ก.ต.ป.น สพป.พะเยา เขต 2

๑๐๑

๑๐๒

๑๐๓ การขบั เคล่ือนการพฒั นาการศกึ ษาของสานักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษา สำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศึกษำประถมศึกษำพะเยำ เขต 2 ได้กำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ และค่ำนิยม องค์กรร่วมกัน และเพ่ือให้เกิดกำรขับเคลื่อนอย่ำงเป็นรูปธรรมและให้ทุกฝ่ำยยึดถือเป็นแนวปฏิบัติเดียวกัน ในทุกระดับต้ังแต่ระดับสำนักงำนเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำ ระดับกลุ่มโรงเรียน และระดับโรงเรียน จึงได้คิดหำ นวัตกรรมซึ่งเป็นกรอบกำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำโดยใช้ช่ือว่ำ PUSH 38 MODEL เพื่อให้สอดคล้องกับ วิสัยทัศน์ พันธกิจ และนำส่กู ำรปฏบิ ตั ิอยำ่ งเป็นรูปธรรม ดงั แผนภำพและรำยละเอยี ด ดังนี้ กรอบการพฒั นา PUSH 38 MODEL กรอบแนวทำงในกำรพัฒนำสำนักงำนเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำพะเยำ เขต 2 มี วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำของโรงเรียนในสังกัด มีรูปแบบกำรบริหำรจัดกำรโดยใช้หลัก ค่ำนิยมองค์กร PUSH ในกำรขับเคลื่อนกำรบริหำรจัดกำรด้วยวงจรพัฒนำคุณภำพเดมมิ่ง(PDCA) มำ ประยุกต์ใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพและดำเนินงำนกำรบริหำรจัดกำรให้สอดคล้องกับ วิสัยทัศน์ พันธกิจ ของ

๑๐๔ สำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศึกษำประถมศึกษำพะเยำเขต 2 และพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำครอบคลุม 3 มิติ 8 จุดเนน้ ซึง่ รำยละเอียดของกรอบกำรพัฒนำ PUSH 38 Model มรี ำยละเอยี ด ดังนี้ 1. คา่ นิยมองคก์ ร Phayao2 – PUSH P - Participation มสี ่วนรว่ ม U - Unity เป็นหน่ึงเดียว S – Service mind จติ บริกำร H – Honesty ซื่อสตั ย์ สุจริต PUSH = การผลักดนั /ขับเคลื่อน 2. บรหิ ารจัดการโดยใช้วงจรเดมม่ิง PDCA P = PLAN กำรวำงแผน ขั้นตอนนี้เป็นกำรนำงำนท้ังหมดท่ีสำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำรับผิดชอบมำจัดเรียงลำดับ ควำมสำคัญ กำหนดวัตถุประสงค์ของงำน และเป้ำหมำยในกำรทำงำน มีกำรจัดทำเปน็ เอกสำรข้ันตอน และวิธีกำรทำงำนเอำไว้ อำจจะมีระยะเวลำที่ใช้ในกำรทำงำน ผู้รับผิดชอบ ผู้ตรวจสอบ ถ้ำกำรทำงำน นัน้ มีผู้ร่วมทำงำนหลำยคน มีกำรจัดลำดับควำมสำคัญของงำน งำนไหนทำก่อน งำนไหนทำทีหลัง และ มีแผนสำรองสำหรับงำนท่ีเข้ำมำแทรกตำมที่ได้วำงแผนไว้ว่ำจะจัดกำรอย่ำงไร เพื่อให้กำรทำงำนไม่ ตดิ ขดั และทนั ตอ่ เวลำ รวมไปถึงงำนที่ไดม้ คี ุณภำพตำมเวลำท่กี ำหนดด้วย D= DO กำรปฏิบตั ิตำมแผน เป็นกำรทำงำนตำมแผนงำนท่ีได้วำงไว้ ขั้นตอน วิธีกำร ลำดับงำนท่ีเรำกำหนดไว้ใน PLAN ก็ นำมำปฏิบัติ โดยทำกำรศึกษำถึงวิธีกำรที่ดีที่สุดในกำรทำงำนนั้น ๆ เอำมำใช้ให้เกิดประโยชน์ และ ทำงำนได้ผลดีท่ีสุด หรืออำจจะมีกำรอบรมงำนเหล่ำน้ันเพ่ือควำมเข้ำใจในกำรปฏิบัติแล้วลงมือปฏิบัติ ตำมขั้นตอนและวิธีกำรทำงำนที่ได้วำงแผนไว้ ในระหว่ำงกำรทำงำนมีกำรเก็บข้อมูลที่จำเป็น ที่สำคัญ ตำ่ ง ๆ เพ่ือประโยชน์ในกำรทำงำนคร้ังต่อไปด้วย หรือเพื่อจดบันทึกประเด็นที่เป็นข้อบกพร่องของงำน เอำไว้ เพอ่ื นำไปแกไ้ ข ปรบั ปรุงกำรทำงำนในคร้งั ต่อไป C= CHECK กำรตรวจสอบ เป็นขั้นของกำรตรวจสอบกำรทำงำนท่ีได้ทำไปแล้ว (จำก DO) ว่ำเป็นไปตำมท่ีต้องกำรหรือไม่ หรอื ตำมมำตรฐำนที่ได้กำหนดไว้หรือไม่ อำจจะใชเ้ ครื่องมือช่วยในกำรตรวจสอบ เช่น เคร่ืองมือต่ำง ๆ ผลกำรทำงำนเม่ือเทียบกับงำนคร้ังก่อน เป็นต้น ในกำรตรวจสอบโดยท่ัวไปได้แก่ ระยะเวลำตำม เป้ำหมำย คุณภำพของงำนที่ออกมำ วธิ ีกำรหรอื ขน้ั ตอนกำรทำงำน ซง่ึ กำรตรวจสอบกำรทำงำนควรจะ มีกำรจดบันทึกในรูปแบบต่ำง ๆ ไว้ เช่น สมุดบันทึก เอกสำรกำรตรวจสอบ คอมพิวเตอร์ เป็นต้น เพอื่ ใหง้ ำ่ ยในกำรปรับปรุง และแก้ไขในกำรทำงำนครง้ั ต่อไป A = ACTION กำรปรับปรงุ แกไ้ ข ในกำรทำงำนหำกมีข้อบกพร่องที่เกิดข้ึนจำกกำรตรวจสอบ CHECK จะมีกำรหำวิธีกำรและ ข้ันตอนในกำรแก้ไขทันที หรือตำมระยะเวลำที่กำหนดไว้ โดยทำกำรค้นหำสำเหตุที่เกิดข้ึน และใช้

๑๐๕ วิธีกำรแก้ไขที่ดีที่สุดในกำรทำกำรแก้ไข เพื่อไม่ให้ปัญหำท่ีเกิดขึ้นไม่เกิดข้ึนซ้ำอีก และมีวิธีกำรพัฒนำ ปรบั ปรงุ งำน หรือระบบงำนนั้น 3. การพฒั นาคุณภาพการศกึ ษา ผ่านกระบวนการ 3 มิติ 8 จุดเน้น รายละเอยี ด ดังน้ี มติ ทิ ่ี 1 กำรพฒั นำศกั ยภำพผบู้ ริหำร จุดเน้นที่ 1 ผ้นู ำทำงวิชำกำร (เน้นกำรบรหิ ำรจดั กำรดำ้ นนเิ ทศภำยใน) จดุ เนน้ ท่ี 2 กำรบริหำรจัดกำรโดยใช้ระบบประกันคณุ ภำพกำรศกึ ษำ มติ ทิ ่ี 2 กำรพัฒนำ คุณภำพครู จุดเน้นที่ 1 ห้องเรียนคณุ ภำพ จดุ เน้นที่ 2 กำรนอ้ มนำศำสตร์พระรำชำสกู่ ำรปฏิบัติ (รู้ รัก สำมัคคี พอเพยี ง มสี ่วนรว่ ม) มติ ิท่ี 3 กำรพฒั นำผู้เรยี นสูม่ ำตรฐำน จดุ เนน้ ที่ 1 ภำษำและคิดคำนวณ จุดเนน้ ท่ี 2 กำรรู้และเข้ำใจเทคโนโลยี จดุ เน้นที่ 3 กำรคดิ และแกป้ ญั หำ จุดเน้นท่ี 4 กำรมีทักษะชีวิตและอำชีพ มติ ิที่ 1 มติ ิท่ี 1 การพัฒนาศักยภาพผบู้ ริหาร จุดเนน้ ท่ี 1 การนเิ ทศภายใน กำรนิเทศภำยในสถำนศึกษำ เป็นหัวใจนำทำงกำรนิเทศของผู้บริหำรสถำนศึกษำ เป็นควำม พยำยำมทุกวิถีทำงของผู้บริหำรสถำนศึกษำ ครู และบุคลำกรทำงกำรศึกษำในอันที่จะปรับปรุง แก้ไข พัฒนำประสิทธิภำพ ประสิทธิผลในกำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้ภำยในโรงเรียนให้มีคุณภำพตรงตำม มำตรฐำนของหลกั สตู ร มำตรฐำนกำรศกึ ษำชำติ เพ่ิมสูงขึ้นอยำ่ งยั่งยนื และต่อเนอื่ ง เพื่อเปน็ กำรเพ่ิมพลงั และ ศักยภำพในกำรปฏิบัติงำนของวิชำชีพครู รวมท้ังส่งเสริมให้ครูมีควำมก้ำวหน้ำ ในวิชำชีพและผลสุดท้ำย คือ กำรเรยี นรู้ของนักเรยี นเป็นไปอย่ำงต่อเนื่อง โดยกำรบรหิ ำรงำนวิชำกำร จะมีขอบขำ่ ย/ภำรกจิ ดงั ต่อไปนี้ 1. กำรพฒั นำหลกั สตู รสถำนศึกษำ 2. กำรพฒั นำกระบวนกำรเรียนรู้ 3. กำรวัดผล ประเมินผล และเทยี บโอนผลกำรเรยี น 4. กำรวจิ ยั เพ่ือพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำ 5. กำรพฒั นำสอ่ื นวตั กรรม และเทคโนโลยเี พื่อกำรศึกษำ 6. กำรพัฒนำแหล่งเรยี นรู้ 7. กำรนเิ ทศกำรศึกษำ 8. กำรแนะแนวกำรศกึ ษำ 9. กำรพัฒนำระบบประกนั คุณภำพภำยในสถำนศึกษำ 10. กำรสง่ เสรมิ ควำมรูด้ ้ำนวิชำกำรแก่ชมุ ชน 11. กำรประสำนควำมรว่ มมือในกำรพฒั นำวชิ ำกำรกับสถำนศึกษำอ่ืน 12. กำรส่งเสริมและสนับสนุนงำนวิชำกำร แก่บุคคล ครอบครัว องค์กร หน่วยงำน และสถำบันอืน่ ทจี่ ดั กำรศึกษำ

๑๐๖ จดุ เน้นท่ี 2 การบรหิ ารจัดการโดยใช้ระบบประกนั คุณภาพการศึกษา กำรประกันคุณภำพภำยในสถำนศึกษำ เป็นส่ิงท่ีสถำนศึกษำต้องดำเนินกำรตำมท่ีกำหนดไว้ใน พระรำชบัญญัติกำรศึกษำแห่งชำติ พุทธศักรำช 2542 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับท่ี 3)พ.ศ.2553 หมวด 6 ว่ำด้วยมำตรฐำนและกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำ เพ่ือเป็นส่ิงประกันว่ำกำรจัดกำรศึกษำของสถำนศึกษำ จะส่งผลให้ผเู้ รยี นมีคุณภำพตำมมำตรฐำนหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขัน้ พ้ืนฐำน พทุ ธศกั รำช 2551 โดย ทุกฝ่ำยท่ีเก่ียวข้องกับสถำนศึกษำ ทั้งผู้บริหำรสถำนศึกษำ คณะครู นักเรียน คณะกรรมกำรสถำนศึกษำ ผู้ปกครอง หน่วยงำน / องค์กรในชุมชน และหน่วยงำนที่สูงกว่ำระดับสถำนศกึ ษำมคี วำมพงึ พอใจ และผล กำรปฏบิ ตั ิสอดคลอ้ งกบั มำตรฐำนกำรศึกษำ ผู้บริหารสถานศกึ ษา เปน็ บุคลำกรท่ีสำคัญยง่ิ ท่ีจะผลักดัน ขบั เคลื่อนใหก้ ำรประกันคุณภำพของ สถำนศึกษำ บรรลุสู่เป้ำหมำยอย่ำงมีประสิทธิภำพ โดยจะต้องบริหำรแบบมีส่วนร่วม มีลักษณะของผู้นำ แบบประชำธิปไตย จะให้ควำมสำคัญ ให้เกียรติและเคำรพในศักด์ิศรีของผู้ร่วมงำน ยอมรับและเปิดโอกำส ให้ผู้ร่วมงำนแสดงควำมคิดเห็น ร่วมแก้ปัญหำ และร่วมตัดสินใจ เป็นผู้มีวิสัยทัศน์ มีควำมเช่ือมั่น เห็น คุณค่ำของตนเองและผู้ร่วมงำน ซ่ือสัตย์ จริงใจ มีควำมสำมำรถกระตุ้น และจูงใจให้เกิดควำมรักและควำม ผกู พันในโรงเรียน โดยกำรบริหำรงำนกำรประกันคุณภำพกำรศกึ ษำให้สำเร็จ น้นั ประกอบด้วยปัจจัยหลำย ประกำร ได้แก่ 1. ภำวะผู้นำกำรเปลย่ี นแปลงของผู้บรหิ ำรสถำนศกึ ษำ 2. กำรทำงำนเปน็ ทีมของบุคลำกรทั้งในและนอกโรงเรยี น 3. กำรสรำ้ งควำมตระหนัก ควำมเขำ้ ใจ ควำมสำคญั จำเปน็ แก่ผู้เก่ยี วขอ้ ง 4. กำรกำหนดผรู้ ับผิดชอบ 5. กำรประสำนงำนของผเู้ กยี่ วข้อง 6. กำรบริหำรตำมระบบ P-D-C-A 7. กำรพัฒนำระบบประกนั คณุ ภำพใหเ้ ปน็ ไปตำมระบบงำนปกติ 8. กำรมีสว่ นร่วมในกำรดำเนนิ งำนของทุกคน ทุกฝ่ำย 9. กำรระดมทรัพยำกรในกำรบริหำรจดั กำร ดังน้ัน เพ่ือกำรพัฒนำโรงเรียนตำมระบบประกันคุณภำพกำรศึกษำ ผู้บริหำรสถำนศึกษำ จำเป็นต้องเปล่ียนแปลงบทบำทของตน และใช้หลักกำรบริหำรโดยใช้โรงเรียนเป็นฐำน(School Based Management : SBM) ที่ให้ทุกคนมีส่วนร่วมคิดร่วมตัดสินใจ เพื่อสร้ำงทีมงำน ท่ีเข้มแข็งในกำรพัฒนำ คณุ ภำพของสถำนศกึ ษำ ให้บรรลุตำมเป้ำหมำยต่อไป มติ ทิ ่ี 2 การพัฒนาคุณภาพครู จดุ เน้นท่ี 1 ห้องเรยี นคณุ ภาพ กำรขับเคลื่อนห้องเรียนคุณภำพสู่กำรปฏิบัติ มีแนวคิดในกำรพัฒนำงำน 5 ด้ำน คือ 1. ดำ้ นหลักสตู รเนน้ กำรออกแบบกำรจัดกำรเรยี นรู้องิ มำตรฐำน 2. ICT สำหรับกำรบริหำรและกำรจัดกำรเรียนกำรสอน 3. ระบบกำรดูแลช่วยเหลือนักเรียนเน้นวินัยเชิงบวก 4. กำรวิจัยปฏบิ ัติกำรในชนั้ เรยี น 5. ครูผนู้ ำกำรเปลยี่ นแปลง

๑๐๗ จดุ เน้นท่ี 2 การนอ้ มนาศาสตร์พระราชาส่กู ารปฏิบตั ิ (รู้ รกั สามคั คี พอเพียง มีสว่ นร่วม) จุดเน้นน้ีได้น้อมนำศำสตร์พระรำชำฯ หมำยถึง ศำสตร์พระรำชำและหลักกำรทรงงำนใน พระบำทสมเด็จพระบรมชนกำธิเบศร มหำภูมิพลอดุลยเดชมหำรำช บรมนำถบพิตร ในประเด็น รู้ รัก สำมคั คี พอเพยี ง และมีส่วนร่วม รู้ : กำรที่เรำจะลงมือทำส่งิ ใดน้นั จะต้องร้เู สยี ก่อน รูถ้ งึ ปัจจัยท้งั หมด รถู้ งึ ปญั หำ และรู้ ถึง วธิ ีกำรแกป้ ญั หำ รัก : คือ เมอ่ื เรำรูค้ รบด้วยกระบวนกำรควำมแลว้ จะตอ้ งมีควำมรักกำรพจิ ำรณำท่จี ะเขำ้ ไป ลงมอื ปฏิบัติแกไ้ ขปัญหำนั้น ๆ คือ กำรสร้ำงฉันทะ สามัคคี : กำรทจ่ี ะลงมอื ปฏิบตั นิ น้ั ควรคำนงึ เสมอว่ำเรำจะทำงำนคนเดยี วไม่ได้ ตอ้ ง ทำงำนร่วมมือร่วมใจเปน็ องคก์ ร เป็นหม่คู ณะ จงึ จะมีพลงั เข้ำไปแกป้ ญั หำใหล้ ลุ ว่ งไปไดด้ ว้ ยดี พอเพียง : หลักของควำมพอเพียงหมำยถึง ควำมพอประมำณ ควำมมีเหตุผล กำรสร้ำง ภูมคิ ุ้มกนั ทีด่ ีในตัวพอสมควรตอ่ กำรมผี ลกระทบใดๆ อันเกิดจำกกำรเปลีย่ นแปลงทั้งภำยนอกและภำยใน การมีส่วนร่วม (หลักกำรทรงงำนข้อที่ 10) ทรงเป็นนักประชำธิปไตย จึงทรงนำ “ประชำ พจิ ำรณ์” มำใช้ในกำรบรหิ ำร เพื่อเปิดโอกำสให้สำธำรณชน ประชำชน หรอื เจ้ำหน้ำท่ีทุกระดับได้มำรว่ มกัน แสดงควำมคิดเห็นเก่ียวกับ เรื่องที่จะต้องคำนึงถึง ความคิดเห็นของประชำชนหรือความต้องการของ สำธำรณชน มติ ิที่ 3 การพฒั นาผ้เู รียนสู่มาตรฐาน จดุ เน้นท่ี 1 ความสามารถทางภาษาและคิดคานวณ ดา้ นภาษา หมำยถึง ควำมสำมำรถในกำรอ่ำน กำรฟัง กำรดู กำรพูด เพื่อกำรรู้ เข้ำใจ วิเครำะห์ สรปุ สำระสำคัญ ประเมินส่ิงท่ีอ่ำน ฟงั ดู จำกสอื่ ประเภทต่ำง ๆ และส่ือสำรด้วยกำรพดู กำรเขียน ได้ถูกต้องตำมหลักภำษำอย่ำงสร้ำงสรรค์ เพื่อกำรนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน กำรอยู่ร่วมกันในสังคม และ กำรศึกษำตลอดชวี ิต การคิดคานวณ เป็นควำมสำมำรถในกำรใช้ทักษะทำงคณิตศำสตร์ ทักษะกำรคิด คำนวณ และควำมคดิ รวบยอดทำงคณิตศำสตร์ ในสถำนกำรณต์ ำ่ ง ๆ ในชวี ติ ประจำวัน จดุ เนน้ ท่ี 2 การรแู้ ละเขา้ ใจเทคโนโลยี ทักษะในกำรนำเครอ่ื งมอื อุปกรณ์ และเทคโนโลยีดจิ ิทัล ทมี่ อี ยู่ในปัจจุบนั อำทิ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แท็ปเลต โปรแกรมคอมพิวเตอร์ และส่ือออนไลน์ มำใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ใน กำรสื่อสำร กำรปฏิบัติงำน และกำรทำงำนรว่ มกัน หรือใช้เพื่อพัฒนำกระบวนกำรทำงำน หรือระบบงำนใน องค์กรใหม้ คี วำมทนั สมยั และมปี ระสทิ ธิภำพ โดยทกั ษะดงั กล่ำวครอบคลมุ ควำมสำมำรถ 4 มิติ กำรใช้ (Using) เข้ำใจ (Understanding) กำรสร้ำง (creating) เข้ำถงึ (Accessing) เทคโนโลยดี จิ ิทัล ได้อยำ่ งมีประสทิ ธิภำพ

๑๐๘ จุดเน้นท่ี 3 การคิดและแกป้ ัญหา กำรคิดวิเครำะห์ ตัดสินใจและแก้ปัญหำอย่ำงสร้ำงสรรค์ หมำยถึง กำรแยกแยะข้อมูล ขำ่ วสำร ปญั หำและสถำนกำรณร์ อบตัว วิพำกษ์วจิ ำรณ์และประเมินสถำนกำรณร์ อบตัวด้วยหลักเหตุผลและ ข้อมูลท่ีถูกต้อง รับรู้ปัญหำ สำเหตุของปัญหำ หำทำงเลือกและตัดสินใจในกำรแก้ปัญหำในสถำนกำรณ์ต่ำง ๆ อย่ำงสรำ้ งสรรค์ จุดเน้นที่ 4 การมีทักษะชีวิตและอาชพี กำรพัฒนำจุดเน้นดำ้ นทกั ษะชีวิต จดั ทำเพอ่ื ให้ครูและผู้บรหิ ำรใช้เป็นแนวทำงในกำรจัด กิจกรรมพัฒนำและเสริมสร้ำงทักษะชีวิตให้กับผู้เรียน ท้ังกำรสอนโดยตรงและกำรบูรณำกำรกำรเรียนกำร สอนในหลักสูตร 8 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนำผู้เรียน ให้ผู้เรียนมีและใช้ทักษะชีวิตสำมำรถ เผชิญปัญหำต่ำง ๆ รอบตัวได้เหมำะสมกับช่วงวัย รู้จักตัดสินใจและแก้ไขสถำนกำรณ์ให้อยู่รอดปลอดภัย จำกปัญหำต่ำง ๆ และอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมอย่ำงมีควำมสุขสอดคล้องกับสมรรถนะด้ำนทักษะชีวิตใน หลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำข้ันพ้ืนฐำน พุทธศักรำช 2551 และสอดคล้องกบั ศตวรรษที่ 21 ข้ันตอนกระบวนการในการขับเคล่ือน 3 มติ ิ 8 จดุ เน้น สำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำพะเยำ เขต 2 ไดใ้ ช้กระบวนกำรบริหำรด้วยวงจรเดมมิ่ง PDCA ในกำรพฒั นำคุณภำพกำรศึกษำ ตำมกระบวน 3 มิติ 8 จุดเน้น ของสำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำ ประถมศึกษำพะเยำ เขต 2 ในมิติที่ 1 กำรพัฒนำศักยภำพผู้บริหำรสถำนศึกษำ โดยมี จุดเน้นท่ี 1 ผู้บรหิ ำรเป็นผู้นำทำงวิชำกำร (เน้นกำรบริหำรจัดกำรด้ำนนิเทศภำยใน) และจุดเน้นท่ี 2 กำรบริหำรจัดกำร เชิงระบบ (เน้นกำรประกันคุณภำพภำยในสถำนศึกษำ) เพ่ือให้เห็นสภำพควำมสำเร็จในกำรดำเนินกำรในมิติท่ี 1 จึงจำเป็นตอ้ งมีกำรนิเทศติดตำม และประเมนิ ผลกำรดำเนนิ กำรพัฒนำศกั ยภำพของผู้บรหิ ำรสถำนศกึ ษำ โดยมแี นวทำงในกำรดำเนินกำร ดงั นี้ 1. แต่งตั้งคณะกรรมกำรนิเทศตดิ ตำม 2. ประชุมชี้แจงกำรใช้เกณฑ์กำรประเมินผลกำรดำเนินกำรพัฒนำศักยภำพ ผูบ้ ริหำรสถำนศกึ ษำ และกำรนิเทศติดตำม 3. กำหนดปฏิทินในกำรนเิ ทศตดิ ตำม 4. ปฏบิ ัตกิ ำรนิเทศติดตำมตำมปฏิทนิ ทีก่ ำหนด 5. สรุปและรำยงำนผลกำรนิเทศติดตำมและประเมนิ ผลกำรพฒั นำศกั ยภำพผู้บริหำร 6. วิเครำะหผ์ ลกำรนเิ ทศกำกับติดตำมภำพรวมและหำแนวทำงกำรพัฒนำครัง้ ต่อไป 7. ยกย่องเชดิ ชเู กยี รตคิ รู และโรงเรียนทขี่ ับเคลอ่ื น 3 มติ ิ 8 จุดเนน้

๑๐๙

๑๑๐ บทบาทหนา้ ท่ี คณะกรรมการตดิ ตาม ตรวจสอบ ประเมนิ ผลและนเิ ทศการศกึ ษา

๑๑๑