86 Riecken, H.W. and Boruch, R.F. (Eds.). (1974). Social Experimentation : A Methods for Planning and Evaluating Social Intervention. New York : Academic Press. Stufflebeam, D.L. and Shrinkfield, A.J. (1985). Systematic Evaluation. A Self-Instructional Guide to Theory and Practice. Boston : Kluwer-Nijholf Publishing. Scriven, M.S. . (1973). Goal-Free Evaluation. In E. House (Ed.), School Evaluation : The Politics and Process. Berkerley : McCutchan. Smith, N.L. (1981). Metaphors for Evaluation : Sources of New Methods. Beverly Hills : Sage Publication, Inc. Scriven (1974) . Pros and Cons About Goal-Free Evaluation. Evaluation Comment Stake, R.E. (1967). “Setting Standards for Educational Evaluators.” Evaluation New no. 2 Suchman, E.A. (1967). Evaluative Research : Principles an Practice in Public Service and Social Action Programs. New York : Russell Sage Foundation.
87 แผนบริหารการสอนประจาบทที่ 4 การประเมินผลผลก่อน ระหว่างและหลงั การปฏบิ ตั ติ ามโครงการ 3 ชั่วโมง หวั ข้อเนือ้ หา การประเมินผลก่อนดาเนินโครงการ 1. ความหมายของการประเมินผลก่อนดาเนินโครงการ 2. ความสาคญั ของการประเมินผลก่อนดาเนินโครงการ 3. วธิ ีการประเมินผลก่อนดาเนินโครงการ การประเมินผลระหวา่ งดาเนินโครงการ 1. ความหมายของการประเมินผลระหวา่ งดาเนินโครงการ 2. ลกั ษณะของการประเมินผลระหวา่ งดาเนินโครงการ 3. วธิ ีประเมินผลระหวา่ งดาเนินโครงการ 4. ข้นั ตอนการประเมินผลระหวา่ งดาเนินโครงการ การประเมินผลหลงั ดาเนินโครงการ บทสรุป วตั ถุประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. เพื่อใหผ้ เู้ รียนสามารถอธิบาย ความหมาย ความสาคญั วธิ ีการประเมินผลก่อนดาเนิน โครงการได้ 2. เพื่อใหผ้ เู้ รียนสามารถอธิบาย ความหมาย ความสาคญั วธิ ีการประเมินผลระหวา่ ง ดาเนินโครงการได้ 3. เพื่อใหผ้ เู้ รียนสามารถอธิบาย ความหมาย ความสาคญั วธิ ีการประเมินผลหลงั ดาเนิน โครงการได้ วธิ สี อนและกจิ กรรมการเรียนการสอนประจาบท 1. บรรยายเน้ือหาในแต่ละหวั ขอ้ พร้อมยกตวั อยา่ งประกอบ 2. ศึกษาจากเอกสารประกอบการสอน 3. ผสู้ อนสรุปเน้ือหา
88 4. ทาแบบฝึกหดั เพ่อื ทบทวนบทเรียน 5. ผเู้ รียนถามขอ้ สงสัย 6. ผสู้ อนทาการซกั ถาม สื่อการเรียนการสอน 1. เอกสารประกอบการสอนวชิ าการประเมินผลโครงการ 2. PowerPoint การประเมินผลผลก่อน ระหวา่ งและหลงั การปฏิบตั ิตามโครงการ การวดั ผลและประเมนิ ผล 1. ประเมินจากการซกั ถามในช้นั เรียน 2. ประเมินจากความร่วมมือและความรับผดิ ชอบต่อการเรียน 3. ประเมินจากการทาแบบฝึกหดั ทบทวนทา้ ยบทเรียน
89 บทท่ี 4 การประเมินผลผลก่อน ระหว่างและหลงั การปฏิบตั ติ ามโครงการ การตดั สินใจริเร่ิมจดั ทาโครงการใด ๆ องคก์ รหรือผรู้ ับผิดชอบจะตอ้ งมนั่ ใจว่าโครงการท่ี จดั ทาจะต้องมีคุณค่า เป็ นประโยชน์สอดคล้องสนองตอบความต้องการจาเป็ นขององค์กร ผรู้ ับบริการหรือผเู้ ก่ียวขอ้ ง ท้งั น้ีเพราะในการจดั ดาเนินโครงการแต่ละคร้ังตอ้ งลงทุนใชท้ รัพยากร ท้งั เงิน คน วสั ดุ อุปกรณ์ อาคารสถานที่และเวลา ดงั น้นั ก่อนตดั สินใจจดั ทาโครงการจงงจาเป็ นตอ้ งมี ขอ้ มลู สารสนเทศที่เพียงพอต่อการตดั สินใจ ซ่งงจะไดม้ าจากการประเมินผลโครงการก่อนการดาเนิน โครงการ ระหว่างดาเนินโครงการเและหลงั การปฏิบตั ิตามโครงการ ซ่งงจะกล่าวถงงในบทน้ี มี รายละเอียดดงั น้ี การประเมนิ ผลก่อนการดาเนินโครงการ 1. ความหมายของการประเมินก่อนการดาเนินโครงการ การประเมินก่อนการดาเนินโครงการหรือการประเมินก่อนริเร่ิมโครงการ ตรงกบั คา ในภาษาองั กฤษวา่ “Pre – Evaluation Program” หรือ “Ex - Ante Evaluation Program” ซ่งงหมายถงง การเก็บรวบรวมขอ้ มูลเกี่ยวกบั ความเหมาะสม ความเป็ นไปไดใ้ นการนาโครงการไปใชด้ าเนินงาน กบั กลุ่มเป้ าหมายเป็ นการประเมินก่อนที่จะมีการใชโ้ ครงการจริง ๆ ( รัตนะ บวั สนธ์. 2540 : 51 ) การประเมินก่อนการดาเนินโครงการ จงงเป็ นการศงกษาเพื่อกาหนดโครงการก่อนการลงทุน การประเมินส่วนน้ีเน้นการศงกษาความตอ้ งการให้มีการดาเนินโครงการ รวมท้งั ศงกษาความเป็ นไป ได้ท่ีจะดาเนินโครงการตามวตั ถุประสงค์ของโครงการท่ีได้กาหนดจากความต้องการข้างต้น ซ่งงตามแนวคิดของ เชิดศกั ด์ิ โฆวาสินธุ์ ( 2541 : 10 ) เห็นวา่ การประเมินก่อนเร่ิมโครงการเป็ น การประเมินเบ้ืองตน้ ที่จาเป็ นสาหรับการวางแผนโครงการท่ีมีประสิทธิภาพเป็ นการวางแผนจาก ขอ้ มูล ขอ้ เท็จจริงเป็ นการประเมินเพื่อศงกษาปัญหาและความตอ้ งการของสังคมหรือชุมชนซ่งงเป็ น แหล่งเป้ าหมายในการนาโครงการไปปฏิบตั ิ ซ่งงรู้จกั กนั ในหมู่นกั ประเมินว่าเป็ นการประเมินความ ตอ้ งการจาเป็น (Needs Assessment) 2. ความสาคัญของการประเมินผลก่อนการดาเนินโครงการ การประเมินก่อนการดาเนินโครงการมีความสาคญั ดงั น้ี 2.1 ทาใหอ้ งคก์ รหรือผทู้ ี่จดั ทาโครงการมีเหตุผล มีความมนั่ ใจและมีความรอบคอบใน การตัดสิ นใจริ เร่ิ มโครงการว่า โครงการที่จัดทาน้ันมีความสาคัญและเป็ นประโยชน์ต่อ กลุ่มเป้ าหมายของโครงการหรือไม่เพียงใด กล่าวคือ โครงการดงั กล่าวน้นั สามารถตอบสนองต่อ
90 นโยบายขององคก์ รที่อยรู่ ะดบั สูงกวา่ หรือสอดคลอ้ งกบั สภาพปัญหาและความตอ้ งการของผรู้ ับผล จากโครงการหรือไม่ เพยี งใด 2.2 สารสนเทศจากการประเมินก่อนการดาเนินโครงการจะช่วยใหผ้ บู้ ริหารท่ีเกี่ยวขอ้ ง กับโครงการสามารถตดั สินใจอนุมัติหรือไม่อนุมัติให้ดาเนินโครงการได้อย่างสมเหตุสมผล กล่าวคือ ถา้ ขอ้ มูลสารสนเทศจากการประเมินบ่งช้ีวา่ โครงการที่จะจดั ทาน้นั สนองตอบต่อนโยบาย ระดบั สูงและ/หรือสอดคลอ้ งกบั สภาพปัญหาและความตอ้ งการของผรู้ ับผลจากโครงการ ผบู้ ริหาร กส็ ามารถตดั สินใจใหด้ าเนินโครงการได้ แต่ถา้ ผลการประเมินบ่งช้ีในทางตรงกนั ขา้ มคือ โครงการ น้นั ไม่สนองตอบต่อนโยบายระดบั สูงและ/หรือไมส่ อดคลอ้ งกบั สภาพปัญหาและความตอ้ งการของ ผรู้ ับผลจากโครงการ ผูบ้ ริหารก็ตดั สินใจไม่ให้ดาเนินโครงการ ซ่งงถือวา่ การตดั สินใจของผบู้ ริหาร ท้งั สองกรณีดงั กล่าวต้งั บนหลกั ของเหตุผลท่ีดีและมีความรอบคอบ 2.3 สารสนเทศจากการศงกษาความเป็ นไปไดข้ องโครงการ จะช่วยช้ีวา่ โครงการที่จะ ดาเนินการน้นั สามารถจะนาไปปฏิบตั ิไดจ้ ริงตามแผนการดาเนินงานภายใตท้ รัพยากรและระยะเวลา ท่ีกาหนดไวห้ รือไม่ มีโอกาสที่จะเกิดผลสาเร็จตามวตั ถุประสงคแ์ ละเป้ าหมายของโครงการหรือไม่ ซ่งงจะทาให้ผูบ้ ริหารหรือผูร้ ับผิดชอบโครงการได้พิจารณาไตร่ตรองด้วยความรอบคอบ และ ตดั สินใจว่าควรปรับเปล่ียนแผนการดาเนินงานและจดั สรรทรัพยากรให้เหมาะสมที่สามารถ ดาเนินงานไดจ้ ริงหรือตดั สินใจวา่ ควรจะดาเนินโครงการน้นั หรือไม่ อยา่ งไร เพือ่ ใหเ้ กิดความคุม้ ค่า กบั การลงทุนมากที่สุดหรือลดภาวะความเส่ียงในการดาเนินโครงการใหเ้ หลือนอ้ ยท่ีสุด 3. วธิ ีการประเมินผลก่อนการดาเนินโครงการ การประเมินก่อนการดาเนิ นโครงการมีกิจกรรมสาคัญท่ีควรดาเนิ นการ คือ การประเมินความตอ้ งการจาเป็ น (Needs Assessment) และการศงกษาความเป็ นไปไดข้ องโครงการ (Feasibility Study) ซ่งงมีสาระสาคญั และวธิ ีการประเมิน ดงั น้ี 3.1 การประเมินความต้องการจาเป็ น ในการบริหารโครงการอย่างเป็ นระบบ จะต้องมีการวิเคราะห์สภาพปัจจุบัน ปัญหาและความต้องการก่อนวางแผนโครงการ ซ่งงเป็ นลักษณะของการประเมินความตอ้ งการ จาเป็ นนบั ว่ากิจกรรมท่ีสาคญั ที่จะทาให้ผบู้ ริหารโครงการไดท้ ราบสภาพปัญหา สาเหตุของปัญหา และความตอ้ งการท่ีแท้จริงในการกาหนดโครงการ ทาให้ได้โครงการที่มีความเหมาะสมและ ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้ าหมายหรือผูร้ ับบริการ การประเมินความต้องการจาเป็ น (Needs Assessment) จงงเป็ นกิจกรรมท่ีสาคญั ยงิ่ สาหรับการวางแผนโครงการที่มีประสิทธิภาพและ ประสิทธิผลของโครงการ 3.1.1 ความหมายของการประเมินความต้องการจาเป็ น การประมินความตอ้ งการจาเป็ น หมายถงง กระบวนการที่เป็ นระบบซ่งงใช้ เพ่ือกาหนดความแตกต่างระหว่างสภาพที่คาดหวงั กับสภาพที่เป็ นอยู่จริง ส่วนใหญ่จะเน้นที่
91 ความแตกต่างของผลผลิต (Outcome Gaps) จากน้ันมีการจดั เรียงลาดับความสาคัญของความ แตกต่างน้นั แลว้ เลือกความตอ้ งการจาเป็ นท่ีสาคญั แกไ้ ข (Witkin, 1984 ; Mckillip, 1987 ; อา้ งถงงใน สุวิมล วอ่ งวาณิช. 2544 : 8) การประเมินความตอ้ งการจาเป็ นจงงเป็ นกระบวนการตรวจสอบความ แตกต่างระหวา่ งสภาพท่ีคาดหวงั ของงานกบั สภาพที่เป็ นอยจู่ ริงของงานเพื่อให้ไดข้ อ้ สรุปถงงความ ต้องการจาเป็ นที่จะต้องนามาแก้ไข โดยจดั ทาเป็ นโครงการเพ่ือการแก้ไขหรือพัฒนางานให้ สอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการจาเป็นดงั กล่าว 3.1.2 ลกั ษณะทสี่ าคัญของการประเมินความต้องการจาเป็ น การประเมินความตอ้ งการจาเป็ น เป็ นกิจกรรมท่ีมุ่งตดั สินสภาพการณ์ใด ๆ ที่เก่ียวข้องกับการดาเนินงานตามภารกิจขององค์กร เก่ียวข้องกับฝ่ ายผูร้ ับบริการและองค์กร ในฐานะผใู้ หบ้ ริการ มีลกั ษณะที่สาคญั ดงั ตอ่ ไปน้ี (สุพกั ตร์ พบิ ูลย.์ 2551: 8) 3.1.2.1 เป็ นกิจกรรมการศงกษาค้นควา้ อย่างเป็ นระบบ ในการหาข้อมูล เก่ียวกบั องคก์ รและผรู้ ับบริการขององคก์ ร เพื่อสรุปสภาพปัญหาหรือประเด็นสาคญั ๆ ท่ีควรไดร้ ับ การตอบสนองหรือไดร้ ับการแกไ้ ขโดยเร่งด่วน เพื่อให้ภารกิจขององค์กรประสบความสาเร็จหรือ ดาเนินงานไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ 3.1.2.2 เป็ นการประเมินท่ีเกิดข้งนในระยะก่อนท่ีจะกาหนดนโยบาย แผนงาน หรือโครงการ 3.1.2.3 เป็ นการประเมินที่มุ่งวิเคราะห์ตดั สิน และเรียงลาดบั สภาพปัญหา หรือความตอ้ งการจาเป็นเร่งด่วนท่ีองคก์ รจะตอ้ งเร่งดาเนินการ 3.1.2.4 เป็ นกระบวนการท่ีมีแนวปฏิบัติหลากหลายข้งนอยู่กับการนิยาม “ความต้องการจาเป็ น” เน้นการใช้ข้อมูลจากหลายแหล่ง ด้วยวิธีการหลายวิธี เพ่ือยืนยนั ความ สอดคลอ้ งของปัญหาหรือความชดั เจนของปัญหาเร่งด่วนที่ตอ้ งไดร้ ับการแกไ้ ข 3.1.2.5 เป็ นการประเมินท่ีมุ่งหาขอ้ มูลประกอบการตดั สินใจในการกาหนด นโยบายแผนงาน และโครงการหรือกาหนดจุดเนน้ ในการพฒั นา 3.1.3 ความสาคัญของการประเมนิ ความต้องการจาเป็ น สุพกั ตร์ พิบูลย.์ (2551 : 9 ) และ สุวิมล วอ่ งวานิช. (2544 : 14-15) กล่าวถงง การประเมินความตอ้ งการจาเป็นมีความสาคญั สรุปดงั น้ี 3.1.3.1 การมีโอกาสไดร้ ับทราบความตอ้ งการจาเป็ นท่ีแทจ้ ริงหรือปัญหาที่ แทจ้ ริง จะเพิ่มโอกาสความสาเร็จของการบริหารโครงการ 3.1.3.2 การเรียงลาดบั ปัญหาหรือความตอ้ งการจาเป็ นเร่งด่วน ก่อนและหลงั ตามหลกั การหรือแนวปฏิบตั ิในการประเมินความตอ้ งการจาเป็ น จะช่วยให้การแก้ปัญหาไม่สูญ เปล่า องคก์ รจะสามารถทุม่ เทงบประมาณหรือทรัพยากรในการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งตรงจุด สอดคลอ้ ง กบั สภาพปัญหาและความตอ้ งการท่ีแทจ้ ริงของผรู้ ับบริการหรือองคก์ ร
92 3.1.3.3 การวเิ คราะห์ปัญหาหรือความตอ้ งการจาเป็ นแลว้ ไดข้ อ้ สรุปเกี่ยวกบั ปัญหาที่ชดั เจนจะทาใหบ้ ุคลากรในองคก์ รมองเห็นจุดเนน้ ในการแกป้ ัญหาที่ตรงกนั จะช่วยใหเ้ กิด ความร่วมมือในการปฏิบตั ิงานอยา่ งมีเป้ าหมายที่ชดั เจนมากยงิ่ ข้งน 3.1.3.4 การวเิ คราะห์ปัญหาหรือความตอ้ งการจาเป็นของผรู้ ับบริการกลุ่มตา่ ง ๆ แลว้ พบวา่ ประสบปัญหาหรือมีความตอ้ งการแตกต่างกนั จะช่วยให้การกาหนดโครงการบริการ ตรงกับความต้องการของกลุ่มผูร้ ับบริการมากยิ่งข้งน เป็ นการสนองความต้องการแบบเน้น ผรู้ ับบริการเป็ นสาคญั สามารถพฒั นาระดบั คุณภาพของผลผลิตหรือคุณภาพของการบริการให้มี ประสิทธิภาพเพ่มิ มากข้งน 3.1.3.5 ผลท่ีไดจ้ ากการประเมินความตอ้ งการจาเป็นทาใหไ้ ดข้ อ้ มลู ที่สะทอ้ น สภาพบริบทท่ีเกิดข้งนขององค์กร ซ่งงเป็ นพ้ืนฐานสาคญั ท่ีจะนาไปสู่การวางแผน การกาหนดแนว ทางการพฒั นาองค์กรใหส้ อดคลอ้ งกบั สภาพที่เกิดข้งนและสนองต่อความตอ้ งการของผทู้ ่ีเกี่ยวขอ้ ง กบั องค์กรน้ันมากที่สุด กล่าวอีกนัยหน่งงก็คือ ขอ้ มูลที่ได้จากการประเมินความต้องการจาเป็ น สามารถใช้เป็ นแนวทางในการกาหนดนโยบายและการตดั สินใจเพื่อวางแผนโครงการที่มีความ เฉพาะของกลุ่มบุคคลไดม้ ากข้งน 3.1.3.6 ทาให้ได้ข้อมูลท่ีนาไปกาหนดทิศทางหรื อเป้ าหมายของการ ดาเนินงาน ซ่งงสามารถใชเ้ ป็ นหลกั เทียบในการดาเนินงาน ขอ้ มูลดงั กล่าวเป็นประโยชน์มากต่อการ วางแผนการประเมินงานหรือโครงการ เนื่องจากมีวตั ถุประสงค์ของการดาเนินงานท่ีชดั เจน และ มนั่ ใจไดว้ า่ วตั ถุประสงคด์ งั กล่าวสอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการขององคก์ รน้นั อยา่ งแทจ้ ริง 3.1.3.7 การประเมินความต้องการจาเป็ น เป็ นเครื่องมือการบริหารท่ีมี ประสิทธิภาพ ทาให้สามารถกาหนดแผนงานที่สอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการขององคก์ ร ป้ องกนั การ สูญเสียทรัพยากรกบั การดาเนินงานที่ไม่ไดผ้ า่ นการวเิ คราะห์การดาเนินงานมาอยา่ งแทจ้ ริง 3.1.3.8 การประเมินความตอ้ งการจาเป็ นสามารถให้คาตอบกบั บุคคลทว่ั ไป ไดว้ า่ ทรัพยากรที่ลงทุนไปจะถูกนาไปใชใ้ นการพฒั นางานอะไรบา้ ง และสร้างความมนั่ ใจวา่ สิ่งที่ได้ ปฏิบตั ิจะสนองความตอ้ งการขององค์กรอย่างแทจ้ ริง เน่ืองจากมีขอ้ มูลเชิงประจกั ษ์ท่ีรองรับการ ตดั สินใจวางแนวทางการพฒั นาองคก์ ร เป็ นการป้ องกนั ปัญหาการลงทุนท่ีไม่สอดคลอ้ งกบั สภาพ ปัญหาที่เกิดข้งนจริง 3.1.3.9 หากได้มีการวางแผนการประเมินความต้องการจาเป็ นอย่างเป็ น ระบบ จะทาให้ไดข้ อ้ มูลที่ช้ีความตอ้ งการและสภาพปัญหาที่เกิดข้งนอยา่ งแทจ้ ริง จงงเป็ นเคร่ืองมือท่ี จะช่วยเป็ นเกราะป้ องกันไม่ให้เกิดการใช้อานาจทางการเมืองในการวางแผนการดาเนินงานใน ทิศทางท่ีไม่พงงประสงคใ์ นทางตรงกนั ขา้ มกระบวนการประเมินความตอ้ งการจาเป็ นจะทาให้เกิด ความมน่ั ใจกบั ทุกฝ่ ายและเป็นการปกป้ องการตดั สินใจวา่ เป็นไปอยา่ งโปร่งใส และยตุ ิธรรม
93 3.1.4 แนวปฏิบัติในการประเมินความต้องการจาเป็ น ในการประเมินความตอ้ งการจาเป็นมีแนวปฏิบตั ิ ดงั น้ี 3.1.4.1 กาหนดจุดมุ่งหมายของการประเมินความตอ้ งการจาเป็ น โดยระบุ เหตุผลท่ีจาเป็ นต้องทาการประเมินความต้องการจาเป็ นเพื่อจุดมุ่งหมายใด การประเมินความ ตอ้ งการจาเป็ นในกรณีน้ีก็เพ่ือให้ไดข้ อ้ มูลท่ีเป็ นความตอ้ งการจาเป็ นจริงเพื่อกาหนดโครงการให้ สอดคล้องกับสภาพปัญหาและความตอ้ งการของกลุ่มเป้ าหมายของโครงการ และให้ได้ขอ้ มูล สารสนเทศประกอบการตดั สินใจของผบู้ ริหารเกี่ยวกบั การริเร่ิมจดั ทาโครงการ 3.1.4.2 กาหนดแหล่งขอ้ มูลหรือบุคคลท่ีตอ้ งการระบุความตอ้ งการจาเป็ น ในการประเมินความต้องการจาเป็ นเพื่อการวางแผนโครงการ จาเป็ นต้องมีข้อมูลท่ีครอบคลุม ครบถ้วนต่อการตดั สินใจ ดงั น้นั แหล่งขอ้ มูลหรือบุคคลที่จะตอ้ งให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ความตอ้ งการ จาเป็ นใหเ้ หมาะสมเพียงพอต่อการให้ขอ้ มูลดงั กล่าวโดยทว่ั ไปแหล่งขอ้ มูลและบุคคลที่จะให้ความ ตอ้ งการจาเป็ นใหเ้ หมาะสมเพียงพอต่อการให้ขอ้ มูลดงั กล่าว โดยทวั่ ไปแหล่งขอ้ มูลที่สาคญั ต่อการ ประเมินความตอ้ งการจาเป็ นคือ เอกสารที่เกี่ยวขอ้ งกบั นโยบาย แผนพฒั นาต่าง ๆ ของหน่วยงานที่ อยรู่ ะดบั สูงกว่าไดก้ ล่าวถงงนโยบาย ทิศทางในเร่ืองที่จะเป็ นฐานขอ้ มูลและแนวคิดในการจดั ทา นโยบายไวอ้ ย่างไร ข้อมูลเหล่าน้ีถือว่าเป็ นความต้องการจาเป็ นที่อาจเรียกว่า ชัดแจ้งอยู่แล้ว แหล่งข้อมูลอีกประการหน่งงคือ กลุ่มบุคคลที่เป็ นกลุ่มเป้ าหมายของโครงการ ซ่งงอาจเป็ น ผูร้ ับบริการหรือประชาชนที่เก่ียวขอ้ งกบั โครงการดงั กล่าว กรณีของโครงการทางการศงกษา กลุ่ม ผูเ้ กี่ยวข้องท่ีควรเป็ นผูร้ ะบุความต้องการจาเป็ น อาจเป็ นนักเรียน ผูป้ กครอง ครู ผูบ้ ริหารและ บุคลากรทางการศงกษา ซ่งงนักประเมินจะต้องพิจารณาให้รอบคอบว่า บุคคลกลุ่มใดจะเป็ นผูใ้ ห้ ขอ้ มูลความตอ้ งการจาเป็นในเร่ืองเหล่าน้นั ไดต้ รงท่ีสุด และน่าเชื่อถือมากท่ีสุด 3.1.4.3 กาหนดกรอบประเด็นหรือเน้ือหาสาระเกี่ยวกบั ความตอ้ งการจาเป็ น ที่จะประเมิน ในการประเมินความตอ้ งการจาเป็ น นกั ประเมินตอ้ งรู้ให้แน่ชดั วา่ ตอ้ งการประเมิน ความตอ้ งการจาเป็ นในเร่ืองใด ประเด็นอะไรบา้ ง ดงั น้นั การกาหนดกรอบประเด็นหรือเน้ือหา สาระท่ีเก่ียวกบั ความตอ้ งการจาเป็นท่ีจะประเมินจงงมีความสาคญั ต่อการประเมิน นกั ประเมินจงงตอ้ ง ศงกษาวิเคราะห์และระบุประเด็นเก่ียวกับเน้ือหาสาระดังกล่าว เช่น ความต้องการจาเป็ น ดา้ นการศงกษาต่อผูเ้ รียนความตอ้ งการจาเป็ นดา้ นการพฒั นาตนเองของครู คณาจารยแ์ ละบุคลากร ทางการศงกษา ความตอ้ งการจาเป็นในการสร้างความเขม้ แขง็ ของชุมชน เป็นตน้ 3.1.4.4 ออกแบบการประเมินความตอ้ งการจาเป็ น โดยนกั ประเมินจะตอ้ ง ออกแบบการประเมินโดยางแผนไวล้ ่วงหน้าว่าจะกาหนดกรอบแนวทางการประเมินอย่างไร โดยทว่ั ไปจะดาเนินการในเรื่องต่อไปน้ี 3.1.4.5 กาหนดผูเ้ กี่ยวข้องในกระบวนการประเมินความต้องการจาเป็ น ซ่งงประกอบดว้ ยบุคคลที่เก่ียวขอ้ งหลายฝ่ าย ในทางการศงกษามีท้งั นกั เรียน ครู ผปู้ กครอง ผูบ้ ริหาร
94 ชุมชนนกั ประเมินตอ้ งมีบทบาทในการเป็ นผูป้ ระสานงานหรือผอู้ านวยความสะดวก (Facilitator) ในการดาเนินงานใหเ้ กิดความราบร่ืนเรียบร้อย 3.1.4.6 กาหนดวิธีการประเมินความต้องการจาเป็ น โดยจะต้องพิจารณา เลือกใช้วิธีการประเมินความตอ้ งการจาเป็ นวา่ วิธีการใดจะช่วยให้การประเมินประสบผลสาเร็จ ทาให้ไดข้ อ้ มูลสารสนเทศที่ครอบคลุม มีความน่าเชื่อถือมากที่สุด วิธีการประเมินความตอ้ งการ จาเป็ นมีหลายวิธี เช่นการศงกษาขอ้ มูลจากเอกสารนโยบาย แผนงานของหน่วยงานที่เก่ียวขอ้ ง การศงกษาขอ้ มูลจากตวั บ่งช้ีสภาวะทางสังคมที่มีอย่แู ลว้ การศงกษาขอ้ มูลจากเอกสารการวิเคราะห์ หรือรายงานสภาพปัญหาและผลการประเมินโครงการที่เกี่ยวขอ้ ง การสารวจสภาพปัญหาและความ ตอ้ งการโดยใชแ้ บบสอบถาม การสัมภาษณ์ การใชก้ ระบวนการกลุ่มโดยการจดั ประชุมเสวนาหรือ จดั เวทีประชาคมที่เก่ียวขอ้ ง เป็นตน้ 3.1.4.7 กาหนดผใู้ ห้ขอ้ มูลในการประเมินความตอ้ งการจาเป็ นโดยพิจารณา กาหนดผูใ้ ห้ขอ้ มูลสาคญั เพ่ือจะให้ไดข้ อ้ มูลความตอ้ งการจาเป็ นครอบคลุมชัดเจน น่าเชื่อถือมาก ที่สุด ซ่งงอาจเป็นกลุ่มผบู้ ริหาร หรือกลุ่มผรู้ ับบริการท่ีเกี่ยวขอ้ ง 3.1.4.8 กาหนดเคร่ืองมือประเมินความต้องการจาเป็ นโดยการพิจารณา จุดมุ่งหมาย กลุ่มผใู้ ห้ขอ้ มูลจะช่วยใหไ้ ดแ้ นวทางการกาหนดเครื่องมือประเมินความตอ้ งการจาเป็ น ว่าควรใช้เครื่องมือประเภทใด เช่น แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ การสนทนากลุ่มหรือการจดั ประชุมเสวนาเป็ นตน้ 3.1.4.9 กาหนดวิธีเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลและการวิเคราะห์ขอ้ มลู โดยกาหนดวิธี เก็บรวบรวมข้อมูลให้เป็ นไปตามลักษณะและวิธีการของเคร่ื องมือแต่ละประเภท กรณี แบบสอบถามต้องวางแผนว่าจะจัดส่งไปให้ผูต้ อบและเก็บกลับคืนอย่างไร แบบสัมภาษณ์ การสนทนากลุ่ม การประชุมเสวนา/เวทีชุมชน ตอ้ งวางแผนเก็บรวบรวมขอ้ มูลโดยกาหนดผูใ้ ห้ ขอ้ มลู วนั เวลา สถานที่ และผสู้ ัมภาษณ์หรือผดู้ าเนินการสนทนากลุ่ม/เสวนาใหช้ ดั เจน สาหรับการวเิ คราะห์ขอ้ มูลในการประเมินความตอ้ งการจาเป็ น จะใหค้ วามสาคญั กบั การจดั ลาดบั ของความตอ้ งการจาเป็ น ดงั น้นั สถิติหรือเทคนิคท่ีใชใ้ นการประเมินความตอ้ งการ จาเป็นจงงเนน้ ไปท่ีการจดั ลาดบั ความสาคญั ของความตอ้ งการจาเป็น 3.1.4.10 กาหนดวิธีการจัดลาดับความสาคัญของความต้องการจาเป็ น โดยพิจารณาจากผลการวิเคราะห์เพ่ือจดั ลาดบั ความสาคญั ของความต้องการจาเป็ นว่า มีความ ตอ้ งการจาเป็ นในเรื่องใดประเด็นใดมีความสาคญั ที่สุด ก็ถือว่ากระบวนการประเมินความตอ้ งการ จาเป็ นเสร็จสิ้นสมบูรณ์ จงงจะนาไปสู่การจดั ทาโครงการหรือวางแผนโครงการเพ่ือตอบสนองความ ตอ้ งการจาเป็นดงั กล่าว
95 3.1.5 เทคนิควธิ ีทใี่ ช้ในการประเมินความต้องการจาเป็ นเพอื่ กาหนดโครงการ การเลือกใช้เทคนิควิธีในการประเมินความตอ้ งการจาเป็ น ควรพิจารณาให้ ครอบคลุมท้งั เทคนิคในการระบุรายการความตอ้ งการจาเป็น การวเิ คราะห์ความตอ้ งการจาเป็น และ การประเมินความตอ้ งการจาเป็ น เทคนิควิธีที่นาเสนอในที่น้ีไดส้ รุปและปรับปรุงจากชุดวิชาการ ประเมินและการจดั การโครงการประเมิน (สุวิมล ว่องวาณิช. 2544) และชุดวิชาการประเมิน นโยบาย แผนงานและโครงการ (สุพกั ตร์ พิบูลย.์ 2551) โดยไดเ้ พิ่มเติมแนวคิด ตวั อยา่ งและแนว ปฏิบตั ิซ่งงมีรายละเอียด ดงั น้ี 3.1.5.1 เทคนิควธิ ีในการระบุความตอ้ งการจาเป็น เทคนิควิธีสาคญั ๆ ในการเก็บรวบรวมขอ้ มูลเพ่ือหาขอ้ สรุปเก่ียวกบั ความตอ้ งการจาเป็น มีดงั น้ี 1) การสารวจความตอ้ งการ (need survey) ใช้สาหรับเก็บรวบรวม ข้อมูลในแนวกวา้ งจากบุคคลท่ีเก่ียวข้องกับสถานศงกษาหรือโครงการ เช่น กลุ่มผู้รับบริการ ของสถานศงกษาหรือกลุ่มเป้ าหมายของโครงการ หรือผูท้ ี่ได้รับผลกระทบจากการดาเนินงาน ของสถานศงกษาหรือโครงการเป็ นต้น เคร่ืองมือท่ีนิยมใช้ ได้แก่ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ และแบบสงั เกต 2) การใช้ตัวบ่งช้ีภาวะทางสังคม (Social Indicators) เป็ นการเก็บ รวบรวมข้อมูลจากตวั ช้ีวดั ต่าง ๆ ซ่งงอาจรวบรวมโดยหน่วยงานหรือบุคคลใด ๆ ซ่งงเป็ นข้อมูล ทุติยภูมิ เช่น อตั ราการศงกษาต่อของนักเรียนระดบั มธั ยมศงกษาตอนปลาย สถิติการทะเลาะวิวาท ของนักเรียนเฉลี่ยต่อปี การศงกษา สถิติอาชญากรรมที่เกิดข้งน สถิติอุบัติเหตุ อตั ราการต้งั ครรภ์ ของเด็กในวยั เรียน เป็ นต้น ตวั อย่างข้อมูลสารสนเทศดังกล่าวน้ีเป็ นลักษณะของข้อมูลที่เป็ น ขอ้ เทจ็ จริง (Hard Data) ซ่งงมีความน่าเชื่อถือกวา่ ขอ้ มูลความรู้สงก (Felt Data) ขอ้ มูลตวั บ่งช้ีภาวะทาง สงั คมที่สอดคลอ้ งกบั สภาพขององคก์ ารหรือชุมชนจะเป็ นฐานขอ้ มูลสาคญั ในการตดั สินใจเก่ียวกบั การวางแผนโครงการเพือ่ ปัญหาหรือพฒั นางานขององคก์ าร 3) การใช้กระบวนการกลุ่ม (Group Process) เป็ นการเก็บข้อมูล จากกลุ่มบุคคลท่ีมีจานวนไม่มากนกั ซ่งงเป็ นบุคคลท่ีมีความเชี่ยวชาญและมีความรอบรู้เก่ียวกบั สภาพปัญหาหรือสภาพการดาเนินงานของสถานศงกษา สามารถให้ขอ้ มูลความตอ้ งการจาเป็ นได้ ซ่งงอาจใช้เทคนิคการสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) เทคนิคกลุ่มสมมตินัย (Nominal Group Process) การสัมมนาประเมินผล การประชุมปฏิบตั ิการ การจดั เสวนา การทาประชาพิจารณ์ หรือจดั เวทีประชาคม 4) การใช้วิธีผสมผสาน (Mixed Process) เป็ นวิธีการที่นิยมใช้กนั มาก ซ่งงอาจมีการสารวจดว้ ยแบบสอบถาม การรวบรวมขอ้ มูลตวั บ่งช้ีภาวะทางสังคมหรือการสัมมนา ประเมินผลโดยผทู้ รงคุณวฒุ ิหรือผมู้ ีประสบการณ์ ตวั อยา่ งเช่น การสัมมนาปัญหาคุณภาพการศงกษา
96 ระดบั ชาติ ซ่งงจดั ทาเป็ นระยะ ๆ จะมีการนาเสนอขอ้ มูลจากการสารวจ การรวบรวมสถิติที่เก่ียวขอ้ ง กบั คุณภาพการศงกษา การรวบรวมผลงานวจิ ยั ต่าง ๆ แลว้ จดั สัมมนาเพ่ือกาหนดนโยบาย ทิศทางการ ดาเนินงานแก้ไขปัญหาคุณภาพการศงกษาในระยะต่อไป การใช้วิธีการวิเคราะห์สภาพปัจจุบัน ปัญหา และความตอ้ งการจาเป็ นดว้ ยวิธีการผสมผสานเช่นน้ี มีแนวโนม้ ปรากฏให้เห็นอยา่ งชดั เจน มากยง่ิ ข้งนในการกาหนดนโยบาย การวางแผนงานหรือโครงการในระดบั ประเทศ 3.2 การศึกษาความเป็ นไปได้ของโครงการ การศงกษาความเป็ นไปไดข้ องโครงการ เป็ นการประเมินอีกลกั ษณะหน่งงที่ทาข้งน ก่อนท่ีจะมีการจดั ทาโครงการใดโครงการหน่งง นิยมใชก้ นั มากในการจดั โครงการทางดา้ นธุรกิจและ อุตสาหกรรมและเป็ นโครงการขนาดใหญ่ แต่ก็สามารถประยุกตใ์ ชแ้ นวคิดและวธิ ีการในโครงการ ทางการศงกษาได้ 3.2.1 ความหมายของการศึกษาความเป็ นไปได้ของโครงการ การศงกษาความเป็ นไปได้หรือการประเมินความเป็ นไปได้ของโครงการ หมายถงง กระบวนการแสวงหาความรู้ ความจริงเก่ียวกบั คุณคา่ ของโครงการที่องคก์ รหรือผมู้ ีอานาจ ริ เร่ิ ม ข้ง น ก่ อน การป ระกาศใช้โครงการเพื่ อ ให้ผู้เกี่ ยวข้องห รื ออ งค์ก รระดับ รองน าไป ป ฏิ บัติ (กลา้ ทองขาว. 2555 : 7) การศงกษาความเป็ นไปไดข้ องโครงการจงงเป็ นการศงกษาวิเคราะห์และ จดั ทาเกสารที่ประกอบไปด้วยขอ้ มูลต่าง ๆ ที่จาเป็ นเพื่อเป็ นการแสดงถงงเหตุผลที่จะสนับสนุน (Justification) ถงงความเหมาะสม (Soundness) ของโครงกรอันจะทาให้ได้มาซ่งงโครงการท่ีดี สามารถนาไปสู่การปฏิบตั ิไดจ้ ริง และเม่ือโครงการแลว้ เสร็จจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนคุม้ ค่าต่อ การลงทุน (Goodman and Love, 1980 ; อา้ งถงงใน ปกรณ์ ปรียากร. 2548 : 65-66) การศงกษาความ เป็ นไปได้จงงเป็ นการมุ่งเน้นท่ีจะประเมินความคุ้มค่าของโครงการเป็ นการรวบรวมขอ้ มูลของ โครงการในส่ วนที่เก่ียวข้องกับความเหมาะสมของโครงการกับความต้องการรับบริ การ จากโครงการของกลุ่มเป้ าหมาย ความคุม้ ค่าของผลท่ีพงงไดร้ ับจากโครงการเม่ือเปรียบเทียบค่าใชจ้ า่ ย ท่ีจะตอ้ งสูญเสียไปในการดาเนินโครงการ และความเหมาะสมของระยะเวลาการดาเนินโครงการ ใหแ้ ลว้ เสร็จเมื่อเปรียบเทียบกบั กิจกรรมหรืองานต่าง ๆ ที่กาหนดไวใ้ นโครงการ สรุป การศงกษาความเป็นไปไดข้ องโครงการเป็นกระบวนการจดั หาขอ้ มลู เพือ่ ใช้ ตรวจสอบความเหมาะสม และความคุ้มค่าของผลท่ีจะเกิดข้งนจากโครงการซ่งงจะนาไปสู่ การตดั สินใจของผูม้ ีอานาจในการตดั สินใจเกี่ยวกบั การจดั ทาโครงการอย่างสมเหตุสมผลและมี ความรอบคอบมากยง่ิ ข้งน 3.2.2 วตั ถุประสงค์ของการศึกษาความเป็ นไปได้ของโครงการ วตั ถุประสงค์ของการศงกษาความเป็ นไปได้ของโครงการก็คือ การมุ่ง แสวงหาความรู้และความจริงตามหลกั วิชาการ หลกั เศรษฐกิจ การเมือง สังคม วฒั นธรรมและ ส่ิงแวดล้อม แล้วแต่กรณีว่าหากมีการนาโครงการที่จดั ทาข้งนไปปฏิบตั ิจะมีผลดี ผลเสียอย่างไร
97 มีประโยชน์หรือมีความคุ้มค่าหรือไม่เพียงใด และมีทางที่จะทาให้บรรลุผลสาเร็จได้อย่างไร รายงานผลการประเมินความเป็ นไปได้จะเป็ นข้อมูลและสารสนเทศช่วยให้ผูม้ ีอานาจสามารถ ตดั สินใจเกี่ยวกบั โครงการน้นั ๆ ไดถ้ ูกตอ้ ง (กลา้ ทองขาว. 2551 : 7) ซ่งง ปกรณ์ ปรียากร (2548 : 67) ใหท้ ศั นะถงงเหตุผลความจาเป็ นท่ีตอ้ งศงกษาความเป็ นไปไดข้ องโครงการวา่ (1) เพ่ือตรวจสอบ ว่าส่ิงต่าง ๆ ที่กาหนดไวใ้ นโครงการมีความเป็ นไปได้ (Feasible) ที่จะประสบผลสาเร็จตาม วตั ถุประสงคห์ รือไม่ (2) เพื่อประเมิน (Appraisal) ว่าโครงการท่ีกาหนดไวน้ ้นั ควรลงทุนหรือไม่ และ (3) เพือ่ ใชเ้ ป็นแนวทางในการกาหนดรายละเอียดดา้ นต่าง ๆ ในข้นั การวางแผนดาเนินงาน สรุป การศงกษาความเป็ นไปไดข้ องโครงการมีวตั ถุประสงค์เพื่อตรวจสอบความ พร้อมในดา้ นต่าง ๆ ท่ีเก่ียวกบั การจดั ทาและดาเนินโครงการวา่ มีโอกาสที่จะประสบผลสาเร็จตาม วตั ถุประสงคห์ รือไม่ อยา่ งไร จะช่วยสร้างความเชื่อมนั่ ตอ่ การตดั สินใจลงทุนดาเนินโครงการวา่ จะ คุม้ ค่าหรือไม่ เพียงใด ท้งั น้ีก็เพื่อใหก้ ารตดั สินใจเก่ียวกบั การดาเนินโครงการมีความรอบคอบและ สามารถหลีกเลี่ยงภาวะความเส่ียงท่ีจะเกิดข้งนในอนาคต 3.2.3 เทคนิควธิ ีในการศึกษาความเป็ นไปได้ของโครงการ เทคนิควิธีในการศงกษาความเป็ นไปได้ของโครงการอาจจาแนกได้ 3 วิธี ดงั น้ี 3.2.3.1 การใช้ดุลยพินิจในการศงกษาความเป็ นไปได้ เป็ นการศงกษา ความเป็ นไปได้ในการดาเนินกิจกรรมของโครงการ โดยใช้การวิเคราะห์กิจกรรมในแผนแกน้ ท์ (Gantt chart) ซ่งงเป็ นการแสดงกระบวนการดาเนินโครงการออกเป็ นกิจกรรมยอ่ ย ๆ ตามลาดบั กิจกรรมที่จะตอ้ งปฏิบตั ิตามช่วงเวลาแสดงอยู่ในรูปแผนภูมิแท่ง แผนภูมิดงั กล่าวจะทาให้เห็น ความสัมพนั ธ์ของกิจกรรมและเวลาท่ีต้องปฏิบตั ิแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดโครงการ การศงกษาความ เป็ นไปได้ของการดาเนินกิจกรรมดังกล่าว โดยหน่วยงานหรือบุคลากรท่ีร่วมกันรับผิดชอบ โครงการร่วมกนั พิจารณาว่า ตามเงื่อนไขของเวลากิจกรรมท่ีกาหนดและทรัพยากรที่จะได้รับ มีความเป็ นไปไดใ้ นการปฏิบตั ิจริงมากน้อย เพียงใด วิธีการพิจารณาอาจใชก้ ารประชุมเชิงวิพากษ์ เพ่ือให้ไดข้ อ้ สรุปความเป็ นไปไดแ้ ละขอ้ เสนอแนะต่อการปรับปรุงกิจกรรม เวลาและทรัพยากรที่ ตอ้ งใชใ้ นการดาเนินโครงการหรือใชก้ ารสารวจ การสอบถามจากผเู้ กี่ยวขอ้ งกบั โครงการก็ได้ 3.2.3.2 การสารวจความเป็นไปไดข้ องโครงการ โดยใชว้ ิธีการวิจยั เชิงสารวจ หรือพรรณนา เพ่ือมุ่งศงกษาขอ้ เท็จจริงเกี่ยวกบั ความเป็ นไปไดข้ องโครงการ จากกลุ่มตวั อยา่ งหรือ ผูใ้ ห้ข้อมูลสาคัญที่เก่ียวข้องกับโครงการว่า โครงการที่จะดาเนินงานน้ันมีความเป็ นไปได้ ในเชิงปฏิบตั ิมากนอ้ ยเพียงใด โดยพิจารณาท้งั ในดา้ นกิจกรรม วธิ ีการ และระยะเวลาการดาเนินงาน โอกาส การจดั ทรัพยากรหรือปัจจยั สนบั สนุนโครงการ หากผลการศงกษาบ่งช้ีวา่ กิจกรรม วิธีการ และระยะเวลาการดาเนินงานมีความเป็ นไปไดน้ อ้ ย อาจตอ้ งปรับกิจกรรม วธิ ีการ และระยะเวลาให้ เอ้ือต่อกนั รวมท้งั หากปัจจยั ที่จะได้รับมีโอกาสท่ีจะเป็ นไปได้ยากที่จะทาให้โครงการประสบ
98 ผลสาเร็จ อาจตอ้ งตดั สินใจเก่ียวกบั การดาเนินโครงการ เช่น ปรับเพิ่มทรัพยากร ปรับลดกิจกรรม ชะลอการดาเนินโครงการไวก้ ่อน เป็นตน้ 3.2.3.3 การทดลองความเป็ นไปไดข้ องโครงการ เป็ นการศงกษาโดยอาศยั รูปแบบการวิจยั เชิงทดลองในลกั ษณะโครงการนาร่อง (Pilot Study) เพ่ือศงกษาความเหมาะสม ความเป็ นไปของโครงการก่อนที่จะดาเนินโครงการเต็มรูปแบบ การศงกษาในกรณีน้ีเพื่อตรวจสอบ ความเป็ นไปได้ท้ังกิจกรรม วิธีดาเนินการ ระยะเวลา บุคลากร และทรัพยากรอื่น ๆ ที่ใช้ ในโครงการว่า จะสามารถดาเนินโครงการบรรลุผลตามวตั ถุประสงค์ได้มากน้อย เพียงใด ผลการศงกษาจะช่วยให้ได้ขอ้ มูลบ่งช้ีถงงความเป็ นไปได้ของโครงการที่จะเป็ นประโยชน์ต่อการ ตดั สินใจของผบู้ ริหารและผรู้ ับผดิ ชอบโครงการต่อไป 3.2.4 แนวปฏิบัติในการศึกษาความเป็ นไปได้ของโครงการ ในการศงกษาความเป็นไปไดข้ องโครงการ มีแนวปฏิบตั ิดงั น้ี 3.2.4.1 ศงกษาและอธิบายสถานการณ์ท่ัวไปของการจัดทาโครงการว่า มีเหตุผลความจาเป็นอยา่ งไร โครงการท่ีจะจดั ทาจะก่อใหเ้ กิดผลอะไร ใครบา้ งที่จะไดร้ ับผลกระทบ จากโครงการ 3.2.4.2 อธิบายสถานการณ์ของการตัดสินใจ โดยระบุผูท้ ี่มีอานาจหรือ มีบทบาทในการตัดสินใจเกี่ยวกับโครงการท่ีจะจัดทาว่ามีใครบ้าง และอยู่ในข้ันตอนใดของ การดาเนินโครงการ 3.2.4.3 รวบรวมขอ้ มูลต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวขอ้ งต่อการตดั สินใจจดั ทาโครงการ เช่น ขอ้ มลู ทางดา้ นการเมือง สงั คม วชิ าการ กฎหมายท่ีเกี่ยวขอ้ ง เป็นตน้ 3.2.4.4 ระบุขอ้ มูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวขอ้ งกบั โครงการ เช่น งบประมาณ ระยะเวลา บุคลากร วสั ดุอุปกรณ์ ความคิดเห็นของกลุ่มบุคคลท่ีมีตอ่ การจดั ทาโครงการ เป็นตน้ 3.2.4.5 พิจารณาโอกาสของความเป็ นไปได้ โดยใชข้ อ้ มูลจาก 4 ขอ้ ดงั กล่าว ขา้ งตน้ เป็ นฐานขอ้ มูลประกอบการพิจารณาถงงความเป็ นไปไดข้ องโครงการโดยใช้เทคนิควิธีการ ประชุม ปรงกษาหารือร่วมกนั ระหวา่ งผเู้ ช่ียวชาญต่าง ๆ และผเู้ กี่ยวขอ้ งกบั โครงการเพื่อตดั สินความ เป็นไปไดข้ องโครงการ หากพบวา่ มีความเป็ นไปไดก้ ็จะตดั สินใจดาเนินโครงการ แต่หากพบขอ้ มูล ไม่เพียงพอกจ็ ะตอ้ งวางแผนเพอื่ ศงกษาขอ้ มูลเพ่มิ เติมตอ่ ไป 3.2.4.6 หากจาเป็ นตอ้ งมีการทดลองทาโครงการนาร่องกบั กลุ่มย่อย ๆ ก่อน เพื่อให้เกิดความมน่ั ใจและสามารถดาเนินการไดจ้ ริง ก็ควรจดั ทาเป็ นโครงการนาร่องแลว้ ประเมิน โครงการนาร่องโดยเนน้ การประเมินความเป็ นไปไดท้ ่ีจะประสบความสาเร็จในการดาเนินโครงการ เตม็ รูปแบบต่อไป
99 สรุป การศงกษาความเป็นไปไดข้ องโครงการ เป็นการแสวงหาขอ้ มลู เก่ียวกบั ความ เป็ นไปไดข้ องโครงการวา่ สามารถจะนาไปสู่การปฏิบตั ิไดจ้ ริง เพียงใด โดยมุ่งศงกษาความเป็ นไป ได้ท้งั ในด้านเศรษฐกิจ การเงิน เทคนิควิธีดาเนินโครงการ ความพร้อมและความสามารถของ หน่วยงาน ท้งั น้ีเพอ่ื ใหม้ ีโอกาสประสบความสาเร็จ และเกิดความคุม้ ค่าตอ่ การดาเนินโครงการ การประเมนิ ผลระหว่างการดาเนินโครงการ ในระหว่างการดาเนินโครงการ ผูบ้ ริหารโครงการจาเป็ นตอ้ งมีขอ้ มูลสารสนเทศสาหรับ การตดั สินใจเก่ียวกบั การดาเนินโครงการ ท้งั น้ีเพ่ือที่ไดท้ ราบวา่ การดาเนินโครงการเป็ นตามแผนท่ี กาหนดไวห้ รือไม่ มีความกา้ วหน้า หรือมีปัญหา อุปสรรคอะไรบ้าง ซ่งงจะได้ปรับปรุงแผนการ ดาเนินงาน หรือแก้ไขปัญหา อุปสรรคไดท้ นั เวลา หรือเร่งรัดการดาเนินงานให้มีความก้าวหน้า การดาเนินการดงั กล่าวเป็ นลกั ษณะของการประเมินระหวา่ งการดาเนินโครงการ ซ่งงมีสาระสาคญั ดงั น้ี 1. ความหมายของการประเมินระหว่างการดาเนินโครงการ การประเมินระหว่างการดาเนินโครงการ (Implementation Evaluation or Process Evaluation) เป็ นการประเมินการดาเนินงานเม่ือนาโครงการที่วางแผนไวแ้ ลว้ ไปปฏิบตั ิ ท้งั น้ีเพื่อ ศงกษาการปฏิบัติงานว่าเป็ นไปตามแผนที่กาหนดไว้หรือไม่ กิจกรรมใดทาได้หรือทาไม่ได้ เพราะเหตุใด มีจุดเด่น จุดด้อย มีปัญหาและอุปสรรคอะไรบ้าง (สมคิด พรมจุ้ย. 2550 : 40) เรียกการประเมินกรณีน้ีว่า การประเมินขณะดาเนินโครงการ เป็ นกระบวนการศงกษาข้อมูลเพื่อ ตรวจสอบการดาเนินงานวา่ เป็ นไปตามแผนหรือไม่ และไดผ้ ลเป็ นอยา่ งไรโดยเป็ นการตรวจสอบ ในระหว่างท่ีมีการดาเนินการไปแล้วระยะหน่งง แต่ยงั ไม่สิ้นสุดโดยอาจจะมีการตรวจสอบเป็ น ระยะ ๆ รัตนะ บวั สนธ์ (2540 : 7) ให้แนวคิดวา่ การประเมินผลโครงการขณะดาเนินการบางคร้ัง ก็เรี ยกว่า การประเมินกระบวนการโครงการ การประเมินกากับควบคุมโครงการ และ การประเมินผลย่อยของโครงการ ซ่งงตรงกบั คาในภาษาองั กฤษวา่ “Process Evaluation Program, Monitoring Evaluation Program และ Formative Evaluation Program” ตามลาดับ แต่ไม่ว่าจะ ใช้คาใดก็ตาม หมายถงง การประเมินผลโครงการที่กาลงั อยู่ในช่วงดาเนินการหรืออยู่ในช่วงการ ใช้โครงการโดยมีกิจกรรมต่าง ๆ กบั กลุ่มเป้ าหมายเพ่ือให้ได้ผลตามวตั ถุประสงค์ของโครงการ ท่ีกาหนดไว้ 2. ลกั ษณะของการประเมนิ ผลระหว่างการดาเนินโครงการ การป ระเมิ น ระห ว่างการดาเนิ น โครงการ มี ลักษ ณ ะส าคัญ โดยส รุ ป ดังน้ี (สุพกั ตร์ พบิ ูลยแ์ ละกานดา นาคะเวช. 2545 : 7)
100 2.1 เป็ นการประเมินในขณะท่ีโครงการกาลังดาเนินการอยู่ ซ่งงอาจเป็ นการดาเนิน โครงการคร้ังแรกหรือเป็ นการดาเนินโครงการต่อเน่ือง เช่น โครงการฝง กอบรมพฒั นาบุคลากรท่ีมี การจดั อบรมเป็ นรุ่น ๆ และมีแนวโน้มจะจดั ฝง กอบรมอยา่ งต่อเน่ืองต่อไปอีกหลายรุ่น โอกาสที่จะ ตัดสิ นใจยุติโครงการหรื อล้มเลิกโครงการมีน้อยมาก การประเมินในลักษณะดังกล่าวน้ี จงงมีแนวโนม้ ท่ีจะออกแบบการประเมินในลกั ษณะของการประเมินความกา้ วหนา้ 2.2 เป็ นการประเมินที่มุ่งศงกษากระบวนการดาเนินงาน ซ่งงอาจเป็ นการตรวจสอบว่า กิจกรรมหรืองานของโครงการเป็นไปตามแผนหรือไม่ หากการดาเนินงานไมเ่ ป็นไปตามแผนที่ตอ้ ง หาวิธีการปรับปรุงแก้ไขให้โครงการสามารถดาเนินงานไปได้ นอกจากน้ีอาจต้องศงกษาและ อุปสรรคในการดาเนินโครงการด้วย เพื่อนาผลการศงกษามาปรับปรุงแกไ้ ขปัญหาและอุปสรรค เพ่ือใหส้ ามารถดาเนินงานบรรลุตามวตั ถุประสงคข์ องโครงการได้ 2.3 เป็ นการประเมินท่ีมุ่งหาขอ้ มูลมาประกอบการตดั สินใจปรับปรุงกิจกรรมหรือการ ปฏิบตั ิในโครงการ ดงั น้นั ประเด็นที่มุ่งประเมินอาจเน้นมองยอ้ นกลบั ไปศงกษาในดา้ นความชดั เจน ความเหมาะสมของวตั ถุประสงค์ของโครง ความพร้อมในดา้ นปัจจยั พ้ืนฐานของโครงการรวมท้งั ศงกษาในเร่ืองปัจจยั ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ความสาเร็จในการดาเนินโครงการดว้ ย 2.4 เป็ นการประเมินที่เน้นการตรวจสอบความก้าวหน้าของผลการดาเนินโครงการว่า มีผลงานเป็ นไปตามเป้ าหมายหรือไม่ เพียงใด โดยอาจตรวจสอบท้งั ในดา้ นปริมาณและคุณภาพ ของผลงาน 3. วธิ ีการประเมินผลระหว่างการดาเนินโครงการ การประเมินในระหวา่ งการดาเนินโครงการ มีวธิ ีการประเมินในลกั ษณะต่อไปน้ี 3.1 การสารวจสภาพของโครงการ (Status Survey) เป็ นการศงกษาสภาพการดาเนิน โครงการในช่วงระยะเวลาหน่งง ๆ จากบุคลากรและผูป้ ฏิบตั ิงานในโครงการ เพื่อเป็ นการทบทวน การปฏิบตั ิงานของบุคลากรและสะทอ้ นสภาพการดาเนินงานเป็ นระยะ ๆ ให้แก่บุคคลภายนอก โครงการโดยเน้นการสารวจเฉพาะกิจกรรมสาคญั แต่เน้นด้านประสิทธิภาพของบุคลากรและ ความสาเร็จขององค์ประกอบท่ีสาคญั ในโครงการ ซ่งงมีจุดมุ่งหมายเพื่ออธิบายให้เห็นสภาพการ ดาเนินงานของโครงการในปัจจุบนั วธิ ีการประเมินใชฐ้ านความคิดของการวจิ ยั เชิงสารวจ ซ่งงมีการ วางแผนการประเมิน สร้างเครื่องมือและเก็บรวบรวมขอ้ มูล วิเคราะห์ขอ้ มูล สรุปผลการประเมิน และนาผลการประเมินไปใช้ 3.2 การตรวจสอบการดาเนินงานตามแผน (Process Monitoring) เป็ นการตรวจสอบ ความกา้ วหนา้ ของโครงการวา่ การดาเนินกิจกรรมของโครงการเป็ นไปตามระยะเวลาที่กาหนดไว้ ในแผนปฏิบตั ิงานหรือไม่ รวมท้งั การพิจารณาถงงสาเหตุที่ทาใหง้ านมีความล่าชา้ ไมเ่ ป็ นไปตามแผน ที่กาหนดไว้ การตรวจสอบการดาเนินงานตามแผนจงงมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การดาเนินโครงการ เป็ นไปตามแผนท่ีกาหนดไว้ และมีความก้าวหน้าในการดาเนินงาน วิธีการตรวจสอบอาจใช้การ
101 ตรวจสอบโดยผปู้ ฏิบตั ิงานในโครงการร่วมกนั พิจารณาจากสภาพการปฏิบตั ิจริงกบั แผนปฏิบตั ิงาน ท่ีไดก้ าหนดไว้ ซ่งงอาจใชก้ ารประชุมพจิ ารณาร่วมกนั หรือใชแ้ บบสอบถามกบั กลุ่มปฏิบตั ิงาน 3.3 การสารวจปัญหาและอุปสรรคในการดาเนินงาน (Problem Survey) เป็ นการ สารวจความเห็นของผปู้ ฏิบตั ิงานในประเด็นของปัญหาและอุปสรรคท่ีทาให้การดาเนินโครงการ ไม่เป็นไปตามแผนท่ีกาหนด หรือไมม่ ีความกา้ วหนา้ ในการดาเนินโครงการ โดยมีจุดมุง่ หมายดงั น้ี 3.3.1 เพื่อสารวจปัญหาและอุปสรรคที่กลุ่มผู้ปฏิบัติงานมองเห็นตรงกันว่า เป็นอุปสรรคสาคญั ในการดาเนินโครงการ 3.3.2 เพื่อให้เกิดความเขา้ ใจระหว่างผูป้ ฏิบตั ิงานเก่ียวกบั ปัญหาในการทางาน ซ่งงจะนาไปสู่การหาแนวทางแกไ้ ขปัญหาร่วมกนั 3.3.3 เพื่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกิจกรรมหรือวธิ ีการดาเนินโครงการให้เหมาะสม มากข้งนและสามารถดาเนินโครงการในระยะต่อไปได้จนบรรลุผลสาเร็จตามวตั ถุประสงค์ของ โครงการ 3.3.4 เพ่ือคาดการณ์ล่วงหน้าเก่ียวกับปัญหาท่ีอาจจะเกิดข้งนในการดาเนิน โครงการในระยะต่อไป และหาแนวทางป้ องกนั หรือแกไ้ ขปัญหาใหท้ นั ทว่ งที วิธีการสารวจปัญหาและอุปสรรคในการดาเนินงาน ใช้แบบสารวจสภาพปัญหา และอุปสรรคในการดาเนินโครงการจากผปู้ ฏิบตั ิงานในโครงการ หรืออาจใช้การประชุมพิจารณา ร่วมกนั จากผบู้ ริหารและผปู้ ฏิบตั ิงานในโครงการ 3.4 การสารวจผลการดาเนินโครงการ (benefit survey) เป็นการสารวจความคิดเห็น ของบุคลากรในโครงการตลอดจนผูร้ ับบริการจากโครงการถงงผลท่ีเกิดข้งนในช่วงระยะเวลาการ ดาเนินโครงการ ซ่งงอาจจะเป็ นท้งั ผลตามวตั ถุประสงคข์ องโครงการหรือผลที่เกิดข้งนนอกเหนือจาก วตั ถุประสงคข์ องโครงการ โดยมีจุดมุ่งหมายเพ่ือหาหลกั ฐานอธิบายเชื่อมโยงถงงความสาเร็จของ โครงการในช่วงระหว่างการดาเนินโครงการ วิธีการสารวจผลการดาเนินโครงการ ทาได้โดยใช้ วิธีการวิจยั เชิงสารวจความคิดเห็นของบุคลากรที่เก่ียวขอ้ งในโครงการ ตรวจสอบผลท่ีเกิดข้งนได้ โดยเทียบวตั ถุประสงคข์ องโครงการ 4. ข้ันตอนการประเมนิ ผลระหว่างการดาเนินโครงการ การประเมินระหวา่ งการดาเนินโครงการ มีข้นั ตอนการดาเนินงาน ดงั น้ี 4.1 การเตรียมการประเมิน การเตรียมการประเมินเป็ นข้นั ตอนเร่ิมตน้ ท่ีจะประเมิน ซ่งงจะตอ้ งศงกษาสิ่งท่ีมุ่ง ประเมินกาหนดวตั ถุประสงค์ของการประเมิน และศงกษาแนวคิดและรูปแบบการประเมิน ซ่งงมีสาระสาคญั ดงั น้ี
102 4.1.1 การวเิ คราะห์โครงการท่ีมุ่งประเมิน เป็ นการวิเคราะห์เพ่ือใหท้ ราบลกั ษณะ ส่วนประกอบของโครงการ กิจกรรมและวิธีการดาเนินโครงการว่าเป็ นอย่างไร การวิเคราะห์ โครงการท่ีมุ่งประเมินมีความเขา้ ใจเก่ียวกบั โครงการที่จะประเมินได้ชดั เจน สามารถที่จะนาไป กาหนดเป็ นวตั ถุประสงค์ของการประเมิน ออกแบบและวางแผนการประเมินได้ดีย่ิงข้งน วิธีการ วเิ คราะห์โครงการท่ีมุ่งประเมินทาไดโ้ ดยการอ่านพิจารณาเอกสารโครงการแลว้ สรุปสาระประเด็น ที่สาคญั ท่ีจะนาไปใชเ้ ป็นฐานความคิดในการกาหนดวตั ถุประสงคแ์ ละการวางแผนการประเมิน 4.1.2 การกาหนดวตั ถุประสงค์ของการประเมิน วตั ถุประสงค์ของการประเมิน จะบ่งช้ีทิศทางในการประเมินโครงการน้นั ๆ วา่ ตอ้ งการศงกษาหรือคน้ หาคาตอบในเรื่องอะไรบา้ ง ซ่งงเป็ นตวั แปรที่ศงกษาหรือตวั บ่งช้ีการประเมิน วตั ถุประสงค์ของการประเมินที่เน้นการประเมินท่ี เนน้ การประเมินระหวา่ งการดาเนินโครงการ อาจกาหนดไดด้ งั ตวั อยา่ ง ต่อไปน้ี 4.1.2.1 เพื่อประเมินการปฏิบตั ิงานของโครงการห้องสมุดประชาชนท่ีมีชีวติ 4.1.2.2 เพ่ือประเมินกระบวนการดาเนินงานของโครงการอนุรักษ์และฟ้ื นฟู ศิลปวฒั นธรรมพ้ืนบา้ น “ดาระ” สานสายใยสู่ชุมชน 4.1.2.3 เพื่อประเมินกระบวนการของโครงการพฒั นาคุณภาพการศงกษาสาหรับ นกั เรียนที่มีปัญหาทางการเรียนรู้ในโรงเรียนประถมศงกษา สังกดั สานกั งานเขตพ้ืนที่การศงกษาพะเยา เขต 2 4.1.2.4 เพื่อประเมินความกา้ วหนา้ ของโครงการรณรงค์เพื่อป้ องกนั และแกไ้ ข ปัญหาโรคเอดส์ 4.1.2.5 เพ่ือศงกษาปัญหาและอุปสรรคในการดาเนินโครงการ “โรงเรียนสวย ดว้ ยมือเรา” 4.1.3 การศงกษาแนวคิดและรูปแบบการประเมิน การศงกษาแนวคิดและรูปแบบการ ประเมินจะทาให้นักประเมินมีฐานความรู้ ความคิดท่ีสาคัญในการดาเนินการประเมินได้ดี เพราะแนวคิดและรูปแบบการประเมินท่ีผรู้ ู้ นกั วชิ าการดา้ นการประเมินไดค้ ิด พฒั นาและเสนอไว้ จะเป็ นกรอบแนวคิดแนวทางช่วยให้การประเมินมีความคมชัดมากข้งน เมื่อนักประเมินได้ศงกษา เรียนรู้จากแนวคิดและรูปแบบการประเมินแล้วนามาประยุกต์ใช้ในการประเมินก็จะช่วยให้การ ประเมินมีความถูกตอ้ ง เหมาะสมมีความน่าเช่ือถือมากข้งน กรณีการประเมินระหว่างการดาเนิน โครงการน้ี อาจประยุกตใ์ ชแ้ นวคิดของรูปแบบการประเมินชิปของสตฟั เฟิ ลบีม โดยการประเมิน กระบวนการ ซ่งงเป็ นการประเมินการดาเนินงานเพ่ือนาโครงการที่วางแผนไวไ้ ปสู่การปฏิบตั ิ เป็ น การประเมินขณะดาเนินโครงการเพ่ือศงกษาจุดแข็ง จุดอ่อนปัญหาและอุปสรรคของการดาเนิน โครงการ สารสนเทศท่ีไดจ้ ากการประเมินกระบวนการจะช่วยให้ผูบ้ ริหารทราบความก้าวหน้า จุดแขง็ และจุดอ่อนของโครงการเพื่อการกากบั การตดั สินใจปรับปรุงวธิ ีดาเนินโครงการและเร่งรัด
103 การดาเนินงานให้บรรลุวตั ถุประสงค์ภายใตท้ รัพยากรและเวลาท่ีกาหนดไว้ (สุภมาส องั ศุโชติ. 2555 : 45) 4.2 การออกแบบและวางแผนการประเมนิ ข้นั ตอนน้ีเป็ นการตดั สินใจไวล้ ่วงหนา้ เกี่ยวกบั วิธีดาเนินการประเมิน โดยนกั ประเมิน จะตอ้ งออกแบบและวางแผนเพ่ือกาหนดแหล่งขอ้ มูล ผใู้ หข้ อ้ มูลสาคญั หรือกลุ่มตวั อยา่ งวา่ ในการ ประเมินระหว่างการดาเนินโครงการน้ัน ผูท้ ี่จะให้ขอ้ มูลหรือตอบคาถามการประเมินเกี่ยวกับ ความกา้ วหนา้ ปัญหาและอุปสรรคในการดาเนินงานควรจะเป็ นใครบา้ ง มีจานวนเท่าไรหรืออาจจะ เป็ นแหล่งขอ้ มูลประเภทเอกสารท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การดาเนินโครงการ หลงั จากไดอ้ อกแบบกาหนด แหล่งข้อมูลประเภทเอกสารท่ีเก่ียวข้องกับการดาเนินโครงการ หลังจากได้ออกแบบกาหนด แหล่งข้อมูล ข้นั ตอนต่อไปจะต้องออกแบบการวดั ตวั แปรหรือสิ่งท่ีต้องประเมิน และกาหนด เคร่ืองมือเก็บรวบรวมขอ้ มูลให้เหมาะสมหลงั จากน้นั จงงออกแบบการวเิ คราะห์ขอ้ มูลให้สอดคลอ้ ง เหมาะสมกบั ลกั ษณะของขอ้ มลู โดยทวั่ ไปการวางแผนการประเมินจะจดั ทาเป็ นโครงการประเมิน ซ่งงมีส่วนประกอบ สาคญั ตามที่กาหนดไวโ้ ดยเฉพาะอย่างยิง่ การออกแบบการประเมินท้งั 3 ส่วนคือออกแบบการสุ่ม ตวั อย่างหรือกาหนดผูใ้ ห้ข้อมูล ออกแบบการวดั ตัวแปรหรือส่ิงที่มุ่งประเมิน และออกแบบ การวเิ คราะห์ขอ้ มลู จะปรากฏอยใู่ นโครงการ 4.3 การดาเนินการประเมนิ การดาเนินการประเมินมีข้นั ตอนการดาเนินงาน ดงั น้ี 4.3.1 การพัฒนาเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล โดยดาเนินการสร้างและตรวจสอบ คุณภาพเคร่ืองมือเก็บรวบรวมข้อมูลตามลักษณะ วิธีการสร้างและการตรวจสอบคุณภาพ ของเครื่องมือแต่ละชนิดโดยจะต้องพัฒนาเคร่ืองมือให้ครอบคลุมครบถ้วนตามที่ระบุไวใ้ น โครงการประเมิน และจดั ทาเครื่องมือฉบบั สมบูรณ์พร้อมใชเ้ ก็บรวบรวมขอ้ มลู ตอ่ ไป 4.3.2 การเก็บรวบรวมข้อมูล ดาเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้เครื่องมือ แต่ละชนิดซ่งงจะตอ้ งวางแผนการเก็บรวบรวมขอ้ มูลให้ชดั เจนวา่ จะเก็บขอ้ มูลโดยใชเ้ คร่ืองมือชนิด ใดและเก็บเม่ือไร ในการประเมินความกา้ วหนา้ ของโครงการซ่งงมีจุดมุ่งหมายเพ่อื ใหไ้ ดส้ ารสนเทศ สาหรับการตัดสิ นใจอย่างทันท่วงที ในบางกรณี อาจใช้การเก็บรวบรวมข้อมูลในลักษณะ การประชุมติดตามความกา้ วหนา้ หรือจดั ระบบกลไกของการบริหารโครงการ โดยให้ผรู้ ับผดิ ชอบ โครงการายงานความกา้ วหน้า ปัญหาและอุปสรรคของการดาเนินโครงการเป็ นระยะ ๆ ขอ้ มูลจาก ผลการประชุมหรือรายงานความก้าวหน้าเหล่าน้ี ผูบ้ ริหารและผูเ้ กี่ยวข้องสามารถนามาใช้ ประกอบการตดั สินใจปรับปรุงหรือแกป้ ัญหา อุปสรรคในการบริหารจดั การโครงการใหท้ นั ทว่ งที
104 4.3.3 การวิเคราะห์ข้อมูล ขอ้ มูลท่ีเก็บมาได้โดยเคร่ืองมือชนิดต่าง ๆ นักประเมิน จะตอ้ งจดั กระทาและวเิ คราะห์ขอ้ มูลใหเ้ ป็ นระบบ ขอ้ มูลเชิงปริมาณจะใชว้ ิธีการวิเคราะห์ทางสถิติ ซ่งงจะต้องเลือกใช้สถิติวิเคราะห์ให้ถูกต้อง เหมาะสมกับลักษณะของข้อมูล และตรงตาม วตั ถุประสงคข์ องการประเมิน ส่วนขอ้ มลู เชิงคุณภาพจะวเิ คราะห์ดว้ ยวธิ ีการวเิ คราะห์เน้ือหา 4.4 การสรุปและนาเสนอผลการประเมนิ เป็ นข้นั ตอนท่ีนกั ประเมินตอ้ งสรุปผลการประเมินโดยการเปรียบเทียบกบั เกณฑ์การ ประเมินเพ่ือให้ได้ข้อสรุปว่า ผลการประเมินระหว่างการดาเนินโครงการคร้ังน้ีเป็ นอย่างไร โดยจะต้องตอบตามวตั ถุประสงค์ของการประเมิน คาตอบผลการประเมินในกรณีการประเมิน ระหว่างการดาเนิ นโครงการที่ควรได้รับคือ การดาเนิ นโครงการเป็ นไปตามแผนหรื อ มีความก้าวหน้าหรือไม่ เพียงใด มีผลที่เกิดข้งนในช่วงระยะการดาเนินโครงการอะไรบา้ งหรือไม่ รวมท้งั มีปัญหาและอุปสรรคอะไรบา้ ง จะมีแนวทางแกไ้ ขอยา่ งไร ขอ้ สรุปผลการประเมินเหล่าน้ีจะ ไดน้ าเสนอต่อผบู้ ริหารและผเู้ ก่ียวขอ้ งเพ่ือนาไปสู่การตดั สินใจปรับปรุงเกี่ยวกบั กระบวนการดาเนิน โครงการต่อไป ท้งั น้ีควรใชป้ ระโยชน์จากขอ้ มูลผลการประเมินเพื่อการกากบั เร่งรัดให้การดาเนิน โครงการเป็ นไปตามแผน ปรับปรุงแผนงาน กิจกรรมให้เหมาะสมกบั ช่วงระยะเวลาท่ีจะดาเนิน โครงการต่อไป รวมท้งั แกไ้ ขปัญหา อุปสรรคท่ีเกิดข้งนให้หมดไป มิฉะน้นั การประเมินก็จะไม่เกิด ประโยชนแ์ ต่อยา่ งใดต่อการบริหารโครงการในระยะตอ่ ไป การประเมนิ ผลหลงั การดาเนินโครงการ การประเมินหลงั การดาเนินโครงการเป็ นกิจกรรมสาคญั ท่ีจะช่วยให้ไดข้ อ้ มูลสารสนเทศ เกี่ยวกับการดาเนินโครงการเมื่อโครงการสิ้นสุดแล้วซ่งงจะช่วยให้ผูบ้ ริหารหรือผู้รับผิดชอบ โครงการสามารถตดั สินใจเกี่ยวกบั อนาคตของโครงการดว้ ยความรอบคอบว่า จะดาเนินโครงกร ต่อไป ยุติหรือยกเลิกโครงการ การประเมินหลงั การดาเนินโครงการจะช่วยให้ทราบผลท่ีเกิดข้งนว่า เป็ นไปตามวตั ถุประสงค์หรือเป้ าหมายของโครงการหรือไม่ มีผลกระทบที่เกิดข้งนตามมาหรือไม่ ผลผลิตท่ีไดจ้ ากโครงการมีความคุม้ ค่าหรือไม่เพียงใด การประเมินหลงั จากดาเนินโครงการจะเป็ น ส่ิงที่ช่วยให้นักประเมินหรือผูบ้ ริหารหรือได้คาตอบท่ีต้องการ และนาไปสู่การตดั สินใจในการ บริหารโครงการในโอกาสตอ่ ไปไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพมากข้งน การประเมินหลังจากการดาเนินโครงการ เป็ นการประเมินผลสรุปรวมเม่ือสิ้นสุ ด โครงการโดยมุ่งประเมินผลผลิตหรือผลสัมฤทธ์ิของโครงการ ซ่งงรัตนะ บัวสนธ์ (2540 : 89) ใหค้ วามหมายวา่ เป็นการประเมินภายหลงั จากที่ไดน้ าโครงการไปดาเนินงานกบั กลุ่มเป้ าหมายครบ ตามระยะเวลาท่ีกาหนดและออกแบบไว้ ส่ วน เยาวดี รางชัยกุล วิบูลย์ศรี (2542 : 102) ให้ความหมายวา่ เป็ นการประเมินเพ่ือวิเคราะห์ผลผลิตท้งั หมดท่ีเกิดข้งนเม่ือสิ้นสุดโครงการซ่งงจะ
105 ให้สารสนเทศที่จาเป็ นท้งั หมดแก่ผตู้ ดั สินใจและผวู้ างแผนเพื่อการวางแผนโครงการใหม่และเพื่อ เป็ นแนวทางการประเมินผลในอนาคตต่อไป สมคิด พรมจุย้ (2555 : 65) ให้ความหมายในชื่อของ “การประเมินผลสรุปรวม” ว่าเป็ นการสรุปในเชิงสาเหตุถงงคุณค่าของผลของโครงการหลงั จาก ที่โครงการไดเ้ สร็จสิ้นแลว้ จงงมีบทบาทในการใหข้ อ้ สรุป (Conclusion-oriented) ซ่งงเป็ นประโยชน์ ต่อการตดั สินใจเก่ียวกับอนาคตของโครงการ การเขียนรายงานการประเมินจงงควรเน้นการลง ขอ้ สรุปเกี่ยวกบั คุณคา่ ของโครงการและผลลพั ธ์ที่ได้ บทสรุป การประเมินผลผลก่อน ระหว่างและหลังการปฏิบัติตามโครงการ เป็ นการศงกษาว่า โครงการท่ีจดั ทามีคุณค่า เป็ นประโยชน์สอดคล้องสนองตอบความตอ้ งการจาเป็ นขององค์กร ผรู้ ับบริการหรือผเู้ ก่ียวขอ้ งมากนอ้ ยเพยี งใด เนื่องจากในการจดั ดาเนินโครงการแต่ละคร้ังตอ้ งลงทุน ใช้ทรัพยากรท้ังเงิน คน วสั ดุ อุปกรณ์ อาคารสถานที่และเวลา ดังน้ันเพื่อให้ได้ขอ้ มูลสนเทศท่ี เพียงพอต่อการตดั สินใจ จงงทาการประเมินผลโครงการก่อน ระหว่างเและหลังการปฏิบตั ิตาม โครงการซ่งงมีรายละเอียดที่สาคญั คคือ 1) การประเมินผลก่อนการดาเนินโครงการ เป็ นการเก็บ รวบรวมข้อมูลเก่ียวกบั ความเหมาะสม ความเป็ นไปได้ในการนาโครงการไปใช้ดาเนินงานกบั กลุ่มเป้ าหมายก่อนท่ีจะดาเนินโครงการจริง จาเป็ นตอ้ งศงกษาาเพ่ือกาหนดโครงการก่อนการลงทุน เพื่อนาไปสู่ การวางแผนโครงการท่ีมีประสิ ทธิภาพ กิจกรรมสาคัญที่ควรดาเนินการ คือ การประเมินความตอ้ งการจาเป็ น (Needs Assessment) และการศงกษาความเป็ นไปไดข้ องโครงการ (Feasibility Study) 2) การประเมินผลระหวา่ งการดาเนินโครงการ เริ่มจาก การสารวจสภาพของ โครงการ (Status Survey) การตรวจสอบการดาเนิ นงานตามแผน (Process Monitoring) การสารวจปัญหาและอุปสรรคในการดาเนินงาน (Problem Survey) การสารวจผลการดาเนิน โครงการ (benefit survey) มีข้นั ตอนการดาเนินงาน ดงั น้ี การเตรียมการประเมิน การออกแบบ และวางแผนการประเมิน การดาเนินการประเมิน การสรุ ปและนาเสนอผลการประเมิน ส่วน การประเมินหลงั การดาเนินโครงการเป็ นกิจกรรมสาคญั ท่ีจะช่วยให้ได้ขอ้ มูลสารสนเทศ เก่ียวกับการดาเนินโครงการเม่ือโครงการสิ้นสุดแล้วซ่งงจะช่วยให้ผูบ้ ริหารหรือผู้รับผิดชอบ โครงการสามารถตดั สินใจเกี่ยวกบั อนาคตของโครงการต่อไป อยา่ งไรก็ตามการดาเนินการประเมินผลผลก่อน ระหวา่ งและหลงั การปฏิบตั ิตามโครงการ จาเป็ นจะตอ้ งดาเนินการเป็ นระบบ อย่างต่อเน่ืองและผูป้ ระเมินจะต้องนาข้อมูลท่ีได้ต้งั แต่ก่อน ดาเนินโครงการนามาใช้วางแผนในการจดั ทาโครงการ ขณะดาเนินโครงการตอ้ งทาการประเมิน อยา่ งเป็ นระบบและเมื่อสิ้นสุดโครงการสารสนเทศที่ไดจ้ ะทาให้ผูบ้ ริหารหรือผูม้ ีส่วนเก่ียวขอ้ ง นาขอ้ มลู ไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์เพื่อพฒั นาแผนงานโครงการในอนาคต
106 .คาถามท้ายบท 1. ใหน้ กั ศงกษาอธิบายการประเมินผลก่อนดาเนินโครงการดงั น้ี 1.1 ความหมายของการประเมินผลก่อนดาเนินโครงการ 1.2 ความสาคญั ของการประเมินผลก่อนดาเนินโครงการ 1.3 วธิ ีการประเมินผลก่อนดาเนินโครงการ 2. ใหน้ กั ศงกษาอธิบายการประเมินผลระหวา่ งดาเนินโครงการดงั น้ี 2.1 ความหมายของการประเมินผลระหวา่ งดาเนินโครงการ 2.2 ลกั ษณะของการประเมินผลระหวา่ งดาเนินโครงการ 2.3 วธิ ีประเมินผลระหวา่ งดาเนินโครงการ 2.4 ข้นั ตอนการประเมินผลระหวา่ งดาเนินโครงการ 3. ใหน้ กั ศงกษาอธิบายการประเมินผลหลงั ดาเนินโครงการเป็นอยา่ งไร
107 เอกสารอ้างองิ กลา้ ทองขาว. (2555). การประเมินความเป็ นไปได้ของนโยบายแผนงานและโครงการในประมวล สาระชุดวชิ าการประเมินนโยบาย แผนงานและโครงการ หน่วยท1่ี 2. นนทบุรี: มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช. เชิดศกั ด์ิ โฆวาสินธุ์ ( 2541 ). การพฒั นาคุณภาพการคิด. การวดั ผลการศึกษา.กรุงเทพมหานคร. ปกรณ์ ปรียากร. (2548). การบริหารโครงการ: แนวคิดและแนวทางในการสร้างความสาเร็จ. พมิ พค์ ร้ังที่ 7.กรุงเทพฯ: สานกั พมิ พเ์ สมาธรรม. รัตนะ บวั สนธ์. (2540). การประเมินโครงการ/การวจิ ัยเชิงปริมาณ. กรุงเทพฯ บริษทั คอมแพคทพ์ ริ้นท์ จากดั . สุพกั ตร์ พิบูลย.์ (2551). ชุดเสริมทกั ษะการประเมินโครงการ.นนทบุรี: จตุพรดีไซน์. สุพกั ตร์ พิบูลย์ และกานดา นาคะเวช. (2545). การประเมนิ ความก้าวหน้าในการดาเนินโครงการ. พิมพค์ ร้ังที่ 2 .นนทบุรี: มหาสุโขทยั ธรรมาธิราช สุวมิ ล วอ่ งวาณิช. (2544). คู่มือการประเมนิ ผลภายในของสถานศึกษาตามมาตรฐานการศึกษา: การออกแบบระบบการประเมนิ ผลภายใน (คร้ังท่ี2). กรุงเทพฯ: หา้ งหุน้ ส่วนจากดั วที ีซี คอมมิวนิเคชนั่ . สุภมาส องั ศุโชติ. (2555). รูปแบบการประเมินนโยบาย แผนงาน และโครงการ.นนทบุรี: มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช. สมคิด พรมจุย้ (2550). เทคนิคการประเมนิ โครงการ . กรุงเทพฯ: จตุพรดีไซน.์
109 แผนบริหารการสอนประจาบทท่ี 5 การเขยี นรายงานการประเมนิ ผลโครงการ 6 ช่ัวโมง หวั ข้อเนือ้ หา ความสาคญั ของรายงานการประเมินโครงการ ปัจจยั ท่ีทาใหก้ ารเขียนรายงานการประเมินโครงการมีคุณภาพ ส่วนประกอบของรายงานการประเมินโครงการ หลกั การเขียนรายงานการประเมินโครงการ กรณีศึกษาการเขียนรายงานการผลโครงการ เทคนิคการจดั ทารายงานประเมินผลโครงการ บทสรุป วตั ถุประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนสามารถอธิบาย ความสาคญั ของรายงานการประเมินโครงการได้ 2. เพ่ือใหผ้ เู้ รียนสามารถอธิบาย ปัจจยั ท่ีทาใหก้ ารเขียนรายงานการประเมินโครงการ มีคุณภาพและหลกั การเขียนรายงานการประเมินโครงการได้ 3. เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนสามารถอธิบาย ส่วนประกอบของรายงานการประเมินโครงการและ เทคนิคการจดั ทารายงานประเมินผลโครงการได้ 4. เพื่อใหผ้ เู้ รียนสามารถเขียนรายงานการประเมินผลโครงการได้ วธิ ีสอนและกจิ กรรมการเรียนการสอนประจาบท 1. บรรยายเน้ือหาในแตล่ ะหวั ขอ้ พร้อมยกตวั อยา่ งประกอบ 2. ศึกษาจากเอกสารประกอบการสอน 3. ผสู้ อนสรุปเน้ือหา 4. ทาแบบฝึกหดั เพือ่ ทบทวนบทเรียน 5. ผเู้ รียนถามขอ้ สงสัย 6. ผสู้ อนทาการซกั ถาม
110 สื่อการเรียนการสอน 1. เอกสารประกอบการสอนวชิ าการประเมินผลโครงการ 2. PowerPoint การเขียนรายงานการประเมินผลโครงการ การวดั ผลและประเมนิ ผล 1. ประเมินจากการซกั ถามในช้นั เรียน 2. ประเมินจากความร่วมมือและความรับผดิ ชอบตอ่ การเรียน 3. ประเมินจากการทาแบบฝึกหดั ทบทวนทา้ ยบทเรียน
111 บทที่ 5 การเขียนรายงานการประเมนิ ผลโครงการ การเขียนรายงานผลการดาเนินโครงการ จดั วา่ เป็ นข้นั ตอนสาคญั อีกประการหน่ึงของการ ประเมินโครงการ เป็ นการดาเนินการหลงั จากผรู้ ับผิดชอบโครงการไดท้ าการประเมินผลโครงการ เมื่อโครงการสิ้นสุดแลว้ จากน้นั จึงนาผลการประเมินมาเขียนเป็ นรายงานการประเมินโครงการ การเขียนรายงานโครงการ เป็ นวิธีส่ือความหมายท่ีมีประสิทธิภาพวธิ ีหน่ึงเพ่ือให้คนอื่น ๆ ไดเ้ ขา้ ใจ แนวความคิด วิธีดาเนินงานศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มูล ผลท่ีไดต้ ลอดจนขอ้ สรุป และขอ้ เสนอแนะต่าง ๆ เกี่ยวกบั โครงการน้นั โดยรวบรวมจากสมคิด พรมจุย้ ,2552: 1-12 ดงั รายละเอียดตอ่ ไปน้ี ความสาคญั ของรายงานการประเมนิ โครงการ 1. เป็ นเอกสารหลักฐานท่ีแสดงถึงสารสนเทศเกี่ยวกับการดาเนินงานและ ผลการ ดาเนินงานตามโครงการซ่ึงสะทอ้ นถึงประสิทธิภาพและประสิทธิผล ของการบริหารหน่วยงานน้นั 2. เป็ นสื่อกลางระหวา่ งผปู้ ระเมินกบั ผูใ้ ช้ผลการประเมิน ไดแ้ ก่ ผบู้ ริหาร ผเู้ ก่ียวขอ้ งและ ผสู้ นใจ 3. สามารถนาไปใชใ้ นการวางแผนและปรับปรุงการดาเนินงานในแผนงานหรือโครงการ ใหม้ ีประสิทธิภาพยง่ิ ข้ึน 4. ก่อให้เกิดการขยายผลองค์ความรู้ในด้านการประเมินไปยงั ศาสตร์สาขาต่างๆ เช่น ดา้ นการบริหาร การวางแผนและการประเมินทาใหศ้ าสตร์เหล่าน้ีมีความชดั เจนและมีความเขม้ แขง็ มากข้ึน ปัจจัยทที่ าให้การเขยี นรายงานการประเมนิ โครงการมคี ุณภาพ การเขียนรายงานประเมินโครงการเป็ นกระบวนการในการตรวจสอบ และวิเคราะห์ส่วน สาคญั ของโครงการซ่ึงไดแ้ ก่ ขอ้ มูลนาเขา้ (Inputs) กระบวนการ (Process หรือ Transactions) และ ผลงาน (Outputs หรือ Outcomes) ดังท่ีได้กล่าวมาแล้ว ท้ังน้ีเพื่อปรับปรุงการดาเนินงานของ โครงการท้งั หมดโดยส่วนรวมให้ดาเนินงานอยา่ งมีประสิทธิภาพมากที่สุด อย่างไรก็ดีการเขียน รายงานประเมินโครงการเป็ นกระบวนการท่ีอาจมีความสลบั ซับซอ้ นแลว้ แต่ลกั ษณะของโครงการ ท่ีตอ้ งประเมิน และมีความละเอียดออ่ นที่ตอ้ งใชก้ ารพนิ ิจพิจารณาและความละเอียดรอบคอบในการ ดาเนินการ และการตดั สินใจ ฉะน้ันจึงมีสิ่งสาคญั หรือแนวคิดท่ีสาคญั ซ่ึงผูท้ ี่เขียนรายงานการ
112 ประเมินโครงการจะต้องคานึงถึง จึงจะทาให้การเขียนรายงานการประเมินโครงการบรรลุถึง เป้ าหมายที่ตอ้ งการอย่างแทจ้ ริง ส่ิงสาคญั ดงั กล่าวไดแ้ ก่ ขอ้ เท็จจริง คุณประโยชน์ ความถี่ ขอ้ มูล ยอ้ นกลบั ความผกู พนั ความน่าเช่ือถือ วตั ถุประสงค์ มาตรฐาน ความจาเป็ น และคุณค่า ซ่ึงสามารถ อธิบายพอสังเขปไดด้ งั น้ี 1. ข้อเท็จจริง (Evidence) หมายถึง รายละเอียด และขอ้ เท็จจริงต่างๆท่ีได้จากการเขียน รายงานการประเมินโครงการทุกชนิดตอ้ งใช้เวลา แรงงาน และทุนทรัพยเ์ ป็ นจานวนมากในการ จดั ต้งั และดาเนินงาน ความผดิ พลาดในการวเิ คราะห์รายละเอียดและขอ้ เทจ็ จริงที่จาเป็น อาจนาไปสู่ การตัดสินใจที่ผิดพลาดหรือขาดประสิ ทธิภาพ และทาให้โครงการที่กาหนดข้ึนหรือกาลัง ดาเนินงานอยู่น้ันขาดประสิทธิผลและประสิทธิภาพ หรืออาจล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ฉะน้ันการ ประเมินโครงการจะตอ้ งไดร้ ายละเอียดท่ีเป็นจริง และมีเหตุผลอยา่ งเพยี งพอ 2. คุณประโยชน์ (Benefit) หมายถึง การเขียนรายงานการประเมินโครงการน้นั จะตอ้ งคานึง ดว้ ยวา่ การลงทุนกบั ผลประโยชน์ท่ีจะไดร้ ับคุม้ กนั หรือไม่ ถา้ เป็ นการประเมินโครงการที่ไม่ให้ ประโยชน์กบั สงั คมโดยส่วนรวมก็ไม่ควรจะลงทุน เพราะการประเมินผลโครงการน้นั มกั จะตอ้ งเสีย ค่าใช้จ่ายค่อนขา้ งสูง ถา้ ประเมินแลว้ ผลท่ีไดไ้ ม่เกิดประโยชน์ หรือเป็ นผลท่ีไม่อาจเชื่อถือไดก้ าร ประเมินโครงการน้ันจะเป็ นการสูญเปล่า ฉะน้นั การประเมินโครงการทุกโครงการ และทุกคร้ังท่ี จะตอ้ งประเมิน ผปู้ ระเมินจะตอ้ งคานึงถึงความคุม้ ทุน หรือผลประโยชน์ที่จะไดร้ ับเป็ นสาคญั จึงจะ ทาใหค้ ุณภาพของการประเมินเป็ นไปตามความมุ่งหวงั ที่ตอ้ งการ และเป็ นวธิ ีการประเมินโครงการ ที่ถูกตอ้ งและมีประสิทธิภาพ 3. ความถ่ี (Frequency) หมายถึง ในการเขียนรายงานการประเมินโครงการควรจะมีความถี่ ในการรวบรวมขอ้ มูลบ่อยคร้ังเพียงใด ยอ่ มตอ้ งข้ึนอยกู่ บั ลกั ษณะของโครงการเป็ นสาคญั หากเป็ น โครงการระยะยาว การเกบ็ ขอ้ มูลจะตอ้ งไดร้ ับการกาหนดไวเ้ ป็ นระยะอาจเป็ นทุก 6 เดือน ทุกรอบปี หรือแลว้ แต่ความเหมาะสม แต่จะตอ้ งมีการเกบ็ รวบรวม และการวเิ คราะห์อยา่ งตอ่ เนื่อง ท้งั น้ีเพื่อให้ ขอ้ มูลมีความเป็ นจริงทนั สมยั จึงจะทาให้การวิเคราะห์ขอ้ มูลมีความถูกตอ้ ง ฉะน้นั จึงอาจจะกล่าว ได้ว่าความถี่ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เป็ นส่ิงสาคญั ประการหน่ึงท่ีผูม้ ีหน้าท่ีในการประเมิน โครงการจะตอ้ งคานึงถึง 4. ข้อมูลย้อนกลับ (Feedback) หมายถึง ในการเขียนรายงานการประเมินโครงการน้ัน ผปู้ ระเมินจะตอ้ งพิจารณาขอ้ มูลยอ้ นกลบั ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ท้งั น้ีเพ่ือจะไดป้ รับปรุงโครงการได้ ทนั ท่วงที ขอ้ มูลยอ้ นกลบั อาจเป็ นอุปสรรค ปัญหา ผลดีหรือผลเสียต่างๆอนั เกิดจากการดาเนินงาน โครงการ ถา้ เปนขอ้ มูลยอ้ นกลบั ท่ีไม่ดีผูป้ ระเมินโครงการก็จะวิเคราะห์และนาเสนอต่อผมู้ ีอานาจ ตดั สินใจ เพ่ือการปรับปรุงแกไ้ ขหรืออาจตดั สินใจเลิกลม้ โครงการน้ัน ถา้ เป็ นขอ้ มูลยอ้ นกลบั ที่ดี ผูป้ ระเมินโครงการก็จะวิเคราะห์ข้อมูลแล้วนาเสนอต่อผูม้ ีอานาจตัดสินใจเพื่อการปรับปรุง
113 โครงการให้ดีย่ิงข้ึน ฉะน้ันข้อมูลยอ้ นกลับจึงเป็ นสิ่งสาคัญท่ีผูป้ ระเมินโครงการและผูบ้ ริหาร โครงการจะตอ้ งคานึงถึงอยา่ งมากอยา่ งหน่ึง 5. ข้อผูกมัด (Commitment) หมายถึง การเขียนรายงานการประเมินผลโครงการจะตอ้ งมี บุคคลท่ีไดร้ ับผลกระทบและบุคคลท่ีจะตอ้ งมีส่วนเก่ียวขอ้ งดาเนินงาน รวมท้งั บุคคลที่จะตอ้ งนาผล การประเมินโครงการไปใช้ จะตอ้ งเป็ นผทู้ ี่มีพนั ธะหรือผกู พนั กบั การประเมินโครงการโดยตลอด ท้งั น้ีเพื่อให้ผลของการประเมินโครงการทีความเชื่อมนั่ หรือไม่ลาเอียง และผลของการประเมิน โครงการสามารถนาไปใชไ้ ดเ้ ป็ นอยา่ งดีมีประสิทธิภาพ เพราะทุกคนมีส่วนรับผิดชอบและยอมรับ ร่วมกัน ดังน้ันการผูกมัดบุคคลหลาบฝ่ ายให้มีส่วนร่วมย่อมเป็ นสิ่งสาคัญของกระบวนการ ประเมินผลโครงการ 6. ความเป็ นปรนัย (Objectivity) หมายถึง การเขียนรายงานการประเมินผลโครงการท่ีดี น้นั จะตอ้ งมีความเป็ นปรนยั หรือความตรงไปตรงมาสูง และความเป็ นปรนยั จะเกิดข้ึนไดย้ อ่ มตอ้ ง อาศยั บุคคลภายนอก หรือผูเ้ ช่ียวชาญในการประเมินเป็ นผูเ้ ขา้ มีส่วนร่วมและช่วยเหลือในการ ประเมิน ผูเ้ ช่ียวชาญอาจเป็ นอาจารยจ์ ากมหาวิทยาลยั หรือจากสถาบนั ที่ทีความชานาญด้านการ ประเมินโครงการโดยเฉพาะ ผูเ้ ช่ียวชาญซ่ึงเป็ นบุคคลภายนอกองค์การนอกจากจะช่วยขจดั การ ประเมินดว้ ยการคิดและนึกฝันเอาเอง หรือความลาเอียงของผปู้ ระเมินภายในองค์การแลว้ ยงั จะให้ ความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั การเก็บรวบรวมและการวิเคราะห์ขอ้ มูลดว้ ย ฉะน้นั ผปู้ ระเมินโครงการ พึงระลึกเสมอวา่ ความเป็ นปรนยั หรือความตรงไปตรงมาของการประเมินโครงการน้นั เกิดจากการ ประเมินของผรู้ ู้ หรือผเู้ ช่ียวชาญอีกประการหน่ึง 7. วัตถุประสงค์ (Objective) หมายถึง การเขียนรายงานประเมินโครงการจะต้องมี วตั ถุประสงค์ และรายละเอียดในการดาเนินงานอยา่ งชดั เจน อาจกล่าวไดว้ า่ การประเมินโครงการที่ มีวตั ถุประสงคไ์ ม่ชดั เจนเป้ นปัจจยั สาคญั ท่ีทาให้การพิจารณาตดั สินใจในการดาเนินงานโครงการ ผิดพลาด ความชดั เจนของวตั ถุประสงคไ์ ม่เพียวแต่จะช่วยให้การประเมินโครงการเป็ นไปดว้ ยดีมี ประสิทธิภาพเท่าน้ัน ยงั จะช่วยการดาเนินงานโครงการหรือการพฒั นาโครงการในลกั ษณะต่างๆ เป็ นไปดว้ ยดี พึงระลึกเสมอวา่ โครงการเป็ นจานวนมากเมื่อดาเนินการแลว้ ก่อใหเ้ กิดคุณประโยชน์ อยา่ งมาก เพราะความชดั เจนในวตั ถุประสงคข์ องโครงการเหล่าน้นั 8. มาตรฐาน (Standards) หมายถึง ในการเขียนรายงานการประเมินโครงการจะต้องมี มาตรฐานที่สามารถนาเอาผลงานท่ีเกิดข้ึนไปเปรียบเทียบได้ มาตรฐานที่ใชเ้ ปรียบเทียบมี 2 ลกั ษณะ คือมาตรฐานท่ีเป็นเกณฑแ์ น่นอนหรือเป็ นเกณฑ์ตายตวั (Absolute standard) ซ่ึงเป็ นเกณฑม์ าตรฐาน ท่ีกาหนดข้ึนแล้วเปลี่ยนแปลงยาก บางทีเรียกมาตรฐานชนิดน้ีว่า มาตรฐานแห่งความเป็ นเลิศ (Standard of Excellence) ส่วนมาตรฐานอีกลกั ษณะหน่ึงเรียกวา่ มาตรฐานท้งั สองลกั ษณะน้ีจะตอ้ ง
114 กาหนดโดยบุคคลท่ีมีความรู้ความสามารถในการประเมินผลโครงการ บุคคลทวั่ ไปไม่สามารถ กาหนดเกณฑม์ าตรฐานได้ 9. ความสอดคล้องสัมพันธ์ (Relevance) หมายความวา่ ขอ้ มูลที่เก็บรวบรวมและไดร้ ับการ คดั เลือกจะตอ้ งสอดคล้องหรือเหมาะสมกบั วตั ถุประสงค์ท่ีไดก้ าหนดไว้ และจะตอ้ งสอดคลอ้ ง สัมพันธ์กับโครงการท่ีต้องการเขียนรายงานประเมินด้วย น้ันคือการเก็บรวบรวมข้อมูลและ การวิเคราะห์ขอ้ มูลจะต้องเป็ นไปตามความเป็ นจริงของขอ้ มูลนาเขา้ (Inputs) ที่จะตอ้ งใช้ จะตอ้ ง เหมาะสมกบั กระบวนการ (Transactions) ในการดาเนินงาน และเกิดผลงาน (Outcomes) ตามที่ได้ คาดหวงั ไวข้ องโครงการ ฉะน้นั ขอ้ มูลที่จาเป็ นและสอดคลอ้ งกบั โครงการจึงเป็ นปัจจยั ที่ผปู้ ระเมิน โครงการจะตอ้ งคานึงถึงในการประเมินโครงการ 10. ค่านิยม (Values) หมายถึง ในการพิจารณาตดั สินโครงการน้ันควรจะตอ้ งเป็ นไปตาม คุณค่าอันเหมาะสมของข้อมูลข้อตกลง และข้อผูกมัดท่ีต่อเน่ืองกัน การเก็บรวบรวมและ การวเิ คราะห์ขอ้ มูลเป็ นองคป์ ระกอบอนั สาคญั ของกระบวนการเขียนรายงานการประเมินโครงการ และส่วนประกอบท่ีสาคญั อีกอยา่ งหน่ึงของกระบวนการประเมินผลโครงการคือ “ค่านิยม” ของผู้ ประเมินโครงการ ผปู้ ระเมินโครงการบางคนเนน้ การวพิ ากษว์ ิจารณ์โครงการเป็นหลกั แตผ่ ปู้ ระเมิน บางคนเนน้ ทกั ษะในการกระทาเป็นหลกั การเนน้ การกระทาเป็ นหลกั เป็นการพจิ ารณาถึงคุณค่าและ ความเหมาะสมของข้อมูล พิจารณาถึงข้อตกลงและข้อผูกมดั ในการกระทาที่ยอมรับร่วมกัน การพิจารณาตดั สินโครงการด้วยวิธีน้ีย่อมจะเป็ นวิธีที่สามารถปรับปรุงแกไ้ ขโครงการได้ดีกว่า การพิจารณาจากการวจิ ารณ์โครงการแต่เพียงอยา่ งเดียว ซ่ึงจะไม่ใหแ้ นวทางในการแกไ้ ขปรับปรุง โครงการท่ีแน่นอนและชดั เจน สรุป ส่ิงสาคญั ดงั ท่ีกล่าวแล้ว ล้วนเป็ นปัจจยั ท่ีจาเป็ นอนั มีผลต่อคุณภาพของการเขียน รายงานการประเมินโครงการ และมีผลต่อคุณภาพในการตดั สินใจการดาเนินโครงการ เพราะการ ประเมินโครงการเป็ นเรื่องท่ีเก่ียวขอ้ งกบั คน สภาพแวดลอ้ มต่างๆ รวมท้งั ความรู้สึกนึกคิดของคน ในหลายรูปแบบและหลายลกั ษณะ ซ่ึงอาจเป็ นท้งั ความเช่ือ ค่านิยม ขนบธรรมเนียมประเพณี และ วฒั นธรรมของกลุ่มคนเหล่าน้ัน ฉะน้ันผูป้ ระเมินโครงการหรือผูท้ ่ีเก่ียวขอ้ งจะตอ้ งคานึงถึงและ วิเคราะห์ปั จจัยต่างๆอย่างพินิจพิจารณาเป็ นท่ีสุ ด ท้ังน้ี เพื่อให้การดาเนิ นโครงการ และ การประเมินผลโครงการมีความเป็ นไปได้ และผลงานท่ีเกิดข้ึนมีความถูกต้องน่าเช่ือถือ สมดัง ความต้องการและเจตนารมณ์ ของผู้เกี่ยวข้องท้ังหลายที่เห็นว่า การประเมินผลโครงการ มีวตั ถุประสงคท์ ี่สาคญั 3 ประการ คือ เพื่อการบริหารและการจดั การที่ดีและมีประสิทธิภาพข้ึน เพ่ือ การวางแผนและการกาหนดนโยบายท่ีถูกต้อง และวตั ถุประสงค์สุดท้ายคือ เพื่อการทดสอบ สมมติฐานทางสังคมศาสตร์อันจะนาไปสู่ การแก้ปั ญ หาเฉพาะอย่างหรื อบางอย่างได้ ซ่ึงวตั ถุประสงคท์ ้งั สามจะบรรลุได้ยอ่ มตอ้ งใช้ปัจจยั ที่สาคญั ดงั ท่ีกล่าวแล้ว และจะตอ้ งใช้ปัจจยั
115 เหล่าน้ันอย่างพินิจพิเคราะห์ โดยเลือกใช้ตามความจาเป็ น และเท่าที่สามารถจะใช้ได้เท่าน้ัน จึงจะทาใหผ้ ลของการประเมินโครงการมีคุณประโยชน์ตอ่ การตดั สินใจอยา่ งแทจ้ ริง ส่วนประกอบของรายงานการประเมนิ โครงการ โดยท้วั ไปรายงานการประเมินโครงการท่ีสมบรูณ์จะประกอบดว้ ยส่วนท่ีสาคญั 3 ส่วน คือ 1. ส่วนนา 2. ส่วนเน้ือหา 3. ส่วนอา้ งอิง 1. ส่วนนา ประกอบด้วย 1.1 ปกนอก เป็นปกแขง็ จะมีรายละเอียดตา่ งๆดงั น้ี 1.1.1 ช่ือรายงานการประเมิน 1.1.2 ผรู้ ับผดิ ชอบ 1.1.3 หน่วยงานท่ีรับผดิ ชอบ 1.1.4 วนั เดือน ปี 1.2 ปกใน ปกใน จะมีรายละเอียดตา่ งๆเหมือนปกนอกแตพ่ มิ พด์ ว้ ย กระดาษออ่ น 1.3 บทสรุปผู้บริหาร ส่วนน้ีคือขอ้ ความสรุปเน้ือหาของรายงานโครงการท่ีส้ัน กะทดั รัด ชดั เจน ทาให้ผอู้ ่านไดท้ ราบถึงเน้ือหาของโครงการ (ว่าทาอะไร ท่ีไหน อยา่ งไร และผลท่ีไดเ้ ป็ นอยา่ งไร) อย่างรวดเร็วซ่ึง ถ้าหากโครงการท่ีทา เก่ียวกบั ส่ิงที่บุคคลน้ันกาลังสนใจอยู่ บุคคลน้ันจะได้ดู รายละเอียดเน้ือหาโครงการที่ทา เพ่ือศึกษาสิ่ งที่ต้องการต่อไป การเขียนบทสรุปผู้บริ หาร ประกอบดว้ ยส่วนสาคญั 4 ส่วน ซ่ึงจะขาดส่วนใดส่วนหน่ึงไม่ได้ มีรายละเอียดดงั ต่อไปน้ี 1.3.1 จุดประสงค์ จุดมุ่งหมาย และขอบเขตการทาโครงการ 1.3.2 หลกั การหรือทฤษฏีที่สาคญั ท่ีใชใ้ นการทาโครงการ 1.3.3 วธิ ีการศึกษาโครงการรวมถึงเคร่ืองมือที่ใชใ้ นการเกบ็ ขอ้ มลู จานวนลกั ษณะของกลุ่มเป้ าหมาย 1.3.4 ผลการทาโครงการ รวมถึงระดบั นยั สาคญั ทางสถิติ (ถา้ มี)
116 1.4 กติ ติกรรมประกาศ เป็ นขอ้ ความท่ีกล่าวขอบคุณผทู้ ี่ให้ความช่วยเหลือและให้ความร่วมมือในการ คน้ ควา้ เพ่ือเป็นรายงานโครงการ กิตติกรรมประกาศน้ี ใหเ้ ขียนไวใ้ นหนา้ ต่อจากส่วนท่ีเป็ นบทสรุป ผบู้ ริหาร ความยาวไม่เกิน 1 หนา้ 1.5 สารบญั เป็ นรายการท่ีแสดงถึงส่วนประกอบสาคัญท้ังหมดของโครงการ เรียง ตามลาดบั เลขหนา้ ใหเ้ ขียนดว้ ยภาษาท่ีใชเ้ ขียนรายงาน 1.6 สารบญั ตาราง เป็นส่วนที่แจง้ ตาแหน่งหนา้ ของตารางท้งั หมด ท่ีมีอยใู่ นรายงาน 1.7 สารบญั ภาพ หมายถึงส่วนที่แสดงตาแหน่งหน้าของภาพต่างๆ (รูปภาพ แผนภาพ แผนที่ กราฟฯลฯ ) ท้งั หมดท่ีมีอยใู่ นรายงานโครงการ 2. ส่วนเนือ้ หา ประกอบด้วย บทที่ 1 บทนา - ความเป็นมาและความสาคญั ของการประเมิน - วตั ถุประสงคข์ องการประเมิน - ขอบเขตของการประเมิน - นิยามศพั ท์ - ประโยชน์ที่คาดวา่ จะไดร้ ับ บทที่ 2 เอกสารและแนวคิดท่ีเก่ียวขอ้ ง - แนวคิดหรือสาระสาคญั ของแผนงานหรือโครงการ - แนวคิดเก่ียวกบั การประเมินแผนงานหรือโครงการ - แนวคิดรูปแบบการประเมินโครงการที่เก่ียวขอ้ งขอ้ งกบั การประเมิน โครงการ บทท่ี 3 วธิ ีการประเมิน - กรอบแนวทางการประเมินในภาพรวม - รูปแบบการประเมินโครงการ - ประชากรและกลุ่มตวั อยา่ ง - เครื่องมือท่ีใชใ้ นการประเมิน - การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู
117 - การวเิ คราะห์ขอ้ มลู - เกณฑใ์ นการประเมิน บทที่ 4 ผลการประเมินโครงการ - ผลการประเมินจาแนกตาม - วตั ถุประสงคข์ องการประเมิน บทที่ 5 สรุปและขอ้ เสนอแนะในการประเมินโครงการ - วตั ถุประสงคข์ องการประเมิน - วธิ ีการประเมิน - สรุปผลการประเมิน - ขอ้ เสนอแนะของผปู้ ระเมิน 3. ส่วนอ้างองิ ประกอบด้วย - บรรณานุกรม - ภาคผนวก - เครื่องมือที่ใชใ้ นการประเมิน หลกั การเขยี นรายงานการประเมนิ โครงการ 1. ความถูกตอ้ ง (Correctness) 2. ความครบถว้ นสมบูรณ์ (Completeness) 3. ความเป็นระบบ (Systematic) 4. ความเป็นเอกภาพ (Unity) 5. ความสัมพนั ธ์สอดคลอ้ งเชื่อมโยง (Correspondence) 6. ความครบถว้ นสมบรู ณ์ (Completeness) 7. ความสม่าเสมอ/คงเส้นคงวา (Consistency) 8. ความตรงประเดน็ (Pertinent) 9. ความตอ่ เน่ือง (Continuous)
118 สรุป การประเมินโครงการมีความสาคญั สาหรับผบู้ ริหารหรือผสู้ นบั สนุนงบประมาณ ใน การตดั สินใจปรับปรุงหรือลม้ เลิกโครงการ การกาหนดข้นั ตอนต่าง ๆ ในการวจิ ยั ประเมินโครงการ จึงมีความจาเป็ นและควรให้มีลกั ษณะท่ีเอ้ืออานวยและตอบสนองความตอ้ งการของผูใ้ ช้ผลการ ประเมิน ผใู้ ชผ้ ลการประเมินแต่ละระดบั มีความตอ้ งการและความสนใจท่ีแตกต่างกนั เช่น ผบู้ ริหาร ระดบั สูงสนใจข้อมูลเกี่ยวกบั นโยบาย ระดับรองลงมาสนใจขอ้ มูลเกี่ยวกบั การวางแผน ระดับ ปฏิบตั ิการสนใจขอ้ มลู ในข้นั ตอนการดาเนินโครงการ การดาเนินงานประเมินโครงการตามข้นั ตอน ตา่ ง ๆ ที่เหมาะสมจึงจะทาใหผ้ ลการประเมินมีคุณภาพ (เชาว์ อินใย, 2553 : น. 17) และการสรุปผล การประเมินโครงการ ผปู้ ระเมินควรเน้นประเด็นที่สาคญั ดงั น้ีคือ ผลผลิตจากโครงการ ปัญหา และ ขอ้ จากดั ของการดาเนินโครงการ ขอ้ เสนอแนะเพื่อการปรับปรุงโครงการ นอกจากน้นั ควรสรุปผล โครงการไปในดา้ นอื่น ๆ (เยาวดี รางชยั กุล วิบูลยศ์ รี, 2546 : น. 287 อา้ งใน เชาว์ อินใย, 2553 : 18) รายละเอียดดงั น้ี 1. การยอมรับในคุณค่าของโครงการจากกลุ่มเป้ าหมาย 2. การขยายผลโครงการและความตอ้ งการของโครงการท่ีต่อเน่ือง 3. การก่อใหเ้ กิด “สิ่งใหม”่ เช่น เทคโนโลยหี รือเอกสารทางวชิ าการ 4. การเปล่ียนแปลงสภาวะแวดลอ้ มทางกายภาพหรือทางสงั คม 5. การเรียนรู้จากการปฏิบตั ิโครงการท่ีช่วยใหเ้ กิดการพฒั นาทรัพยากรบุคคล 6. การแพร่กระจายผลใหเ้ ป็นสารสนเทศที่เป็นประโยชนต์ อ่ ผเู้ ก่ียวขอ้ งกบั โครงการ 7. การพฒั นาศกั ยภาพหรือประสิทธิภาพของโครงการในดา้ นอ่ืน ๆ
119 กรณศี ึกษาท่ี 1 การเขยี นรายงานการผลโครงการ เป็ นการเขียนรายงานผลการดาเนินโครงการโดยใช้ผลการประเมินตามวตั ถุประสงค์ของ โครงการ ซ่ึงเน้นผลผลิตที่ไดจ้ ากโครงการซ่ึงไม่ได้ครอบคลุม การประเมินบริบท ตวั ป้ อน และ กระบวนการตาม CIPP Model และไม่ไดเ้ ป็ นการเขียนรายงายท่ีสมบูรณ์เต็มรูปแบบ เพื่อให้ผเู้ ขา้ อบรมไมเ่ ป็นภาระมากนกั การเขียนรายงานการผลโครงการ ประกอบดว้ ยหวั ขอ้ ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. ช่ือโครงการ 2. ความเป็นมาและความสาคญั 3. วตั ถุประสงคข์ องโครงการ 4. แนวทางการประเมินโครงการ -ประเด็นการประเมิน -ตวั ช้ีวดั ความสาเร็จ -แหล่งขอ้ มลู -วธิ ีรวบรวมขอ้ มลู -การวเิ คราะห์ขอ้ มลู -เกณฑใ์ นการประเมิน ตารางท่ี 2.1 การเขียนการประเมินโครงการ สิ่งทป่ี ระเมิน ตัวชี้ – วดั แหล่งข้อมูล วิธีรวบรวม ก าร วิ เค ร าะ ห์ เกณฑ์การ ความสาเร็จ ข้อมูล ข้อมูล ประเมิน 1.ผลผลิตของ ผลผลิต 1.รายงานผลการ 1.สอบถาม 1.หาค่าความถ่ี 1.ผลผลิตตาม โครงการ ที่เกิดข้ึน ดาเนินโครงการ 2.สมั ภาษณ์ และค่าร้อยละ เป้ าหมายและ 2.หาคา่ เฉลี่ย -ตามเป้ าหมาย ความพึงพอใจ 2.ผรู้ ับผดิ ชอบ 3.สงั เกตุ วตั ถุประสงค์ เชิงปริมาณและ ทีมีต่อโครงการ และผเู้ กี่ยวขอ้ ง และส่วนเบี่ยง 2.การใช้ เชิงคุณภาพ เบนมาตรฐาน ทรัพยากร -ตาม 3.วเิ คราะห์ เน้ือหา เป็ นไปตามแผน วตั ถปุ ระสงค์ 3. เกณฑก์ าร - ความคุม้ ค่า ประเมนิ ความพงึ -ความพงึ พอใจ พอใจ ของผรู้ ่วม โครงการ
120 ตารางที่ 2.1 การเขียนการประเมินโครงการ (ต่อ) ส่ิงท่ีประเมิน ตวั ช้ี – วดั แหล่งขอ้ มลู วิ ธี ร ว บ ร ว ม ก าร วิ เค ร าะ ห์ เกณฑก์ าร ความสาเร็จ ขอ้ มลู ขอ้ มูล ประเมิน 4.50-5.00 มาก ท่ีสุด 3.50-4.49 มาก 2.50-3.49 ปาน กลาง 1.50-2.49 นอ้ ย 1.00-1.49 นอ้ ย ท่ีสุด ผลการประเมินโครงการ นาเสนอขอ้ มูลที่เป็นผลการประเมินท้งั เชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ประกอบดว้ ย 1. ขอ้ มลู พ้ืนฐานของกลุ่มตวั อยา่ งที่ประเมิน 2. ผลการประเมินตามวตั ถุประสงคข์ องโครงการ ข้อเสนอแนะ คือ ขอ้ คิดเห็นเชิงแนะนาที่เสนอเพื่อพิจารณา ภาคผนวก 1. เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการประเมิน 2. ภาพกิจกรรม
121 กรณศี ึกษาที่ 2 การเขยี นรายงานการผลโครงการ ชื่อโครงการ พฒั นาครูสู่มืออาชีพ แผนงาน วชิ าการ ลกั ษณะโครงการ ต่อเน่ือง ผู้รับผดิ ชอบ ……………………………………………………………………………….. ระยะเวลาดาเนินการ ……………………………………………………………………………….. สอดคล้องกบั มาตรฐาน 7 หลกั การและเหตุผล ยอ่ หนา้ แรก กล่าวถึง หลกั การ ความสาคญั ความจาเป็น ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั งาน / โครงการ ……………………………………………………………………………………………………… ยอ่ หนา้ ท่ี 2 กล่าวถึงสภาพปัจจุบนั ปัญหา / ความตอ้ งการพฒั นาของโรงเรียน เช่น - จากรายงานผลการประเมินคุณภาพภายนอกดา้ นตวั ครู พบวา่ ครูยงั ไมส่ ามารถจดั การเรียน การสอนได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ ไดแ้ ก่ ขาดความรู้ความสามารถเก่ียวกบั การจดั การเรียนรู้ท่ีเน้น ผเู้ รียนเป็นสาคญั สอนไม่ตรงวชิ าเอก/วชิ าโทหรือความถนดั ......................................................... ซ่ึงจากสภาพปัญหาดังกล่าว จะส่งผลถึง…………จาเป็ นอย่างย่ิงที่จะต้องมีการเร่งรัด ส่งเสริม สนับสนุ นตลอดจนจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพของครู เพื่อให้สามารถพัฒนาผู้เรี ยนได้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ วตั ถุประสงค์ เพื่อพฒั นาความรู้ความสามารถของครูดา้ นการจดั การเรียนรู้ที่เนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั (การเขียนวตั ถุประสงค์ อาจมีไดห้ ลายขอ้ สอดคลอ้ งกบั ส่ิงที่ตอ้ งการพฒั นา ควรเขียนเชิงพฤติกรรม สามารถมองเห็นถึงวธิ ีการวดั และประเมินผลดว้ ย) เป้ าหมาย 1. ครูผสู้ อนทุกคนไดร้ ับการพฒั นาตามศกั ยภาพ ความตอ้ งการและความจาเป็น 2. ครูผสู้ อนร้อยละ 75 จดั การเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ 3. ผมู้ ีส่วนเกี่ยวขอ้ งร้อยละ 90 มีความพึงพอใจตอ่ กิจกรรมพฒั นาครู
122 ข้นั ตอนดาเนินการ/กจิ กรรมสาคัญ กิจกรรม / งานสาคญั ระยะเวลา งบประมาณ ผรู้ ับผดิ ชอบ 1. วางแผนดาเนินการ สัปดาห์ละ 1 - ขออนุมตั ิโครงการ คร้ัง - แตง่ ต้งั คณะทางาน - จดั ทาปฏิทินปฏิบตั ิงาน - ประชุมช้ีแจง 2. ดาเนินการตามแผน 2.1 ประชุมวชิ าการ 2.2 ประชุม/อบรม/สัมมนาภายในโรงเรียน - การสอนแบบบูณาการ - การสอนแบบโครงงาน - วจิ ยั ในช้นั เรียน - การพฒั นาสู่อจั ฉริยะ - พฒั นาส่ือเทคโนโลยี - ฯลฯ 2.3 ศึกษาดูงาน 2.4 ค่ายวชิ าการ 2.5 เวทีแสดงศกั ยภาพครู 2.6 ครูดีท่ีหนูรัก 2.7 วางทุกงานอ่านทุกคน 2.8 ประชุม/อบรม/สมั มนาร่วมกบั หน่วยงานภายนอก 3. นิเทศ ติดตามและประเมินผล 4. สรุปและรายงานผล
123 การประเมินผล ตวั บง่ ช้ีความสาเร็จ วธิ ีการวดั และ เคร่ืองมือ แบบสารวจ ประเมินผล แบบประเมิน 1. ร้อยละของครูผูส้ อนท่ีได้รับการพฒั นาตาม สารวจ แบบประเมิน ศกั ยภาพ ความตอ้ งการและความจาเป็น 2. ร้อยละของครูผสู้ อนที่จดั การเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งมี ประเมิน ประสิทธิภาพ 3. ผมู้ ีส่วนเก่ียวขอ้ งร้อยละ 90 มีความพึงพอใจ ประเมิน ต่อกิจกรรมพฒั นาครู ผลทค่ี าดว่าจะได้รับ 1. ผเู้ รียนมีคุณภาพไดต้ ามมาตรฐาน 2. ครูผสู้ อนจดั การเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งมีมาตรฐาน กรณศี ึกษาท่ี 3 การรายงานผลการดาเนินงานโครงการพฒั นาครูสู่มืออาชีพ ส่วนที่ 1 บทนา หลกั การและเหตุผล การปฏิรูปการศึกษาท่ีสาคญั ที่สุดและมีผลต่อการพฒั นาคนใหเ้ ป็นคนดี คนเก่งและสามารถ ดารงตนในสังคมไดอ้ ยา่ งมีความสุขไดน้ ้นั ไดแ้ ก่การปฏิรูปการเรียนการสอน โดยครูผสู้ อนทุกคน ตอ้ งมีความรู้ความสามารถในการจดั การเรียนรู้ที่เนน้ ผเู้ รียนเป็ นสาคญั เปล่ียนวฒั นธรรมการเรียนรู้ โดยเน้นประโยชน์ท่ีผูเ้ รียนจะได้รับ พร้อมท้ังคานึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ปลูกฝังให้ ผเู้ รียนรู้จกั แสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ใฝ่ รู้ใฝ่ เรียน มีนิสัยรักการเรียนรู้ตลอดชีวิต รวมท้งั ครูควร สามารถพฒั นากระบวนการเรียนรู้และจดั การเรียนการสอนที่เน้นผเู้ รียนเป็ นสาคญั มีการประกนั คุณภาพภายในผสมผสานอยใู่ นกระบวนการเรียนรู้ และการจดั การเรียนการสอนเพื่อพฒั นาคุณภาพ ผเู้ รียนอยา่ งต่อเนื่องตลอดเวลา
124 จากรายงานผลการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสามด้านตวั ครู พบว่าครูยงั ไม่สามารถ จดั การเรียนการสอนไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ ไดแ้ ก่ ขาดความรู้ความสามารถเกี่ยวกบั การจดั การ เรียนรู้ที่เนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั ............................................................................................................. ซ่ึงจากสภาพปัญหาดังกล่าว จะส่ งผลถึงคุณภาพนักเรี ยนท้ังด้านผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ และทกั ษะท่ีจาเป็ นต่าง ๆ จาเป็ นอย่างยิ่งท่ีจะตอ้ งมีการเร่งรัด ส่งเสริม สนับสนุนตลอดจนจดั กิจกรรมพฒั นาคุณภาพของครู เพ่ือให้สามารถพฒั นาผูเ้ รียนได้อย่างมี ประสิทธิภาพ วตั ถุประสงค์ เพื่อรายงานผลการดาเนินงานโครงการพฒั นาครูสู่มืออาชีพ เป้ าหมาย 1. ครูผสู้ อนทุกคนไดร้ ับการพฒั นาตามศกั ยภาพ ความตอ้ งการและความจาเป็น 2. ครูผสู้ อนร้อยละ 75 จดั การเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ 3. ผมู้ ีส่วนเกี่ยวขอ้ งร้อยละ 90 มีความพงึ พอใจตอ่ กิจกรรมพฒั นาครู ผลทคี่ าดว่าจะได้รับ 1. ผเู้ รียนมีคุณภาพไดต้ ามมาตรฐาน 2. ครูผสู้ อนจดั การเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งมีมาตรฐาน ส่วนที่ 2 วธิ ีดาเนินงาน การดาเนินงานตามโครงการพฒั นาครูสู่มืออาชีพดาเนินการในปี การศึกษา 2553 ระหว่าง เดือนพฤษภาคม 2553 – เมษายน 2554 มีดงั น้ี ข้นั ตอนและกจิ กรรมสาคัญ 1. การวางแผนดาเนินการ โดยดาเนินการในเดือนพฤษภาคม 2553 ดงั น้ี - ขออนุมตั ิโครงการ - แตง่ ต้งั คณะทางาน ประกอบดว้ ย....................................... - จดั ทาปฏิทินปฏิบตั ิงาน ดงั ต่อไปน้ี...................................... - ประชุมช้ีแจง……………………………………………… 2. การดาเนินการตามโครงการพฒั นาครูสู่มืออาชีพ มีกิจกรรมสาคญั ตามลาดบั ดงั น้ี 2.1 จดั ประชุมวชิ าการ สปั ดาห์ละ 1 คร้ัง ทุกวนั ศุกร์เวลา 15.30 – 16.30 น. โดยผรู้ ่วม
125 ประชุมไดแ้ ก่ ผบู้ ริหารโรงเรียน ครูวชิ าการ หัวหนา้ สายช้นั สาระการประชุมเป็ นเร่ืองเก่ียวกบั การ พฒั นาคุณภาพการจดั การศึกษา (รายละเอียดตามสมุดบนั ทึกการประชุมวชิ าการ) 2.2 ประชุม/อบรม/สัมมนาภายในโรงเรียน จานวน 4 คร้ัง โดยใช้ห้องประชุมของ โรงเรียนเพอ่ื ใหค้ รูมีความรู้ ความเขา้ ใจ และสามารถปฏิบตั ิไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ ดงั น้ี คร้ังท่ี เรื่อง กลุ่มเป้ าหมาย เวลา งบประมาณ วทิ ยากร 1 การสอนแบบบูรณาการ ครูทุกคน 2 วนั 4,000 ศน…………… การสอนแบบโครงงาน (วนั ที่ 1-2 บาท ครู…………… พ.ค. 53) 2 วจิ ยั ในช้นั เรียน ค รู ทุ ก ค น 2 (วั น ท่ี 3,000 ผอ............... วนั 15,22 มิ.ย. บาท ครู............... 53) ศน............. 3 พฒั นาส่ือเทคโนโลยี ตวั แทนสาย 10 ชั่วโมง 1,000 ช้นั ละ 2 คน (ทุกวนั บาท รวม 12 คน จนั ทร์เวลา 15.00 – 16.30น.) 4 ระบบประกนั คุณภาพ ครูทุกคน 1 วนั 3,000 (วัน ที่ 30 บาท มิ.ย. 53) 2.3 การศึกษาดูงาน ไดจ้ ดั กิจกรรมการศึกษาดูงานในเร่ืองท่ีตรงกบั ความตอ้ งการพฒั นา ได้ 3 คร้ัง ดงั น้ี 2.3.1 การจดั หอ้ งสมุดมีชีวติ โรงเรียนวดั ดอนยายหอม สพป.นครปฐม เขต 1 วนั ที่ 22 ก.ค. 53 ผเู้ กี่ยวขอ้ งในการไปศึกษาดูงานไดแ้ ก่ หวั หนา้ ฝ่ ายวชิ าการ ตวั แทนกลุ่มสาระการเรียนรู้ ผรู้ ับผิดชอบห้องสมุดโรงเรียน และนกั เรียนห้องละ 1 คน ใชง้ บประมาณ 8,000 บาทเป็ นค่าใชจ้ ่าย ดงั น้ี - จดั ทาคูม่ ือการศึกษาดูงาน 500 บาท - ค่าพานะเดินทาง 3,500 บาท - ค่าอาหารกลางวนั อาหารวา่ งและเครื่องดื่ม 4,000 บาท
126 - คา่ ของท่ีระลึก 500 บาท 2.3.2 ................(นาเสนอกิจกรรมอื่น ๆ ท่ีทา.....คลา้ ยกบั ขอ้ 2.3.1) 2.3.4……นาเสนอกิจกรรมอื่น ๆ ตามโครงการคลา้ ย ขอ้ 2.1 – 2.3- 3. การนิเทศ ติดตามและประเมินผล .............(เขียนอธิบายเกี่ยวกบั วธิ ีการ ระยะเวลาฯลฯ) 4. สรุปและรายงานผล ..................(เขียนอธิบายเก่ียวกบั วธิ ีการ ระยะเวลาฯลฯ) วธิ ีวดั และประเมนิ ผล วธิ ีวดั และประเมินผลการดาเนินงานตามโครงการพฒั นาครูสู่มืออาชีพ เก็บรวบรวบขอ้ มูล โดยใชเ้ คร่ืองมือดงั น้ี 1. แบบสารวจการไดร้ ับการพฒั นาของครูโรงเรียน....................................... 2. แบบประเมินแผนการจดั การเรียนรู้ของครู 3. แบบสงั เกตการสอน 4. แบบประเมินความพงึ พอใจของครูและนกั เรียน วธิ ีวเิ คราะห์ข้อมูล โดยการหาคา่ เฉล่ีย ค่าร้อยละ และเทียบกบั เกณฑท์ ี่กาหนด (วธิ ีวดั และประเมนิ ผล สามารถเพม่ิ เตมิ รายละเอยี ดเกยี่ วกบั ลกั ษณะเครื่องมือ รายละเอยี ด ประเด็นของแบบสารวจ แบบประเมิน รายละเอยี ดเกย่ี วกบั เกณฑ์ทกี่ าหนดไว้ หรืออนื่ ๆ ทเ่ี กย่ี วข้อง ตามทเี่ หน็ สมควร) ส่วนท่ี 3 ผลการดาเนินงาน ผลการดาเนินงานตามโครงการพฒั นาครูสู่มืออาชีพ สรุปไดด้ งั น้ี 1. ครูผสู้ อนโรงเรียน...........ทุกคน ไดร้ ับการพฒั นาตามศกั ยภาพ ความตอ้ งการและความจาเป็น เฉล่ียอยา่ งนอ้ ย คนละ 3 คร้ัง เวลาเฉล่ียการไดร้ ับการพฒั นาคนละ 32 ชว่ั โมง รายละเอียดดงั ตารางที่ ตารางที่.......แสดงจานวนคร้ังและเวลาการไดร้ ับการพฒั นาของครูโรงเรียน........... ช่ือ - สกลุ จานวนคร้ังที่ไดร้ ับการ เวลา(ชวั่ โมง) หมายเหตุ พฒั นา จากตารางพบวา่ ..........................................................
127 2. ครูผสู้ อนทุกคนผา่ นเกณฑก์ ารประเมินการจดั การเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ โดยครูผสู้ อน ร้อยละ 80 ผา่ นเกณฑ์การประเมินจดั การเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพระดบั ดีมาก รายละเอียดดงั ตารางท่ี.... ตารางที่.......แสดงผลการประเมินประสิทธิภาพการจดั การเรียนรู้ ช่ือ - สกุล ความรู้ คุ ณ ภ า พ คุณภาพ คุณภาพ รวม ระดบั ความ แผน การสอน นกั เรียน คุณภาพ เขา้ ใจ การจดั การ เรียนรู้ จากตารางพบวา่ .......................................................... 3. ผูม้ ีส่วนเกี่ยวขอ้ งร้อยละ 95 มีความพึงพอใจต่อกิจกรรมพฒั นาครูสู่มืออาชีพระดบั มาก ท่ีสุดรายละเอียดดงั ตารางที่.... รายการ ระดบั ความพึงพอใจ ม า ก มาก ป า น นอ้ ย ท่ีสุด กลาง 1. เน้ือหาสาระที่ไดร้ ับการพฒั นาตรงกบั ความตอ้ งการ/จาเป็น 2. ความรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะที่ไดร้ ับจากการพฒั นา 3. ความสามารถในการนาความรู้ความเขา้ ใจท่ีไดร้ ับจาก การพฒั นาไปใชใ้ นการพฒั นางาน 4. วทิ ยากร/ผใู้ หค้ วามรู้/ผนู้ าแลกเปล่ียนเรียนรู้ 5. เทคนิค/วธิ ีการพฒั นา 6. สื่อ วสั ดุ อุปกรณ์ประกอบ 7. สถานท่ี/แหล่งการเรียนรู้ 8. การบริการตา่ ง ๆ 9. จากตารางพบวา่ ..........................................................
128 แนวทางการพฒั นา 1. ควรมีการนิเทศติดตามเรื่องการจดั การเรียนรู้ที่เนน้ ผเู้ รียนเป็ นสาคญั อยา่ งเป็นระบบและ ตอ่ เนื่อง 2. ควรสนบั สนุนส่งเสริมเร่ืองการจดั แหล่งการเรียนรู้และการจดั บรรยากาศท่ีเอ้ือต่อการจดั กิจกรรมที่เนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั เทคนิคการจัดทารายงานประเมนิ ผลโครงการ ในการประเมินโครงการมีเป้ าประสงค์หลักคือ ต้องการข้อมูลท่ีบ่งช้ีว่าโครงการ ท่ีดาเนินการน้นั เป็ นไปตามวตั ถุประสงคท์ ่ีต้งั ไวห้ รือไม่ หรือเป็ นโครงการท่ีคุม้ ค่าต่อการตดั สินใจ ในการดาเนินการหรือไม่ รวมถึงการศึกษาวา่ ในการดา เนินการโครงการมีปัญหาที่ตอ้ งปรับปรุง เปล่ียนแปลงหรือแกไ้ ขในเรื่องอะไรบา้ ง และเป็นโครงการที่มีคุณค่ามากนอ้ ยเพียงใด โดยมีข้นั ตอน การจดั ทารายงานประเมินผลโครงการง่ายๆ 6 ข้นั ตอนดงั น้ี ข้ันที่ 1 : กาหนดความมุ่งหมายหรือวตั ถุประสงค์ของการประเมิน การประเมินโครงการจะตอ้ งกาหนดความมุ่งหมายหรือวตั ถุประสงคก์ ารประเมินเป็นลาดบั แรก เพราะวตั ถุประสงคเ์ ป็นทิศทางในการดาเนินงาน วตั ถุประสงคจ์ ะตอ้ งเขียนอยา่ งชดั เจนและมีความ เฉพาะเจาะจงมากที่สุด โดยจะตอ้ งมีท้งั วตั ถุประสงค์ระยะส้ัน และวตั ถุประสงคร์ ะยะยาวในการ ดาเนินงาน การดาเนินงานข้นั ตอนแรกน้ีจะตอ้ งสามารถตอบคาถามดงั ต่อไปน้ี - อะไร คือ ความมุ่งหมายของการประเมินโครงการน้ี - วตั ถุประสงคใ์ นการประเมินมีอะไรบา้ ง - ทาไม จึงตอ้ งประเมินโครงการน้ี ข้นั ที่ 2 : การหาความต้องการในการประเมิน หลงั จากตอบคาถามในข้นั ตอนแรกแลว้ ผูป้ ระเมินจะตอ้ งทาความจาเป็ นในการประเมิน และสามารถลาดบั ความจาเป็ นก่อนหลงั ในการประเมิน อย่างไรก็ดีในการหาความจาเป็ นลาดบั แรกๆ น้ัน ผูป้ ระเมินไม่ควรพิจารณาเฉพาะลาดับแรก ๆ ที่เกิดข้ึนในขณะน้ันโดยทนั ที แต่ควร พิจารณายอ้ นหลงั ไปบา้ งวา่ ในระยะหน่ึงหรือสองปี ท่ีผา่ นมาวา่ มีความจาเป็ นอื่นใดหรือไม่ ถา้ มีควร จะได้พิจารณาถึงความจาเป็ นเหล่าน้ันเสียก่อนอย่างละเอียดและรอบคอบ การหาความตอ้ งการ จาเป็นในการประเมิน และการจดั ลาดบั ความสาคญั ก่อนหลงั ของสิ่งท่ีตอ้ งประเมินเป็ นการประหยดั ท้งั เวลา เงิน วสั ดุอุปกรณ์ และแรงงานในข้นั ตอนน้ีนอกจากตอ้ งหาความจาเป็ นในการประเมินผล โครงการแล้ว ผูป้ ระเมินจะต้องเตรียมตนให้พร้อม กล่าวคือมีความเข้าใจในจุดมุ่งหมายและ
129 วตั ถุประสงคข์ องการประเมินอยา่ งแจม่ ชดั และท่ีสาคญั คือ จะตอ้ งมีทศั นคติหรือเจตนคติท่ีดีตอ่ สิ่งท่ี ตอ้ งประเมิน จึงจะสามารถทาใหก้ ารประเมินและผลของการประเมินเป็นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ ข้นั ท่ี 3 : การหาเครื่องมือและการรวบรวมข้อมูล เคร่ืองมือ (Instruments) เป็ นส่ิงท่ีสาคญั ในการประเมินโครงการ เม่ือทราบความมุ่งหมาย และวตั ถุประสงคข์ องการประเมินแลว้ จะตอ้ งสร้างหรือเลือกหาเครื่องมือท่ีสอดคลอ้ งมาที่สุดกบั วตั ถุประสงคห์ รือส่ิงที่ตอ้ งการประเมิน ในการสร้างหรือเลือกเครื่องมือน้นั ควรใหผ้ เู้ ก่ียวขอ้ งทุกฝ่ าย ได้รับรู้และถ้าเป็ นไปได้จะตอ้ งยอมรับเครื่องมือที่จะนาไปใช้น้ัน หรือเปิ ดโอกาสให้ทุกฝ่ ายได้ แสดงความคิดเห็นและสร้างเคร่ืองมือร่วมกนั เมื่อได้เครื่องมือท่ีต้องการแล้วผูป้ ระเมินจะตอ้ ง กาหนดเวลา (schedule) ในการนาเครื่องมือไปรวบรวมขอ้ มูลกาหนดเวลาควรตอ้ งประกอบดว้ ย เวลาการปฐมนิเทศช้ีแจงผเู้ กบ็ ขอ้ มลู การจดั เตรียมขอ้ มูลและการรวบรวมขอ้ มลู เป็นตน้ การรวบรวมขอ้ มลู เป็นข้นั ตอนที่สาคญั ยง่ิ เพราะหากรวบรวมขอ้ มลู เป็นไปอยา่ งไม่มี ประสิทธิภาพแล้วยอ่ มมีผลกระทบอยา่ งสาคญั ต่อผลการประเมิน ฉะน้นั ในการวางแผนเพื่อการ รวบรวมขอ้ มลู ผปู้ ระเมินควรดาเนินการดงั น้ี - กาหนดวตั ถุประสงคใ์ หช้ ดั เจน - ขอ้ มูลใดที่ตอ้ งการเกบ็ รวบรวม - จะเก็บขอ้ มลู เหล่าน้นั อยา่ งไร - จะเกบ็ ขอ้ มลู เหล่าน้นั เมื่อใด - ใครจะเป็นผเู้ กบ็ ขอ้ มลู เหล่าน้นั ข้นั ท่ี 4 : การวเิ คราะห์ข้อมูล เม่ือขอ้ มูลไดร้ ับการรวบรวมเป็ นไปตามวิธีการและได้จานวนท่ีตอ้ งการแล้ว ผูป้ ระเมิน โครงการจะตอ้ งตรวจสอบขอ้ มูลอยา่ งละเอียด และจาแนกขอ้ มูลตามวตั ถุประสงคท์ ี่ตอ้ งการ วธิ ีการ วิเคราะห์ขอ้ มูลจะตอ้ งสอดคลอ้ งและเป็ นไปตามวตั ถุประสงค์และรูปแบบ ของการประเมินที่ได้ กาหนดไวก้ ารวิเคราะห์ขอ้ มูลเป็ นข้นั ตอนที่สาคญั อีกข้นั ตอนหน่ึงของการประเมินโครงการ ขอ้ มูล ที่ได้รับอาจประกอบด้วยข้อมูลหลายประเภท รวมถึงความสมบูรณ์ของข้อมูลท่ีได้ หากการ วิเคราะห์เป็ นไปอยา่ งไม่มีประสิทธิภาพ ขาดหลกั การในการวิเคราะห์ยอ่ มมีผลเสียหายต่อผลการ ประเมิน ฉะน้นั ในการวเิ คราะห์ขอ้ มูลผปู้ ระเมินจะตอ้ งคานึงถึง - ประเภทและชนิดของขอ้ มลู ที่จะรวบรวมตอ้ งเป็ นที่ตกลงและเห็นพอ้ งตอ้ งกนั - เคร่ืองมือที่จะใชใ้ นการเก็บรวบรวมขอ้ มูลจะตอ้ งไดร้ ับการตรวจสอบอยา่ ง ละเอียดและรอบคอบ - ขอ้ มลู ท่ีไดร้ ับจะตอ้ งจาแนกเป็นหมวดหมู่ และระบุไดว้ า่ เป็นขอ้ มูลที่เสริม หรือ เป็นขอ้ มลู ที่เป็นอุปสรรคตอ่ การดาเนินงาน
130 - วธิ ีการในการวเิ คราะห์ขอ้ มูลจะตอ้ งถูกกาหนดข้ึนไวล้ ่วงหนา้ ข้ันที่ 5 : การรายงานข้อมูลและการรายงานผล เมื่อข้อมูลได้รับการวิเคราะห์แล้ว จะนาเสนอข้อมูลน้ันซ่ึงถือว่าเป็ นผลการประเมิน โครงการนน่ั เอง การกระทาเช่นน้ีผปู้ ระเมินจะตอ้ งจะตอ้ งวางแผนในการนาเสนอขอ้ มูลซ่ึงมีเน้ือหา ที่สาคญั จะตอ้ งรายงาน คือ วตั ถุประสงค์ (objectives) ในการประเมิน วิธีการ (Procedures) ในการ ประเมินผล ผล (Results)ของการประเมินและการนาผลการประเมินไปใช้ (Implications) ให้เกิด ประโยชน์ การนาผลการประเมินไปใช้น้ันจะต้องช้ีให้เห็นถึงจุดเด่น (Strength) และจุดด้อย (Weakness) ของผลเหล่าน้นั และจะตอ้ งช้ีให้เห็นดว้ ยวา่ จะแกไ้ ขจุดดอ้ ยไดอ้ ยา่ งไร และทาอยา่ งไร จึงจะทาให้จุดเด่นน้ัน คงสภาพที่เป็ นจุดเด่นอยู่เสมอนอกจากน้ันการรายงานผลการดาเนินงาน โครงการควรตอ้ งแสดงถึงขอ้ เสนอแนะในการปรับปรุงโครงการบุคลากรและทรัพยากรที่ตอ้ งใช้ ตลอดจนขอ้ มูลเพ่มิ เติมท่ีตอ้ งการรวบรวมท้งั ความผกู พนั ดา้ นการงบประมาณและการเงิน การรายงานผลการประเมินโครงการมีเป้ าหมายที่สาคญั อยา่ งหน่ึงคือ จะตอ้ งใหผ้ ปู้ ระเมิน ระดบั สูงของหน่วยงานมีความเขา้ ใจและทราบโดยเร็วที่สุด ท้งั น้ีเพ่ือประโยชน์ในการตดั สินใจ อยา่ งทนั ท่วงทีการรายงานผลต่อผบู้ ริหารควรเป็ นภาษาท่ีเขา้ ใจง่ายและกะทดั รัด ควรหลีกเล่ียงภาษา สถิติหรือภาษาทางวชิ าการที่ไม่จาเป็น ข้นั ที่ 6 : การติดตามผล เมื่อผลการประเมินได้นาไปใช้ จุดเด่นและจุดด้อยของผลงานได้รับการส่งเสริมและ ปรับปรุงเพื่อการดาเนินงานโครงการแล้ว โครงการอาจะไดร้ ับการพิจารณาให้ดาเนินงานต่อไป และการดาเนินงานควรปฏิบตั ิในรูปแบบเดิมโดยการปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องท่ีเป็ นอยู่และ เปลี่ยนแปลงตามความจาเป็ น แล้วทาการประเมินซ้าอีกคร้ังหน่ึงหากผลการประเมินเป็ นที่พอใจ และเป็นไปตามวตั ถุประสงคแ์ ลว้ โครงการน้นั ยอ่ มถือไดว้ า่ เป็นโครงการที่ประสบกบั ความสาเร็จ เมื่อดาเนินการทาโครงการจนครบข้นั ตอน ไดข้ อ้ มูล ทาการวิเคราะห์ขอ้ มูลพร้อมท้งั แปลผลและ สรุปผลแลว้ งานข้นั ตอนตอ่ ไปคือ การเขียนรายงานโครงการ เป็นวธิ ีส่ือความหมายที่มีประสิทธิภาพ วิธีหน่ึงลกั ษณะการเขียนจะตอ้ งใช้ภาษาท่ีเข้าใจง่าย ส้ัน รัดกุม และสรุปได้ชดั เจนตรงไปตรงมา และครอบคลุมประเด็นสาคัญของโครงการ เพื่อให้ผูอ้ ื่นๆ ได้เข้าใจถึงแนวความคิด วิธีการ ดาเนินการศึกษาคน้ ควา้ ข้อมูล ต่างๆที่รวบรวมได้ผลที่ได้ตลอดจนขอ้ สรุป ผลของการศึกษา ตลอดจนประโยชน์และขอ้ เสนอแนะตา่ งๆ ท่ีไดจ้ ากโครงการ
131 บทสรุป การเขียนรายงานผลการดาเนิ นโครงการ เป็ น ข้ันตอนส าคัญ อีกประการหน่ึ ง ของการประเมินโครงการ ดาเนินการหลงั จากผรู้ ับผดิ ชอบโครงการไดท้ าการประเมินผลโครงการ เม่ือโครงการสิ้นสุดแลว้ จากน้นั จึงนาผลการประเมินมาเขียนเป็ นรายงานการประเมินโครงการ การเขียนรายงานโครงการ เป็ นวิธีสื่อความหมายที่มีประสิทธิภาพวธิ ีหน่ึงเพื่อให้คนอื่น ๆ ไดเ้ ขา้ ใจ แนวความคิด วิธีดาเนินงานศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มูล ผลท่ีไดต้ ลอดจนขอ้ สรุป และขอ้ เสนอแนะต่าง ๆ เกี่ยวกบั โครงการน้นั ซ่ึงปัจจยั ท่ีทาให้การเขียนรายงานการประเมินโครงการมีคุณภาพคคือ ขอ้ มลู นาเขา้ (Inputs) กระบวนการ (Process หรือ Transactions) และผลงาน (Outputs หรือ Outcomes) จะตอ้ งดาเนินการ อย่างเป็ นระบบ ส่ิงสาคญั ได้แก่ ขอ้ เท็จจริง คุณประโยชน์ ความถ่ี ขอ้ มูลยอ้ นกลบั ความผูกพนั ความน่าเช่ือถือ วตั ถุประสงค์ มาตรฐาน ความจาเป็ น และคุณค่า ส่วนองค์ประกอบของรายงาน การประเมินโครงการท่ีสมบรูณ์จะประกอบด้วยส่วนท่ีสาคัญ 3 ส่วน คือ ส่วนนา ส่วนเน้ือหา และส่วนอา้ งอิง ดงั ที่กล่าวมาแลว้ ขา้ งตน้ และหลกั การเขียนรายงานการประเมินโครงการท่ีสาคญั คือ ความถูกตอ้ ง (Correctness) ความครบถว้ นสมบูรณ์ (Completeness) ความเป็ นระบบ (Systematic) ความเป็ นเอกภาพ (Unity) ความสัมพันธ์สอดคล้องเชื่อมโยง (Correspondence) ความครบถ้วนสมบูรณ์ (Completeness) ความสม่าเสมอ/คงเส้นคงวา (Consistency) ความตรงประเด็น (Pertinent) ความต่อเน่ื อง (Continuous) ซ่ึงมีตวั อยา่ งกรณีศึกษาท่ีรวบรวมไวแ้ ลว้ ในเน้ือหาของบทน้ี ดงั น้ันการเขียนรายงานการประเมินโครงการที่ดีตอ้ งคานึงถึงการนาเสนอที่เป็ นระบบ เพื่อให้ผบู้ ริหารหรือผทู้ ่ีสนใจอ่านแลว้ มีความเขา้ ใจในเน้ือหาเพ่ือจะไดน้ าขอ้ มูลท่ีเป็ นขอ้ เสนอแนะ ตา่ งๆ นาไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชนใ์ นอนาคตต่อไป
132 คาถามท้ายบท 1. ใหน้ กั ศึกษาอธิบาย ความสาคญั ของรายงานการประเมินโครงการ 2. ให้นกั ศึกษาอธิบาย ปัจจยั ท่ีทาให้การเขียนรายงานการประเมินโครงการมีคุณภาพและ หลกั การเขียนรายงานการประเมินโครงการ 3. ใหน้ กั ศึกษาอธิบาย ส่วนประกอบของรายงานการประเมินโครงการ 4. เทคนิคการจดั ทารายงานประเมินผลโครงการควรเป็ นอยา่ งไร 5. ให้นกั ศึกษาอธิบายและเขียนรายงานการประเมินผลโครงการจากกรณีศึกษาท่ีอย่ใู น เอกสารประกอบการสอนมา 1 กรณีศึกษา
133 เอกสารอ้างองิ เชาว์ อินใย. (2553). การประเมนิ โครงการ Program Evaluation. กรุงเทพฯ :โรงพิมพแ์ ห่ง จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . พิชิต ฤทธ์ิจรูญ.(2545). การเขยี นรายงานการประเมนิ และการใช้ผลการประเมินนโยบาย แผนงาน และโครงการ.ในประมวลสาระชุดวชิ า การประเมินนโยบาย แผนงานและโครงการ หน่วยท่ี10.นนทบุรี: มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมธิราช สาขาศึกษาศาสตร์. เยาวดี รางชยั กุล วบิ ลู ยศ์ รี. (2546). การประเมินโครงการ แนวคดิ และแนวปฏบิ ตั ิ. พมิ พค์ ร้ังท่ี 3. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . . (2551). การประเมินโครงการแนวคดิ และแนวปฏบิ ัต.ิ กรุงเทพฯ: สานกั พมิ พแ์ ห่งจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . สมคิด พรมจุย้ .(2550). เทคนิคการประเมินโครงการ. นนทบุรี: พมิ พค์ ร้ังที่5. จตุพร ดีไซน.์ . (2552). การเขียนรายงานการประเมนิ โครงการ. นนทบุรี: จตุพร ดีไซน.์ สมหวงั พิธิยานุวฒั น์. (2553). วธิ ีวทิ ยาการประเมนิ : ศาสตร์แห่งคุณค่า. พิมพค์ ร้ังท่ี 5. กรุงเทพฯ: สานกั พิมพแ์ ห่งจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั .
135 แผนบริหารการสอนประจาบทที่ 6 การประเมนิ ผลโครงการบริการทางสังคม 3 ช่ัวโมง หวั ข้อเนือ้ หา โครงการบริการสงั คม 1. ความหมายของโครงการบริการสงั คม 2. โครงการบริการสงั คมกบั การพฒั นาสงั คม 3. การประเมินโครงการบริการสงั คม 4. ประเภทของโครงการบริการสงั คม 5. เหตุผลของการประเมินโครงการบริการสงั คม 6. ประโยชน์ของโครงการบริการสงั คม 7. ประเภทของโครงการบริการสงั คม การประเมินผลและการติดตามการปฏิบตั ิการของโครงการ ความสาคญั ของการวเิ คราะห์การนาโครงการไปสู่การปฏิบตั ิ แนวทางการประเมินการปฏิบตั ิของโครงการ 1. การประเมินความพยายาม 2. การประเมินกระบวนการ 3. การกากบั ดูแล บทสรุป วตั ถุประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. เพ่ือใหผ้ เู้ รียนสามารถอธิบายเกี่ยวกบั โครงการบริการสงั คมได้ 2. เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนสามารถอธิบายเกี่ยวกบั การประเมินผลและการติดตามการปฏิบตั ิการของ โครงการได้ 3. เพ่ือให้ผูเ้ รียนสามารถอธิบายเก่ียวกบั ความสาคญั ของการวิเคราะห์การนาโครงการ ไปสู่การปฏิบตั ิได้ 4. เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนสามารถอธิบายเก่ียวกบั แนวทางการประเมินการปฏิบตั ิของโครงการได้
136 วธิ สี อนและกจิ กรรมการเรียนการสอนประจาบท 1. บรรยายเน้ือหาในแตล่ ะหวั ขอ้ พร้อมยกตวั อยา่ งประกอบ 2. ศึกษาจากเอกสารประกอบการสอน 3. ผสู้ อนสรุปเน้ือหา 4. ทาแบบฝึกหดั เพ่อื ทบทวนบทเรียน 5. ผเู้ รียนถามขอ้ สงสยั 6. ผสู้ อนทาการซกั ถาม สื่อการเรียนการสอน 1. เอกสารประกอบการสอนวชิ าการประเมินผลโครงการ 2. PowerPoint การประเมินผลโครงการบริการสงั คม การวดั ผลและประเมนิ ผล 1. ประเมินจากการซกั ถามในช้นั เรียน 2. ประเมินจากความร่วมมือและความรับผดิ ชอบตอ่ การเรียน 3. ประเมินจากการทาแบบฝึกหดั ทบทวนทา้ ยบทเรียน
137 บทท6่ี การประเมินผลโครงการบริการสังคม โครงการต่าง ๆ จดั ทาข้ึนเพ่ือวตั ถุประสงคห์ ลกั ท่ีจะให้บริการแก่ประชาชนโดยทวั่ ไปใน สงั คม ท้งั น้ีเพื่อตอ้ งการพฒั นาคุณภาพชีวติ หรือเพื่อมุ่งพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมของคนในชาติโดย ส่วนรวมตลอดจนเพ่ือช่วยหาทางแก้ไขหรือขจดั ปัญหาต่าง ๆ ที่ไม่พึงประสงค์ในสังคมให้ลด นอ้ ยลงไป หน่วยงานท่ีรับผดิ ชอบโครงการบริการสังคมส่วนใหญ่มกั จะเป็ นหน่วยงานของรัฐ เช่น กระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ อยา่ งไรกต็ ามเพอ่ื เป็นการดาเนินโครงการอยา่ งมีประสิทธิภาพ ผดู้ าเนิน โครงการจาเป็ นตอ้ งบริหารทรัพยากรท่ีมีอยู่อยา่ งจากดั ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและให้บริการแก่ ประชาชนเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตท่ีดีข้ึน การประเมินผลโครงการจึงเป็ นวิธีการท่ีสาคญั เพ่ือตดั สิน คุณค่าโครงการใหบ้ รรลุเป้ าหมายท่ีกาหนดไว้ เป็นไปตามแผนงานและนโยบายของหน่วยงานและ ประเทศชาติต่อไป โครงการบริการสังคม 1. ความหมายโครงการบริการสังคม ในยุคปัจจุบนั ไดม้ ีองค์กรภาครัฐ และภาคเอกชน ท้งั ภายในประเทศและต่างประเทศท่ี เรียก เข้ามามีส่วนร่วมอย่างสาคัญเพ่ือช่วยกันสนับสนุนโครงการบริการสังคมให้ครอบคลุม ขอบข่ายของปัญหาไดก้ วา้ งมากข้ึนกวา่ เดิม โครงการบริการสังคมจึงหมายถึงโครงการท่ีจดั ทาข้ึน เพื่อพัฒนาคคนในสังคมเช่น เด็กและเยาวชน ผูใ้ ช้แรงงาน ผูส้ ูงอายุ ตลอดจนผูด้ ้อยโอกาส ได้พัฒนาตนเองตามโครงการของหน่วยงาน องค์กรต่างๆ เพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีข้ึน โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งโครงการท่ีมีวตั ถุประสงคห์ ลกั ในการลงทุนเพ่ือการพฒั นาเศรษฐกิจและสังคม แหล่งชาติ มีรายละเอียดดงั น้ี เยาวดี รางชยั กลุ วบิ ลู ยศ์ รี.(2551:81-101) 2. โครงการบริการสังคมกบั การพฒั นาสังคม ปัจจุบนั สังคมไทยกาลงั พฒั นาไปสู่ยคุ อุตสาหกรรมใหม่ ซ่ึงเป็ นที่รู้จกั กนั ดีวา่ “NICS” (Newly Industrialized Countries) อย่างไม่มีทางหลีกเล่ียง จึงเป็ นผลให้เกิดความตอ้ งการของผูใ้ ช้ แรงงานในสังคมเพ่ิมสูงข้ึน ทาให้ความตอ้ งการเกี่ยวโครงการบริการสังคมและการพฒั นาสังคม ยง่ิ เพิ่มสูงมากข้ึนตามลาดบั โดยเฉพาะอยา่ งยิ่ง โครงการทางดา้ นการศึกษา การฝึ กอบรมวิชาชีพ โครงการแนะแนวต่าง ๆ ตลอดจนโครงการสวสั ดิการและบริการทางสาธารณสุข ฯลฯ เป็ นตน้ ท้งั น้ีเพราะโครงการต่าง ๆ ดงั กล่าวจะช่วยเอ้ืออานวยให้ประชาชนตลอดจนผใู้ ชแ้ รงงานท้งั หลายได้ มีความรู้ความสามารถท่ีจะประกอบอาชีพต่าง ๆ ให้สอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของสังคม รวมท้งั
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245