รหสั วชิ า EGTI616 ช่ือวชิ า ระเบียบวธิ ีการวจิ ยั (Research Methodology) ช่อง Missing ใชใ้ นกรณีที่คาดวา่ อาจจะมีขอ้ มูลของกลุ่มตวั อยา่ งบางคนไม่ สมบูรณ์ คือไม่ตอบมา หรือตอบมาไม่ชดั เจน ค่าสูญหายใน SPSS มี 2 ประเภท คอื o ค่าสูญหายของระบบ เซลว่างท่ีอยู่ในขอบเขตสี่เหลี่ยมของ ขอ้ มูลของตวั แปรเชิงตวั เลข SPSS จะถือวา่ เป็ นคา่ สูญหาย ของระบบซ่ึงแสดงดว้ ยจุด (.) ดงั รูป o ค่าสูญหายของผูใ้ ช้ ผูใ้ ชอ้ าจตอ้ งการกาํ หนดค่าแทนขอ้ มูลที่ สูญหาย เพ่ือจะไดท้ ราบวา่ ทาํ ไมขอ้ มูลถึงหาย ในท่ีน้ีกรณีเด็ก ที่เราไม่รู้เพศของเดก็ เราจะใหค้ ่าเป็น “ม” ยอ่ มาจากคาวา่ “ไม่ รู้” แลว้ คลิกป่ ุม “OK” ในกรณีขอ้ มูลเป็นคะแนนหรือตวั เลข 87
รหสั วชิ า EGTI616 ช่ือวชิ า ระเบียบวธิ ีการวจิ ยั (Research Methodology) อาจจะกาํ หนดวา่ คา่ missing เป็นเลข “9” หรือ “999” ข้ึนอยู่ กบั จาํ นวนหลกั ของขอ้ มูลในตวั แปรน้นั การกาํ หนดค่า Missing Values มีประโยชน์ตรงเราสามารถกาํ หนดกลุ่มตวั อยา่ ง ที่มี ความผดิ พลาดมาใชใ้ นการคาํ นวณหรือไม่ใชใ้ นการคาํ นวณกไ็ ด้ ช่อง Column คือช่องสาหรับกาํ หนดความกวา้ งของเซล โดยปกติจะต้งั ค่า เป็น 8 ตวั อกั ษรคือพิมพต์ วั อกั ษรหรือตวั เลขไดไ้ ม่เกิน 8 ตวั อกั ษร ซ่ึงค่าน้ีเราสามารถปรับให้ เพม่ิ ข้ึนหรือนอ้ ยลงกไ็ ด้ ช่อง Align สาหรับกาํ หนดตาํ แหน่งของขอ้ มูลในตวั แปร วา่ ตอ้ งการให้ จดั ชิดซา้ ย ชิดขวา หรือจดั กลางกไ็ ด้ ช่อง Measure สาหรับกาํ หนดมาตรการวดั ของตวั แปรวา่ จะเป็น Nominal หรือ Ordinal หรือ Scale (Interval และ Ratio) ต้งั ค่าในตวั แปร sex, age, year และ status โดยมีคุณลกั ษณะต่าง ๆ ดงั น้ี 88
รหสั วชิ า EGTI616 ชื่อวชิ า ระเบียบวธิ ีการวจิ ยั (Research Methodology) เม่ือต้งั คา่ คุณลกั ษณะของตวั แปรจนครบแลว้ ใหป้ ้ อนขอ้ มลู ของกลุ่มตัวอยา่ ง ท้งั หมดลง ในแต่ละตวั แปรจนครบ 20 คน เม่ือป้ อนขอ้ มูลครบ 20 คนแลว้ จะไดผ้ ลดงั น้ี 5) การบันทกึ แฟ้ มข้อมลู เมื่อป้ อนขอ้ มูลเรียบร้อยแลว้ (หรือยงั ไม่เรียบร้อยเน่ืองจากขอ้ มูลมีจาํ นวนมาก) เรา สามารถบนั ทึกขอ้ มูลที่ป้ อนเกบ็ ไวใ้ ช้ โดยเลือกเมนู File ------> Save as… จะปรากฏหนา้ ต่าง ดงั น้ี 89
รหสั วชิ า EGTI616 ช่ือวชิ า ระเบียบวธิ ีการวจิ ยั (Research Methodology) ผปู้ ้ อนขอ้ มูลอาจเลือกไดเรคทอร่ีท่ีตอ้ งการเกบ็ ขอ้ มูลโดยไปท่ี Save in: แลว้ เลอื ก Drive และ Directory ท่ีตอ้ งการแลว้ ต้งั ช่ือแฟ้ มขอ้ มูล โดยพิมพใ์ ส่ช่อง File Name : แลว้ คลิก OK โปรแกรมจะเติมนามสกลุ .sav ใหเ้ องโดยอตั โนมตั ิ 6) การเปิ ดแฟ้ มข้อมูล หากผวู้ เิ คราะห์ตอ้ งการเรียกแฟ้ มขอ้ มลู ท่ีมีอยแู่ ลว้ ออกมาแสดงเพ่อื ใช้ในการวเิ คราะห์ เลือกเมนู File ----> Open ------> Data… จะปรากฏหนา้ ต่างดงั น้ี จากน้นั ไปท่ี “Look in” เลือก Drive และ Directory ที่เกบ็ แฟ้ มขอ้ มูลที่ตอ้ งการเปิ ด และ คลิกเลือกแฟ้ มขอ้ มลู ท่ีตอ้ งการ เม่ือไดแ้ ลว้ ใหค้ ลิกป่ ุม “Open” กจ็ ะไดแ้ ฟ้ มขอ้ มลู ตามตอ้ งการ 7) การจดั การข้อมูล การกรอกข้อมูล เมื่อไดก้ าํ หนดตวั แปรทุกตวั แลว้ ก็สามารถป้ อนขอ้ มูล โดยขอ้ มูล 1 ชุด (case) โดยตอ้ ง เปล่ียนหนา้ จอเป็น Data View ก่อน แลว้ ทาํ การกรอกขอ้ มลู ต่อไปน้ี ตวั อยา่ งเช่น 90
รหสั วชิ า EGTI616 ช่ือวชิ า ระเบียบวธิ ีการวจิ ยั (Research Methodology) การปรับปรุงแก้ไขข้อมูล การดาํ เนินการปรับปรุงแกไ้ ขขอ้ มลู ในโปรแกรม SPSS สามารถดาํ เนินการแกไ้ ขในรูปแบบ และวธิ ีการเดียวกบั การใชง้ านใน Microsoft Excel เช่น การแกไ้ ขขอ้ มลู ใน cell - เลือก cell ที่จะแกไ้ ข - คลิกที่ค่าที่จะแกไ้ ข แลว้ ทาํ การแกไ้ ข - กด Enter การคดั ลอกขอ้ มลู - เลือกขอ้ มลู ที่ตอ้ งการคดั ลอกแลว้ ใชค้ าสง่ั Edit Copy - เลือกตาํ แหน่งท่ีจะวางขอ้ มูลท่ีคดั ลอก แลว้ ใชค้ าสงั่ Edit Paste การยา้ ยขอ้ มูล - เลือกขอ้ มูลท่ีตอ้ งการยา้ ยคา่ แลว้ ใชค้ าสง่ั Edit Cut 91
รหสั วชิ า EGTI616 ช่ือวชิ า ระเบียบวธิ ีการวจิ ยั (Research Methodology) - เลือกตาํ แหน่งท่ีจะวางขอ้ มูลท่ียา้ ย แลว้ ใชค้ าสงั่ Edit Paste การลบ case - เลือกท่ีหมายเลข case ของแต่ละแถว - ใชค้ าํ สงั่ Edit Clear การลบตวั แปร หรือ Column - เลือกชื่อตวั แปรซ่ึงอยทู่ ่ีหวั column - ใชค้ าสง่ั Edit Clear การคน้ หา Case - ใชค้ าสงั่ Data Go to Case… จะไดห้ นา้ จอ - ใส่หมายเลข case ท่ีตอ้ งการคน้ หา แลว้ เลือก การเลือกเซตยอ่ ยของ case - สามารถเลือกเซตยอ่ ยของ case ไดโ้ ดยการกาํ หนดเงื่อนไข โดยใชค้ าํ สง่ั Data Selected Case… จะปรากฏหนา้ จอดงั รูป 92
รหสั วชิ า EGTI616 ช่ือวชิ า ระเบียบวธิ ีการวจิ ยั (Research Methodology) - ถา้ ตอ้ งการเลือกโดยกาํ หนดเง่ือนไข คา่ ใชจ้ ่าย หรือ expense มากกวา่ 3,000 บาท โดยใชค้ าํ สงั่ If condition is satisfied เลือก if จะปรากฏหนา้ จอดงั รูป - ใส่เง่ือนไข โดยเลือก expense > 3000 เลือก Continue เลือก OK 93
รหสั วชิ า EGTI616 ช่ือวชิ า ระเบียบวธิ ีการวจิ ยั (Research Methodology) การแบ่งไฟลข์ อ้ มลู ออกเป็นกลุ่ม ๆ เพอื่ การวเิ คราะห์ โดยใชค้ าํ สงั่ Data Split File… จะไดห้ นา้ จอ การเปลี่ยนแปลงรูปแบบขอ้ มลู โดยใชค้ าํ สงั่ Transform คาํ สงั่ Transform มีคาํ สัง่ ยอ่ ย ดงั น้ี คาํ สงั่ Compute 94
รหสั วชิ า EGTI616 ช่ือวชิ า ระเบียบวธิ ีการวจิ ยั (Research Methodology) - ใชค้ าํ นวณค่าของตวั แปรชนิดตวั เลข - Target Variable ตอ้ งระบุช่ือตวั แปรใหม่ ซ่ึงเป็นตวั แปรที่รับค่าท่ีไดจ้ ากการ คาํ นวณโดยใชค้ าสงั่ Compute - Numeric Expression เป็นคาสง่ั ที่กาํ หนดค่าให้ Target Variable เช่น สมมติวา่ ตอ้ งการคาํ นวณ รายรับ รายจ่าย โดยตอ้ งใส่ขอ้ มูลรายได้ (income) ก่อน แลว้ คาํ นวณคา่ โดยหาจาก รายได้ (income) – ค่าใชจ้ ่าย (expense) ดงั น้นั o ช่อง Target Variable อาจใส่ตวั แปร sume o ช่อง Numeric Expression ใส่ค่า income – expense เคร่ืองจะทาํ การคาํ นวณคา่ ของรายรับ รายจ่ายให้ โดยอยใู่ นชื่อตวั แปร sume - นอกจากน้ีสามารถคาํ นวณโดยใชฟ้ ังก์ชนั ทางคณิตศาสตร์อื่น ๆ ได้ เช่น ABS(numexpr) เป็นคา่ absolute ของตวั แปร , LG10(numexpr) เป็น log ฐาน 10 , SQRT(numexpr) เป็นคา่ รากที่สอง เป็นตน้ 95
รหสั วชิ า EGTI616 ช่ือวชิ า ระเบียบวธิ ีการวจิ ยั (Research Methodology) คาํ สง่ั Recode - เป็นคาํ ส่ังท่ีใชใ้ นการเปล่ียนค่าของขอ้ มูล เช่น ตอ้ งการหาคา่ ใชจ้ ่ายเฉล่ียของผทู้ ี่ ไดเ้ กรดเฉล่ียต้งั แต่ 3.00 ข้ึนไป จะตอ้ งกาํ หนดค่าของตวั แปร expense ใหม่ - Recode into Same Variables เป็นการเปล่ียนค่าของตวั แปรเดิม หรือใหค้ า่ ของตวั แปรเดิมเปลี่ยนไป - Recode into Different Variables เป็นการสร้างตวั แปรใหม่เพ่ือเก็บค่าของตวั แปร ที่เปล่ียนไป โดยตวั แปรเดิมยงั มีค่าคงเดิม คาํ สง่ั Rank Cases - เป็นคาํ สั่งท่ีใชส้ าหรับจดั เรียงขอ้ มูลของตวั แปรแบบ numeric variable แปลง ขอ้ มูลใหม้ ีอนั ดบั ต่าง ๆ จากนอ้ ยไปมากหรือจากมากไปนอ้ ย ภายใตร้ ูปแบบของ การใชค้ ะแนนมาจดั อนั ดบั ดว้ ยแบบต่าง ๆ ที่เรียกวา่ Rank Type และรูปแบบ ของการจดั อนั ดบั ของขอ้ มูลท่ีมีค่าซ้าํ กนั ดว้ ยแบบต่างๆ ที่เรียกวา่ Rank Ties โดย ใชค้ าํ สงั่ Transform Rank Cases… 96
รหสั วชิ า EGTI616 ช่ือวชิ า ระเบียบวธิ ีการวจิ ยั (Research Methodology) คาํ สง่ั Count - เป็นคาํ สงั่ ท่ีใชส้ าหรับนบั ค่าของตวั แปรท่ีสนใจกาํ หนดคา่ ใหน้ บั วา่ ในแตล่ ะ case มีคา่ ดงั กล่าวหรือไม่ ถา้ มีหรือไม่มีเครื่องจะทาํ เคร่ืองหมายเช่น 1 หรือ 0 ไว้ และ เราสามารถหาผลรวมของ case ที่มีเครื่องหมาย 1 ต่อไปได้ โดยใชค้ าํ สง่ั Transform Count… 97
รหสั วชิ า EGTI616 ช่ือวชิ า ระเบียบวธิ ีการวจิ ยั (Research Methodology) 8) การวเิ คราะห์ข้อมูล เม่ือไดข้ อ้ มูลแลว้ เราก็มาเร่ิมตน้ วิเคราะห์ขอ้ มูลไดโ้ ดยใชเ้ มนูหลกั Analyze จะปรากฏ เมนูรองชุดของสถิติให้เลือกมากมาย ในแต่ละเมนูรองก็จะมีเมนูย่อยของแต่ละชุดสถิติให้ วเิ คราะห์ดงั รูป เลือกเมนูรอง “Descriptive Statistics” เมนูยอ่ ย “ Descriptive” จะปรากฏหนา้ ต่าง 98
รหสั วชิ า EGTI616 ช่ือวชิ า ระเบียบวธิ ีการวจิ ยั (Research Methodology) เลือกสถิติท่ีตอ้ งการไดแ้ ลว้ คลิกป่ ุม “Continue” และคลิกป่ ุม “OK” โปรแกรมจะ ประมวลผลแสดงในหนา้ ต่าง Output ผลที่ไดจ้ ะเป็นตารางสถิติพ้นื ฐานของตวั แปรเพศ อายุ และช้นั ปี 9) การปิ ดโปรแกรม เมื่อสิ้นสุดการใชง้ านใหป้ ิ ดโปรแกรม โดยการคลิกที่เมนหู ลกั “File” และเมนูรอง “Exit” โปรแกรมจะถูกปิ ดลง 8.3 การวเิ คราะห์ค่าสถติ เิ บอื้ งต้น การคาํ นวณค่าสถติ เิ บอื้ งต้น หลงั จากท่ีเก็บรวบรวมขอ้ มูลและสร้างแฟ้ มขอ้ มูลเรียบร้อยแลว้ ผูว้ ิจยั จะตอ้ งทาํ การ วเิ คราะห์ขอ้ มูล เพื่อสรุปผลของการวจิ ยั ตามวตั ถุประสงคข์ องงานวจิ ยั ซ่ึงจาํ เป็นตอ้ งใชว้ ิธีการ ทางสถิติช่วยในการวเิ คราะห์ ซ่ึงสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดงั น้ี 1) สถติ เิ ชิงพรรณนา (Descriptive Statistics) ซ่ึงเป็นการนาํ เสนอข้อมูลที่เก็บรวบรวม มาโดยนาํ มาบรรยายถึงลกั ษณะของขอ้ มูลที่เก็บมาได้ ท้งั ในรูปแบบของตาราง ขอ้ ความ แผนภูมิ หรือกราฟต่างๆ และคา่ สถิติตา่ งๆ 99
รหสั วชิ า EGTI616 ชื่อวชิ า ระเบียบวธิ ีการวจิ ยั (Research Methodology) 2) สถิตเิ ชิงอนุมาน (Inference Statistics) หมายถึงการวเิ คราะห์ขอ้ มูลตวั อยา่ ง แลว้ นาํ ผลการวิเคราะห์น้นั อา้ งอิงถึงลกั ษณะที่สาํ คญั ของประชากร โดยใชห้ ลกั เกณฑข์ องความน่าจะ เป็ น และสถิติเชิงอนุมานจะประกอบดว้ ย การประมาณค่า การทดสอบสมมติฐานท่ีใช้ พารามิเตอร์ และท่ีไม่ใชพ้ ารามิเตอร์ เป็นตน้ สถติ เิ ชิงพรรณนา (Descriptive Statistics) เป็นการนาํ เสนอขอ้ มูลท่ีเก็บรวบรวมมาโดยนามาบรรยายถึงลกั ษณะของขอ้ มูลท่ีเก็บมา ได้ ท้งั ในรูปแบบของตาราง ขอ้ ความ แผนภูมิ หรือกราฟต่างๆ หลกั สาํ คญั ของสถิติเชิงพรรณนา น้ี คือ เกบ็ ขอ้ มูลชนิดใดมาไดก้ ็จะอธิบายไดเ้ ฉพาะขอ้ มูลชนิดน้นั ไม่สามารถนาํ ไปใชอ้ า้ งอิงถึง ขอ้ มูลในส่วนอ่ืนๆ ได้ เช่น เกบ็ ขอ้ มูลจากกลุ่มตวั อยา่ ง จาํ นวน 600 คน จากประชากรท้งั หมด 1,000 คน การบรรยายลกั ษณะของขอ้ มูลตลอดจนการวิเคราะห์และแปลผลจะเป็ นเฉพาะใน ส่วนของขอ้ มูลจากกลุ่มตวั อยา่ ง 600 คนเท่าน้นั ผวู้ ิจยั ไม่สามารถนาํ ไปใชอ้ า้ งอิงแทนประชากร ท้งั หมด 1,000 คนได้ จึงเป็นการสรุปเฉพาะลกั ษณะท่ีสาํ คญั ของขอ้ มูลท่ีศึกษาเท่าน้นั และสถิติ พรรณนาประกอบดว้ ยเน้ือหา ดงั ต่อไปน้ี 1) การนําเสนอข้อมูล ซ่ึงประกอบดว้ ย - การนาํ เสนอในรูปบทความเช่น สถิติของคนไทยแยกตามเพศ - การนาํ เสนอในรูปตาราง หรือร้อยละ ซ่ึงอาจเป็ นตารางจาํ แนกทางเดียวหรือ หลายทาง - การนาํ เสนอในรูปกราฟ เช่นกราฟเส้น กราฟแท่ง กราฟวงกลม 2) การแจกแจงความถี่ การแจกแจงความถี่ เป็นการแสดงค่าความถ่ีของขอ้ มลู ท่ีเกบ็ มาได้ โดยแสดงเป็น จาํ นวนและร้อยละ (%) เช่น จาํ นวนและเปอร์เซ็นตข์ องอาจารย์ แยกตามวฒุ ิการศึกษาและตาม เพศ (รายละเอียดของสมการอยใู่ นภาคผนวก ก) 3) การวดั แนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลาง เป็นการหาคา่ กลางของขอ้ มลู เพอ่ื ใชเ้ ป็นตวั แทนของขอ้ มูลท้งั หมด เพอื่ เป็น ประโยชน์ในการเปรียบเทียบ ขอ้ มูลแต่ละชุด โดยไม่จาํ เป็นตอ้ งพิจารณาขอ้ มูลท้งั หมดของแต่ ละชุด สถิติของการวดั แนวโนม้ เขา้ สู่ส่วนกลางที่นิยมใช้ คือ (รายละเอียดของสมการอยใู่ น ภาคผนวก ข) 100
รหสั วชิ า EGTI616 ชื่อวชิ า ระเบียบวธิ ีการวจิ ยั (Research Methodology) - ค่าเฉลี่ย (Mean) ประกอบดว้ ย ค่าเฉลี่ยเลขคณิต มชั ฌิมเรขาคณิต มชั ฌิมฮาร์โม นิก - คา่ มธั ยฐาน (Medain) - คา่ ฐานนิยม (Mode) - คา่ เปอร์เซนตไ์ ทล์ (Percentile) - ค่าเดไซล์ (Decile) - ควอไทล์ (Quatile) 4) การวดั การกระจายของข้อมูล การวดั การกระจายของขอ้ มลู เป็นการอธิบายวา่ ขอ้ มูลแต่ละค่าน้นั มีคา่ ท่ีห่างกนั มากนอ้ ยเพียงใด สถิติของการ วดั การกระจายของขอ้ มลู ที่นิยมใช้ คือ (รายละเอียดของสมการอยู่ ในภาคผนวก ค) - พิสยั (Range) - ส่วนเบี่ยงเบนควอไทล์ (QuatileDeviation) - ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) - คา่ แปรปรวน (Variance) - สมั ประสิทธ์ิความแปรผนั (Coefficient of Variance) 8.4 ตวั อย่างการวเิ คราะห์ค่าสถติ เิ บอื้ งต้นด้วยโปรแกรม SPSS สาํ หรับคาํ ส่ังที่ใชใ้ นการหาค่าสถิติเบ้ืองตน้ ของ Program SPSS มี 2 คาํ ส่ัง คือ Frequencies และ Descriptive ซ่ึงผใู้ ชส้ ามารถเลือกคาํ ส่ังใดคาํ สั่งหน่ึง ซ่ึงผลลพั ธ์ท่ีไดจ้ ะใหผ้ ล เหมือนกนั 1. คาํ ส่ัง Frequencies ซ่ึงมีข้นั ตอนการหาดงั น้ี 1) เปิ ดแฟ้ มขอ้ มูล เลอื ก menu Analyze Descriptive Statistics Frequencies 101
รหสั วชิ า EGTI616 ช่ือวชิ า ระเบียบวธิ ีการวจิ ยั (Research Methodology) จะปรากฏหนา้ จอ ดงั น้ี 2) เลือกตวั แปรท่ีเราสนใจจะศึกษาเขา้ สู่ช่อง Variable 3) เลือก Statistics เพื่อใชใ้ นการวเิ คราะห์คา่ สถิติต่าง ๆ 102
รหสั วชิ า EGTI616 ชื่อวชิ า ระเบียบวธิ ีการวจิ ยั (Research Methodology) จากรูป จะประกอบดว้ ยส่วนต่างๆ ดงั น้ี Percentile Values : ผใู้ ชส้ ามารถเลือกทางเลือกต่อไปน้ีไดห้ ลายทางเลือก คือ - Quatile ซ่ึงจะแสดงเป็นค่าของเปอร์เซ็นตไ์ ทลท์ ่ี 25 , 50 , 75 - Cut points for equal group จะแสดงเปอร์เซ็นตไ์ ทลซ์ ่ึงเป็นค่าท่ีแบ่งขอ้ มูลออกเป็นกลุ่ม ยอ่ ยๆ โดยแต่ละกลุ่มยอ่ ยมีขนาดเท่ากนั (จาํ นวน case เท่ากนั ) ผใู้ ชส้ ามารถระบุค่าใน ช่องสี่เหลี่ยมเป็นเลขจาํ นวนเตม็ บวกท่ีมีค่าระหวา่ ง 2 และ 100 - Percentile (s) ผใู้ ชส้ ามารถระบุค่าเปอร์เซ็นตไ์ ทลท์ ่ีตอ้ งการไดห้ ลายค่า ซ่ึงมีค่าระหวา่ ง 0 ถึง 100 โดยจะตอ้ งระบุทีละค่า แลว้ เลือก Add ถา้ ตอ้ งการลบใชแ้ ถบดาํ เปอร์เซ็นตไ์ ทลท์ ่ี ตอ้ งการลบแลว้ ทาํ การ Remove ออก แต่ถา้ ตอ้ งการเปล่ียนแปลงใหเ้ ลือก Change Central Tendency : เป็นสถิตทิ ่ีแสดงค่าการของขอ้ มลู ประกอบดว้ ย - Mean คา่ เฉลี่ย - Median ค่ามธั ยฐาน - Mode คา่ ฐานนิยม - Sum ผลบวกของขอ้ มลู 103
รหสั วชิ า EGTI616 ชื่อวชิ า ระเบียบวธิ ีการวจิ ยั (Research Methodology) Dispersion : เป็นสถิติที่ใชว้ ดั การกระจายของขอ้ มลู ประกอบดว้ ย - Std.Deviation คา่ ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานของขอ้ มูล - Variance ค่าความแปรปรวน - Range พิสยั - Minimum ค่าต่าํ สุดของขอ้ มูล - Maximum ค่าสูงสุดของขอ้ มลู - S.E.mean คา่ ความคลาดเคล่ือนมาตรฐานกบั คา่ เฉล่ียตวั อยา่ ง Distribution : คา่ สถิติท่ีแสดงการแจกแจงของขอ้ มูล - Skewness คา่ ความเนน้ ของการแจกแจงที่ไมส่ มมาตร - Kurtosis ค่าความโด่งของการแจกแจงของขอ้ มูล ถา้ นกั ศึกษาสนใจจะศึกษาสถิติใด ก็ใหเ้ ลือกในช่องขา้ งหนา้ ของสถิติในแต่ละตวั แต่สาํ หรับ เบ้ืองตน้ น้ี ทาํ การเลือกใชส้ ถิติ Mean Median Mode Std.Deviation Variance Range 4) เลือก Continue และ OK 5) แลว้ หนา้ จอ Output จะปรากฏ 104
รหสั วชิ า EGTI616 ช่ือวชิ า ระเบียบวธิ ีการวจิ ยั (Research Methodology) 2. คาสั่ง Descriptive ซ่ึงมีข้นั ตอนการหาดงั น้ี 1) เปิ ดแฟ้ มขอ้ มูล เลือก menu Analyze Descriptive Statistics Descriptive จะปรากฏหนา้ จอ ดงั น้ี 105
รหสั วชิ า EGTI616 ช่ือวชิ า ระเบียบวธิ ีการวจิ ยั (Research Methodology) 2) ทาํ การเลือกตวั แปรท่ีเราจะศึกษาเขา้ สู่ช่อง Variable(s) 3) เลือก Options เพื่อเลือกสถิติท่ีจะใชว้ เิ คราะห์ จะปรากฏหนา้ จอ ถา้ นกั ศึกษาสนใจจะศึกษาสถิติใด ก็ใหเ้ ลือกในช่องขา้ งหนา้ ของสถิติในแต่ละตวั แต่ สาํ หรับเบ้ืองตน้ น้ี ทาํ การเลือกใชส้ ถิติ Mean Median Mode Std.Deviation Variance Range 4) เลือก Continue และ OK 5) แลว้ หนา้ จอ Output จะปรากฏ 106
รหสั วชิ า EGTI616 ช่ือวชิ า ระเบียบวธิ ีการวจิ ยั (Research Methodology) การเลอื กใช้ค่าการวดั แนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลางและการวดั การกระจายทเี่ หมาะสมในการ อธิบายข้อมูล มีปัจจยั ควรพจิ ารณาดงั น้ี 1. ระดบั การวดั ตวั ของขอ้ มูล - ระดบั นามบญั ญตั ิ (Nominal scale) นิยมใช้ ฐานนิยม - ระดบั ลาดบั ข้นั (Ordinal scale)นิยมใช้ มธั ยฐาน พสิ ยั และส่วนเบี่ยงเบนควอไทล์ - ระดบั อนั ตรภาค (Interval scale) และระดบั อตั รภาค (Ratio scale) นิยมใช้ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และความแปรปรวน 2. รูปแบบการกระจายของขอ้ มลู 3. วตั ถุประสงคข์ องการวจิ ยั ตวั อย่างแบบฝึ กหัดและการคาํ นวณค่าสถติ พิ นื้ ฐาน โดยใช้ Program SPSS - ความสูง (เซนติเมตร) ของผเู้ ขา้ ร่วมอบรมการใชโ้ ปรแกรม SPSS จานวน 45 คน เป็นดงั น้ีคือ 146 148 140 150 152 156 148 149 149 150 163 142 180 160 160 140 160 168 160 152 141 150 180 128 132 162 158 162 146 139 148 172 138 138 150 147 182 147 144 136 150 158 150 130 143 จงหา 1) คา่ เฉลี่ยเลขคณิต มธั ยฐาน ฐานนิยม 2) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนเบี่ยงเบนควอไทล์ พิสยั ความแปรปรวน วธิ ีทาํ 1. เปิ ดโปรแกรม SPSS 2. เลือกหนา้ จอ Variable View และประกาศตวั แปร แลว้ ใส่ขอ้ มลู 3. เลือกหนา้ จอ Data View ทาํ การใส่ขอ้ มลู ความสูงลงไป และเลือกเมนู Analyze เพื่อ วเิ คราะห์ขอ้ มลู ดงั รูป 107
รหสั วชิ า EGTI616 ช่ือวชิ า ระเบียบวธิ ีการวจิ ยั (Research Methodology) 4. จะปรากฏหนา้ จอ Frequency ทาํ การเลือกตวั แปรท่ีเราสนใจ เขา้ สู่ช่อง Variable(s) แลว้ เลือก เมนู Statistics เพื่อเลือกคา่ สถิติท่ีจะวเิ คราะห์ 5. จะปรากฏหนา้ จอ Frequencies : Statistics แลว้ ใหน้ กั ศึกษาทาํ การเลือกค่าสถติ ิที่ ตอ้ งการ 108
รหสั วชิ า EGTI616 ชื่อวชิ า ระเบียบวธิ ีการวจิ ยั (Research Methodology) 6. เลือก Continue และกด OK จะปรากฏหนา้ จอ Out-Put ดงั รูป 109
รหสั วชิ า EGTI616 ช่ือวชิ า ระเบียบวธิ ีการวจิ ยั (Research Methodology) จากตาราง Out-Put สามารถตอบคาํ ถามจากโจทย์ คือ ผเู้ ขา้ สมั มนาจะมีความสูงเฉล่ีย ค่ามธั ยฐาน ค่าฐานนิยม เท่ากบั 151.20 , 150.00 , 150.00 cm ตามลาํ ดับ และจะมีค่าส่วน เบ่ียงเบนมาตรฐาน ค่าพิสยั ค่าความแปรปรวน เท่ากบั 12.53 , 54 , 156.90 ตามลาํ ดบั แต่สาํ หรับ ค่าส่วนเบี่ยงเบนควอไทลน์ ้นั สามารถคาํ นวณไดจ้ าก QD = (Q3-Q1)/2 = (160.00-142.5)/2 = 8.75 แบบฝึ กหัดบทท่ี 8 1. ขอ้ มูลการใชบ้ ริการศูนยค์ อมพิวเตอร์ของนกั ศึกษาระดบั บณั ฑิตศึกษาจาํ นวน 160 คน ในภาคการศึกษาท่ี 2 / 2549 จงหา 1.1 คา่ เฉลี่ยเลขคณิต มธั ยฐาน ฐานนิยม 1.2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนเบี่ยงเบนควอไทล์ ความแปรปรวน 2. ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนในการทดสอบประจาํ บทเร่ือง ปริมาณสารสมั พนั ธ์ ของ นกั เรียนช้นั มธั ยมปีท่ี 5 ของนกั เรียนโรงเรียนแห่งหน่งึ 110
รหสั วชิ า EGTI616 ช่ือวชิ า ระเบียบวธิ ีการวจิ ยั (Research Methodology) จงหา 2.1 จงหาแนวโนม้ เขา้ สู่ส่วนกลางของขอ้ มลู ชุดน้ี โดยใชค้ า่ เฉลี่ยเลขคณิต มธั ยฐาน ฐานนิยม 2.2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนเบ่ียงเบนควอไทล์ ความแปรปรวน 3. ผลของการทดสอบ ในการวา่ ยน้าํ ระยะทาง 200 เมตร ของนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 6 ของโรงเรียนแห่งหน่ึงจาํ นวน 3 หอ้ ง (นาที) หอ้ งที่ 1 8 12 13 7 7 12 7 9 หอ้ งที่ 2 10 8 9 10 15 8 7 11 8 15 10 12 15 8 10 หอ้ งที่ 3 12 10 8 15 10 10 11 9 9 7 13 10 12 14 10 3.1 จงหาเวลาเฉล่ียของแต่ละห้อง และเวลาเฉล่ียรวมของการวา่ ยน้าํ คร้ังน้ี 3.2 จงหาการกระจายของคะแนนสอบแตล่ ะหอ้ งโดยใช้ ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) Hint: ใชค้ าํ สงั่ Analyze ตามดว้ ยเมนู Compare Mean และ Mean เพราะจะเป็นการ วเิ คราะห์ขอ้ มลู ภายในกลุม่ และระหวา่ งกลุ่ม 111
ภาคผนวก ก 111
ภาคผนวก ข 112
113
114
115
116
117
ภาคผนวก ค 118
119
120
121
122
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137