Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วัฒนธรรมองค์การในการทำงาน

วัฒนธรรมองค์การในการทำงาน

Published by fiwport144, 2017-07-03 21:59:23

Description: วัฒนธรรมองค์การในการทำงาน

Keywords: วัฒนธรรมองค์การในการทำงาน

Search

Read the Text Version

38 3. ลักษณะส่วนบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับปัจจัยด้านความมั่นคงและปลอดภัยในการ -ปฏิบตั งิ านไดแ้ ก่ อายุ ระดับการศึกษา สถานภาพและรายได้ 4. ลักษณะสว่ นบคุ คลท่มี ีความสัมพนั ธ์กบั ปัจจัยดา้ นนโยบายและการบริหารงานไดแ้ ก่ เพศอายุ ระดบั การศกึ ษา ประสบการณ์ในการปฏบิ ตั งิ าน ระดบั ตาแหนง่ (สายงาน) สถานภาพและรายได้ 5. ลักษณะส่วนบุคคลท่ีมีความสัมพันธ์กับปัจจัยด้านความรับผิดชอบได้แก่ อายุ ระดับการศกึ ษา ประสบการณใ์ นการปฏิบัติงานและรายได้ 6. ลักษณะส่วนบุคคลท่ีมีความสัมพันธ์กับปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมในการทางานได้แก่อายุ ระดบั การศึกษา และสบการณ์ในการปฏบิ ตั งิ าน ระดบั ตาแหน่ง (สายงาน) สถานภาพและรายได้ 7. ลักษณะส่วนบุคคลท่ีมีความสัมพันธ์กับปัจจัยด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลได้แก่อายุ ระดับการศึกษา ประสบการณใ์ นการปฏบิ ัติงานและรายได้ วันวิสาข์ เกิดผล (2546) ได้ศึกษาเรื่องปัจจัยท่ีมีอิทธิพลต่อการทางานท่ีมีประสิทธิภาพของทีมงานบริษัทในอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนประกอบยานยนต์ในจังหวัดสมุทรปราการ ผลการวิจัยสรปุ ว่าพนกั งานในระดบั ปฏิบตั ิการมคี วามคิดเหน็ ต่อการทางานท่ีมีประสิทธิภาพของทีมงานโดยรวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาแต่ละด้าน คือการกาหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายท่ีชัดเจน การเปิดเผยและเผชิญหน้ากระบวนการทางานและการตัดสินใจการตรวจสอบทบทวนผลงานและวิธีการทางานอยู่ในระดับมาก ส่วนด้านความร่วมมือและขัดแย้งในระดับปานกลางพนักงานในระดับปฏิบัติการท่ีมีเพศ อายุ ประสบการณ์ในการทางาน การศึกษาขั้นสูงสุดและขนาดของทีมงานแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการทางานท่ีมีประสิทธิภาพของทีมงานไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิตทิ รี่ ะดบั 0.05 เอกพงศ์ ตันทนิส (2546) ได้ศึกษาปัจจัยท่ีมีความสัมพันธ์กับความเห็นในการปฏิบัติงานอย่างมีประสทิ ธภิ าพของพนกั งานบรษิ ทั ไทยเคเคอตุ สาหกรรมจากัดพบว่า เพศ อายุและงานที่แตกต่างกันพนักงานมีความเห็นต่อการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพไม่แตกต่างกัน ระดับการศึกษาและตาแหนง่ ทแ่ี ตกต่างกัน พนกั งานมคี วามเหน็ ตอ่ การปฏบิ ตั งิ านอย่างมปี ระสิทธภิ าพแตกต่างกัน สุภาพร มหิกูล (2548) การศึกษาเปรียบเทียบลักษณะท่ีเป็นอยู่ของวัฒนธรรมองค์การกับลกั ษณะของวฒั นธรรมองค์การทีค่ าดหวังและลกั ษณะผนู้ าทมี ที่มปี ระสทิ ธิภาพในผู้บริหารระดับกลางของอุตสาหกรรมการผลิตภาชนะบรรจุภัณฑ์แก้วของประเทศไทยศึกษาถึงลักษณะผู้นาที่มีประสทิ ธภิ าพโดยปจั จยั ทีใ่ ช้เป็นแนวทางในการศึกษามี 7 ปัจจัย คือลักษณะการใช้อานาจลักษณะการหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอนลักษณะความเป็นเพศชายลักษณะความเป็นปัจเจกบุคคล ลักษณะเน้นความสาเร็จ ลักษณะเน้นความเป็นมนุษยธรรม และลักษณะเน้นอนาคตลักษณะที่เป็นอยู่วัฒนธรรม

39องคก์ ารกับ ลักษณะของวัฒนธรรมองคก์ ารท่ีคาดหวัง มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติในทุก ๆ ปัจจัยโดยปัจจัยท่ีแตกต่างกันมากที่สุด คือ การเน้นความสาเร็จซึ่งวัฒนธรรมองค์การที่เป็นอยู่เน้นปัจจยั น้นั น้อยกว่าวฒั นธรรมองคก์ ารที่คาดหวงั ส่วนปจั จัยท่ีแตกต่างกันน้อยท่ีสุด คือปัจจัยการใช้อานาจโดยวัฒนธรรมองค์การที่เป็นอยู่ มีลักษณะการใช้อานาจมากกว่าวัฒนธรรมองค์การที่คาดหวังพบว่า ลักษณะท่ีเป็นอยู่ของวัฒนธรรมองค์การกับลักษณะของวัฒนธรรมองค์การที่คาดหวังมีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติใน 3 ปัจจัย คือปัจจัยการเน้นอนาคต ปัจจัยความเป็นเพศชาย และปัจจัยความเป็นปัจเจกบุคคลโดยมีความสัมพันธ์ในทิศทางบวกระดับน้อย ถึงค่อนข้างน้อยลักษณะท่ีเป็นอยู่ของวัฒนธรรมองค์การ กับลักษณะผู้นาท่ีมีประสิทธิภาพ มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคญั ทางสถติ ิในทกุ ๆ ปจั จยั โดยปัจจัยท่แี ตกตา่ งกันมากท่สี ุด คือ ปจั จยั ลกั ษณะความเป็นเพศชายซง่ึ วัฒนธรรมองค์การที่เป็นอยู่จะมีลักษณะความเป็นชายน้อยกว่าลักษณะผู้นาท่ีมีประสิทธิภาพ ส่วนปัจจัยท่ีแตกต่างกันน้อยท่ีสุด คือปัจจัยการเน้นอนาคต โดยวัฒนธรรมที่เป็นอยู่จะเน้นอนาคตต่ากว่าผู้นาท่ีมีประสิทธิภาพ ส่วนผลการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง ลักษณะท่ีเป็นอยู่ของวัฒนธรรมองค์การกับลักษณะของผู้นาที่มีประสิทธิภาพนั้นไม่มีปัจจัยใดท่ีมีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ ภคนิจ ศรทั ธา (2549) ได้ศึกษาเร่ืองวัฒนธรรมองค์การที่มีผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานในฝ่ายธุรกิจขายตรงบริษัทยูลินีเวอร์ไทยเทรดด้ิงจากัด ผลการวิจัยสรุปว่าวฒั นธรรมองค์กรมคี วามสัมพันธก์ บั ประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานในฝ่ายขายตรงบริษัทยูลินีเวอร์ไทยเทรดด้ิงจากัดโดยรวมอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ 0.01 โดยมีความสัมพันธ์อยู่ในระดับปานกลางและมีความสัมพันธ์ไปในทางทิศตรงกันข้าม วัฒนธรรมท่ีเน้นรายละเอียดมีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน โดยรวมอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ 0.05 โดยมีความสัมพันธ์อยู่ในระดับต่าและมีความสัมพันธ์ไปในทางทิศเดียวกัน วัฒนธรรมที่เน้นผลงานไม่มีความสัมพันธก์ ันกบั ประสทิ ธิภาพการปฏิบตั ิงานโดยรวมท่ีระดับนัยสาคัญทางสถิติ 0.05 วัฒนธรรมที่เนน้ บุคลากรมคี วามสมั พนั ธ์กับประสทิ ธภิ าพการปฏิบัติงานโดยรวมอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ0.01 โดยมีความสัมพันธ์อยู่ในระดับต่าและมีความสัมพันธ์ไปในทางทิศทางตรงกันข้ามวัฒนธรรมท่ีเน้นการปฏิบัติงานเป็นทีม วัฒนธรรมที่เน้นการแข่งขันและเอาชนะคู่แข่งขันทางธุรกิจ วัฒนธรรมท่ีเน้นความม่ันคง และวัฒนธรรมที่เน้นนวัตกรรมและการยอมรับความเส่ียงมีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานโดยรวมอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 โดยมีความสัมพันธ์อยู่ในระดับปานกลางและมคี วามสมั พันธไ์ ปในทศิ ทางตรงกนั ขา้ ม

40 สิริมาศ ยอดย้ิมศิริ (2552) ได้ศึกษาเรื่องวัฒนธรรมองค์การและความผูกพันของพนักงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผลการวิจัยสรุปว่า พนักงานท่ีตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ไม่มีวัฒนธรรมองค์การด้านลักษณะความเหล่ือมล้าของอานาจ (Power Distance) โดยรวมอยู่ในระดับมีความเหล่ือมล้าของอานาจน้อยโดยมีคา่ เฉลี่ยเท่ากับ 3.63 วัฒนธรรมองคก์ ารดา้ นลกั ษณะการหลีกเล่ียงความไม่แน่นอนโดยรวมอยู่ในระดับมีการหลีกเล่ียงความไม่แน่นอนน้อย โดยมีค่าเฉล่ียเท่ากับ 3.75วฒั นธรรมองคก์ ารดา้ นลกั ษณะความเปน็ ปัจเจกชนและกลุ่มนิยมโดยรวมอยู่ในระดับมีความเป็นกลุ่มนิยมมากโดยมีค่าเฉล่ียเท่ากับ 4.08 และวัฒนธรรมองค์การด้านลักษณะมุ่งวัตถุและมุ่งคุณภาพชีวิตโดยรวมอยู่ในระดับมีความมุ่งคุณภาพชีวิตมาก โดยมีค่าเฉล่ียเท่ากับ 3.50 อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดบั 0.01 และมคี วามสัมพนั ธไ์ ปในทศิ ทางเดียวกนั ในระดบั ปานกลาง ศิริพร ม่านกลาง (2552) เรื่องวัฒนธรรมองค์กรท่ีมีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติงานของพนักงานบรษิ ัท บก๊ิ ซี ซเู ปอร์เซ็นเตอร์ จากัด (มหาชน) สานักงานใหญ่ พบว่า ข้อมูลปัจจัยส่วนบุคคลของพนักงานส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุ 23-33 ปี สถานภาพโสด การศึกษาปริญญาตรี อายุงานไม่เกิน 5 ปี ทางานในตาแหน่งพนักงาน และเจ้าหน้าที่ รายได้ต่อเดือนไม่เกิน 25,000 บาท วัฒนธรรมองค์กรของพนกั งาน มีความคดิ เหน็ อยู่ในระดับมาก โดยเรยี งลาดบั ความคิดเห็นด้านวัฒนธรรมองค์กรจากมากไปหาน้อย ดังนี้ คือ วัฒนธรรมท่ีเน้นความมั่นคง วัฒนธรรมที่เน้นนวัตกรรมและการยอมรับความเสี่ยง วัฒนธรรมท่ีเน้นการแข่งขัน และการเอาชนะคู่แข่งทางธุรกิจวัฒนธรรมท่ีเน้นการปฏิบัติงานเป็นทีมวัฒนธรรมทเ่ี นน้ รายละเอียด วฒั นธรรมที่เน้นบุคลากร และวัฒนธรรมที่เน้นผลงานสว่ นด้านของการปฏิบัติงานของพนักงาน มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก โดยให้ความสาคัญเก่ียวกับการปฏิบัติงานจากมากไปหาน้อย ดังนี้ คือ สภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงาน ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน นโยบายและการบริหารงาน ผู้บังคับบัญชา ลักษณะการปฏิบัติงาน ขวัญในการปฏิบัติงานความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน ความมัน่ คงและความปลอดภัย และความก้าวหน้าในการปฏิบตั งิ าน สิริรัตน์ ฉัตรสมนิยม (2551) เร่ืองปัจจัยที่มีผลต่อขวัญกาลังใจในการปฏิบัติงานของพนักงานธนาคาร พบว่าพนักงานธนาคาร ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ระดับอายุอยู่ระหว่าง 31 - 40 ปีการศกึ ษาระดับปริญญาตรี ระดับรายได้ 10,001 - 20,000 บาท ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน ต่ากว่า 5 ปีและมีตาแหน่งระดับกลาง ได้แก่ สมุห์บัญชี ผู้ช่วยสมุห์บัญชี เทเลอร์ (เจ้าหน้าท่ีรับจ่ายเงินสด)เจา้ หนา้ ท่บี รกิ ารทางการเงินส่วนบุคคล (PFC) ผู้ช่วยผู้จัดการด้านเงินฝาก (CSO) ผู้จัดการด้านเงินฝาก(CRM) และพนักงานธุรการ ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ด้านผลตอบแทนและสวัสดิการพนักงานมีความเห็นว่า รายได้ที่ได้รับมีความสมดุลกับปริมาณงานและมีสวัสดิการให้พนักงานอย่างเพยี งพอเพือ่ สร้างขวัญกาลังใจในการปฏิบัติงาน ส่วนในด้านโอกาสความก้าวหน้า พนักงานมีโอกาส

41กา้ วหน้า เล่อื นตาแหน่งสูงขึ้นได้ และหนว่ ยงานมกี ารสนับสนุนให้พนักงานศึกษาต่อ ฝึกอบรม หรือดูงาน และด้านสภาพการทางาน สถานที่ปฏิบัติงานมีความสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย มีความปลอดภัย และมีเทคโนโลยีในการปฏิบัติงานที่ทันสมัย ผลการศึกษาวิจัยน้ี จะเป็นประโยชน์ต่อผบู้ รหิ าร และผทู้ เ่ี ก่ยี วข้องในการกาหนดแนวทางและปรับปรุงแก้ไขการทางานเพื่อสร้างขวัญกาลังใจในการปฏบิ ัตงิ านของพนักงานธนาคาร ทวีพร สินสวัสดิ์ (2550) ไดศ้ กึ ษา ความสมั พันธ์ระหวา่ งการปฏิบัตงิ านกับประสิทธภิ าพในการปฏิบตั งิ านของพนกั งาน บรษิ ทั ไทยยเู นย่ี น โฟรเซน่ โปรดกั ส์ จากดั (มหาชน) พบวา่ 1. การปฏิบัติงานของพนักงานบริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จากัด (มหาชน) โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง โดยเรียงลาดับจากมากไปหาน้อย ดังนี้ คือขวัญในการปฏิบัติงานความสัมพันธ์ ผู้บังคับบัญชา ความก้าวหน้าในการปฏิบัติงาน นโยบายและการบริหารงาน ความมั่นคงและความปลอดภัย ความสัมพันธ์กับเพ่ือนร่วมงาน ลักษณะการปฏิบัติงาน สภาพแวดล้อมในการปฏิบตั ิงาน ความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน 2. ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของพนักงานโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง 3. ความสัมพนั ธ์ของการปฏิบัติงานกับประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของพนักงานบริษัทไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จากัด (มหาชน) โดยภาพรวมอยู่ในระดับสูง ยกเว้นความพึงพอใจในการปฏิบัติงานมีความสัมพันธอ์ ยู่ในระดับปานกลาง ส่วนขวัญในการปฏิบัติงานมีความสัมพันธ์อยู่ในระดบั ต่ามาก

บทท่ี 3 วิธีดำเนนิ กำรวจิ ยั การศึกษาค้นคว้าในครั้งน้ีเรื่องวัฒนธรรมในองค์กรที่มีผลต่อการปฏิบัติงานของพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรคโ์ ดยมีเน้อื หาสาระสาคัญในการดาเนินการตามลาดบั ดงั นี้ 1. ประชากรและกลมุ่ ตัวอย่าง 2. เครื่องมอื ท่ีใชเ้ ก็บรวบรวมขอ้ มลู 3. การเก็บรวบรวมข้อมลู 4. วธิ ีการวิเคราะห์ข้อมลู3.1 ประชำกรและกลุม่ ตวั อย่ำง ประชากรในการศึกษาคร้ังน้ี ได้แก่ พนักงานท่ีทางานในธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรคโ์ ดยมีพนักงานทงั้ หมด 265 คน เนื่องจากกลุ่มตัวอย่างท่ีใช้ในการวิจัย คือพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์จานวน 265 คน ผู้วิจัยจึงใช้สูตรคานวณหาขนาดกลุ่มตัวอย่าง และได้กาหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้วิธีการคานวณขนาดตัวอย่างโดยทราบจานวนประชากร จากสูตร Taro Yamane (1973) ได้จานวนตัวอย่างท่ีจะนามาวิเคราะห์ท้ังส้ิน 160 ตัวอย่าง โดยมีความเชื่อม่ันอย่างน้อย 95% ความผิดพลาดทยี่ อมรบั ได้ไมเ่ กนิ 5%n= N 1  N(e)2โดยที่ n = ขนาดของกลุ่มตวั อย่าง N = ขนาดของประชากร e = ระดบั ความฉลาดเคลื่อน เทา่ กบั 0.05 โดยแทนค่าขนาดของประชากร (N) เท่ากับ 265 คนทีร่ ะดับความเชื่อมั่น 95% หรอื มคี ่าความคลาดเคล่ือน (e) ที่ 0.05 ไดผ้ ลดังน้ี

43n= 265 (1 (265)*(0.052 ))n= 160จากการคานวณพบวา่ ขนาดของกลุ่มตัวอย่าง (n) เท่ากับ 160 ตัวอย่าง และได้มีการเผ่ือการสูญเสียของแบบสอบถามเนื่องจากได้รับการตอบแบบสอบถามไม่ครบถ้วน ดังน้ันเพ่ือให้การเก็บข้อมูลมีความครอบคลุมสมบูรณ์จึงมีการเผ่ือการสูญเสียของแบบสอบถามไว้ 5% เท่ากับ 8 ตัวอย่างดงั น้ันขนาดของกลุม่ ตัวอย่างสาหรบั การศึกษาคร้ังน้เี ทา่ กบั 168 ตวั อย่าง3.2 เคร่ืองมอื ท่ีใช้ในกำรวิจยั การศึกษาในครั้งน้ี ผู้ศึกษาได้นาเคร่ืองมือมาใช้ คือแบบสอบถาม โดยผู้ศึกษาได้จัดทาแบบสอบถามมาจากการค้นคว้าเอกสาร ทฤษฎี ตารา แนวคิด และการทบทวนวิจัยท่ีเก่ียวข้อง และนามาปรบั ประยุกตใ์ ช้เป็นคาถาม โดยแบ่งได้เป็น 4 ส่วน ดงั น้ี ส่วนท่ี 1 แบบสอบถามขอ้ มลู ปัจจยั ส่วนบคุ คลของผตู้ อบแบบสอบถาม คือ เพศ สถานภาพอายุ ระดบั การศึกษา ตาแหน่งงาน อายงุ าน ซง่ึ ลกั ษณะคาถามจะเป็นแบบเลือกตอบหลายตวั เลือก ส่วนที่ 2 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูล วัฒนธรรมองค์กรของธนาคารไทยพาณิชย์เขตนครสวรรค์ ไดแ้ ก่ วฒั นธรรมที่เนน้ รายละเอียด วฒั นธรรมท่ีเน้นผลงาน วัฒนธรรมท่ีเน้นบุคลากรวัฒนธรรมที่เน้นการปฏิบัติงานเป็นทีม วัฒนธรรมที่เน้นการแข่งขันและการเอาชนะคู่แข่งขันทางธุรกิจ วัฒนธรรมท่ีเน้นความมั่นคง วัฒนธรรมที่เน้นนวัตกรรมและการยอมรับความเส่ียงซึ่งลักษณะคาถามเป็นแบบสเกลการใหค้ ะแนน ประเมินค่า 5 ระดับ (Rating Scale) ส่วนที่ 3 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน ได้แก่ ลักษณะการปฏิบัติงาน นโยบายและการบริหารงาน ผู้บังคับบัญชา สภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงาน ความพึงพอใจในการปฏิบัติงานความก้าวหน้าในการปฏิบัติงาน ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ขวัญและกาลังใจในการปฏิบัติงานความมั่นคงและความปลอดภัย ซึ่งลักษณะคาถามเป็นแบบสเกลการให้คะแนน ประเมินค่า 5 ระดับ(Rating Scale) สว่ นท่ี 4 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับ ปัญหาและข้อแสนอแนะ จากพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์

44ซึ่งในแบบสอบถามส่วนท่ี 2 และส่วนท่ี 3 น้ัน มกี ารกาหนดค่าคะแนน ดังตอ่ ไปน้ีระดับคะแนน 5 หมายถงึ มรี ะดับความคดิ เห็นมากทีส่ ุดระดับคะแนน 4 หมายถึง มรี ะดับความคดิ เห็นมากระดบั คะแนน 3 หมายถึง มีระดบั ความคดิ เหน็ ปานกลางระดบั คะแนน 2 หมายถึง มรี ะดับความคดิ เห็นนอ้ ยระดับคะแนน 1 หมายถงึ มีระดับความคิดเห็นน้อยท่ีสุดในการวเิ คราะห์ขอ้ มูล นาผลคะแนนจากการกาหนดดังกล่าวมาประเมินค่าเพ่อื หาความหมายค่าเฉลยี่ โดยใชส้ ตู ร (กัลยา วานชิ ยบ์ ัญชา, 2544 : 29)อนั ตรภาคช้ัน = คะแนนสูงสุด – คะแนนตา่ สดุ 5-1 จานวนชั้น 1== 0.8 ปัดให้เทา่ กบั 1คะแนนเฉลย่ี ระหว่าง 4.50 - 5.49 หมายถงึ มรี ะดับความคิดเหน็ มากท่ีสุดคะแนนเฉลี่ยระหวา่ ง 3.50 - 4.49 หมายถงึ มรี ะดบั ความคดิ เหน็ มากคะแนนเฉลย่ี ระหว่าง 2.50 - 3.49 หมายถึง มรี ะดับความคิดเหน็ ปานกลางคะแนนเฉล่ียระหวา่ ง 1.50 - 2.49 หมายถึง มรี ะดับความคดิ เห็นน้อยคะแนนเฉลี่ยระหว่าง 0.50 - 1.49 หมายถึง มรี ะดบั ความคิดเหน็ น้อยทส่ี ดุ3.3 กำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล 1. ผูศ้ ึกษาไดศ้ กึ ษา เอกสาร หนังสือ งานวิจัยที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เพื่อนามาประยุกต์ใช้ในการสร้างแบบสอบถามเพอื่ ให้เนอื้ หาครอบคลมุ และตรงตามวัตถุประสงคห์ ลักของงานวิจยั 2. ผู้ศึกษาเรียบเรียงแบบสอบถามแล้วนาแบบสอบถามแจกตามจานวนประชากรกลุ่มตัวอยา่ งทีไ่ ดค้ านวณไวใ้ นขา้ งต้น 3. เมื่อได้รับแบบสอบถามท่ีแจกกลับมาแล้ว ผู้ศึกษานาแบบสอบถามมาตรวจสอบความครบถว้ น เพ่ือนาไปศึกษาวิเคราะห์ขอ้ มูลตอ่ ไป

453.4 วธิ ีกำรวเิ ครำะห์ข้อมลู การศึกษาวิจัยในคร้ังนี้เป็นการศึกษาเชิงปริมาณ ผู้ศึกษาได้ดาเนินการวิเคราะห์ข้อมูลท่ีได้จากแบบสอบถามจากกลุม่ ประชากรตัวอย่างโดยใช้โปรแกรม SPSS for Windows โดยแบ่งได้ 3 ส่วนดังน้ี 1. ค่าสถิติร้อยละ คา่ เฉล่ยี และคา่ สว่ นเบย่ี งแบนมาตรฐาน ในการวิเคราะห์ข้อมูลท่ัวไปของกลุม่ ประชากรและการกระจายของขอ้ มูล 2. ค่า t-test ใชท้ ดสอบเปรียบเทยี บระหวา่ งค่าเฉลีย่ ของตัวแปรอสิ ระ ซ่งึ จาแนกเปน็ 2 กลุม่ 3. ค่า F-test ใช้ทดสอบเปรียบเทียบความแปรปรวนของตัวแปรอิสระ ซ่ึงจาแนกตั้งแต่ 3กลุม่ ข้นึ ไปและทดสอบรายคู่ดว้ ยวธิ ีการของ LSD (Least Significant Difference) 4. วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของตัวแปร 2 ตัว โดยใช้สถิติสหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน(Pearson Product Moment Correlation Coefficient) ในการทดสอบสมมตฐิ าน

46 บทท่ี 4 ผลการวิเคราะห์ ในการศึกษาวัฒนธรรมองค์กรที่มีผลต่อการปฏิบัติงานของพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์เขตนครสวรรค์ ได้ศึกษาเอกสารด้านแนวคิดทฤษฎี และวรรณกรรมท่ีเกี่ยวข้องที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการศกึ ษาดงั ตอ่ ไปน้ีแบง่ การวเิ คราะหข์ ้อมูลออกเป็น 4 สว่ นดังน้ี สว่ นท่ี 1 ขอ้ มูลทัว่ ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม สว่ นท่ี 2 ข้อมูลเกย่ี วกับวฒั นธรรมองค์กรของผูต้ อบแบบสอบถาม ส่วนท่ี 3 ขอ้ มูลเกี่ยวกับการปฏิบัตงิ านของผตู้ อบแบบสอบถาม ส่วนท่ี 4 ผลการทดสอบสมมตฐิ าน สว่ นท่ี 1 ขอ้ มูลทวั่ ไปของผู้ตอบแบบสอบถาม4.1 ผลการวิเคราะหข์ ้อมูลตารางท่ี 4.1 จานวนและร้อยละของพนกั งานธนาคารไทยพาณชิ ย์ เขตนครสวรรค์จาแนกตามเพศ เพศ จานวน ร้อยละ ชาย 64 38.10 หญงิ 104 61.90 รวม 168 100.00 จากตารางที่ 4.1 พบว่า พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์ โดยส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จานวน 104 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 61.90 และเพศชาย จานวน 64 คน คิดเป็นร้อยละ 38.10ตารางท่ี 4.2 จานวนและร้อยละของพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์ จาแนกตามสถานภาพ สถานภาพ จานวน ร้อยละโสด 120 71.40สมรส 38 22.60หม้าย/หยา่ ร้าง 10 6.00 รวม 168 100.00

47 จากตารางท่ี 4.2 พบว่า พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์ โดยส่วนใหญ่มีสถานภาพโสด จานวน 120 คน คิดเป็นร้อยละ 38.10 รองลงมาคือสถานภาพสมรสจานวน 38 คน คิดเป็นร้อยละ 22.60 และสถานภาพหม้าย/หย่ารา้ ง จานวน 10 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 6.00ตารางที่ 4.3 จานวนและรอ้ ยละของพนกั งานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์ จาแนกตามอายุ อายุ จานวน รอ้ ยละ20 - 25 ปี 51 30.4026 - 30 ปี 52 31.0031 - 35 ปี 23 13.7036 - 40 ปี 20 11.90มากกวา่ 40 ปี ขึน้ ไป 22 13.10 รวม 168 100.00 จากตารางท่ี 4.3 พบว่า พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์ โดยส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 26 - 30 ปี จานวน 52 คน คิดเป็นร้อยละ 31.00 รองลงมาคืออายุ 20 - 25 ปี จานวน 51 คนคิดเป็นร้อยละ 30.40 และอายุ 31 - 35 ปี จานวน 23 คน คดิ เป็นร้อยละ 13.70ตารางที่ 4.4 จานวนและร้อยละของพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์ จาแนกตามระดับ การศกึ ษา ระดับการศึกษา จานวน รอ้ ยละต่ากว่าปรญิ ญาตรี 9 5.40ปริญญาตรี 124 73.80ปริญญาโท 25 14.90สงู กวา่ ปริญญาโท 10 6.00 รวม 168 100.00 จากตารางท่ี 4.4 พบวา่ พนักงานธนาคารไทยพาณชิ ย์ เขตนครสวรรค์ โดยส่วนใหญ่มีระดับการศึกษาปริญญาตรี จานวน 124 คน คิดเป็นร้อยละ 73.80 รองลงมาคือระดับปริญญาโท จานวน14.90 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 14.90 และสงู กว่าปริญญาโท จานวน 10 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 6.00

48ตารางท่ี 4.5 จานวนและร้อยละของพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์ จาแนกตาม ตาแหนง่ งาน ตาแหนง่ งาน จานวน รอ้ ยละผ้จู ดั การ 12 7.10ผชู้ ่วยผ้จู ดั การ 16 9.50หัวหนา้ ธนกิจ/ธุรกิจ 27 16.10พนักงานธรุ กิจ 67 39.90พนกั งานธนกิจ 46 27.40 รวม 168 100.00 จากตารางท่ี 4.5 พบว่า พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์ โดยส่วนใหญ่มีตาแหน่งพนักงานธุรกิจจานวน 67 คน คิดเป็นร้อยละ 39.90 รองลงมาคือตาแหน่งพนักงานธนกิจ จานวน 46 คนคิดเปน็ ร้อยละ 27.40 และตาแหน่งหัวหน้าธนกจิ /ธรุ กิจ จานวน 27 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 16.10ตารางท่ี 4.6 จานวนและรอ้ ยละของพนักงานธนาคารไทยพาณชิ ย์ เขตนครสวรรค์ จาแนกตามอายงุ าน อายุงาน จานวน รอ้ ยละน้อยกว่า 1 ปี 33 19.601 - 5 ปี 71 42.306 - 10 ปี 37 22.00มากกว่า 10 ปี ขึน้ ไป 27 16.10 รวม 168 100.00 จากตารางท่ี 4.6 พบว่า พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์ โดยส่วนใหญ่มีอายุงาน1 - 5 ปี จานวน 71 คน คิดเป็นร้อยละ 43.30 รองลงมาคือ อายุงาน 6 - 10 ปี จานวน 37 คน คิดเป็นร้อยละ22.00 และ อายุงานนอ้ ยกวา่ 1 ปี จานวน 33 คน คิดเป็นร้อยละ 19.60

49ส่วนที่ 2 ขอ้ มลู เกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กรของผตู้ อบแบบสอบถามตารางท่ี 4.7 แสดงค่าร้อยละ ค่าเฉล่ีย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูลระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กรในธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์จาแนกตามด้านวัฒนธรรมท่ีเน้นรายละเอยี ดวัฒนธรรมทเ่ี น้น ระดับความคิดเหน็  S.D. ความ อนั รายละเอียด หมาย ดบั มาก มาก ปาน นอ้ ย น้อย ท่สี ุด กลาง ที่สุด1.องค์กรของท่านคาดหวังให้พนักงานแสดงออกถึงความถกู ตอ้ งแม่นยา 29.20 63.10 7.70 - - 4.21 0.57 มาก 12. องค์กรของท่านให้ความเอาใจใสใ่ นรายละเอยี ดของงาน 22.00 60.70 17.30 - - 4.05 0.63 มาก 2รวม 4.13 0.60 มากจากตารางที่ 4.7 พบว่า พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์ให้ความคิดเห็นกับวัฒนธรรมองค์กร จาแนกตามด้านวัฒนธรรมที่เน้นรายละเอียดโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.13เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ให้ความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกข้อโดยอันดับที่หน่ึงได้แก่ องค์กรคาดหวังใหพ้ นักงานแสดงออกถึงความถกู ตอ้ งแม่นยาค่าเฉลยี่ 4.21 รองลงมาคือ องคก์ รใหค้ วามเอาใจใส่ในรายละเอียดของงานค่าเฉลย่ี 4.05

50ตารางท่ี 4.8 แสดงคา่ ร้อยละ คา่ เฉลี่ย สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐานของข้อมลู ระดบั ความคดิ เห็นเกี่ยวกับ วัฒนธรรมองค์กรในธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์จาแนกตามด้านวัฒนธรรมท่ี เน้นผลงานวฒั นธรรมทเี่ นน้ ผลงาน ระดับความคิดเห็น  S.D. ความ อัน หมาย ดับ มากทส่ี ดุ มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด1.องค์กรของท่านให้ความสาคัญกับการวดั ผลสาเร็จของงาน 38.10 41.10 20.80 - - 4.17 0.75 มาก 12. องค์กรของท่านให้ความสาคัญต่ อ ก า ร ป ฏิ บั ติ ง า น จ า ก ผ ล ลั พ ธ์มากกว่าจากวธิ กี าร 28.60 46.40 25.00 - - 4.04 0.73 มาก 2 รวม 4.11 0.74 มากจากตารางท่ี 4.8 พบว่า พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์ให้ความคิดเห็นกับวัฒนธรรมองค์กร จาแนกตามด้านวัฒนธรรมที่เน้นผลงานโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉล่ีย 4.11เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ให้ความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกข้อโดยอันดับท่ีหน่ึงได้แก่ องค์กรให้ความสาคัญกับการวัดผลสาเร็จของงาน ค่าเฉลี่ย 4.17 รองลงมาคือ องค์กรให้ความสาคัญต่อการปฏิบัตงิ านจากผลลัพธม์ ากกวา่ จากวธิ ีการ ค่าเฉล่ีย 4.04ตารางท่ี 4.9 แสดงค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย สว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐานของข้อมูลระดบั ความคิดเห็นเกย่ี วกับ วัฒนธรรมองค์กรในธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์จาแนกตามด้านวัฒนธรรมท่ี เนน้ ผลงานวฒั นธรรมท่เี นน้ บคุ ลากร ระดบั ความคดิ เห็น  S.D. ความ อัน หมาย ดับ มากท่ีสดุ มาก ปานกลาง นอ้ ย นอ้ ยทีส่ ดุ1.องคก์ รของทา่ นนาเอาผลกระทบต่อพนักงานมาพิจารณาตัดสินใจในการบรหิ าร 15.5 33.90 50.60 - - 3.65 0.74 มาก 22. องคก์ รของท่านมีการรับฟังและนาข้อมูลจากพนักงานไปพิจารณาตดั สนิ ใจในการบริหาร 10.70 48.20 41.10 - - 3.70 0.65 มาก 1 รวม 3.68 0.70 มาก

51 จากตารางท่ี 4.9 พบว่า พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์ให้ความคิดเห็นกับวัฒนธรรมองค์กรจาแนกตามด้านวัฒนธรรมที่เน้นบุคลากร โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉล่ีย3.68 เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ให้ความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกข้อโดยอันดับท่ีหน่ึงได้แก่องค์กรนาเอาผลกระทบต่อพนักงานมาพิจารณาตัดสินใจในการบริหาร ค่าเฉล่ีย 3.65 รองลงมาคือองค์กรนาเอาผลกระทบตอ่ พนกั งานมาพิจารณาตดั สินใจในการบริหาร ค่าเฉลยี่ 3.70ตารางที่ 4.10 แสดงคา่ ร้อยละ คา่ เฉล่ีย สว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐานของข้อมลู ระดบั ความคดิ เห็นเกย่ี วกับ วฒั นธรรมองค์กรในธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์จาแนกตามด้านวฒั นธรรมที่เน้น การปฏบิ ัติงานเปน็ ทมีวฒั นธรรมท่ีเนน้ การปฏบิ ัติงาน ระดบั ความคดิ เห็น  S.D. ความ อัน เปน็ ทมี หมาย ดับ มากทส่ี ุด มาก ปาน น้อย น้อยทีส่ ุด กลาง1.องค์กรของท่านมีการบริหารในลกั ษณะการทางานเปน็ ทีม 18.50 48.20 33.30 - - 3.85 0.71 มาก 22. องค์กรของท่านมีการวางแผนการ - - 3.97 0.56 มาก 1ทางานในลกั ษณะการทางานเปน็ ทมี 14.30 68.50 17.303. องค์กรของท่านมีกาหนดอานาจ - 3.85 0.68 มาก 2หนา้ ท่ีในลกั ษณะการทางานเปน็ ทีม 15.50 55.40 28.00 1.20 รวม 3.89 0.65 มากจากตารางท่ี 4.10 พบว่า พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์ให้ความคิดเห็นกับวัฒนธรรมองค์กรจาแนกตามด้านวัฒนธรรมท่เี นน้ การปฏิบตั งิ านเป็นทมี โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉล่ีย3.89เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ให้ความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกข้อโดยอันดับที่หน่ึงได้แก่ องค์กรของท่านมีการวางแผนการทางานในลักษณะการทางานเป็นทีม ค่าเฉล่ีย 3.97 รองลงมาคือ องค์กรของท่านมีการบรหิ ารในลกั ษณะการทางานเป็นทีมและองค์กรของท่านมีกาหนดอานาจหน้าท่ีในลักษณะการทางานเป็นทีมคา่ เฉลย่ี 3.85

52ตารางที่ 4.11 แสดงคา่ ร้อยละ ค่าเฉล่ยี ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมลู ระดบั ความคิดเหน็ เก่ียวกับ วัฒนธรรมองค์กรในธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์จาแนกตามด้านวัฒนธรรมท่ีเน้น การแข่งขนั และการเอาชนะคู่แขง่ ทางธุรกจิวฒั นธรรมทเี่ น้นการแข่งขันและ ระดบั ความคิดเหน็  S.D. ความ อันดั การเอาชนะคู่แข่งทางธรุ กจิ หมาย บ มากที่สดุ มาก ปานกลาง นอ้ ย น้อยที่สดุ1. องคก์ รของท่านมีการดาเนินธุรกิจและกิจกรรมมงุ่ เน้นเอาชนะคแู่ ขง่ ขัน 22.60 30.40 44.60 2.40 - 3.73 0.84 มาก 12. องค์กรของท่านมีลักษณะการปฏิบตั ิงานในสภาพแข่งขันเพื่อให้ได้ตามเป้าหมาย 14.90 41.70 42.90 0.60 - 3.71 0.72 มาก 2 รวม 3.72 0.78 มากจากตารางท่ี 4.11 พบว่า พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์ให้ความคิดเห็นกับวัฒนธรรมองคก์ รจาแนกตามดา้ นวัฒนธรรมทเ่ี นน้ การการแขง่ ขันและการเอาชนะคู่แข่งทางธุรกิจโดยภาพรวมอย่ใู นระดับมาก คา่ เฉลยี่ 3.72 เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ให้ความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกข้อโดยอันดับที่หน่ึงได้แก่ องค์กรมีการดาเนินธุรกิจและกิจกรรมมุ่งเน้นเอาชนะคู่แข่งขันค่าเฉล่ีย 3.73 รองลงมาคือ องค์กรมีลักษณะการปฏิบัติงานในสภาพแข่งขันเพ่ือให้ได้ตามเป้าหมายค่าเฉลีย่ 3.71ตารางท่ี 4.12 แสดงคา่ รอ้ ยละ คา่ เฉล่ีย ส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐานของขอ้ มูลระดับความคิดเหน็ เกี่ยวกับ วัฒนธรรมองค์กรในธนาคารไทยพาณชิ ย์ เขตนครสวรรค์จาแนกตามดา้ นวัฒนธรรมทเี่ น้น ความมั่นคงวัฒนธรรมที่เนน้ ระดับความสาคัญ  S.D. ความ อัน ความม่ันคง หมาย ดับ มากทีส่ ุด มาก ปาน น้อย นอ้ ยท่สี ดุ กลาง1. องค์กรของท่านมีการตัดสินใจที่คานึงถงึ ความม่ันคงขององค์กร 29.80 56.50 13.70 - - 4.16 0.64 มาก 12. องคก์ รของทา่ นมวี ธิ ปี ฏบิ ตั งิ านที่ใหค้ วามสาคญั ตอ่ การรักษาสถานภาพขององค์กร 35.70 41.10 23.20 - - 4.13 0.76 มาก 2 รวม 4.15 0.70 มาก

53 จากตารางที่ 4.12 พบว่า พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์ให้ความคิดเห็นกับวัฒนธรรมองค์กรจาแนกตามด้านวัฒนธรรมท่ีเน้นความม่ันคง โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉล่ีย4.15 เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ให้ความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกข้อโดยอันดับที่หนึ่งได้แก่องคก์ รมีการตดั สินใจทค่ี านึงถงึ ความม่นั คงขององค์กร ค่าเฉลยี่ 4.16 รองลงมาคอื องค์กรมีวิธีปฏิบัติงานท่ีใหค้ วามสาคญั ต่อการรกั ษาสถานภาพขององคก์ รค่าเฉลี่ย 4.13ตารางที่ 4.13 แสดงค่าร้อยละ ค่าเฉล่ยี สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐานของข้อมูลระดับความคิดเห็นเกย่ี วกบั วฒั นธรรมองค์กรในธนาคารไทยพาณชิ ย์ เขตนครสวรรคจ์ าแนกตามดา้ นวัฒนธรรมที่เนน้ นวัตกรรมและการยอมรับความเสยี่ งวฒั นธรรมท่ีเน้นนวัตกรรม ระดบั ความสาคัญ  S.D. ความ อนัและการยอมรบั ความเสีย่ ง หมาย ดับ มาก มาก ปาน น้อย นอ้ ย ที่สดุ กลาง ทส่ี ุด1. ท่านหรือพนักงานองค์กรของท่านได้รับการสนับสนุนให้มีการปรบั ปรุง เปลี่ยนแปลง ต่อทัศนคติวิธีการทางาน และนวัตกรรมใหม่ในองคก์ ร 19.00 48.80 32.10 - - 3.87 0.71 มาก 12. ท่านหรือ พนักงานในองค์กรข องท่ า นไ ด้ รั บ กา ร กร ะ ตุ่ นใ ห้ยอ มรั บค วา มเ ส่ี ย ง ต่ อ กา รปฏิบัติงาน หรือเป้าหมายในองคก์ ร 14.30 50.60 31.50 3.60 - 3.76 0.74 มาก 2 รวม 3.82 0.73 มาก จากตารางท่ี 4.13 พบว่า พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์ให้ความคิดเห็นกับวัฒนธรรมองค์กรจาแนกตามด้านวัฒนธรรมท่ีเน้นนวัตกรรมและการยอมรับความเส่ียงโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉล่ีย 3.82 เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ให้ความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกข้อโดยอันดับที่หน่ึงได้แก่ พนักงานองค์กรได้รับการสนับสนุนให้มีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ต่อทัศนคติ วธิ กี ารทางาน และนวัตกรรมใหม่ในองค์กร ค่าเฉล่ีย 3.87 รองลงมาคือ พนักงานในองค์กรได้รับการกระตนุ้ ให้ยอมรบั ความเสี่ยง ต่อการปฏบิ ัติงาน หรอื เปา้ หมายในองค์กรค่าเฉลย่ี 3.76

54 ส่วนท่ี 3 ข้อมลู เกยี่ วกบั การปฏิบัติงานของผู้ตอบแบบสอบถามตารางท่ี 4.14 แสดงคา่ รอ้ ยละ คา่ เฉล่ยี สว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐานของข้อมูลระดบั ความคิดเห็นเกีย่ วกับ การปฏิบัตงิ านในองคก์ รธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์จาแนกตามดา้ นลกั ษณะ การปฏิบตั ิงาน ระดบั ความคดิ เหน็  S.D. ความ อนั หมาย ดับลกั ษณะการปฏิบัตงิ าน มากที่สุด มาก ปาน นอ้ ย น้อย กลาง ทสี่ ุด1. ลักษณะงานท่ีทาอยู่ตรงกับความรคู้ วามสามารถ 35.10 47.60 16.10 1.20 - 4.17 0.73 มาก 12. ชอบและพอใจในลักษณะงานท่ีทาอยใู่ นปจั จบุ นั 32.10 50.00 14.90 3.00 - 4.11 0.76 มาก 23. ทราบหน้าท่แี ละความรับผิดชอบในตาแหน่งงานทที่ าอย่อู ย่างชดั เจน 26.80 48.20 25.00 - - 4.02 0.72 มาก 34. จานวนผู้ปฏิบัติงานมีความเพยี งพอกบั ปริมาณงานท่ที าอยู่ 27.40 42.30 30.40 - - 3.97 0.76 มาก 45 . มี ค ว า ม รู้ ค ว า ม เ ข้ า ใ จ ใ นกฎระเบี ยบข้ อบั งคั บในการปฏบิ ตั งิ าน 16.70 42.30 40.50 0.60 - 3.75 0.73 มาก 5 รวม 4.00 0.74 มาก จากตารางท่ี 4.14 พบว่า พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์ให้ความคิดเห็นกับการปฏิบัติงานในองค์กรจาแนกตามด้านลักษณะการปฏิบัติงานโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉล่ีย4.00 เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ให้ความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกข้อโดยอันดับท่ีหนึ่งได้แก่ลกั ษณะงานทท่ี าอยู่ตรงกบั ความรู้ความสามารถ คา่ เฉลีย่ 4.17 รองลงมาคือ ชอบและพอใจในลักษณะงานทีท่ าอยูใ่ นปจั จบุ นั ค่าเฉล่ยี 4.11 และทราบหน้าท่ีและความรับผิดชอบในตาแหน่งงานท่ีทาอยู่อย่างชัดเจนค่าเฉล่ีย 4.02

55ตารางท่ี 4.15 แสดงคา่ ร้อยละ คา่ เฉล่ีย ส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐานของข้อมูลระดบั ความคิดเหน็ เกีย่ วกับ การปฏบิ ัตงิ านในองค์กรธนาคารไทยพาณชิ ย์ เขตนครสวรรค์จาแนกตามดา้ นนโยบายและ การบริหารงาน ระดบั ความคดิ เห็น  S.D. ความ อัน หมาย ดบันโยบายและการปฏิบัตงิ าน มากทส่ี ุด มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ยท่สี ุด กลาง1. หน่วยงานท่ีสังกัดมีการกาหนดนโยบายและเป้ าหมายในการปฏิบัติงานท่ีชัดเจนและสามารถปฏบิ ัตติ ามได้ 7.10 60.10 32.10 0.60 - 3.74 0.59 มาก 52. มีโอกาสในการแสดงความคิดเห็นในการกาหนดแนวทางในการปฏบิ ัติงานของหน่วยงาน 16.70 53.60 29.80 - - 3.87 0.67 มาก 33. มีโอกาสแสดงความคิดเห็นการแก้ปญั หาของหนว่ ยงานท่สี ังกัด 19.00 41.70 35.70 3.60 - 3.76 0.80 มาก 44. การประสานงานระหวา่ งหนว่ ยงานต่าง ๆ มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ 18.50 69.00 12.50 - - 4.06 0.56 มาก 15. ได้รับข่าวสารจากหน่วยงานเป็นประจา 20.20 48.20 31.00 0.60 - 3.88 0.72 มาก 26. มีนโยบายการบริหารงานการตรวจสอบและการควบคุมภายในอย่างสมา่ เสมอ 16.70 36.90 46.40 - - 3.70 0.74 มาก 6 รวม 3.84 0.68 มากจากตารางท่ี 4.15 พบว่า พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์ให้ความคิดเห็นกับการปฏิบัติงานในองค์กรจาแนกตามด้านนโยบายและการปฏิบัติงานโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากค่าเฉลี่ย 3.84 เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ให้ความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกข้อโดยอันดับที่หน่ึงได้แก่ การประสานงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ค่าเฉล่ีย 4.06รองลงมาคอื ไดร้ ับข่าวสารจากหน่วยงานเป็นประจาค่าเฉล่ีย 3.88 และมีโอกาสในการแสดงความคิดเห็นในการกาหนดแนวทางในการปฏบิ ตั งิ านของหนว่ ยงานคา่ เฉลี่ย 3.87

56ตารางท่ี 4.16 แสดงค่ารอ้ ยละ ค่าเฉล่ยี สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานของขอ้ มูลระดบั ความคดิ เห็นเก่ยี วกบัการปฏบิ ัตงิ านในองคก์ รธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์จาแนกตามดา้ นผู้บงั คบั บญั ชา ระดบั ความคดิ เหน็  S.D. ความ อัน หมาย ดับผู้บังคบั บญั ชา มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย ทส่ี ดุ กลาง ทส่ี ดุ1 . ผู้ บั ง คั บ บั ญ ช า มี ค ว า มกระตอื รอื ร้นในการปฏบิ ัติงาน 14.30 50.00 32.70 3.00 - 3.76 0.73 มาก 42. ผู้บังคับบัญชาจะรีบให้ความชว่ ยเหลอื เม่ือมปี ัญหา 14.90 63.70 20.20 1.20 - 3.92 0.63 มาก 33 . ผู้ บั ง คั บ บั ญ ช า รั บ ฟั ง ค ว า มคดิ เหน็ ของผู้ใตบ้ งั คับบญั ชา 22.00 55.40 22.60 - - 3.99 0.67 มาก 14. ผู้บังคับบัญชากระจายความรับผิดชอบในการปฏิบัติงานให้ผใู้ ต้บงั คบั บัญชาอย่างเท่าเทยี มกัน 31.00 35.70 33.30 - - 3.98 0.80 มาก 2รวม 3.91 0.71 มากจากตารางท่ี 4.16 พบว่า พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์ให้ความคิดเห็นกับการปฏิบัติงานในองค์กรจาแนกตามด้านผู้บังคับบัญชาโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 3.91 เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ให้ความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกข้อโดยอันดับท่ีหน่ึงได้แก่ผู้บังคับบัญชารับฟังความคิดเห็นของผู้ใต้บังคับบัญชา ค่าเฉล่ีย 3.99 รองลงมาคือ ผู้บังคับบัญชากระจายความรับผดิ ชอบในการปฏบิ ตั งิ านให้ผใู้ ตบ้ ังคับบญั ชาอย่างเท่าเทียมกันค่าเฉล่ีย 3.98 และผู้บังคับบัญชาจะรีบใหค้ วามชว่ ยเหลอื เมอ่ื มีปัญหา คา่ เฉล่ยี 3.92

57ตารางท่ี 4.17 แสดงคา่ รอ้ ยละ ค่าเฉลี่ย สว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐานของข้อมูลระดบั ความคิดเห็นเกยี่ วกบั การปฏบิ ตั ิงานในองค์กรธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์จาแนกตามด้านสภาพแวดลอ้ ม ในการปฏิบัติงาน ระดับความคดิ เห็น  S.D. ความ อนั หมาย ดับสภาพแวดลอ้ มในการ ปฏบิ ัติงาน มาก มาก ปาน นอ้ ย น้อย ทสี่ ดุ กลาง ทสี่ ดุ1. สถานท่ีทางานเหมาะสมกับการปฏิบตั งิ าน 17.90 51.80 30.40 - - 3.88 0.69 มาก 22. สถานท่ีทางานเอื้ออานวยต่อการปฏบิ ตั งิ าน 22.00 54.20 22.00 1.80 - 3.96 0.72 มาก 13. อุปกรณ์เครื่องอานวยความส ะ ด ว ก ใ น ก า ร ป ฏิ บั ติ ง า น มีเพียงพอ 13.10 57.10 29.80 - - 3.83 0.64 มาก 3 รวม 3.89 0.68 มาก จากตารางท่ี 4.17 พบว่า พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์ให้ความคิดเห็นกับการปฏิบัติงานในองค์กรจาแนกตามด้านสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงานโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากค่าเฉล่ีย 3.89 เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ให้ความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกข้อโดยอันดับที่หน่ึงได้แก่ สถานท่ที างานเออ้ื อานวยต่อการปฏบิ ัติงาน ค่าเฉล่ยี 3.96 รองลงมาคือ สถานท่ีทางานเหมาะสมกับการปฏิบัติงานค่าเฉลี่ย 3.88 และอุปกรณ์เครื่องอานวยความสะดวกในการปฏิบัติงานมีเพียงพอค่าเฉลย่ี 3.83

58ตารางที่ 4.18 แสดงค่าร้อยละ ค่าเฉลีย่ ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานของข้อมูลระดับความคิดเหน็ เกี่ยวกับ การปฏบิ ัตงิ านในองคก์ รธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์จาแนกตามด้านความพงึ พอใจ ในการปฏบิ ัตงิ าน ระดับความคดิ เห็น  S.D. ความ อนั หมาย ดับความพงึ พอใจในการ ปฏบิ ัติงาน มาก มาก ปาน น้อย น้อย ที่สุด กลาง ท่ีสุด1. มีความพึงพอใจในงานท่ีปฏิบัติอยู่ 19.00 42.30 38.70 - - 3.80 0.74 มาก 42. มคี วามพึงพอใจกับสวัสดิการตา่ ง ๆ ท่ีได้รับจากหนว่ ยงาน 25.60 47.60 25.60 1.20 - 3.98 0.75 มาก 23. เงินเดือนท่ีได้รับในปัจจุบันเ พี ย ง พ อ เ ห ม า ะ ส ม กั บ ค ว า มรับผดิ ชอบ 23.20 58.90 16.70 1.20 - 4.04 0.67 มาก 14. มีความภาคภูมิใจที่บอกกับคนท่ัวไปว่าเป็นพนักงานขององคก์ รน้ี 20.80 51.80 27.40 - - 3.93 0.69 มาก 35.มี ความพึ งพอใจในการปฏิบัติงานที่มีความรับผิดชอบสูง 19.60 30.40 49.40 0.60 - 3.69 0.79 มาก 5 รวม 3.89 0.73 มาก จากตารางท่ี 4.18 พบว่า พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์ให้ความคิดเห็นกับการปฏิบัติงานในองค์กรจาแนกตามด้านความพึงพอใจในการปฏิบัติงานโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากค่าเฉล่ีย 3.89 เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ให้ความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกข้อโดยอันดับที่หน่ึงได้แก่ เงินเดือนที่ได้รับในปัจจุบันเพียงพอเหมาะสมกับความรับผิดชอบ ค่าเฉล่ีย 4.04 รองลงมาคือ มีความพงึ พอใจกบั สวสั ดิการต่าง ๆ ท่ีได้รับจากหน่วยงานค่าเฉล่ีย 3.98 และมีความภาคภูมิใจท่ีบอกกับคนทว่ั ไปวา่ เปน็ พนักงานขององคก์ รน้ี ค่าเฉลยี่ 3.93

59ตารางท่ี 4.19 แสดงค่ารอ้ ยละ ค่าเฉล่ีย สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐานของข้อมลู ระดบั ความคิดเห็นเก่ยี วกบั การปฏบิ ตั ิงานในองคก์ รธนาคารไทยพาณชิ ย์ เขตนครสวรรค์จาแนกตามด้านความก้าวหน้า ในการปฏบิ ตั งิ าน ระดบั ความคดิ เห็น  S.D. ความ อนั หมาย ดับความกา้ วหนา้ ในการปฏิบตั ิงาน มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย ที่สุด กลาง ท่สี ดุ1 . ไ ด้ เ ลื่ อ น ต า แ ห น่ ง ต า มความสามารถ 22.00 73.20 4.80 - - 4.17 0.50 มาก 22. ได้รับการพิจารณาความดีความชอบจากผู้บังคับบัญชาอยา่ งยตุ ธิ รรม 45.80 37.50 16.70 - - 4.29 0.74 มาก 13. โอกาสที่จะเจริญก้าวหน้าในหน้าท่ีการงานอยู่ในระดับท่ีพอใจ 26.20 56.50 17.30 - - 4.09 0.66 มาก 34. หน่วยงานที่สังกัดส่งเสริมสนบั สนุนให้พนักงานศึกษาต่อหรอื อบรมอยู่เสมอ 7.10 58.30 34.50 - - 3.73 0.59 มาก 4 รวม 4.07 0.62 มากจากตารางที่ 4.19 พบว่า พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์ให้ความคิดเห็นกับการปฏิบัติงานในองค์กรจาแนกตามด้านความก้าวหน้าในการปฏิบัติงานโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากค่าเฉล่ีย 4.07 เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ให้ความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกข้อโดยอันดับท่ีหนึ่งไดแ้ ก่ ไดร้ บั การพิจารณาความดีความชอบจากผ้บู งั คบั บัญชาอย่างยุติธรรม ค่าเฉล่ีย 4.29 รองลงมาคือ ได้เลือ่ นตาแหนง่ ตามความสามารถค่าเฉล่ยี 4.17 และโอกาสทีจ่ ะเจริญกา้ วหนา้ ในหนา้ ที่การงานอยู่ในระดับท่ีพอใจ ค่าเฉลีย่ 4.09

60ตารางที่ 4.20 แสดงค่าร้อยละ ค่าเฉล่ยี ส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐานของขอ้ มูลระดับความคิดเห็นเกย่ี วกบั การปฏิบตั งิ านในองคก์ รธนาคารไทยพาณชิ ย์ เขตนครสวรรคจ์ าแนกตามดา้ นความสัมพันธ์ กับเพ่ือนร่วมงาน ระดับความคิดเหน็  S.D. ความ อัน หมาย ดับความสมั พนั ธก์ บั เพอื่ น รว่ มงาน มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย ทสี่ ุด กลาง ทีส่ ุด1. รับฟังความคิดเห็นและขอ้ เสนอแนะจากเพื่อนร่วมงาน 23.80 32.10 44.00 - - 3.80 0.80 มาก 32. มีความสัมพันธ์กับเพ่ือนร่วมงานเป็นอย่างดี 3.60 59.50 34.50 2.40 - 3.64 0.60 มาก 43. ได้รับการยอมรับจากเพ่ือนร่วมงาน 8.30 70.20 21.40 - - 3.87 0.53 มาก 24. ได้รับคาแนะนาและความช่วยเหลอื จากเพ่ือนร่วมงานเป็นอย่างดี 22.60 44.60 32.70 - - 3.90 0.74 มาก 1 รวม 3.80 0.67 มาก จากตารางท่ี 4.20 พบว่า พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์ให้ความคิดเห็นกับการปฏิบัติงานในองค์กรจาแนกตามด้านความสัมพันธ์กับเพ่ือนร่วมงานโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากค่าเฉลี่ย 3.80 เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ให้ความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกข้อโดยอันดับที่หน่ึงได้แก่ ได้รับคาแนะนาและความช่วยเหลือจากเพ่ือนร่วมงานเป็นอย่างดี ค่าเฉลี่ย 3.90 รองลงมาคือ ได้รับการยอมรับจากเพ่ือนร่วมงานค่าเฉล่ีย 3.87 และรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากเพื่อนร่วมงานคา่ เฉลี่ย 3.80

61ตารางที่ 4.21 แสดงค่าร้อยละ ค่าเฉลยี่ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของขอ้ มลู ระดับความคดิ เหน็ เก่ยี วกับ การปฏบิ ัตงิ านในองคก์ รธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์จาแนกตามดา้ นขวญั และ กาลงั ใจในการปฏบิ ตั ิงาน ระดบั ความคิดเหน็  S.D. ความ อนั หมาย ดับขวญั และกาลงั ใจในการปฏิบัติงาน มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย ที่สุด กลาง ที่สุด1. องค์กรสง่ เสริมและสร้างขวญัใหก้ บั พนกั งานตลอดเวลา 24.40 55.40 20.20 - - 4.04 0.67 มาก 22. รู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งขององคก์ ร 25.60 51.80 22.60 - - 4.03 0.70 มาก 33. มขี วญั และกาลังใจที่ดีในการปฏบิ ัตงิ าน 36.30 44.60 19.00 - - 4.17 0.73 มาก 14. ยินดีและเสียสละเวลาเพื่อองคก์ ร 25.60 49.40 23.20 1.80 - 3.99 0.75 มาก 45. มีความเช่ือมั่นในองค์กรท่ีปฏบิ ตั งิ าน 22.00 35.70 40.50 1.80 - 3.78 0.81 มาก 5 รวม 4.00 0.73 มาก จากตารางท่ี 4.21 พบว่า พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์ให้ความคิดเห็นกับการปฏิบตั งิ านในองค์กรจาแนกตามด้านขวัญและกาลังใจในการปฏิบัติงานโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากค่าเฉลี่ย 4.00 เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ให้ความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกข้อโดยอันดับท่ีหน่ึงไดแ้ ก่ มีขวัญและกาลังใจที่ดีในการปฏิบัติงาน ค่าเฉล่ีย 4.17 รองลงมาคือ องค์กรส่งเสริมและสร้างขวัญใหก้ ับพนักงานตลอดเวลาคา่ เฉลย่ี 4.04 และรสู้ ึกว่าตนเองเปน็ สว่ นหนึ่งขององค์กร คา่ เฉลีย่ 4.03

62ตารางท่ี 4.22 แสดงคา่ ร้อยละ คา่ เฉลย่ี ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของขอ้ มูลระดบั ความคดิ เห็นเกย่ี วกับ การปฏบิ ตั ิงานในองคก์ รธนาคารไทยพาณชิ ย์ เขตนครสวรรค์จาแนกตามด้านความม่ันคงและ ความปลอดภยั ระดบั ความคิดเหน็  S.D. ความ อนั หมาย ดับความม่ันคงและความ ปลอดภัย มาก มาก ปาน น้อย น้อย ทสี่ ุด กลาง ทสี่ ดุ1. ได้ทางานในองค์กรท่มี ัน่ คง 29.80 51.80 18.50 - - 4.11 0.69 มาก 22. รู้สึกม่ันใจในตาแหน่งที่ปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีอยู่ 34.50 52.40 11.90 1.20 - 4.20 0.69 มาก 13. มีมาตรการการรักษาความปลอดภั ยบริ เวณที่ ท างานเพยี งพอ 5.40 73.20 19.60 1.80 - 3.82 0.54 มาก 34. งานท่ีปฏิบัติอยู่มีความเส่ียงตอ่ ชีวติ หรอื ทรัพย์สนิ 6.00 49.40 44.60 - - 3.61 0.60 มาก 4 รวม 3.94 0.63 มาก จากตารางที่ 4.22 พบว่า พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์ให้ความคิดเห็นกับการปฏิบัติงานในองค์กรจาแนกตามด้านความมั่นคงและความปลอดภัยโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากค่าเฉลี่ย 3.94 เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ให้ความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกข้อโดยอันดับท่ีหนึ่งได้แก่ รู้สึกมั่นใจในตาแหน่งที่ปฏิบัติหน้าท่ีอยู่ ค่าเฉล่ีย 4.20 รองลงมาคือ ได้ทางานในองค์กรที่ม่ันคงค่าเฉล่ยี 4.11 และมีมาตรการการรักษาความปลอดภยั บรเิ วณทที่ างานเพียงพอ ค่าเฉลี่ย 3.82

63 ส่วนที่ 4 ผลการทดสอบสมมตฐิ าน สมมติฐานที่ 1 ลักษณะข้อมูลส่วนบุคคลที่แตกต่าง มีผลต่อการปฏิบัติงานของพนักงานธนาคารไทยพาณชิ ย์ เขตนครสวรรค์แตกต่างกัน สมมติฐานท่ี 1.1 เพศทแี่ ตกตา่ งกนั ให้ระดับความคดิ เห็นตอ่ การปฏบิ ัตงิ านที่แตกต่างกัน H0 : เพศทแ่ี ตกตา่ งกนั ให้ระดับความคิดเหน็ ต่อการปฏบิ ตั ิงานไม่แตกตา่ งกนั H1 : เพศที่แตกตา่ งกนั ให้ระดับความคดิ เหน็ ต่อการปฏิบัติงานแตกต่างกนั สถติ ทิ ่ใี ช้ในการวิเคราะห์ คอื การทดสอบความแตกตา่ งกนั ระหวา่ งคา่ เฉลยี่ ของประชากร 2 กลมุ่ซ่ึงสุ่มตัวอย่างจากแต่ละกลุ่มอย่างเป็นอิสระต่อกัน/(Independent /t - test)/โดยใช้ระดับความเชื่อม่ัน 95เปอร์เซน็ ต์ ดังนน้ั จะยอมรับสมมติฐานเมือ่ Prob. (p) มีค่าน้อยกวา่ 0.05ตารางที่ 4.23 แสดงการทดสอบความแตกต่างของระดับความคิดเห็นต่อการปฏิบัติงาน จาแนกตามเพศของผ้ตู อบแบบสอบถาม การปฏบิ ัตงิ าน t-test for Equality of Means ดา้ นลกั ษณะการปฏบิ ัติงานด้านนโยบายและการบรหิ ารงาน เพศ X S.D. t df p ชาย 4.01 0.236 0.284 166 0.777 หญิง 4.00 0.362 ชาย 3.95 0.325 3.496 166 0.001* หญงิ 3.77 0.329 ด้านผูบ้ งั คบั บัญชา ชาย 3.90 0.332 0.276 166 0.783ด้านสภาพแวดล้อมในการปฏิบตั งิ าน หญงิ 3.92 0.381ด้านความพึงพอใจในการปฏิบตั ิงาน ชาย 3.97 0.564 1.780 166 0.101 หญงิ 3.84 0.410 ชาย 3.88 0.296 0.167 166 0.867 หญิง 3.89 0.300ดา้ นความก้าวหน้าในการปฏิบตั งิ าน ชาย 4.15 0.266 2.703 166 0.080ด้านความสัมพันธ์กับเพ่อื นร่วมงาน หญิง 4.02 0.312 ชาย 3.81 0.461 0.249 166 0.804 หญิง 3.80 0.360ด้านขวัญและกาลงั ใจในการปฏิบัตงิ าน ชาย 4.06 0.297 1.853 166 0.066 ดา้ นความมน่ั คงและความปลอดภัย หญงิ 3.97 0.295 ชาย 3.97 0.355 0.942 166 0.347 หญิง 3.92 0.326

64 จากตารางท่ี 4.23 แสดงผลการวิเคราะห์การให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบัติงานของผู้ตอบแบบสอบถามจาแนกตามเพศโดยใช้สถิติ Independent/ t-test ในการทดสอบ สรุปได้ว่าการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบัติงาน ด้านนโยบายและการบริหารงาน มีค่า Probability (p) เท่ากับ0.001 ซ่ึงน้อยกว่า 0.05 น้ันคือ ยอมรับสมมติฐาน หมายความว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีเพศแตกต่างกันให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบัติงาน ด้านนโยบายและการบริหารงานท่ีแตกต่างกัน อย่างมีนัยสาคัญทางสถติ ทิ ี่ 0.05 ส่วนในดา้ นอนื่ ๆ พบวา่ ไม่มีความแตกต่างกัน สมมตฐิ านท่ี 1.2สถานภาพแตกตา่ งกันให้ระดบั ความคิดเห็นต่อการปฏบิ ัติงานทแ่ี ตกตา่ งกัน H0 : สถานภาพท่แี ตกต่างกนั ใหร้ ะดบั ความคิดเห็นต่อการปฏิบตั ิงานทีไ่ ม่แตกตา่ งกัน H1 : สถานภาพทีแ่ ตกตา่ งกนั ให้ระดับความคดิ เห็นต่อการปฏิบตั งิ านทแ่ี ตกตา่ งกัน สถิติท่ีใช้ในการวิเคราะห์จะใช้การทดสอบด้วยการวิเคราะห์ค่าความแปรปรวนทางเดียว(One-way ANOVA) และทาการทดสอบสมมติฐานโดยใช้ระดับความเชื่อมั่น 95 เปอร์เซ็นต์ ดังน้ันจะยอมรบั สมมตฐิ านเมอ่ื ค่า F-Prob. (p) มีคา่ นอ้ ยกว่า 0.05ตารางที่ 4.24 แสดงการทดสอบความแตกต่างของระดับความคิดเห็นต่อการปฏิบัติงาน จาแนกตาม สถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม การปฏิบตั ิงาน แหลง่ ความแปรปรวน df SS MS F-Ratio F-Prob ดา้ นลกั ษณะการปฏบิ ัติงาน 1.807 0.904 9.815 0.000* ด้านนโยบายและการบรหิ ารงาน ระหว่างกลมุ่ 2 15.191 0.092 ภายในกลุ่ม 165 ดา้ นผู้บงั คบั บัญชา 167 0.073 0.037 0.318 0.728ด้านสภาพแวดล้อมในการปฏิบตั งิ าน รวม 2 19.037 0.115ด้านความพงึ พอใจในการปฏบิ ัตงิ าน ระหวา่ งกลุม่ 165 ภายในกลมุ่ 167 0.545 0.272 2.106 0.125 2 21.348 0.129 รวม 165 ระหวา่ งกลมุ่ 167 2.369 1.184 5.467 0.005* ภายในกลมุ่ 2 35.742 0.217 165 รวม 167 0.899 0.449 5.342 0.075 ระหวา่ งกลุม่ 2 13.882 0.084 ภายในกลุ่ม 165 167 รวม ระหวา่ งกลมุ่ ภายในกลมุ่ รวม

65ตารางท่ี 4.24 (ตอ่ )การปฏิบัตงิ าน แหล่งความแปรปรวน df SS MS F-Ratio F-Prob ดา้ นความกา้ วหนา้ ในการปฏบิ ตั งิ าน ระหว่างกลมุ่ 2 0.192 0.096 1.062 0.348 ด้านความสมั พนั ธก์ ับเพือ่ นรว่ มงาน ภายในกลุ่ม 165 14.924 0.090 167 ด้านขวญั และกาลังใจในการปฏบิ ตั งิ าน รวม 2 2.581 1.290 8.815 0.000* ด้านความมัน่ คงและความปลอดภัย ระหว่างกลมุ่ 165 24.151 0.146 ภายในกลมุ่ 167*มีระดับนยั สาคญั ทางสถิติที่ 0.05 2 0.123 0.061 0.691 0.502 รวม 165 14.676 0.089 ระหว่างกลมุ่ 167 ภายในกลุ่ม 2 0.454 0.227 2.022 0.136 165 18.515 0.112 รวม 167 ระหว่างกลมุ่ ภายในกลุม่ รวมจากตารางท่ี 4.24 แสดงผลการวิเคราะห์การให้ระดับความคิดเห็นต่อการปฏิบัติงานของผู้ตอบแบบสอบถามจาแนกตามสถานภาพโดยใช้สถิติการวิเคราะห์ค่าความแปรปรวนทางเดียว (One-wayANOVA) ในการทดสอบ สรุปได้วา่ การให้ระดบั ความคิดเหน็ ตอ่ การปฏบิ ัตงิ านดา้ นลักษณะการปฏิบัติงานด้านสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงาน และด้านความสัมพันธ์กับเพ่ือนร่วมงาน มีค่า Probability (p) เท่ากับ0.000, 0.005, 0.000 ซ่ึงน้อยกว่า 0.05 นั้นคือ ยอมรับสมมติฐาน หมายความว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีสถานภาพแตกต่างกันให้ระดับความคิดเห็นต่อการปฏิบัติงานด้านลักษณะการปฏิบัติงาน ด้านสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงาน และด้านความสัมพันธ์กับเพ่ือนร่วมงานที่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสาคัญทางสถติ ิที่ 0.05 สว่ นในดา้ นอน่ื ๆ พบวา่ มีการใหร้ ะดบั ความคดิ เห็นท่ีไมแ่ ตกตา่ งกนั

66ตารางที่ 4.25 แสดงการเปรียบเทียบค่าเฉล่ียรายคู่ของผู้ตอบค่าแบบสอบถามระหว่างสถานภาพกับ ระดบั ความคดิ เหน็ ในการปฏิบัตงิ าน ด้านลกั ษณะการปฏิบตั งิ านสถานภาพ โสด สมรส หมา้ ย/หยา่ รา้ ง โสด 3.99 X - 3.93 4.40 3.99 - 0.069 - 0.405 (0.226) (0.000*)สมรส 3.93 - - 0.474 -หมา้ ย/หยา่ รา้ ง 4.40 (0.000*) --* มีระดับนัยสาคญั ทางสถิตทิ ี่ 0.05 จากตารางท่ี 4.25แสดงผลการวิเคราะห์พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีสถานภาพโสดมีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบัติงาน ด้านลักษณะการปฏิบัติงานน้อยกว่าผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีสถานภาพหม้าย/หยา่ ร้างโดยคา่ Sig.เทา่ กบั 0.000ซ่ึงน้อยกว่า 0.05 หมายความว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีสถานภาพโสดผตู้ อบแบบสอบถามท่ีมีสถานภาพหมา้ ยหยา่ ร้างมีการใหร้ ะดบั ความคิดเหน็ กับการปฏิบตั ิงานด้านลักษณะการปฏิบัติงานท่แี ตกต่างกัน โดยมีผลต่างเฉลีย่ เท่ากบั 0.405 ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีสถานภาพสมรสมีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบัติงาน ด้านลกั ษณะการปฏบิ ตั ิงานนอ้ ยกวา่ ผูต้ อบแบบสอบถามทม่ี ีสถานภาพหมา้ ย/หยา่ รา้ งโดยค่า Sig.เท่ากับ 0.000 ซึ่งนอ้ ยกวา่ 0.05หมายความว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีสถานภาพสมรส ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีสถานภาพหม้ายหย่าร้าง มีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบัติงานด้านลักษณะการปฏิบัติงานที่แตกต่างกัน โดยมีผลต่างเฉล่ียเท่ากับ 0.474

67ตารางท่ี 4.26 แสดงการเปรียบเทียบค่าเฉล่ียรายคู่ของผู้ตอบค่าแบบสอบถามระหว่างสถานภาพกับ ระดับความคิดเห็นในการปฏิบัตงิ าน ดา้ นสภาพแวดลอ้ มในการปฏิบตั งิ านสถานภาพ X โสด สมรส หม้าย/หย่าร้าง โสด 3.84 3.84 - 3.94 4.33 - 0.100 - 0.494สมรส 3.94 - (0.251) (0.002*)หมา้ ย/หยา่ รา้ ง 4.33 - - - 0.395 (0.081) --* มีระดับนยั สาคัญทางสถติ ทิ ี่ 0.05 จากตารางที่ 4.26แสดงผลการวเิ คราะห์พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามที่มีสถานภาพโสดมีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบัติงาน ด้านสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงานน้อยกว่าผู้ตอบแบบสอบถามที่มีสถานภาพหม้าย/หย่าร้าง โดยค่า Sig. เท่ากับ 0.002 ซึ่งน้อยกว่า 0.05 หมายความว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีสถานภาพโสดผ้ตู อบแบบสอบถามทม่ี ีสถานภาพหม้ายหย่าร้าง มีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบัติงานด้านสภาพแวดลอ้ มในการปฏิบัติงานท่ีแตกตา่ งกนั โดยมีผลตา่ งเฉลีย่ เท่ากับ 0.494ตารางท่ี 4.27 แสดงการเปรียบเทียบค่าเฉล่ียรายคู่ของผู้ตอบค่าแบบสอบถามระหว่างสถานภาพกับ ระดับความคิดเห็นในการปฏบิ ัตงิ าน ด้านความสัมพันธ์กับเพอื่ นรว่ มงานสถานภาพ X โสด สมรส หม้าย/หย่าร้าง โสด 3.76 4.01 3.76 - - 0.257 3.55 (0.000*) 0.206สมรส 4.01 - - (0.103) 0.463หม้าย/หย่ารา้ ง 3.55 - - (0.001*) -* มีระดบั นัยสาคญั ทางสถติ ทิ ่ี 0.05

68 จากตารางท่ี 4.27แสดงผลการวิเคราะห์พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีสถานภาพโสดมีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบัติงาน ด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานน้อยกว่าผู้ตอบแบบสอบถามที่มีสถานภาพสมรส โดยค่า Sig. เท่ากับ 0.000 ซ่ึงน้อยกว่า 0.05 หมายความว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีสถานภาพโสด ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีสถานภาพสมรส มีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบัติงานด้านความสัมพันธ์กับเพอ่ื นร่วมงานทแ่ี ตกตา่ งกนั โดยมีผลตา่ งเฉลี่ยเท่ากับ 0.257 ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีสถานภาพสมรสมีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบัติงาน ด้านความสมั พนั ธก์ ับเพอ่ื นรว่ มงานน้อยกวา่ ผ้ตู อบแบบสอบถามที่มีสถานภาพหม้าย/หย่าร้าง โดยค่า Sig.เท่ากับ0.001 ซึ่งน้อยกว่า 0.05 หมายความว่า ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีสถานภาพสมรส ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีสถานภาพหมา้ ย/หย่ารา้ ง มีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบัติงานด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานที่แตกต่างกันโดยมีผลตา่ งเฉลี่ยเท่ากบั 0.463 สมมติฐานที่ 1.3 อายุแตกต่างกันให้ระดับความคดิ เห็นตอ่ การปฏิบตั งิ านที่แตกต่างกัน H0 : อายทุ ่ีแตกตา่ งกันให้ระดับความคิดเหน็ ตอ่ การปฏิบตั งิ านทไ่ี ม่แตกต่างกัน H1 : อายุท่ีแตกตา่ งกนั ใหร้ ะดบั ความคดิ เหน็ ต่อการปฏบิ ัติงานทแี่ ตกต่างกัน สถิติท่ีใช้ในการวิเคราะห์จะใช้การทดสอบด้วยการวิเคราะห์ค่าความแปรปรวนทางเดียว(One-way ANOVA) และทาการทดสอบสมมตฐิ านโดยใช้ระดับความเชื่อม่ัน 95 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นจะยอมรบั สมมตฐิ านเม่ือคา่ F-Prob. (p) มีค่านอ้ ยกวา่ 0.05ตารางที่ 4.28 แสดงการทดสอบความแตกต่างของระดับความคิดเห็นต่อการปฏิบัติงาน จาแนกตามอายุของผ้ตู อบแบบสอบถามการปฏิบัตงิ าน แหลง่ ความ df SS MS F-Ratio F-Prob แปรปรวนด้านลักษณะการปฏบิ ตั ิงาน ระหวา่ งกลุ่ม 4 0.434 0.109 1.069 0.374 ภายในกลุ่ม 163 16.563 0.102 รวม 167ดา้ นนโยบายและการบรหิ ารงาน ระหวา่ งกลุ่ม 4 1.055 0.264 2.380 0.054 ภายในกลุ่ม 163 18.056 0.111 รวม 167ดา้ นผู้บังคบั บญั ชา ระหวา่ งกลุ่ม 4 1.492 0.373 2.980 0.066 ภายในกลุม่ 163 21.348 0.129 รวม 167

69ตารางท่ี 4.28 (ตอ่ )ด้านสภาพแวดลอ้ มในการปฏิบตั ิงาน ระหวา่ งกลุ่ม 4 0.829 0.207 0.906 0.462 ภายในกลุ่ม 163 37.281 0.229 รวม 167ดา้ นความพงึ พอใจในการปฏิบัตงิ าน ระหวา่ งกลุ่ม 4 1.389 0.347 4.227 0.003* ภายในกลมุ่ 163 13.392 0.086 รวม 167ด้านความก้าวหน้าในการปฏิบัติงาน ระหว่างกลุ่ม 4 1.045 0.261 3.027 0.091 ภายในกลมุ่ 163 14.071 0.086 รวม 167ด้านความสมั พันธ์กบั เพื่อนรว่ มงาน ระหว่างกลุ่ม 4 1.718 0.429 2.799 0.082 ภายในกลุ่ม 163 25.014 0.153 รวม 167ด้านขวัญและกาลังใจในการ ระหวา่ งกลุ่ม 4 0.685 0.171 1.978 0.100 ปฏิบตั งิ าน ภายในกลุ่ม 14.114 0.087 0.089 รวม 167 ระหว่างกลุ่ม 4 1.575 0.394 3.691 0.070ดา้ นความมั่นคงและความปลอดภัย ภายในกลุม่ 163 17.393 0.107 รวม 167*มีระดับนยั สาคัญทางสถิตทิ ี่ 0.05จากตารางที่ 4.28 แสดงผลการวิเคราะห์การให้ระดับความคิดเห็นต่อการปฏิบัติงานของผู้ตอบแบบสอบถามจาแนกตามอายุโดยใช้สถิติการวิเคราะห์ค่าความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) ในการทดสอบ สรุปได้ว่าการให้ระดับความคิดเห็นต่อการปฏิบัติงานด้านความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน มีคา่ Probability (p) เท่ากับ 0.003 ซ่ึงน้อยกว่า 0.05 น้ันคือ ยอมรับสมมติฐาน หมายความว่า ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีอายุแตกต่างกันให้ระดับความคิดเห็นต่อการปฏิบัติงานด้านความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน ท่ีแตกต่างกัน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ี 0.05 ส่วนในด้านอื่น ๆ พบว่ามีการให้ระดับความคดิ เหน็ ที่ไมแ่ ตกตา่ งกัน

70ตารางที่ 4.29 แสดงการเปรียบเทียบค่าเฉล่ียรายคู่ของผู้ตอบค่าแบบสอบถามระหว่างอายุกับระดับ ความคิดเห็นในการปฏิบัติงาน ด้านความพงึ พอใจในการปฏิบตั งิ าน อายุ 20 - 25 ปี 26 - 30 ปี 31 - 35 ปี 36 - 40 ปี มากกว่า 40 ปี20 - 25 ปี ขน้ึ ไป X 3.95 3.78 3.88 3.85 4.05 3.95 - 0.172 0.075 0.103 - 0.093 (0.003*) (0.301) (0.175) (0.208)26 - 30 ปี 3.78 - - - 0.097 - 0.069 - 0.265 (0.176) (0.360) (0.000*)31 - 35 ปี 3.88 - - - 0.028 - 0.167 (0.747) (0.095)36 - 40 ปี 3.85 - - - - - 0.195มากกว่า 40 ปี 4.05 - - - (0.060) ขึ้นไป --* มีระดบั นยั สาคัญทางสถิตทิ ่ี 0.05จากตารางท่ี 4.29 แสดงผลการวิเคราะห์พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามที่มีอายุ 20 -25 ปี มีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบัติงาน ด้านความพึงพอใจในการปฏิบัติงานมากกว่าผู้ตอบแบบสอบถามที่มีอายุ26-30ปี โดยคา่ Sig.เทา่ กบั 0.003ซึ่งนอ้ ยกวา่ 0.05หมายความว่า ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีอายุ 20 -25 ปี ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีอายุ 26 - 30 ปี มีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบัติงานด้านความพึงพอใจในการปฏิบัติงานที่แตกต่างกัน โดยมีผลต่างเฉลี่ยเท่ากับ0.172ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีอายุ 26 -30 ปี มีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบัติงาน ด้านความพงึ พอใจในการปฏิบตั ิงานน้อยกว่าผู้ตอบแบบสอบถามทีม่ ีอายุมากกวา่ 40ปี ขึน้ ไปโดยค่า Sig.เท่ากับ 0.000ซึ่งน้อยกว่า0.05หมายความว่าผู้ตอบแบบสอบถามทม่ี ีอายุ 26-30ปี ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีอายุมากกว่า 40 ปีขึน้ ไป มีการให้ระดับความคดิ เห็นกบั การปฏบิ ัติงานด้านความพงึ พอใจในการปฏิบัติงานท่ีแตกต่างกัน โดยมีผลต่างเฉลยี่ เท่ากับ0.265สมมตฐิ านท่ี 1.4 ระดบั การศกึ ษาแตกต่างกันให้ระดับความคดิ เหน็ ต่อการปฏิบัติงานท่ีแตกต่าง H0 : ระดบั การศึกษาที่แตกต่างกนั ใหร้ ะดับความคิดเห็นตอ่ การปฏิบัติงานทีไ่ ม่แตกตา่ งกนั H1 : ระดับการศกึ ษาท่แี ตกต่างกนั ใหร้ ะดับความคดิ เหน็ ตอ่ การปฏิบตั ิงานที่แตกต่างกนั

71 สถิติท่ีใช้ในการวิเคราะห์จะใช้การทดสอบด้วยการวิเคราะห์ค่าความแปรปรวนทางเดียว(One-way ANOVA) และทาการทดสอบสมมตฐิ านโดยใช้ระดับความเชื่อมั่น 95 เปอร์เซ็นต์ ดังน้ันจะยอมรบั สมมตฐิ านเม่อื คา่ F-Prob. (p) มคี า่ น้อยกวา่ 0.05ตารางที่ 4.30 แสดงการทดสอบความแตกต่างของระดับความคิดเห็นต่อการปฏิบัติงาน จาแนกตาม ระดับการศึกษาของผู้ตอบแบบสอบถามการปฏิบตั งิ าน แหลง่ ความแปรปรวน df SS MS F-Ratio F-Prob ด้านลักษณะการปฏิบตั ิงาน ระหว่างกลุ่ม 3 0.724 0.241 2.434 0.067 ดา้ นนโยบายและการบริหารงาน ภายในกลุ่ม 164 16.273 0.099 ดา้ นผบู้ งั คับบญั ชา รวม 167 ดา้ นสภาพแวดลอ้ มในการปฏบิ ัตงิ าน 3 0.755 0.252 2.248 0.085 ด้านความพงึ พอใจในการปฏบิ ัตงิ าน ระหว่างกลุ่ม 164 18.356 0.112 ด้านความก้าวหน้าในการปฏิบัตงิ าน ภายในกลมุ่ 167 ด้านความสมั พนั ธก์ ับเพอ่ื นรว่ มงาน 3 1.001 0.334 2.619 0.053 รวม 164 20.892 0.127 ด้านขวัญและกาลังใจในการปฏบิ ตั ิงาน ระหว่างกลมุ่ 167 ดา้ นความมนั่ คงและความปลอดภยั ภายในกลุม่ 3 0.150 0.050 0.216 0.885 164 37.960 0.231*มรี ะดับนยั สาคัญทางสถิติท่ี 0.05 รวม 167 ระหวา่ งกลมุ่ 3 0.026 0.009 0.097 0.961 ภายในกลุ่ม 164 14.754 0.090 167 รวม 3 0.888 0.296 3.411 0.054 ระหว่างกลุ่ม 164 14.228 0.087 ภายในกลมุ่ 167 3 3.319 1.106 7.748 0.000* รวม 164 23.413 0.143 ระหวา่ งกลมุ่ 167 ภายในกลุม่ 3 0.618 0.206 2.381 0.071 164 14.181 0.086 รวม 167 ระหวา่ งกลุ่ม 3 0.924 0.308 2.800 0.096 ภายในกลมุ่ 164 18.044 0.110 167 รวม ระหว่างกลมุ่ ภายในกลุม่ รวม ระหว่างกลุ่ม ภายในกลมุ่ รวม

72 จากตารางท่ี 4.30 แสดงผลการวิเคราะห์การให้ระดับความคิดเห็นต่อการปฏิบัติงานของผู้ตอบแบบสอบถามจาแนกตามระดับการศึกษาโดยใช้สถิติการวิเคราะห์ค่าความแปรปรวนทางเดียว (One-wayANOVA) ในการทดสอบ สรุปได้ว่าการให้ระดับความคิดเห็นต่อการปฏิบัติงานด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน มีค่า Probability (p) เท่ากับ 0.000 ซึ่งน้อยกว่า 0.05 น้ันคือ ยอมรับสมมติฐาน หมายความว่าผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีระดับการศึกษาแตกต่างกันให้ระดับความคิดเห็นต่อการปฏิบัติงานด้านความสมั พนั ธก์ ับเพื่อนร่วมงาน ท่ีแตกต่างกัน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ 0.05 ส่วนในด้านอ่ืน ๆ พบว่ามีการให้ระดับความคิดเห็นทไี่ ม่แตกต่างกันตารางท่ี 4.31 แสดงการเปรียบเทียบค่าเฉล่ียรายคู่ของผู้ตอบค่าแบบสอบถามระหว่างระดับการศึกษา กบั ระดับความคดิ เหน็ ในการปฏิบตั ิงาน ดา้ นความสัมพันธก์ ับเพื่อนรว่ มงานระดับการศึกษา ตา่ กว่าปรญิ ญาตรี ปรญิ ญาตรี ปรญิ ญาโท สงู กว่าปริญญาโท 3.61 3.81 3.63 X - - 0.201 - 0.019 4.28 - 0.664ต่ากว่าปรญิ ญาตรี 3.61 (0.125) (0.898) (0.000*)ปริญญาตรี 3.81 - - 0.183 - 0.463 (0.093) (0.000*)ปริญญาโท 3.63 - - - - 0.645 (0.000*)สงู กวา่ ปริญญาโท 4.28 - -- -* มีระดับนัยสาคัญทางสถติ ิท่ี 0.05จากตารางท่ี 4.31 แสดงผลการวิเคราะห์พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีระดับการศึกษาต่ากว่าปริญญาตรี มีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบัติงาน ด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานน้อยกว่าผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีระดับการศึกษาสูงกว่าปริญญาโท โดยค่า Sig. เท่ากับ 0.000 ซึ่งน้อยกว่า 0.05หมายความว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีระดับการศึกษาต่ากว่าปริญญาตรี ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีระดับการศึกษาสูงกว่าปริญญาโท มีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบัติงานด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนรว่ มงานท่ีแตกตา่ งกนั โดยมผี ลต่างเฉล่ยี เท่ากบั 0.664ผตู้ อบแบบสอบถามทม่ี ีระดับการศึกษาปริญญาตรี มีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบัติงานดา้ นความสัมพันธก์ บั เพอื่ นรว่ มงานนอ้ ยกว่าผู้ตอบแบบสอบถามที่มีระดับการศึกษาสูงกว่าปริญญาโท โดยค่าSig.เทา่ กับ0.000ซ่ึงนอ้ ยกวา่ 0.05 หมายความว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีระดับการศึกษาปริญญาตรี ผู้ตอบ

73แบบสอบถามท่ีมีระดับการศึกษาสูงกว่าปริญญาโท มีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบัติงานด้านความสัมพันธ์กบั เพอื่ นรว่ มงานทแ่ี ตกตา่ งกัน โดยมีผลตา่ งเฉลยี่ เท่ากับ 0.463 ผตู้ อบแบบสอบถามท่มี ีระดับการศึกษาปริญญาโท มีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบัติงานด้านความสมั พันธ์กับเพ่อื นร่วมงานนอ้ ยกว่าผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีระดับการศึกษาสูงกว่าปริญญาโท โดยคา่ Sig.เท่ากบั 0.000ซึ่งน้อยกวา่ 0.05หมายความว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีระดับการศึกษาปริญญาโท ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีระดับการศึกษาสูงกว่าปริญญาโท มีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบัติงานด้านความสัมพันธ์กบั เพือ่ นร่วมงานที่แตกต่างกัน โดยมีผลต่างเฉลี่ยเท่ากับ 0.645 สมมตฐิ านท่ี 1.5 ตาแหนง่ งานแตกต่างกนั ให้ระดบั ความคดิ เหน็ ต่อการปฏบิ ตั ิงานท่แี ตกตา่ งกัน H0 : ตาแหนง่ งานทีแ่ ตกตา่ งกันให้ระดับความคิดเห็นตอ่ การปฏิบตั งิ านท่ีไม่แตกตา่ งกัน H1 : ตาแหน่งงานทแี่ ตกต่างกันใหร้ ะดับความคิดเหน็ ต่อการปฏบิ ตั งิ านที่แตกตา่ งกนั สถิติท่ีใช้ในการวิเคราะห์จะใช้การทดสอบด้วยการวิเคราะห์ค่าความแปรปรวนทางเดียว(One-way ANOVA) และทาการทดสอบสมมตฐิ านโดยใช้ระดับความเช่ือมั่น 95 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นจะยอมรับสมมติฐานเมื่อค่า F-Prob. (p) มคี ่าน้อยกวา่ 0.05ตารางที่ 4.32 แสดงการทดสอบความแตกต่างของระดับความคิดเห็นต่อการปฏิบัติงาน จาแนกตามตาแหน่งงานของผู้ตอบแบบสอบถามการปฏบิ ัติงาน แหลง่ ความ df SS MS F-Ratio F-Prob แปรปรวนดา้ นลกั ษณะการปฏบิ ตั ิงาน ระหว่างกลุ่ม 4 0.366 0.092 0.898 0.467 ภายในกลมุ่ 163 16.631 0.102 รวม 167ดา้ นนโยบายและการบรหิ ารงาน ระหวา่ งกลุ่ม 4 1.935 0.484 4.592 0.002* ภายในกล่มุ 163 17.175 0.105 รวม 167ดา้ นผ้บู งั คบั บญั ชา ระหวา่ งกลมุ่ 4 0.307 0.077 0.580 0.677 ภายในกลุม่ 163 21.585 0.132 รวม 167ดา้ นสภาพแวดลอ้ มในการปฏิบตั งิ าน ระหว่างกลุ่ม 4 2.279 0.570 2.592 0.093 ภายในกล่มุ 163 35.831 0.220 รวม 167

74ตารางท่ี 4.32 (ต่อ)การปฏบิ ัติงาน แหลง่ ความ df SS MS F-Ratio F-Prob แปรปรวนด้านความพงึ พอใจในการปฏบิ ัตงิ าน ระหว่างกลมุ่ 4 0.862 0.216 2.524 0.043 ภายในกลมุ่ 163 13.919 0.085 รวม 167ด้านความก้าวหน้าในการปฏิบัติงาน ระหวา่ งกลมุ่ 4 1.939 0.485 5.996 0.000* ภายในกลมุ่ 163 13.177 0.081 รวม 167ดา้ นความสมั พนั ธ์กบั เพือ่ นรว่ มงาน ระหว่างกลมุ่ 4 1.760 0.440 2.873 0.052 ภายในกลุ่ม 163 24.971 0.153 รวม 167 ระหวา่ งกลุ่ม 4 1.602 0.401 4.948 0.001*ด้านขวัญและกาลงั ใจในการปฏิบตั งิ าน ภายในกลุม่ 14.114 13.197 0.081 รวม 167 ระหว่างกล่มุ 4 0.588 0.147 1.304 0.271ด้านความม่ันคงและความปลอดภยั ภายในกลุ่ม 163 18.381 0.113 รวม 167*มีระดบั นยั สาคญั ทางสถิติท่ี 0.05จากตารางที่ 4.32 แสดงผลการวิเคราะห์การให้ระดับความคิดเห็นต่อการปฏิบัติงานของผู้ตอบแบบสอบถามจาแนกตามตาแหน่งงานโดยใช้สถิติการวิเคราะห์ค่าความแปรปรวนทางเดียว (One-wayANOVA) ในการทดสอบ สรุปได้ว่าการให้ระดับความคิดเห็นต่อการปฏิบัติงานด้านความนโยบายและการบริหารงาน ด้านความก้าวหน้าในการปฏิบัติงาน และด้านขวัญและกาลังใจในการปฏิบัติงาน มีค่าProbability (p) เท่ากบั 0.002, 0.000, 0.001 ซึ่งน้อยกว่า 0.05 น้ันคือ ยอมรับสมมติฐาน หมายความว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีตาแหน่งงานแตกต่างกันให้ระดับความคิดเห็นต่อการปฏิบัติงานด้านนโยบายและการบริหารงาน ดา้ นความกา้ วหน้าในการปฏิบัติงาน และด้านขวัญและกาลังใจในการปฏิบัติงานที่แตกต่างกันอย่างมนี ัยสาคญั ทางสถิติท่ี 0.05 ส่วนในด้านอื่น ๆ พบว่ามีการใหร้ ะดับความคิดเห็นท่ีไม่แตกตา่ งกัน

75ตารางที่ 4.33 แสดงการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยรายคู่ของผู้ตอบค่าแบบสอบถามระหว่างตาแหน่งงานกับ ระดับความคดิ เหน็ ในการปฏิบตั งิ าน ด้านนโยบายและการบรหิ ารงานตาแหน่งงาน ผู้จัดการ ผ้ชู ว่ ยผู้จัดการ หวั หน้าธนกจิ /ธุรกจิ พนกั งานธุรกจิ พนักงานธนกิจ ผ้จู ัดการ X 3.74 3.86 4.06 3.76 3.83 3.74 - - 0.128 - 0.326 - 0.020 - 0.097 (0.302) (0.004*) (0.844) (0.357)ผชู้ ่วยผจู้ ัดการ 3.86 - - - 0.197 0.108 0.031 (0.056) (0.232) (0.741)หวั หน้าธนกิจ/ธุรกจิ 4.06 - - - 0.306 0.228 (0.000*) (0.004*)พนกั งานธรุ กิจ 3.76 - - - - - 0.077 (0.217)พนักงานธนกิจ 3.83 - - - --* มีระดับนัยสาคญั ทางสถติ ิที่ 0.05จากตารางที่ 4.33แสดงผลการวเิ คราะหพ์ บว่าผู้ตอบแบบสอบถามที่มีตาแหน่งงานผู้จัดการมีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบัติงาน ด้านนโยบายและการบริหารงานน้อยกว่าผู้ตอบแบบสอบถามที่มีตาแหน่งงานหัวหน้าธนกิจ/ธรุ กิจโดยคา่ Sig.เทา่ กบั 0.004ซ่ึงนอ้ ยกวา่ 0.05หมายความว่า ผู้ตอบแบบสอบถามทม่ี ีตาแหนง่ งานผจู้ ัดการผู้ตอบแบบสอบถามทมี่ ีตาแหน่งงานหัวหน้าธนกจิ /ธุรกิจ มีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบตั ิงานดา้ นนโยบายและการบริหารงานทแ่ี ตกตา่ งกัน โดยมผี ลต่างเฉลย่ี เท่ากบั 0.326ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีตาแหน่งงานหัวหน้าธนกิจ/ธุรกิจมีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบัติงาน ด้านนโยบายและการบริหารงานมากกว่าผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีตาแหน่งงานพนักงานธนกิจและพนักงานธุรกิจ โดยค่า Sig. เท่ากับ 0.000, 0.004 ซึ่งน้อยกว่า 0.05 หมายความว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีตาแหน่งงานหวั หน้าธนกิจ/ธุรกิจผ้ตู อบแบบสอบถามทม่ี ีตาแหนง่ งานพนักงานธุรกิจ ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีตาแหนง่ งานพนกั งานธนกจิ มีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบัติงานด้านนโยบายและการบริหารงานทแี่ ตกต่างกนั โดยมผี ลต่างเฉลีย่ เท่ากบั 0.306,0.228

76ตารางท่ี 4.34 แสดงการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยรายคู่ของผู้ตอบค่าแบบสอบถามระหว่างตาแหน่งงานกับ ระดบั ความคิดเหน็ ในการปฏบิ ตั ิงาน ด้านความก้าวหนา้ ในการปฏบิ ัติงานตาแหนง่ งาน ผู้จดั การ ผู้ช่วยผู้จดั การ หัวหน้าธนกิจ/ธรุ กิจ พนกั งานธุรกจิ พนกั งานธนกิจ ผ้จู ดั การ X 3.81 4.02 4.19 4.01 4.17 3.81 - - 0.203 - 0.382 - 0.199 - 0.356 (0.063) (0.000*) (0.072) (0.000*)ผู้ช่วยผจู้ ดั การ 4.02 - - - 0.179 0.004 - 0.153 (0.048) (0.955) (0.066)หวั หน้าธนกจิ /ธรุ กจิ 4.19 - - - 0.183 0.026 (0.005*) (0.707)พนักงานธรุ กจิ 4.01 - - - - - 0.157 (0.004*)พนักงานธนกจิ 4.17 - - - --* มีระดบั นัยสาคัญทางสถติ ทิ ี่ 0.05จากตารางท่ี 4.34แสดงผลการวเิ คราะห์พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีตาแหน่งงานผจู้ ดั การ มีการให้ระดบั ความคิดเห็นกบั การปฏบิ ตั งิ าน ดา้ นความกา้ วหน้าในการปฏิบัตงิ านน้อยกวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามที่มีตาแหนง่ งานหัวหน้าธนกจิ /ธรุ กิจและตาแหน่งงานพนักงานธนกิจ โดยค่า Sig.เท่ากับ 0.000, 0.000 ซ่ึงน้อยกว่า0.05หมายความวา่ ผูต้ อบแบบสอบถามท่ีมีตาแหน่งงานผู้จัดการ ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีตาแหน่งงานหัวหน้าธนกิจ/ธุรกิจและตาแหน่งงานพนักงานธนกิจ มีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบัติงานด้านความกา้ วหนา้ ในการปฏบิ ัตงิ านทแ่ี ตกตา่ งกัน โดยมผี ลต่างเฉล่ยี เท่ากบั 0.382,0.356ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีตาแหน่งงานหัวหน้าธนกิจ/ธุรกิจ มีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบัติงาน ด้านความก้าวหน้าในการปฏิบัติงานมากกว่าผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีตาแหน่งงานพนักงานธุรกิจ โดยค่า Sig. เท่ากับ 0.005 ซ่ึงน้อยกว่า 0.05 หมายความว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีตาแหน่งงานหัวหน้าธนกิจ/ธุรกิจ ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีตาแหน่งงานพนักงานธุรกิจ มีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบตั ิงานดา้ นความก้าวหนา้ ในการปฏิบตั ิงานทีแ่ ตกต่างกัน โดยมผี ลต่างเฉล่ยี เท่ากับ 0.183ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีตาแหน่งงานพนักงานธุรกิจ มีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบัติงาน ด้านความก้าวหน้าในการปฏิบัติงานมากกว่าผู้ตอบแบบสอบถามที่มีตาแหน่งงานพนักงานธนกิจ โดยค่า Sig.เท่ากับ 0.004 ซึ่งน้อยกว่า 0.05 หมายความว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีตาแหน่งงานพนักงานธุรกิจ ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีตาแหน่งงานพนักงานธนกิจ มีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏบิ ัติงานดา้ นความก้าวหน้าในการปฏิบัติงานท่ีแตกตา่ งกัน โดยมผี ลตา่ งเฉล่ียเท่ากบั 0.157

77ตารางท่ี 4.35 แสดงการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยรายคู่ของผู้ตอบค่าแบบสอบถามระหว่างตาแหน่งงานกับ ระดบั ความคดิ เหน็ ในการปฏิบตั ิงาน ด้านขวัญและกาลังใจในการปฏิบัตงิ านตาแหนง่ งาน ผจู้ ดั การ ผูช้ ่วยผจู้ ดั การ หัวหนา้ ธนกิจ/ธรุ กิจ พนักงานธรุ กจิ พนักงานธนกิจ ผูจ้ ดั การ X 3.67 3.99 4.07 4.00 4.06 3.67 - - 0.321 - 0.400 - 0.336 - 0.390 (0.004*) (0.000*) (0.000*) (0.000*)ผชู้ ว่ ยผจู้ ัดการ 3.99 - - - 0.079 - 0.015 - 0.069 (0.379) (0.845) (0.405)หัวหน้าธนกิจ/ธรุ กจิ 4.07 - - - 0.064 0.010 (0.328) (0.883)พนักงานธุรกิจ 4.00 - - - - - 0.054 (0.327)พนักงานธนกจิ 4.06 - - - --* มีระดบั นัยสาคัญทางสถติ ิท่ี 0.05จากตารางท่ี 4.35แสดงผลการวเิ คราะหพ์ บวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามท่ีมีตาแหน่งงานผู้จัดการมีการให้ระดบั ความคดิ เหน็ กบั การปฏบิ ัตงิ าน ดา้ นขวัญและกาลังใจในการปฏิบัติงานน้อยกว่าผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีตาแหน่งงานผู้ช่วยผู้จัดการ ตาแหน่งงานหัวหน้าธนกิจ/ธุรกิจ ตาแหน่งงานพนักงานธุรกิจ และตาแหน่งงานพนักงานธนกิจ โดยค่า Sig. เท่ากับ 0.004, 0.000, 0.000, 0.000 ซ่ึงน้อยกว่า 0.05 หมายความว่า ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีตาแหน่งงานผู้จัดการ ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีตาแหน่งงานผู้ช่วยผู้จัดการ ตาแหน่งงานหัวหนา้ ธนกิจ/ธุรกิจตาแหน่งงานพนกั งานธุรกิจ และตาแหน่งงานพนักงานธนกิจมีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบัติงานด้านขวัญและกาลังใจในการปฏิบัติงานท่ีแตกต่างกัน โดยมีผลต่างเฉล่ียเท่ากับ 0.321,0.400, 0.336, 0.390สมมตฐิ านที่ 1.6 อายุงานแตกต่างกันให้ระดับความคดิ เห็นตอ่ การปฏิบัติงานที่แตกตา่ งกัน H0 : อายุงานท่แี ตกต่างกนั ให้ระดบั ความคิดเหน็ ตอ่ การปฏบิ ตั ิงานที่ไมแ่ ตกต่างกนั H1 : อายุงานที่แตกตา่ งกันให้ระดบั ความคดิ เห็นต่อการปฏบิ ตั ิงานท่ีแตกตา่ งกนัสถิติท่ีใช้ในการวิเคราะห์จะใช้การทดสอบด้วยการวิเคราะห์ค่าความแปรปรวนทางเดียว(One-way ANOVA) และทาการทดสอบสมมตฐิ านโดยใช้ระดับความเชื่อมั่น 95 เปอร์เซ็นต์ ดังน้ันจะยอมรบั สมมติฐานเมอื่ ค่า F-Prob. (p) มคี า่ นอ้ ยกวา่ 0.05

78ตารางที่ 4.36 แสดงการทดสอบความแตกต่างของระดับความคิดเห็นต่อการปฏิบัติงาน จาแนกตามอายุงานของผ้ตู อบแบบสอบถามการปฏบิ ัตงิ าน แหลง่ ความ df SS MS F-Ratio F-Prob แปรปรวนด้านลกั ษณะการปฏบิ ตั งิ าน ระหวา่ งกลมุ่ 3 0.680 0.227 2.277 0.082 ภายในกลมุ่ 164 16.318 0.100 รวม 167ด้านนโยบายและการบรหิ ารงาน ระหว่างกลุ่ม 3 0.154 0.051 0.445 0.721 ภายในกลุ่ม 164 18.956 0.116 รวม 167ด้านผบู้ งั คบั บญั ชา ระหว่างกลุ่ม 3 0.621 0.207 1.596 0.192 ภายในกลมุ่ 164 21.272 0.130 รวม 167ด้านสภาพแวดล้อมในการปฏิบตั งิ าน ระหวา่ งกลุ่ม 3 1.151 0.384 1.702 0.169 ภายในกลมุ่ 164 36.960 0.225 รวม 167ด้านความพึงพอใจในการปฏบิ ัตงิ าน ระหวา่ งกลมุ่ 3 0.579 0.193 2.229 0.087 ภายในกลมุ่ 164 14.202 0.087 รวม 167ด้านความกา้ วหนา้ ในการปฏิบตั ิงาน ระหวา่ งกลุ่ม 3 0.012 0.004 0.043 0.988 ภายในกลมุ่ 164 15.104 0.092 รวม 167ด้านความสัมพนั ธก์ ับเพ่อื นร่วมงาน ระหวา่ งกลุ่ม 3 2.088 0.696 4.633 0.004* ภายในกลมุ่ 164 23.413 0.143 รวม 167 ระหว่างกลมุ่ 3 0.453 0.151 1.725 0.164ด้านขวัญและกาลงั ใจในการปฏิบตั ิงาน ภายในกลมุ่ 164 14.346 0.087 รวม 167 ระหวา่ งกลุ่ม 3 0.244 0.081 0.712 0.546ดา้ นความม่นั คงและความปลอดภัย ภายในกลุ่ม 164 18.725 0.114 รวม 167*มรี ะดับนัยสาคญั ทางสถิตทิ ่ี 0.05

79 จากตารางที่ 4.36 แสดงผลการวิเคราะห์การให้ระดับความคิดเห็นต่อการปฏิบัติงานของผู้ตอบแบบสอบถามจาแนกตามอายุงานโดยใช้สถิติการวิเคราะห์ค่าความแปรปรวนทางเดียว (One-wayANOVA) ในการทดสอบ สรุปได้ว่าการให้ระดับความคิดเห็นต่อการปฏิบัติงานด้านความสัมพันธ์กับเพือ่ นร่วมงาน มีค่า Probability (p) เท่ากับ 0.004 ซ่ึงน้อยกว่า 0.05 น้ันคือ ยอมรับสมมติฐาน หมายความว่าผตู้ อบแบบสอบถามท่ีมีอายุงานแตกต่างกันให้ระดับความคิดเห็นต่อการปฏิบัติงานด้านความสัมพันธ์กับเพ่ือนร่วมงาน ท่ีแตกตา่ งกัน อย่างมนี ยั สาคญั ทางสถิติท่ี 0.05 ส่วนในด้านอื่น ๆ พบว่ามีการให้ระดับความคิดเห็นทีไ่ มแ่ ตกตา่ งกันตารางที่ 4.37 แสดงการเปรยี บเทยี บค่าเฉล่ยี รายคู่ของผูต้ อบค่าแบบสอบถามระหว่างอายุงานกับระดับ ความคิดเห็นในการปฏิบัตงิ าน ดา้ นความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานอายุงาน น้อยกวา่ 1 ปี 1 - 5 ปี 6 - 10 ปี มากกว่า 10 ปี ขนึ้ ไป X 3.76 3.80 3.68 4.04 - 0.038 0.075 - 0.279นอ้ ยกวา่ 1 ปี 3.76 - (0.641) (0.419) (0.060)1 - 5 ปี 3.80 - - 0.113 - 0.241 (0.151) (0.007)6 - 10 ปี 3.68 - - - - 0.355 (0.000*)มากกวา่ 10 ปี ข้ึนไป 4.04 - - - -* มรี ะดับนยั สาคญั ทางสถิติท่ี 0.05จากตารางท่ี 4.37 แสดงผลการวิเคราะห์พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีอายุงาน 6 - 10 ปี มีการให้ระดับความคิดเห็นกบั การปฏิบัติงาน ด้านความสัมพันธก์ ับเพื่อนร่วมงานน้อยกว่าผู้ตอบแบบสอบถามที่มีอายุงานมากกว่า 10 ปี ขึ้นไป โดยค่า Sig.เท่ากับ 0.000 ซึ่งน้อยกว่า 0.05 หมายความว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีอายุงาน 6 - 10 ปี ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีอายุงานมากกว่า 10 ปี ขึ้นไปมีการให้ระดับความคิดเห็นกับการปฏิบตั ิงานดา้ นความสมั พันธ์กบั เพอ่ื นรว่ มงานทแ่ี ตกตา่ งกัน โดยมีผลต่างเฉลย่ี เท่ากบั 0.355

80 สมมตฐิ านที่ 2 วฒั นธรรมองค์กร มีความสัมพนั ธ์กับการปฏิบัติงานของพนักงานไทยพาณิชย์เขตนครสวรรค์ H0 : วัฒนธรรมองค์กร มีความสัมพันธก์ ับการปฏิบัตงิ านของพนกั งานไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์ H1 : วัฒนธรรมองคก์ รไม่มคี วามสมั พนั ธก์ บั การปฏบิ ัติงานของพนักงานไทยพาณชิ ย์ เขต-นครสวรรค์ วิเคราะห์โดยใช้สถิติวิเคราะห์หาค่าสัมประสิทธิ์แบบเพียร์สัน (Pearson Product MomentCorrelation Coefficient) ระดับความเช่ือม่ัน 95% ปฏิเสธสมมติฐานหลัก (H0) เม่ือระดับนัยสาคัญทางสถิติ (Sig. 2-tailed) มีค่าน้อยกว่า 0.05ตารางที่ 4.38 แสดงให้เหน็ ว่าความสัมพนั ธร์ ะหว่างวฒั นธรรมองค์กร ด้านวฒั นธรรมทเ่ี น้นรายละเอยี ดกับการปฏิบตั ิงาน ด้านวัฒนธรรมทเ่ี นน้ รายละเอยี ดกบั การปฏบิ ตั งิ านการปฏบิ ตั ิงาน Pearson Sig. ระดับความสมั พนั ธ์ ทิศทาง Correlation (2-tailed)1. ดา้ นลกั ษณะการปฏบิ ัตงิ าน 0.058 0.459 ไม่มคี วามสัมพนั ธ์ -2. ดา้ นนโยบายและการบรหิ ารงาน - 0.207 0.007* ต่า ตรงข้าม3. ด้านผู้บงั คับบญั ชา - 0.400 0.609 ไม่มคี วามสมั พันธ์ -4. ดา้ นสภาพแวดล้อมในการปฏบิ ัติงาน 0.115 0.045* ต่า เดียวกนั5. ดา้ นความพงึ พอใจในการปฏิบัติงาน 0.007 0.032* ต่า เดยี วกัน6. ดา้ นความก้าวหนา้ ในการปฏบิ ัติงาน - 0.022 0.781 ไมม่ ีความสมั พนั ธ์ -7. ดา้ นความสมั พันธ์กับเพ่อื นรว่ มงาน 0.154 0.028* ต่า เดียวกัน8. ดา้ นขวญั และกาลงั ใจในการปฏิบัตงิ าน 0.002 0.978 ไม่มีความสมั พนั ธ์ -9. ดา้ นความมั่นคงและความปลอดภัย 0.013 0.863 ไม่มคี วามสัมพันธ์ -* มรี ะดบั นัยสาคญั ทางสถติ ิท่ี 0.05จากตารางที่ 4.38 ได้แสดงความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมองค์กรด้านวัฒนธรรมที่เน้นรายละเอียดกบั การปฏิบัติงาน พบว่า วัฒนธรรมองค์กรด้านวัฒนธรรมท่ีเน้นรายละเอียดมีสัมพันธ์กับการปฏิบัติงานในด้านนโยบายและการบริหารงาน ด้านสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงาน ด้านความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน และด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน โดยมีผลต่างค่าเฉล่ียเท่ากับ-0.207, 0.115, 0.007, 0.154 ตามลาดบั และมีค่า Sig. เทา่ กบั 0.007, 0.045, 0.032, 0.028 ตามลาดับ และไม่สัมพันธ์กับด้านลักษณะการปฏิบัติงาน ด้านผู้บังคับบัญชา ด้านความก้าวหน้าในการปฏิบัติงานดา้ นขวญั และกาลังใจในการปฏิบัติงาน และด้านความมั่นคงและความปลอดภัย/โดยมีผลต่างค่าเฉล่ีย

81เท่ากบั 0.058, -0.400, -0.022, 0.002, 0.013 ตามลาดับและมคี ่า Sig. เทา่ กบั 0.459, 0.609, 0.781, 0.978,0.863 ซ่งึ มากกว่า 0.05ตารางท่ี 4.39 แสดงให้เห็นว่าความสัมพนั ธร์ ะหว่างวฒั นธรรมองคก์ ร ด้านวฒั นธรรมทีเ่ น้นผลงานกับการปฏิบัติงาน ดา้ นวฒั นธรรมทเี่ น้นผลงานการปฏบิ ตั ิงาน Pearson Sig. ระดับความสมั พนั ธ์ ทิศทาง Correlation (2-tailed)1. ดา้ นลักษณะการปฏิบตั ิงาน 0.120 0.120 ไม่มคี วามสมั พนั ธ์ -2. ด้านนโยบายและการบริหารงาน 0.307 0.000* ค่อนข้างตา่ เดยี วกัน3. ด้านผู้บงั คับบัญชา 0.248 0.001* ค่อนขา้ งต่า เดยี วกัน4. ดา้ นสภาพแวดล้อมในการปฏิบัตงิ าน - 0.021 0.790 ไม่มคี วามสมั พันธ์ -5. ดา้ นความพึงพอใจในการปฏบิ ัติงาน 0.202 0.009* ต่า เดียวกัน6. ดา้ นความกา้ วหนา้ ในการปฏบิ ัติงาน 0.185 0.016* ตา่ เดียวกัน7. ดา้ นความสัมพนั ธก์ ับเพ่ือร่วมงาน 0.169 0.028* ตา่ เดยี วกัน8. ด้านขวัญและกาลังใจในการปฏิบตั งิ าน - 0.029 0.712 ไม่มคี วามสัมพนั ธ์ -9. ดา้ นความมั่นคงและความปลอดภัย 0.087 0.265 ไม่มคี วามสัมพนั ธ์ -* มรี ะดบั นัยสาคญั ทางสถิติท่ี 0.05จากตารางท่ี 4.39 ได้แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมองค์กร ด้านวัฒนธรรมที่เน้นผลงานกับการปฏิบัติงานพบว่า ด้านวัฒนธรรมที่เน้นผลงานมีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติงานด้านนโยบายการบริหารงาน ด้านผู้บังคับบัญชาด้านความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน ด้านความก้าวหน้าในการปฏิบัติงาน และด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน/โดยมีผลต่างค่าเฉล่ียเท่ากับ0.307, 0.248, 0.202, 0.185, 0.169 ตามลาดับ และมีค่า Sig. เท่ากับ 0.000, 0.001, 0.009, 0.016, 0.028ตามลาดบั ซ่ึงน้อยกว่า 0.05 และไมส่ ัมพันธ์กับด้านลักษณะการปฏิบัติงาน ด้านสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงาน ด้านขวัญและกาลังใจในการปฏิบัติงาน และด้านความมั่นคงและความปลอดภัย/โดยมีผลต่างค่าเฉลี่ยเท่ากับ 0.120, -0.021, -0.029, 0.087 ตามลาดับและมีค่า Sig. เท่ากับ 0.120, 0.790, 712,0.265 ซึ่งมากกว่า 0.05

82ตารางท่ี 4.40 แสดงให้เหน็ ว่าความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งวัฒนธรรมองค์กร ด้านวฒั นธรรมท่เี นน้ บคุ ลากรกับการปฏิบตั ิงาน ดา้ นวัฒนธรรมทเ่ี น้นบคุ ลากรการปฏิบัติงาน Pearson Sig. ระดับความสัมพนั ธ์ ทิศทาง Correlation (2-tailed)1. ด้านลักษณะการปฏบิ ตั ิงาน 0.291 0.000* ค่อนขางตา่ เดียวกัน2. ดา้ นนโยบายและการบริหารงาน 0.070 0.366 ไมม่ ีความสัมพนั ธ์ -3. ด้านผ้บู งั คับบัญชา 0.139 0.073 ไมม่ ีความสมั พนั ธ์ -4. ด้านสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงาน 0.007 0.923 ไม่มคี วามสัมพนั ธ์ -5. ด้านความพึงพอใจในการปฏบิ ัติงาน 0.104 0.178 ไม่มคี วามสมั พนั ธ์ -6. ดา้ นความกา้ วหน้าในการปฏบิ ตั ิงาน - 0.289 0.000* คอ่ นขา้ งตา่ ตรงข้าม7. ดา้ นความสมั พันธก์ บั เพ่ือรว่ มงาน - 0.224 0.004* ค่อนขา้ งต่า ตรงขา้ ม8. ดา้ นขวญั และกาลังใจในการปฏิบัตงิ าน 0.066 0.398 ไมม่ ีความสมั พันธ์ -9. ด้านความม่ันคงและความปลอดภัย 0.085 0.272 ไม่มคี วามสัมพันธ์ -* มีระดับนยั สาคัญทางสถติ ิที่ 0.05จากตารางท่ี 4.40 ได้แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมองค์กร ด้านวัฒนธรรมท่ีเน้นบุคลากรกับการปฏิบัติงานพบว่า ด้านวัฒนธรรมท่ีเน้นบุคลากรมีความสัมพันธ์กับการปฏิบตั งิ านดา้ นลักษณะการปฏบิ ัตงิ าน ด้านความกา้ วหน้าในการปฏบิ ตั งิ าน และดา้ นความสัมพันธ์กับเพ่ือนร่วมงานโดยมีผลต่างค่าเฉลี่ยเท่ากับ 0.291, 0.289, 0.224 ตามลาดับ และมีค่า Sig. เท่ากับ0.000, 0.000, 0.004 ตามลาดับ ซ่ึงน้อยกว่า 0.05 และไม่สัมพันธ์กับด้านนโยบายและการบริหารงานด้านผู้บังคับบัญชา ด้านสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงาน ด้านความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน ด้านขวัญและกาลังใจในการปฏิบัติงาน และด้านความม่ันคงและความปลอดภัย โดยมีผลต่างค่าเฉล่ียเท่ากับ 0.070, 0.139, 0.007, 0.104, 0.066, 0.085 ตามลาดับและมีค่า Sig. เท่ากับ 0.366, 0.073, 0.923,0.178, 0.398, 0.272 ซึง่ มากกวา่ 0.05

83ตารางที่ 4.41 แสดงให้เห็นว่าความสัมพนั ธร์ ะหว่างวฒั นธรรมองคก์ ร ดา้ นวัฒนธรรมทเี่ นน้ การปฏิบตั งิ านเปน็ ทมี กับการปฏิบัติงาน ดา้ นวัฒนธรรมท่ีเน้นการปฏบิ ัติงานเปน็ ทมีการปฏบิ ตั งิ าน Pearson Sig. ระดับความสัมพนั ธ์ ทศิ ทาง Correlation (2-tailed)1. ด้านลักษณะการปฏิบตั ิงาน 0.024 0.762 ไม่มคี วามสมั พนั ธ์ -2. ด้านนโยบายและการบริหารงาน 0.064 0.409 ไม่มีความสัมพันธ์ -3. ดา้ นผู้บังคับบัญชา 0.025 0.748 ไมม่ ีความสมั พนั ธ์ -4. ดา้ นสภาพแวดลอ้ มในการปฏบิ ตั งิ าน 0.007 0.933 ไมม่ คี วามสัมพนั ธ์ -5. ด้านความพึงพอใจในการปฏบิ ตั ิงาน 0.330 0.000* คอ่ นข้างตา่ เดียวกนั6. ด้านความก้าวหนา้ ในการปฏบิ ัติงาน 0.341 0.000* คอ่ นข้างตา่ เดยี วกัน7. ด้านความสมั พนั ธ์กบั เพ่ือรว่ มงาน 0.104 0.179 ไมม่ ีความสัมพนั ธ์ -8. ด้านขวญั และกาลังใจในการปฏบิ ตั ิงาน 0.217 0.005* คอ่ นข้างต่า เดียวกนั9. ดา้ นความมนั่ คงและความปลอดภัย - 0.034 0.662 ไม่มคี วามสมั พนั ธ์ -* มรี ะดับนยั สาคัญทางสถิติที่ 0.05จากตารางท่ี 4.41 ได้แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมองค์กร ด้านวัฒนธรรมท่ีเน้นการปฏิบัติงานเป็นทีมกับการปฏิบัติงานพบว่า ด้านวัฒนธรรมท่ีเน้นการปฏิบัติงานเป็นทีมมีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติงานด้านความพึงพอใจในการปฏฺบัติงาน ด้านความก้าวหน้าในการปฏิบัติงาน และด้านขวัญและกาลังใจในการปฏิบัติงานโดยมีผลต่างค่าเฉลี่ยเท่ากับ 0.330, 0.341,0.217 ตามลาดับ และมีค่า Sig. เท่ากับ 0.000, 0.000, 0.005 ตามลาดับ ซึ่งน้อยกว่า 0.05 และไม่สัมพันธ์กับด้านลักษณะการปฏิบัติงาน ด้านนโยบายและการบริหารงาน ด้านผู้บังคับบัญชาด้านสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงาน ด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน และด้านความมั่นคงและความปลอดภัย โดยมีผลต่างค่าเฉลี่ยเท่ากับ 0.024, 0.064, 0.025, 0.007, 0.104, -0.034 ตามลาดับและมคี า่ Sig. เท่ากับ 0.762, 0.409, 0.748, 0.933, 0.179, 0.662 ซงึ่ มากกวา่ 0.05

84ตารางที่ 4.42 แสดงใหเ้ หน็ ว่าความสมั พนั ธ์ระหว่างวัฒนธรรมองค์กร ด้านวฒั นธรรมที่เนน้ การแขง่ ขนั และการเอาชนะคู่แข่งทางธรุ กิจ กับการปฏิบัตงิ าน ดา้ นวฒั นธรรมท่เี น้นการแข่งขนั และการปฏิบัติงาน การเอาชนะค่แู ข่งทางธุรกิจ Pearson Sig. ระดบั ความสมั พนั ธ์ ทศิ ทาง Correlation (2-tailed)1. ดา้ นลกั ษณะการปฏบิ ตั งิ าน 0.067 0.386 ไม่มีความสัมพันธ์ -2. ด้านนโยบายและการบรหิ ารงาน 0.000 0.997 ไม่มคี วามสมั พันธ์ -3. ด้านผบู้ งั คับบญั ชา 0.208 0.007* ตา่ เดียวกัน4. ดา้ นสภาพแวดล้อมในการปฏิบตั งิ าน 0.001 0.993 ไมม่ คี วามสมั พันธ์ -5. ด้านความพงึ พอใจในการปฏิบัติงาน 0.106 0.173 ไมม่ ีความสมั พนั ธ์ -6. ดา้ นความกา้ วหนา้ ในการปฏบิ ัติงาน 0.087 0.262 ไมม่ ีความสัมพันธ์ -7. ดา้ นความสมั พนั ธก์ บั เพ่ือร่วมงาน 0.009 0.907 ไมม่ คี วามสมั พนั ธ์ -8. ดา้ นขวัญและกาลังใจในการปฏบิ ัตงิ าน 0.023 0.766 ไมม่ ีความสัมพนั ธ์ -9. ดา้ นความม่ันคงและความปลอดภัย 0.055 0.479 ไมม่ ีความสัมพนั ธ์ -* มรี ะดับนยั สาคญั ทางสถิตทิ ่ี 0.05จากตารางท่ี 4.42 ได้แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมองค์กร ด้านวัฒนธรรมทีเ่ นน้ การแข่งขนั และการเอาชนะคู่แข่งทางธุรกิจกับการปฏิบัติงานพบว่า ด้านวัฒนธรรมท่ีเน้นการแข่งขันและการเอาชนะคู่แข่งทางธุรกิจมีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติงานด้านผู้บังตับบัญชาโดยมีผลตา่ งค่าเฉลย่ี เท่ากับ 0.208 และมีค่า Sig. เท่ากับ 0.007 ลาดับ ซ่ึงน้อยกว่า 0.05 และไม่สัมพันธ์กับด้านลักษณะการปฏิบัติงาน ด้านนโยบายและการบริหารงาน ด้านสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงานด้านความพงึ พอใจในการปฏิบตั ิงานดา้ นความก้าวหนา้ ในการปฏิบัตงิ านด้านความสมั พันธ์กับเพ่ือร่วมงานด้านขวัญและกาลังใจในการปฏิบัติงานและด้านความมั่นคงและความปลอดภัย โดยมีผลต่างค่าเฉลี่ยเท่ากับ -0.067, 0.000, 0.001, 0.106, 0.087, 0.009, 0.023, 0.055 ตามลาดับ และมีค่า Sig. เท่ากับ 0.386,0.997, 0.993, 0.173, 0.262, 0.907, 0.766, 0.479 ตามลาดับ

85ตารางท่ี 4.43 แสดงใหเ้ หน็ ว่าความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งวฒั นธรรมองค์กร ดา้ นวัฒนธรรมท่เี นน้ ความมนั่ คง กับการปฏิบัตงิ าน ด้านวัฒนธรรมทเี่ น้นความม่ันคงการปฏิบัติงาน Pearson Sig. ระดับความสัมพนั ธ์ ทศิ ทาง Correlation (2-tailed)1. ด้านลกั ษณะการปฏิบตั ิงาน 0.067 0.390 ไม่มคี วามสมั พันธ์ -2. ด้านนโยบายและการบรหิ ารงาน - 0.163 0.035* ต่า ตรงข้าม3. ด้านผู้บังคับบัญชา 0.070 0.369 ไม่มีความสัมพนั ธ์ -4. ดา้ นสภาพแวดล้อมในการปฏบิ ตั ิงาน 0.053 0.491 ไมม่ คี วามสัมพนั ธ์ -5. ดา้ นความพึงพอใจในการปฏิบตั ิงาน 0.012 0.874 ไม่มีความสัมพนั ธ์ -6. ดา้ นความก้าวหนา้ ในการปฏิบตั ิงาน 0.199 0.010* ตา่ เดียวกนั7. ด้านความสมั พนั ธ์กับเพื่อรว่ มงาน 0.044 0.575 ไม่มีความสมั พนั ธ์ -8. ด้านขวญั และกาลังใจในการปฏิบัตงิ าน 0.074 0.340 ไม่มีความสัมพนั ธ์ -9. ด้านความม่ันคงและความปลอดภยั 0.243 0.002* ค่อนข้างต่า เดียวกัน* มีระดบั นัยสาคญั ทางสถิติที่ 0.05จากตารางท่ี 4.43 ได้แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมองค์กร ด้านวฒั นธรรมทเี่ น้นความมั่นคงกับการปฏิบัติงานพบว่า ด้านวัฒนธรรมท่ีเน้นความม่ันคงมีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติงานด้านนโยบายและการบริหารงาน ด้านความก้าวหน้าในการปฏิบัติงาน และด้านความม่ันคงและความปลอดภัยโดยมีผลต่างค่าเฉลี่ยเท่ากับ -0.163, 0.199, 0.243 และมีค่า Sig. เท่ากับ0.035,0.010,0.002 ซึ่งน้อยกวา่ 0.05 และไม่สัมพนั ธ์กับด้านลักษณะการปฏิบัติงาน ด้านผู้บังคับบัญชาด้านสภาพแวดลอ้ มในการปฏบิ ัตงิ าน ด้านความพงึ พอใจในการปฏิบตั งิ าน ดา้ นความสัมพนั ธ์กับเพื่อนรว่ มงาน และด้านขวญั และกาลงั ใจกาลงั ใจในการปฏบิ ตั ิงาน โดยมีผลตา่ งคา่ เฉลย่ี เทา่ กบั 0.067, 0.070,0.053, 0.012, 0.044, 0.074 ตามลาดับและมีค่า Sig. เท่ากับ 0.390, 0.369, 0.491, 0.874, 0.575, 0.340ซึง่ มากกว่า 0.05

86ตารางที่ 4.44 แสดงให้เห็นวา่ ความสัมพันธร์ ะหวา่ งวัฒนธรรมองค์กร ด้านวัฒนธรรมทเ่ี น้นนวัตกรรมและการยอมรับความเสี่ยง กับการปฏบิ ตั งิ าน ดา้ นวฒั นธรรมที่เน้นนวัตกรรมและการปฏิบตั งิ าน การยอมรบั ความเส่ียง Pearson Sig. ระดับความสัมพันธ์ ทิศทาง Correlation (2-tailed)1. ด้านลกั ษณะการปฏบิ ัตงิ าน 0.046 0.554 ไมม่ ีความสมั พนั ธ์ -2. ดา้ นนโยบายและการบริหารงาน 0.129 0.096 ไม่มีความสัมพันธ์ -3. ดา้ นผบู้ งั คบั บญั ชา - 0.190 0.014* ต่า ตรงขา้ ม4. ดา้ นสภาพแวดลอ้ มในการปฏิบัตงิ าน 0.165 0.032* ตา่ เดยี วกัน5. ด้านความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน 0.215 0.005* คอ่ นขา้ งต่า เดยี วกนั6. ด้านความกา้ วหน้าในการปฏิบัตงิ าน - 0.034 0.659 ไม่มีความสัมพันธ์ -7. ด้านความสมั พันธก์ บั เพ่อื รว่ มงาน 0.158 0.041* ตา่ เดยี วกัน8. ด้านขวัญและกาลังใจในการปฏบิ ัติงาน 0.070 0.364 ไมม่ คี วามสัมพันธ์ -9. ด้านความม่ันคงและความปลอดภยั - 0.103 0.185 ไมม่ ีความสัมพันธ์ -* มีระดบั นยั สาคัญทางสถติ ทิ ่ี 0.05จากตารางท่ี 4.44 ได้แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมองค์กร ด้านวัฒนธรรมท่ีเน้นนวัตกรรมและการยอมรับความเสี่ยงกับการปฏิบัติงานพบว่า ด้านวัฒนธรรมท่ีเน้นนวัตกรรมและการยอมรับความเส่ียงมีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติงานด้านผู้บังคับบัญชา ด้านสภาพแวดล้อมในการปฏบิ ัติงาน ด้านความพึงพอใจในการปฏบิ ัติงาน และด้านความสัมพนั ธ์กับเพ่ือนร่วมงาน/โดยมีผลต่างค่าเฉลี่ยเท่ากับ -0.190, 0.165, 0.215, 0.158 และมีค่า Sig. เท่ากับ 0.014, 0.032,0.005, 0.041 ตามลาดับซ่ึงน้อยกว่า 0.05 และไม่สัมพันธ์กับด้านลักษณะการปฏิบัติงาน ด้านนโยบายและการบริหารงาน ด้านความก้าวหนา้ ในการปฏิบัติงาน ด้านขวัญและกาลังใจในการปฏิบัติงาน และด้านความม่ันคงและความปลอดภัย โดยมีผลต่างค่าเฉล่ียเท่ากับ 0.046, 0.129, -0.034, 0.070, -0.103ตามลาดับและมีค่า Sig. เท่ากบั 0.554, 0.096, 0.659, 0.364, 0.185 ซ่งึ มากกวา่ 0.05

บทท่ี 5 สรุปผลการวิจยั การอภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ ในการศึกษาปัจจัยวัฒนธรรมในองค์กรที่มีผลต่อการปฏิบัติงานของพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์มีวัตถุประสงค์เพ่ือ (1) ศึกษาด้านประชากรศาสตร์ท่ีมีผลต่อการปฏิบัติงานของพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์เขตนครสวรรค์ (2)ศึกษาวัฒนธรรมในองค์กรท่ีมีผลต่อการปฏิบัติงานของพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์ (3)ศึกษาการปฏิบัติงานของพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์เขตนครสวรรค์ โดยกลุ่มตัวอย่างท่ีใช้ในการศึกษาได้แก่ พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เขตนครสวรรค์จานวน 168 คนเคร่ืองมือท่ีใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสอบถามและวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติค่าร้อยละค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานโดยใช้สถิติ /Independent/Sample/t-test,/One-way/ANOVA/(F-test)/และใช้สถิติสหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน (Pearson Product MomentCorrelation Coefficient) ซึง่ ผศู้ ึกษาไดส้ รุปผลการวิจัยทง้ั หมด 4ส่วนดงั นี้ สว่ นที่ 1 ข้อมลู สว่ นบุคคลของผูต้ อบแบบสอบถาม สว่ นที่ 2 ขอ้ มลู วัฒนธรรมองค์กรธนาคารไทยพาณชิ ย์ เขตนครสวรรค์ สว่ นที่ 3 ขอ้ มลู เกีย่ วกับการปฏบิ ตั งิ าน ส่วนที่ 4 การวเิ คราะห์ข้อมูลเพือ่ ทดสอบสมมติฐาน5.1 สรปุ ผลการวจิ ยั ส่วนที่ 1 ข้อมูลสว่ นบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม ข้อมลู ส่วนบุคคลของผูต้ อบแบบสอบถาม จากผลการศึกษาครง้ั นี้ พบว่า ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงสถานภาพโสด อายุ 26 - 30 ปี ระดับการศึกษาปริญญาตรี ตาแหนง่ งานพนกั งานธุรกจิ อายุงาน 1 - 5 ปี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook