งานนำเสนอ2

พรรณไม้

ตน้ เกร็ดทบั ทิม ชื่อวิทยาศาสตร์ : Alternanthera sp. ชื่อสามญั : Calico plant วงศ:์ AMARANTHACEAE เป็นไมพ้ มุ่ ขนาดเลก็ คอ่ นขา้ งเต้ีย อายหุ ลายปี ลาตน้ สีแดงออ่ นจนถึงสีแดงเขม้ มีขนส้นั ปกคลุม แตกกิ่งกา้ นมาก ใบ : ใบเด่ียว เรียงสลบั รูปรีหรือไข่ ปลายแหลม โคนสอบ ของเรียบถึงเป็นคลื่น ใบห่อข้ึนเลก็ นอ้ ย แผน่ ใบดา้ นบนสีเขียวอ่อนถึงสีเขียวเขม้ มีด่างสีขาวบริเวณขอบใบ ใตใ้ บสีแดงเขม้ ดอก : เป็นช่อ ออกตามซอกใบบริเวณปลายกิ่ง มีสีขาว ขนาดเลก็ เหมาะที่จะเป็นปลูกเป็นไมป้ ระดบั ในกระถาง หรือประดบั สวน เกลด็ ทบั ทิม ชอบแดด

ตน้ กนกนารีขนนก ช่ือวิทยาศาสตร์ : Selaginella wallichii (Hook. & Grev.) Spring. ช่ือสามญั : Spike Moss. วงศ:์ SELAGINELLACEAE ตน้ เล้ือยคลุมดิน มีบา้ งท่ีเป็นเฟิ นเกาะอาศยั แต่นอ้ ยมาก ขนาดตน้ มีต้งั แตเ่ ลก็ ถึง ขนาดกลางใบมีสีเขียวออ่ นถึงเขียวเขม้ บางชนิดมีสีแดง สีเหลือบฟ้า ดูแปลกตา บางชนิดดูคลา้ ยมอส หรือคลบั มอส นกนารี เจริญเติบโตอยใู่ นธรรมชาติท่ีสภาพหลากหลาย แต่ส่วนมากจะข้ึนอยบู่ นดิน มีนอ้ ยที่เป็นไมเ้ กาะอาศยั สภาพนิเวศน์ธรรมชาติที่พบกนกนารีไดบ้ ่อย บริเวณท่ีชุ่มช้ืน มีร่มเงา ใกลร้ ิมน้า เป็นเฟิ นจากตา่ งประเทศ นาเขา้ มาปลูกในไทย

ตน้ กวกั มรกต ชื่อวิทยาศาสตร์ : Zamioculcas zamiifolia (Lodd.) Engl. ช่ือสามญั : Zanzibar Gem วงศ:์ ARACEAE ลาตน้ : กวกั มรกต มีลาตน้ เป็นหวั อยใู่ ตพ้ ้นื ดิน สามารถแตกกอขยายเป็นตน้ ใหม่ไดง้ ่าย ใบ : เป็นใบประกอบแบบขนนก ท่ีมีใบยอ่ ยรูปไข่เรียงสลบั ตรงขา้ มกนั เป็นคูต่ ามกา้ นใบ โคนใบมน ปลายใบแหลม กา้ นใบส้นั แผน่ ใบเรียบ หนา มีสีเขียว ดอก : ออกดอกเป็นช่อแบบช่อเชิงลดมีกาบ คลา้ ยดอกหนา้ ววั ดอกสีเหลืองนวลแกมเขียวอ่อน กาบสีเหลืองนวล กา้ นสีเขียวนวล อวบน้า ช่อดอกยาวประมาณ 5-10 เซนติเมตร กวกั มรกต เป็นพืชที่ตอ้ งการแสงนอ้ ยจึงนิยมปลูกเป็นไมป้ ระดบั ไวใ้ นอาคารบา้ นเรือน มีใบที่สวยงาม ช่วยดูดสารพิษ ในอากาศได้ โดยมีถ่ินกาเนิดในทวปี แอฟริกา

ตน้ ขา้ วตอกพระร่วง ชื่อวทิ ยาศาสตร์: Ligustrum sinense Lour. cv. Variegata ช่ือสามญั : snowrose วงศ:์ RUBIACEAE ประเภท: ไมพ้ มุ่ ไม่ผลดั ใบ ลาตน้ : พมุ่ สูง 1-2 เมตร ลาตน้ สีน้าตาล ใบ: ใบเด่ียว ออกตรงขา้ ม รูปไขถ่ ึงรูปขอบขนานแกมรูปรี ยาว 2-7 เซนติเมตร หลายใบมน กา้ นใบส้นั ใบเรียบหรือยน่ เลก็ นอ้ ย ขอบใบมีสีขาว กลางใบสีเขียว ทอ้ งใบสีเขียวออ่ น ดอก: ดอกเลก็ สีขาว มีกลิ่นหอม ออกดอกดกในฤดูหนาว มีถิ่นกาเนิดในจีนและเวยี ดนาม

ตน้ เฟิ ร์นเทพนม ช่ือวิทยาศาสตร์: Heterogonium pinnatum (Copel.) Holttum วงศ:์ TECTARIACEAE ตน้ : เฟิ ร์นดิน เหงา้ ส้ันต้งั ตรง มีเกลด็ ปกคลุม เกลด็ : เกลด็ แคลทเรท ใบ : ลกั ษณะใบทวิสณั ฐาน คือ ใบท่ีไม่สร้างสปอร์และใบที่สร้างสปอร์ ใบไม่สร้างสปอร์ กา้ นใบสีม่วงดาเป็นมนั มีขนปกคลมุ แผน่ ใบคลา้ ยรูปสามเหล่ียม ยาว 15-30 เซนติเมตร ใบยอ่ ยคู่ล่างมีกา้ นใบยอ่ ยยาว 2 มิลลิเมตร ใบยอ่ ยคู่บนมี 1-3 คู่ มกั พบตาพเิ ศษที่เจริญเป็นตน้ ใหม่ ใบสร้างสปอร์กา้ นใบยาวอยา่ งนอ้ ย 20-45 เซนติเมตร แผน่ ใบยาวประมาณ 15 เซนติเมตร คลา้ ยใบไม่สร้าง สปอร์แต่หยกั ลึกแผเ่ ป็นครีบตลอดเสน้ กลางใบยอ่ ย กลุม่ อบั สปอร์ : ข้ึนปกคลุมทวั่ ใตแ้ ผน่ ใบ ไม่มีเยอื่ คลมุ กลมุ่ อบั สปอร์ กระจายพนั ธุ์ต้งั แต่ประเทศมาเลเซียถึงประเทศฟิ ลิปปิ นส์ ในประเทศไทยพบทางภาคใต้

ตน้ ลายเบญจรงค์ ชื่อวิทยาศาสตร์: Pilea involucrate (Sims) C.H.Wright& Dewar ‘Norfolk’ วงศ:์ Urticaceae ลาตน้ : ทอดเล้ือย ทุกส่วนอวบน้าและมีขนออ่ นปกคลุม ใบ : ใบเด่ียว ออกตรงขา้ ม รูปรีถึงรูปไข่ กวา้ ง 2 – 3 เซนติเมตร ยาว 3 – 4 เซนติเมตร ยอดอ่อนมีสีแดง ใบแก่สีเขียวเหลืองเงิน สลบั กบั แถบสีเทาเงินตามแนวยาวของใบ ดอก : สีแดงเร่ือออกเป็นช่อกระจุกที่ซอกใบ มีถ่ินกาเนิดอยทู่ ่ีเวยี ดนาม

ตน้ หูเสือด่าง ชื่อวทิ ยาศาสตร์: Plectranthus amboinicus ‘Variegatus’ ชื่อสามญั : Cuban Oregano, Mexican mint, Spanish thyme วงศ:์ LAMIACEAE ตน้ : ไมล้ ม้ ลุก อวบน้า สูงประมาณ 20 เซนติเมตร ลาตน้ ทอดเล้ือย ก่ิงสีเขียวอมม่วง มีขนอ่อนปกคลุมท้งั ตน้ ใบ : ใบเด่ียว เรียงสลบั ตรงขา้ ม รูปไข่กวา้ งหรือรูปเกือบกลม ปลายแหลม โคนสอบ ขอบหยกั ต้ืนไม่เป็นระเบียบ แผน่ ใบสีเขียว ขอบใบสีขาวนวล ดอก : ดอกเป็นช่อ ออกตามซอกใบและปลายก่ิง ดอกสีม่วง โคนกลีบเล้ียงเช่ือมกนั เป็นหลอดปลายแยกเป็น 5 แฉก ปลายแหลม สีเขียว มีถิ่นกาเนิดแถบเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้

ตน้ ออมเงินแคระ ชื่อวิทยาศาสตร์: Syngonium podophyllum. วงศ:์ ARACEAE พรรณไมใ้ บสีเขียวคลา้ ยใบบอน พเิ ศษท่ีเส้นลายใบของออมเงินเป็นสีขาว ส่วนออมทองเป็นสีเหลือง อาจจะตอ้ งดูแลเอาใจใส่สักหน่อย ตอ้ งพาออกแดดบา้ งถึงจะดี และควรรดน้าเป็นประจา ช่วยดูดสารพิษ และดว้ ยชื่อของพรรณไมก้ บ็ ่งบอกอยแู่ ลว้ ในเร่ืองการประหยดั และการออมเงิน มีถ่ินกาเนิดในทวปี อเมริกากลาง

ตน้ ออมณี ชื่อวิทยาศาสตร์: Syngonium sp. วงศ:์ ARACEAE ตน้ : ไมค้ ลุมดิน สูงประมาณ 15 เซนติเมตร มีรากอากาศ ใบ : ใบเดี่ยว เรียงสลบั รูปหวั ลูกศร ปลายเรียวแหลม โคนติ่งหู ขอบจกั ฟันเลื่อยถ่ี เป็นคล่ืนเลก็ นอ้ ย แผน่ ใบดา้ นบนสีเขียวออ่ น แตม้ จุดประสีเขียวเขม้ ท่ีขอบใบ เสน้ กลางใบและเสน้ ใบสีชมพู กา้ นใบสีเขียว กระจายพนั ธุ์อยใู่ นเขตร้อนของทวปี อเมริกา

ตน้ เปเปอร์มาเนีย ชื่อวิทยาศาสตร์: Peperomia obtusifolia (L.) F.Dietr ชื่อสามญั : American Rubber Plant, Baby Rubber Plant, Pepper Faces วงศ:์ PIPERACEAE ตน้ : ไมล้ ม้ ลุกอายหุ ลายปี อวบน้า ลาตน้ ต้งั ตรง สีแดง ใบ : ใบเด่ียว รูปใบมีหลายแบบ รูปรี รูปไข่กลบั หรือคอ่ นขา้ งกลม ปลายมน โคนสอบแคบ ขอบเรียบ แผน่ ใบหนาและคอ่ ยขา้ งแขง็ สีเขียว เสน้ กลางใบเป็นร่อง ใตใ้ บสีเขียวออ่ น กา้ นใบสีม่วงแดง ดอก : ออกเป็นช่อเชิงลด ชูต้งั ดอกยอ่ ยเลก็ อดั กนั แน่นบนกา้ นช่อดอก กระจายพนั ธุ์ต้งั แตเ่ มก็ ซิโก หมู่เกาะอินเดียตะวนั ตกถึงตอนเหนือของทวปี อเมริกาใต้

ไผฟ่ ิ ลิปปิ นส์ด่าง ชื่อวทิ ยาศาสตร์: Dracaena surculosa ‘Florida Beauty’ ชื่อสามญั : Gold dust dracaena, Spotted Dracaena วงศ:์ ASPARAGACEAE ลาตน้ : แตกเป็นกอ รูปทรงแผเ่ ต้ีย สูง 30 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร ใบ: ใบเดี่ยว เรียงตรงขา้ ม รูปรีถึงรูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบแหลมถึงสอบ ขอบใบเรียบ แผน่ ใบสีเขียวเขม้ เป็นมนั มีจุดสีเขียวอมเหลืองกระจายทวั่ ไป กา้ นใบส้นั ดอก: ออกเป็นช่อกระจะท่ีปลายกิ่ง ดอกสีขาวนวล กลิ่นหอม โคนกลีบดอกเชื่อมติดกนั เป็นหลอด ผล: ผลสด ทรงกลม สีส้ม เมลด็ สีขาวถึงสีน้าตาลอ่อน ถ่ินกาเนิดในเขตร้อนแอฟริกาตะวนั ตก

พรมญ่ีป่ ุน ช่ือทางวิทยาศาสตร์ : Episcia cupreata (Hook.) Hanst ชื่อสามญั : Flame violet strawberry patch วงศ:์ GESNERIACEAE ใบ : ใบดูนุ่มคลา้ ยกามะย่ี และดว้ ยความท่ีมีอยหู่ ลายสายพนั ธุ์ แต่ละสายพนั ธุ์กเ็ ลย ใหส้ ีใบและสีดอกแตกต่างกนั เช่น สีเงินวาว สีเขียวสด สีชมพู สีน้าตาลเขม้ ถา้ นา พรมญี่ป่ ุนท่ีมีสีใบแตกต่างกนั มาปลูกรวมๆ กนั แลว้ ไล่โทนสีกจ็ ะได้ กระถางตน้ พรมญี่ป่ ุนท่ีไล่เฉดสีใบ สวยแปลกตา ดอก : ยามไม่ออกดอกกน็ งั่ ชมใบสีสวยๆ ยามออกดอก กน็ ง่ั เพลินกบั สีสนั สดใสของดอก ท่ีมีท้งั ดอกสีแดง สีม่วง สีเหลือง สีส้ม แต่ส่วนใหญ่จะออกดอกบ่อย ออกดอกคร้ังหน่ึงกบ็ านอยู่ 7-8 วนั มีถ่ินกาเนิดในอเมริกาใต้

เฟิ ร์นขา้ หลวง ช่ือวิทยาศาสตร์: Asplenium nidus L. ช่ือสามญั : Bird’s nest fern วงศ:์ ASPLENIACEAE จะมีสีเขียวอ่อน ขอบใบหยกั เป็นคล่ืน กา้ นใบจะมีสีน้าตาลเขม้ การเรียงตวั ของใบจะเรียงตวั แบบเกลียวคลา้ ยดอกกหุ ลาบ ใบที่เกิดใหม่จะอ่อนและเปราะหกั ไดง้ ่ายแต่พอเจริญเติบ โตเตม็ ที่แลว้ จะมีความเหนียวและหนามาก ถ่ินกาเนิด เขตร้อนของเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ ตอนใตข้ องออสเตรเลีย

ตน้ เลบ็ ครุฑด่างแคระ ช่ือวทิ ยาศาสตร์: Polyscias sp. ชื่อสามญั : Ming Aralia วงศ:์ ARALIACEAE ตน้ : ไมพ้ มุ่ ขนาดเลก็ ลาตน้ สูง 1-3 เมตร เปลือกสีเขียวหรือสีน้าตาล เปลือกเรียบหรือมีจุดเลก็ ๆ ประอยทู่ วั่ ตน้ ใบ : ใบประกอบมีใบยอ่ ย ขอบใบเป็นหยกั เส้นใบชดั เจน สีเขียวเขม้ มีสีขาวอมเหลืองบริเวณของหรือแผน่ ใบกล่ินฉุนเลก็ นอ้ ย ดอก : ดอกขนาดเลก็ สีขาวอมเหลือง ออกเป็นช่อๆ ที่ปลายก่ิง ถ่ินกาเนิดในหมู่เกาะแปซิฟิ กและเอเชียเขตร้อน

ตน้ หนวดปลาดุกแคระ ช่ือวิทยาศาสตร์: Ophiopogon japonicas (L.f.) Ker-Gawl. ’‘Compactus วงศ:์ LILIACEAE ตน้ : ไมล้ ม้ ลุกอายหุ ลายปี สูง 3-5 เซนติเมตร แตกกอ ใบ : ใบเดี่ยว เรียงเวยี นสลบั แน่น รูปแถบแคบ ปลายแหลม โคนแผเ่ ป็นกาบหุม้ ลาตน้ ขอบเรียบ ผวิ ดา้ นบนสีเขียวเขม้ เป็นมนั เม่ือใบยาวเตม็ ที่แลว้ จะหอ้ ยโคง้ ลงเลก็ นอ้ ย ดอก : ช่อแบบช่อกระจะตามซอกใบจากกอ สีขาวปนม่วงออ่ นขนาดเลก็ กลีบดอกอวบน้า มีถิ่นกาเนิดในญี่ป่ ุน กระจายพนั ธุ์ในเขตอบอุน่

พรรณไม้

กระบองเพชรเรนโบว์ ช่ือวิทยาศาสตร์: Echinocereus rigidissimus ช่ือสามญั : Arizona Rainbow,Hedgehog Cactus วงศ:์ Echinocereus ลกั ษณะลาตน้ ทรงกระบอก เม่ือโตจะมีความสูงประมาณ 6-20 เซนติเมตร หนามราบไปกบั ลาตน้ มีจุดเด่นอยทู่ ่ีหนามสีแดง-ชมพเู ขม้ ไลเ่ ฉดสีคลา้ ยรุ้ง ส่วนดอกออกสีชมพสู ดท่ีปลายยอด บานช่วงพฤษภาคม-กรกฎาคม นิยมขยายพนั ธุ์ ดว้ ยการเพาะเมลด็ โตชา้ ชอบดินที่ระบายน้าดีและมีความเป็นกรดเลก็ นอ้ ย ชอบแสงแดดจา้ ตอ้ งการน้าเลก็ นอ้ ย ลดการใหน้ ้าช่วงหนา้ ฝน พร้อมระวงั น้าขงั เพราะอาจจะทาใหร้ ากเน่าไดง้ ่ายดว้ ย ตน้ กาเนิดมาจากประเทศสหรัฐอเมริกาและเมก็ ซิโก

กหุ ลาบแพนดา้ ช่ือวิทยาศาสตร์: Kalanchoe tomentosa Baker ชื่อสามญั : Panda-bear Plant วงศ:์ CRASSULACEAE ตน้ : ไมล้ ม้ ลุกอายหุ ลายปี ถึงก่ึงไมพ้ มุ่ สูงไดถ้ ึง 50 เซนติเมตร ลาตน้ ตรง แตกแขนง มีขนเป็นกามะหยขี่ ้ึนทวั่ ท้งั ตน้ ใบ : ใบเดี่ยว เรียงเวยี น รูปรี ปลายแหลม โคนสอบ ขอบเรียบหรือหยกั ต้ืน มีสีน้าตาลเขม้ สีเขียวอมเทา ขอบสีเขม้ มีขนตลอดท้งั ใบ ดอก : ออกดอกเป็นช่อ บริเวณยอด ดอกสีเขียวอมเทาหรือดอกสีเขียวอมเหลือง มีถ่ินกาเนิดในมาดากสั การ์

กหุ ลาบหิน ชื่อวทิ ยาศาสตร์ : Kalanchoe blossfeldiana Poellnitz วงศ:์ Crassulaceae กหุ ลาบหิน คือชื่อท่ีนกั เลงตน้ ไมใ้ ชเ้ รียกไมอ้ วบน้ากลุ่มหน่ึงที่มีกลีบ ใบซอ้ นเรียงตวั กนั จนดูคลา้ ยกบั ดอกกหุ ลาบ จนมีคนนิยมนามาปลูกเล้ียง กนั จนเป็นที่นิยมไปทวั่ เหมาะท่ีจะปลูกเป็นไมก้ ระถาง มีถ่ินกาเนิดมาจากมาดากสั กา แอฟริกาและเอเชีย

กระบองเพชรเลบ็ เหยยี่ ว ช่ือวิทยาศาสตร์ : Ferocactus Peninsulae Britton & Rose ชื่อสามญั : Fishook, Ferocactus วงศ์ : Cactaceae เฟอโรแคคตสั เป็นสกลุ หน่ึงของกระบองเพชรหรือแคคตสั ลาตน้ จะสูงไดถ้ ึง 12 ฟุต สีเขียว มีจุดเด่นที่ลาตน้ ส่วนใหญ่มีลกั ษณะ อว้ นคลา้ ยถงั เบียร์ (Barrel cactus) ลาตน้ เป็นพูรอบ และมีหนาม โดยหนาม มี 2 ชนิดคือ ชนิดเลก็ และดก และชนิดหนามหนาและแบน โคง้ งอเป็นตะขอคลา้ ยเบด็ ตกปลาหรือแบบตรงกม็ ี สีของหนามมีหลากหลายแบบข้ึนอยกู่ บั สายพนั ธุ์ เช่น แดง ชมพู น้าตาล เทา และขาว เฟอโรแคคตสั มีดอกออกที่ดา้ นบน กลางตน้ มีหลายสี เช่น เหลือง ม่วง สม้ และแดง ขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลาง 1 - 3 นิ้ว ถิ่นกาเนิดประเทศเมก็ ซิโก

กระบองเพชรดาวลอ้ มเดือน ชื่อวิทยาศาสตร์: Echinopsis calochlora K.Schum. วงศ:์ CACTACEAE ตน้ : ไมล้ ม้ ลุกหลายปี จาพวกกระบองเพชร อวบน้า สีเขียวออ่ น มีพู 10-12 พู สามารถแตกหน่อออกมาจากตุ่มเนินหนามไดจ้ านวนมาก ใบ: ใบลดรูปเป็นหนาม มีขนาดเลก็ สีเหลือง ดอก :ดอกเด่ียว ขนาดใหญ่ ดอกสีขาว กา้ นดอกยาว แทงออกมาตามตุ่มเนินหนา ออกดอกช่วงฤดูร้อน ผล: เป็นรูปกลมเกือบรี ขยายขนาดจากรังไข่ สีเขียวเขม้ เม่ือแก่จะแตกออก มีเมลด็ สีดาจานวนมาก มีถิ่นกาเนิดในอเมริกาใต้

ตน้ มา้ ลาย ชื่อวทิ ยาศาสตร์: Haworthia fasciata (Willd.) Haw. ชื่อสามญั : The Zebra Plant วงศ:์ XANTHORRHOEACEAE ตน้ : ไมล้ ม้ ลุกอายหุ ลายปี อวบน้า ลาตน้ เต้ีย แผอ่ อกเป็นรัศมี ใบ :ใบเด่ียว เรียงเวยี น รูปเรียวยาว ปลายแหลม สีเขียวเขม้ มีแถบสีขาวพาดตาม แนวขวางตลอดท้งั ใบ ดอก: ออกดอกเป็นช่อ ขนาดเลก็ กา้ นดอกยาว ออกดอกตลอดท้งั ปี มากที่สุดช่วงฤดูร้อน ผล : เป็นรูปรี เม่ือสุกแก่จะแตกออก มีเมลด็ อยภู่ ายใน 5-10 เมลด็ สีดา มีถิ่นกาเนิดในแอฟริกา

กระบองเพชรถงั ทอง ช่ือวทิ ยาศาสตร์: Echinocactus grusonii ชื่อสามญั : Golden barrel cactus วงศ:์ CACTACEAE ลาตน้ ลกั ษณะก่ึงทรงกลมแป้น สีเขียวออ่ นถึงสีเขียวเขม้ ปกคลุมดว้ ยหนาม สีขาวอมเหลือง ลกั ษณะแตกออกเป็นรัศมี เมื่อตน้ โตส่วนบนสุดของลาตน้ จะเวา้ ลงมาคลา้ ยปากถงั และออกดอกบริเวณยอดของลาตน้ สีเหลืองทอง ส่วนใหญ่นิยมขยายพนั ธุ์ดว้ ยการเพาะเมลด็ เหมาะสาหรับปลูกในดินร่วนปนทราย ระบายน้าไดด้ ี ชอบน้าปานกลาง และชอบแสงแดดจดั ทนแลง้ ไดด้ ี ตน้ กาเนิดจากเมก็ ซิโกและอเมริกากลาง

ตน้ นิ้วนางรา ช่ือวิทยาศาสตร์: leuchtenbergia principis ช่ือสามญั : agave cactus วงศ:์ leuchtenbergia กา้ นยาวท่ีพงุ่ ออกมาจากลาตน้ เหมือนใบอากาเวน้นั ทาใหแ้ คคตสั ตน้ น้ีแลดู คลา้ ยกบั อากาเวตน้ เลก็ ๆ แคคตสั นิ้วนางรา มีรูปร่างผดิ แผกไปจากแคคตสั ตน้ อ่ืน ทว่ั ๆ ไป เพราะเนินหนามน้นั แทนที่จะออกมาเป็นตุ่มเป็นเนินสูงเหมือนตน้ อื่นๆ กลบั เป็นกา้ นสามเหลี่ยมยาว และมีหนามออกมาจากตุ่มหนามตรงปลายกา้ นหรือ เนินหนามน้นั

แมมขนนก ชื่อวิทยาศาสตร์: Mammillaria plumosa F.A.C. ชื่อสามญั : Feather Cactus วงศ:์ CACTACEAE ตน้ : ไมล้ ม้ ลุกอายหุ ลายปี กลุ่มกระบองเพชร อวบน้า ลาตน้ เป็นทรงกลม พู ไม่ชดั เจน ใบ : ใบลดรูปเป็นหนาม สีขาว ปกคลุมตลอดท้งั ตน้ คลา้ ยพขู่ นนก ดอก : ดอกเด่ียว ดอกสีขาวอมเหลืองหรือดอกสีชมพู รูปไขก่ ลบั แคบหรือรูปรี ปลายหยกั แหลม ออกดอกช่วงฤดูหนาว ผล : เป็นรูปรี สีชมพู เมลด็ สีดาจานวนมาก มีถิ่นกาเนิดในอเมริกากลาง

แมมแม่เฒ่า ชื่อวิทยาศาสตร์: Mammillaria hahniana Werderm. วงศ:์ CACTACEAE ตน้ : ไมอ้ วบน้า อายหุ ลายปี กลุม่ กระบองเพชร ลาตน้ ทรงกลมหรือเกือบกลม สีเขียวออ่ น ใบ : ใบลดรูปเป็นหนาม หนามกลางขนาดเลก็ สีน้าตาลแดง หนามดา้ นขา้ งสีขาว ออ่ นนุ่ม ยาวปกคลุมท้งั ตน้ ดอก : ดอกเด่ียว ออกตามตุ่มเนินหนาม ดอกสีชมพเู ขม้ มีกลีบดอกประมาณ 14-16 กลีบ ออกดอกช่วงฤดูหนาว ผล : เป็นฝักรูปรี สีแดง มีเมลด็ ขนาดเลก็ สีดา มีถิ่นกาเนิดท่ีประเทศแมก็ ซิโก

ยโู ฟร์เบีย โอเบซา ช่ือวทิ ยาศาสตร์: Euphorbia obesa Hook.f. วงศ:์ EUPHORBIACEAE ตน้ : ไมล้ ม้ ลกุ อายหุ ลายปี ลาตน้ ทรงกลม มีสันพู คลา้ ยกระบองเพชร สีเขียว มีน้ายางสีขาว ใบ : ใบลดรูปเป็นตุ่มขนาดเลก็ ใกลเ้ คียงกนั เรียงเป็นแนวยาวตามสันพู นูนข้ึนเลก็ นอ้ ย ดอก : ดอกเป็นช่อแบบช่อกระจุก ออกตามปลายยอด รูปกลม ดอกสีเหลืองอ่อน ดอกแยกเพศตา่ งตน้ ผล : ผลเป็นแคปซูล รูปสามเหลี่ยม มีเมลด็ ขนาดเลก็ สีเทา

ตน้ ลูกชุบ ชื่อวิทยาศาสตร์: Anacampseros rufescens (Haw.) Sweet วงศ:์ ANACAMPSEROTACEAE ตน้ : ไมล้ ม้ ลุก อายหุ ลายปี อวบน้า สูงประมาณ 10 เซนติเมตร แตกหน่อไดง้ ่าย ใบ : ใบเด่ียว เรียงเวยี นสลบั รูปรี ปลายแหลม โคนสอบ ขอบเรียบ ใบหนา อวบน้า แผน่ ใบสีเขียวเขม้ มีเยอ่ื หุม้ บางใส ดอก : ดอกเป็นช่อแบบช่อกระจุก ดอกสีชมพู กลีบดอก 5 กลีบ รูปรี ผล : เป็นฝักยาวรี เม่ือแก่จะแตกออก เมลด็ รูปสี่เหล่ียม สีน้าตาล มีถิ่นกาเนิดในแอฟริกาใต้

ไลทอ็ ปส์ ชื่อวิทยาศาสตร์: Lithops sp. ช่ือสามญั : The Lithops Plant. วงศ:์ Aizoaceae ใบ: ใบอวบน้า โคนใบเชื่อมติดกนั คลา้ ยรูปทรงกระบอกมีเพยี ง 2 ใบ หนา้ ตดั ดา้ นบนเป็นรูปไตหรือรูปรี และมีลวดลายริ้วแตกตา่ งกนั ดูคลา้ ย กอ้ นหินเลก็ ๆ ส่วนโคนฝังลึกอยใู่ ตด้ ิน ดอก: ดอกเด่ียว ออกระหวา่ งซอกใบมีท้งั สีขาวและสีเหลือง บานตอนกลางวนั และ หุบในช่วงค่า ออกดอกเดือน กรกฎาคมถึงพฤศจิกายน มีถ่ินกาเนิดอยใู่ นประเทศนามิเบียและประเทศแถบแอฟริกาใต้

หมวกตุรกี ช่ือวิทยาศาสตร์: Melocactus sp. วงศ:์ CACTACEAE ตน้ : ไมล้ ม้ ลุกหลายปี กลุ่มกระบองเพชร ทรงกลม มีพู 8-10 พู ใบ :ใบลดรูปเป็นหนาม 6 หนามต่อ 1 ตุม่ เนินหนาม แขง็ และคม ดอก : ดอกเด่ียว ข้ึนอยภู่ ายในกลุม่ กอ้ น (cephalium) บริเวณยอด เม่ืออายเุ หมาะสม ติดเมลด็ ไดเ้ อง ผล : เป็นรูปรี สีขาวหรือชมพเู ขม้ ภายในมีเมลด็ สีดาจานวนมาก มีถิ่นกาเนิดในอเมริกากลางถึงตอนเหนือของอเมริกาใต้

หมวกสงั ฆราช ช่ือวทิ ยาศาสตร์: Astrophytum myriostigma Lem. วงศ:์ CACTACEAE ตน้ : ไมอ้ วบน้า กลุ่มกระบองเพชร อายหุ ลายปี ลาตน้ เป็นทรงกลม สีเขียวอ่อน มีสนั พู 3-6 พู ใบ : ใบลดรูปเป็นหนาม เป็นกระจุกขนเลก็ ๆ สีขาว ตามตุ่มเนินหนาม ดอก : ดอกเดี่ยว ออกบริเวณยอด ดอกสีเหลืองอ่อน กลีบดอกซอ้ นกนั หลายช้นั ผล : เป็นรูปรี เมื่อสุกแก่สีแดง มีเมลด็ ขนาดเลก็ จานวนมาก สีน้าตาล