93 ธรรมชาติ เป็นการศึกษากับมนุษย์ ผู้วิจัยไม่สามารถควบคุมตัวแปรแทรกซ้อนได้เหมือนกับ Laboratory Experiment การทดลองใช้ตารางประสบการณ์เพ่ือการเรียนรู้น้ี ใช้กับกลุ่มผู้เรียนทั้งหมดท่ีผู้สอนต้อง รบั ผดิ ชอบในการจัดการเรียนการสอน จึงไม่สามารถจดั กระทาหรือสุ่มผูเ้ รียนเขา้ รบั การทดลอง จงึ ต้องทดลองกับกลุ่มผู้เรียนทั้งหมด นอกจากน้ีหน่วยทดลองซึ่งก็คือชั้นเรียน ผู้วิจัยก็ไม่สามารถ ควบคุม ตัวแปรแทรกซ้อนท่ีเกิดขึ้นได้อย่างเต็มท่ีเหมือนในห้องปฏิบัติการ ซ่ึงถือว่าเป็นจุดอ่อน ของทง้ั 2 รปู แบบการทดลองข้างต้น รูปแบบการทดลอง 2 รูปแบบที่แนะนาใหใ้ ช้ในการทดลอง “ตารางประสบการณ์เพ่ือการ เรยี นรู้”มีรายละเอียดดงั นี้ 1. กลมุ่ เดยี วมีการทดสอบครั้งเดียว (One shot case study) ขอ้ เสยี ผลการทดสอบที่ได้ไม่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากไม่มีการควบคุมตัวแปรแทรก ซ้อนเลย และไม่มีการเปรียบเทียบผลการทดลองโดยใช้กลุ่มของผู้ถูกทดลอง ผลที่ได้จากการ ทดสอบอาจจะไม่ใชม่ าจากผลการทดลอง เพราะมีการทดสอบเพียงครั้งเดียว ขอ้ ดี งา่ ยและสะดวกเหมาะสมสาหรับการทดลองกับกลุ่มผู้ถูกทดลองท่ีไม่สามารถทา การทดสอบก่อนทาการทดลองได้ แต่ก็สามารถเปรียบเทียบผลการทดลองกับคะแนนท่ีเป็น มาตรฐานโดยทั่วไปได้ ลกั ษณะแบบการทดลอง xT สญั ลกั ษณ์ X คือ การให้ตวั แปรทดลอง (ตารางประสบการณเ์ พอ่ื การเรียนรู้) แกก่ ลุ่มผถู้ กู ทดลอง T คอื การทดสอบกลุ่มผู้ถูกทดลอง หลงั ทาการทดลอง
94 วิธกี าร 1. มีกลุ่มผถู้ ูกทดลอง 1 กลุ่ม 2. ทาการทดลอง 3. ทาการทดสอบกลุ่มผถู้ กู ทดลองหลังการทาการทดลอง 2. กลุม่ เดียว แต่มกี ารทดสอบก่อนและหลัง (One group pretest–posttest design) ข้อเสีย ในการสรุปผลการทดลองไม่ค่อยแน่ใจว่า ความแตกต่างของผลการทดสอบ 2 ครั้ง นั้น เปน็ ผลมาจาก ตารางประสบการณ์เพื่อการเรยี นรูท้ ่ีทดลองใชก้ บั กลุ่มผู้ถูกทดลอง เนื่องจากไม่ มีกลุ่มควบคุมตวั แปรแทรกซ้อน ที่อาจจะเปน็ ตวั แปรทีท่ าใหเ้ กิดผลการทดลอง ขอ้ ดี การทดลองแบบน้ีพัฒนาดีขึ้นกว่าแบบที่ 1 เพราะมีการทดสอบคร้ังแรกก่อนการ ทดลอง ทาให้สามารถเปรยี บเทยี บผลการทดลองได้โดยใช้กลุ่มตนเองเป็นตัวเปรียบเทยี บ ลักษณะแบบการทดลอง T1 x T2 สญั ลกั ษณ์ T1 คอื การทดสอบกลุม่ ผู้ถูกทดลอง ก่อนการทาการทดลอง X คอื การใหต้ ัวแปรทดลอง (ตารางประสบการณ์เพ่อื การเรียนรู้) แก่กลุ่มผถู้ กู ทดลอง T2 คอื การทดสอบกล่มุ ผู้ถกู ทดลอง หลงั การทาการทดลอง วิธีการ 1) มกี ลมุ่ ผู้ทดลอง 1 กล่มุ 2) ทาการทดสอบกลมุ่ ผู้ถูกทดลอง กอ่ นการทาการทดลอง 3) ทาการทดลอง 4) ทาการทดสอบกลุ่มผู้ถกู ทดลอง หลงั การทาการทดลอง 5) ตรวจสอบความแตกต่างระหว่างผลการทดสอบครงั้ ท่ี 1-2
95 ขน้ั ตอนที่ 3 ทดสอบความแตกต่างของคะแนนจากการทดลอง กรณที ี่ 1 การทดลองแบบกลุ่มเดียว มีการทดสอบครั้งเดียว เป็น การ ทดสอบ ควา มแตกต่างของคะแนน จากการ ทดสอบ เป รียบ เทีย บกับ คะแน น มาตรฐาน กรณีที่ 2 การทดลองแบบกลุ่มเดยี ว แต่มีการทดสอบก่อนและหลัง เปน็ การทดสอบความแตกต่างของคะแนนจากการทดสอบทั้ง 2 คร้งั คือ ก่อนการทดลอง และหลงั การทดลอง ทั้ง 2 กรณี ทดสอบความแตกต่างด้วยค่าสถิติ t-test เมื่อกลุ่มผู้ถูกทดลองมีจานวน(n) น้อยกวา่ 30 คน หรือ z-test เม่อื n มากกว่า 30 คน หรอื เทา่ กบั 30 คน 3.1 ทดสอบความแตกตา่ งของคะแนนเฉล่ียกบั คา่ คะแนนเกณฑม์ าตรฐานท่ัวไป 3.1.1 สาหรับกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่ (n มากกว่าหรือเท่ากับ 30) ใช้ z-test ซึ่งมี สูตรดงั น้ี (พวงรัตน์, 2543) Z = ������̅- 0 S ������ เมอ่ื ������̅ คอื ค่าเฉลี่ยของขอ้ มูลชุดนนั้ ๐ คือ คา่ เฉลี่ยของคะแนนที่เปน็ มาตรฐานทวั่ ไป S คือ ค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน n คอื จานวนคนในกล่มุ ตัวอยา่ ง 3.1.2 สาหรบั กลุ่มตวั อยา่ งขนาดเลก็ (n น้อยกว่า 30) ใช้ t-test ซ่ึงมีสตู ร ������̅- 0 t= S ������ ท้งั 2 สตู ร คา่ df (degree of freedom) = n-1 3.2 ทดสอบความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่มที่เกี่ยวข้องกัน (dependent sample) เป็นการทดลองวัดจากกลุม่ ตัวอยา่ งเดยี วกัน 2 คร้ัง
96 การทดสอบแบบนก้ี ลมุ่ ตัวอยา่ งมกั จะมจี านวนไม่มากนัก เป็นกลุ่มตัวอย่างขนาดเล็ก สถิตทิ ่ีใชจ้ ึงเป็น t-test ซง่ึ มสี ตู รดังนี้ (พวงรตั น์, 2543) t= ∑������ ������∑������2 − (∑������)2 ������ − 1 เม่ือ D คือ ผลตา่ งของคะแนนแตล่ ะคู่ n คอื จานวนคู่ ค่า df (degree of freedom) = n-1 ข้ันตอนท่ี 4 เผยแพร่ผลการวจิ ยั การเผยแพร่ผลการวิจัย ทาได้โดยเขียนรายงานวิจัย และ/หรือนาเสนอผลงานเพื่อ เผยแพร่ และ/หรือบทคัดย่อให้สาธารณะ ชุมชนวิชาการ วงการวิชาชีพ ฯลฯ ได้รับทราบ ก่อใหเ้ กดิ ประโยชนจ์ ากนวตั กรรม คือ ตารางประสบการณเ์ พ่อื การเรียนรู้ทไี่ ดส้ ร้างขึ้นมา
97 ตวั อย่าง R&D การสร้างประสบการณ์เพอ่ื การเรียนรู้ส่ิงแวดล้อม กระบวนการ R&D มีความสาคัญอยู่ท่ีการทดสอบนวัตกรรมด้วยแบบการทดลอง ซึ่งเป็นที่ ยอมรับกัน สาหรับหนังสือเล่มนี้ได้เสนอรูปแบบการทดลองท่ีเหมาะสมกับบริบทของ R&D ของ ประสบการณเ์ พ่ือการเรยี นร้ไู ว้ 2 แบบ 1.การทดลองแบบกล่มุ เดยี วมกี ารทดสอบครง้ั เดียว xT 2 การทดลองแบบกลมุ่ เดียวแตม่ กี ารทดสอบกอ่ นและหลังการทดลอง T1 x T2 กรณที ี่ 1 การทดลองแบบกลุ่มเดยี ว มีการทดสอบครัง้ เดยี ว ลาวัณย์ วิจารณ์ และศกั ด์ศิ รี รกั ไทย (2561) ทาการวิจัยเรื่อง“การสร้างชุดประสบการณ์ เพ่ือการเรียนรู้เรื่อง “แมลงในแปลงนาข้าว”จังหวัดเพชรบุรี สาหรับนักเรียน ปวช. (ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ)โครงการอาชีวศึกษาเพ่ือการพัฒนาชนบท (อศ.กช.) กรณีศึกษาวิทยาลัย เกษตรและเทคโนโลยีเพชรบุรี การวิจัยคร้ังน้ีได้นาชุด “ตารางประสบการณ์เพื่อการเรียนรู้”ที่ สรา้ งขน้ึ ไปทาการทดลองแบบกลุม่ เดียว มีการทดสอบครงั้ เดียว และทาการทดสอบความแตกต่าง ของคะแนนจากการทดสอบเปรียบเทียบกับคะแนนมาตรฐาน(ร้อยละ 80 ของคะแนนเต็ม) รายละเอียดการวจิ ยั ดังนี้ 1. นวัตกรรมในการวิจัยคร้ังนี้ คือ ชุดตารางประสบการณ์เพ่ือการเรียนรู้ เรื่อง “ชนิด ของแมลงศตั รูข้าวกับแมลงศัตรูธรรมชาติของแมลงศัตรูข้าว ในแปลงนาข้าว” และเร่ือง “แมลงคู่ กัดในแปลงนาขา้ ว” ดังตาราง
ตารางประสบการณเ์ พ่ือการเรยี นรู้ เรื่อง ชนดิ ของแมลงศตั รขู า้ วกบั แมลงศตั ร เนือ้ หาความรู้ วัตถุประสงค์ วัตถปุ ระสงค์ สถานก การสอน เชงิ พฤตกิ รรม กจิ กรรมการเรีย ทีผ่ สู้ อนสรา้ งข แมลงในแปลง เพอ่ื ให้ นักเรยี น เพือ่ ให้นักเรยี น ให้นักเรยี น อศ.กช. แ นาข้าว แบง่ อศ.กช. จาชนิด อศ.กช. แต่ละ ทาในเวลา 10 นาที ออกเปน็ 2 แมลงรา้ ย และ คน สามารถ - เลือกภาพแมลงร้าย ชนิด คือ แมลง แมลงดี ใน เลือกภาพแมลง ซองแมลงร้าย ศัตรขู ้าว(แมลง แปลงนาขา้ วได้ รา้ ย และภาพ - เลอื กภาพแมลงดีใส รา้ ย) และ แมลงดไี ด้ แมลงดี แมลงศัตรู ถูกตอ้ ง ในเวลา ธรรมชาตขิ อง 10 นาที แมลงศตั รขู า้ ว (แมลงดี)
98 รูธรรมชาติของแมลงศตั รขู า้ วในแปลงนาขา้ ว การณเ์ พ่ือการเรียนรู้ สื่อชว่ ยสอน การ ยนรู้ กิจกรรมที่ ประเมินผล ข้ึน ผู้เรียนกระทา แต่ละคน นักเรียน อศ.กช. แต่ละ 1. ภาพแมลง นักเรยี น คนทาในเวลา 10 นาที ทง้ั หมด จานวน อศ.กช. แต่ ยใสใ่ น - เลือกภาพแมลงรา้ ย 21 ภาพ ละคน เลอื ก ใสใ่ นซองแมลงรา้ ย 2. ซองใส่ภาพ ภาพแมลง สใ่ นซอง - เลอื กภาพแมลงดีใส่ แมลงร้ายและ ใส่ซองได้ ในซองแมลงดี ซองใส่ภาพ ถูกตอ้ ง ภาพ แมลงดี ละ 1 3. ปากกา คะแนน ใน เวลา 10 นาที
ตารางประสบการณ์เพือ่ การเรียนรู้ เรือ่ ง แมลงคู่กดั ในแปลงนาขา้ ว เน้อื หา วตั ถปุ ระสงค์ วัตถุประสงค์ สถานก ความรู้ การสอน เชิงพฤติกรรม กจิ กรรมการเรียน ทผี่ ู้สอนสร้างขน้ึ ในแปลงนา เพ่ือให้นกั เรยี น เพื่อให้นกั เรยี น 1.สรุปชนดิ ของแมลงร ข้าวจะมี อศ.กช. จา อศ.กช. แต่ละ แมลงดีในแปลงนาข้าว แมลงคู่กดั แมลงคู่กัดใน คน สามารถ 2.ให้แผนภาพ“แมลงค ซึง่ หมายถึง แปลงนาข้าว จับคแู่ มลงคกู่ ดั แปลงนาข้าว” กับน แมลงดีที่กิน ได้ ในแปลงนาขา้ ว อศ.กช.แตล่ ะคน หรือทาลาย ได้อยา่ งถูกตอ้ ง 2.ใหน้ ักเรยี น อศ.กช. แ แมลงร้าย ใน ในเวลา 15 คนเลือกแมลงคกู่ ดั ในแ แปลงนาขา้ ว นาที นาข้าวจากแผนภาพ เวลา 15 นาที
99 การณ์เพ่อื การเรยี นรู้ สอ่ื ช่วยสอน การ นรู้ กิจกรรมที่ ประเมนิ ผล น ผ้เู รยี นกระทา ร้ายกับ 1.ฟงั สรุปชนดิ ของแมลง 1. แผนภาพ จับค่แู มลง ว รา้ ยกับแมลงดีในแปลง สรปุ ชนิดแมลง ถูกต้อง 1 คู่ คกู่ ัดใน นาข้าว ร้ายและแมลงดี ได้ 1คะแนน นักเรยี น ในแปลงนาข้าว ในเวลา 15 2.นกั เรยี นอศ.กช.แตล่ ะ 2. ปากกา นาที แต่ละ คนรับแผนภาพ“แมลงคู่ 3. แผนภาพ แปลง กดั ในแปลงนาขา้ ว” แมลงคกู่ ัดใน ใน แปลงนาขา้ ว 3.นกั เรียน อศ.กช. แต่ จานวน 6 แผน่ ละคน เลอื กแมลงคู่กดั ในแปลงนาขา้ วจาก แผนภาพ ในเวลา 15 นาที
100 2. กลุ่มผู้ถูกทดลอง ในการวจิ ยั คร้งั น้ี คือ นกั เรียน ปวช.โครงการ อศ.กช. กลุ่มผลิตข้าว 3 กลมุ่ คือ 1) นกั เรยี น ปวช. กลุ่มขา้ ว อาเภอเขาย้อย 10 คน 2) นกั เรียน ปวช. กลุ่มข้าว อาเภอ บา้ นลาด 14 คน และ 3) นักเรียน ปวช.กล่มุ ขา้ ว อาเภอบ้านแหลม 8 คน 3. ทดสอบความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยของผลการทดสอบกับค่าคะแนน มาตรฐานร้อยละ 80 โดยใชค้ า่ สถติ ิ t-test (กลมุ่ ผเู้ รยี นมีจานวนน้อยกวา่ 30 คน) ดังสตู ร x̅- t= S/ n เมื่อ x̅ คอื คา่ เฉล่ยี ของข้อมูลชดุ นน้ั คอื คา่ คะแนนมาตรฐานร้อยละ 80 S คือ คา่ เบ่ยี งเบนมาตรฐาน n คือ จานวน นกั เรยี น อศ.กช. รายละเอยี ดการคานวณหาค่าสถิติ t-test สามารถศึกษาได้จากหนังสือเกี่ยวกับ สถิติการวิจัย ทางพฤติกรรมศาสตร/์ สงั คมศาสตร/์ การศกึ ษาโดยท่วั ไป
101 4. ผลการทดสอบ 4.1 กลุ่มผลติ ข้าว อาเภอเขาย้อย 1.ตารางประสบการณ์เพื่อการเรียนรู้ เรื่อง ชนิดแมลงศัตรูข้าวและแมลงศัตรู ธรรมชาติของแมลงศัตรูข้าวในแปลงนาข้าว วัตถปุ ระสงค์การเรียนรู้: จา คะแนนเฉลี่ยของนักเรียน (19.8 คะแนน) มากกว่าคะแนนเกณฑ์มาตรฐาน ร้อย ละ 80 (16.8 คะแนน) อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ี ระดับ .05 (t=4.41 *) แสดงว่าผู้เรียนสามารถ เลือกภาพแมลงร้ายกับแมลงดีในแปลงนาข้าวได้คะแนนมากกว่าคะแนนเกณฑ์มาตรฐานร้อยละ 80 ดงั ตาราง 2. ตารางประสบการณ์เพ่ือการเรียนรู้ เร่ือง “แมลงคู่กัดในแปลงนาข้าว” วัตถุประสงค์การเรยี นรู้: จา คะแนนเฉลย่ี ของนกั เรยี น (15.2 คะแนน) น้อยกว่าคะแนนเกณฑ์มาตรฐาน ร้อย ละ 80 (20 คะแนน) อยา่ งมนี ยั สาคัญทางสถติ ทิ ี่ ระดบั .05 (t=-3.12 *) แสดงว่าผู้เรียนสามารถ จับคู่ แมลงคู่กัดในแปลงนาขา้ วได้คะแนนน้อยกว่าคะแนนเกณฑ์มาตรฐานรอ้ ยละ 80 ดังตาราง พฤติกรรม คา่ สถิติ คะแน S คะแนนมาตรฐาน t นเต็ม x̅ ร้อยละ 80 สามารถเลือกภาพแมลงร้าย และภาพ แมลงดไี ดถ้ กู ต้องในเวลา 10 นาที 21 19.8 2.15 16.8 4.41* สามารถจับคู่ แมลงคู่กัดในแปลงนา 25 15.2 4.87 20 -3.12* ขา้ วได้ถกู ตอ้ งในเวลา 15 นาที ภาพที่ 18 นักเรียน อศ.กช. กลุม่ ข้าว เขาย้อย มีปฏสิ มั พนั ธ์กับกิจกรรมการเรียนรู้ เร่ือง “แมลงใน แปลงนาข้าว” ที่ผ้สู อนสรา้ งขนึ้
102 4.2 กล่มุ ผลติ ข้าว อาเภอบา้ นลาด 1. ตารางประสบการณ์เพื่อการเรียนรู้ เร่ือง ชนิดแมลงศัตรูข้าวและแมลงศัตรู ธรรมชาติของแมลงศตั รูข้าวในแปลงนาข้าว วัตถุประสงค์การเรียนรู้: จา คะแนนเฉลี่ยของนักเรียน (19.14 คะแนน) มากกว่าคะแนนเกณฑ์มาตรฐาน ร้อยละ 80 (16.8 คะแนน) อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ี ระดับ .05 (t=3.545 *) แสดงว่าผู้เรียน สามารถเลือกภาพแมลงร้ายกับแมลงดีในแปลงนาข้าวได้คะแนนมากกว่าคะแนนเกณฑ์มาตรฐาน รอ้ ยละ 80 ดังตาราง 2. ตารางประสบการณ์เพื่อการเรียนรู้ เร่ือง “แมลงคู่กัดในแปลงนาข้าว” วัตถุประสงค์การเรียนรู้: จา คะแนนเฉลี่ยของนักเรียน (17.07 คะแนน) น้อยกว่าคะแนนเกณฑ์มาตรฐาน ร้อยละ 80 (20 คะแนน) อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ี ระดับ .05 (t=-2.13 *) แสดงว่าผู้เรียน สามารถจับคู่ แมลงคู่กัดในแปลงนาข้าวได้คะแนนน้อยกว่าคะแนนเกณฑ์มาตรฐานร้อยละ 80 ดัง ตาราง พฤตกิ รรม คา่ สถิติ คะแนน S คะแนนมาตรฐาน t เตม็ x̅ รอ้ ยละ 80 สามารถเลือกภาพแมลงร้ายและภาพ 21 19.1 2.48 16.8 3.545* แมลงดไี ด้ถกู ต้อง ในเวลา 10 นาที 4 สามารถจับคู่แมลงคู่กัดในแปลงนา 25 17.7 5.12 20 -2.13* ข้าว ได้ถกู ตอ้ ง ในเวลา 15 นาที ภาพท่ี 19 นักเรยี น อศ.กช. กลมุ่ ข้าว บา้ นลาดมีปฏสิ ัมพนั ธ์กบั กิจกรรมการเรียนรู้ เร่ือง “แมลงใน แปลงนาข้าว” ทีผ่ ูส้ อนสร้างขึ้น
103 4.3 กลมุ่ ผลติ ข้าว อาเภอบ้านแหลม 1. ตารางประสบการณ์เพื่อการเรียนรู้ เร่ือง “ชนิดแมลงศัตรูข้าวและแมลงศัตรู ธรรมชาตขิ องแมลงศตั รูขา้ วในแปลงนาขา้ ว” วัตถุประสงค์การเรยี นรู้: จา คะแนนเฉลย่ี ของนกั เรียน (15.5 คะแนน) น้อยกว่าคะแนนเกณฑ์มาตรฐาน ร้อย ละ 80 (16.8 คะแนน) อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิตทิ ี่ ระดับ .05 (t=-0.90 *) แสดงว่าผู้เรียนสามารถ เลือกภาพแมลงร้ายกับแมลงดีในแปลงนาข้าวได้คะแนนน้อยกว่าคะแนนเกณฑ์มาตรฐานร้อยละ 80 ดงั ตาราง 2. ตารางประสบการณ์เพ่ือการเรียนรู้ เร่ือง “แมลงคู่กัดในแปลงนาข้าว” วัตถุประสงค์การเรยี นรู้: จา คะแนนเฉลย่ี ของนกั เรยี น (13.5 คะแนน) น้อยกว่าคะแนนเกณฑ์มาตรฐาน ร้อย ละ 80 (20 คะแนน) อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ี ระดับ .05 (t=-4.46 *) แสดงว่าผู้เรียนสามารถ จับคู่ แมลงคู่กดั ในแปลงนาข้าวไดค้ ะแนนน้อยกวา่ คะแนนเกณฑ์มาตรฐานร้อยละ 80 ดงั ตาราง พฤตกิ รรม ค่าสถติ ิ คะแนน S คะแนนมาตรฐาน t เต็ม x̅ ร้อยละ 80 สามารถเลอื กภาพแมลงร้ายและภาพ แมลงดไี ดถ้ ูกต้องในเวลา 10 นาที 21 15.5 4.07 16.8 -0.90* สามารถจับคู่แมลงคู่กัดในแปลงนา 25 13.5 4.11 20 -4.46* ข้าวได้ถูกตอ้ ง ในเวลา 15 นาที ภาพที่ 20 นักเรียน อศ.กช. กล่มุ ขา้ วบ้านแหลม มีปฏิสัมพันธ์กับกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง “แมลง ในแปลงนาขา้ ว” ท่ผี สู้ อนสร้างขึ้น
104 จากผลการทดลองประสบการณ์เพ่ือการเรียนรู้กับนักเรียน อศ.กช. ทั้ง 3 กลุ่ม เห็นได้ว่า การวัดผลความสาเร็จ “จาแนกชนิดแมลงศัตรูข้าวกับแมลงศัตรูธรรมชาติของแมลงศัตรูข้าว” นักเรียน อศ.กช. กลุ่มเขาย้อยและกลุ่มบ้านลาด ได้คะแนนเฉล่ียสูงกว่า คะแนนเกณฑ์มาตรฐาน รอ้ ยละ 80 แต่นักเรียน อศ.กช.กลุ่มบ้านแหลม ไดค้ ะแนนเฉลย่ี ตา่ กว่าเกณฑ์ ร้อยละ 80 ส่วนเรื่อง “แมลงคู่กดั ในแปลงนาข้าว” นกั เรียน อศ.กช.ของท้ัง 3 กลมุ่ ไดค้ ะแนนเฉลีย่ ต่ากวา่ เกณฑ์ร้อยละ 80 จึงเป็นหน้าที่ของผู้วิจัย ต้องสาเหตุแล้วปรับ “สถานการณ์การเรียนรู้”ใหม่ รวมท้ังทาการ ทดลองซ้ากับนกั เรยี น อศ.กช.กลมุ่ นี้ เมื่อเสร็จส้ินการทดลองกับกลุ่มนักเรียน อศ.กช.ทั้ง 3 กลุ่ม ของรุ่นนี้แล้ว ผู้วิจัยต้องนา ตารางประสบการณ์เพ่ือการเรียนรู้ทั้ง 2 เรื่องน้ี ทดลองใช้กับนักเรียน อศ.กช.รุ่นต่อๆไป แล้ว ปรับปรุงตารางประสบการณ์ เพื่อการเรียนรู้เพื่อใช้กับนักเรียนรุ่นต่อๆไปด้วย จึงทาให้”ตาราง ประสบการณ์เพอ่ื การเรยี นรู้”นเี้ ปน็ “นวัตกรรม”ตลอดไป การค้นหาสาเหตุที่ทาให้คะแนนต่านั้น ต้องมุ่งไปที่ลักษณะเฉพาะ (attributes) ของผู้ถูก ทดลองว่า กลุ่มตัวอย่างนักเรียน อศ.กช.แต่ละคนนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งอาจมีบาง attribute เป็นตัว แปรส่งผลต่อคะแนนท่ีได้ของนักเรียน เช่น อายุ อาชีพ หน้าท่ีการงาน สถานภาพทางสังคม (กานนั ผู้ใหญ่บา้ น คหบดี ฯลฯ) ประสบการณ์เกี่ยวกับเน้อื หาความรู้ที่เรียน ภารกิจส่วนตัวในวันที่ มาเรียนจนอ่อนล้าต่อการเรียน และอื่นๆ เพราะนักเรียน อศ.กช.เป็นการศึกษานอกระบบ จึงมี การคละความแตกต่างของผเู้ รยี นมาก นอกจาก attributes ของนกั เรียน อศ.กช.แลว้ ต้องตรวจสอบหน่วยทดลอง คือ ชั้นเรียน ด้วยว่า เป็นปจั จัยแทรกซ้อนทม่ี ผี ลตอ่ การทดลองหรือไม่ เช่น ช้ันเรียนมีอากาศร้อนเกินไป มีเสียง ดังรบกวนจากภายนอกช้ันเรยี น เป็นตน้ และอน่ื ๆ ท่ีจะมผี ลกระทบตอ่ หน่วยการทดลอง
105 กรณีที่ 2 การทดลองแบบกลมุ่ เดยี ว แตม่ กี ารทดสอบกอ่ นและหลัง วราพล เกษมสันต์ (2561) ทาวิทยานิพนธ์เรื่อง “การประเมินประสบการณ์เพ่ือการ เรียนรเู้ รือ่ งสง่ิ แวดล้อม กรณศี กึ ษา การตรวจวัดคุณภาพน้า การวิจัยคร้ังนี้ได้นาประสบการณ์เพ่ือ การเรียนรู้ท่ีสร้างข้ึนไปทาการทดลองแบบกลุ่มเดียว แต่มีการทดสอบก่อนและหลัง ทาการ ทดสอบความแตกต่างของคะแนนจากการทดสอบ 2 ครั้ง คือ ก่อนการทดลอง และหลังการ ทดลอง รายละเอยี ดการวจิ ัย ดังนี้ 1. นวตั กรรมในการวจิ ยั ครงั้ นี้ คอื ตารางประสบการณ์เพ่ือการเรียนรู้ 6 เร่ือง แต่จะขอ นามาเป็นตัวอย่าง 3 เร่ือง ได้แก่ ตารางประสบการณ์เพื่อการเรียนรู้ เรื่อง ลักษณะของน้าเสีย แหลง่ กาเนดิ น้าเสยี และสาเหตุของนา้ เสีย ดังตาราง
ตารางประสบการณ์เพ่ือการเรยี นรสู้ ่งิ แวดล้อม เรื่อง ลักษณะของน้าเสีย เนอ้ื หาความรู้สิง่ แวดลอ้ ม วตั ถปุ ระสงคก์ าร สถานการณก์ ารเรยี นรู้ ทีต่ อ้ งการให้ผเู้ รยี นได้ เรยี นรู้ กิจกรรมท่ีผสู้ อนกระทา กจิ เรียนรู้ ผ้เู ร น้าเสีย คือ นา้ ท่ีไม่สามารถ จดจา อธบิ าย ลกั ษณะของนา้ เสีย -ฟังคา ใช้ได้ มีลกั ษณะดงั นี้ วัตถปุ ระสงคเ์ ชิง -ดูภาพ 1.มสี คี ล้า/ดา พฤติกรรม คือ อธบิ ายการเลน่ เกม “ลกั ษณะของ น้าเสยี 2.มีสีเขยี วเขม้ ระบุลักษณะของ นา้ เสีย” ลกั ษณ 3.นา้ นิง่ นา้ เสียได้ถูกต้อง 1) .แจกกระดาษระบขุ ้อความ 4.มีกลิ่นเหม็น (น้าคลา/หญา้ ในเวลา 10 นาที ลักษณะของนา้ เสียให้ผู้เรยี นคนละ 6 -ฟังคา เนา่ ) แผน่ (1.มีสคี ล้า/ดา 2.มีสเี ขยี วเขม้ เล่นเก 5.ปลาลอยตวั 3.น้าน่ิง 4.มีกลน่ิ เหม็น (นา้ คลา/หญา้ -รับกร 6.มีปลาตาย เน่า) 5.ปลาลอยตวั 6.มีปลาตาย) ขอ้ คว 2).ใหผ้ เู้ รยี นเขยี นชอื่ บนกระดาษ นา้ เสยี ระบุขอ้ ความลักษณะของนา้ เสยี ท้งั 6 -เขยี น แผน่ กระดา 3.ให้ผ้เู รยี นนากระดาษระบุขอ้ ความ ข้อคว ลกั ษณะของนา้ เสยี ไปเลือกใส่ใน น้าเสยี กลอ่ งกระดาษที่มขี อ้ ความระบุที่ -นากร ถูกต้อง (นา้ เสยี /น้าไม่เสยี ) ในเวลา ข้อคว 10นาที/ทมี นา้ เสีย กลอ่ งก เวลา 1
106 จกรรมทีใ่ ห้ สอ่ื ชว่ ยสอน การประเมนิ รยี นกระทา 1.ภาพน้ามสี คี ลา้ /ดา 2.ภาพน้ามีสเี ขียวเขม้ 3.ภาพ ผเู้ รยี นนา าอธบิ าย น้านา้ นิง่ (ภาพนา้ ทไ่ี มม่ ีคล่นื /ไม่กระเพ่อื ม) 4.ภาพ กระดาษระบุ พ ลักษณะของ คนปดิ จมกู (กล่ินเหมน็ )(ภาพหญา้ เน่า) 5.ภาพ ขอ้ ความ ย ท้งั 6 นา้ ปลาลอยตัว และ 6.ภาพนา้ มปี ลาตาย ลักษณะของ ณะ -กระดาษระบขุ อ้ ความลักษณะของนา้ เสีย 6แผ่น น้าเสียไปใส่ าอธบิ าย การ -กล่องกระดาษ 2 กลอ่ ง ในโหล กม (1.มขี อ้ ความวา่ น้าเสีย 2.มีขอ้ ความว่าน้าไมเ่ สยี ) พลาสตกิ ที่มี ระดาษระบุ ขอ้ ความระบุ วามลกั ษณะของ ว่าน้าเสียได้ ย คนละ 6 แผน่ ถกู ต้อง ใน นช่ือตนเองใน เวลา 10 นาที าษระบุ (ผู้เรยี นตอบ วามลกั ษณะของ ลักษณะของ ยทัง้ 6 แผ่น น้าเสยี ได้ ระดาษระบุ ถกู ต้อง วามลักษณะของ 100%) ยไปเลอื กใสใ่ น กระดาษ ใน 10 นาท่ี
ตารางประสบการณเ์ พ่ือการเรยี นรสู้ ิ่งแวดลอ้ ม เรอื่ ง แหล่งกาเนิดน้าเสยี เนอ้ื หาความรู้ส่งิ แวดล้อมท่ี วตั ถุประสงค์ สถานการณ์การเรียนร ตอ้ งการให้ผเู้ รยี นไดเ้ รียนรู้ การเรยี นรู้ กจิ กรรมที่ ผสู้ อนกระทา ผ แหลง่ กาเนดิ นา้ เสีย คอื บรเิ วณท่เี กิดนา้ จดจา อธิบาย แหล่งกาเนดิ นา้ เสยี -ฟัง เสีย ประกอบด้วย แห วัดถปุ ระสงค์เชิง อธิบายการเล่นเกม “นา้ เสยี มาจาก โดย 1.บรเิ วณชมุ ชน เช่น บา้ นพักอาศัย พฤตกิ รรม ไหน” Ma (Map1) คือ ระบุ 1. ใหผ้ ู้เรยี นแต่ละคนวง่ิ ไปหาบัตร แหล่งกาเนิดนา้ คาตอบบรเิ วณทเี่ กิดนา้ เสยี บนพน้ื -ฟัง 2. บริเวณพนื้ ทีก่ ารเกษตร เชน่ นาขา้ ว เสยี ได้ถกู ตอ้ ง คนละ 5 แผน่ แลว้ วิง่ กลับมาพรอ้ ม -หา นาร้าง สวนขา้ วโพด สวน(ผกั กาด ท้งั 5 แหลง่ ใน ส่งบตั รคาตอบฯ ในเวลา 15นาที บร ผกั คะนา้ ถั่วพู) สวนมะนาว (Map2) เวลา 15 นาที บน แผ 3. บริเวณพนื้ ที่โรงงานอตุ สาหกรรม คาต เชน่ นิคมอุตสาหกรรมบางกระดี นวนคร 15น โรงงานผลิตสติ๊กเกอร์ โรงงานทา เฟอร์นเิ จอร์ (Map3) 4. บริเวณทตี่ งั้ ของ ปตร.ทรบ. ซง่ึ เปน็ จดุ เชอ่ื มโยงสายคลองต่างๆ (Map4) การเปดิ -ปดิ ปตร./ทรบ. (บาง ช่วงเวลา) ทาให้นา้ เสียไหลเขา้ ออกใน คลองที่เชอื่ มโยงกนั จนกอ่ ใหเ้ กิดนา้ เสียขนึ้ (จากการสัมภาษณผ์ ู้รใู้ นคลองเชือ่ มโยง คลองออ้ ม) 5. บริเวณทฉี่ ดี ผกั ตบชวา ซาก ผักตบชวาในนา้ (Map5)
107 รู้ สอ่ื ชว่ ยสอน การประเมนิ กิจกรรมท่ใี ห้ Map1-แผนทีส่ ายคลอง และท่ีพักอาศัย ผเู้ รียนระบุบตั ร ผู้เรยี นกระทา Map2-แผนทีส่ ายคลอง และบริเวณพ้นื ท่ี คาตอบบริเวณที่ เกษตร ตาแหนง่ พ้นื ท่ีนา Map3-แผนทส่ี าย เกิดน้าเสยี งคาอธบิ าย คลอง และบริเวณโรงงาน Map4-แผนท่ีสาย ไดถ้ ูกตอ้ ง ในเวลา หลง่ กาเนดิ นา้ เสีย คลอง และปตร./ทรบ.+ข้อความ Map5-แผน 15 นาที ยใช้ แผนท่ี ท่ีสายคลอง+ตาแหน่งฉีดผักตบชวา (ผู้เรยี นตอบ ap1-5 ประกอบ -บตั รคาตอบระบบุ รเิ วณทเ่ี กดิ นา้ เสยี 5 แหล่ง บรเิ วณกาเนดิ ของ นา้ เสยี ได้ถูกต้อง งคาอธบิ าย 100%) าบตั รคาตอบ ริเวณทเี่ กดิ นา้ เสยี นพืน้ คนละ 5 ผ่น แลว้ สง่ บตั ร ตอบฯ ในเวลา นาที
ตารางประสบการณ์เพอื่ การเรียนร้สู ่ิงแวดลอ้ ม เรือ่ ง สาเหตขุ องน้าเสีย เนอื้ หาความรสู้ ิ่งแวดล้อมท่ี วัตถปุ ระสง สถานการณก์ ารเรียน ตอ้ งการให้ผู้เรียนไดเ้ รยี นรู้ ค์การเรยี นรู้ กจิ กรรมที่ ก ผู้สอนกระทา สาเหตขุ องน้าเสยี คอื จดจา อธิบาย สาเหตุของน้าเสยี -ฟ ตน้ เหตขุ องนา้ เสยี ขอ 1. การเปิด-ปดิ ประตรู ะบาย วัตถปุ ระสง แผ น้า ทาใหน้ า้ เสียจากคลอง ค์เชิง วงล เช่อื มโยงไหลเข้าคลองออ้ ม พฤตกิ รรม น้าในคลองอ้อมจงึ เสยี คอื ระบุ 2. การระบายน้าเสียจากนา สาเหตขุ อง ลงคลองออ้ ม น้าเสยี ได้ 3. นา้ เสียทีเ่ กดิ จากการฉีดยา ถกู ต้องทัง้ ฆา่ ผักตบชวา 4 ขอ้ ใน 4. นา้ เสยี ไหลเข้า คลอง เวลา 15 อธบิ ายการเล่นเกม “ค้นหา -ฟ ออ้ ม บริเวณ ทดระบายน้า. นาที ตน้ เหตขุ องน้าเสีย” -แต หน้าวดั เวฬุวนั ทดระบายนา้ . 1. ใหผ้ เู้ รียนแตล่ ะคนเลอื กแผ่น ปา้ คลองโรงหบี ช่วงหน้าฝน ปา้ ย “สาเหตขุ องนา้ เสยี ” ทีพ่ ื้น เสยี (Map11) คนละ4แผน่ ในเวลา 15 นาที แผ
108 นรู้ ส่อื ชว่ ยสอน การ กิจกรรมที่ให้ผู้เรียน ประเมิน Map6-แผนที่ เปิด ทดระบายหน้าวดั กระทา เวฬวุ ัน และคลองโรงหบี Map7-แผนที่ ผเู้ รียน ฟังคาอธิบาย สาเหตหุ ปิด ประตรู ะบายเชียงรากใหญ(่ ฝัง่ เลือก องน้าเสีย โดยใช้ แม่น้า) Map8-แผนท่เี ปิดประตรู ะบาย แผน่ ป้าย ผนที่ Map 6-11และ บ้านพรา้ ว Map9-แผนท่คี ลองทท่ี าให้ “ตน้ เหตุ ลอ้ ประกอบ คลองออ้ มเสยี วงล้อ1-ชว่ งเวลาทานาที่ ของน้า ปล่อยนา้ เสยี +ภาพและข้อความ เสยี ” ได้ ฟงั คาอธบิ าย ลักษณะนา้ เสีย Map10-แผนท่ีตาแหน่ง ถกู ตอ้ ง ตล่ ะคนเลือกแผ่น ฉีดยาฆา่ ผกั ตบชวาMap11-แผนท่ีบอก ครบ 4 าย “ต้นเหตุของนา้ ตาแหนง่ น้าเสียอตุ สาหกรรม ข้อ ใน ย” ทีพ่ นื้ มา คนละ4 เวลา 15 ผ่น แล้วนาส่งพ่ีเลยี้ ง นาที
109 2. กลุ่มผู้ถูกทดลอง ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัด ดาวเรอื ง ตาบลบางพดู อาเภอเมือง จงั หวดั ปทุมธานี จานวน 16 คน 3. ทดสอบความแตกต่างของคะแนนจากการทดสอบก่อน-หลัง โดยใช้ค่าสถิติ t-test แบบ t-dependent ซ่ึงมสี ตู รดังนี้ t= D nD2 - (D)2 n-1 เมือ่ D คอื ผลต่างของคะแนนในแต่ละคู่ n คอื จานวนคู่ 4. ผลการทดสอบ 1 ตารางประสบการณ์เพื่อการเรียนรู้ เร่ือง ลักษณะของน้าเสีย วัตถุประสงค์การ เรียนรู้ จา คะแนนเฉลี่ยของนักเรียนก่อนทดลอง เท่ากับ 6.75 คะแนน หลังการทดลอง เท่ากับ 7.63 เม่ือทดสอบโดยค่าสถิติ t-dependent ที่ df=15 ระดับความเชื่อม่ัน .01** มีค่า 2.947 แต่ค่า t ท่ีคานวณได้ มีค่า 3.1463 แปลว่า การจัดประสบการณ์เพื่อการเรียนรู้เรื่องนี้ ทา ให้นักเรยี นไดค้ วามรูเ้ พ่ิมขึ้นจริง เชอื่ ได้ 99% 2 ตารางประสบการณ์เพื่อการเรียนรู้ เรื่อง แหล่งกาเนิดน้าเสีย วัตถุประสงค์การ เรยี นรู้ จา คะแนนเฉลี่ยของนักเรียนก่อนทดลอง เท่ากับ 5.81 คะแนน หลังการทดลอง เท่ากับ 7.88 เมื่อทดสอบโดยค่าสถิติ t-dependent ที่ df=15 ระดับความเชื่อม่ัน .01** มีค่า 2.947 แต่ค่า t ที่คานวณได้ มีค่า 3.7937 แปลว่า การจัดประสบการณ์เพื่อการเรียนรู้เรื่องน้ี ทา ให้นกั เรียนไดค้ วามรู้เพ่ิมข้ึนจริง เชื่อได้ 99%
110 3 ตารางประสบการณ์เพื่อการเรียนรู้ เรื่อง สาเหตุของน้าเสีย วัตถุประสงค์การ เรยี นรู้ จา คะแนนเฉล่ียของนักเรียนก่อนทดลอง เท่ากับ 6.56 คะแนน หลังการทดลอง เท่ากับ 7.81 เมื่อทดสอบโดยค่าสถิติ t-dependent ท่ี df = 15 ระดับความเช่ือม่ัน .01** มีค่า 2.947 แต่ค่า t ที่คานวณได้ มีค่า 3.1836 แปลว่า การจัดประสบการณ์เพ่ือการเรียนรู้เร่ืองน้ี ทา ใหน้ กั เรยี นไดค้ วามรู้เพมิ่ ข้ึนจรงิ เช่อื ได้ 99% ค่าสถติ ิ คะแนน ������̅ ������̅ t 3.1463** พฤตกิ รรม เต็ม ก่อนทดลอง หลังทดลอง 3.7937** 6.75 7.63- 3.1836** ลักษณะของน้าเสยี 8 วัตถปุ ระสงคก์ ารเรยี นรู้ จา 5.81 7.88 แหล่งกาเนดิ นา้ เสยี 8 6.56 7.81 วัตถปุ ระสงคก์ ารเรยี นรู้ จา สาเหตขุ องนา้ เสยี 8 วัตถปุ ระสงคก์ ารเรยี นรู้ จา ภาพที่ 21 ผ้เู รยี นมีปฏสิ ัมพันธก์ ับกจิ กรรม เนือ้ หาความรู้”ลกั ษณะของน้าเสีย” ทผ่ี ้สู อนสรา้ งขึ้น
111 ภาพที่ 22 ผูเ้ รยี นมปี ฏิสัมพนั ธก์ บั กิจกรรม เน้ือหาความรู้”แหล่งกาเนดิ น้าเสยี ”ทผี่ สู้ อนสร้างข้ึน ภาพที่ 23 ผู้เรียนมีปฏิสมั พันธก์ บั กจิ กรรม เนือ้ หาความรู้ “สาเหตขุ องนา้ เสีย” ทผี่ สู้ อนสรา้ งขึน้ ผลจากการทดลองตารางประสบการณ์เพื่อการเรียนรู้ในวิทยานิพนธ์ของ วราพล เกษม สันต์ พบว่า กลุ่มผู้ถูกทดลองนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 ทาคะแนนผลการทดสอบคร้ังหลังสูง กว่าครั้งแรกในการทดลองตารางประสบการณ์เพื่อการเรียนรู้ที่สร้างขึ้น ถึงแม้จะรู้ว่าตาราง ประสบการณ์เพ่ือการเรียนรู้มีประสิทธิภาพ แต่ผู้วิจัยจะหยุดทดลองพียงเฉพาะกระทากับกลุ่มผู้ ถกู ทดลองกลุม่ นีเ้ พยี งกลมุ่ เดยี วไม่ได้ จะตอ้ งทาการทดลองกบั นกั เรยี นช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่ม อ่ืนๆอีก ท้ังนี้เพื่อเป็นการยืนยัน ผลการทดลองครั้งแรก หรืออาจจะพบข้อผิดพลาดจากการ ทดลอง ซ่ึงต้องนาตารางประสบการณ์เพื่อการเรียนรู้นี้มาปรับแก้ เพ่ือนาไปทดลองใหม่ ดังน้ัน ตารางประสบการณ์เพ่ือการเรยี นรู้กจ็ ะเป็น “สิง่ ใหม่”ต่อไป
112 ผลการทดลองตารางประสบการณ์เพ่ือการเรียนรู้ทั้ง 2 ตัวอย่างข้างต้น ประกอบกับ ข้อสังเกตจากผลการทดลอง ผู้เขียนขอเสนอว่า “กระบวนการ R&D”ของการสร้างประสบการณ์ เพือ่ การเรียนรสู้ ่ิงแวดลอ้ มไม่ควรจะมลี กั ษณะเปน็ ขน้ั บันได แต่ควรจะเป็น“วฏั จักร”ดังแผนภาพ แผนภาพวฏั จกั รกระบวนการ R&D”ของการสร้างประสบการณ์เพื่อการเรยี นร้สู ิ่งแวดล้อม วฏั จักร R&D ประสบการณ์เพื่อการเรียนรสู้ งิ่ แวดล้อม เริ่มจาก 1. นา “ตารางประสบการณ์เพื่อการเรียนรู้”ที่สร้างขึ้นไป“ทดลอง” ตาม “แบบการ ทดลอง” และ ทาการทดสอบ “ประสิทธิภาพเพอ่ื การเรียนรู้” 2. ถา้ ผลปรากฏว่า มปี ระสทิ ธิภาพ กใ็ ห้นาไปทดลองกับ “ผถู้ ูกทดลอง” กลุ่มใหม่ต่อไป และ เผยแพรส่ ู่แวดวงวชิ าการ 3. แตถ่ ้าปรากฏวา่ ไม่มปี ระสิทธิภาพก็“ปรับแก้ไข”ตารางประสบการณ์เพ่ือการเรียนรู้ แล้ว นาไปทดลองและทดสอบตอ่ ไป วฏั จักร R&D จะยตุ ลิ ง เมื่อผู้วิจัย ยตุ ิการทดลอง R&D นนั้ เอง ประสบการณเ์ พ่ือการเรียนรู้ คือ สิง่ ใหม่เสมอ = R&D ทางการศกึ ษา = วจิ ยั ในช้นั เรียนทุกภาคการศึกษา
113 บรรณานกุ รม โกวทิ ประวาลพฤกษ์ และสมศักดิ์ สนิ ธรุ ะเวชญ.์ 2523. การประเมนิ ในชนั้ เรียน . กรงุ เทพฯ: ไทยวัฒนาพานชิ . ดเิ รก ฤกษห์ รา่ ย. 2518. หลักการสง่ เสริมการเกษตร. กรุงเทพฯ: จงเจนริญการพอมพฬ์ บุญธรรม จติ ต์อนันต์. 2540. สง่ เสรมิ การเกษตร. พมิ พค์ ร้ังที่ 2 กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชวนพมิ พ์. พวงรัตน์ ทวีรัตน์. 2543. วธิ ีการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร.์ พิมพค์ รั้งท่ี 8. สานกั ทดสอบทางการศกึ ษาและจิตวิทยา มหาวิทยาลยั ศรนี ครนิ ทรวิโรฒ ประสานมติ ร ราชบัณฑิตยสถาน. 2534. พจนานกุ รมฉบบั เฉลมิ พระเกียรติ พ.ศ.2530. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์วัฒนาพานิช. ลาวณั ย์ วิจารณ.์ 2557. การจัดประสบการณ์เพอ่ื การเรยี นรทู้ างสิง่ แวดล้อม (A Design of Environmental Learning Experience). เอกสารประกอบการฝกึ อบรม วิทยากรโครงการเสริมสร้างศักยภาพและขยายเครอื ขา่ ยยุวชนจติ อาสาเฝา้ ระวังคณุ ภาพนา้ คลองเช่ือมตอ่ แม่นา้ เจา้ พระยา ในตาบลเชียงรากนอ้ ย อาเภอสามโคก จังหวัดปทมุ ธานี. (ถา่ ยสาเนา) ____________ . 2559. สงิ่ แวดล้อมศึกษา: แนวทางสู่การปฏบิ ตั ิ.ปทมุ ธานี: สานกั พมิ พ์ มหาวทิ ยาลัยรงั สิต. ____________ . 2561. การสร้างประสบการณ์เพื่อการเรียนรูส้ งิ่ แวดล้อม: แนวทางสกู่ าร ปฏิบตั ิ ปทุมธานี: โรงพมิ พม์ หาวทิ ยาลยั รงั สติ . ลาวณั ย์ วจิ ารณ์.และแอนจริ า เจรญิ วงศ.์ 2556. การถ่ายทอดองค์ความรู้ การจัดทาแผนท่ี มลพิษทางนา้ เพอ่ื การเฝา้ ระวงั คณุ ภาพนา้ ของชมุ ชนบา้ นศาลาแดงเหนอื ตาบล เชียงรากน้อย อาเภอสามโคก จังหวัดปทมุ ธาน.ี เอกสารรายงานผล โครงการจัดการ ความรแู้ ละถา่ ยทอดเทคโนโลยจี ากผลงานวจิ ยั และนวัตกรรม สานกั งานคณะกรรมการ การวจิ ัยแห่งชาติ (วช). (ถ่ายสาเนา)
114 ลาวัณย์ วจิ ารณ์ และศักดิ์ศรี รกั ไทย. 2561. การสร้างชดุ ประสบการณ์เพือ่ การเรียนรเู้ ร่ือง “แมลงในแปลงนาข้าว จังหวดั เพชรบรุ ี” สาหรับนักเรียน ปวช. (ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ) โครงการอาชีวศึกษาเพ่ือการพฒั นาชนบท (อศ.กช.) กรณศี ึกษาวิทยาลัยเกษตรและ เทคโนโลยีเพชรบุร.ี เอกสารประกอบการฝึกอบรมเชงิ ปฏบิ ตั ิการ เรื่อง ประสบการณเ์ พ่ือการ เรียนรู้ ณ สถาบันการอาชวี ศึกษาเกษตรภาคใต้ จังหวัดนครศรีธรรมราช .(ถา่ ยสาเนา) วราพล เกษมสันต์. 2561. การประเมินประสบการณ์เพือ่ การเรยี นรูส้ ง่ิ แวดลอ้ ม เรือ่ ง การ ตรวจวัดคณุ ภาพนา้ . เอกสารประกอบการฝกึ อบรมเชงิ ปฏบิ ัติการเรือ่ งประสบการณเ์ พ่ือ การเรียนรู้ ณ สถาบันการอาชีวศึกษาเกษตรภาคใต้ จังหวัดนครศรีธรรมราช .(ถา่ ยสาเนา) สมสุดา ผพู้ ฒั น์ และโสภณ ธนะมัย. 2534. การพัฒนาหลักสูตรการศกึ ษาเกษตร. พมิ พ์คร้ังท่ี 2 กรุงเทพฯ: โรงพมิ พค์ รุ ุสภา ลาดพร้าว . _________________________ . 2534. คู่มือการเขยี นเอกสารประกอบการสอนและ แผนการสอน. กองวิทยาลัยเกษตรกรรม กรมอาชวี ศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ. โสภณ ธนะมยั . 2561. ถอดรหัสคิด (Think: An Introductory Analysis). ปทุมธานี: โรงพมิ พม์ หาวิทยาลัยรงั สิต. ___________ . 2561. หลักและกระบวนการ R&D ทางการศึกษา. ปทุมธาน:ี โรงพิมพม์ หาวทิ ยาลัยรังสติ . Longman. 1995. Longman Dictionary of Contemporary English. England: Longman Group Ltd. Tyler, Ralph W. 1949. Basic Principles of Curriculum and Instruction. Chicago: The University of Chicago Press. https://thaipublica.org/2017/05/thaipublica-advertorial-ep03/ สบื ค้นเมอื่ วันท่ี 07.07.18 http://www.cp-enews.com/news/details/cpnews/1007 ) สบื คน้ เม่ือวนั ที่ 07.07.18
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128