Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อารยธรรมจีน

อารยธรรมจีน

Published by jidayadum, 2021-03-23 15:34:07

Description: อารยธรรมจีน

Search

Read the Text Version

เรม่ิ ขนึ้ เมือ่ ประมาณ 2.000 B.C. หรือราว 4,000 ปมี าแล้วในเขตล่มุ ม.หวางเหอ/ ม.เหลือง ทาง ตะวันออกเฉียงเหนือ ของจีน



ปัจจยั ส่งเสริมใหเ้ กดิ อารยธรรมจีนโบราณ เปน็ อารยธรรมท่มี ีเอกภาพสงู ซ่งึ ต่างจากอารยธรรมรว่ มสมยั อืน่ ๆ ไมว่ า่ จะ เปน็ อารยธรรมอินเดีย/ เมโสโปเตเมีย เนือ่ งจากเป็นอารยธรรมท่ีพฒั นาและ หลอ่ หลอมขนึ้ ภายในดนิ แดนของตนเป็นสว่ นใหญ่ โดยได้รบั อิทธิพลจากโลก ภายนอกไมม่ ากนัก ปัจจยั สาคญั ทสี่ ง่ เสรมิ การหลอ่ หลอมอารยธรรมจนี ได้แก่ - ปจั จัยทางภมู ศิ าสตร์ - ความเช่ือเกย่ี วกับวัฏจกั รของราชวงศ์

สภาพทางภมู ิศาสตร์ 1. ท่ตี ้ังและท่ีราบสูง - จนี ตั้งอยทู่ างภาค ตอ./น. ของทวปี เอเชีย รวมทงั้ หมเู่ กาะ อีกประมาณ 5,000 เกาะ จงึ มพี ื้นทรี่ วมทั้งหมดประมาณ 9.6 ลา้ น ตร.กม. - พืน้ ท่ี 2 ใน 3 ของประเทศทีอ่ ย่ทู างภาค ตต. และภาค ตอ./น.จะปกคลุม ดว้ ยภเู ขา เทอื กเขา และ ทีร่ าบสงู เช่น

เทอื กเขาหมิ าลยั เทอื กเขาคาราโกรมั

เทอื กเขาอลั ไต ที่ราบสงู มองโกเลยี

ท่รี าบสงู ทิเบต มคี วามสงู ถงึ 12,000 ฟุต ไดร้ บั การยกย่องว่าเป็น “หลงั คาโลก” - สว่ นภาค ตอ./ต. เป็นท่รี าบทีล่ าดเอยี งไปสู่มหาสมทุ รแปซิฟิก

2. แม่น้า - แม่นา้ ที่สาคัญของจนี มกั มีตน้ กาเนิดมาจากภเู ขา และที่ราบสงู ทางภาค ตต. แม่น้าที่สาคัญ มี 2 สาย คอื แมน่ ้าแยงซี / แมน่ า้ แยงซีเกียง

อยทู่ างภาคกลาง มคี วามยาวประมาณ 5,800 กม. ถือวา่ เปน็ แม่น้าทย่ี าวที่สุด เปน็ แหลง่ ความเจรญิ ทางดา้ นเศรษฐกจิ การเมอื ง การทหาร เป็นแหลง่ เกษตรกรรมท่ีหลอ่ เลีย้ งคนจีนท้ังประเทศ เป็นเส้นทางเดินเรือขนาดใหญ่ และ ชว่ ยในการผลิตกระแสไฟฟา้

แม่นา้ ฮวงโห / แมน่ ้าเหลือง อยูท่ างภาคเหนือ เป็นแมน่ ้าทเ่ี ชือ่ มระหวา่ งจนี ภาคเหนอื กับภาคกลางเข้าดว้ ยกนั เป็นแม่นา้ ทีส่ ร้างความอุดมสมบูรณ์ ให้แก่ 2 ฟากฝง่ั ทแ่ี ม่น้า ไหลผ่าน

เป็นแหล่งกาเนิดอารยธรรมเริ่มแรกของจนี ในยคุ หินใหม่ ประมาณ 4,000 B.C. มาแลว้ เห็นไดจ้ ากการขุดค้นพบภาชนะเครื่องปั้นดินเผา (ลีและเสียน) และเครื่องมือ เครอื่ งใชท้ ที่ ามาจากดินเหนียวคลุกกับใบไม้ แสดงใหเ้ ห็นความเจรญิ ของจนี ในยุคกอ่ น ประวตั ศิ าสตร์ ในฤดฝู นมกั มีนา้ ท่วมอยูเ่ สมอ จนก่อใหเ้ กิดความหายนะแก่ เศรษฐกจิ ของประเทศ แมน่ ้าฮวงโห ไดร้ บั การขนามนามวา่ “แมน่ า้ วปิ โยค”

3. คลองใหญ่ (Grand Canal) - เป็นคลองหลักท่ขี ดุ ขึ้นเพอ่ื เชื่อมแมน่ า้ ฮวงโหกบั แมน่ ้า แยงซีเกยี งและแม่น้าอื่นๆ เขา้ ด้วยกนั นับเป็นคลองท่ยี าวที่สุด และเก่าแก่ท่สี ุดของโลก

4. ทะเลทราย - จนี มีทะเลทรายท่ีสาคัญหลายแห่ง รวมพน้ื ที่ทง้ั หมดประมาณ 11.4 % - พ้ืนที่ส่วนใหญ่อยูท่ างภาค ตต.ของประเทศทสี่ าคญั เชน่ ทะเลทรายโกบี ทะเลทรายตากลามากัน ทะเลทรายวอรโ์ ด เปน็ ตน้

5. ภูมิอากาศ ภมู อิ ากาศมีลกั ษณะแตกตา่ งกนั ไปตามสภาพท่ตี ง้ั ของประเทศ โดยทาง - ภาคเหนือ และภาคตะวนั ตก อากาศจะหนาวและหนาวจัด และแหง้ แลง้ ในฤดูหนาว - ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ เรอื่ ยลงมาทางภาคใต้ จะมีต้งั แตห่ นาว อบอนุ่ อบอุ่นค่อนข้างรอ้ น จนกระทง่ั ร้อนแบบศูนย์สูตร - ภาคใต้ จะมฝี นตกชุก เหมาะแกก่ ารเพาะปลูก

6. ประชากร มีเรื่องเล่าเกยี่ วกับบรรพบุรษุ ของจีน หรือกาเนิดชนชาตจิ นี อยู่ 3 เร่อื ง คอื 1) จากตานานจนี กล่าวว่า จีนถอื กาเนดิ ข้ึนเม่อื สวรรค์แยกตวั ออกจากโลก จากนน้ั ก็มเี ทพเจา้ 3 องคจ์ ตุ ลิ งมา เพื่อช่วยกันสรา้ งความเจริญ ได้แก่ * เทพเจา้ แหง่ สวรรค์ * เทพเจา้ แหง่ พิภพ * เทพเจ้าแห่งมนุษย์

หลงั จากนน้ั ก็มาถึงยุคแหง่ วีรบรุ ุษ ซ่งึ เป็นผ้สู อนให้ คนจนี รู้จักก่อไฟ สร้างทอี่ ยู่ อาศัย สรา้ งเคร่ืองมอื ทามาหากนิ ลา่ สตั ว์ ทาไร่ไถนา เป็นต้น 2) เกดิ ขึ้นใน 2,697 ปกี อ่ นครสิ ตกาล เม่อื ผู้นาชนเผ่าฮ่ัน พบว่า “ฮวงต่ี” หรือ จกั รพรรดแิ หง่ ลมุ่ นา้ เหลือง รวบรวมผ้คู นแถบลุม่ ม.เหลือง ตงั้ อาณาจักร ขน้ึ มาในสมัยกษตั ริยเ์ หยา และกษตั รยิ ซ์ นุ ทป่ี รากฏในตานานกษัตรยิ ผ์ ู้สร้างความ เจริญใหแ้ ก่จีนโบราณ มผี ลงานสาคญั คอื

- สอนให้ชาวจนี ร้จู กั ในเร่อื งคณุ ธรรม - การประดิษฐ์ปฏทิ ิน - รู้จกั สร้างบ้านจากเศษไม้ - ทอผ้าไหม - สรา้ งเรอื รถไถ - ประดิษฐธ์ นู - เคร่ืองปัน้ ดนิ เผา - ตวั อักษร

3) ปรากฏตามหลักฐานโบราณคดี ซง่ึ ขดุ พบ ในปี ค.ศ. 1927 ทางใตข้ องกรุงปกั กงิ่ เช่ือวา่ เม่อื ประมาณ 2 แสน – 5 แสนปกี ่อนคริสตกาล ภมู ิภาคแห่งนไี้ ด้มมี นษุ ย์ปักกิ่งอาศยั อยู่ จากการ สารวจในคร้งั ที่ 2 (ปี ค.ศ. 1933) ในสถานท่ี ใกล้เคียงกนั ได้พบร่องรอยของชนเผ่ามองโกลอยด์ ซึ่งเปน็ กลมุ่ ชนผิวเหลืองทอี่ าศัยอยทู่ วั่ ไป ทาง ภาคเหนือของจนี นอกจากนยี้ ังมกี ลุ่มชนที่ผิว คอ่ นข้างคล้าอาศยั อยู่ทางภาคใต้ และกลุ่มชนที่ อพยพมาจากภาค ตต. ซ่งึ ต่อมาคือ ประชากรชาวจีน ในปัจจบุ ันทีม่ ีอยปู่ ระมาณ 1,330 ล้านคน



แผ่นดินจนี อาจเปน็ แหลง่ กาเนิดเผา่ พันธุ์ของมนุษย์ชาติ มีการพบหลักฐานทาง โบราณคดี คอื ➢ซากดกึ ดาบรรพ์ ของมนุษย์ยคุ แรก เรียกวา่ “รามาปิเทคสุ ” ทห่ี ยุนหนาน

➢มนษุ ย์หยวนโมว่ มนษุ ย์หล่ันเทียน และมนุษยป์ ักกงิ่ มอี ายุ ราว 5 แสนปี และพบโครงกระดูกมนุษยย์ ุคหนิ ใหม่

- จากทฤษฎีสังคมวิทยาและมานุษยวทิ ยา เชอ่ื ว่า จนี กาเนดิ ข้ึนในยคุ หินใหม่/ประมาณ 4,000 ปี กอ่ นคริสตกาล โดยมศี นู ย์กลางอยตู่ าม ลุ่ม ม.เหลือง/ ม.ฮวงโห ซง่ึ หลักฐานทาง โบราณคดสี อดคล้องกบั ความเช่อื กค็ ือ วฒั นธรรมเคร่ืองปน้ั ดินเผา ไดแ้ ก่

1. วฒั นธรรมลีและวฒั นธรรมเสียน เปน็ วฒั นธรรมเครอ่ื งปนั้ ดนิ เผารุ่นแรกท่พี บบนแผน่ ดนิ จีน โดยพบมากตาม ภาคเหนอื ของประเทศ ซงึ่ ลกั ษณะเดน่ ของเคร่อื งป้ันดนิ เผาทัง้ 2 ชนดิ คอื * วฒั นธรรมลี เปน็ ภาชนะที่ใช้สาหรับการหุงต้ม และมีขา 3 ขา * วฒั นธรรมเสียน เปน็ ภาชนะคลา้ ยกระชอน โดยมไี ว้ใช้ในการน่ึงมากกวา่ หุงต้ม

2. วฒั นธรรมกษตั ริย์เหยา และกษัตริยซ์ นุ เปน็ กษัตริย์รชั กาลที่ 4 และ 5 ในรชั สมยั ของกษัตริย์ฮวงตี่ ซง่ึ ทง้ั 2 พระองค์มกั ถูกกล่าวอ้างในคาสอนของขงจื๊อ เปน็ กษัตริย์ที่ทรงไว้ซ่งึ คุณธรรม และ มีแนวคดิ ประชาธปิ ไตย โดยความเจรญิ ท่สี าคญั ในยุคน้ี คือ * มสี ถาบันกษตั รยิ เ์ ปน็ ประมขุ ของประเทศ * เปน็ ผ้ดู แู ลทุกขส์ ขุ ของชาวบ้าน * มีฐานะเป็นเทพเจ้า * มีการจดั ระบอบการปกครองท่ีเขม้ แขง็ * รจู้ กั ประดษิ ฐ์ปฏทิ นิ ขนึ้ ใช้

3. วฒั นธรรมเคร่อื งป้นั ดนิ เผาหยางเชาและหลงซาน

* วัฒนธรรมหยางเชา เรียกอกี อย่างหน่ึงว่า “วัฒนธรรมเครอื่ งปั้นดนิ เผาทาสี” * เปน็ เครอื่ งปนั้ ดินเผาลายเขยี นสี เพอ่ื เพ่มิ ความสวยงาม สที ี่ใชแ้ ต้มมีท้งั สี แดง ขาว ดา และนา้ ตาล * ลายท่ีเขียนมักเปน็ ลายเรขาคณติ พชื นก สตั วต์ ่างๆ และภาพใบหน้ามนุษย์ * นอกจากน้ียังพมิ พ์ลายหรอื ขูดสลักลาย เปน็ ลายจักสาน ลายเชือกทาบ

* เปน็ เครอ่ื งปน้ั ดนิ เผาที่มีความแข็งแรง ทนต่อการแตกหกั ส่วนใหญพ่ บมากทาง ตต. แถบมณฑลเหอนาน * วัฒนธรรมนไี้ ดส้ บื ทอดต่อเน่อื งมาจนถงึ สมยั สารดิ และสมัยประวตั ิศาสตร์



* วัฒนธรรมหลงซาน เรยี กอกี อย่างหน่ึงวา่ “วัฒนธรรมเคร่อื งปนั้ ดินเผาไมท่ าสี” * เป็นเครือ่ งปนั้ ดินเผาที่ไมม่ กี ารวาดรปู /ระบายสี ลงบนภาชนะ * เปน็ เคร่อื งปั้นดินเผาท่ีมเี นอ้ื ละเอยี ด สีดา ขัดมันเงา คุณภาพดี เนือ้ บาง แตแ่ ตกหกั ง่าย * มกี ารใช้แป้นหมนุ

• มีการเผาภาชนะที่มีความก้าวหน้ากว่าวัฒนธรรม หยางเชา • รปู แบบท่ีสาคญั คือ ภาชนะ 3 ขา สบื ทอดกนั มาถงึ ยุคสารดิ • ส่วนใหญ่พบมากทางภาค ตอ. แถบมณฑลชานตงุ

- นอกจากเครือ่ งปนั้ ดนิ เผาทั้ง 2 ชนิด ยังพบว่า คนจนี ได้พฒั นาการ ความเปน็ อย่ทู ี่ดีข้นึ คอื • รจู้ ักการเพาะปลกู • รู้จกั ทอผ้าจากใยไหม • ร้จู กั ขดุ บอ่ น้าเพอื่ กักเกบ็ น้าไว้ใช้ • มีความเชื่อในเร่ืองชวี ิตหลงั ความตาย • รูจ้ กั สร้างท่ีอยูอ่ าศัยทที่ าจากดินเหนียวผสมกบั หญา้ ฟาง



❖ ❖ ❖

* ผู้กอ่ ตั้ง คือ กษตั ริย์ หยู่ * มศี ูนยก์ ลางความเจรญิ อยใู่ กล้ลุ่มแม่น้าเหลือง และมีศูนยก์ ลางการปกครองอยู่ท่ี มณฑลเหอนาน โดยมีผลงานสาคัญ ดงั น้ี  มรี ูปแบบการปกครองเปน็ แบบนครรัฐ  ตาแหนง่ จักรพรรดิสืบทอดโดยผา่ นสายโลหิต โดยปกติ พระโอรสองค์โตจะเป็นผูส้ บื ทอราชบลั ลังก์ และเป็นผู้นาท้ัง ในยามสงบและยามสงคราม

 มีการใชร้ ถม้าในการทาสงคราม  มีการนาโลหะสาริดเขา้ มาใชแ้ ทนดินเผา  เร่ิมการใช้อักษรภาพ เน่ืองจากยงั ไมม่ ีตัวอกั ษร  ปฏทิ ินของราชวงศ์นี้ ได้รับการยอมรับวา่ มีความใกล้เคยี งกับปัจจุบนั มากทีส่ ุด

❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖

• พงศาวดารจนี บรรยายถึงกษัตรยิ ์ราชวงศช์ างพระองคท์ ้ายๆ ทคี่ รองราชย์เมืองอันหยาง วา่ เป็นนกั ปกครองทไ่ี ม่สนใจตอ่ บา้ นเมือง และแสวงหาเพยี งความสาราญ ทาให้ ราชวงศ์สิ้นสดุ ลงเม่ือราว 1,100 B.C • ชนเผา่ ท่ตี ั้งอยู่ทางตต.ของมณฑลฉ่านซี มี อานาจมากขึ้น ไดย้ กทพั เข้ามาโคน่ ล้มอานาจ ของราชวงศ์ชาง พรอ้ มกับสถาปนาราชวงศ์ โจวข้นึ โดยผปู้ กครองอา้ งว่าตนได้รบั อาณัติ สวรรคใ์ ห้มาปกครองจนี

❖ ❖ ❖ ❖ ❖

• ประวตั ศิ าสตร์ของราชวงศโ์ จวแบ่งออกเปน็ 2 ยุคใหญ่ ๆ ตามสถานท่ตี ั้งของเมอื งหลวง ดงั นี้ * ยคุ แรก คอื ยุคโจวตะวนั ตก มศี ูนยก์ ลางการปกครองอย่ทู างทศิ ตต. บริเวณ ลุ่ม ม.ไหว ในมณฑลส่นั ซี และครองอานาจตงั้ แต่ 1122 – 771 ปีก่อนคริสตกาล * ยคุ ทีส่ อง คอื ยคุ โจวตะวันออก มีศูนย์กลางความเจริญอยทู่ างทศิ ตอ. แถบลุ่ม ม.โส ทางตอนเหนอื ของมณฑลเหอหนาน

❑ ลกั ษณะเด่นของราชวงศ์โจว มดี งั นี้ 1. ชาวโจวเป็นชนเผ่าเรร่ อน ทไี่ ม่ใชช่ าวจนี โดยกาเนดิ แตจ่ ะมีชาวเติรก์ และชาวทิเบตรวมอยู่ ดว้ ย 2. เปน็ ราชวงศท์ ปี่ กครองจนี นานทสี่ ดุ ในประวตั ศิ าสตร์ราชวงศ์ของจนี โดยปกครองยาวนาน ถงึ 800 ปี 3. เป็นสมยั ท่รี ะบอบศกั ดนิ าแบบเอเชียของจนี เริ่มปรากฏข้ึน ซง่ึ จะแตกต่างจากระบอบศกั ดินา ของยโุ รป 5 ประการ ดงั น้ี - การมอบท่ดี ินให้กับขนุ นางในจนี จะเกิดขึ้นจากความเขม้ แขง็ ของจักรพรรดจิ ีน ส่วนในยุโรปจะเกดิ ขน้ึ จากความอ่อนแอของกษัตรยิ ์ยโุ รป

- เจา้ ผู้ครองนครของจนี มกั เป็นคนทจ่ี ักรพรรดิจีนแตง่ ตั้งข้นึ มา สว่ นเจา้ ผูค้ รอง นครของยุโรปจะไมใ่ ช่คนของกษัตริย์ แตอ่ าจจะเปน็ ใครก็ไดท้ กี่ า้ วข้นึ มามอี านาจ - เจา้ ผูค้ รองนครของยโุ รปจะไมม่ กี รรมสิทธ์ิบนท่ีดนิ ท่ตี นเองครอบครองอยู่ แตม่ ี สทิ ธเ์ิ พียงแค่อยู่อาศยั ในกรณไี มม่ ที ายาท ตอ้ งสง่ มอบคนื ทด่ี ินน้ันใหแ้ กก่ ษัตริย์ แต่เจ้าผู้ ครองนครของจีนจะมสี ทิ ธเ์ิ หนอื ทดี่ ินน้ันๆ เต็มที่ โดยสามารถซอื้ ขาย หรอื โอนตอ่ ให้ บคุ คลอ่นื ได้ - ผคู้ รอบครองทีด่ นิ ในยโุ รปมักเป็นชนชั้นสงู เสมอ สว่ นผคู้ รองท่ีดิน ในจนี อาจเป็นชนชั้นต่าก็ได้

- เจา้ ผู้ครองนครของยโุ รปจาเป็นต้องนาระบบเศรษฐกจิ แบบแมเนอร์ หรือระบบเศรษฐกิจแบบพงึ่ ตนเองมาใช้ เพราะภายในอาณาจกั รไม่มีความปลอดภยั และ ไม่มตี ลาด ในขณะที่จนี มีตลาดและมกี ารคา้ ขาย จึงไม่จาเป็นต้องผลิตเอง 4. มีการนาระบบนาบ่อมาใช้ เพื่อปอ้ งกันไมใ่ ห้ผทู้ ม่ี ีทด่ี ินหลีกเลี่ยงการเสียภาษี แต่วิธีน้กี ็ยงั ใช้ไมไ่ ดผ้ ล












Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook