364 บทท่ี 8 ตวั แบบสนิ คา้ คงคลัง ในฐานะทีท่ ่านเป็นนกั ศกึ ษาผเู้ ชี่ยวชาญในการวิเคราะห์เชิงปริมาณ จงช่วยบริษัทวางนโยบาย เก่ียวกับสินค้าคงคลังท่ีดีที่สุดตามเงื่อนไข EOQ โดยควรให้บริษัททําการผลิตไมโครชิฟคร้ังละก่ีชิ้นจึง จะประหยดั ทสี่ ุด การผลิตแต่ละครั้งควรมีระยะเวลาห่างกันนานก่ีวัน และต้นทุนรวมเก่ียวกับสินค้าคง คลังเฉลยี่ ตอ่ ปกี ่ีบาท ถ้าบริษัทมีจํานวนวันทําการ 300 วัน วิธที าํ จากโจทยพ์ ิจารณาคา่ ตา่ งๆ ไดด้ งั น้ี = 35,000 ชน้ิ /ปี ความต้องการสินคา้ (d) บาท/ช้นิ /ปี ค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาสินคา้ ตอ่ หนว่ ย (ic) = 25 บาท/ครง้ั คา่ ใช้จา่ ยในการเตรียมการผลติ (a) = 700 1) ปรมิ าณสินคา้ ทสี่ ่ังซื้อต่อครัง้ ทป่ี ระหยัดที่สดุ (Q*) จากสูตร แทนค่า , 49,000,000 1,960,000 25 1,400 ชิน้ ต่อครงั้ 2) ระยะเวลาหา่ งในการผลติ สนิ ค้าแต่ละครง้ั (T*) จากสตู ร แทนคา่ , , √0.0016 , 0.04 ปี หรือ 0.04 x 300 = 12 วันทําการ 3) จาํ นวนคร้งั ในการส่ังซ้ือ (N*) จากสูตร แทนคา่ , 25 คร้ังต่อปี ,
บทที่ 8 ตวั แบบสนิ ค้าคงคลัง 365 4) ตน้ ทุนหรอื คา่ ใชจ้ ่ายสนิ คา้ คงคลงั รวมเฉลยี่ ตอ่ ปี (K*) จากสูตร √2 แทนค่า 2 700 35,000 25 แทนคา่ 1,225,000,000 35,000 บาทตอ่ ปี ดงั นั้น บรษิ ัทบซี ีคอมพวิ เตอร์ จาํ กัด ควรทาํ การผลิตไมโครชิฟครั้งละ 1,400 ชิ้น โดยการผลิตสินค้า แต่ละครั้งควรห่างกันคร้ังละ 12 วันทําการ จํานวนครั้งท่ีผลิตปีละ 25 คร้ัง ซ่ึงนโยบายนี้จะ ทําใหต้ น้ ทนุ หรอื ค่าใชจ้ า่ ยสนิ คา้ คงคลงั รวมโดยเฉล่ียตํ่าสุด 35,000 บาทตอ่ ปี 8.7 การหาปริมาณการส่ังซื้อท่ีประหยัดที่สุดและไม่ได้รับสินค้าครบตามจํานวนทันทีที่ สัง่ ซ้ือโดยต้องรอ (Non-Zero Lead Time) ตัวแบบการหาปริมาณการส่ังซ้ือที่ประหยัดท่ีสุดและไม่ได้รับสินค้าครบตามจํานวนทันทีท่ีส่ังซื้อ เป็นตัวแบบที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุดเพราะบางกิจการต้องซื้อสินค้าจากต่างประเทศ หรือ จากต่างจังหวัด ซ่ึงเป็นการส่ังซ้ือสินค้าจากหน่วยงานหรือกิจการอ่ืนที่อยู่ห่างไกลกัน จึงทําให้ต้องมี ระยะเวลาในการรอสินค้าตั้งแต่เริ่มส่ังสินค้าจนกว่าจะได้รับสินค้า (Lead Time: L) บางกิจการส่ัง สินค้าจากต่างประเทศต้องรอสินค้านานเป็นเดือน บางกิจการรอไม่นาน 3-5 วัน หรือ 1-2 สัปดาห์ เป็นต้น ดังนั้น ตัวแบบในลักษณะน้ีจึงต้องมีการตัดสินใจเพ่ิมเติมว่าควรจะสั่งซื้อสินค้าเมื่อใด หรือควร ส่ังซื้อเมื่อสินค้าในคลังเหลือเท่าใด เพราะหากรอให้สินค้าในคลังหมดจึงทําการสั่งซื้อจะทําให้กิจการ เกิดความเสียหาย เพราะจะไม่มีสินค้าขายหรือไม่มีวัตถุดิบใช้ในการผลิตระหว่างท่ีรอสินค้าหรือ วัตถุดิบน่ันเอง ดังนั้น จึงต้องตัดสินใจส่ังซ้ือสินค้าหรือวัตถุดิบก่อนที่สินค้าหรือวัตถุดิบในคลังสินค้าจะ หมด จึงมีสูตรการคํานวณหาจุดสั่งซื้อท่ีดีที่สุด (Reorder Point: R*) หรือจุดส่ังซํ้า หรือปริมาณสินค้า คงเหลอื ในคลงั ท่คี วรทาํ การสั่งซอ้ื ครง้ั ต่อไป ดังน้ี จํานวนวันทําการ โดยให้ L = ระยะเวลาท่ตี อ้ งรอสนิ คา้ ที่สง่ั ซอ้ื นับจากวนั ท่ีมกี ารส่ังซอื้ จนได้รบั สินคา้ R* = จดุ สง่ั ซอื้ ทดี่ ีท่ีสดุ หรอื จุดสัง่ ซํ้า
366 บทที่ 8 ตัวแบบสินค้าคงคลงั ตัวอย่างท่ี 8.5 สมมติว่า บริษัทบีบีเทค จํากัด ทําการผลิตอุปกรณ์ช้ินส่วนเคร่ืองใช้ไฟฟ้าแห่งหน่ึง ต้องการซ้ือวัตถุดิบชนิด B มาใช้เพื่อผลิตสินค้าปีละ 2,400 ชิ้น ราคาวัตถุดิบเท่ากับ 60 บาท/ชิ้น ค่าใช้จ่ายในการส่ังซ้ือวัตถุดิบแต่ละคร้ังเท่ากับ 200 บาท ค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาวัตถุดิบใน คลังสินค้าคิดเป็น 10% ต่อปี และระยะเวลาส่งสินค้านาน 5 วัน สมมติว่าใน 1 ปี บริษัทมีวันทํางาน 300 วนั จงหาปริมาณสั่งซอ้ื วตั ถุดบิ ชนิด B ที่ทําใหป้ ระหยดั ตน้ ทนุ สินคา้ คงคลังที่สุด ระยะเวลาห่างใน การส่ังซื้อวัตถุดิบแต่ละครั้ง จุดสั่งซื้อที่ดีที่สุดหรือจุดส่ังซ้ือซ้ํา และต้นทุนรวมเกี่ยวกับสินค้าคงคลัง เฉลยี่ ต่อปี วธิ ีทาํ จากโจทย์พจิ ารณาค่าต่างๆ ได้ดงั นี้ = 2,400 ช้ิน ความตอ้ งการสนิ ค้า (d) = 60 บาท/ชน้ิ ราคาวตั ถุดิบ/สินค้า (c) = 200 บาท/ครง้ั ค่าใชจ้ า่ ยในการสง่ั ซื้อ (a) =5 วนั ระยะเวลาส่งสินคา้ (L) = 10% หรือ 0.1 อัตราค่าใชจ้ า่ ยในการเก็บรกั ษาสนิ ค้า (i) 1) ปรมิ าณสินคา้ ท่สี ง่ั ซอื้ ต่อครัง้ ท่ปี ระหยัดทสี่ ดุ (Q*) จากสตู ร แทนคา่ , . 960,000 160,000 6 400 ชนิ้ ตอ่ ครั้ง 2) ชว่ งระยะเวลาหา่ งในการสัง่ ซ้ือสนิ ค้าแต่ละครั้ง (T*) จากสูตร แทนค่า ., , √0.02777 0.17 ปี หรอื 0.17 x 300 = 51 วันทําการ
บทท่ี 8 ตวั แบบสนิ ค้าคงคลงั 367 3) จุดส่งั ซือ้ ที่ดที สี่ ดุ หรอื จุดสง่ั ซื้อซ้ํา (R*) จากสตู ร R จาํ นวนวนั ทาํ การ แทนคา่ R 2,400 5 12,000 300 300 R , 40 ช้นิ การกําหนดจุดส่ังซ้ําหรือจํานวนวัตถุดิบชนิด B ท่ีเหลือในคลังสินค้าแล้วให้ทําการส่ังซ้ือคร้ัง ต่อไป จะพิจารณาปัดเศษข้ึนแม้จะไม่ถึง 0.5 ก็ตาม เน่ืองจากหากปัดเศษทิ้งจะทําให้กิจการมีโอกาส วัตถุดิบไม่พอใช้ในการผลิต 4) ต้นทุนหรือคา่ ใช้จ่ายสนิ ค้าคงคลงั รวมตอ่ ปี (K*) จากสตู ร K √2adic แทนคา่ K √2 200 2,400 0.1 60 แทนค่า K 5,760,000 2,400 บาทต่อปี ดังนั้น บริษัทบีบีเทค จํากัด ควรสั่งซื้อวัตถุดิบชนิด B เม่ือจํานวนวัตถุดิบในคลังสินค้าลดลง เหลอื เท่ากบั 40 ชนิ้ หรอื จะส่งั ซอ้ื หา่ งกนั แต่ละครง้ั เท่ากับ 51 วนั ทําการ และควรสงั่ ซ้อื วตั ถดุ ิบคร้งั ละ 400 ชนิ้ ซ่งึ นโยบายนี้จะทาํ ใหต้ ้นทนุ รวมสินค้าคงคลังโดยเฉลี่ยตํ่าสดุ เท่ากบั 2,400 บาทต่อปี 8.8 การหาปรมิ าณสนิ คา้ สาํ รอง (Safety Stock) การคํานวณหาปริมาณสินค้าสํารอง เป็นตัวแบบสินค้าคงคลังที่ต่อเนื่องจากหัวข้อที่ 8.7 ท่ีเป็น ตัวแบบการส่ังซ้ือสินค้าท่ีไม่ได้ครบตามจํานวนท่ีสั่งซื้อทันที แต่มีระยะเวลาที่ต้องรอสินค้า เน่ืองจาก การส่ังซื้อสินค้าที่ต้องรอสินค้าต้องส่ังซื้อล่วงหน้าก่อนท่ีสินค้าจะหมด ขณะท่ีในความเป็นจริงส่ิงท่ี กิจการไมส่ ามารถควบคมุ ไดเ้ ลยคอื ความต้องการซ้อื ของลูกค้า จึงทําให้ระหว่างท่ีกิจการรอสินค้าหรือ วัตถุดิบอยู่นั้นลูกค้าอาจมีความต้องการเพิ่มขึ้นก็ได้ หรือกิจการจําเป็นต้องผลิตสินค้าเพ่ิมขึ้นเพื่อให้ เพยี งพอกับความตอ้ งการของลูกค้า ซ่ึงจะทําให้กิจการไม่สามารถขายสินค้าหรือไม่สามารถผลิตสินค้า ได้ เพราะต้องรอสินค้าหรือวัตถุดิบในระหว่างที่ส่ังซื้อสินค้าล็อตใหม่ ดังนั้น ระหว่างท่ีรอสินค้าหรือ วัตถดุ บิ หากกิจการสามารถจดั หาสนิ คา้ หรือวัตถุดิบมาใช้กอ่ นหรือมีการสาํ รองสินค้าหรือวัตถุดิบไว้ จะ สามารถแก้ปญั หาสินคา้ ไมพ่ อขาย หรือวตั ถุดบิ ไม่พอใชใ้ นการผลติ ได้ จากตัวอยา่ งท่ี 8.5 การส่ังซ้ือวตั ถดุ ิบชนิด B ท่ีมีระยะเวลาในการรอ 5 วัน และพบว่าควรส่ังซ้ือ วัตถุดิบคร้ังละ 400 ชิ้น จุดสั่งซ้ําหรือจุดสั่งซื้อท่ีดีที่สุดหรือจํานวนวัตถุดิบท่ีรอผลิตระหว่างการส่ังซ้ือ
368 บทที่ 8 ตวั แบบสินคา้ คงคลัง คร้ังต่อไปจํานวน 40 ช้ิน และการสั่งซ้ือให้ห่างกันคร้ังละ 51 วันทําการ แสดงว่าบริษัทต้องการใช้ วตั ถุดิบชนิดนีว้ ันละ 8 ช้นิ ซง่ึ ในความเป็นจรงิ ระหว่างทีร่ อวัตถุดิบอยู่นั้น ลูกค้าอาจมีความต้องการซ้ือ เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทําให้กิจการต้องการวัตถุดิบเพื่อการผลิตมากกว่าวันละ 8 ชิ้น และถ้ากิจการไม่มีวัตถุ สํารองไว้เลยจะทําให้กิจการผลิตสินค้าไม่ทันตามความต้องการซื้อของลูกค้าได้ ดังน้ัน การจัดหา วัตถุดิบสํารองจึงเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาวัตถุดิบไม่พอใช้ในการผลิตหรือการขาย ระหว่างช่วงเวลาท่ี รอวตั ถุดิบเพื่อการผลติ สนิ ค้าลอ็ ตใหม่ ดังนั้น กิจการจึงควรหาจํานวนสินค้าสํารอง (Safety Stock) ที่เหมาะสม เพราะหากกิจการ สํารองสินค้าหรือวัตถุดิบไว้มากเกินไป จะทําให้กิจการรับภาระต้นทุนในการเก็บรักษามากเกินไป น่ันเอง วธิ กี ารคาํ นวณหาปริมาณสนิ ค้าสาํ รอง (Safety Stock) เนื่องจากการคํานวณหาจํานวนสินค้าสํารอง เป็นการหาปริมาณสินค้าท่ีกิจการควรสํารองไว้ เน่ืองจากป้องกันไม่ให้กิจการเกิดความเสียหายอันเน่ืองมาจากความต้องการซ้ือสินค้าของลูกค้ามี มากกว่าปริมาณสินค้าท่ีเหลือในคลังสินค้าหรือท่ีเหลือในสต๊อก ระหว่างท่ีรอสินค้าล็อตใหม่ที่กําลังจะ ไดร้ ับจากการสั่งซอ้ื ในทนี่ ี้ผู้วเิ คราะห์ตอ้ งทราบความเสียหายที่จะเกิดขึ้นหากสินค้าหรือวัตถุดิบไม่ขาย หรอื ไม่พอใช้ (Known Stock out Costs) ซง่ึ การวเิ คราะห์จําเป็นตอ้ งทราบขอ้ มูลเพ่มิ เตมิ 2 สว่ น คอื 1) การแจกแจงความน่าจะเปน็ ของความต้องการซ้อื ในช่วงเวลาท่รี อรบั สินค้าล็อตใหม่ 2) ค่าเสียหายที่เกิดจากปริมาณความต้องการซ้ือมากกว่าสินค้าท่ีเหลือในช่วงเวลาที่รอ สินคา้ ล็อตใหม่ (Stock out Costs) การคาํ นวณคา่ ใชจ้ ่ายรวมกรณีท่ีตอ้ งสาํ รองสินค้า เกิดจากค่าเสียหายที่เกิดจากสินค้าไม่พอใช้ รวมกบั คา่ ใช้จา่ ยในการจดั เก็บสินค้าที่ต้องสํารอง มีสตู รการคาํ นวณดังนี้ คา่ เสยี หายทเี่ กดิ จากสนิ คา้ ไมพ่ อใชต้ อ่ ปี = (จาํ นวนสินคา้ ทไี่ มพ่ อใช้) x (คา่ เสยี หายที่เกดิ จากสนิ คา้ ไมพ่ อใช)้ x (จํานวนครงั้ ท่สี ่งั ซอ้ื ตอ่ ป)ี x (โอกาสทสี่ นิ ค้าไม่พอใช)้ ค่าใชจ้ า่ ยรวม = คา่ ใชจ้ ่ายในการจดั เกบ็ สนิ ค้าสาํ รอง + คา่ เสียหายที่เกิดจากสินค้าไม่พอใช้ และ จดุ สงั่ ซ้ือเมือ่ มกี ารสํารองสนิ ค้า = จุดสัง่ ซอ้ื ทดี่ ีทส่ี ุดหรือจดุ สัง่ ซ้ํา + จํานวนสินคา้ สํารอง ซ่ึงข้อมูลที่ต้องการเพ่ิมเติมท้ัง 2 ส่วน ผู้วิเคราะห์จะต้องสามารถหาเพิ่มเติมได้ และจะ แสดงตัวอย่างการคํานวณไดด้ งั ตัวอยา่ งที่ 8.6
บทที่ 8 ตวั แบบสินค้าคงคลัง 369 ตัวอย่างท่ี 8.6 จากข้อมูลในตัวอย่างท่ี 8.5 พบว่าบริษัทบีบีเทค จํากัด มีความต้องการใช้วัตถุดิบ ชนิด B ในการผลิตสินค้าปีละ 2,400 ช้ิน จากการคํานวณแล้วพบว่า บริษัทควรทําการส่ังซ้ือวัตถุดิบ ครง้ั ละ 400 ชนิ้ โดยการสั่งซื้อควรห่างกันครั้งละ 51 วันทําการ หรือสั่งซื้อปีละ 6 คร้ัง และมีจุดส่ังซํ้า หรอื มีสินคา้ ในคลงั เหลือ 40 ชิน้ จงึ ทําการสัง่ ซอ้ื ครงั้ ตอ่ ไป ซึ่งนโยบายนจี้ ะทําให้ต้นทุนรวมสินค้าคงคลัง โดยเฉลยี่ ต่าํ สุดเทา่ กับ 2,400 บาทตอ่ ปี ในระหว่างรอวัตถุดิบจํานวน 5 วัน บริษัทต้องมีวัตถุดิบเพ่ือการผลิตจํานวน 40 ชิ้น แสดงว่า บริษัทต้องการใช้วัตถุดิบในการผลิตระหว่างรอวัตถุดิบวันละ 8 ช้ิน และถ้าทราบว่าหากบริษัทไม่มี วัตถุดิบพอใช้ในการผลิตจะมีค่าความเสียหายเกิดข้ึนช้ินละ 20 บาท และค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา วตั ถดุ ิบชิ้นละ 10 บาท ทางผู้บรหิ ารของบริษัทมคี วามต้องการศกึ ษาเพิ่มเตมิ ว่า บริษัทควรมีการสํารองวัตถุดิบไว้เพื่อ การผลติ ระหวา่ งรอวัตถดุ บิ ที่กําลงั สง่ั ซือ้ ลอ็ ตใหมห่ รือไม่ และหากตอ้ งสาํ รองควรสาํ รองไว้กี่ช้ิน ถ้าผู้บริหารมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความต้องการใช้วัตถุดิบชนิด B ในการผลิตสินค้าในอดีต จาํ นวน 20 คร้ังที่ผ่านมา ดงั ข้อมูลในตารางท่ี 8.3 ตารางที่ 8.3 แสดงความต้องการใช้วัตถุดิบชนิด B ในการผลิตสินค้าของบริษัทบีบีเทค จํากัด ระหวา่ งรอวตั ถุดิบทกี่ าํ ลงั ส่ังซือ้ ลอ็ ตใหม่ จํานวน 51 วัน ความตอ้ งการใช้วัตถุดิบชนดิ B (ชิน้ ต่อ 51 วัน) จํานวนครง้ั 33 2 36 3 40 12 45 2 49 1 รวม 20 จงช่วยผู้บริหารตัดสินใจว่า ควรมีการสํารองวัตถุดิบไว้เพื่อการผลิตระหว่างรอวัตถุดิบท่ีกําลัง สง่ั ซอ้ื ลอ็ ตใหม่หรือไม่ และหากตอ้ งสํารองควรสาํ รองไวก้ ชี่ ิ้น วิธีทํา การพิจารณาว่าบริษัทควรมีการสํารองวัตถุดิบหรือไม่ จะต้องพิจารณาจากค่าใช้จ่ายของค่า ความเสียหายทเ่ี กดิ ขึน้ จากวัตถุดบิ ไม่พอใช้ และค่าใช้จ่ายในการเก็บรกั ษาวัตถุดิบที่สํารอง ซึ่ง มวี ธิ ีการคาํ นวณดังนี้ จากตารางที่ 8.3 นํามาคํานวณหาค่าความน่าจะเป็นที่จะมีความต้องการใช้วัตถุดิบในการ ผลติ สนิ ค้า ไดด้ งั ตารางท่ี 8.4
370 บทท่ี 8 ตัวแบบสินคา้ คงคลงั ตารางที่ 8.4 แสดงความน่าจะเป็นเกยี่ วกบั ความต้องการใชว้ ัตถดุ บิ ในการผลิตสินคา้ ของตัวอย่างท่ี 8.6 ความตอ้ งการใชว้ ตั ถดุ บิ ชนดิ B จาํ นวนคร้งั ความนา่ จะเปน็ (ชิ้นตอ่ 51 วนั ) 33 2 2/20 = 0.1 0.25 36 3 3/20 = 0.15 0.15 40 12 12/20 = 0.6 45 2 2/20 = 0.1 49 1 1/20 = 0.05 รวม 20 1.0 จากผลการวิเคราะห์ที่ทราบว่า บริษัทจะส่ังซื้อวัตถุชนิด B เพ่ิมเมื่อในคลังสินค้ามีวัตถุดิบ เหลือ 40 ชิ้น และจากตารางท่ี 8.4 ซึ่งเป็นสถิติความต้องการใช้วัตถุดิบชนิด B ท่ีตํ่ากว่าและสูงกว่า 40 ชิน้ หมายความวา่ 1) ถ้าความตอ้ งการใชว้ ตั ถุดิบตาํ่ กวา่ 40 ชนิ้ แสดงวา่ บริษัทจะมีวัตถุดิบเหลือในช่วงที่รอหลัง สั่งซือ้ วตั ถดุ บิ มี 2 คร้ัง คือ 1.1) ความตอ้ งการใช้วตั ถุดบิ 33 ช้นิ เกิดขน้ึ 2 ครง้ั คดิ เป็นความน่าจะเปน็ = 0.1 1.2) ความต้องการใชว้ ตั ถดุ บิ 36 ช้นิ เกดิ ขนึ้ 3 ครัง้ คดิ เปน็ ความนา่ จะเป็น = 0.15 รวมความน่าจะเป็นทจ่ี ะมวี ัตถดุ ิบเหลือ เท่ากบั 0.1 + 0.15 = 0.25 2) ถ้าความต้องการใช้วัตถุดิบสูงกว่า 40 ช้ิน แสดงว่าบริษัทจะมีวัตถุดิบไม่พอใช้ในช่วงท่ีรอ วัตถดุ ิบระหวา่ งการสัง่ ซือ้ มี 2 ครั้ง คอื 2.1) ความต้องการใชว้ ตั ถุดบิ 45 ชิ้น เกดิ ขน้ึ 2 ครัง้ คดิ เป็นความน่าจะเปน็ = 0.1 2.2) ความต้องการใชว้ ัตถดุ บิ 49 ชิน้ เกดิ ขึ้น 1 คร้งั คดิ เปน็ ความน่าจะเปน็ = 0.05 รวมความนา่ จะเป็นที่จะมวี ัตถดุ บิ ไมพ่ อใชห้ รือวัตถดุ ิบขาด เทา่ กบั 0.1 + 0.05 = 0.15 จากตารางท่ี 8.4 จะเกิดเหตุการณ์สินค้าไม่พอใช้อยู่ 2 ครั้ง จึงนํามาคํานวณหาค่าใช้จ่ายร่วม เกี่ยวกับการสํารองสินค้าระหว่างรอสินค้าท่ีสั่งซ้ือ ซ่ึงแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ค่าเสียหายที่เกิดจาก วัตถดุ บิ ไมพ่ อใชใ้ นการผลติ และค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาวตั ถดุ บิ ท่สี าํ รอง จะนาํ เหตกุ ารณ์ตั้งแต่การมี วัตถุดิบพอใช้หรือไม่ต้องสํารอง และเหตุการณ์ที่วัตถุดิบไม่พอใช้ซึ่งต้องสํารองวัตถุดิบ ในตารางมา พิจารณาหาคาใช้จา่ ยทจ่ี ะเกดิ ข้ึนไดด้ ังน้ี 1) ถ้าไม่มีการสาํ รองวตั ถุดิบ ถ้าบริษัทไม่มีการสํารองวัตถุดิบไว้ใช้ในการผลิต แสดงว่าเป็นเหตุการณ์ที่การผลิตจะต้อง การใช้วัตถุดิบคร้ังละ 40 ช้ินต่อรอบการผลิต 51 วัน หรือบริษัทจะมีค่าใช้จ่ายรวมเกี่ยวกับการสํารอง วตั ถดุ บิ ท้ัง 2 ส่วน เป็นดังนี้
บทท่ี 8 ตัวแบบสินคา้ คงคลัง 371 1.1) ค่าเสยี หายท่เี กิดจากวัตถดุ ิบไมพ่ อใช้ในการผลติ ถ้าบรษิ ัทไมม่ ีการสํารองวัตถุดบิ จากตารางท่ี 8.4 พบว่ามี 2 เหตุการณ์ที่วัตถุดิบจะ ไม่พอใช้คือ ถ้าการผลิตต้องใช้วัตถุดิบ 45 ช้ิน และ 49 ชิ้น และถ้าวัตถุดิบไม่พอใช้จะเกิดความ เสียหายช้ินละ 20 บาท ดังน้ี จากสูตร คา่ เสยี หายทเี่ กดิ จากวัตถดุ ิบไม่พอใช้ต่อปี = (จาํ นวนสินค้าที่ไม่พอใช)้ x (คา่ เสียหายทีเ่ กิดจาก สินคา้ ไม่พอใช)้ x (จาํ นวนครง้ั ท่ีส่งั ซอ้ื ต่อปี) x (โอกาสทส่ี ินคา้ ไม่พอใช้) 1.1.1) เม่ือการผลิตต้องใช้วัตถุดิบในการผลิตจํานวน 45 ช้ิน จะทําให้วัตถุดิบไม่ พอใช้ หรือวตั ถดุ ิบขาดไปจาํ นวน 45 – 40 = 5 ชนิ้ ดังนนั้ จะเกดิ ความเสียหายดงั น้ี ความเสียหายทว่ี ตั ถุดิบไม่พอใช้ = (5 ชนิ้ ) x (20 บาท) x (6 ครั้ง) x (0.1) = 60 บาท 1.1.2) เม่ือการผลิตต้องการใช้วัตถุดิบในการผลิต 49 ชิ้น จะทําให้วัตถุดิบไม่พอใช้ หรอื วตั ถดุ ิบขาดไปจํานวน 49 – 40 = 9 ช้ิน ดังนนั้ จะได้ ความเสียหายท่ีวัตถุดบิ ไมพ่ อใช้ = (9 ชิ้น) x (20 บาท) x (6 คร้งั ) x (0.05) = 54 บาท รวมคา่ เสียหายที่เกิดจากวตั ถุดิบไมพ่ อใชเ้ มื่อบรษิ ทั ไมส่ ํารองวัตถดุ ิบ = 60 + 54 = 114 บาท 1.2) ค่าใชจ้ า่ ยในการเก็บรักษาวัตถุดบิ ทส่ี ํารอง ถ้าบริษัทไม่มีการเก็บสํารองวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเหตุการณ์ต้องการใช้วัตถุดิบ 45 ชิ้น หรือ 49 ชน้ิ บริษทั จะไม่มีค่าใชจ้ า่ ยในการเกบ็ รักษาวตั ถดุ ิบสํารอง หรอื คา่ ใช้จ่ายจะเท่ากับ 0 บาท 2) ถา้ บรษิ ัทมกี ารเก็บวตั ถดุ บิ สาํ รอง ถ้าบริษัทมีการเก็บสํารองวัตถุดิบไว้ใช้ในการผลิต แสดงว่าเป็นเหตุการณ์ท่ีการผลิต จะต้องการใช้วัตถุดิบมากว่า 40 ชิ้นต่อรอบการผลิต 51 วัน บริษัทจะไม่เกิดความเสียหายหากเกิด เหตกุ ารณว์ ตั ถดุ บิ ไมพ่ อใช้ แตจ่ ะมเี พียงเฉพาะค่าใช้จ่ายในการเกบ็ รกั ษาวัตถดุ บิ ทส่ี าํ รองไว้ ซึ่งมีวิธีการ คํานวณคา่ ใชจ้ ่ายรวมเกย่ี วกบั การสํารองวัตถดุ บิ ทั้ง 2 สว่ น เปน็ ดังนี้ 2.1) ค่าเสยี หายทีเ่ กดิ จากวตั ถุดิบไม่พอใชใ้ นการผลติ ถ้าบรษิ ัทมกี ารสาํ รองวัตถุดบิ ไวใ้ ชใ้ นการผลิตจะไม่มีค่าเสียหายที่จะเกิดจากวัตถุดิบ ไม่พอใช้ในการผลติ หรอื ค่าเสียหายเทา่ กับ 0 บาท 2.2) คา่ ใชจ้ า่ ยในการเกบ็ รักษาวตั ถุดิบท่ีสํารอง ค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาวัตถุดิบสํารอง จะเกิดข้ึนเม่ือบริษัทเก็บวัตถุดิบสํารองไว้ สําหรับการผลติ ทตี่ ้องใชว้ ตั ถุดบิ มากกว่า 40 ชน้ิ จากตารางที่ 8.4 บริษทั จะเก็บรักษาวัตถุดิบสํารองไว้ 2 เหตุการณ์ คือ ถ้าการผลิตต้องใช้วัตถุดิบ 45 ช้ิน และ 49 ช้ิน ขณะท่ีการเก็บรักษาวัตถุดิบท่ีสํารอง
372 บทท่ี 8 ตวั แบบสนิ ค้าคงคลงั ไว้มีค่าใช้จ่ายช้ินละ 10 บาท การหาค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาวัตถุดิบที่สํารองทั้ง 2 เหตุการณ์เป็น ดงั นี้ 2.2.1) เม่ือการผลิตต้องการใช้วัตถุดิบในการผลิต 45 ช้ิน จะทําให้วัตถุดิบท่ีมีไม่ พอใช้ ทําให้บริษัทต้องสํารองวัตถุดิบไว้จํานวน 45 – 40 = 5 ช้ิน ถ้าสํารองวัตถุดิบไว้จะมีค่าใช้จ่าย ดงั น้ี คา่ เกบ็ รักษาสนิ ค้าสํารอง = (5 ชิ้น) x (10 บาท) = 50 บาท 2.2.2) เม่ือการผลิตต้องการใช้วัตถุดิบในการผลิต 49 ช้ิน จะทําให้วัตถุดิบที่มีไม่ พอใช้ ทําให้บริษัทต้องสํารองวัตถุดิบไว้จํานวน 49 – 40 = 9 ชิ้น ถ้าสํารองวัตถุดิบไว้จะมีค่าใช้จ่าย ดงั นี้ คา่ เก็บรักษาสินค้าสํารอง = (9 ชน้ิ ) x (10 บาท) = 90 บาท สรุปค่าใช้จ่ายรวมในแต่ละกรณี ซึ่งเกิดจากค่าเสียหายเม่ือมีวัตถุดิบไม่พอใช้ รวมกับ คา่ ใช้จา่ ยในการเก็บรกั ษาวตั ถุดิบสํารอง ดงั ตารางท่ี 8.5 ตารางที่ 8.5 แสดงการคํานวณค่าใชจ้ ่ายรวมเก่ียวกับการสาํ รองวตั ถดุ ิบของตวั อย่างที่ 8.6 จาํ นวนวัตถดุ ิบท่ี ค่าเสียหายเมื่อวัตถุดบิ ไม่ ค่าเก็บรกั ษาวัตถดุ ิบ ค่าใชจ้ า่ ยรวม สํารอง (ช้นิ ) พอใช้ในการผลิต (บาท) สาํ รอง (บาท) (บาท) 0 114 0 ช้ิน (ไมส่ าํ รอง) 60 + 54 = 114 50 50 5 ชิ้น 0 90 90 9 ชน้ิ 0 จากตารางท่ี 8.5 สรุปได้วา่ คา่ ใช้จา่ ยรวมตํ่าสุดคือ กรณีมีการสํารองวัตถุดิบไว้ จํานวน 5 ชิ้น โดยมคี า่ ใช้จ่ายรวม 50 บาท ดังน้ัน บริษัทจึงควรเลือกท่ีจะสํารองวัตถุดิบไว้ใช้ในการผลิต และควรสํารองวัตถุดิบไว้ จํานวน 5 ช้ิน และจากรายละเอียดการคํานวณ จะมีจุดสั่งซื้อเม่ือมีการสํารองวัตถุดิบหรือให้สินค้าคง ในคลังคงเหลอื จํานวน 40 + 5 = 45 ช้นิ จงึ ทําการสงั่ ซอื้ ครัง้ ต่อไป 8.9 การหาปริมาณการส่ังซื้อท่ปี ระหยัดท่ีสดุ เม่ือมสี ว่ นลดตามปริมาณการสั่งซ้อื (Quantity Discount) จากตัวแบบสินค้าคงคลังทั้ง 2 ลักษณะในหัวข้อ 8.6 และ 8.8 เป็นการส่ังซ้ือสินค้าหรือ วัตถุดิบที่ราคาสินค้าต่อหน่วยคงท่ี ไม่ว่าจะส่ังซื้อสินค้าหรือวัตถุดิบคร้ังละเท่าใดก็ตามผู้ขายก็จะขาย สินค้าหรือวัตถุดิบให้ในราคาเท่าเดิม ดังตัวอย่างที่ 8.1 - 8.6 แต่ปัจจุบันด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดที่ ผู้ขายจะเสนอราคาขายต่อหน่วยที่แตกต่างกัน กล่าวคือ ถ้าซื้อปริมาณมากจะได้ส่วนลดมาก ซ่ึงจะทํา
บทท่ี 8 ตัวแบบสนิ ค้าคงคลงั 373 ให้ราคาต่อหน่วยของสินค้าหรือวตั ถดุ ิบท่ีสง่ั ซ้อื ลดลง ทั้งน้ีเพ่ือเป็นการจูงใจให้ผู้ซื้อสั่งซื้อสินค้าปริมาณ มากต่อคร้ัง และหากเป็นผู้ค้าท่ีต้องการลดต้นทุนสินค้าก็จะยินดีรับข้อเสนอ เพ่ือจะได้ขายสินค้าใน ราคาตํ่ากวา่ คแู่ ขง่ และเพ่ิมสว่ นแบง่ ตลาดให้กบั กิจการได้นนั่ เอง แต่การสัง่ ซือ้ สินคา้ หรือวัตถุดิบจํานวน มากต่อครั้ง จะทําให้ผู้ซ้ือต้องรับภาระต้นทุนด้านการเก็บรักษาสินค้าที่สูงข้ึน ไม่ว่าจะเป็นค่าดอกเบี้ย ค่าประกันภัย คา่ เสื่อมสภาพ และค่าดูแลรักษา เป็นต้น ขณะท่ีต้นทุนค่าสินค้าและต้นทุนในการสั่งซ้ือ จะลดลง เน่อื งจากการส่งั ซ้อื จะสงั่ จํานวนน้อยครง้ั หรือไม่จําเปน็ ตอ้ งสัง่ ซื้อบอ่ ยคร้งั น่ันเอง ทั้งนต้ี ัวแบบในลักษณะนี้ ยังอยู่ภายใต้ลักษณะการส่ังซื้อที่ได้รับสินค้าครบทันทีท่ีส่ังซื้อโดยไม่ ต้องรอสินค้า โดยท่ีราคาสินค้าหรือวัตถุดิบท่ีส่ังซ้ือต่อหน่วยไม่เท่ากัน จึงเป็นการตัดสินใจว่า กิจการ ควรส่ังซ้ือสินค้าอย่างไรจึงจะทําให้มีค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมดต่ําสุด ซึ่งประกอบด้วยค่าใช้จ่าย 3 ส่วน ได้แก่ ต้นทุนค่าสินค้าทั้งปี ต้นทุนในการสั่งซื้อต่อปี และต้นทุนในการเก็บรักษาสินค้าคงคลังต่อปี ซึ่ง จะแตกต่างกับลักษณะตัวแบบสินค้าคงคลัง 2 ลักษณะดังที่กล่าวมาแล้ว ที่มีการพิจารณาเพียงเฉพาะ ตน้ ทนุ ในการสั่งซื้อและตน้ ทนุ ในการเก็บรักษา การพจิ ารณาการสงั่ ซอื้ สินค้ากรณสี ัง่ ซื้อแบบมสี ว่ นลด มีหลกั ในการพจิ ารณา 2 สว่ น คอื 1. การพิจารณาส่ังซ้ือตามเง่ือนไขค่าใช้จ่ายสินค้าคงคลังต่ําสุด (EOQ) ซ่ึงสามารถพิจารณา โดยใช้สูตรการคํานวณเหมือนกับลักษณะตัวแบบการส่ังซื้อ 2 กรณีแรก เพื่อพิจารณาว่าราคา ณ จุด เสนอขายจุดใดสามารถเลอื กซื้อได้ตามความสามารถหรือเป็นไปตามความตอ้ งการใช้สนิ คา้ ของกิจการ 2. พิจารณาการส่ังซื้อโดยเปรียบเทียบจากต้นทุนรวมท้ังหมด ภายใต้เงื่อนไขการสั่งซ้ือที่ เป็นไปได้ โดยต้นทนุ หรือค่าใช้จ่ายรวมท้งั หมดประกอบดว้ ย 3 สว่ น ได้แก่ ต้นทุนค่าสินค้าหรือวัตถุดิบ ท่ีส่ังซื้อ ค่าใช้จ่ายในการสั่งซ้ือ และค่าใช้ในการเก็บรักษา เพ่ือเปรียบเทียบขนาดการส่ังซื้อแบบ ประหยัดกับการได้ส่วนลด แล้วเลือกวิธีการส่ังซื้อท่ีทําให้ค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมดตํ่าท่ีสุด โดยใช้ปริมาณ การสง่ั ซ้ือท่สี ามารถซอื้ ไดต้ ามชว่ งสว่ นลด จากสูตร คา่ ใช้จ่ายรวมทง้ั หมด หมายเหต:ุ Q* ทใี่ ช้แทนในสตู ร K** สาํ หรับกรณีท่ีสงั่ ซ้ือไมไ่ ด้ตามช่วงบงั คบั ซือ้ หรือชว่ งเสนอขาย ให้ ใช้ Q* ท่สี ามารถซ้ือได้ แตต่ อ้ งต่าํ สดุ ตามปริมาณท่ีบงั คบั ซ้อื หรือทเี่ รยี กวา่ ปรมิ าณบังคับ ซอ้ื ขอบเขตบนสดุ ตัวอย่างที่ 8.7 สมมติว่า บริษัทศิริไทยผ้าผืน จํากัด ทําการส่ังซื้อวัตถุดิบชนิดหนึ่งเป็นส่วนประกอบ ในการผลิตผ้าผืนจากบริษัทไทยการ์เมนท์ จํากัด บริษัทศิริไทยผ้าผืนฯ ต้องการใช้วัตถุดิบชนิดน้ีเป็น ส่วนประกอบในการผลิตสินค้าปีละ 2,400 ช้ิน โดยที่บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาวัตถุดิบ 20% ของมูลค่าสินค้าคงคลังเฉล่ีย มีค่าใช้จ่ายในการส่ังซื้อครั้งละ 400 บาท ขณะท่ีการสั่งซ้ือบริษัทไทย การ์เมนท์ ได้มีข้อเสนอเก่ียวกบั ปรมิ ารการส่ังซือ้ และราคาวัตถดุ บิ ที่สงั่ ซอ้ื ดังน้ี หากทางโรงงานซอ้ื วตั ถดุ บิ ในปริมาณ 1 - 499 ช้ิน จะขายให้ในราคาชนิ้ ละ 15 บาท หากซือ้ มากกวา่ 500 - 999 ช้ิน จะขายใหใ้ นราคาชน้ิ ละ 13 บาท และ
374 บทท่ี 8 ตวั แบบสนิ ค้าคงคลงั หากซ้อื 1,000 ช้นิ ขน้ึ ไป จะขายให้ในราคาชน้ิ ละ 10 บาท จงพจิ ารณาวา่ บรษิ ทั ศริ ไิ ทยผา้ ผืน จาํ กดั ควรมนี โยบายในการสั่งซื้อวัตถุดิบชนดิ นอี้ ย่างไร วธิ ที ํา จากโจทย์พิจารณาค่าต่างๆ ไดด้ งั นี้ ความต้องการสนิ คา้ ท้ังปี (d) = 2,400 ชนิ้ คา่ ใช้จา่ ยในการสงั่ ซื้อ (a) = 400 บาท/ครง้ั อตั ราค่าใช้จา่ ยในการเก็บรักษาสนิ คา้ (i) = 20% หรอื 0.2 เน่อื งจากเป็นกรณกี ารตดั สินใจสั่งซ้ือวัตถุดิบโดยท่ีราคาสินค้าไม่คงที่ กล่าวคือ ราคาสินค้าจะ ถูกลงเม่ือสั่งซ้ือปริมาณมากข้ึน จึงแบ่งการพิจารณาออกเป็น 2 ส่วน คือ การหาปริมาณการสั่งซื้อ วัตถุดิบท่ีประหยัดที่สุด (Q*) ท่ีสามารถซื้อได้หรือเป็นไปตามช่วงเสนอขายของบริษัทไทยการ์เมนท์ แล้วจึงทําการคํานวณหาค่าใช้จ่ายรวมท้ังหมดที่ต่ําสุดจากการส่ังซ้ือที่เป็นไปได้ ณ ระดับราคาสินค้าที่ แตกต่างกนั จึงแบง่ ออกเปน็ 3 กรณีตามช่วงเสนอขายและราคา ไดด้ ังนี้ กรณีที่ 1 การสั่งซอ้ื วัตถุดิบในชว่ งที่ 1 ต้ังแตป่ ริมาณ 1 - 499 ชิ้น ในราคา (c1) = 15 บาท/ชิน้ หาปรมิ าณสนิ คา้ ทส่ี ง่ั ซื้อตอ่ ครั้งทป่ี ระหยดั ท่ีสุด (Q*) ตามเงอ่ื นไข EOQ จากสตู ร แทนค่า , . 1,920,000 3 √640,000 800 ชิ้น หาจํานวนครง้ั ท่ีสั่งซ้ือ จากสตู ร แทนค่า จะได้ , 3 คร้งั ต่อปี หากบริษัทต้องการส่ังซ้ือวัตถุดิบในราคา 15 บาท และต้องการมีต้นทุนเกี่ยวกับสินค้าคง คลังต่าํ สุด (EOQ) ควรสัง่ ซอื้ วัตถดุ บิ ครั้งละ 800 ช้นิ โดยทําการส่งั ซอ้ื ปลี ะ 3 คร้ัง แต่เน่ืองจากเงื่อนไข ของบริษัทไทยการ์เมนท์ท่ีระบุว่า ต้องส่ังซ้ือวัตถุดิบจํานวน 1 – 499 ชิ้น ซ่ึงหากบริษัทศิริไทยผ้าผืนฯ ส่ังซื้อจํานวน 800 ชิ้น ซึ่งเป็นปริมาณที่มากกว่าและไม่ได้อยู่ในปริมาณที่เสนอขายตามเง่ือนไข จึง แสดงว่าบริษัทศิริไทยผ้าผืนฯ ไม่จําเป็นต้องซ้ือวัตถุดิบในราคา 15 บาท ปริมาณ 800 ช้ิน แต่บริษัทมี โอกาสท่ีจะซอื้ วตั ถดุ บิ ในราคาทีถ่ กู กวา่ น้ี หรอื มโี อกาสประหยดั ต้นทนุ รวมได้มากกว่านีน้ น่ั เอง
บทที่ 8 ตวั แบบสนิ คา้ คงคลัง 375 แตถ่ ้าต้องการซ้อื วตั ถุดบิ ในราคา 15 บาท ซึง่ จะแสดงวธิ กี ารคํานวณต้นทนุ รวมทง้ั หมดดงั นี้ หาตน้ ทนุ รวมท้งั หมด (K**) จากสูตร แทนค่า 15 2,400 ,. 36,000 , , 36,000 1,200 1,200 38,400 บาท ดังนั้น หากบริษัทศิริไทยผ้าผืน จํากัด ต้องการสั่งซื้อวัตถุดิบในราคาช้ินละ 15 บาท ควร สั่งซอื้ ครงั้ ละ 800 ช้ิน ซึ่งจะทําให้มีต้นทุนรวมทั้งหมด 38,400 บาทต่อปี แต่เน่ืองจากปริมาณสินค้าที่ ส่ังซื้อมากกว่าปริมาณเสนอขายตามราคาที่กําหนด บริษัทจึงควรพิจารณาราคาวัตถุดิบตามเง่ือนไข อน่ื ๆ กรณีท่ี 2 การสัง่ ซ้อื วัตถุดิบในช่วงที่ 2 ต้ังแต่ปริมาณ 500 - 999 ชิ้น ในราคา (c2) = 13 บาท/ชิ้น หาปรมิ าณสนิ ค้าทสี่ ัง่ ซอ้ื ต่อคร้งั ทปี่ ระหยัดท่สี ดุ (Q*) จากสตู ร แทนคา่ , . 1,920,000 859.34 หรือ 860 ชนิ้ 2.6 738,461.54 หากบริษัทต้องการสั่งซื้อวัตถุดิบในราคา 13 บาท และต้องการมีต้นทุนเกี่ยวกับสินค้าคง คลังต่ําสุด (EOQ) ควรสั่งซ้ือวัตถุดิบครั้งละ 860 ชิ้น ซึ่งเป็นปริมาณวัตถุดิบท่ีบริษัทไทยการ์เมนท์ เสนอขายพอดี คือ 500 – 999 ช้ิน และยังเป็นจุดสั่งซ้ือที่ประหยัดท่ีสุดในเงื่อนไขปริมาณวัตถุดิบท่ี เสนอขาย และเม่อื นําปรมิ าณสงั่ ซ้ือที่ประหยดั ทสี่ ดุ น้ีไปคาํ นวณตน้ ทุนรวมทงั้ หมด เปน็ ดงั น้ี
376 บทท่ี 8 ตวั แบบสนิ คา้ คงคลัง หาตน้ ทนุ รวมท้ังหมด (K**) จากสตู ร แทนค่า 13 2,400 ,. 31,200 , , 36,000 1,116.28 1,118 38,234.28 บาท ดังน้ัน หากบริษัทศิริไทยผ้าผืน จํากัด ต้องการสั่งซ้ือวัตถุดิบในราคาชิ้นละ 13 บาท ควร สั่งซอ้ื ครง้ั ละ 860 ชิน้ ซง่ึ จะทําให้มตี ้นทนุ รวมทงั้ หมด 38,234.28 บาทต่อปี กรณที ี่ 3 การสัง่ ซ้อื วัตถดุ ิบในชว่ งที่ 3 ต้งั แต่ปริมาณ 1,000 ชิน้ ขึน้ ไป ในราคา (c2) = 10 บาท/ชิ้น หาปรมิ าณสนิ ค้าทส่ี ่งั ซอ้ื ตอ่ ครง้ั ทปี่ ระหยดั ท่ีสดุ (Q*) จากสูตร แทนค่า , . 1,920,000 2 √960,000 979.80 หรอื 980 ชน้ิ หากบริษัทต้องการสั่งซ้ือวัตถุดิบในราคา 10 บาท และต้องการมีต้นทุนเก่ียวกับสินค้าคง คลังต่ําสุด (EOQ) ควรส่ังซื้อวัตถุดิบครั้งละ 980 ชิ้น แต่เง่ือนไขท่ีบริษัทไทยการ์เมนท์เสนอขายใน ราคา 10 บาท ต้องสั่งซ้ือ 1,000 ชิ้นขึ้นไป จึงทําให้ปริมาณส่ังซ้ือท่ีประหยัดท่ีสุดไม่ตกอยู่ในปริมาณ สินค้าที่เสนอขาย หรอื ไม่สามารถซ้ือได้ น่ันคือ หากบริษัทศิริไทยผ้าผืนฯ ต้องการส่ังซ้ือวัตถุดิบจํานวน 980 ชิ้นในราคาช้ินละ 10 บาท บริษัทไทยการ์เมนท์ฯ จะไม่ขายให้ แต่หากบริษัทศิริไทยผ้าผืนฯ ต้องการซื้อวัตถุดิบในราคา 10 บาท ก็สามารถซ้ือได้ โดยปริมาณท่ีควรซื้อคือปริมาณขอบเขตบนสุดหรือปริมาณบังคับซื้อต่ําสุด นั่น คือ ปรมิ าณ 1,000 ชน้ิ เพราะการสัง่ ซื้อ 1,000 ชิ้น เปน็ ปรมิ าณที่ไมท่ าํ ให้ต้นทนุ สนิ คา้ คงคลงั ต่ําสุดอยู่ แล้ว จงึ ไม่จาํ เป็นที่จะซ้อื ปริมาณมากกวา่ 1,000 ช้ิน เพราะจะย่ิงทําให้ต้นทุนสินค้าคงคลังสูงข้ึนไปอีก เรอ่ื ยๆ น่นั เอง เมอื่ นาํ ปรมิ าณสั่งซือ้ ที่สามารถซือ้ ได้คอื 1,000 ชนิ้ ไปคาํ นวณตน้ ทนุ รวมทั้งหมดดงั นี้
บทท่ี 8 ตวั แบบสินค้าคงคลัง 377 หาตน้ ทนุ รวมท้ังหมด (K**) จากสูตร แทนคา่ 10 2,400 , ., , 24,000 , , , 24,000 960 1,000 25,960 บาท ดังน้ัน หากบริษัทศิริไทยผ้าผืน จํากัด ต้องการส่ังซ้ือวัตถุดิบในราคาชิ้นละ 10 บาท ควร ส่งั ซื้อคร้ังละ 1,000 ชน้ิ ซงึ่ จะทําใหม้ ตี น้ ทุนรวมทงั้ หมด 25,960 บาทตอ่ ปี สรุปเปน็ 2 กรณี ไดด้ ังนี้ 1) หากบริษัทศิริไทยผ้าผืน จํากัด ต้องการสั่งซ้ือ ณ จุดส่ังซื้อที่ประหยัดท่ีสุด (EOQ) ตาม ความเป็นไปได้ของช่วงส่วนลดทางการค้า ควรทําการส่ังซื้อคร้ังละ 860 หน่วย ตามช่วงเสนอขายช่วงท่ี 2 ในราคาช้ินละ 13 บาท 2) แต่หากบริษัทเลือกสั่งซื้อโดยพิจารณาจากต้นทุนรวมท้ังหมด ซ่ึงหมายรวมถึงต้นทุนค่า สินค้าด้วยแล้ว ควรสั่งซื้อวัตถุดิบคร้ังละ 1,000 ช้ิน (ขอบเขตบนสุดของช่วงส่วนลดที่ 3) จึงจะมี คา่ ใช้จา่ ยรวมท้ังหมดตา่ํ ที่สุด คือ 25,960 บาทตอ่ ปี 8.10 บทสรปุ สินค้าคงคลังมีความสําคัญกบั องคก์ รหรอื ธุรกจิ เพราะหากองคก์ รสต๊อกหรอื เก็บไวม้ ากเกินไป จะทําให้องค์กรต้องเสียค่าใช้จ่ายเก่ียวกับต้นทุนสินค้าคงคลัง ซ่ึงเป็นต้นทุนจมที่ต้องรับภาระค่า ดอกเบ้ีย ค่าดูแลรักษาสินค้า ค่าเสื่อมราคา ค่าสูญหาย เป็นต้น ในทางตรงกันข้ามหากองค์กรมีการ สต๊อกหรือเก็บสินค้าไว้น้อยเกินไป ก็จะทําให้องค์กรขาดโอกาสในการผลิตสินค้า หรือทําให้มีสินค้าไม่ พอขายกับความต้องการซ้ือของลูกค้า ขาดกําไรที่ควรจะได้รับ และยังทําให้ลูกค้าขาดความน่าเชื่อถือ หรือขาดความไว้วางใจด้วย ฉะนั้น กิจการจึงควรนําตัวแบบสินค้าคงคลังมาใช้ในการวางแผนการ จัดการสินค้าคงคลัง ว่าควรมีการส่ังซ้ือสินค้าหรือวัตถุดิบอย่างไร จํานวนก่ีคร้ัง ครั้งละกี่หน่วย จึงจะ ทาํ ใหก้ ารสั่งซอื้ สนิ ค้าแตล่ ะคร้งั เหมาะสมท่ีสุด (Economy Order Quantity: EOQ) ตวั แบบการสั่งซ้อื สนิ ค้าที่ประหยดั ทีส่ ดุ หรือตวั แบบ EOQ แบ่งออกเปน็ 3 ลักษณะ ไดแ้ ก่ 1) การหาปริมาณการส่ังซื้อท่ีประหยัดที่สุด และได้รับสินค้าครบตามจํานวนทันทีท่ี สั่งซ้ือโดยไมต่ ้องรอ (Zero Lead Time) 2) การหาปริมาณการสั่งซ้ือที่ประหยัดที่สุด และไม่ได้รับสินค้าครบตามจํานวนทันทีที่ ส่ังซือ้ โดยต้องรอ (Non-Zero Lead Time) โดยจะมีการพิจารณาหาคําตอบเพ่ิมเติมเก่ียวกับจุดส่ังซ้ือ หรอื จุดสัง่ ซา้ํ เมือ่ ตอ้ งรอสนิ คา้ (Reorder Point) และการหาปรมิ าณสนิ ค้าสาํ รอง (Safety Stock)
378 บทท่ี 8 ตวั แบบสนิ ค้าคงคลงั 3) การหาปริมาณการสั่งซ้ือที่ประหยัดที่สุด เมื่อมีส่วนลดตามปริมาณการสั่งซ้ือ (Quantity Discount) โดยจะพิจารณาเพิ่มเติมเกี่ยวกับต้นทุนรวมทั้งหมด ซ่ึงรวมต้นทุนค่าสินค้าหรือ วัตถุดิบกับต้นทุนสินค้าคงคลัง ทั้งนี้เพื่อการตัดสินใจว่าควรส่ังซื้อสินค้าหรือวัตถุดิบตามช่วงส่วนลดใน ราคาเท่าใด และส่ังซือ้ อย่างไรจึงจะเหมาะสมที่สุด เนื้อหาในบทน้ีได้นําตัวแบบสินค้าคงคลังมาใช้ในการพิจารณาทั้งภายใต้สภาวะที่มีความ ต้องการซ้ือสินค้าคงท่ี การส่ังซ้ือได้รับสินค้าทันทีที่สั่งซื้อ และการสั่งซื้อไม่ได้รับสินค้าทันทีแต่ต้องรอ สินคา้ ท่สี ั่งซื้อ และภายใต้ตัวแบบสินค้าที่ราคาสินค้าท่ีคงท่ีและไม่คงท่ี ซ่ึงทั้งหมดน้ีจะต้องตอบคําถาม เก่ียวกับปริมาณสินค้าที่สั่งซ้ือต่อครั้ง จํานวนคร้ังที่สั่งซื้อ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสินค้าคงคลังที่ตํ่าสุด ตลอดจนจดุ ส่งั ซ้าํ และจํานวนสินคา้ สาํ รอง
บทท่ี 8 ตัวแบบสินคา้ คงคลัง 379 แบบฝกึ หดั ท้ายบทท่ี 8 1. บริษัทไทยชูส์ จํากัด เป็นผู้ผลิตและจําหน่ายรองเท้าบุรุษและสตรี การผลิตบริษัทจะสั่งซื้อพ้ืน รองเท้าชนิดหน่ึงจากบรษิ ัทบาทา จาํ กัด ซึ่งการผลิตรองเท้าของบริษัทไทยชูส์ฯ เป็นไปอย่างสมํ่าเสมอ จึงประมาณความต้องการใช้พ้ืนรองเท้าในการผลิตปีละ 640 คู่ มีต้นทุนการส่ังซื้อครั้งละ 60 บาท และประมาณว่าต้นทุนการเก็บรักษาสินค้าคิดเป็น 12% ของมูลค่าสินค้าคงคลังเฉลี่ย ขณะที่บริษัท บาทา จาํ กดั ขายพื้นรองเทา้ ใหใ้ นราคาคู่ละ 100 บาท จงช่วยวางนโยบายเกี่ยวกับสินค้าคงคลังท่ีจะทําให้การส่ังซ้ือประหยัดท่ีสุด โดยบริษัทไทยชูส์ จํากัด ควรส่ังซื้อพื้นรองเท้าชนิดนี้ปีละกี่คร้ัง การส่ังซื้อควรส่ังคร้ังละก่ีคู่ คิดเป็นเงินมูลค่าที่สั่งซื้อครั้ง ละกี่บาท และมีต้นทนุ เกีย่ วกบั สินคา้ คงคลังรวมตา่ํ สดุ กี่บาทต่อปี โดยวิธีตาราง 2. สมมตวิ า่ บริษัทซนั สตาร์ จาํ กัด ส่ังซ้ือเตาอบไมโครเวฟจากต่างประเทศมาจําหน่าย โดยประมาณ จอดขายได้เดือนละ 20 เครื่อง ค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อคร้ังละ 1,000 บาท ค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา เตาอบไมโครเวฟคิดเป็น 12% ของมูลค่าสินค้าคงคลังเฉลี่ย และเตาอบไมโครเวฟท่ีซื้อมามีต้นทุน เครือ่ งละ 10,000 บาท จงวางนโยบายการบริหารสนิ คา้ คงคลังท่ีจะทําใหป้ ระหยัดต้นทุนสินค้าคงคลังท่ีสุด โดยบริษัทซัน- สตาร์ จาํ กัด ควรสั่งซื้อเตาอบไมโครเวฟปีละกี่คร้ัง การส่ังซื้อควรส่ังคร้ังละกี่เครื่อง คิดเป็นเงินมูลค่าที่ ส่งั ซอ้ื ครัง้ ละกบี่ าท และจะเสยี คา่ ใชจ้ ่ายสนิ คา้ คงคลงั รวมต่ําสดุ กบี่ าทต่อปี โดยวิธตี าราง 3. สมมติว่าโรงงานผลิตเครื่องผสมอาหารแห่งหน่ึง ต้องการสั่งซ้ือมอเตอร์จากต่างประเทศมาใช้เป็น ส่วนประกอบในการผลิตเคร่ืองผสมอาหารเพ่ือจําหน่ายในประเทศ และถ้าการผลิตเป็นไปอย่าง สม่ําเสมอโรงงานจึงได้ประมาณความต้องการในการสั่งมอเตอร์เข้ามาปีละ 40,000 ตัว โดยที่โรงงาน เปิดทําการ 350 วนั และข้อมลู ในการสั่งซ้อื และการเกบ็ รกั ษา ดังรายละเอียดต่อไปนี้ คา่ ใชจ้ า่ ยในการสัง่ ซ้ือโดยตรง 120 บาท/ครัง้ คา่ ขนสง่ เขา้ 20 บาท/ครง้ั ค่าดอกเบยี้ 5 บาท/ตัว/ปี คา่ ใชจ้ า่ ยในการเกบ็ รักษาโดยตรง 3 บาท/ตัว/ปี จงวางนโยบายเกยี่ วกบั สนิ ค้าคงคลัง โดยใชส้ ตู รคณติ ศาสตรใ์ นการคํานวณ ดังนี้ 3.1 ปรมิ าณการสัง่ ซื้อต่อครงั้ ท่ปี ระหยัดทส่ี ดุ ควรส่งั มอเตอรค์ รงั้ ละกต่ี วั 3.2 จํานวนครงั้ ในการสั่งซือ้ ที่ประหยดั ทส่ี ดุ ควรส่งั กี่ครัง้ 3.3 ระยะเวลาหา่ งในการส่งั ซ้ือแต่ละคร้ัง (หรอื ส่งั คร้ังหนงึ่ ใชไ้ ด้นานก่วี ัน) 3.4 คา่ ใชจ้ ่ายสนิ คา้ คงคลังรวมเฉลี่ยตอ่ ปีกบี่ าท
380 บทท่ี 8 ตัวแบบสินคา้ คงคลัง 4. สมมติว่า ร้านโชคอํานวย เป็นผู้จําหน่ายนํ้าตาลทรายในจังหวัดอุดรธานี ซ่ึงมียอดขายน้ําตาล เป็นไปอย่างสมํ่าเสมอ ทําให้ประมาณยอดขายน้ําตาลได้ปีละ 4,000 กิโลกรัม การสั่งซื้อแต่ละคร้ังมี ค่าใชจ้ า่ ยในการสง่ั ซ้ือคร้ังละ 120 บาท และมคี ่าใช้จา่ ยในการเกบ็ รักษาสนิ ค้าคงคลังคิดเป็น 10% ต่อ ปี การสั่งซ้ือนํ้าตาลทรายของร้านโชคอํานวยจะส่ังจากบริษัทน้ําตาลพืชผล จํากัด ซ่ึงขายนํ้าตาลให้ใน ราคากิโลกรัมละ 20 บาท และการสั่งซ้ือน้ําตาลแต่ละครั้งตั้งแต่สั่งซ้ือจนกว่าจะได้รับสินค้าต้องรอ สินคา้ นาน 7 วัน ขณะทีใ่ น 1 ปี รา้ นโชคอาํ นวยมวี ันทาํ การ 350 วนั จงวางนโยบายการบริหารสินค้าคงคลังท่ีจะทําให้ประหยัดต้นทุนสินค้าคงคลังท่ีสุด โดยใช้สูตร คณิตศาสตร์ในการคาํ นวณ ดงั นี้ 4.1 ปริมาณสินค้าทส่ี ง่ั ซ้ือต่อคร้งั ทีป่ ระหยัดทสี่ ดุ ควรสง่ั ซือ้ ครงั้ ละก่ีกิโลกรัม 4.2 จํานวนคร้ังในการสงั่ ซือ้ ทป่ี ระหยดั ทสี่ ดุ ควรสั่งก่ีครั้ง 4.3 ชว่ งระยะเวลาห่างในการซ้อื แต่ละครัง้ ควรหา่ งกนั นานกว่ี ัน 4.4 จดุ ส่ังซื้อทด่ี ีทส่ี ดุ หรือจดุ สัง่ ซื้อซํา้ ควรให้มนี ํา้ ตาลในคลงั สนิ คา้ เหลอื ก่กี โิ ลกรัม 4.5 ตน้ ทนุ สนิ คา้ คงคลังรวมโดยเฉลย่ี ต่อปีกบ่ี าท 5. สมมติวา่ รา้ นนอี อน จงั หวัดอุดรธานี เป็นผู้จาํ หนา่ ยหลอดไฟฟ้า โดยมียอดขายหลอดไฟฟา้ เป็นไป อย่างสม่ําเสมอทุกเดือน และพบว่าในแต่ละเดือนขายหลอดไฟฟ้าได้ 50 หลอดต่อเดือน โดยท่ีต้นทุน หลอดไฟฟ้าหลอดละ 200 บาท ค่าใช้จ่ายในการสั่งซ้ือคร้ังละ 12 บาท ค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาคิด เปน็ 13% ต่อปี โดยการสั่งซ้ือหลอดไฟฟ้าร้านนีออนจะสั่งซ้ือทางไปรษณีย์จากบริษัทเนช่ันแนล จํากัด ซึ่งเป็น ผู้ผลิตหลอดไฟฟ้าท่ีติดต่อค้าขายกันมานาน และในการส่ังซื้อร้านนีออนจะใช้เวลาในการจัดเอกสาร และไปสง่ ไปรษณยี ์ 1 วนั แล้วทางไปรษณีย์จะจัดส่งใบสั่งซื้อให้บริษัทเนช่ันแนล จํากัด โดยใช้เวลาอีก 1 วัน ส่วนทางบริษัทเนชั่นแนล จํากัด จะใช้เวลาเตรียมหลอดไฟฟ้าตามใบส่ังซื้อ 3 วัน และใช้เวลา ในการจดั ส่งให้แกร่ า้ นนีออนทางรถบรรทุกอกี 2 วนั ขณะทรี่ ้านนีออนเปดิ ทาํ การ 300 วัน จงวางนโยบายการบริหารสินค้าคงคลังท่ีจะทําให้ประหยัดต้นทุนสินค้าคงคลังท่ีสุด โดยใช้สูตร คณติ ศาสตรใ์ นการคํานวณ ดงั นี้ 5.1 ปรมิ าณการสง่ั ซอื้ สินค้าตอ่ ครง้ั ทีป่ ระหยัดที่สุด ควรสงั่ คร้งั ละก่ีหลอด 5.2 จํานวนครง้ั ในการสั่งซือ้ ทีป่ ระหยดั ทีส่ ดุ ควรสั่งก่คี ร้งั 5.3 ช่วงระยะเวลาหา่ งในการส่ังซอื้ แตล่ ะคร้ังควรหา่ งกนั นานกว่ี ัน 5.4 จุดสงั่ ซ้ือทด่ี ีทส่ี ดุ หรือจดุ สง่ั ซือ้ ซ้ําควรให้มีนํ้าตาลในคลังสนิ คา้ เหลือกีห่ ลอด 5.5 ต้นทุนสินค้าคงคลงั รวมต่อปีโดยเฉลยี่ กบ่ี าท 6. สมมติว่าห้างหุ้นส่วนจํากัด อุดรการช่าง เป็นผู้จําหน่ายอะไหล่รถยนต์ชนิดหนึ่ง ซึ่งมียอดขาย เป็นไปอย่างสมํ่าเสมอ และห้างหุ้นส่วนจํากัดอุดรการช่าง ได้ประมาณยอดขายแล้วพบว่า ใน 1 ปี ห้างฯ จะมียอดขายอะไหล่รถยนต์เป็นจํานวน 2,400 ช้ิน โดยมีต้นทุนในการส่ังซื้อคร้ังละ 160 บาท และต้นทุนการเก็บรักษาเป็น 40% ต่อปี ที่ผ่านมาห้างหุ้นส่วนจํากัดอุดรการช่าง เคยจะส่ังซ้ืออะไหล่
บทท่ี 8 ตัวแบบสนิ คา้ คงคลงั 381 รถยนต์จากบริษัทเจริญยนต์ จํากัด ในราคาหน่วยละ 40 บาท แต่ปีนี้บริษัทเจริญยนต์ฯ ได้เสนอ สว่ นลดมาให้เพิ่มเติมจากที่เคยส่ังซื้อ ดังต่อไปนี้ จาํ นวนทส่ี งั่ ซอ้ื ราคาตอ่ หน่วย 1– 499 หนว่ ย 40.00 บาท 500 – 999 หนว่ ย 30.00 บาท 1,000 หน่วยขึ้นไป 15.00 บาท จงช่วยห้างหุ้นส่วนจํากัดอุดรการช่าง ตัดสินใจว่าควรสั่งซ้ืออะไหล่รถยนต์ครั้งละก่ีช้ิน จึงจะทําให้ เสยี คา่ ใชจ้ า่ ยรวมท้งั หมดตาํ่ สดุ โดยการหา 6.1 ปรมิ าณการสั่งซ้ือตามเงื่อนไข EOQ ของราคาแต่ละช่วงพร้อมอธบิ าย 6.2 ตน้ ทนุ รวมทั้งหมด และปริมาณการสั่งซื้อเม่อื พิจารณาจากต้นทุนรวมท้งั หมดทต่ี ่ําสดุ
382 บทที่ 8 ตัวแบบสนิ ค้าคงคลงั เอกสารอ้างองิ Anderson, D. R., Sweeney, D. J., Williams, T. A., Camm, J. D., & Martin, K. (2013). Quantitative methods for business. 12th ed. Canada: South-Western College, 880 p. Render, B., Stair Jr., R. M., & Hanna, M. E. (2011). Quantitative Analysis for Management. 11thed. New Jersey: Prentice Hall, 672 p. กัลยา วานชิ ยบ์ ญั ชา. (2553). การวิเคราะห์เชงิ ปริมาณ. กรงุ เทพฯ: สามลดา, 312 หน้า. เกรียงศักดิ์ อวยพรเจริญชัย. (2548). การวิเคราะห์เชิงปริมาณเพื่อการตัดสินใจทางธุรกิจ. กรงุ เทพฯ: เพียร์สนั เอด็ ดเู คชน่ั อนิ โดไชน่า, 235 หนา้ วินัย พุทธกูล. (2551). การวิเคราะห์เชิงปริมาณเพ่ือการจัดการทางธุรกิจ. กรุงเทพฯ: มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร,์ 259 หนา้ . สมพล ทุ่งหว้า. (2544). การวิเคราะห์เชิงปริมาณเพื่อการตัดสินใจ. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัย รามคําแหง, 372 หน้า. สุทธมิ า ชํานาญเวช. (2555). การวเิ คราะห์เชงิ ปริมาณ. พมิ พ์คร้ังที่ 6. กรุงเทพฯ: วิทยพฒั น์, 516 หนา้ . ___________. (2555). การวิเคราะห์เชิงปริมาณทางธุรกิจ. พิมพ์คร้ังที่ 3. กรุงเทพฯ: วิทยพัฒน์, 312 หน้า. สุธานันท์ โพธ์ิชาธาร. (2546). การวิเคราะห์เชิงปริมาณ. นครราชสีมา: สถาบันราชภัฏนครราชสีมา, 288 หนา้ . ไอยเรศ ลิบลับ. (2543). การวิเคราะห์เชิงปริมาณ. พิมพ์คร้ังที่ 2. กรุงเทพฯ: สินธนา ก๊อปปี้ เซ็น เตอร,์ 242 หนา้ .
แผนบรหิ ารการสอนประจาํ บทท่ี 9 ทฤษฎีการแขง่ ขนั หัวข้อเนอ้ื หา 1. บทนํา 2. เงอื่ นไขของการแข่งขัน 3. การแขง่ ขนั 2 ฝา่ ยที่มีผลรวมเป็นศูนย์ (Zero Sum Game) 4. รปู แบบท่วั ไปของตารางผลตอบแทน 5. การตดั สินใจเกีย่ วกับทฤษฎกี ารแขง่ ขนั 6. หลกั เกณฑ์ในการแก้ปญั หา 7. ประเภทของกลยทุ ธ์ที่ใชใ้ นการแข่งขนั 8. ข้ันตอนของการวเิ คราะหก์ ารแข่งขนั 9. การแก้ปัญหากรณเี ปน็ กลยทุ ธ์เดี่ยว 10. การแกป้ ญั หากรณีเปน็ กลยทุ ธผ์ สม 11. บทสรุป วัตถุประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม 1. อธิบายความหมาย ความสาํ คัญ และเงือ่ นไขของทฤษฎีการแข่งขนั ได้ 2. อธิบายลกั ษณะการแขง่ ขนั 2 ฝ่ายท่มี ีผลรวมเป็นศนู ยไ์ ด้ 3. วเิ คราะห์กลยทุ ธ์ และสรา้ งตารางผลตอบแทนจากจากการแข่งขันได้ 4. จําแนกประเภทของกลยุทธใ์ นการแขง่ ขนั ได้ว่าเป็นกลยุทธ์เด่ยี วหรือกลยทุ ธ์ผสม 5. บอกความแตกตา่ งระหว่างการแข่งขันโดยใช้กลยทุ ธ์เดีย่ วและกลยทุ ธผ์ สมได้ 6. อธิบายหลักเกณฑ์การแก้ปัญหาการแข่งขัน ทั้งกรณีการแข่งขันกลยุทธ์เดี่ยวและกรณี กลยทุ ธผ์ สมได้ 7. วิเคราะห์และอธิบายได้ว่าคู่แข่งขันแต่ละฝ่ายจะเลือกใช้กลยุทธ์ในการแข่งขันอย่างไร มี สดั สว่ นเท่าใด 8. วิเคราะห์และอธิบายได้ว่าผลการแข่งขันมีค่าคาดหมายเป็นเท่าใด คู่เล่นฝ่ายใดเป็นผู้ได้ หรอื ผเู้ สยี และมีผลได้หรอื ผลเสยี เปน็ เทา่ ใด วิธีสอนและกจิ กรรม 1. บรรยายเน้ือหาในบทเรียนเก่ียวกับความสําคัญ และเงื่อนไขของการแข่งขัน ตลอดจน เทคนิคในการวิเคราะหก์ ลยทุ ธ์ของคู่เลน่ แตล่ ะฝ่าย และเง่อื นไขของการแขง่ ขัน 2. แสดงตัวอย่างการวิเคราะห์และจําแนกกลยุทธ์การแข่งขันของคู่เล่นแต่ละฝ่าย และ อธิบายการสร้างตารางผลตอบแทนจากการแขง่ ขนั อย่างละเอียด
384 บทที่ 9 ทฤษฎีการแข่งขัน 3. แสดงตัวอย่างการวิเคราะห์ประเภทของการแข่งขัน จากหลักเกณฑ์ที่ใช้ในการแก้ปัญหา ของการแขง่ ขันแต่ละประเภทโดยละเอียด 4. ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มตามความสมัครใจ เพ่ือร่วมกันวิเคราะห์โจทย์ปัญหา แจกแจงกล ยุทธ์ที่คู่เล่นแต่ละฝ่ายใช้ในการแข่งขัน และวิเคราะห์เงื่อนไขของการแข่งขัน เพื่อนําไปสู่การสร้าง ตารางผลตอบแทนของการแข่งขันจากผู้เล่นแต่ละฝ่าย โดยใช้โจทย์ปัญหาในเน้ือหาและแบบฝึกหัด ทา้ ยบท 5. ให้นักศึกษาในกลุ่มวิเคราะห์ประเภทของการแข่งขัน เพื่ออธิบายว่าคู่เล่นแต่ละฝ่าย เลือกใช้กลยุทธ์ในการแข่งขันอย่างไร มีสัดส่วนความน่าจะเป็นในการใช้กลยุทธ์อย่างไร และผลจาก การแขง่ ขนั สุดท้าผเู้ ล่นฝ่ายใดเป็นฝา่ ยไดห้ รอื ฝ่ายเสีย และผลได้หรือเสยี เปน็ จาํ นวนเทา่ ใด 6. เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ซักถามและร่วมอภิปรายถึงข้อสงสัยเกี่ยวกับเทคนิคและวิธีใน การวิเคราะห์โจทย์ปัญหา ตลอดจนการคํานวณ และการแปลความหมายผลลัพธ์ท่ีได้ พร้อมท้ังตอบ ข้อซักถามและสรปุ ผลโดยอาจารยผ์ สู้ อน 7. มอบหมายแบบฝึกหัดท้ายบทให้นักศึกษาไปฝึกการแก้ปัญหาตัวแบบในลักษณะต่างๆ นอกห้องเรียนดว้ ยตนเอง โดยการมอบหมายให้ทําแบบฝึกหัดท้ายบท และกําหนดให้ส่งแบบฝึกหัดแก่ ผู้สอนในช้นั เรยี นครั้งตอ่ ไป สือ่ การเรียนการสอน 1. เอกสารประกอบการสอนรายวิชาการวเิ คราะห์เชิงปรมิ าณ 2. สื่อทางคอมพิวเตอร์โปรแกรม Microsoft Power Point และโปรแกรม Microsoft Word 3. หนงั สืออ่านเพมิ่ เตมิ และกรณีศกึ ษา 4. แบบฝึกหดั ทา้ ยบท การวัดผลและการประเมินผล 1. การวัดผล 1.1 การเขา้ ชัน้ เรียนตรงต่อเวลา 1.2 การถามและตอบคาํ ถามในช้นั เรียน 1.3 การสงั เกตการเข้ารว่ มกจิ กรรมกล่มุ 1.4 การทําแบบฝึกหัดท้ายบท 2. การประเมินผล 2.1 ทาํ กจิ กรรมกลมุ่ เสรจ็ ตามเวลาท่ีกําหนด 2.2 ทําแบบฝกึ หดั ท้ายบทดว้ ยตนเอง 2.3 แบบฝกึ หัดทท่ี ํามคี วามถกู ตอ้ งรอ้ ยละ 80
บทท่ี 9 ทฤษฎีการแข่งขัน 9.1 บทนาํ ปัจจุบันการดําเนินชีวิตล้วนต้องเผชิญกับการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันเรื่องการเรียน การทํางาน การแข่งขันทางการเมือง หรือการแข่งขันทางการค้า และผลของการแข่งขันล้วนแต่มีผล ต่อผู้ตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบโดยตรงหรือทางอ้อมก็ตาม ขณะท่ีการแข่งขันได้เกิดขึ้นมานานคู่ กับสังคมไทย มกี ารทายผลการแข่งขนั ด้วยการเดิมพันหรอื การพนนั เกิดขึ้นในทุกกจิ กรรม โดยเฉพาะการแข่งขันในวงการธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลาง หรือขนาดเล็ก ล้วนปฏิเสธไม่ได้ว่า การแข่งขันหรือคู่แข่งขันเป็นปัจจัยสําคัญในการประกอบธุรกิจ ท่ี จะทําให้เอาชนะคู่แข่งขันหรือมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มข้ึน หรือแม้แต่การแพ้จนต้องล้มเลิกกิจการไป ซ่งึ กล็ ว้ นแต่เป็นผลของการแข่งขันท้งั สนิ้ ฉะนนั้ หากองคก์ รใดสามารถวางแผนการแขง่ ขนั กบั คู่แข่งขัน ทางธรุ กจิ ไดด้ ี มกี ารศึกษาข้อมูลว่าคู่แข่งจะเลือกใช้กลยุทธ์อะไรในการแข่งขันอย่างไร และมีโอกาสใช้ มากหรือน้อยเพียงใด ก็จะย่ิงทําให้องค์กรหรือกิจการนั้นวางแผนรับมือการแข่งขันนั้นได้ จึงทําให้ ประสบผลสําเร็จหรือไดป้ ระโยชน์จากการแข่งขนั และอาจกลายเป็นผู้ครองตลาดสินค้าประเภทนั้นไป เลยกไ็ ด้ ด้วยการแข่งขันมีบทบาทสําคัญกับทุกส่วนทุกองค์กร จึงได้รวบรวมความหมาย และลักษณะ ของการแข่งขนั ซ่งึ มีผูส้ รปุ ไวด้ งั นี้ เกรียงศกั ด์ิ (2548; 189) ไดใ้ หค้ วามหมายของทฤษฎกี ารแข่งขนั (Game Theory) ไว้ว่า เปน็ หลักการใช้อธิบายปรากฏการณ์ที่เก่ียวข้องกับบุคคลหรือองค์กรท่ีอยู่ในสถานการณ์แข่งขัน การ แข่งขันมีลักษณะผู้เสียเปรียบและผู้ได้เปรียบ ทําให้ผลตอบแทนการแข่งเป็นศูนย์ (Zero Sum Game) โดยที่การได้เปรียบและเสียเปรียบมีผลกระทบซ่ึงกันและกัน (Interdependent) ฝ่ายหน่ึงจะ ดําเนนิ กลยทุ ธ์เพื่อไปห้าํ หนั่ กบั อกี ฝ่ายหนง่ึ ขณะที่กัลยา (2553; 230) ให้ความหมายไว้ว่า การแข่งขันหรือเกม (Game) เป็นการแข่งขัน โดยทม่ี ผี แู้ ข่งขันต้ังแต่ 2 ฝา่ ยขน้ึ ไป ซ่ึงคล้ายกับ Anderson (2013; 155) ที่ให้ความหมายไว้ว่า ทฤษฎีเกม (Game Theory) เปน็ การศกึ ษาการใชก้ ลยทุ ธท์ ่ีดที ส่ี ดุ เพอ่ื การแข่งขัน โดยมผี เู้ ล่นหรอื ผแู้ ขง่ ขนั 2 ฝา่ ยหรอื มากกวา่ และยังสอดคล้องกับสุทธิมา (2555; 378) ท่ีให้ความหมายไว้ว่า เป็นการแข่งขันที่มีผลได้ ผลเสียเป็นเดิมพัน โดยมีผู้ตัดสินใจ 2 ฝ่ายหรือมากกว่า 2 ฝ่าย ทําการตัดสินใจปัญหาซ่ึงมี ผลประโยชน์ท่ีขัดแย้งกัน การชนะหรือได้ผลประโยชน์ของฝ่ายหนึ่งหมายถึงการแพ้หรือการเสีย ประโยชน์ของอกี ฝ่ายหน่ึง
386 บทที่ 9 ทฤษฎกี ารแขง่ ขัน ดังน้ันจึงสรุปได้ว่า การแข่งขันหรือเกม หมายถึง การแข่งขันระหว่างฝ่ายต่างๆ ตั้งแต่ 2 ฝ่าย ข้ึนไป โดยท่ีผลการแข่งขันจะมีการชนะหรือการได้ผลประโยชน์ของฝ่ายหนึ่ง ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งจะเป็น ฝ่ายแพ้หรือผู้เสียผลประโยชน์ให้อีกฝ่ายหน่ึง โดยการศึกษาทฤษฎีการแข่งขันจะเป็นการศึกษาการ เลือกใช้กลยทุ ธ์ที่เหมาะสมที่สุดทจี่ ะใช้ในการแขง่ ขนั ลกั ษณะของการแขง่ ขนั แบง่ ออกเปน็ 2 รปู แบบใหญ่ๆ คือ (เกรียงศกั ดิ์, 2548: 189) 1) การแข่งขันภายใต้สภาวะรู้เขารู้เรา (A Game of Complete Information) เป็น สภาวะที่แต่ละฝ่ายสามารถรู้ข้อมูลของอีกฝ่ายได้ ทําให้สามารถคาดเดากลยุทธ์ของคู่แข่งขันได้อย่าง ถกู ตอ้ ง ซ่ึงการแข่งขันลกั ษณะนี้ในความเป็นจรงิ เกดิ ขน้ึ ได้ยาก เพราะค่แู ข่งจะไม่เปิดเผยขอ้ มูลโดยง่าย ขณะเดียวกันคู่แข่งก็จะมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลหรือกลยุทธ์ในการแข่งขันอยู่ตลอดเวลา เช่น ข้อมูล งบการเงิน ก่อนมีการเปิดเผยคู่แข่งจะมีการปรับแต่งข้อมูลก่อน จึงไม่สามารถนํามาอ้างอิงหรือใช้ ประโยชน์ไดท้ ั้งหมด เปน็ ต้น 2) การแข่งขันภายใต้สภาวะรู้เขาไม่รู้เรา หรือรู้เราไม่รู้เขา (A Game of Incomplete Information) เป็นสภาวะการแข่งขันที่เกิดขึ้นจริงในโลกยุคปัจจุบัน เนื่องจากเราไม่สามารถคาดเดา กลยุทธ์ จํานวนเงิน ทรัพยากร รวมทั้งความสามารถของคู่แข่งขันได้ตลอดเวลาทั้งหมด จนกว่าคู่ แข่งขันจะเร่ิมดําเนินการหรือแสดงออกมาให้เราเห็น เราจึงจะคาดเดาผลลัพธ์หรือผลกระทบที่จะเกิด ขึน้ กบั กิจการของเราได้ ซง่ึ เปน็ การประเมินคู่แข่งภายหลงั เกิดการดาํ เนินงานแลว้ นั่นเอง เน่ืองจากในปัจจุบันมีการแข่งทางธุรกิจกันอย่างรุนแรง ผู้บริหารท่ีสามารถวิเคราะห์กลยุทธ์ การแข่งขันของคู่แข่งขันได้ ย่อมจะสามารถวางแผนการผลิต การขาย การตลาด การเงิน งานบุคคล และอ่นื ๆ ไดอ้ ย่างแม่นยาํ ซึ่งจะทําใหก้ ิจการมโี อกาสเป็นผ้นู ําธรุ กจิ ได้ในทีส่ ดุ 9.2 เงือ่ นไขของการแขง่ ขัน ตัวแบบทฤษฎกี ารแขง่ ขนั ทีใ่ ชใ้ นการแก้ปัญหาเพ่ือการตัดสินใจในการเลือกใช้กลยุทธ์ และการ วางแผนการแข่งขนั กับคูแ่ ข่งขนั มีขอ้ สมมติฐานหรือเงอื่ นไขการแข่งขนั ดังน้ี 1) จํานวนผูแ้ ข่งขันตอ้ งมีจาํ นวนนบั ได้ และในบทน้จี ะวเิ คราะห์การแขง่ ขันที่มีผู้แข่งขันเพียง 2 ฝา่ ย 2) ผู้แข่งขันแต่ละฝ่ายจะต้องมีกลยุทธ์หรือแผนการแข่งขันท่ีจะนํามาใช้ในการแข่งขัน ท่ีมี จํานวนกลยุทธ์หรือแผนการแขง่ ขนั นบั จํานวนได้ 3) จํานวนกลยุทธ์หรือแผนการแข่งขันที่คู่แข่งขันแต่ละฝ่ายเลือกใช้ในการแข่งขันจะเท่ากัน หรอื ไมเ่ ทา่ กนั กไ็ ด้ 4) ผู้แข่งขันอาจเลือกใช้กลยุทธ์หรือแผนการแข่งขันหน่ึงกลยุทธ์หรือใช้มากกว่าหน่ึงกลยุทธ์ก็ ได้ แต่จะไม่ทราบล่วงหน้าว่าคู่แข่งขันจะเลือกใช้กลยุทธ์ใด หรือเป็นลักษณะการแข่งขันท่ีเรียกว่า “รู้ เราแตไ่ มร่ ้เู ขา (A Game of Incomplete Information)” 5) ผลไดแ้ ละผลเสยี จากการแขง่ ขันของทกุ ฝ่ายรวมกันเปน็ ศนู ย์ (Zero Sum Game)
บทท่ี 9 ทฤษฎกี ารแขง่ ขัน 387 9.3 การแขง่ ขนั 2 ฝา่ ยท่ีมีผลรวมเปน็ ศูนย์ (Zero Sum Game) การแข่งขันท่ีมีผลรวมของการแข่งขันเป็นศูนย์ เป็นปัญหาการตัดสินใจในสภาวการณ์แข่งขัน ท่มี คี ูแ่ ข่งขนั 2 ฝา่ ย (Two-person Game) หรือผู้เล่น 2 ทมี หรอื 2 บริษัท หรือ 2 คน เป็นต้น ซ่ึงจะ พบวา่ ผลไดข้ องผู้แขง่ ขันฝา่ ยที่ 1 จะเกิดจากผลเสียของผูเ้ ลน่ ฝ่ายที่ 2 หรือในทางตรงกนั ข้าม ถ้าฝ่ายท่ี 1 เป็นผู้เสีย จะทําให้ผู้เล่นฝ่ายท่ี 2 เป็นผู้ได้ และผลได้ขอผู้เล่นฝ่ายท่ี 2 จะได้เท่ากับผลเสียจากผู้เล่น ฝ่ายท่ี 1 และเม่ือนําผลได้และผลเสียจากทั้งสองฝ่ายมารวมกัน จะได้ผลรวมมีค่าเท่ากับศูนย์ จึงเรียก การแขง่ ขนั ในลกั ษณะนีว้ ่า เกมผลรวมเป็นศนู ย์ (Zero Sum Game) และการแขง่ ขันของผเู้ ลน่ ทง้ั สอง ฝา่ ยจะไมม่ กี ารเจรจาต่อรองกัน หรือไมม่ ีการแบง่ ผลไดห้ รือผลเสยี ใหฝ้ า่ ยอน่ื ท่ีไมอ่ ยใู่ นการแขง่ ขนั ทัง้ น้ีเพื่อให้งา่ ยในการวเิ คราะหก์ ารแขง่ ขนั เนอ้ื หาการวเิ คราะห์การแข่งขันในบทนี้จึงเป็นการ วิเคราะห์การแข่งขันท่ีเกิดจากคู่แข่งเพียง 2 ฝ่าย ขณะท่ีในความเป็นจริงแล้วการแข่งขันสามารถ เกิดข้ึนได้หลายๆ ฝ่าย และอาจต้องเลือกใช้กลยุทธ์เพ่ือการแข่งขันกับหลายฝ่ายไปพร้อมๆ กัน ซึ่ง หลักการแขง่ ขัน 2 ฝา่ ยนก้ี ส็ ามารถนําไปประยุกต์ใช้ได้ เพียงแต่การวิเคราะห์ให้วิเคราะห์การแข่งขันที ละคแู่ ขง่ นนั่ เอง ซง่ึ หลกั การวเิ คราะห์การแขง่ ขันจะไดก้ ลา่ วในหวั ขอ้ ต่อไป 9.4 รูปแบบทั่วไปของตารางผลตอบแทน ผลจากการแขง่ ขนั ของผู้เลน่ ทั้งสองฝ่าย สามารถแสดงได้ในรปู แบบของเมตรกิ ซห์ รอื ตาราง ผลตอบแทน โดยให้ ผู้เล่นคนที่ 1 หรือผเู้ ลน่ A ซึ่งเป็นเจ้าของตารางที่จะแสดงกลยุทธ์ทใี่ ชใ้ นการแข่งขนั และผลจาก การแขง่ ขันอยู่ในตารางด้านแถวนอน (Row) โดยมีกลยทุ ธท์ ใ่ี ช้ในการแขง่ ขัน ไดแ้ ก่ กลยทุ ธท์ ่ี 1, 2,..., m ผู้เล่นคนท่ี 2 หรือผู้เล่น B ซ่ึงเป็นคู่แข่งของผู้เล่น A และจะแสดงกลยุทธ์ท่ีใช้ในการแข่งและ ผลจากการแข่งขันอยใู่ นตารางดา้ นแถวตั้ง (Column) โดยมกี ลยทุ ธท์ ีใ่ ชใ้ นการแขง่ ขนั ไดแ้ ก่ กลยุทธ์ที่ 1, 2, ..., n สามารถแสดงรปู แบบท่วั ไปของตารางผลตอบแทนจากการแขง่ ขนั ของผเู้ ชน่ A และ B ได้ดัง ตารางที่ 9.1 ตารางท่ี 9.1 แสดงรปู แบบท่วั ไปของตารางผลตอบแทน กลยุทธข์ อง A 1 กลยุทธข์ อง B … n a11 23 … a1n 1 a21 a12 a13 a2n 2 a22 a23 ... ... ... ... ... ... am1 amn m am2 am3
388 บทท่ี 9 ทฤษฎีการแข่งขนั จากตารางท่ี 9.1 หมายความว่า ผู้เล่น A เป็นเจ้าของตารางผลตอบแทน มีกลยุทธ์ที่ใช้ แข่งขันจํานวน m กลยุทธ์ ขณะท่ีผู้เล่น B เป็นคู่แข่งขันของผู้เล่น A และมีกลยุทธ์ท่ีใช้ในการแข่งขัน จาํ นวน n กลยทุ ธ์ ค่าผลตอบแทนจากการแข่งขันของผู้เล่นท้ัง 2 ฝ่าย ในแต่ละตําแหน่งในตารางยกตัวอย่าง อธิบายไดด้ งั นี้ a11 หมายถึง ผลตอบแทนจากการแข่งขัน ถ้าผู้เล่น A เลือกใช้กลยุทธ์ที่ 1 และผู้เล่น B เลอื กใชก้ ลยทุ ธท์ ี่ 1 เหมือนกนั a12 หมายถึง ผลตอบแทนจากการแข่งขัน ถ้าผู้เล่น A เลือกใช้กลยุทธ์ที่ 1 และผู้เล่น B เลือกใชก้ ลยทุ ธ์ท่ี 2 a13 หมายถึง ผลตอบแทนจากการแข่งขัน ถ้าผู้เล่น A เลือกใช้กลยุทธ์ที่ 1 และผู้เล่น B เลอื กใชก้ ลยทุ ธ์ท่ี 3 a21 หมายถึง ผลตอบแทนจากการแข่งขัน ถ้าผู้เล่น A เลือกใช้กลยุทธ์ที่ 2 และผู้เล่น B เลือกใช้กลยทุ ธท์ ่ี 1 a22 หมายถึง ผลตอบแทนจากการแข่งขัน ถ้าผู้เล่น A เลือกใช้กลยุทธ์ที่ 2 และผู้เล่น B เลอื กใชก้ ลยุทธ์ท่ี 2 เหมอื นกัน แปลความหมายจากผลการแข่งขัน จากตารางผลตอบแทนที่ 9.1 สรปุ ได้ว่า ถ้า aij เป็นบวก หมายถึง ผู้เล่น A หรือเจ้าของตารางซึ่งอยู่ด้านแถวนอน เป็นผู้ชนะหรือเป็น ผลไดข้ อง A ขณะท่ผี ู้เลน่ B หรอื คูแ่ ขง่ จะเป็นฝ่ายแพ้หรอื เปน็ ผลเสียของ B ถ้า aij เป็นลบหมายถึง ผู้เล่น A เป็นผู้แพ้หรือเป็นผลเสียของ A ขณะท่ีผู้เล่น B จะเป็นฝ่าย ชนะหรือเปน็ ผลไดข้ อง B ตวั อย่างที่ 9.1 สมมติว่าในการแขง่ ขันชนดิ หนง่ึ มีผ้เู ล่น 2 คน คือผู้เล่นคนท่ี 1 และผู้เล่นคนที่ 2 ทั้งคู่ กําลังเล่นทายเหรียญท่ีจะเกิดขึ้นจากการโยนเหรียญ 1 เหรียญ โดยมีผู้เล่นคนที่ 1 เป็นผู้โยนเหรียญ และมผี เู้ ล่นคนท่ี 2 เปน็ ผู้ทาย การแขง่ ขนั ผทู้ ายจะต้องทายว่าเหรยี ญจะออกด้านใดระหว่างหัวกับก้อย กอ่ นทีผ่ ู้เล่นคนที่ 1 จะทาํ การโยนเหรยี ญ หลังจากผ้เู ล่นคนท่ี 1 โยนเหรยี ญแล้ว สิ่งทจ่ี ะเกิดขึน้ เรียกว่า “กลยุทธ์” ซ่ึงสามารถเกิดขึ้นได้ ได้ 2 กลยุทธ์ คือ หัว และก้อย ท้ังน้ีเนื่องจากเหรียญที่ใช้โยนมี 1 เหรียญ แต่ถ้าใช้เหรียญโยนมากกว่า 1 เหรยี ญ สิ่งทเ่ี กิดขึ้นหรือกลยทุ ธ์จะมากกวา่ น้ี เชน่ หวั หัว หวั กอ้ ย กอ้ ยก้อย และถ้าการเลน่ เกมของผู้ เล่นทง้ั สองคนน้ี มกี ารเดมิ พันดว้ ยเงินจาํ นวน 10 บาท จากหลักการแข่งขัน กลยุทธ์ท่ีเกิดข้ึน และเงื่อนไขของผู้เล่นทั้งสองฝ่าย จะทําให้สามารถ แสดงผลตอบแทนจากการแข่งขนั ของผู้เลน่ ทั้งสองคน ไดด้ ังตารางท่ี 9.2 ดังนี้
บทท่ี 9 ทฤษฎกี ารแข่งขัน 389 ตารางที่ 9.2 แสดงผลตอบแทนจากการเลน่ เกมทายเหรยี ญของผู้เล่นคนที่ 1 และคนที่ 2 ของ ตัวอยา่ งที่ 9.1 ผ้เู ลน่ คนที่ 1 ผูเ้ ลน่ คนที่ 2 หัว หัว กอ้ ย กอ้ ย -10 10 10 -10 จากตารางท่ี 9.2 ผลตอบแทนการเล่นเกมทายเหรียญของผู้เล่นคนท่ี 1 และผู้เล่นคนที่ 2 พบว่า ผู้เล่นทั้งสองคนมีกลยุทธ์ท่ีจะเกิดขึ้นได้ 2 กลยุทธ์เหมือนกันคือ หัว และก้อย จากตารางถ้าผู้ เลน่ คนที่ 2 ทายว่าการโยนเหรียญจะออกหัว และเมื่อผู้เล่นคนที่ 1 โยนเหรียญแล้วออกหัวจริงๆ หรือ ตําแหน่ง a11 น่ันคือผู้เล่นคนที่ 2 ทายถูกต้องและจะเป็นฝ่ายได้ ขณะท่ีผู้เล่นคนที่ 1 จะเป็นผู้เสียเงิน จํานวน 10 บาท ทาํ ใหก้ ารแสดงผลตอบแทนในตารางตําแหน่ง a11 มีคา่ เทา่ กับ -10 แต่ถ้าผู้เล่นคนท่ี 2 ทายว่าการโยนเหรียญจะออกหัว และเม่ือผู้เล่นคนท่ี 1 โยนเหรียญแล้ว ออกก้อยหรือตําแหน่ง a12 นั่นคือผู้เล่นคนท่ี 2 ทายผิดซึ่งจะเป็นฝ่ายเสีย ขณะท่ีผู้เล่นคนที่ 1 จะเป็น ฝ่ายได้ ทําให้การแสดงผลตอบแทนในตารางตําแหนง่ a12 มีค่าเท่ากับ 10 ถ้าผเู้ ล่นคนที่ 2 ทายวา่ การโยนเหรียญจะออกก้อย และเมือ่ ผู้เล่นคนท่ี 1 โยนเหรียญแล้วออก หัวหรือตําแหน่ง a21 นั่นคือผู้เล่นคนท่ี 2 ทายผิดซึ่งจะเป็นฝ่ายเสีย ขณะที่ผู้เล่นคนท่ี 1 จะเป็นฝ่ายได้ ทําใหก้ ารแสดงผลตอบแทนในตารางตาํ แหน่ง a21 มีคา่ เทา่ กบั 10 ถ้าผ้เู ล่นคนที่ 2 ทายวา่ การโยนเหรียญจะออกกอ้ ย และเม่ือผู้เล่นคนท่ี 1 โยนเหรยี ญแล้วออก ก้อยหรือตําแหน่ง a22 นั่นคือผู้เล่นคนท่ี 2 ทายถูกซ่ึงจะเป็นฝ่ายได้ ขณะท่ีผู้เล่นคนท่ี 1 จะเป็นฝ่าย เสีย ทาํ ให้การแสดงผลตอบแทนในตารางตําแหน่ง a22 มคี า่ เทา่ กบั -10 จึงสรปุ ไดว้ ่า ถ้า aij เป็นบวก หมายถึง ผู้เล่นคนท่ี 1 เป็นผู้ชนะหรือเป็นผลได้ ขณะที่ผู้เล่นคน ที่ 2 จะเปน็ ฝา่ ยแพห้ รือเปน็ ผลเสยี และถ้า aij เป็นลบ หมายถงึ ผู้เล่นคนท่ี 1 เปน็ ผู้แพ้หรือเป็นผลเสีย ขณะท่ีผเู้ ลน่ B จะเป็นฝ่ายชนะหรือเปน็ ผลได้ 9.5 การตดั สนิ ใจเกยี่ วกบั ทฤษฎกี ารแขง่ ขัน การใช้ทฤษฏีการแข่งขันเพ่ือการตัดสินใจสําหรับกิจการ เพ่ือวางแผนการแข่งขันกับคู่แข่งขัน ให้กิจการหรือองค์กรประสบผลสําเร็จจากการตัดสินใจ สามารถหาคําตอบจากการวิเคราะห์การ แข่งขนั ไดด้ งั นี้ 1) การแข่งขันท่ีท้ัง 2 ฝ่ายแข่งขันกันอยู่เป็นการแข่งขันประเภทใด เนื่องจากประเภทของการ แขง่ ขนั จะบอกลกั ษณะการเลือกใชก้ ลยทุ ธ์ 2) คู่แข่งขันฝ่ายแรกจะเลือกใช้กลยุทธ์ใด และจะใช้ในอัตราส่วนเท่าใด ที่จะก่อให้เกิด ประโยชน์หรอื ผลดีท่ีสดุ สําหรับเขาได้
390 บทท่ี 9 ทฤษฎกี ารแข่งขัน 3) คู่แข่งขันอีกฝ่ายหนึ่งจะเลือกใช้กลยุทธ์ใด และจะใช้ในอัตราส่วนเท่าใด ที่จะก่อให้เกิด ประโยชน์หรือผลดีท่สี ุดสําหรบั เขาได้ 4) ค่าของการแข่งขันหรือค่าของเกมเป็นเท่าใด ซึ่งหมายถึงผลจากการแข่งขันของทั้ง 2 ฝ่าย ว่าสุดท้ายแล้วฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายได้และฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายเสีย และจะได้หรือเสียโดยเฉลี่ยจากการ แขง่ ขันหลายๆ ครง้ั เปน็ เทา่ ใด 9.6 หลกั เกณฑ์การในการแกป้ ญั หา การวิเคราะห์การแข่งขันเพ่ือหาคําตอบตามหัวข้อ 9.5 ท่ีได้กล่าวไปแล้ว มีหลักเกณฑ์ในการ แกป้ ญั หาและวิเคราะห์การแขง่ ขัน ดังนี้ 9.6.1 กฎแมกซิมิน (Maximin) กฎแมกซิมิน คือ เกณฑ์หาผลได้สูงสุดจากบรรดาผลได้ตํ่าสุด หรือการหาค่ามากท่ีสุด จากคา่ ท่ีนอ้ ยทสี่ ดุ ผู้ทใ่ี ช้กฎนี้จะเปน็ คนมองโลกในแงร่ ้าย โดยมขี ้นั ตอนในการเลือกคา่ จากตารางดังน้ี ขนั้ ตอนที่ 1 เลอื กค่าท่นี ้อยท่ีสดุ ของแต่ละทางเลอื ก หรอื ของแตล่ ะกลยทุ ธ์ ขนั้ ตอนท่ี 2 เลือกคา่ ทสี่ งู ทีส่ ดุ จากท่เี ลอื กมาแลว้ ในขัน้ ตอนท่ี 1 โดยท่ีผเู้ ล่นด้านแถวนอน (Row) หรือผู้เล่น A จากรูปแบบตารางท่ัวไป ซ่ึงเสมือนเป็น เจ้าของตารางและเจ้าของเครื่องหมายในตาราง จะใช้กฎแมกซิมินเสมอ เพราะกฎแมกซิมินใน ข้ันตอนการเลือกข้ันตอนสุดท้าย จะเลือกค่าที่สูงท่ีสุดจากท่ีเลือกค่าตํ่าสุดของแต่ละกลยุทธ์ เสมือน เปน็ ผลได้ทสี่ ูงทสี่ ดุ ของผเู้ ล่น A ซ่งึ ความหมายของตัวเลขทเี่ ลือกมาอธบิ ายได้ดังน้ี - ถ้าค่าท่ีเลือกมาจากขั้นตอนท่ี 2 เป็นค่าบวก ซึ่งเป็นตัวเลขบวกท่ีสูงท่ีสุด แสดงว่าผูเ้ ล่น A จะเป็นฝา่ ยไดม้ ากที่สดุ - ถ้าค่าที่เลือกมาจากขั้นตอนที่ 2 เป็นค่าติดลบ จะเลือกค่าติดลบที่น้อยท่ีสุด (เพราะเป็นคา่ มากท่ีสดุ ) กแ็ สดงว่าผ้เู ล่น A จะเป็นฝา่ ยเสยี น้อยที่สดุ นน่ั เอง 9.6.2 กฎมินนแิ มกซ์ (Minimax) กฎมินนแิ มกซ์ คือ เกณฑห์ าผลได้ต่ําสุดจากบรรดาผลได้ที่สูงท่ีสุด หรือการหาค่าน้อย ที่สุดหรือแย่ที่สุดจากค่าที่มากท่ีสุด ผู้ที่ใช้กฎน้ีจะเป็นคนมองโลกในแง่ดี โดยมีข้ันตอนในการเลือกค่า จากตารางดังน้ี ขัน้ ตอนที่ 1 เลือกค่าทส่ี ูงทสี่ ุดของแตล่ ะทางเลือก หรือของแตล่ ะกลยทุ ธ์ ขั้นตอนท่ี 2 เลือกคา่ ทน่ี อ้ ยทส่ี ดุ จากท่ีเลือกมาแล้วในขั้นท่ีตอนที่ 1 โดยผู้เล่นที่ด้านแถวต้ัง (Column) หรือผู้เล่น B จากรูปแบบตารางทั่วไปซึ่งเสมือน เปน็ คูแ่ ขง่ จะใช้กฎมินนิแมกซเ์ สมอ เพราะกฎมินนิแมกซ์ในขัน้ ตอนการเลอื กข้ันสดุ ทา้ ย จะเลือกค่าที่ น้อยท่ีสุดจากที่เลือกค่าสูงที่สุดของแต่ละกลยุทธ์ เสมือนเป็นผลเสียท่ีน้อยท่ีสุดของผู้เล่น B ซึ่ง ความหมายของตัวเลขทีเ่ ลอื กมาอธบิ ายได้ดงั นี้
บทท่ี 9 ทฤษฎีการแขง่ ขัน 391 - ถ้าค่าเลือกมาจากขั้นตอนที่ 2 เป็นค่าบวก ซึ่งเป็นตัวเลขบวกท่ีน้อยที่สุด แสดงว่าผู้เลน่ B จะเปน็ ฝา่ ยเสยี นอ้ ยทส่ี ุด - ถ้าค่าที่เลือกมาจากขั้นตอนที่ 2 เป็นค่าติดลบ จะเลือกค่าติดลบที่มากที่สุด (เพราะเปน็ คา่ ทีน่ อ้ ยทส่ี ุด) กแ็ สดงวา่ ผู้เล่น B จะเป็นฝา่ ยได้มากที่สุดนน่ั เอง 9.6.3 จุดไดเ้ สยี ทา่ กนั หรอื จดุ ศนู ยถ์ ่วง หรือคา่ ของเกม จุดได้เสียเท่ากัน หมายถึง ผลตอบแทนเฉล่ียท่ีผู้แข่งขันฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะได้จากการ แขง่ ขันหนงึ่ คร้งั หรอื ค่าทค่ี าดหวังของฝ่ายหนึ่งฝา่ ยใดว่าจะไดห้ รอื เสียนน่ั เอง โดยทจ่ี ุดได้เสียเท่ากันจะ เกิดขึ้นเม่ือค่าแมกซิมินเท่ากับค่ามินนิแมกซ์ แต่ถ้าค่าแมกซิมินไม่เท่ากับค่ามินนิแมกซ์จะไม่เกิดจุดได้ เสียเท่ากัน ซึ่งการวิเคราะห์การเกิดจุดได้เสียเท่ากันหรือไม่เกิดจุดได้เสียเท่ากัน จะสามารถตอบได้ว่า การแข่งขันท่ีผู้เล่นแข่งขั้นนั้นเป็นการแข่งขันประเภทใด และเมื่อทราบประเภทการแข่งขันแล้ว จะได้ เลอื กใชว้ ธิ ใี นการแกป้ ญั หาไดถ้ ูกต้องในลาํ ดบั ต่อไป 9.7 ประเภทของกลยทุ ธท์ ่ีใชใ้ นการแข่งขัน การแขง่ ขนั หรือเกมที่ท้ัง 2 ฝา่ ยแข่งขนั กนั โดยทั่วไปมี 2 ประเภท คือ เกมท่ีเป็นกลยุทธ์เดี่ยว และเกมทีเ่ ปน็ กลยทุ ธ์ผสม ซง่ึ แตล่ ะประเภทมีรายละเอียดและหลกั การแกป้ ัญหาดังนี้ 9.7.1 กลยทุ ธ์เด่ยี ว (Pure Strategy Game) กลยุทธ์เด่ยี วหรือกลยุทธ์แท้ หมายถงึ การแขง่ ขันท่ีผู้เล่นแต่ละฝ่ายมักเลือกใช้กลยุทธ์ ใดกลยุทธ์หนึ่งในการแข่งขันอยู่เสมอ แม้จะมีกลยุทธ์ท่ีใช้จํานวนหลายกลยุทธ์ก็ตาม ผู้เล่นก็จะเลือก เอากลยุทธ์ใดกลยุทธ์หน่ึงของตนมาใช้เพียงกลยุทธ์เดียว ไม่มีกลยุทธ์อ่ืนมาเจือปนตลอดการแข่งขัน โดยไมค่ ํานงึ วา่ ฝ่ายตรงกนั ขา้ มหรือค่แู ขง่ จะใชก้ ลยทุ ธอ์ ะไร กลยุทธ์เด่ียว เป็นลักษณะการแข่งขันท่ีเกิดข้ึนจริงน้อยมาก เพราะเป็นลักษณะการ แขง่ ขนั ทกี่ จิ การหรอื องค์กรจะไม่สนใจว่าคู่แข่งขันจะใช้กลยุทธ์ใด จะใช้เพียงกลยุทธ์เดียว ซึ่งส่วนมาก จะเกิดข้ึนกับลักษณะการดําเนินธุรกิจหรือกิจการที่ไม่มีคู่แข่ง หรือมีเพียงรายเดียว หรือที่เรียกว่า ตลาดผูกขาด (Monopoly) เพราะกิจการไม่จําเป็นต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์อะไรก็สามารถดําเนินการ หรือมีลูกค้ามาใช้บริการอย่แู ลว้ หรอื สามารถขายสนิ ค้าได้โดยไมต่ อ้ งสนใจคแู่ ขง่ น่นั เอง วิธีการตรวจสอบว่าเกมหรือการแข่งขันเป็น “กลยุทธ์เด่ียว” หรือไม่ เมื่อใช้หลักการ แก้ปัญหากฎแมกซิมินและกฎมินนิแมกซ์แล้วจะเกิด “จุดได้เสียเท่ากัน (Saddle Point)” หรือ “จุดศูนย์ถ่วง” แต่ถ้าไม่เกิดจุดได้เสียเท่ากันแสดงว่าการแข่งขันน้ันไม่เป็นกลยุทธ์เดี่ยว แต่เป็นกลยุทธ์ ผสมตามหลกั ในการพจิ ารณาแก้ปัญหาในหัวข้อท่ี 9.6 ซึ่งถ้าตรวจสอบแล้วว่าเกมการแข่งขันเป็นกลยุทธ์ เดย่ี ว ผู้วิเคราะหส์ ามารถตอบคําถามเพือ่ การตดั สนิ ใจตามรายการในหัวข้อท่ี 9.5 ไดเ้ ลย 9.7.2 กลยุทธ์ผสม (Mixed Strategy Game) กลยทุ ธ์ผสม หมายถงึ การแขง่ ขนั ทผ่ี ูเ้ ลน่ แต่ละฝา่ ยใช้กลยุทธใ์ นการแขง่ ขนั มากกวา่ 1 กลยุทธ์ตลอดการแขง่ ขัน หรอื เป็นการแข่งขันท่ีผู้เล่นแต่ละฝ่ายจะเลือกใช้กลยุทธ์ท่ีไม่ซํ้าเดิม ทั้งน้ีการ
392 บทท่ี 9 ทฤษฎีการแขง่ ขนั เลือกใช้กลยุทธ์จะขึ้นอยู่กับคู่แข่งขันหรือความได้เปรียบ เสียเปรียบในการแข่งขัน ซ่ึงการแข่งขันใน ลักษณะน้ีเกิดขึ้นในความเป็นจริง เพราะปัจจุบันการแข่งขันในวงการใดก็ตามคู่แข่งขันแต่ละฝ่าย จะ ใช้กลยุทธ์ที่ไม่ซํ้าเดิมแต่จะเปลี่ยนไปเร่ือยๆ ตามสภาพความได้เปรียบเสียเปรียบ ท้ังน้ีเพ่ือรักษาผลได้ หรอื ผลประโยชน์ใหก้ บั ตนเองให้มากท่สี ดุ หรอื หวงั ท่ีจะชนะการแข่งขนั ใหไ้ ด้มากทส่ี ดุ นั่นเอง วิธีการตรวจสอบว่าเป็นกลยุทธ์ผสม คือ เมื่อใช้หลักการแก้ปัญหาตามกฎแมกซิมิน และกฎมนิ นแิ มกซแ์ ลว้ จะไม่เกิดหรอื ไมป่ รากฏจดุ ไดเ้ สยี เทา่ กัน (Saddle Point) ทั้งน้ีเมื่อเป็นเกมกลยุทธ์ผสมแล้ว จะไม่สามารถตอบได้ว่าผู้เล่นแต่ละฝ่ายจะเลือกใช้ กลยุทธ์ใดในการแข่งขัน เพราะการแข่งขันผู้เล่นแต่ละฝ่ายจะเปล่ียนกลยุทธ์ไปเร่ือยๆ ไม่ซ้ําเดิม ผู้ วเิ คราะหไ์ ม่สามารถสรุปคําตอบท่ตี ้องการตัดสินใจตามรายการในหัวข้อ 9.5 ได้ทันที แต่ต้องวิเคราะห์ การแข่งขันเพ่ือหาคําตอบต่อไปว่า ผู้เล่นแต่ละฝ่ายจะมีสัดส่วนในการเลือกใช้กลยุทธ์ใดในการแข่งขัน อย่างไร มคี า่ คาดหมายการเลือกใช้แต่ละกลยุทธ์อย่างไร และผลจากการแข่งขันจะเป็นอย่างไร ในท่ีนี้ มีวธิ ใี นการวิเคราะหเ์ กมกลยุทธผ์ สมแบ่งออกเป็น 3 กรณี ดงั น้ี กรณที ่ี 1 ขนาดของการแข่งขันเป็น 2 x 2 หรือการแข่งขันที่ผู้เล่นแต่ละฝ่ายมีกลยุทธ์ ที่ใชใ้ นการแขง่ ขนั ฝ่ายละ 2 กลยทุ ธ์ การหาคาํ ตอบจะใช้วธิ ีคา่ คาดคะเน หรือใช้วิธีคา่ ความน่าจะเป็น ซ่ึงในวิธีการหาค่าความน่าจะเป็นสามารถหาค่าคาดหมายของเกมจากสัดส่วนการ ผสมหรือการเลือกใช้กลยุทธ์ของผู้เล่นแต่ละฝ่าย เพื่อตอบคําถามต่อไปว่า การแข่งขันนี้สุดท้ายแล้วผู้ เล่นฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายได้หรือเสีย ซึ่งค่าของเกมที่หาได้จะเป็นค่าเฉลี่ย และเมื่อมีสัดส่วนของการใช้ กลยุทธเ์ ขา้ มาเกี่ยวข้อง จึงเป็นคา่ คาดหมายของเกมการแขง่ ขันจาก ค่าคาดหมาย = ค่าธรรมดา x คา่ ความนา่ จะเปน็ ทั้งน้ี ค่าคาดหมายของเกมการแข่งขันของฝ่ายที่จะเล่นได้หรือฝ่ายชนะ กับฝ่ายท่ีจะ เสยี หรอื ฝ่ายแพ้ตอ้ งเท่ากัน จึงจะคงความเป็นเกมทมี่ ผี ลรวมเป็นศนู ยห์ รือ Zero Sum Game เอาไว้ดว้ ย กรณที ี่ 2 ขนาดของการแขง่ ขันเปน็ 2 x n หรือ m x 2 โดยที่ n และ m มีค่ามากกว่า 2 ซึ่งการคํานวณเพื่อหาคําตอบจะใช้วิธีกราฟ การลด ขนาดการแข่งขนั และจะใชเ้ กณฑเ์ ดน่ (Dominance Criteria) ในการลดขนาดของการแข่งขัน และถ้า สามารถลดขนาดของการแข่งขันให้เหลือ 2 x 2 ได้ก็จะกลับไปใช้วิธีค่าความน่าจะเป็นเพื่อหาคําตอบ โดยทกี่ ารใช้วธิ กี ราฟในการหาคาํ ตอบ มีหลกั การแกป้ ญั หาดังน้ี 1) ใหเ้ ขยี นกราฟของผู้เลน่ ทมี่ ีกลยทุ ธ์ 2 กลยทุ ธ์ 2) ให้พิจารณาว่าผู้เล่นฝ่ายท่ีมี 2 กลยุทธ์นั้นเป็นเจ้าของตารางหรือเป็นคู่แข่ง โดยถ้าเป็นเจ้าของตาราง (ผู้เล่นด้านแถวนอน) การตัดสินใจจากกราฟให้ใช้หลักการแมกซิมิน (Maximin) แต่ถ้าผู้เล่นที่มี 2 กลยุทธ์นั้นเป็นคู่แข่ง (ผู้เล่นด้านแถวต้ัง) การตัดสินใจจากกราฟให้ใช้ หลักการมนิ นิแมกซ์ (Minimax)
บทท่ี 9 ทฤษฎีการแขง่ ขัน 393 กรณีที่ 3 ขนาดของการแขง่ ขันเปน็ m x n โดยท่ี m และ n มีค่ามากกว่า 2 และการคํานวณเพ่ือหาคําตอบจะใช้วิธีกําหนดการ เชิงเสน้ (Linear Programming) ซึง่ มีวิธีการแก้ปัญหาดังเนื้อหาในบทท่ี 4 อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นขนาดการแข่งขันในกรณีที่ 2 หรือกรณีท่ี 3 หากสามารถ ลดขนาดการแข่งขันโดยใช้หลักการเกณฑ์เด่น (Dominance Criteria) ให้มีขนาด 2 x 2 ได้ก็จะ กลบั ไปใช้วิธีค่าความนา่ จะเป็นเพ่ือหาคาํ ตอบซง่ึ จะทําไดง้ ่ายกว่า แต่ถ้าสามารถลดขนาดมาได้เป็น 2 x n หรอื m x 2 กส็ ามารถใช้วธิ ีกราฟในการหาคาํ ตอบได้เช่นกัน จากหลกั การวเิ คราะหก์ ารแขง่ ขันเพ่ือหาคาํ ตอบทจี่ ะไดจ้ ากการแข่งขนั และประเภท ของการแขง่ ขัน สามารถสรุปข้ันตอนของการใชท้ ฤษฎกี ารแข่งขันไดด้ งั หัวข้อตอ่ ไปน้ี 9.8 ขนั้ ตอนของการวิเคราะห์การแข่งขนั การวเิ คราะหเ์ กมหรือการแขง่ ขนั ของผู้เลน่ ทัง้ 2 ฝา่ ย สามารถสรุปเป็นขนั้ ตอนได้ดังนี้ 1) วเิ คราะห์กลยทุ ธ์ของคู่แข่งขันทัง้ 2 ฝ่าย ว่าแตล่ ะฝา่ ยมกี ก่ี ลยุทธ์ และมกี ลยทุ ธอ์ ะไรบา้ ง 2) สร้างตารางผลตอบแทนของเกมหรือตารางผลการแข่งขัน โดยสามารถทําได้ 2 ลักษณะ คอื ตารางผลตอบแทนของผู้เล่นคนท่ี 1 และตารางผลตอบแทนผู้เล่นคนที่ 2 ซึ่งในการวิเคราะห์ทั้ง 2 ตารางน้ี ผลการวิเคราะห์จะให้คําตอบเหมือนกัน จะแตกต่างกันเพียงเคร่ืองหมาย ซ่ึงแสดงถึงผลได้ หรอื ผลเสียของผูเ้ ล่นฝ่ายใดนั่นเอง ฉะนน้ั การสรา้ งตารางเพอ่ื การวิเคราะหก์ ารแข่งขันจึงไม่จําเป็นต้อง สร้างท้ัง 2 ตาราง แต่ใช้เพยี งตารางเดยี วก็พอ 3) วิเคราะห์ประเภทของเกมหรือประเภทการแข่งขัน ตามหลักการวิเคราะห์หรือการ แกป้ ญั หา โดยมีขัน้ ตอนการวิเคราะหด์ งั นี้ 3.1) วเิ คราะหว์ า่ การแขง่ ขนั หรือเกมนนั้ ว่าเปน็ กลยุทธป์ ระเภทใด ระหว่างกลยุทธ์เดี่ยวกับ กลยุทธ์ผสม โดยถ้าเป็นเกมกลยุทธ์เดี่ยวตารางผลตอบแทนนั้นจะเกิดจุดได้เสียเท่ากัน (ค่าแมกซิมิน เท่ากับค่ามินนิแมกซ์) แต่ถ้าตารางผลตอบแทนไม่เกิดจุดได้เสียเท่ากันแสดงว่าเกมการแข่งขันนั้นเป็น เกมกลยุทธผ์ สม 4) แกป้ ัญหาเพ่อื หาคาํ ตอบตามหลักการแก้ปญั หาเกมแตล่ ะประเภท ดงั นี้ 4.1) ถ้าเป็นเกมกลยุทธ์เดี่ยว ไม่ว่าเกมการแข่งขันจะมีขนาด 2 x 2, 2 x n, m x 2 หรือ m x n มขี ั้นตอนดังนี้ 4.1.1) หาค่าจุดได้เสียเท่ากันหรือค่าของเกม เพ่ืออธิบายได้ว่า ผลการแข่งขันของผู้ เล่นท้ัง 2 ฝ่ายสุดท้ายแล้วผู้เล่นฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายได้หรือฝ่ายเสีย โดยถ้าค่าของเกมนั้นมีค่าเป็น เคร่ืองหมายบวก แสดงว่าเจ้าของตารางหรือผู้เล่น A จะเป็นฝ่ายได้ หรือผู้เล่น B จะเป็นฝ่ายเสีย ซ่ึงมี คา่ เท่ากับค่าของเกมนัน้ ๆ แต่ถ้าค่าของเกมนั้นมีค่าเป็นลบ แสดงว่าผู้เล่น A จะเป็นฝ่ายเสีย หรือผู้เล่น B จะเป็นฝ่ายได้ ซึง่ มีค่าเทา่ กบั กับคา่ น้ันๆ 4.1.2) สรุปตอบไดเ้ ลยวา่ ผ้เู ล่นแต่ละฝา่ ยจะเลอื กใชก้ ลยุทธ์ใดในการแข่งขันทุกคร้ัง และกลยทุ ธ์ทีจ่ ะเลอื กใช้ก็คอื กลยทุ ธ์ทีเ่ กิดจุดไดเ้ สยี เทา่ กนั หรือเกดิ คา่ ของเกมของแตล่ ะฝา่ ยนนั่ เอง
394 บทที่ 9 ทฤษฎกี ารแข่งขัน 4.2) ถา้ เปน็ เกมกลยทุ ธผ์ สม มีขั้นตอนดังนี้ 4.2.1) ลดขนาดของการแข่งขันใหไ้ ดม้ ากทสี่ ดุ โดยใชห้ ลกั การเกณฑ์เด่น (Dominance Criteria) จนการแขง่ ขนั มีขนาดเหลือขนาด 2 x 2 หรือ 2 x n หรือ m x 2 4.2.2) หาสดั ส่วนท่ผี เู้ ลน่ แต่ละฝา่ ยจะเลือกใช้กลยทุ ธ์โดยใช้วิธคี วามนา่ จะเปน็ 4.2.3) หาค่าคาดหมายของเกม เพื่อหาคําตอบว่าผลการแข่งขันเป็นอย่างไร ฝ่ายใด ได้ฝา่ ยใดเสยี และไดห้ รอื เสียเท่าใด สรุปได้ว่า เมื่อคู่แข่งขันทั้งสองฝ่ายจะต้องเผชิญกับปัญหาการการแข่งขัน ขั้นแรกต้องวิเคราะห์ ประเภทของการแข่งขันก่อนว่า เป็นการแข่งขันประเภทใด โดยก่อนอ่ืนให้ใช้เกณฑ์ Maximin ตรวจสอบกลยุทธ์ของผู้เล่นฝ่ายแรก (ทางด้านแถว) และใช้เกณฑ์ Minimax ตรวจสอบกลยุทธ์ฝ่ายท่ี สอง (ทางด้านสดมภ์) ว่าเกิดจุดได้เสียเท่ากันหรือไม่ ถ้าเกิดให้ใช้กลยุทธ์เด่ียว ถ้าไม่เกิดจุดได้เสีย เท่ากันแสดงว่าเป็นกลยุทธ์ผสม และให้วิเคราะห์เกมเพื่อหาโอกาสในการเลือกใช้กลยุทธ์ของแต่ละ ฝ่ายตอ่ ไป ขณะที่ขั้นแรกก่อนการวิเคราะห์การแข่งขัน ผู้วิเคราะห์จําเป็นต้องวิเคราะห์ตามข้ันตอนที่ได้ กล่าวไว้ในหัวข้อ 9.8 โดยเร่ิมจากการวิเคราะห์กลยุทธ์ท่ีแต่ละฝ่ายใช้ในการแข่งขัน และท่ีสําคัญท่ีสุด คือ การสร้างตารางผลตอบแทนจากการแข่งขัน เพราะหากสร้างตารางผลตอบแทนผิดแม้แต่ตําแหน่ง เดียว จะทําให้ผลการวิเคราะห์ประเภทของการแข่งขัน และการเลือกใช้กลยุทธ์ ตลอดจนค่า คาดหมายของการแขง่ ขนั ผดิ ไปทัง้ หมด ฉะน้ัน ผู้เรียนจึงควรศึกษาวิธีการสร้างตารางผลตอบแทนของ การแข่งให้เข้าใจ จนสามารถสร้างตารางได้อย่างถูกต้องก่อน จึงจะศึกษาข้ันตอนการวิเคราะห์การ แขง่ ขนั ต่อไป โดยการศึกษาการสร้างตารางผลตอบแทนของการแข่งขันจะอธิบายด้วยตัวอย่างที่ 9.2 - 9.4 และหลังจากน้ันจะอธิบายวิธีการวิเคราะห์การแข่งขันท้ังกรณีที่เป็นเกมกลยุทธ์เดียว และเกมกลยุทธ์ ผสมได้ดงั ตวั อยา่ งท่ี 9.5 - 9.6 ซง่ึ มีรายละเอยี ดตัวอยา่ งดงั นี้ ตัวอย่างที่ 9.2 สมมติว่า ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหน่ึงมีร้านค้าขายของชําอยู่เพียง 2 ร้าน คือ ร้านของ นายดีและร้านของนายใจ ในอดีตท่ีผ่านมาส่วนแบ่งการตลาดของท้ังสองร้านค่อนข้างคงท่ี แต่ปัจจุบัน สถานการณ์กําลังจะเปลี่ยนไป เม่ือลูกสาวของนายดีเรียนจบ MBA สาขาการตลาด จึงคิดกลยุทธ์ใน การโฆษณาโดยใช้ส่ือ เพ่ือช่วยนายดีดึงลูกค้าจากนายใจ โดยส่ือหรือกลยุทธ์ท่ีใช้มี 2 กลยุทธ์ คือใช้ วทิ ยุ และหนังสอื พิมพท์ อ้ งถน่ิ เนื่องจากเปน็ หมบู่ า้ นเลก็ ๆ ทําให้นายใจทราบขา่ วนี้ นายใจก็เตรยี มกลยุทธใ์ นการโฆษณาเพื่อ แข่งขันกับนายดีเช่นกัน น่ันคือ การโฆษณาผ่านวิทยุ และหนังสือพิมพ์ท้องถ่ิน ผลจากการแข่งขันทํา ใหม้ ีการเปล่ียนแปลงของจาํ นวนลูกคา้ เป็นดังน้ี ถ้านายดใี ช้วิทยุ และถา้ นายใจใช้วิทยดุ ้วย นายดจี ะเสียลูกคา้ จาํ นวน 5 ราย และถา้ นายใจใช้ หนงั สอื พิมพ์ นายดีจะได้ลกู คา้ เพม่ิ 25 ราย ถ้านายดีใช้หนังสือพิมพ์ และถ้านายใจใช้วิทยุ นายดีจะได้ลูกค้าเพิ่มจํานวน 15 ราย และถ้า นายใจใช้หนงั สอื พมิ พ์ นายดีจะเสยี ลกู คา้ 20 ราย จงสร้างตารางผลตอบแทนของนายดี และตารางผลตอบแทนของนายใจ
บทท่ี 9 ทฤษฎกี ารแข่งขนั 395 วิธที ํา การสร้างตารางผลตอบแทนจากการแข่งขันของนายดีและนายใจ ขั้นแรกต้องวิเคราะห์โจทย์ เพือ่ วเิ คราะห์กลยุทธ์ท่แี ต่ละฝ่ายใช้ในการโฆษณา พบวา่ นายดีมี 2 กลยทุ ธ์ คือ กลยุทธ์ใช้วทิ ยุ และกลยทุ ธ์ใช้หนังสือพิมพท์ ้องถนิ่ นายใจมี 2 กลยทุ ธ์ คือ กลยุทธใ์ ชว้ ทิ ยุ และกลยุทธ์ใชห้ นงั สอื พิมพ์ทอ้ งถ่นิ จากท่ีแต่ละฝ่ายมี 2 กลยุทธ์ แสดงว่าเป็นการแข่งขันที่มีขนาด 2 x 2 และจะนํากลยุทธ์มา สร้างตารางผลตอบแทน โดยให้เจ้าของตารางผลตอบแทนตั้งกลยุทธ์ไว้ด้านแถวนอน (Row) ส่วน คู่แข่งจะตัง้ ไวด้ า้ นแถวตัง้ (Column) ไดด้ ังนี้ 1. ตารางผลตอบแทนของนายดี การสร้างตารางผลตอบแทนของนายดี จะให้กลยุทธ์ท่ีนายดีใช้ในการแข่งขันซึ่งได้แก่ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ท้องถ่ินอยู่ด้านแถวนอน และกลยุทธ์ที่นายใจซึ่งเป็นคู่แข่งอยู่ในแถวตั้ง ได้ดังตาราง ดา้ นล่างนี้ กลยุทธ์ของ กลยุทธข์ องนายใจ นายดี ใชว้ ิทยุ ใช้หนังสือพิมพ์ ใช้วิทยุ ใช้หนังสอื พมิ พ์ หลังจากแสดงกลยุทธ์ของผู้แข่งขันทั้ง 2 ฝ่าย ต่อไปจะเป็นการวิเคราะห์ผลการแข่งขันจาก โจทย์เพ่ือเติมตัวเลขผลการแข่งขันลงตารางผลตอบแทน จึงไล่เรียงผลการแข่งขันเพ่ือนําตัวเลขลูกค้า ท่ีนายดีไดจ้ ากนายใจ หรอื นายดเี สยี ใหน้ ายใจ โดยการมีวิธกี ารดงั นี้ 1) จากผลการแข่งขันย่อหน้าแรก ที่กล่าวว่า “ถ้านายดีใช้วิทยุ” ซึ่งเป็นความหมายในแถว นอนบรรทัดที่ 1 ในตารางผลตอบแทนของนายดี ฉะนั้น ผลการแข่งขันท่ีจะเกิดข้ึนตามย่อหน้าแรกนี้ จะเป็นไปได้เฉพาะตาํ แหนง่ a11 และ a12 ถ้าขอ้ ความกล่าวต่อไปว่า - ถ้านายใจใช้วิทยุด้วย นายดีจะเสียลูกค้าจํานวน 5 ราย ซึ่งเป็นความหมายในตําแหน่ง a11 จงึ เตมิ ตัวเลข -5 (เป็นผลเสียของนายดี) - ถ้านายใจใช้หนังสือพิมพ์ นายดีจะได้ลูกค้าจํานวน 25 ราย ซ่ึงเป็นความหมายใน ตําแหนง่ a12 จึงเติมตวั เลข 25 (ซ่ึงเปน็ ผลไดข้ องนายดี) 2) จากผลการแขง่ ขนั ย่อหนา้ ท่ี 2 ทก่ี ลา่ วว่า “ถ้านายดใี ชห้ นังสอื พิมพ์” ซงึ่ เป็นความหมาย ในแถวนอนบรรทัดท่ี 2 ในตารางผลตอบแทนของนายดี ฉะนั้น ผลการแข่งขันท่ีจะเกิดขึ้นตามย่อ หนา้ ที่ 2 น้จี ะเปน็ ไปได้เฉพาะตาํ แหน่ง a21 และ a22 ถ้าข้อความกลา่ วตอ่ ไปว่า - ถ้านายใจใช้วิทยุดี นายดีจะได้ลูกค้าเพ่ิม 15 ราย ซึ่งเป็นความหมายในตําแหน่ง a21 จึงเตมิ ตัวเลข 15 (เปน็ ผลได้ของนายด)ี - ถา้ นายใจใชห้ นงั สือพิมพ์ นายดีจะเสียลูกคา้ 20 ราย เป็นความหมายในตาํ แหนง่ a22 จึงเติมตัวเลข -20 (ซง่ึ เปน็ ผลเสียของนายดี)
396 บทท่ี 9 ทฤษฎกี ารแข่งขนั เติมตวั เลขท่ไี ด้ทกุ ตาํ แหนง่ ลงในตาราผลตอบแทนนายดี ได้ตารางที่ 9.3 ดงั น้ี ตารางที่ 9.3 แสดงผลตอบแทนของนายดี จากตวั อยา่ งที่ 9.2 กลยทุ ธข์ อง กลยทุ ธข์ องนายใจ นายดี ใชว้ ิทยุ ใชห้ นังสอื พิมพ์ ใช้วทิ ยุ -5 25 ใช้หนังสอื พมิ พ์ 15 -20 2. ตารางผลตอบแทนของนายใจ การสร้างตารางผลตอบแทนของนายใจ จะให้กลยุทธ์ท่ีนายใจใช้ในการแข่งขันซ่ึงได้แก่ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น อยู่ด้านแถวนอน (Row) และกลยุทธ์ที่นายดีซึ่งเป็นคู่แข่งอยู่ในด้านแถวตั้ง (Column) ไดด้ งั ตารางด้านล่างน้ี กลยทุ ธข์ อง กลยทุ ธ์ของนายดี นายใจ ใชว้ ทิ ยุ ใช้หนังสอื พิมพ์ ใชว้ ทิ ยุ ใช้หนงั สือพิมพ์ หลังจากสร้างแสดงกลยุทธ์ของผู้แข่งขันท้ัง 2 ฝ่าย ต่อไปจะเป็นการวิเคราะห์ผลการแข่งขัน จากโจทย์เพื่อเติมตัวเลขผลการแข่งขันลงตารางผลตอบแทน โดยการไล่เรียงผลการแข่งขันเพ่ือนํา ตัวเลขลกู คา้ ทนี่ ายใจได้จากนายดี หรอื นายใจเสยี ใหน้ ายดี ซงึ่ มวี ิธกี ารวเิ คราะห์ดังนี้ 1) จากผลการแข่งขันย่อหน้าแรก ที่กล่าวว่า “ถ้านายดีใช้วิทยุ” ซ่ึงเป็นความหมายในแถว ต้ังคอลัมน์ท่ี 1 ในตารางผลตอบแทนของนายใจ ฉะนั้น ผลการแข่งขันท่ีจะเกิดข้ึนตามย่อหน้าแรกน้ี จะเป็นไปไดเ้ ฉพาะตําแหนง่ a11 และ a21 กลา่ วคือ - ถ้านายใจใช้วิทยุด้วย นายดีจะเสียลูกค้าจํานวน 5 ราย แสดงว่านายใจจะได้ลูกค้า จากนายดจี าํ นวน 5 ราย เปน็ ความหมายในตําแหนง่ a11 จึงเติมตวั เลข 5 (เปน็ ผลไดข้ องนายใจ) - ถ้านายใจใช้หนังสือพิมพ์ นายดีจะได้ลูกค้าจํานวน 25 ราย แสดงว่านายใจจะเสีย ลูกค้าให้นายดีจํานวน 25 ราย เป็นความหมายในตําแหน่ง a21 จึงเติมตัวเลข -25 (ซ่ึงเป็นผลเสียของ นายใจ) 2) จากผลการแข่งขนั ยอ่ หน้าที่ 2 ท่ีกลา่ วว่า “ถา้ นายดใี ช้หนงั สอื พมิ พ์” ซ่ึงเปน็ ความหมาย ในแถวต้ังคอลมั นท์ ่ี 2 ในตารางผลตอบแทนของนายใจ ฉะนั้น ผลการแขง่ ขนั ทจี่ ะเกดิ ขึน้ ตามยอ่ หนา้ ที่ 2 นี้จะเปน็ ไปไดเ้ ฉพาะตําแหน่ง a12 และ a22 กลา่ วคือ - ถ้านายใจใช้วิทยุดี นายดจี ะได้ลูกคา้ เพม่ิ จาํ นวน 15 ราย แสดงว่านายใจจะเสียลูกค้า ให้นายดีจาํ นวน 15 ราย เปน็ ความหมายในตาํ แหนง่ a12 จึงเติมตัวเลข -15 (เป็นผลเสยี ของนายใจ)
บทที่ 9 ทฤษฎกี ารแขง่ ขัน 397 - ถา้ นายใจใช้หนังสือพมิ พ์ นายดีจะเสยี ลูกคา้ 20 ราย แสดงวา่ นายใจจะได้ลูกค้าจาก นายดีจาํ นวน 20 ราย เป็นความหมายในตําแหนง่ a22 จงึ เตมิ ตวั เลข 20 (ซงึ่ เปน็ ผลไดข้ องนายใจ) เติมตัวเลขที่ไดท้ ุกตําแหน่งลงในตาราผลตอบแทนนายใจ ไดด้ ังตารางท่ี 9.4 ดงั นี้ ตารางที่ 9.4 แสดงผลตอบแทนของนายใจจากตวั อย่างที่ 9.2 กลยุทธ์ของ กลยุทธข์ องนายดี นายใจ ใชว้ ทิ ยุ ใช้หนงั สอื พิมพ์ ใชว้ ทิ ยุ 5 -15 ใชห้ นังสือพิมพ์ -25 20 ตัวอย่างที่ 9.3 สมมติว่าธุรกิจประเภทหน่ึงมีคู่แข่งขันเพียง 2 ราย คือ บริษัทเจริญศรี และบริษัท บ้านเชียง ซึ่งเดิมท้ังสองรายมีส่วนแบ่งการตลาดเท่าๆ กัน ในการตัดสินใจเลือกใช้กลยุทธ์ทาง การตลาด แต่ละฝ่ายทราบดีว่า ถ้าฝ่ายหนึ่งได้ส่วนแบ่งการตลาดเพ่ิมขึ้นเท่าใดแสดงว่าอีกฝ่ายหน่ึงจะ เสียส่วนแบ่งการตลาดไปจาํ นวนเท่านน้ั ด้วย ขณะท่ีปัจจุบันบริษัทเจริญศรีมีกลยุทธ์ท่ีจะใช้ในการแข่งขันนี้ 2 กลยุทธ์ คือ ใช้บัตรสมาชิก ปรับปรุงที่จอดรถ ในขณะที่บริษัทบ้านเชียงมีกลยุทธ์ท่ีจะใช้ 3 กลยุทธ์ คือ ใช้บัตรสมาชิก ปรับปรุงท่ี จอดรถ และโฆษณาทางวิทยุ ผลที่เกิดข้นึ จากการตดั สินใจของทง้ั สองฝา่ ยสรุปไดด้ งั นี้ - ถ้าบริษัทเจริญศรีเลือกกลยุทธ์ที่บัตรสมาชิก และบริษัทบ้านเชียงเลือกกลยุทธ์ทําบัตร สมาชิกด้วย บริษัทเจริญศรีจะได้ส่วนแบ่งการตลาด 3% ถ้าบริษัทบ้านเชียงเลือกกลยุทธ์ปรับปรุงที่ จอดรถบริษัทเจริญศรีจะเสียส่วนแบ่งการตลาด 7% และถ้าบริษัทบ้านเชียงเลือกกลยุทธ์โฆษณาทาง วทิ ยุบริษัทเจรญิ ศรีจะไดส้ ว่ นแบ่งการตลาด 5% - ถ้าบริษัทเจริญศรีเลือกกลยุทธ์ปรับปรุงท่ีจอดรถ และบริษัทบ้านเชียงเลือกกลยุทธ์ทําบัตร สมาชิกบริษัทเจริญศรีจะได้ส่วนแบ่งการตลาด 7% ถ้าบริษัทบ้านเชียงเลือกกลยุทธ์ปรับปรุงท่ีจอดรถ บริษัทเจริญศรีจะเสียส่วนแบ่งการตลาด 5% และถ้าบริษัทบ้านเชียงเลือกกลยุทธ์โฆษณาทางวิทยุ บริษัทเจรญิ ศรีจะเสยี ส่วนแบง่ การตลาด 2% จงสร้างตารางผลตอบแทนของบริษทั เจริญศรี และบรษิ ทั บา้ นเชียง วิธีทํา การสร้างตารางผลตอบแทนจากการแข่งขันของบริษัทเจริญศรี และบริษัทบ้านเชียง ขั้นแรก ตอ้ งวเิ คราะห์โจทย์ เพ่ือวเิ คราะห์กลยทุ ธ์ทแ่ี ต่ละฝ่ายใช้ พบวา่ บริษทั เจรญิ ศรี มี 2 กลยุทธ์ ได้แก่ 1) ใชบ้ ตั รสมาชิก และ 2) ปรับปรงุ ที่จอดรถ บริษทั บา้ นเชียงมี 3 กลยทุ ธ์ ไดแ้ ก่ 1) ใช้บัตรสมาชกิ 2) ปรบั ปรงุ ท่จี อดรถ และ 3) โฆษณาทางวทิ ยุ
398 บทที่ 9 ทฤษฎีการแข่งขนั จากที่บริษัทเจริญศรีมี 2 กลยุทธ์ และบริษัทบ้านเชียงมี 3 กลยุทธ์ ทําให้การแข่งขันมีขนาด 2 x 3 หรือเป็นกรณี 2 x n และจะนํากลยุทธ์มาสร้างตารางผลตอบแทน โดยให้เจ้าของตารางผลตอบแทนต้ัง กลยุทธไ์ วด้ า้ นแถวนอน (Row) สว่ นคู่แขง่ จะตง้ั ไวด้ า้ นแถวตัง้ (Column) ได้ดงั น้ี 1. ตารางผลตอบแทนของบรษิ ทั เจรญิ ศรี การสร้างตารางผลตอบแทนของบริษัทเจริญศรี จะให้กลยุทธ์ที่บริษัทใช้ในการแข่งขันซ่ึง ได้แก่ บัตรสมาชิก และปรับปรุงท่ีจอดรถอยู่ด้านแถวนอน ขณะที่กลยุทธ์ที่บริษัทบ้านเชียงซ่ึงเป็น คแู่ ขง่ มี 3 กลยุทธ์ ไดแ้ ก่ บัตรสมาชิก ปรบั ปรงุ ที่จอดรถ และโฆษณาทางวิทยุ อยใู่ นแถวตัง้ จากน้นั จงึ วเิ คราะห์ตัวเลขผลการแขง่ ขนั จากโจทย์ เพื่อนาํ ตัวเลขผลการแข่งขันของทัง้ 2 ฝ่าย ลงตาราง โดยมีวธิ ีการวิเคราะห์ ดังนี้ 1) จากผลการแขง่ ขันย่อหนา้ แรก ที่กลา่ วว่า “ถ้าบริษทั เจรญิ ศรีเลือกกลยุทธ์บตั รสมาชิก” ซ่ึงเป็นความหมายในแถวนอนบรรทัดท่ี 1 ในตารางผลตอบแทนของบริษัทเจริญศรี ฉะนั้น ผลการ แข่งขันทจี่ ะเกิดข้นึ ตามย่อหน้าแรกน้จี ะเป็นไปไดเ้ ฉพาะตาํ แหน่ง a11, a12 และ a13 กลา่ วคือ - ถ้าบ้านเชยี งเลอื กกลยุทธ์ทําบัตรสมาชิกด้วย บริษัทเจริญศรีจะได้ส่วนแบ่งการตลาด เพม่ิ 3% เปน็ ความหมายในตาํ แหน่ง a11 จงึ เติมตัวเลข 3% (เป็นผลไดข้ องบรษิ ทั เจรญิ ศร)ี - ถ้าบริษัทบ้านเชียงเลือกกลยุทธ์ปรับปรุงที่จอดรถ บริษัทเจริญศรีจะเสียส่วนแบ่ง การตลาด 7% เป็นความหมายในตําแหน่ง a12 จงึ เตมิ ตัวเลข -7% (เป็นผลเสียของบริษทั เจรญิ ศร)ี - ถ้าบริษัทบ้านเชียงเลือกกลยุทธ์โฆษณาทางวิทยุ บริษัทเจริญศรีจะได้ส่วนแบ่งเพิ่ม การตลาด 5% เป็นความหมายในตาํ แหน่ง a13 จงึ เติมตัวเลข 5% (เป็นผลไดข้ องบริษทั เจริญศรี) 2) จากผลการแข่งขันย่อหน้าท่ี 2 ท่ีกล่าวว่า “ถ้าบริษัทเจริญศรีเลือกกลยุทธ์ปรับปรุงที่ จอดรถ” ซึ่งเป็นความหมายในแถวนอนบรรทัดที่ 2 ในตารางผลตอบแทนของบริษัทเจริญศรี ฉะน้ัน ผลการแข่งขันที่จะเกิดขึน้ ตามย่อหนา้ ท่ี 2 นี้จะเปน็ ไปไดเ้ ฉพาะตําแหนง่ a21, a22 และ a23 กลา่ วคอื - ถ้าบ้านเชยี งเลือกกลยทุ ธท์ าํ บตั รสมาชกิ บริษัทเจริญศรีจะได้ส่วนแบ่งการตลาด 7% เปน็ ความหมายในตาํ แหนง่ a21 จึงเตมิ ตวั เลข 7% (เป็นผลไดข้ องบริษทั เจริญศรี) - ถ้าบริษัทบ้านเชียงเลือกกลยุทธ์ปรับปรุงท่ีจอดรถ บริษัทเจริญศรีจะเสียส่วนแบ่ง การตลาด 5% เปน็ ความหมายในตําแหนง่ a22 จงึ เตมิ ตวั เลข -5% (เปน็ ผลเสียของบรษิ ทั เจริญศรี) - ถ้าบริษัทบ้านเชียงเลือกกลยุทธ์โฆษณาทางวิทยุ บริษัทเจริญศรีจะเสียส่วนแบ่ง การตลาด 2% เปน็ ความหมายในตําแหน่ง a23 จึงเตมิ ตวั เลข -2% (เป็นผลเสยี ของบริษทั เจริญศร)ี นาํ ตัวเลขท่ไี ดท้ กุ ตําแหนง่ เตมิ ลงในตาราผลตอบแทนของบริษทั เจรญิ ศรี ไดด้ งั น้ี ตารางท่ี 9.5 แสดงผลตอบแทนของบริษทั เจรญิ ศรี จากตวั อยา่ งท่ี 9.3 กลยุทธข์ อง กลยทุ ธ์ของบริษัทบา้ นเชียง บรษิ ัทเจรญิ ศรี ทาํ บัตรสมาชกิ ปรับปรุงท่จี อดรถ โฆษณาทางวทิ ยุ ทําบตั รสมาชกิ 3% -7% 5% ปรบั ปรงุ ที่จอดรถ 7% -5% -2%
บทท่ี 9 ทฤษฎีการแขง่ ขนั 399 2. ตารางผลตอบแทนของบริษทั บา้ นเชียง การสร้างตารางผลตอบแทนของบริษทั บ้านเชียง จะให้กลยุทธ์ที่บริษัทใช้ในการแข่งขัน 3 กล ยุทธ์ ได้แก่ บัตรสมาชิก ปรับปรุงที่จอดรถ และโฆษณาทางวิทยุ อยู่ด้านแถวนอน ขณะท่ีกลยุทธ์ของ บรษิ ทั เจรญิ ศรีซึ่งเป็นคูแ่ ข่ง และมี 2 กลยุทธ์ ได้แก่ บัตรสมาชิก และปรับปรงุ ทีจ่ อดรถ จะอยู่ดา้ นแถว ตง้ั จากนนั้ จึงวิเคราะหต์ ัวเลขผลการแขง่ ขนั จากโจทย์ เพ่ือนําตวั เลขผลการแข่งขันของทง้ั 2 ฝ่าย ลงตาราง โดยมวี ิธีการวิเคราะห์ ดงั น้ี 1) จากผลการแข่งขนั ย่อหน้าแรก ทีก่ ล่าววา่ “ถ้าบริษทั เจรญิ ศรีเลือกกลยุทธ์บัตรสมาชิก” ซ่งึ เป็นความหมายในแถวตง้ั หรอื คอลมั นท์ ี่ 1 ในตารางผลตอบแทนของบริษัทบ้านเชียง ฉะนั้น ผลการ แข่งขันที่จะเกิดข้นึ ตามยอ่ หน้าแรกนีจ้ ะเป็นไปได้เฉพาะตาํ แหน่ง a11, a21 และ a31 กล่าวคือ - ถ้าบ้านเชียงเลือกกลยุทธ์ทําบัตรสมาชิกด้วย บริษัทเจริญศรีจะได้ส่วนแบ่งการตลาด เพิม่ 3% แสดงว่าบรษิ ัทบ้านเชียงเสยี ส่วนแบ่งตลาดให้กับบริษัทเจริญศรีจํานวน 3% ซึ่งเป็นความหมาย ในตาํ แหน่ง a11 จึงเติมตัวเลข -3% (เปน็ ผลเสยี ของบรษิ ัทบ้านเชยี ง) - ถ้าบริษัทบ้านเชียงเลือกกลยุทธ์ปรับปรุงท่ีจอดรถ บริษัทเจริญศรีจะเสียส่วนแบ่ง การตลาด 7% แสดงว่าบริษัทบ้านเชียงได้ส่วนแบ่งตลาดจากบริษัทเจริญศรีจํานวน 7% ซ่ึงเป็น ความหมายในตําแหนง่ a21 จึงเตมิ ตวั เลข 7% (เป็นผลได้ของบริษัทบา้ นเชยี ง) - ถ้าบริษัทบ้านเชียงเลือกกลยุทธ์โฆษณาทางวิทยุ บริษัทเจริญศรีจะได้ส่วนแบ่ง การตลาด 5% แสดงว่าบริษัทบ้านเชียงเสียส่วนแบ่งตลาดให้บริษัทเจริญศรีจํานวน 5% ซ่ึงเป็น ความหมายในตําแหนง่ a31 จงึ เติมตวั เลข -5% (เปน็ ผลเสยี ของบรษิ ัทบา้ นเชยี ง) 2) จากผลการแข่งขันย่อหน้าที่ 2 ที่กล่าวว่า “ถ้าบริษัทเจริญศรีเลือกกลยุทธ์ปรับปรุงท่ี จอดรถ” ซ่ึงเป็นความหมายในแถวต้ังท่ี 2 ในตารางผลตอบแทนของบริษัทบ้านเชียง ฉะน้ัน ผลการ แขง่ ขนั ทจี่ ะเกดิ ขน้ึ ตามยอ่ หน้าท่ี 2 นีจ้ ะเป็นไปได้เฉพาะตําแหนง่ a12, a22 และ a32 กล่าวคอื - ถ้าบริษัทบ้านเชียงเลือกกลยุทธ์ทําบัตรสมาชิก บริษัทเจริญศรีจะได้ส่วนแบ่ง การตลาด 7% แสดงว่าบริษัทบ้านเชียงเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับบริษัทเจริญศรีจํานวน 7% ซ่ึงเป็น ความหมายในตาํ แหน่ง a12 จึงเติมตวั เลข -7% (เป็นผลเสียของบริษทั บา้ นเชียง) - ถ้าบริษัทบ้านเชียงเลือกกลยุทธ์ปรับปรุงท่ีจอดรถ บริษัทเจริญศรีจะเสียส่วนแบ่ง การตลาด 5% แสดงว่าบริษัทบ้านเชียงได้ส่วนแบ่งตลาดจากบริษัทเจริญศรีจํานวน 5% ซ่ึงเป็น ความหมายในตาํ แหนง่ a22 จงึ เติมตัวเลข 5% (เป็นผลไดข้ องบรษิ ทั บ้านเชยี ง) - ถ้าบริษัทบ้านเชียงเลือกกลยุทธ์โฆษณาทางวิทยุ บริษัทเจริญศรีจะเสียส่วนแบ่ง การตลาด 2% แสดงว่าบริษัทบ้านเชียงได้ส่วนแบ่งตลาดจากบริษัทเจริญศรีจํานวน 2% ซ่ึงเป็น ความหมายในตําแหนง่ a32 จงึ เตมิ ตวั เลข 2% (เป็นผลได้ของบริษทั บ้านเชียง) นาํ ตวั เลขที่ได้ทกุ ตําแหน่ง เตมิ ลงในตาราผลตอบแทนของบรษิ ทั บา้ นเชยี ง ไดด้ งั ตารางท่ี 9.6 ดงั น้ี
400 บทท่ี 9 ทฤษฎกี ารแข่งขัน ตารางที่ 9.6 แสดงผลตอบแทนของบริษทั บา้ นเชยี ง จากตัวอย่างท่ี 9.3 กลยทุ ธ์ของบรษิ ทั บ้านเชียง กลยุทธ์ของบรษิ ทั เจรญิ ศรี ทําบตั รสมาชิก ทาํ บตั รสมาชกิ ปรบั ปรงุ ที่จอดรถ ปรับปรงุ ท่ีจอดรถ -3% -7% โฆษณาทางวิทยุ 7% 5% -5% 2% ตัวอย่างท่ี 9.4 สมมติว่าในอําเภอเล็กๆ แห่งหน่ึง มีธุรกิจร้านกาแฟสดอยู่ 2 ร้าน คือ ร้านกาแฟนาย ไก่ และร้ายกาแฟนายไข่ ในการตัดสินใจเลือกใช้กลยุทธ์ทางการตลาด แต่ละฝ่ายทราบดีว่าถ้าฝ่าย หนึ่งฝ่ายใดได้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มข้ึนเท่าใด แสดงว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะต้องเสียส่วนแบ่งการตลาดไป จาํ นวนเทา่ น้นั ขณะที่ปัจจุบันร้านกาแฟนายไก่มีกลยุทธ์ท่ีจะใช้ในการแข่งขัน 3 กลยุทธ์ คือ ทําบัตรสมาชิก ทําป้ายโฆษณา และปรับปรุงท่ีจอดรถ ในขณะที่ร้านกาแฟนายไข่ก็มีกลยุทธ์ที่จะใช้ 3 กลยุทธ์ คือ ทํา บตั รสมาชิก ปรบั ปรุงทน่ี งั่ และโฆษณาทางวิทยุ ผลทเี่ กดิ ขน้ึ จากการตดั สินใจของทง้ั สองฝ่ายสรุปได้ดังน้ี - ถ้ารา้ นนายไก่เลอื กกลยุทธบ์ ัตรสมาชกิ และรา้ นนายไข่เลือกกลยทุ ธ์ทําบัตรสมาชิก ร้าน กาแฟนายไก่จะมียอดขายลดลง 4,000 บาทต่อเดือน ถ้าร้านนายไข่เลือกปรับปรุงที่น่ัง ร้านกาแฟนาย ไก่จะมียอดขายลดลง 2,000 บาทต่อเดือน และถ้าร้านกาแฟนายไข่เลือกโฆษณาทางวิทยุร้านกาแฟ นายไก่จะมยี อดขายเพม่ิ ขนึ้ 8,000 บาทต่อเดอื น - ถ้าร้านนายไก่เลือกกลยุทธ์ทําป้ายโฆษณา และร้านนายไข่เลือกกลยุทธ์ทําบัตรสมาชิก ร้านกาแฟนายไก่จะมียอดขายเพิ่มข้ึน 2,000 บาทต่อเดือน ถ้าร้านนายไข่เลือกปรับปรุงที่น่ัง ร้าน กาแฟนายไก่จะมยี อดเทา่ เดิมไม่เปลีย่ นแปลง และถา้ ร้านกาแฟนายไข่เลือกโฆษณาทางวิทยุร้านกาแฟ นายไก่จะมียอดขายเพิม่ ข้นึ 2,000 บาทตอ่ เดอื น - ถ้าร้านนายไก่เลือกกลยุทธ์ปรับปรุงท่ีจอดรถ และร้านนายไข่เลือกกลยุทธ์ทําบัตร สมาชิก ร้านกาแฟนายไก่จะมียอดขายเพ่ิมขึ้น 6,000 บาทต่อเดือน ถ้าร้านนายไข่เลือกปรับปรุงท่ีน่ัง ร้านกาแฟนายไก่จะมียอดลดลง 2,000 บาทต่อเดือน และถ้าร้านกาแฟนายไข่เลือกโฆษณาทางวิทยุ รา้ นกาแฟนายไก่จะมียอดขายลดลง 4,000 บาทต่อเดอื น จงสร้างตารางผลตอบแทนของการแขง่ ขัน วธิ ที าํ การสร้างตารางผลตอบแทนจากการแข่งขันของร้านกาแฟนายไก่และร้านกาแฟนายไข่ เริ่ม จากการวิเคราะห์กลยุทธท์ ่แี ต่ละฝ่ายใช้ พบว่า ร้านกาแฟนายไก่ มี 3 กลยทุ ธ์ ได้แก่ 1) ทําบตั รสมาชิก 2) ทาํ ป้ายโฆษณา และ 3) ปรับปรุงทจ่ี อดรถ รา้ นกาแฟนายไข่ มี 3 กลยทุ ธ์ ได้แก่ 1) ทําบัตรสมาชกิ 2) ปรับปรงุ ที่นัง่ และ 3) โฆษณาทางวทิ ยุ
บทที่ 9 ทฤษฎกี ารแข่งขัน 401 จากทร่ี ้ากาแฟนายไกม่ ี 3 กลยุทธ์ และร้านกาแฟนายไขม่ ี 3 กลยุทธ์ ทาํ ใหก้ ารแข่งขันมีขนาด m x n และจะนํากลยุทธ์มาสร้างตารางผลตอบแทน โดยให้เป็นตารางผลตอบแทนของการแข่งขัน โดยใหเ้ จ้าร้านนายไก่เป็นเจา้ ของตารางผลตอบแทน จากน้ันจงึ วิเคราะห์ตัวเลขผลการแข่งขนั จากโจทย์ เพ่ือนาํ ตัวเลขผลการแขง่ ขนั ของท้งั 2 ฝ่าย ลงตาราง และถา้ กาํ หนดใหห้ นว่ ยเป็นพันบาท ผลการวเิ คราะห์ เป็นดังน้ี 1) จากผลการแข่งขันย่อหน้าแรก ที่กล่าวว่า “ถ้าร้านนายไก่เลือกกลยุทธ์บัตรสมาชิก” ซ่ึง เป็นความหมายในแถวนอนบรรทัดท่ี 1 ในตารางผลตอบแทน ฉะน้ัน ผลการแข่งขันท่ีจะเกิดข้ึนตาม ย่อหนา้ แรกน้ีจะเป็นไปไดเ้ ฉพาะตาํ แหนง่ a11, a12 และ a13 กล่าวคือ - ถ้าร้านนายไข่เลือกกลยุทธ์ทําบัตรสมาชิก ร้านกาแฟนายไก่จะมียอดขายลดลง 4,000 บาทตอ่ เดอื น เป็นความหมายในตาํ แหน่ง a11 จึงเตมิ ตัวเลข –4 (เปน็ ผลเสยี ของร้านนายไก่) - ถ้าถ้าร้านนายไขเ่ ลือกปรบั ปรงุ ทนี่ ง่ั ร้านกาแฟนายไกจ่ ะมียอดขายลดลง 2,000 บาท ต่อเดอื น เป็นความหมายในตาํ แหน่ง a12 จึงเติมตวั เลข -2 (เป็นผลเสียของร้านนายไก)่ - ถ้าถ้าร้านกาแฟนายไข่เลือกโฆษณาทางวิทยุร้านกาแฟนายไก่จะมียอดขายเพิ่มขึ้น 8,000 บาทตอ่ เดือน เปน็ ความหมายในตาํ แหน่ง a13 จงึ เตมิ ตวั เลข 8 (เป็นผลไดข้ องร้านนายไก)่ 2) จากผลการแข่งขันย่อหน้าที่ 2 ท่ีกล่าวว่า “ถ้าร้านนายไก่เลือกกลยุทธ์ทําป้ายโฆษณา” ซ่ึงเป็นความหมายในแถวนอนบรรทัดที่ 2 ในตารางผลตอบแทน ฉะน้ัน ผลการแข่งขันที่จะเกิดขึ้น ตามยอ่ หนา้ ท่ี 2 นี้จะเปน็ ไปได้เฉพาะตาํ แหนง่ a21, a22 และ a23 กลา่ วคอื - ถ้าร้านนายไข่เลือกกลยุทธ์ทําบัตรสมาชิก ร้านกาแฟนายไก่จะมียอดขายเพิ่มข้ึน 2,000 บาทต่อเดือน เป็นความหมายในตาํ แหนง่ a21 จึงเติมตวั เลข 2 (เปน็ ผลได้ของรา้ นนายไก)่ - ถา้ ถ้ารา้ นนายไข่เลือกปรับปรุงท่ีน่ัง ร้านกาแฟนายไก่จะมียอดเท่าเดิมไม่เปล่ียนแปลง เปน็ ความหมายในตําแหนง่ a22 จึงเติมตวั เลข 0 (ไมเ่ ป็นทัง้ ผลไดแ้ ละผลเสียของร้านนายไก่) - ถ้าถ้าร้านกาแฟนายไข่เลือกโฆษณาทางวิทยุร้านกาแฟนายไก่จะมียอดขายเพิ่มข้ึน 2,000 บาทตอ่ เดอื น เป็นความหมายในตําแหน่ง a23 จึงเตมิ ตัวเลข 2 (เป็นผลได้ของร้านนายไก)่ 3) จากผลการแขง่ ขนั ย่อหน้าที่ 3 ทีก่ ลา่ ววา่ “ถา้ ร้านนายไก่เลือกกลยทุ ธป์ รบั ปรุงที่จอดรถ” ซึ่งเป็นความหมายในแถวนอนบรรทัดที่ 3 ในตารางผลตอบแทน ฉะนั้น ผลการแข่งขันท่ีจะเกิดขึ้น ตามยอ่ หน้าที่ 3 น้จี ะเป็นไปได้เฉพาะตําแหนง่ a31, a32 และ a33 กล่าวคอื - ถ้าร้านนายไข่เลือกกลยุทธ์ทําบัตรสมาชิก ร้านกาแฟนายไก่จะมียอดขายเพ่ิมขึ้น 6,000 บาทต่อเดอื น ซึ่งเปน็ ความหมายในตาํ แหนง่ a31 จงึ เติมตวั เลข 6 (เปน็ ผลไดข้ องร้านนายไก)่ - ถ้าร้านนายไข่เลือกปรับปรุงท่ีน่ัง ร้านกาแฟนายไก่จะมียอดลดลง 2,000 บาทต่อ เดอื น ซึง่ เป็นความหมายในตําแหนง่ a32 จงึ เตมิ ตัวเลข -2 (เป็นผลเสียของร้านนายไก่) - ถ้าถ้าร้านกาแฟนายไข่เลือกโฆษณาทางวิทยุร้านกาแฟนายไก่จะมียอดขายลดลง 4,000 บาทตอ่ เดือน ซ่ึงเปน็ ความหมายในตําแหน่ง a33 จึงเตมิ ตัวเลข -4 (เป็นเสียของรา้ นนายไก)่
402 บทท่ี 9 ทฤษฎกี ารแขง่ ขัน นําตัวเลขท่ีได้ทุกตําแหน่ง เติมลงในตาราผลตอบแทนของการแข่งขันโดยมีร้านนายไก่เป็น เจ้าของตาราง ได้ดงั ตารางที่ 9.7 ดังน้ี ตารางที่ 9.7 แสดงผลตอบแทนของการแข่งขนั จากตวั อย่างที่ 9.4 หนว่ ย : พนั บาท/เดือน กลยุทธ์ของ กลยทุ ธข์ องนายไข่ นายไก่ ทําบตั รสมาชิก ปรับปรุงทน่ี ่งั โฆษณาทางวทิ ยุ ทําบัตรสมาชกิ -4 -2 8 ทาํ ป้ายโฆษณา 202 ปรับปรงุ ทจี่ อดรถ 6 -2 -4 9.9 การแก้ปญั หากรณีเปน็ กลยุทธ์เดี่ยว เนื่องจากเกมการแข่งขันท่ีเป็นกลยุทธ์เดี่ยว หมายถึงการแข่งขันท่ีผู้เล่นแต่ละฝ่ายจะเลือกใช้ กลยทุ ธใ์ นการแข่งขนั อยกู่ ลยทุ ธเ์ ดยี ว ไม่มีกลยุทธอ์ ืน่ เจอื ปน หรือไม่สนใจคูแ่ ขง่ ว่าจะใช้กลยุทธ์อย่างไร การแก้ปัญหาเกมกลยุทธ์เด่ียว ไม่ว่าจะเป็นเกมการแข่งขันจะที่มีขนาด 2 x 2, 2 x n, m x 2 หรือ m x n มขี ้นั ตอนดงั น้ี 1) หาค่าจุดได้เสียเท่ากันหรือค่าของเกม (Saddle Point) โดยใช้กฎแมกซิมินสําหรับ เจ้าของตาราง และใช้กฎมินนิแมกซ์สําหรับคู่แข่ง และถ้าค่าแมกซิมินและค่ามินนิแมกซ์มีค่าเท่ากัน แสดงวา่ เกมการแข่งขนั เกิดจุดได้เสีย และจะสามารถอธิบายได้เลยว่า การแข่งขันน้ีผู้เล่นแต่ละฝ่ายจะ ใช้กลยทุ ธ์การในแขง่ ขันเพียงกลยทุ ธ์เดยี ว คอื กลยุทธท์ ่ีเกิดจดุ เสยี เทา่ กันนั่นเอง 2) หาค่าของเกมหรือผลการแข่งขันของผู้เล่นท้ัง 2 ฝ่าย สามารถสรุปผลการแข่งขันจาก ค่าของเกมหรือจุดได้เสียเท่ากันได้เลย กล่าวคือ ถ้าค่าของเกมนั้นมีค่าเป็นเคร่ืองหมายบวก แสดงว่า เจ้าของตารางเป็นฝ่ายได้ แต่ถ้าค่าของเกมน้ันมีค่าเป็นลบ แสดงว่าเจ้าของตารางเป็นฝ่ายเสีย และมี คา่ เท่ากับค่าของเกมน้ันๆ จากวิธีการและขั้นตอนการวิเคราะห์จะอธิบายตัวอย่างการแก้ปัญหากรณีกลยุทธ์เด่ียวได้ดัง ตวั อยา่ งที่ 9.5 และ 9.6 ดงั นี้ ตัวอย่างที่ 9.5 จากโจทยต์ ัวอย่างที่ 9.3 การแข่งขันของบริษทั เจรญิ ศรแี ละบรษิ ัทบา้ นเชียง และจาก ตารางผลตอบแทนทส่ี รา้ งไดแ้ ลว้ จงวิเคราะหก์ ารแขง่ ขัน และหาคําตอบดังนี้ 1) คา่ แมกซมิ นิ และคา่ มินนิแมกซ์ เท่ากับเท่าใด 2) ประเภทการแข่งขนั เป็นประเภทใด 3) บรษิ ทั เจรญิ ศรี และบรษิ ทั บ้านเชยี งจะเลือกใชก้ ลยุทธใ์ ดในการแข่งขัน 4) ผลการแข่งขนั หรอื ค่าของเกมเป็นอยา่ งไร
บทท่ี 9 ทฤษฎกี ารแข่งขนั 403 วิธที าํ มขี ั้นตอนการแกป้ ัญหาดงั นี้ ขัน้ ตอนท่ี 1 สรา้ งตารางผลตอบแทนของการแขง่ ขัน จากตารางผลตอบแทนทเี่ ป็นคําตอบของตัวอยา่ งที่ 9.3 กลยทุ ธ์ของ กลยทุ ธ์ของบรษิ ัทบา้ นเชียง บรษิ ัทเจรญิ ศรี ทาํ บตั รสมาชิก ปรับปรุงทีจ่ อดรถ โฆษณาทางวทิ ยุ ทําบัตรสมาชกิ 3% -7% 5% ปรับปรงุ ทจ่ี อดรถ 7% -5% -2% ขน้ั ตอนที่ 2 หาค่าแมกซมิ ิน และค่ามนิ นแิ มกซ์ 2.1) หาค่าแมกซิมนิ บรษิ ทั เจรญิ ศรเี ปน็ เจา้ ของตาราง จงึ ใช้กฎแมกซมิ นิ ได้คา่ แมกซิมนิ เท่ากบั -5% 2.2) หาค่าแมกซมิ นิ บรษิ ัทบา้ นเชียงเป็นคู่แข่ง จึงใช้กฎมนิ นแิ มกซ์ ได้ค่ามินนแิ มกซ์ เทา่ กบั -5% จากการวิเคราะห์พบว่าค่า แมกซิมิน เท่ากับค่ามินนิแมกซ์ ซ่ึงแสดงวิธีการวิเคราะห์ได้ ดังตารางท่ี 9.8 ดังน้ี ตารางท่ี 9.8 แสดงการวิเคราะห์ประเภทการแข่งขันจากตัวอย่างที่ 9.5 กลยุทธ์ของ กลยุทธข์ องบรษิ ัทบ้านเชยี ง เจริญศรีใช้กฎ บรษิ ทั เจริญศรี ทําบัตรสมาชิก ทําบตั รสมาชกิ ทาํ บตั รสมาชิก Maximin ทาํ บตั รสมาชกิ 3% -7% 5% -7% ปรบั ปรงุ ที่จอดรถ -5% บา้ นเชียงใช้กฎ 7% -5% -2% Minimax 7% -5% 5% ดงั น้ันจงึ สรุปไดว้ ่า ค่าแมกซิมิน (Maximin) เท่ากับ -5% ค่ามินนิแมกซ์ (Minimax) เท่ากับ -5% (ซ่ึงมีค่า เท่ากัน) การแข่งขันของบรษิ ัทเจรญิ ศรแี ละบริษัทบ้านเชยี ง เป็นกลยุทธเ์ ดย่ี ว กลยุทธ์ทบ่ี รษิ ัทเจริญศรีเลือกใชเ้ สมอคือ กลยุทธ์ปรบั ปรุงทีจ่ อดรถ กลยุทธ์ท่บี รษิ ทั บ้านเชยี งเลือกใชเ้ สมอคอื ทาํ บัตรสมาชกิ จุดได้เสียเท่ากัน (Saddle Point) หรือค่าของเกมเท่ากับ -5% แสดงว่าผลจากการแข่งขัน บริษัทเจริญศรีจะเป็นฝ่ายเสียส่วนแบ่งตลาดเป็นจํานวน 5% และบริษัทบ้านเชียงจะเป็นฝ่ายได้ส่วน แบ่งตลาดจํานวน 5% จากการแข่งขันเสมอ
404 บทที่ 9 ทฤษฎีการแขง่ ขนั ตัวอยา่ งท่ี 9.6 จากโจทยต์ วั อยา่ งที่ 9.4 การแขง่ ขันของรา้ นกาแฟ 2 ร้าน คอื รา้ นกาแฟนายไกแ่ ละ รา้ นนายไข่ และจากตารางผลตอบแทนทีส่ รา้ งได้แล้ว จงวเิ คราะห์การแขง่ ขนั และหาคาํ ตอบดังนี้ 1) ค่าแมกซมิ นิ และคา่ มนิ นแิ มกซ์ เท่ากับเท่าใด 2) ประเภทการแขง่ ขันเป็นประเภทใด 3) รา้ นนายไก่ และรา้ นนายไข่จะเลือกใช้กลยทุ ธ์ใดในการแข่งขัน 4) ผลการแขง่ ขนั หรือค่าของเกมเป็นอย่างไร วิธที าํ มีขน้ั ตอนการแก้ปัญหาดงั น้ี ขั้นตอนท่ี 1 สรา้ งตารางผลตอบแทนของการแขง่ ขนั จากตารางผลตอบแทนทเ่ี ป็นคําตอบของตัวอย่างที่ 9.4 หน่วย : พันบาท/เดอื น กลยุทธข์ อง กลยทุ ธข์ องนายไข่ นายไก่ ทาํ บัตรสมาชกิ ปรบั ปรงุ ทีน่ ง่ั โฆษณาทางวิทยุ ทําบัตรสมาชิก -4 -2 8 ทาํ ปา้ ยโฆษณา 20 2 ปรับปรงุ ทจ่ี อดรถ 6 -2 -4 ขนั้ ตอนท่ี 2 หาค่าแมกซมิ ิน และค่ามินนแิ มกซ์ 2.1) หาคา่ แมกซิมนิ รา้ นนายไก่เป็นเจา้ ของตาราง จงึ ใช้กฎแมกซมิ ิน ไดค้ า่ แมกซิมิน เทา่ กบั 0 2.2) หาคา่ แมกซิมนิ ร้านนายไก่เป็นคแู่ ขง่ จงึ ใช้กฎมนิ นแิ มกซ์ ได้คา่ มินนแิ มกซ์ เทา่ กับ 0 จากการวิเคราะห์พบว่าค่า แมกซิมิน เท่ากับค่ามินนิแมกซ์ ซึ่งแสดงวิธีการวิเคราะห์ ไดด้ งั ตารางท่ี 9.9 ดงั น้ี ตารางท่ี 9.9 แสดงการวเิ คราะห์ประเภทการแขง่ ขันจากตวั อย่างที่ 9.6 กลยุทธข์ อง ทําบตั รสมาชกิ กลยุทธข์ องนายไข่ ไก่ใชก้ ฎ นายไก่ และ Maximin ปรับปรงุ ทีน่ ่งั โฆษณาทางวิทยุ ทาํ บตั รสมาชกิ -4 ทาํ ปา้ ยโฆษณา -4 -2 8 0 ปรบั ปรุงที่จอดรถ -4 ไขใ่ ช้กฎ Minimax 2 02 6 -2 -4 6 08
บทที่ 9 ทฤษฎกี ารแขง่ ขนั 405 ดงั นนั้ จงึ สรปุ ได้วา่ คา่ แมกซิมิน (Maximin) เทา่ กบั 0 และค่ามนิ นิแมกซ์ (Minimax) เท่ากับ 0 (ซ่งึ มีคา่ เทา่ กนั ) การแข่งขนั ของร้านกาแฟนายไกแ่ ละร้านนายไข เป็นกลยุทธเ์ ดี่ยว กลยทุ ธ์ท่ีร้านกาแฟนายไกเ่ ลือกใช้เสมอคือ กลยทุ ธ์ทาํ ป้ายโฆษณา กลยทุ ธ์ท่ีรา้ นกาแฟนายไข่เลือกใช้เสมอคือ กลยทุ ธ์ปรับปรงุ ทน่ี ง่ั จุดได้เสียเท่ากัน (Saddle Point) หรือค่าของเกมเท่ากับ 0 แสดงว่าผลการแข่งขันของท้ัง สองฝ่ายจะไมม่ ฝี า่ ยได้หรือฝา่ ยเสยี หรือการแขง่ ขันทงั้ คู่จะเสมอกนั นนั่ เอง 9.10 การแกป้ ัญหากรณเี ป็นกลยทุ ธผ์ สม เนื่องจากกลยุทธ์ผสม หมายถึง การแข่งขันท่ีผู้เล่นแต่ละฝ่ายใช้กลยุทธ์ในการแข่งขันมากกว่า 1 กลยุทธ์ตลอดการแข่งขัน หรือเป็นการแข่งขันท่ีผู้เล่นแต่ละฝ่ายจะเลือกใช้กลยุทธ์ที่ไม่ซ้ําเดิม การ แกป้ ัญหาเพียงการหาจดุ ได้เสียเท่ากันอย่างเดียวจึงไม่สามารถตอบคําถามได้ ดังน้ันถ้าเป็นเกมกลยุทธ์ ผสม มีขนั้ ตอนดงั นี้ 1) วเิ คราะห์ประเภทของการแข่งขนั วา่ เป็นกลยุทธเ์ ดย่ี วหรือกลยุทธผ์ สม 2) ลดขนาดของการแข่งขันให้ได้มากที่สุด โดยใช้หลักเกณฑ์เด่น (Dominance Criteria) ถ้า สามารถลดขนาดการแข่งขันให้เหลอื ขนาด 2 x 2 จะแกป้ ัญหาต่อดว้ ยวิธคี า่ ความนา่ จะเป็น และถ้าลด ขนาดเหลือ 2 x n หรอื m x 2 จะแก้ปัญหาตอ่ ดว้ ยวิธีกราฟ 3) หาสดั ส่วนทเี่ หมาะสมในการใช้กลยทุ ธข์ องแตล่ ะฝา่ ย 4) หาค่าคาดหมายของเกม เพ่ือหาคําตอบว่าผลการแข่งขันเป็นอย่างไร ฝ่ายใดได้ฝ่ายใดเสีย และไดห้ รอื เสยี เท่าใด จากขั้นตอนการแก้ปัญหาและหลักการต่างๆ ที่แบ่งออกเป็น 3 กรณี คือ การแข่งขันที่มีขนาด 2 x 2, 2 x n, m x 2 แต่เน้ือหาในบทนี้จะขออธิบายอย่างละเอียดเฉพาะกรณีที่ 1 และ 2 ด้วย ตัวอย่างท่ี 9.7 และตัวอย่างท่ี 9.8 ตามลําดับ ซึ่งแต่ละกรณีมีรายละเอียดการแก้ปัญหาในตัวอย่าง ต่อไป 9.10.1 การแก้ปญั หากรณกี ลยทุ ธ์ผสม และการแขง่ ขนั มขี นาด 2 x 2 การแก้ปัญหากรณีกลยุทธ์ผสมและการแข่งขันมีขนาด 2 x 2 เป็นกรณีท่ีง่ายท่ีสุด ไม่ ยุ่งยาก เน่ืองจากสามารถสร้างสมการท่ีมีตัวแปร 2 ตัว และแก้สมการได้เลย ซ่ึงจะอธิบายอย่าง ละเอยี ดได้ดังตวั อย่างที่ 9.7 ตัวอย่างที่ 9.7 จากตัวอย่างที่ 9.2 การแข่งขันของร้านขายของชํา 2 ร้าน คือ ร้านนายดี และร้าน นายใจ จงวเิ คราะห์การแข่งขนั และหาคําตอบต่อไปน้ี 1.1 คา่ แมกซิมนิ และคา่ มินนแิ มกซ์ เทา่ กบั เทา่ ใด 1.2 กลยุทธท์ ีน่ ายใจ และนายดี ใชเ้ ปน็ กลยทุ ธป์ ระเภทใด (เดย่ี วหรอื ผสม) 1.3 มีจุดไดเ้ สียเท่ากนั หรอื ค่าของเกมเท่ากับเท่าไร
406 บทท่ี 9 ทฤษฎกี ารแข่งขัน 1.4 ถ้าใช้กลยุทธ์ผสม จงหาความน่าจะเป็นในการใช้กลยุทธ์แต่ละกลยุทธ์ของผู้เล่นทั้งสอง ฝ่าย 1.5 จงหาคา่ คาดหมายของเกมสําหรบั ผเู้ ลน่ แต่ละฝ่าย วิธที าํ ขน้ั ตอนที่ 1 สรา้ งตารางผลตอบแทนของการแข่งขัน จากตารางท่ี 9.3 ซ่งึ เปน็ ตารางผลตอบแทนท่ีเปน็ คําตอบของตัวอย่างท่ี 9.2 ดังนี้ กลยุทธ์ของ กลยุทธ์ของนายใจ นายดี ใชว้ ิทยุ ใช้หนังสอื พิมพ์ ใชว้ ิทยุ -5 25 ใช้หนงั สอื พมิ พ์ 15 -20 ข้นั ตอนที่ 2 หาคา่ แมกซมิ ิน และค่ามินนแิ มกซ์ 2.1) หาค่าแมกซิมิน รา้ นนายดเี ป็นเจ้าของตาราง จึงใช้กฎแมกซมิ นิ ได้คา่ แมกซมิ ิน เท่ากับ -5 2.2) หาค่าแมกซิมิน ร้านนายใจเป็นคแู่ ข่ง จงึ ใช้กฎมนิ นิแมกซ์ ได้คา่ มินนแิ มกซ์ เท่ากับ 15 จากการวิเคราะห์พบวา่ ค่า แมกซิมิน ไม่เท่ากับค่ามินนิแมกซ์ ซึ่งแสดงวิธีการวิเคราะห์ ได้ดังตารางท่ี 9.10 ดงั น้ี ตารางที่ 9.10 แสดงการวเิ คราะห์ประเภทการแข่งขันจากตัวอยา่ งที่ 9.7 กลยทุ ธข์ อง กลยุทธ์ของนายใจ นายดใี ช้กฎ นายดี ใช้วิทยุ ใชห้ นังสือพิมพ์ Maximin ใช้วิทยุ -5 25 -5 ใชห้ นงั สอื พิมพ์ 15 -20 -20 นายใจใช้กฎ Minimax 15 25 จากตารางสรปุ ไดว้ า่ คา่ แมกซิมิน (Maximin) เท่ากบั -5 ค่ามินนิแมกซ์ (Minimax) เทา่ กับ 15 (ซ่ึงไมเ่ ท่ากนั ) การแข่งขันของรา้ นนายดี และร้านนายใจ เปน็ กลยุทธผ์ สม กลยุทธท์ น่ี ายดี และนายใจจะเลอื กใชเ้ สมอ ยังไมส่ ามารถตอบได้ จุดได้เสียเท่ากัน (Saddle Point) หรือค่าของเกมไม่เกิด จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าผลการ แข่งขันนายดีหรือนายใจจะเป็นฝ่ายได้หรือฝ่ายเสีย และไม่สามารถสรุปได้ว่าฝ่ายใดจะได้หรือเสียเป็น สดั สว่ นเท่าใด หรอื จาํ นวนเทา่ ใด
บทท่ี 9 ทฤษฎกี ารแขง่ ขัน 407 ขั้นตอนที่ 3 หาสดั สว่ นท่เี หมาะสมในการใชก้ ลยทุ ธข์ องแต่ละฝา่ ย จากตารางผลการแข่งขัน ซ่ึงมีขนาด 2 x 2 ดังนั้น จึงใช้วิธีหาคําตอบโดยวิธีหาค่าคาดหมาย หรือหาค่าความน่าจะเป็น เนื่องจากกลยุทธ์ที่ใช้ในการแข่งขันแต่ละฝ่ายมี 2 กลยุทธ์ ฉะน้ัน ผลรวม ความนา่ จะเปน็ ในการใช้สองกลยทุ ธ์รวมกนั จงึ มคี ่าเทา่ กับ 1 ดังน้ี กําหนดให้ P = อัตราสว่ นการใชก้ ลยทุ ธโ์ ฆษณาทางวทิ ยขุ องรา้ นนายดี 1 - P = อตั ราส่วนการใชก้ ลยุทธ์โฆษณาทางหนังสอื พมิ พท์ อ้ งถ่ินของร้านนายดี Q = อตั ราส่วนการใชก้ ลยทุ ธ์โฆษณาทางวิทยขุ องรา้ นนายใจ 1 – Q = อัตราส่วนการใชก้ ลยุทธ์โฆษณาทางหนงั สอื พิมพ์ทอ้ งถ่ินของรา้ นนายใจ สามารถแสดงการนาํ ตัวแปร P, 1 - P, Q และ 1 - Q ไปแสดงในตารางผลตอบแทนของการ แข่งขันได้ดังตารางที่ 9.11 ตารางท่ี 9.11 แสดงอัตราส่วนการใชก้ ลยุทธ์ในการโฆษณาของแตล่ ะฝ่ายจากตวั อยา่ งที่ 9.7 กลยทุ ธ์ของ ใชว้ ทิ ยุ ( Q )กลยุทธข์ องนายใจ นายดี ใช้หนังสอื พิมพ์ ( 1 - Q ) -5 25 ใชว้ ิทยุ ( P ) ใชห้ นังสอื พิมพ์ ( 1 - P ) 15 -20 การพิจารณาหาผลไดค้ าดหวงั ของการแข่งขันของแต่ละฝ่ายโดยการสรา้ งสมการไดจ้ ากสตู ร ผลได้คาดหวังของการแข่งขัน = ผลตอบแทนจริงจากการแข่งขัน x ค่าอัตราส่วนการใช้ กลยุทธข์ องแต่ละฝา่ ย 3.1) หาคา่ คาดหวงั ในการใชก้ ลยทุ ธข์ องร้านนายดี สร้างสมการความน่าจะเป็นโดยใช้หลักการว่า ผลได้คาดหวังของการแข่งขันแต่ละกลยุทธ์ ของแต่ละฝ่ายต้องเท่ากัน กล่าวคือ ผลได้คาดหวังของการแข่งขันแต่ละกลยุทธ์ของนายดีต้องเท่ากัน ซึ่งสามารถสร้างเปน็ สมการนายดีได้ ดังน้ี ผลไดค้ าดหวังของกลยทุ ธใ์ ช้ที่ 1 (วทิ ย)ุ = ผลได้คาดหวังของกลยทุ ธ์ที่ 2 (หนังสอื พิมพ)์ -5P + 15 (1 – P) = 25P + (-20) (1-P) แกส้ มการหาคา่ P และคา่ 1 - P ดังน้ี -5P + 15 – 15P = 25P - 20 + 20P -20P + 15 = 45P - 20 15 + 20 = 45P + 20P 35 = 65P P = 0.54
408 บทที่ 9 ทฤษฎีการแขง่ ขนั เมอ่ื ไดค้ า่ P สามารถหาค่า 1 – P 1–P = 1 1 – P = 35 1–P = 0.46 ดังน้ันสรุปได้ว่า ในการแข่งขันนายดีควรเลือกใช้กลยุทธ์การโฆษณาทางวิทยุในสัดส่วน 65 หรือกล่าวได้ว่า หากมีการแข่งขันกัน 65 ครั้ง นายดีจะเลือกใช้การโฆษณาทางวิทยุจํานวน 35 ครั้ง หรอื คิดความน่าจะเป็นเทา่ กับ 0.54 ในการแขง่ ขันนายดคี วรเลือกใชก้ ลยทุ ธ์การโฆษณาทางหนังสอื พิมพ์ในสดั สว่ น 30 หรอื กล่าว ไดว้ า่ หากมกี ารแขง่ ขนั กัน 65 ครง้ั นายดจี ะเลือกใชก้ ารโฆษณาทางหนงั สือพมิ พจ์ าํ นวน 30 คร้งั หรอื คดิ ความนา่ จะเปน็ เท่ากบั 0.46 3.2) หาคา่ คาดหวงั ในการใชก้ ลยทุ ธข์ องรา้ นนายใจ สร้างสมการความน่าจะเป็นโดยใช้หลักการว่า ผลได้คาดหวังของการแข่งขันแต่ละกลยุทธ์ ของแต่ละฝ่ายต้องเท่ากัน กล่าวคือ ผลได้คาดหวังของการแข่งขันแต่ละกลยุทธ์ของนายใจดีต้อง เท่ากนั จากตารางที่ 9.11 ซง่ึ สามารถสรา้ งเป็นสมการนายใจไดด้ งั น้ี ผลได้คาดหวงั ของกลยุทธใ์ ชท้ ี่ 1 (วิทย)ุ = ผลได้คาดหวังของกลยุทธท์ ี่ 2 (หนงั สือพิมพ)์ -5Q + 25 (1 – Q) = 15Q + (-20) (1-Q) แกส้ มการหาคา่ Q และคา่ 1 - Q ดังน้ี -5Q + 25 – 25Q = 15Q - 20 + 20Q -30Q + 25 = 35Q - 20 25 + 20 = 35Q + 30Q 45 = 65Q Q = 0.69 เมื่อไดค้ ่า Q สามารถหาค่า 1 – Q = 1 1–Q = 65 1–Q = 0.31
บทที่ 9 ทฤษฎกี ารแข่งขนั 409 ดงั น้นั พบว่า ในการแข่งขันนายใจจะเลือกใช้กลยุทธ์การโฆษณาทางวิทยุในสัดส่วน 65 หรือกล่าวได้ว่า หากมีการแข่งขันกัน 65 คร้ัง นายใจจะเลือกใช้การโฆษณาทางวิทยุจํานวน 45 ครั้ง หรือคิดความ น่าจะเป็นเท่ากับ 0.69 ในการแข่งขันนายใจจะเลือกใช้กลยุทธ์การโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ในสัดส่วน หรือกล่าว ได้ว่า หากมีการแข่งขันกัน 65 ครั้ง นายใจจะเลือกใช้การโฆษณาทางหนังสือพิมพ์จํานวน 20 ครั้ง หรือคดิ ความนา่ จะเปน็ เท่ากับ 0.31 ข้นั ตอนท่ี 4 หาค่าคาดหมายของการแข่งขันหรอื มูลค่าการแข่งขันกรณีเล่นโดยใช้กลยุทธผ์ สม การหาค่าคาดหมายของการแข่งขันเพ่ือหาคําตอบว่าสุดท้ายหลังจบการแข่งขันแล้ว ฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายได้ และฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายเสีย และมีสัดส่วนได้หรือสัดส่วนเสียเท่าใด โดยใช้ค่า สัดส่วนการเลือกใช้กลยุทธ์ของแต่ละฝ่ายที่ได้จากขั้นตอนท่ี 3 ซึ่งหากค่าท่ีได้จากข้ันตอนท่ี 3 ถูกต้อง การแทนค่าในสมการของคู่แข่งแต่ละฝ่ายจะให้คําตอบเท่ากัน แต่จะแตกต่างเพียงเครื่องหมายเท่าน้ัน ดังน้ี 4.1) ค่าคาดหวงั ของการแขง่ ขันของนายดี จากค่าคาดหวังกลยุทธ์โฆษณาทางวทิ ยุของนายดี จาก ; -5P + 15 (1 – P) แทนคา่ P = และ 1 – P = จะได้ คา่ คาดหวงั ของกลยทุ ธโ์ ฆษณาทางวทิ ยุของนายดี 5 15 175 450 65 65 275 4.23 65 คา่ คาดหวงั ของกลยุทธโ์ ฆษณาทางหนังสอื พิมพ์ของนายดี จาก ; 25P + (-20) (1-P) แทนค่า P = และ 1 – P = จะได้ ค่าคาดหวังของกลยทุ ธ์โฆษณาทางหนังสือพิมพ์ของนายดี 25 35 20 30 65 65 875 600 65 65
410 บทที่ 9 ทฤษฎีการแขง่ ขัน 275 4.23 65 4.2) คา่ คาดหวงั ของการแข่งขันของนายใจ จากค่าคาดหวังกลยุทธ์โฆษณาทางวทิ ยขุ องนายใจ จาก ; -5Q + 25 (1 – Q) แทนคา่ Q = และ 1 – Q = จะได้ ค่าคาดหวังของกลยทุ ธ์โฆษณาทางวิทยุของนายใจดี 5 25 225 500 65 65 275 4.23 65 ค่าคาดหวังของกลยุทธโ์ ฆษณาทางหนงั สอื พิมพข์ องนายใจ จาก ; 15Q + (-20) (1-Q) แทนค่า Q = 65 และ 1–Q= จะได้ 65 ค่าคาดหวงั ของกลยุทธ์โฆษณาทางหนงั สือพิมพข์ องนายใจ 15 45 20 20 65 65 675 400 65 65 275 4.23 65 สรุปได้ว่า ค่าคาดหมายของการแข่งแข่งหรือมูลค่าการแข่งขัน หรือการแย่งลูกค้าของร้าน นายดีและร้านนายใจมีค่าเท่ากับ 4.23 คน จากที่มีเครื่องหมายเป็นบวก แสดงว่าหลังจากการ แข่งขันสุดท้ายแล้วเจ้าของตารางหรือนายดีจะเป็นฝ่ายได้ลูกค้าจากนายใจ จํานวน 4.23 คน หรือ ประมาณ 4 คน 9.10.2 การแก้ปัญหากรณีกลยทุ ธ์ผสม และการแข่งขันมขี นาด 2 x m หรอื m x 2 การแก้ปัญหากรณีกลยุทธ์ผสม และการแข่งขันมีขนาด 2 x m หรือ m x 2 จะคล้าย กับกรณีการแข่งขันขนาด 2 x 2 แต่จะมีข้ันตอนเพ่ิมขึ้นคือ การคัดเลือกกลยุทธ์ท่ีแต่ละฝ่ายเห็นว่าดี ท่ีสุดให้เหลือฝ่ายละ 2 กลยุทธ์ โดยใช้กราฟในการคัดเลือก ฝ่ายที่มีกลยุทธ์เกิน 2 กลยุทธ์ให้เหลือ เพียง 2 กลยุทธ์ และหลังจากนั้นขั้นตอนการแก้ปัญหาจะเหมือนกับกรณีการแก้ปัญหาที่มีขนาดการ แข่ง 2 x 2 ซง่ึ จะยกตัวอย่างอธบิ ายการแขง่ ขันขนาด 2 x m ได้ดงั ตวั อย่างที่ 9.8 ดังนี้
บทที่ 9 ทฤษฎีการแขง่ ขนั 411 ตัวอย่างท่ี 9.8 สมมติว่านายแดงและนายดําทําการแข่งขันกันทําธุรกิจประเภทหนึ่ง โดยใช้กลยุทธ์ ทางการตลาดทีแ่ ตกตา่ งกัน นายแดงมี 2 กลยทุ ธ์ ขณะท่ีนายดํามี 3 กลยทุ ธ์ โดยผลการแขง่ ขันจากท้ัง สองฝา่ ยเป็นดงั ตารางผลตอบแทนตอ่ ไปน้ี จงวิเคราะหก์ ารแข่งขันเพ่ือตอบคําถามต่อไปน้ี 1) ประเภทการแข่งขนั 2) สดั สว่ นการเลอื กใช้กลยทุ ธข์ องแต่ละฝ่าย 3) คา่ คาดหมายของการแขง่ ขนั หนว่ ย : ล้านบาท กลยทุ ธ์ของนายแดง กลยุทธ์ของนายดํา ดาํ 1 ดํา 2 ดํา 3 แดง 1 4 10 -5 แดง 2 5 - 4 -2 วิธีทาํ จากตารางผลตอบแทนเป็นการแขง่ ขันขนาด 2 x 3 ซงึ่ มีขน้ั ตอนการแกป้ ัญหาดงั นี้ ขัน้ ตอนท่ี 1 วเิ คราะห์ประเภทการแข่งขนั โดยการหาคา่ แมกซมิ ิน และค่ามินนแิ มกซ์ 1) หาค่าแมกซมิ นิ นายแดงเปน็ เจ้าของตาราง จึงใชก้ ฎแมกซมิ ิน ได้ค่าแมกซมิ นิ เทา่ กบั -4 2) หาค่าแมกซมิ นิ นายดาํ เป็นคแู่ ข่ง จึงใชก้ ฎมนิ นแิ มกซ์ ได้คา่ มนิ นแิ มกซ์ เท่ากับ -2 จากการวเิ คราะห์พบวา่ คา่ แมกซิมิน ไม่เท่ากับคา่ มินนแิ มกซ์ ซ่ึงแสดงรายละเอียดการ วิเคราะหไ์ ด้ดังตารางท่ี 9.12 ดังนี้ ตารางท่ี 9.12 แสดงการวเิ คราะห์ประเภทการแข่งขันจากตัวอย่างท่ี 9.7 กลยุทธข์ องนายแดง กลยทุ ธ์ของนายดาํ แดงใช้กฎ แดง 1 ดํา 1 ดาํ 2 ดํา 3 Maximin แดง 2 4 10 -5 5 - 4 -2 -5 ดาํ ใช้กฎ Minimax 5 10 -2 -4 จากตารางสรุปได้วา่ ค่าแมกซมิ นิ (Maximin) เทา่ กับ -4 คา่ มินนแิ มกซ์ (Minimax) เทา่ กบั -2 (ซึ่งไมเ่ ทา่ กนั ) การแข่งขันของนายแดงและนายดํา เป็นกลยุทธ์ผสม กลยุทธ์ท่นี ายแดงเลอื กใช้เสมอคอื ไมส่ ามารถตอบได้ กลยทุ ธ์ทีน่ ายดาํ เลือกใชเ้ สมอคือ ไม่สามารถตอบได้
412 บทที่ 9 ทฤษฎกี ารแขง่ ขัน จุดได้เสียเท่ากัน (Saddle Point) หรือค่าของเกมไม่เกิด จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าผลการ แข่งขันของนายแดงหรือนายดําจะเป็นฝ่ายได้หรือฝ่ายเสีย และไม่สามารถสรุปได้ว่าฝ่ายใดจะได้หรือ เสียเปน็ สดั สว่ นเทา่ ใด หรือจาํ นวนเท่าใด ขั้นตอนที่ 2 หาสดั สว่ นทีเ่ หมาะสมในการใช้กลยทุ ธ์ของแต่ละฝา่ ย จากตารางผลตอบแทนเปน็ การแข่งขนั ขนาด 2 x 3 จงึ ไม่จําเป็นต้องลดขนาดของการ แขง่ ขัน แตจ่ ะแก้ปัญหาดว้ ยวิธกี ารเขียนกราฟ ซงึ่ จะเรมิ่ จากการตัดสินใจของผเู้ ล่นฝ่ายท่มี ี 2 กลยทุ ธ์ กอ่ น ซง่ึ กค็ อื นายแดง โดยการเขยี นกราฟของนายแดงก่อน และเน่ืองจากนายแดงเปน็ เจา้ ของตาราง ดงั นนั้ การตดั สินใจจากกราฟท่ีไดเ้ ขียนไว้จึงใช้หลกั Maximin ดังตอ่ ไปน้ี กําหนดให้ P = อตั ราส่วนการใชก้ ลยุทธ์แดง 1 1 - P = อัตราสว่ นการใช้กลยทุ ธ์แดง 2 สามารถแสดงการนําตัวแปร P และ 1 - P ไปแสดงในตารางผลตอบแทนของการแข่งขันได้ ดงั ตารางที่ 9.13 ตารางที่ 9.13 แสดงอัตราส่วนในการใช้สว่ นกลยุทธข์ องแตล่ ะฝา่ ยจากตัวอย่างท่ี 9.8 กลยทุ ธ์ของนายแดง กลยทุ ธข์ องนายดาํ แดง 1 (P) ดํา 1 ดาํ 2 ดาํ 3 แดง 2 (1 - P) 4 10 -5 5 -4 -2 การพิจารณาหาผลได้คาดหวงั ของการแขง่ ขันของแต่ละฝา่ ยโดยการสรา้ งสมการได้จากสตู ร ผลได้คาดหวังของการแข่งขัน = ผลตอบแทนจริงจากการแข่งขัน x ค่าอัตราส่วนการใช้ กลยุทธข์ องแตล่ ะฝ่าย 2.1) หาคา่ คาดหวงั ในการใช้กลยุทธข์ องผเู้ ล่นท่ีมี 2 กลยทุ ธ์ กรณีนายแดง สร้างเส้นกราฟหาคา่ คาดหวงั การใชก้ ลยุทธข์ องนายแดงเทยี บกับทกุ กลยุทธ์ของดํา ได้ ดังนี้ ผลได้คาดหวังของกลยทุ ธข์ องนายแดงเทยี บกบั กลยทุ ธด์ ํา 1 4 51 4 55 5 …………………….. กราฟเสน้ ที่ 1
บทที่ 9 ทฤษฎีการแข่งขัน 413 ผลไดค้ าดหวงั ของกลยุทธข์ องนายแดง เทียบกบั กลยทุ ธด์ าํ 2 10 4 1 10 4 4 14 4 …………………….. กราฟเส้นที่ 2 ผลได้คาดหวังของกลยทุ ธ์ของนายแดง เทียบกบั กลยทุ ธด์ ํา 3 5 21 5 22 32 …………………….. กราฟเสน้ ท่ี 3 2.2) หาจุดตดั กราฟ จากเสน้ กราฟแต่ละเส้น ทต่ี าํ แหน่งกราฟ P = 1 และ P = 0 จากกราฟเส้นท่ี 1 5 ผลได้คาดหวังของกลยุทธ์ของนายแดงเทยี บกับกลยุทธ์ดํา 1 = ถา้ P = 0 แทนคา่ 5 จะได้ 0 + 5 = 5 ถ้า P = 1 แทนค่า 5 จะได้ -1 + 5 = 4 จากกราฟเสน้ ที่ 2 ผลไดค้ าดหวังของกลยุทธข์ องนายแดงเทยี บกับกลยุทธด์ ํา 2 = 14 4 ถ้า P = 0 แทนคา่ 14 4 จะได้ 14(0) - 4 = 0 – 4 = - 4 ถา้ P = 1 แทนค่า 14 4 จะได้ 14(1) - 4 = 14 – 4 = 10 จากกราฟเส้นท่ี 3 ผลไดค้ าดหวังของกลยุทธข์ องนายแดงเทียบกบั กลยุทธด์ าํ 3 = 3 2 ถ้า P = 0 แทนค่า 3 2 จะได้ -3(0) - 2 = 0 - 2 = - 2 ถา้ P = 1 แทนค่า 3 2 จะได้ -3(1) - 2 = -3 - 2 = - 5 2.3) สรา้ งกราฟผลไดข้ องนายแดงทีจ่ ะได้รับ โดยใหแ้ กนนอนแสดงอัตราสว่ นในการใช้กลยทุ ธ์แดง 1 และกลยุทธ์แดง 2 ด้าน P = 0 หมายถงึ นายแดงใช้แตก่ ลยทุ ธ์แดง 1 อย่างเดยี ว ไมใ่ ช้กลยุทธ์แดง 2 เลย ด้าน P = 1 หมายถึงนายแดงใช้แตก่ ลยทุ ธ์แดง 2 อย่างเดียว ไม่ใชก้ ลยุทธแ์ ดง 1 เลย จากสมการผลได้คาดหวังกลยุทธ์ของนายแดง เมื่อเทียบกับกลยุทธ์ของนายดําทั้ง 3 กลยุทธ์ สามารถนาํ มาสร้างเปน็ เส้นกราฟไดด้ ังกราฟท่ี 9.1 ดงั น้ี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439