Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore info วงจรชีวิตข้าว g1314

info วงจรชีวิตข้าว g1314

Published by lawanwijarn4, 2022-01-14 13:53:31

Description: info วงจรชีวิตข้าว g1314

Search

Read the Text Version

1 เตรียมดนิ ไถดะ/ไถแปร สภาพภมู ิอากาศแปรปรวน ภัยธรรมชาติท่รี นุ แรง นา้ํ ทะเลกดั เซาะตลงิ่ และชายหาดท่ัวโลก 2 เพาะเมล็ด ขังนํา ผลกระทบด้านสุขภาพ ภาวะโลกรอ้ น เปน็ บรเิ วณกว้าง คราด/ลูกทบุ ทาํ นาดาํ เปน็ ตน้ กล้า ระดบั นาํ ทะเล เพิ่มสูงขึน 3 ให้ดินแตกตวั ถอนต้นกล้าไปปักดําในนาทีเ่ ตรียมไว้ สาร อากาศ กาํ จัดแมลงมผี ลต่อ 1 เตรียมดินเหมอื นปักดาํ เน้นกําจัด แมลงทเ่ี ปน็ สัตว์ นํา การรกุ ลาํ้ ของ วชั พืช ปรับระดับเทอื กใหเ้ รียบ ประโยชนต์ ่อระบบ นํา้ ทะเลตาม 2 เพาะเมลด็ แช่และหุม้ เมลด็ นเิ วศ เชน่ ตวั ห้ํา แนวชายฝ่ั ง 3 ตวั เบยี น ปลอ่ ยนาํ แปลงกลา้ ให้แหง้ ตกกลา้ หวา่ นเมลด็ ทําเทือกให้เรยี บสม่าํ เสมอ บนดินเปยี ก กว่าจะไดข้ ้าวสาร มาเปน็ อาหารหลักของเรา หว่านเมล็ดพันธ์ให้ นาํ เนา่ เสียทาํ ให้ นา้ํ แปรสภาพ เปน็ กรด กระจายสม่ําเสมอ อากาศไมเ่ พียงพอ ปั ญหาส่ิงแวดล้อมจาก วงจรชวี ติ ของข้าวสาร ฝนตกมากขนึ สีขา้ ว ต่อการดํารงชีวิต อากาศ นาํ ดิน เก็บรกั ษา 6 4 ไขนําเข้าท่วมแปลง ของพืช สัตว์นาํ เผาตอซงั ขา้ ว คุณภาพดนิ ฟางขา้ ว ดแู ลรักษา 5 ใส่ปุ๋ยเคมี ข้าว 1 กก. เส่ือมโทรม ใชน้ ํา 2,497 ลติ ร ใช้สารป้องกันและกาํ จดั ศัตรขู า้ ว ปริมาณการใช้นํา ขนย้าย 1 ทาํ ความสะอาด แยกสิ่งแปลกปลอม นาํ เสีย ผลผลติ ใช้ตะแกรงรอ่ น ลมเป่า เคร่ืองจกั ร โรงเก็บไม่ 2 กะเทาะเปลอื ก ขา้ วกลอ้ ง สารเคมี เผาตอซงั CO2 ควบคมุ ปนเปอื นแหลง่ นํา ฟางขา้ ว CO อณุ หภมู ิ แยกแกลบออกจากเมล็ดข้าว ธาตอุ าหาร ฝุ่นละออง ควนั NO2 ถกู ทําลาย (N P K) โรงเกบ็ 3 ขัดขาว/ขดั มัน รําข้าว และ โรงเก็บ ควบคุม โรงเกบ็ ควบคมุ อณุ หภมู ิ 4 คัดขนาด ปลายข้าว ทาํ นาแบบนาํ ท่วมนา ทาํ นาตอ่ เน่อื งไมพ่ ักดนิ ใชส้ ารเคมีป้องกันกําจดั ศัตรพู ืช ความชนื ควบคุม ความชนื และความชนื สัมพัทธ์ ข้าวสาร ต้นข้าว วัชพืช เนา่ เสีย ธาตอุ าหารถกู ใชห้ มด เกิดการตกค้าง แพร่กระจาย สัมพัทธ์ อุณหภมู ิ สัมพัทธ์ ใส่ปุ๋ยเคมีไมส่ มดุล

กวา่ จะไดข้ า้ วสารมาเปนอาหารหลกั เรา ปญหาสิงแวดลอ้ มจากวงโคจรของขา้ ว ดนิ และนํา ปญหาทางดนิ และนาํ เตรยี มดนิ กําจัดวชั พืช เชน่ การตกกล้า การเพาะเมล็ด ดนิ พันธ์ุ ปลกู ใส่ปยุ เคมี ใช้สารเคมีทําใหม้ สี ารพิษตกค้างในดนิ ทํานาแบบไมพ่ ักหน้าดนิ สารเคมี เผาตอซังข้าว ใช้สารปองกนั กาํ จดั โรคแมลงศัตรูขา้ ว ใช้ปยุ เคมเี พือความอุดมสมบรู ณ์ นํา การทาํ นาปลกู ขา้ วเพือแปรรูปเปนอาหารหลัก เปนกจิ กรรมทีใช้ อากาศ ทรพั ยากรนาํ อยา่ งมาก ส่งผลโดยตรงตอ่ การปล่อยกา๊ ซCO2ทําใหเ้ กิดโลกรอ้ น ปญหาทางสารเคมี ควบคมุ อณุ หภูมิและความชืน นํามกี ารปนเปอน พืชและแมลงตาย เครอื งจกั ร อากาศเสียเนอื งจากมีกลนิ เหมน็ ของนาํ เน่า ขันตอนการสีขา้ ว ; เครอื งกะเทาะ โรงสี ปญหาทางอากาศ ขันตอนการปลกู ; รถไถ รถแทรกเกอร์ ฝนุ ละอองจากการเผาตอซงั ข้าว ขันตอนการเก็บรกั ษา ; ตู้เยน็ โซโลทีมีการเปาลมเยน็ ก๊าซจากการเผาตอซังขา้ ว แรงงานมนุษย์ ปญหาเกยี วกับพลงั งาน ใชแ้ รงงานในการปลกู ข้าว ควบคมุ เครอื งจกั รและโรงสี ในอตุ สาหกรรมข้าวมกี ารใช้พลังงานในปริมาณทีเยอะ อาจทาํ ให เกิดการขาดแคลนพลงั งาน 6400730 นางสาวธัญชนก วังจาํ นงค์

ก ว า จ ะ ไ ด ข า ว ส า ร ม า เ ป น อ า ห า ร ห ลั ก ข อ ง เ ร า ป ญ ห า ส่ิ ง แ ว ด ล อ ม จ า ก ว ง จ ร ชี วิ ต ข า ว ส า ร ใ ช ท รั พ ย า ก ร แ ล ะ ส่ิ ง แ ว ด ล อ ม อ ะ ไ ร บ า ง ? 1.ดิน 1.ปญหาทางน้าํ เกิดจากอะไร ? การตกกลา ** ขาวสาร 1 กิโลกรัมนั้นพบวา มีการใชน้ําถึง 2,497 ลิตร ** - เตรียมดินกาํ จัดวัชพืช นํา้ เสียจากนาขาว เกิดข้ึนในข้ันตอนการทํานา การสีขาว - มีการระบายน้าํ ออกจากพื้นท่ีนํา้ พรอม ๆ กัน - เกิดส่ิงปฏิกูล เชน เศษฟาง หญา วัชพืช - น้าํ มีการปนเปอนของธาตุอาหารสวนเกิน การทํานาดํา - มีการปนเปอนสารเคมีหลายชนิด - เตรียมดิน >>> พลิกหนาดิน : ไถดะ , >>> ยอยดิน คลุกฟาง + วัชพืช : ไถแปร 2.ปญหาทางดิน เกิดจากอะไร ? 2.สารเคมี การเผาตอซังและฟางขาว ปุยเคมี - ทําลายแรธาตุในดินทําใหความอุดมสมบูรณของดินลดลง การกําจัดวัชพืช การทาํ นาอยางตอเนื่องไมมีการพักดิน การกําจัดศัตรูพืช - ทาํ ใหสมดุลของดินลดลง การกําจัดโรค การใชสารเคมีปองดันกาํ จัดศัตรูพืช ปรับปรุงดิน - เกิดการตกคางและแพรกระจายในดิน - ทาํ ลายสิ่งมีชีวิตท่ีเปนประโยชนหรือจุลินทรียในดิน 3.อากาศ 3.ปญหาทางอากาศ เกิดจากอะไร? สภาพภูมิอากาศท่ีเหมาะสมกับการปลูกขาว การเผาไหมตาง ๆ เชน การเผาตอซังฟางขาว ทาํ ใหเกิดฝุนละออง 4.นํา้ ภาวะโลกรอน การที่อุณหภูมิเฉลี่ยของผิวโลกและผืนมหาสมุทรเพ่ิมสูงขึ้น ซึ่งเกิดจากกาซเรือนกระจกสะสมอยูในช้ันบรรยากาศมีมากจนเกินสมดุล การตกกลา >>> ใหนาํ้ ทําหนาที่หอหุมโลกเอาไวคลายๆเรืิอนกระจกหรือ Green house การสีขาว ผลกระทบตอโลก - ผงรําขาว + นํา้ = นาํ้ เนาเสีย - ระดับนํ้าทะเลสูงข้ึน - ฝนตกมากขึ้น - สภาพภูมิอากาศแปรปรวน - น้าํ ระบายท้ิงจากหมอไอนา้ํ - การรุกรํ้าของนาํ้ ทะเลตามแนวชายฝง - นํ้าทะเลกัดเซาตลิ่งและชายหาด - นํา้ แปรสภาพเปนกรด - ภัยธรรมชาติท่ีรุนแรงและเกิดขึ้นตอเน่ือง 5.พลังงาน (แรงงาน , เคร่ืองจักรกล) การไถนา การใชคราด / ลูกทุบ การหวานเมล็ดพันธุ การสีขาว

“กวา่ จะไดข้ า้ วสารมาเปนอาหารหลกั “ปญหาสงิ แวดลอ้ มจาก ของเรา”ต้องใช้ทรพั ยากรธรรมชาติ วงจรชวี ติ ของข้าวสาร” และสิงแวดลอ้ มอะไรบา้ ง ดนิ ปญหาทางดา้ นอากาศ ดนิ เป็นส่ิงท่ีจําเป็นมากๆในการปลุก ปญหาทางดา้ นนํา ทาํ ใหเกิดฝุนละออง ควัน ขาวเพราะมันเป็นทีเ่ พาะปลุกและเป็น จากการเผาซังตอ การขนสง ทย่ี ึดตดิ และเจริญเติบโตตอ ไป ดว ยเคร่ืองยนต อากาศและแสงอาทติ ย์ นาํ ในการทํานาจะมีการใชน้ําในปรมิ าณมากสงผล ถงึ Water Footprint ในการปลูกขา วจะตอ งมี แนนอนอยูแลว วาการปลูก Blue Water Footprint ผวิ น้ําจากแหลง สภาพภูมอิ ากาศท่เี หมาะสม ขาวตองมนี ้ําเป็นสว นใหญ ธรรมชาติ ตงั้ แตเริม่ ปลกู จนถงึ ขนั้ ตอน Green Water Footprint น้ําจากความช้นื ในดิน สดุ ทายก็ยงั จําเป็นตองใชน้ํา Gray Water Footprint น้ําทเี่ นาเสยี ปญหาทางดา้ นสารพิษ แรงงาน ปญหาทางด้านดิน เชน ยากาํ จัดหญา แมลง ยาเรง รวง ขา ว ซ่งึ สารพิษจากยาพวกนี้ตกคา งอยู แรงงานเป็ นส่ิงท่ีจําเป็ นเชน สารเคมี เดียวกนั เพราะตองเป็นผทู ค่ี อย ในดนิ และแหลงน้ําทําใหด นิ และน้ําเสีย ดแู ล กาํ จดั วัชพชื เชน การเผาซงั ตอ การเผาฟาง การ รวมไปถึงสัตวน ้ําดวยท่ตี าย สารเคมใี นทนี่ ี้ ไดแ ก ไมพักดนิ สารเคมตี กคาง การกระทํา สารเคมีทีม่ สี ารพิษตอ เครองกล ส่ิงแวดลอม แตบ าง ทัง้ หมดนี้ทําใหดินเสียสภาพการเพาะ พ้นื ทกี่ ็จะมีการใสพวก ไดแก รถไถนา รถเกี่ยวขาว รถขนสง ป ุยขคี้ วาย หรอื ขีไ้ ก ปลูกกจ็ ะยากข้นึ ไปดว ย ภาวะโลกร้อน ทําใหค วามรอนสะทอ นออกจากโลกไมไ ด สาเหตมุ าจาก ใชป ุย ทม่ี ี N น้ําขงั ในนา การเผาฟางหรอื ซังตอ และอาจจะสงผลทบ ไปถึงภยั ธรรมชาติ อากาศแปรปรวน

6402431

กวา่ จะได้ขา้ วสารมาเปนอาหารหลักของเรา ปญหาสงิ แวดล้อมจากวรจรชวี ติ ของขา้ วสาร การเตรยี มดิน การไถดะและไถแปร นาํ เสยี จากการทํานา ปญหากียวกับนาํ ไถดะ พลิกหน้าดินเพอื กําจัดวชั พชื ใชน้ าํ ในปรมิ าณมาก ไถแปร ไถครงั ที 2 เพอื ยอ่ ยดิน ใชแ้ รงงานสตั ว์ รถแทรกเตอร์ 1.การเผาตอซงั และฟางขา้ วทําให้ คณุ ภาพดินเสอื มโทรม ความอุดมสมบูรณข์ องดินลดลง การคราด/ใชล้ กู ทบุ กําจัดวชั พชื ทําให้ดินแตกตัว การตกกล้า มขี นั ตอนดังนี การเตรยี มดิน การให้นาํ 2.การทํานาอยา่ งต่อเนอื งไมม่ กี ารพกั ดิน การเพาะเมล็ดพนั ธุ์ การใสป่ ุยเคมี 3.การใชส้ ารเคมปี องกันกําจัดศัตรูพชื การหวา่ นเมล็ด การดแู ลรกั ษา เกิดฝุนละออง ควนั ก๊าซต่างๆ อากาศเสยี กรรมวธิ กี ารสขี า้ ว 1.ทําความสะอาดขา้ วเปลือก เกิดก๊าซเรอื นกระจก ทีสาํ คัญ 7 ชนดิ ภาวะโลกรอ้ น 2.การกะเทาะเปลือก 3.การขดั ขาว/ขดั มนั 1.ก๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์ 2.ก๊าซมเี ทน 4.การคัดขนาดขา้ วสาร 3.ก๊าซไนตรสั ออกไซด์ 4.ก๊าซไฮโดรฟลอู อโรคารบ์ อน การเก็บรกั ษาขา้ ว 1.เก็บในสภาพปกติ 5.ก๊าซเปอรฟ์ ลอู อโรคารบ์ อน 2.เก็บในสภาพทีมกี ารควบคมุ อุณหภมู ิ 6.ก๊าซซลั เฟอรเ์ ฮกซะฟลอู อไรด์ เพยี งอยา่ งเดียว 3.เก็บในสภาพทีมกี ารควบคมุ ความชนื 7.ก๊าซไนโตรเจนไตรฟลอู อไรด์ สมั พทั ธข์ องอากาศ 4.เก็บในสภาพทีมกี ารควบคมุ อุณหภมู แิ ละ 6403539 นางสาวอนันตญา ไพโรจน์ ความชนื สมั พทั ธข์ องอากาศ การขนยา้ ยผลผลิตขา้ วสาร ใชพ้ ลังงานในการเคลอื นยา้ ย ทังสนิ



กวา่ จะไดข้ ้าวสารมาเปนอาหารหลกั ของเรา ปญหาสิงแวดล้อมจากวงจรชวี ติ ข้าวสาร \"ใชท้ รพั ยากรธรรมชาติและสงิ แวดล้อมอะไรบา้ ง\" 01. ปญหาเกียวกบั นาํ ในการทํานาปลกู ข้าวจนแปรรูปเปนข้าวสาร1Kg. 1.ดนิ ใชน้ ําถึง2,479Lซงึ เปนปรมิ าณทีมากพอสมควร นําเสยี จากการทาํ นา ใช้เปนพนื ทใี นการปลูกขา้ ว -มลพิษนาขา้ วจากการเนา่ เสียของตน้ ขา้ ว รวงข้าว วัชรพชื ตา่ งๆ -การระบายนาํ ออกจากพืนทนี าพรอ้ มๆกนั และนาํ ทีขังในแปลงนาจะทําให้นาํ เน่าเสยี ได้ การตกกลา้ เตรยี มดนิ กาํ จัดวชั รพชื และปรบั ดนิ ให้เรยี บ -นาํ มีการปนเปอนสารเคมี การเตรยี มดินมี2ขนั ตอน 1.ไถดะ:พลกิ หนา้ ดินครงั แรกเพือกําจดั 02. ปญหาเกยี วกบั ดนิ 2.นํา วชั รพืชแล้วตากดินให้แห้ง ดนิ มสี ภาพเสือมโทรม แชเ่ มล็ดพนั ธุ์ 2.ไถแปร:ไถครงั ที2เพอื ย่อยดินและ -การเผาซอตงั และฟางขา้ ว:ธาตอุ าหารในดินถกู ทําลาย ตกกลา้ บนดินเปยก วชั รพชื ลงไปในดนิ ความอดุ มสมบรู ณ์ของดินจงึ ลดลง -การทาํ นาอย่างตอ่ เนืองโดยไม่พกั :เกดิ การดดู ซบั สารอาหารในดนิ มาก 3.อากาศ เกินไป -การใช้สารเคมปี องกันกาํ จดั ศตั รูพืช:เกดิ การตกค้างของสารเคมแี ละ ตอ้ งมีสภาพอากาศและอุณหภมู เิ หมาะสมสําหรบั การ แพรก่ ระจายในดนิ หว่านเมล็ดข้าว 03. ปญหาเกยี วกับอากาศ การเผาตอซังฟางขา้ ว:ทําให้เกดิ ควนั และก๊าซต่างๆ เชน่ CO NO₂ ซึงกา๊ ซ ควบคุมอุณหภมู ิและความชืนสมั พทั ธใ์ นการเก็บเมลด็ ทงั 2ชนดิ นี ทาํ ใหเ้ กิดกา๊ ชเรอื นกระจกและปญหาโลกรอ้ นอีกดว้ ย ภาวะโลกรอ้ น:ทําให้อุณหภมู ิเฉลยี ผวิ โลกและมหาสมุทรเพมิ ขนึ ซึงเกดิ จาก ขา้ ว ก๊าซเรอื นกระจกทีสะสมในชันบรรยากาศมากเกินไป ผลกระทบจากภาวะโลกรอ้ น 4.สารเคมี -ระดับนําทะเลเพมิ สูงขึน:เกิดจากธารนาํ แข็งละลายอย่างรวดเรว็ ปุย -ผลกระทบดา้ นสขุ ภาพ -นาํ ทะเลกดั เซาะตลงิ และชายหาดทวั โลกเปนบรเิ วณกว้าง การกําจัดศตั รูพชื และวัชรพชื -ภัยธรรมชาติทีรุนแรงและตอ่ เนืองรวมถงึ ฝนตกมากขนึ การปรบั ปรุงดิน การกาํ จัดโรค 5.พลังงาน แรงงานคน เครอื งจกั รกล การคราดหรอื ใช้ลกู ทบุ การตกกลา้ ดว้ ยเครอื งปกดําขา้ ว การสีขา้ ว รวมถงึ การสง่ ออกและจาํ หน่าย



กวาจะไดข า วสารมาเปน อาหารหลักของเราใช ปญ หาส่งิ แวดลอมจากวงจรชวี ติ ทรัพยากรและส่ิงแวดลอมอะไรบาง ขา วสาร ดิน การเตรียมดินในการปลูกข้าวดินทีใช้ปลูก ควรเปนดินเหนียวกึงดินร่วนเปนทีราบลุ่ม และสามารถอุ้มนําได้ดี นาํ เปนปจจัยทีข้าวขาดไม่ได้ดังนันจึงควร ศัตรูพื ช ปญหานาํ ไม่พอใช้เช่น เช่น แมลงต่างๆ หอยเชอรรี ฝนไม่ตกตามฤดูกาล นํามีแหล่งนาํ ไว้ใช้สําหรับปลูกข้าว เปนต้น อ า ก า ศสภาพภูมิอากาศสําหรับปลูกข้าวต้องปลูก ปญหาดินเปรียวดินไม่อุ้มนาํ ในระยะเวลาทีเหมาะสมกับช่วงทีมีฝน ไม่ซึงไม่เหมาะแแก่การเพราะ สมาํ เสมอ แสงเปนสิงจาํ เปนสําหรับการเจริญเติบโต ปลูกข้าว ของพื ชทุกชนิดข้าวก็จาํ เปนต้อง แ ส งสังเคราะห์แสงเช่นกัน

ทรพั ยากรทใี ช้ ปญหาทเี กดิ จาก กวา่ จะไดข้ ้าวสาร การผลติ ข้าวสาร ทาํ นา ส่ งข้าว โลกรอ้ น ทางนา แรงงานคน นํ้า พลังงานจาก ภยั ธรรมชาติ สงผลเสีย นํ้าเสีย เคร่ ืองกล ใชปรมิ าณนํ้า แรงงานสตั ว ป ยุ เคมี ฝนตกหนั ก ตอ สุขภาพ มากเกนิ ไป อากาศ ดิน นํ้าแปร ดนิ เสือม นํ้าทะเล เป็ นกรด เกบ็ ข้าว สี ข้าว กดั เซาะตล่งิ อากาศ แปรปรวน ยงุ ฉาง ธนาคาร ตะแกรงกรอง อากาศเสี ย เผาตอซงั และฟางขาว เชือ้ พนั ธุ นํ้า หลายขนาด การทํางานตอ เน่ือง ไมพ กั ดิน ภาชนะท่ี เผาตอซงั ขาว ใชสารเคมปี  องกนั กําจัดศตั รพู ืช เก็บมิดชิด ตูเยนหรือ นํ้ามัน เคร่ ือง ไซโลเกบ็ ขา ว ตะแกรงรอน กะเทาะ

การเตรยี มดนิ การสีขา ว การไถตะ,ไถแปร - ใชพลังจากเคร่อื งจกั รกล ใชพ ลังงานจากเครอ่ื งจักร,ใชนา้ํ จากการแชข าว - ใชแ รงงานสัตว ขน้ั ตอน 1.ทาํ ความสะอาดขา วเปลอื ก การคราด,ใชล กู ทุบ - ใชพ ลังงานจากเครอ่ื งจกั ร 2.การกะเทาะเปลอื ก - แรงงานคน 3.การขัดขาวและขัดมัน 4.การคัดขนาดขา วสาร การตกกลา - ใชแรงงานคน,ใชนา้ํ ,ใชด นิ ,ใชสารเคมี กวาจะไดขา วสารมาเปน อาหารหลักของเรา การจัดเกบ็ การบรรจุถงุ วธิ ีการจัดเกบ็ - การขนยา ยผลผลิตในทุกข้นั ตอนมกี ารใชเ ครอื่ งจกั รกล 1.การเก็บในสภาพปกติ - ใชพลังงานในการเคลอื่ นยาย 2.สภาพที่มีการควบคุมอณุ หภูมเิ พียงอยางเดียว 3.มกี ารควบคุมความช้ือสัมพทั ธข องอากาศ 4.มีการควบคมุ อุณหภมู ิและความชอ้ื สมั พัทธของอากาศ

ปญ หาทางดนิ ปญ หาทางนํา้ 1.การเผาตอซังและฟางขา ว ขาวสาร 1 Kg. มีการใชน ้ําถึง 2,497 L. - ทาํ ลายแรธ าตุในดนิ ทําใหความอดุ มสมบูรณข องดนิ ลดลง น้าํ เสียจากนาเกดิ ขน้ึ ในข้ันตอนการทํานา 2.การทาํ นาอยา งตอ เน่ืองไมมกี ารพกั ดิน - มีการระบายนํา้ ออกจากพืน่ ท่นี า้ํ พรอมๆกนั - เปนการดูดซับธาตอุ าหารในดินไปใชม ากเกินกวา การทดแทนตามธรรมชาติ - น้าํ มกี ารปนเปอ นของธาตุอาหารสวนเกิน - สมดุลของดนิ ลดลง - ปนเปอ นสารเคมีหลายชนิด 3.การใชส ารเคมปี อ งกันกําจัดศตั รูพชื -เกิดการตกคา งและแพรก ระจายในดนิ -ทําลายสิง่ มีชีวติ ทเ่ี ปนประโยชนห รือจุลินทรียใ นดิน ปญ หาส่งิ แวดลอ มจากวงจร ชวี ิตของขา วสาร ปญหาทางอากาศ การเผาไหมต า งๆ เชน การเผาตอซังฟาง ภาวะโลกรอน ผลกระทบตอ โลก ขา ว การท่ีอุณหภูมเิ ฉลี่ยของผิวโลกและผืน - ระดบั นํ้าทะเลเพมิ่ สงู ข้นึ - เกดิ ฝุน ละออง มหาสมุทรเพ่ิมสงู ข้ึน ซ่งึ เกดิ จากกา ซเรือน - การรุกลา้ํ ของน้าํ ทะเลตามแนวชายฝง - เกิดกาซคารบอนมอนออกไซด,ไนโตรเจน กระจกสะสมอยูในช้นั บรรยากาศมีมากจน - นํา้ ทะเลกัดเซาะตลง่ิ และชายหาดทว่ั โลก ไดออกไซด,กาซเรือนกระจก เกิดสมดุล ทาํ หนา ทีห่ อหมุ โลกเอาไวค ลายๆ - สภาพภูมิอากาศแปรปรวน - เกิดภาวะโลกรอ น - นาํ้ แปลสภาพเปน กรด เร่ือนกระจก - ผลกระทบดานสขุ ภาพ



ก ว่ า จ ะ ไ ด้ ข้ า ว ส า ร ม า เ ป น อ า ห า ร ห ลั ก Search พลงั งาน เครองจักร ปญหาทางดนิ การใชต ะแกรงคัดขา วสาร การเตรยี มดนิ การทาํ นาแบบไมพักหน าดิน การใชแรงงานขากชาวนาและเคร่อื งจกั รขนยายขาว การไถดะ ใชรถไถเดินตามหรอื รถแทรกเตอร การใชสารเคมีทําใหม ีสารพษิ ตกคา งในดนิ การกะเทาะเปลือก(แกลบ)ออกจากเมลด็ การคาด ใช ลูกทุบและเคร่อื งไถพรวนจอบ ดินขาดความอุดมสมบูรณทําใหหน าดนิ การทําความสะอาดขาเปลอื กโดยใชต ะแกรง หมนุ เสียหาย รอน ลมเปา หรอื เคร่ืองจักร การตกกลา ปญ หาสงิ่ แวดลอ มจาก การสขี าว วงจรชวี ติ ของขา วสาร ปญหาคุณภาพดนิ เสอื มโทรม โรงสี ใชเ คร่อื งทําความสะอาดขา วเปลอื ก และเคร่ืองกระเทาะเปลอื ก การใชย ากําจัดศัตรพู ืชการใชป  ยุ เคมี การเกบ็ รักษาขา ว การทาํ นาอยา งตอ เน่ืองไมม กี ารพกั ผอ น การควบคมุ อุณหภูมใิ ชไ ซโลเก็บขาว การเผาตอซงั และขา วฟาง ทีม่ ีการเปาลมเย็น ใชท รพั ยากรและสง่ิ แวดลอ มอะไรบา ง สารเคมี ดินและนํา ปญหาทางนํา ปญหาทางอากาศ การใชสารกาํ จดั โรคแมลงศตั รขู า ว ไขน้ําเขาทว มแปลงหวังหวา นเมล็ดเสร็๗ ขาวสาร 1 KG มกี ารใชน ้ําถงึ 2497 L เกดิ กาซเร่ือนกระจก การใสป  ยุ ในขนั้ ตอนการตกกลา แชเมลด็ พันธุ น้ําเสยี จากนาเกิดข้นึ ไดใ นขนั้ ตอนการทํานา การแกปั ญหาโรคขาว ปลกู ขา วในทล่ี มุ ขงั กาซคารบ อนไดออกไซด เกดิ จาการเผาไหม เชน ขาวแดง เมล็ดฟืบ ใชด นิ เป็นพ้ืนทใี่ นการปลูกขา ว น้ํามกี ารปนเป้ือนของธาตุอาหารสวนเกนิ เชน การเผาตอซงั ขา ว การขนยา ยผลผลิต เตรยี มดัวยการไถแปร เพ่ือยอยดนิ และคลกุ เคลาฟาง ปนเป้ือนสารเคมหี ลายชนิด กา ซมีแทน เกิดจากการยอ ยสลายของวัชพืช เตรียมดว ยการไถดะ เพ่อื พลกิ หน าดิน กําจดั วชั พืชและตากดิน มีการระบายน้ําจากพ้นื ที่น้ําพรอ มๆกัน ตนรวงขาวตน ขาว ขาวในขัน้ ตอนการไถนา และดาํ นา ไนตรัสออกไซด เกดิ จากการยอยสลายซากพชื ซากสตั ว ระหวางการปลกู ขาว การใชส ารเคมี ฟลอู อโรคารบอน ซัลเฟอรเ ฮกซะฟลอู อไรด และไนโตรเจนฟลอู อ ไรด

• ทาํ ความสะอาดขาวเปลือก • เก็บขาวในอากาศ • แชเ มล็ดพนั ธุ - การเผาตอซงั และฟางขา ว • ใชสาํ หรับการคราด - การทาํ นาอยา งตอ เนือ่ งไมม พี ัก • ขนยา ยขา ว ทม่ี อี ุณหภูมทิ ่เี หมาะสม • ไขนํา้ เขาทว มแปลง - การใชส ารเคมกี ําจัดศัตรูพืช ทําใหเ กดิ การตกคา งและแพรก ระจายในดนิ เครื่องจกั รกล อากาศ นาํ้ - การเผาตอซงั ฟางขาว ปญ หาทางดิน อากาศเสยี กว่าจะไดข้ า้ วสารเปนอาหารหลกั ของเรา ปญหาสงิ แวดล้อมจากวงจรชีวติ ของขา้ วสาร ใชท้ รพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิงแวดลอ้ มอะไรบา้ ง การใชน าํ้ ปริมาณมาก น้ําเสยี จากการทํานา ดนิ สารเคมี - ขา ว1กม. ใชน้ํา 2,497 ล. - นํา้ ที่ขงั ในแปลงนา - น้ํามกี ารปนเปอนดว ยสารเคมี • ใชใ นกาปลกู ขา ว • ใชกําจัดศตั รูพืช แรงงานคน - นาํ้ มีการปนเปอ นดว ยสารเคมี • ปก ตน กลาในดิน • การไถดและไถแปร • ใสปุยในขัน้ ตอนการตกกลา ปองกันกําจดั ศตั รู ในการเตรยี มดนิ

การไถดะ การปลกู ดว้ ยเมล็ดโดยตรง หลงั จากขา้ วออกดอก ดนิ นาํ การไถแปร การเพาะเมล็ดในทหี นึงกอ่ น - ดินเสือมคุณภาพ เกิดจากการเผาตอฟาง ทําให้เกิดฝนุ ละอองได้มาก การคลาด นําตน้ อ่อนไปปลกู ในทีอนื ชาวนาจะเรง่ ระบายนําออก - การปลกู ขา้ วจนถึงการแปรรูปมกี ารใชท้ รพั ยากร - การทํานาอยา่ งต่อเนืองไมพ่ ักดนิ นาํ มาก 1.การเตรยี มดนิ 2.การปลกู 3.การเกบ็ เกียว - การใช้สารเคมีปองกนั กาํ จดั ศัตรูพืช - เกิดนาํ เสียทีมาจากนําขงั ในแปลงที ทาํ ให้สารเคมตี กคา้ งในดนิ ทาํ ลายสิงมีชีวติ มีตน้ ข้าวเน่าเสีย ทีมีประโยชนห์ รอื จุลินทรยี ใ์ นดนิ 4.การนวดขา้ ว กว่าจะไดข้ า้ วสารมา 5.การเก็บรักษา ปญหาสิงแวดลอ้ มจากวงจร เปนอาหารหลักของเรา ชีวติ ของขา้ วสาร หลังจากตากขา้ ว ตากใหม้ ีความชืน เมล็ดขา้ วทนี วดทําความ ประมาณ 14 % สะอาดแลว้ อากาศ 1.อย่ใู นสภาพทมี อี ากาศ - มีการปลอ่ ยก๊าซเรือนกระจก ถา่ ยเทไดส้ ะดวก เช่น การเผาฟางข้าว และ การขนยา้ ยข้าว นวดเอาเมล็ดข้าว ก่อนนาํ เข้าเกบ็ ในยุ้ง ออกจากรวง ฉาง - ส่งผลใหโ้ ลกอณุ หภมู ิสูงขนึ และการเปลียนแปลงสภาพอากาศ 2.เมล็ดข้าวทีจะเกบ็ ไวท้ าํ พันธ์ุ ตอ้ งแยกจากเมลด็ ข้าวบริโภค

การทํานา การสขี า้ ว ปญหาทางนาํ ปญหาดินเสอื มโทรม - เ ต รีย ม ดิ น ใ ช้ นาํ ดิ น พ ลั ง ง า น - พ ลั ง ง า น จ า ก เ ค รือ ง จั ก ร - ใ ช้ นาํ ป ริม า ณ ม า ก ต้ อ ง ขั ง นาํ คุ ณ ภ า พ ดิ น ล ด ล ง ใ ช้ ปุ ย เ ค มี ม า ก - ต ก ก ล้ า ใ ช้ นาํ ดิ น อ า ก า ศ - ใ ช้ นํา แ ช่ ข้ า ว แ ล ะ นึ ง ข้ า ว -ใ น น า เ พื อ ค ว บ คุ ม วั ช พื ช - ใ ช้ อ า ก า ศ เ กิ น ไ ป ส า ร เ ค มี ที ส ะ ส ม เ ช่ น เ ม ล็ ด พั น ธุ์ พ ลั ง ง า น - ส า ร พิ ษ เ ศ ษ พ ล า ส ติ ก เ ศ ษ ป ญ ห า นํา เ น่ า เ สี ย ก า ร ทํา น า ใ น ส ภ า ว ะ ป ก ติ ทั ว ไ ป แ ล ะ ภ า ว ะ ไ ม่ - :จี เ ซ เ ว่ น กํา จั ด วั ช พื ช - ป ก ดํา ใ ช้ แ ส ง แ ด ด ดิ น ฟ า ง จ า ก ก า ร ทํา ค ว า ม ส ะ อ า ด ป ก ติ ก า ร ทํา น า ใ น ส ภ า ว ะ ป ก ติ - + :แ อ ม พ อ ส อั ล ตี ส แ ก้ ป ญ ห า - ดู แ ล รัก ษ า ใ ช้ ส า ร ป อ ง กั น กํา จั ด ทั ว ไ ป แ ล ะ ภ า ว ะ ไ ม่ ป ก ติ โ ร ค เ น่ า โ ร ค ร า ทุ ก ช นิ ด โ ร ค แ ม ล ง ปุ ย เ ค มี - 1 0 0 +โ ค ร โ น ส โ ค ร โ น ส พ ลั ส : เ พิ ม น ม เ ร่ง แ ป ง เ พิ ม นาํ ห นั ก กวา่ จะได้ขา้ วสาร ปญหาสงิ แวดล้อม มาเปนอาหารหลักของเรา จากวงจรชวี ติ ของขา้ วสาร การขนยา้ ย การเก็บรกั ษา ปญหาทางอากาศ ปญหาภาวะโลกรอ้ น ผลผลิตขา้ ว - ก า ร เ ก็ บ ใ น ส ภ า พ ป ก ติ ก า ร เ ผ า ต อ สั ง ข้ า ว ส่ ง ผ ล ก ร ะ - มี ก า ร ป ล่ อ ย ก๊ า ซ เ รือ น ก ร ะ จ ก เ ช่ น - ช า ว น า เ ก็ บ เ กี ย ว ข้ า ว เ ป ลื อ ก - ก า ร เ ก็ บ ใ น ส ภ า พ ที มี ก า ร ค ว บ คุ ม ท บ ต่ อ สุ ข อ น า มั ย แ ก๊ ส ที ทํ า ใ ห้ -ก า ร เ ผ า ฟ า ง ข้ า ว ก า ร ข น ย้ า ย ข้ า ว - ย้ า ย เ ข้ า เ ป ลื อ ก ไ ป โ ร ง สี -อุ ณ ห ภู มิ อ ย่ า ง เ ดี ย ว เ กิ ด โ ล ก ร้ อ น - นาํ ไ ป แ ป ล เ ป น ข้ า ว ส า ร ทํา ใ ห้ ค ว า ม ร้ อ น จ า ก พ ร ะ อ า ทิ ต ย์ ไ ม่ - นาํ ส่ ง ไ ป แ ห ล่ ง จาํ ห น่ า ย ก า ร เ ก็ บ ใ น ส ภ า พ ที มี ก า ร ค ว บ คุ ม -ส า ม า ร ถ ส ะ ท้ อ น ก ลั บ อ อ ก น อ ก โ ล ก -ค ว า ม ชื น สั ม พั ท ธ์ ข อ ง อ า ก า ศ ส่ ง ผ ล ใ ห้ โ ล ก มี อุ ณ ห ภู มิ สู ง ขึ น แ ล ะ ก า ร เ ก็ บ ใ น ส ภ า พ ที มี ก า ร ค ว บ คุ ม อุ ณ ห ภู มิ แ ล ะ ค ว า ม ชื น สั ม พั ท ธ์ ข อ ง มี ก า ร เ ป ลี ย น แ ป ล ง ส ภ า พ อ า ก า ศ อากาศ 6401806 ชลธริ ศน์ ชว่ ยพมิ าย

6400590 อรจิรา แจง้ สวา่ ง



กวา จะไดข า วสารมาเปนอาหารหลกั ของเรา ปญหาสงิ่ แวดลอ มทเี่ กดิ ข้นึ การเตรยี มดิน ปญ หาทางดิน -พลงั งาน ใชร ถไถหรอื แทรกเตอรในการไถ -ใชปยุ เคมีและยากาํ จดั ศัตรูพชื มากเกินไป -สัตว ใชในการไถหนาดินเพ่อื กําจัดวัชพชื และยอ ยดิน -ทํานาตอเนอื่ งไมมกี ารพักดนิ การตกกลา -การเผาตอซงั และฟางขาว -พน้ื ที่ ใชในการเลีย้ งและเพาะปลูก ปญ หาทางเสยี ง -นา้ํ ใชใ นการเลยี้ งตน กลาโดยปลอยใหทว มผวิ ดนิ ตลอด -เสยี งดังเนือ่ งจากใชเ ครอื่ งจกั รในการทํางาน -เมลด็ พันธุ ใชใ นการเพาะปลูก กวาจะเปน-สารเคมี ปกปองขา วจากศตั รพู ชื ,ใชป ุยในกรณี ปญหาทางนํ้า -การทํานาใชน า้ํ ในปรมิ าณมากเพราะตอ งขงั น้าํ ทีแ่ หลงไมม ีความอุดมสมบรู ณ ในนา ถานาขาวมนี ํ้าจะควบคมุ วชั พชื ได การสขี า ว -การทาํ นากอใหเ กดิ มลพษิ ทางน้ํา ขาวสาร-พลงั งาน เปนปจ จยั สาํ คญั ในการใชเ คร่อื งสีขา ว -ลม ใชในการเปา เปลอื กขา วออก ปญหาทางอากาศ -พ้ืนท่ี ใชใ นการตัง้ โรงสขี าว -ฝนุ ละอองจากการตากขา วเปลอื ก,กองแกลบ,ขี้เถาแกลบ การเก็บรกั ษา -ควันจากการเผาไหมไมสมบูรณของการใชแกลบและใชน า้ํ มัน -อากาศ ควบคุมความช้ืนสมั พัทธ เปน เช้อื เพลงิ -พลงั งาน ควบคุมอณุ หภูมิเวลาเก็บขาว -การปลอ ยแกสเรือนกระจก เชน Carbon monoxide, -พน้ื ที่ ใชใ นการเก็บขาว เชน โกดงั โรงสี Nitrogen dioxide เปนสาเหตุหลักของการเกดิ การขนยายผลผลติ ภาวะโลกรอ น -พลังงาน ใชใ นการขนสง และเคลอ่ื นยา ยผลผลิต



สว่ นที 1 ’ กวา่ จะได้ขา้ วสาร ‘ ปญหาสงิ แวดล้อม สว่ นที 2 มาเปนอาหารหลักของเรา ‘ จากวงจรชวี ติ ของขา้ วสาร ‘ 1.ดินและนาํ 2.อากาศ ปญหาทางนาํ & สตั วน์ ํา • ต้องมกี ารเตรยี มดินหลายขนั ตอน • สง่ ผลโดยตรงต่อการปล่อยก๊าซ ปญหาทางดิน ภาวะนาํ เนา่ เสยี จากการทํานาขา้ ว เชน่ การไถ และการคราด Co2 สบู่ รรยากาศ - มกี ารระบายนาํ ออกจากพนื ทีนาํ 1.การเผาตอซงั และฟางขา้ ว พรอ้ มๆกัน • บางขนั ตอนต้องมนี าํ หล่อเลียงเสมอ ทําให้เกิด ‘ภาวะโลกรอ้ น’ - ทําลายแรธ่ าตใุ นดิน - นาํ มกี ารปนเปอนสารเคมหี ลายชนดิ เชน่ การตกกล้า • ขนั ตอนการปลกู ขา้ ว มกี ารปล่อย - ทําให้ความอุดมสมบูรณข์ องดินลดลง - มนี าํ ขงั ทําให้เกิดนาํ เสยี - ใชน้ าํ ปรมิ าณมากถึง 2497ลิตร ก๊าซเรอื นกระจก สงู สดุ มากกวา่ 2.ทํานาอยา่ งต่อเนอื งไมม่ กี ารพกั ดิน ในการผลิตขา้ วสาร 1 กิโลกรมั 95% - สมดลุ ของดินลดนอ้ ยลง - ทําให้สตั วน์ าํ ตาย เชน่ ปลา - เปนการดดู ซบั ธาตอุ าหารในดินไปใชม้ ากเกินกวา่ 4.สารเคมี การทดแทนตามธรรมชาติ 3.แรงงานมนษุ ย์ • มกี ารใชป้ ุยในดิน เพอื ความอุดมสมบูรณ์ 3.การใชส้ ารเคมปี องกําจดั ศัตรูพชื ปญหาสารพษิ • ใชส้ ารปองกันกําจดั โรคแมลงศัตรูขา้ ว - ทําลายสงิ มชี วี ติ ทีเปนประโยชน์ ใชแ้ รงงานมนษุ ย์ • จากปฏิทินการใชป้ ุย แสดงให้เห็นวา่ มกี าร หรอื จุลินทรยี ใ์ นดิน เชน่ นรู ก์ ารด์ คมุ หญา้ เพอื ควบคมุ เครอื งจกั ร ใชส้ ารเคมใี นเกือบทกุ กระบวนการของการ - เกิดการตกค้างและการแพรก่ ระจาย ชว่ ง 0-4 วนั ผลิตขา้ ว ในดิน วนิ เจอร์ กําจดั วชั พชื และโรงสขี า้ ว ชว่ ง 10 วนั ขนึ ไป สง่ ผลให้เกิด ‘ ภาวะโลกรอ้ น ‘ โครโนสพลัส เพมิ น้าํ นม ชว่ ง 60-120 วนั ปญหาทางอากาศ 5.เครอื งจกั ร หลายขนั ตอนมกี ารปล่อยก๊าซเรอื นกระจก 6400928 ขนั ตอนใดใชเ้ ครอื งจกั ร - การเผาฟางขา้ ว ; Co2 , Co ,No2 สพุ ชั ญา กาฬสนิ ธ์ แสดงวา่ มกี ารใชพ้ ลังงานอยูด่ ้วย - การขนยา้ ยขา้ ว ; Co2 • ทําให้ความรอ้ นจากพระอาทิตยไ์ มส่ ามารถ ขนั ตอนการปลกู ขา้ ว - รถไถนา รถแทรกเตอร์ สะท้อนกลับออกนอกโลกได้ ขนั ตอนการสขี า้ ว - เครอื งสขี า้ ว (โรงส)ี • สง่ ผลให้โลกมอี ุณหภมู สิ งู ขนึ และมกี ารเปลียนแปลงสภาพอากาศ ขนั ตอนการเก็บรกั ษา - ต้เู ยน็ ไซโลเก็บขา้ วทีมี การเปาลมเยน็

กวาจะได แรงงานมนษุ ย ภยั ธรรมชาติ ใชสารเคมปี  องกนั กําจดั ศัตรพู ชื ขาวสารมา สงผลตอ สุขภาพ การทํางานอยางตอเน่ืองไมพกั ดนิ เป็ นอาหาร ใชค วามรูความสามารถ หลักของเรา ในการปลูกขา ว ฝนตกหนกั อากาศ นํา้ อากาศแปรปรวน เผาตอซังและฟางขา ว เกบ็ ขาวในทที่ มี่ ี สําหรับการคราด นํา้ แปรเป็ นกรด อุณหภมู เิ หมาะสม แชเ มลด็ พนั ธพุ ืช ปลูกขาวในทลี่ ุมนาํ้ ขงั ดินเส่อื มโทรม โลกรอน พลังงาน ปัญหาสิง่ แวดลอม ดนิ ปลอยกาซเรอื นกระจก จากวงจรชวี ติ ของขาวสาร ในการปลูกขา ว ใชในการปลูกขาว การไถดะ ไถแปรในการเตรียมดนิ ทางนาํ้ ปักตน กลา ในดิน ใชนํา้ ปรมิ าณมาก สารเคมี เคร่ืองจกั ร อากาศเสีย เกดิ นํา้ เสีย ใสป  ยุ ในข้นั ตอนการตกกลา การไถนา สงผลกระทบตอสุขภาพ นํา้ ขัง กาํ จัดศตั รพู ชื การสีขา ว อนามยั เพมิ่ ความสมบรู ณแกดิน การเกบ็ รักษาขา ว แกส ทีท่ ําใหเกิดโลกรอน



กวา จะไดข าวสารมา ปญหาส่ิงแวดลอ มจาก เปน อาหารหลักของเรา วงจรชวี ิตของขา วสาร การทํานาปลูกขาว กรรมวธิ กี ารสีขา ว ดนิ การเตรียมดนิ การตกกลา : ทําความสะอาดขาวเปลอื ก สารเคมี : เกิดการตกคา งของสารเคมีและแพรกระจายในดนิ : กะเทาะเปลอื กขา ว ดูดซับธาตุอาหารไปมากกวาทดแทน : ทํานาอยา งตอ เนือ่ งไมพ กั หนาดิน : การไถดะและไถแปร : เตรียมดนิ : ขัดขาวและมนั เผาท้ิงกอ นการเตรียมดิน : เผาตอซงั และฟางขาว : การคราดหรือใชลกู ทุบ : เพาะเมล็ดพนั ธุ อากาศ การใสปุย เคมี : หวา นเมลด็ พนั ธุ : คัดขนาดขา วสาร การเผาตอซังและฟางขา ว สง ผลใหเกิด : คารบอนไดรอ อกไซด คารบ อนมอนอกไซด ไนโตรเจนไดออกไซด : ใหน ้าํ : เกดิ กา ซเรอื นกระจก : เกิดภาวะโลกรอน การดแู ลรกั ษา นํ้า : ใชส ารปองกนั ศัตรูพชื ปริมาณน้าํ ที่ใชไ ป หรือ น้าํ เสยี ท่ีปลอยออกมา การขนยายขา ว การเกบ็ รักษาขาว Blue water footprint : จากแหลง นํา้ ธรรมชาติ green water footprint : ความช้นื ในดินท่ีถกู นาํ ไปผลิต : ชาวนาเก็บเก่ียวขาวเปลอื ก เกบ็ ขา วในสภาพปกติ gray water footprint : จากกระบวนการผลติ : ยายขา วเปลือกไปโรงสี : ไมค วบคุมอุณหภมู ิ ยุงขาว : ไปแปลสภาพเปน ขา วสาร : สง ไปแหลงจาํ หนา ย เกบ็ ในสภาพทมี่ กี ารควบคมุ อุณหภมู ิ : เก็บในตูแช เกบ็ ในสภาพทม่ี กี ารควบคุม ความช้นื สัมพทั ธ : เก็บในภาชนะทม่ี ดิ ชิด เกบ็ ในสภาพทีม่ ีการควบคุมอณุ หภูมิ และความช้นื สมั พัทธ : การเก็บอนุรกั ษเช้อื พันธุ 6401562 นางสาว ศิริภรณ อุทัชกลุ



-ขนยา้ ยขา้ ว -แช่เมลด็ พนั ธ์ุ -ควบคมุ อณุ หภมู ิ นาเสยี จากการทํานา -ทาํ ความสะอาดขา้ วเปลอื ก -ใช้สาํ หรบั การคราด และความชืนสมั พทั ธ์ -กาํ จดั วชั พชื และทาํ ใหด้ นิ แตกตวั -ไขนาเขา้ ทว่ มแปลง เพอื เกบ็ รกั ษาขา้ ว เครอื งจักรกล นา อากาศ อากาศเสยี -นาทขี งั ในแปลงนา -การเผาตอซังฟางข้าว -นามกี ารปนเปอนดว้ ยปยุ เคมี กวา่ จะได้ขา้ วสารมาเปนอาหารหลกั ของเรา -นามกี ารปนเปอนดว้ ยสารเคมี ใชท้ รัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ แวดอะไรบา้ ง ปองกนั กาํ จดั ศัตรพู ืช ปญหาสิงแวดลอ้ มจากวงจรชีวิตของข้าวสาร สารเคมี ดิน แรงงานคน คุณภาพดินเสอื มโทรม การใช้นาปรมิ าณมาก -กาํ จดั วชั พชื -ปกตน้ กลา้ ดนิ -การเผาตอซังและฟางขา้ ว ขา้ ว1 กโิ ลกรมั ใช้นา 2,497 ลติ ร -เพมิ นาหนัก,นานม,สี -ใช้เปนพนื ทใี นการปลกู ขา้ ว -การทาํ นาอย่างตอ่ เนืองไมม่ พี ัก -เรง่ การแตกกอ -เตรยี มดว้ ยการไถดะ เพอื พลกิ หน้าดนิ -การใช้สารเคมกี ําจัดศัตรพู ืช และความแขง็ แรง กาํ จดั วชั พชื และตากดนิ ทาํ ใหเ้ กดิ การตกค้าง และแพรก่ ระจายในดนิ

การทํานา การสขี า้ ว ปญหาทางนาํ ปญหาดินเสอื มโทรม - เ ต รีย ม ดิ น ใ ช้ นาํ ดิ น พ ลั ง ง า น - พ ลั ง ง า น จ า ก เ ค รือ ง จั ก ร - ใ ช้ นํา ป ริม า ณ ม า ก ต้ อ ง ขั ง นํา คุ ณ ภ า พ ดิ น ล ด ล ง ใ ช้ ปุ ย เ ค มี ม า ก - ต ก ก ล้ า ใ ช้ นาํ ดิ น อ า ก า ศ - ใ ช้ นํา แ ช่ ข้ า ว แ ล ะ นึ ง ข้ า ว -ใ น น า เ พื อ ค ว บ คุ ม วั ช พื ช - ใ ช้ อ า ก า ศ เ กิ น ไ ป ส า ร เ ค มี ที ส ะ ส ม เ ช่ น เ ม ล็ ด พั น ธุ์ พ ลั ง ง า น - ส า ร พิ ษ เ ศ ษ พ ล า ส ติ ก เ ศ ษ ป ญ ห า นํา เ น่ า เ สี ย ก า ร ทํา น า ใ น ส ภ า ว ะ ป ก ติ ทั ว ไ ป แ ล ะ ภ า ว ะ ไ ม่ - :จี เ ซ เ ว่ น กํา จั ด วั ช พื ช - ป ก ดาํ ใ ช้ แ ส ง แ ด ด ดิ น ฟ า ง จ า ก ก า ร ทํา ค ว า ม ส ะ อ า ด ป ก ติ ก า ร ทํา น า ใ น ส ภ า ว ะ ป ก ติ - + :แ อ ม พ อ ส อั ล ตี ส แ ก้ ป ญ ห า - ดู แ ล รัก ษ า ใ ช้ ส า ร ป อ ง กั น กํา จั ด ทั ว ไ ป แ ล ะ ภ า ว ะ ไ ม่ ป ก ติ โ ร ค เ น่ า โ ร ค ร า ทุ ก ช นิ ด โ ร ค แ ม ล ง ปุ ย เ ค มี - 1 0 0 +โ ค ร โ น ส โ ค ร โ น ส พ ลั ส : เ พิ ม น ม เ ร่ง แ ป ง เ พิ ม นาํ ห นั ก กวา่ จะได้ขา้ วสาร ปญหาสงิ แวดล้อม มาเปนอาหารหลักของเรา จากวงจรชวี ติ ของขา้ วสาร การขนยา้ ย การเก็บรกั ษา ปญหาทางอากาศ ปญหาภาวะโลกรอ้ น ผลผลิตขา้ ว - ก า ร เ ก็ บ ใ น ส ภ า พ ป ก ติ ก า ร เ ผ า ต อ สั ง ข้ า ว ส่ ง ผ ล ก ร ะ - มี ก า ร ป ล่ อ ย ก๊ า ซ เ รือ น ก ร ะ จ ก เ ช่ น - ช า ว น า เ ก็ บ เ กี ย ว ข้ า ว เ ป ลื อ ก - ก า ร เ ก็ บ ใ น ส ภ า พ ที มี ก า ร ค ว บ คุ ม ท บ ต่ อ สุ ข อ น า มั ย แ ก๊ ส ที ทํ า ใ ห้ -ก า ร เ ผ า ฟ า ง ข้ า ว ก า ร ข น ย้ า ย ข้ า ว - ย้ า ย เ ข้ า เ ป ลื อ ก ไ ป โ ร ง สี -อุ ณ ห ภู มิ อ ย่ า ง เ ดี ย ว เ กิ ด โ ล ก ร้ อ น - นาํ ไ ป แ ป ล เ ป น ข้ า ว ส า ร ทํา ใ ห้ ค ว า ม ร้ อ น จ า ก พ ร ะ อ า ทิ ต ย์ ไ ม่ - นาํ ส่ ง ไ ป แ ห ล่ ง จาํ ห น่ า ย ก า ร เ ก็ บ ใ น ส ภ า พ ที มี ก า ร ค ว บ คุ ม -ส า ม า ร ถ ส ะ ท้ อ น ก ลั บ อ อ ก น อ ก โ ล ก -ค ว า ม ชื น สั ม พั ท ธ์ ข อ ง อ า ก า ศ ส่ ง ผ ล ใ ห้ โ ล ก มี อุ ณ ห ภู มิ สู ง ขึ น แ ล ะ ก า ร เ ก็ บ ใ น ส ภ า พ ที มี ก า ร ค ว บ คุ ม อุ ณ ห ภู มิ แ ล ะ ค ว า ม ชื น สั ม พั ท ธ์ ข อ ง มี ก า ร เ ป ลี ย น แ ป ล ง ส ภ า พ อ า ก า ศ อากาศ 6401806 ชลธริ ศน์ ชว่ ยพมิ าย

กวา่ จะเปนขา้ วสาร สรา้ งปญหาสงิ แวดล้อมอะไรบา้ ง ใชท้ รพั ยากรและสงิ แวดล้อมอะไรบา้ ง ปญหาทางนาํ นาํ เกิดภาวะนาํ เนา่ เสยี เนอื งจากมกี ารปนเปอนปุยเคมแี ละสารกําจดั ศัตรพู ชื มนี าํ ทิง จากหมอ้ ไอนาํ และนาํ ขงั ในแปลงนาเปนเวลานาน มกี ารใชน้ าํ ปรมิ าณมาก ใชใ้ นการแชเ่ มล็ดพนั ธุ์ และไขนาํ เขา้ ท่วมแปลงหลังหวา่ นเมล็ดเสรจ็ BLUE WATER FOOTPRINT จากแหล่งธรรมชาติ ดิน GREEN WATER FOOTPRINT จากความชนื ในดนิ GRAY WATER FOOTPRINT ปรมิ าณนาํ เสยี ทีเกิดขนึ ใชเ้ ปนพนื ทีในการปลกู ขา้ ว เตรยี มดว้ ยการไถแปร เพอื ยอ่ ยดนิ และคลกุ เคล้า ฟาง และเตรยี มดว้ ยการไถดะ เพอื พลิกหนา้ ดนิ กําจดั วชั พชื และตากดนิ ปญหาทางดิน ปญหามลพษิ ทางอากาศ ดนิ เสอื มโทรม และคณุ ภาพดนิ ลด อากาศ ลง เนอื งจากการใชป้ ุยเคมมี ากไป การเผาตอซงั และฟางขา้ ว ทําใหเ้ กิด ทําใหส้ ารเคมสี ะสม และมกี ารทํานา คารบ์ อนมอนอกไซดแ์ ละไนโตรเจน ควบคมุ อุณหภมู แิ ละความชนื สมั พทั ธเ์ พอื เก็บรกั ษา ต่อเนอื งไมม่ กี ารพกั ดนิ จงึ ดดู ซบั ซงึ ทําใหเ้ กิดก๊าซเรอื นกระจก และ อาหารในดนิ ไปใช้ มากกวา่ ทดแทน ทําใหเ้ กิดภาวะโลกรอ้ นสง่ ผลให้ สารเคมี อุณหภมู ขิ องโลกสงู ขนึ ใชใ้ นการกําจดั วชั พชื เพมิ นาํ นม,นาํ หนกั และสี ปรบั ปรงุ ดนิ เรง่ การแตกกอ และความแขง็ แรง แก้ปญหาโรคขา้ ว เชน่ ขา้ วแดง เมล็ดฟบ พลังงาน กําจดั วชั พชื และทําใหด้ นิ แดกตัว ตกกล้า ขนยา้ ยขา้ ว ทําความสะอาดขา้ ว เปลือก คัดขนาดผา่ นตะแกรง แยกแกลบ และขดั ขาวขดั มนั ขา้ ว

กวา จะไดข าวสารมาเป็ นอาหารหลกั ของเรา สงิ่ แวดลอมจากวงจร ใชท รัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอมอะไรบาง ปญหา ชีวติ ของขาวสาร นา้ํ การเตรยี มดนิ : ใหพรอ มสาํ หรับการคราด ปั ญหาน้ํ า การตกกลา: ทาํ ดินใหเปียกมนี ้ําหลอ เลยี้ งเสมอ • มีการใชน้ําปรมิ าณมาก • เกิดภาวะน้ําเนาเสยี ใชเ ป็นพ้นื ที่ในการปลูกขา ว ดนิ ปั ญหาดนิ • ดินเส่ือมโทรม สารเคมี พลงั งาน ปั ญหาอากาศ • เกดิ ฝุนละอองควันและกา ซ • ป ุยเคมี • แรงงานเคร่อื งจักรกล • การกําจดั วชั พชื • แรงงานคน • การกาํ จัดศตั รพู ชื • แรงงานสตั ว • การกําจัดโรค • ปรับปรงุ ดนิ ปั ญหาสารพิษ • ตกอยูในดินและแหลงน้ํา อากาศ ควบคุมอณุ หภมู แิ ละความช้ืนสัมพัทธ ปั ญหาภาวะโลกรอน เพ่อื เก็บรกั ษา • เกดิ กา็ ซเรอื นกระจก ทาํ ใหส ะทอน ความรอนออกนอกโลกไมไ ด



เกดิ สิงปฎกิ ลู ปญหา สิงแวดลอ้ มจากวงจรชีวติ - เศษเปลอื กขา้ ว / ฟาง ของข้าวสาร -เศษหญา้ / วชั รพืช การสี ข้าว การเตรยี มหน้ าดนิ เพือปลกู - พลกิ หน้ าดนิ : ไถตะ เตรยี มดนิ กําจดั วชั รพืช - ยอ่ ยดนิ มลู สัตว์ คลกุ เศษ ปญหาคุณภาพดนิ เสือมโทรม ฟาง + วชั รพืช : ไถเเปร การตกกลา้ เกดิ จาก การทาํ นาดาํ ดนิ 1. การเผาฟาง / ตอซงั ทาํ รา้ ยเเรธ่ าตใุ นดนิ 2. การทาํ นาตอ่ เนื อง 3. การใชส้ ารเคมี ดนิ - ปยุ เคมี กวา่ จะไดข้ ้าวสารมาเปน ปญหานาเน่ าเสี ย - ยาฆา่ วชั รพืช - ยาฆา่ เเมลง อาหารหลกั ของเรา นา นา เกดิ จาก - ยากําจดั โรค อากาศ 1. การปนเปอนเเรธ่ าตสุ ่วนเกนิ ตอ้ งใช้ทรพั ยากรธรรม 2. การปนเปอนสารเคมี สารเคมี การตกกลา้ /การปลกู = ให้นา 3. การระบายนา ชาตเิ เละสิงเเวดลอ้ ม ปญหาภาวะโลกรอ้ น มลพิษทางอากาศ อะไรบา้ ง เกดิ จาก การเผาไหมเ้ ศษฟาง/หญา้ ทาํ ให้เกดิ CO พลงั งาน อากาศ NO2 เเละ กา๊ ซเรอื นกระจก เปนตน้ เหตขุ อง ภาวะโลกรอ้ น - การไถนา สภาพภมู อิ ากาศเหมาะ - การใชค้ ราด / ลกู ทบุ สมกบั การปลกู ขา้ ว / - การหวา่ น เเตล่ ะพันธุข์ า้ ว - การเกบ็ เกยี ว - การสีขา้ ว

ใชท้ รพั ยากรและสงิ แวดลอ้ ม เกดิ ปญหาสงิ แวดลอ้ ม แสงแดด อากาศ สขรวาา ้ ปญ ห า เ กี ย ว กั า ว ะ โ ล ก ร้อ - ใชต้ ากดนิ ใหแ้ หง้ ในขนั ตอน - ควบคมุ อุณหภมู ใิ นขนั ตอนการเก็บรกั ษา ภ- ใชน้ าํ ในกระบวนการปลกู ตลอดจน การเตรยี มดนิ - ใชใ้ นกระบวนการหายใจของต้นขา้ ว แปรรปู มากมาย น - นาํ เสยี /ปนเปอนจากสารเคมี บนาํ ห า เ กี ย ว กั สาเหตุ ผลกระทบ -CO2 (เผาตอซงั /ขนสง่ ) - นาํ ทะเลเพมิ สงู ขนึ /กันเซาะ/ - CH4 ( ยอ่ ยสลาย ) รกุ ลํา พลังงาน - ภัยธรรม นาํ - N2O ( ปุย) -นาํ เปนกรด - ไถดินด้วยรถไถหรอื สตั วใ์ นขนั ตอน - อากาศแปรปรวน - แชเ่ มล็ดพนั ธ์ การเตรยี มดิน - ฝนตกมากขนึ - ใชใ้ นกระบวนการเจรญิ เติบโต - กําจดั วชั พชื ทําใหด้ ินแตกตัวด้วย เครอื งไถพรวนจอบหมุน ปญ ากาศ ดิน - การขนยา้ ย - กรรมวธิ กี ารสขี า้ ว (ทําความสะอาดขา้ ว ปญหบดิน - ใชเ้ ปนพนื ทีในการปลกู ขา้ ว เปลือก/การกะเทาะเปลือก/การขดั ขาวและ - ดนิ เสอื มโทรมจากการทํานาต่อเนอื ง า เ กี ย ว กั บ อ - ใชใ้ นขนั ตอนเตรยี มดิน ตกกล้า ขดั มนั /การคัดขนาด) - ธาตอุ าหารในดนิ ถกู ทําลายจากการเผาตอซงั ปกดํา - สารเคมตี กค้างในดนิ - เกิดฝุน/ควนั /ก๊าซ เมล็ดพนั ธุ์ จากขนั ตอนการเผา ตอซงั ฟางขา้ ว - ใชใ้ นขนั ตอนการตกกล้า - เกิดมลพษิ จากการขนสง่ / ขนยา้ ย





น้ําและดนิ แรงงาน ปญ หาทางนาํ้ ใหน ํ้าในการตกกลา การไถนา อาจเกิดนาํ้ เนาเสยี ข้ึนได เนอื่ งจากรําขาว การสีขา ว การใชคราด เศษแกลบไปปนเปอนในนาํ้ การหวานเมลด็ พันธุ นํ้าเสียทไี่ ดจากการแชข าว การสขี า ว อาจเกดิ การขาดแคลนนํ้าเพราะการปลกู ขา วตอ งใชนา้ํ มาก สารเคมี กว่าจะไดข้ ้าวสารมา เปนอาหารหลักของ ปญหาทางดนิ เราตอ้ งใชท้ รัพยากร ดินเสอ่ื ม คณุ ภาพของดนิ ลดลงเนอื่ งจาก อะไรบา้ ง ? การใชปุยเคมมี ากไปทําใหด นิ มีเคมีสะสม ปญหาจากวงจร ชวี ิตของขา้ วสาร ปุยเคมี อากาศ ปญหาทางอากาศ การกําจัดวัชพชื การกําจัดโรค สภาพภมู อิ ากาศที่ ปรบั ปรงุ ดิน เหมาะสมกบั การเพาะ ปลูก เครื่องจักร ฝนุ ละอองจากขาวเปลือก แกลบ การขนยา ยผลผลิต และข้เี ถาแกลบ ปญ หาทางเสียง ควนั จากการเผาไหม เสียงเครอ่ื งจกั รตาง ๆ ไมว า จะ การไถนา เปนเครื่องกระเทาะ เคร่อื งแยก การแปลสภาพแลว เคร่อื งขดั ขาว นาํ ไปจาํ หนาย



กวา่ จะเปนขา้ วสาร สรา้ งปญหาสงิ แวดล้อมอะไรบา้ ง ใชท้ รพั ยากรและวงิ แวดล้อมอะไรบา้ ง 1 2 3 นาํ ปญหาทางนาํ ปญหาทางดนิ ปญหามลพษิ ทางอากาศ ใชใ้ นการแชเ่ มล็ดพนั ธุ์ และไขนาํ เขา้ ท่งุ แปลง หลังหวา่ นเมล็ดเสรจ็ เกิดภาวะเนา่ เสยี เนอื งจากมกี ารปน ดนิ เสอื มโทรม และคณุ ภาพดนิ ลดลง การเผาตอซงั และฟางขา้ ว ทําใหเ้ กิด เปอนปุยเคมแี ละสารกําจดั ศัตรพู ชื เนงื จากการใชป้ ุยสารเคมมี ากไปทําให้ คารบ์ อนมอนอกไซดแ์ ละไนโตรเจนซงึ ดนิ มนี าํ ทิงจากหมอ้ ไอนาํ และนาํ ขงั ใน สารเคมสี ะสมและมกี ารทํานาต่อเนอื ง ทําใหเ้ กิดก๊าซเรอื นกระจก และทําใหเ้ กิด แปลงเปนเวลานาน มกี ารใชชน้ าํ ไมม่ กี ารพกั ดนิ จงึ ดดู ซบั อาหารในดนิ ไปใช้ ภาวะโลกรอ้ นสง่ ผลใหอ้ ุณหภมู โิ ลกสงู ขนึ ใชเ้ ปนพนื ทีในการปลกู ขา้ ว เตรยี มดว้ ยการไถแปร ปรมิ าณมาก มากกวา่ ทดแทน เพอื ยอ่ ยดนิ และคลกุ เคล้าฟาง และเตรยี มดว้ ยการ ไถดะเพอื พลิกหนา้ ดนิ กําจดั วชั พนื อากาศ ควบคมุ อุณหภมู แิ ละความชนื เพอื รกั ษา สารเคมี ใชใ้ นการกําจดั วชั พชื เพมิ นาํ หนกั ,สแี ละปรบั ปรงุ ดนิ พลังงาน ทําใหด้ นิ แตกตัว ตกกล้า ขนยา้ ยขา้ ว ทําความสะอาดขา้ วเปลือก คัดขนาดผา่ นตะแกรง แยกแกลบ และขดั ขาวขดั มนั ขา้ ว



การเผาฟางขา้ ว ทําให้เกิดภาวะก๊าซเรอื นกระจก จงึ ทําให้ความรอ้ นจากดวงอาทิตยไ์ มส่ ามารถสะท้อนกลับออกนอกโลกได้ การปลกู ขา้ วมกี ารใชน้ าํ อยา่ งมาก ซงึ นาํ เสยี ทีมาจากนาํ ขงั ในเเปลงทีถกู ปล่อยลงสเู่ เหล่งนาํ จงึ มสี าเหตทุ ําให้เกิดปญหานาํ เสยี มกี ารทํานาอยา่ งต่อเนอื งธาตใุ สนดินเสอื มคณุ ภาพเนอื งจากไมม่ กี ารพกั หนา้ ดิน เเละมสี ารเคมจี ากการปลกู ขา้ วหลงเหลือในดิน การเผาตอซงั เเละขา้ วฟางทําให้ธาตอุ าหาร คือ ไนโตรเจน ฟอสฟอรสั เเละโพเเทสเซยี ม จะถกู ทําลายทําให้ดินคณุ ภาพเสอื มลง มกี ารสะสมสารขอเงยาฆา่ เเมลงในดิน ซงึ มกี ารระเหยขนึ มาทางกาศ

¡Ç‹Ò¨Ð䴌¢ŒÒÇÊÒÃÁÒ໹š 14.45 น. ทปาํ ญควาหมาสสะอ่ิงาดเเวดลอมจาก ÍÒËÒÃËÅÑ¡¢Í§àÃÒ วงจรชีวิตขาวสาร ÊÒÃà¤ÁÕ ´Ô¹ààÅйíéÒ ปญหาคุณ9ภ.า0พ0ดนิน. เพสบ่ือปมะโทแลรมะทักทายครูอมปีเลญียหาเกี่ยวกับนา้ํ กําจดั วัชพชื การเตรียมดินสําหรบั การตกกลา การเผาตอซงั เเละฟางขา้ ว การสขี ้าว ผงรําข้าว+นํา=นาํ เน่าเสีย เมือมีการเผาทนี า ธาตอุ าหาร—โดยเฉพาะไนโตรเจน นาํ เสียจากการเเชข่ า้ ว,นงึ ขา้ ว เรง การเเตกก แตกรากและความเเข็งเเรง การเตรยี มดนิ ใหพรอ มสาํ หรับการคราด ฟอสฟอรัส และโพเเทสเซยี ม จะถูกทําลายทาํ ใหค้ วาม ตอ้ งการนํามากในการปลกู ขา้ วต่อครงั แกไขปญหาโรขา ว เชนขา วแดง เมล็ดฟบ น้ําทาํ ใหด นิ เปยกมนี ้ําหลอเลี้ยงเสมอ อุดมสมบูรณข์ องดินลดลง ใชป ยุ เพ่ิมความสมบรู ณใ นดิน แชเ มล็ดพันธุ การทํานาต่อเนือง 10.00 น. วิชาคณิตศากสารตทํารน:าทในศสถนาวยิ ะปมกติซึงกอ่ ใหเ้ กดิ ไม่มกี ารพักดนิ มลพิษในนาํ ทาํ ให้ธาตุในดนิ ถกู ดูดไปใชจ้ นหมด ปญหาภาวะโลกรอน ปญหาเก่ียวกับเสียง ÍÒ¡ÒÈ ¾Åѧ§Ò¹ ห14ลา.ย0ข0นั ตนอ.นศมีกลิ ารปปะลแ่อยละกงา๊ ซาเนรอื ฝนกม รอืะจก เครืองจกั ร ควบคมุ อณุ หภูมิเเละความช้นื การไถนา เช่น การใชค ราด/ลูกทุบ การเผาฟางข้าว :C1O3.,C0O0,N1Oน2..0ภ0าษนา. อพงั ักกกฤลษางเควรนั อื งกะเทาะ การหวานเมลด็ การสขี าว การขนยา้ ย :CO ทําให้ความร้อนจากพระอาทติ ยไ์ มส่ ามารถ เครอื งเเยก สะทอ้ นกลับออกนอกโลก 11.00 น.สง่ ผลให้โลกอณุ หภมู ิสูงขนึ เเละการ เครืองขดั ขา้ ว เปลยี นแปลงสภาพอากาศ ชวั่ โมงการอาน 6404098 นางสาวรุ่งอรุณ แก้วกองศรี

ใชส้ าหรับปลูกขา้ ว เตรียมความพร้อม เป็ นแหล่งสาหรับเพาะปลูก สาหรับการเพาะปลูก ขา้ ว ดิน การตกกลา้ กวา่ จะเป็นขา้ วสาร!! อากาศ ใชใ้ นการปลกู น้า ตอ้ งใชท้ รัพยากรธรรมชาติและ การหวา่ น ปล่อยแก๊สเรือน ส่ิงแวดลอ้ มอะไรบา้ ง?? เมลด็ พนั ธุ์ กระจก หมอ้ ไอน้า การสีขา้ ว พลงั งาน การขนยา้ ย ขา้ ว

ปัญหาทางดา้ นดิน ปัญหาส่ิงแวดลอ้ ม ปัญหาดา้ นอากาศ -ดินเส่ือมโทรม ปัญหาทางดา้ นน้า -ฝ่ นุ ละออง -ใชส้ ารเคมีป้องกนั มาก -ควนั เกินไป -ใชป้ ริมาณน้ามากเกินไป -เผาตอซงั ขา้ ว -การทางานอยา่ งต่อเน่ืองและ -เกิดน้าขงั -เกิดแกส๊ ที่ทาใหโ้ ลกร้อน ดินไม่ไดพ้ กั -เกิดน้าเสีย -อากาศเป็ นพษิ -เผาตอซงั และฟางขา้ ว -ป๋ ุยเคมีปนเป้ื อน -สารเคมีกาจดั ศตั รูพืช ปนเป้ื อน

ก ว่ า จ ะ ไ ด้ ข้ า ว ส า ร -นํามกี ารปนเปอนของสารเคมี มาเปนอาหาท -คุณภาพดนิ เสือมเกิดจากการทาํ นา ห ลั ก ข อ ง เ ร า อย่างตอ่ เนอื ง ต้องใช้ -การใชส้ ารเคมกี ําลัดศัตรูพชื ทรพั ยากรธรรมชาติ และสิงแวดล้อมอะไร -การขนส่งด้วยรถ บ้าง -การเผาตอซังฟางข้าว -นาํ ปญหาสิง -เครองจกั รกล แวดล้อมจาก วงจรชวี ติ ของ -อากาศ -ดนิ ข้าว -แรงงานคน -สารเคมี น.ส.หทัยธร เกียรติชยั ดาํ รง 6404319 พิม -น

ทรัพยากรทใี ช้กอ่ น น้ํ า จะมาเปนขา้ วสาร? เกดิ การเนาเสียของน้ํา ถาระบายไดไมดี ทรัพยากรดนิ ทรัพยากรนํา อากาศ เปนทีไวใ้ ช้ในการปลูกขา้ ว -ทําใหเ กดิ คารบ อนมอนอกไซน -แชเมล็ดพนั ธุขาว เตรียมดนิ ดว ยการ และไนโตรเจน -ปลอ ยน้ําเขาทวมแปลงหลัง -เกิดกาซเรอื นกระจก ไถดะและไถแปร หวา นเมล็ดพันธเุ สร็จ -เกิดภาวะโลกรอ น ทรัพยากรอากาศ ทรัพยากรเคมี ปญหาสิ่งแวดลอมจาก วงจรชีวิตของขาวสาร ควบคุมอุณหภมู แิ ละ -เพ่อื ปรับปรุงดิน ความช้ืนในการเก็บรักษา ดินเส่อื มโทรม -แรง ผลผลิต -การเผาตอซงั ฟางขาว ทรัพยากรแรงงาน -การทํานาตอ เน่ืองไมม ีการพักดนิ -กําจดั วัชพชื -การใชส ารเคมีตางๆ -เคร่ืองไถพรวนจอบ ทําใหดินแตกตวั -ตกกลาดวยเคร่อื งปักดําขาว -แกปั ญหาขาวแดง พลงั งาน -สีขา วดวยเคร่ืองจกั รลมเปา -เกิดปัญหาทางเสยี ง เสียง -แยกแกรบดวยเคร่อื งกระเทาะเปลอื ก ดงั จากเคร่อื งจกั รตางๆ -เคร่อื งจกั รใชใ นการขนยายขาว 6404385 นางสาวภัททิยา ผดงุ เวยี ง

1.การไถแปร การขนยา ยผลผลิตขา ว ตองมีการใชเ ครอื่ งจกั รกลในการเคลื่อนยา ย เตรียมดิน สงผลกระทบตอ การปลอ ยกา ซ คารบ อนไดร ออกไซต สบู รรยากาศทาํ ใหเ กดิ ภาวะโลกรอน 2.การคาดหรอื ลกู ทบุ 1.เตรยี มดนิ การตกกลา การทํานาปลกู ขา ว 2.เพาะเมล็ด 3.หวา นเมล็ดพนั ธุ 4.ใหน ํา้ ใชส ารปองกนั กําจัด การดแู ลรักษา 1.ทาํ ความสะอาดขาวเปลอื ก เชน ฟาง ศตั รูขา ว 2.การกะเทาะเปลอื ก เชน แกลบ กรมวิธสี ีขาว 3.การขดั ขาวและขดั มนั 4.การคดั ขนาดขา วสาร ¡Çҋ ¨Ð໚¹¢ŒÒÇÊÒà 㪌·ÃѾÂҡøÃÃÁªÒµÔáÅÐÊèÔ§áÇ´Å͌ ÁÍÐäúŒÒ§? ใชป ุยเคมใี นดนิ ท่มี ีความอุดมสมบรณู ต ํ่า เชน การเกบ็ รกั ษาขา ว สารเคมี ปุยแอมโมเนียมฟอสเฟต (16-20-0) กําจัดศตั รูพืช 1.เกบ็ ในสภาพปกติ เกบ็ ในโรงเกบ็ ยุง 2.เก็บในสภาพที่มกี ารควบคมุ อุณหภูมิเพยี งอยา งเดยี ว 3.เก็บในสภาพท่ีมีการควบคมุ ความชน้ื สัมพัทธข องอากาศ เกบ็ ในภาชนะมิดชดิ 4.เก็บในสภาพท่ีมีการควบคุมอณุ หภูมแิ ละความชน้ื สมั พัทธของอากาศ เปนวธิ ีทีม่ ีประสทิ ธภิ าพ

ระดับนํา้ ทะเลเพ่ิมสงู ขึน้ ปญ หาเกย่ี วกบั นา้ํ ขา วสาร 1 กก. ใชนาํ้ 2,497 ลติ ร อณุ หภูมเิ ฉล่ียของโลกเพ่ิมสูงขึน้ เกดิ นาํ ้เนา เสยี ของตนขา ว รวงขาว วชั พืช ทําใหรังสีจากดวงอาทติ ยท ่เี คยสอ งยังโลก นา้ํ เนา เสยี จากนา้ํ ขงั ในแปลงนา ไมส ามารถสะทอนกลบั ออกไปนอกโลกได น้ําในแหลง นํา้ เนาเสยี จากปยุ เคมตี กคา ง ภาวะโลกรอ น ในนาลงสแู หลงนํ้า »­˜ ËÒÊÔ§è áǴŌÍÁ ¨Ò¡¡ÒÃ䴌¢ÒŒ ÇÊÒÃÁÒ໹š ÍÒËÒÃËÅ¡Ñ ปญ หาอากาศเสยี ปญหาเก่ยี วกบั ดนิ เผาตอซงั และฟางขาว ทําใหดินขาดความอุดมสม บรูณโ ดยเฉพาะไนโตเจน ฟอสฟอรัสและ เผาตอซัง เกิดฝนุ ละออง ควนั กาซๆ โพแทสเซียม กา ซเกิดจากการเผาไหม คารบ อนไดออกไซต ทาํ นาตอเนื่องไมพักหนา ดิน เปนการดูดซบั ธาตุ คารบอนมอนอกไซต ไนโตรเจนไดออกไซต อาหารในดินไปใชมากเกินการทดแทนตามธรรมชาติ ใชสารเคมีกาํ จัดศัตรพู ืช เกดิ การตกคางของสารเคมี ทําใหเ กดิ กาซเรอื นกระจกและปญ หาโลกรอน ช่ือ นางสาวสนญั ญา ปนุ เอม รหัส 6404408


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook