Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การศึกษาวิจัย เรื่อง การพัฒนารูปแบบการบูรณาการด้านการศึกษาโรงเรียนคุณภาพ : โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์) ระดับมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจันทบุรี ตราด

การศึกษาวิจัย เรื่อง การพัฒนารูปแบบการบูรณาการด้านการศึกษาโรงเรียนคุณภาพ : โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์) ระดับมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจันทบุรี ตราด

Description: การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบูรณาการด้านการศึกษาโรงเรียนคุณภาพ : โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์) ระดับมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจันทบุรี ตราด นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหาการจัดการศึกษา เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนคุณภาพ (โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์)) เพื่อยกร่างรูปแบบการบูรณาการ SESA-CT Model เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนคุณภาพ (โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์)) เพื่อพัฒนารูปแบบการบูรณาการ SESA-CT Model เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนคุณภาพ (โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์)) และเพื่อนำเสนอรูปแบบการบูรณาการ SESA-CT Model เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนคุณภาพ (โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์)) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจันทบุรี ตราด

Keywords: SESA-CT Model

Search

Read the Text Version

การศกึ ษาวิจัย เรื่อง การพฒั นารูปแบบการบรู ณาการด้านการศึกษาโรงเรียนคุณภาพ : โรงเรยี นวดั คริ ีวหิ าร(สมเด็จพระวนั รตั อุปถมั ภ)์ ระดับมธั ยมศกึ ษา สังกัดสำนักงานเขตพนื้ ทีก่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาจนั ทบุรี ตราด สำนักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษามัธยมศึกษาจันทบุรี ตราด สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน

ก ชอื่ เรื่อง การพัฒนารปู แบบการบูรณาการดา้ นการศกึ ษาโรงเรียนคณุ ภาพ : โรงเรียนวดั คริ ีวิหาร(สมเดจ็ พระวนั รัต อุปถมั ภ์) ระดับมธั ยมศกึ ษา ผูว้ ิจยั สังกดั สำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศึกษามัธยมศกึ ษาจนั ทบุรี ตราด ปี พ.ศ. คณะกรรมการดำเนินการศึกษา วเิ คราะห์ วจิ ัย การบริหารและการดำเนินการ พฒั นาคุณภาพการศึกษา ของสำนักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษามัธยมศึกษาจันทบรุ ี ตราด 2564 บทคัดยอ่ การวิจัยเร่ือง การพัฒนารูปแบบการบูรณาการด้านการศึกษาโรงเรียนคุณภาพ : โรงเรียน วัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์) ระดับมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา มัธยมศึกษาจันทบุรี ตราด นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหาการจัดการศึกษา เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนคุณภาพ (โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์)) เพื่อยกร่างรูปแบบการบูรณาการ SESA-CT Model เพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนคุณภาพ (โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์)) เพ่ือพัฒนารูปแบบการบูรณาการ SESA-CT Model เพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนคุณภาพ (โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์)) และ เพื่อนำเสนอรูปแบบการบูรณาการ SESA-CT Model เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนคุณภาพ (โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์)) สังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา จันทบรุ ี ตราด ดำเนินการวิจัยโดยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การสร้างความรู้ความเข้าใจ รูปแบบการบูรณาการการศึกษา SESA-CT Model เพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนคุณภาพ (โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์)) โดยดำเนินการเป็นขั้นตอน ดังนี้ ข้ันตอนท่ี 1 การศึกษาข้อมูลเบ้ืองต้น และวิเคราะห์ข้อมูล โดยนำหลักการ แนวคิด ทฤษฎี กรอบแนวคิดการพัฒนา รูปแบบการบูรณาการพัฒนาการศึกษา เพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนคุณภาพ นโยบาย การขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาของเลขาธิการ คณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน “สพฐ. วิถีใหม่ วิถีคุณภาพ” แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ.2561-2580) และบทบาทอำนาจหน้าท่ี ก.ต.ป.น. ตลอดจนการศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหาการจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียน คุณภาพ (โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์)) โดยใช้เทคนิคการสัมภาษณ์ทีมบริหาร การจัดการศึกษาของโรงเรียน จำนวน 6 ท่าน ข้ันตอนที่ 2 การสร้างเคร่ืองมือและพัฒนาเคร่ืองมือ โดยยกร่างรูปแบบการบูรณาการการศกึ ษา SESA-CT Model เพื่อพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาโรงเรียนคุณภาพ และดำเนินการตรวจสอบร่างรูปแบบโดยผู้ทรงคุณวุฒิ ด้วยการห่ค่าดัชนีความสอดคล้องของเนื้อหาและ ความเหมาะสมขององค์ประกอบ (IOC : Index of item objective congruence) เพื่อให้ได้เครื่องมือ ท่ีมีความเที่ยงตรง ระยะที่ 2 การพัฒนา และการใช้รูปแบบการบูรณาการการศึกษา SESA-CT Model เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนคุณภาพ (โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์)) ดำเนินการข้ันตอนท่ี 3 การเก็บรวบรวมข้อมูล โดยนำรูปแบบการบูรณาการการศึกษา SESA-CT Model

ข เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนคุณภาพ ไปทดลองใช้กับโรงเรียนคุณภาพนำร่องในสังกัด คือ โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์) และศึกษาผลการพัฒนาคุณภาพการศึกษา และ ปรับปรุง พัฒนา รูปแบบบูรณาการ SESA-CT Model เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนคุณภาพ ระยะที่ 3 การสรุปผลและนำเสนอรูปแบบการบูรณาการการศึกษา SESA-CT Model เพื่อพัฒนา คุณภาพการศึกษาโรงเรียนคุณภาพ (โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์)) โดยดำเนินการ ขั้นตอนที่ 4 การวิเคราะห์ข้อมูล สรุปและรายงานผล โดยสำรวจความคิดเห็นจากผู้เก่ียวข้อง เพ่ือประเมินความเป็นไปได้จากการทดลองใช้รูปแบบการบูรณาการการศึกษา SESA-CT Model เพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนคุณภาพ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า และใช้ประชากร คือ ผู้บริหารสถานศกึ ษาและครูผ้สู อน โรงเรียนวัดคิรีวหิ าร(สมเดจ็ พระวนั รัต อปุ ถมั ภ์) รวมจำนวน 26 ท่าน ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการการบูรณาการการศึกษา SESA-CT Model เพ่ือพัฒนา คุณภาพการศึกษาโรงเรียนคุณภาพ (โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์)) ประกอบด้วย บันไดสู่ความสำเร็จ 6 ข้ัน ประกอบด้วย ค้นหาความต้องการพัฒนา (S : Search for development needs) ทำให้มั่นใจคุณภาพ (E : Ensuring quality) ชุมชนพึงพอใจ (S : Satified community) เห็นคุณค่า (A : Appreciate) ความร่วมมือ (C : Cooperate) และ เทคโนโลยี (T : Teachnology) บันไดข้ันท่ี 1 ค้นหาความต้องการพัฒนา (S : Search for development needs) เป็นการวิเคราะห์ สภาพบริบทของสถานศึกษาโดยใช้กระบวนการ SWOT Analysis ด้วยการระบุจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาสและอุปสรรค ของสถานศึกษาทำให้มีข้อมูลในการกำหนดทิศทางหรือเป้าหมายที่จะถูกสร้าง ข้ึนมาบนจุดแข็งของสถานศึกษา และแสวงหาประโยชน์จากโอกาสทางสภาพแวดล้อม และสามารถ กำหนดกลยุทธ์ท่ีมุ่งเอาชนะอุปสรรคทางสภาพแวดล้อมหรือลดจุดอ่อนของสถานศึกษาให้มีน้อยที่สุด ภายใต้การวิเคราะห์สภาวะแวดล้อมน้ัน จะต้องวิเคราะห์ ทั้งสภาพแวดล้อมภายในและภายนอก ของสถานศึกษา ตามกรอบมาตราฐานการปฏิบัติงานทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านวิชาการ ด้านการบริหารงาน บุคคล ด้านการบริหารงบประมาณ และด้านการบริหารท่ัวไป บันไดข้ันท่ี 2 ทำให้ม่ันใจคุณภาพ (E : Ensuring quality) เป็นการดำเนินงานของสถานศึกษาโดยมีมาตรฐานการศึกษาเป็นข้อกำหนด เกี่ยวกับคุณลักษณะและคุณภาพที่พึงประสงค์ที่ต้องการให้เกิดขึ้น และมีการบริหารจัดการศึกษา ที่เป็นระบบและได้มาตรฐานยอมรับได้ (มีแผนกลยุทธ์ การนำสู่การปฏิบัติ และการประเมินผล) บันไดขั้นที่ 3 ชุมชนพึงพอใจ (S : Satified community) เป็นการติดตาม ตรวจสอบ และประเมิน ความพึงพอใจ โดยการนิเทศ กำกับ ติดตาม ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือได้รับประโยชน์จากการบริหาร การจัดการศึกษาจากหน่วยงานภายในและภายนอก (หลักธรรมาภิบาล) บันไดขั้นที่ 4 เห็นคุณค่า (A : Appreciate) เป็นการเห็นประโยชน์ โดยมีทศั นคติทด่ี ี มคี วามภาคภูมิใจเปน็ ท่ียอมรับของตนเอง และผู้อ่ืน ทั้งในระดับเขตพื้นที่การศึกษา Smart Area (องค์กรคุณภาพ) ระดับสถานศึกษา Smart School (คุณภาพของสถานศึกษาท่ีย่ังยืน) ระดับครูและบุคลากรทางการศึกษา Smart Teacher (ครูมืออาชีพ) ระดับผู้เรยี น (วิชาการ วิชาชีพ วิชาชีวิต) บันไดขั้นท่ี 5 ความรว่ มมือ (C : Cooperate) เป็นการกระทำกิจกรรมใดๆในลักษณะของการมีส่วนร่วม ริเริ่ม ประสานงาน ช่วยเหลือ ส่งเสริม สนับสนุน ซ่ึงกันและกัน ท้ังภายในองค์กร และ หน่วยงานภายนอก เพ่ือให้บรรลุจุดมุ่งหมายในกิจกรรม

ค นั้นๆ บันไดขั้นท่ี 6 เทคโนโลยี (T : Teachnology) เป็นทักษะการใช้เครื่องมือ ดิจิทัลเทคนิค ความรู้ ระเบียบวิธี กระบวนการ มาประยุกต์ใช้ในระบบงานเพื่อช่วย ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการทำงาน ให้ดียิ่งข้ึนและเพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านวิชาการ ด้านการบริหารงานบุคคล ด้านการบริหารงบประมาณ และด้านการบริหารท่ัวไป โดยผล การนำรูปแบบการบูรณาการการศึกษา SESA-CT Model เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียน คุณภาพไปใช้กับโรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์) ได้บูรณาการร่วมกับ KIREE Model ได้อย่างมีความเช่ือมโยง และมีผลการประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในการนำรูปแบบ การบูรณาการการศึกษา SESA-CT Model เพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนคุณภาพ โดย ภาพรวมมีความเหมาะสมและความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากท่ีสุด (μ = 4.64 ,σ = 0.05) และ มีความเหมาะสมและความเปน็ ไปได้อยู่ในระดบั มากท่สี ดุ ทกุ องคป์ ระกอบ

ง สารบัญ หน้า บทคดั ย่อ ............................................................................................................................................ก สารบญั ...............................................................................................................................................ง บทท่ี 1 บทนำ 1.1 ความเปน็ มาและสภาพปัจจบุ นั ปญั หา............................................................................1 1.2 วตั ถปุ ระสงค.์ ..................................................................................................................5 1.3 ตวั แปรวจิ ยั ....................................................................................................................6 1.4 เป้าหมาย.......................................................................................................................6 1.5 ระยะเวลา......................................................................................................................6 1.6 กรอบแนวคิดการพฒั นาคุณภาพการศึกษา...................................................................7 1.7 นิยามศพั ทเ์ ฉพาะ..........................................................................................................8 1.8 ประโยชน์ท่ีคาดว่าจะได้รับ............................................................................................9 บทท่ี 2 เอกสารที่เกยี่ วข้อง 2.1 การพฒั นาและยกระดบั คณุ ภาพการศึกษาของประเทศไทยในสภาวการณป์ ัจจบุ ัน...10 2.2 นโยบายการจัดการศกึ ษาแบบบรู ณาการของจังหวดั ของรฐั มนตรีว่าการ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ........................................…………………………………….……….......………………….13 2.3 นโยบายการขับเคลอ่ื นคุณภาพการศึกษาของเลขาธิการคณะกรรมการการศกึ ษา ขน้ั พนื้ ฐาน สพฐ.วิถีใหม่ วถิ ีคุณภาพ....................................…………………………..…………………..….....16 2.4 แผนแม่บทภายใตย้ ุทธศาสตรช์ าติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580)............................19 2.4.1 ประเด็นการปรับเปลีย่ นค่านิยมและวฒั นธรรม 2.4.2 ประเดน็ การพฒั นาศักยภาพคนตลอดช่วงชวี ติ 2.4.3 ประเด็นการพัฒนาการเรยี นรู้ 2.4.4 ประเดน็ การเสริมสรา้ งใหค้ นไทยมสี ุขภาวะที่ดี 2.4.5 ประเด็นการบรกิ ารประชาชนและประสิทธภิ าของภาครัฐ 2.5 อำนาจหนา้ ที่คณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ ประเมนิ ผลและนเิ ทศการศึกษา (ก.ต.ป.น.)...........29 2.6 มาตรฐานการปฏบิ ตั งิ านโรงเรยี นมัธยมศกึ ษา พ.ศ.2560 (ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2562)..30 2.7 บริบทดา้ นการศึกษาของจงั หวัดจนั ทบรุ ี และจงั หวดั ตราด........................................31 2.7.1 ข้อมลู พน้ื ฐานทวั่ ไป 2.7.2 ทิศทางในการพฒั นาการจดั การศึกษาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563-2565 (ฉบบั ทบทวน) 2.7.3 ขอ้ มลู สถานศกึ ษาในสังกัด สพม.จบตร

จ สารบัญ(ต่อ) บทที่ 3 วธิ ดี ำเนินการวจิ ัย 3.1 ประชากร/กลุ่มเป้าหมาย.............................................................................................42 3.2 เครื่องมอื ที่ใชใ้ นการวจิ ยั ..............................................................................................42 3.3 ขั้นตอนการดำเนนิ การวิจยั ..........................................................................................43 บทที่ 4 ผลการวจิ ยั 4.1 ผลการศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหาการจดั การศกึ ษาเพอ่ื พัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนคณุ ภาพ (โรงเรียนวัดคริ วี หิ าร(สมเด็จพระวันรัต อปุ ถัมภ)์ ) ………………….…..47 4.2 ผลการสร้างรปู แบบการบูรณาการ SESA-CT Model เพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรยี นคุณภาพ (โรงเรียนวดั คิรีวิหาร(สมเดจ็ พระวันรัต อุปถัมภ)์ ) ……………………....51 4.3 ผลการพฒั นารปู แบบการบูรณาการ SESA-CT Model เพือ่ พฒั นาคณุ ภาพการศึกษา โรงเรียนคณุ ภาพ (โรงเรียนวดั คิรวี หิ าร(สมเด็จพระวนั รัต อปุ ถมั ภ์)) ……………………….56 บทที่ 5 สรุปการวจิ ัยและข้อเสนอแนะ 5.1 สรปุ ผลการวิจยั ………………………………………………………………………………….………….60 5.2 อภปิ รายผล......………………………………………………………………………………….………….64 5.3 ขอ้ เสนอแนะ ………………...................................................................................……..65 ภาคผนวก ก. คำสัง่ กระทรวงศึกษาธิการ ที่ สพฐ. 11/2564 เร่ือง การบรู ณาการด้านการศกึ ษาของ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร สง่ั ณ วันท่ี 7 มกราคม พ.ศ. 2564 ข. คำส่ังสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษาจันทบุรี ตราด ที่ 106/2564 เร่ือง แต่งต้ัง คณะอนกุ รรมการตดิ ตาม ตรวจสอบ ประเมนิ ผลและนเิ ทศการศึกษา สัง่ ณ วนั ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ค.คำส่ั งสำนั กงานเขตพ้ื นท่ี การศึกษามั ธยมศึกษาจันทบุ รี ตราด ท่ี 173/2564 เรื่องคณะกรรมการดำเนินการศึกษา วิเคราะห์ วิจัย การบริหารและการดำเนินการพัฒนาคุณภาพ การศกึ ษา ส่ัง ณ วันท่ี 8 กันยายน พ.ศ. 2564

๑ บทท่ี 1 บทนำ 1.1 ความเปน็ มาและสภาพปัจจุบนั ปญั หา การจัดการศึกษาของประเทศไทยในระดับปฐมวัยและระดับในปัจจุบัน พบว่าจำนวน ประชากรในวัยเด็กมีแนวโน้มจะลดลงอย่างต่อเน่ือง1ส่งผลต่อการเพ่ิมขึ้นของจำนวนโรงเรียนขนาดเล็ก ที่มีนักเรียนน้อยกว่า 120 คน กระจัดกระจายตามหมู่บ้านจำนวนมาก โรงเรยี นขนาดเล็กส่วนใหญ่ ประสบปัญหาคล้ายคลึงกันใน 4 ด้าน คือ 1) ด้านการบรหิ ารจัดการ เกิดจากจำนวนนักเรียนลดลง ทำให้มีอัตราส่วนครูต่อนักเรียนลดลง นักเรียนต่อห้องเรียนต่ำกว่ามาตรฐานค่าใช้จ่ายต่อหัวสูงกว่า โรงเรียนขนาดกลางและโรงเรียนขนาดใหญ่ นอกจากน้ียังมีโรงเรียนขนาดเล็กอีกจำนวนหนึ่ง ท่ีอยู่ ในพ้ืนที่ท่มี ีลักษณะพิเศษ เช่น พื้นที่หา่ งไกล พ้ืนที่บนภูเขาสูง บนเกาะ ชายขอบของประเทศ จงึ ทำให้การบริหารจัดการให้เกิดประสิทธิภาพยากลำบากส่งผลให้คุณภาพการจัดการศึกษายังไม่ได้ มาตรฐานเท่าท่ีควร 2) ดา้ นการจดั การเรียนการสอนโรงเรียนขนาดเลก็ มีครูไม่ครบชั้น ครสู ่วนใหญ่ ขาดทักษะในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ในสภาพที่ครูไม่ครบชั้นและนักเรียนมีจำนวนน้อย ในแต่ละช้ัน หลักสูตรและแผนการจัดการเรียนรู้ไม่สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียน ส่ือการเรียน การสอนและแหล่งการเรียนรู้มีจำนวนจำกัด ซึ่งส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ 3) ด้านความพร้อมทางปัจจัยของโรงเรียนและการพัฒนาโรงเรียน ในการจัดสรรงบประมาณ ให้กบั โรงเรยี นท่ีผ่านมาได้ใช้เกณฑ์จำนวนนักเรียนในการจัดสรรงบประมาณจึงทำให้โรงเรยี นขนาดเล็ก ได้รับจัดสรรงบประมาณและบุคลากรไม่เพียงพอต่อการบริหารจัดการศึกษาภายในโรงเรียน 4) ปญั หาดา้ นการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาประสิทธภิ าพของการศึกษาในรูปของคณะกรรมการ สถานศึกษาขั้นพ้ืนฐานท่ียังมีบาทบาทไม่มากนัก และมีโรงเรียนเพียงส่วนน้อยท่ีมีความร่วมมือ ท้งั ภาครัฐและเอกชนในทอ้ งท่ีในการสนบั สนุนการดำเนินงานของโรงเรยี น2 ปัญหาดา้ นความเหลื่อมล้ำ ทางการการศึกษาที่เช่ือมโยงมาจากจำนวนประชากรวัยเด็กลดลงสภาพสังคม และเศรษฐกิจ ที่มีความแตกต่างกันมากส่งผลต่อความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาโดยเฉพาะครอบครัวที่มีรายได้น้อย ขาดความพร้อมในการดูแลเด็กทำให้สถานการณ์ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของประเทศ มีแนวโน้มสูงขึ้น เช่น ปัญหาเด็กในช่วงอายุก่อนวัยเรียนท่ีไม่ได้เข้าไปอยู่ในระบบการศึกษาปฐมวัย มีสัดส่วนสูงกว่าร้อยละ 103 ซ่ึงโดยส่วนใหญ่เป็นเด็กจากครอบครัวท่ีมีรายได้น้อยส่งผลต่อการอ่านออก เขียนได้ ทักษะการเรียนรู้ และความเส่ียงต่อการออกจากระบบการศึกษาก่อนการสำเร็จการศึกษา ภาคบงั คับ ไม่ไดร้ ับการพฒั นาทักษะอาชีพจึงเป็นอุปสรรคในการพัฒนาทรัพยากรมนษุ ยเ์ ป็นอยา่ งยิ่ง ๑สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนย.ี โครงสร้างประชากรไทยกบั แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในอนาคต. ออนไลน์ (3 กุมภาพนั ธ์ 2563). เขา้ ถงึ ได้จาก : HTTP://BIOLOGY.IPST.AC.TH/?P=913 ๒สำนักงานศกึ ษาธกิ ารจังหวดั อตุ รดิตถ์. แผนบริหารจดั การโรงเรยี นขนาดเลก็ จังหวดั อตุ รดิตถ.์ ออนไลน์ (3 กมุ ภาพนั ธ์ 2563. เขา้ ถงึ ได้ จาก : https://data.bopp-obec.info/emis/news/File/20160926204155.pdf ๓คณะกรรมการปฏริ ูปประเทศดา้ นการศกึ ษา. (ร่าง) แผนปฏริ ปู ประเทศด้านการศึกษา ( ฉบบั ปรับปรุง). ออนไลน์ (3 กมุ ภาพนั ธ์ 2563). เขา้ ถึงได้จาก : http://nscr.nesdb.go.th/wp-content/uploads.

๒ ต่อเนื่องไปจนถึงการขาดโอกาสทางการศึกษาและความเสมอภาคทางการศึกษา (Inequality education) ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะมีนโยบายการเรียนฟรี 15 ปีมาอย่างต่อเน่ืองกลับพบว่า เด็กยังขาดโอกาสทางการศึกษาท่ีจะเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ ประกอบกับปัจจัยด้านที่ต้ัง ของโรงเรียนคุณภาพของอุปกรณ์ในการจัดการเรียนการสอนการจัดการด้านงบประมา ณ การขาดแคลนบุคลากร เหล่าน้ีล้วนเป็นปัจจัยท่ีส่งผลให้เกิดการเพิ่มของอัตราการขาดโอกาส ทางการศกึ ษาในภาพรวม ในขณะเดียวกนั การจดั การศึกษาระดับมัธยมศึกษา พบว่าสถานศึกษาขนาดใหญ่ท่ีมีชื่อเสียง ส่วนใหญ่มักกระจุกตัวอยู่ในเมืองซ่ึงเป็นส่วนน้อยของสถานศึกษาท้ังหมด ไม่ได้กระจาย ไปท่ัวทั้งประเทศอย่างทั่วถึง ส่งผลให้เกิดอัตราการแข่งขันสูงของโรงเรียนในจังหวัด ส่วนหนึ่ง อาจเกิดจากความไม่มั่นใจของผู้ปกครองต่อการจัดการศึกษาของโรงเรียนในชนบทใกล้บ้าน ซง่ึ อาจพิจารณาจากสภาพแวดล้อมของโรงเรยี น ความไม่เท่าเทียมกันของมาตรฐานของสถานศึกษา ทำให้เด็กต้องการเรียนโรงเรียนที่มีคุณภาพมากกว่า จึงเกิดความเหลื่อมล้ำอย่างเห็นได้ชัดในสังคม เมืองและสังคมชนบท ในโรงเรียนแข่งขันสูงจึงเกิดภาวะนักเรียนเกินอัตราต่อห้องเรียนโรงเรียน เกิดความแออัดคับแคบของโรงเรียน โรงเรียนมีพ้ืนท่ีไม่เพียงพอต่อการจัดการเรียนรู้ ในทางกลับกัน โรงเรียนในชนบทกลับมีนักเรียนเข้าเรียนน้อยและส่วนใหญ่เป็นนักเรียนท่ีครอบครัวมีรายได้น้อย ไม่สามารถส่งบุตรหลานไปเรียนในโรงเรียนแข่งขันสูงได้ ถึงแม้จะมีการกระจายอำนาจ การจัดการศึกษาไปสู่จังหวัดหากแต่ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษายังคงอยู่และมีแนวโน้ม สงู ขึน้ ตามสภาพของเศรษฐกจิ ของพืน้ ที่ ส ำ ห รั บ แ น ว ท า ง ก า ร แ ก้ ไข ปั ญ ห า ก า ร จั ด ก า ร ศึ ก ษ า ข อ ง ป ร ะ เท ศ ไท ย จ า ก ร า ย ง า น ของเวิลด์แบงก์ (World Bank)4 ได้มีข้อเสนอให้ประเทศไทยแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ท่ีกำลังถูกซ้ำเติมจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในกระบวนการ การจัดการศึกษาควรนำเทคโนโลยีมาเช่ือมโยงการจัดการศึกษา พร้อมกับการเสริมสร้าง ประสิทธิภาพในการใช้เครื่องมืออุปกรณ์ดิจิทัลต่าง ๆ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและการเข้าถึง การจัดการศึกษาได้อย่างมีคุณภาพมีการลงทุนในครูโดยการฝึกอบรมความรู้ทางด้านวิชาชีพ และ ทกั ษะ การสอน เพ่ือพัฒนาศักยภาพในการจัดการเรยี นการสอน และมีความยืดหยุ่นตอ่ สถานการณ์ ต่าง ๆ มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจดั การศึกษาอย่างต่อเน่ืองและยั่งยืน เพ่ือให้นักเรียนสามารถ เรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา ตามนโยบายการลงทุนของภาครัฐ อีกทั้งต้องให้ความคุ้มครองและปกป้อง เยาวชนไม่ให้ถกู ซำ้ เตมิ จากการคุกคามในรปู แบบต่าง ๆ ทงั้ การคุกคามทางเพศ การล้อเลียน (Bully) และการเหยียดหยามในทุกรูปแบบ ในการใช้เคร่ืองมืออุปกรณ์ดิจิทัลต่าง ๆ เพื่อลดความเหล่ือมล้ำ และการเข้าถึงการจัดการศึกษาได้อย่างมีคุณภาพซ่ึงสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580)5 ได้ระบุความสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ ดา้ นการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ซง่ึ มีเป้าหมายการพัฒนาท่ีสำคญั เพื่อพัฒนา ๔ภูมิศรนั ย์ ทองเลี่ยมนาค.มองศักยภาพการศกึ ษาไทยผา่ นรายงานเวลิ ดแ์ บงก์. ออนไลน์ (๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓). เข้าถงึ ได้จาก https://www.eef.or.th/article-๑๑-๑๒-๒๐ ๕ยทุ ธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี (พ.ศ.๒๕๖๑ – ๒๕๘๐). (๒๕๖๑, ๑๓ ตุลาคม). ราชกจิ จานุเบกษา. เลม่ ๑๓๕ ตอนที่ ๘๒ ก. หน้า ๒๙-๓๗

๓ คนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และมี คุณ ภาพ โดยคนไทยมีความพร้อม ทั้งกาย ใจ สติปัญญา มีพัฒนาการที่ดีรอบด้าน และมีสุขภาวะท่ีดีในทุกช่วงวัย มีจิตสาธารณะ รับผิดชอบต่อสังคมและผู้อื่น มัธยัสถ์ อดออม โอบอ้อมอารีมีวินัย รักษาศีลธรรม และเป็นพลเมืองดี ของชาติ มีหลักคิดท่ีถูกต้อง มีทักษะท่ีจำเป็นในศตวรรษที่ 21 มีทักษะสื่อสารภาษาอังกฤษ และ ภาษาที่ 3 และอนุรักษ์ภาษาท้องถ่ิน มีนิสัยรักการเรียนรู้และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ตลอดชีวิตสูก่ ารเป็นคนไทยท่ีมีทักษะสูง เปน็ นวตั กร นักคดิ ผปู้ ระกอบการ เกษตรกรยุคใหม่และอ่ืน ๆ โดยมีสัมมาชีพตามความถนัดของตนเอง แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนปฏิรูป ด้านการศึกษา (ฉบับปรับปรุง) ท่ีมุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำ ทางการศึกษาและปฏิรูประบบการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ สามารถรองรับความหลากหลาย ของการจัดการศึกษาและตอบโจทย์การพัฒนาของโลกอนาคต โดยมีเป้าหมายเพ่ือให้ผู้เรียนทุกกลุ่ม วัยได้รับการศึกษาท่ีมีคณุ ภาพ ตามมาตรฐาน มีทักษะท่ีจำเป็นของโลกอนาคต สามารถแก้ไขปัญหา ปรบั ตัว สื่อสาร และทำงานรว่ มกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีวินัย มีนิสัยใฝ่เรียนรู้อย่างต่อเน่ือง ตลอดชีวิต และเป็นพลเมืองที่รู้สิทธิและหน้าท่ีมีความรับผิดชอบ มีจิตสาธารณะ มีความรักและ ความภาคภมู ใิ จในความเปน็ ไทย ตามมติคณะรัฐมนตรี เม่ือวันท่ี 7 ตุลาคม 2562 ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพ้ืนฐาน พิจารณาดำเนินการควบรวมโรงเรียนขนาดเล็กที่มีระยะทางห่างจากโรงเรียนในสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในตำบลเดียวกันน้อยกว่า 6 กิโลเมตร ให้บังเกิดผล อย่างเป็นรูปธรรม เพ่ือยกระดับคุณภาพการศึกษาให้เพิ่มสูงข้ึน เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรียน การส อน แ ละล ด ภ าระค่ า ใช้ จ่ายงบ ป ระม าณ ด้ าน บุ ค ลากรแล ะการบ ริห ารจั ด การ โดยที่กระทรวงศึกษาธิการได้ให้ความสำคญั อย่างยิ่งตอ่ การแก้ไขปัญหาการจัดการศึกษาของประเทศ และได้เร่งรัดการยกระดับคุณ ภาพการศึกษาให้เท่าเทียมกันทุกพื้นที่ ตามภารกิจหลัก ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) ในฐานะหน่วยงานเจ้าภาพแผนแม่บท ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ทุกแผนย่อยในประเด็น 12 การพัฒนาการเรียนรู้ และแผนย่อยที่ 3 ในประเด็น 11 ศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต รวมท้ังแผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา และนโยบาย รัฐบาลท่ีเก่ียวข้องท้ังนโยบายหลักและนโยบายเร่งด่วน โดยประกาศเป็นนโยบายและจุดเน้น ของกระทรวงศึกษาธิการภายใต้แนวคิด “ปลดล็อก ปรับเปล่ียน เปิดกว้าง” เพ่ือให้การทำงาน ของกระทรวงศึกษาธิการเกิดความอิสระ คล่องตัว ปรับตัวให้ก้าวทันต่อการเปล่ียนแปลง โดยการปรับร้ือและเปล่ียนระบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ กระชับ หลอมรวมภารกิจ เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพ รวมท้ังนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยท้ังการบริหารงานและ การจัดการศึกษา ปรับร้ือและเปลี่ยนแปลงระบบการบริหารทรัพยากร มุ่งปฏิรูปกระบวนการ วางแผน/โครงการแบบร่วมมือบูรณาการ กระบวนการจัดทำงบประมาณที่มีประสิทธิภาพ คุ้มค่า สร้างความเชื่อม่ันให้ภาคส่วนต่างๆสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพการศึกษามากยิ่งข้ึน ปรับร้ือและ เปล่ียนแปลงการบริหารจัดการและพัฒนากำลังคนโดยมุ่งบริหารจัดการอัตรากำลังคนให้สอดคล้อง กับการปฏิรูปองค์การ พัฒนาสมรรถนะ ความรู้ความสามารถของบุคลากรให้มีความพร้อมในการ ปฏิบัติงาน ปรับรื้อและเปล่ียนแปลงระบบการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ มุ่งให้ครอบคลุมถึง

๔ การจัดการศกึ ษาเพือ่ คุณวุฒิและการเรียนรู้ตลอดชีวิต6โดยนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการทีส่ ำคัญ ในแก้ไขปัญหาเพื่อลดความเหล่ือมล้ำด้านการจัดการศึกษา ตามแนวคิด “ทำโรงเรียนเล็กให้เป็น โรงเรียนใหญ่” คือ 1) การบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กท่ีมีนักเรียนน้อยกว่า 120 คน 2) การลดการกระจุกตัวในโรงเรียนมัธยมขนาดใหญ่ ให้นักเรียนได้เรียนในโรงเรียนมัธยมคุณภาพ ใกล้บ้านมุ่งเน้นการพัฒนาผู้เรียนตามความถนัดเฉพาะทาง และ 3) การเพ่ิมคุณภาพให้โรงเรียน ระดับประถมศกึ ษาทอี่ ยูห่ า่ งไกล ทุรกนั ดารและสามารถพ่ึงพาตนเองได้ (STAND ALONE) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐานตระหนักถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหา โรงเรียน ข น าด เล็ ก ที่ มี แ น วโน้ ม สู งข้ึ น ซ่ึงเป็ น ผ ล จาก แ น วโน้ ม ขอ งป ระช าก รวัย เด็ ก ล ด ล งส่ งผ ล ต่อคุณภาพของผู้เรียน ประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ตลอดจนปัญหาอุปสรรคในการกระจาย ทรัพยากรให้แก่โรงเรียนในสังกัด จึงกำหนดแนวทางการสร้างโรงเรียนคุณภาพให้ชุมชน เป็น “โรงเรียนคุณภาพ” ในระดับประถมศกึ ษา ยกระดับคุณภาพโรงเรียนมัธยมศึกษาท่ีอยู่ในชนบท ให้เป็น “โรงเรียนมัธยมดีสี่มุมเมือง” ในระดับมัธยมศึกษา และเพิ่มคุณภาพโรงเรียนระดับ ประถมศึกษาท่ีอยู่ห่างไกลและมีความสามารถพึ่งพาตนเองในการจัดการศึกษาได้อย่างมีคุณภาพ ให้เป็น “โรงเรียนSTAND ALONE” การขับเคล่ือนการดำเนินงานดังกล่าวกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีคำสั่งแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ และข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ ในแต่ละจังหวัด ตามคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ท่ี สพฐ. 11/2564 เรื่อง การบูรณาการ ด้านการศกึ ษาของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร สงั่ ณ วนั ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2564 จากนโยบายการปฏิรูปการศึกษาของรัฐบาล โดยการบริหารจัดการโรงเรียนระดับประถม ข น า ด เล็ ก ใน สั ง กั ด ส ำ นั ก ง า น ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ก า ร ศึ ก ษ า ข้ั น พื้ น ฐ า น ให้ ส า ม า ร ถ จั ด ก า ร ศึ ก ษ า อย่างมีคุณภาพและเกิดประสิทธิภาพในการบริหารจัดการของโรงเรียน โดยการกำหนดแนวทา ง การขับเคล่ือนการดำเนินงานตามนโยบาย “โรงเรียนคุณภาพ” และ “โรงเรียน STAND ALONE” ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาดำเนินการคัดเลือกโรงเรียนท่ีมีความพร้อม และเหมาะสม ในองค์ประกอบทุกด้านเป็นโรงเรียนหลักของชุมชน มีการบริหารจัดการงบประมาณ บุคลากร สิ่งอำนวยความสะดวกให้พร้อม โดยยึดหลักการทำโรงเรียนขนาดเล็กให้เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ ท่ีเกดิ จากการรวมโรงเรียนเครอื ขา่ ย จำนวนไม่เกนิ 10 โรงเรยี น (จำนวน 7 – 8 โรงเรียน) ใหเ้ ป็น 1 กลุม่ โรงเรียนท่อี ยู่ในพน้ื ทหี่ ่างไกล ทุรกันดาร แต่สามารถพ่งึ พาตนเองได้อย่างมีคณุ ภาพให้เป็น “โรงเรียน STAND ALONE” หรือในอัตราส่วนที่มากท่ีสุดท่ีสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาสามารถดำเนินการได้ เพ่ือให้เป็นโรงเรียนศูนย์กลางการเรียนรู้ให้ผู้ปกครอง ชุมชนเช่ือมั่นและเกิดการยอมรับ สำหรับ โรงเรียนระดับมัธยมศึกษาจะมีการยกระดับคุณภาพของโรงเรียนที่อยู่ในชนบทหรืออำเภอต่าง ๆ ให้ทั่วท้ังจังหวัดเพื่อการกระจายคุณภาพการจัดการศึกษา ไม่ต้องให้นักเรียนเดินทางมาสมัคร เข้าเรียนในโรงเรียนประจำจังหวัด หรือโรงเรียนท่ีมีช่ือเสียง โดยจะจัดสรรทรัพยากร ทงั้ ดา้ นงบประมาณ และบุคลากรพร้อมท้งั เทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อให้เป็น “โรงเรียนมัธยมดีสม่ี มุ เมอื ง” ๖ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ. นโยบายและจดุ เน้น ของกระทรวงศึกษาธกิ าร ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔. (๒๕๖๒, ๒๗ กันยายน). หน้า ๑ – ๔

๕ ให้มีคุณภาพทัดเทียมกับโรงเรียนในจังหวัดต่อไปในการ“ปลดล็อก ปรับเปล่ียน เปิดกว้าง” เพ่อื ลดความเหลื่อมล้ำด้านการศกึ ษา โดยยดึ คุณภาพผูเ้ รียนและประสทิ ธภิ าพในการบรหิ ารจดั การเป็นสำคัญ สำนักงานเขตพน้ื ที่การศึกษามธั ยมศึกษาจันทบุรี ตราด มกี ารบริหารจัดการที่มุ่งเน้นผลลัพธ์ ยึดหลักการดำเนินงานแบบองค์รวม (Holistic) หลักการมีส่วนร่วมของผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยมีองค์คณะ บุคคลเรียกว่า คณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และนิเทศการศึกษาของเขตพื้นที่ การศึกษา (ก.ต.ป.น.) ทำหน้าที่ส่งเสริม สนับสนุนให้มีการนำมาตรฐานการศึกษาข้ันพื้นฐาน มากำหนดเป็นแนวทางในการติดตาม ประเมินผล และนิเทศการบริหาร กำหนดแนวทางการศึกษา วิเคราะห์ วิจัย การบริหารและการดำเนินการของสถานศึกษา โดยมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ของหน่วยงาน และสถานศึกษา ทั้งยังให้ข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนได้เล็งเหน็ ถึงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในโรงเรียนคุณภาพ และโรงเรียน Stand Alone เพ่ือให้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการและสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพ้ืนฐาน ในการพัฒนาการศึกษาได้อย่างยั่งยืน คณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และ นิเทศการศึกษาของเขตพื้นที่การศึกษา (ก.ต.ป.น.) จึงได้แต่งตั้ง คณะกรรมการดำเนินการศึกษา วิเคราะห์ วิจัย การบริหารและการดำเนินการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา จันทบุรี ตราด เพ่ือพัฒนารูปแบบการบูรณาการด้านการศึกษาโรงเรียนคุณภาพ SESA-CT Model ของสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษาจันทบุรี ตราดข้ึนและนำไปร่วมพัฒนาการบริหาร จดั การศึกษาโรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์) ท่ีเป็นโรงเรียนคุณภาพนำร่องในระดับ เขตพื้นที่การศึกษาเพ่ือพัฒนาให้เป็นโรงเรียนคุณภาพ ระดับมัธยมศึกษา ท่ีมีประสิทธิภาพและ ประสิทธผิ ลตอ่ ไป 1.2 วัตถุประสงค์ 4.1 เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหาการจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียน คุณภาพ (โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์)) สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา มัธยมศึกษาจันทบุรี ตราด 4.2 เพ่ือยกร่างรูปแบบการบูรณาการ SESA-CT Model เพื่อพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา โรงเรียน คุณภาพ (โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์)) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มธั ยมศึกษาจนั ทบรุ ี ตราด 4.3 เพื่อพัฒนารูปแบบการบูรณาการ SESA-CT Model เพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนคุณภาพ (โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์)) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มธั ยมศึกษาจนั ทบรุ ี ตราด 4.4 เพ่ือนำเสนอรูปแบบการบูรณาการ SESA-CT Model เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนคุณภาพ (โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์)) สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา มัธยมศกึ ษาจันทบรุ ี ตราด

๖ 1.3 ตวั แปรวิจัย ตัวแปรต้น คือ รูปแบบการบูรณาการ SESA-CT Model เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนคุณภาพ ระดับเขตพื้นท่ีการศึกษา โดยการขับเคล่ือนของคณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ ประเมนิ ผลและนเิ ทศการศึกษา ตัวแ ป รต าม คื อ คุณ ภ าพ การศึกษ า 4 ด้าน (ด้าน วิช าการ ด้าน งบ ป ระม าณ ด้านการบริหารงานบุคคล และ ด้านการบริหารท่ัวไป) โดยใช้เกณฑ์การประเมินองค์ประกอบ และตัวช้ีวัดคุณภาพความสำเร็จตามมาตรฐานการปฏิบัติงานโรงเรียนมัธยมศึกษา พ.ศ. 2560 (ปรับปรุง พ.ศ.2562) ประกอบดว้ ย 1) ด้านวชิ าการ - งานวชิ าการ (7 ภารกิจ 36 ตัวช้วี ดั ) - งานแผนงานและประกนั คุณภาพ (2 ภารกิจ 2 ตัวช้วี ัด) 2) ด้านงบประมาณ - งานการเงนิ และพัสดุ (4 ภารกจิ 13 ตัวชี้วดั ) 3) ดา้ นการบริหารงานบคุ คล - งานบคุ คล (3 ภารกจิ 7 ตวั ช้ีวดั ) 4) ดา้ นการบรหิ ารทว่ั ไป - งานแผนงานและประกันคณุ ภาพ (5 ภารกิจ 8 ตัวชีว้ ัด) - งานกจิ การนกั เรยี น (6 ภารกจิ 18 ตัวชวี้ ดั ) - งานธุรการ (4 ภารกิจ 10 ตัวชี้วัด) - งานบริการอาคารสถานทแี่ ละสภาพแวดล้อม (11 ภารกจิ 29 ตวั ชวี้ ัด) - งานชุมชนและภาคเี ครอื ขา่ ย (5 ภารกิจ 8 ตัวชว้ี ัด) 1.4 เป้าหมาย 1.4.1 เป้าหมาย เชงิ ปรมิ าณ รูปแบบโรงเรียนคุณภาพ ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจันทบุรี ตราด จำนวน 1 โรงเรียน 1.4.2 เป้าหมาย เชงิ คณุ ภาพ โรงเรียนระดับมัธยมศึกษา ในสังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษาจันทบุรี ตราด ที่เป็นโรงเรียนคุณภาพ ได้รับการพัฒนาและยกระดับคุณภาพการศึกษาให้สูงขึ้นอย่างรอบด้าน เพอ่ื เปน็ ทยี่ อมรับของชุมชนและสงั คม 1.5 ระยะเวลา ปีงบประมาณ 2564

๗ 1.6 กรอบแนวคดิ การพัฒนาคุณภาพการศกึ ษา กรอบแนวคดิ การพฒั นารูปแบบบูรณาการด้านการศึกษา โรงเรยี นคุณภาพ : โรงเรียนวดั คิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรตั อุปถัมภ)์ สงั กัดสำนกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศึกษาจันทบรุ ี ตราด • นโยบายการยกระดบั คุณภาพการศกึ ษาใน / • บรหิ ารจดั การงบประมาณท่ีค้มุ คา่ สถานการณป์ จจุบัน • สร้างโรงเรยี นคุณภาพ • คณุ ภาพการศกึ ษา • จัดสรรบคุ ลากรให้โรงเรยี น • นโยบายบูรการด้านการศึกษา โดยใช้จงั หวัด ไม่ได้มาตร าน • เพ่มิ ประสิทธภิ าพการสอนของครู ผูบ้ ริหาร เปน านของ รมว.ศธ. การศึกษาขนั • เพิ่มคุณภาพทุนมนษุ ยใ์ ห้ตอบโจทยต์ ลาดแรงงาน พน าน • การผนกึ กาลงั ของหนว่ ยงานในสังกัด • นโยบายการบูรณาการด้านการศกึ ษา โดยใช้ จังหวดั เปน านของ สพ . • หลักการ แนวคดิ ท ษ ีการพั นาคุณภาพ การศกึ ษา • ความคิดเห็นของผู้เชยี่ วชา และผ้ทู รงคุณวุ ิ • งานวจิ ยั ท่เี ก่ียวข้อง รปแบบบรณาการด้านการศึกษา รงเรียนคุณภาพ : รงเรยี นวดั คิรีวหิ าร(สมเดจพระวันรัตน์ อปุ ถัมภ์) สังกดั สานกั งานเ ตพืนท่กี ารศึกษามั ยมศกึ ษาจนั ทบรุ ี ตราด : รงเรียนวดั คิรีวหิ าร(สมเดจพระวันรตั น์ อุปถัมภ์) สังกัดสานกั งานเ ตพืนท่กี ารศึกษามั ยมศกึ ษาจันทบรุ ี สานักงานเขตพนท่ีการตศรกึ าษดามัธยมศกึ ษาจนั ทบุรี ตราด สามารถพั นารูปแบบ การบูรณาการได้อยา่ งมีคุณภาพตามมาตร านการศกึ ษาขนั พน าน จากการมีส่วนรว่ มของทกุ ภาคสว่ น

๘ 1.7 นยิ ามศัพทเ์ ฉพาะ 1.7.1 แผนกลยุทธ์การบูรณาการพัฒนาการศึกษา หมายถึง แนวปฏิบัติท่ีกำหนดขึ้น โดยใชก้ ระบวนการผสมผสานให้เกิดการเปลยี่ นแปลงทด่ี ขี น้ึ ในการยกระดบั คุณภาพการจดั การศึกษา ของโรงเรียนในสงั กัดสำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศึกษามัธยมศึกษาจนั ทบุรี ตราด 1.7.2 โรงเรียนคุณภาพ หมายถึง โรงเรียนหลักในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาจันทบุรี ตราด ท่ีได้รับการพัฒนาด้านต่าง ๆ ทั้งด้านกายภาพ ด้านบุคลากร และ ด้านเครือข่าย ให้เป็นโรงเรียนใหญ่ของชุมชนท่ีมีความเพียบพร้อม สามารถรองรับนักเรียน จากโรงเรียนเครือข่ายและทำงานผสมผสานร่วมกันกับโรงเรียนเครือข่ายในการจัดการศึกษาท่ีมี คณุ ภาพ 1.7.3 รูปแบบการบูรณาการการศึกษา SESA-CT Model เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนคุณภาพ หมายถึง แนวปฏิบัติหรือวิธีการท่ีกำหนดข้ึน ในการยกระดับคุณภาพ การจัดการศึกษาของโรงเรียนกลุ่มเป้าหมายอย่างเป็นระบบ (System Theory) โดยใช้วงจรเดมมิ่ง (PDCA) ควบคุมคณุ ภาพ S : Search for development needs หมายถึง คน้ หาความต้องการพัฒนา โรงเรยี นกลุ่มเป้าหมายกำหนดความต้องการ พฒั นาตนเองเพอ่ื ยกระดับคุณภาพการศกึ ษา ใหเ้ ป็นโรงเรียนคุณภาพ E : Ensuring quality หมายถงึ ทำใหม้ ัน่ ใจคณุ ภาพ โรงเรยี นกล่มุ เป้าหมายมีรูปแบบการพัฒนา ตนเองเพอ่ื ยกระดับคุณภาพการศึกษา ใหเ้ ปน็ โรงเรยี นคุณภาพ S : Satisfied community หมายถึง ชมุ ชนพงึ พอใจ ชมุ ชนพึงพอใจ มนั่ ใจในคุณภาพการศกึ ษา ของโรงเรียนกลุ่มเปา้ หมาย A : Appreciate หมายถงึ เหนคณุ คา่ ผู้บรหิ าร ครู บุคลากรทางการศึกษา นักเรยี น ผูป้ กครอง ชุมชน ตลอดจนผู้มีสว่ นเกย่ี วข้อง เหน็ คณุ ค่าการพฒั นาโรงเรยี นเพ่ือยกระดับ คุณภาพการศึกษาให้เป็นโรงเรียนคุณภาพ C : Cooperate หมายถึง ความร่วมมอื โรงเรียนกลุม่ เป้าหมายสรา้ งความร่วมมอื กบั เขตพืน้ ที่ฯและหน่วยงานทเ่ี กี่ยวข้อง ในการพัฒนาตนเองเพ่ือยกระดับคณุ ภาพ การศกึ ษาให้เปน็ โรงเรียนคณุ ภาพ

๙ T : Technology หมายถงึ เทค น ลยี โรงเรียนกลมุ่ เป้าหมายใชเ้ ทคโนโลยี ในการพฒั นาตนเองเพอ่ื ยกระดับคณุ ภาพ การศกึ ษาใหเ้ ปน็ โรงเรยี นคุณภาพ 1.8 ประ ยชนท์ ่คี าดวา่ จะได้รบั 1.8.1 ได้รูปแบบการพัฒนาการศึกษาแบบบูรณาการของสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา มธั ยมศึกษาจนั ทบุรี ตราด ทสี่ อดคลอ้ งกับสภาวการณข์ องโลกปัจจุบัน 1.8.2 การลงทุนด้วยการจัดการศึกษาได้แนวทางในการใช้ทรัพยากรเพ่ือให้เกิดความคุ้มค่า มากยิ่งขนึ้ 1.8.3 เพมิ่ การพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการจดั การศกึ ษาในโรงเรียนคุณภาพ ระดับเขตพ้ืนที่ การศกึ ษามธั ยมศกึ ษาจันทบรุ ี ตราด

๑๐ บทท่ี 2 เอกสารที่เกย่ี ว ้อง ในการศึกษาวิจัย เรื่อง การพัฒนารูปแบบการบูรณาการด้านการศึกษาโรงเรียนคุณภาพ : โรงเรียนวัดคิรีวหิ าร(สมเด็จพระวันรัต อปุ ถมั ภ์) ระดับมัธยมศกึ ษา สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษา มัธยมศกึ ษาจันทบุรี ตราด มเี อกสารที่เกีย่ วข้องกบั นโยบาย หลกั การ แนวคดิ ดังนี้ 2.1 การพฒั นาและยกระดบั คุณภาพการศกึ ษาของประเทศไทยในสถานการณใ์ นปัจจบุ นั 2.2 นโยบายการจัดการศึกษาแบบบูรณาการของจังหวัดของรฐั มนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 2.3 นโยบายการขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาของเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษา ขนั้ พนื้ ฐาน “สพฐ. วิถีใหม่ วถิ คี ุณภาพ” 2.4 แผนแมบ่ ทภายใตย้ ทุ ธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561 – 2580) 2.5 อำนาจหนา้ ที่คณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลและนเิ ทศการศึกษา (ก.ต.ป.น.) 2.6 มาตรฐานการปฏิบัติงานโรงเรยี นมัธยมศึกษา พ.ศ. 2560 (ปรับปรงุ พ.ศ.2562) 2.7 บริบทของจังหวดั จนั ทบรุ ี และจงั หวัดตราด 2.1 การพัฒนาและยกระดบั คณุ ภาพการศึกษา องประเทศไทยในสถานการณ์ในปัจจบุ ัน การศึกษามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทุกช่วงอายุต่อเน่ืองตลอดชีวิต และ เพื่อให้ประเทศชาติบรรลุเป้าหมายการพัฒนาการศึกษาของประเทศ จึงจำเป็นต้องพัฒนาการศึกษา ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และประสิทธิภาพดีพอท่ีจะพัฒนาเยาวชนในประเทศให้ก้าวทันการ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามกระแสโลกาภิวัตน์ รัฐจึงได้ตราพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และแก้ไขเพม่ิ เติม (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2545 ขึ้นโดยกำหนดให้การศกึ ษาเปน็ ไปเพ่อื พฒั นา คนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และมีคุณธรรม จริยธรรม และ วฒั นธรรมในการดำรงชวี ติ สามารถอย่รู ว่ มกบั ผู้อนื่ ได้อย่างมคี วามสุข สรุปสาระสำคญั ดงั นี้ 2.1.1 พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และแก้ไ เพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 หมวด 6 มาตรฐานและการประกันคุณภาพการศึกษา มาตรา 7 กำหนดให้มีระบบประกันคุณภาพการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา และมาตรฐานการศึกษาทุกระดับ ซึ่งประกอบด้วย ระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน และระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายนอก มาตรา 48 ได้กำหนดให้หน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษาจัดให้มีระบบการประกัน คณุ ภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา และให้ถือว่าการประกันคุณภาพเป็นสว่ นหนึ่งของกระบวนการ จดั การศกึ ษาทตี่ อ้ งดำเนนิ อยา่ งตอ่ เนื่อง มาตรา 49 กำหนดให้สำนักรับรองมาตรฐาน และประเมินคุณภาพการศึกษา ทำการประเมนิ ผลการจดั การศึกษาเพอ่ื ใหม้ ีการตรวจสอบคุณภาพการศึกษา และ

๑๑ มาตรา 50 กำหนดให้สถานศึกษาให้ความร่วมมือในการจัดเตรียมเอกสารหลักฐาน บุคลากรกรรมการสถานศึกษาผู้ปกครอง และผู้มีส่วนเก่ียวข้องกับสถานศึกษาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ในสว่ นท่ีเหน็ ว่าเกยี่ วขอ้ งกบั การปฏบิ ัตภิ ารกิจของสถานศกึ ษาอีกดว้ ย ต่อมารัฐจึงออกกฎกระทรวงว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพ การศึกษา พ.ศ. 2553 ระบุว่า สถานศึกษาต้องมีกระบวนการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างตอ่ เน่ือง ประกอบด้วย (1) กำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา (2) การจัดทำแผนพัฒนาการ จัดการศึกษาของสถานศึกษาท่ีมุ่งคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา (3) จัดระบบ บริหารและสารสนเทศ (4) ดำเนินงานตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา (5) จัดให้ มีการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา (6) จัดให้มีการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษา (7) จัดทำรายงานประจำปีที่เป็นรายงานประเมินคุณภาพภายใน และ (8) จัดให้มีการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเน่ืองซ่ึงการดำเนินงานดังกล่าวให้สถานศึกษายึดหลักการ มสี ่วนรว่ มของชุมชนและหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องโดยการส่งเสริมสนับสนุนและกำกบั ดูแลของหน่วยงาน ต้นสงั กัดตัง้ แตป่ ี พ.ศ. 2539 เป็นต้นมา (ราชกิจจานเุ บกษา, 2553 : 22-26) จากสถานการณ์ในโลกปัจจุบันท่ีทำให้เกิดผลกระทบต่อการจัดการศึกษาของประเทศไทย ซ่ึงมีความจำเป็นต่อการพัฒนาคุณภาพและยกระดับการจัดการศึกษาให้ได้มาตรฐานโดยกำหนด เป็นแผนพฒั นาการศกึ ษาของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ฉบับท่ี 12 (พ.ศ. 2560 – 2564) ดงั น้ี 2.1.2 แผนพัฒนาการศึกษา องกระทรวงศกึ ษา ิการ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 – 2564) การพัฒนาประเทศไทยไปสู่ความมั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืนให้เกิดขึ้นในอนาคตนั้น จ ะ ต้ อ งให้ ค ว า ม ส ำ คั ญ กั บ ก า ร เส ริ ม ส ร้ างทุ น ข อ งป ร ะ เท ศ ที่ มี อ ยู่ ให้ เข้ ม แ ข็ งแ ล ะ มี พ ลั งเพี ย งพ อ ในการขับเคลื่อนกระบวนการการพัฒนาทั้งในระยะกลางและระยะยาวโดยเฉพาะ “การพัฒนาคน” ให้มีการเตรียมความพร้อมรับการเปล่ียนแปลงของโลกในศตวรรษที่ ๒๑ ซ่ึงมีส่ิงท่ีสำคัญท่ีสุด คือ ทักษะการเรียนรู้และการเสริมสร้างปัจจัยแวดล้อมท่ีเอ้ือต่อการพัฒนาคุณภาพของคน โดยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาประยุกต์ใช้ทั้งในเชิงระบบและโครงสร้างของสังคมไทยให้มีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ท่ีจะเกิดข้ึนแต่ท่ีผ่านมาประเทศไทยไม่ได้มีการกำหนดวิสัยทัศน์ประเทศ เป้าหมายและยุทธศาสตร์ ของประเทศในระยะยาวเมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาลก็ทำให้นโยบายขาดความต่อเน่ือง การพัฒนา จึงเกดิ ภาวะหยุดชะงักหรือชะลอตัวถือ เป็นการสูญเสียโอกาสและส้ินเปลืองทรพั ยากรประเทศ ดงั น้ัน เพ่ือเป็นการปฏิรูประบบบริหารราชการแผ่นดินของประเทศไทยให้มีเป้าหมายการพัฒนาประเทศ ในระยะยาวและเพื่อเป็นการกำหนดให้ฝ่ายบริหารมีความรับผิดชอบที่จะต้องขับเคลื่อนประเทศไปสู่ เป้าหมายที่เป็นท่ียอมรับร่วมกันและเป็นเอกภาพ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2559 อันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศจึงได้กำหนดให้รัฐต้องจัดทำ “ยุทธศาสตร์ชาติ” เพื่อ ใช้เป็นกรอบในการจัดทำแผนต่าง ๆให้สอดคล้องและบูรณาการกันโดยภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติน้ี ประเทศไทยต้องปฏิรูปและปรับเปล่ียนอย่างเป็นระบบขนานใหญ่เพ่ือให้โครงสร้างทางเศรษฐกิจและ สังคม ของประเทศเหมาะสมกับสถานการณ์ความเปล่ียนแปลงของสังคมโลกท่ีสำคัญในการวางแผน พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) และต่อเน่ืองสู่แผนพัฒนาฯ ฉบับต่อ ๆ ไปน้ัน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้ยึดยุทธศาสตร์ชาติ

๑๒ มาเป็นกรอบแนวทางในการพัฒนาอย่างต่อเน่ืองกันไปตลอด 20 ปี นอกจากน้ีสำนักงานเลขาธิการ สภาการศึกษาในฐานะหน่วยงานท่ีมีหน้าที่ในการจัดทำแผนการศึกษาระดับชาติในระยะยาว ก็ได้พิจารณานากรอบแนวทาง การดำเนินงานยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี มาใช้ประกอบ การพิจารณาจัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2574 ด้วยเช่นกันเพื่อให้เกิดการบูรณาการ เชื่อมโยงไปในทิศทางเดียวกันกับแนวทางการพัฒนาการเรียนรู้สาหรับพลเมืองทุกช่วงวัยตั้งแต่แรกเกิด ไปจนตลอดชีวิต ดังน้ันในการจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) นอกจากจะคำนึงถึงสถานการณ์ความเปล่ียนแปลงท่ีเกิดข้ึนกับสังคมไทย ภูมิภาคอาเซียนและสังคมโลกท่ีมีผลกระทบต่อการพัฒ นาคนรวมท้ังกฎหมายท่ีสำคัญ ต่อการจัดการศึกษา ของประเทศและมีผลให้อำนาจหน้าท่ีของกระทรวงศึกษาธิการปรับเปลี่ยนไป จากเดิมแล้วกระทรวงศึกษาธิการได้ยึดกรอบหลักการท่ีสำคัญอันได้แก่ ๑) ยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) ๒) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) และ 3) แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2574 มาวิเคราะห์เพื่อกำหนดเป้าหมายการพัฒนา การศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการและแนวทางให้สามารถขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายดังกล่ าวได้ อย่างเป็นรูปธรรมเกิดประโยชน์กับผู้เรียนและประชาชนผู้รับบริการได้สอดคล้องกับทิศทางและ เป้าหมายการพัฒนาประเทศในระยะ5ปีข้างหน้าทั้งในมิติความมั่นคงเศรษฐกิจสังคมและมิติ การบรหิ ารจัดการภาครฐั ที่มปี ระสทิ ธภิ าพโดยปรากฏสาระสำคญั และประเดน็ ความเชื่อมโยงดังน้ี แผนภาพ 1 แสดงกรอบหลักการของแผนพฒั นาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ. 2560 - 2564)

๑๓ 2.2 น ยบายการจดั การศึกษาแบบบรณาการ องจงั หวัด องรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศกึ ษา ิการ กระทรวงศึกษาธิการ ได้จัดประชุมพร้อมทั้งมอบนโยบายแผนบูรณาการการศึกษ า ทั่วประเทศ โดยมีนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน การประชุม การบูรณาการด้านการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช และนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการศึกษาธิการภาคศึกษาธิการจังหวัดและผู้แทนจากหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง เมื่อวนั จนั ทร์ที่ 18 มกราคม 2564 ณ หอ้ งประชมุ ครุ ุสภา มสี าระสำคญั ดงั น้ี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกล่าวว่าการศึกษาถือเป็นเคร่ืองมือชี้วัดคุณภาพและ ศักยภาพในด้านต่าง ๆ ของประเทศ เพ่ือเตรียมความพร้อมและสร้างทุนมนุษย์ (Human Capital) ที่มีความสามารถในการแข่งขันกับนานาอารยะประเทศ และมีทักษะเท่าทันการเปลี่ยนแปลง ของศตวรรษท่ี 21 การพัฒนาคุณภาพการศึกษาจึงเป็นส่ิงสำคัญและมีความจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งจากการลงพ้ืนท่ีสำรวจ พบว่าโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน กว่า 15,000 แห่ง เป็นโรงเรียนขนาดเล็กที่มีจำนวนนักเรียนน้อยกว่า 120 คน ทำให้การบริหาร จัดการงบประมาณที่มีอยู่ ไม่สามารถพัฒนาคุณภาพทางการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึง ไม่สามารถจัดสรรบุคลากรทางการศึกษาได้อย่างท่ัวถึง ส่งผลต่อประสิทธิภาพการเรียนการสอน ของผู้เรียน กระทรวงศึกษาธิการจึงมีแนวทางท่ีจะบูรณาการการศึกษา เพ่ือพลิกการศึกษา ทุกตารางนิ้วของประเทศไทย โดยการผนึกกำลังการทำงานอย่างเป็นเอกภาพของทุกหน่วยงาน ในกระทรวงศึกษาธิการ อาทิ การบริหารจัดการงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพการสร้างโรงเรียน คุณภาพให้กับชุมชนการจัดสรรบุคลากรทางการศึกษาที่มีอยู่ในระบบให้เข้าถึงในทุกโรงเรียน เป็นต้น เพ่ือให้เด็กได้เรียนในสภาพแวดล้อมทางการศึกษาที่มีความสมบูรณ์มากขึ้น พร้อมทั้งได้รับการเรียน การสอนท่ีมีประสิทธิภาพจากการที่มีครูครบช้ัน ครบวิชา ในส่วนของโรงเรียนก็จะได้รับเงินอุดหนุน ท่ีสามารถจัดทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธภิ าพ ตลอดจนให้ความสำคัญกับวางรากฐานระบบ การส่งต่อนักเรียน จากชั้นประถมศึกษา ไปยังระดับชั้นมัธยมศึกษาอาชีวศึกษาอุดมศึกษารวมถึง การเรียนรู้ตลอดชีวิตด้วยนอกจากน้ีกระทรวงศึกษาธิการมีแนวทางท่ีจะต่อยอดการใช้พ้ืนท่ีโรงเรียน บางส่วนในการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับชุมชน ทั้งการเป็นพ้ืนที่การเรียนรู้สำหรับเด็ก การสร้างชุมชนครูหรือหอพักสำหรับครูและข้าราชการในพื้นที่ รวมทั้งการจัดพ้ืนที่สำหรับพัฒนา ทักษะในการเรียนรู้ตลอดชีวิตของคนในชุมชนให้สอดคล้องกับบริบทของแต่ละจังหวัดด้วย และ ให้จังหวัดท้ัง 77 จังหวัด ดำเนินการจัดทำแผนพัฒนาในจังหวัดของตนเอง เพ่ือนำเสนอแนวทาง พัฒนารวมถงึ การพิจารณาวางแผนงบประมาณทต่ี ่อเน่อื งต่อไป แผนบูรณาการการศึกษาดังกล่าว ได้มกี ารลงพื้นที่สำรวจและพัฒนาโดยใช้พื้นท่ีจังหวัดภูเก็ต เป็นตน้ แบบ ใน 3 แนวทางหลัก คือ แนวทางท่ี 1 พฒั นาโรงเรยี นคณุ ภาพชุมชนระดับประถมศึกษา แนวทางที่ 2 เพ่ิมศักยภาพโรงเรียนขนาดเล็กที่สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมีคุณภาพ (Stand Alone) แนวทางที่ 3 ยกระดับโรงเรยี นมัธยมดีสม่ี มุ เมอื ง

๑๔ ซึ่งในการจัดทำแผนบูรณาการการศึกษานั้น มีความจำเป็นท่ีต้องปรับปรุงโครงสร้างในด้าน ตา่ ง ๆ ดงั นี้ 1. คร สภาพปัญหาที่เกี่ยวกับครูผู้สอนน้ันมีหลายมิติ ได้แก่ ปัญหาท่ีเกิดจากโครงสร้าง ระบบบริหารจดั การ และปัญหาทีเ่ กดิ จากครผู ู้สอน 1.1 ปัญหาท่ีเกิดจากโครงสร้าง และระบบบริหารจัดการหลักสูตร การผลิตครู ไม่สอดคล้องกับการปฏิบัติจริง จำนวนบัณฑิตท่ีจบใหม่ไม่สอดคล้องกับความต้องการท่ีแท้จริง คือมีมากกว่าความต้องการในภาพรวม แต่ครูกับไม่เพียงพอในบางสาขาวิชาท่ีขาดแคลนนั้น คือ ยังไม่สามารถผลิตครูให้ได้ในปริมาณท่ีเหมาะสม หรือเพียงพอในทุกระดับช้ัน ระดับการศึกษา และสาขาวิชา และด้วยปัญหาการผลิตครูนี้ ทำให้ขาดแคลนครูทั้งในเชิงปริมาณและในเชิงคุณภาพ ครูหน่ึงคนตอ้ งสอนมากกวา่ 1 ชั้นเรยี น โดยมีหนา้ ท่ีหลัก คือ การสอน การทำแผนการสอน การสอบ (การออกข้อสอบ ตรวจข้อสอบ) นอกจากนี้ยังมีภาระหน้าท่ีอ่ืนท่ีไม่เก่ียวกับการสอน อย่างเช่น งานการเงิน งานธุรการของโรงเรียน และโครงการต่าง ๆ ที่โรงเรียนมอบหมายเพิ่มเติม อาทิ งานตัวชี้วัด โครงการ/กิจกรรม ประกวดแข่งขันต่าง ๆ ซ่ึงมีอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้ครูต้องแบ่งเวลา ส่วนหน่ึงไปทำงานเหล่านั้น ทำให้งานการสอนซ่ึงเป็นหน้าท่ีหลักถูกลดความสำคัญลงไป ครูต้อง ทิ้งห้องเรียน และเวลาที่ให้กับการสอนในปีหน่ึง ๆ เป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อคุณภาพ การเรยี นร้ขู องผู้เรียน 1.2 ปญั หาที่เกดิ จากครูผู้สอนแม้จะเป็นปัญหาที่เกิดจากความจำเปน็ ส่วนตัวของครู แต่ละคนแต่เป็นส่วนหน่ึงท่ีส่งผลต่อคุณภาพการศึกษาของไทย เน่ืองจากหน้ีสินที่เกิดขึ้นทำให้ครู ขาดขวัญกำลังใจในการทำงาน มีคุณภาพชีวิตลดลง จนต้องหางานพิเศษอ่ืนมาเสริม เพ่ือให้มีรายได้ เพ่ิมขึ้น ให้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต หรือนำไปใช้หน้ีสินที่มีอยู่เดิม ทำให้การอุทิศเวลาให้กับการสอน เป็นไปอย่างไม่เต็มท่ี ตลอดจนการหาโอกาสท่ีจะพัฒนาตนเองเพ่ือเสริมสร้างความรู้ความสามารถ ทักษะการสอนท่ีเพียงพอที่จะถ่ายทอดแก่ผู้เรียน รวมถึงการทำผลงานเพ่ือเลื่อนวิทยฐานะ ทั้งน้ี สาเหตุหลักมาจากการใช้เวลาไปกับการทำกิจกรรมส่วนตัว เช่น การประกอบอาชีพเสริม อนั เนือ่ งมาจาก ภาระหน้สี นิ ของครู 2. สถานศึกษา สภาพปัญหาของสถานศึกษาในปัจจุบันมีมาตรฐานไม่เท่ากันและ มีขนาดไม่เท่ากัน ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาภายในประเทศค่อนข้างสูง และ จากผลการประเมินมีการดำเนินการประกันคุณภาพการศึกษาเพ่ือกำกับ ควบคุม ส่งเสริม และ พัฒนาการประกันคุณภาพ ทั้งระดับภายในและภายนอก ยังมีปัญหาด้านคุณภาพการจัดการศึกษา คุณภาพของสถานศึกษายังไม่พัฒนาได้เท่าเทียมกัน มีสถานศึกษาท่ีพัฒนาแล้ว และสถานศึกษา ที่ยังไม่พัฒนา ต้องมีการกำกับ ติดตามคุณภาพต่อไป และเพื่อให้สามารถจัดการศึกษาได้ อย่างมีคุณภาพ สถานศึกษาจึงมีความจำเป็นที่จะต้ องได้รับการพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐาน ทง้ั ดา้ นกายภาพ ดา้ นบุคลากร และเครอื ขา่ ย 3. หลักสตร มุ่งเน้นการปรับปรุงหลักสูตร โดยปรับเปล่ียนให้ทันสถานการณ์โลก ทนั เทคโนโลยี พฒั นาทักษะต่าง ๆ เพือ่ การเรียนรู้ตลอดชีวติ ของคนในชุมชนให้สอดคล้องกบั บรบิ ทของแต่ละจังหวัด แนวทางการพัฒนาการศึกษานอกจากจะมุ่งเน้นทางด้านวิชาการแล้ว ยังมีแนวคิดที่จะส่งเสริมทักษะ

๑๕ ด้านภาษาที่สองและสามให้กับนักเรียน นักศึกษา ตลอดจนการสร้างโรงเรียนฝึกอาชีพเพ่ือรองรับ อุตสาหกรรมการทอ่ งเท่ียว และดา้ นอน่ื ๆ ทีเ่ หมาะสมกับบริบทของพ้นื ท่ี เป็นตน้ 4. ผ้บริหาร ปัจจุบันกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีหลักสูตรการพัฒนาข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งต้ังให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการ สถานศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมปรับปรุงหลักสูตรการพัฒนาศักยภาพการเข้าสู่ผู้บริหาร การพัฒนาหลักสูตรสู่แนวใหม่ที่เน้นการตอบสนองผู้เรียนและชุมชน การบริหารงานแบบมืออาชีพ เพอ่ื เตรยี มความพรอ้ มทส่ี ร้างความมนั่ ใจให้ทกุ ฝ่าย 5. นักเรียน ต้องการการแนะแนวทางให้มีรากฐานท่ีแ งแรงใน ลกปัจจุบัน ปัจจุบัน การแนะแนวมีบทบาทในการศึกษามากย่ิงขึ้น เน่ืองจาก การแนะแนวมีจุดมุ่งหมายและหลักการ ท่สี อดคล้องหรือเหมือนกนั กับจุดมุ่งหมายของกรศึกษา คือ การช่วยให้เยาวชนของชาติเป็นผู้ท่ีคดิ เป็น โดยเน้นให้ผู้เรียนได้รับการส่งเสริมพัฒนาในทุกๆ ด้าน มุ่งสนองความต้องการและความสนใจ ของผู้เรียน นอกจากน้ีกิจกรรมท่ีจัดขึ้นในโรงเรียนน้ัน ยังกำหนดให้จัดขึ้นโดยต้องครอบคลุม ทง้ั 3 ด้าน ของการแนะแนว คือ การแนะแนวการศึกษา การแนะแนวอาชีพ การแนะแนวบุคลิกภาพ และการปรบั ตน โดยเฉพาะด้านความประพฤติ การท่ีวิชาการแนะแนว หรือปัจจุบันนิยมเรียกว่าจิตวิทยาการแนะแนวเข้ามามีบทบาท ในการศึกษามากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย เน่ืองจากเยาวชนเป็นผู้ท่ีมีความสำคัญต่อประเทศชาติ เพราะจะเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต ซึ่งจะต้อง รับผิดชอบประเทศชาติต่อไป จึงสมควรได้รับการส่งเสริมพัฒนาทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจ ะเป็น ทางด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคม และจิตใจ เพ่ือช่วยให้เยาวชนเหล่าน้ันสามารถปรับตัว อยู่ในสังคมท่ีมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลาได้อย่างมีความสุข และเป็นบุคคล ทม่ี ีคุณสมบตั ิเปน็ ท่พี ึงประสงค์ของประเทศชาติ 6. บุคลากรทางการศึกษา การส่งเสริมแรงจูงใจเป็นกระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญในองค์กร ซึ่งถือเป็นเคร่ืองมือท่ีช่วยให้การปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ เป็นไป ตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายการบริหารทรัพยากรมนุษย์จึงเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารงาน ในองค์กร กลยุทธ์ในการแสวงหา คัดเลือก และบรรจุบุคลากรทางการศึกษาท่ีมีคุณสมบัติเหมาะสม ให้ ปฏิ บัติงานใน องค์กร รวมถึงการบ ำรุงรักษ าบุคคลในองค์กรให้ สามารถปฏิ บัติงาน ได้อย่างเต็มความสามารถ ทั้งโดยให้สามารถตอบสนองความต้องการขององค์กรและความต้องการ ของผู้ปฏบิ ตั ิ มีความมั่นคง ความชัดเจนในอัตรากำลงั ความก้าวหนา้ เป้าหมาย ปัจจุบัน ในประเทศและสังคมโลกที่มีการพัฒ นาก้าวไกลแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ด้านความเจริญทางเทคโนโลยี การคมนาคม หรือการขนสง่ ต่าง ๆ นนั้ ลว้ นแล้วแต่เป็นปัจจัยเกื้อหนุน ท ำให้ เกิ ด ค ว าม เป ล่ี ย น แ ป ล งใน สั งค ม ม นุ ษ ย์ ได้ แ ม้ ก ระ ทั่ งก ารศึ ก ษ าใน ยุ ค ปั จ จุ บั น ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามสมัยอยู่ตลอดเวลาตามวิถีทางสังคมมนุษย์และความก้าวหน้า ทางเทคโนโลยีที่ไร้ขีดจำกัด การศึกษาไทย แม้ว่าจะมีการเปล่ียนแปลงตามยุคตามสมัย และวิถี ความเปล่ียนแปลงของสังคมโลก โดยเฉพาะประเทศที่มีการพัฒนาแล้วก็ตาม หลักสูตรและวิธีการ จัดการเรียนรู้ใหม่ ๆ ยังไม่สามารถบ่งช้ีให้ครูผู้สอนเห็นว่าผู้เรียนเกิดความเปล่ียนแปลงในการเรียนรู้

๑๖ และยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้นท้ังหมดทั่วประเทศได้ ซึ่งขณะเดียวกันครูผู้สอน ก็ได้พยายามอย่างเต็มที่เพ่ือหาวิธีท่ีจะทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ท่ีเหมาะสม และนำมาเพื่อ การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งนอกจากจะพัฒนาในด้านวิชาการแล้ว ยังมุ่งเน้นการพัฒนา ด้านทักษะอาชีพให้แก่ผู้เรียนที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงงานตามบริบทของพื้นท่ี เพ่ือให้เกิดการเรียนรู้ เสริมสร้างทักษะ มองหาความถนัดของตนเอง ท่ีจะพัฒนาเป็นอาชีพต่อไป ในอนาคต สรา้ งรายได้ใหต้ นเอง และครอบครัว อีกทั้งยังเป็นการสนองนโยบายของรฐั บาลในการสร้าง ความสามารถพัฒนาทักษะและเสริมสร้างประสบการณ์ด้านอาชีพให้แก่เด็กและเยาวชน และเป็น กำลงั สำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต รงเรียนคุณภาพ โครงสร้างพนื้ ฐานของโรงเรยี นคณุ ภาพ ประกอบดว้ ย - ห้องดนตรี - หอ้ งปฏิบัตกิ รวทิ ยาศาสตร์ - หอ้ งคอมพิวเตอร์ - ห้องปฏบิ ตั กิ ารทกั ษะอาชีพ ห้องศิลป/หัตถกรรม - สระว่ายน้ำ - สนามกฬี า - ครูครบวิชา - ครูครบชัน้ - สอนตรงวชิ าเอก - ครตู า่ งชาติ - มงี บประมาณเพยี งพอ ครูครบวิชา เป้าหมาย รงเรยี นมั ยมดสี ่ีมุมเมอื ง เป้าหมายสำคัญเพ่ือลดการกระจุกตัวในโรงเรียนมัธยมขนาดใหญ่ โดยให้นักเรียน ได้เรยี นในโรงเรยี นมธั ยมคุณภาพใกล้บ้านมุ่งเน้นการพัฒนาผูเ้ รยี นตามความถนัดเฉพาะทาง 2.3 น ยบายการ ับเคลื่อนคุณภาพการศึกษา องเล า ิการคณะกรรมการการศึกษา ันพืนฐาน “สพฐ. วถิ ใี หม่ วิถีคุณภาพ” สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐานได้ประกาศสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ช้ันพ้ืนฐานเรื่อง นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ – ๒๕๖๕ เพ่ือให้สำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาใช้เป็นกรอบแนวทางในการดำเนินงานให้สอดคล้องกับนโยบาย การขบั เคลอื่ นคุณภาพการศกึ ษา ดังนี้ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561 - 2580) และแผนปฏิรูปประเทศ ดา้ นการศึกษากำหนดให้มีการพัฒนาเด็กต้ังแต่ระดับปฐมวัยให้มีสมรรถนะและคุณลักษณะที่ดี สมวัย ทุกด้านโดยการปฏิรูปกระบวนการเรียนที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ ๒1 ตระหนัก ถึงพหุปัญญาของมนุษย์ท่ีหลากหลาย มีเป้าหมายให้ผู้เรียนทุกกลุ่มวัยได้รับการศึกษาท่ีมีคุณภาพ ตามมาตรฐาน มที ักษะท่จี ำเปน็ ของโลกอนาคต สามารถแก้ปัญหา ปรบั ตัว สื่อสาร และทำงานร่วมกับ

๑๗ ผู้อ่ืนได้อย่างมีประสิทธิผลมีวินัย มีนิสัยใฝ่เรียนรู้ อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต รวมท้ังเป็นพลเมืองท่ีรู้สิทธิ และหนา้ ท่ี มคี วามรับผิดขอบและมีจิตสาธารณะ สำนักงานคณะกรมภารการศึกษาข้ันพื้นฐาน มุ่งมั่นในการพัฒนาการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ให้เป็น \"การศึกษาขัน้ พนื้ ฐานวิถีใหม่ วิถคี ุณภาพ\" มุ่งเน้นความปลอดภัยในสถานศกึ ษา สง่ เสริมโอกาส ทางการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียม และบริหารจัดการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ จึงกำหนด นโยบายเพ่ือการขับเคล่ือนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 – 2565 ดังน้ี 1) ด้านความปลอดภัย พัฒนาระบบและกลไกในการดูแลความปลอดภัยให้กับผู้เรียน ครู และบุคลากร ทางการศึกษาและสถานศึกษา จากภัยพิบัติและภัยคุกคามทุกรูปแบบ รวมถึงการจัดสภาพแวดล้อม ทเ่ี ออื้ ต่อการมสี ุขภาวะทีด่ สี ามารถปรับตวั ต่อโรคอุบัติใหม่และโรคอบุ ตั ิซำ้ 2) ด้าน อกาส 2.1) สนับสนุน ให้เด็กปฐมวัยได้เข้าเรียนทุกคน มีพัฒนาการที่ดี ทั้งทางร่างกาย จิตใจ วนิ ยั อารมณ์ สังคม และสตปิ ญั ญา ให้สมกับวยั 2.2) ดำเนินการ ให้เด็กและเยาวชนได้รับการศึกษาจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน อยา่ งมคี ุณภาพตามมาตรฐาน วางรากฐานการศกึ ษาเพือ่ อาชีพ สามารถวิเคราะห์ตนเองเพอ่ื การศึกษา ต่อ และประกอบอาชีพตรงตามศักยภาพและความถนัดของตนเอง รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน ที่มคี วามสามารถพิเศษสู่ความเปน็ เลศิ เพอ่ื เพมิ่ ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ 2.3) พัฒนาระบบดูแลช่วยเหลอื เด็กและเยาวชนท่ีอยู่ในการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน เพอ่ื ป้องกัน ไม่ให้ออกจากระบบการศึกษา รวมท้ังช่วยเหลือเด็กตกหล่นและเด็กออกกลางคันให้ได้รับการศึกษา ขน้ั พ้ืนฐานอย่างเทา่ เทยี มกัน 2.4) ส่งเสริมให้เด็กพิการและผู้ด้อยโอกาส ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาท่ีมีคุณภาพ มที ักษะในการดำเนนิ ชีวิต มีพื้นฐานในการประกอบอาชีพ พ่ึงตนเองได้อย่างมีศกั ดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ๓) ดา้ นคณุ ภาพ ๓.1) ส่งเสริมการจัดการศึกษาให้ผู้เรียนมีความรู้ มีทักษะการเรียนรู้และทักษะที่จำเป็น ของโลกในศตวรรษท่ี ๒1 อย่างครบถ้วน เป็นคนตี มีวินัย มีความรักในสถาบันหลักของชาติ ยึดม่ัน การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีทัศนคติที่ถูกต้อง ตอ่ บ้านเมือง 3.2) พัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะและทักษะด้านการอ่าน คณิตศาสตร์ การคิดขั้นสูง นวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดิจิทัล และภาษาต่างประเทศ เพื่อเพ่ิมขีดความสามารถ ในการแขง่ ขัน และการเลอื กศึกษาตอ่ เพอ่ื การมีงานทำ ๓.๓) ปรับหลักสูตรเป็นหลักสูตรฐานสมรรถนะ ที่เน้นการพัฒนาสมรรถนะหลักท่ีจำเป็น ในแต่ละระดับ จัดกระบวนการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติจริง รวมท้ังส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ที่สร้าง สมดุลทุกด้านส่งเสริมการจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาพหุปัญญา พัฒนาระบบการวัดและประเมินผล ผูเ้ รยี นทุกระดบั

๑๘ ๓.๔) พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้เป็นครูยุคใหม่ มีศักยภาพในการจัดการเรียน การสอนมีการพัฒนาตนเองทางวิชาชีพอย่างต่อเนอื่ ง รวมท้ังมจี ติ วิญญาณความเปน็ ครู ๔) ด้านประสิท ภิ าพ ๔.1) พัฒนาระบบบริหารจัดการโดยใช้พื้นที่เป็นฐาน มีนวัตกรรมเป็นกลไกหลัก ในการขบั เคลื่อนบนฐานข้อมูลสารสนเทศทีถ่ ูกต้อง ทันสมัย และการมสี ว่ นรว่ มของทุกภาคส่วน 4.2) พัฒนาโรงเรียนมัธยมดีสี่มุมเมือง โรงเรียนคุณภาพ โรงเรียนขนาดเล็กและโรงเรียน ที่สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมีคุณภาพ (Stand Alone) ให้มีคุณภาพอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับบริบท ของพ้ืนที่ 4.3) บริหารจัดการโรงเรียนขยายโอกาสทางก ารศึกษา ที่มีจำนวนนักเรียน ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๑ - 3 น้อยกว่า 20 คน ให้ได้รบั การศึกษาอย่างมีคุณภาพ สอดคล้องกับนโยบาย โรงเรียนคณุ ภาพ 4.4) ส่งเสริมการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพในสถานศึกษาที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะ และสถานศกึ ษาท่ตี ง้ั ในพนื้ ท่ลี กั ษณะพเิ ศษ 4.5) สนับสนุนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาให้เป็นต้นแบบการพัฒนานวัตกรรมการศึกษา และการเพ่ิมความคล่องตวั ในการบรหิ ารและการจดั การศึกษาขั้นพื้นฐาน ๔.๖) เพ่มิ ประสิทธภิ าพการนเิ ทศ ติดตามและประเมนิ ผลการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน แผนภาพ 2 แสดงกลุ่มเป้าหมายในการพัฒนา ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564

๑๙ 2.4 แผนแมบ่ ทภายใตย้ ุท ศาสตรช์ าติ (พ.ศ. 2561 – 2580) ภายในยทุ ธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) มสี ่วนทเี่ กี่ยวขอ้ งกับการจดั การศกึ ษา ของประเทศ ดงั นี้ 2.4.1 ประเดนการปรับเปล่ียนค่านยิ มและวัฒน รรม ยุทธศาสตร์ชาติให้ความสำคัญ กับการพัฒ นาทรัพยากรมนุ ษย์ เน่ืองจาก เป็นปัจจัยพ้ืนฐานในการพัฒนาด้านต่าง ๆ ของประเทศในระยะยาว โดยการจะพัฒนาประชากรที่ดี และสมบูรณ์นั้น นอกจากการยกระดับในด้านสุขภาวะและด้านทักษะการศึกษาแล้ว จะต้องพัฒนา ด้านค่านิยมและวัฒนธรรมที่ดีของประชาชนทุกกลุ่มวัยควบคู่กันไปด้วย เพ่ือให้บรรลุเป้าหมาย ของยุทธศาสตร์ชาติ ในการพัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพ โดยในช่วงที่ผ่านมาประชากรไทยส่วนใหญ่ยังมีปัญหาด้านคุณธรรมจริยธรรมและไม่ตระหนัก ถึงความสำคัญของการมีวินัย ความซื่อสัตย์สุจริต และการมีจิตสาธารณะดังปรากฏในผลการสำรวจ ด้านคุณธรรมจริยธรรมตา่ ง ๆ อาทกิ ารสำรวจโดยศูนยค์ ุณธรรม (องคก์ รมหาชน) เป้าหมาย คนไทยมีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่ดีงาม และมีความรัก และภูมิใจ ในความเป็นไทย คนไทยนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำรงชีวิตสังคมไทย มคี วามสขุ และเป็นทยี่ อมรบั ของนานาประเทศมากขึน้ ตัวชีวัด ดัชนีคุณธรรม ๕ ประการ ได้แก่ ความซ่ือสัตย์สุจริต การมีจิตสาธารณะ การเป็นอยอู่ ยา่ งพอเพยี ง การกระทำอยา่ งรบั ผิดชอบ ความเป็นธรรมทางสงั คม แผนแม่บทฯ ประกอบด้วย ๓ แผนย่อย ดังนี้ 1) การปลกฝังคุณ รรม จริย รรม ค่านิยม และการเสริมสร้างจิตสา ารณะ และการเป็นพลเมืองท่ีดีผา่ นการเล้ียงดูในครอบครัว การบูรณาการเรอ่ื งความซ่ือสัตย์ วินัย คุณธรรม จริยธรรม ในการจัดการเรียนการสอน การสร้างความเข้มแข็งของสถาบันทางศาสนา การปลูกฝัง ค่านิยมและวัฒนธรรมโดยใช้ชุมชนเป็นฐานการส่งเสริมให้คนไทยมีจิตสาธารณะ จิตอาสาและ รบั ผิดชอบต่อส่วนรวม รวมทั้งการสร้างเสริมผนู้ ำการเปล่ยี นแปลงและต้นแบบท่ีดที ้ังระดับบุคคลและ องคก์ ร เป้าหมาย คนไทยเป็นมนุษย์ท่ีสมบูรณ์ มีความพร้อมในทุกมิติตามมาตรฐานและ สมดุลท้ังด้านสติปัญญา คุณธรรม จริยธรรม มีจิตวิญญาณที่ดี เข้าใจในการปฏิบัติตนปรับตัวเข้ากับ สภาพแวดล้อมดขี น้ึ ตัวชีวัด ประชากรอายุ 13 ปีข้ึนไป มีกิจกรรมการปฏิบัติตนท่ีสะท้อน การมีคุณธรรม จริยธรรม เพม่ิ ขึ้น 2) การสร้างค่านิยมและวัฒน รรมที่พึงประสงค์จากภาค ุรกิจ โดยการเสริมสร้าง และพัฒนากลไกเพ่ือให้ภาคธุรกิจ ส่งเสริมสนับสนุนและสร้างค่านิยมและวัฒนธรรมที่ดี และ การยกระดับการบริหารจัดการรวมถึงมาตรการของภาครัฐเพ่ือให้ภาคธุรกิจร่วมรับผิดชอบ ในการปรับเปล่ยี นค่านิยมและวฒั นธรรม เป้าหมาย ภาคธุรกิจมบี ทบาทสำคัญในการลงทนุ เพ่อื สังคม ตวั ชวี ดั จำนวนธุรกิจท่เี ปน็ วสิ าหกิจเพื่อสงั คม

๒๐ 3) การใช้ส่ือและสื่อสารมวลชนในการปลกฝังค่านิยมและวัฒน รรม องคน ในสังคม โดยการพัฒนาส่ือสร้างสรรค์ และเสริมสร้างค่านิยมที่ดีให้กับเยาวชน และประชาชนทั่วไป พัฒนาส่ือเผยแพร่เพื่อสร้างเสริมศิลปะและวัฒนธรรม และจัดสรรเวลาและเปิดพ้ืนที่ให้ส่ือสรา้ งสรรค์ สำหรับเดก็ เยาวชน และประชาชนในการปลกู จิตสำนึกและสรา้ งเสริมคา่ นิยมทีด่ ี เป้าหมาย สื่อในสังคมไทยมีความเข้มแข็ง สามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ประชาชน ในสังคมทำให้เกดิ สังคมแห่งการเรียนรู้ปลอดภยั และสร้างสรรคเ์ พิ่มขึน้ ตัวชีวัด ระดับความสำเร็จของการสร้างการรับ รู้ ความตระหนัก และการใช้สื่อ อยา่ งปลอดภยั และสรา้ งสรรคข์ องประชาชน กลุ่มเป้าหมาย (เฉลย่ี ร้อยละ) 2.4.2 ประเดนการพฒั นาศกั ยภาพคนตลอดช่วงชีวติ ยทุ ธศาสตรช์ าตไิ ด้กำหนดเป้าหมายการขับเคล่ือนการพัฒนาให้ประเทศเจริญก้าวหน้า ไปในอนาคตซึ่งทรัพยากรมนุษย์เป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญในการยกระดับการพัฒนาประเทศ ในทุกมิติไปสู่เป้าหมายการเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วท่ีขับเคลื่อนโดยภูมิปัญญาและนวัตกรรมในอีก ๒๐ ปีข้างหน้า อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรท่ีมีสัดส่วนประชากรวัยแรงงานและวยั เด็ก ท่ีลดลงและประชากรสูงอายุท่ีเพ่ิมข้ึนอย่างต่อเนื่องจะเป็นปัจจัยเส่ียงสำคัญท่ีจะทำให้การพัฒนา ประเทศในมิติต่าง ๆ มีความท้าทายเพิ่มมากขึ้น ท้ังในส่วนของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ ในการจดั สวัสดิการเพอื่ ดูแลผ้สู ูงอายุทเ่ี พิ่มสงู ข้ึน การลงทุนและการออมการเจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกิจ ของประเทศ ความม่ันคงทางสังคม การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ซ่ึงจะเป็นประเด็นท้าทายต่อการขับเคล่ือนประเทศไปสู่การเป็นประเทศพัฒนาแล้วโดยปัจจุบัน โครงสร้างประชากรไทยกำลังเปล่ียนแปลงเข้าสู่สังคมสูงวัย และจะเปลี่ยนแปลงอย่างสมบูรณ์ ในช่วงปี ๒๕๖๔ ซึ่งทำให้ประชากรวัยแรงงานจะมีจำนวนสูงสุดและเร่ิมลดลงอย่างต่อเน่ือง ส่งผลกระทบต่อศกั ยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว นอกจากน้ี อตั ราการเจริญ พันธุ์รวมของประชากรไทยในปี ๒๕๖๑ อยู่ที่ ๑.๕๘ ซึ่งต่ำกว่าระดับทดแทน นอกจากนก้ี ลุ่มวัยต่าง ๆ ยังคงมีปัญหาและความท้าทายในแต่ละกลุ่ม อาทิ โภชนาการในกลุ่มเด็กปฐมวัย ความสามารถ ทางเชาว์ปัญญา และความฉลาดทางอารมณ์ของกลุ่มวัยรุ่นผลิตภาพแรงงานต่ำในกลุ่มวัยแรงงาน และ ปัญหาสขุ ภาพของกลุ่มผู้สงู อายุ เป็นตน้ เป้าหมาย คนไทยทุกช่วงวัยมีคุณภาพเพ่ิมขึ้น ได้รับการพัฒนาอย่างสมดุล ทั้งด้าน ร่างกาย สตปิ ัญญา และคุณธรรมจริยธรรม เปน็ ผู้ทมี่ ีความร้แู ละทักษะในศตวรรษท่ี ๒๑ รักการเรียนรู้ อย่างต่อเน่ืองตลอดชวี ิต ตัวชีวัด ดัชนกี ารพฒั นามนษุ ย(์ Human Development Index) แผนแม่บทประเด็น การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต ได้กำหนดแผนย่อย ไว้ ๕ แผนย่อยเพ่ือพัฒนาและยกระดับทรัพยากรมนุษย์ในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เต็มศักยภาพ และเหมาะสม ดังน้ี 1) การสร้างสภาพแวดล้อมท่ีเอือต่อการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์ พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ โดยจำเป็นต้องมุ่งเน้นการพัฒนาและยกระดับคนในทุกมิติ และในทุกช่วงวัยให้เป็นทรัพยากรมนุษย์ท่ีดี เก่ง และมีคุณภาพ พร้อมขับเคล่ือนการพัฒนาประเทศ ไปข้างหน้าได้อย่างเต็มศักยภาพซึ่งจำเป็นต้องมีการเสริมสร้างสภาพแว ดล้อมที่เอ้ือต่อการพัฒนา

๒๑ และเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์อย่างเป็นระบบตั้งแต่ระดับครอบครัว ชุมชน สังคม และ การมีระบบและกลไกรองรับการพฒั นาทรัพยากรมนษุ ย์ที่มปี ระสทิ ธิภาพ เป้าหมาย ครอบครัวไทยมีความเข้มแข็ง และมีจิตสำนึกความเป็นไทย ดำรงชีวิต แบบพอเพยี งมากขน้ึ ตวั ชีวดั ดชั นีครอบครวั อบอุน่ 2) การพัฒนาเดกตังแต่ช่วงการตังครรภ์จนถึงปฐมวัย โดยจัดให้มีการเตรียม ความพร้อมให้แก่พ่อแม่ก่อนการตั้งครรภ์ พร้อมทั้งส่งเสริมอนามัยแม่และเด็กตั้งแต่เร่ิมต้ังครรภ์ ส่งเสริมและสนับสนุนให้โรงพยาบาลทุกระดับดำเนินงานตาม มาตรฐานงานอนามัยแม่และเด็ก สู่มาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ ส่งเสริมและสนับสนุนการเล้ียงลูกด้วยนมแม่ และสารอาหารที่จำเป็นต่อสมองเด็ก การกระตุ้นพัฒนาการสมองและการพัฒนาเด็กปฐมวัย ใหม้ พี ฒั นาการท่ีสมวัยทกุ ดา้ น เป้าหมาย เด็กเกิดอย่างมีคุณภาพ มีพัฒนาการสมวัย สามารถเข้าถึงบริการ ท่ีมคี ณุ ภาพมากขึ้น ตัวชีวัด ดชั นีพฒั นาการเดก็ สมวัย 3) การพัฒนาช่วงวัยเรียน/วัยรุ่น จัดให้มีการพัฒนาทักษะความสามารถที่สอดรับ กับทักษะในศตวรรษท่ี ๒๑ โดยเฉพาะทักษะด้านการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ความสามารถ ในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ความคิดสร้างสรรค์การทำงานร่วมกับผู้อ่ืน จัดให้มีการพัฒนาทักษะ ด้านภาษา ศิลปะ ทักษะด้านดิจิทัล และความสามารถในการใช้เทคโนโลยีท่ีสอดคล้องกับ ความสามารถความถนัดและความสนใจ จัดให้มีการพัฒนาทักษะในการวางแผนชีวิตและวางแผน การเงิน ตลอดจนทักษะการเรียนรู้ท่ีเชื่อมต่อกับโลกการทำงาน จัดให้มีการเรียนรู้ทักษะอาชีพ ที่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศและทักษะชีวิตท่ีสามารถอยู่ร่วมและทำงานภายใต้สังคม ท่ีเป็นพหุวัฒนธรรม ส่งเสริมและสนับสนุนระบบบริการสุขภาพและอนามัยที่เชื่อมต่อกัน ระหว่างระบบสาธารณสุขกับโรงเรียนหรือสถานศึกษา เพ่ือเสริมสร้างศักยภาพด้านความฉลาด ทางเชาวน์ปัญญาและความฉลาดทางอารมณ์ของกลุ่มวัยเรียน/วัยรุ่น รวมทั้งสร้างความอยากรู้ อยากเห็นและสร้างแรงจงู ใจใฝ่สัมฤทธิ์ เปา้ หมาย วัยเรยี น / วัยรนุ่ มคี วามรูแ้ ละทักษะในศตวรรษท่ี ๒๑ ครบถ้วน รจู้ ักคิด วิเคราะห์ รักการเรียนรู้ มีสำนึกพลเมือง มีความกล้าหาญทางจริยธรรม มีความสามารถ ในการแกป้ ญั หา ปรบั ตวั ส่อื สาร และทำงานร่วมกบั ผูอ้ ื่นไดอ้ ย่างมีประสทิ ธผิ ลตลอดชีวิตดขี ึ้น ตัวชีวดั คะแนนความสามารถในการแข่งขันการพฒั นาทุนมนุษย์ด้านทกั ษะ (Skill) ของ World Economic Forum (WEF) 4) การพัฒนาและยกระดับศักยภาพวัยแรงงาน ด้วยการยกระดับศักยภาพทักษะ และสมรรถนะของคนในช่วงวัยทำงานให้สอดคล้องกับความสามารถเฉพาะบุคคลและความต้องการ ของตลาดแรงงาน เพ่ือสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกจิ และผลิตภาพเพ่ิมขน้ึ ใหก้ ับประเทศ เสริมสร้าง ความอยากรู้และยกระดับตนเองสร้างวัฒนธรรมการทำงานท่ีพึงประสงค์ และความรู้ความเขา้ ใจและ ทักษะทางการเงิน เพ่ือเสริมสร้างความมั่นคงและหลักประกันของตนเองและครอบครัว ส่งเสริมและ สนับสนุนการพัฒนาความรู้แรงงานฝีมือให้เป็นผู้ประกอบการใหม่ และสามารถพัฒนาต่อยอดความรู้

๒๒ ในการสร้างสรรค์งานใหม่ ๆ และสร้างเสริมคุณภาพชีวิตท่ีดีให้กับวัยทำงานผ่านระบบการคุ้มครอง ทางสังคมและการสง่ เสรมิ การออม เป้าหมาย แรงงานมีศักยภาพในการเพ่ิมผลผลิต มีทักษะอาชีพสูง ตระหนัก ในความสำคัญที่จะพัฒนาตนเองให้เต็มศักยภาพสามารถปรับตัวและเรียนรู้สิ่งใหม่ตามพลวัต ของโครงสร้างอาชีพและความตอ้ งการของตลาดแรงงานเพ่มิ ขึ้น ตัวชวี ัด ผลิตภาพแรงงาน (รอ้ ยละต่อปี) มคี นไทยท่มี คี วามสามารถและผู้เช่ียวชาญ ต่างประเทศเข้ามาทำวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละนวัตกรรมในอตุ สาหกรรมเปา้ หมายเพมิ่ ข้ึน ตัวชวี ัด สัดสว่ นกำลังแรงงานด้านวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 5) การส่งเสริมศักยภาพวัยผ้สงอายุ โดยส่งเสริมการมีงานทำของผู้สูงอายุให้พ่ึงพา ตนเองได้ทางเศรษฐกิจ และร่วมเป็นพลังสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ชุมชนและประเทศ ส่งเสริม และพัฒนาระบบการออมเพ่ือสร้างหลักประกันความมั่นคงในชีวิตหลังเกษียณ และหลักประกัน ทางสงั คมที่สอดคลอ้ งกับความจำเปน็ พ้ืนฐานในการดำรงชีวติ และส่งเสริมสนับสนุนระบบการสง่ เสริม สุขภาพดูแลผ้สู ูงอายุ พรอ้ มทัง้ จดั สภาพแวดลอ้ มให้เป็นมติ รกับผสู้ ูงอายุ เป้าหมาย ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตท่ีดี มีความมั่นคงในชีวิต มีทักษะการดำรงชีวิต เรยี นรพู้ ัฒนาตลอดชีวิต มสี ว่ นรว่ มในกิจกรรมสังคม สรา้ งมลู คา่ เพ่ิมใหแ้ กส่ งั คมเพ่ิมข้ึน ตวั ชวี ัด ร้อยละผสู้ ูงอายุท่มี ีศักยภาพมีงานทำ และรายได้เหมาะสม 2.4.3 ประเดนการพัฒนาการเรียนร้ ยุทธศาสตร์ชาติให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพและคุณภาพของประชากรไทย ทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพ ซ่ึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ได้ให้ความสำคัญ กับการพัฒนาท้ังสอดคล้องกับศักยภาพ ความสนใจ ความถนัด และการตระหนักถึงพหุปัญญา ของมนุษย์ท่ีหลากหลาย อาทิ ภาษาตรรกะและคณิตศาสตร์ ด้านทัศนะและมิติ ดนตรี กีฬาและ การเคล่ือนไหวของร่างกายการจัดการตนเองมนุษยสัมพันธ์ รวมถึงผู้มีความสามารถอันโดดเด่น ด้านใดด้านหน่ึงหรือหลายด้าน ซึ่งจำเป็นต้องมีการพัฒนาระบบและปัจจัยส่งเสริมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ไปพร้อมกัน ท้ังในส่วนของระบบการเรียนการสอน และการพัฒนาทักษะฝีมือ รวมทั้งการให้ ความสำคัญกับการสง่ เสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อให้ประเทศไทยสามารถยกระดบั เป็นเจ้าของ เทคโนโลยีและนวัตกรรมก้าวทันโลก ซ่ึงการศึกษาและการเรียนรู้เป็นเคร่ืองมือสำคัญในการพัฒนา ศักยภาพของคนให้มีทักษะความรู้ ทักษะอาชีพบนฐานพหุปัญญา มีสมรรถนะท่ีมีคุณภาพสูงรู้เท่าทัน การเปล่ียนแปลงโดยในช่วงท่ีผ่านมา แม้ว่าคนไทยได้รับโอกาสทางการศึกษาสูงข้ึน โดยมีจำนวน ปีการศึกษาเฉลี่ยของประชากรวัยแรงงานอายุ ๑๕ - ๕๙ ปี เพิ่มข้ึนอย่างต่อเนื่องจาก ๘.๘ ปี ในปี ๒๕๕๑ เป็น ๙.๔ ปี ในปี ๒๕๕๙ แต่ในภาพรวมคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ของคนไทย ยังอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ แต่เม่ือพิจารณาคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนขั้นพื้นฐาน ในปี ๒๕๖๐ พบว่า มีค่าเฉล่ียต่ำกว่าร้อยละ ๕๐ และผลคะแนนสอบ PISA ท่ีอยู่ในระดับต่ำกว่า อีกหลายประเทศที่มีระดับการพัฒนาใกล้เคียงกัน เน่ืองจากข้อจำกัดท่ีสำคัญของการศึกษาไทย ท้ังปัญหาเร่ืองหลักสูตรและระบบการเรียนการสอนท่ีเน้นการท่องจำทำให้ขาดความคิดสร้างสรรค์ ปัจจัยสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนและครูท่ีมีคุณภาพยังกระจายไม่ทั่วถึงโดยเฉพาะในพื้นท่ี ห่างไกล ขณ ะที่ในระดับอาชีวศึกษายังมีเด็กที่สนใจเรียนต่อสายอาชีพในสัดส่วนท่ีน้อย

๒๓ ส่วนระดับอุดมศึกษาพบว่า มีการเปิดหลักสูตรโดยไม่คำนึงถึงความต้องการของตลาดงาน บัณฑิต ทีจ่ บออกมาบางสว่ นยังมีปัญหาคณุ ภาพ เป้าหมาย ๑) คนไทยมีการศึกษาท่ีมีคุณภาพตามมาตรฐานสากล มีทักษะท่ีจำเป็นของโลก ศตวรรษท่ี ๒๑ สามารถในการแก้ปัญหา ปรบั ตวั สอื่ สาร และทำงานร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่างมปี ระสิทธิผล มนี สิ ยั ใฝเ่ รยี นรูอ้ ย่างต่อเน่อื งตลอดชีวิต ๒) คนไทยได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพตามความถนัดและความสามารถ ของพหุปญั ญา ตวั ชีวัด 1) คะแนน PISA ดา้ นการอา่ น คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ 2) อนั ดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศดา้ นการศึกษา 3) ความสามารถในการแขง่ ขันของประเทศไทยในระดบั สากลดีขึ้น (GTCI) โดยแผนแม่บทฯ ประกอบด้วย ๒ แผนยอ่ ย ดังน้ี 1) การปฏิรปกระบวนการเรยี นร้ที่ตอบสนองต่อการเปลย่ี นแปลงในศตวรรษท่ี ๒๑ ด้วยการปรับเปล่ียนระบบการเรียนรู้สำหรับศตวรรษท่ี ๒๑ โดยพัฒนากระบวนการเรียนรู้ ในทุกระดับช้ัน ต้ังแต่ปฐมวัยจนถึงอุดมศึกษา ที่ใช้ฐานความรู้และระบบคิดในลักษณะสหวิทยาการ พัฒนากระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียนทุกระดับการศึกษา รวมถึงจัดกิจกรรมเสริมทักษะเพ่ือพัฒนา ทักษะสำหรับศตวรรษท่ี ๒๑ พัฒนาระบบการเรียนรู้เชิงบูรณาการท่ีเน้นการลงมือปฏิบัติ มีการสะท้อนความคิด/ทบทวนไตร่ตรอง พัฒนาระบบการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนสามารถกำกับการเรียนรู้ ของตนได้ เพ่ือให้สามารถนำองค์ความรู้ไปใช้สร้างรายได้ รวมถึงมีทักษะด้านวิชาชีพและทักษะชีวิต เปล่ียนโฉมบทบาท “ครู” ให้เป็นครูยุคใหม่ โดยวางแผนการผลิต พัฒนาและปรับบทบาท “ครู คณาจารย์ยุคใหม่” ให้เป็น “ผู้อำนวยการการเรียนรู้” ปรับระบบการผลิตและพัฒนาครู ตั้งแต่ การดึงดูด คัดสรร ผู้มีความสามารถสูงให้เข้ามาเป็นครู ส่งเสริมสนับสนุนระบบการพัฒนา ศักยภาพและสมรรถนะครูอย่างต่อเนื่องครอบคลุมท้ังเงินเดือน สายอาชีพและระบบสนับสนุนอื่น ๆ การเพ่ิมประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการศึกษาในทุกระดับทุกประเภท โดยปฏิรูปโครงสร้างองค์กร ด้านการศึกษาให้มีประสิทธิภาพจัดให้มีมาตรฐานข้ันต่ำของโรงเรียนในทุกระดับเพื่อผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนที่สูงข้ึน ปรับปรุงโครงสร้างการจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพและเพ่ิมคุณภาพ การศึกษา ส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากภาคเอกชนในการจัดการศึกษา พัฒนาระบบประกันคุณภาพ การศึกษา โดยแยกการประกันคุณภาพการศึกษาออกจากการประเมินคุณภาพและการรับรอง คุณภาพและการกำกับดูแลคุณภาพการศึกษา ปฏิรูประบบการสอบท่ีนำไปสู่การวัดผลในเชิงทักษะ ท่จี ำเป็นสำหรับศตวรรษท่ี ๒๑ มากกว่าการวดั ระดับความรู้ รวมท้ังส่งเสรมิ การวิจัยและใช้เทคโนโลยี ในการสร้างและจัดการความรู้การเรียนการสอน และการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพ ท่ีสอดคล้องกับบริบทพื้นท่ี การพัฒนาระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยจัดให้มีระบบการศึกษา และระบบฝึกอบรมบนฐานสมรรถนะที่มีคุณภาพสูงและยืดหยุ่น มีมาตรการจูงใจและส่งเสริม สนับสนนุ ใหค้ นเขา้ สู่ใฝ่เรียนรู้ พัฒนาตนเอง รวมถงึ การยกระดบั ทักษะวิชาชพี พัฒนาระบบการเรยี นรู้ ชุมชนให้เข้าถึงได้ทุกท่ีทุกเวลา โดยความร่วมมือจากภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม พัฒนา

๒๔ ระบบเครือข่ายเทคโนโลยีดิจิทัลและดิจิทัลแฟลตฟอร์มเพ่ือการศึกษาในทุกระดับทุกประเภท การศึกษาอย่างท่ัวถึงและมปี ระสิทธภิ าพพัฒนาโปรแกรมประยุกตห์ รือส่ือการเรียนรู้ดิจิทัลท่ีมีคณุ ภาพ ที่นักเรียน นักศึกษาและประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ในการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง ผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้ รวมถึง การสร้างระบบการศึกษาเพ่ือเป็นเลิศทางวิชาการระดับนานาชาติ โดยส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพสถาบันการศึกษาที่มีความเชี่ยวชาญและมีความโดดเด่นเฉพาะสาขา สู่ระดับนานาชาติ สร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการและแลกเปลี่ยนนักเรียน นักศึกษา และบุคลากรในระดับนานาชาติ รวมถึงการพัฒนาศูนย์วิจัยเฉพาะทาง ศูนย์ฝึกอบรม และทดสอบ ในระดับภูมิภาค จัดให้มีการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยและประวัติศาสตร์ท้องถิ่น จัดให้มี การเรียนรู้ประวตั ิศาสตร์ ประเพณี วัฒนธรรมของไทยและพัฒนาการของประเทศเพ่ือนบ้านในระบบ การศึกษา และสำหรับประชาชน ส่งเสริมสนับสนุนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของเด็ก เยาวชน และนกั เรยี นกับประเทศเพือ่ นบ้านในภูมภิ าคเอเชยี อาคเนย์ เป้าหมาย คนไทยได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน มีทักษะการเรียนรู้ และทกั ษะทจี่ ำเป็นของโลกศตวรรษที่ ๒๑ สามารถเข้าถึงการเรยี นร้อู ย่างตอ่ เนอื่ งตลอดชวี ิต ตัวชีวดั 1) สัดส่วนครูผ่านการทดสอบสมรรถนะสาขาในระดับสูงตามมาตรฐานนานาชาติ 2) อตั ราความแตกต่างของคะแนน PISA ในแต่ละกลุ่มโรงเรียนลดลง 3) อตั ราการเขา้ เรยี นสุทธิระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น 2) การตระหนักถึงพหุปัญญา องมนุษย์ที่หลากหลาย ด้วยการพัฒนาและส่งเสริม พหุปัญญาผ่านครอบครัว ระบบสถานศึกษา สภาพแวดล้อม รวมท้ังสื่อ โดยพัฒนาระบบบริหาร จัดการ กลไกการคัดกรองและการส่งต่อเพื่อส่งเสริมการพัฒนาคนไทยตามพหุปัญญาให้เต็มตาม ศกั ยภาพ ส่งเสรมิ สนับสนนุ ครอบครัในการเสริมสร้างความสามารถพิเศษตามความถนัดและศกั ยภาพ ทั้งดา้ นกีฬา ภาษาและวรรณกรรม สุนทรียศลิ ป์ สง่ เสรมิ สนับสนนุ ระบบสถานศกึ ษาและสภาพแวดล้อม ที่เอื้อต่อการสร้างและพัฒนาเด็กและเยาวชนที่มีความสามารถพิเศษบนฐานพหุปัญญา ส่งเสริม สนบั สนุนมาตรการจงู ใจแก่ภาคเอกชน และส่ือในการมีส่วนร่วมและผลักดันให้ผ้มู ีความสามารถพิเศษ มีบทบาทเด่นในระดับนานาชาติ การสร้างเส้นทางอาชีพ สภาพแวดล้อมการทำงาน และระบบ สนบั สนนุ ที่เหมาะสมสำหรับผู้มีความสามารถพิเศษ โดยจัดให้มีโครงสร้างพนื้ ฐาน และระบบสนับสนุน เพื่อผู้มีความสามารถพิเศษได้สร้างความเข้มแข็งและต่อยอดได้ จัดให้มีกลไกการทำงานในลักษณะ การรวมตัวของกลุ่มผู้มีความสามารถพิเศษในหลากสาขาวิชา เพื่อรวมนักวิจัยและนักเทคโนโลยี ชั้นแนวหน้าเพ่ือพัฒนาต่อยอดงานวิจัยเพ่ือตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ และสร้างความร่วมมือ และเช่ือมต่อสถาบันวิจัยช้ันนำทั่วโลก เพ่ือสร้างความเข้มแข็งให้นักวิจัยความสามารถสูงของไทย ให้มศี กั ยภาพสงู ยง่ิ ขนึ้ เป้าหมาย ประเทศไทยมีระบบข้อมูลเพ่ือส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพตามพหุปัญญา เพอ่ื ประโยชนใ์ นการพัฒนาและการสง่ ต่อการพฒั นาใหเ้ ต็มตามศักยภาพ

๒๕ ตวั ชีวัด 1) สัดส่วนสถานศึกษาท่ีสามารถจัดการเรียนการสอนที่สร้างสมดุลทุกด้าน และมกี ารจดั การศึกษาเพ่ือพฒั นาพหปุ ญั ญารายบคุ คล 2) สัดส่วนเด็กและเยาวชนท่ไี ด้รบั การส่งต่อและพัฒนาตามศักยภาพ/พหุปัญญา 2.4.4 ประเดนการเสรมิ สรา้ งใหค้ นไทยมีสุ ภาวะทีด่ ี ยุ ท ธ ศ า ส ต ร์ช าติ ให้ ค ว าม ส ำ คั ญ กั บ ก าร พั ฒ น า ท รัพ ย า ก รม นุ ษ ย์ ให้ มี ค ว าม พ ร้อ ม ทงั้ ด้านร่างกาย จิตใจ และสขุ ภาวะ ประกอบกับการเป็นสังคมสูงวัย จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาทักษะ และระบบรองรบั การพฒั นาทม่ี ีคุณภาพ มาตรฐาน รวมถึงการสง่ เสริมการพฒั นาและการใชเ้ ทคโนโลยี การแพทย์ใหม่ ๆ เพ่ือเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับคนไทย และสร้างความมั่นคงให้กับระบบสาธารณสุข ของไทยในการส่งเสริมและดูแลสุขภาพและรักษาผู้ป่วยท้ังด้านร่างกายและจิตใจ โดยสถานการณ์ ด้านสุขภาวะของคนไทยยังมีความท้าทายในหลายประการโดยในช่วงท่ีผ่านมาคนไทยมีแนวโน้ม เป็นโรคไม่ติดต่อมากขึ้นซ่ึงเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตเนื่องจากการมีพฤติกรรมเส่ียงทางสุขภาพ ท่ีไม่เหมาะสม การขาดการออกกิจกรรมทางกายอย่างต่อเนื่อง สภาพการทำงานที่ส่งผลต่อวิถีชีวิต ระดับการศึกษา มลพิษในสิ่งแวดล้อม เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ของคนไทยที่มีอัตราสงู ถึง ๓๒.๗ คนตอ่ ประชากรแสนคน หรอื เป็นอนั ดบั ๙ ของโลกในปี ๒๕๕๙ เป้าหมายคนไทยมีสุขภาวะท่ดี ขี ึน้ และมคี วามเปน็ อยดู่ ี ตวั ชีวดั อายุคาดเฉลย่ี ของการมีสขุ ภาพดเี พ่ิมข้นึ ต่อเนื่อง โดยแผนแมบ่ ทฯ ประกอบดว้ ย ๕ แผนย่อย ดังน้ี 1) การสร้างความรอบร้ด้านสุ ภาวะและการป้องกันและควบคุมปัจจัยเส่ียง ท่ีคุกคามสุ ภาวะ โดยพัฒนาสื่อเพ่ือส่งเสริม และเผยแพร่องค์ความรู้ด้านสุขภาพและด้านสุขภาวะ ท่ีถูกต้อง พัฒนาภาคีเครือข่ายประชาชน ชุมชน ท้องถ่ิน ให้มีความรู้เก่ียวกับการเจ็บป่วยและ ตายจากโรคที่ป้องกันได้ สร้างเสริมความรู้เพ่ือเพิ่มศักยภาพในการจัดการสุขภาวะของคนทุกกลุ่มวัย การพัฒนาระบบเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุม และกลไกการส่ือสารประชาสัมพันธ์แบบบูรณาการ ทุกระดบั การพฒั นานโยบาย และมาตรการป้องกันและควบคมุ ปจั จัยเสย่ี งท่ีคุกคามสขุ ภาวะ เป้าหมาย ประชาชนมีความรอบรู้ด้านสุขภาวะสามารถดูแลสุขภาพ มีพฤติกรรม สุขภาพท่ีพึงประสงค์และสามารถป้องกันและลดโรคที่สามารถป้องกันได้ เกิดเป็นสังคมบ่มเพาะ จติ สำนกึ การมีสขุ ภาพดี ตัวชีวัด อัตราความรอบร้ดู ้านสุขภาวะของประชากร 2) การใช้ชุมชนเป็นฐานในการสร้างสภาพแวดล้อมท่ีเอือต่อการมีสุ ภาวะที่ดี โดยจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพ เพ่ือเอื้อต่อการยกระดับสุขภาวะของประชาชน ส่งเสริมสนับสนุน ให้เกิดมาตรการของภาครัฐท่ีสนับสนุนสินค้าที่เป็นมิตรต่อสุขภาพประชาชน การวิเคราะห์ความเสี่ยง การประเมินความต้องการด้านสุขภาพเพ่ือการกำหนดนโยบายและขับเคล่ือนการดำเนินงาน ด้านการป้องกันและควบคุมปัจจัยเสี่ยงท่ีคุกคามสุขภาวะในระดับชุมชน ตำบล อำเภอ และ ระดับจังหวัด สร้างการมีส่วนร่วมเฝ้าระวัง ป้องกัน และแก้ไขปัญหาสุขภาพและการพัฒนาคุณภาพ บริการอนามยั แบบบรู ณาการรว่ มกับชุมชน เป้าหมายจำนวนชุมชนสขุ ภาพดีเพม่ิ ข้ึน

๒๖ ตัวชีวัด อัตราการนอนโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น ด้วยภาวะที่ควรควบคุม ดา้ นบริการผ้ปู ว่ ยภายนอก (Ambulatory care sensitive condition: ACSC) ลดลง 3) การพัฒนาระบบบริการสุ ภาพท่ีทันสมัยสนับสนุนการสร้างสุ ภาวะท่ีดี โดยพัฒนาระบบบริการสุขภาพ ที่ทันสมัย ภายใต้ระบบการบริหารท่ีมีการกระจายอำนาจ มีประสิทธิภาพ พอเพียง เป็นธรรมและยั่งยืน พัฒนาขีดความสามารถในการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ การแพทย์และสาธารณสุข ปฏิรูประบบหลักประกันสุขภาพของประชา ชนตลอดช่วงชีวิต ให้มีประสิทธิภาพ โดยอยู่บนพื้นฐานความยั่งยืนทางการคลัง นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ มาใช้กับระบบบริการสุขภาพ และระบบสุขภาพทางไกล พัฒนาระบบฐานข้อมูลท่ีสามารถเชื่อมโยง ทกุ หนว่ ยงานที่เกีย่ วขอ้ งในระบบบรกิ ารสุขภาพ เปา้ หมาย ระบบสาธารณสุขทีไ่ ด้มาตรฐานทป่ี ระชากรทกุ ระดบั เขา้ ถึงได้ ตัวชีวดั การจดั อนั ดบั ประสทิ ธิภาพระบบบรกิ ารสุขภาพ 4) การกระจายบริการสา ารณ สุ อย่างทั่วถึงและมีคุณ ภาพ มีเป้าหมาย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการทางสาธารณสุข ด้วยการพัฒนาสถานพย าบาล ให้เพ่ิมกำลังคนและนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยในการขยายการให้บริการ รวมทั้งยกระดับคุณภาพ การใหบ้ ริการตามมาตรฐานสากลทวั่ ทกุ พ้ืนที่ เปา้ หมาย การเขา้ ถงึ บริการสาธารณสุขมีความเหลือ่ มลำ้ ลดลง ตวั ชีวัด ดชั นคี วามกา้ วหนา้ ของการพฒั นาคนด้านสขุ ภาพ 5) การพัฒนาและสร้างระบบรับมือปรับตัวต่อ รคอุบัติใหม่และอุบัติซำ ที่เกิดจากการเปล่ียนแปลงภ มิอากาศ ให้ความสำคัญ กับเผยแพร่ความรู้สุขภ าพและ สร้างความตระหนักของประชาชน เรื่องโรคอุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้ำท่ีเกิดจากการเปลี่ยนแปลง ภูมิอากาศ พัฒนาโครงสร้างระบบสาธารณสุข เครือข่ายเตือนภัยและเฝ้าระวังโรคและภัยสุขภาพ ให้มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพในการรองรับการปรับตัวจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พัฒนา และยกระดับระบบรับมือปรับตัวต่อโรคอุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้ำท่ีเกิดจากการเปล่ียนแปลง ภมู ิอากาศ ได้แก่ ระบบสาธารณสุขสิ่งแวดล้อมและเวชศาสตร์ป้องกันท้ังระบบ การตดิ ตามตรวจสอบ และเฝ้าระวังโรคอุบัติใหม่และอุบัติซ้ำ รวมท้ังศึกษาวิจัยสร้างองค์ความรู้ด้านการส่งเสริมสุขภาพ และการป้องกันโรคในประชากรทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เพ่ิมขี ดความสามารถ ในการติดตาม วิเคราะห์และประเมินแนวโน้มสถานการณ์ปัญหาโรคอุบัติใหม่และอุบัติซ้ำ และ สรา้ งความพร้อมของภาคีเครือขา่ ยในการรบั มือกับภาวะฉุกเฉนิ จากโรคระบาดต่าง ๆ เป้าหมาย ประชาชนมีความรอบรู้สุขภาพ เร่ืองอุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้ำ ทเี่ กดิ จากการเปลย่ี นแปลงภูมิอากาศมากข้นึ ตัวชีวัด สัดส่วนประชาชนที่มีความรู้สุขภาพ เรื่องโรคอุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้ำ ที่เกดิ จากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (ร้อยละของประชากรทั้งหมด) 2.4.5 ประเดนการบริการประชาชนและประสิท ิภาพภาครฐั ก า ร ป รั บ ส ม ดุ ล แ ล ะ พั ฒ น า ร ะ บ บ ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร ภ า ค รั ฐ เป็ น ทั้ ง เป้ า ห ม า ย และเคร่ืองมือกลไกในการรองรับการขับเคล่ือนของยุทธศาสตร์ชาติด้านอ่ืน ๆ ให้สามารถดำเนินการ จนบรรลุเป้าหมายและวิสัยทศั น์ที่วางไว้ ดังน้ันแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตรช์ าติ ประเดน็ การบริการ

๒๗ ประชาชนและประสิทธิภาพภาครัฐจึงมุ่งเน้นพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐให้มีความทันสมัย มีขนาดเหมาะสมกับภารกิจมีสมรรถนะสูง ตอบสนองปัญหาความต้องการของประชาชน และสนับสนุนให้เป็นประเทศไทย ๔.๐ ท่ีสามารถก้าวทันความเปลี่ยนแปลง และพัฒนาได้อย่างยั่งยืน ด้วยหลักการ “ภาครัฐของประชาชนเพื่อประชาชนและประโยชน์ส่วนรวม” ท้ังน้ีเพื่อให้เป็นไป ตามหลักการข้างต้น แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติฉบับน้ีจึงให้ความสำคัญกับความพึงพอใจ ของประชาชนในคุณ ภาพการให้บริการของภาครัฐ ซ่ึงจะต้องมีไม่น้อยกว่าร้อยละ ๙๐ ภายในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๘๐ โดยการประเมินความพึงพอใจของประชาชนฯ ในปี พ.ศ. ๒๕๖๑ พบว่าประชาชนชาวไทยมีความพึงพอใจต่อการให้บริการของภาครัฐร้อยละ ๘๔ ซึ่งพิจารณา จากสองปัจจัยหลักได้แก่ความพึงพอใจด้านกระบวนการข้ันตอนในการให้บริการ และด้านเจ้าหน้าท่ี ผูใ้ ห้บริการ อย่างไรก็ตามจะมีการปรับเพม่ิ ปัจจัยในการให้บรกิ ารเพ่ือให้เกิดการสะท้อนความพึงพอใจ ของประชาชนไดอ้ ยา่ งแท้จริง เปา้ หมาย บรกิ ารของรัฐมีประสทิ ธิภาพและมีคณุ ภาพเปน็ ทย่ี อมรบั ของผใู้ ช้บรกิ าร ตวั ชีวัด ระดบั ความพึงพอใจในคุณภาพการให้บริการของภาครัฐ นอกจากน้ี แผนแม่บทฯ ฉบับนี้ยังให้ความสำคัญกับการเพ่ิมประสิทธิภาพภาครัฐ ให้มีมาตรฐานเทียบเท่าสากล เป็นที่ยอมรับในเวทีโลก ซ่ึงสามารถสะท้อนได้จากดัชนีรัฐบาล อิเล็กทรอนิกส์ในการจัดลำดับขององค์กรสหประชาชาติ ที่กำหนดให้ประเทศไทยจะต้องได้รับ การจัดอันดับให้อยู่ใน ๑ ใน ๑๐ ของโลกภายในช่วงปี พ.ศ ๒๕๖๑ – ๒๕๘๐ ซึ่งประเทศไทย อยใู่ นอนั ดบั ท่ี ๗๓ จาก ๑๙๓ ประเทศทั่วโลกในปี ๒๕๖๑ เป้าหมาย ภาครัฐมีการดำเนินการท่ีมีประสิทธิภาพด้วยการนำนวัตกรรม เทคโนโลยี มาประยุกต์ใช้ ตัวชีวดั อนั ดับดชั นีรัฐบาลอิเลก็ ทรอนกิ ส์ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติประเด็น การบริการประชาชนและประสิทธิภาพ ภาครัฐ จึงมุ่งเน้นพัฒนาการให้บริการของรัฐมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับ ของผู้ใช้บริการโดยเป็นการพัฒนาแบบครอบคลุมท่ัวถึง บูรณาการไร้รอยต่อ ให้ความสำคัญ กับการพัฒนาบริการดิจิทัล และมุ่งดำเนินการพัฒนาระบบอำนวยความสะดวกในการบริการภาครัฐ เพ่ือให้ประชาชนและผู้รับบริการทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้โดยง่ายสะดวก รวดเร็ว โปร่งใส มีหลากหลายช่องทาง สามารถตรวจสอบได้ และไม่มีข้อจำกัดของเว ลา พ้ืนที่ และกลุ่มคน ร ว ม ท้ั ง น ำ น วั ต ก ร ร ม เท ค โน โล ยี ดิ จิ ทั ล ม า ป ร ะ ยุ ก ต์ ใช้ เพื่ อ เพ่ิ ม ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ แ ล ะ ล ด ค่ า ใช้ จ่ า ย ของประชาชน โดยแผนแมบ่ ทฯ ประกอบดว้ ย 5 แผนย่อย ดังน้ี 1) การพัฒนาบริการประชาชน เพ่ือให้บริการภาครัฐสามารถอำนวยความสะดวก ประชาชนได้อยา่ งรวดเรว็ โปร่งใส ให้เป็นภาครัฐของประชาชน และเป็นไปเพ่ือประชาชนอย่างแท้จริง จากการนำเทคโนโลยีดจิ ทิ ลั และนวัตกรรมมาประยุกตใ์ ช้ในการใหบ้ รกิ ารประชาชน เปา้ หมาย งานบรกิ ารภาครฐั ที่ปรบั เปล่ียนเปน็ ดิจทิ ัลเพมิ่ ขึ้น ตวั ชวี ัด สดั สว่ นความสำเรจ็ ของกระบวนงานทีไ่ ด้รบั การปรับเปล่ียนให้เป็นดิจทิ ัล

๒๘ 2 ) ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร ก า ร เงิน ก า ร ค ลั ง เพื่ อ ให้ เกิ ด ป ระ โย ช น์ สู งสุ ด ของการใช้งบประมาณ และทรัพยากรของภาครัฐ และการจัดการรายได้และรายจ่าย อย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า เป็นไปอย่างประหยัด และสอดคล้องกับการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ ชาติ ซ่ึงจะกอ่ ให้เกิดการพัฒนาประเทศท่ีเป็นไปในทิศทางเดียวกนั อย่างมีจุดมุ่งหมาย โดยมีเป้าหมาย ดังนี้ เปา้ หมาย หน่วยงานภาครัฐบรรลุผลสัมฤทธต์ิ ามเป้าหมายยทุ ธศาสตรช์ าติ ตวั ชวี ดั ร้อยละของโครงการท่มี ผี ลสัมฤทธิ์ตอ่ เปา้ หมายยุทธศาสตรช์ าติ 3) การปรับสมดุลภาครัฐ เพ่ือให้ภาคส่วนอ่ืน ๆ อาทิภาคประชาชน ภาคเอกชน ห รื อ ป ร ะ ช า รั ฐ โม เด ล เข้ า ม า แ บ่ ง เบ า ภ า ร กิ จ ใน ก า ร แ ก้ ไข ปั ญ ห า แ ล ะ ต อ บ ส น อ ง ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร ของประชาชนในพ้ืนที่ ส่งผลให้ภาครัฐมีขนาดท่ีเหมาะสมและทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ เพอื่ ก่อใหเ้ กดิ บรกิ ารสาธารณะเพื่อประชาชนมีเป้าหมาย ดงั นี้ เปา้ หมาย 1) เปิดโอกาสให้ภาคส่วนต่าง ๆ มีส่วนร่วมในการจัดบริการสาธารณะและ กจิ กรรมสาธารณะอยา่ งเหมาะสม 2) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีสมรรถนะและสร้างความทันสมัย ในการจดั บรกิ ารสาธารณะและกจิ กรรมสาธารณะใหก้ บั ประชาชน ตัวชีวัด ระดับความสำเร็จการเปิดให้ภาคส่วนอ่ืนเข้ามาดำเนินการบริการ สาธารณะ 4) การพัฒนาระบบบริหารงานภาครัฐ เพื่อประโยชน์ในการบริหารการตัดสินใจ และการบริการที่เป็นเลิศรวมทั้งเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนและภาคประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ภาครัฐ และเพิ่มโอกาสในการแข่งขันและประโยชน์ในการดำเนินชีวิต โดยเน้นการพัฒนาระบบ ฐานข้อมูลภาครัฐและการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ให้วิธีการทำงานของหน่วยงานราชการ เป็นไปอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ โดยมเี ป้าหมาย ดังน้ี เป้าหมาย ภาครัฐมขี ีดสมรรถนะสูงเทยี บเทา่ มาตรฐานสากลและมคี วามคล่องตวั ตัวชีวดั 1) ระดับ Digital Government Maturity Model (Garthner) 2) สัดสว่ นของหน่วยงานทบ่ี รรลุผลสัมฤทธอิ์ ยา่ งสงู ตามเป้าหมาย 5) การสร้างและพัฒนาบุคลากรภาครัฐ เพื่อให้บุคลากรภาครัฐเป็นคนดีคนเก่ง มีคุณธรรม มีจริยธรรม มีจิตสำนึก มีความสามารถสูง มีภาวะผู้นำ และมีความรู้ความสามารถ ในการทำงานรับใช้ประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง มีทักษะในการปฏิบัติงานที่ทันสมัย และทันตอ่ การเปลีย่ นแปลงของโลก โดยกำหนดเป้าหมาย ดงั น้ี เป้าหมาย บุคลากรภาครฐั ยึดคา่ นิยมในการทำงานเพือ่ ประชาชน ยึดหลักคุณธรรม จริยธรรมมจี ิตสำนึก มคี วามสามารถสูง มุ่งม่นั และเปน็ มอื อาชีพ ตัวชวี ดั 1) ดชั นีความผกู พนั ของบุคลากรภาครัฐ 2) สดั ส่วนเจ้าหนา้ ทก่ี ระทำผิดกฎหมายลดลง

๒๙ 2.5 อำนาจหนา้ ท่ีคณะกรรมการตดิ ตาม ตรวจสอบ ประเมนิ ผลและนิเทศการศกึ ษา (ก.ต.ป.น.) ความหมาย อง ก.ต.ป.น. ก.ต.ป.น. ย่อมาจากคำว่า คณ ะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลและ นิเทศการศึกษา หมายถึง องค์คณะ บุคคลท่ีมีบทบาท อำนาจหน้าท่ี ในการบริหารงานวิชาการ ใน ร ะ ดั บ เข ต พื้ น ที่ ก า ร ศึ ก ษ า ต า ม ท่ี ก ฎ ห ม า ย ก ำ ห น ด โด ย มี อ งค์ ป ร ะ ก อ บ ข อ ง ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ทั้งในส่วนของเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา เป็นประธานกรรมการ ตัวแทนผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัด และผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก ทำงานร่วมกับสำนักงานเขตพื้นท่ี การศึกษาในการศึกษา วิเคราะห์ วิจัย นิเทศติดตามตรวจสอบและประเมินผลการบริหารและ การดำเนินการ โดยมุ่งเน้นผลสัมฤทธ์ิของหน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัดเขตพื้นที่การศึกษา เพอ่ื เตรยี มรับการนิเทศ ติดตามตรวจสอบ และประเมนิ ผลจากหน่วยงานภายนอก การตรวจสอบ (Inspection) หมายถึง การกำกับ ดูแล เพื่อปรับปรุงพัฒนาการบริหาร การจดั การศึกษาและดำเนินไปตามมาตรฐานการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานท่ีกำหนดไว้ การประเมินผล (Evaluation) หมายถึง การตีค่าผลการบริหารการจัดการศึกษา และ ดำเนินไปตามมาตรฐาน การศึกษาขั้นพื้นฐานที่กำหนดไว้ โดยเปรียบเทียบกับเกณฑ์และเป้าหมาย ที่กำหนดไว้ การนิเทศการศึกษา (Supervision) หมายถึง ความร่วมมือระหว่างเขตพื้นท่ีการศึกษา และ สถานศึกษาในสังกัด กับคณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินและ นิเทศการศึกษาของเขตพื้นที่ การศกึ ษา โดยการใหค้ ำปรึกษา แนะนำ สง่ เสริม สนบั สนนุ เพื่อปรับปรงุ พัฒนา อำนาจหน้าที่ ก.ต.ป.น. ท่ีได้แก้ไ ตามระเบียบกระทรวงศึกษา ิการว่าด้วยการตรวจ ราชการ การติดตาม ตรวจสอบ และ ประเมินผลการจัดการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๐ ส่วนท่ี ๔ การติดตาม ตรวจสอบ ประเมนิ ผลและนเิ ทศการศึกษา ระดับเ ตพนื ทกี่ ารศึกษา การติดตาม ประเมินผลและนิเทศการศึกษาระดับเขตพ้ืนที่การศึกษา เป็นการศึกษา วิเคราะห์ วิจัย นิเทศ ติดตาม และประเมินผลการบริหารและการดำเนินการโดยมุ่งผลสัมฤทธิ์ ของหน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัดเขตพื้นท่ีการศึกษา เพ่ือเตรียมการรับการนิเทศติดตาม และ ประเมินผลจากหน่วยงานภายนอก ให้คณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และ นิเทศการศึกษาของเขตพื้นที่ การศึกษา (ก.ต.ป.น.) ตามกฎกระทรวงว่าด้วยการ กำหนด จำนวน หลักเกณฑ์ และวิธีการได้มา ของคณะกรรมการติดตามตรวจสอบ ประเมินผล และนิเทศการศึกษา ของเขตพ้นื ท่ีการศึกษา พ.ศ.๒๕๔๘ มอี ำนาจหน้าท่ี ดังตอ่ ไปน้ี (๑) ส่งเสริม สนับสนุนให้มีการนำมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน มากำหนดเป็นแนวทาง ในการติดตาม ประเมินผลและนิเทศการบริหารและการดำเนินการของหน่วยงานและ สถานศกึ ษา ในสังกัดเขตพืน้ ท่ีการศึกษา

๓๐ (๒) กำหนดแนวทางการศึกษา วิเคราะห์ วิจัย การบริหารและการดำเนินการของหน่วยงาน และ สถานศกึ ษาในสงั กัดเขตพืน้ ที่การศึกษา (๓) พิจารณาแผนการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลและนิเทศการศึกษา โดยมุ่งเน้น ผลสมั ฤทธ์ิของหน่วยงานและสถานศกึ ษาในสงั กัดเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษา (๔) ตดิ ตาม ประเมินผลและนเิ ทศการบรหิ ารและการดำเนนิ การตามแผนที่กำหนด (๕) รับทราบผลการติดตาม ประเมินผลและนิเทศการบริหารและการดำเนินการตามแผน และ ให้ข้อเสนอแนะ เพอื่ การปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างตอ่ เนอ่ื ง (๖) ส่งเสรมิ ใหม้ ีการประสานงานการติดตาม ประเมินผล และนิเทศการศึกษา กบั คณะกรรมการ และหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง (๗) แต่งตงั้ คณะอนุกรรมการตดิ ตาม ตรวจสอบ ประเมนิ ผลการจดั การศกึ ษาตามความจำเป็น (๘) ปฏิบัติงานอื่นใดตามท่ไี ด้รับมอบหมาย 2.6 มาตรฐานการปฏบิ ตั ิงาน รงเรียนมั ยมศกึ ษา พ.ศ. 2560 (ปรบั ปรุง พ.ศ.2562) มาตรฐานการปฏิบัติงานโรงเรียนมัธยมศึกษา พ.ศ. 2560 (ปรับปรุง พ.ศ.2562) ฉบับน้ี แบง่ ออกเป็น 2 ด้าน คอื 1. มาตรฐานการปฏิบัติงานด้านปริมาณ นำไปใช้เพ่ือให้โรงเรียนได้ทราบถึงเกณฑ์ การจัดสรรตา่ งๆทคี่ วรจะเป็น 2. มาตรฐานการปฏิบัติงานด้านคุณภาพ นำไปใช้เพ่ือประเมินมาตรฐานการปฏิบัติงาน ทเี่ ปน็ ความจำเปน็ พน้ื ฐานของโรงเรียนมัธยมศึกษา โดยมาตรฐานการปฏิบัติงานท้ัง 2 ด้าน มีเน้ือหาสาระสำคัญครอบคลุมกลไกการบริหาร โรงเรียนตามขอบข่ายและภารกิจการบริหารโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพ้ืนฐาน ได้แก่ การบริหารวิชาการ การบริหารงบประมาณ การบริหารงานบุคคล และการบริหาร ทวั่ ไป ซ่งึ ประกอบดว้ ย เร่อื งต่างๆ ดงั น้ี 1) งานแผนงานและประกันคณุ ภาพ 2) งานวชิ าการ 3) งานกจิ การนักเรยี น 4) งานบคุ คล 5) งานธุรการ 6) งานการเงนิ และพัสดุ 7) งานบริการอาคารสถานท่แี ละสภาพแวดลอ้ ม 8) งานชุมชนและภาคเี ครอื ข่าย ในแต่ละเร่ืองมีแนวทางการประเมินมาตรฐานการปฏิบัติงาน ดยแบ่งออกเป็นระดับ คุณภาพ 5 ระดบั ถ้ามรี ะดับคณุ ภาพ 3 นึ ไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์

๓๑ 2.7 บรบิ ท องจังหวดั จนั ทบรุ ี และจังหวัดตราด 2.7.1 อ้ มลพนื ฐานทั่วไป สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษาจันทบุรี ตราด เป็นหน่วยงานภาครัฐ สังกัดสำนักงาน คณะกรรมการศึกษาข้ันพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการจัดต้ังข้ึนตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ประกาศ ณ วันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เร่ือง การกำหนดเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษา ตามพระราชัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553 และพระราชบัญญัติระเบียบบริหาร ราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2553 กำหนดให้มีเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษา และเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศกึ ษา จำนวน 42 เขต เดิมชื่อ สำนักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 17 ต่อมาได้มีประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เร่ือง การกำหนดและแก้ไขเปล่ียนแปลงเขตพ้ืนที่ การศึกษามัธยมศึกษา ได้กำหนดเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา และที่ต้ังของสำนักงานเขตพ้ืนที่ การศึกษามัธยมศึกษา เพ่ือบริหารและจัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐานระดับมัธยมศึกษา จำนวน 62 เขต ประกาศ ณ วันท่ี 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 และเปล่ียนชื่อเป็นสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา มัธยมศึกษาจันทบุรี ตราด ตั้งอยู่ที่ อำภอเมืองจันทบุรี โดยสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษา จันทบุรี ตราด มีหน้าท่ีส่งเสริม สนับสนุน กำกับติดตามการบริหารจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับ มัธยมศึกษา ให้มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ประกอบด้วย โรงเรียนในจังหวัดจันทบุรี 23 โรงเรียน ในจังหวดั ตราด 16 โรงเรยี น รวมท้ังส้นิ 39 โรงเรียน สภาพทว่ั ไป องสำนักงานเ ตพนื ท่ีการศึกษามั ยมศึกษาจนั ทบรุ ี ตราด 1. ทต่ี ัง และอาณาเ ต ทีต่ ัง สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษามัธยมศึกษาจันทบรุ ี ตราด เดิมต้ังอยู่ที่ อาคารเอนกประสงค์ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ ร 9 ถนนท่าแฉลบ ตำบลตลาด จังหวัดจันทบุรี ของเทศบาลเมืองจันทบุรี เปน็ สำนักงานช่ัวคราวเป็นเวลา 1 ปี จากนั้นไดย้ ้ายสำนักงานไปตั้งท่ชี ้ันล่างของอาคารหอประชุมพุทธมณฑล หมู่ 8 ตำบลบางกะจะ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ซ่ึงสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจันทบุรี ตราด ได้ประสานสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 1 ขอใช้บ้านพักศึกษาธิการจังหวัด ซ่ึงปลูกสร้างบนท่ีแปลงหมายเลขทะเบียน จบ.224 ถนนพิทักษ์สันติราษฎร์ ตำลวัดใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี เพื่อก่อสร้างอาคารสำนักงานถาวร แบบอาคารสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา (สพป/สพม) แบบที่ 4 ได้รับจัดสรรงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ 2559 จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขน้ั พื้นฐาน ในการก่อสรา้ ง จำนวน 9,941,000 บาท ปัจจุบันสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษาจันทบุรี ตราด ตั้งอยู่เลขที่ 9 ถนนศรียานุสรณ์ ตำบลวัดใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี รหัสไปรษณีย์ 22000 หมายเลขโทรศัพท์ 039-314402 หมายเลขโทรสาร 039-314402 ต่อ 20 เว็บไซต์ http://www.sesa17.go.th/ มี พิ กั ด ต ำบ ล ท่ี ท างภู มิ ศาส ต ร์ ละติ จู ด (Latitude) 12.6137355 ลอ งจิ จู ด (Longitude) 102.110519 ระยะทางจากจงั หวัดจันทบุรีไปจังหวัดตราด 70 กม.

๓๒ ศูนย์ประสานงานสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษาจันทบุรี ตราด (จังหวัดตราด) ท่ีต้ัง อาคารเอนกประสงค์โรงเรียนตราษตระการคุณ อำเภอเมือง จังหวัดตราด รหัสไปรษณีย์ 23000 หมายเลขโทรศัพท์ 082-4752837 อาณาเ ต จังหวัดจันทบุรี ต้ังอยู่ชายฝั่งทะเลด้านทิศตะวันออกของอ่าวไทย ระยะทางห่างจาก กรุงเทพมหานคร เป็นระยะทาง 245 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 6,338 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 3,961,250 ไร่ คิดเป็นรอ้ ยละ 16.63 ของพืน้ ทภี่ าคตะวนั ออก และเท่ากับร้อยละ 1.8 ของพน้ื ที่ท้ังประเทศ ทิศเหนือ ตดิ ตอ่ กับ อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชงิ เทรา และอำเภอวังสมบูรณ์ อำเภอคลองหาด จงั หวดั สระแก้ว ทศิ ใต้ ติดต่อกบั ทะเลอ่าวไทย (มีแนวชายฝง่ั ทะเลยาวประมาณ 87 กโิ ลเมตร) ทิศตะวันออก ติดต่อกับ อำเภอบ่อไร่ อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด และจังหวัดพระ ตะบอง ราชอาณาจกั รกัมพชู า (แนวเขตยาวประมาณ 86 กโิ ลเมตร) ทิศตะวันตก ติดต่อกับ อำเภอเขาชะเมา อำเภอแกลงจังหวัดระยอง และ อำเภอบอ่ ทอง จงั หวดั ชลบุรี จังหวัดตราด เป็นจังหวัดชายแดนสุดฝั่งทะเลตะวันออก มีรูปร่างลักษณะคล้ายหัวช้าง อาณาเขตด้านชายแดนติดกับประเทศกัมพูชาทั้งทางบกและทางทะเล ยาว 330 กิโลเมตร โดยทางบก ติดกับทางจังหวัดของประเทศกัมพูชา ได้แก่ จังหวัดพระตะบอง จังหวัดโพธิสัต และจังหวัดเกาะกง ซ่ึงมีแนวชายแดนธรรมชาติติดทิวเขาบรรทัด เป็นเส้นแบ่งเขตแดนตลอดแนวยาว 165 กิโลเมตร และ มีแนวอาณาเขตทางทะเลยาว 165.5 กิโลเมตร มีพ้ืนท่ีขนาดเล็ก เป็นอันดับ 4 ของ ภาคตะวันออก และ เป็นอนั ดับที่ 62 ของประเทศ อยหู่ ่างจากกรุงเทพมหานคร ตามเสน้ ทางสายใหม่ บางนา-บ้านบึง-แกลง-ตราด เป็นระยะทาง 315 กิโลเมตร มีพื้นที่ทางบก 2,819 ตารางกิโลเมตร (1,761,000 ไร่) พ้ืนที่ปกครองทาง ทะเล 7,257 ตารางกิโลเมตร มอี าณาเขตติดต่อกับจงั หวัดใกล้เคียง และประเทศเพ่อื นบา้ น ดังนี้ ทศิ เหนือ ติดตอ่ กบั อำเภอขลุง จงั หวดั จันทบรุ ี และราชอาณาจักรกัมพชู า ทศิ ใต้ ตดิ ตอ่ กบั อา่ วไทย และนา่ นน้ำทะเล ราชอาณาจักรกมั พูชา ทศิ ตะวันออก ติดตอ่ กบั ราชอาณาจักรกัมพูชา มที ิวเขาบรรทัดเปน็ แนวกน้ั เขตแดน ทศิ ตะวันตก ติดต่อกบั อำเภอขลุง จังหวัดจนั ทบุรี การปกครองและประชากร 1) การปกครอง จังหวัดจันทบุรีแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 10 อำเภอ 76 ตำบล 731 หมู่บ้าน 33 ชุมชน องค์การปกครองส่วนท้องถ่ิน จำนวน 82 แห่ง ประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง เทศบาลเมือง 5 แหง่ เทศบาลตำบล 42 แหง่ และองค์การบริหารส่วนตำบล 34 แห่ง จังหวัดตราดแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 7 อำเภอ 38 ตำบล 261 หมู่บ้าน องค์การปกครองส่วนท้องถ่ิน จำนวน 44 แห่ง ประกอบด้วย องค์การบรหิ ารส่วนจังหวัด 1 แห่ง เทศบาลเมือง 1 แห่ง เทศบาลตำบล 13 แหง่ และองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำบล 29 แห่ง

๓๓ 2) ประชากร จงั หวัดจันทบุรี มีประชากร รวมทั้งสน้ิ 537,685 คน เป็นชาย 263,484 คน เป็นหญิง 274,201 คน (ทมี่ า : กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ณ วันท่ี 31 ธนั วาคม 2563) จังหวัดตราด มีประชากร รวมทั้งสิ้น 2,297,49 คน เป็นชาย 114,150 คน เป็นหญิง 115,599 คน (ที่มา : กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ณ วันที่ 31 ธนั วาคม 2563) แผนที่ตงั สถานศึกษาในสงั กัด แผนภาพท่ี 3 แสดงแผนทตี่ ้ังสถานศกึ ษาในสังกดั สำนักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษามธั ยมศึกษาจนั ทบุรี ตราด 2. วสิ ัยทัศน์ คำ วัญ สญั ลักษณ์ วสิ ยั ทศั น์ประจำจังหวดั จนั ทบรุ ี จันทบรุ ีเมอื งเกษตรปลอดภยั เศรษฐกจิ มลู ค่าสงู สงั คมมีสุขบนวถิ พี อเพียง คำ วัญประจำจงั หวัดจนั ทบุรี น้ำตกลือเลื่อง เมืองผลไม้ พริกไทยพันธ์ุดี อัญมณีมากเหลือ เส่ือจันทบูร สมบูรณ์ ธรรมชาติ สมเด็จพระเจา้ ตากสินมหาราช รวมญาติ กชู้ าติทจ่ี นั ทบรุ ี

๓๔ สญั ลักษณ์ประจำจังหวัดจันทบรุ ี รูปกระต่ายอยู่ในดวงจันทร์ เปล่งแสงเป็นประกาย แสงจันทร์ หมายถึง ความสวยงาม เยือกเย็น ละมุนละไม เปรียบได้กับความสงบ ร่ืนรมย์ และร่มเย็นเป็นสุขของภูมิภาคน้ี รูปกระต่ายเป็นสัญลักษณ์ส่วนหน่ึงของดวงจันทร์ ซ่ึงชาวไทยทั่วไปเช่ือว่ามีอยู่เช่นน้ันมาแต่ ดึกดำบรรพ์ เช่นเดียวกับที่จันทบุรีเป็นเมืองโบราณมีชื่อปรากฎอยู่ในพงศาวดารมาต้ังแต่แรกสร้าง กรงุ ศรีอยธุ ยา วสิ ยั ทัศน์ประจำจังหวดั ตราด จันทบรุ เี มอื งเกษตรปลอดภัย เศรษฐกิจมูลคา่ สงู สังคมมีสุขบนวิถพี อเพียง คำ วญั ประจำจังหวดั ตราด เมืองเกาะครึ่งร้อย พลอยแดงค่าล้ำ ระกำแสนหวาน หลังอานหมาดี ยุทธนาวี เกาะช้าง สุดทางบรู พา สัญลักษณ์ประจำจงั หวัดตราด เคร่ืองหมายประจำจังหวัดตราดได้กำเนิดข้ึนเมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๔๘๓ โดย คณะกรมการจังหวัดตราด ได้พิจารณาปรึกษาหารือกับข้าราชการ พ่อค้า คหบดี มีความเห็นร่วมกัน เป็นส่วนมากเลือกเอารูปธรรมชาติที่ดี เด่นที่สุดของจังหวัดตราดเป็นเครื่องหมายประจำจังหวัด คือ รูปเกาะช้าง ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ท่ีสุดของจังหวัด เคยเป็นท่ีตั้งอำเภอมาระยะหน่ึง เรียกว่า อำเภอ เกาะช้าง ซ่ึงต้ังอยู่ชายฝั่งทะเลตะวันออกของอ่าวไทย ด้านหน้าของรูปเกาะช้างมีโป๊ะ และเรือใบ ความหมายกค็ อื ตามทอ้ งทะเลรอบๆเกาะชา้ งเปน็ แหลง่ การประมง มีการทำโป๊ะ จับปลาอยู่มากแห่งและชุมไปด้วยสัตว์ทะเลต่าง ๆ สำหรับเรือใบนั้น มีความหมายให้ระลึกถึงว่าเมืองตราดได้ก่อต้ังข้ึนก่อนสมัยกรุงธนบุรี ในสมัยน้ันต้องใช้เรือใบติดต่อ กับจังหวัดข้างเคียงและต่างประเทศ จึงให้มีภาพเรือใบปรากฏอยู่(เดิมจังหวัดตราดใช้ ตราประจำ จงั หวัดเปน็ รูปเรอื รบหลวงตราด)

๓๕ 2.7.2 ทิศทางในการพัฒนาการจดั การศกึ ษาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 – 2565 (ฉบบั ทบทวน) สำนกั งานเขตพื้นที่การศึกษามธั ยมศกึ ษาจันทบุรี ตราด ได้กำหนดทศิ ทางในการพัฒนาการ จัดการศึกษาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 – 2565 (ฉบับทบทวน) ท่ีสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ 2561-2580) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ีสิบสอง พ.ศ. 2560 – 2564 แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2579 นโยบายและจุดเน้น กระทรวงศึกษาธิการ ปีงบประมาณ 2564 นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 -2565 ที่เกิดจากการเปิดโอกาสให้ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในการจัดการศึกษา มีส่วนร่วมในการวางแผนในการพัฒนาการจัดการศึกษาของสำนักงานเขตพ้ืนที่ การศึกษา ประกอบด้วย วิสัยทัศน์ พันธกิจ ค่านิยมองค์กร เป้าประสงค์ กลยุทธ์ งาน /โครงการ กจิ กรรมการดำเนนิ การ รายละเอียด ดงั นี้ วิสยั ทัศน์ (Vision) “บริหารจดั การศึกษา โดยยึดหลกั ธรรมาภบิ าล สู่คุณภาพท่ียั่งยนื ” พัน กจิ (Mission) 1. จัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างความม่ันคงของสถาบันหลัก ของชาติและการปกครอง ในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมุข 2.พั ฒ น า ผู้ เรี ย น ให้ มี ค ว า ม ส า ม า ร ถ มี ค ว า ม เป็ น เลิ ศ ท า งวิ ช า ก า ร เพื่ อ สร้างขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั 3. พัฒนาศักยภาพและคุณภาพผู้เรียนให้มีสมรรถนะตามหลักสูตรและทักษะท่ี จำเป็น ในศตวรรษท่ี 21 4.สร้างโอกาส ความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำ ให้ผู้เรียนทุกคนได้รับบริการ ทางการศกึ ษาอย่างทัว่ ถงึ และเท่าเทียม 5.พัฒนาผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศกึ ษาให้เปน็ มืออาชีพ 6.จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม ยึดหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง และเปา้ หมายการพฒั นาท่ียั่งยนื 7.พัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล เน้นการมีส่วนร่วม และ จดั การศกึ ษาโดยใชเทคโนโลยดี ิจทิ ลั (Digital Technology) มงุ่ สู่ Thailand 4.0 เปา้ ประสงค์ (Goals) 1. ผู้เรียนมีความรักในสถาบันหลักของชาติ และยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง มีหลักคิดที่ถูกต้อง และ เป็นพลเมืองดีของชาติ มีคุณธรรม จริยธรรม มีค่านิยมที่พึงประสงค์ มีจิตสาธารณะ รับผิดชอบต่อสังคม และผู้อืน่ ซอ่ื สัตย์ สุจริต มัธยสั ถ์ อดออม โอบอ้อมอารี มวี นิ ยั รกั ษาศลี ธรรม 2. ผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ศิลปะ ดนตรี กีฬา ภาษา และอน่ื ๆ ได้รบั การพฒั นาอยา่ งเตม็ ตามศักยภาพ 3. ผู้เรียน เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ คิดริเร่ิมและสร้างสรรค์นวัตกรรม มีความรู้ มที กั ษะ มีสมรรถนะตามหลกั สูตร และคุณลักษณะของผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21 มสี ุขภาวะที่เหมาะสม

๓๖ ตามวัย มีความสามารถในการพึ่งพาตนเอง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และ การเป็นพลเมือง พลโลกที่ดี (Global Citizen) พร้อมก้าวสู่สากล นำไปสู่การสร้างความสามารถ ในการแข่งขันของประเทศ 4. ผู้เรียนท่ีมีความต้องการจำเป็นพิเศษ (ผู้พิการ) กลุ่มชาติพันธ์ุ กล่มุ ผู้ด้อยโอกาส และ กล่มุ ท่อี ย่ใู นพ้นื ที่ห่างไกลทุรกันดาร ได้รับการศึกษาอยา่ งทั่วถึง เท่าเทยี ม และมคี ุณภาพ 5. ผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ มีความรู้และ จรรยาบรรณ ตามมาตรฐาน วิชาชพี 6. สถานศึกษาจัดการศึกษาเพ่ือการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน และสร้าง เสรมิ คุณภาพชีวติ ที่เปน็ มติ รกับสง่ิ แวดล้อม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 7. สํานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาและสถานศึกษา มีระบบการบริหารจัดการ เชิงบูรณาการ เป็นหน่วยงานท่ีมีความโปร่งใส ปลอดการทุจริต และประพฤติมิชอบ ยึดหลักธรรมาภิบาล ในการบรหิ ารและจัดการศึกษาท่มี ปี ระสิทธิภาพ มคี ุณภาพตามมาตรฐานของหน่วยงาน ่ ม (Core Value) “ย้ิมแยม้ ยอดเย่ียม ยับยงั้ ยงั่ ยืน” มฉ ยมิ แย้ม หมายถงึ การให้บรกิ ารด้วยความมนี ำใจ จิตบริการและเสมอภาค ยอดเย่ียม หมายถึง ปฏบิ ตั ิหน้าทีไ่ ดอ้ ย่างเตม็ ศักยภาพ ยึดมั่นธรรมาภบิ าล ยับยัง หมายถึง ระงับ ความคดิ วาจา ท่าทาง ทีก่ ่อใหเ้ กิดความแตกแยก ยง่ั ยน หมายถึง พวกเราชาว สพม.จบตร จะรักษาคงไวซ้ ง่ึ คณุ ธรรม ความสามารถ ให้เปน วั นธรรมองคก์ ร ม “ร่วมคิด รว่ มทำ รว่ มรบั ผดิ ชอบ” ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบ หมายถึง การบริหารจัดการศึกษาตามภารกิจหลัก โดยเปิดโอกาสให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา องค์คณะต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เข้ามามีส่วนเก่ียวข้องในการร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบ ในรูปคณ ะกรรมการต่างๆ เพอ่ื ใหเ้ กดิ ประสิทธิภาพสูงสุด อัตลกั ษณ์ ององค์กร “องคก์ รคุณภาพ”

๓๗ กลยทุ ์(Strategy) กลยทุ ธ์ที่ 1 การจดั การศกึ ษาเพ่อื ความม่ันคงของสังคมและของประเทศ กลยุทธ์ที่ 2 การจดั การศึกษาเพอื่ เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ กลยทุ ธท์ ี่ 3 การพฒั นาและเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพทรพั ยากรมนษุ ย์ กลยุทธ์ท่ี 4 การสร้างโอกาสในการเข้าถึงบรกิ ารการศกึ ษาท่ีมีคุณภาพ มมี าตรฐาน และลดความเหลอ่ื มล้ำทางการศึกษา กลยทุ ธ์ที่ 5 การจดั การศกึ ษาเพือ่ พัฒนาคุณภาพชีวิตทเ่ี ป็นมติ รกับสิ่งแวดล้อม กลยุทธ์ท่ี 6 การปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบรหิ ารจัดการศึกษา ำ ต ้ื มม ต “3L 4sModel” การขับเคล่ือนการพฒั นาคุณภาพการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน โดยใช้รูปแบบ 3L 4s โมเดล มงุ่ ยกระดบั คุณภาพการบริหารจัดการศึกษาในภาพรวม และเป็นกลไกในการขบั เคล่ือนการพฒั นา คณุ ภาพการจัดการศกึ ษาให้เกดิ ความชัดเจน เป็นรูปธรรม มีประสทิ ธิภาพ เกดิ ประสทิ ธิผล สู่ เป้าหมายการเป็นสำนักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษาทีเ่ ป็นเลศิ ประกอบด้วย L1 : Leader (Organization) ผน้ ำแห่งการเรยี นร้ L2 : Learning (Organization) องคก์ รแหง่ การเรียนร้ L3 : Learner (Organization) บคุ คลแหง่ การเรยี นร้

๓๘ 1. Leader Organization : ผ้นำแห่งการเรียนร้ หมายถึง ผู้นำท่ีมีความเป็นผู้นำ อย่างแท้จรงิ ตระหนักในการกระจายอำนาจ มุ่งม่นั หาเคร่อื งมอื ทีจ่ ะนำพาองค์กรให้เหนอื กว่าคนอ่นื ๆ สนับสนนุ กระบวนการใชด้ ิจทิ ัล มวี ินยั ขยัน ซ่อื สัตย์ สุจริตและมคี ุณธรรม พัฒนาตนเองอยา่ งต่อเน่ือง เพมิ่ ประสทิ ธิภาพอย่างต่อเน่อื ง อาจจะเป็นผูน้ ำท้งั ในระดับบรหิ ารและระดับปฏิบัติ 2. Learning Organization : องค์กรแห่งการเรียนร้ หมายถึง องค์กร ที่ยกระดับคุณภาพด้วยการจัดการความรู้ โดยมีการพัฒนาปรับปรุงให้เกิดส่ิงใหม่ ๆ ท้ังด้านผลผลิต/ บรกิ าร/กระบวนการทำงาน เพอื่ เพ่ิมประสิทธผิ ลในการดำเนินพันธกิจและการบรรลุเป้าหมายของคณะ 3 . Learner Organization : บุ ค ค ลแ ห่ งการเรียน ร้ ห มายถึง บุ คลากร พร้อมจะเรียนรู้ คนในองค์กรต้องให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ ฝึกฝน ปฏิบัติและเรียนรู้ อย่างต่อเนื่อง ไปตลอดชวี ติ (Lifelong Learning) เพอ่ื เพมิ่ ศักยภาพของตนเองอย่เู สมอ จดุ เนน้ การดำเนินงาน องสำนักงานเ ตพนื ทก่ี ารศึกษามั ยมศกึ ษาจันทบรุ ี ตราด 1. องคก์ รคุณภาพ = S1 : Smart Area 2. คุณภาพ องสถานศกึ ษาที่ยั่งยืน = S2 : Smart Schools 3. ครมอื อาชีพ = S3 : Smart Teachers 4. วชิ าการ วิชาชีพ วิชาชวี ิต = S4 : Smart Students แนวทางการดำเนินการในการ ับเคลอื่ นคุณภาพการศกึ ษาตามจุดเนน้ 1. Smart Area (องคก์ รคณุ ภาพ) 1.1 บริหารงานตามหลักหลกั ธรรมาภบิ าล 1.2 สำนักงานเขตพ้นื ที่การศึกษาสุจริต (เขตสจุ รติ ) 1.3 การสรา้ งคณุ ธรรม จริยธรรมในองค์กร 1.4 การสง่ เสริมการมสี ่วนร่วมในการบริหารและการจัดการศกึ ษา 1.5 สรา้ งความเข้มแขง็ ในการยกระดบั คุณภาพการศึกษารปู แบบเครือข่าย 1.6 สำนกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษาบริหารจัดการอยา่ งมีคุณภาพตามมาตรฐานสำนักงาน เขตพนื้ ที่การศึกษา 1.7 มรี ะบบกำกับ ตดิ ตาม ตรวจสอบและประเมนิ ผลเพ่ือการบริหารจดั การที่มีประสทิ ธภิ าพ 1.8 มรี ะบบสารสนเทศ ส่ือสารและเทคโนโลยเี พื่อการศึกษาที่มีประสทิ ธิภาพ 2. Smart Schools (คณุ ภาพ องสถานศกึ ษาที่ยั่งยนื ) 2.1 พฒั นาหลักสูตรจัดการเรียนรเู้ ชงิ รุก (Active Learning) 2.2 จดั ทำมาตรฐานสถานศึกษาใหม้ คี ุณภาพในดา้ นต่าง ๆ 2.3 โรงเรียนสจุ ริต 2.4 สถานศึกษาเป็นแหลง่ เรียนรูต้ ลอดชวี ิตของคนในชมุ ชน 2.5 ระบบการประกันคณุ ภาพภายในของสถานศึกษาทเี่ ข้มแข็ง 2.6 การยกระดับคุณภาพผ้เู รียนเพ่อื การทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาติ

๓๙ 2.7 สถานศกึ ษาสะอาด มีบรรยากาศสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวยต่อการเรยี นรู้และปลอดภยั 2.8 1 โรงเรียน 1 อาชีพ “One School One Career” 3. Smart Teachers (ครมืออาชีพ) 3.1 การมีทักษะวิชาชพี ครู 3.2 การจัดการเรียนรเู้ ชงิ รุก (Active Learning) 3.3 การมจี ติ สำนกึ ของความเป็นครู 3.4 ครูมีการพัฒนาตนเองอย่างสมำ่ เสมอและมีผลงานเป็นท่ีประจักษใ์ นการเรยี นการสอน 3.5 ครเู ปน็ ครมู ืออาชีพ 4 Smart Students (วิชาการ วชิ าชพี วิชาชีวิต) 4.1 นักเรยี นมคี ณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ เปน็ พลเมอื งดี มีทกั ษะชวี ิตรเู้ ท่าทันสงั คม 4.2 นักเรยี นมคี วามเป็นเลิศทางด้านวิชาการตามความถนัด และความสนใจ 4.3 นกั เรยี นมีทกั ษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 4.4 นกั เรียนมที ักษะสอื่ สารภาษาองั กฤษและภาษาท่ี 3 เพื่อใช้เป็นเครื่องมือใน การ ประกอบอาชีพ 4.5 นกั เรยี นมีทกั ษะทางด้านภาษาไทย เพ่อื ใชเ้ ปน็ เครือ่ งมือในการเรียนรู้ มีนสิ ัยรักการอ่าน 4.6 นักเรยี นมีความสามารถดา้ นดิจิทัล (Digital) และใช้ดิจทิ ลั เปน็ เคร่ืองมือในการเรียนรูไ้ ด้ อย่างมี ประสิทธภิ าพ 4.7 การยกระดับคุณภาพผ้เู รียนเพอื่ การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ 4.8 นักเรียนมศี ักยภาพในการจัดการสขุ ภาวะของตนเองให้มีสุขภาวะทด่ี ี สามารถดำรงชวี ิต อย่างมีความสขุ ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ 2.6.3 อ้ มลสถานศกึ ษาในสังกดั สำนกั งานเ ตพนื ที่การศกึ ษามั ยมศกึ ษาจันทบรุ ี ตราด จำนวนโรงเรยี นในสงั กดั จำนวน 39 โรง จำแนกเป็น จงั หวดั จันทบรุ ี 23 โรง จงั หวดั ตราด 16 โรง แยกตามอำเภอ ข้อมูล จาก DMC. ณ วนั ท่ี 20 กรกฏาคม 2563 จังหวดั จนั ทบรุ ี อำเภอ รงเรียน จำนวนนักเรยี น รวม เมืองจันทบุรี 1.เบญจมราชทู ิศจงั หวดั จันทบรุ ี ม.ตน้ ม.ปลาย 2,843 ทา่ ใหม่ 2. ศรยี านสุ รณ์ 1,087 1,756 2,766 3. เบญจมานสุ รณ์ 1,687 4. บางกะจะ 1,114 1,652 1. ท่าใหม่ “พลู สวสั ดริ์ าษฎร์นุกลู ” 930 757 74 2. มธั ยมวดั เขาสุกิม 51 23 1,586 3. ศรรี ตั นร์ าษฎร์นเุ คราะห์ 701 885 157 88 69 111 4. สะพานเลือกวทิ ยาคม 42 69 39 32 71

๔๐ อำเภอ รงเรียน จำนวนนกั เรยี น แกง่ หางแมว นายายอาม 1. แกง่ หางแมวพทิ ยาคาร ม.ตน้ ม.ปลาย รวม ขลงุ 1. นายายอามพทิ ยาคม 513 359 872 2 .มัธยมทา่ แคลง อำเภอ 1. ขลงุ รัชดาภเิ ษก 465 353 818 โปง่ น้ำร้อน 2. บ่อวิทยาคาร 46 28 74 3. ตกพรมวิทยาคาร 164 468 813 มะขาม 67 19 86 แหลมสิงห์ รงเรียน 67 101 168 สอยดาว เขาคิชฌกฎู 1. โป่งนำ้ รอ้ นวทิ ยาคม จำนวนนักเรียน 2. เครือหวายวิทยาคม 3. หนองตาคงพทิ ยาคาร 382 280 662 1. มะขามสรรเสริญ 114 67 181 359 280 639 2. แหลมสงิ หว์ ทิ ยาคม \"อาทรสังขะวฒั นะ 4 อุปถัมภ\"์ 303 169 472 1. สอยดาววทิ ยา 517 360 877 2. ทุง่ ขนานวิทยา 1. คิชฌกูฏวิทยา 797 541 1,338 2. คลองพลวู ิทยา 362 206 568 รวมนกั เรียนจังหวัดจนั ทบุรี 428 259 687 105 71 176 8,922 8,804 17,726 อำเภอ จงั หวดั ตราด กอ่ นประถม จำนวนนกั เรยี น ม.ปลาย รวม 66 ประถมศึกษา ม.ต้น 915 1,976 เมอื งตราด รงเรียน 822 1845 1,061 142 525 คลองใหญ่ 1. ตราษตระการคณุ 1023 48 406 เขาสมิง 2. สตรีประเสริฐศิลป์ 383 64 178 3. ตราดสรรเสรญิ วทิ ยาคม 191 101 40 147 4. วัดคิรีวิหาร (สมเดจ็ พระวนั รตั อปุ ถมั ภ)์ 114 28 113 5. เขาน้อยวทิ ยาคม 107 372 1,033 6. อ่าวใหญพ่ ิทยาคาร 85 7. เนินทรายวิทยาคม 661 411 1,031 1. คลองใหญว่ ิทยาคม 70 190 1. เขาสมงิ วิทยาคม“จงจนิ ต์รุจริ วงศ์อปุ ถมั ภ์” 620 27 67 1. สะตอวทิ ยาคม รัชมังคลาภเิ ษก 120 2. ประณตี วทิ ยาคม 40

๔๑ อำเภอ รงเรยี น กอ่ นประถม จำนวนนกั เรียน ม.ปลาย รวม ประถมศกึ ษา ม.ต้น 26๓ 77๓ บอ่ ไร่ 1. บ่อไร่วิทยาคม 26 93 251 2. หนองบอนวทิ ยาคม 92 510 136 420 92 158 แหลมงอบ 1. แหลมงอบวทิ ยาคม 284 93 382 เกาะช้าง 1. เกาะชา้ งวิทยาคม 158 105 45 126 เกาะกูด 1. เกาะกูดวทิ ยาคม 81 3,569 9,463 12,373 27,189 รวมนกั เรยี นจงั หวดั ตราด 349 5,453 349 14,375 รวมนกั เรยี นทงั หมด

๔๒ บทที่ 3 วิ กี ารดำเนนิ การวิจัย การวิจัยคร้ังนี้มีวัตถุประสงค์เพ่ือ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหาการจัดการศึกษา เพื่อพัฒนา คุณภาพการศึกษาโรงเรียนคุณภาพ (โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์)) ในสังกัด สพม.จบตร 2) ยกร่างรูปแบบการบูรณาการ SESA-CT Model เพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนคุณภาพ (โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์)) ในสังกัด สพม.จบตร 3) พัฒนารูปแบบการบูรณาการ SESA-CT Model เพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนคุณภาพ (โรงเรียนวัดคิรีวิหาร (สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์)) ในสังกัด สพม.จบตร 4) นำเสนอรูปแบบการบูรณาการ SESA-CT Model เพ่ือพัฒนาคุณภาพ การศึกษาโรงเรียนคุณภาพ (โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์)) ในสังกัด สพม.จบตร โดยมีแนวทางการดำเนินการ 3 ระยะ รายละเอยี ดดงั น้ี ระยะที่ 1 การสร้างความรู้ความเข้าใจ รูปแบบการบูรณาการการศึกษา SESA-CT Model เพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนคุณภาพ (โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์)) สงั กัดสำนกั งานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษามธั ยมศกึ ษาจันทบรุ ี ตราด (ตามวตั ถปุ ระสงคก์ ารวจิ ัย ข้อ 1-2) ระยะที่ 2 การพัฒนา และการใช้ รูปแบบการบูรณาการการศึกษา SESA-CT Model เพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนคุณภาพ (โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์)) สงั กดั สำนกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษามัธยมศึกษาจนั ทบรุ ี ตราด (ตามวตั ถปุ ระสงคก์ ารวิจยั ข้อ 3) ระยะที่ 3 การสรุปผลและนำเสนอรูปแบบการบูรณาการการศึกษา SESA-CT Model เพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนคุณภาพ (โรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์)) สงั กัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามธั ยมศึกษาจันทบุรี ตราด (ตามวตั ถปุ ระสงค์การวจิ ัย ขอ้ 4) 3.1 ประชากร/กลุ่มเปา้ หมาย ประชากร/กลุ่มเป้าหมาย ในการใช้รูปแบบการบูรณาการการศึกษา SESA-CT Model เพื่อพัฒ นาคุณ ภาพการศึกษาโรงเรียนคุณ ภาพ ประกอบด้วย โรงเรียนคุณ ภาพ นำร่อง ระดับมัธยมศึกษา ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษาจันทบุรี ตราด จำนวน 1 แห่ง คอื โรงเรยี นวัดคิรวี หิ าร(สมเด็จพระวนั รัต อุปถัมภ)์ 3.2 เครอื่ งมือทใ่ี ช้ในการวจิ ัย คณะวิจัยไดส้ รา้ งเคร่อื งมือในการวจิ ัย ดังนี้ 1. รูปแบบการบูรณาการการศึกษา SESA-CT Model เพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียน คณุ ภาพ 2. เครอื่ งมอื ทใี่ ชใ้ นการเก็บรวบรวมข้อมลู จำนวน 4 ฉบบั ประกอบดว้ ย 2.1 แบบสัมภาษณ์เร่อง สภาพปจจุบัน ป หาการจัดการศึกษา เพ่อพั นาคุณภาพ การศึกษาให้เปนโรงเรียนคุณภาพ ของโรงเรียนวัดคิรีวิหาร(สมเด็จพระวันรัต อุปถัมภ์) โดยมีประเด็น สัมภาษณ์เก่ียวกับสภาพปัจจุบัน ปํญหาการจัดการศึกษา เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา

๔๓ ให้เป็นโรงเรียนคุณภาพและมีการจัดการศึกษาที่มุ่งเน้นความปลอดภัย ให้โอกาสทางการศึกษา ทมี่ ีคุณภาพด้วยการบรหิ ารจดั การท่มี ีประสิทธิภาพ 2.2 แบบตรวจสอบคุณภาพร่าง รูปแบบการบูรณาการการศึกษา SESA-CT Model เพอื่ พฒั นาคณุ ภาพการศึกษาของโรงเรียนคุณภาพ แบ่งออกเปน็ 2 ตอน ตอนท่ี 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบตรวจสอบคณุ ภาพ ตอนท่ี 2 ความสอดคลอ้ งของรา่ งรปู แบบการบูรณาการการศึกษา SESA-CT Model เพื่อพฒั นาคุณภาพการศึกษาของโรงเรยี นคณุ ภาพ 2.3 แบบติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลและนิเทศการศึกษา ของสำนักงานเขตพ้ืนที่ การศึกษามัธยมศึกษาจนั ทบุรี ตราด แบ่งออกเป็น 3 ตอน ตอนท่ี 1 ข้อมูลพื้นฐานของโรงเรียน เป็นแบบสอบถามแบบตรวจสอบรายการ (check list) ตอน ท่ี 2 แบ บ ติดตาม ตรวจสอบ ป ระเมิน ผลและนิ เท ศการศึกษ าตาม กฎกระทรวงฯ บูรณาการร่วมกับมาตรฐานการปฏิบัติงานโรงเรียน มัธยมศึกษา พ.ศ. 2560 (ปรับปรุง พ.ศ.2562) เป็นแบบประเมิน ก ารป ฏิ บั ติ งาน 4 ด้ าน คื อ ด้ าน วิช าก าร ด้ าน งบ ป ระ ม าณ ดา้ นบรหิ ารงานบุคคล และดา้ นบริหารทวั่ ไป ตอนท่ี 3 แบบสอบถามการดำเนินงานตามนโยบายฯ เป็นแบบสอบถามแบบ ปลายเปิด (open ended) 2.4 แบบประเมินความเหมาะสมและและความเป็นไปได้ของรูปแบบการบูรณาการ การศึกษา SESA-CT Model เพ่ือพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาของโรงเรยี นคุณภาพ แบ่งออกเป็น 2 ตอน ตอนที่ 1 ขอ้ มลู ทัว่ ไปของผู้ตอบแบบตรวจสอบคณุ ภาพ ตอนท่ี 2 ความสอดคล้องของร่างรปู แบบการบูรณาการการศึกษา SESA-CT Model เพือ่ พัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนคุณภาพ 3.3 นั ตอนการดำเนนิ การวิจยั คณะวิจยั ดำเนินการวิจัยเปน็ ขน้ั ตอน ดังนี้ 1. ันการศึกษา ้อมลเบอื งต้น และวิเคราะห์ ้อมล คณะวิจัยศึกษาหลักการ แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจัยท่ีเก่ียวข้อง รวมทั้งกรอบแนวคิด การพัฒนารูปแบบการบูรณาการพัฒนาการศึกษา เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนคุณภาพ สนองตอบนโยบายการจัดการศึกษาแบบบูรณาการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นโยบาย การขับเคล่ือนคุณภาพการศึกษาของเลขาธิการ คณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน “สพฐ. วิถีใหม่ วิถีคุณภาพ” แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ.2561-2580) และบทบาทอำนาจหน้าที่ ของคณะกรรมการตดิ ตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และนเิ ทศการศึกษา

๔๔ 2. นั การสร้างเครื่องมือและพัฒนาเครอื่ งมือวจิ ัย 2.1 คณะวิจัยนำข้อมูล สภาพปัจจุบัน ปัญหา หลักการ แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจัย ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกรอบแนวคิดการพัฒนารูปแบบการบูรณาการพัฒนาการศึกษา เพ่ือพัฒนา คุณภาพการศึกษาโรงเรียนคุณภาพ จากขั้นตอนท่ี 1 มายกร่างรูปแบบการบูรณาการการศึกษา SESA-CT Model เพ่ือพฒั นาคุณภาพการศึกษาโรงเรยี นคุณภาพ 2.2 คณะวิจัยกำหนดกรอบแบบสัมภาษณ์ และแบบติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และนิเทศการศึกษา ตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกระจายอำนาจการบริหาร และการจัดการศึกษา พ.ศ.2550 (ด้านวิชาการ ด้านงบประมาณ ด้านการบริหารงานบุคคล ด้านการบริหารทั่วไป) บูรณาการร่วมกับมาตรฐานการปฏิบัติงานโรงเรียนมัธยมศึกษา พ.ศ. 2560 (ปรับปรุง พ.ศ. 2562) เพ่อื ใหไ้ ดเ้ คร่อื งมอื วจิ ัยตรงตามกรอบแนวคิดในการวิจยั 2.3 ตรวจสอบเครื่องมือ นำเครื่องมือให้ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 ท่าน พิจารณาความสอดคล้องด้านเน้ือหา (IOC : Index of item objective congruence) และดำเนินการปรับปรุงแก้ไขตามคำแนะนำ เพอื่ ใหไ้ ดเ้ คร่อื งมือท่มี ีความเทยี่ งตรง 3. ันการเกบรวบรวม ้อมล 3.1 นำรูปแบบการบูรณาการการศึกษา SESA-CT Model เพื่อพัฒนาคุณภาพ การศึกษาโรงเรียนคุณภาพ ไปทดลองใช้กับโรงเรียนคุณภาพนำร่องในสังกัด คือ โรงเรียนวัดคิรีวิหาร (สมเดจ็ พระวันรตั อุปถมั ภ์) 3.2 ศึกษาผลการพัฒนาคุณภาพการศึกษา และปรับปรุง พัฒนา รูปแบบบูรณาการ SESA-CT Model เพือ่ พฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาโรงเรยี นคุณภาพ 4. ันการวเิ คราะห์ ้อมล สรุปและรายงานผล คณะวิจัยนำข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวมข้อมูลมาวิเคราะห์ข้อมูล และนำเสนอ รปู แบบบูรณาการการศึกษา SESA-CT Model เพื่อพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาโรงเรียนคุณภาพ ดังน้ี 4.1 วิเคราะห์ข้อมูล แบบตรวจสอบความเหมาะสมของรูปแบบการบูรณาการ การศึกษา SESA-CT Model เพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนคุณภาพตามความคิดเห็น ของผู้ทรงคุณวุฒิ จากแบบสอบถามท่ีเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า ใช้หาค่าเฉลี่ย ( μ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (σ) โดยแปลความหมายของค่าเฉลย่ี ทคี่ ำนวณได้ ดงั นี้ ค่าเฉลย่ี ระหวา่ ง 4.50 – 5.00 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมมากทส่ี ุด ค่าเฉลี่ยระหวา่ ง 3.50 – 4.49 หมายถึง มีความเหมาะสมมาก ค่าเฉลยี่ ระหวา่ ง 2.50 – 3.49 หมายถงึ มีความเหมาะสมปานกลาง ค่าเฉลี่ยระหว่าง 1.50 – 2.49 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมนอ้ ย ค่าเฉลย่ี ระหว่าง 1.00 – 1.49 หมายถึง มีความเหมาะสมน้อยที่สุด 4.2 วิเคราะห์ข้อมูล แบบติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลและนิเทศการศึกษา ของสำนกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษามัธยมศึกษาจนั ทบุรี ตราด โดยแบบประเมนิ ฉบับน้ีมีรายการประเมิน