หมวด 5 บุคลากร (Workforce)

หมวด 5 บุคลากร (Workforce) | 1 โรงเรียนหนองพอกวิทยาลัย สพม. 27

หมวด 5 บุคลากร (Workforce) | 2 หมวด 5 บคุ ลากร (Workforce) โรงเรียนหนองพอกวทิ ยาลัย มกี ารจดั ระบบงานภายในให้เกดิ ความรว่ มมอื ในการทางานไปในทศิ ทาง เดียวกัน และบรรลุผลสัมฤทธ์ิตามวิสัยทัศน์ พันธกิจและเป้าประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ของโรงเรียน มีการ ขับเคลอ่ื นองค์กรอยา่ งเปน็ ระบบ มุ่งเน้นการทางานเปน็ ทมี ร่วมคดิ รว่ มทา ร่วมแกป้ ัญหา โดยใชร้ ะบบนิเทศ ภายในเป็นกลไกในการขับเคล่ือน ปลูกฝังแนวปฏิบัติท่ีดีงาม เน้นการมีส่วนร่วมของบุคลากรเป็นวัฒนธรรม หลักขององค์กร เพราะทรัพยากรบุคคลเป็นส่วนสาคัญอย่างยิ่งที่ทาให้องค์กรประสบความสาเร็จจนเกิดเป็น ค่านิยมขององค์กร คือ “สร้างคนดี มีจิตสาธารณะ รักษ์ศิลปวัฒนธรรม ดารงชีวิตพอเพียง” โรงเรียนได้จัด สภาพแวดล้อมและท่ีเอ้ือต่อการทางานของบุคลากร และจัดบรรยากาศการทางานที่ส่งเสริมความผูกพัน ในองค์กร เพ่ือใหบ้ คุ ลากรทางานด้วยความรกั ในวิชาชีพ ทุ่มเทและม่งุ ม่ันในการพฒั นาองค์กร 5.1 สภาพแวดลอ้ มในการทางาน (WORKFORCE Environment) ก. ขีดความสามารถและอตั รากาลังบคุ ลากร (WORKFOCE CAPABILITY and CAPACITY) (1) ขีดความสามารถและอตั รากาลัง (CAPABILITY and CAPACITY) โรงเรียน ได้แบ่งภาระงานท่ีบุคลากรต้องรับผิดชอบ ออกเป็น 2 ลักษณะ คือ ภาระงานหลัก และภาระตามโครงสรา้ งการบรหิ าร โดยโรงเรียนไดด้ าเนนิ การด้านขีดความสามารถและอัตรากาลังเพอ่ื ใหง้ าน บรรลุผลสาเร็จตามเปา้ หมายขององค์กร ดงั ภาพประกอบ 5-1 / / / . / / / ภาพประกอบ 5-1 แผนภูมิแสดงการดาเนนิ การดา้ นขีดความสามารถและอัตรากาลงั บุคลากร โรงเรียนได้กาหนดขดี ความสามารถและอตั รากาลงั ตามภาพประกอบ 5-1 ดงั นี้ มีใบประกอบวิชาชีพ ครู มีวุฒิการศึกษาตรงตามวิชาเอก มีความสามารถตามมาตรฐานวิชาชีพครู มีคุณลักษณะตามจรรยาบรรณ วิชาชีพครู มีความสามารถในการจัดการเรียนรู้ ความสามารถในการพัฒนางาน พัฒนาตนเองปฏิบัติงานได้ ตามสมรรถะหลักและสมรรถนะประจาสายงาน มีความสามารถบริการจัดการชั้นเรียน ตามระบบดูแล โรงเรียนหนองพอกวิทยาลัย สพม. 27

หมวด 5 บคุ ลากร (Workforce) | 3 ชว่ ยเหลือนกั เรียน ปฏิบัติงานพิเศษท่ไี ด้รับมอบหมายได้อย่างเต็มใจ มีมนษุ ยสัมพันธท์ ่ีดีกับเพื่อนร่วมงานและ นั ก เ รี ย น อ ย่ า ง เ ห ม า ะ ส ม แ ล ะ ส ม ร ร ถ น ะ ต า ม โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น ม า ต ร ฐ า น ส า ก ล มี ค ว า ม ส า ม า ร ถ พิ เ ศ ษ ในด้านการใชเ้ ทคโนโลยที ี่เหมาะสม ใชภ้ าษาองั กฤษได้ วิธีการประเมินด้านขีดความสามารถและอัตรากาลังบุคลากร โรงเรียนได้ ดาเนินการวิเคราะห์ มาตรฐาน สพฐ. จรรยาบรรณวชิ าชพี สมรรถนะหลัก สมรรถนะหลักประจาสายงาน เป็นกรอบในการประเมิน ความต้องการขีดความสามารถของครูและบุคลากร โดยประเมินด้วยวิธี การประเมินผลการปฏิบัติงาน ของบุคลากร โดยการนิเทศภายใน และแจ้งผลการประเมินให้บุคลากรทราบเป็นรายบุคคล มีการจัดทา อัตรากาลังเป็นรายปี วิเคราะห์อัตรากาลังใหม่ ให้เหมาะสมกับภาระงานในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี โดยมขี น้ั ตอนในการดาเนนิ การ คอื กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ารวจอัตรากาลังในกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยใชเ้ กณฑ์ อัตรากาลังที่ สพฐ.กาหนด ตลอดจนสารวจแนวโน้มข้อมูลการเปลี่ยนแปลงบุคลากร ด้านการขอย้าย เกษียณอายุราชการ ประกอบกับข้อมูล ผลสัมฤทธิ์และคะแนนการทดสอบระดับชาติรวมไปถึงกิจกรรมที่ ต้องการให้เกิดการส่งเสริมตามนโยบาย สพฐ. การจัดการเรียนการสอนที่ตรงตามความสามารถและวุฒิ การศกึ ษา (2) บุคลากรใหม่ (New WORKFORCE Members) โรงเรียนมีแนวทางการสรรหา ว่าจ้าง บรรจุ และรกั ษาบคุ ลากรใหม่ ดงั ภาพประกอบ 5-2 / . 27 / / / / ภาพประกอบ 5-2 แผนภมู ิแสดงการสรรหา วา่ จ้าง บรรจุ และรักษาบุคลากรใหม่ โรงเรียน ได้บรหิ ารด้านการสรรหา ว่าจ้าง บรรจบุ ุคลากรใหมอ่ ย่างมสี ่วนรว่ ม ตามภาพประกอบ 5-2 โดยให้กลุ่มสาระการเรียนรู้ ระบุความต้องการอัตรากาลังโดยใช้เกณฑ์อัตรากาลังที่ สพฐ.กาหนด นาข้อมูล เสนอ ฝ่ายบริหารสถานศึกษาและคณะกรรมการบริหารโรงเรียน เพ่ือเสนอขอตาแหน่ง ไปท่ีสานักงานเขต พื้นท่ีการศึกษาเขต 27 หากได้รับจัดสรรอัตราก็จะดาเนินการรับย้ายบรรจุ แต่งตั้งตามระเบียบ กคศ.ต่อไป หากไม่ได้รับจัดสรร แต่โรงเรียนมีความขาดแคลนอัตรากาลังเพื่อการบริหารจัดการท่ีมีประสิทธิภาพและ ประสิทธิผล โรงเรียนจะสรรหาผู้ส่งมอบ ครูอัตราจ้าง ลูกจ้างช่ัวคราวตามแนวปฏิบัติตามกฎหมาย เมื่อได้ โรงเรยี นหนองพอกวทิ ยาลัย สพม. 27

หมวด 5 บคุ ลากร (Workforce) | 4 บคุ ลากรใหม่ทดแทนอตั รากาลังทข่ี าด โรงเรียนจะแตง่ ตง้ั พีเ่ ลี้ยง แต่งต้ังคณะกรรมการประเมินอย่างเขม้ กรณี บรรจุ ปฐมนิเทศ มอบหมายภาระงาน จัดสภาพแวดล้อมของการทางานเอื้อต่อการทางาน จัดสวัสดิการ นโยบายสทิ ธิประโยชน์ สง่ เสริมความก้าวหน้าในวิชาชีพ ศึกษาต่อ ศึกษาดูงาน อบรม ประชุม สมั มนา ด้าน สนับสนุน ส่งเสริมให้สง่ ผลงานเพอ่ื ขอเล่อื นวิทยฐานะทส่ี งู ขึน้ ให้อสิ ระในการทางานบนพ้นื ฐานของกฎระเบยี บ ขอ้ บังคบั ทีถ่ ูกตอ้ ง มีการประเมินผลการปฏบิ ัติงาน โดยใชก้ ระบวนการนิเทศภายใน อยา่ งสม่าเสมอ โดยการ กากับติดตามภาระงาน คือ ภาระงานหลกั และภาระงานตามโครงสรา้ งการบริหาร มีการนาผลการประเมนิ ไป ปรบั ปรงุ พัฒนาการรักษาบุคลากรใหม่ ซงึ่ มผี ลตอ่ ความสาเรจ็ ในงาน และ ความผกู พันต่อองคก์ ร (3) ความสาเร็จในงาน (Work Accomplishment) โรงเรียน มีนโยบายในการพัฒนาการจัดการศึกษาสู่มาตรฐานสากล เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ โรงเรียนมีการจัดรปู แบบในการปฏิบัติงานของบุคลากรเพื่อให้เกิดความสาเร็จในงาน ดงั ภาพประกอบ 5-3 / // ภาพประกอบ 5-3 แผนภูมิแสดงการจัดรปู แบบการปฏบิ ัติงานและบริหารบุคลากร โรงเรียน ได้กาหนดกลยทุ ธ์ส่งเสริม สนบั สนุนการพัฒนาคุณภาพครู และบุคลากรทางการศึกษาท้ัง ระบบ กลยุทธ์ระดับองค์กรที่ 3 โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการกาหนดรูปแบบในการปฏิบัติงาน กาหนด ขอบเขตความสาเร็จในการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าประสงค์ มีการจัดทา มาตรฐานการปฏิบัติตามโครงสร้างการบริหารโรงเรียนอย่างครอบคลุม ทุกภาระงาน จัดบุคลากรให้ตรงกับ ความรูค้ วามสามารถ ความถนัด และประสบการณ์ บรหิ ารจัดการ และควบคุมบริหารคุณภาพการดาเนินงาน โดยใช้ระบบการนิเทศภายในอย่างต่อเน่ือง โดยใช้รูปแบบ PHOKWIT Model เป็นเครื่องมือในการนิเทศ กากับ ติดตาม มกี ารสร้างความเข้าใจในรูปแบบการปฏิบัติงานส่งเสริมสมรรถนะบุคลากรโดยการเข้ารับร่วม ประชมุ อบรม สัมมนาเพื่อพัฒนาวิชาชีพอย่างต่อเน่อื ง มกี ารสร้างขวัญและกาลังใจแก่บุคลากร ส่งเสริมการ โรงเรยี นหนองพอกวิทยาลัย สพม. 27

หมวด 5 บคุ ลากร (Workforce) | 5 ทางานเป็นทีม ยกย่องชมเชยเม่ือบุคลากรได้รับความสาเร็จเน่ืองในโอกาสต่าง ๆ และรายงานผลการ ดาเนินงานอย่างเป็นระบบ เพื่อตรวจสอบว่าดาเนินงานเป็นไปตามแผนและบรรลุเป้าหมาย มีการประชุม คณะกรรมการบริหารโรงเรียนทั้ง 4 ฝ่าย ประชุมคณะกรรมการฝ่ายบริหารงานวิชาการทุกวันอังคารของ สัปดาห์ ประชุมบคุ ลากรประจาทกุ เดือน เพอื่ ตดิ ตาม สรุปผล ทบทวนการปฏิบัตงิ านโดยใช้กระบวนการนิเทศ ภายในอย่างสม่าเสมอ โดยการกากับติดตาม 2 ระบบ คือระบบงานประจา และระบบการปฏิบัติงานตาม โครงสร้างการบริหารโรงเรียน และเพ่ือให้ม่ันใจว่าระบบการบริหารบุคลากรยังคงทาให้องค์กรมีผลลัพธ์ดี ตอบสนอง พันธกิจ วิสัยทัศน์ กลยุทธแ์ ละทาใหโ้ รงเรยี นมคี ณุ ภาพเกิดผลสาเร็จ โรงเรียนไดป้ รับโครงสร้างการ บริหารโรงเรยี นอยา่ งต่อเนอื่ ง เพื่อให้การปฏบิ ัตงิ านเปน็ ไปได้อย่างคล่องตัว เกิดประสิทธภิ าพและประสิทธิผล ดงั แสดงไว้ในหมวด 7 ภาพประกอบ 7-32 (4) การจัดการการเปล่ียนแปลงดา้ นบุคลากร (WORKFORCE Change Management) โรงเรยี น มวี ิธีการในการเตรียมบคุ ลากรใหพ้ ร้อมรับต่อการเปลยี่ นแปลงความตอ้ งการ ด้านขดี ความสามารถและอัตรากาลงั บุคลากร ดงั ภาพประกอบ 5-4 // ภาพประกอบ 5-4 แผนภมู ิแสดงการเตรยี มบุคลากรใหพ้ ร้อมรบั ตอ่ การเปลี่ยนแปลง ความต้องการด้านขดี ความสามารถและอตั รากาลังบคุ ลากร โรงเรียนได้เตรียมการบุคลากรให้พรอ้ มรับต่อการเปลี่ยนแปลง ความต้องการดา้ นขีดความสามารถ และอตั รากาลังบุคลากร โดยแตง่ ตั้งคณะกรรมการวางแผนรองรับการเปลี่ยนแปลงบุคลากรโดยการวิเคราะห์ ปัจจัยที่มผี ลต่อการเปลย่ี นแปลง ได้แก่ แนวโนม้ การโยกยา้ ย การเกษียณอายุราชการ เพ่ือเตรียมการสรรหา บุคลากรทดแทนอัตราที่ว่าง วิเคราะห์แผนการรับนักเรียนและคาดคะเนจานวนนักเรียนเพ่ือวางแผน ในการสรรหาอัตราบุคลากรใหเ้ หมาะสมกบั จานวนนักเรียนและคาบสอน และเตรียมบุคลากรให้พร้อมรับต่อ การเปลี่ยนแปลง ด้วยวิธีการดังน้ี 1) การวางแผนพัฒนาบุคลากรประจาปี โดยการส่งเสริมสนับสนุนให้ บุคลากรเข้าร่วมประชุมสัมมนาทางวิชาการ ฝึกอบรม ศึกษาดูงาน ตามสายงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ ที่รับผิดชอบและสายงานตามโครงสร้างการบริหารโรงเรียน เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้ ประสบการณ์ ให้สามารถนาความรู้มาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้ท้ังในสายงานวิชาที่รับผิดชอบ และสายงานอื่น โรงเรยี นหนองพอกวิทยาลยั สพม. 27

หมวด 5 บคุ ลากร (Workforce) | 6 อันเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติราชการ เป็นการสร้างโอกาสความก้าวหน้าในการทางาน เป็นการพัฒนา สมรรถนะของบุคลากรให้สูงข้ึนและหลากหลาย ซ่ึงเมอ่ื ไดร้ บั ความรู้ใหม่ๆ ผเู้ ขา้ รบั การอบรม สัมมนาจะมีการ รายงานและนาความร้มู าขยายผลตอ่ เพื่อนร่วมงานท้ังที่ประชุมกล่มุ สาระการเรียนรู้ การประชมุ ประจาเดือน และทางสอ่ื ออนไลน์ต่างๆ 2) การถ่ายโอนความรจู้ ากบุคลากรท่ีจะเกษยี ณอายรุ าชการใหแ้ ก่บคุ ลากร การถา่ ย โอนความรู้จากบุคลากรอาวุโสสู่บุคลากรอายุน้อย 3) ในกรณีขาดแคลนบุคลากรมีการประกาศรับสมัคร บุคลากรใหมต่ ามแนวปฏบิ ัตกิ ารรบั บคุ ลากรใหม่ มีการมอบหมายภาระงาน มกี ารนิเทศติดตามการปฏิบัตงิ าน การถ่ายโอนความรู้ การรับบุคลากรใหม่ และนาข้อมูลการสารวจไปปรับปรุงและจัดเตรียมบุคลากรเพ่ือรับ การเปลย่ี นแปลงไมใ่ ห้ส่งผลกระทบต่อการบริหารโรงเรียนต่อไป ข. บรรยากาศการทางานของบคุ ลากร (WORKFORCE Climate) (1) สภาพแวดลอ้ มของการทางาน (Workplace Environment) การสร้างบรรยากาศในการทางานของบุคลากรในโรงเรยี น เป็นสง่ิ ทโ่ี รงเรียนให้ความสาคัญ โรงเรยี นไดด้ าเนินการดา้ นสภาพแวดล้อมการทางานของบุคลากร ดงั ภาพประกอบ 5-5 1) 2) 3) 4) ภาพประกอบ 5-5 แผนภมู ิแสดงสภาพแวดล้อมของการทางาน โรงเรียน ได้ดาเนินการด้านสภาพแวดล้อมการทางานของบุคลากรเพื่อให้เกิดความม่ันใจ ด้านสุขภาพ สวัสดิภาพและความสะดวกในการเข้าถึงสถานท่ีทางานของบุคลากร โดย การแต่งตั้ง คณะกรรมการวางแผนกาหนดสภาพแวดล้อมการทางานของบุคลากร ความต้องการพ้ืนฐาน คณะกรรมการ ประชุมวางแผนนาข้อมูลจากการสารวจมากาหนด การสร้างสภาพแวดล้อมในการทางานด้านต่าง ๆ แล้ว ดาเนินการจัดสภาพแวดลอ้ มการทางาน ตามแผนการที่กาหนด ดงั น้ี 1) ด้านอาคารสถานที่ มีการทาผังอาคาร สถานท่ี แต่งต้ังคณะกรรมการดูแลอาคารสถานท่ี จัดบรรยากาศภูมิทัศน์ให้เอื้อต่อการทางานและการเรียน การสอน ติดตั้งอุปกรณ์ห้องเรียนคุณภาพ 2) ด้านความปลอดภัย มีการแต่งต้ังครูเวรประจาวัน เวรยามรักษาการณ์ ติดตั้งกล้องวงจรปิด ติดต้ังอุปกรณ์ดับเพลิง บริการห้องพยาบาลแก่บุคลากรท่ีเจ็บป่วย 3) ด้านความสะอาดและสุขลกั ษณะ มกี ารแบง่ เขตรับผดิ ชอบให้นกั เรียนดแู ลความสะอาด ครทู ่ีปรึกษากากับ ติดตาม รณรงค์กิจกรรม 5ส จัดกิจกรรมวันรักโรงเรียน (Big cleaning day) แต่งต้ังลูกจ้างประจา/ช่ัวคราว ดแู ลอาคารสถานที่ กากับ ดูแลผ้จู าหน่ายอาหารในโรงเรียน ให้ปรุงอาหารท่ีถูกสขุ ลกั ษณะ และ 4) ดา้ นการจัด โรงเรียนหนองพอกวิทยาลัย สพม. 27

หมวด 5 บุคลากร (Workforce) | 7 บรรยากาศอาคารเรียนให้เอ้ือต่อการจัดการเรียน โดยแต่ละอาคารจะตกแต่งบรรยากาศของอาคารเรียนให้ เอ้ือต่อการจัดการเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้และฝ่ายบริหารงานน้ันๆ และเป็นแหล่งเรียนรู้ภายใน ที่นกั เรียนสามารถศกึ ษาเพ่มิ เติมไดใ้ นระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น การดาเนินการด้านสภาพแวดล้อมการทางานของบุคลากร ดังกล่าวข้างต้น โรงเรียนได้ ดาเนินการตดิ ตามและประเมินผลอย่างตอ่ เนื่องโดยใชร้ ะบบการนิเทศติดตาม และนาการประเมินมาปรับปรุง พฒั นาดังแสดงไวใ้ นหมวดท่ี 7 ภาพประกอบ 7-29 (2) นโยบายและสทิ ธปิ ระโยชน์ (WORKFORCE Benefits and Policies) 2 ภาพประกอบ 5-6 แผนภมู ิแสดงการกาหนดนโยบายและสิทธปิ ระโยชน์ โรงเรียนแต่งต้ังคณะกรรมการสารวจด้านนโยบายและสิทธิประโยชน์ที่บุคลากรพึงได้รับ ตามกฎหมายและสิทธิประโยชน์ข้นั พ้ืนฐาน นาข้อมูลมาวางแผนกาหนดการบริการสิทธิประโยชน์แก่บุคลากร อย่างเสมอภาค เหมาะสมตามความตอ้ งการของบคุ ลากรท่หี ลากหลายและความแตกตา่ งของบุคลากรในแตล่ ะ กลุ่ม และแตง่ ต้ังผ้รู ับผิดชอบการบรกิ ารดา้ นสิทธิประโยชน์แก่บุคลากร ดงั นี้ 1) ดา้ นสิทธิประโยชน์แก่บุคลากร เช่น การเบิกค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิ ค่าการศึกษาบุตร สวัสดิการคู่สมรสและบุตรตามสิทธิ การเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ การรับเงินเดือนและ เงินวิทยฐานะ การเสนอขอรับเคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ การประกันสังคมของพนักงานราชการและลูกจ้าง ชวั่ คราว การขอบตั รประจาตัว การย่ืนขอต่ออายใุ บอนุญาตประกอบอาชพี ครู การรบั รองสิทธิต่างๆ 2) ด้านการบริการส่ิงอานวยความสะดวกพ้ืนฐานที่จาเป็นสาหรับสานักงาน เช่น เครื่อง คอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์เอกสาร เครื่องถ่ายเอกสาร โทรศัพท์ โทรสาร เคร่ืองอัดสาเนาเอกสาร สัญญาณ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง อุปกรณ์การจัดการเรียนการสอนประจาห้องเรียน สานักงาน การบริการบ้านพัก แก่บคุ ลากร โรงเรียนหนองพอกวทิ ยาลัย สพม. 27

หมวด 5 บคุ ลากร (Workforce) | 8 3) ด้านสวัสดกิ ารและความปลอดภยั โรงเรียนไดป้ ระสานงานโรงพยาบาลตรวจสุขภาพประจาปี แก่บคุ ลากรทม่ี ีความประสงค์ การทาประกันอบุ ตั เิ หตหุ มู่ การจัดเวรยามรักษาความปลอดภยั 4) ด้านพัฒนาวิชาชีพ โดยการส่งเสริมสนับสนุนให้มีตาแหน่งท่ีสูงขึ้น อาทิ การขอมีหรือเลื่อน วทิ ยฐานะ ส่งเสรมิ ให้ศึกษาตอ่ ในระดับทีส่ ูงขนึ้ ศกึ ษาดงู าน เขา้ ร่วมอบรม สัมมนา 5) ด้านขวัญและกาลังใจ เช่น การมอบเส้ือสัญลักษณ์โรงเรียนเนื่องในโอกาสต่างๆ เช่น การแข่งขันกีฬาภายใน การมอบของขวัญเนื่องในวันคล้ายวันเกิด การมอบกระเช้าเยี่ยมไข้ การมอบเงิน สวัสดิการงานฌาปนกิจศพบุคคลในครอบครัวของบุคลากร การมอบเงินรับขวัญทายาทใหม่ ของบุคลากร การแสดงมุทิตาจิตบุคลากรที่เกษียณ กจิ กรรมเลี้ยงรับ – เล้ยี งส่งบุคลากร กิจกรรมสังสรรค์เน่ืองในวันส่งท้าย ปีเกา่ ตอ้ นรบั ปใี หม่ การดาเนินการตามนโยบายทั้ง 5 ด้าน โรงเรียนได้ประเมินความพึงพอใจอย่างสม่าเสมอ และพฒั นา ปรับปรุงระบบบรกิ ารสทิ ธปิ ระโยชนต่าง ๆ ให้ดยี ง่ิ ขึน้ 5.2 ความผูกพนั ของบุคลากร (Workforce Engagement) ก. ความผูกพนั และผลการปฏบิ ัตงิ านของบุคลากร (Workforce and Performance) (1) วฒั นธรรมองค์กร (Organization Culture) “ ” ภาพประกอบ 5-7 แผนภมู ิแสดงวฒั นธรรมองค์กรโรงเรียนหนองพอกวิทยาลยั โรงเรียนได้แต่งต้ังคณะกรรมการร่วมกันกาหนดวัฒนธรรมองค์กรและนาเสนอท่ีประชุมบุคลากร เพื่อร่วมกันกาหนด จนได้วัฒนธรรมองค์กรของโรงเรียน คือ “หนองพอกวิทยาลัยองค์กรแห่งการมีส่วนร่วม” เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติงานให้บุคลากรเกิดความผูกพันต่อโรงเรียน มุ่งเน้นการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ โดยการมีส่วนร่วม โดยมีจุดเน้นคือ การทางานเป็นทีม ให้ความสาคัญกับบุคลากรในโรงเรียน ให้อิสระ ในการทางานบนพ้ืนฐานความถูกต้อง ชอบด้วยกฎหมาย มีการสื่อสารภายในองค์กรเพื่อประชาสัมพันธ์ ข่าวสาร ระเบียบข้อตกลงต่างๆ ด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย พัฒนาบุคลากรเป็นผู้มีคุณภาพ มีความสุขในการ ทางาน มคี วามเคารพ รักใคร่สามคั คี ผนู้ ้อยเคารพผู้อาวโุ ส ผ้อู าวโุ สให้เกียรติ ใหโ้ อกาสผนู้ อ้ ยทางาน มกี าร ติดตามผลการดาเนินการในการประชุมคณะกรรมการบริหารโรงเรียน ประชุมประจาเดือนบุคลากรอย่าง ต่อเนื่อง สง่ ผลให้บคุ ลากรเกิดความผูกพันต่อโรงเรียน เป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้บุคลากรทุกคนมีแรงจูงใจในการ ทางานใหบ้ รรลุเป้าหมายตามวิสยั ทัศนแ์ ละพันธกิจ ดงั แสดงผลไวใ้ นหมวด 7 ภาพประกอบ 7-30 โรงเรยี นหนองพอกวิทยาลัย สพม. 27

หมวด 5 บุคลากร (Workforce) | 9 (2) ปัจจยั ขับเคลือ่ นความผูกพัน (Drivers of Engagement) 5 1) 2) 3) 4) 5) ภาพประกอบ 5-8 แผนภมู ิแสดงปัจจัยขับเคลอ่ื นความผกู พนั โรงเรียนได้แตง่ ตงั้ คณะกรรมการกาหนดปัจจัยขบั เคลือ่ นความผูกพนั โดยคณะกรรมการไดด้ าเนนิ การ ศึกษาทฤษฎีแนวคิดท่ีเกี่ยวข้องกับความผูกพัน สร้างแบบประเมินความผูกพัน และดาเนินการส่งเสริมความ ผูกพันต่อองค์กรของบุคลากรโดยการมีสวนร่วม มีการประเมินความผูกพัน และทบทวนกระบวนการ ดาเนนิ การงานว่าสอดคล้องกับวสิ ยั ทศั น์ พันธกิจของโรงเรียนหรือไม่ (3) ประเมนิ ความผกู พนั (Assessment of Engagement) โรงเรียนดาเนินการประเมินความผูกพันของบุคลากรต่อองค์กร ภาคเรียนละ 1 คร้ัง โดยใช้แบบสอบถามที่ได้จากการกาหนดปัจจัยขับเคล่ือนความผูกพัน ดังแสดง ภาพประกอบ 7-30 นอกจากนี้ได้ประเมนิ โดยการสังเกตจากบรรยากาศการทางานร่วมกันของบคุ ลากร การแสดงนา้ ใจต่อกนั เน่ือง ในโอกาสตา่ ง ๆ อัตราการลา การเขยี นคาร้องขอย้าย ความปลอดภยั ในการปฏิบัติงาน มีการทาสารสนเทศ ผลการประเมินเพื่อนาผลการประเมินไปปรับปรุงการบริหารจดั การเพ่ือปรับปรุงความผูกพนั ของบุคลากรในปี ถดั ไป (4) การจัดการผลการปฏบิ ัตงิ าน (Performance Management) โรงเรียนมีระบบการจัดการผลการปฏิบัติงานของบุคลากร โดยใช้รูปแบบคณะกรรมการ อย่างเป็นระบบ ยุติธรรม โปร่งใส ดังนี้ 1) การประเมินผลการปฏิบัติงานเพ่ือเลื่อนขั้นเงินเดือน/ค่าจ้าง โรงเรียนได้ดาเนินการ โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบมีส่วนร่วม มีวิธีการประเมินอย่างเป็นระบบ มีการ ประชุมคณะกรรมการเพื่อสรปุ วิธีการประเมิน เพื่อสารวจจุดดจี ุดควรปรบั ปรุง วิธีการประเมนิ การจัดเตรียม เอกสารหลักฐานเพื่อรบั การประเมินของบุคลากร แล้วรายงานผ้บู ริหารสถานศึกษาและนาเสนอแก่ที่ประชุม ประจาเดอื น เพอ่ื ปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป 2) การยกยอ่ ง ชมเชย มอบเกยี รตบิ ตั ร งานสารสนเทศจัดทาข้อมลู เม่ือ บุคลากรได้รับรางวัลจากการประกวดต่างๆ หรือเมื่อนานักเรียนเข้าแข่งขันรายการต่างๆ ไดร้ บั เลอ่ื นวิทยฐานะ ทสี่ ูงข้ึน เม่ือจบการศึกษาที่สงู ข้ึน มีการยกย่อง ชมเชย มอบเกียรติบัตรหน้าเสาธง ประชาสัมพันธ์ในเว็บไซต์ โรงเรียนเพ่ือประกาศคุณงามความดีของบุคลากร 3) ให้ค่าตอบแทนหรือสวัสดิการพิเศษตามโอกาส โรงเรยี นหนองพอกวทิ ยาลัย สพม. 27

หมวด 5 บคุ ลากร (Workforce)| 10 4) พัฒนาสง่ เสริมบุคลากรโดยนาข้อมูลจากการประเมนิ ผลการปฏิบตั งิ านของบุคลากรมาวิเคราะห์ สะทอ้ นผล จัดลาดับความสาคัญในเรื่องท่ีต้องการพฒั นา สารวจความต้องการพฒั นาของบคุ ลากร จัดทาโครงการพัฒนา บุคลากร สรุปและประเมินผลการพัฒนาบุคลากรเพื่อเป็นข้อมูลในการพัฒนาบุคลากรในปีต่อไป ดังแสดง ผลลพั ธไ์ วใ้ นหมวด 7 ภาพประกอบท่ี 7-30 และ ภาพประกอบ 7 -33 ข. การพฒั นาบคุ ลากรและผนู้ า (WORKFORCE and Leader Development) (1) ระบบการเรยี นรู้และการพฒั นา (Learning and Development System) ระบบการเรียนรูแ้ ละการพัฒนาสาหรบั บุคลากรและผู้นา โรงเรียนไดพ้ จิ ารณาต่อปัจจัยต่าง ๆ ดังน้ี 1) สมรรถนะหลกั ของโรงเรยี น ไดป้ ระเมนิ สมรรถนะหลักประจาสายงานของผบู้ รหิ าร ครูผู้สอนตาม ตาแหนง่ งาน จรรยาบรรณวิชาชีพ ตามกฎระเบียบขอ้ บังคบั วนิ ัยขา้ ราชการ การมาปฏิบตั ิราชการ การลาของ บคุ ลากรในสถานศึกษา มกี ารประชมุ ชแี้ จงในการจัดทาข้อตกลงการปฏิบัตริ าชการให้กบั บุคลากรทราบทกุ สาย งาน ตลอดจนการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการ โครงการต่อเนื่อง โครงการใหม่ ในการสนับสนุนและพัฒนา ผเู้ รยี น 2) ปรับปรงุ ผลการดาเนินงาน การสร้างและพัฒนานวัตกรรม โดยโรงเรียนไดพ้ ัฒนางานอย่างต่อเนื่อง โดยมีรูปแบบนวัตกรรมการบริหารจัดการท่ีดีของผู้บริหารสถานศึกษา โดยใช้การดาเนินงานตามแผนพัฒนา คุณภาพการศึกษาของโรงเรียน ตามรูปแบบ PHOKWIT Model 3) จริยธรรมและวิธีปฏิบัติของโรงเรียน โรงเรียนมุ่งเน้นพัฒนาบุคลากร ให้มีคุณภาพ ตามวัฒนธรรมขององค์กร โดยมีจุดเน้นคือ การทางานเป็นทีม การใหค้ วามสาคัญกับบุคลากรในโรงเรียน 4) การมงุ่ เน้นนกั เรียนและผู้มีสว่ นได้ส่วนเสีย โดยการพัฒนาระบบ การจัดการเรียนรู้ท่ีมุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศ ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้อย่างเสมอภาค ทั้งในเขต บรกิ ารและนอกเขตบริการสอดคลอ้ งกับความต้องการของชุมชน สังคม บุคคล ผปู้ กครอง มุ่งเน้นพฒั นาผู้เรยี น ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา 5) การถ่ายโอนความรู้จากบุคลากรท่ีลาออกหรือเกษียณอายุ ราชการ โดยมีการจัดระบบพ่ีเลี้ยง การสอนงานโดยใช้ระบบการทางานเป็นทีม เพื่อป้องกันการเกิดปัญหา การปฏิบัติงานท้ังในปัจจุบันและอนาคต 6) การส่งเสริมความรู้และทักษะใหม่ในการปฏิบัติงาน โดยการเข้า ร่วมประชุม อบรม สัมมนา ศึกษาดูงาน มีการทาบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับหน่วยงานทางการศึกษา เพื่อเพ่มิ ชอ่ งทางการพัฒนาตนเองและพัฒนางานให้แก่บุคลากร เสริมสร้างสมรรถนะและทักษะ ความรู้ใหม่ๆ อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ให้สามารถปรบั ตวั และรองรบั การเปลย่ี นแปลงของสังคมและความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยี (2) ประสทิ ธผิ ลของการเรียนรแู้ ละการพฒั นา (LEARNING and Development EFFECTIVENESS) โ ร ง เ รี ย น มี ก ร ะ บ ว น ก า ร ป ร ะ เ มิ น ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ แ ล ะ ป ร ะ สิ ท ธิ ผ ล ข อ ง ร ะ บ บ ก า ร เ รี ย น รู้ และการพัฒนา เพ่ือพฒั นาบุคลากรให้สามารถปฏิบัติงานบรรลุตามเป้าหมายของโรงเรียน และกาหนดวิธกี าร พัฒนาบุคลากร เพื่อให้สามารถปรับปรุง แก้ไขและพัฒนาบุคลากรได้อย่างเป็นรูปธรรม มีวิธีดาเนินการ พัฒนาการเรียนรู้และความก้าวหน้าในวิชาชีพของบุคลากร โดยเปิดโอกาสให้บุคลากรทุกคนได้เข้าร่วมการ อบรม สัมมนา อย่างต่อเน่ือง มีระบบการกากับติดตามผลการเรียนรู้และการพัฒนา ส่งผลให้บุคลากรของ โรงเรียน ได้รับการพัฒนาทางด้านวิชาชีพ สามารถนาความรู้มาพัฒนางานและเพิ่มขีดความสามารถในการ ปฏิบัติงานในหน้าท่ีความรับผิดชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ดังภาพประกอบ 5-10 และ แสดงผลไวใ้ นหมวด 7 ภาพประกอบ 7 -33 โรงเรียนหนองพอกวทิ ยาลยั สพม. 27

หมวด 5 บคุ ลากร (Workforce)| 11 1) 2) 3) 4. 5. / / ภาพประกอบ 5-9 แผนภมู ิแสดงระบบการเรยี นรแู้ ละการพฒั นา (3) ความกา้ วหน้าในวชิ าชพี โรงเรียนได้ดาเนินการพัฒนาบุคลากรอย่างมีระบบ ส่งผลให้บุคลากรมีความก้าวหน้าในวิชาชีพ ดงั ตาราง 5-1 ตาราง 5-1 การพฒั นาความก้าวหนา้ ในวชิ าชีพ การพัฒนาความกา้ วหนา้ ในวิชาชพี ตัวชว้ี ัดผลความสาเร็จของการดาเนินงาน 1. การเข้าร่วมการอบรม/ประชุม/สัมมนา จานวนขาราชการและบคุ ลากรทางการศกึ ษาที่เขารวม และศกึ ษา ดงู าน เพ่อื เพ่มิ พนู ความรแู้ ละ การอบรม/ประชุม/สมั มนา และศกึ ษา ดูงานทั้งในและ ประสบการณ์ การศกึ ษาด้วยตนเองจากระบบออนไลน์ ตา่ งประเทศ 2. การพัฒนาผลงานทางวิชาการเพื่อขอมหี รอื เล่ือน จานวนบคุ ลากรที่ไดเ้ ลือ่ นวิทยฐานะสงู ข้ึน วิทยฐานะ 3. การสนบั สนุนใหข้าราชการศึกษาตอในระดับท่ี จานวนบคุ ลากรที่สาเรจ็ การศึกษาในระดับที่สงู ขนึ้ สงู ขน้ึ การดาเนินการดังกล่าวนอกจากจะส่งผลให้บุคลากรมีความพร้อมต่อการปฏิบัติงานมีโอกาสเล่ือน วิทยฐานะสูงขึ้นแล้ว โรงเรียนยังสามารถกาหนดตัวบุคคลท่ีเหมาะสมในการวางแผนพัฒนาความก้าวหน้าใน สายอาชีพใหเ้ จรญิ เตบิ โตเป็นกาลงั สาคัญขององค์กรได้ต่อไป มีการสืบทอดการปฏิบัตงิ านระบบพเี่ ลี้ยงบคุ ลากร ในแต่ละงาน สามารถปฏิบัตงิ านแทนกนั ได้ในกรณผี ู้รับผิดชอบไม่มาปฏิบัติหนา้ ท่ีเนอื่ งจาก ลา ไปราชการ หรือ สาเหตอุ ่ืนๆ ทาใหร้ ะบบงานสามารถดาเนนิ การไดอ้ ยา่ งเปน็ ปกติ โรงเรียนหนองพอกวทิ ยาลัย สพม. 27