เอกสารประกอบการสอนวชิ าวงจรดจิ ิทลั และลอจิก โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข กรณีท่ี 3 (CLR = 1, SET = 0): มีการสงสัญญาณ CLR ดงั นั้นเอาตพุตท่ไี ดจะมีคาเปน 0 ทันทีท่ี ไดร บั สัญญาณ CLR กรณีท่ี 4 (CLR = 1, SET = 1): มีการสงสัญญาณ CLR และ สัญญาณ SET พรอมกัน แต เนอ่ื งจากพบวา เอาตพตุ ทีไ่ ดขัดแยงซึ่งกนั และกนั ดังนัน้ เง่ือนไขนจ้ี งึ ไมใ หเกิดขึน้ หมายเหตุ หากมีสญั ลักษณ “ o” อยทู ีต่ ัวสญั ญาณ ความหมายคอื “ 0” คอื การสงสญั ญาณ และ สถานะ “ 1” คือยงั ไมมกี ารสงสญั ญาณ 7.1 ฟลปิ ปลอปแบบ RS (RS FlipFlop) ฟลิปฟลอปแบบ RS คือฟลิปฟลอปที่มี 2 อินพุตคือ R และ S โดยสามารถสรางไดจากการใช นอรเกต (หรอื แนนดเกต) จํานวน 2 ตัว สําหรับหวั ขอน้จี ะกลา วเฉพาะการสรางฟลิปฟลอปแบบ RS โดยใชน อรเ กตเทาน้ัน รปู ท่ี 7.5 สญั ลักษณของฟลปิ ฟลอปแบบ RS ตารางที่ 7.1 ตารางความจริงของฟลปิ ฟลอปแบบ RS อินพตุ เอาตพุต สถานะ ไมเ ปลย่ี นสถานะ RS Qnext Q next 00 Q Q เซต 01 1 0 เคลียร 10 0 1 ไมเ กดิ ข้ึน 11 - - ตารางท่ี 7.1 คอื ตารางความจรงิ ของฟลิปฟลอปแบบ RS กาํ หนดให Qnext คือสถานะของคา Q ทีเ่ กดิ ข้ึนมาใหมห ลังจากเกิดสญั ญาณ CLK ซ่ึงสามารถอธิบายเอาตพตุ ที่เกิดขนึ้ ไดด งั นี้ กรณีท่ี 1 R = 0 และ S = 0: คา Qnext จะมีคาคงคาเดิม ความหมายคือ คา Q กอนท่ีจะเกิด สญั ญาณ CLK มีสถานะเปน อยา งไร คา Q ใหมท ่เี กดิ ขึ้นหลังเกิดสัญญาณ CLK จะยังคงเปน คาเดิม กรณที ่ี 2 R = 0 และ S = 1: คา Qnext จะมคี าเปน 1 เสมอไมวา สถานะของคา Q กอนทจี่ ะเกิด สัญญาณ CLK มีคา เปน อยา งไรกต็ าม 132
เอกสารประกอบการสอนวชิ าวงจรดจิ ิทลั และลอจิก โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข กรณีที่ 3 R = 1 และ S = 0: คา Qnext จะมีคาเปน 0 เสมอไมวาสถานะของคา Q กอนทีจ่ ะเกิด สัญญาณ CLK มีคา เปน อยา งไรก็ตาม กรณีที่ 4 R = 1 และ S = 1: เปน สถานะทีไ่ มยอมใหเกิดข้ึน เนอื่ งจากทาํ ใหส ถานะของ Q และ Q มคี า เหมือนกันซ่งึ ขดั แยงกับความเปนจรงิ ทวี่ า Q และ Q จะตอ งเปนนเิ สธซ่งึ กันละกนั เสมอซ่งึ จะ แสดงใหเหน็ ตอ ไปในสวนของโครงสรางท่อี ยูภ ายในฟลปิ ฟลอปแบบ RS คาเอาตพุต Q และ Q มาจากโครงสรา งภายในของฟลิปฟลอปแบบ RS ซงึ่ สามารถพิจารณาได ดงั รปู ที่ 7.6 รปู ท่ี 7.6 โครงสรา งของฟลปิ ฟลอปแบบ RS รปู ท่ี 7.6 แสดงโครงสรางของฟลิปฟลอปแบบ RS ซึ่งเกิดจากการใชนอรเกต 2 ตัวโดยการนํา เอาตพุต Q มาเปน อนิ พตุ ใชน อรเกตตวั ที่ 2 และนําเอาเอาตพุต Q มาเปนอินพุตใหนอรเกตตัวที่ 1 เรียกการตอวงจรลกั ษณะน้ีวา “ แลตซ” ซง่ึ เขยี นสมการพชี คณิตบลู นี ของ Q และ Q ไดด ังนี้ Q = R+ Q Q= S+ Q ดงั นัน้ สถานะของ Q และ Q เนอ่ื งจาก R และ S เปนดังน้ี กรณที ี่ 1: R = 0 และ S = 0 คงคา เดมิ เซตคา Q=0+Q= Q= Q เคลยี รค า Q= 0+ Q= Q ไมใหเกดิ ข้ึน กรณีที่ 2: R = 0 และ S = 1 Q=1+ Q=1= 0 Q= 0+ Q= 0+ 0= 0=1 กรณที ี่ 3: R = 1 และ S = 0 Q=1+ Q=1= 0 Q= 0+ 0= 0=1 กรณที ี่ 4: R = 1 และ S = 1 Q=1+ Q=1= 0 Q=1+ 0=1= 0 133
เอกสารประกอบการสอนวิชาวงจรดจิ ิทลั และลอจิก โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสขุ จากกรณีที่ 4 สังเกตเหน็ วา คา เอาตพ ตุ Q และ Q มคี า เทา กนั คือ 0 ซ่ึงขัดแยงความเปนจริง จึง เปนกรณที ีจ่ ะไมใหเ กิดขน้ึ ตัวอยางที่ 7-1 จากไดอะแกรมแสดงเวลาของฟลิปฟลอปแบบ RS ตอ ไปนจี้ งหาเอาตพตุ ทเ่ี กดิ ขึ้นใน แตล ะชวงเวลา v CL K 1 0 t v 1 t R 0 v t S1 0 v t Q1 0 t1 t2 t3 t4 t5 t6 t7 t8 วธิ ที ํา จากไดอะแกรมแสดงเวลาสามารถคํานวณหาเอาตพ ตุ แตละชวงเวลาไดด ังนี้ เวลา t1: R= 0 และ S = 0 คา Q จึงคงคา เดิม แตเ นอ่ื งจากโจทยไมไ ดกาํ หนดคาเรม่ิ ตนจึงไม จาํ เปนตอ งใสผ ลลพั ธข อง Q ท่ีชวงเวลา t1 เวลา t2: R = 1 และ S = 0 ไดคา Q เปน 0 เวลา t3-t5: R = 0 และ S = 1 ไดค า Q เปน 1 เวลา t6: R = 0 และ S = 0 คา Q ตอ งคงคาเดมิ เนอ่ื งจากคา Q ทเ่ี วลา t5 คอื 1 ดงั นน้ั ไดค า Q เปน 1 เวลา t7-t8: R = 1 และ S = 0 ไดคา Q เปน 0 เพราะฉะนน้ั จึงไดคา Q ในแตล ะชวงเวลาออกมา ดังนี้ 134
เอกสารประกอบการสอนวิชาวงจรดจิ ิทัลและลอจกิ โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข CL K v t R t 1 t 0 t v 1 0 v S1 0 สถานะทีไม่สนใจ v Q1 0 t t2 t3 t4 t5 t6 t7 t8 1 ตวั อยางที่ 7-2 จากไดอะแกรมแสดงเวลาของฟลิปฟลอปแบบ RS ตอ ไปนี้จงหาเอาตพ ุตทเ่ี กดิ ขึ้นใน แตล ะชว งเวลา v CLK 1 t 0 v 1 t R 0 v t S1 0 v Q1 0 t t1 t t3 t4 t5 t6 t7 t8 2 วิธที ํา จากไดอะแกรมแสดงไดค า Q ออกมาเปนดงั นี้ 135
เอกสารประกอบการสอนวิชาวงจรดจิ ิทัลและลอจกิ โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข CL K v t R t 1 0 v 1 0 v S1 t 0 t สถานะทีไม่สนใจ v Q1 0 t2 x t3 t4 t5 t6 t7 t8 t1 จากคา Q ทค่ี าํ นวณไดพบวา ทเ่ี วลา x ถึงแมม กี ารกาํ หนดคา R = 0 และ S = 1 แตคา Q ยังคงมี คาเปน 0 เน่ืองจากวาท่ีชวงเวลาดังกลาวยังไมมีการเกิดสัญญาณ CLK จึงทําใหคา Q ไมมีการ เปลีย่ นแปลงใดๆ ตวั อยางที่ 7-3 จากไดอะแกรมแสดงเวลาของฟลิปฟลอปแบบ RS ตอ ไปนีจ้ งหาเอาตพ ุตทเี่ กดิ ขน้ึ ใน แตล ะชว งเวลา CL R v t CL K t R 1 t 0 v 1 0 v 1 0 v S1 t 0 t v 1 Q 0 t1 t t t4 t5 t6 t7 t8 2 3 136
เอกสารประกอบการสอนวชิ าวงจรดจิ ิทัลและลอจิก โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข วิธที ํา จากไดอะแกรมแสดงไดค า Q ออกมาเปนดังน้ี CL R v t CL K t 1 t R 0 t t v 1 0 v 1 0 v S1 0 สถานะทีไม่สนใจ v 1 Q 0 t2 t3 x1xt24 t5 t6 t7 t 8 t1 จากตัวอยางที่ 7-3 เนื่องจากชวงเวลา x1 – x2 เกิดสัญญาณ CLR ข้นึ จึงทําใหคา Q เปน 0 ในทันทีโดยไมสนใจวาในชวงเวลาดังกลาวเกิดสัญญาณ CLK หรือไม โดยท่ีคา Q จะมีโอกาสท่ีจะ เปล่ียนแปลงคาไดอ กี กต็ อเมื่อเกิดสัญญาณ CLK ข้นึ ใหม 7.1.1 ตารางเอ็กไซเทชน่ั ของฟลิปฟลอปแบบ RS ตารางเอก็ ไซเทชั่นของฟลปิ ฟลอปแบบ RS คือตารางทีใ่ ชสาํ หรบั การวเิ คราะหห าคา อนิ พตุ R และ อินพุต S เพอื่ ใหไ ดมาซง่ึ คาของเอาตพุตใหมท ม่ี ีสถานะตามตองการ ซ่ึงแบงออกเปน 4 กรณี ดังน้ี กรณีที่ 1: Q = 0 ตอ งการได Qnext = 0 จากตารางที่ 7.1 กําหนด R=0, S=0 ดังนั้นเมื่อ Q = 0 จะได Qnext = 0 ตรงตามเง่ือนไข กาํ หนด R=0, S=1 ดังนัน้ เมอื่ Q = 0 จะได Qnext = 1 ไมต รงตามเง่ือนไข กําหนด R=1, S=0 ดงั นนั้ เม่อื Q = 0 จะได Qnext = 0 ตรงตามเง่อื นไข ดงั น้ันเงอื่ นไขที่เปน ไปไดท่จี ะทาํ ใหไ ด Qnext มีคาเปน 0 กรณีท่ี Q มีคาเปน 0 คือ R มีคา เปนไดท งั้ 0 หรือ 1 จงึ กาํ หนดให R เปน เงอื่ นไขท่ไี มส นใจ และ S ตองมีคาเปน 0 เทา นัน้ กรณที ี่ 2: Q = 0 ตองการได Qnext = 1 จากตารางท่ี 7.1 กําหนด R=0, S=0 ดังน้ันเมอื่ Q = 0 จะได Qnext = 0 ไมตรงตามเง่ือนไข กาํ หนด R=0, S=1 ดังน้นั เมอื่ Q = 0 จะได Qnext = 1 ตรงตามเง่ือนไข กําหนด R=1, S=0 ดงั น้นั เม่อื Q = 0 จะได Qnext = 0 ไมตรงตามเงือ่ นไข 137
เอกสารประกอบการสอนวิชาวงจรดจิ ิทลั และลอจิก โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข ดงั น้ันเง่อื นไขทีเ่ ปน ไปไดท จี่ ะทําใหได Qnext มีคาเปน 1 กรณที ี่ Q มีคา เปน 0 คือ R มีคา เปน 0 และ S ตองมีคาเปน 1 เทาน้นั กรณีท่ี 3: Q = 1 ตอ งการได Qnext = 0 จากตารางท่ี 7.1 กําหนด R=0, S=0 ดังนนั้ เมื่อ Q = 1จะได Qnext = 1 ไมต รงตามเงอ่ื นไข กําหนด R=0, S=1 ดังนน้ั เม่อื Q = 1จะได Qnext = 1 ไมตรงตามเงอ่ื นไข กาํ หนด R=1, S=0 ดังนนั้ เมื่อ Q = 1จะได Qnext = 0 ตรงตามเงือ่ นไข ดังนัน้ เง่ือนไขทเี่ ปนไปไดท จ่ี ะทําใหไ ด Qnext มีคา เปน 0 กรณที ี่ Q มีคาเปน 1 คือ R มีคา เปน 1 และ S ตองมีคา เปน 0 เทา นั้น กรณีที่ 4: Q = 1 ตองการได Qnext = 1 จากตารางที่ 7.1 กาํ หนด R=0, S=0 ดงั นั้นเมือ่ Q = 1 จะได Qnext = 1 ตรงตามเงื่อนไข กาํ หนด R=0, S=1 ดังนน้ั เมอื่ Q = 1 จะได Qnext = 1 ตรงตามเงอ่ื นไข กําหนด R=1, S=0 ดังนน้ั เม่ือ Q = 1 จะได Qnext = 0 ไมตรงตามเง่อื นไข ดังนั้นเงื่อนไขท่เี ปนไปไดท่ีจะทําใหได Qnext มีคาเปน 1 กรณีท่ี Q มีคาเปน 1 คือ R มีคา เปน 0 และ S จะมีคาเปนไดท้งั 0 หรือ 1 จงึ เปนเงอ่ื นไขทไ่ี มส นใจ จากเง่ือนไขท้งั 4 กรณสี ามารถสรปุ ออกมาเปนตารางเอ็กไซเทชั่นไดด ังน้ี ตารางที่ 7.2 ตารางเอก็ ไซเทชัน่ ของฟลปิ ฟลอปแบบ RS อินพุต เอาตพุต S 0 Q Qnext R 1 00 x 0 0 x 01 1 10 0 11 7.1.2 การคาํ นวณหาสมการพีชคณิตบลู ีนของเอาตพ ตุ ใหมของฟลิปฟลอปแบบ RS การคํานวณหาสมการพีชคณิตบลู ีนของ Qnext ของฟลปิ ฟลอปแบบ RS มไี วเพื่อใชส ําหรับ การวิเคราะหวงจรเชิงลําดับซ่ึงสามารถวิเคราะหไดทั้ง กรณีที่ใชสัญญาณนาฬิกาชดุ เดียวกัน หรือ สญั ญาณนาฬกิ าคนละชดุ กัน โดยแบง ออกเปน 2 กรณดี งั นี้ กรณที ่ี 1: ไมคดิ สญั ญาณนาฬกิ าดงั น้ันอนิ พตุ ท้ังหมดประกอบไปดวย R, S และ Q ซึ่งมี ทั้งหมด 3 ตวั เพราะฉะน้ันคา ทเ่ี ปนไปไดทง้ั หมดจงึ มี 8 คาดงั น้ี กําหนด R=0, S=0 และ Q = 0 ดงั น้ัน Qnext = 0 กําหนด R=0, S=0 และ Q = 1 ดังนั้น Qnext = 1 กําหนด R=0, S=1 และ Q = 0 ดังน้ัน Qnext = 1 กาํ หนด R=0, S=1 และ Q = 1 ดงั น้ัน Qnext = 1 กําหนด R=1, S=0 และ Q = 0 ดังนน้ั Qnext = 0 138
เอกสารประกอบการสอนวชิ าวงจรดิจิทัลและลอจิก โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข กาํ หนด R=1, S=0 และ Q = 1 ดังนัน้ Qnext = 0 กําหนด R=1, S=1 และ Q = 0 -->ไมใหเกิดกรณีน้ี จงึ เปนสถานะทไ่ี มสนใจ กําหนด R=1, S=1 และ Q = 1-->ไมใ หเ กดิ กรณีน้ี จงึ เปนสถานะทไ่ี มสนใจ เขียนผลลัพธท ่ไี ดล งแผนผังคารโ นหไ ดดังน้ี RS S 00 01 11 10 Q 00 1 x 0 RQ 1 1 1 x 0 รูปท่ี 7.7 การใชแ ผนผังคารโ นหเพ่ือหาสมการพึชคณิตบลู นี ของ Qnext ในกรณไี มคิดสญั ญาณนาฬิกา กรณใี ชฟ ลิปฟลอปแบบ RS ดงั น้นั ไดว า Qnext = RQ + S กรณที ี่ 2: คิดสญั ญาณนาฬิกาดงั นน้ั อนิ พุตทงั้ หมดประกอบไปดว ย R, S, Q และ CLK ซง่ึ มีทงั้ หมด 4 ตวั เพราะฉะนัน้ คาท่เี ปน ไปไดท ง้ั หมดจึงมี 16 คา ดงั นี้ กําหนด R=0, S=0, Q=0 และ CLK = 0 (ไมเ กดิ สัญญาณนาฬิกา) ดังนนั้ Qnext = 0 กําหนด R=0, S=0, Q=0 และ CLK = 1 (เกดิ สญั ญาณนาฬกิ า) ดังนน้ั Qnext = 0 กําหนด R=0, S=0, Q=1 และ CLK = 0 (ไมเ กดิ สัญญาณนาฬกิ า) ดงั นัน้ Qnext = 1 กําหนด R=0, S=0, Q=1 และ CLK = 1 (เกิดสัญญาณนาฬิกา) ดังนัน้ Qnext = 1 กาํ หนด R=0, S=1, Q=0 และ CLK = 0 (ไมเ กิดสัญญาณนาฬิกา) ดังน้ัน Qnext = 0 กาํ หนด R=0, S=1, Q=0 และ CLK = 1 (เกิดสญั ญาณนาฬิกา) ดังนั้น Qnext = 1 กําหนด R=0, S=1, Q=1 และ CLK = 0 (ไมเกดิ สัญญาณนาฬิกา) ดงั นั้น Qnext = 1 กาํ หนด R=0, S=1, Q=1 และ CLK = 1 (เกิดสญั ญาณนาฬกิ า) ดังนั้น Qnext = 1 กําหนด R=1, S=0, Q=0 และ CLK = 0 (ไมเกิดสญั ญาณนาฬกิ า) ดังนั้น Qnext = 0 กาํ หนด R=1, S=0, Q=0 และ CLK = 1 (เกดิ สัญญาณนาฬิกา) ดังน้ัน Qnext = 0 กาํ หนด R=1, S=0, Q=1 และ CLK = 0 (ไมเ กิดสญั ญาณนาฬิกา) ดังนนั้ Qnext = 1 กาํ หนด R=1, S=0, Q=1 และ CLK = 1 (เกดิ สญั ญาณนาฬิกา) ดงั น้ัน Qnext = 0 กาํ หนด R=1, S=1, Q=0 และ CLK = 0 (ไมเ กิดสัญญาณนาฬิกา) ดังนัน้ Qnext = 0 กาํ หนด R=1, S=1, Q=0 และ CLK = 1 (R=1, S=1 ไมใหเกิดขน้ึ ) ดงั นัน้ Qnext = x กาํ หนด R=1, S=1, Q=1 และ CLK = 0 (ไมเ กิดสญั ญาณนาฬิกา) ดังนน้ั Qnext = 1 กาํ หนด R=1, S=1, Q=1 และ CLK = 1 (R=1, S=1 ไมใ หเ กดิ ขึน้ ) ดังน้นั Qnext = x 139
เอกสารประกอบการสอนวิชาวงจรดจิ ิทัลและลอจิก โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข RS QCLK 00 01 11 10 00 0 0 0 0 01 0 1 x 0 SCl k RQ 11 1 1 x 0 Q Cl k 10 1 1 1 1 รูปที่ 7.8 การใชแ ผนผังคารโ นหเพอื่ หาสมการพึชคณติ บลู นี ของ Qnext ในกรณคี ิดสัญญาณนาฬกิ ากรณใี ชฟ ลิปฟลอปแบบ RS ดงั นน้ั ไดวา Qnext = RQ + QClk + SClk จากรูปท่ี 7.8 ทต่ี าํ แหนง R, S, Q และ CLK มีคา เปน “ 1100” และ “ 1110” คา มีQnext คาเปน 0 และ 1 ตามลําดบั ถึงแม R และ S จะมคี าเปน 1 พรอมกันก็ตาม แตยังไมเกดิ สัญญาณ CLK คา Qnext จึงมคี า คงเดิม (Qnext = Q) 7.2 ฟลปิ ปลอปแบบ D (D FlipFlop) ฟลิปฟลอปแบบ D คือฟลิปฟลอปทม่ี ี 1 อินพุตหลักการทํางานของฟลปิ ฟลอป D คอื กรณที เ่ี กดิ สญั ญาณ CLK เอาตพ ตุ ทไี่ ดจะมีคา เดียวกบั คา D (Qnext = D) ซ่ึงมสี ญั ลักษณ ดงั รูปที่ 7.9 และตาราง ความจรงิ ดงั ตารางที่ 7.3 รูปที่ 7.9 สัญลักษณของฟลปิ ฟลอปแบบ D ตารางที่ 7.3 ตารางความจริงของฟลปิ ฟลอปแบบ D อินพตุ เอาตพ ุต สถานะ เคลยี ร D Qnext Q next เซต 0 1 0 1 0 1 140
เอกสารประกอบการสอนวชิ าวงจรดจิ ิทัลและลอจิก โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสขุ ตารางที่ 7.3 คือ ตารางความจรงิ ของฟลปิ ฟลอปแบบ D ซ่งึ สามารถอธิบายเอาตพตุ ท่ีเกิดข้ึนได ดังน้ี กรณีที่ 1 D = 0 คา Q จะมคี าเปน 0 เสมอไมวาสถานะของคา Q กอนท่จี ะเกิดสัญญาณ CLK มี คาเปนอยา งไรกต็ าม กรณีท่ี 2 D = 1 คา Q จะมีคา เปน 1 เสมอไมวาสถานะของคา Q กอนท่ีจะเกิดสัญญาณ CLK มี คาเปน อยา งไรก็ตาม โดยทีส่ ามารถนาํ โครงสรา งของฟลบิ ฟลอปแบบ RS มาสรา งฟลปิ ฟลอปแบบ D ไดโ ดยนาํ อนิ พุต ของคา D มาเปน อินพุตใหกับคา S และนําอินพตุ ตัวดังกลา วมาใสค อมพลิเมนตเ พือ่ เปน อินพตุ ใหคา R ไดด ังน้ี รูปท่ี 7.10 การสรา งฟลปิ ฟลอปแบบ D โดยใชฟ ลปิ ฟลอปแบบ RS รูปท่ี 7.10 แสดงการสรางฟลิปฟลอปแบบ D ดวยฟลิปปลอปแบบ RS โดยอินพุตมี 1 คาจึงมี ทง้ั หมด 2 กรณีดงั นี้ กรณที ่ี 1 กําหนดให D =0 จะทําให R = 1 และ S = 0 ซงึ่ เปนการเคลียรคา ทํา ให Qnext= 0 และกรณีที่ 2 กําหนดให D = 1 จะทําให R = 0 และ S = 1 ซ่ึงเปนการเซตคาทําให Qnext = 1 ตวั อยางที่ 7-4 จากไดอะแกรมแสดงเวลาของฟลิปฟลอปแบบ D ตอ ไปน้จี งหาเอาตพตุ ทเ่ี กดิ ขึ้นในแต ละชว งเวลา v CL K 1 0 t v 1 t D 0 v t Q1 0 t1 t2 t3 t4 t5 t6 t7 t8 141
เอกสารประกอบการสอนวิชาวงจรดจิ ิทลั และลอจกิ โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข วธิ ที ํา จากไดอะแกรมแสดงเวลาสามารถคํานวณหาเอาตพ ตุ แตละชวงเวลาไดด ังนี้ เวลา t1-t3: D= 1ไดค า Qnext เปน 1 โดยคา Q จะเปน คา ดงั กลา วไปจนถงึ เวลา t4 เวลา t4-t5: D= 0 ไดค า Qnext เปน 0 โดยคา Q จะเปน คาดงั กลา วไปจนถงึ เวลา t6 เวลา t6: D= 1 ไดค า Qnext เปน 1 เวลา t7-t8: D= 0 ไดคา Qnext เปน 0 เพราะฉะน้ันจงึ ไดคา Q ในแตล ะชวงเวลาออกมา ดงั น้ี CL K v t D t 1 t 0 v 1 0 v Q1 0 t1 t2 t3 t4 t5 t6 t7 t 8 7.2.1 ตารางเอ็กไซเทชนั่ ของฟลิปฟลอปแบบ D ตารางเอก็ ไซเทช่นั ของฟลิปฟลอปแบบ D คือตารางที่ใชสาํ หรบั การวเิ คราะหห าคา อินพุต D เพ่อื ใหไ ดมาซึง่ คาของเอาตพ ตุ ใหมทม่ี สี ถานะตามตอ งการ ซึ่งแบง ออกเปน 4 กรณีดังนี้ กรณีท่ี 1: Q = 0 ตองการได Qnext = 0 จากตารางท่ี 7.2 กําหนด D = 0, Q = 0 จะได Qnext = 0 ตรงตามเง่ือนไข กําหนด D = 1, Q = 0 จะได Qnext = 1 ไมต รงตามเงือ่ นไข ดังน้ันสรุปไดว า เมือ่ เกดิ สญั ญาณ CLK เง่ือนไขท่ีเปนไปไดท่ีจะทําใหได Qnext มีคาเปน 0 กรณที ่ี Q มีคาเปน 0 คือ D มีคาเปน 0 กรณีที่ 2: Q = 0 ตองการได Qnext = 1 จากตารางท่ี 7.2 กาํ หนด D = 0, Q = 0 จะได Qnext = 0 ไมต รงตามเงือ่ นไข กําหนด D = 1, Q = 0 จะได Qnext = 1 ตรงตามเง่อื นไข ดังนั้น สรปุ ไดว า เมื่อเกดิ สญั ญาณ CLK เง่อื นไขท่ีเปนไปไดท่ีจะทาํ ใหได Qnext มคี าเปน 1 กรณที ่ี Q มคี า เปน 0 คือ D มีคา เปน 1 กรณที ่ี 3: Q = 1 ตอ งการได Qnext = 0 จากตารางท่ี 7.2 กาํ หนด D = 0, Q = 1 จะได Qnext = 0 ตรงตามเงือ่ นไข 142
เอกสารประกอบการสอนวชิ าวงจรดจิ ิทลั และลอจิก โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข กําหนด D = 1, Q = 1 จะได Qnext = 1 ไมตรงตามเงือ่ นไข ดังน้นั สรุปไดวา เมื่อเกิดสัญญาณ CLK เงอ่ื นไขทเ่ี ปน ไปไดท่ีจะทาํ ใหได Qnext มีคาเปน 0 กรณีที่ Q มคี าเปน 1 คือ D มคี า เปน 0 กรณีท่ี 4: Q = 1 ตอ งการได Qnext = 1 จากตารางที่ 7.2 กาํ หนด D = 0, Q = 1 จะได Qnext = 0 ไมตรงตามเงื่อนไข กาํ หนด D = 1, Q = 1 จะได Qnext = 1 ตรงตามเงอื่ นไข ดังน้ัน สรปุ ไดว า เมือ่ เกิดสัญญาณ CLK เงอื่ นไขที่เปน ไปไดท ่ีจะทําใหได Qnext มคี า เปน 1 กรณีที่ Q มีคา เปน 1 คอื D มคี าเปน 1 จากเงอ่ื นไขทัง้ 4 กรณสี ามารถสรปุ ออกมาเปน ตารางเอก็ ไซเทชั่นไดดงั น้ี ตารางที่ 7.4 ตารางเอ็กไซเทชน่ั ของฟลปิ ฟลอปแบบ D อนิ พตุ เอาตพุต Q Qnext D 00 0 01 1 10 0 11 1 7.2.2 การคํานวณหาสมการพีชคณติ บูลนี ของเอาตพ ตุ ใหมข องฟลปิ ฟลอปแบบ D การคาํ นวณหาสมการพชี คณติ บลู ีนของ Qnext ของฟลปิ ฟลอปแบบ D มีไวเพื่อใชสําหรับ การวิเคราะหวงจรเชิงลําดับซ่ึงสามารถวิเคราะหไดท้ัง กรณีท่ีใชสัญญาณนาฬิกาชุดเดียวกัน หรือ สัญญาณนาฬกิ าคนละชดุ กัน โดยแบง ออกเปน 2 กรณีดังนี้ กรณที ่ี 1: ไมค ิดสญั ญาณนาฬกิ าดังนน้ั อินพตุ ทง้ั หมดมี 2 ตัวคือ D และ Q เพราะฉะนั้น คา ท่ีเปนไปไดท งั้ หมดจงึ มี 4 คาดังนี้ กาํ หนด D=0 และ Q = 0 ดังนนั้ Qnext = 0 กาํ หนด D=0 และ Q = 1 ดังน้นั Qnext = 0 กาํ หนด D=1 และ Q = 0 ดังนน้ั Qnext = 1 กําหนด D=1 และ Q = 1 ดังนั้น Qnext = 1 เขยี นผลลัพธท่ีไดลงแผนผงั คารโนหไ ดด ังน้ี D 0 1 D Q 0 1 0 1 0 1 รูปท่ี 7.11 การใชแ ผนผังคารโนหเ พื่อหาสมการพชึ คณิตบลู ีนของ Qnext ในกรณไี มคดิ สัญญาณนาฬกิ า กรณใี ชฟ ลิปฟลอปแบบ D 143
เอกสารประกอบการสอนวชิ าวงจรดจิ ิทัลและลอจกิ โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข ดังน้ันไดว า Qnext= D กรณีที่ 2: คดิ สัญญาณนาฬิกาดงั นนั้ อนิ พตุ ท้งั หมดประกอบไปดวย D, Q และ CLK ซึ่งมี ทง้ั หมด 3 ตัว เพราะฉะน้นั คา ที่เปน ไปไดท ง้ั หมดจึงมี 8คาดงั น้ี กาํ หนด D=0, Q=0 และ CLK = 0 (ไมเ กิดสัญญาณนาฬกิ า) ดังนน้ั Qnext = 0 กาํ หนด D=0, Q=0 และ CLK = 1 (เกดิ สญั ญาณนาฬกิ า) ดงั นั้น Qnext = 0 กาํ หนด D=0, Q=1 และ CLK = 0 (ไมเกิดสญั ญาณนาฬิกา) ดงั น้นั Qnext = 1 กาํ หนด D=0, Q=1 และ CLK = 1 (เกิดสัญญาณนาฬกิ า) ดงั นัน้ Qnext = 0 กําหนด D=1, Q=0 และ CLK = 0 (ไมเ กิดสญั ญาณนาฬกิ า) ดงั นน้ั Qnext = 0 กําหนด D=1, Q=0 และ CLK = 1 (เกิดสัญญาณนาฬิกา) ดงั น้ัน Qnext = 1 กาํ หนด D=1, Q=1 และ CLK = 0 (ไมเ กิดสญั ญาณนาฬิกา) ดังนั้น Qnext = 1 กําหนด D=1, Q=1 และ CLK = 1 (เกิดสัญญาณนาฬกิ า) ดังนัน้ Qnext = 1 DQ 00 01 11 10 CLK Q Cl k 00 1 1 0 DCl k 1 0 0 1 1 รูปที่ 7.12 การใชแ ผนผงั คารโนหเ พอ่ื หาสมการพึชคณติ บลู นี ของ Qnext ในกรณคี ิดสญั ญาณนาฬิกา กรณีใชฟลิปฟลอปแบบ D ดังนน้ั ไดว า Qnext = DClk + QClk 7.3 ฟลปิ ปลอปแบบ T (T FlipFlop) ฟลปิ ฟลอปแบบ T คอื ฟลปิ ฟลอปทีม่ ี 1 อินพุตหลักการทํางานของฟลิปฟลอป T คอื กรณที ่ีเกดิ สญั ญาณ CLK หากกําหนด T = 0 แลว เอาตพุตทไี่ ดจะคงเดมิ (Qnext= Q) แตห ากกําหนด T = 1 แลว เอาตพตุ ที่ไดจ ะเกดิ จากการกลบั สถานะของคา เดิม (Qnext = Q ) โดยฟลิปฟลอปแบบ T มสี ัญลักษณ ดงั รูปท่ี 7.13 และตารางความจรงิ ดงั ตารางที่ 7.5 T รูปท่ี 7.13 สญั ลกั ษณข องฟลปิ ฟลอปแบบ T 144
เอกสารประกอบการสอนวิชาวงจรดิจิทลั และลอจิก โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสขุ ตารางที่ 7.5 ตารางความจรงิ ของฟลปิ ฟลอปแบบ T อินพตุ เอาตพตุ สถานะ ไมเปลยี่ นสถานะ T Qnext Q next Q Q กลับสถานะ 0 Q Q 1 ตารางท่ี 7.5 คือตารางความจรงิ ของฟลิปฟลอปแบบ T ซึ่งสามารถอธิบายเอาตพุตท่ีเกิดขึ้นได ดงั นี้ กรณีที่ 1 T = 0 คา Qnext จะมคี าคงเดิม คือสถานะของคา Q กอ นทจี่ ะเกิดสัญญาณ CLK มีคา เปนอยางไร Qnext กจ็ ะมีคา เปน เชน น้ัน กรณีท่ี 2 T = 1 คา Qnext จะมีคา ตรงขามกบั คา เดมิ คือสถานะของคา Q กอ นที่จะเกิดสัญญาณ CLK มีคาเปนอยางไร Qnext จะมคี า ตรงขา มกบั คา Q โดยทสี่ ามารถนําโครงสรางของฟลบิ ฟลอปแบบ RS มาสรา งฟลิปฟลอปแบบ T ไดโ ดยนาํ คา Qมาเปน อนิ พตุ ใหก บั คา R และนําคา Q มาเปนอนิ พตุ ใหคา S ไดดงั น้ี รูปท่ี 7.14 การสรา งฟลปิ ฟลอปแบบ T โดยใชฟลิปฟลอปแบบ RS รูปที่ 7.14 แสดงการสรางฟลิปฟลอปแบบ T ดวยฟลิปปลอปแบบ RS โดยอินพุตมี 1 คาจึงมี ทง้ั หมด 2 กรณดี งั น้ี กรณที ี่ 1กาํ หนดให T =0 จะทําให R = 0 และ S = 0 ซ่ึงทําให Qnext ท่ีไดมีคา เทากับคา Q กอนทจี่ ะเกดิ สญั ญาณ CLK และกรณที ่ี 2 กําหนดให T = 1 จะทําให R = TQ และ S = TQ ซ่ึงทาํ ให Qnext ท่ไี ดม ีคา ตรงขา มกับคา Q กอ นท่จี ะเกิดสัญญาณ CLK ยกตัวอยางเชน สมมติ วา Q =0, เมื่อเกิดสัญญาณ CLK และกําหนด T = 1 จะทําให R = 1.0 = 0 และ S = 1.1 = 1 ซ่งึ ทาํ ให Qnext มคี า เปน 1 (คาทไ่ี ดตรงขามกบั คา Q เสมอ) ตัวอยางที่ 7-5 จากไดอะแกรมแสดงเวลาของฟลปิ ฟลอปแบบ T ตอ ไปนี้จงหาเอาตพ ตุ ทเี่ กิดขน้ึ ในแต ละชว งเวลา กาํ หนดใหค า Q กอนทจ่ี ะเกิดสญั ญาณ CLK ทีเ่ วลา t1มีคา เปน 0 145
เอกสารประกอบการสอนวชิ าวงจรดิจิทลั และลอจกิ โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข CL K v t T t 1 0 v 1 0 v Q1 0 t t1 t2 t3 t t t6 t7 t8 4 5 วิธที าํ จากไดอะแกรมแสดงเวลาสามารถคํานวณหาเอาตพ ตุ แตละชว งเวลาไดด งั นี้ เวลา t1: T= 1, เนอ่ื งจากคา Q กอนท่จี ะเกดิ สญั ญาณ CLK มคี า เปน 0 ทาํ ใหไ ด Qnext มคี า เปน 1 เวลา t2: T= 1, เนื่องจากคา Q กอ นทีจ่ ะเกดิ สญั ญาณ CLK มีคา เปน 1 ทําใหได Qnext มคี าเปน 0 เวลา t3: T= 1, เนือ่ งจากคา Q กอนท่จี ะเกดิ สญั ญาณ CLK มีคาเปน 0 ทําใหได Qnext มคี าเปน 1 เวลา t4: T= 0, เนอ่ื งจากคา Q กอนทีจ่ ะเกดิ สญั ญาณ CLK มคี าเปน 1 ทาํ ใหไ ด Qnext มคี า เปน 1 เวลา t5: T= 0, เนื่องจากคา Q กอ นท่ีจะเกดิ สญั ญาณ CLK มคี าเปน 1 ทําใหไ ด Qnext มคี าเปน 1 เวลา t6: T= 1, เนื่องจากคา Q กอ นที่จะเกดิ สญั ญาณ CLK มคี าเปน 1 ทําใหไ ด Qnext มีคา เปน 0 เวลา t7: T= 0, เนือ่ งจากคา Q กอนที่จะเกดิ สญั ญาณ CLK มคี า เปน 0 ทาํ ใหได Qnext มีคาเปน 0 เวลา t8: T= 0, เน่ืองจากคา Q กอ นทจ่ี ะเกดิ สญั ญาณ CLK มคี า เปน 0 ทาํ ใหไ ด Qnext มคี าเปน 0 เพราะฉะน้นั จึงไดค า Q ในแตล ะชวงเวลาออกมา ดงั น้ี CL K v t T t 1 t 0 v 1 0 v Q1 0 t1 t2 t3 t4 t5 t6 t7 t 8 7.3.1 ตารางเอ็กไซเทชนั่ ของฟลิปฟลอปแบบ T ตารางเอ็กไซเทช่ันของฟลิปฟลอปแบบ T คือตารางที่ใชส าํ หรบั การวเิ คราะหห าคาอินพุต T เพอื่ ใหไ ดมาซ่งึ คาของเอาตพุตใหมที่มีสถานะตามตองการ ซึ่งแบง ออกเปน 4 กรณดี งั น้ี 146
เอกสารประกอบการสอนวชิ าวงจรดิจิทัลและลอจกิ โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข กรณีที่ 1: Q = 0 ตองการได Qnext = 0 จากตารางที่ 7.5 กําหนด T = 0, Q = 0 จะได Qnext = 0 ตรงตามเงอื่ นไข กําหนด T = 1, Q = 0 จะได Qnext = 1 ไมต รงตามเง่อื นไข ดังนน้ั สรุปไดวา เมอ่ื เกิดสัญญาณ CLK แลว Qnext จะมีคา เปน 0 เสมอ เม่ือ Q มคี าเปน 0 และ T มคี าเปน 0 กรณที ่ี 2: Q = 0 ตองการได Qnext = 1 จากตารางที่ 7.5 กําหนด T = 0, Q = 0 จะได Qnext = 0 ไมต รงตามเง่อื นไข กําหนด T = 1, Q = 0 จะได Qnext = 1 ตรงตามเงือ่ นไข ดงั น้ันสรุปไดว า เมอ่ื เกดิ สัญญาณ CLK แลว Qnext จะมีคาเปน 1 เสมอ เมื่อ Q มคี าเปน 0 และ T มีคา เปน 1 กรณที ี่ 3: Q = 1 ตอ งการได Qnext = 0 จากตารางท่ี 7.2 กําหนด T = 0, Q = 1 จะได Qnext = 1 ไมตรงตามเงื่อนไข กาํ หนด T = 1, Q = 1 จะได Qnext = 0 ตรงตามเงอ่ื นไข ดังนนั้ สรุปไดว า เมอ่ื เกดิ สญั ญาณ CLK แลว Qnext จะมคี าเปน 0 เสมอ เม่ือ Q มีคา เปน 1 และ T มคี าเปน 1 กรณีท่ี 4: Q = 1 ตองการได Qnext = 1 จากตารางที่ 7.2 กาํ หนด T = 0, Q = 1 จะได Qnext = 1 ตรงตามเง่ือนไข กาํ หนด T = 1, Q = 1 จะได Qnext = 0 ไมต รงตามเง่ือนไข ดงั นัน้ สรุปไดว า เมอ่ื เกิดสญั ญาณ CLK แลว Qnext จะมคี าเปน 1 เสมอ เม่ือ Q มีคาเปน 1 และ T มีคา เปน 0 จากเง่อื นไขทัง้ 4 กรณสี ามารถสรปุ ออกมาเปน ตารางเอ็กไซเทช่นั ไดดงั น้ี ตารางท่ี 7.6 ตารางเอ็กไซเทช่ันของฟลปิ ฟลอปแบบ T อินพุต เอาตพ ุต Q Qnext T 00 0 01 1 10 1 11 0 147
เอกสารประกอบการสอนวิชาวงจรดจิ ิทัลและลอจกิ โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข 7.3.2 การคาํ นวณหาสมการพีชคณิตบูลีนของเอาตพ ตุ ใหมข องฟลิปฟลอปแบบ T การคาํ นวณหาสมการพีชคณติ บลู นี ของ Qnext ของฟลิปฟลอปแบบ T มีไวเพ่ือใชสําหรับ การวิเคราะหวงจรเชิงลําดับซ่ึงสามารถวิเคราะหไดทั้ง กรณีท่ีใชสัญญาณนาฬิกาชุดเดียวกัน หรือ สญั ญาณนาฬิกาคนละชดุ กัน โดยแบงออกเปน 2 กรณีดงั น้ี กรณีท่ี 1: ไมค ิดสญั ญาณนาฬกิ าดงั นั้นอนิ พตุ ท้งั หมดมี 2 ตัวคือ T และ Q เพราะฉะนั้น คาที่เปนไปไดทั้งหมดจงึ มี 4 คาดงั นี้ กาํ หนด T=0 และ Q = 0 ดงั น้นั Qnext = 0 กาํ หนด T=0 และ Q = 1 ดงั นน้ั Qnext = 1 กําหนด T=1 และ Q = 0 ดังนน้ั Qnext = 1 กาํ หนด T=1 และ Q = 1 ดงั นน้ั Qnext = 0 เขยี นผลลัพธท ไ่ี ดล งแผนผงั คารโนหไดด ังน้ี T 0 1 Q 1 0 TQ 00 TQ 1 1 รูปท่ี 7.15 การใชแ ผนผงั คารโนหเ พ่อื หาสมการพชึ คณิตบลู นี ของ Qnext ในกรณีไมค ิดสัญญาณนาฬิกา กรณีใชฟ ลิปฟลอปแบบ T ดงั นนั้ ไดว า Qnext = TQ + TQ กรณที ี่ 2: คดิ สัญญาณนาฬกิ าดงั น้นั อินพตุ ทัง้ หมดประกอบไปดวย T, Q และ CLK ซึ่งมี ท้งั หมด 3 ตวั เพราะฉะน้ันคาท่ีเปน ไปไดท ้ังหมดจึงมี 8 คา ดังน้ี กาํ หนด T=0, Q=0 และ CLK = 0 (ไมเ กิดสัญญาณนาฬกิ า) ดงั นน้ั Qnext = 0 กาํ หนด T=0, Q=0 และ CLK = 1 (เกดิ สัญญาณนาฬิกา) ดังน้ัน Qnext = 0 กําหนด T=0, Q=1 และ CLK = 0 (ไมเ กิดสัญญาณนาฬิกา) ดังน้นั Qnext = 1 กาํ หนด T=0, Q=1 และ CLK = 1 (เกดิ สัญญาณนาฬกิ า) ดงั น้นั Qnext = 1 กําหนด T=1, Q=0 และ CLK = 0 (ไมเ กดิ สัญญาณนาฬกิ า) ดังนน้ั Qnext = 0 กาํ หนด T=1, Q=0 และ CLK = 1 (เกิดสญั ญาณนาฬกิ า) ดังน้นั Qnext = 1 กําหนด T=1, Q=1 และ CLK = 0 (ไมเกดิ สัญญาณนาฬกิ า) ดังนั้น Qnext = 1 กําหนด T=1, Q=1 และ CLK = 1 (เกดิ สัญญาณนาฬกิ า) ดังน้นั Qnext = 0 TQ 00 01 11 10 QCl k CLK T QCl k 00 1 1 0 TQ 1 0 1 0 1 รปู ที่ 7.16 การใชแ ผนผงั คารโ นหเ พ่อื หาสมการพึชคณิตบลู นี ของ Qnext ในกรณีคิดสญั ญาณนาฬกิ า กรณใี ชฟลิปฟลอปแบบ T 148
เอกสารประกอบการสอนวชิ าวงจรดจิ ิทลั และลอจิก โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสขุ ดงั นั้นไดว า Qnext = TQ + TQClk + QClk 7.4 ฟลิปปลอปแบบ JK (JK FlipFlop) ฟลปิ ฟลอปแบบ JK คอื ฟลิปฟลอปทมี่ ี 2 อนิ พตุ คือ J และ K หลักการทาํ งานของฟลิปฟลอป JK คือ กรณีท่เี กดิ สัญญาณ CLK หากกาํ หนด J = 0 และ K = 0 แลวเอาตพุตที่ไดจะคงเดิม (Qnext= Q) หากกาํ หนด J = 0 และ K = 1 แลว เอาตพ ุตท่ีไดจะมคี าเปน 0 เสมอ (Qnext= 0) หากกําหนด J = 1 และ K = 0 แลว เอาตพ ุตท่ไี ดจะมีคาเปน 1 เสมอ (Qnext= 1) และหากกําหนด J = 1 และ K = 1 แลว เอาตพุตทไ่ี ดจ ะเกดิ จากการกลับสถานะของคา เดมิ (Qnext = Q ) โดยฟลปิ ฟลอปแบบ JK มีสัญลกั ษณ ดังรูปท่ี 7.17 และตารางความจรงิ ดงั ตารางท่ี 7.7 รปู ที่ 7.17 สัญลักษณข องฟลปิ ฟลอปแบบ JK ตารางที่ 7.7 ตารางความจรงิ ของฟลปิ ฟลอปแบบ JK อินพุต เอาตพตุ สถานะ ไมเ ปลย่ี นสถานะ JK Qnext Q next 00 Q Q เซต 01 0 1 เคลียร 10 1 0 กลบั สถานะ 11 Q Q ตารางท่ี 7.7 คือตารางความจรงิ ของฟลิปฟลอปแบบ JK ซึ่งสามารถอธิบายเอาตพตุ ท่ีเกิดขึ้นได ดงั น้ี กรณีที่ 1: J = 0 และ K= 0: คา Qnext จะมีคาคงคาเดิม ความหมายคอื คา Q กอนที่จะเกิด สญั ญาณ CLK มีสถานะเปนอยางไร คา Q ใหมท่เี กิดขึ้นหลงั เกดิ สัญญาณ CLK จะยงั คงเปน คาเดมิ กรณีท่ี 2: J = 0 และ K = 1: คา Qnext จะมคี าเปน 0 เสมอไมว าสถานะของคา Q กอนทจ่ี ะเกิด สญั ญาณ CLK มคี าเปนอยางไรก็ตาม 149
เอกสารประกอบการสอนวิชาวงจรดจิ ิทลั และลอจกิ โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสขุ กรณที ี่ 3: J = 1 และ K = 0: คา Qnext จะมคี า เปน 1 เสมอไมวาสถานะของคา Q กอนท่จี ะเกิด สญั ญาณ CLK มคี า เปน อยางไรกต็ าม กรณีท่ี 4: J = 1 และ K = 1: คา Qnext จะมีคากลับสถานะของคา Q ความหมายคือ คา Q กอ นทีจ่ ะเกิดสัญญาณ CLK มสี ถานะเปนอยา งไร คา Q ใหมท่ีเกิดข้ึนหลังเกิดสัญญาณ CLK จะมีคา ตรงกันขา มกับคา Q กอ นเกดิ สญั ญาณ CLK เสมอ โดยที่สามารถนาํ โครงสรา งของฟลิบฟลอปแบบ RS มาสรางฟลิปฟลอปแบบ JK ไดโดยนําคา Q มาเปน อินพุตท่แี อนดกับ K ใหกบั คา R และนาํ คา Q มาเปน อนิ พตุ ที่แอนดกบั J ใหคา S ไดด ังนี้ รปู ที่ 7.18 การสรา งฟลปิ ฟลอปแบบ JK โดยใชฟลปิ ฟลอปแบบ RS รูปท่ี 7.18 แสดงการสรา งฟลปิ ฟลอปแบบ JK ดว ยฟลิปปลอปแบบ RS โดยอินพุตมี 2 คาจึงมี ท้งั หมด 4 กรณี เนื่องจาก S = JQ และ R = KQ ดงั น้ันผลลัพธท ีเ่ ปนไปไดท งั้ หมดมีดังน้ี กรณีท่ี 1: J =0 และ K = 0, จะทาํ ให S = 0. Q = 0 และ R = 0.Q = 0 ดงั นัน้ Qnext = Q กรณที ่ี 2: J =0 และ K = 1, Qnext จะถกู พิจารณาออกเปน 2 กรณีดังนี้ กรณีท่ี 2.1: Q = 0, จะทําให S = 0. Q = 0.1 = 0 และ R = 1.Q = 1.0 = 0 ดังนั้น เนอื่ งจาก Qnext จะคงคาเดมิ และคา เดิมมคี า เปน 0 (Q = 0) สรปุ ไดวา Qnext = 0 กรณที ่ี 2.2: Q = 1, จะทาํ ให S = 0.Q = 0.0 = 0 และ R = 1.Q = 1.1 = 1 ดังน้ัน Qnext = 0 จากผลลัพธของ Qnext ท่ีไดในกรณีท่ี 2 สรุปไดวา Qnext = 0 เสมอไมวาคา Q กอนที่จะเกิด สัญญาณ CLK มีคา เปนอยา งไรก็ตาม กรณีท่ี 3: J =1 และ K = 0, Qnext จะถูกพจิ ารณาออกเปน 2 กรณดี งั น้ี กรณีที่ 3.1: Q = 0, จะทําให S = 1. Q = 1.1 = 1 และ R = 0.Q = 0.0 = 0 ดังนัน้ Qnext = 1 กรณที ี่ 3.2: Q = 1, จะทําให S = 1. Q = 1.0 = 0 และ R = 0.Q= 0.1 = 0 ดังน้ัน เนื่องจาก Qnext จะคงคาเดมิ และเนอื่ งจากคาเดมิ มคี า เปน 1 (Q = 1) สรปุ ไดว า Qnext = 1 จากผลลัพธของ Qnext ท่ีไดในกรณีที่ 3 สรุปไดวา Qnext = 1 เสมอไมวาคา Q กอนที่จะเกิด สญั ญาณ CLK มคี าเปนอยางไรก็ตาม 150
เอกสารประกอบการสอนวชิ าวงจรดิจิทัลและลอจิก โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข กรณีที่ 4: J =1 และ K = 1, Qnext จะถูกพิจารณาออกเปน 2 กรณดี งั นี้ กรณีท่ี 4.1: Q = 0, จะทาํ ให S = 1 Q = 1.1 = 1 และ R = 1.Q = 1.0 = 0 ดังน้ัน Qnext = 1 (Qnext = Q ) กรณที ี่ 4.2 Q = 1, จะทําให S = 1. Q = 1.0 = 0 และ R = 1.Q= 1.1 = 1 ดังน้ัน เนือ่ งจาก Qnext = 0 (Qnext= Q ) จากผลลัพธของ Qnext ที่ไดในกรณีที่ 4 สรุปไดวาเมื่อกําหนด J = 1 และ K = 1,Qnext จะเกิด จากการกลับสถานะของคา Q ในทุกครง้ั ที่เกิดสัญญาณ CLK ตวั อยา งที่ 7-6 จากไดอะแกรมแสดงเวลาของฟลิปฟลอปแบบ JK ตอ ไปนจี้ งหาเอาตพ ตุ ทเ่ี กดิ ข้ึนใน แตล ะชว งเวลา กาํ หนดใหค า Q กอนท่ีจะเกิดสัญญาณ CLK ท่ีเวลา t1 มีคา เปน 0 v CL K 1 0 t v 1 t J 0 v K1 t 0 t v 1 Q 0 t1 t2 t3 t4 t5 t6 t7 t 8 วธิ ที ํา จากไดอะแกรมแสดงเวลาสามารถคาํ นวณหาเอาตพตุ แตละชวงเวลาไดด ังนี้ เวลา t1: J= 0 และ K = 0, คา Qnext = Q = 0 เวลา t2: J = 1 และ K = 0, คา Qnext = 1 เวลา t3: J = 1 และ K = คา1 Qnext = Q = 0 เวลา t4: J = 1 และ K = คา1 Qnext = Q = 1 เวลา t5: J= 0 และ K = 0, คา Qnext = Q = 1 เวลา t6: J= 0 และ K = 0, คา Qnext = Q = 1 เวลา t7: J = 0 และ K = 1, คา Qnext = 0 เวลา t8: J= 0 และ K = 0, คา Qnext = Q = 0 เพราะฉะนั้นจึงไดค า Q ในแตล ะชวงเวลาออกมา ดังนี้ 151
เอกสารประกอบการสอนวิชาวงจรดิจิทลั และลอจกิ โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข CL K v t J t 1 t 0 v 1 0 v K1 0 v Q1 0 t t t2 t t t t6 t7 t8 1 3 4 5 7.4.1 ตารางเอ็กไซเทชั่นของฟลปิ ฟลอปแบบ JK ตารางเอก็ ไซเทชัน่ ของฟลปิ ฟลอปแบบ JK คือตารางท่ีใชสาํ หรับการวิเคราะหห าคา อนิ พตุ J และ อนิ พุต K เพอื่ ใหไ ดม าซงึ่ คา ของเอาตพตุ ใหมที่มีสถานะตามตองการ ซึ่งแบงออกเปน 4 กรณี ดงั นี้ กรณีท่ี 1: Q = 0 ตอ งการได Qnext = 0 จากตารางท่ี 7.7 กาํ หนด J=0, K=0 ดงั นนั้ เมอ่ื Q = 0 จะได Qnext = 0 ตรงตามเงื่อนไข กาํ หนด J=0, K=1 ดังน้ันเมอ่ื Q = 0 จะได Qnext = 0 ตรงตามเงอ่ื นไข กาํ หนด J=1, K=0 ดังนนั้ เม่ือ Q = 0 จะได Qnext = 1 ไมตรงตามเงื่อนไข กําหนด J=1, K=1 ดงั นน้ั เมือ่ Q = 0 จะได Qnext = 1 ไมต รงตามเง่อื นไข ดังน้ันเง่ือนไขที่เปนไปไดท ่ีจะทาํ ใหได Qnext มีคา เปน 0 กรณีท่ี Q มีคาเปน 0 คือ J มีคา เปน 0 และ K มีคา เปน ไดท ้งั 0 หรือ 1 จงึ กําหนดให K เปนเงอ่ื นไขทไ่ี มสนใจ กรณีที่ 2: Q = 0 ตอ งการได Qnext = 1 จากตารางท่ี 7.7 กาํ หนด J=0, K=0 ดงั น้นั เมื่อ Q = 0 จะได Qnext = 0 ไมตรงตามเงื่อนไข กาํ หนด J=0, K=1 ดงั น้นั เมื่อ Q = 0 จะได Qnext = 0 ไมต รงตามเงอ่ื นไข กาํ หนด J=1, K=0 ดงั นั้นเมื่อ Q = 0 จะได Qnext = 1 ตรงตามเงือ่ นไข กาํ หนด J=1, K=1 ดังนั้นเมื่อ Q = 0 จะได Qnext = 1 ตรงตามเงื่อนไข ดังนั้นเง่ือนไขท่เี ปนไปไดทีจ่ ะทําใหได Qnext มีคาเปน 0 กรณีท่ี Q มีคาเปน 0 คือ J มีคา เปน 1 และ K มคี าเปนไดทั้ง 0 หรอื 1 จึงกําหนดให K เปนเงอ่ื นไขที่ไมส นใจ กรณที ่ี 3: Q = 1 ตอ งการได Qnext = 0 จากตารางท่ี 7.7 กําหนด J=0, K=0 ดังนั้นเม่อื Q = 1 จะได Qnext = 1 ไมตรงตามเงอ่ื นไข กาํ หนด J=0, K=1 ดงั นน้ั เม่ือ Q = 1 จะได Qnext = 0 ตรงตามเง่ือนไข 152
เอกสารประกอบการสอนวิชาวงจรดจิ ิทัลและลอจิก โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสขุ กาํ หนด J=1, K=0 ดงั นั้นเม่อื Q = 1 จะได Qnext = 1 ไมตรงตามเงอื่ นไข กาํ หนด J=1, K=1 ดงั นั้นเม่อื Q = 1 จะได Qnext = 0 ตรงตามเงื่อนไข ดงั นน้ั เง่ือนไขที่เปนไปไดที่จะทาํ ใหไ ด Qnext มีคา เปน 0 กรณีที่ Q มีคาเปน 0 คือ J มีคา เปนไดท ง้ั 0 หรือ 1 จงึ กําหนดให J เปน เง่ือนไขทีไ่ มสนใจและ K มคี าเปน 1 กรณีที่ 4: Q = 1 ตองการได Qnext = 1 จากตารางท่ี 7.7 กําหนด J=0, K=0 ดงั นน้ั เมือ่ Q = 1 จะได Qnext = 1 ตรงตามเงอ่ื นไข กําหนด J=0, K=1 ดังนั้นเม่ือ Q = 1 จะได Qnext = 0 ไมต รงตามเง่ือนไข กาํ หนด J=1, K=0 ดงั น้นั เม่อื Q = 1 จะได Qnext = 1 ตรงตามเงอ่ื นไข กําหนด J=1, K=1 ดงั น้ันเม่ือ Q = 1 จะได Qnext = 0 ไมต รงตามเง่อื นไข ดงั น้ันเงื่อนไขทีเ่ ปน ไปไดท จี่ ะทําใหไ ด Qnext มคี าเปน 0 กรณีที่ Q มีคาเปน 0 คือ J มีคา เปน ไดท ั้ง 0 หรือ 1 จงึ กาํ หนดให J เปนเง่อื นไขทไี่ มส นใจและ K มคี าเปน 0 จากเงื่อนไขทงั้ 4 กรณีสามารถสรปุ ออกมาเปนตารางเอ็กไซเทช่ันไดด ังนี้ ตารางท่ี 7.8 ตารางเอก็ ไซเทช่นั ของฟลปิ ฟลอปแบบ JK อนิ พุต เอาตพ ตุ K x Q Qnext J x 00 0 1 01 1 0 10 x 11 x 7.4.2 การคํานวณหาสมการพีชคณิตบลู นี ของเอาตพตุ ใหมของฟลปิ ฟลอปแบบ JK การคาํ นวณหาสมการพชี คณิตบลู ีนของ Qnext ของฟลิปฟลอปแบบ JK มไี วเ พื่อใชส ําหรับ การวิเคราะหวงจรเชิงลําดับซ่ึงสามารถวิเคราะหไดทั้ง กรณีที่ใชสัญญาณนาฬิกาชุดเดียวกัน หรือ สญั ญาณนาฬิกาคนละชุดกัน โดยแบงออกเปน 2 กรณดี ังนี้ กรณที ่ี 1: ไมคิดสัญญาณนาฬกิ าดงั น้ันอินพุตทั้งหมดประกอบไปดวย J, K และ Q ซึ่งมี ทง้ั หมด 3 ตวั เพราะฉะน้ันคาท่ีเปนไปไดทง้ั หมดจึงมี 8 คาดังนี้ กาํ หนด J=0, K=0 และ Q = 0 ดงั นนั้ Qnext = 0 กําหนด J=0, K=0 และ Q = 1 ดงั นน้ั Qnext = 1 กาํ หนด J=0, K=1 และ Q = 0 ดังนั้น Qnext = 0 กําหนด J=0, K=1 และ Q = 1 ดงั นั้น Qnext = 0 กําหนด J=1, K=0 และ Q = 0 ดังนน้ั Qnext = 1 กาํ หนด J=1, K=0 และ Q = 1 ดงั นน้ั Qnext = 1 กาํ หนด J=1, K=1 และ Q = 0 ดงั นั้น Qnext = 1 กําหนด J=1, K=1 และ Q = 1 ดงั น้นั Qnext = 0 เขยี นผลลพั ธท ่ีไดลงแผนผังคารโนหไดด งั น้ี 153
เอกสารประกอบการสอนวิชาวงจรดจิ ิทลั และลอจิก โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสขุ JK 00 01 11 10 JQ Q 00 0 1 1 KQ 1 1 0 0 1 รูปที่ 7.19 การใชแ ผนผงั คารโ นหเ พื่อหาสมการพชึ คณติ บลู นี ของ Qnext ในกรณีไมคิดสัญญาณนาฬกิ า กรณีใชฟลปิ ฟลอปแบบ JK ดังนน้ั ไดวา Qnext = JQ + KQ กรณที ่ี 2: คดิ สัญญาณนาฬกิ าดงั นน้ั อินพุตทงั้ หมดประกอบไปดว ย J, K, Q และ CLK ซง่ึ มีท้ังหมด 4 ตัว เพราะฉะนน้ั คา ทเี่ ปนไปไดท งั้ หมดจึงมี 16 คา ดงั น้ี กาํ หนด J=0, K=0, Q=0 และ CLK = 0 (ไมเกิดสญั ญาณนาฬิกา) ดังน้ัน Qnext = 0 กําหนด J=0, K=0, Q=0 และ CLK = 1 (เกิดสญั ญาณนาฬกิ า) ดงั นน้ั Qnext = 0 กําหนด J=0, K=0, Q=1 และ CLK = 0 (ไมเกดิ สัญญาณนาฬิกา) ดังน้นั Qnext = 1 กาํ หนด J=0, K=0, Q=1 และ CLK = 1 (เกดิ สัญญาณนาฬิกา) ดังนน้ั Qnext = 1 กําหนด J=0, K=1, Q=0 และ CLK = 0 (ไมเ กดิ สญั ญาณนาฬิกา) ดังนั้น Qnext = 0 กาํ หนด J=0, K=1, Q=0 และ CLK = 1 (เกดิ สัญญาณนาฬิกา) ดงั นน้ั Qnext = 0 กําหนด J=0, K=1, Q=1 และ CLK = 0 (ไมเกิดสญั ญาณนาฬิกา) ดงั นั้น Qnext = 1 กาํ หนด J=0, K=1, Q=1 และ CLK = 1 (เกดิ สัญญาณนาฬกิ า) ดังน้นั Qnext = 0 กําหนด J=1, K=0, Q=0 และ CLK = 0 (ไมเ กดิ สัญญาณนาฬิกา) ดงั นัน้ Qnext = 0 กาํ หนด J=1, K=0, Q=0 และ CLK = 1 (เกิดสัญญาณนาฬกิ า) ดงั นั้น Qnext = 1 กาํ หนด J=1, K=0, Q=1 และ CLK = 0 (ไมเ กดิ สัญญาณนาฬิกา) ดังนั้น Qnext = 1 กําหนด J=1, K=0, Q=1 และ CLK = 1 (เกิดสัญญาณนาฬิกา) ดังนน้ั Qnext = 1 กาํ หนด J=1, K=1, Q=0 และ CLK = 0 (ไมเ กดิ สัญญาณนาฬิกา) ดงั นั้น Qnext = 0 กาํ หนด J=1, K=1, Q=0 และ CLK = 1 (เกิดสัญญาณนาฬกิ า) ดังน้ัน Qnext = 1 กาํ หนด J=1, K=1, Q=1 และ CLK = 0 (ไมเกิดสัญญาณนาฬกิ า) ดงั นน้ั Qnext = 1 กาํ หนด J=1, K=1, Q=1 และ CLK = 1 (เกดิ สัญญาณนาฬิกา) ดังนน้ั Qnext = 0 JK 00 01 11 10 QCLK 00 0 0 0 0 01 0 0 1 1 JQCl k KQ 11 1 0 0 1 QClk 10 1 1 1 1 รปู ที่ 7.20 การใชแ ผนผังคารโ นหเ พอ่ื หาสมการพึชคณิตบลู ีนของ Qnext ในกรณีคิดสญั ญาณนาฬิกากรณใี ชฟลปิ ฟลอปแบบ JK ดังนั้นไดวา Qnext = = KQ + QClk + JQClk 154
เอกสารประกอบการสอนวิชาวงจรดิจิทลั และลอจิก โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข 7.5 บทสรุป ฟลิปฟลอป คืออปุ กรณทางอเิ ล็กทรอนิกสท ่ีมีหนว ยความจาํ ขนาด 1 บิต ซ่ึงสามารถถูกสรางได โดยใชเ กตพืน้ ฐานเชน แนนดเกต หรือ นอรเกต โดยจะมสี ัญญาณเอาตพุต 2 สัญญาณคือ Q และ Q โดยทีท่ ั้ง 2 สัญญาณน้ีจะตองเปนนิเสธซ่งึ กันและกนั เสมอ สวนอินพตุ จะมี 2 แบบ คอื ฟลปิ ฟลอปแบบ 1 อินพุตมี 2 ชนดิ คือ ฟลปิ ฟลอปแบบ D และ ฟลิปฟลอป แบบ T และฟลิปฟลอปแบบ 2 อินพุต แบง เปน 2 ชนิด คือ ฟลิปฟลอปแบบ RS และ ฟลิปฟลอปแบบ JK โดยฟลิปฟลอปจะใชสัญญาณ นาฬกิ า CLK เปนสญั ญาณท่ใี ชสําหรบั การกําหนดจังหวะของการเปล่ียนแปลงสัญญาณเอาตพุต ใช สญั ญาณ CLR เพอ่ื กําหนดใหส ญั ญาณ Q มีคาเปน 0 และใชสัญญาณ SET เพอื่ กําหนดใหส ัญญาณ Q มีคา เปน 1 155
เอกสารประกอบการสอนวิชาวงจรดิจิทัลและลอจกิ โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข คาํ ถามทา ยบท 1. ฟลิปฟลอปคืออะไร 2. สญั ญาณนาฬิกาคืออะไร 3. สัญญาณเซตคอื อไร 4. สัญญาณเคลยี รคอื อะไร 5. จงหาสถานะของ Q ทีเ่ กดิ ขนึ้ ในแตล ะชว งเวลาดงั ตอไปน้ี 5.1) CLK v t R t 1 t 0 t v 1 0 v S1 0 v t7 t 8 Q1 0 t1 t2 t3 t4 t5 t6 5.2) v CL K 1 0 t v t t SET 1 t 0 v D1 0 v Q1 0 t1 t2 t3 t4 t5 t6 t7 t 8 156
เอกสารประกอบการสอนวชิ าวงจรดิจิทลั และลอจกิ โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข 5.3) CL K v t SET t 1 t 0 t v 1 0 v D1 0 v t t t4 t5 t6 t7 t8 2 3 Q1 0 t1 5.4) CLK v t J t 1 t 0 t v 1 0 v K1 0 v Q1 0 t t2 t3 t4 t5 t t t 1 6 7 8 157
เอกสารประกอบการสอนวชิ าวงจรดจิ ิทัลและลอจิก โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข 5.5) t t v t CL K 1 0 v CL R 1 0 v J1 0 v K1 0 t t t1 t2 t3 t t t6 t7 t8 4 5 v Q1 0 t t2 t3 t t t6 t7 t8 1 4 5 6. เหตุใดจงึ ไมส ามารถกาํ หนดใหส ญั ญาณเซต และสัญญาณเคลยี รเ กดิ ข้นึ พรอมกันได 7. จากรปู ท่ี 7.6 จงออกแบบวงจรใหมโ ดยใชแ นนดเ กต แทนนอรเกตท้ังหมดโดยการทาํ งานของวงจร ใหมย ังคงเหมอื นดงั ตารางท่ี 7.1 158
เอกสารประกอบการสอนวิชาวงจรดิจิทัลและลอจิก โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสขุ เอกสารอา งอิง Marcovit z, A. B. (2009). Introduction to Logic Design. New York: McGraw-Hil l . Mark, B. (2003). Com plete Digital Design: A Com prehensive Guide to Digital Electronics and Com puter System Architecture. New York: McGraw-Hil l . David, M. H. (2012).Digital Design and Com puter Architecture. USA: Morgan Kaufm ann. Ram aswam y, P. (2011). Digital System s Design. United Kingdom : London Business School . Morris, M, Michael , D. C. (2006). Digital Design. New Jersey: Prentice-Hal l Int ernational In c. ธวชั ชยั เลอ่ื นฉวี และ อนรุ กั ษ เถื่อนศริ ิ. (2527). ดิจติ อลเทคนคิ เลม 1.กรงุ เทพฯ: มติ รนราการพมิ พ. มงคล ทองสงคราม. (2544).ทฤษฎีดิจิตอล.กรุงเทพฯ: หา งหนุ สวนจํากดั วี.เจ. พริ้นดิ้ง. ทมี งานสมารท เลริ นน่งิ . (2543). ออกแบบวงจร Digital และประยกุ ตใ ชงาน.กรงุ เทพฯ: หางหุนสว น สามญั สมารท เลิรน น่งิ . สมชาย ช่นื วัฒนาประณิธิ. (2535). ดจิ ติ อลอเิ ลก็ ทรอนิกส.จ. อดุ รธาน:ี มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อดุ รธานี. 159
เอกสารประกอบการสอนวชิ าวงจรดิจิทลั และลอจกิ โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข แผนบริหารการสอนประจาํ บทท่ี 8 การออกแบบวงจรเชงิ ลาํ ดับ 6 ชวั่ โมง หวั ขอ เนอื้ หา 8.1 การออกแบบแผนภาพสถานะและตารางสถานะ 8.1.1 รปู แบบของเมลลี่ 8.1.2 รปู แบบของมัวร 8.2 การวิเคราะหวงจรเชิงลําดบั 8.2.1 วิธีการวิเคราะหว งจรเชิงลาํ ดบั แบบเขา จังหวะ 8.2.2 วธิ ีการวเิ คราะหวงจรเชิงลําดบั แบบไมเ ขา จงั หวะ 8.3 การออกแบบวงจรเชงิ ลาํ ดับ 8.4 การลดสถานะเอาตพ ตุ ของฟลปิ ฟลอป 8.5 บทสรปุ วัตถุประสงคเ ชิงพฤตกิ รรม 1. เพอื่ ใหผ เู รยี นมคี วามรูความเขา ใจเกย่ี วกบั แผนภาพสถานะและตารางสถานะเพื่อนาํ ไปใชส าํ หรบั การวิเคราะหและออกแบบวงจร 2. เพอื่ ใหผ เู รยี นมคี วามรคู วามเขาใจเกยี่ วกบั การวเิ คราะหว งจรเชงิ ลาํ ดับทง้ั แบบเขา จังหวะและแบบ ไมเ ขาจงั หวะ 3. เพอื่ ใหผ เู รยี นมคี วามรคู วามเขา ใจเกยี่ วกบั การออกแบบวงจรเชงิ ลําดับ 4. เพอื่ ใหผ เู รยี นสามารถลดสถานะเอาตพ ตุ ของฟลปิ ฟลอปกรณที ่ีมมี ากเกนิ ไปได วิธกี ารสอนและกจิ กรรมการเรียนการสอนประจาํ บท 1. บรรยายเนอ้ื หาในแตล ะหวั ขอ พรอ มยกตัวอยางประกอบ 2. ศกึ ษาจากเอกสารประกอบการสอน 3. ผสู อนสรปุ เน้ือหา 4. ทาํ แบบฝก หดั เพ่ือทบทวนบทเรยี น 5. เปด โอกาสใหผ เู รยี นถามขอสงสยั 6. ผสู อนทําการซกั ถาม ส่อื การเรียนการสอน 1. เอกสารประกอบการสอนวชิ าวงจรดิจิทลั และลอจิก 2. ภาพเลือ่ น 160
เอกสารประกอบการสอนวิชาวงจรดิจิทลั และลอจิก โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข การวดั ผลและการประเมิน 1. ประเมินจากการซกั ถามในช้นั เรยี น 2. ประเมินจากความรว มมือและความรบั ผดิ ชอบตอการเรยี น 3. ประเมินจากการทําแบบฝกหดั ทบทวนบทเรียน 161
เอกสารประกอบการสอนวิชาวงจรดิจิทลั และลอจกิ โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสขุ บทที่ 8 การออกแบบวงจรเชิงลําดับ วงจรเชิงลาํ ดับ คือวงจรทเ่ี กิดจากการตอ ใชง านรวมกนั ระหวา งเกตพ้ืนฐานตา งๆ กบั ฟลิปฟลอป อยางนอย 1 ตวั โดยแบงออกเปน 2 ประเภท ไดแกวงจรเชิงลําดับแบบเขาจังหวะ (Synchronous Sequential Logic) ลกั ษณะการทํางานของวงจร คือ ฟลิปฟลอปทุกตัวจะถูกกระตุนดวยสัญญาณ นาฬกิ าตวั เดียวกันเพ่ือใหท ํางานไปพรอมกัน และ วงจรเชิงลาํ ดบั แบบไมเขา จังหวะ (Asynchronous Sequential Logic) ลกั ษณะการทํางานของวงจร คือฟลปิ ฟลอปอยา งนอย 1 ตัวท่ีไมถูกกระตุนดวย สญั ญาณนาฬิกาเดียวกบั ฟลปิ ฟลอปตัวอื่นๆ 8.1 การออกแบบแผนภาพสถานะและตารางสถานะ แผนภาพสถานะ (State Diagram) และตารางสถานะ (Table Diagram) คือ เครื่องมือที่ถูก นาํ มาใชส ําหรับการแสดงการเปลี่ยนแปลงสถานะของวงจรเชิงลาํ ดบั ในแตล ะชว งเวลา เพอ่ื ชว ยใหก าร วเิ คราะหและการออกแบบวงจรเชิงลาํ ดบั สามารถทําไดงา ยย่งิ ขึน้ โดยใชตัวอักษรภาษาอังกฤษแสดง ถงึ สถานะตางๆ ของวงจร ซ่งึ มที ง้ั หมด 2 รปู แบบคอื รปู แบบของเมลลี่ (Mealy Model) และรูปแบบ ของมัวร (Moore Model) 8.1.1 รปู แบบของเมลล่ี สถานะเอาตพุตสําหรับรูปแบบของเมลลี่จะขึ้นอยูกับคาอินพุตที่ปอนเขาวงจร และ สถานะของวงจรในปจ จุบัน โดยตวั อยา งแผนภาพสถานะเปนดังตอ นี้ A 1/0 0/0 0/0 B 1/0 D 0/0 1/1 1/0 0/0 C รูปท่ี 8.1 ตัวอยางแผนภาพสถานะรปู แบบเมลล่ี รูปที่ 8.1 แสดงตัวอยางแผนภาพสถานะรูปแบบของเมลล่ี ซ่ึงจะเก็บสถานะไวภ ายใน วงกลม สว นการเชื่อมโยงระหวางสถานะปจจุบันและสถานะใหมของวงจรจะใชเสนโคงหรือเสนตรง สําหรบั การเชอ่ื มโยงโดยแตละเสนจะมีเลขกาํ กับอยใู นรูปแบบ x/y โดยท่ี x คือ อินพุตท่ีปอนเขาสู วงจร และ y คือสถานะของเอาตพ ตุ ซงึ่ จะขนึ้ อยูกับสถานะวงจรปจจุบันและคาอินพุตซ่ึงอธิบายการ ทาํ งานไดเปน ดงั นี้ 162
เอกสารประกอบการสอนวิชาวงจรดจิ ิทลั และลอจกิ โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสขุ สถานะ A: เม่ืออินพตุ มีคาเปน 0 จะทําใหสถานะที่เกิดขึ้นใหมของวงจรคือ B และ มีสถานะ เอาตพ ตุ เปน 0 เมื่ออินพุตมีคาเปน 1 จะทําใหสถานะท่ีเกิดขึ้นใหมของวงจรคือ D และ มีสถานะ เอาตพ ตุ เปน 0 สถานะ B: เมือ่ อินพุตมีคาเปน 0 จะทําใหสถานะที่เกิดข้ึนใหมของวงจรคือ B และ มีสถานะ เอาตพตุ เปน 0 เม่ืออินพุตมีคาเปน 1 จะทําใหสถานะท่ีเกิดขึ้นใหมของวงจรคือ C และ มีสถานะ เอาตพตุ เปน 0 สถานะ C: เมอ่ื อินพุตมีคาเปน 0 จะทําใหสถานะที่เกดิ ขึ้นใหมของวงจรคือ D และ มีสถานะ เอาตพตุ เปน 0 เมื่ออินพุตมีคาเปน 1 จะทําใหสถานะที่เกิดข้ึนใหมของวงจรคือ A และ มีสถานะ เอาตพ ตุ เปน 1 สถานะ D: เม่ืออินพุตมีคาเปน 0 จะทําใหสถานะท่ีเกดิ ข้ึนใหมของวงจรคือ D และ มีสถานะ เอาตพ ุตเปน 0 เม่ืออินพุตมีคาเปน 1 จะทําใหสถานะท่ีเกิดขึ้นใหมของวงจรคือ B และ มีสถานะ เอาตพ ุตเปน 0 ตารางท่ี 8.1 ตัวอยา งตารางสถานะรูปแบบเมลล่ี สถานะปจ จุบนั สถานะทีเ่ กดิ ขึน้ ใหม/ เอาตพ ตุ A x= 0 x= 1 B C B/ 0 D/ 0 D B/ 0 C/ 0 D/ 0 A/ 1 D/ 0 B/ 0 ตารางท่ี 8.1 แสดงตารางสถานะทแี่ ปลงมาจากแผนภาพสถานะของรปู ท่ี 8.1 คอลมั นที่ 1 แสดงสถานะปจจบุ นั ซง่ึ มีทง้ั หมด 4 สถานะคอื A – D คอลมั นท ี่ 2 และ 3 แสดงผลลัพธข องสถานะท่ี เกดิ ขน้ึ ใหม และเอาตพ ตุ ซึง่ เขยี นไดเปน สถานะท่ีเกิดขึ้นใหม/ เอาตพุต ซ่ึงขน้ึ อยกู ับสถานะปจจุบัน และอนิ พตุ โดยทคี่ อลมั นท ่ี 2 เกิดจากกรณที ี่อินพุตมีคาเปน 0 (x = 0) และ คอลมั นท ่ี 3 เกดิ จากกรณี ทอ่ี ินพุตมีคา เปน 1 (x = 1) ตัวอยางท่ี 8-1 จากแผนภาพสถานะดังรูปท่ี 8.1 หรือ ตารางสถานะดังตารางที่ 8.1 กําหนดให สถานะปจจุบันอยูที่ B จงหาสถานะท่ีเกิดขึ้นใหม และเอาตพุตท่ีเกิดข้ึน กรณีที่ลําดับของอินพุตที่ ปอนเขามามคี า เปน 1 1 0 1 0 วธิ ีทาํ เน่ืองจากอินพตุ ถูกปอ นเขามาเปนลําดับท้ังหมด 5 คา การคํานวณหาสถานะท่ีเกิดขึ้น ใหม และเอาตพตุ เปนดงั น้ี 163
เอกสารประกอบการสอนวิชาวงจรดจิ ิทัลและลอจิก โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข ลําดับที่ 1: สถานะปจ จบุ นั คือ B และ อนิ พุตมีคาเปน 1 ดงั นนั้ สถานะท่เี กดิ ขึ้นใหมจึงมีคาเปน C และเอาตพ ตุ มีคาเปน 0 ลาํ ดับท่ี 2: สถานะท่เี กดิ ขนึ้ ใหม (C) จากลาํ ดับท่ี 1 กลายมาเปนสถานะปจจุบันของลําดับท่ี 2 และอนิ พตุ มีคา เปน 1 ดงั น้ัน สถานะทีเ่ กดิ ขึน้ ใหมมคี าเปน A และเอาตพ ตุ มคี าเปน 1 ลาํ ดับท่ี 3: สถานะทเ่ี กิดขนึ้ ใหม (A) จากลําดบั ท่ี 2 กลายมาเปนสถานะปจจุบันของลําดับท่ี 3 และอนิ พตุ มคี า เปน 0 ดังนนั้ สถานะทเ่ี กดิ ขน้ึ ใหมม ีคา เปน B และเอาตพตุ มีคาเปน 0 ลาํ ดบั ท่ี 4: สถานะที่เกดิ ข้ึนใหม (B) จากลําดบั ที่ 3 กลายมาเปนสถานะปจจุบันของลําดับท่ี 4 และอนิ พุตมคี า เปน 1 ดังนัน้ สถานะทเ่ี กดิ ขึ้นใหมมีคา เปน C และเอาตพ ุตมคี า เปน 0 ลําดบั ท่ี 5: สถานะท่ีเกิดขึน้ ใหม (C) จากลาํ ดบั ที่ 4 กลายมาเปนสถานะปจจุบันของลําดับที่ 5 และอินพุตมคี าเปน 0 ดังนั้น สถานะท่เี กิดขึ้นใหมมคี า เปน D และเอาตพุตมีคา เปน 0 จากผลลัพธที่ไดท ั้งหมด ถูกนํามาเขยี นเปน ลําดบั ไดดังน้ี อนิ พตุ : 11010 สถานะปจจบุ ัน: BCABC สถานะท่เี กดิ ขึ้นใหม: CABCD เอาตพ ตุ : 01000 8.1.2 รูปแบบของมวั ร สถานะเอาตพ ุตสําหรับรูปแบบของมัวรจะขึ้นอยูกับ สถานะของวงจรในปจจุบันเทาน้ัน โดยตวั อยา งแผนภาพสถานะเปน ดงั ตอ นี้ 1 A/0 0 0 B/1 1 D/1 0 1 10 C/0 รปู ที่ 8.2 ตวั อยางแผนภาพสถานะรปู แบบมวั ร รปู ท่ี 8.2 แสดงตัวอยางแผนภาพสถานะรูปแบบของมัวร ซง่ึ จะเก็บสถานะ และเอาตพุต ไวภายในวงกลม สวนการเชือ่ มโยงระหวา งสถานะปจ จบุ นั และสถานะใหมของวงจรจะใชเสนโคงหรือ เสนตรงสาํ หรับการเชื่อมโยงโดยแตละเสนจะใชอ นิ พตุ เปน ตัวเชอ่ื มโยงซึง่ อธิบายการทาํ งานไดเ ปน ดงั นี้ สถานะ A: เมื่ออินพุตมีคา เปน 0 จะทําใหสถานะที่เกิดขึ้นใหมของวงจรคือ B และ มีสถานะ เอาตพ ุตเปน 0 เมื่ออินพุตมีคาเปน 1 จะทําใหสถานะที่เกิดขึ้นใหมของวงจรคือ A และ มีสถานะ เอาตพ ุตเปน 0 สถานะ B: เมื่ออินพุตมีคาเปน 0 จะทําใหส ถานะที่เกิดข้ึนใหมของวงจรคือ B และ มีสถานะ เอาตพ ุตเปน 1 164
เอกสารประกอบการสอนวิชาวงจรดจิ ิทัลและลอจกิ โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข เม่ืออินพุตมีคาเปน 1 จะทําใหสถานะท่ีเกิดขึ้นใหมของวงจรคือ C และ มีสถานะ เอาตพ ตุ เปน 1 สถานะ C: เม่ืออินพุตมีคาเปน 0 จะทําใหสถานะที่เกิดขึ้นใหมของวงจรคือ D และ มีสถานะ เอาตพตุ เปน 0 เม่ืออินพุตมีคาเปน 1 จะทําใหสถานะที่เกิดขึน้ ใหมของวงจรคือ A และ มีสถานะ เอาตพ ุตเปน 0 สถานะ D: เม่ืออินพุตมีคาเปน 0 จะทําใหสถานะท่ีเกิดขึ้นใหมของวงจรคือ D และ มีสถานะ เอาตพตุ เปน 1 เม่ืออินพุตมีคาเปน 1 จะทําใหสถานะท่ีเกิดขน้ึ ใหมของวงจรคือ B และ มีสถานะ เอาตพุตเปน 1 ตารางที่ 8.2 ตวั อยางตารางสถานะรปู แบบมัวร สถานะปจ จุบัน สถานะทเ่ี กดิ ขึ้นใหม เอาตพ ุต A x= 0 x= 1 0 B 1 C BA 0 D 1 BC DA DB ตารางท่ี 8.2 แสดงตารางสถานะท่แี ปลงมาจากแผนภาพสถานะของรูปท่ี 8.2 คอลัมนท่ี 1 แสดงสถานะปจจุบนั ซงึ่ มีท้งั หมด 4 สถานะคอื A – D คอลัมนที่ 2 และ 3 แสดงผลลพั ธข องสถานะท่ี เกิดข้ึนใหม โดยที่คอลัมนท่ี 2 คือสถานะท่ีเกิดข้ึนใหมท่ีเกิดจากกรณีที่อินพุตมีคาเปน 0 (x = 0) คอลัมนท ่ี 3 คือสถานะท่ีเกิดขน้ึ ใหมท ่เี กดิ จากกรณที ี่อินพุตมีคา เปน 1 (x = 1) และคอลมั นที่ 4 แสดง ผลลพั ธของเอาตพ ุตซึ่งขนึ้ อยูก ับสถานะปจจุบนั เทา นัน้ เนอื่ งจากรปู แบบเอาตพตุ ทไ่ี ดจากรูปแบบมวั รน ้นั จะขน้ึ อยกู บั เพยี งแคสถานะปจจุบนั การ ใชร ูปแบบมัวรใ นการวเิ คราะหแ ละออกแบบวงจรจงึ ทําใหม ีสถานะที่มากข้ึน เม่ือเปรียบเทียบกับการ ใชรูปแบบเมลล่ี ดังน้ันเอกสารประกอบการสอนเร่ิมนี้จึงเลือกใชเพียงรูปแบบของเมลลี่เทานั้น เนื่องจากการใชรูปแบบของเมลล่ีสําหรับการวเิ คราะหแ ละออกแบบวงจรสามารถทาํ ไดง ายกวา 8.2 การวิเคราะหวงจรเชิงลาํ ดับ การวิเคราะหว งจรเชิงลําดบั มวี ตั ถปุ ระสงคใ นเพ่ือใชส าํ หรับการวเิ คราะหหาสถานะตาง ๆ ของ วงจร และเอาตพุตทีจ่ ะเกดิ ขนึ้ โดยพิจารณาจากสถานะปจ จุบัน และคาของอินพุตท่ีเกิดข้ึนในแตละ ชวงเวลา แบง ออกเปน 2 วธิ ีคือวิธีการวิเคราะหวงจรเชิงลาํ ดบั แบบเขาจังหวะ และวิธกี ารวเิ คราะหวง เชงิ ลําดบั แบบไมเ ขาจงั หวะ 165
เอกสารประกอบการสอนวิชาวงจรดจิ ิทลั และลอจกิ โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสขุ 8.2.1 วิธกี ารวเิ คราะหวงจรเชงิ ลาํ ดับแบบเขาจงั หวะ การวิเคราะหว งจรเชงิ ลาํ ดบั แบบเขา จังหวะ ใชส ําหรับการวิเคราะหวงจรเชงิ ลําดับในกรณี ทฟ่ี ลิปฟลอปทุกตวั ของวงจรใชสญั ญาณนาฬกิ ารวมกัน ซึง่ มขี นั้ ตอนเปนดังน้ี ขั้นตอนที่ 1: หาสมการพีชคณติ บลู นี ของอินพตุ ของฟลปิ ฟลอปทุกตวั และเอาตพ ตุ วงจร ขน้ั ตอนท่ี 2: สรา งแผนผงั คารโนหของอินพุตของฟลิปฟลอปท้ังหมด และเอาตพุตวงจร โดยท่ี แผนผงั คารโ นห 1 แผนผงั ใชส ําหรับแสดงสถานะท่ีเปนไปไดทั้งหมดของอินพุตของฟลิปฟลอปหรือ เอาตพตุ ของวงจร 1 ตวั สําหรับคา ผลลัพธท่ไี ดแ ตล ะชองในแผนผังคารโนหไ ดม าจากการวิเคราะหจ าก สมการพชี คณิตบลู นี ทไี่ ดจ ากขน้ั ตอนที่ 1 ข้ันตอนท่ี 3: นาํ ผลลพั ธท่ไี ดแ ตล ะชอ งของแผนผังคารโนหไปใสล งในตารางเอก็ ไซเทชั่น ขัน้ ตอนที่ 4: นาํ ตารางเอก็ ไซเทช่นั ท่ไี ดจากข้ันตอนที่ 3 มาใชส าํ หรบั การวเิ คราะหห าตาราง ทรานซชิ ั่น ขน้ั ตอนที่ 5: นาํ ตารางทรานซิช่ันมาสรางตารางสถานะและแผนภาพสถานะ ข้นั ตอนท่ี 6: วิเคราะหหาสถานะที่เกดิ ขึ้นใหม และเอาตพ ุตของวงจร จากลําดบั ของอินพุต และ สถานะปจจุบันของวงจร ตัวอยา งท่ี 8-2 จากวงจรเชงิ ลาํ ดบั ท่กี าํ หนดใหจ งวิเคราะหหาเอาตพุต และสถานะท่ีเกิดข้ึน กรณีที่ อนิ พตุ ที่ถกู ปอ นเขา มาอยา งเปนลาํ ดับมคี าเปน 10010 และสถานะเร่ิมตนของฟลิปฟลอปท้ัง 2 ตัวมี คาเปน 00 (Q1 = 0 และ Q2 = 0) วิธที ํา เนื่องจากวงจรนี้ใชสัญญาณ CLK รวมกัน จึงเปนวงจรแบบเขาจังหวะ ข้ันตอนการ วิเคราะหเ ปน ดังนี้ ขนั้ ตอนท่ี 1: หาสมการพชี คณิตบลู นี ของอินพุตของฟลิปฟลอปทกุ ตวั และเอาตพ ตุ วงจรไดด ังน้ี J = X Q1Q 2 1 K = XQ Q + XQ Q 2 1 12 1 J =X 2 166
เอกสารประกอบการสอนวิชาวงจรดจิ ิทัลและลอจิก โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข K = Q1Q2 2 Z = Q Q2 1 ขน้ั ตอนท่ี 2: สรา งแผนผังคารโนหใหอ นิ พตุ ของฟลิปฟลอปทกุ ตวั และ เอาตพ ุตของวงจรไดดังน้ี สรางแผนผังคารโนห โดย จะมคี าเปน ก็ตอเม่ือ และ 1. J = X Q1Q 2 J 1 X= 0, Q= 0 1 1 1 Q= 1 สําหรบั กรณีอืน่ ๆ J จะมีคาเปน 0 ทั้งหมด 2 1 QQ 12 X 00 01 11 10 00 1 0 0 10 0 0 0 J = X Q1Q 2 1 2. สรา งแผนผังคารโ นห K = XQ Q + XQ Q 2 โดย K จะมีคาเปน 1 ก็ตอเม่ือ X = 1, Q 1 12 1 1 1 = 1 และ Q= 1 หรอื X = 0, Q = 1 และ Q= 0 สาํ หรับกรณีอ่นื ๆ K จะมคี า เปน 0 ทัง้ หมด 2 1 2 1 QQ 12 X 00 01 11 10 00 0 0 1 10 0 1 0 K = XQ Q + XQ Q2 1 12 1 3. สรางแผนผงั คารโนห J =X โดย J จะมีคาเปน 1 ก็ตอ เมือ่ X= 1 สาํ หรบั กรณีอื่นๆ J 2 2 2 จะมีคาเปน 0 ท้ังหมด QQ 12 X 00 01 11 10 00 0 0 0 11 1 1 1 J =X 2 4. สรา งแผนผงั คารโ นห K = Q1Q2 โดย K จะมีคาเปน 1 ก็ตอเม่ือ Q = 0 และ Q= 1 2 2 1 2 สําหรบั กรณีอ่ืนๆ K จะมีคาเปน 0 ท้งั หมด 2 QQ 01 11 10 12 10 0 0 X 00 10 00 10 K = Q1Q2 2 167
เอกสารประกอบการสอนวชิ าวงจรดจิ ิทลั และลอจิก โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสขุ 5. สรางแผนผังคารโนห Z = Q Q2 โดย Z จะมีคาเปน 1 ก็ตอเม่ือ Q =1 และ Q = 0 1 1 2 สําหรับกรณอี ืน่ ๆ Z จะมีคาเปน 0 ทั้งหมด QQ 12 X 00 01 11 10 00 0 0 1 10 0 0 1 Z = Q Q2 1 ขน้ั ตอนท่ี 3: สรา งตารางเอก็ ไซเทชั่น เนอ่ื งจากฟลปิ ฟลอปทัง้ 2 ตวั เปนฟลปิ ฟลอปแบบ JK ขอมูลที่ จะนาํ มาใสต ารางเอ็กไซเทช่นั แตล ะคอลมั นเ ปนดงั นี้ คอลัมนท ่ี 1 ( Q = 0, Q = 0 ) 1 2 เมือ่ X = 0 จะได J= 0, K= 0, J= 0, K= 0 และ Z = 0 1 1 2 2 เมอ่ื X = 1 จะได J= 0, K= 0, J= 1, K= 0 และ Z = 0 1 1 2 2 คอลัมนท ี่ 2 ( Q = 0, Q = 1) 1 2 เมอ่ื X = 0 จะได J= 1, K= 0, J= 0, K= 1 และ Z = 0 1 1 2 2 เม่อื X = 1 จะได J= 0, K= 0, J= 1, K= 1 และ Z = 0 1 1 2 2 คอลมั นท่ี 3 (Q = 1, Q = 1) 1 2 เมอ่ื X = 0 จะได J= 0, K= 0, J= 0, K= 0และ Z = 0 1 1 2 2 เมือ่ X = 1 จะได J= 0, K= 1, J= 1, K= 0 และ Z = 0 1 1 2 2 คอลัมนท่ี 4 (Q = 1, Q = 0) 1 2 เม่ือ X = 0 จะได J= 0, K= 1, J= 0, K= 0 และ Z = 1 1 1 2 2 เมอ่ื X = 1 จะได J= 0, K= 0, J= 1, K= 0 และ Z = 1 1 1 2 2 จงึ ไดต ารางเอ็กไซเทช่ันเปนดงั นี้ สถานะปจ จุบนั X=0 X=1 Z Q1Q2 J1K1 J2K2 J1K1 J2K2 X=0 X=1 00 00 00 00 10 0 0 01 0 0 10 10 01 00 11 1 1 0 0 11 01 00 00 10 00 00 01 10 ขน้ั ตอนท่ี 4: นาํ ผลลพั ธจากตารางเอ็กไซเทชั่นมาสรางตารางทรานซชิ ัน่ เพ่ือหาสถานะทเ่ี กดิ ขน้ึ ใหม ของ Q (Qnext) ดงั น้ี 168
เอกสารประกอบการสอนวชิ าวงจรดจิ ิทัลและลอจิก โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสขุ แถวที่ 1 ( Q = 0, Q = 0 ) 1 2 เมอ่ื X = 0 กําหนด J = 0, K= 0 ได Q = 0 และ กําหนด J = 0, K = 0 ได Q= 0 1 1 n e xt 1 2 2 next 2 เม่ือ X = 1 กาํ หนด J= 0, K= 0 ได Q = 0 และ กาํ หนด J = 1,K = 0 ได Q= 1 1 1 n e xt 1 2 2 n e xt 2 แถวท่ี 2 ( Q = 0, Q = 1 ) 1 2 เม่อื X = 0 กาํ หนด J= 1, K= 0 ได Q = 1 และ กาํ หนด J = 0, K= 1 ได Q= 0 1 1 n e xt 1 2 2 next 2 เม่อื X = 1 กําหนด J= 0, K= 0 ได Q = 0 และ กําหนด J = 1, K= 1ได Q= 0 1 1 n e xt 1 2 2 next 2 แถวที่ 3 ( Q = 1, Q = 0) 1 2 เมือ่ X = 0 กําหนด J = 0, K= 1 ได Q = 0 และ กําหนด J = 0, K= 0 ได Q= 0 1 1 next 1 2 2 n e xt 2 เม่ือ X = 1 กําหนด J = 0, K= 0 ได Q = 1 และ กาํ หนด J = 1, K= 0 ได Q= 1 1 1 next 1 2 2 n e xt 2 แถวที่ 4 ( Q = 1, Q = 1) 1 2 เมื่อ X = 0 กาํ หนด J = 0, K= 0 ได Q = 1 และ กาํ หนด J= 0, K= 0ได Q= 1 1 1 next 1 2 2 n e xt 2 เม่ือ X = 1 กําหนด J = 0, K= 1 ได Q = 0 และ กําหนด J= 1, K= 0 ได Q= 1 1 1 next 1 2 2 n e xt 2 จึงไดต ารางทรานซชิ น่ั เปนดงั น้ี สถานะปจ จบุ ัน สถานะทีเ่ กิดขน้ึ ใหม Z Q1Q2 X= 0 X=1 X=0 X=1 00 0 0 01 00 01 0 0 10 1 1 11 10 00 0 0 00 11 11 01 ข้นั ตอนท่ี 5 สรา งตารางสถานะ และ แผนภาพสถานะจากตารางทรานซชิ น่ั กําหนดให A แทนสถานะ 00 B แทนสถานะ 01 C แทนสถานะ 10 D แทนสถานะ 11 ตารางสถานะเกดิ จากการแทนคาสถานะของ และ ดวยตัวอักษรทกี่ ําหนดขา งตน ได Q Q 1 2 เปนดงั น้ี สถานะปจ จุบัน สถานะท่เี กิดขนึ้ ใหม/ เอาตพุต Q1Q2 (Qnext/ Z ) A X=0 X=1 B C A/ 0 B/ 0 D C/ 0 A/ 0 A/ 1 D/ 1 D/ 0 B/ 0 169
เอกสารประกอบการสอนวิชาวงจรดิจิทัลและลอจิก โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข จากตารางสถานะ สามารถแปลงเปน แผนภาพสถานะไดด งั น้ี 0/0 A 1/0 1/0 0/0 B 1/0 D 0/0 0/1 0/0 1/1 C จากตารางสถานะ หรอื แผนภาพสถานะสามารถหาเอาตพ ตุ และสถานะทเ่ี กดิ ขึ้นไดด งั นี้ (โดย สถานะเร่ิมตน คือ A และลาํ ดับของขอ มลู อนิ พตุ ทป่ี อนเขา มาคอื 10010) อนิ พตุ : 10010 สถานะปจ จุบัน: ABCAB สถานะที่เกิดขนึ้ ใหม: BCABC เอาตพ ุต: 00100 8.2.2 วธิ กี ารวิเคราะหวงจรเชิงลาํ ดับแบบไมเขาจังหวะ การวเิ คราะหวงจรเชงิ ลาํ ดับแบบไมเขาจังหวะ ใชสําหรับการวิเคราะหวงจรเชงิ ลําดับใน กรณีที่ฟลิปฟลอปอยางนอย 1 ตัวที่ไมใชสัญญาณนาฬิการวมกับฟลิปฟลอปตัวอื่นมีอยูในวงจร นอกจากการวิเคราะหวงจรแบบไมเ ขาจังหวะแลววิธีที่นําเสนอน้ียังสามารถใชสําหรับการวิเคราะห วงจรเชงิ ลาํ ดับแบบเขา จังหวะไดเ ชนกนั ซ่งึ มขี นั้ ตอนเปนดังน้ี ขน้ั ตอนที่ 1: หาสมการพชี คณติ บูลีนของอนิ พุตของฟลิปฟลอปทกุ ตวั และเอาตพ ตุ วงจร โดยท่ี หากเปน วงจรเชิงลาํ ดับเปนวงจรแบบไมเขาจังหวะ จะตอ งหาสมการบูลีนของสญั ญาณนาฬิกาของ ฟลิปฟลอปแตละตัวท่ีอยภู ายในวงจรดว ย ข้ันตอนที่ 2: นําสมการพีชคณิตบูลีนของอินพุตทุกตัวท่ีหาไดในข้ันตอนท่ี 1 มาแทนคาลงใน สมการพชี คณติ บูลีนของเอาตพุตใหมข องฟลิปฟลอป ข้นั ตอนท่ี 3: สรา งแผนผงั คารโ นหของเอาตพ ุตใหมของฟลิปฟลอปท้ังหมด และเอาตพุตวงจร โดยท่ีแผนผังคารโนห 1 แผนผงั ใชสําหรบั แสดงสถานะทีเ่ ปน ไปไดท้ังหมดของเอาตพุตใหมของฟลิป ฟลอปหรอื เอาตพ ุตของวงจร 1 ตัว สาํ หรบั คา ผลลพั ธทไี่ ดแ ตล ะชองในแผนผังคารโนหไดมาจากการ วเิ คราะหจ ากสมการพชี คณิตบลู นี ทไี่ ดจ ากข้ันตอนท่ี 2 ขั้นตอนที่ 4: นาํ ผลลัพธที่ไดแ ตล ะชองของแผนผงั คารโ นหไปใสลงในตารางทรานซชิ ั่น ขั้นตอนท่ี 5: นําตารางทรานซิชนั่ มาสรางตารางสถานะและแผนภาพสถานะ ข้นั ตอนท่ี 6: วิเคราะหห าสถานะที่เกิดขนึ้ ใหม และเอาตพ ุตของวงจร จากลําดบั ของอนิ พุต และ สถานะปจจบุ นั ของวงจร 170
เอกสารประกอบการสอนวิชาวงจรดจิ ิทลั และลอจกิ โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข ตวั อยางท่ี 8-3 จากวงจรเชิงลาํ ดบั ทีก่ าํ หนดใหจ งวเิ คราะหหาเอาตพ ตุ และสถานะท่เี กดิ ขึ้น กรณที ี่ อินพตุ ที่ถกู ปอนเขา มาอยางเปนลาํ ดับมคี า เปน 11000 และสถานะเริม่ ตน ของฟลปิ ฟลอปทงั้ 2 ตวั มี คา เปน 01 (Q1 = 0 และ Q2 = 1) วิธที ํา เนือ่ งจากวงจรน้ไี มไ ดใชส ัญญาณ CLK รว มกัน จงึ เปนวงจรแบบไมเ ขา จังหวะ ข้นั ตอนการ วเิ คราะหเปนดงั น้ี ขน้ั ตอนที่ 1: หาสมการพีชคณติ บลู ีนของอนิ พตุ ของฟลปิ ฟลอปทกุ ตวั รวมถงึ สญั ญาณนาฬกิ า และ เอาตพตุ วงจรไดดงั นี้ D = Q2 1 D =Q 21 Cl k = XQ 12 Clk = X 2 Z = XQ 1 ข้ันตอนท่ี 2: วงจรเชิงลําดบั ทกี่ าํ หนด มีการใชง านฟลปิ ฟลอปแบบ D เทา นั้น โดยสมการพีชคณติ บูลนี ของเอาตพตุ ใหมข องฟลปิ ฟลอปแบบ D เปน คอื Q = DCl K + QCl k n ext กําหนดให Qnext1 และ Qnext2 คือสถานะเอาตพ ตุ ใหมของฟลิปฟลอปแบบ D ตวั ที่ 1 และ 2 ตามลาํ ดับจึงไดสมการพชี คณติ บลู ีนของเอาตพตุ ใหมข องฟลปิ ฟลอปแบบ D1 และ D2 เปน ดังนี้ Q = D ClK + Q Clk1 n e xt 1 11 1 = Q2XQ2 + Q XQ 12 = QX + Q 1 Q2 1 Q = D ClK + Q Clk 2 next2 2 2 2 =Q X+Q X 12 171
เอกสารประกอบการสอนวชิ าวงจรดิจิทัลและลอจกิ โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข ขน้ั ตอนที่ 3: สรางแผนผังคารโนหข องเอาตพ ุตใหมของฟลปิ ฟลอปทงั้ หมด และเอาตพ ุตวงจร สรางแผนผังคารโนห โดย จะมีคาเปน ก็ตอเมื่อ 1. Q = QX + Q 1 Q2 Q 1 Q1 = 1 next 1 1 n e xt 1 และ X= 0 หรอื Q1= 1 และ Q2 = 0 สําหรับกรณีอื่นๆ Q จะมคี า เปน 0 ทงั้ หมด n e xt 1 QQ 12 X 00 01 11 10 00 0 1 1 10 0 0 1 Q = QX + Q 1 Q2 next1 1 2. สรางแผนผังคารโนห Q =Q X+Q X โดย Q จะมีคาเปน 1 ก็ตอเมื่อ Q1 = 1 next2 1 2 next 2 และ X= 1 หรือ Q2= 1 และ X = 0 สําหรบั กรณอี ืน่ ๆ Q จะมคี าเปน 0 ทงั้ หมด next 2 QQ 12 X 00 01 11 10 00 1 1 0 10 0 1 1 Q =Q X+Q X next2 1 2 3. สรางแผนผังคารโ นห Z = XQ โดย Z จะมีคาเปน 1 กต็ อ เมอ่ื Q =1 และ X = 0 สําหรบั 1 1 กรณีอื่นๆ Z จะมีคาเปน 0 ทั้งหมด QQ 12 X 00 01 11 10 00 0 1 1 10 0 0 0 Z = XQ 1 ขั้นตอนที่ 4: นําผลลพั ธท ีไ่ ดแ ตล ะชอ งของแผนผงั คารโนหไ ปใสล งในตารางทรานซชิ นั่ ซง่ึ พิจารณา เปน 4 คอลัมนดงั น้ี คอลมั นท ่ี 1: (Q1 = 0 และ Q2 = 0) เมื่อ X = 0 ได Qnext1 = 0, Qnext2 = 0 และ Z = 0 เมอื่ X = 1 ได Qnext1 = 0, Qnext2 = 0 และ Z = 0 คอลมั นท ่ี 2: (Q1 = 0 และ Q2 = 1) เมือ่ X = 0 ได Qnext1 = 0, Qnext2 = 1 และ Z = 0 เมอ่ื X = 1 ได Qnext1 = 0, Qnext2 = 0 และ Z = 0 172
เอกสารประกอบการสอนวชิ าวงจรดจิ ิทลั และลอจิก โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข คอลมั นท่ี 3: (Q1 = 1 และ Q2 = 1) เม่ือ X = 0 ได Qnext1 = 1, Qnext2 = 1 และ Z = 1 เมอื่ X = 1 ได Qnext1 = 0, Qnext2 = 1 และ Z = 0 คอลัมนท ่ี 4: (Q1 = 1 และ Q2 = 0) เมือ่ X = 0 ได Qnext1 = 1, Qnext2 = 0 และ Z = 1 เมอ่ื X = 1 ได Qnext1 = 1, Qnext2 = 1 และ Z = 0 จากทงั้ 4 คอลมั นไดต ารางทรานซชิ ่ันเปน ดงั น้ี สถานะปจ จบุ นั สถานะท่ีเกดิ ขึ้นใหม (Qnext) เอาตพ ตุ (Z) (Q1Q2) X=0 X=1 X= 0 X=1 00 01 00 00 00 10 11 01 00 00 10 11 10 11 01 10 ข้ันตอนที่ 5 สรา งตารางสถานะ และ แผนภาพสถานะจากตารางทรานซชิ ัน่ กาํ หนดให A แทนสถานะ 00 B แทนสถานะ 01 C แทนสถานะ 10 D แทนสถานะ 11 ตารางสถานะเกิดจากการแทนคาสถานะของ Q1และ Q2 ดวยตวั อักษรที่กาํ หนดขา งตน ไดเปน ดังน้ี สถานะปจ จุบัน สถานะทีเ่ กดิ ขนึ้ ใหม/ เอาตพ ุต (Q1Q2) (Qnext/ Z ) A X=0 X=1 B C A/ 0 A/ 0 D B/ 0 A/ 0 C/ 1 D/ 0 D/ 1 B/ 0 จากตารางสถานะ สามารถแปลงเปน แผนภาพสถานะไดด งั นี้ 173
เอกสารประกอบการสอนวชิ าวงจรดิจิทลั และลอจกิ โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสขุ 0/0, 1/0 A 1/0 0/0 1/0 D 0/1 B 0/1 1/0 C 0/1 จากตารางสถานะ หรอื แผนภาพสถานะสามารถหาเอาตพตุ และสถานะท่เี กดิ ข้นึ ไดด งั นี้ (โดย สถานะเรมิ่ ตนคือ B และลําดับของขอมลู อนิ พตุ ทปี่ อ นเขามาคอื 11000) อินพตุ : 11000 สถานะปจ จบุ ัน: BAAAA สถานะที่เกิดขึ้นใหม: A A A A A เอาตพ ตุ : 00000 จากตารางสถานะ หรอื แผนภาพสถานะสงั เกตไดวา หากสถานะปจจบุ นั อยูท ่ี A แลว สถานะใหม ที่จะเกิดขึ้นยังคงอยูที่ A เสมอ และไมมีโอกาสท่ีจะเกิดสถานะอื่นไดอีกเลย ไมวาคาอินพุต X ที่ ปอ นเขามาจะมสี ถานะเปน เชน ไรกต็ าม เรยี กสภาวะท่ีเกดิ ขึ้นน้ีวา “ วงจรอับ” (Deadlock) ตัวอยางท่ี 8-4 จากตัวอยางท่ี 8-2 ทดลองหาตารางสถานะ และแผนภาพสถานะใหมอีกครัง้ โดยใช วธิ ีการทีใ่ ชสําหรับวิเคราะหว งจรเชงิ ลําดบั แบบไมเขา จังหวะ วิธที าํ เนอื่ งจากวงจรน้ใี ชส ญั ญาณ CLK รวมกนั จึงเปนวงจรแบบเขาจงั หวะ ข้ันตอนการ วเิ คราะหเ ปน ดังน้ี ข้ันตอนที่ 1: หาสมการพีชคณติ บลู ีนของอนิ พตุ ของฟลปิ ฟลอปทกุ ตัว และเอาตพ ตุ วงจรไดด ังนี้ J = X Q1Q 2 1 K = XQ Q + XQ Q 2 1 12 1 J =X 2 K = Q1Q2 2 Z = Q Q2 1 ขั้นตอนที่ 2: วงจรเชงิ ลาํ ดบั ทก่ี ําหนด มีการใชง านฟลปิ ฟลอปแบบ JK เทา นน้ั โดยสมการพีชคณติ บูลนี ของเอาตพ ตุ ใหมข องฟลปิ ฟลอปแบบ JK เปนคอื Q = JQ + KQ next กาํ หนดให Qnext1 และ Qnext2 คือสถานะเอาตพ ุตใหมของฟลปิ ฟลอปแบบ D ตวั ท่ี 1 และ 2 ตามลาํ ดบั จึงไดส มการพีชคณิตบูลีนของเอาตพตุ ใหมของฟลปิ ฟลอปแบบ D1และ D2 เปน ดังนี้ 174
เอกสารประกอบการสอนวชิ าวงจรดจิ ิทลั และลอจกิ โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสขุ Q = J Q1 + K1Q n ext 1 1 1 = X Q1Q2 Q1 + (XQ Q + XQ Q2 )Q 12 1 1 = XQ1Q2 + (XQ Q 2 XQ Q 2 )Q 1 1 1 = XQ1Q2 + (X + Q1 + Q 2 )(X + Q 1 + Q 2 )Q 1 = X Q1 Q + (X + Q1 + Q2 )(XQ + QQ ) 2 1 12 = XQ1Q2 + XQ Q 2 + XQ Q 1 12 = XQ + XQ Q 2 2 1 Q = J Q2 + K2Q n ext2 2 2 = XQ2 + Q1Q2Q2 = X Q 2 + (Q + Q 2 )Q 2 1 = X Q2 + QQ 2 1 ขน้ั ตอนที่ 3: สรางแผนผังคารโ นหข องเอาตพ ตุ ใหมข องฟลปิ ฟลอปทง้ั หมด และเอาตพ ตุ วงจร สรางแผนผังคารโ นห โดย จะมีคาเปน ก็ตอเม่ือ 1. Q = XQ + XQ Q 2 Q 1 Q2 = 1 next1 2 1 n e xt 1 และ X= 0 หรือ Q1= 1 Q2 = 0 และ X = 1 สาํ หรับกรณอี ่ืนๆ Q จะมคี าเปน 0 ทัง้ หมด n e xt 1 QQ 12 X 00 01 11 10 00 1 1 0 10 0 0 1 Q = XQ + XQ Q 2 next1 2 1 2. สรางแผนผังคารโนห Q = XQ2 + QQ โดย Q จะมีคาเปน 1 ก็ตอเม่ือ Q2 = 0 next2 12 n e xt 2 และ X= 1 หรือ Q1= 1 และ Q2 = 1สําหรับกรณอี ื่นๆ Q จะมีคาเปน 0 ท้งั หมด n e xt 2 QQ 12 X 00 01 11 10 00 0 1 0 11 0 1 1 Q = XQ2 + QQ n e xt 2 12 3. สรา งแผนผังคารโ นห Z = Q Q2 โดย Z จะมีคาเปน 1 ก็ตอเมื่อ Q =1 และ Q2= 0 1 1 สําหรบั กรณีอ่ืนๆ Z จะมคี าเปน 0 ทงั้ หมด QQ 12 X 00 01 11 10 00 0 0 1 10 0 0 1 Z = Q Q2 1 175
เอกสารประกอบการสอนวชิ าวงจรดจิ ิทลั และลอจกิ โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข ขน้ั ตอนที่ 4: นาํ ผลลพั ธท่ไี ดแ ตล ะชอ งของแผนผงั คารโ นหไ ปใสล งในตารางทรานซชิ ั่น ซงึ่ พจิ ารณา เปน 4 คอลมั นดงั นี้ คอลัมนท ่ี 1: (Q1 = 0 และ Q2 = 0) เมอื่ X = 0 ได Qnext1 = 0, Qnext2 = 0 และ Z = 0 เม่อื X = 1 ได Qnext1 = 0, Qnext2 = 1 และ Z = 0 คอลมั นท ี่ 2: (Q1 = 0 และ Q2 = 1) เมอื่ X = 0 ได Qnext1 = 1, Qnext2 = 0 และ Z = 0 เมอ่ื X = 1 ได Qnext1 = 0, Qnext2 = 0 และ Z = 0 คอลมั นท ่ี 3: (Q1 = 1 และ Q2 = 1) เมื่อ X = 0 ได Qnext1 = 1, Qnext2 = 1 และ Z = 0 เมอ่ื X = 1 ได Qnext1 = 0, Qnext2 = 1 และ Z = 0 คอลมั นท ่ี 4: (Q1 = 1 และ Q2 = 0) เม่อื X = 0 ได Qnext1 = 0, Qnext2 = 0 และ Z = 1 เมอ่ื X = 1 ได Qnext1 = 1, Qnext2 = 1 และ Z = 1 จากทง้ั 4 คอลมั นไดต ารางทรานซชิ ัน่ เปน ดังน้ี สถานะปจ จุบัน สถานะทเี่ กดิ ข้นึ ใหม เอาตพุต (Z) (Q1Q2) ( Qnext ) 00 X=0 X=1 X= 0 X=1 01 0 0 10 00 01 0 0 11 1 1 10 00 0 0 00 11 11 01 ขั้นตอนที่ 5 สรา งตารางสถานะ และ แผนภาพสถานะจากตารางทรานซชิ ั่น กําหนดให A แทนสถานะ 00 B แทนสถานะ 01 C แทนสถานะ 10 D แทนสถานะ 11 ตารางสถานะเกดิ จากการแทนคา สถานะของ Q1 และ Q2 ดว ยตัวอักษรทก่ี ําหนดขา งตน ไดเ ปน ดังนี้ สถานะปจ จบุ ัน สถานะทีเ่ กิดขน้ึ ใหม/ เอาตพ ตุ (Q1Q2) (Qnext/ Z ) X=0 X=1 A A/ 0 B/ 0 B C/ 0 A/ 0 C A/ 1 D/ 1 D D/ 0 B/ 0 176
เอกสารประกอบการสอนวชิ าวงจรดิจิทัลและลอจิก โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสุข จากตารางสถานะ สามารถแปลงเปน แผนภาพสถานะไดด งั น้ี 0/0 1/0 A D 0/0 B 1/0 0/0 1/0 0/1 1/1 C จากตารางสถานะ และแผนภาพสถานะที่คาํ นวณไดต ากตัวอยางท่ี 8-4 มคี าตรงกับตาราง สถานะ และแผนภาพสถานะที่ คํานวณไดจากตวั อยา งที่ 8-2 ทกุ ประการ 8.3 การออกแบบวงจรเชิงลาํ ดับ การออกแบบวงจรเชิงลําดบั คอื การสรางวงจรเชงิ ลําดบั ข้นึ มาใหมเพอื่ ใหไดผลการทํางานตามที่ ผูใ ชง านตองการ ดังนั้นกอนทจ่ี ะสรางวงจรขึ้นมานัน้ จําเปนตอ งกําหนดผลลัพธท ่เี ปนไปไดทงั้ หมดของ วงจรขน้ึ มากอ นแลวจึงทําการออกแบบ และสรา งวงจรที่ใหผลลพั ธออกมาตรงกับท่ีไดกําหนดไว โดย ขนั้ ตอนการสรางวงจรเชิงลาํ ดับมีดงั นี้ ขนั้ ตอนที่ 1: วิเคราะห และออกแบบตารางสถานะ และแผนภาพสถานะซงึ่ แสดงถงึ สถานะของ เอาตพ ตุ ของฟลปิ ฟลอปที่ใหผ ลลพั ธตรงกบั ทผี่ ใู ชง านตอ งการ ขนั้ ตอนที่ 2: สรางตารางทรานซชิ น่ั จากตารางสถานะที่ออกแบบไดจ ากข้นั ตอนท่ี 1 ขนั้ ตอนที่ 3: จากข้นั ตอนที่ 1 เมอ่ื ทราบจํานวนของสถานะของเอาตพ ตุ ของฟลิปฟลอปทีเ่ ปนไป ไดทัง้ หมดแลว จะทาํ ใหสามารถคาํ นวณหาจาํ นวนของฟลปิ ฟลอปท้งั หมดทต่ี อ งนํามาใชง านในวงจรได (จํานวนสถานะท้ังหมด = 2จํานวนฟลิปฟลอป) ใหเลือกชนิดของฟลิปฟลอปที่จะนํามาใชงานและสราง ตารางเอ็กไซเทช่ันจากความสัมพันธระหวา งตารางทรานซชิ น่ั และ ชนดิ ของฟลปิ ฟลอปที่เลอื กใชงาน ขั้นตอนท่ี 4: สรา งแผนผังคารโนหเพอื่ หาสมการพีชคณิตบูลนี ของอินพุตของฟลิปฟลอปแตละ ตัว และเอาตพุต ข้นั ตอนที่ 5: สรางวงจรจากสมการพีชคณติ บลู นี ของอนิ พตุ ของฟลปิ ฟลอปและเอาตพ ุต ตวั อยา งท่ี 8-5 จงออกแบบวงจรรวมเชิงลําดับโดยท่ีคาเอาตพุตจะมีคาเปน 1 ไดก็ตอเม่ืออินพุตท่ี ปอ นเขามามคี า เปน ลาํ ดับท่ีตอเน่อื งคอื “ 101” สาํ หรบั กรณีอน่ื ๆ จะทาํ ใหเ อาตพุตมคี าเปน 0 ทัง้ หมด โดยใหใชฟลปิ ฟลอปแบบ RS วิธที ําขน้ั ตอนที่ 1: จากโจทยที่กาํ หนดมีเพยี ง 1 อนิ พุตจงึ สามารถวิเคราะหตารางสถานะไดด ังน้ี กําหนดให X คือขอ มลู อนิ พตุ A แทนสถานะเริ่มตน ดังน้ัน A จึงแทนสถานะของขอมลู อินพุตทปี่ อนเขามายงั ไมถูกเลย B แทนสถานะทเ่ี กิดขึน้ กรณีทีอ่ นิ พตุ ถูกปอนมาถูกแลว 1 คา (1) C แทนสถานะทีเ่ กดิ ขน้ึ กรณีทีอ่ ินพุตถกู ปอ นมาถกู แลว 2 คา (10) 177
เอกสารประกอบการสอนวิชาวงจรดิจิทัลและลอจกิ โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสขุ จากตวั อยา งสังเกตวา ไมจ าํ เปนตองกําหนดสถานะใหมที่เกดิ ขน้ึ กรณที ี่อนิ พุตถูกปอ นมาถกู แลว 3 คา เน่ืองจากสถานะสุดทายของรูปแบบ “ 101” คือ “ 1” ซ่ึงพบวาเปนสถานะที่เกิดจากการปอน อินพุตทถี่ กู รูปแบบแลว 1 คา ของกรณีทจี่ ะเกดิ เอาตพตุ ท่มี คี า เปน 1 ใหมอ ีกครงั้ ดังตวั อยา งตอไปนี้ ลาํ ดบั ท:่ี 12345 อนิ พตุ : 10101 เอาตพตุ : 00101 จากตัวอยางขางตน ลําดับท่ี 3 คือกรณีท่ีเกิดจากการใสขอมูลอินพุตในรูปแบบท่ีถูกตอง (“ 101” ) ซึ่งทาํ ใหเ อาตพ ตุ ที่ไดม ีคาเปน 1 อยางไรกต็ ามเอาตพุตสามารถมสี ถานะเปน 1 ไดอีกครั้งใน ลาํ ดบั ท่ี 5 ซึง่ เกดิ จากการปอนอนิ พุตท่ีตอ จากลําดับท่ี 3 ท่ีถูกรูปแบบอีกเพียง 2 คาดังนั้นสรุปไดวา สถานะของลาํ ดับที่ 3 คือสถานะท่ีเกดิ จากกรณที ี่ใสขอ มูลอนิ พุตถกู รปู แบบแลว 1 คา ดังน้นั สถานะทีเ่ ปน ไปไดม ที ั้งหมด 3 สถานะประกอบดว ย A, B และ C การวิเคราะหหาสถานะท่ี เกดิ ขนึ้ ใหมส ามารถทาํ ไดไดด งั นี้ กรณีที่ สถานะปจ จุบนั คอื A เมื่อ X = 0 แสดงใหเ หน็ วา ขอ มลู อนิ พตุ ท่ีปอนเขามายังไมถ กู รปู แบบเลย เนอื่ งจาก A เปน สถานะที่ยังไมถ กู รูปแบบเลย ดังนนั้ สถานะที่เกดิ ขน้ึ ใหมย ังคงอยทู ่ี A และ เอาตพตุ มคี าเปน 0 เม่ือ X = 1 แสดงใหเ ห็นวาขอ มลู อนิ พตุ ท่ปี อ นเขา มามคี วามถกู ตองแลว 1 คา เนอ่ื งจาก B เปน สถานะท่เี กดิ จากการปอนขอ มลู อนิ พตุ ถูกรปู แบบแลว 1 คา ดงั นนั้ สถานะท่เี กดิ ขนึ้ ใหมอ ยทู ี่ B และ เอาตพุตมคี าเปน 0 กรณีที่ สถานะปจ จุบนั คือ B เมื่อ X = 0 แสดงใหเห็นวาขอมูลอินพุตที่ปอนเขามาเขามามีความถูกตองแลว 2 คา เน่ืองจาก C เปนสถานะท่ีเกิดจากการปอ นขอ มูลอินพุตถูกรูปแบบแลว 2 คา ดังน้ันสถานะที่เกิดข้ึน ใหมอ ยูท ่ี C และ เอาตพ ุตมีคา เปน 0 เมื่อ X = 1 แสดงใหเห็นวาขอมูลอินพุตท่ีปอนเขามายังคงมีความถูกตองอยู 1 คา เชนเดมิ ดังนน้ั สถานะที่เกิดข้ึนใหมยังคงอยทู ี่ B และ เอาตพ ตุ มีคา เปน 0 กรณีที่ สถานะปจ จบุ นั คอื C เมื่อ X = 0 แสดงใหเห็นวาขอมูลอินพุตท่ีปอนเขามาแลวนั้นไมถกู รูปแบบเลย ดังน้ัน สถานะท่ีเกดิ ขนึ้ ใหมจะตองกลบั มาอยูที่ A และ เอาตพ ุตมีคา เปน 0 เมื่อ X = 1 แสดงใหเห็นวาขอมูลอนิ พตุ ที่ปอ นเขามาเขา มามีความถูกตองแลว 3 คาทํา ใหเ อาตพ ตุ มคี า เปน 1 แตอยา งไรกต็ ามเนอื่ งจากสถานะลา สดุ ของมคี าเปน 1 จึงเปรียบเสมือนวา เปน การปอนขอมูลอนิ พตุ มาถกู แลว 1 คา ดงั น้ันสถานะที่เกิดขนึ้ ใหมอยูที่ B จากทั้ง 3 สถานะทีว่ เิ คราะหไดท ้ังหมด สามารถสรา งแผนภาพสถานะ และตารางสถานะไดด งั นี้ 178
เอกสารประกอบการสอนวชิ าวงจรดิจิทลั และลอจิก โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสขุ แผนภาพสถานะ: 0/0 A 1/0 0/0 1/0 B 1/1 ตารางสถานะ: 0/0 C สถานะปจ จบุ ัน สถานะท่เี กิดขึ้นใหม/ Z Q1Q2 X=0 X=1 A A/ 0 B/ 0 B C/ 0 B/ 0 C A/ 0 B/ 1 ขั้นตอนท่ี 2: สรางตารางทรานซชิ ัน่ จากตารางสถานะไดด งั นี้ กาํ หนดให A แทนสถานะ 00 B แทนสถานะ 01 C แทนสถานะ 10 สถานะปจ จุบัน สถานะทเ่ี กิดขนึ้ ใหม/ เอาตพ ตุ (Q1Q2) (Qnext/ Z ) 00 X=0 X=1 01 10 00/ 0 01/ 0 10/ 0 01/ 0 00/ 0 01/ 1 ข้นั ตอนที่ 3: สรางตารางเอก็ ไซเทชนั่ จากตารางทรานซชิ ่ัน เนื่องจากสถานะทีเ่ ปนไปไดท ัง้ หมดของเอาตพุตของฟลิปฟลอปมี 3 สถานะ หากใชฟลิปฟลอป 1 ตัวจะได 2 สถานะซ่ึงไมเพียงพอ ดังนั้นจึงตองใชฟลิปฟลอป 2 ตัวซึ่งจะไดท้ังหมด 4 สถานะ อยา งไรก็ตามจากตวั อยางตองการเพียงแค 3 สถานะคือ 00, 01 และ 10 ดังนั้นสถานะ 11 ถึงเปน สถานะทีไ่ มสนใจ จากตารางเอ็กไซเทชั่น ของฟลิปฟลอปแบบ RS ไดว า แถวที่ 1 (Q1 = 0, Q2 = 0) เม่อื X = 0 ตอ งการ Qnext1 = 0 จะได R1 = x และ S1 = 0 และ ตอ งการ Qnext2 = 0 จะได R2 = x และ S2 = 0 179
เอกสารประกอบการสอนวิชาวงจรดจิ ิทัลและลอจกิ โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสขุ เมือ่ X = 1 ตอ งการ Qnext1 = 0 จะได R1= x และ S1 = 0 และ ตองการ Qnext2 = 1 จะได R2 = 0 และ S2 = 1 แถวท่ี 2 (Q1 = 0, Q2 = 1) เมือ่ X = 0 ตอ งการ Qnext1 = 1 จะได R1 = 0 และ S1 = 1 และ ตองการ Qnext2 = 0 จะได R2 = 1 และ S2 = 0 เม่อื X = 1 ตอ งการ Qnext1 = 0 จะได R1 = x และ S1 = 0 และ ตอ งการ Qnext2 = 1 จะได R2 = 0 และ S2 = x แถวท่ี 3 (Q1 = 1, Q2 = 0) เมอ่ื X = 0 ตอ งการ Qnext1 = 0 จะได R1 = 1 และ S1 = 0 และ ตอ งการ Qnext2 = 0 จะได R2 = x และ S2 = 0 เมื่อ X = 1 ตอ งการ Qnext1 = 0 จะได R1 = 1 และ S1 = 0 และ ตองการ Qnext2 = 1 จะได R2 = 0 และ S2 = 1 แถวท่ี 4 (Q1 = 1, Q2 = 1) เปนกรณที ่ไี มส นใจจงึ กําลังให R1 = S1 = R2 = S2 = x ไดต ารางเอ็กไซเทชัน่ เปนดงั น้ี สถานะปจ จุบัน X= 0 X=1 เอาตพ ุต (Z) (Q1Q2) R1S1 R2S2 R1S1 R2S2 X= 0 X=1 00 x0 x0 x0 01 01 00 10 11 01 10 x0 0x 00 10 x0 10 01 01 xx xx xx xx 00 ข้นั ตอนท่ี 4: สรางแผนผังคารโนหเ พื่อหาสมการพชี คณติ บลู นี ของอนิ พตุ ของฟลิปฟลอปทง้ั หมด และ เอาตพตุ ของฟลปิ ฟลอป 1. แผนผังคารโนหข อง R1 QQ 12 X 00 01 11 10 0x 0 x 1 Q 1 1x x x 1 2. แผนผงั คารโนหข อง S1 R =Q 10 11 QQ 0 QX 12 01 11 2 1x X 00 0x 0 00 10 S =Q X 12 180
เอกสารประกอบการสอนวชิ าวงจรดิจิทัลและลอจกิ โดย อาจารย กฤษณพงศ สมสขุ 3. แผนผังคารโ นหของ R2 QQ 12 X 00 01 11 10 0x 1 x x X 10 0 x 0 4. แผนผงั คารโ นหข อง S2 R =X 10 X 2 0 QQ 1 12 01 11 0x X 00 xx 00 11 5. แผนผังคารโ นหของ Z S =X 10 2 QQ 0 12 01 11 00 1 Q Q 2 X X 00 00 1 00 10 Z = Q Q 2 X 1 ข้ันตอนที่ 5: สรา งวงจรจากสมการพีชคณติ บลู ีนของอินพตุ ของฟลปิ ฟลอปและเอาตพ ตุ ไดด งั นี้ ตัวอยางท่ี 8-6 จงออกแบบวงจรรวมเชิงลําดับโดยที่คาเอาตพ ุตจะมีคาเปน 1 ไดก็ตอเมื่ออินพุตที่ ปอนเขา มามีคา เปนลําดบั ทต่ี อ เนือ่ งคอื “ 101” โดยเมื่อเอาตพ ุตมีคา เปน 1 แลวจะตอ งเรม่ิ นบั สถานะ ของอนิ พตุ ใหม สาํ หรบั กรณอี ื่นๆ จะไมสนใจสถานะเอาตพ ตุ โดยใหใ ชฟ ลปิ ฟลอปแบบ JK วิธที ํา ตัวอยา งนจี้ ะแตกตา งจากตัวอยางที่ 8-5 ดงั น้ี 181
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282