผ้ คู้ นหันมาให้ความสำคญั กับพระพุทธศาสนาได้อยา่ งไร 8. ให้นักเรียนทำช้ินงาน เร่ือง พระพุทธศาสนาในประเทศเพื่อนบ้าน 9. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน (Post-Test) เพ่ือประเมินผลการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 การมอบหมายภาระงานใหน้ ักเรยี นทำกจิ กรรมกลุ่มศึกษาสืบค้นข้อมลู นำเสนอแลกเปลีย่ นประสบการณ์ การเรยี นรรู้ ะหวา่ งกลุ่มในช้นั เรียน สอื่ การเรียนรู้ 1. แบบบันทึกข้อมูลเรอ่ื ง พระพุทธศาสนาในประเทศเพือ่ นบ้าน 2. ใบงานเรือ่ ง พระพุทธศาสนาในประเทศเพ่ือนบ้าน 3. Power point เร่อื งการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาไปประเทศเพ่อื นบ้าน 4. Google sites 5. Packed learning cyber การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล 1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเข้ารว่ มกจิ กรรม 1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม 1.3 ตรวจช้ินงานที่ 1 2. เครือ่ งมอื 2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม 2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 3. เกณฑก์ ารประเมนิ 3.1 การประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม ผ่านตง้ั แต่ 2 รายการ ถอื วา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถอื ว่า ไม่ผ่าน
3.2 การประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม คะแนน 9-10 ระดับ ดมี าก คะแนน 7-8 ระดบั ดี คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้ คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรับปรุง การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics) การประเมินช้นิ งานท่ี 1 ใหผ้ ้สู อนพิจารณาจากเกณฑ์การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง พระพุทธศาสนาในประเทศเพื่อนบ้าน เกณฑ์การประเมนิ ระดับคะแนน อธบิ ายเปรียบเทยี บ 43 2 1 การเผยแผ่พระพุทธ - ศาสนาเข้าสู่ประเทศ- อธิบายเปรียบเทียบ อธบิ ายเปรียบเทียบ อธบิ ายเปรยี บเทยี บ อธบิ ายเปรยี บเทียบ เพ่ือนบ้านที่สนใจและ สรุปลงในแผนภาพได้ การเผยแผ่ การเผยแผ่ การเผยแผ่ การเผยแผ่ พระพุทธศาสนา พระพทุ ธศาสนา พระพทุ ธศาสนา พระพทุ ธศาสนา เขา้ สปู่ ระเทศ- เขา้ ส่ปู ระเทศ- เขา้ สู่ประเทศ- เข้าสปู่ ระเทศ- เพ่อื นบ้านท่สี นใจ เพือ่ นบา้ นท่สี นใจ เพอ่ื นบ้านทส่ี นใจ เพอื่ นบ้านทีส่ นใจ และสรุปลง และสรุปลงใน และสรปุ ลงใน และสรปุ ลงใน ในแผนภาพ แผนภาพได้ แผนภาพได้ แผนภาพได้ ได้สัมพันธ์กนั มีการจำแนกข้อมูล สอดคลอ้ งกับข้อมลู แต่ยงั ไมส่ อดคล้อง มกี ารเชือ่ มโยงให้เหน็ แสดงให้เห็นถงึ และเขียนขยายความ กบั ขอ้ มูลและ เปน็ ภาพรวมแสดงถงึ ความสัมพันธ์กบั ยกตัวอย่างอธิบาย ขาดการอธบิ าย ความสัมพนั ธ์ ตนเองอย่างเปน็ เหตุ ใหเ้ ข้าใจง่าย เพ่ิมเติม กับตนเองและผู้อื่น เป็นผล
บันทกึ หลงั การสอน 1. ผลการสอน ............................................................................................................................. ....................................................... ......................................................................................................................................................... ........................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... 2. ปญั หาและอปุ สรรคในการสอน .................................................................................................................................................... ................................ .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... .............................................................................................................................................................. ...................... 3. แนวทางแก้ไขปัญหา ................................................................................................................................................................................... . .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ................................................................ ....................................................................................................... ............. ลงช่อื .........................................................ผู้สอน (นายสายชล ชังอนิ ทร์) ข้อเสนอแนะของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ .............................................................................................................................. ...................................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................ ........................................................................ ............................................................................................................................. ....................................................... ลงชื่อ........................................................................ (นายนิตกิ ร เบญมาตย์) หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
ขอ้ เสนอแนะของรองผู้อำนวยการกลุม่ การบริหารวชิ าการ ............................................................................................... ..................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ......... ............................................................................................................................ ........................................................ .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ..................................... ลงชือ่ ......................................................... (นางสายไหม ดาบทอง) รองผอู้ ำนวยการกลุ่มการบริหารวชิ าการ ข้อเสนอแนะของผู้อำนวยการ .............................................................................................................................................................................. ...... ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................. .................................. ..................................................................................................... ................................................. ลงช่ือ....................................................... (นางสาววณิ ัฐธพชั ร์ โพธิ์เพชร) ผอู้ ำนวยการโรงเรียนปากเกร็ด
โรงเรียนปากเกรด็ จงั หวดั นนทบรุ ี กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 4 ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนาต่อสังคมไทยในฐานะเปน็ รากฐาน ของวฒั นธรรม เอกลักษณ์และมรดกของชาติ รหสั วชิ า ส22101 รายวิชา สงั คมศึกษา 3 ( สาระศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ) ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 น้ำหนกั วิชา 1.5 หน่วยกิต เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์ เวลา 50 นาที / 1 คาบ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรอื่ ง ความสำคญั ของพระพุทธศาสนาตอ่ สังคมไทยในฐานะเปน็ รากฐาน ของวฒั นธรรม เอกลักษณ์และมรดกของชาติ ครผู ูส้ อน นายสายชล ชังอินทร์ ……………………………………………………………………........................................................................... มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 1.1 รแู้ ละเข้าใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรือ ศาสนา ท่ีตนนบั ถือและศาสนาอืน่ มีศรัทธาทีถ่ ูกต้อง ยึดมัน่ และปฏิบัติตามหลกั ธรรม เพื่ออยรู่ ว่ มกนั อยา่ งสนั ติสขุ ตัวชี้วัด ส 1.1 ม.2/3 วิเคราะหค์ วามสำคญั ของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนบั ถือในฐานะท่ีเป็น รากฐานของวัฒนธรรม เอกลักษณ์ของชาติและมรดกของชาติ จุดประสงคก์ ารเรียนร้สู ูต่ วั ชีว้ ัด 1. วเิ คราะห์ความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนาในฐานะที่เปน็ รากฐานของวัฒนธรรม เอกลกั ษณ์ และมรดกของชาติ (K) 2. จำแนกความสำคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะท่ีเป็นรากฐานของวฒั นธรรม เอกลกั ษณ์ และ มรดกของชาติ (P) 3. เห็นคณุ คา่ ของพระพุทธศาสนาในฐานะทเ่ี ป็นรากฐานของวัฒนธรรม เอกลักษณ์และมรดกของ ชาติทค่ี วรศึกษาและอนรุ ักษไ์ ว้ (A)
สาระสำคญั รากฐานทางวัฒนธรรม เอกลักษณ์และมรดกของชาติล้วนมีท่ีมาจากพระพุทธศนา สาระการเรยี นรู้ ความสำคญั ของพระพุทธศาสนาตอ่ สังคมไทยในฐานะเป็นรากฐานของวฒั นธรรม เอกลักษณ์และมรดกของชาติ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ตัวช้ีวดั ท่ี 1.3 ศรทั ธา ยดึ มั่น และปฏบิ ตั ิตนตามหลักของศาสนา สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ความสามารถในการสื่อสาร ชนิ้ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน รอ่ งรอยแสดงความร)ู้ รอ่ งรอยแสดงความร้)ู ชิ้นงานท่ี 3 เร่ือง ความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนา คำถามท้าทาย พระพทุ ธศาสนาให้อะไรกับสงั คมไทยมากมายท้ังวัฒนธรรมและเอกลักษณจ์ นพัฒนามาเป็น มรดกของชาติไทย แต่ปจั จบุ ันมรดกทางวฒั นธรรมที่เปน็ เอกลักษณ์ของชาติกำลงั ถูกกระแสสงั คมสมยั ใหม่ ทำลาย นักเรียนจะมีแนวทางรักษามรดกของชาติใหด้ ำรงอยู่ไดอ้ ยา่ งไร การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ โดยครใู ช้คำถาม ดงั นี้ 1. ครใู หน้ ักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเหน็ ในประเด็นทวี่ า่ พระพุทธศาสนาเป็นรากฐานทางวฒั นธรรมไทย นักเรียนเหน็ ดว้ ยกบั คำกล่าวทว่ี ่า “พระพุทธศาสนาเป็นรากฐานทางวฒั นธรรมไทย” หรือไม่ เพราะอะไร (ตัวอย่างคำตอบ เห็นด้วย เพราะวัฒนธรรมไทยโดยมากเกีย่ วข้องกับพระพทุ ธศาสนา และ เกิดจากการขดั เกลาโดยพระพทุ ธศาสนา เช่น มารยาทการแสดงความเคารพ พธิ ีกรรมต่าง ๆ หรือ ตามประสบการณ์การเรียนรู้ของผเู้ รียน) ถา้ ทุกคนปฏบิ ัติตนเป็นพทุ ธศาสนกิ ชนทดี่ ีตามหลักพระพทุ ธศาสนา สงั คมจะเป็นอย่างไร (สังคมเกิดความสงบสุข ทุกคนทำแต่ความดี ชว่ ยเหลือเก้ือกลู กนั ประกอบอาชีพสจุ ริต ไมเ่ บยี ดเบยี น รงั แกกัน และอยู่ร่วมกนั อยา่ งมคี วามสุข) นกั เรยี นจะสง่ เสริมพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองในสังคมไทยสืบตอ่ ไปได้อย่างไร
(ปฏบิ ัติตามหลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัด แนะนำสง่ั สอนให้ผู้อ่ืนปฏิบตั ติ าม เขา้ รว่ ม กจิ กรรมทางพระพทุ ธศาสนาอย่างต่อเนือ่ ง และเห็นความสำคญั และช่วยกันดแู ลปกป้อง พระพทุ ธศาสนาจากผูไ้ ม่หวังดี ฯลฯ หรอื ตามประสบการณก์ ารเรียนรูข้ องผ้เู รยี น) 2. ครูเขยี นบัตรคำทเ่ี ปน็ รากฐานทางวัฒนธรรมของไทยท่ีสืบทอดมาจากพระพุทธศาสนา ดงั ตอ่ ไปนี้ ภาษา ศิลปะ ประเพณี จิตใจ จากนนั้ แบ่งกลมุ่ นกั เรยี นออกเปน็ 4 กลมุ่ จับสลากบัตรคำเพ่ือศกึ ษา วิเคราะห์ และสรุปความรทู้ าง วฒั นธรรมทเี่ ป็นเอกลักษณ์ และมรดกของชาติไทยนำเสนอแลกเปลีย่ นประสบการณก์ ารเรยี นรู้ระหว่างกลมุ่ หน้าชั้นเรียน 3. จบการนำเสนอของทุกกลุ่มครูและนักเรียนรว่ มกนั สรุปความรู้บูรณาการเป็นแผนภาพบน กระดานอธิบายเพ่ิมเตมิ ดงั ตัวอยา่ ง ภาษา ศิลปะ ภาษาไทยมีคาภาษาบาลีสนั สกฤต สถาปัตยกรรม : โบสถ์ วหิ าร เจดีย์ บา้ นทรงไทย จิตรกรรม : ภาพฝาผนงั อุโบสถ ผสม และเป็นพ้นื ฐานสาคญั ของ ประติมากรรม : รูปป้ันพระพุทธรูป ภาษาไทยท่ีมาพร้อมกบั การเผยแผ่ จิตใจ พระพทุ ธศาสนา รากฐาน ความโอบออ้ มอารี ความเคารพอ่อนนอ้ ม ประเพณี วฒั นธรรม ความอดทน เอกลักษณ์ มรดก รักความเป็นอิสระ ของชาติไทย ประเพณีวนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา ประเพณีสงกรานต์ ลอยกระทง ประเพณีทาบุญงานมงคล อวมงคล 4. ครูอธบิ ายความรู้เพิม่ เติมเก่ียวกับอาเซียน ดงั นี้ พระพทุ ธศาสนามคี วามสำคัญและผูกพันกบั วิถชี วี ิตของคนลาวอย่างมาก และเป็นรากฐาน ทางวัฒนธรรมและเป็นมรดกของชาติ ที่มกี ารสืบทอดต่อมายังคนรนุ่ หลัง ยกตวั อยา่ งเชน่ พระธาตหุ ลวง หรือ พระเจดีย์โลกะจฬุ ามณี นับเปน็ ปชู นยี สถานอนั สำคัญของนครหลวง เวียงจันทน์ และเปน็ ศนู ย์รวมใจของประชาชนชาวลาวทั่วประเทศ ตามตำนานกลา่ ววา่ พระธาตุหลวง มีประวัติการกอ่ สรา้ งนับพนั ปีเช่นเดยี วกับ พระธาตุพนมในประเทศไทย และปรากฏความเกีย่ วพนั กับ ประวตั ิศาสตร์ของดนิ แดนทางฝงั่ ขวาแมน่ ำ้ โขงอย่างแยกไม่ออก สถานท่ีน้ีถือไดว้ า่ เปน็ สัญลักษณส์ ำคัญ
ของประเทศลาว ดงั ปรากฏเป็นตราแผ่นดนิ ของลาวที่ใช้อยู่ในปจั จบุ นั นมี้ รี ูป พระธาตุหลวง เป็นภาพประธานใน ดวงตรา ในปจั จุบนั พระธาตุหลวงมลี ักษณะคล้ายป้อมปราการ เพราะมกี ารสรา้ งระเบียงสูงใหญข่ ึ้น โอบลอ้ มรอบองคพ์ ระธาตุไว้พร้อมกบั ทำช่องหนา้ ต่างเลก็ ๆ เอาไว้โดยตลอด สำหรับประตูทางเขา้ นัน้ เป็น ประตูไมบ้ านใหญ่ลงรักสีแดงไวท้ งั้ หมด นอกจากนีร้ อบ ๆ องคพ์ ระธาตใุ หญย่ งั มีเจดียบ์ รวิ ารลอ้ มรอบอยู่ โดยรอบอกี หลายองค์ เมือ่ เดินเข้าไปดูใกล้ ๆ กจ็ ะเห็นสญั ลักษณ์หนงึ่ แสดงถึงความศักด์สิ ิทธขิ์ อง พระพทุ ธศาสนาแห่งน้ปี รากฏอยูม่ ากมาย ไมว่ ่าจะเป็นรูปแกะสลกั พญานาค พระพุทธรูปปิดทองลายกลบี บวั ประดับอยบู่ นฐานปักษ์ และถัดจากประตูทางเข้าใหญ่ประมาณ 100 เมตร จะแลเหน็ พระบรมรูปสมเด็จพระ เจ้าไชยเชษฐาธิราชต้งั อย่บู นฐานสูง พระหัตถท์ รงถือพระแสงดาบวางพาดไว้บนพระเพลา เล่ากนั วา่ พระแสงดาบเลม่ นี้ทำหนา้ ทีป่ กป้องพระธาตหุ ลวงซง่ึ ไดถ้ ือวา่ เปน็ ศนู ยร์ วมจติ ใจของประชาชนชาว ลาวทกุ คน และในวนั ขน้ึ 15 ค่ำ เดือนพฤศจกิ ายนของทุกปี ประชาชนชาวลาวพรอ้ มใจกันจัดงานเฉลิมฉลอง พระธาตหุ ลวง หรือท่ีเรียกว่า บุญนมสั การพระธาตุหลวง ที่มกี ารปฏบิ ัติสืบต่อเนอื่ งกนั มาอย่างยาวนาน และ ผหู้ ญิงท่จี ะเข้าร่วมพิธีทำบุญตักบาตรต้องนงุ่ ผ้าซ่ิน จงึ จะสามารถเขา้ ร่วมงานได้ ซ่ึงเป็นการอนุรกั ษ์ ขนบธรรมเนยี มการแตง่ กายของชาวลาวด้วย 5. ใหน้ ักเรยี นและครูร่วมกันสรุปความรู้ ดงั นี้ รากฐานทางวัฒนธรรม เอกลักษณ์ และมรดกของชาติล้วนมีท่ีมาจากพระพุทธศาสนา 6. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครใู ช้คำถาม ดังน้ี พระพุทธศาสนาใหอ้ ะไรกับสังคมไทยมากมายทงั้ วฒั นธรรมและเอกลกั ษณจ์ นพัฒนามาเป็น มรดกของชาติไทย แต่ปจั จบุ ันมรดกทางวัฒนธรรมท่ีเปน็ เอกลักษณ์ของชาติกำลังถูกกระแสสงั คมสมัยใหม่ ทำลาย นักเรียนจะมแี นวทางรกั ษามรดกของชาติให้ดำรงอยู่ไดอ้ ยา่ งไร 7. ให้นกั เรยี นทำชิน้ งานท่ี 3 เรือ่ ง ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนา การจดั บรรยากาศเชงิ บวก การแบง่ กลมุ่ นักเรียนจับสลากบัตรคำท่ีเป็นหัวข้อประเด็นสำคัญศึกษา วิเคราะห์ สรปุ ความรู้ แลกเปล่ยี นประสบการณ์การเรยี นรใู้ นช้นั เรยี น สื่อการเรียนรู้ 1. บตั รคำรากฐานวฒั นธรรมไทย 2. ใบงาน เรือ่ ง ความสำคญั ของพระพุทธศาสนาต่อสังคมไทยในฐานะเปน็ รากฐาน ของวฒั นธรรม เอกลักษณแ์ ละมรดกของชาติ 3. Power point ความสำคัญของพระพุทธศาสนาต่อสงั คมไทยในฐานะเป็นรากฐาน ของวฒั นธรรม เอกลกั ษณ์และมรดกของชาติ 4. Google sites 5. Packed learning cyber
การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวดั และประเมนิ ผล 1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเขา้ รว่ มกิจกรรม 1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเข้ารว่ มกจิ กรรมกล่มุ 1.3 ตรวจชิน้ งาน 2. เครอ่ื งมอื 2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม 2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ 3. เกณฑ์การประเมิน 3.1 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผา่ น ผา่ น 1 รายการ ถือว่า ไมผ่ า่ น 3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คะแนน 9-10 ระดบั ดมี าก คะแนน 7-8 ระดับ ดี คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้ คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรบั ปรุง การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics) การประเมนิ ช้ินงานท่ี 3 ใหผ้ ู้สอนพิจารณาจากเกณฑ์การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรอ่ื ง ความสำคัญของพระพุทธศาสนา เกณฑก์ ารประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 32 วเิ คราะห์ความสำคัญ วเิ คราะหค์ วามสำคญั วเิ คราะหค์ วามสำคัญ วเิ คราะห์ความสำคญั วิเคราะหค์ วามสำคญั ของพระพทุ ธศาสนา ของพระพุทธศาสนา ของพระพทุ ธศาสนา ของพระพุทธศาสนา ของพระพทุ ธศาสนา ท่ีมตี อ่ สงั คมไทย ท่ีมีต่อสังคมไทย ทีม่ ตี อ่ สงั คมไทย ทีม่ ีตอ่ สงั คมไทย ทีม่ ีตอ่ สังคมไทย ในฐานะเป็นรากฐาน ในฐานะเป็นรากฐาน ในฐานะเป็นรากฐาน ในฐานะเปน็ รากฐาน ในฐานะเป็นรากฐาน ของวัฒนธรรม และ ของวัฒนธรรม และ ของวฒั นธรรม และ ของวัฒนธรรม และ ของวัฒนธรรม และ สรุปลงในแผนภาพ สรปุ ลงในแผนภาพ สรปุ ลงในแผนภาพ สรุปลงในแผนภาพ สรุปลงในแผนภาพ ได้สัมพนั ธ์กนั มกี าร ได้ มีการจำแนกข้อมลู ได้สอดคล้องกับข้อมูล ไดแ้ ต่ยงั ไมส่ อดคล้อง เช่อื มโยงใหเ้ ห็นเป็น แสดงให้เหน็ ถึงความ และเขียนขยายความ กับข้อมลู และขาดการ ภาพรวมแสดงถงึ สัมพันธก์ ับตนเอง ยกตัวอยา่ ง อธิบายให้ อธิบายเพ่ิมเติม ความสัมพนั ธก์ ับ อย่างเปน็ เหตเุ ป็นผล เขา้ ใจงา่ ย ตนเองและผู้อน่ื
บันทึกหลงั การสอน 1. ผลการสอน .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................. ....................................................................................................................................................................... 2. ปญั หาและอุปสรรคในการสอน .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ......... 3. แนวทางแก้ไขปัญหา .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................. ................... ....................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื .........................................................ผ้สู อน (นายสายชล ชงั อินทร์) ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้ .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................. ............................................................. .............................................................................................................................................................. ............ ลงช่อื ............................................................ (นายนติ กิ ร เบญมาตย์) หวั หนา้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ข้อเสนอแนะของรองผู้อำนวยการกลุ่มการบริหารวชิ าการ .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................. ............................................ .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ......................................................... (นางสายไหม ดาบทอง) รองผอู้ ำนวยการกลุ่มการบริหารวิชาการ ข้อเสนอแนะของผู้อำนวยการ .......................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................. ......................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ....................................... ลงชอ่ื ....................................................... (นางสาววิณฐั ธพชั ร์ โพธเ์ิ พชร) ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นปากเกรด็
โรงเรยี นปากเกรด็ จงั หวดั นนทบรุ ี แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 ความสำคัญของพระพุทธศาสนากับการพัฒนาชุมชนและการจัดระเบียบสังคม กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รหัสวชิ า ส22101 รายวชิ า สงั คมศึกษา 3 (สาระศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม) ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 2 นำ้ หนักวชิ า 1.5 หนว่ ยกติ เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์ เวลา 50 นาที / 1 คาบ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 เรอื่ ง ความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนากับการพฒั นาชุมชนและการจดั ระเบียบสังคม ครผู สู้ อน นายสายชล ชงั อินทร์ ............................................................................................................................................................. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 1.1 รู้และเขา้ ใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนา ท่ีตนนับถือและศาสนาอน่ื มีศรัทธาท่ีถกู ต้อง ยึดมัน่ และปฏิบัติตามหลักธรรม เพื่ออยู่รว่ มกันอยา่ งสันติสขุ ตัวช้ีวัด ส 1.1 ม.2/4 อภิปรายความสำคัญของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนบั ถือกับการพัฒนา ชมุ ชนและการจัดระเบยี บสงั คม จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรสู้ ูต่ วั ชว้ี ัด 1. อธบิ ายความสำคญั ของพระพุทธศาสนากับการพฒั นาชุมชน (K) 2. ศึกษา จำแนกหลักธรรมทใ่ี ชเ้ ปน็ แนวทางในการพัฒนาชุมชน (P) 3. เห็นคุณค่าในการนำหลักธรรมมาใชเ้ พ่ือพัฒนาชุมชนของตนเองใหเ้ กดิ ความเจรญิ และสงบสุข (A)
สาระสำคญั นาถกรณธรรม 10 และอปริหานยิ ธรรม 7 เปน็ หลกั ธรรมท่มี ีความสำคัญในการใช้เพอื่ พัฒนา ชุมชนให้มคี วามเจรญิ และสงบสุขอย่างย่ังยืน สาระการเรียนรู้ หลกั ธรรมสำคัญในการพัฒนาชมุ ชน 1. นาถกรณธรรม 10 2. อปรหิ านิยธรรม 7 คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มีวนิ ัย ตวั ช้วี ดั ท่ี 3.1 ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคับของครอบครัว โรงเรียน และสงั คม สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความรู้) แผนภาพ ความสำคัญอปรหิ านยิ ธรรม 7 คำถามท้าทาย ปัจจบุ ันการพฒั นาชุมชนไม่บรรลผุ ลเท่าทคี่ วรนักเรยี นคดิ ว่าเป็นเพราะสาเหตปุ ัจจยั ใด การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ให้นักเรียนร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับความสัมพันธ์ระหว่างวดั กับชมุ ชน โดยครใู ช้คำถาม ดังน้ี ในชมุ ชนหรือหม่บู ้านของนกั เรียนมกี ี่วัด (ตัวอยา่ งคำตอบ 5 วัด, 2 วดั ) ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งวัดกับชมุ ชนเป็นอยา่ งไร (ตัวอยา่ งคำตอบ วดั เปน็ ศูนย์รวม ทางด้านจิตใจและศาสนพธิ ตี า่ ง ๆ ของชุมชน) วัดมบี ทบาทสำคญั ต่อชมุ ชนของนักเรียนมากน้อยเพยี งใด (ตวั อยา่ งคำตอบ มีความสำคัญมากเพราะพิธีกรรมส่วนใหญจ่ ดั ท่ีวดั ) ครูใหน้ กั เรียนแสดงความคิดเหน็ ตามพน้ื ฐานความรู้และประสบการณ์ของตนเอง 2. ครูใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั ศึกษาหลกั ธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนาท่ีนำมาใชใ้ นการพัฒนา ชุมชน โดยครูเขียนหวั ขอ้ หลักธรรมใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั นำเสนอแนวทางปฏบิ ตั ิในการนำมา
ใชพ้ ฒั นาชุมชน ดงั น้ี นาถกรณธรรม 10 อปริหานิยธรรม 7 ■ ศีล ■ หมน่ั ประชมุ เนืองนิตย์ ■ พาหุสัจจะ ■ เขา้ ประชมุ เลิกประชมุ และช่วยกันทำกจิ ■ กลั ยาณมิตตตา ทค่ี วรทำอย่างพร้อมเพรยี งกัน ■ โสวจสั สตา ■ ไม่บญั ญัตสิ ิง่ ที่ขดั ตอ่ หลักการ แตป่ ฏบิ ัตติ าม ■ กิงกรณีเยสุ ทักขตา หลกั การท่ีไดบ้ ญั ญตั ิไว้แลว้ ■ ธัมมกามตา ■ เคารพนับถือและรบั ฟังความคดิ เห็นของผู้ใหญ่ ■ วิริยะ ■ ไม่ขม่ เหงรังแก หรือล่วงเกินผู้หญงิ ■ สันตุฏฐี ■ เคารพปชู นยี สถานและปชู นียวัตถุ ■ สติ ■ ให้ความอารกั ขาคุ้มครองและปอ้ งกนั ■ ปญั ญา พระสงฆ์ผทู้ รงศลี ให้อยูใ่ นถ่ินนนั้ อยา่ งเป็นสขุ โดยครใู ห้นกั เรียนรว่ มกนั ศกึ ษาความหมายของหลักธรรมแต่ละข้อแล้วรว่ มกันนำเสนอ แนวทางการปฏบิ ตั ิตามหลกั ธรรม เพื่อใช้ในการพัฒนาชุมชนรว่ มกันในรูปแบบการถามตอบ และสนทนาแสดงความคดิ เห็น
3. ครทู บทวนความรู้ความเขา้ ใจในหลกั ธรรมโดยครูทำบตั รคำหวั ข้อธรรม และเขียน ความหมายของหลักธรรม นาถกรณธรรม 10 แล้วให้นักเรยี นแบ่งกลุ่มเป็น 2 กลมุ่ คือ กล่มุ บตั รคำ หวั ขอ้ หลักธรรม กบั กลุ่มแถบประโยคความหมายของหลกั ธรรม แลว้ ให้เลน่ กจิ กรรมจบั คู่ให้สมั พันธ์ กนั แล้วติดเรียงลำดับตามหัวขอ้ ธรรมบนกระดาน ศึกษาความหมายรว่ มกัน ใครจับคู่ได้ช้าที่สดุ 3 คู่ สดุ ท้ายถือว่าแพ้ บตั รคาหวั ขอ้ หลกั ธรรม นาถกรณธรรม 10 แถบประโยคความหมาย ศีล พหุสัจจะ ความประพฤติสุจริตทางกายและวาจา กลั ยาณมิตตตา โสวจสั สตา ความเป็นบุคคลผศู้ ึกษาเลา่ เรียนมาก กิงกรณีเยสุ ทกั ขตา ธมั มกามตา ความมีกลั ยาณมิตรท่ีดีไดผ้ แู้ นะนาท่ีดี วริ ิยะ เป็นบคุ คลผวู้ า่ งา่ ยสอนงา่ ย มีเหตผุ ล สันตฏุ ฐี สติ ความขวนขวายช่วยเหลือกิจส่วนรวม ปัญญา ความเป็นผใู้ คร่ในธรรม ใฝ่รู้ธรรม มีความเพียรในการละความชว่ั ยนิ ดีพอใจในสิ่งท่ีตนมี มีความระลึกรู้ขณะพดู และทา มีความหยงั่ รู้เหตผุ ลเขา้ ใจสรรพส่ิงตาม ความเป็ นจริ ง
4. ครใู ห้นกั เรียนรว่ มกันสรุปความสำคัญของการนำหลกั ธรรม อปริหานยิ ธรรม 7 มาใชก้ ับ หมคู่ ณะ ชมุ ชนเป็นแผนภาพความคดิ ดงั ตวั อยา่ ง หมน่ั ประชุมปรึกษาหารือเนือง ๆ พร้อมเพรียงในการประชุม ไม่ปฏิบตั ิผดิ ตอ่ หลกั การที่บญั ญตั ิไว้ อารักขาปกป้องคมุ้ ครองพระสงฆผ์ ทู้ รงศีล อปริหานิยธรรม 7 เคารพนบั ถือ เช่ือฟังผใู้ หญ่ ในการพฒั นาชุมชน เคารพในปูชนียสถาน ปชู นียวตั ถุ ไมข่ ม่ เหงรังแกสตรีหรือผทู้ ่ีอ่อนแอ 5. ให้นกั เรียนและครูร่วมกนั สรปุ ความรู้ ดังน้ี นาถกรณธรรม 10 และอปรหิ านยิ ธรรม 7 เปน็ หลักธรรมทีม่ ีความสำคัญในการใชเ้ พื่อ พัฒนาชมุ ชนให้มคี วามเจริญและสงบสุขอย่างย่ังยืน 6. ใหน้ กั เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เห็น โดยครใู ช้คำถามท้าทาย ดงั นี้ ปจั จุบนั การพัฒนาชุมชนไม่บรรลุผลเท่าทค่ี วรนกั เรียนคิดว่าเป็นเพราะสาเหตุปัจจัยใด การจดั บรรยากาศเชิงบวก การให้อิสระนักเรยี นเสนอความคิดเห็นของตนเองตามความรู้และประสบการณ์ แล้วนำความคิดมาบรู ณาการรว่ มกนั สื่อการเรยี นรู้ 1. หวั ข้อหลักธรรม 2. Power point 3. Google sites 4. Packed learning cyber
การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 1. วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล 1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในการเขา้ ร่วมกจิ กรรม 1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 1.3 ตรวจผลงานของนกั เรยี น 2. เครือ่ งมือ 2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรม 2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ 3. เกณฑก์ ารประเมิน 3.1 การประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรม ผา่ นตง้ั แต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือว่า ไม่ผา่ น 3.2 การประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คะแนน 9-10 ระดบั ดมี าก คะแนน 7-8 ระดบั ดี คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้ คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรับปรงุ
บนั ทกึ หลงั การสอน 1. ผลการสอน ............................................................................................................................................................... . ................................................................................................................................................................ .................................................................................................................. .............................................. 2. ปัญหาและอปุ สรรคในการสอน ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ....................................................................................................................................................... ......... ............................................................................................................................................................. 3. แนวทางแก้ไขปัญหา ................................................................................................................................................................ ................................................................................................ ...................................................... .......... ....................................................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................................................. ลงชอื่ .........................................................ผูส้ อน (นายสายชล ชังอินทร์) ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้ากลุม่ สาระการเรียนรู้ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ .................................................................................................................................................... ............ ............................................................................................................................................................... ลงชือ่ .............................................................. (นายนิตกิ ร เบญมาตย์) หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
ขอ้ เสนอแนะของรองผู้อำนวยการกลุ่มการบรหิ ารวชิ าการ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................... ลงชือ่ ......................................................... (นางสายไหม ดาบทอง) รองผูอ้ ำนวยการกลุ่มการบรหิ ารวชิ าการ ข้อเสนอแนะของผอู้ ำนวยการ ................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................... ..................... ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................. .............. ลงชอื่ ....................................................... (นางสาววิณัฐธพชั ร์ โพธ์เิ พชร) ผ้อู ำนวยการโรงเรียนปากเกร็ด
โรงเรียนปากเกร็ด จงั หวดั นนทบุรี กลุม่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 6 ความสำคัญของพระพุทธศาสนากับการจดั ระเบียบสังคม รหสั วชิ า ส22101 รายวชิ า สงั คมศึกษา 3 (สาระศาสนา ศีลธรรม จรยิ ธรรม) ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 2 น้ำหนักวชิ า 1.5 หนว่ ยกติ เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์ เวลา 50 นาที / 1 คาบ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เรอ่ื ง ความสำคัญของพระพุทธศาสนากับการพฒั นาชุมชนและการจัด ระเบยี บสังคม ครูผูส้ อน นายสายชล ชังอนิ ทร์ .................................................................................................... ......................................................... มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ส 1.1 รู้และเขา้ ใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนา ทต่ี นนบั ถือและศาสนาอืน่ มีศรทั ธาท่ถี ูกต้อง ยึดมน่ั และปฏิบตั ติ ามหลักธรรม เพ่อื อย่รู ว่ มกนั อยา่ งสนั ติสุข ตัวชี้วดั ส 1.1 ม.2/4 อภิปรายความสำคญั ของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนบั ถือกับการพัฒนา ชมุ ชนและการจัดระเบยี บสงั คม จดุ ประสงค์การเรียนร้สู ู่ตัวชี้วดั 1. อธบิ ายนำเสนอการจัดระเบียบสังคมตามหลักธรรมพระพทุ ธศาสนา (K) 2. ศกึ ษา จำแนกการปฏิบัตติ นตามหลักธรรมเพื่อจัดระเบยี บสังคม (P) 3. เห็นคุณค่าและความสำคญั ของหลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนาทส่ี ามารถนำมาใช้ใน การจดั ระเบียบสังคมใหส้ งบสุข (A) สาระสำคัญ หลกั ธรรม เบญจศีล เบญจธรรมในทางพระพทุ ธศาสนาสามารถทำใหส้ งั คมมีความเป็น ระเบียบ มคี วามสงบ
สาระการเรยี นรู้ การจัดระเบยี บสงั คมโดยใชห้ ลักธรรม เบญจศีล เบญจธรรม คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ มวี ินยั ตวั ชีว้ ัดที่ 3.1 ปฏิบตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คับของครอบครัว โรงเรียน และสงั คม สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต ช้นิ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความรู้) รอ่ งรอยแสดงความรู)้ ชนิ้ งานเร่ือง ความสำคัญของพระพุทธศาสนากับการพัฒนาชุมชน และการจัดระเบียบสังคม คำถามทา้ ทาย แม้บ้านเมืองจะมีกฎหมายใชบ้ ังคับแต่สังคมก็ไม่พัฒนาและขาดระเบียบวนิ ยั นกั เรยี นคดิ ว่า เกิดจากอะไร และจะแกไ้ ขอย่างไร การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูใหน้ กั เรียนรว่ มกนั สนทนาเก่ียวกับการจัดระเบียบสงั คม และแสดงความคดิ เหน็ โดยครใู ชค้ ำถาม ดังน้ี การจัดระเบียบสงั คมหมายถงึ อะไร (ตัวอยา่ งคำตอบ เปน็ การสรา้ งกฎระเบียบเพ่อื ใช้ ควบคุมสมาชกิ เพื่อให้เกิดความเป็นระเบยี บเรียบร้อยในสังคม) สาเหตทุ ่ีต้องมีการจัดระเบียบสงั คม เพราะอะไร (ตวั อยา่ งคำตอบ เพ่อื ให้การติดต่อสือ่ สาร เปน็ ไปอย่างเรยี บร้อย ลดความขัดแย้ง และช่วยให้สังคมดำรงอยูไ่ ด้อยา่ งสงบสขุ และม่นั คง) องคป์ ระกอบสำคัญในการจดั ระเบยี บสงั คมมอี ะไรบา้ ง (ตัวอยา่ งคำตอบ บรรทัดฐาน ของสังคม สถานภาพ บทบาทและการควบคมุ ทั้งสังคม) จากนั้นครบู รู ณาการคำตอบของนักเรียนสรุปบนั ทึกเขยี นเป็นแผนภาพอธบิ ายเพม่ิ เติมบนกระดาน ดงั ตัวอย่าง สรปุ ได้ว่า การจัดระเบียบสังคมเป็นกระบวนการท่สี มาชิกได้พฒั นาการกระทำระหวา่ งกนั ทาง สงั คมอย่างมรี ะเบียบ โดยสมาชิกส่วนรวมของสังคมไดย้ อมรับเปน็ แนวความประพฤตริ ว่ มกนั และปฏบิ ัติ สบื ทอดจนเป็นบรรทัดฐานในการดำเนินชีวติ รว่ มกันของสมาชิกในสงั คม
การ สาเหตุทจ่ี ะต้องมกี ารจัดระเบียบทางสังคม จดั ระเบยี บ องค์ประกอบที่ใช้จัดระเบียบสังคม 1. เพ่ือใหก้ ารติดตอ่ สัมพนั ธก์ นั ทางสงั คม สังคม 1. วิถีประชา หรือ วิถีชาวบา้ น เป็นไปอยา่ งเรียบร้อย (Folkways) 2. ขจดั ขอ้ ขดั แยง้ และป้องกนั ความขดั แยง้ 2. กฎศีลธรรม หรือ จารีต (Morals) ในสังคม 3. กฎหมาย (Laws) 3. ช่วยใหส้ งั คมดารงอยไู่ ดอ้ ยา่ งสงบสุข เป็นปึ กแผน่ 2. ครูใหน้ กั เรยี นรว่ มกันศกึ ษาความสำคัญของพระพทุ ธศาสนากบั การจดั ระเบียบสงั คม โดยครูเขยี นหลักธรรมบนกระดานให้นักเรยี นนำเสนอแนวทางการใช้หลกั ธรรมเพ่อื จดั ระเบยี บชมุ ชน ดงั น้ี เบญจศีล เบญจธรรม ① งดเวน้ จากการฆ่าสตั ว์ ความเมตตากรุณา ② งดเวน้ จากการลกั ขโมย ประกอบอาชีพสุจริต ③ งดเวน้ จากการประพฤติผดิ ในกาม มีความสารวมในกาม ④ งดเวน้ จากการพูดเทจ็ มีสัจจะ ⑤ งดเวน้ จากดื่มสุราและเสพสารเสพติด มีสติสมั ปชญั ญะ โดยครูให้นกั เรียนรว่ มกันศกึ ษาความหมายของหลักธรรมแต่ละข้อแลว้ รว่ มกันนำเสนอแนว ทางการปฏบิ ัตติ ามหลกั ธรรมเพื่อใชใ้ นการจดั ระเบยี บสังคมในรูปแบบการอภปิ รายเสนอ ความคดิ เห็นโดยจำลองห้องเรียนเป็นห้องประชุม 3. จบการอภปิ รายรว่ มกนั สรุปนำเสนอแนวทางการปฏิบัติลงในแผนภาพร่วมกนั ดังนี้ แนวทางการใช้ ผลทเี่ กดิ ขึน้ หลกั ธรรมจัดระเบียบสังคม ___________________ ____________________ _____________________ ______________________ ______________________ ______________________ ______________________ _____________________ _____________________ ___________________ ___________________ ________________ ________________ __________ __________
4. ให้นักเรียนและครูรว่ มกนั สรปุ ความรู้ ดงั น้ี หลกั ธรรม เบญจศลี เบญจธรรมในทางพระพทุ ธศาสนาสามารถทำให้สังคมมีความ เป็นระเบยี บ มีความสงบสขุ 5. ใหน้ ักเรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เห็น โดยครใู ชค้ ำถามทา้ ทาย ดังน้ี แม้บ้านเมอื งจะมีกฎหมายใชบ้ ังคบั แต่สงั คมก็ไมพ่ ฒั นาและขาดระเบียบวินัย นกั เรยี น คิดวา่ เกดิ จากอะไร และจะแก้ไขอย่างไร 6. ใหน้ กั เรียนทำชนิ้ งานที่ 4 เร่ือง ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนากับการพฒั นาชมุ ชน และ การจดั ระเบยี บสงั คม 7. ให้นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรียน (Post-Test) เพอ่ื ประเมินผลการเรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 สื่อการเรยี นรู้ 1. การจดั อภปิ ราย 2. ชิน้ งาน เร่ือง ความสำคัญของพระพุทธศาสนากับการพฒั นาชุมชน และ การจดั ระเบียบสังคม 3. Power point 4 Google sites 5 Packed learning cyber การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วิธีการวัดและประเมินผล 1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้าร่วมกิจกรรม 1.2 ตรวจชนิ้ งาน 2. เครอ่ื งมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมิน การประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรม ผ่านต้ังแต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถอื วา่ ไมผ่ ่าน
การประเมินผลตามสภาพจรงิ (Rubrics) การประเมนิ ชน้ิ งานท่ี 4 ให้ผสู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง ความสำคัญของพระพุทธศาสนากับการพัฒนาชุมชน และการจัดระเบียบสงั คม เกณฑ์การประเมิน 4 ระดับคะแนน 1 32 อธบิ ายนำเสนอ อธบิ ายนำเสนอ อธิบายนำเสนอ อธิบายนำเสนอ อธิบายนำเสนอ ความสำคัญของ ความสำคญั ของ ความสำคญั ของ ความสำคัญของ ความสำคญั ของ พระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนา พระพทุ ธศาสนา กบั การพฒั นาชมุ ชน กบั การพัฒนาชุมชน กบั การพัฒนาชุมชน กับการพฒั นาชุมชน กับการพัฒนาชมุ ชน และการ และการ และการ และการ และการ จดั ระเบียบสังคม จัดระเบยี บสังคม จัดระเบยี บสังคม จัดระเบยี บสังคม จัดระเบียบสงั คม ได้สมั พนั ธ์กนั ได้ มีการจำแนก ได้สอดคล้องกับ ได้ แต่ยังไม่ และมีการเชอื่ มโยง ข้อมูลแสดงใหเ้ ห็น ข้อมูล มีการเขียน สอดคล้องกบั ข้อมูล ให้เหน็ เปน็ ภาพรวม ถงึ ความสมั พันธ์ กบั ยกตวั อยา่ งเพ่ิมเติม ขาดการอธิบาย แสดงให้เห็นถงึ ตนเองอยา่ ง อธิบายให้เขา้ ใจง่าย ทชี่ ดั เจน ความสัมพันธ์ มีเหตผุ ล กบั บุคคลอื่นและ ตนเองอย่าง เปน็ เหตุเป็นผล
บันทึกหลงั การสอน 1. ผลการสอน ............................................................................................................................................................... . ................................................................................................................................................................ .................................................................................................................. ..................................... 2. ปัญหาและอุปสรรคในการสอน ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. 3. แนวทางแก้ไขปัญหา ................................................................................................................................................................ ................................................................................................ ...................................................... .......... ....................................................................................................................................................... ........ .............................................................................................................................................................. ลงชื่อ.........................................................ผสู้ อน (นายสายชล ชงั อินทร์)
ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ .................................................................................................................................................... ............ ................................................................................................................................................................ ลงช่ือ................................................................. (นายนติ กิ ร เบญมาตย์) หัวหนา้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ข้อเสนอแนะของรองผู้อำนวยการกลมุ่ การบรหิ ารวิชาการ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ลงชอื่ ......................................................... (นางสายไหม ดาบทอง) รองผู้อำนวยการกลุ่มการบรหิ ารวชิ าการ
ข้อเสนอแนะของผูอ้ ำนวยการ ................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................... ..................... ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................. ............... ลงชอ่ื ....................................................... (นางสาววิณัฐธพชั ร์ โพธเ์ิ พชร) ผอู้ ำนวยการโรงเรียนปากเกร็ด
โรงเรียนปากเกร็ด จังหวดั นนทบุรี กลุม่ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม แผนการจดั การเรียนรู้ 7 การผจญมาร รหัสวิชา ส22101 รายวิชา สงั คมศึกษา 3 (สาระศาสนา ศีลธรรม จรยิ ธรรม) ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 นำ้ หนกั วชิ า 1.5 หนว่ ยกิต เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์ เวลา 50 นาที / 1 คาบ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 เรอ่ื ง สรุปและวเิ คราะห์พุทธประวตั ิ ครผู ู้สอน นายสายชล ชังอินทร์ ............................................................................................................................................................. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วดั มาตรฐานการเรียนรู้ ส 1.1 รู้และเข้าใจประวตั ิ ความสำคัญ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนา ทต่ี นนบั ถือและศาสนาอ่ืน มีศรัทธาท่ถี กู ต้อง ยึดมัน่ และปฏิบัติตามหลกั ธรรม เพื่ออยู่ร่วมกนั อย่างสนั ติสขุ ตวั ช้วี ัด ส 1.1 ม.2/5 วิเคราะห์พุทธประวตั ิหรือประวัติศาสดาของศาสนาท่ีตนนบั ถือตามทกี่ ำหนด จดุ ประสงคก์ ารเรียนรสู้ ่ตู วั ชว้ี ดั 1. วเิ คราะหพ์ ทุ ธประวตั ิ ตอน การผจญมาร (K) 2. ศกึ ษา จำแนกบทวเิ คราะห์คำว่า มาร ตามนัยแหง่ พทุ ธประวัติ (P) 3. เหน็ คณุ คา่ และความสำคัญในการศึกษาเรียนรู้พทุ ธประวัติ เพ่อื นำมาประยุกต์ใช้ใน การดำเนินชีวติ (A)
สาระสำคัญ มาร ตามนัยแหง่ พระพทุ ธศาสนา เป็นการเปรียบเทยี บสิ่งที่คอยขัดขวางหรือคอยล้างผลาญ คณุ ความดี ขัดขวางบุคคลมิให้บรรลุผลสำเร็จความดีงาม ประกอบดว้ ย กเิ ลสมาร ขนั ธมาร อภิสังขารมาร เทวปุตตมาร และมัจจมุ าร สาระการเรยี นรู้ การผจญมารก่อนการตรสั รขู้ องพระพุทธเจ้า คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ ตวั ชีว้ ดั ท่ี 4.2 แสวงหาความรจู้ ากแหล่งเรียนรตู้ ่าง ๆ ทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการเลือกใช้สื่ออย่างเหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ สรปุ เปน็ องค์ความรู้ สามารถนำไปใช้ ในชวี ิตประจำวนั ได้ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ ชิน้ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความร)ู้ แผนภาพ แบบอยา่รงอ่ ทงี่ดรีกอายรผแจสญดมงาครวขาอมงพรร)ู้ ะพทุ ธเจ้า คำถามทา้ ทาย นักเรยี นเคยสำรวจตนเองหรือไมว่ ่าแต่ละวนั ถกู มารผจญวนั ละก่ีครั้ง และนกั เรยี นเคยเอาชนะมารได้ หรอื ไม่ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
1. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ทบทวนความรเู้ ดมิ เก่ียวกับพุทธประวัตขิ องพระพุทธเจา้ โดยครูใช้ คำถามใหน้ กั เรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ ดงั น้ี พระพุทธเจ้ามีพระนามเดิมว่าอย่างไร ชาติตระกูลของพระองคม์ ีความเป็นมาอย่างไร (ตวั อย่างคำตอบ พระพทุ ธเจ้าทรงมพี ระนามเดิมวา่ “สิทธัตถะ” เป็นพระราชโอรสของ พระเจา้ สุทโธทนะ กษัตริย์ผู้ครองกรุงกบิลพสั ด์ุ แควน้ สกั กะ และพระราชมารดามีพระนามว่า “พระนางสิริมหามายา” เป็นราชวงศแ์ หง่ กรุงเทวทหะ แควน้ โกสิยะ) พุทธประวัตกิ ่อนเสด็จออกผนวชเป็นอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ พระองคท์ รง ทอดพระเนตรเห็นคนแก่ คนเจบ็ คนตาย และสมณะทเี่ รียกว่าเทวทูตท้ัง 4 ซึง่ ทกุ คนไมส่ ามารถ หลีกเลยี่ งได้ และทรงเหน็ วา่ ความสขุ ทางโลกเป็นเพยี งสิ่งหลอกลวง พระองคจ์ ึงหาวิธีคิด เพอื่ ที่จะหลีกพน้ ความทุกข์จะตอ้ งสละเพศผู้ครองเรือนเป็นสมณะ จงึ ตดั สินใจออกผนวช) ให้นักเรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ ตามพ้นื ฐานความรู้ประสบการณ์ของตนเอง 2. ครนู ำพุทธประวตั ิ ตอน การผจญมารมาใหผ้ ู้แทนนักเรยี นอ่านใหเ้ พอ่ื นฟงั ดังนี้ พทุ ธประวัติ ตอน การผจญมาร พุทธประวัติ หมายถงึ เรื่องราวเกี่ยวกบั พระพทุ ธเจา้ เร่มิ ตั้งแต่ประสูติ เสด็จออกผนวช ตรัสรู้ ประกาศพระพุทธศาสนา จนถึงปรนิ ิพพาน หลังจากพระสิทธตั ถะทรงเลิกการบำเพ็ญทกุ รกริ ยิ า ด้วยทรงเห็นวา่ วิธที รมานร่างกายนัน้ มใิ ชว่ ธิ ีอนั ถูกต้องสำหรบั การค้นหาสัจธรรม และได้ทรงต้ังพระทัยวา่ จะทรงเลกิ การปฏิบัติดงั กลา่ ว โดยเด็ดขาด แตจ่ ะกลบั ไปบำเพญ็ เพยี รทางจิตให้มากขึน้ กว่าเดิมท่เี คยปฏบิ ตั ิมาแลว้ แตห่ นหลัง พระองคจ์ ึงไดท้ รงเรมิ่ เสวยอาหารตามปกตจิ นพระวรกายแข็งแรงขน้ึ โดยลำดบั สว่ นปญั จวคั คยี ์ คือ โกณฑญั ญะ วปั ปะ ภทั ทยิ ะ มหานามะ และอสั สชิ ทต่ี ามเสด็จมาคอย ใหค้ วามดูแล เหน็ พระสิทธัตถะกลับมาเสวยอาหาร กเ็ กดิ ความไมเ่ ช่ือถือ จึงชวนกนั ผละหนไี ปอยู่ที่ ปา่ อิสิปตนมฤคทายวนั ใกลเ้ มืองพาราณสี เมือ่ พระสิทธัตถะทรงอยตู่ ามลำพัง พระองค์ก็ทรงเริม่ บำเพ็ญเพียรทางจิต ก่อนเร่มิ ตอนเชา้ ทรงรับและเสวยอาหารที่นางสุชาดานำมาถวาย หลงั จากเสวยแล้ว ได้ทรงนำถาดไปลอยในแมน่ ้ำ เนรัญชราและทรงสรงนำ้ ที่นั่น ตอนกลางวนั ได้เสด็จไปพกั ผ่อนในดงไม้สาละ ตอนเยน็ ได้เสด็จ มงุ่ หนา้ สู่โคนไม้พระศรีมหาโพธิ์ ระหวา่ งทางทรงรบั หญ้าคาจากนายโสตถิยะและเสดจ็ ต่อไปจนถงึ ต้น พระศรีมหาโพธิ์ ทรงลาดหญ้าปเู ปน็ ท่นี งั่ ต่างบลั ลังกท์ างด้านตะวนั ออกของโคนต้นพระศรีมหาโพธิ์ และประทบั นง่ั บนแท่นหญ้าคาน้ัน ทรงตั้งพระทัยอย่างแน่วแนว่ ่า “แมเ้ น้ือและเลือดในกายจะเหือดแห้งไป ไม่มีอะไรเหลืออยูน่ อกจากหนัง เอ็นและกระดูกก็ตาม ถ้ายังไม่ตรสั รูส้ ัจธรรม จะไมย่ อมลุกขน้ึ จากทน่ี ่ังน้ี” จากนน้ั พระสทิ ธัตถะทรงเร่มิ บำเพ็ญเพียรทางจติ ตามหลักฌานท่ีเคยทรงมีพน้ื ฐานมาก่อน ทรงต้งั พระทยั ระดมกำลังจิตต่อสู้กบั ธรรมชาตฝิ ่ายต่ำ เพ่ือยกระดับจิตของพระองค์ให้สงู ข้ึนและ เพอ่ื คน้ หาความจริงให้ได้วา่ ความทุกข์ของชีวิตเกิดขน้ึ มาได้อย่างไร และจะทำอย่างไรคนเราจงึ จะ รอดพ้นจากความทุกขน์ นั้ ได้
แตเ่ นื่องจากพระองค์ยังทรงอยู่ในวัยหนุม่ ภาพแห่งอดีตทเี่ ป็นความบันเทงิ เริงร่ืนใน ทา่ มกลางการบำรงุ บำเรอของเหล่านางสนมทพ่ี ระองคเ์ คยได้รบั ในพระราชวัง ได้ปรากฏขนึ้ และ ชกั จงู พระทยั ของพระองค์ให้คดิ หวนกลับไปถึงความสขุ สบายในหนหลัง แต่ดว้ ยพระทัยทีเ่ ด็ดเดี่ยว และมนั่ คงต่อสจั อธษิ ฐาน พระองค์ได้ทรงต่อสู้กับภาพดงั กล่าวด้วยกำลังพระทัยทัง้ หมด ในทสี่ ดุ ก็ ทรงสามารถปดั เปา่ ความคิดอันช่วั ร้ายทีเ่ รยี กวา่ มารท้งั หลาย ท่ีเข้ามารบกวนพระทัยของพระองค์ให้ สูญส้นิ ไปได้ พระทยั ของพระองค์จงึ สงบเหมอื นน้ำในสระน้ำเวลาที่คลื่นลมสงบ ขณะท่ีพระองค์ทรงน่ังบำเพ็ญทางจิต มีพญามาร นามวา่ ปรนิมนติ วสวัตตี ผู้ตามผจญพระองค์มาตลอด ต้ังแต่ วัน เส ด็ จอ อ ก ผ น วช ม าป ราก ฏ ตั วพ ร้อ ม เส น าม าร มี อ าวุ ธค รบ ค รัน น่ าส ะพ รึงก ลั วพ ญ าม าร ร้องบอกให้พระองค์เสด็จลุกจากอาสนะว่า “บัลลังก์นี้เป็นของข้าท่านจงลุกขึ้นเดี๋ยวนี้” เม่ือพระองค์ แย้งว่าบัลลังก์เป็นของพระองค์ พญามารถามหาพยาน พระองค์ทรงเหยียดพระดรรชนีลงยังพื้นดินและ ตรัสว่า “ขอให้วสนุ ธรา (พระแม่ธรณ)ี จงเป็นพยาน” ทันใดน้นั พระแมธ่ รณีก็ผดุ ขนึ้ จากพื้นดินปรากฏตวั บบี มวยผม บันดาลให้มกี ระแสนำ้ หลาก มาท่วมทับพญามารพร้อมทั้งกองทัพพ่ายไปในที่ สุด เหตุการณ์ ตอนน้ีต่อมาได้ถูกจำลองเป็ น พระพุทธรปู ปางหนึ่ง เป็นปางน่ังสมาธพิ ระหัตถ์วางบนพระเพลา ชพ้ี ระดรรชนลี งพน้ื ดิน เรยี กว่า “ปางมารวิชัย” 3. ครูใหน้ ักเรียนร่วมกันศกึ ษาวิเคราะห์ความหมายของคำว่า มาร ตามความหมายของ พระพทุ ธศาสนา โดยครเู ขียนบนกระดานให้นักเรยี นแสดงความคิดเหน็ และวิเคราะห์รว่ มกนั ดงั น้ี กิเลสมาร กิเลสที่เป็นตวั ราคะ โทสะ โมหะ ท่ีมีอยใู่ นใจ ขนั ธมาร รูป เวทนา สญั ญา สงั ขาร วิญญาณ เป็นความหลงในสภาพ ท่ีมีการปรุงแต่งข้นึ เช่น หลงและยดึ ติดในรูปกายตนเองทาให้ ตดั โอกาสในการทาความดี อภิสงั ขารมาร การยงั ละ เลิก ความชว่ั และความดียงั ไม่ได้ ทาใหต้ อ้ งยงั เทวปุตตมาร เวยี นวา่ ยตาย-เกิดในวฏั สงสาร การยงั ยดึ ติดในความสุขทางกามารมณ์ คือ ตา หู จมกู ลิ้น กาย ใจ จนไม่กลา้ สละออกไปบาเพญ็ ความดี มจั จุมาร ความตาย เป็นมารท่ีปิ ดก้นั โอกาสการบาเพญ็ ความดีของ มนุษย์ เกิดเป็นมนุษยแ์ ลว้ แต่อายสุ ้นั เลยหมดโอกาสทาความดี
จากนน้ั ครูสรปุ เปน็ ความรเู้ พิ่มเติมวา่ มาร กค็ อื กิเลส ไดแ้ ก่ โลภะ โทสะ โมหะ ท่ีมารบกวนพระทยั พระองคใ์ นขณะนงั่ สมาธิ เสนามาร กค็ อื กิเลสเลก็ ๆ นอ้ ย ๆ ท่ีเป็นบริวารของโลภะ โทสะ โมหะ การท่ีทรงผจญมาร ก็คอื ทรงต่อสูก้ บั อานาจของกิเลสเหลา่ น้ีนนั่ เอง ส่วนพระแมธ่ รณี ก็คือบารมีท้งั 10 ท่ีทรงบาเพญ็ มา การอา้ งพระแมธ่ รณี กค็ อื ทรงอา้ งถึง คณุ ความดีที่ทรงบาเพญ็ มา เป็นกาลงั ใจใหต้ อ่ สู้กบั อานาจของกิเลส เพราะพระบารมีที่ทรงบาเพญ็ มาเตม็ เป่ี ยม พระองคจ์ ึงสามารถเอาชนะอานาจของกิเลสท้งั ปวง และบรรลุอนุตรสมั มาสัมโพธิญาณ ในที่สุด 4. จากน้นั ครูใหน้ ักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับการนำแบบอย่างที่ดใี นเร่ืองการผจญมารของ พระพุทธเจ้าไปปฏบิ ตั ิ โดยแสดงเปน็ แผนภาพความคิด ดังน้ี แบบอย่างทด่ี ี ผลจากการปฏิบตั ิตาม ผลทเ่ี กดิ ขึน้ ในเรื่องการผจญมาร ต่อตนเอง________________ _________________________________________ _____________________________________________ ___________________________ _______________________________________________ ___________________________ _______________________________________________ ___________________________ _____________________________________________ ___________________________ __________________________________________ ___________________________ _____________________________________ ต่อสังคม___________________ ____________________________ _________ ___________________________ ___________________________ ___________________________ ___________________________ ___________________________ ___________________________ 5. ใหน้ กั เรียนและครูรว่ มกันสรปุ ความรู้ ดังนี้ มาร ตามนยั แห่งพระพุทธศาสนา เปน็ การเปรียบเทียบส่งิ ท่ีคอยขดั ขวางหรือคอยลา้ งผลาญ คุณความดี ขัดขวางบุคคลมิใหบ้ รรลุผลสำเร็จความดงี าม ประกอบด้วย กเิ ลสมาร ขนั ธมาร อภสิ ังขารมาร เทวปุตตมาร และมัจจมุ าร 6. ใหน้ ักเรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ โดยครใู ชค้ ำถามท้าทาย ดงั น้ี
นักเรยี นเคยสำรวจตนเองหรอื ไมว่ า่ แตล่ ะวนั ถกู มารผจญวันละกคี่ รั้ง และนักเรยี น เคยเอาชนะมารได้หรอื ไม่ การจัดบรรยากาศเชงิ บวก การนำพุทธประวัติตอนพระพุทธเจ้าผจญมารมาเล่าใหน้ ักเรียนฟงั แลว้ สรปุ การนำแบบอยา่ งท่ีดีตามพุทธประวตั ิไปปฏบิ ตั ิตน สรุปลงในแผนภาพ ส่ือการเรียนรู้ 1 Power point พทุ ธประวัติ ตอน การผจญมาร 2 Google sites 3 Packed learning cyber 4 ใบงานพุทธประวตั ิ การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเข้าร่วมกิจกรรม 2. เคร่ืองมือ แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรม 3. เกณฑ์การประเมิน การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม ผ่านตงั้ แต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถอื ว่า ไม่ผา่ น
บันทึกหลงั การสอน 1. ผลการสอน ....................................................................................................................................... ......................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................... 2. ปญั หาและอปุ สรรคในการสอน ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................. ... 3. แนวทางแก้ไขปัญหา ................................................................................................................................................................ ................................................................................................ ................................................................ ....................................................................................................................................................... ........ .............................................................................................................................................................. ลงชอื่ .........................................................ผูส้ อน (นายสายชล ชงั อินทร์)
Search