แหลง่ เรียนรู้ กศน.ตาํ บลวงั ทอง ศูนยการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอําเภอนาวัสํา
คาํ นํา ทําเนยี บแหลง เรยี นรู กศน.ตาํ บลวังทองเลม น้ี ไดทําการรวบรวมขอมลู แหลง เรียนรูตาง ๆ ในตําบล วงั ทอง ของอําเภอนาวัง เปน การรวบรวมขอมลู ภมู ิปญญา ปราชญชาวบา น และสถานที่ทอ งเที่ยวที่สําคญั ใน ตําบล ทัง้ น้ีเพ่ือมุงหวังใหประชาชนและบุคคลทว่ั ไปทไี่ ดมาศกึ ษาคนควา แหลง เรียนรูเลม นีไ้ ดน ําไปใชประโยชน การรวบรวมจัดทําเอกสารเกีย่ วกบั แหลงเรยี นรกู ศน.ตําบลวังทองเลมน้ี ไดรบั ความรว มมือจากองคกร ในพืน้ ท่ี รวมทงั้ ผูอาํ นวยการศนู ยการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาํ เภอนาวัง ทไี่ ดใ ห ขอ คิดเห็น ขอเสนอแนะและแนวทางในการปฏบิ ัติงานใหม ีความชัดเจนในการปฏิบตั งิ านมากย่ิงข้นึ จึงขอขอบพระคุณทกุ ทานท่มี ีสวนเกยี่ วของ ณ โอกาสน้ี ซงึ หวังวา เอกสารเลมนจ้ี ะเปน ประโยชนใ น การนาํ ไปเปน ขอมูลพน้ื ฐานในการพัฒนางานใหเ กดิ ประโยชนแ กป ระชาชนกลุมเปาหมายและสามารถ ดาํ เนินการไดอ ยางมปี ระสิทธิผลย่ิงข้ึน ผูจดั ทาํ กศน.ตาํ บลวงั ทอง
สารบญั หนา เรือ่ ง 1 1 ความหมายแหลงเรียนรู 1 ความสาํ คญั ของแหลงเรียนรู วตั ถุประสงคของการจดั แหลงเรยี นรู 2 แหลง เรียนรู ตําบลวังทอง 9 10 “วดั ถา้ํ เอราวณั ” 10 “วัดทรงธรรมบรรพต” “กลุม ทอผา มัดหม่ี” “ศนู ยการเรียนรเู ศรษฐกจิ พอเพียง”
\"แหลงเรียนรู\" หมายถงึ แหลงขอมลู ขา วสาร สารสนเทศ และประสบการณ ท่สี นับสนุนสงเสรมิ ให ผูเ รียนใฝเรียน ใฝรู แสวงหาความรแู ละเรยี นรูด วยตนเองตามอธั ยาศยั อยา งกวางขวางและตอเน่ือง เพอื่ เสริมสรางใหผเู รยี นเกดิ กระบวนการเรียนรู และเปน บุคคลแหง การเรยี นรู \"แหลงเรียนรู\" หมายถงึ \"แหลง \" หรือ \"ทร่ี วม\" ซึ่งอาจเปนสภาพ สถานท่ี หรือศนู ยรวมทปี่ ระกอบดวย ขอ มลู ขา วสาร ความรู และกิจกรรมทมี่ ีกระบวนการเรียนรู หรือกระบวนการเรียนการสอน ทม่ี รี ูปแบบ แตกตา งจากกระบวนการเรียนการสอนที่มีครูเปนผูสอน หรือศนู ยกลางการเรยี นรู เปน การเรยี นรทู ี่มี กําหนดเวลาเรียนยดื หยุน สอดคลองกบั ความตองการและความพรอมของผูเ รียน การประเมินและการวดั ผล การเรยี นมีลักษณะเฉพาะที่สรา งขึน้ ใหเ หมาะสมกับการเรียนรูอยา งตอเนือ่ งซง่ึ ไมจ าํ เปนตองเปนรปู แบบ เดียวกนั กบั การประเมนิ ผลในช้นั หรือหอ งเรียน แหลงเรียนรตู ามมาตรา 25 ในพระราชบัญญัตกิ ารศึกษา แหง ชาติ พ.ศ. 2542 ไดแ ก หองสมดุ ประชาชน พพิ ิธภณั ฑ หอศิลป สวนสัตว สวนสาธารณะ สวน พฤกษศาสตร อุทยานวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ศนู ยก ารกฬี าและนนั ทนาการ แหลง ขอมูลและแหลง การ เรียนรูอนื่ ๆ เปน ตน (สาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาแหงชาติ ) ความสําคัญของแหลงเรียนรู 1. แหลง การศึกษาตามอัธยาศัย 2. แหลงการเรียนรตู ลอดชีวติ 3. แหลง ปลูกฝง นสิ ัยรกั การอา น การศึกษาคนควา แสวงหาความรดู วยตนเอง 4. แหลงสรา งเสริมประสบการณภ าคปฏิบตั ิ 5. แหลงสรางเสริมความรู ความคดิ วิทยาการและประสบการณ วตั ถุประสงคของการจดั แหลงเรยี นรูในทอ งถิ่น 1. เปนแหลง การศึกษาตลอดชวี ิตทีป่ ระชาชนสามารถหาความรูตางๆไดด ว ยตนเองตลอดเวลา 2 .เพ่อื สงเสรมิ ใหช ุมชนและสงั คม มีแหลง การเรยี นรูเพ่ือการศึกษาทหี่ ลากหลาย สามารถเรียนรูไดตาม อัธยาศัย 3. เปน เคร่ืองมือที่สําคัญของบคุ คลแหง การเรียนรู ในการแสวงหาความรูเพื่อพฒั นาตนเอง แหลงเรียนรใู นทองถิ่น ไดแ ก หองสมุดประชาชน พิพิธภณั ฑ พิพิธภัณฑวิทยาศาสตร หอศลิ ป สวน สตั ว สวนสาธารณะ สวนพฤกษศาสตร อุทยานวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี ศนู ยก ารกฬี า สถานประกอบการ วัด ครอบครัว ชุมชน องคการภาครัฐและภาคเอกชน แหลงขอ มลู ภูมิปญญาทองถิ่น แหลง การเรยี นรูอ ืน่ ๆ เปน ตน
แหลง เรยี นรู กศน.ตาํ บลวังทอง 1. วดั ถาํ้ เอราวณั ทีต่ ้งั หมู 3 บา นผาอนิ ทรแปลง ตําบลวังทอง อําเภอนาวัง จังหวัดหนองบวั ลาํ ภู เปน แหลง เรยี นรู ดา นการทอ งเที่ยว และดา นธรรมะ ถ้ําเอราวัณ ต้ังอยูบานผาอินแปลง ตาํ บลวังทอง บริเวณภูเขาหินแข็งที่ชาวบาน เรียกวา ภูเขา ผาถ้ําชาง เปนรอยตอของอาํ เภอวังสะพุง จังหวัดเลย กับอาํ เภอนาวัง จังหวัดหนองบัวลาํ ภู ถํา้ เอราวัณ แหงน้ีนั้นตั้งอยูบนเขาท่ีมีลักษณะเปนหินแข็งที่มีกระจายอยูทั่วไปซึ่งถามองจากท่ีไกลๆจะเห็นมีลักษณะ เหมือนชางกําลังหมอบ แตถามองจากดานหนาผาก็จะเหมือนกับหนาผากของชาง สาํ หรับสวนบนของ ผาถา้ํ แหงน้ีน้ันมีลักษณะเปนหินแข็งแหลมคมขรุขระเปนกอนเล็กกอนนอย ถาํ้ เอราวัณเปนถํ้าขนาดใหญมีบันไดเรียงคดโคงไปมา จากเชิงเขาเบ้ืองลางข้ึนสูปากถ้ํากวา 600 ข้ัน มีพระพุทธรูปขนาดใหญ อยูบริเวณปากถ้ํา มองเห็นไดเดนชัดจากระยะไกล ภายในถ้าํ เปน หองโถงขนาดใหญ ท่ีเปนสถานท่ีแหงตํานานนิยายพ้ืนบานเร่ือง “นางผมหอม” มีหินงอกหินยอย สวยงาม ถํ้าเอราวัณแหงน้ีน้ันแตเดิมมีชื่อวา “ถํ้าชาง” ซึ่งเปนชื่อเรียกตามภูเขาถือผาถํา้ ชางซ่ึงพระครู ปลัดฝนปาเรสโกไดเชิญชวนผูมีจิตศรัทธารวมกันสรางขึ้นเปนวัดซ่ึงตอมาเรียกวาวัดถ้ําชางโดยไดสราง ไวบริเวณบันไดทางข้ึนถํา้ อันเปนท่ีมาของชื่อ”วัดถ้ําเอราวัณ”ภายในบริเวณดังกลาวน้ันมีส่ิงที่สนใจท่ีมี ความสวยงาม อันไดแก หลวงพอพระพุทธชัยศรีมุนีศรีโลกนาถอันเปนพระพุทธรูปศักด์ิ คูบานคูเมือง หรือจะเปนบันไดสวรรคซ่ึงเปนบันไดท่ีจะพบตอนเดินข้ึนไปยังถาํ้ 621 ช้ันท่ีลัดเลาะ เล้ียวไปตามไหลเขาพรอมศาลาพักชมวิวท้ังหมด 3 แหงตลอดเสนทางน้ัน อีกทั้งยังมีกองหินวงเปน รูปรางคลายเจดียโดยมีเรื่องเลาตอๆกันมาเปนความเช่ือวาถาหากใชหินมากอเปนรูปเจดีย 9 ช้ันแลว จะนําความโชคดีมาให เมื่อไดข้ึนมาที่บริเวณบนหลังคาถํา้ ก็จะไดพบกับปลองดาว 3 ปลองท่ีแสงสวาง สามารถสองลอดเขามาถึงได เม่ือเดินตอมาเร่ือยๆก็จะพบกับหินรูปพญาชางน่ังคุกเขาซ่ึงมีเรื่องเลาสืบ
ตอถึงท่ีมาวาพญาชางไดตรอมใจตายและสาปตัวเองใหเปนหิน นอกจากนี้ยังมีหินรูปทรงตางๆอีก มากมาย อาทิ หินนางผมหอม เห็ดหิน อางหิน ถา้ํ เอราวณั : ทต่ี งั้ ตามการปกครอง หมู 3 บา นผาอนิ ทรแปลง ตาํ บลวังทอง อาํ เภอนาวัง จังหวดั หนองบวั ลาํ ภู ทตี่ ง้ั ตามพิกัดภูมิศาสตร พิกัด UTM (WGS 1984) X 183054.912111, Y 1920694.678394 ละตจิ ดู 17.349630, ลองจจิ ูด 102.017931 ความสงู จากระดับนาํ ทะเลปานกลาง 341.00 เมตร สถานภาพ แหลงธรรมชาตจิ ากโครงการแนวทางการจดั การแผนแมบทเพอ่ื การอนุรักษสิง่ แวดลอ มธรรมชาติ ป 2547 ลกั ษณะเดนของพ้ืนท/่ี ลักษณะทีเ่ ปนเอกลกั ษณ ถ้ําเอราวัณต้ังอยบู นภูเขาหนิ ปนู ชาวบา นเรยี กเขานว้ี า “ผาถ้ําชา ง” เนื่องจากลักษณะเหมือนกับชา ง หมอบ และเมอ่ื มองจากบริเวณทางเขากอนถงึ วดั จะเหน็ ผามลี ักษณะเหมือนหนา ผากของชา ง ภายในแบงเปน โถงถ้ําเลก็ ๆ และมีคา งคาวอาศยั อยู เขาผาถํา้ ชา งมขี นาดสูง ทอดตวั ยาวสลบั ซบั ซอ นก้ันเขตแดนระหวาง จงั หวดั เลยและหนองบวั ลําภู ตํานาน/ความเช่ือ ถ้ําเอราวัณมตี ํานานเกยี่ วกับนางผมหอมเนื่องจากมถี ํ้าชอื่ นางผมหอมปรากฏอยู โดยชาวบาน จินตนาการวา เปนอางอาบนํ้าของนางผมหอม หางจระเขที่นางผมหอมถกู ตัดขาด และขันอาบนา้ํ ของนางผม หอม นอกจากนนั้ ยงั มหี ินงอกลักษณะคลา ยชา งหมอบ มีการนําผาสีมาพันและดอกไมธูปเทยี น ชาวบาน เรยี กวา “หินรปู พญาชางนั่งคุกเขา” โดยมตี าํ นานเลาวาพญาชา งตรอมใจตายจงึ สาปตัวเองใหกลายเปนหนิ อยู ทน่ี ี่ ประวตั ิการศกึ ษาทางโบราณคดี ถาํ้ เอราวัณไมมีหลกั ฐานวาพบครง้ั แรกเมื่อใด แตชาวบา นเรยี กกนั วา “ถํา้ ชาง” ตามชือ่ ภูผาถ้ํา ชา ง ตอ มาพระครปู ลัดฝนปาเรสโก ธดุ งคมาปฏิบัตธิ รรมอยทู ี่เชิงเขาจึงไดสรางวัดขน้ึ เรียกวา “วดั ถํา้ ชา งหรอื วดั ผาถ้าํ ชา ง” และไดมีผูบ รจิ าคทรัพยสรางชา งเอราวณั ข้ึนมาบริเวณเชิงบันไดข้นึ ถํา้ จึงเรียกช่อื วดั ใหมวาวดั ถ้ําเอราวณั และเรียกชื่อถ้าํ วา ถ้ําเอราวณั จากการสอบถามนางสดุ าใจ นวลสวาง เจาหนาทีเ่ ทศบาลตาํ บลวงั ทอง พบวา กรมศิลปากรยังไมเ คย เขามาสาํ รวจอยางจริงจงั ทถ่ี ้ําเอราวัณ โดยทางวัดจะเปน ผูดูแลถ้าํ สวนดา นวชิ าการและงบประมาณทาง เทศบาลจะเปน ผดู ูแล
หลักฐานทางโบราณคดสี มัยประวตั ิศาสตร ถํา้ เอราวัณพบหลักฐานท่ีแสดงใหเ ห็นวามกี ารใชพื้นท่ใี นสมัยรัตนโกสินทร คือ พระพุทธชยั ศรีมหามนุ ี ตรโี ลกนาถและพระพทุ ธรปู ตางๆ นอกจากนีถ้ ํ้าเอราวัณยังเก่ยี วขอ งกบั นิทานพื้นบานเร่ืองนางผมหอมดวย 1.) ชา งเอราวัณ อยูบ ริเวณเชิง บันไดกอนขน้ึ ไปถํา้ เอราวัณ ทีฐ่ านเขียนไว วา “เร่ิมสราง 21 พ.ค. 2516” และ “สรา ง เสรจ็ 31 ม.ค. 2517” โดยผมู ีจิตศรัทธาได รว มกันบริจาคทรัพยสรางข้นึ มา 2.) พระพุทธชัยศรมี หามนุ ีศรี โลกนาถ พระพุทธรูปขนาดใหญอ ยบู รเิ วณ ปากทางเขาถ้ํา ปางมารวชิ ยั ชายสงั คาฏิ สั้น ประทับบนฐานบวั คว่ําบัว หงาย ดานหนามเี ชิงเทยี นและพระพุทธรปู ขนาดเล็ก 12 องค ทําปางสมาธิ เชงิ เทยี น สลกั วา “ศรีสขุ ประเสรฐิ การชา ง อุดรธานี ถวาย 24 ก.ค. 28” ความสงู จากฐานถงึ เศยี ร 14.12 เมตร ความ กวา งจากฐานท้ังสองดา น 10.28 เมตร และขนาดหนา ตักกวาง 7.42 เมตร สรางเมอื่ ป พ.ศ. 2519 3.) พระพุทธรปู บริเวณโถงดา นหนา บริเวณทีเ่ รียกวา “พระพุทธรูปในถํ้า” เปนพระพทุ ธรูปไมแ ละ สําริดขนาดเลก็ หลายองค เปนศิลปะลา นชา ง ประดิษฐานอยูบนฐานบัวควาํ่ บวั หงายสรางจากปูนซเี มนตท ับ บนหนิ งอก ความสงู จากพ้นื ถึงฐาน 3.57 เมตร พระพทุ ธรูปท่อี ยูองคกลาง เปน องคใ หญสุด สรา งจาก สาํ ริด ทาํ ปางสมาธิ ขดั สมาธิราบ ทฐ่ี านเขยี นวา “พระจันโทปมาจารย13 เม.ย. 2513” ประเภทการใชป ระโยชน แหลง ธรรมชาตปิ ระเภทถ้ํา การใชป ระโยชนที่ดนิ เนือ่ งจากพื้นที่ถา้ํ เอราวัณเปนภเู ขาหินปูนโดด รายลอ มดวยพื้นที่ทําการเกษตร พืน้ ที่ปาท่ีปกคลุม บรเิ วณภเู ขาจึงมีมากนัก ประมาณ รอ ยละ 20 ซง่ึ สว นมากจะเปน ปา ผลัดใบที่ไมหนาแนน การใชประโยชนท่ีดนิ รอบแหลงธรรมชาตปิ ระเภทถ้าํ การใชป ระโยชนท ีด่ ินโดยรอบ ถ้าํ เอราวัณ สว นใหญเปน พื้นท่เี กษตรกรรม พืชหลกั คือ ออย ขา ว ขา วโพด และมนั สําปะหลัง กจิ กรรมการใชป ระโยชนที่ดนิ ท่ีอาจสง ผลกระทบตอถํ้าเอราวัณ คอื ปญหาเขมา และควนั ไฟ จากการเผาในไรออ ย เนอื่ งจากบริเวณโดยรอบถ้าํ เอราวัณสวนใหญจะเปนพ้นื ท่ีสําหรบั ปลูกออ ย โครงการพฒั นา
ถา้ํ เอราวัณ ขณะนอี้ ยูใ นความดแู ลของวัดเอราวณั ทางวัดจะมีการเก็บคาทีข่ องรานคา ในบรเิ วณ โดยรอบ ไมมีการเก็บคา เขา ถ้ํา หรอื ผทู ่ตี องการขึน้ ไปสักการะพระพุทธรูป แตจะมีการตัง้ ตเู พอ่ื รบั บริจาค 1.แผนการพฒั นาและบริหารจัดการถ้าํ ไมม ีการจดั ทําแผนเพื่อใชใ นการพฒั นา อยา งไรก็ตาม ทาง เทศบาล ตองการทีจ่ ะเขามาชวยในการ พัฒนา แตย ังอยใู นระหวางการเจรจากบั ทางวดั 2.การมสี วนรวมของชุมชน ทางเทศบาลมกี ารจดั ทาํ โครงการมคั คเุ ทศกน อย โดยการอบรมเยาวชน ท่ีอยูบรเิ วณพน้ื ที่โดยรอบถํ้า ในแตละรุนมเี ยาวชนใหความสนใจพอสมควร แตเ นือ่ งจาก เยาวชนเหลา น้ี เปน จติ อาสา ซงึ่ จะมีทงั้ กลุมท่ีตั้งใจ ทําโดยทไ่ี มไดรบั คา ตอบแทน หรอื จะไดร ับคาตอบแทนจากนกั ทองเทีย่ ว ตามทน่ี ักทองเที่ยวจะให เหลาน้ีเปน สาเหตหุ นึง่ ที่มคั คุเทศกนอยไมมคี วามตอเนื่อง 3.ปญ หา อปุ สรรค และขอ เสนอแนะเพิ่มเติมเพ่ือการบรหิ ารจดั การถ้าํ โดยภาพรวมอาจยังเปน เร่ืองการจัดการผลประโยชนท่ไี มล งตวั และความเขา ใจถงึ หลักการในการดูแล ถํา้ เอราวณั และความเปราะบางของถํา้ ของทุกภาคสวนอาจจะยังเขา ใจไมถูกกตอ ง ดังน้ัน จงึ ควรมบี ุคคล กลางที่เปน ท่ียอมรบั ของทกุ ภาคสว นท่เี กี่ยวของ รว มกบั นักวชิ าการโดยเฉพาะดานการจดั การถา้ํ มารวมกนั ชว ยในเร่ืองการวางแผนการจัดการ เพื่อให ถํา้ เอราวณั ใชประโยชนไ ดอยางย่ังยืน ส่งิ กอ สรางและสิ่งอํานวยความสะดวก บรเิ วณดา นลา งมรี านของท่รี ะลึกและทีน่ ั่งพักไวอ ํานวยความสะดวกสําหรับผูม าเยอื น นอกจากนน้ั ยัง มปี ายอธิบายรายละเอียดของถ้ําเอราวณั และปา ยกฎระเบยี บขอ หา มการเขาไปชมภายในถํา้ ซ่ึงบางปา ยลบ เลือนไปมาก ภายในถาํ้ มกี ารติดตั้งหมอแปลงไฟฟาและมีไฟทางเดนิ ตลอดทั้งถํ้าแตป จจุบันบางสวนกใ็ ชง าน ไมไ ด มกี ารประดบั ไฟฟลูออเรสเซนตสีตา งๆ ตามหินงอกหินยอย เปด ไฟตลอด 24 ช่วั โมง ซง่ึ ทางวดั รบั ผดิ ชอบคาใชจ า ย และมีการปพู ื้นหนิ ตลอดทางเดนิ ท้ังถํ้า ทางเทศบาลเปนผูจดั การดําเนินงานทั้งหมดในป พ.ศ. 2551 พรอ มทัง้ เปลีย่ นปายเหล็กแนะนําจดุ ตางๆ ซ่ึงแตเ ดิมเปน ปา ยไมจาํ นวน 19 จดุ ผลกระทบจากการใชประโยชน เน่อื งจากปจ จุบันถา้ํ เอราวัณเปนแหลง ทองเท่ียว การจดั การและดูแลถ้ําท่ีผา นมาจงึ เปนไปเพ่ือการ อํานวยความสะดวกในการทองเท่ยี วตอ ผูมาเยือน ทําใหม ีการรบกวนจากการทอ งเทยี่ ว ถาในแงผลกระทบตอ ส่ิงแวดลอ มยอ มเกดิ ข้นึ กบั โครงสรางของถา้ํ การเกดิ หนิ งอกหอนยอย หรอื แมแตส่ิงมีชีวติ ทอ่ี าศยั อยใู น ถ้ํา สว นในแงข องหลักฐานทางโบราณคดถี ือวา คณุ คา ของหลกั ฐานมคี วามสมบูรณเ นือ่ งจากไมไดถ ูกรบกวน หรือถกู ทําลาย เพราะวา เปน การนําหลกั ฐานเขา มาใหมในสมัยปจจุบัน สภาพถา้ํ ในปจ จบุ ันยงั มีความสมบรู ณอยู แตก็ไดรับผลกระทบจากการทองเทย่ี วอยบู าง เชน การขีด เขียนผนังถ้ํา หรอื การสัมผัสกับหินงอกหนิ ยอ ย จนบางสว นพังทลาย ท่สี ําคญั คือการทีม่ นุษยเขาไป
เปล่ียนแปลงสภาพแวดลอ มของถํ้าเพื่ออํานวยความสะดวกในการทองเทยี่ ว หนว ยงานท่เี กยี่ วของควรมี การศกึ ษาหรือวเิ คราะหถึงผลกระทบทอี่ าจเกิดตอถา้ํ ในอนาคต ถาํ้ เอราวัณ ตั้งอยบู า นผาอินแปลง ตําบลวงั ทอง บรเิ วณภเู ขาหนิ แขง็ ท่ีชาวบาน เรียกวา ภูเขาผาถํา้ ชาง ต้งั อยทู ี่ อําเภอนาวงั จังหวดั หนองบวั ลําภู หา งจากตวั เมืองหนองบัวลําภู ประมาณ 47กิโลเมตร ผูรับผดิ ชอบศูนยก ารเรียนรู นายบุญ ผยุ มอ ง เบอรโ ทรศพั ท 065 - 8969862 ผปู ระสานงาน นายบญุ ผยุ มอ ง เบอรโทรศัพท 065 - 8969862 2. วัดทรงธรรมบรรพต ทต่ี งั้ บานวงั สําราญ หมู 2 ตําบลวงั ทอง อาํ เภอนาวัง จังหวดั หนองบัวลําภู เปน แหลง เรียนรูดานการทองเท่ียว และดา นธรรมะ วดั ทรงธรรมบรรพต เปนวัดราษฎร สงั กดั คณะสงฆฝ ายมหานิกาย สาํ นักปฏบิ ัติธรรมประจาํ จังหวัดหนองบัวลําภู แหง ที่ 20 มคี าํ ขวญั วา “ดนิ แดนแหง ตอไมใ หญ สดใสดว ยพทุ ธรรม เลิศล้ํา ดวยหินเปด 800 ลานป ประเพณบี ุญคูนลาน หมูบานสง เสรมิ วัฒนธรรมอสี าน” ไหวพ ระ แกว ศักดสิ์ ิทธิ์ในอโุ บสถ และฟงธรรมโอวาทจากพระคุณ เจา เย่ียมชมศูนยวฒั นธรรมไทยสายใยชมุ ชนตาํ บล วงั ทอง กลมุ และภูมปิ ญ ญาทองถ่ินคนอสี านภายในชมุ ชน วดั ทรงธรรมบรรพต เปนศนู ยวัฒนธรรมไทยสายใยชมุ ชนวดั ทรงธรรมบรรพต เปน สถานที่ จัดตงั้ โครงการวัฒนธรรมไทยสายใยชุมชน ตําบลวังทองโดยไดจ ดั ต้งั โครงการขน้ึ เมอ่ื วันท่ี 26 กันยายน 2551 และ ไดร ับการคัดเลือกใหเ ปน โครงการวฒั นธรรมไทยสายใยชมุ ชนระดบั ดเี ดนของจงั หวดั และในป 2554 ไดร บั คัดเลอื กใหเ ปนโครงการวฒั นธรรมไทยสายใยชุมชน ระดับ 4 ไดร ับโลจ ากกรมสง เสริมวัฒนธรรม กระทรวง วฒั นธรรม โดยมี พระครปู ระทปี ธรรมธร เปน เจาอาวาส และประธานโครงการ การเดินทาง หา งจากตัวเมืองหนองบวั ลําภู ประมาณ 55 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 210 เสนทางหนองบัวลาํ ภู – เลย ประโยชน : เปน แหลง เรยี นรูดา นการทองเท่ียว และดานธรรมะในชุมชน ระดับตําบล อําเภอและ จังหวัด ผูร ับผดิ ชอบศนู ยก ารเรยี นรู นายบุญ ผยุ มอง เบอรโทรศพั ท 065 - 8969862 ผปู ระสานงาน นายบญุ ผยุ มอง เบอรโทรศัพท 065 - 8969862
3. กลุม ทอผา มัดหม่ี ที่ต้ัง บา นเลขท2ี่ 68/1 บานนาเจรญิ หมู 8 ตาํ บลวังทอง อําเภอนาวงั จังหวัดหนองบัวลาํ ภู ติดตอ ไดที่ นางคําพอง พิมพวาป โทร 080 – 1973477 เปน แหลงเรยี นรูดานอาชีพ กลุมมกี ารทอผาหลายชนิด ทั้งท่ศี ูนยพฒั นาและตามบานเรือนของสมาชิก การจัดการ กลุม จดั ต้งั ข้ึนในป 2542 สมาชิกเริ่มแรก 31 คน บรหิ ารจัดการในรปู กลมุ โดยไดรบั การสนบั สนนุ งบประมาณ จากองคก ารบริหารสว นตําบลวงั ทอง และสาํ นักงานพัฒนาชุมชนอําเภอนาวงั ในการจัดซื้อวัสดอุ ุปกรณในการ ผลติ สภาพพ้นื ที่ กลุมครอบคลุมสมาชิกทัง้ หมูบานนาเจริญ 37 ครวั เรือน ชุมชน 1. กลุมสตรีและเยาวชนสหกรณบา นนาเจริญ 2. กลุมทําขนม 3. กลมุ เยบ็ ผา อาชีพหลัก ทํานา อาชพี เสรมิ ทําหัตถกรรม ประโยชน : เปน แหลง เรยี นรูดานอาชพี ในชุมชน ระดับตําบล อาํ เภอและจังหวดั ผูรบั ผิดชอบศนู ยการเรียนรู นายบุญ ผุยมอ ง เบอรโ ทรศัพท 065 - 8969862 ผปู ระสานงาน นายบุญ ผยุ มอ ง เบอรโ ทรศัพท 065 - 8969862 4. ศูนยการเรยี นรเู ศรษฐกิจพอเพยี ง ท่ีตั้ง บานวังสําราญ หมู 2 ตาํ บลวงั ทอง อําเภอนาวงั จังหวัดหนองบวั ลําภู ตดิ ตอ ไดท ี่ นายสมจิตร พลบูรณ โทร 081 – 7998840 เปนแหลงเรยี นรูดานเศรษฐกิจพอเพียง ศนู ยเรยี นรูก ารเพิม่ ประสทิ ธิภาพการผลติ สินคาเกษตร ชื่อ : เทคนิคในการลดตน ทุนการผลิตขา ว ศนู ยเ รยี นรกู ารเพม่ิ ประสิทธภิ าพการผลติ สนิ คาเกษตร ตาํ บลวงั ทอง อาํ เภอนาวัง จงั หวัดหนองบัวลาํ ภู
สถานทต่ี ง้ั : บา นเลขที่ 62 หมทู ่ี 7 บา นวงั สาํ ราญ ตําบลวงั ทอง อําเภอนาวงั จงั หวดั หนองบัวลําภู พิกดั : Latitude = 17.323631 Longtitude = 102.988067 ระดบั ชนั้ : พ้นื ทีเ่ ปา หมาย : 25,332 ไร เกษตรกรเปา หมาย : 5,818 ราย พชื หลัก : ขาว ชื่อเกษตรกรตนแบบ :นายสมจติ ร พลบูรณเ กิดวันท่ี 2 กรกฎาคม 2489 อายุ 70 ป เลขบตั รประชาชน 3411400413681 ทีอ่ ยู : บา นเลขท่ี 62 หมูท่ี 2 บา นวังสาํ ราญ ตาํ บลวงั ทอง อําเภอนาวัง จงั หวดั หนองบัวลําภู เบอรโทรศัพท: 081-7998840 สถานการณของพ้นื ที่ : ตน ทุนการผลิตสูงผลผลติ ตาํ่ แนวทางการพฒั นา :วธิ ีการลดตน ทุนการผลติ ขาว โดยการใชป ุยอินทรยี อยา งตอเนื่องพรอมกับการปลกู พชื ปยุ สดไถกลบ ในแปลงนา ทาํ นาแบบหวา น ทําใหตนทุนการผลติ ขา วลดลงจากเดิมเฉลี่ยไรละ 4,200 บาท ลดลง เหลือ 2,500 บาท ตอไร ลดตนทนุ ไรล ะ 1,700 บาท เทคโนโลยีของศนู ยเรียนรู : เทคนคิ ในการลดตน ทนุ การผลิตขา ว การนําไปใชป ระโยชน : ลดตน ทุนการผลิตขา ว หลกั สตู รเรียนรู: 1. การลดตน ทุนเพิม่ ผลผลติ ขาว 2. การปลกู ผกั ปลอดภัยจากสารพษิ 3. การลดตน ทุนการผลติ ยางพารา 4. การเลี้ยงไสเดอื นดิน 5. การผลิตและขยายพันธไุ สเ ดือนฝอย 6. การผลติ ปยุ อนิ ทรีย 7. การปลูกดาวเรอื ง 8. การเลี้ยงปลาในกระชังบก เครอื ขาย: - สาํ นกั งานเกษตรและสหกรณจังหวัดหนองบัวลําภู - สาํ นกั งานประมงจังหวัดหนองบัวลําภู - สาํ นักงานตรวจบัญชีสหกรณจงั หวดั หนองบัวลาํ ภู - สํานกั งานปศสุ ตั วจังหวดั หนองบวั ลาํ ภู - สํานกั งานสหกรณจ งั หวดั หนองบวั ลาํ ภู - ศูนยวิจยั ขา วอดุ รธานี
- กองทนุ สงเคราะหสวนยางหนองบัวลาํ ภู - ทว่ี า การอาํ เภอนาวัง ปจจยั ทกี่ อใหเ กดิ ความสาํ เรจ็ ไดแก การบริหารจดั การโดยเนนการปลกู พชื ใหเหมาะสมกับสภาพพ้ืน ทดี่ นิ มกี าร ปรบั ปรุงใหด ินอดุ มสมบูรณต ลอด การเตรยี มแปลงปลูกใหเ หมาะสม การปลูกพืชที่หลากหลาย ชนดิ เพอื่ ลดความเสียงจาก ราคาผลผลิตทางการเกษตรที่ไมแนน อน การจัดการนํ้าความความตอ งการของพืช การวางแผนผลผลติ ใหผ ลผลติ ออกสู ตลาดในชวงทผ่ี ูบรโิ ภคตอ งการ และมผี ลผลิตออกสตู ลาดอยา งตอเนื่อง ตลอดท้งั ป แนวคิดในการทาํ งาน นอ มนําแนวทางปรชั ญาเศรษฐกจิ กจิ เพยี งขององคพระบาทสมเดจ็ พระ เจา อยูหัว มาปรบั ใชในพื้นทขี่ องตน ปลกู และเลีย้ งทุกอยา งท่ีกนิ กินทุกอยางทปี่ ลูกและเล้ยี ง มีการวาง แผนการผลิตโดยคํานึงถงึ การตลาด ใชปจจยั การผลิตท่ีตนมี อยา งเหมาะสมและคุมคา เพื่อลดตนทุนการผลิต ไดมากท่สี ดุ หลักคดิ ในการประกอบอาชพี การเกษตร การทําการเกษตรตองทําใหห ลากหลาย เพ่ือลดความเส่ียง อันเน่ืองมาจากราคาสนิ คา เกษตรไมแนน อน ใชพื้นท่ใี ห คมุ คา เกิดประโยชนสงู สดุ ลดการพง่ึ พาปจ จยั ภายนอก ทสี่ าํ คัญมบี ริโภคในครัวเรือน ประโยชน : เปนแหลงเรียนรูดา นเศรษฐกิจพอเพยี งในชุมชน ระดับตาํ บล อาํ เภอและจงั หวัด ผรู ับผิดชอบศนู ยก ารเรยี นรู นายบุญ ผยุ มอ ง เบอรโ ทรศพั ท 065 - 8969862 ผปู ระสานงาน นายบญุ ผุยมอ ง เบอรโ ทรศัพท 065 - 8969862
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: